Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - du_sit

Pages: 1 ... 66 67 [68]
1006


แฟนเพลงล้นพาร์ค พารากอน...แห่เชียร์ “แบล็ค แจ็ค” เปิดตัวอัลบั้มใหม่







                                  เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงที่มาคอยให้กำลังใจกันแน่นพาร์ค พารากอน!!! กับงานเปิดตัวอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรก “Black Jack” (แบล็ค แจ็ค) ของนักร้องชายที่กำลังมาแรงที่สุดในขณะนี้  “แบล็ค แจ็ค -                  จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม” สังกัดอาร์เอส ฯ  โดยบรรยากาศในงานแถลงข่าว มีแฟนเพลงมาคอยส่งเสียงกรี๊ดให้กับหนุ่ม “แจ็ค”จนดังกึกก้องไปทั่วงาน พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจากคุณ “สุจิรา เชษฐโชติศักดิ์” ที่ได้มามอบช่อดอกไม้             เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จ และนอกจากนี้ยังมีศิลปินในค่าย “กามิกาเซ่” รวมทั้ง “ปั้นจั่น-ไนซ์ ทูมีทยู” มาร่วมให้กำลังใจที่พาร์ค พารากอนเมื่อวันก่อน


































1007


หยุดทุกลมหายใจ กับ คอนเสิร์ต “THE IDOL BATTLE”
กับการรวมตัวของกลุ่มศิลปิน POP IDOL ชั้นนำของไทย







หยุดทุกลมหายใจ กับการรวมตัวของเหล่าศิลปินสุดป๊อป ที่กำลังร้อนแรงของไทยในขณะนี้ พร้อมด้วยปรากฏการณ์ BATTLE กันอย่างสุดมันส์ของ 5 ศิลปิน BLACK JACK, C-QUINT, ZEE, K-OTIC, 3.2.1 พร้อมทั้งศิลปินสุดป๊อปอีกมากมาย ที่จะมาเซอร์ไพรซ์แบบ NON-STOP ตลอดทั้งคอนเสิร์ต เตรียมแรงกรี๊ดเอาไว้ให้พร้อมรับปรากฏการณ์ครั้งนี้ให้ดี
ปรากฏการณ์การรวมตัวแบบสุดมันส์ สั่นสะเทือนเวทีเต็มรูปแบบทั้งแสง สี เสียง สุดแรงจากกลุ่มศิลปินป๊อป ที่กำลังก้าวขึ้นแท่นไอดอลของเมื่อไทย ที่การันตีด้วยการ Preformance และ งานเพลงฮิตติดชาร์ท นำทีมด้วย BLACK JACK นักร้องชายที่กำลังร้อนแรงที่สุด ด้วยพลังความเข้มที่แผ่ซ่านผสานกับโชว์ที่เหนือชั้น เสียงร้องที่บาดลึก ตามมาด้วย C-QUINT 4 หนุ่มที่มาพร้อมกับการเต้นที่ทรงพลัง หนักแน่นในทุกการเคลื่อนไหว กระชากใจสาวๆทุกครั้งที่โชว์
เข้มลึกต่อกับ ZEE สาวเท่ห์ที่กำลังพุ่งแรงแซงหนุ่มๆ กับมาดนุ่ม ลึก และความมั่นใจเกินร้อย เพิ่มดีกรีความมันส์ กับ 5 หนุ่มบอยแบนด์อันดับหนึ่ง K-OTIC ที่สามารถสร้างความสั่นสะเทือนได้ทุกครั้งที่มีงานใหม่ออกมา ด้วยการโชว์ที่มากกว่าความเป็นบอยแบนด์ ปิดท้ายด้วย 3.2.1 กลุ่ม Hip Hop หน้าใหม่ที่ต้องจับตามอง ที่กำลังยึดหัวหาดชาววัยรุ่นฮิพฮอพในขณะนี้
คอนเสิร์ต “THE IDOL BATTLE” แสดง วันเสาร์ที่ 24 กรกฏาคม 2553 ที่ รอยัล พารากอน ฮอลล์ สยาม พารากอน ประตูเปิดเวลา 18.00 น. เริ่มแสดงเวลา 19.00 น.
บัตรราคา 2,000, 1,200, และ 600 บาท เริ่มจำหน่ายบัตรในวันที่ 5 กรกฏาคม 2553 ที่ THAITICKETMAJOR และติดตามข้อมูลคอนเสิร์ตอย่างใกล้ชิด ได้ที่ www.pleng.com
เตรียมพร้อมรับปรากฏการณ์หยุดทุกลมหายใจ กับเหล่า POP IDOL ที่คุณรอคอย







1008


งานเปิดตัว รถยนต์ Lamborghini Gallardo LP570 – 4 




เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2553 บริษัท นิช คาร์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ ระดับซูปเปอร์

พรีเมี่ยม  Lamborghini,   Hummer,   Aston   Martin, และ  Lotus อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว รถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด Lamborghini Gallardo LP570 – 4 Superleggera โดยได้รับเกียรติจาก คุณมีเกลันเจโล ปีปัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลี ขึ้นกล่าวเปิดงาน  โดยมี คุณเอกกมน หุตะสิงห์ ประธานหอการค้าไทย – อิตาลี , คุณมานะ ตรงกมลธรรม ประธานชมรม Lamborghini Thailand Club, คุณเกรียงศักดิ์ ตันติภิภพ ผู้บริหารอาวุโสสายการตลาดสยามพารากอน, คุณกีกี้ ศักดิ์นานา นักแข่งรถระดับโลก และ เป็นผู้ใช้รถ Lamborghini,


คุณมีเกลันเจโล ปีปัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลี  เซ็นชื่อลงบนรถ Lamborghini  Lp 560-4 ราคา 26.5 ล้าน



คุณมานะ ตรงกมลธรรม ประธาน Lamborghino Thailand Club เซ็นชื่อลงบนรถ Lamborghini



บรรยากาศหน้างาน

 คุณเสรี  รักวิทย์ ประธานกรรมการ และ คุณวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิช คาร์ จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิด ณ ห้องแกรนด์บอลลูม  โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนทัล  ราชประสงค์  โดยมีคุณ ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร ดีเจชื่อดัง และ เป็นลูกค้าบริษัท นิช คาร์ ร่วมให้เกียรติเป็นพิธีกรในงาน

      ภายในงานได้มีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่  ตื่นตาตื่นใจตั้งแต่เริ่มงานสร้างความประทับใจแก่แขกร่วมงาน  โดยพระเอกของงานนี้ต้องยกให้เจ้ากระทิงดุพันธุ์ใหม่  Lamborghini Gallardo LP570 – 4 Superleggera สีส้ม งามสง่าอยู่กลางเวที   เพราะนอกจากสีสันจะดูสดใสรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสะดุดตาแล้วยังมีการเพิ่มเติมเทคโนโลยีใหม่ๆ  ทั้งในส่วนของเครื่องยนต์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ  ของรถเพื่อทำให้ตัวรถมีสมรรถนะที่ดีขึ้น  ด้วยแรงม้าที่มากถึง 570  แรงม้า และอัตรส่วนของน้ำหนักต่อแรงม้าที่ดีที่สุดในตลาดรถซุปเปอร์คาร์ในปัจจุบันที่ 2.35 กิโลกรัมต่อ 1 แรงม้า จึงทำให้รถรุ่นนี้ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง  เพียงระยะเวลา 3.4  วินาทีเท่านั้น  ด้วยความเร็วสูงสุด  325  กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ยังไม่ทันจบงาน เจ้า Lamborghini Gallardo LP570 – 4 ก็ถูกจับจองมีเจ้าของเสียแล้ว  งานนี้ต้องบอกว่า

บริษัท  นิช คาร์ ประสบความสำเร็จอย่างมากเลยก็ว่าได้



คุณมีเกลันเจโล ปีปัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลี กล่าวแสดงความยินดีที่นิช คาร์  เป็นตัวแทนจำหน่าย Lamborghini อย่างเป็นทางการมายาวนานถึง 18 ปี



จากซ้ายไปขวา

คุณกีกี้  ศักดิ์ นานา นักแข่งรถระดับโลก และ เป็นผู้ใช้รถ Lamborghini,

คุณวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ และ คุณเสรี รักวิทย์ ประธานกรรมการ บริษัท นิช คาร์ จำกัด

คุณมีเกลันเจโล ปีปัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลี

คุณเอกกมน  หุตะสิงห์ ประธานหอการค้าไทย – อิตาลี , 

คุณมานะ ตรงกมลธรรม ประธานชมรม Lamborghini Thailand Club,

คุณเกรียงศักดิ์  ตันติภิภพ  ผู้บริหารอาวุโสสายการตลาดสยามพารากอน, 





      ส่วน  Highlights อีกหนึ่งอย่างต้องยกให้เจ้ากระทิงรุ่นพี่ Lamborghini Gallardo LP560 ที่งานนี้บริษัท นิช คาร์ ทำเก๋ ลงทุนนำรถมาให้สื่อมวลชน และ ผู้ที่มาร่วมงานได้เซ็นลายเซ็นลงบนรถจริงๆ ซึ่งรถคันนี้คุณวิทวัส  ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิช คาร์ จำกัด จะขับอวดโฉมเป็นเวลานาน

ถึง 1เดือน

      บริษัท  นิช  คาร์ จำกัด นำเข้าแต่ Lamborghini ใหม่เท่านั้น  โดยรถทุกคันจะถูกห่อหุ้มด้วยวัสดุพิเศษอย่างดีส่งตรงจากโรงงานประเทศอิตาลี  และเมื่อรถมาถึงประเทศไทยก็จะได้รับการบำรุงรักษาโดยคุณเฟรด ซอเรีย ผู้จัดการฝ่ายบริการที่ได้รับการอบรมจาก Lamborghini ประเทศอิตาลีมาตลอดระยะเวลา 8 ปี ซึ่งคุณเฟรด ได้ย้ำว่า Lamborghini พัฒนาระบบบำรุงรักษารถยนต์ขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่ใช่ Sole Authorized มาลองผิดลองถูกกับรถ และหนึ่งในเทคโนโลยีการป้องกันคือรหัสตัวเลขของ “GEKO token” ซึ่งขณะเชื่อมต่อกับฝ่ายบริการหลังการขายของ Lamborghini ltaly รหัสจะถูกเปลี่ยนทุกๆ 60 วินาที เฉพาะตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้นที่สามารถมีและใช้อุปกรณ์นี้ได้  คุณเฟรด ยังกล่าวเตือนในตอนท้ายว่า “  เพราะถ้าไม่มีอุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้รถของคุณอาจกลายเป็นเศษเหล็กที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีก”



คุณกีกี้  ศักดิ์ นานา ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลในการเลือกซื้อรถ Lamborghiniกับทางนิช คาร์



บรรยากาศภายในงาน



1009



[
ยูนิลีเวอร์แนะนำ “ออล” ผงซักฟอกแบรนด์ใหม่ล่าสุด

อานุภาพความหอมสะอาดสดชื่น คุณภาพมาตรฐาน คุ้มราคา






บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ขอแนะนำ “ออล” ผลิตภัณฑ์ผงซักฟอกสูตรมาตรฐาน (สำหรับซักมือ) แบรนด์ใหม่ล่าสุดที่ให้อานุภาพความหอมสะอาดสดชื่น คุ้มราคา ด้วยความสามารถในการคืนความสดใสให้กับผ้าขาวและผ้าสี โดยเข้าซอกซอนทำความสะอาดลึกถึงเส้นใย ทำให้กลิ่นหอมสดชื่นเฉพาะตัวแบบธรรมชาติเข้าแทนที่ติดบนใยผ้าได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้งานซักผ้าของคุณแม่บ้านกลายเป็นงานรื่นรมย์ พร้อมมอบความเบิกบานให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้สดชื่นไปกับกลิ่นหอมสะอาดสดชื่นแบบธรรมชาติบนเนื้อผ้า

 

พบความหอมสะอาดสดชื่นกับ “ออล” ใหม่  ได้แล้ววันนี้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ โดยมีให้เลือก 2 กลิ่นหอม ได้แก่ พิงค์เฟรช (สีชมพู) และคูลบลู (สีฟ้า) ใน 3ขนาด ได้แก่ 300 กรัม (20 บาท) 900 กรัม (40 บาท) และ 3,300 กรัม  (135 บาท)

 

ออล “ความสะอาดที่หอมสดชื่นแบบสุดๆ”

 




 
/color]

1010
มอนเด นิสชิน แนะนำแครกเกอร์ “อัน-ปัน” ใหม่ลงตลาด




 
 

 

มอนเด นิสชิน แนะนำแครกเกอร์ “อัน-ปัน” ใหม่ลงตลาด

 

มอนเด นิสชิน (ประเทศไทย) หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตบิสกิตชั้นนำในไทย แนะนำ “อัน-ปัน” แครกเกอร์ใหม่รสอร่อยรับประทานง่ายได้สุขภาพ ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติชั้นดี มีให้เลือก 2 รสชาติคือ รสดั้งเดิม และรสผัก “อัน-ปัน” เป็นแครกเกอร์กรุบกรอบที่ทานสะดวกทุกที่ทั้งยังทานได้หลายแบบ เพียงเพิ่มท้อปปิ้งที่คุณชื่นชอบก็อร่อยกับอัน-ปันได้อย่างต่อเนื่อง “อัน-ปัน” มีวางจำหน่ายแล้ววันนี้ในร้านค้าปลีก     ชั้นนำทั่วประเทศ โดยมีให้เลือก 2 รสชาติ ได้แก่ รสดั้งเดิม และรสผัก ขนาด 30 กรัม ราคา 5 บาท






1011



     “กลุ่มสิทธิผล” We care เทใจช่วยสังคม

       มอบอุปกรณ์และชุดดับเพลิงบรรเทาอัคคีภัยในชุมชน




 

 นาย ทนง ลี้อิสสระนุกูล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มสิทธิผล (ที่ 3 จากขวา) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับและไว้วางใจ

จากผู้บริโภคมายาวนานกว่า 90 ปี มอบอุปกรณ์และชุดดับเพลิง ภายใต้โครงการ กลุ่มสิทธิผล We care มูลค่า 46,000 บาท แก่นาย พิชิต วัฒนโชติวงษ์ ประธานหน่วยบรรเทา สาธารณภัยใต้

30-00 (หน่วยตรอกจันทน์) เพื่อช่วยเหลือสังคมป้องกันเหตุอัคคีภัยในชุมชนต่างๆ ณ บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด เมื่อเร็วๆนี้ 

 




1012


ผู้บริหารจีเอ็ม ประเทศไทย ร่วมปลูกต้นไม้ในวันสิ่งแวดล้อมโลก







กรุงเทพฯ – มร.คาเฮอร์ คาเซม รองประธานฝ่ายปฏิบัติการการผลิต และควบคุมคุณภาพ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (ซ้ายสุด) นำทีมผู้บริหาร และพนักงานของจีเอ็ม และเชฟโรเลต ประเทศไทย ร่วมปลูกต้นไม้ใหญ่เนื่องในโอกาสวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งทางจีเอ็ม ได้จัดงานวันสิ่งแวดล้อมโลกขึ้น ณ ศูนย์การผลิตยานยนต์จีเอ็ม จังหวัดระยอง มีเป้าหมายเพื่อให้พนักงานของจีเอ็มได้ตระหนักและช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีกิจกรรมสนุกสนานแบบรักษ์โลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ภายในศูนย์การผลิตยานยนต์จีเอ็ม ระยอง  การประกาศผลตัดสินการประกวดสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้  และภายในงานได้มีการประกาศผลการประกวดทูตรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม หรือ Mr and Miss Environment 2010

เกี่ยวกับ เจนเนอรัล มอเตอร์ส
เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมพานี หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2451 มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยท์ จีเอ็ม มีพนักงาน 217,000 คนใน 140 ประเทศทุกในภูมิภาคทั่วโลก จีเอ็ม มีฐานการผลิตรถยนต์ และรถปิกอัพอยู่ใน 34 ประเทศ และจำหน่ายรถแบรนด์ที่มีชื่อเสียง อย่าง บูอิค คาดิลแลค เชฟโรเลต เอฟเอดับเบิลยู จีเอ็มซี จีเอ็มแดวู โฮลเด้น โอเปิล วอกซ์ฮอลล์ และวูหลิง ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของจีเอ็ม อยู่ในสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยจีน บราซิล เยอรมนี สหราชอาณาจักร แคนาดา และอิตาลี แผนกออนสตาร์ของจีเอ็ม นั่นถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมความปลอดภัย และการให้บริการข้อมูลในรถยนต์ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ดำเนินงานแทนเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2552 ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจีเอ็ม ใหม่ คลิกเข้าชมได้ที่ www.gm.com   

1013




“บี พีระพัฒน์” ถ่ายทอดเนื้อหาของเพลง “นาฬิกา”
ด้วยมิวสิควิดีโอที่สุดกระชากใจ
กับความซาบซึ้งที่ลงตัวของภาพ และเพลง




   

“นาฬิกา” อีกหนึ่งเพลงดีจาก ”บี -  พีระพัฒน์ เถรว่อง” ในอัลบั้ม “มีเดียม แรร์” Medium Rare ได้รับการกล่าวขวัญ เป็นเพลงฮิตที่ถูกขอตั้งแต่ยังไม่ถูกตัดเป็นซิงเกิ้ล ด้วยความซาบซึ้ง กินใจของเนื้อหา ที่เป็นผลงานจากปลายปากกาของ “ประภาส ชลศรานนท์”  นักแต่งเพลงคุณภาพผู้อยู่เบื้องหลังเพลงฮิตมากมายหลายเพลง









      ก่อนจะตอกย้ำความเป็นเพลงคุณภาพซ้ำ  ด้วยการคว้ารางวัลเพลงยอดเยี่ยมจากเวทีสีสัน
อวอร์ดส์ปีล่าสุด กลายเป็นเพลงที่ลงตัวครบเครื่อง ทั้งเป็นเพลงฮิต เพลงเพราะ และเป็นเพลงคุณภาพ 


      ล่าสุด หลังมิวสิควิดีโอเพลง “นาฬิกา” ออกอากาศ ก็เป็นที่ถูกอกถูกใจแฟนเพลง และยังสะกิดต่อมน้ำตาของคนที่มีปมเรื่องราวความรักในอดีต เมื่อเรื่องราวของความรักไม่สมหวังที่ผูกขึ้นมานั้น กระทบความรู้สึกเต็มๆ โดยเฉพาะเมื่อผสมผสานกับดนตรี และเสียงร้องของ “บี พีระพัฒน์”  ที่บาดลึก ก็ทำให้เพลงดีๆ เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่ทำให้หลายๆ คนต้องมองย้อนไปถึงความรัก และชีวิตที่ผ่านมาของตัวเอง





      โดย “บี พีระพัฒน์” ได้พูดถึงมิวสิควิดีโอนี้ว่า “เป็นเรื่องของความรักที่กว่าจะลงตัวรักกันได้ แต่สุดท้ายก็ต้องเดินแยกทางกันไป แต่ก่อนที่แยกทางกัน มันมีจุดไคล์แมกซ์สุดท้ายของมิวสิควิดีโอนี้ด้วยนะครับ เป็นเรื่องราวความรักที่จบกันไปเพราะความพลัดพราก เป็นอีกหนึ่งมิวสิควีโอที่ภาพสวยมาก และหลายคนดูแล้วอยากดูซ้ำ เพราะเรื่องราวของมิวสิควีดีโอมีจุดไคล์แมกซ์ที่แฟนเพลงต้องติดตามครับ”






      ชมมิวสิควิดีโอเพลงนี้ได้จากสถานีโทรทัศน์ดนตรีทุกช่อง พร้อมสัมผัสกับความซาบซึ้ง กับเรื่องราวของมิวสิควิดีโอเพลง “นาฬิกา” ได้จากอัลบั้มระดับรางวัลของ “บี พีระพัฒน์” ได้แล้ววันนี้






1014


เปิดจองพื้นที่งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" คึกคัก

ค่ายรถมั่นใจเศรษฐกิจปลายปีฟื้น  สดใส รถเล็กประหยัดพลังงานมาแรง   




      สื่อสากล  เปิดจองพื้นที่ งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" หรือ “The 27th Thailand International Motor Expo 2010” ยืนยันพร้อมจัดงานใหญ่ รองรับตลาดรถยนต์ไตรมาสสุดท้ายที่มีแนวโน้มสดใส   บริษัทรถยนต์ และสินค้าเกี่ยวเนื่อง ตามติดกระแสยานยนต์รักษ์โลก หลายค่ายเตรียมเนรมิตพื้นที่ประชันโฉมรถเล็กประหยัดพลังงาน 


      ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพร้อมจัดงานครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่ ในระหว่างวันที่ 1 - 12 ธันวาคม 2553 ณ อาคาร            ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมั่นใจว่าตลาดรถจะคึกคักเช่นทุกปี ซึ่งปีนี้มีสัญญาณจากหลายค่ายว่าจะเปิดตัวหรือจัดแสดงรถต้นแบบ รวมถึงรถขนาดเล็กประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมภายในงาน ทั้งนี้     คาดการณ์ว่าตลอดทั้งปี 2553 อุตสาหกรรมยานยนต์น่าจะขยายตัวเพิ่ม 10% โดยเฉพาะช่วงไตรมาสสุดท้ายเศรษฐกิจจะเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน 




        สำหรับการจัดงานปีนี้ ยังคงใช้พื้นที่ภายในอาคารชาเลนเจอร์ 1-3 รวม 60,000 ตารางเมตร โดยพื้นที่แสดงรถยนต์ใหญ่ที่สุดมีขนาด 1,480 ตารางเมตร ส่วนพื้นที่เล็กสุดสำหรับรถยนต์มีขนาด 308 ตารางเมตร และจากการเปิดรับจองพื้นที่ในวันแรก (วันนี้ 9 มิ.ย.) บริษัทผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจากทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่าตลาดจะเติบโตขึ้น เห็นได้จากไตรมาสแรกยอดขายรถดี โดยเฉพาะภาคการส่งออก แม้ว่าไตรมาสที่ 2 อาจชะลอเล็กน้อยจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ แต่คาดว่าตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไปตลาดจะกระเตื้องอีกครั้ง 




      ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" กล่าวต่อว่า “ในฐานะผู้จัดงาน มีความเชื่อมั่นตั้งแต่เริ่มต้นว่า ภาพความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ผู้ผลิตและผู้บริโภค จะปรากฏให้เห็นชัดเจนในงานดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามแนวคิด “น้ำหนึ่งใจเดียว...สร้างสรรค์ยานยนต์รักโลก” หรือ UNIFY…CREATE EARTH-LOVING VEHICLES เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง 


      งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 - 12 ธันวาคม 2553 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3    อิมแพ็ค เมืองทองธานี เวลาเปิด-ปิดงาน วันธรรมดาเวลา 12.00-22.00 น. เสาร์และอาทิตย์ และวันหยุดราชการเวลา 11.00-22.00 น. ปิดการจำหน่ายบัตรเข้างาน เวลา 21.00 น. ของทุกวัน


1015
นางชนิด  สายประดิษฐ์  (จูเลียต)  ถึงแก่กรรมเมื่อวันอังคารที่  15  มิถุนายน  2553  เวลา  13.48  น.  สิริรวมอายุ  97  ปี 




กำหนดการรดน้ำศพวันพุธที่  16  มิถุนายน  2553  ที่ศาลากลางน้ำ  วัดเทพศิรินทร์  เวลา  17.00  น.  (งดพวงหรีดทุกชนิด)  ฌาปนกิจ  วันเสาร์ที่  19 มิถุนายน  2553  เวลา  14.00  น.
นางชนิด สายประดิษฐ์   เกิดเมื่อวันที่  15 มกราคม พ.ศ. 2456 เป็นนักเขียน นักแปล เจ้าของนามปากกา จูเลียต และเป็นภรรยาของ กุหลาบ สายประดิษฐ์ ได้รับการเชิดชูเกียรติ รางวัลนราธิป ประจำปี พ.ศ. 2544


นางชนิด สายประดิษฐ์ เดิมชื่อ ชนิด ปริญชาญกล เกิดที่ย่านรองเมือง เป็นบุตรคนโตในจำนวน 6 คน ของขุนชาญรถกล กับนางเขียว ปริญชาญกล เป็นลูกคนโตสุด มีพี่น้อง ๖ คน บิดาเสียชีวิตเมื่อเรียนอยู่ชั้นมัธยม แต่เนื่องจากมารดาเป็นผู้หญิงเก่ง แม้จะไม่ได้เรียนหนังสือ จึงเปิดร้านขายของสารพัดอย่างเลี้ยงดูลูกและส่งเสียให้เรียนหนังสือ 

จบการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สมัยนั้นคณะอักษรศาสตร์  ยังไม่เปิดหลักสูตรปริญญา) 
เมื่อ พ.ศ. 2477 ได้พบกับกุหลาบ สายประดิษฐ์ เมื่อ พ.ศ. 2475 และแต่งงานกันเมื่อวันที่  19  สิงหาคม พ.ศ. 2478 หม่อมเจ้าวรรณไวทยากร วรวรรณ เป็นเจ้าภาพ พร้อมทั้งได้ประทานที่ดินในซอยพระนางให้ปลูกเรือนหอ

หลังจบการศึกษา ได้ไปเป็นครูสอนหนังสือที่ โรงเรียนฝึกหัดครูเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ ต่อมาย้ายไปสอนที่วิทยาลัยครูสวนสุนันทา ขณะเดียวกันก็ศึกษาต่อกฎหมาย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นางชนิด สายประดิษฐ์ เริ่มงานแปลหนังสือตั้งแต่สมัยเรียนที่คณะอักษรศาสตร์ ตีพิมพ์ใน "ประชาชาติ รายสัปดาห์" เรื่องแรกคือเรื่อง "ความรักของ เจน แอร์" ใช้นามปากกาว่า "จูเลียต" ซึ่งตั้งให้โดย กุหลาบ สายประดิษฐ์  ผลงานแปลชิ้นสำคัญคือ  เหยื่ออธรรม  ซึ่งประพันธ์โดย  วิคเตอร์  ฮูโก

นางชนิด สายประดิษฐ์ มีบุตรกับ นายกุหลาบ สายประดิษฐ์ 2 คน คือ
แพทย์หญิงสุรภิน สายประดิษฐ์  และ สุรพันธ์ สายประดิษฐ์
ชนิด ได้เดินทางไปใช้ชีวิตร่วมกับกุหลาบ ลี้ภัยอยู่ที่ประเทศจีน ตั้งแต่ พ.ศ. 2505 เป็นเวลา 12 ปี จนกระทั่งกุหลาบ สายประดิษฐ์ เสียชีวิตในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2517


 

1016
โรงงานจีเอ็ม ประเทศไทย สามารถปลอดการฝังกลบของเสียเพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 
o   โรงo   งo   านจีเอ็ม ประเทศไทย ได้รับการรับรองo   ล่าสุดเป็นหนึ่งo   ในโรงo   งo   านจีเอ็ม 69 แห่งo   ทั่วโลกที่ ปลอดการฝังo   กลบของo   เสีย และเป็นมิตรต่อสิ่งo   แวดล้อม
o   48 เปอร์เซ็นต์ของo   ฐานการผลิตรถยนต์ทั่วโลกปลอดการฝังo   กลบขยะและวัสดุเหลือใช้
o   จีเอ็มเร่งo   รีไซเคิลขยะอุตสาหกรรมกว่า 2 ล้านตัน ภายในปีนี้
กรุงเทพฯ – บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เผยโรงงานจีเอ็ม ประเทศไทย ที่จังหวัดระยอง ได้รับการรับรองเป็นโรงงานล่าสุดจากโรงงานจีเอ็ม 69 แห่งทั่วโลก หรือคิดเป็น 48 เปอร์เซ็นต์ของโรงงานจีเอ็มทั่วโลก ที่สามารถลดปริมาณของเสียและขยะอุตสาหกรรมที่จะถูกฝังกลบจนเป็นศูนย์ได้แล้ว สถิติที่น่ายินดีดังกล่าวเป็นไปตามแผนงานที่จีเอ็มประกาศในปี 2551  ว่าจะผลักดันให้โรงงานกว่าครึ่งหนึ่งทั่วโลกให้กลายเป็นโรงงานปลอดการกำจัดขยะและวัสดุเหลือใช้ด้วยการฝังกลบให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งล่าสุด คิดเป็น 96 เปอร์เซ็นต์ ที่จีเอ็มได้บรรลุตามเป้าหมาย
“จีเอ็มได้ใช้ความพยายามเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วในการที่จะกำจัดขยะอุตสาหกรรมอย่างถูกต้องและปลอดภัยที่สุดต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการนำขยะและวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ขณะนี้โรงงานของจีเอ็มทั้ง 69 แห่งได้สร้างมาตรฐานใหม่ขึ้น โดยได้ลดปริมาณของเสียที่จะถูกฝังกลบจนเป็นศูนย์ และจะเป็นต้นแบบการปฏิบัติของโรงงานของเราทั่วโลก” มร. ไมค์ โรบินสัน รองประธานบริหารด้านสิ่งแวดล้อม พลังงาน และนโยบายความปลอดภัย กล่าว
โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 97 เปอร์เซ็นต์ของขยะและเศษวัสดุเหลือใช้จะถูกนำมารีไชเคิล และส่วนที่เหลืออีก 3 เปอร์เซ็นต์ถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานหมุนเวียนเพื่อทดแทนพลังงานเชื้อเพลิงกลุ่มปิโตรเลียม โรงงานที่สามารถเลื่อนสถานะขึ้นมาเป็นสถานประกอบการปลอดการฝังกลบประกอบด้วยโรงงาน 28 แห่งในภูมิภาคอเมริกาเหนือ 27 แห่งในเอเชียแปซิฟิกและ อเมริกาใต้ รวมทั้งโรงงานอีก 14 แห่งในทวีปยุโรป
“การปลอดการฝังกลบขยะและวัสดุเหลือใช้จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นการนำเอาอุตสาหกรรมรถยนต์ออกจากสมการผลกระทบสิ่งแวดล้อมอันเป็นที่ถกเถียงกันในปัจจุบัน จีเอ็มได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาการผลิตรถยนต์ที่ประหยัดพลังงาน และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ในระดับต่ำ เราใช้ความพยายามอย่างมากไม่เพียงแต่ในการผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพ อีกทั้งยังมุ่งพัฒนาฐานการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ” มร. ไมค์ กล่าว
ในปีนี้จีเอ็มตั้งเป้าว่าจะทำการรีไซเคิลขยะและวัสดุเหลือใช้กว่า 2 ล้านตันจากโรงงานทั่วโลก อีกทั้งยังจะนำเอาขยะจำนวนกว่า 45,000 ตันมาใช้ผลิตพลังงานทดแทน ถึงแม้ว่าโรงงานของจีเอ็มทั้งหมดยังไม่ไช่โรงงานปลอดการฝังกลบของเสีย แต่ปัจจุบันนี้โรงงานส่วนใหญ่มีการทำการรีไซเคิลของเสียในอัตราที่สูงกว่า 92 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณของเสียทั้งหมด   โดยโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมที่จีเอ็มได้ทุ่มเทมาตลอดจะสามารถทำให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศไปได้แล้ว มากกว่า 3 ล้านตัน










จีเอ็มคาดการณ์ว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถรีไซเคิลวัสดุเหลือใช้ส่วนที่เป็นเศษเหล็กกว่า 650,000 ตัน เศษไม้กว่า 16,600 ตัน รวมถึงลังกระดาษกว่า 21,600 ตันและพลาสติกกว่า 3,600 ตัน โดยสิ่งที่ท้าทายที่สุดในการปลอดการฝังกลบ คือการหาวิธีการนำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์กับวัสดุทุกชิ้น ไม่เว้นแม้แต่วัสดุชิ้นส่วนเล็กๆ ตัวอย่างเช่น
ขยะที่เป็นเศษอลูมิเนียม เหล็ก และอัลลอยด์จะถูกส่งไปเตาหลอมเพื่อขึ้นรูปใหม่เป็นชิ้นส่วนเครื่องยนต์
น้ำมันที่ใช้แล้วจะถูกปรับสภาพเพื่อนำกลับมาใช้อีกครั้งในโรงงานของจีเอ็มเอง
พาเลทไม้และกระดาษกล่องจะถูกนำกลับมาใช้อีกเรื่อยๆและเมื่อหมดสภาพจะถูกส่งไปในขั้นตอนการผลิตพลังงานทดแทนทันที่
จีเอ็มยังส่งเสริมให้บรรดาซัพพลายเออร์ของบริษัททำการรีไซเคิลขยะและวัสดุเหลือใช้ที่เหลือจากการผลิต โดยเน้นการนำวัสดุกลับมาใช้ประโยชน์สูงสุดทั้งนี้เพื่อให้เกิดการรีไซเคิลขึ้นได้อย่างครบวงจร  โดยจีเอ็มเป็นหนึ่งในองค์กรแรกๆที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม และเป็นบริษัทรถยนต์เพียงรายเดียวที่ได้รับการยกย่องในหอเกียรติยศของ the U.S. EPA WasteWise ซึ่งได้เล็งเห็นถึงผลงานที่โดดเด่นของจีเอ็มในการรณรงค์เพื่อที่จะลดและรีไซเคิลขยะและวัสดุเหลือใช้
นายสุภัคพงศ์ เจริญพรพาณิชย์ ผู้จัดการอาวุโส แผนกสิ่งแวดล้อมและสาธารณูปโภค บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับโรงงานจีเอ็ม ในประเทศไทยนั้น เป็นโรงงานล่าสุดจากโรงงานจีเอ็ม 69 แห่งทั่วโลก ที่สามารถปลอดการฝังกลบของเสีย เพราะเราสามารถยืนยันได้ว่า ไม่มีของเสียหรือขยะใด ๆ ที่เกิดจากกระบวนการผลิตรถยนต์ ณ ศูนย์การผลิตรถยนต์ของจีเอ็ม ที่จังหวัดระยอง ที่มีการฝังกลบอย่างแน่นอน”








เกี่ยวกับ เจนเนอรัล มอเตอร์ส
เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมพานี หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2451 มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยท์ จีเอ็ม มีพนักงาน 217,000 คน ใน 140 ประเทศ ในทุกภูมิภาคทั่วโลก จีเอ็ม มีฐานการผลิตรถยนต์ และรถปิกอัพอยู่ใน 34 ประเทศ และจำหน่ายรถแบรนด์ที่มีชื่อเสียง อย่าง บูอิค คาดิลแลค เชฟโรเลต เอฟเอดับเบิลยู จีเอ็มซี จีเอ็มแดวู โฮลเด้น โอเปิล วอกซ์ฮอลล์ และวูหลิง ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของจีเอ็ม อยู่ในสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยจีน บราซิล เยอรมนี สหราชอาณาจักร แคนาดา และอิตาลี แผนกออนสตาร์ของจีเอ็ม นั่นถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมความปลอดภัย และการให้บริการข้อมูลในรถยนต์ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ดำเนินงานแทนเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2552 ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจีเอ็ม ใหม่ คลิกเข้าชมได้ที่ www.gm.com   

Pages: 1 ... 66 67 [68]