Show Posts
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
30016
news & activity / GS Battery ประกาศทุ่มทุน สนับสนุนทีม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ซิตี้
« on: July 07, 2013, 02:53:39 PM »
GS Battery รุกอีกขั้นกับสปอร์ตมาเก็ตติ้ง
ประกาศสนับสนุนทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ซิตี้ 2 ปีรวด
หนุนเรือใบสีฟ้า ประกาสิทธิ์ พรประภา กรรมการบริหาร พร้อมด้วย ศรันย์ ชินประหัษฐ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามยิเอสเซลส์ จำกัด ร่วมแถลงข่าว เปิดตัว GS แบตเตอรี่ ในฐานะผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการสโมสร Manchester City ในประเทศไทย ระยะเวลา 2 ปี โดยมีนักเตะชุดปัจจุบันของทีม ไมก้าห์ ริชาร์ดส และ สก็อตต์ ซินแคลร์ มาร่วมเป็นสักขีพยาน ที่อาคารสยามกลการ
GS Battery ตอกย้ำ “พลังที่เป็นหนึ่ง” เปิดตัวการสนับสนุนสโมสรระดับโลก “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ในประเทศไทย เผยเซ็นสัญญา 2 ปี มั่นใจกลยุทธ์สปอร์ตมาเก็ตติ้งครบวงจรตอกย้ำความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่ง พร้อมขยายฐานคนรุ่นใหม่ ไปกับทีมเรือใบสีฟ้าที่มีนักเตะซุปเปอร์สตาร์กว่าค่อนทีม
นายประกาสิทธิ์ พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท สยามยีเอสเซลส์ จำกัด ผู้นำด้านแบตเตอรี่ “GS Battery” ภายใต้สโลแกน “เทคโนโลยีระดับโลก” ที่มาพร้อม Concept “พลังที่เป็นหนึ่ง” เปิดเผยว่า GS Battery ได้บรรลุข้อตกลงเซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุน ทีมสโมสรฟุตบอลระดับโลก “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในการสนับสนุนเป็นระยะเวลา 2 ปี คือปี 2014 และ 2015 GS Battery จะได้รับสิทธิ์ในการใช้ตราสัญลักษณ์และภาพลิขสิทธิ์ของสโมสร สิทธิ์การทำกิจกรรมการตลาดร่วมกับสโมสร รวมถึง การทำกิจกรรมกับนักเตะชุดใหญ่ของทีม และยังได้เตรียมวางแผนทำกิจกรรมร่วมกับสโมสรอย่างต่อเนื่องในต้นปีหน้า
นายประกาสิทธิ์ พรประภากับไมก้าห์ ริชาร์ดส และ สก็อตต์ ซินแคลร์
การเป็นผู้สนับสนุนสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้อย่างเป็นทางการครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง ที่บริษัทมุ่งใช้ในการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีแฟนคลับเป็นคนรุ่นใหม่จำนวนมาก สร้างทีมอย่างมีมาตรฐาน เป็นทีมที่รวมเอา Football Stars ที่มีความสามารถไว้มากที่สุดทีมหนึ่งของอิงลิช พรีเมียร์ ลีก เช่น ดาบิด ซิลบา ทีมชาติสเปน/ กุน อากูเอโร่ ทีมชาติอาร์เจนติน่า / โจ ฮาร์ท และแกเร็ท แบร์รี่ทีมชาติอังกฤษ/ ยาย่า ตูเร่ ทีมชาติ ไอวอรี่ โคสต์ อีกทั้งเป็นสโมสรที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของทีมที่มีมาตรฐานระดับสูง และตรงกับแนวคิดของ GS Battery ที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมด้านแบตเตอรี่ ด้วยเทคโนโลยีระดับสูงเช่นกัน รวมถึงบริการต่างๆ ให้กับลูกค้า ภายใต้แนวคิด “พลังที่เป็นหนึ่งที่ไม่หยุดก้าวไปข้างหน้า” จากผู้นำด้านแบตเตอรี่ ตัวจริง GS Battery เทคโนโลยี ระดับโลก
“แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือเป็นสโมสรคลื่นลูกใหม่แนวหน้าของโลก เป็นขวัญใจคนรุ่นใหม่ โดยพบว่าปัจจุบันเรือใบสีฟ้ามีแฟนคลับทั่วโลก โดยในประเทศไทยมีสาวกอยู่กว่า 2.3 ล้านคน การสนับสนุนครั้งนี้ถือเป็นความมุ่งมั่นในการยกระดับวงการฟุตบอลเมืองไทย ให้มีความน่าสนใจและตื่นตัวในการพัฒนาให้ก้าวหน้า ขณะเดียวกันเป็นการสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ GS Battery ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มลูกค้าทั้งเก่าและใหม่”
นายประกาสิทธิ์ กล่าวอีกว่า “ปัจจุบันทางบริษัทให้การสนับสนุนและช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลของเมืองไทย ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนทีมในไทยพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 2 อย่างต่อเนื่อง การจับมือกันระหว่างทีมฟุตบอลยักษ์ใหญ่จากเกาะอังกฤษและ GS BATTERY ในครั้งนี้ ถือเป็นการก้าวไปอีกขั้นของการสนับสนุนวงการกีฬา ที่ได้ยกระดับจากระดับประเทศไปสู่ระดับโลก โดยมุ่งหวังว่าในอนาคต ทาง GS BATTERY จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบุคคลากรและมอบโอกาสให้กับผู้มีความสามารถทางด้านกีฬาให้ได้ก้าวเข้าไปสู่วงการกีฬาระดับโลกได้อย่างเต็มตัว”
สำหรับสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) เป็นสโมสรฟุตบอลที่มาแรงที่สุดในศตวรรษนี้ โดยก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1880 (พ.ศ. 2423) ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ประสบความสำเร็จตั้งแต่ช่วงปลายยุค 1960 – 1970 โดยผลงานที่ผ่านมา เป็นแชมป์อังกฤษพรีเมียร์ลีก 3 สมัย , เอฟ เอ คัพ 5 ครั้ง , ลีก คัพ 2 ครั้ง , ยูโรเปี้ยนคัพหรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก 1 ครั้ง โดยปัจจุบันสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือเป็นหนึ่งในทีมที่มีมูลค่าในการใช้จ่ายด้านการทำการตลาด และการซื้อขายนักเตะ สูงสุด ทีมหนึ่งของอิงลิช พรีเมียร์ ลีก
ด้านความสำเร็จของ GS BATTERY ในปัจจุบัน เป็น แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับและมียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 40 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนรวมในตลาดแบตเตอรี่ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านลูก โดยทาง บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีระดับโลก ในการผลิตสินค้าคุณภาพสูงสำหรับคนไทย เพื่อขอบคุณคนไทยที่ให้ความไว้วางใจ GS BATTERY ทำให้บริษัทมียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง
ประกาศสนับสนุนทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ซิตี้ 2 ปีรวด
หนุนเรือใบสีฟ้า ประกาสิทธิ์ พรประภา กรรมการบริหาร พร้อมด้วย ศรันย์ ชินประหัษฐ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามยิเอสเซลส์ จำกัด ร่วมแถลงข่าว เปิดตัว GS แบตเตอรี่ ในฐานะผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการสโมสร Manchester City ในประเทศไทย ระยะเวลา 2 ปี โดยมีนักเตะชุดปัจจุบันของทีม ไมก้าห์ ริชาร์ดส และ สก็อตต์ ซินแคลร์ มาร่วมเป็นสักขีพยาน ที่อาคารสยามกลการ
GS Battery ตอกย้ำ “พลังที่เป็นหนึ่ง” เปิดตัวการสนับสนุนสโมสรระดับโลก “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ในประเทศไทย เผยเซ็นสัญญา 2 ปี มั่นใจกลยุทธ์สปอร์ตมาเก็ตติ้งครบวงจรตอกย้ำความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่ง พร้อมขยายฐานคนรุ่นใหม่ ไปกับทีมเรือใบสีฟ้าที่มีนักเตะซุปเปอร์สตาร์กว่าค่อนทีม
นายประกาสิทธิ์ พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท สยามยีเอสเซลส์ จำกัด ผู้นำด้านแบตเตอรี่ “GS Battery” ภายใต้สโลแกน “เทคโนโลยีระดับโลก” ที่มาพร้อม Concept “พลังที่เป็นหนึ่ง” เปิดเผยว่า GS Battery ได้บรรลุข้อตกลงเซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุน ทีมสโมสรฟุตบอลระดับโลก “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในการสนับสนุนเป็นระยะเวลา 2 ปี คือปี 2014 และ 2015 GS Battery จะได้รับสิทธิ์ในการใช้ตราสัญลักษณ์และภาพลิขสิทธิ์ของสโมสร สิทธิ์การทำกิจกรรมการตลาดร่วมกับสโมสร รวมถึง การทำกิจกรรมกับนักเตะชุดใหญ่ของทีม และยังได้เตรียมวางแผนทำกิจกรรมร่วมกับสโมสรอย่างต่อเนื่องในต้นปีหน้า
นายประกาสิทธิ์ พรประภากับไมก้าห์ ริชาร์ดส และ สก็อตต์ ซินแคลร์
การเป็นผู้สนับสนุนสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้อย่างเป็นทางการครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง ที่บริษัทมุ่งใช้ในการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีแฟนคลับเป็นคนรุ่นใหม่จำนวนมาก สร้างทีมอย่างมีมาตรฐาน เป็นทีมที่รวมเอา Football Stars ที่มีความสามารถไว้มากที่สุดทีมหนึ่งของอิงลิช พรีเมียร์ ลีก เช่น ดาบิด ซิลบา ทีมชาติสเปน/ กุน อากูเอโร่ ทีมชาติอาร์เจนติน่า / โจ ฮาร์ท และแกเร็ท แบร์รี่ทีมชาติอังกฤษ/ ยาย่า ตูเร่ ทีมชาติ ไอวอรี่ โคสต์ อีกทั้งเป็นสโมสรที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของทีมที่มีมาตรฐานระดับสูง และตรงกับแนวคิดของ GS Battery ที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมด้านแบตเตอรี่ ด้วยเทคโนโลยีระดับสูงเช่นกัน รวมถึงบริการต่างๆ ให้กับลูกค้า ภายใต้แนวคิด “พลังที่เป็นหนึ่งที่ไม่หยุดก้าวไปข้างหน้า” จากผู้นำด้านแบตเตอรี่ ตัวจริง GS Battery เทคโนโลยี ระดับโลก
“แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือเป็นสโมสรคลื่นลูกใหม่แนวหน้าของโลก เป็นขวัญใจคนรุ่นใหม่ โดยพบว่าปัจจุบันเรือใบสีฟ้ามีแฟนคลับทั่วโลก โดยในประเทศไทยมีสาวกอยู่กว่า 2.3 ล้านคน การสนับสนุนครั้งนี้ถือเป็นความมุ่งมั่นในการยกระดับวงการฟุตบอลเมืองไทย ให้มีความน่าสนใจและตื่นตัวในการพัฒนาให้ก้าวหน้า ขณะเดียวกันเป็นการสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ GS Battery ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มลูกค้าทั้งเก่าและใหม่”
นายประกาสิทธิ์ กล่าวอีกว่า “ปัจจุบันทางบริษัทให้การสนับสนุนและช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลของเมืองไทย ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนทีมในไทยพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 2 อย่างต่อเนื่อง การจับมือกันระหว่างทีมฟุตบอลยักษ์ใหญ่จากเกาะอังกฤษและ GS BATTERY ในครั้งนี้ ถือเป็นการก้าวไปอีกขั้นของการสนับสนุนวงการกีฬา ที่ได้ยกระดับจากระดับประเทศไปสู่ระดับโลก โดยมุ่งหวังว่าในอนาคต ทาง GS BATTERY จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบุคคลากรและมอบโอกาสให้กับผู้มีความสามารถทางด้านกีฬาให้ได้ก้าวเข้าไปสู่วงการกีฬาระดับโลกได้อย่างเต็มตัว”
สำหรับสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) เป็นสโมสรฟุตบอลที่มาแรงที่สุดในศตวรรษนี้ โดยก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1880 (พ.ศ. 2423) ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ประสบความสำเร็จตั้งแต่ช่วงปลายยุค 1960 – 1970 โดยผลงานที่ผ่านมา เป็นแชมป์อังกฤษพรีเมียร์ลีก 3 สมัย , เอฟ เอ คัพ 5 ครั้ง , ลีก คัพ 2 ครั้ง , ยูโรเปี้ยนคัพหรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก 1 ครั้ง โดยปัจจุบันสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือเป็นหนึ่งในทีมที่มีมูลค่าในการใช้จ่ายด้านการทำการตลาด และการซื้อขายนักเตะ สูงสุด ทีมหนึ่งของอิงลิช พรีเมียร์ ลีก
ด้านความสำเร็จของ GS BATTERY ในปัจจุบัน เป็น แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับและมียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 40 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนรวมในตลาดแบตเตอรี่ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านลูก โดยทาง บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีระดับโลก ในการผลิตสินค้าคุณภาพสูงสำหรับคนไทย เพื่อขอบคุณคนไทยที่ให้ความไว้วางใจ GS BATTERY ทำให้บริษัทมียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง
30017
นวัตกรรมยานยนต์ - รถยนต์ - มอเตอร์ไซต์ - อุปกรณ์เสริม / เอ็นเนอร์จี รีฟอร์ม เปิดศูนย์บริการ ต้นแบบติดตั้งแก๊สได้มาตรฐานระดับโลก
« on: July 07, 2013, 02:45:33 PM »
“เอนเนอร์จี รีฟอร์ม” ย้ำผู้นำแก๊สรถยนต์เบอร์ 1 ของเมืองไทย เปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
ชูจุดเด่นผลตอบแทนโครงการสดใส ตั้งเป้าขยายศูนย์ตัวแทนฯกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ
“เอนเนอร์จี รีฟอร์ม” ย้ำภาพผู้นำด้านเทคโนโลยีแก๊สรถยนต์เบอร์ 1 ของเมืองไทย เร่งปฏิรูปและยกระดับมาตรฐานการติดตั้งให้กับตัวแทนจำหน่าย พร้อมเปิดตัวศูนย์ต้นแบบที่ลาดกระบัง เพื่อให้นักลงทุนและผู้ประกอบการที่สนใจในในธุรกิจพลังงานทดแทนได้ศึกษาการปฎิบัติงานจริงและระบบภายในของศูนย์บริการอย่างเป็นขั้นตอนซึ่งจะเป็นศูนย์ติดตั้งแก็สครบวงจรให้บริการทั้งระบบแก็สและน้ำมันครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ ซึ่งมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเป็นตัวแทนฯแล้วกว่า 20 ราย ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่เเละสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคที่ต้องการติดตั้งแก็สในศูนย์บริการมาตรฐานอย่างแท้จริง อีกทั้งเพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของธุรกิจแก็สรถยนต์ที่สร้างผลตอบแทนให้กับเจ้าของกิจการที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามประชากรรถยนต์ ภาวะเศรษฐกิจและราคาน้ำมัน. ตั้งเป้าขยายศูนย์ที่ได้มาตรฐานเพื่อรองรับลูกค้าจำนวนกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ
นายสุรศักดิ์ นิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีแก๊สรถยนต์คุณภาพอันดับ 1 ของโลกจากอิตาลี เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ติดตั้งแก๊สรถยนต์ทั้งในระบบ NGV และ LPG มากกว่า 1,300,000 คัน ราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 33% ของรถยนต์ที่จดทะเบียนในเมืองไทย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านคันในอีก 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้พบว่าจากสถิติรถจดทะเบียนที่กรมขนส่งทางบกฯ ยังมีรถยนต์อีก 33% หรือราว 2,500,000 คันที่ต้องการติดตั้งแก๊สรถยนต์ ซึ่งยังไม่รวมรถยนต์ใหม่ป้ายแดงที่จดทะเบียนเพิ่มขึ้นทุกปี. ซึ่งเป็นโอกาสของผู้ประกอบการธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ในการดำเนินธุรกิจ ในฐานะที่เอนเนอร์จี รีฟอร์ม เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแก๊สรถยนต์ทั้งระบบ NGV , LPG และเครื่องยนต์ดีเซล ด้วยชุดอุปกรณ์ระบบหัวฉีดก๊าซจากอิตาลี ที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับระดับโลก จึงมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปและยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมธุรกิจติดตั้งอุปกรณ์แก๊สรถยนต์ให้ดีขึ้น เพื่อจูงใจให้เจ้าของรถหันมาใช้พลังงานทางเลือกที่ถูกกว่าและสะอาดกว่า เป็นมิตรกับสิงแวดล้อม และช่วยลดภาระค่าเชื้อเพลิงได้มากกว่า 60% ต่อเดือน แต่ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะและความปลอดภัยที่เอนเนอร์จี รีฟอร์ม ให้ความสำคัญมาโดยตลอดกว่า 7 ปี. โดยโครงการนี้ได้พร้อมเชิญชวนนักลงทุน ผู้ประกอบการธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ รวมถึงผู้ประกอบการในธุรกิจอื่นๆ ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (Exclusive Dealer) ให้มากขึ้น โดยบริษัทพร้อมให้การสนับสนุนเรื่องของการฝึกอบรมทางด้านเทคนิค การปฏิบัติงานทุกขั้นตอนทั้งระบบ รวมถึงให้การสนับสนุนการตลาดเต็มรูปแบบ
ด้านนายสุรชัย นิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม ได้เปิดศูนย์บริการลาดกระบังขึ้น บนถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง บนพื้นที่ 2 ไร่ ด้วยงบลงทุนกว่า 16 ล้านบาท เพื่อเป็นศูนย์ให้บริการต้นแบบและศูนย์แห่งการเรียนรู้ทั้งระบบ การติดตั้งแก๊สที่ได้มาตรฐานระดับโลก อุปกรณ์ติดตั้งแก๊สของ เอนเนอร์จี รีฟอร์ม คัดเลือกสินค้าที่ดีที่สุด นำเข้าจากประเทศอิตาลี ผ่านมาตรฐาน ยุโรปรับรอง ECE67 R01 และ ECE R110 ซึ่งถือเป็นมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ที่บังคับใช้กับอุปกรณ์แก๊สรถยนต์ และผ่านข้อบังคับของกรมการขนส่งทางบก นอกจากนี้ ศูนย์ต้นแบบ เอนเนอร์จี รีฟอร์ม ยังได้มาตรฐานต่างๆ ประกอบไปด้วย มาตรฐานการออกแบบทั้งภายนอกและภายในศูนย์บริการครบวงจร เอาใจใส่ทุกขั้นตอน การให้บริการและการทำงานมาตรฐานการติดตั้ง ราคา และการรับประกัน เหมือนกันทั่วประเทศ มาตรฐานระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ตั้งแต่การนัดลูกค้า เปิดจ๊อป การติดตั้งชุดอุปกรณ์แก็ส คลังสินค้า ตลอดจนระบบบัญชี-การเงิน และที่สำคัญมาตรฐานการควบคุมคุณภาพและฝึกอบรม
ทั้งนี้รูปแบบการลงทุนศูนย์บริการใช้เงินลงทุนประมาณ 4-15 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับทำเล ที่ตั้ง ขนาดของศูนย์บริการ และลักษณะการให้บริการ โดยการลงทุนดังกล่าวจะมีระยะเวลาการคืนทุนประมาณ 2 ปี และผลตอบแทนโครงการ (IRR) สูงมากกว่า 50%
“ในธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง นอกเหนือจากคุณภาพของระบบแก็สแล้ว คือศูนย์บริการที่ต้องได้มาตรฐาน เพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน การสนับสนุนและยกระดับผู้ประกอบการติดตั้งแก๊สรถยนต์ให้มีมาตรฐานถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ดังนั้นบริษัทจึงมุ่งมั่นศึกษาและพัฒนาเพื่อเป็นต้นแบบให้นักลงทุน ผู้ประกอบการธุรกิจอื่นๆ และผู้ประกอบการธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ได้เห็นถึงความมุ่งมั่นและบริการที่ดี และพร้อมจะพัฒนาธุรกิจให้เดินไปข้างหน้า โดยเอนเนอร์จี รีฟอร์มพร้อมจะให้คำปรึกษาและแนะนำ รวมถึงการฝึกอบรม และการตลาดแบบครบวงจรด้วย”
ปัจจุบันศูนย์ Exclusive Dealer แห่งแรกของ ENERGY REFORM ตั้งอยู่ที่ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 12 แห่ง ประกอบไปด้วย ห้างหุ้นส่วนสามัญ สมานแก๊ส เซอร์วิส ลาดพร้าว , บริษัท ไฮ ฟิวเจอร์ จำกัด (พระราม 3) , บริษัทโอท๊อป เซอร์วิส จำกัด พระยาสุเรนท์ , บริษัท เอสเคทีแอ็คเซสเซอรี่ จำกัด นนทบุรี , บริษัท ไฮฟิวเจอร์ จำกัด (กิ่งแก้ว) สมุทรปราการ , บริษัท เค ซี ออโต้ชอพ จำกัด ชลบุรี , บริษัท เอสทีอาร์ 2013 จากัด ระยอง , บริษัทซี เค ออโต้เวอร์ค จำกัด ระยอง บริษัทมิตรดีเซลกำแพงเพชร 2013 จำกัด กำแพงเพชร , บริษัทเอ็กซ์-ไลน์ แอลพีจี จำกัด นครสวรรค์ , บริษัท สุรนคร ออโต้ จำกัด นครราชสีมา , บริษัท ซี เค ออโต้คาร์ เซ็นเตอร์ จำกัดพิษณุโลก และ Volvo ขอนแก่น รายอื่นนอกจากนี้ อยู่ในช่วง เขียนแบบและขออนุญาตก่อสร้าง
“แนวโน้มการติดตั้งแก๊สรถยนต์ในเมืองไทยพบว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากนโยบายรถคันแรกที่ส่งผลให้มีรถยนต์เพิ่มขึ้นในท้องถนนกว่า 1.2 ล้านคัน โดยคาดว่าตลอด 5 ปีนับจากนี้ไปสัดส่วนรถยนต์ติดตั้งแก๊สจะเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20% ต่อปี”
ชูจุดเด่นผลตอบแทนโครงการสดใส ตั้งเป้าขยายศูนย์ตัวแทนฯกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ
“เอนเนอร์จี รีฟอร์ม” ย้ำภาพผู้นำด้านเทคโนโลยีแก๊สรถยนต์เบอร์ 1 ของเมืองไทย เร่งปฏิรูปและยกระดับมาตรฐานการติดตั้งให้กับตัวแทนจำหน่าย พร้อมเปิดตัวศูนย์ต้นแบบที่ลาดกระบัง เพื่อให้นักลงทุนและผู้ประกอบการที่สนใจในในธุรกิจพลังงานทดแทนได้ศึกษาการปฎิบัติงานจริงและระบบภายในของศูนย์บริการอย่างเป็นขั้นตอนซึ่งจะเป็นศูนย์ติดตั้งแก็สครบวงจรให้บริการทั้งระบบแก็สและน้ำมันครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ ซึ่งมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเป็นตัวแทนฯแล้วกว่า 20 ราย ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่เเละสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคที่ต้องการติดตั้งแก็สในศูนย์บริการมาตรฐานอย่างแท้จริง อีกทั้งเพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของธุรกิจแก็สรถยนต์ที่สร้างผลตอบแทนให้กับเจ้าของกิจการที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามประชากรรถยนต์ ภาวะเศรษฐกิจและราคาน้ำมัน. ตั้งเป้าขยายศูนย์ที่ได้มาตรฐานเพื่อรองรับลูกค้าจำนวนกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ
นายสุรศักดิ์ นิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีแก๊สรถยนต์คุณภาพอันดับ 1 ของโลกจากอิตาลี เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ติดตั้งแก๊สรถยนต์ทั้งในระบบ NGV และ LPG มากกว่า 1,300,000 คัน ราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 33% ของรถยนต์ที่จดทะเบียนในเมืองไทย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านคันในอีก 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้พบว่าจากสถิติรถจดทะเบียนที่กรมขนส่งทางบกฯ ยังมีรถยนต์อีก 33% หรือราว 2,500,000 คันที่ต้องการติดตั้งแก๊สรถยนต์ ซึ่งยังไม่รวมรถยนต์ใหม่ป้ายแดงที่จดทะเบียนเพิ่มขึ้นทุกปี. ซึ่งเป็นโอกาสของผู้ประกอบการธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ในการดำเนินธุรกิจ ในฐานะที่เอนเนอร์จี รีฟอร์ม เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแก๊สรถยนต์ทั้งระบบ NGV , LPG และเครื่องยนต์ดีเซล ด้วยชุดอุปกรณ์ระบบหัวฉีดก๊าซจากอิตาลี ที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับระดับโลก จึงมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปและยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมธุรกิจติดตั้งอุปกรณ์แก๊สรถยนต์ให้ดีขึ้น เพื่อจูงใจให้เจ้าของรถหันมาใช้พลังงานทางเลือกที่ถูกกว่าและสะอาดกว่า เป็นมิตรกับสิงแวดล้อม และช่วยลดภาระค่าเชื้อเพลิงได้มากกว่า 60% ต่อเดือน แต่ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะและความปลอดภัยที่เอนเนอร์จี รีฟอร์ม ให้ความสำคัญมาโดยตลอดกว่า 7 ปี. โดยโครงการนี้ได้พร้อมเชิญชวนนักลงทุน ผู้ประกอบการธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ รวมถึงผู้ประกอบการในธุรกิจอื่นๆ ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (Exclusive Dealer) ให้มากขึ้น โดยบริษัทพร้อมให้การสนับสนุนเรื่องของการฝึกอบรมทางด้านเทคนิค การปฏิบัติงานทุกขั้นตอนทั้งระบบ รวมถึงให้การสนับสนุนการตลาดเต็มรูปแบบ
ด้านนายสุรชัย นิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม ได้เปิดศูนย์บริการลาดกระบังขึ้น บนถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง บนพื้นที่ 2 ไร่ ด้วยงบลงทุนกว่า 16 ล้านบาท เพื่อเป็นศูนย์ให้บริการต้นแบบและศูนย์แห่งการเรียนรู้ทั้งระบบ การติดตั้งแก๊สที่ได้มาตรฐานระดับโลก อุปกรณ์ติดตั้งแก๊สของ เอนเนอร์จี รีฟอร์ม คัดเลือกสินค้าที่ดีที่สุด นำเข้าจากประเทศอิตาลี ผ่านมาตรฐาน ยุโรปรับรอง ECE67 R01 และ ECE R110 ซึ่งถือเป็นมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ที่บังคับใช้กับอุปกรณ์แก๊สรถยนต์ และผ่านข้อบังคับของกรมการขนส่งทางบก นอกจากนี้ ศูนย์ต้นแบบ เอนเนอร์จี รีฟอร์ม ยังได้มาตรฐานต่างๆ ประกอบไปด้วย มาตรฐานการออกแบบทั้งภายนอกและภายในศูนย์บริการครบวงจร เอาใจใส่ทุกขั้นตอน การให้บริการและการทำงานมาตรฐานการติดตั้ง ราคา และการรับประกัน เหมือนกันทั่วประเทศ มาตรฐานระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ตั้งแต่การนัดลูกค้า เปิดจ๊อป การติดตั้งชุดอุปกรณ์แก็ส คลังสินค้า ตลอดจนระบบบัญชี-การเงิน และที่สำคัญมาตรฐานการควบคุมคุณภาพและฝึกอบรม
ทั้งนี้รูปแบบการลงทุนศูนย์บริการใช้เงินลงทุนประมาณ 4-15 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับทำเล ที่ตั้ง ขนาดของศูนย์บริการ และลักษณะการให้บริการ โดยการลงทุนดังกล่าวจะมีระยะเวลาการคืนทุนประมาณ 2 ปี และผลตอบแทนโครงการ (IRR) สูงมากกว่า 50%
“ในธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง นอกเหนือจากคุณภาพของระบบแก็สแล้ว คือศูนย์บริการที่ต้องได้มาตรฐาน เพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน การสนับสนุนและยกระดับผู้ประกอบการติดตั้งแก๊สรถยนต์ให้มีมาตรฐานถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ดังนั้นบริษัทจึงมุ่งมั่นศึกษาและพัฒนาเพื่อเป็นต้นแบบให้นักลงทุน ผู้ประกอบการธุรกิจอื่นๆ และผู้ประกอบการธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ได้เห็นถึงความมุ่งมั่นและบริการที่ดี และพร้อมจะพัฒนาธุรกิจให้เดินไปข้างหน้า โดยเอนเนอร์จี รีฟอร์มพร้อมจะให้คำปรึกษาและแนะนำ รวมถึงการฝึกอบรม และการตลาดแบบครบวงจรด้วย”
ปัจจุบันศูนย์ Exclusive Dealer แห่งแรกของ ENERGY REFORM ตั้งอยู่ที่ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 12 แห่ง ประกอบไปด้วย ห้างหุ้นส่วนสามัญ สมานแก๊ส เซอร์วิส ลาดพร้าว , บริษัท ไฮ ฟิวเจอร์ จำกัด (พระราม 3) , บริษัทโอท๊อป เซอร์วิส จำกัด พระยาสุเรนท์ , บริษัท เอสเคทีแอ็คเซสเซอรี่ จำกัด นนทบุรี , บริษัท ไฮฟิวเจอร์ จำกัด (กิ่งแก้ว) สมุทรปราการ , บริษัท เค ซี ออโต้ชอพ จำกัด ชลบุรี , บริษัท เอสทีอาร์ 2013 จากัด ระยอง , บริษัทซี เค ออโต้เวอร์ค จำกัด ระยอง บริษัทมิตรดีเซลกำแพงเพชร 2013 จำกัด กำแพงเพชร , บริษัทเอ็กซ์-ไลน์ แอลพีจี จำกัด นครสวรรค์ , บริษัท สุรนคร ออโต้ จำกัด นครราชสีมา , บริษัท ซี เค ออโต้คาร์ เซ็นเตอร์ จำกัดพิษณุโลก และ Volvo ขอนแก่น รายอื่นนอกจากนี้ อยู่ในช่วง เขียนแบบและขออนุญาตก่อสร้าง
“แนวโน้มการติดตั้งแก๊สรถยนต์ในเมืองไทยพบว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากนโยบายรถคันแรกที่ส่งผลให้มีรถยนต์เพิ่มขึ้นในท้องถนนกว่า 1.2 ล้านคัน โดยคาดว่าตลอด 5 ปีนับจากนี้ไปสัดส่วนรถยนต์ติดตั้งแก๊สจะเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20% ต่อปี”
30018
news & activity / อสมท จัด THAIBEX 2013 โชว์เทคโนโลยีสื่อทีวีดิจิทัลสุดล้ำครั้งแรกในไทย
« on: July 06, 2013, 08:20:41 PM »
อสมท จัดใหญ่ระดับอาเซียนครั้งแรกในไทย…THAIBEX 2013 โชว์เทคโนโลยีสื่อทีวีดิจิทัลสุดล้ำ
อสมท ประกาศรุกทีวีดิจิทัลอีกขั้น เดินหน้าสู่ผู้นำด้านธุรกิจสื่อสาร ขึ้นแท่นผู้จัดอีเวนท์ใหญ่ระดับอาเซียน จับตาอนาคตดิจิทัลทีวีไทย ในงาน THAIBEX 2013 (Thailand Broadcasting Exhibition) หรืองานสัมมนาวิชาการและนิทรรศการเทคโนโลยีดิจิทัล ครั้งแรกในไทยของการรวมที่สุดของมหกรรมดิจิทัล บรอดแคสติ้ง ภายใต้แนวคิด GO GO Digital Thailand 2013 : Gearing up for ASEAN Digitization ระหว่างวันที่ 25-28 กรกฎาคม 2556 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จับมือพันธมิตรสื่อและผู้ประกอบการด้านบรอดแคส ร่วมจัดแสดงนวัตกรรม สุดยอดเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมสื่อ ทั้งจัดประชุมสัมมนาให้ความรู้เรื่องเทคโนโลยีใหม่ การพัฒนาการออกอากาศบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์และตลาดบันเทิง โดยกูรูในวงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ หวังเตรียมความพร้อมเข้าสู่ AEC
นายสุระ เกนทะนะศิล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท กล่าวว่า การจัดงาน THAIBEX 2013 (Thailand Broadcasting Exhibition) ภายใต้แนวคิด GO GO Digital Thailand 2013 : Gearing up for ASEAN Digitization ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับวงการสื่อโทรทัศน์ของไทยที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านการออกอากาศจากระบบอนาล็อกมาเป็นระบบดิจิทัล ตามแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ ระหว่างปี 2554 – 2559 ของ กสทช. เพื่อต้องการใช้คลื่นความถี่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“ในฐานะองค์กรสื่อสารมวลชนชั้นนำเราตระหนักดีว่าควรให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่จะนำไปสู่การ เปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในธุรกิจสื่อของประเทศ จึงได้ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจสื่อที่ดำเนินธุรกิจด้าน Academic, Broadcast, Communication, Multi-Media และ Content ทั้งในและต่างประเทศมากมาย โดยมีบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) หรือ CAT และ บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด(มหาชน) เป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดงานสัมมนาวิชาการและนิทรรศการเทคโนโลยีดิจิทัล ภายในพื้นที่จัดแสดงกว่า 6,000 ตารางเมตร เพื่อเป็นการแสดงสุดยอดแห่งเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมสื่อ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึง และสัมผัสกับนวัตกรรมด้านสื่อรูปแบบใหม่ที่หลากหลาย โดยคาดหมายว่าการจัดงานครั้งนี้จะได้รับการยอมรับในระดับอาเซียน ซึ่ง อสมท ในฐานะผู้จัดงาน THAIBEX 2013 หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นี่จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ในการผลักดันและขับเคลื่อนวงการอุตสาหกรรมสื่อและการออกอากาศของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักและก้าวไกลสู่เวทีระดับโลกในอนาคตอันใกล้”
ด้านนายพลชัย วินิจฉัยกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท กล่าวถึงรายละเอียดของการจัดงานว่า ภายในงานจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่เข้าชมสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการก้าวเข้าสู่ยุคแห่งดิจิทัลของประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่การรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ผ่านการแสดงผลงานเทคโนโลยีด้านสื่อที่ทันสมัยที่สุดจากผู้ผลิตต่างๆโดยตรง พร้อมทั้งรับความรู้เรื่องสื่อดิจิทัล และความรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการสื่อสารผ่านการสัมมนาโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งกิจกรรมภายในงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่
ส่วนนิทรรศการและการแสดง อุปกรณ์เทคโนโลยีสื่อ แบ่งออกเป็นโซนแสดงนิทรรศการ Digital Content and Devices โซนแสดงนิทรรศการ Digital Broadcasting Technology และโซนแสดงนิทรรศการ Mobile Outdoor โดยมีสินค้าประเภท Acquisition & Production , Broadband Content , Digital System Distribution & Delivery , Management & System , Outdoor / Mobile Media , Post Production , Pro Audio Radio , Telecom Access Network และ Tele Presence มาจัดแสดง และยังมีการจัดแสดงในส่วนของการออกอากาศทีวีระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ รวมถึงเทคโนโลยีด้านสื่อและการออกอากาศที่ทันสมัยที่สุดเป็นไฮไลท์ของงาน
“ขณะนี้เราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากพันธมิตรสื่อต่างๆ ตลอดจนผู้ประกอบการที่ให้ความสนใจนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยของตนเองมาจัดแสดงภายในงาน อาทิ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ได้จำลองรูปแบบ Digital TV Network ซึ่งเป็นโครงข่ายสื่อสัญญาณสายไฟเบอร์ประสิทธิภาพสูงที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ มีศักยภาพในการเชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อช่วยให้การรับส่งแพร่ภาพในระบบดิจิตอลได้อย่างสมบูรณ์ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการนำเสนอรูปแบบของ Digital Broadcast บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น IPTV , TV On Mobile และ รูปแบบของ Interactive TV รวมถึงนำเสนอการใช้งานแอพพลิเคชั่น และบริการระดับพรีเมี่ยมบนเน็ตเวิร์ค CAT ที่มีความเสถียรภาพสูงสุด
ด้านบริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะนำเสนอระบบกล้อง Ultra Wide Camera ที่สามารถถ่ายทำภาพวิดีโอมุมกว้างแบบดิจิตอลที่มีขนาดกว้างถึง 64:9 (เทียบกับ 16:9 ของระบบ HD) ซึ่งจะให้ภาพที่มีความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในสนามกีฬาจริงๆด้วยตัวเอง พร้อม LED มอนิเตอร์ขอบบางที่เหมาะสำหรับใช้ติดตั้งในแบบวิดีโอวอลล์, ระบบถ่ายทำวิดีโอแบบดิจิตอลสำหรับการออกอากาศที่เรียกว่า AVC Ultra ,เทคโนโลยีในการทำงานข่าวแบบไร้สาย และอื่นๆ อีกมากมาย ขณะที่ บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำในการให้บริการเทคโนโลยีด้านโทรคมนาคมและโทรทัศน์ระบบดิจิตอล ในภูมิภาคอาเซียน มาพร้อมกับเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายที่มีการพัฒนาจากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก เป็นต้น”
“ในส่วนของ อสมท นั้น ได้โชว์ศักยภาพความเป็นผู้นำ ด้าน Content รวมถึงด้านเทคโนโลยีการออกอากาศ โดยนำเสนอในธีม MCOT Digital Park ( อสมท ดิจิทัล พาร์ค ) ที่จะพาผู้เข้าชมงานไปสัมผัสกับความล้ำสมัยของเทคโนโลยีการออกอากาศของ อสมท แบบใกล้ชิด ร่วมเปิดประสบการณ์การรับชม Digital TV และพัฒนาการของเทคโนโลยีโทรทัศน์ จากอดีตจนถึงปัจจุบันและการเปลี่ยนผ่านสู่โทรทัศน์ยุคดิจิทัลในอนาคต รูปแบบการสร้างประสบการณ์ร่วมในการรับชม พร้อมสัมผัส “MCOT Application” เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการรับชมโทรทัศน์ของคนยุคใหม่ ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ที่มีระบบปฏฺบัติการ IOS ที่เปี่ยมด้วยลูกเล่นที่พร้อมตอบสนองการรับชมโทรทัศน์รูปแบบใหม่ อาทิ สามารรับชมรายการต่างๆของ อสมท ย้อนหลังผ่านสมาร์ทโฟน , ระบบบันทึกและแจ้งเตือนรายการโปรดของคุณ ทำให้ไม่พลาดทุกรายการสำคัญแม้เสี้ยววินาที หรือระบบการอัพเดทข่าวสารและข้อมูลรายการต่างๆของทางสถานี แบบ Real-Time บนสมาร์ทโฟน ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส”
นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีการออกอากาศและอุตสาหกรรมสื่อชั้นนำของประเทศไทยที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอีกมากมายเข้าร่วม อาทิ บริษัท แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) บริษัท เวิร์คพอยท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น ซึ่งจะจัดแสดงอยู่ในโซน Digital Content and Devices โดยผู้สนใจเข้าชมงานและร่วมประชุมสัมมนา สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านทางระบบออนไลนที่ www.thaibex.com โทร. 02 201 6596 หรือจุดลงทะเบียนบริเวณหน้าทางเข้างาน
นอกเหนือจากการจัดแสดงนิทรรศการ THAI BEX 2013 แล้ว ทางบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ยังจัดให้มีการสัมมนาวิชาการด้านเทคโนโลยีการออกอากาศโทรทัศน์ระบบดิจิทัล International Conference on Digital Broadcasting Technology 2013 (ICDB 2013) เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการออกอากาศในระบบดิจิทัลให้แก่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการด้านเทคโนโลยีและสื่อสารมวลชน ผู้ปฏิบัติงานในแวดวงสื่อสารมวลชน นิสิตนักศึกษา รวมถึงผู้สนใจทั่วไปให้ได้รับทราบถึงข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงของระบบเทคโนโลยีการออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัลที่เกิดขึ้นในระดับนานาชาติ ระหว่างวันที่ 26 – 28 กรกฎาคม 2556 ณ ห้อง บอลล์รูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญจากต่างประเทศ มาร่วมบรรยายในหัวข้อสำคัญต่างๆ ทั้งในด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการกระจายเสียงและการแพร่ภาพโทรทัศน์ระบบดิจิทัล พัฒนาการ ปัญหาและอุปสรรคในการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ และเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาวิชาการเข้าใจถึงแนวทางในการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีการออกอากาศโทรทัศน์จากอนาล็อกเป็นดิจิทัลของประเทศไทย ทั้งในด้านเทคโนโลยี การนำไปประยุกต์ใช้ แนวโน้มการพัฒนาของอุตสาหกรรมโทรทัศน์ในอนาคตโดยอาศัยประสบการณ์จากประเทศต่างๆทั่วโลก
ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมฟังสัมมนาวิชาการนี้ได้ที่ www.thaibex.com ค่าใช้จ่ายในการเข้าฟังสัมมนา 1,500 บาทต่อท่านต่อวัน และ 3,000 บาท ต่อท่านต่อ 3 วัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายจัดการสัมมนาวิชาการงาน THAIBEX ชั้น 2 อาคารอำนวยการ 2 บมจ.อสมท หมายเลขโทรศัพท์ 02-201-6000 ต่อ 6710-1 โทรสาร 02-643-9770 ระหว่างเวลา 09.00 – 17.00 น. ในวันทำการ หรือ email: seminar.thaibex@gmail.com
อสมท ประกาศรุกทีวีดิจิทัลอีกขั้น เดินหน้าสู่ผู้นำด้านธุรกิจสื่อสาร ขึ้นแท่นผู้จัดอีเวนท์ใหญ่ระดับอาเซียน จับตาอนาคตดิจิทัลทีวีไทย ในงาน THAIBEX 2013 (Thailand Broadcasting Exhibition) หรืองานสัมมนาวิชาการและนิทรรศการเทคโนโลยีดิจิทัล ครั้งแรกในไทยของการรวมที่สุดของมหกรรมดิจิทัล บรอดแคสติ้ง ภายใต้แนวคิด GO GO Digital Thailand 2013 : Gearing up for ASEAN Digitization ระหว่างวันที่ 25-28 กรกฎาคม 2556 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จับมือพันธมิตรสื่อและผู้ประกอบการด้านบรอดแคส ร่วมจัดแสดงนวัตกรรม สุดยอดเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมสื่อ ทั้งจัดประชุมสัมมนาให้ความรู้เรื่องเทคโนโลยีใหม่ การพัฒนาการออกอากาศบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์และตลาดบันเทิง โดยกูรูในวงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ หวังเตรียมความพร้อมเข้าสู่ AEC
นายสุระ เกนทะนะศิล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท กล่าวว่า การจัดงาน THAIBEX 2013 (Thailand Broadcasting Exhibition) ภายใต้แนวคิด GO GO Digital Thailand 2013 : Gearing up for ASEAN Digitization ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับวงการสื่อโทรทัศน์ของไทยที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านการออกอากาศจากระบบอนาล็อกมาเป็นระบบดิจิทัล ตามแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ ระหว่างปี 2554 – 2559 ของ กสทช. เพื่อต้องการใช้คลื่นความถี่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“ในฐานะองค์กรสื่อสารมวลชนชั้นนำเราตระหนักดีว่าควรให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่จะนำไปสู่การ เปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในธุรกิจสื่อของประเทศ จึงได้ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจสื่อที่ดำเนินธุรกิจด้าน Academic, Broadcast, Communication, Multi-Media และ Content ทั้งในและต่างประเทศมากมาย โดยมีบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) หรือ CAT และ บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด(มหาชน) เป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดงานสัมมนาวิชาการและนิทรรศการเทคโนโลยีดิจิทัล ภายในพื้นที่จัดแสดงกว่า 6,000 ตารางเมตร เพื่อเป็นการแสดงสุดยอดแห่งเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมสื่อ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึง และสัมผัสกับนวัตกรรมด้านสื่อรูปแบบใหม่ที่หลากหลาย โดยคาดหมายว่าการจัดงานครั้งนี้จะได้รับการยอมรับในระดับอาเซียน ซึ่ง อสมท ในฐานะผู้จัดงาน THAIBEX 2013 หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นี่จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ในการผลักดันและขับเคลื่อนวงการอุตสาหกรรมสื่อและการออกอากาศของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักและก้าวไกลสู่เวทีระดับโลกในอนาคตอันใกล้”
ด้านนายพลชัย วินิจฉัยกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท กล่าวถึงรายละเอียดของการจัดงานว่า ภายในงานจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่เข้าชมสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการก้าวเข้าสู่ยุคแห่งดิจิทัลของประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่การรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ผ่านการแสดงผลงานเทคโนโลยีด้านสื่อที่ทันสมัยที่สุดจากผู้ผลิตต่างๆโดยตรง พร้อมทั้งรับความรู้เรื่องสื่อดิจิทัล และความรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการสื่อสารผ่านการสัมมนาโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งกิจกรรมภายในงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่
ส่วนนิทรรศการและการแสดง อุปกรณ์เทคโนโลยีสื่อ แบ่งออกเป็นโซนแสดงนิทรรศการ Digital Content and Devices โซนแสดงนิทรรศการ Digital Broadcasting Technology และโซนแสดงนิทรรศการ Mobile Outdoor โดยมีสินค้าประเภท Acquisition & Production , Broadband Content , Digital System Distribution & Delivery , Management & System , Outdoor / Mobile Media , Post Production , Pro Audio Radio , Telecom Access Network และ Tele Presence มาจัดแสดง และยังมีการจัดแสดงในส่วนของการออกอากาศทีวีระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ รวมถึงเทคโนโลยีด้านสื่อและการออกอากาศที่ทันสมัยที่สุดเป็นไฮไลท์ของงาน
“ขณะนี้เราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากพันธมิตรสื่อต่างๆ ตลอดจนผู้ประกอบการที่ให้ความสนใจนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยของตนเองมาจัดแสดงภายในงาน อาทิ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ได้จำลองรูปแบบ Digital TV Network ซึ่งเป็นโครงข่ายสื่อสัญญาณสายไฟเบอร์ประสิทธิภาพสูงที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ มีศักยภาพในการเชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อช่วยให้การรับส่งแพร่ภาพในระบบดิจิตอลได้อย่างสมบูรณ์ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการนำเสนอรูปแบบของ Digital Broadcast บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น IPTV , TV On Mobile และ รูปแบบของ Interactive TV รวมถึงนำเสนอการใช้งานแอพพลิเคชั่น และบริการระดับพรีเมี่ยมบนเน็ตเวิร์ค CAT ที่มีความเสถียรภาพสูงสุด
ด้านบริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะนำเสนอระบบกล้อง Ultra Wide Camera ที่สามารถถ่ายทำภาพวิดีโอมุมกว้างแบบดิจิตอลที่มีขนาดกว้างถึง 64:9 (เทียบกับ 16:9 ของระบบ HD) ซึ่งจะให้ภาพที่มีความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในสนามกีฬาจริงๆด้วยตัวเอง พร้อม LED มอนิเตอร์ขอบบางที่เหมาะสำหรับใช้ติดตั้งในแบบวิดีโอวอลล์, ระบบถ่ายทำวิดีโอแบบดิจิตอลสำหรับการออกอากาศที่เรียกว่า AVC Ultra ,เทคโนโลยีในการทำงานข่าวแบบไร้สาย และอื่นๆ อีกมากมาย ขณะที่ บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำในการให้บริการเทคโนโลยีด้านโทรคมนาคมและโทรทัศน์ระบบดิจิตอล ในภูมิภาคอาเซียน มาพร้อมกับเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายที่มีการพัฒนาจากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก เป็นต้น”
“ในส่วนของ อสมท นั้น ได้โชว์ศักยภาพความเป็นผู้นำ ด้าน Content รวมถึงด้านเทคโนโลยีการออกอากาศ โดยนำเสนอในธีม MCOT Digital Park ( อสมท ดิจิทัล พาร์ค ) ที่จะพาผู้เข้าชมงานไปสัมผัสกับความล้ำสมัยของเทคโนโลยีการออกอากาศของ อสมท แบบใกล้ชิด ร่วมเปิดประสบการณ์การรับชม Digital TV และพัฒนาการของเทคโนโลยีโทรทัศน์ จากอดีตจนถึงปัจจุบันและการเปลี่ยนผ่านสู่โทรทัศน์ยุคดิจิทัลในอนาคต รูปแบบการสร้างประสบการณ์ร่วมในการรับชม พร้อมสัมผัส “MCOT Application” เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการรับชมโทรทัศน์ของคนยุคใหม่ ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ที่มีระบบปฏฺบัติการ IOS ที่เปี่ยมด้วยลูกเล่นที่พร้อมตอบสนองการรับชมโทรทัศน์รูปแบบใหม่ อาทิ สามารรับชมรายการต่างๆของ อสมท ย้อนหลังผ่านสมาร์ทโฟน , ระบบบันทึกและแจ้งเตือนรายการโปรดของคุณ ทำให้ไม่พลาดทุกรายการสำคัญแม้เสี้ยววินาที หรือระบบการอัพเดทข่าวสารและข้อมูลรายการต่างๆของทางสถานี แบบ Real-Time บนสมาร์ทโฟน ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส”
นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีการออกอากาศและอุตสาหกรรมสื่อชั้นนำของประเทศไทยที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอีกมากมายเข้าร่วม อาทิ บริษัท แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) บริษัท เวิร์คพอยท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น ซึ่งจะจัดแสดงอยู่ในโซน Digital Content and Devices โดยผู้สนใจเข้าชมงานและร่วมประชุมสัมมนา สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านทางระบบออนไลนที่ www.thaibex.com โทร. 02 201 6596 หรือจุดลงทะเบียนบริเวณหน้าทางเข้างาน
นอกเหนือจากการจัดแสดงนิทรรศการ THAI BEX 2013 แล้ว ทางบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ยังจัดให้มีการสัมมนาวิชาการด้านเทคโนโลยีการออกอากาศโทรทัศน์ระบบดิจิทัล International Conference on Digital Broadcasting Technology 2013 (ICDB 2013) เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการออกอากาศในระบบดิจิทัลให้แก่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการด้านเทคโนโลยีและสื่อสารมวลชน ผู้ปฏิบัติงานในแวดวงสื่อสารมวลชน นิสิตนักศึกษา รวมถึงผู้สนใจทั่วไปให้ได้รับทราบถึงข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงของระบบเทคโนโลยีการออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัลที่เกิดขึ้นในระดับนานาชาติ ระหว่างวันที่ 26 – 28 กรกฎาคม 2556 ณ ห้อง บอลล์รูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญจากต่างประเทศ มาร่วมบรรยายในหัวข้อสำคัญต่างๆ ทั้งในด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการกระจายเสียงและการแพร่ภาพโทรทัศน์ระบบดิจิทัล พัฒนาการ ปัญหาและอุปสรรคในการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ และเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาวิชาการเข้าใจถึงแนวทางในการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีการออกอากาศโทรทัศน์จากอนาล็อกเป็นดิจิทัลของประเทศไทย ทั้งในด้านเทคโนโลยี การนำไปประยุกต์ใช้ แนวโน้มการพัฒนาของอุตสาหกรรมโทรทัศน์ในอนาคตโดยอาศัยประสบการณ์จากประเทศต่างๆทั่วโลก
ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมฟังสัมมนาวิชาการนี้ได้ที่ www.thaibex.com ค่าใช้จ่ายในการเข้าฟังสัมมนา 1,500 บาทต่อท่านต่อวัน และ 3,000 บาท ต่อท่านต่อ 3 วัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายจัดการสัมมนาวิชาการงาน THAIBEX ชั้น 2 อาคารอำนวยการ 2 บมจ.อสมท หมายเลขโทรศัพท์ 02-201-6000 ต่อ 6710-1 โทรสาร 02-643-9770 ระหว่างเวลา 09.00 – 17.00 น. ในวันทำการ หรือ email: seminar.thaibex@gmail.com
30019
ของสะสมประเภท handbill / HB//THE LONE RANGER 2 แบบ
« on: July 06, 2013, 08:04:59 PM »
ขนาดA5 แผ่นคู่ ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ
30020
ของสะสมประเภท handbill / HB//ODD THOMAS อ็อด โธมัส เห็นความตาย
« on: July 06, 2013, 08:03:12 PM »
ขนาดA5 แผ่นเดี่ยว ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ
30021
ของสะสมประเภท handbill / HB//LAST SUMMER ฤดูร้อนนั้น...ฉันตาย
« on: July 06, 2013, 08:01:11 PM »
ขนาดA5 แผ่นเดี่ยว ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ
30022
ของสะสมประเภท handbill / HB//MY SWEET ORANGE TREE
« on: July 06, 2013, 07:59:36 PM »
ขนาดA5 แผ่นเดี่ยว ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ
30023
ของสะสมประเภท handbill / HB//THE SAPPSIRES
« on: July 06, 2013, 07:57:06 PM »
ขนาดA5 แผ่นเดี่ยว ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ
30024
ของสะสมประเภท handbill / HB//ARTHUR NEWMAN
« on: July 06, 2013, 07:55:57 PM »
ขนาดA5 แผ่นเดี่ยว ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ
30025
ของสะสมประเภท handbill / HB//MUD
« on: July 06, 2013, 07:54:29 PM »
ขนาดA5 แผ่นเดี่ยว ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ
30026
ของสะสมประเภท handbill / HB//BARRENS
« on: July 06, 2013, 07:53:42 PM »
ขนาดA5 แผ่นเดี่ยว ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ
30027
ของสะสมประเภท handbill / HB//WORLD WAR Z
« on: July 06, 2013, 07:52:18 PM »
ขนาดA5 แผ่นเดี่ยว ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ
30028
ของสะสมประเภท handbill / PC//THE GREAT GATBSY
« on: July 06, 2013, 07:50:18 PM »
ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ
30029
ของสะสมประเภท handbill / PC//THE COODS 3 D
« on: July 06, 2013, 07:48:30 PM »
ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ
30030
ของสะสมประเภท handbill / PC//Jack the Giant Slayer แจ็คผู้สยบยักษ์
« on: July 06, 2013, 07:46:54 PM »
ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ
