Recent Posts

Pages: [1] 2 3 ... 10
1
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมกับ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป
จัด Workshop “GLO INNOVATION SHORT FILM CONTEST 2024” ให้ 10 ทีม ที่ผ่านเข้ารอบ


              สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จับมือร่วมกับ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)  เชิญ ทีมงาน ชูใจ กะ กัลยาณมิตร มาร่วมมอบความรู้และเทคนิคในการสร้างสรรค์ผลงานผ่านนวัตกรรมการผลิตโฆษณาหนังสั้นให้กับนิสิต นักศึกษา กลุ่มคนรุ่นใหม่จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ จำนวน 10 ทีม ที่ผ่านรอบคัดเลือกจาก โครงการ “GLO INNOVATION SHORT FILM CONTEST 2024” ภายใต้คอนเซปต์ “Innovation For Better Life นวัตกรรมที่สะดวกต่อการใช้ชีวิต” ชิงรางวัลทุนการศึกษามูลค่า  800,000 บาท และทั้ง 10 ทีม จะได้รับเงินทุนในการผลิตผลงาน ทีมละ 50,000 บาท


              กิจกรรม Workshop  “GLO INNOVATION SHORT FILM CONTEST 2024” ได้รับเกียรติจากทีม ชูใจ กะ กัลยาณมิตร Creative for Good(s) Agency นำโดย บอมบ์-ปัณณวิชณ์ แซ่โง้ว (Creative Group Head) ใจ๋-กุลวรรธน์ ศรีกฤษณพล (Associate Creative Director) และนณ-ชวนณ ตันติสิริเศรณี (Associate Creative Director) มาถ่ายทอดองค์ความรู้ในการจัดทำผลงาน โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง ในช่วงแรกเกี่ยวกับหัวข้อ ถอดกระบวนการวิธีคิดงานโฆษณา ส่วนในช่วงท้าย เป็นการให้ความรู้เรื่อง การเดินทางจากสคริปต์จนมาเป็นคลิป ซึ่งทั้ง 2 ช่วง พี่ๆทั้ง 3 ท่านได้ส่งมอบความรู้แนะคิด รวมถึงปัญหา อุปสรรค ที่ต้องพบ หรือต้องเจอบ่อยๆ พร้อมยกตัวอย่างเพื่อลงรายละเอียดเชิงลึก ที่เหมือนเป็นการเปิดประสบการณ์ จุดประกายต่อยอดไอเดียเพิ่มเติม ให้สามารถนำไปปรับใช้กับผลงาน ในการจัดทำหนังสั้นโฆษณาให้กับทั้ง 10 ทีม ให้ออกมาสมบรูณ์แบบที่สุด ซึ่งในช่วงท้ายก็ยังจัดเวลาให้น้องๆ ได้ Brainstorm เพื่อพัฒนาผลงานและนำมาเสนอเพื่อรับ Feedback จากพี่ๆอีกด้วย




              GLO INNOVATION SHORT FILM CONTEST 2024 เป็นการประกวดหนังสั้นโฆษณาที่เป็นเสมือนเวทีจริงที่เหล่านักศึกษาได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ การครีเอทผลงานการทำภาพยนตร์สั้น เพื่อต่อยอดจากการเรียนรู้ในห้องเรียนสู่การปฎิบัติจริง ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักที่ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมุ่งเน้นและให้ความสำคัญและยึดมั่นเสมอมา เพราะเยาวชนนั้นเป็นวัยที่สำคัญและเป็นกำลังหลักของประเทศในอนาคต กับคอนเซปต์ "Innovation For Better Life  นวัตกรรมที่สะดวกต่อการใช้ชีวิต" อยากให้มุ่งเน้นเรื่องของนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ ปรับใช้สำหรับการดำเนินชีวิต อีกทั้งยังเป็นเหมือนบันไดขั้นแรก ที่เปิดโอกาสพร้อมส่งเสริมทักษะเฉพาะด้าน ให้มีนักออกแบบหนังสั้นโฆษณา ซึ่งรวมถึงไปถึงสายอาชีพทางด้านครีเอทีฟสามรถความรู้ เทคนิค แนวคิด ขั้นตอนการทำงานจริง นำไปพัฒนาต่อยอดความรู้ผ่านนวัตกรรมการสร้างสรรค์ผลงาน ให้ออกมาสนุกสนาน น่าติดตามและเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และสามารถก้าวไปสู่ระดับสากลได้ต่อไป




              ซึ่งทั้ง 10 ทีมได้แก่ 1.ทีม มือทองV3 จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ 2. ทีม ทีมที่ชนะเลิศได้แก่...จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 3. ทีม ซ่าง ช้าง จ๊าง จาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 4. ทีม ปี3อันตราย จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 5. ทีม Tadum Film (ทา-ดำ ฟิล์ม) จาก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 6. ทีม UuU (ทริปเปิ้ลยู) จาก มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยนเรศวร และมหาวิทยาลัยขอนแก่น 7. ทีม รักน้ำ รักพูล รัก300K จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัยมหิดล 8. ทีม Breakdownจาก มหาวิทยาลัยศิลปากร 9. ทีม Top Rank เกินต้านผ้าม่านสีน้ำเงิน จาก มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ10. ทีม Thungsong Hometown (ทุ่งสง โฮมทาวน์)จาก มหาวิทยาลัยศรีปทุม  ที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ต่างก็รู้สึกสนุกสนาน ตื่นเต้น ที่ได้รับความรู้และเทคนิคใหม่ๆ การฝึกสังเกตอิริยาบทของตัวละคร บริบทองค์รวม ความเหมาะสมของแต่ละฉากที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องไม่มีสะดุดเมื่อรับชม รวมถึงเคล็ดลับในการบริหารเวลาการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องเจอสถานการณ์จริงในอนาคต






              ติดตามเพื่อร่วมลุ้นว่าทีมใดจะปล่อยไอเดียสุดคุล จนสามารถคว้าทุนการศึกษาและครองรางวัลชนะเลิศ ได้ใน วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2567 ณ Samsung LED Cinema @ Siam Paragon ไปพร้อมๆกัน หรืออัพเดทข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.facebook.com/MajorGroup และ https://www.facebook.com/gloinnovationshortfilmcontest2024

2
วช. เปิดตัวระบบ NRIIS Project Tracking ติดตามสถานะขอทุนวิจัยแบบ Real Time


              สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดกิจกรรมเปิดตัวระบบ NRIIS Project Tracking ตามติดทุกความเคลื่อนไหว ในรูปแบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video conference) ผ่าน Zoom Meeting และ Facebook Live โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) เป็นประธานในพิธีเปิด ในครั้งนี้ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มอบหมายให้ นางมาริยาท ตั้งมิตรเจริญ ผู้อำนวยการกองระบบและบริหารข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์ ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นผู้รายงาน และมีคณะผู้บริหาร วช. ให้การต้อนรับ ณ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ


              ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล กล่าวว่า วช. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดตัวระบบ NRIIS Project Tracking เพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ โดยระบบดังกล่าวพัฒนาขึ้นตามนโยบายของ สกว. เพื่อให้นักวิจัยและผู้เกี่ยวข้องสามารถติดตามความก้าวหน้าของโครงการวิจัยของตนเองได้ รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการปรับปรุงกระบวนการของแหล่งทุนวิจัยให้มีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากขึ้น


              ระบบติดตามโครงการ NRIIS Project Tracking System ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือสนับสนุนนักวิจัยในการติดตามความคืบหน้า ตรวจสอบข้อมูล และวิเคราะห์งานวิจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายและความต้องการของประเทศ ระบบนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานผ่านเว็บไซต์แบบตอบสนอง (Responsive Website) รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์หลากหลายรูปแบบ ช่วยให้นักวิจัยสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักวิจัยในการติดตามความก้าวหน้าของงานวิจัยของตนได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น


              นางมาริยาท ตั้งมิตรเจริญ กล่าวว่า สืบเนื่องจากปัจจุบันพบว่า การดำเนินงานในแต่ละขั้นตอนของการบริหารจัดการทุนวิจัยนั้น นักวิจัยสามารถทราบสถานะการดำเนินงาน ผ่านรูปแบบการแจ้งเป็นเอกสารจากเจ้าหน้าที่บริหารจัดการทุนหรือการส่งผ่านทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ทำให้นักวิจัยไม่ได้รับความสะดวกรวดเร็วอย่างทันท่วงที วช. ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวจึงพัฒนาระบบ NRIIS Project Tracking เพื่อใช้ในการติดตามสถานะโครงการวิจัยแบบ Real Time ซึ่งจะช่วยอํานวยความสะดวกให้นักวิจัยสามารถติดตามกระบวนการขอทุนวิจัย ตั้งแต่การยื่นข้อเสนอจนกระทั่งได้รับอนุมัติหรือปฏิเสธ โดยระบบจะช่วยให้นักวิจัยสามารถติดตามสถานะข้อเสนอทุนวิจัยได้อย่างต่อเนื่อง



              นอกจากกิจกรรมเปิดตัวระบบ NRIIS Project Tracking ตามติดทุกความเคลื่อนไหว ยังมีการเสวนา เรื่อง “ตามติดทุกความเคลื่อนไหว กับ NRIIS Project Tracking” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.อภิศักดิ์ ธีระวิสิษฐ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวถึงระบบติดตามสถานะคำรับรอง (MoA) หรือ TSRIIS ใช้ในการจัดสรรและบริหารงบประมาณ ววน. ให้สอดคล้อดกับแผนด้าน ววน. ของประเทศ และรองศาสตราจารย์ ดร.สุภาภรณ์ เกียรติสิน หัวหน้าทีมพัฒนาระบบ NRIIS คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่าถึงระบบ NRIIS Project Tracking เมื่อนักวิจัยส่งข้อเสนอโครงการเรียบร้อยแล้ว จะได้รับรหัสติดตามสถานะโครงการจากหน้าระบบและจากอีเมล์ที่นักวิจัยได้ลงทะเบียนไว้ โดยติดตามสถานะโครงการผ่านทาง https://projtrack.nriis.go.th หรือคลิกที่หน้าระบบ NRIIS เพื่อเข้าสู่หน้าติดตามสถานะโครงการ รองรับทั้ง PC และ Mobile Interface




              การจัดกิจกรรม NRIIS Project Tracking ตามติดทุกความเคลื่อนไหว ในครั้งนี้ จึงจัดขึ้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจและเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ประสบการณ์ และเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบถึง นโยบาย กระบวนการบริหารจัดการทุนวิจัยในระดับนโยบาย และแหล่งทุน รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้นักวิจัย และหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรม ทราบแบะมีความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการงบประมาณ Fundamental Fund (FF) และ Strategic Fund (SF) ตลอดจนการใช้งานระบบ NRIIS Project Tracking ในการติดตามสถานการณ์การดำเนินงานของโครงการ โดยกลุ่มเป้าหมายของผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วยนักวิจัย ผู้บริหารจัดการทุน เจ้าหน้าที่บริหารจัดการทุน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน











3
“Summer Retreat” ชวนคุณหลบร้อนไปพักผ่อนกลางทะเลอันดามัน กับส่วนลดห้องพักสูงสุดกว่า 50% ณ โรงแรมเคปกูดู เกาะยาวน้อย


              เคปกูดู เกาะยาวน้อย โรงแรมสไตล์บูทีกสุดหรูหราบนเกาะยาวน้อย จ.พังงา จุดหมายปลายทางอันมีเสน่ห์และรุ่มรวยด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่นกลางท้องทะเลอันดามัน  และเจ้าของรางวัลทราเวลเลอร์ส ชอยส์ (Traveler’s Choice) ประจำปี 2024 จากทริปแอดไวเซอร์ (TripAdvisor) เชิญชวนนักท่องเที่ยวหนีร้อนมาผ่อนคลายสบายใจในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย โปรโมชัน “ซัมเมอร์ รีทรีต” (Summer Retreat) เพียงแค่จองห้องพัก 2 คืนขึ้นไปผ่านเว็บไซต์ของโรงแรม ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2567 สำหรับการเข้าพักในระหว่างวันที่ 1-30 มิถุนายน 2567 และระหว่างวันที่ 1-30 กันยายน 2567 นี้ รับส่วนลดสูงสุดทันทีกว่า 50% ในราคาเริ่มต้น 3,600 บาทสุทธิต่อห้องต่อคืน (ราคาขึ้นอยู่กับประเภทห้องพักและเฉพาะห้องพักที่ร่วมรายการ)




              โปรโมชัน Summer Retreat  สามารถใช้ได้กับห้องพักประเภทดีลักซ์, ดีลักซ์ ซีวิว รวมทั้ง บ้านอยู่เย็น (พูลวิลล่าสองห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำที่เป็นส่วนตัว 2 สระ)

              สิทธิพิเศษและเงื่อนไข

-          อาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน

-          อภินันทนาการเค้กสำหรับโอกาสพิเศษ (โปรดแจ้งหลักฐานก่อนรับบริการ เช่น วันเกิด วันครบรอบ หรือวันฮันนีมูน)

-          อภินันทนาการเข้าพักก่อนเวลา เช็คอินได้ตั้งแต่เวลา 10.00 น. และเลทเช็คเอาท์ได้ถึงเวลา 14.00 น. (ขึ้นอยู่กับจำนวนห้องพักว่างในแต่ละวัน)

-          อภินันทนาการเครื่องดื่มต้อนรับเมื่อเดินทางมาถึงโรงแรมฯ

-          โรงแรมในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไข โดยหากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าผ่านทางช่องทางการติดต่อสื่อสารของโรงแรมฯ






              สำรองห้องพักได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2567 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองห้องพัก กรุณาติดต่อ โทร 07-6592-600 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.capekuduhotel.com/offers/

###

              โรงแรมเคปกูดู เกาะยาวน้อย ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในโรงแรมติดชายหาดที่สวยที่สุดในประเทศไทย โดย Small Luxury Hotels of the World โดดเด่นด้วยทัศนียภาพอันสวยงามของอ่าวพังงา รายล้อมด้วยภูเขาหินปูนและเกาะน้อยใหญ่เรียงรายขนานกับเส้นขอบฟ้าจรดกับท้องทะเลสีเขียวครามสดใส เปรียบเช่นอัญมณีแห่งท้องทะเลอันดามัน ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของแมกไม้นานาพันธุ์และธรรมชาติที่บริสุทธิ์งดงาม สอดประสานกับวิถีชีวิตชาวเกาะที่เรียบง่ายทว่าน่าหลงใหล พร้อมการพักผ่อนเหนือระดับในโรงแรมหรูหราระดับ 5 ดาว ที่เน้นดีไซน์สวยงามกลมกลืนกับธรรมชาติ และการใช้โทนสีเทอร์ควอยซ์สร้างความสดใส และในขณะเดียวกันให้ความรู้สึกถึงกลิ่นอายของท้องทะเลที่ทอดตัวอยู่เบื้องหน้า เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับการพักผ่อนอย่างเต็มที่
4
อลิอันซ์ อยุธยา “Family Day 2024” พาลูกค้าท่องโลกใต้ทะเล SEA LIFE Bangkok




              อลิอันซ์ อยุธยา ส่งความสุขให้ลูกค้าคนพิเศษและครอบครัว จัดกิจกรรมวันครอบครัว “Family Day 2024 SEA LIFE Bangkok” สัมผัสประสบการณ์ท่องโลกใต้ท้องทะเล สำรวจสัตว์ทะเลนานาชนิด ท่องโลกใต้ท้องทะเลจำลอง พร้อมกิจกรรมสุดพิเศษ รับของที่ระลึกและรางวัลมากมาย โดยมีลูกค้าและสมาชิกในครอบครัว พร้อมด้วยผู้บริหาร พนักงาน ฝ่ายขายและพันธมิตรร่วมงานกว่า 1,000 คน ณ SEA LIFE Bangkok สยามพารากอน


              นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารงานลูกค้า บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า “อลิอันซ์ อยุธยา จัดกิจกรรม Family Day 2024 เพื่อตอกย้ำการดำเนินกลยุทธ์ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มุ่งสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสุขความสัมพันธ์ในครอบครัวให้กับลูกค้า พร้อมสร้างประสบการณ์สุดพิเศษเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า ฝ่ายขายและบริษัทฯ สำหรับกิจกรรมในปีนี้จัดขึ้นที่ SEA LIFE Bangkok สยามพารากอน พาลูกค้าร่วมสัมผัสประสบการณ์ท่องโลกใต้ต้องทะเล เพลิดเพลินไปกับสัตว์ใต้น้ำนานาชนิด


              นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมตามหาสัตว์ใต้ท้องทะเล ตามหาสัตว์ Secret เพื่อแลกรับของรางวัลสุดน่ารักจุดถ่ายรูปเช็คอิน ยังมีรางวัล Lucky draw ให้กับลูกค้าที่มาร่วมงาน อาทิ ทองคำ หนัก 1 สลึง, บัตรกิจกรรมใน Sea life “Glass Bottom Boat”, บัตรชมภาพยนตร์ Major 4D ,Central Voucher, กระเป๋าล้อลากขนาด 20” เป็นต้น




              การจัดกิจกรรม Family Day 2024 ในครั้งนี้ บริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความสุข ให้กับผู้ที่มาร่วมงาน บริษัทฯ มุ่งมั่นสร้างความสุข ความพึงพอใจและพัฒนาบริการให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
5
กล้าฝันกล้าสนุก เมื่อสเปอร์ชวนผมไปดูบอลที่อังกฤษ!!!




   จุดเริ่มต้นเพียงอยากไปดูทีมรัก ‘สเปอร์’ ในสนามจริงสักครั้งในชีวิต วิน-กวินท์ พหลพิพัฒน์ จึงเปิดโปรเจคเก็บเงินไปดูบอลที่อังกฤษ ด้วยการเปิดแอคเคาท์อินสตาแกรม @5906milestospurs ขึ้น โดยจะหยอดเงินในกล่องตามจำนวน follower ที่มาติดตามในแต่ละวันไปเรื่อย ๆ เริ่มต้นในวันที่ 12 เมษายน 2024 และมีแผนจะค่อย ๆ เก็บเงิน เพื่อไปดูการแข่งขันในปีหน้า 2025

   Challenge “I saving money for every follower I have to go watch Spurs at Tottenham Hotspur Stadium” เริ่มต้นด้วย follower เพียง 3 คน จนกลายเป็น 69,700 คน ในเวลา 1 อาทิตย์ ด้วยระยะทางจากนนทบุรี ไปถึง Tottenham Hotspur Stadium คือ 5,906 ไมล์ จึงเป็นที่มีของชื่อแอคเคาท์ @5906milestospurs ตัวคุณวิน เองก็คิดว่าคงมี follower เพิ่มไปเรื่อย ๆ วันละ 60-200 คน ถือเป็นการเก็บเงินไปแบบสบาย ๆ ใครจะไปคิดว่า เพียงวันที่ 3 ของ Challenge จำนวน follower จะพุ่งขึ้นไปถึง 20,100 คน และในวันที่ 4 จำนวน follower ทะยานไปถึง 69,700 คน แต่ปาฏิหาริย์ยังไม่จบแค่นี้ เมื่อคุณวิน ได้รับเชิญจากสโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ และ FUN88 พันธมิตรอย่างเป็นทางการ ให้ไปชมการแข่งขันที่ประเทศอังกฤษ

   “ใช่ครับ สเปอร์ชวนผมไปดูบอลที่อังกฤษ ทางสเปอร์และผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของสเปอร์อย่าง FUN88 ชวนผมไปดูฟุตบอลนัดหนึ่งที่อังกฤษ นัดที่เจอกับเบิร์นลีย์ที่บ้าน พาไปทัวร์สนามแข่งและพาไปดูสนามซ้อมซึ่งยังไม่เคยมีใครได้ไปดูสนามซ้อมของสเปอร์มาก่อน เป็นครั้งแรกและเป็นคนแรกที่ได้ไปดู ซึ่งผมตื่นเต้นมาก มันเกินฝันผมไปมาก ๆ ต้องขอบคุณทางสเปอร์และผู้สนับสนุนหลักอย่าง FUN88 ที่ชวนผมไปเจอกับประสบการณ์และโอกาสในครั้งนี้มาก ๆ ครับ”





   11 พฤษภาคม 2024 ดีเดย์ สเปอร์ พบ เบิร์นลีย์ วันที่ 1 ฝัน 1 Bucket list เป็นจริง เกินฝันไปมาก ๆ และเป็นนัดที่สเปอร์ชนะด้วยสกอร์ 2-1 หากคุณวินไม่เริ่มกล้าที่ฝันในวันนั้น ก็คงไม่ได้รับประสบการณ์ฟุตบอลที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตแบบนี้ FUN88 สนับสนุนให้ทุกคนกล้าเดินตามฝัน และฝันของคุณเป็นจริงได้ที่นี่ ติดตามกิจกรรมสนุก ๆ ในอนาคตได้ที่ https://www.facebook.com/FUN88AsiaTH 

รับชมเรื่องราวทั้วหมดของคุณวินได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=7yjkP_URZtc


#FUN88 #FUN88Asia #FunSportsThailand #FUNxพรีเมียร์ลีก #FUNxNewcastle #FUNxSpurs   #กล้าฝันกล้าสนุก  #ไก่เดือยทอง #ฝันเป็นจริงกับFUN88 #ติดขอบสนามไก่เดือยทอง #DaretodreamDaretoFUN #EURO2024 #eurohavefun #ยูโร2024 #fun88newsthai
[/size]
6
อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประกาศความพร้อมในงาน Cosmoprof CBE ASEAN Bangkok 2024
พร้อมเปิดประตูสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมความงามในภูมิภาคอาเซียน
พบนวัตกรรมและเทรนด์ใหม่ๆ จากผู้ผลิตกว่า1,500 แบรนด์ทั่วโลก


กรุงเทพฯ : Cosmoprof CBE ASEAN Bangkok 2024 งานแสดงสินค้าความงามระดับโลกเริ่มแล้ว ตั้งแต่วันที่ 13-15 มิ.ย. 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้จัดงานฯ มั่นใจนวัตกรรมและเทรนด์ใหม่ๆ จากผู้ผลิตกว่า 1,500 แบรนด์ทั่วโลก จะช่วยผลักดันธุรกิจอุตสาหกรรมความงามในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนเติบโตต่อเนื่อง

นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า หากดูข้อมูลของ EUROMONITOR INTERNATIONALจะพบว่าอุตสาหกรรมความงามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตขึ้นทุกปี โดยถือเป็นการเติบโตแบบ Double-Digit ตั้งแต่ปี 2566 -2567 และประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในตลาดที่มีการดำเนินงานดีที่สุดในภูมิภาค โดยคาดว่าตลาดความงามของไทยจะเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 11% เมื่อเทียบกับปี 2566ทั้งนี้การจัดงานแสดงสินค้าความงามระดับโลก หรือ Cosmoprof CBE ASEAN Bangkok 2024 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 มิ.ย. 67 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง 3 ผู้จัดงานระดับโลก BolognaFiere, Informa Markets และ Shanghai Baiwen Exhibition Co Ltd. โดยเชื่อมั่นว่างานนี้จะช่วยเป็นเวทีกลางการเจรจาธุรกิจของอุตสาหกรรมความงามอาเซียน และเป็นศูนย์รวมด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีความงามจากนานาประเทศเข้าจัดแสดงไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมความรู้ด้านธุรกิจความงาม พร้อมสร้างแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจที่มีศักยภาพผ่านกิจกรรมต่างๆภายในงานอีกด้วย



นางสาวแองเจิล ฟู ผู้อำนวยการโครงการ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ (Ms. Angel Fu Event Director, Informa Markets) กล่าวว่า เราเชื่อว่างาน Cosmoprof CBE ASEAN Bangkok 2024 จะช่วยผลักดันและตอกย้ำการเติบโตของตลาดความงามอาเซียน รวมถึงประเทศไทยได้เป็นอย่างดี โดยภายในงานมีผู้ผลิตสินค้าและนวัตกรรมเกี่ยวกับความงามร่วมงานมากกว่า 1,500 แบรนด์ และคาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนเข้าชมงานแสดงสินค้ามากกว่า 14,000 คน ทั้งคนไทย และนานาประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อาร์เจนตินา, ออสเตรเลีย, จีน, ฝรั่งเศส, ฮ่องกง, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, โปรตุเกส, สิงคโปร์, ไต้หวัน, ไทย, สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม ขณะเดียวกันภายในงานยังมีพาวิลเลียนจัดแสดงสินค้าอีก 4 ประเทศ ได้แก่ จีน อิตาลี เกาหลีใต้ และไทยมาช่วยเพิ่มประสบการณ์และสร้างสีสันให้กับผู้เข้าชมงานอีกด้วย


นางสาวฟรานเชสกา โดนาติ ผู้บริหารด้านการตลาดระหว่างประเทศ เอเชีย โบโลญญาเฟียร์ คอสโมพรอฟ (Ms. Francesca Donati Head of International Marketing for Asia, Bolognafiere Cosmoprof) กล่าวว่า เราได้มีการพัฒนาแพลตฟอร์ม Match&Meet ที่จะช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย สามารถกำหนดเวลาการนัดหมายเจรจาธุรกิจ หรือพูดคุยออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นตามความต้องการ ผ่านแพลตฟอร์มเจรจาธุรกิจออนไลน์ที่เราเตรียมไว้ให้ ทั้งนี้ภายในงานยังประกอบไปด้วยโซนแสดงสินค้าหลากหลายประเภทหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น สปาไทย, MEDICAL BEAUTY, BEAUTY MADE IN THAILAND, FOOD SUPPLEMENTS และ THAI PREMIUM BRANDS เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสัมมนาความรู้อย่าง CosmoTalks ซึ่งเป็นเวทีสัมมนาการพูดคุยเชิงกลยุทธ์ แนวโน้ม และภาพรวมต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญ ที่จะส่งผลต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมความงามในภูมิภาคอาเซียน เช่น ผลกระทบของความยั่งยืนใน Supply Chain รวมไปถึง แนวโน้มที่พฤติกรรมการซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์ความงามของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ เป็นต้น


นางเกศมณี เลิศกิจจา ประธานคลัสเตอร์ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และ นายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดความงามและเครื่องสำอางไทยในปี 2023 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 250,380 ล้านบาท เติบโตขึ้น 11.5% โดยแบ่งเป็นสินค้ากลุ่มพรีเมียมที่นำเข้าจากต่างประเทศ 46,012.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.7% และกลุ่มสินค้าทั่วไปที่ผลิตในประเทศ 204,368.15 ล้านบาท ทั้งนี้การเติบโตของสินค้าส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่มสกินแคร์ 41% กลุ่มดูแลเส้นผม 16% และกลุ่มเครื่องสำอาง 12% โดยเราพบว่ากว่า 72% ของสินค้าที่ขายดีนั้นผลิตในประเทศไทย โดยปัจจุบันตลาดความงามและเครื่องสำอางของประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 19 ของด้วยส่วนแบ่ง 1.5% (ยกเว้นผ้าอนามัยและผลิตภัณฑ์สปา)


อย่างไรก็ตามหากดูข้อมูลจาก GRAND VIEW RESEARCH ระบุว่า มูลค่าเครื่องสำอางของโลกในปี 2030 จะอยู่ที่ 12.38 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 13,146 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนมูลค่าเครื่องสำอางของประเทศไทยในปี 2030 คาดการณ์อยู่ที่ 323,000 ล้านบาท ซึ่งจะเติบโต 1.5 เท่าของปี 2022 โดยแบ่งเป็นสัดส่วนกลุ่มสินค้าทั่วไปที่ผลิตในประเทศ 85% และสินค้ากลุ่มพรีเมียมที่นำเข้าจากต่างประเทศ 15%

สำหรับเทรนด์ความงามและการดูแลส่วนบุคคลในปี 2024 นี้ ความตระหนักรู้ของผู้บริโภคส่งผลให้กลุ่ม Clean Beauty จะทำให้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยเป็นมิตรกับธรรมชาติ, เครื่องสำอางที่ไม่ได้ทำการทดสอบกับสัตว์ หรือ Cruelty Free, ความต้องการผลิตภัณฑ์ความงามจากธรรมชาติ หรือสินค้าออร์แกนิค รวมถึงเครื่องสำอางที่ให้ความสำคัญของผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ หรือ เมคอัพเบา ๆ จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ที่ไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนด้วย



"เราเชื่อว่า 4 ปีต่อจากนี้ (2024-2028) อุตสาหกรรมความงาม และเครื่องสำอางไทยจะยังคงเติบโตต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้ผลิตทั้ง OEM/EDM หรือการหาซัพพลายเออร์หลักเพื่อส่งไปยังตลาดหลักๆ เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันแบรนด์จากต่างประเทศจำนวนมากได้เลือกไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต เนื่องจากรัฐบาลได้เสนอการลงทุนสำหรับแบรนด์เครื่องสำอางนานถึง 8 ปี ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงวัตถุดิบคุณภาพดีได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญต้นทุนการผลิตไม่ได้สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน"

ทั้งนี้งานแสดงสินค้าความงาม Cosmoprof CBE ASEAN 2024 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 มิ.ย. 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยผู้เข้าร่วมชมงานจะได้พบกับผู้ประกอบการชั้นนำด้านธุรกิจความงาม ครบทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งในส่วนของโซนกลุ่มผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป (Branded Finished Products) จะมีผลิตภัณฑ์เช่นเครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์ร้านเสริมความงามและสปา, กลุ่มผมและเล็บ, กลุ่มธรรมชาติและออร์แกนิค, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้ได้เลือกจับคู่ธุรกิจด้วยเช่นกัน



นอกจากนี้ยังมีโซนที่ตอบโจทย์กลุ่มการผลิตทั้งอย่างโซน Supply Chain ที่ประกอบด้วยสินค้ากลุ่ม OEM&ODM, เครื่องจักรและอุปกรณ์, วัตถุดิบและส่วนผสม, บรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ภายในงานยังมีโซนจัดแสดงพิเศษ ที่จะมาเติมเต็มความรู้เรื่องเทรนด์ความงามและข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรม รวมถึงความก้าวหน้าของนวัตกรรมความงามจากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย นายสรรชาย กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสารและรายละเอียดงานเพิ่มเติมได้ที่ http://www.cosmoprofcbeasean.com
ลงทะเบียนออนไลน์เพื่อเข้าร่วมงานได้ที่ https://www.cosmoprofcbeasean.com/registration
7
MOVE EV X ชวนผู้ประกอบการเปิดสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่
พร้อมการันตีรายได้หรือเลือกรับสิทธิพิเศษอื่น ๆ


             MOVE EV X (มูฟ-อี-วี-เอกซ์) ธุรกิจขายและให้บริการสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จัดแสดงนวัตกรรมสะอาดหรือสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ในงาน Money Expo 2024 เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ชมการสาธิต และทดลองใช้งานสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ MOVE EV X โดยผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นธุรกิจกับ MOVE EV X ในรูปแบบ S วงเงินการลงทุนเริ่มต้น 679,000 บาท และรูปแบบ M วงเงินการลงทุนเริ่มต้น 1,969,000 บาท พิเศษลูกค้าที่สั่งจองและมัดจำภายในงาน สามารถเลือกการการันตีรายได้ 26,730 บาทต่อเดือน (ระยะเวลา 12 เดือนในพื้นที่ Hot Zone) หรือ รับทองคำแท่งน้ำหนัก 1 - 3 บาท (ขึ้นอยู่กับโมเดลธุรกิจที่ลงทุน) พบกันที่งาน Money Expo 2024 บูธ S6 ชาเลนเจอร์ 2 - 3 อิมแพค เมืองทองธานี วันที่ 16 – 19 พฤษภาคมนี้

###

เกี่ยวกับ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด

บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด (H SEM Motor Co., Ltd.) บริษัทในเครือ ฮั้วเฮงหลี กรุ๊ป ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รถกอล์ฟไฟฟ้า รถสามล้อไฟฟ้า และรถสามล้อเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ภายใต้ชื่อ “เอช เซม” เพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าทั้งในกลุ่มเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการใช้ระบบขนส่งที่มีความคล่องตัว ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม ในราคาที่จับต้องได้ ดูข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hsemmotor.com/ หรือ www.facebook.com/hsemmotor.sev  และ www.facebook.com/hsemmotor.stc

เกี่ยวกับ บริษัท เอช เซม เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด

บริษัท เอช เซม เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (H SEM Trading Corporation Co.,Ltd.) บริษัทในเครือ ฮั้วเฮงหลี กรุ๊ป เป็นบริษัทรับผิดชอบดูแลการจัดจำหน่าย แต่งตั้งดีลเลอร์ และกำหนดกลยุทธ์การตลาดให้กับสินค้าของ เอช เซม ทั้งในประเทศไทยและประเทศในเขตภูมิภาคลุ่มน้ำโขง หรือ CLMV ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่เวบไซต์ https://www.hsemmotor.com/ หรือแฟนเพจ www.facebook.com/hsemmotor.sev และ www.facebook.com/hsemmotor.stc
8
okmd จับมือ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ
สนับสนุนการนำเทคโนโลยีมาใช้ “ติดอาวุธการเรียนรู้สมัยใหม่” ให้กับประชาชน


              สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) ร่วมกับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการสนับสนุนให้มีการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในงานบริการองค์ความรู้แก่ประชาชน รองรับการเปิด “ศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติ” ต้นแบบแหล่งเรียนรู้สาธารณะสมัยใหม่ ขนาดใหญ่แห่งใหม่ บน ถ.ราชดำเนิน มุ่งสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงความรู้ พร้อมส่งเสริมพัฒนาทักษะและศักยภาพคนไทยทุกช่วงวัย ด้วยบริการความรู้ และกิจกรรมความรู้ที่มีประสิทธิภาพหลากหลาย ครบวงจร ในปี 2570 นี้

              ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ กล่าวว่า “โลกปัจจุบันมีการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การให้ความรู้และทักษะใหม่ๆ แก่ประชาชน ให้ปรับตัวเข้ากับกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศ พัฒนาศักยภาพ และยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน OKMD จึงเล็งเห็นความสำคัญว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีการพัฒนาพื้นที่เรียนรู้ หรือแหล่งเรียนรู้สาธารณะสมัยใหม่ที่มีมาตรฐานการให้บริการในระดับสากล สามารถให้บริการความรู้ด้วยรูปแบบ กระบวนการ และเทคโนโลยีที่หลากหลาย เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการเรียนรู้ของคนไทยในแต่ละช่วงวัย และเปิดโอกาสให้ได้พัฒนาความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ผ่านกิจกรรมกระตุ้นความสนใจเรียนรู้ จึงได้เตรียมพร้อมเปิดให้บริการศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติ บน ถ.ราชดำเนิน พื้นที่รวมกว่า 20,000 ตารางเมตร ภายในปี 2570 นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวมาใช้บริการไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านคนต่อปี รวมถึงเข้าใช้บริการการเรียนรู้ออนไลน์ไม่น้อยกว่า 100 ล้านคน/ครั้ง ต่อปี ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีความทันสมัย สามารถรองรับกับกิจกรรมทุกๆ รูปแบบที่จะเกิดขึ้น”

              “การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคม และดิจิทัลชั้นนำของประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานครบวงจรมากที่สุด และมีศักยภาพสูงในการนำเอาดิจิทัลมาให้บริการแก่ประชาชน โดยการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกับแนวทางการบริหารจัดการความรู้สมัยใหม่ที่ช่วยในการขับเคลื่อนกระบวนการเรียนรู้ เพื่อสร้างสรรค์และเชื่อมต่อทุกองค์ความรู้ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล จะเป็นการติดอาวุธการเรียนรู้สมัยใหม่ให้เกิดกับคนไทยทุกคน” ดร.ทวารัฐ กล่าว

              ด้านพันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้จะนำไปสู่การศึกษาและพัฒนาแนวทางพัฒนาองค์ความรู้ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและดิจิทัลที่เกี่ยวข้องร่วมกัน รวมทั้งแนวทางการใช้ทรัพยากรซึ่งกันและกันในการให้บริการแก่ประชาชน เช่น อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม ทรัพยากรบุคคล สถานที่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังศึกษาและพัฒนาแนวทางในการนำนวัตกรรมด้านดิจิทัลและ AI ไปใช้พัฒนาศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการความรู้ที่ครบวงจรแก่ประชาชน โดยจะจัดตั้งคณะทำงานร่วมในการศึกษาการดำเนินการร่วมกันระหว่าง OKMD และ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติในลำดับต่อไป”
9
คาเฟ่ แคนทารี จัดเต็มเมนูคลายร้อนหวานเย็นชื่นใจ
กับ “Kakigori” 3 รสชาติใหม่ต้องลอง ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2567


             ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2567 คาเฟ่ แคนทารี ขอเชิญชวนทุกท่านมาลิ้มลองเมนูใหม่ หวานเย็นชื่นใจกับ “คากิโกริ (Kakigori)” ทั้ง 3 รสชาติ “บลูเบอร์รีชีสพาย” กรุบกรอบกับชีสแครกเกอร์  และ แยมบลูเบอร์รีที่เข้ากันอย่างลงตัวกับน้ำแข็งใสเนื้อนุ่มฟูดุจปุยหิมะ ท็อปด้วยครีมพรีเมียมสูตรพิเศษสไตล์คาเฟ่ แคนทารี ในราคาเริ่มต้น 185 บาทสุทธิ ณ คาเฟ่ แคนทารี สาขาอยุธยา ปราจีนบุรี และเกาะยาวน้อย,  “ชาไทย” คากิโกริรสชาไทยเข้มข้นหวานมัน หอมอร่อยเต็มคำพร้อมความหนึบหนับเคี้ยวเพลินของเม็ดบุกบราวน์ชูการ์ ในราคาเริ่มต้น 175 บาทสุทธิ ณ คาเฟ่ แคนทารี สาขาอยุธยา และ เกาะยาวน้อย, “ทรอปิคอลฟรุ๊ตเจลลี่” สดชื่นกับคากิโกริรสผลไม้ ผสานความอร่อยกับรสเปรี้ยวหวานของสับปะรด เงาะ ลิ้นจี่ และปีโป้  ในราคาเพียง 185 บาทสุทธิ ณ คาเฟ่ แคนทารี ปราจีนบุรี






             สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Call Centre: 1627 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์www.cafekantary.com

*โรงแรมในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไข
โดยหากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าผ่านทางช่องทางการติดต่อสื่อสารของโรงแรมฯ
10
Absorba แบรนด์พรีเมี่ยมจากฝรั่งเศส เปิดตัวสินค้าใหม่กลุ่มเบบี้แคร์สูตรออร์แกนิกเอาใจกลุ่มคุณแม่ยุคใหม่


             Absorba แบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของเสื้อผ้าเด็กแรกเกิดมายาวนานมากกว่า 30 ปี นอกจากเสื้อผ้าของแบรนด์ที่มีคอนเซปต์หลัก คือ การคัดเลือกผ้าคอตตอนที่สัมผัสนุ่มและอ่อนโยนต่อผิวเด็กแรกเกิด แบรนด์ยังต่อยอดด้วยการออกผลิตภัณฑ์มาตอบโจทย์ของคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องการดูแลลูกอย่างอ่อนโยนด้วยสูตรออร์แกนิกทั้งหมด 3 ผลิตภัณฑ์ ที่มีสารสกัดหลักมาจากธรรมชาติ เพราะแบรนด์ใส่ใจในเรื่องของความอ่อนโยนเป็นอันดับ 1




ผลิตภัณฑ์ใหม่ของแบรนด์ Absorba มีด้วยกันทั้งหมด 3 ผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์ของคุณแม่ยุคใหม่ ได้แก่




             1.      Absorba Organic extra Moisture Lotion โลชั่นบำรุงผิวกายสูตรอ่อนโยน ให้ชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง (ขวดสีชมพู) โลชั่นบำรุงผิวกาย ใช้ทาผิวเด็กเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เนียนนุ่ม ล็อกความชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ด้วยคุณค่าจากสารสกัด Bisabolol จากน้ำมันแคนเดีย ที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวให้มีสุขภาพดี เนื้อครีมเข้มข้น ซึมซาบไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ให้ลูกรู้สึกสบายผิวมากขึ้

             2.      Absorba Organic Baby Shampoo แชมพูเด็ก มีสารสกัดจากดอกคาโมไมล์ ประเทศฝรั่งเศส อ่อนโยนต่อเส้นผม และหนังศีรษะ ทำให้ผมดูเงางามอย่างมีสุขภาพดี และนอกจากใช้กับลูกแล้ว ก็สามารถใช้ได้กับทุกคนในครอบครัวอีกด้วย

             3.      Absorba Organic Baby hair moisture conditioner (ขวดสีฟ้าขวามือ) ครีมนวดผมสูตรอ่อนโยนพิเศษ ให้ผมนุ่มลื่น ไม่พันกันครีมนวดผมสำหรับเด็ก บำรุงเส้นผมอย่างอ่อนโยน โดยนำมาใช้คู่กันกับแชมพูสระผม จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยบำรุงให้ผมนุ่มลื่น ไม่พันกัน ผมมีความเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ

             สำหรับคุณแม่ท่านไหนที่กำลังมองหา ผลิตภัณฑ์เด็ก ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวที่บอบบาง Absorba ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะเน้นเอสเซนส์ออร์แกนิกแล้ว ยังผ่านการทดสอบDermatologically Tested ผ่านการทดสอบการระคายเคืองภายใต้การควบคุมของแพทย์จากสถาบันทดสอบทางผิวหนัง ช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ใช้อย่างแน่นอน

             หากสนใจผลิตภัณฑ์ Absorba สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางของแบรนด์ FB : Absorba TH หรือ IG : absorba.thailand หรือ TikTok: absorbath เลือกซื้อสินค้าได้ที่สาขาหน้าร้าน CENTRAL ,The Mall ,Robinson , Icon Siam ทั่วประเทศ หรือซื้อออนไลน์ได้ทาง Shopee: https://citly.me/y471w และ Lazada: https://citly.me/oCa8D
Pages: [1] 2 3 ... 10