Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - wmt

Pages: 1 ... 121 122 [123] 124 125 ... 138
1831
ซัมซุงนั่งแท่นผู้นำตลาดทีวีทั่วโลก ครองอันดับหนึ่งต่อเนื่อง 19 ไตรมาส สร้างสถิติยอดขายเกิน 10 ล้านเครื่อง 2 ไตรมาสติดต่อกัน
 
          ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการนั่งแท่นผู้นำตลาดทีวีรวม ทั่วโลกต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 19 โดยล่าสุดสร้างสถิติยอดขายทีวี 10 ล้านเครื่องเป็นเวลา 2 ไตรมาสติดต่อกัน ครองส่วนแบ่งตลาดเกินกว่า 20 % ในหมวดทีวีรวมทุกประเภททั้งทีวีจอแบน แอลซีดีทีวี แอลอีดีทีวี และ พลาสม่าทีวี พร้อมสานต่อความเป็นผู้นำตลาดด้วยสูตร “ทีวี 3 มิติ = ซัมซุง=สมาร์ททีวี”

          มร.คิม ยาง-คยู รองประธานอาวุโส กลุ่มธุรกิจจอแสดงภาพ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เปิดเผยว่า “จากข้อมูลดีสเพลย์ เซิร์ช (Display Search) ระบุว่า ปัจจุบันซัมซุงครองตำแหน่งผู้นำตลาดโทรทัศน์รวมทุกประเภทในด้านยอดขายติดต่อกัน 19 ไตรมาส นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ในปี 2006 โดยล่าสุดในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ซัมซุงครองอันดับหนึ่งในด้านยอดขายด้วยส่วนแบ่งการตลาด 21.3% (มูลค่า) โดยนอกจากซัมซุงจะเป็นผู้นำในตลาดโทรทัศน์รวมทุกประเภทแล้ว ซัมซุงยังครองส่วนแบ่งตลาดที่เกินกว่า 20% ครอบคลุม 4 หมวดหลักได้แก่ ทีวีจอแบน 21.6% แอลซีดีทีวี 20.9% แอลอีดีทีวี 25.3% และพลาสม่าทีวี 25.9% ในส่วนของตลาดแอลอีดีทีวีที่ผู้ผลิตรายต่างๆ ยังคงต้องเผชิญกับการแข่งขันที่หนักหน่วงในไตรมาสสุดท้ายของปีนั้น ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ยังคงพิสูจน์ความสำเร็จในการเป็นเจ้าตลาดรองแชมป์แอลอีดีทีวีด้วยส่วนแบ่งการตลาด 25.3% เพื่อเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จของสูตร “แอลอีดีทีวี=ซัมซุง”
          นอกจากนี้ซัมซุงยังรั้งตำแหน่ง Quadruple 20 หรือการครองส่วนแบ่งตลาดเกินกว่า 20% ติดต่อกัน 11 ไตรมาสนับตั้งแต่ปี 2008 ในหมวดทีวีรวม ทีวีจอแบน แอลซีดีทีวี และพลาสม่าทีวี อีกด้วย
          ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์พร้อมมุ่งสร้างความแข็งแกร่งเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำอย่างมั่นคงต่อไปในฐานะบริษัทระดับโลก โดยปัจจัยสำคัญที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้ซัมซุงเดินหน้าและครองตำแหน่งผู้นำตลาดโทรทัศน์ได้มาอย่างยาวนานถึง 5 ปี นั้นมาจากสูตรแห่งความสำเร็จของซัมซุง “ทีวี 3 มิติ=ซัมซุง=สมาร์ททีวี” มร. คิมกล่าวทิ้งท้าย

                                               ส่วนแบ่งตลาดของโทรทัศน์ซัมซุงในไตรมาสที่ 3 (ที่มา: ดีสเพลย์ เซิร์ช)
 
หมวด
 มูลค่า
 จำนวนเครื่อง
 
โทรทัศน์รวมทุกประเภท
 21.3%
 17.5%
 
โทรทัศน์จอแบน
 21.6%
 18.0%
 
โทรทัศน์จอแอลซีดี
 20.9%
 17.1%
 
โทรทัศน์จอแอลอีดี
 25.3%
 20.3%
 
โทรทัศน์จอพลาสม่า
 25.9%
 26.3%
 

          เกี่ยวกับ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์
          บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด คือ ผู้นำระดับโลกด้านเซมิคอนดักเตอร์ โทรคมนาคม สื่อดิจิตอล และเทคโนโลยีการควบรวมดิจิตอล ในปี พ.ศ. 2552 บริษัทมียอดขายรวม 116.7 พันล้านเหรียญสหรัฐมีพนักงานทั้งสิ้นประมาณ 157,700 คน ประจำอยู่ที่สำนักงานกว่า 185 แห่งใน 65 ประเทศ บริษัทประกอบด้วยหน่วยธุรกิจหลัก 7 หน่วย คือ ธุรกิจจอภาพ ธุรกิจการสื่อสารไร้สาย ธุรกิจระบบโทรคมนาคม ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าดิจิตอล ธุรกิจโซลูชันไอที ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ และธุรกิจจอแอลซีดี นอกจากจะได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่ง ในแบรนด์ระดับโลกที่เติบโตเร็วที่สุดแล้ว ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ยังเป็นผู้ผลิตโทรทัศน์ดิจิตอล หน่วยความจำ โทรศัพท์มือถือ และจอทีเอฟทีแอลซีดีชั้นนำอีกด้วย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ http://www.samsung.com

1832
กรุงศรี จับมือ ศศินทร์ เอแบค เปิดตัวโครงการ KRUNGSRI Leadership Academy สร้างเจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่ พร้อมออกกลยุทธ์ดันยอดสินเชื่อ SME
ตั้งเป้าปี 2554 ขยายตัว 9%

·        เปิดตัวโครงการ KRUNGSRI Leadership Academy ยึดคอนเซ็ปต์ The Key to Success มุ่งสร้างกลุ่มเจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่หรือทายาททางธุรกิจของลูกค้า ให้มีความพร้อมในการเป็นผู้นำในการสร้างความเป็นเลิศทางธุรกิจ
·        พร้อมดันยอดสินเชื่อ SME โตต่อเนื่องจากความสำเร็จปีที่แล้ว ตั้งเป้ายอดสินเชื่อปี 2554 ขยายตัว 9%
·        เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้า ปรับโครงสร้างการทำงานของเจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ พร้อมเพิ่มศูนย์ธุรกิจกรุงศรีอีก 15 แห่งภายในปี 2554
·        เตรียมออกผลิตภัณฑ์ SME เพิ่ม มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด

นายแดน  ฮาร์โซโน่  ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านการตลาด ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดโครงการ  KRUNGSRI Leadership Academy ด้วยความร่วมมือของสถาบันศึกษาที่มีชื่อเสียงระดับประเทศและระดับโลกประกอบด้วย สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย    (โดยความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  The Kellogg School Of Management ของมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น และ Wharton School ของมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย) และสถาบันพัฒนาองค์กร (Organization Development Institute) บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (โดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และมหาวิทยาลัย  ชั้นนำของโลกที่มีความ
เชี่ยวชาญด้านพัฒนาองค์กร ได้แก่ Stanford Center Professional Development ของมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด และมหาวิทยาลัยเป้ปเปอร์ไดน์) โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างองค์ความรู้ระดับ World Class ให้กับลูกค้าของธนาคารที่เป็นกลุ่มเจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่หรือทายาททางธุรกิจในการบริหารองค์กรและธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเน้นแนวคิดและทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ร่วมไปกับกรณีศึกษาจริงรวมถึง Lean and Six Sigma Workshop ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานและความพร้อมในการแข่งขันทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการได้สร้างสายสัมพันธ์ระหว่าง  ผู้เข้าอบรมเพื่อเชื่อมโยงและสนับสนุนการทำธุรกิจซึ่งกันและกันอีกด้วย   

สำหรับเนื้อหาหลักสูตรนั้น เน้นการเรียนรู้จากการอบรม สัมมนา ทั้งภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ร่วมกับการปฏิบัติจริงโดยเน้นการใช้กรณีศึกษาจริงของผู้เข้าอบรม เพื่อนำประสบการณ์มาเพิ่มทักษะในการวิเคราะห์ธุรกิจ พร้อมการปรับแนวคิดที่เหมาะสมกับองค์กรและพิจารณาแก้ไขปัญหาธุรกิจได้ด้วยตนเองอย่างเป็นระบบ โดยมีหลักสูตรด้าน

Global Leadership Development แนวทางการพัฒนาองค์กรสู่สากล โดยการใช้ทฤษฎีแนวใหม่
Self Empowerment กลยุทธ์เสริมสร้างสมรรถนะส่วนบุคคล
Sustainability Strategy กลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจ การเงิน การลงทุน การตลาด และการบริหารทรัพยากรบุคคล และการเสริมสร้างองค์กรมีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน
Leadership Network กิจกรรมเรียนรู้ร่วมกันและการตอบแทนคืนสู่สังคม
Synergy and Systematic Thinking สร้างแนวคิดใหม่ด้านการจัดการ
Lean and Six Sigma แนวคิดประยุกต์การดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการบริหารงาน

นายแดนกล่าวเพิ่มเติมว่า หลักสูตรโครงการดังกล่าวมีระยะเวลาการอบรม 7 สัปดาห์ และได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก โดยมีผู้เข้ารับการอบรมชุดแรกจำนวน  50 ท่าน และธนาคารจะขยายหลักสูตรและจำนวนครั้งในการอบรมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น

ด้านนายภูมิชาย วัชรพงศ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2553 ที่ผ่านมา ธนาคารประสบความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้าผู้ประกอบการ SME เป็นอย่างดี โดยมียอดสินเชื่อโตขึ้น มากกว่า 9 % เมื่อเทียบกับยอดสินเชื่อเมื่อสิ้นปี 2552 ในขณะที่ธนาคารสามารถควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-performing Loan: NPL) ให้อยู่ที่ระดับต่ำว่า 3%


“สาเหตุหลักที่สนับสนุนให้ปี 2553 เป็นปีแห่งความสำเร็จของกรุงศรี SME มาจากหลากหลายกิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปี ทั้งการออกผลิตภัณฑ์ ‘สินเชื่อตามใจคุณ’ ในช่วงต้นปี ซึ่งช่วยให้ลูกค้าของธนาคารมีความยืดหยุ่นทางการเงินและสามารถบริหารเงินหมุนเวียนได้คล่องตัวมากขึ้น การเปิดศูนย์ธุรกิจกรุงศรี SME เพิ่มในต่างจังหวัด 5 แห่ง ได้แก่ อยุธยา ราชบุรี พิษณุโลก หาดใหญ่และอุดรธานี เพื่อให้บริการที่ครบวงจร และอำนวยความสะดวกทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว นอกจากนี้ ธนาคารยังมีการจัดสัมมนาและกิจกรรมตลอดปีเพื่อให้ลูกค้ากลุ่ม SME ได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจในกลุ่ม SME ด้วยกัน ที่สำคัญ ธนาคารได้มีการปรับปรุงกระบวนการทำงาน ตลอดจนลดขั้นตอนการทำงานในการอนุมัติสินเชื่อให้มีความรวดเร็ว ซึ่งช่วยสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น” นายภูมิชายกล่าว

สำหรับปี 2554 ธนาคารตั้งเป้าขยายฐานผู้ประกอบการ SME ทั่วประเทศ  จำนวน 9% ทั้งนี้ ธนาคารมีแผนปรับโครงสร้างของเจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ (Relationship Manager) เพื่อให้บริการลูกค้า SME ได้อย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มศูนย์ธุรกิจกรุงศรีอีก 15 ศูนย์ทั่วประเทศ เพื่อให้บริการธุรกรรมทางการเงินแก่ลูกค้า SME อย่างครบวงจรในทุกภูมิภาค ทั้งสินเชื่อเพื่อการนำเข้า-ส่งออก การบริหารเงินสด การค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ธนาคารจะออกผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ 2-3 ผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าผู้ประกอบการ SME รวมทั้งจัดสัมมนาและกิจกรรมที่ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายสายสัมพันธ์ของลูกค้ากลุ่ม SME อย่างต่อเนื่องตลอดปี

ลูกค้าผู้ประกอบการธุรกิจ SME สามารถติดต่อขอข้อมูลและคำปรึกษาด้านธุรกิจ SME ได้โดยตรงที่ Krungsri SME Call Center โทร  02 208 2900 วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.00 –
17.30 น.

ข้อมูลเกี่ยวกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2488 ปัจจุบันเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย เป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจรแก่ทั้งลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าบุคคล ผ่านเครือข่ายสาขาธนาคารจำนวน 586 สาขาและช่องทางจำหน่ายกว่า 11,000 แห่งทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2550 จีอี แคปปิตอล ซึ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำเพื่อรายย่อยชั้นนำของโลกได้บรรลุข้อตกลงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยปัจจุบัน จีอี แคปปิตอล และกลุ่มรัตนรักษ์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารในสัดส่วนร้อยละ 33 และร้อยละ 25 ตามลำดับ ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ธนาคาร  www.krungsri.com

1833
SENA เปิดบ้านต้อนรับนักวิเคราะห์อย่างอบอุ่น



ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์(แถวแรกที่ 5 จากขวา) กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA  ให้การต้อนรับคณะนักวิเคราะห์หลักทรัพย์  ตัวแทนจากบริษัทหลักทรัพย์  ที่ให้เกียรติเข้าเยี่ยมชมกิจการ และรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตของบริษัทฯ และแนวโน้มภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปี 2554    โดยผู้บริหารบริษัทฯ ได้นำเสนอข้อมูลอย่างละเอียดและได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักวิเคราะห์  เมื่อเร็วๆ นี้

 


1834






           ซันซิล โค ครีเอชั่น ออกนวัตกรรมสูตร “นาโนคอมเพล็กซ์” จิ๋วแต่เจ๋ง เปิดตัวยิ่งใหญ่บน “คริสตัลรันเวย์” กลางเจ้าพระยาครั้งแรกของโลก พร้อมเปิด “เพอร์เฟค ซาลอน” ท้าสาวๆ สวยสมบูรณ์แบบ 5 เดือนฟรีที่เซ็นทรัลเวิลด์

          ซันซิล ต่อยอดความสำเร็จคอนเซปท์ โค ครีเอชั่น จับมือ 7 สุดยอดผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมระดับโลก ยกระดับสูตรแชมพูเพื่อผมสวยให้ล้ำหน้าไปอีกขั้น ล่าสุด เผยนวัตกรรม “ซันซิล สูตรนาโนคอมเพล็กซ์” ครั้งแรกกับแชมพูสูตรนาโน ซึ่งมีอนุภาคเล็กขนาดนาโนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปดูแลเส้นผมให้สวย “สมบูรณ์แบบ” แบบเส้นต่อเส้นตั้งแต่โคนจรดปลาย ออกตัวปีกระต่ายด้วยกิจกรรมแรงๆ เขย่าวงการแฮร์แคร์อีกครั้ง เนรมิตแฟชั่นโชว์บน “คริสตัลรันเวย์” เวทีที่ประดับด้วยคริสตัลครั้งแรกของโลก กลางเจ้าพระยา พร้อมเปิด ซันซิล เพอร์เฟค ซาลอน ให้ผู้หญิงได้สัมผัสประสบการณ์สวยสมบูรณ์แบบด้วยตัวเอง 5 เดือนฟรีที่เซ็นทรัลเวิลด์

          นางวรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหารด้านการตลาดผลิตภัณฑ์ความงาม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัว ซันซิล โค ครีเอชั่น ที่ดึง 7 สุดยอดผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมระดับโลกมาร่วมพัฒนาสูตรที่ดีที่สุดในช่วงต้นปีที่แล้วนั้นได้รับการตอบรับจากตลาดดีเยี่ยม ทั้งในด้านของแนวคิด ประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงยอดขายที่เติบโตถึง 12% และมีอัตราการทดลองใช้ และการซื้อซ้ำที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย

          “เมื่อตลาดตอบรับดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ทีมงานและผู้เชี่ยวชาญทุกคนไม่หยุดนิ่งและเดินหน้าคิดค้นสูตรที่ดีที่สุดให้ดียิ่งขึ้นไปอีกจนได้นวัตกรรมสูตรนาโนคอมเพล็กซ์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่นำเทคโนโลยีนาโนมาใช้กับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เพื่อให้ได้สารบำรุงผมที่มีอนุภาคเล็กขนาดนาโน เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลเส้นผมได้ครอบคลุมทั่วถึงทุกๆ จุดบนผมเส้นต่อเส้น" นางวรรณิภากล่าว

          ซันซิลได้เปิดตัว ซันซิล สูตรนาโนคอมเพล็กซ์ ด้วย 2 กิจกรรมใหญ่แบบ “ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” เพื่อสร้างความคึกคักให้กับวงการแฮร์แคร์ ดังนี้

          1) เนรมิตแฟชั่นโชว์บนรันเวย์กลางแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้สมบูรณ์แบบกว่า ตระการตากว่าที่เคย ด้วย “คริสตัลรันเวย์” นับเป็นรันเวย์แรกของโลกที่ประดับด้วยคริสตัลสุดอลังการ นำทีมเดินแบบโดย อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ พรีเซ็นเตอร์ซันซิล และนางแบบแถวหน้าของวงการที่จะมาถ่ายทอดผลงานสร้างสรรค์ของเหล่าเพอร์เฟคชั่นนิสต์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมจากซันซิล โดย ยูโกะ ยามาชิตะ และ โทมัส ทอร์ ที่บินมาไทยเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ผนวกกับความร่วมมือของ บัทเลอร์ แอนด์ วิลสัน แบรนด์เครื่องประดับคริสตัลชื่อดังจากลอนดอน ซึ่งนำเครื่องประดับคริสตัลมาใช้ในแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

          2) เพื่อให้คอนซูเมอร์ได้ทดลองประสิทธิภาพของซันซิล สูตรนาโนคอมเพล็กซ์ ด้วยตัวเอง เราจึงได้เปิด ซันซิล เพอร์เฟค ซาลอน ซึ่งเป็นแฟลกชิพซาลอนที่ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 เซ็นทรัล เวิลด์ โซนเอเทรี่ยม 5 เดือนเต็ม ซึ่งนอกจากจะเป็นซาลอนที่จะให้บริการผมสวยสมบูรณ์แบบ ทั้งบริการ สระ เซ็ท ไดร์ แล้วยังมีบริการที่ปรึกษาด้านความงาม โดยดีไซน์เนอร์จากเสื้อผ้าแบรนด์ดัง อาทิ ห้องเสื้อ Asava โดยคุณหมู พลพัฒน์ และDOROTHY PERKINS เสื้อผ้าชั้นนำจากอังกฤษ และเคาน์เตอร์เครื่องสำอางพร้อมเมกอัพอาร์ติสต์ จาก Red Earth เพียงแค่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ซันซิล ทั้งใน www.sunsilkcocreations.com และ facebook/ SunsilkThailand จองคิวรับบริการ Becoming a Perfect Model พรินท์ Voucher มาแสดงเพื่อรับบริการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดือนมิถุนายนนี้”

          “เพื่อให้สามารถสื่อสารประสบการณ์ผมสวยสมบูรณ์แบบให้ผู้หญิงไทยทั่วประเทศ เราจึงมีกิจกรรมครบมิติเพื่อสนับสนุนการเปิดตัว ทั้งออนกราวน์ ออนแอร์ และออนไลน์ โดยนอกจาก 2 อีเว้นท์ใหญ่ที่กล่าวไปแล้ว เรายังมีสื่อสนับสนุนแบบ 360 องศาอัดแน่นเช่นเคย ทั้งหนังโฆษณา และกิจกรรมการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งใน www.sunsilkcocreations.com และ http://www.facebook.com/home.php#!/SunsilkThailand เราเชื่อมั่นว่า

          ซันซิล สูตรนาโนคอมเพล็กซ์ใหม่นี้ จะประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับอย่างสูงไม่แพ้กับซันซิล โค ครีเอชั่น ที่เปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา” นางวรรณิภากล่าวทิ้งท้าย

          สัมผัสนวัตกรรมเพื่อผมสวยสมบูรณ์แบบ เส้นต่อเส้น ของผลิตภัณฑ์ซันซิล สูตรนาโนคอมเพล็กซ์ ทั้ง 7 สูตร ได้แก่ สูตรฟื้นฟูโครงสร้างผมแห้งเสีย (สีส้ม) สูตรผมมีน้ำหนักจัดทรงง่าย (สีชมพู) สูตรผมนุ่มลื่นเรียบสวย (สีเหลือง) สูตรลดการขาดร่วงของเส้นผม (สีทอง) สูตรเสริมความแข็งแรงให้ผมยาว (สีเขียว) สูตรปกป้องผมทำสีให้เงางาม (สีแดง) และสูตรผมดำเงางาม (สีดำ) ได้แล้วตามซูเปอร์มาเก็ตและร้านค้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ เป็นต้นไป

1835


สัมผัสบรรยากาศแสนโรแมนติกเคล้าความอร่อยที่ไม่รู้ลืม ในวันวาเลนไทน์ ที่ ดิ แอนนา เรสเตอรอง @ สาทร ซอย 6 บนถนนสาทรเหนือ

ดิ แอนนา เรสเตอรอง ร้านอาหารสุดเก๋ ณ สาทรซอย 6 (ซอยข้างโรงแรมเอเวอร์กรีน ลอเรล) บนถนนสาทรเหนือ ขอเชิญชวนคู่รักที่กำลัง “อิน เลิฟ” สุด ๆ มาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลวาเลนไทน์ กับเมนูอาหารชุดพิเศษพร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันแสนโรแมนติกในเรือนไม้สักโบราณที่มีอายุกว่า 100 ปี 

ในวาเลนไทน์ปีนี้ ซึ่งตรงกับวันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ คุณชาร์ลีและทีมพ่อครัว-แม่ครัวของ ดิ แอนนา เรสเตอรอง เตรียมต้อนรับค่ำคืนสุดแสนโรแมนติกด้วยเมนูอาหารชุดพิเศษถึง 2 ชุด ซึ่งรับรองว่าทุกคนจะต้องตกหลุมรัก

โดยชุดแรกนั้น ปลาแซลมอนสอดไส้ราดด้วยซ้อสครีมราสเบอร์รี่ (Norwegian Stuffed Salmon served with Raspberry Cream Sauce) คุณชาร์ลีได้นำเมนูจานนี้กลับมาให้บริการอีกครั้งเพียงวันเดียวเท่านั้น หลังจากได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงเทศกาล   คริสมาตที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนี้ ปลาแซลมอนสดได้ถูกนำมาสอดไส้ด้วยเนื้อกุ้งและเนื้อปูสด ก่อนที่จะนำมาราดด้วยซ้อสครีมราสเบอร์รี่ที่ขึ้นชื่อและเป็นสูตรเฉพาะของคุณชาร์ลี สำหรับคนที่หลงใหลในหมูคูโรโบตะ หรือหมูดำไม่ควรพลาด สเต๊กหมูคูโรบุตะสอดไส้ (Stuffed Kurobuta Pork Chop served with Pineapple Sauce) ใช้เนื้อหมูดำจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นเนื้อหมูที่อร่อยที่สุดในโลก และยังมีคอเรสเตอรอลต่ำมาก หลังจากที่ได้นำมาปรุงรสแล้ว คุณชาร์ลีได้สอดไส้ด้วยผลไม้นานาชนิด ก่อนที่จะนำมาราดด้วยซ้อสสับปะรดที่เข้ากันดีเยี่ยม 

อาหารชุดพิเศษทั้ง 2 นี้ มีให้บริการในช่วงมื้อค่ำของวันวาเลนไทน์เท่านั้น ในราคาเพียง 750 ต่อชุด ท่านยังได้อิ่มอร่อยกับ ซุปครีมผัก สลัดผักสด และตบท้ายด้วยสตอร์เบอร์รี่ชีสเค้ก และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองค่ำคืนสุดแสนพิเศษนี้ ทางร้านขอมอบ สปาร์คกลิ้ง ไวน์ ให้กับทุกท่านที่ได้สั่งอาหารชุดดังกล่าว     

The Anna Restaurant & Art Gallery  (ดิ แอนนา เรสเตอรอง แอนด์ อาร์ต แกลเลอรี) ให้บริการอาหารไทยและอาหารสไตล์ยุโรปหลากหลายเมนูให้ได้ลิ้มลอง พร้อมขนมเค้กหลากรสและเครื่องดื่มให้เลือชิมมากมาย The Anna Restaurant สามารถ เดินทางเข้า-ออกได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งจากถนนสีลม (ซอยพิพัฒน์ ข้างธนาคารกรุงเทพสาขาใหญ่) และ ถนนสาทรเหนือ (สาทรซอย 6 ซอยข้างโรงแรม เอเวอร์กรีน ลอเรล) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 น.- 22.00 น. และหากท่านประสงค์ที่จะจัดงานเลี้ยงฉลองหรือในโอกาสอื่น ๆ ก็ตาม ทางร้านยังมีห้องจัดเลี้ยงถึง 3 ห้องไว้ให้บริการ ซึ่งสามารถจัดงานเลี้ยงรับรองได้ตั้งแต่ 10 คน ถึง 120 ท่าน ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของเรายังยินดีที่จะคำปรึกษา วางแผน พร้อมดำเนินการจัดการต่าง ๆ เพื่อให้งานของท่านออกมาสมบูรณ์แบบเป็นที่จดจำไปนาน สามารถสำรองโต๊ะ หรือจองห้องจัดเลี้ยงในโอกาสพิเศษได้ที่ (02) 237 2788-9 เยื่ยมชมเว็บไซด์ของเราได้ที่ www.theannarestaurant.com หรือที่ www.facebook.com/The-Anna-Restaurant-Art-Gallery/

1836


          โฟร์โมสต์เดินหน้าสนับสนุนเยาวชนไทยเล่นกีฬา จัด “โฟร์โมสต์ ไทยแลนด์ คัพ ราชันฟุตบอลพลาสติก” ปีที่ 6 รอบชิงชนะเลิศ โรงเรียนอรรถวิทย์คว้าแชมป์สุดยอดนักเตะ รับถ้วยรางวัลเกียรติยศจากนายกรัฐมนตรี

          บริษัท ฟรีสแลนด์ ฟู้ดส์ โฟร์โมสต์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดย นายชนินทร์ อรรจนานันท์ (กลาง) กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยนางปิยนุช ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และนายรณยุทธ จงเจริญรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลและองค์กรสัมพันธ์ จัดการแข่งขัน “โฟร์โมสต์ ไทยแลนด์ คัพ ราชันฟุตบอลพลาสติก ปีที่ 6” ระเบิดศึกรอบชิงแชมป์ประเทศไทย โดยมีเยาวชนร่วมกิจกรรมกว่าพันคน ณ เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์บางกะปิ ผลการแข่งขันโรงเรียนอรรถวิทย์ เฉือนชนะโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ด้วยคะแนน 3 – 1 คว้าถ้วยรางวัลเกียรติยศจากนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และทุนการศึกษาจากโฟร์โมสต์มูลค่า 100,000 บาทไปครอง

          การแข่งขัน โฟร์โมสต์ ไทยแลนด์ คัพ ราชันฟุตบอลพลาสติก 2010 เป็นการแข่งขันฟุตบอลพลาสติกในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยมีโรงเรียนมัธยมส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 256 ทีมจาก 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ โดยทำการแข่งขันชิงถ้วยรางวัลจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมรางวัลทุนการศึกษาทั้งโครงการรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้ โฟร์โมสต์ยังได้จัดให้มีการแข่งขัน โฟร์โมสต์ ซูเปอร์เชียร์ 2010 เพื่อคัดเลือกทีมที่สร้างสีสันและความสนุกสนานให้กับการแข่งขันเข้ารอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ จากทั้งหมด 22 ทีม ทั่วประเทศ ซึ่งการแข่งขันทีมกองเชียร์จะเน้นความพร้อมเพรียง ความแข็งแรง และความสามัคคีของสมาชิกในทีมเป็นหลักในการพิจารณา สำหรับผลรางวัลสุดยอดกองเชียร์ ซูเปอร์เชียร์ 2010 ได้แก่ทีมจากโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ จ. สมุทรปราการได้รับทุนการศึกษามูลค่า 30,000 บาท และถ้วยรางวัลจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

          “ทางบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะตอบแทนสิ่งดีๆ ให้กับสังคมอย่างต่อเนื่อง ไม่เฉพาะการเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการเท่านั้น สำหรับกิจกรรม โฟร์โมสต์ ไทยแลนด์ คัพ ราชันฟุตบอลพลาสติก 2010 ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 6 แล้วโดยมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมให้เยาวชนไทยมีความรักความสามัคคี มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ไม่หันไปพึ่งยาเสพติด ซึ่งในปี 2554 นี้ โฟร์โมสต์จะยังคงเดินหน้าส่งเสริมกิจกรรมด้านกีฬาแก่เยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลสำหรับเยาวชนแล้วทางบริษัทยังจะต่อยอดการทำกิจกรรมที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับคนไทยในทุกช่วงวัยอีกด้วย โดยในปีนี้ โฟร์โมสต์ จะเน้นเรื่องการให้ความรู้เกี่ยวกับโภชนาการที่ดีและตรวจสุขภาพฟรีแก่คนไทยทั่วทั้งประเทศ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนไทยหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพให้มากขึ้น ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนี้จะได้มีการแจ้งรายละเอียดให้ทราบในเร็วๆ นี้” นายชนินทร์กล่าว

1837
ตำรวจตรวจสอบพวกแอบอ้างเรียกเงินจากสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์

          กรุงเทพฯ (วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554) – เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการสืบสวนเพื่อเอาผิดกับผู้ที่แอบอ้างตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเรียกเงินจากกิจการต่างๆ ที่จำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับร้องเรียนจากเจ้าของเว็บไซต์แห่งหนึ่ง เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าได้รับอีเมล์จากบุคคลที่อ้างตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการและกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก. ปอศ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการตรวจค้นจับกุมองค์กรธุรกิจที่ต้องสงสัยว่าละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ข้อความในอีเมล์ฉบับนั้นข่มขู่ว่าจะทำการปิดเว็บไซต์หากไม่ได้รับเงินตามที่เรียกร้อง เจ้าของอีเมล์ที่ส่งจากจีเมล์ (Gmail) ฉบับนี้ เรียกร้องเงินจำนวนหลายหมื่นบาทเพื่อแลกกับการคุ้มครองในระยะเวลาหนึ่งปี

          เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจได้ตั้งหน่วยเฉพาะกิจขึ้นเพื่อสืบสวนและสาวให้ถึงตัวผู้แอบอ้างรายนี้ และเมื่อได้ตัวจะดำเนินการตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด

          “เราจะหาตัวผู้แอบอ้างรายนี้ให้ได้และดำเนินการจับกุมทันที” พ.ต.อ. ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ รองผู้บังคับการ บก. ปอศ.กล่าว “การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศในระดับนานาชาติ ใครก็ตามที่แสวงหาประโยชน์ส่วนตนแต่ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศต้องมัวหมอง สมควรได้รับโทษตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด”       

          พ.ต.อ. ชัยณรงค์ระบุว่าอีเมล์ข่มขู่นี้มุ่งหวังเรียกเงิน และเตือนบริษัท ห้างร้าน ต่างๆ ไม่ให้หลงเชื่อ แต่ให้ตรวจสอบกับบก. ปอศ. ก่อนดำเนินการใดๆ

          “การละเมิดลิขสิทธิ์ส่งผลร้ายต่อเราทุกคนตลอดจนประเทศชาติ” พ.ต.อ. ชัยณรงค์กล่าว “การลดการละเมิดลิขสิทธิ์สมควรกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ เราต้องปกป้องและส่งเสริมผู้คิดค้นนวัตกรรม การปกป้องคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาผ่านทางการบังคับใช้กฎหมายเป็นหน้าที่ของเรา นโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของรัฐบาลจะประสบความสำเร็จได้ต้องมีพื้นฐานอยู่บนการเคารพในทรัพย์สินทางปัญญา เราจะไม่ยอมทนต่อการแอบอ้างใดๆ ในเรื่องนี้

1838
สปาร์คเคิล (SPARKLE) แจก sampling
 
 

          บริษัท คิวรอน จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาร์คเคิล ไวท์ ยาสีฟันที่สร้างเสน่ห์ฟันขาว ไร้กลิ่นปาก แบรนด์ดังที่ได้รับความนิยมจากสหรัฐอเมริกา นำทีมโดยน้องๆ พริตตี้สาวสวย แจก Sampling ยาสีฟัน Sparkle Lemon Soda ในงาน ฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 67 ณ ห้างโตคิว บริเวณศุภชลาศัย เมื่อเร็ว ๆ นี้

1839
พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ แต่งตั้ง รัฐสิริ ไข่แก้ว ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำประเทศไทย
 


กรุงเทพฯ - 10 กุมภาพันธ์ 2554 – พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยสำหรับเครือข่าย ประกาศแต่งตั้ง รัฐสิริ ไข่แก้ว ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำประเทศไทย โดยนำพาประสบการณ์มากกว่า 13 ปี ด้านการขายและกลยุทธ์การบริหารช่องทางจำหน่ายในธุรกิจระบบรักษาความปลอดภัยและเครือข่าย มาช่วยผลักดันการเติบโตของธุรกิจพาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ ในประเทศไทย

“จากความสำเร็จที่ผ่านมาของรัฐสิริ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจระบบรักษาความปลอดภัยและเครือข่าย ทำให้รัฐสิริเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจของเราเติบโตในตลาดประเทศไทย” โจนาธาน ตัน กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคอาเซียน พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ กล่าว “เรามั่นใจว่าด้วยประสบการณ์ ความรู้และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในตลาดระบบรักษาความปลอดภัยของรัฐสิริ จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของ พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ ได้สำเร็จ พร้อมนำคุณค่าจากการนำเสนอสินค้าและบริการที่ดีมามอบให้กับคู่ค้าและลูกค้าของเราได้อย่างสมบูรณ์”

ในฐานะผู้จัดการประจำประเทศไทย รัฐสิริ ทำหน้าที่เป็นผู้นำทีมงานในประเทศไทย โดยดูแลครอบคลุมตั้งแต่งานส่วนปฏิบัติการทั้งหมด การขายและพัฒนาช่องทางจัดจำหน่าย เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ในประเทศไทย

ก่อนที่จะร่วมงานกับ พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์  รัฐสิริ เคยร่วมงานกับ เทรนด์ ไมโคร พร้อมกับพกพาประสบการณ์กว่า 13 ปีในธุรกิจด้านระบบรักษาความปลอดภัยและเครือข่ายในประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน และในช่วง 7 ปีที่ร่วมงานกับ เทรนด์ ไมโคร เขาได้สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมในการผลักดันการเติบโตจนทำให้เทรนด์ ไมโครมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านระบบจัดการเนื้อหาในองค์กร (Enterprise Content Management) เป็นอันดับหนึ่งนับตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา และก่อนหน้านั้นเขายังเคยรับบทบาทของผู้บริหารโดยดูแลด้านช่องทางจัดจำหน่ายให้กับ ซิสโก้ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย)

“ผมภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์  หนึ่งในบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัย” รัฐสิริ กล่าว “ผมมั่นใจในจุดยืนที่โดดเด่นของ พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ ในตลาด ในการนำเสนอระบบที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถมองเห็นพร้อมทั้งควบคุมการทำงานของเว็บแอพพลิเคชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่นำคุณค่ามาสู่องค์กรธุรกิจในเมืองไทยอย่างแท้จริง และเป็นระบบที่องค์กรธุรกิจตั้งตารอมาเป็นเวลานาน ทั้งนี้ผมมุ่งหวังที่จะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรธุรกิจของเราเพื่อนำเสนอระบบไฟร์วอลล์เพื่อการรักษาความปลอดภัยแบบล้ำหน้า (Next-Generation Firewall) ซึ่งจะปฎิวัติระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่ายในทุกองค์กร”

รัฐสิริ ไข่แก้ว สำเร็จการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง และบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการเงิน จาก มหาวิทยาลัยแห่งซานฟรานซิสโก

เกี่ยวกับ พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์

พาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับเครือข่าย โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ไฟร์วอลล์เพื่อการรักษาความปลอดภัยแบบล้ำหน้า (Next-Generation Firewall) ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถมองเห็นและควบคุมการใช้แอพพลิเคชันและเนื้อหาบนเครือข่ายด้วยการกำหนดนโยบายการใช้งานในระดับผู้ใช้ได้อย่างละเอียด ไม่ใช่แค่ในระดับของ IP Address เท่านั้น สามารถรองรับการทำงานเร็วสูงสุดถึง 10 Gbps. โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพของระบบลง ระบบไฟร์วอลล์ของพาโล อัลโต เน็ตเวิร์กส์ ทำงานบนพื้นฐาน App-ID ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่อยู่ระหว่างการจดลิขสิทธิ์เฉพาะของบริษัท สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้พร้อมทั้งควบคุมการใช้แอพพลิเคชันได้อย่างถูกต้องตามนโยบายที่กำหนด ไม่ว่าเป็นการใช้งานผ่าน พอร์ต โปรโตคอล หรือวิธีการหลบหลีกรูปแบบใด รวมถึงที่มีการเข้ารหัสแบบ SSL โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบเนื้อหาในระบบเครือข่ายเพื่อป้องกันภัยคุกคามและข้อมูลรั่วไหล ซึ่งนับว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกที่องค์กรธุรกิจสามารถใช้แอพพลิเคชัน Web 2.0 โดยที่สามารถมองเห็นกิจกรรมการใช้งานพร้อมทั้งควบคุมการใช้ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ช่วยองค์กรลดต้นทุนการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อการทำงานร่วมกัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมดูเพิ่มเติมได้ที่ www.paloaltonetworks.com

1840
บอสใหญ่ ทีวีไดเร็ค ลุยสินค้าต่างประเทศ  



ทรงพล ชัญมาตรกิจ CEO ทีวี ไดเร็ค เดินหน้ารุก! ยกแบรนด์สินค้าคุณภาพจากต่างประเทศทำการตลาดในไทย ทั้ง ป้าหวัง (Bawang) แชมพูสกัดจากสมุนไพรจีนโบราณ, เครื่องประดับไข่มุกมิซากิ(Misaki) จากประเทศโมนาโค, แว่นอีเกิ้ล อายส์ (Eagle Eyes) รับรองคุณภาพจากองค์การ นาซ่า (NASA) สหรัฐอเมริกา และเครื่องนอนดอร์มิโอ (Dormeo) นวัตกรรมใหม่ออกแบบโดยประเทศอิตาลี งานนี้หวังสร้างสีสันในช่องค้าปลีก ค้าส่ง ที่จะเป็นเป้าหมายใหญ่ในปีนี้

1841
ปตท. สำรองและขนส่งน้ำมันอย่างเพียงพอ พร้อมเชิญชวนเที่ยวไทย ช่วงหยุดยาวปีใหม่
 
          ดร. ปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลายและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ได้เตรียมแผนการสำรองและการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการใช้เดินทางของประชาชนทั่วประเทศในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่นี้

          ในส่วนของการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น ปตท. ได้วางแผนให้คลังน้ำมันของ ปตท. ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ สำรองน้ำมันอย่างเต็มที่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ให้บริการในช่วงหยุดปีใหม่ นอกจากนี้ยังเพิ่มปริมาณรถขนส่งน้ำมัน เพื่อจัดส่งน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้น้ำมันมากกว่าปกติ โดยเฉพาะสถานีบริการน้ำมันที่อยู่บนเส้นทางสายหลักและมีการท่องเที่ยวหนาแน่นทางภาคเหนือ เช่น อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ปตท. จึงได้เพิ่มการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นพิเศษ ทั้งนี้หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ (Call Center) ปตท. โทร.1365 (ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง)

          ดร.ปรัชญา เพิ่มเติมว่า ในโอกาสขึ้นปีใหม่นี้ ขอเชิญชวนทุกท่านท่องเที่ยวเมืองไทย วางแผนการเดินทางล่วงหน้าเพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน และขอให้เดินทางด้วยความปลอดภัยในทุกเส้นทาง โดยแวะพักผ่อน คลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางได้ที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. หลายๆ แห่ง ซึ่งมีจุดเด่นที่น่าสนใจให้แวะเวียนไปใช้บริการ อาทิ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาสระบุรี ซึ่งมีโครงการ “ห้องน้ำ 20 บาท (Restroom 20)” ซึ่งนอกจากผู้ใช้บริการจะได้ใช้บริการห้องน้ำที่ตกแต่งอย่างสวยงามแล้วยังได้รับกุศลจากการทำบุญกับโครงการ “ห้องน้ำเพื่อน้องกับ ปตท.” ด้วย หรือสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่ อ.ภูเรือ จ.เลย ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสถานีบริการน้ำมันที่มีทัศนียภาพสวยงามที่สุด เป็นต้น ซึ่งท่านจะได้เติมเต็มทั้งพลังรถและพลังคน หรือแวะจิบกาแฟรสชาติเข้มข้นได้ที่ร้าน Café Amazon ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. 1,300 แห่งทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งนี้ นอกจาก ปตท. ได้จัดเตรียมสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพอย่างเพียงพอแล้ว ยังอำนวยความสะดวกจุดพักรถ ห้องน้ำสะอาด ศูนย์อาหาร รวมถึงร้านค้าสะดวกซื้อที่เพิ่มปริมาณสินค้ามากกว่าปกติ รองรับการให้บริการประชาชนที่เดินทางเป็นจำนวนมากในเทศกาลปีใหม่นี้ด้วย

1842
กระหึ่ม แบงก์/นอนแบงก์/ประกัน/โบรกเกอร์/บล.-บลจ. ชั้นนำเกือบ 50 แห่ง แห่ตบเท้าเข้าร่วมงาน Thailand Smart Money 2010-2011
 
          กระหึ่ม แบงก์/นอนแบงก์/ประกัน/โบรกเกอร์/บล.-บลจ. ชั้นนำเกือบ 50 แห่ง แห่ตบเท้าเข้าร่วมงาน Thailand Smart Money 2010-2011 มอบความสุข ลด แลก แจก แถม แคมเปญโปรโมชั่นทางการเงินการลงทุนทุกรูปแบบ...ภายในงานเดียว

          เครือหนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ ผนึกกำลัง แบงก์/นอนแบงก์/ประกัน/โบรกเกอร์/บล.-บลจ. ชั้นนำเกือบ 50 แห่ง มอบความสุขส่งท้ายปี ....ด้วยแคมเปญโปรโมชั่นสุดพิเศษที่มีเฉพาะในงาน Thailand Smart Money 2010-2011 ภายใต้ด้วยแนวคิด “Smart Move” ยุทธวิธีการลงทุนแบบชาญฉลาด เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าและประชาชนชาวไทย พร้อมรับของสมนาคุณพิเศษสุดๆ และลุ้นรับรางวัล ฟรีตลอดงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันนี้ –อาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2553
 
          นายรัฐกร อัสดรธีรยุทธ์ ประธานกรรมการ บริษัท ดอกเบี้ย จำกัด ในฐานะประธานกรรมการจัดงาน Thailand Smart Money 2010-2011 เปิดเผยว่า เครือหนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ จัดงาน Thailand Smart Money 2010-2011 ขึ้นในวันนี้-วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2553 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีธนาคารและสถาบันการเงิน ธุรกิจประกันชีวิต-ประกันภัย โบรกเกอร์ บริษัทชั้นนำ พร้อมด้วยองค์กรจากภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงานรวมเกือบ 50 แห่ง นับว่าเป็นการจัดงานที่สามารถรวบรวมและนำเสนอบริการทางการเงิน-การลงทุนอย่างครบวงจรและครบทุกรูปแบบให้กับประชาชนได้มากที่สุด

          “ทั้งธนาคาร/สถาบันการเงิน พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ต่างสร้างสรรค์โปรโมชั่นพิเศษแบบสุดคุ้มเฉพาะงานนี้มานำเสนอให้ประชาชนผู้เข้าชมงานได้รับประโยชน์มากที่สุด และยังสามารถเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละผลิตภัณฑ์บริการทางการเงินการลงทุนของแต่ละสถาบันการเงินได้ทันทีภายในงานนี้”

          โดยในส่วนของสถาบันการเงิน-ธนาคาร.-บล.- บลจ. นั้นได้จัดเตรียมให้บริการด้านการเงินอย่างครบครัน ทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเอสเอ็มอี บัตรเครดิต บัตรเงินสด เงินฝากทุกประเภท อาทิ แคมเปญดอกเบี้ยเงินฝากประจำสูงถึง 5% นาน 5 เดือนจากธนาคารออมสินที่จะมอบให้กับ 1,500 คนแรกของทุกวันเฉพาะในงานนี้ สินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยเงินต่ำเริ่มต้น 0% 6 เดือนของธนาคารกรุงไทย สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 15 เดือน พร้อมด้วยทรัพย์ NPA จากบสก.ลดสูงสุด 30% หรือจะเป็นสินเชื่อบ้านผ่อนบ้านล้านละ 1,000 ผ่อนชำระค่างวดรายเดือน ล้านละ 1,000 บาท พร้อมรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ปีแรก 1.0% ต่อปี เป็นต้น”

          สำหรับด้านการลงทุน บล.-บลจ. ชั้นนำ ได้เตรียมนำเสนอช่องทางการลงทุนแบบชาญฉลาดที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น หุ้น อนุพันธ์ ตราสารหนี้ และกองทุนรวมประเภทต่างๆ โดยเฉพาะกองทุน RMF/LTF ที่มีสิทธิประโยชน์ด้านลดหย่อนภาษีในปลายปีให้สำหรับประชาชนผู้เข้าชมงานได้เลือกลงทุนตามความเหมาะสมของแต่ละคน พร้อมมอบของชำร่วยสมนาคุณมาก มาย

          ในด้านธุรกิจประกันชีวิต/ประกันภัย/ประกันสุขภาพ ก็ได้จัดเตรียมบริการด้านประกันที่มีกรมธรรม์ประเภทต่างๆ มาให้เลือกสรรกันแบบครบทุกช่วงวัย และครบทุกความต้องการทุกไลฟ์สไตล์

          นอกจากนี้ ได้พบกับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมืออาชีพในการเลือกช่องทางการลงทุนในรูปแบบใหม่ คือ การลงทุนในทองคำ เพื่อสร้างโอกาสผลตอบแทนที่ดีกว่า รวมไปถึงการวางแผนธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่กำลังประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติน้ำท่วมที่ผ่านมา และพบกับบ้าน คอนโด ที่ดิน ทำเลดีราคาถูกทุกที่ทั่วไทย พร้อมทั้งยังได้จัดเตรียมโซนการเลือกซื้อสินค้าคุณภาพจากเครือสหพัฒน์ และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมตามสไตล์ไทยช่วยไทย เพื่อความผาสุกร่วมกัน รวมไปถึงการชิงโชคลุ้นรับของรางวัลมากมาย นอกจากนี้ ยังมีศิลปิน-ดารา-นักร้องชื่อดังที่จะมาโชว์มินิคอนเสิร์ตให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

          ทั้งนี้ งาน Thailand Smart Money 2010-2011 จะวางแนวคิดโดยใช้คำว่า “Smart...Smart” เป็นกุญแจสำคัญ
          - Smart Move รับมือเศรษฐกิจการเงินปีหน้าฟ้าใหม่ 2554 อย่างชาญฉลาด
          - Smart Idea พบแนวคิดการลงทุนที่ทันสมัยเพื่อการทำกำไรแบบยั่งยืน
          - Smart Product เลือกสรรบริการทางการเงินการลงทุนด้วยเงื่อนไขพิเศษสุดๆ
          - Smart Service ประทับใจกับบริการทางการเงินครบวงจรด้วยบริการที่สะดวกฉับไวและเป็นมิตร
          - Smart CEO สัมผัสตัวจริงเสียงจริงและวิสัยทัศน์ของผู้บริหารแวดวงการเงิน การลงทุน ระดับเซียน
          - Smart Event สนุกเพลิดเพลินกับหลากหลายกิจกรรมบันเทิง พบดารา นักร้อง ศิลปิน ชั้นแนวหน้า
          - Smart CSR ร่วมกันซึมซับรับรู้ และมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคม ตามสไตล์ไทยช่วยไทย เพื่อความผาสุกร่วมกัน
          - Smart More ฯลฯ

          อย่างไรก็ตาม ผู้สนใจขอใช้บริการสินเชื่อควรเตรียมเอกสาร เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบรับรองเงินเดือน เอกสารการซื้อขายบ้านหรือที่ดิน ฯลฯ มาให้พร้อม เพื่อจะได้สมัครใช้บริการได้ทันที

1843
2.37 เมกะวัตต์ : คอนเนอร์ยีใช้เทคโนโลยี่ใหม่เป็นครั้งแรกใน โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเอเซีย
   
          2.37 เมกะวัตต์ : คอนเนอร์ยีใช้เทคโนโลยี่ใหม่เป็นครั้งแรกใน โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเอเซีย โดยอินโดรามา เวนเจอร์ เป็นผู้ลงทุนในโครงการใหญ่เป็นอันดับสองของคอนเนอร์ยีในประเทศไทย

          นับเป็นโครงการขนาดมากกว่าหนึ่งเมกะวัตต์โครงการที่สองของคอนเนอร์ยีในประเทศไทยในรอบ 8 เดือน
          - มร. จี. แอล. โมดิ จาก อินโดรามา เวนเจอร์: "คอนเนอร์ยีแก้ไขปัญหาด้วยการเสนอสินค้าแบบครบวงจร"
          - มร. มาร์ค โลฮอฟฟ์ จาก คอนเนอร์ยี: “เอเชียเริ่มให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์มากกว่าเรื่องของราคา"

          คอนเนอร์ยี (Conergy AG) กำลังดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 2.37 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดลพบุรี ห่างจากกรุงเทพไปทางทางทิศเหนือ 155 กิโลเมตร โรงไฟฟ้าแห่งนี้นับเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกในเอเชียที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีจากโรงงานของคอนเนอร์ยีเอง 100% โครงการระดับมากกว่าหนึ่งเมกะวัตต์โครงการใหม่ของคอนเนอร์ยีนี้ นอกจากจะเป็นการบรรลุเป้าหมายที่สำคัญสำหรับการเสนอคุณภาพสินค้าของคอนเนอร์ยีในเอเชียแล้ว ยังเป็นตำนานความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของคอนเนอร์ยีในประเทศไทย ด้วยการสร้างโรงไฟฟ้าระบบพลังงานแสงอาทิตย์ระดับมากกว่าหนึ่งเมกะวัตต์โรงที่สองภายในระยะเวลาเพียงแค่ 8 เดือน โดยร่วมงานกับ แอนเน็กซ์ พาวเวอร์ หุ้นส่วนในประเทศไทย

เทคโนโลยีของคอนเนอร์ยีใช้พื้นที่มากเท่ากับขนาด 7 สนามฟุตบอล
          โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งใหม่ของอินโดรามา เวนเจอร์ที่ลพบุรีนี้ คาดว่าจะสามารถผลิตกระแส ไฟฟ้าได้ 3,500 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี เทียบเท่ากับสามารถจ่ายไฟฟ้าให้ใช้ได้ถึง 1,200 ครัวเรือน ซึ่งทำให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราว 1,860 ตันต่อปี—เทียบเท่ากับเครื่องบินโดยสารที่ปล่อยมลภาวะในการบินไปกลับระหว่าง ฮัมบรูกส์-สิงค์โปร์-กรุงเทพฯ ถึง 700 เที่ยว โรงไฟฟ้าแห่งนี้มีพื้นที่ 44,500 ตารางเมตร หรือเกือบเท่ากับขนาดสนามฟุตบอล 7 สนาม ประกอบด้วยแผงโมดูลแบบพรีเมียม รุ่นคอนเนอร์ยี เพาเวอร์พลัส 220P จำนวน 10,800 แผง อินเวิร์ตเตอร์ รุ่นคอนเนอร์ยี IPG 15T จำนวน 135 ชุด และระบบเสายึดแผงโมดูลของคอนเนอร์ยีจำนวนกว่า 1,080 ชิ้น โรงไฟฟ้าแห่งนี้จะสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าที่สะอาดให้แก่ระบบสายส่งไฟฟ้าของประเทศไทยได้ตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2554 เป็นต้นไป
          มร. จี. แอล. โมดิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการของอินโดรามา เวนเจอร์: “เราเชื่อมั่นในชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีของคอนเนอร์ยี”
          “ การที่ได้ใช้เทคโนโลยีระดับสูงของคอนเนอร์ยีและกำลังจะได้ระบบอุปกรณ์ทั้งหมดของโครงการจากแหล่งผลิตเดียวแบบครบวงจร เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเรา” มร. จี. แอล. โมดิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการ ธุรกิจเม็ดพลาสติกสำหรับทำบรรจุภัณฑ์ของบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าว “ บริษัทผู้รับเหมางานก่อสร้างท้องถิ่นและผู้ดำเนินงานและบริหารจัดการจะดำเนินการโดยพันธมิตรของคอนเนอร์ยี ที่อยู่ในภูมิภาคอินโดจีนคือบริษัท แอนเน็กซ์ พาวเวอร์ ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศไทย."

เป้าหมายสำหรับระบบเทคโนโลยีใหม่ของคอนเนอร์ยีในเอเชีย
          "เอเชียเป็นภูมิภาคที่มีการแข่งขันด้านราคามาก แต่โครงการล่าสุดของเราในประเทศไทยแสดงให้เห็นชัดเจนว่าการรับรู้ในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัยในการลงทุน เริ่มเป็นสองประเด็นสำคัญสำหรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใดๆ ก็ตามในภูมิภาคนี้ นักลงทุนมีความเข้าใจมากขึ้นว่าค่าใช้จ่ายที่แท้จริงในการผลิตพลังงานนั้นควรประเมินจากต้นทุนต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (Cost/kWh) ไม่ใช่ประเมินจากต้นทุนต่อกำลังติดตั้ง (วัตต์) สูงสุด (Cost/Wp)” มร. มาร์ค โลฮอฟฟ์ประธานบริษัท คอนเนอร์ยี เอเชียแปซิฟิก กล่าว “โคเนอร์ยีมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการสนับสนุนพัฒนาให้ลดคาร์บอนไดออกไซด์สู่สังคมให้ต่ำลงในประเทศไทย โดยนำเสนอระบบพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำแบบครบวงจรสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สินค้าของเรามีคุณภาพและความปลอดภัยที่เยี่ยมยอดซึ่งจะทำให้ลูกค้าของเราได้รับผลตอบแทนที่ดีกลับคืนต่อการลงทุน”
          อุปกรณ์คุณภาพสูงทั้งหมดสำหรับโรงไฟฟ้าระบบพลังงานแสงอาทิตย์แห่งใหม่ที่ลพบุรีนี้ เป็นผลิตภัณฑ์จากโรงงานของคอนเนอร์ยีเอง จะทำให้โครงการใหม่มีความสมบูรณ์สอดคล้องกับแนวโน้มในปัจจุบัน : คอนเนอร์ยีจะเป็นผู้จัดหาและติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยระบบอุปกรณ์และเทคโนโลยีของตัวเอง ซึ่งเป็นสองในสามโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากทั่วโลก – โดยเฉพาะกรณีการใช้โมดูลรุ่น คอนเนอร์ยี พาวเวอร์พลัส (Conergy Power Plus) จากโรงงานที่ทันสมัยที่สุดในเมืองแฟรงค์เฟิร์ต (โอเดอร์) สำนักงานในเมืองฮัมบูร์กได้เพิ่มสัดส่วนกำลังของการผลิตโมดูลพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอีก 56% ตั้งแต่ปี 2008 ไม่ใช่การบังเอิญแต่เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่ามีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น : โมดูลคุณภาพสูงรุ่นคอนเนอร์ยี เพาเวอร์พลัส ได้คะแนนสูงสุดในการทดสอบด้วยแอมโมเนียและเกลือ โดยสถาบัน DLG ในประเทศเยอรมันนี และได้รับการรับรองความยอดเยี่ยมด้วยประสิทธิภาพสูงแม้มีแสงอาทิตย์น้อย ทั้งนี้สามารถให้ผลผลิตสูงกว่าค่าผลผลิตปกติถึง +3% ด้านอินเวอร์เตอร์แบบ 3 เฟส รุ่นคอนเนอร์ยี IPG 15T นั้นเคยได้รับรางวัลด้านการออกแบบจาก เดอะ เรด ดอท อะวาร์ด (The Red Dot Design Award) และจัดอยู่ในลำดับ A+ จากนิตยสารโฟตอน

ประกันเป็นสองเท่า : คอนเนอร์ยีช่วยเพิ่มศักยภาพรายได้ให้ผู้ลงทุน
          ยืนยันด้วยคุณภาพอย่างชัดเจนพร้อมจ่ายค่าประกันให้ : โมดูลจำนวนหนึ่งล้านโมดูลที่ขายออกไปของรุ่นเพาเวอร์พลัสมีเพียง 30 โมดูลที่ส่งคืนกลับมาโรงงาน -- เป็นจำนวนที่สามารถยืนยันได้ถึงมาตรฐานของโมดูล ด้วยเหตุนี้ คอนเนอร์ยีจึงมีข้อเสนอสำหรับระบบงานโครงการนี้ โดยการประกันกำลังผลิตถึง 90% ของประสิทธิภาพการทำงานที่ได้ประมาณการเอาไว้ โดยที่ผ่านๆ มาลูกค้าจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ทำได้เพียงเรียกร้องได้จากกรณีผลผลิตลดลงสืบเนื่องมาจากการออกแบบของโรงไฟฟ้าโดยตรงเท่านั้น การรับประกันผลผลิตของคอนเนอร์ยีนี้จะครอบคลุมเกินกว่าการปฏิบัติทั่วไปของมาตรฐานของการเสี่ยงภัยทั้งหลาย และรวมทั้งการประกันภัยการหยุดชะงักของธุรกิจ ดังนั้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่แห่งนี้จึงมีการประกันเป็นสองเท่า ซึ่งเท่ากับว่าคอนเนอร์ยีช่วยเพิ่มศักยภาพรายได้ให้ผู้ลงทุนอีกด้วย
          ด้วยอัตราการเจริญเติบโตที่คาดไว้ 23% ภายในสามปีข้างหน้าของประเทศไทย ซึ่งมีเป้าหมายเป็นเกือบสองเท่าของขนาดตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นจำนวน 120 เมกะวัตต์จากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของโครงการใหม่ในปี 2011. โดยที่คอนเนอร์ยีได้ตระหนักถึงโครงการขนาดใหญ่อันดับที่สองของบริษัทฯ ในประเทศไทยเป็นสิ่งที่สำคัญในตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ที่กำลังเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับว่าเป็นการขยายงานของคอนเนอร์ยีไปสู่ตลาดระดับนานาชาติ โดยเริ่มต้นจากประสบการณ์ของคอนเนอร์ยีในตลาดเยอรมันนี จนในปัจจุบันคอนเนอร์ยีได้ขยายการดำเนินการไปใน 16 ประเทศทั่วโลก โดยรายได้กว่าครึ่งหนึ่งของบริษัทมาจากตลาดต่าง ประเทศ ส่งผลให้คอนเนอร์ยีกลายเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตระบบพลังงานแสงอาทิตย์ระดับนานาชาติของประเทศเยอรมัน

เกี่ยวกับคอนเนอร์ยี
          คอนเนอร์ยี เอจี (Conergy AG) สำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองฮัมบรูกส์ ประเทศเยอรมันนี บริษัทเป็นผู้นำด้านระบบพลังงานแสงอาทิตย์ มีพนักงานจำนวน 1,500 คนใน 16 ประเทศ กลุ่มคอนเนอร์ยีพัฒนาและผลิตโมดูลพลังงานแสงอาทิตย์แบบผลึกคริสตัล ส่วนอินเวอร์เตอร์ และระบบเสายึดแผงโมดูลที่โรงงานทั้ง 3 แห่งในประเทศเยอรมันนี ด้วยเหตุนี้คอนเนอร์ยีจึงไม่เพียงสามารถให้บริการลูกค้าด้วยมาตรฐานคุณภาพ "ผลิตในประเทศเยอรมัน" แต่ยังมีส่วนประกอบทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับอำนวยความสะดวกให้ผู้ต้องการแผงโซลาร์เซลล์แบบครบวงจร ซึ่งเป็นการผลิตมาจากโรงงานเดียวกันด้วยองค์ประกอบของตัวเองและระบบการพัฒนาบริษัทพลังงานแสงอาทิตย์ การเงิน และสิ่งอำนวยความสะดวกของระบบพลังงานแสงอาทิตย์ มีโรงงานและผลิตโมดูลพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมดในระดับกำลังการผลิตมากกว่าหนึ่งเมกะวัตต์ นอกจากนี้คอนเนอร์ยีได้จัดจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ผ่านเครือข่ายขนาดใหญ่ของคู่ค้าและผู้ค้าส่งทั่วไปด้วย
นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1998 คอนเนอร์ยีมียอดขายระบบพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนรวมปริมาณกว่า 1.25 กิกะวัตต์ และระบบพลังงานแสงอาทิตย์โดยรวมมีขนาดกำลังการผลิตกว่า 1 กิกะวัตต คอนเนอร์ยี เอจี ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แฟรงค์เฟิร์ต (ISIN: DE 00060 40025) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 และปัจจุบันยังมองหากลยุทธ์ของการเติบโตในตลาดพลังงานทดแทนในอนาคตต่อไป

เกี่ยวกับอินโดรามา เวนเจอร์
          บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนในประเทศไทย (Bloomberg ใช้สัญลักษณ์ IVL.TB) เป็นผู้ผลิตชั้นนำในกิจกรรมที่สัมพันธ์กับโพลีเอสเตอร์ในประเทศไทย มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งไปทั่วโลกและตลอดจนการผลิตในเอเชีย ยุโรปและอเมริกาเหนือ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ให้บริการกลุ่มใหญ่ในตลาดนั้นมีความหลากหลายได้แก่ อาหาร, เครื่องดื่ม, การดูแลที่อยู่อาศัยและส่วนบุคคล, สุขภาพ, ยานยนต์, สิ่งทอและอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทได้แก่ พีทีเอ (PTA, การผลิคกรดเทเรพาธิคบริสุทธ์ ซึ่งป็นวัตถุดิบสำคัญอย่างหนึ่งในกระบวนการผลิตสินค้าเส้นใยโพลีเอสเตอร์), พีอีที (PET, เป็นเม็ดพลาสติกที่สำคัญชนิดหนึ่งใช้ในการผลิตเพื่อเป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับขวดใส่เครื่องดื่ม) และเส้นใยโพลีเอสเตอร์ซึ่งมีการจำหน่ายไปทั่วโลก ที่อินโดรามา เวนเจอร์ มีพนักงานประมาณ 3,500 คนทั่วโลก และมีรายได้ต่อปีถึง 2.3 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในปี ค.ศ.2009

1844
อสมท. ร่วมกับ เพลย์เวิร์ค เปิดตัว Ving บรอดแบนด์ทีวีความเร็วสูงพิเศษครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทย
 
          บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และบริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ บนเครือข่ายระบบการสื่อสารมวลชนที่ทันสมัยและรวดเร็วที่สุด ด้วย Ving Broadband TV พิเศษ ซึ่งกระจายสัญญาณผ่านเทคโนโลยีบรอดแบนด์ทีวความเร็วสูง ด้วยเนื้อหาสาระ ความบันเทิงคุณภาพครบครัน พร้อมรูปแบบการรับชมที่หลากหลาย ก้าวข้ามขีดจำกัดด้านเวลา และสถานที่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างเต็มอิ่ม พร้อมให้ร่วมสัมผัสประสบการณ์แบบ Living beyond speed ได้อย่างเต็มรูปแบบแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553ที่ผ่านมา

          นายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงที่มาของโครงการ Ving Broadband TV บรอดแบนด์ทีวีความเร็วสูงที่สุดในประเทศไทย ว่า โครงการดังกล่าว เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง อสมท และ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ในการให้บริการโทรทัศน์บอกรับเป็นสมาชิกภายใต้ชื่อว่า “Ving TV” โดยมีงบประมาณการลงทุนที่ 500 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาทาง อสมท ได้เริ่มให้บริการโครงการดังกล่าวแล้วมาในระยะเวลาหนึ่ง และได้รับผลตอบรับจากผู้ใช้บริการเป็นอย่างดีโดยโครงการบรอดแบนด์ทีวีดังกล่าวเป็นหนึ่งในแผนพัฒนาธุรกิจนิวมีเดียของ อสมท. และเป็นหนึ่งในคำตอบที่ชัดเจนของอนาคตธุรกิจสื่อ ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ด้านการตลาดเชิงรุกที่สำคัญ ที่ยึดเอาศักยภาพของ อสมท. ที่มีอยู่เดิมเป็นหลัก นำทรัพยากรที่มีอยู่มาต่อยอด และขยายผล โดยใช้กลยุทธ์การผสมผสานสื่อหลากหลายประเภทให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค ลูกค้า และสังคมส่วนรวม เพื่อสร้างกำไรและความเจริญเติบโตทางธุรกิจในอนาคต ซึ่งถือว่าเป็นกลยุทธ์ในการดำเนินงานที่ทำให้ บมจ. อสมท มีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนสามารถสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้น และส่งผลให้เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ให้ผลตอบแทนกับผู้ถือหุ้นในรูปเงินปันผลในอัตราที่มากขึ้นทุกปี

          นายธนวัฒน์ วันสม กล่าวเพิ่มเติมว่า Ving คือ สื่อสร้างสรรค์ ที่ดำเนินการภายใต้แนวคิด “สังคมอุดมปัญญา” ซึ่งมุ่งมั่นสร้างสรรค์สื่อที่ดี และตรงกับความต้องการของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่ง Ving ได้รับการสนับสนุนทั้งในด้านรายการ เนื้อหาสาระคุณภาพ ตลอดจนสื่อประชาสัมพันธ์ จาก บมจ. อสมท และพันธมิตรของ บมจ. อสมท โดยโครงข่ายบรอดแบนด์ทีวีนี้ จะเป็นโครงข่ายสำคัญในการปฏิรูปสื่อ ให้ก้าวไปสู่การเป็นสื่อคุณภาพเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง อันจะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน อาทิ ด้านการศึกษา ด้านการรับชมข่าวสาร การท่องเที่ยว และความบันเทิง เป็นต้น

          ด้านนายชูชัย ชาญสง่าเวช ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด เปิดเผยว่า Ving คือบริการบรอดแบนด์ทีวีที่มีความเร็วสูง กระจายสัญญาณผ่านบรอดแบนด์ทีวีความเร็วสูงพิเศษ ด้วยเนื้อหาสาระจากทีวีกว่า 1,000 ช่อง และความบันเทิงคุณภาพครบครัน พร้อมรูปแบบการรับชมที่หลากหลาย โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ การรับชมเนื้อหาตามผังรายการปกติ การถ่ายทอดสด (Real time Broadcast) การรับชมช่องพิเศษ (Premium contents) การรับชมตามความต้องการ (On-Demand) และการรับชมตาม content ที่ต้องการ (Pay per view)

          นอกจากนี้ผู้ใช้บริการยังสามารถร่วมพูดคุย แสดงความคิดเห็นได้แบบเรียลไทม์ (Interactive Features) เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ปัจจุบันที่นิยมการพบปะสังสรรค์ระหว่างกลุ่มเพื่อน และคนรู้จักผ่านโลกออนไลน์ พร้อมไปกับการรับชมบรอดแบนด์ ทีวี

ผู้บริโภคสามารถรับชม Ving Broadband TV ได้โดยผ่านทาง Ving Stick ซึ่งเป็น อุปกรณ์รับสัญญาณในรูปแบบ USB Dongle ที่เชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือ notebook ผ่านทาง USB เพียงเท่านี้ผู้บริโภคก็จะสามารถสัมผัสได้ถึงประสบการณ์เหนือระดับในรูปแบบ Digital Nomad ได้อย่างแท้จริง

          การให้บริการ Contents ใน Ving Broadband TV สถานีโทรทัศน์ ผู้ผลิต และผู้ให้บริการรายการต่างๆ สามารถตรวจสอบเรทติ้ง และข้อมูลผู้รับชมได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ผ่านทางระบบ Digital Rating System และนอกจากนี้ การที่ Ving ให้บริการในรูปแบบ Broadband TV จึงสามารถระบุผู้ใช้บริการได้แบบเจาะจง ตลอดจนสามารถทราบข้อมูลด้าน Profile ของผู้ใช้บริการได้

“จากบริการที่ครบวงจร และตอบสนองความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ได้ครบ 360 องศา ของ Ving ทำให้ บมจ.อสมท มั่นใจว่า Ving จะเป็นตัวเลือกสำคัญที่ตอบโจทย์ของทุกชีวิตในโลกดิจิตอลมีเดียได้อย่างแน่นอน โดยในปี 2554 ได้ตั้งเป้าผู้ใช้บริการทั้งสิ้นกว่า 100,000 ราย” นายธนวัฒน์ วันสม กล่าวทิ้งท้าย

          สำหรับผู้ที่สนใจต้องการสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับไปกับ Ving Broadband TV สามารถเข้าชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.vingworld.co.th

1845
สนง.ส่งเสริมการลงทุนและบริหารสินทรัพย์ สกสค. ผนึก ไอสกีม โปรดักชั่น เดินหน้า 5 โครงการนำร่องสู่ NOE Plaza ตลาดการศึกษาออนไลน์
 
          สำนักส่งเสริมการลงทุนและบริหารสินทรัพย์ (สกสค.) ร่วมกับ บริษัท ไอสกีม โปรดักชั่น จำกัด เดินหน้าดันโครงการนำร่อง ชู 5 โปรเจ็ค แจ้งเกิด ได้แก่ คุณนะทำ 1 บาท ครูในดวงใจ เด็กหลังห้อง รายการข่าว และ ธรรมะ Social Network หวังขยายโอกาสการเรียนรู้และพัฒนาเยาวชน สู่ตลาดการศึกษาออนไลน์

          ดร.เกรียงศักดิ์ มั่นมะโนธรรม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการลงทุนและบริหารสินทรัพย์ สกสค. และประธานบริหารโครงการ กระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมการบูรณาการนวัตกรรมการ จัดการศึกษาด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อการเรียนรู้ หรือ NOE Plaza ตลาดการศึกษาออนไลน์ เป็นโครงการบูรณาการนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนและบริหารจัดการระบบการศึกษาให้สอดคล้องและทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและอนาคต ด้วยการส่งเสริม ให้สถานการศึกษาได้มีโอกาสใช้ระบบการเรียนการสอนออนไลน์ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการ การจัดการเรียนการสอนของครูและนักเรียนได้อย่างเหมาะสม โดยตลอดทั้งปีหน้าหรือในปี 2554 จะมีโครงการย่อย 24 โครงการ เป็นตัวขับเคลื่อนกิจกรรมให้เยาวชนกลุ่มเป้าหมายได้รับโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองจากเทคโนโลยีสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยในการดำเนินโครงการจะนำร่องด้วย 5 โครงการย่อย ที่จะเริ่มดำเนิน การก่อน ได้แก่ โครงการคุณนะทำ 1 บาท เป็นโครงการที่มุ่งช่วยให้เด็กนักเรียนทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมทั้งการจัดหาห้องเรียนออนไลน์และครู ที่มีความรู้ความสามารถ มาทำหน้าที่ได้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ผ่านกิจกรรมการกุศล เพื่อสร้างรายได้จากการรับบริจาค

          โครงการครูในดวงใจ เป็นการดำเนินงานในรูปแบบ รายการกึ่ง Reality Show ที่เน้นให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่อง บทบาทคุณครู ที่สามารถทำทุกอย่าง ตั้งแต่เทคนิคต่างๆ เพื่อให้การเรียนการสอนของเด็กให้ดีขึ้น และมีความเป็นครูที่แท้จริง โครงการเด็กหลังห้อง เป็นโครงการที่เกี่ยวกับความสามารถของเด็กๆ ที่มีความคิด จิตนาการและอุดมการณ์อันเป็นแรงขับให้น้องๆ กล้าที่จะทำความดี พัฒนา เพื่อชุมชนของตัวเองอันเป็น บ้านเกิดเมืองนอนของเค้าให้เข้มแข็งและยั่งยืน โครงการรายการข่าว เป็นโครงการที่มุ่งเน้นให้สาระความรู้ และเรื่องราวความเคลื่อนไหวในวงการการศึกษาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และ โครงการธรรมะ Social Network เป็นรายการสด ที่นำเสนอในแง่มุมที่ไม่เหมือนใคร นำเอาคำสั่งสอนด้านธรรมะมาเป็นตัวดำเนินรายการรูปแบบมุ่งเน้นให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องกับเยาวชน โดยสอดแทรกเรื่องราวของธรรมะพุทธศาสนา เพื่อจรรโลง และสอนให้เด็กมีศีลธรรม เป็นคนดีของสังคมในอนาคต

          คุณกุลภัสสรณ์ จิตรีขันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอสกีม โปรดักชั่น จำกัด กล่าวว่า สำหรับ ไอสกีม โปรดักชั่น ถือเป็นพันธมิตรของโครงการส่งเสริมการบูรณาการนวัตกรรมการจัดการศึกษาด้วย สื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อการเรียนรู้ หรือ NOE Plaza ตลาดการศึกษาออนไลน์ โดยมีบทบาทในการสนับสนุนและดำเนินการโครงการย่อย สู่กลุ่มเป้าหมายทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญผลิตสื่อเพื่อการเรียนรู้ทีวีมัลติมีเดีย กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการศึกษาโดยใช้ เว็ปไซต์ NOE Plaza เป็นตัวกลางเข้าถึง SOCIAL NETWORK และเป็นศูนย์ต้นแบบการศึกษา เพื่อพัฒนาและส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาต่างๆ ทั้งในเมืองและชนบทห่างไกลในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ แลกเปลี่ยนสื่อการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาการศึกษา ช่วยสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาและสร้างสังคมบนฐานองค์ความรู้ให้กับประเทศ รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนาและบูรณาการรูปแบบความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กทช. ทีโอที ,กสท และกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักส่งเสริมการลงทุนและบริการสินทรัพย์ สกสค. ,สำนักพัฒนานวัตกรรมกรรมการจัดการการศึกษาของ สพฐ ,กลุ่มโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงภาคเอกชนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ภายใต้เป้าหมายเดียวกันคือ เพื่อสนับสนุนระบบการศึกษาของชาติให้ก้าวหน้าทัดเทียมต่างชาติได้

          สอบถามรายละเอียดและต้องการข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
          ฉัตรปวีร์ ณัฐนิธิ
          Email; pr.noeplaza@gmail.com

Pages: 1 ... 121 122 [123] 124 125 ... 138