enjoyjam.net

ภาพยนตร์ => ข่าวภาพยนตร์ => Topic started by: PR on May 28, 2011, 07:16:45 PM

Title: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: PR on May 28, 2011, 07:16:45 PM
อลังการเปิดตัวครั้งแรกภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” “ป๋อ-ณัฐวุฒิ” ประกบคู่ “เปา-เปาวลี” กับมินิคอนเสิร์ตบทเพลงอมตะของ “ราชินีลูกทุ่ง”

 

          สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับ บาแรมยู จัดงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” พร้อมเปิดตัวนักแสดงนำอย่างเป็นทางการโดยมีพระเอกซูเปอร์สตาร์เมืองไทย “ณัฐวุฒิ สกิดใจ” รับบทเป็น ธีระพล แสนสุข และนางเอกดาวรุ่งหน้าใหม่แห่งวงการบันเทิงที่มีความสามารถทั้งการแสดงและร้องเพลง “เปาวลี พรพิมล” รับบทเป็น พุ่มพวง ดวงจันทร์ ร่วมด้วย “บุญโทน คนหนุ่ม” นักแหล่เพลงชื่อดังอันดับต้นของเมืองไทย รับบทเป็น ครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ, “วิทยา เจตะภัย” นักแสดงและอดีตนักร้องแห่งวงสามโทน รับบทเป็น ครูมนต์ เมืองเหนือ พร้อมด้วย บัณฑิต ทองดี ผู้กำกับภาพยนตร์ และ ปรัชญา ปิ่นแก้ว โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ ณ ห้องนภาลัย โรงแรมดุสิตธานี เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา

          เปิดตัวด้วยบทเพลงอมตะของพุ่มพวง ดวงจันทร์ กับเพลงช้าสุดซึ้ง “นักร้องบ้านนอก” และ เพลงเร็วชวนสนุก “ผู้ชายในฝัน” ที่สะกดอารมณ์ของแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนที่มาร่วมงานจนต้องทึ่งกับน้ำเสียงอันไพเราะ ตะลึงกับชุดลายเสือของ “เปาวลี พรพิมล” พร้อมด้วยเหล่าบรรดาหางเครื่องสุดอลังการบนเวทีงานแถลงข่าว ก่อนเชิญเหล่านักแสดงนำและผู้สร้างภาพยนตร์ร่วมพูดคุยถึงการนำเรื่องราวชีวิต “ราชินีลูกทุ่ง-พุ่มพวง ดวงจันทร์” มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์แห่งปี 54 โดยนำเสนอเรื่องราวชีวิตการต่อสู้เพื่อความฝันของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่ต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อมอบความสุขให้กับแฟนเพลง ไม่ว่าจะต้องผ่านและพบกับอุปสรรคต่างๆ นานา

          นอกจากนี้ในงานแถลงข่าวยังแจ้งข่าวดีให้กับน้องๆ เยาวชนที่มีใจรักเพลงลูกทุ่ง และกล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมของภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง จับมือกับ ธนาคารออมสิน จัดงานประกวดร้อง-เต้นบทเพลงพุ่มพวง ดวงจันทร์ เปิดโอกาสให้กับชาย-หญิง ที่มีอายุระหว่าง 8-15 ปี เข้าร่วมประกวดแข่งขัน เพื่อชิงทุนการศึกษาและถ้วยเกียรติยศ รวมมูลค่า 187,000 บาท ซึ่งรายละเอียดสามารถติดต่อได้ที่ www.poompuangmovie.com หรือ ติดต่อสอบถาม โทร. 02-2730930-9 ต่อ 140

          ปิดท้ายงานแถลงข่าวด้วยการเรียนเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์โดยมี คุณสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์, คุณเตือนใจ เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการ บ.สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล, คุณพิศิษฐ์ เสรีวัฒนา รองผู้อำนวยการธ.ออมสิน, คุณฐิติภัทร์ บุญรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายขาย บ.โซตัส อินเตอร์เนชั่นแนล, คุณสมพงษ์ สุนทรจิตตานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาดและการขาย บ.โซตัส อินเตอร์เนชั่นแนล, คุณภาสินี ปรีชาธนาพล ผู้อำนวยการฝ่ายสายงานสื่อสารองค์กร บ.ไทยประกันชีวิต และเหล่านักแสดงนำ ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ และครูมนต์ เมืองเหนือ ที่ให้เกียรติมาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันเป็นที่ระลึกในครั้งนี้

          ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” นับว่าเป็นภาพยนตร์ไทยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริง ของตำนานราชินีลูกทุ่งที่อยู่กลางหัวใจคนไทยทุกคน 21 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ 
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: PR on June 02, 2011, 12:22:41 PM
MOVIE GUIDE: "พุ่มพวง"

ทีเซอร์ “พุ่มพวง”

ชีวิตที่ผันผ่านจากดินสู่ดาวของเด็กสาวชาวสุพรรณ สู่นักร้องเพลงลูกทุ่งทีคนทั้งประเทศต้องรู้จัก ของ “พุ่มพวง ดวงจันทร์”

เข้าฉาย 21 กรกฎาคม 2554

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Su0-RXKZepc" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Su0-RXKZepc</a> 

http://www.4shared.com/video/nlz6_1Sx/TS_TheMoon.html
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: PR on June 02, 2011, 12:23:33 PM
“เปาวลี” เผยรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก รับบทราชินีเพลงลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ผลงานการแสดงครั้งแรกในชีวิต


 
          ปิดกล้องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับโปรเจ็คต์ฟอร์มยักษ์ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ผลงานกำกับของ บัณฑิต ทองดี (มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม) โดยได้นักแสดงนำคุณภาพรับบท “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ถึงแม้จะเป็นนักแสดงดาวรุ่งหน้าใหม่ “น้องเปา-เปาวลี พรพิมล” แต่เรื่องประสบการณ์ด้านร้องเพลงสาวน้อยคนนี้ผ่านการประกวดจากเวทีต่างๆ มากถึง 1,000 กว่าครั้ง พร้อมคว้ารางวัลมากมายตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบจนถึงปัจจุบัน และล่าสุดน้องเปาคว้ารางวัลชนะเลิศ คว้าแชมป์ออฟเดอะเยียร์ จากคว้าไมค์คว้าแชมป์ ช่องแฟนทีวี จนเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่งว่าสาวน้อยเลือดสุพรรณบุรีที่มีความฝันอยากเป็นนักร้องลูกทุ่ง จนวันนี้เมื่อเธอได้มีโอกาสและถูกรับเลือกแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกในชีวิต กับบทบาท “ราชินีเพลงลูกทุ่ง” ประกบคู่กับพระเอกคุณภาพ “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” รับบทเป็น “ธีรพล” ทำให้น้องเปาทั้งดีใจ และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากในการได้ร่วมงานด้านภาพยนตร์ กับทีมงานคุณภาพในครั้งนี้ โดยเล่าถึงความรู้สึกครั้งนี้ว่า

          “รู้สึกดีใจและถือว่าเป็นเกียรติอย่างมากเลยนะคะ ที่เปาได้มารับบทเป็นแม่ผึ้ง หรือ คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ในภาพยนตร์ไทยแล้วก็เป็นครั้งแรกในชีวิตที่จะได้แสดงภาพยนตร์ด้วยค่ะ ไม่เคยคิดและฝันมาก่อนเลย เปาเริ่มร้องเพลงมาตั้งแต่ 5 ขวบ แม่ของเปาก็สอนร้องเพลงของแม่ผึ้งมาตั้งแต่เปาเริ่มร้องเพลงได้จนอายุ 9 ขวบ เปาก็เริ่มประกวดร้องเพลงมาเรื่อยๆ และก็ใช้เพลงแม่ผึ้งประกวดร้องเพลงเป็นส่วนใหญ่ค่ะสำหรับคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ถือว่าเป็นราชินีเพลงลูกทุ่งผู้โด่งดังและยังถือว่าเป็นแม่แบบของนักร้องลูกทุ่งหลายๆ รุ่นรวมทั้งตัวเปาเองด้วยค่ะ ก่อนเปิดกล้องเปาก็พยามฝึกซ้อมร้องเพลงและเรียนแอ็คติ้งการแสดงหลายๆ อย่าง เพราะในเรื่องนี้เปาจะต้องโชว์เสียงร้องเพลงด้วยค่ะ เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตเลยทั้งตื่นเต้นและดีใจ เปาจะตั้งใจและพยายามทำออกมาให้ดีที่สุดค่ะ”

          อดใจรอกันสักหน่อย...กับโปรเจ็คต์ฟอร์มยักษ์ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” นำเสนอเรื่องราวชีวิตที่ผันผ่านจากดินสู่ดาวของเด็กหญิงชาวสุพรรณบุรี สู่นักร้องเพลงลูกทุ่งขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” 21 กรกฎาคม 2554 ทุกโรงภาพยนตร์
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: PR on June 02, 2011, 12:24:26 PM
“ภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง” และ “ธนาคารออมสิน” จัดประกวดร้องเพลงจากบทเพลงของราชินีลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ชิงทุนการศึกษามูลค่ากว่า 187,000 บาท


 
          จากบทเพลงอมตะที่ยังคงแว่วหวานซึ้งด้วยน้ำเสียงดุจน้ำผึ้งที่ดังกังวานมากว่า 20 ปี จากเสียงร้องที่ไม่มีวันลบเลือนไปจากหัวใจคนไทย วันนี้บทเพลงเหล่านั้นกำลังจะกลับมาอีกครั้ง เพลงของ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” จะยังคงขับกล่อมคนไทยไปอีกแสนนาน กับกิจกรรมบทเพลง “พุ่มพวง” นักร้องแห่งท้องทุ่งสู่เวทีลูกทุ่งแห่งดวงดาว” โดยบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ร่วมกับ ธนาคารออมสิน จัดกิจกรรมให้นักเรียนทั้งชาย-หญิงที่มีอายุระหว่าง 8 -15 ปี ที่มีใจรักในการร้องเพลงลูกทุ่ง ประกวดร้องและเต้นเพลงของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ เพื่อชิงทุนการศึกษารวมมูลค่ากว่า 187,000 บาท

          เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนไทยตระหนัก และเกิดความรักหวงแหนในเพลงลูกทุ่งไทยให้ยังคงอยู่ต่อไป โดยเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจร่วมขับขานตำนานเพลง พุ่มพวง ดวงจันทร์ผ่านการประกวดร้องเพลงจากบทเพลงของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ โดยผู้ที่สนใจสามารถส่งคลิปความยาวไม่เกิน 5 นาที ของการร้องและเต้นในเพลงของพุ่มพวง ดวงจันทร์ที่ได้กำหนดไว้ ในนามโรงเรียน พร้อมรายชื่อสมาชิกในทีม (จำนวน 5-9 คน) แล้วส่งมาเป็น CD หรือ DVD ในรูปแบบของ AVI / MPEG / WMV โดยดาว์นโหลดใบสมัครพร้อมแนบเอกสารการสมัคร ส่งมาที่ บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เลขที่ 388 อาคารเอสพี ชั้น 9 บี ถนน พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. 10400 เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 2554

          โดยทั้งนี้ทางกรรมการจะคัดเลือกทีมที่ผ่านเข้ารอบ จำนวน 20 ทีมผ่านคลิป นำขึ้นเผยแพร่ทางเว็บไซต์ www.poompuangmovie.com และ Facebook.com/sahamongkolfilmint เพื่อให้บุคคลทั่วไปได้รับชมความสามารถและเลือกโหวตทีมที่ชื่นชอบที่สุด และในรอบชิงชนะเลิศทั้ง 20 ทีมดังกล่าวจะมาแสดงความสามารถบนเวทีพร้อมกันอีกครั้งในวันที่ 23 กรกฎาคม 2554 เพื่อหาผู้ชนะเสิศที่จะได้รับทุนการศึกษาและของรางวัลรวมมูลค่า 187,000 บาท
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: PR on June 06, 2011, 06:15:26 PM
“เปาวลี” ทุ่มสุดตัวฝึกหนัก ทั้งร้อง-เต้น-การแสดง เพื่อรับบท “พุ่มพวง” ภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต

 

          อีกหนึ่งภาพยนตร์ไทยในปี 54 ที่น่าจับตามอง กับภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงชีวประวัติของ ราชินีลูกทุ่ง ผู้โด่งดัง อันเป็นที่รักและศรัทธาของคนไทยทั้งประเทศ นำแสดงโดย “เปาวลี พรพิมล” เจ้าของตำแหน่งแชมป์ออฟเดอะเยียร์ คว้าไมค์คว้าแชมป์ ช่องแฟนทีวี รับบทเป็น “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ประกบคู่พระเอกหล่อเข้มสไตล์หนุ่มไทย “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” รับบทเป็น “ธีระพล แสนสุข” คนรักของพุ่มพวง ผลงานกำกับโดย บัณฑิต ทองดี ซึ่งน้องเปาถือว่าเป็นดาวดวงใหม่ประดับวงการบันเทิงไทยเลยทีเดียว เพราะเรื่องการแสดงยังไม่เคยผ่านมาจากที่ไหนมาก่อน ก็นับว่าเป็นการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกในชีวิตของน้องเปา ที่นอกจากจะต้องโชว์ฝีมือทางด้านการแสดงแล้ว น้องเปายังต้องโชว์พลังเสียงการร้องเพลง และลีลาท่าเต้น จึงไม่ง่ายเลยสำหรับนางเอกหน้าใหม่ ซึ่งน้องเปาเล่าถึงการเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมในการแสดงภาพยนตร์ครั้งนี้ว่า

          “เป็นการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกในชีวิต เปาก็มีการเตรียมตัวอย่างหนักพอสมควร เพราะว่าไม่เคยผ่านการแสดงที่ไหนมาก่อนเลย เปาจึงต้องไปเรียนแอคติ้ง เรียนร้องเพลง และก็เรียนเต้น จะเรียน 3 อย่างในวันเดียวกัน โดยจะเรียนร้องก่อน 1 ชั่วโมง แล้วก็เรียนเต้น 2 ชั่วโมง ต่อด้วยเรียนแอคติ้งการแสดง 3 ชั่วโมง เพื่อรับบทเป็น แม่ผึ้ง-พุ่มพวง ดวงจันทร์ คาแร็คเตอร์ในภาพยนตร์ จะเป็นเด็กผู้หญิง จากสุพรรณบุรี ที่มีความมุ่งมั่นอยากเป็นนักร้อง แต่ด้วยฐานะทางบ้านยากจนทำให้ไม่ได้เรียนหนังสือ ก็จะอ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่ได้ แต่มีความมานะอดทน เป็นคนมุ่งมั่นจริงจัง ต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไม่เคยย่อท้อ จนในที่สุดก็ได้กลายเป็นนักร้องราชินีลูกทุ่งที่โด่งดัง สำหรับภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง นอกจากจะได้ชมเรื่องราวชีวิตของแม่ผึ้งตั้งแต่เด็กจนโตแล้ว ก็ยังเต็มอิ่มกับบทเพลงของแม่ผึ้ง เป็นบทเพลงที่ทุกคนต้องรู้จักและเคยฟังกันมาแล้วทั่วประเทศ ซึ่งเปาเองก็ขอเป็นตัวแทนในการถ่ายทอดน้ำเสียงในครั้งนี้ค่ะ มีหลายบทเพลงประมาณ 20 กว่าเพลงได้ เช่นเพลง กระแซะเข้ามาสิ, นักร้องบ้านนอก, โลกของผึ้ง, ตั๊กแตนผูกโบว์, ผู้ชายในฝัน และอีกหลายเพลงมากมาย”

          เตรียมพบกับเรื่องราวของนักร้องสาวขวัญใจ อันเป็นที่รักของคนไทยทั้งประเทศ และถูกยกย่องว่าเป็น “ราชินีลูกทุ่ง” เพียงหนึ่งเดียว กับภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคมนี้ ทั่วทุกโรงภาพยนตร์
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on June 10, 2011, 11:34:16 AM
MOVIE GUIDE: "พุ่มพวง" (เข้าฉาย 21 กรกฎาคม 54)
           “...ก่อนจากบ้านมา เพื่อนมันว่าให้ช้ำทรวง ไปเป็นนักร้องให้เขาล้วง มันเจ็บในทรวงไม่หาย  ไม่เด่นไม่ดังจะไม่หันหลังกลับไป ทุกวันคืนนอนร้องไห้ อีกเมื่อไหร่จะโชคดี...” สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล

          ภู มิ ใจ นำ เ ส น อ

          เรื่องราวของนักร้องสาวขวัญใจ อันเป็นที่รักของคนไทยทั้งประเทศ และถูกยกย่องให้เป็น “ราชินีลูกทุ่ง” เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงและดัดแปลงจากบทประพันธ์ ของ บินหลา สันกาลาคีรี นักเขียนรางวัลซีไรต์ ร่วมถ่ายทอดภาพชีวิตโดย นักร้องสาวเสียงคุณภาพ ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศกว่าพันเวที “เปาวลี พรพิมล” รับบทเป็น “พุ่มพวง ดวงจันทร์”  ประกบคู่กับ “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” ผลงานการกำกับภาพยนตร์โดย บัณฑิต ทองดี ควบคุมงานสร้างโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว 21 กรกฎาคมนี้

          <a href="http://www.youtube.com/watch?v=tHQAyBzx-jk" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=tHQAyBzx-jk</a>
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on June 14, 2011, 05:33:23 PM
“เปาวลี” สุดปลื้มพระเอกซุป’ตาร์ “ป๋อ-ณัฐวุฒิ” ประกบคู่โดดลงจอเงินครั้งแรก



          เป็นนางเอกน้องใหม่ 3 in 1 ที่ต้องรับบทหนักทั้งเล่น ร้องและเต้น สำหรับ“น้องเปา-เปาวลี พรพิมล” จากภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง และยังได้ประกบพระเอกหล่อระดับซุป’ตาร์เมืองไทยอย่าง “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” อีกด้วย ยิ่งทำให้น้องเปาทั้งตื่นเต้น ดีใจหน้าบาน เพราะเคยเห็นพี่ป๋อแต่ในจอทีวีไม่คิดว่าวันนึงจะได้แสดงภาพยนตร์คู่กัน แต่ก็ทำให้นางเอกน้องใหม่เกิดวิตกกังวลด้วยความมือใหม่เกรงจะทำให้ทีมงานและพี่ป๋อต้องเสียเวลา โดยน้องเปาเล่าถึงความรู้สึกครั้งนี้ว่า

          “ตอนแรกเปาเองก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นพระเอก จนมีพี่ทีมงานโทรมาบอกว่าพระเอกคือ พี่ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจนะ ตอนนั้นเปาเองก็ยังอยู่ที่สุพรรณบุรี ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ดีใจมาก ในใจยังแอบคิดว่าจริงหรอเป็นพี่ป๋อจริงๆ หรอ เปาจะได้เจอพี่ป๋อตัวเป็นๆ แล้ว (หัวเราะ) ปกติเปาก็จะดูละครที่พี่ป๋อเค้าแสดงอยู่แล้วเห็นพี่ป๋อแต่ในทีวีเท่านั้น ก็ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันดีใจมากๆ ค่ะ จากนั้นความรู้สึกต่อมาก็คือ เปาเป็นนักแสดงมือใหม่ไม่เคยผ่านงานแสดงอะไรมาก่อนเลย และถ้าเราเล่นไม่ดีเกิดทำพลาดขึ้นมาแล้วพี่ป๋อเขาจะว่าไหม ก็กลายเป็นว่าเริ่มรู้สึกกดดันตัวเองขึ้นมาแล้วค่ะ แต่พอได้มาร่วมงานกับพี่ป๋อคิวแรก เจอหน้ากันพี่ป๋อก็เข้ามาแกล้งเลยพี่ป๋อจะเป็นคนที่มีนิสัยเป็นกันเองมาก ไม่หยิ่ง หรือถือตัวเลยค่ะ และเวลาอยู่ในกองก็ชอบขอให้เปาร้องเพลงให้ฟัง แล้วพี่ๆ ในกองก็จะขำกัน ส่วนเรื่องการแสดง เปาก็ต้องขอขอบคุณพี่ป๋ออย่างมากค่ะที่ช่วยแนะนำเทคนิคการแสดงให้กับเปา นับว่าเป็นครูด้านการแสดงคนหนึ่งเลยค่ะ”

          “ก่อนจากบ้านมา เพื่อนมันว่าให้ช้ำทรวง ไปเป็นนักร้องให้เขาล้วง มันเจ็บในทรวงไม่หาย
          ไม่เด่นไม่ดังจะไม่หันหลังกลับไปทุกวันคืนนอนร้องไห้ อีกเมื่อไหร่จะโชคดี”
          ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” เข้าฉายพร้อมกันทั่วประเทศ 21 กรกฎาคมนี้
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on June 20, 2011, 07:46:50 PM
MV Update: เพลง “นักร้องบ้านนอก” ประกอบภาพยนตร์ “พุ่มพวง”
 
MV เพลง “นักร้องบ้านนอก” ประกอบภาพยนตร์ “พุ่มพวง”

          ภาพยนตร์แห่ง น้ำตาหยดแรก  บทเพลงแรกและความรักครั้งแรก “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์       

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=vEnnNO9g2AM" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=vEnnNO9g2AM</a>
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on June 20, 2011, 07:49:16 PM
เปา เคลียร์คิวชวนลุยเที่ยวสุพรรณ พร้อมออกปากตามรอยลูกทุ่งในตำนาน พุ่มพวง ดวงจันทร์





          เรียกได้ว่าตามรอยกันมากติดๆ สำหรับนักแสดงและนักร้องดวงรุ่งหน้าใหม่ขวัญใจชาวสุพรรณบุรี เปา – เปาวลี พรพิมล จากภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง ที่ใครเห็นก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวว่าถอดแบบราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ออกมาเป๊ะๆ ไม่ว่าจะเสื้อผ้าหน้าผมในตัวอย่างภาพยนตร์ที่หลายคนได้เห็นกันแล้ว ไหนจะเป็นคนสุพรรณเหมือนกันอีกต่างหาก งานนี้เราเลยชวนมาพิสูจน์เลือดสุพรรณของสาวเปาพร้อมๆ กัน ว่าแล้วก็ตามกันไปเที่ยวกันเลยดีกว่า

          การทัวร์ครั้งนี้เรามากันที่อำเภอด่านช้างซึ่งเป็นบ้านเกิดของสาวเปา ไกด์สาวนักร้องของเราก็เริ่มนำขบวนโดยมากันที่ตลาดด่านช้าง ซึ่งสาวเปาดูจะตื่นเต้นดี๊ด๊าเป็นพิเศษ เพราะเป็นที่วิ่งเล่นตั้งแต่เด็กๆ และมีความทรงจำมากมายกับที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นร้านกิ๊ฟช็อปที่สาวน้อยคนนี้แวะเวียนมาซื้อของกระจุ๊งกระจิ๊งเป็นประจำตามประสาสาวๆ หรือแม้แต่เสื้อผ้าที่เจ้าตัวยอมรับว่ามาบ่อยยิ่งกว่าร้านอื่นเพราะเป็นกิจการครอบครัวที่ทำมาตั้งแต่สาวเปายังเด็ก แหมมมม มิน่าล่ะถึงได้เป็นนักร้องลูกทุ่งที่มีสไตล์เก๋ก๋กว่าใครเป็นที่สุด นอกจากจะเป็นแหล่งช็อปปิ้งแล้ว สาวเปายังเอ็นจอยอีทติ้ง ณ ตลาดแห่งนี้อีกต่างหาก ว่าแล้วก็เริ่มทัวร์กินกันต่อไป เริ่มหยุดร้านแรกที่แผงผลไม้ที่ฟังดูเฮลตี้ผ่ายผอมมากมาย แต่สิ่งแรกที่เปาวิ่งเข้าหาดันเป็นทุเรียนซะงั้น นักร้องสาวของเราก็รีบออกตัวว่าชอบผลไม้มากๆ ทานทุกอย่าง แต่ทุเรียนนี่ชอบเป็นพิเศษ (อยากเสียงดีหุ่นสวยต้องโซ้ยทุเรียนรึเปล่ารึเปล่าน้า!!!!) ต่อจากนั้นก็ไปแวะเวียนกันต่อที่ร้านขนมครกเจ้าประจำ ที่ต้องบอกว่าเจ้าประจำก็เพราะกินมาตั้งแต่เด็กๆ และแม่ค้าก็จะชอบแถมให้เปาบ่อยๆ เวลามาซื้อ เรียกว่าสาวเปาของเรากลายเป็นขวัญใจประจำตลาดด่าช้างไปซะแล้วงานนี้ ปิดท้ายทัวร์ตลาดกันที่ร้านน้ำปั่น งานนี้สาวเปาขอลงมือทำด้วยตัวเองบ้าง ว่าแล้วก็คว้าน้ำเชื่มตักน้ำแข็งพร้อมใส่เครื่องลงมือปั่นทันที ซึ่งก็เรียกเสียงฮือฮาจากชาวบ้านที่มาเดินจ่ายตลาดได้ไม่น้อย เห็นได้จากแฟนคลับรุ่นเล็กรุ่นใหญ่เข้ามาขอถ่ายรูป แหมมมกองเชียร์ตามมามุงดูกันเยอะขนาดนี้ สมแล้วที่เป็นขวัญใจของชาวสุพรรณ

          หลังจากเดินตลาดกันจนเมื่อแล้ว สาวเปาก็คว้าจักรยานปั่นนำทางมาเที่ยวบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตลาดนัก พอก้าวเข้าบ้านเท่านั้นแหละ ก็ต้องตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษกับตู้รางวัลที่เรียงรายละลานตา เรียกว่าสาวน้อยคนนี้ช่างเป็นนักล่ารางวัลเวทีประกวดมามากกว่า 1000 เวทีแล้วจริงๆ แถมยังโชว์คอสตูมที่ใช้ขึ้นเวทีประกวดให้ดูอีกด้วย งานนี้สาวเปาแอบกระซิบว่าคุณแม่เป็นคนออกแบบและปักชุดให้เธอกับมือเองด้วย (โหหหหห ขอมอบโล่ให้คุณแม่ไปเลยคร๊า...) แต่ไหนๆ มาถึงบ้านแล้วทั้งทีจะไม่ชวนกินข้าวก็กระไรอยู่ งานนี้เปาเลยชวนพามาบุกครัวพร้อมทำเมนูโปรดให้กิน เริ่มต้นเตรียมเครื่องปรุงส่วนผสมต่างพร้อมหั่นผักเตรียมไว้ ดูจากท่าทางก็คล่องแคล่วไม่น้อย จากนั้นตั้งกระทะจับตะหลิวลงมือผัดๆ สุดท้ายออกมาเป็นแกงคั่วหมูน่าตาน่าทานทีเดียว งานนี้ลูกทัวร์ขอปรมมือให้ในความสามารถรอบด้านของสาวน้อยคนนี้ไปเลย

          “เปาไปทำงานกรุงเทพมาพักใหญ่แล้ว วันนี้ก็ดีใจที่มีโอกาสได้กลับมาเยี่ยมบ้าน ได้ไปเดินเล่นอยู่ในที่ๆคุ้นเคย ได้กินของอร่อยเจ้าประจำ และดีใจที่สุดที่มีคนจำเราได้และตามมาให้กำลังใจด้วยคะ ยิ่งทำให้รู้สึกคิดถึงและผูกพันกับด่านช้างบ้านเกิดของเปามากขึ้นไปอีกเลยคะ เปาเป็นคนสุพรรณบุรีโดยกำเนิด จะเรียกว่าตามรอยแม่ผึ้ง (พุ่มพวง ดวงจันทร์) มาเลยก็ว่าได้ เพราะแม่ผึ้งก็เป็นคนสุพรรณบุรี เป็นคนวิ่งตามความใฝ่ฝันของตัวเอง ซึ่งเปาก็เหมือนกันเกิดที่นี่ โตที่นี่และก็พยายามทำตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จ มีแม่ผึ้งเป็นแบบอย่างทั้งในเรื่องของการร้องเพลงและความอดทนมุ่งมั่นวิ่งตามหาฝันเหมือนในเนื้อเพลงนักร้องบ้านนอกของแม่ผึ้งเลยคะ ยิ่งหลังจากที่เปาได้มารับบทของแม่ผึ้งในภาพยนตร์ พุ่มพวง ก็ยิ่งทำให้รู้ว่าเมื่อก่อนแม่ผึ้งต้องฝ่าฝันอุปสรรคอะไรมาบ้าง ไม่เหมือนนักร้องสมัยนี้ที่มีโอกาสยิบยื่นถึงมือมากมายไม่เหมือนนักร้องสมัยก่อน ซึ่งเรื่องนี้เปาว่าน่าจะเป็นแรงผลักดันเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนได้ค้นหาตัวเองและพยายามวิ่งไปสู่เป้าหมายคะ ยังไงฝากทุกคนไปติดตามด้วยนะค่ะ”

          ร่วมติดตามเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของราชินีลูกทุ่งในตำนานกับภาพยนตร์ พุ่มพวง และอย่าลืมตามไปให้กำลังใจผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของนักร้องสาวดาวรุ่ง เปา - เปาวลี พรพิมล กันด้วย 21 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนต์
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on June 24, 2011, 11:42:38 AM
“ป๋อ” จูงมือ “เปา” ยกพานพุ่มขอขมา“ครูมนต์ เมืองเหนือ”ประเดิมเปิดกล้องเจอฉากดราม่า



          เป็นอีกหนึ่งฉากอารมณ์ดราม่าในภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ที่เป็นเหมือนช่วงชีวิตเกิดใหม่ของ ธีระพล (รับบทโดย ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ) และผึ้ง (รับบทโดย เปาวลี พรพิมล) เมื่อทั้ง 2 คนตัดสินใจเข้าไปขอความช่วยเหลือกับครูมนต์ เมืองเหนือ (รับบทโดย ถนอม สามโทน) โดยขอขมาและขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ซึ่งสำหรับฉากนี้ทำเอาพระเอก “ป๋อ” กดดันอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นวันแรกที่ได้เข้าฉากคู่กับนางเอกหน้าใหม่ “น้องเปา” ไม่ใช่เพราะเขินน้องเปาหรอกนะแต่ว่าดันเป็นฉากที่ต้องเน้นสื่ออารมณ์แห่งความผิดหวัง ต้องแสดงออกทั้งทางสีหน้าและแววตา และค่อยๆ ปรับอารมณ์จากผิดหวังเป็นรอยยิ้มแห่งความดีใจปลาบปลื้ม โดยป๋อเล่าถึงรายละเอียดฉากนี้ว่า   
       
          “สำหรับฉากนี้จะเป็นช่วงที่ธีระพล และผึ้ง รู้สึกว่าหมดหนทางแล้วหลังจากโดนไล่ออกจากบ้านครูไวพจน์ ดิ้นรนต่อสู้จนเริ่มคิดว่าชีวิตไม่มีทางออก พยายามหาหนทาง ซึ่งธีระพลก็รักผึ้งมาก ทนเห็นแฟนตัวเองต้องลำบากอีกต่อไปไม่ได้แล้ว จึงตัดสินใจไปหาครูมนต์ เมืองเหนือ เพื่อขอความช่วยเหลือ ก็พาผึ้งเข้าไปไหว้ขอขมาและฝากตัวเป็นศิษย์ เพราะครูมนต์ ขึ้นชื่อในด้านการปั้นนักร้องให้ดังและมีชื่อเสียงอย่างมาก และก็ครูมนต์ นี่ล่ะครับเป็นผู้ตั้งชื่อ พุ่มพวง ดวงจันทร์ จนทำให้โด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้”

          แหม!! เข้าฉากวันแรกก็ต้องรับบทดราม่าประเดิมเปิดกล้องกันเลยทีเดียว ป๋อจึงต้องทำการบ้านเตรียมตัวหนักพอสมควรงานนี้

          “เป็นฉากที่ต้องค่อนข้างใช้อารมณ์เยอะอย่างมาก ยอมรับว่าแรกๆ ก็กดดันไม่น้อย ผมเล่นไปแล้วพี่อ๊อดผู้กำกับ ก็จะใส่ความกดดันเพิ่มไปอีก พี่อ๊อดพยามบอกว่าฉากนี้ต้องใส่อารมณ์ยังไงบ้าง ให้ผมคิดว่ามันหมดหนทางแล้วจริงๆ นะชีวิตนี้ แล้วเราต้องเข้าไปขอความช่วยเหลืออารมณ์ต้องใส่ประมาณไหน เพราะตอนแรกครูมนต์ ปฏิเสธไม่รับความช่วยเหลือใดๆ แต่ตอนหลังครูมนต์ก็เปลี่ยนใจ ก็จะเป็นอารมณ์ความผิดหวังเสียใจในตอนแรก และอารมณ์ของคนสมหวังดีใจในตอนหลังครับ”

          ด้านนางเอกน้องใหม่ “เปาวลี พรพิมล” ก็ประเดิมเปิดกล้องด้วยการตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อมาเข้ากองถ่าย แต่ก็ทำเอาทีมงานกองถ่ายแอบงง เพราะนัดเวลาบ่าย 2 แต่น้องเปามาตั้งแต่เช้าตรู่ เป็นเพราะอะไรน้องเปาขอตอบว่า  “หนูตื่นเต้นค่ะพี่!!! หนูนอนไม่หลับ อยากทำงาน อยากมาเรียนรู้ก่อนว่ากองถ่ายเค้าทำงานกันยังไง อันนี้เรียกว่าอะไรเวลาสั่งแอ็คชั่นหรือสั่งคัตมันคืออะไร เพราะว่าไม่เคยแสดงหนังมาก่อน ก็อยากจะรีบมาศึกษาค่ะ และก็ตื่นเต้นจะได้เจอกับพี่ป๋อด้วย แต่มาถึงก็เจอพี่ป๋อแกล้งก่อนเลย และในวันนั้นเปามีบทพูดเพียงแค่คำว่า “พุ่มพวง ดวงจันทร์” เพราะครูมนต์ เมืองเหนือ ตั้งชื่อให้ใหม่และยื่นกระดาษที่เขียนชื่อนี้เอาไว้ให้กับผึ้งค่ะ และตอนถ่ายจริงก็เป็นตอนเวลาเกือบๆ สองทุ่มค่ะ (หัวเราะ) สนุกค่ะอยู่กองถ่ายไม่เบื่อเลย”

          “พุ่มพวง” ภาพยนตร์แห่ง น้ำตาหยดแรก บทเพลงแรก และความรักครั้งแรก
          21 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on June 24, 2011, 11:43:23 AM
บุกกองถ่ายโปสเตอร์ “พุ่มพวง” “ป๋อ” โชว์ฮา...เต้นหางเครื่องประกบ “เปา”
 



 
          หลังจากเรียกเสียงฮือฮากับทีเซอร์ตัวแรกที่ปล่อยมา และตามด้วยตัวอย่างเวอร์ชั่นเต็มของภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” กันมาแล้ว คราวนี้ขอบุกกองถ่ายโปสเตอร์ภาพยนตร์สักหน่อยเถอะ รีบแจ้นตามติดมาถึงบ็อกซ์ช็อต สตูดิโอ รามคำแหง 7 เป็นเวลาบ่ายโมงตรงเป๊ะ! พระเอกหล่อขี้เล่นอย่าง “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” ก็เดินเข้ามาสวัสดีทักทายทีมงาน และนางเอกหน้าหวานเสียงใส “น้องเปา-เปาวลี พรพิมล” ที่เดินยิ้มหวานพร้อมยกมือไหว้อย่างนอบน้อมมาแต่ไกล ไม่รอช้าทั้งพี่ป๋อและน้องเปาก็เตรียมแต่งหน้า-ทำผม พร้อมแต่งตัวสวย-หล่อตรงตามคาแรคเตอร์ เมื่อนักแสดงพร้อม ทีมงานพร้อม กล้อง ไฟพร้อม ทุกอย่างพร้อม ก็เริ่มลุยถ่ายโปสเตอร์กันอย่างคล่องแคล่วระดับมืออาชีพกันเลย
 
          เริ่มจากพี่ป๋อที่ยังไม่ทิ้งลายนายแบบ ด้วยลีลาการโพสต์ท่าทางเห็นแล้วก็อยากจะกรี๊ด กรี๊ดและร้องเพลงเกี้ยว..ผู้ชายอะไรน่าหยิก กระซี้กระซิก น่ารัก น่าตี...ยิ่งตอนที่ทำหน้าเคลิ้มเป่าแซกโซโฟนเห็นแล้วใจจะละลาย ฟากนางเอกดาวรุ่งน้องเปาก็ไม่ยอมน้อยหน้าเช่นกันมือจับไมค์ได้ปุ๊ป ก็ใส่ลีลาความเป็นนักร้องตั้งท่าโพสต์อย่างแพรวพราวกลายเป็นสาวน้อยเจ้าเสน่ห์เลยทีเดียว ลองคว้าตัวทั้งคู่มาสัมภาษณ์ และเล่าถึงบรรยากาศเบื้องหลังการถ่ายโปสเตอร์กันสักหน่อยสิ เริ่มจากพี่ป๋อก่อนเลยละกัน

          ป๋อ: “ วันนี้ผมกับน้องเปามาถ่ายโปสเตอร์โปรโมทภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” สนุกดีครับมีทั้งถ่ายช็อตเดี่ยว ช็อตคู่กัน ชุดที่ใส่วันนี้เป็นชุดสูทสีม่วงสดใส มีแว๊บๆ สะท้อนเล็กน้อยด้วยครับ ถ่ายคู่กับเครื่องดนตรีประจำกาย คือแซกโซโฟน อีกชุดก็เป็นสีเหลืองทอง ช่วยทำให้ผมดูหล่อขึ้นมากด้วยสีสันประกายทอง ประกายเงินเนี่ยล่ะครับ (หัวเราะ) ตอนถ่ายโปสเตอร์ทีมงานก็จะครึกครื้น เปิดเพลงของคุณพุ่มพวง ช่วยสร้างบรรยากาศได้ดีมากเลยครับ จะยากก็ตรงที่ผมต้องทำท่าเป่าแซกโซโฟนค้างไว้ เพราะเป็นการถ่ายภาพนิ่ง จะต้องทำปากไม่ให้ยื่นหรือหุบจนเกินไป แก้มไม่ให้ป่องเกินไป ถ่ายให้หล่อยังไง ต้องค่อยๆ ปรับกันไป ไม่มากเกินไป แต่ก็ไม่น้อยเกินไป ก็ยากนะครับสุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยดีครับ ตอนน้องเปาร้องเพลงผมก็แอบซ้อมเป็นหางเครื่องให้บ้าง (หัวเราะ) ไม่อยากให้บรรยากาศมันซีเรียส ก็พยามสร้างความบันเทิงให้กับทุกๆ คนครับ”

          เปา: “สนุกค่ะ สำหรับเปาจะใส่ชุดขึ้นคอนเสิร์ตในหนังคือชุดลายเสือ และชุดสีทองทั้งตัวเลยค่ะ ของเปาจะถ่ายคู่กับไมค์ เพราะเป็นนักร้องต้องถือไมค์ประจำตัว ก็ต้องฝึกโพสต์หลายท่าอยู่เหมือนกัน กว่าจะได้ออกมาตามที่พี่ทีมงานเขาต้องการ เปิดเพลงบิ้ว และพวกพี่ๆ ก็ให้เปาร้องเพลงไปด้วยเลย โดยบอกว่าทำเหมือนเราร้องเพลงแสดงคอนเสิร์ตอยู่ปล่อยไหลไปเรื่อยๆ ร้องจนจบเพลงเหมาไปเกือบหมดอัลบั้มเลย แอบเห็นภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ออกมาสวยดีค่ะ ตอนถ่ายคู่กับพี่ป๋อก็ยังแอบเขินอยู่เหมือนกันนะ แต่มีพี่ทีมงานแอบกระซิบว่าเหมือนพ่อกับลูกถ่ายรูปคู่กัน (หัวเราะ) แซวกันขำๆ ยังไงก็ขอฝากผลงานด้วยค่ะ หนังใกล้เข้าฉายแล้วอย่าลืมติดตามชมกันเยอะๆ นะคะ”

          “พุ่มพวง” ภาพยนตร์แห่ง น้ำตาหยดแรก บทเพลงแห่งแรก และความรักครั้งแรก ร่วมสร้างแรงบันดาลใจและการกลับมาของราชินีลูกทุ่งผู้โด่งดังโดย เปาวลี พรพิมล และ ณัฐวุฒิ สกิดใจ ผลงานกำกับโดย บัณฑิต ทองดี พร้อมสร้างความประทับใจ 21 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

          “นักร้องบ้านนอกคนนี้ จะกล่อมน้องพี่และแฟนเพลง”
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on June 24, 2011, 11:47:39 AM
"พุ่มพวง" (เข้าฉาย 21 กรกฎาคม 54)



          “...ก่อนจากบ้านมา เพื่อนมันว่าให้ช้ำทรวง
          ไปเป็นนักร้องให้เขาล้วง มันเจ็บในทรวงไม่หาย
          ไม่เด่นไม่ดังจะไม่หันหลังกลับไป
          ทุกวันคืนนอนร้องไห้ อีกเมื่อไหร่จะโชคดี...”
          สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
          ภูมิใจนำเสนอ

          เรื่องราวของนักร้องสาวขวัญใจ อันเป็นที่รักของคนไทยทั้งประเทศและถูกยกย่องให้เป็น “ราชินีลูกทุ่ง” เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นสร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงและดัดแปลงจากบทประพันธ์ของ บินหลา สันกาลาคีรี นักเขียนรางวัลซีไรต์ร่วมถ่ายทอดภาพชีวิตโดย นักร้องสาวเสียงคุณภาพ ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศกว่าพันเวที “เปาวลี พรพิมล” รับบทเป็น “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ประกบคู่กับ “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ”
ผลงานการกำกับภาพยนตร์โดย บัณฑิต ทองดี ควบคุมงานสร้างโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว 21 กรกฎาคมนี้

          กำหนดฉาย 21 กรกฎาคม 2554
          แนวภาพยนตร์ ดราม่า
          ผู้สร้างและจัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
          บริษัทดำเนินงานสร้าง บาแรมยู
          อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
          ควบคุมการสร้าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว, อรุณี ศรีสุข
          ร่วมควบคุมการสร้าง ศิตา วอสเบียน
          ผู้ช่วยควบคุมการสร้าง คำหอม ศรีนอก
          กำกับภาพยนตร์ บัณฑิต ทองดี
          บทภาพยนตร์ บินหลา สันกาลาคีรี, พัฒนะ จิรวงศ์
          กำกับภาพ นิกร ศรีพงศ์วรกุล
          กำกับศิลป์ ถิรนันท์ จันทคัต
          ออกแบบงานสร้าง ดุสิต ญาปกะวงศ์
          ออกแบบเครื่องแต่งกาย เอกศิษฏ์ มีประเสริฐกุล
          แสดงนำโดย เปาวลี พรพิมล, ณัฐวุฒิ สกิดใจ
          วิทยา เจตะภัย, บุญโทน คนหนุ่ม

เรื่องย่อ
          เมื่อเด็กผู้หญิงคนหนึ่งฝันอยากเป็นนักร้อง วินาทีแห่งการไข่วคว้าเพื่อความฝันอันยิ่งใหญ่ และการเดินทางของชีวิตจึงเริ่มต้นขึ้น… ผึ้ง (รับบทโดย เปาวลี พรพิมล) เกิดและโตที่จ.สุพรรณบุรี ด้วยฐานะทางบ้านยากจน เรียนจบเพียงแค่ชั้นป.2 แต่มีความฝันอยากเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เธอจึงตัดสินใจเดินทางออกตามหาความฝัน ด้วยการมุ่งหน้าเข้ามาเผชิญโชคในเมืองกรุง ผึ้งเริ่มต้นจากตำแหน่งหางเครื่องในวงดนตรีของ ครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ (รับบทโดย บุญโทน คนหนุ่ม) จนได้พบรักกับธีระพล แสนสุข (รับบทโดย ณัฐวุฒิ สกิดใจ) นักดนตรีเป่าแซกโซโฟนในวง และทำให้ความฝันอยากเป็นนักร้องกลับฝันสลาย เพราะความรักของทั้งคู่เป็นตัวก่อเหตุให้โดนไล่ออกจากวงไวพจน์ ทั้งคู่ยอมอดทน ฝ่าฟันอุปสรรคต่อสู้กับชีวิตที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดอย่างยากลำบาก จนเมื่อได้พบกับครูมนต์ เมืองเหนือ (รับบทโดย วิทยา เจตะภัย) ผึ้งขอฝากตัวเป็นศิษย์ ครูมนต์จึงตั้งชื่อใหม่ให้เป็น “พุ่มพวง ดวงจันทร์” และปั้นเธอให้เป็นนักร้อง
          ถึงแม้จะอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ เผชิญกับความผิดหวังเสียใจ การพรากจากของคนรัก หรือการเจ็บป่วย สิ่งเหล่านี้ใช่ว่าจะเป็นอุปสรรคทำให้เธอท้อถอยและถอดใจจากความฝัน แต่กลับกลายเป็นความน่าอัศจรรย์ในความเป็นอัจฉริยะของ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ที่จดจำเนื้อเพลงได้มากกว่า 500 เพลง และเป็นนักร้องลูกทุ่งอันเป็นที่รักของคนไทยทุกระดับชั้น จนถูกยกย่องให้เป็น “ราชินีลูกทุ่ง” เพียงหนึ่งเดียวตลอดกาล

คาแร็คเตอร์
          ­เปาวลี พรพิมล รับบทเป็น “พุ่มพวง ดวงจันทร์”
          เด็กหญิงจากเมืองสุพรรณบุรีที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้อง ด้วยฐานะทางบ้านยากจน เธอจึงไม่ได้เรียนหนังสือเพราะต้องช่วยทางบ้านทำงานและเลี้ยงดูน้องๆ รักการร้องเพลงมาก เธอชื่นชอบนักร้องไวพจน์ เพชรสุพรรณ กลายเป็นแรงบันดาลใจก่อนตัดสินใจเข้าเมืองกรุง และเริ่มเป็นหางเครื่องของวงไวพจน์ จนพบรักกับธีระพลและทำให้ชีวิตของเธอต้องพลิกผันมีเหตุให้ต้องออกจากวงไวพจน์ ก่อนจะไปพบกับครูมนต์ เมืองเหนือ และในที่สุดเธอก็กลายเป็นนักร้องโด่งดัง แฟนเพลงทั่วประเทศรู้จักเธอในชื่อ “พุ่มพวง ดวงจันทร์”
          “คาแร็คเตอร์ จะเป็นเด็กผู้หญิงต่างจังหวัดที่มีความฝันอยากเป็นนักร้องมาก ฐานะทางบ้านยากจนจึงไม่ได้เรียนหนังสือ ทำให้อ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่ได้ แต่มีความมานะอดทน เป็นคนมุ่งมั่นจริงจัง ต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไม่เคยย่อท้อ จนในที่สุดก็ได้กลายเป็นนักร้องราชินีลูกทุ่งที่โด่งดัง ซึ่งการมารับบทแม่ผึ้ง (พุ่มพวง ดวงจันทร์) ต้องมีการเตรียมตัวอย่างหนักพอสมควร เพราะว่าไม่เคยผ่านการแสดงที่ไหนมาก่อนเลย เปาจึงต้องไปเรียนแอคติ้ง เรียนร้องเพลง และก็เรียนเต้น จะเรียน 3 อย่างในวันเดียวกัน โดยจะเรียนร้องก่อน 1 ชั่วโมง แล้วก็เรียนเต้น 2 ชั่วโมง ต่อด้วยเรียนแอคติ้งการแสดง 3 ชั่วโมงค่ะ”

          ณัฐวุฒิ สกิดใจ รับบทเป็น “ธีระพล แสนสุข”
          แซกโซโฟนหนุ่มรูปหล่อเจ้าเสน่ห์ประจำวง ไวพจน์ เพชรสุพรรณ วัย 30ปี เป็นหนุ่มอารมณ์ดี และเจ้าชู้นิดๆ ด้วยความที่เป็นคนมีอัธยาศัยดี คุยเก่งจึงทำให้ธีระพลและผึ้งสนิทกันมากขึ้นจนก่อเกิดเป็นความรัก และด้วยความรักของธีระพลที่มีต่อผึ้ง เขาสัญญาว่าจะดูแลและทำความฝันของผึ้งให้เป็นจริง ถึงแม้จะต้องฝ่าฝันและเจออุปสรรคต่างๆ มากมาย
          “คาแร็คเตอร์เป็นนักดนตรีเป่าแซกโซโฟนในวงของครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ ธีระพลจะมีบุคลิกเป็นคนขี้เล่นแล้วก็เป็นกันเองแต่ก็มีความมุ่งมั่นมีความจริงจังในการที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เป็นคนรักของพุ่มพวงและช่วยเหลือซึ่งกันและกันฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยกันครับ ซึ่งเรื่องจะมีประมาณ 2 ลุค 2 สมัย จะมีพัฒนาการในเรื่องของเสื้อผ้า เรื่องของทรงผม เพื่อให้ธีระพลดูย้อนกลับไปในวัยหนุ่ม ผมเห็นแล้วก็นึกถึงเจมส์ ดีน สมัยยุคผมจะตั้งๆ เสยๆ หน่อย แล้วก็จะมีรากไทรนิดๆ แปลกดีครับ รู้สึกว่าหล่อแบบโบราณแต่จะเฟี้ยวๆ หน่อย รองเท้าก็เป็นส้นตึกเดินทีไรข้อเท้าก็จะพลิกทุกทีครับ เสื้อผ้ากางเกงก็จะเอวสูงหน่อยขาจะบานมาก และในยุคต่อมาก็จะเริ่มเข้ามาคล้ายๆ ในยุคปัจจุบัน แต่เรื่องสีสันของเสื้อผ้าจะเน้นมากเป็นพิเศษ มีลายดอก ลายทางบ้าง ทรงผมก็จะหวีเรียบธรรมดาครับ ผมว่าหน้าผมเหมาะกับลุคนี้นะ(หัวเราะ)”

          วิทยา เจตะภัย รับบทเป็น “ครูมนต์ เมืองเหนือ”
          ครูเพลงนักปั้นมือทอง ขึ้นชื่อด้านการปั้นนักร้องจนมีชื่อเสียงโด่งดังมาหลายคน มีบุคลิกขี้เล่น และอัธยาศรัยดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น แต่บางทีก็โผงผางจนถึงขนาดขวานผ่าซาก ไม่เกรงกลัวใคร รักความสนุกสนาน จึงมีแต่คนรักใคร่
          “รับบทเป็น ครูมนต์ เมืองเหนือ นักปั้นมืออาชีพ หรือเรียกว่าเป็นนักปั้นมือทองในยุคนั้น คาแร็คเตอร์จะเป็นคนที่อารมณ์ดี จิตใจก็ดี ชอบช่วยเหลือเพื่อนฝูง ช่วยเหลือคนอื่น เป็นนักปั้นมืออาชีพปั้นให้คนดังมาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นศิลปินและนักร้องหลายๆ คนที่ผ่านมา ค่อนข้างจะติดขี้เล่น บุคคลิกเป็นคนร่าเริง จนบางคนก็คิดว่าเป็นคนเจ้าชู้ แต่จริงๆ ก็เป็นเสน่ห์ของท่าน เวลาที่อยู่ใกล้กับใครก็ทำให้อบอุ่นเป็นกันเองครับ ได้มารับบทเป็นครูเพลงที่เราเองก็เคารพนับถือ พอได้รับเชิญให้มาเล่นเป็นครูมนต์ เมืองเหนือ ยิ่งดีใจใหญ่เลย แล้วเราก็เป็นคนเหนือด้วย ก็ทั้งดีใจอิ่มเอิบปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก”

          บุญโทน คนหนุ่ม
          รับบทเป็น “ครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ”
          ครูเพลงนักแหล่ชื่อดังแห่งยุค เป็นผู้มีอิทธิพลและเป็นที่นับถือของคนในวงการเพลงลูกทุ่ง ด้วยความที่มีนิสัยใจกว้างจึงทำให้มีหลายคนยกย่องและเคารพ เป็นคนเจ้าระเบียบและรักษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ภายนอกดูเป็นคนดุ แต่ก็เพื่ออยากให้ทุกคนได้ดี
          “คาแร็คเตอร์ของ ครูไวพจน์ จะเป็นคนเจ้าระเบียบ ทำอะไรก็จะต้องมีกฎระเบียบเยอะ ภายนอกดูเหมือนเป็นคนดุ แต่จริงๆ แล้วภายในเป็นคนใจดี มีความเป็นห่วงเป็นใยต่อลูกศิษย์ อยากจะให้ทุกคนได้ดีและประสบความสำเร็จครับ ส่วนตัวแล้วผมกับครูไวพจน์จะรู้จักและสนิทกัน ถ้าถามถึงความคล้าย ตัวผมเองก็ร้องเพลง แหล่เพลง ทำขวัญนาคเหมือนกันล่ะครับผมจะเป็นรุ่นหลังต่อจากครูไวพจน์ ซึ่งต้องยอมรับว่านักแหล่รุ่นเก่านั้น น้ำเสียงไพเราะมาก มีลูกเอื้อนลูกหยอด ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนตลกเฮฮา แต่ครูไวพจน์จะดุ และมาดขรึมครับ”

รายละเอียดงานสร้างภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง”
          สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับ บาแรมยู ภูมิใจสร้างภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์ที่ดัดแปลงจากบทประพันธ์เรื่อง “ดวงจันทร์ที่จากไป” ของ “บินหลา สันกาลาคีรี” (นักเขียนรางวัลซีไรต์ปี พ.ศ. 2548 จากเรื่อง เจ้าหงิญ) นวนิยายชีวประวัติของราชินีเพลงลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ศิลปินนักร้องหญิงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดอันเป็นที่รักของเหล่าแฟนเพลงทั่วประเทศ โดยผลงานการกำกับภาพยนตร์ของ “บัณฑิต ทองดี” (กำกับภาพยนตร์เรื่อง มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟ.เอ็ม., เฮี้ยน, มนุษย์เหล็กไหล ฯลฯ) ภายใต้ควบคุมการสร้าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว และ อรุณี ศรีสุข

แรงบันดาลใจของการปรากฏตัว “ราชินีลูกทุ่ง” สู่จอภาพยนตร์
          นับว่าเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี 2554 ซึ่งได้บุคคลสำคัญแห่งวงการบันเทิงอย่างครูเพลงผู้มีชื่อเสียง เช่น ครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ, ครูมนต์ เมืองเหนือ, ครูลพ บุรีรัตน์ หรือแม้แต่บุคคลสำคัญแห่งวงการภาพยนตร์ไทยและวงการเพลงอย่าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ประธานบริษัท แห่งค่ายสหมงคลฟิล์ม, ปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้บริหารแห่งบาแรมยู, กริช ทอมมัส กรรมการผู้จัดการ แห่งแกรมมี่ โกลด์, บัณฑิต ทองดี ผู้กำกับภาพยนตร์ และอีกหลายคนรวมถึงทีมงานที่มีความชื่นชอบและศรัทธาในตัวนักร้องราชินีลูกทุ่ง รวมตัวสนับสนุนและช่วยผลักดันจนกลายเป็นภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง”
          โดยปรัชญา ปิ่นแก้ว โปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์เล่าถึงจุดกำเนิดของโปรเจ็คต์ในครั้งนี้ว่า “เจตนาเดียวกัน คือทุกคนที่มามีส่วนร่วมในโปรเจ็คต์ภาพยนตร์ครั้งนี้ คือคนที่ชอบ ชื่นชม และศรัทธาในตัวของพุ่มพวง ดวงจันทร์ โดยเฉพาะด้านการทำงานของเธอ หรือด้านความฝันที่มีความมุ่งมั่นอย่าเต็มเปี่ยม และในฐานะที่ผมเองก็เป็นแฟนเพลงของพุ่มพวง จึงอยากยกย่องด้านการทำงานของเธอเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีต่อสังคม และด้วยตำแหน่งราชินีลูกทุ่ง ที่คนทั้งประเทศรักและศรัทธาก็นับว่าเป็นสิ่งที่การันตีได้เป็นอย่างดี จนเมื่อได้พูดคุยกับคุณบัณฑิต ทองดี ผู้กำกับและคุณอรุณี ศรีสุข โปรดิวเซอร์อีกคนนึง ก็มีความคิดเห็นตรงกัน รวมถึงครูเพลงที่มีความเกี่ยวข้องกับคุณพุ่มพวงในยุคสมัยนั้นเช่น ครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ, ครูมนต์ เมืองเหนือ, ครูลพ บุรีรัตน์ ทุกท่านก็ให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือในด้านข้อมูลต่างๆ ค่ายเพลงอย่างแกรมมี่ โกลด์ ที่ตอนนี้ถือลิขสิทธิ์เพลงของคุณพุ่มพวงก็ให้ความร่วมมือและยินดีในเรื่องของการนำเพลงมาใช้ประกอบในภาพยนตร์ รวมถึงผู้อนุมัติและที่ทำให้เกิดโปรเจ็คต์นี้ขึ้นมา คุณสมศักดิ์ (เสี่ยเจียง) ค่ายสหมงคลฟิล์ม ทุกท่านล้วนแต่มีความศรัทธาในตัวคุณพุ่มพวง และชื่นชอบบทเพลงของคุณพุ่มพวงด้วยกันทั้งนั้น”

ภาพยนตร์สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงและดัดแปลงจากบทประพันธ์ของ
“บินหลา สันกาลาคีรี” (นักเขียนรางวัลซีไรต์) สู่บทภาพยนตร์
          สำหรับบทภาพยนตร์ครั้งนี้ เป็นการดัดแปลงมาจากบทประพันธ์เรื่อง “ดวงจันทร์ที่จากไป” ของ “บินหลา สันกาลาคีรี” (นักเขียนรางวัลซีไรต์ปี พ.ศ. 2548 จากเรื่อง เจ้าหงิญ) นวนิยายชีวประวัติของราชินีเพลงลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ศิลปินนักร้องหญิงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดอันเป็นที่รักของเหล่าแฟนเพลง โดยเป็นการเขียนบทภาพยนตร์ร่วมกันครั้งแรกระหว่างนักเขียนรุ่นใหญ่ บินหลา สันกาลาคีรี กับนักเขียนรุ่นน้อง พัฒนะ จิรวงศ์ นำมาขัดเกลากลายเป็นบทภาพยนตร์เต็มอิ่มครบรสทุกอารมณ์ได้อย่างลงตัว
          บัณฑิต ทองดี ผู้กำกับ เล่าถึงความเป็นมาของบทภาพยนตร์ว่า “จริงๆ แล้วบทภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง มีการดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อดังเรื่อง ดวงจันทร์ที่จากไป ซึ่งก็เป็นงานเขียนของคุณบินหลา สันกาลาคีรี นักเขียนมือรางวัลซีไรต์ และยังเป็นบุคคลหนึ่งที่มีส่วนร่วมทำให้โปรเจ็คต์พุ่มพวงเกิดขึ้น ซึ่งคุณบินหลาจะมีข้อมูลที่เคยรีเสิร์ชมาแล้วประมาณนึง เมื่อตอนทำออกมาเป็นหนังสือ ส่วนทางเราเองก็ได้มีการรีเสิร์ชข้อมูลเพิ่มเติม เมื่อนำมารวมกันแล้วก็ประมวลผลออกมาเป็นบทภาพยนตร์ โดยมีคุณบินหลาคอยให้คำแนะนำ และคำปรึกษาในด้านการนำมาทำเป็นบทภาพยนตร์ และเป็นการเขียนบทภาพยนตร์ร่วมกับคุณพัฒนะ จิรวงศ์ อีกคนหนึ่ง”
          ในส่วนของประเด็นหลักสำคัญที่ต้องการนำเสนอในภาพยนตร์ครั้งนี้ “เรานำเสนอให้แตกต่างจากนวนิยายโดยเราใส่ประเด็นในเรื่องของผู้หญิงคนนึงที่สามารถเป็นไอดอล และเป็นแรงบันดาลใจ เป็นต้นแบบของคนรุ่นใหม่ คนที่มีความฝันมุ่งมั่น ซึ่งจะทำให้ภาพยนตร์มีความน่าสนใจมากขึ้น แตกต่างจากนวนิยายที่จะเน้นเล่าเรื่องราวชีวิตของพุ่มพวงว่าเป็นอย่างไร ในความเป็นบทภาพยนตร์เราใส่อารมณ์ความมุ่งมั่นเพื่อความฝันให้กับคนดู ซึ่งเมื่อดูจบแล้วจะต้องเกิดความรู้สึกว่าอยากจะเป็นแบบพุ่มพวง คืออยากจะต่อสู้ อยากจะเอาชนะกับอุปสรรคต่างๆ นี่คือความแตกต่างและเป็นประเด็นหลักที่เรานำมาใส่ในบทภาพยนตร์ครับ”

ภาพ “คอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่” และ “ความทรงจำสุดประทับใจ”จะหวนกลับคืนมาอีกครั้ง
          การออกแบบงานสร้างด้านโปรดักชั่นดีไซน์ จะเป็นการรวบรวมฉากคอนเสิร์ตสุดประทับใจครั้งเมื่อ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” เป็นนักร้องโชว์ลีลาการเต้นและน้ำเสียงทรงพลังกับการแสดงบนเวทีคอนเสิร์ตต่างๆ ซึ่งยังคงตราตรึงอยู่ในใจแฟนเพลงไม่มีวันลืมมาไว้ในภาพยนตร์ เช่น
          - ฉากเวทีคอนเสิร์ตครั้งแรกในชีวิตของพุ่มพวง บนเวทีคอนเสิร์ตของขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด เป็นครั้งที่พุ่มพวงเริ่มก้าวชีวิตเป็นนักร้องอย่างเต็มตัว มือถือไมค์เพียบพร้อมด้วยวงดนตรีและหางเครื่อง กับบทเพลง “สาวร้อยเอ็ด” ซึ่งเป็นเพลงร้องแก้ให้กับนักร้องชาย
          - ฉากคอนเสิร์ตโลกดนตรี อีกหนึ่งคอนเสิร์ตแห่งความทรงจำที่มีคนดูและบรรดาแฟนเพลงอย่างหนาแน่นแห่งประวัติการณ์ ทั้งยังต้องปีนต้นไม้เพื่อดูคอนเสิร์ตของพุ่มพวง นักร้องลูกทุ่งสาวที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสุด โดงดังอย่างสุดขีดในยุคนั้น กับบทเพลงตั๊กแตนผูกโบว์, โลกของผึ้ง และนักร้องบ้านนอก
          - ฉากคอนเสิร์ตที่โรงแรมดุสิตธานี สถานที่ที่พุ่มพวงฝันไว้ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องได้มีโอกาสแสดงคอนเสิร์ตบนโรงแรมที่โก้หรูและมีแต่ผู้คนไฮโซ หรือคนรวยๆ มาชมคอนเสิร์ตของเธอ ซึ่งฉากคอนเสิร์ตเหล่านี้ทีมผู้ออกแบบงานสร้างบรรจงใส่รายละเอียดอย่างครบถ้วน เพื่อสมกับที่ต้องการจำลองเวทีคอนเสิร์ต เสมือนย้อนเวลากลับไปสู่ยุคราชินีลูกทุ่งที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง
          เทรนด์ชุดลายเสือจะกลับมา...โบว์ผูกผมจะกลายเป็นแฟชั่นอีกครั้ง เมื่อทีมออกแบบเสื้อผ้า และช่างหน้า ช่างผม ถอดความเป็นพุ่มพวง ดวงจันทร์ ออกมาได้เนียนอย่างมืออาชีพ หลากหลายชุดในทุกๆ คอนเสิร์ตที่ถูกนำมาอยู่ในภาพยนตร์ ทรงผมบ็อบ หน้าม้า ผมยาว ผมสั้น ลิปสติกสีแดงสด รองเท้าส้นสูง ล้วนแล้วแต่เป็นภาพแห่งความทรงจำที่ยังคงประทับใจไม่จางหายไป

มนต์เพลงอมตะ “พุ่มพวง ดวงจันทร์”
          บทเพลงแห่งความทรงจำและยังคงได้ยินติดหูจนถึงยุคปัจจุบันนี้ ถูกนำมาประกอบในภาพยนตร์ เพลงดังสุดฮิต สุดประทับใจ เช่น นักร้องบ้านนอก, ผู้ชายในฝัน, ดาวเรืองดาวโรย, หนูไม่รู้, กระแซะเข้ามาสิ, ตั๊กแตนผูกโบว์, สาวนาสั่งแฟน, ห่างนิดถอยหน่อย, แก้วรอพี่ ฯลฯ หลากหลายบทเพลงเหล่านี้จะถูกรวบรวมและนำกลับมาให้ทุกคนติดปากร้องตามกันทั่วบ้านทั่วเมืองอีกครั้ง

“ก่อนจากบ้านมา เพื่อนมันว่าให้ช้ำทรวง ไปเป็นนักร้องให้เขาล้วง มันเจ็บในทรวงไม่หาย
ไม่เด่นไม่ดังจะไม่หันหลังกลับไปทุกวันคืนนอนร้องไห้ อีกเมื่อไหร่จะโชคดี”.....เพลงนักร้องบ้านนอก

“พี่จ๋าพี่ สัญญาปีนี้แล้วไม่มาแต่ง ค่าสินสอดก็ไม่แพงหรือพี่แกล้งให้แก้วรอเรื่อยไป
พี่จ๋าพี่ แถวย่านบ้านนี้เขาว่าแก้วได้หม้ายขันหมากแล้วหรือไร”....เพลงแก้วรอพี่

“หากพี่กลับมาซื้อผ้าตาตา ฝากน้องบ้างเน้อ อย่าให้คอยเก้อนะพี่ อยากมีเสื้อใหม่
อย่าพาหญิงงาม กลับมาหยามน้ำใจ หากพามาได้แต่อย่าให้สวยเกิน”.....เพลงสาวนาสั่งแฟน

“ตีห้า ไม่ถึงก็จวนคิดทบทวนเรื่องฝันชั้นดี ผู้ชายอะไรน่าหยิกกระซี้ กระซิก น่ารัก น่าตี เพียรมาออดออเซาะ
คำเสนาะมากมี ฝันว่าคิดอยู่หวำหวามถ้าถูกลวนลามจะทำไงดี”.....เพลงผู้ชายในฝัน

“แฟนจ๋า ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้ารักพุ่มพวงแล้วจะซำบาย แฟนจ๋า ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้ารักพุ่มพวงแล้วจะซำบาย
จะร้องเพลงให้แฟนฟัง เพลงไทยเพลงหรั่งพุ่มพวงก็ร้องได้”.....เพลงแฟนพุ่มพวง ฯลฯ

นักแสดงคุณภาพร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของ “ราชินีลูกทุ่ง”
          การคัดเลือกนักแสดงเพื่อมารับบท “พุ่มพวง ดวงจันทร์” นับว่าเป็นโจทย์ยากสำหรับภาพยนตร์อยู่ไม่น้อย ต้องค้นหาผู้ที่ร้องเพลงได้และน้ำเสียงดี ต้องมีใบหน้างดงาม รวมถึงฝีมือทางการแสดงต้องดีเยี่ยม ซึ่งก็มีนับหลายร้อยกว่าคนที่เข้ามาแคสติ้ง หรือแม้แต่ค่ายเพลงประกวดระดับ AF (เอเอฟ), The Star (เดอะสตาร์), KPN (เคพีเอ็น) จนสุดท้ายได้ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมาเพียงหนึ่งเดียว เป็นสาวน้อยมหัศจรรย์ ดาวดวงใหม่แห่งค่ายแกรมมี่โกลด์ “น้องเปา-เปาวลี พรพิมล” (แชมป์ออฟเดอะเยียร์ รายการคว้าไมค์คว้าแชมป์ ของช่องแฟนทีวี) ที่มีฝีมือทางการแสดงและน้ำเสียงร้องเพลงอย่างโดดเด่น ซึ่งเปาวลีเล่าถึงความภูมิใจที่ได้รับเกียรติถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของราชินีลูกทุ่งว่า
“ตอนที่รู้ข่าวว่าได้แสดงเรื่องนี้ ก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เลยค่ะ รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจอย่างมากที่ได้รับบทเป็น แม่ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ เพราะว่าแม่ผึ้งถือว่าเป็นราชินีลูกทุ่งที่ใครๆ ก็รู้จัก เป็นต้นฉบับและต้นแบบของนักร้องลูกทุ่งในรุ่นต่อๆมาอีกด้วย ตั้งแต่เล็กจนโตเปาก็คุ้นเคยกับเสียงเพลงของแม่ผึ้งมาโดยตลอด รวมถึงชีวิตของแม่ผึ้งกว่าจะก้าวมาเป็นราชินีลูกทุ่งได้นั้นต้องฝ่าฟันอุปสรรคอะไรมามากมาย กว่าจะโด่งดังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจนถึงทุกวันนี้ค่ะ”
          ด้านนักแสดงชายในบทของ “ธีระพล แสนสุข” ทีมงานและผู้กำกับต่างลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ สำหรับผู้ที่เหมาะสมแสดงเป็นคนรักคนแรกของพุ่มพวง ต้องเป็น “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” ซูเปอร์สตาร์พระเอกมาดเข้มและมากความสามารถเพียงคนเดียวเท่านั้นโดยไม่มีตัวเลือกอื่นใดๆ จึงนับว่าเป็นการหวนคืนสู่จอภาพยนตร์อีกครั้งของป๋อ-ณัฐวุฒิ ในภาพยนตร์ครั้งนี้
          “รู้สึกยินดีมากครับ ต้องขอขอบคุณพี่อ็อด ผู้กำกับ และทีมงาน ที่รู้สึกว่าบทนี้เหมาะสมกับผม แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็ต้องอยากจะเห็นด้วยความรู้สึกของตัวผมเองว่าบทเนี่ยเหมาะกับผมจริงๆ ซึ่งพออ่านบทแล้วก็ยิ่งมีเสน่ห์ อ่านแล้วเรารู้สึกเลยว่ามันมีความแยบยลอยู่ในนั้นมันมีทุกอย่าง รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการนำเรื่องราวชีวิตช่วงหนึ่งของคุณพุ่มพวงมานำเสนอ ทุกวันนี้แม้คุณพุ่มพวงจะจากไปแล้วแต่ก็ยังอยู่ในใจของคนไทยทุกคนๆ ครับ”

เสน่ห์ภาพยนตร์สร้างแรงบันดาลใจแด่นักล่าฝัน
          เหล่านักแสดงและผู้กำกับจากภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ต่างพร้อมใจพูดถึงเสน่ห์ของภาพยนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่มีความฝัน
          พระเอกซูเปอร์สตาร์ ณัฐวุฒิ สกิดใจ “ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่มีความฝัน เป็นการสะท้อนเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงคนนึงที่มีชีวิตและเส้นทางเดินไม่ได้เรียบง่าย ต้องผ่านเรื่องราวฝ่าฟันอุปสรรคมาเยอะแยะ จนสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จและไปถึงความฝันที่ตั้งใจอยากจะเป็นจริงๆ แต่การไปถึงความฝันไม่ได้มาจากพรสวรรค์อย่างเดียวมันมาจากพรแสวงของตัวเองด้วย ความมุ่งมั่น ความมุมานะ ความไม่ย่อท้อ ความอดทนและเพียรพยายามที่จะเดินไปสู่ความฝันให้ได้แม้จะล้มสักกี่ครั้งก็ตาม ผู้หญิงคนนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าลุกขึ้นมาเชิดหน้าแล้วเดินต่อไปได้ ผมเชื่อว่าใครหลายๆ คนที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้คงจะได้แนวคิดเป็นแรงบันดาลใจในการที่จะดำเนินชีวิต รักษาความฝันของตัวเองเอาไว้และพยายามที่จะเดินไปให้ถึงความฝันของตัวเองอย่างสำเร็จแน่นอน”
          นางเอกสาวดาวรุ่ง เปาวลี พรพิมล “เสน่ห์ คือ ความอัจฉริยะของแม่ผึ้ง ที่เรียนจบมาแค่ ป.2 สามารถร้องเพลงและจดจำบทเพลงได้กว่า 500 เพลง และเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น เข้มแข็งอดทนอย่างมาก ยอมฝ่าฟันอุปสรรคเรื่องราวต่างๆ เพื่อความฝันของตัวเอง จนกลายเป็นราชินีลูกทุ่งของคนไทยทั้งประเทศ เปาเชื่อและมั่นใจว่าถ้าได้ชมภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง แล้ว จะเป็นแรงบันดาลใจและกำลังใจให้กับหลายๆ คนที่มีความฝันของตัวเอง หรือใครที่กำลังมีปัญหา ท้อแท้ในชีวิต ก็จะช่วยเป็นแรงผลักดันให้ก้าวต่อไปได้ค่ะ”
          และผู้กำกับ บัณฑิต ทองดี “เสน่ห์คือ บทเพลง บรรดาเพลงต่างๆ และเพลงที่ฮิตของคุณพุ่มพวงที่เราเคยฟังและชอบ จะถูกนำกลับมาอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่องนี้ และก็เสน่ห์ของการย้อนยุคเรื่องราวของคุณพุ่มพวงภาพในวันนั้นไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า สถานที่ของยุคนั้นที่จะทำให้เราได้หวนกลับไปยังภาพเก่าๆ ของ ณ วันนั้น สถานที่ต่างๆ ก็จำลองความเป็นเหตุการณ์ในยุคปี 20-35 ซึ่งจะเป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนดูหวนกลับไปสู่อดีตแล้วก็ได้ฟังเพลงของนักร้องที่ตัวเองชื่นชอบครับ และจะประทับใจในตัวของคุณพุ่มพวง จากที่คุณเคยรักอยู่แล้วก็จะยิ่งรักเพิ่มมากขึ้น หรือแม้แต่เด็กรุ่นหลังที่ไม่รู้จักหากได้ชมแล้ว คุณพุ่มพวงจะเป็นต้นแบบ เป็นไอดอล เป็นผู้นำหรือว่าบุคคลที่ควรจะเอาอย่างมีความมุ่งมั่น ต่อสู้ความฝัน เอาชนะอุปสรรคต่างๆ ผมว่าเมื่อชมภาพยนตร์จบแล้วจะได้ความรู้สึกที่ว่าอยากเอาชนะความฝันอยากเดินหน้าต่อไปเพื่อต่อสู้เอาชนะอุปสรรคเพื่อจุดมุ่งหมายในชีวิต”
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on June 24, 2011, 11:48:22 AM
ประวัติผู้กำกับ

          ชื่อ-นามสกุล บัณฑิต ทองดี (อ็อด)
          วัน/เดือน/ปีเกิด 1 มีนาคม 2514
          การศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิทยุโทรทัศน์
          มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

          บัณฑิต ทองดี เริ่มเข้าสู่วงการด้วยการเป็นผู้ช่วยผู้กำกับมิวสิควีดิโอแห่งค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ ก่อนที่จะเลื่อนขั้นมาเป็นผู้กำกับมิวสิควีดีโอ แล้วเริ่มผันตัวเองมาเป็นคนเขีบนบท ผู้กำกับละครโทรทัศน์ และผู้กำกับภาพยนตร์ไทย อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟ.เอ็ม., เฮี้ยน, มนุษย์เหล็กไหล, ฝัน หวาน อาย จูบ (กำกับตอน อาย) เป็นต้น นอกจากนี้ บัณฑิต ทองดียังรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับ ปรัชญา ปิ่นแก้ว ในภาพยนตร์ไทยคุณภาพเรื่อง นาคปรก ตลอดจนเป็นผู้ควบคุมงานสร้างภาพยนตร์เรื่อง WHO ARE YOU? และน้ำตาลแดง1-2 นับว่าเป็นผู้กำกับฝีมือดีอีกคนในวงการภาพยนตร์ไทยที่น่าจับตามอง
 
          ล่าสุดกับผลงานกำกับโปรเจ็คต์ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ที่ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ครั้งแรก นำเสนอเรื่องราวชีวิตการต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ กว่าจะกลายเป็นราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ โดยตั้งใจสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ยังมีฝัน ซึ่งคว้าตัวพระเอก “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” มารับบท ธีระพล แสนสุข และนางเอกดาวรุ่งหน้าใหม่ที่เก่งทั้งการแสดงและร้องเพลง “เปาวลี พรพิมล” มารับบท พุ่มพวง ดวงจันทร์ ในครั้งนี้

ผลงานที่ผ่านมา

          ปี 2536 กำกับมิวสิควิดีโอ ให้กับบริษัท อาร์.เอส.โปรโมชั่น1992 จำกัด (มหาชน) อาทิ เช่น เจมส์, ปุ๊กกี้, JR วอย
          ปี 2542 กำกับมิวสิควีดีโอ ให้กับบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) อาทิเช่น พลพล, ไท ธนาวุฒิ, ญาญ่าญิ๋ง, ทวินโซ และมาลีวัลย์
          ปี 2544 กำกับละครโทรทัศน์เรื่อง ทะเล จำปี ดนตรี ทราย, รักห้ามโปรโมท ทางช่อง ITV
          กำกับละครเทิดพระเกียรติในหลวง เรื่อง สมบัติพ่อ (4 ตอนจบ) ทางช่อง 5, ย.ยักษ์ยอดยุ่ง ทางช่อง 3
          ปี 2545 กำกับ ภาพยนตร์เรื่อง มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟ.เอ็ม.
          ปี 2546 กำกับ ภาพยนตร์เรื่อง เฮี้ยน
          ปี 2549 กำกับ ภาพยนตร์เรื่อง มนุษย์เหล็กไหล
          ปี 2551 กำกับ ภาพยนตร์เรื่อง ฝัน หวาน อาย จูบ (กำกับตอน “อาย”)
          ปี 2552 กำกับ ภาพยนตร์เรื่อง ปายอินเลิฟ, กำกับละครโทรทัศน์เรื่อง อุบัติรักข้ามขอบฟ้า ช่อง9
          ปี 2553 ผู้ควบคุมงานสร้าง ภาพยนตร์เรื่อง น้ำตาลแดง1-2, ภาพยนตร์เรื่อง WHO ARE YOU? และภาพยนตร์เรื่อง อนุบาลเด็กโข่ง / โปรดิวเซอร์ ภาพยนตร์เรื่อง Yes or No อยากรัก ก็รักเลย
          ปี 2554 กำกับละครโทรทัศน์เรื่อง โลมากล้าท้าฝัน ช่อง9

ประวัติน้องเปา

          ชื่อ-นามสกุล เปาวลี พรพิมล (น้องเปา)
          วัน/เดือน/ปีเกิด 2 มกราคม 2535
          อายุ 19 ปี
          การศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี1
          ความใฝ่ฝัน นักร้องลูกทุ่ง

          เปาวลี พรพิมล เริ่มร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กตอนอายุ 5 ขวบ และขึ้นเวทีประกวดร้องเพลงลูกทุ่งครั้งแรก ตอนอายุ 9 ขวบพร้อมกับคว้ารางวัลที่ 1 จากนั้นเริ่มเดินสายประกวดร้องเพลงมาเรื่อยๆ โดยมีนักร้องในดวงใจที่ชื่นชอบมากคือ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” เปาวลีมีโอกาสขึ้นเวทีประกวดทั้งเวทีเล็กๆ ระดับจังหวัด และระดับประเทศหลายเวที เวที ใหญ่ๆ ที่เธอประทับใจ อาทิ งานอนุสรณ์ดอนเจดีย์ จ. สุพรรณบุรี ได้ที่ 1, ชุมทางเสียงทอง ได้รอบสัปดาห์, ชิงช้าสวรรค์ ช่วงเสียงดีมีค่าเทอม ได้ที่1, ช่อง11 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพฯ ได้รอบสัปดาห์, คว้าไมค์คว้าแชมป์ ทางช่องแฟนทีวี ได้แชมป์ ออฟ เดอะ เยียร์ ซึ่งเพลงส่วนใหญ่ที่เลือกร้องในการประกวดจะเป็นเพลงของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ จนถึงปัจจุบันเธอผ่านการประกวดจากเวทีต่างๆ มากถึง 1,000 กว่าครั้ง

          ความฝันการเป็นนักร้องของ เปาวลี เริ่มเป็นจริงเมื่อ เธอเข้าประกวด คว้าไมค์ คว้าแชมป์ ของ แฟนทีวี ปัจจุบันกลายเป็นนักร้องน้องใหม่ แห่งค่ายแกรมมี่โกลด์ ซึ่งกำลังเตรียมทำอัลบั้มเพลงลูกทุ่งของตัวเองอยู่ในขณะนี้ และเตรียมพบกับผลงานล่าสุดครั้งแรกในชีวิตของเปาวลีกับการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ซึ่งรับบทเป็น “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ราชินีเพลงลูกทุ่งผู้โด่งดัง
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on June 27, 2011, 04:50:12 PM
“ป๋อ-ณัฐวุฒิ” ใจป้ำ อัดฉีดเงินรางวัลพิเศษ เผยรักเด็กกล้าคิดกล้าแสดงออก สนับสนุนการประกวดร้องเพลงของภาพยนตร์ “พุ่มพวง”
 






          กิจกรรมดีๆ จากภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” และ ธนาคารออมสิน ได้ร่วมจัดการประกวดบทเพลง “พุ่มพวง” เพื่อชิงเงินรางวัลกว่า 187,000 บาท โดยเปิดโอกาสให้น้องๆ อายุ 8-15 ปี เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็กๆ ได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ และก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมระหว่างสถานศึกษาและนักเรียน รวมถึงยังก่อให้กิดความสามัคคีในหมู่คณะ โดยในขณะนี้ได้มีผู้สนใจส่งคลิปวีดีโอการร้องและเต้นเพลงของ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” เข้ามาที่บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แล้วเป็นจำนวนมาก
 
          นอกจากนี้พระเอกซูเปอร์สตาร์เมืองไทยอย่าง “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” ที่รับบทเป็น “ธีรพล แสนสุข” คนรักและผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ จับมือกับผู้กำกับ “อ๊อด-บัณฑิต ทองดี” ใจดีพร้อมสนับสนุนกิจกรรมครั้งนี้ด้วยการมอบเงินรางวัลพิเศษจำนวน 15,000 บาท สำหรับรางวัล “ประทับใจคนทำหนัง” ให้กับทีมที่มีการแสดงประทับใจโดดเด่นที่สุด ในการประกวดร้องเพลง พุ่มพวง นักร้องแห่งท้องทุ่ง สู่เวทีลูกทุ่งแห่งดวงดาว ซึ่งทำให้เงินรางวัลรวมของกิจกรรมดังกล่าว มีมูลค่ารวมถึงกว่า 200,000 บาท   
 
         ทั้งนี้ผู้สนใจที่ยังไม่ได้ส่งคลิปวีดีโอเพื่อเข้าร่วมการประกวดบทเพลง “พุ่มพวง” สามารถที่จะสมัครและส่งผลงานของท่านมาได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ โดยสามารถดาวน์โหลดใบสมัครและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pumpuangmovie.com หรือ โทร. 02-273-0930-9
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on June 28, 2011, 05:30:36 PM
เหน่อเสน่ห์ “น้องเปา-เปาวลี” นางเอกดาวรุ่งมาแรงส์! เผยความศรัทธาพร้อมยก “พุ่มพวง” แม่แบบแห่งเส้นทางชีวิต

 

          ก่อนหน้านี้เปิดตัวด้วยการแต่งชุดลายเสือเรียกเสียงฮือฮา จนหลายคนถามถึงผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันที่มารับบท “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ในภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ล่าสุดเปิดตัวสาวน้อยคนนี้เธอชื่อ “น้องเปา-เปาวลี พรพิมล” เป็นนักร้องน้องใหม่แห่งสังกัดแกรมมี่ โกลด์ ด้วยการคว้าแชมป์ประจำปีจากรายการคว้าไมค์คว้าแชมป์ ช่องแฟนทีวี จนเธอได้มีโอกาสผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมแสดงภาพยนตร์ไทยครั้งแรกในชีวิต และด้วยความน่ารักสดใสของสาวน้อยเปาวลีคนนี้ ที่ตอนนี้หลายคนหลงเสน่ห์น้ำเสียงเหน่อสไตล์สุพรรณบุรีของเธอเข้าอย่างเต็มเปา! เส้นทางชีวิตของน้องเปายังคล้ายกับราชินีลูกทุ่งผู้โด่งดัง คือเป็นสาวจังหวัดสุพรรณบุรีเหมือนกัน ชอบการร้องเพลงและเริ่มเดินสายประกวดร้องเพลงมาตั้งแต่ยังเด็ก ผ่านเวทีการประกวดและคว้ารางวัลมากมายกว่าพันเวที พร้อมกับความฝันคือการเป็นนักร้องลูกทุ่ง และเกือบทุกครั้งที่ประกวดร้องเพลงน้องเปาก็สารภาพว่า นำบทเพลงของแม่ผึ้งมาร้องประกวดอยู่บ่อยๆ ซึ่งมีหลายบทเพลงของแม่ผึ้งที่เธอนั้นชื่นชอบ พร้อมเล่าถึงความศรัทธาและแรงบันดาลใจในการต่อสู้ชีวิตของเธอที่มีแม่แบบเป็นแม่ผึ้งในครั้งนี้ว่า

          “บทเพลงที่เปาชื่นชอบเป็นพิเศษของแม่ผึ้งจะเป็นเพลง กระแซะเข้ามาสิ ที่ร้องว่า...เขยิบ เขยิบ เขยิบ เขยิบเข้ามาสิ กระแซะ กระแซะ กระแซะ กระแซะเข้ามาสิ...จะเป็นเพลงสนุกสนานร้องไปเต้นไปเป็นบทเพลงที่โด่งดังแล้วก็ยังได้ยินมาถึงยุคสมัยปัจจุบันนี้ ส่วนอีกเพลงที่เวลาเปาขึ้นเวทีประกวดร้องเพลงมักจะร้องเพลงนี้เป็นประจำคือ เพลงนักร้องบ้านนอก นอกจากเพลงจะไพเราะแล้ว เนื้อหาของเพลงก็ยังซึ้งกินใจ คล้ายๆ ชีวิตของเปาเองด้วย เปาเองก็ประทับใจทั้งบทเพลงและการต่อสู้ชีวิตของแม่ผึ้งเป็นอย่างมาก ต้องบอกว่าเป็นราชินีลูกทุ่งที่เปานับถือศรัทธามาตลอดเลย เปาประทับใจในความเป็นอัจฉริยะของแม่ผึ้งที่เรียนแค่ชั้นป.2 อ่านหนังสือไม่ค่อยออก เขียนไม่ได้ แต่มุ่งมั่นทำตามความฝันของตัวเองจนสำเร็จและโด่งดังมีชื่อเสียง แม่ผึ้งเปรียบเป็นแรงบันดาลใจเป็นต้นแบบของเปาที่ทำให้เปาประกวดร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก เพราะตั้งแต่เริ่มพูดได้ก็หัดร้องเพลงลูกทุ่ง โดยถูกปลูกฝังมาจากคุณแม่ของเปาเอง ที่จะร้องเพลงของแม่ผึ้งให้ฟังและก็สอนร้องเพลงตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เป็นการซึมซับมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะกี่บทเพลง ตอนนั้นจำได้ว่าเพลงแรกที่ร้องได้จนจบเพลงคือ เพลงส้มตำ พออายุได้ 9 ขวบ เปาก็เริ่มประกวดร้องเพลงตามเวทีต่างๆ ทั้งระดับจังหวัดจนถึงระดับประเทศ และก็เข้าประกวดตามรายการต่างๆ หลายเวที ซึ่งทุกครั้งก่อนขึ้นเวทีประกวด เปาจะยกมือไหว้บอกแม่ผึ้งก่อนเสมอ รวมถึงการทำงานที่เปาได้มีโอกาสแสดงภาพยนตร์รับบทเป็นแม่ผึ้งในเรื่อง พุ่มพวง ด้วยเช่นกัน ก็เพื่อเป็นการเคารพนับถือ และเสริมความมั่นใจให้กับตัวเปาเองด้วย ยังไงเปาก็ขอฝากผลงานครั้งแรกในชีวิตของเปาด้วยนะคะ ทั้งเปา พี่ป๋อ-ณัฐวุฒิ นักแสดงท่านอื่น พี่อ๊อดผู้กำกับ รวมถึงทีมงานทุกคน มีความศรัทธาในตัวแม่ผึ้ง และตั้งใจสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้กันอย่างเต็มที่ค่ะ”

          “พุ่มพวง” ภาพยนตร์แห่ง น้ำตาหยดแรก บทเพลงแห่งแรก และความรักครั้งแรก ร่วมสร้างแรงบันดาลใจและการกลับมาของราชินีลูกทุ่งผู้โด่งดังโดย เปาวลี พรพิมล และ ณัฐวุฒิ สกิดใจ ผลงานกำกับโดย บัณฑิต ทองดี พร้อมสร้างความประทับใจ 21 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์  “นักร้องบ้านนอกคนนี้ จะกล่อมน้องพี่และแฟนเพลง”
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on June 28, 2011, 06:01:59 PM
บทสัมภาษณ์ “เปาวลี พรพิมล” ผู้ถ่ายทอดภาพชีวิตของราชินีลูกทุ่ง โดยรับบทเป็น “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ในภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ผลงานการแสดงครั้งแรกในชีวิต





          แนะนำตัว
          สวัสดีค่ะ เปา-เปาวลี พรพิมล รับบทเป็น พุ่มพวง ดวงจันทร์ ในเรื่อง พุ่มพวง ค่ะ
          เล่าประวัติของเปาคร่าวๆ สักหน่อย
          เปาก็เริ่มร้องเพลงตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เพลงที่ได้ยินตั้งแต่เด็กก็จะเป็นเพลงของแม่ผึ้ง (พุ่มพวง ดวงจันทร์)ทั้งนั้น เพราะที่บ้านชอบเพลงลูกทุ่ง และเป็นแฟนเพลงของแม่ผึ้งด้วย พ่อกับแม่เริ่มส่งเปาเข้าประกวด ตอนอายุประมาณ 9 ขวบ ไม่ว่าจะเป็นงานวัด งานอำเภอ งานประจำปี งานแต่ล่ะจังหวัดก็ไปมาหมดเลยค่ะ และเวทีใหญ่ๆ ที่เข้ามาประกวดในกรุงเทพจะเป็นชิงถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เป็นเวทีแรกเลยก็ได้ชนะเลิศรอบสัปดาห์ค่ะ แล้วก็เริ่มประกวดร้องเพลงตามรายการทีวีบ้าง อย่างรายการชิงช้าสวรรค์ แล้วก็รายการชุมทางเสียงทอง ล่าสุดก็ประกวดของรายการคว้าไมค์คว้าแชมป์ ช่องแฟนทีวี ได้แชมป์ออฟเดอะเยียร์ แล้วตอนนี้เปาก็กำลังเตรียมตัวทำเพลงเป็นนักร้องของค่ายแกรมมี่โกลด์อยู่ด้วยค่ะ
          ต้องผ่านการคัดเลือกจากหลายร้อยคนทั้งแคสติ้งและร้องเพลง
          ตอนที่ไปแคสติ้งครั้งแรกเปาเพิ่งเซ็นสัญญากับค่ายแกรมมี่โกลด์ไปไม่กี่อาทิตย์เองค่ะ ทางค่ายก็บอกให้เปาไปลองแคสติ้งภาพยนตร์เรื่องพุ่มพวง ได้ไม่ได้ไม่เป็นไรแต่อยากให้ไปลองดูก่อน ตอนไปแคสติ้งครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เพราะว่ายังไม่รู้จักใครเลย และก็ไม่มีพื้นฐานทางด้านการแสดงด้วย แล้วทางทีมงานก็ขอให้ร้องเพลง 4 เพลง และก็ลองให้แสดงบทที่ทีมงานให้มาประมาณ 3 หน้า ยากมากเพราะต้องจำบทได้ทีเดียว 3 หน้า แต่เปาก็ทำเต็มที่ค่ะ
          แล้วน้องเปาโชว์เพลงอะไรไปบ้าง
          ก็มีเพลงนักร้องบ้านนอก เพลงกระแซะ เพลงตั๊กแตนผูกโบว์ และก็เพลงโลกของผึ้งค่ะ
          ความรู้สึกเมื่อรู้ว่าเป็นสาวน้อยผู้โชคดีถูกเลือกให้มารับบทเป็น “พุ่มพวง ดวงจันทร์”
          ตอนที่รู้ข่าวว่าได้แสดงเรื่องนี้ ก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เลยค่ะ รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจอย่างมากที่ได้รับบทเป็น แม่ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ เพราะว่าแม่ผึ้งถือว่าเป็นราชินีลูกทุ่งที่ใครๆ ก็รู้จัก เป็นต้นฉบับและต้นแบบของนักร้องลูกทุ่งในรุ่นต่อๆ มาอีกด้วย ตั้งแต่เล็กจนโตเปาก็คุ้นเคยกับเสียงเพลงของแม่ผึ้งมาโดยตลอด รวมถึงชีวิตของแม่ผึ้งกว่าจะก้าวมาเป็นราชินีลูกทุ่งได้นั้นต้องฝ่าฟันอุปสรรคอะไรมามากมาย กว่าจะโด่งดังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้กจักจนถึงทุกวันนี้ค่ะ
          เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้แสดงภาพยนตร์
          เป็นครั้งแรกและเป็นเรื่องแรกในชีวิตเลยค่ะ
          มีการเตรียมตัว และเตรียมความพร้อมก่อนถ่ายทำภาพยนตร์อย่างไรบ้าง
          มีการเตรียมตัวอย่างหนักพอสมควร เพราะว่าไม่เคยผ่านการแสดงที่ไหนมาก่อนเลย เปาจึงต้องไปเรียนแอคติ้ง เรียนร้องเพลง และก็เรียนเต้น จะเรียน 3 อย่างในวันเดียวกัน โดยจะเรียนร้องก่อน 1 ชั่วโมง แล้วก็เรียนเต้น 2 ชั่วโมง ต่อด้วยเรียนแอคติ้งการแสดง 3 ชั่วโมง ค่ะ
          เล่าถึงคาแร็คเตอร์ของ พุ่มพวง
          เป็นเด็กผู้หญิงคนนึงที่มีความมุ่งมั่นทำตามฝันอยากเป็นนักร้องมาก ด้วยฐานะทางบ้านยากจนเธอจึงไม่ได้เรียนหนังสือ ก็จะอ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่ได้ แต่มีความมานะอดทน เป็นคนมุ่งมั่นจริงจัง ต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไม่เคยย่อท้อ จนในที่สุดก็ได้กลายเป็นนักร้องราชินีลูกทุ่งที่โด่งดัง ขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศ
          เล่าเรื่องย่อ พุ่มพวง
          เรื่องราวของเด็กหญิงน้ำผึ้ง ที่ฝันว่าจะต้องเป็นนักร้องให้ได้ เรียนจบเพียงชั้นป.2 เพราะฐานะทางบ้านยากจนไม่มีเงินส่งเรียน อ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่ได้ แต่เธอมุ่งมั่นทำตามความฝันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอเองก็ตาม ก่อนตัดสินใจเข้ามาเผชิญโชคชะตากรรมในกรุงเทพ เริ่มเป็นหางเครื่องในวงของไวพจน์ เพชรสุพรรณ และทำให้ได้พบรักกับ ธีระพล นักดนตรีหนุ่ม ทำให้ชีวิตเกิดการพลิกผันจนได้พบกับครูมนต์ เมืองเหนือ ทำให้ความฝันเป็นจริงคือได้เป็นนักร้อง ซึ่งชีวิตก็ไม่ได้มีความสุขอย่างที่หวังไว้ ยังต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มากมาย ต้องเสียน้ำตา ต้องเสียคนรัก แถมยังป่วยเป็นโรคร้ายอีก แต่ด้วยความที่เป็นคนสู้ชีวิต ไม่เคยย่อท้อ ในที่สุดก็ได้เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
          นอกจากจะได้ชมฝีมือการแสดงของน้องเปาแล้ว ยังได้ฟังน้ำเสียงร้องเพลงประกอบในภาพยนตร์อีกด้วย
          นอกจากจะได้ชมภาพยนตร์เรื่องราวชีวิตของแม่ผึ้งตั้งแต่เด็กจนโตแล้ว ก็ยังเต็มอิ่มกับบทเพลงของแม่ผึ้ง เป็นบทเพลงที่ทุกคนต้องรู้จักและเคยฟังกันมาแล้วทั่วประเทศ ซึ่งเปาเองก็ขอเป็นตัวแทนในการถ่ายทอดน้ำเสียงในครั้งนี้ค่ะ มีหลายบทเพลงประมาณ 20 กว่าเพลงได้ เช่นเพลง กระแซะ นักร้องบ้านนอก โลกของผึ้ง ตั๊กแตนผูกโบว์ ผู้ชายในฝัน และอีกหลายๆ เพลงมากมาย
          ความอลังการเรื่องชุดเสื้อผ้ารวมถึงหน้าผมในแต่ละฉากคอนเสิร์ต
          ก่อนอื่นต้องบอกว่าขอยกให้แม่ผึ้งเป็นผู้นำแฟชั่นเลยค่ะ ชุดสมัยนั้นมีทั้งเลกกิ้ง มีทั้งที่คาดผมเป็นโบว์ใหญ่ๆ ปัจจุบันนี้ก็ยังฮิตกันอยู่นะคะ แล้วยิ่งชุดขึ้นคอนเสิร์ตในแต่ละครั้งแต่ละฉากอลังการ และสวยงามมาก ก็ต้องขอบคุณพี่ป็อป สไตลิสต์ ที่ทำชุดในเรื่องพุ่มพวงออกมาได้ไม่ซ้ำกันเลยค่ะ ทำออกมาแล้วเหมือนมากๆ ในเรื่องนี้เปาได้ใส่ชุดไม่ต่ำกว่า 20 ชุดเลยนะคะ นี่ยังไม่รวมชุดหางเครื่องหรือชุดของนักแสดงคนอื่นๆ ส่วนเรื่องหน้าผมเปาก็ชอบมากค่ะ ในแต่ละชุดการแต่งหน้าทำผมก็จะเป็นอีกแบบ วันไหนที่มีฉากคอนเสิร์ตหลายคอนเสิร์ต เปาก็ต้องเปลี่ยนชุดเปลี่ยนหน้าผมทั้งวันเลยค่ะ มีวันหนึ่งเปาเปลี่ยนไปประมาณ 10 ครั้งได้ ส่วนตัวแล้วเปาชอบผมสั้นคิดว่าสักวันเปาจะตัดทรงนี้ให้ได้(ยิ้ม)
          มีชุดไหนที่ชอบและถูกใจน้องเปามากที่สุด
          ชุดที่ชอบมากที่สุดจะเป็นชุดลายเสือค่ะ ส่วนตัวเปาชอบสีเหลืองก็เลยถูกใจชุดนี้
          ฉากประทับใจในเรื่อง พุ่มพวง
          เป็นการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรก แล้วยังได้รับบทเป็น พุ่มพวง ก็ชอบทุกๆ ฉากและอยากจะจดจำทุกฉากไปตลอดชีวิตเลยค่ะ โดยเฉพาะฉากขึ้นคอนเสิร์ตในแต่ละครั้ง แล้วในเรื่องจะมีช่วงที่แม่ผึ้งเริ่มป่วยไม่สบาย แต่ด้วยความที่รักการร้องเพลงก็ยังที่จะพยามขึ้นคอนเสิร์ตเพื่อแฟนเพลงของแม่ผึ้ง ยกตัวอย่าง ฉากโลกดนตรี ฉากนี้พุ่มพวงทำงานหนักมากก่อนขึ้นคอนเสิร์ตก็ต้องถ่ายหนังข้างเวที แล้วค่อยขึ้นไปร้องเพลง ทั้งที่ตัวเองก็ไม่สบายแต่ก็ยังสู้จนสุดท้ายตัวเองก็เป็นลม ล้มกลางเวที สำหรับเปาแล้วฉากนี้ค่อนข้างยากเปาจะต้องร้องเพลงไปด้วย ร้องไห้ไปด้วย และต้องเป็นลม หลายเทคอยู่เหมือนกันค่ะ หมดน้ำตาไปหลายรอบมาก แล้วก็ล้มเป็นลมหลายรอบเช่นกันค่ะ
          ร่วมงานกับพระเอกหล่อมาดเข้ม ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ เป็นอย่างไรบ้าง
          ตอนแรกยังไม่รู้ว่าใครเป็นพระเอก แล้วพี่ทีมงานมาบอกว่าพระเอกคือ พี่ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ ตอนนั้นเปาเองก็ยังอยู่ที่สุพรรณบุรี ก็รุ้สึกตื่นเต้นมาก ดีใจมาก ยังคิดว่าจริงหรอเป็นพี่ป๋อจริงๆ หรอ เปาจะได้เจอพี่ป๋อตัวจริงแล้ว (หัวเราะ) และความรู้สึกต่อมาก็คือ เปาเป็นหน้าใหม่ไม่เคยแสดงอะไรมาก่อนเลย แล้วถ้าเราเล่นไม่ดีเนี่ยพี่เขาจะว่าไหม ก็เริ่มรู้สึกกดดันตัวเองล่ะ แต่พอได้มาร่วมงานกันพี่ป๋อเป็นคนกันเองมาก คิวแรกเจอกันพี่ป๋อก็เข้ามาแกล้งแล้ว และเวลาอยู่ในกองก็ชอบขอให้เปาร้องเพลงให้ฟัง แล้วพี่ๆ ในกองก็จะขำกัน ส่วนเรื่องการแสดงก็ต้องขอขอบคุณพี่ป๋อนะคะที่ช่วยแนะนำเทคนิคการแสดงให้กับเปา นับว่าเป็นครูด้านการแสดงคนหนึ่งเลยค่ะ
          การร่วมงานกับผู้กำกับ บัณฑิต ทองดี เป็นอย่างไรบ้าง
          ตอนที่เปาไปแคสติ้งครั้งแรกดูไม่รู้เลยว่าพี่เขาเป็นผู้กำกับ เพราะพี่อ็อดเขาจะนิ่งมาก แต่พอวันเข้าฉากวันแรกพี่อ็อดเข้ามาคุยด้วย พี่อ็อดใจดีมากเลยค่ะ บางฉากเปาแสดงไม่ได้ พี่อ็อดก็จะแนะนำว่าเปาลองทำแบบนี้ดู หรือลองทำแบบนั้นสิ อยู่ในกองพี่อ็อดเป็นคนขี้เล่น สนุกสนาน ทำให้ทีมงานในกองถ่ายยิ้มและหัวเราะตลอดค่ะ
          ความประทับใจที่มีต่อ แม่ผึ้ง หรือพุ่มพวง ดวงจันทร์
          แม่ผึ้งนับว่าเป็นราชินีลูกทุ่งที่เปาศรัทธามาตลอด ฟังเพลงของแม่ผึ้งแล้วก็ซึบซับมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะกี่บทเพลงก็ตาม เวลาที่เปานำเพลงของแม่ผึ้งไปร้องก่อนที่จะร้อง เปาจะยกมือไหว้แม่ผึ้งก่อนทุกครั้ง เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจ เพราะแม่ผึ้งเป็นสุดยอดของราชินีลูกทุ่ง และยังเป็นแรงบันดาลใจต้นๆ เลยที่ทำให้เปาได้ประกวดร้องเพลงค่ะ
          บทเพลงที่ชื่นชอบที่สุดของพุ่มพวง ดวงจันทร์
          นักร้องบ้านนอก จะเป็นเพลงที่ชอบมากที่สุดค่ะ
          คิดว่าเสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ
          คือความอัจฉริยะของแม่ผึ้ง ที่เรียนจบมาแค่ ป.2 สามารถร้องเพลงและจดจำบทเพลงได้กว่า 500 เพลง และเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น เข้มแข็งอดทนอย่างมาก ยอมฝ่าฟันอุปสรรคเรื่องราวต่างๆ เพื่อความฝันของตัวเอง จนกลายเป็นราชินีลูกทุ่งของคนไทยทั้งประเทศ
          สิ่งที่คนดูจะได้จากการชมภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง
          เปาเชื่อและมั่นใจว่าถ้าได้ชมภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง แล้ว จะเป็นแรงบันดาลใจและกำลังใจให้กับหลายๆ คนที่มีความฝันของตัวเอง หรือใครที่กำลังมีปัญหา ท้อแท้ในชีวิต ก็จะช่วยเป็นแรงผลักดันให้ก้าวต่อไปได้ค่ะ
          ฝากผลงาน
          ขอฝากภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง ด้วยนะคะ เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของเปาเลย เปาเองก็ตั้งใจและเต็มที่อย่างมาก และอยากจะเชิญชวนแฟนเพลงของแม่ผึ้ง คนที่รักเพลงลูกทุ่ง รวมถึงทุกๆ คนที่มีความฝัน มาชมภาพยนตร์เรื่องนี้กัน รับรองว่านำไปเป็นแรงบันดาลใจได้อย่างแน่นอน 21 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์นะคะ
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on June 28, 2011, 06:37:00 PM
บทสัมภาษณ์ “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” ที่ยอมหวนคืนจอเงินเพื่อรับบท “ธีระพล แสนสุข”ในภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง”

 

Q: กลับมาคืนสู่จอเงินอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง รับบทเป็นใครอย่างไร
          P: รับบทเป็น ธีระพล แสนสุข ครับ คาแร็คเตอร์เป็นนักดนตรีในวงของครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ เครื่องดนตรีประจำกายคือแซกโซโฟน ธีระพลจะมีบุคลิกเป็นคนขี้เล่นแล้วก็เป็นกันเองแต่ก็มีความมุ่งมั่นมีความจริงจังในการที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และก็ได้มาเจอกับพุ่มพวง รักกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยกันครับ ซึ่งในช่วงแรกก็อาจจะเป็นวัยน่ารักสนุกสนานแต่ว่าชีวิตก็จะดำเนินไปเรื่อยๆ เริ่มมีความเข้มข้นตามมา

Q: เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” และหยิบประเด็นเรื่องการต่อสู้ชีวิตมาสร้างเป็นหนังอย่างไรบ้าง
          P: ในภาพยนตร์เรื่องนี้เราจะเล่าเกี่ยวกับคุณพุ่มพวงตั้งแต่วัยเด็กครับ ซึ่งหลายคนผมเชื่อว่าอาจจะรู้จักคุณพุ่มพวงในช่วงที่ประสบความสำเร็จแล้วหรือมีชื่อเสียงที่โด่งดังแล้ว แต่จริงๆแล้วมีเรื่องราวเริ่มต้นตั้งแต่เด็กจะเห็นการฝ่าฟันของคุณพุ่มพวงตั้งแต่การที่จะเดินเข้ามาในวงของครูไวพจน์ เพื่อที่จะขอเป็นนักร้องถูกปฎิเสธจนในที่สุดก็ฝ่าฟัน และเข้ามาเป็นนักร้องในวงได้ แต่ก็มีเหตุการณ์อีกเหตุการณ์ที่จะทำให้ตัวเองไม่ได้เป็นนักร้อง ชีวิตของคุณพุ่มพวงค่อนข้างจะพลิกพลันพอสมควรครับ จนได้มาเจอผู้ชายคนหนึ่งก็คือ ธีระพล หลังจากนั้นชีวิตก็เปลี่ยนไป อาจจะเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดีบ้างแต่ทั้ง 2 คนก็ได้ฝ่าฟันมาพอสมควรในการที่จะเจอกับปัญหาต่างๆ แล้วในที่สุดทั้ง 2 คนก็เหมือนกับว่าเดินไปสู่ความฝันของตัวเองได้สำเร็จนั้นก็คือการเป็นนักร้อง แล้วคุณพุ่มพวงก็ประสบความสำเร็จ หลังจากนั้นชีวิตของคุณพุ่มพวงก็ยังประสบปัญหาอีก นั้นคือโรคร้ายที่รุมเร้าตามมาซึ่งอันนี้เส้นเรื่องทั้งหมดมันจะเริ่มตั้งแต่ศูนย์ถึงร้อย ภาพยนตร์เรื่องนี้ผมเชื่อว่าหากใครได้ชมแล้วจะเป็นกำลังใจที่ดีกับใครหลายๆ คนที่กำลังมีความฝันอย่างแน่นอนครับ

Q: ห่างหายจากการแสดงภาพยนตร์ไปนาน ได้มีโอกาสกลับมาอีกครั้งรู้สึกอย่างไร
          P: คือจริงๆ ผมเป็นนักแสดงละครนะครับ จนผมได้มีโอกาสไปแวะเวียนไปแสดงภาพยนตร์มาบ้างอยู่หนึ่งเรื่องก็คือ ครอบครัวตัวดำ ของน้าโน๊ต เชิญยิ้ม ก็รู้สึกสนุกดีรู้สึกชอบ หลังจากนั้นก็กลับไปเล่นละครก็มีช่วงนี้แหละครับที่มีโอกาสที่ดีมากคือ หมายความว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้อ่านบทอย่างลึกซึ้งของเรื่อง พุ่มพวง ได้พูดคุยกับทางโปรดิวเซอร์กับทางผู้กำกับ พี่อ๊อด บัณฑิต ทองดี ได้นั่งพูดคุยกันว่าตัวแสดงของ คุณธีระพล แสนสุข น่าจะเป็นป๋อนะ ซึ่งผมก็มีความรู้สึกว่าจริงหรอพี่ และผมก็แบบขอบทกลับไปอ่านอีกรอบ ซึ่งพี่อ๊อดก็ย้ำว่าน่าจะเป็นผม ตอนที่ผมขอบทกลับไปอ่านอีกรอบ ผมเองก็พยายามจะนึกตามว่าเราเหมาะกับบทนี้หรือว่าบทนี้เหมาะกับเราขนาดไหน และเริ่มมีความรู้สึกว่าน่าสนใจดีนะสำหรับบทนี้จึงตัดสินใจครับ

Q: ความยากง่ายของการแสดงระหว่างละครโทรทัศน์และภาพยนตร์
          P: ศาสตร์ของละคร กับศาสตร์ของภาพยนตร์เนี่ยผมว่าค่อนข้างที่จะตรงข้ามกันพอสมควรนะครับ แต่ว่าเรามีพื้นฐานของการแสดงเดียวกันมีความเข้าใจเดียวกันเ พียงแต่ว่าอาจจะต่างในเรื่องของเทคนิคการบันทึกภาพ อาจจะต่างกันเรื่องของจำนวนคัทที่ถ่าย เพราะฉะนั้นเราจะต้องปรับทุกอย่างใหม่หมดเลยเพราะละครเนี่ยมันจะเหมือนแสดงฉากหนึ่งมันก็จะเล่นยาวทีเดียวจบ แต่การแสดงภาพยนตร์มันจะไม่เหมือนกันเพราะมันจะเป็นหลายคัทมาก มันจะไม่เฮือกเดียวจบ แต่จะมี 2 เฮือก 3 เฮือก 4 เฮือกในหนึ่งฉากเราอาจจะต้องทำถึง 5 เฮือกอะไรอย่างเนี่ยครับ ผมก็คิดว่ายากเหมือนกันนะ แต่ผมเองก็ได้คุยกับพี่ อ็อดผู้กำกับ บ่อยพอสมควรกับเรื่องนี้ครับและก็ต้องขอระยะเวลาในการปรับตัวในช่วงแรกๆ และทีมงานทุกคนผมต้องขอบคุณมากที่ได้ให้โอกาสผมได้ปรับตัวในเรื่องของการทำงาน จนสามารถทำงานได้ราบรื่นขึ้นเรื่อยๆ (ยิ้ม)

Q: ความรู้สึกที่ได้ร่วมโปรเจ็คต์ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง”
          P: รู้สึกยินดีมากครับ ตอนแรกต้องบอกว่าขอบคุณมากที่พี่อ็อด และทีมงานรู้สึกว่าบทนี้เหมาะสมกับผม แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็ต้องอยากจะเห็นด้วยความรู้สึกของตัวผมเอง ว่าบทเนี่ยเหมาะกับผมจริงๆ ซึ่งพออ่านบทแล้วก็ยิ่งมีเสน่ห์ อ่านแล้วเรารู้สึกเลยว่ามันมีความแยบยลอยู่ในนั้น มันมีทุกอย่างเล่าด้วยภาพทุกอย่างไม่ได้เล่าด้วยไดอะล็อคหรือคำพูดอะไรมากมาย แต่เล่าด้วยภาพเล่าด้วยความรู้สึกจริงๆ เพราะฉะนั้นผมจะรู้สึกเลยว่าบทธีระพลแทบไม่ค่อยมีบทพูดอะไรมากเลย ในเรื่องนี้นะครับแต่สิ่งที่ยาก คือการแสดงความรู้สึกออกมาสู่กล้องหรือมาสู่คุณผู้ชมให้รับรู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร เพราะเราพยายามเน้นเรื่องของความรู้สึกมากกว่าบทพูดด้วยซ้ำ เรื่องราวตรงนี้เราจะเห็นเลยว่าความรู้สึกที่อยู่ในระหว่างการดำเนินชีวิตของคุณพุ่มพวงนั้นมีความรู้สึกอยู่ในนั้นมากมายเหลือเกิน ทั้งดีใจ สุข ทุกข์ เศร้าผสมปนเปกันไปหมดเลยทีเดียว แต่สุดท้ายมีเรื่องของการให้อภัยอีกซึ่งอันนี้ผมว่าเป็นบทที่ดีแล้วก็น่าสนใจ แต่ว่าจะให้อภัยอย่างไรนั้นก็คงต้องไปติดตาม

Q: รับบทเป็น ธีระพล ต้องปรับลุคต้องมีการเปลี่ยนเสื้อผ้าทรงผมอย่างไรบ้าง
          P: ในเรื่องจะมีประมาณ 2 ลุค 2 สมัย จะมีพัฒนาการในเรื่องของเสื้อผ้า เรื่องของทรงผมมีการใส่วิก เพื่อให้ธีระพลดูย้อนกลับไปในวัยหนุ่ม ผมเห็นแล้วก็นึกถึงเจมส์ ดีน สมัยยุคผมจะตั้งๆ เสยๆ หน่อย แล้วก็จะมีรากไทรนิดๆ ดีครับแปลกดี รู้สึกว่าหล่อแบบโบราณแต่จะเฟี้ยวๆ หน่อย รองเท้าก็เป็นส้นตึกเดินทีไรข้อเท้าก็จะพลิกทุกทีครับ เสื้อผ้ากางเกงก็จะเอวสูงหน่อยขาจะบานมาก และในยุคต่อมาก็จะเริ่มเข้ามาคล้ายๆ ในยุคปัจจุบัน แต่เรื่องสีสันของเสื้อผ้าจะเน้นมากเป็นพิเศษ มีลายดอก ลายทางบ้าง ทรงผมก็จะหวีเรียบธรรมดาครับ ผมว่าหน้าผมเหมาะกับลุคนี้นะ (หัวเราะ)

Q: สไตล์การแต่งตัวจะเป็นแนวย้อนยุค ทั้งสีสันจัดจ้านเริ่มรู้สึกติดใจบ้างไหม
          P: ในเรื่องนี้ก็จะเป็นนักร้องนักดนตรีอยู่บนเวทีเล่นคอนเสิร์ต เพราะฉะนั้นสีสันของเสื้อผ้าก็จะมีความสำคัญมาก คืออยู่บนเวทีแล้วเมื่อแสงไฟโดนเสื้อผ้าปุ๊ป มันจะต้องวิบวับไปหมดเลยทีเดียว ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยชินนะครับ ตอนนี้เริ่มชอบ และติดใจ (หัวเราะ) หลังๆ เนี่ยแต่งตัวใส่เสื้อผ้าสีๆ ตลอดเลย มันก็สดชื่นดีนะ และมันก็ให้บรรยากาศของเพลงด้วย ในเรื่องจะมีทั้งเพลงที่สนุกสนาน เพลงเศร้า แต่พอเป็นเพลงสนุกสีสันของเสื้อผ้ามันบวกเข้าไปอีกก็ทำให้รู้สึกเราสนุกและมีความสุข ผมคิดว่าคนดูก็น่าจะมีความสุขเหมือนกันนะ

Q: ในเรื่องต้องเป่าแซกโซโฟนด้วย มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
          P: คือผมได้มีโอกาสไปร่วมงานกับวงดนตรีวงหนึ่งแล้วผมก็แอบไปขอวิชาจากคนที่เขาเป่าแซกโซโฟนจริงๆครับ ก็จะถามพี่เขาว่าเป่าแซกต้องมีท่าจับและถืออย่างไร เลยทำให้รู้ว่าช่วงแรกที่ถ่ายไปเนี่ยผมจับผิดมาตลอดเลย พี่เขาก็แนะนำว่าต้องเอานิ้วโป้งไปเกี่ยวตรงข้างล่าง ทำแบบนี้นะ ท่าทางมันต้องแบบนี้ต้องโยกแบบนี้แต่ไม่ต้องโยกมากให้โยกธรรมดาตามจังหวะเพลง โดยเฉพาะเพลงลูกทุ่งด้วยก็ไม่น่าจะมีการโยกอะไรมากมาย จริงๆ แล้วแซกโซโฟนเป็นเครื่องดนตรีที่ผมชอบมากแต่ว่าไม่เคยเล่นไม่เคยเป่าเลย เล่นเรื่องนี้ผมได้ลองเป่าเลยทำให้รู้ว่ายากมาก ต้องใช้ลมจากปอดเยอะมากครับ

Q: ฉากไหนที่แสดงแล้วรู้สึกอินและประทับใจมากที่สุด
          P: จริงๆ แล้วประทับใจเกือบทุกฉากนะครับ แต่ว่าถ้าความรู้สึกอินและประทับใจมากที่สุด ผมชอบฉากที่ธีระพลทำผิดพลาดครั้งสำคัญ แต่สุดท้ายแล้วก็ได้รับการให้อภัยจากพุ่มพวง ซึ่งฉากนี้หากชมแล้วจะรู้สึกประทับใจในเรื่องของการให้อภัย และจะได้เห็นถึงความพยายามของพุ่มพวงที่ไม่รู้หนังสือแต่พยายามฝึกฝนที่จะเขียนข้อความบางอย่างให้กับธีระพล ผมรู้สึกว่าฉากนี้เป็นฉากที่ดีมาก ผมประทับใจและรู้สึกอินกับฉากนี้จริงๆ ครับ

Q: เรื่องการถ่ายทอดอารมณ์ และความรู้สึกผ่านตัวละคร “ธีรพล”
          P: พี่อ็อด ผู้กำกับ จะเป็นคนที่ชอบเล่นกับอารมณ์พอสมควรจะคอยบอกให้ใช้อารมณ์กับการแสดงถ่ายทอดออกมาเยอะๆ และในเรื่องจะมีฉากดราม่าค่อนข้างเยอะพอสมควร แต่บางอารมณ์บางความรู้สึกพี่อ็อดก็จะต้องการแสดงออกแค่แววตาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องร้องไห้แต่พยามส่งความรู้สึกออกมาเยอะๆ ก็ทำให้ผมได้เรียนรู้เหมือนกันนะว่าถ้าเราแสดงออกมาประมาณนี้แล้ว ภาพมันก็จะออกมาเป็นแบบนี้นะ ความรู้สึกที่ส่งออกมามันมีพลังมาก ซึ่งตอนแรกก็ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะแสดงออกมาได้ดีหรือเปล่า แต่พอมาดูที่จอมอนิเตอร์แล้วผมชอบมาก และพี่อ็อดเองก็ชอบมากเช่นกันครับ

Q: ต้องกลายเป็นป๋าดันเพราะว่าประกบคู่นางเอกใหม่ น้องเปา-เปาวลี แนะนำเทคนิคอะไรบ้าง
          P: เป็นเรื่องแรกของน้องเปาครับและก็ได้มาประกบคู่กันครั้งแรก แล้วก็ต้องเล่นเป็นสามีภรรยากันด้วย ฉะนั้นความกลมกลืนของตัวละคร 2 ตัวย่อมที่จะต้องสนิทใจกันพอสมควร คือ น้องเปาจะมีคุณแม่มาด้วยตลอดทุกครั้ง แต่ผมก็พยามพูดคุยทั้งคุณแม่และน้องเปาอยู่เสมอว่า ให้ไว้ใจกันนะ เพราะนี่คือการทำงานเวลามีฉากกอด กุ๊กกิ๊กกันก็เลยไม่เกร็ง เราเองก็ไม่ได้คิดในเชิงแบบนั้น แต่เรากลับที่จะพยายามทำให้มันกลมกลืนในมุมของความเป็นสามีภรรยากันจริงๆ ซึ่งน้องเปาก็ทำออกมาได้ดี เป็นธรรมดาที่ช่วงแรกๆ ก็อาจจะเกร็งบ้าง เขินบ้าง แล้วมีฉากเลิฟซีนด้วยกันอีกตอนนั้นน้องเปาตัวแข็งมากครับ พอตัวแข็งก็จะหนักมาก และต้องนอนทับแขนผม โอ้โห!วันนั้นแขนเป็นเหน็บหมดเลยครับ (หัวเราะ) ผมก็จะบอกน้องเปาใจเย็นๆ นะ ส่วนผมเองก็มือสั่นเหมือนกันแต่จะเป็นอีกฉาก คือ ผมต้องเอามือลูบเปาแบบค่อยๆ แล้วมันเกิดอาการเกร็งกับตื่นเต้นไปหมดพอให้เราค่อยๆทำอะไร แล้วตัวเรารู้สึกว่าต้องโฟกัสตรงนั้นเท่านั้น แต่หลังๆ มาพอลูบสัก 7-8 ทีมันก็เริ่มชินล่ะครับ มันเป็นภาพยนตร์ที่เน้นสื่ออารมณ์ ผู้กำกับก็เลยอยากทำให้ทุกอย่างช้าเพื่อเข้าถึงอารมณ์คนดูอย่างแท้จริงครับ

Q: อยู่ในกองถ่ายสนิทกับน้องเปามากน้อยแค่ไหน มีอะไรจะเม้าท์น้องเปาบ้างหรือเปล่า
          P: น้องเปาเป็นเด็กน่ารักแล้วก็มีความสดใส ได้ร่วมงานกับเด็กคนหนึ่งซึ่งไม่เคยผ่านงานทางด้านการแสดงมาเลย แต่ว่าน้องเปามีความเป็นมืออาชีพสูงมาก ความสามารถน้องเปาเหมือนเพชรที่มีพลังอยู่ในตัว รวมถึงการร้องเพลงน้ำเสียงดีและไพเราะมาก หลายๆ ครั้งที่เปาได้แสดงความสามารถทางการแสดงออกมาโดยที่ผมไม่ได้บอกอะไรเลยแล้วน้องก็ทำได้ดีมากๆ ด้วยครับ เป็นคนที่อัธยาศัยดีหัวเราะตลอดเวลา ร่าเริง มีบางทีที่น้องเปาทำอะไรพลาดน้องก็ยังหัวเราะในความพลาดของตัวเองก็ถือว่าใช้ได้ หรือเวลาเป็นช่วงพักรอเข้าฉากของน้องเปา และคนอื่นกำลังถ่ายอยู่เสียงเปาคุยดังเข้าฉาก พอน้องเขารู้ตัวก็หัวเราะผมว่าน้องเขาเป็นคนอารมณ์ดีและทำให้เรารู้สึกอารมณ์ดีไปด้วยครับ จริงๆ อยากบอกว่าผมรู้สึกดีใจกับน้องเปาด้วยที่ได้มาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะได้ข่าวมาว่าต้องไปฝึกฝนไปเข้าคอร์สไปฝึกการใช้เสียงร้องเพลงรวมถึงทักษะในเรื่องของการแสดงต่างๆ เรียกว่ามาเต็มที่เลยทีเดียวในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมว่าเป็นภาระที่หนักมากสำหรับน้องเปา ที่ถูกเลือกให้มารับบทเป็นคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศ ส่วนตัวผมเองมีความเชื่อว่าด้วยความตั้งใจของตัวน้องเปาสามารถรับบทเป็น คุณพุ่มพวง ทำออกมาได้ดี และสามารถสื่อสารเรื่องราวต่างๆ ถ่ายทอดชีวิตของคุณพุ่มพวงได้อย่างลึกซึ้งไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

Q: หลายคนฮือฮาตอนที่น้องเปาสวมชุดลายเสือกันมาก แล้วพี่ป๋อล่ะเห็นครั้งแรกอึ้งเลยไหม
          P: ก็รู้สึกตกใจเหมือนกันนะ เพราะว่าครั้งแรกที่เราเจอกันยังไม่ได้แต่งหน้าผมหรือสวมชุด จะทำอะไรน้องเปาก็เหมือนเด็กๆ ผู้หญิงคนหนึ่งครับ แต่พอแต่งครบเครื่องตั้งแต่หัวจรดเท้า วิกผมซอยสั้น แล้วชุดเสื้อผ้าทุกอย่างเนี่ยเหมือนคุณพุ่มพวงหมดเลยก็ตกใจเหมือนกัน ต้องบอกว่าคล้ายมากแล้วพอน้องเปาร้องเพลงเนี่ยรัศมีทุกอย่างเกิดออกมาหมดเลยครับ อึ้งกันไปเลย

Q: เล่าถึงการทำงานร่วมกับผู้กำกับ “บัณฑิต ทองดี”
          P: พี่อ็อดเป็นคนตลกครับ ผมไม่เคยนึกว่าพี่อ็อดจะเป็นคนแบบนี้ได้ (หัวเราะ) น่ารักครับพี่อ็อดเป็นคนนิสัยขี้เล่นแล้วก็ทำให้กองถ่ายสนุกสนานอยู่ตลอดเวลา แต่เวลาทำงานเขาก็จริงจังนะครับ มุ่งมั่นแล้วจะพยามอธิบายอารมณ์ต่างๆ ในแต่ละฉากให้เราเข้าใจ แต่บางทีก็ไม่เข้าใจเพราะฟังพี่อ็อดพูดไม่ทัน เขาเป็นคนพูดเร็วผมก็จะตั้งใจฟังมากแล้วก็จะฮะ ฮะ อะไรนะครับ (หัวเราะ) ทำงานร่วมกันแล้วผมรู้สึกว่าเขาไม่เหมือนผู้กำกับ แต่เขาเหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่งมากกว่า โดยศักยภาพของพี่อ็อดแล้วเป็นคนอารมณ์ดีทำให้กองถ่ายไม่เครียด รู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับผู้กำกับเก่งๆ ที่ชื่อ บัณฑิต ทองดี ครับ

Q: ส่วนตัวแล้วชื่นชอบและฟังเพลงของ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ด้วยหรือไม่
          P: ฟังอยู่แล้วครับ ยุคผมยังทันนะในช่วงที่คุณพุ่มพวงยังจะมีชีวิตอยู่ ซึ่งผมเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ซึมซับงานเพลงของคุณพุ่มพวงมากคนหนึ่งเลยทีเดียว รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการนำเรื่องราวชีวิตช่วงหนึ่งของคุณพุ่มพวงมานำเสนอ ทุกวันนี้แม้คุณพุ่มพวงจะจากไปแล้วแต่ก็ยังอยู่ในใจของคนไทยทุกคนๆ รวมถึงคนหลายๆ คนที่กราบไหว้ และให้ความเคารพคุณพุ่มพวงเพราะมีความเชื่อว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วสำเร็จ

Q: คิดว่าสิ่งที่จะสะท้อนและให้แง่คิดจากการชมภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง
          P: ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่มีความฝัน เป็นการสะท้อนเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงคนนึงที่มีชีวิตและเส้นทางเดินไม่ได้เรียบง่าย ต้องผ่านเรื่องราวฝ่าฟันอุปสรรคมาเยอะแยะ จนสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จและไปถึงความฝันที่ตั้งใจอยากจะเป็นจริงๆ แต่การไปถึงความฝันไม่ได้มาจากพรสวรรค์อย่างเดียวมันมาจากพรแสวงของตัวเองด้วย ความมุ่งมั่น ความมุมานะ ความไม่ย่อท้อ ความอดทนและเพียรพยายามที่จะเดินไปสู่ความฝันให้ได้แม้จะล้มสักกี่ครั้งก็ตาม ผู้หญิงคนนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าลุกขึ้นมาเชิดหน้าแล้วเดินต่อไปได้ ผมเชื่อว่าใครหลายๆ คนที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้คงจะได้แนวคิดเป็นแรงบันดาลใจในการที่จะดำเนินชีวิต รักษาความฝันของตัวเองเอาไว้และพยายามที่จะเดินไปให้ถึงความฝันของตัวเองอย่างสำเร็จแน่นอน

Q: ฝากผลงานภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง”
          P: ขอฝากภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง ไว้ด้วยนะครับ ซึ่งผมตั้งใจเต็มที่กับการแสดงครั้งนี้มาก รวมถึงทีมงานทุกคนตั้งใจเต็มที่ ผมเชื่อว่าเรื่องราวของคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ยังอยู่ในใจของใครหลายๆ คนและขอให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นกำลังใจให้กับคนไทยทุกๆ คนที่กำลังท้อแท้ในเรื่องอะไรก็ตามแต่ กับปัญหาที่พวกเรากำลังประสบอยู่เชิดหน้าขึ้นครับ แล้วก็เดินไปตามความฝันที่ตัวเองฝันไว้ ก้าวไปและคว้ามันให้ได้นะครับกับความฝัน 21 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ 
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on July 01, 2011, 01:02:21 PM
INTERVIEW: “บัณฑิต ทองดี” ผู้กำกับภาพยนตร์ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง”


 
แนะนำตัว
สวัสดีครับผมบัณฑิต ทองดี หรือ อ็อด เป็นผู้กำกับเรื่อง พุ่มพวง ครับ

ผลงานที่ผ่านมามีอะไรบ้าง
          ผลงานส่วนใหญ่ก็กำกับภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ เขียนบท แล้วก็เป็นโปรดิวเซอร์ สำหรับผลงานกำกับภาพยนตร์ที่ผ่านมาก็มีเรื่อง มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม, เฮี้ยน, มนุษย์เหล็กไหล, ฝันหวานอายจูบ ตอนอาย และผลงานกำกับละครก็เรื่องทะเล จำปี ดนตรี ทราย, รักห้ามโปรโมท ช่องไอทีวี, ย.ยักษ์ยอดยุ่ง ช่อง3, อุบัติรักข้ามขอบฟ้า และที่กำลังออนแอร์ตอนนี้ก็เรื่องโลมากล้าท้าฝัน ช่อง 9 ครับ

เล่าถึงที่มาของโปรเจ็คต์ภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง
          ส่วนตัวแล้วผมชอบและศรัทธาชื่นชมในตัวของคุณพุ่มพวงอยู่แล้ว ต้องบอกว่าโปรเจ็คต์นี้มีหลายคนที่อยากจะทำกันมาก จนกระทั่งเมื่อมีโอกาสได้คุยกับทางพี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว (โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์พุ่มพวง) เกี่ยวกับหนังที่เป็นเพลงลูกทุ่งค่อนข้างจะซบเซา ผมเองก็ยังอยากจะทำหนังเกี่ยวกับลูกทุ่ง และคุณอรุณี (โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์พุ่มพวง) ก็ได้อ่านหนังสือ ดวงจันทร์ที่จากไป ของคุณบินหลา สันกาลาคิรีแล้วก็ชอบมาก เขาก็อยากจะทำโปรเจ็คต์นี้เช่นกัน ทุกคนชอบคุณพุ่มพวงทั้งนั้น พี่ปรัชเองก็ชอบพุ่มพวง ผมเองก็ชอบ และหลายคนก็ชอบพุ่มพวง เรานั่งปรึกษากันว่าจะทำภาพยนตร์เรื่องราวชีวประวัติของบุคคลคนหนึ่งที่คนทั้งประเทศรักและศรัทธา จากนั้นพี่ปรัชก็นำโปรเจ็คต์นี้ไปเสนอกับทางเสี่ยเจียง ค่ายสหมงคลฟิล์ม เสี่ยเจียงเองก็ชื่นชอบคุณพุ่มพวง และก็ตกลงอนุมัติให้สร้างภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง โดยให้ผมเป็นผู้กำกับเรื่องนี้ครับ
 
ขั้นตอนระยะเวลาการเตรียมงานและข้อมูลกว่าจะเกิดเป็นโปรเจ็คต์นี้
          มีการเตรียมงานด้านการรีเสิร์ทข้อมูลเพื่อสร้างเป็นภาพยนตร์ประมาณ 2 ปี จากนั้นกว่าจะเปิดกล้องได้ก็ประมาณอีก 1 ปีครึ่ง ทำเรื่องขอลิขสิทธิ์ ปรับความเข้าใจกับครอบครัวอยู่หลายครั้ง รวมถึงท่านที่เกี่ยวข้องกับคุณพุ่มพวงเพื่อขอข้อมูลและขอเรื่องราวของท่านเหล่านั้นมาทำเป็นภาพยนตร์ ซึ่งการติดต่อ การค้นหาข้อมูล และตัวบุคคลค่อนข้างจะยาก ยิ่งเรื่องบทภาพยนตร์ต้องเขียนออกมาได้แนบเนียนและไม่เป็นการพาดพิงท่านใดจนเกิดความเสียหายชื่อเสียง ก็ต้องมีการขัดเกลาบทภาพยนตร์หลายรอบกว่าจะเกิดเป็นภาพยนตร์พุ่มพวงและกว่าจะได้เปิดกล้องก็ประมาณ 3 ปีครับ

การคัดเลือกนักแสดง ยากมากกว่าจะได้ผู้ที่เหมาะสมที่สุดมารับบท พุ่มพวง ดวงจันทร์
          สำหรับคนที่จะมารับบทเป็น พุ่มพวง โจทย์ค่อนข้างยากนะ หนึ่งต้องร้องเพลงได้และดี สองต้องเป็นคนสวย สามต้องแสดงดีด้วย มันเป็นโจทย์ที่ค่อนข้างหายาก เราเข้าไปคุยกับค่ายที่ประกวดเพลงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AF (เอเอฟ), The Star (เดอะสตาร์), KPN (เคพีเอ็น) เรากว้านมาแคสติ้งหมดเลย เพื่ออยากจะได้คนที่เหมาะสมจริงๆ แต่ละคนจะมีความบกพร่องที่ไม่เหมือนกันบางคนก็ร้องเพลงดีแต่แสดงไม่ดี บางคนแสดงดีร้องไม่ได้ บางคนสวยดีทุกอย่างแต่ความใสซื่อแบบต่างจังหวัดไม่มี เป็นเรื่องที่พวกเราต้องทำการบ้านกันหนักมาก เราเรียกคนมาแคสติ้งเยอะมาก เป็นหลายร้อยคนเกือบๆสามร้อยกว่าคนได้ครับ ซึ่งฝ่ายแคสติ้งนักแสดงทำงานหนักมาก สุดท้ายเราได้น้องเปา เปาวลี พรพิมล นักร้องจากค่ายแกรมมี่โกลด์ โดยทางค่ายส่งเข้ามาแคสติ้ง ซึ่งน้องเปาเองก็เข้ามาแคสติ้งถึง 2 ครั้งเลยทีเดียว ความรู้สึกแรกผมคิดว่าเด็กคนนี้ยังไม่มีแววพอ แต่ถูกการันตีจากครูสอนการแสดงถึง 2 ท่านว่าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์ ทั้งร้องและการแสดงเป็นอย่างมาก ก็เลยได้ให้โอกาสและก็ได้ร่วมงานกับน้องเปาครับ
 
สำหรับบทพระเอก ธีระพล คู่รักคนแรกของพุ่มพวง วางตัวนักแสดงไว้อย่างไร
          ภาพแรกของบทธีระพล แสนสุข ที่ทุกคนมองเหมือนกันหมด ทั้งตัวผม ทั้งพี่ปรัช หรือว่าหลายฝ่ายที่มาช่วยแคสติ้งทุกคนมองภาพว่าต้องเป็น คุณป๋อ ณัฐวุติ คนเดียวเลยครับ คือต้องคุณป๋อเท่านั้น และไม่มีตัวเลือกอื่นใดๆ ทั้งนั้น บุคลิกต้องมีความเป็นไทย ดูไม่ทันสมัย ดูเป็นผู้ใหญ่นิ่ง สุขุม และเหมาะสมที่จะมารับบทเป็นคู่ชีวิตของคุณพุ่มพวงได้ ซึ่งคุณป๋อเป็นตัวเลือกแรกและตัวเลือกเดียวที่เราคิดครับ แต่ด้วยเรื่องของเวลาและคิวงานที่รัดตัวคุณป๋อทำให้ยากไม่สามารถแมชเวลาการทำงานที่ลงตัวกันได้ สุดท้ายเราลงความเห็นว่าเรายอมรอคิวคุณป๋อ ถึงแม้จะได้เปิดกล้องช้ากว่าที่เรากำหนดไว้ ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่ามากครับที่ได้ดาราซูเปอร์สตาร์ที่มีความสามารถและเหมาะกับคาแร็คเตอร์ของ ธีระพล ครับ

รวมถึงการคัดเลือกนักแสดงมารับบทครูเพลง อย่าง ครูไวพจน์ และครูมนต์ เป็นอย่างไรบ้าง
          บทครูเพลงในเรื่องจะมีครูเพลงสำคัญ 2 ท่าน จะเป็นครูเพลง ที่เปรียบเสมือนพ่อคนที่สองของคุณพุ่มพวง ในเรื่องก็มีครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ ตอนแรกเราค้นหานักแสดงหลายๆ คน บางท่านเหมาะแต่น้ำเสียงเหน่อยังไม่ได้บ้าง สุดท้ายก็มาลงตัวที่ คุณบุญโทน คนหนุ่ม ท่านเป็นนักแหล่ชื่อดังมากซึ่งเพลงของครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ สามารถร้องได้หมดทุกเพลง แล้วก็เป็นคนพูดสำเนียงออกเหน่อ ใกล้เคียงกับคาแร็คเตอร์ของครูไวพจน์มาก และอีกท่านคือ ครูมนต์ เมืองเหนือ อยากได้คนที่ร้องเพลงได้ และมีบุคลิกที่น่านับถือ ก็มาจบที่พี่ถนอม สามโทน เพราะด้วยบุคลิกที่เป็นผู้ใหญ่ และเป็นนักร้องด้วยจะมีความเข้าใจความเป็นลูกทุ่ง ซึ่งก็เหมาะกับบทครูมนต์ เมืองเหนือ ครับ
 
ได้นักเขียนรางวัลซีไรต์ บินหลา สันกาลาคีรี และนักเขียนรุ่นใหม่ พัฒนะ จิรวงศ์ ร่วมเขียนบทภาพยนตร์ในครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง
          จริงๆ แล้วบทภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง มีการดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อดังเรื่อง ดวงจันทร์ที่จากไป ซึ่งก็เป็นงานเขียนของคุณบินหลา สันกาลาคิรี นักเขียนมือรางวัลซีไรต์ ท่านก็เป็นบุคคลนึงที่มีส่วนร่วมทำให้โปรเจ็คต์พุ่มพวงเกิดขึ้น ซึ่งคุณบินหลาจะมีข้อมูลที่เคยรีเสิร์ทมาแล้วประมาณนึงเมื่อตอนทำออกมาเป็นหนังสือ ส่วนทางเราเองก็ได้มีการรีเสิร์ทข้อมูลเพิ่มเติม เมื่อนำมารวมกันแล้วก็ประมวลผลออกมาเป็นบทภาพยนตร์ โดยมีคุณบินหลาคอยให้คำแนะนำ และคำปรึกษาในด้านการนำมาทำเป็นบทภาพยนตร์ และร่วมเขียนบทกับคุณตั้ม พัฒนะ จิรวงศ์ อีกท่านนึง ซึ่งก็เป็นบทภาพยนตร์ที่เขียนออกมาได้ถูกใจผมมากครับ

ความแตกต่างเมื่อนำมาดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์
          เรานำเสนอให้แตกต่างจากนวนิยายโดยเราใส่ประเด็นในเรื่องของผู้หญิงคนนึงที่สามารถเป็นไอดอล และเป็นแรงบันดาลใจ เป็นต้นแบบของคนรุ่นใหม่ คนที่มีความฝันมุ่งมั่น ซึ่งจะทำให้ภาพยนตร์มีความน่าสนใจมากขึ้น แตกต่างจากนวนิยายที่จะเน้นเล่าเรื่องราวชีวิตของพุ่มพวงว่าเป็นอย่างไร ในความเป็นบทภาพยนตร์เราใส่อารมณ์ความมุ่งมั่นเพื่อความฝันให้กับคนดู ซึ่งเมื่อดูจบแล้วจะต้องเกิดความรู้สึกว่าอยากจะเป็นแบบพุ่มพวง คืออยากจะต่อสู้ อยากจะเอาชนะกับอุปสรรคต่างๆ นี่คือความแตกต่างและเป็นประเด็นหลักที่เรานำมาใส่ในบทภาพยนตร์ครับ
 
เล่าเรื่องย่อ
          เป็นเรื่องราวตั้งแต่ตอนเด็กของคุณพุ่มพวง เข้ามากรุงเทพฯ และมาขออยู่ในวงของครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ โดยมีความมุ่งมั่นที่อยากจะเป็นนักร้องเพียงเท่านั้นในชีวิตนี้ จะต้องโด่งดังให้ได้ ทั้งที่เรียนจบแค่ชั้นป.2 หนังสือก็อ่านไม่ออก เขียนก็ไม่ได้ จากนั้นก็ได้พบรักกับธีระพลและทำให้มีปัญหากับครูไวพจน์ ทำให้ทั้งคู่ต้องออกไปสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเอง สร้างชีวิตครอบครัวและสร้างวงดนตรีด้วยกัน แต่ก็พบกับอุปสรรคมากมาย จนเมื่อความสัมพันธ์ทั้งคู่เริ่มสั่นคลอน พุ่มพวงก็ไม่ยอมแพ้ต่อชีวิตฝ่าฟันอุปสรรคปัญหาต่างๆ ทั้งเรื่องส่วนตัว และการทำงาน จนสามารถเอาชนะความฝันของตัวเองได้ และได้กลายเป็นนักร้องโด่งดังถึงขั้น ราชินีลูกทุ่ง ร้องเพลงและจำบทเพลงได้หลายร้อยเพลง คนไทยทั้งประเทศต้องรู้จักเธอ พุ่มพวง ดวงจันทร์ นี่คือความมหัศจรรย์ของผู้หญิงคนนึง

ความน่าสนใจของโปรดักชั่นดีไซน์ สำหรับฉากคอนเสิร์ตในแต่ละฉาก ที่ต้องสร้างออกมาให้สมจริง เหมือนย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง
          แน่นอนครับเพื่อความสมจริงและอยากให้ความรู้สึกของคนดูเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเห็นเรื่องราวจริงๆในเหตุการณ์จริงครั้งนั้น ฉะนั้นทีมงานจึงต้องมีการรีเสิร์ชข้อมูลกันอย่างหนัก รีเสิร์ชจากภาพเก่าๆ และก็พยามหาคอนเสิร์ตเก่าๆของพี่ผึ้งมาดูและนำมาจำลอง ซึ่งก็ยากเหมือนกันแต่ผมก็พยามบอกทีมงานว่า เรากำลังจะสร้างเรื่องจริง เหตุการณ์ชีวิตของบุคคลจริงๆ ฉะนั้นเราอย่าไปบิดเบือนหรือว่าทำตามความรู้สึกของเราอย่างเดียว เราพยามสร้างฉากหรือเรียกได้ว่าก็อปปี้เวทีจริงๆ ให้เหมือนและสมจริงมากที่สุดเท่าที่จะทำออกมาได้เกือบจะเป๊ะ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งฉากคอนเสิร์ตโลกดนตรี องค์ประกอบต่างๆ บนเวที รวมถึงชุดเสื้อผ้าของคุณพุ่มพวงที่ใส่ขึ้นเวทีในครั้งนั้น ฉากรายการสี่ทุ่มสแควร์ที่คุณพุ่มพวงมาสัมภาษณ์กับคุณวิทวัสก็จำลองให้เหมือนเท่าที่จะเหมือนได้ เช่นกันเสื้อผ้า หน้าผมต้องใกล้เคียงที่สุด ฉากคอนเสิร์ตตามงานวัดก็ต้องทำให้ออกมาดูเป็นแบบงานวัด หรือแม้แต่ฉากคอนเสิร์ตโรงแรมดุสิตธานี สำหรับฉากนี้เราใช้ห้องนภาลัยของโรงแรมดุสิตธานีจริงๆ และเป็นเวทีเดิมที่คุณพุ่มพวงได้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ต วันนั้นที่เราถ่ายทำฉากนี้กัน ทีมงานหลายคนรวมถึงผมขนลุกกันเกือบหมดเลย ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนเราย้อนเวลากลับมาอีกครั้ง ตอนนั้นเราถือรูปคุณพุ่มพวงแล้วบอกว่า พี่ผึ้งครับเราพากลับมาอดีตของพี่ผึ้งนะมาย้อนดูตัวเองวันนั้นนะพี่ เราจะบอกอยู่ตลอดเวลา จำได้ว่าเปิดดีวีดีของพี่ผึ้งดูแล้วก็เปิดภาพที่เราถ่ายฉากนั้น ความรู้สึกมันเหมือนจริงมากครับเหมือนกับพี่ผึ้งกลับมาจริงๆ วันนั้น ทำให้ทุกคนภูมิใจและขนลุกกับเหตุการณ์ที่ถ่ายทำวันนั้นมากทีเดียวครับ
 
รวมถึงการทำเสื้อผ้า และหน้าผมที่ต้องใกล้เคียงกับคุณพุ่มพวง ทีมงานต้องทำการบ้านกันหนักขนาดไหน
          ในส่วนของทีมงานออกแบบเสื้อผ้า และทีมช่างแต่งหน้า ทำผม อันดับแรกที่เราคิดคืออยากให้คนดูได้นึกย้อนถึงคุณพุ่มพวง ในลุคที่หลากหลายและยังคงประทับใจจดจำได้อยู่ ไม่ว่าจะทรงผมสั้น ผมยาว ผมหน้าม้า หรือผมบ็อบ ซึ่งผมเชื่อว่าหลายๆ คนยังจำภาพที่พี่ผึ้งผมสั้น บางคนก็จำชุดที่สวมใส่ตอนขึ้นคอนเสิร์ตอย่างชุดลายเสือ ซึ่งเราก็ดีไซน์ออกมาได้อย่างใกล้เคียงคาแร็คเตอร์ของคุณพุ่มพวงจริงๆ หวานก็ได้ เปรี้ยวก็ได้ หรือจะร็อคก็ยังได้ ทำให้ดูเซ็กซี่เล็กๆ ก็ยังได้ เป็นสิ่งที่ต้องเอาใจใส่รายละเอียดทั้งเสื้อผ้า หน้า และผมให้ดูสมจริง ยิ่งทรงผมจะเน้นว่าต้องไม่ให้ดูออกมาเป็นวิก ถ้าดูออกว่าเป็นวิกเราจะไม่ยอมถ่ายเด็ดขาด ก้ต้องขอขอบคุณทีมงานทุกคนทุกฝ่ายที่ตั้งใจทำการบ้านกันอย่างเต็มที่และทำออกมาได้ดีมากครับ หนังเรื่องนี้ทุกคนอยากทำกันมาก พอรู้ว่าเป็นเรื่องพุ่มพวง ทีมงานทุกคนเตรียมตัวทำการบ้าน แล้วทุกคนชอบพี่ผึ้งจึงยิ่งเป็นแรงบันดาลใจและเต็มที่กับงานสร้างครั้งนี้อย่างมาก ถือว่าเป็นความโชคดีของพวกเราทุกคนครับ
 
บทเพลงประทับใจจะหวนกลับมาให้ฟังกันแบบเต็มอิ่มในภาพยนตร์เรื่องนี้มากน้อยขนาดไหน
          ครับคุณจะได้ฟังเพลงของคุณพุ่มพวงที่คุณชอบ เพลงดังๆ เกือบทุกเพลง เราเลือกเพลงที่ท็อปฮิตที่สุดของคุณพุ่มพวง ซึ่งถ่ายทอดโดยน้องเปา เปาวลี เพลงที่ทุกคนคุ้นหูอย่างเช่น นักร้องบ้านนอก ผู้ชายในฝัน ดาวเรืองดาวโรย หนูไม่รู้ เพลงพวกนี้รับรองว่าได้ฟังอย่างแน่นอน ผมเชื่อว่าทุกคนต้องชอบและจำได้ เคยประทับใจสมัยที่ทุกคนได้ฟัง มีบทเพลงเหล่านี้อยู่ในภาพยนตร์กันแบบจุใจเลยครับ

ฉากประทับใจของผู้กำกับ
          ฉากคอนเสิร์ตโลกดนตรีครับ เราจำลองเหตุการณ์คอนเสิร์ตครั้งนั้นและร้องเพลงนักร้องบ้านนอก กับโลกของผึ้ง แต่วันนั้นก็มีอุปสรรคในการถ่ายทำคือฝนตก ถึงแม้จะถ่าย indoor ก็จริงแต่ว่าเรื่องการเก็บเสียง ฝนก็ทำลายบรรยากาศการถ่ายทำ และฉากนี้น้องเปาจะต้องร้องไห้หลายๆ ครั้งและเป็นลมบนเวทีหลายๆ ครั้ง ต้องให้น้องเปารักษาอารมณ์ของเขาให้ได้ทุกเทค อันนี้เป็นเรื่องยากแต่สิ่งที่ประทับใจคือ ฉากนี้น้องเปาร้องเพลงนักร้องบ้านนอกโดยใช้วิธีการร้องไปมองหน้าแม่ไปแล้วก็เริ่มรู้สึกว่าอินกับบทพุ่มพวง คือน้องเปารู้สึกว่าตัวเขาเหมือนในเพลงนักร้องบ้านนอก ถ้าไม่เด่นไม่ดังก็จะหันหลังกลับไป ต่อสู้ชีวิตฝ่าฟันตัวเองมาจนถึงวันนี้ได้โดยมีคุณแม่เข้ามามีส่วนช่วยผลักดัน ตอนถ่ายฉากนี้น้องเปาจะรู้สึกอินกับบทและการแสดงอย่างมาก และก็ร้องไห้น้ำตาไหล วันนั้นสะกดทุกคนในทีมกองถ่ายอึ้ง บางคนก็ถึงกับน้ำตาไหลไปกับน้องเปาด้วย ผมก็อึ้งด้วยทำอะไรไม่ถูกปล่อยให้น้องเปาร้องจนจบเพลงและบอกน้องเปาว่าขอบคุณมาก ประทับใจฉากนี้มาก ผมเลยรู้สึกว่าน้องเปาสามารถสะกดคนดูได้ด้วยเพลงและด้วยอารมณ์ของเขา ทำให้ผมรู้สึกประทับใจฉากนี้และประทับใจการแสดงของน้องเปามากครับ
 
เล่าถึงเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์
          ผมเป็นคนที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องโชคลางพอสมควร ก่อนถ่ายภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง ทุกครั้งเราจะมีรูปของคุณพุ่มพวงใส่กรอบอย่างดีนำไปตั้งวางไว้ที่กองถ่ายและให้ทีมงานรวมถึงนักแสดงหลักๆ ทุกคนกราบไหว้ก่อนที่จะแสดงทุกคิวถ่าย และทุกครั้งที่ถ่ายทำเราจะหันรูปคุณพุ่มพวงไปที่เซ็ตการแสดงเหมือนว่าเราต้องการให้พี่ผึ้งได้ดูการแสดงการถ่ายทำหนัง เราจะไม่เอารูปหันไปทางอื่นเพื่อให้พี่ผึ้งเห็นว่าพวกเราได้ทำอะไรบ้าง
          ส่วนเรื่องความสนุกสนานในกองถ่ายต้องยกให้พระเอกหล่อมากเท่ห์คือ พี่ป๋อ เขาเป็นคนสนุกสนานเฮฮา ชอบแหย่เล่นทีมงานตลอด โดยเฉพาะกับผมเราเป็นคู่ปรับกันคือ ชอบแซวผมประจำเลย เรียกว่าสร้างความครื้นเครงให้กับกองถ่ายตลอดเวลา ยิ่งน้องเปาเนี่ยจะโดนพี่ป๋อแกล้งอำบ่อยมาก น้องเปาด้วยความเป็นเด็กจะงงๆ ไม่รู้เรื่องเวลาโดนอำไม่เข้าใจว่าทุกคนแซวไรกัน ทำไรกัน ก็จะเฮฮากันในกองถ่าย

เป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานร่วมกับพระเอกป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ เป็นอย่างไรบ้าง
          สำหรับพี่ป๋อด้วยวัยที่ใกล้เคียงต่างคนต่างเรียกพี่ ด้วยความที่เขาเป็นนักแสดงที่มีความสามารถอยู่แล้ว พื้นฐานการแสดงที่ผ่านแสดงละครมาเยอะคงไม่ต้องพูดอะไรมากเขาเนียบการแสดงอยู่แล้วครับ และเป็นคนที่ทำการบ้านมาเยอะมากสำหรับบทคุณธีรพล พี่ป๋อจะไม่พยามเป็นคนหล่อในเรื่องนี้ บางทีจะทำผมแบบเนียบให้แต่เขาบอกว่าบทนี้ฉากนี้ต้องทำผมยุ่งสิ แล้วก็ไปขยี้ผมตัวเองเพื่อให้รับบทตรงกับคาแร็คเตอร์ของคุณธีรพลจริงๆ ไปหัดเป่าแซกโซโฟนมาด้วยนะ ไม่ได้เก่งแต่ก็ถือว่าใช่ได้ครับ มีความเป็นนักดนตรีสูงเพราะเขาก็เป็นนักดนตรีเลยพอเข้าใจความเป็นนักดนตรี เป็นคนสนุกสนานเฮฮาสร้างความครื้นเครงให้กับกองถ่าย ตรงต่อเวลาพูดคำไหนคำนั้นไม่เคยทำให้กองถ่ายต้องรวนในเรื่องของเวลา การเข้าคู่กับน้องเปาได้ดีมากและแนะนำสอนการแสดงน้องเปาด้วย พี่ป๋อจะทำการบ้านในการแสดงภาพยนตร์เพราะแสดงละครจะต่างกันแต่ก็ตัดความเป็นละครออกไปได้ครับ

การร่วมงานกับนางเอกหน้าใหม่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ เปาวลี พรพิมล เป็นอย่างไรบ้าง
          น้องเปาเป็นเด็กน่ารักมาก ด้วยความเป็นเด็กต่างจังหวัดมาจากสุพรรณบุรี น้องเปาจะมีความใสซื่อ ทั้งสดใสและมีความกระตือรือร้นในการทำงาน ไม่มีความจริตเหมือนเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ที่บางคนงอแง พอง่วงนอนแล้วก็จะไม่อยากทำงาน แต่สำหรับน้องเปาไม่เคยเป็น เวลาออกกองถ่ายน้องเปาจะตื่นตัวตลอดเวลา อยากเจออะไรใหม่ๆ ตลอดมีอะไรไม่เข้าใจก็จะคอยถาม และพยายามมทำการบ้านตลอดเวลา อย่างคลิปของคุณพุ่มพวงใน youtube น้องเปาจะโหลดมาดูเป็นร้อยๆ คลิปเยอะมาก เพื่อที่จะศึกษาในสิ่งที่คุณพุ่มพวงเป็น เป็นข้อดีของน้องเปาครับ ด้านการร้องเพลงเสียงดีมากครับ ชอบร้องเพลงกล่อมทีมงาน นอกจากเพลงลูกทุ่งเพลงทั่วๆ ไปก็ร้องได้ไพเราะ เป็นเด็กมีพรสวรรค์ ต้องบอกว่าผมโชคดีมาก ผมว่าพี่ผึ้งคงเลือกแล้วว่าเป็นใครที่จะมารับบทเป็นเขา ส่งเด็กคนนี้มาให้ผมโดยที่ตอนแรกเราก็เฉยๆ แต่สุดท้ายเรายอมรับว่าเด็กคนนี้เก่งและเหมาะกับบทพุ่มพวงจริงๆ ครับ
 
เป็นการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกของน้องเปา มีการแนะนำหรือสอนเทคนิคการแสดงอย่างไร
          ผมพูดคุยกับน้องเปาบ่อย จะคอยแนะนำเรื่องท่าทางและบุคลิกของคุณพุ่มพวง เนื่องจากเราจะเห็นคุณพุ่มพวงมามากกว่าน้องเขา เราจะรู้ว่าเป็นแบบไหน ท่าทางการแสดงของคุณพุ่มพวงบนเวทีหรือการแสดงบนเวทีคุณพุ่มพวงเป็นอย่างไร ถึงแม้น้องเปาดูคลิปของคุณพุ่มพวงเป็นร้อยๆ ยังไงก็ต้องได้รับการแนะนำ ซึ่งก็ครูสอนการแสดงที่คอยแนะนำเป็นหลักอยู่ด้วยครับ อีกเรื่องที่แนะนำคือ การใช้ชีวิตในกองถ่าย และการวางตัวเมื่อเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง

ในเรื่องของการแสดงและการร้องเพลงของน้องเปาเป็นอย่างไรบ้าง
          ตั้งแต่วันแรกที่เจอจนถึงวันปิดกล้องน้องเปามีพัฒนาการสูงมาก มีมาเรื่อยๆแม้แต่การร้องเพลงก็พัฒนาเรื่อยๆ เราจะพูดคุยเรื่องเทคนิคการร้องเพลงของน้องเปาเสมอ บางทีการร้องของเปาสำเนีงจะดูเป็นลูกทุ่งสมัยใหม่ไปบ้างก็จะต้องคอยบอกน้อง จากนั้นเปาก็จะกลับไปปรับปรุงการร้องเพลงมา จริงๆ เรื่องการร้องเพลงเราไม่เคยห่วงนะ เพราะน้องเปาเป็นนักร้องที่ชนะเลิศการประกวดมาเยอะมากมีถ้วยรางวัลเต็มบ้าน ในส่วนฝีมือการแสดงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นทุกครั้ง ตอนแรกจะค่อนข้างห่วงการแสดง แต่น้องเปาเป็นเด็กที่เรียนรู้ได้เร็วมาก สามารถถ่ายทอดบทและอารมณ์ของคุณพุ่มพวงออกมาได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าไม่เคยผ่านการแสดงใดๆ มาเลย ฝีมือการแสดงขนาดนี้เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก ผมยกให้เป็นเด็กที่มีความอัจฉริยะและเป็นเด็กมีพรสวรรค์มากครับ

ภาพยนตร์เรื่องนี้แตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆที่กำกับมาอย่างไร
          แตกต่างเพราะว่าเป็นหนังชีวประวัติของบุคคล และมีความเซนซิทีฟ (sensitive) กว่าเรื่องอื่นๆ ที่เคยกำกับ ที่เราจะทำใส่ความคิดความรู้สึกได้เต็มที่ จะอะไรก็ทำได้เพราะเป็นเรื่องที่สร้างจากจินตนาการ แต่สำหรับเรื่องนี้มันต้องสมจริง แม้แต่ฉากเรื่องการแต่งกายเราจะบิดเบือนไม่ได้ จึงต้องมีการจำลองทุกอย่าง จำลองฉาก จำลองเสื้อผ้าของคุณพุ่มพวง ทรงผม วิธีการพูด เพื่อความสมจริงและคล้ายที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายอย่างมาก ผมไม่เคยทำงานที่ทุกอย่างต้องเซ็ตให้เหมือนจริงในสิ่งที่เคยเป็นมาในยุคปี 20 หลายอย่างต้องย้อนเวลากลับไป ทีมงานต้องทำการบ้านอย่างหนัก และต้องรีเสิร์ชข้อมูลรายละเอียด พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่าย แม้แต่ครูสอนเต้น บรรดาครูต่างๆ นานามาเป็นที่ปรึกษาให้กับเราหมด สุดท้ายก็เป็นภาพยนตร์ที่ผมภูมิใจมากที่สุดเลยครับ

เสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่องนี้
          เสน่ห์คือ บทเพลง บรรดาเพลงต่างๆ และเพลงที่ฮิตของคุณพุ่มพวงที่เราเคยฟังและชอบ จะถูกนำกลับมาอีกครั้งในภาพยนตร์ครั้งนี้ และก็เสน่ห์ของการย้อนยุคเรื่องราวของคุณพุ่มพวงภาพในวันนั้นไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า สถานที่ของยุคนั้นที่จะทำให้เราได้หวนกลับไปยังภาพเก่าๆ ของ ณ วันนั้น สถานที่ต่างๆ ก็จำลองความเป็นเหตุการณ์ในยุคปี 20-35 ซึ่งจะเป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนดูหวนกลับไปสู่อดีตแล้วก็ได้ฟังเพลงของนักร้องที่ตัวเองชื่นชอบครับ

สิ่งที่คาดหวังอยากให้คนดูเกิดความประทับใจในภาพยนตร์
          ผมเชื่อว่าคนดูจะต้องประทับใจกับ บทเพลงที่ชื่นชอบ และจะประทับใจในตัวของคุณพุ่มพวง จากที่คุณเคยรักอยู่แล้วก็จะยิ่งรักเพิ่มมากขึ้น หรือแม้แต่เด็กรุ่นหลังที่ไม่รู้จักหากได้ชมแล้ว คุณพุ่มพวงจะเป็นต้นแบบ เป็นไอดอล เป็นผู้นำหรือว่าบุคคลที่ควรจะเอาอย่างมีความมุ่งมั่น ต่อสู้ความฝัน เอาชนะอุปสรรคต่างๆ ผมว่า เมื่อชมภาพยนตร์จบแล้วจะได้ความรู้สึกที่ว่าอยากเอาชนะความฝันอยากเดินหน้าต่อไปเพื่อต่อสู้เอาชนะอุปสรรคเพื่อจุดมุ่งหมายในชีวิต

ความประทับใจและชื่นชมที่มีต่อคุณพุ่มพวง
          ผมชอบคุณพุ่มพวงมาก ถ้าผมเป็นผู้หญิงคงจะได้เป็นพุ่มพวงบนเวทีในการแสดงโรงเรียนบ่อยๆ ด้วยความที่เราเป็นผู้ชายก็ได้ชื่นชอบอย่างเพลงนักร้องบ้านนอกผมก็ชอบมาก บางทีเอามาร้องเป็นตัวแทนของใครก็ได้ที่มีความฝันของคนที่อยากจะต่อสู้เพื่อเอาชนะอุปสรรคและไปสู่จุดมุ่งหมายในชีวิต ผมว่าเพลงนักร้องบ้านนอกเป็นเพลงที่สื่อให้ใครก็ได้ อาชีพใดก็ได้ เพศใดก็ได้ มีความเป็นกลางสูงมาก คุณพุ่มพวงร้องแล้วได้อารมณ์ออกมาอย่างดีมาก ส่วนตัวแล้วผมชื่นชอบคุณพุ่มพวงมากที่บ้านคุณแม่ก็ชอบ พี่สาวก็ชอบ เพราะฉะนั้นการที่ได้รับทำโปรเจ็คต์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นความภูมิใจและประทับใจมากกับตัวเองครับ

ฝากผลงาน
          อยากฝากผลงานภาพยนตร์เรื่องพุ่มพวง ไว้กับแฟนๆ ทุกท่าน ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นแรงบันดาลใจสำหรับทุกคนที่มีความฝัน และก็ขอฝากน้องเปานางเอกน้องใหม่ด้วยนะครับ ผมเชื่อว่าน้องเปาจะถ่ายทอดอารมณ์ในบทของ คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ออกมาได้อย่างน่าประทับใจทั้งการแสดงและเสียงร้อง 21 กรกฏาคมนี้ นะครับ
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on July 01, 2011, 01:04:37 PM














Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on July 06, 2011, 11:49:29 AM
บทสัมภาษณ์ “บุญโทน คนหนุ่ม” ปลื้มรับบท “ครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ” ผลงานการแสดงครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง”

 

          แนะนำตัว
          สวัสดีครับผม บุญโทน คนหนุ่ม รับบทเป็น ครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ ในเรื่อง พุ่มพวง ครับ

          ความรู้สึกที่ได้มีส่วนร่วมโปร์เจ็คต์ภาพยนตร์ในครั้งนี้
          นับว่าเป็นภาพยนต์ฟอร์มยักษ์อีกเรื่องเลยครับ ผมรู้สึกว่าเป็นเกียรติในชีวิต และยิ่งพอทราบว่าได้รับบทเป็น ครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ ซึ่งเป็นผู้ที่จุดประกายให้คุณพุ่มพวง มีความฝันที่อยากจะเป็นนักร้อง บอกได้ว่าภูมิใจมากๆ ครับ

          บทบาท และคาแร็คเตอร์ของครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ
          คาแร็คเตอร์ของ ครูไวพจน์ จะเป็นคนเจ้าระเบียบ ทำอะไรก็จะต้องมีกฎระเบียบเยอะ ภายนอกดูเหมือนเป็นคนดุ แต่จริงๆ แล้วภายในเป็นคนใจดี มีความเป็นห่วงเป็นใยต่อลูกศิษย์ อยากจะให้ทุกคนได้ดีและประสบความสำเร็จครับ

          เล่าเรื่องย่อ
          หนังเรื่องพุ่มพวง เป็นเรื่องราวชีวิตของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่หยิบขึ้นมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์เพียงแค่ช่วงระยะหนึ่งของชีวิตเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมด เรานำเสนอเรื่องราวของผู้หญิงที่มีความมุ่งมั่น ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพื่อตามล่าความฝันของตัวเองก็คือ การเป็นนักร้อง แต่ด้วยฐานะทางบ้านยากจน ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ก็ต่อสู้กับโชคชะตาชีวิตของตัวเองจนในที่สุดก็ได้เป็นนักร้อง ถึงแม้จะอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แต่ก็มีความเป็นอัจฉริยะท่องจำบทเพลงได้มากกว่า 500 เพลง ตั้งใจทำงานและทำเพลงออกมาจนแฟนเพลงทั่วประเทศรักและชอบพุ่มพวง ดวงจันทร์ แต่ก็ต้องเจอกับเรื่องร้ายๆ เข้ามาทั้งเรื่องความรัก และเรื่องโรคร้ายที่รุมเร้า พุ่มพวงเองก็ไม่เคยท้อถอยสู้จนวินาทีสุดท้าย จนถึงวันนี้เธอก็ยังเป็นราชินีลูกทุ่งที่อยู่ในใจของทุกคนตลอดไปครับ

          คาแร็คเตอร์ของครูไวพจน์ มีส่วนคล้ายกับตัวของพี่บุญโทนบ้างไหม
          ครูไวพจน์ท่านเป็นนักแหล่แนวเพลงพื้นบ้านถือว่าท่านเป็นอันดับ 1 ของเมืองไทยเลยนะ และก็เป็นนักร้องด้วย ซึ่งครูไวพจน์จะเก่งเรื่องร้องเพลงแหล่ ยิ่งเวลาแหล่บทนาคเนี่ยสุดยอดเลยครับ ปัจจุบันก็ทำขวัญนาคด้วย ถ้าถามถึงความคล้ายตัวผมเองก็ร้องเพลง แหล่เพลง ทำขวัญนาคเหมือนกันล่ะครับผมจะเป็นรุ่นหลังต่อจากครูไวพจน์ ซึ่งต้องยอมรับว่านักแหล่รุ่นเก่านั้น น้ำเสียงไพเราะมาก มีลูกเอื้อนลูกหยอด ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนตลกเฮฮา แต่ครูไวพจน์จะดุ และมาดขรึมครับ

          มีการเตรียมตัวขนาดไหนเพื่อมารับบท ครูเพลง บุคคลสำคัญท่านนึงในวงการเพลงลูกทุ่ง
          ผมกับครูไวพจน์เราเจอกันบ่อยมากเจอกันประจำ พอรู้ว่าจะได้แสดงเป็นครูไวพจน์ ผมก็บอกท่านแล้วท่านก็บอกว่า เออดีนี่หว่า และก็ถามท่านว่าตอนหนุ่มๆ เป็นยังไงบ้าง ให้เล่าประวัติของท่าน ซึ่งครูไวพจน์ก็ตอบสนุกสนานบอกว่าเหมือนเอ็งนั่นแหละ เล่นไปเลยตามสไตล์เอ็งเลย (หัวเราะ) ตอนเด็กๆ ผมชอบดูครูไวพจน์แหล่เพลง ผมก็จำบุคลิคของท่านได้ และนำมาปรับให้เข้ากับคาแร็คเตอร์ในเรื่องนี้ครับ

          นับว่าเป็นครั้งแรกของพี่บุญโทน กับการแสดงภาพยนตร์ยากหรือง่ายอย่างไรบ้าง
          เป็นการแสดงภาพยนต์เรื่องแรกในชีวิตของผมนะ ผมตื่นเต้นมาก และขอบอกว่า ยากมาก ยากกว่าแสดงละครหลายเท่าเลยครับ ถ้าเป็นร้องเพลงผมถนัดกว่าเยอะเลยครับ

          ต้องมีการปรับลุคเสื้อผ้า หน้า-ผมออกมาเป็นอย่างไรบ้าง
          ก็ต้องปรับลุคให้ย้อนยุคไปเมื่อ 30-40 ปีที่แล้วครับ สมัยก่อนทรงผมจะเป็นแสกข้างแล้วหวีเรียบ เสื้อผ้าจะเน้นเป็นลายดอก สีสันสดใส กางเกงก็สีแรงๆ เนคไทจะเป็นแนวใหญ่หน่อย จะเป็นลักษณะบุคลิกของนักร้องสมัยนั้น จะไม่เหมือนนักร้องในปัจจุบันนี้ที่ใส่กางเกงขาเล็ก รองเท้าบางๆ แต่สมัยก่อนรองเท้าส้นหนามาก กางเกงขาใหญ่ จะเป็นลุคของครูไวพจน์ที่แต่งตัวแบบนี้ครับ

          การร่วมงานกับผู้กำกับ บัณฑิต ทองดี
          ก็นับว่าเป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสร่วมงานกันครับสำหรับผู้กำกับคุณอ็อด บัณฑิต เขาเป็นหนุ่มรุ่นใหม่ที่ตั้งใจทำงาน เป็นคนใจดี ใจดีมาก ให้กำลังใจผู้อื่นอยู่เสมอ พูดได้ว่าถ้าใครโดนคุณอ็อดดุผมถือว่าซวย ผมก็บอกคุณอ๊อดอยู่เสมอ ถ้าผมแสดงไม่ดีให้คุณอ๊อดบอกผม สอนผมได้เลย เพราะผมเองก็อยากให้งานออกมาดีที่สุด และยิ่งเป็นผลงานภาพยนต์เรื่องแรกในชีวิตของผม ผมขอขอบคุณทางสหมงคลฟิล์ม ขอบคุณผู้กำกับที่ทำให้ผมได้เข้ามาร่วมแสดงภาพยนต์เรื่องนี้ และขอบคุณทีมงานทุกๆ คนด้วยนะครับ

          การร่วมงานกับนักแสดงพระเอก-นางเอก พี่ป๋อและน้องเปา เป็นอย่างไรบ้าง
          น้องเปาเป็นเด็กดี มีการเตรียมตัวและทำการบ้านทางการแสดงมาเป็นอย่างดี ทั้งๆ ที่เป็นภาพยนต์เรื่องแรกก็แสดงได้สมจริงสมจัง เสียงร้องไพเราะก็เป็นทางของน้องเปาอยู่แล้ว นิสัยส่วนตัวเป็นเด็กที่ร่าเริง ผมเชื่อว่าน้องเปาเป็นเด็กที่มีอนาคตไกล และมีความสามารถมากๆ เลยครับ
          สำหรับคุณป๋อ ไม่ต้องพูดถึง การแสดงสุดยอด เทคหนึ่งเทคสองก็ผ่าน แสดงได้สมบทบาท ผมเองก็แอบจำและศึกษาเทคนิคการแสดงของคุณป๋อมาใช้เหมือนกันนะครับ

          ความประทับใจที่มีต่อคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์
          โดยส่วนตัวผมแล้วผมชื่นชอบคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ผมจะเรียกว่าเจ๊ผึ้ง และในครอบครัวเจ๊ผึ้งผมก็รู้จักหมดครับ ผมเองศรัทธาเจ๊ผึ้งมาก เราเคยเล่นคอนเสิร์ตร่วมเดินสายไปด้วยกัน เจ๊ผึ้งเป็นคนที่ไม่เคยดุใครเลย อยู่ข้างเวทีก็ร้องเพลง อยู่บนเวทีก็ร้องเพลง และเป็นคนรักสวยรักงาม จะห่วงสวยตลอดเวลาขนาดจะนอนยังสวยเลยครับ เป็นคนโอบอ้อมอารีย์ เป็นคนที่กตัญญูดูแลทุกคนในครอบครัวทั้ง พ่อ แม่ พี่ น้อง นับว่าเป็นความดีที่น่าเอาเป็นตัวอย่าง

          บทเพลงประทับใจของคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์
          มีหลายบทเพลง ทุกเพลงไพเราะทั้งนั้นครับ ผมชอบเพลงนี้ครับ ฉันเปล่านาเขามาเอง

          ฝากผลงาน
          ขอฝากผลงานภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง ด้วยนะครับ เป็นการนำเรื่องราวของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ในช่วงหนึ่งของชีวิตที่ต้องต่อสู้จนประสบความสำเร็จ และยังมีบทเพลงของพุ่มพวงในภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วยครับ ถ้าท่านได้ชมภาพยนต์เรื่อง พุ่มพวง ท่านจะต้องรักน้องเปา เพราะว่าน้องเปาถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของพุ่มพวงออกมาได้ดีมาก นักแสดงทุกท่านรวมถึงผู้กำกับและทีมงานตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ครับ ก็ขอชวนกันมาชมกันเยอะๆ นะครับ 21 กรกฏาคมนี้ครับ
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: Google on July 10, 2011, 12:50:01 PM
บทสัมภาษณ์ วิทยา เจตภัย (ถนอม สามโทน) ภูมิใจและถือเป็นเกียรติอย่างมากกับบท “ครูมนต์ เมืองเหนือ” ในภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง”


 
แนะนำตัว
          สวัสดีครับ วิทยา เจตภัย หรือถนอม สามโทนนะครับ

ตอนนี้มีผลงานอะไรอยู่บ้าง
          ก็มีละครซิทคอม เรื่อง มหาชน เดอะซีรีส์ ของช่อง3, ละครเรื่อง มนต์รักมหานคร ช่อง 7 และก็กำลังเตรียมผลงานเพลงอยู่ด้วยครับ ล่าสุดก็ภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง ครับ

บทบาท และคาแร็คเตอร์ในภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง
          รับบทเป็น ครูมนต์ เมืองเหนือ นักปั้นมืออาชีพ หรือเรียกว่าเป็นนักปั้นมือทองในยุคนั้น คาแร็คเตอร์จะเป็นคนที่อารมณ์ดี จิตใจก็ดี ชอบช่วยเหลือเพื่อนฝูงชอบช่วยเหลือคนอื่น เป็นนักปั้นมืออาชีพปั้นให้คนดังมาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นศิลปินและนักร้องหลายๆ คนที่ผ่านมา ก็ได้รับการสนับสนุนจากครูมนต์ เมืองเหนือ ค่อนข้างจะติดขี้เล่น บุคคลิกเป็นคนร่าเริง จนบางคนก็คิดว่าเป็นคนเจ้าชู้ แต่จริงๆ ก็เป็นเสน่ห์ของท่าน เวลาที่อยู่ใกล้กับใครก็ทำให้อบอุ่นเป็นกันเองครับ

ความสำคัญของตัวละคร ครูมนต์ เมืองเหนือ
          เริ่มจากที่ธีระพลเคยเป็นศิษย์ของครูมนต์มาก่อน จากนั้นธีระพลก็เป็นคนพาผึ้งมากราบขอเป็นศิษย์ และขอให้ช่วยสนับสนุนผึ้งเป็นนักร้อง ซึ่งตอนแรกครูมนต์ก็เกรงใจครูไวพจน์เหมือนกัน และไม่อยากต้องผิดใจกัน แต่สุดท้ายเมื่อรู้ว่าครูไวพจน์ยกโทษให้ทั้งสองคนนี้แล้ว ก็จึงตัดสินใจรับเป็นศิษย์ ครูมนต์ก็เริ่มส่งเสริมผึ้งด้วยการพาไปโปรโมทเพลงและตั้งวงดนตรีให้ พร้อมเป็นผู้ตั้งชื่อ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ซึ่งก็กลายเป็นนักร้องลูกทุ่งที่โด่งดังมีชื่อเสียง

บท พุ่มพวง ดวงจันทร์ แสดงโดย เปาวลี พรพิมล ส่วนตัวแล้วมีความคิดเห็นว่าอย่างไร
          สำหรับน้องเปา โดยเฉพาะส่วนตัวแล้วบุคคลิกหน้าตาท่าทางเป็นเด็กที่น่าเอ็นดูคนนึงครับ เป็นเด็กที่สดใส แล้วมาประกอบกับเสียงที่ไพเราะ น้ำเสียงใกล้เคียงกับคุณพุ่มพวงมาก ซึ่งก็หาได้ยากสำหรับเด็กรุ่นนี้ บวกกับบุคคลิกผิวพรรณหน้าตาก็คล้ายๆ คุณพุ่มพวงด้วย แล้วยิ่งตอนเข้าฉากนะผมต้องขอยกย่องและชมทีมงานคอสตูมเสื้อผ้า รวมถึงทีมงานทุกฝ่าย ที่เนรมิตรให้น้องเปากลายเป็นคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ได้อย่างเหมาะเจาะ เหมาะสมและใกล้เคียงมาก คัดนักแสดงมาได้อย่างเหมาะและประทับใจครับ นิสัยส่วนตัวของน้องเปาเองก็เป็นคนน่ารักนอบน้อม และเสียงดีด้วยครับ

ความรู้สึกที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง
          ความรู้สึกอันดับแรกภูมิใจและดีใจมากครับ ถือว่าเป็นเกียรติประวัติของตัวเองที่ได้มีโอกาสมาเล่นภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง รับบทเป็นครูเพลงที่เราเองก็เคารพนับถือด้วย ในวงการเพลงเราก็เป็นศิลปินทางด้านเพลงอยู่แล้ว อยากจะมีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่องนี้มาตั้งแต่แรก พอได้รับเชิญให้มาเล่นเป็นครูมนต์ เมืองเหนือ ยิ่งดีใจใหญ่เลย แล้วเราก็เป็นคนเหนือด้วย ก็ทั้งดีใจอิ่มเอิบปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ก็นับว่าเป็นนักร้องหญิงในดวงใจของผม ผมยกย่องให้เป็นที่หนึ่งสำหรับนักร้องลูกทุ่งผู้หญิง อธิบายไม่ถูกว่ามีความสุขเพียงใดที่ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ

ฉากประทับใจ
          ฉากที่ธีระพลและผึ้งเข้ามาขมาและฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ในฐานะที่เราเป็นครูเพลงและเป็นผู้ใหญ่เราจะต้องรู้จักการให้อภัยคน ซึ่งมันเป็นฉากที่ต้องเล่นกับอารมณ์อย่างมาก ยอมรับว่ายากพอสมควร แต่จะพยามศึกษานิสัยของครูมนต์ซึมซาบความเป็นตัวของครูมนต์ และถ่ายทอดออกมาไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักของเสียงที่พูดออกมา แววตาที่มองแบบโกรธแต่แล้วก็เอ็นดูอะไรประมาณนี้ล่ะครับ

การร่วมงานกับ ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ
          ป๋อเป็นคนน่ารักไม่ซีเรียส อยู่ในกองถ่ายแล้วอารมณ์ดี บางทีเราเหนื่อยๆหรือเครียด แต่พอมาเจอป๋อเขาจะมีเทคนิคลีลาที่กระตุ้นให้เราคลายเครียด หรือหากว่าเห็นทีมงานเริ่มเครียดๆ เขาก็จะเริ่มทำให้สนุกสนานขึ้นมานับว่าเป็นเด็กดี ที่ถึงแม้จะเป็นพระเอกแนวหน้าแต่ว่านิสัยใจคอไม่มีการถือตัว และทำให้กองถ่ายเครียดมีแต่ความสดชื่นครับ

การร่วมงานกับ ผู้กำกับ บัณฑิต ทองดี
          สำหรับผู้กำกับอ็อด เคยได้ยินชื่อว่าเป็นผู้กำกับรุ่นใหม่ที่มีชื่อ และจากผลงานที่ผ่านมาก็นับได้ว่าเป็นผู้กำกับที่ประสบความสำเร็จในระดับอายุขนาดนี้ เป็นคนมีความสามารถทำงานด้วยแล้วไม่เครียด ไม่เจ้าอารมณ์ไม่ได้ว่าคนอื่นนะครับ แต่สำหรับผู้กำกับบางคนก็ทำให้กองถ่ายเครียด ดุ โมโหง่าย สำหรับผู้กำกับอ็อดแล้วผมว่าเขาจะเป็นผู้กำกับที่มีอนาคตไกลอย่างแน่นอนครับ

คิดว่าเสน่ห์และความประทับใจในภาพยนตร์เรื่องนี้
          คุณค่าและเนื้อหาที่มีเสน่ห์ เราจะได้ชมเรื่องราวชีวิตการดิ้นรนของลูกผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งจากบ้านนอกคอกนาที่มาจากดิน สู้ชีวิตต่อสู้ฝ่าฟันกับอุปสรรคต่างๆ นานา ประสบกับความทุกข์ ความสุข ความผิดหวัง ความสำเร็จอย่างสูงสุด มันคละปนกันไปหมดทั้งในด้านทุกข์ทรมานไปด้วย และมีความสุขชื่อเสียงโด่งดังล้นฟ้า หากได้ชมแล้วรับรองว่าต้องประทับใจเรื่องราวของเด็กผู้หญิงที่ชื่อรำพึง จิตรหาญ ที่น่ายกย่องว่าเป็นคนสู้ชีวิต และสามารถต่อสู้ฟันฝ่าจนมีชื่อเสียงโด่งดังประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นจนไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าเธอเป็น ราชินีลูกทุ่ง ถึงแม้อายุจะไม่ยืนยาวมากเท่าไหร่ แต่โดยส่วนตัวแล้วเป็นผู้หญิงที่น่าสงสาร เป็นผู้หญิงที่น่าเทอญทูนว่าเก่งเหลือเกิน ฟังเพลงของคุณพุ่มพวงแล้วรู้สึกอิ่มเอิบ อิ่มของเสียง ความไพเราะ ความหวาน ความพริ้ว มันพอดีไม่มีขาดและเกิน ฟังแล้วเพราะทุกอณูของความรู้สึก รวมถึงนักแสดงทีมงานทุกคนตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจ ที่จะถ่ายทอดความรู้สึกที่อยู่ลงไปในภาพยนตร์เรื่องพุ่มพวง

ฝากผลงาน
          ขอฝากภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง ที่เป็นการนำชีวประวัติของผู้หญิงนักสู้ จนประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับของคนทั้งประเทศ รับรองว่าคุ้มค่าและยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนมีความฝันได้อย่างแน่นอนครับ 21 กรกฎาคมนี้ เข้าฉาย
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: FB on July 13, 2011, 12:34:38 PM


          “สหมงคลฟิล์ม” และ ภาพยนตร์“พุ่มพวง” จับมือ “ธนาคารออมสิน” แถลงข่าวกิจกรรม “นักร้องแห่งท้องทุ่งสู่เวทีลูกทุ่งแห่งดวงดาว”ประกาศรายชื่อ 20 ทีมเข้ารอบพร้อมเปิดตัวคณะกรรมการ

          บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ร่วมกับ ธนาคารออมสิน จัดงานแถลงข่าวกิจกรรม “นักร้องแห่งท้องทุ่งสู่เวทีลูกทุ่งแห่งดวงดาว” การประกวดร้องเพลงชิงถ้วยเกียรติยศพร้อมทุนการศึกษารวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท โดยเปิดโอกาสให้น้องๆ เยาวชนทั่วประเทศอายุ 8-15 ปี ร่วมประกวดร้องและเต้นเพลงของ ราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้มีน้องๆ ให้ความสนใจและส่งทีมเข้าประกวดมามาก จนในที่สุดคณะกรรมการก็ตัดสินและคัดเลือกออกมาเพียง 20 ทีมสุดท้ายที่ผ่านการเข้ารอบ ณ ลานหน้าโรงภาพยนตร์โนเกีย ชั้น 5 พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เมื่อวันที่ 11 กรกฏาคม ที่ผ่านมา

          โดยคุณพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้กล่าวถึงความสำคัญของกิจกรรมและการเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจกรรมการประกวดร้องเพลงในครั้งนี้ ก่อนที่จะเรียนเชิญคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิร่วมพูดคุยบนเวที ได้แก่ คุณวินัย พันธุรักษ์ นายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, อ.เรืองรอง ไพลิน ผู้ควบคุมการร้องสังกัด แกรมมี่ โกลด์, ครูมนต์ เมืองเหนือ ครูเพลงลูกทุ่ง และคณะกรรมการจากทีมภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ซึ่งนำทีมโดย โปรดิวเซอร์ใหญ่ ปรัชญา ปิ่นแก้ว, บัณฑิต ทองดี ผู้กำกับภาพยนตร์, เปาวลี พรพิมล นางเอกเสียงใสผู้รับบท พุ่มพวง ดวงจันทร์ และผ่านเวทีการประกวดร้องเพลงคว้ารางวัลชนะเลิศกว่าพันเวที และบุญโทน คนหนุ่ม นักแสดงผู้มีดีกรีเชี่ยวชาญด้านการแหล่เพลงเป็นเลิศ โดยในงานยังได้ทำการประกาศผลรายชื่อ 20 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย และแจ้งถึงรางวัลของกิจกรรมการประกวดร้องเพลง โดยมีรางวัลดังนี้ ทีมที่ชนะเลิศอันดับ1, รองชนะเลิศอันดับ 1 และ 2, รางวัลขวัญใจนักโหวต, รางวัลขวัญใจคนทำหนัง และรางวัลชมชอบขวัญใจใบโพธิ์ ซึ่งรวมมูลค่าเงินรางวัลกว่า 200,000 บาท พร้อมได้รับประกาศนียบัตรจากธนาคารออมสินและภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง มอบให้กับทุกคนที่ผ่านการประกวดครั้งนี้ ก่อนปิดท้ายงานแถลงข่าวกิจกรรมด้วยการแสดงโชว์พิเศษจากน้องๆ โรงเรียนสันติราษฏร์ เป็น 1 ใน 20 ทีมที่ผ่านการเข้ารอบ พร้อมเรียนเชิญผู้บริหารจากธนาคารออมสิน, ผู้บริหารจากสหมงคลฟิล์ม, ผู้บริหารจากพารากอน ซีนีเพล็กซ์ รวมทั้งเหล่าคณะกรรมการ และน้องๆ ร่วมถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกในงานครั้งนี้

          สำหรับ 20 ทีมที่ผ่านการเข้ารอบ จะต้องเข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2554 ณ โรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน เวลา 12.00 – 18.00 น. และประกาศผลรางวัลทีมชนะเลิศในวันเดียวกัน โดยผู้ที่สนใจสามารถร่วมเชียร์ทีมที่ผ่านการเข้ารอบได้ในวันนั้น หรือเข้ามาโหวตเชียร์ทีมที่ชอบได้ที่เว็บไซต์ www.poompuangmovie.com และ สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 02-273-0930-9

ประกาศรายชื่อทีมที่ผ่านเข้ารอบ
การประกวดบทเพลง พุ่มพวง
นักร้องแห่งท้องทุ่ง สู่เวทีลูกทุ่งแห่งดวงดาว

1. ทีมลูกทุ่งประชาราษฏร์บำเพ็ญ โรงเรียนประชาราษฏร์บำเพ็ญ กับบทเพลง นักร้องบ้านนอก
http://www.youtube.com/watch?v=dQ5wfp0Gwlk
2. ทีมB.W.N. โรงเรียนบุญวัฒนา กับบทเพลง โลกของผึ้ง
http://www.youtube.com/watch?v=Q6KGh5ld-Yo
3. ทีมโรงเรียนวัดป่าประดู่ โรงเรียนวัดป่าประดู่ กับบทเพลง นักร้องบ้านนอก
http://www.youtube.com/watch?v=agcAaXIfN5w
4. โรงเรียนนวมินทราชูทิศ สตรีวิทยา 2
http://www.youtube.com/watch?v=p567r653an0
5. ทีมลูกทุ่งเลือดหมู-ดำ โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย กับบทเพลงนักร้องบ้านนอกhttp://www.youtube.com/watch?v=Ray_XUo0Axk
6. ทีมซุปเปอร์สตาร์ประชานิเวศน์ โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ กับบทเพลง หม้ายขันหมาก
http://www.youtube.com/watch?v=NXaSxgMq1Bw
7. ทีมวิสุทธิกษัตรี โรงเรียนวิสุทธิกษัตรี กับบทเพลงหม้ายขันหมาก
http://www.youtube.com/watch?v=s4L6rBZ1BfQ
8. ทีมวิสุทธิกษัตรี 2 โรงเรียนวิสุทธิกษัตรี กับบทเพลงแก้วรอพี่
http://www.youtube.com/watch?v=8dpaSboWib8
9. ทีมลูกทุ่งมุ่งสู่ดาว โรงเรียนพะเยาพิทยาคม เพลงกระแซะเข้ามาซิhttp://www.youtube.com/watch?v=uGHhPzd6A_8
10. ทีมนวลอนงค์ ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดอนงคาราม จากบทเพลงแก้วรอพี่
http://www.youtube.com/watch?v=u6kS7pmux50
11. ทีมสงวนหญิง โรงเรียนสงวนหญิง ในบทเพลง นักร้องบ้านนอกhttp://www.youtube.com/watch?v=tmsS_0wnlRo
12. ทีมลีลาสมุทร โรงเรียนสมุทรปราการ ในบทเพลงแก้วรอพี่
http://www.youtube.com/watch?v=fK3xQ3w7QLQ
13. ทีมไซโคลนเมืองคง โรงเรียนเมืองคง ในบทเพลงนักร้องบ้านนอก
http://www.youtube.com/watch?v=RJWZ74RtfiM
14. ทีมสารนารท โรงเรียนสารนารทธรรมาราม ในบทเพลงหม้ายขันหมาก
http://www.youtube.com/watch?v=wawDX8rOoZ4
15. ทีมเทศบาลบ้านหัวหิน โรงเรียนเทศบาลบ้านหัวหิน ในบทเพลงแก้วรอพี่
http://www.youtube.com/watch?v=L7ZcLqOHiUU
16. ทีมนาฏดุริยางค์แดนซ์ โรงเรียนนาฏดุริยางค์ ในบทเพลงหม้ายขันหมาก
http://www.youtube.com/watch?v=LXxmhSTMdu4
17. ทีมสายรุ้ง โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์ ในบทเพลง หม้ายขันหมาก
http://www.youtube.com/watch?v=ja0RH-6iWQE
18. ทีมสายน้ำ โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์ ในบทเพลง ดาวเรืองดาวโรย
http://www.youtube.com/watch?v=4bzhSjFOIXs
19. ทีม A โรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต ในบทเพลงแก้วรอพี่
http://www.youtube.com/watch?v=9bJqJqixILU
20. ทีม W.B.P. Team โรงเรียนวัดบางพูน ในบทเพลง ดาวเรืองดาวโรย
http://www.youtube.com/watch?v=V4QDCON6IcE

          โดยทั้ง 20 ทีม จะต้องเข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2554 ที่โรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ตั้งแต่เวลา 12.00 – 18.00 น. เพื่อหาผู้ที่จะได้รับรางวัลชนะเลิศ ซึ่งการประกวดดังกล่าวจะจัดขึ้นต่อหน้าคณะกรรมการและประชาชนทั่วไป และจะมีการตัดสินรางวัลในวันดังกล่าวพร้อมทั้งมอบรางวัลสำหรับ ทีมที่ชนะเลิศ, รองชนะเลิศอันดับ 1 และ 2, รางวัลขวัญใจมหาชน,รางวัลขวัญใจคนทำหนัง และรางวัลอื่นๆ ซึ่งเพลงที่จะใช้ประกวดนั้นต้องไม่ซ้ำกับเพลงเดิมที่ใช้ในการประกวดรอบแรก และอยู่ในจำนวน 5 เพลง ที่ทางบริษัทฯ กำหนดให้

          ** ทั้งนี้รายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบทั้ง 20 ทีม มิได้เรียงตามลำดับคะแนนหรือความสามารถ เป็นการจัดลำดับโดยการสุ่มเท่านั้น และมิใช่หมายเลขในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ โดยทั้งนี้ในวันแข่งขันจะมีการจับสลากเพื่อจัดลำดับทีมที่ขึ้นเวทีประกวดอีกครั้งหนึ่ง
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: FB on July 17, 2011, 01:56:45 PM
“เปาวลี” จัดเต็ม ชุดคอนเสิร์ตสมจริง หน้าผม หางเครื่อง พร้อมโชว์เพลง “พุ่มพวง”



          มาถึงฉากคอนเสิร์ตแต่ละฉากในภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” เป็นการรวบรวมคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ และสุดประทับใจหวนคืนกลับมาอีกครั้ง ทุกฉากถูกออกแบบงานสร้างด้านโปรดักชั่นดีไซน์เหมือนจำลองมาจากเวทีจริงที่ “ราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์” เคยโชว์ลีลาการเต้นและน้ำเสียงร้องบนเวทีคอนเสิร์ต เช่น คอนเสิร์ตโลกดนตรี, คอนเสิร์ตโรงแรมดุสิตธานี และรวมไปถึงคอนเสิร์ตในครั้งต่างๆ แม้กระทั่งชุดเสื้อผ้า รวมถึงหน้าผมทุกอย่างถูกบรรจงสร้างเสมือนจริงทั้งหมดโดยทีมงานออกแบบเสื้อผ้า และทีมช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ซึ่งนางเอกน้องใหม่เจ้าของฉายา “เหน่อเสน่ห์” น้องเปา-เปาวลี พรพิมล เล่าถึงความภูมิใจที่ได้มีโอกาสแต่งชุดคอนเสิร์ตหลากหลายชุดในภาพยนตร์ครั้งนี้ว่า

          “นอกจากจะเป็นนักร้องราชินีลูกทุ่งอันดับหนึ่งแล้ว ต้องยกให้แม่ผึ้ง-พุ่มพวง ดวงจันทร์เป็นผู้นำด้านแฟชั่นการแต่งกายอีกด้วยค่ะ เพราะชุดแต่ละชุดไม่น่าเชื่อว่ายุคนั้นจะออกแบบดีไซน์ออกมาได้ทันสมัย นำมาใส่ในยุคนี้ก็ยังได้ ไม่รู้สึกว่าเชยเลยสักนิดค่ะ ส่วนตัวเปาเองก็รู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่ได้มีโอกาสใส่ชุดคอนเสิร์ตในเรื่องนี้ด้วย ต้องขอขอบคุณพี่ป็อป-เอกศิษฏ์ มีประเสริฐสกุล ผู้ออกแบบเสื้อผ้าชุดเครื่องแต่งกายนักแสดงรวมถึงหางเครื่องทุกคนในเรื่องนี้ ทำออกมาได้เหมือนมาก โดยเฉพาะทุกๆ ฉากคอนเสิร์ต แต่ละชุดอลังการ สวยงาม ยกตัวอย่างฉากคอนเสิร์ตโลกดนตรี จะเป็นชุดกระโปรงสีขาวยาวมีโบว์ผูกผมอันใหญ่ๆ หรือฉากคอนเสิร์ตโรงแรมดุสิตธานี จะเป็นชุดลายเสือมีผ้าคาดหัวลายเสือ เป็นชุดที่หลายคนจดจำแม่ผึ้งได้จนถึงทุกวันนี้ค่ะ ซึ่งในเรื่องนี้เปาใส่ชุดเฉพาะฉากคอนเสิร์ตไม่ต่ำกว่า 20 ชุด และแต่ละชุดหน้าผมจะเป็นคนละแบบกันด้วย วันไหนที่ต้องถ่ายฉากคอนเสิร์ตหลายคอนเสิร์ต เปาก็ต้องเปลี่ยนชุดเปลี่ยนหน้าผมทั้งวันเลยค่ะ สนุกดีชอบถูกจับแต่งตัวเหมือนตุ๊กตาเลย (หัวเราะ) ชุดที่เปาชอบมากที่สุดคือชุดลายเสือ ส่วนทรงผมเปาชอบผมสั้นค่ะ คิดว่าสักวันนึงถ้ามีโอกาสเปาจะตัดทรงนี้ให้ได้ค่ะ”

          “พุ่มพวง” ภาพยนตร์แห่ง น้ำตาหยดแรก บทเพลงแห่งแรก และความรักครั้งแรก ร่วมสร้างแรงบันดาลใจและการกลับมาของราชินีลูกทุ่งผู้โด่งดังโดย เปาวลี พรพิมล และ ณัฐวุฒิ สกิดใจ ผลงานกำกับโดย บัณฑิต ทองดี พร้อมสร้างความประทับใจ 21 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: FB on July 20, 2011, 06:44:20 PM
“เปาวลี” ตื่น!ห้องอัด บิ้วอารมณ์โชว์เพลง “แก้วรอพี่”


 
           อีกหนึ่งฉากประทับใจของสาวน้อย ฉายา เหน่อเสน่ห์ “น้องเปา-เปาวลี พรพิมล” ในภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง เป็นฉากที่เล่าถึงจุดเริ่มต้นและจุดเปลี่ยนของชีวิต พุ่มพวง ดวงจันทร์ เมื่อความฝันอยากเป็นนักร้องกำลังจะกลายเป็นจริงขึ้นมา และเมื่อครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ รับบทโดย “บุญโทน คนหนุ่ม” ได้พาเธอเข้าห้องอัดเสียงเพลงเป็นครั้งแรกในชีวิต แล้วขับร้องเพลงที่ชื่อ แก้วรอพี่ ซึ่งมี ธีระพล แสนสุข รับบทโดย “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” ตามไปเป็นกำลังใจถึงห้องอัดเสียงครั้งนี้ ก่อนที่จะเริ่มเป็นนักร้องเต็มตัวและโด่งดังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมาจนถึงทุกวันนี้ โดยน้องเปารีบอาสายกมือแซงหน้านักแสดงรุ่นพี่ ขอเล่าถึงความประทับใจในฉากนี้ว่า

           “สำหรับฉากนี้ คือฝันที่เป็นจริงของแม่ผึ้งเลยค่ะ เพราะหลังจากที่มาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ อยู่ได้สักพักนึงและก็ซ้อมเต้นเป็นหางเครื่อง จนเมื่อโอกาสมาถึงครูไวพจน์เห็นแววก็พาไปห้องอัดเสียง เพลงแรกที่ได้บันทึกเสียงคือ เพลงแก้วรอพี่ ฉากนี้เปาจะต้องแสดงอารมณ์ดีใจมากที่ตัวเองจะได้เป็นนักร้องแล้ว แต่อีกอารมณ์ก็จะรู้สึกเครียดและกดดันไม่น้อย เพราะว่าด้วยความที่อ่านหนังสือไม่ออกแล้วจะร้องเพลงได้อย่างไร หากครูไวพจน์รู้ก็กลัวว่าจะไม่ได้เป็นนักร้อง ซึ่งก็มีเพียงธีระพล คนเดียวที่รู้ว่าผึ้งอ่านหนังสือไม่ออก จึงได้ช่วยซ้อมท่องจำเนื้อเพลงมาก่อนจะเข้าห้องอัดเสียงจริงค่ะ

          ที่เปาประทับใจฉากนี้ เพราะว่าเปาประทับใจและชื่นชมในความสามารถ ความอัจฉริยะของแม่ผึ้ง ที่อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้แต่สามารถร้องเพลงและจดจำบทเพลงได้กว่า 500 เพลง และเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น เข้มแข็งอดทนอย่างมาก ยอมฝ่าฟันอุปสรรคเรื่องราวต่างๆ เพื่อความฝันของตัวเอง จนกลายเป็นนักร้องราชินีลูกทุ่งของคนไทยทั้งประเทศค่ะ เปาขอฝากภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง ด้วยนะคะ อยากให้มาชมกันเยอะๆ มาดูเรื่องราวชีวิตของแม่ผึ้ง รับรองว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนได้อย่างแน่นอนค่ะ”

          “พุ่มพวง” ภาพยนตร์แห่ง น้ำตาหยดแรก บทเพลงแห่งแรก และความรักครั้งแรก ร่วมสร้างแรงบันดาลใจและการกลับมาของราชินีลูกทุ่งผู้โด่งดังโดย เปาวลี พรพิมล และ ณัฐวุฒิ สกิดใจ ผลงานกำกับโดย บัณฑิต ทองดี พร้อมสร้างความประทับใจ 21 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

          “พี่จ๋าพี่ สัญญาปีนี้ แล้วไม่มาแต่ง ค่าสินสอด ก็ไม่แพง หรือ พี่แกล้งให้แก้วรอ เรื่อยไป...”
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: FB on July 24, 2011, 03:24:53 PM
เชิญร่วมงานประกวดร้องเพลงพุ่มพวงวันเสาร์ที่ 23 ก.ค “พุ่มพวง นักร้องแห่งท้องทุ่ง สู่เวทีลูกทุ่งแห่งดวงดาว”

           สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ร่วมกับ ธนาคารออมสิน จัดกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อเยาวชนระหว่างอายุ 8-15 ปี ที่มีใจรักในการร้องเพลงลูกทุ่ง ประกวดร้องและเต้นบทเพลงของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ เข้าร่วมประกวดร้องเพลงในกิจกรรม “พุ่มพวง นักร้องแห่งท้องทุ่งสู่เวทีลูกทุ่งแห่งดวงดาว” เพื่อชิงทุนการศึกษากว่า 200,000 บาทพร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ โดยรอบแรกได้ทำการคัดเลือกทีมที่ผ่านการคัดเลือให้เหลือ 20 ทีม และจะทำการแข่งขันตัดสินรอบชิงชนะเลิศของกิจกรรมครั้งนี้ ในวันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม 2554 ตั้งแต่เวลา12:00-17:15 น. ที่ ลานฮอลลิวูด ฮอลล์ ชั้น 1 โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน
 
           โดยกิจกรรม “พุ่มพวง นักร้องแห่งท้องทุ่งสู่เวทีลูกทุ่งแห่งดวงดาว” รอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ ได้เรียนเชิญ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อเป็นผู้ร่วมตัดสิน พร้อมยังร่วมด้วยนักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ได้แก่ น้องเปา-เปาวลี พรพิมล นางเอกดาวรุ่งมาแรง ผู้รับบท “พุ่มพวง ดวงจันทร์” , บุญโทน คนหนุ่ม ศิลปินนักแหล่อันดับต้นของประเทศไทย และผู้กำกับภาพยนตร์ อ๊อด-บัณฑิต ทองดี ที่มาร่วมเป็นคณะกรรมการในการตัดสินการประกวดร้องเพลงสำหรับรางวัลพิเศษ “รางวัลขวัญใจคนทำหนัง” เพียงหนึ่งทีมเท่านั้นที่จะถูกใจและโดนใจ พร้อมพบกับโชว์พิเศษจาก น้องเปา-เปาวลี และทำการตัดสินทีมชนะเลิศการประกวด มอบเงินรางวัลทุนการศึกษาในกิจกรรมการประกวดครั้งนี้
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: FB on July 24, 2011, 03:27:01 PM
“พุ่มพวง” จัดรอบปฐมทัศน์ “ป๋อ-เปา” นำทีมนักแสดง โชว์มินิคอนเสิร์ตบทเพลงอมตะสุดฮิต “พุ่มพวง ดวงจันทร์”

 

          สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และบาแรมยู ร่วมกับภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” จัดงานรอบปฐมทัศน์ด้วยการโชว์มินิคอนเสิร์ตรำลึกบทเพลงอมตะของ “ราชินีลูกทุ่ง-พุ่มพวง ดวงจันทร์” ด้วยน้ำเสียงสุดไพเราะจากนางเอกดาวรุ่งมาแรง เปาวลี พรพิมล ร่วมด้วยนักแสดงนำคุณภาพอย่าง ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ, บุญโทน คนหนุ่ม, ถนอม สามโทน และผู้กำกับภาพยนตร์ บัณฑิต ทองดี ณ ลานอินฟินิซิตี้ ชั้น 5 พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา

          บรรยากาศงานชวนให้หวนรำลึกถึงนักร้องสาวในดวงใจ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศ ก่อนเริ่มงานด้วยการโชว์แสดงมินิคอนเสิร์ต เปิดเวทีด้วยบทเพลง นักร้องบ้านนอก, ผู้ชายในฝัน, กระแซะเข้ามาสิ และโลกของผึ้ง จัดเต็มทั้งหมด 4 เพลงรวดเป็นครั้งแรก ที่ยังไม่เคยโชว์เต็มขนาดนี้บนเวทีแห่งไหนมาก่อน จากน้ำเสียงคุณภาพอันไพเราะของ น้องเปา-เปาวลี พรพิมล ร่วมด้วยบรรดาแดนเซอร์ครบเซ็ทที่ออกมาวาดลวดลาย และโชว์ลีลาอย่างสวยงามสุดอลังการทั้งเพลงช้าและเพลงเร็ว จากนั้นร่วมพูดคุยเกี่ยวกับความรู้สึกที่มีต่อ พุ่มพวง ดวงจันทร์ และการนำเรื่องราวชีวประวัติที่น่ายกย่องและเชิดชูมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง จากเหล่านักแสดงนำที่นำทีมด้วยพระเอกหล่อเจ้าเสน่ห์ ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ, บุญโทน คนหนุ่ม, ถนอม สามโทน และผู้กำกับภาพยนตร์ บัณฑิต ทองดี พร้อมทั้งเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศมาร่วมสร้างปรากฏการณ์แสดงพลังรักและศรัทธาแด่ ราชินีลูกทุ่ง หนึ่งเดียวของไทย ในวันที่ 21 กรกฏาคมนี้ที่โรงภาพยนตร์ ปิดท้ายด้วยการได้รับเกียรติจากเหล่าผู้บริหาร บ.สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล, บ.โซตัส อินเตอร์เนชั่นแนล, บ.ไทยประกันชีวิต, ธ.ออมสิน, โรงภาพยนตร์ พารากอนซีนีเพล็กซ์, ทีมงานภาพยนตร์ทั้งโปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ นักแสดง, ครอบครัวของพุ่มพวง ดวงจันทร์ รวมถึงคุณไกรสร แสงอนันต์, ครูมนต์ เมืองเหนือ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก ก่อนที่แฟน(คลับ)ของป๋อ-ณัฐวุฒิ จะแห่มาร่วมกันแสดงความยินดีมอบช่อดอกไม้ ด้านน้องเปา-เปาวลี ถึงจะเป็นนางเอกหน้าใหม่แต่บรรดาแฟนคลับมากันล้นงานเช่นกันมอบช่อดอกไม้ ส่งเสียงกรี๊ดร่วมยินดีในงานรอบปฐมทัศน์ครั้งนี้

          “พุ่มพวง” ภาพยนตร์แห่ง น้ำตาหยดแรก บทเพลงแห่งแรก และความรักครั้งแรก ร่วมสร้างแรงบันดาลใจและการกลับมาของราชินีลูกทุ่งผู้โด่งดัง พร้อมสร้างความประทับใจ 21 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

          “เขยิบ เขยิบ เขยิบ เขยิบ เข้ามาสิ…กระแซะ กระแซะ กระแซะ กระแซะ เข้ามาสิ”
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: FB on July 27, 2011, 05:37:46 PM
“รร.วัดป่าประดู่” สุดเจ๋งคว้าแชมป์ชนะเลิศร้องและเต้น กิจกรรม “พุ่มพวง นักร้องแห่งท้องทุ่งสู่เวทีลูกทุ่งแห่งดวงดาว”

 
 
          สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ร่วมกับ ธนาคารออมสิน จัดกิจกรรมประกวดร้องเพลง “พุ่มพวง นักร้องแห่งท้องทุ่งสู่เวทีลูกทุ่งแห่งดวงดาว” เพื่อชิงทุนการศึกษากว่า 200,000 บาทพร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ และในวันเสาร์ที่ 23 กรกฏาคมที่ผ่านมา ณ ลานฮอลลิวูด ฮอลล์ ชั้น 1 โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน เป็นการตัดสินการประกวดรอบชิงชนะเลิศ และเรียนเชิญ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้แก่ คุณวินัย พันธุรักษ์ นายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, อ.เรืองรอง ไพลิน ผู้ควบคุมการร้องสังกัด แกรมมี่ โกลด์, ครูมนต์ เมืองเหนือ ครูเพลงลูกทุ่ง และคณะกรรมการจากทีมภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ซึ่งนำทีมโดย โปรดิวเซอร์ใหญ่ ปรัชญา ปิ่นแก้ว, บัณฑิต ทองดี ผู้กำกับภาพยนตร์, เปาวลี พรพิมล นางเอกมาแรงผู้รับบท พุ่มพวง ดวงจันทร์ และผ่านเวทีการประกวดร้องเพลงคว้ารางวัลชนะเลิศกว่าพันเวที และบุญโทน คนหนุ่ม นักแสดงผู้มีดีกรีเชี่ยวชาญด้านการแหล่เพลงเป็นเลิศ เพื่อเป็นผู้ร่วมตัดสินในกิจกรรมครั้งนี้

          ซึ่งน้องๆ ทั้ง 20 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบ เตรียมความพร้อมทั้งร้องและเต้นกันอย่างเต็มที่ โชว์ความสามารถกันอย่างสุดฤทธิ์ เสื้อผ้าหน้าผมจัดเตรียมกันมาแบบอลังการสุดๆ แต่ก่อนจะถึงนาทีแห่งการตื่นเต้นและภาคภูมิใจ การประกาศผลรางวัลชนะเลิศ น้องเปา-เปาวลี พรพิมล นางเอกจากภาพยนตร์ก็เตรียมบทเพลงเพราะๆ มาร้องโชว์เสียงสดๆ ในงานนี้คือ เพลงสาวนาสั่งแฟน เรียกเสียงฮือฮาและเสียงปรบมือดังสนั่นลั่นโรงภาพยนตร์ หลังจากนั้นก็ถึงเวลาแห่งการรอคอยที่น้องๆ ลุ้นกันสุดตัวว่า ทีมไหน โรงเรียนอะไร จะคว้าแชมป์ไปครอง และในที่สุดก็ได้ทีมชนะเลิศคว้าแชมป์อันดับ 1 คือ โรงเรียนวัดป่าประดู่ เพลงโลกของผึ้ง, ทีมรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ โรงเรียนเมืองคง เพลงนักร้องบ้านนอก, ทีมรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ โรงเรียนสายน้ำผึ้ง เพลงกระแซะเข้ามาสิ นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษให้กับน้องๆ ที่เข้าร่วมประกวดร้องเพลงในครั้งนี้ ได้แก่ รางวัลขวัญใจคนทำหนัง (รางวัลประทับใจจากผู้สร้างและนักแสดงจากภาพยนตร์พุ่มพวง) คือ โรงเรียนปักธงชัยประชานฤมิต, รางวัลพุ่มพวงน้อยขวัญใจนักโหวต (รางวัลจากผู้โหวตทาง www.poompuangmovie.com) คือ โรงเรียนวิสุทธิกษัตรี และรางวัลชมชอบ (รางวัลพิเศษเพื่อเป็นกำลังใจให้เด็กๆ ที่มีความพยายามในการแข่งขัน) จำนวน 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง, โรงเรียนวัดสิตาราม และโรงเรียนวัดทุ่งครุ

          ปิดท้ายกิจกรรมด้วยการได้รับเกียรติจากเหล่าผู้บริหาร คุณเตือนใจ เตชะรัตนประเสิรฐ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, คุณเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน, คุณอภิชาติ คงชัย รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจโรงภาพยนตร์บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด พร้อมด้วยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ, นักแสดง, ทีมงานสร้าง และน้องๆ ทีมชนะเลิศการประกวด ร่วมถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกในกิจกรรมครั้งนี้
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: FB on July 29, 2011, 06:25:26 PM
Gossip News: พุ่มพวง


 
          - เสาร์ 30 ก.ค.นี้ เตรียมพบกับ “พี่ป๋อ-น้องเปา” พระ-นางที่กำลังมาแรงจากภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง เตรียมตัวเดินสายทั้งโปรโมทหนังและขอบคุณที่ช่วยกันอุดหนุนหนังไทย ใครอยากฟังเสียงร้องน้องเปา เจอตัวเป็นๆของพี่ป๋อ ห้ามพลาด! เวลา 13.00 น. แฟชั่นไอส์แลนด์ และ เวลา 16.00 น. เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รังสิต

          - ถ้าช่วงนี้เห็น “น้องเปา-เปาวลี” จับปากกามากกว่าไมค์ คงไม่ต้องแปลกใจนะ เพราะตอนนี้ไม่ว่าจะเดินไปไหนก็มีแต่แฟนคลับทั้งรุ่นใหญ่-รุ่นเล็ก แห่ขอลายเซ็นต์ และขอถ่ายรูปด้วยตลอดทาง นี่แค่แสดงหนังเรื่องแรกก็ดังเปรี้ยงปร้างขนาดนี้ซะแล้ว แจ๋วจริงนะเธอยกนิ้วให้เลย

          - กระแสหนังเรื่อง พุ่มพวง มาแรง นักแสดง “พี่ป๋อ-น้องเปา” ก็แรงไม่แพ้กัน แต่ที่แรงกว่า คือแฟชั่นเสื้อผ้าลายเสือที่ตอนนี้กำลังกลับมาฮิต และอินเทรนด์กันแบบสุดๆขนาด “เอ๋-พรทิพย์” แฟนสาวพระเอกป๋อ ยังถอยชุดเสือมาแล้ว 3 ชุด แหม!ช่วยกันโปรโมทหนังกันสุดฤทธิ์ขนาดนี้ช่างน่ารักจริงๆเลยนะ
 
          - น้องเปาพี่ป๋อเต้นน่ารักเชียว ลองดูคลิปนี่สิ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Ud1LKb3fzE0" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Ud1LKb3fzE0</a>
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: FB on July 29, 2011, 06:26:08 PM
“ป๋อ-ณัฐวุฒิ” ปลื้มกระแสหนังแรงส์! โดนใจ “รุ่นใหญ่” ยัน “วัยโจ๋”


 
          ดีใจจนหน้าบาน หุบยิ้มกันไม่ลงเลยทีเดียวสำหรับภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” ที่เข้าโรงหนังฉายไปแล้วได้หนึ่งสัปดาห์ ทั้งผู้กำกับ “บัณฑิต ทองดี” และนักแสดงนำทั้ง “น้องเปา-เปาวลี” และ “พี่ป๋อ-ณัฐวุฒิ” ต่างก็ปลาบปลื้มที่กระแสการตอบรับของหนังแรงและออกมาดีมาก โดยเฉพาะพระเอกป๋อ ที่ช่วงนี้เดินสายพาญาติพี่น้องตระเวนชมภาพยนตร์อย่างไม่หยุดหย่อน และประทับใจที่เห็นคนไทยช่วยอุดหนุนหนังไทย

          “กระแสดีมากๆ อย่างที่ไม่คาดคิดครับ เพราะตอนเริ่มโปรเจ็คต์ภาพยนตร์พุ่มพวง ผมเองก็แอบหวั่นๆ ในเรื่องราวของคุณพุ่มพวง ที่ผมจะต้องเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดบทบาทของคุณธีระพล ยอมรับว่าแอบเกร็งๆ และไม่ค่อยมั่นใจเรื่องการตอบรับสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะวัยรุ่นไม่รู้ว่าจะตอบรับขนาดไหน คิดว่าพวกน้องๆ วัยรุ่นยุคนี้คงไม่ทันในยุคของคุณพุ่มพวง แต่กลับตรงกันข้ามครับ วัยรุ่นให้การตอบรับกับหนังอย่างดีมาก พวกเขาอยากรู้ว่าคุณพุ่มพวงคือใคร เรื่องราวความสนุก ความเศร้าของหนังพวกเขาสามารถเข้าถึงได้ และที่ผมประทับใจอีกอันคือ การที่ได้เห็นพวกลูกๆ จูงมือคุณพ่อ คุณแม่ไปดูหนังเรื่องนี้กัน ผมเชื่อว่าเราไม่ได้เห็นภาพแบบนี้กันนานแล้วนะ หรือ บางคนยังไม่เคยดูหนังกับพ่อแม่มาก่อนก็ได้มีโอกาสไปดูด้วยกันในครั้งนี้ กลายเป็นปรากฏการณ์แห่งความประทับใจของความเป็นครอบครัว รู้สึกดีใจกับคนไทยที่ยังให้ความสำคัญกับหนังไทย ต้องขอขอบคุณแทนคุณพุ่มพวงด้วยนะครับ ใครที่ยังไม่ได้ดูก็อยากเชิญชวนให้ไปดูกัน “พุ่มพวง” เรื่องราวที่สร้างขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนครับ”

          “พุ่มพวง” ภาพยนตร์แห่ง น้ำตาหยดแรก บทเพลงแห่งแรก และความรักครั้งแรก ที่ป๋อ-ณัฐวุฒิขอร้องเพลง “กระแซะ กระแซะ กระแซะ กระแซะ...เข้ามาสิ เขยิบ เขยิบ เขยิบ เขยิบ...เข้ามาสิ” เข้าฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: FB on August 07, 2011, 12:59:05 PM
“เปาวลี” แจ้งเกิดบท “พุ่มพวง” ยิ้มรับกระแสหนัง ลุยเดินสายโปรโมทหนังต่อ


 
          แสดงหนังเรี่องแรกก็ดังเปรี้ยงปร้างขนาดนี้ สำหรับนางเอกสาวเสียงดี “น้องเปา-เปาวลี พรพิมล” จากภาพยนตร์เรื่องพุ่มพวง แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับบท “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ที่ตอนนี้เดินสายโปรโมทหนังจนไม่มีเวลาพักผ่อน ซึ่งไปแต่ละที่น้องเปาเตรียมโชว์ทั้งร้อง และเต้น เพื่อบรรดาแฟนเพลงและแฟนหนัง ทำให้ตอนนี้แฟนคลับน้องเปาเพิ่มมากขึ้นทุกวันๆตั้งแต่รุ่นเด็กน้อยจนถึงรุ่นผู้ใหญ่กันเลยทีเดียว ต่อให้ต้องโปรโมทจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน น้องเปาก็ขอสู้ตาย เพื่อเป็นการตอบแทนและขอบคุณแฟนคลับทุกคน

          “กระแสหนังตอนนี้ดีมากค่ะ คนเริ่มจำเปาได้จากที่เห็นในรายการทีวี การไปโชว์ตัวโปรโมททั้งต่างจังหวัด และในกรุงเทพฯ แม้แต่ในเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ก็มีตามเข้ามาคอมเม้นท์ว่าไปดูหนังมาแล้วนะ ชอบหนังมาก เยอะอยู่เหมือนกันค่ะ มีวันนึงเปาพาญาติไปดูหนัง ไปเจอกลุ่มนึงเขาก็มาดู พุ่มพวง เช่นกัน พวกเขาใส่ชุดเสือกันมาทั้งกลุ่ม เพื่อดูหนังเรื่องนี้กันเลยประทับใจมากเลยค่ะ เปาก็ขอขอบคุณทุกคนมากเป็นผลงานเรื่องแรกของเปาด้วย เปาตั้งใจทำงานออกมาอย่างเต็มที่ รวมถึงนักแสดงท่านอื่น และทีมงานทุกคนเต็มที่กันมาก ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะมีคนเข้ามาดูหนังกันมากน้อยขนาดไหน แต่พอหนังฉายแล้วมีคนเข้าไปดูเรื่องนี้ทั้งเด็กเล็ก เด็กวัยรุ่น ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่ทันยุคแม่ผึ้งก็มี บางคนก็บอกว่าดูแล้วซึ้งมากน้ำตาไหล ได้ยินแบบนี้แล้วเปารู้สึกประทับใจ และรู้สึกดีมากหายเหนื่อยไปเลยค่ะ สำหรับใครที่ไปดูหนังมาแล้วเปาก็ขอขอบคุณมากเลยนะคะ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดูก็อยากชวนให้เข้าไปดูในโรงหนัง ช่วยกันอุดหนุนหนังไทยอย่าซื้อแผ่นผีเลยนะคะ หนังเรื่องนี้สร้างขึ้นเพื่อคนไทยทุกคนจริงๆ คุณจะได้แง่คิดที่ดีจากหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอนค่ะ ฝากเป็นกำลังใจให้เปาด้วยนะคะ”

          แหมมม! น่ารักซะขนาดนี้ เป็นใครก็ต้องตกหลุมรักน้องเปากันทั้งนั้น อ้าวช่วยกันไปอุดหนุนหนังไทยและเป็นกำลังใจให้น้องเปากันด้วยนะ “พุ่มพวง” ฉายแล้วทุกโรงภาพยนตร์จ้า

          “เขยิบ เขยิบ เขยิบ เขยิบ...เข้ามาสิ กระแซะ กระแซะ กระแซะ กระแซะ...เข้ามาสิ”
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: FB on August 07, 2011, 01:00:53 PM
“เปาวลี” ควง “ป๋อ” บุกโรงหนังสร้างเซอร์ไพรซ์ขอบคุณแฟนหนัง “พุ่มพวง”





          ถึงแม้ว่าจะลงโรงเข้าฉายไปได้ซักพักแล้ว แต่กระแสความแรงก็ยังมีทีท่าว่าจะยั้งไม่อยู่สำหรับภาพยนตร์แห่งแรงบันดาลใจ พุ่มพวง งานนี้หลายๆ คนที่ได้ชมถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ อีกทั้งความแรงของภาพยนตร์ยังทำให้เกิดดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการ เปาวลี พรพิมล สาวน้อยมหัศจรรย์ผู้รับบทเป็น พุ่มพวง ดวงจันทร์ ซึ่งสามารถถ่ายทอดเรื่องราวของพุ่มพวง ดวงจันทร์ได้ออกมาอย่างน่าประทับใจ ทำให้ตอนนี้หลายๆ คนตั้งตัวเป็นแฟนคลับของเธอไปซะแล้ว และเพื่อเป็นการตอบแทนทุกกำลังใจที่มอบให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ สาวเปาของเราเลยถือโอกาสบุกเข้าไปทักทายบรรดาแฟนคลับถึงหน้าโรงภาพยนตร์เลยทีเดียว 

          เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปหน้าโรงภาพยนตร์เท่านั้นแหละ สาวเปาของเราก็ถูกรุมล้อมไปด้วยแฟนคลับนับร้อยที่รอมาให้กำลังใจ แต่งานนี้ไม่ได้มีแต่นางเอกในเรื่องเท่านั้น ยังมีป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ ผู้รับบทเป็น ธีระพล แสนสุข ที่ตามมาเป็นเซอร์ไพรซ์สร้างสันให้กับในงานอีกด้วยพร้อมทั้งร่วมพูดคุยถึงความประทับใจที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ในบรรยากาศที่เป็นกันเองแบบสุดๆ แถมยังชวนแฟนๆ ของภาพยนตร์ขึ้นมาร่วมเล่นเกมส์แจกของรางวัลอีกด้วย งานนี้แม่ยกทั้งหลายมีหรอจะพลาด ต่างรีบกรูกันเข้ามาร่วมสนุกจนเวทีแทบพัง และสุดท้ายก่อนกลับทั้งเปาและป๋อก็ร่วมกันแจกลายเซ็นให้กับแฟนๆ อย่างใกล้ชิด เรียกว่างานนี้ไม่รู้ใครกรี๊ดใครซะแล้วเพราะไหนจะเปาไหนจะป๋อเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว

          “หลังจากที่หนังเข้าโรงฉายแล้วก็ดีใจมากที่มีคนพูดถึงหนังเรื่องนี้เยอะ เพราะหนูไม่คิดว่าแฟนๆ จะตอบรับดีมากขนาดนี้ แล้วไหนจะมีเด็กๆ วัยรุ่นอีก ดีใจที่วัยรุ่นยังรู้จักยังชอบร้องเพลงของแม่ผึ้ง พุ่มพวง และหนูก็เชื่อว่าทุกวันนี้ยังมีหลายๆ คนที่ยึดเอาแม่ผึ้งที่แบบอย่างทั้งในเรื่องการร้องเพลงและเรื่องการเอาชนะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้ถึงฝัน อยากให้คนที่ได้ดูหนังมีกำลังใจมีแรงบันดาลใจทำตามความฝันให้สำเร็จ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดูก็ฝากติดตามด้วยนะค่ะ หนูหวังว่าจะได้อะไรดีๆ กลับไปและสร้างกำลังใจให้ตัวเอง และสุดท้ายต้องขอขอบคุณแฟนๆ ที่สนับสนุนหนังเรื่องนี้มาตลอด ขอบคุณมากจริงๆ คะ”

          ถือว่าเป็นปรากฎการ์ณแห่งปีก็ว่าได้สำหรับภาพยนตร์ พุ่มพวง ที่งานนี้เรียกได้ว่าไม่ควรพลาดอย่างแรง อยากอินเทรด์นำสมัยสไตล์ลายเสื้อแบบพุ่มพวงแล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาดชมภาพยนตร์แห่งแรงบันดาลใจ พุ่มพวง วันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: FB on August 10, 2011, 06:37:53 PM
ภาพข่าว: “สหมงคลฟิล์ม” ร่วมรำลึกวันคล้ายวันเกิด “ราชินีลูกทุ่ง” จัดฉายภาพยนตร์ “พุ่มพวง” ณ วัดทับกระดาน สุพรรณบุรี



           บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง ร่วมรำลึกถึงวันคล้ายวันเกิดของ “ราชินีลูกทุ่ง-พุ่มพวง ดวงจันทร์” ในวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๔ ด้วยการจัดฉายภาพยนตร์ ณ ใจกลางวัดทับกระดาน จ.สุพรรณบุรี

          โดยการจัดฉายภาพยนตร์ในครั้งนี้นำทีมโดยผู้บริหารของ บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้จัดเตรียมงานและร่วมเดินทางไปฉายภาพยนตร์ด้วยตัวเอง คุณเตือนใจ เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานบริษัท, คุณอวิกา เตชะรัตนประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด, คุณจาตุศม เตชะรัตน ประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด และคุณชมศจี เตชะรัตนประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย รวมถึงทีมสร้าง คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว โปรดิวเซอร์ใหญ่ของภาพยนตร์ และคุณศิตา วอสเบียน ผู้ร่วมควบคุมงานสร้าง ไปร่วมงานรำลึกดังกล่าว

          ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” สร้างขึ้นเพื่อเชิดชูและยกย่องชีวประวัติของ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” นักร้องราชินีลูกทุ่งอันดับหนึ่งเพียงผู้เดียวของประเทศไทย อีกหนึ่งภาพยนตร์ไทยคุณภาพที่คนไทยทุกคนต้องชม วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์
Title: Re: ภาพยนตร์เรื่อง “พุ่มพวง” 21 กรกฎาคม
Post by: FB on August 10, 2011, 06:41:15 PM
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ชวนฉลองวันแม่...ให้ลูกพาแม่ดูหนัง “พุ่มพวง” รอบเช้า-เที่ยง ฟรี!!!



          เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ชวนฉลองวันแม่ ให้ลูกได้บอกรักและตอบแทนพระคุณแม่ ในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ ด้วยการพาแม่ดูหนังเรื่อง “พุ่มพวง” ฟรี รอบเช้า-เที่ยง ที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ทั้ง 5 แบรนด์ คือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, อีจีวี, พารากอน ซีนีเพล็กซ์, เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ และ พาราไดซ์ ซีนีเพล็กซ์ ทุกสาขาในกรุงเทพฯ

          ส่วนคู่แม่ลูกที่ซื้อตั๋วดูหนังเรื่องอื่น ๆ ในวันแม่ รับฟรี...ป๊อปคอร์นขนาด 46 ออนซ์ มูลค่า 50 บาท พิเศษ! คู่แม่ลูกสมาชิกบัตร M Generation รับฟรี...รังนกเบซซ์สูตรไร้น้ำตาล 1 ขวด มูลค่า 80 บาท เป็นของขวัญให้กับคุณแม่ เพียง 1,500 คนแรกเท่านั้น