Recent Posts

Pages: 1 [2] 3 4 ... 10
11
คาเฟ่ แคนทารี จัดเต็มเมนูคลายร้อนหวานเย็นชื่นใจ
กับ “Kakigori” 3 รสชาติใหม่ต้องลอง ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2567


             ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2567 คาเฟ่ แคนทารี ขอเชิญชวนทุกท่านมาลิ้มลองเมนูใหม่ หวานเย็นชื่นใจกับ “คากิโกริ (Kakigori)” ทั้ง 3 รสชาติ “บลูเบอร์รีชีสพาย” กรุบกรอบกับชีสแครกเกอร์  และ แยมบลูเบอร์รีที่เข้ากันอย่างลงตัวกับน้ำแข็งใสเนื้อนุ่มฟูดุจปุยหิมะ ท็อปด้วยครีมพรีเมียมสูตรพิเศษสไตล์คาเฟ่ แคนทารี ในราคาเริ่มต้น 185 บาทสุทธิ ณ คาเฟ่ แคนทารี สาขาอยุธยา ปราจีนบุรี และเกาะยาวน้อย,  “ชาไทย” คากิโกริรสชาไทยเข้มข้นหวานมัน หอมอร่อยเต็มคำพร้อมความหนึบหนับเคี้ยวเพลินของเม็ดบุกบราวน์ชูการ์ ในราคาเริ่มต้น 175 บาทสุทธิ ณ คาเฟ่ แคนทารี สาขาอยุธยา และ เกาะยาวน้อย, “ทรอปิคอลฟรุ๊ตเจลลี่” สดชื่นกับคากิโกริรสผลไม้ ผสานความอร่อยกับรสเปรี้ยวหวานของสับปะรด เงาะ ลิ้นจี่ และปีโป้  ในราคาเพียง 185 บาทสุทธิ ณ คาเฟ่ แคนทารี ปราจีนบุรี






             สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Call Centre: 1627 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์www.cafekantary.com

*โรงแรมในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไข
โดยหากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าผ่านทางช่องทางการติดต่อสื่อสารของโรงแรมฯ
12
Absorba แบรนด์พรีเมี่ยมจากฝรั่งเศส เปิดตัวสินค้าใหม่กลุ่มเบบี้แคร์สูตรออร์แกนิกเอาใจกลุ่มคุณแม่ยุคใหม่


             Absorba แบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของเสื้อผ้าเด็กแรกเกิดมายาวนานมากกว่า 30 ปี นอกจากเสื้อผ้าของแบรนด์ที่มีคอนเซปต์หลัก คือ การคัดเลือกผ้าคอตตอนที่สัมผัสนุ่มและอ่อนโยนต่อผิวเด็กแรกเกิด แบรนด์ยังต่อยอดด้วยการออกผลิตภัณฑ์มาตอบโจทย์ของคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องการดูแลลูกอย่างอ่อนโยนด้วยสูตรออร์แกนิกทั้งหมด 3 ผลิตภัณฑ์ ที่มีสารสกัดหลักมาจากธรรมชาติ เพราะแบรนด์ใส่ใจในเรื่องของความอ่อนโยนเป็นอันดับ 1




ผลิตภัณฑ์ใหม่ของแบรนด์ Absorba มีด้วยกันทั้งหมด 3 ผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์ของคุณแม่ยุคใหม่ ได้แก่




             1.      Absorba Organic extra Moisture Lotion โลชั่นบำรุงผิวกายสูตรอ่อนโยน ให้ชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง (ขวดสีชมพู) โลชั่นบำรุงผิวกาย ใช้ทาผิวเด็กเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เนียนนุ่ม ล็อกความชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ด้วยคุณค่าจากสารสกัด Bisabolol จากน้ำมันแคนเดีย ที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวให้มีสุขภาพดี เนื้อครีมเข้มข้น ซึมซาบไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ให้ลูกรู้สึกสบายผิวมากขึ้

             2.      Absorba Organic Baby Shampoo แชมพูเด็ก มีสารสกัดจากดอกคาโมไมล์ ประเทศฝรั่งเศส อ่อนโยนต่อเส้นผม และหนังศีรษะ ทำให้ผมดูเงางามอย่างมีสุขภาพดี และนอกจากใช้กับลูกแล้ว ก็สามารถใช้ได้กับทุกคนในครอบครัวอีกด้วย

             3.      Absorba Organic Baby hair moisture conditioner (ขวดสีฟ้าขวามือ) ครีมนวดผมสูตรอ่อนโยนพิเศษ ให้ผมนุ่มลื่น ไม่พันกันครีมนวดผมสำหรับเด็ก บำรุงเส้นผมอย่างอ่อนโยน โดยนำมาใช้คู่กันกับแชมพูสระผม จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยบำรุงให้ผมนุ่มลื่น ไม่พันกัน ผมมีความเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ

             สำหรับคุณแม่ท่านไหนที่กำลังมองหา ผลิตภัณฑ์เด็ก ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวที่บอบบาง Absorba ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะเน้นเอสเซนส์ออร์แกนิกแล้ว ยังผ่านการทดสอบDermatologically Tested ผ่านการทดสอบการระคายเคืองภายใต้การควบคุมของแพทย์จากสถาบันทดสอบทางผิวหนัง ช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ใช้อย่างแน่นอน

             หากสนใจผลิตภัณฑ์ Absorba สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางของแบรนด์ FB : Absorba TH หรือ IG : absorba.thailand หรือ TikTok: absorbath เลือกซื้อสินค้าได้ที่สาขาหน้าร้าน CENTRAL ,The Mall ,Robinson , Icon Siam ทั่วประเทศ หรือซื้อออนไลน์ได้ทาง Shopee: https://citly.me/y471w และ Lazada: https://citly.me/oCa8D
13
ย้อนระลึกถึง “บัณฑิต ฤทธิ์ถกล” กับผลงานที่ฝากไว้ใน "สาบเสือที่ลำน้ำกษัตริย์" ดูสนุกที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24


              หากพูดถึงผู้กำกับหนังที่เป็นตำนานอย่าง “บัณฑิต ฤทธิ์ถกล” ทุกคนจะนึกถึงการทำงานที่ละเมียดและใส่ใจทุกขั้นตอนจนได้รับฉายานามว่า “ผู้กำกับเม็ดทราย” ทรูโฟร์ยูจึงไม่พลาดที่จะนำภาพยนตร์ดัง "สาบเสือที่ลำน้ำกษัตริย์" มาให้ท่านผู้ชมได้ชมความสนุกและรำลึกถึงผลงานคุณภาพไปพร้อมกัน






              "สาบเสือที่ลำน้ำกษัตริย์" จะบอกเล่าถึงช่วงสมัยต้นรัชกาลที่ 5  เมื่อปีเตอร์อดีตนายทหารอังกฤษซึ่งถูกบังคับให้ร่วมคณะพรานป่าออกล่าเสือ ขณะเดียวกัน วัน (ภาณุ สุวรรณโณ) ภิกษุหนุ่มอดีตพรานป่าได้ลาสิกขาเพราะถูก เนียน (ปรางทอง ชั่งธรรม) วิญญาณอาฆาตที่สิงอยู่ในร่างเสือคุกคาม วันและปีเตอร์ต่างเดินทางสู่หมู่บ้านกลางดงลึกจนมาถึงลำน้ำกษัตริย์ ก็พบ จูเลีย (สุนิสสา บราวน์) พรานสาวลูกครึ่งอเมริกันกะเหรี่ยงกำลังถูกเสือขย้ำด้วยความเคียดแค้น เพราะจูเลียเคยเป็นอริกับเนียนในชาติปางก่อน เรื่องราวจะจบลงอย่างไร ติดตามชมต่อได้ในภาพยนต์ "สาบเสือที่ลำน้ำกษัตริย์" วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคมนี้ เวลา 19.00 นชมฟรีดูสนุกทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และทาง https://true4u.com/live 
14
สจล. เปิดรับสมัครบุคคล เพื่อสอบเข้าคัดเลือกบรรจุเข้าเป็นพนักงานสถาบัน
สายวิชาการ ตำแหน่งอาจารย์ 32 อัตรา


            สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มีความประสงค์เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเป็นพนักงานสถาบันสายวิชาการ ตำแหน่งอาจารย์ ประจำปี งบประมาณ 2567 ครั้งที่ 2 จำนวน 32 อัตรา ได้แก่ คณะเทคโนโลยีการเกษตร I คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ I คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี I คณะทันตแพทยศาสตร์ I คณะบริหารธุรกิจ I คณะวิทยาศาสตร์ I คณะวิศวกรรมศาสตร์ I คณะอุตสาหกรรมอาหาร I วิทยาเขตชุมพรเขตอุดมศักดิ์ I วิทยาลัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมวัสดุ I วิทยาลัยนวัตกรรมการผลิตขั้นสูง และวิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต

            ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้แล้วตั้งแต่บัดนี้  - 31 พฤษภาคม 2567 ได้ที่เว็บไซต์ www.hr.kmitl.ac.th หรือส่งหลักฐานการสมัครได้ทางอีเมล hr@kmitl.ac.th หรือโทรศัพท์ที่ 02-329-8000 ต่อ 3272 ในวันและเวลาทำการ ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบคัดเลือกในวันที่ 7 มิถุนายน 2567 ทางเวบไซต์ www.hr.kmitl.ac.th และกำหนดการสอบคัดเลือกในวันที่ 10 - 14 มิถุนายน 2567  ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกในวันที่ 27 มิถุนายน 2567

            ติดตามความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ทาง https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์ https://www.kmitl.ac.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8000
15
"อีเอ็ม มอเตอร์" เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า EM Qarez ตอบโจทย์ Gen Z
หลังโตก้าวกระโดด คาดปีนี้กวาดยอดขายทะลุ 600 ล้านบาท
พร้อมลงทุนงบกว่า 150 ล้าน ขึ้นแท่นผู้นำตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าไทย


บริษัท อีเอ็ม มอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย บุกตลาดครั้งใหญ่ เปิดตัวจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ EM Qarez ภายใต้แบรนด์ EM ด้วยขนาดมอเตอร์ 2,000 วัตต์ ทำความเร็วสูงสุด 65-70 กม./ชม. สมรรถนะสูงจากพลังงานสะอาด ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ โดดเด่น สวยงาม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์วัยรุ่น Gen Z น่ารัก ชิคๆ คูลๆ ด้วยคอนเซ็ปต์ Chic & Cool สีสันสุดอินเทรนด์ ตั้งเป้ายอดขาย 2,000 คันในปีแรก พร้อมประกาศลงทุนเพิ่ม 150 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิต 20,000 คันต่อปี หลังมียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด 6-8 เท่าตัว ตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 67 กว่า 600 ล้านบาท ขึ้นแท่นเบอร์ต้นผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

นายธานัท ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีเอ็ม มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า อีเอ็ม เปิดเกมรุกตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ปี 2024 ด้วยการเปิดตัว EM Qarez ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก "เทรนด์รักษ์โลก" ในปัจจุบัน พร้อมตอบกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ช่วยลดมลภาวะและแก้ปัญหาโลกร้อนอย่างยั่งยืน ก้าวเข้าสู่โลก Green Technology อย่างเต็มรูปแบบ



ซึ่งในปีนี้ เราได้เปิดตัวจักรยานยนต์ไฟฟ้า "EM Qarez" ตอบโจทย์วัยรุ่น Gen Z ผู้รักความทันสมัย ด้วยดีไซน์ Chic & Cool รูปลักษณ์ที่โดดเด่น ในคอนเซ็ปต์ Urban Fashion Scooter ที่กำลังนิยมในหมู่นักขับขี่ทั่วโลก เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะในการขับขี่แบบยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยระยะทางที่ไกลมากขึ้นถึง 50-70 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ ซึ่งเหมาะกับการขับขี่การใช้งานที่สะดวกสบายในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังประหยัดเพราะหนึ่งการชาร์จจ่ายค่าไฟฟ้าเพียง 1.7 หน่วยหรือประมาณ 7 บาทเท่านั้น ประหยัดกว่าจักรยานยนต์น้ำมัน 8-10 เท่า พร้อมรับประกันมอเตอร์นาน 5 ปี หรือ 30,000 กม. และรับประกันกล่องคอนโทรลเลอร์ และแบตเตอรี่ เวลา 3 ปี หรือ 20,000 กม. และระบบไฟฟ้า 1 ปี หรือ 5,000 กม.

เพราะฉะนั้น EM Qarez คือทางเลือกที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคนเมืองที่ชื่นชอบความประหยัด ที่สำคัญ EM Qarez ได้ส่วนลด 18,000 บาท จากภาครัฐ ราคาสุดคุ้ม เหลือเพียง 38,340 บาท จากราคาปกติ 57,600 บาท



นายธานัท ธรรมพรหมกุล กล่าวต่ออีกว่า ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา EM มอเตอร์ เราได้พัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงบันดาลใจมุ่งเน้น "จักรยานเพื่อครอบครัว" จึงเริ่มต้นนำเข้าจักรยานไฟฟ้าจากประเทศจีนมาจำหน่ายครั้งแรกในประเทศไทย กระแสตอบรับในตอนนั้นดีมากเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปด้วยกระแสการรักสุขภาพและรักษ์โลก โดยมีปัจจัยจาก 1. สิ่งแวดล้อม 2. ฝุ่น PM 2.5 และ 3. ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทั้ง 3 ปัจจัยนี้ คือ จุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ EM ในปี 2018

"เราค่อย ๆ พัฒนาแบรนด์ EM ให้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ต่อมาในปี 2020 เราตัดสินใจลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีมาตรฐาน และอีกหนึ่งหัวใจหลักของจักรยานยนต์ไฟฟ้า คือ แบตเตอรี่ เราจึงคิดว่าจะดีแค่ไหนหากเรา มีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของเราเอง จึงเป็นอีกครั้งที่ EM ตัดสินใจลงทุนเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ โดยเราใช้เงินลงทุนทั้งสองโรงงานอยู่ที่ 150 ล้านบาท"



ในปัจจุบันเรามีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศกว่า 500 สาขา แยกเป็นจักรยานยนต์ไฟฟ้า 50 สาขา และ จักรยานไฟฟ้า 450 สาขา โดยในปีที่ผ่าน สามารถกวาดยอดขายได้สูงถึง 300 ล้านบาท และเราตั้งเป้ายอดขายในปี 2567 นี้ไว้ที่ 600 ล้านบาท พร้อมวางแผนลงทุนเพิ่มอีก 150 ล้านบาท เปิดโรงงานผลิตรถจักรยาน และจักรยานยนต์ไฟฟ้าอีกแห่งภายในปี 2568"

"EM คือ ผู้ผลิต และจำหน่ายรถจักรยานไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้า เมดอินไทยแลนด์ เจ้าแรกของเมืองไทย ปัจจุบันเราครองอันดับ 3 ของตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์ของตลาดมอเตอร์ไซค์จะแบ่งเป็น มอเตอร์ไซค์น้ำมัน 99 เปอร์เซ็นต์ และจักรยานยนต์ไฟฟ้ามีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 1 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นให้ตลาดเติบโต คือ เทรนด์การรักษ์โลก, มลพิษทางอากาศ และ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 รวมถึงราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และปัญหาด้านพลังงาน ดังนั้นจึงทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญมากคือ การสนับสนุนจากภาครัฐ" นายธานัท กล่าว และกล่าวปิดท้ายว่า



ดังนั้น EM จึงมุ่งมั่นที่จะผลิต และพัฒนาจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ ราคาย่อมเยาว์ แบตเตอรี่คงทน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้เรายังมีบริการหลังการขายที่ทำให้ลูกค้าอุ่นใจ ด้วยตัวแทนจำหน่ายที่เข้าใจผลิตภัณฑ์ ทีมช่างที่มีคุณภาพ เพราะเราเชื่อว่า "ถ้าเราผลิตสินค้าที่ดี มีบริการหลังการหลังการขายที่ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่น ทีมงานช่างมืออาชีพ" สินค้าของเราก็จะเป็นที่ยอมรับ และทำให้ค่อย ๆ เติบโตขึ้น โดยเราตั้งใจว่าอีก 3 ปีข้างหน้า เราจะสามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างแน่นอน

ผู้ที่สนใจ หรือ ทดลองขับขี่ สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่าย EM MOTOR ใกล้บ้านท่าน ทั่วประเทศ หรือ ติดต่อ FB : EM Motor Thailand
16
ด่วน เอาใจอนาคตนักบิน รชค.มนพร สั่งเพิ่มที่นั่งอบรมพร้อมทดสอบภาษาอังกฤษ ฟรี


              นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายให้ สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) สนับสนุนการจัดโครงการแนะแนวสอบนักเรียน – นักบิน (Student Pilot 2024) และแนะแนวอาชีพด้านการบิน ฟรี โดย สบพ. ร่วมกับนายวิพุธ ศรีวะอุไร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางรัก ศิษย์เก่า สบพ. ในหลักสูตรระดับปริญญาตรี Aviation Management (AVM10) สาขาวิชา Air Traffic Management (ATC47) และหลักสูตรนักบินพาณิชย์ตรี - เครื่องบิน รุ่น AP96 เป็นนักเรียนทุนของบริษัทการบินไทย ได้จัดกิจกรรมดังกล่าวรอบแรก ในวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการจำนวนมากกว่า 80 คน ณ สถาบันการบินพลเรือน จตุจักร กรุงเทพฯ


              นายวิพุธฯ ได้กล่าวถึงความสำเร็จในการจัดโครงการฯดังกล่าว ว่าได้รับความสนใจ และมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก  สำหรับการจัดกิจกรรมรุ่นที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2567 เวลา 0900 – 1130 น. ณ สถาบันการบินพลเรือนมีแผนรับรุ่นละ 80 คน แต่เมื่อทำการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ พบว่ามีผู้สนใจจากทั่วประเทศติดต่อสอบถามมายังสถาบันการบินพลเรือนเป็นจำนวนมาก ทางท่าน รชค.มนพรฯ จึงหารือคณะผู้จัดให้เพิ่มจำนวนที่นั่ง  ซึ่งได้เสนอให้มีการรับสมัครเพิ่มเติมอีกจำนวน 40 คน รวมเป็น 120 คน  โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมในรุ่นที่ 2 สบพ. ได้จัดให้มีการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษ เพื่อวัดระดับความรู้  โดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการโดยสแกน QR Code ด้านล่าง


              โครงการแนะแนวสอบนักเรียน – นักบิน (Student Pilot 2024) และแนะแนวอาชีพด้านการบิน มีวัตถุประสงค์เพื่อนำประสบการณ์ความรู้ที่มีมาถ่ายทอดและสร้างโอกาสให้กับสังคมและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบิน ตลอดจนแนะแนวอาชีพสร้างโอกาสเตรียมความพร้อมให้น้องๆได้รับความรู้เกี่ยวกับแนวทางการก้าวเข้าสู่อาชีพในอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งจะช่วยให้น้อง ๆ มีความมั่นใจ และสร้างความเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมการบินกลับมาแล้ว สอดรับนโยบายของรัฐบาลที่มีการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค และในฐานะที่ สบพ. เป็นหน่วยงานหลักในการผลิตและพัฒนาบุคลากรการบินให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านการบินทั้งหมด สบพ.จึงพร้อมอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ และอยู่ระหว่างการหารือกับนายวิพุธฯและคณะในการเพิ่มรอบการจัดกิจกรรมให้กับผู้สนใจต่อไป รายละเอียดติดตามได้ที่ http://www.catc.or.th และ Facebook สถาบันการบินพลเรือน

              ทั้งนี้ สามารถลงทะเบียนได้ผ่านทางลิงก์ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSe3FZreoFhZGmVGhyKnBFigJxmiQHDsGa6s97cLyrktuWHuQQ/viewform





17
เต็มอิ่มจุใจกับ “เทศกาลอาหารเกาหลีสไตล์บุฟเฟ่ต์”
ส่งตรงความอร่อยจากแดนกิมจิ ณ ห้องอาหารนัมเบอร์ 43 อิตาเลียน บิสโทร
โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง




             28 – 30 พฤษภาคม 2567 อร่อยฟินเหมือนบินไปเกาหลีกับ “เทศกาลอาหารเกาหลีสไตล์บุฟเฟ่ต์” ณ ห้องอาหารนัมเบอร์ 43 อิตาเลียน บิสโทร โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง พร้อมเสิร์ฟบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำรสชาติต้นตำรับจากประเทศเกาหลี ทั้งวัตถุดิบและเครื่องปรุงที่ถูกเชฟคัดสรรมาอย่างดี ตระการตากับเมนูยอดฮิต อาทิ เนื้อย่างเกาหลี ข้าวยำบิบิมบับ กุ้งดอง แซลมอนดอง กิมจิ และเมนูอื่นๆอีกมากมาย พร้อมของหวานตบท้ายมื้ออร่อย อาทิ ไอศกรีมชาเขียว และเค้กรสเลิศต่างๆในราคา 750 บาท (สุทธิ) ต่อท่าน สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือส่วนสูงไม่เกิน 120 ซม. ลดครึ่งราคา ในวันที่ 28 – 30 พฤษภาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 18.00 - 22.00 น.






             สำรองที่นั่งล่วงหน้าหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง โทร. 038 804 844 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.kantarybay-rayong.com/
18
ปลุกชีพตำนานมอนสเตอร์ไทย "โบอา งูยักษ์" อสรพิษเลื้อยสยองที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24


             ทรูโฟร์ยูชวนคุณผู้ชมมาพบความสยองขวัญระดับตำนานอีกครั้ง "โบอา งูยักษ์" อสรพิษขนาดใหญ่มหึมามันมาพร้อมพลังมหาศาล และจ้องกลืนกินมนุษย์ที่ก้าวเข้ามาในอาณาจักรของมัน นำแสดงโดย พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์ นพพันธ์ บุญใหญ่ ภูพาน คัญทัพ  สิทธา เลิศศรีมงคล ต้องรัก อัศวรัตน และ กีรติกร รัตน์กุลธร






             โดยหนังบอกเล่าถึง พนาชายหนุ่มที่รักการถ่ายภาพได้หายตัวไปในป่าอย่างลึกลับ กลุ่มเพื่อนสนิทของเขา “คิน (นพพันธ์ บุญใหญ่) โก้( ภูพาน คัญทัพ) เสิด (สิทธา เลิศศรีมงคล) สีดา(ต้องรัก อัศวรัตน)” และ “แพร” (กีรติกร รัตน์กุลธร) จึงเข้าป่าเพื่อตามหาพนา ด้วยการขึ้นบอลลูนเพื่อจะได้เห็นภาพมุมสูงของป่าได้อย่างชัดเจน แต่ด้วยลมพายุที่โหมกระหน่ำรุนแรงทำให้บอลลูนตกลงในป่าลึกแห่งหนึ่ง ท่ามกลางฝนที่ตกหนัก พวกเขาจึงตัดสินใจเข้าพักแรมในถ้ำลับที่พบกลางป่า โดยหารู้ไม่ว่าได้ย่างกรายเข้าสู่อันตราย บางสิ่งกำลังเลื้อยออกจากถ้ำ เพื่อไล่ล่าแขกผู้ไม่ได้รับเชิญ พวกเขาจะต่อสู้กับมันอย่างไรและใครจะเป็นผู้รอดชีวิต ติดตามชมได้ในภาพยนตร์ "โบอา งูยักษ์" วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคมนี้ เวลา 19.00 น.ชมฟรีดูสนุกทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และทาง https://true4u.com/live
19
เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ จัดกิจกรรมท่องเที่ยว
และทัศนศึกษาภาคฤดูร้อน ปีที่ 13 มอบประสบการณ์อันล้ำค่า
แก่เยาวชนกว่า 800 ชีวิต จากมูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยฯ

             โรงแรมในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ โดยคุณธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ ผู้ก่อตั้งเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ผู้บริหารบริษัท เกษมกิจ จำกัด และรองประธานกรรมการอำนวยการมูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เดินหน้าจัดกิจกรรม “สานสัมพันธ์น้องพี่สามัคคีครอบครัวเดียวกัน” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 ตลอดเดือนเมษายน – พฤษภาคม ปี 2567 โดยกิจกรรมท่องเที่ยวและทัศนศึกษานี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปิดโลกกว้างและสร้างเสริมประสบการณ์ใหม่ ๆ แก่เยาวชนกว่า 800 ชีวิตในหมู่บ้านเด็กโสสะ ทั้ง 5 แห่งทั่วประเทศของมูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยฯ ได้แก่ หมู่บ้านเด็กโสสะบางปู หาดใหญ่ หนองคาย เชียงราย และภูเก็ต


คุณธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์

             คุณธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ กล่าวถึงการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า “ผมมีความยินดีและปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการมอบประสบการณ์อันล้ำค่าให้กับเยาวชนทุกคนในหมู่บ้านเด็กโสสะฯ เป็นปีที่ 13 ติดต่อกัน เรามองว่า ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการพาเด็ก ๆ ออกมาสัมผัสธรรมชาติ สร้างความทรงจำอันงดงามระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวร่วมกันแบบครอบครัวอย่างมีความสุขและสนุกสนาน ที่สำคัญคือ ทุกแรงสนับสนุนที่เราตั้งใจมอบให้ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางและกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงอาหารและห้องพักจากโรงแรมในเครือเคป แอนด์ แคนทารี จะกลายเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ ให้กับเยาวชนทุกคนได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และพร้อมเป็นแรงสร้างสรรค์สังคมไทยให้มั่นคงยิ่งขึ้นในอนาคต”

             กิจกรรมท่องเที่ยวและทัศนศึกษาภาคฤดูร้อนของเยาวชนจากหมู่บ้านเด็กโสสะฯ ในครั้งนี้ เป็นการเดินทางแวะเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวและทำกิจกรรมในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงของหมู่บ้านเด็กโสสะฯ ทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยมีเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ท่องเที่ยว ค่าอาหาร รวมถึงห้องพักของโรงแรมในเครือตลอดการเดินทางในครั้งนี้ ได้แก่ โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง, โรงแรมแคนทารี บีช เขาหลัก, โรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ และโรงแรมแคนทารี โคราช

กำหนดการกิจกรรมท่องเที่ยวและทัศนศึกษาภาคฤดูร้อน ประจำปี 2567
1) 28-30 เมษายน 2567 หมู่บ้านเด็กโสสะบางปู สมุทรปราการ จำนวน  183 คน เข้าพัก ณ โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง
2) 28-30 เมษายน 2567 หมู่บ้านเด็กโสสะหาดใหญ่ สงขลา จำนวน 176 คน เข้าพัก ณ โรงแรมแคนทารี บีช เขาหลัก
3) 29 เมษายน -1 พฤษภาคม 2567 หมู่บ้านเด็กโสสะหนองคาย  จำนวน 157  คน เข้าพัก ณ โรงแรมแคนทารี โคราช
4) 6-8 พฤษภาคม 2567 หมู่บ้านเด็กโสสะเชียงราย จำนวน 192 คน เข้าพัก ณ โรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่
5) 1-3 พฤษภาคม 2567 หมู่บ้านเด็กโสสะภูเก็ต จำนวน 148 คน เข้าพัก ณ โรงแรมแคนทารี บีช เขาหลัก



จากซ้ายไปขวา: คุณพงศ์ศิษฏ์ ปังศรีวงศ์, คุณพงศ์วรุตม์ ปังศรีวงศ์, คุณธีรวัลคุ์ ปังศรีวงศ์, พล.ต.ท.ดร. นรวัฒน์ เจริญรัชต์ภาคย์, คุณหญิงโรส บริบาลบุรีภัณฑ์, คุณดวงใจ ตั้งสง่า, คุณกุลเวช เจนวัฒน์วิทย์

             นอกจากนี้ คุณธีรวัลคุ์ ปังศรีวงศ์ พร้อมด้วย คุณพงศ์ศิษฏ์ ปังศรีวงศ์ และคุณพงศ์วรุตม์ ปังศรีวงศ์ เจ้าของธุรกิจกลุ่มโรงแรมในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ยังได้เป็นตัวแทนมอบเงินบริจาคในนามเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ในปี 2567 เพิ่มเติมอีกเป็นจำนวน 400,000 บาท แก่มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เพื่อสนับสนุนการสร้างคุณภาพชีวิตและการศึกษาที่ดีขึ้นให้แก่เด็กและเยาวชนในหมู่บ้านเด็กโสสะฯ ทั่วประเทศ  โดยมี พล.ต.ท.ดร.นรวัฒน์  เจริญรัชต์ภาคย์ ประธานกรรมการอำนวยการ มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการ เป็นผู้รับมอบ

จากซ้ายไปขวา: คุณณกรณ์ อุดมผล, คุณโกมินทร์ ชินบุตร, คุณสุภัคพร พงษ์พันธุ์, พล.ต.ท.ดร. นรวัฒน์ เจริญรัชต์ภาคย์, คุณศรชัย จำปาเรือง, คุณกิตติเดช คุ้มม่วง, พล.ต.ต. ทวีโรจน์ ศิริสวัสดิบุตร

ภาพกิจกรรมของน้อง ๆ จากหมู่บ้านเด็กโสสะบางปู สมุทรปราการ ท่องเที่ยวและเข้าพัก ณ โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง

คุณมกริน พรหมโยธี ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมแคนทารี โคราช ให้การต้อนรับน้อง ๆ จากหมู่บ้านเด็กโสสะหนองคาย

ภาพกิจกรรมของน้อง ๆ จากหมู่บ้านเด็กโสสะหาดใหญ่ สงขลา ท่องเที่ยวและเข้าพัก ณ โรงแรมแคนทารี บีช เขาหลัก

คุณเศรษฐพงศ์  วรรธนะกุล ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ ให้การต้อนรับน้อง ๆ จากหมู่บ้านเด็กโสสะเชียงราย

คุณสมพงษ์ โสภณวงศากร ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมแคนทารี บีช เขาหลัก ให้การต้อนรับน้อง ๆ จากหมู่บ้านเด็กโสสะหาดใหญ่ สงขลา

             สำหรับกิจกรรมของเยาวชนใน หมู่บ้านเด็กโสสะบางปู สมุทรปราการ ระหว่างวันที่ 28-30 เมษายน 2567 นี้ ได้พาน้อง ๆ เข้าสักการะพระพุทธโสธร (หลวงพ่อโสธร)  ณ วัดพระพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมเพลิดเพลินกับการเรียนรู้ชีวิตสัตว์นานาชนิด ณ คาเฟ่ปางช้าง จ.ระยอง สนุกสนานเล่นน้ำทะเลที่หาดแม่รำพึง เยี่ยมชมอาคารนิทรรศน์พรรณพฤกษา (Flora Exhibition Hall) สัมผัสดินแดนขนมหวานที่เมืองพัทยา และเข้าพัก ณ โรงแรมแคนทารี เบย์ จังหวัดระยอง เป็นเวลา 2 คืน พร้อมสนุกสนานกับกิจกรรมการแสดงของน้อง ๆ และอิ่มหนำสำราญไปกับบุฟเฟ่ต์มื้ออร่อยโดยมีคุณศรชัย จำปาเรือง ผู้จัดการโรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง และคุณกิตติเดช คุ้มม่วง ผู้จัดการโรงแรมแคนทารี บ้านฉาง มาให้การต้อนรับน้อง ๆ และคณะกรรมการมูลนิธิเด็กโสสะฯ อย่างอบอุ่น

             น้องกอล์ฟ จากครอบครัวหมู่บ้านเด็กโสสะบางปู สมุทรปราการ กล่าวว่า “ขอขอบพระคุณ คุณลุงเป๊ก คุณธีระพงศ์ ท่านคณะกรรมการ คุณลุง GM และเจ้าหน้าที่ของโรงแรมแคนทารีเบย์ ระยอง ทุกท่าน เป็นอย่างสูง พวกเรารู้สึกซาบซึ้งและดีใจที่ได้มีโอกาสมาทัศนศึกษาที่จังหวัดระยองและพักที่โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยองในครั้งนี้ ทำให้พวกเราได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ ได้สร้างความสุข เสียงหัวเราะและรอยยิ้ม อันเป็นความทรงจำที่แสนล้ำค่าของพวกเราทุกคน ขอขอบพระคุณครับ”

           น้องอุ๊งอิ๊ง  จากครอบครัวหมู่บ้านเด็กโสสะบางปู สมุทรปราการ กล่าวว่า “มาทัศนศึกษาที่ระยองมาหลายปีแล้วค่ะ แต่ก็ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้มาเที่ยวทะเล มาพักที่โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง แห่งนี้ค่ะ ห้องพักสวยมาก ว่ายน้ำ เล่นน้ำ หนูสนุกมาก ๆ ค่ะ โปรแกรมเที่ยวที่จัดให้กับพวกหนู หนูและครอบครัว มีความสุขมาก ๆ ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ ให้หนูได้มาเที่ยวและมาพักที่โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยองอีกครั้ง”
20
หลักทรัพย์เมย์แบงก์ ชี้หุ้นไทย ตอบรับเชิงบวก จีนฟื้นตัวเร็วกว่าคาด
แนะนำหุ้น ‘WHA’ ‘MINT’ ‘ICHI’


              บล. เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ชี้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ พร้อมประเมินว่าน่าจะเป็นจุดที่เศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีนผ่านพ้นจุดที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว มองเป็นโอกาสในการกลับมาสะสมหุ้นที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีนที่มีโมเมนตัมกำไรไตรมาส 1 และ 2 โดดเด่น  และราคายังอยู่ในจุดที่น่าสนใจ

              ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจีนในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา สะท้อนสัญญาณการฟื้นตัวในภาคการผลิต ขณะที่ภาคบริการและการบริโภคในประเทศก็ยังสามารถปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นต่อเนื่อง เป็นปัจจัยที่เรียกความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจจีนกลับมา หนุนมุมมองตลาดปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจจีนปีนี้อยู่ที่ระดับ +4.84% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดปัญหาภาคอสังหาฯ ของจีนในปีที่ผ่านมา และในขณะเดียวกันหากพิจารณาโครงสร้างตลาดหุ้นจีนที่พึ่งพาการบริโภคและภาคบริการในสัดส่วนที่ค่อนข้างมาก จึงเป็นอีกเหตุผลสำคัญที่การฟื้นตัวกลับมารอบนี้น่าจะเป็นจุดสิ้นสุดการปรับลดประมาณการณ์อย่างแท้จริง จึงเป็นที่มาของธีมการลงทุน “หุ้นไทยตอบรับบวกจีนฟื้นตัวเร็วกว่าคาด” และประเมินว่าหุ้นที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีนทั้งจาก 1) การบริโภค และ 2) การกลับมาเร่งลงทุน จะเป็นหุ้นเด่นที่น่าสนใจในช่วงระยะเวลา 3-6 เดือน ข้างหน้า ในขณะเดียวกันปัจจัยในการพิจารณาเลือกหุ้นยังให้น้ำหนักโมเมนตัมกำไรช่วง ไตรมาส 1-2 ปี 2567 บวกกับทิศทางราคาที่ยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจเข้าซื้อลงทุนในช่วงนี้เพิ่มเติมด้วยเช่นกัน

              เศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีนเผชิญกับความเสี่ยง จากภาคอสังหาฯที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา จนกระทบต่อความเชื่อมั่นและส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงแรง ในขณะเดียวกันทางการจีนก็เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจและมีมาตรการเรียกความเชื่อมั่นในหุ้นมาต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยเหลือตลาดอสังหาฯ

              ในช่วงปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวแต่ยังค่อนข้างกระจุกตัวในภาคบริการ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสำคัญ นำโดย 1) ยอดค้าปลีก 2) ดัชนี PMI และ 3) ดัชนี Caixin PMI ภาคบริการ ที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่น แต่ในทางกลับกัน ภาคการผลิตยังคงมีความไม่แน่นอนสูง สะท้อนจากดัชนี PMI ภาคการผลิตที่ผันผวนและพลิกกลับมาต่ำกว่าระดับ 50 ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความยังไม่เชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ในช่วงการประชุมสภาประชาชนในช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ทางการจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2567 ที่ระดับ +5.0% แต่ในทางกลับกันมุมมองของตลาด (พิจารณาจาก Bloomberg Consensus) ในช่วงเวลาเดียวกัน คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงแค่ระดับ +4.6% สะท้อนความยังไม่เชื่อมั่นต่อมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาภาคอสังหาฯ

              อย่างไรก็ตามในช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจภาคการผลิตมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น ทั้งจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง YoY และดัชนี PMI ที่กลับมายืนเหนือระดับ 50 ผสานกับการแก้ปัญหาภาคอสังหาฯที่เดินหน้าควบคู่กันไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางการจีนเองไม่ได้มีแนวทางในการช่วงพยุงบริษัทที่ประสบปัญหา แต่เน้นแก้ปัญหาและให้ความช่วยเหลือในวงกว้างมากกว่า

              ดังนั้น น่าจะทำให้ตลาดค่อยๆปรับมุมมองทางเศรษฐกิจดีขึ้นเรื่อยๆตลอดทั้งปีนี้ บวกกับความเชื่อมั่นที่กลับมาด้วยการขับเคลื่อนจากนโยบายภาครัฐภายในประเทศ หนุนทั้งกลุ่มการลงทุนทางตรง การท่องเที่ยว และการค้าระหว่างประเทศ ที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีนโดยตรงกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง

หลักทรัพย์เมย์แบงก์ จึงแนะนำหุ้นที่ได้รับผลเชิงบวกจากเศรษฐกิจจีน ได้แก่

·       WHA (ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 5.50 บาท) เศรษฐกิจจีนที่เริ่มฟื้นตัวเป็นปัจจัยบวกต่อการเร่งการลงทุนรอบใหม่ดีต่อ WHA ที่มีสัดส่วนยอดขายพื้นที่นิคมใน EEC มากที่สุดในอุตสาหกรรม  ด้านกำไรปี 67E ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน

·       MINT (ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 36.0 บาท) เศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวจะเป็นปัจจัยหนุนต่อธุรกิจโรงแรมของ MINT ทั้งในยุโรปและไทย  โดยคาดกำไรปี 67E ขยายตัวเด่น 113%YoY

·       ICHI (ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 20.0 บาท) กำไร 1Q-2Q67E มีโอกาสเติบโต QoQ/YoY จากยอดขายในประเทศหนุนจากอากาศร้อนและการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากจีนที่ 4M67 กลับมามีสัดส่วนสูงสุด 19%
Pages: 1 [2] 3 4 ... 10