Show Posts
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
1816
news & activity / แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน
« on: February 15, 2011, 05:30:48 PM »
แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (Ocean Commerce Co,.Ltd.) หรือ OC ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายก๊อกน้ำ และอุปกรณ์สุขภัณฑ์ต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์ Duss, Bay, Icon, Saza และ Union โดยคุณอุชัย วิไลเลิศโภคา ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จัดงานแถลงข่าวแต่งตั้ง บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (Asset Pro Management Co,.Ltd.) หรือ APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยมีคุณสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าที่บริหาร พลตำรวจโท เรืองศักดิ์ จริตเอก จเรตำรวจ (สบ
สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ และคุณอดุลย์ เลาหพล กรรมการบริหารธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SMEs Bank) ให้เกียรติเข้าร่วมงาน
บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (Ocean Commerce Co,.Ltd.) หรือ OC ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายก๊อกน้ำ และอุปกรณ์สุขภัณฑ์ต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์ Duss, Bay, Icon, Saza และ Union โดยคุณอุชัย วิไลเลิศโภคา ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จัดงานแถลงข่าวแต่งตั้ง บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (Asset Pro Management Co,.Ltd.) หรือ APM เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยมีคุณสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าที่บริหาร พลตำรวจโท เรืองศักดิ์ จริตเอก จเรตำรวจ (สบ
สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ และคุณอดุลย์ เลาหพล กรรมการบริหารธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SMEs Bank) ให้เกียรติเข้าร่วมงาน
1817
news & activity / ไซแมนเทครายงานสถานการณ์อีเมลขยะและฟิชชิ่งประจำเดือนธันวาคม 2553
« on: February 15, 2011, 05:27:24 PM »
ไซแมนเทครายงานสถานการณ์อีเมลขยะและฟิชชิ่งประจำเดือนธันวาคม 2553
สแปมเมอร์ ลาพักร้อนช่วงปีใหม่ อีเมลขยะลดฮวบ แต่เว็บโซเชียลมีเดีย กลับฮ็อตฮิต ใช้ประเด็นอื้อฉาวอนาจารล้วงข้อมูลผู้ใช้ได้ผล
ภาพรวมของอีเมลขยะในเดือนธันวาคม คิดเป็น 81.69% เมื่อเทียบกับข้อความอีเมลทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งนับเป็นอัตราลดลงเมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน ซึ่งอยู่ที่ 84.31% และดูจะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ หรืออาจเป็นไปได้ว่าสแปมเมอร์ขอลาพักผ่อนในช่วงวันหยุด
นายนพชัย ตั้งไตรธรรม ที่ปรึกษาทางเทคนิคอาวุโส บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชัน เปิดเผยว่า อีเมลขยะหดตัวลงในช่วงเดือนธันวาคม และลดลงมากโดยเฉพาะในช่วงคริสต์มาส พร้อมกับตีตื้นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากลดลงถึงจุดต่ำสุดคือวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 71% และนับว่าเป็นจุดที่ต่ำสุดที่ไซแมนเทคเคยติดตามภายในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา
แม้ว่าจะยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้อีเมลขยะลดลง รายงานสถานการณ์อีเมลขยะและฟิชชิ่งในเดือนมกราคม 2554 ก็ได้มีการนำเสนอสถานการณ์ที่ดูมีเหตุและผลว่าอะไรเป็นสาเหตุของเรื่องนี้ พร้อมกับให้ข้อมูลอัพเดทล่าสุดถึงการกลับมาของ บ็อตเน็ต รุสต็อค (Rustock botnet) รวมถึงจำนวนบ็อตเน็ตที่เพิ่มขึ้น
ภาพรวมของฟิชชิ่งลดลงถึง 15% ในเดือนนี้ ซึ่งเป็นการลดลงของฟิชชิ่งในทุกส่วน โดยสาเหตุหลักน่าจะมาจากการที่ฟิชชิ่งลดลงในช่วงวันหยุด เว็บไซต์ ฟิชชิ่ง ที่สร้างมาจากชุดเครื่องมืออัตโนมัติลดลงประมาณ 10% และยูอาร์แอลที่มีลักษณะเฉพาะลดลง 18% เว็บไซต์ฟิชชิ่งที่มีไอพี โดเมน (อย่างเช่น http://255.255.255.255) ลดลงมาประมาณ 2% บริการเว็บโฮสติ้ง คิดเป็น 9% ของฟิชชิ่งทั้งหมด ซึ่งลดลง 39% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ ตัวเลขของเว็บไซต์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษลดลง 19% และจากบรรดาเว็บที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษนั้น พบเว็บภาษาฝรั่งเศสและโปรตุเกส มากที่สุดในเดือนธันวาคม
ประเด็นที่น่าจับตามองในรายงานประจำเดือนมกราคม 2554 ได้แก่
หรือว่าสแปมเมอร์ จะลาพักในช่วงวันหยุด? ไซแมนเทคได้ติดตามการลดลงอย่างต่อเนื่องของอีเมลขยะในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาและยังคงลดลงจนถึงช่วงเดือนธันวาคมที่อีเมลขยะทั่วโลกมีอัตราลดลงเดือนต่อเดือนอยู่ที่ 19.98 % จากช่วงที่เคยสูงสุดในเดือนสิงหาคม คิดเป็นอัตราลดลงถึง 65.3%
ตัวเลขในช่วงเดือนต่อเดือนแสดงให้เห็นอัตราการลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันคริสต์มาส เห็นได้จากชาร์ตแสดงจำนวนที่ลดลงในช่วงเดือนธันวาคม
อะไรคือสาเหตุของการลดลงมากขนาดนี้? เรามีคำตอบในเรื่องนี้ จากตัวเลขของแมสเซจ แล็บส์ บ็อตเน็ต รุสต็อค ซึ่งเป็นบ็อตเน็ตตัวการสำคัญที่แพร่อีเมลขยะในปี 2553 มีจำนวนลดลงอย่างมาก และนับตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม เป็นต้นมา รุสต็อค บ็อตเน็ต ได้หายหน้าไปจากวงการ พร้อมกับอีเมลขยะที่มาจากบ็อตเน็ตดังกล่าวลดลงเหลือเพียง 0.5% ของจำนวนอีเมลขยะทั่วโลก นอกจากกิจกรรมของรุสต็อก บ็อตเน็ตที่ลดลง แเมสเส็จ แล็บส์ ยังชี้ให้เห็นว่ามีบ็อตเน็ตหลักอีกสองตัวที่หายไปจากแผนภูมิอีเมลขยะ ได้แก่ เลธิก บ็อตเน็ต (Lethic Botnet) ที่เงียบไปตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม และ ซาเวสเตอร์ บ็อตเน็ต (Xavester Botnet) ที่หายเข้ากลีบเมฆไปตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม
ขณะที่การลดลงของอีเมลขยะนับเป็นข่าวดีอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า อีเมลขยะจะหายหน้าหายตาไปซะหมด ในช่วงที่ข้อความอีเมลขยะเหล่านี้ลดลง คำถามคือ แล้วอีเมลขยะเหล่านี้หายไปไหนกัน ไซแมนเทคได้สังเกตุการพบว่ามีการใช้งานโดเมนเว็บที่ให้บริการฟรี และ ยูอาร์แอลแบบย่อในข้อความอีเมลขยะเพิ่มขึ้น ยูอาร์แอล .ru ยังคงได้รับความนิยมอยู่ แม้ว่าจะลดลงไปประมาณ 15% ในช่วงเดือนต่อเดือน ในขณะที่ ยูอาร์แอล .com เพิ่มขึ้นมาทดแทนส่วนของยูอาร์แอล .ru ที่ลดลงไป แต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นในปริมาณมากที่จะทำให้ยูอาร์แอล .ru หายไปซะทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าส่วนที่ยังมีเหลืออยู่ อาจเพิ่มขึ้นตามการใช้งานเว็บโดเมนที่ให้บริการฟรี รวมถึงการใช้ ยูอาร์แอล แบบย่อ
อย่างไรก็ตาม ช่วงวันหยุดของบรรดาสแปมเมอร์นั้นช่างสั้นนัก โดยในวันที่ 10 มกราคม ไซแมนเทคได้สังเกตุเห็นว่าอีเมลขยะมีจำนวนเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับอีเมลขยะที่เป็นผลงานของ รุสต็อค บ็อตเน็ต ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงทำให้จำนวนอีเมลขยะในช่วงวันที่ 10 มกราคม เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับไม่กี่วันก่อนหน้านั้น
สแปมเมอร์ แนะวิธีแก้ปัญหาในช่วงปีใหม่
หนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาจากช่วงปีใหม่ คือการคุมน้ำหนัก มีผู้คนมากมายที่สมัครใช้บริการฟิตเนสคลับ และสถานออกกำลังกายในช่วงต้นปี เพื่อหาทางควบคุมน้ำหนัก และในการนี้ สแปมเมอร์ ก็นำเรื่องนี้มาเป็นตัวล่อเป้า พร้อมกับหยิบยื่นข้อเสนอสำหรับช่วงเทศกาลดังกล่าว นอกจากนี้ หลังจากที่ผ่านปีใหม่ไป วันปีใหม่ของจีนก็จะมาถึงในเดือนกุมภาพันธ์นี้ สแปมเมอร์ชาวจีน ยังได้มีการนำเสนอกระเช้าของขวัญที่ใส่อาหารอีกด้วย
สิ่งล่อใจใหม่ ในเว็บฟิชชิ่งประเภทโซเชียล มีเดีย
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ไซแมนเทคได้สังเกตุเห็นเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ปลอมเป็นแบรนด์โซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยใช้วิธีการหลอกลวงแบบใหม่เพื่อล่อให้ผู้ใช้งานบอกข้อมูลส่วนตัว
ตัวอย่างในเรื่องนี้ก็คือ เว็บ ฟิชชิ่งที่ใช้ชื่อ “ เว็บแคม” ที่จะใส่ภาพเว็บแคมไว้ในหน้าปลอมนั้น โดยหลอกว่ามีเว็บแคมเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ติดต่อสื่อสารกันผ่านเว็บแคมนี้ ซึ่งโดยปกติแล้วถ้าเป็นเว็บไซต์ของจริงจะไม่มีการนำเสนอเรื่องนี้
การยื่นข้อเสนอปลอม เกี่ยวกับภาพลามกอนาจารในการหลอกลวงผ่านเครือข่ายสังคมมีให้พบเห็นกันบ่อยขึ้นในปัจจุบัน และดูเหมือนว่าบรรดาฟิชเชอร์มักจะใช้ภาพเหล่านี้ หลอกขโมยข้อมูลเหยื่อ อีกตัวอย่างหนึ่งที่ใช้ภาพลามกอนาจารเป็นตัวล่อ คือการที่บรรดาฟิชเชอร์ จะอาศัยวิธีการที่แตกต่างกันไปเพื่อล่อให้ผู้ใช้หลงเชื่อ ซึ่งเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ว่านี้ อ้างว่ามีเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์กรายใหม่ ที่จะออกเวอร์ชันใหม่สำหรับผู้ใช้ที่เป็นผู้ใหญ่ ซึ่งจะมาพร้อมแอพพลิเคชันที่ผู้ใช้สามารถดูวิดีโอฉาวที่ได้จากการแอบถ่าย และยังอ้างว่าผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมโดยสามารถพูดคุยกับคนที่อยู่บริเวณใกล้กันได้ การหลอกลวงยังไม่จบเท่านี้ แต่ยังอ้างว่าผู้ใช้สามารถเช็คเพื่ออัพเดทเรื่องอื้อฉาวของนักแสดงที่ได้รับความนิยมนั้นๆ ทั้งนี้เว็บฟิชชิ่งดังกล่าวจะมีรูปอนาจารที่ให้ความรู้สึกเหมือนว่าสร้างมาเพื่อล่อตาล่อใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
ตัวอย่างที่สามนี้ คือมีการนำเสนอซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับแฮ็กข้อมูลเป็นตัวล่อ โดยจะมีการปรับเนื้อหาเพื่อช่วยให้ดูคล้ายกับเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กซึ่งเป็นทางเลือก สำหรับแฮ็กเกอร์มืออาชีพโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีการอ้างถึงประโยชน์ปลอมจากการใช้เครื่องมือแฮ็กในหน้าเว็บเพจปลอมนั้น หนึ่งในนั้นก็คือการอ้างถึงประโยชน์ที่จะได้จากการเรียนรู้ยุทธวิธีใหม่ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก จากการใช้ชุดเครื่องมือ ประโยชน์อีกข้อคือจะมีการนำเสนอ คุกกี้ แฮ็กเกอร์ โดยให้ดาวน์โหลด ซึ่งฟิชเชอร์ไม่ได้พูดถึงวัตถุประสงค์ของ คุกกี้ แฮ็กเกอร์ อย่างชัดเจนแต่เป็นไปได้ว่าจะใช้สำหรับแฮ็กเข้าไปยังแอคเค้าท์ของของผู้ใช้งาน ประโยชน์ข้อสุดท้ายคือผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารกับแฮกเกอร์มืออาชีพ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการหาประโยชน์จากฟีเจอร์ใหม่บนเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์กนั่นเอง
ฟิชเชอร์ ยังคงใช้รูปแบบและแนวทางที่แตกต่างมาเป็นสิ่งล่อใจเพื่อประโยชน์อย่างเดียวกัน คือข้อมูลของผู้ใช้ที่กรอกในเวลาล็อกอินเข้าใช้งานบนเว็บปลอมเหล่านี้ และแน่นอนที่สุด ก็เพื่อหวังขโมยข้อมูลส่วนตัวนั่นเอง
การหลอกลวงผู้ใหญ่ ในงานเต้นรำสวมหน้ากาก เกิดขึ้นบนเฟซบุ๊คของชาวอินโดนีเซีย
เฟซบุ๊ค กลายเป็นเรื่องที่ฮิตมากในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับการจัดอันดับว่ามีจำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊คมากเป็นอันดับสาม เมื่อมีผู้ใช้เยอะขึ้น ฟิชเชอร์ในประเทศอินโดฯ ก็ดูเหมือนว่าจะให้ความสนใจในการสร้างเว็บฟิชชิ่งปลอมเพื่อหลอกชาวอินโดฯ ด้วยกันเอง เมื่อเร็วๆ นี้ ไซแมนเทคสังเกตุเห็นว่ามีการปลอมเฟชบุ๊คสำหรับผู้ใหญ่โดยมุ่งเป้าที่ผู้ใช้ชาวอินโดนีเซีย เว็บฟิชชิ่งดังกล่าวโฮสต์อยู่บนบริการเว็บโฮสต์ติ้งฟรี
เว็บฟิชชิ่งนี้บอกว่ามีแอพพลิเคชันที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูวิดีโออนาจารของเซเล็บชาวอินโดฯที่ดังมากได้ โดยอ้างว่าวิดีโอนี้ ได้มาจากการแอบถ่ายผ่านกล้องที่ซ่อนไว้ในห้องโรงแรม และเมื่อผู้ใช้หลวมตัวล็อกอินก็จะเข้าไปสู่หน้าแอพพลิเคชันปลอม และเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ ก็จะมีการอ้างว่าแอพพลิเคชันนี้มาจากทีมงานที่ให้บริการของเฟซบุ๊ค ซึ่งในหน้าฟิชชิ่งก็จะมีการโชว์ภาพสไลด์ของเซเล็บชาวอินโดฯที่ว่า ซึ่งภาพจะให้ความรู้สึกว่าเป็นภาพสกรีนช็อตของวิดีโออนาจารที่อยู่ในแอพพลิเคชันปลอม โดยมีภาพเคลื่อนไหวประเภทภาพอนาจารเป็นตัวล่อให้ผู้ใช้ติดกับ ซึ่งถ้ามองอีกแง่ก็คือ เว็บไซต์เฟซบุ๊คของจริงไม่มีแอพพลิเคชันสำหรับผู้ใหญ่ประเภทดังกล่าวอยู่แล้ว ซึ่งนี่ก็เป็นการจัดฉากขึ้นเพื่อหวังขโมยข้อมูลนั่นเอง
ไซแมนเทคก็ได้มีการแจ้งเตือนไปยังเฟซบุ๊คถึงเรื่องดังกล่าว และเฟซบุ๊คก็ได้ทำการบล็อก URL เรียบร้อยแล้ว โดยเฟซบุ๊คดำเนินการบล็อกลิงก์ที่เชื่อมไปยังไซต์ที่โดนระบุว่าเป็นไซต์หลอกลวง (เช่น เว็บฟิชชิ่ง หรือเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์อยู่) ไม่ให้มีการแชร์การใช้งานร่วมกับเว็บไซต์ดังกล่าว และร่วมกับบุคคลที่สามเพื่อเอาไซต์เหล่านี้เข้าแบล็คลิสต์ประเภทเบราเซอร์ รวมถึงเอาออกไปจากบริการเว็บโฮสต์ติ้ง
สแปมเมอร์ ลาพักร้อนช่วงปีใหม่ อีเมลขยะลดฮวบ แต่เว็บโซเชียลมีเดีย กลับฮ็อตฮิต ใช้ประเด็นอื้อฉาวอนาจารล้วงข้อมูลผู้ใช้ได้ผล
ภาพรวมของอีเมลขยะในเดือนธันวาคม คิดเป็น 81.69% เมื่อเทียบกับข้อความอีเมลทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งนับเป็นอัตราลดลงเมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน ซึ่งอยู่ที่ 84.31% และดูจะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ หรืออาจเป็นไปได้ว่าสแปมเมอร์ขอลาพักผ่อนในช่วงวันหยุด
นายนพชัย ตั้งไตรธรรม ที่ปรึกษาทางเทคนิคอาวุโส บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชัน เปิดเผยว่า อีเมลขยะหดตัวลงในช่วงเดือนธันวาคม และลดลงมากโดยเฉพาะในช่วงคริสต์มาส พร้อมกับตีตื้นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากลดลงถึงจุดต่ำสุดคือวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 71% และนับว่าเป็นจุดที่ต่ำสุดที่ไซแมนเทคเคยติดตามภายในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา
แม้ว่าจะยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้อีเมลขยะลดลง รายงานสถานการณ์อีเมลขยะและฟิชชิ่งในเดือนมกราคม 2554 ก็ได้มีการนำเสนอสถานการณ์ที่ดูมีเหตุและผลว่าอะไรเป็นสาเหตุของเรื่องนี้ พร้อมกับให้ข้อมูลอัพเดทล่าสุดถึงการกลับมาของ บ็อตเน็ต รุสต็อค (Rustock botnet) รวมถึงจำนวนบ็อตเน็ตที่เพิ่มขึ้น
ภาพรวมของฟิชชิ่งลดลงถึง 15% ในเดือนนี้ ซึ่งเป็นการลดลงของฟิชชิ่งในทุกส่วน โดยสาเหตุหลักน่าจะมาจากการที่ฟิชชิ่งลดลงในช่วงวันหยุด เว็บไซต์ ฟิชชิ่ง ที่สร้างมาจากชุดเครื่องมืออัตโนมัติลดลงประมาณ 10% และยูอาร์แอลที่มีลักษณะเฉพาะลดลง 18% เว็บไซต์ฟิชชิ่งที่มีไอพี โดเมน (อย่างเช่น http://255.255.255.255) ลดลงมาประมาณ 2% บริการเว็บโฮสติ้ง คิดเป็น 9% ของฟิชชิ่งทั้งหมด ซึ่งลดลง 39% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ ตัวเลขของเว็บไซต์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษลดลง 19% และจากบรรดาเว็บที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษนั้น พบเว็บภาษาฝรั่งเศสและโปรตุเกส มากที่สุดในเดือนธันวาคม
ประเด็นที่น่าจับตามองในรายงานประจำเดือนมกราคม 2554 ได้แก่
หรือว่าสแปมเมอร์ จะลาพักในช่วงวันหยุด? ไซแมนเทคได้ติดตามการลดลงอย่างต่อเนื่องของอีเมลขยะในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาและยังคงลดลงจนถึงช่วงเดือนธันวาคมที่อีเมลขยะทั่วโลกมีอัตราลดลงเดือนต่อเดือนอยู่ที่ 19.98 % จากช่วงที่เคยสูงสุดในเดือนสิงหาคม คิดเป็นอัตราลดลงถึง 65.3%
ตัวเลขในช่วงเดือนต่อเดือนแสดงให้เห็นอัตราการลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันคริสต์มาส เห็นได้จากชาร์ตแสดงจำนวนที่ลดลงในช่วงเดือนธันวาคม
อะไรคือสาเหตุของการลดลงมากขนาดนี้? เรามีคำตอบในเรื่องนี้ จากตัวเลขของแมสเซจ แล็บส์ บ็อตเน็ต รุสต็อค ซึ่งเป็นบ็อตเน็ตตัวการสำคัญที่แพร่อีเมลขยะในปี 2553 มีจำนวนลดลงอย่างมาก และนับตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม เป็นต้นมา รุสต็อค บ็อตเน็ต ได้หายหน้าไปจากวงการ พร้อมกับอีเมลขยะที่มาจากบ็อตเน็ตดังกล่าวลดลงเหลือเพียง 0.5% ของจำนวนอีเมลขยะทั่วโลก นอกจากกิจกรรมของรุสต็อก บ็อตเน็ตที่ลดลง แเมสเส็จ แล็บส์ ยังชี้ให้เห็นว่ามีบ็อตเน็ตหลักอีกสองตัวที่หายไปจากแผนภูมิอีเมลขยะ ได้แก่ เลธิก บ็อตเน็ต (Lethic Botnet) ที่เงียบไปตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม และ ซาเวสเตอร์ บ็อตเน็ต (Xavester Botnet) ที่หายเข้ากลีบเมฆไปตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม
ขณะที่การลดลงของอีเมลขยะนับเป็นข่าวดีอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า อีเมลขยะจะหายหน้าหายตาไปซะหมด ในช่วงที่ข้อความอีเมลขยะเหล่านี้ลดลง คำถามคือ แล้วอีเมลขยะเหล่านี้หายไปไหนกัน ไซแมนเทคได้สังเกตุการพบว่ามีการใช้งานโดเมนเว็บที่ให้บริการฟรี และ ยูอาร์แอลแบบย่อในข้อความอีเมลขยะเพิ่มขึ้น ยูอาร์แอล .ru ยังคงได้รับความนิยมอยู่ แม้ว่าจะลดลงไปประมาณ 15% ในช่วงเดือนต่อเดือน ในขณะที่ ยูอาร์แอล .com เพิ่มขึ้นมาทดแทนส่วนของยูอาร์แอล .ru ที่ลดลงไป แต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นในปริมาณมากที่จะทำให้ยูอาร์แอล .ru หายไปซะทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าส่วนที่ยังมีเหลืออยู่ อาจเพิ่มขึ้นตามการใช้งานเว็บโดเมนที่ให้บริการฟรี รวมถึงการใช้ ยูอาร์แอล แบบย่อ
อย่างไรก็ตาม ช่วงวันหยุดของบรรดาสแปมเมอร์นั้นช่างสั้นนัก โดยในวันที่ 10 มกราคม ไซแมนเทคได้สังเกตุเห็นว่าอีเมลขยะมีจำนวนเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับอีเมลขยะที่เป็นผลงานของ รุสต็อค บ็อตเน็ต ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงทำให้จำนวนอีเมลขยะในช่วงวันที่ 10 มกราคม เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับไม่กี่วันก่อนหน้านั้น
สแปมเมอร์ แนะวิธีแก้ปัญหาในช่วงปีใหม่
หนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาจากช่วงปีใหม่ คือการคุมน้ำหนัก มีผู้คนมากมายที่สมัครใช้บริการฟิตเนสคลับ และสถานออกกำลังกายในช่วงต้นปี เพื่อหาทางควบคุมน้ำหนัก และในการนี้ สแปมเมอร์ ก็นำเรื่องนี้มาเป็นตัวล่อเป้า พร้อมกับหยิบยื่นข้อเสนอสำหรับช่วงเทศกาลดังกล่าว นอกจากนี้ หลังจากที่ผ่านปีใหม่ไป วันปีใหม่ของจีนก็จะมาถึงในเดือนกุมภาพันธ์นี้ สแปมเมอร์ชาวจีน ยังได้มีการนำเสนอกระเช้าของขวัญที่ใส่อาหารอีกด้วย
สิ่งล่อใจใหม่ ในเว็บฟิชชิ่งประเภทโซเชียล มีเดีย
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ไซแมนเทคได้สังเกตุเห็นเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ปลอมเป็นแบรนด์โซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยใช้วิธีการหลอกลวงแบบใหม่เพื่อล่อให้ผู้ใช้งานบอกข้อมูลส่วนตัว
ตัวอย่างในเรื่องนี้ก็คือ เว็บ ฟิชชิ่งที่ใช้ชื่อ “ เว็บแคม” ที่จะใส่ภาพเว็บแคมไว้ในหน้าปลอมนั้น โดยหลอกว่ามีเว็บแคมเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ติดต่อสื่อสารกันผ่านเว็บแคมนี้ ซึ่งโดยปกติแล้วถ้าเป็นเว็บไซต์ของจริงจะไม่มีการนำเสนอเรื่องนี้
การยื่นข้อเสนอปลอม เกี่ยวกับภาพลามกอนาจารในการหลอกลวงผ่านเครือข่ายสังคมมีให้พบเห็นกันบ่อยขึ้นในปัจจุบัน และดูเหมือนว่าบรรดาฟิชเชอร์มักจะใช้ภาพเหล่านี้ หลอกขโมยข้อมูลเหยื่อ อีกตัวอย่างหนึ่งที่ใช้ภาพลามกอนาจารเป็นตัวล่อ คือการที่บรรดาฟิชเชอร์ จะอาศัยวิธีการที่แตกต่างกันไปเพื่อล่อให้ผู้ใช้หลงเชื่อ ซึ่งเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ว่านี้ อ้างว่ามีเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์กรายใหม่ ที่จะออกเวอร์ชันใหม่สำหรับผู้ใช้ที่เป็นผู้ใหญ่ ซึ่งจะมาพร้อมแอพพลิเคชันที่ผู้ใช้สามารถดูวิดีโอฉาวที่ได้จากการแอบถ่าย และยังอ้างว่าผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมโดยสามารถพูดคุยกับคนที่อยู่บริเวณใกล้กันได้ การหลอกลวงยังไม่จบเท่านี้ แต่ยังอ้างว่าผู้ใช้สามารถเช็คเพื่ออัพเดทเรื่องอื้อฉาวของนักแสดงที่ได้รับความนิยมนั้นๆ ทั้งนี้เว็บฟิชชิ่งดังกล่าวจะมีรูปอนาจารที่ให้ความรู้สึกเหมือนว่าสร้างมาเพื่อล่อตาล่อใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
ตัวอย่างที่สามนี้ คือมีการนำเสนอซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับแฮ็กข้อมูลเป็นตัวล่อ โดยจะมีการปรับเนื้อหาเพื่อช่วยให้ดูคล้ายกับเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กซึ่งเป็นทางเลือก สำหรับแฮ็กเกอร์มืออาชีพโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีการอ้างถึงประโยชน์ปลอมจากการใช้เครื่องมือแฮ็กในหน้าเว็บเพจปลอมนั้น หนึ่งในนั้นก็คือการอ้างถึงประโยชน์ที่จะได้จากการเรียนรู้ยุทธวิธีใหม่ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก จากการใช้ชุดเครื่องมือ ประโยชน์อีกข้อคือจะมีการนำเสนอ คุกกี้ แฮ็กเกอร์ โดยให้ดาวน์โหลด ซึ่งฟิชเชอร์ไม่ได้พูดถึงวัตถุประสงค์ของ คุกกี้ แฮ็กเกอร์ อย่างชัดเจนแต่เป็นไปได้ว่าจะใช้สำหรับแฮ็กเข้าไปยังแอคเค้าท์ของของผู้ใช้งาน ประโยชน์ข้อสุดท้ายคือผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารกับแฮกเกอร์มืออาชีพ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการหาประโยชน์จากฟีเจอร์ใหม่บนเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์กนั่นเอง
ฟิชเชอร์ ยังคงใช้รูปแบบและแนวทางที่แตกต่างมาเป็นสิ่งล่อใจเพื่อประโยชน์อย่างเดียวกัน คือข้อมูลของผู้ใช้ที่กรอกในเวลาล็อกอินเข้าใช้งานบนเว็บปลอมเหล่านี้ และแน่นอนที่สุด ก็เพื่อหวังขโมยข้อมูลส่วนตัวนั่นเอง
การหลอกลวงผู้ใหญ่ ในงานเต้นรำสวมหน้ากาก เกิดขึ้นบนเฟซบุ๊คของชาวอินโดนีเซีย
เฟซบุ๊ค กลายเป็นเรื่องที่ฮิตมากในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับการจัดอันดับว่ามีจำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊คมากเป็นอันดับสาม เมื่อมีผู้ใช้เยอะขึ้น ฟิชเชอร์ในประเทศอินโดฯ ก็ดูเหมือนว่าจะให้ความสนใจในการสร้างเว็บฟิชชิ่งปลอมเพื่อหลอกชาวอินโดฯ ด้วยกันเอง เมื่อเร็วๆ นี้ ไซแมนเทคสังเกตุเห็นว่ามีการปลอมเฟชบุ๊คสำหรับผู้ใหญ่โดยมุ่งเป้าที่ผู้ใช้ชาวอินโดนีเซีย เว็บฟิชชิ่งดังกล่าวโฮสต์อยู่บนบริการเว็บโฮสต์ติ้งฟรี
เว็บฟิชชิ่งนี้บอกว่ามีแอพพลิเคชันที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูวิดีโออนาจารของเซเล็บชาวอินโดฯที่ดังมากได้ โดยอ้างว่าวิดีโอนี้ ได้มาจากการแอบถ่ายผ่านกล้องที่ซ่อนไว้ในห้องโรงแรม และเมื่อผู้ใช้หลวมตัวล็อกอินก็จะเข้าไปสู่หน้าแอพพลิเคชันปลอม และเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ ก็จะมีการอ้างว่าแอพพลิเคชันนี้มาจากทีมงานที่ให้บริการของเฟซบุ๊ค ซึ่งในหน้าฟิชชิ่งก็จะมีการโชว์ภาพสไลด์ของเซเล็บชาวอินโดฯที่ว่า ซึ่งภาพจะให้ความรู้สึกว่าเป็นภาพสกรีนช็อตของวิดีโออนาจารที่อยู่ในแอพพลิเคชันปลอม โดยมีภาพเคลื่อนไหวประเภทภาพอนาจารเป็นตัวล่อให้ผู้ใช้ติดกับ ซึ่งถ้ามองอีกแง่ก็คือ เว็บไซต์เฟซบุ๊คของจริงไม่มีแอพพลิเคชันสำหรับผู้ใหญ่ประเภทดังกล่าวอยู่แล้ว ซึ่งนี่ก็เป็นการจัดฉากขึ้นเพื่อหวังขโมยข้อมูลนั่นเอง
ไซแมนเทคก็ได้มีการแจ้งเตือนไปยังเฟซบุ๊คถึงเรื่องดังกล่าว และเฟซบุ๊คก็ได้ทำการบล็อก URL เรียบร้อยแล้ว โดยเฟซบุ๊คดำเนินการบล็อกลิงก์ที่เชื่อมไปยังไซต์ที่โดนระบุว่าเป็นไซต์หลอกลวง (เช่น เว็บฟิชชิ่ง หรือเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์อยู่) ไม่ให้มีการแชร์การใช้งานร่วมกับเว็บไซต์ดังกล่าว และร่วมกับบุคคลที่สามเพื่อเอาไซต์เหล่านี้เข้าแบล็คลิสต์ประเภทเบราเซอร์ รวมถึงเอาออกไปจากบริการเว็บโฮสต์ติ้ง
1818
news & activity / บทวิเคราะห์ GOLD FUTURES กับ นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ
« on: February 15, 2011, 05:24:29 PM »
บทวิเคราะห์ GOLD FUTURES กับ นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ
ประจำวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1357 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.74 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.78 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19700 บาท กับ 19800 บาท GFG11 เปิดที่ 19930 บาท และ GFJ11 เปิดที่ 20000 บาท และ GF10G11 เปิดที่ 19960 บาท และ GF10J11 เปิดที่ 20010 บาท SPDR ถือครอง 1225.53 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมันปิดลบ 77 เซนต์ ปิดที่ระดับ 84.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 5.07 จุด มาปิดตลาดที่ระดับ 12268.19 จุด ราคาทองคำในตลาดเอเชียค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นบ้างเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 1360 เหรียญ ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย มายืนอยู่ที่ระดับ 30.74 กับ 30.78 บาท/ดอลลาร์ โดยที่ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2240 คู่สัญญา 10 บาท 1858 คู่สัญญา เนื่องจากราคาทองเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยในตลาดเอเชียรวมทั้งตลาด London และ Comex เคลื่อนตัวในช่วง 1360-1365 เหรียญ ไปทำจุดสูงสุดที่ 1367 เหรียญ และกลับมาปิดที่ 1365 เหรียญ ข่าวทางเศรษฐกิจเมื่อวานไม่มีอะไร ในขณะที่ภาพเงินเฟ้อในจีนเอง CPI ออกมา 4.9 % น้อยกว่าที่คาดการณ์บ้างเล็กน้อย โดยในขณะนี้ทางธนาคารจีนมีการเรียกการกันทุนสำรองสำหรับธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ระดับ19% สำหรับค่าเงินดอลลาร์เองเมื่อวานปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมือเทียบกับยูโร โดยค่าเงินยูโรเองร่วงลงมาอยู่ที่ 1.3485 ดอลลาร์/ยูโร และเช้านี้อยู่ที่ 1.3514 ดอลลาร์/ยูโร โดยตลาดเริ่มมากังวลเรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของกองทุนการเงินยุโรป สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้จะมี Retail sales , Empire State Manufacturing Index และ TLC Long Term Purchases ซึ่งคาดการว่าจะดีขึ้นเล็กน้อย
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำในช่วง 2 วันนี้ เข้าสู่ช่วงการทรงตัวระหว่าง 1357-1365 เหรียญ โดยมีการเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway แนวต้านอยู่ที่ระดับ 1368 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมในอาทิตย์ที่แล้ว แนวรับ 1350 เหรียญ โดยภาพรวมๆยังดูว่าจะเป็นการสะสมพลังรอการ Break out คงต้องรอความชัดเจนของตัวเลขเศรษฐกิจ โดยราคาทองคำมีสิทธิ์ทั้งจะ Break up หรือ Break down ได้ สัญญาณโดยทั่วไปไม่บ่งชี้อะไร สัญญาณยังเป็น Flat Trend ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 19750 บาท และ 19850 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1361 เหรียญ ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 19700 บาท และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 19900 บา Gold Futures G11 จะมีแนวรับที่ระดับ 19900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20050 บาท Gold Future G จะหมดอายุในอีก 2 อาทิตย์ ฉะนั้นนักลงทุนจะต้องเริ่มระมัดระวังและจะต้องทยอยปิดสถานะ Series G เพื่อย้ายไป Series J ต่อไป ให้ทยอยหาจังหวะออก
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade):เก็งกำไรค่อนข้างยากเนื่องจากราคาไม่แกว่งตัว คาดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1360-1366 เหรียญ
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ขายทำกำไรบ้างบางส่วน
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ขายทำกำไรบ้างบางส่วน คงต้องจับตาดูความชัดเจนของความเคลื่อนไหวว่าจะ Break out ในทิศทางใด สรุปโดยภาพรวม OI ตลาดโลกปรับตัวลงเล็กน้อย โดยที่ SPDR ไม่ได้ทำอะไร ค่าเงินบาทเองในเช้าวันนี้ยังปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่องมาอีก 5 สตางค์ เช้านี้อยู่ที่ 30.71 บาท/ดอลลาร์
ประจำวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1357 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.74 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.78 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19700 บาท กับ 19800 บาท GFG11 เปิดที่ 19930 บาท และ GFJ11 เปิดที่ 20000 บาท และ GF10G11 เปิดที่ 19960 บาท และ GF10J11 เปิดที่ 20010 บาท SPDR ถือครอง 1225.53 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมันปิดลบ 77 เซนต์ ปิดที่ระดับ 84.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 5.07 จุด มาปิดตลาดที่ระดับ 12268.19 จุด ราคาทองคำในตลาดเอเชียค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นบ้างเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 1360 เหรียญ ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย มายืนอยู่ที่ระดับ 30.74 กับ 30.78 บาท/ดอลลาร์ โดยที่ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2240 คู่สัญญา 10 บาท 1858 คู่สัญญา เนื่องจากราคาทองเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยในตลาดเอเชียรวมทั้งตลาด London และ Comex เคลื่อนตัวในช่วง 1360-1365 เหรียญ ไปทำจุดสูงสุดที่ 1367 เหรียญ และกลับมาปิดที่ 1365 เหรียญ ข่าวทางเศรษฐกิจเมื่อวานไม่มีอะไร ในขณะที่ภาพเงินเฟ้อในจีนเอง CPI ออกมา 4.9 % น้อยกว่าที่คาดการณ์บ้างเล็กน้อย โดยในขณะนี้ทางธนาคารจีนมีการเรียกการกันทุนสำรองสำหรับธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ระดับ19% สำหรับค่าเงินดอลลาร์เองเมื่อวานปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมือเทียบกับยูโร โดยค่าเงินยูโรเองร่วงลงมาอยู่ที่ 1.3485 ดอลลาร์/ยูโร และเช้านี้อยู่ที่ 1.3514 ดอลลาร์/ยูโร โดยตลาดเริ่มมากังวลเรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของกองทุนการเงินยุโรป สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้จะมี Retail sales , Empire State Manufacturing Index และ TLC Long Term Purchases ซึ่งคาดการว่าจะดีขึ้นเล็กน้อย
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำในช่วง 2 วันนี้ เข้าสู่ช่วงการทรงตัวระหว่าง 1357-1365 เหรียญ โดยมีการเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway แนวต้านอยู่ที่ระดับ 1368 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมในอาทิตย์ที่แล้ว แนวรับ 1350 เหรียญ โดยภาพรวมๆยังดูว่าจะเป็นการสะสมพลังรอการ Break out คงต้องรอความชัดเจนของตัวเลขเศรษฐกิจ โดยราคาทองคำมีสิทธิ์ทั้งจะ Break up หรือ Break down ได้ สัญญาณโดยทั่วไปไม่บ่งชี้อะไร สัญญาณยังเป็น Flat Trend ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 19750 บาท และ 19850 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1361 เหรียญ ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 19700 บาท และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 19900 บา Gold Futures G11 จะมีแนวรับที่ระดับ 19900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20050 บาท Gold Future G จะหมดอายุในอีก 2 อาทิตย์ ฉะนั้นนักลงทุนจะต้องเริ่มระมัดระวังและจะต้องทยอยปิดสถานะ Series G เพื่อย้ายไป Series J ต่อไป ให้ทยอยหาจังหวะออก
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade):เก็งกำไรค่อนข้างยากเนื่องจากราคาไม่แกว่งตัว คาดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1360-1366 เหรียญ
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ขายทำกำไรบ้างบางส่วน
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ขายทำกำไรบ้างบางส่วน คงต้องจับตาดูความชัดเจนของความเคลื่อนไหวว่าจะ Break out ในทิศทางใด สรุปโดยภาพรวม OI ตลาดโลกปรับตัวลงเล็กน้อย โดยที่ SPDR ไม่ได้ทำอะไร ค่าเงินบาทเองในเช้าวันนี้ยังปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่องมาอีก 5 สตางค์ เช้านี้อยู่ที่ 30.71 บาท/ดอลลาร์
1819
news & activity / HOONINSIDE จับมือนสพ.ทันหุ้น-INFOQUEST
« on: February 15, 2011, 05:19:41 PM »
HOONINSIDE จับมือนสพ.ทันหุ้น-INFOQUEST จัดสัมมนาทุกไตรมาส-ประเดิมครั้งแรกวันที่ 12 มี.ค.นี้
WWW.HOONINSIDE จับมือนสพ.ทันหุ้นและสำนักข่าว INFOQUEST จัดสัมมนาทุกไตรมาส ตลอดปีกระต่ายฟรี! ประเดิมครั้งแรกวันที่ 12 มี.ค.นี้ คาดนักลงทุนให้ความสนใจ ภาคเช้า พบ 4 ดาวรุ่ง 4 โกรทสต็อก AGE-GUNKUL-SMT-RS ภาคบ่าย 4 เซียนผนึกกำลัง ฉีกซอง แจกหุ้นเด็ด งานนี้มาจากค่ายยักษ์ใหญ่ชั้นแนวหน้าใต้ฟ้าเมืองไทย บล.กิมเอ็ง-บล.เอเซียพลัส-บล.โกลเบล็ก-บล.ฟินันเซีย ไซรัส
นายประสิทธิ์ กรโชคอนันต์ กรรมการผู้จัดการและบรรณาธิการบริหาร บริษัท นายกล้วยหอมออนไลน์ จำกัด ในฐานะเจ้าของ WWW.HOONINSIDE.COM เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯได้ร่วมกับหนังสือพิมพ์ ทันหุ้น สำนักข่าว INFOQUEST จัดสัมมนาร่วมกันทุกไตรมาส ตลอดปี 2554 ฟรีตลอดทั้งงาน โดยครั้งแรก เริ่มวันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2554 ที่ สำนักงานอยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. สาขาพหลโยธิน ชั้น 22 ซึ่งบริษัทฯได้รับเกียรติจาก คุณชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ mai มาร่วมกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้สัมมนาภาคเช้า หัวข้อ 4 ดาวรุ่ง 4 โกรท สต็อก ซึ่งนักลงทุนจะได้พบกับ 4 ผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน ประกอบด้วย คุณพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี(AGE) คุณกัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง(GUNKUL) คุณพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) (SMT) คุณพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.อาร์เอส (RS)
สัมมนาภาคบ่าย หัวข้อ 4 เซียนผนึกกำลัง-ฉีกซองแจกหุ้นเด็ด ประกอบด้วย คุณสาธิต วรรณศิลปินกรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัยหลักทรัพย์บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คุณเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เอเชียพลัส คุณจักรกริช เจริญเมธาชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนบล.โกลเบล็ก และ คุณทรงกลด วงศ์ไชย ผู้อำนวยการฝ่าย บล.ฟินันเซีย ไซรัส
นอกจากนี้ภายในงานสัมมนา จะมีกลุ่มพันธมิตรร่วมออกบูท ประกอบด้วย บริษัท อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. บล.ฟินันเซีย ไซรัส บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินแตอร์เนชั่นแนล จำกัดหรือYLG หนังสือพิมพ์ทันหุ้นบล.โกลเบล็ก บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) บริษัท ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด(มหาชน)หรือ UAC
นายประสิทธิ์กล่าวว่า บริษัทฯคาดว่า นักลงทุน ประชาชนทั่วไปจะให้ความสนใจเข้ามาร่วมรับฟังสัมมนาครั้งนี้ เนื่องจากสภาวะตลาดหุ้น มีความผันผวน ทำให้ข่าวสาร ข้อมูล เป็นสิ่งจำเป็นต่อการตัดสินใจลงทุน โดยสัมมนาครั้งนี้ มีที่นั่งจำนวนมากจำกัดแค่ 250 ที่หรือรับจำนวนนักลงทุน 250 ราย เท่านั้น โดยผู้สนใจสามารถสำรองที่นั่งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-664-4451-2 หรือ แจ้งชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และโบรกเกอร์ที่ใช้บริการ ได้ที่ reporter@hooninside.com
WWW.HOONINSIDE จับมือนสพ.ทันหุ้นและสำนักข่าว INFOQUEST จัดสัมมนาทุกไตรมาส ตลอดปีกระต่ายฟรี! ประเดิมครั้งแรกวันที่ 12 มี.ค.นี้ คาดนักลงทุนให้ความสนใจ ภาคเช้า พบ 4 ดาวรุ่ง 4 โกรทสต็อก AGE-GUNKUL-SMT-RS ภาคบ่าย 4 เซียนผนึกกำลัง ฉีกซอง แจกหุ้นเด็ด งานนี้มาจากค่ายยักษ์ใหญ่ชั้นแนวหน้าใต้ฟ้าเมืองไทย บล.กิมเอ็ง-บล.เอเซียพลัส-บล.โกลเบล็ก-บล.ฟินันเซีย ไซรัส
นายประสิทธิ์ กรโชคอนันต์ กรรมการผู้จัดการและบรรณาธิการบริหาร บริษัท นายกล้วยหอมออนไลน์ จำกัด ในฐานะเจ้าของ WWW.HOONINSIDE.COM เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯได้ร่วมกับหนังสือพิมพ์ ทันหุ้น สำนักข่าว INFOQUEST จัดสัมมนาร่วมกันทุกไตรมาส ตลอดปี 2554 ฟรีตลอดทั้งงาน โดยครั้งแรก เริ่มวันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2554 ที่ สำนักงานอยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. สาขาพหลโยธิน ชั้น 22 ซึ่งบริษัทฯได้รับเกียรติจาก คุณชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ mai มาร่วมกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้สัมมนาภาคเช้า หัวข้อ 4 ดาวรุ่ง 4 โกรท สต็อก ซึ่งนักลงทุนจะได้พบกับ 4 ผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน ประกอบด้วย คุณพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี(AGE) คุณกัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง(GUNKUL) คุณพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) (SMT) คุณพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.อาร์เอส (RS)
สัมมนาภาคบ่าย หัวข้อ 4 เซียนผนึกกำลัง-ฉีกซองแจกหุ้นเด็ด ประกอบด้วย คุณสาธิต วรรณศิลปินกรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัยหลักทรัพย์บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คุณเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เอเชียพลัส คุณจักรกริช เจริญเมธาชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนบล.โกลเบล็ก และ คุณทรงกลด วงศ์ไชย ผู้อำนวยการฝ่าย บล.ฟินันเซีย ไซรัส
นอกจากนี้ภายในงานสัมมนา จะมีกลุ่มพันธมิตรร่วมออกบูท ประกอบด้วย บริษัท อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. บล.ฟินันเซีย ไซรัส บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินแตอร์เนชั่นแนล จำกัดหรือYLG หนังสือพิมพ์ทันหุ้นบล.โกลเบล็ก บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) บริษัท ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด(มหาชน)หรือ UAC
นายประสิทธิ์กล่าวว่า บริษัทฯคาดว่า นักลงทุน ประชาชนทั่วไปจะให้ความสนใจเข้ามาร่วมรับฟังสัมมนาครั้งนี้ เนื่องจากสภาวะตลาดหุ้น มีความผันผวน ทำให้ข่าวสาร ข้อมูล เป็นสิ่งจำเป็นต่อการตัดสินใจลงทุน โดยสัมมนาครั้งนี้ มีที่นั่งจำนวนมากจำกัดแค่ 250 ที่หรือรับจำนวนนักลงทุน 250 ราย เท่านั้น โดยผู้สนใจสามารถสำรองที่นั่งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-664-4451-2 หรือ แจ้งชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และโบรกเกอร์ที่ใช้บริการ ได้ที่ reporter@hooninside.com
1820
news & activity / พฤกษา ประกาศแผนธุรกิจปี 2554 ตั้งเป้ายอดจอง 42,000 ล้านบาท ยอดโอน 32,000 ล้านบาท
« on: February 14, 2011, 06:46:22 PM »
พฤกษา ประกาศแผนธุรกิจปี 2554 ตั้งเป้ายอดจอง 42,000 ล้านบาท ยอดโอน 32,000 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ “Yes, we care” เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) (คนกลาง) และคณะผู้บริหารของบริษัทฯ แถลงแผนธุรกิจปี 2554 ตั้งเป้ายอดจองที่ 42,000 ล้านบาท และกำหนดเป้ายอดโอนที่ 32,000 ล้านบาท รวมถึงวางแผนเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียรวมทั้งสิ้น 78 โครงการ นอกจากนี้ยังกำหนดกลยุทธ์การตลาดใหม่ Yes, we care ซึ่งมุ่งเน้นการดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ทั้งลูกค้า พนักงาน ชุมชน สังคม และผู้ถือหุ้น เพื่อให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยจะพัฒนาและใส่ใจในทุกด้านเพิ่มมากขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
Call center 1739 หรือ www.pruksa.com
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) (คนกลาง) และคณะผู้บริหารของบริษัทฯ แถลงแผนธุรกิจปี 2554 ตั้งเป้ายอดจองที่ 42,000 ล้านบาท และกำหนดเป้ายอดโอนที่ 32,000 ล้านบาท รวมถึงวางแผนเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียรวมทั้งสิ้น 78 โครงการ นอกจากนี้ยังกำหนดกลยุทธ์การตลาดใหม่ Yes, we care ซึ่งมุ่งเน้นการดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ทั้งลูกค้า พนักงาน ชุมชน สังคม และผู้ถือหุ้น เพื่อให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยจะพัฒนาและใส่ใจในทุกด้านเพิ่มมากขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
Call center 1739 หรือ www.pruksa.com
1821
news & activity / “โอเชี่ยน คอมเมิรช” เตรียมแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์
« on: February 14, 2011, 06:19:23 PM »
“โอเชี่ยน คอมเมิรช” เตรียมแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ตั้ง"แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์" เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
"โอเชี่ยน คอมเมิรช" เดินหน้าเต็มสูบแต่งตั้ง "แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์" เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อศึกษาโครงสร้างธุรกิจ และโครงสร้างทางการเงิน เพื่อรองรับการเติบโต รวมถึงการขยายกำลังการผลิต อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในอนาคต ภายในช่วง 1 – 2 ปี เผยจุดเด่นอยู่ที่การเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการผลิต และจัดจำหน่าย ก๊อกน้ำ, บอลวาล์ว รวมถึงอุปกรณ์สุขภัณฑ์ต่าง ๆ มากกว่า 25 ปี
นายอุชัย วิไลเลิศโภคา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด ดำเนินธุรกิจหลักเป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่าย ก๊อกน้ำ, บอลวาล์ว, เทปพันเกลียว, สายถักสแตนเลส และ อุปกรณ์สุขภัณฑ์ต่างๆ ภายใต้แบรนด์ Duss, Bay ,Icon , Saza และ Union เปิดเผยว่า ได้แต่งตั้ง บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อศึกษาโครงสร้างทางธุรกิจและโครงสร้างทางการเงิน สำหรับรองรับการเติบโต รวมถึงการขยายกำลังการผลิตในอนาคต ซึ่งอยู่ในช่วงเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอยู่ในทิศทางเดียวกันกับภาคอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นการทดแทน ลดการนำเข้าก๊อกน้ำคุณภาพดีจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการรองรับและการเตรียมความพร้อมที่จะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในอนาคตต่อไป
ทั้งนี้ บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด มีจุดเด่น คือ การเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์มากกว่า 25 ปี และปัจจุบันได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยนำเทคโนโลยีการผลิตจากต่างประเทศมาสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัท ทำให้ธุรกิจของบริษัทมีศักยภาพและตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสินค้าภายในแบรนด์ดัส (DUSS) ซาซ่า (SAZA) ซึ่งเป็นที่รู้จักและยอมรับของตลาดเป็นอย่างมาก
สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจนั้น จะเน้นในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก เมื่อนำไปใช้งาน จึงมั่นใจในความปลอดภัยจากสารปนเปื้อน กระบวนการผลิตที่เป็นมาตรฐาน เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ มีความแข็งแรงทนทาน และใช้งานได้นานซึ่งถือเป็นจุดเด่นของบริษัทที่มีเหนือคู่แข่ง
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ให้บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด ซึ่งบทบาทการเป็น FA ในช่วงแรกนี้ จะเป็นการเข้าไปศึกษาข้อมูล และการจัดโครงสร้างบริษัท เพื่อขจัดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ การวางแผนระบบควบคุมภายในให้เกิดประสิทธิภาพ รวมถึงความน่าเชื่อถือทางด้านงบการเงิน ซึ่งบริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด ถือเป็นอีกบริษัทที่มีคุณภาพ และมีปัจจัยพื้นฐานที่โดดเด่น โดยบริษัทมีจุดเด่นและจุดแข็งในหลาย ๆ ด้าน และเชื่อว่าในอนาคตเมื่อการเตรียมตัวเพื่อเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เกิดความเรียบร้อย ทางบริษัทจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนไม่น้อยไปกว่าบริษัทอื่น
ข้อมูลบริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด
บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่าย ก๊อกน้ำ, บอลวาล์ว, เทปพันเกลียว, สายถักสแตนเลส และ อุปกรณ์สุขภัณฑ์ต่างๆ โดยเริ่มก่อตั้งบริษัทตั้งแต่ปีพ.ศ.2528 จากผู้จัดจำหน่ายก๊อกน้ำ และอุปกรณ์สุขภัณฑ์ทั่วไป ได้พัฒนาและสร้างสมประการณ์เรื่อยมา ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีในการทำธุรกิจด้านสุขภัณฑ์ทำให้ บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด มีประสบการณ์และศักยภาพเพียงพอด้านการตลาด โดยจัดจำหน่ายสินค้าภายในแบรนด์ดัส (DUSS) ซาซ่า( SAZA) ซึ่งตลาดกลุ่มเป้าหมายตอบรับเป็นอย่างดีปี พ.ศ.2549 ดัส (DUSS) เป็นที่รู้จักและยอมรับของตลาดเป็นอย่างมาก บริษัทฯจึงขยายศักยภาพของตนโดยเริ่มก่อตั้งโรงงานผลิตก๊อกน้ำชื่อบริษัท ดัส ฟอว์เซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด โดยนำเทคโนโลยีการผลิตจากต่างประเทศมาสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ สินค้า DUSS มีหลากหลายดีไซน์ให้เลือกสรร ซึ่งเราเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก เมื่อนำไปใช้งาน จึงมั่นใจในความปลอดภัยจากสารปนเปื้อน โดยเรามีขบวนการผลิตที่เป็นมาตรฐาน เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ มีความแข็งแรงทนทาน และใช้งานได้นาน สมกับสโลแกนของบริษัทฯที่ว่า “คุณภาพคู่ราคา สินค้าคู่มาตรฐาน”
"โอเชี่ยน คอมเมิรช" เดินหน้าเต็มสูบแต่งตั้ง "แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์" เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อศึกษาโครงสร้างธุรกิจ และโครงสร้างทางการเงิน เพื่อรองรับการเติบโต รวมถึงการขยายกำลังการผลิต อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในอนาคต ภายในช่วง 1 – 2 ปี เผยจุดเด่นอยู่ที่การเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการผลิต และจัดจำหน่าย ก๊อกน้ำ, บอลวาล์ว รวมถึงอุปกรณ์สุขภัณฑ์ต่าง ๆ มากกว่า 25 ปี
นายอุชัย วิไลเลิศโภคา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด ดำเนินธุรกิจหลักเป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่าย ก๊อกน้ำ, บอลวาล์ว, เทปพันเกลียว, สายถักสแตนเลส และ อุปกรณ์สุขภัณฑ์ต่างๆ ภายใต้แบรนด์ Duss, Bay ,Icon , Saza และ Union เปิดเผยว่า ได้แต่งตั้ง บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อศึกษาโครงสร้างทางธุรกิจและโครงสร้างทางการเงิน สำหรับรองรับการเติบโต รวมถึงการขยายกำลังการผลิตในอนาคต ซึ่งอยู่ในช่วงเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอยู่ในทิศทางเดียวกันกับภาคอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นการทดแทน ลดการนำเข้าก๊อกน้ำคุณภาพดีจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการรองรับและการเตรียมความพร้อมที่จะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในอนาคตต่อไป
ทั้งนี้ บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด มีจุดเด่น คือ การเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์มากกว่า 25 ปี และปัจจุบันได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยนำเทคโนโลยีการผลิตจากต่างประเทศมาสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัท ทำให้ธุรกิจของบริษัทมีศักยภาพและตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสินค้าภายในแบรนด์ดัส (DUSS) ซาซ่า (SAZA) ซึ่งเป็นที่รู้จักและยอมรับของตลาดเป็นอย่างมาก
สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจนั้น จะเน้นในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก เมื่อนำไปใช้งาน จึงมั่นใจในความปลอดภัยจากสารปนเปื้อน กระบวนการผลิตที่เป็นมาตรฐาน เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ มีความแข็งแรงทนทาน และใช้งานได้นานซึ่งถือเป็นจุดเด่นของบริษัทที่มีเหนือคู่แข่ง
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ให้บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด ซึ่งบทบาทการเป็น FA ในช่วงแรกนี้ จะเป็นการเข้าไปศึกษาข้อมูล และการจัดโครงสร้างบริษัท เพื่อขจัดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ การวางแผนระบบควบคุมภายในให้เกิดประสิทธิภาพ รวมถึงความน่าเชื่อถือทางด้านงบการเงิน ซึ่งบริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด ถือเป็นอีกบริษัทที่มีคุณภาพ และมีปัจจัยพื้นฐานที่โดดเด่น โดยบริษัทมีจุดเด่นและจุดแข็งในหลาย ๆ ด้าน และเชื่อว่าในอนาคตเมื่อการเตรียมตัวเพื่อเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เกิดความเรียบร้อย ทางบริษัทจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนไม่น้อยไปกว่าบริษัทอื่น
ข้อมูลบริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด
บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่าย ก๊อกน้ำ, บอลวาล์ว, เทปพันเกลียว, สายถักสแตนเลส และ อุปกรณ์สุขภัณฑ์ต่างๆ โดยเริ่มก่อตั้งบริษัทตั้งแต่ปีพ.ศ.2528 จากผู้จัดจำหน่ายก๊อกน้ำ และอุปกรณ์สุขภัณฑ์ทั่วไป ได้พัฒนาและสร้างสมประการณ์เรื่อยมา ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีในการทำธุรกิจด้านสุขภัณฑ์ทำให้ บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด มีประสบการณ์และศักยภาพเพียงพอด้านการตลาด โดยจัดจำหน่ายสินค้าภายในแบรนด์ดัส (DUSS) ซาซ่า( SAZA) ซึ่งตลาดกลุ่มเป้าหมายตอบรับเป็นอย่างดีปี พ.ศ.2549 ดัส (DUSS) เป็นที่รู้จักและยอมรับของตลาดเป็นอย่างมาก บริษัทฯจึงขยายศักยภาพของตนโดยเริ่มก่อตั้งโรงงานผลิตก๊อกน้ำชื่อบริษัท ดัส ฟอว์เซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด โดยนำเทคโนโลยีการผลิตจากต่างประเทศมาสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ สินค้า DUSS มีหลากหลายดีไซน์ให้เลือกสรร ซึ่งเราเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก เมื่อนำไปใช้งาน จึงมั่นใจในความปลอดภัยจากสารปนเปื้อน โดยเรามีขบวนการผลิตที่เป็นมาตรฐาน เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ มีความแข็งแรงทนทาน และใช้งานได้นาน สมกับสโลแกนของบริษัทฯที่ว่า “คุณภาพคู่ราคา สินค้าคู่มาตรฐาน”
1822
ข่าวบันเทิง / ห้ามพลาด “The idol” อาทิตย์(20 ก.พ.)นี้
« on: February 14, 2011, 06:14:53 PM »
ห้ามพลาด “The idol” อาทิตย์(20 ก.พ.)นี้
“เปอร์” คุยครบรสกับ “วงศ์ทนง” เจ้าของฉายา ‘นักสร้างแรงบันดาลใจ’
“วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์” กับคำว่า “นักสร้างแรงบันดาลใจ”
เชื่อว่าหลายคนรู้จักชื่อของผู้ชายคนนี้ “วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์” โดยเฉพาะท่านที่เป็นนักอ่านคงปฏิเสธไม่ได้ในความสามารถและผลงานของเค้า
นอกจากตัวหนังสือที่ออกมาจากปากกาและความคิดของ “วงศ์ทนง” จะสามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้อ่านได้แล้วยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้น จนถึงขั้นที่ใครหลายคนให้ฉายากับผู้ชายคนนี้ว่าเค้าคือ “นักสร้างแรงบันดาลใจ” รายการ “The idol คนบันดาลใจ” จึงไม่พลาดที่จะชวนเค้ามาพูดคุยชนิดที่เรียกว่าครบทุกมุมมอง กับการสัมภาษณ์ไม่เหมือนใครสไตล์พิธีกรรุ่นใหม่ เปอร์-สุวิกรม อัมระนันทน์
ติดตามความคิดที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนของผู้ชายคนนี้ ในรายการ “The idol คนบันดาลใจ” อาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ เวลา 23.30-24.00 น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี บางทีคุณอาจเป็นอีกคนที่ได้ แรงบันดาลใจใหม่ๆจากผู้ชายคนนี้
1823
news & activity / บทวิเคราะห์ GOLD FUTURES กับ นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ
« on: February 14, 2011, 06:12:49 PM »
บทวิเคราะห์ GOLD FUTURES กับ นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ
ประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1364 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.82 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.84 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19800 บาท กับ 19900 บาท GFG11 เปิดที่ 19970 บาท และ GFJ11 เปิดที่ 20060 บาท และ GF10G11 เปิดที่ 19960 บาท และ GF10J11 เปิดที่ 20050 บาท SPDR ถือครอง 1225.53 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมันปิดลบ 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 85.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 43.97 จุด มาปิดตลาดที่ระดับ 12273.26 จุด โดยที่ราคาทองคำในช่วงวันศุกร์แกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบปรับตัวลดลงในปลายตลาดมาปิดที่ 1361 เหรียญ โดยที่ราคาทองคำแท่งช่วงเช้าปรับขึ้นมา 100 บาท และปิดตลาดทองคำแท่งที่ 19750 – 19850 บาท ราคาทองคำในตลาด London เองค่อนข้างปรับตัวลดลงบ้างโดยที่ซื้อขายบริเวณ 1355 เหรียญ โดยที่ในตลาด Comex ราคาเคลื่อนไหวเล็กน้อยและกลับมาปิดที่ 1360 เหรียญ ทองคำเริ่มตกลงหลังตลาด Comex ปิดหลังจากนายมูบารัค ลาออกจากตำแหน่ง ทำให้ราคาทองคำปรับลงมาปิดที่ 1360 เหรียญ โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในเรื่องของ Trade Balance ออกมา -40.6 B จากเดิม -38.3 B และ Prelim UOM Consumer Sentiment ออกมาดีขึ้นที่ระดับ 75.1 จากเดิม 74.2 โดยภาพรวมๆนักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจในเศรษฐกิจมากขึ้นทำให้ Usd Index ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 78.46 น้ำมันปิดลบ 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 85.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 43.97 จุด มาปิดตลาดที่ระดับ 12273.26 จุด
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำเริ่มเข้าสู่ภาวะของการสับสนในทิศทางอีกครั้งจากการที่ราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านด้านบนที่ระดับ 1366 เหรียญ ได้ Oscillator บางตัวเริ่มเป็นFlag Trend และการที่ราคาได้ปรับตัวลดลงมาในปลายตลาดคือสัญญาณทางเทคนิคเริ่มอ่อนตัวลง ให้ระมัดระวังอาจเกิดการขายทำกำไรบริเวณนี้ได้ โดยทิศทางอาจจะ Sideway ก่อน โดยอาจจะลงมาแนวรับด้านล่าง 1345 เหรียญได้ แนวต้านยังอยู่ที่ 1370 เหรียญ ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 19750 บาท และ 19850 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1361 เหรียญ ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 19700 บาท และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 19900 บาท Gold Futures G11 จะมีแนวรับที่ระดับ 19900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20050 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade):เก็งกำไรในภาวะแกว่งตัว ซึ่งมีแนวรับที่ระดับ 1355 เหรียญ แนวต้าน 1360 เหรียญ น่าจะแกว่งในช่วงแคบ
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade):แนะนำให้ขายทำกำไรไปบ้าง ลดพอร์ตการลงทุน รอดูความชัดเจนของทิศทางราคาอีกครั้งหนึ่ง ควรถือพอร์ตประมาณ 30-40 %
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง:ขายทำกำไรบ้างและรอดูความชัดเจนของตลาดว่านักลงทุนจะขาย Safe Heaven ออกมามากแค่ไหน ช่วงนี้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1364 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.82 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.84 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19800 บาท กับ 19900 บาท GFG11 เปิดที่ 19970 บาท และ GFJ11 เปิดที่ 20060 บาท และ GF10G11 เปิดที่ 19960 บาท และ GF10J11 เปิดที่ 20050 บาท SPDR ถือครอง 1225.53 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมันปิดลบ 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 85.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 43.97 จุด มาปิดตลาดที่ระดับ 12273.26 จุด โดยที่ราคาทองคำในช่วงวันศุกร์แกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบปรับตัวลดลงในปลายตลาดมาปิดที่ 1361 เหรียญ โดยที่ราคาทองคำแท่งช่วงเช้าปรับขึ้นมา 100 บาท และปิดตลาดทองคำแท่งที่ 19750 – 19850 บาท ราคาทองคำในตลาด London เองค่อนข้างปรับตัวลดลงบ้างโดยที่ซื้อขายบริเวณ 1355 เหรียญ โดยที่ในตลาด Comex ราคาเคลื่อนไหวเล็กน้อยและกลับมาปิดที่ 1360 เหรียญ ทองคำเริ่มตกลงหลังตลาด Comex ปิดหลังจากนายมูบารัค ลาออกจากตำแหน่ง ทำให้ราคาทองคำปรับลงมาปิดที่ 1360 เหรียญ โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในเรื่องของ Trade Balance ออกมา -40.6 B จากเดิม -38.3 B และ Prelim UOM Consumer Sentiment ออกมาดีขึ้นที่ระดับ 75.1 จากเดิม 74.2 โดยภาพรวมๆนักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจในเศรษฐกิจมากขึ้นทำให้ Usd Index ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 78.46 น้ำมันปิดลบ 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 85.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 43.97 จุด มาปิดตลาดที่ระดับ 12273.26 จุด
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำเริ่มเข้าสู่ภาวะของการสับสนในทิศทางอีกครั้งจากการที่ราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านด้านบนที่ระดับ 1366 เหรียญ ได้ Oscillator บางตัวเริ่มเป็นFlag Trend และการที่ราคาได้ปรับตัวลดลงมาในปลายตลาดคือสัญญาณทางเทคนิคเริ่มอ่อนตัวลง ให้ระมัดระวังอาจเกิดการขายทำกำไรบริเวณนี้ได้ โดยทิศทางอาจจะ Sideway ก่อน โดยอาจจะลงมาแนวรับด้านล่าง 1345 เหรียญได้ แนวต้านยังอยู่ที่ 1370 เหรียญ ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 19750 บาท และ 19850 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1361 เหรียญ ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 19700 บาท และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 19900 บาท Gold Futures G11 จะมีแนวรับที่ระดับ 19900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20050 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade):เก็งกำไรในภาวะแกว่งตัว ซึ่งมีแนวรับที่ระดับ 1355 เหรียญ แนวต้าน 1360 เหรียญ น่าจะแกว่งในช่วงแคบ
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade):แนะนำให้ขายทำกำไรไปบ้าง ลดพอร์ตการลงทุน รอดูความชัดเจนของทิศทางราคาอีกครั้งหนึ่ง ควรถือพอร์ตประมาณ 30-40 %
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง:ขายทำกำไรบ้างและรอดูความชัดเจนของตลาดว่านักลงทุนจะขาย Safe Heaven ออกมามากแค่ไหน ช่วงนี้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
1824
news & activity / ทีโอทีเลือกระบบสื่อสารอัจฉริยะของคอนเวอจีส์ที่ขับเคลื่อนด้วยไมโครซอฟท์
« on: February 14, 2011, 06:11:25 PM »
กรุงเทพฯ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 – ทีโอที ประเทศไทย ผู้ให้บริการโทรคมนาคมแห่งชาติ ดำเนินการปรับเปลี่ยนระบบเรียกเก็บเงินและระบบบริหารความสัมพันธ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ตลอดจนปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้า โดยเลือกใช้ระบบสื่อสารอัจฉริยะของคอนเวอจีส์ที่ขับเคลื่อนด้วยไมโครซอฟท์ (Covergys Smart Communications Suite Powered by Microsoft® (NASDAQ: MSFT) คอนเวอจีส์ คอร์ปอเรชั่น (NYSE: CVG) ผู้นำระดับโลกด้านระบบจัดการความสัมพันธ์ รับหน้าที่เป็นผู้ออกแบบและติดตั้งระบบร่วมกับ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นคู่สัญญาของทีโอที
เนื่องจากเดิมระบบเรียกเก็บเงินสำหรับบริการแบบมีสาย (Wireland) และบริการแบบไร้สาย(Wireless) แยกออกจากกัน ทีโอที ประเทศไทย จึงไม่สามารถให้บริการทั้งสองประเภทร่วมกัน หรือพิมพ์ใบเรียกเก็บเงินเพียงใบเดียวสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการทั้งสองประเภทได้ นอกจากนี้ ทีโอทียังต้องจ่ายค่าบำรุงรักษาระบบซ้ำซ้อนอีกด้วย การเปลี่ยนมาใช้ระบบสื่อสารอัจฉริยะของ คอนเวอจีส์ ซึ่งใช้แพลตฟอร์มไดนามิคส์ ซีอาร์เอ็ม ของไมโครซอฟท์ (Microsoft Dynamics® CRM Platform) ทำให้ทีโอที ประเทศไทย ได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มราคาไม่แพง ซึ่งได้รวบรวมและตั้งค่าต่างๆ ไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้ทีโอที สามารถนำเสนอบริการใหม่ๆ ได้โดยง่าย ขณะเดียวกัน ความสามารถของระบบในการเรียกเก็บเงินแบบเรียลไทม์ช่วยรับประกันว่ารายได้ของทีโอทีจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
“หลังจากสำรวจและศึกษาระบบเรียกเก็บเงินที่มีอยู่ในท้องตลาด ทีโอที ประเทศไทย เลือกโซลูชั่นที่พัฒนาโดยผู้นำในอุตสาหกรรมนี้อย่างไมโครซอฟท์และคอนเวอจีส์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมยุคใหม่ที่ราคาไม่แพงและมุ่งเน้นลูกค้าเป็นสำคัญ” บ๊อบ เลนโต ประธานฝ่ายจัดการสารสนเทศของคอนเวอจีส์กล่าว “ด้วยระบบสื่อสารอัจฉริยะของคอนเนอจีส์ ทีโอที ประเทศไทย สามารถเปิดให้บริการใหม่ได้เร็วขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า กระตุ้นการเติบโตทางธุรกิจ และบรรลุถึงวิสัยทัศน์ในนำเสนอบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า
โซลูชั่น Smart BSS ของคอนเวอจีส์ รองรับการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ตลอดจนการทำงานแบบเรียลไทม์ จึงช่วยลดความเสี่ยง ลดค่าใช้จ่ายในการการดำเนินงาน และสร้างรายได้เพิ่ม ลูกค้าของคอนเวอจีส์จึงสามารถทุ่มเทกับการสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณค่ากับลูกค้าของตนได้ บริษัทสื่อสารชั้นนำที่ได้รับการจัดให้อยู่ใน 10 อันดับแรกของนิตยสารฟอร์จูน (Fortune) 7 แห่ง ใช้ผลิตภัณฑ์ของคอนเวอจีส์
1825
news & activity / โรช ไดแอกโนสติกส์ ร่วมงานครบรอบ 36 ปี อย. “รวมพลังเครือข่าย เพื่อคนไทยสุขภาพดี”
« on: February 14, 2011, 06:07:30 PM »
โรช ไดแอกโนสติกส์ ร่วมงานครบรอบ 36 ปี อย. “รวมพลังเครือข่าย เพื่อคนไทยสุขภาพดี”
นายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์ (ยืนกลาง) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน ครบรอบ 36 ปี อย. “รวมพลังเครือข่าย เพื่อคนไทยสุขภาพดี” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ดำเนินงานคุ้มครองสุขภาพของประชาชนให้ปลอดภัยจากการบริโภคผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพต่างๆ โดยจัดให้มีการตรวจสุขภาพเบื้องต้นและการออกร้านจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษจากหน่ายงานภาครัฐและเอกชนจำนวนมาก ทั้งนี้ นางสาวสุดาพร ไกรวาปี (ที่1 จากขวา) ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ [ประเทศไทย] จำกัด ได้นำทีมผู้เชี่ยวชาญไปให้บริการบริการตรวจสุขภาพ อาทิ ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดและวัดไขมันในเลือด ให้แก่ประชาชนฟรี ณ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเร็วๆ นี้
นายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์ (ยืนกลาง) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน ครบรอบ 36 ปี อย. “รวมพลังเครือข่าย เพื่อคนไทยสุขภาพดี” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ดำเนินงานคุ้มครองสุขภาพของประชาชนให้ปลอดภัยจากการบริโภคผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพต่างๆ โดยจัดให้มีการตรวจสุขภาพเบื้องต้นและการออกร้านจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษจากหน่ายงานภาครัฐและเอกชนจำนวนมาก ทั้งนี้ นางสาวสุดาพร ไกรวาปี (ที่1 จากขวา) ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ [ประเทศไทย] จำกัด ได้นำทีมผู้เชี่ยวชาญไปให้บริการบริการตรวจสุขภาพ อาทิ ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดและวัดไขมันในเลือด ให้แก่ประชาชนฟรี ณ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเร็วๆ นี้
1826
news & activity / เฮลธ์ อิมแพค ฉลองสำนักงานใหม่
« on: February 14, 2011, 05:53:14 PM »
เฮลธ์ อิมแพค ฉลองสำนักงานใหม่
ภญ. กรรณิการ์ เอกศักดิ์ (กลางซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และ นางสาวศิริพร กิตติวงศ์โสภณ (กลางขวา) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เฮลธ์ อิมแพค จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม จัดงานฉลองเปิดสำนักงานแห่งใหม่ เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจทั้งภายในและต่างประเทศ ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ณ ถนนอรุณอมรินทร์ ซอย 39 เมื่อเร็วๆ นี้
ภญ. กรรณิการ์ เอกศักดิ์ (กลางซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และ นางสาวศิริพร กิตติวงศ์โสภณ (กลางขวา) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เฮลธ์ อิมแพค จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม จัดงานฉลองเปิดสำนักงานแห่งใหม่ เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจทั้งภายในและต่างประเทศ ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ณ ถนนอรุณอมรินทร์ ซอย 39 เมื่อเร็วๆ นี้
1827
กิจกรรม ช่อง 3 / เปิดตัวโครงการ “รักษ์พลังงานกับทีวีรักษ์โลก”
« on: February 14, 2011, 05:51:10 PM »
เปิดตัวโครงการ “รักษ์พลังงานกับทีวีรักษ์โลก”
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ร่วมกับนายสำราญ ฉัตรโท รองผู้จัดการฝ่ายข่าว ช่อง 3 เปิดตัวโครงการ “รักษ์พลังงานกับทีวีรักษ์โลก” เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนทั่วประเทศเกิดความตื่นตัวเรื่องการอนุรักษ์พลังงานและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงได้รับรู้เคล็ดลับวิธีประหยัดพลังงานแบบง่ายๆ พร้อมกันนี้ภายในงานยังได้รับเกียรติจากผู้บริหารสนพ. ผู้ประกาศข่าว และดาราอาทิ นุ่น-ศิรพันธ์ เจสัน ยัง เกรท-วรินทร ร่วมประกาศเจตนารมณ์ลดใช้พลังงานในโครงการ “รักษ์พลังงานกับทีวีรักษ์โลก” ด้วย
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ร่วมกับนายสำราญ ฉัตรโท รองผู้จัดการฝ่ายข่าว ช่อง 3 เปิดตัวโครงการ “รักษ์พลังงานกับทีวีรักษ์โลก” เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนทั่วประเทศเกิดความตื่นตัวเรื่องการอนุรักษ์พลังงานและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงได้รับรู้เคล็ดลับวิธีประหยัดพลังงานแบบง่ายๆ พร้อมกันนี้ภายในงานยังได้รับเกียรติจากผู้บริหารสนพ. ผู้ประกาศข่าว และดาราอาทิ นุ่น-ศิรพันธ์ เจสัน ยัง เกรท-วรินทร ร่วมประกาศเจตนารมณ์ลดใช้พลังงานในโครงการ “รักษ์พลังงานกับทีวีรักษ์โลก” ด้วย
1828
กิจกรรม ช่อง 3 / กอบสุข นำทีมศิลปินดารา มอบผ้าห่มกันหนาว สิ่งของเครื่องใช้ และบำรุงขวัญพี่น้อง
« on: February 14, 2011, 05:50:27 PM »
กอบสุข นำทีมศิลปินดารา มอบผ้าห่มกันหนาว สิ่งของเครื่องใช้ และบำรุงขวัญพี่น้องผู้ประสบภัย
กอบสุข จารุจินดา ผู้จัดคนเก่งของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นำทีมศิลปินดารานักแสดงและทีมงาน อาทิ นนท์ ภูดิศ, ท๊อป ณัฐนันท์, กล้วย เดอะซิงเกอร์ ร่วมด้วย จอห์นสัน เทวิญธวิ์, กุ้ง ณัฐวรรณ, ลูกเกด กัลยารัตน์ และเอ๋-อัจฉรา ทองเทพ โดยร่วมกับ กองทัพอากาศ นำทีมโดย พล.อ.ท. วุฒิชัย คชาชีวะ รองเสนาธิการทหารอากาศ (สายงานกิจการพลเรือนและกิจการพิเศษ) เข้าร่วมกิจกรรมมอบผ้าห่มกันหนาว สิ่งของเครื่องใช้ และบำรุงขวัญพี่น้องผู้ประสบภัย ณ ศูนย์อพยพผู้ประสบภัย อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ นอกจากไปมอบข้าวของเครื่องใช้แล้ว ยังนำเสียงเพลงและเกมสนุกๆ โดยทีมดาราเต้นกันจนลืมเหนื่อย พร้อมกันนี้ยังมี พระสงฆ์ ซึ่งเป็นตัวแทนจากสมเด็จพระสังฆราช นำน้ำพุทธมนต์ที่ได้รับการปลุกเสก และพระไพรีพินาศ ไปแจกเพื่อปลอบขวัญให้กับชาวบ้าน ณ ศูนย์อพยพฯ อีกด้วย
กอบสุข จารุจินดา ผู้จัดคนเก่งของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นำทีมศิลปินดารานักแสดงและทีมงาน อาทิ นนท์ ภูดิศ, ท๊อป ณัฐนันท์, กล้วย เดอะซิงเกอร์ ร่วมด้วย จอห์นสัน เทวิญธวิ์, กุ้ง ณัฐวรรณ, ลูกเกด กัลยารัตน์ และเอ๋-อัจฉรา ทองเทพ โดยร่วมกับ กองทัพอากาศ นำทีมโดย พล.อ.ท. วุฒิชัย คชาชีวะ รองเสนาธิการทหารอากาศ (สายงานกิจการพลเรือนและกิจการพิเศษ) เข้าร่วมกิจกรรมมอบผ้าห่มกันหนาว สิ่งของเครื่องใช้ และบำรุงขวัญพี่น้องผู้ประสบภัย ณ ศูนย์อพยพผู้ประสบภัย อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ นอกจากไปมอบข้าวของเครื่องใช้แล้ว ยังนำเสียงเพลงและเกมสนุกๆ โดยทีมดาราเต้นกันจนลืมเหนื่อย พร้อมกันนี้ยังมี พระสงฆ์ ซึ่งเป็นตัวแทนจากสมเด็จพระสังฆราช นำน้ำพุทธมนต์ที่ได้รับการปลุกเสก และพระไพรีพินาศ ไปแจกเพื่อปลอบขวัญให้กับชาวบ้าน ณ ศูนย์อพยพฯ อีกด้วย
1829
ข่าวภาพยนตร์ / SF และ Coke มอบรางวัลสุดอินเทรนด์มูลค่ากว่า 400,000 บาท ให้ผู้โชคดี
« on: February 14, 2011, 05:46:07 PM »
SF และ Coke มอบรางวัลสุดอินเทรนด์มูลค่ากว่า 400,000 บาท ให้ผู้โชคดีที่ร่วมสนุกตอบคำถาม กับภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “มีโค้ก-ป๊อบคอร์น นั่งที่ไหนเจ๋งที่สุด”
คุณสุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด พร้อมด้วย คุณธนพร โฆสิตาภัย รองผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมเดิร์นเทรด บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ร่วมมอบรางวัลสุดล้ำ iPad และ BlackBerry 8520 รวมมูลค่ากว่า 400,000 บาท ให้กับผู้โชคดีทั้ง 20 คน ที่ร่วมสนุกกับกิจกรรมสุดพิเศษ “SF และ Coke ความสุขที่ขาดกันไม่ได้” กับการตอบคำถามหลังจากชมภาพยนตร์โฆษณาในโรงภาพยนตร์ในเครือเอส เอฟ ทุกสาขาว่า “มีโค้ก-ป๊อบคอร์น นั่งที่ไหนเจ๋งที่สุด” ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็วๆ นี้
คุณสุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด พร้อมด้วย คุณธนพร โฆสิตาภัย รองผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมเดิร์นเทรด บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ร่วมมอบรางวัลสุดล้ำ iPad และ BlackBerry 8520 รวมมูลค่ากว่า 400,000 บาท ให้กับผู้โชคดีทั้ง 20 คน ที่ร่วมสนุกกับกิจกรรมสุดพิเศษ “SF และ Coke ความสุขที่ขาดกันไม่ได้” กับการตอบคำถามหลังจากชมภาพยนตร์โฆษณาในโรงภาพยนตร์ในเครือเอส เอฟ ทุกสาขาว่า “มีโค้ก-ป๊อบคอร์น นั่งที่ไหนเจ๋งที่สุด” ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็วๆ นี้
1830
news & activity / GUNKUL ปลื้มงบปี 2553 เจ๋งกำไรพุ่งเฉียด 130 %
« on: February 14, 2011, 05:44:24 PM »
GUNKUL ปลื้มงบปี 2553 เจ๋งกำไรพุ่งเฉียด 130 % บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลเป็นกำลังใจให้กับผู้ถือหุ้น 42.28%
บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง หรือ GUNKUL โชว์ผลงานปี 2553 กำไรเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 123.17 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 53.66 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 129.53 % หลังรายได้ภายในประเทศและต่างประเทศขยายตัวต่อเนื่อง "โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์"ประเมินทิศทางธุรกิจปี 2554 ยังเติบโตต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน ด้านบอร์ดฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลเอาใจผู้ถือหุ้นคิดเป็น 42.28% สูงกว่านโยบายจ่ายปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.075 บาท กำหนดจ่าย 3 พฤษภาคมนี้
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)หรือ GUNKUL เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดปี 2553 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ว่า บริษัท มีกำไรสุทธิเท่ากับ 123.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.51 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 53.66 ล้านบาท หรือ 129.53 %
สำหรับรายได้รวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 เท่ากับ 1,300.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 427.78 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 49 เนื่องจากรายได้จากการขายต่างประเทศ เท่ากับ 606.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 442.61 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 270.10 ขณะที่อัตราส่วนกำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 28.45 เปรียบเทียบกับปีก่อนเท่ากับร้อยละ 25.45 เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.78
ส่วนค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าใช้จ่ายในการบริหาร และค่าตอบแทนผู้บริหาร รวมเท่ากับ 189.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.65 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.76 ตามรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นตามปกติของธุรกิจ ส่วนต้นทุนทางการเงิน เท่ากับ 6.65 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 5.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.12 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการ GUNKUL กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2554 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือทั้งในส่วนของภาครัฐบาลและภาคเอกชน รวมถึงงานจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการเจรจา และรอการเซ็นสัญญาอีกประมาณ 1,000 ล้านบาท
"หลังจากที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เฟสแรกขนาด 3 เมกะวัตต์ ได้เปิดดำเนินการสามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้แล้ว ในส่วนของการเติบโตของธุรกิจเดิม คือ การนำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ทำให้เชื่อว่าผลการดำเนินของบริษัทจะเติบโตอย่างโดดเด่นในปีนี้ เห็นได้จากปัจจุบันบริษัทได้ทยอยเซ็นสัญญารับงานอย่างต่อเนื่อง และเตรียมยื่นประมูลอีกจำนวนมาก ขณะที่ความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เฟส 2 ขนาด 4.4 เมกะวัตต์ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งคาดว่าในเร็วๆ นี้น่าจะเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนได้ ส่วนเฟสต่อๆ ไปบริษัทจะเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ ซึ่งคาดว่าน่าจะดำเนินการแล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้"
นางสาวโศภชา ต่อในช่วงท้ายว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2554 ยังได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปัน สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2553 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.075 บาท เป็นจำนวนหุ้นทั้งหมด 400 ล้านหุ้น รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 30 ล้านบาท โดยกำหนดให้วันที่ 19 เมษายน 2554 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record date) ที่มีสิทธิรับเงินปันผล และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 20 เมษายน 2554 และกำหนดจ่ายเงินปันผลงวดปี 2553 ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2554
บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง หรือ GUNKUL โชว์ผลงานปี 2553 กำไรเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 123.17 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 53.66 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 129.53 % หลังรายได้ภายในประเทศและต่างประเทศขยายตัวต่อเนื่อง "โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์"ประเมินทิศทางธุรกิจปี 2554 ยังเติบโตต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน ด้านบอร์ดฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลเอาใจผู้ถือหุ้นคิดเป็น 42.28% สูงกว่านโยบายจ่ายปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.075 บาท กำหนดจ่าย 3 พฤษภาคมนี้
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)หรือ GUNKUL เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดปี 2553 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ว่า บริษัท มีกำไรสุทธิเท่ากับ 123.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.51 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 53.66 ล้านบาท หรือ 129.53 %
สำหรับรายได้รวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 เท่ากับ 1,300.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 427.78 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 49 เนื่องจากรายได้จากการขายต่างประเทศ เท่ากับ 606.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 442.61 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 270.10 ขณะที่อัตราส่วนกำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 28.45 เปรียบเทียบกับปีก่อนเท่ากับร้อยละ 25.45 เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.78
ส่วนค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าใช้จ่ายในการบริหาร และค่าตอบแทนผู้บริหาร รวมเท่ากับ 189.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.65 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.76 ตามรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นตามปกติของธุรกิจ ส่วนต้นทุนทางการเงิน เท่ากับ 6.65 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 5.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.12 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการ GUNKUL กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2554 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือทั้งในส่วนของภาครัฐบาลและภาคเอกชน รวมถึงงานจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการเจรจา และรอการเซ็นสัญญาอีกประมาณ 1,000 ล้านบาท
"หลังจากที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เฟสแรกขนาด 3 เมกะวัตต์ ได้เปิดดำเนินการสามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้แล้ว ในส่วนของการเติบโตของธุรกิจเดิม คือ การนำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ทำให้เชื่อว่าผลการดำเนินของบริษัทจะเติบโตอย่างโดดเด่นในปีนี้ เห็นได้จากปัจจุบันบริษัทได้ทยอยเซ็นสัญญารับงานอย่างต่อเนื่อง และเตรียมยื่นประมูลอีกจำนวนมาก ขณะที่ความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เฟส 2 ขนาด 4.4 เมกะวัตต์ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งคาดว่าในเร็วๆ นี้น่าจะเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนได้ ส่วนเฟสต่อๆ ไปบริษัทจะเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ ซึ่งคาดว่าน่าจะดำเนินการแล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้"
นางสาวโศภชา ต่อในช่วงท้ายว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2554 ยังได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปัน สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2553 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.075 บาท เป็นจำนวนหุ้นทั้งหมด 400 ล้านหุ้น รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 30 ล้านบาท โดยกำหนดให้วันที่ 19 เมษายน 2554 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record date) ที่มีสิทธิรับเงินปันผล และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 20 เมษายน 2554 และกำหนดจ่ายเงินปันผลงวดปี 2553 ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2554