Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: 1 ... 1619 1620 [1621] 1622 1623 ... 2406
24301


TP-LINK ได้ฤกษ์จัดงาน “Neffos Blogger Day2016”
รวมพลคนรักสมาร์ทโฟน 4 G


นายโรบิน ดัง ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ (ที่2จากซ้าย) TP-LINK นายเมซี ไล กรรมการผู้จัดการ (ที่3จากซ้าย) TP-LINK

                 บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์เครือข่ายระดับโลกได้ฤกษ์จัดงาน “Neffos Blogger Day 2016” รวมพลคนรักสมาร์ทโฟน 4 G  ซึ่งการจัดงาน โดยมีสื่อมวลชนและเหล่าบรรดา Blogger สายไอทีเข้าร่วมงานเพื่อพบปะสังสรรค์ ทดสอบ ทดลองใช้ Neffos ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่รุ่น C5L,รุ่น Neffos C5 และรุ่น Neffos C5Max พร้อมกันอย่างคับคั่ง

                 นายโรบิน ดัง ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ Neffos, ทีพี-ลิงค์ กล่าวว่า การตัดสินใจรุกตลาดสมาร์ทโฟน 4 G ในประเทศไทยมาจากวิสัยทัศน์ของการเริ่มต้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งเชื่อว่าถึงเวลาแล้วในการขยายตลาดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยมีความพร้อม และสมาร์ทโฟนยังเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ ซึ่งสามารถเปลี่ยนโลกได้อย่างไม่น่าเชื่อ และสมาร์ทโฟนตระกูล Neffos ที่นำมาให้สื่อมวลชนและบรรดาเหล่า Blogger รีวิวในครั้งนี้ ได้แก่


นายโรบิน ดัง ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ Neffos, TP-LINK.

                 -          รุ่น Neffos C5L มาพร้อมด้วย RAM ขนาด 1GB และ ROM 8GB และยังรองรับหน่วยความจำเสริมอย่าง SD memory ได้มากถึง 32 BG โดยกล้องหลังมีความละเอียด  8  MP และกล้องหน้ามีความละเอียด 2  MP ราคาจำหน่าย 2,990 บาท

                 -          รุ่น Neffos C5 มีระบบประมวลผลความเร็วสูง ด้วยซีพียูแบบ quad-core 64-bit มี ROM 16GB และ RAM 2GB พร้อมด้วยกล้องถ่ายรูปแบบซูเปอร์คาเมร่า ที่มีโหมด “intelligent” และมีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้มากถึง 30 ฟิลเตอร์  และมีความจุในการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ มีโปรแกรมพื้นหลังแบบ     มัลติเธรด และกล้องอันทรงพลังที่จะให้ความสมดุลและประสบการณ์ดี ๆ กับผู้ใช้ได้ ซึ่งตัวเครื่องมีขนาดเล็กกะทัดรัด จับกระชับมือ ราคาจำหน่าย 4,790 บาท

                 -          รุ่น Neffos C5Max มาพร้อมซีพียูแบบ Octa-core 1.3GHz มี Ram 2GB และ ROM 16GB ให้ภาพที่คมชัดคุณภาพแบบคริสตัลเคลียร์และทนต่อการกระแทกด้วยเทคโนโลยี Corning Gollira  Glass, ซึ่ง Neffos C5Max ยังมาพร้อมหน้าจอแบบ FHD IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงรายละเอียดของภาพและสีได้อย่างคมชัด ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ตาม ซึ่งกล้องหลังมีความละเอียดสูงถึง 13  MP และกล้องหน้ามีความละเอียดถึง 5  MP โดยรูรับแสงขนาดใหญ่ถึง F2.0 ในกล้องหน้าจะทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพสวย ๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา   ราคาพิเศษ 5,990 บาท

                 สำหรับศูนย์บริการลูกค้าที่ซื้อสมาร์ทโฟน Neffos สามารถส่งเคลมได้ที่ Mobile Sure กว่า 30 สาขาทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/neffosthailand










###

เกี่ยวกับ TP-LINK

TP-LINK เป็นบริษัทที่ริเริ่มนวัตกรรมใหม่ ๆ และเป็นผู้ให้บริการระหว่างลูกค้าและสินค้าประเภท SOHO บริษัท ได้รับการสนับสนุนการเข้าถึงเครือข่ายท้องถิ่นและอินเตอร์เน็ตที่สะดวกที่สุด ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในด้านชีวิต ด้านการทำงานและด้านความบันเทิง ด้วยบริการคุณภาพสูงที่มียอดขายสูงถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2014

เกี่ยวกับ Neffos

Neffos เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนในเครือ TP-LINK ซึ่งมุ่งเน้นที่จะทำตามคำกล่าวที่ว่า “Smart and Simple” โดยตั้งเป้าหมายไปยังการสร้างไลฟ์สไตล์ที่ฉลาดและเรียบง่ายจากรายละเอียดทุกอย่าง ด้วยการอัพเกรดและพัฒนาสินค้าอย่างไม่หยุดยั้ง

24302
ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ จับมือวิซอาร์ที
เปิดตัวโซลูชั่นสำหรับธุรกิจสื่อดิจิทัลที่ทันสมัยที่สุด


                เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร. มารุต มณีสถิตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย และพม่า บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พีทีอี ลิมิเต็ด (ที่2 จากซ้าย) ร่วมกับ มร. ไมเคิล นามาติเนีย  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ประจำภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิค บริษัท บริษัท วิซอาร์ที (ประเทศไทย) จำกัด (ขวาสุด), นางสาวยุพาพักตร์ ตะวันนา กรรมการบริหาร / ผู้อำนวยการภูมิภาค บริษัท วิซอาร์ที (ประเทศไทย) จำกัด(ที่ 2 จากขวา) และมร. เวการ์ด เอลเกเซ็ม ผู้จัดการผลิตภัณฑ์สตูดิโอ ออโตเมชั่น ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท วิซอาร์ที (ประเทศไทย) จำกัด (ซ้ายสุด) แถลงความร่วมมือกันในโซลูชั่น Media Asset Management (MAM) เทคโนโลยีที่ทำหน้าที่จัดเก็บและบริหารจัดการข้อมูล คอนเทนต์ ไฟล์ มีเดีย ให้ผู้ผลิตสื่อและบันเทิง สามารถเก็บรักษาคอนเทนต์ให้ปลอดภัยและทนทาน เข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันเวลาในการแข่งขันทางการตลาด สามารถนำมาใช้งานได้เป็นระยะเวลานาน และมีความปลอดภัย นับเป็นสุดยอดโซลูชั่นสำหรับธุรกิจสื่อและบันเทิงที่ทันสมัยที่สุดแห่งยุค 

24303
ตอบรับนโยบายพลังงานทดแทนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ปอร์เช่ ประเทศไทย เข้าร่วมโครงการเปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (PTT EV Station) ร่วมกับ ปตท.


ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ตอบรับนโยบายรัฐบาล ด้วยการเข้าร่วมโครงการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (PTT EV Station) ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทค่ายรถยนต์ชั้นนำ 6 แห่ง เพื่อให้ผู้บริโภคคนไทยได้ใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังพลักดันให้คนไทยหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น โดยมีพลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ณ สถานนีน้ำมัน ปตท. The Crystal PTT ถ. ชัยพฤกษ์ เมื่อวันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม 2016

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการร่วมกันพัฒนาและทดลองระบบการใช้งาน PTT EV Station พร้อมศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า โดย ปตท. จะเป็นผู้ก่อสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจ ของ ปตท. และ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้ง 6 ราย จะเป็นผู้ศึกษาและพัฒนารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าตามแผนธุรกิจของแต่ละบริษัทต่อไป ทั้งนี้เพื่อสร้างการรับรู้และความมั่นใจสู่สาธารณะในการใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ต่อไปนับเป็นอีกความมุ่งมั่นในการพัฒนาพลังงานทางเลือกให้ก้าวทันสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและตลอดเวลาเพื่อดูแลความมั่นคงทางพลังงานของประเทศให้มีใช้อย่างเพียงพอ ทั่วถึง เป็นธรรม และยั่งยืน

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่านตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อก้าวเข้าสู่คำว่า AAS The Name you can Trust ความไว้วางใจที่ให้คุณได้มากกว่า ตลอดระยะเวลาดำเนินการมา กว่า 30 ปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Porsche Centre Bangkok ถ.วิภาวดีรังสิต โทร. 02-522-6655
Porsche Centre Pattanakarn ถ.พัฒนาการ โทร. 02-369-1111
Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911







24304
ไฮไลท์สำคัญของบูธรถยนต์ปอร์เช่ งาน BIG Motor Sale 2016

718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster) ใหม่ล่าสุด เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย


718 Boxster

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เตรียมเผยโฉม 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster) รถสปอร์ตโร้ดสเตอร์ ใหม่ล่าสุด สู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการครั้งแรก ณ งาน Bangkok International Grand Motor Sale 2016 พร้อมทัพรถยนต์ปอร์เช่อีกมากมาย อาทิ 911 คาร์เรร่า (Carrera), คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid), มาคันน์ (Macan) รอให้ท่านจับจองเป็นเจ้าของภายในงาน ตั้งแต่วันที่ 20-28 สิงหาคม 2016 ณ ไบเทคบางนา

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อก้าวเข้าสู่คำว่า AAS The Name you can Trust ความไว้วางใจที่ให้คุณได้มากกว่า ตลอดระยะเวลาดำเนินการมา กว่า 30 ปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Porsche Centre Bangkok ถ.วิภาวดีรังสิต โทร. 02-522-6655
Porsche Centre Pattanakarn ถ.พัฒนาการ โทร. 02-369-1111
Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911



Carrera


Cayenne S E-Hybrid


Macan

24305
ปฏิทินข่าว

บริษัท พีพี สยามลาเท็กซ์ จำกัด ผู้นำในธุรกิจผลิตภัณฑ์ยางพาราของประเทศไทย เตรียมเปิด Rubberland (รับเบอร์แลนด์) อุทยานการเรียนรู้เกี่ยวกับยางพาราแห่งแรกของประเทศไทยและเอเชีย พร้อมกันนี้ ภายในงานเตรียมพบกับ ครอบครัวสกิดใจ นำโดย ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ ที่ควงคู่ภรรยาเอ๋-พรทิพย์ และลูกชายหัวแก้วหัวแหวน น้องภูดิศ สกิดใจ ในวันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม 2559 ณ รับเบอร์แลนด์ พัทยากลาง ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป

24306
การซ้อมคอนเสิร์ตการกุศล "The Possible Dream"

เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยผู้ยากไร้ ในโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๙๐ พรรษา ในปี ๒๕๖๐

(จากซ้าย) สุชาติ ชวางกูร, ชรัส เฟื่องอารมณ์, ปธัย วิจิตรเวชการบุญ, ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ , นาวาเอกณรงค์ แสงบุศย์ ผู้บังคับกองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ, เศรษฐา ศิระฉายา และ สุทธิพงษ์ วัฒนจัง

                  ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และ นาวาเอกณรงค์ แสงบุศย์ (ที่ 5 จากซ้าย) ผู้บังคับกองดุริยางค์ทหารเรือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ นำทีมศิลปินซ้อมคอนเสิร์ตการกุศล "The Possible Dream" บรรเลงโดยวงต้นเสียง และกองดุริยางค์ทหารเรือ เพื่อหารายได้สมทบทุนช่วยเหลือและจัดซื้ออุปกรณ์เวชภัณฑ์ทางการแพทย์เพื่อผู้ป่วยที่ยากไร้ สำหรับโรงพยาบาลส่วนขยาย ๔๐๐ เตียง ในโครงการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๙๐ พรรษา ปี ๒๕๖๐ ซึ่งคอนเสิร์ตจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๙.๐๐ น. ณ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ

                  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ หมายเลข โทร. ๐-๒๕๗๖-๖๐๐๐

24307
TK FUN Park : สวนสนุกแห่งจินตนาการและการเรียนรู้ไม่สิ้นสุด


มื่อความสนุกโคจรมาพบกับเทคโนโลยี อะไรจะเกิดขึ้น !!! พบสวนสนุกแห่งจินตนาการที่บูธของอุทยานการเรียนรู้ TK park ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2559 โดยภายในงานทุกคนจะได้พบกับกิจกรรมสร้างสรรค์ พร้อมรับของที่ระลึกมากมาย อาทิ

·       สนุกกับการเป็นนักข่าว “สำนักข่าว TK” รายงานข่าววิทยาศาสตร์จากห้องส่งจำลอง ผ่านระบบ facebook Live
·       ระเบิดพลังวัดใจกับมุม “เตะวัดพลัง”สนุกและออกแรงให้สุดกำลังกับการเตะลูกบอลเข้าโกล
·       เรียนรู้วิทยาศาตร์ใกล้ตัวผ่าน QR Code พลาดไม่ได้กับ “ห้องกุ๊ก กุ๊ก กู๋” สัมผัสความสะพรึงแบบไม่ต้องไปบ้านผีสิงจริง ด้วยเทคโนโลยี VR ที่ดึงให้คุณหลุดเข้าไปในมิติพิศวง
·       ลองของจริงกับการทำเวิรค์ช้อปแว่น VR แบบง่ายๆ คุณเองก็ทำได้
·       พบบริการอีบุ๊คกว่า 8,000 เล่มทั่วโลกตอบรับการหาความรู้ทันยุคดิจิทัล ผ่านห้องสมุดออนไลน์ TK park Online Library


พบกันวันพฤหัสบดีที่ 18 – วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2559 เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 - 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

24308
ปฏิทินกิจกรรม นิทรรศการข้าว...สายใยอาเซียน


เชื่อมโยงวัฒนธรรมในอาเซียนผ่าน “ข้าว” พืชที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของคนในภูมิภาค ผ่านการเรียนรู้วัฒนธรรมข้าวของชาวอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ เรื่องราวของพืชอาหารที่กำหนดวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในภูมิภาค พร้อมความสำคัญในด้านเศรษฐกิจ สังคม ความเชื่อและประเพณี

·       ย้อนรอยเกษตรกรรมในภูมิภาคอาเซียน พร้อมประเพณี พิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับข้าวในประเทศสมาชิกอาเซียน
·       เรียนรู้พันธุ์ข้าวชนิดต่างๆ ที่ผ่านการคัดเลือกทั้งจากธรรมชาติและน้ำมือมนุษย์ และระยะข้าวในช่วงเวลาต่างๆ ที่มีผลต่อผลผลิตของเกษตรกร
·       ดู ดม ชิม ข้าวสายพันธุ์ต่างๆ และเมนูพิเศษจากข้าวเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ผ่านการทดลอง
·       ชมการแสดงทางวัฒนธรรมและภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องวิถีชีวิตเกี่ยวกับข้าวในภูมิภาคอาเซียน

โครงการความร่วมมือทางวิชาการกับศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี สำนักวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าวและFarmer Shop โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)


วันเสาร์ที่ 20 - วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2559 เวลา 11.00 - 17.00 น. บริเวณลานสานฝัน อุทยานการเรียนรู้ TK park ชั้น 8 Dazzle Zone ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์


24309
อมาธารานำเสนอแพ็คเกจการดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์โยคะ
และการพักผ่อนริมทะเลที่สมบูรณ์แบบ

เลือกได้ทั้งแบบ 3, 5 และ 7 วัน กับโปรแกรมการฝึกโยคะอาสนะ สมาธิ จิตวิทยา และการให้คำปรึกษารายบุคคล พร้อมบริการห้องพักหรูที่ อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส


ภูเก็ต 16 สิงหาคม 2559 - อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส รีสอร์ทที่นำเสนอบริการห้องพักสุดหรูและประสบการณ์สปาชั้นเลิศแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นำเสนอ แพ็คเกจการฟื้นฟูสุขภาพด้วยศาสตร์โยคะ “อมาธารา โยคะ (Amatara Yoga)” สำหรับผู้ที่เริ่มต้นไปจนถึงระดับแอดว๊านซ์ เพียบพร้อมด้วยบริการห้องพักสุดหรู โปรแกรมการฝึกฝนโยคะ และการพักผ่อนแบบครบวงจรตลอดการเข้าพัก สามารถเลือกได้ทั้งแพ็คเกจแบบ 3, 5 และ 7 วัน ให้เหมาะสมกับเป้าหมายการฝึกฝนของแต่ละท่าน เพื่อการเข้าสู่วิถีแห่งความสุขสงบอย่างแท้จริง ด้วยคำแนะนำจากมาสเตอร์ด้านโยคะจากอินเดีย ผู้ฝึกฝนจะได้ค้นพบถึงแรงจูงใจ ตลอดจนแนวทางเพื่อการแสวงหาความสุขในรูปแบบเฉพาะตัว ผ่านวิธีการฝึกปฏิบัติด้านโยคะ จิตวิญญาณ กายภาพ การบริหารความเครียด หรือใช้หลายวิธีผสมผสานกัน แพ็คเกจ 3 วัน ราคารวม 45,000 บาท แพ็คเกจ 5 วัน ราคารวม 74,000 บาท และแพ็คเกจ 7 วัน ราคารวม 103,000 บาทต่อท่าน

แพ็คเกจ อมาธารา โยคะ 3 วัน ราคาเริ่มต้นที่ 45,000 บาท ประกอบด้วย บริการด้านสุขภาพได้แก่ บริการให้คำปรึกษาเพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม 60 นาที (พร้อมคำแนะนำหลังจบโปรแกรม) และบริการให้คำปรึกษาด้านโยคะ 30 นาทีเพื่อสร้างความเข้าใจถึงเป้าหมายของการฝึกฝน การวิเคราะห์ร่างกายโดยผู้ฝึกสอน คลาสทำสมาธิด้วยพิธีชงชา 1 ชั่วโมง ส่วนคลาสโยคะจะแบ่งเป็นคลาสละ 60 นาที จำนวน 3 ครั้ง โดยฝึกฝนกับมาสเตอร์โยคะของอมาธาราภายในศาลาโยคะ ท่ามกลางทัศนียภาพริมทะเลที่สวยงาม ซึ่งมีทั้งการฝึกฝนปราณายามะซึ่งเป็นศาสตร์แห่งการกำหนดลมหายใจ และการควบคุมพลังงานของร่างกาย รวมถึง “ชลา เนติ สัทกริยา (Jala Neti Shatkriya)” ซึ่งเป็นวิธีการชำระร่างกายขั้นสูง นอกจากนี้ยังมีทรีทเมนท์เพื่อการผ่อนคลายสำหรับผู้ฝึก โดยระหว่างการเข้าโปรแกรมโยคะนี้ ท่านยังสามารถรับบริการสปาไทยฮัมมัม เพื่อคืนความกระปรี้กระเปร่า และผ่อนคลายในระดับลึก ปิดท้ายด้วยการล้างพิษในร่างกาย เพื่อผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่สมบูรณ์แบบ สำหรับห้องพักในแพ็คเกจ สามารถเลือกได้ทั้งแบบ พรีเมียร์ ซีวิว, พาวิเลียน, ซีวิว เคป หรือ ซีวิว พูล วิลล่า

แพ็คเกจ อมาธารา โยคะ 5 วัน ราคาเริ่มต้นที่ 74,000 บาท จะเพิ่มคลาสการฝึกฝนด้านโยคะและปรัชญาชีวิต 60 นาที, บริการให้คำปรึกษาธรรมชาติบำบัด 60 นาที, การนวดบำบัดแบบอายุรเวช (Abhyanga Ayurvedic Massage) 90 นาที และเพิ่มคลาสโยคะเป็น 5 ครั้ง ครั้งละ 60 นาที พร้อมห้องพักอันแสนผ่อนคลาย

แพ็คเกจ อมาธารา โยคะ 7 วัน ราคาเริ่มต้นที่ 103,000 บาท จะเสริมด้วยบริการให้คำปรึกษาระหว่างการพักผ่อน 30 นาที บริการ Purifying Facial Treatment 60 นาที คลาสสอนทำอาหารเพื่อสุขภาพ 1 ครั้ง 60 นาที  และเพิ่มคลาสโยคะเป็น 7 ครั้ง ครั้งละ 60 นาที พร้อมห้องพักพร้อมห้องพักอันแสนผ่อนคลาย โดยทุกแพ็คเกจรวมบริการห้องพัก บริการรับส่งระหว่างรีสอร์ทและสนามบินภูเก็ต บริการอาหารเพื่อสุขภาพครบ 3 มื้อต่อวัน (ตามรายการเมนูที่จัดให้) หรือสามารถจัดโปรแกรมล้างพิษและวัดความดันโลหิต และสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในรีสอร์ทได้อย่างไม่จำกัด อาทิ ฟิตเนส ห้องสตรีมและเซาว์น่าอินฟราเรด บริการคลาสฟิตเนสประจำวัน และรับบริการนวด “Signature Royal Amatara” ได้ทุกวัน โดยราคาทุกแพ็คเกจรวมค่าบริการ 10% และ VAT 7% แล้ว และสามารถขยายเวลาเข้าพักได้ตามต้องการ
 
หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส โทรศัพท์ 076 318 888 แฟกซ์ 076 200 803 อีเมล์ sales.phuket@amataraphuket.com สามารถติดตามข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ www.amataraphuket.com


###

เกี่ยวกับ อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส

อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส ตั้งอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพอันงดงามของแหลมพันวาอันเลื่องชื่อของเกาะภูเก็ต โดยนำเสนอโปรแกรมการบำบัดและผ่อนคลายเพื่อสร้างเสริมพลานามัยและความสุขที่สมบูรณ์แบบ พร้อมบริการฟื้นฟูสุขภาพ เดอะ รีทรีท (The Retreat) ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญ ทั้งในการล้างพิษ (Detox) โยคะ การลดน้ำหนัก กิจกรรมสำหรับคู่ การออกกำลังกาย และสปาไว้ให้บริการเพื่อความผ่อนคลาย ซึ่งทุกแพ็คเกจจะประกอบด้วยบริการห้องพักที่อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส บริการรับส่งระหว่างสนามบิน บริการอาหารเพื่อสุขภาพครบสามมื้อต่อวันจากครัวสปา พร้อมบริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพรายบุคคล การวิเคราะห์ประเมินสภาพร่างกาย การบริการนวดผ่อนคลายระดับซิกเนเจอร์ของอมาธาราเป็นประจำในทุกวัน และยังรวมถึงการบริการอีกมากมายตามรายการแพ็คเกจที่ได้เลือกไว้ รวมถึงทรีทเมนท์ซิกเนเจอร์ของอมาธาราและสปาไทยฮัมมัมเพื่อการผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์แบบ
 
อมาธารา บริการห้องพักและห้องสวีทรวม 105 ห้อง ทุกห้องมีระเบียงพักผ่อนส่วนตัวเพื่อรับความสดชื่นและความงดงามของธรรมชาติอย่างเต็มที่ โดยห้องแบบพรีเมียร์ซีวิว ห้องพาวิเลียน และห้องสวีท นำเสนอมาตรฐานใหม่ของงานดีไซน์และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับหรู ส่วนห้องพูลวิลล่ามีสระว่ายน้ำส่วนตัวเพื่อมอบบรรยากาศแห่งการพักผ่อนที่หรูหราเป็นส่วนตัวสูงสุด ภายในรีสอร์ทที่สวยงามยังเพียบพร้อมด้วยบริหารห้องอาหารรสเลิศและหนึ่งในสถานบริการสปาริมหาดที่ดีที่สุดของเอเชีย

24310
อิมแพ็คประกาศความพร้อมจัดงาน “SIMA ASEAN Thailand 2016”
โชว์ศักยภาพ-นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่หวังยกระดับเกษตรกรไทยสู่สากล


กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผนึกอิมแพ็ค คอมเอ็กซ์โพเซียม และแอ็คซีม่า ประกาศความพร้อมเดินหน้าจัดงาน SIMA ASEAN Thailand 2016 งานแสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติเพื่อธุรกิจการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ 2 หวังภาคเกษตรไทยเรียนรู้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเครื่องจักรการเกษตรรุ่นใหม่ล่าสุด  ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐานระดับสากล พร้อมจัดพื้นที่แสดงการสาธิตเครื่องจักรกลทางการเกษตรแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน บนพื้นที่กว่า 8,000 ตารางเมตร ระหว่างวันที่ 8 –10 กันยายน  2559 ณ อาคาร 5 – 6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

                    นายสุรพล จารุพงศ์ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายหลักในการส่งเสริมเกษตรกรไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน  SIMA ASEAN Thailand 2016  จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 - 10 กันยายน 2559 ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องที่เข้าชมงานได้รับทราบถึงนวัตกรรมและประโยชน์ของเครื่องจักรกลการเกษตรที่หลากหลาย เกิดการเรียนรู้  การพัฒนา และเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการเกษตรของตนเอง อีกทั้งจะช่วยสร้างความร่วมมือให้เกิดความเข้มแข็งของภาคการเกษตรของไทย


                    ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความพร้อมในการจัดงานดังกล่าว โดยจะนำผลงานไฮไลท์ของกรมในสังกัดทั้ง 4 กรมมาแสดงในงาน ได้แก่ กรมวิชาการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ และกรมส่งเสริมการเกษตรเข้าร่วมแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพภาคการเกษตรของไทยให้มีความสามารถในการผลิตและจัดการสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐาน ตลอดจนเพิ่มคุณภาพผลผลิตไปสู่ระดับสากล รวมทั้งสร้างโอกาสในการขยายเครือข่ายทางธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียน

                    นายลอย จุน ฮาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด  กล่าวว่า การจัดงาน SIMA ASEAN Thailand  2016  ได้จัดพื้นที่สาธิตเครื่องจักรกลการเกษตร  ณ ริมทะเลสาบเมืองทองธานี บนพื้นที่กว่า 8,000 ตารางเมตร โดยได้เนรมิตเป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าว หญ้าเนเปีย อ้อย มันสำปะหลัง พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้เกี่ยวกับกลไกการทำงานของเครื่องจักรกลการเกษตรมาจัดสาธิตภายในงาน เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรได้เข้าชมและรับทราบถึงประโยชน์ของเครื่องจักรกลการเกษตร ดังนั้นงาน SIMA ASEAN Thailand 2016 จึงถือเป็นงานแสดงสินค้าแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียนที่จัดพื้นที่แสดงการสาธิตเครื่องจักรกลทางการเกษตร และในช่วงเวลาเดียวกันยังมีงานเกษตรเมืองทอง มหกรรมสินค้าเกษตรเพื่อคนเมืองยุคใหม่  จัดเต็มกับสินค้าเกษตรของไทย รวบรวมกิจกรรมสุดพิเศษทางการเกษตรมาไว้ในงานเดียว

                    โดยไฮไลท์ภายในงานจะผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 300 แบรนด์ จาก 20 ประเทศทั่วโลก บนพื้นที่จัดแสดงสินค้าภายในอาคาร 13,500 ตารางเมตร และพื้นที่จัดแสดงสินค้าภายนอกอาคาร 8,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นการรวมรวมนวัตกรรมเครื่องจักรกลทางการเกษตรใหม่ล่าสุด รวมทั้งแพลทินั่มสปอนเซอร์ บริษัท ซีเอ็นเอช อินดัสเทรียลฯ จะทำการเปิดตัวเครื่องจักรทางการเกษตร ภายใต้แบรนด์ นิว ฮอลแลนด์ (New Holland) และเคส ไอเอช (Case IH) พร้อมกันนี้ยังมีพาวิลเลียมนานาชาติจากหลายหลายประเทศ ได้แก่ จีน อิตาลี โปแลนด์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน และตุรกี เป็นต้น อีกทั้งยังมีการประชุมและสัมมนานานาชาติจากผู้เชี่ยวชาญในวงการการเกษตรด้วย

                    นางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บมีความยินดีที่จะเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของงาน SIMA ASEAN Thailand 2016 เนื่องจากทีเส็บมีพันธกิจในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรม MICE โดยมีเป้าหมายสูงสุดให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งในปีนี้งาน  SIMA ASEAN Thailand 2016 ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าภายใต้โครงการ ASEAN Rising Trade Show (ART) ในการผลักดันและยกระดับคุณภาพของงานแสดงสินค้าของไทยและเสริมความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมในฐานะศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติของภูมิภาค ซึ่งการจัดงานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของไทย ในการเป็นเวทีการค้าของอุตสาหกรรมการเกษตรของภูมิภาคอาเซียน เราคาดการณ์ว่าจะสามารถดึงดูดนักเดินทางกลุ่มไมซ์ ทั้งผู้เข้าร่วมงานและผู้แสดงงานจากในประเทศและต่างประเทศ กว่า 20,000 คน โดยมีการสร้างรายได้ให้ประเทศประมาณ 151,300,000 บาท
















24311
ศ.ศ.ป. ประกาศรางวัล
“การคัดสรรศิลปหัตถกรรมเชิงสร้างสรรค์ สุดยอดอาเซียน 2016”ชูเกียรตินักสร้างสรรค์งานศิลปะบนสิ่งทอ


คุณวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถ่ายภาพร่วมกับ 10 นักออกแบบอาเซียน

ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ (SACICT) ศ.ศ.ป. จัดพิธีมอบโล่รางวัล “การคัดสรรศิลปหัตถกรรมเชิงสร้างสรรค์ สุดยอดอาเซียน 2016” (ASEAN SELECTIONS 2016) เพื่อเป็นเกียรติให้แก่นักสร้างสรรค์ผลงานหัตถกรรมด้านสิ่งทอเชิงนวัตกรรม ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในหัวข้อ ‘Innovative Crafts of Textiles in ASEAN: Ethnic Accents.’  โดยมีนายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ในวันที่ 16 สิงหาคม 2559 ณ ลานเอนกประสงค์ มิวเซียมสยาม เวลา 15.00 น.

โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยองค์ความรู้นวัตศิลป์ เป็นอีกโครงการหนึ่ง ที่เกิดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. เป็นศูนย์กลางด้านศิลปหัตถกรรมเชิงสร้างสรรค์สุดยอดอาเซียน (ASEAN SELECTIONS) เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนและพัฒนาทักษะร่วมกันของนักสร้างสรรค์อาเซียน จนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ


นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ

นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการ ศ.ศ.ป. ให้รายละเอียดว่า ศ.ศ.ป.คัดสรรงานศิลปหัตถกรรมเชิงสร้างสรรค์สุดยอดอาเซียน โดยกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ 7 ด้าน ประกอบด้วย 1.ORIGINALITY เป็นผลงานที่สร้างสรรค์หรือประยุกต์ขึ้นใหม่ 2.IDENTITY แสดงออกถึงอัตลักษณ์ ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของประเทศตนเอง 3.INNOVATIVENESS มีความคิดสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรม เลือกใช้กระบวนการ วัสดุ เทคนิคการผลิต หรือใช้งานศิลปะสิ่งทอที่ต่อยอดจากภูมิปัญญาของประเทศตนเอง 4.DESIGN & AESTHETIC มีรูปแบบที่สวยงามเหมาะสมตามหลักการออกแบบหรือความงามทางศิลปะ 5.UNIQUENESS มีความโดดเด่นของผลงานศิลปะสิ่งทอที่แตกต่างจากงานหัตถกรรมสิ่งทอพื้นบ้านหรือสิ่งทอทั่วไป 6.QUALITY คุณภาพผลงานประณีต เรียบร้อย ใช้วัสดุที่เหมาะสม และ 7.FUNCTIONALITY เป็นผลงานที่นำมาใช้งานได้จริง

ทั้งนี้ มีผู้ผ่านการคัดเลือกประจำปี 2559 จำนวน 10 ราย ได้แก่

นางดายง ฮาจาห์ คาดาริอะห์ ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม “ผ้ายก”บ่งบอกถึงเทคนิคและลวดลายของประเทศอินโดนิเซีย มาเลเซีย และบรูไน จากการสร้างสรรค์ลวดลายใหม่ๆ ของราชสำนักภายใต้กรอบของศาสนามุสลิม

นายเสือง มิค ราชอาณาจักรกัมพูชา “ผ้าไหมมัดหมี่/การทอผ้าแบบ ikat” การคิดผังระบบของการทอผ้าไหมมัดหมี่ใหม่ ออกแบบลวดลายใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากลายผ้าเดิมของกัมพูชา จากการเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียมผ่านลวดลายผ้า

นายจาวา เบนนี อะเดรียนโต สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สร้างสรรค์งานผ้าในรูปแบบงานศิลปะ โดยออกแบบลวดลายให้มีมิติและโดดเด่น ประยุกต์ลายดั้งเดิมเพื่อสร้างสรรค์ลวดลายที่เป็นนวัตกรรมและร่วมสมัย

นายเทียว นิธาคง สมสะนิท สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สร้างสรรค์งานผ้าในรูปแบบงานศิลปะ โดยออกแบบลวดลายใหม่ที่เน้นนวัตกรรมการทอผ้าร่วมกับวัสดุอื่นๆ เช่น ใบไม้ลงบนผ้า สร้างความแปลกใหม่ให้ชิ้นงาน

นายชาม อาบู บาการ์ ประเทศมาเลเซีย พัฒนาผ้าบาติกที่มีลวดลาย 3 มิติ โดยผสมผสานงานผ้ามัดย้อมและงานผ้าบาติกเข้าด้วยกัน และยังสร้างงานจิตรกรรมบนผ้าบาติกที่ผสมเทคนิคการพิมพ์ดิจิตอลลงไปในผลงาน

นางซานน์ บ๊อก รา สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา นำผ้าซิ่นพม่าที่มีสีสันสดใสมาจัดรูปแบบและประยุกต์ให้เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกาย

นายเคน ซามูดีโอ สาธารณรัฐฟิลิปินส์ คอลเล็กชั่น Sirens 2.0 นำแรงบันดาลใจจากเรื่องเล่าของหญิงสาวที่งดงามหรือนางเงือก โดยเปลี่ยนวัสดุรีไซเคิลให้เป็นเครื่องประดับแฟชั่น

นายเบนนี ออง ประเทศสิงคโปร์ สร้างลวดลายบนผ้าจากเรื่องราวของชาวจีนที่มาอาศัยอยู่ในสิงคโปร์ รวมถึงความประทับใจจากธรรมชาติ เพื่อสร้างสรรค์งาน Wall hanging ที่ทันสมัยและใช้งานได้จริง

นางจำปี ธรรมศิริ ประเทศไทย สร้างลวดลายระหว่างทอโดยไม่ต้องเขียนหรือออกแบบก่อนทอ จึงทำให้เกิดลวดลายที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์

น.ส.มินห์ ฮันห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สร้างสรรค์ลวดลายร่วมสมัย ประยุกต์การปักผ้า แต่ยังคงศิลปะเวียดนามไว้ในผลงาน

ร่วมสัมผัสงานศิลปหัตถกรรมเชิงสร้างสรรค์สุดยอดอาเซียน 10 ผลงาน วันนี้ - 21 สิงหาคม 2559 เวลา 10.00-18.00 น.  ณ อาคารอเนกประสงค์ มิวเซียมสยาม 

###

เกี่ยวกับ ศ.ศ.ป.:

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) พ.ศ.2546 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2546 และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ วันที่ 31 ตุลาคม 2546 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (1 พฤศจิกายน 2546) จึงถือกำหนดให้วันที่ 1 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนา ศ.ศ.ป. และให้มีชื่อภาษาอังกฤษว่า The SUPPORT Arts and Crafts International Centre of Thailand (Public Organization) เรียกโดยย่อว่า “SACICT" (อ่านพ้องเสียงกับคำว่า “ศักดิ์สิทธิ์” ในภาษาไทย)
 
ศ.ศ.ป. จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมสนับสนุนให้มีการประกอบอาชีพผสมผสานเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านตามโครงการส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และส่งเสริมสนับสนุนด้านการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ศ.ศ.ป. เป็นหน่วยงานของรัฐซึ่งมีการบริหารงานในรูปแบบองค์การมหาชนตามพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. 2542 มีคณะกรรมการบริหารทำหน้าที่ควบคุมดูแลศูนย์ให้ดำเนินการกิจการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง ศ.ศ.ป. และมีผู้อำนวยการทำหน้าที่บริหารกิจการของศูนย์ และเป็นผู้บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่และลูกจ้าง



Mr.Djawa Benny Adrianto จากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย


Mr.Ken Samudio จากสาธารณรัฐฟิลิปินส์


Mr.Samsuddin Abu Bakar จากประเทศมาเลเซีย


Mr.Suong Mich จาก Kingdom of Cambodia


Mr.Tiao David Somsanith จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว


Mrs.Hjh Kadariah BPUKSDP Hj Umar จากประเทศบรูไน เดรุสซาลาม


Ms.Dang Thi Min Hanh จากสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม


Ms.Sann Bawk Rar Mwihpu จากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์


นางจำปี ธรรมศิริ จากประเทศไทย


Mr.Benny Ong จากสาธารณรัฐสิงคโปร์


นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มาเป็นประธานมอบโล่ในงาน


คุณซองทิพย์ เสริมสวัสดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่่ายมิวเซียมสยาม และรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด


คุณสุพัตรา ศรีสุข ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ศศป


ดร.ภูวนาท คุนผลิน พิธีกรดำเนินรายการ.






คุณเนาวรัตน์ พงศ์ไพบูลย์ กำลังชมผลงานของคุณจำปี






24312
เอส เอฟ ร่วมกับ โค้ก
จัดงาน Suicide Squad Thailand Premier


                   สุวรรณี ชินเชี่ยวชาญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาด บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ นวรัตน์ อิสราชีวะ ผู้อำนวยการบริหารลูกค้ารายสำคัญ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอมเมอร์เชียล จำกัด จัดงาน Suicide Squad Thailand Premier (ซูยไซด์ สควอทด์ ไทยแลนด์ พรีเมียร์) และ ชมรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่อง “Suicide Squad: ทีมพลีชีพ ซูเปอร์มหาวายร้าย” โดยมี ปิ่นปินัทธ์ ตั้งศิริเสถียร, เดชา ธรรมชัยพิเนต, ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม, วนิดา เติมธนาภรณ์ และ แอนดี้ เขมพิมุข ร่วมงาน ณ ชั้น 8 โรงภาพ ยนตร์  เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็วๆ นี้

รายชื่อผู้บริหารที่ร่วมถ่ายภาพ
เรียงจากซ้ายไปขวา


1.      คุณแอนดี้ เขมพิมุข        พิธีกรชื่อดัง
2.      กิ๊ปซี่ - วนิดา เติมธนาภรณ์         ดารานักแสดง
3.      คุณเดชา ธรรมชัยพิเนต             ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจบริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
4.      คุณสุวรรณี ชินเชี่ยวชาญ           ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาดบริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
5.      คุณนวรัตน์ อิสราชีวะ                ผู้อำนวยการบริหารลูกค้ารายสำคัญ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอมเมอร์เชียล จำกัด
6.      คุณปิ่นปินัทธ์ ตั้งศิริเสถียร          ผู้จัดการกลุ่มบริหารลูกค้า บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอมเมอร์เชียล จำกัด
7.      แทค - ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม       ดารานักแสดง

24313
ยางโตโย ไทร์ เปิดเกมซิ่ง เพิ่มดีกรีความมันส์ 3 เท่า
ศึก TOYO TIRES 3K  สนามที่ 3 แก่งกระจาน


                    นายปฎิภาณ อนันต์รัตนสุข ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์ โตโย ไทร์ บริษัท ต.สยาม  คอมเมอร์เชียล จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยางโตโย ไทร์ ร่วมพิธีเปิดศึกการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ “TOYO TIRES 3K  RACING CAR THAILAND 2016”สนามที่ 3 ณ สนามแก่งกระจาน  เซอร์กิต จ.เพชรบุรี  พร้อมให้กำลังใจนักแข่งทุกคนอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งการแข่งขัน

                    ยางโตโย ไทร์  ลงสนามจัดหนักความมันส์กับการแข่งขันรถปิคอัพทางเรียบ เอาใจสิงห์ควันดำในสนามที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในสนามที่ 3 ครึ่งทางแห่งฤดูกาลการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ “TOYO TIRES 3K  RACING CAR THAILAND 2016” ที่เต็มไปด้วยความลุ้นระทึกตลอดทั้งการแข่งขัน พร้อมทับกองเชียร์ที่ยกขบวนกันมาให้กำลังใจนักแข่งกันอย่างหนาแน่น

                    ติดตามความมันส์ต่อเนื่องสนามหน้าในวันที่ 2-4 กันยายน 2559 TOYO TIRES 3K  RACING CAR THAILAND 2016  ณ สนามพีระฯ พัทยา






24314
นายกรัฐมนตรีหนุนกระทรวงอุตฯ ส่งเสริมมาตรฐานอาหารไทย
ให้โปรโมทตราสัญลักษณ์ “รสไทยแท้” ไปทั่วโลก



                  พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หนุนโครงการ“ส่งเสริมมาตรฐานอาหารไทยและความเป็นเอกลักษณ์ด้านรสชาติอาหารไทยสู่ภาคอุตสาหกรรม”(Authenticity of Thai Food Industry) มอบนโยบายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารสถาบันอาหาร ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักผู้รับผิดชอบ ให้ส่งเสริมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารทั้งภาคการผลิตและภาคการบริการโดยการใช้เครื่องตรวจวัดรสชาติมาตรฐานอาหารไทยอิเล็กทรอนิกส์กับผลิตภัณฑ์อาหารไทยที่ส่งออกไปทั่วโลกเพื่อความเป็นมาตรฐานเดียวกัน ย้ำอาหารไทยที่ผ่านการรับรองควรได้รับตราสัญลักษณ์ “รสไทยแท้” หรือ “Thai Taste” เพื่อการันตีว่ามีความเป็นอัตลักษณ์รสชาติอาหารไทย เน้นการบูรณาการอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและการบริการกับกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันโครงการฯ  สู่เป้าหมายในทุกมิติ สอดรับยุทธศาสตร์ครัวไทยสู่ครัวโลก ทั้งด้านการยกระดับ พัฒนาแรงงานฝีมือพ่อครัว แม่ครัว ด้านการประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยว ด้านการส่งเสริมวัฒนธรรม ด้านการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมผลิตภัณฑ์  ด้านคุณภาพและความปลอดภัยในระดับสากล และด้านการขยายช่องทางการตลาดในต่างประเทศ เป็นต้น

                  วันนี้(17 ส.ค. 2559) ณ บริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุม นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นำนายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร พร้อมคณะผู้บริหารสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าพบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ“ส่งเสริมมาตรฐานอาหารไทยและความเป็นเอกลักษณ์ด้านรสชาติอาหารไทยสู่ภาคอุตสาหกรรม”(Authenticity of Thai Food Industry) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันในภาคการผลิตให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารไทยในทุกมิติ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์แผนการพัฒนาเอสเอ็มอีในการผลิตเมนูอาหารแปรรูปให้มีรสชาติไทย หรือ Authentic Thai Taste โดยส่งเสริมให้มีการพัฒนา ปรับปรุงกระบวนการผลิต และพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นน้ำซอส หรือผงปรุงรสให้อยู่ในรูปแบบกึ่งสำเร็จรูปที่ยังคงรสชาติ และกลิ่นอายของความเป็นอาหารไทยไว้ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน ไม่ว่าจะปรุงที่ไหนก็จะได้รสชาติอาหารที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน มีเป้าหมายยกระดับผู้ประกอบการให้ได้ 500 รายต่อปี นอกจากนี้ยังส่งเสริมการสร้างมาตรฐานอาหารไทยให้แก่ภาคการบริการโดยเฉพาะร้านอาหารไทยที่กระจายอยู่มากกว่า 20,000 แห่งทั่วโลก ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและระดับสากล เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งมาตรฐานด้านการเลือกใช้วัตถุดิบที่ถูกต้องครบถ้วนตามสูตรต้นแบบการปรุงอาหารของไทย และด้านรสชาติอาหารไทยที่มีความเป็นเอกลักษณ์ โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการและผ่านการรับรองผลิตภัณฑ์จะได้รับเครื่องหมายมาตรฐาน Authenticity of Thai Food Industry เพื่อรับรองว่าเป็นอาหารรสไทยแท้

                  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้นำนายกรัฐมนตรีชมนิทรรศการแสดงความเป็นมาของโครงการ“ส่งเสริมมาตรฐานอาหารไทยและความเป็นเอกลักษณ์ด้านรสชาติอาหารไทยสู่ภาคอุตสาหกรรม” โดยมีสถาบันอาหาร ซึ่งเป็นสถาบันเครือข่ายสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานดำเนินงานหลัก ร่วมด้วยหน่วยงาน   บูรณาการ ได้แก่ สำนักปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยจะร่วมกันส่งเสริมภาคการผลิตอุตสาหกรรมอาหารไทยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ  ได้แก่การวางแผนการจัดการคุณภาพวัตถุดิบให้มีคุณภาพและความปลอดภัย พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารไทยให้มีมูลค่าเพิ่มด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม  ยกระดับมาตรฐานการผลิตให้เป็นสากลโดยการวิเคราะห์และทดสอบรสชาติ รวมทั้งการพัฒนาบรรจุภัณฑ์และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ทั้งให้การรับรองมาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย ส่งเสริมช่องทางการตลาดในต่างประเทศ และให้การรับรองมาตรฐาน Authenticity of Thai Food เป็นต้น




                  นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการประสานกับกระทรวงต่างๆ เพื่อจัดทำบันทึกความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน  บูรณาการความร่วมมือให้ครอบคลุมในทุกมิติของการส่งเสริมมาตรฐานอาหารไทย และความเป็นเอกลักษณ์ด้านรสชาติอาหารไทยสู่ภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงแรงงาน ทำหน้าที่ ยกระดับและพัฒนาฝีมือแรงงาน  กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นต้น

                  ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ได้รายงานผลการดำเนินงาน และความคืบหน้าของโครงการในส่วนของการส่งเสริมภาคการบริการอุตสาหกรรมอาหารไทยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดมาตรฐานอาหารไทยนำร่องทั้งหมด 13 เมนู  แบ่งเป็นอาหารคาว 11 เมนู ได้แก่ ส้มตำไทย ผัดไทย กะเพราหมู ต้มยำกุ้งน้ำใส  ต้มยำกุ้งน้ำข้น มัสมั่นไก่ สะเต๊ะไก่ ลาบหมู ต้มข่าไก่  พะแนงเนื้อ แกงเขียวหวานไก่ และอาหารหวาน 2 เมนู ได้แก่  ทับทิมกรอบ และ  ข้าวเหนียวมูนมะม่วงน้ำดอกไม้  โดยผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิด้านอาหารไทยจากผู้ปรุงต้นแบบจำนวน 7 ราย  มาร่วมกำหนดมาตรฐานอ้างอิงอาหารไทยโดยการปรุงอาหารไทย และจัดกิจกรรมทดสอบทางประสาทสัมผัสโดยการชิม  และทำการทดสอบด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์โดยใช้เครื่อง Electronic nose และ Electronic tongue  ที่สามารถรับรู้กลิ่นและรสชาติต่างๆ  เพื่อรวบรวมฐานข้อมูลใช้เป็นค่ามาตรฐานในการอ้างอิงจัดทำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการให้การรับรองมาตรฐานอาหารไทยเข้ามาช่วยในการตรวจวัดเพื่อคำนวณค่ากลิ่นรส และรสชาติค่าความเผ็ด ความเค็ม ความหวาน ความเปรี้ยว และอูมามิ  ซึ่งจะได้มอบเครื่องหมาย Authenticity of Thai Food Industry เพื่อรับรองว่าเป็นอาหารรสไทยแท้ให้กับผลิตภัณฑ์อาหารและร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศในลำดับต่อไป

                  ทั้งนี้ในวันที่ 24 สิงหาคม  นี้ สถาบันอาหาร มีกำหนดการจัดงาน Authenticity of Thai Food to The เพื่อเผยแพร่อาหารต้นแบบทั้ง 13 เมนูดังกล่าว โดยจัดเสิร์ฟในรูปแบบกาล่าดินเนอร์  ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ โรงแรมพลาซ่าแอททินี กรุงเทพฯ โดยได้เชิญคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ คณะรัฐมนตรี แขกผู้มีเกียรติระดับประเทศจากภาครัฐและเอกชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์มาตรฐานอาหารไทยและความเป็นเอกลักษณ์ด้านรสชาติอาหารไทย อันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีของอาหารไทยและส่งเสริมยุทธศาสตร์ครัวไทยสู่ครัวโลก








24315
เวียตเจ็ท และ ฮาห์นแอร์ ทำข้อตกลงระหว่างสายการบิน
เพื่อขยายการดำเนินงานและนำเสนอบริการสู่ผู้โดยสารทั่วโลก



ภาพข่าว: มร. ลู ดุค ข่านห์ กรรมการผู้จัดการสายการบินเวียตเจ็ท และ มร. ริคาร์โด คาสติลลา-วูด รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการบิน  ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สายการบินฮาห์นแอร์ ร่วมลงนามในข้อตกลงระหว่างสายการบิน เพื่อการเวียตเจ็ทสามารถนำเสนอบริการเที่ยวบินในระบบการจองตั๋วโดยสารของสายการบินฮาห์นแอร์ได้ ความร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งในธุรกิจการบินระดับภูมิภาคของเวียทเจ็ท และขอบเขตการให้บริการชั้นนำระดับโลกของฮาห์นแอร์

สายการบินเวียตเจ็ท ทำข้อตกลงระหว่างสายการบินกับสายการบินฮาห์นแอร์ ในการนำเสนอบริการเที่ยวบินของเวียตเจ็ทผ่านระบบการจองตั๋วโดยสารของสายการบินฮาห์นแอร์ ซึ่งช่วยลดขั้นตอนการจองตั๋วโดยสารของลูกค้าของเวียตเจ็ททั่วโลก ทำให้เวียตเจ็ทสามารถนำเสนอบริการสายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดของเอเชีย (Best Asian Low Cost Carrier) แก่กลุ่มลูกค้ารายใหม่ในวงกว้างยิ่งขึ้น การร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งในธุรกิจการบินระดับภูมิภาคแนวใหม่ของเวียตเจ็ท และขอบเขตการให้บริการชั้นนำระดับโลกของฮาห์นแอร์
 
สายการบินฮาห์นแอร์ จะจำหน่ายตั๋วโดยสารของเวียตเจ็ทผ่านระบบการจองแบบ HR-169 โดยฮาห์นแอร์ถือเป็นหนึ่งในบริษัทการบินรายใหญ่ที่สุดของโลก ดำเนินงานครอบคลุม 190 ประเทศและมีพันธมิตรทั้งในธุรกิจการบิน รถไฟและรถโดยสารรวมมากกว่า 300 ราย และบริษัทตัวแทนนำเที่ยวมากกว่า 95,000 แห่ง โดยเครือข่ายของศูนย์บริการจองตั๋วโดยสารแบบ HR จะทำงานผ่านบริษัทตัวแทนกว่า 5,000 แห่งทั่วโลก โดยสายการบินฮาห์นแอร์เป็นสมาชิกของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association: IATA) และถือเป็นผู้ดำเนินธุรกิจการบินระดับโลกที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมการบินระดับสากล
 
นอกจากนี้ เวียตเจ็ทมีแผนการทำข้อตกลงระหว่างสายการบินอื่นๆอีกในอนาคต เพื่อเสริมศักยภาพในการบริการลูกค้าให้คลอบคลุมและลดขั้นตอนการจองตั๋วโดยสารของลูกค้าทั่วโลก โดยเวียตเจ็ทและฮาห์นแอร์จะทำงานร่วมกันเพื่อนำเสนอบริการระดับคุณภาพให้แก่ผู้โดยสารต่อไป ส่วนเวียตเจ็ทจะยังคงมุ่งมั่นขยายของเขตการดำเนินงานสู่ระดับสากล ซึ่งรวมถึงบริการโดยสารและการชำระค่าโดยสารระหว่างสายการบินอย่างมีมาตรฐาน ให้ครอบคลุมทั้งในระดับภูมิภาคและทั่วโลกในอนาคตอันใกล้
 
สายการบินเวียตเจ็ทมีการขยายตัวทั้งในด้านการดำเนินงานและรายรับตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา ทั้งการเพิ่มเที่ยวบินภายในประเทศ และการเชื่อมโยงเวียดนามไปสู่จุดหมายปลายทางในประเทศอื่นๆ ของอาเซียน เมื่อเร็วๆ นี้ เวียตเจ็ทยังได้รับรางวัล 500 แบรนด์ยอดเยี่ยมแห่งเอเชียประจำปี 2016 (Top 500 Brands in Asia 2016) และรางวัลสายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดในเอเชีย (Best Asian Low Cost Carrier) จากงานประกาศผลรางวัล TTG Travel Awards 2015 อีกทั้งยังถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามแบรนด์สายการบินที่มีการเติบโตบนเฟซบุ๊ครวดเร็วที่สุดของโลกโดย Socialbakers


###

เกี่ยวกับ สายการบินเวียตเจ็ท

สายการบินเวียตเจ็ท คือสายการบินในประเทศเวียดนามรายแรกซึ่งดำเนินธุรกิจสายการบินยุคใหม่ ในรูปแบบเที่ยวบินต้นทุนต่ำพร้อมทางเลือกบริการที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งนอกจากบริการขนส่งผู้โดยสาร สายการบินเวียตเจ็ทยังใช้เทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซใหม่ล่าสุด เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการมากมายแก่ผู้บริโภค โดยเมื่อเร็วๆนี้ สายการบินเวียตเจ็ท ยังได้รับใบรับรองการบริหารความปลอดภัยของสายการบิน (IOSA Certification) จากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ไออาตา (International Air Transport Association: IATA) หลังเปิดดำเนินการมาได้เพียง 3 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังได้รับการยกย่องให้เป็น “สายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดในเอเชีย (Best Asian Low Cost Carrier)” ในงานประกาศผลรางวัล TTG Travel Awards 2015 ซึ่งรางวัลนี้เกิดจากการโหวตคะแนนเสียงของนักเดินทาง สำนักงานท่องเที่ยว และบริษัทนำเที่ยวในทวีปเอเชีย โดยสายการบินเวียตเจ็ทถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามแบรนด์สายการบินที่มีการเติบโตบนเฟ้ซบุ๊ครวดเร็วที่สุดของโลกโดย Socialbakers และครองตำแหน่งสายการบินยอดนิยมในเวียดนาม ประจำปี 2558
 
ปัจจุบัน  สายการบินเวียตเจ็ทให้บริการผู้โดยสารด้วยเครื่องบิน 41 ลำ ซึ่งรวมถึงเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A320 และ A321 ดำเนินการบิน 300 เที่ยวบินต่อวัน เปิดให้บริการ 53 เส้นทางในเวียดนามและทั่วภูมิภาค รวมถึงเส้นทางสู่จุดหมายปลายทางในประเทศต่างๆ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน เมียนมาร์ และมาเลเซีย ซึ่งได้ให้บริการแก่นักเดินทางมาแล้วกว่า 20 ล้านคน
 
สายการบินเวียตเจ็ทยังมีแผนการขยายเครือข่ายเส้นทางให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคต่อไปและได้เตรียมการทำสัญญาสั่งซื้อเครื่องบินลำใหม่ที่ทันสมัยจำนวนมากจากบรรดาผู้ผลิตอากาศยานชั้นนำระดับโลก
 
ท่านสามารถกดไลค์เฟสบุ๊คของสายการบินเวียตเจ็ทได้ที่ www.facebook.com/vietjetthailand หรือติดตามข่าวสารได้ที่ทวิตเตอร์ @vietjetvietnam และรับชมวีดีโอของเราได้ที่ www.youtube.com/user/vietjetvietnam 

Pages: 1 ... 1619 1620 [1621] 1622 1623 ... 2406