Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - happy

Pages: 1 ... 2073 2074 [2075] 2076 2077 ... 2257
31111
พนักงานสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอผนึกกำลังเดินหน้าศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯ

ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม (ศนธ.ยธ.)



ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯกระทรวงยุติธรรม ยืนยันพร้อมยื่นมือเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ลงพื้นที่ช่วยเหลือ ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกิจกรรมเคลื่อนที่เดินสายเผยแพร่ความรู้กฎหมายที่จำเป็นเบื้องต้น  ภายหลังพบข้อร้องเรียนส่วนใหญ่มาจากการขาดความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมาย



               การผลักดันให้เกิดกระบวนการยุติธรรมขึ้นในสังคมอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก หากไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานหรือองค์กรของภาครัฐอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันความเดือดร้อนของประชาชนจะเพิ่มขึ้นหากคนผิดยังลอยนวล โดยเฉพาะในคดีที่มีความซับซ้อนพิสูจน์ได้ยาก   ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม (ศนธ.ยธ.) จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นตาข่ายความยุติธรรมอีกชั้นหนึ่งที่จะทำให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้นได้จริง ไม่ใช่แค่คำพูดนามธรรมที่ฟังดูดี

               สำหรับชุดปฏิบัติการขับเคลื่อนภารกิจหลัก 3 ด้านของศูนย์ฯ ล้วนมีหัวขบวนมาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ประกอบด้วย ผู้บัญชาการสำนัก ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ  ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ประกอบด้วยความไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ  ปัญหาที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ และปัญหาความไม่เป็นธรรมในด้านอื่น ๆ ที่ร้องมายังศูนย์ช่วยเหลือประชาชนฯ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ผู้บริหารกระทรวงแต่ละระดับชั้นเห็นชอบและมอบหมายให้ศูนย์ฯดำเนินการ และต่อไปนี้คือบทพิสูจน์การทำงานของทีมปฏิบัติการเพื่อผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรม


พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ (ซ้ายมือ) -  นายนิธิต ภูริคุปต์ (ขวามือ)




หาทางออกร่วมกัน

               พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เชี่ยวชาญด้านปัญหาหนี้สินภาคประชาชนโดยเฉพาะหนี้นอกระบบ พร้อมกับรับหน้าที่เลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯ   กล่าวถึงภารกิจจัดการปัญหาหนี้นอกระบบว่า หนี้นอกระบบเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาสินภาคประชาชน และหนี้นอกระบบก็ทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา  ภารกิจของศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯ จึงเริ่มต้นขึ้นจากการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องหนี้นอกระบบ กลโกงของเจ้าหนี้ การยึดที่ดินทำกิน ด้วยการหาพยานหลักฐานมาสนับสนุนข้อมูลของลูกหนี้ ในการต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม คือเข้าไปสืบสวนค้นหาข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง เพื่อคลี่คลายคดีตามขั้นตอนและรวดเร็ว  เชื่อว่าภารกิจของศูนย์ฯดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมเกิดความเป็นธรรมมากขึ้น

               พ.ต.ท.วิชัย กล่าวว่า  บทบาทของศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯ ที่เข้าไปช่วยแก้ปัญหาหนี้สินภาคประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมโดยเฉพาะปัญหาหนี้นอกระบบพบว่าลูกหนี้ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงิน โดยเฉพาะการกู้ยืมเงินนอกระบบที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงกว่าและเสี่ยงต่อกลโกงรวมถึงการถูกทวงหนี้จากเจ้าหนี้ด้วยวิธีที่รุนแรง ด้วยการสนับสนุนสืบหาข้อเท็จจริงของฝ่ายลูกหนี้ในการต่อสู้คดี ประสานกองทุนยุติธรรมจัดหาปรึกษากฎหมาย และการให้ความรู้ทางกฎหมาย เพื่อให้รู้เท่าทันและเกิดความยุติธรรมทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้


  พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล (คนที่ 2 จากซ้าย) ลงพื้นที่

               พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯด้านปัญหาที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ พ.ต.ท.ประวุธ ฯ กล่าวว่าการแก้ปัญหาที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการตรวจสอบการบุกรุกที่ดินและพื้นที่ป่าของรัฐจากนายทุนหรือผู้มีอิทธิพล จำเป็นต้องมีหลักฐานข้อมูลที่รัดกุม และมีความแม่นยำในข้อกฎหมายในแต่ละฉบับของเจ้าหน้าที่ด้วย ทำให้การทำงานของศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการช่วยเหลือในส่วนของกระบวนการ ในการใช้วิธีการเจรจาและทำความเข้าใจกับประชาชนในการพิสูจน์หลักฐานการครอบครองที่ดิน  รวมทั้งการนำเทคโนโลยีอย่าง DSI MAP ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้ในการตรวจสอบขอบเขตการครอบครองพื้นที่ในประเทศไทยผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงข้อมูลในการตรวจสอบกรณีการบุกรุกพื้นที่ป่า ขณะเดียวกันประชาชนทั่วไปยังสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น DSI MAP ช่วยในการทำงานส่งผลให้เกิดความแม่นยำทางข้อมูลมากยิ่งขึ้น

               ด้าน นายนิธิต ภูริคุปต์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯ ด้านปัญหาความไม่เป็นธรรมอื่น ๆ กล่าวว่า การแก้ปัญหาการไม่ได้รับความยุติธรรมในด้านอื่นๆ จะเน้นให้การช่วยเหลือประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ในปัญหาที่นอกเหนือจากหนี้นอกระบบและที่ดิน  ซึ่งในคดีความต่างๆพบว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเรื่องอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก เช่น ในคดีแพะ ที่ผู้เสียหายเป็นเหยื่อถูกจับคุมขังในคดีอาญาโดยไม่ได้กระทำผิด  ปัญหาทุจริตฉ้อโกง ถูกยึดทรัพย์ ยึดที่ทำกิน  ปัญหาหนี้สินชาวนา ฯลฯ  นอกจากตรวจสอบข้อเท็จจริงทางศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯได้มีการบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายองค์กรต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับความยุติธรรมที่ถูกต้อง

               พ.ต.ท.วิชัย ฯกล่าว เพิ่มเติมว่า  จากข้อมูลการร้องเรียนของประชาชนพบว่า  ส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องการเป็นหนี้นอกระบบมากที่สุด โดยเฉพาะถูกเอารัดเอาเปรียบจากเจ้าหนี้เงินกู้ที่เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด บางรายอาจถูกประทุษร้าย ซึ่งปัญหาดังกล่าวสืบเนื่องมาจากประชาชนขาดความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมาย และการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นในบางครั้งนอกจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงของคดีแล้วยังจัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้กฎหมายเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องให้กับผู้เสียหาย กลุ่มเสี่ยง และประชาชนทั่วไปได้เข้าใจมากขึ้น    โดยเฉพาะข้อกฎหมายในการต่อสู้คดีเมื่อถูกฟ้องร้องดำเนินคดี พร้อมทั้งรับฟังปัญหาจากภาคประชาชน เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาในระยะยาว  โดยบูรณาการทำงานร่วมกับเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคมทนายความ และองค์กรในแต่ละจังหวัดที่จะให้ความช่วยเหลือในกรณีต่างๆหากประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม


นางอุมาพร แพรประเสริฐ (คนกลาง)

               นางอุมาพร แพรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนช่วยอำนวยการและประชาสัมพันธ์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯ กล่าวว่า ลำพังการช่วยเหลือในด้านติดตามจับกุมดำเนินคดีอาจช่วยได้ไม่มากนัก เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีจำนวนจำกัดและการพิสูจน์ความผิดในการยุติคดีต้องใช้เวลา  กิจกรรมให้ความรู้จึงเป็นการตัดตอนปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นและยั่งยืนกว่า ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯจึงมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านกฎหมายโดยเน้นการกู้ยืมเงิน รวมถึงการออกไปแนะนำการใช้ DSI MAP ลักษณะนี้อย่างต่อเนื่องทุกเดือนเคลื่อนที่ไปในจังหวัดต่าง ๆ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเผยแพร่ความรู้ และเป็นจุด One Stop Service ติดตามคดีและรับเรื่องร้องทุกข์ ให้คำแนะนำช่วยเหลือแก่ประชาชนเบื้องต้น

               อย่างไรก็ตาม ศนธ.ยธ.เชื่อว่าการที่ประชาชนรู้เท่าทันกลโกงและมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของกฎหมายเบื้องต้น จะส่งผลให้ประชาชนรอดพ้นจากการถูกเอารัดเอาเปรียบ สำหรับประชาชนที่เดือดร้อนหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถติดต่อศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯ ได้ที่โทรศัพท์  02-141-5440 หรืออีเมล์ ladvi@moj.go.th

31112

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=jZT04WZSv_0" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=jZT04WZSv_0</a>

The 1st Top Project ภาพยนตร์เรื่อง นางวัง บัลลังก์เลือด (The Concubine, 후궁 제왕의첩)
ประเภทของภาพยนตร์ : ประวัติศาสตร์, อีโรติก
กำหนดเข้าฉาย 5 ธันวาคม 2555
ที่โรงภายนตร์ในเครือ Major ที่สยามพารากอนและเอสพละนาด
ติดตามความเคลื่อนไหวของเราได้ที่
Facebook : http://www.facebook.com/CCC.KoreanMovies
Twitter : @CCCMovies_Ent

31113

"การบอกรักที่ว่ายากแล้ว แต่การต้องบอกเลิกคนที่รักนั้นกลับยิ่งยากกว่า"

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=ayk569SnL2s" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=ayk569SnL2s</a>

About Movie

               ความรัก เกิดโดยไม่ต้องการเหตุผล แต่กลับจบลงด้วยเหตุผลมากมาย ภาพยนตร์ สามวัน สองคืน  เป็นเพียงหนึ่งในล้านเหตุผลที่ผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังจะใช้บอกเลิกคนรัก ที่ทั้งไม่ได้เรื่อง และมองหา อนาคตไม่เจอ เดินทางท่องเที่ยวสู่ปลายทางของความรักบนภูกระดึง ภูเขาที่มีสันฐานรูปหัวใจ ที่เป็น อาถรรพ์พิสูจน์รักแท้มาหลายยุคหลายสมัย การเดินทางครั้งนี้จะได้รู้ว่า บางครั้งปลายทางอาจไม่สวยงาม เท่ากับ ระหว่างทางที่คนสองคนได้เดินผ่านมาด้วยกัน

เรื่องย่อ

               จะทำยังไงหากวันนี้จะมีชายหนุ่มที่ดีพร้อมทั้งหน้าตา ฐานะ และสิ่งสำคัญเขามาพร้อมความรัก และ ความจริงใจที่พร้อมมอบให้คุณ เรื่องนี้คงตอบไม่ยากสำหรับสาวโสด แต่สาวไม่โสดอย่าง กิฟ ถึงกับต้อง คิดหนัก เมื่อหนุ่มหล่อและเพอร์เฟคอย่าง พี่ริว อยากจะขอขยับจากสถานะกิ๊ก ขึ้นมาเป็นคนรู้ใจ แต่กิฟจะ ตอบรับได้ยังไงในเมื่อเธอมี โอ ชายหนุ่มศิลปินไส้แห้งที่คบหากันมานานตั้งแต่สมัยเรียน อยู่ทั้งคน เมื่อก่อน เธออาจเคยมองว่าความรักเป็นเรื่องใหญ่ แต่วันนี้ชีวิตเธอกลับมีอะไรมากกว่าความรัก ทั้งค่าผ่อนรถ ค่า ผ่อนคอนโด และอายุที่มากขึ้นทุกปี ความรักของกิฟในวันนี้จึงจำเป็นต้องเป็นความรักที่มีอนาคต และ ความมั่นคงด้วย เพื่อนๆ กิฟ ทุกคนลงความเห็นเดียวกันอย่างไม่ลังเลว่าพี่ริวคือความรัก และอนาคตที่ ดีสำหรับเธอ  และสิ่งที่กิฟต้องทำอย่างแรกก็คือ ตัดรักเก่าอย่างโอทิ้งซะ และเดินเข้าไปหารักใหม่ กับ อนาคตที่สว่างสดใสของเธอ แผนการสลัดรักเก่าครั้งนี้จึงเริ่มขึ้นที่วันหยุดยาว 3วัน 2คืนที่กำลังมาถึง กับการท่องเที่ยวครั้งสุดท้าย ก่อนจะจบลงที่การบอกลารักเก่าอย่างโอ ที่ภูกระดึงดินแดนที่หลายคนได้พบ รัก และจบความรักที่นั่น  ใครจะรู้ว่าการบอกคำว่ารักที่ว่ายาก แต่การต้องบอกเลิกคนที่รักนั้นยากกว่า  กิฟรู้ดีว่าการท่องเที่ยวครั้งนี้ จะต้องจบด้วยน้ำตา

Character  สามวันสองคืน รัก.เลิก.เลย




แอม / ณัฐคม  ตังอังสนากุล

รับบท โอ หนุ่มนักวาดการ์ตูนไส้แห้ง กวนตีน อารมณ์ดี  ยิ้มเก่ง  แต่นิสัยน้ำเน่าสุดๆ  หลายอย่างในความไม่ได้เรื่อง และจับสาระไม่ได้ของโอ เป็นเหตุผลใหญ่ให้กิฟต้องเลือก ที่จะจบความรักของเธอกับเขา




แพทตี้ /  พริษฐ์ชยาดา  พิริยะเมธา

รับบท กิฟ สาวสวย  ดื้อ ดุ เอาแต่ใจ  แพ้คำหวาน   อ่อนไหวในบางเวลา  เป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง  จะตัดสินใจทำอะไรต้องคิดแล้วคิดอีก  เริ่มมองหาอนาคตให้ตัวเอง


แดนนี่ /  ดานิเอล เบลสซิ่ง

รับบท  พี่ริว หนุ่มหล่อ เพอร์เฟคในทุกด้าน ทั้งหน้าที่การงาน ฐานะเงินทอง และนิสัย เป็นสุภาพบุรุษสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นชายหนุ่มที่สาวๆทุกคนใฝ่ฝันถึง  พี่ริวเข้ามาในชีวิตกิฟ และพร้อมให้กิฟทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่ความรักที่จริงใจ


ส้ม /  เขมิกา ดิษสว่าง

รับบท  จิ๊ก สาวห้าว มั่นใจในตัวเอง กล้าได้กล้าเสีย อยากทำอะไรก็ทำ เป็นเพื่อนสนิทกับโอตั้งแต่สมัยมัธยม บังเอิญพบกันระหว่างทางไปภูกระดึง


จุ๊บ /  นันทิยา พุทธาโภคาทรัพย์

รับบท อัญ นักเขียนนิยายที่อ่อนหวานทั้งใบหน้าและนิสัย เป็นที่ใฝ่ฝันของหนุ่มๆทุกคน เพื่อนสนิทของจิ๊ก รสนิยม ความชอบหลายๆ อย่างคล้ายโอ ทำให้สองคนคุยกันถูกคอเป็นพิเศษ

ภาพยนตร์เรื่อง : สามวัน สองคืน รัก เลิก เลย  (เข้าฉาย 5 ธันวาคม 55)

บริษัทผู้สร้าง : บริษัท สามวันฟิล์ม จำกัด

อำนวยการสร้าง : ธนิตย์ จิตนุกูล , เกียรติศักดิ์ จิรังกูล , ปกรณ์ ชูลิขสิทธิ์

ควบคุมงานสร้าง : ธนิตย์ จิตนุกูล

นักแสดง : พริษฐ์ชยาดา  พิริยะเมธา , ณัฐคม ตังอังสนากุล , ดานิเอล เบลสซิ่ง, นันทิยา พุทธาโภคาทรัพย์, เขมิกา ดิษสว่าง ,เกียรติศักดิ์ จิรังกูล ,ปกรณ์ ชูลิขสิทธิ์

ดนตรีประกอบ :  ธิปไตย ภิรมย์ภักดี

ออกแบบเครื่องแต่งกาย : อรพรรณ รอดเชื้อ , ณิชยา บุญศิริพันธ์

กำกับศิลป์ : โอมรินทร์ พรจะโปะ

เรื่องและ บทภาพยนตร์ : ฐิติพงศ์ ใช้สติ , สรเทพ เวศวงศ์ษาทิพย์ , สำคัญ โชติกสวัสดิ์, ณิชยา บุญศิริพันธ์

กำกับภาพ : พีระพันธ์ เหล่ายนตร์ , อังศุมาลี เสนาไชย

ลำดับภาพ : นพดล กำดวง ,  พีระพันธ์ เหล่ายนตร์ , ฐิติพงศ์ ใช้สติ

กำกับภาพยนตร์ : ฐิติพงศ์ ใช้สติ , สรเทพ เวศวงศ์ษาทิพย์ , สำคัญ โชติกสวัสดิ์

มาดูภาพจากสวยๆจากภาพยนต์กันต่อ














31114
ช่อง 9  ร่วมกับ มูลนิธิชัยพัฒนา  สร้างปรากฏการณ์ ทุ่ม 50 ล้าน ทำโครงการฯ เทิดเกล้า
ดึง 9 บริษัทชั้นนำ ผลิตภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ 9  เรื่อง ผ่านมุมมอง 9 ผกก.



               เนื่องในโอกาสปีมหามงคล   ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวาคม 2555 บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ มูลนิธิชัยพัฒนา พร้อมด้วย 9 บริษัทชั้นนำ ทุ่มงบประมาณ 50 ล้านบาท จัดทำโครงการ "ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติเทิดเกล้า" โดยผ่านมุมมองของ 9 ผู้กำกับ กับภาพยนตร์ 9 เรื่อง เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวคำสอนของพ่อ


ดร.เอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ ผอ.บมจ อสมท

               ดร. เอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดทำโครงการฯ นี้ว่า "เนื่องใน โอกาสปีมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวามคม 2555 ในนาม บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) มีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการจัดทำโครงการ “ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติเทิดเกล้า” ร่วมกับ “มูลนิธิชัยพัฒนา” และ 9 บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ และผู้ผลิรายการชั้นนำของเมืองไทย โดยมีเป้าหมายให้ประชาชน และคนรุ่นใหม่ได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เสียสละความสุข ส่วนพระองค์โดยมิได้คำนึงถึงความเหน็ดเหนื่อย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ “ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ เทิดเกล้า” จะประสบ ความสำเร็จตามเจตนารมณ์ของผู้จัดโครงการทุกฝ่าย และขอขอบคุณพันธมิตรทุกหน่วยงาน ตลอดจนผู้มี ส่วนร่วมทุกท่าน ที่ได้ร่วมเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติชุดยิ่งใหญ่นี้


โปสเตอร์ ภ.ว่ายน้ำข้ามทะเลดาว

               สำหรับการสร้างปรากฎการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ผ่านภาพยนตร์ทั้ง 9 เรื่อง อสมท ทุ่มงบประมาณทั้งสิ้น 50 ล้านบาท  เพื่อสร้างสรรค์ภาพยนตร์ทั้ง 9 เรื่อง อันประกอบด้วย  เรื่องว่ายน้ำข้ามทะเลดาว จาก บริษัท โอเรียนทัล อายส์ จำกัด, เรื่อง เพลงของพ่อ จากบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน), เรื่อง กระท่อมผีป่า จากบริษัท จี เอ็ม เอ็ม ไท หับ จำกัด, เรื่อง นายอำเภอกล้วยน้ำว้า จากบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน), เรื่อง เส้นทางแห่งเส้นชัย จากบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, เรื่อง ความฝันอันสูงสุด จากบริษัท แฮฟเอกู๊ดดรีม จำกัด, เรื่อง กฤษฎาภินิหาร จากบริษัท กันตนา โมชั่นฟิคเจอร์ จำกัด, เรื่อง นักวิทยาศาสตร์ในแบงก์ จากบริษัท เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์ จำกัด, เรื่อง มหัศจรรย์เล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่ ตอนร้อยเรื่องรู้  จากบริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด ซึ่งทั้งภาพยนตร์ 9 เรื่อง จะ ถ่ายทอดเรื่องราวความประทับใจที่มีต่อ 'พ่อหลวง' จากมุมมองของ 9 ผู้กำกับชั้นนำ ภาพยนตร์ทั้ง 9 เรื่องจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะมอบให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการ พระราชดำริ”

               นอกจากจะได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ปวงชนชาว ไทยยังจะได้น้อมนำคำสอนไปใช้ในชีวิตประจำวัน และได้สนุกสนาน เต็มอิ่มกับเรื่องราวดีๆ ผ่านภาพยนตร์ ทั้ง 9 เรื่อง ที่จะฉายให้ชมตั้งแต่วันที่ 1- 23 ธันวาคม นี้  ในโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ซีเนเพล็กซ์ อีกด้วย

31115
Ben Whishaw พลิกบทบาทครั้งสำคัญจาก Q ใน Skyfall 
สวมวิญญาณตัวละสุดเข้มข้น 5 คาเรคเตอร์ในภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์ “Cloud Atlas”



               เอ็ม พิคเจอร์ส ชวนคอหนังร่วมติดตามการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของนักแสดงหนุ่มมากความสามารถอย่าง Ben Whishaw (เบน วิชอว์) ที่ฝากผลงานด้านการแสดงทั้ง ซีรี่ย์ และ ภาพยนตร์ชื่อดัง และล่าสุดนักแสดงหนุ่มเพิ่งจะแจ้งเกิดในภาพยนตร์เรื่อง 007 Skyfall โดยรับบทเป็น Q (คิว) ที่ออกมาเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้ไม่น้อย เตรียมติดตามผลงานอีพิคสุดยิ่งใหญ่เรื่องล่าสุดของ Ben Whishaw (เบน วิชอว์) ในภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์สุดยิ่งใหญ่แห่งปีเรื่อง Cloud Atlas หยุดโลกข้ามเวลา ผลงานเขียนบทและกำกับโดย ทอม ไทเควอร์ ,  ลานา วาโชว์สกี้ และ แอนดี้ วาโชว์สกี้ จากทีมผู้สร้าง เดอะ แมทริกซ์ ไตรภาค งานนี้นักแสดงหนุ่มต้องสวมวิญญาณตัวละถึง 5 คาแรกเตอร์ที่แตกต่างอย่างสุดขั้ว  อาทิ กาละสีเรือ , โฟร์บิเชอร์ หนุ่มนักประพันธ์เพลง ที่ใช้ชีวิตอย่างมุทะลุ  , พนักงานขายแผ่นเสียง , จอร์เจ็ท ภรรยาของเดนโฮล์ม  คาเวนดิช และ สมาชิกเผ่าพันธ์รักสงบ เพื่อนร่วมเผ่าของแซ็ครี ฯลฯ








               เอ็ม พิคเจอร์ส เตรียมความมหึมาส่งท้ายปีแห่งเรื่องราวที่ทุกอย่างเชื่อมโยงเข้าหากันกว่า 6 ทศตวรรษ โดยมีตัวละครที่ผูกพันกันมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต Cloud Atlas หยุดโลกข้ามเวลา เปิดให้สัมผัสความมหัศจรรย์อลังการก่อนใคร รอบพิเศษ 22-28 พฤศจิกายนนี้ ฉายจริง 29 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์ และ ไอแมกซ์










31116

“หนึ่งในภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีที่คุณต้องดู”
“เหนือเกินบรรยาย ทะเยอทะยาน มหากาพยนตร์ที่น่าตื่นตะลึง”
“น่าพิศวง ระทึกแทบลืมหายใจ”
“ภาพยนตร์อีพิคสุดยอดมาสเตอร์พีซ”
“ประสบการณ์ทางภาพยนตร์สุดน่าทึ่งที่โลกต้องจดจำ”

จัดจำหน่ายโดย      เอ็ม พิคเจอร์ส              
ชื่อภาษาไทย       “คลาวด์ แอตลาส หยุดโลกข้ามเวลา”

ภาพยนตร์แนว      ไซไฟ

จากประเทศ      สหรัฐอเมริกา

กำหนดฉาย      29 พฤศจิกายน  2555

ณ โรงภาพยนตร์      ทุกโรงภาพยนตร์
 
ผู้กำกับ          Tom Tykwer (ทอม ไทเควอร์)
         Andy Wachowski (แอนดี้ วาโชว์สกี้)
         Lana Wachowski (ลานา วาโชว์สกี้)

อำนวยการสร้าง      Stefan Arndt (สเตฟาน อาร์นด์)
         Grant Hill (แกรนท์ ฮิลล์)

ตัวอย่างภาพยนตร์      http://www.youtube.com/watch?v=54EqRhn_eHY&feature=plcp   

นักแสดง   Tom Hanks (ทอม แฮงค์) จาก   Philadelphia , Forrest Gump , The Davinci Code ,    Cast Away , Angels & Demons , The Terminal
         
Halle Berry (ฮัลลี่ เบอร์รี่) จาก  Monster’s Ball , X-Man : The Last Stand , Die Another day , Catwoman
         
Hugh Grant (ฮิวจ์ แกรนท์) จาก Nothing Hill , Music and Lyrics , About a Boy ,  Love Actually

Jim Sturgess (จิม สเตอร์เกส) จาก One Day , The Way Back , Across the Universe
         
Jim Bruadbent (จิม บรอดเบนท์) จาก Moulin Rouge , Gang of New York , Harry Potter amd the Half Blood Prince

Susan Sarandon (ซูซาน ซาแรนดอน)  จาก Dead Man Walking,The Client,The Rocky Horror Pictures , Thelma & Louise Show

Hugo Weaving (ฮิวโก้ วีฟวิ่ง) จาก The Matrix , Captain America : The First Avenger , The Lord of the ring

Doona  Bae (ดูน่า เบย์) จาก The Host , Sympathy for Mr.Vengeance









จุดเด่น

               ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่รวบรวมเอานักแสดงระดับแม่เหล็กของแวดวงฮอลลีวู้ดไว้มากที่สุดมาร่วมสร้างสีสัน นำโดย นักแสดงเจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ทอม แฮงค์” จากภาพยนตร์เรื่อง Philadelphia และ Forrest Gump  ,“ฮัลลี เบอร์รี” จากภาพยนตร์เรื่อง Monster’s Ball ,“จิม บรอดเบนท์” นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ จากภาพยนตร์เรื่อง Iris , “ซูซาน ซาแรนดอน” เจ้าของรางวัลออสการ์จากภาพยตร์เรื่อง Dead Man Walking  ร่วมด้วยฮิวโก้ วีฟวิง, จิม สเตอร์เกส, ดูนา เบย์, เบน วิชอว์, เจมส์ ดิ อาร์ซี, โจว ชุน, คีธ เดวิดและเดวิด เจซี   , ฮิวจ์ แกรนท์ ซึ่งนักแสดงแต่ละคนต่างก็ได้สวมหลายบทบาทขณะที่เรื่องราวเคลื่อนตัวผ่านกาลเวลา

               ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนบทและกำกับโดยลานา วาโชว์สกี้, ทอม ไทเควอร์และแอนดี้ วาโชว์สกี้ ก่อนหน้านี้ พี่น้องวาโชว์สกี้เคยร่วมงานกันในฐานะมือเขียนบท/ผู้กำกับไตรภาคแหวกแนว “Matrix” ซึ่งรวมแล้วทำรายได้ไป 1.6 พันล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก ส่วน ทอม ไทเควอร์ ได้รับรางวัลอินดีเพนเดนท์ สปิริต อวอร์ดและได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลบาฟตา อวอร์ดในฐานะผู้กำกับ/มือเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง “Run Lola Run” และล่าสุด เขาก็เพิ่งกำกับทริลเลอร์รางวัลเรื่อง  “Perfume: The Story of a Murderer”






เรื่องย่อ

               “Cloud Atlas” สร้างขึ้นจากนิยาย best seller ที่เขียนโดย David Mitchell (เดวิด มิทเชล)  โดยเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้บอกเล่าเรื่องราวการกระทำของมนุษย์ที่จะส่งผลต่อชีวิตใหม่ ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความเป็นไปที่ผ่านมาในครั้งอดีตจนถึงปัจจุบันและส่งผลถึงโลกอนาคต   ด้วยปริศนาความลับเมื่อครั้งอดีตที่ข้ามผ่านห้วงแห่งศตวรรษของมนุษยชาติ   โดยเรื่องราวที่ร้อยเรียงสอดคล้องกันด้วยความสมบูรณ์ที่สุดผ่าน 6 เรื่อง ราวในหลายศตวรรษทั่วทุกทวีป   เริ่มต้นขึ้นในปี คศ. 1849  การเดินทางท่องมหาสมุทรของ อดัม เอวิ่ง (ศตวรรษที่19 , มหาสมุทรแปซิฟิก) , คศ. 1936  จดหมายรักจาก โฟรบิเชอร์ , คศ. 1973  ครึ่งชีวิต : เรื่องราวอันลึกลับของ หลุยซ่า เรย์ , คศ. 2012 ประสบการณ์หฤโหดของ ทิโมธี คาเวนดิช , คศ. 2144 การภาวนาสู่การปฏิวัติของ ซอนมี451  จวบจนปี คศ. 2346  การก้าวข้ามผ่านของ แซ็ครี  และทั้งหมดคือเรื่องราวเดียวกันที่มีสาเหตุและผลลัพธ์ที่มาเกี่ยวโยงกันในทุกช่วงเวลา   ซึ่ง “Cloud Atlas” จะเผยให้เห็นถึงความลับของเส้นทางคู่ขนานหกเส้นอย่างชัดเจน

31117
ของสะสมประเภท handbill / HB//the paperboy
« on: November 17, 2012, 05:53:40 PM »
ขนาดA5 แผ่นเดี่ยว ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ




31118
พระ-นาง “ป่านางเสือ2  รับมอบเค้กปิดกล้องจากสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7




               เหล่าพระ-นางจากละครเรื่อง “ป่านางเสือ2”ที่นำทีมโดยนางเอกสาว “ยุ้ย” จีรนันท์ มะโนแจ่ม และพระเอก “เติ้ล” ธนพล นิ่มทัยสุข เป็นตัวแทนรับมอบขนมเค้กจาก ผู้บริหารจากสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7   ที่ส่งมาให้เนื่องในโอกาสปิดกล้องละครเรื่อง “ป่านางเสือ2” ซึ่งมีพระเอกกล้ามใหญ่ “เวียร์” สุกลวัฒน์ คณารส อยู่ในก๊วนพระนางที่รับมอบเค้กในครั้งนี้ด้วย แล้วพระเอก “เวียร์” มาทำอะไรในตอนจบของละคร “ป่านางเสือ2” ล่ะเนี่ย ต้องติดตามหาคำตอบกันในวันอังคารที่ 20 พ.ย.นี้  ขอแอบกระซิบนิดนึงว่าถ้าพลาดแล้วแฟนละครอาจเสียใจได้

31119
วุ้นเส้น หวิดเป็นหม้าย
ชาคริต ผูกคอตายหวิดดับ คากอง “ตีสาม3D”


               ถือเป็นคู่รักดาราที่ทำให้หลายๆคนอิจฉาได้ไม่หยุดหย่อนสำหรับ“ชาคริต แย้มนาม” และภรรยาสุดที่รัก “วุ้นเส้น วิริฒิภา ภักดีประสงค์ แย้มนาม” แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เกือบหยุดชะงักเมื่อมีเรื่องเสียวเกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์หลอนระทึกเรื่อง “O.T.” หนึ่งในสามตอนของ “ตีสาม3D” ในวันที่ชาคริตต้องเข้าฉากแขวนคอตัวเองพอดิบพอดี

               ฉากนี้เป็นฉากที่ “การัน” (ชาคริต) รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้ “ที” (เรย์ แม็คโดแนลด์) ประสบอุบัติเหตุล้มลงหัวปักกับที่เสียบกระดาษ จึงเดินเข้ามาที่ห้องทำงานส่วนตัวหวังจะฆ่าตัวตายให้สมกับความผิดที่ได้ทำไว้ โดยทางทีมงานได้เตรียมเซ็ทออฟฟิศย่านลาดกระบังให้เป็นห้องของการัน จากนั้นก็สั่งลั่นกล้อง แล้วชาคริตก็เริ่มใส่ความเป็นมืออาชีพเข้าไปทันทีจน “อิสรา นาดี” ผู้กำกับใจหายใจคว่ำ






               “ตอนแรกผมคิดไม่ออกว่าชาคริตเขาจะเล่นฉากนี้อย่างไร เพราะเขาเป็นผู้ชายหน้าตาดี มีภาระ แต่คนที่ผูกคอตายในหัวผมเนี่ยมันจะไม่น่าดูเท่าไร คงจะเล่นจุกปาก น้ำลายกระจาย แต่พอกล้องบอกสปีด แอ็คชั่น ชาคริต แย้มนามก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คิดและไม่เคยเห็นมาก่อนก็คือ น้ำลายเต็มกล้องไปหมด เขาดิ้นจนตอนคัทแรกเนี่ย ผมต้องหันมามองหน้าวิดีโอแมนแล้วเหมือนกับผมจะถามเขาว่าผมควรจะสั่งคัทดีไหม เพราะ คิดว่าเขาอาการแย่จริงๆ แต่ก็คิดในใจว่าเขาเป็นนักแสดงระดับนี้ถ้ามันไม่เซฟก็คงคัทตัวเองแล้วล่ะ ต้องโวยวาย บางอย่าง ก็เลยปล่อยให้เล่น แต่พอคัทปุ๊บ เดินไปดูในเซ็ท หน้าเค้าแดงจริงๆเลย แล้วน้ำลายยังคาปากอยู่เลย พอเทคที่สอง เขาก็จัดการกับมันได้ผ่านฉลุยอีก

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=lFNxaMY9_2s" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=lFNxaMY9_2s</a>

               แต่อีกเรื่องหนึ่งที่ประทับใจผมมากระหว่างถ่ายทำ วันนั้นวุ้นเส้นมาเยี่ยมที่กองถ่ายด้วยก่อนมีการถ่ายทำ แล้ววุ้นเส้นก็บอกว่า พี่หนูฝากด้วยนะ หนูมีของหนูอยู่คนเดียว ชีวิตคุณน่าอิจฉามากครับ คุณชาคริต” (หัวเราะ)

               แล้วทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ศรีภรรยาวุ้นเส้นก็โล่งใจไปได้

               ติดตามชมฉากผูกคอตายที่หวานที่สุดในโลกนี้ได้ในภาพยนตร์ที่รวมเอานักแสดงแถวหน้าไว้มากที่สุดในประเทศไทยขณะนี้ใน “ตีสาม3D” ที่นอกจากตอน “O.T.” ที่ชาคริต และ เรย์ ร่วมแสดงกับ “ซัน ประชากร ปิยะสกุลแก้ว” และ “เตยหอม กันยรินทร์ นิธินพรัศม์” แล้ว ยังมีเรื่องหลอนระดับตำนานอีก 2 เรื่อง ได้แก่ “เกศสยอง” ว่าด้วยเรื่องของร้านวิกที่รับผมมาทำวิกโดยไม่ทราบที่ไปที่มาจนเกิดเหตุการณ์สยองขึ้น นำแสดง โดย สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข, โฟกัส จีระกุล, วิวิศน์ บวรกีรติขจร (ตี๋ เอเอฟ4), ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร (นุ้ย EFM),  และ แนนซี่ นัยน์ภัค ภูมิภักดิ์ กำกับการแสดงโดย พัชนนท์ ธรรมจิรา

               “เรือนหอคนตาย” ว่าด้วยเรื่องของชายคนหนึ่งผู้รับงานเฝ้าศพบ่าว-สาว ที่ตายปริศนาก่อนหน้าพิธีแต่งงานเพียงหนึ่งสัปดาห์ แต่เขากลับตกหลุมรักร่างที่ดูงดงามควรค่าแก่การทะนุถนอมของเจ้าสาวซึ่งความรู้สึกนี้นำมาซึ่งความหลอนที่ไม่อาจคาดเดาบทสรุปได้ นำแสดงโดย เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า, โทนี่ รากแก่น และ ปีเตอร์ ไนท์ กำกับการแสดงโดย ทิม กิรติ นาคอินทนนท์

               ติดตาม “ตีสาม 3D”ประสบการณ์หลอนยกกำลังสาม 22 พฤศจิกายน นี้ ในโรงภาพยนตร์


31120
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเปิดศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่  หรือ CMICE เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมไมซ์ สนองนโยบายรัฐ ดันไทยศูนย์กลางไมซ์เอเชีย


ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ หรือ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ (Chiang Mai Thailand, The International Convention and Exhibition Centre : Commemorating His Majesty’s 7th Cycle Birthday Anniversaryหรือ CMICE) เตรียมพร้อม ชูจุดศูนย์กลางสำคัญอุตสาหกรรมเมืองแห่งไมซ์ (MICE City Centre) รองรับตลาดหลักในประเทศ  ตั้งเป้าดึงงานจากสมาคมและสมาพันธ์ต่างประเทศสู่เชียงใหม่ สนองนโยบายรัฐดันไทย ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคเอเชีย ในปี 2559


16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเสกสรร นาควงศ์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงภาพรวมอุตสาหกรรมไมซ์ว่า “ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายเร่งด่วนในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาท ภายในปี พ.ศ. 2558 และนโยบายภาคการท่องเที่ยว การบริการ และการกีฬา โดยรัฐบาลให้มีการส่งเสริมและสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางการประชุมและแสดงสินค้าระหว่างประเทศ เพื่อเป็นการรองรับการเติบโตของธุรกิจไมซ์ ที่มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับผลสำรวจจาก IPK International’s World Travel Monitor พบว่ามีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 5  ของการเดินทางท่องเที่ยวออกนอกประเทศโดยภาพรวมทั่วโลก (Global outbound travel) ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในประวัติการณ์ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะเกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสึนามิในญี่ปุ่น น้ำท่วมในประเทศไทย การปฏิวัติในอาหรับ หรือวิกฤตเศรษฐกิจในหลายประเทศ แต่ก็มีการฟื้นตัวกันอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันตลาดไมซ์ของไทยมีส่วนแบ่งตลาด 9.79% จากตลาดการท่องเที่ยวของประเทศ และสามารถจำแนกประมาณการณ์รายได้จากตลาดไมซ์ตามประเภทธุรกิจ โดยแบ่งสัดส่วนเป็นการจัดประชุมนานาชาติ ประมาณร้อยละ 42 คิดเป็นมูลค่า 25,142 ล้านบาท การประชุมองค์กร ร้อยละ 28 มูลค่าประมาณ 16,721 ล้านบาท และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ร้อยละ 17 มูลค่า 10,328 ล้านบาท ตลอดจน อุตสาหกรรมแสดงสินค้านานาชาติร้อยละ 13 มูลค่า 7,929 ล้านบาท”

สำหรับแนวคิดต่อการเป็นศูนย์กลางธุรกิจไมซ์ ภายในภูมิภาคอาเซียน จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบัน เป็นจุดเชื่อมต่อทางธุรกิจต่อเนื่องไปยังประเทศต่างๆ (Logistics Hub) เช่น พม่า ลาว ฮ่องกง มาเก๊า ไทเป เซิ่นเจิ้น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ซึ่งมีธุรกิจทางการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมไมซ์ รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคด้านการแพทย์ (Medical Hub) ด้านการศึกษา (Education Hub) และด้านงานหัตถกรรม (Handmade Hub) อีกด้วย โดยได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็น การบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ การปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐาน   การปรับปรุงระบบการขนส่งคมนาคม และการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมไมซ์ เป็นต้น

การเปิดบริการของศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ และ นโยบายผลักดันเชียงใหม่เป็นนครแห่งไมซ์ จะส่งเสริมให้อุตสาหกรรมไมซ์ของเชียงใหม่เติบโตมากกว่าปกติ ที่จะโตเฉลี่ยปีละ 7-10% ก็จะเติบโตเป็นปีละไม่น้อยกว่า 10-15% จากปี พ.ศ. 2554 โดยที่ผ่านมา เชียงใหม่มีการจัดงานด้านไมซ์ จำนวน 427 ครั้ง มีจำนวนนักเดินทางกว่า 6 หมื่นคน สร้างรายได้คิดเป็นมูลค่ากว่า 3.35 พันล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มไมซ์ในประเทศกว่า 1.9 หมื่นคน มูลค่ากว่า 82 ล้านบาท และนักเดินทางไมซ์จากต่างประเทศกว่า 4.07 หมื่นคน สร้างรายได้กว่า 3.27 พันล้านบาท

สำหรับศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ ก่อตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 และเพิ่มศักยภาพให้เชียงใหม่ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองแห่งไมซ์ของประเทศหรือ MICE City โดยเชียงใหม่มีบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคเหนือ รวมทั้ง เพื่อส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพในการรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมธุรกิจไมซ์ของประเทศสู่ระดับนานาชาติ รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ผ่าน 4 อุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) ได้แก่ Meeting ธุรกิจการจัดประชุม: Incentive ธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล Convention ธุรกิจการจัดประชุมนานาชาติ และ Exhibition ธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้า/นิทรรศการ

จุดเด่นของศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ มีความสามารถในการรองรับงานในระดับนานาชาติและระดับชาติ ได้พร้อมกันมากถึง 10,000 คนศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ มีขนาดพื้นที่ทั้งหมด 335 ไร่ หรือ พื้นที่รวม 420,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่จัดงานภายในอาคารกว่า 60,000 ตารางเมตร พื้นที่จัดงานภายนอกอาคารกว่า 7,400. ตารางเมตร และที่เหลือเป็นพื้นที่ใช้สอยสาธารณะอีกกว่า 365,000  ตารางเมตร ถือได้ว่า เป็นศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ในระดับภูมิภาค ภายใต้ความรับผิดชอบของ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทำให้ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่แห่งนี้ สามารถดัดแปลง เพื่อการจัดงานได้หลากหลาย เช่น การจัดงานทางวัฒนธรรม งานนโชว์ งานคอนเสิร์ต ต่างๆ โดยเทคโนโลยีการก่อสร้างห้องจัดแสดง (ที่ไม่มีเสา) เช่นเดียวกับ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี และศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค








นอกจากนี้ ทำเลที่ตั้งของ ศูนย์ประชุมฯ ยังมีความโดดเด่น ทั้งในด้านการขนส่ง การเดินทาง ด้วยรถไฟ เครื่องบิน และรถยนต์ อีกทั้งบรรยากาศสวยงามแวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติ ห้อมล้อมด้วยภูเขา อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ที่พัก โรงแรม รีสอร์ท และร้านอาหาร ต่างๆ  รวมทั้งใกล้กับเส้นทางท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ มากมาย อาทิ ม่อนแจ่ม ปางช้างแม่สา สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติสวนสัตว์ จังหวัดเชียงใหม่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ไนท์ซาฟารี เป็นต้น

นายเสกสรร นาควงศ์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงแผนการบริหารและการตลาดว่า “จากการประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 คณะรัฐมนตรี ได้มติเห็นชอบ จัดตั้ง “สำนักงานพัฒนาพิงคนคร” ในรูปแบบองค์การมหาชน โดยรวม เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จากสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ไว้ด้วยกัน ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี เริ่มมีผลตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2555 เป็นต้นไป ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและเกิดประโยชน์ต่อจังหวัดเชียงใหม่ มากที่สุด ซึ่งตามแผนงานดังกล่าว สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) จะพัฒนาพื้นที่ทั้งหมด ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนาธรรมและแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและสปา ที่มีคุณภาพสูง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ  และทำหน้าที่บริหารพัฒนาพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นต้นแบบต่อไป”

“ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ยังมีความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ด้านทำเลที่ตั้ง รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่อปี (ประมาณการณ์ปี พ.ศ. 2555) ประมาณ 4.5 ล้านคน  ซึ่งครอบคลุมตลาดหลักในย่านอาเซียนกว่า 3 พันล้านคน  ด้วยเวลาการเดินทางไม่เกิน 7 ชั่วโมง และมี 16 สายการบินที่บินจากเชียงใหม่ไปยัง 175 จุดทั่วโลก นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2556 นโยบาย โมเดิร์น ไทยแลนด์  ของรัฐบาลที่เน้นการสร้างโอกาสด้านการค้า การลงทุน ธุรกิจ และการสร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศ ด้วยการนำเสนอประเทศไทยในฐานะประตูสู่อาเซียน จุดเชื่อมต่อสู่การสร้างโอกาสใหม่ๆ และความสำเร็จทางธุรกิจ ซึ่งจะมีส่วนส่งเสริมธุรกิจไมซ์ในเชิงคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดที่มีจำนวนผู้เดินทางมาประชุมสูงสุด 5 อันดับแรกของเอเชีย ได้แก่ อินเดีย จีน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ รวมถึงตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย ขณะเดียวกันตลาดสหรัฐอเมริกาและกลุ่มยุโรป อาทิ สหพันธรัฐเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย อันเป็นตลาดเดิม”

“ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ยังมีความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ด้านทำเลที่ตั้ง รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่อปี (ประมาณการณ์ปี พ.ศ. 2555) ประมาณ 4.5 ล้านคน  ซึ่งครอบคลุมตลาดหลักในย่านอาเซียนกว่า 3 พันล้านคน  ด้วยเวลาการเดินทางไม่เกิน 7 ชั่วโมง และมี 16 สายการบินที่บินจากเชียงใหม่ไปยัง 175 จุดทั่วโลก นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2556 นโยบาย โมเดิร์น ไทยแลนด์  ของรัฐบาลที่เน้นการสร้างโอกาสด้านการค้า การลงทุน ธุรกิจ และการสร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศ ด้วยการนำเสนอประเทศไทยในฐานะประตูสู่อาเซียน จุดเชื่อมต่อสู่การสร้างโอกาสใหม่ๆ และความสำเร็จทางธุรกิจ ซึ่งจะมีส่วนส่งเสริมธุรกิจไมซ์ในเชิงคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดที่มีจำนวนผู้เดินทางมาประชุมสูงสุด 5 อันดับแรกของเอเชีย ได้แก่ อินเดีย จีน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ รวมถึงตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย ขณะเดียวกันตลาดสหรัฐอเมริกาและกลุ่มยุโรป อาทิ สหพันธรัฐเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย อันเป็นตลาดเดิม” นายเสกสรร กล่าวสรุป

31121
“เอ๊ะ” ชวนแฟนๆ ร้องเพลงรัก
ให้กระหึ่มสวนผึ้งใน “SOLS#3”



เอ๊ะ จิรากร สมพิทักษ์

               ขึ้นชื่อเป็นเจ้าพ่อเพลงรักที่มีเพลงรักติดชาร์ตตามคลื่นวิทยุต่างๆ มากมาย สำหรับ “เอ๊ะ-จิรากร สมพิทักษ์” ซึ่งเป็นหนึ่งใน 30 รายชื่อศิลปินที่มีคิวจะขึ้นเล่นคอนเสิร์ตในงานเทศกาลดนตรี “Season of Love Song music Festival ครั้งที่ 3” ณ สวนผึ้ง รีสอร์ท อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ในวันที่ 24-25 พ.ย. 55 โดย “หนุ่มเอ๊ะ” ได้เปิดเผยถึงความรู้สึกและการเตรียมตัวกับคอนเสิร์ตครั้งนี้ว่า

               "การที่ผมได้มาเป็นส่วนหนึ่งในคอนเสิร์ตครั้งนี้ถือว่าเป็นเกียรติและยินดีอย่างมากเลยครับ และถือว่าเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ ราชบุรี ด้วยครับ เพราะราชบุรีก็ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลยเช่นกัน ยิ่งเป็นช่วงหน้าหนาว อากาศกำลังเย็นสบายๆ สถานที่ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมากที่จะช่วยเพิ่มบรรยากาศของการฟังเพลงให้มีความสุขมากขึ้น สำหรับใครที่จะมาร่วมงานคอนเสิร์ต “Season Of Love Song” คงไม่ต้องเตรียมอะไรมาทั้งสิ้น นอกจากเตรียมใจให้ผ่อนคลายเพื่อดื่มด่ำกับดนตรีให้เต็มที่ และเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นมากันหนาวก็พอแล้วครับ เพราะทางผมก็จะเตรียมเพลงเพราะๆ ไปร้องให้ทุกๆ คนได้ฟังกันด้วย รับรองว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ต้องเรียกความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับทุกๆ คนเลยทีเดียว ก็อยากให้มาร่วมงานกันเยอะๆ ครับ มาฟังเพลงเพราะๆ ท่ามกลางหมอกขาวและสายลมหนาว แล้วมาเจอกันนะครับ" เอ๊ะกล่าว

               เทศกาลดนตรีดีๆ ฟังเพลงเพราะๆ ท่ามกลางสายลมหนาวและหมอกขาวบริสุทธิ์ “Season of Love Song music Festival ครั้งที่ 3” จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน ถึงวันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน 2555 ณ สวนผึ้งรีสอร์ท อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เต็มอิ่มกับศิลปินคุณภาพกว่าร้อยชีวิต ที่จะเนรมิตบรรยากาศแสนหวานให้คุณประทับใจตลอดระยะเวลา 12 ชั่วโมง อาทิ  เอ๊ะ จิรากร , อ๊อฟ ปองศักดิ์ ,  จิ๋ว เดอะสตาร์ , โรส ศรินทิพย์ , วัชราวลี , บี พีระพัฒน์ , Mild , โต๋ ศักดิ์สิทธ์ , Tattoo Colour , แดน วรเวช , แชมป์ ศุภวัฒน์ , Armchair , Lipta , Boy Peacemaker , ตู่ ภพธร , Scrubb , แพรว คณิตกุล , ลุลา , Jetset'er  ฯลฯ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถจับจองบัตรราคา 1,200 บาท โปรโมชั่นพิเศษซื้อ 6 ใบใน 1 รอบบิล ลดเหลือใบละ 1,000 บาท ที่ Thaiticket major ทุกสาขา และบริษัท บูสท์ พลัส จำกัด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2938-5959, 08-9811-1801 และ www.seasonoflovesong.com และสำหรับคู่รักสุดสวีท บัตร 2 ใบ เต็นท์ 1 หลัง ราคา 2,550 บาท (จากราคาเต็ม 2,950 บาท) สามารถจับจองโปรโมชั่นนี้ได้ที่บริษัท บูสท์ พลัส จำกัด เท่านั้น โทร 02-938-5959 ต่อ 140-141


31122
“เต็น-ธีรภัค” มาแปลก..แต่งเอง-ร้องเอง-เขียนบทเอง-กำกับฯเอง
ภาพยนตร์เพลง “รักไม่มีตรงกลาง เดอะ มิวสิก คลอ”



               มักมีอะไรแปลกๆ มาเซอร์ไพร์สแฟนเพลงเสมอ สำหรับนักร้องอารมณ์ดี “เต็น-ธีรภัค มณีโชติ” หลังส่งอัลบั้ม “Play It Forward” ออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังและได้บุญ โดยนำเงินรายได้มอบให้กับวัดพระบาทน้ำพุ แถมในอัลบั้มยังมีซีดี 2 แผ่นเพื่อให้คนที่ซื้อได้นำไปส่งต่อให้เพื่อนได้ฟังกันอย่างทั่วถึง จากนั้น “เต็น” ก็ได้เป็นหนึ่งในทีมแต่งเพลงประกอบละครให้กับ “หนึ่ง-ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์” แต่งเพลงละครมากมาย ล่าสุด “เต็น” ก็มีไอเดียกวนๆ อีกแล้ว โดย “เต็น” ขอทำภาพยนตร์ประกอบเพลงให้กับอัลบั้มใหม่ “รักไม่มีตรงกลาง เดอะ มิวสิก คลอ” สังกัด “สหภาพดนตรี” ซึ่งเจ้าตัวได้เล่าให้ฟังว่า

               “สำหรับอัลบั้มนี้ก็ห่างจากอัลบั้มที่แล้ว 5 ปีเต็ม ผมเริ่มแต่งเพลงตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว พอแต่งเสร็จทั้ง 10 เพลงผมก็มานั่งคิดว่าอัลบั้มนี้จะทำอะไรดี คิดไปคิดมาก็มาลงที่ผมเคยแต่แต่งเพลงประกอบละคร ครั้งนี้เราน่าจะลองทำหนังมาประกอบเพลงเราบ้างดีกว่า ก็เลยปรึกษากับพี่ๆ ที่สหภาพดนตรีว่าอยากจะกำกับหนังดูบ้าง พี่ๆ เค้าก็สนใจ ผมก็เลยไปชวน “หรั่ง ซิลลี่ฟูล” ให้มาช่วยกำกับภาพ เพราะหรั่งเค้าชอบถ่ายภาพและกำลังสนใจเรื่องมุมกล้อง ก็เลยเป็นที่มาของภาพยนตร์เพลง “รักไม่มีตรงกลาง เดอะ มิวสิก คลอ” ไม่ใช่ มิวสิกคัล นะครับคือในหนังที่ผมกำกับฯ ผมจะเอาเพลงทั้ง 10 เพลงมาเปิดคลอให้เข้ากับภาพเราตั้งโจทย์หนังมาจากเพลง โดยผมเขียนบทและกำกับฯเอง แฟนเพลงที่ซึ้ออัลบั้มของผมจะได้ซีดีเพลงหนึ่งแผ่น และซีดีหนังอีกหนึ่งแผ่น ซึ่งตอนนี้ก็ส่งซาวด์แทรคเพลง “รักไม่มีตรงกลาง” ไปให้ได้ชมและฟังกันทางเคเบิ้ลทีวีและคลื่นวิทยุทั่วประเทศ”

               แฟนเพลงของ “เต็น-ธีรภัค มณีโชติ” สามารถลองฟังเพลง “รักไม่มีตรงกลาง” ได้ทางคลื่นวิทยุทั่วประเทศ และสามารถติดตามชมมิวสิกวิดีโอเพลงประกอบภาพยนตร์ “รักไม่มีตรงกลาง เดอะ มิวสิก คลอ” ได้ทางรายการต่างๆ ทางเคเบิ้ลทีวี หรือ ติดตามอัพเดทข่าวสารได้ที่ www.facebook.com/wearemusicunion

31123

“MOTOR EXPO” จับมือ “THAI SMART CARD”
มอบสิทธิพิเศษลูกค้า SMART PURSE ซื้อบัตรชมงานลด 50%

               ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป ร่วมกับ เฉลิมชัย ฉัตรชัยกนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานธุรกิจและปฎิบัติการบริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จำกัด จัดทำ โครงการซื้อบัตรเข้างาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29” ผ่านบัตร “SMART PURSE” เพื่อมอบสิทธิพิเศษแก่ลูกค้าที่ถือบัตรสามารถซื้อบัตรเข้าชมงาน MOTOR EXPO 2012 ในราคาเพียง 50 บาทต่อท่าน (จากราคาปกติ 100 บาท) ได้ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2555  ณ  บริเวณเคาน์เตอร์จำหน่ายบัตร อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี


###

31124
ปิดฉากละคร  เข้มข้น  คู่รักหักเหลี่ยมโหด “แอม”  แทง “หยก”  ตาย
แถม “กันตนา”  ทำบิ๊กเซอร์ไพรส์  ให้ลุ้น “เวียร์”  ศุกลวัฒน์
มาทำอะไรใน ละคร “ป่านางเสือ2” ตอนจบ

               กระแสดีมากมาตั้งแต่เปิดเรื่อง “ป่านางเสือ2” และด้วยเนื้อเรื่องที่สนุกสนาน เข้มข้น ทำให้แฟนละครดูไปด้วยอาการลุ้น ตื่นเต้น สะใจไปกับฉากบู๊ของพระ-นางที่มีกันมาตลอดทั้งเรื่อง และเพื่อเพิ่มอรรถรสของเนื้อเรื่องให้แฟนละครได้เต็มอิ่มถึงขีดสุด ค่าย“กันตนา” ก็ยังจัดบิ๊กเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนคลับและแฟนละครของพระเอก “เวียร์” ศุกลวัฒน์  คณารส ให้ได้ลุ้นกันด้วย ว่าพระเอกกล้ามใหญ่ “เวียร์” จะมาทำอะไรในละคร “ป่านางเสือ2” ในวันปิดฉากตอนจบของละครเรื่องนี้ และเพื่อเป็นการอุบไว้ก่อน เพื่อให้แฟนละครติดตามหาคำตอบกันเองในวันจบของละคร วันนี้เลยจะพาไปดูเบื้องหลังในตอนจบอีกฉากหนึ่งที่ชี้ให้เห็นถึงการมีใจที่รักเดียวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำเอาพระเอก “เติ้ล” ธนพล นิ่มทัยสุข ถึงกับประทับใจด้วยความเศร้าเป็นการเรียกน้ำย่อยกันเบาๆไปก่อน








               เป็นฉากที่ นาคี (หยก ธัญยกันต์) ตามมาช่วย ฤทธิชัย(เติ้ล ธนพล) และล้างแค้น โจ (แอม  ปฎิญญา)กับสัตยา (จอร์จ ฐปนัท) โจใช่มีดอาคมของคายามังแทงนาคี ด้วยความแค้นนาคีสะบัดลิ่มพิษเข้าใส่โจร่างโจสลายไป ฤทธิชัยวิ่งเข้าไปเอาแขนช้อนนาคีขึ้นมา นาคีบอกรักฤทธิชัย ฤทธิชัยพยักหน้ารับ มองด้วยความเห็นใจ สุดท้ายค่อยๆก้มลงจูบที่หน้าผากนาคีเบาๆ  ร่างนาคีสลายไปในอ้อมแขนของฤทธิชัย มีดาวยืนมองอยู่

               ต้องออกแรงบู๊กันมาตลอด สำหรับฉากนี้ทั้งเติ้ลและยุ้ยเลยบอกว่าสบายมาก ถือว่าเป็นการพักเบคจากฉากหนักๆ เพราะบทเด่นไปอยู่ที่คู่รักตัวจริงหยกกับแอม  ที่ช่วงว่างในกองก็จะคอยหยอกล้อดูแลกันหวานแหวว  แต่สำหรับในฉากวันนี้แอมกลับต้องสวมบทโหดใช้มีดแทงนางร้ายเซ็กส์ซี่ที่เป็นสาวคนรักตัวจริงกับมือ  ซึ่งแอมได้พูดหยอดคำหวานปนตลกว่า “นี่เป็นฉากสะเทือนใจผมมากนะต้องเป็นคนฆ่าหยกกับมือตัวเอง  ปกติแค่เห็นหยกเจ็บตัวนิดเดียวผมก็ใจจะขาดแล้ว”  พูดจบปุ๊บก็ได้ยินทั้งเสียงของเติ้ล  เอี๊ยมและทีมงานถึงกับโห่ใส่แอมพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมายด้วยอารมณ์เลี่ยนกับคำหวานทันที  มีแต่หยกที่ฉีกยิ้มด้วยความเขินพร้อมพูดตอบกลับคำเดียวสั้นๆว่า “เว่อร์”  จากนั้นแอมยังเอาใจหยกเพิ่ม ด้วยการชวนเพื่อนนักแสดงมาแอ็คชั่นทำท่าฮิตที่นางงูทำบ่อยๆในเรื่อง แล้วถ่ายรูปขึ้นอินตราแกรมของตัวเองกันอย่างน่ารักสนุกสนาน ในการถ่ายทำฉากนี้ส่วนของแอมกับหยกนั้นสามารถถ่ายทำผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว เพราะทั้งคู่แอบไปซักซ้อมกันมาจนแม่นคิว แต่ตอนถ่ายคัทที่เติ้ลต้องมารับตัวหยกหลังจากถูกแทงนั้นเกิดการผิดคิวเล็กน้อย เมื่อเติ้ลวิ่งมารับตัวหยกไม่ตรงกับจังหวะที่หยกทรุดนั่งลง  ทำให้หยกกระแทกก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้นอย่างแรง  และถึงจะเจ็บแต่หยกก็ยังหัวเราะได้  จังหวะนั้นเองก็แอบเห็นแอมยืนหน้าเสียและเหวออย่างมากอยู่ข้างกองถ่ายด้วยความห่วงใย แต่พอเห็นหยกหัวเราะแอมก็ถอนหายใจยิ้มออกมาได้  เห็นภาพแบบนี้แล้วทำให้รู้สึกว่าอยากมีคนรักกับเค้าขึ้นมาบ้างเลยนะเนี่ย














               ติดตามชมฉากนี้กันได้ในวันปิดฉากของละครเรื่อง “ป่านางเสือ2” และอย่าลืมพลาดไม่ได้เด็ดขาด ติดตามดูกันให้ได้ว่าพระเอก “เวียร์” ศุกลวัฒน์ จะมาทำอะไรในตอนจบของละครเรื่องนี้  โดยละครจะจบลงในวันอังคารที่ 20 พ.ย. นี้ หลังข่าวภาคค่ำ เวลา 20.20-22.30 น. ทางช่อง 7

31125
“เวียร์” ศุกลวัฒน์  มาทำอะไรในละคร “ป่านางเสือ2” ตอนจบ


               เพื่อเพิ่มอรรถรสของเนื้อเรื่องในตอนจบของละคร “ป่านางเสือ2” ให้แฟนละครได้เต็มอิ่มถึงขีดสุด แฟนคลับและแฟนละครของพระเอกกล้ามใหญ่สุดฮอต “เวียร์”  ศุกลวัฒน์  คณารส เตรียมเฮกันให้สุดเสียง และจ้องหน้าจอกันอย่าให้คลาดสายตาเลยทีเดียวเชียว เมื่อบิ๊กบอส “ตุ๊กตา” จิตรลดา  ดิษยนันทน์ แห่งค่าย “กันตนา” สั่งจัดบิ๊กเซอร์ไพรส์ ให้เป็นพิเศษ แต่ต้องคอยลุ้นและหาคำตอบกันเอาเองนะคะว่า “เวียร์” จะมาทำอะไรวันปิดฉากตอนจบของละครเรื่อง “ป่านางเสือ2” ในวันอังคารที่ 20 พ.ย. นี้ ...จ้า

Pages: 1 ... 2073 2074 [2075] 2076 2077 ... 2257