enjoyjam.net

news & activity => news & activity => Topic started by: sianbun on February 15, 2010, 03:34:16 PM

Title: กิมเอ็งเปิดแผนรุกธุรกิจปี 53
Post by: sianbun on February 15, 2010, 03:34:16 PM
กิมเอ็งเปิดแผนรุกธุรกิจปี 53 ลั่นครองมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ทั้งตลาดหุ้นและอนุพันธ์           

บมจ. หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเกมรุกธุรกิจครบวงจรรับปีเสือ   ขอเป็นเบอร์หนึ่งในใจลูกค้า  เร่งขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่   ชูจุดเด่นรีเสิร์ซแม่นยำฉับไวมัดใจลูกค้า  หวังสู้ศึกค่าคอมพ์ขั้นบันได   บุกSBLผ่านอินเทอร์เน็ตและวอร์แรนต์อนุพันธ์เพิ่มผลตอบแทนให้ผู้ลงทุน   พร้อมลั่นเป็นผู้นำมาร์เก็ตแชร์ธุรกิจค้าหุ้นและTFEX 

นายมนตรี  ศรไพศาล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) KEST เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2553 ว่า “ บริษัทฯ จะยังเน้นการขยายฐานนักลงทุนใน 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ กลุ่มลูกค้าทั่วไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญในการสร้างกำไรให้บริษัทฯ มากขึ้น       และกลุ่มลูกค้ารายใหญ่  ซึ่งยังคงมีการแข่งขันสูงในตลาด

โดยจะยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพงานวิจัยอย่างเต็มที่ต่อไป ต่อเนื่องจากการที่บริษัทฯ ได้รับรางวัล ทีมวิจัยยอดเยี่ยม สายผู้ลงทุนรายย่อย  (Best Research House) ถึง 2 ปีซ้อนติดต่อกัน   รวมทั้งจะพัฒนาระบบเทคโนโลยีให้ทันสมัยสะดวกรวดเร็ว ยิ่งขึ้น  โดยจะมีการปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัทฯ ใหม่  และการรักษาความเป็นผู้นำในการให้ข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือ Pocket PC, PDA เป็นต้น    ขณะเดียวกันในปีนี้จะออกใบสำคัญแสดงสิทธิ์อนุพันธ์ (Derivatives Warrants : DW) ซึ่งเป็นสินค้าใหม่

            ส่วนธุรกิจด้านวาณิชธนกิจจะเน้นงานขนาดใหญ่มากขึ้น   โดยอยู่ระหว่างนำหุ้นIPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯประมาณ 3- 4 ราย   มูลค่าตั้งแต่  500 -10,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีงานที่ปรึกษาในการออกตราสารประเภทต่าง ๆ อีก  รวมทั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์  ซึ่งอยู่ระหว่างรอจังหวะตลาดที่เหมาะสม   ขณะที่การปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ (มาร์จิ้นโลน) ยังคงระมัดระวังความเสี่ยงมากขึ้น และไม่ปล่อยสินเชื่อในหุ้นเก็งกำไรซึ่งยึดถือเป็นนโยบายมาตลอด

            นายมนตรี กล่าวต่อว่า  ภาวะเศรษฐกิจไทยปีนี้เชื่อว่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น  หากสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น  ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการขยายธุรกิจ    นอกจากนี้ การคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำอันเป็นไปตามสภาวะแวดล้อมของตลาดเงิน ตลาดทุน และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลกจะยังส่งผลดีต่อคุณภาพของสินทรัพย์   โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นปันผลจะมีมูลค่าสูงขึ้น   โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ดัชนีหุ้นไทยจะมีโอกาสขึ้นไปถึง   900 จุดได้  และมีปริมาณซื้อขาย(วอลุ่ม)เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 18,000-20,000 ล้านบาท   ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ ยังคงมีส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)นายหน้าค้าหลักทรัพย์อยู่ในอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง สำหรับสัดส่วนรายได้ปีนี้คาดว่าจะมาจากนายหน้าค้าหลักทรัพย์ประมาณ 90%  วาณิชธนกิจประมาณ  5-6% ส่วนที่เหลือมาจากดอกเบี้ยและอื่นๆ ” 

ด้านนางบุญพร  บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจหลักทรัพย์รายย่อย   บมจ. หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า  “ ในปีนี้บริษัทฯ จะเน้นการทำธุรกิจเชิงรุก  โดยเน้นการให้บริการครอบคลุมในทุกธุรกิจ  ทั้งด้านหลักทรัพย์ ตลาดอนุพันธ์ โกลด์ฟิวเจอร์ส  SET50 INDEX  Futures  ธุรกิจยืมและให้ยืมหลักทรัพย์(SBL) ซึ่งเปิดบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้แล้ว   และการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ์อนุพันธ์ (DW)  เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น

โดยบริษัทฯ จะเน้นการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น เน้นเจาะกลุ่มเฉพาะเพิ่มขึ้น  เช่น  กลุ่มสถาบันการศึกษา  กลุ่มภาคธุรกิจ เป็นต้น    พร้อมทั้งมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก   1-2    แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 41  แห่ง  ซึ่งเป็นสาขาในกรุงเทพฯ 23 แห่ง ต่างจังหวัด 17 แห่ง และสำนักงานใหญ่ 1 แห่ง   

            ภายใน 2 -3 ปีนี้จะเน้นการสร้างแบรนด์ให้ผู้ลงทุนนึกถึงกิมเอ็งเป็นอันดับแรก ทั้งในแง่ของการเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ  เป็นผู้นำด้านโปรดักส์และเทคโนโลยี   ด้วยบทวิจัยคุณภาพจากทีมนักวิเคราะห์นับเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ มาโดยตลอดจนได้รับการโหวตจากนักลงทุนรายย่อยให้เป็นอันดับหนึ่งถึงสองปีซ้อน    แม้ว่ายุคนี้จะเป็นยุคแห่งการแข่งขันในเรื่องข้อมูลอันรวดเร็ว บริษัทฯ มองว่าการนำเสนอข้อมูลเพื่อตัดสินใจลงทุน และการสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนให้ลูกค้าต่างหากที่จะทำให้บริษัทฯ สามารถครองใจลูกค้าได้ตลอดไป ” นางบุญพร กล่าว

            ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าของบริษัทฯ เป็นรายย่อยประมาณ 85% สถาบันต่างประเทศ 10-12%  และสถาบันในประเทศ 2-5% โดยมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ประมาณ   80,000 บัญชี  เป็นบัญชีที่มียอดซื้อขายสม่ำเสมอประมาณครึ่งหนึ่ง   โดยยังตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ของธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เป็นอันดับ 1 อยู่ที่ประมาณ   12.5 % และตลาดอนุพันธ์(TFEX) เป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 12 %

            นายโฆษิต  บุญเรืองขาว   รองกรรมการผู้จัดการ   สายงานธุรกิจหลักทรัพย์รายย่อย  บมจ.  หลักทรัพย์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)  กล่าวว่า  “ แนวโน้มการให้บริการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตยังเติบโตต่อเนื่อง   โดยปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าครองมาร์เก็ตแชร์ด้านอินเทอร์เน็ตเป็นอันดับ 1 ประมาณ 15% จากปีก่อนที่มีมาร์เกตแชร์อยู่ที่ 13.65%    ซึ่งจะเน้นการพัฒนาระบบโปรแกรมซอฟต์แวร์เพิ่มเติม    เพื่อรองรับฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ     เนื่องจาก บล.ต่างๆ ยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิมอย่างเหนียวแน่น

ดังนั้นในปีนี้บริษัทฯ ได้ใช้งบลงทุนในการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ประมาณ 10 ล้านบาท   เพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถรองรับปริมาณการซื้อขายที่คาดว่าในอนาคตจะคึกคักไม่แพ้ปี 2552 ที่ผ่านมา  รวมทั้งพัฒนาโปรแกรมบนเครื่องแมคอินทอช   KE SMS ผ่านเครือข่ายอื่นมากขึ้น ปรับปรุงเว็บไซต์บริษัทฯ ให้ทันสมัยและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น  รวมทั้งพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อให้รองรับกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้มากขึ้น เช่น กลุ่มเอ็กซ์คลูซีฟ เป็นต้น  หวังครองใจนักลงทุนและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวางมากขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถพัฒนาระบบได้เสร็จทันภายในกลางปีนี้ 

            อย่างไรก็ตาม  ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา   บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการ SBL ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตด้วยโปรแกรม KETrade, KELiberty  และบริการ IIIS (Web Trade) ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนมากขึ้น  ทำให้ลูกค้าหันมาสนใจในบริการ SBL มากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีบล.ในระบบให้บริการธุรกิจดังกล่าวอยู่ประมาณ 4-5 ราย  แต่มีน้อยรายที่ให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตได้ โดยบริษัทฯ นับเป็นรายแรกๆ  ที่เปิดบริการ SBL ผ่านอินเทอร์เน็ต ”