enjoyjam.net

นวัตกรรมยานยนต์ => นวัตกรรมยานยนต์ - รถยนต์ - มอเตอร์ไซต์ - อุปกรณ์เสริม => Topic started by: activity on December 01, 2015, 02:05:41 PM

Title: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 01, 2015, 02:05:41 PM
“MOTOR EXPO 2015” เปิดงานยิ่งใหญ่ รถแนวคิด รถใหม่เพียบ พร้อมราคาสุดท้ายก่อนปรับภาษี



          "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" เริ่มแล้ว ค่ายรถระดมเปิดตัวรถใหม่ แคมเปญเร้าใจ กระตุ้นตลาดส่งท้ายปี ก่อนปรับราคารับภาษีใหม่ คาดยอดจอง 50,000 คัน ผู้ชมงาน 1.5 ล้านคน

          ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ "The 32nd Thailand International Motor Expo 2015" เปิดเผยว่า ปีนี้จัดงานภายใต้แนวคิด "มาตรฐานใหม่ ยานยนต์ไทยใส่ใจโลก"หรือ "NEW STANDARDS…THAI VEHICLES CARE ABOUT THE EARTH" โดยได้รับเกียรติจาก หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ

          ขวัญชัย กล่าวต่อว่า "ในงานมีค่ายรถร่วมงานจำนวน 33 ยี่ห้อจาก 11 ประเทศ รถจักรยานยนต์อีก 15 ยี่ห้อ จาก 8 ประเทศ ไฮไลท์ของงานจัดแสดงรถแนวคิดและรถต้นแบบถึง 4 คัน เปิดตัวรถใหม่กว่า 10 รุ่น รวมทั้งแต่ละค่ายยังจัดโปรโมชันที่น่าสนใจ พร้อมจำหน่ายราคาเดิมก่อนปรับขึ้นในปีหน้าตามอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ จึงคาดว่าจะมียอดจองรถยนต์ในงานสูงถึง 50,000 คัน รถบิ๊กไบค์ 3,000 คัน และผู้ชมงาน 1.5 ล้านคน เม็ดเงินสะพัดในงานกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท"

          งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" มีพื้นที่จัดแสดงงานทั้งภายในและภายนอกอาคารทั้งสิ้นกว่า 100,000 ตารางเมตร ผู้ชมงานจะพบ รถยนต์ 33 ยี่ห้อ ได้แก่ BMW, CARLSSON, CHANGAN, CHEVROLET, DFSK, FORD, FOTON, FUSO, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, JAGUAR, LAMBORGHINI, LAND ROVER, LEXUS, MAZDA, McLAREN, MERCEDES-BENZ, MG, MINI, MITSUBISHI, MOKE, NISSAN, PEUGEOT, PORSCHE, SAMMITR GREEN POWER, SUBARU, SUZUKI, SWIFT, TATA, TOYOTA, VOLKSWAGEN และ VOLVO รวมถึง รถจักรยานยนต์ 15 ยี่ห้อ ได้แก่ BENELLI, BMW, DUCATI, GPX, HARLEY-DAVIDSON, HONDA, KAWASAKI, KEEWAY, KTM, ROYAL ENFIELD, SUZUKI, TRIUMPH, UDA, VESPA และ YAMAHA

          สำหรับรถแนวคิดและรถต้นแบบที่จัดแสดงในงาน ได้แก่ HYUNDAI HED-9 เผยโฉมครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา ออกแบบภายใต้แนวคิด FLUIDIC SCULPTURE DESIGN 2.0 เครื่องยนต์พลังงานเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ขนาดเล็ก พร้อมแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน 36 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จพลังงานเต็มในเวลาเพียงไม่กี่นาที วิ่งได้มากกว่า 600 กิโลเมตร

          MG CS รถอเนกประสงค์ประเภทครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ที่เอมจี มีแผนจะผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศไทยเร็วๆ นี้ SUBARU VIZIV 2 CONCEPT รถยนต์ต้นแบบครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี 5 ประตู ขุมพลังแบบพลัก-อิน ไฮบริด ที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร ไดเรคท์อินเจคชันเทอร์โบ (DIT) มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า 1 ตัว และด้านหลัง 2 ตัว แบทเตอรีชนิดลิเธียม-ไอออน ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติแปรผัน (CVT) ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบAWD

          TOYOTA FT-86 OPEN CONCEPT รถแนวคิดเวอร์ชันเปิดประทุนของรถยนต์สปอร์ท จีที 86 ที่เอาหลังคาเดิมออกแล้วแทนที่ด้วยหลังคาผ้าใบสีน้ำเงินพร้อมกระจกหลังในตัว รูปทรงคูเป ห้องโดยสารแบบ 2+2 ออกแบบโดยTOYOTA BOSHOKU MILAN DESIGN (TBMD)

          นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมาก อาทิ นิทรรศการสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย, ลานศิลปวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ไทย, นิทรรศการ ศิลปินน้อย MOTOR EXPO, โครงการ "ขับเป็น... ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล", โครงการประกวดภาพถ่าย MOTOR EXPO, โครงการประกวดนวัตกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 6 และกิจกรรมโรงเรียนพัฒนาทักษะการขับขี่รถขับเคลื่อน 4 ล้อ รวมถึง กิจกรรมคืนกำไรแก่ผู้เข้าชมงาน ซึ่งมีรางวัลรวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาทได้แก่ ซื้อรถ ชิงรถ, ซื้อบัตร ชิงรถ, SMS ชิงรถ, ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ชิงบิ๊กไบค์, ซื้อสินค้า ชิงรางวัล, ประกวดภาพถ่าย"MOTOR EXPO PHOTO CONTEST 2015 " ฯลฯ

          สำหรับการเดินทางไปชมงานมีรถ Express Shuttle Bus บริการรับ-ส่งฟรี วันธรรมดา เวลา 12.00-22.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 11.00-22.00 น. ใน 4 เส้นทางหลัก ประกอบด้วย
          1. หมอชิต-อิมแพค-หมอชิต MRT สถานีจตุจักร EXIT 4, BTS สถานีหมอชิต EXIT 2
          2. อ่อนนุช-อิมแพค-อ่อนนุช สถานีอ่อนนุช EXIT 2
          3. สีลม-อิมแพค-สีลม MRT สถานีสีลม EXIT 1
          4. รังสิต-อิมแพค-รังสิต ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ลานจอดรถตู้ หน้าห้างบิกซี

          ห้ามพลาด.. "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 พร้อมรับชมการถ่ายทอดสดงานได้ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ในวันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 14.00 – 16.00 น. ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.motorexpo.co.th
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 01, 2015, 02:06:32 PM
เตรียมนับถอยหลังพบกับปอร์เช่ในงาน MOTOR EXPO 2015

ปอร์เช่ ประเทศไทย นำรถหรูพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษร่วมงาน MOTOR EXPO 2015



กรุงเทพฯ. ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ขนทัพยนตรกรรมหลากหลายรุ่น ร่วมงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" (The 32nd Thailand International MOTOR EXPO 2015) เอเอเอสฯ ขอเรียนเชิญท่านสัมผัสกับความสมบูรณ์แบบของรถสปอร์ตใหม่ล่าสุดครั้งแรกในประเทศไทยกับ 911 จีที3 อาร์เอส (911 GT3 RS) รถยนต์ไฮไลท์ที่จะสะกดทุกสายตาให้หลงใหล ซึ่งมาพร้อมกับรถสปอร์ตโร้ดสเตอร์เครื่องยนต์วางกลางจากปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ เอส (Boxster S), ซาลูนสุดหรูอย่าง พานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel), พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid) และขบวนรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) ยอดนิยมเช่น มาคันน์ (Macan) และ คาเยนน์ เอส อี-ไอบริด (Cayenne S E- Hybrid) รวมถึงสินค้าจาก Porsche Driver's Selection คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด มาให้ท่านเลือกสรรมากมายในราคาพิเศษ ณ บูธยนต์ปอร์เช่ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 (The 32nd Thailand International MOTOR EXPO 2015) ตั้งแต่วันที่ 2-13 ธันวาคม 2015 อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 2 อิมแพค เมืองทองธานี
         
          เอเอเอสฯ ขอมอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับท่านที่จองรถยนต์ปอร์เช่ภายในงาน
          · บัตรเติมน้ำมัน PTT Cash Card มูลค่า 100,000 บาท
          · การรับประกันจากโรงงานปอร์เช่เยอรมนีนาน 9 ปี และ Service Package 4 ปี (สำหรับรถสปอร์ต)
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 01, 2015, 02:07:19 PM
ฟอร์ดย้ำกลยุทธ์นำเสนอรถยนต์คุณภาพระดับโลกพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015





          มร. มาร์ค คอฟแมน ประธาน ฟอร์ด อาเซียน (ขวา) และคุณยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย (ซ้าย) เปิดฉากงานมหกรรมยานยนต์ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 ยกทัพยานยนต์และเทคโนโลยีระดับโลกมาจัดแสดงอย่างครบครัน รวมถึงไฮไลท์อย่าง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ และฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นปี 2016
          · ฟอร์ดเผยราคา และเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะใหม่ที่เพิ่มขึ้นในฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนี่ยม พลัส รุ่นปี 2016 และ ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.2 ลิตร รุ่นปี 2016 พร้อมมอบความปลอดภัยบนทุกเส้นทางด้วยระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ระบบเตือนการชนด้านหน้า(Forward Collision Warning System) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High Beam Control) และระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System)
          · พบกับรถยนต์ฟอร์ดทุกรุ่น ตอกย้ำความแข็งแกร่งในทุกเซกเมนต์ ทั้งเอเวอเรสต์ เรนเจอร์ เอคโค่สปอร์ต เฟียสต้า และโฟกัส
          · ข้อเสนอสุดพิเศษจากแคมเปญ 'YES' (Year-End-Sales) ให้ลูกค้าได้จับจองเป็นเจ้าของรถยนต์ฟอร์ดได้ตลอดงาน

          ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดฉากงานมหกรรมยานยนต์ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 ยกทัพยานยนต์และเทคโนโลยีระดับโลกมาจัดแสดงอย่างครบครัน รวมถึงไฮไลท์อย่าง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ และฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นปี 2016
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้ยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถอเนกประสงค์ โดยเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ครบครันทั้งความแข็งแกร่ง มีดีไซน์สวยสะดุดตา และมีเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ด้วยสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดเต็มรูปแบบ พร้อมยังมอบความคล่องตัวบนท้องถนนเพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบาย
          "รถฟอร์ดที่ผลิตในประเทศไทยสามารถทำยอดขายได้ดีในทุกตลาดทั่วภูมิภาคอาเซียน โดยความสำเร็จของรถ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ที่ผลิตจากโรงงาน ออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) จังหวัดระยอง มีส่วนช่วยตอกย้ำถึงความสำคัญของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตของเราในภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี" มร. มาร์ค คอฟแมน ประธาน ฟอร์ด อาเซียน กล่าว
          จากการคาดการณ์ว่าโรงงานเอเอทีจะดำเนินการผลิตรถฟอร์ด เรนเจอร์ เต็มหรือใกล้เต็มกำลังการผลิตในอนาคตอันใกล้นี้ ฟอร์ดจึงได้ประกาศแผนลงทุนมูลค่า 186 ล้านเหรียญสหรัฐ (6,269 ล้านบาท) เพื่อขยายโรงงาน ฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) ในจังหวัดระยอง เพิ่มความสามารถในการผลิตรถกระบะเพิ่มเติมที่โรงงานเอฟทีเอ็ม ให้รองรับการผลิตรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
          "เราประสบความสำเร็จอย่างมากจากการเปิดตัวรถยนต์ใหม่สองรุ่นในปีนี้ ซึ่งได้แก่รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ที่โดดเด่นด้วยสมรรถนะยอดเยี่ยม และรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ที่เข้ามาพลิกโฉมวงการรถปิคอัพ" นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว "ลูกค้าจำนวนมากได้ให้ความสนใจกับฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จนขับเคลื่อนให้ส่วนแบ่งตลาดรถกระบะของฟอร์ดในเมืองไทยเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน"
          ด้วยความแข็งแกร่งตามมาตรฐานฟอร์ด หรือ 'Built Ford Tough' ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ สามารถทำคะแนนทดสอบได้สูงสุดในบรรดารถกระบะที่เข้าร่วมทดสอบความปลอดภัยภายใต้โครงการ ASEAN New Car Assessment Program (ASEAN NCAP) โดยได้มาตรฐานในระดับ 5 ดาว
          ฟอร์ดจะเดินหน้ารุกตลาดโดยสานต่อกลยุทธ์การนำเสนอรถยนต์คุณภาพระดับโลกรุ่นใหม่ต่อไปในปีหน้า ด้วยการเปิดตัว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนี่ยม พลัส รุ่นปี 2016 และฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.2 ลิตร รุ่นปี 2016 ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะใหม่มากมาย อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า (Adaptive Cruise Control) ระบบเตือนป้องกันการชนรถคันหน้า (Forward Collision Warning System) ระบบช่วยเตือนการขับขี่ในช่องทาง (Lane Keeping System) ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ* (Auto High Beam Control) และระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่ (Driver Alert System) เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น ปลอดภัย และสะดวกสบายยิ่งขึ้น
          นอกจากนี้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นปี 2016 จะมาพร้อมสีภายนอกใหม่ คือ สีฟ้า Blue Reflex และสีภายในใหม่ในโทนสีดำ
          ลูกค้าสามารถสั่งจองรถยนต์ใหม่ทั้งสองรุ่นได้ในช่วงวันที่ 2 ถึง 13 ธันวาคมนี้ ทั้งภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปและที่ตัวแทนจำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ ที่ราคา 1,749,000 บาทสำหรับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนี่ยม พลัส และ1,189,000 บาท สำหรับ ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.2 ลิตร
          นอกจากนี้ ผู้เข้าชมบูธฟอร์ดภายในงานยังจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีสุดล้ำในฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ อย่างใกล้ชิด ด้วยการจัดแสดงรถรุ่นดังกล่าวในแบบตัดตามขวาง ให้เห็นถึงวัสดุคุณภาพสูงและคุณสมบัติอัจฉริยะมากมายที่อัดแน่นอยู่ภายในรถยนต์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียมรุ่นนี้
          ส่วนในด้านบริการหลังการขาย ฟอร์ดยังคงมุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์ให้กับลูกค้าด้วยการขยายเครือข่ายศูนย์บริการและโชว์รูมทั่วประเทศ โดยฟอร์ดได้เปิดโชว์รูมใหม่ ฟอร์ด รุ่งเจริญ บางนา บริเวณบางนา-ตราด กม. 26 และจะเปิดโชว์รูม ฟอร์ด ขอนแก่น ภายในช่วงปลายปีนี้ เพื่อเสริมความสะดวกสบายและมอบบริการเต็มรูปแบบแก่ลูกค้า

ข้อเสนอพิเศษสุด
          ฟอร์ดยังคงมอบข้อเสนอพิเศษสุดจากแคมเปญ 'YES' หรือ 'Year-End-Sale' ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 160,000 บาท หรือรับฟรีประกันชั้นหนึ่ง สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ฟอร์ด เฟียสต้า โฟกัส และเอคโค่สปอร์ต
          ลูกค้าฟอร์ดทุกท่านสามารถเลือกข้อเสนอและราคาพิเศษที่มาพร้อมกับรถทุกรุ่นได้ตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง ทั้งฟอร์ด เรนเจอร์ ที่ผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,929 บาทต่อเดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งในรุ่น XL และฟอร์ด เอเวอเรสต์ รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง กับโปรโมชั่นผ่อนเริ่มต้น 15,320 บาทต่อเดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งในรุ่น 2.2ลิตร ไทเทเนี่ยม
          ฟอร์ด เฟียสต้า มาพร้อมกับราคาเริ่มต้นสุดพิเศษเพียง 494,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ฟอร์ด เอนชัวร์ (สำหรับรุ่น 4 ประตู แอมเบียนท์ เกียร์อัตโนมัติ) ส่วนฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต มีราคาเริ่มต้นเพียง 684,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ฟอร์ด เอนชัวร์ (สำหรับรุ่น แอมเบียนท์ เกียร์อัตโนมัติ) ขณะที่ฟอร์ด โฟกัส ราคาเริ่มต้นที่699,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง (สำหรับรุ่น 5 ประตู 1.6 ลิตร เทรนด์ เกียร์อัตโนมัติ)
          ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมบูธฟอร์ดเพื่อสัมผัสกับสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์และข้อเสนอพิเศษได้ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 ซึ่งจัดขึ้นที่อิมแพค เมืองทองธานี ในวันที่ 2 ถึง 13 ธันวาคม 2558
          *ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ มีเฉพาะในรุ่น เอเวอเรสต์ ไทเทเนี่ยม พลัส ปี 2016 เท่านั้น
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 01, 2015, 02:08:56 PM
บีเอ็มดับเบิลยูขนทัพรถยนต์หรูสไตล์สปอร์ตบุก มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015



          บีเอ็มดับเบิลยูขนทัพรถยนต์หรูสไตล์สปอร์ตบุก มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ครบครันทั้ง บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 โฉมใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู X5 eDrive โฉมใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ใหม่, มินิ คลับแมน โฉมใหม่, มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์, มินิ คันทรีแมน พาร์คเลน และการเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียกับ บีเอ็มดับเบิลยู G 310 R
          o บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 โฉมใหม่ พร้อมนวัตกรรมการควบคุมด้วยระบบสัมผัส, ฟังก์ชันสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวมือ โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ (BMW Gesture Control) และ BMW Touch Command บนแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว
          o ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Permanent all-wheel drive และเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics eDrive มอบความสปอร์ตเต็มเปี่ยมให้กับบีเอ็มดับเบิลยู X5 eDrive โฉมใหม่
          o มินิ คลับแมน โฉมใหม่ อัดแน่นด้วยความสามารถตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวัน และสมรรถนะในการขับขี่ทางไกล ความอเนกประสงค์ และความสะดวกสบายอย่างไม่เคยมีมาก่อนในรถยนต์มินิ
          o ครั้งแรกในเอเชียกับบีเอ็มดับเบิลยู G 310 R มอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์รุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยูที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดต่ำกว่า 500 ซีซี ด้วยเครื่องยนต์ 1 สูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ

          บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในตลาดรถยนต์หรู ยกทัพรถยนต์และมอเตอร์ไซค์จากบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด แบบครบครัน มุ่งหน้าสู่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2015 โดยมีไฮไลท์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 โฉมใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู X5 eDrive โฉมใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยี ปลั๊กอิน ไฮบริด, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 1 พร้อมเครื่องยนต์รุ่นใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ในราคาใหม่ ในส่วนของมินิ มีการเปิดตัว มินิ คลับแมน โฉมใหม่เป็นครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน, มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ โฉมใหม่ และมินิ คันทรีแมน พาร์คเลน ใหม่ ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มีดาวเด่นอย่างบีเอ็มดับเบิลยู G 310 R มาให้สาวกบิ๊กไบค์ได้ยลโฉมกันเป็นครั้งแรกในทวีปเอเชีย ผู้สนใจสามารถพบกับข้อเสนอและราคาสุดพิเศษจากบีเอ็มดับเบิลยูได้ในงาน ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 13 ธันวาคม 2558 ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี

บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 โฉมใหม่
          รถยนต์ระดับแฟลกชิปที่มาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัส ฟังก์ชันการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ และบีเอ็มดับเบิลยู ทัช คอมมานด์ ด้วยแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว
          บีเอ็มดับเบิลยู 740Li โฉมใหม่ ใช้หน้าจอควบคุม iDrive ระบบสัมผัสเป็นครั้งแรก ซึ่งนอกจากจะสามารถควบคุมระบบต่าง ๆ ในแบบเดิมแล้ว ระบบสัมผัสแบบใหม่นี้ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเลือกสั่งการและควบคุมจากการสัมผัสหน้าจอได้เช่นกัน นอกจากนี้ ระบบ iDrive ยังรองรับการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ หรือ BMW Gesture Control ที่ใช้เซ็นเซอร์ 3 มิติจับการเคลื่อนไหวเพื่อรับคำสั่งสำหรับระบบควบคุมความบันเทิงและการสื่อสาร มอบความสะดวกสบายสูงสุดทั้งในการปรับระดับเสียง การรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้าโทรศัพท์ เป็นต้น
          นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู 740Li โฉมใหม่ ยังมาพร้อมกับระบบควบคุมแบบมัลติฟังก์ชันอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู ทัช คอมมานด์ (BMW Touch Command) นวัตกรรมล่าสุดที่ให้คุณใช้อุปกรณ์แท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วควบคุมสั่งการรถได้จากทั้งภายในและนอกตัวรถ โดยรองรับทั้งการปรับที่นั่ง แสงไฟภายในตัวรถ การปรับอุณหภูมิ และระบบความบันเทิง นำทาง และการสื่อสาร
          ห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู 740Li โฉมใหม่ มีบรรยากาศที่หรูหราด้วยการออกแบบแสงไฟอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะไฟ Welcome Light Carpet ที่ให้ความรู้สึกเอ็กซ์คลูซีฟด้วยเส้นนำสายตารอบตัวรถประหนึ่งการปูพรมต้อนรับ ขณะที่อีกหนึ่งฟีเจอร์พิเศษอย่างไฟ Ambient Light ก็ช่วยสร้างบรรยากาศ เสริมความหรูหราให้กับห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี
บีเอ็มดับเบิลยู 740Li โฉมใหม่ ยังมาพร้อมกับหลังคากระจกแบบ Sky Lounge Panorama ช่วยสร้างบรรยากาศเสมือนท้องฟ้าที่ประดับประดาไปด้วยดวงดาวหลากสี ด้วยชุดไฟแอลอีดีที่ส่องสว่างลงบนผิวกระจกในยามค่ำคืนจนเกิดเป็นประกายระยิบระยับ เป็นอีกหนึ่งความพิเศษเหนือระดับรถยนต์ซีดานหรูในเซ็กเมนต์เดียวกัน
          อีกฟีเจอร์ใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยู 740Li ที่แตกต่างจากรถยนต์ซีดานในเซ็กเมนต์เดียวกันคือ บีเอ็มดับเบิลยู เลเซอร์ไลท์ (BMW Laserlight) ซึ่งคล้ายกับที่ใช้ในบีเอ็มดับเบิลยู i8 ด้วยเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู เซเลคทีฟ บีม (BMW Selective Beam) ช่วยลดความพร่ามัวและเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเพิ่มเติมจากไฟแอลอีดีในรุ่นมาตรฐาน ไฟหน้าแบบเลเซอร์นี้มีแสงสีขาวและให้ความสว่างได้ในระยะ 600 เมตร สำหรับไฟสูง ซึ่งเป็นระยะที่ไกลกว่าความสว่างจากไฟหน้าแบบแอลอีดีถึงสองเท่าและให้ความเข้มของแสงมากกว่าไฟหน้าแบบแอลอีดีถึงสี่เท่า
          บีเอ็มดับเบิลยู 740Li โฉมใหม่มาพร้อมกับทุกองค์ประกอบเพื่อสร้างความแม่นยำ การเคลื่อนไหวในการขับขี่อย่างมั่นคงและ สอดประสานอย่างกลมกลืน ช่วงล่างแบบถุงลมซึ่งทำงานด้วยการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อัดลมเข้าไปเก็บในถังลม ทำให้สามารถรักษาระดับของรถไว้ได้ แม้ในเวลาที่เครื่องยนต์หยุดทำงาน ระดับความสูงของรถจะถูกปรับให้คงที่อยู่เสมอไม่ว่าจะมีน้ำหนักบรรทุกเท่าไหร่ก็ตาม และเนื่องจากในแต่ละล้อมีตัวจ่ายลมที่ทำงานอย่างเป็นอิสระ จึงสามารถปรับระดับของรถให้เสถียรได้ แม้ว่าน้ำหนักในการบรรทุกของล้อแต่ละข้างจะไม่เท่ากัน
          บีเอ็มดับเบิลยู 740Li โฉมใหม่นี้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รุ่นล่าสุดของบีเอ็มดับเบิลยู ด้วยปริมาตรกระบอกสูบขนาด 3 ลิตร ซึ่งใช้เทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 240 กิโลวัตต์/326 แรงม้า ที่ 5,500 ถึง 6,500 รอบต่อนาที อัตราเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 5.6 วินาที อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 14.3 กิโลเมตรต่อลิตร และมีอัตราการปล่อยCO2 อยู่ที่ 166 กรัมต่อกิโลเมตร
บีเอ็มดับเบิลยู X5 eDrive โฉมใหม่ พร้อมเทคโนโลยี ปลั๊กอิน ไฮบริด
          บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e เป็นรถยนต์ ปลั๊กอิน ไฮบริด รุ่นแรกในกลุ่มซีรี่ส์หลักที่บีเอ็มดับเบิลยูนำมาทำตลาด โดยครบเครื่องด้วยประโยชน์ใช้สอยและความหรูหราในแบบรถยนต์ SAV เกาะถนนเป็นเลิศด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ BMW xDrive ทั้งยังประหยัดน้ำมันอย่างเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics eDrive
          เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรของบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e สามารถคว้ารางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีInternational Engine of the Year มาครองได้ถึงสามสมัย ด้วยสมรรถนะที่โดดเด่นจากเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบTwinScroll ระบบหัวฉีดน้ำมันที่มีความแม่นยำสูง และระบบ VALVETRONIC ซึ่งทำให้เครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นขุมพลังเบนซิน 4 สูบที่ทรงพลังที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู ส่งกำลังสูงสุดที่ 180 กิโลวัตต์/245 แรงม้า พร้อมแรงบิด 350 นิวตันเมตร (258 ปอนด์-ฟุต) สู่ล้อรถได้อย่างราบรื่นในทุกรอบเครื่อง
          ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าก็มอบกำลังเพิ่มเติมสูงสุดอีก 83 กิโลวัตต์/113 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร (184 ปอนด์-ฟุต) ที่พร้อมตอบสนองในเสี้ยววินาทีตามสไตล์ระบบส่งกำลังไฟฟ้า ทำงานประสานกับเครื่องยนต์หลักเพื่อให้คุณขับขี่ได้สนุก ทันใจ เร่งความเร็วได้โดยไม่ต้องรอ บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 6.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยสามารถเลือกขับขี่โดยใช้พลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ที่ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
          เมื่อใช้งานร่วมกัน เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าชุดนี้จะมอบกำลังสูงถึง 230 กิโลวัตต์/313 แรงม้า ให้คุณเร่งความเร็วได้อย่างใจนึก ทั้งยังประหยัดน้ำมันด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 31.3 กิโลเมตรต่อลิตรและลดระดับมลภาวะในการขับขี่กับอัตราการปล่อย CO2 ที่ 76 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น
          เทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด ในบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e สามารถนำสมรรถนะของมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และยังสามารถขับขี่ในตัวเมืองได้โดยไม่ปล่อยมลภาวะออกจากท่อไอเสียเลย แบตเตอรี่ของรถมีความจุ 9 กิโลวัตต์ชั่วโมง และสามารถชาร์จได้กับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป โดยมีช่องเก็บสายชาร์จอยู่ใต้พื้นที่เก็บของ
          เมื่อแบตเตอรี่หมด สามารถชาร์จด้วยไฟบ้านให้เต็มได้โดยใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง 50 นาที หรือเลือกเสริมประสิทธิภาพการชาร์จด้วยอุปกรณ์ บีเอ็มดับเบิลยู ไอ วอลล์บ็อกซ์ เพียว (BMW i Wallbox Pure) จาก BMW 360° ELECTRIC ที่ทั้งปลอดภัย ใช้งานง่าย และรวดเร็วด้วยกำลังไฟถึง 3.5 กิโลวัตต์ (16 แอมป์/230 โวล์ท) จึงสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง 45 นาที
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ใหม่
          บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ใหม่ โดดเด่นด้วยงานออกแบบที่เฉียบคมในทุกรายละเอียด ด้วยชุดกันชนหน้าที่มีช่องระบายอากาศดีไซน์ใหม่ เน้นย้ำถึงความกว้างของตัวรถ เช่นเดียวกับชุดกันชนหลังและไฟท้ายแอลอีดีที่ช่วยเสริมมาดความสปอร์ตของตัวรถ ส่วนไฟหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟแอลอีดีเพื่อการขับขี่ในเวลากลางวัน ก็ช่วยให้รถดูโฉบเฉี่ยวสะดุดตายิ่งขึ้น
          เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบรุ่นใหม่ล่าสุดของบีเอ็มดับเบิลยู ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในรุ่น บีเอ็มดับเบิลยู 320i 320i Luxury และ 320i Sport ประหยัดน้ำมันด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 16.1 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 146 กรัมต่อกิโลเมตร ทั้งยังเปี่ยมสมรรถนะกับกำลังสูงสุด 184 แรงม้าที่ 5,000-6,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตรที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที จึงเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 7.3 วินาที
          บีเอ็มดับเบิลยู 330i M Sport พร้อมต่อยอดความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู 328i ด้วยเครื่องยนต์ที่มอบพลังสูงสุด 185 กิโลวัตต์/252 แรงม้าที่ 5,200-6,500 รอบต่อนาที ทำงานประสานกับเกียร์ 8 สปีด Steptronic ให้คุณเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 5.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุดถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 15.9 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 147 กรัมต่อกิโลเมตร สำหรับชุดอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นนี้ มีทั้งชุดแต่ง M Aerodynamic พวงมาลัยหนังแท้สไตล์ M ขอบประตูแบบ M แต่งโลโก้M ด้านข้าง และล้อแม็กอัลลอย M น้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้วสีเทา Ferric Grey metallic
ส่วนในรุ่นดีเซล บีเอ็มดับเบิลยู 320d Luxury และ 320d Sport มาพร้อมกับขุมพลังระดับ 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที ที่ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 27 กิโลเมตรต่อลิตร พร้อมอัตราการปล่อย CO2 เพียง 99 กรัมต่อกิโลเมตร
ระบบเกียร์ 8 สปีด Steptronic ใหม่ มีส่วนช่วยลดอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 ด้วยประสิทธิภาพ อัตราการทดเกียร์ที่กว้างขึ้น และตัวแปลงแรงบิดที่สูญเสียกำลังน้อยลงในขณะเปลี่ยนเกียร์ ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ลงได้ราว 3เปอร์เซ็นต์ และสำหรับรุ่น 320i Sport 320d Sport และ 330i M Sport มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 สปีด พร้อมก้านเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
บีเอ็มดับเบิลยู 118i Sport และ 118i M Sport พร้อมขุมพลังใหม่
          บีเอ็มดับเบิลยู 118i รุ่นล่าสุดนี้ พัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้า ด้วยขุมพลังใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีEfficientDynamics เป็นคุณสมบัติมาตรฐาน พร้อมด้วยการปรับแต่งรายละเอียดด้านดีไซน์มากมายทั้งภายในและภายนอกรถ โดยเพิ่มชุดอุปกรณ์ในรุ่นมาตรฐาน ควบคู่ไปกับออปชั่นใหม่ที่หลากหลาย เสริมทั้งประโยชน์ใช้สอยและรูปลักษณ์ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
          บีเอ็มดับเบิลยู 118i M Sport มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เทคโนโลยี บีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้าที่ 4,500-6,000 รอบต่อวินาที จึงเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 8.7 วินาที ทั้งยังใช้เชื้อเพลิงคุ้มค่าด้วยอัตราการเผาผลาญน้ำมัน 20.0 กิโลเมตรต่อลิตร และมีระดับการปล่อยก๊าซ CO2 เพียง 118 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู 118i M Sport นั้น มาพร้อมชุดตกแต่งพิเศษ M Sport ที่มีทั้งล้ออัลลอย M Sport ขนาด 18 นิ้ว สีเทา Ferric Grey metallic แถบตกแต่งคอนโซลอลูมิเนียมลาย Hexagon ชุดแต่ง M Aerodynamic พร้อมด้วยเส้นสายขอบหน้าต่างสีดำเงาแบบ Mและพวงมาลัยหุ้มหนังแท้แบบ M Sport
บีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport
          บีเอ็มดับเบิลยู 520d พร้อมให้คุณยกระดับสมรรถนะไปอีกขั้นด้วยชุดแต่ง M Sport ที่มีทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ บีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 7.7 วินาที โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 ที่ 137 กรัมต่อกิโลเมตร
บีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.5 นิ้วสำหรับควบคุมระบบต่าง ๆ ในตัวรถได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมด้วยระบบ BMW Comfort Access ที่ให้คุณเปิดประตูรถได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสเมื่อมีกุญแจติดตัว พร้อมไฟตัดหมอกแอลอีดี โดยตัวรถมาพร้อมกับชุดแต่ง M Aerodynamic พวงมาลัยหนังแท้สไตล์ M ขอบประตูแบบ M เพดานห้องโดยสารสีดำแอนทราไซต์จาก BMW Individual แต่งโลโก้ M ด้านข้าง และล้อแม็กอัลลอย Mน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว
บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ปรับราคาใหม่
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 01, 2015, 02:09:04 PM
          บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport คือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างฟีเจอร์เด่นของยนตรกรรมบีเอ็มดับเบิลยูตระกูลX พร้อมกับความสง่างามปราดเปรียวของดีไซน์แบบคูเป้สุดคลาสสิก ชุดแต่ง M Sport มอบความโฉบเฉี่ยวทั้งภายนอกและภายในให้กับบีเอ็มดับเบิลยู X4 ด้วยชุดแต่ง M Aerodynamic รวมถึงเส้นสาย High-gloss Shadow Line ของดีไซน์ภายนอก และล้ออัลลอยน้ำหนักเบาพิเศษแบบ M Sport ขนาด 19 นิ้ว มอบภาพลักษณ์ดีไซน์สปอร์ตควบคู่ไปกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ xDrive ที่เพิ่มความสนุกสนานยามขับขี่ พร้อมใส่ใจการดีไซน์ในทุกรายละเอียดด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มด้วยหนังแท้สไตล์สปอร์ตแบบ M เบาะนั่งแบบสปอร์ต และการตกแต่งภายในด้วยวัสดุอลูมิเนียม บรัช มอบความรู้สึกสไตล์สปอร์ตอย่างสมบูรณ์แบบ
          บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังดีเซล 2.0 ลิตร เทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมทั้งบล๊อก มอบกำลัง 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที โดยมีแรงบิดสูงสุดถึง400 นิวตันเมตร ส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport พุ่งทะยานจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8 วินาที ทั้งยังมาพร้อมกับชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่มอบประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงถึง 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร โดยมีอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 เพียง 149 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น
          บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport เป็นรถยนต์รุ่นล่าสุดที่ประกอบขึ้นในประเทศไทยที่โรงงานของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย จังหวัดระยอง โดยผู้สนใจสามารถจับจองได้ที่ราคา 3,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
          ออปชั่นชุดแต่งพิเศษ : บีเอ็มดับเบิลยู M Performance
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 1
          บีเอ็มดับเบิลยู 118i สปอร์ต ได้สะท้อนความเป็นหนึ่งผ่านดีไซน์สปอร์ตใหม่ ของชุดแต่ง M Aerodynamic Kitsตะแกรงคู่หน้าสีดำ สปอยเลอร์ฝากระโปรงหลังและแผ่นเบี่ยงทางลมกระจกบังลมหลังสีดำ ฝาครอบกระจกมองข้างแบบคาร์บอน สติกเกอร์ M Performance และชุดเบรกคู่หน้าและคู่หลังซึ่งมีสีให้เลือกทั้ง แดง เหลือง และส้ม ข้อเสนอพิเศษเฉพาะในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ในราคา 226,290 บาท (จากราคาปกติ 338,428 บาท)
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 4
          เพิ่มลุคสปอร์ตพร้อมสมรรถนะอีกขั้นด้วยชุดแต่งพิเศษแบบสปอร์ตสำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู 420i Coupe M Sportด้วยชุดแต่ง M Performance ประกอบด้วย ชุดแต่ง M Aerodynamic Kits, แผงดักอากาศใต้กันชนหน้าแบบสปอร์ต Front splitter, สปอยเลอร์ฝากระโปรงหลังและฝาครอบกระจกมองข้างแบบคาร์บอน, ตะแกรงคู่หน้าสีดำ,แผ่นปิดใต้กันชนหลังแบบสปอร์ต rear diffuser, ฝาครอบบันไดแบบ M และสติกเกอร์ M Performance นอกจากนี้ยังเสริมความปราดเปรียวด้วยสติกเกอร์คาดลายดำ-เงิน ตัวรถยังดูภูมิฐานขึ้นด้วยล้ออัลลอยแบบสปอร์ตพร้อมยางขนาดใหญ่ M Double Spoke 624 20" เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยชุดเบรกคู่หน้าและคู่หลังซึ่งมีสีให้เลือกทั้ง แดง เหลือง และส้ม ภายในรถยังมีชุดแต่งหน้ารถแบบคาร์บอน alcantara แพคเกจนี้นำเสนอในราคาพิเศษเพียง 468,650 บาท เฉพาะในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 (ราคาปกติอยู่ที่ 719,167 บาท)
ท่านสามารถเยี่ยมชมบูท BMW M Performance accessories เพื่อรับข้อเสนอพิเศษอื่นๆ สำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 และบีเอ็มดับเบิลยู X5 และพบกับชิ้นส่วนชุดแต่ง M Performance อื่นๆ อาทิ ปลายท่อไอเสียแบบท่อคู่ แผ่นปิดแป้นคันเร่งและที่พักเท้า และชุดล้ออัลลอยแบบพิเศษ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ http://www.bmw.co.th/motorexpo2015#ct-tab3
มินิ คลับแมน โฉมใหม่
          ด้วยความยาวที่เพิ่มขึ้น 27 เซนติเมตร กว้างขึ้น 9 เซนติเมตร และฐานล้อที่ยาวขึ้น 10 เซนติเมตร เมื่อเทียบกับรถยนต์มินิ แฮทช์ 5 ประตู มินิ คลับแมน โฉมใหม่นี้ จึงเป็นรถยนต์มินิที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ซี่งไม่เพียงเป็นการตีความใหม่ให้กับการเดินทางในแบบดั้งเดิมตามสไตล์อังกฤษ สำหรับศตวรรษที่ 21 แต่ยังเป็นการผจญภัยครั้งใหม่ของแบรนด์มินิในเซ็กเมนต์รถยนต์คอมแพคระดับพรีเมี่ยม ช่องเก็บสัมภาระที่มีความจุมากถึง 360 ลิตร และยังสามารถขยายขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,250 ลิตร
          ฝากระโปรงท้ายแบบบานพับสองข้างใช้วัสดุโลหะที่โดดเด่นสะดุดตาเป็นอีกจุดเด่นชวนมองในส่วนท้ายของ มินิ คลับแมน โฉมใหม่ เสากลางระหว่างบานกระจกซ้าย-ขวามีขนาดเล็กลงกว่าในรุ่นก่อนหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองด้านหลังให้ดียิ่งขึ้น การเปิดฝากระโปรงท้ายสามารถทำได้ด้วยการใช้มือเปิดจากปุ่มที่มือจับฝากระโปรงทั้งสองข้างซึ่งทำจากวัสดุชุบโครเมียม หรือสามารถเปิดได้โดยไม่ต้องสัมผัสตัวรถด้วยการใช้เท้าไปจ่อที่บริเวณใต้กันชนท้าย ฝากระโปรงท้ายก็จะเปิดโดยอัตโนมัติทีละข้าง ซึ่งฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานได้เมื่อผู้ขับมีกุญแจรถอยู่กับตัว
          นวัตกรรมการจัดไฟแบบพิเศษเฉพาะสำหรับ มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน และ มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน ไฮทริม โฉมใหม่ มีทั้งไฟหน้าแอลอีดี ไฟแอลอีดีสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ไฟท้ายแอลอีดี และไฟตัดหมอกแอลอีดี เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
          ส่วนการจัดแสงไฟภายในห้องโดยสาร ใช้ทั้งไฟแอลอีดีและแสงไฟแอมเบียนท์เพื่อสร้างบรรยากาศ และมาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษ MINI Excitement Package ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนสีได้ พร้อมตอบสนองด้วยแสงสีทันทีที่เปิดหรือปิดประตูรถ นอกจากนี้ ยังเพิ่มลูกเล่นการฉายไฟรูปโลโก้มินิจากกระจกมองข้างลงมาบนพื้นถนนฝั่งคนขับเมื่อทำการปลดล็อกรถยนต์อีกด้วย
มินิ คลับแมน โฉมใหม่ ขับเคลื่อนด้วยพลังของเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด 3 รุ่น โดยขุมกำลังของมินิ รุ่นใหม่นี้ ประกอบด้วยเทคโนโลยี มินิ ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ให้อารมณ์ในการขับขี่แบบโกคาร์ทโดยเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ด้านต่างๆ ที่ดียิ่งขึ้น เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ในมินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน โฉมใหม่ กำลังขับเคลื่อนสูงสุดอยู่ที่ 141กิโลวัตต์/192 แรงม้า (อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 5.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ระดับการปล่อย CO2อยู่ที่ 141 กรัมต่อกิโลเมตร) มินิ คูเปอร์ คลับแมน โฉมใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ กำลังขับเคลื่อน 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า (อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 5.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ระดับการปล่อย CO2 อยู่ที่125 กรัมต่อกิโลเมตร) สำหรับใน มินิ คูเปอร์ ดี คลับแมน โฉมใหม่ ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ กำลังขับเคลื่อน 110กิโลวัตต์/150 แรงม้า (อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 4.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ระดับการปล่อย CO2อยู่ที่ 130 กรัมต่อกิโลเมตร)
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ โฉมใหม่
          มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ โฉมใหม่ ผสมผสานความเร้าใจจากสนามแข่งกับความหรูหราเต็มเปี่ยมของมินิรุ่นล่าสุด ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นแต่ยังคงเอกลักษณ์สุดคลาสสิกไว้อย่างครบครัน ต่อยอดจากรถยนต์ต้นแบบเพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ในระดับรถแข่งพันธุ์แท้
          มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ใหม่ มาพร้อมกับที่สุดแห่งขุมพลังสปอร์ตจากมินิ กับเครื่องยนต์ 4 สูบที่ติดตั้งแบบtransverse พร้อมอัพเกรดระบบส่งกำลังให้ทำงานราบรื่นด้วยเทคโนโลยี มินิ ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ให้คุณขับขี่ได้คล่องตัว รวดเร็ว พร้อมท้าทายทุกสนามแข่ง เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรรุ่นนี้มีปริมาตรกระบอกสูบมากกว่ารุ่นก่อน 25 เปอร์เซ็นต์ พร้อมมอบสมรรถนะสูงขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ และแรงบิดเพิ่มมากขึ้นอีก 23 เปอร์เซ็นต์
ขุมพลังใหม่ของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ถือเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่มินิเคยนำออกมาทำตลาด โดยมีกำลังสูงสุดถึง 170 กิโลวัตต์/231 แรงม้า พร้อมระบบส่งกำลังที่เน้นสมรรถนะเป็นหลัก และเสียงเครื่องยนต์อันทรงพลังจากลูกสูบ เทอร์โบชาร์จเจอร์ และท่อไอเสียที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เครื่องยนต์รุ่นนี้มีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 16.1 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราปล่อยก๊าซ CO2 ที่ 148 กรัมต่อกิโลเมตร
นอกจากนี้ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ยังมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครด้วยระบบแสดงผล MINI Head-Up Display พร้อมคอนเทนต์พิเศษในรุ่นนี้เฉพาะ หลังคาและกระจกมองข้างสีแดง Chili Red ล้อแม็กอัลลอยน้ำหนักเบา จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ขนาด 18 นิ้ว และแถบสีแต่งกระโปรงรถลายจอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ส่วนระบบช่วงล่างทำงานสอดประสานกับเครื่องยนต์อย่างสมบูรณ์แบบ ควบคู่ไปกับเบรกระดับสปอร์ตรุ่นใหม่จากเบรมโบ ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ เซอร์โวทรอนิก ที่ใช้ทั้งระบบไฟฟ้าและกลไกผสมผสานกัน และเทคโนโลยี Dynamic Stability Control ที่มีทั้งคุณสมบัติDynamic Traction Control (DTC) Electronic Differential Lock Control (EDLC) และ Dynamic Damper Control ติดตั้งมาในตัวเป็นมาตรฐาน
          มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน ใหม่
พาร์คเลน เป็นหนึ่งในย่านพักอาศัยที่หรูหราและน่าอยู่ที่สุดในลอนดอน โดยตั้งอยู่ในย่านเมย์แฟร์ มินิเองมีโชว์รูมอยู่ในย่านนี้หนึ่งสาขา และก็ได้หยิบยืมชื่อ พาร์คเลน มาตั้งเป็นชื่อรุ่นพิเศษเป็นครั้งที่สาม เพื่อสืบทอดความสำเร็จของมินิ พาร์คเลน รุ่นไฮเอนด์สุดคลาสสิกตัวแรกเมื่อปี 2530 และรุ่นที่สองจากปี 2548 โดยถือเป็นครั้งแรกที่มินินำเอาธรรมเนียมการเอาชื่อถนนและย่านต่าง ๆ ในลอนดอนมาตั้งชื่อให้กับรถในรุ่นคันทรีแมน
มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน ใหม่ เปี่ยมความหรูหราที่จะจับทุกสายตาด้วยดีไซน์และสีสันพิเศษสุดเฉพาะตัว ตัวถังสีเทาเมทัลลิก Earl Grey จับคู่กับหลังคาและกระจกมองข้างสีแดง Oak Red พร้อมแต่งด้วยแถบสีสไตล์สปอร์ตในสีเดียวกับกระโปรงรถ กันชนท้าย และส่วนข้างตัวรถ ขณะที่ไฟเลี้ยวติดตั้งในกรอบชุบโครเมียมที่แต่งด้วยสีแดง Oak Red เช่นกัน นอกจากนี้ ตัวรถยังเสริมความสปอร์ตด้วยล้อแม็กอัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้วสีเทาในดีไซน์ Turbo Fan Dark Grey พร้อมตกแต่งรอบตัวถังด้วยชิ้นส่วนกันชนและขอบประตูสีเงินในชุดแต่งMINI ALL4 Exterior
          มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังดีเซล มินิ ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งผลิตจากอลูมิเนียมทั้งบล็อก มอบกำลังสูงสุด 143 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 305 นิวตันเมตร โดยมีอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงที่ 14.3 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 184 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น
เปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู G 310 R เป็นครั้งแรกในทวีปเอเชีย
          บีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ใหม่ เป็นรถมอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์จากบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นแรกที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดต่ำกว่า 500 ซีซี ด้วยเครื่องยนต์หนึ่งสูบที่มีน้ำหนักเบาแต่สมรรถนะสูง บีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ใหม่ จึงเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ความเป็นมอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์ตัวจริง กับประสิทธิภาพและความสบายในการขับขี่ ทั้งในตัวเมืองและนอกเมือง
บีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ใหม่ มีเบาะนั่งที่รองรับการขับขี่ในแบบสบาย ๆ ด้วยความสูงเพียง 785 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วนสวิทช์และปุ่มควบคุมต่าง ๆ ก็ใช้งานง่ายและปลอดภัย ตามแบบบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ด้วยงานออกแบบที่คำนึงถึงทุกลักษณะรูปร่างของผู้ขับขี่
          บีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ใหม่ แข็งแกร่งด้วยเฟรมตัวถังเหล็กกล้า ช่วงล่างแบบ upside-down fork และสวิงอาร์มยาว ที่เสริมความมั่นใจ ให้รถทรงตัวได้ดีอยู่เสมอ และตอบสนองได้อย่างแม่นยำในทุกจังหวะ
หัวใจหลักของบีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ใหม่ ได้แก่เครื่องยนต์หนึ่งสูบ 313 ซีซีที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมติดตั้ง 4 วาล์ว 2 แคมชาฟท์ และระบบหัวฉีดน้ำมันแบบไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 25 กิโลวัตต์/34 แรงม้า ที่ 9,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 24 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบต่อนาที เพื่อขับเคลื่อนตัวถังที่มีน้ำหนักเบาเพียง 158.5 กิโลกรัมเท่านั้น
เช่นเดียวกับมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นอื่น ๆ บีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ใหม่ ติดตั้งระบบเบรกเอบีเอสมาเป็นมาตรฐาน โดยเสริมสมรรถนะด้วยระบบเอบีเอสแบบสองช่อง
บีเอ็มดับเบิลยู
          บีเอ็มดับเบิลยู 740Li Pure Excellence โฉมใหม่: เริ่มต้นที่ 6,999,000 บาทบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e M Sport โฉมใหม่: 5,399,000 บาทบีเอ็มดับเบิลยู 320i ใหม่: 2,399,000 บาทบีเอ็มดับเบิลยู 320i Luxury/Sport ใหม่: 2,699,000 บาทบีเอ็มดับเบิลยู 320d Luxury/Sport ใหม่: 2,799,000 บาทบีเอ็มดับเบิลยู BMW 330i M Sport ใหม่: 3,099,000 บาทบีเอ็มดับเบิลยู 118i Sport: 1,899,000 บาทบีเอ็มดับเบิลยู 118i M Sport: 2,099,000 บาท
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 01, 2015, 02:10:45 PM
ทาทา มอเตอร์ส จัดแสดง Tata Xenon 150XT แกร่งขึ้นสมบุกสมบันยิ่งขึ้น พร้อมเติมความสปอร์ตให้กับ Tata Super Ace Mint ในมอเตอร์เอ็กซ์โป



          ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย โชว์รถ ทาทา ซีนอน 150XT 4WD เสริมชุดแต่งโฟร์วีลสำหรับลุยทุกพื้นที่ พร้อมจับ ทาทา ซูเปอร์ เอซ มินท์ รถเพื่อการพาณิชย์ขนาดกะทัดรัด มานำเสนอแนวคิดอีกรูปแบบด้วยการเสริมชุดแอโรพาร์ท อย่างดุดัน รวมทั้งจัดแสดงรถเพื่อการพาณิชย์รุ่นอื่นๆ อีกมากมายในงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 นี้
          บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นำรถ ทาทา ซีนอน 150NX-PLORE 4WD ที่ได้รับการตอบรับที่ดีนับตั้งแต่เปิดตัวมาช่วงต้นเดือนสิงหาคม ด้วยการเสริมอุปกรณ์สำหรับการใช้งานแบบออฟโรดที่สมบุกสมบันได้มากยิ่งขึ้น และนำเสนอ ทาทา ซีนอน 150XT ตามแนวคิด "Real Ride for Real Life" คือ แกร่งจริง ลุยใช้งานได้จริง ซึ่งทาง ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย จะนำไปจัดแสดงในงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 นี้
          ทาทา ซีนอน 150XT (Tata Xenon 150XT) นั้นเป็นแนวคิดแบบ Extra Tough ที่เสริมอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ ให้รองรับการใช้งานแบบจริงจังยิ่งขึ้น เสริมอุปกรณ์ที่เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัย ในการใช้งานในพื้นที่สมบุกสมบันมากยิ่งขึ้นให้กับ Tata Xenon 150NX-PLORE 4WD ที่ใช้เครื่องยนต์ ดีเซลคอมมอนเรล ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ 150 แรงม้า
          ทาทา ซีนอน 150XT ได้รับการเสริมชุดไฟสปอตไลท์คู่หน้า ขนาด 9 นิ้ว แร็คหลังคาขนาด 1.8 เมตร เพิ่มพื้นที่ในการขนอุปกรณ์และสัมภาระในการขับขี่ท่องเที่ยวหรือลุยไปในพื้นที่ต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น พร้อมเสริมแผงไฟ LED พร้อม dimmer ติดตั้งบนหน้าแร็คหลังคา เสริมชุด Snorkel ต่อจากห้องเครื่องยนต์ เปลี่ยนใส่ยางแบบ mud terrain ขนาด 235/85 R16 ปรับช่วงล่างยกสูงและโช้คอัพหน้า/หลัง เสริมแผ่นอลูมิเนียมกันแคร็งด้านหน้าและถังน้ำมัน ท้ายกระบะยังเพิ่มลังอลูมิเนียมสำหรับใส่อุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มความสะดวกมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันยังพร้อมจัดแสดงรถ ทาทา ซูเปอร์ เอซ มินท์ (Tata Super Ace Mint) ต่อยอดมาจาก ทาทา ซูเปอร์ เอซ ซิตี้ ไจแอนท์ (Tata Super Ace City Giant ) ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก ให้ความคล่องตัวสูง ใช้เครื่องยนต์ใหม่ ดีเซล คอมมอนเรล ขนาด 1.4 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 70 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด140 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำต่อเนื่อง 1,400 – 2,750 รอบ/นาที
          ที่ผ่านมา ทาทา ซูเปอร์เอซ ได้รับความนิยมในการนำไปบรรทุกสินค้าต่างๆ เพื่อขนถ่ายสินค้าในพื้นที่ที่ต้องการความคล่องตัวสูง เช่น การขับขี่ขนส่งในเขตเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น และพื้นที่จำกัด ขณะเดียวกันยังเป็นรถที่สามารถบรรทุกสินค้าได้ในปริมาณมากต่อครั้ง จากกระบะพื้นเรียบที่มีพื้นที่บรรทุก 2,630 x 1,460 x 300 มิลลิเมตร
          สำหรับ ทาทา ซูเปอร์ เอซ มินท์ ที่นำมาจัดแสดงนี้จะมีรุ่นที่ได้รับการตกแต่งแบบพิเศษ เพื่อโชว์แนวคิดอีกรูปแบบสำหรับการใช้งาน รถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก รุ่นนี้ ด้วยการเปลี่ยนล้อเป็นล้ออัลลอยสีดำแบบ 5 ก้าน ตกแต่งด้วยชุดแอโรพาร์ทรอบคัน ปรับช่วงล่างใหม่ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนมากยิ่งขึ้น โคมไฟหน้าเปลี่ยนเป็นโคมสีดำ พร้อมกับเสริมไฟตัดหมอกทรงกลมคู่หน้าเพิ่มความดุดัน
ทางด้าน มร.ซานเจย์ มิชรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการนำรถทั้ง 2 รุ่นนี้ มาเป็นจุดเด่นในการจัดแสดงในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งนี้ว่า "หลังจากที่เราได้รับการตอบรับค่อนข้างดีสำหรับการเปิดตัว รถกระบะทาทาแบบ 4WD เป็นครั้งแรกในเมืองไทย ในรุ่น Xenon 150NX-PLORE 4WD ด้วยแนวคิดที่จะทำให้เป็นรถกระบะสี่ประตูขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีความแข็งแกร่ง สามารถใช้งานลุยในทุกพื้นที่ได้จริง และได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อที่เน้นความสมบุกสมบัน มากกว่าการเป็นกระบะกึ่งรถยนต์นั่งที่เน้นเพียงความหรูหราสะดวกสบาย เราจึงต้องการสร้างแนวคิดเพิ่มเติมขึ้นมาให้กับ Tata Xenon 150XT เสริมสมรรถนะแบบออฟโรด ให้สามารถใช้งานในพื้นที่ที่สมบุกสมบันมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นแนวทางการเสริมอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ และเพิ่มสมรรถนะในการใช้งานรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ให้กับกลุ่มลูกค้าของเราที่เลือกใช้งาน Tata Xenon 150NX-PLORE 4WD"
          มร.ซานเจย์ กล่าวต่อไปอีกว่า "ในส่วนของ ทาทา ซูเปอร์ เอซ มินท์ ในปีนี้อาจดูแปลกตาไปบ้าง จากที่ปกติเรามักจะนำรถรุ่นนี้มาออกแบบเป็นแนวคิดเกี่ยวกับการนำรถมาตกแต่งเป็นรถเพื่อประกอบการค้าต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ ร้านดอกไม้ หรือร้านหนังสือ แบบเคลื่อนที่ และผู้คนส่วนใหญ่ก็ใช้รถ ทาทา ซูเปอร์ เอซ ไปตกแต่งเป็นร้านอาหารหรือ ฟู้ดทรัค (Food Truck) ซึ่งกลายเป็นแนวคิดธรรมดาทั่วไปที่ผู้คนจะนึกถึงรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กแบบซูเปอร์เอซ แต่ด้วยสมรรถนะที่มีความคล่องตัวสูง ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่มีกำลังเหมาะสมสำหรับการใช้งาน และแรงบิดสูงและต่อเนื่องเหมาะสำหรับการบรรทุก เราจึงนำเสนอแนวคิดในรูปแบบใหม่ที่เพิ่มความสนุกสนานให้กับการใช้งาน ทาทา ซูเปอร์เอซ มินท์ ที่สามารถนำมาตกแต่งให้ดูดุดัน หรือเป็นรถที่ลูกค้าสามารถนำไปดัดแปลงเพื่อใช้จัดงานแสดงสินค้าที่ดูทันสมัย เช่น จัดแสดงเครื่องเสียง จัดแสดงหรือจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่ง แทนที่จะมองภาพว่ารถประเภทนี้เป็นได้เพียง Food Truck หรือเป็นรถจำหน่ายได้เพียงสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป"
นอกจาก Tata Xenon 150XT กับ Tata Super Ace Mint รุ่นพิเศษแล้ว ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังนำรถเพื่อการพาณิชย์รุ่นอื่นๆ มาจัดแสดงในงานนี้ด้วย
บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
มือถือ : + 66 86 989 9559
โทรศัพท์: +66 2-261-5500 Ext. 407
แฟกซ์: +66 2-261-5522
อีเมล: sappayasut.h@tatamotors.com
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 01, 2015, 02:11:29 PM
นิสสันสะท้อนผู้นำนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ ส่งรถยนต์ 3 รุ่นแรง ใหม่





          เอ็กซ์เทรล ไฮบริด, เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค และซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ ร่วมงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2558 พร้อมอัดโปรโมชั่นแรง ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดในงาน 10%
          บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ (Innovation that excites) เดินหน้านโยบายการขายและการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ส่งรถยนต์ 3 รุ่นใหม่ล่าสุด ทั้ง นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ เอสยูวี ไฮบริดที่ทรงพลังที่สุด, นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค กระบะพันธุ์แกร่ง 190 แรงม้า ด้วยดีไซน์สปอร์ตใหม่ ปรับโฉมเพิ่มอารมณ์สปอร์ตรอบคัน และ นิสสัน ซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ ใหม่ ที่สะดวกสบาย หรูหรา และให้สมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ตซีดาน เปิดตัวและจำหน่ายที่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 หรือ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ระหว่างวันที่ 2 ถึง 13 ธันวาคม 2558 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิทแพ็คเมืองทองธานี พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ โดยตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดในงาน 10%
          นายคะซุทากะ นัมบุ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า "ในฐานะบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก และผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 นิสสันยังคงสะท้อนให้ผู้มาเยี่ยมชมงาน ได้เห็นถึงความเป็นผู้นำเทคโนโลยีรถยนต์ที่เหนือชั้น มีสมรรถนะสูง ประสิทธิภาพและสามารถตอบสนองทุกการใช้งาน ทั้งยังให้ความสะดวกสบายกับทุกคนในห้องโดยสาร ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ และมีเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน โดยไฮไลต์ในงานนี้ นิสสันได้นำรถยนต์ 3 รุ่น ที่โดดเด่นใน คือ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่, นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค ใหม่, และนิสสันซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ มาเปิดตัวให้กับสาธารณชนอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจอย่างสูง เช่นเดียวกันกับรถยนต์อีโคคาร์รุ่นยอดนิยมของนิสสัน ทั้งมาร์ชและอัลเมร่า ที่นอกจากจะได้รับการปรับโฉมให้มีความสดใหม่ก่อนหน้านี้ โดยในงานครั้งนี้ นิสสันยังได้เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าผู้สนใจรถยนต์อีโคคาร์ทั้งสองด้วยสีพิเศษนั่นคิอ สีม่วงพลัม (Plum) ทีให้ความโฉบเฉี่ยว เร้าใจ อีกด้วย
          สำหรับนิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ ซึ่งเป็นรถเอสยูวีไฮบริดที่มีสมรรถนะสูง ตอบทุกโจทย์ความสมบูรณ์แบบของชีวิต ที่นิสสันภูมิใจนำเสนอให้ลูกค้าในครั้งนี้ มาพร้อมเทคโนโลยีเต็มพิกัด และมีราคาที่สมเหตุสมผล โดยมีให้เลือก 3 รุ่น ราคาเริ่มต้นตั้งแต่1,249,000 บาท ส่วนเทคโนโลยีที่โดดเด่นในรุ่นนี้ คือ เทคโนโลยี เพียวไดร์ฟไฮบริด ที่มาพร้อมระบบคลัทช์คู่อัจฉริยะ (Intelligence Dual Clutch System) เอกสิทธิ์เฉพาะของนิสสัน ที่ผสานทั้งด้านสมรรถนะและความสนุกสนานในการขับขี่ได้อย่างลงตัว สามารถให้กำลังและแรงบิดอย่างเยี่ยมยอดเหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร นับเป็นรถที่มีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่โดดเด่นที่สุดในคลาสโดยประหยัดกว่าเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ถึง 20% ทั้งยังสามารถขับเคลื่อนด้วยการทำงานของเครื่องยนต์ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าได้ที่ความเร็วสูงถึง 120 km/h ให้ความเงียบและความนุ่มนวลในการตัดต่อกำลัง ซึ่งนิสสันมีความมั่นใจในสมรรถนะทุกด้านของรถยนต์รุ่นนี้อย่างยิ่ง และเชื่อว่าลูกค้าจะประทับใจกับประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างเหนือระดับ ในเอ็กซ์เทรล ไฮบริด อย่างแน่นอน โดยเฉพาะลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม
          ทั้งนี้ภายในงาน นิสสันยังจะได้จัดแสดงการทำงานของเทคโนโลยี นิสสัน เพียวไดรฟ์ไฮบริด ผ่านแท่นเครื่องยนต์ตัวอย่างที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ผู้ชมงานได้เห็นการออกแบบและโครงสร้างของเทคโนโลยี "ไฮบริดคลัทช์คู่อัจฉริยะ" อย่างใกล้ชิด
          อีกหนึ่งไฮไลต์ของบูธนิสสัน ที่เชื่อว่าจะได้รับความสนใจอย่างสูง คือ การเปิดตัว นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค ใหม่เป็นครั้งแรก ซึ่งเสริมทัพมาเพื่อตอบสนองลูกค้าที่รอคอยและต้องการรถกระบะที่ให้อารมณ์สปอร์ตปราดเปรียวดุดันและมีความแรงที่เหนือชั้น โดยนิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงถึง 190 แรงม้า ขณะที่ดีไซน์ถูกปรับโฉม ให้มีความเท่ห์ทุกองศา ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าและกรอบไฟตัดหมอกสี Smoke Chrome พร้อมกับสเกิร์ตหน้าและบันไดข้างแบบสปอร์ต กันชนท้ายสี Smoke Chrome พร้อมสัญลักษณ์ Sportech มาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต 18" ลายใหม่, Sport Roll Bar พร้อมสัญลักษณ์ Sportech, เสาอากาศแบบ Shark Fin ยังคงช่วงล่าง Mono-frame chassis อันเป็นเอกลักษณ์ของนิสสันที่แข็งแกร่งตามมาตรฐานโลก เพิ่มความสะดวกสบายให้คุณทุกเส้นทางด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง เสริมความหรูสไตล์สปอร์ตด้วยเบาะหนังทูโทนที่ปรับได้ 8 ทิศทาง พวงมาลัยแบบ 3 ก้านและหัวเกียร์หุ้มหนัง พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ตอบรับทุกความสะดวกสบายครบครันได้อย่างลงตัว เช่น ปุ่มสตาร์ทพร้อมกุญแจอัจฉริยะ ระบบปรับอากาศแบบแยกอุณหภูมิซ้ายขวา ช่องแอร์ด้านหลังสำหรับผู้โดยสารแถวหลังให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายและผ่อนคลาย พร้อมกล้องมองหลังในทุกรุ่นเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยจากเทคโนโลยีเหนือระดับจากนิสสัน
          นิสสันยังเติมเต็มความสปอร์ตเร้าใจ ด้วยการนำรถยนต์นิสสัน ซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ ตอบสนองลูกค้าที่ต้องการรถยนต์แบบซีดานที่ให้ความหรูหรา แต่มีความสปอร์ตและแรงเร้าใจ โดยหลังจากเปิดตัวเมื่อกลางเดือนตุลาคม ได้รับเสียงตอบรับจากสื่อมวลชนเป็นอย่างดีในฐานะ "สปอร์ตหรูที่แรงเกินตัว" ให้สมรรถนะการขับขี่ที่แรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร จากเครื่องยนต์ MR16DDT ขนาด 1.6 ลิตร หัวฉีดไดเร็ค อินเจคชั่น ระบบวาล์วแปรผันคู่ พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่ให้กำลังได้สูงสุดถึง 190 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที โดยให้แรงบิดแบบต่อเนื่องสูงสุดถึง 240 นิวตันเมตร ในช่วงรอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 2,400-5,200 รอบ/นาที ขณะเดียวกันยังคงความหรูหรา สะดวกสบาย เช่นการติดตั้งซันรูฟควบคุมด้วยไฟฟ้า รวมถึงเสริมระบบความปลอดภัย ระบบควบคุมการขับขี่และทรงตัวต่างๆ อย่างครบครัน ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Dynamic Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System) ควบคู่ไปกับการทำงานของระบบเบรกป้องกันล้อล็อค, พร้อมถุงลมนิรภัย 6 จุดโดยเพิ่มถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Airbags) และ ม่านนิรภัยด้านข้าง (Curtain Airbags) พร้อมระบบล็อคประตูอัตโนมัติ เซ็นเซอร์ถอยจอดและกล้องมองหลัง
          "ทั้งนี้ ภายในงานนิสสันได้ยกขบวนรถนิสสันมาจัดแสดงรวมทั้งสิ้น 7 รุ่น 19 คัน ด้วยกัน ประกอบด้วย นิสสัน เทียน่า นิสสัน ซิลฟี ทั้งรุ่นใหม่ ดีไอจี เทอร์โบ และรุ่นเอสวีที่เพิ่มขึ้นใหม่ นิสสัน มาร์ช และ นิสสัน อัลเมร่า รถอีโค คาร์ ซีดาน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ที่มาพร้อมสีพิเศษ ครั้งแรกกับสีม่วงพลัม นิสสัน จู๊ค โตเกียวอิดิชั่น ผู้นำตลาดรถ ครอสโอเวอร์ด้วยคาแรคเตอร์แตกต่างไม่เหมือนใคร พร้อมชุดแต่งพิเศษ สั่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นอย่างมีสไตล์ถึง 10 ชิ้น นิสสัน เอ็กซ์เทรล ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ และนิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา ทั้งรุ่นธรรมดา และสปอร์ตเทค ใหม่"
          สำหรับบูธของนิสสัน ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 จัดแสดงภายใต้แนวคิดนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้น เร้าใจ หรือ Innovation that excites บนพื้นที่ 1,452 ตารางเมตร ถูกออกแบบภายใต้วงแหวนแห่งประสบการณ์ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ด้านดีไซน์ของบูธนิสสันทั่วโลก โดยภายในบูธนิสสัน ผู้ชมงานยังจะได้สัมผัสนวัตกรรมการใช้กลิ่นหอมของอโรมาที่กระจายอยู่โดยบริเวณรอบๆ ทำให้ผู้เข้าชมงานเกิดความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย ภายใต้บรรยากาศความคึกคักของงานภายในบูธนิสสันอีกด้วย
          "ในส่วนของโปรโมชั่นพิเศษ** ทางนิสสันได้เตรียมแคมเปญที่หลากหลาย ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า อาทิ ข้อเสนอพิเศษสำหรับ นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี, ฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง TOUGH PACKAGE (เฉพาะรุ่น) และยังสามารถเลือกรับข้อเสนอไม่ว่าจะเป็นดาวน์ต่ำสุด 19,999 บาท พร้อมฟรีค่าบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร หรือเลือกผ่อนต่อเดือนสบายๆ เริ่มต้นเพียง 3,999 บาท และถูกใจมากขึ้นด้วยข้อเสนอเพิ่มมูลค่ารถเก่าเมื่อแลกซื้อรถใหม่ (Trade-in bonus) สูงสุด 35,000 บาท หรือข้อเสนอพิเศษสำหรับ นิสสัน เอ็กซ์เทรล รวมทั้ง เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี และฟรี ค่าบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% และข้อเสนอพิเศษสุดเร้าใจสำหรับนิสสัน ซิลฟี รวมถึง ซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ* เลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% หรือฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี และผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,888 บาท และหลากหลายข้อเสนอที่ดีที่สุดแห่งปีกับนิสสันทุกรุ่น รวมทั้งเพิ่มความสบายใจให้กับลูกค้านิสสัน ด้วยเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ ที่ได้มาตรฐานพร้อมช่างผู้ชำนาญกว่า 213 แห่ง ครอบคลุม 77 จังหวัด ทั่วประเทศ"
          ผู้ที่สนใจรถนิสสันพร้อมข้อเสนอพิเศษ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธนิสสัน ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 2 ถึง 13 ธันวาคม 2558 หรือที่ผู้จำหน่ายรถยนต์นิสสันทั่วประเทศ หรือที่ Call Center หมายเลข 02 401 9600
          หมายเหตุ*อุปกรณ์มาตรฐานอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น ** ข้อเสนอเฉพาะรุ่น มีข้อกำหนดและเงื่อนไข
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 01, 2015, 02:18:55 PM
ฮอนด้า ตอกย้ำความสำเร็จของ เอชอาร์-วี ด้วยยอดจองกว่า 40,000 คัน นับตั้งแต่การเปิดตัว พร้อมแนะนำ เอชอาร์-วี ใหม่ ที่เพิ่มความคุ้มค่าและรองรับโครงสร้างภาษีใหม่







          บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำฮอนด้า เอชอาร์- วี ใหม่ ที่สุดแห่งยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม เพิ่มความคุ้มค่าด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ครบครันในทุกรุ่น พร้อมรองรับโครงสร้างภาษีใหม่ โดยเริ่มเปิดจองตั้งแต่วันนี้ และพร้อมส่งมอบให้แก่ลูกค้าต้นปี 2559
          นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในปัจจุบัน ลูกค้ามีความสนใจและหันมาใช้รถยนต์ในกลุ่มเอสยูวีมากยิ่งขึ้น เห็นได้จากกระแสการตอบรับที่ดีเยี่ยมที่มีต่อ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ด้วยยอดจองกว่า40,000 คัน นับตั้งแต่การเปิดตัว เมื่อปลายปี 2557 และได้ทำการส่งมอบไปแล้วกว่า 28,000 คันส่งผลให้ฮอนด้า เอชอาร์-วี ขึ้นแท่นผู้นำตลาดรถยนต์ครอสโอเวอร์หรือรถยนต์เอสยูวีโดยรวม และเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าในระดับคอมแพคท์และระดับที่สูงกว่า ฮอนด้า จึงได้แนะนำ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ ที่เพิ่มความคุ้มค่าด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม รวมถึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้รองรับกับโครงสร้างภาษีใหม่ที่จะส่งผลกระทบต่อราคาน้อยที่สุด"
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่มากยิ่งขึ้น เช่น เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น E, E Limited และ EL) และปรับเปลี่ยนอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มเติมในทุกรุ่น เช่น ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System) ระบบเครื่องเสียง หน้าจอสัมผัสขนาด 6.1นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ และล้ออัลลอยสไตล์สปอร์ตที่โดดเด่นในทุกมิติ
          ฮอนด้า เอชอาร์-วี ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของรถสปอร์ตอเนกประสงค์ หรือ เอสยูวี และได้เพิ่มความสปอร์ตปราดเปรียวในสไตล์รถสปอร์ตคูเป้ ผสานกับฟังก์ชั่นการใช้งานแบบอเนกประสงค์ในสไตล์รถมินิแวน รูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมรูปทรงตัวถังที่ปราดเปรียว พร้อมเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวรอบคัน ขนาดตัวถัง กว้าง 1,772 มม. ยาว 4,294 มม. และสูง 1,605 มม. ทำให้ ฮอนด้า เอชอาร์-วี เป็นยนตรกรรมที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการและทุกการใช้งานได้อย่างลงตัว
          การออกแบบภายในห้องโดยสาร เน้นความกว้างขวาง มอบความสะดวกสบายในสไตล์รถอเนกประสงค์ พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้ำสมัย พื้นที่ใช้สอยและพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายพร้อมตอบสนองทุกการใช้งานตามสไตล์รถมินิแวน ด้วยความจุ 565 ลิตร ซึ่งสามารถเก็บถุงกอล์ฟขนาดปกติได้ถึง 3 ใบ แม้ใช้งานเบาะที่นั่งด้านหลังในรูปแบบปกติ สะดวกสบายแก่ผู้ใช้งานในการเคลื่อนย้ายสัมภาระขนาดใหญ่ ด้วยระดับความสูงที่พอเหมาะกับความกว้างของฝากระโปรงท้ายขณะเปิดที่ 1,180 มิลลิเมตร มาพร้อมเบาะนั่งอเนกประสงค์ที่สามารถปรับพับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Utility Mode, Tall Mode และ Long Mode เพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน
          ฮอนด้า เอชอาร์-วี ยังเปี่ยมด้วยสมรรถนะอันทรงพลังของเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300รอบต่อนาที มาพร้อมกับระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม มอบอัตราเร่งที่ดีเยี่ยมและการประหยัดน้ำมันที่เป็นเลิศ อีกทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85
ครบครันด้วยอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยระดับพรีเมียมในทุกรุ่น อาทิ
          · ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ที่ใช้งานง่ายเพียงดึงสวิตช์ที่คอนโซลกลางขึ้นเมื่อต้องการใช้เบรกมือ
          · ระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold) ที่จะทำการหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติหลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง ช่วยป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้
          · ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
          · ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
          · ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
          · สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
          · กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera)
          · ระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมด้านคนขับอัจฉริยะ (i-SRS) ถุงลมด้านผู้โดยสารด้านหน้า (SRS) และถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ (i-Side Airbags) ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags) (เฉพาะรุ่น E Limited และ EL) เพื่อเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่
          ทั้งนี้ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ พร้อมเปิดรับจองภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 (Motor Expo2015) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 ณ บูธฮอนด้า A14 ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และพร้อมกันกับโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ โดยมีจำหน่าย 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น S ราคา933,000 บาท รุ่น E ราคา 999,000 บาท รุ่น E Limited ราคา 1,050,000บาท และรุ่น EL ราคา1,099,000 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก), สีขาวออร์คิด (มุก), สีน้ำเงินมอร์ฟโฟ (มุก), สีเทารูสแบล็ค (เมทัลลิก), และ 1 สีใหม่ คือ สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) ซึ่งจะพร้อมทำการส่งมอบให้แก่ลูกค้าภายในต้นปี 2559
         
          หมายเหตุ: - อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
          - สีน้ำเงินมอร์ฟโฟ (มุก) มีจำหน่ายเฉพาะรุ่น E, E Limited และ EL
          - สีดำคริสตัล (มุก) และ สีน้ำเงินมอร์ฟโฟ (มุก) เพิ่มเงิน 6,000 บาท
          - สีขาวออร์คิด (มุก) เพิ่มเงิน 10,000 บาท
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 01, 2015, 03:27:15 PM
TPS บุก Motor Expo 2015 เตรียมแนะนำ 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่



TPS บุก Motor Expo 2015 เตรียมแนะนำ 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ULGO Armor Series Liquid Spray film, ULGO LUXURY และ Scholl Marine พร้อมจัดหนักโปรโมชั่นสุดคุ้ม เคลือบแก้ว ติดฟิล์มคุณภาพสูง แบรนด์เยอรมัน Huper Optik เอาใจลูกค้าส่งท้ายปี ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจ Car Detailing มั่นใจกระแสตอบรับล้นหลาม

นายชัยชาญ อุปพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร The Perfect Shine หรือ TPS ผู้นำในธุรกิจ Car Detailing ทั้งงานบริการและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่2-13 ธ.ค.นี้ TPS จะนำบริการ ผลิตภัณฑ์ และโปรโมชั่นต่างๆ เข้าร่วมแสดงในงาน มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 Motor Expo 2015 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ IMPACT Challenger 1-3 เมืองทองธานี บูธหมายเลข L04-05-06 โซน Challenger 3

ทั้งนี้ TPS จะนำผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดไปเปิดตัวภายในงาน พร้อมแนะนำกับกลุ่มลูกค้าและผู้สนใจ ประกอบด้วย ULGO Armor Series Liquid Spray film สเปรย์ Wrapรถยนต์ เทคโนโลยีล่าสุดจากประเทศญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องรถยนต์จากรอยขีดข่วน สะเก็ดหิน ULGO LUXURY ผลิตภัณฑ์เคลือบแก้วรถยนต์ระดับ Luxury สร้างความเงางามพร้อมการปกป้องที่แตกต่างจากน้ำยาเคลือบแก้วทั่วไปในท้องตลาด และ Scholl Marine ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาพื้นผิวสำหรับเรือ เจ็ทสกี คุณภาพสูง จากประเทศเยอรมันนี

นอกจากนี้ยังมีการจัดโปรโมชั่นต่างๆ สำหรับผู้ที่สนใจการเคลือบแก้วรถยนต์ และบิ๊กไบค์ รวมถึงติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ คุณภาพสูงจากประเทศเยอรมันนี แบรนด์ Huper Optikประกอบด้วย Promotion Glass Coating Discount 40% แถม Voucher Premium Wash 6 ครั้งมูลค่า 6,000 บาท และ BIGBIKE Discount 20% แถมเคลือบหมวกกันน๊อคฟรี 1 ชิ้น / Promotion Film Huper Optik รับส่วนลดสูงสุด 8,000 บาท ผ่อน 0% ระยะเวลา 10 เดือน ซึ่งลูกค้าที่ซื้อแพคเกจโปรโมชั่นต่างๆภายในงานสามารถใช้บริการได้ที่ TPS สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน และร้านตัวแทนจำหน่าย

"การเข้าร่วมงาน Motor Expo ในครั้งนี้ TPS ค่อนข้างมั่นใจว่าจะมีการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาชมงาน ซึ่งเราได้จัดโปรโมชั่นพิเศษต่างๆไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการสมนาคุณและเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ใช้รถยนต์ บิ๊กไบค์ เรือ เจ็ทสกี ได้มีโอกาสทดลองใช้ผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพสูงในการดูแล ปกป้องยานพาหนะประเภทต่างๆ ขณะเดียวกันยังได้มีการคัดสรรผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเข้ามาแนะนำ เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำงานบริการ Car Detailing อย่างครบวงจรของ TPS ด้วยเช่นกัน" นายชัยชาญ กล่าว
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 08:32:16 AM
สิ้นสุดการรอคอย! ฮอนด้าส่งมอบความเอ็กไซท์ เปิดตัวบิ๊กไบค์New 500Series รวดเดียว 3 รุ่น







สิ้นสุดการรอคอย! ฮอนด้าส่งมอบความเอ็กไซท์ เปิดตัวบิ๊กไบค์New 500Series รวดเดียว 3 รุ่น แถมสร้างความฮือฮาด้วยการเผยโฉม All New Honda Africa Twin สุดยอดแอดเวนเจอร์ไบค์ เปิดให้คนไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรกในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2015

เอ.พี.ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ในประเทศไทยโหมรุกตลาดรถใหญ่ส่งท้ายปีด้วยการเปิดตัวโมเดลใหม่ในตระกูล 500Series พร้อมกันทีเดียว 3 รุ่น ได้แก่ New Honda CBR500R, New Honda CB500F, New Honda CB500X พร้อมกับเผยโฉม All New Honda Africa Twin สุดยอดแอดเวนเจอร์ไบค์ให้คนไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรกภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2015 ที่บูธ G04 อิมแพค ชาลเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 2 ถึง 13 ธันวาคม 2558

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ในประเทศไทยเปิดเผยว่า "ตลาดรถบิ๊กไบค์ในเมืองไทยปี 2015 ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยอดจดทะเบียนในช่วง 11 เดือนแรกของปีอยู่ที่ประมาณ 18,400 คัน เติบโตขึ้นประมาณ 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่ฮอนด้าบิ๊กไบค์มียอดจดทะเบียนมากกว่า 6,300 คัน เติบโตขึ้นประมาณ 32% ครองความเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 34% โดยประมาณ"

"ความครบวงจรในตัวสินค้าคือกุญแจสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้รถฮอนด้าบิ๊กไบค์ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในเมืองไทย แต่เราก็ยังไม่หยุดส่งมอบประสบการณ์ระดับโลกให้กับลูกค้า เช่นเดียวกับในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งนี้ เราได้เปิดตัวบิ๊กไบค์โฉมใหม่ของตระกูล 500Series Unrestricted Riding รวม 3 รุ่น ประกอบด้วย New Honda CBR500R, New Honda CB300F, New Honda CB500X ซี่งถูกรีดีไซน์ให้มีความโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ มีสมรรถนะที่โดดเด่น และความปลอดภัยเหนือระดับ เพื่อให้ลูกค้าฮอนด้าบิ๊กไบค์ทุกท่านได้ขับขี่รถอย่างสนุกและมั่นใจ โดยประเทศไทยยังถือเป็นประเทศแรกของโลกที่เปิดรับจองรถทั้ง 3 รุ่นนี้อีกด้วย"

"พร้อมกันนี้ เรายังได้นำ All New Honda Africa Twin บิ๊กไบค์ทางฝุ่นที่มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ในฐานะแชมป์แรลลี่หฤโหด Dakar Rally 4 สมัยมาให้คนไทยได้สัมผัสกันเป็นคร้งแรก โดย All New Honda Africa Twin ได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะที่สูงขึ้นยิ่งกว่าเดิมตามสไตล์รถแอดเวนเจอร์ยุคใหม่ที่เน้นใช้งานได้ทั้งบนทางฝุ่นและทางเรียบภายใต้รหัส CRF1000L ถือเป็นตัวท็อปของตระกูล CRF ทั้งหมด มีดีไซน์โดดเด่น แข็งแกร่งและทรงพลังด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยของฮอนด้า ลุยไปได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นออฟโรดหรือทัวริ่ง หรือแม้กระทั่งการขับขี่ในชีวิตประจำวัน โดย All New Honda Africa Twin จะเปิดรับจองในช่วงต้นปีหน้า"

สำหรับ New Honda CBR500R บิ๊กไบค์สปอร์ตฟูลคาว ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งคัน แฟริ่งให้ความดุดันและปราดเปรียวทุกมุมมอง ไฟหน้าคู่และไฟท้าย แบบ LEDเบาะนั่งแบบแยกส่วนชัดเจน พร้อมกับด้านท้ายที่สั้นลงเพื่อความเป็นสปอร์ตเต็มขั้น มีให้เลือก 3 สีได้แก่สีดำแมตกันพาวเดอร์แบล็คเมทัลลิค, สีแดงมิลเลนเนียมเรด, สีเทาอินดี้เกรย์เมทัลลิค

New Honda CB500F บิ๊กไบค์แบบเนคเกด ออกแบบใหม่ทั้งคัน เผยให้เห็นเครื่องยนต์และเฟรมรถมากขึ้น ไฟหน้าใหม่แบบ LED ให้ความดุดัน ไฟท้ายแบบ LEDเบาะซ้อนท้ายแบบแยกส่วน มีให้เลือก 3 สีได้แก่ สีส้มแคนดีเอเนอร์จีออเรนจ์, สีดำแมตกันพาวเดอร์แบล็คเมทัลลิค, และสีเลมอนไอซ์เยลโลว์

New Honda CB500X บิ๊กไบค์แบบแอดเวนเจอร์มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ดูปราดเปรียวยิ่งขึ้น ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่แบบ LED พร้อมวินด์ชีลด์ที่สูงขึ้นกว่าเดิม มีให้เลือกทั้งสิ้น 4 สี ได้แก่สีแดงมิลเลนเนียมเรด, สีน้ำตาลแมตเฟรสโกบราวน์, สีขาวแมตเพิร์ลซัมมิทไวท์, และสีดำแมตกันพาวเดอร์แบล็กเมทัลลิค

ทั้ง 3 รุ่นขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ 2 สูบ DOHC ขนาด 500ccระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมกลไกการเปลี่ยนเกียร์แบบใหม่ที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลขึ้น เสริมความมั่นใจด้วยระบบเบรก ABS และกุญแจแบบ Wave Key ฝังชิพพิเศษป้องกันการโจรกรรม โช้คหน้าใหม่เพิ่มระบบ Preload Adjuster ปรับระดับได้สำหรับการรองรับน้ำหนักหลากหลายรูปแบบ ก้านเบรกหน้าปรับได้ 5 ระดับเพื่อความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ในรุ่น New CBR500R และ CB500F ยังได้ติดตั้งท่อไอเสียดีไซน์ใหม่ที่มีความสปอร์ตเต็มตัวและให้เสียงที่นุ่มนวลขึ้นอีกด้วย

ฮอนด้าพร้อมเปิดรับจองรถใหม่ในตระกูล 500Series ในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลกภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2015 เริ่มจาก New Honda CBR500Rราคา 215,000 บาท, New Honda CB500F ราคา 210,000 บาท, และ New Honda CB500X ราคา 220,000 บาท ด้วยข้อเสนอพิเศษดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 3.75% เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อฮอนด้าบิ๊กไบค์ตระกูล 650Seriesรับทันทีคูปองเงินสดมูลค่า 10,000 บาทสำหรับซื้อสินค้าและบริการในศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิง และสำหรับผู้ที่ซื้อรถนำเข้าทุกคันรับฟรีประกันภัยชั้น 1 ทะเบียน และพรบ. วันนี้ถึง13 ธันวาคมนี้เท่านั้น

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและข่าวสารของฮอนด้าบิ๊กไบค์ได้ที่เว็บไซต์www.hondabigbike.com พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆได้ที่แฟนเพจของฮอนด้าบิ๊กไบค์ www.facebook.com/HondaBigBike และอินสตราแกรม IG:HondaBigBike
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 08:32:48 AM
ปตท. ตอกย้ำความเป็น PTT Life Station พร้อมเชิญชวนซื้อน้ำมันหล่อลื่นคุณภาพราคาพิเศษลดสูงสุดถึง 40% ในงาน MOTOR EXPO 2015

          พร้อมสัมผัสบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ปตท. โฉมใหม่ ที่ทันสมัย ใช้งานได้สะดวกจนหยดสุดท้าย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งยังสามารถสมัครสมาชิก PTT Blue Cardบัตรสะสมคะแนนเพื่อใช้แทนเงินสดได้ทันที ณ บูธ ปตท. อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 13 ธันวาคม 2558

          นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานเปิดบูธ ปตท. ร่วมกับ นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานบริษัท สื่อสากล จำกัด ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 หรือ MOTOR EXPO 2015 โดยในปีนี้ ปตท. ได้นำผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นคุณภาพสำหรับรถยนต์ทุกประเภทในบรรจุภัณฑ์โฉมใหม่ มาจำหน่ายแก่ผู้ร่วมงานในราคาลดพิเศษสูงสุดถึง 40% โดยบรรจุภัณฑ์ใหม่นี้ ช่วยให้ผู้บริโภคใช้งานได้สะดวกขึ้น ที่สำคัญยังลดปริมาณการใช้เม็ดพลาสติกลงได้ถึง 8-12% หรือ 300,000 กิโลกรัมต่อปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้กว่า 480,000 กิโลกรัมต่อปี ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ปตท. ครองส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับ 1 ในประเทศต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 และมีจำหน่ายแล้วใน 33 ประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวแทนคนไทยที่ออกไปสร้างความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงในคุณภาพสินค้าของประเทศไทยในตลาดสากล ภายใต้แนวคิด The Moving Innovation และด้วยกลยุทธ์การตลาด NEXT…Forward ที่มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ควบคู่กับการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ด้วยช่องทางและบริการที่หลากหลาย

          นอกจากนั้น ผู้ร่วมงาน MOTOR EXPO 2015 ทุกคนยังสามารถร่วมสมัครเป็นสมาชิกบัตร PTT BLUE CARD บัตรสะสมคะแนนเพื่อใช้แทนเงินสด แลกของรางวัล และรับสิทธิพิเศษมากมาย ทั้งในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. และร้านค้าที่ร่วมรายการ พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมมากมาย อาทิ กิจกรรมตกแต่งตุ๊กตาก๊อดจิแฟมิลี่ DIY การเล่นเกมส์ตอบปัญหาชิงรางวัล เป็นต้น

          ทั้งนี้ นอกจากการมอบส่วนลดพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นในงาน MOTOREXPO 2015 แล้ว ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ปตท. ยังได้จัดแคมเปญพิเศษ "ปตท.จัดหนัก อเมซอนจัดเต็ม แจกทอง 12 ล้าน" เพื่อคืนกำไรให้ลูกค้าต้อนรับเทศกาลปีใหม่ โดยเมื่อเติมน้ำมันชนิดใดก็ได้ครบทุก 600 บาท หรือซื้อสินค้าที่คาเฟ่ อเมซอน ครบ 50 บาทขึ้นไปต่อ 1 ใบเสร็จ ก็มีสิทธิ์ส่งคูปองหรือใบเสร็จไปร่วมลุ้นชิงทองคำมูลค่ารวมกว่า 12 ล้านบาทได้ทันทีจนถึงวันที่ 3 มกราคม 2559 ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. และร้านคาเฟ่ อเมซอนที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 08:33:38 AM
ฮอนด้า เผยโฉม บีอาร์-วี แอคทีฟสปอร์ตครอสโอเวอร์ใหม่ ครั้งแรกอย่างไม่เป็นทางการ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32







          บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยการเผยโฉมครั้งแรกอย่างไม่เป็นทางการของฮอนด้า บีอาร์-วี แอคทีฟสปอร์ตครอสโอเวอร์ใหม่ ซึ่งจัดแสดงร่วมกับยนตรกรรมฮอนด้าอีก12 รุ่น รวม19 คัน ภายใต้แนวคิด "Ignite Your Drive" หรือ "จุดประกายความเร้าใจแห่งการขับขี่ในแบบที่เป็นคุณ" ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 ระหว่าง วันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 ณ บูธA14 ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
          นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในปีนี้ฮอนด้านำเสนอบูธภายใต้แนวคิด "Ignite Your Drive" หรือ"จุดประกายความเร้าใจแห่งการขับขี่ ในแบบที่เป็นคุณ" เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสกับยนตรกรรมอันล้ำสมัยและมีเอกลักษณ์จากฮอนด้าที่ครอบคลุมทุกความต้องการและตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัวในแบบที่เป็นคุณ ซึ่งไฮไลต์สำคัญในงานนี้ ได้แก่ ยนตรกรรมสปอร์ตอเนกประสงค์ที่นำเสนอได้ครอบคลุมยิ่งขึ้นในทุกระดับ เริ่มด้วย ฮอนด้า ซีอาร์-วี ยนตรกรรมเอสยูวีที่ให้ทั้งความหรูหรา และการขับขี่อย่างมีระดับ และอีกหนึ่งยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม ฮอนด้า เอชอาร์-วี ที่มีกระแสตอบรับที่ดีมากด้วยยอดจองกว่า 40,000 คัน นับตั้งแต่การเปิดตัว และล่าสุด ฮอนด้า บีอาร์-วี ยนตรกรรมแอคทีฟสปอร์ตครอสโอเวอร์ใหม่ ที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าระดับคอมแพคท์และซับคอมแพคท์ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งสไตล์สปอร์ต พร้อมช่วงล่างยกสูงตอบรับทุกเส้นทางท้าทาย ทั้งยังเป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกในระดับนี้ที่นำเสนอเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งทุกท่านจะได้สัมผัสเป็นครั้งแรกภายในงานนี้ ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้า"
          ฮอนด้า บีอาร์-วี มาพร้อมความโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อมไฟหรี่แบบ LEDและไฟท้าย LED รูปตัว C เสริมความแข็งแกร่งด้วยล้ออัลลอยใหม่ ขนาด 16 นิ้ว เปี่ยมด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน ที่ 4,700 รอบต่อนาที มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เต็มประสิทธิภาพ และประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85 สะดวกสบายด้วยพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง มีให้เลือกทั้งแบบเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่ปรับพับได้หลากหลายรูปแบบ และเบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง ให้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายพร้อมตอบโจทย์การใช้งานได้ในทุกรูปแบบ พร้อมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังที่ติดตั้งอยู่ระหว่างเบาะนั่งแถวที่ 1 และแถวที่ 2 เพื่อกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง ติดตั้งฟังก์ชั่นและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย พร้อมให้ความอุ่นใจในทุกการเดินทางด้วยมาตรฐานความปลอดภัยที่เหนือระดับและครบครัน อาทิ ระบบถุงลมคู่หน้า ระบบป้องกันล้อล็อก(ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัว (VSA) และระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิตอล ฮอนด้า ยังได้เปิดให้ดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์ไลน์ บีอาร์-วี ฟรี กับ 16 คาแรกเตอร์ ที่สื่อแทนอารมณ์ได้ไม่ซ้ำแบบใคร ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
          นอกจากนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น ฮอนด้า จึงแนะนำ เอชอาร์-วี ใหม่ ซึ่งมาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่มากยิ่งขึ้น เช่น เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า8 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น E, E Limited และ EL) และปรับเปลี่ยนอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มเติมในทุกรุ่น เช่น ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ และล้ออัลลอยสไตล์สปอร์ตที่โดดเด่นในทุกมิติ อีกทั้งยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อรองรับโครงสร้างภาษีใหม่ที่จะส่งผลกระทบต่อราคาน้อยที่สุด โดยเอชอาร์-วี ใหม่ พร้อมที่จะส่งมอบให้กับลูกค้าภายในต้นปีหน้า
          ภายในงาน ฮอนด้ายังได้มอบแคมเปญสุดพิเศษและข้อเสนอที่แตกต่างกันสำหรับรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่น และพบกับข้อเสนอเดียวกันนี้ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31ธันวาคม 2558 อาทิ
          · แคมเปญ ฮอนด้า...ออกให้ โดยฮอนด้าช่วยออกค่าผ่อนให้เดือนละ 1,000 บาท นาน12 เดือน สำหรับรถยนต์ฮอนด้า ซิตี้, ซิตี้ ซีเอ็นจี, แจ๊ซ และ โมบิลิโอ (เมื่อผ่อนชำระแบบประเภทเช่าซื้อกับบริษัทฯ ที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ ฮอนด้า ลีซซิ่ง, ลีซซิ่ง กสิกรไทย,ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารธนชาติ)
          · ฮอนด้า บริโอ้, บริโอ้ อเมซ, ซีวิค และแอคคอร์ด ไฮบริด ดอกเบี้ย 0% พร้อมฟรีประกันภัย (สำหรับผู้ที่ซื้อ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด รับฟรี แพคเกจท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ 6 วัน 4 คืน สำหรับ 2 ท่าน มูลค่ารวม 160,000 บาท)
          · ฮอนด้า ซิตี้, ซิตี้ ซีเอ็นจี และแอคคอร์ด ดอกเบี้ย 0%
          · ฮอนด้า ซีอาร์-วี ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%
          · ฮอนด้า โมบิลิโอ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.29%
          · ฮอนด้า แจ๊ซ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.59%
          · พิเศษ ออกรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่น รับฟรี "ฮอนด้า อัลติเมท แคร์" ขยายระยะเวลารับประกันออกไปเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (จากเดิม 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร) และขยายเวลาการบริการช่วยเหลือนอกสถานที่ตลอด 24 ชั่วโมง ออกไปเป็น 5 ปี เช่นกัน
          ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธฮอนด้าภายในงาน หรือที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือ www.honda.co.th
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 08:34:26 AM
Honda unveils the New “Honda BR-V”, an Active Sport Crossover Its First Preview at the 32nd Thailand International Motor Expo







          Honda Automobile (Thailand) Co., Ltd.reiterates its leadership in automobile innovation for all lifestyle preferences with its first preview of the new Honda BR-V, an active sport crossover vehicle, exhibiting together with 12 models with a total 19 units under the concept of "Ignite Your Drive" at the 32nd Thailand International Motor Expo, which runs from December 2nd until 13th, 2015 at booth No. A14 in Challenger Hall 2, IMPACT Muang Thong Thani.

          Mr. Pitak Pruittisarikorn, Chief Operating Officer of Honda Automobile (Thailand) Co., Ltd., said, "This year, Honda booth concept is "Ignite Your Drive" to let you experience our advanced automobiles filled with unique Honda characteristics that complete coverage of your needs and perfectly fulfills your lifestyle preferences.The highlights are the sport utility vehicles that cover SUV categories in all segment; Honda CR-V, a luxurious and elegant SUV, Honda HR-V, a premium sport crossover that received a highly favorable response with orders exceeding 40,000 units since its launching date, and the latest Honda BR-V, an active sport crossover that fit with all active lifestyles of the new generation, especially customers in compact and sub-compact segments. Honda BR-V stands out with its sturdy exterior, sporty look, and high ground clearance that make it ready to challenge all paths. This is the first SUV in its class to offer seven seats in three rows. It is being unveiled to you for the first time today before its official launch early next year.

          The all-new Honda BR-V looks distinctively sporty with its projector headlights with LED Position Lamp, LED tail lights in C shape design, and new 16-inch aluminum alloy wheels. The BR-V is powered by a 1.5-liter SOHC, 4-cylinder, 16-valve i-VTEC engine that delivers 117 horsepower at 6,000 rpm and maximum torque of 146 Newton-meters at 4,700 rpm, plus a new Continuously Variable Transmission (CVT) developed under Honda's "Earth Dreams Technology" to deliver powerful driving performance and fuel efficiency. The engine is compatible with E85 fuel. The interior design features a spacious and comfortable cabin with two seating styles designed for versatile uses: seven seats in three rows with multi-adjustable functions, and five seats in two row configuration with large utility space. It is also equipped an automatic air-conditioning system and rear-passenger air vents between front and second row seats to distribute air flow to all zones of the cabin. The new active sport crossover is fully equipped with advanced functionalities, convenience features along with high-standard safety systems such as dual SRS airbag, Anti-lock Braking System (ABS) and Electronic Brake Distribution (EBD), Vehicle Stability Assist (VSA)and Hill Start Assist (HAS). To respond to the digital lifestyle today, Honda also introduced the all-new Honda BR-V's Line stickers for free download, coming with 16 characters that portray various moods.

          In further response to the demand of customers, Honda would like to introducethe new Honda HR-V which is equipped with modern functionalities for maximum comfort in all variants, such as 8-way electrically-adjustable driver's seat (available with E, E Limited and EL variants) and upgraded standard equipment in all variants i.e. the Paddle Shift and the Cruise Control System, 6.1-inch Display Audio that support smart phone connectivity and a Multi-angle Rearview Camera with three-level adjustment. This new model also stands out with its sporty alloy wheels in all variants. The new HR-V has a product development to minimize impacts on its retail prices under the new tax rates. It can be delivered early next year.

          Honda booth at the event and all Honda dealers nationwide are offering special campaigns for all models that will make ownership of Honda cars much easier for our customers from now until 31 December 2015 such as;

          Honda offers 1,000 baht/month installment for 12 months consecutively for Honda City, City CNG, Jazz and Mobilio (installment to participating leasing companies including Honda Leasing (Thailand) Co., Ltd. (HLTC), Kasikorn Leasing Co., Ltd. (KLeasing), Bank of Ayudhya Pcl., and Thanachart Bank)The Brio, Brio Amaze, Civic and Accord Hybrid come with 0% interestplus free car insurance (Honda Accord Hybrid: Free 6-day-4-night Switzerland package tour for 2 persons valued at 160,000 baht)The City, City CNG and Accord come with 0% interestThe CR-V comes with 0.99% special interest rateThe Mobilio comes with 1.29% special interest rate The Jazz comes with 1.59% special interest rateSpecial offers for all Honda models, get free "Honda Ultimate Care"extended warranty program to 5 years or 140,000 km. (from previous offer of three-year or 100,000 km.) as well as extended 5 years of 24-hour emergency roadside assistance.

          For further information and updates, please visit Honda booth at the 32ndThailand International Motor Expo 2015 or Honda dealers nationwide orwww.honda.co.th
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 08:35:11 AM
รอยัล เอนฟิลด์ พร้อมเปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ Motor Expo 2015





          รอยัล เอนฟิลด์ แบรนด์รถจักรยานยนต์ที่มียอดขายเติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก เตรียมประกาศการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ในงานมหกรรมยานยนต์ Thailand International Motor Expo 2015 ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคม 2558 ด้วยวิสัยทัศน์ในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (เครื่องยนต์ 250-750 ซีซี) โดย รอยัล เอนฟิลด์ เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและมีการขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก ทั้งในสหราชอาณาจักร ยุโรป ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียใต้

          รอยัล เอนฟิลด์ จะยกทัพรถจักรยานยนต์และอุปกรณ์เสริมมาจัดแสดงอย่างครบครัน ในงานมหกรรมยานยนต์ Motor Expo 2015 โดยประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดที่รอยัล เอนฟิลด์ ให้ความสำคัญ เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นงานอดิเรก อีกทั้งยังมีภูมิประเทศที่สวยงามและเหมาะสำหรับการขับขี่เพื่อท่องเที่ยว ซึ่งรถจักรยานยนต์อเนกประสงค์ในสไตล์คลาสสิกของรอยัล เอนฟิลด์ สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีกลุ่มลูกค้าที่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางระหว่างบ้านและที่ทำงาน ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีศักยภาพที่จะขยายตัวตามความต้องการของลูกค้าที่อยากเปลี่ยนไปใช้รถจักรยานยนต์ขนาดกลางที่มีเครื่องยนต์ 250-750 ซีซี

          ทั้งนี้ รอยัล เอนฟิลด์ นับเป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงทำตลาดอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2444 ที่เมืองเรดดิทช์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งในสมัยนั้นผู้คนนิยมใช้รถจักรยานยนต์ที่มีเครื่องยนต์ที่ดีและดูแลรักษาง่าย ซึ่งรอยัล เอนฟิลด์ ประสบความสำเร็จในการนำเสนอรถที่มีดีไซน์แบบโมเดิร์นคลาสสิค ขับขี่ง่าย และไม่ล้าสมัย แม้ว่าปัจจุบันแบรนด์รอยัล เอนฟิลด์ จะได้รับการพัฒนาให้ดูทันสมัยมากขึ้น แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์สายพันธุ์อังกฤษไว้ ด้วยดีไซน์ที่มีกลิ่นอายคลาสสิค แต่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุคร่วมสมัยได้อย่างลงตัว โดยปัจจุบันรอยัล เอนฟิลด์ เป็นส่วนหนึ่งของ ไอเคอร์ มอเตอร์ส ลิมิเต็ด (Eicher Motors Ltd) หนึ่งในผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศอินเดีย

          ทุกท่านสามารถเยี่ยมชมรถจักรยานยนต์และอุปกรณ์เสริมจาก รอยัล เอนฟิลด์ ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ได้ที่บูธH05 ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 08:35:44 AM
รอยัล เอนฟิลด์ เตรียมยกทัพรุกตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในไทย



          แบรนด์รถจักรยานยนต์ระดับตำนาน จากประวัติศาสตร์กว่า 114 ปี เปิดตัวสู่ตลาดไทยในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 เตรียมเปิดโชว์รูมแห่งแรกในกรุงเทพฯ เร็ว ๆ นี้

          รอยัล เอนฟิลด์ แบรนด์รถจักรยานยนต์ที่มียอดขายเติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก ประกาศการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมเผยวิสัยทัศน์ทางธุรกิจ ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ภายใต้กลยุทธ์สร้างการเติบโตและมุ่งเน้นความเป็นผู้นำระดับโลกในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (เครื่องยนต์ 250-750 ซีซี) ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยรอยัล เอนฟิลด์ เป็นแบรนด์จักรยานยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงทำตลาดอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน จากประวัติศาสตร์ที่ยาวนานนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2444 ที่เมืองเรดดิทช์ ประเทศอังกฤษ ปัจจุบัน รอยัล เอนฟิลด์ เป็นรถจักรยานยนต์สายพันธุ์อังกฤษระดับไอคอนนิค ในเครือของ ไอเคอร์ มอเตอร์ส ลิมิเต็ด ผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศอินเดีย

          มร.อรุณ โกปาล ประธานฝ่ายธุรกิจต่างประเทศของรอยัล เอนฟิลด์ กล่าวว่า "วงการจักรยานยนต์สำหรับผู้รักการขับขี่เป็นงานอดิเรก หรือ Leisure Motorcycling ในยุคนี้ ได้หันไปพัฒนารถที่เน้นความใหญ่และความแรงกันมาก ทำให้ผู้บริโภคเริ่มมองหารถจักรยานยนต์ที่เป็นเจ้าของได้ง่ายและดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก ซึ่งรอยัล เอนฟิลด์ เชื่อว่าเราพร้อมตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว ด้วยรถจักรยานยนต์ที่มีดีไซน์แบบโมเดิร์น คลาสสิค ซึ่งเรียบง่าย ไม่ล้าสมัย มีเสน่ห์ และขับขี่ได้สนุก เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสถึงประสบการณ์ในการขับขี่อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นบนท้องถนนในเมือง การขับขี่ไปท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน หรือการขับขี่ตามเส้นทางผจญภัย อีกทั้งยังเหมาะสำหรับทั้งผู้ขับขี่มือใหม่และผู้ที่มีความชำนาญ รถจักรยานยนต์รอยัล เอนฟิลด์ มีการผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เข้ากับคุณภาพในการผลิตที่ยอดเยี่ยม เพื่อสร้างสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างผู้ขับขี่ ตัวรถ และพื้นถนน ผู้ใช้จึงได้รับประสบการณ์ขับขี่ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร"

          รอยัล เอนฟิลด์ ได้นำรถจักรยานยนต์สุดคลาสสิคหลากรุ่น พร้อมทั้งอุปกรณ์เสริมล่าสุด และเครื่องแต่งกาย มาจัดแสดงในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งนี้ ได้แก่
          รถระดับตำนาน รุ่น บุลเล็ต 500 ซีซี
          รถสไตล์เรโทร รุ่น คลาสสิก 500 ซีซี และ คลาสสิก โครม
          รถสไตล์คาเฟ่ เรเซอร์ รุ่น คอนติเนนทัล จีที (535 ซีซี)

          มร.อรุณ กล่าวเสริมเกี่ยวกับความคาดหวังในประเทศไทย ว่า "ที่ผ่านมา รอยัล เอนฟิลด์ ถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในอินเดีย และประสบความสำเร็จด้วยอัตราการเติบโตต่อปีสูงถึง 50% ตลอดช่วงห้าปีที่ผ่านมา เราจึงมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำที่ผลักดันตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางซึ่งยังไม่ค่อยได้รับความสนใจ ให้มีการเติบโตทั่วโลก โดยขับเคลื่อนในตลาดสำคัญทั้งอินเดีย ลาตินอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีปัจจัยบวกด้วยขนาดของตลาดและจำนวนผู้เดินทางระหว่างบ้านและที่ทำงานในแต่ละวัน สำหรับในประเทศไทยเองก็มีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการขับรถจักรยานยนต์เป็นงานอดิเรกเป็นจำนวนมาก และมีการรวมตัวเป็นชุมชนของคนที่มีความสนใจร่วมกัน จึงเหมาะอย่างยิ่งที่รอยัล เอนฟิลด์ จะเข้ามาเติมเต็มความต้องการในตลาดนี้ ด้วยหัวใจหลักของแบรนด์ก็คือการผจญภัยและการออกเดินทางเพื่อค้นหา"

          "ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงเป็นตลาดที่รอยัล เอนฟิลด์ ให้ความสำคัญอย่างมาก นอกจากนี้ยังถือเป็นตลาด Leisure Motorcycling ที่ก้าวหน้ามากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญประเทศไทยยังมีผู้เดินทางระหว่างบ้านและที่ทำงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากมีทางเลือกใหม่เข้ามา ก็มีโอกาสสูงที่จะลูกค้าจะเปลี่ยนมาใช้รถจักรยานยนต์ที่มีคุณภาพดีขึ้น ซึ่งรถจักรยานยนต์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิกของรอยัล เอนฟิลด์ ก็พร้อมเข้ามาเติมเต็มความต้องการดังกล่าว และกระตุ้นความสนใจรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในไทยให้เพิ่มมากขึ้น" มร.อรุณ กล่าว

          นายณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ กรรมการบริหาร บริษัท เจเนอรัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และผลิตภัณฑ์รอยัลเอนฟิลด์อย่างเป็นทางการรายแรกในประเทศไทย กล่าวว่า "เรามองเห็นโอกาสที่ดีในการเปิดตัว รอยัล เอนฟิลด์ สู่กลุ่มลูกค้าชาวไทย เพราะมีฐานของผู้ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์คลาสสิคที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางระหว่างบ้านและที่ทำงานในแต่ละวันสูงถึง 1.6 ล้านคน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนมาใช้รถจักรยานยนต์ขนาดกลางของรอยัล เอนฟิลด์ เราจึงเชื่อมั่นว่ารอยัล เอนฟิลด์ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้ขับขี่ชาวไทย ด้วยรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง แต่ใช้งานง่าย รวมทั้งความพร้อมในการให้บริการอุปกรณ์เสริม เครื่องแต่งกาย อะไหล่ และบริการหลังการขายที่น่าประทับใจ"

          รอยัล เอนฟิลด์ จะเริ่มนำรถเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ที่โชว์รูมทองหล่อ ผ่านผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการรายแรกในประเทศไทยคือ บริษัท เจเนอรัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด ซึ่งจะดูแลการพัฒนาศูนย์บริการและบริการหลังการขายของรอยัล เอนฟิลด์ ในภูมิภาคนี้ด้วย

          ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ รอยัล เอนฟิลด์ ได้ขยายธุรกิจให้ครอบคลุมเมืองใหญ่หลายแห่งทั่วโลก ทั้งลอนดอน มาดริด ปารีส ดูไบ โบโกต้า และเมเดยิน โดยในปี 2557 ที่ผ่านมา ยอดขายของรอยัล เอนฟิลด์ มีการเติบโตสูงถึง 70% ด้วยยอดขายรวมทั่วโลกกว่า300,000 คัน จนทำให้บริษัทแม่คือ ไอเคอร์ มอเตอร์ส ลิมิเต็ด สามารถสร้างรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนในปี 2558 รอยัล เอนฟิลด์ ตั้งเป้าที่จะผลิตรถจักรยานยนต์รวม 450,000 คัน เพื่อรองรับกลยุทธ์การขยายธุรกิจทั่วโลก และก้าวไปสู่เป้าหมายในการผลิตรถจักรยานยนต์ให้ได้ 900,000 คันภายในปี 2561 จากสายการผลิตในโรงงานสองแห่งในปัจจุบัน รวมถึงโรงงานแห่งที่สามที่มีแผนจะสร้างขึ้นที่รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย นอกจากนี้ รอยัล เอนฟิลด์ ยังเดินหน้าก่อสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาใหม่สองแห่งในอินเดียและสหราชอาณาจักร เพื่อเสริมศักยภาพและกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระยะยาว รวมทั้งก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในระดับโลก
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 08:36:45 AM
Gossip News : คุณใหม่ – พรนฎา เตชะไพบูลย์ ผู้บริหารหญิงคนเก่งแห่งค่ายเวสปิอาริโอ



          คุณใหม่ – พรนฎา เตชะไพบูลย์ ผู้บริหารหญิงคนเก่งแห่งค่ายเวสปิอาริโอ รุกตลาดรถสองล้อระดับพรีเมี่ยม จัดทัพ "เวสป้า" สกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลีนับสิบคัน บุกงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 แถมเตรียมเซอร์ไพรส์ให้กับสาวกสองล้อสุดคลาสสิก ด้วยการเปิดตัว โมเดลใหม่ล่าสุดและรุ่นพิเศษครั้งแรกในประเทศไทยภายในงาน พร้อมเผยโฉม "เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่" (Vespa 946 Emporio Armani) สุดยอดยนตรกรรมสองล้อลักชัวรี่อย่างเป็นทางการ งานนี้คุณใหม่แอบกระซิบว่า ได้เตรียมข้อเสนอสุดคุ้มและของสมนาคุณแบบพรีเมี่ยมไว้รอต้อนรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าทุกรุ่นภายในงาน ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอดาวน์เริ่มต้นเพียง 5,000 บาท สำหรับรุ่น 125 ซีซี หรือผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,701 บาท สำหรับรุ่น 150 ซีซี เป็นต้น

          พบกับบูธ "เวสป้า" พรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลีได้ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 ที่บูธหมายเลข G.01 – 2 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 08:37:24 AM
เวสป้ารุกตลาดสิ้นปีครั้งยิ่งใหญ่ เปิดคาราวานรถใหม่ 3 รุ่น ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 พร้อมโปรโมชั่นพิเศษและของพรีเมี่ยมเอาใจคนรักเวสป้าทั่วประเทศ





          บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลี "เวสป้า" และ "พิอาจิโอ" แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมรุกตลาดสองล้อสิ้นปีนี้ เปิดคาราวานเวสป้าพร้อมอวดโฉมเวสป้าโมเดลใหม่ล่าสุด "เวสป้า แอลที 125 3Vie" (Vespa LT 125 3Vie) เวสป้ารุ่นพิเศษ "เวสป้า สปริ้นท์ 150 3Vie เวโลเช่ ซีรี่ย์ส" (Vespa Sprint 150 3Vie Veloce Series) และ สุดยอดนวัตกรรมรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าแห่งปี "เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่" (Vespa 946 Emporio Armani) เป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 พร้อมเตรียมเซอร์ไพรส์ให้สาวกสองล้อสุดคลาสสิก ด้วยโปรโมชั่นพิเศษและของพรีเมี่ยมที่ขนมาเอาใจคนรักเวสป้าโดยเฉพาะ

          คุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "ในไตรมาสสุดท้ายนี้ บริษัทฯ ยังคงใช้แผนและกลยุทธ์ทางการตลาดด้วยการสานต่อแคมเปญ "More Than Just A Ride; It's Vespa Time" นำเสนอโปรโมชั่น กิจกรรมทางการตลาดและแคมเปญพิเศษต่างๆ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า นอกจากนี้ยังเน้นกลยุทธ์เปิดตัวโมเดลรถเวสป้ารุ่นพิเศษเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ โดยสำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32หรือ Thailand International Motor Expo 2015 นี้ บริษัทฯ ได้เข้าร่วมจัดแสดงบูธภายใต้คอนเซปต์ Motoplex พร้อมขนคาราวานเวสป้าไปเปิดตัวรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าโมเดลใหม่ 3 รุ่น ให้สาวกเวสป้ายลโฉมครั้งแรกในประเทศไทย ได้แก่เวสป้า แอลที 125 3Vie (Vespa LT 125 3Vie) เวสป้าโมเดลใหม่ล่าสุดที่ถือเป็นไฮไลท์ สำหรับผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความสนุกสนาน เวสป้า สปริ้นท์ 150 3Vie เวโลเช่ ซีรี่ย์ส (Vespa Sprint 150 3Vie Veloce Series) เวสป้าโมเดลพิเศษเอาใจกลุ่มคนรักความเร็วด้วยเครื่องยนต์ 150 ซีซี และ เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่ (Vespa 946Emporio Armani) สุดยอดนวัตกรรมสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมสำหรับสาวกเวสป้าที่ชื่นชอบลักซ์ชัวรี่แบรนด์ นอกจากนี้ยังเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษและของพรีเมี่ยมให้กับผู้ที่สนใจซื้อรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าในงานนี้เท่านั้นอีกด้วย"

          พบกับเวสป้ารุ่นใหม่ที่ถือเป็นรุ่นไฮไลท์ที่สุดในงานนี้ เวสป้า แอลที 125 3Vie (Vespa LT 125 3Vie) ที่มาพร้อมกับคอนเซปต์การออกแบบให้เป็นรถสกู๊ตเตอร์ที่ดูสนุกสนาน "เพิ่มสีสันให้ชีวิตในแบบที่คุณเลือกเอง" ผู้ขับขี่สามารถออกแบบดีไซน์รถได้เองด้วยเซ็ตสติ๊กเกอร์ 5 สี ให้คุณวาดลวดลายออกแบบเวสป้าได้ตามใจชอบ สนุกกับสกู๊ตเตอร์คันเก่งและทดสอบจินตนาการของคุณไปพร้อมๆ กัน เวสป้า แอลที 125 3Vie มีให้เลือก 3 สี 3 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สีขาว (Urban Bianco) มาในราคาพิเศษช่วงแนะนำ 75,900 บาท สีแดง (Sport Rosso) และสีดำ (Sport Nero)

          ราคาพิเศษช่วงแนะนำ 76,900 บาท นับเป็นเวสป้าราคาย่อมเยาที่สุดที่เคยเปิดตัวออกสู่ตลาดเมืองไทย

          สำหรับ เวสป้า สปริ้นท์ 150 3Vie เวโลเช่ ซีรี่ย์ส (Vespa Sprint 150 3Vie Veloce Series) เป็นเวสป้ารุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจกลุ่มคนรักความเร็วด้วยดีไซน์ลุคสปอร์ต โดยได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก "เวสป้า สปริ้นท์ เวโลเช่" (Vespa Sprint Veloce) ในยุค 70 พร้อมเสริมลุคให้ผู้ขับขี่ด้วยสติ๊กเกอร์แถบสีสไตล์สปอร์ตด้านข้างตัวรถ ชิวด์สั้นสีสโม้ค เพลทเหล็กโลโก้ Veloce Series ที่ทำขึ้นพิเศษเฉพาะรุ่นและแต่งเสริมความหล่อด้วยล้อแม็กสีดำที่ให้คุณมั่นใจกว่าใครในทุกเส้นทาง ในราคา 124,900 บาท มี 5 สีให้เลือกตั้งแต่สีขาว (Montebianco) สีแดง(Rosso Dragon) สีดำ (Nero Vulcano) สีเหลือง (Giallo Positano) และสีส้ม (Taormina) พร้อมจำหน่ายในราคา124,900 บาท

          สิ้นสุดการรอคอยสำหรับคนรักเวสป้าชาวไทย เผยโฉมที่สุดแห่งนวัตกรรมการสร้างสรรค์อันโดดเด่นด้วยรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าแห่งปี เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่ (Vespa 946 Emporio Armani) เวสป้ารุ่นสุดพิเศษที่สุดยอดสองแบรนด์ดังจากประเทศอิตาลีอย่างเวสป้าและเอ็มโพริโอ อาร์มานี่ ร่วมกันสร้างสรรค์รถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมคันนี้ โดยถ่ายทอดอัตลักษณ์ด้านดีไซน์ ความหรูหรา ตลอดจนความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีของการก่อตั้ง 'จีออร์จีโอ อาร์มานี่' และ 130 ปี ของ 'พิอาจิโอ กรุ๊ป' มีจุดเด่นอยู่ที่โทนสีอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อาร์มานี่ คือสีที่ผสมผสานสีเทาเข้มเข้ากับสีเหลือบเขียว มาพร้อมกับสุดยอดเทคโนโลยีเพิ่มเติมความสมบูรณ์แบบให้เวสป้ารุ่นพิเศษรุ่นนี้ โดยจัดจำหน่ายในจำนวนจำกัดด้วยราคา 599,000 บาท

          นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังร่วมกับพันธมิตรใจดีอย่างกรุงศรี ออโต้ ลีสซิ่ง จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าทุกรุ่นอีกด้วย อาทิ รุ่น 125 cc. ดาวน์เริ่มต้นเพียง 5,000 บาท และผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,566 บาทต่อเดือน สำหรับรุ่น 150 cc. ดาวน์เริ่มต้นเพียง 8,000 บาทและผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,701 บาทต่อเดือน พร้อมทั้งยังเตรียมของพรีเมี่ยมพิเศษต่างๆ มากมาย เพื่อให้สาวกเวสป้าได้สะสมเป็นคอลเลคชั่นพิเศษกันอย่างจุใจ
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 08:39:09 AM
เคทีเอ็มจับมือเบิร์นรับเบอร์ครั้งแรกในประเทศไทย เปิดตัวรถ 3 รุ่นใหม่ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 เกณฑ์กองทัพสีส้มพร้อมลุยทั้งกลุ่มสตรีทและออฟโรดในบูธสไตล์ Ready To Race พร้อมกับโปรโมชั่นและรถราคาพิเศษแบบจัดเต็ม







           บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์สัญชาติออสเตรียแบรนด์ "เคทีเอ็ม" แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 หรือ Thailand International Motor Expo 2015 พร้อมอวดโฉม 2รุ่นใหม่ อาร์ซี 250 (RC 250) และ 250 ดู๊ค (250 Duke) ครั้งแรกในประเทศไทยและ 1 รุ่นไฮไลต์​ 1290 ซุปเปอร์ แอดเวนเจอร์​ (1290 Super Adventure)

          บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด ได้เข้าดำเนินกิจการมอเตอร์ไซค์แบรนด์เคทีเอ็ม (KTM) ตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมสานต่อ Core Values 4 ด้าน ของแบรนด์เคทีเอ็ม (KTM) ได้แก่ PURITY (ความบริสุทธิ์ในการดีไซน์) แบรนด์เคทีเอ็มมุ่งเน้นการออกแบบเพื่อสร้างสมรรถนะที่ดีที่สุดสำหรับมอเตอร์ไซค์ในแต่ละรุ่น โดยตัดทอนน้ำหนัก ชิ้นส่วนหรือองค์ประกอบที่เกินความจำเป็นออกเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่พร้อมลงสนามในทุกสถานการณ์ PERFORMANCE (สมรรถนะยอดเยี่ยม)สมรรถนะเป็นพื้นฐานสำคัญของแบรนด์เคทีเอ็มภายใต้ปรัชญา "Ready To Race" ADVENTURE(ความน่าตื่นเต้นในการขับขี่) ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ ทุกครั้งที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์แบรนด์เคทีเอ็ม เพื่อเพิ่มความท้าทายให้กับตัวผู้ขับขี่ และ EXTREME (ความท้าทายในผลิตภัณฑ์) เคทีเอ็มมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นทุกแบบให้สอดคล้องกับ Core Values ทั้ง 4 ด้านของเรา โดยทางเบิร์นรับเบอร์พร้อมรุกตลาดประเทศไทยกับรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด 12 รุ่นในกลุ่มสตรีทและออฟโรดอย่างเต็มตัว

          คุณภูมินทร์ นิวาตวงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด เปิดเผยว่า "ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่ทางบริษัทฯ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์แบรนด์เคทีเอ็ม พร้อมทั้งได้พบกับสาวกแบรนด์สีส้มครั้งแรกอีกด้วย ทั้งนี้บริษัทฯ จะเปิด KTM Flagship Bangkok ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งแรกที่ประเทศไทย ณ โครงการ เอ แสควร์ ซอยสุขุมวิท 26 เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับสาวกแบรนด์เคทีเอ็มแบบครบวงจรไม่ว่าจะเป็นโชว์รูมผลิตภัณฑ์ ศูนย์บริการ และกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ที่เราวางแผนและเตรียมพร้อมให้กับผู้หลงใหลแบรนด์สีส้มอย่างเต็มที่ นอกจากนี้เรายังมีความมุ่งมั่นและพร้อมที่จะพัฒนาแบรนด์ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเคทีเอ็มและเติบโตอย่างมั่นคงในตลาดมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทยภายใต้ปรัชญา "Ready To Race" ในทุกๆ ด้านอีกด้วย"

          สำหรับรถที่บริษัทฯ นำมาเปิดตัวในครั้งนี้มี 3 รุ่น ดังนี้

          เคทีเอ็ม 1290 ซุปเปอร์ แอดเวนเจอร์​ (KTM 1290 Super Adventure) รถรุ่นไฮไลต์ในปี 2015 ของแบรนด์เคทีเอ็ม ที่มาพร้อมกับ Standard Equipment Package เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย พร้อมทั้ง ติตตั้งระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยแบบครบวงจรที่ดีที่สุดในตลาดรถจักรยานยนต์ในปัจจุบัน อาทิ WP Suspension ระบบ MSC (Motorcycle Stability Control) ระบบ MTC Traction Control ระบบ Cruise Control เป็นต้น ซึ่งอุปกรณ์และแอคเซสเซอรี่ทั้งหมดที่มากับรถคันนี้ทำให้ เคทีเอ็ม 1290 ซุปเปอร์ แอดเวนเจอร์​ เป็นรถที่มีความปลอดภัยสูงที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์กำลังสูงสุดเหมาะสำหรับการขับขี่ท่องเที่ยวแบบ Enduro ซึ่งหาคู่เปรียบเทียบได้ยาก

          อาร์ซี 250 (RC 250) และ 250 ดู๊ค (250 Duke) แบรนด์เคทีเอ็มพร้อมขยายตลาดในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์แบบสตรีท โดยการเพิ่มมอเตอร์ไซค์รุ่น อาร์ซี 250 (RC 250) และ 250 ดู๊ค (250 Duke)ถึงแม้ อาร์ซี 200 (RC 200) และ 200 ดู๊ค ที่จัดจำหน่ายแล้วจะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลกเป็นอย่างดี เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ขนาดเครื่องยนต์ขนาดกลางที่ต้องการความเร็วในการเข้าโค้งที่เร้าใจและสมรรถนะที่เยี่ยมยอดเวลาเบรคลึกและยังคงขับขี่โดยใช้ความเร็วได้นานขึ้น โดยทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับน้ำหนักรถสุทธิเพียง 139 กิโลกรัม สำหรับ 250 Duke และ147 กิโลกรัม ในรุ่น RC 250 ซึ่งด้วยน้ำหนักที่เบาลงนี้ทำให้ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่ต้องการเพิ่มสมรรถนะในการเข้าโค้งด้วยการใช้ความเร็วสูงสุดและเพิ่มความสามารถในการเบรคชะลอความเร็วของรถช้าที่สุดตลอดจนการทำให้รถทรงตัวอยู่ได้นานที่สุดอีกด้วย ทั้ง 2 รุ่นใหม่นี้ จึงถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์อีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับสมรรถนะในรถขนาด 250 ซีซี ที่มีความน่าเชื่อถือ คงทน และใช้ขับขี่ได้จริงไม่ว่าจะเป็นการขับขี่เพื่อเดินทางไปทำงานในแต่ละวันหรือเป็นกิจกรรมอดิเรกที่โปรดปรานในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือเพียงเพื่อใช้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทำให้มอเตอร์ไซค์ เคทีเอ็มรุ่น RC 250 และ 250 Duke ใหม่นี้ถือเป็นต้นกำเนิดของมาตรฐานรถขนาด 250 ซีซีไปแล้ว

          นอกจากนี้ทางเคทีเอ็มยังได้นำเสนอโปรโมชั่นพิเศษมากมายให้เฉพาะกับผู้ที่มาร่วมงานมหกรรมยานยนต์ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นราคาพิเศษช่วงแนะนำ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งและกิ๊ฟท์เซ็ตจากกลุ่ม แอคเซสเซอรี่ของเคทีเอ็ม PowerWear และ PowerParts พร้อมทั้งข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย สามารถพบกับเราได้ที่บูธหมายเลข G01-1 และสามารถติดตามข่าวสารและข้อมูลต่างๆ ของเคทีเอ็มได้ทางwww.KTM.com หรือทางช่องทาง Facebook (www.facebook.com/KTMThailandOfficial)
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:03:35 PM
วอลโว่ ผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ เผยโฉม V40 T5 R-Limited พร้อมจัดโปรโมชั่นแรงส่งท้ายปี









          วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จัดความแรงส่งท้ายปี ด้วยการเปิดตัว V40 T5 R Limited รถแฮทช์แบคระดับพรีเมี่ยมรุ่นล่าสุด ที่เสริมสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ใหม่ Drive-E Powertrain และ Polestar Performance มาในมาดคมเข้มด้วยชุดแต่งครบครัน พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยรุ่นล่าสุดปกป้องทั้งผู้อยู่ในรถและผู้ร่วมใช้ถนน มีจำหน่ายเพียง 28 คันในราคาพิเศษ นอกจากนี้ยังเตรียมมอบโปรโมชั่นแรงตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม ประกอบด้วยโปรแกรมดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 5 ปี และโปรโมชั่นเลือกวอลโว่คันที่ชอบ จากคู่ที่ใช่ในราคาเดียว พร้อมข้อเสนอเพิ่มการประกันคุณภาพจาก 3 ปี เป็น 5 ปี หรือ 100,000 ก.ม. ผู้ที่สนใจสามารถพบกับข้อเสนอดี ๆ ของวอลโว่ได้ที่ บูธ B10 งาน Motor Expo 2015 และที่โชว์รูมทั่วประเทศ
          นางสาวแอเน็ต แอนเดอร์สัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในช่วงเวลาแห่งความสุขในเดือนธันวาคมนี้ บริษัทได้ออกแคมเปญสุดพิเศษเป็นของขวัญส่งท้ายปีแก่ลูกค้า เพื่อให้การตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์หรูที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีความปลอดภัยเป็นเรื่องง่ายขึ้น"
          หลังจากวอลโว่ V40 ใหม่ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จัดรถแฮทช์แบ็คหรูรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น มาเอาใจผู้ที่ชื่นชอบรถหรูคอมแพ็คท์แรงสูงโดยเฉพาะ ด้วยวอลโว่ V40 T5 R-Limited ซึ่งเปี่ยมด้วยคุณลักษณะ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ Drive-E Powertrain?ที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่ให้พลังแรง ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นกว่าเดิม เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อม Paddle Shift นอกจากนี้ยังเสริมความเร้าใจด้วยชุดเพิ่มสมรรถนะ Polestar Performance บูสท์กำลังจาก 220 แรงม้า เป็น 245 แรงม้าให้แรงเกินพิกัด รวมทั้งมอบอุปกรณ์ชุดแต่งภายนอกภายในมาให้อย่างครบครัน
          วอลโว่ V40 T5 R-Limited สะกดทุกสายตาด้วยรูปลักษณ์หรูหราสง่างาม ผสานความกะทัดรัดและปราดเปรียวของรถยนต์คอมแพคกับคุณสมบัติของรถรุ่นใหญ่ การออกแบบรถให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตามแนวคิด "Designed around You" ให้ทุกคนได้รับความพึงพอใจที่สุดตลอดการเดินทาง ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับมาตรวัดบนหน้าปัดแบบกราฟิกได้ตามต้องการ รวมทั้งยังมีเทคโนโลยีทันสมัยมากมายทั้งในด้านความปลอดภัย และระบบสนับสนุนเช่นเดียวกับที่มีในรถรุ่นใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง IntelliSafe City Safety ที่ดูแลทุกชีวิตในรถและนอกรถวอลโว่ให้ปลอดภัย ช่วยแจ้งเตือนและหยุดรถเมื่อพบว่ามีโอกาสปะทะกับรถด้วยกัน แม้ในกรณีที่รถวิ่งมาเร็วเกินกว่าจะหยุดได้ทัน ก็จะช่วยบรรเทาความรุนแรงได้ ทั้งยังมีเครื่องยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 5 และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยสามารถรองรับน้ำมัน E20 วอลโว่ V40 T5 R-Limited มีจำหน่ายในจำนวนจำกัดเพียง 28 คัน ราคา 1,999,000 บาท

          คุณลักษณ์พิเศษในรถยนต์วอลโว่ V40 T5 R-Limited ประกอบด้วย
          เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังใหม่ Volvo Drive-E Powertrains รุ่น T5 รุ่น T5 ขนาด 2 ลิตร 4 สูบไดเร็คอินเจ็คชั่น พร้อมเทอร์โบชาร์จ ให้แรงม้าสูงสุด 220 ตัวที่ 5,500 รอบต่อนาที และแรงบิดที่ 350 นิวตันเมตรในช่วง 1,500-4,000 รอบต่อนาที จึงตอบสนองได้ทันใจในทุกรอบเครื่อง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.4 วินาที ขณะเดียวกันก็ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 137 กรัมต่อกิโลเมตร พร้อมทั้งประหยัดน้ำมันได้อย่างน่าทึ่ง โดยสามารถวิ่งเฉลี่ยใน-นอกเมือง 16.9 ก.ม. ต่อลิตร
          เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Sport Mode และ Paddle Shift
          Sensus Connect ระบบที่ใช้สื่อสารกับรถและเชื่อมต่อกับโลกอินเตอร์เน็ตแบบไม่ขาดตอน
          ล้ออะลูมิเนียม Midir 7.5x18" Diamond Cut สีดำมันวาว ขนาด 225/40 R18
          แผงกันกระแทกใต้กันชนหลังสีดำเข้ม ดีไซน์พิเศษพร้อมท่อไอเสียแบบคู่
          แป้นคันเร่งแบบสปอร์ต
          ชุดฝาครอบกระจกมองข้างสีดำ
          สติกเกอร์ข้างรถลายสปอร์ต
          เพิ่มสัญลักษณ์ความสปอร์ตด้วย โลโก้ R-Limited
          สีภายนอก ice white (สีขาว)

          พิเศษสุดสำหรับผู้ที่รักการขับขี่แบบสปอร์ตเร้าใจ วอลโว่ได้เตรียมชุดเพิ่มสมรรถนะ Polestar Performance Optimisation มูลค่า 57,400 บาท เพิ่มพลังแรงจาก 220 แรงม้า เป็น 245 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ติดตั้งให้กับลูกค้าฟรีเมื่อออกรถ Volvo V40 T5 R-Limited ในงาน Motor Expo 2015
          ทั้งนี้ ผู้ที่ซื้อ วอลโว่ V40 T5 R-Limited จะได้รับ certificate ออกโดยวอลโว่ ในการยืนยันเอกสิทธิ์ในการครอบครองรถรุ่นผลิตจำนวนจำกัดข้างต้นทุกคัน

          นอกจากนี้ วอลโว่ ยังมอบข้อเสนอสุดพิเศษท้ายปี ดังต่อไปนี้
          เป็นเจ้าของรถยนต์วอลโว่รุ่น XC60 (T5 และ D4) ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0 % นาน 60 เดือน พร้อม Volvo maintenance ฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กม. Volvo Warranty ฟรี 3 ปี หรือ 100,000 กม. และอุ่นใจด้วยบริการให้ความช่วยเหลือ Volvo Assistance เป็นเวลา 3 ปี
          โปรโมชั่น เลือกวอลโว่คันที่ชอบ จากคู่ที่ใช่ ได้ในราคาเดียว ให้ผู้ที่สนใจได้เลือกเป็นเจ้าของ ได้แก่
          เลือก วอลโว่ S60T4F (S) สปอร์ตซีดาน หรือ วอลโว่ V40 Cross Country รถพรีเมื่ยมแฮทช์แบ็ค 5 ประตู ในราคาเดียวกัน 1,920,000 บาท พร้อม Volvo Maintenance ฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กม. Volvo Warranty ฟรี 3 ปี หรือ 100,000 กม. และอุ่นใจด้วยบริการให้ความช่วยเหลือ Volvo Assistance เป็นเวลา 3 ปี
          พิเศษในรุ่น S60 T4F (S) รับประกันคุณภาพ (Volvo Warranty Plus) เพิ่มอีก 2 ปี รวมเป็น 5 ปี หรือ
100,000 กม.
          เลือกวอลโว่ S80 D4 รถซีดานโอ่อ่าหรูหรา หรือ S60 T5 สปอร์ตซีดานในราคาเดียวกัน 2,449,000 บาท พร้อม Volvo Maintenance ฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กม. Volvo Warranty ฟรี 3 ปี หรือ 100,000 กม. และอุ่นใจด้วยบริการให้ความช่วยเหลือ Volvo Assistance เป็นเวลา 3 ปี
          วอลโว่ V60 T4F สปอร์ต เอสเตท มาในราคาพิเศษ เพียง 1,999,000 บาท รับประกันคุณภาพ (Volvo Warranty Plus) เพิ่มอีก 2 ปี รวมเป็น 5 ปี หรือ 100,000 กม. Volvo Maintenance ฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กม. และอุ่นใจด้วยบริการช่วยเหลือ Volvo Assistance เป็นเวลา 3 ปี

          นอกจากนี้ ในบูธวอลโว่ที่ Motor Expo วอลโว่มีการจัดมุมกิจกรรม วอลโว่ ไลฟ์ เพนท์ ให้ผู้ที่สนใจได้ทดลองฉีดสเปรย์ล่องหนเวลากลางวัน ที่สะท้อนแสงไฟในที่มืด ทำให้ผู้ร่วมใช้ถนนมองเห็นผู้ขับขี่จักรยานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่จักรยานช่วงกลางคืน
          วอลโว่ ไลฟ์ เพนท์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Intellisafe ระบบแจ้งเตือนและหยุดรถ เมื่อมีโอกาสชนกับรถคันอื่น คนขี่จักรยาน หรือคนเดินถนน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีเพื่อการเดินทางสู่เป้าหมายที่วอลโว่ตั้งไว้ว่าภายในปี ค.ศ. 2020 จะต้องไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสในรถวอลโว่รุ่นใหม่
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:04:21 PM
Volvo – The Innovation Leader Introduces V40 T5 R-Limited and Great Offers for Year-End Excitement









   The year-end is a hot season for luxury car enthusiasts, as Volvo Car (Thailand) unveils the Volvo V40 T5 R-Limited and a series of value-packed promotions on several models. With only 28 units available, the Volvo V40 T5 R-Limited is fitted with great features such as a new engine Drive-E Powertrain, Polestar Performance and interior and exterior accessories. It comes with state-of-the-art safety technology to protect people inside the car and those sharing the road. As for other models, Volvo has prepared great New Year gifts for its customers, such as 0% interest during 60 months, special prices for selected models and an extension of the Volvo Warranty period from 3 to 5 years or 100,000 km on several models. Interested buyers can avail of Volvo's exceptional offers from now until 31 December at The Motor Expo 2015 and Volvo showrooms nationwide.
          Ms. Anette Andersson, Managing Director of Volvo Car (Thailand) said: "During the festive season in December, Volvo is pleased to offer year-end presents to the Thai consumers. Our special promotions will make it even easier for car buyers to own a luxury car with augmented safety standards and high performance."
          After the success of the All New Volvo V40, Volvo has created the V40 T5 R-Limited, the new premium hatchback loaded with characteristics to please luxury compact car aficionados. Optimised with a new engine Drive-E powertrain and 8-speed Adaptive Automatic with Geartronic Paddle-shift, the V40 boasts class-leading driving dynamics. In addition, its performance is boosted to another level with Polestar Performance technology, pushing its horse power from 220 to 245. Interior and exterior accessories have been tastefully fitted to add flair to the unbeatable style.
          The V40 T5 R-Limited is fully developed according to Volvo's human-centric, Designed Around You strategy. The driver-centric approach is enhanced with a new, fully graphic instrument cluster that allows the driver to personalize instrument layout and the information provided. The New Volvo V40 T5 R-Limited also boasts class-leading driving dynamics, thanks to focused attention to a number of vital areas. Adding several new high-tech features to a full deck of safety and support systems from larger models makes the V40 the safest and the most hi-tech car in the segment. One of the outstanding features is IntelliSafe-City Safety technology that applies full autobrakes when it detects an oncoming collision with other vehicles. In case the speed is too high to come to a complete stop, the system will help decrease the damage and injuries. Volvo V40 T5 R-Limited has also passed EURO 5 standards and can run with E20 fuel. This latest Limited Edition from Volvo comes with an irresistible price tag of 1.999 million Baht.

          Other features of the Volvo V40 T5 R-Limited include:
          New T5 two-litre four-cylinder Drive-E powertrains engine, producing an impressive power of 220 HP at 5,500 rpm and significant torque of 350 Nm at 1,500-4,000 rpm, so responsive at every range. The car can accelerate from 0-100 km/ hour in only 6.4 seconds while the CO2 emissions are kept as low as 137 g/km; average fuel consumption of combined city and highway driving is excellent at 16.9 km/ litre.
New 8-speed Automatic Gearbox with Sport Mode and Paddle Shift
          Volvo Sensus Connect for uninterrupted communication between the driver, the car and the world
7.5x18" diamond cut Midir Wheel Kit size 225/40 R18Rear diffuser with double end pipe
          Sport pedal pad
          Black Mirror Cover
          Sporty Stripe on the edges of rear doors
          R-Limited Emblem
          Unique exterior colour, Ice White
          Each of the 28 Volvo V40 T5 R-Limited Edition units, purchased during the Motor Expo 2015, will be fitted with the exceptional Polestar Performance system, worth 57,400 Baht, making the horse power jump from 220 to 245 at 5,500 rpm. It will also come with a special Limited Edition certificate.
?
          In addition, there are super exclusive promotions, as follows:
          Volvo XC60 (T5 & D4)
          Enjoy 0% interest rate for 60 months
          Free: Volvo Maintenance for 5 years/100,000 km, Volvo Warranty for 3 years/100,000 km and Volvo Assistance for 3 years
          Choose Your Favourite Volvo from the Attractive Price Match Offers:
          Own Volvo Sport Sedan S60 T4F or the premium 5-door hatchback Volvo V40 Cross Country at the price of 1,920,000 baht with Free: Volvo Maintenance 5 years/ 100,000 km, Volvo Warranty for 3 years/ 100,000 km and Volvo Assistance for 3 years
          Special Bonus for S60 T4F(S), customers will receive another 2 years of Volvo Warranty Plus on top. So their Warranty period covers 5 years/ 100,000 km.
          Own the luxury sedan Volvo S80 D4 or the S60 T5 sport sedan at the price of 2,449,000 baht with Free: Volvo Maintenance 5 years/ 100,000 km, Volvo Warranty for 3 years/ 100,000 km and Volvo Assistance for 3 years
          Own Volvo V60 T4F at the special price of 1,999,000 baht with Free: Volvo Maintenance 5 years/ 100,000 km, Volvo Warranty for 5 years/ 100,000 km (3 years + 2 years from Volvo Warranty Plus) and Volvo Assistance for 3 years

          Apart from the eye-catching car display, an activity corner for Volvo Life Paint has been set up at Volvo's Motor Expo booth, where visitors are invited to try this amazing spray. Volvo Life Paint is a unique reflective spray that is invisible by daylight, but glows brightly in direct glare of car headlights in the dark. It helps increase road safety for bikers, and raise awareness on how important it is to be visible, especially at night. The product is inspired by "IntelliSafe", a magnificent Volvo technology that applies full brakes when an oncoming collision with cars, bikers and pedestrians is detected. This is one of several innovations that puts Volvo on its path to Vision 2020, aiming for zero deaths and no serious injuries in a new Volvo car by the year 2020.
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:06:01 PM
นิสสันสะท้อนผู้นำนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ ส่งรถยนต์ 3 รุ่นแรง ใหม่ เอ็กซ์เทรล ไฮบริด, เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค และซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ ร่วมงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2558 พร้อมอัดโปรโมชั่นแรง ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดในงาน 10%









          บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ (Innovation that excites) เดินหน้านโยบายการขายและการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ส่งรถยนต์ 3 รุ่นใหม่ล่าสุด ทั้ง นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ เอสยูวี ไฮบริดที่ทรงพลังที่สุด, นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค กระบะพันธุ์แกร่ง 190 แรงม้า ด้วยดีไซน์สปอร์ตใหม่ ปรับโฉมเพิ่มอารมณ์สปอร์ตรอบคัน และ นิสสัน ซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ ใหม่ ที่สะดวกสบาย หรูหรา และให้สมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ตซีดาน เปิดตัวและจำหน่ายที่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 หรือ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ระหว่างวันที่ 2 ถึง 13 ธันวาคม 2558 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิทแพ็คเมืองทองธานี พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ โดยตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดในงาน 10%
          นายคะซุทากะ นัมบุ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า "ในฐานะบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก และผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 นิสสันยังคงสะท้อนให้ผู้มาเยี่ยมชมงาน ได้เห็นถึงความเป็นผู้นำเทคโนโลยีรถยนต์ที่เหนือชั้น มีสมรรถนะสูง ประสิทธิภาพและสามารถตอบสนองทุกการใช้งาน ทั้งยังให้ความสะดวกสบายกับทุกคนในห้องโดยสาร ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ และมีเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน โดยไฮไลต์ในงานนี้ นิสสันได้นำรถยนต์ 3 รุ่น ที่โดดเด่นใน คือ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่, นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค ใหม่, และนิสสันซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ มาเปิดตัวให้กับสาธารณชนอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจอย่างสูง เช่นเดียวกันกับรถยนต์อีโคคาร์รุ่นยอดนิยมของนิสสัน ทั้งมาร์ชและอัลเมร่า ที่นอกจากจะได้รับการปรับโฉมให้มีความสดใหม่ก่อนหน้านี้ โดยในงานครั้งนี้ นิสสันยังได้เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าผู้สนใจรถยนต์อีโคคาร์ทั้งสองด้วยสีพิเศษนั่นคิอ สีม่วงพลัม (Plum) ทีให้ความโฉบเฉี่ยว เร้าใจ อีกด้วย
          สำหรับนิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ ซึ่งเป็นรถเอสยูวีไฮบริดที่มีสมรรถนะสูง ตอบทุกโจทย์ความสมบูรณ์แบบของชีวิต ที่นิสสันภูมิใจนำเสนอให้ลูกค้าในครั้งนี้ มาพร้อมเทคโนโลยีเต็มพิกัด และมีราคาที่สมเหตุสมผล โดยมีให้เลือก 3 รุ่น ราคาเริ่มต้นตั้งแต่1,249,000 บาท ส่วนเทคโนโลยีที่โดดเด่นในรุ่นนี้ คือ เทคโนโลยี เพียวไดร์ฟไฮบริด ที่มาพร้อมระบบคลัทช์คู่อัจฉริยะ (Intelligence Dual Clutch System) เอกสิทธิ์เฉพาะของนิสสัน ที่ผสานทั้งด้านสมรรถนะและความสนุกสนานในการขับขี่ได้อย่างลงตัว สามารถให้กำลังและแรงบิดอย่างเยี่ยมยอดเหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร นับเป็นรถที่มีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่โดดเด่นที่สุดในคลาสโดยประหยัดกว่าเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ถึง 20% ทั้งยังสามารถขับเคลื่อนด้วยการทำงานของเครื่องยนต์ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าได้ที่ความเร็วสูงถึง 120 km/h ให้ความเงียบและความนุ่มนวลในการตัดต่อกำลัง ซึ่งนิสสันมีความมั่นใจในสมรรถนะทุกด้านของรถยนต์รุ่นนี้อย่างยิ่ง และเชื่อว่าลูกค้าจะประทับใจกับประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างเหนือระดับ ในเอ็กซ์เทรล ไฮบริด อย่างแน่นอน โดยเฉพาะลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม
          ทั้งนี้ภายในงาน นิสสันยังจะได้จัดแสดงการทำงานของเทคโนโลยี นิสสัน เพียวไดรฟ์ไฮบริด ผ่านแท่นเครื่องยนต์ตัวอย่างที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ผู้ชมงานได้เห็นการออกแบบและโครงสร้างของเทคโนโลยี "ไฮบริดคลัทช์คู่อัจฉริยะ" อย่างใกล้ชิด
          อีกหนึ่งไฮไลต์ของบูธนิสสัน ที่เชื่อว่าจะได้รับความสนใจอย่างสูง คือ การเปิดตัว นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค ใหม่เป็นครั้งแรก ซึ่งเสริมทัพมาเพื่อตอบสนองลูกค้าที่รอคอยและต้องการรถกระบะที่ให้อารมณ์สปอร์ตปราดเปรียวดุดันและมีความแรงที่เหนือชั้น โดยนิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงถึง 190 แรงม้า ขณะที่ดีไซน์ถูกปรับโฉม ให้มีความเท่ห์ทุกองศา ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าและกรอบไฟตัดหมอกสี Smoke Chrome พร้อมกับสเกิร์ตหน้าและบันไดข้างแบบสปอร์ต กันชนท้ายสี Smoke Chrome พร้อมสัญลักษณ์ Sportech มาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต 18" ลายใหม่, Sport Roll Bar พร้อมสัญลักษณ์ Sportech, เสาอากาศแบบ Shark Fin ยังคงช่วงล่าง Mono-frame chassis อันเป็นเอกลักษณ์ของนิสสันที่แข็งแกร่งตามมาตรฐานโลก เพิ่มความสะดวกสบายให้คุณทุกเส้นทางด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง เสริมความหรูสไตล์สปอร์ตด้วยเบาะหนังทูโทนที่ปรับได้ 8 ทิศทาง พวงมาลัยแบบ 3 ก้านและหัวเกียร์หุ้มหนัง พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ตอบรับทุกความสะดวกสบายครบครันได้อย่างลงตัว เช่น ปุ่มสตาร์ทพร้อมกุญแจอัจฉริยะ ระบบปรับอากาศแบบแยกอุณหภูมิซ้ายขวา ช่องแอร์ด้านหลังสำหรับผู้โดยสารแถวหลังให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายและผ่อนคลาย พร้อมกล้องมองหลังในทุกรุ่นเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยจากเทคโนโลยีเหนือระดับจากนิสสัน
          นิสสันยังเติมเต็มความสปอร์ตเร้าใจ ด้วยการนำรถยนต์นิสสัน ซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ ตอบสนองลูกค้าที่ต้องการรถยนต์แบบซีดานที่ให้ความหรูหรา แต่มีความสปอร์ตและแรงเร้าใจ โดยหลังจากเปิดตัวเมื่อกลางเดือนตุลาคม ได้รับเสียงตอบรับจากสื่อมวลชนเป็นอย่างดีในฐานะ "สปอร์ตหรูที่แรงเกินตัว" ให้สมรรถนะการขับขี่ที่แรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร จากเครื่องยนต์ MR16DDT ขนาด 1.6 ลิตร หัวฉีดไดเร็ค อินเจคชั่น ระบบวาล์วแปรผันคู่ พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่ให้กำลังได้สูงสุดถึง 190 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที โดยให้แรงบิดแบบต่อเนื่องสูงสุดถึง 240 นิวตันเมตร ในช่วงรอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 2,400-5,200 รอบ/นาที ขณะเดียวกันยังคงความหรูหรา สะดวกสบาย เช่นการติดตั้งซันรูฟควบคุมด้วยไฟฟ้า รวมถึงเสริมระบบความปลอดภัย ระบบควบคุมการขับขี่และทรงตัวต่างๆ อย่างครบครัน ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Dynamic Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System) ควบคู่ไปกับการทำงานของระบบเบรกป้องกันล้อล็อค, พร้อมถุงลมนิรภัย 6 จุดโดยเพิ่มถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Airbags) และ ม่านนิรภัยด้านข้าง (Curtain Airbags) พร้อมระบบล็อคประตูอัตโนมัติ เซ็นเซอร์ถอยจอดและกล้องมองหลัง
          "ทั้งนี้ ภายในงานนิสสันได้ยกขบวนรถนิสสันมาจัดแสดงรวมทั้งสิ้น 7 รุ่น 19 คัน ด้วยกัน ประกอบด้วย นิสสัน เทียน่า นิสสัน ซิลฟี ทั้งรุ่นใหม่ ดีไอจี เทอร์โบ และรุ่นเอสวีที่เพิ่มขึ้นใหม่ นิสสัน มาร์ช และ นิสสัน อัลเมร่า รถอีโค คาร์ ซีดาน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ที่มาพร้อมสีพิเศษ ครั้งแรกกับสีม่วงพลัม นิสสัน จู๊ค โตเกียวอิดิชั่น ผู้นำตลาดรถ ครอสโอเวอร์ด้วยคาแรคเตอร์แตกต่างไม่เหมือนใคร พร้อมชุดแต่งพิเศษ สั่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นอย่างมีสไตล์ถึง 10 ชิ้น นิสสัน เอ็กซ์เทรล ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ และนิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา ทั้งรุ่นธรรมดา และสปอร์ตเทค ใหม่"
          สำหรับบูธของนิสสัน ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 จัดแสดงภายใต้แนวคิดนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้น เร้าใจ หรือ Innovation that excites บนพื้นที่ 1,452 ตารางเมตร ถูกออกแบบภายใต้วงแหวนแห่งประสบการณ์ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ด้านดีไซน์ของบูธนิสสันทั่วโลก โดยภายในบูธนิสสัน ผู้ชมงานยังจะได้สัมผัสนวัตกรรมการใช้กลิ่นหอมของอโรมาที่กระจายอยู่โดยบริเวณรอบๆ ทำให้ผู้เข้าชมงานเกิดความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย ภายใต้บรรยากาศความคึกคักของงานภายในบูธนิสสันอีกด้วย
          "ในส่วนของโปรโมชั่นพิเศษ** ทางนิสสันได้เตรียมแคมเปญที่หลากหลาย ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า อาทิ ข้อเสนอพิเศษสำหรับ นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี, ฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง TOUGH PACKAGE (เฉพาะรุ่น) และยังสามารถเลือกรับข้อเสนอไม่ว่าจะเป็นดาวน์ต่ำสุด 19,999 บาท พร้อมฟรีค่าบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร หรือเลือกผ่อนต่อเดือนสบายๆ เริ่มต้นเพียง 3,999 บาท และถูกใจมากขึ้นด้วยข้อเสนอเพิ่มมูลค่ารถเก่าเมื่อแลกซื้อรถใหม่ (Trade-in bonus) สูงสุด 35,000 บาท หรือข้อเสนอพิเศษสำหรับ นิสสัน เอ็กซ์เทรล รวมทั้ง เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี และฟรี ค่าบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% และข้อเสนอพิเศษสุดเร้าใจสำหรับนิสสัน ซิลฟี รวมถึง ซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ* เลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% หรือฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี และผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,888 บาท และหลากหลายข้อเสนอที่ดีที่สุดแห่งปีกับนิสสันทุกรุ่น รวมทั้งเพิ่มความสบายใจให้กับลูกค้านิสสัน ด้วยเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ ที่ได้มาตรฐานพร้อมช่างผู้ชำนาญกว่า 213 แห่ง ครอบคลุม 77 จังหวัด ทั่วประเทศ"
          ผู้ที่สนใจรถนิสสันพร้อมข้อเสนอพิเศษ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธนิสสัน ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 2 ถึง 13 ธันวาคม 2558 หรือที่ผู้จำหน่ายรถยนต์นิสสันทั่วประเทศ หรือที่ Call Center หมายเลข 02 401 9600

          หมายเหตุ*อุปกรณ์มาตรฐานอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น ** ข้อเสนอเฉพาะรุ่น มีข้อกำหนดและเงื่อนไข
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:07:24 PM
จักรยานยนต์ไทรอัมพ์ เปิดตัวทายาทบอนเนวิลล์ใหม่ 5 รุ่น ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ที่งาน Motor Expo 2015









          ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ประเทศไทย) เผยโฉมรถจักรยานยนต์ตระกูลบอนเนวิลล์อันเลื่องชื่อ ที่กลับมาอีกครั้งพร้อมความเร้าใจของ 5 รุ่นใหม่ สตรีท ทวิน บอนเนวิลล์ T120 และ T120 แบล็ค และ ทรักซ์ตัน และ ทรักซ์ตัน R เปิดตัวเป็นครั้งแรกในเอเชีย แปซิฟิก ที่งาน Motor Expo 2015 ทั้ง 5 รุ่นมีเอกลักษณ์ดั้งเดิมของไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์อย่างครบถ้วน พร้อมด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย โดยแต่ละรุ่นจะทยอยเข้าโชว์รูมจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ในช่วงเวลาต่างๆ กันในปี พ.ศ. 2559 เริ่มต้นจากสตรีท ทวินจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมกราคมนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองรถจักรยานยนต์ทั้ง 5 รุ่น ล่วงหน้า ได้ที่งาน Motor Expo 2015 ในราคาพิเศษ
          ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง มีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัท ไทรอัมพ์ได้สร้างผลงานการผลิตรถจักรยานยนต์ที่โดดเด่น สร้างสถิติไว้มากมาย และได้รับเลือกเป็นรถจักรยานยนต์คู่กายของนักแข่งชั้นนำของโลกและผู้ที่มีชื่อเสียงมากมาย ด้วยสมรรถนะเป็นเยี่ยม ตอบรับการสั่งการได้อย่างแม่นยำ และรูปลักษณ์ที่สวยคลาสสิค
          สำหรับบอนเนวิลล์รุ่นล่าสุด ไทรอัมพ์ได้ทำการออกแบบรถจักรยานยนต์เหล่านี้ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ใช้เวลานานถึง 4 ปีเต็มในการพัฒนางานออกแบบ งานวิศวกรรม ไปจนถึงการผลิต

          เผยโฉมบอนเนวิลล์ใหม่
          ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ ใหม่ ทั้ง 5 รุ่น มาพร้อมกับเอกลักษณ์ความเป็นบอนเนวิลล์เต็มร้อย ดีไซน์ที่เสริมให้เฉียบคมยิ่งขึ้น และสมรรถนะสุดล้ำ
          รุ่น สตรีท ทวิน ถือเป็นรถตระกูลบอนเนวิลล์ที่มีดีไซน์ร่วมสมัยที่สุด ให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่และควบคุมง่ายสำหรับนักบิดรุ่นใหม่ เปี่ยมด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์แรงบิดสูงขนาด 900 ซีซี พร้อมเสียงคำรามที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ บอนเนวิลล์ สตรีท ทวิน มีงานออกแบบในสไตล์เรียบง่าย ทั้งยังขับขี่คล่องแคล่วเหนือชั้น จึงถือเป็นรถที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักบิดยุคใหม่ และนักแต่งมอเตอร์ไซค์ รถรุ่นนี้มีแรงบิดสูงสุดถึง 80 นิวตันเมตรที่รอบต่ำเพียง 3200 รอบ/นาที ซึ่งเหนือกว่าเครื่องยนต์บอนเนวิลล์รุ่นก่อนหน้าถึง 18% จึงส่งแรงบิดได้เต็มพลังต่อเนื่องในทุกจังหวะ
          ส่วนผู้ที่โหยหารูปลักษณ์ของบอนเนวิลล์ในสไตล์ดั้งเดิมจากปี 1959 ก็จะประทับใจไปกับบอนเนวิลล์ T120 และ T120 แบล็ค ที่ไทรอัมพ์ได้บรรจงสรรสร้างในทุกรายละเอียดให้คงความคลาสสิกไว้อย่างครบถ้วน พร้อมด้วยสมรรถนะในแบบมอเตอร์ไซค์โมเดิร์นคลาสสิกพันธุ์แท้ กับเครื่องยนต์แรงบิดสูงรุ่นใหม่ขนาด 1200 ซีซี และตัวถังแบบ twin throttle นอกจากนี้ บอนเนวิลล์ T120 และ T120 แบล็ค ยังถูกพัฒนามาให้ตอบสนองทุกความต้องการในการขับขี่แบบโมเดิร์นคลาสสิก กับแรงบิดมหาศาลถึง 105 นิวตันเมตรที่ 3100 รอบ/นาที ซึ่งสูงกว่าเครื่องยนต์ในรุ่น T100 ถึง 54%
          สำหรับรถจักรยานยนต์สมรรถนะสูงในสไตล์ "cafe racer" แบบโมเดิร์น คลาสสิกอย่าง ทรักซ์ตัน และ ทรักซ์ตัน R มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1200 ซีซี ระบบเบรกและการควบคุมที่ทรงประสิทธิภาพ เพื่อการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ภายใต้รูปลักษณ์คลาสสิกอย่างสมชื่อบอนเนวิลล์ ตอบสนองในฉับพลัน ให้แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตรที่ 5000 รอบ/นาที ซึ่งสูงกว่าเครื่องยนต์ทรักซ์ตันรุ่นก่อนหน้าถึง 57%

          ดีไซน์เท่สะดุดตาและขับขี่คล่องตัวกว่าเดิม
          บอนเนวิลล์รุ่นใหม่ทุกคันมีงานออกแบบที่ได้รับการปรับเปลี่ยนให้ดูประณีต โฉบเฉี่ยว เปี่ยมด้วยพลังมากกว่าที่เคย สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจจากบอนเนวิลล์รุ่นคลาสสิกรุ่นเจ้าตำนานปี 1968 และรุ่นดั้งเดิมปี 1959 ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ ใหม่ มีเทคโนโลยีล่าสุดที่ช่วยเสริมประสบการณ์การขับขี่ให้ตอบสนองอย่างรวดเร็วและปลอดภัยกว่าที่เคย โดยไม่ทิ้งลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละรุ่น เทคโนโลยีเหล่านี้ ได้แก่ ABS ระบบเบรกป้องกันล้อล็อคตาย ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี คลัทช์กันการลื่นไถล (slip assist clutch), ride-by-wire throttle และrider mode (เฉพาะรุ่น T120, T120 แบล็ค, ทรักซ์ตัน R และทรักซ์ตัน) ไฟท้าย LED (ทุกรุ่น) ไฟหน้า LED DRL (เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 1200 ซีซี ในประเทศที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น) พอร์ท USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบกันขโมยแบบ immobilizer
          ช่วงล่างได้รับการออกแบบขึ้นใหม่หมดสำหรับแต่ละรุ่น โดยมีระบบกันสะเทือนและ geometry ใหม่และคลัทช์กันการลื่นไถลรุ่นใหม่ติดตั้งมาด้วยเช่นกัน เพื่อให้นักบิดสามารถควบคุมบอนเนวิลล์ ใหม่ ทุกคันได้อย่างแม่นยำ มั่นคง และคล่องตัวอย่างเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังเหมาะสมกับการขับขี่เป็นเวลานาน

          พร้อมปรับแต่งให้สะท้อนความเป็นคุณ
          ในโอกาสนี้ ไทรอัมพ์ยังได้เปิดตัวชุดอุปกรณ์เสริมพิเศษสำหรับจักรยานยนต์ตระกูลบอนเนวิลล์โดยเฉพาะ มีอุปกรณ์ตกแต่งและอุปกรณ์พิเศษคุณภาพสูงให้เลือกมากถึง 470 รายการ จึงทำให้การสร้างสรรค์มอเตอร์ไซค์คันพิเศษของคุณเองกลายเป็นเรื่องง่าย อุปกรณ์เสริมเหล่านี้มีทั้งชุดท่อไอเสียใหม่จาก Vance & Hines ชุดอุปกรณ์ถอดบังโคลน เบาะนั่ง และไฟขนาดเล็กทรงหัวกระสุน(compact bullet indicators) เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักบิด เราได้รวบรวมอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ไว้เป็นชุดให้เลือกซื้อ สำหรับนักบิดที่ต้องการจุดเริ่มในการปรับแต่งรถบอนเนวิลล์ของตนเอง หรืออาจสั่งให้ตัวแทนจำหน่ายติดตั้งอุปกรณ์กับรถมาทั้งชุดเลยก็ได้เช่นกัน

          นอกจากที่งาน Motor Expo 2015 ผู้ที่สนใจ สามารถพบกับจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ได้ที่ โชว์รูม ไทรอัมพ์ บริทไบค์ RCA และ ไทรอัมพ์ รังสิต ที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมี 5 สาขา ที่ไทรอัมพ์ บริทไบค์ เชียงใหม่ ไทรอัมพ์ วัฒนายนต์แคปปิตอล ขอนแก่น ไทรอัมพ์ M2 มอเตอร์สปอร์ต อุบลราชธานี ไทรอัมพ์ สะพานทอง มอเตอร์ ภูเก็ต และไทรอัมพ์ พันธ์ช่างทอง หาดใหญ่
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:07:59 PM
Five New Triumph Bonneville Motorcycles Make APAC Debut at Motor Expo 2015









          More beautiful, more powerful, more capable.

          Triumph Motorcycles (Thailand) unveils 5 motorcycles from the next generation of the iconic Bonneville for the first time in Asia Pacific, at Thailand's Motor Expo 2015. During the event, big bike enthusiasts will have a chance to experience the classic British super bikes: Street Twin, Bonneville T120 and T120 Black and Thruxton and Thruxton R, all with 100% authentic Bonneville character plus exceptional capability and performance. Each model is scheduled to hit the showrooms nationwide at different periods in 2016, with Street Twin being the first to arrive in January. Owning one of these great motorcycles has just come a step closer as all 5 Bonneville models can now be pre-booked at The Motor Expo 2016, with irresistible offers.
          Triumph Motorcycles is a very successful British brand with over 100 years of history. Since its inception, Triumph has always had its own distinctive appeal and a history of creating bikes that become design classics and record holders, chosen by famous motorcyclists of the past for legendary handling, style, and character.
          The new Bonneville model line up
          The new generation of Bonneville was a four-year project that started from the ground up, calling on an unprecedented scale of design, engineering and manufacturing skills. The Street Twin is Triumph Motorcycles' most contemporary, fun and accessible model, powered by an all-new high torque 900cc engine. With its unique character, distinctive sound, stripped-back styling and dynamic riding experience, the new Street Twin is the perfect Bonneville for today's rider and the perfect starting point for personalisation. Its 900cc high torque engine delivers a massive peak torque figure of 80Nm at a low 3200 rpm – which is an amazing 18% more than the previous generation, delivered low down and across the whole rev range.
          The timeless style and iconic character of the original 1959 model is reborn in the classy and authentic Bonneville T120 and effortlessly cool Bonneville T120 Black. Both are crafted to the highest standard of detailing, quality and finish, and matched by the capability and performance of a truly modern classic. They are powered by the all-new Bonneville 1200cc high torque engine, enhanced by beautiful, authentically-styled, twin throttle bodies.
          The new 1200cc Thruxton and Thruxton R are the real deal. With genuine poise, power and performance, they are the ultimate modern classic cafe racers. Both with beautifully imposing and authentic styling, they have the power, braking, performance and handling to live up to their legendary name.

          More Beautiful and More Capable
          The new motorcycles are more refined, sharper, tighter and crafted, applying styling cues faithfully taken from the classic Bonneville bikes, such the 1968 Bonneville and the 1959 original. The inclusion of rider-focused technology has been implemented with care to deliver an engaged and safer ride, without compromising the style or character of the bikes - this includes ABS, traction control, slip assist clutch, ride-by-wire throttle and rider modes (T120, T120 Black, Thruxton R and Thruxton), distinctive LED rear lights on all models and LED DRL headlights on all the 1200s (where legislation allows), USB charging socket and an engine immobiliser.
          A completely new, ground up chassis design unique to each motorcycle, incorporates all-new suspension and geometry, so all of the new models deliver stunning handling, stability and neutrality tailored to the style and character of each motorcycle, making them easier to ride for longer. This is particularly true when combined with the light action of the new slip assist clutch.

          More ways to make your own Bonneville yours
          The new Bonneville custom accessories range is also being launched, with over 470 stylish, high- quality accessories. This includes new exhausts from Vance & Hines and a garage full of custom-inspired parts, from mudguard removal kits, to bench seats and beautiful compact bullet indicators, to name a few. To make it easier, a set of exciting 'inspiration' kits was created to use as the starting point for riders to create their own Bonneville custom, or to have fitted by their Triumph dealer.

          Interested customers can also contact any of the 7 Triumph Motorcycles outlets nationwide: Triumph Britbike RCA and Triumph Rangsit in Bangkok and 5 upcountry - Triumph Britbike Chiang Mai, Triumph Khon Kaen, Triumph Ubon Ratchathani, Triumph Hatyai and Triumph Phuket.
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:11:00 PM
ยูไนเต็ด มอเตอร์สฯ ปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ เบนเข็มจับกลุ่มลูกค้ามุ่งหวังกลุ่มใหม่ ขาย “ตงฟง-โฟตอน” รุกตลาดฟู้ดทรัค-ฟลีตรถตู้รับจ้างป้ายเหลือง









          ยูไนเต็ด มอเตอร์ส ปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ ตงฟง-โฟตอน มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น รายได้มั่นคง โดย เดินหน้าจัดคอนเซ็ปต์ ฟู้ดทรัค สำหรับตงฟง เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ นักลงทุนอิสระ และกลุ่มคนรายได้คงที่ซึ่งอยากหารายได้เพิ่ม เชื่อมั่นมีกำลังซื้อ เสริมความมั่นคงให้ตนเอง ด้านโฟตอน จัดโปรโมชั่น ตอบรับกระแส รถตู้ดีเซลที่เริ่มกลับมาได้รับความสนใจ จากราคาน้ำมันที่ถูกลง เชื่อมั่นเครื่องยนต์คัมมินส์ จากสหรัฐฯ สร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการรถตู้รับจ้าง นำไปใช้ประกอบอาชีพขนส่งมวลชนได้เป็นอย่างดี คาดยอดขายแบรนด์ตงฟงในงานไม่ต่ำกว่า 80 คัน มั่นใจปีนี้คว้าเป้าหมาย 1,200 คันแน่นอน ในส่วนรถตู้โฟตอน คาดยอดไม่ต่ำกว่า 50 คันในงาน และปิดเป้าที่ 300 คันได้สำหรับปี 2558

          นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ยูไนเต็ด มอเตอร์ส จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถกระบะเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก แบรนด์ตงฟงและรถตู้อเนกประสงค์ 16 ที่นั่ง แบรนด์โฟตอน เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท ได้ทำการปรับกลยุทธ์การตลาดในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์รถที่จำหน่ายใหม่ทั้ง รถกระบะเชิงพาณิชย์ขนาดเล็กตงฟงและรถตู้ 16 ที่นั่งแบรนด์ โฟตอน ทั้ง 2 แบรนด์จะมุ่งเน้นจำหน่ายให้แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง และมีจุดประสงค์ในการใช้รถชัดเจน กล่าวคือในรถกระบะเล็กตงฟง จะเน้นจัดจำหน่ายในรูปแบบของรถฟู้ดทรัคสำเร็จรูป ต่อหลังคามาตรฐานออกไปจากบริษัทเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ต่างๆได้ในทันที ในขณะที่รถตู้โฟตอน 16 ที่นั่ง จะมุ่งจำหน่ายไปยังกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนส่งและรับจ้างเป็นหลัก โดยมีเป้าหมายคือ กลุ่มลูกค้าที่บริการรถให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวตามโรงแรม กลุ่มขนส่งนักเรียนตามโรงเรียนนานาชาติและเอกชน และกลุ่มขนส่งพนักงานตามนิคมอุตสาหกรรม หรือตามบริษัทต่างๆ

          ทางบริษัท เล็งเห็นถึงความเป็นไปได้ทางธุรกิจแบบใหม่ที่มั่นคงและยั่งยืน ในรูปแบบของฟู้ดทรัค หรือ รถขายอาหาร-เครื่องดื่ม ซึ่งเป็นกระแส และกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ นักลงทุนอิสระ และคนที่คิดหารายได้เสริม ซึ่งบริษัทมองว่ากลุ่มลูกค้าดังกล่าว มีจุดประสงค์และความมุ่งมั่นชัดเจนในการซื้อรถ และด้วยเอกลักษณ์ของการลงทุนน้อย และต้นทุนคงที่ต่ำ ของการเป็นเจ้าของรถกระบะตงฟง ทำให้ธุรกิจการขายอาหารเคลื่อนที่ มีความเป็นไปได้ทางธุรกิจมากขึ้น อีกทั้งกระแสของฟู้ดทรัคทำให้ลูกค้าสามารถเพิ่มมูลค่าของอาหารได้ กอปรกับเลือกทำเลได้เอง ส่งผลให้มีกำไรเหลือเก็บเดือนหนึ่งหลายหมื่นบาท นับว่าเป็นการลงทุนหรืออาชีพเสริมที่น่าสนใจเลยทีเดียว บริษัทจึงได้หันมามุ่งเน้นการขาย

          รถกระบะตงฟงในรูปแบบของฟู้ดทรัคสำเร็จรูป เพื่อทำให้ลูกค้าคนต่อๆไปมีความสะดวกในการมีฟู้ดทรัคเป็นของตัวเองกับตงฟง อีกทั้งยังมีนโยบายในการร่วมมือกับบริษัทแฟรนไชส์ต่างๆ เพื่อเป็นไอเดียธุรกิจเริ่มต้นให้กับลูกค้าอีกด้วย

          ​ สำหรับโฟตอนรถตู้โดยสาร ขนาด 16 ที่นั่ง ทางบริษัทเล็งเห็นถึงโอกาสของรถตู้พลังงานดีเซล ซึ่งกลับมาได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการอีกครั้ง โดยเดิมตลาดจะนิยมก๊าซธรรมชาติ NGV แต่เมื่อราคาน้ำมันมีการปรับตัวลงค่อนข้างมาก ผู้ประกอบการรถตู้รับจ้าง เริ่มกลับมาสนใจพลังงานดีเซล ซึ่งมีความสะดวกในการเติมเชื้อเพลิง ประกอบกับน้ำมันช่วยให้รถมีกำลังขับเคลื่อนที่ดีกว่า กลุ่มลูกค้าประกอบการประเภทนี้กำลังมองหารถตู้ที่มีคุณภาพ ประหยัดพลังงานและราคาไม่แพง เพื่อใช้ในการรับจ้างขนส่งมวลชน ซึ่งทางบริษัทมองว่าเครื่องยนต์คุณภาพอย่างคัมมินส์ มีชื่อเสียงในด้านความทนทาน และกำลังขับเคลื่อน ดังนั้นรถตู้โฟตอนน่าจะตอบโจทย์ของผู้ประกอบการเหล่านี้ได้อย่างตรงประเด็นและชัดเจนมาก

          ในช่วงสิ้นปีนี้นับเป็นโอกาสที่ดี ที่ภาวะการซื้อขายในอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังกลับมาคึกคัก บริษัทจึงได้เข้าร่วมงานจัดแสดงรถยนต์ มหกรรมยานยนต์ ระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม 2558 ซึ่งจัดให้มีขึ้นที่ ชาเลนเจอร์ ฮอล์ เมืองทองธานี บริษัทคาดว่าจะทำยอดขายรถทั้ง 2 แบรนด์ได้ตามเป้าหมาย และ เชื่อว่ากลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของ ยูไนเต็ด มอเตอร์ส จะสามารถตอบโจทย์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ทั้ง 2 กลุ่มได้อย่างแน่นอน โดยคาดว่ารถกระบะตงฟงน่าจะมียอดจองไม่ต่ำกว่า 80 คัน และจบสิ้นปีตงฟงต้องทำยอดขายรวมได้ถึง 1,200 คัน ในขณะที่รถตู้โฟตอนคาดหวังยอดประมาณ 50 คัน สำหรับในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งนี้ และต้องปิดเป้าขายในปี 2558 ได้ถึง 300 คัน นายพิทยากล่าว
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:12:12 PM
ฮอนด้า เผยโฉม “บีอาร์-วี” แอคทีฟสปอร์ตครอสโอเวอร์ใหม่ ครั้งแรกอย่างไม่เป็นทางการ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32



          บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด?นำโดยนายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ (ที่ 2 จากขวา) และนายสมภพ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด (ที่ 2 จากซ้าย) ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการนำเสนอรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ที่ครอบคลุมในทุกระดับ ด้วยการเผยโฉม ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ เป็นครั้งแรกภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้า

          ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ เป็นยนตรกรรมแอคทีฟสปอร์ตครอสโอเวอร์ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของรถเอสยูวีที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าในระดับคอมแพคท์และซับคอมแพคท์ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งสไตล์สปอร์ต และช่วงล่างยกสูง ตอบทุกเส้นทางที่ท้าทาย มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน ที่ 4,700 รอบต่อนาที มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม รองรับพลังงานทางเลือก E85 สะดวกสบายด้วยพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง ทั้งยังเป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกในระดับนี้ที่นำเสนอเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่สามารถปรับพับได้หลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีรุ่นเบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง ให้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่กว้างขวางยิ่งขึ้น พร้อมฟังก์ชั่นและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย ให้ความอุ่นใจในทุกการเดินทางด้วยมาตรฐานความปลอดภัย ที่เหนือระดับและครบครัน

          ผู้สนใจสามารถร่วมสัมผัสยนตรกรรมฮอนด้า พร้อมแคมเปญและข้อเสนอสุดพิเศษจากฮอนด้าได้ที่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 ณ บูธ A14 อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ - 13 ธันวาคม 2558 หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:13:43 PM
จากัวร์ แลนด์โรเวอร์เปิดตัวยนตรกรรมหรู 4 รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32









          จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ นำเสนอรถยนต์ 4 รุ่นใหม่สู่ตลาดรถหรูเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ได้แก่ ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี, เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด, เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด และเรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016
          ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี รถสปอร์ตซาลูนที่มอบสุดยอดแห่งนวัตกรรม สมรรถนะการขับขี่และดีไซน์ที่งามสง่า ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่ 3,999,000 บาท สำหรับรุ่น R-Sport เฉพาะในงานเท่านั้น
          เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด และ เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด รถไฮบริดเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นแรกของโลกที่เปิดตัวในประเทศไทย มาพร้อมกับเทคโนโลยีไฮบริดแท้ด้วยสมรรถนะแลนด์โรเวอร์อย่างเต็มขั้น
          เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 รถยนต์ขายดีอันดับหนึ่งที่มาพร้อมดีไซน์และเทคโนโลยีสุดล้ำ
          เชิญทดลองขับทดสอบสมรรถนะเหนือระดับของรุ่นต่างๆ ได้แก่ ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี, เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต และ เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค 2016
          พบกับโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 เริ่มต้นที่ 3,999,000 บาท สำหรับรุ่น SE Plus, ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%* และเงินดาวน์ขั้นต่ำที่ 35% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษาตัวรถฟรี 3 ปี** พร้อมด้วยส่วนลด 15% สำหรับผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการขาย และอุปกรณ์ตกแต่ง พร้อมฟรีค่าติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่ง

          จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ เปิดตัวยนตรกรรมหรูสัญชาติอังกฤษ 4 รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ ณ งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 (The 32th Thailand International Motor Expo 2015) ที่บูธหมายเลข B04 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 โดยในงานนี้ ซิตี้ ออโต้โมบิล นำเสนอสุดยอดยานยนต์สมรรถนะสูงจากจากัวร์ แลนด์โรเวอร์หลากหลายรุ่น เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างสำหรับผู้บริโภคระดับสูงในเมืองไทย
          ชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด กล่าวว่า "จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ คือผู้นำในตลาดรถยนต์หรูและเอสยูวีระดับโลก และเพื่อตอบสนองความต้องการของไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้าในประเทศไทย เราจึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวยานยนต์หรูรุ่นใหม่ทั้ง 4 รุ่นในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ เพื่อมอบโอกาสให้ลูกค้าที่กำลังมองหายานยนต์ในฝัน ได้สัมผัสและเป็นเจ้าของสุดยอดยนตรกรรมที่โดดเด่นทั้งในด้านรูปลักษณ์ การออกแบบห้องโดยสารภายในที่หรูหราสง่างาม รวมไปถึงเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่และอุปกรณ์อันล้ำสมัยที่หาไม่ได้จากรถยนต์แบรนด์อื่น"
          ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี รถสปอร์ตซาลูนที่มอบสุดยอดแห่งนวัตกรรม สมรรถนะการขับขี่และดีไซน์ที่งามสง่า
          จากัวร์ เอ็กซ์อี ได้รับคำยกย่องจากสื่อมวลชนสายรถยนต์จากทั่วยุโรปว่าเป็นรถซาลูนหรูขนาดกลางระดับ
          พรีเมี่ยมที่ดีที่สุด และสำหรับเมืองไทย จากัวร์ เอ็กซ์อี เป็นรถยนต์ที่ตอบสนองความต้องการของนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่หลงใหลในความเร็วและรูปลักษณ์ที่สวยงามของรถยนต์สปอร์ต 4 ประตูในราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังโดดเด่น

          ด้วยการออกแบบห้องโดยสารที่หรูหราและภูมิฐาน พร้อมประสิทธิภาพการปล่อยไอเสียต่ำ โดยยังคงสมรรถนะในการขับขี่แบบรถสปอร์ตได้อย่างสมบูรณ์ จากัวร์ เอ็กซ์อี จึงเป็นรถยนต์สปอร์ตซาลูนสำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่อย่างแท้จริง โดย จากัวร์ เอ็กซ์อี เปิดตัวที่ประเทศไทยในรุ่น ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี R-sport และดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี Portfolio เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งมอบการขับขี่ที่ราบรื่นและเร็วแรงเต็มสมรรถนะ
          ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี มาพร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะในงานมหกรรมยานยนต์ ที่ 3,999,000 บาท ในรุ่น R-Sport
          จากัวร์ คือผู้นำด้านการใช้โครงสร้างอะลูมิเนียมกับรถยนต์มานานกว่า 10 ปี โดย จากัวร์ เอ็กซ์อี ยังเป็นรถยนต์รุ่นแรกของจากัวร์ที่ใช้สถาปัตยกรรมโครงสร้างอลูมิเนียมรุ่นใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาจากอุตสาหกรรมอากาศยานเพื่อมอบสมรรถนะอันยอดเยี่ยม โครงสร้างรูปแบบนี้ถือว่ามีความสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับยานยนต์ที่เน้นสมรรถนะการขับขี่ ทั้งยังมอบสัดส่วนการกระจายน้ำหนักใกล้เคียงอัตราส่วน 50:50 ซึ่งถือว่าที่ดีเยี่ยมที่สุด โครงสร้างน้ำหนักเบายังเสริมประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน และลดการปล่อยไอเสียต่ำสุดที่ 99 กรัมต่อกิโลเมตรและยังช่วยให้ จากัวร์ เอ็กซ์อี ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 237 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว
          นอกจากระบบความบันเทิงหลากหลายและระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง จากัวร์ เอ็กซ์อี ยังมาพร้อมกับจอเลเซอร์แบบ Head-up Display (HUD) ที่ให้การแสดงผลแบบจอกว้างพร้อมความคมชัดและคุณภาพสีระดับสูง สำหรับการแสดงข้อมูลต่างๆ อาทิ ความเร็วและการนำทางที่ชัดเจนโดยไม่รบกวนสายตาในขณะขับขี่
          เรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด และ เรนจ์ โรเวอร์ ไฮบริด
          รถยนต์ไฮบริดเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นแรกของโลกที่เปิดตัวในประเทศไทย มาพร้อมกับเทคโนโลยีไฮบริดแท้ด้วยสมรรถนะแลนด์โรเวอร์อย่างเต็มขั้น
          เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด และ เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานเปิดตัวในปีนี้ โดยเป็นยานยนต์ที่ได้รับการออกแบบและวางระบบวิศวกรรมเพื่อมอบสมรรถนะและการใช้งานแบบอเนกประสงค์อย่างเหนือชั้น ผสานเทคโนโลยีไฮบริดเข้ากับโครงรถชั้นเลิศ จึงทำให้ยานยนต์เรนจ์โรเวอร์ทั้งสองรุ่นพร้อมบุกตะลุยไปกับคุณในทุกสภาวะ โดดเด่นทั้งในด้านความสูงท้องรถ มุมเงยและมุมในการขึ้นทางชัน ทั้งยังพร้อมลุยน้ำลึกระดับสูงสุดที่ 850 มม. ด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมในทุกองศาจากเครื่องยนต์ไฮบริดแท้ 100% พร้อมสุดยอดสมรรถนะจากแลนด์โรเวอร์อย่างสมบูรณ์แบบ
          โดยรถทั้งสองรุ่นนำเครื่องยนต์ดีเซล LR-SDV6 ขนาด 3.0 ลิตร มาใช้เป็นครั้งแรก มอบกำลังเครื่องถึง 340 แรงม้า ผสมผสานที่สุดแห่งความเร็ว โดยปล่อยไอเสียต่ำและประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด จึงนับเป็นเทคโนโลยีการขับเคลื่อนแห่งอนาคตที่แท้จริง เรนจ์โรเวอร์ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมฟังก์ชั่นพิเศษมากมาย อาทิ ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายอัตโนมัติ (Gesture Tailgate Technology), ระบบปรับความสูงตัวรถอัตโนมัติ (Automatic Access Height), ระบบการปรับรูปแบบการขับขี่ตามสภาพถนนใหม่ล่าสุด (Terrain Response 2), ระบบควบคุมความเร็วตามสภาพถนน (All Terrain Progress Control) และระบบความบันเทิงภายในห้องโดยสารด้านหลังที่มาพร้อมรีโมตควบคุม (รวมไปถึงหูฟังไร้สายสองชุด และช่องยูเอสบีหนึ่งช่องบริเวณที่นั่งแถวสอง) พร้อมด้วยจอสกรีนขนาด 8 นิ้ว
          เรนจ์ โรเวอร์ และ เรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด มาพร้อม 4 โหมดการขับขี่ที่ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานได้ ทั้ง โหมด Electric Vehicle (EV) On, โหมด Electric Vehicle (EV) Off, โหมดสปอร์ต (ซึ่งสามารถเร่งแรงบิดได้เพียงสะกิดคันเร่งเบาๆเท่านั้น) และ โหมดหยุด/สตาร์ท อัตโนมัติ ซึ่งช่วยเพิ่มการชาร์จประจุให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด มาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบอากาศสี่มุมรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งมอบสมดุลของล้อและการทรงตัวที่ดีเยี่ยม

          เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รถยนต์ขายดีอันดับหนึ่งพร้อมดีไซน์ใหม่สุดล้ำ
          ที่สุดแห่งสมรรถนะและการออกแบบจาก เรนจ์โรเวอร์ อีโวค ยานยนต์รุ่นยอดนิยมจากแลนด์โรเวอร์ กับการเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ในรุ่นปี 2016 เพื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ ซึ่งนอกเหนือจากสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น เทคโนโลยีเพื่อความบันเทิงและความปลอดภัยชั้นเยี่ยมที่ทำให้ เรนจ์โรเวอร์ อีโวค ประสบความสำเร็จด้านยอดขายมาแล้วทั่วโลก เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 ยังมอบความโดดเด่นยิ่งกว่าด้วยการออกแบบภายในห้องโดยสารใหม่ด้วยวัสดุชั้นเยี่ยมเพื่อมอบความหรูหราและสะดวกสบายที่เป็นเลิศยิ่งขึ้น สะกดทุกสายตาด้วยภาพลักษณ์ที่ภูมิฐานจากแผงกันชนดีไซน์ใหม่ ตะแกรงหน้าอันโฉบเฉี่ยวสองรูปแบบ ผสานไฟหน้าแอลอีดีและล้ออัลลอยใหม่ล่าสุดที่มีให้เลือกถึง 3 แบบ สำหรับประเทศไทย เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 นำเสนอ 2 รุ่นด้วยกัน คือ SE Plus และ HSE Dynamic เพื่อมอบสุดยอดประสบการณ์การขับขี่ด้วยเทคโนโลยีแห่งยานยนต์และภาพลักษณ์ที่หรูหราเปี่ยมเสน่ห์ โดยมาพร้อมกับทางเลือกชุดอุปกรณ์เสริมสีดำ (Black Pack accessories)

          มอบข้อเสนอสุดพิเศษในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป
          ชาญชัย มหันตคุณ กล่าวเสริมว่า ''นอกจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในงานมหกรรมยานยนต์ ซิตี้ ออโต้โมบิล ยังขอมอบข้อเสนอสุดพิเศษแก่ผู้ที่สั่งจองภายในงาน ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ย 1.99%* เงินดาวน์ขั้นต่ำที่ 35% ผ่อนนาน 48 เดือน และโปรแกรมบำรุงรักษาตัวรถฟรี 3 ปี** เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 SE Plus ยังให้คุณเป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 3,999,000 บาท และข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับ ดิ ออล-นิว จากกัวร์ เอ็กซ์อี R-Sport ที่ 3,999,000 บาท เฉพาะในงานมหกรรมยานยนต์นี้เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อเป็นการมอบประสบการณ์สุดพิเศษแก่ลูกค้าของเรา เรายังเปิดให้จองคิวทดสอบสมรรถนะรถยนต์ทั้งสามรุ่นล่าสุด ได้แก่ ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี, เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต และ เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 รวมทั้งจัดแสดงรถรุ่นอื่นๆภายในงาน ได้แก่ จากัวร์ เอ็กซ์เจ, จากัวร์ เอฟ-ไทป์ คอนเวอร์ทิเบิล (ในสี Firesand) และ เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต อีกด้วย นอกจากนี้ เรายังมอบส่วนลด 15% สำหรับผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการขาย และอุปกรณ์ตกแต่ง พร้อมฟรีค่าติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่ง สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าภายในงาน"
          "สำหรับช่วงปลายปีนี้ไปจนถึงปี 2559 เราต้องการมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้ผู้ใช้จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ โดยมุ่งเน้นกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์เพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้ารายใหม่ที่ต้องการร่วมสัมผัสประสบการณ์ในแบบฉบับ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ผ่านกิจกรรมที่น่าสนใจ งานโร้ดโชว์ และกิจกรรมที่ชวนให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของเรามากขึ้น โดยเมื่อเร็วๆนี้ เราได้เปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการที่พระราม 4 ซึ่งถือเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการแฟล็กชิพของจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นำเสนอการบริการสำหรับรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์แบบครบวงจร ซึ่งครบครันทั้งบริการซ่อมบำรุงตัวถังอะลูมิเนียมตามมาตรฐานอังกฤษ ช่องซ่อมปลอดฝุ่น รวมไปถึงเครื่องดึงตัวถัง เป็นต้น ศูนย์บริการแห่งนี้ยังเป็นศูนย์บริการที่นำเครื่องวินิจฉัยตัวถังรุ่นใหม่ล่าสุดมาใช้เป็นแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก เราจึงมีความมั่นใจว่าลูกค้าที่ซื้อรถจาก ซิตี้ ออโต้โมบิล ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จะได้รับการบริการหลังการขายมีคุณภาพในทุกระดับ
          สำหรับลูกค้าที่สนใจจองคิวการทดสอบสมรรถนะรถยนต์รุ่น ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี, เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต และ เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 สามารถลงทะเบียนได้โดยตรงที่บูธจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ หมายเลข B04 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ราคารถยนต์ 4 รุ่นล่าสุด (เฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย)
          ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี
          ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี R-sport เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร (จำนวนจำกัด) 3,999,000 บาท
          ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี Portfolio เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4,799,000 บาท
          เรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด
          เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด HSE Dynamic Pack SDV6 เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 8,999,000 บาท
          เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด HSE Dynamic เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 14,599,000 บาท
          เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด Autobiography เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 14,999,000 บาท
          เรนจ์ โรเวอร์ ไฮบริด
          เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด Autobiography SDV6 เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 13,399,000 บาท
          เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค 2016
          เรนจ์โรเวอร์ อีโวค SE Plus SD4 เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร (จำนวนจำกัด) 3,999,000 บาท
          เรนจ์โรเวอร์ อีโวค HSE Dynamic SD4 เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร 4,999,000 บาท
          * สำหรับรถยนต์ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ทุกรุ่น
          **เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:14:51 PM
ภาพข่าว: จากัวร์ แลนด์โรเวอร์เปิดตัวยนตรกรรมหรู 4 รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32



          ชาญชัย มหันตคุณ (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด เปิดตัวรถยนต์ 4 รุ่นใหม่สู่ตลาดรถหรูเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ได้แก่ ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี, เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด, เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด และเรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี โดยมีชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานกรรมการผู้จัดการ และ ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานกรรมการบริษัทสื่อสากล จำกัด ให้เกียรติร่วมถ่ายภาพ
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:16:26 PM
นิชคาร์กรุ๊ป เปิดตัวแลมโบร์กินี ฮูราแคน แอลพี 610-4 และ ฮูราแคน แอลพี 580-2 โมเดลใหม่ล่าสุด









          นิชคาร์กรุ๊ป ผู้นำเข้ารถยนต์ระดับซุปเปอร์คาร์ สปอร์ตคาร์ ไฮเปอร์คาร์ และตัวแทนจำหน่ายแลมโบร์กินีอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดตัวสองโมเดลใหม่ล่าสุดจากค่ายกระทิงดุ "ฮูราแคน แอลพี 610-4 Spyder" และ เครื่องยนต์ขับเคลื่อนสองล้อ "ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe" ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 ณ บูธ B03 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี และประกาศเปิดรับจองทั้งสองรุ่น พร้อมส่งมอบ ไตรมาสแรก พ.ศ. 2559
          ฮูราแคน แอลพี 610-4 Spyder ราคาเริ่มต้นที่ 26,800,000 บาท และ "ฮูราแคน แอลพี 580 -2 Coupe" ราคาเริ่มต้นที่ 22,500,000 บาท
          คุณวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ นิชคาร์กรุ๊ป กล่าวว่า "นิชคาร์กรุ๊ปได้รับความไว้วางใจ ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายซุปเปอร์คาร์ในประเทศไทยยาวนาน กว่า 30 ปี ลูกค้าจึงมั่นใจได้อย่างเต็มเปี่ยม ในการบริการอย่างผู้ชำนาญการ ตั้งแต่กระบวนการขาย ตลอดจนการส่งมอบและบริการหลังการขาย พร้อมแฟลกชิพสโตร์แลมโบร์กินีขนาดใหญ่ ในพื้นที่โชว์รูมของนิชคาร์กรุ๊ป ถนนมอเตอร์เวย์ นอกจากนี้ เรายังร่วมกับแลมโบร์กินีคลับ ประเทศไทย จัดกิจกรรมเพื่อลูกค้า อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบความสนุกสนานในการขับ ให้แก่ลูกค้าสูงสุด"
          ฮูราแคน แอลพี 610-4 Spyder ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ได้รับการพัฒนาให้การขับเป็นไปด้วยความราบลื่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้โหมด Strada ในการขับบนถนนหลัก ไฮไลท์อยู่ที่ประสิทธิภาพอันทรงพลังยิ่งขึ้น การเพิ่มอีกระดับของความหรูหรา สามารถขับได้ทุกวัน
          ฮูราแคน แอลพี 610-4 ยังมีสีให้เลือกมากขึ้น รถโมเดลมาตรฐานมาพร้อมกับเบาะหนังบุตั้งแต่ที่จับประตูถึงด้านบนของคอนโซล ช่องระบายอากาศใช้สีดำด้านสร้างความหรูหรา
          นอกจากนี้ โปรแกรม Ad Personam อันโด่งดังของแบรนด์แลมโบร์กินี ยังนำเสนออุปกรณ์ตกแต่งเสริมที่มีให้เลือกเพิ่มขึ้น เพื่อให้ผู้ขับได้ครอบครองรถที่สะท้อนความเป็นตัวตนสูงสุด อาทิ ระบบเสียง Sensonum ขนาดกำลัง 390 วัตต์ RMS พร้อมเครื่องขยายเสียงสิบช่องทาง และ ลำโพงสิบตัว รูปหกเหลี่ยม ประทับตรา Sensonum แบบพิเศษสุดสำหรับ ฮูราแคน แอลพี 610-4 โดยเฉพาะ หรือเลือกเปลี่ยนมาใช้ระบบท่อไอเสียสปอร์ตที่จะมาพร้อมสีดำมันวาว สร้างความทรงพลัง ไฟ LED ใหม่ ในห้องเครื่อง สามารถเปลี่ยนมาใช้ร่วมกับห้องเครื่องคาร์บอนไฟเบอร์ และฝากระโปรงเครื่องยนต์แบบโปร่งใส หรือสามารถเพิ่มระบบล็อคความเร็วขับขี่ หรือเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ หรือ เลือกเพิ่มสายชาร์จแบตในรถยนต์ขนาด 12 V หรือเลือกเพิ่มที่วางแก้วได้
          ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe ใช้ระบบขับเคลื่อนสองล้อ ที่ล้อหลัง เครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.2 ลิตร พร้อมน้ำหนักตัวรถที่เบาลง เพียง 1,389 กก. เบากว่าเครื่องยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อถึง 33 กก. ขนาดกำลัง 426 กิโลวัตต์/580 แรงม้า แรงบิด 540 นิวตันเมตร 75% ของแรงบิดที่ 1,000 รอบต่อนาที สามารถเร่งที่ความเร็ว 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.4 วินาที และเร่งได้สูงสุด 320 กม./ชม.
          อัตราส่วนกระจายน้ำหนักด้านหน้าและหลังอยู่ที่ 40/60 ลดแรงเฉื่อยบนเพลาหน้า และมีการติดตั้งการจัดการพลังงานใหม่ทั้งหมด รวมถึง ปรับปรุงระบบกันสะเทือน ตั้งค่าพวงมาลัยใหม่ โดยสามารถเลือกการขับแบบ STRADA, SPORT และ CORSA เพื่อการขับราบลื่นยิ่งขึ้นตามรูปแบบการขับที่แตกต่างกัน
          ในด้านการออกแบบ ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe เกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างนักออกแบบ Centro Stile และผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศพลศาสตร์ของแลมโบร์กินี โดยรูปลักษณ์มีความทันสมัยมากขึ้น แตกต่างจากเครื่องยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ อย่างชัดเจน ช่องรับอากาศด้านหน้าได้รับการปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มแรงกดให้กับล้อหน้า เสริมด้วยสปอยเลอร์หลัง และดิฟฟิวเซอร์ด้านหลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศด้านหลังตัวรถได้อย่างเต็มที่
          ฮูราแคน แอลพี 610-4 Spyder และ ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe ใช้ระบบหยุดการทำงานของกระบอกสูบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เป็นครั้งแรก ในเครื่องยนต์ V10 โดย 5 สูบ จากทั้งหมด 10 กระบอกสูบจะหยุดทำงาน เมื่อเครื่องยนต์ไม่ได้ใช้งานเต็มกำลัง และจะสวิตซ์กลับมาที่ระบบ 10 สูบ เมื่อมีการเร่งเครื่องยนต์ ระบบนี้จะช่วยประหยัดอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงและการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับ ฮูราแคน แอลพี 610-4 Spyder ได้กว่า 283 ก./กม. และ 278 ก./กม. สำหรับ ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe
          ผู้ขับ ยังสามารถปรับแต่ง ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe ทั้งภายใน และภายนอกตัวถังได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยโปรแกรม Ad Personam โดยโมเดลมาตรฐาน ติดตั้ง Infotainment System II พร้อมแผงหน้าปัดความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว

          หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแลมโบร์กินี ฮูราแคน แอลพี 610-4 Spyder และ ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe สามารถติดต่อ นิชคาร์กรุ๊ป ที่ โทร 02-321-1111 โดยเปิดบริการทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 17.30 น.
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:17:10 PM
Debut of two Lamborghini Huracan models in Bangkok









  Niche Cars Group, Thailand's leading high end distributor of elite automotive brands, and the sole authorised dealer for Lamborghini in Thailand, debuts two latest Huracán models: Lamborghini Huracán LP 610-4 Spyder and Lamborghini Huracán LP 580-2 Coupe at Motor Expo 2015 between 2-13 December at Challenger Hall, IMPACT Muang Thong Thani. With pricing starting at 26,800,000 THB for Lamborghini Huracán LP 610-4 and 22,500,000 THB for Lamborghini Huracán LP 580-2, both models are available to order now at Niche Cars Group Tel. 02-321-1111 with deliveries starting Q1 of 2016.
          Mr. Vittawat Chinabarramee, Managing Director of Niche Cars Group said "Niche Cars Group has been in supercars business for almost 30 years. Supercars lovers can be fully assured in our expertise. We have large Lamborghini flagship store located at Motorway, km 1. We also regularly hold special activities together with Lamborghini Club Thailand to deliver the fun driving experience for our customers"
          Huracán LP 610-4 offers the new contents which focus on efficiency, drivability and luxury and are already available with the 2016 model year. A fine-tuning of the electronically controlled 4WD system provides a neutral and even more improved driving behavior, particularly in STRADA mode.
          The offer in the color and trim of the Huracán has been significantly enlarged. Interior refinements as standard include leather to door handles and the upper parts of the center console. Air vents are now painted in exclusive matt black.
          Lamborghini Ad Personam, the brand's customization program, has also added the availability of interior personalization, as well as exterior options including heritage colors and matt paints. The full Ad Personam program provides for owners wishing to further customize their cars to their unique personal tastes.
          The options program has been further extended. New options available include Lamborghini's Sensonum audio system. The system delivers 390 Watts RMS, with a ten-channel amplifier and a range of ten loudspeakers in hexagonal-shaped grilles and the exclusive Sensonum badge.
          Lamborghini's optional sports exhaust system, which can be specified with a style package for high gloss black tailpipes, is now available in all markets worldwide.
          New LED lighting in the engine compartment can be combined with the optional transparent engine bonnet and carbon fiber engine compartment. Cruise Control can be specified, and a travel pack provides additional storage nets front and rear, an additional 12V lighter and cupholders.
          Lamborghini Huracán LP 580-2, a two-wheel drive version of the Huracán coupe, has been engineered and tuned for an essential driving experience. With its naturally aspirated V10 5.2 l engine sending 426 kW / 580 hp to the rear axle, the Huracán LP 580-2's dry weight is just 1,389 kg, thus 33 kg lighter than the four-wheel-drive version.
          Weight distribution is biased 40% at the front / 60% at the rear, reducing inertia on the front axle. An entirely new power management set-up, encompassing modified suspension, new steering set-up and recalibrated stability and traction controls connects the driver as directly as possible with the road. The selectable Lamborghini driving modes STRADA, SPORT and CORSA are tuned to provide oversteering characteristics, emphasizing authentic rear-wheel drive behavior.
          The Lamborghini Huracán LP 580-2 is clearly different from its four wheeldrive stable mate. The front and rear of the Huracán LP 580-2 have been redesigned, accenting a young, fresh and more assertive look and highlighting the aeronautic styling.
          Each design detail of the Lamborghini Huracán LP 580-2 celebrates the aesthetic of function; the result of a close collaboration between the Centro Stile designers and Lamborghini's aerodynamic experts. The large, newly formed front air intakes specifically direct the cooling air and headwind to increase down pressure on the front axle. The spoiler lip at the rear works together with the rising diffuser in the underbody to improve airflow around the rear of the car – the Huracán does not require a movable rear spoiler.
          The LP 580-2 is available in the full range of Huracán external and internal colors and trims. In addition, through Lamborghini's personalization program Ad Personam, the options for external and internal colors are limitless.
          As standard, both Huracán LP 610-4 and LP 580-2 include cylinder deactivation to improve engine efficiency; the first time this function is included in a naturally aspirated V10 engine. When full engine capacity is not required, five of the ten cylinders are temporarily deactivated by switching off one cylinder bank. When the driver accelerates, the system switches back instantaneously to ten-cylinder mode, while being virtually impossible to detect by the driver.

          For more information, please contact Niche Cars Group at 02-321-111. Or visit Lamborghini flagship store at Motorway, km 1 which is open every day from 8.30 – 17.30 hr.
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:19:01 PM
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส แนะนำ “มิราจ ใหม่” รุ่นปี 2016 ในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32









          มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัว "มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ : ให้คุณมากกว่าที่คิด" โดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น พร้อมระบบเสริมความปลอดภัยอัจฉริยะที่ติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถอีโค คาร์ และประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร*1 ตั้งราคาขายที่ 383,000 – 567,000 บาท โดยรับจองในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 1-13 ธันวาคม นี้ ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี และที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ 223 แห่งทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และมีกำหนดส่งมอบลูกค้าตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป
          มร. โมะริคาซุ ชกคิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัว "มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ รุ่นปี 2016" ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32: Thailand International Motor Expo 2015 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมเปิดรับจองในงานและที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ 223 แห่ง ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยมีกำหนดส่งมอบรถให้กับลูกค้าตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 เป็นต้นไป
          สำหรับ มิตซูบิชิ "มิราจ" ใหม่ เป็นรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานรุ่นแรกในสายผลิตภัณฑ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ภายใต้โครงการโกลบอล สมอลล์ ที่ถูกผลิตขึ้น ณ โรงงานใหม่แห่งที่ 3 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกในประเทศไทยในเดือนมีนาคม 2555 ในฐานะรถยนต์อีโค คาร์ โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมารถรุ่นดังกล่าวมียอดขายในกว่า 93 ประเทศทั่วโลกแล้วกว่า 320,000 คัน ในจำนวนดังกล่าวเป็นยอดขายภายในประเทศไทยกว่า 83,000 คัน
          สำหรับมิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ รุ่นปี 2016 มาพร้อมแนวคิด "ให้คุณมากกว่าที่คิด" ด้วย 3 คุณสมบัติหลัก ; "Stylish" – โดดเด่นด้วยการออกแบบภายนอกและภายในใหม่ตามแนวคิด "Spicy Small" และเพิ่มสีมาตรฐานใหม่ 3 สี คือ สีแดง (Red Wine) สีส้ม (Sunrise Orange) สีเทาไทเทเนียม (Titanium Grey); "Smart Safety" – ครบครันด้วยระบบเสริมความปลอดภัยอัจฉริยะที่ติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถอีโค คาร์ ; และ "Saving" –ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร*1 เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน (ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน) และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุดเพียง 98 กรัม ต่อกิโลเมตร*2
          ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ รุ่นปี 2016 ถือว่ามีคุณสมบัติซึ่งผ่านข้อกำหนดทางเทคนิคของรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ อีโค คาร์ รุ่นที่ 2 ที่ระบุว่าจะต้องมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และมีมาตรฐานมลพิษระดับ EURO 5 ตลอดจนมีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 100 กรัมต่อ 1 กิโลเมตร รวมทั้งมีคุณสมบัติในการป้องกันผู้โดยสารกรณีที่เกิดอุบัติเหตุการชนด้านหน้าและด้านข้างของตัวรถ และติดตั้งระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety)
          1 :จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการตาม Combine Mode ที่ระบุไว้ในข้อกำหนดทางเทคนิค UNECE Reg.101 Rev. 02 ในรุ่น GLX CVT
          2 :จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่วัดตามหลักเกณฑ์ที่ระบุในข้อกำหนดทางเทคนิค UNECE Reg.101 Rev. 02 ในรุ่น GLX CVT

          ภาพรวมของผลิตภัณฑ์ : มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ รุ่นปี 2016
          "Stylish"…ให้มากกว่าความโดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ที่สปอร์ตกว่า โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียวทุกองศา
          - มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ได้รับการปรับโฉมภายนอกเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบด้านหน้าใหม่ ทั้งกระโปรงหน้า กระจังหน้า และกันชนหน้า-หลัง พร้อมการตกแต่งด้านล่างกระจังหน้าแบบโครเมียม และไฟท้ายแบบ LED โดยในรุ่น GLS-LTD และ GLS มีการติดตั้งไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ Bi-XENON HID ไฟหรี่แบบสเปคตรัม LED ไฟตัดหมอกหน้า และสปอยเลอร์หลังแบบใหม่พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ซึ่งช่วยให้การไหลเวียนของอากาศดีขึ้นตามหลักอากาศพลศาสตร์และช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ รวมทั้งล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว แบบทูโทน ลายใหม่
          - สีตัวถังใหม่ 3 สี คือ สีแดง (Wine Red) สีส้ม (Sunrise Orange) และสีเทาไทเทเนียม (Titanium Grey)
          - การตกแต่งวัสดุภายในโทนสีดำแบบ Piano Black บริเวณแผงคอนโซลหน้า ฐานเกียร์ และแผงประตู โดยในรุ่น GLS-LTD และ GLS มาพร้อมเบาะผ้าสีดำลายใหม่เย็บด้ายสีเงินเพิ่มความสปอร์ตยิ่งขึ้น พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 3 ก้าน ออกแบบใหม่เพื่อความกระชับมือขึ้นพร้อมการตกแต่งด้วยโครเมี่ยมผสมผสานกับวัสดุสีดำแบบ Piano Black และมาตรวัดการขับขี่แบบ Semi-High Contrast (ยกเว้นรุ่น GL) รวมทั้งเพิ่มฟังก์ชั่นที่สะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น อาทิ ระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยมาพร้อมระบบควบคุมการสั่งงานด้วยเสียงและปุ่มรับสาย-วางสายที่พวงมาลัยในรุ่น GLS และ GLX

          "Smart Safety"…ให้มากกว่าความมั่นใจด้วยระบบเสริมความปลอดภัยอัจฉริยะที่มีครั้งแรกในรถอีโคคาร์
          - ในรุ่น GLS-LTD และ GLS มีการติดตั้งระบบเสริมความปลอดภัยอัจฉริยะที่ถือเป็นครั้งแรกในอีโคคาร์
          o ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ) (FCM-LS : Forward Collision Mitigation System-Low Speed Range) ใช้คลื่นเลเซอร์เรดาร์ในการประเมินระยะห่างจากรถยนต์คันหน้าหากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถยนต์คันหน้าในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนและช่วยชะลอความเร็ว ที่ความเร็วโดยประมาณไม่เกิน 30 กม.ต่อชั่วโมง
          o ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (เฉพาะด้านหน้า) (RMS-FORWARD : Radar Sensing Misacceleration Mitigation System-Forward) โดยระบบจะตรวจจับวัตถุด้านหน้าหากมีการเหยียบคันเร่งผิดพลาดอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ระบบจะทำการเตือนและตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ขับขี่เบรกรถได้ทันซึ่งจะช่วยลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการชน ที่ความเร็วโดยประมาณไม่เกิน 10 กม.ต่อชั่วโมง โดยมีระยะห่างด้านหน้าโดยประมาณไม่เกิน 4 เมตร
          - มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ทุกรุ่นติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC-Active Stability Control) และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA-Hill Start Assist System) รวมทั้งเสริมความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS-Anti Lock Braking System) ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD-Electronic Brake Force Distribution) และระบบเสริมแรงเบรก (BA-Brake Assist) ตลอดจนถุงลมนิรภัยคู่หน้าและเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและระบบผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่งซึ่งในรุ่น GLS-LTD และ GLS เป็นแบบ 2 ทิศทาง (ด้านคนขับ)
          - ให้ความปลอดภัยสูงสุดจากโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ RISE Body (Reinforced Impact Safety Evolution) ช่วยซับและลดแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถังด้วยส่วนรับแรงกระแทกผลิตจากเหล็กที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ "High Tensile Steel" ช่วยลดการยุบของห้องโดยสารจากการชน

          "Saving"…ให้มากกว่าความประหยัดด้วยอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร*1
          - มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ยังคงโดดเด่นในเรื่องการประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน (ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน) โดยประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร*1 นอกจากนี้ยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุดเพียง 98 กรัม ต่อกิโลเมตร*2 จากการลดทอนแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ลงด้วยการติดตั้งแหวนลูกสูบเคลือบสารคาร์บอนชนิดใหม่ พร้อมโซ่ไทม์มิ่งออกแบบใหม่ รวมทั้งติดตั้งระบบควบคุมอัลเทอเนเตอร์เพื่อลดแรงต้านกรณีแบตเตอรี่เต็ม
          - ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC MIVEC 12 Valve ซึ่งมีทั้งระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และระบบเกียร์อัตโนมัติ INVECS-III CVTพร้อมระบบ INC (Idle Neutral Control) ที่ช่วยควบคุมและตัดกำลังไปยังเพลาขับโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรก และระบบ G-SENSOR ที่ช่วยควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางลาดชัน
          - มาตรฐานมลพิษ ระดับ 5

          รุ่นรถและราคามิตซูบิชิ "มิราจ" ใหม่ มีทั้งหมด 4 รุ่นหลัก โดยตั้งราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 383,000 – 567,000 บาท
รุ่นรถราคา (บาท)
          (1) GLS -LTD เกียร์อัตโนมัติ 567,000
          (2) GLS เกียร์อัตโนมัติ 539,000
          (3) GLX เกียร์อัตโนมัติ 473,000 เกียร์ธรรมดา 439,000
          (4) GL เกียร์ธรรมดา 383,000

          * ราคาเพิ่ม 5,000 บาทสำหรับสีขาวมุก ไวท์เพิร์ล (White Pearl)
          สีตัวถัง
          (1) สีแดง - Wine Red (สีมาตรฐานใหม่)
          (2) สีส้ม - Sunrise Orange (สีมาตรฐานใหม่)
          (3) สีเทา - Titanium Gray (สีมาตรฐานใหม่)
          (4) สีฟ้า - Cerulean Blue Mica
          (5) สีขาวมุก - White Pearl
          (6) สีดำ - Black Mica

          ข้อมูลการขาย :
          - งานเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์:ครั้งที่ 32 2 – 13 ธันวาคม
          (วันสื่อมวลชน 1ธันวาคม วันประชาชนทั่วไปตั้งแต่วันที่ 2-13 ธันวาคม)
          - เปิดจองที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ 1 ธันวาคม เป็นต้นไป
          - เริ่มส่งมอบรถให้ลูกค้า มกราคม เป็นต้นไป

          · สำหรับลูกค้าที่สนใจชมหรือทดลองขับรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นต่างๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ หรือ มิตซูบิชิ Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 1800 900 009 หรือ โทร. 02-529-9500 ทุกวันจันทร์ - เสาร์ ระหว่างเวลา 8.30-17.00 น.

          · ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ที่
          Website : http://www.mitsubishi-motors.co.th
          Facebook : https://www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH
          Instagram : @MitsubishiMotors_Thailand
          Youtube Channel : Mitsubishi Motors Thailand
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:19:39 PM
Mitsubishi Motors launch the “2016 New Mirage” at the 32nd Thailand International Motor Expo









  Mitsubishi Motors Thailand (MMTh) made the Thai premiere of the "2016 New Mirage : Be More" at the 32nd Thailand International Motor Expo. The New Mirage enters the 2016 model year with its refreshed design for more sporty, newly added safety features as the first time in ECO-car class, and achieved the best in class of 23.8 kilometers / liter*1 fuel efficiency. The new model comes with a price tag starting of 383,000 – 567,000 baht. Booking begins at the event during 1-13 December 2015 and affiliated dealership throughout Thailand today and the delivery is scheduled to be in January 2016.
          Mr. Morikazu Chokki, President and CEO of Mitsubishi Motors (Thailand) Co., Ltd., (MMTh), today arrange Press Conference to introduce the "2016 New Mirage" in Thailand at the 32nd Thailand International Motor Expo, IMPACT Muangthong Thani, Nonthaburi. Starts booking at the event and 223 Mitsubishi showrooms nationwide from today, the new Mirage are scheduled to be delivered in January 2016.
          "Mirage" is positioned as an entry model in Mitsubishi Motors (MMC) model lineup which has been developed to MMC's innovative "Global Small Concept" and made at a brand-new third factory at Mitsubishi Motors Thailand's (MMTh) Laem Chabang Plant. It was introduced as the world Premiere in Thailand since March 2012 as an Eco-car and enjoys a broad user base in 93 countries with cumulative units sales at the end of October 2015 reaching some 320,000 units which over 83,000 units are domestic sales volume in Thailand.
          The 2016 New Mirage has been improved for the next stage of "BE MORE" with 3 key concepts; "Stylish" -- Its exterior and interior was refurbished with design concept of "the Spicy Small" to be more Stylish and Sporty with three new body colors; Wine Red, Sunrise Orange and Titanium Grey; "Smart Safety" -- very advanced safety devices are equipped for the first time in ECO-car class; "Saving" -- achieved the best in class of gasoline engine 23.8 kilometers / liter* 1 fuel efficiency and also realize low CO2 emissions of 98g / km* 2.
          According to the condition of Eco car phase 2, the improvement of the New Mirage can achieve all conditions comprising of Fuel consumption under 4.3 Liter / 100 km., CO2 emission under 100 gram / km. and comply with Emission Level Euro 5, Front & Side Body Crash Test and Active Safety devices.
          * 1 : Measured in-house according to UNECE Reg.101 Rev. 02 Combine Mode. (GLX CVT)
          * 2 : Measured in-house according to UNECE Reg.101 Rev. 02 (GLX CVT)

          Main Product Features:
          "Stylish"…
          - With its refreshed design for more Stylish and Sporty, the 2016 New Mirage features a more unique appearance with higher-quality material. The engine hood, grille, front and rear bumper together with chrome front lower grille garnish and LED tail lights round out the new exterior design. The GLS-LTD and GLS models trim levels come standard with a Projector Bi-XENON HID headlamp with spectrum LED position lamps, front fog lamps and rear spoiler with LED high-mount stop lamp which achieve both aerodynamics and rear visibility, and two-tone 15-inch alloy wheels.
          - New body colors; Wine Red, Sunrise Orange and Titanium Grey.
          - Inside, New Mirage uses black as the interior trim keynote color; the center console panel, power window switch (Front / Rear door) and gear shift knob are decorated in Piano Black. In the GLS-LTD and GLS trim levels use new seat fabrics with silver stitch and new three-spoke leather wrap steering wheel uses a stylish chrome and piano black finish, imparting a more sporty look. A new illuminated semi-high contrast combination gauge cluster is standard on GLS-LTD, GLS and GLX models. In addition, it packs a good amount of comfort and convenient features in 2DIN DVD Touch Screen Monitor including audio control switch with voice command and hands free on steering wheel for GLS and GLX models.

          "Smart Safety"…
          - Advance safety features are equipped with GLS-LTD and GLS for the first time in Eco Car;
          o Forward Collision Mitigation System - Low Speed Range (FCM), which uses a laser radar monitor the vehicle ahead and detect an impending impact and either avoid it or mitigate the extent of impact damage by warning the driver or by automatically applying the vehicle brakes which speed up to approximately 30 km. / h.
          o Radar sensing Misacceleration Mitigation System – Forward (RMS), uses Radar sensors to detect obstructions within approximately 4 meter in front the vehicle and regulates engine power while emitting an audible warning when the driver depresses the accelerator promptly and too strongly which speed up to approximately 10 km. / h.
          - Every 2016 Mirage comes equipped with a wide array of safety features and technologies. These include an Active Stability Control (ASC); Hill Start Assist System (HSA); Anti-Lock Braking System (ABS) with Electronic Brake-force Distribution (EBD) and Brake Assist (BA); front dual SRS airbags; and 3-point ELR pretensioner with force limiter front seat belts. 2-way pretensioner seatbelts is available in GLS-LTD and GLS.
          - The Mirage uses Mitsubishi's RISE body design which effectively absorbs and disperses impact forces in collisions from all directions to provide high levels of crashworthiness and also features high tensile steel to key section of its body and chassis that process excellent structural rigidity.

          "Saving"…
          - The 2016 new Mirage achieves the best in class (gasoline engine) 23.8 kilometers / liter *1 fuel efficiency and also realize low CO2 emissions of 98g / km*2 with newly added technologies to make less friction in the engine compartments such as Diamond like carbon coated piston ring, Low friction Timing Chain, and Multistage Generation Control with IBS (IBS-Intelligent Battery Sensor).
          - Powered by a 1.2-liter 3-cylinder DOHC MIVEC 12-Valve engine which are available in both 5-speed manual transmission and Mitsubishi's INVECS-III CVT transmission with INC (Idle Neutral Control) and G-SENSOR.
          - Euro 5 adaptation.

          Model lineup and pricesThe new Mitsubishi Mirage is offered in four grade levels with attractive price ranging from 383,000 - 567,000 baht.
          ModelPrice (Baht)
          (1) GLS -LTD CVT 567,000
          (2) GLS CVT 539,000
          (3) GLX CVT 473,000 MT 439,000
          (4) GL MT 383,000
          * White Pearl exterior color costs an extra 5,000 Baht

          Body Color
          (1) Wine Red (New Color)
          (2) Sunrise Orange (New Color)
          (3) Titanium Gray (New Color)
          (4) Cerulean Blue Mica
          (5) White Pearl
          (6) Black Mica

          Sales Activities
          · Public launch at Thailand International Motor Expo 2-13 December 2015 (Press Day 1 December, Public Day 2 December onward)
          · Start official sales at authorized dealers nationwide December 1 onward
          · Delivery to customer January 2016 onward

          · For more information about Mitsubishi car and product test drive, please contact; "Mitsubishi Dealers Nationwide" or call "Mitsubishi Call Center": 1800 900 009 or 02- 529-9500 from Monday - Saturday during 8.30-17.00

          · Please follow Mitsubishi Motors Thailand movement from;
          Website : http://www.mitsubishi-motors.co.th
          Facebook : https://www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH
          Instagram : @MitsubishiMotors_Thailand
          Youtube Channel : Mitsubishi Motors Thailand
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:24:20 PM
YAMAHA M-SLAZ SLASH YOUR DARKNESS เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย….ยามาฮ่า เอ็ม-สแลซ









          บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด สร้างกระแสใหม่ให้กับตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทยอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว "YAMAHA M-SLAZ"...SLASH YOUR DARKNESS...ที่ได้รับการถ่ายทอด DNA จากตระกูล MT-Series เพื่อตอบสนองความเร้าใจให้กับผู้ขับขี่ชาวไทยได้แบบเต็มพิกัดความมันส์ ในสไตล์ที่แตกต่าง อัดแน่นด้วยออฟชั่นสุดล้ำตั้งแต่หัวจดท้าย อาทิ โช้คหัวกลับ Upside Down, สวิงอาร์มหลังอลูมิเนียมให้การทรงตัวดีเยี่ยมทั้งทางตรง และเข้าโค้ง น้ำหนักเบา แข็งแกร่ง, ไฟหน้า-ไฟท้าย แบบ FULL LED เจิดจรัส เด่นชัดทุกการมองเห็น, เรือนไมล์ Digital แบบ FULL-NEGATIVE LCD สไตล์รถซูเปอร์ไบค์ โดยมีให้เลือกเท่ และเร้าใจด้วยกัน 4 สี คือ เทา-เขียว, ดำ, น้ำเงิน-ขาว, แดง-ดำ พร้อมจำหน่ายที่ร้าน ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ ราคาพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัว 89,500 บาท รับฟรี แบ็คแพค เอ็ม-สแลซ มูลค่า 5,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2559 นี้เท่านั้น
          นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้เปิดเผยถึงการเปิดตัวครั้งนี้ว่า "จากกระแสของรถสไตล์สปอร์ตที่กำลังได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันยามาฮ่าเล็งเห็นถึงความต้องการของผู้ขับขี่ในเมืองไทย ซึ่งต้องการรถจักรยานยนต์ที่สามารถตอบสนองการขับขี่ได้อย่างสนุก เร้าใจ มีสไตล์ที่แตกต่างโดดเด่นไม่ซ้ำใคร และสามารถที่จะเป็นเจ้าของได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้ "ยามาฮ่า เอ็ม-สแลซ" จึงออกแบบมาให้ตอบโจทย์ที่กล่าวมาได้อย่างครบถ้วน เพราะ Street Bike สไตล์ Naked รุ่นนี้ ถูกออกแบบโดยทีม R&D คนไทยเพื่อผู้ขับขี่ชาวไทย อีกทั้งยังได้รับการถ่ายทอด DNA มาจาก MT-09 และ MT-07 รุ่นพี่จากตระกูล MT-Series ที่ได้รับ การยอมรับเป็นอย่างดีมาแล้วจากผู้ขับขี่ทั่วโลก ซึ่งยามาฮ่าเชื่อมั่นว่า "ยามาฮ่า เอ็ม-สแลซ" จะสร้าง มิติใหม่ และความรู้สึกใหม่ๆ ในการขับขี่ให้กับเหล่าไบค์เกอร์อย่างแน่นอน"
          "ยามาฮ่า เอ็ม-สแลซ" มาพร้อมสโลแกนที่บ่งบอกความเป็นตัวตนได้อย่างชัดเจน SLASH YOUR DARKNESS... เป็นรถจักรยานยนต์ Street Bike สไตล์ Naked ที่มีความโดดเด่นด้วยการออกแบบตำแหน่งท่านั่งที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากที่เคยสัมผัสอย่างชัดเจนตามสไตล์รถจากตระกูล MT-Series ซึ่งจะทำให้ผู้ขับขี่สนุก และเร้าใจไปกับการควบคุมรถในทุกจังหวะการขับขี่ ขุมกำลังเครื่องยนต์ 150 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมระบบหัวฉีดอัจฉริยะสั่งจ่ายน้ำมันได้อย่างแม่นยำ เร้าใจทุกการขับขี่ กระบอกสูบไดอะซิล สุดแกร่ง เกียร์แบบสปอร์ต 6 สปีด ขับขี่มันส์เร้าใจ!!!
          นอกจากนี้ "ยามาฮ่า เอ็ม-สแลซ" ยังครบครันด้วยฟีจเจอร์ที่ล้ำสมัยตั้งแต่หัวจดท้าย ด้วยไฟหน้า-ไฟหรี่-ไฟท้ายแบบ FULL LED เท่ล้ำเหนือใคร ออกแบบในคอนเซ็ปต์ Minimize บิ้วท์อินกับบอดี้ ตามแบบฉบับรถ Naked Sport, เท่อีกขั้นด้วยเรือนไมล์ Digital แบบ FULL-NEGATIVE LCD ดีไซน์ซูเปอร์ไบค์ขนาดกะทัดรัดพร้อมไฟแบ็คไลท์ มาตรวัดจัดเต็ม บอกทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน, MT SWITCH เข้าถึงอารมณ์ซูเปอร์ไบค์รุ่นใหญ่ด้วยสวิตซ์สตาร์ทมือที่เป็นเอกลักษณ์แบบเดียวกับรุ่นพี่ MT-09 และ MT-07
          "ยามาฮ่า เอ็ม-สแลซ" ยังพร้อมตอบสนองการขับขี่อย่างเต็มสมรรถนะความเร้าใจด้วยช่วงล่าง สุดแกร่ง โช้คอัพหน้าแบบหัวกลับ Upside Down ที่มีขนาดแกนโช้คใหญ่ 37 มม. แข็งแกร่ง ทนทาน ดูดซับแรงกระแทกได้ดี ตอบสนองได้ทันใจทุกสภาพถนน พร้อมล้อ และยางหน้า ขนาดใหญ่กว่ารถในระดับเดียวกัน ช่วยให้การยึดเกาะถนนเป็นเยี่ยม ส่วนด้านหลังสุดแกร่งด้วยสวิงอาร์มอลูมิเนียมทำงานร่วมกับ โช้คอัพเดี่ยวแบบ LINK-TYPE MONOCROSS พร้อมกระเดื่องทดแรง ให้การทรงตัวดีเยี่ยมทั้งทางตรง และ เข้าโค้ง น้ำหนักเบา แข็งแกร่ง ลดการสั่นสะเทือน มันส์ในทุกการขับขี่!!!
          "ยามาฮ่า เอ็ม-สแลซ" มีให้เลือกเท่ และเร้าใจด้วยกัน 4 สี คือ เทา-เขียว, ดำ, น้ำเงิน-ขาว, แดง-ดำ พบกับสตรีทไบค์พันธุ์เท่ที่มาพร้อมกับ "องศาใหม่ของความเร้าใจ" ที่พร้อมให้ทุกจังหวะการขับขี่เต็มไปด้วยความเร้าใจที่ไม่ซ้ำใครได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ทั่วประเทศ ราคาพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัว 89,500 บาท รับฟรี แบ็คแพค เอ็ม-สแลซ มูลค่า 5,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2559 นี้ สามารถติดตามความเคลื่อนไหว และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center: 02-2639999 หรือที่ www.yamaha-motor.co.th แล้วร่วมอัพเดทความเคลื่อนไหวของยามาฮ่าได้ทาง www.facebook.com/yamahasociety, IG: @yamahasociety และ Youtube: Yamaha society

          Specification Yamaha M-SLAZ
          เครื่องยนต์
          - แบบ 4 จังหวะ สูบเดี่ยว SOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ
          - ปริมาตรกระบอกสูบ 149 ซีซี
          - อัตราส่วนกำลังอัด 10.4:1
          - กระบอกสูบ x ระยะชัก 57.0 x 58.7 มม.
          - ระบบหล่อลื่น แบบเปียก
          - ระบบจ่ายน้ำมัน ระบบหัวฉีด
          - ระบบจุดระเบิด ที.ซี.ไอ.
          - ระบบคลัตช์ แบบเปียก ชนิดหลายแผ่น
          - ระบบเกียร์ เกียร์ 6 ระดับ
          - ระบบสตาร์ท สตาร์ทมือด้วยระบบไฟฟ้า
          - น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันแก๊สโซฮอล์ หรือเบนซินค่าออกเทน 91 ขึ้นไป
          - ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 10.2 ลิตร
          - ความจุน้ำมันเครื่อง 0.95 ลิตร
          - 1.00 ลิตร (มีการเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง)
          - ความจุหม้อน้ำ 0.52 ลิตร (รวมในระบบ)
          - ความจุถังพักหม้อน้ำ 0.25 ลิตร
          - หัวเทียน เอ็น.จี.เค / ซี.อาร์.9 อี. (NGK / CR9E)
          โครงรถ
          - ชนิดของเฟรม เดลต้าบ็อก
          - มุมคาสเตอร์ / ระยะเทล 26° /88 มม.
          - กว้าง x ยาว x สูง 795 x 1,955 x 1,065 มม.
          - ความสูงจากพื้นถึงเบาะ 805 มม.
          - ระยะห่างจากพื้นถึงเครื่อง 164 มม.
          - ช่วงศูนย์กลางระหว่างล้อ 1,350 มม.
          - น้ำหนักรวมน้ำมันเครื่อง 135 ก.ก.
          และน้ำมันเชื้อเพลิง
          - รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 2,400 มม.
          ระบบกันสะเทือน
          - หน้า เทเลสโกปิค (โช๊คหัวกลับ)
          - หลัง สวิงอาร์ม (แขนยึดโช๊คอัพหลัง)
          ระบบเบรก
          - หน้า-หลัง ดิสก์เบรก
          ล้อ
          - หน้า 17 M/C-MT 2.75
          - หลัง 17 M/C-MT 3.50
          ยางแบบ Tubeless
          - หน้า 110/70-17M/C 54S
          - หลัง 130/70-17M/C 62S
          ระบบไฟฟ้า
          - ไฟหน้า-ไฟท้าย LED
          - แบตเตอรี่ 12 V , 3.0 Ah / YTZ4V (MF)
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:24:57 PM
YAMAHA M-SLAZ SLASH YOUR DARKNESS World Debut in Thailand … Yamaha M-SLAZ









 Thai Yamaha Motor Co., Ltd. is ready to introduce a new model to Thailand's motorcycle market with the launch of "YAMAHA M-SLAZ"...SLASH YOUR DARKNESS... the latest model of motorcycle that got the same DNA of our MT-Series and is aimed at giving Thai two-wheel enthusiasts the ultimate thrill in a different style. Equipped with the latest cutting-edge designs and technology, from "Upside-Down" shock absorber to the light but strong "Swingarm" rear suspension that is excellent both on straight route and on a curve, the Full-LED headlight and rear light that are simply bright and offer unobstructed vision, and the full-negative LCD digital mile gauge like that of superbikes, while available in 4 electrifying colors, including grey-white, black, blue-white and red-black, at all Yamaha motorcycle distributor's showrooms nationwide, with a special, introductory price offer of 89,500 baht together with the M-SLAZ Backpack worth 5,000 baht for free, from now until January 31, 2016.
          Talking about the launch of Yamaha M-SLAZ, Mr.Praphan Phornthanavarsit, the Chief Operating Officer of Thai Yamaha Motor Co., Ltd., said that "The sports bike trend that is getting stronger these days has led Yamaha to recognize the demand of motorcyclists in Thailand who are looking for the motorcycle that delivers fun and thrilling riding experiences with unparalleled style and is easy to own. The result is "Yamaha M-SLAZ" which has been designed to meet all of these demands. Its naked-style, street bike design has been conceived by the Thai R&D team for Thai motorcyclists while its inherited DNA from MT-09 and MT-07, its predecessors from the MT-Series which has been well-received by motorcyclists around the world, have convinced Yamaha that Yamaha M-SLAZ will definitely be offering a very fresh aspect and feel while riding for all bikers."
          "Yamaha M-SLAZ" comes with a slogan which clearly explains its identity and that is "Slash Your Darkness…" This is the "Street Bike" motorcycle with an outstanding design of seating position which offers a totally different feeling just like every model from the MT-Series as it allows rider to feel fun and thrilled while taking control of the vehicle in every way. Its 150cc, liquid-cooled engine which is equipped with the genius fuel-injection system can assure you the excitement while riding, especially with the strong DiASil Cylinder and the 6-speed sports transmission which offers an ever-thrilling riding experience.
          Moreover, "Yamaha M-SLAZ" is also complete with the latest features from front to back; starting with the Full-LED headlight, position light and rear light whose designs are ahead of everyone else under the "Minimize" concept are they are all built-in like those found in the Naked Sport cars, the digital mile gauge that is full-negative LCD similar to that installed in superbikes but more compact and with backlight and full information of the vehicle, and the MT switch that delivers the same feel as that of the large superbikes with the hand switch like in MT-09 and MT-07.
          "Yamaha M-SLAZ" also meets the demand for full riding performance with strong suspension, "Upside-Down" 37 mm diameter shock absorber which is strong, durable, and better in absorbing shock as well as efficiently responds to all types of roads. Because of wider-than-normal wheel and front tires, "Yamaha M-SLAZ" has better road adhesion while its strong "Swingarm" aluminum rear suspension works well with the "Link-Type Monocross" shock absorber and the pro-link swingarm which allow for excellent balance both while riding on straight route or on curve. Light but strong and low in shock, you can always feel the thrill while riding "Yamaha M-SLAZ"
          "Yamaha M-SLAZ" is available in 4 exciting colors; including grey-white, black, blue-white and red-black. Checkout this cool street bike that comes with "new angle of thrill" which is geared up for a riding experience unlike no other today at all Yamaha motorcycle distributor's showrooms nationwide, with a special introductory price of 89,500 baht along with an M-SLAZ Backpack worth 5,000 baht for free, from now until January 31, 2016. More information and latest updates are available at Yamaha Call Center: 02-2639999 or check out www.yamaha-motor.co.th or www.facebook.com/yamahasociety, IG: @yamahasociety and YouTube: Yamaha society

          Specification Yamaha M-SLAZ
          Engine type Liquid-cooled, 4-stroke, single cylinder, SOHC, 4 valve
          Cylinder arrangement 149 cc
          Compression ratio 10.4:1
          Bore & stroke 57.0 x 58.7 mm.
          Lubrication system Wet
          Fuel dispensing system Injection
          Injection system TCI
          Clutch system Wet, multi-plate
          Transmission system 6 speed
          Starter system manual electric
          Fuel type Gasohol or at least benzene 91
          Fuel tank capacity 10.2 liters
          Engine oil capacity 0.95 liters
          1.00 liters (with change of oil filter)
          Radiator capacity 0.52 liters (included in system)
          Radiator tank capacity 0.25 liters
          Spark plug NGK / CR9E
          Carriage
          - Frame type Deltabox
          - Caster angle/ trail length 26° /88 mm.
          - W x L x H 795 x 1,955 x 1,065 mm.
          - Seat height 805 mm.
          - Engine height 164 mm.
          - Wheelbase 1,350 mm.
          - Wet 135 kg.
          - Minimum turning radius 2,400 mm.
          Suspension system
          - Front Telescopic (Upside-down)
          - Rear Swingarm
          Brake system
          - Front-Rear Disc brake
          Wheel
          - Front 17 M/C-MT 2.75
          - Rear 17 M/C-MT 3.50
          Tubeless Tires
          - Front 110/70-17M/C 54S
          - Rear 130/70-17M/C 62S
          Electrical system
          - Headlight-Rear Light LED
          - Battery 12 V, 3.0 Ah / YTZ4V (MF)
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:26:39 PM
ยามาฮ่าจัดเต็ม เปิดบูธเอาใจไบค์เกอร์ ด้วย concept “The Biker Community” พร้อมเปิดตัว Yamaha M-SLAZ ครั้งแรกในโลก!









          ยามาฮ่าจัดเต็มโชว์บิ๊กไบค์ครบรุ่น พร้อมเปิดรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ครั้งแรกในโลก ในงาน The 32nd Thailand International Motor Expo 2015 ด้วยคอนเซ็ปต์บูธเอาใจสาวกไบค์เกอร์ "The Biker Community" พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษภายในงาน วันที่ 2-13 ธันวาคม นี้ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
          นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า"ตลาดรถบิ๊กไบค์มีการเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจเป็นอย่างมากในหลายปีที่ผ่านมา และด้วย ยอดจำหน่ายรถบิ๊กไบค์ของยามาฮ่า ที่ได้รับการตอบรับจากสาวกไบเกอร์เป็นอย่างดี ซึ่งในปีนี้ คาดว่า ยามาฮ่าจะมียอดจำหน่ายรถบิ๊กไบค์ถึง 1,500 คัน คิดเป็นการเติบโตสูงถึง 30% จากปีที่ผ่านมา ดังนั้น ในงาน The 32nd Thailand International Motor Expo 2015 ซึ่งถือเป็นปีที่ 2 ที่ยามาฮ่าได้เข้าร่วมงาน ยามาฮ่าจึงจัดเต็มด้วยการนำเสนอรถบิ๊กไบค์ หลากรุ่น หลากสไตล์ ให้สาวกไบค์เกอร์ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ภายใต้แนวคิดบูธ "The Biker Community" ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานความเท่ และความทันสมัยไว้ด้วยกันอย่างลงตัว สื่อถึงเป็นแหล่งรวมประสบการณ์ของสาวกไบค์เกอร์ โดยจัดวางโซนแสดงรถจักรยานยนต์ เพื่อตอบสนองแต่ละไลฟ์สไตล์ โดยรถที่เป็นไฮไลท์ของงานในปีนี้ ที่เรานำมาเผยโฉม สู่สาธารณะชนครั้งแรก นั่นคือ YZF-R1 สีพิเศษฉลองครบรอบ 60 ปี FJ-09 และ Bolt C ที่ทุกคน ชื่นชอบ
          และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญ คือ ยามาฮ่า เอ็ม-สแลซ (Yamaha M-SLAZ) ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรก ในโลกในงานนี้ เป็นน้องใหม่ในตระกูล MT-Series แนว Street Bike สไตล์ naked เครื่องยนต์ 150 ซีซี ไฟ LED รอบคัน โช้คหัวกลับ Upside Down ขนาดใหญ่ ที่น่าจับตามอง สำหรับลูกค้าในตลาดรถสไตล์สปอร์ต โดยภายในงานนี้ เราได้มีราคาแนะนำ และโปรโมชั่นพิเศษมากมายให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจ เป็นเจ้าของทันทีครับ"
          ภายในบูธยามาฮ่า "The Biker Community" โดยแบ่งออกเป็น 3 โซน สำหรับ 3 ซีรีส์หลักดังนี้
          R-Series: สุดยอดรถจักรยานยนต์สไตล์สปอร์ต ที่ได้รับการยอมรับว่าสมรรถนะเป็นที่หนึ่ง
          - YZF-R1M ซูเปอร์สปอร์ตในฝัน ที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีระดับแชมป์โลกจากสนามแข่ง MotoGP ด้วยเครื่องยนต์ 998 ซีซี ครั้งแรกกับอุปกรณ์ IMU ที่สามารถวัดมุมองศาได้ถึง 6 แกน แฟริ่งแบบ Carbon Fiber และระบบโช้ค Öhlins Electronic Racing Suspension (ERS) สุดล้ำ
          - YZF-R1 60th Anniversary Special Color ซูเปอร์สปอร์ตในฝันที่ตกแต่งลาย และสีพิเศษ MotoGP ฉลองครบรอบยามาฮ่า 60 ปี ด้วยจำนวนจำกัด
          - YZF-R3 ดีเอ็นเอ เรซซิ่งสปอร์ตตระกูล R สายพันธุ์แห่งความเร้าใจระดับแชมป์โลก ด้วยขุมพลัง 321 ซีซี สูบคู่ 4 จังหวะ DOHC 4 วาล์ว เกียร์สปอร์ต 6 สปีด
          - YZF-R15 ปฐมบทแห่ง R-Series ที่จะปลุกเร้าสัญชาตญาณในตัวคุณ ด้วยเครื่องยนต์ 150 ซีซี หัวฉีดอัจฉริยะอัดเต็มแรง พร้อมกระบอกสูบไดอะซิล เกียร์สปอร์ต 6 สปีด

          MT-Series: ฉีกกฏทุกความเร้าใจไปกับรถสไตล์ Sport Naked ตอบโจทย์ทุกความคล่องตัวของสภาพท้องถนน
          - MT-09A เร้าใจไปอีกระดับกับการผจญภัยที่ไม่รู้จบ ด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบ 847 ซีซี แบบ Crossplane ออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกับผู้ขับขี่ในทุกความเร็ว เพื่อเติมเต็มฝันที่ไม่ธรรมดาของคุณ เพิ่มการขับขี่ได้อย่างมั่นใจด้วยระบบเบรค ABS เหมาะกับทุกสภาพถนน
          - MT-07 สู่ที่สุดความเร้าใจ กับสุดยอดสมรรถนะบิ๊กไบค์สไตล์ Naked ด้วยเครื่องยนต์แบบ Crossplane 689 ซีซี 2 สูบเรียง DOHC 4 วาล์ว ให้แรงบิดสูง เฟรมตัวถัง Diamond-Type แข็งแกร่ง ทรงตัวเยี่ยม ควบคุมการขับขี่ได้อย่างมั่นใจ
          - MT-03 อัศวินแห่งรัตติกาล สัญชาตญาณตระกูล MT-Series เครื่องยนต์ 321 ซีซี DOHC 2 สูบเรียง เกียร์ 6 ระดับ ตัวรถดีไซน์แบบ X-Movement เน้นความแรง และความคล่องตัว ไฟท้าย LED แบบสปอร์ต
          - ยามาฮ่า เอ็ม-สแลซ รถสปอร์ต 150 ซีซี แนว Street Bike สไตล์ Naked เครื่องยนต์ สูบเดี่ยว เกียร์สปอร์ต 6 สปีด ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมระบบหัวฉีดอัจฉริยะ กระบอกสูบ ไดอะซิลสุดแกร่ง ไฟ LED รอบคัน โช้คหัวกลับ Upside Down ขนาดใหญ่ พร้อมช่วงล่างมั่นคงแข็งแกร่ง แฮนด์บาร์กว้างสัมพันธ์กับท่านั่งสไตล์ MT ให้การควบคุมได้ดั่งใจ เรือนไมล์ Digital แบบ FULL-NEGATIVE LCD ดีไซน์ซูเปอร์ไบค์ขนาดกะทัดรัดพร้อม ไฟแบ็คไลท์ มิติใหม่ของความมันส์ในการขับขี่ในเมือง…เร้าใจทุกองศาแบบ Street Bike ตัวจริง ราคาพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัว 89,500 บาท รับฟรี แบ็คแพค เอ็ม-สแลซ มูลค่า 5,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2559 นี้เท่านั้น

          Max Series: เหนือระดับอีกขั้นกับรถจักรยานยนต์ตระกูลสกู๊ตเตอร์ ให้ความมั่นใจในทุกการขับขี่
          - TMAX และ TMAX Iron Max ออโตเมติกสายพันธุ์สปอร์ต เครื่องยนต์ 530 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ 2 สูบ CVT 4 จังหวะ DOHC หัวฉีด เติมเต็มชีวิตในเมืองที่ต้องการความคล่องตัวด้วยฟังก์ชั่นที่เหนือกว่า หรูหรา ด้วยเบาะหนานุ่ม สบายสไตล์ Big Scooter
          - NMAX ออโตเมติกพรีเมี่ยมใหม่ล่าสุดในตระกูล "MAX" แรงด้วยเครื่องยนต์ Blue Core 155 ซีซี เร็วกว่าด้วยระบบวาล์วแปรผัน VVA (Variable Valve Actuation) ระบบอัจฉริยะ 4 วาล์ว มั่นใจกว่าด้วย ดิสก์เบรกหน้า-หลัง พร้อมระบบเบรก ABS

          นอกจากนั้น ยามาฮ่ายังนำรถบิ๊กไบค์ และรถจักรยานยนต์รุ่นอื่นๆ มาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ ที่แตกต่างของชาวไบค์เกอร์แบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น สไตล์ Adventure Touring อย่าง FJ-09, รถสไตล์ Racer Cafe อย่าง Bolt C, Super Tenere และยามาฮ่า ทริซิตี้ ABS ที่ทุกคันสามารถรับ Promotion สุดแรงในงาน ซึ่งมีดังนี้
          1. Bigbike ข้อเสนอเดียวกับ Yamaha Riders' club ทั่วประเทศ
          - โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้า Yamaha Riders' club จองรถ FJR1300, FZ-1 และSuper Tenere ฟรีทันที ทะเบียน พ.ร.บ. ประกันภัยชั้น 1 และ ดอกเบี้ย 0%
          - จอง Bolt ฟรีทันที ทะเบียน พ.ร.บ. ประกันชั้น 1 และคูปองเงินสด มูลค่า 10,000 บาท (สำหรับแลกอุปกรณ์แต่งรถ และเสื้อผ้ายามาฮ่า)
          - จองรถ MT-07 และ MT-09 ทุกรุ่น ฟรีทันที ทะเบียน พ.ร.บ. และประกันภัยชั้น 1
          - จองรถ TMAX ฟรีทันที ทะเบียน พ.ร.บ.
          - พิเศษสุด นาฬิกาข้อมือ VR46 มูลค่า 4,000 บาท สำหรับลูกค้า 30 ท่านแรกที่จองรุ่น FJR1300, FZ-1, Bolt, MT-07 และ MT-09 ภายในงาน และรับรถภายในปี 2015 (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ยามาฮ่ากำหนด)

          2. Standard โปรโมชั่นพิเศษข้อเสนอเดียวกับโชว์รูมยามาฮ่าทั่วประเทศ
          - จองรถ YZF-R3, MT-03 และ SR400 รับทันที ประกันภัยชั้นหนึ่ง ทะเบียน พ.ร.บ. และคูปองน้ำมันมูลค่า 5,000-10,000 บาท
          - จองรถ Tricity รับทันที ประกันรถหาย ทะเบียน พ.ร.บ. และคูปองน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท
          - จองรถ NMAX รับทันที คูปองน้ำมัน มูลค่า 3,000 บาท
          - พิเศษสุด จองรถ MT-03, YZF-R3, YZF-R15 และ M-SLAZ เฉพาะในงาน Motor Expo ลุ้นรับ เสื้อ Pit Shirt Tech 3 มูลค่ากว่า 3,000 บาท (จองวงเงิน 3,000 บาทขึ้นไป)
          - สุดคุ้ม...สำหรับผู้จอง M-SLAZ รับ แบ็คแพค M-SLAZ BAG มูลค่า 5,000 บาท ฟรี
          **(เงือนไขการรับข้อเสนอเป็นไปตามที่ยามาฮ่ากำหนด)

          พบกันได้ที่บูธ Yamaha "The Biker Community" ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี สามารถติดตามความเคลื่อนไหว และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center: 02-2639999 หรือที่ www.yamaha-motor.co.th แล้วร่วมอัพเดทความเคลื่อนไหวของยามาฮ่าได้ทาง www.facebook.com/yamahasociety, IG: @yamahasociety, Youtube: Yamaha society
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:27:19 PM
YAMAHA Grand opening full option booth For big bike lovers with “The Biker Community” Concept together with debut Yamaha M-SLAZ









           Yamaha grand show big bike full series together with the first time launching of the new bikes in The 32nd Thailand International Motor Expo 2015 under the concept of "The Biker Community" for big bike lovers with special offers in the event from 2-13 December at Impact Arena Muang Thong Thani.
          Mr.Praphan Phornthanavarsit, the Chief Operating Officer of Thai Yamaha Motor Co., Ltd, stated that "Big Bike market has drastically grown against the economic trend in the past few years along with the sales volume of Yamaha big bike that has received a good response from bikers. In this year, we expect that Yamaha will increase the big bike sales volume up to 1,500 units, which can be calculated as 30% growth from last year. Therefore, Yamaha creates special offers of a variety of big bike series for the big bikers under the concept of "The Biker Community". This includes a unique characteristic of smart and modern representing the experiences gathered of bikers. The big bikes will be presented at the motorcycle zone in order to fulfill each biker's lifestyle. This year, the motorcycle, the highlight of this event is YZF-R1 with special color to celebrate the 60th anniversary which is FJ-09 and Bolt C the all time favorite and the first time we present this model to the public
          Moreover, another highlight of the event is the first global launch of Yamaha M-SLAZ, the newest model in the MT DNA in the street bike naked style, 150cc engine, surrounded LED light, a big attractive monoshock Upside down.
          In the event, we offer special prices and promotions for the customers in the sport bike market to choose and own the exclusive choices."
          In Yamaha Booth "The Biker Community" can be divided into 3 zones for 3 main series which are:
          · R-Series: the great sport motorcycle which is renowned to have the best capability.
          o YZF-R1M the dream super sport represents the world championship technology from MotoGP circuit with 998cc engine, and the first time with the IMU technology that able to measure the angular rate up to 6 axises, carbon fiber fairing, and Öhlins Electronic Racing Suspension (ERS) choke absorber system.
          o YZF-R1 the 60th anniversary special color, the dreams super sport with special design and color to celebrate the 60th anniversary as the limited edition.
          o YZF-R3 racing sport R-Series' DNA, the sensation of the world championship with 321cc, 2 cylinders, 4 stroke engine DOHC 4 valves, and 6 speed sport transmission.
          o YZF-R15 the primary of the R-Series that will stimulate your instinct with 150cc engine, smart and powerful fuel injection system, DiASil tubing, and 6 speed sport transmission.

          · MT-Series: experiencing unseen sensation of excitement with the sport naked style that enable to fulfill the capability of flexibility on every road surface.
          o MT-09A endless adventure with 3 cylinders engine, which has been designed to fit with the rider along with the speed, and increasing the ability of riding in every road surface with ABS system.
          o MT-07 the great excitement and big bike capability naked style with 689cc, and the in-line 2 cylinders DOHC engine 4 valves giving high motor torque, diamond-type frame structure, strong and high balancing to ensure the riding confidence.
          o MT-03 the knight of the night of MT-Series with 321cc, DOHC in-line 2 cylinders engine, and 6 level accelerator. X-Movement designed body structure hi lighted on speed and flexibility with the sport rear LED light.
          o Yamaha M-SLAZ the sport 150cc street bike naked style, 1 cylinder engine, 6 speed sport transmission, water cooling system, smart fuel injection, strong DiASil tubing, surrounded LED light, big monoshock Upside down, stable and strong suspension, wided hand bar matching with the MT seating style and fulfilling the controlling ability, small digital speedmeter with FULL NEGATIVE LCD designed, together with black light for the new dimension of the city riding in every angle like the real street bike.
Special price of 89,500 baht, only during the launching period FREE! Backpack M-SLAZ valued 5,000 baht from today – 31 January 2016

          · Max Series: another level of the motorcycle scooter series giving more confidence in riding.
          • TMAX and TMAX Iron Max automatic sport series 530cc engine, water cooling system, 2 cylinders CVT 4 stroke engine DOHC fuel injection fulfilling the active city lifestyle, adding more superior function with soft and relax seating for the big scooter style.
          • NMAX automatic premium, the newest model in "MAX" Series, powerful Blue Core 155cc engine that is faster than the VVA (Variable Value Actuation) System, with genius 4 valves, adding more confidence with front-rear disc brake with ABS system.

          Moreover, Yamaha also present other big bike and motorcycle series in order to fulfill each bikers' lifestyle such as Adventure Touring; FJ-09, Racer Cafe Bolt C, Super Tenere, and Yamaha Tricity ABS that come together with the special promotions in the event which are
          Meet us at Yamaha Booth, "The Biker Community" from 2-13 December 2015 Challenger Hall 3 Muang Thong Thani. For further and more information please contact Yamaha Call Center: 02-2639999 or www.yamaha-motor.co.th and participating in more updated information through www.facebook.com/yamahasociety, IG:@yamahasociety, Youtube: Yamaha Society
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:30:05 PM
ภาพข่าว: ยามาฮ่า เปิดตัว เอ็ม-สแลซ ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย ในงาน The 32nd Thailand International Motor Expo 2015 พร้อมจัดเต็มโชว์บิ๊กไบค์ครบรุ่น ด้วยคอนเซ็ปต์บูธเอาใจสาวกไบค์เกอร์ “The Biker Community”



          มร.เท็ตสึยะ อินะมูระ (คนที่ 4 จากขวา) ประธานกรรมการบริหาร และคณะผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด พร้อมด้วย มร.โยชิฮิโร ฮิดากะ (คนที่ 3 จากขวา) กรรมการบริหาร, กรรมการผู้จัดการทั่วไป ส่วนธุรกิจรถจักรยานยนต์ บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น และพอล เอสปาร์กาโร่ (คนแรกจากขวา) นักแข่งระดับโลก MotoGP โดยมี นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ (คนที่ 4 จากซ้าย) ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด ให้เกียรติร่วมเปิดบูธยามาฮ่า ในงาน The 32nd Thailand International Motor Expo 2015 ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "The Biker Community" เพื่อเอาใจสาวกไบค์เกอร์ พร้อมเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ "YAMAHA M-SLAZ"...SLASH YOUR DARKNESS... ซึ่งได้รับการถ่ายทอด DNA จากตระกูล MT-Series แนว Street Bike สไตล์ Naked เครื่องยนต์ 150 ซีซี ไฟ LED รอบคัน โช้คหัวกลับ Upside Down ขนาดใหญ่ โดยมีให้เลือกเท่ และเร้าใจด้วยกัน 4 สี คือ เทา-เขียว, ดำ, น้ำเงิน-ขาว, แดง-ดำ โดยมีราคาในช่วงเปิดตัว 89,500 บาท พร้อมรับฟรี แบ็คแพค เอ็ม-สแลซ มูลค่า 5,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2559 นี้เท่านั้น โดยงานแถลงข่าวจัดขึ้น ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:56:07 PM
“อีซูซุ” ตอกย้ำปรากฏการณ์ “บลูเพาเวอร์” ส่ง “รุ่นใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” นวัตกรรมเปลี่ยนโลก! ร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32









          อีซูซุประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามด้วยปรากฏการณ์ "บลูเพาเวอร์" ไปทั่วประเทศ จนยอดจองรถปิกอัพรุ่นใหม่ล่าสุดพุ่งกระฉูด ช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์เมืองไทยช่วงปลายปีให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง อีซูซุจึงพร้อมนำทัพด้วยรถปิกอัพ "รุ่นใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์" นวัตกรรมเปลี่ยนโลกมาร่วมเปิดบูธในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 ชูแนวคิด "บลูเพาเวอร์" ขุมพลังดีเซลใหม่ ครั้งแรกในโลก! ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1,900 ซีซี ในรถปิกอัพ ให้กำลังเครื่องยนต์แรงกว่าเดิม ประหยัดน้ำมัน พลังงานสะอาด ค่ามลพิษหรือค่าคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) น้อยที่สุดในรถระดับเดียวกัน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากสุด ขานรับนโยบาย ECO Sticker ของรัฐบาล พร้อมกันนี้ยังนำสุดยอด "อีซูซุมิว-เอ็กซ์" (Isuzu MU-X) เอกสิทธิ์แห่งความสุข รถอเนกประสงค์สุดหรูมาโชว์ในงานอีกด้วย
          มร. ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า "หลังจากที่ได้เปิดตัวรถปิกอัพ "รุ่นใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์" โดยเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากผู้ใช้รถ ดังนั้นภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 อีซูซุจึงได้นำ "รุ่นใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์" มาตรฐานใหม่สำหรับรถปิกอัพระดับโลก ด้วยขุมพลังใหม่เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 1,900 ซีซี ที่ใช้ในรถปิกอัพครั้งแรกในโลก! ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตรที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ภายใต้แนวคิดการออกแบบเครื่องยนต์ มุ่งเน้นให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด ค่ามลพิษต่ำสุด ประหยัดน้ำมันสูงสุด มาตรฐานใหม่ที่เหนือกว่าคำว่า "ที่สุด" สำหรับรถปิกอัพในอนาคต ซึ่งพัฒนาภายใต้แนวคิด "The Power of Less" พร้อมพัฒนาระบบส่งกำลังใหม่หมดเพื่อรองรับขุมพลังใหม่ ด้วยเกียร์เดินหน้า 6 สปีดเพื่อที่จะถ่ายทอดสมรรถนะอันยอดเยี่ยมในทุกๆ ด้านของเครื่องยนต์ใหม่นี้ ให้ก้าวสู่มาตรฐานใหม่ที่เหนือกว่าทุกสถิติเดิม! เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นเดิม 2.5 Ddi VGS TURBO ขนาด 2,500 ซีซี พร้อมกันนี้อีซูซุยังได้นำรถ "อีซูซุมิว-เอ็กซ์" สุดยอดยนตรกรรมอเนกประสงค์สุดหรู ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้า (ผู้ใช้รถ) ถึงสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ความประหยัดน้ำมัน และรูปทรงที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้ใช้รถในเมืองไทยได้เป็นอย่างดีในด้านอรรถประโยชน์ที่ครบครัน โดยนำมาตกแต่งพิเศษ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ใช้รถที่ชื่นชอบกิจกรรมในเชิงไลฟ์สไตล์สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ"
          บูธอีซูซุในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 ออกแบบสไตล์โมเดิร์นในโทนสีฟ้า สะท้อนความล้ำสมัยและเทคโนโลยีของ "บลูเพาเวอร์" ที่มาของขุมพลังใหม่ที่ไม่เพียงให้กำลังเครื่องยนต์อันทรงพลังเท่านั้น แต่ยังประหยัดน้ำมันสูงสุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน และเป็นพลังงานสะอาดที่ให้ค่ามลพิษต่ำสุด รองรับมาตรฐานสูงสุด EURO6 อันเข้มงวดในอนาคตอีกด้วย โดยรถอีซูซุที่นำมาโชว์ในครั้งนี้ นอกจากรุ่นมาตรฐานแล้วยังมีการตกแต่งรถพิเศษเฉพาะงานนี้เพื่อสร้างสีสันให้กับผู้ใช้รถที่มีใจรักการแต่งรถและกิจกรรมไลฟ์สไตล์ประกอบด้วย

          รุ่นใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์
          ที่พัฒนาใหม่ล่าสุด "อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์" ขนาด 1,900 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตรที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที พัฒนาภายใต้แนวคิด "The Power of Less" ที่ให้เครื่องยนต์น้ำหนักเบาที่สุด (LESS Weight) ค่าแรงเสียดทานต่ำสุด (LESS Friction) ระดับเสียงเครื่องยนต์ต่ำสุด (LESS Noise) ระดับคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุด (LESS CO2) และค่าบำรุงรักษาต่ำสุด (LESS Maintenance) แต่กลับให้สมรรถนะที่ยอดเยี่ยมในทุกๆ ด้าน ทั้งแรงม้าสูงสุด (MORE Power) แรงบิดสูงสุด (MORE Torque) ทนทานสูงสุด (MORE Durability) ประหยัดน้ำมันสูงสุด (MORE Fuel Efficiency) และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูงสุด (MORE Environmental Friendliness) พร้อมทั้งยังได้พัฒนาระบบส่งกำลังใหม่หมดเพื่อรองรับขุมพลังใหม่ ด้วยเกียร์เดินหน้า 6 สปีด ที่มาพร้อมกับ Over Drive ถึง 2 ตำแหน่ง เพื่อที่จะถ่ายทอดสมรรถนะอันยอดเยี่ยมในทุกๆ ด้านของเครื่องยนต์ใหม่นี้ ให้ก้าวสู่มาตรฐานใหม่ที่เหนือกว่าทุกสถิติเดิม ซึ่งให้แรงม้าเพิ่มขึ้น 10% แรงบิดเพิ่มขึ้น 9% และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เร็วขึ้น 8% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นเดิม 2.5 Ddi VGS TURBO ขนาด 2,500 ซีซี ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้รถชาวไทยว่าแรงจัด ประหยัดน้ำมันสุด
          พร้อมพลิกโฉมใหม่หมดด้วยดีไซน์แห่งปิกอัพล้ำอนาคต หนึ่งเดียวของวงการปิกอัพที่ออกแบบบุคลิกรถแต่ละรุ่นให้แตกต่างอย่างชัดเจน ภายใต้แนวคิด "STRONG" "EMOTIONAL" "SPORTY" ด้วยเส้นสายแห่งดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกทรงพลังและพร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้ายิ่งขึ้น ลู่ลมสูงสุดด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำสุด ช่วยให้ประหยัดน้ำมันสุด และเงียบสุด รวมทั้งภายในดีไซน์ใหม่ที่ล้ำสมัย ต่อยอดความสะดวกสบายสูงสุดแบบฉบับอีซูซุ ใหม่! ล้ำสมัยสุดกับระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบ Isuzu Connect World เทคโนโลยีเชื่อมต่อระหว่างผู้โดยสาร รถ และทั้งโลกเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อเข้าถึงทุกข้อมูลและทุกความบันเทิงได้ง่ายดาย ด้วยการเชื่อมต่อกับ Smartphone ได้ทั้งระบบ iOS และ Android ที่มาพร้อมแผนที่อัจฉริยะที่ทำให้คุณเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้นกับ I Smart Navi รวมทั้งคงไว้ซึ่งเทคโนโลยีอัจฉริยะ Isuzu Insight ที่พัฒนาไปอีกขั้น ให้สามารถดาวน์โหลดข้อมูลดูพฤติกรรมการขับขี่ได้เองง่ายๆ ผ่านมือถือได้บ่อยเท่าที่ต้องการ เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่สูงสุด พร้อมระบบเสียงสมบูรณ์แบบด้วยลำโพงคุณภาพระดับ Hi-end กระหึ่มครบทุกมิติเสียงกับ Roof Speaker ครั้งแรกในวงการปิกอัพ และใหม่! หน้าปัดเรืองแสง Super Vision ดีไซน์ใหม่แบบ 3D Shape Point พร้อมหน้าจอ Color Display MID จอแสดงผลข้อมูลโฉมใหม่ ขนาดใหญ่ พร้อมฟังก์ชั่นการบอกข้อมูลได้มากขึ้น
นอกจากนั้นยังมีเครื่องยนต์ "อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์" รุ่น 4JJ1-TCX อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการใช้งานที่ต้องการกำลังสูงเป็นพิเศษพร้อมพลังงานสะอาด ผ่านค่ามลพิษ CO2 ตามมาตรฐาน Eco Sticker

          ISUZU Safety Car 1.9 Ddi Blue Power
          เท่ สปอร์ต ดุดันอย่างลงตัวกับ รถ "รุ่นใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์" สำหรับนำขบวนในสนามแข่งขัน "Isuzu One Make Race" โดดเด่นด้วยชุดแต่ง Aero Part รอบคัน และชุดสปอยเลอร์ท้าย (Rear Wing) พร้อม Sticker Wrap รอบคัน พร้อมล้อขอบ 18 นิ้ว ยี่ห้อ TAM รุ่น TM 226 ล้อหน้า 9.5"x18" ล้อหลัง 10.5"x18" ยางยี่ห้อ TOYO รุ่น PROXES T1R ยางหน้า 245/40R18 ยางหลัง 275/35R18 และชุดช่วงล่างเพื่อใช้ในการแข่งขันจาก HOT BITS และชุดดิสก์เบรคหน้าจาก RUNSTOP ชุดดิสก์เบรคหลัง จาก DBA ร้อนแรงสุดๆ กับสมรรถนะใหม่ด้วยชุดกล่องพ่วงเพิ่มแรงม้าจาก ECU Shop รุ่น Monster Max ที่ให้แรงม้ามากถึง 232 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 580 นิวตัน-เมตร ท่อไอเสียยี่ห้อ HKS รุ่น Legal Muffler พร้อมสัญญาณไฟไซเรนแบบ LED และฟิล์มยี่ห้อ Lamina รุ่น L20C (บานหน้า) รุ่น L05C (รอบคัน)

          อีซูซุมิว-เอ็กซ์ (ISUZU MU-X)
          เอกสิทธิ์แห่งความสุข สุดยอดยนตรกรรมที่รวมความโดดเด่นด้านรูปลักษณ์จากดีไซน์อันน่าหลงใหล สมรรถนะขับเคลื่อนอันยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบประทับใจ พร้อมความอเนกประสงค์ที่สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถรุ่นใหม่ได้อย่างครบถ้วนลงตัว มอบความภาคภูมิใจแก่ผู้ครอบครอง โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ 3-DIMENSION มิติเฉียบคมอารมณ์สปอร์ตหรูหราปลอดภัยสไตล์ยุโรปด้วย SUPER DAYLIGHT ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไฟท้ายดีไซน์พิเศษแบบ ARC-DIMENSION เพิ่มมิติทุกมุมมอง ROOF RAIL ดีไซน์รับกับตัวรถ ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เสาอากาศโฉบเฉี่ยวแบบ SHARK-FIN ภายในโอ่โถงสไตล์ PREMIUM & EXCLUSIVE ให้ความรื่นรมย์ทุกการขับขี่ด้วยระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบ ISUZU MEDIA SOLUTIONS พร้อมปฏิวัติช่วงล่างใหม่ แบบคอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ ช่วงล่างด้านหลังแบบ "5-LINK SUSPENSION" ให้เสถียรภาพในการทรงตัว เกาะถนนดีเยี่ยม พร้อมความนุ่มนวลดุจรถยนต์นั่งระดับหรู เหนือระดับในมาดผู้นำกับ อีซูซุ มิว-เอ็กซ์สีขาวมุก เอเวอเรสต์ (Everest Pearl White) ตกแต่งพิเศษด้วยล้อขอบ 20 นิ้ว ยี่ห้อ TAM รุ่น TM234 ขนาด 10"x20" ยางยี่ห้อ TOYO รุ่น PROXES ST2 ขนาด 265/50R20 พร้อมชุดโหลดช่วงล่าง HOT BITS สติ๊กเกอร์ตกแต่งพิเศษ เติมเสน่ห์เร้าใจด้วยการตกแต่งพิเศษในแนว URBAN LIFE ตอบไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองกับ อีซูซุมิว-เอ็กซ์ สีน้ำตาล สแปนิช มาพร้อมกับล้อขอบ 20 นิ้ว ยี่ห้อ TAM รุ่น 3404 ขนาด 9.0"x20" ยางยี่ห้อ NITTO รุ่น NT420S ขนาด 265/50R20 พร้อมชุดขอลากเรือ และชุดอุปกรณ์ยึดจับจักรยานยี่ห้อ THULE รุ่น Easy Fold 932 พร้อมจักรยานเสือหมอบ ยี่ห้อ TREK รุ่น Domane Project One และรุ่น Madone 9.9 Project One

          นอกจากนี้ยังมีพิธีกรคนดังผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาสร้างความสุขสนุกสนานตลอด 12 วัน อาทิ เป็ก-เปรมณัช สุวรรณานนท์ มิค-บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ เอ๊าะ-กีรติ เทพธัญญ์ VJ เลโอ และ VJ น็อต พร้อมสนุกสนานกับกิจกรรมมากมายภายในบูธอีซูซุ อาทิ
          พบกับ 2 พรีเซนเตอร์สุดฮอตจากอีซูซุ "บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์" และ "ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา"
          COVER DANCE จากสาวสวยสุดเซ็กซี่ ดีกรีแชมป์ประเทศไทย ที่จะมาเพิ่มความฮอตขององศานี้
          การประกวดภาพถ่าย Isuzu Motor Expo Photo Contest 2015 ส่งภาพที่คุณถ่ายจากกล้องดิจิตอล หรือผ่าน instagram เพียงใส่ Hashtag #isuzuinstagram ลุ้นรับรางวัล บาดใจรวมกว่า 200,000 บาท
          สอบถามข้อมูลรถอีซูซุหรือกิจกรรมต่างๆ ภายในงานได้จากสาวๆ i-Girl

          สัมผัสและทดลองขับ "รุ่นใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์" และ "รุ่นใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์" มาตรฐานใหม่สำหรับรถปิกอัพระดับโลก รวมถึง "อีซูซุ มิว-เอ็กซ์" ยอดยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับหรูที่บูธอีซูซุ ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2558 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 02:56:54 PM
Isuzu carries the strong momentum of the “Blue Power” phenomenon into the Thailand International Motor Expo 2015 with the display of the “New! Isuzu D-MAX 1.9 Ddi Blue Power”, the world-changing innovation.









           Isuzu has got an overwhelming success with the "Blue Power" phenomenon across the country generating numerous bookings of the "New! Isuzu D-Max Blue Power!" which stimulates the Thai Automobile market at the end of the year. Hence, the highlight of the Isuzu booth at the "Motor Expo 2015" is the "New! Isuzu D-MAX 1.9 Ddi Blue Power", the world-changing innovation, under the booth's design concept of "Blue Power"-- the new power plant, which is the world's first 1.9-liter diesel engine to be used in pickups. This engine offers superior performance, best fuel efficiency, and the lowest CO2 emission in its segment giving the environmental friendliness responding to the government's ECO Sticker policy. Another highlight in the "Isuzu Booth" is the display of the luxury engineering marvel "Isuzu MU-X", the privilege of the happiness.
          Mr. Hiroshi Nakagawa, President of Tri Petch Isuzu Sales Co., Ltd. reveals that "After the "New! Isuzu D-Max 1.9 Ddi Blue Power" was launched into the market on November 13, it has received overwhelming customer responses. Hence, our presence is in the Motor Expo 2015 will lead with the "New! Isuzu D-MAX 1.9 Ddi Blue Power", the new world-class pickup with world-first 1.9 diesel engine to be used in pickup. This new engine provides top performance producing 150 horsepower at 3,600rpm and 350Nm of torque from 1,800-2,600rpm. The main objectives being pursued during the development stage are top performance, lowest emissions and best fuel efficiency to establish a new standard for the global pickup market under the "The Power of Less" design philosophy. Also newly-developed is the 6-speed transmission that is more than capable in transmitting the performance of the new engine to set a new higher standard and crush all previous records set by the previous 2.5-litre engine.
          In addition, Isuzu also displays the "Isuzu MU-X", the luxury engineering marvel that has been well accepted in Thai automobile market of its performance, fuel efficiency, and its stylish design. Moreover, it can meet the customers' requirements because of its multi utilities. The Isuzu MU-X displaying at the Isuzu booth is specially decorated to inspire those who enjoy lifestyle activities."
          The Isuzu Booth at the Motor Expo 2015 features a modern architecture design in blue color tone reflecting the meaning of the name "Blue Power", the new power plant that not only giving the great performance but also offering the best fuel efficiency in its class and producing low emissions and can pass the stringent Euro 6 emission standards in the future as well. Isuzu parades its vehicle exhibit lineup of standard Isuzu models and special decorated versions for this Motor Expo to draw those who admire decorated vehicles and enjoy lifestyle activities, which are further explained in the following;
          The "New! Isuzu 1.9 DDi Blue Power" stands out because of its newly developed "Isuzu 1.9 Ddi Blue Power", the 1,900 cc. engine which is capable of producing 150 horsepower at 3,600rpm and 350Nm of torque from 1,800-2,600rpm. It was developed under the "Power of Less" design philosophy offering LESS Weight, LESS Friction, LESS Noise, LESS CO2, LESS Maintenance but delivering excellent performance in every aspect from MORE Power, MORE Torque, MORE Durability, MORE Fuel Efficiency, and MORE Environmental Friendliness. It also comes with a new developed 6-speed transmission with 2 positions overdrive in order to deliver every superior performance of this new engine, allowing it to break all records set by the previous 2.5 Ddi VGS TURBO engine that is highly regarded for its outstanding power and fuel economy. This new engine is offering 10% power increase, 9% torque increase, and 0-100km/h acceleration is 8% faster comparing with 2.5 Ddi VGS TURBO engine which is highly regarded for its outstanding power and fuel economy.
          The "New! Isuzu D-MAX Ddi Blue Power" also boasts an all-new futuristic design, giving each model a unique character under the "STRONG" "EMOTIONAL" "SPORTY" concept with powerful body lines point out to the extremely high power and the capability to pounce ahead responsively, while providing the best aerodynamics with lowest drag coefficient value. This results in the lowest fuel consumption and noise, while the interior is also new, featuring modern styling that provides the highest level of comfort expected from Isuzu. Another new feature is the "Isuzu Connect World" entertainment and connectivity system, connecting occupants, vehicle and the world together technology. It easily reaches all information and entertainment functions and compatible with both iOS and Android Smartphones that comes with the genius map "i Smart Navi". Also included is the "Isuzu Insight" system that has been improved further, allowing data to be easily accessed and downloaded the driving behavior into smartphones as often as desired in order to achieve the most efficient driving performance. A high-end audio system featuring Roof Speakers, world-first for pickups, entertains the driver and passengers with excellent tonal balance and soundstage. Also new is the Super Vision fascia with 3D Shape Point design and new Color Display MID (Multi Information Display) that is larger and displays more driving information.

          In addition, displaying at the Isuzu booth includes;
          · The "Isuzu 3.0 Ddi Blue Power" codename 4JJ1-TCX offered as another choice for those who require especially high power output from the vehicle with the clean energy which gave lowest CO2 emission that passed the ECO Sticker standard.
          · The special decorated "Isuzu Safety Car 1.9 Ddi Blue Power", the safety car from the "Isuzu One Make Race"
          · The special decorated "Isuzu MU-X" in Everest Pearl White and Spanish Brown colors.
Be prepared to enjoy the popular emcee at the Isuzu booth from Peck-Premmanat Suwannanon, Mick-Boromvudh Hiranyathiti, "Oar-Kirati Thepthan, VJ Leo and VJ Nott with other entertainment activities provided by Isuzu.
          · Meet the famous Isuzu super presenters : "Boy-Pakorn Chatborirak" and "Kong-Saharat Sangkapricha"
          · Enjoy cover dance show from the Thailand's cover dance champion team.
          · Join the Isuzu Motor Expo Photo Contest 2015: A photography competition on the photo-subject matter which is none other than the Isuzu Booth. Send in your photos from your digital device or upload via Instagram by putting hashtag #isuzuinstagram. Compete for prizes worth over 200,000 THB.
          · Contact our i-Girls for further product information and activities at the booth.

          Experience and test drive the "New! Isuzu D-Max 1.9 Ddi Blue Power" and the "New! Isuzu D-Max 3.0 Ddi Blue Power", the new benchmark of the world-class pickup, including "Isuzu MU-X", the luxurious sport utility vehicle, at the Isuzu Booth in the Thailand International Motor Expo 2015, from December 2-13, 2015 at the Challenger Hall, Impact Muang Thong Thani.
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 03:14:31 PM
พบสกู๊ตเตอร์เวสป้าโมเดลใหม่ล่าสุด “เวสป้า แอลที 3Vie” เพิ่มสีสันให้ชีวิตในแบบที่คุณเลือกเอง







          บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลี "เวสป้า" และ "พิอาจิโอ" แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัวรถสกู๊ตเตอร์เวสป้ารุ่นใหม่ล่าสุดมาเสริมทัพด้วยราคาที่ย่อมเยาที่สุดเพื่อรุกตลาดกลุ่มผู้ขับวัยรุ่นชายที่มีสไตล์และชื่นชอบความสนุกสนาน โดยเวสป้าโมเดลใหม่ "เวสป้า แอลที 3Vie" (Vespa LT 3Vie) มาพร้อมกับคอนเซปต์ "เพิ่มสีสันให้ชีวิตในแบบที่คุณเลือกเอง" ให้สาวกเวสป้าเลือกวาดลวดลายออกแบบรถเวสป้าคันเก่งด้วยเซ็ตสติ๊กเกอร์ออกแบบมาพิเศษสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ

          พรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด "เวสป้า แอลที 3Vie" (Vespa LT 3Vie) มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 125 ซีซี ขับเคลื่อนอย่างยอดเยี่ยมด้วยนวัตกรรมระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ 4 จังหวะ 3 วาล์ว ด้วยสมรรถนะและกำลังบิดที่ทรงกำลัง ระบายความร้อนด้วยระบบพัดลมระบายอากาศแบบหมุนวน พร้อมตัวเครื่องที่ลดอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานและลดมลพิษเป็นเลิศ นอกจากนี้ เวสป้า แอลที 3Vie ยังมากับระบบกันสะเทือนหน้าแบบแขนเดี่ยวทำงานสองทิศทาง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่จะพบได้จากรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าเท่านั้น ผู้ขับขี่จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยทุกครั้งที่ขับขี่

          ตัวบอดี้ของรถรุ่นนี้ยังคงเป็นเหล็กกล้าคลาสสิกตามแบบฉบับเวสป้า ธงอิตาลีที่ปรากฎอยู่ทั้งสองด้านยังช่วยเน้นย้ำความเป็นรถสัญชาติอิตาลี มาพร้อมกับส่วนปิดด้านหลัง ที่วางเท้าและส่วนปิดด้านข้างที่ออกแบบโดยใช้สีดำซึ่งเข้ากันกับกระจกท้ายและขอบล้อได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพิ่มเติมลุคสปอร์ตให้กับรูปทรงตัวถังสุดคลาสสิกด้วยล้อแม็กสีดำและพิเศษสุด รับทันทีเซ็ตสติ๊กเกอร์ 5 สี ที่ให้คุณทดสอบจินตนาการของคุณด้วยการวาดลวดลายออกแบบเวสป้าคันใหม่ได้ตามใจชอบ

          เพิ่มสีสันให้ชีวิตในแบบที่คุณเลือกเองกับ เวสป้า แอลที 3Vie มีให้เลือก 3 สี 3 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสีขาว (Urban Bianco) ในราคาพิเศษช่วงแนะนำ 75,900 บาท สีแดง (Sport Rosso) หรือ สีดำ (Sport Nero) ราคาพิเศษช่วงแนะนำ 76,900 บาท นับเป็นเวสป้ารุ่นที่มีราคาย่อมเยาที่สุดที่เคยเปิดตัวมา ทั้งนี้เพื่อเจาะกลุ่มผู้ขับขี่วัยรุ่นที่อยากเลือกซื้อเวสป้ามาเป็นรถสกู๊ตเตอร์คู่ใจโดยเฉพาะ สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายเวสป้าทั่วประเทศ

          ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ได้ทาง www.vespa.co.th หรือทาง www.facebook.com/vespathailand และอินสตาแกรม @vespathailand
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 03:16:16 PM
เวสป้าเอาใจคนรักความเร็วด้วยเวสป้ารุ่นพิเศษ “เวสป้า สปริ้นท์ 150 3Vie เวโลเช่ ซีรี่ย์ส”









          บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลี "เวสป้า" และ "พิอาจิโอ" แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เผยโฉมรถสกู๊ตเตอร์เวสป้ารุ่นพิเศษ "เวสป้า สปริ้นท์ 150 3Vie เวโลเช่ ซีรี่ย์ส" (Vespa Sprint 150 3Vie Veloce Series) เพิ่มทางเลือกให้กับคนรักเวสป้าที่ชื่นชอบความเร็ว ด้วยดีไซน์ลุคสปอร์ตกว่าเดิม พร้อมเสริมลุคให้ผู้ขับขี่มั่นใจกว่าใครในทุกเส้นทาง โดยเวสป้ารุ่นพิเศษรุ่นนี้ ผลิตขึ้นเป็นพิเศษและมีจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น

          สำหรับ เวสป้า สปริ้นท์ 150 3Vie เวโลเช่ ซีรี่ย์ส (Vespa Sprint 150 3Vie Veloce Series) สกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลี รุ่นพิเศษนี้ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก "เวสป้า สปริ้นท์ เวโลเช่" (Vespa Sprint Veloce) ในยุค 70 มอบ ความโดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตที่ยังคงความคลาสสิกตามแบบฉบับ มาพร้อมเครื่องยนต์หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ 4 จังหวะ 3 วาล์ว ขนาด 150 ซีซี ด้วยรูปทรงที่ปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว เพิ่มความคล่องตัวในทุกเส้นทาง พร้อมสมรรถนะที่เร้าใจ ตอบรับชีวิตในเมืองได้อย่างลงตัว และยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวไว้ด้วยไฟหน้าทรงเหลี่ยมสไตล์สปอร์ต หน้าจอแบบมัลติฟังก์ชั่นและไฟหน้าแบบ LED Day Light ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนน ออกแบบพิเศษด้วยสติ๊กเกอร์แถบสีสไตล์สปอร์ตด้านข้างตัวรถ พร้อมเสริมความเท่ด้วยชิวด์สั้นสีสโม้คและเพลทเหล็กโลโก้ Veloce Series ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ แต่งเติมความหล่อด้วยล้อแม็กสีดำที่ให้คุณมั่นใจกว่าใครในทุกเส้นทาง

          เวสป้า สปริ้นท์ 150 3Vie เวโลเช่ ซีรี่ย์ส มาใน 5 โทนสีให้เลือกได้แก่ สีแดง (Rosso Dragon) สีขาว (Montebianco) สีดำ(Nero Vulcano) สีส้ม (Taormina) และสีเหลือง (Giallo Positano) พร้อมจำหน่ายในราคา 124,900 บาท โดยผู้ที่ซื้อสกู๊ตเตอร์รุ่นพิเศษนี้จะได้รับหมวกกันน็อค Scoot จาก Pantone Collection ใหม่ล่าสุดทันที จำนวน 1 ใบ สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายเวสป้าทั่วประเทศ

          ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ได้ทาง www.vespa.co.th หรือทาง www.facebook.com/vespathailand และอินสตาแกรม @vespathailand
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 02, 2015, 03:18:43 PM
เวสปิอาริโอเผยโฉม “เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่” สุดยอดนวัตกรรมสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมครั้งแรกในประเทศไทย









          บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลี "เวสป้า" และ "พิอาจิโอ" แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมด้วยการเผยโฉม "เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่" (Vespa 946 Emporio Armani) ที่ผสานรูปลักษณ์อันเรียบหรู โดดเด่น แต่แฝงด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมกับเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 125 ซีซี ซึ่งเหมาะกับการขับขี่บนท้องถนนเพื่อตอกย้ำสุนทรียภาพในการขับขี่ที่เหนือระดับด้วยผลงานการออกแบบจากสองสุดยอดแบรนด์ดังระดับโลกจากอิตาลีอย่าง "เวสป้า" และ "เอ็มโพริโอ อาร์มานี่" โดยมีจำหน่ายในประเทศไทยในจำนวนจำกัดเท่านั้น

          "เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่" (Vespa 946 Emporio Armani) คือที่สุดแห่งนวัตกรรมการสร้างสรรค์อันโดดเด่น จากการร่วมออกแบบของสองสุดยอดแบรนด์ดังจากประเทศอิตาลีที่ได้รับการยอมรับด้านดีไซน์และความคิดสร้างสรรค์ระดับโลกอย่าง "จีออร์จีโอ อาร์มานี่" และ "พิอาจิโอ กรุ๊ป" เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบ 40 ปีของการก่อตั้ง "จีออร์จีโอ อาร์มานี่" และ 130 ปี ของ "พิอาจิโอ กรุ๊ป" ในโอกาสพิเศษนี้เอง ทางเอ็มโพริโอ อาร์มานี่ ทำงานร่วมกับเวสป้าเพื่อออกแบบรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยม โดยเน้นอัตลักษณ์ด้านดีไซน์ ความเรียบหรู พิถีพิถันในทุกองค์ประกอบถ่ายทอดลงบนตัวรถเวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่ เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษนี้อีกด้วย

          เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่ มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้โทนสีเรียบอันสะท้อนเอกลักษณ์ของทางอาร์มานี่ โดยสีที่ทางดีไซเนอร์คัดสรรมาใช้คือสีพิเศษที่ผสมผสานสีเทาเข้มเข้ากับสีเหลือบเขียวที่จะสามารถมองเห็นได้ชัดภายใต้แสงที่มีมุมตกกระทบเฉพาะเท่านั้น

          หากกล่าวถึงที่มาของชื่อ "เวสป้า 946" (Vespa 946) นั้น มาจากต้นกำเนิดของรถสกู๊ตเตอร์ในตำนานในปีคริสตศักราช 1946 ซึ่งนับเป็นปีแรกที่รถสกู๊ตเตอร์เวสป้าได้ถูกผลิตขึ้น ผลงานรถ "เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่" ถือได้ว่าเป็นผลงานการออกแบบใหม่ที่นำเอกลักษณ์การออกแบบแบบดั้งเดิมของรถเวสป้ามาผสมผสานสุนทรียศาสตร์แห่งความงดงามสไตล์อิตาลีและความทันสมัยให้เข้ากันอย่างลงตัว

          ในส่วนของการเลือกใช้วัสดุ ชิ้นส่วนที่เป็นโลหะได้ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า "กัลวานิก" ทำให้พื้นผิวสัมผัสของตัวรถคล้ายคลึงกับเนื้อผ้าซาติน นอกจากนี้ ยังมีการเติมแต่งให้ตัวถังรถมีความสมบูรณ์ด้วยการประทับคำว่า "เอ็มโพริโอ อาร์มานี่" บริเวณเหนือไฟส่องสว่างด้านหน้าและบริเวณด้านข้างตัวรถ สำหรับไฟหน้าและไฟท้ายเป็นหลอดไฟส่องสว่างแบบแอลอีดี (LED) ที่มาพร้อมกับระบบระบายความร้อน รวมไปถึงหน้าจอเรือนไมล์แบบแอลซีดี-มัลติฟังก์ชั่น

          นอกเหนือจากความโดดเด่นทางด้านดีไซน์ที่โดดเด่น "เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่" ถือเป็นการผสมผสานของสุดยอดเทคโนโลยีและสไตล์การออกแบบ อาทิ เสื้อสูบที่ทำจากอะลูมิเนียมคุณภาพดี เบาะนั่งของผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายที่เป็นงานเย็บมือด้วยหนังแท้สีน้ำตาล โดยใช้วัสดุกันน้ำคุณภาพสูง อุปกรณ์เสริมอันหรูหรา การควบคุมระบบการขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์ (สามารถใช้เชื่อมต่อกับเครื่องมืออุปกรณ์อินเทอร์เน็ตรุ่นใหม่ๆ ได้ เช่น โทรศัพท์มือถือสมาร์ตโฟน เป็นต้น) พร้อมเติมความสมบูรณ์แบบด้วยนวัตกรรมระบบเครื่องยนต์ขนาด 125 ซีซี 4 จังหวะ 3 วาล์ว ติดตั้งระบบน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์พร้อมระบบปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูงซึ่งช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงและลดอัตราการเผาผลาญ สามารถตอบโจทย์และมอบสมรรถนะการขับขี่ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนเมืองรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว

          รถสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลีรุ่นพิเศษนี้ จึงถือเป็นรถสกู๊ตเตอร์ในฝันสำหรับการขับขี่ในเมือง นอกจากนี้ "เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่" ยังถูกเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยขั้นสูงสุด ด้วยระบบรองรับน้ำหนักด้านหน้าแบบซิงเกิลอาร์มที่ใช้โช้คอัพแบบไฮดรอลิคจึงสามารถรองรับน้ำหนักและทำงานได้แบบสองทิศทาง ขณะที่ระบบรองรับน้ำหนักด้านหลังใช้โช้คอัพไฮดรอลิคเช่นกัน และสามารถปรับระดับให้รองรับน้ำหนักได้ 4 ระดับ รวมทั้งติดตั้งจานเบรคคู่ขนาด 220 มิลลิเมตร ตลอดจนระบบเบรคเอบีเอส (ABS) สองช่องทางที่ควบคุมด้วยโปรแกรมซอฟท์แวร์พิเศษโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันล้อลื่นไถล ASR (Acceleration Skid Control) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ป้องกันล้อหมุนฟรีและการลื่นไถลจากการสูญเสียแรงฉุดลาก มาพร้อมกับล้อใหญ่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 12 นิ้ว จึงช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย

          สำหรับประเทศไทย ทางบริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำเวสป้ารุ่นพิเศษ เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่ เข้ามาจัดจำหน่ายเพียงจำนวนจำกัด สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยสามารถสั่งจองได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศในราคา 599,000 บาท (ราคาไม่รวมอุปกรณ์เสริม)

          ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ได้ทาง www.vespa.co.th หรือทาง www.facebook.com/vespathailand และอินสตาแกรม @vespathailand
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 08:42:35 AM
เวสป้ารุกตลาดสิ้นปีครั้งยิ่งใหญ่ เปิดคาราวานรถใหม่ 3 รุ่น ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 พร้อมโปรโมชั่นพิเศษและของพรีเมี่ยมเอาใจคนรักเวสป้าทั่วประเทศ







          บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลี "เวสป้า" และ "พิอาจิโอ" แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมรุกตลาดสองล้อสิ้นปีนี้ เปิดคาราวานเวสป้าพร้อมอวดโฉมเวสป้าโมเดลใหม่ล่าสุด "เวสป้า แอลที 125 3Vie" (Vespa LT 125 3Vie) เวสป้ารุ่นพิเศษ "เวสป้า สปริ้นท์ 150 3Vie เวโลเช่ ซีรี่ย์ส" (Vespa Sprint 150 3Vie Veloce Series) และ สุดยอดนวัตกรรมรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าแห่งปี "เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่" (Vespa 946 Emporio Armani) เป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 พร้อมเตรียมเซอร์ไพรส์ให้สาวกสองล้อสุดคลาสสิก ด้วยโปรโมชั่นพิเศษและของพรีเมี่ยมที่ขนมาเอาใจคนรักเวสป้าโดยเฉพาะ

          คุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "ในไตรมาสสุดท้ายนี้ บริษัทฯ ยังคงใช้แผนและกลยุทธ์ทางการตลาดด้วยการสานต่อแคมเปญ "More Than Just A Ride; It's Vespa Time" นำเสนอโปรโมชั่น กิจกรรมทางการตลาดและแคมเปญพิเศษต่างๆ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า นอกจากนี้ยังเน้นกลยุทธ์เปิดตัวโมเดลรถเวสป้ารุ่นพิเศษเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ โดยสำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 หรือ Thailand International Motor Expo 2015 นี้ บริษัทฯ ได้เข้าร่วมจัดแสดงบูธภายใต้คอนเซปต์ Motoplex พร้อมขนคาราวานเวสป้าไปเปิดตัวรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าโมเดลใหม่ 3 รุ่น ให้สาวกเวสป้ายลโฉมครั้งแรกในประเทศไทย ได้แก่ เวสป้า แอลที 125 3Vie (Vespa LT 125 3Vie) เวสป้าโมเดลใหม่ล่าสุดที่ถือเป็นไฮไลท์ สำหรับผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความสนุกสนาน เวสป้า สปริ้นท์ 150 3Vie เวโลเช่ ซีรี่ย์ส (Vespa Sprint 150 3Vie Veloce Series) เวสป้าโมเดลพิเศษเอาใจกลุ่มคนรักความเร็วด้วยเครื่องยนต์ 150 ซีซี และ เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่ (Vespa 946 Emporio Armani) สุดยอดนวัตกรรมสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมสำหรับสาวกเวสป้าที่ชื่นชอบลักซ์ชัวรี่แบรนด์ นอกจากนี้ยังเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษและของพรีเมี่ยมให้กับผู้ที่สนใจซื้อรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าในงานนี้เท่านั้นอีกด้วย"

          พบกับเวสป้ารุ่นใหม่ที่ถือเป็นรุ่นไฮไลท์ที่สุดในงานนี้ เวสป้า แอลที 125 3Vie (Vespa LT 125 3Vie) ที่มาพร้อมกับคอนเซปต์การออกแบบให้เป็นรถสกู๊ตเตอร์ที่ดูสนุกสนาน "เพิ่มสีสันให้ชีวิตในแบบที่คุณเลือกเอง" ผู้ขับขี่สามารถออกแบบดีไซน์รถได้เองด้วยเซ็ตสติ๊กเกอร์ 5 สี ให้คุณวาดลวดลายออกแบบเวสป้าได้ตามใจชอบ สนุกกับสกู๊ตเตอร์คันเก่งและทดสอบจินตนาการของคุณไปพร้อมๆ กัน เวสป้า แอลที 125 3Vie มีให้เลือก 3 สี 3 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สีขาว (Urban Bianco) มาในราคาพิเศษช่วงแนะนำ 75,900 บาท สีแดง (Sport Rosso) และสีดำ (Sport Nero) ราคาพิเศษช่วงแนะนำ 76,900 บาท นับเป็นเวสป้าราคาย่อมเยาที่สุดที่เคยเปิดตัวออกสู่ตลาดเมืองไทย

          สำหรับ เวสป้า สปริ้นท์ 150 3Vie เวโลเช่ ซีรี่ย์ส (Vespa Sprint 150 3Vie Veloce Series) เป็นเวสป้ารุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจกลุ่มคนรักความเร็วด้วยดีไซน์ลุคสปอร์ต โดยได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก "เวสป้า สปริ้นท์ เวโลเช่" (Vespa Sprint Veloce) ในยุค 70 พร้อมเสริมลุคให้ผู้ขับขี่ด้วยสติ๊กเกอร์แถบสีสไตล์สปอร์ตด้านข้างตัวรถ ชิวด์สั้นสีสโม้ค เพลทเหล็กโลโก้ Veloce Series ที่ทำขึ้นพิเศษเฉพาะรุ่นและแต่งเสริมความหล่อด้วยล้อแม็กสีดำที่ให้คุณมั่นใจกว่าใครในทุกเส้นทาง ในราคา 124,900 บาท มี 5 สีให้เลือกตั้งแต่สีขาว (Montebianco) สีแดง (Rosso Dragon) สีดำ (Nero Vulcano) สีเหลือง (Giallo Positano) และสีส้ม (Taormina) พร้อมจำหน่ายในราคา 124,900 บาท

          สิ้นสุดการรอคอยสำหรับคนรักเวสป้าชาวไทย เผยโฉมที่สุดแห่งนวัตกรรมการสร้างสรรค์อันโดดเด่นด้วยรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าแห่งปี เวสป้า 946 เอ็มโพริโอ อาร์มานี่ (Vespa 946 Emporio Armani) เวสป้ารุ่นสุดพิเศษที่สุดยอดสองแบรนด์ดังจากประเทศอิตาลีอย่างเวสป้าและเอ็มโพริโอ อาร์มานี่ ร่วมกันสร้างสรรค์รถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมคันนี้ โดยถ่ายทอดอัตลักษณ์ด้านดีไซน์ ความหรูหรา ตลอดจนความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีของการก่อตั้ง 'จีออร์จีโอ อาร์มานี่' และ 130 ปี ของ 'พิอาจิโอ กรุ๊ป' มีจุดเด่นอยู่ที่โทนสีอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อาร์มานี่ คือสีที่ผสมผสานสีเทาเข้มเข้ากับสีเหลือบเขียว มาพร้อมกับสุดยอดเทคโนโลยีเพิ่มเติมความสมบูรณ์แบบให้เวสป้ารุ่นพิเศษรุ่นนี้ โดยจัดจำหน่ายในจำนวนจำกัดด้วยราคา 599,000 บาท

          นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังร่วมกับพันธมิตรใจดีอย่างกรุงศรี ออโต้ ลีสซิ่ง จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของรถสกู๊ตเตอร์เวสป้าทุกรุ่นอีกด้วย อาทิ รุ่น 125 cc. ดาวน์เริ่มต้นเพียง 5,000 บาท และผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,566 บาทต่อเดือน สำหรับรุ่น 150 cc. ดาวน์เริ่มต้นเพียง 8,000 บาทและผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,701 บาทต่อเดือน พร้อมทั้งยังเตรียมของพรีเมี่ยมพิเศษต่างๆ มากมาย เพื่อให้สาวกเวสป้าได้สะสมเป็นคอลเลคชั่นพิเศษกันอย่างจุใจ

          ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ได้ทาง www.vespa.co.th หรือทาง www.facebook.com/vespathailand และอินสตาแกรม @vespathailand
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 08:43:26 AM
Vespa Grandly Taps into the Market in Late 2015 by Launching 3 New Models at 32nd Thailand International Motor Expo Plus Special Promotions & Premiums for Vespa Fans Nationwide







          Vespiario Thailand, the sole distributor of Italian premium scooters Vespa and Piaggio in Thailand, is ready to take the country's two-wheeler market by storm in late 2015 as it unveils Vespa's latest models Vespa LT 125 3Vie, the special edition of Vespa Sprint 150 3Vie Veloce Series, and the innovative Vespa 946 Emporio Armani at the 32nd Thailand International Motor Expo. As a delightful surprise for Vespa fans, the firm also prepares tempting promotions and irresistible premiums.

          Mrs. Pornada Tejapaibul, Managing Director of Vespiario (Thailand) Co Ltd, says, "In the last quarter of 2015, we continue with "More Than Just A Ride; It's Vespa Time" campaign. As our marketing activities and promotions focus on maintaining our base of existing customers, we also go ahead with introducing new or special Vespa models into the market so that we can appeal to new customers. For the Thailand International Motor Expo 2015, Vespa booth is presented under the Motoplex concept bringing along a colorful caravan of Vespa to launch three new models. They are: Vespa LT 125 3Vie that is a highlight for fun-loving customers. Vespa Sprint 150 3Vie Veloce Series, which promises to surprise speed lovers with its 150-cc engine; and Vespa 946 Emporio Armani, the ultimate innovation among premium scooters that is well catered to please Vespa fans who fancy a luxury brand. Vespa buyers at the expo will enjoy very special promotions and premiums".

          Come and discover the biggest highlight of the event - Vespa LT 125 3Vie. Embracing the fun theme and "Color Up Your Own Life" concept, this model gives a five-color sticker set to customers so that they can unleash their imagination and decorate their scooter themselves. The body of Vespa LT 125 3Vie is available in three colors. The Urban Bianco (white) is priced at just Bt75,900 while the Sport Rosso (red) and Sport Nero (black) are priced at just Bt76,900 during the launch period. They boast the lowest price tags since Vespa's launch to the Thai market.

          Vespa Sprint 150 3Vie Veloce Series is a sporty scooter for speed lovers. Inspired by Vespa Sprint Veloce from the seventies, it offers its rider an extra flair with specially-made stickers for side panels, smoked low-profile windshield, a unique steel plate emblazoning Veloce Series, and black max tires. This Vespa is available in five colors: Montebianco (white), Rosso Dragon (red), Nero Vulcano (black), Giallo Positano (yellow) and Taormina (orange). Priced at Bt124,900, Vespa Sprint 150 3Vie Veloce Series promises to make its riders stylishly confident on all roads.

          Vespa lovers in Thailand don't have to wait any longer for the arrival of Vespa of the year, Vespa 946 Emporio Armani. Designed by two famous Italian brands Vespa and Giorgio Armani to celebrate the 130th anniversary of "Piaggio Group" and the 40th anniversary of "Giorgio Armani", this premium-scooter model now comes to the Thai market. Sporting the signature colors of the latter brand, grey and green, it exemplifies distinctive design, luxury and meticulous attention to detail. State-of-the-art technology makes this scooter just so perfect. Hailed from a limited edition, it is now available at Bt599,000.

          Vespiario Thailand has also brought its great partner, Krungsri Auto Leasing, to the motor expo. All Vespa buyers therefore can get a very special loan package. For example, to own a 125-cc scooter, a down payment starts from Bt5,000 and later instalments from just Bt2,566 a month. For a 150-cc scooter, a down payment starts from Bt8,000 and later instalments from just Bt3,701 a month. To delight Vespa lovers further, every purchase will be rewarded with impressive premiums. They are all precious collectibles for the true fans of Vespa.

          For more information or updates, please visit www.vespa.co.th or www.facebook.com/vespathailand or follow @vespathailand on Instagram.
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 08:45:29 AM
มาสด้าเขย่าวงการรถยนต์ลุยเปิดตัวรถใหม่ 3 รุ่นรวด พร้อมเปิดตัวน้องนาย ณภัทร เป็นแบรนด์ฯมาสด้า2

          - เปิดตัวรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขายดีที่สุดในโลก All New Mazda MX-5 เจนเนอเรชั่นที่ 4 (ND)
          - เปิดตัว All New Mazda CX-3 Freestyle Crossover เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2000 ซีซี ทั้งแรงทั้งประหยัด
          - เปิดตัว Mazda2 รุ่นใหม่ปี 2016 พร้อมประกาศราคามาสด้า2 ใหม่ เริ่มวันนี้ไม่ต้องรอปีหน้า เริ่มต้นเพียง 529,000 บาท ฟรีประกันชั้นหนึ่ง









          มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กลายเป็นค่ายรถยนต์เพียงค่ายเดียวสำหรับปีนี้ที่สร้างความฮือฮาอย่างต่อเนื่องมาตลอดทั้งปี นับตั้งแต่การเปิดตัวรถยนต์นั่งซับคอมแพ็คคาร์ ออลนิว มาสด้า2 ด้วยการจับเอาเครื่องยนต์คลีนดีเซล สกายแอ็คทีฟ-ดี ขนาด 1500 ซีซี และเครื่องยนต์เบนซิน สกายแอคทีฟ-จี ขนาด 1300 ซีซี ใส่ไว้ในรถยนต์รุ่นเดียวกัน ตามมาด้วยการเปิดตัวรถปิกอัพ All New Mazda BT-50 โปร ใหม่ พร้อมพาสื่อมวลชนเดินทางบุกตะลุยไปทดสอบไกลถึงประเทศมองโกเลีย และเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาก็สร้างเซอร์ไพร์ด้วยการเปิดตัว ออลนิว มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 อย่างยิ่งใหญ่อลังการ มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2000 ซีซี มาตรฐานใหม่ของรถกลุ่มคอมแพ็คครอสโอเวอร์ ทั้งสมรรถนะการขับขี่ การประหยัดน้ำมัน ความปลอดภัยขั้นสูง พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแบบเต็มคัน ส่งผลให้ปีนี้คาดว่ายอดขายน่าจะทะลุ 40,000 คัน
          สำหรับงานมอเตอร์เอ็กซ์โปในปีนี้ มาสด้ายังคงเดินหน้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในครั้งนี้มาสด้าเตรียมรถยนต์รุ่นใหม่มาเปิดตัวอีก 3 รุ่น ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ เพื่อสร้างแข็งแกร่งให้ตลาดรถยนต์ รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทย แม้ว่าในปีนี้มาสด้าเปิดตัวแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ไปแล้วถึง 3 รุ่น และประสบความสำเร็จได้รับความนิยมอย่างสูงจากลูกค้าชาวไทย จนทำให้มาสด้าสามารถก้าวขึ้นสู่อันดับ 3 ของรถยนต์นั่งได้อย่างรวดเร็ว
          นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ของประเทศไทยนั้นได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และกำลังเติบโต จากการที่บริษัทรถยนต์ต่างๆ เร่งเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด สร้างความคึกคักและบรรยากาศในการซื้อขาย โดยเฉพาะการเปิดตัวรถยนต์มาสด้า ซึ่งในปีนี้มาสด้าจะทำการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งหมด 6 รุ่น และทุกรุ่นต่างประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จากเสียงสะท้อนที่กลับมาที่ทางมาสด้าได้รับนั้นทั้งจากลูกค้าชาวไทย และจากลูกค้าทั่วโลกที่มีต่อรถยนต์มาสด้า นั่นคือ เสียงตอบรับในเทคโนโลยีสกายแอคทีฟและรูปลักษณ์การออกแบบที่สวยงามของ โคโดะ ดีไซน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่มาสด้าได้มุ่งมันในการพัฒนาเพื่อให้ได้มาซึ่งรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้รถยนต์มีสมรรถนะดีที่สุด อันประกอบไปด้วย
          Ø ที่สุดแห่งเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ แบบเต็มคัน ทั้งเครื่องยนต์ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด โครงสร้างตัวถัง ระบบช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยว
          Ø ที่สุดแห่งการออกแบบอันสง่างาม ภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ SOUL of MOTION หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวที่งดงาม
          Ø ที่สุดแห่งความปลอดภัยระดับโลก i-ACTIVSENSE เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่พัฒนาขึ้นตามปรัชญาความปลอดภัยของมาสด้าทั้งในเชิงป้องกันและเชิงปกป้อง
          Ø ที่สุดแห่งการสื่อสารเพื่อเชื่อมต่อโซเชียลมีเดียด้วย MZD CONNECT ให้คุณไม่พลาดการติดต่อ
          ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวทั้งหมดนี้ได้ถูกนำมาใส่ไว้ในรถยนต์ของมาสด้าที่เปิดตัวแนะนำในวันนี้ โดยเฉพาะถูกใส่ไว้ในรถคอมแพ็คครอสโอเวอร์ใหม่ที่กำลังร้อนแรงจากการตอบรับอย่างท่วมท้นด้วยยอดจอง 3 สัปดาห์ กว่า 3,000 คัน และนี้คือ ฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์ The All New Mazda CX-3 ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 835,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 นี่คือรถยนต์รุ่นแรกที่มาสด้าเปิดตัวแนะนำในวันนี้เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าผู้หลงใหลกับกิจกรรมในการใช้ชีวิตที่มีความหลากหลาย
          และถัดมาคือกลุ่มลูกค้ารถสปอร์ตสำหรับผู้ที่หลงใหลการขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจ ด้วยการเปิดตัวแนะนำรถสปอร์ตเปิดประทุน 2 ที่นั่ง และการกลับอย่างยิ่งใหญ่ของสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ไม่มีวันตาย เจ้าตำนานแห่งความสนุกสนานในการขับขี่ ที่ให้คนกับรถเป็นหนึ่งเดียวกัน Jinba-Ittai นี่คือรถยนต์ที่เป็น Brand icon ของมาสด้า และนี่คือสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขายดีที่สุดของโลกกว่า 1 ล้านคัน All New Mazda MX-5 "The Iconic Best Selling Roadster" มาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และเครื่องยนต์อันทรงพลังสกายแอคทีฟ-จี ขนาด 2000 ซีซี วางราคาจำหน่ายเพียง 2.7 ล้านบาทเท่านั้น พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 140,000
          ความยิ่งใหญ่อลังการของมาสด้ายังไม่จบลงเพียงเท่านี้ มาสด้ายังคงเดินหน้ากระตุ้นตลาดรถยนต์ของประเทศไทยให้กลับมาคึกคักอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปรับโฉม New Mazda2 รุ่น Model Year 2016 รูปลักษณ์ใหม่มาพร้อมไฟหน้า LED และไฟ Day Time Running LED ปรับอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มขึ้น กล้องมองหลัง และอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ และที่สำคัญเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่ให้การตอบรับรถยนต์รุ่นนี้อย่างล้นหลามกว่า 17,000 คัน มาสด้าขอประกาศราคาขายใหม่ของปีหน้าที่จะเริ่มในวันที่ 1 มกราคม เริ่มนำมาบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 529,000 บาท สำหรับรถมาสด้า2 ใหม่รุ่นปี 2016 เครื่องยนต์สกายแอ็คทีฟเบนซิน และราคาเริ่มต้นเพียง 654,000 บาท สำหรับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง สำหรับราคาที่ปรับลดลงนั้นนั้นเนื่องมาจากมาสด้า2 เป็นรถที่ประหยัดพลังงานและปล่อยก๊าซ CO2 ดีที่สุดในคลาส นอกจากราคาที่ปรับลดลงแล้วมาสด้ายังใส่อุปกรณ์เพิ่มมากขึ้น ทำให้รถยนต์นี้มีความคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด
          นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าว มาสด้ายังคงมุ่งมั่นสร้างความร้อนแรงระอุให้กับตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก สำหรับการเปิดตัวรถยนต์นั่งสปอร์ตซับคอมแพ็คคาร์ใหม่ล่าสุดในครั้งนี้ มาสด้า2 ใหม่ รุ่นปี 2016 (MY2016) เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ซับคอมแพ็คในประเทศไทย ในการสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็วชัดเจน และสร้างภาพลักษณ์ให้มีความชัดเจน เราได้เลือกแบรนด์แอมบาสเดอร์เป็นครั้งแรกของรถมาสด้า2 สกายแอคทีฟ นั่นคือ น้องนาย ณภัทร เสียงสมบุญ นายแบบ นักแสดง คนรุ่นใหม่ที่มากความสามารถรอบตัว ซึ่งปัจจุบันกำลังศึกษาระดับอุดมศึกษาที่วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล สาขา Communication Design ชื่นชอบในเรื่องการออกแบบ และเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ที่กำลังโด่งดังในวงการบันเทิงและจะมีผลงานออกมามากมายในเร็วๆ นี้
          น้องนาย ณภัทร เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลายไลฟ์สไตล์ มีบุคลิกและรูปแบบการใช้ชีวิตที่โดดเด่น สะท้อนตัวตนของผู้ใช้รถมาสด้า2 ใหม่ "มเป้าหมายอย่างรวดเร็วชัดเจน ย่างชัดเจน ผนวกกับได้อย่างชัดเจน พร้อมกับคอนเซ็ปต์การสื่อสารการตลาดใหม่ "ตัวตนที่ใช่ เร้าใจไม่เคยหยุด" จะถูกถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ความยาว 30 วินาที โดยเนื้อหาของเรื่องจะถ่ายทอดให้เห็นถึงสมรรถนะ เทคโนโลยีและฟังก์ชั่นที่ครบครันของรถ ผ่านกิจกรรมหลากหลายในหนึ่งวันของน้องนาย ณภัทร สะท้อนถึงการมีไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น รถที่ออกแบบที่สามารถตอบสนองกิจกรรมที่หลากหลายที่ชอบอย่างไม่มีข้อจำกัด นอกจากนี้ยังลงโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ และสื่อออนไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างรวดเร็วและครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
          นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการวิจัย-สำรวจตลาดและความต้องการของลูกค้าหลังจากที่เปิดตัวรถมาสด้า ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และโคโดะ ดีไซน์ ไปได้กว่า 2 ปี ทำให้ทราบว่า ณ วันนี้ ผู้บริโภคมีการรับรู้ในรถมาสด้าเป็นอย่างดี และมีความเชื่อมั่นต่อแบรนด์มาสด้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก เรามองถึงโอกาสเพื่อเพิ่มความต้องการซื้อหรือดีมานด์ในตลาดให้มากขึ้น คือการขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้นกว่าเดิมจากกลุ่มผู้ที่ถูกใจในสมรรถนะความแรงและการประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ รูปลักษณ์ความเป็นสปอร์ต โฉบเฉี่ยวทันสมัย รูปลักษณ์ความสวยงาม ขยายออกไปสู่กลุ่มผู้ที่ถูกใจในศักยภาพของตัวรถ ผ่านการสร้างการรับรู้ถึงรายละเอียด คุณสมบัติ และฟังก์ชั่นต่างๆ ของตัวรถ ซึ่งจะทำให้มาสด้าประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์เพื่อสื่อสารเรื่องราวและคุณค่าของแบรนด์ ภายใต้สโลแกนใหม่ "Feel the drive" ให้ความรู้สึกถึงความสุขทุกครั้งที่ได้รับจากการขับขี่รถมาสด้า นี่คือแรงบันดาลใจที่ทำให้เราชาวมาสด้ากล้าทำในสิ่งที่แตกต่างด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่เคยยอมแพ้และท้าทายทุกข้อจำกัด เพื่อคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ให้คุณขับสนุกยิ่งกว่าเดิม รวมถึงความปลอดภัยสูงสุดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเราไม่ได้สร้างแค่รถยนต์แต่เราสร้างยนตรกรรมที่ให้ความรู้สึกเร้าใจในการขับขี่อย่างแท้จริง
          นอกจากเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดแล้ว โปรโมชั่นสำหรับงานนี้มาสด้าก็มีให้ลูกค้าได้เลือกช็อปปิ้งกันอย่างจุใจ ประกอบด้วย รถอเนกประสงค์เอสยูวี มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ออกรถวันนี้คุ้มกว่าปีหน้า อัตราดอกเบี้ย 0% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี และโปรแกรมบำรุงรักษา Mazda Care program นาน 3 ปี หรือเลือกเคลือบแก้ว หรือรับส่วนลดมูลค่า 20,000 บาท รถยนต์มาสด้า3 ดอกเบี้ย 1.99% พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี และและโปรแกรมบำรุงรักษา Mazda Care program นาน 3 ปี มาสด้าบีที-50 โปร ดาวน์เริ่มต้นเพียง 10% หรือผ่อนต่อเดือนเพียงเดือนละ 7,299 บาท พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 08:46:16 AM
Mazda shakes up auto market with 3 new model launches Debut of new Mazda2 brand ambassador Napat

          Ø Launch of the world's best-selling roadster the all-new Mazda MX-5 fourth generation (ND)
          Ø Launch of the all-new Mazda CX-3 Freestyle Crossover powered by the powerful and economical 2,000cc SKYACTIV-G engine
          Ø Launch of the 2016 Mazda2 with new retail prices starting at Bt529,000 and free first-class insurance









          Mazda Sales Thailand Co. Ltd. (MST) continues to be the only automobile company in the country to create continuous waves throughout the year. After introducing the award-winning all-new Mazda2 subcompact available with both 1,500cc Clean Diesel SKYACTIV-D and 1,300cc SKYACTIV-G benzene engine choices, Mazda maintained the momentum with the launch of the all-new Mazda BT-50 PRO and took Thai auto journalists to test drive the new model in Mongolia. Then in early November, we also created a big surprise by introducing the all-new Mazda CX-3 in grand style. The CX-3 is powered by a SKYACTIV-G 2,000cc engine and sets the benchmark in the compact crossover market in terms of driving performance, fuel economy, high-level safety and complete equipment list. Mazda hopes that the CX-3 will help the brand achieve total sales of 40,000 units in Thailand this year.
          At the Motor Expo this year, Mazda moving ahead with its strategy of offering new and refreshed models on a continuous basis, with the launch of another three new models. The attractive model lineup has helped Mazda to increase market share dramatically and claim the third position in the highly competitive passenger car market.
          Mr. Hidesuke Takesue, President of Mazda Sales Thailand Co. Ltd. (MST), said the Thai automobile market has passed its lowest point and is back on the path of growth, with automakers launching new models into the market and creating a positive atmosphere for auto sales. "Mazda, in particular, launched six new models this year and every model is successful. Customer feedback in Thailand and around the world point towards the SKYACTIV technology and KODO design philosophy, including Mazda's determination in developing automobiles that are eco-friendly and offer outstanding performance," he said.
          Among the outstanding features of current Mazda products include the following.
          v Full SKYACTIV technology ranging from engine to 6-speed automatic transmission, body structure, suspension and steering systems
          v "KODO: Soul of Motion" design philosophy
          v World-class i-ACTIVSENSE safety technology developed under Mazda's active and preventive safety philosophy
          v MZD CONNECT keep you connected with social media
          "All these technologies have been incorporated into every Mazda model that is being introduced today, especially the new compact crossover that has already won more than 3,000 bookings during the first three weeks after its launch, the all-new Mazda CX-3 Freestyle Crossover," he said. Pricing of the CX-3, which is targeted at customers with active lifestyles, starts at just Bt835,000 with free first-class insurance.
          Next is a model for customers who are in love with the excitement of spirited driving – the two-seat roadster that is back to maintain its leadership in the sports car market. The MX-5 is Mazda's brand icon and one that brought the "Jinba-Ittai" (rider and horse as one) philosophy to light, with accumulated sales of over 1 million units around the world. The all-new Mazda MX-5 "The Iconic Best-Selling Roadster" is now available with SKYACTIV technology and is powered by the 2,000cc SKYACTIV-G engine. It is priced at only Bt2.7 million and comes with first-class insurance and 5-year/140,000km warranty.
          Mazda's splendor doesn't stop here, and the company intends to reactivate the Thai auto market with the new Mazda2 model year 2016 with new design including LED headlights and LED daytime running lights, rearview camera and more. And as a gesture of thanks to Thai customers for their strong support with accumulate sales of as much as 17,000 units, Mazda has decided to start offering next year's pricing (to start on January 1), from today onwards. The pricing of the Mazda2 model year 2016 will start at Bt529,000 for the SKYACTIV-G engine and Bt654,000 for the SYACTIV-D clean diesel engine plus insurance. The lower price is due to the Mazda's best fuel efficiency and CO2 emission level in its class. Apart from the lower retail price, Mazda is also offering a higher equipment list, giving it excellent value for money.
          Marketing Director Thee Permpongpanth added that Mazda continues to excite the small car market in Thailand. "The introduction of our latest sports subcompact passenger car, the Mazda2 model year 2016, will set the new benchmark for the Thai subcompact market. In order to communicate our message to target customers effectively and create a clear image, we have chosen the first brand ambassador for the Mazda2 SKYACTIV and that is Napat Siangsomboon, model and actor. Being the new generation with all-round skills, Napat is a student at the Mahidol University's international campus, majoring in Communications Design. Napat admires everything about design and is a rising star in the local showbiz, with many future projects in the making," he said.
          Napat represents the new generation with varying lifestyles and outstanding character, clearly reflecting the image of Mazda2 users. A new marketing communications message will be relayed via a 30-second television commercial, which portrays the performance, technology and the functions of the car through the various activities of Napat in one day. It also reflects the ability of the Mazda2 to effectively respond to various activities without any boundaries. In addition, commercials will also be featured in printed media, radio and internet in order to swiftly reach customers both in Bangkok and around the country.
          Thee added," According to information obtained from market research concerning the SKYACTIV technology and KODO design two years after they were introduced, we know that consumers have strong awareness of Mazda and their trust in the brand has grown much stronger. We look for opportunities to raise demand in the Thai market and this is by expanding the customer base from those who want excellent performance and fuel economy, as well as modern and sporty design, to those who admire the potential of the car and what all the features, functions and details stand for. We are building the Mazda brand value under the "Feel the drive" slogan which translated to enjoyment every time you drive a Mazda. This is the inspiration for the people at Mazda to challenge the norm and dare to create something different in pursue of perfection without giving up to the boundaries. We invent new innovations to produce vehicles that are more fun to drive, safe and are friendly to the environment. We are not just building a brand but we engineer cars that truly provide the joy of driving."
          Apart from new model launches, Mazda is also offering special sales promotions for customers as follows: Mazda CX-5 SUV -- buy now better than next year 0% interest, 1 year first-class insurance and 3-year Mazda Care program or glass coating or Bt20,000 cash discount. Mazda3 -- 1.99% interest, 1-year first-class insurance and 3-year Mazda Care program. Mazda BT-50 PRO – low 10% down payment, only Bt7,299 monthly installment with 1-year first-class insurance
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 08:46:55 AM
ภาพข่าว: “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32” เปิดยิ่งใหญ่ ชูแนวคิด “มาตรฐานใหม่ ยานยนต์ไทยใส่ใจโลก”



หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ที่ 5 จากซ้าย) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" โดยมี ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน (ที่ 6 จากซ้าย) ให้การต้อนรับ ณ ห้องรอยัล จูบีลี อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2558
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 08:51:24 AM
เคทีเอ็มจับมือเบิร์นรับเบอร์ครั้งแรกในประเทศไทย เปิดตัวรถ 3 รุ่นใหม่ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 เกณฑ์กองทัพสีส้มพร้อมลุยทั้งกลุ่มสตรีทและออฟโรดในบูธสไตล์ Ready To Raceพร้อมกับโปรโมชั่นและรถราคาพิเศษแบบจัดเต็ม









          บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์สัญชาติออสเตรียแบรนด์ "เคทีเอ็ม" แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 หรือ Thailand International Motor Expo 2015 พร้อมอวดโฉม 2 รุ่นใหม่ อาร์ซี 250 (RC 250) และ 250 ดู๊ค (250 Duke) ครั้งแรกในประเทศไทยและ 1 รุ่นไฮไลต์​ 1290 ซุปเปอร์ แอดเวนเจอร์​ (1290 Super Adventure)

          บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด ได้เข้าดำเนินกิจการมอเตอร์ไซค์แบรนด์เคทีเอ็ม (KTM) ตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมสานต่อ Core Values 4 ด้าน ของแบรนด์เคทีเอ็ม (KTM) ได้แก่ PURITY (ความบริสุทธิ์ในการดีไซน์) แบรนด์เคทีเอ็มมุ่งเน้นการออกแบบเพื่อสร้างสมรรถนะที่ดีที่สุดสำหรับมอเตอร์ไซค์ในแต่ละรุ่น โดยตัดทอนน้ำหนัก ชิ้นส่วนหรือองค์ประกอบที่เกินความจำเป็นออกเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่พร้อมลงสนามในทุกสถานการณ์ PERFORMANCE (สมรรถนะยอดเยี่ยม) สมรรถนะเป็นพื้นฐานสำคัญของแบรนด์เคทีเอ็มภายใต้ปรัชญา "Ready To Race" ADVENTURE (ความน่าตื่นเต้นในการขับขี่) ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ ทุกครั้งที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์แบรนด์เคทีเอ็ม เพื่อเพิ่มความท้าทายให้กับตัวผู้ขับขี่ และ EXTREME (ความท้าทายในผลิตภัณฑ์) เคทีเอ็มมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นทุกแบบให้สอดคล้องกับ Core Values ทั้ง 4 ด้านของเรา โดยทางเบิร์นรับเบอร์พร้อมรุกตลาดประเทศไทยกับรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด 12 รุ่นในกลุ่มสตรีทและออฟโรดอย่างเต็มตัว

          คุณภูมินทร์ นิวาตวงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด เปิดเผยว่า "ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่ทางบริษัทฯ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์แบรนด์เคทีเอ็ม พร้อมทั้งได้พบกับสาวกแบรนด์สีส้มครั้งแรกอีกด้วย ทั้งนี้บริษัทฯ จะเปิด KTM Flagship Bangkok ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งแรกที่ประเทศไทย ณ โครงการ เอ แสควร์ ซอยสุขุมวิท 26 เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับสาวกแบรนด์เคทีเอ็มแบบครบวงจรไม่ว่าจะเป็นโชว์รูมผลิตภัณฑ์ ศูนย์บริการ และกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ที่เราวางแผนและเตรียมพร้อมให้กับผู้หลงใหลแบรนด์สีส้มอย่างเต็มที่ นอกจากนี้เรายังมีความมุ่งมั่นและพร้อมที่จะพัฒนาแบรนด์ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเคทีเอ็มและเติบโตอย่างมั่นคงในตลาดมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทยภายใต้ปรัชญา "Ready To Race" ในทุกๆ ด้านอีกด้วย"

          สำหรับรถที่บริษัทฯ นำมาเปิดตัวในครั้งนี้มี 3 รุ่น ดังนี้
          เคทีเอ็ม 1290 ซุปเปอร์ แอดเวนเจอร์​ (KTM 1290 Super Adventure) รถรุ่นไฮไลต์ในปี 2015 ของแบรนด์เคทีเอ็ม ที่มาพร้อมกับ Standard Equipment Package เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย พร้อมทั้ง ติตตั้งระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยแบบครบวงจรที่ดีที่สุดในตลาดรถจักรยานยนต์ในปัจจุบัน อาทิ WP Suspension ระบบ MSC (Motorcycle Stability Control) ระบบ MTC Traction Control ระบบ Cruise Control เป็นต้น ซึ่งอุปกรณ์และแอคเซสเซอรี่ทั้งหมดที่มากับรถคันนี้ทำให้ เคทีเอ็ม 1290 ซุปเปอร์ แอดเวนเจอร์​ เป็นรถที่มีความปลอดภัยสูงที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์กำลังสูงสุดเหมาะสำหรับการขับขี่ท่องเที่ยวแบบ Enduro ซึ่งหาคู่เปรียบเทียบได้ยาก

          อาร์ซี 250 (RC 250) และ 250 ดู๊ค (250 Duke) แบรนด์เคทีเอ็มพร้อมขยายตลาดในกลุ่ม รถมอเตอร์ไซค์แบบสตรีท โดยการเพิ่มมอเตอร์ไซค์รุ่น อาร์ซี 250 (RC 250) และ 250 ดู๊ค (250 Duke) ถึงแม้ อาร์ซี 200 (RC 200) และ 200 ดู๊ค ที่จัดจำหน่ายแล้วจะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลกเป็นอย่างดี เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ขนาดเครื่องยนต์ขนาดกลางที่ต้องการความเร็วในการเข้าโค้งที่เร้าใจและสมรรถนะที่เยี่ยมยอดเวลาเบรคลึกและยังคงขับขี่โดยใช้ความเร็วได้นานขึ้น โดยทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับน้ำหนักรถสุทธิเพียง 139 กิโลกรัม สำหรับ 250 Duke และ 147 กิโลกรัม ในรุ่น RC 250 ซึ่งด้วยน้ำหนักที่เบาลงนี้ทำให้ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่ต้องการเพิ่มสมรรถนะในการเข้าโค้งด้วยการใช้ความเร็วสูงสุดและเพิ่มความสามารถในการเบรคชะลอความเร็วของรถช้าที่สุดตลอดจนการทำให้รถทรงตัวอยู่ได้นานที่สุดอีกด้วย ทั้ง 2 รุ่นใหม่นี้ จึงถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์อีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับสมรรถนะในรถขนาด 250 ซีซี ที่มีความน่าเชื่อถือ คงทน และใช้ขับขี่ได้จริงไม่ว่าจะเป็นการขับขี่เพื่อเดินทางไปทำงานในแต่ละวันหรือเป็นกิจกรรมอดิเรกที่โปรดปรานในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือเพียงเพื่อใช้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทำให้มอเตอร์ไซค์ เคทีเอ็มรุ่น RC 250 และ 250 Duke ใหม่นี้ถือเป็นต้นกำเนิดของมาตรฐานรถขนาด 250 ซีซีไปแล้ว

          นอกจากนี้ทางเคทีเอ็มยังได้นำเสนอโปรโมชั่นพิเศษมากมายให้เฉพาะกับผู้ที่มาร่วมงานมหกรรม ยานยนต์ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นราคาพิเศษช่วงแนะนำ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งและกิ๊ฟท์เซ็ตจากกลุ่ม แอคเซสเซอรี่ของเคทีเอ็ม PowerWear และ PowerParts พร้อมทั้งข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย สามารถพบกับเราได้ที่บูธหมายเลข G01-1 และสามารถติดตามข่าวสารและข้อมูลต่างๆ ของเคทีเอ็มได้ทาง www.KTM.com หรือทางช่องทาง Facebook (www.facebook.com/KTMThailandOfficial)
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 08:52:25 AM
KTM Joins Hands with Burn Rubber for the First Time in Launching 3 New Models at 32nd Thailand International Motor Expo Showcasing ranges of street & offroad motorcycles under Ready To Race concept Offering amazing promotions and extremely special prices









          Burn Rubber Company Limited, the sole importer and distributor of Austrian motorcycles under "KTM" brand in Thailand, has made its official launch at the 32nd Thailand International Motor Expo or the Thailand International Motor Expo 2015. Accompanying its launch is the unveiling of three new models from KTM: RC 250; 250 Duke and the ultimate highlight 1290 Super Adventure.

          Burn Rubber Company Limited has operated its KTM business since October 2015 with the solid determination to honor the four core values of KTM: PURITY of design makes sure each KTM vehicle is built purely for performance. Only components that make the motorcycle lighter, stronger and faster become part of KTM; PERFORMANCE is the cornerstone of KTM's READY TO RACE brand positioning; ADVENTURE is waiting to be experienced in every new ride on KTM; and EXTREME that provides not just challenges but also thrills. All KTM motorcycles are developed and manufactured based on these four values. Today, Burn Rubber is thus fully ready to establish KTM brand in Thailand and expand its base here with 12 street and offroad models.

          Mr. Bhumin Nivatvongs, executive director of Burn Rubber Company Limited, says, "The Motor Expo has given us a good opportunity to officially introduce our firm as the sole authorized distributor of Austrian-made motorcycles under KTM brand in Thailand. Thanks to this opportunity, we can meet the orange family. Moreover, we are going to open the biggest KTM Flagship Store in Southeast Asia, located at A-Square Soi Sukhumvit 26. The KTM Flagship Bangkok will be a comprehensive complex for KTM fans covering showroom, service center, and venue for various marketing activities. As we have made solid plans and preparations for KTM supporters, they can be rest assured that they are going to enjoy new, enriched KTM experiences. Burn Rubber is committed to developing KTM presence here in line with KTM vision and under its Ready to Race philosophy to driving the brand's growth in the Thai market".

          In this occasion, Burn Rubber introduces three motorcycle models;
          KTM 1290 Super Adventure, KTM's highlight model in 2015, impresses with the most comprehensive standard equipment package – in terms of comfort, electronics and safety. Being the best of its class in the motorcycle market, it includes WP Suspension, MSC (Motorcycle Stability Control), MTC Traction Control and Cruise Control. This outstanding overall package makes KTM 1290 Super Adventure the safest ever travel enduro. Together with the most powerful travel enduro engine, it is arguably beyond comparison.

          RC 250 and 250 Duke reflect KTM's commitment to expand its diverse Street range. These models are the improved versions of RC 200 and Duke 200, which in fact had already demonstrated strong performance attributes and enjoyed popularity worldwide. KTM has pursued the improvement in its bid to increase the satisfaction of motorcyclists who are craving for scary cornering speeds and an ability to brake super-late to stay faster longer. The two new models are dynamic yet lightweight. Their machine weighs just 139 kg for 250 DUKE and 147 kg for RC 250. Thanks to such strengths, they boast a perfect overall package of outright 250cc performance on top of absolute reliability, durability and real-world practicality. Whether it is commuting to work each day, scratching round favorite turns at weekend, or just heading to shops, RC 250 and 250 Duke definitely set the 250cc capacity benchmark.

          KTM now offers tempting promotions at the Thailand International Motor Expo 2015. Its latest models are now sold at extremely special prices, which apply only to the launch period, and appealingly bundled with first-class insurance. Gift sets featuring KTM's PowerWear and PowerParts, plus various other good deals are also on offer at KTM booth (G01-1). For more information or updates about KTM, please visit www.KTM.com and www.facebook.com/KTMThailandOfficial
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 08:55:41 AM
พบกับการโชว์รถยนต์เต็มรูปแบบจากฮุนได ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 Thailand International Motor Expo 2015

          รถไฮไลท์ฮุนไดเอลันตราสปอร์ตเอสอี (All-New Hyundai Elantra Sport SE: Special Edition)
          รถต้นแบบฮุนไดอินทราโด (Intrado: HED-9)
          ข้อเสนอพิเศษสำหรับรถฮุนไดทุกรุ่น
          บูธฮุนไดดีไซน์ใหม่
          การขยายเครือข่ายศูนย์บริการ และการยกระดับการให้บริการหลังการขาย
          รถโชว์ในงาน เอลันตราสปอร์ต (All-New Elantra Sport), เอช-วัน ซีรีย์(H-1 Series),แกรนด์สตาเร็กซ์ (Grand Starex), ทูซอน(Tucson) และ เวลอสเตอร์(Veloster)









          บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัวรถรุ่นใหม่ "ฮุนไดเอลันตราสปอร์ตเอสอี (All-New Elantra Sport SE : Special Edition)" นิยามใหม่ของความสปอร์ต หรือ "Sport. Redefined. ที่ถ่ายทอดความสปอร์ตผ่านชุดแต่งที่ถูกออกแบบมาด้วยความปราณีต ผสมผสานอย่างกลมกลืนรอบคัน ด้านหน้าตกแต่งด้วยกระจังหน้า Blackout พร้อมชุดสเกิร์ตรอบคัน ทำให้รถดูมีเอกลักษณ์สปอร์ต สวยสะดุดตา ภายในโดดเด่นด้วยเบาะหนังลายใหม่พร้อมโลโก้ Elantra SE ตัดด้วยสีน้ำเงิน สะท้อนความเป็นรถสปอร์ตได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์ไลฟสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความสปอร์ตแบบพรีเมี่ยมที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคา "เอลันตราสปอร์ตเอสอีใหม่" เป็นทางเลือกใหม่ของผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์คอมแพ็คท์ซีดานที่ขับสนุกเต็มสมรรถนะ ปราดเปรียวและคล่องตัว เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัยที่ครบครัน ท้าทายทุกสายตาด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์สปอร์ต โดดเด่นและมีสไตล์อย่างชัดเจน มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Creamy White, Phantom Black, Sleek Silver และ Santorini Blue เปิดตัวด้วยราคาเพียง 996,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษ ดังนี้
          • ฟรี รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 7 ปี หรือ 180,000 กม.
          • ฟรี ค่าบำรุงรักษา ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่นาน 5 ปี หรือ 100,000 กม.
          • ซื้อวันนี้ ผ่อนปีหน้า หรือ เลือกดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน พร้อม ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
          • ฟรี ค่าน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท

          ความโดดเด่นของ "เอลันตราสปอร์ตเอสอีใหม่"
          - ชุดสเกิร์ตสไตล์สปอร์ตรอบคัน (หน้า, ข้าง และหลัง)
          - กระจังหน้า Blackout เพิ่มความสปอร์ต ดุดันมากยิ่งขึ้น
          - สปอยเลอร์หลัง
          - ปลายท่อไอเสียสแตนเลส
          - โลโก้ "SE" ที่ฝากระโปรงด้านหลัง
          - ล้ออัลลอยลายใหม่ สี Hyper Black ขนาด 17 นิ้ว
          - เบาะหนังลายใหม่ พร้อมโลโก้ Elantra SE ตัดด้วยสีน้ำเงิน เพิ่มความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
          - พรมปูพื้นพร้อมโลโก้ Elantra SE บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
          - แป้นเหยียบสแตนเลส พร้อมแถบยางกันลื่น หรูหรา สปอร์ตกว่าเดิม

          อุปกรณ์มาตรฐานที่มีอยู่ใน "เอลันตราสปอร์ตเอสอีใหม่"
          - ไฟหน้าอัตโนมัติแบบ HID projector พร้อม LED Light Guide
          - ระบบ Smart Entry และ ระบบ Push Start
          - เครื่องเสียงวิทยุ CD/DVD แบบ 2 DIN รองรับไฟล์ MP3/WMA/AAC/MP4/DivX/JPG พร้อมหน้าจอระบบสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว
          - ระบบแผนที่นำทาง
          - กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะ
          - ระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control
          - ระบบพวงมาลัย Flex Steer
          - กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ
          - ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา
          - เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อมที่ดันหลัง
          - ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า และระบบปัดน้ำฝนอัตโมมัติ

          รถต้นแบบอินทราโด (Hyundai Intrado :HED-9)
          "อินทราโด" หรือ เอชอีดี 9 คือรถต้นแบบแนว crossover ที่มาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในอาเซียนที่งาน Motor Expo 2015 เผยถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของแบรนด์ "ฮุนได" ที่สะท้อนให้เห็นถึงการเดินทางในอนาคตกับการเพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่มากยิ่งขึ้น และตอกย้ำความเชื่อของฮุนไดที่ว่า การนำเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าผสมผสานกับการออกแบบที่ชาญฉลาดนั้น จะทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถใช้ประโยชน์จากรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น ซึ่งการออกแบบของ อินทราโด ตั้งแต่ภายในจรดภายนอกนั้น ล้วนแล้วแต่คำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้ทั้งสิ้น โดยจะเน้นการใช้งานเป็นหลัก และยังสามารถนำมาใช้งานจริงกับรถยนต์ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
ชื่อ "อินทราโด" เป็นชื่อของส่วนที่อยู่ใต้ปีกของเครื่องบิน ซึ่งเป็นบริเวณที่ทำหน้าที่ในการสร้างแรงส่งให้เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า การออกแบบ อินทราโด นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินเช่นกัน ซึ่งจะเน้นการใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง มีน้ำหนักที่เบาแต่มีความแข็งแรงสูง โดยตัวถังของ อินทราโด ผลิตจากวัสดุ carbon fiber ซึ่งสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 70% เมื่อเทียบกับตัวถังทั่วไป โดยยังสามารถรักษาระดับความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชิ้นส่วนตัวถังภายนอกผลิตจากวัสดุโลหะเทคโนโลยีล้ำสมัย ทำให้รถมีน้ำหนักเบา ทนทาน นอกจากนี้ยังมีการตัดชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งที่ไม่จำเป็นออก เพื่อเป็นการลดน้ำหนักและเพิ่มประสิทธิภาพสูงที่สุดให้กับตัวรถ อีกทั้งยังให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้นและง่ายต่อการบำรุงรักษา
          อินทราโด ใช้เครื่องยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ร่วมกับแบตเตอรี่แบบ Li-ion ขนาด 36 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถวิ่งได้มากกว่า 600 กม. ต่อเชื้อเพลิงหนึ่งถัง โดยใช้เวลาในการเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในเวลาเพียงไม่กี่นาที การขับเคลื่อนทั้งหมดนั้น จะไม่มีไอเสียถูกปลดปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม มีเพียงแต่น้ำบริสุทธิ์เท่านั้น นอกจากระยะทางวิ่งที่เพิ่มขึ้นแล้ว อินทราโด ยังมีสมรรถนะที่ดีขึ้น ทั้งในเรื่องของ อัตราเร่ง การตอบสนอง และการควบคุม เนื่องจากน้ำหนักที่ลดน้อยลงและระบบขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
          เมื่อต้นปีที่ผ่านมา อินทราโด ได้รับรางวัล JURY PRIZE จากการประกวด JEC Innovation awards 2015 สำหรับการออกแบบตัวถังโดยใช้วัสดุ carbon fiber ที่ใช้กรรมวิธีและกระบวนการผลิตแบบใหม่ ทำให้มีประสิทธิภาพที่สูงกว่าการผลิต carbon fiber แบบทั่วไป ซึ่งเป็นการพิสูจน์และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและความสามารถของฮุนไดในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สำหรับยานยนต์ในอนาคต

          แคมเปญพิเศษระหว่างงาน "Motor Expo 2015" (1-13 ธันวาคม 2558)
          รถยนต์ฮุนไดเอลันตราสปอร์ต ทุกรุ่น (1.8 GL, 1.8 GLE, 1.8 GLS NAVI และ 1.8 SE)
          - ฟรี รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 7 ปี หรือ 180,000 กม
          - ฟรี ค่าบำรุงรักษา ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่นาน 5 ปี หรือ 100,000 กม.
          - ซื้อวันนี้ ผ่อนปีหน้า หรือ เลือกดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน พร้อม ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
          - ฟรี ค่าน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท สำหรับรุ่น 1.8 SE และ 10,000 บาท สำหรับรุ่น 1.8 GLS Navi

          รถยนต์ฮุนไดเอช-วัน ทุกรุ่น (อีลีท, เดอลุกซ์ และ ลิมิเตด)
          - เลือกรับอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง
          - ฟรีค่าแรงและค่าอะไหล่นาน 3 ปี หรือ 60,000 กม.
          - หรือ ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี

          รถยนต์ฮุนไดแกรนด์สตาเร็กซ์ ทุกรุ่น (วีไอพี และ พรีเมียม)
          - ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี

          รถยนต์ฮุนไดทูซอน
          - ดอกเบี้ยพิเศษ 0% ผ่อนนาน 48 เดือน
          - ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
          - ข้อเสนอสุดพิเศษในงานฯ

          รถยนต์ฮุนไดเวลอสเตอร์
          - ดอกเบี้ยพิเศษ 0% ผ่อนนาน 48 เดือน
          - ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
          - ข้อเสนอสุดพิเศษในงานฯ

          บูธฮุนไดดีไซน์ใหม่
          ในปีนี้ฮุนไดได้ปรับเปลี่ยนการตกแต่งบูธในงาน Motor Expo ใหม่ โดยเน้นดีไซน์ที่โดดเด่น เรียบหรูและพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น โครงสร้างหลักปรับเปลี่ยนเป็นโทนสีบรอนซ์ ให้อารมณ์ทันสมัย หรูหรา เน้นเส้นสายที่เป็นเหลี่ยมสันและมุมอย่างมีเอกลักษณ์ ทั้งนี้เพื่อมุ่งสร้างความกลมกลืนระหว่างเทคโนโลยีและธรรมชาติให้มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับสโลแกน "New Thinking. New Possibilities." ที่บริษัท ฮุนได มอเตอร์ คอมปานี จำกัด ได้พยายามที่จะยกระดับแบรนด์ฮุนไดให้มีความพรีเมี่ยมมากขึ้น ทั้งนี้การปรับดีไซน์ของบูธนั้นสอดคล้องกับ มาตรฐานการตกแต่งโชว์รูมใหม่ ที่ฮุนไดได้นำมาใช้ในการตกแต่งโชว์รูมทั่วโลก "Global Dealership Space Identity" (GDSI) ซึ่งในประเทศไทยได้ทยอยปรับเปลี่ยนโชว์รูมตามมาตรฐานใหม่แล้วหลายแห่งด้วยกัน

          การขยายเครือข่ายศูนย์บริการ และการยกระดับการให้บริการหลังการขาย
          นอกจากเรื่องของการยกระดับแบรนด์ด้วยการปรับดีไซน์ของ corporate identity แล้ว ฮุนไดยังคงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพสินค้าและการบริการไปพร้อมๆกับการขยายจำนวนศูนย์บริการทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างทั่วถึง รวมไปถึงการสร้างความเชื่อมั่น ความมั่นใจ และความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยการยกระดับการให้บริการให้มีความรวดเร็ว มีคุณภาพ โดยช่างที่มีความชำนาญและได้มาตรฐาน และมีคลังอะไหล่ขนาดใหญ่ที่พร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น โดยในปีนี้ฮุนไดได้เปิดโชว์รูมศูนย์บริการเป็นแห่งที่ 25 และฮุนไดยังคงมุ่งมั่นขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายต่อไปในอนาคต เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าฮุนได อย่างทั่วถึงที่สุด
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 08:55:55 AM
รถยนต์รุ่นอื่นๆที่จัดแสดง
          รถยนต์ฮุนไดเอลันตราสปอร์ต (All-New Hyundai Elantra Sport)
          คือผลงานชิ้นสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากฮุนไดที่ยกระดับรูปลักษณ์และความมีรสนิยมทั้งภายนอก และภายในอย่างชัดเจนด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเพิ่มสมรรถนะมากมาย ฮุนไดเอลันตราสปอร์ต มีทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น 1.8 GL รุ่น 1.8 GLE รุ่น 1.8 GLS Navi และรุ่น 1.8 SE ที่เปิดตัวใหม่ในงาน ทั้ง 3 รุ่นใช้เครื่องยนต์ 1,800 ซีซี พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 178 นิวตันเมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที ความเร็วสูงสุด 202 กม./ชม. โดดเด่นเหนือใครในระดับ 1,800 ซีซี ที่จำหน่ายในประเทศไทย ทำให้เป็นรถยนต์ที่ขับสนุกเต็มสมรรถนะ และสะดวกสบายเกินความเป็นคอมแพ็คท์ซีดาน จนสัมผัสได้ถึง "ความคุ้มค่าคุ้มราคา"

          รุ่น 1.8 GLS Navi เป็นรุ่นสูงสุด มาพร้อมอุปกรณ์ระดับพรีเมี่ยมมากมาย เหนือชั้นกว่าด้วยสมรรถนะ และความสะดวกสบายในการเดินทาง พร้อมระบบความปลอดภัยที่มาอย่างครบครัน อาทิ ระบบควบคุมเสถียรภาพ (ESP) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบจัดการเสถียรภาพ (VSM) และอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกอีกมากมาย รวมถึงระบบนำทาง GPS Navigation ที่ช่วยให้คุณไปถึงจุดหมายได้อย่างง่ายดาย ราคา 976,000 บาท

          รุ่น 1.8 SE เป็นรุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเช่นเดียวกับรุ่น 1.8 GLS Navi แต่ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งเพื่อเพิ่มความสปอร์ตให้มากขึ้น กับ ชุดสเกิร์ตรอบคัน กระจังหน้าสี Blackout ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วลายใหม่สี Hyper Black ปลายท่อไอเสียสแตนเลส เบาะหนังสปอร์ตตัดด้วยสีน้ำเงินพร้อมปักโลโก้ Elantra SE แป้นเหยียบสแตนเลส พรมปูพื้นพร้อมโลโก้ "Elantra SE" ราคา 996,000 บาท

          รุ่น 1.8 GLE เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์มาตรฐานมากมายในระดับราคาที่คุ้มค่ามาก มีอุปกรณ์ที่โดดเด่นดังต่อไปนี้ ระบบพวงมาลัยอัจฉริยะ Flex Steer เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และระบบฟอกอากาศ Clean Air เบาะนั่งหนังแท้กึ่งสังเคราะห์ ระบบ Smart Entry และ ระบบ Push Start ระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ แบบ Projector Lens พร้อม LED Light Guide ระบบเครื่องเสียงแบบจอสัมผัส Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังแท้ เบาะนั่งตอนหลังพับได้แบบ 60:40 พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ราคา 869,000 บาท

          รุ่นมาตรฐาน 1.8 GL โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ไฟหน้าแบบ multi-reflector ถุงลมนิรภัยคู่หน้า พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มด้วยวัสดุที่ทำจากผ้า และกุญแจแบบพับเก็บได้พร้อมรีโมทในตัว ราคา 799,000 บาท

          รถยนต์ฮุนไดเอช-วันซีรีย์ (The New Hyundai H-1 Series)
          ฮุนไดเอช-วัน มาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ที่โดดเด่นและมีบุคลิกมากขึ้น กันชนหน้าหลัง กาบข้างดีไซน์ใหม่ เพิ่มความหรูหราภูมิฐานอย่างมีระดับ เอช-วัน ซีรีย์ มี 3 รุ่นให้เลือก ได้แก่ รุ่น เดอลุกซ์ รุ่นอีลีท และ รุ่นลิมิเตด
          อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับฮุนไดเอช-วันทุกรุ่นได้แก่
          เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 2.5 ลิตร ระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบแปรผัน (VGT) พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 441 นิวตัน-เมตร ถ่ายทอดลงถนนด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง
          เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม Sequential Mode
          ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
          เบาะนั่งในห้องโดยสาร 12 ที่นั่ง หมุนได้ 180 องศา
          ประตูห้องโดยสารเปิดสไลด์ 2 ข้าง พร้อมกระจก Flush Glass
          ระบบช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link พร้อมคอยล์สปริง

          รุ่นเดอลุกซ์ (Deluxe) มาพร้อมกับคอนโซลกลางที่ออกแบบใหม่ เพื่อรองรับเครื่องเสียง DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบนำทางใหม่ มีการตกแต่งด้วยลายไม้ใหม่ หน้าจอ LCD ติดเพดานสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และ กล้องมองหลังพร้อม Bird's Eye View เพื่อช่วยในการจอดรถ ราคา 1,599,000 บาท

          รุ่นอีลีท (Elite) เป็นรุ่นเริ่มต้นของ เอช-วัน ซีรีย์ ซึ่งยังคงระดับความสบายเช่นเดียวกับรุ่น เดอลุกซ์ ด้วยเบาะแบบ 12 ที่นั่ง ซึ่งเป็นเบาะหุ้มหนัง มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว และ สัญญาณกะระยะถอยหลังเพื่อช่วยในการจอดรถ เป็นอีกทางเลือกของผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์สไตล์ Luxury MPV ที่เน้นความคุ้มค่าคุ้มราคา ความหรูหราในราคาที่โดนใจ และการใช้งานที่ดีเยี่ยม ราคา 1,449,000 บาท

          รุ่นลิมิเตด (Limited) เป็นรุ่นพิเศษสำหรับ เอช-วัน ซึ่งเปิดตัวมาเพื่อเอาใจแฟน เอช-วัน ที่ต้องการความสปอร์ตมากขึ้น รุ่นลิมิเตด มีพื้นฐานมาจากรุ่น เดอลุกซ์ แต่ได้เติมแต่งอุปกรณ์เพื่อเพิ่มความสปอร์ต เริ่มจากสีภายนอกสีขาว Creamy White พิเศษเฉพาะรุ่น ภายในสีเทาแบบ Two-tone พร้อมเบาะหนังสีเทาพิเศษและลายไม้สีเทาเข้ม พวงมาลัยหุ้มหนังแท้ พรมปูพื้นคุณภาพสูงพร้อมโลโก้ "H-1 Limited" ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สี Hyper Black และ โลโก้ "LIMITED" ที่ฝากระโปรงท้าย ราคา 1,639,000 บาท

          รถยนต์ฮุนไดแกรนด์สตาเร็กซ์วีไอพี (The New Hyundai Grand Starex VIP)
          รถยนต์เรือธง Luxury MPV แบบ 7 ที่นั่ง จากฮุนได ใช้เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 2.5 ลิตร ระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบแปรผัน (VGT) พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า และแรงบิด 441 นิวตัน-เมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift
          อุปกรณ์มาตรฐานได้แก่
          เบาะแบบ VIP พร้อมหมอนรองศีรษะแบบ Butterfly พนักพิงกับที่รองต้นขาปรับด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อความสะดวกสะบายสูงสุด
          ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
          กล้องมองหลังพร้อม Bird's Eye View เพื่อช่วยในการจอดรถ
          คอนโซลกลางใหม่ พร้อมเครื่องเสียง DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
          ระบบแผนที่นำทาง
          เคานเตอร์บันเทิงบรรจุเครื่องเล่น DVD และเครื่องเสียงจาก Kenwood® พร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 22 นิ้ว แบบ Full HD
          ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
          กุญแจรีโมทและสัญญาณกันขโมย
          ราคา 1,978,000 บาท

          รถยนต์ฮุนไดทูซอน (The New Hyundai Tucson)
          ฮุนไดทูซอน คือผลงานการพัฒนารถยนต์ที่เป็นการเติมเต็มในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก อุปกรณ์ความสบายต่างๆ และสมรรถนะการขับขี่ ใช้เครื่องยนต์ ขนาด 2,000 ซีซี เทอร์โบดีเซล คอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 184 แรงม้า แรงบิด 392 นิวตัน-เมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift Mode ภายนอกโดดเด่นด้วยไฟหน้าใหม่แบบ Projector Lens ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไฟท้ายล้ำสมัยด้วยไฟ LED ที่ออกแบบการส่องสว่างได้อย่างแตกต่างและทันสมัย ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลายใหม่ พร้อมยาง ขนาด 225/60/R17 เครื่องเล่น DVD พร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว ที่เชื่อมต่อความบันเทิงผ่านช่องต่อ USB/AUX ระบบนำทาง GPS ที่แม่นยำ และให้ความสะดวกในทุกเส้นทาง
          อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ได้แก่
          ระบบ Smart Entry และ Push Start
          ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
          ระบบรักษาเสถียรภาพรถยนต์ ESP (Electronic Stability Program)
          ระบบช่วยชะลอความเร็วขณะลงทางลาดชัน DBC (Down-Hill Brake Control)
          ระบบป้องกันรถไหลขณะขึ้นทางลาดชัน HAC (Hill-Start Assist Control)
          ราคา 1,690,000 บาท

          รถยนต์ฮุนไดเวลอสเตอร์ (The New Hyundai Veloster)
          ฮุนไดเวลอสเตอร์ เป็นการปฏิวัติยานยนต์ ด้วยรูปลักษณ์แฮทช์แบ็คแบบ 2+1 ประตู ที่ทำให้ เวลอสเตอร์ มีรูปทรงเป็นคูเป้ แต่มีความสะดวกสบายเทียบเท่ากับรถซีดานทั่วไป ประตูที่ตำแหน่งด้านหลังซ้ายทำให้ผู้โดยสารด้านหลังสามารถขึ้นลงจากรถอย่างสะดวกสบาย โดยที่ไม่ต้องรอผู้โดยสารด้านหน้าดังเช่นรถคูเป้ทั่วไป Veloster มี 2 รุ่นให้เลือกตามชนิดของเครื่องยนต์ 2 แบบคือ เครื่องยนต์ขนาด 1.6L MPI และ เครื่องยนต์ 1.6L ระบบเทอร์โบแบบ Twin Scroll ไดเร็คอินเจ็คชั่น

          รุ่นเวลอสเตอร์สปอร์ตเทอร์โบ (Veloster Sport Turbo)
          อุปกรณ์มาตรฐานมีดังนี้
          เครื่องยนต์ 1.6L T-GDI ให้กำลังสูงสุด 186 แรงม้า พร้อม แรงบิดแบบ flat torque 265 Nm ที่ 1,500-4,500 รอบต่อนาที
          เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีดพร้อมระบบ Sequential Shift
          แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shifters)
          ไฟหน้าแบบ Projector Lens พร้อมไฟวิ่งกลางวันแบบ LED
          ไฟท้ายแบบ LED
          เบาะหนัง พร้อมที่ปรับที่นั่งคนขับแบบไฟฟ้า
          เครื่องเสียงหน้าจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบบลูทูธ
          ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
          หลังคากระจกไฟฟ้าแบบพาโนรามิค (Panaoramic Sunroof)
          ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
          ราคา 1,739,000 บาท

          รุ่นเวลอสเตอร์ (Veloster)
          อุปกรณ์มาตรฐานมีดังนี้
          เครื่องยนต์ 1.6L MPI 130 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีดพร้อม Sequential Shift
          ระบบ Smart Entry และ ระบบ Push Start
          เครื่องเสียงหน้าจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบบลูทูธ
          ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
          สัญญาณกะระยะถอยหลัง
          ABS, EBD และ BA
          ราคา 1,299,000 บาท
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 08:57:53 AM
Experience Hyundai’s entire lineup on full display and more at the Thailand International Motor Expo 2015









Highlight Car: All-New Hyundai Elantra Sport SE (Special Edition)
          Concept Car: Intrado (HED-9)
          Special offer for all Hyundai models
          New Hyundai Booth Design
          Dealership Network Expansion
          Display Cars: All-New Elantra Sport, H-1 Series, Grand Starex, Tucson and Veloster

          Hyundai Motor (Thailand) Co., Ltd. the official and sole importer and distributor of Hyundai automobiles in Thailand has launched the "All-New Hyundai Elantra Sport SE" (Special Edition) under the catchy new tagline "Sport. Redefined." Elantra SE is decorated with a sporty body kit all around the exterior with the addition of a Blackout front grille, giving it an especially bold look. The lightly upgraded interior gives Elantra SE a raised sense of sportiness inside without going overboard. The tasteful sporty design, coupled with Elantra's fun to drive nature and convenience items makes Elantra SE the logical choice for customers requiring sportiness and fun to drive while maintaining all of the usual creature comfort features. The "All-New Elantra Sport SE" comes in a selection of 4 color options, Creamy White, Phantom Black, Sleek Silver and Santorini Blue at a price of 996,000 Baht with the following special offers, available for a limited time for customers who book during the Motor Expo event:
          - Free vehicle warranty for 7 years or 180,000 km.
          - Free maintenance cost, parts and labor, for 5 years or 100,000 km.
          - "Buy today, start paying installments next year" or 0% interest for 48 months with 1st class car insurance for 1 year
          - Free gasoline worth 20,000 Baht

          "All-New Elantra Sport SE"
          New features:
          Sporty body kit (front skirt, side skirt and rear skirt)
          Bold front grille Blackout paint
          Rear lip type spoiler
          Stainless steel exhaust finisher
          Newly designed, Hyper Black 17" alloy wheels
          New sporty leather seats with blue inserts and Elantra SE logo
          Premium carpet floor mat with Elantra SE logo
          Stainless steel pedals with anti-slip rubber inserts

          Standard Equipment:
          HID Projector Lens Headlamps with LED Light Guide
          Smart Entry and Push Start System
          2 DIN Radio / Single CD/DVD with MP3/WMA/AAC/MP4/DivX/JPG Media Support & High Resolution 7" LCD Capacitive Touchscreen
          GPS Navigation System
          Back Camera
          Cruise Control
          Flex Steer
          Auto Dimming Rear View Mirror
          Dual Zone Automatic A/C
          10-way Electric Adjustable Driver's Seat with Lumbar Support
          Automatic Headlamps and Windshield Wipers

          Concept Car: Intrado (HED-9)
          Hyundai's crossover concept "Intrado"; codenamed "HED-9" is displayed for the first time in ASEAN at the Thailand International Motor Expo 2015. Intrado shows off Hyundai's optimistic vision of a future where mobility is more enjoyable and demonstrates Hyundai's belief that advanced vehicle technologies and intelligent design can combine to engage more effectively with driver and passengers. The car's use of lightweight materials, new construction methods and advanced powertrain raises efficiency, while the design focus, both inside and out, is on purely meeting the needs of consumers in terms of usability.
          Taking its name from the underside of an aircraft's wing – the area that creates lift; Intrado was designed with inspiration from aircraft which emphasizes the use of high quality materials with lightweight but high strength properties. The body structure of Intrado is constructed from carbon fiber, reducing weight by 70% when compared to a conventional chassis without compromising safety attributes while the exterior body panels are made of advanced super-lightweight steel. Furthermore, unnecessary adornments and detailing are removed in an effort to reduce weight and maximize efficiency.
          Intrado is powered by a next-generation hydrogen fuel-cell powertrain that utilizes a Li-ion 36 kW battery. Refuelled in just a few minutes, Intrado has a range of more than 600 kilometers and emits only water. In addition to increased range, Intrado promises more responsive and agile driving dynamics, thanks to its reduced weight and greater efficiency of its powertrain.
          Intrado received the Jury Prize from the JEC Innovation awards 2015 for its unique carbon fiber frame design utilizing new construction methods and processes which increases efficiency when compared with other conventional carbon fiber construction methods. This is a testament to Hyundai's innovation and prowess in developing new technologies for automobiles of the future.

          Special offers for all Hyundai models Motor Expo offers valid until December 13, 2015

          All-New Hyundai Elantra Sport (1.8 GL, 1.8 GLE, 1.8 GLS NAVI and 1.8 SE):
          - Free vehicle warranty for 7 years or 180,000 km.
          - Free maintenance cost, parts and labor, for 5 years or 100,000 km.
          - "Buy today, start paying installments next year" or 0% interest on installments for 48 months with 1st class car insurance for 1 year.
          - Free gasoline worth 20,000 Baht for 1.8 SE and 10,000 Baht for 1.8 GLS NAVI

          The New Hyundai H-1 (Elite, Deluxe and Limited)
          Choose from:
          - Free maintenance cost, parts and labor, for 3 years or 60,000 km. or
          - Free 1st class car insurance for 1 year

          The New Hyundai Grand Starex (Premium and VIP)
          - Free 1st class car insurance for 1 year

          The New Hyundai Tucson 2.0 D 4WD
          - 0% interest on installments for 48 months
          - Free 1st class car insurance for 1 year
          - Exclusive offer at Motor Expo event

          All-New Hyundai Veloster
          - 0% interest on installments for 48 months
          - Free 1st class car insurance for 1 year
          - Exclusive offer at Motor Expo event

          New Hyundai Booth Design
          This year, Hyundai's booth at the Motor Expo has been redesigned according to Hyundai's new global corporate identity, in which the design has been updated to create a greater sense of harmony between technology and nature. From the current palette of using a Blue tone with curved lines and rounded corners, the new design utilizes a more aesthetically pleasing Bronze color tone with sharp edges and angles, which also serves to enhance the brand's direction of a more premium image. This new design corresponds to Hyundai's new "Global Dealership Space Identity" (GDSI), standards for the design of Hyundai showrooms around the world, in which Hyundai showrooms in Thailand are gradually changing their exterior appearance to follow these new guidelines. Customers can instantly recognize the improved premium ambience and experience a heightened sense of luxury upon entering the redesigned showrooms.

          Dealership Network Expansion
          Hyundai Motor Thailand is committed to improving the quality of its products and services together with expanding the dealer showroom network, both in Bangkok and upcountry in order to serve its expanding customer base. Hyundai also aims to build customer trust, confidence and satisfaction by improving its after sales service to provide fast and high quality service by qualified technicians together with a large parts warehouse to be able to serve the needs of customers. Although service at Hyundai dealers is already on par with global standards, nevertheless, Hyundai strives to offer services beyond these standards. This year Hyundai opened its 25th showroom and will continue to expand the dealership network in the future to provide the best service to Hyundai customers.
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 08:59:39 AM
Display Cars
          All-New Hyundai Elantra Sport – More than a feeling.
          All-New Hyundai Elantra Sport is a result of significant product enhancement in which many aspects have been improved including key interior and exterior designs while new features have also been added. All-New Hyundai Elantra Sport is comprised of 4 variants: GL, GLE, GLS Navi and the newly launched SE. Each variant comes with a 1.8L engine and 6-speed automatic transmission that delivers a maximum output of 150 horsepower to put this car above its class for driving performance.

          1.8 GLS Navi comes with a list of premium equipment including Electronic Stability Program (ESP), Vehicle Stability Management (VSM) and Hill-Start Assist Control (HAC) safety features which offer greater vehicle control and are usually only found in more expensive vehicles. GPS Navigation System is offered together with a 7-inch Touchscreen DVD front end head unit to provide entertainment to onboard passengers. HID projector lens headlamps with LED Light Guide and cruise control round off the list of features which complements the modern premium lifestyle, putting you in a league above.
          Retail Price: 976,000 Baht

          1.8 SE – Sport. Redefined. is a special edition variant which comes with the same convenience features as 1.8 GLS Navi but includes accessories to enhance the sporty appearance including Exterior Body Kit with Rear Spoiler, Blackout Front Grille, 17-inch Hyper Black Alloy Wheels, Stainless Steel Exhaust Finisher, Sporty Seats with Blue Leather Inserts, Stainless Steel Pedal Set and Premium Carpet Floor Mats with SE Emblem.
          Retail Price: 996,000 Baht

          1.8 GLE comes with an array of standard features including a segment first and only Flex Steer System allowing you to select the Steering Mode (Comfort, Normal, Sport), Dual Zone Auto A/C with Rear Air Vents and Clean Air (air purifier), Leather Seats, Smart Entry & Push Start System, Automatic Wipers, Projector Headlamps with LED Light guide, Automatic Headlamps, 7-inch Touchscreen head unit with Bluetooth, 17-inch alloy wheels, leather-wrapped steering wheel and gearshift knob, 60:40 split folding rear seats, and Tilt & Telescopic steering wheel.
          Retail Price: 869,000 Baht

          1.8 GL comes with 16-inch alloy wheels, multi-reflector headlamps, dual front airbags, tilt & telescopic steering wheel, cloth seats and remote folding key with rear trunk lid button.
          Retail Price: 799,000 Baht

          The New Hyundai H-1 Series – The Most Comfortable Journey
          The New Hyundai H-1 Series is redesigned with a modern front grille and a remodeled front bumper, rear bumper, and side garnish. The H-1 Series comes in 3 variants: Deluxe, Elite and the recently launched Limited Edition.
          Standard Features of H-1 Series:
          2.5L Diesel Commonrail engine with variable geometry turbocharger (VGT) & intercooler that delivers a maximum power output of 175 PS and maximum torque of 441 N-m in a rear wheel drive layout
          5-speed automatic transmission with Sequential Mode
          Multi-function steering wheel
          12-seater configuration with 180° swivel seats
          Dual sliding doors with flush glass
          5-link rear suspension with coil springs
          Deluxe comes with a revised center console fascia to accommodate a new 7-inch Touchscreen DVD head unit with GPS Navigation System together with new wood trim, Roof Mounted LCD to entertain rear seat passengers, and a back camera with bird's eye view to facilitate parking.
          Retail Price: 1,599,000 Baht

          Elite is the entry model for H-1 Series which enjoys the same level of comfort as found in the top of the line Deluxe variant with a 12 seat arrangement. Leather seats come standard together with 16-inch alloy wheels and back sensor to assist in parking. H-1 Elite has proven to be the choice of discerning MPV users for its all-around performance, utility and practicality for a delightful ownership experience.
          Retail Price: 1,449,000 Baht

          Limited – The Undeniable Sport MPV is a special version of H-1 launched especially to cater to Hyundai H-1 Series fans requiring a more sporty and dynamic appearance. H-1 Limited is based on the Deluxe variant with additional features to enhance exterior and interior appearance, namely the exclusive Creamy White exterior color, Grey two-tone interior color with Grey Leather Seats and Dark Grey wood grain, Leather Wrapped Steering Wheel, Premium Carpet Floor Mats with H-1 Limited logo, 17 inch Hyper Black alloy wheels and "LIMITED" emblem at the rear to round off the list.
          Retail Price: 1,639,000 Baht

          The New Hyundai Grand Starex VIP – Welcome to the VIP Experience
          The New Hyundai Grand Starex VIP is the flagship luxury 7-seater full-size MPV offering from Hyundai. It is fitted with a 2.5L Diesel Commonrail engine with variable geometry turbocharger (VGT) & intercooler that delivers a maximum output of 175 PS and a maximum torque of 441 N-m. Power is transferred to the rear wheels via 5-speed automatic transmission with sequential shift mode.
          Standard features of Grand Starex VIP:
          VIP Seats with butterfly headrests, electrically adjustable reclining backrest and footrest function provides unmatched comfort and relaxation
          Multi-function steering wheel
          Rear-view camera with Bird's Eye View to assist parking
          New Center Console Fascia housing a DVD Head Unit with 7-inch Touchscreen
          GPS Navigation System
          Entertainment Counter with DVD player and 22-inch Full HD LCD Screen and sound system from Kenwood®
          17-inch alloy wheels
          Remote control key and anti-theft alarm
          Retail Price: 1,978,000 Baht

          The New Hyundai Tucson – The Brilliant Urban SUV
          The New Hyundai Tucson 2.0D 4WD is a significant product improvement whose highlights include an upgraded 2.0L Diesel Commonrail engine producing 184 PS and 392 Nm of torque. New features include newly designed projector lens headlamps upfront, new LED combination lamps at the rear, new 17-inch alloy wheels and reclining rear seats. To top off the list of features, the new Tucson comes standard with a 7-inch Touchscreen DVD head unit and GPS navigation system.
          Other features include:
          Smart Entry and Push Start System
          Multi-function steering wheel
          Electronic Stability Program (ESP) , Downhill Brake Control (DBC), Hill-start Assist Control (HAC)
          Retail Price: 1,690,000 Baht

          The New Hyundai Veloster - Life is Unique
          The New Veloster is a revolution in automotive engineering with a unique 2+1 door hatchback layout, giving the Veloster an unmistakable coupe like appearance, but with the practicality of a normal sedan. The left rear door allows passengers in the rear seats to move in and out comfortably without having to wait for the front passenger as in traditional coupes. Two variants are offered for Veloster based on 2 engine types, a normally aspirated 1.6L multi-point fuel injected engine and a more powerful 1.6L Twin Scroll turbo engine with direct injection.

          Veloster Sport Turbo
          Standard Features:
          1.6L T-GDI engine with a maximum output of 186 PS and a flat maximum torque of 265 N-m from 1,500-4,500 rpm
          6-Speed automatic transmission with sequential shift
          Paddle Shifters
          Projector Lens Headlamps with LED Daytime Running Lights
          LED Rear Tail Lights
          Leather Seats with Power adjustable driver's seat
          7-inch LCD Touchscreen Head Unit with Bluetooth
          18-inch alloy wheels
          Panoramic sunroof
          Cruise control
          • ESP / TCS / HAC
          Retail Price: 1,739,000 Baht

          Veloster
          Standard Features:
          1.6L MPI engine with a maximum output of 130 PS
          6-speed automatic transmission with sequential shift
          Smart Entry and Push Start system
          7-inch LCD Touchscreen Head Unit with Bluetooth
          17-inch alloy wheels
          Back Sensor
          ABS, EBD and BA
          Retail Price: 1,299,000 Baht
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 09:00:11 AM
Hyundai Intrado









          "Intrado" คือรถต้นแบบแนว crossover ที่เผยถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของแบรนด์ "ฮุนได" ที่สะท้อนให้เห็นถึงการเดินทางในอนาคตกับการเพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่มากยิ่งขึ้น และตอกย้ำความเชื่อของฮุนไดที่ว่า การนำเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าผสมผสานกับการออกแบบที่ชาญฉลาดนั้น จะทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถใช้ประโยชน์จากรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น ซึ่งการออกแบบของ Intrado ตั้งแต่ภายในจรดภายนอกนั้น ล้วนแล้วแต่คำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้ทั้งสิ้น โดยจะเน้นการใช้งานเป็นหลัก และยังสามารถนำมาใช้งานจริงกับรถยนต์ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว

          ชื่อ "Intrado" เป็นชื่อของส่วนที่อยู่ใต้ปีกของเครื่องบิน ซึ่งเป็นบริเวณที่ทำหน้าที่ในการสร้างแรงส่งให้เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า การออกแบบ Intrado นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินเช่นกัน ซึ่งจะเน้นการใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง มีน้ำหนักที่เบาแต่มีความแข็งแรงสูง โดยตัวถังของ Intrado ผลิตจากวัสดุ carbon fiber ซึ่งสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 70% เมื่อเทียบกับตัวถังทั่วไป โดยยังสามารถรักษาระดับความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชิ้นส่วนตัวถังภายนอกผลิตจากวัสดุโลหะเทคโนโลยีล้ำสมัย ทำให้รถมีน้ำหนักเบา ทนทาน นอกจากนี้ยังมีการตัดชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งที่ไม่จำเป็นออก เพื่อเป็นการลดน้ำหนักและเพิ่มประสิทธิภาพสูงที่สุดให้กับตัวรถ อีกทั้งยังให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้นและง่ายต่อการบำรุงรักษา

          Intrado ใช้เครื่องยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ร่วมกับแบตเตอรี่แบบ Li-ion ขนาด 36 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถวิ่งได้มากกว่า 600 กม. ต่อเชื้อเพลิงหนึ่งถัง โดยใช้เวลาในการเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในเวลาเพียงไม่กี่นาที การขับเคลื่อนทั้งหมดนั้น จะไม่มีไอเสียถูกปลดปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม มีเพียงแต่น้ำบริสุทธิ์เท่านั้น นอกจากระยะทางวิ่งที่เพิ่มขึ้นแล้ว Intrado ยังมีสมรรถนะที่ดีขึ้น ทั้งในเรื่องของ อัตราเร่ง การตอบสนอง และการควบคุม เนื่องจากน้ำหนักที่ลดน้อยลงและระบบขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

          เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Intrado ได้รับรางวัล JURY PRIZE จากการประกวด JEC Innovation awards 2015 สำหรับการออกแบบตัวถังโดยใช้วัสดุ carbon fiber ที่ใช้กรรมวิธีและกระบวนการผลิตแบบใหม่ ทำให้มีประสิทธิภาพที่สูงกว่าการผลิต carbon fiber แบบทั่วไป ซึ่งเป็นการพิสูจน์และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและความสามารถของฮุนไดในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สำหรับยานยนต์ในอนาคต
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 09:02:59 AM
งาน Motor Expo 2015 พบกับ โอเวอร์ฮอร์น ซาวด์ และเครื่องเสียงชั้นนำ







งาน Motor Expo 2015 งานใหญ่วงการเครื่องเสียงรถยนต์ ส่งท้ายปี ทีจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 พลาดไม่ได้ กับ เครื่องเสียงรถยนต์ชั้นนำ มากมาย ที่บู๊ท โอเวอร์ฮอร์น ซาวด์ ศูนย์จำหน่ายติดตั้ง เครื่องเสียงรถยนต์ มาตราฐาน ISO 9001 : 2008 รายแรกของไทย ภายในงาน จะได้พบกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ของ SONY XAV-650BT / W600 ติดตามรายละเอียด และ ขอรับบัตรเข้าชมงานฟรี ได้ที่ http://www.overhornsound-ratchaphruek.com
https://www.facebook.com/overhornsound
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 09:05:58 AM
มินิ คลับแมน โฉมใหม่









          ด้วยความยาวที่เพิ่มขึ้น 27 เซนติเมตร กว้างขึ้น 9 เซนติเมตร และฐานล้อที่ยาวขึ้น 10 เซนติเมตร เมื่อเทียบกับรถยนต์มินิ แฮทช์ 5 ประตู มินิ คลับแมน โฉมใหม่นี้ จึงเป็นรถยนต์มินิที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ซี่งไม่เพียงเป็นการตีความใหม่ให้กับการเดินทางในแบบดั้งเดิมตามสไตล์อังกฤษ สำหรับศตวรรษที่ 21 แต่ยังเป็นการผจญภัยครั้งใหม่ของแบรนด์มินิในเซ็กเมนต์รถยนต์คอมแพคระดับพรีเมี่ยม ช่องเก็บสัมภาระที่มีความจุมากถึง 360 ลิตร และยังสามารถขยายขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,250 ลิตร

          ฝากระโปรงท้ายแบบบานพับสองข้างใช้วัสดุโลหะที่โดดเด่นสะดุดตาเป็นอีกจุดเด่นชวนมองในส่วนท้ายของ มินิ คลับแมน โฉมใหม่ เสากลางระหว่างบานกระจกซ้าย-ขวามีขนาดเล็กลงกว่าในรุ่นก่อนหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองด้านหลังให้ดียิ่งขึ้น การเปิดฝากระโปรงท้ายสามารถทำได้ด้วยการใช้มือเปิดจากปุ่มที่มือจับฝากระโปรงทั้งสองข้างซึ่งทำจากวัสดุชุบโครเมียม หรือสามารถเปิดได้โดยไม่ต้องสัมผัสตัวรถด้วยการใช้เท้าไปจ่อที่บริเวณใต้กันชนท้าย ฝากระโปรงท้ายก็จะเปิดโดยอัตโนมัติทีละข้าง ซึ่งฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานได้เมื่อผู้ขับมีกุญแจรถอยู่กับตัว

          นวัตกรรมการจัดไฟแบบพิเศษเฉพาะสำหรับ มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน และ มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน ไฮทริม โฉมใหม่ มีทั้งไฟหน้าแอลอีดี ไฟแอลอีดีสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ไฟท้ายแอลอีดี และไฟตัดหมอกแอลอีดี เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

          ส่วนการจัดแสงไฟภายในห้องโดยสาร ใช้ทั้งไฟแอลอีดีและแสงไฟแอมเบียนท์เพื่อสร้างบรรยากาศ และมาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษ MINI Excitement Package ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนสีได้ พร้อมตอบสนองด้วยแสงสีทันทีที่เปิดหรือปิดประตูรถ นอกจากนี้ ยังเพิ่มลูกเล่นการฉายไฟรูปโลโก้มินิจากกระจกมองข้างลงมาบนพื้นถนนฝั่งคนขับเมื่อทำการปลดล็อกรถยนต์อีกด้วย

          มินิ คลับแมน โฉมใหม่ ขับเคลื่อนด้วยพลังของเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด 3 รุ่น โดยขุมกำลังของมินิ รุ่นใหม่นี้ ประกอบด้วยเทคโนโลยี มินิ ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ให้อารมณ์ในการขับขี่แบบโกคาร์ทโดยเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ด้านต่างๆ ที่ดียิ่งขึ้น เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ในมินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน โฉมใหม่ กำลังขับเคลื่อนสูงสุดอยู่ที่ 141 กิโลวัตต์/192 แรงม้า (อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 5.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ระดับการปล่อย CO2 อยู่ที่ 141 กรัมต่อกิโลเมตร) มินิ คูเปอร์ คลับแมน โฉมใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ กำลังขับเคลื่อน 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า (อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 5.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ระดับการปล่อย CO2 อยู่ที่ 125 กรัมต่อกิโลเมตร) สำหรับใน มินิ คูเปอร์ ดี คลับแมน โฉมใหม่ ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ กำลังขับเคลื่อน 110 กิโลวัตต์/150 แรงม้า (อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 4.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ระดับการปล่อย CO2 อยู่ที่ 130 กรัมต่อกิโลเมตร)

          มินิ คูเปอร์ คลับแมน โฉมใหม่: 2,388,000 บาท
          มินิ คูเปอร์ ดี คลับแมน โฉมใหม่: 2,688,000 บาท
          มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน โฉมใหม่: 3,088,000 บาท
          มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน ไฮทริม โฉมใหม่: 3,288,000 บาท
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 09:06:35 AM
The all-new MINI Clubman









          At 27 cm longer and 9 cm wider than the MINI Hatch 5-door, and with a 10 cm-longer wheelbase, the all-new MINI Clubman is the largest MINI yet, and represents not only a reinterpretation of the traditional British traveller for the 21st Century, but also the brand's first venture into the premium compact segment. Luggage capacity has been expanded to 360 liters expandable to as much as 1250 liters.

          The split doors with their striking metal trim are the most striking rear feature of the all-new MINI Clubman. The central bar between the two side-opening wings is significantly narrower than in the predecessor model, thereby optimising the view to the rear. The split doors are opened by means of a dual-section door handle finished in chrome. Non-contact opening of the split doors is possible in combination with the standard Comfort Access function. If the driver is carrying the key, it is sufficient to move a foot under the rear apron to trigger the rear doors.

          MINI's innovative lighting technology is also exclusively offered in the all-new MINI Cooper S and Cooper S Clubman Hightrim in the form of LED headlamps including LED daytime driving lights, LED rear lights and LED fog lights for maximum safety.

          The interior lighting package with LED interior and ambient lighting creates an atmospheric ambience. In conjunction with the MINI Excitement Package special equipment feature, this offers continuously varying colour changes and now includes a light display activated when opening and closing the car door. On activation of the remote key, the MINI logo is projected onto the ground for 20 seconds from an additional light source in the exterior mirror on the driver's side.

          Three new engine variants on offer in the all-new MINI Clubman featuring MINI TwinPower Turbo Technology deliver MINI's signature go-kart feeling now with even greater efficiency. The 4-cylinder petrol engine of the all-new MINI Cooper S Clubman mobilises 141 kW/192 hp (combined fuel consumption: 5.9 l/100 km; combined CO2 emissions: 141 g/km). The all-new MINI Cooper Clubman is powered by a 3-cylinder petrol engine with 100 kW/136 hp (combined fuel consumption: 5.3 l/100 km; combined CO2 emissions: 125 g/km). A new member of the engine range is the 110 kW/150 hp 4-cylinder diesel engine in the all-new MINI Cooper D Clubman (fuel consumption combined: 4.9 l/100?km; combined CO2 emissions: 130 g/km).

          The all-new MINI Cooper Clubman : 2,388,000 Baht
          The all-new MINI Cooper D Clubman : 2,688,000 Baht
          The all-new MINI Cooper S Clubman : 3,088,000 Baht
          The all-new MINI Cooper S Clubman Hightrim : 3,288,000 Baht
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 09:08:04 AM
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ โฉมใหม่









          มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ โฉมใหม่ ผสมผสานความเร้าใจจากสนามแข่งกับความหรูหราเต็มเปี่ยมของมินิรุ่นล่าสุด ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นแต่ยังคงเอกลักษณ์สุดคลาสสิกไว้อย่างครบครัน ต่อยอดจากรถยนต์ต้นแบบเพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ในระดับรถแข่งพันธุ์แท้

          มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ใหม่ มาพร้อมกับที่สุดแห่งขุมพลังสปอร์ตจากมินิ กับเครื่องยนต์ 4 สูบที่ติดตั้งแบบ transverse พร้อมอัพเกรดระบบส่งกำลังให้ทำงานราบรื่นด้วยเทคโนโลยี มินิ ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ให้คุณขับขี่ได้คล่องตัว รวดเร็ว พร้อมท้าทายทุกสนามแข่ง เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรรุ่นนี้มีปริมาตรกระบอกสูบมากกว่ารุ่นก่อน 25 เปอร์เซ็นต์ พร้อมมอบสมรรถนะสูงขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ และแรงบิดเพิ่มมากขึ้นอีก 23 เปอร์เซ็นต์

          ขุมพลังใหม่ของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ถือเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่มินิเคยนำออกมาทำตลาด โดยมีกำลังสูงสุดถึง 170 กิโลวัตต์/231 แรงม้า พร้อมระบบส่งกำลังที่เน้นสมรรถนะเป็นหลัก และเสียงเครื่องยนต์อันทรงพลังจากลูกสูบ เทอร์โบชาร์จเจอร์ และท่อไอเสียที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เครื่องยนต์รุ่นนี้มีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 16.1 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราปล่อยก๊าซ CO2 ที่ 148 กรัมต่อกิโลเมตร

          นอกจากนี้ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ยังมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครด้วยระบบแสดงผล MINI Head-Up Display พร้อมคอนเทนต์พิเศษในรุ่นนี้เฉพาะ หลังคาและกระจกมองข้างสีแดง Chili Red ล้อแม็กอัลลอยน้ำหนักเบา จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ขนาด 18 นิ้ว และแถบสีแต่งกระโปรงรถลายจอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ ส่วนระบบช่วงล่างทำงานสอดประสานกับเครื่องยนต์อย่างสมบูรณ์แบบ ควบคู่ไปกับเบรกระดับสปอร์ตรุ่นใหม่จากเบรมโบ ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์

          เซอร์โวทรอนิก ที่ใช้ทั้งระบบไฟฟ้าและกลไกผสมผสานกัน และเทคโนโลยี Dynamic Stability Control ที่มีทั้งคุณสมบัติ Dynamic Traction Control (DTC) Electronic Differential Lock Control (EDLC) และ Dynamic Damper Control ติดตั้งมาในตัวเป็นมาตรฐาน
 
          มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ โฉมใหม่: 3,450,000 บาท
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 09:08:58 AM
The all-new MINI John Cooper Works








 
          The all-new MINI John Cooper Works combines authentic race feeling with the premium characteristics and extended product substance of the latest MINI Generation; distinctive, tradition-steeped, based on a vehicle concept combining MINI and John Cooper Works, with performance qualities which are exceptional within the competitive environment.

          Under the bonnet of the all-new MINI John Cooper Works is by far the sportiest version of the latest MINI engine generation. The top athlete's 4-cylinder spark ignition engine traditionally mounted transversely at the front benefits from current advancements in the areas of power delivery, running smoothness and efficiency derived from MINI TwinPower Turbo Technology, combining these with performance characteristics which are unmistakably geared towards motor racing. It draws its power from a capacity of 2.0 litres - an increase of 25 per cent over the engine in the predecessor model. The increase in output amounts to 10 per cent, while the maximum torque is 23 per cent higher than before.

          The all-new MINI John Cooper Works has the most powerful engine ever fitted in a serial production model of the British premium brand; 2.0-litre 4-cylinder spark ignition engine developed based on well-established racing expertise drawing on the latest generation of power units with MINI TwinPower Turbo Technology; output increased to 170 kW/231 hp, performance-oriented power delivery and highly emotional sound due to specific design of pistons, turbocharger and exhaust system, combined fuel consumption is 16.1 km/l, combined CO2 emissions: 148 g/km.

          Additional emphasis of the exclusive character of the all-new MINI John Cooper Works includes MINI Head-Up Display with exclusive display content; roof and exterior mirror covers in Chili Red; 18-inch John Cooper Works light alloy wheels and John Cooper Works bonnet stripes. Suspension technology precisely harmonised with the power and performance characteristics of the engine; newly developed Brembo sports brake system; electromechanical power steering with Servotronic; Dynamic Stability Control (DSC) including Dynamic Traction Control (DTC), Electronic Differential Lock Control (EDLC) and Dynamic Damper Control and sport suspension all come as standard equipments.
 
          The all-new MINI John Cooper Works : 3,450,000 Baht
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 09:10:05 AM
มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน ใหม่









          พาร์คเลน เป็นหนึ่งในย่านพักอาศัยที่หรูหราและน่าอยู่ที่สุดในลอนดอน โดยตั้งอยู่ในย่านเมย์แฟร์ มินิเองมีโชว์รูมอยู่ในย่านนี้หนึ่งสาขา และก็ได้หยิบยืมชื่อ พาร์คเลน มาตั้งเป็นชื่อรุ่นพิเศษเป็นครั้งที่สาม เพื่อสืบทอดความสำเร็จของมินิ พาร์คเลน รุ่นไฮเอนด์สุดคลาสสิกตัวแรกเมื่อปี 2530 และรุ่นที่สองจากปี 2548 โดยถือเป็นครั้งแรกที่มินินำเอาธรรมเนียมการเอาชื่อถนนและย่านต่าง ๆ ในลอนดอนมาตั้งชื่อให้กับรถในรุ่นคันทรีแมน

          มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน ใหม่ เปี่ยมความหรูหราที่จะจับทุกสายตาด้วยดีไซน์และสีสันพิเศษสุดเฉพาะตัว ตัวถังสีเทาเมทัลลิก Earl Grey จับคู่กับหลังคาและกระจกมองข้างสีแดง Oak Red พร้อมแต่งด้วยแถบสีสไตล์สปอร์ตในสีเดียวกับกระโปรงรถ กันชนท้าย และส่วนข้างตัวรถ ขณะที่ไฟเลี้ยวติดตั้งในกรอบชุบโครเมียมที่แต่งด้วยสีแดง Oak Red เช่นกัน นอกจากนี้ ตัวรถยังเสริมความสปอร์ตด้วยล้อแม็กอัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้วสีเทาในดีไซน์ Turbo Fan Dark Grey พร้อมตกแต่งรอบตัวถังด้วยชิ้นส่วนกันชนและขอบประตูสีเงินในชุดแต่ง MINI ALL4 Exterior

          มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังดีเซล มินิ ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งผลิตจากอลูมิเนียมทั้งบล็อก มอบกำลังสูงสุด 143 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 305 นิวตันเมตร โดยมีอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงที่ 14.3 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 184 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น
 
          มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน ใหม่: 2,590,000 บาท
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 09:10:51 AM
The new MINI Cooper SD ALL4 Countryman Park Lane edition









          Located in the London borough of Mayfair, Park Lane is one of the most distinguished addresses in the British capital. MINI itself has a prestigious showroom there. It is the third time that Park Lane has lent its name to an exclusive edition model of the brand. A version of the classic Mini with particularly high-end fittings bore the designation in 1987, while another MINI Park Lane came out in 2005, following in the footsteps of its predecessor after the brand's relaunch. Now the tradition of naming design and edition models made by the British premium automobile manufacturer after London streets and districts is applied to the MINI Countryman for the first time.

          The new MINI Cooper SD ALL4 Countryman Park Lane edition indicates its high-end individual flair at first sight with a specially developed design and colour concept. The body finish in Earl Grey metallic is combined with the entirely new colour variant Oak Red for the roof and exterior mirror caps, supplemented with sport stripes in the same colour for the bonnet, tailgate and lower side sections. The characteristic side turn indicator surrounds in chrome known as side scuttles also comprise an inlay in Oak Red. The new MINI Cooper SD ALL4 Countryman Park Lane edition boldly accentuates its classic athletic character with 18-inch light alloy wheels in Turbo Fan Dark Grey design and the MINI ALL4 Exterior visual package including silver body elements for the front and rear apron as well as the side sills.

          The new MINI Cooper SD ALL4 Countryman Park Lane edition is equipped with MINI TwinPower Turbo 2.0-litre diesel engine with all-aluminium construction. This power unit develops 143 hp at 4,000 rpm with a peak torque of 305 Nm. Combined fuel consumption is 14.3 km/l and sets the CO2 emission at a mere 184 g/km.
 
          The new MINI Cooper SD ALL4 Countryman Park Lane edition : 2,590,000 Baht
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 09:12:12 AM
เปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู G 310 R เป็นครั้งแรกในทวีปเอเชีย









          บีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ใหม่ เป็นรถมอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์จากบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นแรกที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดต่ำกว่า 500 ซีซี ด้วยเครื่องยนต์หนึ่งสูบที่มีน้ำหนักเบาแต่สมรรถนะสูง บีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ใหม่ จึงเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ความเป็นมอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์ตัวจริง กับประสิทธิภาพและความสบายในการขับขี่ ทั้งในตัวเมืองและนอกเมือง

          บีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ใหม่ มีเบาะนั่งที่รองรับการขับขี่ในแบบสบาย ๆ ด้วยความสูงเพียง 785 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วนสวิทช์และปุ่มควบคุมต่าง ๆ ก็ใช้งานง่ายและปลอดภัย ตามแบบบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ด้วยงานออกแบบที่คำนึงถึงทุกลักษณะรูปร่างของผู้ขับขี่

          บีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ใหม่ แข็งแกร่งด้วยเฟรมตัวถังเหล็กกล้า ช่วงล่างแบบ upside-down fork และสวิงอาร์มยาว ที่เสริมความมั่นใจ ให้รถทรงตัวได้ดีอยู่เสมอ และตอบสนองได้อย่างแม่นยำในทุกจังหวะ

          หัวใจหลักของบีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ใหม่ ได้แก่เครื่องยนต์หนึ่งสูบ 313 ซีซีที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมติดตั้ง 4 วาล์ว 2 แคมชาฟท์ และระบบหัวฉีดน้ำมันแบบไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 25 กิโลวัตต์/34 แรงม้า ที่ 9,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 24 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบต่อนาที เพื่อขับเคลื่อนตัวถังที่มีน้ำหนักเบาเพียง 158.5 กิโลกรัมเท่านั้น

          เช่นเดียวกับมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นอื่น ๆ บีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ใหม่ ติดตั้งระบบเบรกเอบีเอสมาเป็นมาตรฐาน โดยเสริมสมรรถนะด้วยระบบเอบีเอสแบบสองช่อง
 
          บีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ใหม่: ยังไม่ประกาศราคาจำหน่าย
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 09:12:54 AM
Asian premier of the new BMW G 310 R









          The new BMW G 310 R is the first BMW roadster under 500 cc. With One cylinder, low weight, powerful dynamic performance, the BMW G 310 R embodies the pure essence of a BMW roadster: Pragmatic in the best sense of the word, it offers precisely what is needed – for dynamic performance and comfort, both in town and out in the country.

          The new G 310 R offers a markedly relaxed seating position for relaxed, stress-free and easy-going motorcycling, offering low seat height of just 785 millimetres. As is characteristic of BMW Motorrad, all switches and controls are simple and secure to handle. Great importance was attached to easy and safe operation, taking into account the most diverse rider anatomies.

          The new BMW G 310 R is well equipped with rigid tubular steel frame, upside-down fork and long swinging arm for a high degree of ride stability and precise steering response and sound handling.

          The centrepiece of the new BMW G 310 R is a completely newly developed 313 cc liquid-cooled single-cylinder engine with four valves and two overhead camshafts together with electronic fuel injection. With an output of 25 kW (34 hp) at 9,500 rpm and a maximum torque of 24 Nm at 7,500 rpm, the engine of the new G 310 R is a very dynamic partner in conjunction with the low unladen weight of 158.5 kg.

          Like all BMW motorcycles, the new G 310 R is fitted with ABS as standard. It combines a powerful brake system with 2-channel ABS.

          The new BMW G 310 R : Price is not yet announced
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 09:14:51 AM
บีเอ็มดับเบิลยูขนทัพรถยนต์หรูสไตล์สปอร์ตบุก มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ครบครันทั้ง บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 โฉมใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู X5 eDrive โฉมใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ใหม่, มินิ คลับแมน โฉมใหม่, มินิ จอห์น คูเปอร์ เว

          - บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 โฉมใหม่ พร้อมนวัตกรรมการควบคุมด้วยระบบสัมผัส, ฟังก์ชันสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวมือ โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ (BMW Gesture Control) และ BMW Touch Command บนแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว
          - ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Permanent all-wheel drive และเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics eDrive มอบความสปอร์ตเต็มเปี่ยมให้กับบีเอ็มดับเบิลยู X5 eDrive โฉมใหม่
          - มินิ คลับแมน โฉมใหม่ อัดแน่นด้วยความสามารถตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวัน และสมรรถนะในการขับขี่ทางไกล ความอเนกประสงค์ และความสะดวกสบายอย่างไม่เคยมีมาก่อนในรถยนต์มินิ
          - ครั้งแรกในเอเชียกับบีเอ็มดับเบิลยู G 310 R มอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์รุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยูที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดต่ำกว่า 500 ซีซี ด้วยเครื่องยนต์ 1 สูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ









          บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในตลาดรถยนต์หรู ยกทัพรถยนต์และมอเตอร์ไซค์จากบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด แบบครบครัน มุ่งหน้าสู่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 โดยมีไฮไลท์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 โฉมใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู X5 eDrive โฉมใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยี ปลั๊กอิน ไฮบริด, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 1 พร้อมเครื่องยนต์รุ่นใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ในราคาใหม่ ในส่วนของมินิ มีการเปิดตัว มินิ คลับแมน โฉมใหม่เป็นครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน, มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์กส์ โฉมใหม่ และมินิ คันทรีแมน พาร์คเลน ใหม่ ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มีดาวเด่นอย่างบีเอ็มดับเบิลยู G 310 R มาให้สาวกบิ๊กไบค์ได้ยลโฉมกันเป็นครั้งแรกในทวีปเอเชีย ผู้สนใจสามารถพบกับข้อเสนอและราคาสุดพิเศษจากบีเอ็มดับเบิลยูได้ในงาน ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 13 ธันวาคม 2558 ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี

          บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 โฉมใหม่
          รถยนต์ระดับแฟลกชิปที่มาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัส ฟังก์ชันการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ และบีเอ็มดับเบิลยู ทัช คอมมานด์ ด้วยแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว
          บีเอ็มดับเบิลยู 740Li โฉมใหม่ ใช้หน้าจอควบคุม iDrive ระบบสัมผัสเป็นครั้งแรก ซึ่งนอกจากจะสามารถควบคุมระบบต่าง ๆ ในแบบเดิมแล้ว ระบบสัมผัสแบบใหม่นี้ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเลือกสั่งการและควบคุมจากการสัมผัสหน้าจอได้เช่นกัน นอกจากนี้ ระบบ iDrive ยังรองรับการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ หรือ BMW Gesture Control ที่ใช้เซ็นเซอร์ 3 มิติจับการเคลื่อนไหวเพื่อรับคำสั่งสำหรับระบบควบคุมความบันเทิงและการสื่อสาร มอบความสะดวกสบายสูงสุดทั้งในการปรับระดับเสียง การรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้าโทรศัพท์ เป็นต้น
          นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู 740Li โฉมใหม่ ยังมาพร้อมกับระบบควบคุมแบบมัลติฟังก์ชันอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู ทัช คอมมานด์ (BMW Touch Command) นวัตกรรมล่าสุดที่ให้คุณใช้อุปกรณ์แท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วควบคุมสั่งการรถได้จากทั้งภายในและนอกตัวรถ โดยรองรับทั้งการปรับที่นั่ง แสงไฟภายในตัวรถ การปรับอุณหภูมิ และระบบความบันเทิง นำทาง และการสื่อสาร
          ห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู 740Li โฉมใหม่ มีบรรยากาศที่หรูหราด้วยการออกแบบแสงไฟอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะไฟ Welcome Light Carpet ที่ให้ความรู้สึกเอ็กซ์คลูซีฟด้วยเส้นนำสายตารอบตัวรถประหนึ่งการปูพรมต้อนรับ ขณะที่อีกหนึ่งฟีเจอร์พิเศษอย่างไฟ Ambient Light ก็ช่วยสร้างบรรยากาศ เสริมความหรูหราให้กับห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี
          บีเอ็มดับเบิลยู 740Li โฉมใหม่ ยังมาพร้อมกับหลังคากระจกแบบ Sky Lounge Panorama ช่วยสร้างบรรยากาศเสมือนท้องฟ้าที่ประดับประดาไปด้วยดวงดาวหลากสี ด้วยชุดไฟแอลอีดีที่ส่องสว่างลงบนผิวกระจกในยามค่ำคืนจนเกิดเป็นประกายระยิบระยับ เป็นอีกหนึ่งความพิเศษเหนือระดับรถยนต์ซีดานหรูในเซ็กเมนต์เดียวกัน
          อีกฟีเจอร์ใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยู 740Li ที่แตกต่างจากรถยนต์ซีดานในเซ็กเมนต์เดียวกันคือ บีเอ็มดับเบิลยู เลเซอร์ไลท์ (BMW Laserlight) ซึ่งคล้ายกับที่ใช้ในบีเอ็มดับเบิลยู i8 ด้วยเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู เซเลคทีฟ บีม (BMW Selective Beam) ช่วยลดความพร่ามัวและเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเพิ่มเติมจากไฟแอลอีดีในรุ่นมาตรฐาน ไฟหน้าแบบเลเซอร์นี้มีแสงสีขาวและให้ความสว่างได้ในระยะ 600 เมตร สำหรับไฟสูง ซึ่งเป็นระยะที่ไกลกว่าความสว่างจากไฟหน้าแบบแอลอีดีถึงสองเท่าและให้ความเข้มของแสงมากกว่าไฟหน้าแบบแอลอีดีถึงสี่เท่า
          บีเอ็มดับเบิลยู 740Li โฉมใหม่มาพร้อมกับทุกองค์ประกอบเพื่อสร้างความแม่นยำ การเคลื่อนไหวในการขับขี่อย่างมั่นคงและ สอดประสานอย่างกลมกลืน ช่วงล่างแบบถุงลมซึ่งทำงานด้วยการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อัดลมเข้าไปเก็บในถังลม ทำให้สามารถรักษาระดับของรถไว้ได้ แม้ในเวลาที่เครื่องยนต์หยุดทำงาน ระดับความสูงของรถจะถูกปรับให้คงที่อยู่เสมอไม่ว่าจะมีน้ำหนักบรรทุกเท่าไหร่ก็ตาม และเนื่องจากในแต่ละล้อมีตัวจ่ายลมที่ทำงานอย่างเป็นอิสระ จึงสามารถปรับระดับของรถให้เสถียรได้ แม้ว่าน้ำหนักในการบรรทุกของล้อแต่ละข้างจะไม่เท่ากัน
          บีเอ็มดับเบิลยู 740Li โฉมใหม่นี้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รุ่นล่าสุดของบีเอ็มดับเบิลยู ด้วยปริมาตรกระบอกสูบขนาด 3 ลิตร ซึ่งใช้เทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 240 กิโลวัตต์/326 แรงม้า ที่ 5,500 ถึง 6,500 รอบต่อนาที อัตราเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 5.6 วินาที อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 14.3 กิโลเมตรต่อลิตร และมีอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 166 กรัมต่อกิโลเมตร

          บีเอ็มดับเบิลยู X5 eDrive โฉมใหม่ พร้อมเทคโนโลยี ปลั๊กอิน ไฮบริด
          บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e เป็นรถยนต์ ปลั๊กอิน ไฮบริด รุ่นแรกในกลุ่มซีรี่ส์หลักที่บีเอ็มดับเบิลยูนำมาทำตลาด โดยครบเครื่องด้วยประโยชน์ใช้สอยและความหรูหราในแบบรถยนต์ SAV เกาะถนนเป็นเลิศด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ BMW xDrive ทั้งยังประหยัดน้ำมันอย่างเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics eDrive
          เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรของบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e สามารถคว้ารางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี International Engine of the Year มาครองได้ถึงสามสมัย ด้วยสมรรถนะที่โดดเด่นจากเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบTwinScroll ระบบหัวฉีดน้ำมันที่มีความแม่นยำสูง และระบบ VALVETRONIC ซึ่งทำให้เครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นขุมพลังเบนซิน 4 สูบที่ทรงพลังที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู ส่งกำลังสูงสุดที่ 180 กิโลวัตต์/245 แรงม้า พร้อมแรงบิด 350 นิวตันเมตร (258 ปอนด์-ฟุต) สู่ล้อรถได้อย่างราบรื่นในทุกรอบเครื่อง
          ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าก็มอบกำลังเพิ่มเติมสูงสุดอีก 83 กิโลวัตต์/113 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร (184 ปอนด์-ฟุต) ที่พร้อมตอบสนองในเสี้ยววินาทีตามสไตล์ระบบส่งกำลังไฟฟ้า ทำงานประสานกับเครื่องยนต์หลักเพื่อให้คุณขับขี่ได้สนุก ทันใจ เร่งความเร็วได้โดยไม่ต้องรอ บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 6.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยสามารถเลือกขับขี่โดยใช้พลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ที่ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
          เมื่อใช้งานร่วมกัน เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าชุดนี้จะมอบกำลังสูงถึง 230 กิโลวัตต์/313 แรงม้า ให้คุณเร่งความเร็วได้อย่างใจนึก ทั้งยังประหยัดน้ำมันด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 31.3 กิโลเมตรต่อลิตรและลดระดับมลภาวะในการขับขี่กับอัตราการปล่อย CO2 ที่ 76 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น
          เทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด ในบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e สามารถนำสมรรถนะของมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และยังสามารถขับขี่ในตัวเมืองได้โดยไม่ปล่อยมลภาวะออกจากท่อไอเสียเลย แบตเตอรี่ของรถมีความจุ 9 กิโลวัตต์ชั่วโมง และสามารถชาร์จได้กับปลั๊กไฟบ้านทั่วไป โดยมีช่องเก็บสายชาร์จอยู่ใต้พื้นที่เก็บของ
          เมื่อแบตเตอรี่หมด สามารถชาร์จด้วยไฟบ้านให้เต็มได้โดยใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง 50 นาที หรือเลือกเสริมประสิทธิภาพการชาร์จด้วยอุปกรณ์ บีเอ็มดับเบิลยู ไอ วอลล์บ็อกซ์ เพียว (BMW i Wallbox Pure) จาก BMW 360° ELECTRIC ที่ทั้งปลอดภัย ใช้งานง่าย และรวดเร็วด้วยกำลังไฟถึง 3.5 กิโลวัตต์ (16 แอมป์/230 โวล์ท) จึงสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง 45 นาที

          บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ใหม่
          บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ใหม่ โดดเด่นด้วยงานออกแบบที่เฉียบคมในทุกรายละเอียด ด้วยชุดกันชนหน้าที่มีช่องระบายอากาศดีไซน์ใหม่ เน้นย้ำถึงความกว้างของตัวรถ เช่นเดียวกับชุดกันชนหลังและไฟท้ายแอลอีดีที่ช่วยเสริมมาดความสปอร์ตของตัวรถ ส่วนไฟหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟแอลอีดีเพื่อการขับขี่ในเวลากลางวัน ก็ช่วยให้รถดูโฉบเฉี่ยวสะดุดตายิ่งขึ้น
          เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบรุ่นใหม่ล่าสุดของบีเอ็มดับเบิลยู ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในรุ่น บีเอ็มดับเบิลยู 320i 320i Luxury และ 320i Sport ประหยัดน้ำมันด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 16.1 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 146 กรัมต่อกิโลเมตร ทั้งยังเปี่ยมสมรรถนะกับกำลังสูงสุด 184 แรงม้าที่ 5,000-6,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตรที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที จึงเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 7.3 วินาที
          บีเอ็มดับเบิลยู 330i M Sport พร้อมต่อยอดความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู 328i ด้วยเครื่องยนต์ที่มอบพลังสูงสุด 185 กิโลวัตต์/252 แรงม้าที่ 5,200-6,500 รอบต่อนาที ทำงานประสานกับเกียร์ 8 สปีด Steptronic ให้คุณเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 5.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุดถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 15.9 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 147 กรัมต่อกิโลเมตร สำหรับชุดอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นนี้ มีทั้งชุดแต่ง M Aerodynamic พวงมาลัยหนังแท้สไตล์ M ขอบประตูแบบ M แต่งโลโก้ M ด้านข้าง และล้อแม็กอัลลอย M น้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้วสีเทา Ferric Grey metallic
          ส่วนในรุ่นดีเซล บีเอ็มดับเบิลยู 320d Luxury และ 320d Sport มาพร้อมกับขุมพลังระดับ 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที ที่ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 27 กิโลเมตรต่อลิตร พร้อมอัตราการปล่อย CO2 เพียง 99 กรัมต่อกิโลเมตร
          ระบบเกียร์ 8 สปีด Steptronic ใหม่ มีส่วนช่วยลดอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 ด้วยประสิทธิภาพ อัตราการทดเกียร์ที่กว้างขึ้น และตัวแปลงแรงบิดที่สูญเสียกำลังน้อยลงในขณะเปลี่ยนเกียร์ ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ลงได้ราว 3 เปอร์เซ็นต์ และสำหรับรุ่น 320i Sport 320d Sport และ 330i M Sport มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 สปีด พร้อมก้านเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 09:15:01 AM
          บีเอ็มดับเบิลยู 118i Sport และ 118i M Sport พร้อมขุมพลังใหม่
          บีเอ็มดับเบิลยู 118i รุ่นล่าสุดนี้ พัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้า ด้วยขุมพลังใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี EfficientDynamics เป็นคุณสมบัติมาตรฐาน พร้อมด้วยการปรับแต่งรายละเอียดด้านดีไซน์มากมายทั้งภายในและภายนอกรถ โดยเพิ่มชุดอุปกรณ์ในรุ่นมาตรฐาน ควบคู่ไปกับออปชั่นใหม่ที่หลากหลาย เสริมทั้งประโยชน์ใช้สอยและรูปลักษณ์ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
          บีเอ็มดับเบิลยู 118i M Sport มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เทคโนโลยี บีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้าที่ 4,500-6,000 รอบต่อวินาที จึงเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 8.7 วินาที ทั้งยังใช้เชื้อเพลิงคุ้มค่าด้วยอัตราการเผาผลาญน้ำมัน 20.0 กิโลเมตรต่อลิตร และมีระดับการปล่อยก๊าซ CO2 เพียง 118 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู 118i M Sport นั้น มาพร้อมชุดตกแต่งพิเศษ M Sport ที่มีทั้งล้ออัลลอย M Sport ขนาด 18 นิ้ว สีเทา Ferric Grey metallic แถบตกแต่งคอนโซลอลูมิเนียมลาย Hexagon ชุดแต่ง M Aerodynamic พร้อมด้วยเส้นสายขอบหน้าต่างสีดำเงาแบบ M และพวงมาลัยหุ้มหนังแท้แบบ M Sport

          บีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport
          บีเอ็มดับเบิลยู 520d พร้อมให้คุณยกระดับสมรรถนะไปอีกขั้นด้วยชุดแต่ง M Sport ที่มีทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ บีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 7.7 วินาที โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 ที่ 137 กรัมต่อกิโลเมตร
          บีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.5 นิ้วสำหรับควบคุมระบบต่าง ๆ ในตัวรถได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมด้วยระบบ BMW Comfort Access ที่ให้คุณเปิดประตูรถได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสเมื่อมีกุญแจติดตัว พร้อมไฟตัดหมอกแอลอีดี โดยตัวรถมาพร้อมกับชุดแต่ง M Aerodynamic พวงมาลัยหนังแท้สไตล์ M ขอบประตูแบบ M เพดานห้องโดยสารสีดำแอนทราไซต์จาก BMW Individual แต่งโลโก้ M ด้านข้าง และล้อแม็กอัลลอย M น้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว

          บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ปรับราคาใหม่
          บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport คือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างฟีเจอร์เด่นของยนตรกรรมบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล X พร้อมกับความสง่างามปราดเปรียวของดีไซน์แบบคูเป้สุดคลาสสิก ชุดแต่ง M Sport มอบความโฉบเฉี่ยวทั้งภายนอกและภายในให้กับบีเอ็มดับเบิลยู X4 ด้วยชุดแต่ง M Aerodynamic รวมถึงเส้นสาย High-gloss Shadow Line ของดีไซน์ภายนอก และล้ออัลลอยน้ำหนักเบาพิเศษแบบ M Sport ขนาด 19 นิ้ว มอบภาพลักษณ์ดีไซน์สปอร์ตควบคู่ไปกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ xDrive ที่เพิ่มความสนุกสนานยามขับขี่ พร้อมใส่ใจการดีไซน์ในทุกรายละเอียดด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มด้วยหนังแท้สไตล์สปอร์ตแบบ M เบาะนั่งแบบสปอร์ต และการตกแต่งภายในด้วยวัสดุอลูมิเนียม บรัช มอบความรู้สึกสไตล์สปอร์ตอย่างสมบูรณ์แบบ
          บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังดีเซล 2.0 ลิตร เทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมทั้งบล๊อก มอบกำลัง 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที โดยมีแรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตันเมตร ส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport พุ่งทะยานจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8 วินาที ทั้งยังมาพร้อมกับชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่มอบประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงถึง 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร โดยมีอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 เพียง 149 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น
บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport เป็นรถยนต์รุ่นล่าสุดที่ประกอบขึ้นในประเทศไทยที่โรงงานของ
          บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย จังหวัดระยอง โดยผู้สนใจสามารถจับจองได้ที่ราคา 3,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)

          ออปชั่นชุดแต่งพิเศษ : บีเอ็มดับเบิลยู M Performance
          บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 1
          บีเอ็มดับเบิลยู 118i สปอร์ต ได้สะท้อนความเป็นหนึ่งผ่านดีไซน์สปอร์ตใหม่ ของชุดแต่ง M Aerodynamic Kits ตะแกรงคู่หน้าสีดำ สปอยเลอร์ฝากระโปรงหลังและแผ่นเบี่ยงทางลมกระจกบังลมหลังสีดำ ฝาครอบกระจกมองข้างแบบคาร์บอน สติกเกอร์ M Performance และชุดเบรกคู่หน้าและคู่หลังซึ่งมีสีให้เลือกทั้ง แดง เหลือง และส้ม ข้อเสนอพิเศษเฉพาะในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ในราคา 226,290 บาท (จากราคาปกติ 338,428 บาท)
          บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 4
          เพิ่มลุคสปอร์ตพร้อมสมรรถนะอีกขั้นด้วยชุดแต่งพิเศษแบบสปอร์ตสำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู 420i Coupe M Sport ด้วยชุดแต่ง M Performance ประกอบด้วย ชุดแต่ง M Aerodynamic Kits, แผงดักอากาศใต้กันชนหน้าแบบสปอร์ต Front splitter, สปอยเลอร์ฝากระโปรงหลังและฝาครอบกระจกมองข้างแบบคาร์บอน, ตะแกรงคู่หน้าสีดำ, แผ่นปิดใต้กันชนหลังแบบสปอร์ต rear diffuser, ฝาครอบบันไดแบบ M และสติกเกอร์ M Performance นอกจากนี้ยังเสริมความปราดเปรียวด้วยสติกเกอร์คาดลายดำ-เงิน ตัวรถยังดูภูมิฐานขึ้นด้วยล้ออัลลอยแบบสปอร์ตพร้อมยางขนาดใหญ่ M Double Spoke 624 20" เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยชุดเบรกคู่หน้าและคู่หลังซึ่งมีสีให้เลือกทั้ง แดง เหลือง และส้ม ภายในรถยังมีชุดแต่งหน้ารถแบบคาร์บอน alcantara แพคเกจนี้นำเสนอในราคาพิเศษเพียง 468,650 บาท เฉพาะในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 (ราคาปกติอยู่ที่ 719,167 บาท)

          ท่านสามารถเยี่ยมชมบูท BMW M Performance accessories เพื่อรับข้อเสนอพิเศษอื่นๆ สำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 และบีเอ็มดับเบิลยู X5 และพบกับชิ้นส่วนชุดแต่ง M Performance อื่นๆ อาทิ ปลายท่อไอเสียแบบท่อคู่ แผ่นปิดแป้นคันเร่งและที่พักเท้า และชุดล้ออัลลอยแบบพิเศษ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ http://www.bmw.co.th/motorexpo2015#ct-tab3

          บีเอ็มดับเบิลยู
          บีเอ็มดับเบิลยู 740Li Pure Excellence โฉมใหม่: เริ่มต้นที่ 6,999,000 บาท
          บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e M Sport โฉมใหม่: 5,399,000 บาท
          บีเอ็มดับเบิลยู 320i ใหม่: 2,399,000 บาท
          บีเอ็มดับเบิลยู 320i Luxury/Sport ใหม่: 2,699,000 บาท
          บีเอ็มดับเบิลยู 320d Luxury/Sport ใหม่: 2,799,000 บาท
          บีเอ็มดับเบิลยู BMW 330i M Sport ใหม่: 3,099,000 บาท
          บีเอ็มดับเบิลยู 118i Sport: 1,899,000 บาท
          บีเอ็มดับเบิลยู 118i M Sport: 2,099,000 บาท
          บีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport: 3,599,000 บาท
          บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport: 3,999,000 บาท

          ข้อเสนอพิเศษในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015**
          ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูจะได้พบกับความคุ้มค่าสูงสุดด้วยข้อเสนอพิเศษในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ดังนี้
          - ดาวน์โดยไม่ต้องใช้เงินก้อน สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 และ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 ทุกรุ่น
          - ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง หนึ่งปีเต็ม สำหรับบีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่น ยกเว้นบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3, บีเอ็มดับเบิลยู X4 และบีเอ็มดับเบิลยู X1
          - ขยายระยะเวลาโปรแกรมบำรุงรักษา BMW Service Inclusive (BSI) เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งปี ให้ครอบคลุมการดูแลและบำรุงรักษารถรวมสูงสุด 6 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู X1 เท่านั้น
          * ข้อเสนอพิเศษจาก บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส เท่านั้น โดยบีเอ็มดับเบิลยู ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขและรายละเอียดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า
          ** ข้อเสนอสำหรับลูกค้าที่สั่งจองรถยนต์รุ่นดังกล่าวภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 เท่านั้น
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 09:16:09 AM
BMW presents the sporty heart of premium: the all-new BMW 7 Series, the all-new BMW X5 eDrive with plug-in hybrid technology, the new BMW 3 Series and Asian Premier of the BMW G 310 R motorcycle make their debut at Motor Expo 2015

           BMW presents the sporty heart of premium: the all-new BMW 7 Series, the all-new BMW X5 eDrive with plug-in hybrid technology, the new BMW 3 Series, the all-new MINI Clubman, MINI John Cooper Works, MINI Countryman Park Lane and Asian Premier of the BMW G 310 R motorcycle make their debut at Motor Expo 2015
          - The all-new BMW 7 Series with innovative touch display, BMW gesture control and BMW Touch Command featuring 7-inch tablet computer
          - Permanent all-wheel drive and the BMW EfficientDynamics eDrive technology endow the all-new BMW X5 eDrive with sensational sportiness
          - The all-new MINI Clubman offers highest level of everyday practicality, long-distance capability, versatility and ride comfort ever seen in a MINI.
          - Asian premier of the new BMW G 310 R motorcycle is the first BMW roadster under 500 cc. with liquid-cooled single-cylinder engine









          BMW Group Thailand reinforces its leadership position in premium automobile innovation by introducing a glittering selection of BMW, MINI and BMW Motorrad at Motor Expo 2015. The exciting lineup includes the all-new BMW 7 Series, the all-new BMW X5 eDrive with plug-in hybrid technology, the new BMW 3 Series, the BMW 1 Series with engine update, the BMW 520d M Sport and the BMW X4 xDrive20d M Sport with new price. In the mean time, the MINI booth will present the ASEAN premier of the all-new MINI Clubman, the all-new MINI John Cooper Works and the new MINI Countryman Park Lane. For the BMW Motorrad, the BMW G 310 R will be presented for the first time in Asia to bring racing spirit to BMW Motorrad world. The best deals and promotions will be available at Motor Expo 2015, which is being held during 2-13 December 2015 at IMPACT Challenger, Muang Thong Thani.

          The all-new BMW 7 Series
          Flagship model with innovative touch display, BMW gesture control and BMW Touch Command featuring 7-inch tablet computer
          The all-new BMW 740Li's iDrive operating system is controlled by a touch display, allowing users to operate the system in the same way as modern electronic devices. In addition to using the Controller to operate the system in familiar style, its functions can also be selected and activated by touching the screen's surface.The iDrive system's functionality is further enhanced by new BMW gesture control. Hand movements detected by a 3D sensor control infotainment functions in an extremely intuitive and user-friendly fashion. Gestures can be used for a number of functions, including controlling the volume in audio applications and accepting or rejecting incoming telephone calls.
          In addition, an innovative new multifunctional control unit is being offered for the all-new BMW 740Li in the form of BMW Touch Command. This removable tablet with a screen diagonal of 7 inches can be used from any seat and even outside the vehicle. It allows passengers to control comfort functions such as seat adjustment, interior lighting and air conditioning, as well as
infotainment, navigation and communication systems.
          The exclusive ambience inside the all-new BMW 740Li is further enhanced by a precisely arranged lighting design. The Ambient light now includes the Welcome Light Carpet, which provides eye-catching illumination of the area around the car doors. Another unique feature is the Ambient highlight, which bathes the rear compartment with atmospheric light.
          The all-new BMW 740Li is available with the Sky Lounge Panorama glass roof, which is likewise one-of-a-kind in the luxury sedan segment. At night-time, light emitted from side-mounted LED modules is directed evenly onto the glass surface, illuminating an atmospheric motif mimicking a starry sky.
Similarly unique in the luxury sedan segment is BMW Laserlight, another groundbreaking feature first developed for the BMW i8. Thanks to BMW Selective Beam, this dazzle-free headlight option can be specified for the all-new BMW 740Li as an optional package to the standard full-LED headlights. The laser headlights generate a particularly bright, pure white light as well as providing a high-beam range of 600 meters, double that of LED headlights.
          The all-new BMW 740Li comes with all the right ingredients for precise, assured and harmonious handling characteristics. The suspension is supplied with air by an electrically powered compressor with pressure reservoir. This means that even when the engine is switched off, the height of the vehicle body is maintained regardless of the load being carried. And because the air supply is controlled individually for each wheel, it is even possible to compensate for an unevenly distributed load.
          The all-new BMW 740Li is available with an extensively updated six-cylinder in-line variant of the BMW Group's latest generation of power units. With the 3.0 litre BMW TwinPower Turbo, output is 240 kW/326 hp at 5,500–6,500 rpm. Acceleration from 0–100 km/h can be achieved in 5.6 seconds. Average fuel consumption is 14.3 km/l with CO2 emissions at 166 g/km.

          The all-new BMW X5 eDrive with plug-in hybrid technology
          The BMW X5 xDrive40e is the first plug-in hybrid production car from the BMW core brand. It expertly combines the versatility and luxurious ambience of a large SAV model with the superb traction offered by the BMW xDrive intelligent all-wheel-drive system as well as BMW EfficientDynamics eDrive technology for exemplary efficiency.
          The 2.0-litre internal combustion engine fitted in the BMW X5 xDrive40e has already won the coveted title of "International Engine of the Year" three times and features a TwinScroll turbocharger, High Precision Injection and VALVETRONIC. The most powerful four-cylinder petrol unit in the BMW Group's engine portfolio stands out for its eager power delivery, delightfully free-revving performance and highly refined running characteristics. It generates a maximum output of 180 kW/245 hp and 350 Newton metres (258 lb-ft) of peak torque.
          The electric motor puts an output of 83 kW/113 hp on tap, while its maximum torque of 250 Newton metres (184 lb-ft) is available from the word go in typical electric drive fashion. This has the effect of boosting the engine's output for thrilling, instantaneous responsiveness and power build-up with absolutely no delay when accelerating from stationary.The BMW X5 xDrive40e completes the 0 to 100 km/h sprint in just 6.8 seconds and has an electronically limited top speed of 210 km/h. In all-electric drive mode, meanwhile, the vehicle is capable of a top speed of 120 km/h, again electronically limited.
          The intelligently controlled interaction between the combustion engine and the electric drive, which together generate a system output of 230 kW/313 hp, endows the BMW X5 xDrive40e with exceptionally dynamic acceleration while also substantially cutting fuel consumption and emissions in everyday driving. It returns a combined fuel consumption of 31.3 km/l and CO2 emissions at 76 g/km.
          The plug-in hybrid design of the BMW X5 xDrive40e provides the ideal basis for extensive use of the electric drive system for highly efficient mobility, even including urban driving with zero tailpipe emissions. Its high-voltage battery offers a gross energy capacity of 9.0 kilowatt hours (kWh) and can be topped up with energy from any domestic power socket. The standard charging cable can be kept in a compartment underneath the luggage compartment floor.
          When hooked up to a conventional domestic power socket the high-voltage battery can be fully recharged from flat in around 3 hours and 50 minutes. A tailor-made solution for safe, simple and extra-fast battery charging at home is available for the BMW X5 xDrive40e under the umbrella of BMW 360° ELECTRIC. The BMW i Wallbox Pure is capable of replenishing the high-voltage battery at a charging rate of 3.5 kW (16 A/230 V). As a result, it takes 2 hours and 45 minutes to fully recharge an empty battery pack.

          The new BMW 3 Series
          The design of the new BMW 3 Series stands out with even greater precision and various detail improvements. At the front end, new aprons with revised air intakes accentuate the feeling of width, while the sculptural rear apron design, including a Line-specific trim element, and standard LED rear lights likewise emphasize the car's width and thus its sporting appearance. An innovative lighting concept, featuring newly designed headlights and striking LED daytime driving lights, underlines the
car's sporty and powerful visual appeal.
          Also celebrating its world premiere in the new BMW 320i, BMW 320i Luxury and BMW 320i Sport is a new 2.0-litre four-cylinder in-line unit. The new 2.0-litre petrol engine offers combined fuel consumption of 16.1 km/l and combined CO2 emissions of 146 g/km. The delivers a maximum power output of 184 hp, which is reached between 5,000 and 6,500 rpm. Peak torque of 270 Nm is generated between 1,350 rpm and 4,600 rpm. It sprints from 0 to 100 km/h in 7.3 seconds.
          The successor to the previous BMW 328i is the new BMW 330i M Sport with 185 kW/252 hp between 5,200 and 6,500 rpm. This gives the new BMW 330i M Sport with 8-speed Steptronic transmission a 0 – 100 km/h sprint time of 5.8 seconds and a top speed of 250 km/h. It offers combined fuel consumption of 15.9 km/l and combined CO2 emissions of 147 g/km. Standard equipment of the BMW 330i M Sport includes M aerodynamics package, M leather steering wheel, M door sill finishers, M lettering on side panel and 18 inch M light alloy wheel in Ferric Grey metallic.
          For the BMW 3 Series with diesel engine, the BMW 320d Luxury and BMW 320d Sport provide the output of 190 hp at 4,000 rpm. Combined fuel consumption can be achieved at 27.0 km/l and combined CO2 emissions is only 99 g/km.
          The new eight-speed Steptronic transmission plays an important part in reducing CO2 emissions. Its improved efficiency, wider gear spread and reduced torque converter slip during gear shifts reduce
CO2 emissions by 3%. For even greater driving pleasure, the eight-speed Steptronic Sport transmission is available with steering wheel paddle shifters in the new BMW 320i Sport, BMW 320d Sport and BMW 330i M Sport.
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 09:16:26 AM
BMW 118i Sport and BMW 118i M Sport with engine update
          This latest incarnation builds on the winning formula of its predecessors with the latest BMW engine family, additional EfficientDynamics technologies fitted as standard, and careful enhancements to the exterior and interior design. The level of standard equipment is now even higher, new options have been added with even more ways to increase the functionality and personalization.
          The BMW 118i Sport and BMW 118i M Sport have the engine updated to a 1.5-litre BMW TwinPower Turbo three-cylinder petrol engine, developing 136hp between 4,500-6,000 rpm and offering acceleration as low as 8.7 seconds from 0-100 km/hr and with improved fuel consumption and CO2 emissions of 20.0 km/l and 118 g/km. For the BMW 118i M Sport, the generous range of M Sport package comes with 18-inch M Sport alloy wheels in Ferric Grey metallic as standard, Aluminium Hexagon interior trim, M Aerodynamic body styling, M Individual high-gloss Shadow Line, and an M Sport leather steering wheel.

          BMW 520d M Sport
          The BMW 520d is now offered with the M Sport package to bring driving performance a step ahead. With the BMW TwinPower Turbo four-cylinder diesel engine, it creates output of 190 hp at 4,000 rpm and 0-100 km/h acceleration within 7.7 seconds. At the same time, it offers superior fuel consumption of 19.2 km/l and combined CO2 emissions of 137 g/km.
          The BMW 520d M Sport is equipped with 6.5 inch control display, comfort access function and LED fog light. Standard equipment of the BMW 520d M Sport includes M aerodynamics package, M leather steering wheel, M door sill finishers, BMW Individual headliner anthracite, M emblem on side panel and 18 inch M light alloy wheel double spoke.

          BMW X4 xDrive20d M Sport with new price
          The BMW X4 xDrive20d M Sport combines the hallmark features of the BMW X family with the sporting elegance of a classical coupe. The M Sport model offers even greater dynamics and visually boosts the BMW X4's sporting appeal. The M Aerodynamic bodystyling, High-Gloss Shadow Line trim exterior trim and exclusive 19-inch M Sport light-alloy wheels lend the BMW X4 an even more sporty appearance, while the xDrive system enhances the ride. BMW M leather steering wheel, Sport seats and an Aluminium Brushed trim add the finishing touches.
          The BMW X4 xDrive20d M Sport is powered by BMW TwinPower Turbo 2.0-litre diesel engine with all-aluminium construction. This power unit develops 190hp at 4,000rpm with a peak torque of 400Nm. As a result, the BMW X4 xDrive20d requires just 8.0 seconds to sprint from zero to100 km/h. The BMW X4 xDrive20d comes with the eight-speed automatic transmission as standard which brings fuel consumption down to 17.9 km/l and sets the CO2 emission at a mere 149 g/km.
          The BMW X4 xDrive20d M Sport is the latest locally assembled model from the BMW Group Manufacturing Thailand plant in Rayong, and it is now offered at 3,999,000 Baht (VAT incl.).

          Special dress up option : BMW M Performance package
          BMW 1 Series
          The BMW 118i sport is geared up to full racing character with M Aerodynamic kits, front grill, rear spoiler and fin in black matt, carbon mirror caps, door sills attached with M Performance lettering and the most high performance yet appealing of braking system in yellow (also available in red and orange). Special offer for the Motor Expo 2015 is 226,290 Baht. (Regular price for this package is 338,428 Baht.)

          BMW 4 Series
          Leave the most impression of speed and sport dynamic with the BMW 420i Coupe M Sport dressed up with BMW M Performance package consists of M Aerodynamic kits, carbon front splitter, rear spoiler and mirror caps, black grill, rear diffuser, cover entrance M and M Performance lettering and logo decorated on side skirts. Also the body line is highlighted with black/silver side stripes while the look is empowered with bigger size alloy wheel, the 20" M double spoke 624 which increase your secure driving with braking system in red (also available in yellow and orange). Last but not least is to add the carbon/alcantara trims for your car interior. This package is exclusively offered at only 468,650 Baht, during the Motor Expo 2015. (Regular price for this package is 719,167 Baht.)
          Visit BMW M Performance accessories booth for more special price of M Performance packages of BMW 3 series, 5 series and X5. You will discover many more of other M Performance parts including cover selector, exhaust, pedal cover and footrest and specially different models of complete alloy wheel sets. More details at http://www.bmw.co.th/motorexpo2015#ct-tab3

          BMW
          The all-new BMW 740Li Pure Excellence : Starts from 6,999,000 Baht
          The all-new BMW X5 xDrive40e M Sport: 5,399,000 Baht
          The new BMW 320i : 2,399,000 Baht
          The new BMW 320i Luxury/Sport : 2,699,000 Baht
          The new BMW 320d Luxury/Sport : 2,799,000 Baht
          The new BMW 330i M Sport : 3,099,000 Baht
          The BMW 118i Sport 1,899,000 Baht
          The BMW 118i M Sport : 2,099,000 Baht
          The BMW 520d M Sport : 3,599,000 Baht
          The BMW X4 xDrive20d M Sport : 3,999,000 Baht

          Special campaign offers at the Motor Expo 2015**
          Customers can enjoy the best deals at Motor Expo 2015 with the following offers :
          No lump sum down payment for BMW 3 Series and BMW 5 Series
          Free one-year first class insurance for all BMW models except the new BMW 3 Series, BMW X4 and BMW X1.
          BMW Service Inclusive (BSI) extension for one-year to cover the maintenance and warranty up to 6 years/ 120,000 km, exclusively for BMW X1.
          *Special offers as above are exclusively available from BMW Financial Services only. BMW Leasing (Thailand) reserves the right to change terms and conditions without prior notice.
          **This offer is valid for customers who place booking deposits on the aforementioned models during the Motor Expo 2015 event and have the car handed over within 31st December, 2015.
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 03:44:39 PM
แจม-สุทธิกัญญา ไทยเพ็ชร ฟิตลุยมอเตอร์เอ็กซ์โป



          สุทธิกัญญา ไทยเพ็ชร ผอ.ฝ่ายขายแห่งเล็กซ์ซัส กรุงเทพ ช่วงนี้ฟิตออกกำลังกายด้วยการวิ่งทุกวัน เตรียมพร้อมลุยงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ประเดิมนำรถเลกซัส RX200t ครอสโอเวอร์หรูที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ มาโชว์พร้อมเปิดจอง... งานนี้ต้องฟิตเพราะบอสแจมสแตนบายด์ต้อนรับลูกค้าด้วยตัวเอง พร้อมตอบคำถามทุกข้อข้องใจในเรื่องรถ พบกันบูธเลกซัส ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 2-13 ธันวาคมนี้ สอบถามเพิ่มเติมโทร 02-716-8999
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 03, 2015, 03:44:51 PM
บอสสกล ชีวมงคล เล็กซ์ซัส กรุงเทพ ส่ง RX200t ลุยมอเตอร์เอ็กซ์โป



          คึกคัก.....ทุกค่ายรถยนต์ต่างเตรียมนำรถรุ่นใหม่มาโชว์ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 งานนี้ดีลเลอร์เบอร์หนึ่งอย่าง เล็กซ์ซัส กรุงเทพ นำโดย สกล ชีวมงคล กรรมการผู้จัดการ ก็ไม่พลาดเตรียมส่ง Lexus RX200t ครอสโอเวอร์หรู เครื่องยนต์เทอร์โบ ล้ำสมัยทุกฟังก์ชั่น ฉีกกรอบความแรงเพื่อการขับขี่สุดเร้าใจ มาประชันโฉมพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะงานนี้ที่บูธเลกซัส ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี งานเดียวที่จะทำให้คุณสัมผัสความแรงเหนือระดับสไตล์เลกซัส สอบถามเพิ่มเติมโทร 02-716-8999
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 04, 2015, 09:07:34 AM
มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32

สถานที่: ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี

วันที่จัดกิจกรรม: 1 ธันวาคม 2558 - 13 ธันวาคม 2558 เวลา 12:00 น.

มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32

Date :01 December 2015 - 13 December 2015

Time :Several Showtime

Venue :Challenger 1-3

Type :Exhibition Public

งานแสดงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องยิ่งใหญ่ส่งท้ายปลายปี ภาพรวมการจัดงานปีนี้ยังคงเน้นมาตรฐานการจัดงานระดับสากล ภายใต้แนวคิด มาตรฐานใหม่ ยานยนต์ไทยใส่ใจโลก ซึ่งใช้พื้นที่จัดงานรวมทั้งสิ้น 80,000 ตารางเมตร สำหรับจัดแสดงรถยนต์ จักรยานยนต์ เครื่องเสียงรวมถึงจัดกิจกรรมอื่นๆ มากมาย

วันผู้สื่อข่าว วันที่ 1 ธันวาคม 2558
พิธีเปิดงาน และวันการกุศล วันที่ 2 ธันวาคม 2558
วันจัดแสดงสำหรับบุคคลทั่วไป วันที่ 3-13 ธันวาคม 2558
จ.-ศ. เปิดเวลา 12.00-22.00 น.
ส.-อา. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 11.00-22.00 น.
บัตรเข้าชมงาน: 100 บาท

Contact Event Organizer
บริษัท สื่อสากล จำกัด
โทร. 0 2642 8444
เว็บไซต์: www.autoinfo.co.th
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 04, 2015, 09:08:59 AM
โครงการ “ขับเป็น..ขับปลอดภัย กับสื่อสากล” เปิดอบรมทักษะขับขี่ปลอดภัยรอบพิเศษ!!



          โครงการ "ขับเป็น..ขับปลอดภัย กับสื่อสากล" ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ด้วยการจัดอบรม เสริมสร้างทักษะการขับขี่และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในสถานการณ์ฉุกเฉินให้บุคคลทั่วไปรอบพิเศษในงาน "มหกรรมยานยนต์" ด่วน!!! รับจำนวนจำกัด

          ชไมพร ปภัสร์พงษ์ ผู้อำนวยการ โครงการ "ขับเป็น..ขับปลอดภัย กับสื่อสากล" (Skill Driving Experience) เปิดเผยว่า "โครงการฯ ประสบความสำเร็จในการปลูกฝังทักษะการขับรถที่ถูกต้อง ปลอดภัยให้แก่นิสิต นักศึกษามาตลอดระยะเวลา 3 ปี ซึ่งปีนี้เราเล็งเห็นความสำคัญของการเสริมทักษะการขับขี่ ที่จะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างจริงจังมากขึ้น จึงเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้สมัครเข้าอบรมทักษะขับขี่ปลอดภัยรอบพิเศษขึ้น ภายในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32"

          "ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับความรู้ ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ อาทิ ท่านั่งและวิธีจับพวงมาลัยที่ถูกต้อง การเบรคฉุกเฉิน การขับรถหักหลบสิ่งกีดขวางกะทันหัน การเปลี่ยนเลนกะทันหัน การแก้ไขอาการรถดื้อโค้ง (Under-steering) ด้วยเทคนิคการสอนที่เข้าใจง่ายจากวิทยากรมืออาชีพผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ และเมื่ออบรมจบหลักสูตรผู้เข้าอบรมจะได้รับประกาศนียบัตรของโครงการฯ"

          นอกจากนี้ ผู้อำนวยการโครงการยังเผยด้วยว่า โครงการฯ ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากพันธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สิงห์ คอร์ปอเรชั่น กลุ่ม บริษัท ดีสโตน บริษัท ยูดริ้งค์ ไอไดรฟ์ จำกัด และ บริษัท ไดเร็ค เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด

          โครงการ "ขับเป็น...ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล" (Skill Driving Experience) เปิดอบรมทักษะขับขี่ปลอดภัยรอบพิเศษ!! ณ ลาน P9 ใกล้ทะเลสาบ อิมแพค เมืองทองธานี วันที่ 10 ธันวาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 9.00 - 16.00 น. ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและค่าใช้จ่ายในการสมัคร ได้ที่โทรศัพท์ 09-0962-2246 หรือ http://www.skilldriving-imc.com https://www.facebook.com/skilldriving และบูธโครงการ "ขับเป็น...ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล" ภายในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หน้าชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 04, 2015, 02:05:55 PM
สมโพธิ์ เสนอกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ในงาน Motor Expo



          บริษัท สมโพธิ์ เจแปน นิปปอนโคอะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล อินชัวรันซ์ โบรคเกอร์ จำกัด นำเสนอกรมธรรม์ประกันภัย "HONDA FINE" (ฮอนด้าไฟน์) เป็นการชดเชยผลประโยชน์จากอุบัติเหตุหรือการใช้รถยนต์ โดยมีจุดเด่นคือ จะคุ้มครองในส่วนที่กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจไม่ได้คุ้มครองให้ ได้แก่

          เงินชดเชยรายได้รายวัน กรณีรักษาตัวในโรงพยาบาลจากอุบัติเหตุ
          เงินชดเชยค่าเดินทางระหว่างรถยนต์เข้าอู่ซ่อมจากอุบัติเหตุ
          เงินชดเชยกรณีรถยนต์สูญหายหรือเสียหายสิ้นเชิงจากอุบัติเหตุ
          คุ้มครองทรัพย์สินของผู้เอาประกันที่อยู่ภายในรถยนต์
         
          โดยกรมธรรม์นี้จะเปิดตัวขายในงาน Motor Expo นี้เป็นต้นไป ที่บูธ Honda
          สอบถามรายละเอียดแผนประกันเพิ่มเติมได้ที่ ผู้แทนจำหน่าย Honda ทั่วประเทศ
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 04, 2015, 02:09:34 PM
โฉมใหม่!! GPX Racing จัดใหญ่ จัดหนัก จัดเต็ม ยกทัพสุดเซอร์ไพรส์ ในงาน Motor Expo 2015









          กลับมาอีกครั้ง! กับงานมหกรรมยานยนต์ส่งท้ายปีที่ใครหลายๆคนตั้งตารอคอย กับงาน Motor Expo 2015 งานนี้ ขอบอกเลยว่า GPX Racing ค่ายรถสัญชาติไทย คลื่นลูกใหม่ ที่กำลังเป็นที่น่าจับตามองอยู่ในขณะนี้ ไม่พลาดที่จะ ขนขบวนกองทัพรถดาวเด่นของค่าย มาให้ทุกคนได้ยลโฉมและได้สัมผัสตัวเป็นๆกันในงานอย่างแน่นอน!

          ในปีนี้ GPX Racing ยังคงขนโปรโมชั่นเด็ดๆ โดนๆ มาเอาใจลูกค้าอย่างเช่นเคย แถมยังจัดเตรียมความพิเศษ พร้อมเสิร์ฟกันมาอย่างคับคั่ง ตั้งแต่การดีไซส์บูธให้มีความสวยงาม และยิ่งใหญ่อลังการมากกว่าปีก่อนๆ โดยแบ่งพื้นที่จัดแสดงภายในบูธไว้ถึง 5 โซน สำหรับรถ 5 รุ่น ด้วยกัน เริ่มที่น้องเล็กของค่ายอย่าง WONWAN 110 มอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิคย้อนยุค ถูกออกแบบมาให้ขับขี่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ด้วยดีไซน์น่ารักๆ ที่มาพร้อมสีสันสดใส ทำให้คุณได้สัมผัสกับกลิ่นอายอันแสนหวาน ของวันวานไปกับเจ้าคันนี้!

          มาต่อกันที่อีกหนึ่งดาวเด่นระดับตำนานของ GPX อย่าง DP 125E Super Motard มอเตอร์ไซค์ดีไซน์สไตล์ โมตาร์ด ที่มาพร้อมล้อทางเรียบ และชุดของแต่ง CNC จาก X-Speed พิเศษของแต่งแบบจัดเต็ม Limited ถูกใจขาลุย สายวิบาก กับประสิทธิภาพเหนือชั้น รับประกันความอึด ถึก ทน

          เท่านั้นยังไม่พอ เพราะนอกจาก 2 รุ่นที่ได้กล่าวมาแล้ว งานนี้ยังจะได้พบกับการเปิดตัว Minor Change สองท็อปสตาร์ของค่าย GPX Racing อย่างเจ้า CR5 ที่อัพเครื่องยนต์จากรุ่นก่อน 150 cc ขึ้นมาเป็น 200 cc อีกทั้งยังเพิ่มสีเหลืองเข้ามาอีกหนึ่งสี มาพร้อมกับไฟ Daylight เท่โดดเด่นเหนือระดับ รับกับดีไซน์ลวดลายใหม่ เอาใจสายสปอร์ต ยกระดับความแรงด้วย Oil Cooler เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ให้เต็มสูบ และยกระดับความมั่นใจด้วยยางจากแบรนด์ชั้นนำ IRC สนนราคาเปิดตัวอยู่ที่ 59,800 บาท

          และอีกรุ่นที่ขาดไม่ได้ คงจะหนีไม่พ้น เจ้าปีศาจ DEMON – Dream Come True สุดฟินไปกับความเท่ แบบหยุดไม่อยู่ สำหรับเหล่าสาวกที่สอบถามกันเข้ามาว่างานนี้จะมีอะไรพิเศษๆ กับเจ้าปีศาจ DEMON 125 บ้างหรือไม่ บอกได้เลยว่า มาตามคาด! พบกับสีสันใหม่ อย่าง 'สีขาวมุก' ที่จะเนรมิตรให้เจ้า DEMON กลายเป็นปีศาจในร่างเทพบุตรสุดเร้าใจ จนทำให้คุณต้องหลงใหลไปกับบอดี้โดนๆ โดดเด่นด้วยแม็กทองห้าก้าน เสริมทัพเดิมด้วยยาง iRC WINGS และ โช๊ค yss มาตรฐานสากล เพิ่มความหรูด้วยโลโก้ แมททีเรียลเนื้อสีพิเศษ ตามมาด้วย Tank pad เรซิ่น ดีไซน์สุดสปอร์ต เรียกได้ว่า มาในโฉมใหม่ 2016 ที่ตอบโจทย์ดีไซน์อย่างลงตัว ในราคาที่ไม่ไกลเกินเอื้อม สนนราคาเปิดตัวอยู่ที่ 54,900 บาท

          ยังไม่หมดเพียงเท่านี้!!! เพราะ GPX Racing เตรียมเซอร์ไพรส์สุดพิเศษ! กับไฮไลการเปิดตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ในงานนี้โดยเฉพาะ กับ "LEGEND – Begin Again" รถรุ่นใหม่ ในดีไซน์สไตล์คาเฟ่เรเซอร์ กับเครื่องยนต์ 200 cc 4 จังหวะ ที่จะมาเขย่าวงการ ปลุกตำนานความเก๋าให้หวนกลับมาอีกครั้ง

          แล้วมาสัมผัสความเท่ด้วยตัวของคุณเองกันได้ ที่บูธ GPX Racing (G07) ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2558 นี้!…แล้วพบกัน!
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 06, 2015, 01:28:21 PM
ไดเร็คเอเชียสนับสนุนผู้ขับขี่ปลอดภัย มอบคูปองน้ำมัน 1,000 บาท ฟรี! ในงานไทยแลนด์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป วันที่ 2-13 ธันวาคม นี้ ณ อิมแพค เมืองทองธานี



          ไดเร็คเอเชีย ดอทคอม ขอเชิญผู้ขับขี่เยี่ยมชมบูธของบริษัทฯ ในงานไทยแลนด์ มอเตอร์ เอ็กโป ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 13 ธันวาคม 2558 เพื่อเช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ของคุณและรับใบเสนอราคาฟรี!

          ภายในงานฯ ไดเร็คเอเชีย ดอทคอม ฉลองครบรอบ 5 ปี ของกลุ่มบริษัทไดเร็คเอเชีย ดอทคอม ในภูมิภาคเอเชีย โดยการสนับสนุนผู้ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ "ขับเป็น ขับปลอดภัย กับสื่อสากล" พร้อมจัดโปรโมชั่นโดนใจสุดๆ สำหรับผู้ขับขี่ปลอดภัยที่ซื้อประกันภัยรถยนต์ภายในงานไทยแลนด์ มอเตอร์ เอ็กโป มูลค่า 9,900 บาทขึ้นไป จะได้รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 1,000 บาท ฟรี ให้กับผู้ขับขี่ปลอดภัยที่ซื้อประกันภัยรถยนต์ภายในงานเพื่อรับความคุ้มครองทันทีหรือจะทำประกันภัยรถยนต์ไว้ล่วงหน้าเพื่อรับความคุ้มครองในปี 2559 โดยไดเร็คเอเชีย ดอทคอม ได้เตรียมคูปองไว้ถึง 100,000 ใบเพื่อผู้ขับขี่ปลอดภัยในงานนี้เท่านั้น

          ผู้เยี่ยมชมสามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์หรือ "แชมป์" ของไดเร็คเอเชีย ดอทคอม ที่พร้อมให้ข้อมูลและคำแนะนำอย่างมืออาชีพและเป็นกันเองเกี่ยวกับวิธีการซื้อประกันรถยนต์โดยตรงด้วยตัวคุณเอง ที่ง่าย สะดวก ปลอดภัย และประหยัด พร้อมการันตีราคาดีที่สุดสำหรับผู้ขับขี่ปลอดภัย

          ห้ามพลาด! พบกับกิจกรรมสนุกสนานที่บูธของไดเร็คเอเชีย ดอทคอม และรับของที่ระลึกที่น่าประทับใจมากมาย อาทิ ม่านบังแดดสุดเก๋มูลค่า 399 บาท หรือ แฟลชไดรฟ์มูลค่า 399 บาท และอื่นๆ อีกมากมาย

          เกี่ยวกับ บริษัท ไดเร็ค เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด
          บริษัท ไดเร็ค เอเชีย(ประเทศไทย) จำกัด หรือ DirectAsia.com Thailandก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2556 เป็นบรัษัทในเครือ DirectAsia.com และ Hiscox Group เป็นบริษัทนายหน้าประกันภัยออนไลน์ที่ดำเนินธุรกิจภายใต้การควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยนำเสนอการซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่านระบบออนไลน์หรือโทรศัพท์ ที่โทร 0-2627-7777 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่อาคารเอเซีย เซ็นเตอร์ ชั้น 20 ถนนสาทรใต้ กรุงเทพมหานคร

          ข้อมูลเพิ่มเติม
          • www.DirectAsia.co.th
          • www.youtube.com/user/directasiathai
          • www.facebook.com/DirectAsiaThailand
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 08, 2015, 03:16:57 PM
ประกาศผลประกวด “นวัตกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 6” ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32”





          "ชุดแปลงจักรยานยนต์ไฮบริด" ของนักศึกษาลูกแม่โดมคว้ารางวัลชนะเลิศ ประกวดนวัตกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 6 พร้อมจัดแสดงร่วมกับผลงานที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในงาน MOTOR EXPO 2015

          ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" มอบรางวัลชนะเลิศ การประกวดนวัตกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 6 ประกอบด้วยโล่เกียรติยศ ประกาศนียบัตร และทุนการศึกษามูลค่า 40,000 บาท แก่ กฤษติน ยศวิปาน และชลิตา งามศรีวิเศษ นักศึกษาทีม "ชุดแปลงจักรยานยนต์ไฮบริด" (MOTORCYCLE HYBRID) จากสาขาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

          สำหรับผลงานทีม "ชุดแปลงจักรยานยนต์ไฮบริด" (MOTORCYCLE HYBRID) มีแนวคิดจากการที่ปัจจุบันมีผู้ใช้รถจักรยานยนต์จำนวนมาก เพราะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัด, หาที่จอดรถง่าย และประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับการขับรถยนต์ แต่อย่างไรก็ตาม จักรยานยนต์ซึ่งมีจำนวนกว่า 20 ล้านคันในประเทศไทย จะสร้างมลภาวะทั้งในรูปเสียง ความร้อน และไอเสีย ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว จึงนำหลักการของพลังงานไฮบริดมาใช้ โดยขณะจักรยานยนต์วิ่งด้วยความเร็วสูง จะใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อน หากมีการเบรคชลอตัว หรือขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำ จะสามารถเปลี่ยนไปใช้ระบบไฟฟ้าขับเคลื่อนแทนเครื่องยนต์ได้ นอกจากนั้นมหาวิทยาลัยจะเตรียมจุดจอดจักรยานยนต์ที่มีระบบชาร์จแบตเตอรีด้วยแสงอาทิตย์ไว้รองรับตามแนวคิด GREEN CAMPUS ด้วย

          ส่วนผลรางวัลต่างๆ มีดังนี้ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 - โล่เกียรติยศ, ประกาศนียบัตร และทุนการศึกษา 25,000 บาท ได้แก่ผลงาน "STABILIZE CHAIR" (เก้าอี้เสถียรภาพ) โดย ภัทรพล แสงอรุณ, เจตนิพิฐ อรุณรัตน์, ภัทรพงศ์ พงษ์ภัทรา, ภาธร เดชาวิจิตร, ศุภวัทน์ บุรีเทศน์และธีรภัทร สุจิตโต จากสาขาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

          รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 - โล่เกียรติยศ, ประกาศนียบัตร และทุนการศึกษา 10,000 บาทได้แก่ผลงาน "บอร์ดสบายกระเป๋า" JOSH BOARD โดย ภาณุวัฒน์ วณิชวิวัฒน์วงศ์, พิสิษฐ์ อินทรวิรัตน์ และพงศ์คณิต อุดมสินานนท์ จากสาขาไฟฟ้าเครื่องกลการผลิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

          โครงการประกวดนวัตกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 6 หรือ THE 6th MOTOR EXPO AUTOMOTIVE INNOVATION AWARD 2015 เวทีประลองความคิดของเยาวชนระดับอุดมศึกษา เชิญผู้สนใจชมผลงานที่ผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้ายทั้งหมด 5 ทีม ได้ที่บูธโครงการฯ ภายในชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ถึง 13 ธันวาคม 2558
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 08, 2015, 03:32:56 PM
ดูคาติเอาใจสาวกเน็คเก็ตไบค์ เผยโฉม Monster 821 รุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัว Scrambler Sixty2 ในงาน Motor Expo 2015









          ดูคาติ บิ๊กไบค์ระดับพรีเมียมสัญชาติอิตาลี ตอกย้ำความเป็นผู้นำเน็คเก็ตไบค์ เปิดตัว Monster 821 Pearl White โฉมใหม่ ภายใต้ดีไซน์มินิมัลลิสต์ที่แฝงความสปอร์ตหรูหราอย่างลงตัว และปลดปล่อยอิสรภาพรูปแบบใหม่ ไปกับรถแนวร่วมสมัย Ducati Scrambler Sixty2

          นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด หรือดูคาติไทยแลนด์ กล่าวถึงการมีส่วนร่วมในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2015 ครั้งนี้ว่า "ทางดูคาติไทยแลนด์ได้มีการนำรถดูคาติหลากหลายรุ่นมาจัดแสดงโชว์ในงาน ซึ่งเป็นการตอกย้ำทั้งเอกลักษณ์ทางด้านดีไซน์และเทคโนโลยีของดูคาติ ซึ่งทางบริษัทฯ ได้มีการนำรถรุ่นใหม่ที่เป็นรุ่นยอดนิยมมาเปิดตัวในงานครั้งนี้จำนวน 2 รุ่น พร้อมแคมเปญสุดพิเศษ สิ่งเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นนโยบายของดูคาติไทยแลนด์ ที่จะนำรถรุ่นใหม่มาตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าคนไทย ทั้งกลุ่มที่ชื่นชอบการขี่บิ๊กไบค์ และกลุ่มที่หันมานิยมขับขี่บิ๊กไบค์ โดยทั้ง 2 รุ่นดังกล่าว เป็นรถรุ่นนิยมที่สามารถขับขี่ได้ง่ายในชีวิตประจำวัน และตอบโจทย์การใช้งานทางด้านสมรรถนะได้เป็นอย่างดี"

          รถจักรยานยนต์ดูคาติที่นำมาเปิดตัวในงานได้แก่

          1. Monster 821 Pearl white ดีไซน์สีขาวมุกโฉมใหม่ล่าสุด ผสมผสานความสปอร์ตดุดันเข้ากับความเรียบหรูได้อย่างสมบูรณ์แบบ มาพร้อมกับสติ๊กเกอร์วงล้อจาก Ducati Performance ให้คุณทะยานไปยังเส้นทางในสไตล์ที่โดดเด่นเหนือใคร ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 489,900 บาท

          2. Ducati Scrambler Sixty2 ความอิสระบทใหม่ในสไตล์สดใสที่โดดเด่นขึ้น บ่งบอกความเป็นตัวตนของคุณกับ Scrambler Sixty2 ภายใต้เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 399 cc. ให้คุณมั่นใจไปกับการเดินทางแบบสบายๆ พร้อมด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ลงตัว กับสไตล์ร่วมสมัย ถังน้ำมันทรงหยดน้ำขนาด 14 ลิตร กระจกทรงกลม โช้คหน้าแบบเทเลสโคปิคทรงดั้งเดิม ที่ยึดป้ายทะเบียนทรงสูง ให้กลิ่นอายความย้อนยุคลงตัวกับความสดใสที่เน้นความสนุกสนาน ภายใต้เฉดสีมาตรฐานใหม่ 3 แบบ ได้แก่ สีส้ม "Atomic Tangerine", สีฟ้า "Ocean Grey" และสีดำ "Shining Black" โดยราคาพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัวในงาน 279,900 บาท
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 09, 2015, 08:22:56 AM
จักรยานยนต์ไทรอัมพ์ เปิดตัวทายาทบอนเนวิลล์ใหม่ 5 รุ่น ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ที่งาน Motor Expo 2015

          ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ประเทศไทย) เผยโฉมรถจักรยานยนต์ตระกูลบอนเนวิลล์อันเลื่องชื่อ ที่กลับมาอีกครั้งพร้อมความเร้าใจของ 5 รุ่นใหม่ สตรีท ทวิน บอนเนวิลล์ T120 และ T120 แบล็ค และ ทรักซ์ตัน และ ทรักซ์ตัน R เปิดตัวเป็นครั้งแรกในเอเชีย แปซิฟิก ที่งาน Motor Expo 2015 ทั้ง 5 รุ่นมีเอกลักษณ์ดั้งเดิมของไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์อย่างครบถ้วน พร้อมด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย โดยแต่ละรุ่นจะทยอยเข้าโชว์รูมจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ในช่วงเวลาต่างๆ กันในปี พ.ศ. 2559 เริ่มต้นจากสตรีท ทวินจะเริ่มเข้ามาในเดือนมกราคม-มีนาคมนี้ ส่วนรุ่นอื่น ๆ จะมาถึงราวเดือนมิถุนายน ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองรถจักรยานยนต์ทั้ง 5 รุ่นได้ที่งาน Motor Expo 2015 ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 390,000 บาท ส่วนจักรยานยนต์ไทรอัมพ์รุ่นปัจจุบัน มาพร้อมกับแพ็จเกจสุดพิเศษเฉพาะในงาน Motor Expo 2015 ผ่อนดอกเบี้ยต่ำพิเศษ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งและพรบ. รวมทั้งฟรีค่าจดทะเบียน
          ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง มีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัท ไทรอัมพ์ได้สร้างผลงานการผลิตรถจักรยานยนต์ที่โดดเด่น สร้างสถิติไว้มากมาย และได้รับเลือกเป็นรถจักรยานยนต์คู่กายของนักแข่งชั้นนำของโลกและผู้ที่มีชื่อเสียงมากมาย ด้วยสมรรถนะเป็นเยี่ยม ตอบรับการสั่งการได้อย่างแม่นยำ และรูปลักษณ์ที่สวยคลาสสิค
          สำหรับบอนเนวิลล์รุ่นล่าสุด ไทรอัมพ์ได้ทำการออกแบบรถจักรยานยนต์เหล่านี้ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ใช้เวลานานถึง 4 ปีเต็มในการพัฒนางานออกแบบ งานวิศวกรรม ไปจนถึงการผลิต

เผยโฉมบอนเนวิลล์ใหม่
          ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ ใหม่ ทั้ง 5 รุ่น มาพร้อมกับเอกลักษณ์ความเป็นบอนเนวิลล์เต็มร้อย ดีไซน์ที่เสริมให้เฉียบคมยิ่งขึ้น และสมรรถนะสุดล้ำ
          รุ่น สตรีท ทวิน ถือเป็นรถตระกูลบอนเนวิลล์ที่มีดีไซน์ร่วมสมัยที่สุด ให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่และควบคุมง่ายสำหรับนักบิดรุ่นใหม่ เปี่ยมด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์แรงบิดสูงขนาด 900 ซีซี พร้อมเสียงคำรามที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ บอนเนวิลล์ สตรีท ทวิน มีงานออกแบบในสไตล์เรียบง่าย ทั้งยังขับขี่คล่องแคล่วเหนือชั้น จึงถือเป็นรถที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักบิดยุคใหม่ และนักแต่งมอเตอร์ไซค์ รถรุ่นนี้มีแรงบิดสูงสุดถึง 80 นิวตันเมตรที่รอบต่ำเพียง 3200 รอบ/นาที ซึ่งเหนือกว่าเครื่องยนต์บอนเนวิลล์รุ่นก่อนหน้าถึง 18% จึงส่งแรงบิดได้เต็มพลังต่อเนื่องในทุกจังหวะ
          ส่วนผู้ที่โหยหารูปลักษณ์ของบอนเนวิลล์ในสไตล์ดั้งเดิมจากปี 1959 ก็จะประทับใจไปกับบอนเนวิลล์ T120 และ T120 แบล็ค ที่ไทรอัมพ์ได้บรรจงสรรสร้างในทุกรายละเอียดให้คงความคลาสสิกไว้อย่างครบถ้วน พร้อมด้วยสมรรถนะในแบบมอเตอร์ไซค์โมเดิร์นคลาสสิกพันธุ์แท้ กับเครื่องยนต์แรงบิดสูงรุ่นใหม่ขนาด 1200 ซีซี และตัวถังแบบ twin throttle นอกจากนี้ บอนเนวิลล์ T120 และ T120 แบล็ค ยังถูกพัฒนามาให้ตอบสนองทุกความต้องการในการขับขี่แบบโมเดิร์นคลาสสิก กับแรงบิดมหาศาลถึง 105 นิวตันเมตรที่ 3100 รอบ/นาที ซึ่งสูงกว่าเครื่องยนต์ในรุ่น T100 ถึง 54%
          สำหรับรถจักรยานยนต์สมรรถนะสูงในสไตล์ "cafe racer" แบบโมเดิร์น คลาสสิกอย่าง ทรักซ์ตัน และ ทรักซ์ตัน R มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1200 ซีซี ระบบเบรกและการควบคุมที่ทรงประสิทธิภาพ เพื่อการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ภายใต้รูปลักษณ์คลาสสิกอย่างสมชื่อบอนเนวิลล์ ตอบสนองในฉับพลัน ให้แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตรที่ 5000 รอบ/นาที ซึ่งสูงกว่าเครื่องยนต์ทรักซ์ตันรุ่นก่อนหน้าถึง 57%
ดีไซน์เท่สะดุดตาและขับขี่คล่องตัวกว่าเดิม
          บอนเนวิลล์รุ่นใหม่ทุกคันมีงานออกแบบที่ได้รับการปรับเปลี่ยนให้ดูประณีต โฉบเฉี่ยว เปี่ยมด้วยพลังมากกว่าที่เคย สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจจากบอนเนวิลล์รุ่นคลาสสิกรุ่นเจ้าตำนานปี 1968 และรุ่นดั้งเดิมปี 1959 ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ ใหม่ มีเทคโนโลยีล่าสุดที่ช่วยเสริมประสบการณ์การขับขี่ให้ตอบสนองอย่างรวดเร็วและปลอดภัยกว่าที่เคย โดยไม่ทิ้งลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละรุ่น เทคโนโลยีเหล่านี้ ได้แก่ ABS ระบบเบรกป้องกันล้อล็อคตาย ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี คลัทช์กันการลื่นไถล (slip assist clutch), ride-by-wire throttle และrider mode (เฉพาะรุ่น T120, T120 แบล็ค, ทรักซ์ตัน R และทรักซ์ตัน) ไฟท้าย LED (ทุกรุ่น) ไฟหน้า LED DRL (เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 1200 ซีซี ในประเทศที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น) พอร์ท USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบกันขโมยแบบ immobilizer
          ช่วงล่างได้รับการออกแบบขึ้นใหม่หมดสำหรับแต่ละรุ่น โดยมีระบบกันสะเทือนและ geometry ใหม่และคลัทช์กันการลื่นไถลรุ่นใหม่ติดตั้งมาด้วยเช่นกัน เพื่อให้นักบิดสามารถควบคุมบอนเนวิลล์ ใหม่ ทุกคันได้อย่างแม่นยำ มั่นคง และคล่องตัวอย่างเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังเหมาะสมกับการขับขี่เป็นเวลานาน
          จักรยานยนต์ 5 รุ่นใหม่ มีราคาดังนี้ สตรีท ทวิน เริ่มต้นที่ 390,000 บาท บอนเนวิลล์ T120 และ T120 แบล็ค ราคาประมาณ 550,000 บาท ทรักซ์ตัน ราคาประมาณ 556,500 บาท ส่วนทรักซ์ตันประมาณ 620,000 บาท
พร้อมปรับแต่งให้สะท้อนความเป็นคุณ
          ในโอกาสนี้ ไทรอัมพ์ยังได้เปิดตัวชุดอุปกรณ์เสริมพิเศษสำหรับจักรยานยนต์ตระกูลบอนเนวิลล์โดยเฉพาะ มีอุปกรณ์ตกแต่งและอุปกรณ์พิเศษคุณภาพสูงให้เลือกมากกว่า 100 รายการ จึงทำให้การสร้างสรรค์มอเตอร์ไซค์คันพิเศษของคุณเองกลายเป็นเรื่องง่าย อุปกรณ์เสริมเหล่านี้มีทั้งชุดท่อไอเสียใหม่จาก Vance & Hines ชุดอุปกรณ์ถอดบังโคลน เบาะนั่ง และไฟขนาดเล็กทรงหัวกระสุน(compact bullet indicators) เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักบิด เราได้รวบรวมอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ไว้เป็นชุดให้เลือกซื้อ สำหรับนักบิดที่ต้องการจุดเริ่มในการปรับแต่งรถบอนเนวิลล์ของตนเอง หรืออาจสั่งให้ตัวแทนจำหน่ายติดตั้งอุปกรณ์กับรถมาทั้งชุดเลยก็ได้เช่นกัน
          นอกจากที่งาน Motor Expo 2015 ผู้ที่สนใจ สามารถพบกับจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ได้ที่ โชว์รูม ไทรอัมพ์ บริทไบค์ RCA และ ไทรอัมพ์ รังสิต ที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมี 5 สาขา ที่ไทรอัมพ์ บริทไบค์ เชียงใหม่ ไทรอัมพ์ วัฒนายนต์แคปปิตอล ขอนแก่น ไทรอัมพ์ M2 มอเตอร์สปอร์ต อุบลราชธานี ไทรอัมพ์ สะพานทอง มอเตอร์ ภูเก็ต และไทรอัมพ์ พันธ์ช่างทอง หาดใหญ่

เกี่ยวกับไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์
          ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2445 มีพนักงานทั่วโลกราว 2,000 คน มีบริษัทสาขาทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่นสวีเดน กลุ่มประเทศเบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย อินโดนีเซีย และประเทศไทย และประเทศอื่นๆ โดยมอเตอร์ไซค์ของไทรอัมพ์มีจำหน่ายในกว่า 60 ประเทศ และมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 750 รายทั่วโลก
          บริษัทฯ มีฐานการผลิตจักรยานยนต์เต็มรูปแบบสองแห่ง ที่ฮิงค์ลีย์ เขตเลสเตอร์เชียร์ ประเทศอังกฤษและที่ประเทศไทย รวมทั้งมีโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์แบบ CKD (Completely Knocked Down)ในประเทศบราซิลและประเทศอินเดีย ปัจจุบันมีการผลิตรถจักรยานยนต์ราว 54,500 คันต่อปี
          หัวใจหลักในการทำงานของไทรอัมพ์คือการมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวยคลาสสิคร่วมสมัย เข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถ และสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 09, 2015, 08:23:38 AM
การกลับมาของไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ ไทรอัมพ์ สตรีท ทวิน ใหม่ ขับขี่สนุกในสไตล์ที่เป็นคุณ

          ไทรอัมพ์ สตรีท ทวิน เป็นรถจักรยานยนต์ตระกูลบอนเนวิลล์ที่ทันสมัย ขับขี่สนุก และควบคุมได้ง่ายเหมาะสำหรับนักบิดรุ่นใหม่ เหนือชั้นด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายและเป็นเอกลักษณ์ เครื่องยนต์สมรรถนะสูง เสียงก้องกังวาน และสไตล์การขับขี่ที่คล่องตัว
เครื่องยนต์บอนเนวิลล์ใหม่ ขนาด 900 ซีซี ให้แรงบิดสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าในรอบที่ต่ำกว่า จึงส่งกำลังต่อเนื่อง ให้สมรรถนะที่น่าตื่นตาตื่นใจ ควบคู่กับเสียงที่ให้ความรู้สึกถึงความแรงอย่างเต็มที่
          ช่วงล่างและระบบกันสะเทือนใหม่ รับมือได้ทุกสภาพการขับขี่ ส่วนเบาะนั่งที่ปรับระดับให้ต่ำและนั่งสบาย ทำให้ สตรีท ทวิน เหมาะสมสำหรับการขับขี่บนท้องถนนในชีวิตจริง
          รถรุ่นนี้ถูกออกแบบให้สะท้อนตัวตนของผู้ขับขี่อย่างชัดเจน ด้วยเส้นสายที่สะอาดตาและเรียบง่าย ท่อเก็บเสียงแบบเฉียงขึ้นในสไตล์โมเดิร์น และอุปกรณ์เสริมที่มีให้เลือกมากมาย ทำให้ สตรีท ทวิน เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักแต่งรถ
          สตรีท ทวิน เป็น 1 ใน 5 รถจักรยานยนต์ตระกูลบอนเนวิลล์รุ่นล่าสุด ที่ยังคงเอกลักษณ์ในสไตล์บอนเนวิลล์ไว้อย่างเต็มตัว ผสมผสานกับสมรรถนะและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่ล้ำสมัย
          ไทรอัมพ์ สตรีท ทวิน เป็นรถตระกูลบอนเนวิลล์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวงการรถแต่งสมัยใหม่ จึงถือเป็นมอเตอร์ไซค์แห่งศตวรรษที่ 21 ตัวจริง ที่ยังรักษาเสน่ห์ของบอนเนวิลล์จากยุคอดีตไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย
          สตรีท ทวิน เป็นบอนเนวิลล์รุ่นร่วมสมัยที่สุดที่ไทรอัมพ์เคยผลิตมา โดยออกแบบขึ้นให้เข้ากับวิถีชีวิตประจำวันของนักบิดสมัยใหม่ ให้ความสนุกกับทุกการขับขี่ และเหมาะกับการแต่งรถให้สะท้อนความเป็นคุณ
          ด้วยดีไซน์ที่สวยสะดุดตาในแบบบอนเนวิลล์แท้ ๆ เครื่องยนต์ที่ทรงพลัง เบาะนั่งที่ติดตั้งในระดับต่ำ การขับขี่ที่คล่องตัว และการรองรับการปรับแต่งด้วยอุปกรณ์เสริม ไทรอัมพ์ สตรีท ทวิน จึงเป็นจักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิกที่เข้าถึงง่ายและน่าหลงใหลที่สุดในตลาด และเป็นรถบอนเนวิลล์ที่เหมาะสำหรับนักบิดทุกสไตล์

เครื่องยนต์แรงบิดสูง 900 ซีซี
          เอกลักษณ์ในการขับขี่ของไทรอัมพ์ สตรีท ทวิน มาจากเครื่องยนต์ตระกูลบอนเนวิลล์แรงบิดสูง ขนาด 900 ซีซี 2 สูบเรียง 8 วาล์ว
          เครื่องยนต์รุ่นนี้ให้แรงบิดสูงสุดได้ถึง 80 นิวตันเมตรที่ 3200 รอบ/นาที ซึ่งสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 18% จึงสามารถส่งพละกำลังได้ต่อเนื่องในทุกรอบเครื่อง
          นอกจากจะมีระบบหัวฉีดน้ำมันแบบ ride-by-wire และระบบจัดการเครื่องยนต์ที่แม่นยำสูงสุด ตอบสนองทันทีในทุกสัมผัส เครื่องยนต์ของบอนเนวิลล์ สตรีท ทวิน ยังตั้งค่ามาให้ลูกสูบทำงานโดยเว้นระยะ 270 องศาในแต่ละรอบ เพื่อให้เครื่องเดินเรียบตลอดทั้ง 5 เกียร์
          เครื่องยนต์ของจักรยานยนต์รุ่นนี้ถูกออกแบบให้สวยจับตา ด้วยฝาครอบสีดำที่ประณีตในทุกรายละเอียด ผสมผสานชิ้นส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ตกทอดมาจากเครื่องบอนเนวิลล์รุ่นก่อน ๆ เข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างกลมกลืน และรักษาทรวดทรงของรถบอนเนวิลล์ตัวจริงไว้ได้อย่างไร้ที่ติ
          ส่วนท่อไอเสียสแตนเลส ดีไซน์ทำมุมเฉียง พัฒนาและปรับแต่งมาให้โดดเด่นทั้งรูปลักษณ์และเสียงที่กึกก้อง มีชีวิตชีวาในแบบเครื่องยนต์สองสูบของอังกฤษ ให้คุณได้รู้สึกถึงความแรงในทุกห้วงเวลาที่ขับขี่

ประหยัดน้ำมันเหนือชั้น
          เมื่อมองไปด้านหลังเครื่องยนต์ขนาด 900 ซีซีรุ่นใหม่ ก็จะพบกับระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุด ออกแบบมาให้กลมกลืนกับส่วนอื่น ๆ ของรถ และยังช่วยลดระดับไอเสียและเพิ่มความประหยัดน้ำมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จนทำให้ สตรีท ทวิน กินน้ำมันน้อยกว่าบอนเนวิลล์รุ่นก่อนถึง 36%

ขับขี่คล่องตัว
          บอนเนวิลล์ สตรีท ทวิน มีสไตล์การขับขี่ที่สนุกสนาน ควบคุมง่าย เนื่องมาจากระบบช่วงล่างและระบบกันสะเทือนที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อรักษาความคล่องตัวและสมดุลอันเป็นคุณสมบัติขึ้นชื่อของไทรอัมพ์ และเสริมให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้ราบรื่นและง่ายดายกว่าเดิม
          ด้วยเบาะนั่งในระดับต่ำที่นั่งสบายยิ่งขึ้นด้วยเนื้อโฟมที่หนาขึ้น ช่วงล่างที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม ท่านั่งไม่ฝืนธรรมชาติ รวมทั้งความบางของช่วงกลางลำตัวรถช่วยให้ขับท่ายืนได้สบาย ทำให้ สตรีท ทวิน เป็นรถตระกูลบอนเนวิลล์ที่ขับขี่ได้ง่ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา

คุณลักษณะอันทันสมัย
          สตรีท ทวิน สร้างมาตรฐานใหม่ด้วยคุณลักษณะที่เอื้อต่อการขับขี่ เพื่อให้นักบิดควบคุมรถได้แม่นยำ ปลอดภัย และมั่นใจกว่าเดิม โดยไม่สูญเสียสมรรถนะและเอกลักษณ์สไตล์บอนเนวิลล์ไปเลยแม้แต่น้อย

คุณลักษณะของรุ่น บอนเนวิลล์ สตรีท ทวิน มีดังนี้
          เบรก ABS ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกตายเสริมความมั่นใจ ความปลอดภัย และการควบคุมที่แม่นยำให้กับผู้ขับขี่
          ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ใช้ระบบ ride-by-wire แบบเปิด-ปิดได้ ปรับการส่งแรงบิดพลังสูงสู่ล้อทั้งสองได้อย่างเหมาะสม
          คลัทช์กันการลื่นไถล คลัทช์น้ำหนักเบา ช่วยให้ขับขี่ได้ง่ายดายและยาวนานกว่าเดิม
          Ride-by-wire เสริมความเร็วในการตอบสนองของคันเร่ง ทั้งยังปลอดภัยและขับขี่สนุกยิ่งขึ้น
          ไฟท้าย LED ท้ายรถดีไซน์คลาสสิก ติดตั้งไฟท้ายที่จัดเรียงในรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ และยังประหยัดพลังงานอีกด้วย
          พอร์ท USB สำหรับเสียบชาร์จ พอร์ท USB บริเวณใต้เบาะที่นั่ง สำหรับให้ผู้ขับขี่ชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ตามความต้องการ
          ระบบกันขโมย immobilizer พร้อมตัวส่งสัญญาณติดตั้งมาในกุญแจรถ
          นาฬิกาสารพัดประโยชน์ นาฬิกาเรือนเดี่ยวที่มีคุณสมบัติมากมาย พร้อมระบบเมนูแบบดิจิตอลครอบคลุมฟังก์ชันดังนี้
          - มาตรแสดงตำแหน่งเกียร์
          - มาตรวัดระยะทาง
          - การตั้งค่าการขับขี่
          - จอแสดงการเตือนเข้าศูนย์เพื่อซ่อมบำรุง
          - จอแสดงระยะทางที่ยังขับขี่ได้ก่อนน้ำมันหมด
          - ระดับน้ำมันในถัง พร้อมค่าความสิ้นเปลืองน้ำมันปัจจุบันและค่าเฉลี่ย
          - เมนูเปิด-ปิดระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและ ABS
          - นาฬิกา
          นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมที่ใช้หน้าจอนาฬิกาควบคุมได้ เช่นมาตรวัดความดันลมยางและระบบทำความร้อนที่แฮนด์รถ
          ปุ่มควบคุม switchgear ปุ่มควบคุมที่ทั้งสวยงามและใช้งานง่าย ให้คุณเลือกฟังก์ชั่นบนหน้าจอนาฬิกาได้ด้วยปลายนิ้ว

          ดีไซน์เรียบง่าย
          บอนเนวิลล์ สตรีท ทวิน นำเอารูปทรงของบอนเนวิลล์รุ่นดั้งเดิมมาปรับแต่งให้ทันสมัยด้วยเส้นสายที่เรียบง่าย สะอาดตา
          ล้อเหล็กหล่อ เคลือบสีดำลายทาง
          ถังน้ำมันรูปทรงสง่างาม แต่งลวดลายทันสมัย พร้อมฝาปิดถังน้ำมันชุบโครเมียม
          หน้าปัดขนาดกระทัดรัด
          ไฟท้าย LED จัดวางอย่างเป็นเอกลักษณ์
          ไฟหน้าขนาดเล็ก พร้อมฝาปิดประทับตราไทรอัมพ์
          ท่อเก็บเสียงท่อไอเสียทรงเฉียงขึ้น วัสดุสแตนเลสสตีล
          แผงตัวถังสีดำ ติดลายกราฟฟิก สตรีท ทวิน
          บังโคลนสีดำล้วนสวยเรียบมีสไตล์

          ตื่นตากับสีสัน
          สตรีท ทวิน มีวางจำหน่ายใน 4 สีด้วยกัน ได้แก่
          สีแดง Cranberry Red แต่งแถบที่ถังน้ำมันและล้อ
          สีเงิน Aluminium Silver แต่งแถบที่ถังน้ำมันและล้อ
          สีดำ Matt Black
          สีดำ Jet Black
          สีดำ Phantom Black

อุปกรณ์เสริมครบชุด
          บอนเนวิลล์ สตรีท ทวิน ออกแบบมาเพื่อรองรับการปรับแต่งอย่างสมบูรณ์แบบ และด้วยชุดอุปกรณ์เสริมจากไทรอัมพ์กว่า 160 รายการสำหรับรุ่น บอนเนวิลล์ สตรีท ทวินโดยเฉพาะ คุณจึงสามารถปรับแต่งรถให้พิเศษในแบบคุณได้อย่างง่ายดายที่สุด ด้วยชิ้นส่วนอย่างเบาะนั่ง กระจกหน้า ท่อไอเสียใหม่จาก Vance & Hines ชุดอุปกรณ์ถอดบังโคลนหลัง แฮนด์แบบ Ace และไฟเลี้ยวขนาดเล็กทรงหัวกระสุน
          เพื่อให้ทุกอย่างง่ายขึ้น เราได้รวบรวมอุปกรณ์เสริมทั้งหมดนี้ไว้ในชุดแต่งพิเศษ 3 ชุด พร้อมให้นักบิดเริ่มต้นเลือกแต่งรถในสไตล์ของตัวเอง หรือสั่งให้ติดตั้งบนรถ สตรีท ทวิน แบบยกชุดเลยก็ได้เช่นกัน Scrambler Kit มาในสไตล์ stripped-back ส่วน Brat Tracker Kit เป็นแนวแต่งคมเข้มเพื่อการขับขี่ในเมือง และ Urban Kit สำหรับการขับขี่สบายๆ สไตล์สปอร์ต

          ชุดแต่ง Scrambler
          ชุดแต่งรถสไตล์โมโตครอสเพื่อการลุยเส้นทางออฟโรด ประกอบด้วยอุปกรณ์เสริมดังนี้
          - ชุดท่อไอเสียยกสูงแบบออฟโรดจาก Vance & Hines
          - ชุดถอดบังโคลน พร้อมไฟท้ายขนาดเล็ก
          - เบาะนั่งสีน้ำตาลมีลาย
          - แฮนด์สีน้ำตาล ทรงบาร์เรล
          - ไฟ LED ขนาดกระทัดรัด
          - แผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ วัสดุอลูมิเนียมปัดเงา
          ชุดแต่ง Brat Tracker
          ชุดแต่งสไตล์คมเข้มสำหรับการขับขี่ในเมือง ประกอบด้วยอุปกรณ์เสริมดังนี้
          - ปลอกท่อไอเสีย Vance & Hines
          - ชุดถอดบังโคลน พร้อมไฟท้ายขนาดเล็ก
          - เบาะนั่งสีดำมีลาย
          - ไฟ LED ขนาดกระทัดรัด
          - แฮนด์สีดำ ทรงบาร์เรล
          - แผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ ผิวปัดเงา

ชุดแต่ง Urban Inspiration
          ผสมผสานรูปลักษณ์ในสไตล์สบาย ๆ เข้ากับมาดเท่เพื่อการขับขี่ในเมือง ประกอบด้วยอุปกรณ์เสริมดังนี้
          - แฮนด์แบบ Ace
          - ปลอกเก็บเสียงท่อไอเสีย Vance & Hines
          - ไฟ LED ขนาดกระทัดรัด
          - กระจกหน้าบานสั้น เคลือบสี
          - ตะกร้าใส่ของ วัสดุคอตต้อนเคลือบเงาและหนัง
          อุปกรณ์เสริมประเภทท่อไอเสียจาก Vance & Hines ชุดถอดบังโคลน และไฟ LED อาจไม่มีวางจำหน่ายในบางประเทศ ขึ้นอยู่กับกฎหมายและข้อบังคับ

SPECIFICATION
Engine and Transmission

Type

Liquid cooled, 8 valve, SOHC, 270° crank angle parallel twin

Capacity

900cc

Bore/Stroke

84.6 x 80 mm

Compression Ratio

10.55:1

Maximum Power

55 PS / 54 BHP (40.5kW) @ 5900 rpm

Maximum Torque

80Nm @ 3230 rpm

Fuel system

Multipoint sequential electronic fuel injection

Exhaust

Brushed 2 into 2 exhaust system with twin brushed silencers

Final drive

O ring chain

Clutch

Wet, multi-plate assist clutch

Gearbox

5-speed

Chassis

Frame

Tubular steel cradle

Swingarm

Twin-sided, tubular steel

Front Wheel

Cast aluminium alloy multi-spoke 18 x 2.75in

Rear Wheel

Cast aluminium alloy multi-spoke 17 x 4.25in

Front Tyre

100/90-18

Rear Tyre

150/70 R17

Front Suspension

Kayaba 41mm forks, 120mm travel

Rear Suspension

Kayaba twin shocks with adjustable preload, 120mm rear wheel travel

Front Brake

Single 310mm disc, Nissin 2-piston floating caliper, ABS

Rear Brake

Single 255mm disc, Nissin 2-piston floating caliper, ABS

Instrument Display/Functions

LCD multi-functional instrument pack with analogue speedometer, gear position indicator, fuel gauge, range to empty indication, service indicator, clock, trip computer, scroll button on handlebars, TPMS ready, heated grip ready, fuel consumption display and traction control status display.

Dimensions and Weights

Length

2102 mm

Width (Handlebars)

880 mm

Height Without Mirrors

1066 mm

Seat Height

750 mm

Wheelbase

1439 mm

Rake

25.1º

Trail

102.4 mm

Dry Weight

197 Kg

Fuel Tank Capacity

12 L

Fuel consumption

?Constant speed 56 mph: 87.4 MPG

?Constant speed 75 mph: 62.4 MPG

?Mixed Riding*: 76 MPG

Emissions

?EUR4 Standard: CO2 - 87.0 g/km

Standard equipment

ABS, Traction Control, Ride-by-wire, Immobiliser, USB socket, LED rear light

ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ สตรีท ทวิน เปี่ยมด้วยพลังดึงดูด ด้วยคุณลักษณะที่ขับขี่ง่าย พร้อมให้คุณสนุกได้ทุกเส้นทางในสไตล์สุดเท่แบบบอนเนวิลล์พันธุ์แท้
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 09, 2015, 08:24:41 AM
เผยโฉมสู่สาธารณชนกับรถสปอร์ตใหม่ล่าสุด 911 จีที3 อาร์เอส (911 GT3 RS)





          ปอร์เช่ ประเทศไทย จัดแสดง 911 จีที3 อาร์เอส (911 GT3 RS) พร้อมยนตรกรรมหรูและข้อเสนอสุดเร้าใจในงาน MOTOR EXPO 2015

          บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ร่วมงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" (The 32nd Thailand International MOTOR EXPO 2015) เพื่อเป็นการประกาศและตอกย้ำความเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับวงการรถสปอร์ตอีกครั้งด้วยการเปิดตัว ปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส (911 GT3 RS) รวมทั้งจัดทัพนำขบวนยนตรกรรมหรูอีกมากมาย อาทิ บ็อกซเตอร์ เอส (Boxster S), พานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel), พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid) มาคันน์ (Macan) และ คาเยนน์ เอส อี-ไอบริด (Cayenne S E- Hybrid) มาให้ท่านสัมผัสและเป็นเจ้าของในระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2015 ณ บูธปอร์เช่ อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 2 อิมแพค เมืองทองธานี

          เอเอเอสฯ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับวงการรถสปอร์ตอีกครั้ง ด้วยรถที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นรถแข่งสำหรับสนามแข่งและการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันนั่นคือ 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911GT3 RS) มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 4 ลิตร 6 สูบ พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดที่ 500 แรงม้า (368 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 460 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ถึง 3.3 วินาที สำหรับอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ยอยู่ที่ 12.7 ลิตร/100 กิโลเมตร (7.90 กิโลเมตร/ลิตร) เหนือชั้นด้วยการทำเวลารอบสนามแข่ง North Loop Nürburgring ได้ในเวลาเพียงแค่ 7.20 วินาที เท่านั้น โดย 911 จีที3 อาร์เอส (Porsche 911GT3 RS) ยังมาในรูปโฉมใหม่ที่โดดเด่นด้วยชิ้นส่วนต่างๆ ของความเป็น RS และให้ความสมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่มากขึ้น และปีกด้านหลังมีขนาดใหญ่สร้างความดุดันมากกว่าเดิม อีกหนึ่งความพิเศษคือช่องดักอากาศที่อยู่บนฐานล้อหน้าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ซึ่งขยายใหญ่เข้าสู่ส่วนบนของปีกรถ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถมอเตอร์สปอร์ต สะท้อนให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง

          นอกจากรถสปอร์ตที่นำมาให้ผู้ที่รักความเร็วสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดแล้ว เอเอเอสฯ ยังขนทัพสุดยอดรถยนต์หรู อาทิ บ็อกซเตอร์ เอส (Boxster S) รถสปอร์ตโร้ดสเตอร์เครื่องยนต์วางกลาง,ซาลูนสุดหรูอย่าง พานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel), พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid) และขบวนรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) ยอดนิยมเช่นมาคันน์ (Macan) และ คาเยนน์ เอส อี-ไอบริด (Cayenne S E- Hybrid) รวมถึงสินค้าจาก Porsche Driver's Selection คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดในราคาพิเศษให้ผู้หลงใหลในแบรนด์ปอร์เช่ได้เลือกเก็บสะสมเป็นของสะสมอีกด้วยอีกด้วย

เอเอเอสฯ ขอมอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับท่านที่จองรถยนต์ปอร์เช่ภายในงาน
          · บัตรเติมน้ำมัน PTT Cash Card มูลค่า 100,000 บาท
          · การรับประกันจากโรงงานปอร์เช่เยอรมนีนาน 9 ปี และ Service Package 4 ปี (สำหรับรถสปอร์ต)


เกี่ยวกับ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด
          เอเอเอสฯ ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้ความมั่นใจว่ารถยนต์ทุกคันที่ทางเอเอเอสฯ นำเข้าและจัดจำหน่ายได้ผ่านการทดสอบโฮโมโลเกชั่น (Homologation) ของประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายและครบทุกกระบวนการที่จำเป็นและสำคัญสำหรับการนำมาใช้งานในประเทศไทย ระบบจัดการของเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับกฎระเบียบและสภาพภูมิประเทศของประเทศไทยอย่างดีที่สุด รวมถึงยังมีศูนย์บริการของรถยนต์ปอร์เช่ที่ได้มาตรฐานตามโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีกำหนดไว้ พร้อมทั้งมีทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานโดยตรง พร้อมให้การดูแลและบริการรถยนต์ปอร์เช่ของท่าน โดยลูกค้าสามารถมั่นใจในบริการที่จะได้รับ หากซื้อรถยนต์กับทางเอเอเอสฯ อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขายที่ได้คุณภาพโดยตรงจากโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนี ราคาที่เสียภาษีนำเข้ารถยนต์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และคุณภาพของรถยนต์ปอร์เช่ที่ได้มาตรฐาน

          ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรง พร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award และ The Highest Score of Porsche Service Support Mission 2014 จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่านตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า "เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ" หรือ "AAS Looking after YOU and your CAR" เพื่อก้าวเข้าสู่คำว่า AAS The Name you can Trust ความไว้วางใจที่ให้คุณได้มากกว่า ตลอดระยะเวลาดำเนินการมา กว่า 30 ปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 09, 2015, 08:25:10 AM
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ มล.ปนัดดา ดิศกุล ชม รถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ



          เมื่อเร็วๆนี้ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานพิธีเปิดงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 หรือ Thailand International Motor Expo 2015 พร้อมด้วยนายวิชัย จิราธิยุต ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ และนายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน ให้เกียรติเยี่ยมชมนิสสัน ลีฟ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่จัดแสดงพร้อมให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าที่บูธของสถาบันยานยนต์ โดยมีนายคะซุทากะ นัมบุ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และ นางเพียงใจ แก้วสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ รัฐกิจสัมพันธ์ เป็นผู้ต้อนรับและให้คำแนะนำ

          สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดจำหน่ายมากสุดเท่าที่เคยมีมา มียอดจำหน่ายรวมทั่วโลกกว่า 195,000 คัน ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นคือไร้มลพิษ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย สะดวก สามารถชาร์จได้ทั้งไฟบ้านทั่วไป สามารถขับได้ไกลถึง 160 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง อีกทั้งยังขับขี่ได้สนุก คล่องตัว สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชม นิสสัน ลีฟ ที่บูธของสถาบันยานยนต์ และเยี่ยมชมบูธนิสสันที่แสดงและจำหน่ายรถยนต์นิสสันหลากหลายรุ่น รวมทั้งนิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ รถไฮบริด เอสยูวีที่ทรงพลังที่สุด และนิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค ใหม่ รถกระบะทรงสมรรถนะ ที่ให้พละกำลังเครื่องยนต์สูงถึง 190 แรงม้า สวยล้ำด้วยดีไซน์สปอร์ตใหม่พลิกโฉมรอบคัน ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันนี้ ถึง 13 ธันวาคม 2558 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 09, 2015, 08:26:07 AM
จากัวร์ แลนด์โรเวอร์เปิดตัวยนตรกรรมหรู 4 รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32





          (ในภาพ) :ชาญชัย มหันตคุณ (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด เปิดตัวรถยนต์ 4 รุ่นใหม่สู่ตลาดรถหรูเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ได้แก่ ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี, เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด, เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด และเรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี โดยมีชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานกรรมการผู้จัดการ และ ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานกรรมการบริษัทสื่อสากล จำกัด ให้เกียรติร่วมถ่ายภาพ

          จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ เปิดตัวยนตรกรรมหรูสัญชาติอังกฤษ 4 รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ ณ งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 (The 32th Thailand International Motor Expo 2015) ที่บูธหมายเลข B04 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 โดยในงานนี้ ซิตี้ ออโต้โมบิล นำเสนอสุดยอดยานยนต์สมรรถนะสูงจากจากัวร์ แลนด์โรเวอร์หลากหลายรุ่น เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างสำหรับผู้บริโภคระดับสูงในเมืองไทย

ไฮไลท์ภายในบู๊ท
          จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ นำเสนอรถยนต์ 4 รุ่นใหม่สู่ตลาดรถหรูเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ได้แก่ ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี, เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด, เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด และเรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี รถสปอร์ตซาลูนที่มอบสุดยอดแห่งนวัตกรรม สมรรถนะการขับขี่และดีไซน์ที่งามสง่า ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่ 3,999,000 บาท สำหรับรุ่น R-Sport เฉพาะในงานเท่านั้นเรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ไฮบริด และ เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด รถไฮบริดเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นแรกของโลกที่เปิดตัวในประเทศไทย มาพร้อมกับเทคโนโลยีไฮบริดแท้ด้วยสมรรถนะแลนด์โรเวอร์อย่างเต็มขั้นเรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 รถยนต์ขายดีอันดับหนึ่งที่มาพร้อมดีไซน์และเทคโนโลยีสุดล้ำเชิญทดลองขับทดสอบสมรรถนะเหนือระดับของรุ่นต่างๆ ได้แก่ ดิ ออล-นิว จากัวร์ เอ็กซ์อี,เดอะ นิว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต และ เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค 2016พบกับโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รุ่นปี 2016 เริ่มต้นที่ 3,999,000 บาท สำหรับรุ่น SE Plus, ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%* และเงินดาวน์ขั้นต่ำที่ 35% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษาตัวรถฟรี 3 ปี** พร้อมด้วยส่วนลด 15% สำหรับผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการขาย และอุปกรณ์ตกแต่ง พร้อมฟรีค่าติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่ง
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 09, 2015, 08:26:39 AM
ยามาฮ่า ร่วมแสดงความยินดีกับผู้จัดงาน Motor Expo 2015



          นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ (คนที่ 3 จากซ้าย) ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับ คุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ (คนที่ 4 จากขวา) ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงาน The 32nd Thailand International Motor Expo 2015 ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม เมืองทองธานี ซึ่ง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้เข้าร่วมออกบูธเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยในปีนี้ยามาฮ่าออกบูธภายใต้แนวคิด "The Biker Community" พร้อมเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ "YAMAHA M-SLAZ"...SLASH YOUR DARKNESS...ที่เปิดตัวเป็นที่แรกของโลกภายในงานครั้งนี้ พร้อมทั้งยังนำรถจักรยานยนต์รุ่นต่างๆ ในตระกลู R-Series, MT-Series และ MAX Series มาให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด?เมื่อเร็วๆ นี้
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 09, 2015, 08:27:34 AM
ฮอนด้าเผยโฉม บีอาร์-วี แอคทีฟสปอร์ตครอสโอเวอร์ใหม่ อย่างไม่เป็นทางการครั้งแรกในมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32



          ภาพที่ 1: บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด นำโดยคุณพิทักษ์ พฤทธิสาริกร (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ และ
คุณสมภพ ปฏิภานธาดา (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด และฮอนด้า เลดี้ จัดแสดงรถต้นแบบ ฮอนด้า บีอาร์-วี อย่างไม่เป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32

          เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมจัดแสดงรถ 13 รุ่น รวม 19 คัน ในงานมหกรรม ยานยนต์ ครั้งที่ 32 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด "จุดประกายความเร้าใจแห่งการขับขี่ในแบบที่เป็นคุณ" ซึ่งไฮไลท์สำคัญ คือ กลุ่มรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ เริ่มด้วย ฮอนด้า ซีอาร์-วี ยนตรกรรมเอสยูวีที่ให้ทั้งความหรูหรา และการขับขี่อย่างมีระดับ ต่อด้วย ฮอนด้า เอชอาร์-วี ยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม ที่มีกระแสตอบรับที่ดีมากด้วยยอดจองกว่า 40,000 คัน และเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น ฮอนด้า จึงแนะนำ เอชอาร์-วี ใหม่ ที่เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ครบครันมากยิ่งขึ้นในทุกรุ่น และล่าสุด บีอาร์-วี แอคทีฟสปอร์ตครอสโอเวอร์ใหม่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่นำมาให้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้า

          ฮอนด้า บีอาร์-วี โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งสไตล์สปอร์ต และช่วงล่างยกสูง ตอบสนองทุกเส้นทางที่ท้าทาย เปี่ยมด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน ที่ 4,700 รอบต่อนาที พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม รองรับพลังงานทางเลือก E85 มีให้เลือกทั้งแบบเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่ปรับพับได้หลากหลายรูปแบบ และเบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง ให้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายพร้อมตอบโจทย์การใช้งานได้ในทุกรูปแบบ พร้อมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังที่ติดตั้งอยู่ระหว่างเบาะนั่งแถวที่ 1 และแถวที่ 2 เพื่อกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง ติดตั้งฟังก์ชั่นและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย พร้อมให้ความอุ่นใจในทุกการเดินทางด้วยมาตรฐานความ ปลอดภัยที่เหนือระดับและครบครัน นอกเหนือจากนวัตกรรมยานยนต์ที่นำมาจัดแสดงกันอย่างเต็มที่แล้ว ฮอนด้ายังนำเสนอกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ เกมท้าประลองเต้นแข่งกับฮอนด้าเลดี้ และเกมท้าความกล้า แอ็คท่าสุดเฟี้ยวกับฮอนด้า บีอาร์-วี ลุ้นรับรางวัลจากคอลเลคชั่น บีอาร์-วี ทั้งนี้ฮอนด้ายังได้ตอกย้ำความเชื่อมั่นของลูกค้าด้วยการคว้า 5 รางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม (TAQA-Thailand Automotive Quality Award 2015) โดยได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านภาพลักษณ์ดีเด่นประเภทยี่ห้อที่น่าเชื่อถือติดต่อกันเป็นปีที่ 4 และรางวัลด้านคุณภาพแรกใช้ผลิตภัณฑ์ (Outstanding Initial Quality Satisfaction) ได้แก่ ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ได้รับรางวัลในประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอีโคคาร์ ฮอนด้า ซิตี้ ได้รับรางวัลในประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็ก ฮอนด้า ซีวิค ได้รับรางวัลในประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดกลางเล็ก และฮอนด้า แอคคอร์ด ที่สามารถคว้ารางวัลในประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดกลาง ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 รางวัลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นของลูกค้าชาวไทยที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริษัทฯ ที่ได้มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์อันทันสมัย พร้อมตอบสนองทุกการใช้งานและทุกไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของฮอนด้าในการเป็นองค์กรที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 09, 2015, 08:28:25 AM
โหลดแอพ MOTOR EXPO รับบัตรชมงาน พร้อมลุ้นรางวัล





          "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" ชวนผู้ชมโหลดแอพพลิเคชัน MOTOR EXPO ผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อรับบัตรเข้าชมงานฟรี! และลุ้นรางวัลพิเศษจาก PUMA
          MOTOR EXPO สุดยอด Application อัดแน่นด้วยข้อมูลข่าวสารงาน "MOTOREXPO 2015" ทั้งรายละเอียดยานยนต์รุ่นล่าสุด รถแนวคิดแห่งอนาคต กิจกรรมที่น่าสนใจ,BUYER'S GUIDE ช่วยเลือกซื้อรถ, บริการรถรับส่งชมงานฟรี, รายงานสภาพจราจร พร้อมแผนผังที่จอดรถในบริเวณงาน ฯลฯ

          วิธีดาวน์โหลดและติดตั้งแอพพลิเคชัน MOTOR EXPO TOUCH สำหรับ iPhone เข้าสู่App Store ไปที่ "Search" และเลือกค้นหาคำว่า "Motor Expo Touch" กดปุ่ม "Free" หลังจากนั้นกดปุ่ม "Install" ติดตั้งโปรแกรมสำหรับ Android เข้าสู่ Google Play ไปที่ "Search" และเลือกค้นหาคำว่า "Motor Expo"กดปุ่ม "Install" ติดตั้งโปรแกรมล่วน IPAD ​เข้าสู่ App Store ไปที่ "Search" และเลือกค้นหาคำว่า "MotorExpo"กดปุ่ม "Free" หลังจากนั้นกดปุ่ม "Install" ติดตั้งโปรแกรม

          โหลดฟรี!! รับบัตรฟรี!! และลุ้นรับรางวัลพิเศษจาก PUMA I MOTORSPORT COLLECTION 10รางวัลทันที ตั้งแต่วันนี้ - 13 ธันวาคม 2558 ประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 20 มกราคม 2559 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.motorexpo.co.th
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 09, 2015, 08:29:51 AM
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เตรียมขึ้นราคา ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ เริ่มมกราคม 2559





          มิตซูบิชิ เตรียมขึ้นราคา ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ แน่นอน มกราคมนี้ตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ แต่ยังคงราคาเดิมสำหรับลูกค้าที่จองในปีนี้แม้ออกรถปีหน้า ในขณะที่มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ รุ่นปี 2016 ยังขายราคาเดิม

          มร.โมะริคาซุ ชกคิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ตัดสินใจขึ้นราคาของรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 เป็นต้นไป สืบเนื่องจากพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ของรถยนต์ในกลุ่มรถกระบะอเนกประสงค์ที่จะเพิ่มขึ้น 5%* ในปีหน้า โดยบริษัทฯ จะประกาศราคาใหม่อย่างเป็นทางการในเดือนมกราคมนี้ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ ภายในเดือนธันวาคม 2558 นี้และถึงแม้จะได้รับรถในปีหน้าจะยังคงได้รับราคาเดิมก่อนการขึ้นภาษีอย่างแน่นอน บริษัทฯ จึงขอแนะนำผู้ที่สนใจ รถมิตซูบิชิปาเจโร สปอร์ต ใหม่ ให้รีบตัดสินใจภายในเดือนธันวาคมนี้

          ทั้งนี้ มร. ชกคิ ยังได้กล่าวเสริมว่าราคาขายของ มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ รุ่นปี 2016 ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ หรือ มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 ที่ผ่านมานั้น จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นราคาที่ได้รับการปรับให้สอดคล้องกับพิกัดอัตราภาษีใหม่แล้วโดยบริษัทฯ จะเริ่มส่งมอบรถรุ่นดังกล่าวให้กับลูกค้าได้ในเดือนมกราคมเป็นต้นไป

          หมายเหตุ : *เป็นไปตามข้อกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ของรัฐบาล ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ซึ่งรถยนต์ในกลุ่มรถกระบะอเนกประสงค์หรือ PPV ต้องจ่ายอัตราภาษีเพิ่มขึ้นจากอัตราเดิม 20% มาเป็น 25% หรือ 30% ขึ้นอยู่กับค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของรถแต่ละรุ่น โดยในส่วนของมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ ซึ่งผ่านเกณฑ์การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 200 กรัม / กิโลเมตร รวมทั้งยังมีมาตรฐานความปลอดภัยประเภทระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) ต้องจ่ายอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ที่ 25%
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 09, 2015, 08:30:25 AM
The All-new Pajero Sport price will be increased from January 2016.





          Mitsubishi Motors will increase price of the All-new Pajero Sport from January 2016 according to new government excise tax rate structure. However the existing retail price is still available for customers who make a booking within this year but receive that car next year. On the other hand the price of the 2016 New Mirage will not be changed.

          Mr. Morikazu Chokki, President and CEO of Mitsubishi Motors(Thailand) Company Limited informed that Mitsubishi Motors decided to increase price for the All-new Pajero Sport from January 2016 to meet the new government excise tax rate structure of Pickup Passenger Vehicle (PPV) which will be increased by 5 %* from 2016. The new price will be official announced in January. However, for the customers who book within December 2015, even if the delivery will be in next year, the price is the same as current price.Thus, Mitsubishi Motors recommend the customers who are interested in the All-new Pajero Sport to book within December 2015.

          Mr. Chokki also added that price of the 2016 New Mirage launched at the 32nd Thailand International Motor Expo will not be changed as the company emphasize that listed price is already adjusted according to next year tax because delivery will be started in January.

          Remark : * According to the new government excise tax rate structure that will be effective on 1 January 2016 onwards, Pickup Passenger Vehicle (PPV) tax is expected to increase from 20% to 25 or 30% mainly based on its carbon dioxide emissions. The all new Pajero Sport which is able to produce less than 200g/km of CO2 will be taxed 25%.
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 09, 2015, 08:31:17 AM
ครึ่งทาง MOTOR EXPO 2015 ยอดจองรถเฉียด 20,000 คัน!





          "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" สรุปงาน 7 วัน ยอดจองรถยนต์และบิกไบค์รวม19,128 คัน นำโดย โตโยตา ตามด้วยอีซูซุ และ ฮอนดา คาดจบงานยอดจองแตะ 50,000 คัน

          ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" เปิดเผยว่า "ยอดจองภายในงานตั้งแต่วันที่ 1 - 7 ธันวาคม 2558 จำนวนรวมอยู่ที่ 19,128 คัน ค่ายรถยนต์ที่มียอดจองสูงสุด ช่วง 7 วัน ได้แก่ โตโยตา 2,541 คัน อันดับ2 อีซูซุ 2,464 คัน อันดับ3 ฮอนดา 2,236 คัน อันดับ4 มาซดา 1,768 คัน และอันดับ5 นิสสัน 1,482 คัน

          รถยนต์ระดับหรูมียอดจองที่น่าพอใจ โดยเมร์เซเดส-เบนซ์ มียอด 652 คัน ตามด้วยบีเอมดับเบิลยู 420 คัน ส่วนรถจักรยานยนต์ใหญ่ หรือ บิกไบค์ ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมมากมาย มียอดจองรวม 2,583 คัน อันดับ 1 ได้แก่ ยามาฮา 543 คัน อันดับ2 ทไรอัมฟ์ 348 คัน อันดับ3 คาวาซากิ 328 คัน อันดับ4 ฮอนดา 324 คัน และ อันดับ5 จีพีเอกซ์ 308 คัน

          "สำหรับยอดจองรถยนต์เมื่อจบงาน น่าจะใกล้เคียงกับที่คาดไว้คือราว 45,000 - 50,000คัน ส่วนจำนวนผู้ชม ยังเหลือเวลาจัดงานอีก 6 วัน (8-13 ธันวาคม) ประกอบด้วยวันทำงาน 3 วัน และวันหยุด 3 วัน คาดว่าจะมีผู้ชมงานสูงมากในช่วงวันหยุดราชการ โดยประเมินว่าตลอดงานยอดผู้ชมจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ10%" ขวัญชัย กล่าวทิ้งท้าย
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 09, 2015, 03:03:48 PM
ภาพข่าว: นิชคาร์กรุ๊ป เปิดตัวแลมโบร์กินี ฮูราแคน แอลพี 610-4 และ ฮูราแคน แอลพี 580-2 โมเดลใหม่ล่าสุด



          คุณวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ นิชคาร์กรุ๊ป (ซ้าย) และ มร.เซบาสเตียน เฮนรี่ หัวหน้าสำนักงานเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของออโตโมบิลี แลมโบร์กินี (ขวา) ร่วมเปิดตัวสองโมเดลใหม่ล่าสุดจากค่ายกระทิงดุ "ฮูราแคน แอลพี 610-4 Spyder" (คันขวาสีเทา) และ เครื่องยนต์ขับเคลื่อนสองล้อ "ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe" (คันซ้ายสีแดง) ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 โดยจะจัดแสดงให้ชม ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 ณ บูธ B03 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี และประกาศเปิดรับจองทั้งสองรุ่น ฮูราแคน แอลพี 610-4 Spyder ราคาเริ่มต้นที่ 26,800,000 บาท และ "ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe" ราคาเริ่มต้นที่ 22,500,000 บาท พร้อมส่งมอบ ไตรมาสแรก พ.ศ. 2559

          หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแลมโบร์กินี ฮูราแคน แอลพี 610-4 Spyder และ ฮูราแคน แอลพี 580-2 Coupe สามารถติดต่อ นิชคาร์กรุ๊ป ที่ โทร 02-321-1111 โดยเปิดบริการทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 17.30 น.
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 09, 2015, 03:04:16 PM
Photo Release: Debut of two Lamborghini Huracan models in Bangkok



          Vittawat Chinabarramee, Managing Director of Niche Cars Group (left) and Sebastien Henry, Head of Southeast Asia of Automobili Lamborghini recently launched two latest Huracán models: Lamborghini Huracán LP 610-4 Spyder and Lamborghini Huracán LP 580-2 Coupe at Motor Expo 2015 that will be held between 2-13 December at Challenger Hall, IMPACT Muang Thong Thani. With pricing starting at 26,800,000 THB for Lamborghini Huracán LP 610-4 and 22,500,000 THB for Lamborghini Huracán LP 580-2, both models are available to order now at Niche Cars Group, the sole authorised dealer for Lamborghini in Thailand, Tel. 02-321-1111 with deliveries starting Q1 of 2016.
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 09, 2015, 03:20:56 PM
Mud Clawer R408 ยางจาก Deestone คุณภาพที่คนทั่วโลกมั่นใจ



          MUD CLAWER ถือได้ว่าเป็นยางเฉพาะกลุ่มสำหรับคนที่มีใจรักในการผจญภัย และต้องการความท้าทาย ทีมพัฒนาจากค่ายยักษ์ใหญ่แบรนด์ Deestone ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะวิจัย ออกแบบ ยางรุ่นใหม่ๆ ออกมาเพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้ใช้งาน อย่างรุ่น MUD CLAWER R408 คุณสมบัติของยางที่ช่วยยึดเกาะในสภาพดินโคลน และหินขรุขระ ออกแบบให้หน้ายางสัมผัสถนนกว้าง ช่วยในเรื่องการตะกุยได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมลุยไปในทุกสภาวะการณ์บนท้องถนน ด้วยโครงสร้าง High-Ply Turn Up มีชั้นผ้าใบทบขึ้นมาสูงเพื่อเสริมความแข็งแรงให้โครงยางสามารถรับแรงกระแทกได้อย่างดี ต้านทานการฉีกขาด และช้ำจากการกระแทก ไม่ว่าคุณจะบุกตะลุยไปในถนนขรุขระก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องกังวลใจ รวมถึงยังสามารถช่วยดีดหินให้หลุดออกจากร่องหน้ายาง เพราะมีแถบนูนรูปสายฟ้า ออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ และอีกหนึ่งความพิเศษของ MUD CLAWER R408 สำหรับการผจญภัยในหน้าฝน เพราะด้วยบล็อกดอกยางออกแบบเป็นระดับขั้น เพื่อสลัดโคลนช่วยทำความสะอาดไปในตัว และยังมี Sipes ดูลุยดุดัน เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะและการควบคุมรถในทุกสภาวะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในวันนี้มารองรับการใช้งานทั้งในขนาด 15-20 นิ้ว ซึ่งจะช่วยให้การผจญภัยของคุณมีความปลอดภัย และมั่นใจยิ่งขึ้น Deestone แคร์คุณทุกช่วงเวลาของการเดินทาง ติดตามเรื่องราวดีๆ แบบนี้ได้ที่ www.fb.me/deestonetyre / www.deestone.com
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 12, 2015, 10:35:05 PM
มูลนิธิ “ลมหายใจไร้มลทิน” เชิญชมการแสดงเยาวชนไทย ณ เวทีศิลปวัฒนธรรม ในงาน MOTOR EXPO 2015





          มูลนิธิ "ลมหายใจไร้มลทิน" จัดกิจกรรมเพื่อสังคมในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" เปิดโอกาสให้เยาวชนแสดงความสามารถด้านศิลปวัฒนธรรม ปลูกฝังจิตสำนึก ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต

          ชไมพร ปภัสร์พงษ์ ผู้อำนวยการมูลนิธิ "ลมหายใจไร้มลทิน" โดยบริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" เผยว่า "มูลนิธิฯ มุ่งมั่นปลูกจิตสำนึกเยาวชนไทยให้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย โดยได้รับการสนับสนุนจากโรงเรียนต่างๆ ส่งเยาวชนเข้าร่วมแสดงภายในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32"

          การแสดงดนตรี ขับร้อง และจินตลีลาจากเยาวชนลมหายใจไร้มลทิน จะมีขึ้น ณ เวทีศิลปวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ไทย ภายในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" บริเวณประตูทางเข้าหน้าชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี เฉพาะวันหยุดราชการ ในวันที่ 6, 7, 10, 12 และ 13 ธันวาคม 2558 เวลา 14.00 -15.00 น. นอกจากนี้ยังมีเกมส์สนุกๆ ที่เสริมสร้างความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งมีของที่ระลึกให้สะสม ณ บริเวณลอบบี ชาลเลนเจอร์ 2
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 12, 2015, 10:36:08 PM
ฟอร์ดคว้ารางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมถึง 2 รางวัล ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32



          ฟอร์ด ประเทศไทย ครองรางวัล "ธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม" ประจำปี2558 (TAQA Award 2015) ถึง 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านคุณภาพแรกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดเล็ก (Outstanding Initial Quality Satisfaction for Compact SUV)และ รางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านภาพลักษณ์ดีเด่นประเภทควบคุมการขับขี่ได้ดี (Outstanding Brand Image for Good Handling) รางวัลดังกล่าวสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ใช้รถต่อแบรนด์ฟอร์ด จากการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้รถจำนวน 5,930 ราย จากพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยพิธีมอบรางวัลจัดขึ้นในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 ณ อิมแพค เมืองทองธานี

          รางวัล "ธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม" หรือ "Thailand Automotive Quality Award (TAQA)" จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนธุรกิจยานยนต์ของประเทศไทยให้พัฒนาสินค้าและบริการโดยใช้ความพึงพอใจผู้บริโภคเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ ซึ่งรางวัลTAQA จะเป็นข้อมูลที่สำคัญ ทั้งต่อผู้บริโภค และผู้ประกอบการ และยังช่วยผลักดันให้เกิดการปรับปรุงการดำเนินงาน และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง และยกระดับมาตรฐาน อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ สู่มาตรฐานสากล ซึ่งในปีนี้ได้รับเกียรติจาก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานในพิธีเปิดงาน

          จากภาพ: นายศรุต อิงคะวัต ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ฟอร์ด ประเทศไทย ขึ้นรับมอบรางวัลจาก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นประธานในพิธีเปิดงานและให้เกียรติมามอบรางวัลในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 ณ อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 12, 2015, 10:36:40 PM
ภาพข่าว: ฮอนด้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นด้วยรางวัลยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ 4 ปีซ้อน พร้อมรางวัลการันตีคุณภาพรถยนต์รวม 5 รางวัล ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32



          บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ (ที่ 2 จากขวา) และนายสมภพ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด (ที่ 3 จากซ้าย) รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม (TAQA-Thailand Automotive Quality Award 2015) ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 โดยฮอนด้าคว้า 5รางวัล ประกอบด้วย รางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านภาพลักษณ์ดีเด่นประเภทยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ ซึ่งได้รับรางวัลนี้ติดต่อกันถึง4 ปีซ้อน และรางวัลด้านคุณภาพแรกใช้ผลิตภัณฑ์ (Outstanding Initial Quality Satisfaction) ได้แก่ ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ได้รับรางวัลในประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอีโคคาร์ ฮอนด้า ซิตี้ ได้รับรางวัลในประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็ก ฮอนด้า ซีวิคได้รับรางวัลในประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดกลางเล็ก และฮอนด้า แอคคอร์ด ที่สามารถคว้ารางวัลในประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดกลาง ติดต่อกันเป็นปีที่ 2

          รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นของลูกค้าชาวไทยที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริษัทฯ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฮอนด้ามุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์อันทันสมัยที่ตอบสนองทุกการใช้งานและทุกไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน พร้อมนำเสนอการให้บริการหลังการขายที่มีคุณภาพ รวมถึงส่งมอบสิ่งดีๆ สู่สังคมไทยผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเสมอมา ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของฮอนด้าในการเป็นองค์กรที่สังคมต้องการให้ดำรง
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 14, 2015, 03:37:13 PM
ภาพข่าว: ไดเร็คเอเชีย ดอทคอม ฉลองครบรอบ 5 ปี สนับสนุนโครงการ “ขับเป็น ขับปลอดภัย กับสื่อสากล” ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32

          เมื่อเร็วๆ นี้ ชไมพร ปภัสร์พงษ์ (กลาง) รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจการตลาด บริษัท สื่อสากล จำกัด และผู้อำนวยการโครงการ "ขับเป็น...ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล" เข้าแสดงความยินดีกับ พอลีน พึง (ที่ 3 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดสูงสุดของกลุ่มบริษัท ไดเร็คเอเชีย ดอทคอม และ ไมเคิล พาร์คเกอร์ (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บริษัท ไดเร็ค เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เนื่องในโอกาสที่กลุ่มบริษัท ไดเร็คเอเชีย ดอทคอม ครบรอบ 5 ปี ที่ได้ให้การสนับสนุนผู้ขับขี่ปลอดภัยกว่า 100,000 คนในเอเชีย และแสดงความขอบคุณที่ไดเร็คเอเชีย ประเทศไทย ให้การสนับสนุนโครงการ "ขับเป็น... ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล" ซึ่งจัดโดยบริษัท สื่อสากล จำกัด ณ บูธของกลุ่มบริษัท ไดเร็คเอเชีย ดอทคอม ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 อาคารอิมแพค ชาเลนเจอร์ 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี

          ไดเร็คเอเชีย ดอทคอม เป็นบริษัทนายหน้าประกันภัยออนไลน์เพียงรายเดียวที่เข้าร่วมสนับสนุนโครงการ "ขับเป็น...ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล" ซึ่งเป็นโครงการฝึกอบรมฟรี ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 7 เพื่อพัฒนาทักษะการขับขี่รถที่ถูกต้องและปลอดภัย รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างถูกต้อง ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ให้แก่ นิสิตนักศึกษาที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปและบุคคลทั่วไป โดยการสนับสนุนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายส่งเสริมผู้ขับขี่ปลอดภัยของกลุ่มบริษัท ไดเร็คเอเชีย ดอทคอม


ผู้บริหารในภาพ (จากซ้าย)
• ชลธิชา แสงพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไดเร็ค เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด
• ไมเคิล พาร์คเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บริษัท ไดเร็ค เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด
• ชไมพร ปภัสร์พงษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจการตลาด บริษัท สื่อสากล จำกัด
• พอลีน พึง ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดสูงสุดของกลุ่มบริษัท ไดเร็คเอเชีย ดอทคอม
• สรรเสริญ วุฒิสมบูรณ์พันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณา บริษัท สื่อสากล จำกัด
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 14, 2015, 03:48:21 PM
อ้น The Star สุดปลื้ม ร่วมงาน MIRAGE AUDIO เปิดตัวนวัตกรรมสุดล้ำนำเทรนด์ ตอบโจทย์ลูกค้าระดับ VIP แบบครบวงจร ในงาน MOTOR EXPO 2015 เมืองทองธานี







          MIRAGE AUDIO เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ร่วมกับ บริษัท ไพโอเนีย อิเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด อย่างยิ่งใหญ่กับที่สุดแห่งศูนย์ติดตั้งเครื่องเสียงชั้นนำระดับโลก ในงาน MOTOR EXPRO 2015 ณ อิมแพคอาริน่า เมืองทองธานี

          สำหรับเครื่องเล่นมัลติมีเดียพร้อมจอทีวีติดรถยนต์ในปี 2016 ของ Pioneer สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการ iOS เช่น iPhone 6 และ สมาร์ทโฟนในระบบ Android รวมกว่า 40 รุ่น จากแบรนด์ดังต่างๆทั่วโลก นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องเสียงผ่าน "The Revolution of App Radio Mode" แอพพลิเคชั่นที่ช่วยเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนคู่ใจเข้ากับเครื่องเสียงติดรถยนต์ด้วยระบบ Friendly User & Simpler Smartphone Connection Feature เพียงผู้ใช้ต่อสาย USB ของสมาร์ทโฟนก็จะสามารถเชื่อมต่อและนำแอพพลิเคชั่นต่างๆในเครื่องที่คุณชื่นชอบมาใช้และสั่งงานงานบนจอทีวีติดรถยนต์ของไพโอเนียร์ได้อย่างง่ายดาย

          นอกจากนี้ ในงานทาง MIRAGE AUDIO ได้ชูนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็น High Light ที่ทาง MIRAGE AUDIO พัฒนาระบบ Interface Android ที่สามารถ ใช้งานร่วมกับ จอ Pioneer และ สามารถเพิ่มฟังค์ชั่น การใช้งาน เป็นระบบ Android สมบูรณ์แบบ และสามารถใช้ระบบการใช้งานแบบทัชสกรีน บนตัวเครื่องได้ทันที รองรับการใช้งาน ระบบ Wifi Hotspot จากมือถือ เพื่อเพิ่มความบันเทิงในการ ใช้งาน Application ต่างๆ ระบบ ทีวีออนไลน์ , วิทยุออนไลน์, Google, Facebook, Line และ Instagram. ไม่เพียงแค่นั้น Mirage Audio ยังพัฒนาระบบ NFC เพื่อใช้งานบนรถยนต์ ร่วมกับจอ Pioneer ระบบ Bluetooth เพื่ออำนวยความสะดวกในการ เล่นเพลงอัตโนมัติ โดยไม่ต้องตั้งค่า สามารถนำมือถือมาสัมผัสกับ ปุ่ม NFC พิเศษ ในปีนี้ จะรองรับเฉพาะมือถือ ระบบ Android ที่มีระบบ NFC เท่านั้น

          ในงาน MOTOR EXPRO 2015 รับข้อเสนอพิเศษสุดสำหรับผู้ที่ซื้อเครื่องเล่นพร้อมจอทีวีติดรถยนต์รุ่นใหม่ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ตุลาคม 2559 บริษัทฯจะขยายระยะเวลาในการรับประกันสินค้าจาก 1 ปีเป็น 2 ปี และ จะมีกิจกรรมพิเศษอีกมากมาย โดยแฟนๆ MIRAGE AUDIO สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Mirage Audio (สำนักงานใหญ่ ศรีนครินทร์) Tel: 02-383-4555 , 086 956 6659 หรือ Facebook: mirageaudio.thailanf หรือ line official: @mirageaudio หรือ instagram: miragecaraudio และทาง www.miragecaraudio.com

          นายรวีโรจน์ องค์ศิริวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีราจ คาร์ออดิโอ จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัวเครื่องเล่นมัลติมีเดียพร้อมจอทีวีติดรถยนต์ในปี 2016 ว่า "ในปีนี้ไพโอเนียร์เปิดตัวจอทีวีติดรถยนต์มัลติมีเดียด้วยกัน 8 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีรูปทรงและขนาดหน้าจอที่แตกต่างกันไปตามแต่การใช้งาน โดยในรุ่น 2 Din ที่มีขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว ประกอบด้วยรุ่น AVH-X5850BT และ AVH-X4850DVD และหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ประกอบด้วย รุ่น AVH-X2850BT, AVH-X1850DVD, AVH-285BT และ AVH-185DVD และรุ่น 1 DIN ประกอบด้วย 2 รุ่น คือ AVH-X7850BT และ AVH-X6850BT ขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว พร้อมฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยรองรับการเล่นไฟล์ออดิโอคุณภาพสูง อาทิ ไฟล์ FLAC Lossless Audio หรือ แอปพลิเคชั่น Spotify เป็นต้น นอกจากนี้เครื่องเล่นมัลติมีเดียพร้อมจอทีวีติดรถยนต์ ในรุ่น X-Series ทุกรุ่นยังสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องรับชมโทรทัศน์ GEX-2850DVB2 Dual Diversity DVB-T2 เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากไพโอเนียร์ได้อีกด้วย "

          นายศักดิ์สิน จงกลนี กรรมการบริหาร บริษัท ซีซีเอ็ม ซิสเต็มส์ จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัวระบบ Wifi on Road ในรถยนต์ VIP สามารถใช้ได้ทุกเครือข่าย แบบ "Non-Stop 3G/4G " ว่า "วันนี้เราพร้อมที่จะบุกตลาดการให้บริการการติดตั้งและใช้งานระบบ Wifi ในรถยนต์ กับ Network 3G/4G โดยสามารถให้บริการการเข้าใช้งาน ในรถยนต์ มากถึง 20 คนและ สามารถ เข้าใช้งานระบบ Internet และ Download โดยไร้ขีดจำกัดทั่วประเทศ ถือได้ว่าเป็นตลาดการให้บริการรูปแบบใหม่ พร้อมฟรีค่าติดตั้งอีกด้วย"

          อ้น The Star กล่าว "อ้น ก็เป็นหนึ่งคนที่ขับรถยนต์ และชอบการตกแต่งรถยนต์ อ้นได้เสริมระบบ TV digital และการเล่นไฟล์ หนังผ่านระบบ USB กับ Mirage Audio มีความประทับใจมากๆ ในเรื่องความปราณีตและใส่ใจ ในงานติดตั้งอย่างแท้จริง อ้นต้องขอยกให้เค้าเป็น เบอร์หนึ่งเลย

          อีกอย่างนึงคือ อ้นเป็นคนที่เวลาขับรถ แล้วชอบฟัง ข่าว เวลารถติด หลังจาก ติดตั้ง ระบบทีวีดิจิตอลและ เราสามารถ วิ่งด้วยความเร็วเกิน 100 ก็ยังสามารถติดตามการรับชมข่าวสาร แบบคมชัด ไม่กระตุก

          กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่รถติด มาก อ้น Upgrade ลำโพงในงบประมาณที่เหมาะสมก็สามารถ ฟังเพลงเพราะๆ ในยามรถติดๆ ตอบโจทย์อารมณ์ และ เพิ่มความบันเทิงบนท้องถนนอย่างแท้จริงครับ "
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 15, 2015, 03:17:39 PM
“VOX” ฟิล์มติดรถยนต์ จัดเต็ม จัดหนัก รับมอเตอร์ เอ๊กซ์โป 2015 “ติดฟิล์ม VOX ลุ้นรถและรางวัลเกินล้าน!!”



          "VOX" (ว๊อกซ์) ฟิล์มติดรถยนต์รายเดียวในโลกที่ปกป้องผิวจากความร้อนและรังสี UV400/UVA1 รวมถึงแสงสีฟ้าที่ทำลายสายตา จัดแคมเปญ "ติดฟิล์ม VOX ลุ้นรถและรางวัลเกินล้าน" พร้อมอัดส่วนลดกระหน่ำภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015

          คุณพีรศักดิ์ ทองนรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ว๊อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงฟิล์มว๊อกซ์ว่า "ฟิล์มว๊อกซ์ แบ่งฟิล์มเป็น 2 ซีรีย์ ได้แก่ Luxury Series เป็นนวัตกรรมชั้นสูงสำหรับยนตรกรรมหรู และ Lady Series เพื่อปกป้องผิวขาวใส สวยสมบูรณ์แบบด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุด เพราะฟิล์มว๊อกซ์เป็นฟิล์มติดรถยนต์รายแรกที่ลดความร้อนและปกป้องรังสี UV400/UVA1 ได้ถึง 100% ด้วยวิธีการผลิตแบบนาโนเทคโนโลยี ทั้งนี้ยังปกป้องแสงสีฟ้าที่ทำลายสายตาอีกด้วย

          การจัดแคมเปญในครั้งนี้เราจึงจัดขึ้นเพื่อต้องการให้ลูกค้าได้สัมผัสกับฟิล์มว๊อกซ์ และเป็นการมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าว๊อกว์เป็นพิเศษ ด้วยการอัดแคมเปญ "ติดฟิล์ม VOX ลุ้นรถและรางวัลเกินล้าน" เพียงติดฟิล์ม VOX UV 400 PRO จากตัวแทนจำหน่ายติดตั้งอย่างเป็นทางการของฟิล์มรถยนต์ VOX ลูกค้าจะได้รับกล้อง ACTION CAMERA มูลค่า 4900 บาท พร้อมลุ้นรับรถมาสด้า 2 รุ่น 1.3 Sports High Plus ราคา 675,000 บาท และของรางวัลต่างๆ มากมายอีกด้วย ระหว่างวันนี้ - 29 กุมภาพันธ์ 2559 และพิเศษสำหรับงานมอเตอร์ เอ๊กซ์โป 2015 เราได้เพิ่มสิทธิพิเศษ เพียงจอง 3,000 บาท รับส่วนลด 30% พร้อมรับกล้อง VOX Action Camera ฟรีเมื่อติดตั้ง

          เชิญร่วมชมและสัมผัสฟิล์มว๊อกซ์ได้ที่งานมอเตอร์ เอ๊กซ์โป 2015 ที่บูธ K1 - K4 Challenger 3 วันนี้ - 13 ธันวาคม 2558" คุณพีรศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 16, 2015, 08:06:26 AM
7 ค่ายรถ 6 ผลิตภัณฑ์ดัง คว้ารางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม TAQA Award 2015



          สุกิจ ตันสกุล (ที่ 6 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คัสต้อม เอเซีย จำกัด นายวิชัย จิราธิยุต (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้อำนวยการสถานบันยานยนต์ และดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล (ที่ 6 จากขวา) บรรณาธิการอำนวยการธุรกิจสื่อเครือผู้จัดการ ร่วมพิธีประกาศผลและมอบรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม ประจำปี 2558 หรือ Thailand Automotive Quality Award 2015 (TAQA) โดยมีนายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ (Motor Expo) และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ (ที่ 5 จากซ้าย) ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมแสดงความยินดีกับ 13 แบรนด์ดังซึ่งประกอบด้วยบริษัทรถและผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในปีนี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพคท์ เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 16, 2015, 08:07:38 AM
“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32” สรุปยอดจอง 44,874 คัน ผู้ชมทะลัก 1.5 ล้านคน





          "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" ประสบความสำเร็จ ยอดจองรถยนต์ 39,125 คัน รถจักรยานยนต์ 5,749 คัน ผู้ชมงานทะลัก 1,476,936 คน โตโยตา รักษาแชมป์ ตามด้วย ฮอนดา และมาซดา อัดฉีดเม็ดเงินสะพัดสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 50,000 ล้านบาท

          ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" เปิดเผยว่า "งานปีนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของงาน ด้วยยอดจองรถยนต์ภายในงานรวม 39,125 คัน ลดลงกว่าปีก่อน 7.4% (ปี 2557 มียอดจองรวม 42,254 คัน) ส่วนยอดจองรถจักรยานยนต์ 5,749 คัน เป็นอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน 111.5% (ปี 2557 มียอดจองรวม 2,718 คัน) สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนภายในงานประมาณ 50,000 ล้านบาท"

          ยอดจองรถยนต์รวม 39,125 คัน ค่ายรถยนต์ที่มียอดจองสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ โตโยตา 5,975 คัน อันดับ2 ฮอนดา 4,864 คัน อันดับ3 มาซดา 4,542 คัน อันดับ4 อีซูซุ 4,348 คัน และอันดับ5 มิตซูบิชิ 3,617 คัน อีกทั้งผู้จัดได้รวบรวมข้อมูลจากผู้ร่วมรายการซื้อรถ..ชิงรถ ปีนี้พบว่า รถเก๋ง มียอดจองคิดเป็นสัดส่วน 46.2% ของยอดจองทั้งหมดในงาน รถกิจกรรมกลางแจ้ง (เอสยูวี) มียอดจอง 30.9 % รถกระบะมียอดจอง 19.1% และรถประเภทอื่นๆ 3.8% ส่วนรุ่นรถที่มาแรงและมียอดจองสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) ฮอนดา ซิที 2) มาซดา 2 3) มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท 4) ฟอร์ด เรนเจอร์ และ 5) อีซูซุ ดี-แมกซ์

          สำหรับรถจักรยานยนต์ ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นพิเศษ มียอดจองรวม 5,749 คัน สูงกว่าปีที่แล้วถึง 111.5% อันดับ1 ยามาฮา 1,323 คัน อันดับ2 จีพีเอกซ์ 775 คัน อันดับ3 คาวาซากิ 738 คัน ส่วนจำนวนผู้เข้าชมงานปีนี้สูงถึง 1,476,936 คน เพิ่มขึ้น 6.7% จากปีก่อนที่มีผู้ชม 1,384,182 คน

          ด้านราคาเฉลี่ยรถที่ขายได้ในงาน 1,146,351 บาท ใกล้เคียงกับปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 1,141,896 บาท ปีนี้ผู้บริโภคให้ความสนใจกับรถเอสยูวี และรถกระบะ เพิ่มมากขึ้น
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 17, 2015, 03:47:52 PM
ยอดจองมาสด้ากระหึ่มงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ไฮไลท์มาสด้า2 รุ่นปี 2016 รถที่ประหยัดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้สิทธิ์ลดภาษีใหม่ตามข้อกำหนดของภาครัฐ





          มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย สุดปลื้มหลังจากลูกค้าแห่จองรถยนต์มาสด้ากันแน่นบูธในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ผ่านมาครึ่งทางของงานฯ มียอดจองทุกรุ่นเกือบ 2,000 คัน โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ มาสด้า2 หลังจากที่มาสด้างัดกลเม็ดเด็ดออกมากระตุ้นตลาด ด้วยการประกาศนำเอาราคาของปีหน้ามาขายในปีนี้ ส่งผลให้รถยนต์มาสด้า2 มีราคาลดลงทันที 21,000 บาท พร้อมกับเพิ่มรุ่นย่อยอีก 6 รุ่น เข้ามาเสริมทัพตลาด รวมทั้งผลตอบรับจากการเปิดตัวแนะนำ All New Mazda CX-3 ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงอยู่ในขณะนี้

          นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตามนโยบายของทางภาครัฐที่มีการกำหนดโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ สำหรับรถที่มีประสิทธิภาพและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ต่ำกว่าเกณฑ์ ตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ที่จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป เช่นเดียวกับมาตรฐานสากลในประเทศผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก สำหรับกลุ่มรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะที่ 2 หรือ โครงการอีโคคาร์ เฟส 2 กำหนดค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ต่ำกว่า 100 กรัมต่อกิโลเมตร จะได้อัตราภาษีสรรพสามิตที่ลดลงจาก 17% ในปีนี้เหลือ 14% ในปีหน้า ด้วยความยอดเยี่ยมของมาสด้า2 ที่เข้าร่วมโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะที่ 2 หรือ โครงการอีโคคาร์ เฟส 2 สามารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่า 100 กรัม/กิโลเมตร ประหยัดน้ำมันสูงถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร และผ่านข้อกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัย

          "ดังนั้นจึงทำให้รถยนต์นั่งมาสด้า2 กลายเป็นรถยนต์รุ่นแรกและเพียงรุ่นเดียวในประเทศไทย ที่สามารถผ่านหลักเกณฑ์ข้อกำหนดอันเข้มงวดดังกล่าว ด้วยเหตุผลหลักอันสำคัญนี้ทาง บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้ประกาศปรับราคาขายปลีกของรถยนต์มาสด้า2 รุ่นปี 2016 (ปี พ.ศ.2559) ลดลง ด้วยความตั้งใจจริงที่จะมอบสิทธิประโยชน์จากการได้ลดอัตราภาษีดังกล่าวส่งต่อให้กับลูกค้าที่สนใจรถมาสด้า2 โดยรถมาสด้า2 รุ่นปี 2016 พร้อมเปิดตัวแล้วในวันที่ 1 ธันวาคม 2559 และเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้ามาสด้าที่ให้ความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีสกายแอคทีฟและรูปลักษณ์การออกแบบอันงามสง่าภายใต้ โคโดะ ดีไซน์" ธีร์ กล่าวเพิ่มเติม

          นอกมาสด้าจะประกาศราคาจำหน่ายของรถยนต์นั่งมาสด้า2 ใหม่ ตามโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ที่ลดลงแล้ว มาสด้ายังได้เพิ่มเติมรุ่นเข้ามาอีก 6 รุ่น ประกอบด้วย New Mazda2 รุ่น High Plus L มีให้ลูกค้าเลือกทั้งตัวถังแบบซีดานและแบบแฮตช์แบค และมีให้เลือกเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์คลีนดีเซล สกายแอคทีฟ-ดี มีไฟหน้าแบบ LED พร้อมกล้องมองหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ราคาจำหน่าย 779,000 บาท พร้อมกันนี้ยังได้เพิ่มรุ่น New Mazda2 Connect เข้ามาทั้งรุ่นซีดานและรุ่นแฮตช์แบค โดยเพิ่มชุดการเชื่อมต่อการสื่อสาร หรือ MZD Connect เข้ามาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ราคาจำหน่าย 617,000 สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และราคา 728,000 บาท สำหรับเครื่องยนต์คลีนดีเซล

          สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปของงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ มีประชาชนออกมายลโฉมรถยนต์รุ่นใหม่ๆ พร้อมสัมผัสเทคโนโลยีใหม่ๆ สร้างความคึกคักให้กับงานเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ยอดจองรถยนต์มาสด้าที่ผ่านมาเพียง 7 วัน มียอดจองสูงถึง 1,918 คัน โดยรถที่ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากที่สุดในงานนี้คือ รถยนต์นั่งมาสด้า2 มีสัดส่วนประมาณ 40% ตามมาด้วยรถฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์ ออลนิว มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 มีสัดส่วนประมาณ 20% รถยนต์มาสด้า3 ประมาณ 20% รถอเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ประมาณ 15% และรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 ประมาณ 5%
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 18, 2015, 08:49:04 AM
นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ยอดพุ่ง กระแสตอบรับดีล้นหลาม





          บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรม ยานยนต์ที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ (Innovation that excites) เผยยอดจำหน่ายนิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด พุ่ง กระแสการตอบรับดี ตั้งแต่เปิดตัวกับสื่อมวลชน เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 หรือ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ระหว่างวันที่ 2 ถึง 13 ธันวาคม 2558

          นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด เอสยูวี ไฮบริดที่มาพร้อมเทคโนโลยีคลัทช์คู่อัจฉริยะ (Intelligence Dual Clutch System) ที่สามารถตอบทุกรูปแบบของการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ มียอดจำหน่ายทั่วประเทศดีขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัว และนับเป็นดาวเด่นของนิสสันในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 หรือ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ด้วยยอดจำหน่ายเป็นไปตามเป้าหมาย จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม จำนวนกว่า 2,000 คัน หรือกว่า 70% ของยอดจำหน่ายนิสสัน เอ็กซ์เทรล ทั้งหมด"

          สำหรับนิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ ซึ่งเป็นรถเอสยูวี ไฮบริดที่มีสมรรถนะสูง ตอบทุกโจทย์ความสมบูรณ์แบบของชีวิต ที่นิสสันภูมิใจนำเสนอให้ลูกค้าในครั้งนี้ มาพร้อมเทคโนโลยีเต็มพิกัด และมีราคาที่สมเหตุสมผล โดยมีให้เลือก 3 รุ่น ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1,249,000 บาท ส่วนเทคโนโลยีที่โดดเด่นในรุ่นนี้ คือ เทคโนโลยี เพียวไดร์ฟ ไฮบริด ที่มาพร้อมระบบคลัทช์คู่อัจฉริยะ (Intelligence Dual Clutch System) เอกสิทธิ์เฉพาะของนิสสัน ที่ผสานทั้งด้านสมรรถนะและความสนุกสนานในการขับขี่ได้อย่างลงตัว สามารถให้กำลังและแรงบิดอย่างเยี่ยมยอด เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร นับเป็นรถที่มีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่โดดเด่นที่สุดในคลาส โดยประหยัดกว่าเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ถึง 31% ให้ความเงียบและความนุ่มนวลในการตัดต่อกำลัง ซึ่งลูกค้าที่ซื้อไปต่างประทับใจในสมรรถนะที่เหนือระดับ ในนิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ขณะที่ลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม และชอบการเดินทางก็จะถูกใจเป็นพิเศษ

          นายประพัฒน์ ยังได้กล่าวถึง การตอบรับที่ดีของรถนิสสัน เอ็กซ์เทรล รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ว่ายังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยความเป็นรถครอสโอเวอร์ พรีเมี่ยม ที่ให้ความครบครัน มีความหรูหรา และได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีระดับโลก* อาทิครั้งแรกในโลกกับระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในขณะที่ผู้ขับขี่ถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง (Active Engine Brake), ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (Active Ride Control), ครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ ด้วยกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา (Around View Monitor - AVM) และประตูท้ายเปิด-ปิด อัตโนมัติพร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Auto Lift Gate)

          สำหรับยอดจองในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 นิสสันมียอดจองดีขึ้นทุกรุ่น นอกเหนือจากนิสสัน เอ็กซ์เทรลแล้ว นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา สปอร์ตเทค ใหม่ และ นิสสัน ซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ ก็มียอดจองเข้ามาเกินเป้าหมาย ขณะที่รถยนต์อีโคคาร์ รุ่นยอดนิยมของนิสสันทั้งมาร์ชและอัลเมร่า ที่ได้รับการปรับโฉมให้มีความสดใหม่ ด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไดมอนด์ แอลอีดี (Diamond LED Daytime Running Lights) มาพร้อมความทันสมัยด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน สมรรถนะในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และประหยัดคุ้มค่า และในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 นิสสันได้เพิ่มทางเลือกด้วยสีพิเศษนั่นคือ สีม่วงพลัม (Plum) ที่ดูโดดเด่น ทันสมัย ทำให้ทั้งสองรุ่น ยังคงครองใจ เป็นอีโคคาร์อันดับหนึ่งของไทย ด้วยยอดขายรวมสะสมกว่า 240,000 คัน

          ในส่วนของโปรโมชั่นพิเศษ** นายประพัฒน์กล่าวว่า "ลูกค้าให้การตอบรับกับแคมเปญที่นิสสันจัดให้ ซึ่งถือว่ามีความพิเศษและหลากหลาย ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะข้อเสนอพิเศษสุดเร้าใจสำหรับนิสสัน ซิลฟี รวมถึง ซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ ที่ให้ลูกค้าเลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% หรือฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี และผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,888 บาท ส่วนนิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี, ฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง TOUGH PACKAGE (เฉพาะรุ่น) และยังสามารถเลือกรับข้อเสนอไม่ว่าจะเป็นดาวน์ต่ำสุด 19,999 บาท พร้อมฟรีค่าบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร หรือเลือกผ่อนต่อเดือนสบายๆ เริ่มต้นเพียง 3,999 บาท และที่ถูกใจมากคือข้อเสนอเพิ่มมูลค่ารถเก่าเมื่อแลกซื้อรถใหม่ (Trade-in bonus) สูงสุด 35,000 บาท ขณะที่ข้อเสนอของ นิสสัน เอ็กซ์เทรล รวมทั้ง เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ ที่ให้ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี และฟรี ค่าบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% ก็ได้รับความสนใจอย่างมากมาย"

          ผู้ที่สนใจรถนิสสัน สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์นิสสันทั่วประเทศ หรือที่ Call Center หมายเลข 02 401 9600 ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถมีความมั่นใจและอุ่นใจกับการใช้รถนิสสัน ด้วยเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานพร้อมช่างผู้ชำนาญกว่า 213 แห่ง ครอบคลุม 77 จังหวัด ทั่วประเทศ

          หมายเหตุ*อุปกรณ์มาตรฐานอาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น ** ข้อเสนอเฉพาะรุ่น มีข้อกำหนดและเงื่อนไข
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 20, 2015, 12:22:04 PM
THAI AUTOMOTIVE DESIGNERS MEET THE MASTERS ประสบความสำเร็จ นักออกแบบยานยนต์ไทย ได้กระทบไหล่เทพ!



          เปิดใจ 5 นักออกแบบยานยนต์ไทย หลังไปร่วมเวิร์คชอพกับนักออกแบบยานยนต์ระดับโลก ในงาน MEET THE MASTERS ของนิตยสาร QUATTRORUOTE ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อเร็วๆ นี้

          ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" เผยว่า "บริษัท สื่อสากล จำกัด ได้เคยจัดการประกวด THAI YOUNG AUTOMOTIVE DESIGNER AWARD ระหว่างปี 2543-2552 ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาการศึกษาด้านการออกแบบยานยนต์ในประเทศไทย ดังนั้น เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องเราจึงจัดโครงการ THAI AUTOMOTIVE DESIGNERS MEET THE MASTERS คัดเลือกนักออกแบบยานยนต์ไทย 5 คน ไปร่วมงาน MEET THE MASTERS ของนิตยสาร QUATTRORUOTE พันธมิตรธุรกิจของบริษัทฯ พบกับนักออกแบบยานยนต์ระดับโลก 12 ท่าน อาทิ CHRIS BANGLE, GIORGETTO GIUGIARO, MARCELLO GANDINI ฯลฯ ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อ 21–28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้รับทั้งความรู้และประสบการณ์มากมาย นับว่าโครงการฯ ประสบผลสำเร็จเกินคาด"

          ด้านนักออกแบบยานยนต์ไทยที่ไปร่วมงานดังกล่าวได้เปิดเผยถึงความประทับใจของตนดังนี้ อภิชาต ภูมิศุข อาจารย์พิเศษ ภาควิชาออกแบบผลิตภัณฑ์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร "ผมประทับใจทีมงานนิตยสาร QUATTRORUOTE ที่ให้การต้อนรับตัวแทนประเทศไทยเป็นอย่างดี อีกทั้งได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ กับดีไซน์เนอร์ด้านยานยนต์ชื่อดังระดับโลกอย่างเป็นกันเอง ซึ่งผมประทับใจกับมาสเตอร์ทุกท่านที่มา ทำให้ได้เรียนรู้ถึงความคิดของนักออกแบบระดับโลกในอีกแง่มุมหนึ่ง โดยผมจะนำความรู้และประสบการณ์ครั้งนี้มาถ่ายทอดสู่นักศึกษาไทยต่อไป"

          ภัทรกิติ์ โกมลกิติ อาจารย์ประจำภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย "ผมได้ร่วมจัดงาน THAI YOUNG AUTOMOTIVE DESIGNER AWARD กับ บริษัท สื่อสากล จำกัด มาตั้งแต่สมัยแรก เมื่อกว่าสิบปีมาแล้ว โดยร่วมกับทีมนิสิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค้นหารูปแบบของรถยนต์แห่งอนาคตมารุ่นแล้วรุ่นเล่า การได้ไปร่วมงาน MEET THE MASTERS คือการได้เปลี่ยนบทบาทของตนเองจากเทรนเนอร์ ไปเป็นผู้เรียน ได้แบ่งปันประสบการณ์กับกลุ่มนักเรียนที่มากประสบการณ์ด้วยกัน และได้เรียนรู้จากครูและบรมครูผู้สร้างรถยนต์แห่งอนาคต ตัวจริงเสียงจริง จึงถือว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ และอาจเป็นครั้งเดียวในชีวิต ดังนั้นจึงถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้"

          กิตติเศรษฐ์ เก่งการค้า ผู้จัดการศูนย์นวัตกรรมด้านการออกแบบอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย "ผมต้องขอบคุณ บริษัท สื่อสากล จำกัด นิตยสาร QUATTRORUOTE ที่จัดโครงการนี้ และมาสเตอร์ทั้ง 12 ท่าน ซึ่งบางท่านมีอายุถึง 90 ปี ยังสละเวลาอันมีค่ามามอบความรู้และวิธีคิดที่ถูกต้องตามหลักการออกแบบ ผมจะนำไปถ่ายทอดให้แก่นักออกแบบไทยต่อไป"

          ศิริพงษ์ รุ่งเรืองวุฒิกุล 3D DESIGNER / FORPEOPLE ประเทศอังกฤษ "ผมคาดไม่ถึงว่านักออกแบบระดับโลกจะเข้ามาทักทายตัวแทนคนไทยอย่างเราก่อน แสดงให้เห็นถึงอัธยาศัยที่เป็นกันเองอย่างมาก และพร้อมที่จะถ่ายทอดความคิด ความรู้ ประสบการณ์อย่างใกล้ชิด ยิ่งไปกว่านั้นผมประทับใจในแนวคิดที่ MARCELLO GANDINI กล่าวว่า ครูที่ดีที่สุดของนักออกแบบคือพนักงานของเขา"

          เจนณรงค์ มุ่งทวีพงษา เยาวชนอายุเพียง 15 ปี ผู้มีพรสวรรค์ด้านการออกแบบรถยนต์ กำลังศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล "ผมดีใจที่ได้รับโอกาสนี้ ไปฟังนักออกแบบรถยนต์ระดับโลกพูดถึงการออกแบบของเขา มันสร้างแรงบันดาลใจให้ผมอย่างมากครับ ครั้งนี้ผมมีโอกาสพูดคุยกับFILIPPO PERINI หัวหน้าทีมออกแบบ Lamborghini และ Ital Design เขาชื่นชมผลงานของผมทำให้ผมภูมิใจมากครับ"

          ผู้สนใจ ชมนิทรรศการโครงการ THAI AUTOMOTIVE DESIGNERS MEET THE MASTERS ได้ในงาน"มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" ณ อิมแพค เมืองทองธานี ถึงวันที่ 13 ธันวาคม 2558 และสามารถติดตามรายละเอียดโครงการได้ที่ http://www.motorexpo.co.th/meetthemasters/
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 20, 2015, 12:23:10 PM
มาสด้า2 ควง CX-3 ทำตลาดรถยนต์ปั่นป่วน ลูกค้าล้นทะลักแห่จองทะลุกว่า 4,500 คัน ยอดขายเดือนพฤศจิกายนทะลุ 4,000 คัน เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี





          บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยตัวเลขยอดจองรถยนต์มาสด้าในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ เรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะรถยนต์มาสด้าภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟต่างได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทุกรุ่น ส่งผลให้ยอดจองพุ่งทะลุถึง 4,542 คัน โดยเฉพาะไฮไลท์เด็ดสำคัญของงานในปีนี้ คือ การเปิดตัวรถรุ่นใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น รวมทั้งการแนะนำแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ล่าสุด ส่งผลให้บูธมาสด้ากลายเป็นแหล่งรวมลูกค้าที่หลั่งไหลกันมาจากทั่วสารทิศ เพื่อชมรถและจับจองเป็นเจ้าของอย่างเนื่องแน่นตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะพระเอกของงานนี้ นั่นคือ มาสด้า2 และมาสด้า CX-3 ที่ผนึกกำลังพากันสร้างยอดจองกันอย่างคึกคัก จนกลายเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในงานแห่งนี้

          นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหารมาสด้า บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ยอดจองรถยนต์มาสด้าในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวของมาสด้า โดยเฉพาะรถยนต์ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟทุกรุ่นที่มาสด้านำมาจัดแสดง รถทุกคันต่างได้รับความสนใจอย่างมากจากลูกค้าชาวไทย สามารถคว้ายอดจองในครั้งนี้เหนือความคาดหมาย โดยเฉพาะพระเอกสำคัญ คือ ฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์ที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ ออลนิว มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ที่ควงคู่มากับ นิว มาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ ที่มีการเพิ่มรุ่นเข้ามาโดยการเพิ่มไปหน้า LED และกล้องมองหลัง รวมทั้งการเพิ่ม Day Time Running Light และมีการปรับราคาขายตามโครงสร้างภาษีใหม่ที่จะเริ่มใช้ในปีหน้าเนื่องจากสามารถผ่านข้อกำหนดในเรื่องการประหยัดน้ำมัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมาตรฐานความปลอดภัย ส่งผลให้มาสด้า2 กลายเป็นรถยนต์ที่ให้ความคุ้มค่า คุ้มราคา แถมอัตราการประหยัดน้ำมันดีที่สุดถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน กลายเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับพรีเมียมหนึ่งเดียวในคลาส ด้วยราคาขายเริ่มต้นเพียง 5.29 แสนเท่านั้น

          "จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคต้องตัดสินใจอย่างละเอียดในการเลือกซื้อรถที่ตอบโจทย์การใช้งานที่เหมาะสมกับความต้องการในทุกๆ ด้าน ลูกค้ามีความต้องการรถยนต์ที่มีคุณภาพสูง เครื่องยนต์พลังแรง ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน มีความปลอดภัยสูง รูปลักษณ์สวยงาม มีราคาที่เหมาะสม และสามารถตอบสนองการใช้งานที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด โดยเฉพาะรถยนต์ที่ให้ได้ทั้งความแรงและสามารถประหยัดน้ำมันในรถยนต์คันเดียวกัน" นายฮิเดสึเกะ กล่าวเพิ่มเติม

          สาเหตุสำคัญที่ทำให้บูธมาสด้ามีคึกคักตลอดทั้งงานฯ เนื่องจากในปีนี้ มาสด้ามีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ด้วยกันถึง 3 รุ่น และมาพร้อมการการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ของรถมาสด้า2 น้องนาย ณภัทร เสียงสมบุญ เพื่อสร้างการสื่อสารให้เข้าถึงลูกค้ากับ New Mazda2 ซึ่งเป็นพระเอกของงานนี้อย่างแท้จริงหลังจากที่มาสด้าได้มีการปรับเพิ่มรุ่นและมีการปรับราคา โดยมียอดจองทั้งสิ้น 2,135 คัน ตามมาด้วยดาวเด่นน้องใหม่ล่าสุด ฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์ ออลนิว มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 มียอดจอง 908 คัน รถสปอร์ตอเนกประสงค์เอสยูวี All New Mazda CX-5 มียอดจองรวม 454 คัน ตามมาด้วยรถยนต์นั่งคอมแพ็คคาร์มาสด้า3 มียอดจองรวมทั้งสิ้น 727 คัน และรถสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 โปร มียอดจองรวมทั้งสิ้น 308 คัน และรถสปอร์ตโรดสเตอร์ ออลนิว Mazda MX-5 จำนวน 10 คัน ส่งผลให้ยอดจองประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง

          นอกจากจะประสบความสำเร็จด้านยอดจองในงานนี้แล้ว ยังส่งผลต่อเนื่องถึงยอดขายในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาอีกด้วย โดยมาสด้าได้ออกมายืนยันตัวเลขยอดขายที่ทะลุเกิน 4,000 คัน เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี โดยมียอดขายสูงถึง 4,197 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 66.2% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายนปี 2557 จำนวน 2,525 คัน สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 5.5% และมาสด้า2 ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องมียอดขายรวม 1,912 คัน เพิ่มขึ้น 207% ตามมาด้วยมาสด้า3 จำนวน 610 คัน มาสด้า CX-5 จำนวน 422 คัน รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 656 คัน และน้องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว ออลนิวมาสด้า CX-3 จำนวน 597 คัน

          และหากนำเอาตัวเลขยอดขายรวมตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมาจนถึงเดือนพฤศจิกายนของปีนี้ ปรากฏว่ามาสด้ายังคงเป็นเจ้าเดียวที่เติบโตมากที่สุดสวนกระแสของตลาด โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 33,838 คัน เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 อยู่ที่ 31,527 คัน สามารถครองส่วนแบ่งตลาด 4.9% เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยแบ่งออกเป็นมาสด้า2 ขายได้มากที่สุดจำนวน 16,633 คัน เพิ่มขึ้น 148% ตามมาด้วยมาสด้า3 จำนวน 6,411 คัน มาสด้า CX-5 จำนวน 3,167 มาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 7,013 และล่าสุด CX-3 จำนวน 597 คัน นอกจากนี้ยังมีรถพรีเมียมคาร์อีกจำนวน 17 คัน

          นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นผลพวงมาจากการที่ลูกค้าให้การตอบรับกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟและรูปลักษณ์การออกแบบอันสวยงามภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ ที่การันตีจากการใช้งานและลูกค้ามีการบอกต่อปากต่อปาก รวมทั้งการเดินหน้าจัดกิจกรรมด้านการตลาดอย่างต่อเนื่องของมาสด้า เพื่อสร้างการรับรู้ด้านผลิตภัณฑ์อยู่ตลอดปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่ด้านยอดขายที่ได้รับการตอบรับอย่างดี

          โดยเฉพาะการเปิดตัวรถสปอร์ตโรดสเตอร์ เจนเนอเรชั่นที่ 4 (ND) All-New Mazda MX-5 เป็นรถ Iconic ของมาสด้าที่เป็นสัญลักษณ์และต้นตำรับของรถสปอร์ตน้ำหนักเบา สมรรถนะที่เน้นถึงความสนุกสนานในการขับขี่การตอบสนองได้ทันใจ ความแม่นยำในการควบคุมที่ทำได้ตามใจสั่งของผู้ขับขี่ หรือ จินบะ-อิตไต ความสมดุลการทรงตัวและเสน่ห์ของรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่มีบทพิสูจน์จากการตอบรับของผู้ใช้ทั่วโลก กับการเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขายดีที่สุดในโลกจากการบันทึกของกินเนสบุ๊คเวิร์ลออฟเรคคอร์ด มาสด้า MX-5 เจนเนอเรชั่นล่าสุด มาพร้อมกับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จี ขนาด 2000 ซีซี ระบบช่วงล่างและโครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ออกแบบด้วยแนวทางการออกแบบโคโดะ ที่ให้ความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวทั้งคันสะกดทุกสายตา เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นอย่างยาวนานของการพัฒนารถสปอร์ต ดีไซน์แบบสปอร์ต การขับขี่อย่างสนุกสนาน ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์มาสด้า นายธีร์ กล่าวเพิ่มเติม
http://www.mazda.co.th
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 21, 2015, 03:37:51 PM
ภาพข่าว: มอบรางวัล MOTOR EXPO PHOTO CONTEST 2015





           ธนพล พูลเดชาลาภ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัท สื่อสากล จำกัด มอบรางวัลการประกวดภาพถ่าย "MOTOR EXPO PHOTO CONTEST 2015" ในหัวข้อ "CONNECT: เชื่อมไกลมาใกล้กัน ผูกพันด้วยภาพถ่าย" โดยผู้ชนะเลิศได้แก่ พลฤทธิ์ ฐิติวริทธินันท์ ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ พร้อมกล้องถ่ายรูป CANNON รุ่น EOS 7D MARK II ในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" เมื่อเร็วๆ นี้
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 23, 2015, 03:13:02 PM
GPX Racing ค่ายรถสัญชาติไทย มาแรง คว้าอันดับ 2 ยอดจองรถมอเตอร์ไซค์ภายในงาน Motor Expo 2015









จบไปแล้วกับงานมหกรรมยานยนต์ส่งท้ายปี Motor Expo 2015 งานนี้ ค่ายรถสัญชาติไทย GPX Racing มาแรงแซงทางโค้งจนคว้าอันดับ 2 ด้วยยอดจองรถมอเตอร์ไซค์ภายในงาน 775 คัน ซึ่งเรือธงของค่ายในปีนี้ ที่สามารถสร้างยอดจองถล่มทลายมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้น GPX – Legend 200 cc รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิคสไตล์คาเฟ่เรเซอร์สุดเท่ ตามด้วยปีศาจ Demon 125 cc และ CR5 200 cc ที่ทั้งคู่มาในโฉม Minor Change ปี 2016 ที่สามารถสร้างกระแสภายในงานได้อย่างต่อเนื่องจากรุ่นแรก

ติดตามความเคลื่อนไหวของ GPX Racing ได้ที่...
www.gpxthailand.com
www.facebook.com/gpxracingthailand

 
Title: Re: งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" หรือ “MOTOR EXPO 2015”
Post by: activity on December 30, 2015, 02:19:22 PM
บ๊อช โชว์เทคโนโลยีความปลอดภัยยานยนต์ ณ งาน Motor Expo 2015 ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวยานยนต์ (ESC) สามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากรถยนต์ส่วนบุคคล รถบรรทุก รถอเนกประสงค์ SUV



          Bosch บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลก ให้การสนับสนุนโครงการ ขับเป็น...ขับปลอดภัย กับสื่อสากล ในงาน Motor Expo 2015 เพื่อสาธิต ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวยานยนต์ (ESC)และศักยภาพด้านความปลอดภัยและลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

          คุณลีออน ควินน์ ผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโส แผนกระบบควบคุมแชสซี กล่าวว่า " บ๊อช เชื่อว่าระบบช่วยควบคุมการทรงตัวยานยนต์ (ESC) ควรถูกจัดให้เป็นระบบมาตรฐาน เพื่อยกระดับความปลอดภัยในชีวิตของคนไทย โดยระบบดังกล่าว สามารถป้องกันการลื่นไถลของรถได้ถึง 80% และลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้เป็นอันดับ 2 รองจากเข็มขัดนิรภัย ทางบริษัทจึงจัดให้มีการสาธิตในช่วงเวลานี้ของปี เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผู้ขับขี่เริ่มเดินทางในช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ เป็นที่ทราบกันดีว่า สถิติผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตในช่วงวันหยุดยาวนั้นสูงมาก สำหรับช่วงปีใหม่ในปีที่ผ่านมียอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 300 รายและเกิดอุบัติเหตุกว่า 3,000 ครั้ง จึงควรมีการรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปตระหนักถึงความสำคัญของเทคโนโลยีความปลอดภัยยานยนต์ เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียเหล่านี้"