Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - sianbun

Pages: 1 ... 228 229 [230]
3436
แสนสิริเปิดตัวยิ่งใหญ่ งาน Living in Style 2009 ผนึกความร่วมมือสถาบันการเงิน และพันธมิตรธุรกิจเอกชน รับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ

   
 
          นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน Living in Style 2009 ซึ่งจัดขึ้นโดยบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ณ รอยัล พารากอน ฮอล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยาม พารากอน พร้อมให้เกียรติถ่ายภาพร่วมกับ ดร.โกวิทย์ โปษยานนท์ ประธานกรรมการ นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ และนายวันจักร์ บุรณศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ร่วมด้วยผู้บริหารจากพันธมิตรธุรกิจภาคเอกชน อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), บริษัท โมเดอร์นฟอร์ม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท คิวคอนเซ็พท์ จำกัด ในชื่อแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ EQ3 หนึ่งในเครือของเดคอร์มาร์ท, บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ จำกัด, ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด, บริษัท ค้าสากลซิเมนต์ไทย จำกัด และบริษัท สยามไดกิ้น เซลส์ จำกัด งานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งตอบสนองนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ในการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับสินค้าอื่น อาทิ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของตกแต่งบ้าน วัสดุก่อสร้าง ซึ่งจะนำไปสู่การบริโภคและการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง หนึ่งในความร่วมมือทางธุรกิจที่สำคัญเพื่อการจัดงานที่มีคุณภาพสู่กลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดีเสมอมา

3437
เคทีซี-ทีทีเอเอ-สทน.-ไทย อะมาดิอุส ปลื้ม งาน “เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก 2009” สำเร็จเกินคาด กวาดยอดขายรวมกว่า 800 ล้านบาท คนเที่ยวงานกว่า 7 แสนคน



  นายสถาพร สิริสิงห รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส ฝ่ายการตลาดเพื่อการสันทนาการ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) นางสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) และนายสมเกียรติ รุ่งทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท ไทย - อะมาดิอุส เซาท์อีสเอเชีย จำกัด จัดงานมหกรรมท่องเที่ยวครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ “เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก 2009” โดยมี ฯพณฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยงานในปีนี้มีแนวคิดที่ชัดเจนเพื่อมุ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการและกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคัก และเป็นการสร้างรายได้ให้กับประเทศอีกทางหนึ่ง โดยภายในงานมีการนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวทีน่าสนใจมากมาย เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ชื่นชอบการเดินทางและสมาชิกเคทีซีได้ท่องเที่ยวอย่างหลากหลายและเต็มที่ ซึ่งเพียงชั่วระยะเวลา 4 วันที่จัดงาน มีสมาชิกเคทีซีและผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 700,000 คน มียอดใช้จ่ายในงานรวมสูงกว่า 800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับปี 2550 ซึ่งมียอดใช้จ่ายประมาณ 500 ล้านบาท และมีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีรวมกว่า 240 ล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้นกว่า 93% จากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรในปี 2550 ที่มีเท่ากับ 124 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีสูงที่สุดเท่าที่เราได้ร่วมจัดงานมา และเป็นความสำเร็จที่น่าพอใจที่งานนี้ได้มีส่วนช่วยกระตุ้นให้ภาคประชาชนมีการใช้จ่าย ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ ซึ่งเหตุผลหนึ่งอาจมาจากความคุ้มค่าที่ลูกค้าได้รับจากการซื้อสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐานในงาน นอกจากนี้ยังได้รับความสะดวกสบายและรับมูลค่าเพิ่มยิ่งขึ้นทุกครั้งเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต”

          “สำหรับภาพรวมที่เกิดขึ้นในงานนี้ ได้สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น จากยอดการจองโรงแรม แพ็คเกจท่องเที่ยวและตั๋วเครื่องบินที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันยังมีความผันผวนอยู่มาก แต่การเดินทางท่องเที่ยวได้กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการดำเนินชีวิต คนไทยยังต้องการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อผ่อนคลายและเป็นการรีเฟรชตัวเองให้มีแรงสู้กับปัญหาต่าง ๆ ซึ่งปัจจัยหลักที่เราประสบความสำเร็จจากการจัดงานมหกรรมท่องเที่ยวในครั้งนี้ คือ การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และองค์กรสมาคมต่าง ๆ ได้แก่ เคทีซี สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) และไทย–อะมาดิอุส ที่มีเจตนารมณ์ในการเร่งผลักดันให้เกิดงานแฟร์ท่องเที่ยวที่มีประโยชน์สูงสุดทั้งแก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็น สายการบิน บริษัทนำเที่ยว โรงแรม รถเช่าและสถานที่ท่องเที่ยว รวมไปถึงกลุ่มผู้บริโภคและสมาชิกบัตรเคทีซีที่รักการเดินทางโดยวางแผนจะจัดงานมหกรรมท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของชาติอีกด้วย”

3438
ไอบีเอ็มเปิดตัวนวัตกรรมโครงสร้างไอทีแห่งศตวรรษที่ 21
นวัตกรรมที่ผนวกรวมโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพและดิจิตอลเข้าด้วยกัน
รองรับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในยุคที่โลกเชื่อมต่อเป็นผืนเดียวกัน

บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เปิดตัวบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อช่วยให้ลูกค้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบต่าง ๆ ครอบคลุมตั้งแต่ระบบอัตโนมัติ การควบรวมระบบ ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางดิจิตอลและทางกายภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบก้าวกระโดด ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถตอบสนองและจัดการกับความท้าทายที่มาพร้อมกับโลกที่เชื่อมต่อกันอย่างไร้พรมแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ของไอบีเอ็มถูกออกแบบขึ้นเพื่อช่วยให้ลูกค้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่สอดรับกับความท้าทายที่ทวีความซับซ้อนมากขึ้นทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นภัยคุกคามทางด้านไอทีรูปแบบใหม่ ๆ ระบบห่วงโซ่อุปทาน (ซัพพลายเชน) ที่ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา กฏเกณฑ์หรือระเบียบใหม่ ๆ ที่มีผลต่อการจัดการระบบไอที หรือแม้กระทั่งความท้าทายในยุคที่โลก “ฉลาดขึ้น” ไม่ว่าจะเป็นการที่ประชากรหนึ่งในสามของโลกจะอยู่บนอินเทอร์เน็ตภายในปีพ.ศ. 2554 จำนวนผู้ที่เข้าเว็บผ่านมือถือกว่า 4 พันล้านคนในปัจจุบัน หรือปริมาณข้อมูลเชิงลึกที่เพิ่มขึ้นจำนวนมหาศาลซึ่งมีผลมาจากเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ใช้ในโลกสารพัดแบบ เช่น สมาร์ทเซ็นเซอร์ที่ใช้งานอยู่ตามจุดต่าง ๆ รอบตัวเรา อาร์เอฟไอดีแท๊กส์ ระบบสาธารณูปโภคที่ใช้ระบบกริดอัจฉริยะ เป็นต้น ความท้าทายเหล่านี้คือโจทย์ที่สำคัญต่อการสร้างและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางไอทีสำหรับองค์กรในยุคปัจจุบัน

ด้วยความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายดังกล่าว ไอบีเอ็มได้ออกแบบและพัฒนาแนวทางโครงสร้างพื้นฐานไอทีแบบไดนามิก
(Dynamic Infrastructure) เพื่อรองรับความท้าทายต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

•   การผนวกรวมโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพและดิจิตอลเข้าด้วยกัน เพื่อให้องค์กรสามารถใช้ไอทีในการบริหารจัดการระบบงานธุรกิจ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากรต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถรองรับบริการในรูปแบบใหม่ ๆ (รูปแบบบริการดังกล่าวเรียกว่า การจัดการด้านบริการ หรือ Service Management) ทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
•   ความสามารถในการบริหาร จัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ที่เพิ่มขึ้นถึง 15 เพทาไบต์ในแต่ละวัน ด้วยปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นมหาศาลซึ่งเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและระบบอัจฉริยะต่าง ๆ นี้เอง ทำให้องค์กรต่าง ๆ จำต้องหาวิธีบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีระบบเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ขณะเดียวกันก็จำต้องให้การบริหารจัดการข้อมูลสอดคล้องกับกฎระเบียบต่าง ๆ  และกฏเกณฑ์ใหม่ ๆ  ไม่ว่าจะเป็นนโยบายในการเก็บรักษาข้อมูล การบริหารความเสี่ยง และการจัดการด้านความปลอดภัยข้อมูล เป็นต้น
•   ความจำเป็นที่ต้องบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับระบบไอทีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากปัจจุบันองค์กรหลายแห่งต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่เกี่ยวกับระบบดาต้าเซ็นเตอร์ เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าพื้นที่ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นถึง 8 เท่าจากปีพ.ศ. 2539 ในขณะที่การใช้งานโดยเฉลี่ยของระบบเซิร์ฟเวอร์โดยทั่วไปมีอัตราการใช้งานเพียงแค่ 6-15% เท่านั้น ด้วยเหตุดังกล่าว ทำให้การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง

ด้วยความท้าทายต่าง ๆ นี้เอง ไอบีเอ็มจึงคิดค้นและออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กรที่ต้องการระบบที่มีความยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ (Dynamic Infrastructure) ดังต่อไปนี้ 

•   เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ และซอฟต์แวร์เพื่อจัดการปัญหาข้อมูลซ้ำซ้อน (Data Deduplication) ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดังกล่าวได้แก่ ไอบีเอ็ม โปรเท็คเทียร์ (IBM TS7650 ProtecTIER® Deduplication Appliance) ซึ่งถูกออกแบบขึ้นเพื่อจัดการปัญหาข้อมูลซ้ำซ้อนและช่วยให้ลูกค้าสามารถเก็บรักษาข้อมูลได้นานขึ้น พร้อมทั้งช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กรให้มีประสิทธิภาพและมีความเสถียรมากขึ้น ช่วยองค์กรประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการลดการใช้พลังงาน พื้นที่ติดตั้ง และการบำรุงรักษา และจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลขององค์กร
•   ระบบสตอเรจ ไอบีเอ็ม เอ็กซ์ไอวี (IBM XIV) ระบบสตอเรจรุ่นใหม่ซึ่งถูกออกแบบขึ้นเพื่อให้การเข้าถึงข้อมูลทำได้รวดเร็วขึ้น เช่นในกรณีที่ข้อมูลมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากการใช้งานแอพพลิเคชั่นทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น แอพพลิเคชั่นด้านการเงิน ระบบโรงพยาบาล หรือเวิร์กโหลดใหม่ๆ เช่น สื่อดิจิตอล และเว็บ 2.0 เป็นต้น
•   เซิร์ฟเวอร์ซิสเต็ม ซี10 (System z10) หรือเมนเฟรม ทั้งเอ็นเตอร์ไพรส์คลาส (EC) สำหรับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ และบิสิเนส คลาสสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอันหลากหลาย และมีความยืดหยุ่น รองรับกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็มีจุดเด่นเรื่องความสามารถในการจัดการพลังงาน และระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งนอกจากจะช่วยองค์กรลดค่าใช้จ่ายแล้วยังมีความเสถียรและปลอดภัยสูงอีกด้วย
•   ซอฟต์แวร์และบริการใหม่ภายใต้โซลูชั่นไอบีเอ็ม เซอร์วิส แมเนจเมนท์ ซอฟต์แวร์และบริการดังกล่าวถูกออกแบบขึ้นเพื่อธุรกิจ 7 ประเภท ได้แก่ กลุ่มสาธารณูปโภค เคมีและปิโตรเลียม โทรคมนาคม ค้าปลีก ธนาคาร อิเล็กทรอนิกส์ และการผลิต  โดยซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เช่น ไอบีเอ็ม ทิโวลี่และการบริการทั้งในด้านการให้คำปรึกษาและการสนับสนุนทางเทคโนโลยี ล้วนสนับสนุนให้องค์กรสามารถออกแบบและติดตั้งระบบไอทีที่จัดการและตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดในลักษณะรวมศูนย์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการใช้ทรัพยากรทางด้านไอทีขององค์กร เช่น อุปกรณ์เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น “มิเตอร์อัจฉริยะ” และ RFID เป็นต้น
•   บริการทางด้านการรักษาความปลอดภัยจากแผนกไอเอสเอสของไอบีเอ็ม (Internet Security Systems – ISS)  ช่วยให้ลูกค้าองค์กรปกป้องข้อมูลสำคัญๆ ตั้งแต่ระบบเครือข่ายภายในองค์กรไปจนถึงเครือข่ายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล็ดลอดนำข้อมูลสำคัญออกไปผ่านเครือข่าย โซลูชั่นการเข้ารหัสเพื่อปกป้องข้อมูล เช่น ในกรณีที่อุปกรณ์เชื่อมต่อสูญหายหรือถูกโจรกรรม นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบและควบคุมการใช้อุปกรณ์สตอเรจภายนอกเพื่อจัดเก็บและเคลื่อนย้ายข้อมูล และการปรับปรุงความปลอดภัยของอีเมลทั้งขาเข้าและขาออก เป็นต้น
•   ซอฟต์แวร์อินโฟสเฟียร์ แวร์เฮาส์ (InfoSphere Warehouse) ซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้องค์กรตัดสินใจได้ในแบบเรียลไทม์ โดยอ้างอิงจากข้อมูลธุรกิจสำคัญๆ เพื่อปรับปรุงการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการบริหารคลังข้อมูล (Data Warehouse) ที่สนับสนุนแอพพลิเคชั่นระบบธุรกิจอัจริยะ (Business Intelligence) เช่น ซอฟต์แวร์คอกนอส เป็นต้น
•   ซอฟต์แวร์ไอบีเอ็ม ซิสเต็มส์ ไดเร็คเตอร์  (IBM Systems Director) ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรทั้งแบบกายภาพและเสมือนในระบบดาต้าเซ็นเตอร์ในปัจจุบัน  ซึ่งทำงานในสภาวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการวินโดว์ส ยูนิกซ์ หรือ ลินึกซ์ โดยเครื่องมือต่าง ๆ ในซอฟต์แวร์นี้ นอกจากจะช่วยให้ผู้จัดการฝ่ายไอทีสามารถควบคุมและสร้างระบบอัตโนมัติสำหรับเซิร์ฟเวอร์ทั้งแบบกายภาพและเสมือน หรือปรับ เพิ่ม ลดการใช้พลังงานตามความจำเป็น รวมทั้งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอุณหภูมิของฮาร์ดแวร์และการใช้พลังงานในดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว ยังช่วยตรวจสอบการทำงานของฮาร์ดแวร์ระยะไกล และดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเมื่อได้รับการแจ้งเตือนอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมโครงสร้างไอทีสำหรับศตวรรษที่ 21 ของไอบีเอ็ม สามารถเข้าไปที่ www.ibm.com/dynamicinfrastructure
                  # # # # # #

3439
news & activity / Pattaya International Music Festival 2009
« on: March 11, 2009, 12:03:15 PM »
Pattaya International Music Festival 2009
 
   วันที่ 20 - 22 มีนาคม 2552  ตั้งแต่เวลา 18.00 – 24.00 น.
ณ ชายหาดพัทยา จังหวัดชลบุรี

กำหนดจัดงานแถลงข่าว
          ครั้งที่ 1  วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ 2552  ณ ลานฟอรั่ม ชั้น 1(ใกล้ฝั่งอิเซตัน) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชดำริ กรุงเทพฯ เวลา 16.30 น.
          ครั้งที่ 2  วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม 2552  ณ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

ททท.จัดใหญ่...เทศกาลดนตรีนานาชาติ
“พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล มิวสิค เฟสติวัล 2009” ศิลปินไทยและต่างประเทศ รวมพลังปลุกกระแสเที่ยวไทย




          การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เตรียมจัดกิจกรรมท่องเที่ยวควบคู่ความบันเทิงครั้งใหญ่ในรอบปี เทศกาลดนตรีนานาชาติเมืองพัทยา ประจำปี 2552 “พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล มิวสิค เฟสติวัล 2009” (PATTAYA INTERNATIONAL MUSIC FESTIVAL 2009)  ระหว่างวันศุกร์ที่ 20 - วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2552 ณ เวทีชายหาดเมืองพัทยา เพื่อปลุกกระแสการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด “AMAZING THAILAND AMAZING VALUE” นอกจากตอบสนองนโยบายไทยเที่ยวไทยแล้วยังเป็นกิจกรรมที่เพิ่มมูลค่าให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยได้อย่างเพลิดเพลิน และที่สำคัญช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของ “เมืองพัทยา” ที่อยู่ในอันดับสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

           ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้มีความพิเศษอย่างยิ่งคือ มีพันธมิตรที่แข็งแกร่งและมีความชำนาญเฉพาะ ให้ความร่วมมืออย่างมากมาย  ได้แก่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ และ SEED RADIO), Channel [V] Thailand , Channel [V] International , สถานี TVB 8 รวมถึงพันธมิตรต่างประเทศที่ให้การสนันสนุนการจัดงานในครั้งนี้ อย่างหน่วยงานจากประเทศเกาหลี Korea Foundation for International Exchange (KOFICE), ค่ายเพลงต่างประเทศ อาทิ S.M. Entertainment ค่ายเพลงชื่อดังจากเกาหลี , ค่าย EEG จากฮ่องกง , ค่าย OCEAN BUTTERFLY จากจีน , ค่าย HOUSE OF INDIES จากเวียดนาม , ค่าย HALO MUSIC จากมาเลเซีย , ค่าย AMPHEAD จากออสเตรเลีย , ค่าย INDEE  RECORDS จากลาว , ค่าย AVEX TAIWAN จากไต้หวัน เป็นต้น

          สำหรับรูปแบบของงานจะจัดเป็นคอนเสิร์ตที่มีเวทีแสดง 3 เวที  ได้แก่  เวทีแหลมบาลีฮาย / เวทีพัทยากลาง และเวทีพัทยาซอย 4 โดยได้เชิญศิลปินชื่อดังทั้งไทยและต่างประเทศที่มีความหลากหลาย กว่า 100 ชีวิต มาร่วมโชว์บนเวที เพื่อให้รองรับกลุ่มผู้ฟังดนตรีทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นแนวเพลง  Pop , Hip-hop , R&B , Rock และอื่นๆ อาทิ กอล์ฟ-ไมค์ , เป็ก ผลิตโชค , วงแคลช , วงโปเตโต้ , วงเอบีนอร์มอล , เดอะสตาร์ , วงโซคูล ฯลฯ วง SHINEE , วง GIRLS’ GENERATION จากเกาหลี , KYM JIN SHA จากจีน, DANSON TUNG จากไต้หวัน และ KENNY KWAN จากฮ่องกง ฯลฯ

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
TAT Call Center 1672
ททท. สำนักงานพัทยา โทร. 0 3841 6799 , 0 3842 8750 , 0 3842 7667
www.pattayamusicfestival.gmember.com

3440
“สมอลล์รูม” เปิดตัว “ตุ๊กตา – เลเชอร์ ซองส์” สาวน้อยมากความสามารถ กับดีกรีนักร้อง CU BAND



   หลังจากส่งสาวน้อยทายาทเจ้าของห้างเซ็นทรัล “น้องแพร์-จิราธิวัฒน์” มาเปิดตัวอัลบั้ม LEISURE SONGS (เลเชอร์ ซองส์) ของค่ายเพลง “สมอลล์รูม” กับผลงานอัลบั้มยามว่างที่รวบรวมเอาศิลปินหนุ่มสาวไว้ถึง 11 คน ล่าสุดได้ทีส่งความสนุกกับบทเพลง “รู้นะ” ของสาวแสนซนอย่าง “น้องตุ๊กตา-จมาพร แสงทอง” ที่พกพาความสามารถทางด้านการร้องเพลงแบบเต็มตัว ด้วยดีกรี 1 ในสมาชิกนักร้อง CU BAND ให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ว่า

   “เป็นคนชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้วค่ะ ตอนนี้ตุ๊กตาเรียนอยู่ปี3คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตอนปี2ก็ไปออดิชั่นเป็นนักร้องใน CU BAND ของจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ยากมากค่ะจำได้ว่าต้องผ่านการคัดเลือกอยู่3รอบได้กว่าจะได้เป็น พอรู้ผลก็ดีใจสุดๆค่ะ เพราะรู้ว่ามีรุ่นพี่อย่าง พี่รัดเกล้า , พี่ลูกหว้า ดูบาดู , พี่พิ้งค์ AF5 ที่เป็นนักร้องในCU BANDด้วยคือเก่งๆ กันทั้งนั้นเลย พอมีโอกาสได้มาเทสต์เสียงที่สมอลล์รูม แล้วได้เป็นหนึ่งในศิลปินกลุ่ม เลเชอร์ ซองส์ ก็ยัง งงๆ อยู่เลยค่ะว่าเอ..เราเข้ามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง แต่ก็ดีใจสุดๆค่ะ และก็จะทำให้ดีที่สุด อย่างเพลงที่ตุ๊กตาได้ร้องชื่อเพลงว่า “รู้นะ” เป็นแนวสนุกๆ เข้ากับตัวเองมากค่ะ เพราะพี่ๆ ทีมงานสมอลล์รูม ก็บอกว่านี้แหละเพลงของตุ๊กตา พอไปร้องโชว์ตามงานต่างๆ ก็มีคนร้องตามยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่เลยค่ะ ส่วนตอนนี้ก็มีงานโชว์พ่วงกับพี่ๆ วงเสลอ เป็นแคมปัสที่ไปตามมหาวิทยาลัยทั่วกรุงเทพฯ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ตุ๊กตาด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ”
 
   ความสามารถที่ได้จากการฝึกฝนและความตั้งใจของ “น้องตุ๊กตา–จมาพร แสงทอง” ส่งผลให้เป็นหนึ่งในศิลปินกลุ่ม “เลเชอร์ ซองส์” กับบทเพลงน่ารักสะดุดหู “รู้นะ” ติดตามฟังได้ตามคลื่นวิทยุทั่วประเทศ

3441
สำนักงาน ป.ป.ส.นำทีมเยาวชนแสดงพลัง “เท่...ดี...ไม่ต้องมียาเสพติด”



          นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พลตำรวจโทกฤษณะ ผลอนันต์ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดตัวโครงการ “เท่ . . .ดี. . .ไม่ต้องมียาเสพติด” รวมพลเยาวชนคนเก่งแสดงพลัง ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ ปฏิเสธยาเสพติด เพื่อให้เกิดผลในเชิงรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาศักยภาพกำลังสำคัญของชาติ ณ ลานกิจกรรมหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์

3442
ไอบีเอ็ม เปิดตัววีดิโอเกม เพื่อพัฒนาทักษะนักศึกษา รับช่วงปิดเทอม
วีดิโอเกม 3 มิติในรูปแบบสถานะการณ์จำลอง ช่วยพัฒนาทักษะนักศึกษาทั้งในด้านธุรกิจและเทคโนโลยี
ส่งเสริมการใช้เวลาว่างอย่างสร้างสรรค์และพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาสู่การก้าวเป็นผู้นำในอนาคต

 บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เปิดตัววีดิโอเกม “อินโนเวท เวอร์ชั่น 2” (Innov8 version 2) เพื่อส่งเสริมความรู้และการใช้เวลาว่างอย่างสร้างสรรค์รวมทั้งพัฒนาทักษะทางด้านธุรกิจและเทคโนโลยีแก่นักศึกษาและบุคลากรในองค์กรต่าง ๆ เพื่อการก้าวสู่ความเป็นผู้นำในอนาคต วีดิโอเกมดังกล่าวสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากเว็บไซท์ของไอบีเอ็ม (www.ibm.com/innov8) โดยจะเล่นเพียงคนเดียวหรือเล่นร่วมกันเป็นทีมก็ได้ ภายในวีดิโอเกมนี้ ผู้เล่นจะได้รับโจทย์และปริศนาเพื่อแก้ปัญหาทางธุรกิจ เช่น การหาวิธีจัดการระบบห่วงโซ่อุปทานหรือซัพพลายเชนให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการระบบจราจร หรือการหาวิธีเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าผ่านระบบคอลล์เซ็นเตอร์ เป็นต้น

วีดิโอเกมอินโนเวท ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมทักษะความรู้แก่นักศึกษาและบุคลากรในองค์กรต่าง ๆ ในยุคปัจจุบัน ซึ่งอาจเติบโตและคุ้นเคยกับการเล่นวีดิโอเกมมาตั้งแต่เด็ก โดยครอบคลุมเนื้อหาหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเสริมทักษะการจัดการขั้นตอนทางธุรกิจ (Business Process Management - BPM) การคิดค้นกลยุทธ์ทางธุรกิจสำหรับองค์กร หรือการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการระบบไอทีในองค์กร เป็นต้น สำหรับวีดิโอเกมอินโนเวท เวอร์ชั่น 2 (Innov8 version 2) นี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากเวอร์ชั่น 1 ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2551 และประสบความสำเร็จอย่างสูงโดยได้รับเลือกให้เป็นเครื่องมือช่วยส่งเสริมความรู้และทักษะในด้านธุรกิจและเทคโนโลยีให้กับนักศึกษาและบุคลากรในสถาบันและองค์กรชั้นนำหลายแห่งของโลก

สำหรับวีดิโอเกมอินโนเวท เวอร์ชั่น 2 นี้ ผู้เล่นจะได้รับภารกิจในการแก้ปริศนาและปัญหาต่าง ๆ ได้แก่

•   การหาวิธีจัดการระบบห่วงโซ่อุปทานหรือซัพพลายเชนให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในเกมดังกล่าว ผู้เล่นจะต้องประเมินการทำงานในระบบซัพพลายเชนที่มีอยู่ และหาวิธีจัดการเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ
•   การหาวิธีจัดการระบบจราจรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในเกมนี้ ผู้เล่นจะต้องประเมินสถานะการณ์รูปแบบการจราจรและคิดหาวิธีปรับเปลี่ยนเส้นทางการจราจรตามข้อมูลที่ได้รับจากเซนเซอร์ซึ่งจะทำหน้าที่แจ้งเตือนให้ผู้เล่นได้รับทราบเกี่ยวกับสภาวะการติดขัดของจราจรต่างๆ จากสาเหตุต่าง ๆ เช่น อุบัติเหตุ และการจราจรติดขัดบนท้องถนน โดยผู้เล่นต้องหาวิธีจัดการและแก้ปัญหาระบบจราจรเพื่อให้
•    การหาวิธีเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าผ่านบริการระบบคอลล์เซ็นเตอร์ ในเกมนี้ ผู้เล่นต้องใช้ประโยชน์จากระบบคอลล์ เซ็นเตอร์ เพื่อหาวิธีทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด

จากผลการศึกษาในปี 2551 ของมูลนิธิ อีวิง มาริออน คอฟแมน (Ewing Marion Kauffman Foundation) ซึ่งเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา พบว่าการเรียนการสอนในรูปแบบที่สร้างสรรค์ เช่น การใช้วีดิโอเกมในการเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนการสอน สามารถปรับปรุงผลการเรียนรู้ของนักศึกษาได้มากถึง 108 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการบรรยายหรือเล็คเชอร์ ซึ่งช่วยปรับปรุงผลการเรียนรู้ของนักศึกษาให้ดีขึ้นได้เพียง 17 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น   

นางเจษฏา ไกรสิงขร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซอฟต์แวร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ในปัจจุบัน การพัฒนาความรู้และทักษะของนักศึกษาซึ่งเป็นกำลังสำคัญและอนาคตของชาติ โดยเฉพาะทักษะที่สำคัญเช่น เทคโนโลยีหรือธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการพัฒนาทักษะดังกล่าว นอกจากจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อตัวนักศึกษาเองแล้ว ยังเป็นประโยชน์ทางอ้อมต่อการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศอีกด้วย” นอกจากนั้น นางเจษฏา ยังกล่าวเสริมอีกว่า “ไอบีเอ็ม ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องการพัฒนาคุณภาพของคนมาโดยตลอด และได้ทำกิจกรรมเพื่อสนับสนุนการศึกษาและเพิ่มศักยภาพบุคลากรของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับวีดิโอเกมอินโนเวท เวอร์ชั่น 2 นี้ ทางเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการใช้เวลาว่างอย่างสร้างสรรค์ของนักศึกษาโดยเฉพาะในช่วงปิดภาคเรียนนี้ รวมทั้งช่วยพัฒนาความรู้และส่งเสริมทักษะที่จำเป็นให้กับนักศึกษาและบุคลากรในองค์กรต่าง ๆ  ไม่มากก็น้อย”

ที่ผ่านมาไอบีเอ็มได้ร่วมมือกับคณาจารย์กว่า 9,000 คนจากสถาบันการศึกษากว่า 4,600 แห่งทั้งในและต่างประเทศ ผ่านโครงการ อคาเดมิค อินิทิเอทีฟ (Academic Initiative) เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนและพัฒนาศักยภาพแก่นักศึกษา สำหรับวีดิโอเกมอินโนเวท เวอร์ชั่น 2 นี้ ไอบีเอ็มได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำหลายแห่งของโลก เช่น มหาวิทยาลัยดูเควส (Duquesne University) มหาวิทยาลัยแห่งเซาท์เธิร์น แคลิฟอร์เนีย (University of Southern California) ในสหรัฐอเมริกา หรือ แมนเชสเตอร์ บิสิเนส สคูล (Manchester Business School) ในสหราชอาณาจักร ในการนำวีดิโอเกมดังกล่าว ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรการเรียนการสอน

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวีดิโอเกมอินโนเวท เวอร์ชั่น 2 (Innov8 version 2) รวมทั้งการลงทะเบียนและดาวน์โหลดเกมดังกล่าวไปใช้ได้ฟรี สามารถเข้าไปที่ www.ibm.com/innov8 หรือ ชมตัวอย่างหน้าตาของเกมดังกล่าวผ่านยูทูปได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=C3tJ4c0JVq0

รูปตัวอย่างหน้าตาของอินเตอร์เฟซเกมอินโนเวท เวอร์ชั่น 2 และรูปของคุณเจษฏา ไกรสิงขร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซอฟต์แวร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย สามารถดาวน์โหลดได้ที่  https://www.yousendit.com/download/U0d3blFNQ1BVVG52Wmc9PQ ก่อนวันที่ 16 มีนาคม 2552

ชมคลิปวีดิโอสัมภาษณ์นักศึกษาที่เคยมีประสบการณ์ใช้วีดิโอเกม อินโนเวท ผ่านยูทูปได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=prnqWwDHnZ4
หรือ http://www.youtube.com/watch?v=OPLLlnnFdHk

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ อคาเดมิค อินิทิเอทีฟ (Academic Initiative) ของไอบีเอ็ม สามารถเข้าไปที่ www.ibm.com/university/academicinitiative

3443
บลจ.ไอเอ็นจีคลอด 3 กองทุนเปิด ‘ไทย ไลฟ์ไซเคิล’ เตรียมความพร้อมนักลงทุนรับวัยเกษียณ


 
             บลจ.ไอเอ็นจี คลอดกองทุนเปิด “ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ ไซเคิล” พร้อมกัน 3 กองทุนรวด ทั้ง “ไลฟ์ไซเคิล 2015, 2020 และ 2025” ยึดจุดหมายปลายทางในปีที่ผู้ลงทุนตั้งเป้าเกษียณเป็นหลัก พร้อมดีไซน์รูปแบบที่สอดคล้องกับแต่ละช่วงอายุ ชูจุดเด่นปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้แบบอัตโนมัติ หวังลดความเสี่ยงให้กับนักลงทุน เผยยิ่งเข้าใกล้วันหมดอายุกองทุน ยิ่งเพิ่มน้ำหนักตราสารหนี้ระยะสั้นจนถึงระดับ 100% เมื่อสิ้นอายุโครงการ มั่นใจช่วยสร้างความมั่นคงในวัยเกษียณ เสนอขาย IPO พร้อมกัน 19-26 มี.ค.นี้ จองขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท

          บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวกองทุนใหม่ 3 กองทุนในซีรีย์ส “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล” (ING Thai Lifecycle Fund) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติจัดตั้งและจัดการจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยกองทุนถูกออกแบบการลงทุนให้เหมาะสมและสอดคล้องกับช่วงอายุของผู้ลงทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015, กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 โดยใช้ปีที่ผู้ลงทุนต้องการเกษียณอายุเป็นตัวกำหนดเป้าหมายการลงทุน

          นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวว่า จุดเด่นของกองทุนอยู่ที่การออกแบบการจัดสรรพอร์ตลงทุนตามอายุของผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งความเสี่ยงของกองทุนจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินของตนเองเพื่อสร้างโอกาสการมีเงินใช้อย่างสบายในวัยเกษียณ
          ทั้งนี้ แต่ละกองทุนจะมีเป้าหมายของปีที่คาดว่า จะเกษียณไว้ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกได้ว่าจะเกษียณประมาณปีใด จาก 3 กอง ได้แก่ ปี 2015 ปี 2020 และปี 2025 โดยทั้ง 3 กองทุนนับเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับทางเลือกลงทุนก่อนวัยเกษียณ

          สำหรับกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 จะมีอายุโครงการ 16 ปี 8 เดือน แต่มีสภาพคล่องด้วยการเปิดให้ซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีอายุ 40-45 ปี และคาดว่าอยากจะเกษียณอายุในวัยประมาณ 60 ปี คือ ในปี 2023-2028 ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ยังอยู่ในวัยทำงานที่แสวงหาทั้งความมั่นคงในหน้าที่การงาน และความ มั่งคั่งให้กับตนเอง การแสวงหาผลตอบแทนที่ดีพร้อมกับการยอมรับความเสี่ยงจึงยังมีได้มาก ดังนั้น สัดส่วนการลงทุนจะเน้นการลงทุนในตราสารทุนในช่วงปีแรกไม่เกินกว่า 55% แต่ในปีใกล้สิ้นอายุของกองทุน ตราสารในพอร์ตการลงทุนจะมีการเพิ่มสัดส่วนตราสารหนี้ระยะสั้นมากขึ้นจนกลายเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งหมดในวันสิ้นอายุกองทุน เพื่อลดความเสี่ยงในตลอดช่วงอายุการลงทุน

          ขณะที่กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 จะมีอายุโครงการ 11 ปี 8 เดือน เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีอายุ 45-50 ปี โดยคาดว่าจะเกษียณที่อายุประมาณ 60 ปี ในปี 2018-2023 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสม่ำเสมอของรายได้และ รับความเสี่ยงได้น้อยลง ดังนั้น จึงให้น้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น โดยจะลงทุนในตราสารทุนในช่วงปีแรกไม่เกินกว่า 45%

          ส่วนกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015 อายุโครงการ 6 ปี 8 เดือน เป็นกองทุนที่เหมาะกับผู้ลงทุนที่มีอายุ 50-55 ปี ซึ่งคาดว่าจะเกษียณที่อายุประมาณในปี 2013-2023 ดังนั้น การจัดสรรการลงทุนจะเน้นความปลอดภัยมากกว่าผลตอบแทนที่สูง เพื่อเตรียมเงินทุนไว้รองรับการใช้จ่ายในยามเกษียณแล้ว โดยในช่วงปีแรกจะลงทุนในตราสารทุนไม่เกินกว่า 30% และจะกลายเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นในที่สุด

          “เราอยากให้ผู้ลงทุนเชื่อมั่นว่า เราได้ออกแบบการปรับเปลี่ยนพอร์ตตามความเสี่ยงที่สอดคล้องกับระยะเวลาการลงทุนไว้เป็นอย่างดีระหว่างหุ้น ตราสารหนี้และเงินสด ทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องจังหวะของการลงทุนและการเลือกลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ เพราะทางไอเอ็นจีจะทำการปรับสัดส่วนการลงทุนให้ผู้ลงทุนเองโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพที่จะทยอยลดการลงทุนในตราสารทุนไปสู่ตราสารหนี้ระยะสั้นเมื่อกองทุนเข้าใกล้วันหมดอายุ ซึ่งเมื่อสิ้นสุดโครงการ สัดส่วนการลงทุนจะขยับเข้าสู่การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นครบ 100% ” นายมาริษกล่าว

          “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล” ทั้ง 3 กองทุน เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) พร้อมกัน ระหว่างวันที่ 19-26 มีนาคม 2552 โดยกำหนดวงเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด โทร.0-2688-7777 หรือ www.ingfunds.co.th รวมทั้งที่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซิตี้แบงก์ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น (HSBC) และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของ บลจ.ไอเอ็นจี
         
ธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ ซิมีโก้ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน)
ธนาคาร ดอยซ์แบงก์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ไอวี โกลบอล จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด
บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน)

3444
จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จัดงาน HAPPY BATH DAY ฉลองครบรอบ 50 ปี จอห์นสัน โนโมเทียร์  พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ สบู่เหลวจอห์นสัน เบบี้ ท็อป ทู โทโฟมมิ่ง พร้อมสาธิตการ อาบน้ำเด็ก จากคุณแม่ดาราชื่อดัง


บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน คอนซูเมอร์ (ประเทศไทย) จำกัด  ผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์สบู่เหลว จอห์นสัน เบบี้   จัดงาน HAPPY BATH DAY ฉลองครบรอบ 50 ปี  จอห์นสันโนโมเทียร์ พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ สบู่เหลวจอห์นสันเบบี้ ท็อปทูโท โฟมมิ่ง ในงานมีการสาธิตวิธีอาบน้ำให้ลูกน้อยอย่างถูกวิธีจากผู้เชี่ยวชาญและ น้ำฝน – วรรณวลัย ให้กับว่าที่คุณแม่มือใหม่ลูกเกด – เมทินี

สำหรับงาน HAPPY BATH DAY ในวันนี้ได้รับเกียรติจากดาราสาว คุณแม่มือโปรน้ำฝน วรรณวลัย เสรีย์เดชะกุล (โปษยานนท์) มาเปิดตัว น้องจิน ลูกชายคนที่สอง วัย 6 เดือน พร้อมกับมาสาธิตการอาบน้ำลูก น้อย  ให้กับว่าที่คุณแม่นางแบบลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม ที่มาคอยสังเกตการณ์และเตรียมพร้อมกับการเป็นคุณแม่ มือใหม่ โดยงานนี้มีคุณแม่มือใหม่ ดาว อภิสรา นุตยกูล มารับหน้าที่เป็นพิธีกร

คุณแม่มือโปรอย่าง น้ำฝน วรรณวลัย เผยถึงความรู้สึกที่มีกับนวัตกรรมใหม่ของสบู่เหลวที่มีลักษณะเป็นครีม โฟมพร้อมใช้ซึ่งแตกต่างไปจากสบู่เหลวจอห์นสันเบบี้ท็อปทูโทที่เคยใช้ “ตอนน้องฟินลูกชายคนแรก ฝนก็ เลือกใช้จอห์นสันเบบี้ ท็อปทูโท มาตลอดเพราะเชื่อมั่นใน สูตรโนโมเทียร์ของจอห์นสันเบบี้ ใช้มาตลอดเลยค่ะ ตั้งแต่อาบน้ำให้น้องฟินครั้งแรกที่โรงพยาบาล ยิ่งวันนี้พอทราบว่าจอห์นสันเบบี้ ท็อปทูโท มีแบบโฟมมิ่ง  ยิ่งชอบใหญ่เลยค่ะ ดูสะดวกขึ้นเยอะแถมฟองครีมก็นุ่ม ทำให้มั่นใจว่าจะยิ่งอ่อนละมุนกับผิวของน้องจินและ น้องฟินแน่นอนค่ะ”

ส่วนคุณแม่พิธีกรสาว ดาว อภิสรา เผยว่า “น้องจริง กำลังอยู่ในวัยเรียนรู้ ชอบและอยากอาบน้ำเอง นี่ถ้าได้ใช้สบู่เหลวจอห์นสันเบบี้ท็อปทูโท โฟมมิ่ง คงทำให้น้องจริงสนุกกับการอาบน้ำยิ่งขึ้นแน่นอนเลยค่ะ”

ขณะที่ว่าที่คุณแม่อย่างลูกเกด เมทินี ก็เรียกความมั่นใจให้กับตัวเองในการเตรียมตัวอาบน้ำให้ลูกครั้งแรกขึ้นได้   เยอะ “ก็เพราะเป็นท้องแรกเลยทำให้รู้สึกกังวลอยู่บ้างโดยเฉพาะการอาบน้ำ แต่วันนี้พอรู้ว่าจอห์นสันเบบี้มีสบู่ เหลวแบบครีมฟองที่ช่วยให้แม่มือใหม่อย่างเกดอาบน้ำให้ลูกได้ง่ายขึ้น สร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ”

สำหรับผลิตภัณฑ์สบู่เหลวจอห์นสัน ท็อปทูโท สูตรโนโมเทียร์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพิสูจน์ทางการ แพทย์แล้วว่ามีความอ่อนละมุนต่อดวงตาไม่ต่างจากน้ำบริสุทธิ์ จึงเป็นความภูมิใจ อย่างยิ่งที่ ตลอด 50 ปี ที่ผ่านมา  ผลิตภัณฑ์สบู่เหลวจอห์นสัน ท็อปทูโท  สูตรโนโมเทียร์ ได้มอบความสุข ให้กับทั้งคุณแม่และ ลูกน้อยมาแล้วทั่วโลกและเพื่อเป็นการตอบแทนความไว้วางใจของคุณแม่ทุกคน ในครั้งนี้บริษัทฯ จึงได้ทำการ วิจัยและค้นคว้าจนได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ล่าสุด จอห์นสัน เบบี้ ท็อป ทู โท โฟมมิ่งเป็น ผลิตภัณฑ์ ในรูปแบบของ ครีมฟองที่ละเอียดนุ่มที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสะดวกสบายให้กับคุณแม่ทุกคนทั้งยังจะช่วยเพิ่ม
ความสุขและความผูกพันระหว่างแม่และลูกน้อยอีกด้วย

3445
งานเปิดตัวหนังสือ "101 สุดยอดเสื้อบอลตัวพ่อ" โดยคุณนันทขว้าง สิรสุนทร



(จากซ้ายไปขวา) คุณกุ๊ก กฤติกา ศักดิ์มณี - ผู้ดำเนินรายการ คุณเอกราช เก่งทุกทาง - ผุ้ร่วมพูดคุย คุณนันทพร วงศ์เชษฐา - กรรมการผู้จัดการสำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์ คุณบันดาล กวินสังคม - ผู้จัดการเขต บีทูเอส คุณนันทขว้าง สิรสุนทร - เจ้าของผลงาน "101 สุดยอดเสื้อบอลตัวพ่อ" คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล - ผู้ร่วมพูดคุย

เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์ได้จัดกิจกรรมเปิดตัวหนังสือ "101 สุดยอดเสื้อบอลตัวพ่อ" โดยคุณนันทขว้าง สิรสุนทร ณ ชั้น 3 บีทูเอส สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ แขกรับเชิญที่ร่วมพูดคุยในงานนี้ ได้แก่ คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล และคุณเอกราช เก่งทุกทาง ดำเนินรายการโดย คุณกุ๊ก กฤติกา ศักดิ์มณี หนังสือที่นำเสนอหลากหลายเรื่องราวเกี่ยวกับเสื้อบอลในแต่ละยุคสมัย ที่ถูกหล่อหลอมมาพร้อมๆ กับวัฒนธรรม ดนตรี และการดำเนินชีวิตของสังคมคนทั่วโลก และ10 สุดยอดเสื้อบอลในดวงใจของคนดัง และคำนิยมโดยผู้คร่ำหวอดในวงการอย่างคุณพิษณุ นิลกลัด   "101 สุดยอดเสื้อบอลตัวพ่อ" จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์  ราคา 245 บาท หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ บีทูเอส Double A Book Tower และร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป

Pages: 1 ... 228 229 [230]