Show Posts
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
33811
ข่าวภาพยนตร์ / โน้ต จูเนียร์ ยิ้มออก “อีส้มสมหวังชะชะช่า”กระแสตอบรับดี สอบผ่านผู้กำกับฯ
« on: August 14, 2009, 01:27:25 PM »
โน้ต จูเนียร์ ยิ้มออก “อีส้มสมหวังชะชะช่า”
กระแสตอบรับดี สอบผ่านผู้กำกับฯ
“อีส้มสมหวังชะชะช่า” ผลงานเรื่องล่าสุดของค่าย พระนครฟิลม์ ผลงานการกำกับของ “โน้ต จูเนียร์” (จิตต์สิน ผ่องอินทรีย์) ที่เพิ่งเข้าฉายจริงต้อนรับวันแม่ไปเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม แม้ว่าจะได้รอบในการฉายจากโรงภาพยนตร์ต่าง ๆ ไม่มากเท่าที่ควร แต่กระแสเสียงตอบรับจากคนที่ได้ชมแล้ว ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหนังเรื่องนี้นอกจากเสียงฮาแล้วมีอะไรมากกว่าที่คิดจริง ๆ ทั้งตลก ดราม่า ประทับใจจนน้ำตาไหล พร้อมเสียงหัวเราะ
หลังจากมีการจัดฉายให้ผู้สื่อข่าวได้ชม ต่างชมว่าเป็นภาพยนตร์ที่ครบรส ไม่ว่าจะเป็นความสนุกสนาน บทเพลงที่ไพเราะเข้ากับเนื้อเรื่อง และที่สำคัญฉากซึ้ง ที่เรียกน้ำตา จากผู้ชมได้อย่างมาก ก็ทำให้นักแสดง ไม่ว่าจะเป็น กบ สุวนันท์ ,เต้ ปิติศักดิ์ หรือจะเป็น โปรดิวเซอร์อย่าง โน้ต เชิญยิ้ม แต่คนดีใจสุดๆเห็นจะเป็นผู้กำกับฯ โน้ต จูเนียร์ ที่ก่อนหน้านี้กังวลว่าคนดูจะชอบเรื่องราวที่นำเสนอหรือไม่ และคนจะเชื่อในฝีมือการกำกับฯ ของตนหรือเปล่า ผลปรากฏว่า วันแรก คนให้ความสนใจตีตั๋วเข้าชมกันแน่นโรง ทุกรอบก็ทำให้ ทำเอาผู้กำกับฯ โน้ต จูเนียร์ ยิ้มออก
“ผมดีใจมาก ๆ เลยครับ ที่คนดูเดินออกจากโรงหนังแล้วมีรอยยิ้มกลับบ้านกัน ได้ยินมาว่าคนดูชอบกันผมก็มีความสุขครับ หลาย ๆ คนบอกว่าไม่ได้ดูอีส้มสมหวังภาคแรก กลัวว่าจะไปดูอีส้มสมหวังชะชะช่าภาคสองไม่รู้เรื่อง ไม่ต้องกังวลไปเลยนะครับ เพราะผมการันตีได้เลยว่า แม้ว่าคุณจะไม่เคยดูภาคแรกมาก่อน ก็ดูภาคนี้รู้เรื่องแน่นอนครับ รับรองว่าดูแล้วสนุกไม่แพ้แฟนอีส้มสมหวังจากภาคแรกแน่นอน
สำหรับการตอบรับที่ดีผมก็ดีใจมากครับ ในฐานะคนทำหนัง ผมเห็นคนไทยหันมาดูหนังไทยกันเยอะผมก็รู้สึกดีใจ ส่วนรอบฉายที่หลายคนบ่นมาว่าหาดูยากหน่อย ยังไงก็อดทนกันหน่อยนะครับ ผมเชื่อว่าถ้ากระแสดีขึ้นเรื่อย ๆ เป็นลำดับแบบนี้ ทางโรงภาพยนตร์ก็น่าจะมีการเพิ่มรอบให้ได้หาชมกันง่ายขึ้น
ผมต้องขอขอบคุณทุก ๆ คนไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับที่เลือกพาคุณแม่ไปดูอีส้มสมหวังชะชะช่าฉลองวันแม่กันเยอะเลย ผมเห็นภาพคุณลูกจูงมือคุณแม่เข้าโรงหนังกันแล้วบอกได้คำเดียวว่าอิ่มใจจริง ๆ ครับ”
“โน้ต จูเนียร์” ผู้กำกับกล่าวไปด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดี
สำหรับใครที่ยังไม่ได้ชม “อีส้มสมหวังชะชะช่า”นำแสดงโดย สุวนันท์ คงยิ่ง, เต้ ปิติศักดิ์, โน้ต เชิญยิ้ม, ค่อม ชวนชื่น, ชมพู่ ก่อนบ่าย, แอนนี่ บรู๊ค และนักแสดงอีกคับคั่ง กำกับการแสดงโดย โน้ต จูเนียร์ พบกันทุกโรงภาพยนตร์ พบกันได้ทุกโรงภาพยนตร์กับภาพยนตร์อารมณ์ดี ที่รับประกันว่ามีเสียงฮาและรอยยิ้มกลับบ้านหลังหนังจบแน่นอน
กระแสตอบรับดี สอบผ่านผู้กำกับฯ
“อีส้มสมหวังชะชะช่า” ผลงานเรื่องล่าสุดของค่าย พระนครฟิลม์ ผลงานการกำกับของ “โน้ต จูเนียร์” (จิตต์สิน ผ่องอินทรีย์) ที่เพิ่งเข้าฉายจริงต้อนรับวันแม่ไปเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม แม้ว่าจะได้รอบในการฉายจากโรงภาพยนตร์ต่าง ๆ ไม่มากเท่าที่ควร แต่กระแสเสียงตอบรับจากคนที่ได้ชมแล้ว ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหนังเรื่องนี้นอกจากเสียงฮาแล้วมีอะไรมากกว่าที่คิดจริง ๆ ทั้งตลก ดราม่า ประทับใจจนน้ำตาไหล พร้อมเสียงหัวเราะ
หลังจากมีการจัดฉายให้ผู้สื่อข่าวได้ชม ต่างชมว่าเป็นภาพยนตร์ที่ครบรส ไม่ว่าจะเป็นความสนุกสนาน บทเพลงที่ไพเราะเข้ากับเนื้อเรื่อง และที่สำคัญฉากซึ้ง ที่เรียกน้ำตา จากผู้ชมได้อย่างมาก ก็ทำให้นักแสดง ไม่ว่าจะเป็น กบ สุวนันท์ ,เต้ ปิติศักดิ์ หรือจะเป็น โปรดิวเซอร์อย่าง โน้ต เชิญยิ้ม แต่คนดีใจสุดๆเห็นจะเป็นผู้กำกับฯ โน้ต จูเนียร์ ที่ก่อนหน้านี้กังวลว่าคนดูจะชอบเรื่องราวที่นำเสนอหรือไม่ และคนจะเชื่อในฝีมือการกำกับฯ ของตนหรือเปล่า ผลปรากฏว่า วันแรก คนให้ความสนใจตีตั๋วเข้าชมกันแน่นโรง ทุกรอบก็ทำให้ ทำเอาผู้กำกับฯ โน้ต จูเนียร์ ยิ้มออก
“ผมดีใจมาก ๆ เลยครับ ที่คนดูเดินออกจากโรงหนังแล้วมีรอยยิ้มกลับบ้านกัน ได้ยินมาว่าคนดูชอบกันผมก็มีความสุขครับ หลาย ๆ คนบอกว่าไม่ได้ดูอีส้มสมหวังภาคแรก กลัวว่าจะไปดูอีส้มสมหวังชะชะช่าภาคสองไม่รู้เรื่อง ไม่ต้องกังวลไปเลยนะครับ เพราะผมการันตีได้เลยว่า แม้ว่าคุณจะไม่เคยดูภาคแรกมาก่อน ก็ดูภาคนี้รู้เรื่องแน่นอนครับ รับรองว่าดูแล้วสนุกไม่แพ้แฟนอีส้มสมหวังจากภาคแรกแน่นอน
สำหรับการตอบรับที่ดีผมก็ดีใจมากครับ ในฐานะคนทำหนัง ผมเห็นคนไทยหันมาดูหนังไทยกันเยอะผมก็รู้สึกดีใจ ส่วนรอบฉายที่หลายคนบ่นมาว่าหาดูยากหน่อย ยังไงก็อดทนกันหน่อยนะครับ ผมเชื่อว่าถ้ากระแสดีขึ้นเรื่อย ๆ เป็นลำดับแบบนี้ ทางโรงภาพยนตร์ก็น่าจะมีการเพิ่มรอบให้ได้หาชมกันง่ายขึ้น
ผมต้องขอขอบคุณทุก ๆ คนไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับที่เลือกพาคุณแม่ไปดูอีส้มสมหวังชะชะช่าฉลองวันแม่กันเยอะเลย ผมเห็นภาพคุณลูกจูงมือคุณแม่เข้าโรงหนังกันแล้วบอกได้คำเดียวว่าอิ่มใจจริง ๆ ครับ”
“โน้ต จูเนียร์” ผู้กำกับกล่าวไปด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดี
สำหรับใครที่ยังไม่ได้ชม “อีส้มสมหวังชะชะช่า”นำแสดงโดย สุวนันท์ คงยิ่ง, เต้ ปิติศักดิ์, โน้ต เชิญยิ้ม, ค่อม ชวนชื่น, ชมพู่ ก่อนบ่าย, แอนนี่ บรู๊ค และนักแสดงอีกคับคั่ง กำกับการแสดงโดย โน้ต จูเนียร์ พบกันทุกโรงภาพยนตร์ พบกันได้ทุกโรงภาพยนตร์กับภาพยนตร์อารมณ์ดี ที่รับประกันว่ามีเสียงฮาและรอยยิ้มกลับบ้านหลังหนังจบแน่นอน
33812
ข่าวภาพยนตร์ / จากประเด็นข่าวฮอตน.1 หนังสือพิมพ์ สู่เรื่องราวของความกลัวในหนังผี “5แพร่ง”
« on: August 11, 2009, 02:55:48 PM »
จากประเด็นข่าวฮอตน.1 หนังสือพิมพ์
สู่เรื่องราวของความกลัวในหนังผี “5แพร่ง”
จากประเด็นข่าวหน้า 1 สู่ไอเดียหนังผีสยองขวัญ “5 แพร่ง” การรวมตัวของ 5 ผู้กำกับมือหลอน จากค่าย จีทีเอช ปวีณ ภูริจิตปัญญา, ทรงยศ สุขมากอนันต์, วิสูตร พูลวรลักษณ์, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ และ บรรจง ปิสัญธนะกูล กับหนังผี 5 เรื่อง 5 รส กับ 5 นักแสดงชื่อดัง เก้า-จิรายุ ละอองมณี, แน็ก-ชาลี ไตรรัตน์, แดน-วรเวช ดานุวงศ์, นิโคล เทริโอ และ มาช่า วัฒนพานิช ที่มาพร้อมกับ 5 เรื่องราวที่จะทำให้คุณหลับไม่ลง
“หลาวชะโอน” เรื่องราวของ เป้ (เก้า-จิรายุ ละอองมณี) เด็กชายวัย 14 ปีที่มองว่ากรรมเป็นเรื่องสุดเชย เขาลงมือปาหินใส่รถกระบะแถวบ้านเพียงเพราะอยากได้มือถือใหม่ เมื่อเหยื่อตาย แม่พาเป้หนีบวช เขาพ้นมือกฏหมาย ตาทว่าเงามืดที่อยู่ใกล้ๆ มันกำลังคืบคลานตามมาทวงคืน เก้า-จิรายุ ลงทุนโกนหัวเพื่อความสมจริง พร้อมทั้งลุยถ่ายในป่า จ.กาญจนบุรี ท่ามกลางบรรยากาศน่าสะพรึงกลัว เป็นหนังผีเรื่องแรกที่กลับไปนอนหลอนที่บ้านอยู่หลายวัน
“แบ็กเพ็กเกอร์” เรื่องราวของ คู่รักญี่ปุ่นคู่หนึ่งที่ฉลองเรียนจบด้วยการแบ็กแพ็กตะลุยเมืองไทย ขากลับจากสมุยพวกเขาโบกรถกลับกรุงเทพฯ แต่โบกไม่ได้ หนุ่มยุ่นตัดสินใจใช้แบงค์พันเป็นรางวัลล่อ และรถพ่วงคันหนึ่งจอดรับ โชคร้ายสิ่งที่ซ่อนอยู่หลังตู้คอนเทนเนอร์และใบหน้ายิ้มแย้มของเจ้าเด็กรถ (แน็ก-ชาลี ไตรรัตน์) เป็นบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้อะดรีนาลีนของทุกคนต้องคลั่ง!! เรื่องนี้ถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของแน็ก กับอีกลุคที่ไม่เคยเห็น
ห้องเตียงรวม” หนุ่มทะเล้น ขี้เล่น (แดน-วรเวช) มอเตอร์ไซค์คว่ำขาหักทั้งสองข้าง จากห้องฉุกเฉินเขาถูกย้ายไปสู่ห้องเตียงรวม และในห้องรวมนี้ คนไข้เตียงติดกันเป็นร่างไร้สติของชายอาการโคม่าที่นอนรอวันปิดออกซิเจน แต่เหมือนกับรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ขี้กลัว คืนนั้นชายแก่ลุกขึ้นมาเยี่ยมเขาถึงข้างเตียง หนังผีเรื่องแรกของแดน ที่ทุ่มเต็มที่ ถึงขนาดผู้กำกับ วิสูตร พูลวรลักษณ์ชมว่าเล่นได้เยี่ยมมาก ฉากถูกบีบคอเหมือนคนกำลังใกล้จะตายจริงๆ
“รถมือสอง” คนมีประวัติ รถก็มีประวัติ ยิ่งเป็นรถมือสองประวัติของแต่ละคันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ กลางดึกสงัดหลังเต้นท์รถปิด นุช (นิโคล เทริโอ) เจ้าของเต้นท์กำลังเผชิญกับเรื่องราวบางอย่าง เมื่อพบว่าลูกชายหายตัวไปท่ามกลางรถนับร้อย แล้วกล้องวงจรปิดก็จับภาพได้ว่าลูกเธอเข้าไปเล่นในรถคันหนึ่งที่เพิ่งรับซื้อมา แล้วก็ไม่กลับออกมาอีกเลย หลังเข้าฉากวันแรก นิโคลถึงกับหลอน ขับรถกลับบ้านโดยไม่ยอมเหลียวมองกระจกหลัง!! เพราะเสียวสันหลังกับฉากที่เพิ่งถ่ายทำมา
“คนกอง” เรื่องราวของ เต๋อ-เผือก-ชิน-เอ ทีมงานหนังผี ที่ถ่ายทำมาจนถึงซีนสุดท้าย แต่แล้วนักแสดงหน้าใหม่ที่รับบทเป็นผี เกิดหัวใจวายตาย ซวยสุดๆ ก่อนหน้านี้เต๋อทำเท่สอนเธอว่า “The show must go on” เธอจึงกลับมาถ่ายต่อ ทั้งสี่ต้องถ่ายหนังผี ที่มีผีเล่นเป็นผี ให้จบให้จงได้ โดยห้าม “พี่ช่า” (มาช่า วัฒนาพานิช) นางเอกรู้ความจริงเป็นอันขาด 5 แพร่ง เป็นหนังผีที่มาช่า รับบทเป็นตัวเอง แต่เป็นเวอร์ชั่นที่จะทำให้ทุกคนตกตะลึง นี้หรือคือมาช่า !!
อย่าเซอร์ไพร์ส ถ้าคุณจะเสพติดความกลัว 09.09.09 ทุกโรงภาพยนตร์
สู่เรื่องราวของความกลัวในหนังผี “5แพร่ง”
จากประเด็นข่าวหน้า 1 สู่ไอเดียหนังผีสยองขวัญ “5 แพร่ง” การรวมตัวของ 5 ผู้กำกับมือหลอน จากค่าย จีทีเอช ปวีณ ภูริจิตปัญญา, ทรงยศ สุขมากอนันต์, วิสูตร พูลวรลักษณ์, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ และ บรรจง ปิสัญธนะกูล กับหนังผี 5 เรื่อง 5 รส กับ 5 นักแสดงชื่อดัง เก้า-จิรายุ ละอองมณี, แน็ก-ชาลี ไตรรัตน์, แดน-วรเวช ดานุวงศ์, นิโคล เทริโอ และ มาช่า วัฒนพานิช ที่มาพร้อมกับ 5 เรื่องราวที่จะทำให้คุณหลับไม่ลง
“หลาวชะโอน” เรื่องราวของ เป้ (เก้า-จิรายุ ละอองมณี) เด็กชายวัย 14 ปีที่มองว่ากรรมเป็นเรื่องสุดเชย เขาลงมือปาหินใส่รถกระบะแถวบ้านเพียงเพราะอยากได้มือถือใหม่ เมื่อเหยื่อตาย แม่พาเป้หนีบวช เขาพ้นมือกฏหมาย ตาทว่าเงามืดที่อยู่ใกล้ๆ มันกำลังคืบคลานตามมาทวงคืน เก้า-จิรายุ ลงทุนโกนหัวเพื่อความสมจริง พร้อมทั้งลุยถ่ายในป่า จ.กาญจนบุรี ท่ามกลางบรรยากาศน่าสะพรึงกลัว เป็นหนังผีเรื่องแรกที่กลับไปนอนหลอนที่บ้านอยู่หลายวัน
“แบ็กเพ็กเกอร์” เรื่องราวของ คู่รักญี่ปุ่นคู่หนึ่งที่ฉลองเรียนจบด้วยการแบ็กแพ็กตะลุยเมืองไทย ขากลับจากสมุยพวกเขาโบกรถกลับกรุงเทพฯ แต่โบกไม่ได้ หนุ่มยุ่นตัดสินใจใช้แบงค์พันเป็นรางวัลล่อ และรถพ่วงคันหนึ่งจอดรับ โชคร้ายสิ่งที่ซ่อนอยู่หลังตู้คอนเทนเนอร์และใบหน้ายิ้มแย้มของเจ้าเด็กรถ (แน็ก-ชาลี ไตรรัตน์) เป็นบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้อะดรีนาลีนของทุกคนต้องคลั่ง!! เรื่องนี้ถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของแน็ก กับอีกลุคที่ไม่เคยเห็น
ห้องเตียงรวม” หนุ่มทะเล้น ขี้เล่น (แดน-วรเวช) มอเตอร์ไซค์คว่ำขาหักทั้งสองข้าง จากห้องฉุกเฉินเขาถูกย้ายไปสู่ห้องเตียงรวม และในห้องรวมนี้ คนไข้เตียงติดกันเป็นร่างไร้สติของชายอาการโคม่าที่นอนรอวันปิดออกซิเจน แต่เหมือนกับรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ขี้กลัว คืนนั้นชายแก่ลุกขึ้นมาเยี่ยมเขาถึงข้างเตียง หนังผีเรื่องแรกของแดน ที่ทุ่มเต็มที่ ถึงขนาดผู้กำกับ วิสูตร พูลวรลักษณ์ชมว่าเล่นได้เยี่ยมมาก ฉากถูกบีบคอเหมือนคนกำลังใกล้จะตายจริงๆ
“รถมือสอง” คนมีประวัติ รถก็มีประวัติ ยิ่งเป็นรถมือสองประวัติของแต่ละคันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ กลางดึกสงัดหลังเต้นท์รถปิด นุช (นิโคล เทริโอ) เจ้าของเต้นท์กำลังเผชิญกับเรื่องราวบางอย่าง เมื่อพบว่าลูกชายหายตัวไปท่ามกลางรถนับร้อย แล้วกล้องวงจรปิดก็จับภาพได้ว่าลูกเธอเข้าไปเล่นในรถคันหนึ่งที่เพิ่งรับซื้อมา แล้วก็ไม่กลับออกมาอีกเลย หลังเข้าฉากวันแรก นิโคลถึงกับหลอน ขับรถกลับบ้านโดยไม่ยอมเหลียวมองกระจกหลัง!! เพราะเสียวสันหลังกับฉากที่เพิ่งถ่ายทำมา
“คนกอง” เรื่องราวของ เต๋อ-เผือก-ชิน-เอ ทีมงานหนังผี ที่ถ่ายทำมาจนถึงซีนสุดท้าย แต่แล้วนักแสดงหน้าใหม่ที่รับบทเป็นผี เกิดหัวใจวายตาย ซวยสุดๆ ก่อนหน้านี้เต๋อทำเท่สอนเธอว่า “The show must go on” เธอจึงกลับมาถ่ายต่อ ทั้งสี่ต้องถ่ายหนังผี ที่มีผีเล่นเป็นผี ให้จบให้จงได้ โดยห้าม “พี่ช่า” (มาช่า วัฒนาพานิช) นางเอกรู้ความจริงเป็นอันขาด 5 แพร่ง เป็นหนังผีที่มาช่า รับบทเป็นตัวเอง แต่เป็นเวอร์ชั่นที่จะทำให้ทุกคนตกตะลึง นี้หรือคือมาช่า !!
อย่าเซอร์ไพร์ส ถ้าคุณจะเสพติดความกลัว 09.09.09 ทุกโรงภาพยนตร์
33813
Movie Review / G.I.JOE
« on: August 10, 2009, 01:52:35 PM »
ใครชอบหนังแอ็คชั่นแบบเวอร์ๆ ดูสนุกตื่นเต้น ฉากตระการตาแล้วละก็ไปดูเถอะคับ หนังเขาลงทุนเอฟแฟ็กค์ทั้งเรื่องเลย เนื้อเรื่องไม่ต้องสนใจมาก ไม่ซับซ้อนนัก ให้รู้ว่ามีสองฝ่ายที่ต้องสู้กัน เน้นฉากแอ็คชั่นป็นหลักกับเครื่องมือสุดไฮเทค ตอนจบก็ยังทิ้งปมไว้ต่อภาคสองเหมือนหนังดังๆหลายๆเรื่อง ขึ้นอันดับหนึ่งบ็อกซ์ออฟฟิศรายได้ 3 วันล่าสุดด้วย หนังแอ็คชั่นอย่างนี้ต้องดูในโรงหนังคับ ได้อรรถรสกว่าการดูหนังแผ่นเป็นไหนๆ
33814
ของที่ระลึกเกี่ยวกับหนัง / โปสการ์ดหนีตามกาลิเลโอ
« on: August 05, 2009, 01:25:22 PM »
มีสองแบบได้มาแบบเดียวคับ เซียนบุญเก็บมาฝาก
33815
ประวัติ handbill & handbill ยุคแรก / HB/Armageddon
« on: August 05, 2009, 12:32:22 PM »
ขนาดพอๆกับปกCD แผ่นคู่ 4 แบบ ปี98ช่วงเวลานั้นหาได้ตามร้านแม็คโดนัลด์
33816
ประวัติ handbill & handbill ยุคแรก / HB/เบบี้จีเนียส 2
« on: August 05, 2009, 12:28:12 PM »
ขนาดA5 แผ่นเดี่ยว
33817
news & activity / นิตยสาร honeymoon+travel ก้าวสู่ปีที่ 7 ส่งเสริมเที่ยวไทยกับโครงการ DREAM RESORT
« on: August 03, 2009, 04:13:54 PM »
นิตยสาร honeymoon+travel ก้าวสู่ปีที่ 7
ส่งเสริมเที่ยวไทยกับโครงการ DREAM RESORT THAILAND AWARD 2009
honeymoon+travel (ฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล) นิตยสารท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่และคู่รัก คู่ฮันนีมูน ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดียิ่งจากผู้อ่านและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ ก้าวสู่ปีที่ 7 โดยบรรณาธิการบริหาร “คุณอนิวรรณ อรุโณรัตน์” มีแนวคิดที่ต้องการสนับสนุนและเสริมสร้างกำลังใจให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวประเภทโรงแรมหรือรีสอร์ทในประเทศไทย ด้วยการจัดโครงการ DREAM RESORT THAILAND AWARD 2009 ขึ้น เพื่อเฟ้นหาโรงแรม หรือ รีสอร์ท ที่นักท่องเที่ยว คู่รัก คู่ฮันนีมูน ใฝ่ฝันอยากไปพักผ่อนกับคนรู้ใจมากที่สุด ผ่านการโหวตจากผู้อ่านนิตยสารทั่วประเทศ โดยมีโรงแรม รีสอร์ท ที่ผ่านการคัดสรรค์จากคณะกรรมการ จำนวน 70 แห่ง จาก 8 สไตล์ อาทิ Luxury , Elegance, Culture & Heritage, Nature & Vista, Modern & Trend, Hip & Cool, Wellness & Spa, Concept & Style
Silavadee Pool Spa Resort Koh Samui รีสอร์ทที่จัดอยู่ในกลุ่มสไตล์ Modern & Trend มาแรงครองใจนักท่องเที่ยว ได้รับการเทใจให้เป็นสุดยอดรีสอร์ทในฝันของนักท่องเที่ยว ประจำปี 2552 ชนะใจคณะกรรมการ และ ผู้ร่วมโหวตทุกแขนง ด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของรีสอร์ท ที่ปลูกสร้างอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก จัดสรรค์พื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว การบริการเป็นเลิศ และที่สำคัญเป็นรีสอร์ทสัญชาติไทยอย่างแท้จริง คว้ารางวัล Popular Vote ‘DREAM RESORT THAILAND AWARD 2009’ ไปครองเป็นที่เรียบร้อย จากนิตยสารฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล ผู้จัดงาน
พร้อมร่วมฉลองในโอกาสที่นิตยสารฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล ก้าวสู่ปีที่ 7 ในค่ำคืนวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2552 ณ ฮอลล์ ออฟ มิเรอร์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยได้รับเกียรติจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวทั่วประเทศ สื่อมวลชน นักร้อง นักแสดง เซเลปบริตี้ ลูกค้าผู้มีอุปการคุณ และผู้ร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ จุฑาพร เริงรณอาษา (รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) , ชัยสงค์ ชูฤทธิ์ (ผู้อำนวยการภูมิภาค ภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย), อนิวรรณ อรุโณรัตน์ (บรรณาธิการบริหาร นิตยสารฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล) , ปริญญา รุ่นประพันธ์ (บรรณาธิการนิตยสารฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล ฉบับภาษาอังกฤษ) ,มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ (ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายส่งเสริมการตลาด บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) , อรธิรา ภาคสุวรรณ (ผู้อำนวยการอาวุโส ลูกค้าสัมพันธ์และประชาสัมพันธ์ บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด), วรวุฒิ ภิรมย์ภักดี (ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมและพันธมิตรทางการตลาด บริษัท สิงห์ คอปอร์เรชั่น จำกัด), ฟลอเรียน บาพติสท์ จิพเซอร์ (นักออกแบบและสถาปนิก), คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช, ดร.กฤติกา คงสมพงษ์ ,วรวรรณา จิลลานนท์ , วิภารดี ภูวนารถนรานุบาล , ได๋ - ไดอาน่า , ทิน โชคกมลกิจ , 7 นักร้องสาวจาก G2G Grilz Next Door จาก AF, ป้อง – ณวัตร กุลรัตน์รักษ์, ชาม – ไอยวริญท์ รายา โอสถานนท์, บี-ปิยะวรรณ จิตณาธรรม, อรุโณชา ภาณุพันธ์, บ๊อบ – บดินทร์ โกศลพิศิษฐ์ และครอบครัว, ออม – นวดี โมกขะเวส ,นพสิทธิ์ เที่ยงธรรม , พลอย จริยเวช , กงพัฒน์ ศักดาพิทักษ์ , กนกพรรณ เหตระกูล , อวัสดา ปรกมนตรี, ทิพาพร อัชนันท์ , อู๋-ธนากร โปษยานนท์ , สาลินี ปัญญารชุน ,โก้ – แซกแมน, เจนนิเฟอร์ คิ้ม และบุคคลผู้มีชื่อเสียงในแวดวงสังคมอีกมากมาย
อนิวรรณ อรุโณรัตน์ บรรณาธิการบริหาร นิตยสารฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล ยังได้กล่าวทิ้งท้าย “นิตยสารฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล มีวัตถุประสงค์อย่างแน่วแน่ ที่ต้องการสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศ ประเทศไทยยังมีสถานท่องเที่ยวอีกมากมาย ไม่ไปไม่รู้ ยิ่งได้เดินทางท่องเที่ยวมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยคนไทยด้วยกันเองได้มากเท่านั้น โรงแรม รีสอร์ท คุณภาพและบริการเทียบเท่าระดับสากล รอให้คุณได้ไปสัมผัส ในปีนี้ ต้องขอแสดงความยินดีกับ Silavadee Pool Spa Resort Koh Samui และถือได้ว่า MODERN & TREND เป็นเทรนด์ที่นักท่องเที่ยวใฝ่ฝันในปีนี้อย่างแท้จริง
ส่งเสริมเที่ยวไทยกับโครงการ DREAM RESORT THAILAND AWARD 2009
honeymoon+travel (ฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล) นิตยสารท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่และคู่รัก คู่ฮันนีมูน ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดียิ่งจากผู้อ่านและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ ก้าวสู่ปีที่ 7 โดยบรรณาธิการบริหาร “คุณอนิวรรณ อรุโณรัตน์” มีแนวคิดที่ต้องการสนับสนุนและเสริมสร้างกำลังใจให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวประเภทโรงแรมหรือรีสอร์ทในประเทศไทย ด้วยการจัดโครงการ DREAM RESORT THAILAND AWARD 2009 ขึ้น เพื่อเฟ้นหาโรงแรม หรือ รีสอร์ท ที่นักท่องเที่ยว คู่รัก คู่ฮันนีมูน ใฝ่ฝันอยากไปพักผ่อนกับคนรู้ใจมากที่สุด ผ่านการโหวตจากผู้อ่านนิตยสารทั่วประเทศ โดยมีโรงแรม รีสอร์ท ที่ผ่านการคัดสรรค์จากคณะกรรมการ จำนวน 70 แห่ง จาก 8 สไตล์ อาทิ Luxury , Elegance, Culture & Heritage, Nature & Vista, Modern & Trend, Hip & Cool, Wellness & Spa, Concept & Style
Silavadee Pool Spa Resort Koh Samui รีสอร์ทที่จัดอยู่ในกลุ่มสไตล์ Modern & Trend มาแรงครองใจนักท่องเที่ยว ได้รับการเทใจให้เป็นสุดยอดรีสอร์ทในฝันของนักท่องเที่ยว ประจำปี 2552 ชนะใจคณะกรรมการ และ ผู้ร่วมโหวตทุกแขนง ด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของรีสอร์ท ที่ปลูกสร้างอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก จัดสรรค์พื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว การบริการเป็นเลิศ และที่สำคัญเป็นรีสอร์ทสัญชาติไทยอย่างแท้จริง คว้ารางวัล Popular Vote ‘DREAM RESORT THAILAND AWARD 2009’ ไปครองเป็นที่เรียบร้อย จากนิตยสารฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล ผู้จัดงาน
พร้อมร่วมฉลองในโอกาสที่นิตยสารฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล ก้าวสู่ปีที่ 7 ในค่ำคืนวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2552 ณ ฮอลล์ ออฟ มิเรอร์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยได้รับเกียรติจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวทั่วประเทศ สื่อมวลชน นักร้อง นักแสดง เซเลปบริตี้ ลูกค้าผู้มีอุปการคุณ และผู้ร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ จุฑาพร เริงรณอาษา (รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) , ชัยสงค์ ชูฤทธิ์ (ผู้อำนวยการภูมิภาค ภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย), อนิวรรณ อรุโณรัตน์ (บรรณาธิการบริหาร นิตยสารฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล) , ปริญญา รุ่นประพันธ์ (บรรณาธิการนิตยสารฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล ฉบับภาษาอังกฤษ) ,มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ (ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายส่งเสริมการตลาด บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) , อรธิรา ภาคสุวรรณ (ผู้อำนวยการอาวุโส ลูกค้าสัมพันธ์และประชาสัมพันธ์ บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด), วรวุฒิ ภิรมย์ภักดี (ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมและพันธมิตรทางการตลาด บริษัท สิงห์ คอปอร์เรชั่น จำกัด), ฟลอเรียน บาพติสท์ จิพเซอร์ (นักออกแบบและสถาปนิก), คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช, ดร.กฤติกา คงสมพงษ์ ,วรวรรณา จิลลานนท์ , วิภารดี ภูวนารถนรานุบาล , ได๋ - ไดอาน่า , ทิน โชคกมลกิจ , 7 นักร้องสาวจาก G2G Grilz Next Door จาก AF, ป้อง – ณวัตร กุลรัตน์รักษ์, ชาม – ไอยวริญท์ รายา โอสถานนท์, บี-ปิยะวรรณ จิตณาธรรม, อรุโณชา ภาณุพันธ์, บ๊อบ – บดินทร์ โกศลพิศิษฐ์ และครอบครัว, ออม – นวดี โมกขะเวส ,นพสิทธิ์ เที่ยงธรรม , พลอย จริยเวช , กงพัฒน์ ศักดาพิทักษ์ , กนกพรรณ เหตระกูล , อวัสดา ปรกมนตรี, ทิพาพร อัชนันท์ , อู๋-ธนากร โปษยานนท์ , สาลินี ปัญญารชุน ,โก้ – แซกแมน, เจนนิเฟอร์ คิ้ม และบุคคลผู้มีชื่อเสียงในแวดวงสังคมอีกมากมาย
อนิวรรณ อรุโณรัตน์ บรรณาธิการบริหาร นิตยสารฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล ยังได้กล่าวทิ้งท้าย “นิตยสารฮันนีมูน แอนด์ ทราเวล มีวัตถุประสงค์อย่างแน่วแน่ ที่ต้องการสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศ ประเทศไทยยังมีสถานท่องเที่ยวอีกมากมาย ไม่ไปไม่รู้ ยิ่งได้เดินทางท่องเที่ยวมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยคนไทยด้วยกันเองได้มากเท่านั้น โรงแรม รีสอร์ท คุณภาพและบริการเทียบเท่าระดับสากล รอให้คุณได้ไปสัมผัส ในปีนี้ ต้องขอแสดงความยินดีกับ Silavadee Pool Spa Resort Koh Samui และถือได้ว่า MODERN & TREND เป็นเทรนด์ที่นักท่องเที่ยวใฝ่ฝันในปีนี้อย่างแท้จริง
33818
ประวัติ handbill & handbill ยุคแรก / hb/le boulet
« on: August 03, 2009, 03:41:22 PM »
ขนาดA5 แผ่นเดี่ยว
33819
ประวัติ handbill & handbill ยุคแรก / HB/GOLD CLUB
« on: August 03, 2009, 03:39:13 PM »
ขนาดA5แผ่นเดี่ยว ด้านหลังขาวล้วน
33820
ประวัติ handbill & handbill ยุคแรก / hb/vidocq
« on: August 03, 2009, 03:36:46 PM »
ขนาดA5 แผ่นเดี่ยว
33821
ข่าวภาพยนตร์ / G.I.JOE ฮอตทั่วโลกเปิดโปรแกรมมันส์ลัดคิวฉายก่อน พุธที่ 5 สิงหาคมนี้ 5 โมงเย็นเป
« on: August 03, 2009, 01:47:17 PM »
G.I.JOE ฮอตทั่วโลกเปิดโปรแกรมมันส์ลัดคิวฉายก่อน พุธที่ 5 สิงหาคมนี้ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป
ผลงานมันส์เรื่องใหม่ของผู้กำกับ The Mummy ทุกฉากแอ็คชั่นสุดตื่นเต้น พร้อมโชว์อาวุธสุดไฮเทค
หนังซัมเมอร์บล็อกบัสเตอร์ที่เตรียมกวาดรายได้ทั่วโลกอีกเรื่องของปีนี้ G.I.JOE จีไอโจ สงครามพิฆาตคอบร้าทมิฬ กำลังเป็นกระแสที่ฮอตมากทั้งในอเมริกาบ้านเกิดของฮีโร่โมเดลกลุ่มนี้ รวมถึงทั่วโลกที่คลั่งไคล้หนังแนวแอ็คชั่นไซไฟเรื่องนี้ โดยทางผู้กำกับสตีเฟ่น ซอมเมอร์ส (The Mummy และ Van Helsing) ทุ่มทุนสร้างหนังเรื่องนี้เพื่อให้แฟนๆทั่วโลกได้สนุกสนานกันอย่างเต็มอิ่ม พร้อมพาทีมดาราสวยหล่อครบทีมบินโปรโมทหนังทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่ยุโรป ออสเตรเลีย เอเชียที่ญี่ปุ่น และเกาหลี ปลายเดือนนี้ และจะบินกลับไปเปิดตัวที่อเมริกาต้นเดือนหน้า
สำหรับแฟนหนังแอ็คชั่นชาวไทยที่กำลังรอชมนั้น ล่าสุด G.I.JOE ขอวัดรอยความสำเร็จของรุ่นพี่อย่างทรานส์ฟอร์เมอร์สที่ยึดแชมป์อันดับหนึ่งทะลุ 200 ล้านไปแล้ว โดยทางยูไอพีขอลัดคิวเปิดตัวฉายก่อนอเมริกา 2 วันเพื่อให้แฟนๆชาวไทยได้ดูก่อนมันส์ก่อนใคร เริ่มปฏิบัติการมันส์ระห่ำ วันพุธที่ 5 สิงหาคม นี้ ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป
พบกับทีมดาราเลือดใหม่นำโดย แชนนิ่ง ทาทัม, เซียนน่า มิลเลอร์, ราเชล นิโคลส์,เรย์ พาร์คส์ และ ดาราเกาหลีเจ้าบทบาท ลีบยอนยอน ในอีกหนึ่งสุดยอดภาพยนตร์แอ็คชั่นไซไฟแห่งปีที่ต้องดู ผลงานจากผู้กำกับ The Mummy และทีมสร้าง Transformers
การันตีความมันส์โดยพาราเม้าท์ สตูดิโอ
33822
ข่าวภาพยนตร์ / แปซิฟิคไอส์แลนด์ฟิล์ม...เปิดตัวหนังยิ่งใหญ่ “สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)”
« on: August 03, 2009, 12:56:24 PM »
แปซิฟิคไอส์แลนด์ฟิล์ม...เปิดตัวหนังยิ่งใหญ่
“สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)”
เนรมิตตลาดร้อยปีสามชุกมาไว้ที่โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์
แปซิฟิคไอส์แลนด์ฟิล์ม นำโดยนายสมชาย องอาจ ประธานกรรมการบริษัท จัดงานเปิดตัวภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์เรื่อง “สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)” เมื่อวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่ามา โดยเนรมิตลานอินฟินิซิตี้ฮอลล์ โรงภาพยนตร์ พารากอนซีนีเพล็กซ์ เป็นตลาดสามชุก ตลาดเก่าร้อยปีอันดับหนึ่งของประเทศ โดยมีบู้ทสินค้าของที่ระลึกมายมาย รวมถึงอาหารนานาชนิด ซึ่งสั่งตรงมาจากตลาดสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรีกันเลยทีเดียว
เปิดงานด้วยการแสดงชุดระบำถวายมาลัย จากโรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม ต่อจากนั้น นีน่า-กุลนัดดา ปัจฉิมสวัสดิ์ รับหน้าที่ดำเนินรายการ โดยเชิญ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม นายธีระ สลักเพชร ในฐานะตัวแทน นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ติดภารกิจด่วนกระทันหันไม่สามารถมาร่วมงานได้ นายธีระได้กล่าวถึงที่มาที่กระทรวงวัฒนธรรมประกาศร่วมสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้ และยังได้รับเกียรติจากนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาร่วมกล่าวแสดงความยินดีพร้อมร่วมชมภาพยนตร์ ต่อด้วยการแสดงดนตรีประกอบภาพยนตร์ “กอดฉันไว้” จากวง “พาราดอกซ์” จากนั้นเป็นการพูดคุยถึงการทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังกับ นายธนิตย์ จิตนุกูล ผู้กำกับภาพยนตร์, ทีมนักแสดง ปรเมศร์ น้อยอ่ำ, แม่เล็ก-แม่ของตั๊กบงกช, ตุ๊ก-วิมลเลขา ศิริชัยราวรรณ, ธีรภัทร แย้มศรี, พิเชษฎ์พงษ์ โชคประดับ, อำนาจ บัวปรอด, พงศธร ศรีบุญเพ็ง, ศุภณัฐ มีสมศักดิ์, ณัฐชนน ศุภลักษณ์, นวพล เจริญธรรมรักษา, จารุวรรณ สมตัว, สิริกานดา บุญธรรม และปานไพลิน เนตรเพชร ฯลฯ โดยระหว่างนั้น ตั๊ก – บงกช คงมาลัย ได้หอบดอกไม้ช่อใหญ่มาแสดงความยินดีกับแม่เล็ก ปิดท้ายด้วยการถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกันระหว่างประธานในพิธี ผู้บริหารจากแปซิฟิคไอส์แลนด์ฟิล์ม นายสมชาย องอาจ และผู้กำกับพร้อมทีมนักแสดง ก่อนเข้าชมภาพยนตร์
ติดตามชม “สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)” ภาพยนตร์เรื่องแรกที่กระทรวงวัฒนธรรมภูมิใจเสนอให้ ประชาชนทั้งประเทศได้ชม ในวันที่ 5 สิงหาคม นี้ (เลื่อนวันฉาย) ทุกโรงภาพยนตร์
สามชุก
Sam Chuk
“หลายคน...ซื้อชีวิตด้วยยา
แต่บางคน...กลับใช้ยาเพื่อทำลายชีวิต”
ผู้ถือลิขสิทธิ์ บริษัท แปซิฟิคไอร์แลนด์ ฟิลม์ จำกัด
ชื่อไทย สามชุก
เวปไซต์ http://www.samchukmovie.com
ภาพยนตร์แนว ดราม่า
กำหนดฉาย 5 สิงหาคม 2552
ณ โรงภาพยนตร์ ทุกโรงภาพยนตร์
ผู้กำกับภาพยนตร์ ปื๊ด-ธนิตย์ จิตนุกูล
เกี่ยวกับภาพยนตร์
เรื่องราวชีวิตของวัยรุ่นไทยกลุ่มหนึ่งที่กำลังอยู่ในวัยที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต กลายเป็นทาสของยาเสพติดที่ระบาดเข้ามาในโรงเรียนอย่างเงียบๆ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ด้วยความรักและความเข้าใจของอาจารย์ในโรงเรียน จึงทำให้พวกเขารอดพันจากจุดจบที่น่าเศร้าในชีวิตไปได้ สร้างจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ในโรงเรียน สามชุกรัตนโภคาราม อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
จากเรื่องจริง ของเด็ก 7 คนในอำเภอสามชุก ที่มีชีวิตวัยมัธยมเหมือนเด็กทั่วไป มีความรัก มีความคะนอง ทั้ง 7 คน ได้แก่ วาล พัน ยอด เอก นักเรียนตัวแสบชั้น ม. 5 และรุ่นน้องม.4 ที่สนิทกันอีก 3 คน เทพ ปอด โบ๊ะ ชีวิตเด็กทั้ง 7 คนกำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อวาลต้องเริ่มทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระหนี้สิน แม่และวาลต้องแบกหนี้สินของพ่อที่เสียไปแล้วทิ้งไว้ให้ตามลำพังแม่ลูก วาลต้องทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนหลายอย่าง และนี่คือช่องทางแรกที่ยาบ้าแทรกเข้ามาในกลุ่มเด็ก 7 คน ไอ้ดำเพื่อนที่อู่แนะนำให้วาลรู้จักยาบ้า ที่จะทำให้วาลทำงานได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่เหน็ดเหนื่อย กว่าจะรู้ตัวชีวิตวาลก็ตกอยู่ใต้อำนาจของมันอย่างช้าๆ แล้ววาลเป็นสะพานที่นำยาไปสู่เพื่อนๆ อีกหกคน แทนที่ยาจะช่วยให้วาลมีเงินช่วยแม่ใช้หนี้ แต่มันกลับกลายเป็นความต้องการยามากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนทั้งหกหันมาทดลองยาด้วยหลากหลายเหตุผล เทพที่บ้านมีฐานะที่สุดเป็นสปอนเซอร์ให้เพื่อนๆ ทำให้พวกวาลไม่เคยขาดยา
ทุกคนรู้ว่ามันคือสิ่งผิด และไม่ดี แต่พวกเขาไม่สามารถเลิกได้ เรื่องราวเริ่มลุกลามจนถึงตำรวจ ทุกคนพร้อมจะตราหน้าพวกเขาว่าเป็นเด็กเหลือขอ ไม่มีอนาคต อาจารย์พินิจได้ยื่นมือเข้าช่วยเด็กๆไว้ เด็กๆจึงไว้ใจอาจารย์ ทำให้อาจารย์ได้รู้เรื่องราวและปัญหา อาจารย์พินิจพยายามปรับความคิดของเด็กโดยให้ใช้ปัญญาและยืดอกรับปัญหาต่างๆ รวมทั้งปรับความเข้าใจของคนใกล้ชิดเด็ก และชาวบ้านในชุมชนสามชุกไปพร้อมๆกัน ให้ทุกคนได้รู้ว่าปัญหายาเสพติดไม่ได้เป็นความผิดของเด็กฝ่ายเดียว ผู้ปกครองต้องเอาใจใส่ ชุมชนต้องป้องกัน ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ด่าทอโยนความผิดให้กัน อาจารย์พินิจพยายามตะโกนดังๆ ให้ทุกคนในชุนชน และสังคมรู้ว่าปัญหาของเด็ก 7 คนนี้เป็นเพียงลางบอกเหตุ หากทุกคนเลือกที่ปัดปัญหาออกไปง่ายๆ โดยการตัดโอกาศเด็กพวกนี้และปล่อยให้เด็กทั้ง 7 จมหายไปกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อนาคตก็ต้องมีเด็กๆ ลูกๆหลานๆ ของคนในชุมชน ที่ต้องพลาดติดมันอีกอย่างแน่นอน อาจารย์พินิจขอโอกาสให้เด็กๆ ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง และรับปากจะทำให้เด็ก 7 คน เลิกยากลับมาเป็นคนดีและอยู่ร่วมในชุมชนอย่างสงบสุขให้ได้
อาจารย์พินิจนำเด็ก 7 คน เข้ามาอยู่ค่ายประจำที่โรงเรียน และดูแลอย่างใกล้ชิด ให้เด็กทำกิจกรรมต่างๆ เป็นกิจวัตร ทุกเช้าต้องออกกำลังกาย ปลูกกุหลาบ และทำอาหารกินกันเอง การเลิกยาอาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่ท่ามกลางปัญหา และสิ่งยั่วยุมากมาย ถ้าหัวใจ และมิตรภาพของเด็กทั้ง 7 ไม่เข้มแข็งพอ พวกเขาก็จะไม่สามารถผ่านพ้นมันไปได้ อาจารย์พินิจทำได้มากสุดก็แค่ยืนเคียงข้าง และเฝ้ามองวันที่เด็กทั้ง 7 จะก้าวผ่านพ้นมันไปได้ในที่สุด วันนี้ดอกกุหลาบต้นเล็กๆ ที่เด็กและอาจารย์ช่วยกันฟูมฟักออกดอกโชว์ความงาม มันคือตัวแทนของความฝัน และความหวังของทุกคน หากไม่ได้รับโอกาสในวันนั้น คงไม่มีวันนี้ เด็กทั้ง 7 เรียนจบ มีงานดีๆทำ และวันนี้เด็ก 7 คนกลายเป็นพลังผลักดัน และเป็นแรงบันดาลใจให้สามชุกกลายเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง คอยต่อต้านภัยจากยาเสพติดอย่างยั่งยืนตลอดไป
ที่มาของภาพยนตร์
อะไรจะเกินขึ้นในอนาคต หากเยาวชนของชาติตกเป็นทาส “ยาบ้า”
สามชุก ภาพยนตร์จากเค้าโครงเรื่องจริง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก อาจารย์พินิจ พุทธิวาส อาจารย์โรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ที่มองว่ามหันตภัยยาบ้าไม่เพียงระบาดหนักไปทั่วประเทศ แต่ยังได้ลุกลามเข้าสู่สถานศึกษาอันเป็นแหล่งปลูกฝังวิชาความรู้แก่เยาวชนของชาติ หลายโรงเรียนประสบกับปัญหานี้รวมถึงโรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม แม้ว่าผู้เกี่ยวข้องจะมีการแก้ไขกันอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ
จากความเชื่อที่ว่า “หากใครสักคนที่ได้ให้ความรักแท้จริงกับผู้ที่ประสบความล้มเหลว โดยไม่มีเงื่อนไข จะทำให้ผู้นั้นมีพลังในการเปลี่ยนแปลง” ทำให้อาจารย์พินิจ พุทธิวาส เลือกที่จะเชื่อใจและหยิบยื่นโอกาสให้แก่ลูกศิษย์ที่หลงผิดติดยาบ้างอมแงมทั้ง 7 คน ในขณะที่สังคมรุมตราหน้าเด็กเหลือขอเหล่านี้ว่าไม่มีทางกลับตัวได้ อาจารย์พินิจพาเข้าโครงการณ์ “สู่ชีวิตใหม่” ซึ่งเป็นการบำบัดการติดยาแบบแยบยลและเป็นธรรมชาติ และจากโครงการณ์นี้เองที่เป็นที่มาของสารคดี “ยาม้า มหันตภัยในสถานศึกษา” (ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น ยาบ้า) ผลิตโดยบริษัทเจเอสแอล ออกอากาศทางช่อง 7 เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2537 ซี่งได้สร้างกระแสอันเป็นปรากฏการณ์ระดับชาติ เนื่องจากเป็นตัวจุดประกายเร่งเร้าให้ผู้มีส่วนรับผิดชอบบ้านเมืองตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรีถึงขั้นประกาศเปรี้ยงต้องรีบแก้ไขด่วน โดยให้กระทรวงศึกษาธิการดูแลเป็นพิเศษ และขอความร่วมมือผู้ปกครองร่วมสกัดกั้นมหันตภัยร้ายอย่างเข้มงวด
รายละเอียดเกร็ดงานสร้างหนังเรื่องสามชุก
ในการถ่ายทำ ทีมงานได้ยกกองถ่ายไปปักหลักถ่ายทำที่อำเภอสามชุกกันเลยเพื่อให้ได้ภาพและบรรยากาศที่สมจริง นอกจากนี้ยังใช้นักแสดงหลักที่เป็นทั้งเยาวชนและผู้คนในอำเภอสามชุกมาร่วมแสดงเพื่อให้ได้อรรถรสทางด้านภาษาท้องถิ่น
สำหรับนักแสดงเด็กหลักๆ ทางทีมงานได้ใช้วิธีการคัดเลือกโดยการรับสมัครเด็กจากในชุมชนรวมถึงอำเภอใกล้เคียงกันเลยทีเดียว โดยเปิดให้มีการแคสติ้งกันที่ลานโพธิ์ ซึ่งก็มีเด็กมาสมัครมากมาย
ในภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีฉากบางส่วนที่เป็นฉากแรงๆ อย่างฉากเสพยาบ้า ฉากสูบบุหรี่
ฉากบางส่วนในเรื่องจะใช้การอิมโพรไวส์ หรือการด้นสด เนื่องจากอยากได้อารมณ์ที่แท้จริงของตัวละคร อย่างบางฉากไม่รู้จะเขียน ยังไงให้มันเหมือนจริงได้ คือตัวละครในเรื่องพอแสดงมาถึงจุดหนึ่งก็จะรู้ว่าคาแรคเตอร์ของเขาคืออะไร จะพูดอะไร ก็บอกสถาณการณ์เข้าไป เค้าก็จะอิมโพรไวส์ได้เอง ซึ่งมันก็จะเป็นคำพูดที่ค่อนข้างสดและเป็นธรรมชาติกว่า ในเรื่องมีหลายฉากพอสมควร อย่างฉากลานโพธิ์ ซึ่งบางทีไม่รู้ว่าชาวบ้านเขาจะใช้ภาษายังไง เวลาเราเขียนมันดูไม่ใช่ชาวบ้าน ซึ่งผลที่ได้มันดูน่าเชื่อกว่าและสมจริง
“สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)”
เนรมิตตลาดร้อยปีสามชุกมาไว้ที่โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์
แปซิฟิคไอส์แลนด์ฟิล์ม นำโดยนายสมชาย องอาจ ประธานกรรมการบริษัท จัดงานเปิดตัวภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์เรื่อง “สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)” เมื่อวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่ามา โดยเนรมิตลานอินฟินิซิตี้ฮอลล์ โรงภาพยนตร์ พารากอนซีนีเพล็กซ์ เป็นตลาดสามชุก ตลาดเก่าร้อยปีอันดับหนึ่งของประเทศ โดยมีบู้ทสินค้าของที่ระลึกมายมาย รวมถึงอาหารนานาชนิด ซึ่งสั่งตรงมาจากตลาดสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรีกันเลยทีเดียว
เปิดงานด้วยการแสดงชุดระบำถวายมาลัย จากโรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม ต่อจากนั้น นีน่า-กุลนัดดา ปัจฉิมสวัสดิ์ รับหน้าที่ดำเนินรายการ โดยเชิญ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม นายธีระ สลักเพชร ในฐานะตัวแทน นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ติดภารกิจด่วนกระทันหันไม่สามารถมาร่วมงานได้ นายธีระได้กล่าวถึงที่มาที่กระทรวงวัฒนธรรมประกาศร่วมสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้ และยังได้รับเกียรติจากนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาร่วมกล่าวแสดงความยินดีพร้อมร่วมชมภาพยนตร์ ต่อด้วยการแสดงดนตรีประกอบภาพยนตร์ “กอดฉันไว้” จากวง “พาราดอกซ์” จากนั้นเป็นการพูดคุยถึงการทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังกับ นายธนิตย์ จิตนุกูล ผู้กำกับภาพยนตร์, ทีมนักแสดง ปรเมศร์ น้อยอ่ำ, แม่เล็ก-แม่ของตั๊กบงกช, ตุ๊ก-วิมลเลขา ศิริชัยราวรรณ, ธีรภัทร แย้มศรี, พิเชษฎ์พงษ์ โชคประดับ, อำนาจ บัวปรอด, พงศธร ศรีบุญเพ็ง, ศุภณัฐ มีสมศักดิ์, ณัฐชนน ศุภลักษณ์, นวพล เจริญธรรมรักษา, จารุวรรณ สมตัว, สิริกานดา บุญธรรม และปานไพลิน เนตรเพชร ฯลฯ โดยระหว่างนั้น ตั๊ก – บงกช คงมาลัย ได้หอบดอกไม้ช่อใหญ่มาแสดงความยินดีกับแม่เล็ก ปิดท้ายด้วยการถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกันระหว่างประธานในพิธี ผู้บริหารจากแปซิฟิคไอส์แลนด์ฟิล์ม นายสมชาย องอาจ และผู้กำกับพร้อมทีมนักแสดง ก่อนเข้าชมภาพยนตร์
ติดตามชม “สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)” ภาพยนตร์เรื่องแรกที่กระทรวงวัฒนธรรมภูมิใจเสนอให้ ประชาชนทั้งประเทศได้ชม ในวันที่ 5 สิงหาคม นี้ (เลื่อนวันฉาย) ทุกโรงภาพยนตร์
สามชุก
Sam Chuk
“หลายคน...ซื้อชีวิตด้วยยา
แต่บางคน...กลับใช้ยาเพื่อทำลายชีวิต”
ผู้ถือลิขสิทธิ์ บริษัท แปซิฟิคไอร์แลนด์ ฟิลม์ จำกัด
ชื่อไทย สามชุก
เวปไซต์ http://www.samchukmovie.com
ภาพยนตร์แนว ดราม่า
กำหนดฉาย 5 สิงหาคม 2552
ณ โรงภาพยนตร์ ทุกโรงภาพยนตร์
ผู้กำกับภาพยนตร์ ปื๊ด-ธนิตย์ จิตนุกูล
เกี่ยวกับภาพยนตร์
เรื่องราวชีวิตของวัยรุ่นไทยกลุ่มหนึ่งที่กำลังอยู่ในวัยที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต กลายเป็นทาสของยาเสพติดที่ระบาดเข้ามาในโรงเรียนอย่างเงียบๆ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ด้วยความรักและความเข้าใจของอาจารย์ในโรงเรียน จึงทำให้พวกเขารอดพันจากจุดจบที่น่าเศร้าในชีวิตไปได้ สร้างจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ในโรงเรียน สามชุกรัตนโภคาราม อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
จากเรื่องจริง ของเด็ก 7 คนในอำเภอสามชุก ที่มีชีวิตวัยมัธยมเหมือนเด็กทั่วไป มีความรัก มีความคะนอง ทั้ง 7 คน ได้แก่ วาล พัน ยอด เอก นักเรียนตัวแสบชั้น ม. 5 และรุ่นน้องม.4 ที่สนิทกันอีก 3 คน เทพ ปอด โบ๊ะ ชีวิตเด็กทั้ง 7 คนกำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อวาลต้องเริ่มทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระหนี้สิน แม่และวาลต้องแบกหนี้สินของพ่อที่เสียไปแล้วทิ้งไว้ให้ตามลำพังแม่ลูก วาลต้องทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนหลายอย่าง และนี่คือช่องทางแรกที่ยาบ้าแทรกเข้ามาในกลุ่มเด็ก 7 คน ไอ้ดำเพื่อนที่อู่แนะนำให้วาลรู้จักยาบ้า ที่จะทำให้วาลทำงานได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่เหน็ดเหนื่อย กว่าจะรู้ตัวชีวิตวาลก็ตกอยู่ใต้อำนาจของมันอย่างช้าๆ แล้ววาลเป็นสะพานที่นำยาไปสู่เพื่อนๆ อีกหกคน แทนที่ยาจะช่วยให้วาลมีเงินช่วยแม่ใช้หนี้ แต่มันกลับกลายเป็นความต้องการยามากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนทั้งหกหันมาทดลองยาด้วยหลากหลายเหตุผล เทพที่บ้านมีฐานะที่สุดเป็นสปอนเซอร์ให้เพื่อนๆ ทำให้พวกวาลไม่เคยขาดยา
ทุกคนรู้ว่ามันคือสิ่งผิด และไม่ดี แต่พวกเขาไม่สามารถเลิกได้ เรื่องราวเริ่มลุกลามจนถึงตำรวจ ทุกคนพร้อมจะตราหน้าพวกเขาว่าเป็นเด็กเหลือขอ ไม่มีอนาคต อาจารย์พินิจได้ยื่นมือเข้าช่วยเด็กๆไว้ เด็กๆจึงไว้ใจอาจารย์ ทำให้อาจารย์ได้รู้เรื่องราวและปัญหา อาจารย์พินิจพยายามปรับความคิดของเด็กโดยให้ใช้ปัญญาและยืดอกรับปัญหาต่างๆ รวมทั้งปรับความเข้าใจของคนใกล้ชิดเด็ก และชาวบ้านในชุมชนสามชุกไปพร้อมๆกัน ให้ทุกคนได้รู้ว่าปัญหายาเสพติดไม่ได้เป็นความผิดของเด็กฝ่ายเดียว ผู้ปกครองต้องเอาใจใส่ ชุมชนต้องป้องกัน ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ด่าทอโยนความผิดให้กัน อาจารย์พินิจพยายามตะโกนดังๆ ให้ทุกคนในชุนชน และสังคมรู้ว่าปัญหาของเด็ก 7 คนนี้เป็นเพียงลางบอกเหตุ หากทุกคนเลือกที่ปัดปัญหาออกไปง่ายๆ โดยการตัดโอกาศเด็กพวกนี้และปล่อยให้เด็กทั้ง 7 จมหายไปกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อนาคตก็ต้องมีเด็กๆ ลูกๆหลานๆ ของคนในชุมชน ที่ต้องพลาดติดมันอีกอย่างแน่นอน อาจารย์พินิจขอโอกาสให้เด็กๆ ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง และรับปากจะทำให้เด็ก 7 คน เลิกยากลับมาเป็นคนดีและอยู่ร่วมในชุมชนอย่างสงบสุขให้ได้
อาจารย์พินิจนำเด็ก 7 คน เข้ามาอยู่ค่ายประจำที่โรงเรียน และดูแลอย่างใกล้ชิด ให้เด็กทำกิจกรรมต่างๆ เป็นกิจวัตร ทุกเช้าต้องออกกำลังกาย ปลูกกุหลาบ และทำอาหารกินกันเอง การเลิกยาอาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่ท่ามกลางปัญหา และสิ่งยั่วยุมากมาย ถ้าหัวใจ และมิตรภาพของเด็กทั้ง 7 ไม่เข้มแข็งพอ พวกเขาก็จะไม่สามารถผ่านพ้นมันไปได้ อาจารย์พินิจทำได้มากสุดก็แค่ยืนเคียงข้าง และเฝ้ามองวันที่เด็กทั้ง 7 จะก้าวผ่านพ้นมันไปได้ในที่สุด วันนี้ดอกกุหลาบต้นเล็กๆ ที่เด็กและอาจารย์ช่วยกันฟูมฟักออกดอกโชว์ความงาม มันคือตัวแทนของความฝัน และความหวังของทุกคน หากไม่ได้รับโอกาสในวันนั้น คงไม่มีวันนี้ เด็กทั้ง 7 เรียนจบ มีงานดีๆทำ และวันนี้เด็ก 7 คนกลายเป็นพลังผลักดัน และเป็นแรงบันดาลใจให้สามชุกกลายเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง คอยต่อต้านภัยจากยาเสพติดอย่างยั่งยืนตลอดไป
ที่มาของภาพยนตร์
อะไรจะเกินขึ้นในอนาคต หากเยาวชนของชาติตกเป็นทาส “ยาบ้า”
สามชุก ภาพยนตร์จากเค้าโครงเรื่องจริง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก อาจารย์พินิจ พุทธิวาส อาจารย์โรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ที่มองว่ามหันตภัยยาบ้าไม่เพียงระบาดหนักไปทั่วประเทศ แต่ยังได้ลุกลามเข้าสู่สถานศึกษาอันเป็นแหล่งปลูกฝังวิชาความรู้แก่เยาวชนของชาติ หลายโรงเรียนประสบกับปัญหานี้รวมถึงโรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม แม้ว่าผู้เกี่ยวข้องจะมีการแก้ไขกันอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ
จากความเชื่อที่ว่า “หากใครสักคนที่ได้ให้ความรักแท้จริงกับผู้ที่ประสบความล้มเหลว โดยไม่มีเงื่อนไข จะทำให้ผู้นั้นมีพลังในการเปลี่ยนแปลง” ทำให้อาจารย์พินิจ พุทธิวาส เลือกที่จะเชื่อใจและหยิบยื่นโอกาสให้แก่ลูกศิษย์ที่หลงผิดติดยาบ้างอมแงมทั้ง 7 คน ในขณะที่สังคมรุมตราหน้าเด็กเหลือขอเหล่านี้ว่าไม่มีทางกลับตัวได้ อาจารย์พินิจพาเข้าโครงการณ์ “สู่ชีวิตใหม่” ซึ่งเป็นการบำบัดการติดยาแบบแยบยลและเป็นธรรมชาติ และจากโครงการณ์นี้เองที่เป็นที่มาของสารคดี “ยาม้า มหันตภัยในสถานศึกษา” (ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น ยาบ้า) ผลิตโดยบริษัทเจเอสแอล ออกอากาศทางช่อง 7 เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2537 ซี่งได้สร้างกระแสอันเป็นปรากฏการณ์ระดับชาติ เนื่องจากเป็นตัวจุดประกายเร่งเร้าให้ผู้มีส่วนรับผิดชอบบ้านเมืองตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรีถึงขั้นประกาศเปรี้ยงต้องรีบแก้ไขด่วน โดยให้กระทรวงศึกษาธิการดูแลเป็นพิเศษ และขอความร่วมมือผู้ปกครองร่วมสกัดกั้นมหันตภัยร้ายอย่างเข้มงวด
รายละเอียดเกร็ดงานสร้างหนังเรื่องสามชุก
ในการถ่ายทำ ทีมงานได้ยกกองถ่ายไปปักหลักถ่ายทำที่อำเภอสามชุกกันเลยเพื่อให้ได้ภาพและบรรยากาศที่สมจริง นอกจากนี้ยังใช้นักแสดงหลักที่เป็นทั้งเยาวชนและผู้คนในอำเภอสามชุกมาร่วมแสดงเพื่อให้ได้อรรถรสทางด้านภาษาท้องถิ่น
สำหรับนักแสดงเด็กหลักๆ ทางทีมงานได้ใช้วิธีการคัดเลือกโดยการรับสมัครเด็กจากในชุมชนรวมถึงอำเภอใกล้เคียงกันเลยทีเดียว โดยเปิดให้มีการแคสติ้งกันที่ลานโพธิ์ ซึ่งก็มีเด็กมาสมัครมากมาย
ในภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีฉากบางส่วนที่เป็นฉากแรงๆ อย่างฉากเสพยาบ้า ฉากสูบบุหรี่
ฉากบางส่วนในเรื่องจะใช้การอิมโพรไวส์ หรือการด้นสด เนื่องจากอยากได้อารมณ์ที่แท้จริงของตัวละคร อย่างบางฉากไม่รู้จะเขียน ยังไงให้มันเหมือนจริงได้ คือตัวละครในเรื่องพอแสดงมาถึงจุดหนึ่งก็จะรู้ว่าคาแรคเตอร์ของเขาคืออะไร จะพูดอะไร ก็บอกสถาณการณ์เข้าไป เค้าก็จะอิมโพรไวส์ได้เอง ซึ่งมันก็จะเป็นคำพูดที่ค่อนข้างสดและเป็นธรรมชาติกว่า ในเรื่องมีหลายฉากพอสมควร อย่างฉากลานโพธิ์ ซึ่งบางทีไม่รู้ว่าชาวบ้านเขาจะใช้ภาษายังไง เวลาเราเขียนมันดูไม่ใช่ชาวบ้าน ซึ่งผลที่ได้มันดูน่าเชื่อกว่าและสมจริง
33823
ข่าวภาพยนตร์ / “หมู-ธีรภัทร์” “นัฐ – ณัฐชนน” นำทีมนักแสดง “สามชุก”
« on: July 17, 2009, 03:44:56 PM »
“หมู-ธีรภัทร์” “นัฐ – ณัฐชนน” นำทีมนักแสดง “สามชุก”
พาชิล!! ทัวร์ตลาดเก่าร้อยปีที่สามชุก สุพรรณบุรี
หมู-ธีรภัทร์ แย้มศรี และ ณัฐ-ณัฐชนน ศุภลักษณ์ นักแสดงคลื่นลูกใหม่ ที่ตอนนี้ทั้งคู่กำลังมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง “สามชุก” ที่เตรียมจะเข้าฉายในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับชื่อดังอย่าง ปื๊ด – ธนิตย์ จิตนุกูล ที่ยืนยันว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ภาคภูมิใจและค่อนข้างยากที่สุดเท่าที่เคยทำงานหนังมาเลยทีเดียว
หลังจากใช้พื้นที่บริเวณตลาดสามชุกเป็นโลเกชั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งเรื่องมาตลอดระยะเวลาหลายเดือน วันนี้ทั้งสองหนุ่มหล่อ หมูและนัฐ พร้อมกับเพื่อนๆ กลุ่มนักแสดงจากเรื่องนี้ ที่ฝ่าด่านอรหันต์การแคสติ้งแข่งกับเพื่อนๆ จากจังหวัดสุพรรณบุรีกว่าสามร้อยคน จะมาเดินชิลๆ พาเที่ยวพากินกันกับร้านดังในตลาดให้หนำใจ แถมด้วยเช็คเรทติ้งความฮ็อตในตลาดสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี บ้านเกิดนั่นเอง งานนี้เรียกรอยยิ้มและความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้พอสมควร สำหรับพ่อค้า แม่ค้าไม่ต้องพูดถึง เพราะเดินผ่านร้านค้าทีไรก็ต่างทักทายกันด้วยความคุ้นเคย เพราะเกือบทุกร้านค้าในตลาดสามชุกต่างคุ้นเคยกับนักแสดงและทีมงานของหนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะมาปักหลักถ่ายทำหนังที่นี่แล้ว พ่อค้าแม่ค้าบางคนยังได้เข้ากล้องเป็นนักแสดงรับเชิญอีกด้วย
ในเมื่อมาตลาดเก่า ก็ต้องเริ่มต้นด้วยของกินที่ขึ้นชื่อและต้องเป็นสูตรโบราณอย่างทองม้วนโบราณร้อยปี ร้านป้าแป๊ด ที่หมูคอนเฟิร์มว่าอร่อยจริงๆ ใครผ่านมาก็ต้องซื้อเป็นของฝาก นอกจากนั้นยังมีร้านขนมไข่กรอบที่ขายขนมหวานสารพัดสารพัน และข้าวห่อใบบัวต้นตำหรับที่นักท่องเที่ยวนิยมมาอุดหนุน
และก่อนจะแยกย้าย นักแสดงทั้งหมดยังไม่ลืมรวมตัวกันถ่ายรูปกับป้ายทางเข้าตลาดสามชุกและตู้ไปรษณีย์ที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ ที่ถ้าใครมาแล้วไม่ได้ถ่าย จะถือว่ายังมาไม่ถึงสามชุกด้วย
ติดตามเป็นกำลังใจกับผลงานเรื่องแรกของนักแสดงคลื่นลูกใหม่ได้ในภาพยนตร์ “สามชุก” กำหนดฉาย วันที่ 6 สิงหาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
พาชิล!! ทัวร์ตลาดเก่าร้อยปีที่สามชุก สุพรรณบุรี
หมู-ธีรภัทร์ แย้มศรี และ ณัฐ-ณัฐชนน ศุภลักษณ์ นักแสดงคลื่นลูกใหม่ ที่ตอนนี้ทั้งคู่กำลังมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง “สามชุก” ที่เตรียมจะเข้าฉายในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับชื่อดังอย่าง ปื๊ด – ธนิตย์ จิตนุกูล ที่ยืนยันว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ภาคภูมิใจและค่อนข้างยากที่สุดเท่าที่เคยทำงานหนังมาเลยทีเดียว
หลังจากใช้พื้นที่บริเวณตลาดสามชุกเป็นโลเกชั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งเรื่องมาตลอดระยะเวลาหลายเดือน วันนี้ทั้งสองหนุ่มหล่อ หมูและนัฐ พร้อมกับเพื่อนๆ กลุ่มนักแสดงจากเรื่องนี้ ที่ฝ่าด่านอรหันต์การแคสติ้งแข่งกับเพื่อนๆ จากจังหวัดสุพรรณบุรีกว่าสามร้อยคน จะมาเดินชิลๆ พาเที่ยวพากินกันกับร้านดังในตลาดให้หนำใจ แถมด้วยเช็คเรทติ้งความฮ็อตในตลาดสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี บ้านเกิดนั่นเอง งานนี้เรียกรอยยิ้มและความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้พอสมควร สำหรับพ่อค้า แม่ค้าไม่ต้องพูดถึง เพราะเดินผ่านร้านค้าทีไรก็ต่างทักทายกันด้วยความคุ้นเคย เพราะเกือบทุกร้านค้าในตลาดสามชุกต่างคุ้นเคยกับนักแสดงและทีมงานของหนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะมาปักหลักถ่ายทำหนังที่นี่แล้ว พ่อค้าแม่ค้าบางคนยังได้เข้ากล้องเป็นนักแสดงรับเชิญอีกด้วย
ในเมื่อมาตลาดเก่า ก็ต้องเริ่มต้นด้วยของกินที่ขึ้นชื่อและต้องเป็นสูตรโบราณอย่างทองม้วนโบราณร้อยปี ร้านป้าแป๊ด ที่หมูคอนเฟิร์มว่าอร่อยจริงๆ ใครผ่านมาก็ต้องซื้อเป็นของฝาก นอกจากนั้นยังมีร้านขนมไข่กรอบที่ขายขนมหวานสารพัดสารพัน และข้าวห่อใบบัวต้นตำหรับที่นักท่องเที่ยวนิยมมาอุดหนุน
และก่อนจะแยกย้าย นักแสดงทั้งหมดยังไม่ลืมรวมตัวกันถ่ายรูปกับป้ายทางเข้าตลาดสามชุกและตู้ไปรษณีย์ที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ ที่ถ้าใครมาแล้วไม่ได้ถ่าย จะถือว่ายังมาไม่ถึงสามชุกด้วย
ติดตามเป็นกำลังใจกับผลงานเรื่องแรกของนักแสดงคลื่นลูกใหม่ได้ในภาพยนตร์ “สามชุก” กำหนดฉาย วันที่ 6 สิงหาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
33824
ข่าวภาพยนตร์ / “เร” ชอบบทหนัง “หนีตามกาลิเลโอ”ถึงขนาดบอกต้นผู้กำกับ ขอยอมเล่นฟรี!!
« on: July 15, 2009, 01:50:25 PM »
“เร” ชอบบทหนัง “หนีตามกาลิเลโอ”ถึงขนาดบอกต้นผู้กำกับ ขอยอมเล่นฟรี!!
เร แม็คโดนัลด์ พระเอกมาดเซอร์ หนังรัก “หนีตามกาลิเลโอ” ของ ผู้กำกับ ต้น-นิธิวัฒน์ ธราธร ค่าย จีทีเอช เปิดใจ ชอบบทหนัง หนีตามกาลิเลโอมาก ถึงขนาดบอกว่า ถ้าได้อ่านบทเต็มครั้งแรก ให้เล่นฟรีก็ยอม!!
เร แม็คโดนัลด์ เผยว่า “ความรู้สึกแรกที่ผมได้อ่านบทหนังเรื่อง หนีตามกาลิเลโอ ผมอิ่มมาก มันมีครบทุกรส เรียกว่า อิ่ม จุก ครบรส ก่อนหน้านี้ที่ จีทีเอช ติดต่อมา ผมคิดว่าคงเป็นหนังรักเรื่องราวของเพื่อนสาว 2 คน วัยรุ่นแบ็คแพ็คเที่ยวเมืองนอก ขายวิวสวยๆ มากกว่าขายเรื่องราว แต่พออ่านบทจบปุ๊บ วันนี้ผมบอกพี่ต้น ผู้กำกับว่า “เฮ้ยพี่ ทำไมไม่ให้ผมอ่านบททั้งเรื่องก่อน ถ้าผมอ่านก่อน ผมยอมเล่นให้ฟรีก็ได้ หลังจากอ่านบทเสร็จ ผมรีบลุกจากโต๊ะประชุมทันที เพราะถ้านั่งอีกสักพักอาจร้องไห้เหมือนคนอื่น ขนาดตอนขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ยังรู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในลำคอ ซึ่งไม่ใช่เสลดนะครับ แต่มันเป็นความรู้สึกที่จุกและซึ้ง ขนาดเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าผมยังคิดถึงมันอยู่เลย ผมยังเก็บมาเล่าให้แฟนฟังเลยว่า บทหนังเรื่องนี้ดีจริงๆ และพอวันที่บินไปถ่ายหนังเรื่องนี้ที่ฝรั่งเศส ต้องยอมรับว่า เป็นหนังที่ดีจริงๆ ทีมงาน นักแสดงเจ๋งมาก ทุกคนมืออาชีพ และเป็นหนังที่ผมชอบมาก มันครบทุกรส ทั้งเรื่องราวความรักของเพื่อน ครอบครัว รวมถึงคนรัก ถ้าไม่ได้เล่นเรื่องนี้ ผมคงเสียดายแย่ อยากรู้ว่า สนุก ประทับใจขนาดไหนต่าย กับเต้ย น่ารักอย่างไรลองไปดูกันครับ 23 ก.ค.นี้ ทุกโรงภาพยนตร์”
เมื่อปล่อยให้ผู้หญิง สอบตก กับ อกหัก อยู่ด้วยกัน เขาจะหนีไปพร้อมๆ กัน “หนีตามกาลิเลโอ” 23 กรกรฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
เร แม็คโดนัลด์ พระเอกมาดเซอร์ หนังรัก “หนีตามกาลิเลโอ” ของ ผู้กำกับ ต้น-นิธิวัฒน์ ธราธร ค่าย จีทีเอช เปิดใจ ชอบบทหนัง หนีตามกาลิเลโอมาก ถึงขนาดบอกว่า ถ้าได้อ่านบทเต็มครั้งแรก ให้เล่นฟรีก็ยอม!!
เร แม็คโดนัลด์ เผยว่า “ความรู้สึกแรกที่ผมได้อ่านบทหนังเรื่อง หนีตามกาลิเลโอ ผมอิ่มมาก มันมีครบทุกรส เรียกว่า อิ่ม จุก ครบรส ก่อนหน้านี้ที่ จีทีเอช ติดต่อมา ผมคิดว่าคงเป็นหนังรักเรื่องราวของเพื่อนสาว 2 คน วัยรุ่นแบ็คแพ็คเที่ยวเมืองนอก ขายวิวสวยๆ มากกว่าขายเรื่องราว แต่พออ่านบทจบปุ๊บ วันนี้ผมบอกพี่ต้น ผู้กำกับว่า “เฮ้ยพี่ ทำไมไม่ให้ผมอ่านบททั้งเรื่องก่อน ถ้าผมอ่านก่อน ผมยอมเล่นให้ฟรีก็ได้ หลังจากอ่านบทเสร็จ ผมรีบลุกจากโต๊ะประชุมทันที เพราะถ้านั่งอีกสักพักอาจร้องไห้เหมือนคนอื่น ขนาดตอนขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ยังรู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในลำคอ ซึ่งไม่ใช่เสลดนะครับ แต่มันเป็นความรู้สึกที่จุกและซึ้ง ขนาดเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าผมยังคิดถึงมันอยู่เลย ผมยังเก็บมาเล่าให้แฟนฟังเลยว่า บทหนังเรื่องนี้ดีจริงๆ และพอวันที่บินไปถ่ายหนังเรื่องนี้ที่ฝรั่งเศส ต้องยอมรับว่า เป็นหนังที่ดีจริงๆ ทีมงาน นักแสดงเจ๋งมาก ทุกคนมืออาชีพ และเป็นหนังที่ผมชอบมาก มันครบทุกรส ทั้งเรื่องราวความรักของเพื่อน ครอบครัว รวมถึงคนรัก ถ้าไม่ได้เล่นเรื่องนี้ ผมคงเสียดายแย่ อยากรู้ว่า สนุก ประทับใจขนาดไหนต่าย กับเต้ย น่ารักอย่างไรลองไปดูกันครับ 23 ก.ค.นี้ ทุกโรงภาพยนตร์”
เมื่อปล่อยให้ผู้หญิง สอบตก กับ อกหัก อยู่ด้วยกัน เขาจะหนีไปพร้อมๆ กัน “หนีตามกาลิเลโอ” 23 กรกรฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
33825
ของสะสมประเภท handbill / Harry Potter and the Half-Blood Prince
« on: July 15, 2009, 11:51:34 AM »
ขนาดA5 แผ่นคู่ คาดว่าจะมีแบบเดียว
ด้านหน้า+ด้านหลัง
ด้านใน
ด้านหน้า+ด้านหลัง
ด้านใน