Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - Google

Pages: 1 ... 25 26 [27]
391
ยูไนเต็ดโฮมฯ แนะนำ DVD: No Strings Attached - “จะกิ๊กหรือจะกั๊ก...ก็รักซะแล้ว”


 
          นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์® นาตาลี พอร์ตแมน* (Black Swan) และ แอชตัน คุทเชอร์ (What Happens in Vegas) จับคู่ในภาพยนตร์คอมิดี้เรื่องฮิตที่จับจ้องไปยังมุมมองใหม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเพื่อนที่เราต้องการที่สุด ตอบสนองความต้องการได้ดีที่สุด! เอ็มม่า คือคุณหมองานรัดตัวที่ดูเหมือนจะวางกฏให้กับ “เรื่องอย่างนั้น” ได้อย่างลงตัว เมื่อเธอเสนอที่จะมีความสัมพันธ์ทางกายกับเพื่อนสนิท อดัม โดยมีกฏหนึ่งข้อคือ ไม่มีการผูกมัดใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เมื่อเรื่องกิ๊ก ๆ กั๊ก กลายเป็นเรื่องรักแบบจริงจัง จากเพื่อนคู่นอนจะยังคงความสัมพันธ์เป็นเพื่อนที่ดีได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่? บางทีหัวใจคุณอาจตอบแทนพวกเขาได้

          ดูรายละเอียดข้อมูลภาพยนตร์เพิ่มเติม www.uhe.co.th

392
ตัวอย่าง The Twilight Saga: Breaking Dawn - Part I 17 พฤศจิกายน 
 
          เชิญทั้งโลกร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีสำคัญ
          บทสรุปแห่งรักนิรันดร์
          จะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งสงครามสุดท้ายของรัตติกาล

          The Twilight Saga: Breaking Dawn - Part I
          17 พฤศจิกายน 2011 นี้         
 
 
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=J2T8FcEri4Q" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=J2T8FcEri4Q</a>

393
อาร์เอส อินสโตร์ฯ ชวนดูหนัง

          บริษัท อาร์เอส อินสโตร์ มีเดีย จำกัด ในเครือ บมจ. อาร์เอส จัดโครงการ “ดูหนังรอบพิเศษฟรี ก่อนใครกับอาร์เอส อินสโตร์ มีเดีย” ร่วมกับค่ายภาพยนตร์ชั้นนำ ลุ้นรับบัตรเข้าชมภาพยนตร์ทุกเดือนกว่า 200 ที่นั่ง / รอบ โดยกติกาง่ายๆ เพียงส่ง SMS มาร่วมสนุกกับจอแอลซีดีทีวีในห้าง Tops Supermarket, Carrefour และ Big C Super Center กว่า 20 สาขาทั่วกทม. ผู้โชคดีจะได้รับการติดต่อกลับและยืนยันจากเจ้าหน้าที่

          โครงการ “ดูหนังรอบพิเศษฟรี ก่อนใครกับอาร์เอส อินสโตร์ มีเดีย” จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสถาบันครอบครัวในการทำกิจกรรมร่วมกัน โดยลูกค้าสามารถร่วมชมได้ทั้งครอบครัว สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.rsinstoremedia.co.th หรือ http://www.facebook.com/rsinstoremedia ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

          สำหรับกิจกรรมดูหนังรอบพิเศษประจำเดือนมิถุนายน 2554 ร่วมสนุกกับภาพยนตร์เรื่อง Green Lantern วันอังคารที่ 14 มิถุนายน 2554 เวลา 20.00 น.โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์สุขุมวิท-เอกมัย สามารถติดตามรายละเอียดได้ในจอทีวีในห้างท็อปส์ / คาร์ฟูร์ และบิ๊กซี ได้ตั้งแต่วันนี้ – 13 มิถุนายนนี้

394
          ไทยครองแชมป์อันดับ 1 ตลาดที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับการ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซ แฟนพันธ์แท้เมืองไทยเตรียมพบกับตอนใหม่ของเบ็นเท็น, แฟรนไซส์และสินค้าใหม่มากมาย



          การ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซ (CNE) เฉลิมฉลองอีกปีของความสำเร็จที่งดงามพร้อมกับพันธมิตรในประเทศไทย ซึ่งยังคงให้การตอบรับตัวการ์ตูนสุดฮิต อาทิ เบ็นเท็น (Ben 10) พาวเวอร์พัพฟ์เกิร์ลส์ (The Powerpuff Girls) และเกว็น (Gwen) ตลอดปี 2553 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ไทยครองอันดับ 1 ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของการ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซ และไทยยังเป็นตลาดที่มียอดขายของเด็กเล่นสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ไทยยังเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์สูงที่สุดในภูมิภาคนี้ด้วยยอดขายวีซีดีและดีวีดีรวมกันมากกว่า 1 ล้านชุด

          มิสโดลเซ่ ลิม–เช็น, รองประธานกรรมการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค – การ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซ กล่าวว่า “ด้วยการสนับสนุนที่ดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่องจากพันธมิตรในไทย ส่งผลให้ไทยครองอันดับ 1 ในฐานะตลาดที่ใหญ่ที่สุดของการ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซมีจำนวนผู้ซื้อลิขสิทธิ์สินค้า, ดีล และประเภทของสินค้ามากที่สุดในประเทศไทย เราประสานความร่วมมือกับพันธมิตรกว่า 40 ราย อาทิ เอ็มวีดีสำหรับโฮมวีดีโอ กิฟท์แลนด์สำหรับเครื่องเขียน และวันเดอร์ทอยส์สำหรับของเด็กเล่น เพื่อให้เด็กไทยได้ใกล้ชิดกับตัวการ์ตูนสุดโปรดผ่านทางสินค้าและแพลทฟอร์มต่างๆ”

          เมื่อไม่นานมานี้การ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซได้จัดงานโรดโชว์ประจำปีขึ้นที่กรุงเทพฯ และมีพันธมิตรในไทยเข้ารับมอบรางวัลทรงเกียรติในสาขาต่าง ๆ ประจำปี 2553 ดังนี้ : บริษัท เอ็มวีดี จำกัด ได้รับรางวัลยอดขายสินค้าปลีกสูงสุด, บริษัท ทีเอสไลฟ์สไตล์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับรางวัลแคมเปญการตลาดยอดเยี่ยม, บริษัท แอ๊ดด้า (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลการพัฒนาสินค้ายอดเยี่ยม และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลการเปิดตัวแคมเปญยอดเยี่ยม

          ในภาพ (จากซ้ายไปขวา): คุณนวลักษณ์ อภินันทนากุลและคุณสมศรี โกวิทย์พรสิน จากมินท์แบรนด์, มิสโดลเซ่ ลิม–เช็น จากการ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซ เอเชียแปซิฟิก มอบรางวัลให้แก่คุณรุจิพันธ์ ชื่นจิตร์-บริษัท เอ็มวีดี จำกัด, มร.อัลลอค ชาร์มา-บริษัท ทีเอสไลฟ์สไตล์ (ประเทศไทย) จำกัด, คุณวรกฤษณ์ ทองเต่าหมก-บริษัท แอ๊ดด้า (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน), และคุณพุทธิรักษ์ เป็นสุข-ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ปิดท้ายด้วยมิสอาชนา เกสการ์ จากการ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซ เอเชียแปซิฟิกและ มิสเชอรีน ชี จากมินท์แบรนด์

          ในอนาคตข้างหน้าความนิยมของการ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซ ช่องบันเทิงอันดับ 1 สำหรับเด็กก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแม้แต่น้อย เพราะเราทำงานร่วมกับพันธมิตรไทยอย่างใกล้ชิดในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจมามอบให้กับเด็กๆ

          “สำหรับปีนี้เรายังคงรักษาพันธสัญญาที่เคยให้ไว้ด้วยการเป็นแบรนด์ที่สร้างความบันเทิงอย่างแท้จริงให้กับเด็กไทย โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรลิขสิทธิ์สินค้าชั้นนำระดับโลก อาทิ บันได, แม็ทเทล, เลโก, ดี 3 อินเทอร์แอคทีฟและแอคทิวิชั่น เราจะยังคงพัฒนาตัวการ์ตูนซึ่งเป็นสินทรัพย์ของเราร่วมกับพันธมิตรในประเทศไทยต่อไปเรื่อย ๆ ทั่วทุกแพลทฟอร์มเพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีส่วนร่วมในแบรนด์ของเราได้ทุกที่ ทุกเวลา” กล่าวโดยมิส โดลเซ่ ลิม-เช็น

          สำหรับเป้าหมายสำคัญของประเทศไทยในปีนี้ การ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพรซ์โฟกัสไปที่การเปิดตัวสินค้าที่มีนวัตกรรมโดดเด่นและการเปิดรอบการแสดงสด นำโดยการ์ตูนสุดฮิตที่สร้างปรากฏการณ์ความนิยมไปทั่วโลกอย่าง Ben 10

          ยอดขายสินค้า Ben 10 จำนวนกว่า 20 ล้านชิ้นถูกบันทึกไว้ในช่วงแคมเปญ 10.10.10 - ซึ่งเป็นแคมเปญที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดมา, Ben 10 ประสบผลสำเร็จอย่างงดงามและเติบโตต่อเนื่องถึง 5 ปีติดต่อกันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนับตั้งแต่เปิดตัว โดยมียอดขายของเด็กเล่นทั่วโลกรวมกันกว่า 1 พันล้านยูเอสดอลล่าร์และยอดขายเกมส์คอนโซลกว่า 7.3 ล้านเครื่อง ในประเทศไทยพันธมิตรทางด้านสินค้าส่งเสริมการขาย – คาลบี้ บัน บัน – มียอดขายขนมขบเคี้ยวที่บรรจุของแถม Ben 10 มากกว่า 4 ล้านแพ็คภายในระยะเวลา 3 เดือน ในปี 2553 ยังเป็นปีที่ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวนิตยสาร Ben 10 และ Ben 10 Alien Force ในประเทศไทยด้วยยอดขายกว่า 700,000 เล่ม เด็กไทยและเด็กจากทั่วเอเชียแปซิฟิกกว่า 42 ล้านคน ร่วมเฉลิมฉลองการปรากฏตัวของ Ben 10: Ultimate Alien พร้อมกันทั้งในทีวี, ออนไลน์และการแสดงสดในวันที่ 10.10.10 และเพื่อไม่ให้เป็นการขาดช่วงแฟนชาวไทยจะได้พบกับ Ben 10 ในหลากหลายรูปแบบและช่องทาง - อาทิ โทรทัศน์, ออนไลน์, ห้างสรรพสินค้า, ร้านค้าหรือโรงภาพยนตร์ ด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่องในซีซั่นใหม่รวมทั้งสินค้าออกใหม่ ฯลฯ เหล่าสาวกชาวไทยจะได้รับเชิญให้เป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยเขย่าขวัญสุดระทึกที่ไม่สิ้นสุดของเบ็น เท็นนีสันได้ทุกวัน

          การ์ตูนเน็ตเวิร์คสัญญาว่าจะเพิ่มความหรรษาและความตื่นเต้นให้กับโลกของเด็กไทยด้วยการทยอยเปิดตัวแฟรสไชส์ใหม่ ๆ, และสำหรับตัวการ์ตูนล่าสุด - เจเนอเรเตอร์ เร็กซ์ (Generator Rex) ฮีโร่ตัวใหม่ที่จะทำให้แฟน ๆ ประทับใจไปกับการช่วยเหลือโลกมนุษย์ในแต่ละวัน เจเนอเรเตอร์ เร็กซ์ ฮีโร่ที่ทรงพลังตัวล่าสุดจากผู้สร้างตัวการ์ตูน Ben 10 ที่สร้างปรากฏการณ์ความนิยมไปทั่วโลก เจเนอเรเตอร์ เร็กซ์ได้รับการพิสูจน์ถึงความฮอตฮิตในสหรัฐอเมริกาหลังจากที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในเดือนเมษายนปี 2553 โดยได้รับการเพิ่มเวลาฉายทางทีวีสำหรับรายการเด็กอายุระหว่าง 2-11 ปีในทุกช่อง จากนั้นจึงเริ่มฉายทางทีวีทั่วเอเชียแปซิฟิกในเดือนมกราคมปี 2554 ซีรีส์นี้เป็นเรื่องราวชวนติดตามและเป็นการนำเสนอระหว่างความดีกับความชั่ว ซึ่งตอบสนองธรรมชาติของวัยรุ่นที่ฝันอยากเป็นฮีโร่ด้วยกันทุกคน – เนื้อเรื่องนำเสนอในฉากหลังรูปแบบทันสมัยล้ำยุค ซึ่งรับประกันว่าถูกใจเด็กรุ่นใหม่ที่หลงใหลเทคโนโลยีเป็นที่สุด การ์ตูนเน็ตเวิร์คจะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับพันธมิตรระดับโลกเช่นแมทเท็ลเพื่อที่จะเปิดตัวซีรีส์นี้ในรูปแบบของเด็กเล่นเพื่อให้เด็ก ๆ ได้สัมผัสถึงประสบการณ์จริงของ “Rex-treme”

          ด้วยสินค้ามากกว่า 130 ล้านชิ้นที่มีรูปการ์ตูนตัวโปรดเช่น Gwen, The Powerpuff Girls and Chowder วางขายตามร้านค้าปลีกต่าง ๆ ส่งผลให้การ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซสามารถเข้าถึงลูกค้ากว่า 200 ล้านคนทั่วเอเชียแปซิฟิกในปี 2553 นอกจากนี้การ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซยังได้ขยายแคมเปญ “Is there a Gwen in You” เพื่อร่วมค้นหาตัวแทนของเกว็นในประเทศไทย โดยมองหาเด็กผู้หญิงที่มีความเป็นตัวเกว็นมากที่สุดและได้ผู้ที่เหมาะสมที่สุดคือ น้องนาตาลี เคารพธรรม มาเป็นตัวแทนของเกว็นในประเทศไทย การ์ตูนยอดมนุษย์หญิงนั้นมาแรงกว่าที่เคยเมื่อเกว็นได้รับการเปิดตัวในภูมิภาคนี้ด้วยรูปแบบสินค้าคอลเล็คชั่นสุดหรูสำหรับเด็กผู้หญิงที่เน้นความสดใสและมีชีวิตชีวา มีให้เลือกมากมายทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับสำหรับปี 2553 The Powerpuff Girls – ได้รับการเพิ่มพลังด้วยดีไซน์รูปโฉมใหม่ทั้งหมด – โดยจะยังคงช่วยเหลือโลกมนุษย์ต่อไปในช่วงก่อนนอน พบกับของเด็กเล่นหลากหลายรูปแบบ, เกมส์คอนโซล, โฮมเอ็นเทอร์เทนเม้นท์, เครื่องประดับ, เสื้อผ้า, รองเท้า, เครื่องเขียน ฯลฯ ตูนนิคส์ (Toonix) ตัวการ์ตูนใหม่ล่าสุดของเราก็ออกมาให้ยลโฉมกันแล้วบนเว็บไซท์ CartoonNetwork.co.th ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์สามารถแสดงออกผ่านทางผลงานที่ออกแบบด้วยตัวเอง ด้วยรายละเอียดของการปรับแต่งที่สามารถเลือกผสมผสานเพื่อสร้างสรรค์ รูปลักษณ์ของ Toonix ได้มากถึง 400 ล้านรูปแบบ โดยในเอเชียแปซิฟิคก็มีให้เลือกหลากหลายกว่า 160 ล้านรูปแบบ Toonix คือ avatar ขนาดกะทัดรัดที่สามารถปรับแต่งได้อย่างเต็มที่โดยมีของประดับตกแต่งให้เลือกทุกเฉดสีและทุกรูปแบบ

          Toonix เปิดตัวเป็นครั้งแรกในละตินอเมริกา และขยายวงกว้างไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วราวกับพายุเมื่อ Toonix ได้รับการออกแบบมากกว่า 10 ล้านรูปแบบนจนถึงปัจจุบัน

          ในฐานะตัวแทนลิขสิทธิ์สินค้าประเภทบุคคลที่ 3 ซึ่งร่วมกับพันธมิตรสำคัญเช่น เนลวานาเอ็นเตอร์ไพร์ซและสปินมาสเตอร์, การ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซคือตัวแทนของแบรนด์ บาคูกัน – Zoobles และ Tech Deck, มอนโดทีวี สำหรับ Puppy in my Pocket และ Dentsu สำหรับ Deltora Quest

          การ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซจะยังคงมองหาโอกาสต่าง ๆ ในการสร้างสรรค์สินค้าพิเศษในทุก ๆ ประเภท รวมทั้งสินค้าคอนซูเมอร์อีเล็คโทรนิคส์, เครื่องแต่งกาย, เครื่องประดับ, เครื่องกีฬา, ของแต่งบ้าน, ของขวัญและนวนิยายสำหรับแบรนด์ที่เราเป็นตัวแทน

          ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ์ตูนแนวคอมเมดี้และผจญภัยของการ์ตูนเน็ตเวิร์คได้ที่ www.CartoonNetwork.co.th

          เกี่ยวกับการ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซ
          การ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซเป็นแผนกหนึ่งของการ์ตูนเน็ตเวิร์คที่ดูแลทางด้านการสร้างเสริมมูลค่าองค์กรและตัวการ์ตูนในระยะยาว อาทิเช่น Ben 10, Ben10: Alien Force, Gwen, The Powerpuff Girls, Powerpuff Girls Z, Chowder และ The Secret Saturdays แผนกนี้ดูแลรับผิดชอบในการจัดตั้งธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะ โดยดึงเอาคุณสมบัติที่โดดเด่นของตัวการ์ตูนผ่านทางสินค้าคอนซูเมอร์, ลิขสิทธิ์ส่งเสริมการขาย, โฮมวิดีโอ, อินเทอร์แอคทีฟเกมส์, พับลิชชิ่ง, ธีมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์และงานอีเว้นท์ การ์ตูนเน็ตเวิร์คเอ็นเตอร์ไพร์ซทำงานร่วมกับพันธมิตรมากมายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อาทิเช่น บันได, แมทเทล, ดี3 พับลิชเชอร์และสิงค์โปร์แอร์ไลน์ ฯลฯ

          การ์ตูนเน็ตเวิร์ค เป็นบริษัทสาขาของเทอร์เนอร์ บรอดคาสติ้ง ซิสเต็ม เอเชียแปซิฟิค อิงค์ ซึ่งเป็นสมาชิกของเทอร์นเนอร์บรอดคลาสติ้งซิสเต็มส์ อิงค์, บริษัทไทม์วอร์เนอร์ในเอเชีย ไทม์วอร์เนอร์คือผู้ผลิตงานข่าวและงานด้านบันเทิงรายใหญ่ป้อนตลาดทั่วโลก รวมทั้งเป็นผู้นำในการจัดหาคอนเท้นท์รายการสำหรับธุรกิจเคเบิ้ลทีวีทั่วไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ:
ผุสดี เพิ่มธรรมสิน เดโรนี ตัน
บริษัท อินวิส จำกัด เทอร์นเนอร์ บรอดคาสติ้ง ซิสเต็ม เอเชียแปซิฟิค อิงค์
โทร: 02-219-1945, โทร: +852-3128-3720
อีเมล์: pudsadee@inwisthailand.com อีเมล์: deronie.tan@turner.com

395
“ก้าวสู่ปีที่ 9”



          อิ่มเอมความสุขด้วยบรรยากาศชื่นมื่น กับเหล่าพิธีกรข่าวยามเช้า นำโดย “สรยุทธ สุทัศนะจินดา – เอกราช เก่งทุกทาง – พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ” พร้อมสองนางเอกสาว “เข็มอัปสร สิริสุขะ – เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” ที่มาสร้างสีสันในช่วงใหม่ “ครอบครัวบันเทิง” ร่วมกันฉลองครบรอบ 8 ปี รายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” โดยมีคณะดูงานจากสภาเด็กและเยาวชน จ.ลพบุรี แทคทีมแสดงความยินดี ณ อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์

396
สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดการจับปลาจากธรรมชาติ โดยสนับสนุนโครงการเพาะพันธุ์ปลาทะเลสวยงาม ตอบรับวันทะเลโลก







ในท้องทะเลอันแสนกว้างใหญ่ สิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ต่างแหวกว่ายร่ายเวทมนต์ให้โลกใต้สมุทรมีสีสันสดสวยดุจอาณาจักรแห่งใหม่อันแปลกตาของบรรดาสิ่งมีชีวิต แต่ความสวยงามนั้นเองที่ล่อตาล่อใจ ทำให้บรรดาปลาสวยงามในธรรมชาติได้ถูกคุกคามและมีปริมาณลดลงอย่างน่าใจหาย
 
ปัจจุบันความต้องการปลาทะเลเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น ทั้งเพื่อการบริโภค การค้า และการตกแต่งตู้ปลาสวยงาม ประชากรปลาทะเลจึงลดลงอย่างรวดเร็วและต้องการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน เช่น กรณีปลาการ์ตูนซึ่งเป็นปลาที่ได้รับความนิยมในการนำมาเลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน เนื่องจากเป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์ชื่อดัง ทั้งยังมีสีสันสวยงาม ทำให้ปลาการ์ตูนถูกจับมาขายเป็นลำดับต้นๆ เพราะมีความต้องของตลาดสูง ทำให้ประชากรปลาการ์ตูนชนิดต่างๆ นั้นลดจำนวนลงอย่างมาก จนเข้าสู่ภาวะวิกฤติ หรือ กรณีตลาดการค้าขายม้าน้ำ ตลาดมีความต้องการม้าน้ำนำไปใช้เป็นส่วนผสมของยาจีน ซึ่งมีการซื้อขายในตลาดค่อนข้างสูง แม้ว่าข้อตกลงระหว่างประเทศจะจัดม้าน้ำเข้าสู่อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือ ไซเตส ที่ว่าด้วยชนิดพันธุ์ที่มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ ที่การซื้อขายในประเทศสามารถกระทำได้ แต่การค้าระหว่างประเทศต้องมีการควบคุม แต่ความจริงที่เป็นอยู่คือ ยังมีการซื้อขายม้าน้ำในตลาดมืดเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ กรณีปลาอมไข่ครีบยาว ซึ่งปัจจุบันถูกจัดให้เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เป็นปลาทะเลสวยงามที่ตลาดโลกมีความต้องการเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มความต้องการของตลาดสูงขึ้นเรื่อยๆ
 
สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล กรุงเทพ อุทยานสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เล็งเห็นความสำคัญในการฟื้นฟูพันธุ์ปลาทะเล จึงได้สนับสนุน ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ กรมประมง โดยการนำปลาที่ได้จากการเพาะพันธุ์มาจัดแสดงในอควาเรี่ยม เพื่อเป็นการช่วยเผยแพร่ความสำเร็จของทางศูนย์วิจัยฯ  และเพื่อช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยลดปริมาณการจับปลาจากธรรมชาติ ทางศูนย์วิจัยฯ ได้เริ่มศึกษาการเพาะพันธุ์ปลาทะเลสวยงามตั้งแต่ปี 2542 จนประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปลาทะเลสวยงามชนิดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพันธุ์ปลาการ์ตูน ตั้งแต่ต้นปี 2544 จนถึงปัจจุบันสามารถเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนของไทยและต่างประเทศได้หลากหลายชนิด อาทิ ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ  ปลาการ์ตูนส้มขาว ปลาการ์ตูนอินเดีย ปลาการ์ตูนอินเดียแดง ปลาการ์ตูนลายปล้อง ปลาการ์ตูนอานม้า ปลาการ์ตูนแดง เป็นต้น นอกจากนี้ทางศูนย์วิจัยฯ ยังประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปลาทะเลสวยงามชนิดอื่นๆ อีก อาทิ ม้ำน้ำหนาม ม้าน้ำเหลือง ม้าน้ำส้ม และ ปลาอมไข่ครีบยาว ซึ่งเป็นปลาทะเลสวยงามที่มีความต้องการสูงในการบริโภคและการเลี้ยง
 
ทั้งนี้เนื่องในโอกาสวันทะเลโลก หรือ World Ocean’s Day    สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล กรุงเทพ จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมอนุรักษ์ท้องทะเลโดยการ  สานต่อความมุ่งมั่นในการลดการจับสัตว์ทะเลจากธรรมชาติเพื่อนำมาแสดง โดยได้รับความอนุเคราะห์จากคุณไพบูลย์ บุญลิปตานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ อนุญาตให้นำปลาทะเลสวยงามที่ทางศูนย์วิจัยฯ เพาะพันธุ์ได้มาจัดแสดงตามโซนต่างๆ ของสยาม โอเชี่ยน เวิร์ล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ผลงานการเพาะพันธุ์ของทางศูนย์วิจัยฯ โดยปลาทะเลสวยงามจากทางศูนย์วิจัยฯ  ที่สยาม โอเชี่ยน เวิร์ลนำมาจัดแสดง ได้แก่ ปลาอมไข่ครีบยาว ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ  ปลาการ์ตูนส้มขาว ปลาการ์ตูนอินเดีย ปลาการ์ตูนลายปล้อง ปลาการ์ตูนอานม้า ปลาการ์ตูนลายปล้องหางเหลือง ปลาการ์ตูนอินเดียแดง ปลาการ์ตูนแดง ปลาหูช้าง ปลาจิ้มฟันจระเข้ท้องคม ปลากะรังหน้างอน  ม้ำน้ำหนาม ม้าน้ำเหลือง และปลาเฉี่ยวหิน ทั้งนี้เพื่อเป็นการเผยแพร่ข้อมูลความรู้ของปลาทะเลสวยงามเหล่านี้ให้เป็นที่รู้จัก พร้อมช่วยปลูกจิตสำนึกให้สังคมเล็งเห็นถึงความสำคัญของสัตว์โลกใต้ท้องทะเล และเป็นการสนับสนุนผลงานวิจัยของศูนย์วิจัยฯ ให้ประสบความสำเร็จต่อไป
 
ท่านใดที่สนใจอยากเรียนรู้และเพลิดเพลินกับการชมความสวยงามของปลาทะเลจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ สามารถเข้าชมได้ที่ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ในโซนจัดแสดงต่างๆ ซึ่งทางสยาม โอเชี่ยน เวิร์ลจะขึ้นป้ายแสดงความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ของปลาแต่ละชนิดไว้ที่หน้าตู้ เพื่อให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้เก็บเกี่ยวความรู้และนำไปใช้ประโยชน์
 
พิเศษเพียงโชว์โลโก้ Breeding  Life to the  Ocean โดยการถ่ายภาพหรือตัดชิ้นส่วนมาแสดงที่จุดขายตั๋วรับส่วนลดค่าเข้าชมราคาพิเศษเพียง 250 บาททั้งเด็กและผู้ใหญ่ (จากผู้ใหญ่ 380 บาท เด็ก 280 บาท)  ตั้งแต่วันที่ 8-30 มิถุนายนนี้ ณ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ชั้น B1-B2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

397
ไอบีเอ็มจัดงาน Finance Forum ไขความลับการบริหารจัดการด้านการเงินด้วยซอฟต์แวร์ Business Analytics



บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด นำโดย นางเจษฎา ไกรสิงขร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ขวาสุด) จัดงาน ไอบีเอ็ม ไฟแนนซ์ ฟอรั่ม 2011 เสนอกลยุทธ์การวางแผนบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยซอฟต์แวร์ Business Analytics ซึ่งไม่เพียงช่วยในการตัดสินใจด้านการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ  หากแต่ยังรวมไปถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงและการควบคุมการปฎิบัติตามกฏภายในขององค์กร ให้กับผู้บริหารในสายการเงินทุกองค์กร โดยมี มร. ปิแอร์ กิโยม (Pierre Guillaume) กองบรรณาธิการหนังสือขายดี FUTURE READY How to Master Business Forecasting มาร่วมเป็นวิทยากร

398
ดาว เคมิคอล ร่วมสร้างเยาวชนนักวิทย์หัวใจรักษ์โลก มอบรางวัลความคิดริเริ่มทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นปีที่ 4 ประจำปี 2554





        ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนเรามากขึ้น ซึ่งการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็เป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน ดังนั้น การปลูกฝังให้เยาวชนคนรุ่นใหม่มีการพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อนำไปสู่การสรรสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาประเทศของเราต่อไปในอนาคต
 
          บริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย ในฐานะองค์กรชั้นนำด้านเคมีภัณฑ์ เล็งเห็นความความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม จึงได้ร่วมมือกับบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ สมาคมวิศวกรรมเคมีและเคมีประยุกต์แห่งประเทศไทย (สวคท.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดประกวดรางวัลความคิดริเริ่มทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในหัวข้อกระบวนการและผลิตภัณฑ์เคมี เป็นปีที่ 4 โดยเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษา ส่งผลงานวิจัยเข้าประกวด โดยโครงการวิจัยเหล่านั้น ต้องมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนและสามารถนำไปต่อยอดใช้งานได้จริงในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ

          ในปีนี้ มีผลงานวิจัยเข้าร่วมประกวดจากทีมนิสิตนักศึกษา 6 มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ มากถึง 20 โครงการ และมี 6 โครงการที่ได้รับรางวัลในปีนี้ ซึ่ง 2 ทีม ที่ร่วมกันคว้ารางวัลดีเด่น ได้รับทุนการศึกษารางวัลละ 100,000 บาท ได้แก่ ทีมนิสิตปริญญาเอก จากภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่นำเสนอผลงาน “โครงการคริสตัลทองคำบริสุทธิ์ 99.99% สำหรับธุรกิจเครื่องสำอางและธุรกิจสปาไทย” ซึ่งเป็นโครงการศึกษาพัฒนาการผลิตทองคำบริสุทธิ์โดยใช้นาโนเทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และทีมนักศึกษาปริญญาเอก จากภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่นำเสนอผลงาน “โครงการพัฒนากระบวนการผลิตไบโอดีเซลชนิดเอทิลเอสเตอร์คุณภาพสูงเชิงอุตสาหกรรม” โดยสนใจการใช้สารตั้งต้นเอธานอลที่ผลิตได้เองในประเทศแทนการใช้เมธานอลที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

          สำหรับผลงานวิจัยที่ได้รับรางวัลชมเชยอีก 4 รางวัล รางวัลละ 50,000 บาท ได้แก่ โครงการอาคารประหยัดพลังงาน โครงการนวัตกรรมผงอนุภาคเงินระดับนาโนเมตรเพื่อประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์ โครงการการศึกษาคุณสมบัติเชิงแสงของแคลเซียมคาร์บอเนตจากเปลือกหอยเชลล์ในช่วง NIR และโครงการผลิตภาชนะบรรจุภัณฑ์ทนความร้อนสูงโดยวิธีการฉีดขึ้นรูปจากพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายทางชีวภาพผสมเถ้าแกลบ โดยทุกโครงการที่ได้รับางวัลและผ่านเข้ารอบสุดท้ายนี้ นอกจากได้รับทุนการศึกษาแล้ว ยังได้ร่วมทัศนศึกษาเยี่ยมชมโรงงานกลุ่มบริษัท ดาว เคมิคอล ในประเทศไทย และเอสซีจี เคมิคอลส์ ที่จังหวัดระยองอีกด้วย

          นายสมหมาย ศิริเลิศสมบัติ นายกสมาคมวิศวกรรมเคมีและเคมีประยุกต์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ในปีนี้มีนักศึกษาส่งผลงานเข้าร่วมประกวดในหัวข้อต่างๆ ที่โดดเด่นน่าสนใจ และทางสมาคมฯ ได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ทรงคุณวุฒิในหลากหลายองค์กรร่วมเป็นกรรมการตัดสินในครั้งนี้ จึงสามารถเชื่อถือในมาตรฐานคุณภาพของทุกผลงานที่ผ่านการตัดสินจากเวทีนี้ได้”ด้านผู้ให้การสนับสนุนโครงการ ดร. มอลลี่ เพยฟาง ชาง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย กล่าวว่า “ดาวให้การสนับสนุนโครงการนี้ทั้งด้านบุคลากรและงบประมาณมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปีแล้ว เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาสามารถพัฒนาความคิดและงานวิจัยด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของตนเองมาสู่การปฏิบัติได้จริง และช่วยกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวในงานวิจัยด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน อันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาประเทศ และสอดคล้องกับแนวทางการปฏิบัติงานของบริษัท ที่มีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถช่วยให้บริษัทสามารถผลิตเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนอีกด้วย”คุณยุทธนา เจียมตระการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โพลิโอเลฟินส์ กล่าวในนามของบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ ว่า “เอสซีจี เคมิคอลส์ มีอุดมการณ์ในการดำเนินธุรกิจข้อหนึ่งที่ว่า “เชื่อมั่นในคุณค่าของคน” ที่ไม่เพียงพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้มีความรู้ความสามารถเท่านั้น แต่ยังมุ่งส่งเสริมการศึกษาของเยาวชนไทย โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ โครงการนี้จึงนับเป็นเวทีสำคัญที่ให้โอกาสนิสิตนักศึกษา รวมถึงนักวิจัยได้แสดงออกถึงศักยภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาและยกระดับวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับสากล ซึ่งเอสซีจี เคมิคอลส์ ได้ร่วมกับดาว เคมิคอล สนับสนุนโครงการนี้มาอย่างต่อเนื่อง”นายเทวารักษ์ ปานกลาง และนายสุพีระ นุชนารถ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในทีมที่ได้รับรางวัลดีเด่น กล่าวว่า “แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานวิจัยของเรา คือการนำงานวิจัยจากหิ้งมาสู่ห้าง นั่นคือการสร้างสรรค์ผลงานที่สามารถนำมาใช้ได้จริงเชิงพาณิชย์ โดยอยากจะสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจความงามและสปาซึ่งประเทศไทยมีความโดดเด่นและมีชื่อเสียงในด้านนี้อยู่แล้ว ปีนี้เป็นปีที่สองที่พวกเราส่งผลงานเข้าร่วมประกวด ผมคิดว่าโครงการนี้มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะคำแนะนำจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ทำให้สามารถนำไปปรับปรุงผลงานให้ดีขึ้น และพัฒนาผลงานไปในทิศทางที่ใช้ได้จริงมากขึ้น นอกจากนั้นการที่พวกเราได้เห็นผลงานดีๆ ของเพื่อนๆ ทีมอื่น ก็ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานที่ดียิ่งขึ้นต่อไป” นางสาวรวมพร นิคม จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทีมที่ได้รับรางวัลดีเด่น กล่าวว่า “เพิ่งส่งผลงานมาเป็นปีแรก รู้สึกดีใจมากที่ได้รับรางวัลและสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัย ต้องขอขอบคุณคำแนะนำดีๆ จากคณะกรรมการทุกท่านที่ทำให้เห็นแนวทางการพัฒนาผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกท่านในการจัดโครงการดีๆ ที่มีส่วนช่วยกระจายองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กว้างขวาง” โครงการความคิดริเริ่มทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐบาล จึงเป็นเสมือนเวทีที่ช่วยกระตุ้นให้เยาวชนไทยเกิดความรักและสนใจในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นการจุดประกายให้เยาวชนไทยรู้จักคิดนอกกรอบในแนวทางที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยโครงการดีๆ เช่นนี้จะเริ่มเปิดรับสมัครอีกครั้งในเดือนตุลาคม เพื่อให้นิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรี โท เอก ในสาขาวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับเคมี วัสดุ พลังงานและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ได้นำเสนอไอเดียของคนรุ่นใหม่ และได้แสดงความสามารถของเด็กไทยที่มีไม่แพ้ชาติใดในโลก

399
จีเอสเคเดินหน้า นโยบาย “ยาดีเข้าถึงได้” เปิดตัว “จีเอสเค ธนาคารยาเพื่อประชาชน” บริจาคยานวัตกรรมผ่านสภากาชาดไทย




          1.นายวิริยะ จงไพศาล (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ จีเอสเค และ นายแพทย์ทวิราป ตันติวงษ์ (ขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ พร้อมด้วย หม่อมราชวงศ์ปรียางค์ศรี วัฒนคุณ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ศาสตราจารย์นายแพทย์อดิศร ภัทราดูลย์ (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ในงานแถลงข่าวเปิดโครงการ “จีเอสเค ธนาคารยาเพื่อประชาชน” บริจาคยานวัตกรรมผ่านสภากาชาดไทย เพิ่มการเข้าถึงยาคุณภาพของประชาชนทั่วประเทศ
          
          2.หม่อมราชวงศ์ปรียางค์ศรี วัฒนคุณ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ศาสตราจารย์นายแพทย์อดิศร ภัทราดูลย์ (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหารจากจีเอสเค นายวิริยะ จงไพศาล (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด นายแพทย์ทวิราป ตันติวงษ์ (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ และนางโสมรสา พงษ์เพิ่มพฤกษ์ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ (ขวา) ร่วมเปิดตัวโครงการ “จีเอสเค ธนาคารยาเพื่อประชาชน” โดยมี นาย บอยปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ (ที่ 5 จากซ้าย) ตัวแทนศิลปินมาร่วมในงาน
          
          โครงการ “จีเอสเค ธนาคารยาเพื่อประชาชน” มอบยาและวัคซีนแก่ผู้ด้อยโอกาสเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงยาแก่ประชาชนตามนโยบาย “ยาดีเข้าถึงได้” และ ปี 2554 เป็นปีมหามงคลเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 “จีเอสเค ธนาคารยาเพื่อประชาชน” จะมอบวัคซีนนวัตกรรม 3 ชนิด สำหรับประชาชนจำนวน 900 คน ผ่านสภากาชาดไทย เพื่อสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมของสภากาชาดไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ และถวายเป็นพระราชกุศล แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนส่งเสริมให้ประชากรไทยมีโอกาสเข้าถึงยาดีมีคุณภาพ

400
KTAMขายตราสารหนี้ตปท.6เดือนชู3.10%ต่อปี
 
       นายสมชัย   บุญนำศิริ    กรรมการผู้จัดการ    บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)   เปิดเผยว่า    บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนกรุงไทยธนทรัพย์ บี 7 (KTSUPB7)    อายุโครงการ 6 เดือน   เสนอขาย 7 -14  มิถุนายน 2554  โดยกองทุนนี้จะเน้นลงทุนในต่างประเทศประมาณ 70%   ซึ่งประกอบด้วย เงินฝากประจำ   Union  National   Bank   ( UAE )     บัตรเงินฝาก  Bank of  China  และ   Euro  Commercial  Paper   ( ECP )  ของ  Industrial   and  Commercial  Bank  of  China   (ICBC )  ส่วนที่เหลืออีก 30%  ลงทุนในตราสารการเงินระยะสั้นธนาคารพาณิชย์ไทย    และตราสารภาคเอกชนที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่  BBB+ ขึ้นไป    ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.10%   ต่อปี

            กองทุนนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น  และต้องการผลตอบแทนที่มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น  ซึ่งตราสารเป้าหมายจะให้ส่วนต่างผลตอบแทนที่ค่อนข้างจูงใจเมื่อเทียบกับการลงทุนเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือเงินฝากระยะเดียวกัน  ทั้งนี้ กองทุนที่เปิดจำหน่ายจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ  โดยเมื่อครบกำหนดอายุกองทุน จะสับเปลี่ยนไปยังกองทุนตลาดเงิน  เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น   และสำหรับเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

                  นายสมชัย  กล่าวต่อไปว่า   ภายหลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงินได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 3.00%  ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะสั้นปรับเพิ่มขึ้น แต่ในอัตราที่น้อยกว่าดอกเบี้ยนโยบาย  ขณะที่สถาบันการเงินคาดว่าจะทยอยปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและสินเชื่อตามในสัปดาห์นี้  ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนหลังการปรับขึ้นดอกเบี้ย ปรากฎว่าค่าเงินบาทมีการแกว่งตัวแข็งค่าขึ้น ประกอบกับในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาได้เผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญทั้งภาคแรงงานและอสังหาริมทรัพย์ซึ่งแสดงถึงความอ่อนล้าของการฟื้นตัวส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักของโลก รวมทั้งเงินบาทของไทย  ผลดังกล่าวทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินบาทและดอลล่าร์สหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้น และค่าดอลล่าร์พรีเมี่ยมซึ่งมีผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม  ดังนั้น การลงทุนในต่างประเทศที่มีการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนจึงให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า

               นอกจากนี้  บริษัทยังได้เพิ่มทางเลือก  สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนพันธบัตรภาครัฐ ในประเทศ  โดยอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือนคุ้มครองเงินต้น 3   เสนอขายถึงวันที่ 10  มิถุนายน 2554    อายุโครงการ  6 เดือน   เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรภาครัฐ ทั้ง 100%   ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ  2.65%  ต่อปี

Pages: 1 ... 25 26 [27]