enjoyjam.net

นวัตกรรมยานยนต์ => นวัตกรรมยานยนต์ - รถยนต์ - มอเตอร์ไซต์ - อุปกรณ์เสริม => Topic started by: activity on November 26, 2018, 09:00:50 AM

Title: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on November 26, 2018, 09:00:50 AM
งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

BENZ TTC Mercedes-Benz Certified Pre-Owned Vehicles เบนซ์ ทีทีซี ขนทัพเบนซ์ยูสคาร์ มาตรฐานเยอรมันบุกมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018



          เบนซ์ ทีทีซี ทุ่มงบ 10 ล้านขนทัพรถเบนซ์มือสองคุณภาพสูงมาตรฐานเยอรมัน ร่วมงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018 หลังได้สิทธิ์เป็นผู้นำร่องจำหน่ายรถเบนซ์มือสองอย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อ Mercedes-Benz Certified Pre-Owned Vehicles บนพื้นที่กว่า 400 ตารางเมตร โชว์ยูสคาร์พร้อมจำหน่าย กว่า 30 คัน ชูไฮไลท์รถเด่นราคาโดน C 350e Estate AMG Dynamic ราคาขาย 2.69 ล้านบาท Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC ราคา 3.24 ล้านบาท และสุดยอด สปอร์ต SLC300 Roadster ราคาขายเพียง 3.49 ล้านบาท

          นายอัครินทร์ ตั้งทวีสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีซี มอเตอร์ จำกัด ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการสาขาพัฒนาการและอุบลราชธานี เปิดเผยว่า เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้มีโอกาสสัมผัสและใช้งานรถยนต์มือสองคัดเกรด คุณภาพเยอรมันได้ง่าย ในฐานะที่ เบนซ์ ทีทีซี มอเตอร์ ได้รับความไว้วางใจจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ให้เป็นผู้ จำหน่ายรถยนต์มือสองคัดเกรด ตามมาตรฐานเบนซ์ เยอรมันในโครงการภายใต้ชื่อ เรียกอย่างเป็นทางการว่า Mercedes-Benz Certified Pre-Owned Vehicles นั้น ในโอกาสงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35 ประจำปี 2018 ที่จะจัดให้มีขึ้นในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2561 นี้ บริษัทได้นำรถมือสองตามโครงการดังกล่าวเข้าร่วมโชว์และจัดจำหน่ายภายในงานนี้

          "การออกบูธในงาน Motor Expo 2018 มหกรรมยานยนต์ประจำปีนี้ ทางเบนซ์ ทีทีซี ยังคงได้สิทธิ์ออกบูธในส่วนของรถยนต์มือสองเหมือนเช่นเคยมากว่า 16 ปี สำหรับครั้งนี้ ทีทีซีเป็นผู้นำการจำหน่ายรถยนต์มือสองภายใต้ Mercedes-Benz Certified Pre-Owned Vehicles ด้วยขนาดพื้นที่กว่า 400 ตารางเมตรสามารถจอดรถได้ 17 คัน โดยเราใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาทออกแบบบูธด้วยรูปแบบดีไซน์อันทันสมัยและครบครันตามมาตรฐานเมอร์เซเดส-เบนซ์" นายอัครินทร์กล่าว

          สำหรับชื่อ Mercedes-Benz Certified Pre-Owned Vehicles เปิดตัวขึ้นในประเทศไทย โดยผู้แทนจำหน่ายเบนซ์อย่างเป็นทางการทุกรายที่ต้องการจำหน่ายเบนซ์มือสองจะต้องใช้ชื่ออย่างเป็นทางการแบบเดียวกันคือ Mercedes-Benz Certified Pre-Owned Vehicles พร้อมด้วยมาตรฐานรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่มีคุณภาพเทียบเท่ารถใหม่ รถยนต์ทุกคันต้องผ่านการรับรองและตรวจสอบด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยกว่า 200 จุดตลอดทั่วทั้งคัน ปลอดภัยสูงสุดด้วยอะไหล่แท้ และงานซ่อมที่ได้มาตรฐานโดยทีมช่างผู้ชำนาญการ

          รถที่นำมาจำหน่ายในครั้งนี้ เป็นรถของผู้บริหารจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ,รถเดโมจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) และรถเดโมจากเบนซ์ ทีทีซี , รถเทรดอินที่คัดสรรมาจำหน่ายในงานนี้ของเบนซ์ ทีทีซี ตามโปรแกรมปกติรถมือสองของ Mercedes-Benz Certified Pre-Owned Vehicles ต้องมีอายุไม่เกิน 8 ปีหรือเลขไมล์ไม่เกิน 150,000 กิโลเมตร แต่รถที่ ทีทีซีเราคัดมาจำหน่ายภายในงานนี้อายุไม่เกิน 3 ปี หรือเลขไมล์ไม่เกิน 50,000 กิโลเมตร ซึ่งลูกค้าที่ซื้อรถมือสองจากเราจะได้รับประกัน 1 ปี กรณีหมดรับประกันจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)

          นายอัครินทร์กล่าวต่อว่า ภายในงานนี้มีรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ซึ่งถือเป็น ไฮไลท์ราคาน่าสนใจ หลากหลายรุ่น อาทิ C 350e Estate AMG ราคาขาย 2.69 ล้านบาท Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC ราคา 3.24 ล้านบาท และสุดยอดสปอร์ต SLC 300 Roadster ราคาขายเพียง 3.49 ล้านบาท เป็นต้น ภายในงานนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดให้มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งจองและออกรถในงาน จะได้รับฟรีประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี และอัตราดอกเบี้ยพิเศษเทียบเท่ารถมือ 1 นอกจากนี้ยังมีรถอีกหลากหลายรุ่น ที่ตอบโจทย์และไลฟ์สไตล์ลูกค้าทุกท่าน อาทิ รถ plug-in hybrid แบบซีดาน , รถอเนกประสงค์ SUV และอื่นๆ พร้อมเงื่อนไขพิเศษ รวมทั้งของที่ระลึกอีกมากมายซึ่งลูกค้าจะต้องพึงพอใจ

          ทั้งนี้มาตรฐานรถ Mercedes-Benz Certified Pre-Owned Vehicles by TTC นั้นต้องได้รับการรับประกัน 1 ปีหรือ 20,000 กม. รับประกันสูงสุด 2 ปีหรือ 40,000 กม.(เลือกรับโปรแกรมเพิ่มเติมขยายความคุ้มครองยาวนานสูงสุดเป็น 2 ปีหรือ 40,000 กม.หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง) , บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. โดย Star Assist, ผ่านการตรวจสอบ Multi-Point Vehicle Check ตรงตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ,รถยนต์ไม่เคยประสบอุบัติเหตุรุนแรงใดๆ, สามารถตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการได้ , บริการทดลองขับจริงก่อนการตัดสินใจซื้อ และบริการข้อเสนอด้านการเงินและการประกันภัยที่ดึงดูดใจ พบกับ Mercedes-Benz Certified Pre-Owned by TTC ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 บูธ C02 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2561 นี้

          อนึ่งเบนซ์ ทีทีซี มีศูนย์จำหน่ายและบริการ 2 สาขา คือสาขาพัฒนาการ 45 โทร.1274 , 02-322-2222 และ สาขาอุบลราชธานี โทร. 045-745-222 , www.benzttc.com , www.facebook.com/BenzTTC
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 12:56:48 PM
Gossip News: “ประวิชย์” บิ๊กบอสแห่งคิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. สั่งทีมลุยงาน MOTOR EXPO 2018 เต็มที่!



          บิ๊กบอสแห่ง บมจ.คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. ประวิชย์ ศรีบัณฑิตมงคล งานแน่นไม่ขาดสาย ส่งท้ายปี ด้วยบิ๊กไฮไลท์โปรเจคของประเทศ กับงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 35 Thailand International Motor Expo 2018 ที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท สื่อสากล จำกัด มาติดต่อกันกว่า 20 ปี เรียกได้ว่าครองตลาด งานออกแบบ ตกแต่ง ก่อสร้างมาอย่างยาวนาน พร้อมขนทีมงานมือดีระดับท็อป ลุยงานรองรับความต้องการ ของลูกค้าอย่างเต็มที่ ใครอยากรู้ว่าปีนี้ไฮไลท์ของงานเป็นอย่างไร ต้องมาชมในงาน Motor Expo 2018 วันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 - 10 ธันวาคม 2561 ณ Challenger 1-3 IMPACT เมืองทองธานี ลุยสร้างงานดี งานคุณภาพขนาดนี้ เปิดปี 2019 มาโปรเจคแน่นแน่นอน เพราะบอสแอบกระซิบมาว่า งานทุกงานทำด้วยใจ เน้นคุณภาพ และไม่เคยมองข้ามเรื่องสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 12:57:21 PM
ฟอร์ดจัดทัพรถยนต์ทุกรุ่นมาแสดงในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018 พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ



          นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย เดินหน้าจัดแสดงผลิตภัณฑ์เรือธงรุ่นใหม่ที่มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษแห่งปี ณ งานมหกรรมยานยนต์ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2561
          - ฟอร์ดมอบข้อเสนอสุดพิเศษแห่งปีสำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป และที่โชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม
          - พบกับ ฟอร์ด มัสแตง รถยนต์ในตำนานในงาน พร้อมแคมเปญ #Mustang1DayChallenge ที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้ร่วมสนุกในกิจกรรม เพื่อลุ้นเป็นผู้โชคดีเพียงหนึ่งเดียวที่จะได้มีประสบการณ์สุดเร้าใจกับรถสปอร์ตระดับไอคอน 1 วันเต็ม
          - ฟอร์ดมอบโปรแกรมขยายเวลาการรับประกันคุณภาพ (Premium Extended Warranty) สำหรับลูกค้าที่ออกรถฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2561 เป็นเวลา 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

          ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดฉากงานมหกรรมยานยนต์ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35 จัดแสดงรถยนต์เรือธงรุ่นใหม่ของฟอร์ดที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ ที่มากับข้อเสนอสุดพิเศษแห่งปี พร้อมพบกับ ฟอร์ด มัสแตง รถสปอร์ตระดับไอคอน ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคมนี้ ณ อาคารอิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
          ฟอร์ดพร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป อีกทั้งยังมีแคมเปญดิจิทัลต้อนรับรถสปอร์ตระดับตำนาน ฟอร์ด มัสแตง ให้แฟนตัวจริงได้ลุ้นขับฟอร์ด มัสแตง ไปทำภารกิจสุดเร้าใจ
          ฟอร์ดนำเสนอ เรนเจอร์ ใหม่ รถกระบะนิยาม "เกิดมาแกร่ง" ที่โดดเด่นที่สุดในเซ็กเมนต์ ครบรุ่น ทั้งสุดยอดรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เรนเจอร์ รุ่นไวล์ดแทรค รุ่นลิมิเต็ด รุ่น XLT XLS และ XL
          นอกจากนี้ ยังมี ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รถเอสยูวีขนาดกลางที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ และรถสปอร์ตระดับตำนาน ฟอร์ด มัสแตง ที่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
          "ฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังคงสร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด ฟอร์ด มัสแตง ก็เข้ามาสร้างความตื่นเต้นให้กับทัพรถยนต์ของฟอร์ดยิ่งขึ้นไปอีก" นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว "ในปีนี้ฟอร์ดได้เตรียมข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย ตลอดช่วงระยะเวลาของงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะจับจองเป็นเจ้าของรถยนต์ฟอร์ด"

          ทัพรถยนต์ยอดนิยมระดับโลก
          ฟอร์ด จัดแสดงรถยนต์รุ่นต่างๆ ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35 ดังนี้
          ฟอร์ด เรนเจอร์: รถกระบะพันธุ์แกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ ที่มาพร้อมศักยภาพและสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่น ทั้งบนทางเรียบและแบบออฟโรด เพื่อรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างลงตัว ปัจจุบันในประเทศไทย มีทั้งหมด 20 รุ่น ตั้งแต่ รุ่นไวล์ดแทรค XLT XLSและ XL และรุ่นใหม่ 'ลิมิเต็ด' (LTD) และยังรวมถึง ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงที่ผลิตจากโรงงานรุ่นแรกและรุ่นเดียวของเอเชีย แปซิฟิก
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์: ฟอร์ดนำ เอเวอเรสต์ ใหม่ มาจัดแสดง ทั้ง 4 รุ่น รวมถึง รุ่นเทรนด์ ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นที่มีอุปกรณ์ครบครัน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เป็นรถเอสยูวีล้ำสมัยที่มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์รุ่นนี้ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น ทั้งตัวห้องโดยสาร ประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการขับขี่ในเมือง แต่ยังคงความแข็งแกร่งสมบุกสมบันอย่างเหนือชั้นเมื่อขับขี่ออฟโรด
          ฟอร์ด มัสแตง: รถสปอร์ตระดับตำนาน เจ้าของฉายาม้าป่าสุดคะนอง ที่มาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลัง สมรรถนะการขับขี่อันเหนือชั้น และเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ โดดเด่นที่สุดในเรื่องของรูปลักษณ์ ที่จะดึงดูดทุกสายตา สำหรับในประเทศไทย มีวางจำหน่าย 2 รุ่น คือ รุ่น 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack และ รุ่น 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack

          ข้อเสนอสุดพิเศษ
          ลูกค้าจะได้พบกับข้อเสนอและสิทธิประโยชน์มากมายภายในงานและตัวแทนจำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ ตลอดช่วงระยะเวลาการจัดงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35 ดังนี้
          - ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่น Wildtrak และ Double Cab Limited ดอกเบี้ย 1.99% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure
          - ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่น Double Cab XLT ดอกเบี้ย 0% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure
          - ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่น Open Cab XLT ดอกเบี้ย 1.89% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 84 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure
          - ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่น Open Cab XL+ ดาวน์เพียง 9,999 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure
          - ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่น Open Cab XL ส่วนลด 35,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure
          - ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รุ่น STD Cab & Open Cab XLS ส่วนลด 23,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure
          - ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ราคาเริ่มต้น 1,299,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure

          นอกจากนี้ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเป็นเจ้าของรถฟอร์ดให้แก่ลูกค้า ฟอร์ดมอบโปรแกรมขยายเวลาการรับประกันคุณภาพ (Premium Extended Warranty) สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ทุกรุ่น เป็นเวลา 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) สำหรับลูกค้าที่ออกรถตั้งแต่ วันนี้ จนถึง 31 ธันวาคม 2561

          ลุ้นขับฟอร์ด มัสแตง กับแคมเปญ #Mustang1DayChallenge
          ร่วมสนุกกับแคมเปญ #Mustang1DayChallenge ที่บูธฟอร์ด ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018 โดยถ่ายภาพคู่กับฟอร์ด มัสแตง พร้อมคำบรรยาย (Caption) ที่บอกเล่าถึงไอเดียว่า "ถ้าคุณมีโอกาสขับ ฟอร์ด มัสแตง 1 วัน คุณจะนำรถมัสแตงของคุณไปทำอะไร" และโพสต์ภาพลงในอินสตาแกรม เปิดเป็นโพรไฟล์สาธารณะ และใส่แฮชแทค #Mustang1DayChallenge รับของที่ระลึก (จำนวนจำกัด) เมื่อร่วมกิจกรรมภายในบูธฟอร์ด และลุ้นเป็นผู้โชคดีเพียงหนึ่งเดียวในแคมเปญสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้

          เจ้าของภาพและไอเดียสุดล้ำที่นำเสนอความสนุกสนานเร้าใจในแบบของฟอร์ด มัสแตงได้อย่างน่าประทับใจเพียง 1 ท่าน จะได้รับรถยนต์ฟอร์ด มัสแตง ไปขับ และทำกิจกรรมที่ผู้ได้รับคัดเลือกได้นำเสนอไว้ เป็นเวลา 1 วัน และได้รับรางวัลสนับสนุนในการทำกิจกรรมมูลค่า 30,000 บาท สามารถเข้าร่วมแคมเปญได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 10 ธันวาคมนี้

          ข้อมูลเกี่ยวกับฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี
          ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเดียร์บอร์น รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยธุรกิจของบริษัท ได้แก่ การออกแบบ ผลิต ทำการตลาด และบริการหลังการขาย สำหรับรถยนต์ รถกระบะ รถเอสยูวี รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในแบรนด์ฟอร์ด และแบรนด์ลินคอล์น ซึ่งเป็นแบรนด์ในตลาดรถหรู รวมถึงให้บริการด้านการเงินผ่านบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ เครดิต และบริษัทกำลังเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และแผนการสัญจรอัจฉริยะ ฟอร์ดมีพนักงานรวมประมาณ 201,000 คนทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟอร์ด ผลิตภัณฑ์ของฟอร์ด และฟอร์ด มอเตอร์ เครดิต โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่www.corporate.ford.com
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 12:57:56 PM
ภาพข่าว: ฮอนด้า จัดเต็มโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี เปิดตัว “ซีวิค ใหม่” ในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018

          - แนะนำ "ซีอาร์-วี ใหม่" รุ่น 5 ที่นั่ง ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน
          - เผยโฉม "แอคคอร์ด ใหม่" ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการต้นปีหน้า
          - จัดแสดง ซูเปอร์คาร์ สปอร์ต ไฮบริด "เอ็นเอสเอ็กซ์" เพื่อตอกย้ำดีเอ็นเอความสปอร์ต



          นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ และนายณัฏฐ์ ปฏิภานธาดา (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ พร้อมแนะนำ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ รุ่น 5 ที่นั่ง ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และเผยโฉม ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 10 ครั้งแรกในประเทศไทย อีกทั้งตอกย้ำดีเอ็นเอความสปอร์ต ด้วยการนำซูเปอร์คาร์ สปอร์ต ไฮบริด ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์ มาจัดแสดงที่งาน มหกรรม ยานยนต์ ครั้งที่ 35 หรือ The 35thThailand International Motor Expo 2018 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2561 ณ บูทฮอนด้า (A14) อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 12:59:14 PM
มาสด้าส่งตรงรถต้นแบบ VISION COUPE จากญี่ปุ่นสู่เมืองไทย เผยความสง่างามด้านการออกแบบสู่ยานยนต์ในอนาคต









          มาสด้าตอกย้ำความร้อนแรงจากการจัดงาน MAZDA ASEAN DESIGN FORUM 2018 ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นศูนย์กลางในการจัดงานสำคัญระดับโลกเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน โดยเผยปรัชญาการออกแบบอย่างหมดเปลือก ในแบบที่ไม่เคยมีค่ายรถยนต์ใดทำมาก่อน ที่สำคัญในวันนี้มาสด้าได้นำเอาต้นแบบ VISION COUPE ปรากฏสู่สายตาสาธารณชนในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป เพื่อให้ชาวไทยได้เห็นถึงเส้นสายอันทรงพลังของการออกแบบที่สง่างาม เพื่อนำไปสู่รถยนต์เจนเนอเรชั่นที่ 7 อย่างเต็มรูปแบบ
          นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า พวกเราทุกคนต่างภูมิใจที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานด้านการออกแบบรถยนต์อันยิ่งใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งช่วยกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทย ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในปีนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่ายอดขายสะสมรวมทั้งปีจะทะลุเกิน 1,000,000 คัน นับว่าเติบโตเกินกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้น ในส่วนของมาสด้าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคมนั้น มียอดขายสะสมแล้ว 57,402 คัน เติบโต 43% ครองส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 6.9% และประมาณการณ์น่าจะมากกว่า 65,000 คัน ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้มาสด้าประสบความสำเร็จ คือ การตอบรับอย่างดีจากลูกค้า การสร้างแบรนให้แข็งแกร่ง ประกอบกับการดำเนินงานด้านการตลาดที่แตกต่าง ผนวกกับการออกแบบที่โดดเด่น เทคโนโลยีอันล้ำสมัย และการขับขี่ที่สนุกสนานอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมาสด้า เราจะไปถึงเป้ายอดขายที่เราตั้งไว้โดยไม่ยาก
          พร้อมกันนี้มาสด้ายังได้นำรถต้นแบบ MAZDA VISION COUPE จากประเทศญี่ปุ่นมาจัดแสดงให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด เพื่อสื่อสารปรัชญาการออกแบบรถยนต์ในเจนเนอเรชั่นใหม่ โดยมาสด้าได้เน้นย้ำในเรื่องของการรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม ด้วยวิสัยทัศน์ระยะยาว หรือ SUSTAINABLE ZOOM–ZOOM 2030 คือยุทธศาสตร์การพัฒนาเทคโนโลยีควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งในปัจจุบันทั่วโลกต่างให้ความสนใจในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV อย่างไรก็ตาม มาสด้ามองว่าการนำเทคโนโลยีไฟฟ้ามาใช้นั้น ต้องคำนึงถึงแหล่งกำเนิดพลังงานที่สะอาดด้วย มาสด้าจึงมีแนวคิดในเรื่องของ Well-to-Wheel เพื่อเป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันมาสด้ายังคงหาทางเลือกที่หลากหลายในการพัฒนาเครื่องยนต์และระบบขับขี่ ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีไฮบริด เทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีเชื่อมต่อการสื่อสาร และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ลูกค้ามีความสนุกสนานในการขับขี่ นอกจากนี้ยังพัฒนาในเรื่องของความปลอดภัยเพื่อให้มีความล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น
          นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มาสด้าได้ดำเนินกลยุทธ์การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว เริ่มตั้งแต่การปรับปรุงพัฒนาโชว์รูม และการขยายโชว์รูมไปยังพื้นที่ต่างๆ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยมองว่าโชว์รูมมาตรฐานใหม่นี้จะเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีตั้งแต่แรกเห็น และทำให้กลุ่มลูกค้าอยากที่จะเข้ามาใช้บริการ ในด้านการตลาดมาสด้าได้เพิ่มช่องทางการสื่อสารให้ลูกค้ามีความใกล้ชิดกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น โดยการสร้าง Mazda Digital Platform ทั้งในส่วนของออนไลน์และออฟไลน์ และการสื่อสารที่เชื่อมโยงกันให้เป็น INTEGRATED DIGITAL EXPERIENCE ทั้งในและนอกโชว์รูม นอกจากนี้ยังยกระดับการดูแลของลูกค้าในส่วนของ MAZDA ACTIV SERVICE เพื่อดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่ตั้งแต่ก้าวแรกจนกระทั่งลูกค้าซื้อรถคันใหม่ ซึ่งสิ่งที่พัฒนาปรับปรุงมาตลอดนั้นส่งผลให้มาสด้ามียอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่างานมหกรรมยานยนต์ในครั้งนี้และถือเป็นโค้งสุดท้ายของปี จะเป็นกิจกรรมที่ลูกค้าให้ความสนใจและผลักดันให้ยอดขายของมาสด้าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
          อย่างไรก็ตาม มาสด้าได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดีในการจัดงาน MAZDA ASEAN DESIGN FORUM ไปเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จากการที่มีกลุ่มคนจำนวนมากที่ได้สอบถามในเรื่องของรถยนต์ต้นแบบที่ได้นำมาจัดแสดง มาสด้าจึงนำมาจัดแสดงในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งนี้ มาสด้าคาดว่าจะมีลูกค้าให้ความสนใจอย่างล้นหลาม และเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่มอบความไว้วางใจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับครอบครัวมาสด้า มาสด้าได้มอบแคมเปญสุดพิเศษ "MAZDA LOVER เหนือกว่าทุกเซอร์ไพรส์" ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน และสิ้นสุดในวันสุดท้ายของงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ด้วยดอกเบี้ยต่ำสุดเริ่มต้น 0% พร้อมประกันภัยชั้น 1 ฟรีทุกรุ่น
          - มาสด้า2 เงินดาวน์ 25% รับดอกเบี้ยต่ำสุด 2.15% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีค่าบำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร
          - มาสด้า3 เงินดาวน์ 25% รับดอกเบี้ยต่ำสุด 2.15% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีค่าบำรุงรักษานาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
          - มาสด้า CX-3 เงินดาวน์ 25% รับดอกเบี้ยต่ำสุด 2.15% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีค่าบำรุงรักษานาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
          - All-New Mazda CX-5 เงินดาวน์ 25% รับดอกเบี้ยต่ำสุด 0% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1
          - มาสด้า บีที-50 โปร เงินดาวน์ 20% ผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,900 บาท/ เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1

          รถยนต์มาสด้าทุกรุ่นรับฟรีประกันชั้น 1 (Mazda Premium Insurance) ข้อเสนอสุดพิเศษนี้ สำหรับลูกค้ามาสด้าทุกโชว์รูมทั่วประเทศ และที่สำคัญเฉพาะลูกค้าที่จองซื้อภายในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป รับเพิ่มลำโพงคุณภาพดีแบรนด์ BOSE จากมาสด้า*

          โปรดติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมของมาสด้าผ่านทางทางโซเชียลมีเดีย
          เว็บไซต์ www.mazda.co.th และ MazdaThailandOfficial: Facebook/YouTube/Instagram/LINE
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 12:59:38 PM
Mazda flies in VISION COUPE concept from Japan to Thailand featuring futuristic automotive design












          Mazda is following up on the buzz created at the recent MAZDA ASEAN DESIGN FORUM 2018, where Thailand was given the honor to host the important global design event for the first time in the Asean region. It was the first time that the total design philosophy was explained in an unprecedented move. And today, Mazda has brought the VISION COUPE to the public at the Motor Expo, allowing Thais to witness the elegant and powerful lines that lead to the design of the 7th generation Mazda in the near future.
          Mr. Chanchai Trakarnudomsuk, President of Mazda Sales (Thailand) Co. Ltd., said, "All of us are proud that Thailand was chosen to host one of ASEAN's largest design forums, which also helps the Thai economy and automobile sales. With continuous growth, the Thai automobile market is expected to break the 1-million-unit mark this year, and the growth is higher than many had anticipated at the start of the year. For Mazda during the period of January to October, we have sold 57,402 vehicles, registering a growth rate of 43 per cent and a market share of 6.9 per cent. We expect to deliver 65,000 units in this year."
          According to Mr. Chanchai, factors that will enable Mazda to achieve its goal include strong response from customers, brand-building, unique marketing, along with outstanding design, modern technology and fun-to-drive character of Mazda vehicles. "We should be able to reach our target without difficulty," he added.
          The MAZDA VISION COUPE has been flown in from Japan for the Thai public. It will help communicate the new Mazda design philosophy for the new generation of models to be introduced in the near future. SUSTAINABLE ZOOM-ZOOM 2030 is Mazda's approach to developing new technologies that are eco-friendly. While the world is giving more interest to EVs (electric vehicles), Mazda sees the importance of using clean electricity, reflected in our "well-to-wheel" ideology to effectively reduce carbon dioxide levels. At the same time Mazda still strives to develop engines and drive systems with Hybrid and EV technologies, Connectivity, and is determined in perfecting the internal combustion engine along with offering the latest safety features.
          Mr. Thee Permpongpanth, Vice President for Marketing and Government Affairs, said, "Since the start of the year, Mazda has embarked on a strategy to establish long-term relationship with customers. We started with showroom improvement as well as expanding the showroom network to cover more markets. The new showrooms will create a good first impression and customers will want to come in to use our services. We also created the Mazda digital platform for both online and offline, as well as an INTEGRATED DIGITAL EXPRERIENCE both in and out of the showroom. In addition, we also raised the bar with the MAZDA ACTIV SERVICE to take care of the customers from the first step until it is time to purchase a new vehicle."
          "All these improvements has helped sales of Mazda vehicles to soar continuously and at the Motor Expo which is considered as the last corner of the year, we expect customers will help drive Mazda sales to reach our targets," he said. In mid-November, the MAZDA ASEAN DESIGN FORUM was highly successful, and a large number of inquiries were made regarding the concept vehicles exhibited. As a matter of fact Mazda has decided to show the VISION COUPE at this year's Motor Expo as well.
          "Mazda expects a large turn-up at our booth and in order to thank our customers, we will offer the 'Mazda Lover above every surprise' campaign "MAZDA LOVER" which kicked off on November 7 and lasts until the final day of the Motor Expo with 0-per cent interest and free first-class insurance for every model," Mr. Thee added.
          - Mazda2 – 25% down payment, 2.15% interest, free1-year insurance and 3-year/60,000km maintenance
          - Mazda3 – 25% down payment, 2.15% interest, free1-year insurance and 5-year/100,000km maintenance
          - Mazda CX-3 – 25% down payment, 2.15% interest, free1-year insurance and 5-year/100,000km maintenance
          - All-New Mazda CX-5 – 25% down payment, 0% interest, free 1-year insurance
          - Mazda BT-50 PRO – 20% down payment, monthly payment starting at Bt5,900, free 1-year insurance

          All models come with Mazda Premium Insurance first-class premium. Offers are available at all Mazda showrooms nationwide. Those who place booking at the Motor Expo will received a high-quality BOSE Bluetooth speaker from Mazda.
          http://www.mazda.co.th
          Mazda Thailand Official: Facebook/YouTube/Instagram/LINE
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:00:58 PM
นิสสัน เปิดตัว ลีฟ ใหม่ อย่างเป็นทางการ นำนวัตกรรมระดับโลกสู่ประเทศไทย









          นิสสัน ลีฟ ใหม่ มอบความเรียบง่ายแต่น่าทึ่งหรือ "Simply Amazing" ลีฟ ใหม่ นำเสนอวิสัยทัศน์ของนิสสันเกี่ยวกับการขับเคลื่อนในอนาคต นิสสัน ลีฟ เจนเนอเรชั่นที่ 2 นี้มอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถขับเคลื่อนไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น พร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และการดีไซน์ที่ปราดเปรียว ผู้ขับขี่จะรู้สึกมั่นใจและตื่นเต้นมากขึ้นด้วย นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility) ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของนิสสันในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขับขี่ยานยนต์ รวมถึงการทำให้ยานยนต์เป็นพลังขับเคลื่อน และเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตของคนในสังคม ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนก้าวไปสู่โลกที่ดีขึ้น โลกที่มีพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น เชื่อมต่อกันมากขึ้น และเป็นอิสระมากขึ้น
          นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ มีสามด้านหลัก ได้แก่ เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เทคโนโลยีพลังการขับเคลื่อนอัจฉริยะ (Intelligent Power) และเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ(Intelligent Integration)
          ทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving)
เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะที่โดดเด่นในลีฟ ใหม่ คือ อี-เพดัล (e-Pedal) และ นิสสัน เซฟตี้ ชิลด์ (Nissan Safety Shield)
          นิสสัน ยกระดับนวัตกรรมประสบการณ์ขับขี่ให้ลีฟ ใหม่ ด้วย e-Pedal ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใหม่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกง่ายดายให้ผู้ขับขี่ในการออกตัว เร่งความเร็ว ลดความเร็ว หยุดนิ่งและควบคุมตัวรถให้อยู่กับที่ด้วยการใช้แป้นคันเร่งอย่างเดียว ถือเป็นนวัตกรรมที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขับขี่ได้อย่างสิ้นเชิง
          เพียงยกเท้าออกจากคันเร่ง ตัวรถจะลดความเร็วจนหยุดนิ่งได้อย่างนุ่มนวล โดยไม่จำเป็นต้องแตะแป้นเบรก e-Pedal ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องยกเท้าจากแป้นคันเร่งเพื่อเหยียบแป้นเบรกบ่อยครั้งเมื่อต้องการลดระดับความเร็วหรือหยุดรถ ซึ่งช่วยลดความเมื่อยล้าและเพิ่มความเพลิดเพลินในการขับขี่
          ผลสำรวจของนิสสัน ในประเทศญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นว่าระบบ e-Pedal ของนิสสัน ลีฟ ช่วยลดจำนวนการเหยียบแป้นเบรคขณะเดินทางในการจราจรที่ติดขัด แม้ว่าแป้นเบรกจะได้รับการใช้งานเช่นเดิม เมื่อต้องมีการเบรกอย่างกะทันหัน แต่ e-Pedal ก็สามารถช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้แป้นคันเร่งเพียงหนึ่งเดียวในกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของการขับขี่
          นิสสัน ลีฟ ใหม่ ยังติดตั้งเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูง ได้แก่ เทคโนโลยีเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning: FCW) เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉิน (Forward Emergency Braking: FEB) กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor: IAVM) พร้อมเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection: MOD) เทคโนโลยีช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (Active Trace Control: ATC) และเทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Alert: DAA)
          เทคโนโลยีพลังการขับเคลื่อนอัจฉริยะ (Intelligent Power)
          หัวใจหลักของเทคโนโลยีพลังการขับเคลื่อนอัจฉริยะในลีฟ ใหม่ คือระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (e-powertrain) ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน พร้อมกับมีแรงบิดและพละกำลังที่สูงขึ้น ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่มอบสมรรถนะที่ต่อเนื่อง และเร้าใจด้วยการส่งกำลังที่ 110 กิโลวัตต์ มากกว่าลีฟ เจนเนอเรชั่นก่อนหน้า 38 เปอร์เซ็นต์ มีแรงบิดเพิ่มขึ้น 26 เปอร์เซ็นต์เป็น 320 นิวตันเมตร ส่งผลให้มีอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นโดยมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม/ชม ด้วยเวลาเพียง 7.9 วินาที
          ผู้ขับขี่ลีฟ ชื่นชอบการตอบสนองที่ทันท่วงที และสมรรถนะที่เสถียรขณะเดินทางในเมือง ลีฟ ใหม่ ได้รับการพัฒนาเรื่องขุมพลังในการเร่ง ซึ่งจะเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่มากขึ้นกว่าเดิม
          แม้จะมีพละกำลังเพิ่มขึ้น ลีฟ ใหม่ ยังเพิ่มระยะทางขับเคลื่อนไกลมากขึ้นด้วยเช่นกัน ชุดแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชุดใหม่ให้ระยะทางขับเคลื่อน ตามมาตรฐานการวัดค่าไอเสียและอัตราสิ้นเปลืองในการขับขี่ของยุโรป NEDC ที่ 3111 กิโลเมตร ซึ่งตอบสนองต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวันของลูกค้าส่วนใหญ่ของนิสสันได้อย่างน่าพึงพอใจแบตเตอรี่ที่ได้รับการพัฒนาและออกแบบให้มีความจุพลังงานที่ดีขึ้นโดยยังมีขนาดเท่าเดิม ชุดแบตเตอรี่ดังกล่าวมีมิติเท่าเดิมทุกด้านเหมือนกับลีฟ รุ่นก่อนหน้า การปรับปรุงใหม่เกิดขึ้นภายในโครงสร้างแต่ละเซลล์ในแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชนิดอัดซ้อน (laminated lithium-ion battery) ทำให้มีความหนาแน่นของพลังงานเพิ่มขึ้น 60 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรุ่นปี 2010 อีกหนึ่งพัฒนาการทางวิศวกรรมที่สำคัญของแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชุดนี้คือการเพิ่มประสิทธิภาพวัสดุขั้วไฟฟ้าพร้อมการปรับปรุงเคมีใหม่ ทำให้มีความหนาแน่นของพลังงานสูงขึ้น พร้อมกับเพิ่มความทนทานของแบตเตอรี่ทั้งในขณะชาร์จและคลายประจุไฟ
     เทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Intelligent Integration)
          ระบบ Vehicle-to-grid ของแบตเตอรี่ของนิสสัน ลีฟ ใหม่ สามารถสะสมพลังงานให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้จากพลังงานส่วนเกินในเวลากลางวัน เพื่อนำกระแสไฟฟ้ามาใช้งานภายในบ้านช่วงกลางคืน การเชื่อมต่ออัจฉริยะของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะเปลี่ยนภูมิทัศน์ด้านพลังงานอย่างสิ้นเชิง ทำให้เจ้าของรถลีฟ จะได้รับประโยชน์ต่างๆ จากบริษัทพลังงานที่ต้องการสร้างโครงข่ายไฟฟ้าที่มีความเสถียร เพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้า โดยผู้ใช้งานลีฟ สามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์ในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเป็นช่วงที่มีอัตราค่าไฟฟ้าต่ำสุดในบางประเทศ เพื่อนำมาใช้ในช่วงกลางวันเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน           
          โครงสร้าง และตัวถังรถยนต์
          ลีฟ ใหม่ เพิ่มสมรรถนะ และความคล่องตัวในการขับขี่ที่ล้ำขึ้นอีกขั้น ทีมวิศวกรของนิสสัน พัฒนาโครงสร้างของลีฟ ใหม่ ให้มีเสถียรภาพการทรงตัวที่ดีขึ้น นิสสัน ลีฟ ใหม่ มีระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพมากขึ้น เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ โดยเฉพาะการขับขี่บนทางด่วน รวมทั้งมีการตอบสนองต่อสภาพพื้นผิวถนนที่ดียิ่งขึ้น เนื่องมาจากการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ใหม่ ระบบควบคุมทำงานเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์วัดองศาการเลี้ยวของพวงมาลัย และระบบกันสะเทือนแบบทอร์สชั่น บาร์ (Torsion Bar) ที่มีอัตราการยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์
          นอกเหนือจากนี้ชุดยางซับแรงกระแทกที่ใช้วัสดุยูรีเธนสำหรับระบบกันสะเทือนหลังได้ถูกแทนที่ด้วยวัสดุใหม่ที่ผลิตจากยางที่ช่วยลดแรงกระแทก และแรงสั่นสะเทือน เมื่อต้องขับขี่บนสภาพถนนที่ขรุขระ โดยลีฟ ใหม่ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Ride Control) เพื่อช่วยให้มอเตอร์ไฟฟ้ามีการทำงานที่แม่นยำมากขึ้นในการสร้างแรงบิดที่เหมาะสมเมื่อเข้าโค้ง
          การออกแบบภายนอก: รูปทรงที่โฉบเฉี่ยวด้วยแสงเงา และ "กลิ่นอายของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย"
การออกแบบนิสสัน ลีฟ ใหม่ แสดงให้เห็นถึงการออกแบบด้วยแนวทาง "Cool Tech Attitude" ของนิสสันและความพยายามในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายสูงสุดของโลก
          โดยอาศัยแรงบันดาลใจจากรถต้นแบบ IDS Concept ที่นำเสนอสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2015 ด้วยความสปอร์ต รูปทรงที่ดึงดูดสายตาสะท้อนตัวตนของยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต ปรัชญาของการออกแบบ คือ ต้องการแสดงถึงเส้นสายที่เรียบง่ายสะอาดตา แต่แฝงไปด้วยความดุดัน รวมไปถึงความโฉบเฉี่ยวของการเล่นแสงเงา ให้ทุกคนสัมผัสได้ถึงยานยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง นอกจากนี้เส้นสายหลักในแนวนอน กันชน และความโดดเด่นของตัวถังช่วงล่างเน้นย้ำให้เห็นถึงจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำของตัวรถ ทำให้สัมผัสได้ถึงการขับขี่ที่สนุกสนาน และคล่องตัว
          การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในส่วนของกระจังหน้าแบบ V-Motion, ไฟรูปทรง "บูมเมอแรง" และการออกแบบแนวเส้นหลังคา แสดงให้เห็นการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในแบบของนิสสัน เพื่อให้ลีฟ ใหม่ มีความเชื่อมโยงกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ของนิสสัน
          ลวดลายตาข่ายสีน้ำเงินสว่างแบบสามมิติโดดเด่นสะกดทุกสายตา เสริมความโดดเด่นให้กับกระจังหน้าแบบ V-Motion เสริมความพิเศษเฉพาะตัวของลีฟในฐานะรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
          นิสสัน ลีฟ ใหม่ ใช้ไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์แบบคู่ รองรับการทำงานทั้งไฟต่ำ และไฟสูง และเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งในรถยนต์ของนิสสัน ช่วยสร้างความรู้สึกทันสมัย พร้อมทั้งเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองเห็น และเพิ่มความปลอดภัยด้วยการเพิ่มระยะการส่องสว่างที่ครอบคลุมมากขึ้น ทำให้ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของดีไซน์ และการใช้งาน
          ชุดไฟท้ายมีความโดดเด่นที่ทำให้ผู้คนที่พบเห็นสามารถจดจำลีฟรุ่นใหม่ได้จากระยะไกล การติดตั้งสปอยเลอร์ท้ายให้เป็นส่วนหนึ่งของลวดลายกระจกทำให้ลีฟ ใหม่ มีความสปอร์ตและสะดุดตามากยิ่งขึ้น ฝากระโปรงหน้าที่ลาดต่ำผสมผสานอย่างลงตัวกับกระจกด้านหน้าที่ทอดยาวไปจนถึงหลังคา ก่อให้เกิดเส้นเงาที่โฉบเฉี่ยว และทำให้การระบายของอากาศดีขึ้น
          การออกแบบใต้ท้องรถ และกันชนท้ายที่มีลักษณะคล้ายดิฟฟิวเซอร์ (Diffuser) ช่วยทำให้ลดแรงต้านอากาศ และอากาศที่ยกตัวรถ ช่วยให้รถมีความมั่นคงยิ่งขึ้น การออกแบบตัวถังตามหลักแอโรไดนามิกส์ รวมถึงกันชนหลังที่เป็นแนวโค้ง และการออกแบบล้อตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้นิสสัน ลีฟใหม่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านทานของอากาศ (drag coefficient) เพียง 0.28 เท่านั้น
          นอกจากนี้ช่องเสียบสายชาร์จไฟบริเวณด้านหน้ารถได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเจ้าของรถสามารถเสียบสายชาร์จโดยไม่ต้องก้มตัวลงมาเหมือนรุ่นก่อน ด้วยหลักการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ของนิสสัน แสดงให้เห็นว่าช่องเสียบสายชาร์จไฟใหม่ที่ถูกติดตั้งในระดับ 45 องศา ทำให้ผู้ใช้งานที่มีระดับความสูงต่างกันสามารถเสียบสายชาร์จไฟได้อย่างสะดวก
          การออกแบบภายใน บรรยากาศที่หรูหราแต่แฝงด้วยความเรียบง่าย ผ่อนคลาย และทันสมัย
ภายในห้องโดยสารของลีฟ ใหม่ มีความกว้างขวาง และสะดวกสบายมากขึ้น ที่ยึดหลักการออกแบบของนิสสัน Gliding Wing เป็นแนวทางหลัก
          การปรับดีไซน์ให้หน้าจอและรูปแบบของไฟแสดงข้อมูลของคนขับเรียบง่ายขึ้น ทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจน มีความเรียบหรู และตอบสนองด้านพื้นที่และการใช้งาน ผู้ขับขี่ลีฟ ใหม่ สามารถมองเห็นข้อมูลที่จำเป็นในตำแหน่งที่เหมาะสม ช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิกับการขับขี่ที่สนุกและเพลิดเพลิน
          ลูกค้าจะเห็นตะเข็บการเย็บสีฟ้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์ไฟฟ้านิสสัน ทั้งบริเวณเบาะนั่ง ด้านข้างประตู ที่วางแขน และพวงมาลัย รวมทั้งการใช้โทนสีน้ำเงินกับปุ่มสตาร์ต และเกียร์ที่ให้ความรู้สึกถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย
          หน้าจอแสดงข้อมูล และสวิตช์ควบคุมต่างๆ ถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบให้มีความฉลาด และใช้งานง่ายขึ้น โดยที่มีความโดดเด่นมากที่สุด คือ การผสมผสานระหว่างมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อกกับหน้าจอแสดงผลแบบ multi-information ด้านซ้าย หน้าจอสีแบบ Thin-film Transistor (TFT) ขนาด 7 นิ้ว บอกปริมาณกำลังไฟฟ้าที่ใช้ตามการกำหนดค่ามาตรฐาน โดยคนขับสามารถเลือกแสดงข้อมูลตามที่ต้องการ หน้าจอแสดงผลตรงกลางแบบ Flush-surface ช่วยให้ผู้ขับขี่สะดวกต่อการเลือกระบบความบันเทิง รวมทั้งแสดงให้เห็นการทำงานของเทคโนโลยี Safety Shield ระดับการชาร์จไฟของรถ และพลังงานที่เหลืออยู่ รวมถึงระบบเสียง และข้อมูลระบบนำทาง
          ความสะดวกสบายและความเงียบของนิสสัน ลีฟ ใหม่ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม แม้ในความเร็วบนทางด่วน ห้องโดยสารของลีฟ ใหม่ยังคงรักษาความเงียบ แรงเสียดทานที่ลดลง การยกระดับระบบอากาศพลศาสตร์และการปรับแต่งภายนอกเพื่อช่วยลดเสียงรบกวนของลม
          มาตรการลดเสียงรบกวนอื่นๆ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพของความแข็งแกร่งของโครงสร้างอินเวอร์เตอร์ (inverter) และการป้องกันเสียงรบกวนบนโมดูลส่งต่อพลังงาน (PDM) รวมถึงการลดเสียงรบกวนจากตัวมอเตอร์ไฟฟ้า แม้ว่าจะส่งแรงบิดและมีกำลังมากกว่าเดิม
          คอนโซลด้านหน้าได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ที่รองแก้วแบบคู่จัดวางตามแนวยาวที่นั่งระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า ทำให้มีพื้นที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นที่ฐานของคอนโซลกลาง ซึ่งเหมาะสำหรับการวางสมาร์ทโฟนหรือกระเป๋าสตางค์ รวมทั้งการใช้งานสวิตช์ไฟฟ้า ช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์และพอร์ตยูเอสบีที่สะดวกง่ายดายมากขึ้น
          เครื่องปรับอากาศและระบบทำความร้อนที่ประหยัดพลังงาน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร
          แม้ว่าความจุพลังงานของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจะเพิ่มขึ้น แต่ขนาดของแบตเตอรี่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงดังนั้นห้องโดยสารจึงรองรับผู้โดยสาร 5 คนได้อย่างสบาย นอกจากนี้พื้นที่วางสัมภาระด้านหลังได้รับการออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มพื้นที่มากขึ้น โดยมีความจุ 435 ลิตร (VDA) พื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีการเอาส่วนนูนออกมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นเพิ่มความสะดวกสบายและการใช้งาน พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังสามารถเก็บกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ หรือกระเป๋าเดินทางขนาดกลาง หรือกระเป๋าสัมภาระพกพาขึ้นเครื่อง 3 ใบ
          สีสันใหม่ ตอบโจทย์รสนิยมของลูกค้า
          นิสสัน ลีฟ ใหม่ มีวางจำหน่ายในสีแบบทูโทนภายใต้ตัวถังสีขาว Brilliant White Pearl และด้านบนหลังคาสีดำ Super Black สำหรับการตกแต่งภายใน ออกแบบให้มีความสะอาดตา ใช้สีดำล้วนช่วยให้บรรยากาศเรียบหรู และเดินเส้นสายสีน้ำเงินที่เบาะนั่ง
          การออกแบบภายในสีดำล้วนช่วยให้บรรยากาศเรียบหรู ยกระดับความสง่างามด้วยการใช้เบาะที่นั่งสีอ่อน ตัดกันกับสีเทาเข้มของคอนโซลกลาง แผงหน้าปัดส่วนล่างและบน และพวงมาลัย ทำให้บรรยากาศโดยรวมเบาสบายและโปร่งสบาย
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:02:32 PM
ฮอนด้า จัดเต็มโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี เปิดตัว “ซีวิค ใหม่” ในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018

          - แนะนำ "ซีอาร์-วี ใหม่" รุ่น 5 ที่นั่ง ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน
          - เผยโฉม "แอคคอร์ด ใหม่" ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการต้นปีหน้า
          - จัดแสดง ซูเปอร์คาร์ สปอร์ต ไฮบริด "เอ็นเอสเอ็กซ์" เพื่อตอกย้ำดีเอ็นเอความสปอร์ต









          บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ พร้อมแนะนำ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ รุ่น 5 ที่นั่ง ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และเผยโฉม ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 10 ครั้งแรกในประเทศไทย อีกทั้งตอกย้ำดีเอ็นเอความสปอร์ต ด้วยการนำ ซูเปอร์คาร์ สปอร์ต ไฮบริด ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์ มาจัดแสดงที่งาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 หรือ The 35th Thailand International Motor Expo 2018 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2561
ณ บูทฮอนด้า (A14) อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

          นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปครั้งนี้ ยนตรกรรมไฮไลท์ของฮอนด้า ที่นำมาจัดแสดงภายในงาน ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความสปอร์ตและความล้ำสมัย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหัวใจในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมฮอนด้า
          ทุกรุ่น ความพิเศษในปีนี้ คือ การเปิดตัว ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดานที่พร้อมพาคุณก้าวข้ามขีดสุดทุกความท้าทาย สู่ความมั่นใจอีกระดับ มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า
          เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) มาตรฐานความปลอดภัยอันล้ำสมัยเพื่อความมั่นใจในทุกการเดินทาง โดยฮอนด้า ซีวิค เป็นยนตรกรรมซีดานอันดับ 1 ที่อยู่ในใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน และวันนี้มาพร้อมกับดีไซน์และฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ครบครันและเหนือระดับไปอีกขั้น ซึ่งลูกค้าจะได้สัมผัสถึงจิตวิญญาณความสปอร์ตของฮอนด้าในฐานะ
          ยนตรกรรมสปอร์ตซีดานไอคอนของเมืองไทยได้อย่างชัดเจน"
          เปิดตัว ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ยิ่งท้าทาย ยิ่งมั่นใจ
          เพิ่มความเร้าใจไร้ขีดจำกัดกับ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ด้วยดีไซน์ภายนอกใหม่ ที่จะทำให้คุณรู้สึกถึงความสปอร์ตมากกว่าที่เคย มาพร้อมขุมพลังแห่งนวัตกรรมทั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม และเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้การขับขี่ที่เร้าใจแต่ยังคงไว้ซึ่งอัตราการประหยัดน้ำมัน
          ที่ดีเยี่ยม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สะท้อนตัวตนของคุณให้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยสีใหม่ สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (Brilliant Sporty Blue)
เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ "ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง" (Honda Sensing) ใน ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ที่ให้คุณมั่นใจในทุกการเดินทาง ได้แก่
          ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
          ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation with Lane Departure Warning : RDM with LDM)
          ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam)
          ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย เบาะที่นั่งตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ผสานความสปอร์ตในทุกรายละเอียด มาพร้อมความสะดวกสบายด้วยฟังก์ชั่นที่เหนือระดับ อาทิ ระบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI เป็นต้น และครบครันด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอันล้ำสมัย อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
          ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น TURBO RS ราคา 1,219,000 บาท รุ่น TURBO ราคา 1,104,000 บาท รุ่น 1.8 EL ราคา 964,000 บาท และรุ่น 1.8 E ราคา 874,000 บาท โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และ 2 สีใหม่ ได้แก่ สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) และสีขาวแพลทินัม (มุก) สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และจองรถได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ภายในงานฯ หรือที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ และพบกับ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ได้ ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2562 ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ รายละเอียดเพิ่มเติม www.honda.co.th/civic
          หมายเหตุ: สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
แนะนำ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ รุ่น 5 ที่นั่ง ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน
          ที่สุดแห่งยนตรกรรมเอสยูวีระดับพรีเมียม อีกหนึ่งทางเลือกที่พร้อมเติมเต็มทุกพื้นที่จินตนาการในแบบคุณ นำเสนอเบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน พร้อมเพิ่มเติมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้
          ครบครันในทุกรุ่น อาทิ ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี (Hands-free Power Tailgate) และระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI เป็นต้น และยังคงไว้ซึ่งเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ทั้งในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลอีกด้วย
          เผยโฉม ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ครั้งแรกในประเทศ ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการต้นปี 2562
          นับเป็นการพลิกโฉม ฮอนด้า แอคคอร์ด อย่างชัดเจน ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ผสานความหรูหราสง่างามกับความสปอร์ตไว้อย่างลงตัว ผ่านการออกแบบด้วยเส้นสายที่ปราดเปรียวและเฉียบคม สะท้อนความความหรูหราและสปอร์ตมากกว่าทุกรุ่นที่เคยมีมา เสริมด้วย 2 ขุมพลังขับเคลื่อนที่สปอร์ตเร้าใจ ทั้งเครื่องยนต์เทอร์โบรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ที่มาพร้อมระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ใหม่ ซึ่งเป็นระบบ Full Hybrid เจเนอเรชั่นที่ 3 พร้อมมอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและยังคงไว้ซึ่งอัตราการประหยัดน้ำมัน
          ที่ดีเยี่ยม อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหนือระดับด้วยอีกขั้นของ เทคโนโลยีความปลอดภัยแบบอัจฉริยะ "ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง" (Honda SENSING) ซึ่งมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น
จัดแสดง ซูเปอร์คาร์ สปอร์ต ไฮบริด ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์
          ยนตรกรรมสปอร์ตซูเปอร์คาร์คันแรกของโลก ที่ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ด้วยระบบ Sport Hybrid SH-AWD(R) ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร DOHC Twin-Turbo ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวช่วยขับเคลื่อนที่ล้อหน้า และมอเตอร์ไฟฟ้าอีกหนึ่งตัวที่ล้อคู่หลัง พร้อมระบบเกียร์ 9 สปีดดูอัลคลัตซ์ ให้สมรรถนะการขับเคลื่อนที่ทรงพลัง และสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างอัจฉริยะ ดีไซน์ภายนอกสปอร์ต โฉบเฉี่ยวล้ำสมัย ล้ออัลลอยคู่หน้าขนาด 19 นิ้ว และล้ออัลลอยคู่หลังขนาด 20 นิ้ว และเป็นครั้งแรกของโลกที่ออกแบบตัวถังด้วยวัสดุอะลูมิเนียมอัลลอยที่มีน้ำหนักเบาแต่คงความแข็งแกร่ง ภายในห้องโดยสารออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ขับขี่เป็นหลัก ให้ความสะดวกสบาย และทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่
          ภายในบูทฮอนด้า ได้จัดแสดงยนตรกรรมทั้งหมดรวม 12 รุ่น พร้อมข้อเสนอพิเศษแห่งปี "ออกรถวันนี้...ลุ้นฟรี อีกคัน" เมื่อลูกค้าซื้อรถยนต์ฮอนด้ารุ่นใดก็ได้ และรับรถยนต์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2561 จะได้รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลรถยนต์ฮอนด้าเพิ่มอีกคัน เดือนละ 6 คัน 6 รุ่น นาน 4 เดือน รวม 24 คัน พร้อมด้วยแคมเปญสุดพิเศษและข้อเสนอที่แตกต่างกันเพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าได้ง่ายยิ่งขึ้น ได้แก่
          แคมเปญ "Double Smile" ดาวน์ 0 บาท ประกัน 0 บาท
แคมเปญ "ฮอนด้าช่วยผ่อน" โดยฮอนด้าช่วยผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 1,000 บาท และสูงสุดเดือนละ 10,000 บาท นาน 12 เดือน
รถยนต์เก่าแลกซื้อรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี เพียงนำรถยนต์รุ่นใดยี่ห้อใดก็ได้ มาเปลี่ยนเพื่อซื้อรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ทุกรุ่น รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท เพียงจองรถยนต์ตั้งแต่วันที่
          20 พฤศจิกายน 2561 – 28 กุมภาพันธ์ 2562 และรับรถยนต์ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562
ดอกเบี้ยพิเศษสำหรับเจ้าของรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่น (Honda Loyalty) รับดอกเบี้ยพิเศษลดลง 0.15% จากลูกค้าทั่วไป
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:03:14 PM
ภาพข่าว: “แมคลาเรน 600 แอลที ปรากฏโฉมครั้งแรกในไทย”



          วิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป (คนกลาง) งานเปิดตัว แมคลาเรน 600 แอลที สุดยอดยนตรกรรมระดับหรูจากประเทศอังกฤษ รุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อยกระดับตำนานซูเปอร์คาร์ตระกูลแอลที คลาสสิกให้ก้าวล้ำสู่อนาคต อย่างเป็นทางการครั้งแรก ในงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35 ณ อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561
 
 
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:05:51 PM
ฮอนด้า ยกทัพใหญ่ส่งท้ายปีบุกงาน “มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018” พร้อมเปิดตัวบิ๊กไบค์ 500 Series โฉมใหม่ และ CBR650R, CB650Rเอาใจสายสปอร์ต ให้คนไทยได้ใช้เป็นประเทศแรกของโลก พร้อมจัดเต็มโปรโมชั่นพิเศษสุดแห่งปี ดาวน์ 0% หลายรุ่นมากมาย









เอ พี ฮอนด้า เปิดตัวรถ 7 รุ่นในงาน Motor Expo
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Ys_ezHwLldI" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Ys_ezHwLldI</a>

          เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ระดมทีเด็ดบุกตลาดบิ๊กไบค์ช่วงปลายปี ยึด "มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018" เปิดตัวรถโฉมใหม่ในตระกูล 500 Series ทั้ง CBR500R CB500F และ CB500X เสริมทัพ CBR650R และ CB650R ที่เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ถอดแบบมาจากรุ่นใหญ่ CBR/CB1000R พร้อมพบกับรถจักรยานยนต์โปรเจ็คพิเศษจาก CUB House กับ Monkey และ C125 Limited Edition จำกัดรุ่นละ 100 คันเท่านั้น
          นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์อันดับ 1 ในเมืองไทย เปิดเผยว่า ภายใต้กลยุทธ์แบรนด์ "WHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด" บริษัทนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป พร้อมทางเลือกหลากหลายให้ตรงกับความต้องการ หวังเพิ่มความสุขให้ทุกการเดินทาง ในงาน"มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35" หรือ The 35th Thailand International Motor Expo 2018 บริษัทได้นำรถจักรยานยนต์ทั้งกลุ่ม บิ๊กไบค์ และรถรุ่นพิเศษจาก CUB House มาจัดแสดงหลายรุ่น รวมถึงไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัวรถโฉมใหม่ในตระกูล 500 (All New 500 Series) 3 รุ่น และรถใหม่ตระกูล 650 (New 650 Series) 2 รุ่น ให้คนไทยได้ใช้เป็นประเทศแรกของโลกหลังจากเปิดตัวอย่างฮือฮาที่งานจัดแสดงรถจักรยานยนต์นานาชาติชื่อก้องโลกอย่าง อิกมา (EICMA) ประเทศอิตาลี
          สำหรับโฉมใหม่ในตระกูล 500 ทั้งที่เป็นสายสปอร์ต CBR500R, สายเนคเคดไบค์ (Naked Bike) CB500F และสายเอนดูโร ( Enduro ) CB500X เครื่องยนต์ 2 สูบ 500 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้าง รวมถึงการออกแบบและสีสันใหม่ทั้งคัน โดยรุ่น CBR500R ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสนุกสนานในการขับขี่แบบเรซซิ่งสปอร์ต มีการปรับตำแหน่งที่นั่งและระยะมือจับใหม่ (Handle Bar) ช่วยให้ท่านั่งผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้คล่องแคล่วและสะดวกสบายมากขึ้น
          นอกจากนี้ยังเพิ่ม Feature ทันสมัยให้ทั้ง 3 รุ่น CBR500R , CB500F และ CB500X อย่างไฟหน้า-หลังแบบ Full LED มาตรวัดดิจิตอลใหม่พร้อมแสดงตำแหน่งเกียร์ และระบบ Emergency Stop Tail Light แสดงไฟฉุกเฉินเมื่อรถเบรกกะทันหัน เหมือนที่ใช้ในกลุ่มรถซูเปอร์สปอร์ต ตลอดจนระบบ Assist & Slipper Clutch ช่วยลดอาการกระชากของล้อหลังในช่วงเปลี่ยนเกียร์สูงลงมาเกียร์ต่ำ เพิ่มความปลอดภัยและขับขี่ได้นุ่มนวล ขณะที่รุ่น CB500X สไตล์เอนดูโร สำหรับคนชอบขี่ออกทริปท่องเที่ยวยังมาพร้อมล้อขนาดใหญ่ขึ้นอีกด้วย
          สำหรับราคาขายปลีกช่วงแนะนำ CBR500R ราคา 217,000 บาท CB500F ราคา 212,000 บาท และ CB500X ราคา 222,000 บาท พร้อมทั้งนำเสนอรถตระกูล 500 กับชุดแต่งพิเศษ CBR500R Racing Addict Edition ในราคา 243,200 บาท และ CB500X พร้อมชุดแต่ง Bordering Edition ในราคา 243,900 บาท
          นอกจากตระกูล 500 Series โฉมใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมแล้ว เอ.พี. ฮอนด้า ยังเอาใจผู้ที่ชื่นชอบเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 650 ซีซี ทั้งสปอร์ตแบบฟูลแฟริ่งCBR650R และสไตล์ นีโอ สปอร์ต คาเฟ่ CB650R โดยในรุ่น CBR650R มาพร้อมรูปลักษณ์สปอร์ตแบบเต็มขั้น ขณะที่ CB650R เน้นความเท่แบบมีสไตล์เป็นของตนเอง แต่ทั้ง 2 รุ่น เร้าใจด้วยเทคโนโลยียานยนต์ที่ถอดแบบ DNA มาจากรุ่นใหญ่ CBR1000RR
          ในด้านอุปกรณ์ติดรถ ฮอนด้า 650 Series 2 รุ่นนี้ ยังเท่ด้วยมาตรวัดใหม่แบบดิจิตอลพร้อมไฟแสดงตำแหน่งเกียร์ เพื่อการเปลี่ยนเกียร์ที่แม่นยำขึ้น โดยรุ่นCBR650R ยังวางตำแหน่งมือจับ (Handle Bar) และถังน้ำมันใหม่ เพื่อความสมดุลและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม พร้อมไฟหน้าแบบ Duo Head Light ใช้หลอด LED รอบคัน ส่วนรุ่น CB650R ใช้ไฟหน้าทรงกลม ที่โดดเด่นด้วย LED แบบวงแหวน
          ด้านความปลอดภัยทั้ง CBR650R และ CB650R มาพร้อมโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับขนาดใหญ่ (Upside down) และ ดิสก์เบรกคาลิปเปอร์ 4 พอร์ต มั่นใจด้วยAssist & Slipper Clutch ช่วยลดอาการกระชากของล้อหลังในช่วงเปลี่ยนเกียร์สูงลงมาเกียร์ต่ำ ระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) เทคโนโลยีจากสนามแข่ง ช่วยปรับกำลังเครื่องยนต์ให้เหมาะสมตามสภาพการขับขี่ และป้องกันล้อหมุนฟรี ติดตั้งระบบ Emergency Stop Tail Light แสดงไฟฉุกเฉินเมื่อรถเบรกกะทันหันแบบที่ใช้ในรถระดับซูเปอร์สปอร์ต
          สำหรับราคาขายปลีกช่วงแนะนำ CBR650R ราคา 320,000 บาท และ CB650R ราคา 305,000 บาท พร้อมทั้งนำเสนอรถตระกูล 650 กับชุดแต่งพิเศษCBR650R Furious Edition ในราคา 350,000 บาท และ CB650R Muscular Edition ในราคา 324,500 บาท
          ขณะเดียวกันทาง เอ.พี. ฮอนด้า ยังเปิดตัวโปรเจ็คพิเศษสำหรับรถจักรยานยนต์จาก CUB House ด้วยความร่วมมือระหว่าง H2C for CUB House กับสำนักแต่งระดับโปร MORIWAKI สร้างสรรค์ตำนาน C125 และ Monkey ให้ดูมีชีวิตชีวา มากขึ้น ด้วยสไตล์การตกแต่งพิเศษภายใต้แนวคิด Never Over A hundred และผลิตจำกัดรุ่นละ 100 คันเท่านั้น
          โดย C125 รุ่น Exclusive Limited Edition มาในโทนขาวและฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ ภายใต้คอนเซปต์ VERY SERIOUS BLUE แต้มแต่งชิ้นงานสีน้ำเงินเพิ่มความโดดเด่นให้รถรอบคัน พร้อมปลายท่อไอเสีย Megaphone Black เพิ่มความเป็น Classic Sport ส่วน Monkey รุ่น Exclusive Limited Edition มาภายใต้คอนเซปต์ VERY SERIOUS SPORT จัดจ้านด้วยชุดแต่งสีน้ำเงินและเหลืองรอบคัน เพิ่มพลังแห่งความซุกซนด้วยปลายท่อไอเสีย MORIWAKI ZERO TYPE
          สำหรับราคาช่วงแนะนำ C125 รุ่น Exclusive Limited Edition ราคา 114,900 บาท และ Monkey รุ่น Exclusive Limited Edition ราคา 129,900 บาท
          นอกจากนี้ทาง เอ.พี. ฮอนด้า ได้จัดข้อเสนอสุดพิเศษแห่งปี เมื่อซื้อรถในกลุ่มบิ๊กไบค์รวมถึงรถจักรยานยนต์รุ่นอื่น ๆ ที่ยกขบวนมาอวดโฉมเต็มเวที พร้อมจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ตั้งแต่วันนี้จนถึง 10 ธันวาคมนี้

          รถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์
          - Honda CB500X , Rebel500 , Africa Twin โมเดลปี 2017, CB650F , CBR650F, CBR500R โมเดลปี 2017 และ CB500F
          o รับรถได้ทันที!
          o โปรโมชั่นสุดพิเศษ ดาวน์ 0%
          o รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อมทะเบียน พ.ร.บ.
          o Gift Voucher รวมมูลค่าของแถม 20,000 - 42,000 บาท

          รถจักรยานยนต์ฮอนด้า
          - All New Forza
          o รับรถได้ทันที
          o ราคาพิเศษ 169,000 บาท
          o ดอกเบี้ยเริ่มต้น 5%
          o ดาว์เริ่มต้นที่ 0 บาท
          o จองรถภายในงานเพียง 1,000 บาท รับทันทีแจ็กเก็ตมูลค่า 1,200 บาท ฟรี

          - New PCX150 Hybrid
          o ราคา 98,500 บาท
          o ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ 0.9%
          o ดาวน์เริ่มต้นที่ 0 บาท
          o จองรถภายในงานเพียง 1,000 บาท รับทันทีเสื้อโปโลมูลค่า 800 บาท ฟรี

          - CB150R
          o ราคาพิเศษ 96,900 บาท เฉพาะในงาน
          o ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0.9%
          o จองรถภายในงานเพียง 1,000 บาท รับทันทีฟรีทันทีเสื้อยืดมูลค่า 300 บาท
          o รับฟรีทันทีกล้อง GoPro มูลค่า 11,900 บาท ในวันที่ออกรถ

          - CB300R
          o ราคาพิเศษ 149,800 บาท เฉพาะในงาน
          o รับฟรีเสื้อยืด 300 บาท และกล้อง GoPro มูลค่า 11,900 บาท
          o รับฟรีทันทีกล้อง GoPro มูลค่า 11,900 บาท ในวันที่ออกรถ

          ทั้งนี้พิเศษสุด CUB House ขอมอบ Gift Voucher มูลค่า 3,000 บาท สำหรับซื้ออุปกรณ์ตกแต่งเมือตัดสินใจเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ระดับตำนาน 2 รุ่น ทั้ง Monkey และ C125
          ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ได้ที่ บูธ G05 บริเวณ "Motorcycle Zone" ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพ็คเมืองทองธานี ในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35" ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2561 หรือดูรายละเอียดของรถรุ่นต่างๆ พร้อมข่าวสารและโปรโมชั่นพิเศษได้ที่www.aphonda.co.th และติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ผ่านทาง เฟสบุคแฟนเพจรถจักรยานยนต์ฮอนด้า www.facebook.com/hondamotorcyclethailand.com
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:07:16 PM
“ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์” เผยโฉม “สตรีท ทวิน” และ “สตรีท สแครมเบลอร์” โฉมใหม่ปี 2019 ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35”

          - พร้อมรับของขวัญสุดพิเศษจากไทรอัมพ์ "Triumph Exclusive Surprise" สำหรับลูกค้าที่จองรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ภายในงานนี้เท่านั้น









          ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เปิดไฮไลท์รถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ส่งท้ายปีเอาใจสาวกโมเดิร์นคลาสสิกต่อเนื่องด้วยสองสมาชิกใหม่ล่าสุดของตระกูลบอนเนวิลล์ ได้แก่ "สตรีท ทวิน" (New Street Twin 2019) โฉมใหม่ปี 2019 ราคา 407,000 บาท และ "สตรีท สแครมเบลอร์" (New Street Scrambler 2019) โฉมใหม่ปี 2019 ราคา 489,000 บาท ที่ได้รับการพัฒนาในเรื่องพละกำลังเครื่องยนต์ อุปกรณ์ที่มีคุณลักษณะเฉพาะมากขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีชั้นนำ และรายละเอียดการตกแต่งตัวรถที่มีสไตล์สวยงามเฉพาะตัว พร้อมแล้วที่จะให้คนไทยได้ยลโฉมและสัมผัสอย่างใกล้ชิดรวมถึงจับจองเป็นเจ้าของครั้งแรกก่อนใครในเอเชียแปซิฟิกภายในงาน"มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35" หรือมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018 ณ บูธไทรอัมพ์ G07 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 – วันที่ 10 ธันวาคม 2561
          นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35" หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป 2018 ในครั้งนี้ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ได้จัดเซอร์ไพรส์ใหญ่เอาใจสาวกโมเดิร์นคลาสสิกต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวสองสมาชิกใหม่ล่าสุดของตระกูลบอนเนวิลล์ ได้แก่ "สตรีท ทวิน" (New Street Twin 2019) และ "สตรีท สแครมเบลอร์" (New Street Scrambler 2019) โฉมใหม่ล่าสุดปี 2019 ที่ได้รับการพัฒนาในเรื่องพละกำลังเครื่องยนต์ อุปกรณ์ที่มีคุณลักษณะเฉพาะมากขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีชั้นนำ และรายละเอียดการตกแต่งตัวรถที่มีสไตล์สวยงามเฉพาะตัว มาให้คนไทยได้ยลโฉมและสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด รวมถึงจับจองเป็นเจ้าของก่อนใครเป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก
          นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า เริ่มต้นที่ไฮไลท์แรกสำหรับรถ "สตรีท ทวิน" โฉมใหม่ (The New Street Twin 2019) รถมอเตอร์ไซค์ที่สืบทอดความเป็นต้นแบบแท้จริงโดยเป็นรถมอเตอร์ไซค์โมเดิร์นคลาสสิกที่จะพาไปสู่ความตื่นเต้นเร้าใจในการขับขี่ที่มากขึ้นกว่าเดิม ด้วยพละกำลังและประสิทธิภาพของรถที่เพิ่มมากขึ้นอย่างโดดเด่นเห็นได้ชัด มาพร้อมเครื่องยนต์บอนเนวิลล์แรงบิดสูง ขนาด 900 ซีซี ที่ผ่านการปรับปรุงพัฒนา ส่งต่อกำลังสูงสุดที่มากกว่าเดิมถึง 10 แรงม้า โดยให้พละกำลังสูงสุดถึง 65 แรงม้า ที่ 7,500รอบต่อนาที พร้อมมอบแรงบิดสูงสุดระดับมหาศาลถึง 80 นิวตันเมตร ที่ 3,800 รอบต่อนาที ผสานกับระบบเก็บเสียงท่อคู่ (Twin Upswept) ที่มอบเสียงของเครื่องยนต์สัญชาติอังกฤษอย่างแท้จริง เข้ากับภาพลักษณ์ของการขับขี่ สตรีท ทวิน ที่สามารถได้ยินและสัมผัสได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านคุณลักษณะเฉพาะตัวยังพัฒนาเพิ่มมากขึ้น เพื่อมอบความสะดวกสบายและการควบคุมการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เบรกหน้าใหม่จาก Brembo แบบ 4 สูบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกให้ดียิ่งขึ้น โช้คหน้าใหม่ที่มีประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายมากกว่าเดิม รวมถึงปรับเปลี่ยนท่วงท่าของผู้ขับขี่ให้ขับขี่สบายขึ้นตามหลักสรีรศาสตร์ของผู้ขับขี่ รวมทั้งเพิ่มความสบายของเบาะนั่งทั้งผู้ขับขี่และคนซ้อน เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขี่ที่สุดแสนเร้าใจ และเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ที่มากยิ่งขึ้นกว่าที่เคย
          นอกจากนี้ด้านเทคโนโลยีชั้นนำอันดับหนึ่งจัดหนักจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรก ABS อันเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อสร้างความปลอดภัยในการขับขี่สูงสุด ระบบคันเร่งไฟฟ้า (Ride-by-wire) ตอบสนองการขับขี่ที่แม่นยำมากขึ้น ระบบการควบคุมการยึดเกาะถนนแบบเปิด-ปิดได้ (Traction Control) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและการควบคุมรถของผู้ขับขี่ คลัตช์แบบผ่อนแรง (Torque Assist Clutch) เพิ่มระยะทางการขับขี่และเพื่อให้ลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ช่วยทำให้สามารถขับขี่ทางไกลได้นานขึ้น พร้อมโหมดการขับขี่ 2 โหมด ได้แก่ ถนน (Road) และฝนตก (Rain) สำหรับประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดในทุกสภาวะ ไฟท้าย LED ใหม่ที่ติดตั้งลงในชุดไฟท้ายแบบเปลือยที่ดูดีมีสไตล์ ช่วยให้ไฟท้ายมีรูปแบบที่เฉพาะตัวและประหยัดพลังงาน กุญแจพร้อมระบบป้องกันการโจรกรรม (Immobiliser) ตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด และช่องชาร์จไฟผ่านพอร์ท USB ใต้เบาะที่นั่ง ตลอดจนอุปกรณ์ตกแต่งเสริมใหม่ เช่น ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS – Tyre Pressure Monitoring System) เพื่อประสบการณ์และความมั่นใจในการขับขี่จริงที่ดีกว่าเดิม เป็นต้น ในขณะที่ด้านรูปลักษณ์มาพร้อมสไตล์เฉพาะตัวร่วมสมัยที่มากกว่าเดิม อาทิ ล้อซี่หล่อขึ้นรูปอะลูมิเนียมลายใหม่ลงรายละเอียด พร้อมการตกแต่งคุณภาพสูงที่ช่วยเพิ่มมิติใหม่ ๆ ให้แก่รถมอเตอร์ไซค์ รวมถึงโลโก้ของ สตรีท ทวิน แบบใหม่บนแผงด้านข้าง ช่วยเสริมมุมมองที่ดูร่วมสมัยมากขึ้น รวมถึงการอัพเกรดการตกแต่งอุปกรณ์ต่าง ๆ
          นอกจากนี้ยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมมากกว่า 140 รายการ ให้สามารถสร้างรถมอเตอร์ไซค์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้ง่ายกว่าที่เคย รวมถึงมีชุดตกแต่งรถสร้างแรงบันดาลใจ 2ชุด สำหรับใช้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับผู้ขับขี่ที่อยากจะออกแบบ สตรีท ทวิน ในรูปแบบของตัวเอง หรืออยากจะตกแต่งแบบเต็มรูปแบบ ได้แก่ ชุด Urban Ride สไตล์ Stripped back และชุด Cafe Custom สไตล์เมืองแบบร่วมสมัยอีกด้วย
          ทั้งนี้ สตรีท ทวิน" โฉมใหม่ (The New Street Twin 2019) มาพร้อม 3 สีให้เลือกได้แก่ Matt Ironstone, Korosi Red และ Jet Black ราคา 407,000 บาท พร้อมเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เป็นต้นไป
          ส่วนอีกหนึ่งรุ่นไฮไลท์ของงาน คือ "สตรีท สแครมเบลอร์" โฉมใหม่ (The New Street Scrambler 2019) รถมอเตอร์ไซค์ที่มาพร้อมอิสระและความสนุกสนานไร้ขีดจำกัด ซึ่งได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นทั้งด้านพละกำลัง และประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้นอย่างโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด จนก้าวขึ้นเป็นรถระดับชั้นนำอย่างแท้จริง โดยมาพร้อมเครื่องยนต์บอนเนวิลล์แรงบิดสูง 900 ซีซี ส่งต่อกำลังสูงสุดที่มากกว่าเดิมถึง 10 แรงม้า สูงสุด 65 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 80 นิวตันเมตร ที่ 3,200 รอบต่อนาที รวมถึงการปรับปรุง ฝาครอบลูกเบี้ยวใหม่ทำจากแมกนีเซียม เพลาข้อเหวี่ยงน้ำหนักเบา เพลาตาย และเพลาถ่วงดุล ฝาครอบคลัตช์ใหม่ และคลัตช์ใหม่น้ำหนักเบา ตลอดจนระบบท่อไอเสียคุณภาพสูง ที่ช่วยส่งมอบเสียงของเครื่องยนต์สแครมเบลอร์อย่างแท้จริง เข้ากับภาพลักษณ์ของการขับขี่ที่เคยได้ยินและสัมผัส ผสานความคล่องแคล่วว่องไว ส่งมอบความตื่นเต้นเร้าใจได้เป็นอย่างดี
          ด้านคุณลักษณะ "สตรีท สแครมเบลอร์" โฉมใหม่ มาพร้อมคุณลักษณะเฉพาะตัวที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น โดยได้ถูกออกแบบมาเพื่อส่งต่อการควบคุมที่แม่นยำพร้อมมอบความรู้สึกปราดเปรียว ด้วยโครงสร้างรถและระบบกันการสั่นสะเทือนที่ได้รับการพัฒนาผสมผสานกับไดนามิกการขับขี่และสไตล์ อาทิ เบรกหน้า Brembo 4สูบใหม่พร้อมคาลิปเปอร์ โช้คหน้าใหม่ที่มีคุณลักษณะเฉพาะตัวที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนโครงรถแบบใหม่ที่เป็นคุณลักษณะเฉพาะของสแครมเบลอร์ ที่มีแฮนด์บังคับกว้างกว่าเดิม ที่พักเท้าโน้มไปด้านหน้าและล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว ที่มาพร้อมยางรถที่สามารถให้การยึดเกาะเป็นอย่างดีบนพื้นถนนทางเรียบและบนพื้นผิวแบบ Light off-road ตลอดจนตำแหน่งเบาะนั่งที่ต่ำลงทำให้เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ขับขี่ที่มีส่วนสูงทุกระดับ
          ส่วนด้านเทคโนโลยีใหม่ชั้นนำอันดับหนึ่งอัดแน่น ประกอบด้วย โหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ ถนน (Road) ฝนตก (Rain) และออฟโรด (Off-Road) ใหม่ โดยโหมดRoad และ Rain จะช่วยปรับแผนที่และการตั้งค่าการควบคุมการยึดเกาะถนน ส่วนโหมด Off-Road ใหม่นี้จะเป็นการปิดระบบ ABS และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Traction Control) โดยสมบูรณ์ ซึ่งสามารถเปิดการใช้งานทั้ง 2 โหมดได้อีกในขณะขับขี่ โดยกดปุ่มโหมดค้างไว้ 1 วินาที ส่วนระบบเบรก ABS ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ความปลอดภัย และการควบคุมรถให้กับผู้ขับขี่ได้ดีขึ้น เป็นลักษณะเด่นของ สตรีท สแครมเบลอร์ โฉมใหม่ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถตามเป้าหมายการใช้งานทั้ง 2 แบบที่แท้จริง ระบบคันเร่งไฟฟ้า (Ride-by-wire) ตอบสนองการขับขี่ที่แม่นยำมากขึ้น ระบบการควบคุมการยึดเกาะถนน (Traction Control) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและการควบคุมรถของผู้ขับขี่ คลัตช์แบบผ่อนแรง (Torque Assist Clutch) เพิ่มระยะทางการขับขี่และเพื่อให้ลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่อันจะช่วยทำให้สามารถขับขี่ทางไกลได้นานขึ้น ไฟท้าย LEDส่องสว่างโดดเด่น กุญแจพร้อมระบบป้องกันการโจรกรรม (Immobiliser) ตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด และช่องชาร์จไฟผ่านพอร์ท USB ใต้เบาะที่นั่ง เป็นต้น ในขณะที่ด้านรูปลักษณ์ใช้งานได้มากขึ้นและสวยงามมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น โลโก้แบบร่วมสมัยใหม่ การตกแต่งสไตล์พรีเมี่ยมใหม่ ชุดเบาะนั่งแบบแอดเวนเจอร์ใหม่ และโช้คคู่หน้าที่กว้างขึ้นเพื่อการขับขี่สไตล์สแครมเบลอร์ที่มากกว่าเดิมและการทรงตัวที่ดีขึ้น รวมถึงโดดเด่นด้วยสไตล์ stripped back
          ทั้งนี้ "สตรีท สแครมเบลอร์" โฉมใหม่ ได้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างโอกาสที่สมบูรณ์แบบให้แก่นักบิดทุกคนได้ปรับแต่งรถในแบบฉบับของตัวเอง ด้วยอุปกรณ์เสริมให้เลือกสรรกว่า 120 รายการ จึงทำให้สามารถวิ่งบนเส้นทางออฟโรดได้ รวมทั้งมีสไตล์ของตัวเองเหมาะกับการใช้งานในทุกวัน ตลอดจนการรังสรรค์ชุดแต่งรถสร้างแรงบันดาลใจสุดเร้าใจขึ้นมา เพื่อใช้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับผู้ขับขี่ที่อยากจะออกแบบ สตรีท สแครมเบลอร์ ในรูปแบบของตัวเอง หรืออยากจะตกแต่งแบบเต็มรูปแบบ ได้แก่ ชุด Urban Tracker สไตล์ Stripped-back ตกแต่งด้วยตัวเองสุดคูล
          โดย "สตรีท สแครมเบลอร์" โฉมใหม่ มีให้เลือก 3 สี ได้แก่สี Fusion white, Cranberry Red และ Khaki Green / Matt Aluminum พร้อมเส้นขอบซึ่งวาดด้วยมือ สีJet black สนนราคา 489,000 บาท โดยพร้อมเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เป็นต้นไป
          ขณะที่ภายในงานยังเผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์โมเดิร์นคลาสสิกสายลุยตัวจริงที่เพิ่งเปิดตัวไปล่าสุดอย่าง "สแครมเบลอร์ 1200 เอ็กซ์ซี" (Scrambler 1200 XC) และ"สแครมเบลอร์ 1200 เอ็กซ์อี'' (Scrambler 1200 XE) รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกสายลุยที่มาพร้อมเครื่องยนต์แรงบิดสูงสูบคู่ขนาด 1,200 ซีซี และเกณฑ์มาตรฐานใหม่ทั้งหมด นำเสนอความสามารถแบบ Dual Purpose และสไตล์การตกแต่งแบบโมเดิร์น พร้อมด้วยคุณลักษณะเฉพาะและเทคโนโลยีชั้นนำรวมถึงรูปลักษณ์ซึ่งหลอมรวมเข้ากับ DNAของสแครมเบลอร์ของไทรอัมพ์ที่โดดเด่น ตลอดจนความสามารถของรถสไตล์แอดเวนเจอร์เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างแท้จริง ที่สำคัญเป็นรถมอเตอร์ไซค์คันแรกของโลกที่ติดตั้งระบบควบคุมกล้อง GoPro และระบบนำทางแบบ Turn-by–turn ถือเป็นครั้งแรกของรถมอเตอร์ไซค์โมเดิร์นคลาสสิกยุคใหม่ที่ก้าวขึ้นไปอีกขั้น
          โดย "สแครมเบลอร์ 1200 เอ็กซ์ซี" (Scrambler 1200 XC) มาพร้อมกับ 2 สีได้แก่ สี Jet Black / Matt Black และสี Khaki Green / Brooklands Green สนนราคาจำหน่ายประมาณการ 613,000 บาท ส่วน "สแครมเบลอร์ 1200 เอ็กซ์อี'' (Scrambler 1200 XE) มีให้เลือก 2 สีสุดพรีเมี่ยมเช่นกัน ได้แก่ Fusion White / Brooklands Green และสี Cobalt Blue / Jet Black สนนราคาจำหน่ายประมาณการ 656,000 บาท
          อย่างไรก็ตาม นอกจากกรถมอเตอร์ไซค์ไฮไลท์ข้างต้นแล้ว บูธไทรอัมพ์ภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018 ยังขนทัพรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ครบทุกเซกเมนต์ทุกรุ่นมาโชว์และให้สัมผัสอย่างใกล้ชิด รวมถึงรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์รุ่น สปีดมาสเตอร์ (Speedmaster) ที่ถูกคัสตอมด้วยชุดแต่ง 'Maverick' แบบจัดเต็มครบชุดมาโชว์เป็นครั้งแรกพร้อมกันนี้ยังมีโซนเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดที่ขนมาให้เลือกชมและซื้อกันอย่างจุใจ พร้อมส่วนลดพิเศษสูงสุด 30% ตลอดจนโปรโมชั่นอีกมากมาย พิเศษสุด ๆ สำหรับลูกค้าที่จองรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ทุกรุ่นทุกคันภายในงานเท่านั้นจะได้รับ "Triumph Exclusive Surprise" ลุ้นรับของขวัญเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจากไทรอัมพ์อีกด้วย นายจักรพงษ์กล่าวทิ้งท้าย
          โดยผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บูธไทรอัมพ์ G07 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 - วันที่ 10 ธันวาคม 2561 สอบถามข้อมูลติดต่อ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เว็บไซต์ www.triumphmotorcycles.co.th ตลอดจนติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand

          เกี่ยวกับ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์:
          ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1902 มีพนักงานทั่วโลกราว 2,000 คน มีบริษัทสาขาทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน กลุ่มประเทศเบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย และไทย ซึ่งทางบริษัทเข้ามาทำการตลาดและจัดจำหน่ายในนาม บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งแต่ปี 2015 มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 620 รายทั่วโลก บริษัทฯ มีฐานการผลิตจักรยานยนต์เต็มรูปแบบ 2 แห่งที่ฮิงค์ลีย์ เขตเลสเตอร์ไซร้ ประเทศอังกฤษ และที่ประเทศไทย รวมทั้งมีโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์แบบ CKD (Completely Knocked Down) ในประเทศบราซิล และประเทศอินเดีย ปัจจุบันมีการผลิตรถจักรยานยนต์ราว 60,000 คันต่อปี โดยหัวใจหลักในการทำงานของ ไทรอัมพ์ คือ การมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวย คลาสสิก ร่วมสมัย เข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถ และสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:07:50 PM
ภาพข่าว: ยามาฮ่ายกทัพรถจักรยานยนต์ครบซีรี่ส์ร่วม มอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35 เผยโฉม XMAX 300 ใหม่ และ MT-15 พร้อมโชว์MT Concept Bike ดีไซน์แห่งอนาคต และจัดโปรโมชั่นสุดแรงเว่อร์



          นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ (คนที่ 6 จากซ้าย) รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และนายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ (คนที่ 5 จากขวา) รองประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ และนางสาววราทิพย์ เชยศักดิ์ (คนที่ 5 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดงาน บริษัท มอเตอร์ไซเคิลเอ็กซ์โป จำกัด ถ่ายภาพร่วมกันในพิธีเปิดบูธ Yamaha Unlock Your Style อย่างเป็นทางการ ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 35 หรืองานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018 โดยยามาฮ่ายกทัพรถจักรยานยนต์ครบทุกซีรี่ส์ร่วมจัดแสดง พร้อมเปิดขาย New Yamaha XMAX 300 ใหม่ พร้อมกับ MT-15 อย่างเป็นทางการ และนำรถต้นแบบ MT Concept Bike แห่งอนาคตมาร่วมเผยโฉม พร้อมกันนี้ยามาฮ่าได้จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษแบบแรงเว่อร์มาต้อนรับผู้เข้าชมงานทั้งสแตนดาร์ดไบค์ และบิ๊กไบค์ กันแบบจุใจ ภายในงาน มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2561 นี้ ณ บูธ "Yamaha Unlock Your Style" G03อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:08:32 PM
เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดหนักส่งท้ายปี อวดโฉมรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ EQA พร้อมเปิดตัว 2 รถหรูแรงตระกูลเอเอ็มจี ในมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35









          บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมพร้อมเข้าสู่งานมหกรรมจัดแสดงรถยนต์ สุดยิ่งใหญ่ในช่วงปลายปี 'มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018' ส่งตรงรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ EQA จากต่างประเทศ พร้อมเปิดตัวยนตรกรรม 2 รุ่นใหม่ล่าสุด จากแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ได้แก่ CLS 53 4MATIC+ ในราคา 7,090,000 บาท มาเอาใจคนไทยที่ชื่นชอบความหรูหราระดับ พรีเมี่ยม ที่มาพร้อมกับสมรรถนะเต็มพิกัด ให้ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด และน้องใหม่ ในตระกูล AMG GT อย่าง Mercedes-AMG GT S ในราคา 14,900,000 บาท พร้อมขนทัพยนตรกรรม รุ่นอื่นๆ มาจัดแสดงอีกกว่า 26 คัน ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2561 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี
          มร. โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "สำหรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปในปีนี้ ทางบริษัทฯ ได้นำเสนอรถยนต์ที่หลากหลายจากทั้ง 4 แบรนด์ภายใต้หลังคาของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนอง ความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด และตอกย้ำความเป็นแบรนด์รถยนต์พรีเมี่ยมอันดับหนึ่ง โดยภายในบริเวณบูธเราได้แบ่งโซนการจัดแสดงรถยนต์ออกเป็น 4 โซน ครอบคลุมรถยนต์ภายใต้ แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งในกลุ่ม Compact Car, Contemporary Luxury, Dream Car และ SUV รวมถึงแบรนด์รถยนต์หรูระดับอัลตร้า ลักชัวรี อย่างเมอร์เซเดส-มายบัค รถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงระดับพรีเมี่ยม อย่าง เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และแบรนด์เทคโนโลยีกับรถยนต์ ปลั๊กอินไฮบริด อย่าง EQ Power เพื่อแสดงให้ลูกค้าได้สัมผัสรถยนต์แต่ละกลุ่มได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น"
          "หนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่ทุกคนจะได้พบในปีนี้ คือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ คอนเซ็ปต์ อีคิวเอ รถยนต์ต้นแบบที่จะแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์อีคิวที่จะถูกนำมาใช้ในรถยนต์กลุ่มคอมแพค โดยรถยนต์รุ่นนี้ได้ผสานความคล่องตัวอันน่าประทับใจเข้ากับระยะทางในการขับขี่ที่ยาวไกล ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ผ่านการใช้สถาปัตยกรรมซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ที่สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร เพื่อเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มทุกแนวคิดเกี่ยวกับการเดินทางแห่งอนาคต และการใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้วางรากฐานไว้เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานไปจนถึงปี 2025"
          "และไฮไลท์ถัดมาคือการตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในด้านยนตรกรรมสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์ 'เมอร์เซเดส เอเอ็มจี' ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญ และมีอัตราการเติบโตประมาณ 400% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปในครั้งนี้นับเป็นการสานต่อความร้อนแรงของรถยนต์กลุ่มเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี หลังจากที่บริษัทฯ ได้จัดทดสอบสมรรถนะรถยนต์กลุ่มนี้ครบทั้งตระกูลเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในเดือนที่ผ่านมา โดยภายในงานบริษัทฯ ได้เปิดตัวยนตรกรรม 2 รุ่นใหม่ล่าสุด จากแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ได้แก่ CLS 53 4MATIC+ และน้องใหม่ในตระกูล AMG GT อย่าง Mercedes-AMG GT S เพื่อเอาใจสาวกดาวสามแฉกที่ชื่นชอบรถยนต์สมรรถนะสูงโดยเฉพาะ" มร. โรลันด์ กล่าวเพิ่มเติม
          มร. ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "นอกจากรถยนต์ต้นแบบ EQA ที่ทางบริษัทฯ นำมาจัดแสดงแล้ว เรายังได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นใหม่จากแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี อย่าง Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ ผลลัพธ์ของการผสมผสานเครื่องยนต์ที่ให้กำลัง 435 แรงม้ากับรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต และอัตราการใช้พลังงานที่เยี่ยมยอด ดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในสร้างสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะให้หรูหรา หลากหลาย และเข้ากับรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่เป็นอย่างดี และสุดท้ายกับอีกหนึ่งน้องใหม่ ในตระกูล AMG GT อย่าง Mercedes-AMG GT S รถยนต์แบบคูเป้ที่ใช้อลูมิเนียมน้ำหนักเบาแบบ spaceframe เครื่องยนต์ V8 Biturbo เกียร์คลัทช์แบบ 7 สปีด เพื่อ เอาใจคนรักความเร็วและแรงโดยเฉพาะ"
          "ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่เราได้ขนทัพยนตรกรรมสปอร์ตสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีจำนวนกว่า 8 รุ่น ครบทั้งตระกูลครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์คอมแพค ในรุ่น 45 ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ รถซาลูนรุ่นประกอบในประเทศ และรถยนต์สไตล์คูเป้ รุ่น 43 หรือรถยนต์รุ่น 53 นำเข้าที่เพิ่งเปิดตัวในครั้งนี้ รวมถึงรถยนต์เครื่องแรงที่สุดในรุ่น 63 และตระกูล AMG GT ครบทั้ง GT S GT C และ GT R มากที่สุดเท่าที่เคยร่วมงานจัดแสดงรถยนต์ เพื่อมาให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด โดยในปัจจุบันหลังจากการเปิดตัวในวันนี้ ทางบริษัทฯ จะมีรถยนต์แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีที่วางขายในประเทศไทย จำนวนทั้งหมด 13 รุ่น ได้แก่ Mercedes-AMG A 45 4MATIC, Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe, Mercedes-AMG C 63 S Coupe, Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+, Mercedes-AMG SLC 43, Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupe, Mercedes-AMG GLE 43 4MATIC Coupe, Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+, Mercedes-AMG GT C Roadster, Mercedes-AMG GT R และ Mercedes-AMG GT S" มร.ฟรังค์ กล่าวเพิ่มเติม

          ข้อมูลผลิตภัณฑ์
          เมอร์เซเดส-เบนซ์ คอนเซ็ปต์ อีคิวเอ รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่จะแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์อีคิวที่จะถูกนำมาใช้ในรถยนต์กลุ่มคอมแพค ด้วยระบบขับเคลื่อนซึ่งมีมอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งชุดที่เพลาหน้า และอีกหนึ่งชุดที่เพลาท้าย ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ให้กำลังสูงสุดกว่า 200 กิโลวัตต์ โดยสไตล์การ ขับขี่ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ ผ่านการปรับการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อให้แบ่งกำลังไปยังล้อหน้า และล้อหลังในรูปแบบที่แตกต่างกัน
          โดยคอนเซ็ปท์ อีคิวเอ คือผลจากการนำปรัชญาการออกแบบ Sensual Purity มาตีความใหม่ พร้อมกับขับเคลื่อนแนวคิด Modern Luxury ให้พัฒนาสู่ความเป็น Progressive Luxury โดย ลบองค์ประกอบที่เป็นสัน และเส้นออกไป และก้าวสู่ความบริสุทธิ์หมดจดในอีกระดับ สัดส่วนที่น่าตื่นตารวมถึงพื้นผิวที่ราบรื่นไร้รอยต่อ เมื่อผสานกับกราฟิกเร้าอารมณ์ที่เกิดจากการใช้ แผงด้านหลังแบบไฮเทคสีดำ บ่งบอกถึงความเป็นที่สุดของการออกแบบที่โดดเด่น ทำให้รถยนต์คันนี้ดูมีเสน่ห์อย่างแท้จริง นอกจากนี้รถยนต์คันนี้ได้เพิ่มความสวยงามภายนอก ด้วยเทคโนโลยี ไฟส่องสว่างที่โดดเด่นด้วยเลเซอร์ไฟเบอร์ โดยที่ตัวกลางซึ่งถูกกระตุ้นด้วยแสงเลเซอร์ได้ถูกฝังไว้ในแกนกลางของเคเบิ้ลใยแก้ว ไฟรูปทรงขดเกลียวเล็กๆ สวยสะดุดตาช่วยเน้นย้ำแนวคิดของรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งด้วยการออกแบบที่ชวนให้นึกถึงขดลวดทองแดงในมอเตอร์ไฟฟ้า และ ภาพการเคลื่อนไหวที่ให้มโนภาพถึงการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า
          มอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบได้เพิ่มกำลังขับเคลื่อนมากขึ้นกว่า 200 กิโลวัตต์ ด้วยผลของระบบแบตเตอรี่แบบเพิ่มขยายส่วนประกอบได้ ตลอดจนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลาที่ให้สมรรถนะอันปราดเปรียวอย่างน่าประทับใจ โหมดการขับขี่ 2 รูปแบบ คือ "Sport" และ "Sport Plus" ปรับเปลี่ยนแรงบิดที่ส่งไปยังล้อหน้า และล้อหลังในอัตราที่แตกต่างกัน จึงเลือกบุคลิกการขับขี่ในแต่ละแบบได้ แผงสีดำบริเวณตอนหน้าของรถ ทำหน้าที่เป็นกระจังหน้าแบบเสมือน และจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปตามโหมดการขับขี่ที่ใช้ โดยในโหมด "Sport" กระจังจะแสดงภาพปีกติดเปลวเพลิงในแนวนอน ส่วนในโหมด "Sport Plus" ภาพที่แสดงจะเป็นเส้นขีดแนวตั้งรูปกระจังหน้าในแบบแพนอเมริกาน่า ด้วยโหมดการทำงานแบบอัจฉริยะของเมอร์เซเดส-เบนซ์ รถต้นแบบ คอนเซ็ปท์ อีคิวเอ สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ที่ติดตั้งเอาไว้ด้วย ซึ่งแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูงนี้ เป็นแบบเซลล์กระเป๋า (Pouch Cell) ที่ผลิตขึ้นโดยบริษัทย่อยของเดมเลอร์ คือ บริษัท ดอยท์ช แอคคิวโมทิฟ ซึ่งผลจากการออกแบบในแบบโมดูลาร์ ทำให้ระบบแบตเตอรี่ชนิดนี้มีความจุรวมเฉพาะรุ่นมากกว่า 60 kWh
          คอนเซ็ปท์ อีคิวเอ สามารถชาร์จไฟฟ้าผ่านการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction) หรือ วอลล์บ็อกซ์ และยังรองรับการชาร์จเร็ว (Rapid Charging) อีกด้วย ในส่วนของวิสัยทัศน์ด้านการใช้บริการสถานีประจุไฟฟ้าสาธารณะจะเป็นการมุ่งสู่ "การชาร์จที่ราบรื่นไร้ปัญหาติดขัด" โดยบริการที่ใช้ระบบ Mercedes me นี้ จะทำให้การชาร์จ และการจ่ายค่าบริการในสถานีประจุไฟฟ้าแห่งต่างๆ เป็นเรื่องที่แสนง่ายดาย
          Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ รถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีตระกูล 53 คือผลลัพธ์ของการผสมผสานเครื่องยนต์แบบ 6 สูบเรียง ขนาด 3.0 ลิตรที่ให้กำลัง 320 กิโลวัตต์ (435 แรงม้า) กับรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต และอัตราการใช้พลังงานที่เยี่ยมยอด รถยนต์ตระกูลนี้มีระบบอีคิวบูสท์ (EQ Boost) ที่สามารถเสริมกำลังให้เครื่องยนต์ได้ ถึง 16 กิโลวัตต์ รองรับการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เพื่อมอบแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นอีกถึง 250 นิวตันเมตร รวมถึงสามารถ สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ได้ ระบบอีคิวบูสท์เป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษ อีกทั้งยังเป็นระบบที่เป็นตัวกลางช่วยประสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับระบบเกียร์ด้วย
          สำหรับดีไซน์ภายนอกของรถยนต์รุ่นนี้ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบแผงบังคับลมคู่สีเงิน ชุบโครเมี่ยม วัสดุเก็บขอบด้านข้างแบบพิเศษ กระโปรงหลังรูปแบบใหม่ล่าสุดที่สอดรับกับ ปลายท่อไอเสียทรงกลมทำให้ดูโดดเด่นสะดุดตา ท่อไอเสียแบบ AMG Sports exhaust system, ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 20" พร้อมเทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ที่มีคุณสมบัติพิเศษมากมายที่เหนือกว่าระบบไฟหน้า LED มาตรฐาน (ที่มีหลอดไฟ LED 19 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1โคม) เช่น ระบบไฟส่องสว่าง ขณะขับผ่านสี่แยกหรือวงเวียน ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเมือง และระบบไฟส่องสว่างสำหรับสภาวะอากาศเลวร้าย รวมถึงหลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
          ดีไซน์ภายในของรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีตระกูล 53 รุ่นใหม่ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษที่ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ออกแบบขึ้นโดยเฉพาะให้หรูหรา หลากหลาย และเข้ากับรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ เพิ่มเติมความสะดวกสบายด้วยแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานร่วมกับ MB Audio 20 พร้อม Touchpad และ Controller ที่ผู้ขับขี่จะสามารถปรับแต่งการแสดงผลของแผงหน้าปัดได้ 3 รูปแบบได้แก่ "Classic" "Sport" และ "Progressive" อีกทั้งยังสามารถเลือกแสดงข้อมูลต่างๆ ได้เพิ่มเติมตามต้องการอีกด้วย โดยผู้ขับขี่ยังจะสามารถควบคุมรถด้วยพวงมาลัยแบบพิเศษ AMG Performance Steering Wheel ที่เพิ่มความกระชับและมั่นใจตลอดการขับขี่ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มสุนทรียภาพของการเดินทางด้วยระบบไฟในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester(R) surround sound system
          ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี ที่มีมาอย่างมากมายเพื่อช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายขึ้น อาทิ ระบบ AMG DYNAMIC SELECT, ระบบ PRE-SAFE(R) Plus และระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) นอกจากนี้ เทคโนโลยีเกียร์ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G transmission ที่เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีเลือกใช้เป็นระบบเกียร์ที่ตอบสนองดีขึ้นเมื่อผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมเทคโนโลยี AMG Performance 4MATIC+ แบบแปรผันได้สมบูรณ์แบบ รวมไปถึงระบบช่วงล่างแบบถุงลม AMG RIDE CONTROL+ Suspension ที่ทำงานโดยอัตโนมัตินั้นยังช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกรื่นรมย์มากยิ่งกว่าที่เคย ทั้งนี้ ระบบไฟฟ้าของรถที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์เป็นระบบที่เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีพัฒนาให้รองรับกับแนวคิดการปรับเปลี่ยนไปสู่ยุคของรถยนต์สมรรถนะสูงที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด ระบบไฟฟ้าดังกล่าวจึงรองรับระบบต่างๆ ของเครื่องยนต์ไฮบริด ทั้งโหมดบูสท์ การประจุพลังงานเข้าสู่แบตเตอรี่จากแรงเบรก (recuperate) การสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า (load point shift) การขับเคลื่อนโดยใช้เพียงแรงเฉื่อยซึ่งเกิดจากการหมุนของมอเตอร์ไฟฟ้า (gliding) หรือแม้แต่ การสลับการทำงานของเครื่องยนต์ด้วยระบบ start/stop ที่เรียบลื่น
รุ่น

เครื่องยนต์

ปริมาตร

กระบอกสูบ (ซีซี)

แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/

รอบต่อนาที)

แรงบิดสูงสุด

(นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที)

อัตราเร่ง

0-100

กม./ชม.
(วินาที)

ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.)

Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+

เบนซิน                แถวเรียง 6 สูบ

2,999

435 /               6,100

520 /

1,800-5,800

4.5

250


          Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ ราคา 7,090,000 บาท

          Mercedes-AMG GT S น้องใหม่ ในตระกูล AMG GT ที่ได้รับการพัฒนาทั้งด้านเครื่องยนต์ ระบบเบรก ระบบกันสะเทือน ตลอดจนดีไซน์ทั้งภายในและภายนอก เป็นสปอร์ตตัวล่าสุดจาก เมอร์เซเดส
          ดีไซน์ภายนอก โดดเด่นด้วยการออกแบบฝากระโปรงหน้าแบบ jet wing ที่แสดงให้เห็นถึง ความกว้าง ปราดเปรียว ดูลู่ขนานไปกับพื้นถนน กระจังหน้าแบบเอเอ็มจี สอดรับกับฝากระโปรงหน้ายาวและทรงพลัง ช่องรับอากาศที่กว้าง ช่วยให้อากาศไหลผ่านเข้าสู่ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ได้ดียิ่งขึ้น โดยรถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมกับล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว ล้อหลังขนาด 20 นิ้ว ระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance โครงสร้างตัวรถน้ำหนักเบาแบบ spaceframe ผลิตจากอลูมิเนียม แม็กนีเซียม และเหล็กกล้า ซึ่งทำให้ตัวรถมีศูนย์ถ่วงที่ต่ำ นอกจากนี้ยังมีเหล็กคานขวางอลูมิเนียมที่ช่วยปกป้องขณะพลิกคว่ำและยังมีวัสดุดูดซับเสียงรบกวนเพิ่มเติมอีกด้วย
          ดีไซน์ภายใน ตกแต่งเบาะหนัง Nappa ที่อยู่ต่ำเพื่อช่วยโอบล้อมผู้ขับขี่ให้รู้สึกราวกับอยู่ในรถแข่ง, พวงมาลัย AMG Performance Steering wheel หรือสามารถสร้างความโดดเด่นให้มากยิ่งขึ้นด้วยชุดเบาะแบบเอเอ็มจีที่สามารถปกป้องร่างกายของผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้มากขึ้นด้วยพนักพิงหลังที่มีความโค้งและเสริมด้วยวัสดุเพื่อความนุ่มสบายที่ด้านข้างมากกว่าเบาะที่นั่งแบบมาตรฐาน เพิ่มความสปอร์ตแต่หรูหรา ด้วยวัสดุโครเมียมสีเงินบน คอนโซลกลาง ช่องแอร์ และที่พักแขน แผงหน้าปัดกว้าง ทำให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกราวกับ ถูกโอบล้อมด้วยปีกนก และห้องโดยสารที่สามารถเปลี่ยนสีได้หลากหลายเพื่อเพิ่มสุนทรียะใน การขับขี่
          ความปลอดภัยและเทคโนโลยี ของ Mercedes-AMG GT S มีระบบ AMG RIDE CONTROL (เอเอ็มจีไรด์คอนโทรล) ด้วยการใช้โครงสร้างปีกนกสองชั้นเพื่อรักษาสมดุลของล้อ และติดสปริงไว้ด้านบน ระบบการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT 5 โหมด Comfort, Sport, Sport+, RACE และ Individual ประกอบกับระบบเกียร์ AMG SPEEDSHIFT DCT 7-Speed Sport transmission ที่ใช้ระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์สั้นลงโดยเฉพาะเกียร์ 3-7 รองรับการขับขี่สไตล์สปอร์ตด้วยการติดตั้งปุ่มชิฟท์เกียร์สีเงินที่พวงมาลัยเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์แมนนวลได้อย่างสนุกสนาน

รุ่น

เครื่องยนต์

ปริมาตร

กระบอกสูบ (ซีซี)

แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/

รอบต่อนาที)

แรงบิดสูงสุด

(นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที)

อัตราเร่ง

0-100

กม./ชม.
(วินาที)

ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.)

Mercedes-AMG GT S

V8

เทอร์โบคู่

3,982

522/6,250

670/1,900-5,000

3.8

310


          Mercedes-AMG GT S ราคา 14,900,000 บาท

          ซึ่งนอกเหนือจากรถยนต์รุ่นใหม่แล้ว ทุกท่านยังจะได้พบกับทัพยนตรกรรมรุ่นอื่นๆ อีกกว่า 26 คัน ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ ทั้งแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และเมอร์เซเดส-มายบัค รวมถึงแบรนด์เทคโนโลยี EQ Power และข้อเสนอพิเศษสุดมากมายเพื่อเป็นการขอบคุณแก่ลูกค้า อาทิ iPhone XS Max 256 GB มูลค่า 49,900 บาท (สินค้ามีจำนวนจำกัด) สำหรับลูกค้าที่รับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ 7 รุ่นที่ร่วมรายการ อย่าง CLA 200 Urban, CLA 250 AMG Dynamic, E 350 e Avantgarde, E 350 e Exclusive, E 350 e AMG Dynamic, GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD และ GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic ในระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2561
          รวมถึงข้อเสนอจาก บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กับโปรแกรม starPLUS ที่เพิ่มความคุ้มครองให้เต็ม 100% ในกรณีที่รถยนต์สูญหายหรือเสียหายโดยสิ้นเชิง (Total Loss) มอบให้กับผู้ซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ทำสัญญารถยนต์ใหม่กับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง และเลือกซื้อความคุ้มครองจาก Mercedes-Benz Protection (ยกเว้นลูกค้าประเภทฟลีท) เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น และความอุ่นใจในการตัดสินใจเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่
          และอีกหนึ่งสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นใดก็ได้ในช่วงงาน Motor Expo พร้อมรับรถและเริ่มต้นสัญญารถใหม่เฉพาะประเภทสัญญาเช่าทางการเงิน (Finance Lease) และมายสตาร์ (mySTAR) กับทางบริษัทฯ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2561 รับฟรีบัตรน้ำมันมูลค่า 16,000 บาท
          ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่ออกรถยนต์รุ่น GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD และ GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 สามารถเลือกระหว่าง รับอัตราดอกเบี้ย 0% สำหรับสัญญาเช่าซื้อระยะเวลา 48 เดือน หรือส่วนลดเงินดาวน์สำหรับทุกประเภทสัญญา ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารผ่านช่องทางบัญชีทางการ LINE@ ในชื่อ @mblt ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
          เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขอเชิญท่านพบกับขบวนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดและยนตรกรรมหลากหลายรุ่น ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปหรือมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 35 ระหว่าง วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2561 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:09:54 PM
Mercedes-Benz Offers Tempting Year-end Highlights, Presents EQA Prototype & Launches 2 Luxury AMG Models at 35th Motor Expo









   Mercedes-Benz (Thailand) Company Limited is exceptionally well-prepared for the big automotive fair "Motor Expo 2018" with the import of the EQA prototype and the launch of two new Mercedes-AMG models, delighting Thai customers who appreciate the blend of premium luxury and powerful performance. CLS 53 4MATIC+ is priced at 7,090,000 baht while Mercedes-AMG GT S is available at 14,900,000 baht. In addition to these two new models, Mercedes-Benz also showcases 26 other vehicles at the 35th Motor Expo from 29 November to 10 December 2018 at IMPACT Challenger Hall, Muang Thong Thani.
          Mr. Roland Folger, President and CEO of Mercedes-Benz (Thailand) Limited, said, "We continue to present our products under all four brands conceived and nurtured by Mercedes-Benz Thailand. We always strive to fulfill the sophisticated needs of our customers and simultaneously strengthen the image of Mercedes-Benz as a prominent brand of premium automobiles. Our pavilion features four zones to cover all categories of Mercedes-Benz vehicles namely Compact Car, Contemporary Luxury, Dream Car and SUV. We even exhibit ultra-luxury vehicles under Mercedes-Maybach premium sports vehicles and plug-in hybrid vehicles under "EQ Power". Customers have the opportunity to get up close with each category of our superior automobiles."
          "This year, a highlighted feature at our pavilion is Mercedes-Benz Concept EQA. This prototype showcases how the exciting EQ strategy will be applied to our future compact vehicles. Suitable for daily use, this EQA has impressive agility and an amazingly long driving range of about 400 kilometers thanks to our well-developed architecture for pure electric vehicles. Its presence reaffirms our commitment to fulfill every future travel concept and comprehensive green lifestyle, which constitutes a strategy that Mercedes-Benz will implement until 2025," he continued.
          "We also proudly emphasize our status as the leader of high-performance vehicles during the expo through our "Mercedes AMG". This important brand has now enjoyed about 400% growth rate when compared with the same period a year earlier. We trust that the Motor Expo 2018 will help maintain the momentum of Mercedes-AMG's growing popularity. As we completed the full range of Mercedes-AMG test drive last month, we can today bring two new models to the expo. They are CLS 53 4MATIC+ and the latest model from AMG GT, Mercedes-AMG GT S. Both promise to impress Mercedes-Benz fans who love high-performance vehicles," concluded Mr. Folger.
          Mr. Frank Steinacher, Vice President of Sales and Marketing of Mercedes-Benz (Thailand) Limited, said, "On top of showcasing the innovative EQA prototype, we launch two new models from Mercedes-AMG. The first, Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+, combines a powerful 435-hp output with a sporty style and high efficiency. Its interior and exterior design is upgraded and differentiated to deliver the luxury of the latest high-performance car. The second coupe, Mercedes-AMG GT S, is the combination of a lightweight aluminium spaceframe, a V8 biturbo engine, and a seven-speed dual clutch transmission designed especially to please lovers of speed and powerful performance."
          "At Motor Expo 2018, it is the first time that we showcase our 8 high-performance cars under the Mercedes-AMG brand that cover all segments for our customers to be able to take a closer look. It starts from the 45 model Compacts that come with a 4-cylinder engine, the locally produced saloons and the 43 model coupes, the 53 model CBU car that is being launched today, the most powerful 63 model car, and the very first time that we gather the most AMG GT fleets, namely GT S, GT C, and GT R, in a single car show. After the launch of two new models today, we have as many as 13 Mercedes-AMG models in the Thai market. They are Mercedes-AMG A 45 4MATIC, Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe, Mercedes-AMG C 63 S Coupe, Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+, Mercedes-AMG SLC 43, Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupe, Mercedes-AMG GLE 43 4MATIC Coupe, Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+, Mercedes-AMG GT C Roadster, Mercedes-AMG GT R, and Mercedes-AMG GT S," Mr. Steinacher added.

          Product Information
          Mercedes-Benz Concept EQA demonstrates how the EQ strategy can be introduced to the compact class. Featuring one electric motor at the front axle and one at the rear, it has a system output of over 200 kW. The drive characteristics can be altered by varying the permanent all-wheel drive's front to rear torque distribution.
          Its exquisite design is a result of reinterpreted Sensual Purity philosophy. The reinterpretation upgrades Modern Luxury to Progressive Luxury for this concept vehicle, with creases and lines eliminated and the next level of purity achieved. Boasting stunning proportions, seamless flowing surfaces, combined with stimulating graphics using high tech black panels, it is definitively a bold design statement of being simply sexy. For extra appeal, it deploys laser- fibre light technology. As a laser-activated medium is embedded in the centre of a fibre-optic cable, the eye-catching spiral-shaped light signet underlines the electric concept with its design evoking the copper windings of an electric motor the animation visualising electrical impulses.
          Backed by two electric motors and scalable battery components, its system output can be increased to over 200 kW. Permanent all-wheel drive, moreover, delivers impressive dynamic performance. The two drive programs "Sport" and "Sport Plus" offer a different front to rear torque distribution, allowing a choice of individual drive characteristics. The black panel at the front-end acts as a virtual radiator grille and changes its look according to the drive program. In the "Sport" drive program the grille depicts a flaming wing in horizontal format, while in "Sport Plus" mode vertical struts in the style of a Panamericana radiator grille are displayed.
          In combination with the intelligent Mercedes-Benz operating strategy, the Concept EQA achieves a range of around 400 kilometres, depending on the battery capacity installed. The highly efficient lithium-ion battery with pouch cells is supplied by the Daimler subsidiary Deutsche ACCUMOTIVE. Thanks to their modular design, the innovative battery systems have a model-specific total capacity of over 60 kWh.
          The Concept EQA can be charged via induction or wallbox and is also ready for rapid charging. The vision for using public charging stations is "seamless charging". So, this Mercedes me-based service makes it easy to charge and pay at different charging stations.
          Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ The 53-series models come with the 6-cylinder in-line 3.0 litre engine which combines a powerful 320 kW (435 hp) output with a sporty style and high efficiency. The EQ Boost starter generator briefly provides an additional 16 kW of output plus 250 Nm of torque and feeds the 48 V on-board electrical system. It unites the starter and alternator in one electric motor and is integrated between the engine and transmission.
          On exterior design, it boasts a unique look with a twin-blade radiator grille in silver chrome. AMG-specific side sill panels also lend a more dynamic silhouette. Viewed from the tail end, it is the restyled rear apron with its classically round tailpipe trims which catches the eye. The model also comes equipped with AMG Sports exhaust system, sporty 20-inch five-twin-spoke alloy wheels, and MULTIBEAM LED which is superior to standard LED (having 19 LED lamps per headlamp) for enabling various practical features to suit driving conditions such as driving at intersections/circles, driving in cities, and driving in harsh weather conditions. Its electric sunroof, moreover, offers a panoramic view.
          On interior design, this new model welcomes its passengers with model-specific, exclusive appointments, and luxurious materials. For extra comfort and convenience, it integrates a 12.3-inch digital screen that works perfectly with MB Audio 20, Touchpad and Controlller. The driver can select the display look in the three styles "Classic", "Sport" and "Progressive" and configure the individually relevant information and views. AMG performance steering wheel is also included to make sure the wheel perfectly fits the driver and boosts driving confidence Road trips can become a true pleasure as this model can adjust lighting and color in as many as 64 patterns to best suit its users. Burmester(R) surround sound system, meanwhile, adds further delight.
          Safety and Technology are well integrated into Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+. Among the prominent features are AMG DYNAMIC SELECT, PRE-SAFE(R) Plus system, and Head-up display. Moreover, the extremely fast-shifting AMG SPEEDSHIFT TCT 9G transmission, which allows smooth shift in transmission, the fully variable AMG Performance 4MATIC+ all-wheel drive and the autonomous AMG RIDE CONTROL+ air suspension also help to create the dynamic driving experience. The 48 V on-board electrical system is therefore paving the way for further hybridisation. The functions include boost, recuperate, load point shift, gliding and the virtually imperceptible restarting of the engine with the start/stop function.

Model

Engine

Combustion engine output (kW/hp)

Combustion engine output (kW/hp)

Max. torque

Combustion engine (Nm)

Acceleration

0-100 km/h (s)

Top Speed (km/h)

Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+

6-cylinder benzene engine

2,999

435 / 6,100

520 /

1,800-5,800

4.5

250


          Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ is priced at 7,090,000 baht
          Mercedes-AMG GT S, the latest model from AMG GT, is a great coupe that enjoys upgraded engine, braking system, suspension system, and interior/exterior design.
          On exterior design, the front apron in jet wing style emphasises the car's width, making it sit flatter on the road, and goes perfectly with the signature AMG front featuring a long and powerful hood. Large outer air inlets, meanwhile, guarantee the greater supply of cooling air to the turbocharger. This model hits the market with 19-inch front wheels and 20-inch back wheels. Its headlamps boast LED High Performance and its lightweight aluminium spaceframe is made from magnesium/steel/aluminium which helps keep the vehicle's centre of gravity low. Additional roll-over protection is provided by an integrated aluminium cross-member, while the inserted acoustic mat minimises noise.
          On interior design, the low Nappa-leather seating position makes the driver feel like sitting inside a cockpit. The model also comes with AMG Performance Steering wheel. The optionally available AMG Performance seats provide even more lateral support with a more heavily contoured backrest and seat cushion side bolsters. This sporty model exudes luxury for featuring silver-chrome centre console surround, air vent bezels and door armrests' trim strips. The dashboard places a firm emphasis on width, creating an impression of a powerful wing. Colors inside the center console can change for maximum driving pleasure.
          Safety and Technology of Mercedes-AMG GT S comes in the form of coveted features. AMG RIDE CONTROL, for example, provides double-layer structure to maintain the balance of wheels and prepares top springs for efficient suspension. Five driving programs of AMG DYNAMIC SELECT, namely Comfort, Sport, Sport+, RACE and Individual, and AMG SPEEDSHIFT DCT 7-Speed Sport transmission ensure the driver takes less time to shift gears particularly between 3 and 7. For fun driving, the driver has the option to activate the manual transmission mode anytime and change gear using the steering-wheel shift paddles instead.

Model

Engine

Combustion engine output (kW/hp)

Combustion engine output (kW/hp)

Max. torque

Combustion engine (Nm)

Acceleration 0-100 km/h (s)

Top Speed (km/h)

Mercedes-AMG GT S

V8

Twin Turbo

3,982

522 / 6,250

670 /

1,900 – 5,000

3.8

310


          Mercedes-AMG GT S is priced at 14,900,000 baht

          Mercedes-Benz Thailand presents not just its new models but also 26 other exciting models at the Motor Expo 2018. Covering all car segments from Mercedes-Benz, Mercedes-AMG, Mercedes-Maybach as well as EQ Power technology brand. Limited amount of iPhone XS Max 256GB, worth 49,900 baht, will also be given to those who purchase any of these 7 Mercedes-Benz model: CLA 200 Urban, CLA 250 AMG Dynamic, E 350 e Avantgarde, E 350 e Exclusive, E 350 e AMG Dynamic, GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD, and GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic, between 13 November – 31 December 2018.
          Moreover, Mercedes-Benz Leasing (Thailand) has just launched a free insurance program under the name "starPLUS" for customers who sign a new contract with Mercedes-Benz Leasing and insure with Mercedes-Benz Protection (fleet customers excluded). Called "starPLUS", the program gives customers ultimate peace of mind with 100% coverage of their vehicle and the exclusive option to switch to a new car in case of an accident deemed as a total loss - all free of charge.
          In addition, customers who book any Mercedes-Benz model at the Motor Expo and have their car delivered and contract started by 31 December 2018 will receive a fuel voucher worth 16,000 baht for a finance lease or mySTAR plan.
          Buyers who purchase the GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD or the GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic by 31 December 2018 will be eligible to choose between 0% interest for a 48-month hire purchase plan or a down payment discount for any plan. Mercedes-Benz Leasing Thailand has also recently launched the official LINE@ account named "@mblt" to provide additional information and updates on our services and products.
          Mercedes-Benz invites you to discover the most innovative automobiles at its pavilion during the 35th Motor Expo between 29 November and 10 December 2018 at IMPACT Challenger Hall 1 Muang Thong Thani.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:11:34 PM
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จัดแสดงยานยนต์รุ่นใหม่ที่มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35









          บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จัดแสดงยานยนต์ใหม่ 2 รุ่น ที่สะท้อนแนวคิดการจัดมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 ได้แก่ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ พัฒนาให้ 'แกร่ง ลุยทุกอุปสรรค' ควบคู่กับความสำเร็จของกระบะมิตซูบิชิตลอดระยะเวลา 40 ปี และ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท เอดิชั่น สะท้อนความสำเร็จที่แตกต่างด้วยการยกระดับความหรูหรา ภาพลักษณ์ และสมรรถนะ
          "รูปแบบการจัดบูธของเราในปีนี้ได้สะท้อนตามแนวคิดของผู้จัดงานฯ ที่ว่า 'ขับสนุก! ก่อนยุคไร้คนขับ' เพราะ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มิได้คิดค้นแต่เฉพาะเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับและระบบขับขี่อัตโนมัติสำหรับอนาคตเท่านั้น แต่เรายังคงมุ่งมั่นมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับให้แก่ลูกค้าในปัจจุบันอีกด้วย" มร. โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
          "นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ยนตรกรรมของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส สามารถสร้างปรากฎการณ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการออกแบบ สมรรถนะ และเทคโนโลยี ซึ่งในวันนี้เราได้พิสูจน์อีกครั้งด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ และ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท เอดิชั่น" มร. ชกกิ กล่าวเพิ่มเติม
          มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ 'แกร่ง ลุยทุกอุปสรรค' ดีไซน์แกร่งถึงขีดสุดด้วยเอกลักษณ์การออกแบบด้านหน้าแบบ Advanced 'Dynamic Shield' และเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD II ที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะพร้อมลุยบนทุกเส้นทางทั้งบนถนนปกติและเส้นทางขรุขระ ครบครันด้วยเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยและระบบอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขับขี่ เพื่อการตอบสนองและรองรับการใช้งานทุกรูปแบบ นอกจากนี้ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ยังถือเป็นยานยนต์เชิงกลยุทธ์ระดับโลกของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งทำการเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยเมื่อเร็วๆ นี้ และนับเป็นการฉลองครบ 40 ปีแห่งความสำเร็จของรถกระบะมิตซูบิชิอย่างยิ่งใหญ่
          ขณะเดียวกัน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังจัดแสดง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท เอดิชั่น ซึ่งได้รับการตกแต่งเพื่อสร้างแรงบันดาลใจสู่ "ความสำเร็จที่แตกต่าง" ลูกค้าสามารถเลือกความหรูเหนือระดับได้ 2 สี 2 สไตล์ ทั้ง สีดำ Jet Black Mica และ สีขาวมุก White Pearl มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท เอดิชั่น ตกแต่งด้วยชุดแต่งพิเศษระดับพรีเมียม เพื่อยกระดับความหรูหราและความสะดวกสบาย
          มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 654,000 บาท ขณะที่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท เอดิชั่น มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,459,000 บาท
          ภายในบูธของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังจัดแสดง มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ รถยนต์ซิตี้คาร์ มิตซูบิชิ แอททราจ และมิตซูบิชิ มิราจ ตลอดจนรถอเนกประสงค์ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นมาตรฐาน
          พร้อมกันนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังใช้โอกาสดังกล่าวนำเสนอบริการอันเป็นเลิศแก่ลูกค้ารถมิตซูบิชิทั้งเก่าและใหม่ "เราดูแล คุณแค่ขับ" เพื่อสร้างความมั่นใจในทุกการขับขี่และการใช้งานรถมิตซูบิชิอย่างไร้กังวล ครอบคลุมทั้ง 5 มิติการให้บริการ ได้แก่
          - Genuine Service: บริการด้วยความเป็นเลิศ พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
          - Genuine Parts: มั่นใจได้ในอะไหล่แท้ราคามาตรฐานที่ช่วยยืดอายุการใช้งานรถยนต์ให้ยาวนานขึ้น และมีการบริหารจัดการอะไหล่เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการรอ
          - Genuine Technicians: บริการโดยทีมงานผู้ชำนาญการที่ผ่านการอบรมและฝึกฝนโดยตรงจากสถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)
          - Genuine Performance: มุ่งมั่นให้บริการ เพื่อคงคุณภาพรถยนต์ให้คงสมรรถนะได้อย่างยาวนาน
          - Genuine Network & Accessibility: สะดวกยิ่งขึ้นด้วย M-Drive แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการจากเครือข่ายผู้จำหน่ายมากกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ

          นอกจาก "เราดูแล คุณแค่ขับ" แล้ว มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยยังพร้อมมอบข้อเสนอพิเศษทั้งภายในมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 และที่เครือข่ายผู้จำหน่ายมิตซูบิชิทั่วประเทศ อาทิ ชุดแต่ง มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ พร้อมส่วนลดพิเศษ 10% จากราคาปกติ ทั้ง 3 แพคเกจ ประกอบด้วย
          - ชุด Protection: แผงป้องกันด้านหน้า กรอบกระจกข้างและบันไดข้างประตู
          - ชุด Sporty: ชุดแต่งใต้กันชนหน้า ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว และหัวเกียร์
          - ชุด Stylish: ชุดกันชนหน้าและราวกันชน
          ลูกค้าที่สนใจ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ สามารถเลือกรับแพคเกจอุปกรณ์ตกแต่งแท้พร้อมส่วนลด 10% จากราคาปกติ เพื่อให้รถครอสโอเวอร์ของคุณโดดเด่นด้วยชุดแต่ง 2 สไตล์ ได้แก่
          - ชุด Decor: โลโก้ ถาดวางของ และคิ้วกันสาด
          - ชุด Aero: แผงช่องดักลมที่ด้านหน้า ด้านข้างและด้านท้าย

          และพิเศษสุดสำหรับเจ้าของ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต สามารถเลือกแพคเกจชุดแต่งพิเศษ ประกอบด้วย คิ้วซุ้มล้อ ชุดป้องกันมุมตัวถังรถ ชุดแต่งใต้กันชนหลังและด้านข้าง หรือ อีกแพคเกจที่เพิ่มบันไดข้าง โดยชุดแต่งทั้ง 2 แพคเกจ มาพร้อมกับส่วนลดสุดเร้าใจถึง 40% จากราคาปกติ

          ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังให้ความสำคัญกับการขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลวันหยุดส่งท้ายปี ด้วยแคมเปญตรวจเช็ครถก่อนเดินทาง "เช็คกับตัวจริง มั่นใจได้ในทุกเส้นทาง" ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561นี้
          - ฟรีเช็คสภาพรถยนต์ 22 รายการ
          - ฟรีไส้กรองเมื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้
          - ส่วนลด 10% สำหรับเคมีภัณฑ์
          - ส่วนลด 300 บาท เมื่อนำแบตเตอรี่เก่ามาเปลี่ยนใหม่

          สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสยนตรกรรมคุณภาพจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย พร้อมติดต่อทดลองขับ และรับโปรโมชั่นพิเศษเมื่อจองรถมิตซูบิชิภายในงานฯ ได้ที่บูธ A7 ภายในมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ที่  อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอล์ 1-3 เมืองทองธานี

          เกี่ยวกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย
          บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มมิตซูบิชิ มอเตอร์ส และยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิ ไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คือหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณภาพสูง เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยีเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ในปี พ.ศ. 2561 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 5 ล้านคัน และได้เปิดทำการ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) อย่างเป็นทางการที่ จ. ปทุมธานี ผลิตภัณฑ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ประกอบด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มิตซูบิชิ แอททราจ มิตซูบิชิ มิราจ และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพสูงสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยใช้สนามทดสอบสมรรถนะในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีในการประเมินผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนารถต้นแบบไปจนถึงการทดลองผลิตและการผลิตเพื่อจัดจำหน่าย ซึ่งสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด
          สำหรับลูกค้าที่สนใจชม หรือทดลองขับรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นต่างๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 วันจันทร์ – วันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 8:30-17:00 น.
          ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ที่

          Website: www.mitsubishi-motors.co.th
          Facebook: www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH
          Instagram: @MitsubishiMotorsTh
          Youtube Channel: Mitsubishi Motors Thailand
          Line Official Account/ ID: Mitsubishi Motors Th / @MitsubishiMotorsTh
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:12:51 PM
“เวสปิอาริโอ” เรียกเสียงฮือฮาส่งท้ายปีเผยโฉมในไทยครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ด้วย 2 รุ่นใหม่ล่าสุดที่พร้อมมอบความโดดเด่นสะกดทุกสายตา ในงาน Motor Expo ครั้งที่ 35









          "เวสปิอาริโอ" เรียกเสียงฮือฮาส่งท้ายปีเผยโฉมในไทยครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ด้วย 2 รุ่นใหม่ล่าสุดที่พร้อมมอบความโดดเด่นสะกดทุกสายตา  กับ "Vespa Notte Special Edition" และร่วมฉลองไปกับความสุขุมเปี่ยมเสน่ห์ในทุกเส้นทางด้วย "Moto Guzzi V7 III Milano" ในโอกาสครบรอบ 50 ปี Moto Guzzi ตระกูล V7 พร้อมอัดโปรโมชั่นครั้งใหญ่ที่ทำให้เป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น

          บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมชั้นนำ "พิอาจิโอ" และ "เวสป้า" พร้อมทั้งรถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน "อาพริเลีย" และ "โมโต กุซซี่" สัญชาติอิตาเลี่ยนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมสร้างปรากฏการณ์การขับขี่สุดพิเศษส่งท้ายปีกับสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมและมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35 นำโดย เวสป้า นอตเต้ สเปเชียล อิดิชั่น (Vespa Notte Special Edition) 2 รุ่น ได้แก่ เวสป้า สปริ๊นท์ 150 ไอ-เก็ต เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น (Vespa Sprint 150 i-Get ABS Notte Edition) และเวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น (Vespa GTS Super 300 ABS Notte Edition) รวมถึง โมโต กุซซี่V7 III มิลาโน่ (Moto Guzzi V7 III Milano) มอเตอร์ไซค์สองล้อระดับตำนานสัญชาติอิตาเลี่ยนรุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองรถตระกูลV7 ครบรอบ 50 ปี ให้บรรดาไบค์เกอร์ได้สัมผัสก่อนใคร พร้อมมอบโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษให้เป็นเจ้าของสองล้อสไตล์อิตาเลี่ยนได้อย่างง่ายดายกว่าเดิม ณ บูธหมายเลข G01 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10ธันวาคม 2561
          คุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ตลอดทั้งปี 2018 นี้ บริษัทฯ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่แฟนๆ ผู้ที่หลงใหลในการขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศที่ยังคงเติบโต ทั้งในส่วนของสกู๊ตเตอร์และบิ๊กไบค์รวมถึงมีกิจกรรมทางการตลาดใหม่ๆ ที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทุกเพศทุกวัย ซึ่งทางบริษัทฯ ได้ยึดถือความต้องการของลูกค้าในการดำเนินธุรกิจเสมอมา บริษัทฯ ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การตอบรับที่ดีกับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดภายใต้การดำเนินงานของบริษัทฯ และเรายังคงมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ พร้อมด้วยบริการหลังการขายที่ครบครัน รวมไปถึงการทำกิจกรรมทางการตลาดที่สร้างสรรค์เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกและแตกต่างให้กับลูกค้า ซึ่งในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งนี้เราได้นำรถใหม่รุ่นพิเศษมาโชว์ทั้งหมด 2 รุ่น รวมถึงรถรุ่นอื่นๆ รวมแล้วกว่า 18 รุ่น พร้อมเสนอโปรโมชั่นให้กับลูกค้าอีกมากมาย เพื่อให้สามารถเป็นเจ้าของรถสัญชาติอิตาเลี่ยนได้ง่ายดายยิ่งขึ้น"
          สำหรับรถใหม่ที่บริษัทฯ นำมาจัดแสดงนั้น เริ่มที่เวสป้ารุ่นพิเศษ คือ เวสป้า นอตเต้ สเปเชียล อิดิชั่น สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมรุ่นพิเศษที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยสีดำด้าน (Nero Notte) รอบคัน ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ "Urban Night Ride" ที่พร้อมจะเปลี่ยนประสบการณ์การขับขี่ในเมืองยามค่ำคืนของคุณให้น่าหลงใหลและโดดเด่นพิเศษกว่าใคร ตัวรถตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง สะท้อนความเรียบหรูบนความเท่สไตล์โมเดิร์นคลาสสิคที่มอบความโฉบเฉี่ยวทุกขณะขับขี่กับ เวสป้า นอตเต้ สเปเชียล อิดิชั่น ประกอบด้วย 2 รุ่น 2 ขนาดเครื่องยนต์ ได้แก่ เวสป้า สปริ๊นท์ 150 ไอ-เก็ต เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น (Vespa Sprint 150 i-Get ABS Notte Edition) และเวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น (Vespa GTS Super 300 ABS Notte Edition)ด้วยเทคนิคและวิศวกรรมสุดพิถีพิถันของเวสป้าทั้งแบบเฟรมเล็กและเฟรมใหญ่ตามลำดับ สำหรับชื่อ "นอตเต้" มาจากคุณลักษณะเด่นประจำเวสป้ารุ่นนี้ด้วยการใช้วัสดุสีดำตกแต่งรอบคัน มอบสัมผัสแห่งการขับขี่ยามค่ำคืนให้สนุกและท้าทาย เริ่มจากตัวถัง เนกไท บังโคลนหน้า คิ้วกันลม (Trim) และฝาครอบท่อไอเสียสีดำด้าน เพิ่มลูกเล่นด้วยสีดำเงาบริเวณกรอบกระจกมองข้างและล้อแม็กซ์ พิเศษเฉพาะในเวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ ได้แก่ ปลายของแฮนด์รถที่เพิ่มความสปอร์ตให้กับตัวรถสีดำด้าน และที่พักเท้าแบบพับได้เพิ่มความสะดวกสบาย นอกเหนือจากนี้ เวสป้ายังได้ปรับแต่งเบาะให้เข้ากับรถโดยเฉพาะด้วยหนังปั้มลอนเพื่อรูปลักษณ์ที่หรูหราอย่างสมบูรณ์แบบ เสริมความพิเศษยิ่งขึ้นด้วยชิลด์สั้นกันลมสีสโม้คและตะแกรงหลังสีดำด้าน ที่ทำให้ Vespa Notte Special Edition รุ่นนี้พิเศษยิ่งกว่าที่เคย
          สำหรับ เวสป้า สปริ๊นท์ 150 ไอ-เก็ต เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น โดดเด่นด้วยสุดยอดเทคโนโลยีกับเครื่องยนต์ ไอ-เก็ต (i-Get) 150 ซีซี สูบเดี่ยว 4จังหวะ ที่ช่วยประหยัดน้ำมันพร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่เบา หัวฉีดระบบอิเล็กทรอนิกส์ 3 วาล์ว ทุกองค์ประกอบของเครื่องยนต์ตั้งแต่ท่อไอเสียไปจนถึงกล่องเกียร์ได้รับการออกแบบให้เรียบหรู ทำงานโดยไร้เสียงรบกวน และช่วยให้ขับขี่ได้อย่างราบรื่นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้กำลัง 9.5 กิโลวัตต์ที่ 7,750รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 12.8 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที สูงที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ในขนาดเดียวกัน เครื่องยนต์มีน้ำหนักเบาช่วยให้ขับขี่สนุกและทะยานไปข้างหน้าได้เร็วกว่าเดิม เสริมความปลอดภัยระหว่างการขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วยระบบเบรก ABS มีวางจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 600คันเท่านั้น ในราคาที่ 136,900 บาท
          และเวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น มาพร้อมสุดยอดเครื่องยนต์ "ควอซาร์ (Quasar)" ขนาด 300 ซีซี 4 จังหวะ 4 วาล์ว ขนาดใหญ่ เร็ว แรง และทรงพลังที่สุดในทุกรุ่นของเวสป้า ระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Fuel Injection) ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง วาล์วให้กำลัง15.6 กิโลวัตต์ (21.2 แรงม้า) ที่ 7,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 22 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำเพียง 5,000 รอบต่อนาที ระบบระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ (Liquid Cooled) เพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มที่มากขึ้น อากาศภายในเครื่องยนต์ไหลเวียนได้ดีเยี่ยม สำหรับระบบความปลอดภัยในรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยม เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น คันนี้ มาพร้อมกับระบบ ASR (Anti-Slip Regulation) ป้องกันการลื่นไถลของรถแม้ต้องเผชิญกับสภาพพื้นผิวถนนไม่ปรกติ พร้อมด้วยระบบเบรก ABS สุดยอดสมรรถนะดังกล่าวผสานเข้ากับงานดีไซน์ที่ไม่เหมือนใครของ เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น การันตีการขับขี่ที่สนุกมากยิ่งขึ้นทั้งในเมืองและทางไกล วางจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 200คันเท่านั้น ราคา 209,900 บาท
          นอกจากนี้ ผู้ที่ตัดสินใจเป็นเจ้าของเวสป้า นอตเต้ สเปเชียล อิดิชั่น ทั้ง 2 รุ่นนี้ จะได้รับของพรีเมี่ยมที่ได้รับการออกแบบมาอย่างเข้าชุดกันกับตัวรถเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของการขับขี่ในเมือง ประกอบด้วย เป้สะพายหลังดีไซน์เท่, ผ้าบัฟฟ์สีดำลาย Vespa Notte, หมวกแก็ป, พวงกุญแจหนังแท้, กระบอกน้ำอลูมิเนียม, แบตเตอรี่สำรองสำหรับชาร์จสมาร์ทโฟน และหมวกกันน็อคสีดำด้าน
          สำหรับบิ๊กไบค์ระดับตำนานเจ้าของต้นกำเนิดเครื่องสูบวีวางขวางอย่าง Moto Guzzi ขอมอบความตื่นเต้นกับสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ครั้งใหม่ด้วยอีกหนึ่งรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 50 ปี Moto Guzzi ตระกูล V7 กับ Moto Guzzi V7 III Milano  (โมโต กุซซี่ V7 III มิลาโน่) ที่จะมอบความโดดเด่นพร้อมการขับขี่สนุก เท่ เร้าใจ ให้แก่บรรดาเหล่าไบค์เกอร์ โดดเด่นสะดุดตากับตัวถังสีเทามันวาว ท่อไอเสียและราวจับสำหรับผู้ซ้อนท้ายที่มาในสีโครเมี่ยม ล้ออัลลอยดีไซน์ทันสมัย รวมถึงบังโคลนอลูมิเนียมด้านหน้า และโลโก้รุ่นรถบนฝาปิดสไลด์เครื่องด้านข้าง ให้บรรดาผู้ที่ได้ขับขี่ Moto Guzzi V7 III Milano สัมผัสถึงความล้ำสมัยแต่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิคของตัวรถและประสบการณ์ความสง่างามของทุกขณะการขับขี่ เปรียบดั่งได้ขับอยู่ ณ ใจกลางเมืองที่สอดแทรกอยู่ร่วมกับประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของโลกอย่างเมืองมิลาน(Milano) โดยโมโต กุซซี่ V7 III มิลาโน่ จัดจำหน่ายที่ราคา 675,000 บาท
          สำหรับโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018 ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน –10 ธันวาคมนี้ บริษัทฯ พร้อมให้ผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลในการขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนได้เป็นเจ้าของรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมและรถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานจากอิตาลีได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจองภายในงานหรือจองกับโชว์รูมเวสป้าทั่วประเทศ ด้วยข้อเสนอ (ตามไฟล์แนบ)
          สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่จะสร้างความแตกต่างบนทุกเส้นทางจากสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมและมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน พร้อมด้วยโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษอีกมากมายจากอาพริเลีย และโมโต กุซซี่ ได้แล้ววันนี้ ที่บูธหมายเลข G01  อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2561 นี้
          ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ของทั้ง 4 แบรนด์ได้ที่เฟซบุ๊ก ดังนี้ Official Vespa Society Thailand, Piaggio Society Thailand, Aprilia Thailandและ Moto Guzzi Thailand
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:14:12 PM
Mitsubishi Motors Showcases New Icons at 35th Thailand International Motor Expo 2018









    Mitsubishi Motors (Thailand) Co., Ltd. today showcases two new models that perfectly reflect the 35th Thailand International Motor Expo 2018's theme – New Mitsubishi Triton that is 'Engineered Beyond Tough', marking 40 years of development and lineage, and Mitsubishi Pajero Sport Elite Edition, the icon of the success in your own way, developed to bring new levels of luxury, style, and performance to its segment.
          "This year our booth has been reflected the concept of the show 'Enjoy Driving! Before Driverless Era'. Mitsubishi Motors has not only strived for a driverless system with autonomous technologies for the future. But we have also committed to deliver superior driving experience to the customers today," said Mr. Morikazu Chokki, President and CEO of Mitsubishi Motors (Thailand) Co., Ltd.
          "That is why our vehicles continue to break new grounds in design, performance and technology. Today we prove that again by bringing our customers the latest innovative models; New Mitsubishi Triton and Mitsubishi Pajero Sport Elite Edition," Mr. Chokki added.
          'Engineered Beyond Tough', New Mitsubishi Triton features a more powerful styling that incorporates advanced 'Dynamic Shield' front design concept, an enhanced Super Select 4WD-II with improved on- and off-road performance, and the latest active safety and driver assistance systems. There is also overall improvement and significant refinements to driving dynamics sought by pickup enthusiasts. New Mitsubishi Triton is the latest in a model line with global strategic importance. It celebrated its 40 years of lineage and evolution with a global premiere held recently in Thailand.
          On the other end of the spectrum, Mitsubishi Motors Thailand also showcases Mitsubishi Pajero Sport Elite Edition designed to inspire individual success. It is available in two colors – Jet Black Mica and White Pearl, and comes with a long list of premium accessories and features that take luxury and comfort to new levels.
          Prices for New Mitsubishi Triton starts at THB654,000 while Mitsubishi Pajero Sport Limited Edition will be available from THB1,459,000.
          Also available at Mitsubishi Motors Thailand's booth Mitsubishi Xpander, Mitsubishi Attrage and Mitsubishi Mirage city cars, and regular variants of Mitsubishi Pajero Sport.
          Mitsubishi Motors Thailand is also taking the opportunity during the Motor Expo 2018 to assure current and new customers to enjoy the experience of
          "We take care, you just drive". Built upon a core of 'genuineness', the exclusive experience is supported by five key pillars.
          - Genuine Service: high-quality service with 24-hour emergency assistance
          - Genuine Parts: supply of genuine spare parts to reduce waiting time and provide long-term protection at reasonable price
          - Genuine Technicians: skilled technicians trained by the Education Academy
          - Genuine Performance: superior customer satisfaction with higher levels of service and product quality
          - Genuine Network and Accessibility: 'M-Drive', Mitsubishi Motors' friendly mobile application offering easy access to services provided by more than 200 dealer network outlets.                               
          In addition to "We take care, you just drive", Mitsubishi car owners will also get to enjoy a host of aftersales promotions which are also available nationwide. Leading the promotions are 3 accessory packages for New Mitsubishi Triton with a 10-percent discount of regular prices.
          - Protection Package: hood protector, side windows deflectors, and scuff plates
          - Sporty Package: front under garnish, 18-inch alloy wheels, and shift knob
          - Stylish Package: front bumper garnish, and styling bar
          Mitsubishi Xpander also gets its own 2 choices of genuine accessory packages with a 10-percent discount of regular prices.
          - Decor Package: emblem, luggage tray, and side visor
          - Aero Package: front, side and rear air-dams
          Customers who want to personalize their Mitsubishi Pajero Sport can choose from two packages – one includes fender arch moldings, corner protectors, rear under and side garnishes while the other features additional side-step garnishes. Both packages come with a 40-percent discount of regular prices.
          Not forgetting road safety, Mitsubishi Motors Thailand is also encouraging customers planning for road-trips during the upcoming holiday season to take advantage of the check-up campaign with the following special offers that is available until December 31, 2018.
          Free 22-point vehicle check-up
          Free oil filter for fully synthetic engine oil
          10-percent discount for chemicals
          Thb300 discount for battery replacement

          Visitors to Mitsubishi Motors Thailand's booth can also book a test drive and take advantage of special offers with bookings made at the Motor Expo.
          The 35th Thailand International Motor Expo 2018 will be held from November 29 to December 10, 2018 at IMPACT Challenger Hall 1-3, Muang Thong Thani. Mitsubishi Motors Thailand will be located at Booth A7.

          About Mitsubishi Motors Thailand (MMTh)
          Mitsubishi Motors (Thailand) Co., Ltd., the largest plant in the MMC group and an export hub to more than 120 countries, is one of Thailand's leading automotive manufacturers committed to produce and sell a range of vehicles that are eco-friendly, high in quality, performance, safety, comfort, technology and customer satisfaction. In 2018 MMTh celebrated a total production of five million units, and officially opened Education Academy in Pathum Thani. MMTh's current range of vehicles includes the Mitsubishi Triton, Mitsubishi Pajero Sport, Mitsubishi Attrage, Mitsubishi Mirage, and Mitsubishi XPANDER. To ensure the highest quality, MMTh uses its proving ground in Sriracha, Chonburi to assess products from design and prototype stages to pre-production and commercialization. This ensures customers take delivery of vehicles that are second-to-none in all aspects of quality.
          Please contact Mitsubishi dealers nationwide for more information and test driving, or contact Mitsubishi Call Center Tel. 02-079-9500 every day at 8:30 – 17:00 hrs.
Stay updated with Mitsubishi Motors Thailand;

          Website: www.mitsubishi-motors.co.th
          Facebook: www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH
          Instagram: @MitsubishiMotorsTh
          Youtube Channel:Mitsubishi Motors Thailand
          Line Official Account/ ID: Mitsubishi Motors Th / @MitsubishiMotorsTh
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:15:19 PM
เผยโฉมซูบารุ ฟอเรสเตอร์ (Subaru Forester) จากสายการผลิตในประเทศไทย คาดพร้อมออกสู่ตลาดเดือนมีนาคม 2562







          ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) แถลงวันนี้ถึงแผนการขยายธุรกิจในประเทศไทย หลังจากเปิดตัวซูบารุ ฟอเรสเตอร์ (Subaru Forester) คันแรกที่ผลิตในประเทศไทย มร. เกลน ตัน รองประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ กลุ่มตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว ณ งาน Motor Expo ครั้งที่ 35 ว่า "เราภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรกับประเทศไทยในการผลิตรถยนต์ซูบารุเพื่อให้มีคุณสมบัติทางเทคนิคและความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพมาก เราจึงได้ตัดสินใจลงทุนเพื่อสร้างงานให้กับบุคลากรของเราที่นี่ และเพื่อผลิตรถยนต์สำหรับป้อนตลาดในเอเชีย เรามั่นใจว่ารถยนต์เหล่านี้จะตอบโจทย์และมอบประสิทธิภาพที่เกินความคาดหมายให้แก่ผู้ใช้รถและสมาชิกในครอบครัวที่มีความรู้ความเข้าใจในการเลือกใช้รถมากขึ้นทุกวัน"
          รถยนต์ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ เจเนอเรชั่นที่ 5 ที่ถูกนำมาจัดแสดง ณ งาน Motor Expo เหล่านี้ ผลิตโดยโรงงานแห่งใหม่ ณ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ที่มีการจ้างงานกว่า 300 คน เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์ซูบารุที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งรถยนต์แบบ CKD คันแรกที่ผลิตในโรงงานที่ประเทศไทยจะออกสู่ตลาดในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562
          ลูกค้าสามารถจองรถยนต์ได้ในงาน Motor Expo โดยผู้ที่จอง 99 ท่านแรก จะได้รับโอกาสในการเยี่ยมชมโรงงานผลิตหลังจากที่รถยนต์ที่สั่งจองไว้นั้นผลิตเสร็จแล้ว นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังมีแผนเพิ่มจำนวนโชว์รูม และศูนย์บริการอีก 15 แห่งในประเทศไทย ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน พ.ศ. 2562 เนื่องจากความต้องการในรถยนต์ซูบารุได้เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รถยนต์ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ รุ่นประกอบในประเทศไทยนี้จะถูกส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ เพื่อตอบสนองความในแบรนด์ซูบารุในเอเชียที่เพิ่มขึ้นด้วย
          ด้วยมาตรฐานการผลิตเดียวกับญี่ปุ่น รถยนต์ซูบารุที่ผลิตในประเทศไทยยังคงไว้ซึ่ง 4 เทคโนโลยีหลักที่ครองใจแฟน ค่ายดาวลูกไก่ทั่วโลกด้วย ประกอบด้วย ซูบารุ โกลบอล แพลทฟอร์ม (Subaru Global Platform), ระบบขับเคลื่อน สี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive), เครื่องยนต์แบบ Boxer และสุดยอดเทคโนโลยี EyeSight ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New Forester 2019) มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพที่เหนือชั้นทั้งภายในและภายนอก เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะความสะดวกสบาย และความปลอดภัยสูงสุด โดยครั้งนี้มีให้เลือก 3 รุ่น ประกอบด้วย ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2.0 i-S EyeSight, ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2.0 i-S และ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2.0 i-L

          ความสามารถในการขับขี่และเทคโนโลยีอันยอดเยี่ยม
          - ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive) ส่งพลังขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่แบบตลอดเวลา ช่วยให้รถเกาะถนน และช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างปลอดภัยสูงสุด
          - ขุมพลังจากเครื่องยนต์ Boxer แบบไดเร็คอินเจ็คชั่น ขนาด 2.0 ลิตร ช่วยเพิ่มแรงม้าและประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง
          - ระบบเกียร์ CVT 7 สปีด ช่วยให้เร่งความเร็วรถได้ดียิ่งขึ้น
          - ซูบารุ โกลบอล แพลทฟอร์ม (Subaru Global Platform) โครงสร้างรถที่ได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยและราบรื่นยิ่งขึ้น ลดแรงสั่นสะเทือน การแกว่งของตัวรถ และเสียงรบกวน
          - ฟังก์ชั่น X-MODE ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่บนสภาพภูมิประเทศที่ท้าทาย โดยใช้ระบบควบคุมเครื่องยนต์แบบบูรณาการ ทั้งการขับเคลื่อน All - Wheel Drive ระบบเบรก และระบบอื่นๆ
          - ระบบกระจายแรงบิด (Active torque vectoring) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมยานพาหนะได้อย่างมั่นใจเมื่อเข้าโค้ง

          คุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่น่าประทับใจ
          - ระบบช่วยในการขับขี่ EyeSight ประกอบไปด้วย ระบบเบรกอัตโนมัติก่อนการชน ระบบถอนคันเร่งก่อนการชน ระบบปรับความเร็วรถอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อการจราจรเคลื่อนที่ ระบบเตือนเมื่อรถออกจากเลนและเมื่อรถส่าย คุณลักษณะนี้มีอยู่ในรถซูบารุ ฟอเรสเตอร์ รุ่น 2.0 i-S EyeSight
          - ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง (Auto Vehicle Hold)
          - ระบบตรวจจับยานพานะด้านหลัง (SVRD) ใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังของรถ เพื่อตรวจจับวัตถุและยานพาหนะที่อยู่ด้านหลัง เพื่อการถอยรถและจอดรถอย่างไร้กังวล
          - การปรับรูปทรงของเสารถเพื่อลดจุดบอด ทำให้การมองเห็นครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

          ความคล่องตัวและห้องโดยสารที่สะดวกสบาย
          - ระยะระหว่างพื้นกับตัวรถมากกว่า 220 มม.
          - ราวหลังคาที่ยกสูงขึ้นและจุดสำหรับผูกเชือก ทำให้พร้อมสำหรับการบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น
          - การออกแบบภายในใหม่เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น
          - ช่องใส่ของหลังเบาะรถแบบหลายช่อง
          - พอร์ตชาร์จ USB
          - ช่องลมสำหรับเครื่องปรับอากาศที่คอนโซลกลาง
          - พื้นที่วางขาที่กว้างขึ้นในห้องโดยสารด้านหลัง พื้นที่บรรทุกสัมภาระที่ใหญ่ขึ้น ช่องเปิดท้ายรถที่กว้างขึ้น
          - ประตูพาวเวอร์ด้านหลัง ช่วยให้สามารถเปิด-ปิด และล็อคประตูทุกด้านของรถได้ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว

          ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New Forester 2019) คือการสร้างสรรค์ที่มาพร้อมความยั่งยืน ตัวรถสร้างจากเหล็กที่มีความแข็งแรงสูง มอบความทนทานและความแข็งแกร่งตามแบบฉบับของรถ SUV โครงสร้างตัวถัง ที่ยกขึ้น วัสดุหุ้มรถใหม่ และชุดกันชนที่นูนออกมามากขึ้น กระจังรอบไฟหน้า และไฟท้ายที่ตกแต่งใหม่ด้วยรายละเอียด ที่ดูสวยงามกลมกลืน แต่แฝงไว้ด้วยความแข็งแรงและความหรูหรา ล้วนเป็นการออกแบบใหม่ที่ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ของรถรุ่นก่อนหน้า
          ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-725-1888 หรือชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.subaru.asia/th

          เกี่ยวกับกลุ่มตันจง อินเตอร์เนชั่นเนล (Tan Chong International Limited)
          กลุ่มตันจง อินเตอร์เนชั่นเนล (Tan Chong International Limited - TCIL) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKSE: 0693) และเป็นบริษัทขนาดใหญ่ด้านยานยนต์ อสังหาริมทรัพย์ และการจัดจำหน่าย ดำเนินธุรกิจในประเทศสิงคโปร์ กัมพูชา จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม นับตั้งแต่บริษัทถูกก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2500 กลุ่มบริษัทมีการเติบโตในสินทรัพย์อย่างมหาศาล ผ่านการขยายกิจการอย่างต่อเนื่องไปยังภาคธุรกิจที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิต การจัดจำหน่าย และการค้าปลีก ธุรกิจอื่นๆที่บริษัทตันจง อินเตอร์เนชั่นเนล ดำเนินการในทั่วทั้งทวีปเอเชียยังประกอบไปด้วย ธุรกิจยานยนต์ พาณิชยกรรม การผลิต การค้า และการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
          เกี่ยวกับมอเตอร์ อิมเมจ (Motor Image)
          มอเตอร์ อิมเมจ เป็นบริษัทในเครือของตันจง อินเตอร์เนชั่นเนล และเป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุแต่เพียงผู้เดียวใน 9 ประเทศทวีปเอเชีย มอเตอร์ อิมเมจก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2529 และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ บริษัทได้เปิดสำนักงานในกัมพูชา จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม มอเตอร์ อิมเมจระบุว่าภูมิภาคอาเซียนเป็นหัวใจสำคัญ และเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของในการเติบโตของบริษัทในอนาคต ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 บริษัทได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท ซูบารุคอร์ปอเรชั่น (เดิมชื่อ บริษัท ฟูจิเฮฟวี่อินดัสตรี จำกัด ) เพื่อผลิตรถยนต์ซูบารุที่โรงงานประกอบรถยนต์แบบ CKD ในประเทศมาเลเซีย และเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 บริษัทซูบารุคอร์ปอเรชั่น และบริษัท TC Manufacturing and Assembly (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TCMA TH ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของตันจง อินเตอร์เนชั่นเนล ได้ทำสัญญาร่วมทุน (Joint Venture) เพื่อประกอบรถยนต์ซูบารุในเมืองไทย ซึ่งเป็นการเสริมสร้างรากฐานทางธุรกิจที่มีอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รถยนต์ที่ผลิตในประเทศมาเลเซียและไทยจะถูกจัดจำหน่ายโดยมอเตอร์ อิมเมจ ผ่านเครือข่ายของซูบารุ
www.subaru.asia

          เกี่ยวกับซูบารุ (Subaru)
          บริษัทซูบารุก่อตั้งขึ้นในประเทศญี่ปุ่นใน พ.ศ. 2498 และนับจากนั้นซูบารุก็เติบโตขึ้นกลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก ใน พ.ศ. 2515 ซูบารุกลายเป็นบริษัทแรกในโลกที่เปิดตลาดรถยนต์แบบขับเคลื่อนทุกล้อ (AWD) และเป็นผู้บุกเบิกตลาดในญี่ปุ่นสำหรับรถตรวจการณ์สมรรถนะสูง (station wagon) โดยการผสมผสานเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จเข้ากับระบบขับเคลื่อนทุกล้อ (AWD) ซูบารุได้ปรับปรุงและพัฒนาระบบขับเคลื่อนทุกล้อให้กลายเป็นระบบขับเคลื่อนทุกล้อแบบสมมาตร (AWD Symmetrical) ที่ช่วยให้เกิดความสุขและความปลอดภัยในการขับขี่สูงสุด
          ซูบารุเป็นที่ยอมรับในแวดวงองค์กรยานยนต์ทั่วโลก ในเรื่องของวิศวกรรม การออกแบบ การทำงาน ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือ ซูบารุผลิตรถยนต์หลายรุ่น ประกอบด้วย BRZ, Forester, Impreza, Legacy, Levorg, Outback, WRX, WRX STI และ XV ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "รถยนต์สำหรับผู้ใช้รถ" อย่างแท้จริง เพราะช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยเทคโนโลยีหลัก 4 อย่างของซูบารุ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร(Symmetrical All-Wheel Drive) และเครื่องยนต์แบบ Boxer ที่มีอยู่ในทุกรุ่น www.subaru-global.com
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:15:51 PM
Thai made Forester unveiled First delivery expected from March 2019







          TC Subaru (Thailand) today announced that it will be expanding its operations in Thailand as it launched the first made-in- Thailand Subaru Forester. Speaking at the 35th International Thailand Motor Expo, Mr Glenn Tan, Deputy Chairman and Managing Director of Tan Chong International Ltd., said: "We are proud to partner Thailand to build these cars, built to the highest technical and safety specifications. Thailand is a market with great potential, so we have invested in creating jobs here, and in building cars for the Asian market. We are confident that these cars will meet and exceed the expectations of increasingly sophisticated consumers and their families."
          The 5th Generation Forester was showcased at the Expo and the car was built at the new factory in Lakrabang Industrial Estate. The factory employs over 300 Thai workers to meet the demand for Subaru cars. The first Complete Knock-Down (CKD) cars produced at the Thailand-based factory will enter the market in March 2019.
          Consumers are able to book their units at the Motor Expo, with the first 99 given the opportunity to visit the plant when their cars are ready. In addition, the company said that it is adding 15 more showrooms and service centres in Thailand in 2019, as sales demand has increased over the years. The made in Thailand Forester will also be exported to other countries to meet increasing demand for the brand in Asia.
          Built to the same production standards as Japan, these Subaru cars feature 4 Core technologies which have won the hearts of Subaru fans around the world: the Subaru Global Platform, Symmetrical All-Wheel Drive, Boxer Engine and EyeSight Technology. The cars will be available in 3 models: Subaru Forester 2.0i-S EyeSight, Subaru Forester 2.0i-S, and Subaru 2.0i-L. The All-New Forester is bigger, better, and superior both inside and outside, boasting performance, comfort and maximum safety.

          The All-New Forester 2019
          Outstanding drivability and technology
          - Symmetrical All-Wheel Drive delivers power to each wheel to provide maximum adhesion, control, and safety.
          - 2.0-Liter Direct-Injection Boxer Engine improves horsepower and boosts fuel efficiency.
          - 7-Speed CVT makes acceleration easier.
          - Subaru Global Platform is a redesigned chassis that offers a safer, smoother driving experience by delivering less shake and body roll, and significantly reduces road noises.
          - X-MODE Function enhances driving performance on challenging terrains with the optimised integrated control of the engine, the all-wheel drive ability, brakes, and other functions.
          - Active Torque Vectoring enables drivers to control their vehicles exactly as intended.

          Impressive Safety Features
          - EyeSight Driver Assistant Technology includes automatic pre-collision braking, pre-collision throttle management, adaptive cruise control, lead vehicle start alert, and lane departure and lane sway warning. This feature is equipped in the Subaru Forester 2.0 i-S EyeSight.
          - Auto Vehicle Hold
          - Subaru Rear Vehicle Detection (SVRD) uses radar sensors installed on the rear of the vehicle to detect objects and vehicles behind the car for worry-free reversing and parking.
          - Optimisation of the shape of the pillars to help reduce blind spots and provide better visibility.

          Versatility and room for comfort
          - Minimum ground clearance of 220mm
          - Raised roof rails with integrated tie-down points for more loadings
          - New interior design for more comfort
          - Multiple divided seatback pockets
          - USB charging ports
          - Air-conditioning vent grilles at the central console
          - Larger rear leg room, and an increased cargo room with wider rear gate opening
          - Power rear gate, which allows opening, closing and locking of the entire vehicle with just the touch of a button.

          Built to last, the body of The All-New Forester 2019 is made of extensive high-strength steel that promises durability and rigidity befitting the rugged image of an SUV. The raised body, new claddings, protruding under guards, headlight grilles, and new taillights with beautiful and subtle details still keep the robustness and sophistication of the earlier model's charms.

          For more information, please call 02 725 1888, or visit http://www.subaru.asia/th.

          About Tan Chong International Limited
          Tan Chong International Limited (TCIL) is listed on the Stock Exchange of Hong Kong (HKSE:0693) and is a major motor, property and distribution company with operations in Singapore, Cambodia, China, Hong Kong, Indonesia, Japan, Malaysia, Philippines, Taiwan, Thailand and Vietnam. Since its inception in 1957, the Group has grown its assets substantially through continuous expansion of its existing diversified business portfolio in manufacturing, distribution and retail. Other businesses that TCIL engage in across Asia include automotive, commercial, manufacturing, trading and property investment businesses.

          About Motor Image
          Motor Image is a wholly owned subsidiary of TCIL and exclusive distributor of Subaru vehicles across nine countries in Asia. Established in 1986 and headquartered in Singapore, the company has since opened offices in Cambodia, China, Hong Kong, Indonesia, Malaysia, Philippines, Taiwan, Thailand and Vietnam. As part of Motor Image's growth strategy, the company has identified ASEAN as the key engine of the company's future growth. In July 2011, a partnership was established with Subaru Corporation (formerly known as Fuji Heavy Industries Ltd.) for the production of Subaru vehicles at a CKD assembly plant in Malaysia. On 8 February 2017, Subaru Corporation and TC Manufacturing and Assembly (Thailand) Co., Ltd. (TCMA TH), a wholly owned subsidiary of TCIL entered into a Joint Venture (JV) Agreement for the local assembly of Subaru vehicles in Thailand to reinforce their existing business foundations in Southeast Asia. The vehicles produced in both Malaysia and Thailand will be distributed by Motor Image through its Subaru network. www.subaru.asia

          About Subaru
          Founded in Japan in 1955, Subaru has since grown to become one of the world's leading carmakers. In 1972, Subaru became the first in the world to market an All-Wheel Drive (AWD) passenger car and pioneered the market in Japan for high-performance station wagons by combining a turbo-charged engine with an AWD system. Subaru has improved and refined its AWD system, to create a Symmetrical AWD system that enables optimal driving pleasure and safety.
          Subaru is well-known by motoring organizations worldwide for its engineering, design, functionality, safety and reliability. The Subaru range of vehicles includes the BRZ, Forester, Impreza, Legacy, Levorg, Outback, WRX, WRX STI and XV. Collectively, they have been known to be "driver's cars" offering superb handling because of the Subaru Four Core Technologies, such as the Symmetrical All-Wheel Drive and Subaru Boxer engine, built into every model. www.subaru-global.com
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:17:07 PM
จากัวร์และแลนด์โรเวอร์เดินหน้าเต็มกำลัง สร้างกลยุทธ์รุกทุกช่องทาง ปรับราคาเริ่มต้น พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษและเปิดตัวรถใหม่ 3 รุ่น ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35









          บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย แนะนำรถยนต์แลนด์โรเวอร์ 3 รุ่นใหม่ ครอบคลุมทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยเริ่มจาก แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต (Land Rover Discovery Sport) รถ SUV ขนาดกลางระดับพรีเมียม ที่มาพร้อมจุดเด่นกับที่นั่งแบบ 7 ที่นั่ง ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 3.499 ล้านบาทพร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 เมื่อจองภายในงาน และ 2 รุ่นใหม่กับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด (Plug-In Hybrid) ตัวแรกจากแลนด์โรเวอร์ เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ปลั๊กอิน ไฮบริด (Range Rover Sport Plug-in Hybrid) จัดจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 6.3 ล้านบาท และ เรนจ์โรเวอร์ ปลั๊กอิน ไฮบริด (Range Rover Plug-in Hybrid) จัดจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 8.999 ล้านบาท เป็นเครื่องยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการขับเคลื่อนแบบไร้มลพิษเมื่อขับขี่ด้วยโหมดไฟฟ้าได้ระยะทางสูงสุด 51 กิโลเมตร โดยบริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด จับมือกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการ EA Anywhere สถานีอัดประจุไฟฟ้า ในการบริการติดตั้งเครื่องชาร์จ Wallbox และบริการสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับลูกค้าแลนด์โรเวอร์ทั่วประเทศ โดยสามารถหาสถานีได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ พิเศษจองรถยนต์ ปลั๊กอิน ไฮบริด ฟรีวอชเชอร์ใช้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า EA Anywhere มูลค่า 10,000 บาท
          นายชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ไฮไลท์ในงานปีนี้ คือการเปิดตัว แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต ใหม่ 7 ที่นั่ง ด้วยราคาจำหน่ายที่ถูกที่สุดในรถยนต์แลนด์โรเวอร์ ราคาเพียง 3.499 ล้านบาท ผู้บริโภคจะได้เป็นเจ้าของรถยนต์ SUV ขนาดกลางระดับพรีเมียมที่สมรรถนะการขับขี่ยอดเยี่ยมทั้งบนท้องถนนและออฟโรด การออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่หลากหลายและความโปร่งโล่งสบายเพื่อให้ผู้โดยสารทั้ง 7 ที่นั่ง รู้สึกสบายเท่ากันทุกคน พิเศษสำหรับผู้ที่จองภายในงานรับฟรีประกันภัยชั้น 1 และ "Worry-Free Program" ให้ความคุ้มค่ากับการรับประกันนาน 5 ปี บริการซ่อมบำรุงฟรี 5 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอดเวลานาน 5 ปี
          และในส่วน 2 รุ่นใหม่กับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด ตัวแรกจากแลนด์โรเวอร์ รุ่น เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ปลั๊กอิน ไฮบริด และ เรนจ์โรเวอร์ ปลั๊กอิน ไฮบริด ได้ความร่วมมือจาก บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ที่รู้จักในนาม EA Anywhere ในการบริการติดตั้งเครื่องชาร์จ Wallbox ที่บ้านพักอาศัยหรืออาคารสำนักงานของลูกค้าที่ต้องการติดตั้ง รวมถึงให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้าในลานจอดรถห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ สถานีบริการน้ำมัน และในสถานที่ต่างๆ สำหรับลูกค้าแลนด์โรเวอร์ทั่วประเทศ โดย EA Anywhere มีเป้าหมายในระยะยาวของบริษัทคือการเตรียมสร้างสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้ครอบคลุมเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 1,000 แห่งทุกๆ ระยะทาง 5 กิโลเมตร ดังนั้นผู้ใช้รถแลนด์โรเวอร์สามารถมั่นใจได้ว่า สถานีชาร์จไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการของคุณอย่างแน่นอน"
          นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า "ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 นอกเหนือจากรถยนต์ที่นำมาจัดแสดงเพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสและทดลองขับแล้ว ทางจากัวร์มีการจัดกิจกรรม JAGUAR HELMET DESIGN CHALLENGE ให้ทุกคนร่วมสรรค์สร้างผลงานศิลปะบนหมวกกันน็อคทีมนักแข่งรถจากัวร์ เพื่อลุ้นไปสัมผัสประสบการณ์แบบวีไอพี ในรอบคัดเลือกระดับประเทศ รางวัลร่วมทริปกิจกรรม Jaguar Land Rover Experience ณ จังหวัดภูเก็ต จำนวน 3 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง และในรอบคัดเลือกระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รางวัลร่วมทริปเข้าชมงาน ABB FIA Formula E Championship 2019 ณ ฮ่องกง จำนวน 1 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.jaguar.co.th/taoptartist ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2561 หรือสอบถามที่เคาน์เตอร์กิจกรรมภายในงาน"
          นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการ EA Anywhere สถานีอัดประจุไฟฟ้า กล่าวว่า "ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจ EA Anywhere และบริษัท พลังงานมหานคร จำกัด ผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทั้งแบบ PHEV และ BEV
          ตามที่ EA Anywhere ได้ประกาศเป้าหมายและแผนการลงทุน ด้วยการสร้างปัจจัยพื้นฐานด้านสถานีชาร์จไฟฟ้า เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง ถือเป็นเรื่องท้าทาย และเป็นการตอกย้ำความพร้อมซึ่งจะทำให้ประเทศไทยจะกลายเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคนี้อย่างโดดเด่น ซึ่งเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศอย่างยิ่ง อีกทั้งการประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการครั้งนี้ ระหว่าง บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท พลังงานมหานคร จำกัด เพื่อสร้างความมั่นใจและรองรับการเดินทางแก่ผู้ใช้รถยนต์แลนด์โรเวอร์ ที่สามารถใช้บริการสถานีชาร์จ EA Anywhere ได้ทุกๆ แห่งตลอดการเดินทาง และยังได้แต่งตั้งให้ บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด เป็นผู้ให้บริการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้า Wall Box ให้แก่ลูกค้าแลนด์โรเวอร์ ทั้งที่ออฟฟิตที่ทำงาน และที่บ้านของลูกค้า ถือเป็นการตอกย้ำความพร้อม และการมอบบริการที่ดีที่สุดในการให้บริการ ของบริษัทฯ ที่สามารถให้บริการแก้ลูกค้าของแลนด์โรเวอร์ อย่างเป็นทางการ"

          ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ภายในงาน Motor Expo 2018 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2561
          จากัวร์ (Jaguar)
          - ดอกเบี้ย 0% นาน 36 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 สำหรับ จากัวร์ เอฟ-เพซ (Jaguar F-Pace), จากัวร์ เอ็กซ์-อี (Jaguar XE), จากัวร์ เอ็กซ์-เอฟ (Jaguar XF) และ จากัวร์ เอ็กซ์-เจ (Jaguar XJ)
          - ฟรีประกันภัยชั้น 1 สำหรับ จากัวร์ อี-เพช (Jaguar E-Pace)
          - ปรับราคาจำหน่ายเริ่มต้น สำหรับ จากัวร์ เอฟ-ไทป์ (Jaguar F-Type) จัดจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 6 ล้านบาท จากเดิมที่จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 6.999 ล้านบาท
          แลนด์โรเวอร์ (Land Rover)
          - ดอกเบี้ย 0% นาน 36 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 สำหรับ เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค (Range Rover Evoque), เรนจ์ โรเวอร์ เวลาร์ (Range Rover Velar) และ แลนด์ โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ (Land Rover Discovery)
          - ฟรีประกันภัยชั้น 1 สำหรับ แลนด์ โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ สปอร์ต (Land Rover Discovery Sport)
          - ฟรีวอชเชอร์ใช้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า EA Anywhere มูลค่า 10,000 บาท สำหรับ เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ปลั๊กอิน ไฮบริด (Range Rover Sport Plug-in Hybrid) และ เรนจ์โรเวอร์ ปลั๊กอิน ไฮบริด (Range Rover Plug-in Hybrid)
          - ปรับราคาจำหน่ายเริ่มต้น สำหรับ เรนจ์ โรเวอร์ เวลาร์ (Range Rover Velar) จัดจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท จากเดิมที่ราคาเริ่มต้น 5.999 ล้านบาท, แลนด์ โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ (Land Rover Discovery) จัดจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท จากเดิมที่ราคาเริ่มต้น 6.499 ล้านบาท, เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ปลั๊กอิน ไฮบริด (Range Rover Sport Plug-in Hybrid) จัดจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 6.3 ล้านบาท จากเดิมที่ประกาศราคาเริ่มต้นไว้ที่ 7.399 ล้านบาท
          จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ทุกรุ่น รับแคมเปญ "Worry-Free Program" ให้ความคุ้มค่ากับการรับประกันนาน 5 ปี บริการซ่อมบำรุงฟรี 5 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี

          สำหรับผู้ที่สนใจสามารถร่วมสัมผัสและทดลองขับรถยนต์รุ่นต่างๆได้ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2561 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-007-0008

          บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด
          ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
          โชว์รูม จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ พระราม 4 โทร 02-666-7500
          โชว์รูม จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ สยามพารากอน โทร 02-007-0008
          โชว์รูม จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ภูเก็ต โทร 076-218-838 ถึง 40
          อีเมล์ sales@jaguarlandroverthailand.com หรือ ติดตามข่าวสารได้ที่ www.jaguar.co.th และ www.landrover.co.th
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:18:31 PM
นิช คาร์ เผยโฉมสุดยอดยานยนต์ แมคลาเรน 600 แอลที ครั้งแรกในไทย ที่งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018









          บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์แมคลาเรนอย่างเป็นทางการเพียงรายเดียวในประเทศไทย เผยโฉม แมคลาเรน 600 แอลที ครั้งแรกในประเทศไทย ณ งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018 ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2561 ณ บูธ A11 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
          แมคลาเรน 600 แอลที คือสมาชิกลำดับที่ 4 แห่งตระกูล LT (Longtail) ในกลุ่มสปอร์ตซีรีส์ (Sport Series) มุ่งเน้นที่ประสิทธิภาพสูงสุด และทรงพลังสูงสุดในกลุ่มเดียวกัน พัฒนาจากวิศกรรมยานยนต์ชั้นเลิศของสายพันธุ์รถแข่ง GT ขนานแท้ เพิ่มความแรงและน้ำหนักเบา พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก ด้วยเครื่องยนต์ V8 ความจุ 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบชาร์จ ส่งมอบขุมพลัง 600 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร
          ความแรงและเร็วเปรียบดั่งกระสุนเงิน ยกระดับตำนานตระกูล LT คลาสสิก ให้ก้าวล้ำสู่อนาคต ด้วยความเบาจากโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ รับประกันความรู้สึกร่วมของผู้ขับที่จะสัมผัสได้ถึงการตอบสนองที่รวดเร็วและชาญฉลาดยิ่งขึ้น เพื่อการขับบนท้องถนนที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังคงคาแรกเตอร์ของรถสปอร์ต
          เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น 570เอส คูเป้ รถแมคลาเรน 600 แอลที มีน้ำหนักที่เบากว่าถึง 96.4 กิโลกรัม ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ และการใช้แชสซีส์ MonoCell II คาร์บอนไฟเบอร์ที่มีน้ำหนักเบาลงถึง 75 กิโลกรัม พร้อมล้ออัลลอยที่ออกแบบให้มีน้ำหนักเบาพิเศษ พัฒนาระบบกันสั่นสะเทือน เพิ่มประสิทธิภาพ front track รวมถึงการปรับการตกแต่งภายในที่คำนึงถึงการใช้ประโยชน์สูงสุด พร้อมพุ่งทะยานสู่ท้องถนนด้วยศักยภาพที่เหนือชั้นเต็มรูปแบบ
          การปรับปรุงระบบความเย็นและการพัฒนาระบบระบายไอเสียทำให้ แมคลาเรน 600 แอลที พุ่งทะยานด้วยความแรงและดุดันยิ่งขึ้น ด้วยระบบ Active Dynamics Panel และเบาะนั่งรถแข่ง จะขับบนท้องถนนหรือสนามแข่งก็ง่ายดายสูงสุด นอกจากนั้นด้านหลังของรถยังเพิ่มขึ้น 47 มิลลิเมตร ช่วยเพิ่มแรงกดอากาศ และสมรรถภาพที่ดียิ่งขึ้นในการเข้าโค้งที่ความเร็วสูง ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาความดิบและความรู้สึกร่วมของผู้ขับต่อการตอบสนองของระบบเบรกน้ำหนักเบา ปีกนกคู่อะลูมิเนียม และยาง Pirelli P Zero TroFeo R ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อ แมคลาเรน 600 แอลที โดยเฉพาะ เพิ่มความเร้าใจในการขับสูงสุด
          วิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการเปิดตัว แมคลาเรน 600 แอลทีว่า "นิชคาร์เปิดจำหน่ายแมคลาเรน 600 แอลที ซึ่งจะนำเข้ามาในประเทศไทยเพียง 6 คันเท่านั้น ด้วยราคาเริ่มต้น 24.7 ล้านบาท การเปิดตัวซูเปอร์คาร์ในประเทศไทย ที่งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โปครั้งนี้ ถือเป็นไฮไลต์ครั้งสำคัญ และเป็นโอกาสของแฟนรถทุกท่านที่จะได้ร่วมยลโฉมการออกแบบ และประสิทธิภาพระดับตำนานของแมคลาเรนได้อย่างใกล้ชิด"
          ในงาน ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018 ในครั้งนี้ นอกจาก แมคลาเรน 600 แอลที แล้ว บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด ยังได้นำ แมคลาเรน 720เอส ซูเปอร์คาร์เจเนอเรชั่น 2 ในกลุ่มซูเปอร์ ซีรีส์ ที่ได้เปิดตัว ณ โชว์รูม นิช คาร์ เมื่อเดือนมิถุนายน มาจัดแสดงในงานครั้งนี้ด้วย แมคลาเรน 720เอส มีความทรงพลังถึง 720 แรงม้า เบากว่าและแรงยิ่งกว่า แมคลาเรน 650เอส รุ่นก่อนหน้า และพื้นที่ภายในที่พัฒนาสูงสุดเพื่อความสนุกในการขับที่มากกว่า พร้อมด้วย แมคลาเรน 570 เอส คูเป้ คือผู้นำในรุ่นด้วยโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ และเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบขนาด 3.8 สร้างความเร้าใจในการขับ ทั้งนี้ แมคลาเรน Rolling Chassis คือส่วนที่น่าตื่นเต้นสำหรับแฟนรถยนต์ตัวจริง ที่จะได้มีโอกาสยลโฉมยานยนต์จากบริทิชที่มีเทคโนโลยีและชื่อเสียงระดับชั้นนำของโลก
          หากต้องการข้อเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิชคาร์กรุ๊ป สามารถติดต่อ ที่ โทร 02-321-1111 โดยโชว์รูมเปิดบริการทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 17.30 น.

          เกี่ยวกับแมคลาเรน ออโตโมทีฟ
          แมคลาเรน ออโตโมทีฟ คือผู้ผลิตรถสปอร์ตระดับหรูสมรรถนะสูงสัญชาติอังกฤษ ตั้งอยู่ที่ศูนย์เทคโนโลยี แมคลาเรน (McLaren Technology Centre: MTC) ในเมืองโวคกิ้ง เขตเซอร์เรย์
          เมื่อบริษัทเปิดตัวสู่ตลาดโลกในปี ค.ศ. 2010 แมคลาเรน ออโตโมทีฟ จึงเปิดตัวยานยนต์ที่สร้างกระแสฮือฮาอย่างสูง นั่นคือรุ่น 12C และ 12C Spider และรุ่น McLaren P1 ลิมิเต็ดเอดิชั่นในปี ค.ศ. 20113 เนื่องจากบริษัทมีนโยบายในการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ทุกปี ดังนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ แมคลาเรน จึงได้เปิดตัวรุ่น 650S Coupe และ 650S Spider โดยแมคลาเรนยังคงมุ่งมั่นขยายธุรกิจและดำเนินงานผ่านเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายปลีกในตลาดรถยนต์ระกับหรูทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
          พันธมิตรของแมคลาเรน ออโตโมทีฟ
          แมคลาเรน ออโตโมทีฟ ประสานงานกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกหลายแห่ง เพื่อการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีเฉพาะด้าน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการพัฒนา การคิดค้นระบบวิศวกรรม และการผลิตรถสปอร์ตสมรรถนะสูงรุ่นใหม่ของแมคลาเรน ซึ่งพันธมิตรชั้นเยี่ยมของแมคลาเรน ไดแก่ Akebono, AkzoNobel, ExxonMobil, Pirelli, SAP และ TAG Heuer
          การออกแบบเพื่อสนามแข่งขันและการพัฒนาเพื่อขับขี่บนท้องถนน
          การสร้างจุดเชื่อมต่อระหว่างยานยนต์ฟอร์มูล่า 1 กับรถยนต์สำหรับขับขี่บนท้องถนน ถือเป็นขั้นตอนแห่งประสบการณ์ องค์ความรู้ หลักการ และการถ่ายทอดกระบวนการที่สมบูรณ์แบบของแมคลาเรน ตลอดระยะเวลา 50 ปีของการบูรณาการระหว่างความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ของรถยนต์สูตร 1 ผสานกับมรดกทางภูมิปัญญาในการผลิตรถสปอร์ตชั้นเยี่ยมมากนานกว่า 20 ปี ทำให้ แมคลาเรน ออโตโมทีฟ สามารถออกแบบ พัฒนา และสร้างรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยด้วยนวัตกรรมใหม่หลากหลายรุ่น ซึ่งสมบูรณ์แบบทั้งการพุ่งทะยานในสนามแข่งขันและการขับขี่บนท้องถนน
          แมคลาเรน คือผู้บุกเบิกการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในการผลิตรถยนต์มานานกว่า 30 ปี นับตั้งแต่ริเริ่มการใช้คาร์บอนไฟเบอร์กับตัวถังรถยนต์ทั้งรุ่นแข่งขัน McLaren MP4/1 ในปี 1981 และรุ่นขับขี่ทั่วไป McLaren F1 ในปี 1993 แมคลาเรนก็ได้เปลี่ยนมาใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์กับตัวถังรถยนต์ทุกรุ่นมาโดยตลอด

          เกี่ยวกับ บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด
นิช คาร์ กรุ๊ป คือ ผู้นำเข้ารถยนต์ระดับซูเปอร์คาร์ สปอร์ตคาร์ และไฮเปอร์คาร์ ในประเทศไทย ดำเนินธุรกิจเป็นเวลากว่า 30 ปี ภายใต้ชื่อเดิมคือ เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป ปัจจุบัน นิช คาร์ กรุ๊ป ได้รวบรวมสุดยอดยนตรกรรมจากทั่วโลก อาทิ สุดยอดสองสายพันธุ์จากประเทศอังกฤษที่รวมอยู่ใน Formula 1 "แมคลาเรน" (McLaren) และ ซูเปอร์คาร์พันธุ์คลาสสิก "โลตัส" (Lotus) รวมถึงไฮเปอร์คาร์สัญชาติอิตาลี "ปากานี" (Pagani) และ ไฮเปอร์คาร์สัญชาติสวีเดน "โคนิกเซ็กก์" (Koenigsegg) ราชันต์ออฟโรด "ฮัมเมอร์" (Hummer) จากอเมริกา พร้อมด้วยโชว์รูมที่ สยามพารากอน และ มอเตอร์เวย์ กม.1
          หากต้องการข้อเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิชคาร์กรุ๊ป สามารถติดต่อ ที่ โทร 02-321-1111 โดยโชว์รูมเปิดบริการทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 17.30 น.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:19:48 PM
ปอร์เช่ มาคันน์ ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยที่งาน Thailand International Motor Expo 2018

            - เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จัดแสดง ปอร์เช่ มาคัน ใหม่ มาพร้อม Premium Package ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 4.8 ล้านบาท ณ งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 35 (Thailand International Motor Expo 2018)
?          - เอเอเอสฯ ยังขนทัพยนตรกรรมสปอร์ตรุ่นเด่น นำโดย ปอร์เช่ คาเยนน์ อี ไฮบริด (Cayenne
E-Hybrid), 911 คาร์เรร่า 4 จีทีเอส (911 Carrera 4 GTS), 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster), 718 เคย์แมน (718 Cayman), พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด เอ็กซ์คูทีฟ (Panamera 4 E-Hybrid Executive) และ พานาเมร่า 4
          - อี-ไฮบริด สปอร์ต ทัวริสโม่ (Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo) ร่วมจัดแสดงในงาน
          - โมเดลจำลองรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคต มิชชั่น อี (Mission E) ขนาด 1:3 เดินทางมาถึงประเทศไทยเพื่อจัดแสดงในโอกาสพิเศษนี้ พร้อมมอบประสบการณ์เหนือระดับผ่านเทคโนโลยีภาพจำลองเสมือนจริง (Augmented Reality) สำหรับผู้เข้าชมบูธรถยนต์ปอร์เช่
          - เอเอเอสฯ เข้าร่วมมหกรรมยานยนต์ครั้ง 35 ในระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน - วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม 2561 นี้ โดยบูธรถยนต์ปอร์เช่ อยู่บริเวณ B01 อาคารอิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
         








          ปอร์เช่ มาคันน์ ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 (Thailand International Motor Expo 2018) โดยการเปิดตัวต่อสาธารณะชนครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก มร. มาร์เซล เมย์ ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาค ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิค เป็นผู้แนะนำรถยนต์ขนาดคอมแพค เอสยูวี รุ่นใหม่ล่าสุดนี้
          มาคันน์ ใหม่ ราคาเริ่มต้นที่ 4.8 ล้านบาท มาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่ ที่เพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย การเชื่อมต่อด้วยระบบสื่อสาร เพื่อการขับขี่ในหลากหลายรูปแบบ อุปกรณ์พื้นฐานที่ได้รับการติดตั้งมากมายเสริมด้วย Macan Premium Package ซึ่งถือเป็นความพิเศษของการฉลองครบรอบ 25 ปี ของปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิสซึ่งผูนำเข้านำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
          นอกจากนี้ เอเอเอสฯ ยังมีกิจกรรมพิเศษเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางในเส้นทางดิจิตัลแด่ผู้ชื่นชอบรถยนต์ปอร์เช่ด้วยโมเดล มิชชั่น อี (Mission E) ขนาด 1:3 ผ่านเทคโนโลยีภาพจำลองเสมือนจริง (Augmented Reality) โดยโมเดลดังกล่าวจะพาทุกท่านเข้าสู่โลกของ E-Performance และยลโฉมก่อนการมาถึงของ ไทคานน์ (Taycan) ยนตรกรรมไฟฟ้าแห่งอนาคตเต็มรูปแบบของปอร์เช่ ซึ่งจะมาถึงในต้นปี 2020 นี้ โมเดล มิชชั่น อี นี้ได้ออกเดินทางไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในประเทศไทยคือจุดหมายปลายทางที่ 2 หลังจากที่เดินทางไปจัดแสดงในกิจกรรม E-Performance Nights ที่ประเทศมาเลเซีย โดยหลังจากนี้ก็จะเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคต่อไป
          มร. ปีเตอร์ โรห์เวอร์ กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย เปิดเผยว่า "เรามีความยินดีที่ได้จัดงานเปิดตัวรถยนต์ ปอร์เช่ มาคันน์ ใหม่ เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับโฉมใหม่ผสานด้วย Premium Package ที่มาพร้อมราคาสุดเร้าใจ และในขณะเดียวกัน โมเดล Mission E ก็จะได้อวดโฉมแก่สายตาสาธารณะชนเพื่อเป็นการอุ่นเครื่อง ก่อนการมาถึงของ ไทคานน์ (Taycan) รถยนต์พลังงานงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของปอร์เช่ ซึ่งเราเล็งเห็นว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมแน่นอน เราพร้อมแล้วที่จะต้อนรับทุกท่านที่บูธรถยนต์ปอร์เช่ของเรา"
          ปอร์เช่ มาคันน์ ใหม่ (The new Macan)
          ยนตรกรรมสปอร์ต SUV ขนาดคอมแพครุ่นล่าสุด มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ขนาดความจุกระบอกสูบ 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 252 แรงม้า อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 12.3 กิโลเมตรต่อลิตร พร้อมทั้งอุปกรณ์มาตรฐานที่ได้รับการเพิ่มเติมได้แก่ ไฟหน้า LED ระบบความบันเทิงและการติดต่อสื่อสาร Porsche Communication Management รุ่นล่าสุดพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 10.9 นิ้ว ระบบเซ็นเซอร์หน้า-หลังพร้อมกล้องช่วยเหลือในการถอย จอด เบาะนั่งแบบ comfort ปรับได้ 14 ทิศทางที่สามารถจดจำการตั้งค่าที่นั่งได้ ระบบช่วยเหลือ การเปลี่ยนเลนส์หรือเปลี่ยนช่องทางการขับขี่ ระบบปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารแยกระหว่าง ตำแหน่งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
          Macan Premium Package ซึ่งถือเป็นความพิเศษของการฉลองครบรอบ 25 ปีนี้ ประกอบด้วย ระบบเครื่องเสียง BOSE(R) Surround Sound System ระบบสั่งการด้วยเสียง Apple(R) CarPlay, ระบบ Ambient Lighting ในห้องโดยสารม่านบังแสงอัตโนมัติ (Mechanical Sunblinds) และ กระจกปรับแสงอัตโนมัติ (Auto Dimming Mirrors)
          เสถียรภาพการขับเคลื่อนยังคงเป็นหัวใจสำคัญของมาคันน์ (Macan) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของรถสปอร์ต รถคันนี้มาพร้อมกับล้อขนาดต่างๆ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงพลังแห่งการขับเคลื่อน all-wheel drive และระบบ Porsche Traction Management (PTM) อย่างเต็มสมรรถนะ ล้อรถได้ถูกพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อเสถียรภาพการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นด้วยขนาดที่หลากหลายตั้งแต่ขนาดมาตรฐาน18 นิ้ว ไปจนถึงขนาด 22 นิ้ว ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมได้
          มาคันน์ ใหม่ ราคาเริ่มต้นเพียง 4.8 ล้านบาท
          ปอร์เช่ คาเยนน์ อี ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid)
          ปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด รุ่นใหม่ล่าสุด (The new Cayenne E-Hybrid) ยนตรกรรมพรีเมียม SUV แห่งยุคที่ติดตั้งขุมพลัง E-performance พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใหม่ล่าสุด ผสมผสานการบังคับควบคุมสไตล์สปอร์ต ให้เป็นหนึ่งเดียวกับประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด เครื่องยนต์ V6 ขนาดความจุกระบอกสูบ 3.0 ลิตร (340 แรงม้า/250 กิโลวัตต์) เสริมพลังด้วยระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า (136 แรงม้า/100 กิโลวัตต์) ให้พละกำลังสูงสุดรวมกว่า 462 แรงม้า (340 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดถึง 700 นิวตันเมตร ด้วยแนวคิดในการพัฒนาแบบเดียวกับปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche 918 Spyder) อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 29.4 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 78 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 20.6 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 6.3 ล้านบาท
          ไทคานน์ (Taycan)
          ยานยนต์แห่งอนาคตก้าวเข้ามาใกล้อีกขึ้นหนึ่ง สายการผลิตของรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของปอร์เช่จะเริ่มขึ้นในปีหน้า มอเตอร์ขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูง 2 ตัวแบบ Permanently Excited Synchronous Motors (PSM) เมื่อทำงานร่วมกันสามารถผลิตกำลังสูงสุดได้มากกว่า 600 แรงม้า (440 กิโลวัตต์) ส่งผลให้รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าคันนี้มีอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึงความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาต่ำกว่า 3.5 วินาที และพุ่งทะยานสู่ความเร็วสูงสุดถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 12 วินาที ด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมนี้เกิดขึ้นโดยข้อได้เปรียบของการถ่ายทอดกำลังขับเคลื่อนที่ต่อเนื่องอันเป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า: การเร่งออกตัวที่ฉับไวอย่างเหลือเชื่อมีที่มาจากประสิทธิภาพการทำงานของส่วนประกอบซึ่งปราศจากการสูญเสียใดๆ ในระบบอย่างสิ้นเชิง รถยนต์คันนี้มีความสามารถเดินทางไกลมากกว่า 500 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC.

          เกี่ยวกับ AAS Auto Service
          ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่าง เป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการทด สอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากที่สุดของศูนย์ รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 12 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องการให้บริการหลัง การขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกรของเราให้มีคุณภาพสูงสุดตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า "เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR" เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า "AAS The Name You Can Trust" ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี

          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
          Porsche Centre Bangkok โทร. 02-522-6655
          Porsche Centre Pattanakarn โทร. 02-369-1111
          Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911
          Porsche Studio Bangkok ICONSIAM ชั้น 1 โทร 02-288-0911
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:20:22 PM
Carro คาดการณ์ยอดขายรถมือสองเพิ่มขึ้น 7% จากยอดจองรถใหม่ในงาน Motor Expo 2018



          Carro หนึ่งในเว็บไซต์เจ้าตลาดรถมือสองออนไลน์ในปัจจุบัน ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ขายรถบ้านอย่างสูง เป็นบริษัท Startup จากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งปัจจุบันมีสาขาอยู่ทั้งในไทย และอินโดนีเซีย ที่มีความโดดเด่นในธุรกิจรถมือสองออนไลน์ในระยะเวลาอันรวดเร็ว และยังมีจำนวนรถบ้านมือสองลงประกาศขายอยู่บนเว็บไซต์จำนวนนับหมื่นคันเลยทีเดียว
          คุณมานิต โกการ์ Country Manager ของทางบริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด ได้คาดการณ์ถึงยอดจำนวนรถมือสองหมุนเวียนจะเพิ่มมากขึ้น กล่าวว่า "หลังจากจบงานมหกรรมยานยนต์ หรือ Motor Expo 2018 เนื่องจากว่า 9 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายรถในตลาดรถยนต์ของไทยปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมียอดขาย 746,584 คัน พร้อมกับถูกคาดการณ์ว่าน่าจะแตะ 1 ล้านคัน เมื่อถึงสิ้นปี 2561
          และเกือบทุกค่ายรถยนต์ในเมืองไทยมียอดขายเติบโตขึ้น โดยเฉพาะบรรดา Top Five อย่าง Toyota, Isuzu, Honda, Mazda และ Mercedes-Benz เพราะในปี 2560 ที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ของไทยมียอดขายโดยรวมทั้งสิ้น 871,647 คัน และหากปี 2561 นี้ มียอดขายทะลุ 1 ล้านคันจริง จะทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 130,000 คัน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
โดยเฉพาะในงาน Motor Expo 2018 ที่จะจัดขึ้นช่วงระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2561 โดยทุกปี Event ของงาน Motor Expo จะมียอดขายรถยนต์มากกว่างาน Motor Show ที่จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคม"
          เครดิตรูป www.motorexpo.co.th
          อีกทั้ง คุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงาน Motor Expo 2018 คาดว่าปีนี้จะมียอดจองรถยนต์ในงาน 45,000 คัน มากกว่าปี 2560 ที่มียอดจองรถยนต์ 39,832 คัน และในปี 2559 มียอดจองรถยนต์ 32,422 คัน ซึ่งทำให้รู้ว่ามีแนวโน้มของผู้สนใจ และมีกำลังซื้อ ต้องการจับจองรถยนต์ใหม่กันมากขึ้น
          หากสำเร็จตามที่ได้คาดการณ์ไว้ นั่นแสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ตลาดรถยนต์ใหม่ก็จะขายได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลมายังคนที่มีรถยนต์อยู่แล้ว อยากเปลี่ยนรถคันใหม่ ก็นำรถยนต์คันเดิมออกมาสู่ตลาดมือสองมากขึ้น
          และจากข้อมูลของทาง สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว (http://www.usedcar.or.th/) เผยว่าลูกค้ากลุ่มที่ต้องการรถยนต์มือสองยังมีมากขึ้นและเติบโตขึ้นทุกปี โดยในปี 2560 มีอัตราการเติบโตราว 7% เมื่อเทียบกับปี 2559 และคาดการณ์ไว้ว่าปี 2562 จะโตขึ้นจากปี 2561 อีกราว 7% เช่นกัน
          https://th.carro.co จึงคาดการณ์ได้ว่า ผู้ซื้อจะนำรถยนต์ที่ตัวเองใช้อยู่มาปล่อยขายในตลาดรถยนต์มือสองมากขึ้นตามไปด้วย ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาดรถยนต์มือสองในปี 2561 - 2562 อย่างชัดเจน

          เกี่ยวกับคาร์โร (ประเทศไทย)
          Carro หรือ "คาร์โร" คือ สตาร์ทอัพด้านตลาดรถยนต์ และสินเชื่อรถยนต์ ที่เริ่มดำเนินธุรกิจจากประเทศสิงคโปร์ ต่อมาได้ขยายกิจการไปที่ประเทศไทย และล่าสุดขยายมายังประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Carro ได้รับเงินลงทุนสนับสนุนจาก Series B (กลุ่มผู้ลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ) ถึง 60 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายธุรกิจในภูมิภาค ASEAN หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเข้าชมได้ที่ https://th.carro.co/ เฟซบุ๊คเพจ https://www.facebook.com/carrothai หรือที่ LINE @carrothailand
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:22:15 PM
ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ครั้งแรกในอาเซียน ทั้งเอฟเอ็กซ์ดีอาร์ 114 และ ไออ้อน 1200 ในงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018









          สัมผัสมอเตอร์ไซค์แบบพาวเวอร์ ครุยเซอร์ เอฟเอ็กซ์ดีอาร์ 114 ใหม่ และ ไออ้อน 1200 ใหม่ ดีไซน์สไตล์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสุดยอด
          ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติอเมริกัน เตรียมจัดแสดงมอเตอร์ไซค์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุดทั้งเอฟเอ็กซ์ดีอาร์ 114 (FXDR 114) และ ไออ้อน 1200 (Iron 1200) เป็นครั้งแรกของภูมิภาคอาเซียน ภายในงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2561 ณ อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี กรุงเทพฯ เพื่อบรรดาแฟน ๆ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เมืองไทยผู้แสวงหาอิสรเสรีอันไร้ขีดจำกัด
          เอฟเอ็กซ์ดีอาร์ 114 (FXDR 114)
          เอฟเอ็กซ์ดีอาร์ 114 ใหม่ นำเสนอสมรรถนะแห่งการพุ่งทะยานที่แรงสุดขั้ว เห็นได้จากการออกแบบรูปลักษณ์ที่มีแรงบันดาลใจมาจากสนามแข่งขันทางตรง ที่ซึ่งนักขี่สามารถสัมผัสถึงแรงบิดที่มีปฏิกิริยากับพื้นถนนได้อย่างเต็มกำลัง ในขณะที่อะดรีนาลีนผู้ขับขี่สูบฉีดไปทั่วร่างกาย
          ขุมพลังจากเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight V-twin engine 114 ci
          แชสซีรุ่นซอฟเทล (Softail) พร้อมสวิงอาร์มและล้ออลูมิเนียมน้ำหนักเบา
          ผสมผสานองค์ประกอบต่างๆที่ช่วยลดน้ำหนักตัวรถได้อย่างมาก
          ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เอฟเอ็กซ์ดีอาร์ 114 ใหม่ มอบสมรรถนะที่แรงแบบรถแข่งแดร๊กแนวฮาร์ดคอร์ ที่เพียบพร้อมด้วยความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี นับเป็นมอเตอร์ไซค์แบบครุยเซอร์อันทรงพลังที่มอบมิติใหม่ของประสิทธิภาพการขับขี่ในกลุ่มรถฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ผสานแรงบิดสุดพลังจากเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 114เข้ากับแนวคิดอิสระในการใช้ชิ้นส่วนอะลูมิเนียมและการผสมผสานส่วนประกอบอื่น ๆ เพื่อช่วยลดน้ำหนักของตัวรถ ผลลัพธ์ก็คือ การยกระดับสมรรถนะการขับขี่ในทุก ๆ ด้านอย่างชัดเจน
          เอฟเอ็กซ์ดีอาร์ 114 เป็นมอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน รุ่นที่ 10 ที่ใช้โครงรถรุ่นซอฟเทล (Softail) ซึ่งเปิดตัวในปี 2018 และนับเป็นรุ่นล่าสุดจากที่บริษัทวางเป้าหมายในการเปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นใหญ่ทั้งหมด 100 รุ่นภายในปี 2027 โดยรุ่นออล-นิว เอฟเอ็กซ์ดีอาร์ 114 มีราคาเริ่มต้นที่ 1,199,000 บาท
          ไออ้อน 1200 (Iron 1200)
          ไออ้อน 1200 ติดตั้งด้วยเครื่องยนต์ Evolution 1200 V-Twin engine มอบแรงบิดมากขึ้น 34% (เปรียบเทียบ 70 นิวตันเมตรกับ 94 นิวตันเมตร) เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ 883 Evolution engine ในรุ่นไออ้อน 883 (Iron 883) ซึ่งเป็นรุ่นต้นแบบมอเตอร์ไซค์สำหรับขับขี่ในเมืองในตระกูลสปอร์ตสเตอร์ (Sportster)
          แฮนด์บาร์สีดำในแบบมินิเอพ (Mini Ape) สีซาตินแบล็ก ที่ยกสูงโค้งขึ้นแบบชอปเปอร์ที่สร้างความโดดเด่นให้มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้อย่างชัดเจน การออกแบบแผงหน้าปัดสีดำเงาที่ล้อมกรอบไฟหน้าได้รับอิทธิพลมาจากสไตล์ West Coast ที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับแกนทรงสูงของตัวรถ ส่วนเบาะนั่งตอนเดียวแบบคาเฟ่ Cafe Solo Seat เอียงลาดไปยังส่วนบังโคลนหลังและถูกปรับรูปทรงให้ช่วยรองรับผู้ขี่ให้อยู่ในตำแหน่งอย่างมั่นคงในยามที่แรงบิดจากเครื่องยนต์ Evolution 1200 กระชากออกตัว
          ถังน้ำมันขนาด 3.3 แกลลอนของรุ่นสปอร์ตสเตอร์แบบคลาสสิก มีการทำลวดลายกราฟิกแถบยาวหลากสีให้โอบตัวถังน้ำมันโดยรอบ ระบบส่งกำลังเครื่องทั้งหมดถูกตกแต่งด้วยสียอดนิยม อาทิ ส่วน rocker box ทั้งบนและล่างสีดำ, ท่อไอเสียและแผ่นกันความร้อนสีดำ, และตัวไทเมอร์ ฝาครอบ Primary และ Derby สีดำ สำหรับส่วนท่อก้านส่งลิ้นและฝาครอบลูกกระทุ้งชุบโครเมียมช่วยเพิ่มโทนสีสว่างและสร้างจุดเด่นให้กับส่วนเครื่องยนต์ V-Twin engine โดยไออ้อน 1200 ยังติดตั้งล้ออลูมิเนียมแบบ 9 ซี่ รวมถึงเบลท์การ์ดสีดำสนิทตั้งแต่ขอบล้อ โซ่ฟันเฟือง สำหรับรุ่นไออ้อน 1200 มีราคาเริ่มต้นที่ 619,000 บาท
          "เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากกับความต้องการที่มีต่อรถมอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย" นายธนบดี กุลทล (มาร์ค) ผู้จัดการประจำประเทศ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ประเทศไทย กล่าว "สำหรับรถ 2 รุ่นใหม่นี้ ทั้งรุ่นที่เป็นสไตล์รถแข่งขันแนวแดร๊กและอีกรุ่นที่เป็นแนวย้อนยุค ถือเป็นตัวอย่างสุดคลาสสิกที่ทำให้ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน มีความพิเศษไม่เหมือนใคร โดยรุ่นเอฟเอ็กซ์ดีอาร์ 114 เป็นมอเตอร์ไซค์ครุยเซอร์อันทรงพลังที่มอบประสบการณ์การขับขี่สุดพิเศษและการควบคุมที่เป็นเยี่ยม ส่วนรุ่น ไออ้อน 1200 มอบความสมบูรณ์สำหรับผู้ที่ต้องการขับขี่บนท้องถนนและใช้กำลังเครื่องในระดับปานกลางเพื่อให้ขับขี่ผ่านพ้นการจราจรที่ขับคั่งไปได้อย่างง่ายดาย"
          นอกเหนือจาก 2 รุ่นใหม่ งานไทยแลนด์มอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ผู้เข้าร่วมงานจะได้มีโอกาสยลโฉมมอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน รุ่นปี 2019 ทั้ง 14 รุ่นทั้งตระกูลสปอร์ตสเตอร์ (Sportster) และซอฟเทล (Softail) พร้อมกันทั้งหมดในงานเดียว โดยนำเสนอในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 479,000 บาทสำหรับตระกูลสปอร์ตสเตอร์ (Sportster) และราคาเริ่มต้น 849,000 บาทสำหรับตระกูลซอฟเทล (Softail)
          พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ยเพียง 3.29% และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งสำหรับผู้ซื้อมอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ตระกูลทัวร์ริ่งรุ่นปี 2019 ทุกรุ่น และสำหรับเจ้าของฮาร์ลีย์รับดอกเบี้ยสุดพิเศษ 0% เมื่อซื้อมอเตอร์ไซค์ตระกูลซอฟเทล (Softail) และทัวร์ริ่งรุ่นปี 2018
          นอกจากนี้ มอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์-เดวิดสันทุกรุ่นที่ซื้อภายในงาน ยังจะได้การรับประกันจากโรงงาน 2 ปีโดยไม่จำกัดระยะทาง และสิทธิการเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ขับขี่ฮาร์ลีย์ (HOG) ฟรี 1 ปี พร้อมการช่วยเหลือฉุกเฉินและชุด Welcome kit มูลค่า 6,000 บาทฟรี ซึ่งประกอบด้วยกระเป๋าเป้สะพายหลัง ที่ชาร์จแบตเตอรี่แบบกันน้ำและชุดผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาสีรถขนาดพกพา

          เกี่ยวกับ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน มอเตอร์ คอมพานี
          นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2446 ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน มอเตอร์ คอมพานี เติมเต็มความฝันของการมีอิสรภาพส่วนบุคคลด้วยรถมอเตอร์ไซด์แนวครูสเซอร์ ทัวร์ริ่ง และคัสตอม มอบประสบการณ์ขับขี่และกิจกรรม ตลอดจนอะไหล่ชิ้นส่วน อุปกรณ์ตกแต่ง ของที่ระลึก อุปกรณ์สวมใส่สำหรับการขับขี่ และเครื่องแต่งกายของฮาร์ลีย์-เดวิดสันที่ครอบคลุม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ H-D.com
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:22:36 PM
ภาพข่าว: “ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์” เปิด “สตรีท ทวิน” และ “สตรีท สแครมเบลอร์” โฉมใหม่ปี 2019



          นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดตัว "สตรีท ทวิน" (New Street Twin2019) และ "สตรีท สแครมเบลอร์" (New Street Scrambler 2019) ไฮไลท์รถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ตระกูลโมเดิร์นคลาสสิกโฉมใหม่ปี 2019 ที่ได้รับการพัฒนาในเรื่องพละกำลังเครื่องยนต์ อุปกรณ์ที่มีคุณลักษณะเฉพาะมากขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีชั้นนำ และรายละเอียดการตกแต่งตัวรถที่มีสไตล์สวยงามเฉพาะตัว ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆนี้ ณ บูธไทรอัมพ์ G07 ภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี
 
          เกี่ยวกับ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์:
          ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1902 มีพนักงานทั่วโลกราว 2,000 คน มีบริษัทสาขาทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดนกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย และไทย ซึ่งทางบริษัทเข้ามาทำการตลาดและจัดจำหน่ายในนาม บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งแต่ปี 2015 โดยมอเตอร์ไซค์ของ ไทรอัมพ์ มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 620 รายทั่วโลก บริษัทฯ มีฐานการผลิตจักรยานยนต์เต็มรูปแบบ 2 แห่งที่ฮิงค์ลีย์ เขตเลสเตอร์ไซร์ ประเทศอังกฤษ และที่ประเทศไทย รวมทั้งมีโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์แบบ CKD (Completely Knocked Down) ในประเทศบราซิล และประเทศอินเดีย ปัจจุบันมีการผลิตรถจักรยานยนต์ราว 60,000 คันต่อปี โดยหัวใจหลักในการทำงานของ ไทรอัมพ์ คือ การมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวย คลาสสิก ร่วมสมัย เข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถ และสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:23:12 PM
ภาพข่าว: “ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์” เปิดตัวรถรุ่นใหม่ปี 2019



          นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (ที่ 4 จากซ้าย) คุณชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 (ที่ 5 จากซ้าย) และคุณวราทิพย์ เชยศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอเตอร์ไซเคิล เอ็กซ์โป จำกัด (ที่ 6 จากซ้าย) ร่วมเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ตระกูลโมเดิร์นคลาสสิก 2 รุ่นใหม่ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ "สตรีท ทวิน" และ "สตรีท สแครมเบลอร์" โฉมใหม่ปี 2019 เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ บูธไทรอัมพ์ G07 ภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี

          คำบรรยายภาพจากซ้าย
          1. นายปิยะวัฒน์ วิริยะรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด
          2. นายสังสิทธิ์ สุขวิทยานุสรณ์ ผู้จัดการฝ่ายบริการหลังการขาย บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด
          3. นางสาวจิราพร สำเร็จกิจเจริญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด
          4. นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด
          5. นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35
          6. นางวราทิพย์ เชยศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอเตอร์ไซเคิล เอ็กซ์โป จำกัด
          7. นายวรฐก์ ปิฏกานนท์
 
          เกี่ยวกับ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์:
          ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1902 มีพนักงานทั่วโลกราว 2,000 คน มีบริษัทสาขาทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน กลุ่มประเทศเบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย และไทย ซึ่งทางบริษัทเข้ามาทำการตลาดและจัดจำหน่ายในนาม บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งแต่ปี 2015 โดยมอเตอร์ไซค์ของ ไทรอัมพ์ มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 700 รายทั่วโลก บริษัทฯ มีฐานการผลิตจักรยานยนต์เต็มรูปแบบ 2 แห่งที่ฮิงค์ลีย์ เขตเลสเตอร์ไซร์ ประเทศอังกฤษ และที่ประเทศไทย รวมทั้งมีโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์แบบ CKD (Completely Knocked Down) ในประเทศบราซิล และประเทศอินเดีย ปัจจุบันมีการผลิตรถจักรยานยนต์ราว 65,000 คันต่อปี โดยหัวใจหลักในการทำงานของ ไทรอัมพ์ คือ การมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวย คลาสสิก ร่วมสมัย เข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถ และสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:24:29 PM
PTTOR เปิดตัว เวียร์ – ศุกลวัฒน์ พรีเซนเตอร์คนใหม่ของ PTT UltraForce Diesel ในงาน Motor Expo 2018









          นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นประธานเปิด บูธ PTTOR ในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 หรือ "The 35th Thailand International Motor Expo 2018" ณ ศูนย์ประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ – 10 ธันวาคม 2561 พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนใหม่ของ PTT UltraForce Diesel
          นางสาวจิราพร เปิดเผยว่า ในปีนี้ PTTOR ยังคงไม่หยุดนิ่งที่จะคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่ดีมีคุณภาพเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สถานีบริการน้ำมัน PTT Station จนถึงผลิตภัณฑ์ และการบริการต่าง ๆ เริ่มต้นจากผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงสูตรใหม่ PTT UltraForce Diesel (พีทีที อัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล) ที่ PTTOR มุ่งมั่นทุ่มเท พัฒนา คิดค้นเพื่อผู้บริโภคชาวดีเซลโดยเฉพาะ ด้วยการใช้เทคโนโลยีสูตรใหม่เป็นรายแรกของโลกที่ช่วยเพิ่มความแรงของทั้งน้ำมันดีเซลสูตรธรรมดา และดีเซลสูตรพรีเมียมของสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ให้แรงได้ใจคนดีเซล เรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติความแรงของวงการน้ำมันไทย อีกทั้งยังได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์คนล่าสุดของ PTT UltraForce Diesel "คุณเวียร์ ศุกลวัฒน์" ไอคอนนิกแห่งความแรง และความแมน ตามแบบฉบับของชาวดีเซล ที่มาร่วมตอกย้ำ สร้างความเชื่อมั่นในความแรงของ PTT UltraForce Diesel ให้ดูแกร่งยิ่งขึ้น
          นอกจากนี้ PTTOR ยังคงปรับปรุงองค์ประกอบต่าง ๆ ภายในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ให้อยู่ในรูปแบบ Friendly Design สัญลักษณ์แห่งความห่วงใย และความเท่าเทียมกัน ที่พร้อมดูแลผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัย ทุกเงื่อนไขของสภาพร่างกาย ให้สามารถเข้าถึงและใช้บริการได้อย่างสะดวกและปลอดภัยในทุก ๆ พื้นที่ภายในสถานีบริการ โดยปัจจุบัน มีสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ที่เป็นรูปแบบ Friendly Design แล้วทั้งสิ้นกว่า 300 สถานี บนเส้นทางสายหลัก และตั้งเป้าหมายปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ให้อยู่ในรูปแบบ Friendly Design เพิ่มขึ้นเป็น 400 สถานี ภายในสิ้นปี 2561
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:25:00 PM
ภาพข่าว: ทิพยประกันภัย จัดโปรโมชั่นพิเศษ ในงานมหกรรมยานยนต์ Motor Expo 2018



          ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย คุณชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ ร่วมเปิดบูธทิพยประกันภัย (บูธ H07) ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 หรือ The 35th Thailand International Motor Expo 2018 ตามแนวคิด "ขับสนุก! ก่อนยุคไร้คนขับ" โดยทิพยประกันภัยได้ยกทัพผลิตภัณฑ์ประกันภัยมาพร้อมกับโปรโมชั่นส่วนลดสุดพิเศษ อาทิ ประกันภัยรถยนต์สำหรับผู้หญิง TIP LADY รับส่วนลดประกันภัย 4 ต่อ ลุ้นรับรางวัลใหญ่ รถยนต์ Toyota Yaris ATIV และร่วมสนุกกับกิจกรรมภายในบูธรับของที่ระลึกอีกมากมาย ตั้งแต่วันที่ 29 พย. ถึง 10 ธค. 2561 ณ อิมแพ็คชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:25:37 PM
อินช์เคป จับมือ พลังงานบริสุทธิ์ ติดตั้งสถานีชาร์จสำหรับลูกค้าแลนด์โรเวอร์ทั่วประเทศ พร้อมฟรี วอชเขอร์ 10,000 บาท เมื่อจองรถในงาน Motor Expo 2018



          อินช์เคป จับมือ พลังงานบริสุทธิ์ ติดตั้งสถานีชาร์จสำหรับลูกค้าแลนด์โรเวอร์ทั่วประเทศ พร้อมฟรี วอชเขอร์ 10,000 บาท เมื่อจองรถในงาน Motor Expo 2018
          บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จับมือกับ บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด บริษัทย่อยของ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการ EA Anywhere สถานีอัดประจุไฟฟ้า ในการบริการติดตั้งเครื่องชาร์จ Wallbox และบริการสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับลูกค้าแลนด์โรเวอร์ทั่วประเทศ โดยสามารถหาสถานีได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ พิเศษจองรถยนต์ ปลั๊กอิน ไฮบริด ฟรีวอชเชอร์ใช้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า EA Anywhere มูลค่า 10,000 บาท
          นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการ EA Anywhere สถานีอัดประจุไฟฟ้า กล่าวว่า "ต้องขอขอบคุณ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจ EA Anywhere ผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทั้งแบบ PHEV และ BEV
          ตามที่ EA Anywhere ได้ประกาศเป้าหมายและแผนการลงทุน ด้วยการสร้างปัจจัยพื้นฐานด้านสถานีชาร์จไฟฟ้าเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง ถือเป็นเรื่องท้าทาย และเป็นการตอกย้ำความพร้อมซึ่งจะทำให้ประเทศไทยจะกลายเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคนี้อย่างโดดเด่น ซึ่งเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศอย่างยิ่ง อีกทั้งการประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการครั้งนี้ ระหว่าง บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท พลังงานมหานคร จำกัด เพื่อสร้างความมั่นใจและรองรับการเดินทางแก่ผู้ใช้รถยนต์แลนด์โรเวอร์ ที่สามารถใช้บริการสถานีชาร์จ EA Anywhere ได้ทุก ๆ แห่งตลอดการเดินทาง และยังได้แต่งตั้งให้ บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด เป็นผู้ให้บริการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้า Wall Box ให้แก่ลูกค้าแลนด์โรเวอร์ ทั้งที่ออฟฟิศที่ทำงาน และที่บ้านของลูกค้า ถือเป็นการตอกย้ำความพร้อม และการมอบบริการที่ดีที่สุดในการให้บริการของบริษัทฯ ที่สามารถให้บริการแก่ลูกค้าของแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการ"
          โดยรถยนต์แลนด์โรเวอร์ รุ่น เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ปลั๊กอิน ไฮบริด และ เรนจ์โรเวอร์ ปลั๊กอิน ไฮบริด 2 รุ่นใหม่ สามารถติดตั้งเครื่องชาร์จ Wallbox ที่บ้านพักอาศัยหรืออาคารสำนักงานของลูกค้าที่ต้องการติดตั้ง รวมถึงให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้าในลานจอดรถห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ สถานีบริการน้ำมัน และในสถานที่ต่าง ๆ สำหรับลูกค้าแลนด์โรเวอร์ทั่วประเทศ EA Anywhere มีเป้าหมายในระยะยาวด้วยการเตรียมสร้างสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้ครอบคลุมเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 1,000 แห่งทุก ๆ ระยะทาง 5 กิโลเมตร ผู้ใช้รถแลนด์โรเวอร์สามารถมั่นใจได้ว่า สถานีชาร์จไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน
          ผู้ที่จองรถยนต์แลนด์โรเวอร์ รุ่น เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ปลั๊กอิน ไฮบริด (Range Rover Sport Plug-in Hybrid) และ เรนจ์โรเวอร์ ปลั๊กอิน ไฮบริด (Range Rover Plug-in Hybrid) ภายในงาน Motor Expo 2018 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2561 รับฟรี !!! วอชเชอร์ใช้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า EA Anywhere มูลค่า 10,000 บาท
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:26:09 PM
ภาพข่าว: โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง เปิดบู๊ทแนะนำเรือยอช์ตในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018

          เมื่อเร็วๆ นี้บริษัท โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเรือยอช์ตระดับลักชัวรี รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่มีประสบการณ์กว่า 24 ปีได้ให้การต้อนรับ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 35 หรืองานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018 และให้เกียรติร่วมชมบู๊ทของบริษัทฯ การมาร่วมออกบู๊ทครั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจและต้องการจะเป็นเจ้าของ หรือเช่าเรือยอช์ตสุดหรูไว้สำหรับท่องเที่ยวทางน้ำ ได้สอบถามและขอนัดหมายเพื่อสัมผัสกับเรือยอช์ตสุดหรูอย่างใกล้ชิด ณ บู๊ท AA บริเวณทางเข้าประตู 2 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – วันที่ 10 ธันวาคม 2561


          ในภาพ
          (จากซ้าย) นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายวริศ ยงสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง จำกัด ถ่ายภาพร่วมกัน ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:27:43 PM
เอช เซม มอเตอร์ เปิดตัว SEV FORCEรถกอล์ฟกึ่งวิบากรุ่นใหม่ล่าสุด ในงานมอเตอร์ เอกซ์โป 2018







          เอช เซม มอเตอร์ ผู้ผลิตจำหน่าย SEV รถกอล์ฟไฟฟ้าและรถสามล้อไฟฟ้า STC รถสามล้อเอนกประสงค์ เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมให้สามารถตอบโจทย์ทุกธุรกิจ ลงตัวกับทุกกิจการ ยกขบวนสินค้านวัตกรรมเข้างานมอเตอร์ เอกซ์โป 2018 นำขบวนด้วย SEV FORCE (เอส-อี-วี ฟอร์ซ) รถกอล์ฟไฟฟ้ากึ่งวิบากออกมาอวดโฉมเป็นครั้งแรก ตามติดด้วยขบวนนวัตกรรมสามล้อไฟฟ้าอีกหลากหลายรุ่น พร้อมแคมเปญเด็ดอีกเพียบ
          นายวันชัย ลี้นะวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า "ในงานมอเตอร์ เอกซ์โป 2018 เราภูมิใจขอแนะนำ SEV FORCE (เอส-อี-วี ฟอร์ซ) รถกอล์ฟกึ่งวิบากรุ่นล่าสุด ที่ได้รับแรงบันดาลใจและการพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น SEV ADVENTURE (เอส-อี-วี แอดเวนเจอร์) เพื่อให้ เอส-อี-วี ฟอร์ซ มีความสมบุกสมบันมากขึ้น สามารถวิ่งได้ทั้งทางเรียบและพื้นผิวขรุขระขึ้นทางลาดชันได้ถึง 16.7 องศา โดยทำความเร็วได้ 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีให้เลือกแบบ 4 ที่นั่ง และ 8 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้นที่ 340,000 บาท
          ด้านรถสามล้อไฟฟ้า SEV นั้น ขวัญใจล่าสุดของผู้ใช้คือ SEV FUTURO (เอส-อี-วี ฟูตูโร) มาพร้อมดีไซน์สปอร์ต สุดโฉบเฉี่ยว ขนาด 2 ที่นั่ง สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 45 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือความเร็วในโหมด Eco 35 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยมอเตอร์ขับเคลื่อนขนาด 45 กิโลวัตต์ ระบบเร่งความเร็วแบบแฮนด์บิดคันเร่ง เสริมความปลอดภัยด้วยไฮโดรลิกดิสเบรคหน้า-หลัง, เข็มขัดนิรภัยสำหรับคนขับ และเบรกมือ ขับนุ่มนวลด้วยช่วงล่างโช้คน้ำมันคู่หน้า และโช้คพร้อมคอยล์สปริงคู่หลัง ภายในตัวรถเสริมความสะดวกสบายด้วยกล้องมองหลัง, เครื่องเสียงระบบ Bluetooth, แผงเรือนไมล์แบบดิจิตอล และรีโมทสตาร์ท รองรับระบบ Fast Charging สามารถชาร์จประจุไฟจนเต็มในเวลาเพียง 3 ชั่วโมงต่อการใช้งาน 30 กิโลเมตร
          นอกจากรุ่นที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีอีกหลากหลายรุ่นของรถสามล้อไฟฟ้าที่พาเหรดมาให้ลูกค้าและผู้สนใจได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด และแน่นอนส่งท้ายปี บริษัทฯ จัดแคมเปญเด็ดมาอย่างจุใจ อาทิ ซื้อสินค้าภายในบู๊ธ เอช เซม มอเตอร์ รุ่นใดก็ได้ ลุ้นรับ IPhone X โดยจะจับรางวัลทุกเดือน เดือนละ 1 รางวัล ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2561
          สำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงานผ่านเฟสบุ๊ค และมาสแกน QR Code ที่บู๊ธเอช เซม มอเตอร์ ลุ้นรับทันที SEV Candy Box จำนวน 1 คัน มูลค่า 45,000 บาท ประกาศรายชื่อผู้โชคดีทาง FB Live ในวันที่ 10 ธันวาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป
          พบกันที่บูธ "เอช เซม มอเตอร์" ในงานมอเตอร์ เอกซ์โป ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2561 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ: สายด่วนลูกค้าสัมพันธ์ โทร 092-276-5005 หรือเข้าไปที่ www.siamsev.com FB fanpage: Hsemmotor.sev
          สามารถดาวน์โหลดภาพประกอบข่าว ได้ตามลิงค์นี้ครับ
          https://www.dropbox.com/sh/ewcct3k47txyiiv/AACzKmhvmw40d8ft6uKlaV2fa?dl=0

          เกี่ยวกับ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด
          บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด (H SEM Motor Co., Ltd.) บริษัทในเครือ ฮั้วเฮงหลี กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายรถกอล์ฟไฟฟ้า แบรนด์สยามรถไฟฟ้า หรือตัวย่อ SEVและรถสามล้อ แบรนด์สยามรถสามล้อ หรือตัวย่อ STC เพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าทั้งในกลุ่มเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการใช้ระบบขนส่งขนาดเล็ก คล่องตัว ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยระบบเครื่องยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ปล่อยมลพิษออกสู่อากาศ อีกทั้งราคาไม่แพงติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.siamsev.com และwww.siamstc.com
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:28:20 PM
ภาพข่าว: เปิดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35”



          นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (คนที่ 3 จากซ้าย) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35" โดยมี ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน (คนที่ 4 จากซ้าย) ให้การต้อนรับ ณ ห้องรอยัล จูบิลี IMPACT เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:28:55 PM
เชิญชมบูธ เอช เซม มอเตอร์ ในงาน Motor Expo 2018



          จากภาพ นายวันชัย ลี้นะวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด (คนที่ 3 จากซ้าย) เปิดบูธ H SEM MOTOR (เอช เซม มอเตอร์) อย่างเป็นทางการในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 โดยมี นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35" ให้เกียรติร่วมถ่ายภาพ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี วันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา
          สามารถดาวน์โหลดภาพประกอบข่าวได้ที่ https://www.dropbox.com/sh/qnm6bpth3z9a85u/AABQWp6MtptJFDbWpIPxH48Ha?dl=0

          รายชื่อผู้บริหารเรียงจากซ้ายมาขวา
          รัตชนก หวังเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด
          มัญชรี สงเคราะห์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด
          วันชัย ลี้นะวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด
          ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35"
          สรรเสริญ วุฒิสมบูรณ์พันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณา บริษัท สื่อสากล จำกัด
          วราทิพย์ เชยศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอเตอร์ ไซเคิล เอ๊กซ์โป จำกัด
          เกี่ยวกับ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด
          บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด (H SEM Motor Co., Ltd.) บริษัทในเครือ ฮั้วเฮงหลี กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายรถกอล์ฟไฟฟ้า แบรนด์สยามรถไฟฟ้า หรือตัวย่อ SEVและรถสามล้อ แบรนด์สยามรถสามล้อ หรือตัวย่อ STC เพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าทั้งในกลุ่มเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการใช้ระบบขนส่งขนาดเล็ก คล่องตัว ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยระบบเครื่องยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ปล่อยมลพิษออกสู่อากาศ อีกทั้งราคาสามารถจับต้องได้ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.siamsev.com และwww.siamstc.com
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:30:10 PM
พบ เอส-อี-วี เชสต้า รถสามล้อน้องใหม่ในงาน Motor Expo 2018







          เอช เซม มอเตอร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายรถกอล์ฟ รถสามล้อไฟฟ้า (SEV) และรถสามล้ออเนกประสงค์ (STC) เปิดตัวรถสามล้อไฟฟ้าน้องใหม่ เอส-อี-วี เชสต้า (SEV CESTA) ในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 หรือ MOTOR EXPO 2018 พร้อมโปรโมชั่นสุดเร้าใจ
เอส-อี-วี เชสต้า มอเตอร์ไซค์ 3 ล้อไฟฟ้า รูปลักษณ์ทันสมัยขนาดกะทัดรัด มาพร้อมตะกร้าด้านหน้าขนาดใหญ่ และกล่องเก็บของอเนกประสงค์ด้านหลัง บรรทุกผู้โดยสารได้ 2 ที่นั่ง รับน้ำหนักได้ถึง 150 กก. ทำความเร็วได้สูงสุด 39 กม./ชม. (วิ่งได้ 45 กม. /1 การชาร์จ) ด้านการชาร์จไฟสามารถเสียบกับปลี๊กไฟบ้านได้เลยโดยใช้เวลาชาร์จเพียง 6-8 ชม.
          ด้านการขับขี่มีความปลอดภัยสูงด้วย 2 ล้อหลังที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะการทรงตัวพร้อมระบบดิสเบรคหน้า-หลัง นุ่มนวลด้วยโช็คคู่หน้าแบบน้ำมัน และโช็คหลังแบบคอยส์สปริง ขับขี่สะดวกด้วยขนาดตัวรถเพียง 70x166x110 ซม. ระยะวงเลี้ยวเพียง 2.16 ม. ทำให้สามารถเข้าได้ทุกตรอกซอกซอย
          เอสอีวี เชสต้า มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ แดง-ขาว, เขียว-ขาว, ส้ม-ขาว และชมพู พิเศษสุดๆเฉพาะในงาน MOTOR EXPO 2018 รับส่วนลดทันที 10,000 บาท จากราคา 39,500 บาทเหลือเพียง 29,500 บาท พร้อมลุ้นรับ iPhone X ฟรี
          พบกันที่บูธ "เอช เซม มอเตอร์" H18 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 ในงาน Motor Expo 2018 ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 10 ธันวาคม 2561 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ สายด่วนลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์ 092-276-5005
          สามารถดาวน์โหลดภาพประกอบข่าวได้ที่ : https://www.dropbox.com/sh/c1knmxk5t10jx94/AADJNn1ycqzuSnR2eq1J0ayIa?dl=0

          เกี่ยวกับ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด
          บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด (H SEM Motor Co., Ltd.) บริษัทในเครือ ฮั้วเฮงหลี กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายรถกอล์ฟไฟฟ้า แบรนด์สยามรถไฟฟ้า หรือตัวย่อ SEVและรถสามล้อ แบรนด์สยามรถสามล้อ หรือตัวย่อ STC เพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าทั้งในกลุ่มเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการใช้ระบบขนส่งขนาดเล็ก คล่องตัว ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยระบบเครื่องยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ปล่อยมลพิษออกสู่อากาศ อีกทั้งราคาสามารถจับต้องได้ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.siamsev.comและwww.siamstc.com
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 02, 2018, 01:31:16 PM
วอลโว่ จัดแสดงสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ครั้งยิ่งใหญ่ นำขบวนโดย XC40 พร้อมเงื่อนไขผ่อนชำระเพียง 19,xxx บาท/เดือน การตกแต่งแบบ R-Design สำหรับทุกรุ่นตั้งแต่ XC40 จนถึง XC90









          วอลโว่ จัดแสดงสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ครั้งยิ่งใหญ่ นำขบวนโดย XC40 พร้อมเงื่อนไขผ่อนชำระเพียง 19,xxx บาท/เดือน การตกแต่งแบบ R-Design สำหรับทุกรุ่นตั้งแต่ XC40 จนถึง XC90 พร้อมจัดรายการ Volvo Dream Campaign และบริการเอ็กซ์คลูซีฟรูปแบบใหม่ การรักษาซ่อมบำรุงนาน 10 ปี หรือ 100,000 กม. และสิทธิพิเศษอีกมากมาย

          วอลโว่ แบรนด์รถยนต์หรูจากสวีเดน เตรียมจัดแสดงสุดยอดยานยนต์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการเปิดตัวในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ภายในงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2561 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี นำเสนอโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์มากมายแก่ผู้ขับขี่และแฟนวอลโว่ในเมืองไทย นำขบวนโดย XC40 คอมแพ็กต์เอสยูวีใหม่ที่เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยที่เติมเต็มกลุ่มรถยนต์เอสยูวีของวอลโว่ให้ตอบโจทย์ตลาดได้อย่างครอบคลุม โดยนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา XC 40 มียอดจองแล้วมากกว่า 400 คัน งานมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้บริโภคชาวไทยจะได้ยลโฉมสุดยอดคอมแพ็กต์เอสยูวีรุ่นนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อสัมผัสดีไซน์และความหรูหราของรถยนต์สัญชาติสวีดิชสไตล์สแกนดิเนเวียนขนานแท้ที่ครองใจนักขับมาแล้วทั่วโลก
          XC40 สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม CMA หรือ Compact Modular Architecture ซึ่งพัฒนาโดยวอลโว่ ทำให้นักออกแบบสามารถผสานองค์ประกอบสไตล์สแกนดิเนเวียนที่หลากหลายได้อย่างลงตัว นำเสนอห้องโดยสารที่เรียบหรูเป็นระเบียบสวยงาม พร้อมการใช้วัสดุตกแต่งคุณภาพสูงที่เน้นความหรูหรามีระดับความปลอดภัย และประสบการณ์การเดินทางระดับพรีเมียมในหนึ่งเดียว
          มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "XC40 นำเสนอนิยามแห่งอิสรภาพในการเดินทางบนแนวทางที่ยั่งยืน สื่อถึงตัวตนของผู้ขับ และเปี่ยมด้วยความปลอดภัยอย่างแท้จริง ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 2.09 ล้านบาท หรือผ่อนชำระเพียง 19,000 บาทต่อเดือน ทำให้ XC40 ดึงดูดความสนใจและกลายเป็นสุดยอดยานยนต์อันน่าตื่นใจที่ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ทั้งยังมีรุ่นสปอร์ต T5 R Design ซึ่งนับเป็นรถยนต์ที่นำเสนอการตกแต่งแบบ R Design รุ่นแรกในเมืองไทย โดยมอบกำลังเครื่องถึง 252 แรงม้า ในราคาเพียง 2.39 ล้านบาทเท่านั้น"
          "การเปิดตัว XC40 ยังช่วยเติมเต็มการเปลี่ยนโฉมเครือข่ายโชว์รูมของเรา เพื่อให้โชว์รูมวอลโว่ทุกแห่งสามารถมอบประสบการณ์ Volvo Retail Experience แบบใหม่ล่าสุดได้บนมาตรฐานเดียวกัน รถรุ่นนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสสุดยอดประสบการณ์แห่งการขับขี่เอสยูวีแบบคอมแพ็กต์เต็มรูปแบบ ส่วนผู้ที่สนใจในประสบการณ์การขับขี่ชั้นเลิศระดับพรีเมียมที่แท้จริง เราขอเสนอเอสยูวีรุ่นท็อปอย่าง XC90 Excellence ในราคา 5.99 ล้านบาท จึงกล่าวได้ว่า วันนี้วอลโว่สามารถนำเสนอรถเอสยูวีทุกขนาดและตอบโจทย์ทุกความต้องการแก่ลูกค้าในเมืองไทยได้อย่างครบถ้วน โดยเราจะยังคงขยายบริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อมอบประสบการณ์ Volvo Retail Experience แก่ผู้บริโภคในเมืองไทยต่อไป"
          ในครั้งนี้ วอลโว่ยังภาคภูมิใจในการเผยโฉมเอสยูวีแฟล็กชิปใหม่ล่าสุด XC90 Excellence เอสยูวีเฟิร์สคลาสระดับลักชัวรี่ที่สมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียดด้วยดีไซน์และงานฝีมือสไตล์สแกนดิเนเวียน พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ขั้นสูงเพื่อมอบประสบการณ์ชั้นเลิศภายใต้แนวคิด Entitled Luxury Experience
          XC90 ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ T8 Twin Engine ที่มีความเฉียบคมในการเลี้ยวโค้งที่ท้าทายโดยไม่สูญเสียแรงเหวี่ยง พร้อมอัตราการปล่อยไอเสียในระดับต่ำแทบเป็นศูนย์ ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพด้านเทคนิคของ XC90 ยอดเยี่ยมและสร้างความประทับใจแก่นักขับมาแล้วทั่วโลก เสริมด้วยสัมผัสที่หรูหราของการตกแต่งห้องโดยสารภายในจากการหุ้มเบาะนั่งด้วยหนังแท้แบบ Perforated Nappa Leather ที่ปรับองศาได้หลายระดับทั้งเบาะแถวหน้าและแถวกลาง และกล่องเก็บสัมภาระที่มิดชิดด้วยความจุ 750 มล. สำหรับวางขวดน้ำ 2 ขวดและแก้วดีไซน์ Swedish Orrefors(TM) ซึ่งมีให้เฉพาะรุ่น XC90 เท่านั้น โดยรถรุ่นปี 2019 จะมอบขนาดที่ใหญ่ขึ้น พร้อมถังน้ำมันความจุถึง 70 ลิตร และล้อ Turbine ขนาด 21 นิ้วแบบ 10 หมุดดีไซน์ใหม่
          XC90 มอบสัมผัสที่หรูหราเป็นพิเศษในทุกรายละเอียดของตัวรถ นับตั้งแต่เบาะหน้าที่ติดตั้งระบบระบายอากาศ ระบบทำความร้อน และเบาะนั่งพร้อมระบบนวดอัติโนมัติ ไปจนถึงฟังก์ชั่นการเข้าไปนั่งหรือออกจากเบาะคนขับที่ราบรื่นง่ายดาย และเบาะหน้าที่ปรับได้จากด้านหลัง รวมถึงลวดลายการบุหนังแบบ Romb ที่สวยงามโดดเด่นไม่เหมือนใคร สัมผัสแห่งความหรูหรายังเห็นได้จากการตกแต่งโลโก้บนหมอนรองศีรษะและช่วงล่างของประตูรถ รวมไปถึงการตกแต่งครอบของส่วนโครงเสาช่วง B และ C-pillar และเครื่องหมายตำแหน่งบนประตูท้ายที่สวยงามสะดุดตา
          อีกหนึ่งรุ่นที่มาเติมเต็มขบวนรถยนต์สไตล์สแกนดิเนเวียนที่โดดเด่นของวอลโว่ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งนี้คือ XC60 พรีเมียมเอสยูวีขนาดกลางที่ครองใจนักขับด้วยยอดจำหน่ายมากกว่า 1,000,000 คันทั่วโลกตลอดเวลา 8 ปีที่ผ่านมา และถือเป็นเอสยูวีขนาดกลางที่ขายดีที่สุดของยุโรป โดย XC60 ยังคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2018 (2018 World Car of the Year) จากงาน New York Auto Show ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีมากมายและมอบประสบการณ์ขับขี่ภายใต้แนวคิด "Arrived Like Never Before" ที่นำนักขับสู่มิติใหม่ ตอบสนองทุกความต้องการด้านประสบการณ์การขับขี่ในทุกจังหวะอารมณ์
          นอกจากนี้ยังมีซีดานรุ่น S90 ที่มอบสัมผัสใหม่แห่งความหรูหราและความผ่อนคลายในการขับขี่ที่เหนือระดับ นำเสนอนิยามของความสง่างามและหมดจดงดงามด้วยวัสดุแท้จากธรรมชาติ ซึ่งทำให้ S90 คือรถซีดานที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยการตกแต่งภายในที่มอบความรู้สึกสุขุมและรื่นรมย์ พร้อมเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติและความโปร่งสบาย ทำให้นักขับรู้สึกเสมือนอยู่ในโอเอซิสเพื่อการพักผ่อนส่วนตัว นับเป็นรถยนต์ซีดานระดับผู้บริหารที่สวยงามในทุกรายละเอียด
          การตกแต่งแบบ R Design เพิ่มความพรีเมียมให้แก่ประสบการณ์การขับขี่ที่รื่นรมย์ยิ่งขึ้น ด้วยงานดีไซน์สุดล้ำที่ผสานกลิ่นอายแบบสปอร์ตที่สร้างความโดดเด่นบนท้องถนน พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ราบลื่นทรงพลังได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยเบาะนั่งที่รองรับสรีระได้อย่างดีเยี่ยมและการตกแต่งห้องโดยสารที่ใช้โทนสีที่สื่อถึงการพุ่งทะยาน ช่วยสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานและเร้าใจในทุก ๆ ครั้งของการขับขี่
          มร.ฌอง-ดาวิด อาเรล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่างานมอเตอร์เอ็กซ์โปมีความสำคัญอย่างมากสำหรับวอลโว่ เนื่องจากเป็นงานจัดแสดงสินค้าต่อสาธารณชนครั้งแรกที่จะได้นำเสนอการตกแต่งรถแบบ R Design นับตั้งแต่รุ่น XC40 ไปจนถึง XC90 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะจัดแสดงรถยนต์รุ่น XC40 แก่สาธารณชนหมู่มาก
          "นับจากการเปิดตัว XC40 ในเดือนกันยายน ทำให้วันนี้ วอลโว่มีรถเอสยูวีครบทุกขนาดและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันเข้มแข็งของแบรนด์ในการเปลี่ยนทิศทางการทำตลาดจากรถยนต์ซีดานมาเป็นเอสยูวี นอกจากนี้ เรายังตอกย้ำกลุ่มสินค้ารถเอสยูวี/ครอสโอเวอร์ของเรา ด้วยการเปิดตัวการตกแต่งแบบ R Design สำหรับรถยนต์ตระกูล XC ทุกรุ่น รวมถึงการยกระดับประสิทธิภาพในรุ่น XC90 Inscription อาทิ การเพิ่มระบบถุงลมกันสะเทือน ซึ่งทำให้ในปัจจุบัน เรามีรถยนต์ตระกูล XC รวม 3 เกรด ได้แก่ Momentum, R-Design และ Inscription"
          "นอกจากนี้ รถยนต์แต่ละรุ่นยังมีการกำหนดตำแหน่งการตลาดและบุคลิกที่แตกต่างกันชัดเจน โดย XC40 คือ คอมแพ็กต์เอสยูวีที่โฉบเฉี่ยว ส่วน XC60 ติดตั้งเครื่องยนต์ T8 TE PHEV มอบกำลังถึง 407 แรงม้าเพื่อการขับขี่แบบสปอร์ตที่แท้จริง และ XC90 เป็นเอสยูวีขนาดใหญ่ที่สง่างามแบบ 7 ที่นั่ง เน้นให้เป็นรถใช้งานสำหรับครอบครัวที่ต้องการใช้งานได้แบบอเนกประสงค์"
          "สำหรับวอลโว่ เราให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นอันดับแรก โดยเรามุ่งมั่นยกระดับให้ผู้คนใช้ชีวิตได้อย่างง่ายดาย สะดวกสบาย ปลอดภัย และดียิ่งขึ้น เพราะนี่คือแนวทางของวอลโว่ เราเป็นบริษัทสัญชาติสวีดิช ทุกการตัดสินใจของเราสามารถส่งผลกระทบต่อโลกและความเป็นอยู่ของผู้คน ดังนั้น เราจึงกำหนดให้ผู้คนเป็นหัวใจสำคัญในทุกสิ่งที่เราทำ โดยมีเป้าหมายหลักคือการปรับปรุงประสิทธิภาพยานยนต์อย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้การขับขี่ง่ายดายและผ่อนคลายยิ่งขึ้น และนี่คือเหตุผลที่เราพยายามนำเสนอแพ็คเกจบริการแบบครบวงจรที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดที่สมบูรณ์แบบสำหรับรถยนต์ระดับพรีเที่ยมของเรา"
          ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งนี้ วอลโว่นำเสนอแพ็คเกจการบำรุงรักษารถรูปแบบใหม่ที่ครอบคลุมระยะเวลานานถึง 10 ปี หรือ 100,000 กม. นอกจากนี้ ยังมีบริการ Volvo Mobile Service ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาว เพื่อให้ลูกค้าในเมืองไทยทั้งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงภูมิภาคอื่น ๆ นอกเขตกรุงเทพฯ อาทิ ภูเก็ตและเชียงใหม่ สามารถรับบริการจากวอลโว่ได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น
          บริการ Volvo Mobile Service ที่เน้นความสะดวกสบายและให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นหลัก ถูกพัฒนาขึ้นจากแนวคิดการให้บริการแก่ลูกค้าเฉพาะรายของวอลโว่ (Volvo Personal Service) โดยครอบคลุมมาตรฐานต่าง ๆ ดังนี้
          - บริการโดยช่างผูเทคนิคที่ผ่านการรับรอง / วิศวกรที่ผ่านการฝึกอบรมถึงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากวอลโว่
          - ใช้เครื่องวินิจฉัยขั้นสูงและเครื่องมือพิเศษของวอลโว่โดยเฉพาะ
          - การเข้าถึงคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ของวอลโว่เพื่อการใช้งานซอฟต์แวร์ล่าสุด ซึ่งมีการอัพเดตอย่างสม่ำเสมอ พร้อมความคิดเห็นจากลูกค้าเพื่อร่วมแบ่งปันประสบการณ์ชั้นเลิศจากวอลโว่
          - การจองบริการล่วงหน้า
          - การเน้นความสำคัญของประสิทธิภาพและความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก

          ลูกค้าวอลโว่สามารถจองบริการหรือสอบถามรายละเอียด รวมถึงสิทธิประโยชน์ของบริการ Volvo Mobile Service ตลอดจนตารางการให้บริการต่าง ๆ ของศูนย์บริการได้ทาง โทร. 063 203 4567

          นอกจากนี้ วอลโว่ยังจัดรายการ Your Volvo Dream เพื่อมอบสิทธิพิเศษและส่วนลดสุดคุ้มสำหรับผู้ที่สั่งซื้อรถยนต์ภายในงานไทยแลนด์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018 ตามรายละเอียดดังนี้

รุ่น

งวดผ่อนชำระต่อเดือน

XC40

เริ่มต้น 19,xxx บาท/เดือน

XC60

เริ่มต้น 28,xxx บาท/เดือน

XC90

เริ่มต้น 36,xxx บาท/เดือน

S90

เริ่มต้น 28,xxx บาท/เดือน


          นอกจากนี้ วอลโว่ยังมอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรุ่น S90 เอ็กซ์คลูซีฟซีดาน มูลค่าถึง 450,000 บาท โดยเลือกได้จาก 2 ออพชั่น ไดแก่ ส่วนลดเงินดาวน์ 300,000 บาท + Volvo Premium Service Program (VPSP) นาน 5 ปี หรือ นำรถยนต์วอลโว่คันเก่ามาแลกเพื่อรับส่วนลด 300,000 บาทสำหรับการซื้อรถยนต์วอลโว่คันใหม่ + Volvo Premium Service Program (VPSP) นาน 5 ปี โดย Volvo Premium Service Program คือแพ็คเกจบริการแบบครบวงจรจากวอลโว่เพื่อสนับสนุนการขับขี่ที่เหนือระดับของลูกค้า ซึ่งประกอบด้วย
          - บริการซ่อมบำรุงนาน 5 ปี หรือ 100,000 กม.
          - รับประกันนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
          - บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี

          พนักงานวอลโว่ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป พร้อมให้คำอธิบายและรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขทางการเงินหลากหลายรูปแบบแก่ลูกค้าทุกท่านตลอดระยะเวลาการจัดงาน อย่าพลาดโอกาสสัมผัสสุดยอดยานยนต์หลากหลายรุ่นจากวอลโว่ ได้ที่บูธหมายเลข A08 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี ตั้งแต่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2561

          รายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 02-305-4499 หรือเว็บไซต์ www.volvocars.com/th
          สแกน QR Code เพื่อดาวน์โหลด ไฟล์ข่าวประชาสัมพันธ์ พร้อมรูปภาพได้ที่นี่
          http://goo.gl/TKtKaQ
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 04, 2018, 03:14:41 PM
เชิญร่วมงานเสวนาใหญ่ท้ายปี 2561 ”ไทยควรซื้อรถยนต์ไฟฟ้าแล้วหรือยัง?”





          บริษัท สื่อสากล จำกัด และมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทยขอเชิญเข้าร่วมงานสุดยอดการเสวนาท้ายปี 2561 "พลังงานทางเลือกในยุค 4.0 : คนไทยควรซื้อรถยนต์ไฟฟ้าแล้วหรือยัง?" ในวันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.30- 17.00 น. ณ ห้องจูปิเตอร์ 4-6 ในงาน Motor Expo 2018 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีวิทยากรพิเศษและผู้เชี่ยวชาญมากมายมาบรรยายให้ความรู้ในหัวข้อต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า อาทิ คุณอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศ (สปท.) คนที่ 1 ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "ยุทธศาสตร์ยานยนต์ไฟฟ้าไทย" ผศ.ดร.ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย บรรยายหัวข้อ "ทิศทางการสนับสนุนของภาครัฐ องค์กร เพื่อลดอุปสรรคหรือข้อจำกัดของอุตสาหกรรมและการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า" คุณอดิศักดิ์ โรหิตะศุน ผู้ทำการแทน ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ "มาตรฐาน เทคโนโลยี และศักยภาพการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าไทยเมื่อเปรียบเทียบกับยานยนต์ในปัจจุบัน ความจำเป็นในการสร้างศูนย์ทดสอบยานยนต์ และสนามทดสอบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า" คุณครรชิต ไชยสุโพธิ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.บรรยายหัวข้อ "การสร้างความสมดุลระหว่างยานยนต์สมัยใหม่กับยานยนต์ปัจจุบัน รวมทั้งการสร้างบุคลากรรองรับกับเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก" ฯลฯ
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 04, 2018, 03:15:34 PM
ภาพข่าว: MOTOR EXPO MOTORING CLUB 2018



          อย่าพลาดชม รถยนต์ จักรยานยนต์ แต่งเต็ม จาก 18 คลับดัง รวมรถเด่นสมาชิกชมรม หลากสไตล์ หลายแนว สร้างสีสันแรงบันดาลใจให้ผู้ชมในงาน MOTOR EXPO 2018

          ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35" ชวนชม MOTOR EXPO MOTORING CLUB 2018 ชุมนุมรถคันรักของสมาชิก CAR CLUB 12 กลุ่ม และ MOTORCYCLE CLUB 6 กลุ่ม เพื่อเป็นแนวทางการแต่งรถให้แก่ผู้สนใจ และกระชับความสัมพันธ์ในกลุ่มผู้ชื่นชอบการแต่งรถ ตลอดงาน 12 วัน ดังนี้
          CAR CLUB 12 กลุ่ม แสดงเวลา 12.00-16.00 น.
          1 ธันวาคม 2561 ได้แก่ 86BRZTHAILAND และ SIAM SUBARU SOCIETY
          2 ธันวาคม 2561 ได้แก่ สมาคมนิยมมาร์ช และ BRIO MANIA THAILAND
          5 ธันวาคม 2561 ได้แก่ SUZUKI CLUB THAILAND และ HAF CREW
          8 ธันวาคม 2561 ได้แก่ TP CUSTOM CLUB และ MINI COUNTRYMAN OWNERS
          9 ธันวาคม 2561 ได้แก่ ACCORD SOCIETY THAILAND และ MG ZS SOCIETY CLUB THAILAND
          10 ธันวาคม 2561 ได้แก่ CROSSWIND และ QUARTER TECH EVO CLUB

          MOTORCYCLE CLUB 6 กลุ่ม แสดงเวลา 18.00-21.00 น.
          29 พฤศจิกายน 2561 คือ ROYAL ENFIELD
          30 พฤศจิกายน 2561 คือ Z900 CLUB THAILAND
          3 ธันวาคม 2561 คือ DUCATI
          4 ธันวาคม 2561 คือ HARLEY DEVIDSON
          6 ธันวาคม 2561 คือ ROYAL ALLOY THAILAND
          7 ธันวาคม 2561 คือ GPX

          ผู้สนใจเชิญชมได้ที่งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35" บริเวณ DROP OFF ชั้น 2 อาคาร ชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2561 และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.motorexpo.co.th
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 04, 2018, 03:16:17 PM
ประกาศผลประกวด “นวัตกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 9” ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35”





          โครงการประกวดนวัตกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 9 ประกาศผลการตัดสิน พร้อมจัดแสดงผลงานของเยาวชนที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในงาน "MOTOR EXPO 2018" ถึงวันที่ 10 ธันวาคม นี้
          ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35" เปิดเผยว่า "โครงการประกวดนวัตกรรมยานยนนต์ ครั้งที่ 9" หรือ THE 9th MOTOR EXPO AUTOMOTIVE INNOVATION AWARD 2018 มีนักศึกษาส่งผลงานเข้าประกวดเป็นจำนวนมาก ซึ่งคณะกรรมการได้พิจารณาตัดสินตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด พร้อมประกาศผลการประกวดดังนี้
          รางวัลที่ 1 โล่เกียรติยศ ประกาศนียบัตร และทุนการศึกษา 40,000 บาท ไม่มีผลงานที่สมควรได้รับรางวัล
          รางวัลที่ 2 โล่เกียรติยศ ประกาศนียบัตร และทุนการศึกษา 25,000 บาท ได้แก่ ผลงาน ยานพาหนะไฟฟ้าขนาดพกพา (SCOOTAR) โดย ธนบดี ราชปม นครินทร์ เปียนกา จากมหาวิทยาลัยปทุมธานี
          รางวัลที่ 3 โล่เกียรติยศ ประกาศนียบัตร และทุนการศึกษา 10,000 บาท ได้แก่ ผลงาน พาหนะฟื้นฟูการเดินสำหรับผู้ป่วยกายภาพ โดย ชูเกียรติ ผาลาด ชยุต ยอดรักษ์ ณัฐดนย์ ณ นคร กนกพล อภิชาตพงษ์ และภาคย์ บุญราษฎร์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
          รางวัลชมเชย โล่เกียรติยศ ประกาศนียบัตร และทุนการศึกษา 5,000 บาท 3 รางวัล ได้แก่
          ผลงาน มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า (AC INDUCTION MOTOR) โดย เนติธร โพธิ์เจริญ ช่อผกา สิมลา และสรวงภัทร ธุระสะ จากมหาวิทยาลัยรังสิต
          ผลงาน หุ่นยนต์กำจัดศัตรูพืชด้วยดินตะกอน โดย เกษม ปู่ช้าง สิทธิโชค สุดสาร ณัฐนัย ไชยคชบาล ณัฐปคัลภ์ ฟักเฟื่อง วิทวัส สบายยิ่ง ธีรศักดิ์ สมกุล คมสัน นวลแก้ว ไกรสร ส่งบุญ สุรพัศ อุทัยถาวร ธนาวุฒิ โชติศรีพันธุ์พร นฤป เหลือบุญชู ธนพฤฒ ศิลปเจริญ ณัฐวิชช์ อัจจนะนนท์กุล และเตชินท์ เฉลิมเทวี จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
          ผลงาน นวัตกรรมบ่มเร่งพื้นคอนกรีทด้วยพลังงานไมโครเวฟ โดย จิตวัติ สนามชัย สาวชณิญา เจริญคุณธรรม ทินภัทร หนูแก้ว และอำพล พิชัยเชิด จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
          เชิญชมนวัตกรรมจากความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ทั้ง 5 ทีม ได้ที่บูธ "โครงการประกวดนวัตกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 9" บริเวณด้านหน้าชาลเลนเจอร์ 1 IMPACT เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ถึง 10 ธันวาคม 2561 และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ motorexpo.co.th/automotive_innovation_award
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 04, 2018, 03:16:44 PM
ภาพข่าว: เอช เซม มอเตอร์ สนับสนุนโครงการประกวดนวัตกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 9



          วันชัย ลี้นะวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด (คนที่ 3 จากขวา) ให้เกียรติ มอบรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากการประกวดในโครงการประกวดนวัตกรรมยานยต์ ครั้งที่ 9 หรือ THE 9th MOTOR EXPO AUTOMOTIVE INNOVATION AWARD 2018 ณ บูธโครงการฯ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา

          เกี่ยวกับ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด
          บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด (H SEM Motor Co., Ltd.) บริษัทในเครือ ฮั้วเฮงหลี กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายรถกอล์ฟไฟฟ้า แบรนด์สยามรถไฟฟ้า หรือตัวย่อ SEVและรถสามล้อ แบรนด์สยามรถสามล้อ หรือตัวย่อ STC เพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าทั้งในกลุ่มเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการใช้ระบบขนส่งขนาดเล็ก คล่องตัว ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยระบบเครื่องยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ปล่อยมลพิษออกสู่อากาศ อีกทั้งราคาสามารถจับต้องได้ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.siamsev.comและwww.siamstc.com
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 04, 2018, 03:17:53 PM
GPX จัดหนัก! เปิดตัวรถใหม่ 3 รุ่น ถล่มงาน Motor Expo 2018









          GPX เปิดตัว รถมอเตอร์ไซค์ใหม่ล่าสุดถึง 3 รุ่น ในรหัส MAD 300, Gentleman Racer 200 และ New Demon 150 GR ภายในงาน Motor Expo 2018 จัดหนักเซอร์ไพรส์ให้เหล่าสาวก GPX และลูกค้าได้หลงใหลในดีไซน์สุดเท่ พร้อมมิติแห่งความคล่องตัว แถมยังได้เฮกับราคาที่สามารถจับต้องได้!
          คุณไชยยศ ร่วมใจพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีพี มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "GPX ประสบความสำเร็จอย่างมากในปีนี้ แม้จะยังไม่ได้สรุปยอดขายปลายปี แต่ปัจจุบันยอดขายก็เกินเป้าหมายที่เราตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เรายังมีโอกาสร่วมงานแสดงรถมอเตอร์ไซค์ครั้งใหญ่ปลายปีอีกครั้ง พร้อมเปิดตัว รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ถึง 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่น MAD 300, Gentleman Racer 200 และNew Demon 150 GR ภายในงาน Motor Expo 2018 โดย รุ่น New Demon 150 GR ก็เป็นการปรับโฉมใหม่ในสีสัน และลวดลายที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายของเรามากขึ้น ส่วนรุ่น Gentleman Racer 200 โมเดลนี้ถือว่า เป็นการพัฒนาไปในขั้นสูงสุดของความเป็น Cafe Racer ในรูปแบบโม่ง ออกแบบตัวรถมาในอารมณ์ของคาเฟ่เรเซอร์อย่างแท้จริง โดยโมเดลตัวนี้พัฒนามาจากพื้นฐานเดิมของรุ่น Gentleman 200 แต่ปรับเปลี่ยนโครงสร้าง และลักษณะของตัวรถให้ได้ความรู้สึกร่วมในการขับขี่ที่เข้าถึงสไตล์ของรถอย่างชัดเจน พร้อมความเป็นคาเฟ่เรเซอร์ที่เห็นแล้วต้องหลงรัก อยากมีไว้ครอบครองสักคันของคนที่ชอบสไตล์คลาสสิก และรุ่น MAD 300 ถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ตลาดกลุ่มผู้เล่นที่ต้องการกำลังของเครื่องยนต์ที่ซีซีอยู่ในระดับสูงขึ้น และราคาที่เอื้อมถึงได้ ซึ่งจะมาเจาะกลุ่มผู้เล่นรถสปอร์ตที่ชื่นชอบการตกแต่งในสไตล์โดดเด่นเป็นตัวเอง การออกแบบเน้นเรื่องของรูปแบบตัวรถเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบทั้งสไตล์และสมรรถนะรถที่เหนือชั้น และมีระดับแตกต่างจากรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป บวกกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ล้ำกว่าแบบ จัดเต็มให้สมกับความเป็น MAD คอนเซปต์อย่างเหนือกว่า และแตกต่าง"
          MAD 300 มอเตอร์ไซค์สไตล์ Sport Naked Custom รถรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย GPX มาพร้อมกับเครื่องยนต์เทคโนโลยีหัวฉีด EFI ในขุมกำลังพิกัด 300 ซีซี 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ให้เต็มสูบ บิดมันส์ติดมือกับเกียร์ 6 สปีด ดิสก์เบรกหน้าแบบคู่ โช๊คหน้าหัวกลับ Up Side Down นอกจากนี้ในเรื่องของดีไซน์ ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์กับคนไทย ซึ่งถือเป็นการพัฒนาก้าวสำคัญของค่ายที่ได้ออกแบบพัฒนารถรุ่นนี้ขึ้นมา และถือเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ต้นแบบโมเดลนี้ และสามารถส่งออกโมเดลไปขายได้ทั่วโลก สำหรับรถรุ่น MAD 300 เปิดตัวมาด้วยกัน 4 เฉดสีพิเศษ ได้แก่ สีเงิน (Silver Matt), สีแดง (Red Gloss), สีดำ (Black Gloss) และสีเหลือง (Yellow Gloss) สนนราคาพิเศษ เพียง 89,800 บาท (***ราคานี้เฉพาะช่วงงาน Motor Expo 2018 เท่านั้น)
          มาต่อกันที่รุ่น Gentleman Racer 200 รถมอเตอร์ไซค์สไตล์สปอร์ต คาเฟ่เรเซอร์ เครื่องยนต์พิกัด 200 ซีซี 4 จังหวะที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นพี่อย่าง Gentleman 200 โดยปรับโฉมดีไซน์ใหม่รอบคัน โดดเด่นด้วยดีไซน์ชุดหน้า ถอดแบบสไตล์สาย Cafe Racer ในลุคใหม่ที่มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED RING LIGHT นอกจากนี้ยังคงฟังก์ชั่นแบบฉบับของ Gentleman ไว้ได้อย่างครบถ้วน ทั้งโช๊คอัพหน้าแบบหัวกลับ Up Side Down โช๊คอัพหลังจากแบรนด์ดัง YSS ซึ่งมีมาให้เลือกด้วยกัน 2 เฉดสีบนเนื้อผิวพิเศษแบบด้าน ได้แก่ สีแดง (Red Matt) และ สีดำ (Black Matt) ในราคาค่าตัวที่ 72,500 บาท
          สำหรับรุ่น New Demon 150 GR รถมอเตอร์ไซค์สไตล์สปอร์ตฟูลแฟริ่ง มาพร้อมกับล้อแม็ก 14 นิ้ว กับการปรับโฉมใหม่ในสีสันที่เร้าใจ และลวดลายเอาใจวัยรุ่นกับ 3 เฉดสีใหม่ ได้แก่ สีเหลือง (Yellow Matt), สีแดง (Red Gloss) และสีดำ(Black Gloss) ซึ่งหลังจากที่ Demon 150 GR ได้ถือกำเนิดครั้งแรกในไทยไปเมื่อปลายปีที่แล้ว และเข้าสู่ตลาดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็ได้ผลการตอบรับอย่างอย่างดีเยี่ยมจนคว้ายอดขายไปได้อย่างถล่มทลาย และสำหรับคอลเลคชั่นใหม่ New Demon 150 GR ที่ออกมานี้ สนนราคาที่ 64,500 บาทเท่านั้น
          ทั้งนี้ภายในงาน Motor Expo 2018 มีการจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ GPX ทุกรุ่นที่กำลังทำตลาดอยู่ในขณะนี้ ทั้งสไตล์สปอร์ต และคลาสสิก รวมทั้งสิ้นภายในบูธ 8 รุ่นด้วยกัน โดยจะเปิดรับจองในงาน พร้อมขนโปรโมชั่นสุดพิเศษจัดเต็มส่งท้ายปีมาให้อีกมากมาย
          "สำหรับ GPX ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2561 ประสบความสำเร็จจากยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ในบ้านเรา โดยทำตัวเลขยอดจดทะเบียนอยู่ที่ 27,000 คัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่มากขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา เราก็ได้ยอดขายเพิ่มเติมจากการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ ทั้งในกัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย ฮ่องกง เนปาล และอื่นๆ โดยในปีหน้า หวังว่าจะสามารถส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศในสัดส่วน 25% ของกำลังการผลิต อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุ่งเน้นการพัฒนาศูนย์บริการภายในประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าที่มีมากขึ้น" คุณ ไชยยศ กล่าวปิดท้าย
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 04, 2018, 03:19:05 PM
MIDAS ฟิล์มกรองแสงระดับ HI-END โชว์นวัตกรรมใหม่ที่ลูกค้ายกนิ้วให้คุณภาพและมาตรฐาน









          ฟิล์มกรองแสง MIDAS ปลุกตลาดส่งท้ายปลายปี เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กระตุ้นตลาด ชูกลยุทธ์สินค้าคุณภาพ และเทคโนโลยีระดับสูงที่ไม่เหมือนใคร แตกต่างจากคู่แข่งในท้องตลาด ตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่อง รุกขยายตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หลังประสบความสำเร็จอย่างสูงปีที่ผ่านมา
          คุณพรรษมณฑ์ โรจน์ดำรงพินิจ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เซเว่นตี้ทู อินเตอร์เทรด จำกัด เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ หลังจากได้รับการแต่งตั้งจากทาง MIDAS EXPORT USA ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในภูมิภาคเอเชีย จำหน่ายฟิล์มกรองแสงระดับ HI-END ภายใต้ชื่อแบรนด์ MIDAS บริษัทฯ ได้รุกธุรกิจฟิมล์กรองแสงระดับไฮเอ็นด์ในประเทศไทย จนถึงปัจจุบันประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ โดยลูกค้าให้การยอมรับและ มั่นใจคุณภาพในแบรนด์ Midas โดยมีการบอกต่อกันเองทำให้ Midas ได้รับความไว้วางใจและเชื่อถือจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
          สำหรับ กิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการขาย ปีหน้าทางบริษัทฯ พร้อมที่จะเปิดตัวแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่ต้องการดูแลและปกป้องรถยนต์ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยจุดเด่นของฟิล์มMIDAS ที่มั่นใจว่าจะครองใจลูกค้าอย่างแน่นอน ได้แก่
          - Midas Windshield [Self-healing] ฟิล์มนิรภัยกระจกบังลมหน้า ที่ออกแบบมาเพื่อการติดตั้งจากภายนอกโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันสะเก็ดหิน การทุบกระจก การกันโจรกรรม หมดกังวลเรื่องรอยขูดขีดจากรอยใบปัดน้ำฝน เนื่องจากฟิล์มคุณบัติ self-healing ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนกับฟิล์มที่มีอยู่ในท้องตลาด
          - Midas PPF Ultra Shine สารเคลือบความเงาแบบพิเศษ ที่จะช่วยเพิ่มสภาพความสวยงามของรถยนต์ให้เงางามได้เป็นเวลานานหลายปี
          - ฟิล์มกันรอย ผิวด้าน (Matte) ฟิล์มผิวด้าน ที่ให้มากกว่ากันรอย ที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษ ได้แก่ ทนสารเคมีได้ทุกชนิด เช่น ทินเนอร์ น้ำมันเบรกหมดกังวลเรื่องรอยต่างๆ ฟิล์มผิวด้านไม่สามารถทำให้ผิวรถยนต์ของคุณเกิดริ้วรอยได้เลย ดูแลรักษาง่าย สามารถสัมผัสได้โดยไม่ขึ้นรอยนิ้วมือ เพียงแค่หุ้มฟิล์มผิวด้าน ก็ทำให้สีรถยนต์ของคุณเปลี่ยนเป็นสีด้านทันที และยังคงสีเดิมโดยปกติไว้
          - Midas Iceberg ฟิล์มกรองแสง แบบใส ที่สมารถกันความร้อนจากอินฟาเรตได้สูงและไม่บล็อกสัณญาน มีให้เลือก 3 ความใส รู้สึกถึงความเย็นได้ตั้งแต่ได้สัมผัสกับโทนสี ของ Midas Iceberg
          นอกจากความพิเศษของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แนะนำในปีหน้าที่มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบันก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างไม่หยุดยั้งไม่ว่าจะเป็น
          - Midas Photochromic ฟิล์มกรองแสงที่สามารถเปลี่ยนสีได้อัตโนมัติ(PHOTOCHROMIC FILM) เหมือนเล่นส์แว่นตาที่สามารถปรับแสงได้ โดยปัจจัยที่กระตุ้นให้ฟิล์มเปลี่ยนสีได้ คือ แสง อุณหภูมิ และรังสียูวี เป็นฟิล์มที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้ง่ายทั้งกลางวันและกลางคืน และกันความร้อนจากแสงอินฟาเรดได้99%
          - Midas ceramic black bear คุณสมบัติ แตกต่างจากฟิล์มเซรามิคทั่วไป. ฟิล์มสามารถเก็บกักความเย็นในเวลากลางคืนไว้ เพื่อลดอุณภูมิ ในเวลากลางวัน จึงทำให้อุณภูมิภายในรถยนต์ เย็นเร็วขึ้นกว่าฟิล์มเซรามิคทั่วไป
          - Midas Paint protection film ฟิล์มใสกันรอย (clear) ติดตั้งบริเวณตัวถังรถยนต์เพื่อปกป้องสีรถยนต์ เนื้อฟิล์มมีสาร coating ในตัว ทำให้สีของรถยนต์ดูเงางามเสมอ และยังมีเทคโนโลยี Self healing ที่สามารถฟื้นฟูรอยขีดข่วนต่างๆ ด้วยความร้อนทุกชนิด เนื้อฟิล์มมีคุณสมบัติการไล่น้ำแบบ Hydrophobic และทนต่อสารทำละลายได้ทุกชนิด เช่น ทินเนอร์ และน้ำมันเบรค และ 4.Midas Windshieldฟิล์มนิรภัย ป้องกันสะเก็ดหินและโจรกรรม
          ทางด้าน คุณณัฐจักร์ หาญจิตต์เกษม กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมฟิล์มกรองแสงในประเทศไทยมีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง มีฟิล์มกรองแสงหลากหลาย ยี่ห้อ และมาจากที่แตกต่างกัน แต่เมื่อถึงระยะหนึ่งก็จะเหลืออยู่เพียงไม่กี่ราย ซึ่งผู้แข่งขันที่เหลือส่วนใหญ่จะต้องมีความเข้มแข็ง มีสินค้าที่มีบริษัทผู้ผลิตที่สามารถการันตีได้ สำหรับ Midas พิสูจน์ผลิตภัณฑ์ด้วยคุณภาพและมาตรฐานทัดเทียมกับฟิล์มยี่ห้ออื่นๆ จนเป็นที่การยอมรับจากลูกค้า ส่งผลให้ธุรกิจฟิล์มเติบโตต่อเนื่องแบบบอกต่อ และยังมั่นใจว่าตลาดฟิล์มยังเติบโต และขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ได้ขยายตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว 25 สาขา ซึ่งในปี 2019 บริษัทฯ มีการวางแผนในการทำการตลาดเชิงรุกโดยเป้าหมายหลัก คือ การขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายของเราให้มากขึ้น, การโฆษณาประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่างๆ โดยจะเน้นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้มากขึ้นทั้งออนไลน์ และออฟไลน์
          นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรม Road Show เพื่อให้ผู้บริโภคสัมผัสและรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ฟิล์มกรองแสง Midas เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคมีความรู้ในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม Midas ยังมีความได้เปรียบผลิตภัณฑ์ทั่วไปในตลาด ด้วยคุณภาพและมาตรฐานที่เหนือกว่า
          หากลูกค้าที่สนใจฟิล์มกรองแสง MIDAS ที่มีคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับต้องการทราบรายละเอียดและคุณสมบัติของฟิล์มMIDAS สามารถเข้ามาเยี่ยมชมบูธของเราได้ภายในงาน MOTOR EXPO 2018 ฮอลล์ 3 อาคารชาแลนเจอร์ เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2561 นี้
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 04, 2018, 03:20:08 PM
KENWOOD & QC CARAUDIO GRAND OPEN BOOTH IN MOTOR EXPO 2018









          KENWOOD ผู้นำแห่งเครื่องเสียงติดรถยนต์ ร่วมมือกับร้านติดตั้งเครื่องเสียงระดับแถวหน้าอย่าง QC CARAUDIO จัดใหญ่ออกบูทในงาน MOTOR EXPO 2018 พร้อมขนเอาเทคโนโลยีล่าสุดมาโชว์กันในงานนี้อีกเพียบ
          สำหรับงานในปีนี้มีการเปิดตัวบูทกันอย่างยิ่งใหญ่ดังเช่นทุกปีที่ผ่านมา ภายในงานเริ่มด้วยผู้บริหารจากเคนวูด คุณวิบูลย์ ฤกษ์เกรียงไกร ขึ้นมากล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ พร้อมด้วย คุณอรรณพ ฉันทวัธน์ ผู้บริหารร้าน QC CARAUDIO และพันธมิตรที่มาร่วมผนึกกำลังกันอย่าง คุณสมชาย โชติภูรีพงศ์ ผู้บริหารจาก FOCAL และ คุณกำชัย เพชรน้ำสิน ผู้บริหารจาก ARC AUDIO
          จากนั้นก็ถึงเวลาการเปิดตัว BRAND AMBASSADOR ของเคนวูดในปีนี้ นั่นก็คือคุณพีท ทองเจือ ดารานักแสดง และนักแข่งรถมืออาชีพ ก่อนเปิดการแสดงโชว์สุดพิเศษจากน้องๆ พริตตี้ KWT-1 และน้องชาช่า THAILAND GOT TALENT และก็มาถึงเวลาที่แฟนคลับ และสื่อมวลชนทุกแขนงต่าง รอคอย นั่นคือดารารับเชิญสาวสวย "ไอซ์ ปรีชญา" ที่งานนี้นอกจากได้มาร่วมพูดคุยถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมงานในวันนี้แล้ว สาวไอซ์ยังมีเซอร์ไพร์สร้องเพลงพิเศษเฉพาะในงานนี้อีกด้วย ทำเอาแฟนๆ ฟินกันถ้วนหน้า!!
          สำหรับงาน MOTOR EXPO ในปี 2018 นี้ ทางเคนวูดได้เปิดตัวจอทีวีรุ่นเล็ก แต่คุณภาพเกินตัวอย่าง DDX419BT และเพาเวอร์แอมป์รุ่นใหม่ ที่ตอบสนองเสียงในรูปแบบ HI-RES อย่าง XH4O1-4 รวมไปถึง ตู้ซับสำเร็จรูป PA-W801B ที่ช่วยอัพเกรดเสียงเพลงให้ดีขึ้นอย่างง่ายดาย และเช่นเคย ทาง QC CARAUDIO ก็ยกชุดโปรโมชั่นสุดพิเศษ มาพร้อมรถเดโม่คาร์อีกมากมาย ให้ได้สัมผัสกันอย่างเต็มอิ่มในงานนี้ แถมด้วยโชว์พิเศษจากสาวๆ KWT-1 ที่จะมาสร้างความสุข และคอยต้อนรับตลอดงาน
          อย่าพลาด รีบไปจองภายในวันที่ 10 ธันวาคม 2018 นี้!!       
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 05, 2018, 02:43:18 PM
ภาพข่าว: มาเซราติ ร่วมงาน Motor Expo 2018 ชูไฮไลท์ Ghibli S GranSport 430 แรงม้า



          มาเซราติ ประเทศไทย ผู้นำเข้ารถยนต์พรีเมียมลักชัวรี จากประเทศอิตาลี เข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 (THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018) ส่ง 4 ยนตรกรรมสุดหรู กิบลี ดีเซล, เลอวานเต้ ดีเซล กรันลุซโซ, ควอตโตรปอร์เต้ เอส และ กิบลี เอส กรันสปอร์ต 430 แรงม้า ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงาน โดยมี
          ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ที่ 2 จากซ้าย) พร้อมด้วย ศุกลกานต์ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (ที่ 2 จากขวา) และ ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย (ที่ 1 จากขวา) ให้การต้อนรับ ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงานฯ (ที่ 3 จากซ้าย) พร้อมถ่ายภาพร่วมกับแขกผู้มีเกียรติ เมื่อเร็วๆ นี้

          บุคคลในภาพ (ซ้ายไปขวา)
          1. คุณจาตุรนต์ ปภัสร์พงษ์
          2. ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด
          3. คุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 (THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018)
          4. คุณประพงษ์ ไม้เจริญ
          5. คุณชไมพร ปภัสร์พงษ์
          6. คุณศุกลกานต์ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด
          7. คุณปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 05, 2018, 02:43:42 PM
มาเซราติ บุก มอเตอร์ เอ็กซ์โป โชว์ 4 ยนตรกรรมพรีเมียมลักชัวรี ที่มี ‘Ghibli S GranSport’ เป็นไฮไลท์

           มาเซราติ ประเทศไทย ส่ง 4 ยนตรกรรมสุดหรู จากประเทศอิตาลี ร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 (THE 35th THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018) ชูไฮไลท์รุ่น 'กิบลี เอส กรันสปอร์ต' (Ghibli S GranSport) เครื่องยนต์เบนซิน วี6 สูบ เทอร์โบคู่ 430 แรงม้า
          ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ มาเซราติ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ภายใต้บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย เผยว่า "งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 มาเซราติ ได้นำรถยนต์มาจัดแสดง 4 คัน ได้แก่ กิบลี เอส กรันสปอร์ต, กิบลี ดีเซล (Ghibli Diesel), เลอวานเต้ ดีเซล กรันลุซโซ (Levante Diesel GranLusso)และ ควอตโตรปอร์เต้ เอส (Quattroporte S)
          มาเซราติ 'กิบลี เอส กรันสปอร์ต' ที่ถูกนำมาเป็นไฮไลท์ ได้รับการยกย่องเป็น 'พรีเมียม ซาลูน' ด้วยตัวถังที่ผ่านการออกแบบโดยเน้นเส้นสายที่ชัดเจน ตามแบบฉบับ รถสปอร์ตอิตาเลียน เด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมแนวตั้ง สอดรับกับสัญลักษณ์ตรีศูล ที่เป็นเอกลักษณ์ของ มาเซราติ อย่างลงตัว
          เครื่องยนต์เบนซิน วี6 สูบ เทอร์โบคู่ 430 แรงม้า ที่ 5,750 รอบ/นาที แรงบิด 580 นิวตันเมตร ที่ 2,250 - 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 4.9 วินาที ทำให้ผู้ขับรู้สึกแตกต่างจากการขับรถยนต์ทั่วไป พร้อมปลุกความเร้าใจด้วยเสียงคำรามกระหึ่ม
          สะดวกสบายทุกเส้นทางกับห้องโดยสารแบบ Seamless Cabin Concept ที่ออกแบบให้ดูสมมาตร กว้างขวาง และสง่างาม ผสานเบาะหนังแท้ทรงสปอร์ต ที่คัดสรรวัสดุชั้นเลิศจากอิตาลี นำมาตัดเย็บอย่างประณีต ให้ผู้ขับได้สัมผัสถึงความหรูหราในสไตล์อิตาเลียน
          ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ด้วยระบบอินโฟเทนเมนต์รุ่นล่าสุด รองรับทั้ง Apple Carplay และ Android Auto ควบคุมผ่าน rotary controller ติดตั้งทัชสกรีน 8.4 นิ้ว รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง พร้อมสร้างความรื่นรมย์ตลอดการเดินทาง ผ่านชุดเครื่องเสียงคุณภาพสูงของ HARMAN KARDON
          ปลอดภัยทุกเส้นทาง ด้วยไฟหน้า อะแด๊ปทีฟ เมทริกซ์ แอลอีดี (Adaptive Matrix LED) ที่ให้แสงเป็นธรรมชาติและส่องสว่างได้ไกลถึง 195 เมตร พร้อมหลากหลายเทคโนโลยีความปลอดภัย เช่น Adaptive Cruise Control แปรผันความเร็วอัตโนมัติ, Forward Collision Warning ระบบเตือนเมื่อรถเข้าใกล้คันหน้ามากเกินไป, Blind Spot Alert เตือนรถในมุมอับสายตา และกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera)
          มาเซราติ กิบลี ที่จำหน่ายในประเทศไทย มี 2 ทางเลือกเครื่องยนต์ คือ เบนซิน และ ดีเซล แบ่ง 4 รุ่นย่อย คือ กิบลี ดีเซล 275 แรงม้า 7.39 ล้านบาท, กิบลี ดีเซล กรันลุซโซ 7.79 ล้านบาท, กิบลี กรันลุซโซ 350 แรงม้า 8.99 ล้านบาท และ กิบลี เอส กรันสปอร์ต 430 แรงม้า 9.99 ล้านบาท ส่วน มาเซราติ เลอวานเต้ เริ่มที่ 7.59 ล้านบาท และ มาเซราติ วอตโตรปอร์เต้ เริ่มที่ 10.9 ล้านบาท
          เชิญสัมผัสยนตรกรรมพรีเมียมลักชัวรี ได้ที่มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 วันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2561 ณ บูธ มาเซราติ (B07-1) ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 05, 2018, 02:44:32 PM
“แก้มบุ๋ม-ท็อป”ท้าพิสูจน์ Hi-Kool ขีดสุดแห่งนวัตกรรมฟิล์มกรองแสง



          Hi-Kool ไฮคูล ขีดสุดแห่งนวัตกรรมฟิล์มกรองแสง แบรนด์ฟิล์มกรองแสงคนไทยที่มียอดติดตั้งเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย การันตีความแบรนด์ชั้นนำยอดนิยมตัวจริงด้วยรางวัลซุปเปอร์แบรนด์ไทยแลนด์ 6 ปีซ้อน และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฟิล์มกรองแสงมากว่า 35 ปี ด้วยผลิตภัณฑ์มีนวัตกรรมและคุณภาพที่โดดเด่น ทำให้แบรนด์ไฮคูลพร้อมทะยานไกลสู่อาเซียน ตั้งเป้าขยายตลาดกลุ่มรักษาสุขภาพ ด้วยการแนะนำฟิล์มเซรามิคเกรดพรีเมียม ดำนอก-สว่างใน และป้องกันรังสียูวี 400 ได้ 100% เป็นเจ้าแรก เผยเตรียมบุกตลาดอาเซียนด้วยการตั้งตัวแทนจำหน่ายในเวียดนาม ลาว และ เมียนม่าร์
          โดยปีนี้ในงาน Motor Expo 2018 ที่เมืองทองธานี บูธ Ho9 ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 3 สองซุปตาร์ "แก้มบุ๋ม-ปรียาดา สิทธาไชย" และ "ท็อป-จรณ โสรัตน์" มาร่วมสร้างสีสันและร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับสุดยอดนวัตกรรมฟิล์มกรองแสง Hi-kool อีกด้วย
          "แก้มบุ๋ม ปรียาดา"เป็นอีกคนหนึ่งที่รักและใส่ใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้รถคันโปรด เปิดใจถึงการเลือกฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ว่าต้องเป็นฟิล์มเกรดพรีเมี่ยมเท่านั้น ซึ่ง Hi-kool ก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี สำหรับผลิตภัณฑ์ Hi-Kool UV Care ที่จัดอยู่ในกลุ่ม ฟิล์มเซรามิค เป็นฟิล์มที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้ใช้รถชาวไทย ให้ความเป็นส่วนตัวเมื่อมองเข้าไปจากด้านนอก และมีทัศนวิสัยที่ดียามที่มองออกมาจากในรถ
          ด้านพระเอกฮอท "ท็อป-จรณ โสรัตน์" ที่ชื่นชอบความไฮเทคและตามเทรนด์อยู่ตลอดเวลาช้อยส์แรกสำหรับการเลือกฟิล์มกรองแสงให้กับรถคันโปรดก็คือนวัตกรรมใหม่ๆและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ที่หลากหลาย ไม่มีปัญหากับการใช้งานโทรศัพท์มือถือ อีซี่พาส และการใช้เวลาท่องโลกโซเชี่ยล ขณะอยู่ในรถ อย่าง Hi-kool รุ่น Black Carbon Series ที่มีจุดขายเด่น คือ สวย ดำ ดุ ก็เป็นอีกหนึ่งช้อยส์ที่โดนใจ
          สัมผัสประสบการณ์ใหม่กับผู้นำเทรนด์ด้านฟิล์มกรองแสงที่ตอบสนองความต้องการของไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายกับฟิล์มกรองแสง Hi-Kool ได้ที่ งาน Motop Expo 2018 และที่สัญลักษณ์ Hi-Kool ทั่วประเทศ
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 05, 2018, 02:47:49 PM
พบกับเสน่ห์แห่งการขับขี่แบบไม่เหมือนใครกับ 2 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก “เวสปิอาริโอ” “Vespa Notte Special Edition” และ “Moto Guzzi V7 III Milano” พร้อมโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งที่ 35









          บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมชั้นนำ "พิอาจิโอ" และ "เวสป้า" พร้อมทั้งรถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน "อาพริเลีย" และ "โมโต กุซซี่" สัญชาติอิตาเลี่ยนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์การขับขี่สุดพิเศษส่งท้ายปีกับสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมและมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 35 นำโดย เวสป้า นอตเต้ สเปเชียล อิดิชั่น (Vespa Notte Special Edition) 2 รุ่น ได้แก่ เวสป้า สปริ๊นท์ 150 ไอ-เก็ต เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น (Vespa Sprint 150 i-Get ABS Notte Edition) และเวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น (Vespa GTS Super 300 ABS Notte Edition) รวมถึง โมโต กุซซี่ V7 III มิลาโน่ (Moto Guzzi V7 III Milano) มอเตอร์ไซค์สองล้อระดับตำนานสัญชาติอิตาเลี่ยนรุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองรถตระกูล V7 ครบรอบ 50 ปี ให้บรรดาไบค์เกอร์ได้สัมผัส พร้อมมอบโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษให้เป็นเจ้าของสองล้อสไตล์อิตาเลี่ยนได้อย่างง่ายดายกว่าเดิม ณ บูธหมายเลข G01 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี วันนี้ถึง 10 ธันวาคม 2561
          คุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ตลอดทั้งปี 2018 นี้
บริษัทฯ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่แฟนๆ ผู้ที่หลงใหลในการขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศที่ยังคงเติบโต ทั้งในส่วนของสกู๊ตเตอร์และบิ๊กไบค์รวมถึงมีกิจกรรมทางการตลาดใหม่ๆ ที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทุกเพศทุกวัย ซึ่งทางบริษัทฯ ได้ยึดถือความต้องการของลูกค้าในการดำเนินธุรกิจเสมอมา บริษัทฯ ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การตอบรับที่ดีกับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดภายใต้การดำเนินงานของบริษัทฯ และเรายังคงมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ พร้อมด้วยบริการหลังการขายที่ครบครัน รวมไปถึงการทำกิจกรรมทางการตลาดที่สร้างสรรค์เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกและแตกต่างให้กับลูกค้า ซึ่งในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งนี้เราได้นำรถใหม่รุ่นพิเศษมาโชว์ทั้งหมด 2 รุ่น รวมถึงรถรุ่นอื่นๆ รวมแล้วกว่า 18 รุ่น พร้อมเสนอโปรโมชั่นให้กับลูกค้าอีกมากมาย เพื่อให้สามารถเป็นเจ้าของรถสัญชาติอิตาเลี่ยนได้ง่ายดายยิ่งขึ้น"
          สำหรับรถใหม่ที่บริษัทฯ นำมาจัดแสดงนั้น เริ่มที่เวสป้ารุ่นพิเศษ คือ เวสป้า นอตเต้ สเปเชียล อิดิชั่น สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมรุ่นพิเศษที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยสีดำด้าน (Nero Notte) รอบคัน ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ "Urban Night Ride" ที่พร้อมจะเปลี่ยนประสบการณ์การขับขี่ในเมืองยามค่ำคืนของคุณให้น่าหลงใหลและโดดเด่นพิเศษกว่าใคร ตัวรถตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง สะท้อนความเรียบหรูบนความเท่สไตล์โมเดิร์นคลาสสิกที่มอบความโฉบเฉี่ยวทุกขณะขับขี่กับ เวสป้า นอตเต้ สเปเชียล อิดิชั่น ประกอบด้วย 2 รุ่น 2 ขนาดเครื่องยนต์ ได้แก่ เวสป้า สปริ๊นท์ 150 ไอ-เก็ต เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น (Vespa Sprint 150 i-Get ABS Notte Edition) และเวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น (Vespa GTS Super 300 ABS Notte Edition)ด้วยเทคนิคและวิศวกรรมสุดพิถีพิถันของเวสป้าทั้งแบบเฟรมเล็กและเฟรมใหญ่ตามลำดับ สำหรับชื่อ "นอตเต้" มาจากคุณลักษณะเด่นประจำเวสป้ารุ่นนี้ด้วยการใช้วัสดุสีดำตกแต่งรอบคัน มอบสัมผัสแห่งการขับขี่ยามค่ำคืนให้สนุกและท้าทาย เริ่มจากตัวถัง เนกไท บังโคลนหน้า และฝาครอบท่อไอเสียสีดำด้าน เพิ่มลูกเล่นด้วยสีดำเงาบริเวณคิ้วกันลม (Trim) กรอบกระจกมองข้างและล้อแม็กซ์ พิเศษเฉพาะในเวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ ได้แก่ ปลายของแฮนด์รถที่เพิ่มความสปอร์ตให้กับตัวรถสีดำด้าน และที่พักเท้าแบบพับได้เพิ่มความสะดวกสบาย นอกเหนือจากนี้ เวสป้ายังได้ปรับแต่งเบาะให้เข้ากับรถโดยเฉพาะด้วยหนังปั้มลอนเพื่อรูปลักษณ์ที่หรูหราอย่างสมบูรณ์แบบ เสริมความพิเศษยิ่งขึ้นด้วยชิลด์สั้นกันลมสีสโม้คและตะแกรงหลังสีดำด้าน ที่ทำให้ Vespa Notte Special Edition รุ่นนี้พิเศษยิ่งกว่าที่เคย
          สำหรับ เวสป้า สปริ๊นท์ 150 ไอ-เก็ต เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น โดดเด่นด้วยสุดยอดเทคโนโลยีกับเครื่องยนต์ ไอ-เก็ต (i-Get) 150 ซีซี สูบเดี่ยว 4 จังหวะ ที่ช่วยประหยัดน้ำมันพร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่เบา หัวฉีดระบบอิเล็กทรอนิกส์ 3 วาล์ว ทุกองค์ประกอบของเครื่องยนต์ตั้งแต่ท่อไอเสียไปจนถึงกล่องเกียร์ได้รับการออกแบบให้เรียบหรู ทำงานโดยไร้เสียงรบกวน และช่วยให้ขับขี่ได้อย่างราบรื่นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้กำลัง 9.5 กิโลวัตต์ที่ 7,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 12.8 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที สูงที่สุดเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ในขนาดเดียวกัน เครื่องยนต์มีน้ำหนักเบาช่วยให้ขับขี่สนุกและทะยานไปข้างหน้าได้เร็วกว่าเดิม เสริมความปลอดภัยระหว่างการขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วยระบบเบรก ABS วางจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 600 คันเท่านั้น ในราคา 136,900 บาท
          เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น มาพร้อมสุดยอดเครื่องยนต์ "ควอซาร์ (Quasar)" ขนาด 300 ซีซี 4 จังหวะ 4 วาล์ว ขนาดใหญ่ เร็ว แรง และทรงพลังที่สุดในทุกรุ่นของเวสป้า ระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Fuel Injection) ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง วาล์วให้กำลัง 15.6 กิโลวัตต์ (21.2 แรงม้า) ที่ 7,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 22 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำเพียง 5,000 รอบต่อนาที ระบบระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ (Liquid Cooled) เพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มที่มากขึ้น อากาศภายในเครื่องยนต์ไหลเวียนได้ดีเยี่ยม สำหรับระบบความปลอดภัยในรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยม เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น คันนี้ มาพร้อมกับระบบ ASR (Anti-Slip Regulation) ป้องกันการลื่นไถลของรถแม้ต้องเผชิญกับสภาพพื้นผิวถนนไม่ปรกติ พร้อมด้วยระบบเบรก ABS สุดยอดสมรรถนะดังกล่าวผสานเข้ากับงานดีไซน์ที่ไม่เหมือนใครของ เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 เอบีเอส นอตเต้ อิดิชั่น การันตีการขับขี่ที่สนุกมากยิ่งขึ้นทั้งในเมืองและทางไกล วางจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 200 คันเท่านั้น ราคา 209,900 บาท
          นอกจากนี้ ผู้ที่ตัดสินใจเป็นเจ้าของเวสป้า นอตเต้ สเปเชียล อิดิชั่น ทั้ง 2 รุ่นนี้ จะได้รับของพรีเมี่ยมที่ได้รับการออกแบบมาอย่างเข้าชุดกันกับตัวรถเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของการขับขี่ในเมือง ประกอบด้วย เป้สะพายหลังดีไซน์เท่, ผ้าบัฟฟ์สีดำลาย
Vespa Notte, หมวกแก็ป, พวงกุญแจหนังแท้, กระบอกน้ำอลูมิเนียม, แบตเตอรี่สำรองสำหรับชาร์จสมาร์ทโฟน และหมวกกันน็อคสีดำด้าน
          สำหรับบิ๊กไบค์ระดับตำนานเจ้าของต้นกำเนิดเครื่องสูบวีวางขวางอย่าง Moto Guzzi มอบความตื่นเต้นกับสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ครั้งใหม่ด้วยอีกหนึ่งรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 50 ปี Moto Guzzi ตระกูล V7 กับ Moto Guzzi V7 III Milano (โมโต กุซซี่ V7 III มิลาโน่) ที่จะมอบความโดดเด่นพร้อมการขับขี่สนุก เท่ เร้าใจ ให้แก่บรรดาเหล่าไบค์เกอร์ โดดเด่นสะดุดตากับตัวถังสีเทามันวาว ท่อไอเสียและราวจับสำหรับผู้ซ้อนท้ายที่มาในสีโครเมี่ยม ล้ออัลลอยดีไซน์ทันสมัย รวมถึงบังโคลนอลูมิเนียมด้านหน้า และโลโก้รุ่นรถบนฝาปิดสไลด์เครื่องด้านข้าง ให้บรรดาผู้ที่ได้ขับขี่ Moto Guzzi V7 III Milano สัมผัสถึงความล้ำสมัยแต่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิกของตัวรถและประสบการณ์ความสง่างามของทุกขณะการขับขี่ เปรียบดั่งได้ขับอยู่ ณ ใจกลางเมืองที่สอดแทรกอยู่ร่วมกับประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของโลกอย่างเมืองมิลาน (Milano) โดยโมโต กุซซี่ V7 III มิลาโน่ จัดจำหน่ายที่ราคา 675,000 บาท
          สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่จะสร้างความแตกต่างบนทุกเส้นทางจากสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมและมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน
พร้อมด้วยโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษอีกมากมายได้แล้ววันนี้ ที่บูธหมายเลข G01 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค
เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2561 นี้
          ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ของทั้ง 4 แบรนด์ได้ที่เฟซบุ๊ก ดังนี้ Official Vespa Society Thailand, Piaggio Society Thailand, Aprilia Thailand และ Moto Guzzi Thailand
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 08, 2018, 02:01:20 PM
ทัวร์บูธ “ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์” ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018 ส่องบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ไฮไลท์ที่สุดในงาน









          ปีนี้ถือเป็นอีกปีที่ "ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์" ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอังกฤษ ได้เข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 หรือมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018 แน่นอนว่าเป็นงานแสดงรถยนต์และรถจักรยานยนต์สุดยิ่งใหญ่ของประเทศไทยส่งท้ายปีทั้งที ไทรอัมพ์ก็จัดเต็มด้วยการขนทัพรถมอเตอร์ไซค์ครบทุกเซกเมนต์ทุกรุ่นมาให้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดกัน พร้อมอัดโปรโมชั่นแรงตลอดจนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่
          ประเดิมด้วยไฮไลท์คือการเปิดตัวสองสมาชิกใหม่ล่าสุดของตระกูลบอนเนวิลล์ ได้แก่ "สตรีท ทวิน" (New Street Twin 2019) และ "สตรีท สแครมเบลอร์" (New Street Scrambler 2019) โฉมใหม่ล่าสุดปี 2019 ที่ได้รับการพัฒนาในเรื่องพละกำลังเครื่องยนต์ อุปกรณ์ที่มีคุณลักษณะเฉพาะมากขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีชั้นนำ และรายละเอียดการตกแต่งตัวรถที่มีสไตล์สวยงามเฉพาะตัว มาให้คนไทยได้ยลโฉมและสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด รวมถึงจับจองเป็นเจ้าของก่อนใครเป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก
          ขณะที่ภายในงานยังมีรถมอเตอร์ไซค์โมเดิร์นคลาสสิกสายลุยตัวจริงที่เพิ่งเปิดตัวไปล่าสุดอย่าง "สแครมเบลอร์ 1200 เอ็กซ์ซี" (Scrambler 1200 XC) และ "สแครมเบลอร์ 1200 เอ็กซ์อี'' (Scrambler 1200 XE) รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกสายลุยที่มาพร้อมเครื่องยนต์แรงบิดสูงสูบคู่ขนาด 1,200 ซีซี และเกณฑ์มาตรฐานใหม่ทั้งหมด นำเสนอความสามารถแบบ Dual Purpose และสไตล์การตกแต่งแบบโมเดิร์น พร้อมด้วยคุณลักษณะเฉพาะและเทคโนโลยีชั้นนำ
          สำหรับโปรโมชั่นก็จัดเต็มสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ทุกรุ่นภายในงาน รับข้อเสนอพิเศษมากมาย อาทิ รับ Gift Voucher มูลค่าสูงสุดครึ่งแสนบาทกันไปเลย รวมถึงรับดอกเบี้ยพิเศษ ดาวน์ต่ำเริ่มต้น 10 เปอร์เซ็นต์ ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน ตลอดจนรับฟรี ค่า พ.ร.บ. และค่าจดทะเบียน และโปรแกรม Triumph Roadside Assistance บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 24 เดือน รวมถึงการรับประกันคุณภาพของรถยังยาวนานถึง 24 เดือน โดยที่ไม่จำกัดระยะทาง
          พร้อมกันนี้ยังมีโซนเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดที่ขนมาให้เลือกชมและซื้อกันอย่างจุใจ พร้อมส่วนลดพิเศษสูงสุด 30% ตลอดจนโปรโมชั่นอีกมากมาย พิเศษสุด ๆ สำหรับลูกค้าที่จองรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ทุกรุ่นทุกคันภายในงานเท่านั้นจะได้รับ "Triumph Exclusive Surprise" ลุ้นรับของขวัญเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจากไทรอัมพ์อีกด้วย บอกเลยว่างานนี้ได้ของเต็มไม้เต็มมือกลับบ้านกันไปอย่างแน่นอน
          ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธไทรอัมพ์ G07 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม2561 ตลอดจนสอบถามและทดลองขี่รถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ทุกรุ่นได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายไทรอัมพ์ทั้ง 14 แห่งทั่วประเทศ
          สอบถามข้อมูลติดต่อ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เว็บไซต์ www.triumphmotorcycles.co.th ตลอดจนติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand

          เกี่ยวกับ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์:
          ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1902 มีพนักงานทั่วโลกราว 2,000 คน มีบริษัทสาขาทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน กลุ่มประเทศเบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย และไทย ซึ่งทางบริษัทเข้ามาทำการตลาดและจัดจำหน่ายในนาม บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งแต่ปี 2015 และมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 620 รายทั่วโลก บริษัทฯ มีฐานการผลิตจักรยานยนต์เต็มรูปแบบ 2 แห่งที่ฮิงค์ลีย์ เขตเลสเตอร์ไซร์ ประเทศอังกฤษ และที่ประเทศไทย รวมทั้งมีโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์แบบ CKD (Completely Knocked Down) ในประเทศบราซิล และประเทศอินเดีย ปัจจุบันมีการผลิตรถจักรยานยนต์ราว 60,000 คันต่อปี โดยหัวใจหลักในการทำงานของ ไทรอัมพ์ คือ การมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวย คลาสสิก ร่วมสมัย เข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถ และสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 08, 2018, 02:01:41 PM
มาเซราติ บุก มอเตอร์ เอ็กซ์โป โชว์ 4 ยนตรกรรม พรีเมียมลักชัวรี ที่มี ‘Ghibli S GranSport’ เป็นไฮไลท์

          มาเซราติ ประเทศไทย ส่ง 4 ยนตรกรรมสุดหรู จากประเทศอิตาลี ร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 (THE 35th THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018) ชูไฮไลท์รุ่น 'กิบลี เอส กรันสปอร์ต' (Ghibli S GranSport) เครื่องยนต์เบนซิน วี6 สูบ เทอร์โบคู่ 430 แรงม้า
          ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ มาเซราติ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ภายใต้บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย เผยว่า "งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 มาเซราติ ได้นำรถยนต์มาจัดแสดง 4 คัน ได้แก่ กิบลี เอส กรันสปอร์ต, กิบลี ดีเซล (Ghibli Diesel), เลอวานเต้ ดีเซล กรันลุซโซ (Levante Diesel GranLusso)และ ควอตโตรปอร์เต้ เอส (Quattroporte S)
          มาเซราติ 'กิบลี เอส กรันสปอร์ต' ที่ถูกนำมาเป็นไฮไลท์ ได้รับการยกย่องเป็น 'พรีเมียม ซาลูน' ด้วยตัวถังที่ผ่านการออกแบบโดยเน้นเส้นสายที่ชัดเจน ตามแบบฉบับ รถสปอร์ตอิตาเลียน เด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมแนวตั้ง สอดรับกับสัญลักษณ์ตรีศูล ที่เป็นเอกลักษณ์ของ มาเซราติ อย่างลงตัว
          เครื่องยนต์เบนซิน วี6 สูบ เทอร์โบคู่ 430 แรงม้า ที่ 5,750 รอบ/นาที แรงบิด 580 นิวตันเมตร ที่ 2,250 - 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 4.9 วินาที ทำให้ผู้ขับรู้สึกแตกต่างจากการขับรถยนต์ทั่วไป พร้อมปลุกความเร้าใจด้วยเสียงคำรามกระหึ่ม
          สะดวกสบายทุกเส้นทางกับห้องโดยสารแบบ Seamless Cabin Concept ที่ออกแบบให้ดูสมมาตร กว้างขวาง และสง่างาม ผสานเบาะหนังแท้ทรงสปอร์ต ที่คัดสรรวัสดุชั้นเลิศจากอิตาลี นำมาตัดเย็บอย่างประณีต ให้ผู้ขับได้สัมผัสถึงความหรูหราในสไตล์อิตาเลียน
          ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ด้วยระบบอินโฟเทนเมนต์รุ่นล่าสุด รองรับทั้ง Apple Carplay และ Android Auto ควบคุมผ่าน rotary controller ติดตั้งทัชสกรีน 8.4 นิ้ว รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง พร้อมสร้างความรื่นรมย์ตลอดการเดินทาง ผ่านชุดเครื่องเสียงคุณภาพสูงของ HARMAN KARDON
          ปลอดภัยทุกเส้นทาง ด้วยไฟหน้า อะแด๊ปทีฟ เมทริกซ์ แอลอีดี (Adaptive Matrix LED) ที่ให้แสงเป็นธรรมชาติและส่องสว่างได้ไกลถึง 195 เมตร พร้อมหลากหลายเทคโนโลยีความปลอดภัย เช่น Adaptive Cruise Control แปรผันความเร็วอัตโนมัติ, Forward Collision Warning ระบบเตือนเมื่อรถเข้าใกล้คันหน้ามากเกินไป, Blind Spot Alert เตือนรถในมุมอับสายตา และกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera)
          มาเซราติ กิบลี ที่จำหน่ายในประเทศไทย มี 2 ทางเลือกเครื่องยนต์ คือ เบนซิน และ ดีเซล แบ่ง 4 รุ่นย่อย คือ กิบลี ดีเซล 275 แรงม้า 7.39 ล้านบาท, กิบลี ดีเซล กรันลุซโซ 7.79 ล้านบาท, กิบลี กรันลุซโซ 350 แรงม้า 8.99 ล้านบาท และ กิบลี เอส กรันสปอร์ต 430 แรงม้า 9.99 ล้านบาท ส่วน มาเซราติ เลอวานเต้ เริ่มที่ 7.59 ล้านบาท และ มาเซราติ วอตโตรปอร์เต้ เริ่มที่ 10.9 ล้านบาท
          เชิญสัมผัสยนตรกรรมพรีเมียมลักชัวรี ได้ที่มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 วันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2561 ณ บูธ มาเซราติ (B07-1) ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 08, 2018, 02:02:13 PM
ภาพข่าว: มาเซราติ ร่วมงาน Motor Expo 2018 ชูไฮไลท์ Ghibli S GranSport 430 แรงม้า



          มาเซราติ ประเทศไทย ผู้นำเข้ารถยนต์พรีเมียมลักชัวรี จากประเทศอิตาลี เข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 (THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018) ส่ง 4 ยนตรกรรมสุดหรู กิบลี ดีเซล, เลอวานเต้ ดีเซล กรันลุซโซ, ควอตโตรปอร์เต้ เอส และ กิบลี เอส กรันสปอร์ต 430 แรงม้า ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงาน โดยมี ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ที่ 2 จากซ้าย) พร้อมด้วย ศุกลกานต์ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (ที่ 2 จากขวา) และ ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย (ที่ 1 จากขวา) ให้การต้อนรับ ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงานฯ (ที่ 3 จากซ้าย) พร้อมถ่ายภาพร่วมกับแขกผู้มีเกียรติ เมื่อเร็วๆ นี้

          บุคคลในภาพ (ซ้ายไปขวา)
          1. คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
          2. ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด
          3. คุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 (THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018)
          4. คุณประพงษ์ ไม้เจริญ
          5. คุณชไมพร ปภัสร์พงษ์
          6. คุณศุกลกานต์ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด
          7. คุณปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 08, 2018, 02:03:02 PM
วอลโว่ชู Volvo Dream Campaign มอบสิทธิพิเศษและ เงื่อนไขการผ่อนชำระเพียง 19,xxx บาท/ เดือน ตั้งแต่วันนี้ – 10 ธันวาคมนี้ ที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โปและโชว์รูมวอลโว่ทั่วประเทศ



          วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย แบรนด์รถยนต์หรูสัญชาติสวีเดน นำเสนอแพ็คเกจการบำรุงรักษารถรูปแบบใหม่  พร้อมชูบริการ Volvo Mobile Service รองรับความต้องการของลูกค้าในหัวเมืองหลัก เพื่อการเข้ารับบริการจากวอลโว่ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมจัดรายการ Your Volvo Dream มอบสิทธิพิเศษและส่วนลดสุดคุ้มสำหรับผู้ที่สั่งซื้อรถยนต์ภายในงานไทยแลนด์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018 ผ่อนเริ่มต้นเพียง 19,xxx บาท พิเศษสุดกับ Volvo Premium Service Program แพ็คเกจบริการแบบครบวงจรจากวอลโว่เพื่อสนับสนุนการขับขี่ที่เหนือระดับของลูกค้า กับการบำรุงรักษารถนานสูงสุด 10 ปี หรือ 100,000 กม. การรับประกันนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม. พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ตลอดระยะเวลา 5 ปี
          พบกับข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถยนต์วอลโว่ทุกรุ่น ได้ที่บูธวอลโว่หมายเลข A08 ฮอลล์ 2 อาคารชาเลนเจอร์  อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี และโชว์รูมวอลโว่ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม ศกนี้
          รายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 02-305-4499 หรือเว็บไซต์ www.volvocars.com/th
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 08, 2018, 02:04:21 PM
SKILL DRIVING EXPERIENCE JUNIOR “โตไป…ขับเป็น” ปลูกฝังวินัยจราจรให้เยาวชน









          โครงการ "ขับเป็น..ขับปลอดภัย กับสื่อสากล" จัดกิจกรรม "โตไป…ขับเป็น" ในงาน "MOTOR EXPO 2018" เปิดอบรมทักษะการขับขี่ปลอดภัยปลูกฝังวินัยจราจรให้เด็ก และเยาวชน พร้อมลุ้นชิง "คาร์ซีท" ฟรี!

          ชไมพร ปภัสร์พงษ์ ผู้อำนวยการโครงการ "ขับเป็น..ขับปลอดภัย กับสื่อสากล" (SKILL DRIVING EXPERIENCE) เผยว่า กิจกรรม "โตไป…ขับเป็น" (SKILL DRIVING EXPERIENCE JUNIOR) จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชน ได้เรียนรู้กฎจราจร และฝึกขับขี่ในถนนจำลองที่ปลอดภัย พร้อมรับใบขับขี่รุ่นเยาว์ในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35"

          ผู้ปกครองสามารถสมัครร่วมกิจกรรมด้วยการลงทะเบียนใช้บริการได้ในพื้นที่ หรือสมัครออนไลน์ผ่าน facebook.com/SkillDriving ลุ้นชิง "คาร์ซีท" มูลค่ากว่า 20,000 บาท ช่องทางละ 1 รางวัล โดยน้องๆ ที่จะเข้าอบรมต้องมีอายุระหว่าง 4-8 ปี สูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร และ น้ำหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัม วันธรรมดาอบรม 12 รอบ ตั้งแต่ 12.00-20.40 น. วันหยุดอบรม 14 รอบ ตั้งแต่ 11.00-20.40 น. ถึงวันที่ -10 ธันวาคม 2561

          กิจกรรมทั้งหมดใช้เวลา 45 นาทีต่อรอบ รอบละไม่เกิน 10 คน แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงอบรมความปลอดภัยในการใช้รถและถนน โดยวิทยากรจากกองบังคับการตำรวจจราจร บรรยายความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ สัญญาณไฟ และความหมายสัญลักษณ์ป้ายต่างๆ เพื่อปลูกฝังการเคารพกฎจราจร ให้ขับขี่อย่างปลอดภัย ลดอุบัติเหตุได้ในอนาคต

          ส่วนช่วงภาคปฎิบัติ น้องๆ จะได้ฝึกขับขี่ด้วยรถบังคับขนาดเล็กในสนามจำลอง เพื่อฝึกฝนทักษะการมองและบังคับควบคุมพวงมาลัย เพื่อสร้างทักษะการขับขี่ขั้นพื้นฐาน

          สมัครฟรี! ในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35" ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2561 ณ บริเวณลอบบี ฮอลล์ 2 อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/skilldriving
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 "THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2018
Post by: activity on December 08, 2018, 02:05:04 PM
ภาพข่าว: “ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์” เปิดตัวรถรุ่นใหม่ครั้งแรกในไทย

          นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (คนกลาง) พร้อมผู้แทนจำหน่ายไทรอัมพ์ ร่วมเปิดตัว "สปีด ทวิน"(All New Speed Twin) รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์สวยงามที่กลับมาสร้างชื่ออันเป็นตำนานให้กับไทรอัมพ์อีกครั้ง พร้อมสร้างบรรทัดฐานใหม่ของรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกโรสเตอร์ ทั้งในด้านการขับขี่และความรู้สึกด้วยสมรรถนะสุดเร้าใจ และการควบคุมการขับขี่ระดับชั้นนำ เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ห้องจูปิเตอร์ 9 อาคาร อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี


          คำบรรยายภาพจากซ้าย
          นายปิยะวัฒน์ วิริยะรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด
          นายสังสิทธิ์ สุขวิทยานุสรณ์ ผู้จัดการฝ่ายบริการหลังการขาย บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด
          นางสาวจิราพร สำเร็จกิจเจริญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด
          นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด
          นายอรรถพงษ์ สกุลศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทรอัมพ์ พระราม 5 จำกัด
          นายสิทธิชัย จตุพรยิ่งยง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ พระราม 5 จำกัด
          นายวรฐก์ ปิฏกานนท์
 
          เกี่ยวกับ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์:
          ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1902 มีพนักงานทั่วโลกราว 2,000 คน มีบริษัทสาขาทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สวีเดน กลุ่มประเทศเบเนลักซ์ บราซิล อินเดีย และไทย ซึ่งทางบริษัทเข้ามาทำการตลาดและจัดจำหน่ายในนาม บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งแต่ปี 2015 โดยมอเตอร์ไซค์ของ ไทรอัมพ์ มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 700 รายทั่วโลก บริษัทฯ มีฐานการผลิตจักรยานยนต์เต็มรูปแบบ 2 แห่งที่ฮิงค์ลีย์ เขตเลสเตอร์ไซร์ ประเทศอังกฤษ และที่ประเทศไทย รวมทั้งมีโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์แบบ CKD (Completely Knocked Down) ในประเทศบราซิล และประเทศอินเดีย ปัจจุบันมีการผลิตรถจักรยานยนต์ราว 65,000 คันต่อปี โดยหัวใจหลักในการทำงานของ ไทรอัมพ์ คือ การมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวย คลาสสิก ร่วมสมัย เข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถ และสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ