Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - Google

Pages: 1 2 [3] 4 5 ... 27
31
เคาะสนิมฟิตลงละคร “แชมป์ วศิษฎ์” แอบซุ่มเงียบ…เรียนรู้งานเบื้องหลัง


 
          ห่างหายจากวงการบันเทิงไปซะนาน สำหรับหนุ่มหล่อหน้าตาดี “แชมป์-วศิษฏ์ ผ่องโสภา” ที่นอกจากจะเคาะสนิทคืนจอแก้วให้กับละครเรื่อง “ไต้ฝุ่นสุดซ่า สายฟ้าจอมกวน” ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี แล้ว ยังปรับลุคเป็นหนุ่มสุดฮอตอวดความเท่บนหน้าปกนิตยสาร “.Life Digital Magazine” (ดอท ไลฟ์ ดิจิตอล แมกกาซีน) ฉบับเดือนกรกฎาคม ให้สาวๆ ได้เห็นไลฟ์สไตล์อีกมุมของหนุ่มรักเทคโนโลยีคนนี้ ที่แอบหลงใหลงานเบื้องหลังกับเขาเหมือนกัน และซุ่มศึกษาการทำงานอยู่เงียบๆ

          ซึ่ง “หนุ่มแชมป์” บอกว่า "ผมเป็นคนเรียบๆ ง่ายๆ ครับ ตื่นเช้ามาก็อาบน้ำแปรงฟันเหมือนคนปกติทั่วไปแหละครับ (หัวเราะ) แต่ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีกับงานของผม ผมมองว่าเทคโนโลยีสมัยนี้ก้าวล้ำนำสมัยไปเยอะ เห็นได้ชัดจากเมื่อก่อนภาพยนตร์เราใช้ฟิล์ม แต่ตอนนี้ใช้กล้องดิจิตอลถ่ายกันหมดแล้ว มันช่วยให้งานออกมาได้เร็วและดีขึ้นจริงๆ ตอนนี้ ผมเพิ่งไปถอยคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่มา เพื่อเอาไว้ศึกษาเกี่ยวกับระบบการตัดต่องานถ่ายต่างๆ กำลังเริ่มที่จะเรียนรู้และฝึกใช้ครับ ผมเรียนฟิล์มอยู่ด้วย จริงๆ มันทำให้ชีวิตผมสะดวกขึ้น เพราะมีโปรแกรมตัดต่อฟิล์มที่ช่วยเรื่องเรียนได้ง่ายขึ้นเยอะเลยครับ งานทางเบื้องหลังก็สนุกไปอีกแบบ ไม่แพ้งานทางเบื้องหน้าเหมือนกัน” เห็นหนุ่มไฟแรงอย่างแชมป์เอาใจใส่ทั้งเรื่องงานและไม่ทิ้งเรื่องเรียนแบบนี้ก็อดชื่นชมไม่ได้ ทำเอาสาวๆ แอบกระซิบถามมาว่า “เรื่องหัวใจ” จะเอาใจใส่หนักๆ อย่างนี้รึเปล่า

          นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวอัพเดตเทรนด์ใหม่ๆ ของเทคโนโลยีอีกมากมายที่ “หนุ่มแชมป์-วศิษฎ์ ผ่องโสภา” เตรียมมาอวดกัน สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในนิตยสาร “.Life Digital Magazine” (ดอท ไลฟ์ ดิจิตอล แมกกาซีน) ฉบับเดือนกรกฎาคม 2554 พร้อมกันวันนี้ใน iPad App Store โดยสามารถดาวน์โหลด .Life Digital Magazine Application ได้ฟรี หรือติดตามอัพเดตข้อมูลได้ที่ www.dotlifedigitalmag.com

32
          เอไอเอส จับมือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เปิดสุดยอดนวัตกรรมใหม่แห่งโลกภาพยนตร์ให้คนไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรกกับ AIS 4DX โรงภาพยนตร์ดิจิตอล 4 มิติสมบูรณ์แบบ



          เอไอเอสรุกเดินหน้าไปอีกขั้น จับมือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ นำสุดยอดนวัตกรรมใหม่ล่าสุดเปิดโลกความบันเทิงจากโลกภาพยนตร์สู่ยุคดิจิตอล 4 มิติสมบูรณ์แบบให้คนไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก พร้อมสิทธิพิเศษให้ลูกค้าคอหนังเปิดประสบการณ์ใหม่ได้ครบทุกมิติแห่งการสัมผัส

          นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ปัจจุบันการชมภาพยนตร์ ถือเป็นไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ตอบโจทย์ทั้งความบันเทิง การเปิดโลกทัศน์ และสร้างแรงบันดาลใจ ที่ผ่านมาเอไอเอสจึงร่วมมือกับเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ในฐานะ Strategic Partner มากว่า 8 ปี ในการเปิดประสบการณ์แห่งโลกภาพยนตร์ให้แก่คนไทย ซึ่งส่วนหนึ่งคือลูกค้าเอไอเอส ที่นอกจากจะได้รับความบันเทิงจากการชมภาพยนตร์แล้ว ยังได้รับรูปแบบของบริการและสิทธิพิเศษที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะอีกมากมาย อาทิ มอบสิทธิพิเศษส่วนลดค่าตั๋วให้ลูกค้าเอไอเอสชมภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป และการร่วมพัฒนา Major Application บนมือถือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถดูรอบการฉาย, จอง, ซื้อตั๋ว หรือชมภาพยนตร์ตัวอย่างได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดการเข้าชมได้ถึงกว่า 400,000 ที่นั่งต่อปี”

“ล่าสุดกับความร่วมมือในฐานะของ Naming Sponsor สำหรับ โรงภาพยนตร์ AIS 4DX นั้น ถือเป็นความตั้งใจในฐานะของ Operator ที่มุ่งสรรหานวัตกรรมใหม่ๆในทุกด้านเข้ามามอบให้แก่คนไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านทางความร่วมมือกับ Partner อย่างเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ตามแนวคิด Ecosystem สำหรับเทคโนโลยีโรงภาพยนตร์ 4 มิตินั้น ถือได้ว่าทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน และมีความพิเศษเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นการฉายภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดพร้อมเทคนิค 4 มิติอย่างแท้จริง ดังนั้นการนำนวัตกรรมนี้มาให้คนไทยและลูกค้าได้สัมผัสก่อนใครพร้อมความพิเศษที่คัดสรรมาแล้วอย่างดีที่สุด จึงถือได้ว่าเป็นการก้าวเข้าสู่มิติใหม่แห่งโลกดิจิตอลทางความบันเทิงอย่างเป็นรูปธรรม และคาดหวังว่าจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่กลุ่มคนรักหนัง และเยาวชนไทยในการสร้างสรรค์ ต่อยอด และพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของประเทศไทยต่อไป”

          ด้านนายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “การเป็นผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์เอ็นเตอร์เทนเมนท์นั้นทำให้เราไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาและมุ่งมั่นที่จะนำนวัตกรรมใหม่ ๆ ของโลกภาพยนตร์เข้ามาสู่เมืองไทยให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์บันเทิงแปลกใหม่และทันสมัยอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ล่าสุดได้ตัดสินใจร่วมทุนกับ บริษัทโฟร์ดีเพล็กซ์ จำกัด เปิดโรงภาพยนตร์ดิจิตอล 4 มิติ หรือ 4DX แห่งแรกในประเทศไทย ด้วยเงินลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ผู้ชมจะได้รับชมประสบการณ์สุดประทับใจที่จะได้พบในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดที่น่าตื่นเต้น เร้าใจในโรงภาพยนตร์ 4DX ในช่วงซัมเมอร์นี้และในปีทองของฮอลลีวู้ดที่กำลังจะมาถึง เพื่อจะส่งมอบประสบการณ์แปลกใหม่ล้ำสมัยให้กับผู้ชมภาพยนตร์ในเมืองไทยกับยุคดิจิตอลให้ได้รับอรรถรสในการชมภาพยนตร์ทุกด้าน ด้วยการเพิ่มความพิเศษให้กับโรงภาพยนตร์ด้วยเก้าอี้แบบเฉพาะ พร้อมเอ็ฟเฟ็กซ์ตระการตาถึง 24 ชนิด และระบบฉายแบบดิจิตอล 3 มิติ ซึ่งเอ็ฟเฟ็กซ์แต่ละชนิดถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี เพิ่มความตื่นเต้นให้กับภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็น การขยับของเก้าอี้ ลมเป่า ละอองน้ำ กลิ่น แรงสั่นสะเทือน สะกิดขา สะกิดหลัง และเทคนิคอื่น ๆ อีกมากมาย โดยภาพจะฉายบนจอภาพซิลเวอร์สกรีน ที่ให้ภาพคมชัดสมจริง ภาพที่ฉายเป็นระบบ Masterimage 3D พร้อมแว่นตาบางเบาที่รับภาพเฉพาะระบบ 4 มิติเท่านั้น และการที่ได้ร่วมทุนกับบริษัท โฟร์ดีเพล็กซ์ จำกัด บริษัทในเครือ ซีเจ กรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศเกาหลีใต้ นับว่าเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งที่มาพร้อมศักยภาพและก้าวไปอีกขั้นกับวงการธุรกิจบันเทิงในประเทศไทยอย่างแท้จริง อีกทั้ง เรายังได้พันธมิตรที่ดีอย่าง เอไอเอส มาเป็นเนมมิ่งสปอนเซอร์ของโรงภาพยนตร์ 4DX แห่งแรกในประเทศไทย ในชื่อ “AIS 4DX” ที่พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 7 กรกฏาคมนี้ ด้วยภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ภาคต่อที่ทุกคนรอคอยกับ “Transformers 3 : Dark of The Moon” สำหรับการรวมตัวกันครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวของบริษัทฯ ที่เป็นอันดับ 1 ในทุก ๆ ด้าน คาดว่าจะทำให้เกิดปรากฎการณ์ใหม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบความตื่นเต้น ท้าทาย ไม่ซ้ำใคร

          สำหรับภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดที่พิจารณาจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 4DX ล้วนเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่หลายคนชื่นชอบ อาทิ Transformers, Captain America, Rise of The Apes, Cowboys and Aliens, Conan The Barbarian, Fright Night, The Darkest Hour, Cars 3D, The Three Musketeers 3D, Real Steal, Immortals, The Twilight Saga, Puss in Boots 3D, Mission Impossible 4 หรือแม้กระทั่งภาพยนตร์ไทยที่สามารถทำ 4D Effect ได้เช่นกัน โดยได้เริ่มพูดคุยกับค่ายภาพยนตร์ไทยในการแปลงภาพยนตร์เป็นระบบ 4 มิติเช่นเดียวกัน”

          โรงภาพยนตร์ AIS 4DX เริ่มเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยลูกค้าเอไอเอสจะได้รับส่วนลดที่นั่งละ 50 บาท (ลูกค้าเอไอเอสรับสิทธิลด 1 ที่นั่ง/เดือน ลูกค้าเซเรเนดรับสิทธิลด 2 ที่นั่ง/เดือน) ชมรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AIS 4DX ได้แล้ววันนี้ที่ www.ais.co.th

33
“Breakfast Lunch Dinner” ภาพยนตร์โดย หวางจิง, อโนชา สุวิชากรพงศ์, คาซ ไช

 

          Breakfast โดย หวางจิง (ประเทศจีน)

          ในวันธรรมดาวันหนึ่งของฤดูหนาว เมย์เดินทางโดยรถไฟจากทางเหนือมาหาเพื่อนชายของเธอที่อาศัยอยู่ทางใต้ เมืองกำลังพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงที่ผิดแปลกก็กำลังเกิดขึ้น – คล้ายกับการเปลี่ยนแปลงในจิตใจของตัวละครหลัก มีความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้และบางเหตูกาณ์ที่แปลกประหลาด แต่ถึงอย่างนั้น ความแปลกประหลาดนี้ก็เป็นไปได้ สำหรับการพบเจอกันของผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมือง จะอยู่หรือไป จะปักหลักหรือล่องลอยต่อไป – มันคือทางเลือกที่ต้องตัดสินใจ นี่คือภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับการสูญเสียทิศทางและสูญเสียพื้นที่ของคนหนึ่งด้วย ในโลกของสิ่งนี้และสิ่งนั้น เราต้องหาความมั่นคงของตน แม้แต่ในแง่มุมของสิ่งที่เรียกว่ารัก

          Lunch โดย อโนชา สุวิชากรพงศ์ (ประเทศไทย)


          วัยรุ่นชายหญิงคู่หนึ่ง เมย์และแว่น ตั้งใจกันโดดเรียนเพื่อมากินก๋วยเตี๋ยว และอาจจะไปดูหนังกันต่อ แต่เมื่อกินก๋วยเตี๋ยวกันอยู่ เมย์กลับเปลี่ยนใจ ไม่อยากดูหนังอยากไปปิคนิคแทน ถึงแม้แว่นจะงงว่าไปปิคนิคโดยไม่มีของกินได้ยังไงเขาก็ยอมตาม เมย์เลือกที่ปิคนิคเป็นใต้ร่มไม้ใหญ่ในสวนสาธารณะ โดยที่ไม่มีผู้คนมากมายในสวนสาธารณะ ดูเหมือนว่าสวนนั้นเกือบว่างเปล่า เมย์และแว่นนั่งและนอนไปบนพื้นหญ้า พุดคุยถึงเรื่องชีวิตในอนาคต เรื่องความรัก และเรื่องการเล่นเป่ายิ้งฉุบ


          Dinner โดย คาซ ไช (ประเทศสิงคโปร์)

          มาดามเมย์เป็นหญิงชราที่มีความยึดมั่นและรับรู้การชีวิตอย่างสง่างาม รองเป็นอดีตนักโทษที่พยายามปลับตัวกลับเข้าสู่สังคม โดยการทำงานเป็นพนักงานส่งขนมปัง ด้วยความบังเอิญหรือด้วยโชคชะตา การพบกันของทั้งสองในคืนหนึ่งคือจุดกำเนิดของความเป็นเพื่อน มาดามเมย์จะนั่งรอเพื่อนคนใหม่ของเธอบนม้านั่งที่เดิมทุกคืน ระหว่างรอ เธอจะเปิดอ่านไดอารี่เล่มเก่าและมองไปรอบๆ สังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอ เธอเห็นบางส่วนของหลากหลายชีวิต ที่อาศัยอยู่ในอาคารหลังเก่า อีกฝั่งของถนนตรงข้ามกับจุดที่เธอนั่งอยู่ เวลาผ่านไป ในคืนหนึ่ง มีผู้มาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย เราไม่รู้ว่าเขามาจากที่ใด ผู้มาเยือน ชายหนุ่มคนนี้เป็นทหารเรือ เขานั่งลงข้างๆมาดามเมย์บนม้านั่ง นักท่องทะเลเปิดเผยว่าเขาฟันผ่าคลื่นลมของมหาสมุทร เพื่อมาพบกับคนรัก ในวันที่เจ็ดของเดือนเจ็ด ซึ่งคือวัน “QiXi” หรือในอีกชื่อคือ วันวาเลนไทน์ของจีนสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป ทำให้เกิดการหักมุมแบบใหม่ในกิจวัตรที่ไม่เป็นปรกติ

34
นิตยสาร MiX จัดการประกวดภาพถ่ายขาวดำผ่านทางเว็บไซต์
     

 
          นิตยสาร MiX จัดการประกวดภาพถ่ายขาวดำผ่านทางเว็บไซต์ www.mixmagazine.in.th เพื่อนำภาพไปใช้ประกอบพ็อกเก็ตบุ๊กรวมเรื่องสั้น“รัก 33 เศร้า” จำนวนทั้งสิ้น 33 ภาพ โดยมีรายละเอียดดังนี้

กฎกติกาการส่งภาพเข้าประกวดและเกณฑ์การตัดสิน
          1. การส่งภาพประกวดเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ และสิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม 2554
          2. ในเว็บไซต์ www.mixmagazine.in.th/33-hurts จะมีชื่อเรื่องสั้นทั้ง 33 เรื่องที่ใช้เป็นโจทย์ในการส่งภาพเข้าร่วมประกวด พร้อมบางบรรทัดจากเรื่องสั้นดังกล่าวเพื่อใช้เป็นแนวทางในการกำหนดอารมณ์ของรูปถ่าย
          3. ส่งภาพถ่ายขาวดำที่คิดว่าดีที่สุดและสอดคล้องกับชื่อเรื่องที่สุด มาที่lovehurts33pocketbook@mixmagazine.in.th โดย 1 ท่านสามารถส่งประกวดได้ทุกหัวข้อ แต่ส่งได้เพียง 1 ภาพต่อ 1 หัวข้อเรื่องเท่านั้นโดยภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นภาพขาวดำ แนวตั้ง (สามารถใช้โปรแกรมตกแต่งภาพได้) Resolution ไม่ต่ำกว่า 200 dpi ประเภทไฟล์ภาพไม่ต่ำกว่าJPEG พร้อมระบุชื่อภาพตามหัวข้อเรื่องสั้น พร้อมเขียนรายละเอียดของภาพชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้มาด้วย
          4. จากนั้นทางเราจะรวบรวมและทำการคัดเลือกภาพที่ตรงโจทย์ที่สุดจำนวน 10 ภาพต่อหัวข้อ รวม 330 ภาพ เพื่อโพสต์ลงในเว็บไซต์ในวันที่1 สิงหาคม 2554
          5. หลักเกณฑ์ในการหาภาพผู้ชนะในแต่ละหัวข้อคือ จะมีการเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้ามากดโหวตภาพที่โดนใจที่สุดในแต่ละหัวข้อทุกๆ วัน และภาพที่ได้รับการกดโหวตมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะประจำหัวข้อนั้นไป อนึ่ง จำนวนการกดโหวตนั้นสามารถกดสะสมได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ถึงวันที่14 สิงหาคม 2554 โดยผู้กดโหวตจะต้องทำการลงทะเบียนกับเว็บไซต์ก่อนจึงจะโหวตได้ และสามารถกดโหวตได้เพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้น ถ้าอยากกดโหวตซ้ำภาพเดิมอีกจะต้องเป็นวันถัดไป
          6. หนึ่งท่านสามารถส่งภาพได้ทุกหัวข้อ แต่จะสามารถได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะเพียงแค่หัวข้อเดียวเท่านั้น
          7. ประกาศรายชื่อผู้ชนะทั้ง 33 ภาพและผู้โชคดีจากการกดโหวต ในวันที่ 15สิงหาคม 2554 ทาง www.mixmagazine.in.th
          8. ภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นภาพที่ไม่เคยชนะการประกวดใดๆ และไม่เคยเผยแพร่ในสื่อโฆษณามาก่อน หากพิสูจน์ภายหลังว่าเป็นภาพที่เคยเผยแพร่มาก่อน ขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกรางวัลที่ได้กลับคืน หรือตัดสิทธิ์ในการรับรางวัล
          9. ลิขสิทธิ์ภาพทั้ง 33 ภาพที่เป็นผู้ชนะถือเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท มิตรมายาจำกัด สามารถนำไปใช้ได้โดยไม่มีเงื่อนไข
          10. การตัดสินของคณะกรรมการจากบริษัท มิตรมายา จำกัด ถือเป็นที่สิ้นสุดไม่ว่ากรณีใดๆ

ของรางวัล
          1. ผู้ชนะการประกวดทั้ง 33 ท่าน จะได้รับรางวัลเป็นนิตยสาร MiX เล่มล่าสุด1 ฉบับและกิฟต์เซ็ตจากมาดามเฮง รวมมูลค่าทั้งสิ้น 620 บาท และได้รับการตีพิมพ์ภาพถ่ายลงในพ็อกเก็ตบุ๊ก “รัก 33 เศร้า” พร้อมเครดิตชื่อ-นามสกุลรวมทั้งได้รับพ็อกเก็ตบุ๊กอีก 1 เล่มเมื่อตีพิมพ์เสร็จแล้ว
          2. ผู้ที่ได้รับการกดโหวตมากที่สุด 5 ท่าน จะได้รับรางวัลลดหลั่นกันไปตามจำนวนการกดโหวตดังนี้
          รางวัลที่ 1 iPad2 16GB มูลค่า 15,900 บาท
          รางวัลที่ 2 นาฬิกา Esprit Victory Black รุ่น ES101901004 มูลค่า 3,750 บาท
          รางวัลที่ 3 เครื่องโกนหนวด Braun Series 1 190 มูลค่า 3,448 บาท
          รางวัลที่ 4 ลำโพง gear 4 Street Party 4 มูลค่า 2,790 บาท
          รางวัลที่ 5 Jabra Wave Bluetooth Headset มูลค่า 2,490 บาท
          3. นอกจากนี้ผู้ที่เข้ามากดโหวต ทางเราจะสุ่มหารายชื่อผู้โชคดี 3 ท่านเพื่อรับรางวัล ลำโพง Edifier MP 221 มูลค่า 1,290 บาทจำนวน 3 รางวัล
          4. ผู้ได้รับรางวัลต้องนำหลักฐานมารับรางวัลด้วยตนเอง และรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
          5. ผู้ได้รับรางวัลมูลค่าตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ต้องชำระภาษีหัก ณ ที่จ่าย 5 เปอร์เซ็นต์
          6. หากมีข้อสงสัย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2460-1534

          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2460-1534 MIX

35
นิตยสาร Modern Mom เดือนกรกฎาคม ชวนคุณร่วมแบ่งปัน 10 เรื่องมหัศจรรย์ ในความเป็นแม่ ของ ลูกเกด เมทินี


 
          นิตยสาร Modern Mom ฉบับเดือนกรกฎาคม 2554 ที่ได้คุณแม่นางแบบสาวสวย ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม ชาร์พเพิร์ล ควง น้องสกาย วัย 2 ปี มาขึ้นปก รวมถึงการเปิดใจให้สัมภาษณ์ของลูกเกด ถึงความมหัศจรรย์ในความเป็นแม่ของเธอ “ ก่อนแต่งงานมีลูก จะไปไหนหรืออยากทำอะไรก็จะทำ และเกดทำงาน 7 วันตลอด แต่ลดงานลงไปตั้งแต่ตอนตั้งท้องแล้ว แล้วพอมีลูกก็จะติดลูก ไปกับเพื่อนก็จะคิดถึงลูก อยากกลับบ้านให้ทันเวลาอาบน้ำเขา พาเขาเข้านอน ”

          หลังจากมีลูกแล้ว ความทุ่มเททุกอย่าง ความพยายามที่จะเลี้ยงลูกให้ได้ดีที่สุดในการเป็นแม่ของเธอ ไม่น้อยหน้าใครเลยค่ะ “ เกดเป็นคนใจร้อน เย็นลงมาหน่อยตั้งแต่ตอนแต่งงาน พอมีลูกก็ใจเย็นลงไปอีก เกดจะเป็นแม่ที่ละเอียดมาก ต้องเพอร์เฟกต์ทุกอย่าง อาหารต้องปลอดสารพิษ เกดทำอาหารให้ลูกเองด้วย และเกดก็หาหนังสือมาอ่านเรื่องวินัยของลูก ก็มีคำแนะนำว่าเราไม่ควรระเบิดอารมณ์ใส่เขา เพราะเขาไม่รู้ว่าแม่โกรธอะไร เวลาไม่รู้อะไรก็ถามคุณแม่หรือไม่ก็เปิดตำราดู สกายเป็นเด็กที่ค่อนข้างเลี้ยงง่าย สอนง่าย ไม่ค่อยซนมาก เรียนรู้เร็ว ชอบฟังเพลง เป็นเด็กอารมณ์ดี เกดจะเลี้ยงลูกสไตล์ไทยปนฝรั่ง ไม่ตามใจหรืออุ้มเขาตลอดเวลา ” ทำหน้าที่คุณแม่ไปแล้ว ส่วนหน้าที่ของภรรยาก็ไม่บกพร่องนะคะ “ กับคุณเอ็ดเวิร์ดเรามีเวลาคุยกันตลอด นานๆเกดจะทำกับข้าวให้เขา บ้านเราค่อนข้างเป็นครอบครัวที่รักกันก็แสดงออกค่ะ จุ๊บกัน กอดกันสามคน เราเองก็ต้องมีเวลาให้กับสามีด้วย เวลาอยู่บ้านเขาก็ช่วยเลี้ยงลูก ทำอาหารเช้า ” และสุดท้ายลูกเกดได้บอกถึงความสุขของการเป็นแม่ว่า “การเลี้ยงลูกสำหรับเกดแล้วมีความสุข ตอนนี้ลูกเริ่มโตแล้วก็เริ่มมีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น หาเวลาไปทำเล็บ ไปนวด ไปออกกำลังกาย เกดได้พบกับความรู้สึกดีๆจากการมีลูก เขาเติมเต็มให้เรา เราได้ดูเขาค่อยๆเติบโต พอเห็นเขาเริ่มทำอะไรด้วยตัวเองได้เราจะมีความสุขมาก ”

          นอกจากบทสัมภาษณ์ที่บ่งบอกถึงความสุขอย่างเต็มเปี่ยมของคุณแม่แล้ว Modern Mom ก็ยังคงมีสาระดีๆมาฝากคุณแม่คุณลูกอย่างเคยค่ะ ในเรื่องผักผลไม้ 5 สี ครบคุณค่าเพื่อแม่ท้อง , ชวนคุณแม่รู้ทันธาลัสซีเมีย และร่วมให้กำลังใจจากประสบการณ์จริง เสียลูกในท้องเพราะปลายประสาทอักเสบ และ scoop พิเศษ ชวนคุณแม่จัดสมดุลชีวิตกับธรรมชาติในยุคดิจิตอล

          และสำหรับกิจกรรมดีๆที่คุณแม่รอคอย Modern Mom @ Hospital และ Modern Mom on Tour 2011 ติดตามรายละเอียดได้ในฉบับประจำเดือนกรกฎาคมนี้นะคะ

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ พรสิริ ลิมป์หิรัณย์ ( อุ๋มอิ๋ม )
โทร.0-2913-7555 ต่อ 3535 www.modernmommag.com

36
แนะนำหนังสือใหม่ "คนผู้ขับเคลื่อนองค์กร"



          สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ เปิดตัวหนังสือใหม่
          “คนผู้ขับเคลื่อนองค์กร : 9 เรื่องของคนเล็กๆ สู่แรงบันดาลใจสร้างความสำเร็จให้องค์กร”

          สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ เปิดตัวหนังสือใหม่ “คนผู้ขับเคลื่อนองค์กร : 9 เรื่องของคนเล็กๆ สู่แรงบันดาลใจสร้างความสำเร็จให้องค์กร” เป็นการรวมเรื่องราวของบุคคลดาวเด่นขององค์กร ที่มีส่วนสำคัญในการร่วมผลักดันองค์กรไปสู่ความสำเร็จด้วยการทำงานอย่างทุ่มเทแรงกายและแรงใจ ซึ่งความสำเร็จในการสร้างบุคลากรในฝันเหล่านี้มาได้อย่างไร หนังสือเล่มนี้จะเป็นคำตอบที่ชัดเจน และเป็นแนวทางการสร้างทรัพยากรบุคคลที่จับต้องได้ โดยทีมกองบรรณาธิการ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ราคาเล่มละ 180 บาท ผู้สนใจสามารถซื้อได้ที่ร้านหนังสือซีเอ็ด B2S และ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ หรือสั่งซื้อทางเว็บไซต์ www.ftpi.or.th สอบถามรายละเอียด โทรศัพท์ 0-2019-5500 ต่อ 140
 
คนผู้ขับเคลื่อนองค์กร

          คนผู้ขับเคลื่อนองค์กร : 9 เรื่องของคนเล็กๆ สู่แรงบันดาลใจสร้างความสำเร็จให้องค์กร ซึ่งเป็นผลงานอีกเล่มหนึ่งที่สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติภูมิใจนำเสนอ โดยรวบรวมเรื่องราวของบุคคลที่น่าสนใจ 9 คนซึ่งเป็นดาวเด่นขององค์กรและ มีส่วนสำคัญในการร่วมผลักดันองค์กรไปสู่ความสำเร็จด้วยการทำงานอย่างทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจ ท่านเหล่านี้ล้วนมีความรักและผูกพันกับองค์กรเป็นพลังเบื้องหลัง และมีผู้นำองค์กรเป็นต้นแบบ ให้การสนับสนุนและส่งต่อจิตวิญญาณองค์กรไปสู่บุคคลากรเหล่านี้จนเป็นจิตวิญญาณเดียวกัน

          และที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นคือ ทั้ง 9 คนเริ่มต้นชีวิตการทำงานอย่างที่เรียกได้ว่าเกือบจะเป็น 0 คือ ไม่ได้มีต้นทุน ที่มีปริญญาบัตรเป็นทางผ่านด้วยซ้ำ แต่ด้วยความมุ่งมั่น รักในการเรียนรู้ และความพากเพียร ประกอบกับการสนับสนุน จากผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ทำให้คนเหล่านั้นก้าวสู่ตำแหน่งผู้บริหารคนหนึ่งขององค์กรอย่างสง่าผ่าเผย เช่น ชีวิตการทำงานของ คุณกาญจนา สายสิริพร ผู้บุกเบิกการตลาดของเครื่องสำอางค์คัฟเวอร์มาร์คให้แก่เครือสหพัฒน์ และทำให้คัฟเวอร์มาร์ค ยังคงครอบครองการตลาดในวงการบันเทิงอยู่จนทุกวันนี้ คุณกาญจนาเริ่มต้นการทำงานจากพนักงานขายเครื่องสำอางค์ ที่มีคุณวุฒิเพียงชั้นมัธยมต้น เรื่องราวของคุณอำพร ดอนไพรธรรม สาวบ้านนาที่เกือบไม่มีโอกาสเรียน แต่วันนี้เธอคือ ผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัท นิชิเวิร์ล จำกัด ผู้นำเข้าของเล่นเด็กระดับพรีเมี่ยม ที่ทำยอดขายได้ปีละ 100 ล้านบาท  ความสำเร็จในการสร้างบุคลากรในฝันเหล่านี้มาได้อย่างไร หนังสือเล่มนี้จะเป็นคำตอบที่ชัดเจน เป็นแนวทาง การสร้างทรัพยากรบุคคลที่จับต้องได้

          ด้วยความเชื่อในศักยภาพของมนุษย์ และความมีศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมกัน เราเชื่อว่ายังมีบุคลากรเช่นนี้อยู่ในอีกหลายองค์กร และมีอีกหลายคนในทุกองค์กรพร้อมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนองค์กร เพียงแต่องค์กรนั้นเห็นคุณค่าของเขาและแสดงให้เห็นเพียงใดว่าท่านเห็นคุณค่าของเขาอย่างแท้จริงเท่านั้น

37
บีทูเอส สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ส่งเสริมให้คนไทยทำดี สร้างความสุขได้ ในงานเสวนา “พระมหาสมปอง...ฟังแล้วสุขม๊ากมาก”



          ในวาระที่ใกล้จะถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ในปีนี้ บีทูเอส แหล่งการเรียนรู้ ครบวงจร จำหน่าย หนังสือ เครื่องเขียน และสื่อบันเทิง ร่วมกับ สำนักพิมพ์ Think Beyond Book ส่งเสริมให้คนไทยทำดี สร้างความสุขได้ง่าย ด้วยตนเอง ในงานเสวนา “พระมหาสมปอง...ฟังแล้วสุขม๊ากมาก” จาก พระมหาสมปอง และพระมหาเผด็จ รับฟังเรื่องราวของการสร้างความสุข และวิธีปฏิบัติเมื่อความโกรธ ความทุกข์ ความไม่พอใจ แวะมาเยือน ฟังคำตอบได้ในงาน พิเศษเฉพาะ 20 ท่านแรก ลงทะเบียนร่วมงาน รับถุงผ้าลดโลกร้อน ฟรี

          วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฏาคม 2554 เวลา 15.00 น. ณ บีทูเอส สาขาเซ็นทรัลเวิลด์

          ด่วน...สามารถสำรองที่นั่งได้ฟรี ที่แผนกประชาสัมพันธ์และกิจกรรมพิเศษ 02-101-7133-34 / 7140 ตั้งแต่วันนี้ - 8 กรกฏาคม 2554 เวลา 10.00 – 17.00 น. (ยกเว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)

38
มุมนักอ่าน / โครงการ For my Heroes
« on: July 07, 2011, 11:31:36 AM »
          โครงการ For my Heroes
          การรวมตัวกันแสดงน้ำใจให้กับเหล่าวีรบุรุษผู้เสียสละ
         
          รายละเอียด
          เพราะ “รัก” ดีๆ เราจึงมี (น้ำ) “ใจ” ให้กัน
          งานระดมทุนเพื่อทหารใต้ที่แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความรักที่พวกเรามีให้กับเหล่าวีรบุรุษผู้กล้า ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 กับกิจกรรมดีๆ เช่นนี้ โดยมีนักเขียนคุณภาพอย่าง “กิ่งฉัตร” “ปิยะพร ศักดิ์เกษม” และ “พงศกร” เป็นผู้ริเริ่มโครงการฯ ขึ้นมา

          สำหรับการระดุมทุนในครั้งนี้จะเป็นการจำหน่าย Lucky Book Bag (ภายในจะประกอบไปด้วยหนังสือนวนิยาย พร้อมลายเซ็นต์นักเขียนที่มีจิตศรัทธาเข้าร่วมทำบุญในครั้งนี้ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งต้องลุ้นค่ะว่าข้างในถุงจะมีอะไรบ้าง) ราคาใบละ 359 บาท แน่นอนว่ามูลค่าของหนังสือ+อื่นๆ ที่อยู่ในถุง Lucky Book จะเท่ากับหรือมากกว่า 359 บาท และถ้าเป็นถุงเปล่า ราคาใบละ 299 บาทโดยจะเปิดจำหน่ายในงาน Health Cuisine & Beauty ครั้งที่ 7 ในวันที่ 9-10 ก.ค.นี้ ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้าจ้าในงาน แล้วพบกันนะคะ ^^

          ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
          www.facebook.com/FormyheroesProject
          www.facebook.com/baanarunclub

          สามารถร่วมสมทบเงินทุนเข้าโครงการ For my Heroes ผ่านธนาคารกสิกรไทย บัญชีออมทรัพย์ สาขาเทสโก้ โลตัส ประชาชื่น เลขที่ 954-2-01970-8 ชื่อบัญชี ปาริฉัตร ศาลิคุปต

39
Gossip News: ทรูวิชั่นส์เพิ่มช่อง HD อีก 8 ช่อง



          ช่วงนี้อย่าแปลกใจถ้าเคเบิ้ลอันดับหนึ่งอย่างทรูวิชั่นส์จะขยับตัวอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุด องอาจ ประภากมล รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหารสาย Commercial บมจ.ทรูวิชั่นส์ แจ้งมากว่า ทรูวิชั่นส์จะดำเนินการจัดเรียงช่องราการใหม่ทั้งระบบจานดาวเทียมและเคเบิ้ล เพื่อต้อนรับการเพิ่มช่องเอชดีอีก 8 ช่องรวมเป็น 11 ช่องเอชดี เติมเต็มให้ครบรสทั้งบันเทิง กีฬา และสารคดี ให้สมกับเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์และเทคโนโลยีที่มีความคมชัดและทันสมัยที่สุดค๊า

 
 

40
news & activity / กิจกรรม “Love What You Do”
« on: July 07, 2011, 11:27:15 AM »
ริม นำทีมเหล่าเซเลบริตี้ร่วมถ่ายทอดความประทับใจที่มีต่อแบล็กเบอร์รี่ ในกิจกรรม “Love What You Do”



          เมื่อเร็วนี้ๆ รีเสิร์ช อิน โมชั่น หรือ ริม ผู้สร้างสรรค์แบล็กเบอร์รี่สมาร์ทโฟน จัดกิจกรรม “Love What You Do” เพื่อสานสัมพันธ์กับผู้บริโภค โดยเชิญเหล่าเซเลบริตี้แถวหน้าของไทยมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ความประทับใจที่มีต่อแบล็กเบอร์รี่สมาร์ทโฟน และโปรแกรม BlackBerry Messenger ร่วมด้วย วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ไอซ์ อภิษฎา เครือคงคา ก้อง กรุณ ซอโสตถิกุล และ ท๊อป ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี โดยมีดีเจชื่อดัง พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร รับหน้าที่พิธีกรที่มาช่วยสร้างสีสันตลอดงาน พร้อมกันนี้ ภายในงานยังมีการชักชวนให้ผู้เข้าร่วมงานมาร่วมเล่นเกมส์เพื่อลุ้นรางวัลแบล็กเบอร์รี่ ทอร์ช 9800 มูลค่า 15,300 บาท จำนวน 3 รางวัลด้วยกัน

          งานนี้ เหล่าเซเลบริตี้ทั้งสี่ได้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แบล็กเบอร์รี่สมาร์ทโฟนนั้น ได้กลายมาเป็นมากกว่าแค่โทรศัพท์เครื่องหนึ่งที่ใช้โทรเข้าออก แต่เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวในการทำงาน รวมถึงช่วยจัดการตารางเวลาของตนเอง แม้กระทั่งเป็นนาฬิกาปลุกในตอนเช้า ทั้งยังเป็นเหมือนเพื่อนที่ช่วยคลายความเหงาเพราะสามารถออนไลน์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างง่ายดาย

          นอกจากนี้ โปรแกรม BlackBerry Messenger หรือ BBM ยังเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เหล่าเซเลบติดใจในแบล็กเบอร์รี่สมาร์ทโฟน เพราะ ความง่ายในการใช้งาน และความปลอดภัยของข้อมูลในการแช็ท BBM ซึ่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ของแบล็กเบอร์รี่เอง โดยคุณไอซ์ อภิษฎา เครือคงคา ได้เปิดเผยว่า “BBM เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอและเพื่อนๆ ที่อยู่ต่างประเทศสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ตลอดเวลาทั้งการพิมพ์แชท การส่งไฟล์เสียง และการแช็ทผ่านกลุ่มที่ตั้งเอาไว้ ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆว่า BBM คือโปรแกรมที่ทำให้คนไกลรู้สึกใกล้กัน และคนใกล้ก็ยิ่งใกล้กันมากยิ่งขึ้นไปอีก”

          ‘ภาพบรรยากาศ ริม จัดกิจกรรม Love What You Do ในประเทศไทย’
          ณ ลานแฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน


41
news & activity / งาน Health Cuisine&Beauty Festival
« on: July 07, 2011, 11:24:57 AM »
งาน Health Cuisine&Beauty Festival



          พบกับมหกรรมสินค้า สุขภาพ อาหาร แฟชั่น จิเวลรี่ และความงาม กับงานแฟร์ครั้งยิ่งใหญ่โดยนิตยสารสายสุขภาพและความงามในเครืออมรินทร์ “Health Cuisine & Beauty Festival” พิเศษสำหรับเพื่อนนักอ่าน แวะไปช้อปหนังสือเติมเคล็ดลับความงามและความสุขให้กับชีวิต ด้วยหนังสือน่าอ่าน จากบูธร้านนายอินทร์ พร้อมหนังสือราคาพิเศษลดสูงสุดถึง70 % พิเศษสุดคุ้ม และสิทธิพิเศษสำหรับคนรักการช้อปอีกมากมาย พบกัน 6 – 10 กรกฎาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

          ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ร้านนายอินทร์ หรือโทร.0-2423-9999 ต่อ 6444 และร่วมพูดคุยกับเราได้แล้ววันนี้ที่ Facebook และTwitter ร้านนายอินทร์หรือ www.naiin.com

42
กรมปศุสัตว์ไอเดียเก๋ เปิดตัวโครงการดาวเขียว โซเชียลเน็ตเวิร์ค บนเฟสบุ๊ค ระบบแจ้งเตือนภัยสินค้าปศุสัตว์ผ่านเครือข่ายของกรมปศุสัตว์


 
          นายยุคล ลิ้มแหลมทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ ได้จัด ทำ “โครงการดาวเขียว โซเชียลเน็ตเวิร์ค” ระบบแจ้งเตือนภัยสินค้าปศุสัตว์ผ่านเครือข่ายของกรมปศุสัตว์ ผ่านโปรแกรมเฟสบุ๊ค ภายใต้ชื่อเว็บไซต์ www.facebook.com/GreenstarAlert ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวนับเป็นช่องทางการสื่อสารสมัยใหม่ ที่มีผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปใช้กันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาพัฒนาใช้ให้สอดคล้องกับการสื่อสารในยุคโซเชียลเน็ตเวิร์คนั้น จะช่วยเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์และ เนื้อสัตว์อย่างถูกวิธี ถูกสุขอนามัย และมีความปลอดภัย แก่ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปได้เป็นอย่างดี

          นายปรีชา สมบูรณ์ประเสริฐ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเสริมว่า สำนักพัฒนาและรับรองมาตรฐานสินค้า ปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ มีความตระหนักถึงการให้ข้อมูลด้านความปลอดภัยกับผู้บริโภค เกี่ยวกับการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์และเนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์และเนื้อสัตว์ผ่านช่องทางและสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ “โครงการดาวเขียว โซเชียลเน็ตเวิร์ค” ระบบแจ้งเตือนภัยสินค้าปศุสัตว์ผ่านเครือข่ายของกรมปศุสัตว์ บนเว็บไซต์ www.facebook.com/GreenstarAlert เป็นการนำแนวคิดการสร้างเครือข่ายเตือนภัย พร้อมการให้ความรู้ในการบริโภคผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ ซึ่งผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปสามารถใช้เป็นช่องทางในการติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการบริโภคผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์อย่างมีคุณภาพ ที่ให้ความสะดวก และรวดเร็ว รวมทั้งสามารถโต้ตอบในเชิงสื่อสารข้อมูลข่าวสารถึงกรมปศุสัตว์ เพื่อนำข้อมูลไปใช้ปรับปรุงแก้ไขในการดูแล และควบคุมเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในลำดับต่อไปด้วย

“โครงการดาวเขียว โซเชียลเน็ตเวิร์ค ระบบแจ้งเตือนภัยสินค้าปศุสัตว์ผ่านเครือข่ายของกรมปศุสัตว์ จะมีการประชาสัมพันธ์โครงการอย่างต่อ อาทิ การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ , สปอตโฆษณาทางวิทยุ , สื่อสิ่งพิมพ์ ต่างๆ รวมถึงมีการทำคู่มือเลือกซื้อสินค้าปศุสัตว์สำหรับผู้บริโภค และแนะนำการใช้เว็บไซต์ www.facebook.com/GreenstarAlert พร้อมวิธีการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากสัตว์และเนื้อสัตว์อย่างถูกวิธี อาทิ เนื้อสัตว์ นม และไข่ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้โครงการนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ถือเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์สำคัญ ด้านการสร้างและพัฒนาเครือข่ายด้าน ปศุสัตว์ ของกรมปศุสัตว์ ให้เข้มแข็งในลำดับต่อไป” นายปรีชา กล่าว
…………………………………………………………………..

ข้อมูล : สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์
ข่าว : สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ /กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักพัฒนาการปศุสัตว์และถ่ายทอดเทคโนโลยี


เอกสารประกอบ
โครงการดาวเขียว โซเชียลเน็ตเวิร์ค ระบบแจ้งเตือนภัยสินค้าปศุสัตว์ของกรมปศุสัตว์
หลักการและเหตุผล

ความปลอดภัยด้านอาหาร นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้บริโภค สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ ได้ขยายงานด้านมาตรฐานสินค้าที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประเภทปศุสัตว์ ที่เน้นความสะอาด ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย และได้มาตรฐาน โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเครือข่ายตั้งแต่ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์, อาหารสัตว์, โรงฆ่าสัตว์ , โรงงานผลิตเนื้อสัตว์ , ผู้จำหน่าย รวมถึงผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับการเตือนภัยสินค้า ปศุสัตว์ ผ่านช่องทางการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ถึงกลุ่มที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้นอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่ปัจจุบัน สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ เล็งเห็นว่า กลุ่มผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป มีความสนใจในการรับ-ส่งข้อมูลข่าวสารผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Internet) เป็นจำนวนมาก เนื่องจากระบบดังกล่าว สามารถติดต่อสื่อสารและเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ถึงกันได้ทั่วโลก อาทิ ระบบเว็บไซต์ , จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล์ (E-Mail) รวมถึงการสื่อสารข้อมูลข่าวสารผ่านเครือข่ายสังคมบนอินเทอร์เน็ต หรือที่เรียกว่า "โซเชียลเน็ตเวิร์ค" (Social Network) ซึ่งมีผู้ให้บริการด้านระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง อาทิ เฟซบุ๊ค (www.Facebook.com) เป็นต้น โดยกลุ่มผู้ใช้บริการเครือข่ายสังคมบนอินเทอร์เน็ตนั้น มีทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เด็กระดับประถม ไปจนถึงระดับผู้ใหญ่วัยทำงานเกือบทุกสาขาวิชาชีพ ด้วยจุดเด่นในการสื่อสารที่รวดเร็ว สะดวกสบาย ส่งผลให้การสื่อสารในสังคมออนไลน์ดังกล่าว ได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก รวมถึงกลุ่มผู้บริโภคและประชาชนชาวไทยด้วย

ดังนั้น สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ จึงได้มีการจัดทำโครงการดาวเขียว โซเชียลเน็ตเวิร์ค ระบบแจ้งเตือนภัยสินค้าปศุสัตว์ผ่านเครือข่ายของกรมปศุสัตว์ขึ้น บนเว็บไซต์เฟสบุ๊ค ชื่อว่า www.facebook.com/GreenstarAlert ขึ้น
 
แนวคิดเกี่ยวกับการออกแบบตราสัญลักษณ์
การสร้างรูปแบบตราสัญลักษณ์ โครงการดาวเขียว โซเชียลเน็ตเวิร์ค ระบบแจ้งเตือนภัยสินค้าปศุสัตว์ผ่านเครือข่ายของกรมปศุสัตว์ มีแนวคิดที่สะท้อนให้เห็นถึงคุณสมบัติและคุณลักษณะของการเป็นเครือข่ายเตือนภัยผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ ภายใต้การจัดการโดยกรมปศุสัตว์ ที่มีเนื้อหาสาระสำคัญเกี่ยวกับ คุณลักษณะการเป็นเครือข่ายออนไลน์ , เครือข่ายบนสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ค นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าในลักษณะตราสัญลักษณ์แห่งการให้รางวัลและกำลังใจกับผู้เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ประกอบการโรงฆ่าสัตว์ , ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับปศุสัตว์ที่มีความสะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐาน เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในสินค้าปศุสัตว์นั่นเองเอง โดยสื่อสัญลักษณ์ต่างๆ มีความหมายดังนี้
“ดวงดาว” สัญลักษณ์แห่งความสดใส สวยงาม น่าประทับใจ สำหรับสังคมไทย มีนัยยะถึงการเชิญชูเกียรติ ให้กับผู้ที่ทำความดี ซึ่งในที่นี้ต้องการสื่อถึง การยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับกลุ่มผู้ประกอบการโรงฆ่าสัตว์ , ผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสัตว์และเนื้อสัตว์ที่ได้คุณภาพและได้มาตรฐาน เหมาะสมกับการที่ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปจะบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์และเนื้อสัตว์ได้อย่างมั่นใจ

“โลกและโครงข่าย” หมายถึง สัญลักษณ์ที่สื่อถึงการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสาร และความเป็นโครงข่ายทางด้านการสื่อสาร ซึ่งในที่นี้หมายถึง การที่ผู้บริโภคสามารถเชื่อมโยงข่าวสารเกี่ยวกับการบริโภคผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ อันได้แก่ความรู้ สาระประโยชน์ ที่กรมปศุสัตว์เป็นผู้นำเสนอสู่ผู้บริโภคและประชาชนอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้บริโภคและประชาชน รวมถึงสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเครือข่าย ในลักษณะที่เรียกว่า “โซเชียลเน็ตเวิร์ค” ได้ด้วย

“คน” หมายถึงสัญลักษณ์ที่สื่อให้เห็นถึง ผู้มีส่วนร่วมกับผลิตภัณฑ์ของปศุสัตว์ ตั้งแต่ผู้ผลิตต้นทาง อาทิ เกษตรกร , ผู้ประกอบการธุรกิจปศุสัตว์ , ผู้ประกอบการโรงฆ่าสัตว์ , ผู้จัดจำหน่าย , ผู้ขายทั่วไป ไปจนถึงผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป

เครื่องหมายเตือนภัย หมายถึง สัญลักษณ์ที่สื่อให้เห็นถึงช่องทางการกระจายเสียง ที่สามารถสื่อสารข้อมูลข่าวสารถึงกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง ที่จะดำเนินการผ่านระบบแจ้งเตือนภัยสินค้าปศุสัตว์ผ่านเครือข่ายของกรมปศุสัตว์ อันจะเป็นประโยชน์ในระดับสาธารณะ ทั้งในด้านการนำไปปรับปรุง พัฒนา แก้ไข หรือหาแนวทางป้องกันเกี่ยวกับคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์จากสัตว์และเนื้อสัตว์ในลำดับต่อไป

สีเขียว เป็นสื่อที่ความเป็นธรรมชาติ การรักษาสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ความน่าไว้วางใจ

43
          บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ยกระดับมาตรฐานอาชีพบาร์เทนเดอร์ไทย และรณรงค์การดื่มอย่างรับผิดชอบ

          บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดยนายแดนนี่ เซโลนี รองประธานกรรมการฝ่ายขาย ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยมีนายจาตุรันต์ วัฒนะประทีป ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล เป็นตัวแทน ร่วมเปิดงาน “การฝึกอบรมบาร์เทนเดอร์และการผสมเครื่องดื่มด้วยความรับผิดชอบ รุ่นที่ 5” ณ วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยได้รับเกียรติจากนายศักรินทร์ ช่อไสว ผู้อำนวยการสมาคมโรงแรมไทย เข้าร่วมในพิธีและบรรยายให้ความรู้แก่อาจารย์จากสถาบันอาชีวศึกษาที่อยู่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดใกล้เคียงกว่า 27 แห่งในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

          “โครงการฝึกอบรมบาร์เทนเดอร์และการผสมเครื่องดื่มด้วยความรับผิดชอบ รุ่นที่ 5” ซึ่งริเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2553 เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นับจนถึงปัจจุบันได้ทำการฝึกอบรมครูและอาจารย์ไปแล้วกว่า 200 คน เพื่อให้นำความรู้และทักษะที่ได้รับไปถ่ายทอดต่อแก่นักศึกษาทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบุคลากรและยกระดับมาตรฐานอาชีพบาร์เทนเดอร์ไทยสู่ระดับสากล พร้อมให้ความรู้และส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับการให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์อย่างรับผิดชอบ เพื่อให้เกิดวัฒนธรรมการดื่มอย่างรับผิดชอบแก่ผู้บริโภคชาวไทยต่อไป
         

 
          นายแดนนี่ เซโลนี รองประธานกรรมการฝ่ายขาย บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 3 จากซ้าย) ร่วมด้วยนายจาตุรันต์ วัฒนะประทีป ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล (ที่ 4 จากซ้าย) นายศักรินทร์ ช่อไสว ผู้อำนวยการสมาคมโรงแรมไทย (ที่ 5 จากซ้าย) และนายเจนณรงค์ ภูมิจิตร แบรนด์แอมบาสเดอร์จากบริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้การอบรมและฝึกสอน (ที่ 2 จากซ้าย) พร้อมด้วยตัวแทนคณะอาจารย์ที่เข้าร่วมการอบรม ถ่ายภาพร่วมกันในพิธีเปิด “การฝึกอบรมบาร์เทนเดอร์และการผสมเครื่องดื่มด้วยความรับผิดชอบ รุ่นที่ 5”

44
Sourcefire จับมือ Zenith Comp ลุยตลาดระบบป้องกันผู้บุกรุกยุคหน้า



ซอร์สไฟร์ เดินหน้าเปิดตลาด Next-Generation IPS อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดผนึก Zenith Comp จัดงานสัมมนาภายใต้ชื่อ “Prepare Your IT Infrastructure For Modern Threat” เพื่อเปิดมุมมองต่อภัยคุกคามรูปแบบใหม่บนโลกไซเบอร์พร้อมนำเสนอสุดยอดเทคโนโลยีการป้องกันเครือข่ายยุคหน้า โดยมี นายการุณ เตชาบูรพานนท์ (ขวา) ผู้จัดการประจำประเทศไทย, บริษัท ซอร์สไฟร์ อิงค์ และ นางศิวารักข์ พหลโยธิน (กลาง) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีนิธ คอมพ์ จำกัด พร้อม นายพิชัยวุฒ ประพุทธนิติสาร (ซ้าย) ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซอร์สไฟร์ อิงค์ ร่วมให้ข้อมูลผู้เข้าร่วมสัมมนา ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์

 

45
มิสเตอร์ โดนัท ชวนอิ่มอร่อยสุดฮิตจากอดีต ย้อนอร่อยในรสใหม่


 
           มิสเตอร์ โดนัท ผู้นำตลาดโดนัทเมืองไทย มุ่งมั่นสร้างสรรค์โดนัทแสนอร่อย ภายใต้สโลแกน “ความสุขใหม่ใหม่ มีได้เสมอ” บริหารงานโดย บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) – มิสเตอร์ โดนัท นำเสนอความอร่อยสุดฮิต “มิสเตอร์ โดนัท ฮิต รีมิกซ์” ชุดที่ 1 (Mister Donut Hits Remix Vol.1) กับ 5 รสชาติ 5 สไตล์ ไม่ซ้ำใคร !! ย้อนอดีตอิ่มอร่อยสุดฮิตจาก ปี 2521 มาอร่อยในรสชาติใหม่ที่อร่อยกว่าเดิม ด้วยโดนัทเนื้อนุ่ม

          เต็มอิ่มกับท็อปปิ้งสุดฮิต ที่มีให้คุณเลือกอิ่มเอมกันถึง 5 แบบ

          “มิสเตอร์ โดนัท ฮิต รีมิกซ์” ชุดที่ 1 (Mister Donut Hits Remix Vol.1) ชวนคุณย้อนอร่อยตั้งแต่ปี พ.ศ 2521 – 2542 ย้อนอร่อยสู่ความสำเร็จตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา มิสเตอร์ โดนัท จึงเลือกสรรค์ความอร่อยสุดฮิตตลอด 33 ปีที่ผ่าน มากลับมาอร่อยอีกครั้ง ในรูปแบบสุดฮิตในชุดแรกถึง 5 แบบ

          สมิดจิ้น (ย้อนฮิตจากปี 2521) เนื้อแป้งโดนัทสุดนุ่ม สอดไส้ด้วยครีมรสกาแฟ โรยหน้าด้วยโดนัทชูการ์สุดหวานละมุน เพียงชิ้นละ 33 บาท

          ฮันนี่บอล (ย้อนฮิตจากปี 2525) โดนัทยีสต์เคลือบด้วยน้ำตาลเกรซคุณภาพดี มีให้ลิ้มลองความอร่อยถึง 2 แบบ กับเนื้อแป้งนุ่มรสช็อกโกแลต และเนื้อโดนัทแบบต้นตำหรับ อิ่มอร่อยพอดีคำ เพียงชิ้นละ 22 บาท

          โทสต์ โคโคนัท (ย้อนฮิตจากปี 2528) โดนัทยีสต์คลุกเคล้าให้เข้ากันด้วยน้ำตาลเกรซ พร้อมโทสต์ โคโคนัท มะพร้าวอบแห้งสุดหอมมัน เพียงชิ้นละ 22 บาท

          ช็อกเชลล์ (ย้อนฮิตจากปี 2535) โดนัทช็อกโกแลตยีสต์ สอดไส้ความอร่อยด้วยแยมรสสตรอเบอร์รี่ หรือบาวาเรียน พร้อมโรยด้วยโดนัทชูการ์หวานอร่อยอย่างลงตัว เพียงชิ้นละ 15 บาท

          คอฟฟี่โรล (ย้อนฮิตจากปี 2542) เนื้อแป้งยีสต์กาแฟ ด้วยรูปแบบโรล เคลือบน้ำตาลเกรซหวานพอดีคำ โรยหน้าด้วยอัลมอนด์สไลด์สุดพรีเมี่ยม เพียงชิ้นละ 22 บาท

          อย่ารอช้าอร่อยนี้มีจำกัด !! พร้อมลิ้มลองความอร่อยสุดฮิตนี้กันได้แล้ว กับมิสเตอร์ โดนัท ฮิต รีมิกซ์ ชุดที่ 1 (Mister Donut Hits Remix Vol.1) ตั้งแต่วันนี้ - 15 สิงหาคม 2554 ที่ร้านมิสเตอร์ โดนัท กว่า 250 สาขาทั่วประเทศ

          สอบถามความอร่อยเพิ่มเติมได้ที่ 0-2635-7926 หรือ www.misterdonut.co.th แล้วอย่าลืมติดตามเมนูฮิตชุดต่อไปได้เร็วๆ นี้ที่นี่ ที่เดียวที่.... มิสเตอร์ โดนัท

Pages: 1 2 [3] 4 5 ... 27