Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: 1 ... 790 791 [792] 793 794 ... 2406
11866
“คีนน์” ยกขบวนผลิตภัณฑ์คุณภาพมอบให้องค์กรทั่วไทย ร่วมสู้วิกฤตโควิด-19


“คีนน์” (KEEEN) บริษัทผู้นำด้านบริหารจัดการระบบอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ ร่วมต้านโควิด-19 โดยการมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพให้แก่หลายหน่วยงานในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากรได้ทำงานเพื่อสังคมอย่างเต็มที่ พร้อมเป็นกำลังใจให้ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน


บริษัท คีนน์ จำกัด นำโดย ดร.วสันต์  อริยพุทธรัตน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คีนน์ จำกัด ได้ดำเนินงานโครงการมอบผลิตภัณฑ์ร่วมต้านโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าในปี 2562 โดยได้สนับสนุนผลิตภัณฑ์คีนน์ เจิม คิลเลอร์ บลัด, สเกล แอนด์ ออยล์ รีมูฟเวอร์ (KEEEN GERM KILLER BLOOD, SCALE & OIL REMOVER) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย มีคุณสมบัติสำหรับฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส​ รวมถึงสามารถขจัดคราบเลือด คราบไขมัน คราบที่เกิดจากเชื้อรา และคราบตะกรันที่เกิดจากสารอินทรีย์ได้ดี สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยให้บุคลากรด่านหน้าในการช่วยเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันโรคโควิด-19 ได้ปฏิบัติงานอย่างมั่นใจและปลอดภัย




สำหรับหน่วยงานที่ได้มีการมอบผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการแล้ว ได้แก่ กองทัพเรือ จำนวน 100 ลิตร เพื่อนำไปใช้ในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 บนเรือจักรีนฤเบศร, กรมอนามัย จำนวน 1,000 ลิตร เพื่อใช้ตามโรงพยาบาลสนามและจุดบริการรวม 16 แห่ง ตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ของกรมอนามัย, จังหวัดลำปาง จำนวน 500 ลิตร และมอบผลิตภัณฑ์ในนามกลุ่มสถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) จำนวน 1,000 ลิตร เพื่อสนับสนุนกระทรวงแรงงานในการลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด




ทั้งนี้ บริษัท คีนน์ จำกัด ยังคงมุ่งมั่นให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ และคนไทยได้ผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2535 “คีนน์” ได้ให้การสนับสนุนองค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยปณิธานที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้สังคมเติบโตอย่างยั่งยืน

11867
จีจี้ วี น้ำหนึ่ง ปูเป้ แพนเค้ก และปาเอญ่า ตัวแทนศิลปินไอดอลหญิงวง BNK48 ครั้งแรกกับรูปแบบคอนเท้นต์ Online เสิร์ฟความแปลกใหม่สไตล์เอ้าท์ดอร์ ชวนแฟนๆ ปั่นความสนุกติดขอบจอรอชมกิจกรรมดีต่อใจในวันมาฆบูชา 26 กพ. 64 ศกนี้  ผ่าน Facebook & YouTube BNK48


             บริษัท อินดิเพนเด้นท์  อาร์ทิสท์เมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ iAM (ไอแอม) ต้นสังกัดศิลปินไอดอลหญิงวง BNK48 ลุยสร้างสรรค์คอนเท้นต์ดีๆ เพื่อให้แฟนๆ เกิดความประทับใจและเพลิดเพลินกับการดูคอนเท้นต์ ที่มีแนวทางครีเอทคอนเท้นต์ลักษณะนอกสถานที่ โดย 6 ตัวแทนศิลปินไอดอลหญิงวง BNK48 ได้แก่ จีจี้ วี น้ำหนึ่ง ปูเป้ แพนเค้ก และ ปาเอญ่า เน้นการอนุรักษ์วัฒนธรรมการทำบุญ ในวันมาฆบูชา ที่ชาวพุทธให้ความสำคัญ  ซึ่งเป็นวันเพ็ญเดือน 3 เนื่องในโอกาสคล้าย วันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ แก่พระภิกษุจำนวน 1,250  รูป






             อย่างไรก็ตามกิจกรรมดีๆ เกี่ยวกับการทำบุญหลากหลายเหล่านี้นับเป็นตัวอย่างสำหรับคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง นอกจากนี้เตรียมชมกับความสดใส น่ารัก กับภารกิจที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แฟนๆ จะได้เต็มอิ่มกับความสุข+ อิ่มบุญ อบอวลความสุขกระจายติดขอบจอแน่นอน อย่ารอช้า ! สามารถติดตามชมในรูปแบบ Digital live ในวันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ผ่านทาง Facebook & YouTube BNK48

11868
อาคเนย์ประกันภัย ปลื้ม ศิริราช รามาธิบดี ทำประกันโควิด-19
คุ้มครองบุคลากร 3.6 หมื่นราย

               กรุงเทพฯ 19 กุมภาพันธ์ 2564; อาคเนย์ กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน หนึ่งในสายธุรกิจหลักบริษัท เครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ผ่านการคัดเลือกจากคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชและแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้เป็นผู้ดูแลกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 เพื่อบุคลากรทางการแพทย์ ให้ใช้ชีวิตได้แบบอุ่นใจด้วยความคุ้มครองแบบเทสุดใจจากอาคเนย์ประกันภัย เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม


               นายมนตรี วงศ์ท่าเรือ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีให้ความไว้วางใจอาคเนย์ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างหลักประกันทางสุขภาพและดูแลเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 36,300 ราย เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างไร้กังวล ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการ “ประกันภัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019”

               “อาคเนย์พร้อมเทสุดใจในการดูแลดูแลบุคลากรทางการแพทย์ของศิริราชและรามาธิบดีที่ต้องปฏิบัติงานในฐานะด่านหน้าในการดูแลสุขภาพของคนไทย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อสัมผัสโรคโควิด-19 สูง เพื่อร่วมกันสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานที่ทุ่มเท เสียสละ เพื่อประเทศไทยให้ก้าวผ่านช่วงเวลาวิกฤตนี้ไปด้วยกัน” นายมนตรี กล่าว

               ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลจากอาคเนย์ประกันภัยได้ที่ เว็บไซต์ www.seic.co.th , เฟซบุ๊ก อาคเนย์ Southeast คลิก www.facebook.com/Segsoutheastpage/  และ ศูนย์ดูแลลูกค้า โทร.1726

11869
ไทยยูเนี่ยน ได้รับการจัดอันดับติด 1 ในบริษัทที่มีผลการดำเนินงาน
ด้านความยั่งยืนสูงสุดในโลก จาก S&P Global


บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้รับการจัดอันดับติด 1 ในบริษัทที่มีผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนสูงสุดในโลก ระดับโกลด์ คลาส (Gold Class) ในรายงาน The Sustainability Yearbook 2021 ของ S&P Global

ไทยยูเนี่ยน คว้าอันดับ 1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร สำหรับประเด็นด้านสังคม ซึ่งประเมินเรื่องสิทธิมนุษยชน และความปลอดภัยอาชีวอนามัย และได้อันดับ 2 ทั้งประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งครอบคลุมเรื่องกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ บรรจุภัณฑ์ การจัดหาวัตถุดิบ และประเด็นด้านเศรษฐกิจและธรรมภิบาล ซึ่งประกอบด้วยเรื่องสุขภาพและโภชนาการ การจัดการเรื่องนวัตกรรม และการจัดการในห่วงโซ่อุปทาน

ไทยยูเนี่ยน เป็น 1 ใน 5 บริษัทอาหารทะเลชั้นนำของโลกที่ได้ระดับโกลด์ คลาส ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร จากการประเมินด้านความยั่งยืนระดับโลกของ S&P Global ที่มีการประเมินบริษัทมากกว่า 7,000 บริษัท จาก 61 อุตสาหกรรมทั่วโลก


ดร. แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมกิจการองค์กรและความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน กล่าว​“การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นรากฐานของการดำเนินธุรกิจของเรา และไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความรับผิดชอบในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมเพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก และแม้ว่าสถานการณ์โรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลกและต่อธุรกิจของเราเมื่อปีที่ผ่านมา แต่เรายังให้ความสำคัญต่อดำเนินงานตามเป้าหมายด้านความยั่งยืน รวมถึงการมีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรฐานต่างๆ สำหรับอุตสาหกรรมทั่วโลก”

ขณะที่โควิด-19 มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของไทยยูเนี่ยน แต่บริษัทยังคงดำเนินโครงการและนโยบายต่างๆ เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาด้านความยั่งยืน ซึ่งขณะเดียวกัน ไทยยูเนี่ยนได้มีการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโดยการบริจาคผลิตภัณฑ์อาหารไปทั่วโลก พร้อมกับอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล รวมทั้งสิ่งของจำเป็นต่างๆ ที่มอบให้กับโรงพยาบาลที่ต้องดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทที่จะให้ความช่วยเหลือชุมชนในพื้นที่ที่มีการดำเนินธุรกิจอยู่   

การได้รับการยกย่องจาก S&P Global นี้ เกิดขึ้นภายหลังที่ไทยยูเนี่ยนได้รับคัดเลือกติดอยู่ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน เป็นการตระหนักว่าความยั่งยืนไม่ใช่เพียงการรวมแนวทางการดำเนินธุรกิจทั้งหมดของบริษัทไว้เท่านั้น แต่ยังกลายเป็นวิธีการที่บริษัทใช้ดำเนินธุรกิจอีกด้วย ในปี 2563 ไทยยูเนี่ยนยังติดอันดับ 2 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารของโลกจากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์อีกด้วย นอกจากนี้บริษัทยังได้รับคัดเลือกติดอยู่ในดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน


###

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลระดับโลก โดยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 126,275 ล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 44,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 และในปี 2562 ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่เจ็ดติดต่อกัน โดยได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 1 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน และได้รับอีกหลากหลายรางวัลสำหรับการเป็นผู้นำในการทำงานด้านความยั่งยืน

11870
"TOYO TIRES จับมือ เชฟโอ" ลุยสร้างคอนเทนต์ท่องเที่ยว พร้อมครีเอทเมนูท้องถิ่นยกระดับชุมชน
ผ่านรายการ Chef X Journey by TOYO TIRES


ยางรถยนต์ TOYO TIRES ออกแคมเปญใหม่เอาใจสายกิน-เที่ยว จับมือเชฟโอ พ่อครัวชื่อดัง ครีเอทคอนเทนต์สุดซี๊ด! ตะลุยทั่วไทยบุกค้นหาวัตถุดิบท้องถิ่น มาเพื่อรังสรรค์เมนูสุดพิเศษ สำหรับแต่ละท้องถิ่น ที่ได้เดินทางไปถ่ายทำต่อยอดสร้างความรู้และไอเดียในการสรรสร้างเมนูใหม่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทุกชุมชนที่ได้ไปถ่ายทำรายการ ทั้งในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านท้องถิ่นนั้น ๆ ถ่ายทอดออกมาเป็นรายการ Chef X Journey by TOYO TIRES  ที่ได้ทั้งความรู้ ความสนุก ความอร่อย และ ความปลอดภัยในการเดินทางไปกับยาง Toyo Tires ตลอดรายการ




สามารถติดตามรับชมรายการ Chef X Journey by TOYO TIRES ได้ทาง www.facebook.com/ToyoTiresThailand

11871
สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ขอเชิญเข้าร่วมคอร์ส Digital Marketing In Action รุ่นที่ 3”


เนื่องจากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ที่มีแนวโน้มจะต้องเฝ้าระวัง ป้องกัน และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครทางสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย จึงขอเลื่อนการจัด หลักสูตร Digital Marketing in Action #3 เป็น​ กำหนดการใหม่ วันที่ 6, 12, 13, 19, 20, 26, 27 มีนาคม และ 3 เมษายน 2564

เมื่อ Digital ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตั้งเป้าหมาย และกำหนดกลยุทธ์อย่างไรที่จะเหมาะกับองค์กรของคุณ 8 วัน 8 หัวข้อ กับ 10 ผู้เชี่ยวชาญในสายงานดิจิทัล จัดเต็มกันแบบจุใจ พร้อม Workshop ที่จะทำให้คุณ รู้ลึก รู้จริง และกลับไปทำได้จริงอย่างแน่นอน

     - มองเห็นภาพกว้างของการเดินทางจากยุคเก่าเข้าสู่ยุคดิจิทัล
     - มองเห็นความเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ผู้บริโภคในยุคดิจิทัล
     - ฝึกการเจาะใจและเข้าถึงผู้บริโภคยุคดิจิทัล
     - เข้าใจการสร้างคอนเทนต์ให้มีคุณค่า เนื้อหาโดนใจลูกค้า
     - เรียนรู้การวางแผนกลยุทธ์ แผนปฎิบัติการณ์ การวาง KPI
     - เข้าใจการสร้างกลยุทธ์การสื่อสารในยุคดิจิทัล
     - DATA มีผลต่อการ Run Business อย่างไร?
     - เข้าใจภาพรวมของแพลตฟอร์มใหม่ๆ รวมถึงกลยุทธ์ในการใช้ Digital Media
     - เรียนรู้และเข้าใจ การวางแผนการตลาดดิจิทัลจาก Workshop


เรียนจริง ทำจริง รู้จริง ทำได้จริง โดยวิทยากร : ผู้เชียวชาญในสายงานดิจิทัล

- คุณสุรศักดิ์ เหลืองอุษากุล   
  Strategic Planning Director &Co-Founder of BrandBaker Co.,Ltd.

- ดร.ดั่งใจถวิล อนันตชัย       
  COO, MD of INTAGE Thailand

- คุณขนิษฐา ตั้งวรพจน์วิธาน   
  Consultant, CHief Strategist-Cheevamitr SE

- คุณเมธี จารุมณีโรจน์           
  Managing Partner of  BrandAholics

- คุณจรัส จรัสรุ่งเรืองชัย
  Performance media & Digital solution Director of Dentsu X Thailand

- คุณณัฐวรรธน์ ศรีสุข
  Director ,Digital Marketing Program School of  Business Administration Bangkok University

- ดร.สมชาติ วิศิษฐชัยชาญ   
  กรรมการบริหารและที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศูนย์สาธารณประโยชน์และประชาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) 

- คุณโอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ 
  หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร กลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

- คุณวศุตม์พล ชฎาธรสุธาสิน   
  CEO ,Answer Thailand & Co-Founder "AMATA"

- คุณณัฐพล ม่วงทำ
  เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน ผู้เขียนหนังสือ Personalized Marketing


เปิดรับสมัครแล้ววันนี้  เริ่มอบรม 6 มีนาคม – 3 เมษายน 2564  @ VIE Hotel Bangkok – Mgallery

** หลักสูตรนี้มีค่าใช้จ่าย สามารถดูรายละเอียด และ ลงทะเบียนที่นี่:

https://www.marketingthai.or.th/event/digital-marketing-in-action3/
หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย โทร 02-679 -7360-3 หรือ Line : @matsociety

11872
ติงส์ ออน เน็ต สนับสนุนผู้ประกอบการภาคธุรกิจ
เปิดแคมเปญไอโอทีทดลองใช้ฟรี 90 วัน


ติงส์ ออน เน็ต เปิดตัว ไอโอทีโซลูชันสำหรับตรวจจับข้อมูลอุณหภูมิและความชื้น (Environmental Monitoring Solution: Temperature & Humidity) ครบวงจร และเซ็นเซอร์อัจฉริยะ ‘เท็มฮ็อก’ (Temphawk) พร้อมเปิดแคมเปญช่วยผู้ประกอบการภาคธุรกิจใช้ฟรี 90 วัน


นายปวิณ วรพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ติงส์ ออน เน็ต จำกัด​ เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นกำลังเป็นปัญหาใหญ่ในทุกกระบวนการการดำเนินงานที่ก่อให้เกิดความเสียหายมหาศาลต่อสินค้าและผลผลิตในหลายภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม  ไอโอทีโซลูชันพร้อมเซ็นเซอร์อัจฉริยะจะมีบทบาทสำคัญเข้ามาช่วยให้ผู้ประกอบการจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เรื่องอุณหภูมิและความชื้น เป็นตัวแปรหลักและละเอียดอ่อนต่อทุกภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มค้าปลีก กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมและคลังสินค้า กลุ่มเกษตรและปศุสัตว์ รวมถึงสถานพยาบาลต่างๆ ชุดไอโอทีโซลูชันที่สามารถตรวจจับข้อมูลในทุกขั้นตอนการดำเนินงานตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และแจ้งเตือนเมื่อเกิดความผิดปกติจึงเป็นเรื่องสำคัญ อย่างเช่น เรื่อง ‘Cold Chain Monitoring จะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์อัจฉริยะ​ ‘Temphawk’ ตรวจสอบอุณหภูมิและความชื้นได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมด้วยระบบแจ้งเตือนเมื่อเกิดความผิดปกติอย่างทันท่วงที อีกทั้งยังจัดเก็บข้อมูลต่างๆ อย่างเป็นระบบ ปลอดภัย พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับพัฒนาการทำงานต่อไปได้”

Temphawk คือ อุปกรณ์เซ็นเซอร์อัจฉริยะตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นที่มาพร้อมโซลูชันไอโอที Environmental Monitoring Solution: Temperature & Humidity ครบวงจร ทำงานบนโครงข่ายซิกฟอกส์ (Sigfox) เทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบ LPWAN ที่มีเครือข่ายครอบคลุม 72 ประเทศทั่วโลก จึงให้อิสระผู้ใช้งานในการตรวจวัดค่าอุณหภูมิและความชื้นจากที่ใดก็ได้ เมื่อใดก็ได้ ตามต้องการผ่านการแสดงผลบนมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์

เซ็นเซอร์อัจฉริยะมีขนาดกะทัดรัด สะดวกต่อการใช้งาน ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินระบบสายไฟ สามารถตรวจวัดและควบคุมอุณหภูมิได้ในช่วงตั้งแต่ -40 องศา ถึง 125 องศา และตรวจวัดความชื้นได้ตั้งแต่ระดับ 0 – 100% โดยได้รับการรับรองให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร โรงพยาบาล เวชภัณฑ์ และธุรกิจได้หลากหลาย ทั้งในโรงเรือน พื้นที่เกษตร ฟาร์มปศุศัตว์ บนตู้ขนส่งสินค้า คลังสินค้า ชั้นวางสินค้าในห้างสรรพสินค้า การเก็บรักษาเวชภัณฑ์ หรือแม้แต่ในห้องเย็นของร้านอาหาร การควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้คงระดับความเย็นเพื่อรักษาความสด (Fresh) สำหรับอาหารและผลิตภัณฑ์แช่เย็น (Cool) หรือแช่แข็ง (Freeze) เป็นปัจจัยที่สำคัญและยังช่วยบริหารจัดการลดความสูญเสียจากสินค้าเสื่อมสภาพ คงประสิทธิภาพสินค้ากลุ่มเวชภัณฑ์ และคงรสชาติความสดใหม่ของอาหารได้อย่างมีศักยภาพสูงสุด

ไอโอทีโซลูชัน Environmental Monitoring Solution: Temperature & Humidity และเซ็นเซอร์อัจฉริยะ Temphawk ยังมีคุณสมบัติที่โดดเด่นเรื่องประสิทธิภาพและความแม่นยำในการตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้น โดยบอกค่าได้อย่างละเอียด และสามารถกำหนดการรายงานค่าการตรวจวัดได้ในทุกๆ 10 นาที และยังสามารถแจ้งเตือนความผิดปกติได้ทันท่วงที นอกจากนี้ อุปกรณ์ถูกออกแบบให้ใช้พลังงานต่ำ แบตเตอรี่สามารถชาร์จซ้ำได้ อายุการใช้งานยาวนานถึง 5 ปี ช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการได้

นายปวิณ กล่าวว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงวิกฤตโควิด-19 ติงส์ ออน เน็ต ได้จัดแคมเปญพิเศษเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจต่างๆ ได้ทดลองใช้แพ็คเกจโซลูชันไอโอที Environmental Monitoring Solution: Temperature & Humidity ครบวงจร พร้อมเซ็นเซอร์อัจฉริยะ ‘Temphawk’ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเป็นระยะเวลา 90 วัน ผู้สนใจสามารถขอรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2564

“ติงส์ ออน เน็ต ในฐานะผู้เชี่ยวชาญและผู้นำไอโอทีโซลูชันครบวงจรด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีสื่อสารชั้นนำระดับโลก ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีควบคู่ไปกับบทบาทความมุ่งมั่นในการเป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้างและช่วยเหลือภาคธุรกิจในทุกสถานการณ์ ในช่วงวิกฤตโควิด-19ที่ภาคธุรกิจตั้งอยู่บนความไม่แน่นอน เราพร้อมให้ความช่วยเหลือภาคธุรกิจซึ่งเป็นรากฐานที่เอื้อต่อการเติบโตของเศรษฐกิจชาติอย่างมั่นคงและยั่งยืน”

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อขอทราบเงื่อนไขและยื่นความประสงค์เข้าร่วมแคมเปญ หรือขอคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริหารจัดการเรื่องอุณหภูมิและความชื้นได้ที่ Contact Center โทร.02-1579499


####

เกี่ยวกับ ติงส์ ออน เน็ต

ปัจจุบัน Things on Net เป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้นำไอโอทีโซลูชันครบวงจรด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีสื่อสารชั้นนำระดับโลก และเป็นผู้ถือสิทธิ์การให้บริการโครงข่ายซิกฟอกส์ (Sigfox) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะไกลที่ใช้พลังงานในการรับส่งข้อมูลต่ำ (Low Power Wide Area Network: LPWAN) โดยมีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ 72 ประเทศทั่วโลก พร้อมให้บริการเรื่อง Asset Tracking ซึ่งมีอุปกรณ์พร้อมใช้งานในการติดตามสถานะสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อช่วยให้ทราบสถานะในการจัดเก็บและขนย้าย เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ฯลฯ

นอกจากนี้ Things on Net ยังเป็นผู้ให้บริการครบวงจรด้วยเทคโนโลยีระดับโลก และอุปกรณ์ที่พร้อมใช้งานที่ครอบคลุมทุกธุรกิจ อาทิ Smart City & Smart Building ระบบเมืองอัจฉริยะและอาคารอัจฉริยะที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้อยู่อาศัย, Cold Chain Management ระบบตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้นสำหรับตู้แช่สินค้า ทั้งแบบแช่เย็นและแช่แข็งในอุตสาหกรรมค้าปลีก หรือธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อให้สินค้าคงคุณภาพความเย็นที่เหมาะสม ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง และการวางจำหน่ายจนถึงมือผู้บริโภค, ระบบ Safety and Environmental สามารถตรวจวัดอุณหภูมิและคุณภาพอากาศเพื่องานด้านความปลอดภัยในการบริหารงาน Facility management และระบบ Energy saving ผู้ช่วยบริหารจัดการการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IoT Solutions ได้ที่ Contact Center: 02-157-9499

11873
โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ บริการใหม่ล่าสุด “Em Quick Drive Thru” จำหน่ายอาหารเมนูเด็ดที่ขึ้นชื่อ




                  “Em Quick Drive Thru” บริการใหม่ล่าสุดของ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ด้วยการจำหน่ายอาหารเมนูเด็ดที่ขึ้นชื่อ ระหว่างเวลา 07.00-13.00 น. เฉพาะวันจันทร์ – วันศุกร์ เพื่อให้คุณลูกค้าสะดวกมากยิ่งขึ้นกับการได้ทานของโปรดที่ชื่นชอบกว่า 25 รายการโดยไม่ต้องลงจากรถ ทั้งอาหารจานเดียว ของว่างทานเล่น เบเกอรี่ ในราคา Street Food เริ่มต้นเพียง 29 บาทเท่านั้น อาทิ ข้าวขาหมู ผัดไทยกุ้งสด ราดหน้าหมูหมัก ผัดซีอิ๊ว ข้าวต้มปลากะพง หมูเค็มกับข้าวเหนียว กล้วยทอด ครัวซองต์ ชาไทย กาแฟโบราณ ฯลฯ

                   เชิญเลือกสั่งอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ถูกหลักอนามัยตามมาตรฐาน SHA ในยุค New Normal ที่ซุ้มอาหารบริเวณลานจอดรถหน้าโรงแรมฯ หรือเพียงนัดหมายล่วงหน้า โดยเปิดรับออร์เดอร์ผ่านช่องทางไลน์ @theemeraldhotel  หรือโทร. 0-2276-4567 ดังนี้

•   07.00 -12.00 น. เพื่อมารับอาหารภายใน 13.00 น. ของวันเดียวกัน

•   13.00 - 20.00 น. เพื่อนัดรับอาหารในวันถัดไป

เท่านี้คุณก็อิ่มอร่อยได้อย่างง่ายๆ สะดวกสบาย    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร.0-2276-4567

















11874
การแข่งขัน Djooky Music Awards เปิดรอบโหวต แล้ววันนี้

●   แพลตฟอร์มสุดคูลสำหรับศิลปินและนักแต่งเพลง เปิดให้ลงทะเบียนใหม่
รวมถึงเปิดรอบโหวต ให้คุณได้ลงคะแนนสนับสนุนศิลปินที่คุณ ชื่นชอบได้ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป




[/center]


กรุงเทพ กุมภาพันธ์ : เพื่อส่งเสริมและพัฒนาความสามารถทางด้านดนตรีทั่วโลก และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการส่งเสริมอุตสาหกรรมดนตรีให้เจิดจรัสขึ้น Djooky แพลตฟอร์มสำหรับศิลปินและนักแต่งเพลง ได้เปิดให้ลงทะเบียนสำหรับการเข้าร่วม Djooky Music Awards (DMA) ในเดือนนี้ ซึ่งถือเป็นการประกวดเพลงออนไลน์ระดับโลกครั้งแรก และในโอกาสนี้ Djooky ให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชีย เพื่อขยายการลงทะเบียนในภูมิภาคนี้ให้เติบโตยิ่งขึ้น Djooky เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมดนตรีทั่วโลก และนำศิลปินให้เข้าถึงผู้ชมที่แตกต่างกันมากยิ่งขึ้น รวมถึงเปิดพื้นที่ใหม่ในอุตสาหกรรมดนตรีให้กับผู้คนทั่วโลก
 
บริษัทได้รับการรับรองและร่วมก่อตั้งโดย Brian Malouf โปรดิวเซอร์ระดับแพลตตินั่มชาวอเมริกัน ที่ทำงานร่วมกับศิลปินยอดเยี่ยมมากมาย อาทิ Madonna, Michael Jackson, Queen, Pearl Jam, Miley Cyrus, Demi Lovato, Selena Gomez, Jonas Brothers และ Stevie และอีกมากมาย “จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมดนตรียังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด -19 เราเข้าใจดีว่าศิลปินจากทั่วโลกได้ยกเลิกการเข้าร่วมงานเทศกาลคอนเสิร์ตและการแข่งขันดนตรีต่างๆมากมาย อย่างไรก็ตามวิกฤตนี้ยังเป็นโอกาสที่นำมาสู่การริเริ่มการเป็นผู้ประกอบการและดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญบางอย่างในอุตสาหกรรมดนตรี Djooky จึงเป็นโอกาสใหม่สำหรับพวกเขา ที่เปิดโอกาสให้ได้เผยแพร่ความสามารถทางด้านดนตรีได้อย่างกว้างขวาง” Brian Malouf ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้ตัดสิน DMA กล่าว




Brian Malouf โปรดิวเซอร์ระดับแพลตตินั่มชาวอเมริกัน


แพลตฟอร์มนี้ได้รับการลงทะเบียนจากศิลปินมากมายทั่วโลก

Djooky เปิดให้โหวตเพื่อสนับสนุนนักแต่งเพลงนักดนตรีมือสมัครเล่นและมืออาชีพทุกประเภทดนตรี ศิลปินจากกว่า 6 ทวีปทั่วโลก ทุกคนสามารถเข้าไปโหวตได้ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 จนถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ผลการแข่งขันทั่วโลกจะถูกกำหนด 50% โดย ผู้ใช้ Djooky และอีก 50% จะถูกกำหนดโดยคณะกรรมการที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมดนตรีทั่วโลก

คณะกรรมการจะประกอบด้วยโปรดิวเซอร์ นักดนตรี และนักแต่งเพลง ที่มีชื่อเสียง ยินดีที่จะเปิดโอกาสให้ศิลปินที่ได้รับรางวัลชนะเลิศมีโอกาสในการแสดงผลงานเพลงและสาขาวิชาชีพของพวกเขา นอกเหนือจากนั้นยังได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลกด้วย ทั้งนี้คณะกรรมการประกอบไปด้วย เจ้าของรางวัล Ivor Novello 2 สมัย ชาวอังกฤษ Sacha Skarbek ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลแกรมมี่ เป็นที่รู้จักกันดีในการเขียนซิงเกิ้ลฮิตของ James Blunt "You're Beautiful" และ "Goodbye My Lover" รวมถึงเพลงฮิตของ Miley Cyrus "Wrecking Ball" นักดนตรีและนักแต่งเพลงที่ได้รับรางวัล และ Patrice Rushen ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ 4 สมัย ผู้แต่งและบันทึกเพลงฮิต "Forget Me Nots"และ Justin Gray ซึ่งได้ร่วมงานกับศิลปินหลายคน อาทิ Avril Lavigne, Mariah Carey, David Bisbal, Luis Fonsi และ Amy Winehouse เป็นต้น ทั้งนี้ตัวแทนกรรมการของ Djooky จากเอเชีย จะร่วมด้วย ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล เขาเริ่มต้นอาชีพในวงการเพลงด้วยการเป็นศิลปินดูโอในปี 2548 โดยก่อตั้งภายใต้ บริษัท บันเทิงยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ปัจจุบันเขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเกือบทั่วโลก และติดอันดับหนึ่งใน 3 ศิลปินต่างชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศจีนอีกด้วย





ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล


เกี่ยวกับ Djooky

Djooky Inc. เป็นบริษัทที่เริ่มต้นงานด้านดนตรีและเทคโนโลยีล้ำสมัย จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา โดยมีความทะเยอทะยานที่จะพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมดนตรีทั่วโลก Djooky Inc. เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายนปี 2020 และทีมงานได้ทำงานอย่างเต็มที่โดยไม่เหนื่อยล้ากับแนวคิดนี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่ว่า Djooky มีเป้าหมายที่จะสร้างแรงกระเพื่อมทางสังคมที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมดนตรีด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่จะเปิดเผยในเร็ว ๆ นี้ Djooky กำลังสร้างระบบนิเวศสำหรับความสามารถทางดนตรีอันไร้ขอบเขตและมีความสุขสามารถเข้าถึงได้ง่าย และมีโอกาสในการเติบโตยิ่งขึ้น Djooky Music Awards เป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศนี้ ที่จะนำเสนอความสามารถใหม่ ๆ ให้กับชุมชนและสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ได้อย่างเต็มที่


*อ่านรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ - https://djookyawards.com/terms-of-use/

Djooky ดำเนินการด้วยทีมงานต่างประเทศในลอสแองเจลิส (สหรัฐอเมริกา) เบอร์ลิน (เยอรมนี) ลอนดอน (สหราชอาณาจักร) และเคียฟ (ยูเครน) บริษัทได้รับการรับรองและร่วมก่อตั้งโดย Brian Malouf โปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันระดับแพลตตินัมที่เคยทำงานร่วมกับศิลปินชื่อดัง เช่น Madonna และ Michael Jackson







11875
ดองกิ จับมือ ซีคอน ขยายสาขาที่ 3 เสริมแกร่งตลาดอีคอมเมิร์ซ 
ดึงพันธมิตรใหญ่ GrabMart และ Shopee Mall พร้อมฉลองครบรอบ 2 ปี สาขาทองหล่อ





   19 กุมภาพันธ์ 2564 กรุงเทพฯ,– บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด ร้านค้าอันดับหนึ่งด้านนำเข้าสินค้าของใช้ และอาหารชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น เตรียมทุ่มงบขยายสาขาเพิ่ม ประเดิมด้วยผนึกกำลังกับ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลงในความร่วมมือกันเป็นพันธมิตรร่วมมือขยายดองกิ สาขาซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ พร้อมบุกตลาดอีคอมเมิร์ซ ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบเดลิเวอรี ผ่าน 2 พันธมิตรใหญ่ GrabMart ผู้นำอันดับ 1 ด้านแพลตฟอร์มการสั่งอาหารและสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่นในไทย และ Shopee Mall ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน เพื่อส่งตรงสินค้าจากญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยมทั่วประเทศ ตอบรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงให้ได้รับความสะดวกเพิ่มมากขึ้น และร่วมฉลองครบรอบ 2 ปี ดองกิ สาขาทองหล่อ ด้วยอาหารและสินค้าโปรโมชั่นส่วนลดมากมายกว่า ตลอดเดือนกุมภาพันธ์




      นายโยซูเกะ ชิมานุกิ ประธานกรรมการ บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เนื่องจากผลกระทบของ พรก.สถานการณ์ฉุกเฉินในปีที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้าต้องการสินค้าประเภทอาหารและสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันมากขึ้น จากไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงหันมาปรุงอาหารเองแบบง่ายๆ หรือรับประทานอาหารที่บ้าน ทำให้สินค้าที่อยู่ในหมวดอาหารเติบโตอย่างมาก และมีแนวโน้มใช้บริการเดลิเวอรีเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นในปีที่ผ่านมาได้มีการจัดตั้งสมาคมผู้ผลิตแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ PPIC ซึ่งจะช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างดองกิกับผู้ผลิตในประเทศญี่ปุ่นให้แข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมทั้งมีการประสานงานกับหน่วยงานรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อแก้ปัญหาการนำเข้าสินค้ามาไทย โดยคาดว่าจะสามารถนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นส่งตรงถึงไทยเพิ่มขึ้นจำนวนมาก เพื่อรองรับแผนการขยายเพิ่ม 10 สาขาใน 3 ปีข้างหน้าอีกด้วย

สำหรับการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเป็นพันธมิตรร่วมทุนกับบริษัทซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในการเปิด ดองกิ สาขาซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นสาขาที่ 3 ตั้งอยู่ในโซนกรุงเทพชั้นนอก เราจะนำสินค้ากว่า 12,000 ชนิด มาให้บริการบนพื้นที่กว่า 2,100 ตารางเมตร ณ บริเวณโซนตรงกลางของชั้น บี1 ในศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ภายใต้คอนเซปต์ Japan Specialty Store ที่นำเสนออาหารและสินค้าจากญี่ปุ่นที่มีคุณภาพ เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดและสะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆตลอดทั้งปี ที่เข้ากับฤดูกาลทั้ง 4 ฤดูของญี่ปุ่น พิเศษด้วยการจัดทำป้ายแนะนำสินค้าเพื่อนำเสนอวิธีการปรุงอาหารให้แก่ลูกค้าคนไทย ไปจนถึงการขายชุดอาหารพร้อมปรุง เพื่อให้ลูกค้าสามารถประกอบอาหารได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังแยกเปิดร้าน “ฮอกไดโด - คิวามิ นามะโชคุปัง” ออกมาซึ่งถือว่าเป็นการเปิดร้านครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมด้วยการจัดทำอาหาร Japan Mobile Food ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของแต่ละจังหวัดของญี่ปุ่น มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง เพื่อเป็นทางเลือกและกระตุ้นการจับจ่ายสินค้าด้านอาหารและสินค้าญี่ปุ่นให้ย่านศรีนครินทร์มีความคึกคักยิ่งขึ้นกว่าที่เคย เหมือนกับดองกิสาขาทองหล่อ และดองกิสาขาเดอะมาร์เก็ต ที่ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบอาหารและสินค้าจากประเทศ ญี่ปุ่นเป็นอย่างมากมาแล้วตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ

และด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคเพราะสถานการณ์โควิด 19  ทางบริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด จึงปรับแผนการตลาดเพื่อตอบโจทย์การดำเนินชีวิตของผู้บริโภคด้วยการสร้างรูปแบบการขายแบบเดลิเวอรี โดยร่วมมือกับ GrabMart ผู้นำอันดับ 1 ด้านแพลตฟอร์มการสั่งอาหารและสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่นในไทย จำหน่ายสินค้าประเภทอาหารพร้อมบริโภคหรือซูชิที่ปรุงไว้สำเร็จแล้ว ของหวานของญี่ปุ่น เช่น มันหวานญี่ปุ่นเผา และวัตถุดิบที่จำเป็นต่อการปรุงอาหารแบบง่ายๆ เพื่อส่งต่อแนวคิด “ปลอดภัย รสชาติอร่อย สดใหม่” ให้กับลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มากไปกว่านั้น ทางดองกิได้ร่วมมือกับ Shopee Mall ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและการส่งสินค้าไปยังลูกค้าที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัดทั่วประเทศ โดยคัดสรรสินค้าขายดีและแนะนำสินค้าแต่ละตัวด้วยความใส่ใจ เพื่อทำให้ลูกค้าทราบถึงจุดเด่นของตัวสินค้าผ่านทางรูปภาพและวิดีโอ เพราะดองกิมีความตั้งใจที่จะส่งต่อความรู้สึกไปสู่ลูกค้าที่ยังไม่สามารถเดินทางมาที่ร้านของเราได้ และในปัจจุบันได้สร้างหน้าร้าน “DONKI x Shopee Mall” คลังเก็บสินค้าและบูธสำหรับถ่ายทอดสดที่ดองกิสาขาเดอะ มาร์เก็ต และมีการถ่ายทอดสดผ่านทางไลฟ์เป็นประจำเพื่อแนะนำสินค้า และสร้างความน่าสนใจให้ลูกค้าได้ทราบถึงคุณสมบัติของสินค้าได้อย่างครบถ้วนไว้คอยบริการอีกด้วย





       พร้อมกันนี้ ดองกิ สาขาทองหล่อ ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษในโอกาสฉลองครบรอบ 2 ปี เพลิดเพลินไปกับเทศกาลอาหารญี่ปุ่น โชว์แล่ปลาทูน่า การจำหน่ายสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะร้านดองกิเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารสด อาหารแห้ง ไปจนถึงเครื่องสำอาง ในราคาพิเศษ เริ่มต้นที่ 20 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2564  นอกจากนี้ ยังมีการจัดโปรโมชั่นจำหน่ายบัตรกำนัล เมื่อซื้อบัตรกำนัลครบ 3,000 บาท รับฟรีบัตรกำนัลมูลค่า 300 บาท หรือ ซื้อบัตรกำนัลครบ 5,000 บาท รับฟรีบัตรกำนัลมูลค่า 600 บาท (จำนวนจำกัด) ใช้ได้สำหรับซื้อของภายในร้าน และห้ามพลาดพบกับโปรโมชั่นใน GrabMart และ Shopee Mall ในราคาลดสูงสุด 25% และสินค้าราคาพิเศษมากมาย อาทิ สตรอเบอร์รี่นำเข้า เครื่องสำอางญี่ปุ่นตลอดเดือนกุมภาพันธ์
   
ติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง https://www.facebook.com/DonDonDonkiTH/ หรือทางเว็บไซต์ https://www.dondondonki.com/th/






11876
ทีพี-ลิงค์ รุกตลาดกล้องวงจรปิด CCTV
เปิดตัว “VIGI” กล้องรุ่นใหม่ ครบเซ็ท ตอบโจทย์ผู้บริโภควิถีใหม่

               ทีพี-ลิงค์เปิดตัวกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อแบรนด์ “VIGI” ระบบดิจิทัล พร้อมกัน 3 รุ่น ได้แก่ กล้องวงจรปิด 2 รุ่น คือรุ่น  VIGI C300HP , VIGI C400HP ให้ความคมชัด 3 ล้านพิกเซล และเครื่องบันทึก NVR 1 รุ่น VR1008H พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม เมื่อซื้อครบเซ็ตติดตั้งฟรี ตอบโจทย์ผู้บริโภควิถีใหม่ และของแถมอีกมากมาย รับประกัน 3 ปีเต็ม  ราคาเพียง 14,990 บาท


               Mr.Dave Chen managing Director บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเปิดตัวกล้องวงจรปิด CCTV รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อแบรนด์ “VIGI” ว่า ทั้งเซ็ทที่นำมาเปิดตัวประกอบด้วย

       กล้องวงจรปิด รุ่น C300HP/C400HP จำนวน 4 กล้อง

·       เครื่องบันทึก NVR รุ่น VR1008H

·       Switch 6 Port รุ่น TL-SF1006P

·       HDD 1 TB

·       สายแลน Cable 100 เมตร

·       อุปกรณ์ประกอบการติดตั้งอื่นๆ


             สำหรับกล้องวงจรปิด​ VIGI C300HP เป็นกล้องวงจรปิดใช้งานภายนอก แบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือเลนส์ 4 mm. และเลนส์ 6 mm. เลือกใช้งานได้ตามความต้องการ มีความละเอียดคมชัดถึง 3 ล้านพิกเซล คุณภาพคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน รองรับ PoE / 12V DC: แหล่งจ่ายไฟสองทาง ง่ายต่อการเดินสาย รองรับ H.265+ บีบอัดไฟล์ภาพคมชัด แต่ใช้พื้นที่น้อย รองรับ IP67 สำหรับการใช้งานภายนอก กันน้ำ กันฝุ่น มีฟังก์ชั่นที่เรียกว่า Smart Detection ให้คุณสามารถรับการแจ้งเตือนและตรวจสอบได้ทันทีเมื่อมีคนข้ามเขตแดนเข้ามาในพื้นที่ของคุณ

             ต่อมาเป็นกล้องวงจรปิด​ VIGI C400HP ชนิดใช้ภายในอาคาร ที่แบ่งออกเป็น 2 รุ่น คือเลนส์ 2.8 mm. และ 4 mm. สามารถหมุนปรับเปลี่ยนมุมมองได้ ให้ความละเอียดคมชัดถึง 3 ล้านพิกเซล คุณภาพคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน รองรับ PoE / 12V DC: แหล่งจ่ายไฟสองทาง ง่ายต่อการเดินสาย รองรับ H.265+ บีบอัดไฟล์ภาพคมชัด แต่ใช้พื้นที่น้อย และรองรับฟังก์ชั่น Smart Detection ตรวจจับการเคลื่อนไหวเช่นกัน


C300HP


C400HP

             คุณสมบัติกล้องวงจรปิดทั้งสองรุ่นดังกล่าว เป็นระบบ Digital ที่มีข้อดีมากมายเมื่อเปรียบเทียบกับกล้องรุ่นเก่า ได้แก่ 1.สนับสนุนการทำงานผ่านระบบเครือข่ายไร้สายมากกว่า Analog  2. กล้องวงจรปิดระบบ Digital สามารถใช้ร่วมกับระบบ LAN ที่มีอยู่แล้วได้โดยไม่ต้องเดินสายใหม่ 3.ได้รับความละเอียดภาพที่คมชัดมากกว่า สามารถดูภาพได้ทั้งแบบออนไลน์ผ่านกล้อง (Live) ตามเวลาจริง หรือแบบดูย้อนหลัง 4.มีความปลอดภัยสูงมาก เนื่องจากทำงานบนระบบ digital สามารถที่จะ backup ข้อมูลได้ตลอดเวลาบนเซิร์ฟเวอร์


TL-SF1006P


NVR1008H

             ถัดจากกล้องวงจรปิด VIGI ทีพี-ลิงค์ ยังได้เปิดตัวเครื่องบันทึก NVR รุ่น VIGI NVR1008H รองรับการบันทึกข้อมูลตลอดเวลา 24/7 ดูแบบเรียลไทม์ได้มากถึง 8-ช่อง รองรับภาพคมชัดสูงสุดถึง 5 ล้าน รองรับ H.265+/H.265/ H.264+/H.264 บีบอัดไฟล์ภาพคมชัด ขนาดเล็ก รองรับคำสั่งเสียงสองทิศทาง​ รองรับมาตรฐาน Onvif

             โดยสินค้าแบรนด์ VIGI ทั้งหมด สามารถใช้งานได้บนแอพลิเคชั่น VIGI รองรับทั้ง iOS และ Android ไม่ว่าจะเป็นการจัดการต่าง ๆ การเลือกพื้นที่ที่ต้องการป้องกันผู้บุกรุก การเลือกดูมุมมองต่าง ๆ  ปรับเลือกเพื่อดูวิดิโอย้อนหลังหรือเล่นเหตุการณ์ที่ตั้งบันทึกไว้ หรือแม้แต่การตั้งค่าทั้งหมดนี้สามารถทำได้บนแอพลิเคชั่น VIGI

             นอกจากนี้ทีพี-ลิงค์ยังมีสินค้าภายในเซ็ทที่นอกเหนือจากที่กล่าวไปได้แก่ Switch 6 Port รุ่น TL-SF1006P สวิตซ์ 6 พอร์ตเพื่อต่อการใช้งานระหว่างเครือข่ายอินเทอร์เน็ต กล้องวงจรปิด VIGI และเครื่องบันทึก นอกจากนี้ยังมอบ HDD 1 TB , สาย Cable 100 เมตรและอุปกรณ์ประกอบการติดตั้งอื่น ๆ ให้ด้วย

             การติดตั้งกล้องวงจรปิดไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะเซ็ทโปรโมชั่นนี้ ฟรีติดตั้งทันทีไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมใดใดอีกแล้ว ลงทะเบียนที่ Line @tplink ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 64- 31 พ.ค. 64 เท่านั้น

             สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TP-Link , เว็บไซต์​ https://www.tp-link.com/th/

11877
สมาคมโรคไตฯจัดกิจกรรมวันไตโลก 2564
ผ่านเฟซบุ๊กออนไลน์ ห่วงผู้ป่วย “โรคไตเรื้อรัง”สูงขึ้น


             สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอเชิญประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมการจัดงานสัปดาห์วันไตโลกและสัปดาห์ลดการบริโภคเค็ม  ประจำปี 2564 ผ่านเฟซบุ๊กออนไลน์ “สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย” ในวันพฤหัสบดี ที่ 11 มีนาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 12.30 น. พร้อมเตือนคนไทยหยุดพฤติกรรมบริโภคเค็มและเลิกกินสมุนไพรที่ทำลายไต  ด้านสปสช.เผย ปี 2564 มีผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะสุดท้ายลงทะเบียนรับการรักษารวม 64,639 ราย ใช้งบประมาณค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวน 9,720 ล้านบาท ซึ่งสูงมากขึ้นทุกปี


             รศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ นายกสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยและประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม เปิดเผยว่า​ การจัดงานกิจกรรมสัปดาห์วันไตโลกและสัปดาห์ลดการบริโภคเค็ม  ประจำปี  2564 ในปีนี้ภายใต้คำขวัญ​ “ไตวายไม่ตายไว แค่ปรับใจและปรับตัว”  โดยกิจกรรมวันไตโลกจะจัดในรูปแบบออนไลน์ ผ่าน Facebook Live ของสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย จัดขึ้นในวันพฤหัสบดี ที่ 11 มีนาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 12.30 น. เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคต่าง ๆ  และการป้องกันโรคอย่างเหมาะสม ซึ่งถือเป็นครั้งแรก หลังจากปีที่แล้ว เราไม่ได้จัดงานสืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19  แต่เนื่องจากสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือกันแล้วว่า สถานการณ์ของโรคไตในปัจจุบันนั้นมีความรุนแรงต่อเนื่องสอดคล้องกับการทำวิจัยพฤติกรรมการบริโภคเค็มครั้งล่าสุดในปี 2564 พบว่าคนไทยบริโภคโซเดียมเฉลี่ยประชาชนไทยเท่ากับ 3,636 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับเกลือถึง 1.8 ช้อนชา เปรียบเทียบกับคนไทยบริโภคโซเดียมเกินเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำเกือบ 2 เท่า (องค์การอนามัยโลกแนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกินวันละ 2,000 มิลลิกรัม) โดยผลการวิจัยพบปริมาณการบริโภคโซเดียมเฉลี่ยสูงที่สุดในประชากรภาคใต้จำนวน 4,108 มก./วัน รองลงมาคือภาคกลาง จำนวน 3,760 มก./วัน, ภาคเหนือจำนวน 3,563 มก./วัน, กรุงเทพมหานครจำนวน 3,496 มก./วันและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 3,316 มก./วัน ตามลำดับ จึงจำเป็นต้องจัดงานเผยแพร่ความรู้เรื่องโรคไตสู่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง


             รศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า​ อีกเรื่องที่เป็นประเด็นสำคัญ คือการโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสมุนไพรต่าง ๆ ของยาสมุนไพรหลายชนิดในช่วงนี้ผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ เป็นประเด็นที่สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยร่วมกับเครือข่ายองค์กรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ขอยืนยันว่าในปัจจุบันยังไม่มีสมุนไพรตัวไหนที่มีข้อมูลหลักฐานทางงานวิจัยหรือการบันทึกมากเพียงพอที่แสดงถึงประโยชน์ในการรักษาโรคไตได้อย่างมั่นใจ การนำมาใช้จึงอาจทำให้เกิดโทษต่อผู้ป่วยโรคไตได้ เนื่องจาก 1.ไตเป็นอวัยวะที่สามารถเกิดอันตรายจากการใช้ยาและสารต่าง ๆ ได้ง่าย ซึ่งยาสมุนไพรส่วนใหญ่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับขนาดยาที่เหมาะสมในผู้ป่วยโรคไต  2.สมุนไพรที่ไม่ได้มาตรฐานอาจมีสารปนเปื้อน เช่น โลหะหนัก 3.สมุนไพรอาจมีสารปลอมปน เช่น ยาแก้ปวด สเตียรอยด์ 4.สมุนไพรและพืชบางชนิดมีพิษต่อไตโดยตรง หรือทำให้เกิดผลเสียในผู้ป่วยโรคไตได้ เช่น ไคร้เครือ (Aristolochia) ทำให้เกิดไตวายเรื้อรังและมะเร็งทางเดินปัสสาวะ, มะเฟือง (Star fruit) ทำให้เกิดไตวายเฉียบพลัน, ปอกะบิด (East Indian screw tree) ทำให้การทำงานของไตผิดปกติ, ชะเอมเทศ (Licorice) ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง, น้ำลูกยอ (Morinda citrifolia L) ทำให้โพแทสเซียมในเลือดสูง เป็นต้น 4. สมุนไพรยังอาจมีปฏิกิริยาระหว่างยา (drug interaction) กับยาประจำที่แพทย์สั่งซึ่งอาจลดประสิทธิภาพหรือเกิดพิษของยาขึ้นได้  ดังนั้นผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงป่วยเป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอัมพฤตอัมพาต ก็ไม่ควรบริโภคเพราะจะมีผลต่อไต


             สำหรับสมุนไพรอีกชนิดที่กำลังเป็นที่นิยม คือถั่งเช่า ซึ่งมีแพร่หลายอย่างมากในประเทศไทย และมีผู้แนะนำสินค้าบนโลกออนไลน์โซเชียลมีเดีย  สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยขอยืนยันว่าจากองค์ความรู้ที่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลที่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนว่า ถั่งเช่ามีประโยชน์จริงในผู้ป่วยโรคไต เนื่องจากมีเพียงข้อมูลการศึกษาในสัตว์ทดลอง แต่ไม่มีหลักฐานการศึกษาที่ดีเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่า ถั่งเช่ามีประโยชน์กับไตในมนุษย์และการศึกษาส่วนใหญ่ไม่ได้รายงานของอาการที่ไม่พึงประสงค์ของถั่งเช่าอีกด้วย ส่วนถั่งเช่าที่มีการศึกษาในมนุษย์นั้น ส่วนใหญ่เป็น ถั่งเช่าจากทิเบต (Cordyceps sinensis) ที่เกิดในธรรมชาติซึ่งมีราคาสูงมาก การศึกษาส่วนใหญ่ใช้เวลาเพียง 1-6 เดือนเท่านั้น จึงไม่สามารถทราบถึงผลดีและผลเสียในระยะยาวได้และยังพบว่าผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าทิเบตบางส่วนมีโลหะหนักในปริมาณสูง ซึ่งจะมีผลเสียต่อไตในระยะยาว โดยสรุปการที่ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังลองทานยาสมุนไพรรักษาโรคไตนั้น​ น่าจะมีโทษมากกว่าประโยชน์​ โดยเราต้องอย่าลืมว่าผู้ป่วยเหล่านี้มีค่าการทำงานของไตลดลงอยู่แล้ว ซึ่งการรักษาที่ดีที่สุดคือการดูแลปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม เพื่อชะลอการเสื่อมของไตให้ช้าที่สุด รวมทั้งหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เกิดความเสี่ยงต่อไตทั้งหมด


             ด้านนพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า​ สปสช.ได้จัดงบประมาณการล้างไตผ่านช่องท้อง การฟอกเลือด และการปลูกถ่ายไต โดยแต่ละปีจะมีจำนวนผู้ป่วยสูงมากขึ้นเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ทุกปี สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยยังดูแลสุขภาพของตนเองไม่ดีพอ สปสช.จึงได้เน้นส่งเสริมการป้องกันควบคู่กับการดูแลรักษา โดยเฉพาะการตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไม่ให้ป่วยเป็นไตวายเรื้อรังระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ให้สิทธิประโยชน์ดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายครบวงจร รวมถึงสิทธิของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ของสำนักงานประกันสังคมด้วย เพื่อให้เข้าถึงการบริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ป้องกันการล้มละลายจากการเจ็บป่วยที่มีค่าใช้จ่ายสูง ครอบคลุมการบำบัดทดแทนไต ได้แก่ การผ่าตัดปลูกถ่ายไต การล้างไตผ่านทางช่องท้องอย่างต่อเนื่อง การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมถึงการให้ยากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง


             ทั้งนี้ในปี  2564 สปสช.มีผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะสุดท้ายลงทะเบียนรับการรักษารวม 64,639 ราย ใช้งบประมาณค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวน 9,720 ล้านบาทเศษ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังสามารถเข้าถึงการรักษาได้ อย่างไรก็ดีสิทธิการรักษาของแต่ละกองทุนจะมีความแตกต่างกัน จึงทำให้ผู้ป่วยแต่ละสิทธิเข้าถึงการให้บริการไม่เหมือนกัน ดังนั้นนโยบายของรัฐบาลจึงมีแนวทางบูรณาการโรคไตเรื้อรังให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกกองทุนสุขภาพ ในส่วนของ สปสช. นั้น ก็ได้เห็นชอบในหลักการที่จะบูรณาการระบบบริการให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน


             สำหรับการเข้าถึงยาและการสนับสนุนการดูแลภาวะโรคร่วมของผู้ป่วยโรคไต สปสช. ยังคงมุ่งมั่นยึดหลักในการช่วยเหลือประชาชนในการเข้าถึงยา ที่ใช้ในการรักษาโดยไม่มีภาระค่าใช้จ่าย นโยบายด้านยาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ การบริหารจัดการยาโดยรวมของ สปสช. แบบรวมศูนย์ ส่งผลให้เกิดการต่อรองราคายาอย่างสมเหตุสมผล ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดด้านงบประมาณให้กับประเทศ ประมาณ7-8 พันล้านบาทแล้ว นอกจากนี้ ยังช่วยลดภาระค่ายาที่มีราคาแพงให้กับโรงพยาบาลที่ต้องดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ต้องใช้ยาเหล่านี้ ส่งผลให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาอย่างทั่วถึง และทำให้ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น


             ด้าน น.อ.หญิง พญ.วรวรรณ ชัยลิมปมนตรี ประธานคณะอนุกรรมการป้องกันโรคไตเรื้อรัง สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เมื่อมีผู้ป่วยโรคไตในประเทศไทยและมีผู้มีภาวะเสี่ยงมากกว่า 20 ล้านคนทั่วประเทศ มีการป่วยเป็น“โรคไตเรื้อรัง” เพิ่มสูงขึ้นและมีอายุน้อยลงทุก ๆปี  ทำให้ภาครัฐและประชาชนที่ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังต้องมีค่าใช้จ่ายสูงมากขึ้น เมื่อเป็นแล้วต้องรักษาตลอดชีวิต แต่เราสามารถเลี่ยงความทรมานนี้ได้ เพราะโรคนี้ป้องกันได้โดยการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อค้นหาสิ่งปกติในร่างกาย หากพบสัญญาณความผิดปกติที่เกิดขึ้น เช่น 1. ปัสสาวะผิดปกติ เช่น สีผิดปกติ มีลักษณะเหมือนน้ำล้างเนื้อ หรือสีเข้มกว่าปกติ ปัสสาวะมีฟองมาก   2. ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ 3-4 ครั้งขึ้นไป 3. ปัสสาวะแสบขัด กะปริบกะปรอย 4. มีอาการปวดหลัง ปวดเอว อาจมีความผิดปกติบริเวณนิ่วในไต ไตอักเสบ และ 5. มีความดันโลหิตสูงขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยโดยทันที

11878
“ซิปเม็กซ์” ประกาศทิศทางปี 2564 มั่นใจตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลโตเร็วเกินคาด
เดินหน้าเป็นคู่หูคู่นักเทรด ผลักดัน ZMT โทเคน ทางเลือกใหม่ในการลงทุน

ซิปเม็กซ์ (ZIPMEX) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำในประเทศไทย ประกาศจุดยืนปี 2564 พร้อมเป็นผู้นำตลาดในการซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยปริมาณการเทรดที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ชูจุดเด่นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ต่างจากสินทรัพย์ชนิดอื่น มั่นใจตลาดโตเร็วเกินคาด พร้อมเป็นคู่หูนักเทรด แนะนำตั้งแต่ขั้นตอนแรก ไม่เข้าใจก็สามารถศึกษาได้!


ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล

              ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน สินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของเมืองไทย (Exchange) กล่าวถึงภาพรวมต่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผ่านมาในปี 2563 ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นโดยมีความต้องการของนักลงทุนเป็นองค์ประกอบสำคัญ รวมทั้งการที่สถาบันทางการเงินยักษ์ใหญ่ให้ความสนใจกับสกุลเงินดิจิทัล พร้อมเปิดให้บริการสินค้าใหม่ ตอบรับเทรนด์การลงทุนที่ต่างจากการลงทุนรูปแบบเดิม​ อะไรเป็นสาเหตุที่ Paypal เปิดรับการชำระเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัล เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการค้าออนไลน์ร่วมกับร้านค้ากว่า 26 ล้านร้านค้า รวมถึงธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งสิงคโปร์อย่าง ดีบีเอส วิคเคอร์ส (DBS) ที่ตัดสินใจเปิดศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของตัวเอง หรือแม้แต่ Rothchild Investment Corporation สถาบันการเงินชั้นนำในชิคาโก ที่ได้ลงทุนในบิทคอยน์เพิ่มขึ้นถึง 24% ภายใต้การบริหารของ GrayScale สาเหตุเพราะสินทรัพย์ดิจิทัลมีคุณสมบัติที่น่าลงทุนต่างจากสินทรัพย์รูปแบบเดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็น “มูลค่าในตัว” ที่ไม่สามารถควบคุมภายใต้นโยบายทางการเงินใด ๆ “ทนทานต่อเงินเฟ้อ” ไม่สามารถปลอมแปลงหรือทำซ้ำ และยัง “ปลอดภัย” ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนที่สามารถตรวจสอบธุรกรรมที่เกิดขึ้นโดยไม่มีตัวกลาง

              “วันนี้ เรามีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทฯ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับ top 3 ของเอเชีย และในปี 2564 นักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะผู้ที่สนใจในการลงทุนยุคดิจิทัล จะนึกถึง “ซิปเม็กซ์” เป็นแบรนด์แรก ๆ และผมเชื่อว่าการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างต่อเนื่องและการบูรณาการของสถาบันการเงินจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราจึงอยากให้นักลงทุนที่เคยลงทุนในตลาดหุ้นเดิม ได้หันมาสนใจและศึกษาตลาดเงินดิจิทัลมากขึ้น และคาดหวังให้นักลงทุนหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดจะเลือก “ซิปเม็กซ์” เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการลงทุน และเรียนรู้เทรนด์สินทรัพย์ดิจิทัลไปด้วยกัน” ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล กล่าว


              “ทั้งนี้ บริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด มีมูลค่าการเทรดรวมทั้งปี 2563 กว่า 9,000 ล้านบาท โดยมีมูลค่าทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทฯ กว่า 1,000 ล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันทางการเงินทั่วไป “ซิปเม็กซ์” ได้รับการตรวจสอบเป็นประจำทุกไตรมาส และทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อตรวจสอบ ป้องกัน และรายงานการฉ้อโกง หรือกิจกรรมทางการเงินที่น่าสงสัย และเราได้ให้ “BitGo” บริษัทความปลอดภัยชั้นนำในการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นผู้ดูแลและรับประกันสินทรัพย์ดิจิทัลที่เก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ที่ถูกควบคุมโดยมีการคุ้มครองสูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหมายความว่าสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าปลอดภัยมั่นคง และมีประกันเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน” ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล กล่าวเพิ่มเติม

              ในฐานะผู้นำตลาด “ซิปเม็กซ์” มุ่งเน้นไปที่การสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า รวมถึงความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล โดยการสร้างความตระหนักรู้ผ่านการศึกษา เราวางตำแหน่งตัวเองเป็นทั้งเพื่อน คู่หู เพื่อให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น ผ่านกิจกรรมทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยมุ่งเน้นไปที่การเล่าเรื่อง และการสื่อความหมายที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลไปจนถึงไลฟ์สไตล์ รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการรายอื่นในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล


              “นอกเหนือจาก Zipmex Tokens (ซิปเม็กซ์ โทเคน) หรือ ZMT (ซีเอ็มที) ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ในปี 2564 นี้เรายังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล ที่จะออกมาเพื่อเป็นทางเลือกแก่นักลงทุนอีกมากมาย เพราะซิปเม็กซ์ ไม่ได้ให้บริการเพียงแค่การซื้อ ขายสินทรัพย์ดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มการสร้างความมั่งคั่งในเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย

              รวมถึงโปรแกรมพิเศษสำหรับผู้ถือ ZMT (ซีเอ็มที) ที่เรียกว่า ZipMember (ซิปเมมเบอร์) และ ZipCrew (ซิปครู)ด้วยสิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์ที่ยอดเยี่ยม (อาทิเช่น มื้ออาหารที่ร้านอาหารที่ติดดาวมิชลิน, เทศกาลดนตรี / งานอีเวนต์, สินค้าลิมิเต็ด จากความร่วมมือกับแบรนด์ดีไซเนอร์ชื่อดัง) ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์พิเศษสำหรับสมาชิกของเราเท่านั้น เพราะวิสัยทัศน์ของเรา คือการมุ่งมั่นพัฒนาที่จะมอบโอกาสทางการเงิน และการลงทุนที่ดีกว่าให้แก่ผู้คน เพื่อการสร้างความมั่งคั่งผ่านโอกาสการลงทุนที่หลากหลาย” ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล กล่าวทิ้งท้าย

               สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าชมที่​ www.zipmex.co.th

11879
ญาญ่า ชวนเปลี่ยนลุคแอร์ให้สุดคูล กับ Carrier Color Smart
เครื่องปรับอากาศเปลี่ยนหน้ากากได้ครั้งแรก


              เป็นอีกหนึ่งสาวมากความสามารถ ลุคสดใส สนุกสนาน ที่สร้างรอยยิ้มให้คนรอบข้างได้ตลอดจริงๆ สำหรับนางเอกสาวขวัญใจมหาชน​ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ ล่าสุดออร่าโดดเด้งโดนใจ​ คุณวรเศรษฐ์ ตันติศิริวัฒน์​ ผู้บริหารฯ ของเครื่องปรับอากาศ​ แคเรียร์ (Carrier) เข้าอย่างจัง เลยได้จับมือเซ็นสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ของเครื่องปรับอากาศแคเรียร์ ระบบอินเวอร์เตอร์อย่าง​ Carrier Color Smart​ ล้ำให้สุดกับที่สุดแห่งดีไซน์ กับครั้งแรกที่เครื่องปรับอากาศเปลี่ยนหน้ากากได้มากกว่า 30 แบบ งานนี้ในภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่นอกจากจะได้เห็นนางเอกสาวในลุคสมาร์ทแล้ว ยังสร้างปรากฏการณ์ญาญ่าฟีเวอร์ได้เปรี้ยงสุดๆ เล่นเอาเหล่าแฟนคลับฟินกันยาวๆ เพราะได้เห็นดาราขวัญใจทางหน้าจอทุกวันตลอดช่วงหน้าร้อนนี้แน่นอน

              ติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/carrierthailand หรือทางเว็บไซต์ www.carrierthailand.com

11880
ช้อปเท่าไหร่ จ่ายครึ่งเดียว! ช้อปปี้ ผนึกกำลังแบรนด์ยักษ์ใหญ่กว่า 2,000 แบรนด์
อัดโปรโมชั่นหั่นราคากับสินค้าหลายแสนรายการบน Shopee Mall 
ในแคมเปญ Shopee 3.3 Big Brands Sale


ตั้งแต่วันที่  22 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2564 พบกับโปรสุดคุ้มจากแบรนด์แท้ลดกว่า 50% ช้อปรับเงินคืน 50% Shopee coins 
พร้อมกิจกรรมทางความบันเทิงอีกเพียบ





ประเทศไทย, 18 กุมภาพันธ์ 2564 - ช้อปปี้ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ สานต่อเจตนารมณ์ช่วยคนไทยลดค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ผนึกกำลังแบรนด์ยักษ์ใหญ่บน Shopee Mall กว่า 2,000 แบรนด์ อัดโปรโมชั่นหั่นราคาด้วยสินค้าหลายแสนรายการ บน Shopee Mall ที่ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ มาเอาใจผู้บริโภค ช้อปเท่าไหร่ จ่ายครึ่งเดียว ในแคมเปญ Shopee 3.3 Big Brands Sale ควงแขนแบรนด์ดัง อาทิ Unilever, Sunny Baby, Samsung, P&G, Philips, Sabina และอีกคับคั่ง ร่วมลดราคาสินค้าถึง 50% พร้อมช้อปรับเงินคืนสูงสุด 50% Shopee Coins  ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2564

คุณสุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยจุดเด่นในเรื่องของความน่าเชื่อถือของสินค้าจากแบรนด์ผู้ผลิตโดยตรง ที่มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์มากมาย จึงทำให้ในปัจจุบัน Shopee Mall กลายเป็นเซ็กเมนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักช้อปชาวไทย และเพื่อเป็นการสนองตอบต่อดีมานด์ของสินค้าบน Shopee Mall ทั้งยังตระหนักถึงความจำเป็นของการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการจับจ่าย ควบคู่กับการช่วยลดค่าครองชีพให้กับพี่น้องคนไทยท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน ช้อปปี้ จึงได้เดินหน้าผนึกกำลังกับกว่า 2,000 แบรนด์ชั้นนำ จัดแคมเปญลดราคาสุดยิ่งใหญ่ในแคมเปญ Shopee 3.3 Big Brands Sale ให้ผู้บริโภคได้รับความคุ้มค่า สะดวกสบาย และอุ่นใจ เมื่อซื้อสินค้าบน Shopee Mall ในหลากหลายหมวดหมู่ โดยเราจะยังคงเจตนารมณ์ที่จะเดินหน้าพัฒนาแคมเปญทางการตลาด และฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้แพลตฟอร์มช้อปปี้สามารถเชื่อมปฏิสัมพันธ์และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ผู้ใช้งานทุกคนอยู่เสมอ”

คุณอภิชาติ ศาลิคุปต รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาลูกค้า บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในมหกรรม Shopee 3.3 Big Brands Sale ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของทั้งยูนิลีเวอร์ และช้อปปี้ ที่ปรารถนาจะสนับสนุนให้ผู้บริโภคชาวไทยทุกคนได้เข้าถึงสินค้าคุณภาพที่ดีที่สุด ได้อย่างง่ายดาย สะดวกสบาย และราคาคุ้มค่าสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ในแคมเปญ Shopee 3.3 Big Brands Sale นี้ ผู้บริโภคจะได้พบกับสินค้ายอดนิยมอย่าง Vaseline Body Lotion Healthy Bright UV Lightening Pink, TRESemmé Shampoo & Hair Conditioner, Pond's Age Miracle Ultimate Youth Essense ที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 50% โดยยูนิลิเวอร์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือกับช้อปปี้ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และสามารถสะท้อนเจตนารมณ์อันแรงกล้าของเราให้เป็นที่ประจักษ์ ซึ่งเรายินดีที่จะให้สนับสนุนช้อปปี้ในแคมเปญต่อๆ ไป เพื่อส่งเสริมประสบการณ์การจับจ่ายที่ดีที่สุดต่อไป”

คุณนิธิมนต์ สุธาวิวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจออนไลน์ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จํากัด กล่าวว่า “ตั้งแต่ที่ซัมซุง ได้เริ่มเปิดตัวร้านค้าอย่างเป็นทางการบน Shopee Mall เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา ก็พบว่าซัมซุง ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคและการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจหลายเท่าตัว ซึ่งกล่าวได้ว่า Shopee Mall สามารถช่วยเพิ่มขีดความสามารถและความแข็งแกร่งให้กับช่องทางออนไลน์ของซัมซุงซึ่งเป็นแบรนด์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในโอกาสนี้ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมมือกับช้อปปี้อีกครั้งในแคมเปญ Shopee 3.3 Big Brands Sale ด้วยฐานผู้ใช้งานที่มีจำนวนมาก ประกอบกับเครื่องมือทางการตลาด ทีมงานสนับสนุน และระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง เราจึงมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพพรีเมียมของเราได้อย่างตรงใจผู้บริโภค ตลอดจนสร้างประสบการณ์การซื้อขายที่ดีที่สุดได้อย่างเต็มศักยภาพ ยังผลไปสู่การเติบของธุรกิจอย่างยั่งยืน”
“Shopee 3.3 Big Brands Sale” ความคุ้มที่ยิ่งกว่าคุ้ม ด้วยโปรโมชั่นเด็ดที่นักช้อปห้ามพลาด

ตั้งแต่วันที่  22 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2564 นักช้อปจะได้พบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษจากแบรนด์ดังชั้นนำ อาทิ  Autobot, Index Living Mall, L’oreal Paris, Lotus, La Roche Posay, Johnson & Johnson, Nestle และอีกมากมาย ที่จะอัดแน่นด้วยดีลเด็ด โปรสุดปังครอบคลุมทุกหมวดหมู่ ช้อปกันยาวๆ ตลอด 2 สัปดาห์ โดยนักช้อปจะได้เพลิดเพลินไปกับไฮไลท์สุดพิเศษดังนี้

●   พบกับแบรนด์แท้ลดกว่า 50%: นักช้อปเพลิดเพลินไปกับสินค้าราคาสุดคุ้มที่มาพร้อมโปรโมชั่นหั่นราคาด้วยส่วนลด 50%  ครอบคลุมทุกหมวดหมู่สินค้า จากแบรนด์ชั้นนำบน Shopee Mall อาทิ P&G, Babylove, Hisense, Carrier และอื่นๆอีกมากมาย พร้อมพบกับกองทัพไอเท็มเด็ดราคาครึ่งเดียวจากสินค้าแฟลชเซลล์ อย่าง โอเลย์ รีเจนเนอรีส ครีม สูตรลดเลือนริ้วรอย เดย์ 50กรัม + ไนท์ แพ็คคู่ ไมโคร-สกัลป์ติ้ง คู่ บำรุงผิวหน้า 50กรัม, AMAZFIT GTR 42mm Smartwatch, Foremost นม UHT สูตร Omega, TCL ทีวี 55 นิ้ว LED 4K UHD Smart TV , ชุดไม้ถูพื้นไมโครไฟเบอร์ ทูอิน วัน และอื่นๆอีกมากมาย  ทุกวัน ทั้งวัน

●   ช้อปรับเงินคืน 50% Shopee Coins : ยกระดับความคุ้ม ทุกการจับจ่ายด้วยส่วนลดรับเงินคืน 50% Coins จากแบรนด์ชั้นนำครอบคลุมทุกหมวดหมู่

●   ช้อปสนุกไปกับ AirPay: นักช้อปที่ชำระเงินผ่านแอร์เพย์ในช้อปปี้ แอร์เพย์ใจดีมอบโค้ดส่งฟรีขั้นต่ำ 0 บาท ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2564 และคุ้มยิ่งกว่าเดิมกับ ‘AirPay Day’ เฉพาะวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นักช้อปมีสิทธิลุ้นรับเงินคืนสูงสุด 55% ในรูปแบบ Shopee Coins โดยไม่มียอดขั้นต่ำ และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย

พบกับเอ็กซ์คลูซีฟดีลจากแบรนด์พันธมิตรชั้นนำ ที่ถูกคัดสรรมาโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ ช้อปปี้ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดด้วยการจับมือกับแบรนด์และพันธมิตรชั้นนำในหลากหลายแวดวงธุรกิจ ครอบคลุมทุกหมวดหมู่สินค้าส่งโปรโมชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ในแคมเปญ Shopee 3.3 Big Brands Sale เพื่อเอาใจนักช้อปชาวไทยด้วยโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ เมื่อซื้อประกันจากบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)ในทุกกรมธรรม์ สามารถผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน  สำหรับประกันบำนาญ มีสิทธิ์รับเงินคืนสูงสุด 9,000 Shopee Coins และ ประกันโรคมะเร็ง คุ้มครองสูงสุด 1ล้านบาท รับทันทีเมื่อตรวจพบโรคมะเร็ง พร้อมร่วมกิจกรรมไลฟ์ในวันที่ 2 มีนาคม 2564 มีสิทธิ์รับ Shopee Coins 200 Shopee Coins พร้อมรับโค้ดรับเงินคืนสูงสุด 20% Shopee Coins

พิเศษ! เฉพาะวันที่ 3 มีนาคม 2564  นักช้อปจะได้เพลิดเพลินกับคอลเลคชั่นสินค้าจากแบรนด์ดังบน Shopee Mall มากมายที่จะยกทัพมาหั่นราคาให้นักช้อปได้คุ้มแบบขั้นสุด อาทิ

●   Calvin Klein: ยกระดับความพรีเมียมที่มาพร้อมความคุ้มค่าด้วยสินค้าหลากหลายหมวดหมู่จากแบรนด์ Calvin Klein ที่มาพร้อมส่วนลดสูงสุด 90% โค้ดส่วนลด 600 บาท เมื่อช้้อปครบ 4,000 บาท พร้อมพิเศษสุดคุ้ม พบกับ Calvin Klein เสื้อโปโลผู้ชาย รุ่น ZM01450 ในราคาเพียง 1,790 บาท จากปกติราคา 4,490 บาท

●   Tommy Hilfiger: พบกับคอลเลคชั่นสินค้าจาก Tommy Hilfiger ด้วยส่วนลดสูงสุด 90% และเมื่อช้อปครบ 3,000 บาท รับโค้ดส่วนลด 400 บาท พร้อมพบกับ TOMMY HILFIGER กางเกงยีนส์หญิง รุ่น WW0WW28014 สีขาวในราคาสุดพิเศษ เพียง 1,990 บาท จากปกติ 5,990 บาท

●   Samsung: นักช้อปจะได้พบกับส่วนลดสูงสุด 60% พร้อมมีสิทธิ์รับโค้ดเงินคืน 50 % Shopee Coins พิเศษเฉพาะแคมเปญ Shopee 3.3 Big Brands Sale เมื่อซื้อ สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy A71 5G 8/128GB จะได้รับส่วนลดในราคาพิเศษเพียง 12,990 บาท จากราคาปกติ 19,990 บาท

●   La Roche Posay: พบกับส่วนลดในทุกคอลเลคชั่นสินค้าที่มาพร้อมส่วนลด 50% และโค้ดลดเพิ่ม 50% ยกระดับความคุ้มค่าด้วย La Roche Posay Hyalu B5 เซรั่มฟื้นบำรุงผิวเด้งกระชับลดริ้วรอย 30 มล.  ฟรี! โทเลเรียน โฟม 15 มล. 1 ชิ้น และ ฟรี! โทเลเรียน อัลตร้า 2 มล. 1 ชิ้น ในราคาพิเศษเพียง 1,150 บาท

●   Philips: นักช้อปจะได้พบกับส่วนลดสูงสุด 60% และรับโค้ดลดเพิ่ม 50% พร้อมพบกันสินค้าราคาสุดคุ้ม อย่าง Philips Air Purifier เครื่องฟอกอากาศ สำหรับห้องขนาด 16-49 ตร.ม. ในราคาพิเศษเพียง 3,790 บาท

●   Sabina: นักช้อปเพลิดเพลินไปกับเสื้อชั้นใน Seamless Fit รุ่น Perfect Bra ในราคาพิเศษเพียง 359 บาท พร้อมพบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษในวันที่ 3 มีนาคา อย่าง สินค้าราคาเริ่มต้นเพียง 33 บาท และโค้ดส่วนลดเพิ่ม 50%

●   MamyPoko: พิเศษ เฉพาะลูกค้าช้อปปี้พบกับส่วนลดสูงสุด 60% บาทพร้อม โค้ดลดเพิ่ม 50% ยกระดับความคุ้มให้เหล่าแม่ๆ ด้วย MamyPoko Pants Premium Extra Dry (Toy Box) ราคาสุดคุ้มเพียง 1459 บาท จากราคาปกติ 1,930 บาท





เติมเต็มความสนุกใน “Shopee Prizes” และ “Shopee Live” พร้อมแจกรางวัลรวมกว่า 9 ล้านบาท

ช้อปปี้ ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างปฏิสัมพันธ์และเติมเต็มประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ให้นักช้อปชาวไทยทุกคนเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความบันเทิงยิ่งขึ้น ผ่านการยกระดับ 2 ฟีเจอร์ยอดนิยมที่ครองใจผู้ใช้งานหลายล้านคนอย่าง “Shopee Prizes” และ “Shopee Live” ที่มาพร้อมความคุ้มด้วยโค้ดส่วนลดสุดพิเศษ ตลอดจน Shopee Coins โดยตั้งแต่วันที่  22 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2564 นักช้อปชาวไทยจะได้พบกับ

●   เพลิดเพลินไปกับ Shopee Live: แฟนพันธุ์แท้ช้อปปี้ เตรียมตัวพบกับการกลับมาของ 3.3 Shopee Live Mega Festival ครั้งนี้กลับมาพร้อมความยิ่งใหญ่ที่มามอบความสนุกผ่านกิจกรรมต่างๆ ไปพร้อมกับความคุ้มค่าผ่านโปรโมชั่นสุดแรง อย่าง โค้ดส่งฟรีขั้นต่ำ 0 บาท  และ สินค้าราคาแฟลชเซลล์เริ่มต้น 0 บาท ทุกวัน 3 เวลา 11.00น. 12.00 น.และ 21.00 น. เพิ่มดีกรีความพิเศษไปอีกขั้น วันที่ 2 - 3 มีนาคม เตรียมพบกับการอุ่นเครื่องเพื่อต้อนรับการเค้าน์ดาวน์สู่วันดีเดย์ของแคมเปญด้วย Shopee Live Marathon กว่า 13 ชั่วโมงเต็ม เสิร์ฟความบันเทิงแบบนอนสตอปจากเหล่าดารา เซเลบริตี้ชื่อดัง อาทิ นนท์-ธนนท์ แคทตี้-แคทเธอรีน, หมอบี-ทูตวิญญาณ และอีกมากมาย

●   เติมความสนุกด้วย Shopee Prizes : นักช้อปสายเกมตัวยงจะได้พบกับเหล่ากองทัพเกมฮิตตลอดสองสัปดาห์ อย่าง Shopee Farm, Shopee Daily Prizes, Shope Candy และ Shopee Bubble ที่ขนรางวัลมาแจกอย่างไม่มีกั๊ก อย่าง แหวนทอง 1.9 กรัม, สร้อยข้อมือทองคำ 1 สลึง, สมาร์ทโฟน Oppo, TV Samsung ,Huawei Matepad, แพ็คเกจตรวจสุขภาพโรงพยาบาลกรุงเทพ โค้ดส่วนลดและอื่นๆอีกมากมาย

พบดีลเด็ดและโปรโมชั่นสุดแรงในแคมเปญ Shopee 3.3 Big Brands Sale ที่มาพร้อมส่วนลดราคาสินค้าถึง 50% พร้อมช้อปรับเงินคืนสูงสุด 50% Shopee Coins ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. - 3 มี.ค. 64 ที่ https://shopee.co.th/m/3-3

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นช้อปปี้ได้ฟรีจาก App Store หรือ Google Play Store




Pages: 1 ... 790 791 [792] 793 794 ... 2406