Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - wmt

Pages: 1 ... 139 140 [141] 142 143 ... 155
2101


“การสรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน ปีที่ 5”  ในโครงการ “ลับสมอง ประลองปัญญา
สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน ครั้งที่ 5”  ได้เริ่มขึ้นแล้ว
------------------------------------------------
วันที่ 14 - 15 สิงหาคม 2553 ที่ผ่านมา มีการสรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน ปีที่ 5 ประเภทเดี่ยวอายุ 4-6 ปี ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เริ่มขึ้นเป็นที่แรก ซึ่งการสรรหาหนูน้อยนักเล่านิทานในกรุงเทพฯ ยังคงมีต่อเนื่องทุกวันเสาร์ และวันอาทิตย์ ตลอดเดือนสิงหาคม
   สำหรับจังหวัดราชบุรี และจังหวัดเชียงราย ได้คนเก่งกันแล้ว!
รายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ
จ. ราชบุรี
•   ประเภทเดี่ยว 4-6 ปี
รางวัลชนะเลิศ – ด.ญ.อนิญชนา ถาวงราม
รองชนะเลิศ อันดับ 1 – ด.ญ. ศุภิสรา แซ่เฮา
รองชนะเลิศ อันดับ 2 – ด.ช.นรวิชญ์ ถิ่งโพธิ์วงศ์

•   ประเภทเดี่ยว 6-9 ปี
รางวัลชนะเลิศ – ด.ญ. ณัฎฐรีย์ คชาพงษ์
รองชนะเลิศ อันดับ 1 – ด.ญ.ระพีพัฒน์ ศรีเงิน
รองชนะเลิศ อันดับ 2 – ด.ญ.ฐิตาภา ฤทธิจันทร์
รองชนะเลิศ อันดับ 2 – ด.ญ.ธัญลักษณ์ ภูริวัฒน์

•   ประเภททีมครอบครัว
รางวัลชนะเลิศ – ทีมบาร์บี้เกิร์ล

จ. เชียงราย
•   ประเภทเดี่ยว 4 - 6 ปี
รางวัลชนะเลิศ – ด.ญ.พรรณรมณ บุญล้อม
รองชนะเลิศ อันดับ 1 – ด.ญ.วรรณิษา วงศ์สาย
รองชนะเลิศ อันดับ 2 – ด.ญ.สุตาภัทร วงค์หนัก
รองชนะเลิศ อันดับ 2 – ด.ญ.อมิตา มณีโสภณ



•   ประเภทเดี่ยว 6-9 ปี
รางวัลชนะเลิศ – ด.ญ.ชนกนันท์ ทองสุข
รองชนะเลิศ อันดับ 1 – ด.ญ.เบญญา มั่นรอด
รองชนะเลิศ อันดับ 2 – ด.ช.สรัชชพงศ์ วรพิศาล
รองชนะเลิศ อันดับ 2 – ด.ญ.กรินรวี สอนภิรมย์

•   ประเภททีมครอบครัว
รางวัลชนะเลิศ – ทีมจอมโจร

สำหรับผู้ที่อยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง       สามารถไปร่วมเป็นกำลังใจ ร่วมชม        ร่วมเชียร์   เด็กเก่งของเราได้ในวันที่ 3 - 4 กันยายน 2553 ณ โรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-2241-8000 ต่อ 341 หรือ 0-2628-8818

2102


MTS Gold แม่ทองสุก เดินหน้าให้ความรู้ลูกค้าลงทุนทองผ่าน MTS ACADEMY จัดสัมมนา “ฝ่าวิกฤตตู้แดงด้วยโกลด์ฟิวเจอร์ส” ให้ร้านทองชั้นนำ

ก่อนหน้านี้ ค่ายเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จัดสัมมนาทองคำคราใด ก็จะเห็นคุณหมอกฤชรัตน์ หิรัณยศิริ เป็นผู้เดินสายให้ข้อมูลในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญมือหนึ่งในเรื่องการลงทุนทองคำแบบครบวงจร แต่วันนี้คุณลูกชายสุดหล่อ ณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ส ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นของคุณหมอ ในฐานะคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจทองคำมาแต่อ้อนแต่ออก ขนาดออกไอเดียเก๋ให้คุณพ่อตั้ง MTS ACADEMY หรือ สถาบันการลงทุนทองคำที่ครบวงจร พร้อมจัดหลักสูตรการให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนทองคำที่ครบถ้วน ทั้งทองแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์สให้นักลงทุนตั้งแต่มือสมัครเล่น ไปจนมืออาชีพฟังกันเลยเชียว ล่าสุดเป็นวิทยากรในกิจกรรมสัมมนาด้วยตัวเอง บรรยายหัวข้อ "ฝ่าวิกฤตตู้แดงด้วยโกลด์ฟิวเจอร์ส" ให้กับบรรดาเจ้าของกิจการร้านทองชั้นนำหลายสิบราย ส่วนใครอยากรู้เรื่องลงทุนทองคำแบบไหน จะได้กำไรเท่าไหร่ หรือแก้ขาดทุนพอร์ตทองคำอย่างไรกับค่ายเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ก็จองที่นั่งเรียนในแต่ละคลาสกันเอาเอง ได้ที่ www.mtsgold.co.th  หรือ โทร 02-222-5959 เลยนะจ๊ะ

2103




ไซแมนเทครายงานสถานการณ์อีเมลขยะและฟิชชิ่งประจำเดือนสิงหาคม 2553 จับตา 5 แนวโน้ม “สแปมและฟิชชิ่ง” เผยภาพรวม “อีเมลขยะ” เดือนสิงหาคม 2553 โตกว่า “91.89%” 

ไซแมนเทคส่งสัญญานเตือนภัย “อีเมลขยะเกี่ยวกับสุขภาพ” เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 13% (จาก 8% เป็น 21%) ซึ่งมีทั้งโฆษณาขายยาออนไลน์ ทั้งยาจริง และยาปลอม ส่วนขนาดของข้อความที่เคยส่งกันมากกว่า 10k กลับลดลง 9% ซึ่งเป็นเพราะจำนวนอีเมลขยะซึ่งสอดแทรกมัลแวร์มาด้วยนั้นลดลง หลังจากไซเมนเทคส่งรายงานเตือนถึงการเพิ่มของอีเมลขยะซึ่งมีมัลแวร์อยู่ด้วยเมื่อเดือนที่แล้ว

นายนพชัย ตั้งไตรธรรม ที่ปรึกษาทางเทคนิคอาวุโส บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชัน จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่การแข่งขันฟุตบอลโลกจบลงเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม สแปมเมอร์ได้หันไปให้ความสนใจไปยังเหตุการณ์หรือข่าวที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น เหตุการณ์น้ำมันรั่วลงสู่ทะเล อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวม ข้อความที่ส่งถึงกันจะเป็นอีเมลขยะ (Spam) ถึง 91.89% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายน ซึ่งมีอยู่ 88.32%

หากการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ฟิชชิ่งโดยภาพรวมกลับลดลงจากเดิมราว  5% ซี่งเป็นผลจากการโจมตีที่ลดลงในสองส่วนด้วยกันคือเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ใช้ไอพีโดเมนในการโจมตี และการโจมตีโดยใช้เว็บไซต์ฟิชชิ่งที่สร้างขึ้นโดยใช้ชุดเครื่องมืออัตโนมัติ ซึ่งลดลง 60 %  ขณะที่ฟิชชิ่งประเภท URL เพิ่มขึ้น 10 % จากเดือนมิถุนายน  โดยเว็บไซต์ฟิชชิ่งประเภทไอพีโดเมน (เช่น http://255.255.255.255) ลดลง 48 %,  ขณะที่เว็บไซต์ฟิชชิ่งที่โฮสต์บนบริการเว็บโฮสติ้ง ซึ่งคิดเป็น 15% ของเว็บไซต์ฟิชชิ่งทั้งหมด เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ในการเปรียบเทียบเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เพิ่มขึ้น 15%  โดยเฉพาะภาษาฝรั่งเศส และอิตาเลียนยังคงมีให้เห็นเพิ่มขึ้นในเดือนที่ผ่านมา

ช่องทางที่ฟิชชิ่งใช้ในการโจมตีเป้าหมายที่ฟิชชิ่งมุ่งโจมตี         
                                                                         
“ตัวเลขอันตราย”  ของอีเมลขยะและฟิชชิ่ง – สิงหาคม 2553
•   ประเภทของอีเมลขยะที่โจมตีในเรื่องสุขภาพมีการเพิ่มขึ้นจาก เดือนมิ.ย. 8% เป็น 21% ในเดือน ก.ค.
•   โดเมน URL ที่สแปมเมอร์ใช้มากที่สุด คือ URL ที่ลงท้ายด้วย .com เพิ่มจาก 53.3% เป็น 59.1%
•   ขนาดของข้อความอีเมลขยะ (Spam Message) ที่อยู่ระหว่าง 2kb-5kb เพิ่มจาก 48.26% เป็น 59.97%
•   ต้นทางของอีเมลขยะยังคงมาจากสหรัฐอเมริกา เพิ่มจาก 20% เป็น 22%
•   ฟิชชิ่งโฮสต์ ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา เพียงแต่เปอร์เซ็นต์การเพิ่มขึ้นไม่เปลี่ยนแปลง
•   เทคนิคที่ฟิชชิ่งใช้เผยแพร่ คือ  ผ่านโดเมนที่ตั้งชื่อเป็นของตนเอง 71%, เว็บที่ให้บริการโฮสติ้งฟรี 15%, ที่ใช้ชุดเครื่องมือ อัตโนมัติต่าง ๆ 9% , โดเมนที่เป็นไอพีแอดเดส 3%, เว็บไซต์ที่มีการสะกดคล้ายคลึงกับชื่อเครื่องหมายการค้า (หรือบริการ) ของผู้อื่น โดยมีเจตนาแอบแฝงเพื่อให้ผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ผิดไปจากเว็บไซต์ที่แท้จริง (Typosquatting) 2%
•   กลุ่มเป้าหมายที่ฟิชชิ่งมุ่งโจมตีมากที่สุดคือ ภาคการเงิน (85%) ธุรกิจบริการข้อมูลข่าวสาร (15%) ภาคราชการ (น้อยกว่า 1%) และอื่น ๆ (น้อยกว่า 1%)

จับตา 5 แนวโน้ม “อีเมลขยะและเว็บไซต์ฟิชชิ่ง” เดือนสิงหาคม 2553

•   เมื่อการแข่งขันเวิลด์คัพจบลง สแปมเมอร์หันไปให้ความสนใจในเรื่องเหตุการณ์น้ำมันรั่วในทะเล - การแข่งขันฟุตบอลโลก 2553 ที่ขับเคี่ยวกันเต็มที่ในเดือนมิถุนายน ทำให้หัวข้อเรื่องเกี่ยวกับข่าวฟุตบอลโลกที่เป็นอีเมลขยะ ติดอยู่ในหนึ่งในสิบของ “Spam Street Journal” ถึง 8 เรื่อง อย่างไรก็ตาม ในเดือนกรกฎาคม หัวข้อเรื่องได้หันกลับไปสู่เหตุการณปัจจุบัน เช่น เหตุการณ์น้ำมันรั่วในทะเล หรือสภาพเศรษฐกิจ

•   เมื่อสิ้นกระแสฟุตบอลโลก นักล่อลวงทางเน็ตหันไปไล่ตามในเรื่องของการแข่งคริกเก็ตเวิลด์คัพ - การสร้างเว็บลงเพื่อโฆษณาการแข่งขันคริกเก็ตเวิลด์คัพที่จะมีขึ้นในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554  ที่น่าสนใจ คือ มีการสร้างเว็บไซต์ลวงที่มีโลโก้ และการออกแบบเป็นภาพประตูชัยในปารีส โดยผู้สร้างเว็บไซต์ลวงต้องการให้ดูเหมือนประตูชัยของอินเดียที่มุมไบ ซึ่งเป็นสถานที่การจัดแข่งคริกเก็ตเวิล์ดคัพรอบสุดท้าย ซึ่งจะมีทั้งข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การแข่งขัน, ไอคอนของสปอนเซอร์หรือช่องกีฬาต่าง ๆ, ตารางการแข่งขัน และการเปิดขายตั๋วซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2553

เว็บไซต์ลวงจะหลอกให้ยูสเซอร์ที่อยากได้ตั๋วชมการแข่งขันเข้าไปในหน้าล็อกอินเพื่อกรอกข้อมูลส่วนตัว หากหลอกได้สำเร็จ ยูสเซอร์ก็จะยอมกรอกข้อมูลเพื่อล็อกอินเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ลวงโดยหวังว่าจะได้ตั๋วชมการแข่งขัน ซึ่งเว็บไซต์ลวงพวกนี้จะฝากไว้กับเว็บที่โฮสติ้งที่ให้ใช้ฟรี เพียงแต่ตั้งชื่อให้สัมพันธ์กับการแข่ง คริกเก็ต เช่น hxxp://icccricket2011.******.com

•   ห้องสนทนาลวงโลก - ไซแมนเทคพบเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ออกแบบปลอมตัวเป็นส่วนบริการลูกค้าของเว็บไซต์อีคอมเมอร์สชื่อดัง ผ่านการพูดคุยออนไลน์ในห้องสนทนา (Chat) ดังเช่น การสร้างหน้าเว็บไซต์ลวงให้ลูกค้ากรอกหมายเลขประจำตัวและรหัสผ่าน และคำถามที่ต้องการสอบถาม ก่อนจะผ่านเข้าสู่หน้าห้องสนทนาปลอม ซึ่งปรากฎตัวแทนฝ่ายซัพพอร์ทที่พร้อมตอบคำถาม

แต่คำถามของลูกค้าจะไม่ได้รับคำตอบ เพราะหลังจากผ่านไปสองสามนาที (เวลาในหน้าสนทนาก็เป็นเวลาที่ทำหลอกขึ้นมา) หน้าเว็บจะแจ้งว่า ฝ่ายซัพพอร์ทได้ออกจากห้องสนทนาไปแล้ว และขอให้ลูกค้าลองดูใหม่ หรือ ทิ้งข้อความไว้ และถึงแม้ว่าหน้าเว็บจะดูเหมือนมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา แต่จริงแล้วไม่ได้มีคนเข้าไปปฏิบัติงานจริง แต่เป็นการดำเนินการผ่านเซิร์ฟเวอร์ของผู้สร้าง โดยมักจะฝากไว้กับเว็บโฮสติ้งที่ให้บริการฟรี

วิธีหลีกเลี่ยงการโจมตีจากเว็บไซต์ฟิชชิ่งดังกล่าว ทำได้โดย... อย่าคลิ๊กอีเมลที่น่าสงสัย, ตรวจสอบยูอาร์แอลของเว็บไซต์เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นของเจ้าของแบรนด์สินค้านั้นจริง ๆ, พิมพ์โดเมนเนมของเว็บไซต์ใหม่เมื่อเปิดใช้ทุกครั้งแทนการเปิดจากลิงค์, อัพเดทซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยอยู่เสมอ เช่น นอร์ตัน อินเทอร์เน็ต ซีเคียวริตี้ 2010 ซึ่งปกป้องคุณจากเว็บไซต์ออนไลน์ที่หลอกลวงพวกนี้ได้

•   เมื่ออีเมลขยะและเว็บไซต์ลวงนานาชาติร่วมผสมโรง - ประเทศรัสเซียซึ่งประสบปัญหาจากคลื่นความร้อนที่เป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้ป่าที่รุนแรง ทำให้บรรดาสแปมเมอร์ชาวรัสเซียใช้โอกาสนี้ส่งข้อความขยะในการเสนอขายเครื่องปรับอากาศ

เช่นเดียวกับ ปลาหมึกยักษ์พอล ซึ่งได้รับชื่อเสียงจากการทำนายผลฟุตบอลโลก ปี 2553 ทำให้มีนักส่งอีเมลขยะหัวใสใช้แบรนด์นี้ในการสร้างบริการทำนายโชคชะตา

•   การวิเคราะห์หัวข้อเรื่องของอีเมลขยะในเดือนกรกฎาคม 2553 ได้แก่ 1.Blank Subject Line, 2.Deliver Status Notification (Failure), 3.You have received and Greeting e-Card, 4.Anazon.com: Please verified your new e-mail address, 5.Returned mail: see transcript for details, 6.Undelivered Mail Returned to Sender, 7.Nikki Sent You A Message, 8.My  Pics, 9.Failure Notice และ 10.Give your partner a one way ticket to ecstasy-land

ถึงแม้ ชื่อเรื่อง “อีเมลขยะเกี่ยวกับสุขภาพ” จะเพิ่มถึง 13% ในเดือนกรกฎาคมจะไม่ติดหนึ่งในสิบ แต่ไปปรากฎอยู่ในระหว่างอันดับที่ 11-30 ตัวอย่างเช่น “Very Discrete packaging and billing” และ “Doctor Approved and Recommended!”




Checklists เตือนใจ...ก่อนภัยถึงตัว
ควรทำ   ไม่ควรทำ
•   ยกเลิกการสมัคร Mailing Lists ที่เราไม่ต้องการรับอีก เวลาสมัครสมาชิกที่เสนอข้อมูลเพิ่มเติมให้เรา เลือกประเภทเนื้อหาที่เราไม่ต้องการ
•   ระวังในการเลือกเว็บไซต์ที่เราจะลงทะเบียนโดยให้อีเมลส่วนตัวของเรา
•   อย่าเผยแพร่อีเมลแอดเดรสบนอินเทอร์เน็ต และลองพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น ใช้อีเมลแอดเดรสเพียงชื่อเดียวในเมื่อต้องการเข้าสู่ Mailing Lists, มีอีเมลแอดเดรสหลายชื่อ เพื่อแยกใช้ตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ และมองหาบริการอีเมลแอดเดรสแบบใช้แล้วทิ้ง
•   ทำตามข้อแนะนำที่ผู้ดูแลเมลกรณีได้รับรายงานสแปมที่หลุดเข้ามา
•   ลบอีเมลขยะทั้งหมด
•   หลีกเลี่ยงการเปิดลิงก์อีเมลหรือ IM messages ที่น่าสงสัยว่าจะเชื่อมไปยังเว็บไซต์ลวง แนะนำให้พิมพ์ชื่อเว็บแอดเดรสโดยตรงที่บราวเซอร์ แทนการคลิ๊กจากลิงค์
•   หมั่นอัพเดทโอเอส และซอฟต์แวร์ความปลอดภัยอยู่เสมอ รายละเอียดดูได้ที่ http://www.symantec.com.
•   พิจารณาเลือกใช้โซลูชันป้องกันข้อความขยะที่มีชื่อเสียง ซึ่งสามารถกลั่นกรองข้อมูลที่เกิดขึ้นได้ทั่วทั้งองค์กร เช่น  ผลิตภัณฑ์ในตระกูล Symantec Brightmail messaging security
•   ติดตามความคืบหน้าใหม่ ๆ เกี่ยวกับแนวโน้มของอีเมลขยะ ได้ที่ Symantec State of Spam site   •   เปิดไฟล์แนบอีเมลที่ไม่รู้จัก ซึ่งไฟล์แนบพวกนี้อาจส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์
•   ตอบรับข้อความขยะ อีเมลของแอดเดรสของผู้ส่งปลอม และการตอบรับจะทำให้เกิดอีเมลขยะมากขึ้น
•   อย่ากรอกแบบฟอร์มที่ถามถึงข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลการเงิน หรือพาสเวิร์ด บริษัทที่มีชื่อเสียงจะไม่ค่อยถามรายละเอียดส่วนตัวผ่านทางอีเมล เมื่อสงสัย ให้ติดต่อบริษัทเพื่อสอบถามผ่านเครื่องมือที่ไว้ใจได้ เช่น  เบอร์โทรศัพท์ที่ตรวจสอบได้ หรือ อินเทอร์เน็ตแอดเดรสที่รู้จัก ซึ่งพิมพ์เข้าไปใหม่ในบราวเซอร์วินโดว์ (อย่าใช้วิธีก็อปปี้จากลิงค์ที่แนบมากับเมล)
•   ซื้อสินค้าหรือบริการจากข้อมูลในอีเมลขยะ
•   เปิดข้อความขยะ
•   การส่งต่อคำเตือนเรื่องไวรัสที่ได้รับผ่านอีเมล ซึ่งเต็มไปด้วยไวรัสลวง

2104

 
“คายาริ” ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ ทุ่ม 50 ล้าน ชู “NATURES Marketing” มั่นใจขึ้นแท่นผู้นำ 1 ใน 3
         
          “คายาริ” บุกตลาดช่วงไฮซีซันของยาจุดกันยุง ทุ่ม 50 ล้านบาท ปรับกลยุทธ์ ครั้งใหญ่ ชู “NATURES Marketing” หวังตีตื้นแซงคู่แข่ง เป็นเจ้าตลาดยาจุดกันยุงแบบขดโดยรวม พร้อมเปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ “คายาริ สมุนไพรปราบยุง” และบุกตลาดด้วยยาจุดกันยุงขดสีฟ้ากลิ่น “โรสแมรี่” ใหม่ และลุยจัดกิจกรรมคาราวานโรดโชว์ทั่วประเทศ ขอก้าวกระโดดเป้ายอดขายเท่าตัว หรือรวมกว่า 200 ล้านบาท ภายในปีนี้ หลังจากรักษาแชมป์อันดับ 3 เหนียวแน่นแล้วในตลาดแบบโมเดิร์นเทรด มั่นใจสิ้นปี และปีหน้า ได้ขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของผู้นำตลาดยาจุดกันยุงทั่วประเทศรวม ที่มีมูลค่ากว่า 950 ล้านบาท

          นางวรรณี ควรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สถาพร มาเก็ตติ้ง จำกัด เป็นผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 3 แบรนด์ หลักคือ ผลิตภัณฑ์ป้องกัน และกำจัดแมลงในบ้านเรือน ภายใต้แบรนด์ “KAYARI” และผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ “BUXAWAY” และ “STARPETT” เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการผลิตยาจุดกันยุงยาวนานเกือบ 20 ปี ซึ่งผลิตให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ในประเทศ และเป็นผู้ส่งออกยาจุดกันยุงรายใหญ่ของประเทศโดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่น หลังจากที่ได้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในฐานะผู้ผลิต ทางบริษัทฯจึงได้มีนโยบายที่จะสร้างแบรนด์สินค้ายาจุดกันยุงที่มีอยู่ให้เข้มแข็งขึ้น โดยใช้ความชำนาญอย่างสูงเรื่องสมุนไพรธรรมชาติที่แตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่ในท้องตลาด โดยจะเน้นในเรื่องคุณภาพ และความปลอดภัย เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้แก่ผู้บริโภคที่ห่วงใยสุขภาพและให้ความสำคัญในการเลือกใช้สินค้าที่ปลอดภัยกว่า

          บริษัทฯ ได้มีการทำวิจัย และพัฒนาอย่างจริงจัง พบว่ามีสมุนไพรหลายชนิดที่มีคุณสมบัติในการไล่ยุงได้ดี เช่น ตะไคร้หอม ขมิ้นชัน และ ยูคาลิปตัส อีกทั้งยังสามารถสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนของตัวผลิตภัณฑ์ในเรื่องของสีและกลิ่น โดยมีการใช้สูตรการผสมแบบพิเศษทำให้ได้ยาจุดกันยุงขดที่มีเอกลักษณ์คือสีฟ้าสวยงาม และมีกลิ่นหอม บริษัทฯ ได้มีการเริ่มสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองโดยได้จดเครื่องหมายการค้าของบริษัทเมื่อปี 2004 ในชื่อว่า “คายาริ” โดยได้มีการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์คือ คายาริ เป็นยาจุดกันยุงผสมสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพการไล่ยุงสูง นับได้ว่า คายาริ เป็นผู้สร้างนวัตกรรมใหม่ในเรื่องของผลิตภัณฑ์ ให้กับวงการยาจุดกันยุงอย่างแท้จริง ด้วยส่วนวัตถุดิบธรรมชาติถึง 99 %

          และในปีนี้ทางบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ในการทำตลาดใหม่ เพื่อเป็นแนวทางการทำตลาดในอนาคต ทั้งยังเป็นการทำตลาดในช่วงที่ถือว่าเป็นไฮซีซันของยาจุดกันยุงด้วยแนวคิด NATURES MARKETING (เนเจอร์ส มาเก็ตติ้ง) ในการทำตลาดของบริษัท 7 ประการคือ N = NEW = ความใหม่ / ทันสมัยอยู่เสมอ, A = ALTERNATIVE = เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางเลือกหนึ่ง, T = TECHNOLOGY = มีเทคโนโลยี / นวัตกรรม นำหน้าคู่แข่ง, U = UNIQUE = มีเอกลักษณ์โดดเด่น, R = RESULT = มีประสิทธิภาพจริง, E = ENVIROMENT = ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และ S = SAFE = ปลอดภัย แน่นอน

          สรุปคือ สินค้าของบริษัทจะเป็นทางเลือกใหม่ ที่มีเอกลักษณ์ มีนวัตกรรม มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราจะใช้กลยุทธ์ดังกล่าวเป็นจุดยืนในการทำตลาดต่อไปของบริษัทฯ ในอีก 12 เดือนข้างหน้า และมั่นใจว่า ยุทธศาสตร์ “เนเจอร์ส มาร์เก็ตติ้ง” นี้ สามารถนำแบรนด์คายาริ ไปสู่ชัยชนะ ไม่แพ้ กลยุทธ์ดัง ๆ ในด้านการตลาด เช่น “Blue Ocean marketing” ฯลฯ ที่บริษัทฯ อื่นๆใช้มานาน

          นางวรรณี กล่าวย้ำถึงจุดยืนของแบรนด์ (Brand Positioning) ไปในทิศทางที่ตั้งไว้คือ ความเป็นสมุนไพรและปลอดภัย เพราะที่ผ่านมาได้มีการทำสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคถึงความรู้สึกต่อผลิตภัณฑ์ยาจุดกันยุง”คายาริ” โดยเลือกผู้ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดยุงที่จงรักภักดีกับแบรนด์ชั้นนำ โดยตั้งโจทย์กำหนดว่า หากมีห้อง 4 ห้องที่จุดยาจุดกันยุง ใน 3 ห้องเป็นยาจุดกันยุงแบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ และอีกห้องจุดยาจุดกันยุง “คายาริ” คุณจะเลือกเข้าห้องไหน ซึ่งผลสำรวจพบว่าผู้บริโภค 100% เลือกที่จะเข้าห้องที่จุดด้วยยาจุดกันยุงคายาริ เพราะมีความรู้สึกว่าเป็นสมุนไพร และปลอดภัยกว่า

          นางวรรณี กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำ และสร้างการจดจำภาพลักษณ์ของการเป็นผู้นำด้าน “ยาจุดกันยุงผสมสมุนไพร” ตัวจริง บริษัทจึงได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ที่มีนวัตกรรม เรียบง่าย และสั้นกระชับ เพียง 7.5 วินาที ภายใต้ Concept ““คายาริ สมุนไพรปราบยุง” ด้วยแนวคิดที่ว่า “ยาจุดกันยุง คายาริ” เป็นยาจุดกันยุงชนิดแรกและชนิดเดียว ที่ผลิตขึ้นด้วยส่วนผสมจากสมุนไพรธรรมชาติแท้ ๆ จึงปลอดภัยสูงต่อสุขภาพของคนในบ้าน แต่เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพในการปราบยุง ที่สร้างความรำคาญ และเป็นพาหะของโรคไข้เลือดออกได้เป็นอย่างดี ซึ่งนับเป็นยาจุดกันยุงชนิดแรกในตลาดที่มีจุดยืนที่แตกต่าง และโดดเด่นในการเป็นผู้นำยาจุดกันยุงผสมสมุนไพรตัวจริง

          นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพการไล่ยุงจากพลังธรรมชาติในยาจุดกันยุงของคายาริ ด้วยส่วนผสมจากสมุนไพรธรรมชาติถึง 99 % อาทิ ตะไคร้หอม ขมิ้นชัน และยูคาลิปตัส ทำให้ได้ยาจุดกันยุง ขดสีฟ้า จากดอก “โรสแมรี่” ซึ่งเป็นเจ้าแรกในโลกที่ได้คิดค้นสูตรนี้ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการไล่ยุง และมีกลิ่นหอม รวมถึงมีความปลอดภัยสูง และในปีต่อ ๆ ไป บริษัทฯ จะยังคงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ที่ดีกว่าอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย

          นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการจัดกิจกรรมโรดโชว์แนะนำสินค้าไปยังหัวเมืองใหญ่ ๆ ทุกภาคทั่วประเทศ ด้วยกิจกรรม “คายาริ ให้โชคทั่วทิศ...พิชิตยุงทั่วไทย” ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมไปตามจังหวัดต่างๆ อาทิ ชลบุรี, สุพรรณบุรี, นครราชสีมา, นครสวรรค์ และสุราษฎร์ธานี โดยจะมีกิจกรรมให้กลุ่มเป้าหมายในจังหวัดต่างๆ ได้รับทราบถึงคุณสมบัติพิเศษของผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งได้มีกิจกรรมร่วมสนุก และเล่นเกม แจกของรางวัลมากมาย และจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษรับโชค 3 ชั้น และตามด้วยความมันส์กับคอนเสิร์ตจาก ตั๊กแตน ชลดา อีกด้วย

          นางวรรณี กล่าวอีกว่า ในปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 700 ล้านขดต่อปี ด้วยพื้นที่โรงงาน 48,000 ตร.ม. อยู่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งปีที่ผ่านมา “คายาริ” มียอดขายกว่า 120 ล้านบาท และในปีนี้เองที่ได้มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ “NATURES MARKETING” ทางบริษัทได้ทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ทำตลาดในทุกด้าน ทั้ง Above the line และ Below the line ซึ่งน่าจะทำให้มีส่วนแบ่งตลาดถึงกว่า 20 % ขึ้นเป็นอันดับ 3 ของตลาดรวมยาจุดกันยุง ที่มีมูลค่าตลาดกว่า 950 ล้านบาท อย่างแน่นอน (จากประมาณ 11% ในปัจจุบัน)

          สำหรับภาพรวมตลาดยาจุดกันยุงของประเทศในครึ่งปีแรก มีอัตราการเติบโตที่ลดลงเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และอากาศที่ร้อนกว่าปรกติ แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจากปัจจัยของการระบาดของโรคไข้เลือดออกอย่างหนักในปีนี้ ตลาดจะเติบโตมากขึ้นโดยทั้งปีจะเติบโตประมาณ 5% หรือ มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 950 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดต่างจังหวัด 70% ตลาดกรุงเทพฯและปริมณฑล 30% ปัจจุบันผู้นำตลาดเป็นแบรนด์ห่านฟ้า มีส่วนแบ่ง 29 % ไบกอน 28 % ช้าง 19 % คายาริประมาณ 11 % แต่สำหรับตลาดโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) คายาริ มีส่วนแบ่งตลาดอยู่อันดับที่ 3 อยู่ที่ 12.5 %

2105


LH Bank รุกหนักสู่การเป็น “ธนาคารพาณิชย์” จัดแคมเปญเก๋ “LH Bank London Taxi” แนะนำผลิตภัณฑ์และบริการทั่วกรุงเทพฯ

          ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank จัดกิจกรรม LH Bank London Taxi พร้อมขบวนพริตตี้สาวสวย ภายใต้แนวคิด “มั่นใจทุกถนนการเงินกับ LH Bank” เพื่อเป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินของธนาคาร สู่กลุ่มลูกค้าทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยกิจกรรมนี้จะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันนี้ ถึง ต้นเดือนกันยายน 2553 โดยจะมีการนำผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับสินเชื่อเอสเอ็มอี สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และผลิตภัณฑ์ด้านเงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยพิเศษ ไปร่วมโรดโชว์ในครั้งนี้ด้วย นับเป็นหนึ่งในแผนการรุกตลาดลูกค้าที่ธนาคารมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง
 
 

2106

 
          “วังทองกรุ๊ป” กระตุ้นยอดขายไตรมาส 3 จัดโปรโมชั่นมอบของขวัญพิเศษให้ลูกค้าบ้านพร้อมอยู่สามารถ “กำหนดได้เอง” จัดข้อเสนอ 3 สเปเชียล “ฟรี” ถูกใจข้อเสนอไหนเลือกได้ตามใจ ทุกโครงการของวังทองกรุ๊ป ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายน 53 ผู้บริหารเผยหลังเปิดโครงการไอ-ดีไซน์ วิภาวดี และวงแหวน-รามอินทรา ยอดขายกระฉูดขายได้แล้วกว่า 30 % รายได้ปีนี้เป็นไปตามเป้า 1,500 ล้านบาท แน่

          นายปราโมทย์ เจษฎาวรางกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วังทองกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2553 นี้บริษัทฯ ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อกระตุ้นยอดขายสำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านพร้อมอยู่ของวังทองกรุ๊ป โดยโปรโมชั่นพิเศษนี้จะเป็นโปรโมชั่นที่ลูกค้าสามารถกำหนดได้เอง ถูกใจข้อเสนอไหน เลือกได้ตามใจ มีให้เลือก 3 สเปเชียล คือ 1. สเปเชียล ฟรี (Special Fee) คือ ฟรี ค่าทำสัญญา, ฟรีเงินดาวน์, ฟรี ค่าโอน+จดจำนอง, ฟรีค่าบริการสาธารณะ, ฟรีค่าประกันมิเตอร์น้ำ+ไฟ 2. สเปเชียล พรีเมียม (Special Premium) คือ ฟรี เฟอร์นิเจอร์ชุดใหญ่, ฟรี เครื่องใช้ไฟฟ้า / แอร์, ฟรี สัญญาณกันขโมย, ฟรี ปั้มน้ำ+แท้งค์น้ำ, ฟรี จัดสวนสวย และ 3. สเปเชียล ดิสเคาน์ (Special Discount) คือ พิเศษ ดอกเบี้ย 0 % และพิเศษ รับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท

          สำหรับการจัดโปรโมชั่นในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้จัดนำโครงการบ้านของวังทองกรุ๊ปทั้งหมด 8 โครงการเข้าร่วม โดยมีโครงการ ไอ-ดีไซน์ ลำลูกกา คลอง 3, โครงการ ไอ-ดีไซน์ วงแหวน – รามอินทรา, บ้านวราบดินทร์ วงแหวน – ลำลูกกา คลอง 5, บ้านวราบดินทร์ รังสิต-ปทุมธานี, โครงการ วังทอง คอนโดเทล อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และโครงการ The Center Condominium ลำลูกกา จ.ปทุมธานี , โครงการ เจษฎา10, โครงการ โรจนะ-วังน้อย

          นายปราโมทย์ กล่าวต่อ ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ทั้งหมด 9 โครงการ แยกเป็นกรุงเทพฯตอนบน 5 โครงการ คือ 1.บ้านวราบดินทร์ วงแหวน (ถนนลำลูกกา คลอง 5)จำนวน 773 ยูนิต เป็นโครงการบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ราคาตั้งแต่ 2.5-7 ล้านบาท, 2. บ้านวราบดินทร์รังสิต-ปทุมฯ เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 207 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 2.8-5.5 ล้านบาท, 3. โครงการ ไอ-ดีไซน์ ลำลูกกา คลอง3 เป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น จำนวน 331 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.61 ล้านบาท, 4. The Center Condo ติดกับเซียรังสิต โครงการคอนโดฯรูปแบบ Studio จำนวน 276 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 9.9 แสนบาท

          และ 5. โครงการ บ้านเจษฎา 10 ใกล้นิคมไฮเทค จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นทาวน์เฮาส์ชั้นเดียวจำนวน 155 ยูนิต ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 8.8 แสนบาท, 6. บ้านวรารักษ์ โรจนะ-วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นโครงการใหญ่ที่มีทั้งทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยวชั้นเดียว และ 2 ชั้น และอาคารพาณิชย์ จำนวน 1,113 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 9.9 แสน-2.3 ล้านบาท และโครงการ Wangthong Condotel (แหลมฉบัง)จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นคอนโดฯรูปแบบ Studio จำนวน 270 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1 ล้านบาทรวมทุกโครงการ มีมูลค่า 9,000 ล้านบาท

          นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการเปิดตัว 2 โครงการใหม่เมื่อไตรมาส 2 ที่ผ่านมา คือ โครงการ “ไอดีไซน์ วิภาวดี” บ้านดีไซน์ใหม่ ในทำเลที่สวยที่สุด ติดถนนวิภาวดีฯ เริ่มต้น 5.09 ล้านบาท เพียง 48 หลัง และ “ไอ-ดีไซน์ วงแหวน-รามอินทรา” ทาวน์โฮม ที่คิดเพิ่มทุกรายละเอียด พร้อมเพิ่มดีไซน์งานศิลปะ ป๊อปอาร์ตให้กับบ้าน เริ่มต้น 1.87 ล้านบาท จำนวน 282 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้มีลูกค้าทำการจองแล้วกว่า 30% และมั่นใจว่าจะสามารถปิดโครงการได้ภายใน 2554 อย่างแน่นอน

          นายปราโมทย์ กล่าวปิดท้ายว่า “สำหรับทิศทางของบริษัทฯ ในครึ่งปีแรก 2553 บริษัทมียอดขายแล้วประมาณ 800 ล้านบาท จากการตั้งเป้าทั้งปีไว้ที่ 1,500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน เนื่องจากเรามีการเปิดโครงการใหม่ และมีการเน้นการออกแบบฟังชั่นการใช้สอย และดีไซน์เพิ่มมากขึ้น และมีการทำโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง และนอกจากนี้หลังจากเหตุการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ลูกค้าเริ่มกลับมาซื้อขายมากขึ้น ทำให้มีความเชื่อมั่นในการตัดสินใจซื้อเพิ่มขึ้นเช่นกัน

2107


ข่าวGossip ของบริษัทยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด(มหาชน) UAC กรณีการเตรียมความพร้อมในการเข้าระดมทุนในตลาดเอ็มเอไอ 
 
เตรียมนับถอยหลังเข้าเป็นสมาชิกใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ mai แล้ว สำหรับบริษัทยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ UAC โดยขณะนี้หัวเรือใหญ่ อย่างกรรมการผู้จัดการ “คุณกิตติ ชีวะเกตุ” เร่งฟิตความพร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์อย่างใจจดใจจ่อ พร้อมส่งสัญญาณว่าเร็วๆนี้นักลงทุนได้เห็นUAC โลดแล่นในกระดานหุ้นอย่างแน่นอน


2108
จับจุด “ความตายของคนดัง” แพร่อีเมลไวรัสให้แฟนคลับ/ผู้ชื่นชอบข่าวคนดัง

ไซแมนเทคพบการแพร่ระบาดของอีเมลสแปม ซึ่งอาศัย “ชื่อของดาราหรือคนดังสร้างข่าวว่า เสียชีวิตในอุบัติเหตุเครื่องบินตก  หรือรถชน” เพื่อให้ผู้สนใจติดตามข่าวคราวคนดัง หรือแฟนคลับ หลงกลเปิด URL หรือ ไฟล์แนบ เพื่อให้โปรแกรมภัยคุกคามทำการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของเราได้   

ชื่อคนดังที่ถูกหยิบยกมาเป็นหัวเรื่องที่สแปมเมอร์ใช้สร้างข่าวปล่อยว่า เสียชีวิตแล้ว ก็เช่น บียอนเซ่, บอง โจวี, แบรด พิตต์, คาแมรอน ดิอาซ, เดวิด แบคแฮม, เกวน สเตฟานี, เจ.ซี., เจนนิเฟอร์ อนิสตัน, เคนยา เวสต์, ไมลี่ ไซรัส, นิโคล คิดแมน, โรนัลดิญโญ, ไทเกอร์ วูด, ทอม ครูซ โดยมีเนื้อข่าวในทำนองว่า เสียชีวิตพร้อมกับผู้ที่เดินทางไปด้วยอีก 34 คน จากอุบัติเหตุเครื่องบินชนกับภูเขา ขณะเตรียมลงสู่สนามบิน เพื่อกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคนในการติดตามรายละเอียดให้มากขึ้น และยังเพิ่มความน่าเชื่อถือของข่าวด้วยการใส่ชื่อสำนักข่าว หรือชื่อคนดังอื่น ๆ ดังนั้น จึงไม่ควรเปิดลิงค์ หรือไฟล์แนบในอีเมลเหล่านี้ หากไม่ทราบที่มาแน่ชัดของผู้ส่ง

ท่านสามารถติดตามความเคลื่อนไหว หรือความคิดเห็นต่าง ๆ ได้จาก http://www.symantec.com/connect/ blogs/malicious-spam-luring-victims-claims-celebrity-deaths หรือ หากสนใจพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของไซแมนเทค สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของไซแมนเทคตามรายละเอียดด้านล่าง

2109


ไม่เพียงแต่เสื้อผ้าแฟชั่นภายนอกเท่านั้น ที่จะสามารถอัพลุคสาวยุคใหม่ให้อินเทรนด์มากขึ้น “บรา”   ตัวเก่ง ก็สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ให้ดูสวยเก๋ มีสไตล์ สะกดทุกสายตาคนรอบข้างให้อิจฉา จนใครๆ ต้องหันไปกอสซิปกัน

สาวๆ หลายคนคงสงสัยว่าชุดชั้นใน ที่ควรซ่อนอยู่ภายใน จะนำมาใส่โชว์ให้เป็นเสื้อผ้าแฟชั่นใส่ภายนอกได้อย่างไร หรือสามารถใส่อวดใครต่อใครได้แค่ไหน ลองมาอัพเดทประสบการณ์การแต่งตัวแบบไม่ซ้ำใคร กับเทรนด์ใหม่มาแรง เพื่อให้สาวๆ ได้มิกซ์แอนด์แมทช์ “กอสซิป บรา บาย ซาบีน่า (GOSSIP BRA by Sabina)” กับชุดสวยของคุณ

เทคนิคแรกอาจเริ่มด้วยการดึงจุดเด่นของบราตัวโปรดจากคอลเล็กชั่น GOSSIP BRA by Sabina ออกมาใส่โชว์ความสวยเซ็กซี่ แบบเรียบหรูดูดี ให้สะกดทุกสายตา ซึ่งแม้ว่าจะเป็นชุดชั้นในก็จริง แต่บรารุ่นใหม่นี้มีลักษณะที่คล้ายกับเสื้อผ้าตัวนอก และด้วยแฟชั่นในเทรนด์ใหม่นี้ สาวๆ หันมาผสมผสานระหว่างความเป็นผู้หญิง และความเป็นผู้ชายเข้ามาไว้รวมกัน เพราะชุดชั้นในบางชิ้นจะหวานๆ บ่งบอกความเป็นผู้หญิง พอมาจับคู่กับเสื้อผ้าเท่ห์ๆ มีความเป็นผู้ชายค่อนข้างสูงจะทำให้เกิดลุคที่แตกต่างน่าสนใจ และพร้อมสวยมั่นใจในแบบเวิร์คกิ้งวูแมนมากยิ่งขึ้น อย่างบราเรียบหรูสีดำเต็มตัว ใส่กับกระโปรงเอวสูง หรือกางเกงหนังขายาว คาดเข็มขัดหนังสีดำ คลุมด้วยสูทเท่ห์สีดำ หรือสีเข้ม ก็สามารถออกงานที่เป็นทางการได้อย่างโก้หรู หรืออยากจะเพิ่ม item ที่เป็นลายสก็อต หารองเท้าส้นสูงสักคู่ ก็ช่วยเพิ่มสีสันให้ชุดของคุณดูมีอะไรมากขึ้น หากมีงานปาร์ตี้ต่อตอนค่ำ ก็สามารถถอดสูทคลุมตัวนอกออก แล้วหาแอสเซสซอรี่ที่ดูเข้ากันมาใส่แทน ก็ดูสวยสง่าในงานกลางคืนได้อีกแบบ

หรือสาวๆ ที่ชอบสวยสุดชิคในวันปาร์ตี้-แฮงค์เอาต์ หรือวันสบายๆ ช้อปปิ้งกับเพื่อนสาว แนวคิดแรกนำชุดชั้นใน GOSSIP BRA by Sabina มาใส่เป็นตัวนอกเลย แต่เราอาจจะต้องดูโทนสีหรือวัสดุประกอบกันด้วย เนื่องจากความมัน โปร่ง บาง และสดใสมีอยู่แล้ว องค์ประกอบของชุดทั้งด้านล่าง ควรนำมามิกซ์แอนด์แมทช์กับกางเกงยีนส์หรือเลคกิ้งสีพื้น แล้วคาดเข็มขัด ตกแต่งด้วยแอสเซสซอรี่เพิ่มเข้าไปนิดหน่อย ก็ดูเก๋ไก๋ แบบที่สอง ใส่ GOSSIP BRA ไว้ภายใน แล้วหาแจ็คเก็ตสีเข้ม หรือเอิร์ทโทน มาคลุมทับ ก็ดูลุคทันสมัยไปอีกแบบ สไตล์ที่สาม ชั้นชุดในกับเสื้อตัวนอกคอลึก นอกจากจะกันโป๊แล้ว ยังดูเพิ่มดีไซน์ให้กับเสื้อตัวนอก และดูมีสีสันสดใสจากเสื้อตัวในอีกด้วย โดยทั้งสามแบบนี้ ควรเพิ่มแอสเซสซอรี่ที่เข้ากับสไตล์ของชุด เพื่อให้องค์ประกอบของชุดรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

ตบท้ายด้วยการเอาใจสาวที่มีสไตล์เปรี้ยวๆ ชอบแต่งตัวที่ใช้เสื้อผ้าที่มีสีสันและลวดลายแปลกตาโดดเด่นเกินใคร ก็ลองหยิบบราตัวเก่งไปมิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อผ้าชุดนอกสวยเก๋ได้เกือบทุกแบบ เนื่องจาก GOSSIP BRA มีลักษณะความเป็นเสื้ออยู่พอสมควร ไม่ว่าจะใส่กับกางเกง กระโปรง หรือเสื้อคาร์ดิแกน ก็ดูชิคๆ สร้างความน่าสนใจ หรือหากจะใส่ทับในกับกางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น ใส่แจ็คเก็ตทับ บวกกับรองเท้าส้นสูงเก๋ๆ ก็ดูเปรี้ยวเล็กๆ เซ็กซี่น้อยๆ แค่นี้ก็ใส่เดินเที่ยวเล่น ช้อปปิ้ง หรือพร้อมลุยไปกับทุกปาร์ตี้ ได้อย่างสบายๆ

GOSSIP BRA by Sabina ชุดชั้นในสไตล์ใหม่แบบ Outer Lingerie (เอ๊าเทอร์ ลอนเจอเร) หรือชุดชั้นในที่ใส่ออกข้างนอกได้ ที่ได้รับการออกแบบพิเศษในหลากหลายสไตล์ให้ผู้หญิงยุคใหม่จับมามิกซ์แอนด์แมทช์ให้เข้ากันกับเสื้อผ้าชุดนอกได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะใส่อยู่ด้านในหรือใส่โชว์เป็นเสื้อตัวนอก ก็สามารถสวยเปรี้ยวเฉี่ยวได้อย่างมั่นใจในทุกรูปแบบการแต่งตัว หรูหราเฉิดฉายได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นวันทำงาน นัดช้อปปิ้งกับเพื่อนสาว ออกเดท หรือปาร์ตี้

GOSSIP BRA by Sabina วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่แผนกชุดชั้นใน ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ   ออกมาใน Collection แรก มีให้เลือกแต่งสวยได้ใน 4 สไตล์ กว่า 27 แบบ ให้สาวๆ ได้เลือกสวยในทุกวัน “Bold Color  สนุกไปกับสีสันสดใส แอบเปรี้ยวมั่นใจ” “Feminine สวยหวานด้วยผ้าชีฟองบางเบา ลวดลายหวานๆ” “In Chic สวยไม่ธรรมดา ด้วยดีไซน์เก๋แตกต่าง” และ “Uniform เรียบหรูแต่ดูดี แต่แฝงความเซ็กซี่ไว้ภายใน” ราคา 1,000 – 1,700 บาท พร้อมกางเกงในเข้าชุดราคา 350 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ www.sabinaclick.com

2110


กรุงศรี  จัดสัมมนา “ทิศทางเศรษฐกิจและอนาคตธุรกิจไทย โอกาสหลังวิกฤต” ในงาน KRUNGSRI Journey of Opportunities: เส้นทางแห่งโอกาส

นายชาลี  มาดาน  (ที่ 3 จากซ้าย)   ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่  และนายแดน ฮาร์โซโน่
(ที่ 2 จากขวา) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านการตลาด  ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด  (มหาชน) ให้การต้อนรับ นายเสนีย์  จิตตเกษม  (ที่ 3 จากขวา ) ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ที่ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานสัมมนา KRUNGSRI Journey of Opportunities: เส้นทางแห่งโอกาส ซึ่งการสัมมนาดังกล่าวธนาคารจัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างสัมพันธภาพกับลูกค้าของธนาคารในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ระยองและจังหวัดใกล้เคียงได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจการเงิน และการลงทุนในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน  ณ โรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ท จังหวัดชลบุรี

2111
 “ไอบีเอ็ม-เทลคอร์เดีย” ร่วมผนึกกำลังวางระบบไอทีรองรับบริการคงสิทธิเลขหมาย (Mobile Number Portability) ให้"เคลียริ่งเฮ้าส์"

ไอบีเอ็ม และ เทลคอร์เดีย ผู้นำด้านเทคโนโลยี และผู้ให้บริการซอฟท์แวร์และบริการด้านโทรคมนาคม  ร่วมผนึกกำลังบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที  รองรับการให้บริการคงสิทธิเลขหมาย  (Mobile Number Portability) หรือ “เบอร์เดียวทุกระบบ” ให้แก่ศูนย์ให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์ หรือ “เคลียริ่งเฮ้าส์” บริษัทร่วมทุนโดย 5 ผู้ให้บริการเครือข่าย เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ตอบโจทย์ผู้ใช้มือถือได้รับความสะดวกสูงสุด

โดยบริการที่ไอบีเอ็มได้ดำเนินการให้แก่เคลียริ่งเฮ้าส์ คือบริการการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานไอทีทั้งหมด(InfrastructureImplementation Service) อย่างครบวงจรตั้งแต่การติดตั้งเซิร์ฟเวอร์, การบริการจัดการเซิร์ฟเวอร์  (Server Managed  Services),  การบริการกู้คืนโครงสร้างพื้นฐาน(  Infrastructure  Recovery  Service),  และบริการสนับสนุนการทำงานไอทีในองค์กร(  Helpdesk Service) โดยมีซอฟต์แวร์ IBM Tivoli monitoring services ที่คอยตรวจสอบสถานะของโครงสร้างพื้นฐานไอทีทั้งหมด  บนซอฟต์แวร์แพล็ตฟอร์มการคงสิทธิเลขหมาย (MNP) ของเทล์คอร์เดีย


บรรยายภาพ จากซ้ายไปขวา
  1.    ยศ กิมสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจบริการ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
  2.    ปรีย์มน ปิ่นสกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศูนย์ให้บริการ คงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์ จำกัด
  3.    สรุจ ทิพเสนา ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เทลคอร์เดีย เทคโนโลยี ประเทศไทย จำกัด

2112


 “สิวลิขิต...ลิขิตสิว สู่ผิวใส” โดยผลิตภัณฑ์ Oriental Princess Natural Cosmeceutical Anti Acne พร้อมแนะวิธีวิธีสังเกตจุดที่เป็นสิวบ่อยๆ บนใบหน้าที่อาจเป็นสัญญาณเตือนเรื่องสุขภาพของสาวๆ
 
“สิวลิขิต...ลิขิตสิว สู่ผิวใส”
เคยบ้างไหมที่เวลาเราเป็นสิวแล้วไม่อยากให้ใครเห็นหน้า เดินไปไหนก็ก้มหน้าก้มตาตลอด แถมยังโดนคนอื่นล้อหรือถูกมองว่าเป็นคนสกปรก  แม้ว่าจะรักษามาสารพัดวิธีแล้วก็ยังเป็นๆหายๆ แสดงว่าตัวคุณกำลังถูก “สิวลิขิต” เพราะปัญหากวนใจของสาวๆ นอกจากความกังวลกับสีผิวที่ไม่กระจ่างใสและมีริ้วรอย  ปัญหาสิวก็เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดและสร้างความกังวลใจ  จนกลายเป็นต้นเหตุของอาการขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิตไปได้ง่ายๆ และกลายเป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าจดจำของชีวิต อย่าปล่อยให้สิว “ลิขิตชีวิต” ลุกขึ้นมา “ลิขิตสิว” สู่ผิวใส

นางอภัยพร ศรีสุข ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โอ.พี. เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด กล่าวว่า ปัญหาสิวเป็นปัญหาที่สาวๆ ส่วนใหญ่มีความกังวลกันอยู่ตลอดเวลา เพราะมักจะเป็นๆหายๆ เป็นแล้วกลับมาเป็นซ้ำได้อีก ซึ่งโอเรียนทอล พริ้นเซส ได้ทำการสำรวจถึงความรู้สึกของผู้หญิงที่มีปัญหาสิวกว่า 300 คนพบว่า บางรายมีความกังวลมากถึงขนาดขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่กล้าสบตาผู้คน อายจนไม่อยากออกจากบ้าน ไม่อยากส่องกระจก ความคิดและจิตใจวนเวียนอยู่กับความอิจฉาใบหน้าใสไร้สิวของคนอื่น หรือถูกตัดสินจากผู้อื่นว่าเป็นคนไม่รักความสะอาด เป็นผลทำให้สาวๆ ถูกปิดกั้นโอกาสดีๆ ที่กำลังจะเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าที่การงาน การเรียน หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์กับเพื่อน คนรักและคนรอบข้าง

“โดยเฉลี่ยแล้วปัญหาสิวพบมากในสาวๆที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 15 – 30 ปี ซึ่งสิวมีทั้งหมด 4 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ สิวเสี้ยน สิวอุดตัน สิวอักเสบ และสิวหัวช้าง แต่สิวที่พบมากที่สุดในช่วงวัยนี้ คือ สิวอุดตัน สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการแปรปรวนของระดับฮอร์โมนภายในร่างกายที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงวัย ประกอบกับสภาพอากาศ สภาพแวดล้อมที่เป็นมลพิษรายล้อม และการดูแลผิวผิดวิธี อีกทั้งไม่สามารถแก้ไขปัญหาสิวได้อย่างตรงจุด ทำให้ปัญหาสิวลุกลามมากกว่าเดิมและเป็นๆหายๆกลายเป็นปัญหากวนใจสาวๆ อย่างไม่จบสิ้น” นางอภัยพร กล่าว
นางอภัยพร กล่าวต่อว่า “โอเรียนทอล พริ้นเซส  เข้าใจถึงปัญหาที่สาวๆ ส่วนใหญ่ได้รับ นั่นคือ ความกังวลใจเมื่อมี “สิว” ผุดขึ้นที่ใบหน้าอยู่ตลอดเวลาจนเหมือนชีวิตถูกลิขิตด้วยสิวเจ้าปัญหา ดังนั้นวิธีรับมือกับปัญหาสิวที่เป็นๆหายๆ คือ การดูแลผิวอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพราะผิวเราก็มีวงจรเหมือนกับสิ่งมีชีวิต เมื่อเซลล์เสื่อมสภาพไปแล้ว ก็จะมีเซลล์ใหม่เกิดขึ้นมาแทนที่ โดยจะหมุนเวียนไปทุกๆ 28 วัน สำหรับสาวๆ ที่มีกิจกรรม หรือคิวงานรัดตัว การดูแลผิวหน้าให้สวยใสไร้สิว ต้องครบสมบูรณ์ ไม่เพียงแค่ทายา พอสิวหายก็ทางใครทางมัน องค์ประกอบต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง การชำระล้างใบหน้าให้สะอาด        เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลสิวที่มีสารสกัดจากธรรมชาติที่อ่อนโยน และใช้วนอย่างเป็นระบบ 2 ขั้นตอนตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ        โดยขั้นตอนที่1 แก้ปัญหาสิวอย่างตรงจุด เป็นระยะเวลา 1 เดือน และขั้นตอนที่ 2 ดูแลผิวอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้สิวย้อนกลับมาอีก เป็นระยะเวลา 3 เดือน และใช้วนเป็นระบบซึ่งผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าเป็นวิธีที่ดูแลปัญหาสิวได้ยาวนาน  ทั้งยังต้องเลือกเครื่องสำอางที่ปลอดภัยไร้สารเคมีตกค้าง และเหมาะกับสภาพผิวหน้า นอกจากนี้การปรับไลฟ์สไตล์ในการการดำเนินชีวิตอีกทั้งอาหารการกินล้วนมีส่วนกระตุ้นหรือป้องกันปัญหาสิวได้เช่นกัน”

นอกจากการดูแลผิวหน้าอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องแล้ว โอเรียนทอล พริ้นเซสยังให้คำแนะนำวิธีสังเกตจุดที่เป็นสิวบ่อยๆบนใบหน้าที่อาจเป็นสัญญาณเตือนเรื่องสุขภาพของสาวๆ ได้อีกด้วย

หน้าผากซ้าย-ขวา
สาวๆที่เป็นสิวบริเวณหน้าผากซ้าย-ขวา มักพบปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อย กระเพาะปัสสาวะและต่อมหมวกไต หรือสาเหตุ อื่นๆอาจเกิดจากการทำความสะอาดผิวหน้าไม่ดีพอหรือจากภาวะที่ร่างกายมีความเครียดสะสม



หว่างคิ้ว
สิวที่ขึ้นบริเวณหว่างคิ้ว มักพบปัญหาเกี่ยวกับการย่อยน้ำตาลแล็กโทสซึ่งส่วนใหญ่พบอยู่ในน้ำนม หรือสาเหตุอื่นๆอาจเกิดจากการทานอาหารรสจัด หรือระบบการดูดซึมที่ไม่สมบูรณ์ของกระเพาะ และลำไส้เล็ก







ภายในหู
สิวภายในหู มักเกี่ยวกับการทำงานของไต หรือสาเหตุอื่นๆ อาจเกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือนานเกินไปรวมไปถึงการรับประทานเนื้อสัตว์ ดื่มกาแฟ และแอลกอฮอล์มากเกินไป



แก้มส่วนบน
สิวที่เกิดบริเวณแก้มส่วนบนหมายถึงอาจมีอาการไซนัสและปอด หรือสาเหตุอื่นๆอาจเกิดจากการสูบบุหรี่จัด ภูมิแพ้ และเป็นหวัดเรื้อรัง



แก้มส่วนล่าง
สาวๆที่เป็นสิวบริเวณแก้มส่วนล่าง อาจพบปัญหาเกี่ยวกับเหงือกและฟัน หรือสาเหตุอื่นๆอาจเกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือที่ไม่สะอาด



รอบดวงตา
เมื่อมีสิวเกิดขึ้นบริเวณรอบดวงตาทั้งสอง อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของไตหรือโรคภูมิแพ้ หรือสาเหตุอื่นๆอาจเกิดจากการสวมแว่นตาที่เสียดสีกับผิวมากเกินไป



จมูกและเหนือริมฝีปาก
สิวที่ขึ้นบริเวณจมูกและเหนือริมฝีปาก มักพบปัญหาจากการทำงานของหัวใจและระบบสืบพันธุ์ หรือสาเหตุอื่นๆ อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนภายในร่างกาย หรืออยู่ในระหว่างการใช้ยาคุมกำเนิด



ใต้ริมฝีปาก
สาวๆที่เป็นสิวบริเวณใต้ริมฝีปาก อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของรังไข่ หรือสาเหตุอื่นๆอาจเกิดจากภาวะการขาดความสมดุลย์ของฮอร์โมนภายในร่างกาย หรือการทำความสะอาดไม่ดีพอ



ปลายคาง
สิวที่ขึ้นบริเวณปลายคาง มักพบปัญหาที่บริเวณกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก หรือสาเหตุอื่นๆอาจเกิดจากการทานอาหารรสจัดจนลำไส้เล็กเป็นแผลหรือมีปัญหาในเรื่องการดูดซึม



การดูแลรักษาใบหน้าให้สะอาดหมดจด พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานผักผลไม้และอาหารที่มีประโยชน์เป็นสิ่งที่สาวๆควรทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ แต่สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้นอกจากสิ่งเหล่านี้ คือ การทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง ลดความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเรื่องสิวลงไปบ้าง มองโลกในแง่บวกว่าตัวเราเองก็มีจุดเด่นในด้านอื่นๆอีกมากมาย เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเรียกความมั่นใจของสาวๆกลับคืนมา และทำให้สาวๆกลายเป็นสาวพราวเสน่ห์ได้อย่างง่ายดาย

ปฏิบัติการ “สิวลิขิต ลิขิตสิว”
โอเรียนทอล พริ้นเซส ชวนสาวๆ มาร่วมกำจัดเรื่องเศร้าที่สิวลิขิตออกจากชีวิตด้วย Oriental Princess Natural Cosmeceutical Anti Acne ที่ “Acne true stories booth ฉากชีวิตลิขิตสิว by Oriental Princess” พร้อมรับแนวทางการปรับไลฟ์สไตล์และการรับประทานอาหารเพื่อดูแลและป้องกันปัญหาสิว ณ มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม – 13 กันยายน 2553 พิเศษ ทุกเรื่องราวที่ได้เปิดใจในห้องสิวลิขิต จะได้รับการออนแอร์ในเว็บไซต์ของโอเรียนทอล พริ้นเซส เพื่อเป็นแรงผลักดันกระตุ้นให้สาวๆทั่วประเทศลุกขึ้นมาลิขิตสิวกับ Oriental Princess Natural Cosmeceutical Anti Acne ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.orientalprincess.com

2113


“คลินิกดีสปายน์” ขยายสาขาบริการจัดปรับโครงสร้างกระดูกสันหลัง เปิดตัว “ดีสปายน์ สุขุมวิท 24”
 
          “ดีสปายน์ สุขุมวิท 24” คุณบัณลักข ถิรมงคล (คนที่ 4 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร คลินิกดีสปายน์ และคุณพรรณรังสี เต็มแสวงเลิศ (คนที่ 3 จากขวา) บุตรสาว ร่วมให้การต้อนรับ คุณลิฟท์-สุพจน์ จันทร์เจริญ คุณครีม-เปรมสินี รัตนโสภา คุณส้ม-ธัญสินี พรมสุทธิ์ คุณน้ำผึ้ง-ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ และคุณไม้-บวรพจน์ ใจกันทา ที่ร่วมเป็นแขกรับเชิญพิเศษในงานเปิดตัว “คลินิกดีสปายน์” สาขาใหม่ สุขุมวิท 24 ศูนย์ตรวจสุขภาพ และการจัดปรับโครงสร้างกระดูกสันหลัง กับศาสตร์แห่งไคโรแพรคติก ศิลปะแห่งธรรมชาติบำบัด ณ บริเวณชั้น 2 อาคารพรีเมียร์คอนโด ซอยสุขุมวิท 24

2114
“SEIKO” Limited of Limiteds !!
 



         
          ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับแฟร์เลิศหรูอลังการงานสร้างอย่าง CENTRAL INTERNATIONAL WATCH FAIR 2010 ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 9 กันยายน – 6 ตุลาคม นี้ ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะเข้าหน้าฝน แต่บรรดานาฬิกาแบรนด์ดังก็ไม่มีหวั่น เพราะต่างเตรียมทยอยขนพลพรรคนาฬิกาคุณภาพมาโชว์ท้าทายสายฝนกันอย่างครึกครื้น ซึ่งในงานนี้ แบรนด์นาฬิกาญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่อย่าง “ไซโก” โดย คุณภูริช มหาดำรงค์กุล กรรมการผู้จัดการ ก็ขอแท็คทีม เตรียมแกะกล่องสมบัติงัดเรือนเวลาคุณภาพทีเด็ดลิมิตเต็ด 7 ประจัญบาน มาเปิดตัวอย่างสมศักดิ์ศรี

          เริ่มต้นสมบัติชิ้นแรกกับวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีอย่างยิ่งใหญ่ของนาฬิกาควอซต์เรือนแรกของโลก ด้วยการอวดโฉมทายาทหน้าตาดี ตำนานปฐมบทของเรือนเวลาควอตซ์อย่าง The SEIKO Quartz “Astron 40th Anniversary Commemorative Edition” ที่มาพร้อมกับความเที่ยงตรงสูงถึง ±10 วินาที/ ปี และถึงแม้จะมีเข็มที่ทั้งยาวและใหญ่กว่านาฬิการะบบควอซต์ทั่วไป ก็ไม่ทำให้การขับเคลื่อนของเวลาเสียสมดุลเลยสักนิด เรียกได้ว่าไซโกลงทุนผลิตเครื่องใหม่ Cal. 9F62 ที่แข็งแรงแม่นยำและไฉไลกว่าควอซต์ทุกรุ่นที่เคยมีมาแถมยังเจ๋งสุดๆ พร้อมการอ่านเวลาได้ชัดเจนขึ้นด้วยเข็มวินาทีที่ชี้ตรงขีดแสดงวินาที (Marker) แบบเป๊ะๆ ไม่ขาดไม่เกิน โดยนำเอาเทคโนโลยีของนาฬิกาจักรกลกับนาฬิกาควอซต์ที่สั่งสมมานานมาผสานเข้าด้วยกัน จนได้สุดยอดของสุดยอดนาฬิกา “Astron” เรือนนี้อีกด้วย

          ส่วนผลึกควอซต์ที่นำมาใช้นั้นก็เป็นผลึกควอซต์คัดเกรดท๊อปคลาส ถ้าเปรียบกับเพชรที่มีหลายเกรดก็คงเทียบได้กับเพชรเม็ดงามน้ำดีที่สุดนั่นเอง ซึ่งผลึกควอซต์ตัวนี้เมื่อผ่านกระแสไฟฟ้เข้าไปแล้วจะมีความถี่สูงมากเกินจะบรรยาย ผ่าน IC ปรับความคงที่จนทำให้เป็นนาฬิกามีความเที่ยงตรงสูงสุดยังไงล่ะ ที่สุดยอดอีกอย่างก็คือมีตัวกันสนามแม่เหล็ก(Magnetic resistance) ด้วยนะ ซึ่งถ้าเป็นนาฬิกาทั่วไปเมื่ออยู่ใกล้สนามแม่เหล็กก็อาจจะทำให้นาฬิกานั้นเดินช้าหรือเดินเร็วเกินไปก็ได้ ขอยกตัวอย่างเช่น หากคุณใส่นาฬิกามือซ้ายแล้วคุณใช้โทรศัพท์มือถือหรือไดร์เป่าผมมือซ้ายล่ะก็ รับรองว่านาฬิกาที่คุณใส่อยู่นั้นกำลังได้รับคลื่นแม่เหล็กรบกวนอย่างแน่นอน

          และอีกสุดหนึ่งที่น่าทึ่งก็คงจะเป็นเรื่องของ Battery life indicator ที่ยาวนานถึง 3 ปี ซึ่งไซโกได้ใช้แบตเตอรี่รักษ์โลกแบบ Mercury Free ที่ปลอดจากสารปรอทเป็นพิษที่ทำร้ายมนุษย์และสิ่งแวดล้อมด้วยนะ และเมื่อถึงคราวที่แบตเตอรี่ใกล้จะหมดพลังนั้น เข็มวินาทีจะกระโดดเด้งไปครั้งละ 2 วินาที โดยใช้เวลาควบไป 2 วินาทีเท่าเวลาปกติ เพื่อเป็นสัญญาณเตือนว่าแบตเตอรี่ใกล้จะหมดแล้วนะจ๊ะ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้นาฬิกามีความเที่ยงตรงลดลงเลยสักกะติ๊ดเดียว...แน่ไหมล่ะ?

          นอกจากนี้ระบบการเปลี่ยนวันที่บนนาฬิกานั้นยังมีความไวยิ่งกว่ากระพริบตาเสียอีก เพราะใช้เวลาในการเปลี่ยนวันที่บนหน้าปัดเพียง 1/2000 วินาที และต่อให้คุณมีสายตาเฉียบคมขนาดไหน ก็ไม่สามารถจับการเปลี่ยนตัวเลขวันที่นี้ได้เลย ส่วนตัวเรือนนี่ก็ใช่ย่อยเพราะผลิตจากไบรท์ไททาเนี่ยมชั้นเลิศ คุณภาพเกินหน้าเกินตากว่าไททาเนี่ยมทั่วไป ซึ่งมีความเงางามคงทน แถมยังมีน้ำหนักเบากว่าอีกด้วย แค่นั้นยังไม่พอไซโกยังใช้ดีไซน์ฝาหลังปิดตัวเครื่องอย่างมิดชิดแบบซุปเปอร์ซีลเพื่อปกปักรักษาเครื่องภายในอย่างทะนุถนอมอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดความประณีตที่สมบูรณ์ที่สุดของไซโกก็ว่าได้ ทำให้นาฬิกาดูเพียวบางน่าสนใจจริงๆ เนื่องจากคัดสรรมาจาก 40 ดีไซน์ที่ทีมดีไซเนอร์ของไซโก แข่งกันออกแบบมาเชียวแหละ และทั้งหมดที่สาธยายมานี้ มาพร้อมกับความเอ็กซ์คลูซีฟผลิตเพียง 200 เรือนทั่วโลก ซึ่งได้โควต้านำเข้าไทยเพียง 5 เรือนเท่านั้น เป็นสุดยอด “Limited of Limiteds” เลยทีเดียว!

          The Limited Edition Sportura Automatic Chronograph The skeleton-style dial echoes the design of a sports car wheel.

          ต่อด้วยสมบัติชิ้นที่สอง ซึ่งแค่เพียงหยิบออกมาจากกล่องก็สัมผัสได้ถึงความแรงเต็มพิกัด ของสปอร์ตวอทช์ที่พร้อมให้คุณลุยอย่างหรู กับ The Limited Edition Sportura Automatic Chronograph สุดยอดสปีดเร้าใจเต็มสมรรถนะของนาฬิกาดีไซน์ยนตรกรรม ให้คุณรู้สึกเสมือนกำลังขับเคลื่อนเต็มพิกัดบนสนามประลองความเร็ว มาพร้อมกับตัวเครื่อง 8R28 ซึ่งเป็นระบบออโตเมติกครั้งแรกของเรือนเวลาคอลเล็คชั่นนี้ ที่ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของระบบคิเนติกและระบบควอซต์เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีสุดยอดฟังก์ชั่นล้ำเทรนด์อย่างโครโนกราฟ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นออโตเมติก โครโนกราฟที่มีความแม่นยำมากที่สุดในโลกซะด้วย ที่บอกว่าแม่นยำสุดยอดนั้นก็เห็นได้จากตัว Column wheel and a vertical clutch ซึ่งเป็นดีไซน์ระบบจับเวลาที่ลงตัวที่สุดไม่ให้ขาด-เกินยังไงล่ะ แน่นอนว่าคุณจะได้การจับเวลาที่เที่ยงตรงที่สุด

          นอกจากนี้เมื่อการจับเวลาสิ้นสุด แล้วคุณต้องการจะเคลียร์เวลาให้ไปที่ตำแหน่งเริ่มต้นนั้น เจ้า Sportura ตัวนี้ก็ยังมีตัว one-piece three-pointed hammer ภายในที่ทำให้เข็มทั้ง 3 เข็ม ทั้งเข็มชั่วโมง เข็มนาที และเข็มวินาที กลับไปที่ตำแหน่งเริ่มต้นพร้อมกันตู้ม! เดียว แค่เพียงกดตรงตำแหน่งเคลียร์การจับเวลาแค่ปลายนิ้วเเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากนาฬิกาจับเวลาทั่วไป แค่นั้นยังไม่พอเพราะเจ้า Sportura Limited Edition 2010 นี้ ยังพ่วงความพิเศษแบบล้วงลึกให้เห็นวันที่กันอย่างจะจะ ไม่มีหมกเม็ด กับ date calendar ring ที่สามารถมองลอดผ่านกระจกแซฟไฟร์ได้อีกด้วย แถมยังออกตัวแรงแซงโค้งตั้งแต่ยังไม่ทันออกสตาร์ท ด้วยยอดจองสูงปรี๊ดกว่า 3 เท่าตัว ของปริมาณการผลิตเพียง 1,000 เรือนทั่วโลก แต่ได้โควต้านำเข้ามาในไทยเพียง 21 เรือนเท่านั้น งานนี้แฟน Sportura ตัวจริงต้องใช้ความเร็วช่วงชิงความแรงกันซะแล้ววว.....

          ตามติดมาด้วยสมบัติชิ้นสามและสี่ ที่มีนามสมบัติว่า “Criteria Limited Edition 2010”

          สปอร์ตวอทช์ยอดฮิตแห่งเอเชีย ซึ่งไม่ได้มาแบบเดี่ยวไมโครโฟน แต่มาแบบแพ็คคู่ทั้งชายและหญิง การันตีด้วยรูปสมบัติหล่อ-สวยเต็มสูบ ที่ช่วยเร่งทะยานความสมาร์ทอินเทรนด์ ด้วยการนำดีไซน์แห่งยานยนต์มาป็นแรงขับเคลื่อนความเร้าใจ ให้คุณโฉบเฉี่ยวในทุกการเดินทาง เอ๊ย! ในทุกสไตล์ ไม่ว่าจะใส่ทำงานหรือใส่เที่ยว พร้อมระบบจับเวลากับฟังก์ชั่นโครโนกราฟ ทั้ง Criteria Gent (ไครทีเรีย สุภาพบุรุษ) และ Criteria Lady (ไครทีเรีย สุภาพสตรี) ที่มีจำนวนจำกัดแบบลิมิตเต็ด เอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ กับสัญลักษณ์ Limited Edition และการแสดงหมายเลขประจำตัวเครื่องบนฝาหลัง ที่ทำให้หนุ่มหล่อสาวสวยคู่นี้กลายเป็นคู่รักที่น่าจับตามองที่สุดในขณะนี้

          พ่วงความแรงอีกนิด ด้วยสมบัติชิ้นที่ห้า กับ The 2010 Velatura Collection 2010 ที่แค่ฟังชื่อก็ต้องมีหลายคนที่ร้อง “อ๋อ” เพราะเจ้า Velatura ผู้เพียบพร้อมไปด้วยฟังชั่นจับเวลาสำหรับการแข่งขันเรือใบนี้ ได้พกดีกรีความสปอร์ตมาปะทะต้องตา จนได้รับการยอมรับให้เป็นสปอร์ตวอทช์ “จ้าวแห่งมหาสมุทร” ที่ใช้ในการแข่งขันเรือใบระดับโอลิมปิกอย่าง “The International 49er Class Association” มาตั้งแต่ปี 2007 เชียวนะ ซึ่งแน่นอนว่าจ้าวแห่งมหาสมุทรอย่าง “Velatura” จะช่วยเพิ่มดีกรีให้กับมหาสมุทรแอตแลนติก บนเกาะบาฮามาสจนร้อนระอุอย่างแน่นอน และในปีนี้ The 2010 Velatura Collection สปอร์ตวอร์ทช์ผู้ท้าทายสายน้ำ ได้มาพร้อมกับรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวในลุคสมาร์ท – สปอร์ต ที่พ่วงคุณสมบัติสุดทันสมัยอย่าง “Kinetic Direct Drive” (คิเนติก ไดเร็ค ไดรฟ์) สำหรับคนคันมือที่อยากจะขึ้นลานนาฬิกาด้วยตนเอง แถมยังมีฟังก์ชั่น “The Velatura 49er class Chronograph” ที่ไซโกได้พัฒนาเป็นพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองการผนึกกำลังเป็นทางการระหว่างจ้าวแห่งมหาสมุทรอย่าง “Velatura” กับจ้าวฉลามแล่นใบอย่าง “The 49 er” ซึ่งพระเอกตัวจริงแห่งมหาสมุทรเรือนนี้มีโควต้านำเข้ามาในไทยในจำนวนจำกัดเท่านั้นนะ

          เอาใจสาวๆ ด้วยสมบัติชิ้นที่หก กับความลิมิตเต็ดที่ไม่ได้แค่สวยเบาๆ แต่มาแบบสวยใหญ่ กับนาฬิกาคอลเล็คชั่นโด่งดังของสาวญี่ปุ่น ในนาม “ Lukia” ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนาฬิกาอินเทรนด์สำหรับสาวทันสมัย ที่สดใส โดนใจเหล่าเจแปนนีสต้ามาตลอดระยะเวลา 15 ปี ซึ่งปีนี้ก็ถือเป็นฤกษ์ดีที่ไซโกไทยแลนด์แดนสาวสวยจะนำเรือนเวลาฉลองครบรอบ 15 ปี มาให้สาวๆ ได้สนุกกับการเปลี่ยนลุคตัวเองให้กลายเป็น J-Generation กับเขาบ้าง ด้วย Lukia 15th Anniversary Limited Edition นาฬิกาหวานๆ ที่ซ่อนความหรูหรากับประกายกลิตเตอร์ระยิบระยับสะท้อนลำแสงแห่งความอ่อนช้อยแทนตัวเลขบนหน้าปัด ที่มีเพียง 30 เรือนในไทย แถมยังเพิ่มความน่ารักน่าหยิกด้วยริบบิ้นโบว์สีชมพูสด บนกล่องพรีเมี่ยมพิเศษที่มีเฉพาะ Lukia 15th Anniversary Limited Edition นี้เท่านั้น ทั้ง “สวย” และมาแบบ “ยิ่งใหญ่” ขนาดนี้ เหล่า J-Pop รีบคว้าด่วน!

          ปิดท้ายด้วยสมบัติชิ้นที่เจ็ด กับ Prospex “Field Master” โดเมสติกโมเดลที่มีขายเฉพาะในญี่ปุ่น แต่ไซโกไทยแลนด์ก็ได้ช่วงชิงนำเข้ามาแบบเท่ๆ เพียง 10 เรือน จาก 300 เรือนทั่วโลก เพื่อให้หนุ่มสปอร์ตผู้คลั่งไคล้ความท้าทายแบบแอดเวนเจอร์ได้ภูมิใจสุดๆ กับการได้เป็นเจ้าของ Prospex “Field Master” ที่เอ็กคลูซีฟเรือนนี้

          และไม่ว่าจะมองมุมไหนก็สัมผัสได้ถึงพลังความหล่อล่ำของตัวเรือนที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินป่า ซึ่งไม่ได้หล่อแค่รูป แต่ยังพกความเท่มาเต็มกระเป๋า เพราะเจ้าบึกบึนผู้นี้ชอบการท่องเที่ยวผจญภัยแบบสมบุกสมบัน สะเทิ้นน้ำ สะเทิ้นบก ตะลุยป่าฝ่าดงแบบไม่ต้องกลัวว่าจะหลงเสียด้วย นั่นเป็นเพราะขอบหน้าปัดของเจ้าบึกบึนสามารถแสดงทิศทางทั้งเหนือ ใต้ ออก ตก อย่างแม่นยำ และยังมาพร้อมกับความแข็งแกร่งทนทานสมชื่อกับตัวเรือนสแตนเลสสตีลเคลือบ Black IP coating แค่นั้นยังไม่พอเจ้า“Field Master” ยังพกความสนุกสุดมันที่ให้คุณสามารถขึ้นลานได้ด้วยตนเองหรือจะเขย่าเพื่อสะสมพลังงานในแบบออโตเมติกก็ได้ เรียกได้ว่าเป็นแอดเวนเจอร์วอทช์ตัวพ่อแห่งวงการนาฬิกาเลยทีเดียว

          บรรยายสรรพคุณของสมบัติ 7 ประจัญบานของไซโก มาก็เยอะแล้ว แต่ไม่ว่าจะสาธยายซะยาวขนาดไหนก็ไม่เท่าได้เห็นตัวจริงและจับจองสุดยอด Limited of Limteds ของ “ไซโก” ในงานCENTRAL INTERNATIONAL WATCH FAIR 2010 ในวันที่ 9 กันยายน – 6 ตุลาคม นี้หรอกนะ...จะบอกให้

2115
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จัดสัมมนา “KRUNGSRI Journey of Opportunities : เส้นทางแห่งโอกาส”
เชิญผู้เชี่ยวชาญเสวนา การสร้างโอกาสทางธุรกิจและการลงทุน 

ชลบุรี 27 สิงหาคม 2553 – ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) รุกต่อยอดการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าพร้อมตอกย้ำความสำคัญของเศรษฐกิจภาคตะวันออก เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจทั้งมหภาคและจุลภาค ด้านการเงิน การลงทุนและอสังหาริมทรัพย์ ร่วมเสวนา “KRUNGSRI Journey of Opportunities : เส้นทางแห่งโอกาส” เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ตลอดจนการรับมือและการสร้างโอกาส แก่ลูกค้ารายใหญ่ในพัทยา ชลบุรี  ระยองและจังหวัดใกล้เคียง

นายแดน ฮาร์โซโน่  ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านการตลาดองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารจัดสัมมนา “KRUNGSRI Journey of Opportunities : เส้นทางแห่งโอกาส” ในภาคตะวันออก เนื่องจากธนาคารได้เล็งเห็นความสำคัญของภาคตะวันออก ถือเป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ทั้งด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การผลิต และการส่งออก อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ และท่าเรือน้ำลึก ธนาคารได้เพิ่มจำนวนสาขา และตั้งศูนย์ลูกค้าธุรกิจรายใหญ่และลูกค้าเอสเอ็มอี ตลอดจนปรับภาพลักษณ์สาขาของธนาคาร  ส่งผลให้ธนาคารเป็นหนึ่งในผู้นำในการให้บริการทางการเงินในพื้นที่ดังกล่าวธนาคารจึงจัดสัมมนา “KRUNGSRI Journey of Opportunities : เส้นทางแห่งโอกาส” ขึ้นอีกในปีนี้  เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ลูกค้าและผู้ประกอบการในภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ตลอดจนการวางแนวทางในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยได้เชิญนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ การเงิน การธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแง่คิดเพื่อให้ลูกค้าของธนาคารสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจและสร้างโอกาสจากสภาวะตลาดในปัจจุบัน เพราะมีโอกาสทางธุรกิจเกิดขึ้นได้ในทุกๆ รอบเศรษฐกิจเสมอ

การจัดสัมมนาในครั้งนี้ธนาคารได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญและวิทยากรสาขาต่างๆ  อาทิ  ดร. ปรเมธี  วิมลศิริ  รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รศ.มานพ  พงศทัต  อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคุณกรกฏ ผดุงจิตต์ รองเลขาธิการและรองประธานสายงานเศรษฐกิจ   สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นต้น

ก่อนหน้านี้ธนาคารได้จัดสัมมนารูปแบบดังกล่าวแก่ลูกค้าในภาคตะวันออกในปีที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับ อย่างดียิ่งจากผู้ประกอบการและลูกค้าของธนาคารที่เข้าร่วมสัมมนาแลกเปลี่ยนมุมมองธุรกิจและแนวคิดด้านเศรษฐกิจอย่างคับคั่ง  ทั้งนี้ธนาคารมีแนวนโยบายที่จะจัดงานในรูปแบบแบบดังกล่าวในเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจของแต่ละภาคทั่วประเทศ         

ข้อมูลเกี่ยวกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2488 ปัจจุบันเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 851,575 ล้านบาท เป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจรแก่ทั้งลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าบุคคล ผ่านเครือข่ายสาขา 578 แห่งทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2550 จีอี มันนี่ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำเพื่อรายย่อยชั้นนำของโลกได้บรรลุข้อตกลงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจและความเชื่อมั่นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับการผสานความสามารถทางธุรกิจของสององค์กร เพื่อให้ธนาคารกรุงศรีอยุธยาบรรลุเป้าหมายการเป็นธนาคารที่ให้บริการครบวงจรชั้นนำของประเทศไทย โดยปัจจุบัน จีอี มันนี่ และกลุ่มรัตนรักษ์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารในสัดส่วนร้อยละ 33 และร้อยละ 25 ตามลำดับ ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ธนาคาร  www.krungsri.com

Pages: 1 ... 139 140 [141] 142 143 ... 155