enjoyjam.net

นวัตกรรมยานยนต์ => นวัตกรรมยานยนต์ - รถยนต์ - มอเตอร์ไซต์ - อุปกรณ์เสริม => Topic started by: MSN on March 17, 2015, 01:00:02 PM

Title: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 17, 2015, 01:00:02 PM
บางกอก อินเตอร์เนชัลแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 36

สถานที่: อิมแพ็ค เมืองทองธานี

วันที่จัดกิจกรรม: 25 มีนาคม 2558 - 5 เมษายน 2558 เวลา 11:00 น.
 
บางกอก อินเตอร์เนชัลแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 36
Type :Exhibition Public
Date :25 March 2015 - 05 April 2015
Detail :สถานที่จัดงาน: ชาเลนเจอร์ 1-3
บัตรราคา 100 บาท

วันวีไอพี (VIP Day) 23 มี.ค. เวลา 12.00 - 20.00 น.
วันสื่อมวลชน (Press Day) 24 มี.ค. เวลา 09.59 - 18.00 น.
วันจัดแสดงงาน (Public Day) 25 มี.ค. - 5 เม.ย.
จ.-ศ. เปิด-ปิด เวลา 12.00 - 22.00 น.
ส.-อา. เปิด-ปิด เวลา 11.00 - 22.00 น.

Contact Event Organizer
บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด
โทร. 02-971-6467
เว็บไซต์: www.grandprixgroup.com
เว็บไซต์งาน: www.bangkok-motorshow.com
Title: Re: งาน Bangkok International Motor Show 2015
Post by: MSN on March 17, 2015, 01:01:13 PM
โซนี่ ร่วมออกบู๊ธจัดแสดงเทคโนโลยีล่าสุดในงาน Motor Show 2015



           บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เตรียมจัดแสดงผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีล่าสุดที่งาน Bangkok International Motor Show 2015 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 บู๊ธ D02 อิมแพค เมืองทองธานี ศูนย์แสดงสินค้า และการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี ได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน ศกนี้

          พบกับผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีล่าสุดของเครื่องเสียงรถยนต์ อาทิ ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ชุดฟร้อนท์ระดับไฮเรสออดิโอ ซึ่งนำมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในเอเซีย ส่งตรงจากงาน CES 2015 และการเปิดตัวครั้งแรกของ เครื่องเล่นวิทยุซีดีในรถยนต์กำลังขับสูงถึง 100 วัตต์ในตัว เครื่องแรกในโลกที่ให้เสียงกระหึ่มทรงพลังโดยไม่ต้องต่อแอมป์พลิฟลายเออร์เพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงพกพาระดับไฮเรสออดิโอ และกล้อง Action Cam และเร้าใจกับโปรโมชั่นราคาพิเศษ พร้อมของสมนาคุณสุดคุ้มภายในงาน ตลอดจนกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย

          โซนี่ไทยจึงใคร่ขอเรียนเชิญสื่อมวลชน และผู้สนใจทุกท่านที่มีโอกาสเข้าชมงาน Bangkok International Motor Show 2015 แวะชมเทคโนโลยี และสัมผัสประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์โซนี่ล่าสุดได้ที่บู๊ธโซนี่ ที่งานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม จนถึง 5 เมษายน ศกนี้
Title: Re: งาน Bangkok International Motor Show 2015 งาน “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่36
Post by: MSN on March 17, 2015, 01:17:59 PM
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เตรียมแนะนำ “เดลิกา สเปซ แวกอน”รถยนต์อเนกประสงค์ เหนือระดับ (Premium MPV) นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และแอททราจรุ่นปี 2015 ในงาน มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36



           มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว “เดลิกา สเปซ แวกอน”รถยนต์อเนกประสงค์เหนือระดับ (Premium MPV) นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เจาะกลุ่มนักธุรกิจและครอบครัว พร้อมด้วยมิตซูบิชิ “แอทราจใหม่ รุ่นปี 2015” ที่ปรับโฉมใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ให้การประหยัดน้ำมันพร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครันยิ่งขึ้น พร้อมส่งรถครบไลน์ร่วมงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ พลาดไม่ได้กับข้อเสนอสุดพิเศษดาวน์ต่ำ 10% ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% บัตรกำนัลมูลค่าสูงสุด 25,000 บาท และฟรีประกันภัยชั้น 1 ลุ้นรับทองคำมูลค่า 58 บาท และข้อเสนอพิเศษอีกมากมายในงานและที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ

          มร. โมะริคาซุ ชกคิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงการเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายนนี้ว่าในปีนี้มิตซูบิชิ เตรียมเปิดตัว“เดลิกา สเปซ แวกอน”รถยนต์อเนกประสงค์เหนือระดับ (Premium MPV) นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่โดดเด่นด้วยระบบความปลอดภัยครบครัน สมรรถนะและดีไซน์ที่ลงตัวทั้งภายนอกและภายใน ห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายรองรับได้ถึง 7 ที่นั่ง ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เหมาะสำหรับนักธุรกิจและผู้ที่มองหารถสำหรับครอบครัว พร้อมแนะนำรถยนต์มิตซูบิชิ “แอททราจ รุ่นปี 2015” ที่ได้รับการปรับโฉมภายนอกให้เท่ยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าและคิ้วฝากระโปรงท้ายแบบโครเมียมรมดำ ล้ออัลลอยด์ขนาด 15 นิ้ว สีเงินรมดำ พร้อมสีมาตรฐานใหม่ “สีเทาไทเทเนี่ยม” โดยภายในมาพร้อมเบาะหนังสีดำ เพิ่มความรู้สึกสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยการเย็บด้วยด้ายสีแดงนอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยที่ครบครันยิ่งขึ้นและยังคงให้ความประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยม

          นอกเหนือจากการเปิดตัว 2 รุ่นดังกล่าวแล้ว มิตซูบิชิยังคงนำรถรุ่นต่างๆ ร่วมงานครบทุกรุ่นทั้ง มิตซูบิชิ “มิราจ” รุ่นปี 2015 ที่มาพร้อมนิยาม “ให้คุณสนุกได้มากกว่า” และมิตซูบิชิ “ไทรทันใหม่” รถกระบะที่ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์การเป็นที่สุดของรถกระบะอเนกประสงค์แบบสปอร์ต “Ultimate Sport Utility Truck” ที่มาโชว์ครบทุกรุ่นทั้ง ดับเบิ้ลแค็บ เมกะแค็บและซิงเกิ้ลแค็บ รวมไปถึงมิตซูบิชิ “ปาเจโร่ สปอร์ต” รุ่น

          ปี 2014 ที่มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งชุดไฟส่องสว่างกลางวันฟรีสำหรับทุกรุ่น รวมทั้งมิตซูบิชิ “แลนเซอร์ อีเอ็กซ์” พิเศษกับอีกไฮไลท์ของงานด้วยรถยนต์มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ ตกแต่งพิเศษซึ่งได้แรงบันดาลใจจากความชอบส่วนตัวของ “มาริโอ้ เมาเร่อ” พรีเซ็นเตอร์ของมิตซูบิชิ แอททราจ และ “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” นักแสดงหญิงชื่อดัง

          นอกจากนี้ยังมีโซนใหม่ของงานบริการหลังการขายภายใต้ชื่อ “Believe in Mitsubishi … Believe in Service” เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานบริการหลังการขาย พร้อมจัดแสดงอุปกรณ์ตกแต่งมิตซูบิชิ ไทรทันใหม่และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ RalliArt ซึ่งบริษัทฯได้เตรียมข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ รุ่นดับเบิ้ลแค็บภายในงานจะได้รับสติกเกอร์คาร์บอนติดเสาประตูกลางมูลค่า 610 บาท พร้อมติดตั้งฟรีในวันรับรถ

          สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถยนต์มิตซูบิชิภายในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 36 และที่โชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายนนี้ รับข้อเสนอพิเศษดังนี้ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่เลือกดาวน์ต่ำเริ่มต้นเพียง 10% หรือผ่อนนานสูงสุด 84 เดือน และบัตรกำนัลมูลค่า 10,000 บาท ในขณะที่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รับดอกเบี้ย 0% ส่วนมิตซูบิชิ มิราจ มิตซูบิชิ แอททราจ และมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ รับดอกเบี้ยต่ำ 1.45% โดยรับเพิ่มบัตรกำนัลมูลค่าสูงสุด 25,000 บาท และ“ไดมอนด์ โปรเทคชั่น” ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงฟรี 1 ปี

          ทั้งนี้ลูกค้าที่รับมอบรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2558 มีสิทธิ์ลุ้นรับทองคำและคูปองน้ำมันจากกิจกรรม “มิตซูบิชิ แฮปปี้ เฟสติวัล” (Mitsubishi Happy Festival) รวม 580 รางวัลมูลค่ารวมกว่า 8.6 ล้านบาท
          - ทองคำหนัก 58 บาท จำนวน 1 รางวัล
          - ทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 200 รางวัล
          - คูปองน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท จำนวน 379 รางวัล
          พิเศษ…!! สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่นในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 36;
          - กระเป๋าเดินทางสำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงาน และรับรถภายในวันที่ 31 พฤษภาคม
          - ผ้าขนหนูไทรทันสำหรับลูกค้าที่ทดลองขับภายในงาน

          ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองและรับรถยนต์มิตซูบิชิ ในงาน “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่36 และโชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายนนี้
          สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ หรือ มิตซูบิชิ Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 1800 900 009 หรือ โทร. 02-529-9500 ทุกวันจันทร์ - เสาร์ ระหว่างเวลา 8.30-17.00 น.

ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยได้ที่
Website : http://www.mitsubishi-motors.co.th
Facebook : https://www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH
Instagram : @MitsubishiMotors_Thailand
Youtube Channel : Mitsubishi Motors Thailand
Title: Re: งาน Bangkok International Motor Show 2015 งาน “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่36
Post by: MSN on March 17, 2015, 01:19:01 PM
Mitsubishi Motors to introduce “Delica Space Wagon”, the premium MPV imported from Japan and “Attrage 15MY” at the 36th Bangkok International Motors Show



           Mitsubishi Motors Thailand will introduce “Delica Space Wagon”, a premium MPV, which is imported from Japan and caters to business and family usages, at the upcoming Bangkok International Motor Show. Also to be highlighted is the Mitsubishi “Attrage” 15MY that boasts a new exterior and interior design, and still offers low fuel consumption as well as a host of safety features. A complete line-up of Mitsubishi products will be presented at the show with special promotions being offered – 10% low-down payment, 0% interest rate, Mitsubishi gift voucher with a maximum value of 25,000 Baht and free first-class insurance. In addition customers who place orders at the show are also eligible for special lucky draw prizes including 58 bath of gold. All special promotions campaigns will be offered at the show and at all Mitsubishi dealerships nationwide.

          Mr. Morikazu Chokki, President of Mitsubishi Motors (Thailand) Co. Ltd., talked about Mitsubishi’s participation at the upcoming 36th Bangkok International Motor Show, which will be held during March 25 through April 5, stating that Mitsubishi will introduce “Delica Space Wagon”, a premium MPV model imported from Japan. “The new model delivers outstanding exterior design and utility together with high level of safety functions, performance, spacious interior with 7 seats plus complete utility. It is an ideal MPV for businessmen and those looking for a perfect family vehicle,” he said. Meanwhile, the Mitsubishi “Attrage 15MY” comes with an updated design to enhance its appearance with dark chrome front grille and trunk lid garnish, dark chrome 15-inch alloy wheels and new “Titanium Grey” body color. The interior provides a higher level of sportiness through the black leather-upholstered seats with red stitching. The Attrage’s main highlights include its extremely low fuel consumption and full package of safety functions.
Apart from the introduction of these two models, Mitsubishi will also be exhibiting a full range of products. While the “Mirage 15MY” is featured with the “Make life more fun” slogan, the Mitsubishi “All New Triton” has been developed under the “Ultimate Sport Utility Truck” concept and will be shown in single cab, mega cab and double cab body variants. The Mitsubishi “Pajero Sport 14MY” comes with improvements including daytime running lights that are offered as standard across the range. The Mitsubishi “Lancer EX” compact sedan will also be presented. The Mitsubishi “Attrage and Mirage” that are specially customized through inspiration from celebrities “Mario Maurer”; the Mitsubishi Attrage presenter and “Taew Nattaporn Tameeruks” will also be displayed as the highlights at the Mitsubishi showcase.

          At Mitsubishi’s booth, a new zone for After Sales service, Accessories and RalliArt products will be introduced under the theme “Believe in Mitsubishi … Believe in Service”. It will provide after sales service information, display accessories for the All New Triton and RalliArt products for sale. Customers who place orders for the All New Triton Double Cab will also receive B-pillar decoration foil worth 610 Baht with free installation on delivery date.

          Customers who place orders for Mitsubishi vehicles at the 36th Bangkok International Motor Show and at all Mitsubishi showrooms nationwide from March 25 to April 5 will also enjoy special offers. All New Triton buyers can choose between low down payment starting at 10% or 84-month installment plan, and get a Mitsubishi gift voucher valued at 10,000 Baht, while customers who book the Pajero Sport will be offered 0% interest rate and 1.45% interest rate for the Mirage, Attrage and Lancer EX. All models come with Mitsubishi gift vouchers with maximum value of 25,000 Baht and the “Diamond Protection” package consisting of first-class vehicle insurance and 24-hour roadside assistance service for 1 year.

          In addition, customers who receive their vehicles within April 30 this year are also eligible for the “Mitsubishi Happy Festival” campaign lucky draw and stand a chance to win gold and gift vouchers worth a total of over 8.6 million Baht.
          - 1st prize 58-Baht Gold 1 prize
          - 2nd prize 1-Baht Gold 200 prizes
          - 3rd prize 10,000 Baht gift voucher 379 prizes
          Special…!! Booking customers at the 36th Bangkok International Motor Show will receive:

          Travelling bag for customers who place orders at the Motor Show and receive the vehicle within May 31. All New Triton towel for customers who book a test drive at the Motor Show.

          Details of special campaign for customer who purchase any model of Mitsubishi at the 36th Bangkok International Motor Show and nationwide showroom from 25 March till 5 April 2015

          For more information please contact “Mitsubishi Dealers nationwide” or call “Mitsubishi Call Center”: 1800 900 009 or 02-529-9500 from Monday - Saturday during 8.30-17.00.

Please follow Mitsubishi Motors Thailand’s movement from;
Website : http://www.mitsubishi-motors.co.th
Facebook : https://www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH
Instagram : @MitsubishiMotors_Thailand
Youtube Channel : Mitsubishi Motors Thailand
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 17, 2015, 01:22:03 PM
ซูบารุ เตรียมเผยโฉม All NEW OUTBACK สุดยอดรถยนต์ด้านความปลอดภัยครั้งแรกในไทยด้วยราคา 2.59 ล้านบาท







           ซูบารุ เตรียมเผยโฉม All NEW OUTBACK สุดยอดรถยนต์ด้านความปลอดภัยครั้งแรกในไทย ด้วยราคา 2.59 ล้านบาท ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 36 25 มี.ค. – 5 เม.ย. นี้ ที่ ชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี

          ซูบารุ พร้อมลงสังเวียนตลาดรถครอสโอเวอร์เมืองไทยแบบเต็มสูบ ล่าสุดส่ง ‘The All-new OUTBACK’ ร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 หลังจากเรียกน้ำย่อยด้วยการอวดโฉมให้แฟนคลับชาวไทยได้สัมผัสโมเดลใหม่ล่าสุดไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

          บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ซูบารุจะใช้เวทีการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 เป็นเวทีที่จะเผยโฉม Flagship Model แห่งปี อันได้แก่ ‘The All-new OUTBACK’ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ในราคา 2.59 ล้านบาท รถยนต์รุ่นนี้ได้รับผลตอบรับที่ดีจากทั่วทุกมุมโลกที่พิสูจน์สมรรถนะ จนสามารถคว้ารางวัลการการันตีด้านความปลอดภัย จากหลายสถาบัน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ ‘The All-new OUTBACK’ สามารถสร้างยอดขายแบบติดลมบน ในทุกประเทศทั่วโลก และปรากฏการณ์ดังกล่าวกำลังจะเกิดขึ้นในเมืองไทยด้วยเช่นกัน

          ‘The All-new OUTBACK’ สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะแห่งผู้นำด้านคุณภาพและความปลอดภัย ด้วยการคว้ารางวัลการันตีระดับโลกมาครองได้อย่างภาคภูมิ อาทิ รางวัลการันตีความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก 2014 European New Car Assessment Programme (EURO NCAP), รางวัล 2015 Canadian Black Book (CBB) Best Retained Value Award ถือเป็นการคว้ารางวัลสุดยอดรถยนต์คุณภาพแบบ 6 ปีซ้อน, รางวัลรถยนต์ที่ปลอดภัยสูงสุดแห่งปีจาก 2015 TOP SAFETY PICK (TSP) เป็นต้น และด้วยคุณภาพ สมรรถนะแห่งความเป็นที่สุดนี้ ‘The All-new OUTBACK’ จึงเป็นหลักที่ช่วยผลักดันให้ยอดขายรถยนต์ซูบารุ ในอเมริกาพุ่งสูงสุดถึง 500,000 คันในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จที่ซูบารุต้องจารึกไว้ อย่างเต็มภาคภูมิ

          ทั้งนี้ภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 นอกจากจะเปิดตัวรถครอสโอเวอร์สุดฮอตระดับโลก อย่าง‘The All-new OUTBACK’ เป็นครั้งแรกในไทยแล้ว บ.ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) ยังได้เอาใจผู้ที่ชอบความเร็วและแรง ผสานความดุดันของเครื่องยนต์ซูบารุ ด้วยการเผยโฉมรถสปอร์ต ‘ซูบารุ BRZ’ ในราคาเริ่มต้นที่ 2.08 ล้านบาท และเผยโฉมรถสปอร์ตซิกเนเจอร์ของซูบารุ WRX STI ที่มาพร้อมชุดแต่ง ‘STI KIT’ เอกสิทธิ์แห่งดีไซน์ที่ผสานความแรงอย่างลงตัว ในราคา 3.35 ล้านบาท และผู้ที่ชอบการเดินทางในทุกมิติก็ยังได้สัมผัส กับ ‘SUBARU FORSTER’ ในราคาเริ่มต้นที่ 1.69 ล้านบาท ภายในงานอีกด้วย
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 17, 2015, 01:24:04 PM
Subaru Ready to Unveil All NEW OUTBACK, the Ultimate in Automotive Safety,for the First Time in Thailand for 2.59 Million Baht at the 36th Bangkok International Motor Show







          Subaru Ready to Unveil All NEW OUTBACK, the Ultimate in Automotive Safety, for the First Time in Thailand for 2.59 Million Baht at the 36th Bangkok International Motor Show from March 25 - April 5 at Challenger Hall,  IMPACT Muang Thong Thani

          Subaru is ready to fully enter the Thai crossover market with its latest launch of the “All-new OUTBACK” at the 36th Bangkok International Motor Show, after giving the Thai fan club a preview of the new model at the end of last year.

          TC Subaru (Thailand) Co., Ltd. revealed that Subaru will take the stage at the 36th Bangkok International Motor Show to showcase the flagship model of the year. This “The All-new OUTBACK” will be officially launched in Thailand, with a price tag of 2.59 million baht. This vehicle has been well-received in every corner of the globe, where it has received awards from many institutions that guarantee its safety features. This is the main factor that allows “The All-new OUTBACK” to command steady sales in countries all over the world. And now, the phenomenon is here in Thailand, as well.

          “The All-new OUTBACK” has demonstrated Subaru’s power as the leading provider of quality and safety. It has been the proud recipient of numerous awards, such as the 5-star safety designation from the 2014 European New Car Assessment Programme (EURO NCAP); the 2015 Canadian Black Book (CBB) Best Retained Value Award, a great reflection of quality as the company has won such an award for six consecutive years; and the safest car of the year award from 2015 TOP SAFETY PICK (TSP), among others. This superior performance has boosted sales of “The All-new OUTBACK” for Subaru in the United States, which shot up to 500,000 units last year. This is indeed a proud record of success for Subaru.

          In addition to the launch of “The All-new OUTBACK” crossover at the 36th Bangkok International Motor Show for the first time in Thailand, TC Subaru (Thailand) Co., Ltd. will also cater to those who love speed and power, combined with the signature qualities of a Subaru, with the unveiling of the sporty “Subaru BRZ”, with prices starting at 2.08 million baht. It will also launch Subaru’s signature sports car, “WRX STI”, which comes with a “STI KIT” of accessories that reflect an exclusive, well-executed design. This package comes with a tag of 3.35 million baht. And for those who like to travel in all dimensions, the company will showcase the “SUBARU FORSTER”, with prices starting at 1.69 million baht, at the event.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 19, 2015, 02:48:48 PM
นิสสัน รุกตลาดหนักต้นปี นำเสนอรถครบทุกเซกเมนต์ ชู 4 โมเดลหลัก ล้ำสมัย นำตลาด ในงานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36


 
           นิสสัน แนะนำ นิสสัน จู๊ค ใหม่ นิสสัน เอ็กซ์เทรล นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และ นิสสัน อัลเมร่า รุ่นสปอร์ตเทค รุกตลาดหนักตั้งแต่ตันปี จัดโชว์รถครบทุกรุ่นทุกเซกเมนต์ ตอบทุกความต้องการ ตอกย้ำความเป็นนวัตกรรมที่ตื่นเต้น เร้าใจ

          นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้ารุกตลาดรถยนต์ต่อเนื่อง พร้อมยกทัพรถนิสสันมาจัดแสดงโชว์ ครบทุกรุ่นทุกเซกเมนต์ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกกลุ่ม ตอกย้ำพันธะสัญญาของบริษัทในการสร้างนวัตกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจ พร้อมแนะนำข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถยนต์ทุกรุ่น ปลุกกระแสกำลังการซื้อและกระตุ้นยอดขายในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 นี้
          นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “จากความสำเร็จนับตั้งแต่เปิดตัวรถยนต์นิสสัน มาร์ช อีโค คาร์ คันแรกในประเทศไทย เมื่อปี 2553 รวมไปถึงการทะยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆอีก 10 รุ่น และ รุ่นไมเนอร์เชนจ์อื่นๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งใน งานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36นี้ นิสสันมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่จะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สรรสร้างจากนวัตกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจและครบครันด้วยรถยนต์ทุกรุ่นทุกเซ็กเมนต์ให้แก่ลูกค้าทุกระดับที่จะเข้ามาเยี่ยมชมรถภายในบูธนิสสันของเรา พร้อมได้จัดเตรียมโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับรถแต่ละรุ่นให้กับลูกค้าได้เลือกสรร อาทิเช่น ดาวน์ต่ำ 5% หรือ อัตราดอกเบี้ย 0% หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 ถือว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่นิสสันจะกระตุ้นกำลังการซื้อและปลุกกระแสตลาดรถยนต์ตั้งแต่ต้นปี และเรามั่นใจว่า รถยนต์ทุกรุ่นจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่ได้ไว้วางใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์นิสสัน ที่ล้วนเป็นรถยนต์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมอันล้ำสมัย ดีไซน์ที่โดดเด่น เทคโนโลยีอัจฉริยะ ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และให้ความปลอดภัยที่เหนือระดับ”
          สำหรับบูธของนิสสันในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 36 จัดแสดงภายใต้แนวคิด นวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ Innovation that excites พื้นที่ 1,728 ตารางเมตร ถูกออกแบบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญการสร้างสรรค์เทคโนโลยีพร้อมกับอุปกรณ์สื่อสารรูปแบบต่างๆ ภายใต้วงแหวนแห่งประสบการณ์ โดยจะเน้นการถ่ายทอดสัมผัสแห่งความปิติยินดีที่นำเสนอจากความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจในอดีตของนิสสันในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตยานยนต์ที่ใหญ่และดีที่สุดในโลก นอกจากนี้ผู้เข้าชมงานภายในบูธนิสสันยังจะได้สัมผัสนวัตกรรมการใช้พลังกลิ่นหอมของอโรมาที่ฟุ้งกระจายอยู่โดยบริเวณรอบๆ ทำให้ผู้เข้าชมงานเกิดความรู้สึกสงบและผ่อนคลายภายใต้บรรยากาศความพลุกพล่านและคึกคักของงานด้วย
          นิสสันได้นำรถยนต์มาจัดแสดงรวมทั้งสิ้น 9 รุ่น คือ นิสสัน เทียน่า นิสสัน ซิลฟี นิสสัน ลิวิน่า นิสสัน มาร์ช และ นิสสัน เออร์แวน และอีก 4 รุ่นที่นับเป็นไฮไลต์ คือ นิสสัน จู๊ค ใหม่ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา และ นิสสัน อัลเมร่า รุ่นสปอร์ตเทค
          นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) ยังได้ฉายภาพถึงจุดเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การเป็นนิสสันยุคใหม่ ที่มาพร้อมกับนโยบายเชิงรุกว่า “หลังจากการเปิดตัวนิสสันมาร์ช ซึ่งได้รับความนิยมและตอบรับอย่างล้นหลามเมื่อ 5 ปีก่อน นิสสันก็ได้ก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่อาจเรียกได้ว่าเป็นยุคใหม่ของนิสสัน ซึ่งจากการไม่หยุดนิ่งในการนำเสนอรถรุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่มีความใหม่ แตกต่าง และตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งด้านสมรรถนะและดีไซน์ ที่มีความล้ำสมัย และมีความเท่ห์ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มลูกค้าของนิสสันขยายกว้างขึ้น โดยมีลูกค้าใหม่ เพิ่มขึ้นมากกว่า 4 แสนราย โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ๆ ซึ่งควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และกลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากที่สุด หลายปีมานี้และนับจากนี้ไป นิสสันจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ามากขึ้น โดยมีการพัฒนาโชว์รูมและศูนย์บริการ ทั้งในด้านปริมาณและด้านคุณภาพการบริการหลังการขาย”
          นอกจากนี้ยังกล่าวเสริมว่า “นิสสันมีแผนที่จะพัฒนาและยกระดับโชว์รูมและศูนย์บริการของนิสสันให้มีความครบวงจร ได้มาตรฐาน คลอบคลุมทุกหัวเมืองใหญ่ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เราได้เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการในเมืองใหญ่หลายจังหวัด อาทิ หัวหิน นางรอง ฯลฯ โดยขณะนี้มีจำนวน 209 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 220แห่งภายในปี 2558 นี้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว และมีความมั่นใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของนิสสันมากขึ้น”
          พบกับข้อเสนอสุดพิเศษอื่นๆที่น่าสนใจได้จากโปรแกรม Nissan Easy Pay ผู้สนใจสามารถสัมผัสและเยี่ยมชมนวัตกรรมรถยนต์นิสสันได้ที่บูธภายในงานตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึงวันที่ 5 เมษายน 2558 ที่ชาเลนเจอร์ฮอลส์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

4 รุ่น ไฮไลท์ ของนิสสัน ในงานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36
          นิสสัน จู๊ค ใหม่ ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Bold and Futuristic Design ด้วยดีไซน์สปอร์ตสุดเท่ เพิ่มความดุดันด้วยไฟรี่ LED รูปทรงใหม่แบบ Boomerang Shape ล้ำสมัยและเฉียบคมด้วยกระจังหน้า กันชนหน้า และกันชนท้ายใหม่ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ คนรุ่นใหม่ นำเทรนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยกับระบบสื่อสาร EZ Talk ใส่ความปลอดภัยเต็มขั้น ด้วยถุงลม 6 จุดรอบคัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถยนต์ประเภทคอมแพค สปอร์ตครอสโอเวอร์ ด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านคัน ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และกว่า 1 หมื่นคันในประเทศไทย นับตั้งแต่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2556 ที่ผ่านมา
นิสสัน จู๊ค ใหม่ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร มี 6 สี โดยมีทั้งหมด 3 รุ่น
NEW JUKE 1.6 S 799,000 บาท
NEW JUKE 1.6 E 854,000 บาท
NEW JUKE 1.6 V 884,000 บาท
          อีกหนึ่งไฮไลท์ ที่นิสสันภูมิใจนำเสนอ ได้แก่ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ รถอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม ที่ได้รับการออกแบบใหม่ด้วยภายนอกและภายในที่โดดเด่นเหนือใคร ประณีต ใส่ใจทุกรายละเอียด ผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์ประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ 3 มิติ ขนาด 5 นิ้ว แสดงผลข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการขับขี่ และไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ระบบกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ และระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ ส่วนพื้นที่ภายในแบบ 3 แถว และที่นั่งแบบ 5+2 ที่ ซันรูฟแบบพาโนรามิค
และประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกสบายและพื้นที่ใช้สอย สนุกและเชื่อมต่อสังคมออนไลน์ง่ายๆด้วย NISSAN CONNECT ตอบโจทย์ทุกการขับขี่ที่รื่นรมย์อย่างเหนือระดับ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีด้วยยอดขายรวมกว่า 3,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร มี 6 สี โดยมีทั้งหมด 4 รุ่น
ALL-NEW NISSAN X-Trail 2.0 S 2WD CVT 1,172,000 บาท
ALL-NEW NISSAN X-Trail 2.0 E 2WD CVT 1,246,000 บาท
ALL-NEW NISSAN X-Trail 2.0 V 4WD CVT 1,325,000 บาท
ALL-NEW NISSAN X-Trail 2.5 V 4WD CVT 1,551,000 บาท
          นิสสันยังเสริมทัพไลน์รถกระบะด้วย นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ ซึ่งเป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะตอนเดียวที่ติดตั้งกล้องมองหลังและที่เหยียบขึ้นกระบะด้านข้างเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมนำเสนอผู้ที่ต้องการพลังงานทางเลือกด้วย นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ทุกตัวถัง ทำให้นิสสันครบครันด้วยรถกระบะครบทุกการใช้งาน ตอกย้ำชื่อเสียงอันโดดเด่นในสมรรถนะพันธุ์แกร่งของรถกระบะนิสสัน พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทุกระดับ
นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร มี 3 สี
NP300 NAVARA SC / 6MT Chassis 498,000 บาท
NP300 NAVARA SC / S 6MT 508,000 บาท
NP300 NAVARA SC / SL 6MT 516,000 บาท
นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร มี 7 สี
NP300 NAVARA SC (S 6MT Gasoline) 456,000 บาท
NP300 NAVARA KC (E 6MT Gasoline) 579,000 บาท
NP300 NAVARA DC CALIBRE (E 6MT Gasoline) 749,000 บาท
          นอกจากนี้ นิสสันยังกระตุ้นตลาดอีโค คาร์ ด้วย นิสสัน อัลเมร่า รุ่น สปอร์ตเทค รถอีโค คาร์ ซีดาน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ซึ่งได้ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้นิยมความเป็นรถสปอร์ต ด้วยกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมช่องกันชนล่างลายรังผึ้งแบบสปอร์ต กระจังหน้าแบบโครเมียม รมดำ สเกิร์ตด้านข้างและด้านหลัง ไฟหน้าฮาโลเจนพร้อมด้วยภายในสีโครเมียม รมดำ ไฟส่องสว่าง เวลากลางวัน พร้อมกับล้ออัลลอยด์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว สีรมดำพิเศษ และโลโก้รุ่นด้านท้าย Sportech และพวงมาลัยหุ้มหนัง ทั้งหมดนี้เป็นการออกแบบเพื่อให้อัลเมร่า สปอร์ตเทค เป็นรถที่ดูทันสมัยแต่เต็มไปด้วยพละกำลัง
นิสสัน อัลเมร่า รุ่น สปอร์ตเทค เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร มี 3 สี โดยมีทั้งหมด 2 รุ่น
NISSAN ALMERA 1.2 E Sportech 525,000 บาท
NISSAN ALMERA 1.2 VL Sportech 625,000 บาท
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 19, 2015, 02:49:26 PM
ครั้งแรกของฟอร์ด เรนเจอร์ ต่อสายตาชาวโลก พร้อมพบกับฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ในงานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015

          - พบฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รถกระบะพันธุ์แกร่งที่จะสร้างมาตรฐานให้กับตลาดรถกระบะ
          - พร้อมเปิดจอง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รถเอนกประสงค์สมรรถนะสูง ที่พร้อมด้วยเทคโนโลยีและความสะดวกสบายอย่างลงตัว ในงานนี้
          - พบกับข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถฟอร์ดทุกรุ่นเฉพาะในงานนี้เท่านั้น



          ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ประกาศแผนเปิดตัวรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ครั้งแรกของโลก ภายในงานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 รวมถึงพร้อมเปิดตัว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รถเอนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดกลางเป็นครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน โดยฟอร์ดจะผลิตรถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้ ณ โรงงานของฟอร์ดในประเทศไทย เพื่อการจำหน่ายในประเทศและส่งออกในภูมิภาค
          “การเปิดตัวรถใหม่ทั้งสองรุ่นนี้ เป็นการสานต่อกลยุทธ์หลักในการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่คุณภาพระดับโลกในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง” มร. แมท แบรทลีย์ ประธาน ฟอร์ด อาเซียน กล่าว
          “เราได้ใส่ความเชี่ยวชาญและความเป็นผู้นำด้านรถกระบะ และรถอเนกประสงค์ระดับโลกของเรา ไว้ในฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เราเชื่อมั่นว่า สิ่งเหล่านี้จะช่วยดึงดูดให้เราสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ให้เพิ่มมากขึ้นทั่วภูมิภาคอย่างแน่นอน”
          ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังคงความเป็น “รถกระบะพันธุ์แกร่ง” และจะยังคงเป็นรถที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถกระบะได้เหมือนกับฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นปัจจุบันได้ทำมาแล้ว
          เพื่อเป็นการเจาะกลุ่มตลาดรถเอนกประสงค์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด อีกทั้งเป็นเทคโนโลยีที่มีครั้งแรกในรถระดับเดียวกัน
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้ผสมผสานเอาความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดร่วมกับสมรรถนะการขับขี่แบบทั่วไปที่ยอดเยี่ยม พร้อมระบบการควบคุมที่เป็นเลิศ ส่งผลให้เป็นรถอเนกประสงค์ที่อยู่เหนือความคาดหมายกว่ารถเอนกประสงค์ทั่วไป
          ฟอร์ดจะประกาศราคาพร้อมเปิดจองรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015
          นอกจากนี้ บูธของฟอร์ดจะมีการจัดแสดงรถแนวหน้าระดับโลกทุกรุ่นที่จำหน่ายในเมืองไทย ได้แก่ ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต รถเอสยูวีสำหรับคนเมือง ฟอร์ด เฟียสต้า ที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวล้ำสมัย และฟอร์ด โฟกัส รถยนต์นั่งขนาดกลางที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย และในช่วงเวลาพิเศษนี้ ฟอร์ดพร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ฟอร์ดรุ่นต่างๆ ในงานมอเตอร์ โชว์
          “เรามีความยินดีที่จะมอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถฟอร์ดทุกรุ่นในงาน เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเป็นเจ้าของรถฟอร์ดคันใหม่ได้ง่ายขึ้น” นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
          นอกจากรถรุ่นใหม่ระดับโลกที่ฟอร์ดได้เตรียมนำมาแสดงในงานแล้ว ผู้เข้าชมยังจะได้พบกับการจัดแสดงและการให้ความรู้แบบอินเตอร์แอคทีฟในเรื่องด้านคุณภาพ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และเทคโนโลยีอัจฉริยะของฟอร์ด อีกด้วย
          งานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 ณ อาคาร อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 19, 2015, 02:55:35 PM
โคโรลล่า อัลติส เผยโฉม เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น พร้อมแนะนำพรีเซนเตอร์ใหม่ “ไอซ์ – ปรีชญา”






 
          นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์ซีดานสายพันธุ์สปอร์ต โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ตอกย้ำไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่รักความท้าทายต้องการความเร้าใจ มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นในตัวเองจนคนรอบข้างต้องหันมามอง (Look at Me Now) พร้อมเปิด พรีเซนเตอร์คนล่าสุด “ไอซ์ - ปรีชญา พงษ์ธนานิกร” คู่กับ “ไมค์ - พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2558 ที่ ลานกิจกรรมเซ็นทรัลเวิลด์สแควร์ ราชประสงค์ กรุงเทพฯ
          นายวิเชียร กล่าวว่า “การเปิดตัว โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ถือเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าที่รักความท้าทาย ต้องการความเร้าใจ โดยเฉพาะผู้ที่รักการขับรถที่ให้อารมณ์สนุกสนานในการขับขี่ โดย โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นในตัวเองจนคนรอบข้างต้องหันมามอง ภายใต้แรงบันดาลใจของรถยนต์ที่ผ่านบทพิสูจน์จากสนามแข่งขันระดับโลกอย่างนูร์เบอร์กริง ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยวชัดเจนทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงสมรรถนะในการขับขี่ที่น่าหลงไหล โดยเฉพาะช่วงล่างใหม่ที่ถูกออกแบบเพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ให้สอดคล้องกับการขับขี่แบบสปอร์ต ประกอบกับครีบแหวกม่านอากาศออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ช่วยลดแรงต้านอากาศและลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน”

โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น
แรงบันดาลใจจากการแข่งขันระดับโลกที่พิสูจน์สมรรถนะรถยนต์อย่างแท้จริง
          โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจของรถยนต์ที่ผ่านบทพิสูจน์ถึงความทนทานของเครื่องยนต์ ความหนึบของช่วงล่าง รวมถึงความแม่นยำของระบบเบรค ความเข้มข้นของรูปแบบการแข่งขันที่ยาวนาน ความยากและท้าทายของสนามแข่งขันระดับโลกนูร์เบอร์กริง
          ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ดุดันสะดุดตา ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) นับตั้งแต่บริเวณใต้ท้องรถ ไปจนถึงกระจกมองข้างและไฟท้าย ช่วยลดแรงต้านอากาศ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความสนุกสนานในการขับขี่ พร้อมกับสมรรถนะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยขุมพลังด้วย เครื่องยนต์เบนซิน DOHC Dual VVT-i 4 สูบแถวเรียง 1,800 ซีซี และระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Super CVT-i ที่ถูกปรับแต่งใหม่เพื่อเพิ่มอารมณ์การขับแบบสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นและประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม พร้อมด้วยช่วงล่างที่ปรับปรุงใหม่ ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลแต่เกาะถนนดียิ่งขึ้น มีการควบคุมบังคับที่คล่องตัว ระบบเบรคแม่นยำฉับไว ตลอดจนระบบมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น คือ สุดยอดรถยนต์ที่มีความยอดเยี่ยมเร้าใจสไตล์สปอร์ตทั้งดีไซน์และสมรรถนะ

ภายนอก...โฉบเฉี่ยว ด้วยจิตวิญญาณแห่งยานยนต์สปอร์ต
- ดุดันด้วยกระจังหน้า Piano Black พร้อมแถบ Gun Metallic
- ดีไซน์เร้าใจสปอร์ตทุกมุมมองด้วย สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง ท่อไอเสียแบบสปอร์ต
และสปอยเลอร์หลังดีไซน์พิเศษ
- บ่งบอกความเป็นรุ่นพิเศษด้วยสติกเกอร์ Nurburgring Edition บริเวณด้านข้างตัวรถ
- โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อม ไฟ LED Day Time Running Lights
และไฟท้าย LED Surface illumination แบบรมดำ
- ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ดีไซน์เข้มทุกมุมมอง

ภายใน … เข้ม เต็มอารมณ์ในทุกรายละเอียด
- ภายในสีดำสไตล์สปอร์ต
- เบาะหนังคู่หน้าแบบ Bucket Seat กระชับสรีระ ทุกจังหวะการขับขี่ ปั้มโลโก้ ESPORT และ ด้ายแดง
- วัสดุตกแต่งแผงคอนโซลหน้าแบบ Piano Black พร้อมแถบสีแดง และบุด้วยวัสดุแบบนุ่ม
- วัสดุตกแต่งแผงประตูสีแดง บ่งบอกถึงความเป็นสปอร์ตพันธ์แท้
- แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift เร้าใจสไตล์สปอร์ต
- มาตรวัดเรืองแสง 3 วง สปอร์ตเต็มขั้น
- พวงมาลัยหุ้มหนังตะเข็บแดงปรับระดับได้ 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง
- เครื่องเล่น DVD หน้าจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมรองรับระบบนำทางอัจฉริยะ Smart G-BOOK

          นายวุฒิกร กล่าวว่า “เพื่อเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์อันโดดเด่นของ อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น โตโยต้ามีความยินดีที่ได้นักแสดงสาวมากความสามารถ “ไอซ์ - ปรีชญา พงษ์ธนานิกร” ที่ประสบความสำเร็จจนได้รับการยกย่องเป็นนางเอกร้อยล้านคนล่าสุดจากภาพยนตร์ “ไอฟาย แต้งกิ้ว เลิฟยู้ว” มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ควบคู่ไปกับ ไมค์ - พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล
          เรามั่นใจว่าด้วยภาพลักษณ์ที่คล่องแคล่วและเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของทั้ง 2 คน จะสะท้อนเอกลักษณ์ของ โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ถึงความเป็นยนตรกรรมที่โฉบเฉี่ยวดุดัน ทั้งภายนอกและภายใน เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะความเร้าใจระดับโลกที่ตอบสนองได้ในทุกระดับของการขับขี่”
          “เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของรถยนต์โคโรลล่า อัลติส นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ในฐานะรถ โปรดักชั่นคันแรกที่ผลิตจากสายการผลิตในประเทศไทยเหมือนรถที่จำหน่ายอยู่ในโชว์รูม ที่สามารถพิชิตสนามนูร์เบอร์กริงสนามแข่งรถระดับตำนานของโลก เราจึงได้จัดกิจกรรม “Corolla Esport So Excited So Nurburgring” ตามรอยการแข่งขันรถระดับตำนาน พร้อมสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ความท้าทายจากสนามเวิลด์กรังด์ปรีซ์ เพื่อขอบคุณลูกค้าผู้มีอุปการคุณทุกท่าน โดยลูกค้าที่ซื้อรถยนต์โคโรลล่า อัลติส เกียร์อัตโนมัติทุกรุ่น ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 30 เมษายน 2558 จะได้รับสิทธิ์ในการส่งคูปองร่วมลุ้นชิงโชค หาผู้โชคดีในวันที่ 7 พฤษภาคม 2558 โดยจะมีการจับรางวัลเป็น แพกเกจทัวร์ ประเทศเยอรมัน – เบลเยี่ยม สำหรับ 2 ท่าน จำนวน 12 รางวัล รางวัลละ 300,000 บาท รวมมูลค่า 3,600,000 บาท” นายวุฒิกร กล่าวในที่สุด

เลือกเป็นเจ้าของ โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ได้ 2 สี
- สีขาวมุก...White Pearl
- สีดำ…Attitude Black Mica

ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและเครื่องปรับอากาศ)
- รุ่น 1.8 ESport Nurburgring Edition สีขาวมุก 959,000 บาท
- รุ่น 1.8 ESport Nurburgring Edition สีดำ 949,000 บาท

ร่วมสัมผัส โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 6 เมษายน 2558 ที่เมืองทองธานี

และที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า 410 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 20, 2015, 03:29:40 PM
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขนทัพยนตรกรรม 5 รุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัวแบรนด์ รถสปอร์ตหรู Mercedes-AMG ในงานมอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 36




 
           บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด สร้างสีสันครั้งใหม่ให้กับวงการรถหรูอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมรุ่นล่าสุดกว่า 5 รุ่น ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ อย่าง The new C-Class BlueTEC HYBRID ที่ประกอบในไทย (CKD), The new CLA Shooting Brake, The new GLE-Class Coupé, The new V-Class และ Mercedes-AMG GT S รวมทั้งจัดทัพนำขบวนยนตรกรรมหรูกว่า 30 คัน มาจัดแสดงใน งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี
          มร. ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์พรีเมี่ยมในประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์จึงไม่หยุดนิ่งที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง พร้อมสานต่อเจตนารมณ์ในการมอบ “สิ่งที่ดีที่สุด” และสะท้อนคุณค่าของแบรนด์ทั้งในด้านความหลงใหล (Fascination) และความสมบูรณ์แบบ (Perfection) ให้แก่ลูกค้า ซึ่งไฮไลท์ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ นอกจากจะมีการเปิดตัวยนตรกรรม 5 รุ่นใหม่ ที่ครบครันในทุกเซ็กเมนต์แล้ว ในปีนี้บริษัทฯ ยังได้นำเสนอบูธภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ "โมเดิร์น ลักซ์ชัวรี่" ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์เดียวกับที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ใช้ในงานปารีส มอเตอร์ โชว์ โดยประเทศไทยนับเป็นประเทศแรกในเอเชียที่นำเสนอบูธภายใต้คอนเซ็ปต์ดังกล่าว โดยการออกแบบจะเน้นไปที่การนำวัสดุ ลาเมลลา (Lamella) มาออกแบบบูธให้มีลักษณะของความพริ้วไหว บ่งบอกรูปลักษณ์ที่หรูหรา และโฉบเฉี่ยวของยนตรกรรม พร้อมดีไซน์แสงสีเสียง เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ของรถยนต์ทั้ง 5 รุ่นใหม่ ให้เห็นได้อย่างเด่นชัด”
          “ภายในบูธได้แบ่งออกเป็น 6 โซนหลัก ประกอบด้วย โซนที่ 1 การแสดงยนตรกรรมในกลุ่ม New Generation Compact Car โซนที่ 2 การแสดงยนตรกรรมในกลุ่ม Contemporary Luxury โซนที่ 3 การแสดงยนตรกรรมในกลุ่ม Dream Car โซนที่ 4 การจัดแสดงยนตรกรรมกลุ่ม AMG และ AMG Sport ภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG โซนที่ 5 การจัดแสดงนวัตกรรมยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี BlueTEC HYBRID ที่ปัจจุบันเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้นำเสนอรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลไฮบริดในตระกูล Contemporary Luxury ให้กับผู้บริโภคได้อย่าง ครบครันทั้ง C-E-S และโซนที่ 6 การจัดแสดงยนตรกรรมไฮไลท์ อันได้แก่ AMG GT S และ The new GLE-Class Coupé”
          มร. มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า “งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ในปีนี้ นับเป็นปีที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ รวมกว่า 5 รุ่น ครอบคลุมในทุกเซ็กเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่ม New Generation Compact Car (NGCC) อย่าง The new CLA Shooting Brake รถยนต์สปอร์ตคอมแพ็คแบบ 5 ประตู, กลุ่ม Contemporary Luxury อย่าง The new C-Class BlueTEC HYBRID ยนตรกรรมหรูที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริดซึ่งประกอบในไทย (CKD), The new V-Class รถยนต์อเนกประสงค์ขนาด 6 ที่นั่ง และกลุ่ม Dream Car อย่าง The new GLE-Class Coupé รถหรูที่ผสานดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวของรถยนต์สไตล์คูเป้ เข้ากับความแข็งแกร่งของรถยนต์แบบเอสยูวีไว้ได้อย่างลงตัว ปิดท้ายด้วย การเปิดตัวแบรนด์ Mercedes-AMG อย่างเป็นทางการในประเทศไทยผ่านการแนะนำรถยนต์รุ่น Mercedes-AMG GT S ซึ่งเป็นรถสปอร์ตรุ่นที่ 2 ของค่ายนี้ให้ลูกค้าได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด”

          The new C-Class BlueTEC HYBRID
          The new C-Class BlueTEC HYBRID นับเป็นยนตรกรรมในตระกูล C-Class ที่เข้ามาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์ดีเซลไฮบริดในกลุ่ม Contemporary Luxury ให้ครบครันมากยิ่งขึ้น โดยรถยนต์ทั้ง 2 รุ่น คือ C 300 BlueTEC HYBRID Exclusive และ C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic มาพร้อมกับ เทคโนโลยี HYBRID การทำงานอย่างยอดเยี่ยมของระบบควบคุมพลังงาน ซึ่งทำหน้าที่ในการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4 สูบกับมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบเกียร์ให้เป็นไปโดยอัตโนมัติ ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดใน การประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลพิษทุกครั้งที่ชะลอความเร็วหรือเบรก มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์แปลงพลังงานจลน์ที่เหลืออยู่ในระบบขับเคลื่อนให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าสะสมไว้ในแบตเตอรี่ลิเธี่ยม-ไอออนเพื่อเก็บสำรองไว้และนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งรถยนต์ รุ่นนี้ยังได้ผ่านมาตรฐานความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและปริมาณไอเสีย (Euro 6) ที่เข้มงวด อีกด้วย
          สำหรับ ดีไซน์ภายนอก ของ The new C-Class BlueTEC HYBRID ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดด้านสุนทรียศาสตร์แบบสมัยใหม่ผสานความพริ้วไหว และองค์ประกอบต่างๆ เข้าด้วยกัน ทำให้ตัวรถดูสปอร์ต ทันสมัย และเร้าใจขณะขับขี่ โดย C 300 BlueTEC HYBRID Exclusive หรูหราด้วยกระจังหน้าแบบคลาสสิกที่มาพร้อมกับโลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์บน ฝากระโปรงลาย 3 แถบเสริมโครเมียม และรุ่น C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic มาพร้อมกระจังหน้าแบบสปอร์ต มีสัญลักษณ์โลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลางบนลาย 2 แถบ พร้อมด้วยชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG สำหรับดีไซน์ภายใน ที่ได้รับการออกแบบโดยเน้นความหรูหรา แต่ยังคงความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิม นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังโดดเด่นด้วย แผงคอนโซลกลางที่สร้างเป็นชิ้นเดียวกับพนักวางแขน รวมถึง touchpad ที่ติดตั้งบริเวณ ที่พักแขน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ เครื่องเสียง อาทิ วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 ที่บริเวณคอนโซลได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
          นอกจากนี้ สำหรับ C 200 Avantgarde ยังนับเป็นยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมอีกรุ่นหนึ่งที่มี ความโดดเด่นด้วยชุดแต่งสปอร์ตแบบ Avantgarde ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว 5 ก้านคู่สีเทา และ ไฟหน้า LED High performance ที่ช่วยเพิ่มความสามารถของการส่องสว่างให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น พร้อมด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง ผสานกับเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO สีดำ ที่สะท้อนความเป็นสปอร์ตสำหรับคนรุ่นใหม่
          - C 200 Avantgarde ราคา 2,590,000 บาท
          - C 300 BlueTEC HYBRID Exclusive ราคา 2,840,000 บาท
          - C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic ราคา 3,090,000 บาท

          The new CLA Shooting Brake
          CLA 250 Shooting Brake AMG Sport รถยนต์สปอร์ตคอมแพ็คแบบ 5 ประตู โดดเด่นด้วย ดีไซน์ภายนอก ที่โฉบเฉี่ยว เร้าใจ จากเส้นสายลวดลายงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ กระจังหน้า ลายเพชร (Diamond radiator grille) สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ สร้างความโดดเด่นเคียงคู่อย่างกลมกลืนไปกับชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG (กันชนหน้า-หลังและ สเกิร์ตข้าง), กันชนท้ายแบบสปอร์ต พร้อมตกแต่งชายล่างของกันชนสีเดียวกับตัวรถ, ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ, ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์ เมอร์เซเดส-เบนซ์บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า, ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตลาย Multi-spoke จาก AMG ขนาด 18 นิ้ว และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (Electric panoramic sliding glass sunroof) เลื่อนเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ตลอดจนกระโปรงหน้าที่ยาว บานหน้าต่างแคบเรียว กระจกหน้าต่างข้างแบบไร้กรอบและหลังคาที่ลาดต่ำลง ซึ่งเพิ่มความน่าสนใจและ ความน่าหลงใหลให้กับรถยนต์คันนี้มากยิ่งขึ้น
          สำหรับ ดีไซน์ภายใน ได้รับการออกแบบอย่างทันสมัย ด้วยดีไซน์ของความแตกต่างที่ผสานกันได้อย่างลงตัว กับเบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfibre สีดำคลาสสิก ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยด้ายสีแดง แผงประตูบุด้วย DINAMICA microfibre สีดำ รวมถึงประโยชน์การใช้สอยที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 จอแสดงผลใหม่ในชุดควบคุมระบบมัลติมีเดียหน้าจอขนาด 8 นิ้วพร้อมรองรับการใช้งานระบบนำทาง (Pre-installation SD-card navigation), ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) ที่มีให้เลือกถึง 12 สี ด้วยหลอดไฟ แบบ LED เป็นต้น
          นอกจากนี้ ห้องโดยสารภายใน ได้ถูกออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยอันกว้างขวางทั้งยังประกอบด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันทันสมัย โดย The new CLA Shooting Brake มาพร้อมกับอุปกรณ์ติดตั้งมาตรฐานชุด EASY-PACK tailgate ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายอัตโนมัติ ซึ่งทำงานในระบบกลไกกึ่งไฟฟ้า สามารถเปิดได้จากปุ่มควบคุมเบาะนั่งผู้ขับขี่, บานประตูท้าย หรือจากกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ และยังสามารถปิดลงอีกครั้งด้วยปุ่มควบคุมที่บานประตูท้าย พร้อมทั้งการที่สามารถปรับที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังออกเป็น 1/3 : 2/3 ตอน ทำให้รถยนต์รุ่นนี้มีพื้นที่เก็บบรรทุกสัมภาระด้านหลังที่มีความจุถึง 495-1,354 ลิตร นับเป็นความจุสูงสุดของรถยนต์หรูในเซ็กเมนต์นี้ ซึ่งพื้นที่นี้สามารถรองรับทุกอุปกรณ์กีฬาและอุปกรณ์ทำงานคู่ใจ ซึ่งตอบโจทย์ ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับได้เป็นอย่างดี
          The new CLA Shooting Brake ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 1,991 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,200-4,000 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 17.5-18.2 กม./ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 7G-DCT พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering-wheel Gearshift Paddles) The new CLA 250 Shooting Brake AMG Sport ราคา 2,890,000 บาท

          The new GLE-Class Coupe
          The new GLE-Class Coupé นับเป็นสมาชิกลำดับล่าสุดในรถยนต์ตระกูลคูเป้ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่โดดเด่นด้วยการผสานดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวของรถยนต์สไตล์คูเป้ เข้ากับ ความแข็งแกร่งของรถยนต์แบบเอสยูวี (Sport Utility Vehicle: SUV) ไว้ได้อย่างลงตัว ด้วยการออกแบบ ดีไซน์ภายนอก ให้ดูสปอร์ต ปราดเปรียว ด้วยลายเส้นโค้งเว้า ที่ให้ความรู้สึกถึง ความพลิ้วไหว พร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ เสริมไฟหน้าโค้งมน พร้อมด้วยกรอบไฟแบบ LED เส้นสายหลังคาถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้าย ที่เน้นดีไซน์แบบเรียบหรู ล้ำสมัย คล้ายกับในรถยนต์ S-Class Coupé โดยรุ่นที่เปิดตัวในประเทศไทยเป็นรุ่น The new GLE 450 AMG 4MATIC Coupé ที่มาพร้อมกับการตกแต่งกระจังหน้า ด้วยตราสัญลักษณ์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง และไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System พร้อมฟังก์ชั่น Active Light System พร้อมด้วยชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG ซึ่งประกอบด้วย กันชนหน้า-หลัง ล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว แบบ AMG 5 ก้านคู่ และหลังคาแบบพาโนรามิคซันรูฟ ซึ่งสามารถ เลื่อนเปิด-ปิดได้อัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า
          สำหรับ ดีไซน์ภายใน ได้รับการออกแบบโดยเน้นความหรูหรา สง่างาม แต่ยังคงกลิ่นอาย ความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิมด้วยการเลือกใช้วัสดุคุณภาพชั้นดีที่ยืดหยุ่นต่อการใช้งานและสามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย เบาะนั่งด้านหลังแบบ 3 ที่นั่ง สามารถพับได้แบบ 1/3 : 2/3 ตามความต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของที่เพิ่มขึ้น วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 พร้อมมอนิเตอร์ขนาด 8 นิ้ว และคอนโทรลเลอร์ที่รองรับการใช้งานระบบนำทางแผนที่ Garmin® ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) แบบ 3 สี
          ด้านเทคโนโลยี The new GLE-Class Coupé มาพร้อมกับระบบ Dynamic Select ที่มีโหมด การขับขี่ 5 แบบ คือ Individual ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้, Comfort ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบายเหมือนขับรถซาลูน, Slippery เหมาะกับการวิ่งบนถนนที่ลื่น, Sport และ Sport+ เน้นการเพิ่มความเร้าใจให้กับการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังได้ติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบอากาศ (AIRMATIC) พร้อมระบบควบคุมระดับ ADS (Adaptive Damping System) เพื่อรองรับการขับขี่ในทุกสภาพถนน และระบบเซ็นเซอร์ การพลิกคว่ำ
          The new GLE-Class Coupé มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินแบบ V6 เทอร์โบคู่ พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ 9G-TRONIC ความจุกระบอกสูบ 2,996 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 367 แรงม้า ที่ 5,500-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 520 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,800-4,000 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Permanent all-wheel drive The new GLE 450 AMG 4MATIC Coupé ราคา 7,990,000 บาท

          The new V-Class
          เมอร์เซเดส-เบนซ์ The new V-Class รถยนต์อเนกประสงค์ (Multi-Purpose Vehicle: MPV) แบบ 6 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยพื้นที่ห้องโดยสารอันกว้างขวาง ที่ผสานภาพลักษณ์สไตล์สปอร์ตและหรูหราของเมอร์เซเดส-เบนซ์ไว้ได้อย่างลงตัว สำหรับ ดีไซน์ภายนอก ได้ถูกออกแบบให้มีลายเส้นที่สวยงาม ดีไซน์ด้านข้างแสดงให้เห็นความกว้างขวางของตัวรถพร้อมเสริมความ พลิ้วไหวด้วยมุมโค้งมนด้านหลังรับกับกระจกหลังขนาดใหญ่และแถบโครเมียมใต้กระจก กระจังหน้าสไตล์สปอร์ตแบบ Avant-garde พร้อมเพิ่มความดุดันกับล้ออัลลอยแบบ 19 นิ้ว ไฟหน้าดีไซน์ใหม่มาพร้อมกับเทคโนโลยี LED Intelligent Light System อย่างเต็มรูปแบบ ปิดท้ายด้วยไฟท้าย LED ซึ่งออกแบบอย่างงดงามลงตัว
          สำหรับ ดีไซน์ภายใน ได้รับการออกแบบอย่างสร้างสรรค์และล้ำสมัย แต่ยังคงความเรียบง่ายในการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง ห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุหลากหลายทั้งลายไม้คลาสสิกเคลือบเงาแบบผิวเปียโน วัสดุหุ้มที่นั่งแบบ nappa leather คุณภาพสูงที่เดินตะเข็บอย่างหรูหรา พร้อมไฟเรืองแสงในห้องโดยสารแบบปรับได้ 3 สี
          นอกจากนี้ ห้องโดยสารภายใน ได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางสะดวกสบาย กับที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบแยกส่วนสไตล์ captain seat 4 ตำแหน่งพร้อมโต๊ะทำงานอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบให้สอดคล้องกับความต้องการได้อย่างหลากหลาย ประตูบานเลื่อนซ้าย-ขวาและฝาท้ายควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าทั้งจากภายในห้องโดยสารและจากกุญแจรีโมท ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าและ TEMPMATIC สำหรับผู้โดยสารด้านหลังสามารถแยกปรับการทำงานได้อย่างอิสระ พร้อมยกระดับสุนทรียภาพในการการเดินทางด้วยเครื่องเสียงแบบพรีเมี่ยมพร้อม แป้นควบคุมแบบสัมผัส (touchpad) และระบบเสียงรอบทิศจาก Burmester ที่มาพร้อมกับลำโพง 15 ตัว และ bass reflex box นำเสนอพลังเสียงระดับ 640 วัตต์ ไปสู่ผู้โดยสารใน ทุกตำแหน่งที่นั่ง
          ด้านเทคโนโลยี ของ The new V-Class ได้ถูกออกแบบให้ทำงานสัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยและความสะดวกสบายสูงสุด ไม่ว่าจะเป็น ระบบ ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างปลอดภัย (Safe driving), ระบบรักษาการทรงตัวกรณีมีลมขวางปะทะตัวรถด้านข้าง (Crosswind Assist), ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST), ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Parking Assist พร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง อีกทั้งยังติดตั้งตัวช่วยในสถานการณ์คับขันที่มาแบบครบครันอย่าง โปรแกรมการควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ Adaptive ESP® (Electronic Stability Program), ระบบป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-lock Braking System), ระบบช่วยเพิ่มแรงเบรก BAS (Brake Assist), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration Skid Control), ระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็คโทรนิค EBD (Electronic Brake force Distribution), ระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® และถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านข้างรวม 6 ตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
          V 250 BlueTEC AVANTGARDE มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบคู่ ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 190 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 440 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,400-2,400 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 9.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 206 กม./ชม. และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 16.7 กม./ลิตร ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS
          The new V250 BlueTEC AVANTGARDE ราคา 5,490,000 บาท

          Mercedes-AMG GT S
          Mercedes-AMG GT S นับเป็นรถสปอร์ตรุ่นที่ 2 ของค่าย Mercedes-AMG ที่โดดเด่นทั้งในด้านดีไซน์และสมรรถนะ พร้อมตอบโจทย์ในการเป็นรถสปอร์ตที่เหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน โดย ดีไซน์ภายนอก ของรถยนต์รุ่นนี้ มาพร้อมกับรูปลักษณ์แบบสปอร์ต ด้วยกระจังหน้าแบบ Diamond Grille หมุดสีดำ พร้อมสัญลักษณ์โลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลางที่เพิ่มเสน่ห์และความกำยำให้แก่ผู้พบเห็น ไฟหน้าแบบ LED High Performance Headlamp ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วในด้านหน้า และ 20 นิ้วในด้านหลังแบบ AMG 10 ก้าน สีไทเทเนียม เกรย์ (Titanium Grey) สปอยเลอร์หลังแบบปรับระดับได้อัตโนมัติ และหลังคา พาโนรามิคซันรูฟ (Panoramic glass sunroof) เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ตลอดจนกระโปรงหน้าที่ยาว ด้านท้ายที่โค้งมน บานหน้าต่างแคบเรียว กระจกหน้าต่างข้างแบบไร้กรอบและหลังคาที่ลาดต่ำลง ดีไซน์ภายใน มีการออกแบบให้ก้าวล้ำทันสมัย ด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังแบบ Nappa แบบปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ พวงมาลัยแบบ AMG performance หุ้มด้วยหนังแท้สลับ DINAMICA microfibre ที่สามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำ
          โครงสร้างตัวถังของ Mercedes-AMG GT S มาในรูปแบบของ Aluminium spaceframe ที่ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา ผสมผสานกับเหล็ก และแมกนีเซียม ที่มีการนำมาใช้ตาม จุดต่างๆ ของตัวรถ ทำให้มีน้ำหนักรวมของตัวรถเพียง 1,890 กิโลกรัม นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ ยังได้มีการวางเครื่องยนต์แบบ Front mid-engine และการกระจายน้ำหนักหน้า-หลัง ในอัตราส่วน 47:53 เพื่อให้เกิดการบังคับควบคุมที่ดีเยี่ยม รวมถึงระบบอ่างน้ำมันเครื่องแบบแห้ง หรือ Dry sump แบบเดียวกับที่ใช้ในสนามแข่ง เพื่อป้องกันน้ำมันเครื่องถูกส่งไปไม่ทั่วถึงในจังหวะที่ตัวรถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง
          ด้านเทคโนโลยี มาพร้อมระบบควบคุมช่วงล่าง AMG RIDE CONTROL ที่ปรับได้ 3 โหมด การขับขี่ ได้แก่ Comfort, Sport และ Sport+ ที่สามารถตอบสนองได้ทุกความต้องการใน การเดินทาง, ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับรถ (ATTENTION ASSIST, โปรแกรมควบคุม การทรงตัวอัตโนมัติ (ESP), ระบบรักษาระดับความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) เป็นต้น
          Mercedes-AMG GT S มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ ความจุกระบอกสูบ 3,982 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 510 แรงม้า ที่ 6,250 รอบ/นาที แรงบิด 650 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,750-4,750 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม. ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (AMG SPEEDSHIFT DCT 7-speed sports transmission) โดยรถยนต์รุ่นนี้ยังได้ผ่านมาตรฐานความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและปริมาณไอเสีย (Euro 6) อีกด้วย Mercedes-AMG GT S ราคา 14,900,000 บาท

          ยนตรกรรมอื่นๆ ในบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์
          นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้เตรียมขนขบวนสุดยอดยนตรกรรมรวมทั้งสิ้นกว่า 30 คันในทุกเซ็กเมนต์ ทั้งที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล และรถนำเข้ารุ่นอื่นๆ อาทิ A-Class, B-Class, CLA-Class, C-Class Coupé, E-Class, E-Class Coupé, E-Class Cabriolet, S-Class, SLK-Class, CLS-Class, G-Class, GL-Class, ML-Class
ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า
          นอกเหนือจากขบวนรถยนต์มากมายที่นำมาจัดแสดงในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์แล้ว เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังจัดข้อเสนอพิเศษสุดเพื่อเป็นการขอบคุณแก่ท่านลูกค้าดังนี้
          - รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี ทุกรุ่น สำหรับลูกค้าที่รับมอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2558
          - พิเศษ! สำหรับ The E-Class Saloon และ Estate รับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% เมื่อจัดไฟแนนซ์กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง โดยมีเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
          - แคมเปญ MercedesCard – สมัครบัตรเครดิตเมอร์เซเดสการ์ดลุ้นรับรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ A 180 AMG Sport และรางวัลอื่นๆกว่า 2.4 ล้านบาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด)
          เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขอเชิญท่านพบกับขบวนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดและยนตรกรรมหลากหลายรุ่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยียานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่น-แนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 23, 2015, 11:53:50 AM
แอสตัน มาร์ติน เตรียมเผยโฉมไฮไลท์ล่าสุด Vanquish และ DB9 รุ่น Carbon Edition ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ 2558





          แอสตัน มาร์ติน บางกอก โดย บริษัท เฮอริเทจ มอเตอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ไทยแลนด์) จำกัด เตรียมสร้างมิติใหม่ของวงการไฮลักชัวร์รี่สปอร์ตคาร์ ส่ง Vanquish และ DB9 รุ่น Carbon Edition เปิดตัวครั้งแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 36 ประจำปี 2558

          ด้วยรูปลักษณ์โดดเด่น Vanquish Carbon Edition เป็นสุดยอดยนตรกรรม GT ที่เจาะลึกแก่นแท้แห่งสุนทรียภาพแห่งความลึกลับอันน่าหลงใหลสรรค์สร้างจากคาร์บอนไฟเบอร์ สุดยอดวัสดุศาสตร์ ที่มีน้ำหนักเบาสอดประสานกับความแข็งแกร่งและความสามารถในการขึ้นรูปทรงได้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงเป็นวัสดุที่เหมาะกับรูปทรงโค้งเพรียวของยนตรกรรม GT เป็นอย่างยิ่ง สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางวิศวกรรมและความงดงามอันเปี่ยมรสนิยม ซึ่งถูกนำมาใช้ในการรังสรรค์ Vanquish Carbon โดยเฉพาะ ทั้งสปลิตเตอร์ หน้า ช่องรับลมด้านข้าง ครอบกระจกมองข้าง และหลังคา ล้วนผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ เสริมความสมบูรณ์แบบด้วยส่วนประกอบสีดำ ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า ฝากระโปรงหน้า ตะแกรงรับลมด้านข้าง ขอบหน้าต่าง ปลายท่อไอเสีย Zircotec และล้ออัลลอยขึ้นรูปเงาดำ 10 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว ด้วยภาพลักษณ์อันดุดันและสัมผัสอันโดดเด่น ตอกย้ำดีเอ็นเอแห่งขุมพลังของ แอสตัน มาร์ติน ได้อย่างถึงแก่น Vanquish Carbon มาในโทนสี Vanquish Carbon Black และ Vanquish Carbon White

          อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของแอสตัน มาร์ติน ที่สร้างความหลงใหลในความสง่างามแบบสไตล์เจมส์บอนด์ที่โด่งดังไปทั่วโลกกับ DB9 Carbon Edition ด้วยยนตรกรรมสุดหรูพิเศษคันนี้ออกแบบภายใต้แนวคิดแต่งเติมให้น้อยแต่โดดเด่นสะดุดตา ผสานความเรียบง่าย ความสุขุม และความเร้าใจไว้ในโทนสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ แต่คงไว้ซึ่งสมรรถนะ ความงดงาม และเทคโนโลยีเหนือระดับตามแบบฉบับของ DB9 พร้อมก้าวไปอีกขั้นด้วยการตกแต่งภายในและภายนอกอย่างมีสไตล์ พร้อมสะกดทุกสายตา โดยมีชิ้นส่วนภายนอกรังสรรค์จากใยคาร์บอนคุณภาพสูง ให้ความงดงามเหนือระดับ และน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ สปลิตเตอร์หน้า ครอบกระจกมองข้าง ช่องรับลมด้านข้าง แถบคาดไฟท้าย และดิฟฟิวเซอร์ท้าย จัดเรียงอย่างสร้างสรรค์ด้วยดีไซน์อันเข้มขรึมที่ทั้งสอดประสานและขับเน้นสีตัวถังภายนอกอย่างอย่างสะดุดตา หน้าหลงใหล เติมเต็มทุกรายละเอียดแห่งความโฉบเฉี่ยวที่เหนือระดับ DB9 Carbon Edition มาในโทนสี Carbon Black

          สัมผัสประสบการณ์แรงดึงดูดเกินต้านทาน ของสุดยอดไฮลักชัวร์รี่สปอร์ตคาร์ ได้ที่บู๊ทแอสตัน มาร์ติน หมายเลข A5 ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 23, 2015, 11:54:56 AM
Aston Martin Unviels Vanquish and DB9 in Carbon Edition for the first time in Southeast Asia, at the 36th Bangkok International Motor show 2015





          Aston Martin Bangkok, Heritage Motor Sales and Services (Thailand) Co.,Ltd. is prepared to impress fans with the launch of its Vanquish and DB9 in Carbon Edition for the first time in Southeast Asia at the much-awaited 36th Bangkok International Motor Show 2015.

          The Aston Martin Vanquish Carbon Edition is the ultimate grand tourer unleashed soaring performance, startling dynamics and deeply indulgent luxury combined in the Vanquish to create an extraordinary GT car -- the ultimate expression of Aston Martin. The special edition delves deep into its character and subtly but unmistakably accentuates its innate dynamism. Sculpted from carbon fibre, the Vanquish Carbon celebrates the incredible material and its inherent engineering and aesthetic beauty. The deep front carbon fibre splitter, side strakes, mirror caps and roof are complemented by black grille, bonnet and side strake meshes, black trim around the side windows, zircotec exhaust tailpipes and gloss black forged 10-spoke 20-inch alloy wheels. Powerful, menacing and coolly tactile, the Vanquish Carbon concentrates Aston Martin's dynamic DNA to absolute purity. It is available in Vanquish Carbon White and Vanquish Carbon Black.

          The other timeless elegance to be showcased is the Aston Martin DB9 Carbon Edition. This exclusive special edition sees minimal adornment achieve maximum impact, fusing simplicity, discretion and drama in a unique dark theme. Beautiful in form, lightweight in function only the most precise carbon weave is used to fashion five exterior details. Front splitter, mirror caps, side strake, rear lamp infills and rear diffuser are deftly applied to create a dark design theme either complementing or contrasting with the choice of exterior paint. It maintains the irresistible blend of potency, beauty and technical expertise of the current DB9 but goes further, with expertly styled exterior and interior features. The DB9 Carbon is available in Carbon Black.

          Experience the irresistible magnetism, ultimate creations at Aston Martin Booth A5, the 36th Bangkok International Motor show 2015, Challenger Hall, Impact Muang Thong Thani on March 25th to April 5th, 2015.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 24, 2015, 03:14:24 PM
พบกับนวัตกรรมที่จะขับเคลื่อนโลกสู่อนาคตจากบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36








 
          นวัตกรรมที่จะขับเคลื่อนโลกสู่อนาคตจากบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ พบกับรถบีเอ็มดับเบิลยู i3 ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์ และครั้งแรกกับการเปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36

ไฮไลท์ของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ
· บีเอ็มดับเบิลยู i3
· บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer
· บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive
· มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์
· มินิ พร้อมชุดแต่งสยาม แพ็คเกจ

          กรุงเทพฯ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งยนตรกรรมระดับพรีเมียม ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ด้วยการจัดแสดงบีเอ็มดับเบิลยู i3 บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDriveและการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยมีไฮไลท์สำคัญอื่นๆ ของงานได้แก่ มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์ และมินิพร้อมชุดแต่งสยามแพ็คเกจ ผู้เยี่ยมชมบูธบีเอ็มดับเบิลยูและมินิจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ของแบรนด์ระดับโลกอย่างบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งนำทัพยนตรกรรมหรูทั้งสามแบรนด์ภายใต้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มาจัดแสดง อย่างคับคั่ง ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยลูกค้าสามารถรับข้อเสนอและโปรโมชั่นสุดพิเศษภายในงานได้ ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี

บีเอ็มดับเบิลยู i3
          บีเอ็มดับเบิลยู i3 ซึ่งจะจัดแสดงอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ภายในงานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 36 พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้สัมผัสยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดจากบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ ตอบสนองความท้าทายสำหรับการขับขี่ในเมืองได้อย่างลงตัว การจัดแสดงบีเอ็มดับเบิลยู i3 ในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของยุคแห่งยนตรกรรมระบบไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างแท้จริง
          นิยามของการเดินทางในเมืองแบบใหม่นั้น ต้องอาศัยความคิดที่ก้าวไปมากกว่าการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและ การขับขี่ที่ปราดเปรียว จึงเกิดเป็นคอนเซ็ปต์การออกแบบทางสถาปัตยกรรม LifeDrive ซึ่งสร้างขึ้นสำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู i3 โดยเฉพาะ โครงสร้างการออกแบบนี้ประกอบด้วยสององค์ประกอบ คือ Life โมดูล และ Drive โมดูล สำหรับ Life โมดูลนั้นคือห้องโดยสารของตัวรถซึ่งเปรียบเสมือนเรือนกระจก เกิดจากการนำวัสดุเส้นใยพลาสติกเสริมคาร์บอน (CFRP) มาปฏิวัติใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นครั้งแรก วัสดุนี้เองเป็นปัจจัยสำคัญต่อประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานของบีเอ็มดับเบิลยู i3 เส้นใยพลาสติกเสริมคาร์บอนนี้มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเหล็ก ขณะที่มีน้ำหนักเบากว่าถึงร้อยละ 50 และเบากว่าถึงร้อยละ 30 หากเทียบกับอะลูมิเนียม ส่งผลให้ยานยนต์ระบบไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยูมีน้ำหนักเพียง 1,315 กิโลกรัม และสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 7.9 วินาที
          ด้วยคุณสมบัติที่มีน้ำหนักเบา และความแข็งแกร่งที่สามารถรับแรงดึงระดับสูงของเส้นใยพลาสติกเสริมคาร์บอน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับห้องโดยสาร ขณะที่ลดการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ส่งผลให้สามารถใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดเล็กลงและเบากว่า นำไปสู่ระยะเวลาในการชาร์จไฟที่ลดลงและระยะทางในการขับขี่ที่ไกลยิ่งขึ้น นอกจากนี้การออกแบบ Life โมดูลยังช่วยถ่วงศูนย์ให้กับบีเอ็มดับเบิลยู i3 เสริมความลื่นไหลมั่นคงในการขับขี่อีกด้วย
          สำหรับ Drive โมดูล ซึ่งผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมทั้งหมด ประกอบด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 22 กิโลวัตต์ กระบวนส่งกำลังแบบไฟฟ้า ระบบรองรับการกระแทก MacPherson และระบบรองรับแรงกระแทกด้านหลังเชื่อมต่อ 5 จุด พร้อมทั้งโครงสร้างที่ได้รับการออกแบบเพื่อป้องกันการกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โครงสร้างนี้วางแบตเตอรี่ไว้บริเวณล้อหลัง มอบสมรรถนะในการขับขี่ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และเพิ่มเพิ่มแรงขับ ให้กับ ตัวรถอีกด้วย
          ประโยชน์อีกด้านของแนวคิดด้านสถาปัตยกรรม LifeDrive นี้ยังรวมถึงการออกแบบโดยปราศจากซุ้มเกียร์ จากการแยก Driveโมดูลออกมา ซึ่งแตกต่างจากรถเครื่องยนต์สันดาปทั่วไป ส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยู i3 มีพื้นที่ใช้สอยภายในเทียบเท่าบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ในขณะที่มีมิติภายนอกเทียบเคียง บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 1 ในขนาดที่เล็กกว่า
          · กำลัง 170 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive และมอเตอร์ไฟฟ้ามอบแรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตร
          · แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 22 กิโลวัตต์ ระบบไฟฟ้าสามารถขับเคลื่อนได้ไกลถึง 130-160 กิโลเมตร ในชีวิตประจำวัน
          · ยานยนต์ระบบไฟฟ้าคันแรกของโลกที่มาพร้อมกับความสามารถในการเพิ่มระยะขับเคลื่อน จากเครื่องยนต์เบนซิน 2 สูบ ขนาด 650 ซีซี ซึ่งมอบกำลัง 25 กิโลวัตต์/34 แรงม้า โดยเครื่องยนต์ดังกล่าวจะสร้างพลังงานไฟฟ้าเพื่อเพิ่มระยะขับเคลื่อนสูงสุดต่อวันได้ถึง 300 กิโลเมตร ส่งผลให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 7.9 วินาที
          · ความเร็วสูงสุดที่ 150 กม./ชม. เพื่อประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน
          · ระบบกระจายน้ำหนักสมดุลที่ 50-50
          · ใช้เวลาเพียง 30 นาที ชาร์จแบตเตอรี่ได้ร้อยละ 80 ผ่าน DC quick-charge
          · ใช้เวลาประมาณ 3-6 ชั่วโมงชาร์จแบตเตอรี่ได้ร้อยละ 80 ผ่าน AC quick-charge ด้วย BMW i Wallbox
          · ใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงชาร์จแบตเตอรี่ได้ร้อยละ 80 ผ่านเต้าเสียบทั่วไป

บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer
          การเปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer เป็นการขยายสายผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยูให้ครอบคลุมอีกเซ็กเมนท์หนึ่ง โดยสมาชิกใหม่ของยนตรกรรมหรูคอมแพคนี้ ผสมผสานความสะดวกสบาย พื้นที่การใช้งานอเนกประสงค์เข้ากับสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ความสง่างาม และสไตล์ที่โดดเด่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูได้อย่างกลมกลืน โดยรุ่น Active Tourerเป็นการต่อยอดโมเดลบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 เพิ่มเติมจากรุ่น Coupe ก่อนหน้า ด้วยการออกแบบที่ลงตัวส่งผลให้ รุ่น Active Tourer มอบมิติภายนอกของรถยนต์คอมแพคพร้อมทั้งความรู้สึกปลอดโปร่งกว้างขวางภายในห้องโดยสารได้อย่างดีเยี่ยม
          "พื้นที่เก็บสัมภาระอเนกประสงค์ ซึ่งเพิ่มพื้นที่จากความจุ 468 ลิตร เป็น 1,510 ลิตร และสามารถปรับเบาะด้านหลังแยกแบบ 40:20:40 ซึ่งเป็นฟีเจอร์มาตรฐาน ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer เป็นรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังเพิ่มความยืดหยุ่นด้วยเบาะหลังแบบเลื่อนได้ ช่วยเพิ่มระยะระหว่างเข่ากับเบาะหน้า หรือเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีแผ่นรองพื้นที่พับเก็บได้สำหรับซ่อนพื้นที่เก็บสัมภาระ ซึ่งมาพร้อมกับถาดรองสัมภาระที่มีประโยชน์ใช้สอยหลากหลายอีกด้วย
          · บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer เปิดตัวด้วย the new BMW 218i Active Tourer M Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบที่มาพร้อมกับความสามารถในการประหยัดพลังงานและพลังขับเคลื่อนที่โดดเด่น เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มอบแรงม้าสูงถึง 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า
          · แชสซีที่ได้รับการพัฒนาใหม่ประกอบด้วย ระบบรองรับแรงกระแทกสปริงเชื่อมต่อจุดเดียวติดตั้งบริเวณล้อหน้าและแบบเชื่อมหลายจุดที่แกนหลัง พร้อมผสานความคล่องตัวและมีทิศทางที่แม่นยำของตัวรถด้วยระบบรักษาเสถียรภาพการควบคุมและระบบรองรับแรงกระแทกเพื่อความนุ่มสบาย
          · เพื่อเสริมความโดดเด่นให้แก่บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer บนท้องถนน จึงสามารถเลือก ชุดแต่ง M Aerodynamics แพกเกจ และ ล้ออัลลอย M light-alloy wheels ขนาด 18 นิ้ว สำหรับตกแต่งภายนอก และเสริมสไตล์สปอร์ตให้สมบูรณ์แบบด้วย พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ M รวมไปถึงเบาะที่นั่งแบบสปอร์ตสำหรับภายในห้องโดยสารได้อีกด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive
          บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive ประสบความสำเร็จในการผสมผสานสุนทรียภาพในการขับขี่ ระหว่าง ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ xDrive all-wheel-drive และสัมผัสแห่งความหรูหราของบรรยากาศภายใน ห้องโดยสาร มอบประโยชน์ใช้สอยอเนกประสงค์ซึ่งมาในรูปแบบของยานยนต์ระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด
          ระบบขับเคลื่อนประกอบด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบมอบกำลังถึง 180 กิโลวัตต์/245 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo และเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยูซึ่งมอบกำลัง 70 กิโลวัตต์/95 แรงม้า โดยมีแหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนซึ่งสามารถชาร์จไฟจากเต้าเสียบที่บ้านได้ พร้อมทั้งความสามารถในการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าทั้งหมดแบบปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็นระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร
          นอกเหนือจากการตั้งค่าการขับเคลื่อนในปุ่ม BMW Driving Experience Control อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูนั้น บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive ยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 3 รูปแบบตาม ความต้องการของผู้ขับขี่และสภาวะเส้นทางที่เผชิญ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะไฮบริดซึ่งนำความแกร่งและการประหยัดพลังงานมาผสานกันอย่างกลมกลืน(AUTO eDrive) ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ ปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (MAX eDrive) และโหมด SAVE Battery เพื่อรักษาระดับประจุในแบตเตอรี่ไว้เท่าเดิม
          ผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความคล่องตัวจะประทับใจกับฟีเจอร์การเลือกแหล่งพลังงาน โดยบีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive มาพร้อมกับสายเคเบิลสำหรับชาร์จไฟทุกคัน แบตเตอรี่ซึ่งติดตั้งบริเวณใต้พื้นที่เก็บสัมภาระแทบจะไม่ส่งผลต่อพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางซึ่งสามารถวางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้ถึง 2 ใบ หรือวางถุงกอล์ฟขนาด 46 นิ้วได้มากถึง 4 ใบ
มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์
          ภายหลังการเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ที่กรุงเจนีวา บรรดาแฟนมินิชาวไทยจะได้ร่วมสัมผัสถึงรายละเอียดของคอนเซ็ปต์ยนตรกรรมมินิรุ่นล่าสุดนี้ ณ บูธมินิ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36
          มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์มาพร้อมกับแนวคิดที่เปี่ยมไปด้วยความละเอียดซับซ้อน ล้ำสมัยโฉบเฉี่ยว และ ความสง่างาม โดยการออกแบบที่โดดเด่นของมินิได้รับการเติมเต็มด้วยการนำวัสดุคุณภาพสูงมาใช้ใน ทุกรายละเอียด รวมถึงพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและวัสดุที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ การนิยามความหมายใหม่ของมินินี้ยังคงยึดสไตล์ที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลก ทำให้สามารถจดจำความเป็นมินิได้ในแรกเห็นทั้ง การออกแบบตกแต่งภายนอกและภายใน โดยคอนเซ็ปต์ของการนำสีและวัสดุแบบใหม่มาใช้มอบนิยามใหม่ให้แก่ความหรูหราแบบร่วมสมัยและคุณภาพระดับพรีเมี่ยมในเซ็กเมนท์รถยนต์นี้
          · ตลอดระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษ มินิเป็นตัวแทนของการใช้พื้นที่ขนาดเล็กที่สุดให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเพิ่มความยาวและความกว้างมากกว่ามินิ คลับแมนรุ่นปัจจุบันที่ 26 และ 17 เซนติเมตรตามลำดับ ให้แก่คอนเซ็ปต์รถยนต์ใหม่ ส่งผลให้มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์ก้าวขึ้นเป็นยนตรกรรมในคลาสใหม่
          · การออกแบบทุกส่วนของมินิเต็มไปด้วยความปราดเปรียวที่เป็นเอกลักษณ์ แนวหลังคาที่ทอดยาวสะท้อนให้เห็นถึงพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มมากขึ้น การดีไซน์คอนเซ็ปต์ใหม่ยังมอบความสง่างามเหนือระดับที่ได้รับการเน้นให้โดดเด่นด้วยขนาดตัวรถที่กว้างขวาง นอกจากนี้มุมมองด้านข้างยังสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพอันยอดเยี่ยมของมินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์ได้ในทันที จากฐานล้อที่ยาว การวางตำแหน่งกระจกที่ราบเรียบและระยะห่างจากล้อถึงกันชนหน้าที่สั้นแสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวของมินิ
          · การออกแบบที่โดดเด่นที่สุดในส่วนท้ายของตัวรถคือประตูที่สามารถเปิดแยกซ้ายขวาได้ กรอบประตูแบบดั้งเดิมได้รับการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ซึ่งจากเดิมเป็นโลหะ ในส่วนของตัวประตูและกรอบที่ล้อมรอบบริเวณส่วนท้ายทั้งหมดของตัวรถมอบความรู้สึกสุขุม เรียบหรู
          · พื้นที่ภายในตัวรถกว้างขวางขึ้นเช่นเดียวกับมิติภายนอก มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์มาพร้อมกับ 4 ประตู และ 5 ที่นั่งมอบพื้นที่กว้างกว่าเดิมเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน
          · การนำวัสดุแบบใหม่มาใช้ในการตกแต่ง โดยนำหนังนูบัคสีฟ้าสดใส หนังแก้ว Berry Red เม็ดสีแจ่มชัด หนังเกรดพรีเมี่ยมสัมผัสอ่อนนุ่มสีดำ มาผสมผสานกันเพื่อมอบบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟสไตล์มินิ อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังเสริมด้วยวัสดุเคลือบเงินมอบความพรีเมี่ยมเหนือระดับอีกด้วย
          · ฟีเจอร์ภายในที๋โดดเด่นที่สุดของมินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์ได้แก่ บริเวณแผงหน้าปัดหุ้มด้วยหนังสีฟ้า อมเทาผสมกับพื้นผิวเซรามิกพอร์ซเลนสีขาว ในส่วนแผงหน้าปัดสีดำที่อยู่เหนือขึ้นไปมอบรูปลักษณ์และความรู้สึกโฉบเฉี่ยว ขณะที่ไฟด้านหลังแบบซ่อนหลอดไฟให้แสงทางอ้อม มอบบรรยากาศหรูหราเหนือระดับให้แก่ส่วนคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าได้อย่างน่าประทับใจ

ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 13 ปี มินิ ประเทศไทยกับมินิแฮ็ทช์ 3 ประตูและมินิ คันทรี่แมนพร้อมชุดแต่งสยามแพ็คเกจ
          ครั้งแรกก้บการเปิดตัวมินิพร้อมชุดแต่งเฉพาะสำหรับประเทศไทยเท่านั้น เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 13 ปี ของมินิ ประเทศไทยด้วยชุดแต่ง สยามแพ็คเกจ ที่มาพร้อมสติ๊กเกอร์ลายพิเศษ แบ็ดจ์กระจังหน้าเฉพาะรุ่น และไฟ LED projector ส่องลงพื้นข้างประตูโลโก้มินิ
          ลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งมินิ สยามแพ็คเกจเพิ่มเติมได้สำหรับมินิแฮ็ทช์ 3 ประตูและมินิคันทรี่แมนทุกรุ่น ด้วยราคาพิเศษเพียง20,000 บาท จำนวนจำกัดเฉพาะในงานบางกอก อินเตอร์เนชั้นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 นี้เท่านั้น

แคมเปญพิเศษในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36
          สำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่ทำการจองรถยนต์ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36และรับส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนเมษายน 2558 จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้:
          - BMW 116i และ 116i M Sport : iPad Air 2 (64 GB WIFI)
          - BMW X1 sDrive18i, X1 sDrive18i Line และ M Sport, X1 sDrive20d Line และ M Sport, BMW 3 Series GT: Rimowa Salsa Deluxe 35L
          - BMW 5 Series*, และรุ่นนำเข้า* : iPad Air 2 (64 GB WIFI + Cellular)
          - BMW 7 Series** และ BMW ActiveHybrid 7 L ทุกรุ่น : MacBook pro 13.3” 256 GB
          - X3 xDrive20i, X3 xDrive20d, X3 xDrive20d Highline : Cruise Bike BMW

          (*ยกเว้นรุ่น BMW 3 Series Touring, BMW 5 Series Touring, BMW 2 Series, BMW 4 Series, BMW Z4, BMW X5)
          (**ยกเว้นรุ่น BMW 730Ld Business)

          สำหรับลูกค้ามินิที่ทำการจองภายในงาน และรับส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนเมษายน 2558 จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้:
          · เฉพาะในงานมอเตอร์โชว์นี้เท่านั้น จอง MINI ทุกรุ่น ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2558 และออกรถภายใน 30 เมษายน 2558 รับฟรี เครื่องชงกาแฟ NESCAFÉ® Dolce Gusto® รุ่น New MINI Limited Versionมูลค่า 7,490 บาท
· พร้อมเงื่อนไขพิเศษ อาทิเช่น ผ่อนเริ่มต้นที่ 11,500 บาท และ ฟรีประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี สำหรับMINI Countryman
          สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญดังกล่าวหรือผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆ จาก BMW Financial Services และ MINI Financial Services สามารถติดต่อได้ที่ BMW Contact Center โทร. 1-800-269-269 ถ้าโทรออกจากโทรศัพท์มือถือ โทร. 1-401-269-269 หรือติดต่อได้ทีผู้จำหน่ายของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

ข้อมูลเพิ่มเติม
          โปรแกรมคุ้มครองการบำรุงรักษา BMW Service Inclusive (BSI) และ MINI Service Inclusive (MSI) ได้ปรับเปลี่ยนเพิ่มเป็นโปรแกรม BMW และ MINI Service and Extended Warranty packages โดยมีระยะเวลาคุ้มครองรถยนต์ถึง 5 ปี/100,000 กม. สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู และ
5 ปี/50,000 กม. สำหรับมินิ
          ในโอกาสฉลองครบรอบ 10 ปี ของการมอบโปรแกรมบริการหลังการขายสำหรับลูกค้า BMW Service Inclusive หรือ BSI ในประเทศไทย ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูและมินิจะได้รับข้อเสนอการต่อระยะเวลาคุ้มครองรถยนต์ BMW และ MINI Service and Extended Warranty packages ซึ่งเป็นแพ็กเกจมาตรฐานที่มาพร้อมกับรถยนต์ใหม่ทุกคัน เพิ่มความสบายใจให้แก่ลูกค้าด้วยการครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษารถยนต์ถึง ถึง 5 ปี/100,000 กม. สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู และ 5 ปี/50,000 กม. สำหรับมินิ พร้อมทั้งการรับประกันภายใต้เงื่อนไขและข้อตกลงเช่นเดียวกันการรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตลอดระยะเวลาการคุ้มครองนี้อีกด้วย
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 24, 2015, 03:14:59 PM
จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ยกขบวนยานยนต์พรีเมี่ยมระดับโลก เปิดจองพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015 พบกัน ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 บูธ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ 25 มีนาคม – 5 เมษายนนี้ วันธรรมดา 12.00-22.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 11.00-22.00 น.



          ซิตี้ ออโต้โมบิล ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย นำขบวนสุดยอดรถยนต์สปอร์ตซีดานและเอสยูวีที่การันตีด้วยรางวัลระดับโลก เปิดจองในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 Bangkok International Motor Show 2015 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 5 เมษายน 2558 ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 ที่บูธ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ เอาใจแฟนๆ ของสองแบรนด์ดังจากประเทศอังกฤษด้วยยานยนต์รุ่นท้อปของคลาส อาทิ จากัวร์เอฟ-ไทป์ (F-type), จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ (XF), จากัวร์ เอ็กซ์เจ (XJ) รวมถึง เรนจ์โรเวอร์ อีโวค, แลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์, ฟรีแลนเดอร์, นำเสนอขายในราคาพิเศษสุดภายในงาน พร้อมรับโปรโมชั่นและแพ็คเกจฟรีมากมาย ทั้งการรับประกันตัวถังนาน 5 ปี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี และส่วนลด 15% เมื่อซื้อชิ้นส่วนประดับยนต์ของแท้ พร้อมบริการติดตั้งและซ่อมบำรุงโดยช่างผู้ชำนาญที่ผ่านการฝึกอบรมจากัวร์แลนด์โรเวอร์ของ ซิตี้ ออโต้โมบิล

          มร.ริชาร์เ เฮก ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด เปิดเผยว่า “เรายินดีอย่างยิ่งที่จะได้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 ผ่านการนำเสนอขบวนยานยนต์ที่โดดเด่นของเรา โดยปี 2558 ยังเป็นปีที่ ซิตี้ ออโต้โมบิล กำหนดเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่บนถนนพระราม 4 ในเดือนพฤษภาคม เพื่อเป็นการขยายเครือข่ายศูนย์บริการของเราให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันเราบริหารงานศูนย์บริการ 3 แห่ง ได้แก่ เพรสทีจ มอเตอร์  คาร์ส ถนนวิทยุ, จีที คาร์ส ถนนเพชรบุรี และ จีบี ออโต้โมบิลส์ ในจังหวัดภูเก็ต โดยเรายังมีแผนการลงทุนจัดหาอุปกรณ์และเทคโนโลยีและขยายเครือข่ายบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่มีต่อรถยนต์จากัวร์แลนด์โรเวอร์ที่เพิ่มมากขึ้น ผ่านการนำเสนอบริการทั้งก่อนและหลังการขายชั้นเลิศแก่ลูกค้าของเราในประเทศไทย”

          ท่านสามารถค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับยานยนต์และข้อมูลเชิงเทคนิคได้ที่เว็บไซต์ www.landroverthailand.com และ www.jaguarthailand.com
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 24, 2015, 03:17:13 PM
ฟอร์ดเปิดตัว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ในภูมิภาคอาเซียน พร้อมเผยโฉมรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ครั้งแรกของโลก ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36
 
· ฟอร์ดประกาศราคารถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รถอเนกประสงค์สมรรถนะสูง ราคาเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท พร้อมเปิดรับจองในงาน
· ฟอร์ดเผยโฉมรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เป็นครั้งแรกในโลก เพื่อสานต่อกลยุทธ์การนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่คุณภาพระดับโลกและสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง



          ฟอร์ดเดินหน้าสานต่อกลยุทธ์หลักในการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่คุณภาพระดับโลกในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเผยโฉมรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เป็นครั้งแรกของโลกพร้อมเปิดตัวรถอเนกประสงค์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ในภูมิภาคอาเซียน ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36
          การเปิดตัวของรถระดับโลกของฟอร์ดทั้งสองรุ่นในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ในครั้งนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นของฟอร์ดในการแนะนำรถยนต์คุณภาพระดับโลกแก่ลูกค้าทั้งในประเทศไทย ภูมิภาคอาเซียน และทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
          “เราภูมิใจในประสบการณ์การพัฒนารถกระบะและรถอเนกประสงค์ที่มีมาอย่างยาวนานของเราเป็นอย่างยิ่ง ความเป็นผู้นำและความเชี่ยวชาญของเราในอุตสาหกรรมยานยนต์นี้สะท้อนไว้อย่างอย่างชัดเจนในรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ซึ่งจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโชว์รูฟอร์ด พร้อมทั้งตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ระดับโลก” มร.แมท แบรดลีย์ ประธานฟอร์ด อาเซียน กล่าว
          ฟอร์ดจะผลิตรถทั้ง 2 รุ่นนี้ ณ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย เพื่อการจำหน่ายในประเทศและส่งออกในภูมิภาค
          รถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถกระบะด้วยรูปโฉมใหม่ พร้อมพละกำลังและสมรรถนะอันเหนือชั้น รวมถึงฟังก์ชั่นอัจฉริยะ ทำให้เจ้าของ ฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมลุยในทุกเส้นทาง
          ทั้งนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่จะเปิดตัวในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนในปีนี้

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับแก่ผู้บริโภค ด้วยการผสมผสานความสมบุกสมบันแบบออฟโรดเข้ากับการขับขี่ที่เหนือชั้นและความคล่องตัวที่เกินความคาดหมายจากรถอเนกประสงค์ทั่วไป

          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นผลงานการสร้างสรรค์ขึ้นโดยทีมออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งยังนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดรถอเนกประสงค์ทั่วโลกของฟอร์ดมาใช้ ทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถสานต่อความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านความทนทานและความอเนกประสงค์
          ตัวรถถูกออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สวยงามและมีความทนทานในระดับแถวหน้าของตลาด ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่อความปลอดภัย การเชื่อมต่ออย่างเหนือชั้นและความสะดวกสบายเป็นเลิศ
          “รถรุ่นใหม่ระดับโลกของฟอร์ดในแต่ละรุ่น ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับรถในรุ่นนั้นๆ และสามารถดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ให้กับฟอร์ดมากยิ่งขึ้น เรามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่นี้ จะสามารถขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ให้กับฟอร์ดด้วยการเป็นรถอเนกประสงค์ที่อัจฉริยะมากที่สุดและมีสมรรถนะสูงที่สุดในตลาด” นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นรถยนต์ 7 ที่นั่ง ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตโนมัติพร้อมระบบ Terrain Management System หลังคาพาโนรามิคมูนรูฟแบบปรับไฟฟ้าที่สามารถเปิดให้เห็นวิวท้องฟ้าขนาดใหญ่ เบาะนั่งแถวที่ 3 แบบปรับไฟฟ้าพับเรียบและประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Active Park Assist และระบบตรวจจับรถในจุดบอด พร้อมด้วยระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด ซึ่งจะแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามีรถอยู่ในจุดบอดในระหว่างที่กำลังขับขี่หรือในขณะที่ขับรถเพื่อเตรียมถอยรถออกจากที่จอด
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังติดตั้งระบบสั่งงานด้วยเสียงซิงค์ 2 ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อการสื่อสารภายในรถรุ่นล่าสุดของฟอร์ด พร้อมด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และคำสั่งแบบแยกสี ช่วยให้การเลือกใช้งานเมนูต่างๆ ง่ายยิ่งขึ้น
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่มาพร้อมขุมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล 2 รุ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค ทีดีซีไอ (TDCi) ขนาด 3.2 ลิตร แบบ 5 สูบและ เครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค ทีดีซีไอ (TDCi) ขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบ ติดตั้งพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด
          ผู้สนใจสามารถจอง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมฟอร์ดทุกสาขาทั่วประเทศ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม แบบขับเคลื่อนสองล้อ ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคาอยู่ที่ 1,459,000 บาท และสำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม พลัส แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคาอยู่ที่ 1,599,000 บาท โดยการส่งมอบรถจะเริ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีสีให้เลือก5 สี ได้แก่สีขาว คูล ไวต์ (Cool White) สีดำ แบล็ก ไมก้า เมทัลลิก (Black Mica Metallic ) สีเงิน อะลูมินัม เมทัลลิก (Aluminum Metallic) สีทอง สปาร์คลิ่ง โกล์ด เมทัลลิก (Sparkling Gold Metallic) และสีแดง ซันเซต เมทัลลิก (Sunset Metallic)

บูธจัดแสดงงานแบบอินเตอร์แอคทีฟ
นอกจากจะมีการจัดแสดงรถแนวหน้าระดับโลกทุกรุ่นที่จำหน่ายในเมืองไทยแล้ว บูธของฟอร์ดยังมีการจัดกิจกรรมแบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่ผู้เข้าร่วมชมบูธจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการดำเนินธุรกิจและความเป็นผู้นำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ 4 ประการของฟอร์ด ได้แก่ ด้านคุณภาพ (Quality) ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green) ความปลอดภัย (Safe) และเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart)
          ฟอร์ดยังได้ติดตั้งจอสัมผัสแบบดิจิตอลที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมสร้างประสบการณ์ในการเลือกปรับแต่งรถยนต์ในรูปแบบ 3 มิติ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นรถ และสีรถ ตามความสนใจ รวมถึงชุดตกแต่งพร้อมคำนวณราคาสำหรับในบางรุ่น
          ฟอร์ด ยังได้จัดแสดงพร้อมให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง (24-hour Roadside Assistance Application) โดยจะแสดงให้เห็นถึงวิธีการใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อเข้าถึงการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงโดยเฉพาะในช่วงเวลาคับขัน ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้รถได้อย่างสบายใจไม่ว่าจะอยู่ที่ส่วนใดของประเทศ
          ฟอร์ดยังได้จัดแสดงเครื่องยนต์รุ่นต่างๆ รวมถึง เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.2 ลิตร ทีดีซีไอ (TDCi) และ 2.2 ลิตร ทีดีซีไอ (TDCi) เครื่องยนต์อีโค่บูสต์ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เห็นถึงส่วนประกอบของเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
          นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมชมบูธยังสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การบริการที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า รวมถึงศูนย์ตัวแทนจำหน่ายรถฟอร์ดทั่วประเทศและโปรแกรมการบริการหลังการขายต่างๆ ซึ่งรวมถึงโปรแกรมช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน (24 Hours Roadside Assistance) โปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะ (Scheduled Service Plan) ประกันภัยฟอร์ด (Ford Ensure) โปรแกรมจัดส่งอะไหล่ใน 24 ชั่วโมง (24-hour Parts Delivery Guarantee) และโปรแกรมขับขี่อุ่นใจ (Premium Protection Plus) และ การให้บริการรถเคลื่อนที่ (Mobile Service)
          “เราจะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาการบริการลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์การบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องคุณภาพอันดีเยี่ยมของรถระดับโลกของเรา” นางสาวยุคนธร กล่าว

ข้อเสนอสุดพิเศษ
          ฟอร์ดได้เตรียมข้อเสนอสุดเร้าใจสำหรับรถทุกรุ่นที่วางขายในประเทศไทย สำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงานนี้
โดยงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 36 นี้ จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 ณ อิมแพคอารีนา เมืองทองธานี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 24, 2015, 03:17:54 PM
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รถอเนกประสงค์ล้ำสมัย เปี่ยมสมรรถนะและเทคโนโลยีเหนือชั้นพร้อมลุยตลาดอาเซียน



· ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับแก่ผู้บริโภค ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการผสมผสานความสมบุกสมบันแบบออฟโรดเข้ากับการขับขี่ที่เหนือชั้นและความคล่องตัวที่เกินความคาดหมายจากรถอเนกประสงค์ทั่วไป
· รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งรุ่นล่าสุด มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวและบึกบึน ประณีต โครงสร้างแบบบอดี้ออนเฟรม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ พร้อมระบบ Terrain Management System (TMS) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคในทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ
· ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมระบบช่วงล่างอันล้ำสมัยเพื่อช่วยให้การขับขี่ราบรื่น นุ่มนวล โดยไม่ทิ้งความคล่องตัวในการขับขี่ ห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง กว้างขวาง ดูหรูหรา ทันสมัยและประณีตในทุกรายละเอียด
· เทคโนโลยีอัจฉริยะรวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียงซิงค์ 2 ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ระบบตรวจจับรถในจุดบอด พร้อมระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด ได้รับการติดตั้งในรถระดับนี้เป็นครั้งแรกทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์ที่ล้ำสมัยที่สุดในตลาด
· ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้รับการติดตั้งเบาะนั่งแถวที่ 3 แบบพับเรียบด้วยระบบไฟฟ้า และ ประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า เป็นครั้งแรกในรถระดับนี้ เพื่อความอเนกประสงค์และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
· ราคาในประเทศไทยเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท พร้อมเปิดรับจองในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์

          วันนี้(24 มีนาคม) ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย สร้างนิยามใหม่ให้กับตลาดรถอเนกประสงค์ในอาเซียนด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยวและบึกบึน พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ผสานสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดและภายในหรูหรา ทันสมัยสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 คน
          “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ในโชว์รูมของเราทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนด้วยสมรรถนะที่ครบครันของความเป็นรถอเนกประสงค์ ที่มาพร้อมความสะดวกสบายเหมาะเป็นรถสำหรับครอบครัวและสามารถใช้ในเส้นทางสมบุกสมบันได้” มร.แมท แบรดลีย์ ประธานฟอร์ด อาเซียน กล่าว “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เป็นรถที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ภายนอกถึงภายใน พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเป็นครั้งแรกสำหรับรถระดับนี้ มอบความคุ้มค่าเหนือกว่ารถอื่นๆ ในเซ็กเม้นต์เดียวกัน”
          ภายใต้รูปลักษณ์ดุดันที่สะท้อนถึงความสมบุกสมบันและเทคโนโลยีล้ำสมัย ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ครบครันทั้งความแข็งแกร่ง เทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย ดีไซน์สวยสะดุดตา และสมรรถนะเพื่อการขับขี่แบบออฟโรดเต็มรูปแบบ โดยที่ยังรักษาความเป็นรถยนต์ที่ขับสนุกในสไตล์ฟอร์ดไว้ได้อย่างครบถ้วนด้วยความคล่องตัวบนท้องถนน พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งหรูหราและสะดวกสบาย
          “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะเปิดโอกาสให้เราได้ขยายตลาดในภูมิภาคนี้ได้กว้างขึ้น ด้วยรถยนต์อเนกประสงค์ที่สามารถพาผู้ขับขี่ เพื่อนๆ สมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานไปยังทุกจุดหมายได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือบนเส้นทางแบบออฟโรดอันสมบุกสมบัน” มร. ริชาร์ด ทิลลี่ ผู้อำนวยการฝ่ายยานพาหนะ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว “ด้วยสมรรถนะอันเป็นเลิศทั้งหมดนี้ ทำให้รถยนต์อเนกประสงค์ของเราในภูมิภาคนี้ ทั้งฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างครบถ้วน”
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นผลงานการสร้างสรรค์ขึ้นโดยทีมออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งยังนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดรถอเนกประสงค์ทั่วโลกของฟอร์ดมาใช้ ทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถสานต่อความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านความทนทานและความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ทั้งนี้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะมีให้เลือกทั้งในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ
          “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทของฟอร์ดในการพัฒนารถยนต์คุณภาพเยี่ยมที่เหนือความคาดหวังของลูกค้า” มร. ทิลลี่ กล่าวเสริม “กระบวนการพัฒนาฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายให้สูงไว้ก่อน ซึ่งในที่สุดเราก็ประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์รถยนต์อเนกประสงค์ที่สร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในด้านการออกแบบและสมรรถนะการขับขี่ พร้อมมอบเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมายทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เหนือชั้นกว่า ปลอดภัยกว่า และมีสมรรถนะเหนือกว่าที่เคย”
         
ดุลยภาพแห่งสมรรถนะ ความพร้อมลุยแบบออฟโรด และนุ่มสบายบนท้องถนน
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้มีความทนทานในระดับแถวหน้าของตลาด พร้อมฝ่าฟันทุกเส้นทาง ด้วยโครงสร้างแบบบอดี้ออนเฟรม ทำให้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่มีตัวถังที่แข็งแกร่ง เหมาะสมกับการขับขี่แบบสมบุกสมบัน นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ ระบบเกียร์แบ่งกำลังพร้อมระบบควบคุมการจ่ายแรงบิด (Torque on Demand) ระบบ Terrain Management System ความสูงจากพื้นรถ ถึง 225 มิลลิเมตร สูงที่สุดในรถระดับเดียวกัน พร้อมลุยน้ำได้ที่ความลึกสูงสุด 800 มิลลิเมตร ทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถเอาชนะทุกอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย
          เพื่อให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รับมือกับทุกสภาพพื้นผิวการขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ระบบ Terrain Management System จึงมาพร้อมกับโหมดตั้งค่าการขับขี่พิเศษสี่แบบ 1. สำหรับพื้นผิวทั่วไป 2. พื้นหิมะ/กรวด/หญ้า 3. พื้นทราย และ 4. พื้นหินขรุขระ โดยที่แต่ละโหมดจะปรับเปลี่ยนการตั้งค่าอัตราเร่ง ระบบส่งกำลัง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และระบบควบคุมการเกาะถนน เพื่อให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์ ส่วนในกรณีที่ต้องเผชิญกับเส้นทางออฟโรดสุดหฤโหด ผู้ขับขี่ก็สามารถเลือกปรับโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อที่อัตราทดรอบต่ำเพื่อการควบคุมรถได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
          นอกเหนือไปจากสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดแล้ว รถยนต์อเนกประสงค์รุ่นนี้ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและมอบความคล่องตัวในระดับที่เหนือความคาดหมาย ด้วยช่วงล่างแบบคอยล์สปริงหน้า-หลัง พร้อม วัตต์ลิงค์ที่เพลาหลัง มอบความสะดวกสบาย รวมถึงการเกาะถนนอย่างดีเยี่ยม ให้ความรู้สึกสนุกในการขับขี่ซึ่งเป็นดีเอ็นเอของฟอร์ดไว้ได้อย่างเต็มรูปแบบ

เทคโนโลยีล้ำสมัย มอบความสะดวกสบายและปลอดภัยอย่างเหนือชั้น
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมายที่พร้อมสร้างประสบการณ์การขับขี่อันสุดพิเศษ จนถือเป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์แบบออฟโรดที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา นับเป็นการต่อยอดจากความเชี่ยวชาญในระดับโลกของฟอร์ดด้านการสร้างสรรค์รถยนต์อเนกประสงค์ที่ดีเยี่ยม
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ติดตั้งระบบสั่งงานด้วยเสียง ซิงค์ 2 ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อการสื่อสารภายในรถรุ่นล่าสุดจากฟอร์ด ผู้ขับขี่จึงสามารถใช้เสียงสั่งการอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง ระบบปรับอากาศ และอุปกรณ์พกพาต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับตัวรถได้อย่างเป็นธรรมชาติและสะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ระบบ ซิงค์ 2 ยังมาพร้อมจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ที่ใช้งานง่ายด้วยเมนูควบคุมที่แบ่งจอออกเป็น 4 มุม และใช้สีที่แตกต่างกันบ่งบอกถึงฟังก์ชันการใช้งานหลักๆ อย่างชัดเจน พร้อมระบบเพื่อความบันเทิงเต็มรูปแบบด้วยลำโพงคุณภาพสูงถึง 10 ตัวรวมซับวูฟเฟอร์ มอบเสียงที่ชัดเจนพร้อมเสียงเบสทุ้มลึกและหนักแน่น
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีอีกมากมายที่ไม่เคยปรากฏในรถอเนกประสงค์รุ่นใดมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System หรือ BLIS) พร้อมระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (Cross Traffic Alert) ซึ่งจะคอยแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในกรณีที่มีรถคันอื่นอยู่ในจุดบอด หรือมีรถตัดผ่านในขณะถอยออกจากซองจอด
          เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ ที่มีอยู่ในฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้แก่ ระบบป้องกันรถพลิกคว่ำ (Roll Stability Control) และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program) ที่ทำงานสอดประสานกับระบบควบคุมการเกาะถนนเพื่อความมั่นใจสูงสุดขณะขับขี่ ส่วนระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) จะช่วยให้การนำรถเข้าจอดเทียบข้างเป็นเรื่องง่าย โดยที่ผู้ขับขี่จะควบคุมเพียงแค่การเหยียบคันเร่ง เข้าเกียร์ และเบรก โดยไม่จำเป็นต้องจับพวงมาลัย โดยเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกในตลาดรถอเนกประสงค์ระดับเดียวกันในประเทศไทย
          นอกเหนือจากเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยเหล่านี้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนด้วยโครงสร้างห้องโดยสารที่แข็งแกร่งด้วยวัสดุสุดทนทานอย่างเหล็กโบรอน และอุปกรณ์ความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย เช่นถุงลมนิรภัย 7 จุด เพื่อป้องกันผู้โดยสารในกรณีที่เกิดการชน เป็นต้น
         
ไปได้ไกลกว่า กับขุมพลังที่เปี่ยมประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมัน
          สมรรถนะอันเหนือชั้นของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาจากขุมพลังของเครื่องยนต์ดีเซล 2 รุ่น ในตระกูลดูราทอร์คของฟอร์ดที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด โดยเทคโนโลยีอันทันสมัยทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่เป็นรถที่ประหยัดน้ำมันและมอบสมรรถะในการขับขี่ที่เป็นเลิศ
          · สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังและแรงบิดสูงสุดเพื่อใช้ในการลากจูง เครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค ทีดีซีไอ ขนาด 3.2 ลิตร แบบ 5 สูบรุ่นล่าสุด ให้กำลังสูงสุด 147 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุดถึง 470 นิวตันเมตร มอบประสิทธิภาพเหนือระดับด้วยคุณสมบัติใหม่มากมาย รวมถึงระบบหมุนเวียนไอเสียแบบใหม่เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
          · สำหรับผู้ที่มองหาเครื่องยนต์ที่ยังคงความประหยัดน้ำมันโดยไม่สูญเสียสมรรถนะการขับขี่ ฟอร์ดพร้อมนำเสนอเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 118 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุดถึง 385 นิวตันเมตร

ความชาญฉลาดในการออกแบบเพื่อตอบสนองต่อการใช้งาน
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ โดดเด่นด้วยด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยวแต่แข็งแกร่ง สื่อถึงสมรรถนะในการขับขี่ที่เหนือชั้นและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่อยู่ภายใน ส่วนหน้ารถที่ดุดัน ไฟหน้าขนาดใหญ่ พร้อมไฟวิ่งกลางวันแอลอีดี อันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ดควบคู่กับตัวถังที่ผ่านการทดสอบทางอากาศพลศาสตร์โดยละเอียดทุกขั้นตอน จนเกิดเป็นผลงานการออกแบบที่ผสมผสานความสวยงามและประสิทธิภาพเข้าด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
          ห้องโดยสารของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มอบความหรูหราโดดเด่นด้วยวัสดุคุณภาพสูง และเส้นสายรอบคันที่สอดประสานกันอย่างกลมกลืนและลงตัวภายในห้องโดยสาร 7 ที่นั่งที่ทั้งสวยงาม นั่งสบาย และใช้งานสะดวกด้วยคุณสมบัติมากมาย ทั้งหลังคาแบบพาโนรามิคมูนรูฟขนาดใหญ่ ประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า ช่องเก็บของกว่า 30 ช่อง ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับเบาะหน้าและเบาะหลัง ที่นั่งและพื้นที่เก็บของที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับทุกการใช้งานได้ โดยเบาะนั่งแถวที่สองและสามสามารถพับเก็บให้แบนราบได้ทั้งสองแถว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานและการบรรทุกสัมภาระได้อย่างลงตัว
          เพื่อให้ห้องโดยสารปราศจากเสียงรบกวน ฟอร์ดจึงได้ติดตั้งเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน ไว้ภายในตัวรถ ทั้งยังพัฒนาซีลกันเสียงและวัสดุดูดซับเสียงภายในห้องโดยสารให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นอีกด้วย
          เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน มีหลักการทำงานที่คล้ายคลึงกับการต้านเสียงรบกวนของหูฟังระดับพรีเมียม โดยภายในห้องโดยสารของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีไมโครโฟนจำนวน 3 ตัวที่ทำหน้าที่ตรวจจับและวัดระดับเสียง ก่อนที่ระบบควบคุมและเครื่องเสียงในตัวรถจะทำการสังเคราะห์คลื่นเสียงที่ตรงข้ามกันเพื่อหักล้างกับเสียงรบกวน จึงทำให้ห้องโดยสารเงียบสนิท ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถพูดคุยกับผู้โดยสารในแถวที่สามได้โดยไม่ต้องใช้เสียงดัง

          “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ครบครันด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยและระบบป้องกันความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม และสุดยอดสมรรถนะสำหรับทุกการขับขี่ไม่ว่าจะเป็นการลุยแบบออฟโรด และนุ่มสบายบนท้องถนน จึงถือเป็นมาตรฐานใหม่ของตลาดรถอเนกประสงค์ขนาดกลาง และสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์รถยนต์อเนกประสงค์ของฟอร์ดสำหรับตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้เป็นอย่างดี” มร. ทิลลี่ กล่าว้ “เราได้นำเอาความเชี่ยวชาญในการออกแบบและพัฒนารถยนต์ทั่วโลก และประสบการณ์อันยาวนานในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ มาผสมผสานกันเพื่อสร้างสรรค์รถยนต์คุณภาพที่เหนือกว่าความคาดหมายของลูกค้าอย่างแท้จริง”
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะผลิตที่โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง ผู้สนใจสามารถจอง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมฟอร์ดทุกสาขาทั่วประเทศ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม แบบขับเคลื่อนสองล้อ ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคาอยู่ที่ 1,459,000 บาท และสำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม พลัส แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคาอยู่ที่ 1,599,000 บาท โดยการส่งมอบรถจะเริ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีสีให้เลือก5 สี ได้แก่สีขาว คูล ไวต์ (Cool White) สีดำ แบล็ก ไมก้า เมทัลลิก (Black Mica Metallic ) สีเงิน อะลูมินัม เมทัลลิก (Aluminum Metallic) สีทอง สปาร์คลิ่ง โกล์ด เมทัลลิก (Sparkling Gold Metallic) และสีแดง ซันเซต เมทัลลิก (Sunset Metallic)
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 24, 2015, 03:18:51 PM
ฟอร์ดท้าทายตลาดรถกระบะด้วยฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อัจฉริยะยิ่งขึ้น และประหยัดยิ่งขึ้น





. ฟอร์ด เรนเจอร์ พัฒนาต่อยอดจากสมรรถนะความแข็งแกร่งระดับโลก พร้อมอวดโฉมใหม่และเทคโนโลยีอันทันสมัยที่จะช่วยให้รถมีสมรรถนะดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
· กระจังหน้าสไตล์ใหม่ ดุดันและทันสมัย ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ทั้งหรูหรา ประณีต และเปี่ยมด้วยประโยชน์ใช้สอย
· เทคโนโลยีล้ำสมัยในฟอร์ด เรนเจอร์ รวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียงซิงค์ 2 (SYNC2) ระบบรักษาช่องทางขับขี่ (Lane Keeping Aid) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้า (adaptive cruise control) ระบบตรวจสอบผู้ขับขี่ (Driver Impairment Monitor) และเซนเซอร์ช่วยจอดหน้า-หลัง (Front and Rear Parking Sensors) ทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เป็นหนึ่งในรถกระบะที่ไฮเทคที่สุดบนท้องถนน
· เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ พร้อมเทคโนโลยีสตาร์ทและดับเครื่องอัตโนมัติ (Start-Stop technology) พวงมาลัยพาวเวอร์ระบบไฟฟ้า (Electric Power Assisted Steering) ช่วยให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ทั้งเงียบ และประหยัดน้ำมันได้มากกว่าถึง 22 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทรงสมรรถนะยิ่งกว่าเดิม
· ช่วงล่างถูกปรับแต่งเพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายและความคล่องตัวมากขึ้น แต่ยังคงความสนุกพร้อมความนุ่มนวลยิ่งขึ้น

          วันนี้(23 มีนาคม) วันนี้ ฟอร์ดเผยโฉมรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ พร้อมความแข็งแกร่งและอัจฉริยะยิ่งขึ้น พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถกระบะด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่ดุดัน ความประณีตและเทคโนโลยีนำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน โดยฟอร์ดจะเดินหน้าเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก ในปีนี้
          “ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะสร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในด้านความสะดวกสบายและความหรูหรา โดยที่ยังรักษาไว้ซึ่งความสมบุกสมบันที่ลูกค้าของเราชื่นชอบ” มร. แบรท วีทลีย์ รองประธานฝ่ายการตลาด การขาย และบริการ ฟอร์ด เอเชียแปซิฟิก กล่าว “รถกระบะรุ่นล่าสุดนี้แสดงออกถึงรูปลักษณ์อันแข็งแกร่งแต่ยังมีความอัจฉริยะได้เป็นอย่างดี และจะช่วยให้ลูกค้าของฟอร์ดใช้ชีวิตได้คุ้มค่ายิ่งขึ้น ไม่ว่าในวันทำงานหรือวันพักผ่อน”
          ด้วยกระจังหน้ารูปลักษณ์ใหม่ และห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ที่เพียบพร้อมทั้งประโยชน์ใช้สอยและความหรูหรา จึงถือได้ว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการสร้างขึ้นจากชื่อเสียงของรถกระบะตระกูลเรนเจอร์ที่มีสมรรถนะเป็นเลิศ พร้อมนวัตกรรมและความสะดวกสบายมากมาย ทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ โดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งรถกระบะทั่วไป และยังล้ำหน้าเหนือใครด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เอาชนะทุกความท้าทายในทุกวันได้มากกว่าที่เคย
          “การพัฒนา ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ให้เหนือกว่ารุ่นเดิม ถือเป็นโจทย์ที่ยากไม่น้อย เพราะฟอร์ด เรนเจอร์รุ่นปัจจุบันเป็นหนึ่งในรถกระบะที่แข็งแกร่งและสมบุกสมบันที่สุดในตลาดอยู่แล้ว” มร. ริชาร์ด ทิลลี่ ผู้อำนวยการฝ่ายยานพาหนะ เอเชียแปซิฟิก กล่าว “แต่ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดรถกระบะและรถอเนกประสงค์ของเรา ทำให้เราประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์ให้ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีความเหนือชั้นยิ่งกว่าเดิมด้วยดีไซน์สะดุดตา เครื่องยนต์ที่ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม และการขับขี่ที่นุ่มสบาย”

ดีไซน์แกร่ง ดูทันสมัย
          ความเปลี่ยนแปลงในฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เริ่มต้นตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกที่ทันสมัย ทรงพลังกว่าเดิม และสื่อถึงสมรรถนะของตัวรถได้อย่างชัดเจน
          กระโปรงหน้ารถมีเส้นสายที่ดุดันยิ่งขึ้น เข้ากับกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูได้เป็นอย่างดี ขณะที่ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่เสริมให้ตัวรถดูแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก
          “เมื่อพิจารณาจากการขับขี่ของลูกค้าแล้ว เราเห็นว่าฟอร์ด เรนเจอร์ จะต้องมีรูปลักษณ์และประโยชน์ใช้สอยที่โดดเด่นอย่างรอบด้านไม่แพ้กัน เพื่อประกอบกันเป็นรถยนต์ที่สมบุกสมบันและพึ่งพาได้ในทุกสถานการณ์” มร. เดฟ ดูวิท ผู้จัดการฝ่ายออกแบบ ฟอร์ด เอเชียแปซิฟิก กล่าวเสริม “เราใช้โอกาสนี้ในการเสริมให้ดีไซน์ของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ดุดันกว่าในรุ่นก่อนหน้า และยังเน้นองค์ประกอบความเป็นกระบะพันธุ์แกร่งตามมาตรฐานฟอร์ด (Built Ford Tough) อย่างช่องระบายอากาศบนตัวถัง โดยที่ยังคงรักษาสมรรถนะด้านอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมไว้เช่นเคย”
          รูปลักษณ์ภายนอกใหม่ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับส่วนห้องโดยสาร ทำให้มีความสบายยิ่งขึ้น
รวมถึงทันสมัยและสร้างบรรยากาศที่เหมือนกับรถยนต์นั่งสำหรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เส้นสายต่างๆ ตามทางยาวช่วยขับเน้นให้ห้องโดยสารดูโอ่อ่า กว้างขวาง ก่อนจะมาบรรจบกันด้านหน้ารถที่บริเวณจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว กลางแผงคอนโซล ส่วนแผงหน้าปัดควบคุมแบบหน้าจอคู่ ทีเอฟที (Dual TFT) แสดงข้อมูลของตัวรถและสถานะของฟังก์ชันต่างๆ อย่างครบครัน ทั้งระบบความบันเทิง ระบบนำทาง และระบบปรับอากาศ
          “ห้องโดยสารของ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ดูหรูหรา ทันสมัย และยังไฮเทคอีกด้วย” มร.ดูวิท กล่าว “เราได้เลือกใช้วัสดุภายในห้องโดยสารที่เข้ากับดีไซน์ใหม่นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่ทิ้งความทนทาน สมบุกสมบัน และประโยชน์ใช้สอยในแบบรถกระบะพร้อมลุย ทำให้เหมือนห้องโดยสารของรถยนต์นั่งแต่ไม่ทิ้งความอเนกประสงค์”

ฝ่าฟันทุกอุปสรรค พร้อมมาตรฐานใหม่ของความนุ่มนวล
          ฟอร์ด เรนเจอร์ เป็นหนึ่งในสุดยอดรถกระบะพันธุ์แกร่งในตลาด โดยสามารถขับขี่ลุยน้ำได้ที่ความลึกถึง 800 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าลึกที่สุดในรถประเภทนี้ ส่วนพื้นรถสูง 230 มิลลิเมตร ออกแบบมาเพื่อรับมือกับเส้นทางวิบากได้อย่างคล่องตัว ด้วยมุมตัดที่ 28 องศาและ มุมจากที่ 25 องศา ทำให้ผู้ขับขี่ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ สามารถขับขี่ขึ้นลงทางลาดชันได้อย่างมั่นใจ
          ระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อที่ควบคุมแบบระบบอิเล็กทรอนิกส์ใน ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ สามารถเลือกโหมดทำงานได้ทั้งแบบขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้อเกียร์สูงได้ด้วยการหมุนปุ่มที่คอนโซลกลาง ส่วนในสถานการณ์ที่ต้องใช้แรงบิดสูงที่ความเร็วต่ำ หรือกรณีที่ต้องเบรกขณะลงเขา ผู้ขับขี่ก็สามารถปรับไปใช้งานโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อเกียร์ต่ำได้ ส่วนชุดเฟืองท้ายแบบอิเล็กทรอนิกล็อค เสริมให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นในสภาวะการขับขี่ที่ยากลำบาก
          ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่สามารถลากจูงน้ำหนักได้สูงสุด 3,500 กิโลกรัม และรับน้ำหนักบรรทุกสูงถึง 1,175 กิโลกรัม
          ถึงแม้ว่าฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะคงความทรงพลังเป็นเยี่ยม แต่ยังมอบการขับขี่นุ่มนวลซึ่งไม่สามารถพบได้จากรถกระบะโดยทั่วไป ในขณะที่เรนเจอร์ รุ่นปัจจุบันได้สร้างมาตรฐานใหม่ในการขับขี่และความคล่องตัว วิศวกรของฟอร์ดยังได้พัฒนาระบบช่วงล่างที่เสริมทั้งความสบายและการควบคุมที่คล่องแคล่ว แม่นยำ
          ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ระบบไฟฟ้า (EPAS) เสริมประสบการณ์ขับขี่ให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจและเป็นธรรมชาติ โดยระบบจะปรับให้พวงมาลัยมีน้ำหนักเบาในขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ เช่นกรณีเข้าช่องจอด ก่อนจะปรับมาเน้นความแม่นยำเมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูง โดยมีการตั้งค่าที่แตกต่างกันไปตามความเร็วของรถ มุมเลี้ยวของพวงมาลัย แรงเหวี่ยงขณะเข้าโค้ง และอัตราการเร่งหรือลดความเร็ว ทั้งนี้ ระบบ EPAS ไม่มีอุปกรณ์ปั๊มน้ำมันอยู่ภายในเหมือนระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ทั่วไป จึงช่วยให้รถเดินเครื่องเงียบลง และประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นราว 3 เปอร์เซ็นต์
          วิศวกรของฟอร์ดได้เลือกใช้วัสดุเก็บเสียงคุณภาพสูงในห้องโดยสารเพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก จึงทำให้ห้องโดยสารของ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ทั้งเงียบและสะดวกสบายที่สุดในตลาด

เทคโนโลยีอันทันสมัย
          ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีล่าสุดมากมายที่เสริมคุณสมบัติในการเชื่อมต่อ และการควบคุมรถ
ระบบสั่งงานด้วยเสียง ซิงค์ 2 ระบบเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารภายในตัวรถรุ่นล่าสุด ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมระบบต่างๆ ของตัวรถได้อย่างชาญฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยระบบการรับคำสั่งผ่านเสียง โดยผู้ขับขี่สามารถพูดคำสั่งภาษาอังกฤษเช่น “Temperature 20 degrees” “play AC/DC” หรือ “I’m hungry” เพื่อควบคุมระบบปรับอากาศ ระบบความบันเทิง หรือระบบนำทางของรถได้ทันที ส่วนจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และคำสั่งแบบแยกสี ช่วยให้การเลือกใช้งานเมนูต่างๆ ง่ายยิ่งขึ้น
          ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ติดตั้งช่องชาร์จไฟแบบ 240 โวลต์ ซึ่งสามารถใช้ชาร์จไฟคอมพิวเตอร์โน๊ตบุคที่ไหนก็ได้ ให้คุณไม่พลาดทุกงานเร่งด่วนนอกจากนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะเต็มรูปแบบ ที่จะช่วยให้ทุกการขับขี่ของคุณปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
          · ระบบช่วยเตือนการขับขี่ในช่องทาง (Lane Keeping Alert) และระบบรักษาช่องทางขับขี่ (Lane Keeping Aid) โดยระบบทั้งสองจะทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่เบนตัวรถออกจากช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ในขณะที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง โดยหากกล้องด้านหน้ารถมองเห็นว่ารถกำลังเบนหัวออกจากช่องทางขับขี่ ระบบจะทำการแจ้งเตือนโดยจะทำการสั่นพวงมาลัยเพื่อเตือนผู้ขับขี่ และหากผู้ขับขี่ไม่หันหัวรถกลับเข้าสู่ช่องทางเดิม ระบบรักษาช่องทางขับขี่ก็จะใช้แรงบิดจากพวงมาลัยเพื่อเบนรถให้กลับสู่เลนที่ถูกต้อง
          · ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้า (Adaptive Cruise Control) ใช้อุปกรณ์เรดาร์ช่วยรักษาความเร็วตามที่ตั้งค่าไว้ และช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอีกด้วย เมื่อระบบตรวจพบว่ามีรถยนต์คันอื่นอยู่ข้างหน้า จะทำการลดความเร็วเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ก่อนจะเร่งกลับมาที่ความเร็วที่ตั้งไว้เมื่อถนนโล่ง ส่วนฟังก์ชั่นจำกัดความเร็วแบบตั้งค่าได้ ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่เร่งความเร็วเกินกว่าที่กำหนดไว้โดยไม่ตั้งใจ
          · ระบบเตือนป้องกันการชนรถคันหน้า (Forward Alert) ทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้า เพื่อส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ด้วยสัญญาณไฟและเสียง หากตัวรถเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป ระบบจะเริ่มควบคุมการเบรกเพื่อให้สามารถหยุดรถได้ทันท่วงทีหากจำเป็น
          · สัญญาณเตือนระยะเดินหน้าและถอยหลัง (Front and Rear Park Assist) ใช้อุปกรณ์เซนเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางขณะจอดรถ และส่งสัญญาณเสียงเตือนหากรถเข้าใกล้สิ่งกีดขวางดังกล่าวที่ความเร็วต่ำ ส่วนกล้องมองหลังช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นด้านท้ายรถอย่างชัดเจน สามารถจอดรถหรือเตรียมการพ่วงรถได้อย่างมั่นใจ
          · ระบบตรวจสอบวัดและแจ้งเตือนลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) เสริมความปลอดภัยและช่วยประหยัดน้ำมันด้วยการเตือนผู้ขับขี่ หากความดันยางต่ำเกินไป
          · ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program) พร้อมระบบป้องกันการพลิกคว่ำและลดอาการส่ายขณะลากจูงเทรลเลอร์ ช่วยให้รถอยู่ในการควบคุมได้เสมอ แม้ในสภาวะการขับขี่ที่ยากลำบาก
          · ระบบตรวจสอบผู้ขับขี่ (Driver Impairment Monitor) ใช้กล้องหน้าและเซนเซอร์ตรวจจับผู้ขับขี่ว่ามีอาการง่วงหรือหลับในหรือไม่ โดยหากพบว่ารถเริ่มวิ่งออกจากเส้นทางหรือมีการกระตุกพวงมาลัยบ่อยครั้ง ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือนผู้ขับขี่ โดยใช้ระดับเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะกลับสู่สภาวะปกติ
          · ในบางประเทศ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะมาพร้อมกับระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน (Emergency Assistance) ที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณบลูทูธเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยระบบจะแจ้งรายละเอียดและตำแหน่งของตัวรถโดยอัตโนมัติ ก่อนจะเปิดสายให้ผู้ขับขี่สนทนากับเจ้าหน้าที่ต่อไป
          · เทคโนโลยีอัจฉริยะอื่นๆ ในฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่รวมถึง ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ขับบนทางลาดชันได้อย่างมั่นใจไม่ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) ที่ช่วยควบคุมการขับลงเขาที่เสริมแรงเบรกในความเร็วที่ต่อเนื่อง ระบบควบคุมการบรรทุก (Adaptive Load Control) ช่วยรักษาระบบควบคุมการทรงตัวขึ้นอยู่กับน้ำหนักของสัมภาระ และระบบเบรกฉุกเฉิน (Emergency Brake Assistance) ซึ่งจะส่งน้ำหนักไปที่ระบบเบรกเพื่อเพิ่มพลังในการเบรกเมื่อผู้ขับขี่เบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ขุมพลังที่มาพร้อมความประหยัด
          ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มอบสมรรถนะการขับขี่ชั้นยอดและพละกำลังในการลากจูงและบรรทุกของหนักได้อย่างเต็มที่ ด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลังและประหยัดน้ำมัน พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติและธรรมดาแบบ 6 สปีด เครื่องยนต์มีให้เลือก 4 รุ่น ล้วนเปี่ยมด้วยสมรรถนะและความคุ้มค่าในทุกสภาพการขับขี่ และยังตอกย้ำเอกลักษณ์ความขับสนุกในสไตล์ฟอร์ดอีกด้วย
          เครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ ขนาด3.2 ลิตร แบบ 5 สูบ รุ่นล่าสุด ที่มีการติดตั้งระบบหมุนเวียนไอเสียแบบใหม่ เพื่อพัฒนาความสามารถในการประหยัดน้ำมันสูงถึง 18 เปอร์เซ็นต์ พร้อมมอบพละกำลังสูงสุด 147 กิโลวัตต์และแรงบิด 470 นิวตันเมตร สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะและแรงบิดสูงสุดในการลากจูง
เครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค รุ่น ขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบ ให้ความประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังเดินเครื่องเรียบ นุ่มนวล แต่ยังทรงพลังไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ เครื่องยนต์รุ่นนี้จะวางจำหน่ายในรูปแบบที่ต่างกันไปในแต่ละตลาด โดยบางประเทศจะได้เลือกใช้รุ่นสมรรถนะสูง ที่มีพละกำลัง 118 กิโลวัตต์พร้อมแรงบิด 385 นิวตันเมตร หรือรุ่นเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังสูงสุด 96 กิโลวัตต์ ที่กินน้ำมันน้อยลงถึง 20 เปอร์ซ็นต์
          นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน ดูราเทค ขนาด 2.5 ลิตร ที่มอบพละกำลังสูงสุด 122 กิโลวัตต์ และแรงบิด 225 นิวตันเมตร#
          เพื่อการประหยัดน้ำมันสูงสุด ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีการติดตั้งระบบสตาร์ทและดับเครื่องอัตโนมัติ (Automatic Start/Stop) ซึ่งจะดับเครื่องขณะที่รถหยุดนิ่งอยู่กับที่ เช่นขณะที่รอสัญญาณไฟเขียว ช่วยประหยัดน้ำมันสูงถึง 3.5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอัตราทดเฟืองท้ายได้รับการปรับแต่งยาวขึ้น ช่วยให้ประหยัดน้ำมันดียิ่งขึ้นเมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูง
          “ด้วยประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ผนวกกับความปราณีตและเทคโนโลยีอัจฉริยะที่หลากหลาย ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับรถกระบะที่สมบุกสมบัน พร้อมฝ่าฟันทุกงาน เกินกว่าความคาดหวังของลูกค้า” มร. ทิลลี่ สรุป
          ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะผลิตที่โรงงาน ออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง สำหรับส่งออกไปทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยโรงงานซิลเวอร์ตัน แอสเซมบลี ในพรีโตเรีย แอฟริกาใต้ จะผลิตเพื่อส่งออกไปยังทวีปแอฟริกาและยุโรป ในขณะที่โรงงานปาเชโก้ ในอาร์เจนติน่าจะผลิตเพื่อส่งออกไปยังทวีปละตินอเมริกา
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 24, 2015, 03:21:07 PM
เอ.พี.ฮอนด้าเผยโฉม RC213V-S Prototypeซูเปอร์ไบค์ที่เป็นที่สุดของโลกในมอเตอร์โชว์2015









          เอ.พี.ฮอนด้าเผยโฉม RC213V-S Prototypeซูเปอร์ไบค์ที่เป็นที่สุดของโลกในมอเตอร์โชว์2015 พร้อมนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านบูทคอนเซปต์ “My Rides My Stories” เปิดตัว New MOOVE14 รถเอ.ที.ล้อ 14 นิ้ว ติดตั้งฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยีครบครัน
          เอ.พี.ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย แสดงศักยภาพทางเทคโนโลยีครั้งยิ่งใหญ่ภายในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2015 นำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างผ่านบูทขนาดใหญ่ภายใต้คอนเซปต์ “My Rides My Stories ทุกเส้นทางสร้างประสบการณ์” ด้วยรถฮอนด้าบิ๊กไบค์และรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กหลากหลายรุ่นแบ่งตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนไทย เผยโฉม RC213V-S Prototype สุดยอดซูเปอร์ไบค์ต้นแบบที่ทั่วโลกกำลังกล่าวขานถึง ด้วยคอนเซปต์ใหม่ของการถ่ายทอดสุดยอดเทคโนโลยีจากRC213V รถแข่งระดับแชมป์โลกโมโตจีพี 2 สมัยซ้อนลงสู่ท้องถนนเป็นครั้งแรกในโลก จัดแสดงในเมืองไทยเป็นประเทศที่ 3 ของโลกต่อจากอิตาลีและญี่ปุ่นเพื่อให้คนไทยได้ชมอย่างใกล้ชิดตลอดทั้ง 13 วันของงาน พร้อมเปิดตัว New Honda MOOVE14 รถสมาร์ทเอ.ที.รุ่นใหม่ล้อ 14 นิ้ว ติดตั้งฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ โดยมี ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ถ่ายทอดคาแรกเตอร์ความสนุกและสมาร์ทในฐานะพรีเซนเตอร์ เตรียมวางจำหน่ายทั่วประเทศเร็วๆนี้ และพบกับความสนุกจากศิลปินชื่อดังและประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้เข้าเยี่ยมชมบูทอีกมากมาย รวมถึงข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่จองฮอนด้าบิ๊กไบค์ภายในงาน และสินค้าใหม่ล่าสุดจาก Honda Collection ในราคาพิเศษ
          นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า“ภายใต้เป้าหมายของการส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคชาวไทย เอ.พี.ฮอนด้าได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อส่งมอบประสบการณ์จากการขับขี่ที่แตกต่างสำหรับแต่ละไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรถบิ๊กไบค์หรือรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก ดังนั้นในงาน Bangkok International Motorshow 2015 เราจึงสร้างสรรค์บูทของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าด้วยคอนเซปต์ My Rides My Stories ทุกเส้นทางสร้างประสบการณ์ โดยการออกแบบบูทในปีนี้ เราได้แรงบันดาลใจมาจากชีลด์หน้าของหมวกกันน็อคที่ถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ที่ไม่เคยซ้ำกันของผู้ขับขี่ พร้อมกับเปิดตัวไฮไลท์สำคัญอย่าง RC213V-S Prototype รถซูเปอร์ไบค์คันแรกของโลกที่ได้รับการถ่ายทอดสุดยอดเทคโนโลยีจากRC213V รถแข่งระดับแชมป์โลกโมโตจีพีลงสู่ท้องถนน ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เราได้รับโอกาสจากฮอนด้ามอเตอร์ประเทศญี่ปุ่น ให้จัดแสดงรถคันนี้ในเมืองไทยเป็นประเทศที่ 3 ของโลกต่อจากอิตาลีและญี่ปุ่นเพื่อให้คนไทยได้ชมอย่างใกล้ชิดตลอดทั้ง 13 วันของงานในปีนี้ โดยจะจัดแสดงพร้อมกับรถ RC213V หมายเลข 93 ของมาร์ค มาร์เกวซ แชมป์โลกโมโตจีพี2 สมัยซ้อน และเจ้าของสถิติแชมป์สนามมากที่สุด 13 สนามจาก 18 สนาม รวมถึงสถิติแชมป์สนามติดต่อกัน 10 สนามรวดในฤดูกาลที่ผ่านมา”
          “นอกจากสุดยอดซูเปอร์ไบค์แล้ว เรายังได้นำรถบิ๊กไบค์ระดับพรีเมียมมาจัดแสดงแบบครบครันพร้อมข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงาน และจัดแสดงรถแข่งจากทีมแข่ง A.P. Honda Racing Thailand ที่พึ่งจะประกาศศักดาคว้าแชมป์ซัพพอร์ตเรซของเวิลด์ซูเปอร์ไบค์รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซีมาหมาดๆ รวมถึงนำรถแข่งหมายเลข 9 ของฟีม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ เจ้าของแชมป์เวิลด์ซูเปอร์ไบค์รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี คนแรกในประวัติศาสตร์ไทยภายใต้สังกัด คอร์ มอเตอร์สปอร์ต ไทยแลนด์ และรถแข่งระดับ World GPในรุ่น Moto2 มาให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ เรายังได้เปิดตัว Honda MOOVE14 รถเอ.ที.ล้อ 14 นิ้วที่ล้ำสมัยกว่าใครด้วย Honda Smart Technology ที่ให้ทั้งความสนุก ความประหยัด และความมั่นใจ โดยมี ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทยเป็นพรีเซนเตอร์ถ่ายทอดคาแรกเตอร์ Fun & Smart ถือเป็นการเปิดตัวล่วงหน้าก่อนวางจำหน่ายจริงทั่วประเทศเร็วๆนี้”
          สำหรับบูทรถจักรยานยนต์ฮอนด้า “My Rides My Stories ทุกเส้นทางสร้างประสบการณ์” แบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 โซน โดยใน 3 โซนแรกจะถูกนำเสนอภายใต้แนวคิด“Honda BigBike Excites the World” ได้แก่
          - Premium Sport โซนจัดแสดงรถซูเปอร์ไบค์ที่เป็นที่สุดของโลกอย่างRC213V-S Prototype และรถแข่ง RC213V เบอร์ 93 ของมาร์ค มาร์เกวซ แชมป์โลกในรุ่นโมโตจีพีคนปัจจุบัน
          - Sport Racing โซนจัดแสดงรถแข่งจากทีม A.P. Honda Racing Thailandเจ้าของแชมป์ซัพพอร์ตเรซของเวิลด์ซูเปอร์ไบค์รุ่นซุปเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี และรถแข่งระดับ World GP รุ่น Moto2 รวมถึงรถแข่ง Honda CBR300R จากโครงการHonda CBR300R Thailand Dream Cup
          - Premium Elegance โซนจัดแสดงรถฮอนด้าบิ๊กไบค์ระดับพรีเมียมครบทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ นำโดย Honda Goldwing รุ่นพิเศษในโอกาสครบรอบ 40 ปีของรถตระกูลโกลด์วิง และ Honda CBR1000RR Champion Special สุดยอดรถซูเปอร์สปอร์ตลายแชมป์โลกเบอร์ 93 ของมาร์ค มาร์เกวซ รวมไปถึงโมเดลระดับท็อปคลาสอื่นๆอาทิ Goldwing F6B, F6C, CB1100, VFR1200X, NM4, CTX1300 เป็นต้น
และอีก 1 โซนสำหรับรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก Fun & Smart จะนำเสนอประสบการณ์ความสนุกภายใต้แนวคิด “Power of Fun Projects” นำโดยโมเดลใหม่ล่าสุดHonda MOOVE14 รถเอ.ที.ล้อ 14 นิ้ว ที่เปิดตัวในงานนี้เป็นครั้งแรก พร้อมด้วยรถแต่งCustomized หลากสไตล์อาทิ MSX125 Masked Rider V1 Model, Zoomer-X Café Racer, Forza300 New Concept และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสไตล์วิบาก เอ.พี.ฮอนด้าก็ได้นำHonda CRF250R เวอร์ชันพิเศษจาก James Bond 007 มาร่วมจัดแสดงเพื่อสร้างแรงบันดาลใจสำหรับคนชอบลุย
          นอกจากรถรุ่นต่างๆแล้ว เอ.พี.ฮอนด้ายังนำความสนุกมาให้ผู้เข้าชมบูทได้เปิดประสบการณ์อีกมากมายอาทิกิจกรรมร่วมกับนักแสดงและศิลปินชื่อดังอย่าง ญาญ่า, น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา, วง 25Hours รวมไปถึงประสบการณ์ความสนุกใหม่ๆจาก Track Feeling Eyeglass หรือแว่นตาแสดงมุมภาพของนักแข่งขณะลงแข่งขัน,Augmented Reality (AR) , Lean Machine, กิจกรรม Red Fan Battle สำหรับแฟนหงส์-สาวกผี และในวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2558 พบกับการจัดแสดงผลงานของทีมนักศึกษาผู้ชนะเลิศการแข่งขันประกวดแผนการตลาด Marketing Plan Contest ครั้งที่ 7 ณ ลานกิจกรรมด้านหลังชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1
          สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแต่งรถและการแต่งตัว เอ.พี.ฮอนด้ายังได้นำเสนออุปกรณ์ตกแต่งรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ H2C ควบคู่ไปกับสินค้าเครื่องแต่งกาย Honda Collection ลิขสิทธิ์แท้ให้ผู้เข้าชมได้เป็นเจ้าของในราคาพิเศษก่อนใคร
ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมบูท My Rides My Stories ได้ในงาน The 36th Bangkok International Motorshow 2015 ที่บูท M1/1 ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่25 มีนาคม ถึงวันที่ 5 เมษายน 2558 ติดตามรายละเอียดของกิจกรรมต่างๆตลอดงานได้ที่www.facebook.com/hondamotorcyclethailand
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:20:59 PM
แลมโบร์กีนี ฉลองความสำเร็จสุดยอดแบรนด์ซูเปอร์คาร์ระดับโลกในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36





           ออโตโมบิลิ แลมโบร์กินี โชว์ศักยภาพแบรนด์ซูเปอร์คาร์ระดับพรีเมี่ยมที่มียอดจำหน่ายสูงทั่วโลก นำรถยนต์ระดับเวิลด์คลาสจากอิตาลีหลากหลายรุ่นจัดแสดงภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2558 เวลา 12.00-22.00 น. จัดแสดงรอบเอ็กซคลูซีฟวีไอพีในวันที่ 23 มีนาคม 2558 และรอบสื่อมวลชนในวันที่ 24 มีนาคม 2558
          การร่วมนำเสนอยานยนต์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ของ บริษัท นิช คาร์ จำกัด ในปีนี้ ถือเป็นการประกาศความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ โดยแลมโบร์กินีสามารถทำยอดจำหน่ายทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 19% ในปี 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งทุบสถิติยอดจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ดังจากอิตาลีในอดีตได้อย่างดงาม ปัจจุบัน แลมโบร์กินีมีตลาดใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อเมริกา และเขตเศรษฐกิจยุโรปเมดิเตอร์เรเนียน (ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา) มียอดจำหน่ายสูงใกล้เคียงกัน สำหรับประเทศไทย แลมโบร์กินีมียอดจำหน่ายสูงอย่างน่าพอใจและมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี ซึ่งทาง ออโตโมบิลิ แลมโบร์กินี ยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมและระบบวิศวกรรมยานยนต์รุ่นใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อมอบความพึงพอใจขั้นสูงสุดแก่นักขับชั้นสูงผู้ชื่นชอบประสบการณ์การขับขี่ระดับไฮเอนด์
          ออโตโมบิลิ แลมโบร์กินี ยังได้เปิดดำเนินการโชว์รูมที่ทันสมัยแบบครบวงจรในกรุงเทพฯ ช่วงปลายปี 2557 ที่ผ่านมา โดยโชว์รูมแห่งนี้มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียเพื่อรองรับตลาดที่กำลังขยายตัวของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดย ออโตโมบิลิ แลมโบร์กินี ได้ประสานงานกับพันธมิตรชั้นยอดที่ร่วมงานกันมาแล้วว่า 3 ทศวรรษอย่าง บริษัท นิช คาร์ ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์แลมโบร์กินีอย่างเป็นทางการในประเทศไทย นำเสนอสุดยอดยานยนต์รุ่น แลมโบร์กินี อเวนทาดอร์และ ฮูราแคน ให้ผู้บริโภคได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยโชว์รูมระดับโลกแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนมอเตอร์เวย์ พระราม 9 มีพื้นที่เพื่อการติดต่อประสานงานสำหรับตัวแทนจัดจำหน่ายทั้งรถซูเปอร์คาร์และรถสปอร์ตที่กว้างถึง 15,000 ตารางเมตร
          แอนเดรีย บัลดี้ ผู้จัดการทั่วไป ออโตโมบิลิ แลมโบร์กินี เอเชีย แปซิฟิก กล่าวย้ำถึงความสำคัญของการนำเสนอแลมโบร์กินีในฐานะแบรนด์แห่งลักชัวรี่คาร์ระดับโลกในเมืองไทยว่า “ด้วยการสนับสนุนจาก นิช คาร์ ทำให้เราได้ร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์ของแบรนด์แลมโบร์กินีในประเทศไทย ผมเชื่อมั่นว่า ด้วยมูลค่าของแบรนด์ ความบริสุทธิ์ นวัตกรรมและความล้ำหน้า จะดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคให้มีความสนใจต่อแบรนด์แลมโบร์กินีจากทั่วประเทศเพิ่มสูงขึ้น”
          “แชมป์” วิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิช คาร์ จำกัด ทายาทรุ่นที่สองของบริษัทผู้เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์ในการสร้างวัฒนธรรมซูเปอร์คาร์แลมโบร์กินีในประเทศไทย มีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าแบรนด์แลมโบร์กินีจะเติบโตขึ้นอย่างมากในตลาดเมืองไทย “แลมโบร์กินีคือซูเปอร์คาร์ของเราที่มียอดขายสูงสุด ซึ่งทำให้ นิช คาร์ ภูมิใจที่ได้ลงทุนสร้างโชว์รูมที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในเอเชียเพื่อลูกค้าของเรา ซึ่งโชว์รูมแห่งนี้ได้กระแสตอบรับอย่างดียิ่ง”
          การนำเสนอยานยนต์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จหลังการจัดแสดงยานยนต์แลมโบร์กินีรุ่นใหม่ ณ งานอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 85 ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้แก่ รุ่นอเวนทาดอร์ เอสวี (Aventador SV) ยนตกรรมใหม่ล่าสุดที่เหนือชั้นด้วยสมรรถนะและการผสานเป็นหนึ่งกับผู้ขับขี่ และรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น อเวนทาดอร์ พิเรลลี (Aventador Pirelli) ซึ่งเป็นการร่วมมือกันผลิตกับ พิเรลลี บริษัทยางรถยนต์ชั้นนำของอิตาลีซึ่งเป็นพันธมิตรที่ดีเยี่ยมของแลมโบร์กินีมานานกว่า 50 ปี
          อเวนทาดอร์ เอสวี โฉมใหม่ ถือเป็นยานยนต์แลมโบร์กินีที่เน้นความเป็นรถสปอร์ตขั้นสุดยอดที่สมบูรณ์แบบด้วยสมรรถนะความเร็วและแรงเต็มอารมณ์ โดยลดน้ำหนักตัวรถลงถึง 50 กก. ผ่านการใช้ระบบวิศวกรรมยานยนต์น้ำหนักเบารุ่นใหม่ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ อีกทั้งกำลังของเครื่องยนต์ V12 ยังเพิ่มขึ้นไปถึง 552 กิโลวัตต์ / 750 แรงม้า ทำให้ได้ประสิทธิภาพของอัตราส่วนกำลังเครื่องต่อนำหนักที่ 2.03 กก./แรงม้า ผสานระบบ Superveloce ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการเร่งเครื่องยนต์จาก 0-100 กม./ชม. (62 ไมล์/ชม.) ได้ในเวลาเพียง 2.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 350 กม./ชม. (217 ไมล์/ชม.)

อเวนทาดอร์อเวนทาดอร์อเวนทาดอร์
          อเวนทาดอร์ พิเรลลี รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น มอบภาพลักษณ์สุดเท่ที่สะกดทุกสายตาด้วยบอดี้สีขาว-ดำแบบทูโทน ไล่ขอบด้วยเส้นสีแดงสุดเฉี่ยวพร้อมฝาครอบเครื่องยนต์แบบโปร่งใสสุดล้ำไม่ซ้ำใคร ทั้งยังเป็นครั้งแรกของการนำเทคโนโลยีตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์แบบไร้โครงมาใช้เสริมประสิทธิภาพของยานยนต์ระดับซูเปอร์สปอร์ตของแลมโบร์กินี ประกอบกับเครื่องยนต์ V12 ให้กำลังสูง 700 แรงม้า พร้อมระบบกันสะเทือนแบบ Push-rod และการขับขี่เคลื่อนแบบครบล้อ จึงทำให้อเวนทาดอร์ครองใจนักขับมาแล้วทั่วโลก
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:21:48 PM
Lamborghini welcomes an accelerated Thai market at 36th Bangkok International Motor Show





           Automobili Lamborghini is set to steer the growing Thai market for global-brand supercars into the fast lane when it showcases its models at the 36th Bangkok International Motor Show. The Italian high-end, luxury car manufacturer will be exhibiting at IMPACT Challenger Halls, Muang Thong Thani, from March 25 - April 05, 2015, between 12 pm and 10 pm, with an exclusive VIP day on March 23 and a press day on March 24.
          For Niche Cars Co., Ltd., Lamborghini commercial partner in Thailand, this year's presence at the 36th Bangkok International Motor Show is the celebration of a record-breaking year of success for the Italian Brand in 2014, with a global sales increase of 19%. With sales balanced evenly between Asia Pacific, America and EMEA (Europe, Middle East and Africa), the USA and Greater China are the biggest markets to date, with Thailand increasing its share year on year. Automobili Lamborghini continues to drive innovation and engineering expertise to the limits, promising a unique driving experience.
          With a buoyant market in Asia Pacific, Automobili Lamborghini opened its flagship showroom in Bangkok in late 2014, its biggest space in Asia to date. Collaborating with sole authorized distributor, Niche Cars, for the supercar brand in Thailand, the showroom showcases the Lamborghini Aventador and Huracán.
          The World-Class Showroom just outside the main city area, on Motorway Rama 9, marks a successful relationship between Automobili Lamborghini and Niche Cars which began over three decades ago. The Thai supercar and sports car dealer successfully markets Lamborghini in the impressive 15,000 square meter space.
          General Manager of Automobili Lamborghini Asia Pacific, Andrea Baldi, highlights the importance of Lamborghini's continued presence as a luxury car brand in Thailand. "With the support of Niche Cars we are sharing our vision for the future of Lamborghini in Thailand. I am confident that our brand values, pure, innovative and cutting edge, will resonate with our growing network of customers across the country."
          Managing Director of Niche Cars, Vittawat 'Champ' Chinabarramee, recently took over the helm; a second-generation leader with a vision to promoting Lamborghini to the growing supercar culture within Thailand. He is optimistic about the continued growth of Lamborghini in Thailand. "Lamborghini is our bestselling supercar. Niche Cars is proud to invest in the biggest and best quality showroom for our customers and their response is encouragingly positive so far."
          The 36th Bangkok International Motor Show follows hot on the trail of success showcasing new models in Switzerland. At the 85th International Motor Show in Geneva in March of this year Automobili Lamborghini unveiled the new high performance Aventador SV model and the limited edition Aventador Pirelli celebrating over half a century of creative collaboration with Italian tire company Pirelli, .
          The new Aventador SV is the most sports-oriented, fastest and most emotional series production Lamborghini ever. The weight has been further reduced by 50 kg through enhanced lightweight engineering including significant use of carbon fiber. The naturally aspirated V12 engine’s power is increased to 552 kW/750 hp. This results in a power-to-weight-ratio of 2,03 kg/hp. The Superveloce accelerates from 0 to 100 km/h (62 mph) in 2.8 seconds and powers on to reach a top speed of more than 350 km/h (more than 217 mph).
          The special series Aventador Pirelli, with its black and white two-tone bodywork, red trim design details and transparent engine cover, is available in a coupe or roadster model with limited numbers being built. The super sports car maintains all Aventador unique technical features, first and foremost the carbon fiber monocoque, the V12 engine with 700 HP, pushrod suspensions and the permanent all-wheel drive, which underlie the Aventador’s global success.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:24:12 PM
กระแสรถจีนมาแรง ตงฟง มอเตอร์ส เปลี่ยนเป็น ยูไนเต็ด มอเตอร์ส เพื่อเพิ่มขยายตลาดรถยนต์พาณิชย์







          บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า DFSK? ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นตัวแทนรถยนต์ตงฟง จากค่ายรถยนต์ระดับแนวหน้า ที่มียอดการผลิตเป็นอันดับ 2 ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำหน้าที่ผลิตและจำหน่ายรถตงฟง บริหารเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย 50 แห่งทั่วประเทศ
          ดำเนินงานการตลาดและบริหารการบริการหลังการจำหน่ายสู่ความเป็นเลิศ ให้กับรถยนต์ของตงฟงทุกคัน ในประเทศไทย ?ในปี 2553?ภายใต้ความร่วมมือทางเทคโนโลยีจาก ดี เอฟ เอส เค มอเตอร์ส หรือ ตงฟง เสี่ยวคัง (ประเทศจีน) ทางบริษัทมีการลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิต และประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ของ ตงฟง ในประเทศไทย เพื่อรองรับการจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกในภูมิภาคอาเซียน (AEC)? โดยปัจจุบันมียอดจำหน่ายในตลาดไทยแล้วกว่า 10,000 คัน และรถยนต์เชิงพาณิชย์ แบรนด์โฟตอน คัมมินส์ ซึ่งเป็นตัวแทนรถยนต์โฟตอน จากค่ายรถยนต์ระดับแนวหน้า ที่มียอดการผลิตเป็นอันดับ 4 ของปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ทำหน้าที่ผลิตและจำหน่ายรถตงฟง บริหารเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย 15 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้บริษัทได้สามารถขยายตลาดยานยนต์ให้เพิ่มขึ้นในประเทศไทย จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท ยูไนเต็ด มอเตอร์ส จำกัด”
          คุณพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูไนเต็ด มอเตอร์ส จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขนาดเล็กภายใต้แบรนด์ตงฟง และ รถตู้เพื่อการพาณิชย์ โฟตอน คัมมินส์ เปิดเผยว่า “การเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เป็น บริษัท ยูไนเต็ด มอเตอร์ส จำกัด ในครั้งนี้
          โดยทาง ยูไนเต็ด มอเตอร์ส กรุ๊ป ได้นำวิสัยทัศน์ที่ว่า “เราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนมุมองของลูกค้าเกี่ยวกับรถยนต์นำเข้าจากจีนได้ แต่เพื่อให้การยอมรับที่ดีขึ้นทาง ยูไนเต็ด มอเตอร์ส กรุ๊ป จึงนำจุดนี้เพื่อให้เป็นจุดแข็ง คือ รถทุกคันที่ออกจาก ยูไนเต็ด มอเตอร์ส กรุ๊ป ได้มีการรับรองคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือได้ อีกทั้งในรถทุกคันยังมีจุดเด่นโดยการนำเทคโนโลยีระดับโลกมาใช้ในทุกคัน”
          อีกทั้งรถทุกรุ่นก่อนที่จะนำเข้ามาทาง ยูไนเต็ด มอเตอร์ กรุ๊ป ได้มีการคัดสรรเป็นอย่างดี เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคของคนไทย รวมถึงส่วนประกอบทั้งหมดได้มีการเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทย มีการตรวจสอบคุณภาพเพื่อให้พร้อมใช้ก่อนถึงมือลูกค้า และรวมถึงการบริการหลังการขายและอะไหล่ที่พร้อมให้บริการตลอดเวลา
          สำหรับการตลาดในปี 2558 ทาง โฟตอนคัมมินส์ ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1500 คัน โดยแบ่งเป็น รถตู้ โฟตอน คัมมินส์ โคลัมบัส จำนวน 1,200 คัน (ตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2558) โดยในตลาดกลุ่มกลุ่มรถตู้ คอมมิวเตอร์ ดีเซลมีทั้งหมด 14,000 คัน สำหรับตลาดรถบรรทุก 6 ล้อ หรือที่เรียกว่า รถบรรทุก 6.5 ตัน ตั้งเป้าไว้ที่ จำนวน 100 คัน (ก.ค. –ธ.ค. 58) ในกลุ่มตลาดทั้งหมด 2,000 คัน และในปีนี้ด้วยกฎหมาย พรบ. ขนส่งทางบกได้มีการปรับเปลี่ยนข้อคับจากรถบรรทุก 4 ล้อ บรรทุกน้ำหนักได้เพียง 1.6 ตัน เป็น 2.2 ตัน จึงทำให้ตลาด ผู้ใช้รถกระบะตอนเดียว จากการใช้รถกระบะ(ปิกอัพ) เปลี่ยนมาเป็น รถรถบรรทุก 4 ล้อ เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ คือ รถบรรทุก 4 ล้อ โดยตั้งยอดขายไว้ที่ 200 คัน (ต.ค.-ธ.ค. 58) เพื่อรองรับกับกลุ่มตลาดที่กำลังจะเติบโตขึ้น 10% หรือประมาณ 6,000 คันต่อปี ที่กำลังเปลี่ยนมาจากกลุ่มตลาดรถกระบะตอนเดียวมาเป็น กลุ่มตลาดรถบรรทุก ทำให้ตลาดรถบรรทุก 4 ล้อ จากเดิมมีเพียงประมาณ 1,000 คัน ขยายเป็น 7,000 คัน ต่อปี
          โฟตอน คัมมินส์ ได้มีการลงทุนในประเทศไทยครั้งนี้ที่มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้โฟตอน คัมมินส์ และ ใน 2 ปีข้างหน้าทางโฟตอน คัมมินส์ ได้ตั้งเป้าหมายเพื่อให้ได้ส่วนแบ่งทางการตลาดรถตู้และรถบรรทุกอยู่ที่ 10% และโดยมีอัตรากำลังการผลิตโฟตอน คัมมินส์ ทั้งหมดที่ 2,200 คัน ต่อปี
          โฟตอน-คัมมินส์ เป็นแบรนด์รถยนต์ในเครือ ปักกิ่ง ออโตโมทีพ หรือ BAIC หนึ่งในสี่ ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีน ผู้ผลิตรถยนต์ฮุนไดและเมอร์ซีดีสเบนซ์ในจีน และเป็นผู้ผลิตที่มียอดผลิตและยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์เป็นอันดับหนึ่งในจีนอีกด้วย ค่ายรถยนต์โฟตอน-คัมมินส์ นั้นโดยชูจุดเด่นที่การใช้เทคโนโลยีระดับโลกจากนานาประเทศ มาวางในผลิตภัณฑ์ของตนเอง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เครื่องยนต์ดีเซลระดับโลกอันลือชื่อ ยี่ห้อคัมมินส์ จาก สหรัฐอเมริกา
          ในการทำการตลาดรถตู้เพื่อการพาณิชย์ครั้งนี้ บริษัทฯ เปิดตัวรถตู้เพื่อการพาณิชย์ โฟตอน-คัมมินส์ รุ่น โคลัมบัส (Foton-Cummins รุ่น Columbus) โฟตอน-คัมมินส์ โคลัมบัส สุดยอดรถตู้เพื่อการพาณิชย์ที่เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะแห่งขุมพลัง เครื่องยนต์ดีเซล ISF 2.8 CUMMINS COMMON RAIL, 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400 – 3,000 รอบ/นาที ใช้เทคนิคการออกแบบ โมดูลาดีไซน์ ชิ้นส่วนลดลง 40% ช่วยลดค่าบำรุงรักษา พร้อมเสริมสมรรถนะด้วยอะไหล่จากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก อาทิ เพลาท้าย จาก DANA จากประเทศสหรัฐอเมริกา , ชุดเกียร์จาก GETRAG ผู้ผลิตชุดเกียร์ที่ค่ายรถชั้นนำให้ความไว้วางใจ , ระบบเบรก ABS เทคโนโลยีล่าสุดจาก BOSCH ควบคุมมั่นใจทุกทิศทางแม้ฝนตกหนัก และชุดคลัตช์ จาก AISIN ประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น
          โครงสร้างตัวถังแข็งแรงพิเศษด้วย 3H Ultra-hight strength body คานเหล็กพิเศษ 2 ชั้นลดแรงปะทะได้อย่างยอดเยี่ยม แกนพวงมาลัยและแป้นขาเบรก แบบยุบตัวเมื่อเกิดการชนด้านหน้า พร้อมถุงลมเสริมคู่หน้า SRS และเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง เพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ถอยหลัง ขณะหมอกลงจัดด้วยกระจกส่องทางและแผงไล่ฝ้า ไฟเบรกดวงที่สามและที่ปัดน้ำฝน มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบดิสก์เบรกคู่หน้าและระบบเบรก ABS ควบคุมทิศทางได้อย่างมั่นใจ ผสานความทันสมัยสไตล์สปอร์ตกับไฟตัดหมอกหน้าหลัง เพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมอุปกรณ์ฉุกเฉิน 2IN1 สามารถใช้ทุบกระจกรถยนต์และตัดสายเข็มขัดนิรภัย
          โฟตอน-คัมมินส์ โคลัมบัส สะดวกสบายด้วยห้องโดยสารสุดหรู ขนาด 16 ที่นั่ง แผงคอนโซลดีไซน์ใหม่ เรือนไมล์ดิจิตอล พวงมาลัยรุ่นใหม่เสริมฟังก์ชั่นให้ปรับระดับรองรับทุกสรีระของผู้ใช้งาน ขับสนุกมากขึ้นด้วยเกียร์แบบ I/P Shift ผ่อนคลายยิ่งขึ้นกับช่องลมแอร์แบบ Spot type กระจายลมทั่วทิศทาง รัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 6.2 เมตร เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยกระจังหน้าสไตล์สปอร์ตพร้อมชุดไฟหน้าดวงโต บันไดข้างมาพร้อมกับไฟส่องสว่าง เพิ่มทัศนียภาพให้ห้องโดยสารด้วยหน้าต่างแบบ Hidden Pillar ซ่อนเสากลางพร้อมกระจกกรองแสงช่วยถนอมสายตา อเนกประสงค์ทุกการใช้งานด้วยเบาะนั่งแถวสุดท้ายสามารถพับเก็บได้ เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้อย่างจุใจ
          เพื่อตอกย้ำความแรง อย่างต่อเนื่องโฟตอน คัมมินส์ เตรียมขยายตลาดในกลุ่มรถใหญ่ ซึ่งในปี 2557 ที่ผ่านตลาดรถใหญ่มียอดจำหน่ายรวมประมาณ 26,000 คัน และถือเป็นยานพาหนะหลักของการขนส่งสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงผู้ประกอบการขนส่งรายย่อยๆ ทำให้โฟตอน คัมมินส์ โดยในไตรมาสที่ 2 ปี 2558 นี้ โฟตอน คัมมินส์ พร้อมเปิดตัวรถบรรทุก 6 ล้อ โฟตอน คัมมินส์ เอามาร์ค ซี (Foton Cummins Augmark C) มาพร้อมกับเครื่องยนต์รุ่น Cummins ISF2.8s3148T (Euro III) เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 4 จังหวะ ระบบคอมมอนเรล ระบายความร้อนด้วยน้ำ เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวด้วยการดีไซน์หัวเก๋งโดย Lotus จากประเทศอังกฤษ เพิ่มความมั่นใจด้วยชิ้นส่วนมาตรฐานโลกอาทิ เฟื่องท้าย DANA นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา, ชุดเกียร์ ZF Friedrichafen ประเทศเยอรมนี, ระบบเบรก ABS ของ BOSCH จากประเทศเยอรมนีและ เสื้อสูบ AVL จากประเทศออสเตรเลีย ช่วยตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมให้ความสุนทรียในการขับขี่ด้วยระบบแอร์, คลัตช์บูทเตอร์1, พวงมาลัยเพาเวอร์, วิทยุ+อุปกรณ์ต่อพ่วง,ระบบ LSPV พร้อมรับประกันนาน 2 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:25:23 PM
จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ยกขบวนยานยนต์พรีเมี่ยมระดับโลก เปิดจองพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36





           พบกัน ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ 1 บูธจากัวร์แลนด์โรเวอร์ 25 มีนาคม – 5 เมษายนนี้ วันธรรมดา 12.00-22.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 11.00-22.00 น.
          ซิตี้ ออโต้โมบิล ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย นำขบวนสุดยอดรถสปอร์ต สปอร์ตซีดาน และเอสยูวีสุดหรูที่การันตีด้วยรางวัลระดับโลก เปิดจองในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 (The 36th Bangkok International Motor Show 2015) ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 5 เมษายน 2558 ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ 1 เอาใจแฟนๆ ของสองแบรนด์ดังจากอังกฤษด้วยยานยนต์รุ่นท้อปของแต่ละคลาส อาทิ จากัวร์เอฟ-ไทป์ (F-type), จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ (XF), จากัวร์ เอ็กซ์เจ (XJ) รวมไปถึง เรนจ์โรเวอร์ อีโวค, เรนจ์โรเวอร์ โวค, แลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ และ ฟรีแลนเดอร์ นำเสนอขายในราคาพิเศษสุด พร้อมรับโปรโมชั่นและแพ็คเกจฟรีมากมายเฉพาะผู้ที่สั่งจองภายในงานเท่านั้น ทั้งการรับประกันตัวถังมาตรฐานนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม. บริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรีตลอด 24 ชั่วโมงนาน 5 ปี และ พิเศษ ส่วนลด 15% เมื่อซื้อชิ้นส่วนประดับยนต์ของแท้ พร้อมบริการติดตั้งและซ่อมบำรุงโดยช่างผู้ชำนาญงานของ ซิตี้ ออโต้โมบิล ที่ผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐานของจากัวร์แลนด์โรเวอร์
          นอกจากนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อผู้จัดจำหน่ายภายในงานเพื่อขอทดสอบสมรรถนะยานยนต์ (สำหรับรุ่นจากัวร์เอฟ-ไทป์ คอนเวอร์ทิเบิล, จากัวร์ เอ็กซ์เจ (XJ), จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ (XF), และ เรนจ์โรเวอร์ อีโวค) โดยเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด
          มร.ริชาร์ด เฮก ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด เปิดเผยว่า “เรายินดีอย่างยิ่งที่จะได้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ผ่านการนำเสนอขบวนยานยนต์ที่โดดเด่นของเรา โดยปี 2558 ยังเป็นปีที่ ซิตี้ ออโต้โมบิล กำหนดเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ที่ทันสมัยครบวงจรบนถนนพระราม 4 เพื่อเป็นการขยายเครือข่ายศูนย์บริการของเราให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันเราบริหารโชว์รูมและศูนย์บริการ 3 แห่ง ได้แก่ เพรสทีจ มอเตอร์ คาร์ส ถนนวิทยุ, จีที คาร์ส ถนนเพชรบุรี และ จีบี ออโต้โมบิลส์ ในจังหวัดภูเก็ต เรายังมีแผนการลงทุนจัดหาอุปกรณ์และเทคโนโลยีและขยายเครือข่ายบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่มีต่อรถยนต์จากัวร์แลนด์โรเวอร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ผ่านการนำเสนอบริการทั้งก่อนและหลังการขายชั้นเลิศระดับเวิลด์คลาสแก่ลูกค้าในประเทศไทย”
          ท่านสามารถค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับยานยนต์และข้อมูลเชิงเทคนิคได้ที่เว็บไซต์ www.landroverthailand.com และ www.jaguarthailand.com
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:26:10 PM
Jaguar Land Rover shows entire award-winning model line-up at The 36th Bangkok International Motor show 2015





           The 36th Bangkok International Motor Show 2015, IMPACT Muang Thong Thani, Challenger 1 Booth Jaguar Land Rover; 25th March to 5th April; Weekdays: 12.00-22.00,
weekends: 11.00-22.00
          City Automobiles, Jaguar Land Rover’s only authorised distributor and service provider in Thailand, is pleased to showcase its complete line-up of sports cars, sports sedans and luxury SUVs at this year’s The 36th Bangkok International Motor Show 2015, held at Impact Muang Thong Thani from 25th March to 5th April 2015. The display comprises Jaguar F-TYPE, Jaguar XF, XJ, Range Rover Evoque, Range Rover Vogue, Land Rover Defender and Freelander each vehicle a recognised leader in its respective class globally. In addition, City Automobiles offers special pricing across the board with unique promotions available only during show days.
          Jaguar Land Rover customers also enjoy a standard 5-year, 150,000km warranty, 5 years roadside assistance, a 15% discount on accessories with free fitting, and excellent after-sales care provided by Jaguar Land Rover’s authorised distributor, City Automobiles. Customers wishing to organise test drives (Jaguar F-TYPE convertible, Jaguar XJ, XF and Range Rover Evoque) can book directly with JLR sales staff at the show.
          Richard Haigh, General Manager, City Automobiles Co. Ltd., said, “We appreciate the opportunity to get close to our customers at the 36th Bangkok International Motor Show, and look forward to showing our incredible range of vehicles. This year brings the launch of City Automobiles’ new flagship showroom and service centre at Rama 4, and so we look forward to growing our network of distributors which includes Prestige Motorcars on Wireless Road, GT Cars on Petchburi Road and GB Automobiles in Phuket. We continue to invest in building our capacity to grow the network further to cater to strong and increasing demand for JLR products in Thailand, offering best-in-class sales, serving and after-sales support.”
          Further product and technical information is available at www.landroverthailand.com or at www.jaguarthailand.com.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:27:48 PM
ไทยรุ่ง เปิดตัวรถยนต์ตรวจการณ์ สายพันธุ์แกร่ง TR TRANSFORMER MAX ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 36





           ไทยรุ่งฯ ผู้นำการออกแบบและผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ของไทย เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ TR TRANSFORMER MAX ซึ่งเป็นรถยนต์ตรวจการณ์หลังคาทรงสูง กว้าง โปร่ง โล่ง สบาย ทุกที่นั่ง พร้อมพื้นที่บรรทุกสัมภาระ กว้างสุด...เหนือใคร เพื่อให้เป็นรถยนต์ที่มีประโยชน์ใช้สอยสูงสุด ด้วยขนาดตัวถังและห้องโดยสารที่กว้างกว่ารถทั่วไปในระดับเดียวกัน สามารถจัดรูปแบบที่นั่งได้หลากหลาย ตั้งแต่ 5 – 11 ที่นั่ง และสามารถดัดแปลงให้ใช้งานได้หลายรูปแบบ เช่น รถพยาบาลฉุกเฉินภาคสนาม รถบรรเทาสาธารณะภัย รถควบคุมระบบสื่อสาร เป็นต้น อนาคต สามารถขยายตลาดไปยังประเทศในกลุ่ม AEC พร้อมเปิดตัวในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 36 ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 5 เมษายน 2558
          นายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ ได้คิดค้นพัฒนารถตรวจการณ์ รุ่นนี้ให้มีคุณสมบัติเหนือกว่า คู่แข่ง รถ PPV ทั่วไปในประเทศ เพราะเป็นรถตรวจการณ์รุ่นเดียว ที่สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากถึง 11 ที่นั่งอย่างสะดวกสบายสุด เพราะมีขนาดห้องโดยสารที่กว้างที่สุด หลังคาทรงสูง สามารถรองรับผู้โดยสารที่มีความสูงถึง 175 ซม. ได้ทุกที่นั่ง สามารถปรับรูปแบบที่นั่งโดยสารได้หลากหลาย มีพื้นที่บรรทุกสัมภาระ มากที่สุดในรถระดับเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีตัวถังยกสูง สามารถลุยน้ำได้ไม่น้อยกว่า 50 ซม. ยังคงมีเอกลักษณ์ที่ดูแข็งแรง บึกบึน ในสไตล์รถยนต์ตรวจการณ์ Off Road ซึ่งเหมาะกับการใช้งานที่หลากหลายอเนกประสงค์ ตั้งแต่ครอบครัวขนาดใหญ่ ที่รักการเดินทางท่องเที่ยว หน่วยงานเอกชน หรือข้าราชการที่ต้องการใช้รถยนต์ตรวจการณ์ในภารกิจต่าง ๆ รถยนต์รุ่นนี้ได้พัฒนาขึ้นบน โครงสร้างของรถยนต์ Pick Up Toyota Vigo ที่มีทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร 171 แรงม้า และ 2.5 ลิตร 143 แรงม้า ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องสมรรถนะที่ดีเยี่ยม มีค่าบำรุงรักษาต่ำ สามารถเข้ารับบริการด้านเครื่องยนต์และช่วงล่าง ได้ที่ศูนย์ บริการ Toyota ทั่วประเทศ ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่า TR Transformer MAX จะเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากเพราะคุ้มค่า ด้วยรูปลักษณ์ตัวถังที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร จะทำให้ผู้ใช้รถยนต์มีความภูมิใจ ที่ได้ใช้รถยนต์ของคนไทยที่สวยงามไม่แพ้ใคร
          ทั้งนี้ บริษัทฯ ที่จะร่วมพัฒนารถยนต์รุ่นนี้กับหน่วยงานราชการ ต่าง ๆ ที่ต้องการใช้รถลักษณะพิเศษ เช่นทหาร ตำรวจ ป่าไม้ หน่วยงานบรรเทาสาธารณะภัย ฯ เพื่อช่วยให้ประเทศสามารถมีรถใช้งานตรงตามความต้องการ และช่วยประหยัดงบประมาณประเทศ ลดการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ อีกทั้งเป็นการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ผลิตชิ้นส่วนและยานยนต์ของไทย ในการวิจัยและพัฒนายานยนต์เพื่อให้สามารถพึ่งตนเอง และสร้างความมั่นคงในประเทศในยามเกิดภาวะสงครามได้อีกด้วย
          ทั้งนี้สามารถชมและสัมผัสได้ที่ งาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 36 ณ. บูธไทยรุ่ง ชาเลนเจอร์ 1 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 5 เมษายน 2558
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:28:59 PM
มาสด้าส่งเทคโนโลยีสกายแอคทีฟเบนซินลงมาสด้า2 ใหม่ เขย่าตลาดเก๋งเล็ก เพิ่มทางเลือกที่ตอบทุกความต้องการตั้งเป้าขายสวนกระแสตลาด 5 หมื่นคัน





           บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ยังคงความแข็งแกร่ง เสริมทัพต่อยอดความสำเร็จจากเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล เปิดตัวแนะนำรถยนต์นั่ง ออลนิว มาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน สกายแอคทีฟ-จี ขนาด 1300 ซีซี อย่างเป็นทางการ มาพร้อมความคุ้มค่า คุ้มราคา แถมอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน เอาใจวัยรุ่นยุคดิจิตอลเชื่อมต่อกับโลกโซเชียลด้วยระบบ MZD Connect เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์บี-คาร์ ประกาศขึ้นแท่นผู้นำรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับพรีเมียมหนึ่งเดียวในคลาส วางราคาขายเริ่มต้นเพียง 5 แสนกว่าบาท พร้อมตั้งเป้าการขายสูงถึง 30,000 คัน
          นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าว มาสด้าถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่มุ่งมั่นเพื่อพัฒนารถยนต์นั่งซับคอมแพ็คคาร์ภายใต้มาตรฐานใหม่ ด้วยการแนะนำมาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ ที่มีเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดลงในตลาดถึง 2 เครื่องยนต์ เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าชาวไทย ทั้งสกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1500 ซีซี ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงอยู่ในขณะนี้ และล่าสุดส่งเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1300 ซีซี ที่ให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่เปี่ยมด้วยพลังแรง ให้กำลังสูงสุดที่ 93 แรงม้าที่ 5,800 รอบ แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ เป็นเครื่องยนต์เบนซินประสิทธิภาพสูงประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร พร้อมมาตรฐานด้านความปลอดภัยทั้งเชิงป้องกัน (Active Safety) และเชิงปกป้อง (Passive Safety) รวมถึงการออกแบบให้ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มการรับรู้และการคาดการณ์ต่อสถานการณ์ที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์มาสด้า2 สกายแอคทีฟเบนซิน สกายแอคทีฟ-จี1.3L เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านมาตรฐานข้อบังคับมลพิษของยุโรป EURO 5 เป็นครั้งแรกของรถที่จำหน่ายในประเทศ ด้วยการปล่อยไอเสียต่ำเพียง 100 กรัมต่อกิโลเมตร อีกทั้งการใส่อุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครันตอบสนองการใช้งาน ดังนั้นมาสด้า2 สกายแอคทีฟ-จี เบนซิน ใหม่ จึงเป็นรถยนต์ในกลุ่มบีเซ็กเมนต์ที่เหนือความคาดหมายของลูกค้า ซึ่งจะเข้ามาเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ และจะเป็นทางเลือกสำคัญหนึ่งเดียวในคลาส
          การเสริมทัพในครั้งนี้มาสด้าวางกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของมาสด้า2 ออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ กลุ่มแรกสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความต้องการชัดเจนในเรื่องของการใช้งานของรถที่ให้สมรรถนะสูง มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดี คุณภาพและมาตรฐานการขับขี่ขั้นสูง กลุ่มที่สองคือกลุ่มลูกค้าที่เน้นเครื่องยนต์เบนซิน ต้องการรถที่ขับสนุก คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน กลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาความคุ้มค่าคุ้มราคา และเป็นรถยนต์ที่ให้อรรถประโยชน์มากกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน ซึ่งทั้งสองกลุ่มเป็นตลาดหลักที่สำคัญของตลาดรถยนต์ประเทศไทย สำหรับมาสด้า2 สกายแอคทีฟ ใหม่ ทั้งสองรุ่น มาสด้าตั้งเป้าการขายไว้สูงถึง 30,000 คัน และจะตัวจักรสำคัญที่จะช่วยผลักดันยอดจำหน่ายโดยรวมให้ประสบความสำเร็จในปีนี้ของมาสด้าที่ตั้งเป้าไว้สูงถึง 50,000 คัน โดยประมาณ หรือเพิ่มขึ้นถึง 40% ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 5.5% ในขณะที่ตลาดรถยนต์โดยรวมคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 900,000 คัน
          จุดเด่นที่สำคัญของมาสด้า2 สกายแอคทีฟเบนซิน ใหม่ อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ มาพร้อมรูปลักษณ์การออกแบบภายใต้ “โคโดะ ดีไซน์” ที่สุดของการดีไซน์ที่ผสานจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันงดงาม พร้อมเทคโนโลยีแห่งความปลอดภัยขั้นสูง มิติใหม่ของรถซับคอมแพ็คคาร์ระดับโลกที่สามารถเชื่อมต่อสู่โลกออนไลน์ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ MZD Connect ที่สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารบนโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา มาสด้าตั้งใจที่จะสร้างรถมาสด้า2 สกายแอคทีฟเบนซิน ใหม่ ให้แตกต่างเหนือชั้น ก้าวข้ามรถยนต์ที่มีอยู่ในตลาดทุกคัน เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ให้ประสิทธิภาพสูงและประหยัด ใส่อุปกรณ์มาตรฐานครบครัน คุณภาพที่พิถีพิถัน จึงมีความคุ้มค่าและทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย
          เป้าหมายในการสร้างมาตรฐานการออกแบบภายในขึ้นใหม่ให้โลกได้รับรู้ เราใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างจริงจังรวมถึงความพิถีพิถันในการขึ้นรูปทรงที่สวยงาม คุณภาพที่เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน การสร้างสิ่งแวดล้อมภายในห้องโดยสารที่ยึดเอาผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง การเลือกสรรและการผสมผสานคู่สีที่สวยงาม จนเป็นห้องโดยสารที่เพิ่มความเพลิดเพลินให้กับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถมาสด้า2 สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ใหม่ ความสุขในทุกครั้งที่ได้อยู่บนรถคันนี้ ทำให้เกิดความกระตือรือร้นทุกครั้งและอยากจะขับรถคันนี้ให้บ่อยครั้งที่สุด
          เทคโนโลยี SKYACTIV-DRIVE คือ เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ที่รวมเอาข้อดีของเกียร์ทุกระบบเข้าไว้ด้วยกัน ให้อารมณ์ตอบสนองที่แม่นยำเฉกเช่นเกียร์ธรรมดา โดยกำลังจากเครื่องยนต์ถูกส่งไปยังตัวถังและล้ออย่างสมบูรณ์และลดการสูญหายของกำลัง จึงยังคงความแรงและให้ประสิทธิภาพของการประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม
          โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ SKYACTIV-BODY ซึ่งเป็นโครงสร้างของรถยนต์ยุคใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้มีน้ำหนักที่เบาลงเหมาะสมกับขนาดและกำลังของเครื่องยนต์ และเพิ่มโลหะเกรดพรีเมียมเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High Tensile Steel) ที่แข็งแกร่งแต่มีน้ำหนักเบาทดแทนเหล็กประเภทเดิม อีกทั้งยังเพิ่มจุดเชื่อมยึดเพื่อให้โครงสร้างหลักกับโครงสร้างส่วนอื่นของรถเป็นมวลเดียวกัน จึงให้ความมั่นคงกว่า ปลอดภัยกว่า พร้อมทั้งประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
          ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวสกายแอคทีฟ SKYACTIV-CHASSIS ให้ความรู้สึกในการขับที่เกาะถนนมั่นคง ขณะที่ความนุ่มนวลของช่วงล่างยังคงอยู่ ซึ่งระบบบังคับเลี้ยวระบบใหม่ให้ความมั่นใจในการควบคุมรถขณะเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ
          เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซินขนาด 1.3 ลิตร SKYACTIV-G และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE ที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อ อีกทั้งติดตั้งระบบ i-stop (idling stop system) และระบบช่วยประหยัดน้ำมันอัจฉริยะ i-ELOOP หรือระบบเปลี่ยนรูปพลังงานที่สูญเสียจากการชะลอหยุดรถกลับมาใช้ ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟเพื่อให้การประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม
          รถยนต์มาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ สามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรติมากมาย ล่าสุดคือ Japan Car of the Year 2014 ประเทศญี่ปุ่น และรางวัล Germany Golden Steering Wheel จากประเทศเยอรมัน สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่ารถมาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ ได้เอาชนะข้อจำกัดต่างๆ และสร้างมาตรฐานขึ้นมาใหม่ให้กับรถยนต์ในเซ็กเมนต์นี้แล้ว
          รถยนต์มาสด้า2 สกายแอคทีฟเบนซินใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่น ประกอบด้วยรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู 3 รุ่น และรุ่นซีดาน 4 ประตู 3 รุ่น สำหรับสีภายนอกเป็นอีกหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการออกแบบรถยนต์มาสด้า และเป็นการนำเสนอรถยนต์ที่น่าดึงดูดใจ โดยสีภายนอกมีความสำคัญเช่นเดียวกับอุปกรณ์อื่นๆ สีใหม่ที่มาสด้านำนวัตกรรมและเทคโนโลยีการพัฒนาแบบใหม่ที่มีลักษณะเฉพาะของสีที่มีความงดงาม เงาวาวเป็นประกายเมทัลลิก ดูมีมิติเชิงลึก คือ สีแดง โซล เรด รถยนต์นั่งมาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 8 สี ประกอบด้วย สีแดง โซล เรด, สีขาวมุก สโนว์เฟลก, สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช, น้ำเงิน ไดนามิก บลู, สีเงิน อลูมินัม, สีดำ แบล็ก, สีขาว อาร์กติค ไวท์ และสีเทา เมโทรโปลิตัน เกรย์
          มาสด้าวางเป้าหมายเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับพรีเมียมด้วยกลยุทธ์ด้านราคาที่เป็นอีกหนึ่งความสำคัญเพื่อให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้และเพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบสมรรถนะของเครื่องยนต์คลีนดีเซล ซึ่งหาไม่ได้จากรถในระดับเดียวกัน มาสด้านำมาพิจารณาในการนำมาสด้า2 สกายแอคทีฟเบนซินใหม่ ลงสู่ตลาดด้วยราคาเริ่มต้นที่ 5 แสนกลางๆ ในขณะที่รุ่นท็อป ซึ่งทั้งภายนอก ภายในมาพร้อมกับชุดเสริมความสปอร์ตที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ราคาเพียง 6 แสนกว่าบาท เมื่อเทียบคุณสมบัติและอุปกรณ์มาตรฐานที่มาสด้า2 ใหม่ มีมาให้กับราคา นับว่าเป็นรถยนต์อีกรุ่นหนึ่งในตลาดที่คุ้มค่ามาก มาสด้า2 สกายแอคทีฟ ใหม่ มีให้เลือกด้วยกัน 6 รุ่นคือ
          Mazda2 Sports แฮตช์แบค รุ่น Standard เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 550,000 บาท
          Mazda2 Sports แฮตช์แบค รุ่น High เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 610,000 บาท
          Mazda2 Sports แฮตช์แบค รุ่น High Plus เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 665,000 บาท
          Mazda2 Sedan รุ่น Standard เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 550,000 บาท
          Mazda2 Sedan รุ่น High เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 610,000 บาท
          Mazda2 Sedan รุ่น High Plus เกียร์อัตโนมัติ ราคาจำหน่าย 665,000 บาท
          นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการเปิดตัวรถยนต์มาสด้า2 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ใหม่ ในงานมอเตอร์โชว์แห่งนี้แล้ว มาสด้ายังยกทัพยานยนต์ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟมากันครับทุกรุ่น อาทิ รถยนต์มาสด้า2 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล ที่ทั้งแรงทั้งประหยัด โดยเฉพาะล่าสุดมาสด้าจัดกิจกรรม Mazda SKYACTIV Clean Diesel Challenge โดยการพิสูจน์อัตราการประหยัดน้ำมันจากกรุงเทพถึงประเทศมาเลเซียด้วยน้ำมันเพียงถังเดียว ซึ่งเป็นการทดสอบที่ออกแบบให้มีความใกล้เคียงกับการใช้งานจริงมากที่สุด ผลปรากฏว่ามาสด้า2 สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5L มีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 33.22 กิโลเมตรต่อลิตร
          อีกทั้งงานมอเตอร์โชว์นี้ยังมี รถสปอร์ตอเนกประสงค์เอสยูวี All New Mazda CX-5 ตามมาด้วยรถยนต์นั่งคอมแพ็คคาร์ All New Mazda3 พร้อมทั้งการเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ตพรีเมียมของมาสด้า3 ให้มีความสดใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วยรุ่นพิเศษ Mazda3 Racing Series ซึ่งเป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น หนึ่งเดียวแห่งจิตวิญญาณสปอร์ตพรีเมียม ยากที่ใครจะเหมือน เติมเต็มอารมณ์เรซซิ่งด้วยชุดแต่งแอร์โร่พาร์ทแท้จากประเทศญี่ปุ่นที่ดีไซน์เฉพาะตัว ทั้งสเกิร์ตหน้าและสเกิร์ตด้านข้างสีดำ และสปอยเลอร์หลังสีดำ มาพร้อมล้ออัลลอยด์สีพิเศษ Gun Metallic ขนาด 18 นิ้ว คอนโซลหน้าสีดำเปียโนแบล็ก พร้อมโลโก้ Racing Series เบาะหนังดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยวัสดุหนังสีดำ-แดงแต่งขอบด้วยด้ายแดง พร้อมโลโก้ Racing Series บนพนักพิงศีรษะ มีให้เลือก 2 สี คือสีขาวมุก สโนว์เฟลกและสีแดงโซล เรด วางราคาจำหน่ายเพียง 968,000 และ 973,000 บาท มีให้เลือกทั้งรุ่นแฮตช์แบคและซีดาน มาสด้ามีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าเสียงตอบรับอย่างดียิ่งของลูกค้าที่มีต่อเทคโนโลยี สกายแอคทีฟ ในรถยนต์ทุกรุ่นของมาสด้า จะส่งผลให้มาสด้าสามารถทำยอดจองในงานมอเตอร์โชว์แห่งนี้ได้ในอันดับต้นๆ ได้
          www.mazda.co.th
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:30:49 PM
Mazda injects SKYACTIV technology into new Mazda2 gasoline to rattle the Thai small car market





           Japanese auto maker plans to reverse the trend with a sales target of 50,000 units in 2015
          With full confidence in the Thai economy, Mazda Sales (Thailand) Co. Ltd. is expanding its product portfolio with the official introduction of the all-new Mazda2 gasoline SKYACTIV. The Mazda2 gasoline is powered by a newly-developed SKYACTIV-G 1.3L engine boasting an average fuel economy of 23.3 kilometers per liter and comes with innovative safety technology as well as outstanding value-for-money. The MZD Connect system provides in-car online connection for modern customers and sets a new standard in the B-segment. The premium Mazda2 is expected to become the best-selling model in the subcompact car market, with prices starting in the Bt500,000-plus neighborhood. The sales target for the Mazda2 is 30,000 units per year.
          Mr. Hidesuke Takesue, President of Mazda Sales (Thailand) Co. Ltd., said Mazda is the first manufacturer to develop a subcompact car with a new set of standards. “The all-new Mazda2 SKYACTIV is equipped with the two best engines in the market, and represents the best choice for Thai customers,” he said.
          “The 1.5-liter SKYACTIV Clean Diesel engine is enjoying tremendous popularity and we are completing the Mazda2 model range with the introduction of the 1.3-liter SKYACTIV-G engine which offers outstanding performance of 93hp/ 5,800 rpm with the highest torque of 123 nm/ 4,000 rpm. It is an efficient gasoline engine that offers fuel economy of 23.3 kilometers per liter. It comes with a host of standard safety features both active and passive safety. The Mazda2 SKYACTIV-G 1.3L offers eco-friendliness with just 100g/km of carbon dioxide emissions allowing it to be the first model in Thailand to pass the stringent EURO 5 emission standards. This makes the Mazda2 a premium model in the B-segment that exceeds customer expectations, and it will penetrate the market as the top pick in its segment,” Mr. Takesue added.
          With the addition of the Mazda2 gasoline, Mazda plans to cater to two major customer groups. The first group consists of Mazda2 Clean Diesel buyers who are from the new generation and have individual preferences. They have clear requirements in terms of wanting a high performance car with good fuel economy, offering both high driving quality and standard. Meanwhile, Mazda2 gasoline buyers want a car that is fun to drive, agile with high fuel economy. They look for high value-for-money and superior features than the competition.
          “These two groups are considered as a major market for Thailand. For both Mazda2 models, the combined sales target is 30,000 units per year, which will help drive up Mazda’s total sales to 50,000 units, a surge of 40 per cent compared to the last year, and equivalent to a market share of 5.5 per cent from the projected 900,000 vehicles to be sold in 2015,” he said.
          The all-new Mazda2 gasoline oozes with the complete SKYACTIV technology and features the “KODO: Soul of Motion” design philosophy that combines the beauty of movement with high-level safety technology. Online communication is provides through the MZD Connect system, allowing continuous interactions with the world of social media.
          Through the all-new Mazda2 SKYACTIV-G, Mazda intended to set a new benchmark in the subcompact car market whether in terms of design or technology that is highly efficient and offers high fuel economy. The standard features are well-equipped with attention to detail in manufacturing, making the all-new Mazda2 SKYACTIV a great value for money car that everyone can own.
          Regarding the interior, Mazda looked into every detail and made sure that the Mazda2 offered higher quality than other cars in its segment. The interior provides a driver-oriented atmosphere and comes with well-match color schemes, making it highly enjoyable to be in and own. The Mazda2 is a car that arouses the senses, making you want to drive it as often as possible.
          The SKYACTIV-DRIVE is a 6-speed automatic transmission that combines the benefits of every transmission systems, providing the driver with the responsiveness of a manual gearbox. As the engine power is transmitted to the wheels with much less loss along the way, performance is maintained whereas fuel economy is much improved.
          The SKYACTIV-BODY structure is developed to be lighter and matches the size and output of the engine. High-tensile steel, which is more rigid and lighter, has been introduced while the continuous bonding was implemented to offer higher stability, safety and fuel economy.
          The lightweight SKYACTIV-CHASSIS provides stable road handling while maintaining comfort of the suspension. The new electric power steering system facilitates confidence while cornering as well.
          The 1.3-liter SKYACTIV-G engine and the newly-developed 6-speed SKYACTIV-DRIVE also features the i-stop idling stop system and the i-ELOOP Brake Energy Regeneration System which team up to offer excellent fuel economy. The all-new Mazda2 SKYACTIV-G has won numerous awards from around the world, including the Japan Car of the Year 2014 and the German Golden Steering Award. These awards are proof that the all-new Mazda2 has overcome the boundaries and have set a new benchmark in the subcompact car segment.
          The all-new Mazda2 SKYACTIV-G is available in 6 different grades– 5-door hatchback and sedan -- each with three trim levels. The exterior color is an important factor when designing a new Mazda model, as helps establish an exciting presentation to the product, as much as other equipment. The new color that Mazda is offering, particularly Soul Red, has been developed using unique paint technologies and offer exceptional shine and dimension. The new Mazda2 SKYACTIV is available in attractive 8 colors – Soul Red (which is the color used for the launch), Snowflake White Pearl, Titanium Flash, Dynamic Blue, Aluminum Metallic, Black Mica, Arctic White and Metropolitan Grey.
          The Mazda2 range aims to cover the premium small car segment with an attractive pricing strategy which allows everyone to become an owner, as well as catering to customers who favor the unrivalled performance of the SKYACTIV-D power plant. Prices of the all-new Mazda2 start in the mid-Bt500,000 neighborhood while the top version that comes fully-equipped both inside and out, is priced at Bt600,000-plus. When comparing retail prices and the equipment level offered, the Mazda2 emerges with one of the best value-for-money in the market. The 6 trim levels are as follows:

          Mazda2 Sports Standard Hatchback Automatic Price 550,000 Baht
          Mazda2 Sports High Hatchback Automatic Price 610,000 Baht
          Mada2 Sports High Plus Hatchback Automatic Price 665,000 Baht
          Mazda2 Standard Sedan Automatic Price 550,000 Baht
          Mazda2 High Sedan Automatic Price 610,000 Baht
          Mazda2 High Plus Sedan Automatic Price 665,000 Baht
          Mr. Takesue added that apart from introducing the all-new Mazda2 gasoline at the Bangkok International Motor Show, Mazda has also brought along other SKYACTIV models such as the Mazda2 SKYACTIV Clean Diesel that is both powerful and economical. At the recently-staged Mazda Clean Diesel Challenge from Bangkok to Malaysia using just one tank of fuel, the Mazda2 diesel was able to achieve a highly impressive fuel economy of 33.22km/l.
          Also being displayed at the Mazda booth is the CX-5 sport utility vehicle and the Mazda3. The Mazda3, in particular, will get a special customization in order to further express its premium character with the Racing Series limited-edition model. Featuring a complete package of aerodynamic parts from Japan including black front apron, side skirts and rear spoiler, the Mazda3 Racing Series runs on special 18-inch Gun Metallic rims. Inside you will find a black piano console with Racing Series logo, newly-design leather-upholstered seats with red trim, red stitching and Racing Series logo on the headrest. Two body colors are available – Snowflake White Pearl and Soul Red priced at Bt968,000 and Bt973,000 respectively – and both hatchback and sedan body styles are available.
          Mazda is confident that the positive response from customers to the SKYACTIV technology in every Mazda model will help increase the number of orders placed for Mazda vehicles at the Bangkok International Motor Show, putting Mazda in the forefront.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:32:10 PM
นิสสัน ตอกย้ำการก้าวสู่ความเป็นยุคใหม่ ยกขบวนรถนิสสัน 9 รุ่น เอาใจลูกค้าทุกกลุ่มในงาน บางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 พร้อมอัด 3 แคมเปญพิเศษ ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดในงาน 10%







           นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ยกทัพรถนิสสันมาจัดแสดงในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 นี้ ครบทุกเซกเมนต์ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกกลุ่ม ตอกย้ำพันธะสัญญาของบริษัทในการสร้างนวัตกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจ พร้อมแนะนำข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถยนต์ทุกรุ่น
          ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 36 บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดแสดงยานยานยนต์ บนพื้นที่ 1,728 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด นวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ Innovation that excites โดยนิสสันได้นำรถยนต์มาจัดแสดงรวมทั้งสิ้น 9 รุ่น คือ นิสสัน เทียน่า นิสสัน ซิลฟี นิสสัน ลิวิน่า นิสสัน มาร์ช และ นิสสัน เออร์แวน และอีก 4 รุ่นที่นับเป็นไฮไลต์ คือ นิสสัน จู๊ค ใหม่ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา และ นิสสัน อัลเมร่า รุ่นสปอร์ตเทค
          นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ใน งานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36นี้ นิสสันมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่จะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สรรสร้างจากนวัตกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจและครบครันด้วยรถยนต์ทุกเซกเมนต์ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม และด้วยนวัตกรรมอันล้ำสมัย ดีไซน์ที่โดดเด่น เทคโนโลยีอัจฉริยะ ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และให้ความปลอดภัยที่เหนือระดับ ของรถยนต์นิสสัน ทุกรุ่น คาดว่า นิสสันจะได้รับความสนใจและตอบรับจากลูกค้า โดยคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดจากยอดจองในงานประมาณ 10%”
          สำหรับโปรโมชั่นสุดพิเศษจากนิสสัน ในงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันนี้ จนถึง 5 เมษายน มีข้อเสนอพิเศษ ต่างๆ ให้ลูกค้าได้เลือก เช่น ดาวน์ต่ำ 5% หรือ อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 ในรถยนต์หลากหลายรุ่น
          บูธของนิสสันในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 36 ถูกออกแบบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญการสร้างสรรค์เทคโนโลยีพร้อมกับอุปกรณ์สื่อสารรูปแบบต่างๆ ภายใต้วงแหวนแห่งประสบการณ์ โดยจะเน้นการถ่ายทอดสัมผัสแห่งความปิติยินดีที่นำเสนอจากความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจในอดีตของนิสสันในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตยานยนต์ที่ใหญ่และดีที่สุดในโลก นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำด้านการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ของนิสสัน ผู้เข้าชมงานภายในบูธนิสสันยังจะได้สัมผัสกับกลิ่นหอมของอโรมา ที่จะทำให้ผู้เข้าชมงานรู้สึกผ่อนคลาย และเพลิดเพลินไปกับการเลือกชมผลิตภัณฑ์ที่สนใจได้เป็นอย่างดี
          สำหรับรถยนต์ 4รุ่น ไฮไลต์ ที่นิสสัน ภูมิใจนำเสนอ ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ คือ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ รถอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับการออกแบบใหม่ด้วยภายนอกและภายในที่โดดเด่นเหนือใคร ประณีต ใส่ใจทุกรายละเอียด ผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์ประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ 3 มิติ ขนาด 5 นิ้ว แสดงผลข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการขับขี่ และไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ระบบกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ และระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ ส่วนพื้นที่ภายในแบบ 3 แถว และที่นั่งแบบ 5+2 ที่ ซันรูฟแบบพาโนรามิค และประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกสบายและพื้นที่ใช้สอย สนุกและเชื่อมต่อสังคมออนไลน์ง่ายๆด้วย NISSAN CONNECT ตอบโจทย์ทุกการขับขี่ที่รื่นรมย์อย่างเหนือระดับ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีด้วยยอดขายรวมกว่า 3,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
          นิสสัน จู๊ค ใหม่ ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Bold and Futuristic Design ด้วยดีไซน์สปอร์ตสุดเท่ เพิ่มความดุดันด้วยไฟรี่ LED รูปทรงใหม่แบบ Boomerang Shape ล้ำสมัยและเฉียบคมด้วยกระจังหน้า กันชนหน้า และกันชนท้ายใหม่ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ คนรุ่นใหม่ นำเทรนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยกับระบบสื่อสาร EZ Talk ใส่ความปลอดภัยเต็มขั้น ด้วยถุงลม 6 จุดรอบคัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถยนต์ประเภทคอมแพค สปอร์ตครอสโอเวอร์ ด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านคัน ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และกว่า 1 หมื่นคันในประเทศไทย นับตั้งแต่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2556 ที่ผ่านมา
          นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา ครบทุกตัวถัง ได้แก่รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ รุ่นคิง แค็บ และ รุ่นดับเบิ้ล แค็บ รวมไปถึงรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล และรุ่นเบนซิน โดยทุกรุ่นได้รับการติดตั้งกล้องมองหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ขณะที่รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ มีการติดตั้งที่เหยียบขึ้นกระบะด้านข้างเพื่อความสดวกในการใช้งาน ทำให้นิสสันครบครันด้วยรถกระบะครบทุกการใช้งาน ตอกย้ำชื่อเสียงอันโดดเด่นในสมรรถนะพันธุ์แกร่งของรถกระบะนิสสัน พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทุกระดับ
          สุดท้าย นิสสัน อัลเมร่า รุ่น สปอร์ตเทค รถอีโค คาร์ ซีดาน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ซึ่งได้ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้นิยมความเป็นรถสปอร์ต ด้วยกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมช่องกันชนล่างลายรังผึ้งแบบสปอร์ต กระจังหน้าแบบโครเมียม รมดำ สเกิร์ตด้านข้างและด้านหลัง ไฟหน้าฮาโลเจนพร้อมด้วยภายในสีโครเมียม รมดำ ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน พร้อมกับล้ออัลลอยด์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว สีรมดำพิเศษ และโลโก้รุ่นด้านท้าย Sportech และพวงมาลัยหุ้มหนัง ทั้งหมดนี้เป็นการออกแบบเพื่อให้อัลเมร่า สปอร์ตเทค เป็นรถที่ดูทันสมัยแต่เต็มไปด้วยพละกำลัง
          พบกับข้อเสนอสุดพิเศษอื่นๆที่น่าสนใจได้จากโปรแกรม Nissan Easy Pay ผู้สนใจสามารถสัมผัสและเยี่ยมชมนวัตกรรมรถยนต์นิสสันได้ที่บูธภายในงานตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึงวันที่ 5 เมษายน 2558 ที่ชาเลนเจอร์ฮอลส์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:33:13 PM
Nissan showcases full line-up of nine models at the 36th Bangkok International Motor Show







          Leading with a passion for “Innovation that excites” to fulfill customer demands and meet lifestyle expectations
          Nissan Motor (Thailand) Co., Ltd., one of the world’s leading manufacturers of innovative, exciting automobiles, reaffirms its passionate mindset focusing on “Innovation that excites” with a full line-up of the nine Nissan models available in Thailand, at the 36th Bangkok International Motor Show, 25 March – 5 April 2015, Challenger 1-3, IMPACT Muang Thong Thani.
          “Over the past five years after launching the first eco car in Thailand - Nissan March in 2010 and the first eco-car sedan in Thailand - Nissan Almera in 2011, Nissan Motor Thailand has transformed itself completely into a company that leads with innovation: making advanced high-end technology accessible to the mainstream market. We are focused on introducing new products with cutting-edge features for safety, comfort, and enjoyable driving. Most importantly, the nine models already launched in Thailand have all met with great global success, thus we are confident that they can satisfy all the demands and lifestyles needs of our Thai customers,” said Mr.Prapat Choeychom, Senior Vice-President Marketing and Sales of Nissan Motor (Thailand).
          Mr.Prapat noted that in addition to Nissan’s passion for innovation in technology and design, Nissan has also concentrated on a rapid expansion of customer support networks so that Nissan drivers’ ownership experience meets or exceeds their expectations in every respect.
          Our sales and dealer network has expanded rapidly in terms of both number and quality, from 156 dealers in 2010 to 209 today, and we expect to have nation-wide 220 dealers by the end of this year. This means there is a Nissan dealer near every customer and potential customer.
At the same time we have invested heavily in expanding and strengthening our after sales service capacity in terms of training, equipment and availability of genuine, value-for-money spare parts and accessories.
          Nissan’s high profile booth at the motor show, under the concept of “Innovation that excites”, occupies 1,728 sq m of space. The highlights are the four models with advanced technology, in- trend design, environment friendly and good safety, namely, New Nissan JUKE, All-New Nissan X-Trail, Nissan NP300 Navara and Nissan Almera Sportech.
          Highlights of Nissan vehicles at the 36th Bangkok International Motor Show:
          New Nissan Juke:
          The New Nissan Juke, the 1.6L unique sport crossover, is newly refreshed from front to rear with a bolder, futuristic design. The Juke minor change comes with six airbags for added safety, “EZ Talk” and Digital Signal Processing (DSP) which enhance driving pleasures while the I-CON system allows drivers to adjust driving modes and climate the way they like. Since its launch in Thailand in late 2013, more than 10,000 units of Nissan Juke have been sold. Today, on a global scale, more than one million units of Juke are serving satisfied customers on streets in Japan, Europe, North America, as well as in other regions.
          All-New Nissan X-Trail:
          The 5+2 seat SUV Nissan X-Trail features “first-in-segment” advanced safety and comfort technologies, such as the Auto-Lift Gate, Around-View Monitor (AVM) and Advanced Chassis Control, which includes Active Engine Brake (AEB), Active Ride Control (ARC), and Active Trace Control (ATC). The Nissan X-Trail is the Number One SUV in Japan, and it has been well-received by customers in every market, including Thailand.
          The Nissan X-Trail is available in four variants: 2.0S CVT 2WD, 2.0E CVT 2WD, 2.0V CVT 4WD, and 2.5V CVT 4WD. The MR20DD, 2.0L gasoline engine in the Nissan X-Trail is newly developed with Direct Injection for added fuel economy, churning out 144 HP while the 2.5L QR25DE engine produces 171 HP.
          Nissan NP300 Navara:
          Raising the bar of the pick-up market in Thailand, the Nissan NP300 Navara now offers a full model line-up for both heavy-duty commercial and private uses with gasoline and diesel engines available in all variants: Double-Cab, King-Cab, and Single-Cab. Most importantly, the Single-Cab NP300 Navara is the first in its segment to offer rear-view
camera
and side-steps, which enhance safety while making loading and unloading easier for users.
          The Nissan NP300 Navara is equipped with a 2.5-litre engine, producing the highest horsepower at 190 HP with improved fuel efficiency. A wide-range 7-speed automatic transmission helps ensure fuel economy and a smoother ride. With a full-length, fully boxed ladder frame, the NP300 Navara has proven to be one of the toughest pickups on the road by adding torsional stiffness to enhance performance.
          Nissan Almera Sportech:
          In 2011, Nissan strengthened its pioneering spirit with the introduction of the first eco-car sedan in Thailand, the “Nissan Almera”. Strongly acclaimed for its roominess, fuel efficiency, and unmatched value for money, the Nissan Almera remains the Number One Eco-car Sedan in the market until today. Recently the company introduced the “Nissan Almera Sportech”, a refreshed version with sportier features, including Daytime Running Lights, sporty aero parts, and a bolder Smoke Chrome-design front grille and alloy wheels.
          Also showcased at the Nissan Booth at the 36th Bangkok International Motor Show are five other exceptional Nissan models: the ultimate luxury sedan, the “Nissan Teana”; the premium design that comes with fuel efficiency, the “Nissan Sylphy”; the impressively agile, with enhanced visibility, “Nissan March”; the 16-seat, with 18 air conditioning outlets, powerful commercial vehicle “Nissan Urvan”; and the multi-utility vehicle for all lifestyles “Nissan Livina”.
          Nissan offers a wide range of special promotional campaigns for each model at the 36th Bangkok International Motor Show, as well as at Nissan showrooms nationwide, including the lowest 5-percent down payment, free first-class auto insurance, and interest-free financial programs. The promotions start from 25 March until 5 April. Challenger Hall 1-3 Impact Maung Thong
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:35:16 PM
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รถอเนกประสงค์ล้ำสมัย เปี่ยมสมรรถนะและเทคโนโลยีเหนือชั้นพร้อมลุยตลาดอาเซียน



          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับแก่ผู้บริโภค ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการผสมผสานความสมบุกสมบันแบบออฟโรดเข้ากับการขับขี่ที่เหนือชั้นและความคล่องตัวที่เกินความคาดหมายจากรถอเนกประสงค์ทั่วไป
          รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งรุ่นล่าสุด มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวและบึกบึน ประณีต โครงสร้างแบบบอดี้ออนเฟรม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ พร้อมระบบ Terrain Management System (TMS) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคในทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมระบบช่วงล่างอันล้ำสมัยเพื่อช่วยให้การขับขี่ราบรื่น นุ่มนวล โดยไม่ทิ้งความคล่องตัวในการขับขี่ ห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง กว้างขวาง ดูหรูหรา ทันสมัยและประณีตในทุกรายละเอียด
          เทคโนโลยีอัจฉริยะรวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียงซิงค์ 2 ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ระบบตรวจจับรถในจุดบอด พร้อมระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด ได้รับการติดตั้งในรถระดับนี้เป็นครั้งแรกทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์ที่ล้ำสมัยที่สุดในตลาด
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้รับการติดตั้งเบาะนั่งแถวที่ 3 แบบพับเรียบด้วยระบบไฟฟ้า และ ประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า เป็นครั้งแรกในรถระดับนี้ เพื่อความอเนกประสงค์และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
          ราคาในประเทศไทยเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท พร้อมเปิดรับจองในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์

          วันนี้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย สร้างนิยามใหม่ให้กับตลาดรถอเนกประสงค์ในอาเซียนด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยวและบึกบึน พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ผสานสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดและภายในหรูหรา ทันสมัยสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 คน
          “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ในโชว์รูมของเราทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนด้วยสมรรถนะที่ครบครันของความเป็นรถอเนกประสงค์ ที่มาพร้อมความสะดวกสบายเหมาะเป็นรถสำหรับครอบครัวและสามารถใช้ในเส้นทางสมบุกสมบันได้” มร.แมท แบรดลีย์ ประธานฟอร์ด อาเซียน กล่าว “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เป็นรถที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ภายนอกถึงภายใน พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเป็นครั้งแรกสำหรับรถระดับนี้ มอบความคุ้มค่าเหนือกว่ารถอื่นๆ ในเซ็กเม้นต์เดียวกัน”
          ภายใต้รูปลักษณ์ดุดันที่สะท้อนถึงความสมบุกสมบันและเทคโนโลยีล้ำสมัย ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ครบครันทั้งความแข็งแกร่ง เทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย ดีไซน์สวยสะดุดตา และสมรรถนะเพื่อการขับขี่แบบออฟโรดเต็มรูปแบบ โดยที่ยังรักษาความเป็นรถยนต์ที่ขับสนุกในสไตล์ฟอร์ดไว้ได้อย่างครบถ้วนด้วยความคล่องตัวบนท้องถนน พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งหรูหราและสะดวกสบาย
          “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะเปิดโอกาสให้เราได้ขยายตลาดในภูมิภาคนี้ได้กว้างขึ้น ด้วยรถยนต์อเนกประสงค์ที่สามารถพาผู้ขับขี่ เพื่อนๆ สมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานไปยังทุกจุดหมายได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือบนเส้นทางแบบออฟโรดอันสมบุกสมบัน” มร. ริชาร์ด ทิลลี่ ผู้อำนวยการฝ่ายยานพาหนะ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว “ด้วยสมรรถนะอันเป็นเลิศทั้งหมดนี้ ทำให้รถยนต์อเนกประสงค์ของเราในภูมิภาคนี้ ทั้งฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างครบถ้วน”
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นผลงานการสร้างสรรค์ขึ้นโดยทีมออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งยังนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดรถอเนกประสงค์ทั่วโลกของฟอร์ดมาใช้ ทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถสานต่อความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านความทนทานและความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ทั้งนี้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะมีให้เลือกทั้งในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ
          “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทของฟอร์ดในการพัฒนารถยนต์คุณภาพเยี่ยมที่เหนือความคาดหวังของลูกค้า” มร. ทิลลี่ กล่าวเสริม “กระบวนการพัฒนาฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายให้สูงไว้ก่อน ซึ่งในที่สุดเราก็ประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์รถยนต์อเนกประสงค์ที่สร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในด้านการออกแบบและสมรรถนะการขับขี่ พร้อมมอบเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมายทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เหนือชั้นกว่า ปลอดภัยกว่า และมีสมรรถนะเหนือกว่าที่เคย”
?
ดุลยภาพแห่งสมรรถนะ ความพร้อมลุยแบบออฟโรด และนุ่มสบายบนท้องถนน
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้มีความทนทานในระดับแถวหน้าของตลาด พร้อมฝ่าฟันทุกเส้นทาง ด้วยโครงสร้างแบบบอดี้ออนเฟรม ทำให้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่มีตัวถังที่แข็งแกร่ง เหมาะสมกับการขับขี่แบบสมบุกสมบัน นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ ระบบเกียร์แบ่งกำลังพร้อมระบบควบคุมการจ่ายแรงบิด (Torque on Demand) ระบบ Terrain Management System ความสูงจากพื้นรถ ถึง 225 มิลลิเมตร สูงที่สุดในรถระดับเดียวกัน พร้อมลุยน้ำได้ที่ความลึกสูงสุด 800 มิลลิเมตร ทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถเอาชนะทุกอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รับมือกับทุกสภาพพื้นผิวการขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ระบบ Terrain Management System จึงมาพร้อมกับโหมดตั้งค่าการขับขี่พิเศษสี่แบบ 1. สำหรับพื้นผิวทั่วไป 2. พื้นหิมะ/กรวด/หญ้า 3. พื้นทราย และ 4. พื้นหินขรุขระ โดยที่แต่ละโหมดจะปรับเปลี่ยนการตั้งค่าอัตราเร่ง ระบบส่งกำลัง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และระบบควบคุมการเกาะถนน เพื่อให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์ ส่วนในกรณีที่ต้องเผชิญกับเส้นทางออฟโรดสุดหฤโหด ผู้ขับขี่ก็สามารถเลือกปรับโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อที่อัตราทดรอบต่ำเพื่อการควบคุมรถได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
          นอกเหนือไปจากสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดแล้ว รถยนต์อเนกประสงค์รุ่นนี้ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและมอบความคล่องตัวในระดับที่เหนือความคาดหมาย ด้วยช่วงล่างแบบคอยล์สปริงหน้า-หลัง พร้อม วัตต์ลิงค์ที่เพลาหลัง มอบความสะดวกสบาย รวมถึงการเกาะถนนอย่างดีเยี่ยม ให้ความรู้สึกสนุกในการขับขี่ซึ่งเป็นดีเอ็นเอของฟอร์ดไว้ได้อย่างเต็มรูปแบบ
เทคโนโลยีล้ำสมัย มอบความสะดวกสบายและปลอดภัยอย่างเหนือชั้น
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมายที่พร้อมสร้างประสบการณ์การขับขี่อันสุดพิเศษ จนถือเป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์แบบออฟโรดที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา นับเป็นการต่อยอดจากความเชี่ยวชาญในระดับโลกของฟอร์ดด้านการสร้างสรรค์รถยนต์อเนกประสงค์ที่ดีเยี่ยม
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ติดตั้งระบบสั่งงานด้วยเสียง ซิงค์ 2 ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อการสื่อสารภายในรถรุ่นล่าสุดจากฟอร์ด ผู้ขับขี่จึงสามารถใช้เสียงสั่งการอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง ระบบปรับอากาศ และอุปกรณ์พกพาต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับตัวรถได้อย่างเป็นธรรมชาติและสะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ระบบ ซิงค์ 2 ยังมาพร้อมจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ที่ใช้งานง่ายด้วยเมนูควบคุมที่แบ่งจอออกเป็น 4 มุม และใช้สีที่แตกต่างกันบ่งบอกถึงฟังก์ชันการใช้งานหลักๆ อย่างชัดเจน พร้อมระบบเพื่อความบันเทิงเต็มรูปแบบด้วยลำโพงคุณภาพสูงถึง 10 ตัวรวมซับวูฟเฟอร์ มอบเสียงที่ชัดเจนพร้อมเสียงเบสทุ้มลึกและหนักแน่น
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีอีกมากมายที่ไม่เคยปรากฏในรถอเนกประสงค์รุ่นใดมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System หรือ BLIS) พร้อมระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (Cross Traffic Alert) ซึ่งจะคอยแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในกรณีที่มีรถคันอื่นอยู่ในจุดบอด หรือมีรถตัดผ่านในขณะถอยออกจากซองจอด
          เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ ที่มีอยู่ในฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้แก่ ระบบป้องกันรถพลิกคว่ำ (Roll Stability Control) และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program) ที่ทำงานสอดประสานกับระบบควบคุมการเกาะถนนเพื่อความมั่นใจสูงสุดขณะขับขี่ ส่วนระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) จะช่วยให้การนำรถเข้าจอดเทียบข้างเป็นเรื่องง่าย โดยที่ผู้ขับขี่จะควบคุมเพียงแค่การเหยียบคันเร่ง เข้าเกียร์ และเบรก โดยไม่จำเป็นต้องจับพวงมาลัย โดยเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกในตลาดรถอเนกประสงค์ระดับเดียวกันในประเทศไทย
          นอกเหนือจากเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยเหล่านี้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนด้วยโครงสร้างห้องโดยสารที่แข็งแกร่งด้วยวัสดุสุดทนทานอย่างเหล็กโบรอน และอุปกรณ์ความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย เช่นถุงลมนิรภัย 7 จุด เพื่อป้องกันผู้โดยสารในกรณีที่เกิดการชน เป็นต้น
ไปได้ไกลกว่า กับขุมพลังที่เปี่ยมประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมัน
          สมรรถนะอันเหนือชั้นของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาจากขุมพลังของเครื่องยนต์ดีเซล 2 รุ่น ในตระกูลดูราทอร์คของฟอร์ดที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด โดยเทคโนโลยีอันทันสมัยทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่เป็นรถที่ประหยัดน้ำมันและมอบสมรรถะในการขับขี่ที่เป็นเลิศ
          สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังและแรงบิดสูงสุดเพื่อใช้ในการลากจูง เครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค ทีดีซีไอ ขนาด 3.2 ลิตร แบบ 5 สูบรุ่นล่าสุด ให้กำลังสูงสุด 147 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุดถึง 470 นิวตันเมตร มอบประสิทธิภาพเหนือระดับด้วยคุณสมบัติใหม่มากมาย รวมถึงระบบหมุนเวียนไอเสียแบบใหม่เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
          สำหรับผู้ที่มองหาเครื่องยนต์ที่ยังคงความประหยัดน้ำมันโดยไม่สูญเสียสมรรถนะการขับขี่ ฟอร์ดพร้อมนำเสนอเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 118 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุดถึง 385 นิวตันเมตร
ความชาญฉลาดในการออกแบบเพื่อตอบสนองต่อการใช้งาน
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ โดดเด่นด้วยด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยวแต่แข็งแกร่ง สื่อถึงสมรรถนะในการขับขี่ที่เหนือชั้นและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่อยู่ภายใน ส่วนหน้ารถที่ดุดัน ไฟหน้าขนาดใหญ่ พร้อมไฟวิ่งกลางวันแอลอีดี อันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ดควบคู่กับตัวถังที่ผ่านการทดสอบทางอากาศพลศาสตร์โดยละเอียดทุกขั้นตอน จนเกิดเป็นผลงานการออกแบบที่ผสมผสานความสวยงามและประสิทธิภาพเข้าด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
          ห้องโดยสารของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มอบความหรูหราโดดเด่นด้วยวัสดุคุณภาพสูง และเส้นสายรอบคันที่สอดประสานกันอย่างกลมกลืนและลงตัวภายในห้องโดยสาร 7 ที่นั่งที่ทั้งสวยงาม นั่งสบาย และใช้งานสะดวกด้วยคุณสมบัติมากมาย ทั้งหลังคาแบบพาโนรามิคมูนรูฟขนาดใหญ่ ประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า ช่องเก็บของกว่า 30 ช่อง ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับเบาะหน้าและเบาะหลัง ที่นั่งและพื้นที่เก็บของที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับทุกการใช้งานได้ โดยเบาะนั่งแถวที่สองและสามสามารถพับเก็บให้แบนราบได้ทั้งสองแถว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานและการบรรทุกสัมภาระได้อย่างลงตัว
          เพื่อให้ห้องโดยสารปราศจากเสียงรบกวน ฟอร์ดจึงได้ติดตั้งเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน ไว้ภายในตัวรถ ทั้งยังพัฒนาซีลกันเสียงและวัสดุดูดซับเสียงภายในห้องโดยสารให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นอีกด้วย
          เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน มีหลักการทำงานที่คล้ายคลึงกับการต้านเสียงรบกวนของหูฟังระดับพรีเมียม โดยภายในห้องโดยสารของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีไมโครโฟนจำนวน 3 ตัวที่ทำหน้าที่ตรวจจับและวัดระดับเสียง ก่อนที่ระบบควบคุมและเครื่องเสียงในตัวรถจะทำการสังเคราะห์คลื่นเสียงที่ตรงข้ามกันเพื่อหักล้างกับเสียงรบกวน จึงทำให้ห้องโดยสารเงียบสนิท ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถพูดคุยกับผู้โดยสารในแถวที่สามได้โดยไม่ต้องใช้เสียงดัง
          “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ครบครันด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยและระบบป้องกันความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม และสุดยอดสมรรถนะสำหรับทุกการขับขี่ไม่ว่าจะเป็นการลุยแบบออฟโรด และนุ่มสบายบนท้องถนน จึงถือเป็นมาตรฐานใหม่ของตลาดรถอเนกประสงค์ขนาดกลาง และสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์รถยนต์อเนกประสงค์ของฟอร์ดสำหรับตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้เป็นอย่างดี” มร. ทิลลี่ กล่าว “เราได้นำเอาความเชี่ยวชาญในการออกแบบและพัฒนารถยนต์ทั่วโลก และประสบการณ์อันยาวนานในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ มาผสมผสานกันเพื่อสร้างสรรค์รถยนต์คุณภาพที่เหนือกว่าความคาดหมายของลูกค้าอย่างแท้จริง”
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะผลิตที่โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง ผู้สนใจสามารถจอง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมฟอร์ดทุกสาขาทั่วประเทศ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม แบบขับเคลื่อนสองล้อ ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคาอยู่ที่ 1,459,000 บาท และสำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม พลัส แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคาอยู่ที่ 1,599,000 บาท โดยการส่งมอบรถจะเริ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีสีให้เลือก5 สี ได้แก่สีขาว คูล ไวต์ (Cool White) สีดำ แบล็ก ไมก้า เมทัลลิก (Black Mica Metallic ) สีเงิน อะลูมินัม เมทัลลิก (Aluminum Metallic) สีทอง สปาร์คลิ่ง โกล์ด เมทัลลิก (Sparkling Gold Metallic) และสีแดง ซันเซต เมทัลลิก (Sunset Metallic)
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:36:24 PM
Ford’s Smart New Everest Brings Refinement and Rugged Capability to the ASEAN SUV Market



          The new Ford Everest goes far beyond what consumers in Southeast Asia expect from a premium SUV, blending rugged off-road capability with exceptional ride quality and dynamic handling,
          With a chiseled and sculptural design, Ford’s latest seven-seat off-road SUV features body-on-frame construction, intelligent four-wheel drive and an advanced Terrain Management System to help drivers navigate challenging terrain with ease and confidence
          Together with an advanced suspension that offers exceptional ride comfort and agile handling, the new Ford Everest’s spacious, modern interior with high-quality craftsmanship delivers a comfortable ride for up to seven passengers
          Advanced, first-in-class features, including SYNC 2, Active Park Assist, and segment-first Curve Control and Blind Spot Information System with Cross Traffic Alert, make the new Ford Everest one of the smartest SUVs in its segment
          First-in-class power-fold third-row seating and power liftgate add to flexibility and versatility

          The new Ford Everest made its debut in Thailand today, redefining the ASEAN SUV market with bold design, advanced technology, stunning off-road and on-road capability, and a refined, premium interior for up to seven passengers.
          “With the new Ford Everest, we’re further strengthening our showroom lineup across ASEAN markets with a fully capable and competitive premium SUV that works equally well as a comfortable and refined family vehicle or taking on the roughest terrains of Southeast Asia,” said Matt Bradley, president, Ford ASEAN. “It’s a completely new vehicle inside and out with a host of first-in-class features, providing unmatched value in its segment.”
          With a rugged, sculptural design that reflects its unshakeable toughness and technological prowess, the new Everest blends strength, smart features and style to bring consumers a tough and versatile SUV with true off-road capability. In addition to surprising and delighting fans of rugged off-road SUVs, the new Everest embodies Ford’s fun-to-drive DNA to deliver rewarding and dynamic on-road handling, offering no compromises on refinement and comfort.
          “The Ford Everest will help to expand our product footprint in the region with a tough and refined vehicle that enables drivers, their families, friends and colleagues to go anywhere comfortably – whether on urban roads or far off the beaten track,” said Richard Tilley, vehicle line director, Ford Asia Pacific. “From the EcoSport to the Everest, our SUV portfolio in Asia Pacific offers something for everyone.”
          Led by Ford’s Asia Pacific design and product development teams, and making use of Ford’s global SUV expertise, the new Ford Everest builds on the reputation of the current Everest, which is praised for its durability and versatility. The new Ford Everest will be available in both rear-wheel drive and four-wheel drive variants.
          “The new Ford Everest represents an epic commitment on the part of the Ford Motor Company to meet and exceed high customer expectations,” said Tilley. “From the very beginning we set aggressive targets, and with the Ford Everest we have truly raised the bar for this type of vehicle in design and capability, with advanced technologies for a smarter, safer and more capable vehicle.”
?
Balancing rugged off-road and refined on-road capability
          The new Ford Everest was designed from the ground up with the durability to take on the most inhospitable environments. One of the toughest SUVs in its segment, the Everest has a true body-on-frame design, assuring the torsional strength required for challenging terrains. Together with an intelligent four-wheel drive system, an active transfer case with Torque on Demand, Terrain Management System, and best-in-class ground clearance of 225 mm and water-wading capability of 800 mm, the Everest helps drivers navigate difficult terrain with ease.
          For ultimate capability, the advanced, first-in-class Terrain Management System gives drivers four preset settings – Normal, Snow/Gravel/Grass, Sand and Rock– that alter the vehicle’s throttle response, transmission, intelligent four-wheel drive system and traction control to confidently tackle any situation. For extreme off-road environments, drivers can manually lock the transfer case in low-range four-wheel drive mode for increased control.
          These impressive off-road credentials are paired to a new level of ride quality and dynamic handling beyond what consumers have come to expect in a rugged SUV. Thanks to its coil spring front and rear suspension and a Watt’s linkage on the rear axle, the new Ford Everest provides a comfortable, stable ride with agile and predictable handling on the road, keeping the promise of Ford’s fun-to-drive DNA.
?
Advanced technology for a smarter, safer drive
          Ingeniously packaged with “up for it” functionality enabling extraordinary journeys, the new Ford Everest is one of the most technologically advanced off-road SUVs ever made, and builds on Ford’s global expertise in the utility segment.
          The latest generation of Ford’s in-car connectivity solution, SYNC 2, lets drivers use natural voice commands to control the car’s
entertainment
system, climate controls and connected mobile devices more easily than ever before. SYNC 2 also boasts an eight-inch touchscreen with color-coded corners for easy menu navigation. The entertainment system features a first-in-class 10-speaker sound system with an integrated subwoofer, providing accurate and precise sound reproduction and deep, rich bass.
Other segment-first technologies in the new Everest include Curve Control, designed to help drivers maintain control when approaching turns too quickly, and Blind Spot Information System (BLIS) with Cross Traffic Alert, which informs drivers when there is a vehicle in their blind spot while driving or when preparing to reverse out of parking spots.
          The vehicle also offers other advanced features, including Roll Stability Control and an Electronic Stability Program that works with traction control to help the driver stay in control. To reduce parking anxiety, Active Park Assist enables drivers to parallel park hands-free, requiring only accelerating, shifting and braking from the driver – a first in its segment in Thailand.
          In addition to advanced active safety systems, a strong passenger cage built using high-strength materials like boron steel, and passive safety features, including up to seven airbags, help to keep occupants safe in the event of a collision.
?
Power and efficiency to go further
          The incredible capabilities of the new Ford Everest are made possible by one of two diesel engines from Ford’s globally proven Duratorq family, mated to durable and efficient six-speed automatic or manual transmissions. Featuring advanced technologies that improve fuel efficiency, both engines deliver excellent performance:
          For maximum power and torque for heavy-duty towing, Ford is offering the latest generation of its 3.2-liter Duratorq five-cylinder TDCi diesel engine with 147 kW of power and 470 Nm of torque. Upgrades from the previous generation include an updated exhaust gas recirculation system to boost efficiency
          For maximum fuel economy without compromising performance, Ford is also offering the latest generation of the 2.2-liter Duratorq four-cylinder TDCi diesel, putting out 118 kW of power and 385 Nm of torque
?
Smart and functional design
          The new Ford Everest stands apart with a bold, sculptural design that communicates its impressive capabilities and advanced smart features, while the robust front end with signature LED daytime running lights and wide stance make for a powerful presence on the road. The chiseled and technical design is also highly efficient – extensive aerodynamic testing led to an exterior that seamlessly melds form and function.
          The new Everest’s bold exterior presence is paired with a modern interior that makes use of refined materials and emphasizes horizontal lines to create a comfortable, harmonious environment for up to seven adult occupants. Interior features balance ride comfort with ultimate practicality, including a dual-panel moon roof, a first-in-class powered liftgate, more than 30 cleverly designed stowage spaces, multiple power outlets and flexible seating and cargo arrangements – including fold-flat second- and first-in-class power-fold third-row seating – to achieve a perfect balance between passenger demands and packing efficiency.
          To ensure exceptional cabin quietness, Ford equipped the new Everest with Active Noise Cancellation technology in addition to optimizing cabin sealing and sound absorbing materials throughout the vehicle.
          Similar to the systems used in noise-cancelling headphones, Active Noise Cancellation uses three strategically placed microphones inside the cabin to detect and measure sounds. A smart control module instantaneously generates opposing sound waves, which are then fed through the Everest’s audio system to cancel out unpleasant noises. The result is a quiet interior that lets the driver comfortably speak with third row passengers without shouting.
          “With its safe and smart features, a refined interior and outstanding on-road and off-road capabilities, the new Ford Everest sets a new standard in the medium SUV segment and represents a compelling addition to our global lineup of SUVs in ASEAN markets,” said Tilley. “Taking advantage of our global design and development expertise, and our proud heritage in the utility segment, we’ve created a vehicle that goes far beyond customer expectations.”
          The new Ford Everest will be manufactured at AutoAlliance Thailand in Rayong, Thailand.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:37:40 PM
Ford Hosts ASEAN Debut of New Everest and Global Unveiling of New Ranger at 36th Bangkok International Motor Show





          Ford announces Thai market pricing starting at THB1,269,000 for the highly-capable Everest SUV, begins taking customer bookings
          New Ranger is unveiled to the world as Ford continues its product-led transformation and growth strategy

          The continuation of Ford’s product-led transformation in ASEAN is on display at the 36th Bangkok International Motor Show with the global premiere of the new Ranger pickup and ASEAN introduction of the new Everest SUV.
          The reveal of two new, global vehicles at the Bangkok International Motor Show underscores Ford’s commitment to continue introducing world-class vehicles to serve customers in Thailand, across ASEAN and around the world.
          “We’re very proud of our pickup truck and SUV heritage at Ford. Our global leadership and expertise in these segments is clearly reflected in the new Ranger and Everest, which will further strengthen our showroom lineup and continue driving the success of our product-led transformation in the region,” said Matt Bradley, president, Ford ASEAN.
          Ford will continue to build both nameplates at its AutoAlliance Thailand manufacturing facility, for sale in the domestic market and export across the region.
          The new Ranger will set a new industry benchmark in the pickup truck segment with updated design, impressive power and capability, and a host of advanced new features that allow owners to achieve even more.
          The Ranger will be launched in all respective ASEAN markets later this year.
New Everest
          The new Everest goes beyond what consumers expect from an SUV, blending rugged off-road capability with exceptional ride quality and dynamic handling.
          Led by Ford’s Asia Pacific design and product development teams, the new Everest makes use of Ford’s global SUV expertise and builds on the current Everest’s durability and versatility.
          Designed from the ground up for impressive capability, the Everest is filled with advanced technologies for outstanding levels of safety, connectivity and convenience.
          “Each new global Ford vehicle has helped to redefine its respective segment and attract even more new-to-Ford customers. We’re confident that the new Everest will do the same, as the smartest, most capable SUV in its class,” said Yukontorn ‘Vickie’ Wisadkosin, managing director, Ford Thailand.
The seven-seat Everest brings several first-in-segment features to Thailand, including Terrain Management System, panoramic sunroof, third-row PowerFold seats and Power Tailgate, Active Park Assist and Blind Spot Information System (BLIS) with Cross Traffic Alert, which informs drivers when there is a vehicle in their blind spot while driving or when preparing to reverse out of parking spots.
          Everest also features the latest generation of Ford’s in-car connectivity solution, SYNC 2, which boasts an eight-inch touchscreen with color-coded corners for easy menu navigation.
          The new Everest is available in two diesel engine options, a 3.2-litre Duratorq five-cylinder TDCi and the latest generation of the 2.2-litre Duratorq four-cylinder TDCi, mated to a durable and efficient six-speed automatic transmission.
          Customer bookings can now be made for the new Everest at Ford dealers nationwide, with pricing starting at THB 1,269,000 for the 2.2L Titanium 4x2. The 3.2L Titanium 4x4 is available for THB 1,459,000 and the 3.2L Titanium+ 4x4 for THB 1,599,000. Customer deliveries will begin in the third quarter.
          The new Everest is available in a collection of bold colors that includes Cool White, Black Mica Metallic, Aluminum Metallic, Sparkling Gold Metallic and Sunset Metallic.
Interactive Displays
          In addition to its full lineup of vehicles, the Ford stand will be highly interactive with a number of exhibits that engage and educate visitors about Ford’s ‘quality, green, safe and smart’ leadership.
          Ford’s Experience Wall System allows visitors to customize their own Ford vehicle in 3D – by selecting the nameplate, body style and color they are interested in, as well as see the full list of accessories and pricing for their selected model.
          Ford’s recently launched 24-hour Roadside Assistance Application will be demonstrated, showcasing how customers can access this 24-hour emergency service during the time of inconvenience, and why it gives customers extra peace of mind on the road wherever they might be in Thailand.
          Special stand-alone displays of Ford engines, including the 3.2L TDCi and 2.2L TDCi diesel engines, as well as Ford’s internationally-acclaimed 1.0L EcoBoost engine, will allow visitors to view up-close the detail and composition of these high-performance engines.
          Visitors can also learn more about Ford’s customer and ownership experience efforts, including Ford’s nationwide footprint of dealer locations and comprehensive aftersales service programs that include Roadside Assistance, Scheduled Service Plan, Ford Ensure, 24-hour Parts Delivery Guarantee, Premium Protection Plus and Mobile Service.
          “We are continuing to focus on further enhancing our customer and ownership experience to ensure it matches the world-class quality of our global Ford vehicles,” said Yukontorn.
Exclusive Deals
          For a limited time, Ford is offering attractive offers on its full range of global vehicles available in Thailand for customers who make a booking at the Show.
          The 36th Bangkok International Motor Show is running from March 25 to April 5 at Impact, Muang Thong Thani.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:39:02 PM
วอลโว่เปิดตัว V60 T5 Special Edition พร้อมเครื่องยนต์ Drive-E Powertrain และโปรโมชั่นครบรอบ 88 ปีกับรถหลากรุ่น





          วอลโว่เปิดตัวรถยนต์ Special Edition วอลโว่ V60 T5 เครื่องยนต์ Drive-E Powertrain ที่พกพาเอาสมรรถนะ เทคโนโลยีความปลอดภัยและคุณลักษณ์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างเต็มเปี่ยม ให้ผู้รักรถได้สัมผัสในงาน Bangkok International Motor Show 2015 โดยมีจำหน่ายในจำนวนจำกัดเพียง 32 คัน และในโอกาสฉลองครบรอบ 88 ปีแห่งการก่อตั้งวอลโว่ มีการจัดโปรโมชั่นพิเศษกับรถมากมายหลายรุ่นจนถึง 30 เมษายนนี้ ส่วนลูกค้าปัจจุบัน จะได้รับสิทธิประโยชน์จากแคมเปญหลังการขายจนถึง 31 พฤษภาคมศกนี้

V60 T5 Special Edition เอกสิทธิ์แห่งการครอบครอง
          วอลโว่ V60 T5 เป็นรถสปอร์ตแวกอนอีกหนึ่งรุ่น ที่ใช้เครื่องยนต์ใหม่ในตระกูล Drive-E Powertrain เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ 2 ลิตร น้ำหนักเบา ให้ความแรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ 6 และ 8 สูบ แต่ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซี.ซี. ในปัจจุบัน รถรุ่นนี้มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 8 สปีด พร้อม Sport Mode และ Geartronic เป็นเลิศในการขับขี่และตอบสนองทันใจในทุกช่วงความเร็วและจัดเต็มกับขุมพลัง Polestar Performance Optimization เพื่อเพิ่มสมรรถนะและความเร้าใจในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น

เปลี่ยนโลกด้วยพลังเครื่องยนต์ Drive-E Powertrain T5
          วอลโว่ Volvo V60 T5 มาพร้อมเครื่องทรงพลัง Drive-E Powertrain แบบ T5 ขนาด 2 ลิตร 4 สูบไดเร็กอินเจ็กชั่น พร้อมเทอร์โบชาร์จ ให้พลังสูงสุด 220 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที และทอร์ค 350 นิวตันเมตรในช่วง 1,500-4,000 รอบต่อนาที จึงตอบสนองได้ทันใจในทุกรอบเครื่อง? อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ในเวลาเพียง 6.8 วินาที ขณะเดียวกันก็ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 144 กรัมต่อกิโลเมตร พร้อมทั้งประหยัดน้ำมันได้อย่างน่าทึ่ง โดยสามารถวิ่งเฉลี่ยใน-นอกเมือง 16.1 ก.ม./ลิตร ?

คุณลักษณ์พิเศษที่เพิ่มขึ้นในรถยนต์วอลโว่ V60 T5 รุ่น Special Edition ประกอบด้วย
ใหม่ด้วยนวัตกรรมเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง Volvo Drive-E Powertrain
ชุดเพิ่มสมรรถนะ Polestar Performance Optimisation
ระบบแจ้งเตือนด้วยแรงสั่นที่พวงมาลัยเมื่อรถวิ่งออกนอกช่องทางดินรถ
หมอนหนุนหลังในเบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า
กระจกมองหลังแบบไม่มีกรอบ ตัดแสงจ้าอัตโนมัติ
เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และ Sport Mode พร้อม Paddle Shift
ช่วงล่างแบบไดนามิก
ชุดปลายท่อคู่แบบเหลี่ยมสไตล์สปอร์ต
Sensus Connect ระบบสื่อสารที่สามารถสื่อสารกับรถและเชื่อมต่อกับโลกดิจิตอล
พร้อมแอปพลิเคชั่นใหม่ Wikipedia, Glympse, Sticher, Here weather, Find fuel)
ระบบแผนที่นำทาง (Navigation)
สีภายนอกใหม่ 2 สี Savile Grey และ Bright Silver Metallic
เบาะหนังสไตล์สปอร์ตใหม่สี Beachwood Brown/Offblack
แผงคอนโซลกลางลาย Piano Black พร้อม Rotary Jewelry Knobs
ล้ออลูมิเนียม ขนาด 8X18” ลาย Titania
เพิ่มความพิเศษด้วย โลโก้ SE ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

รูปลักษณ์ภายนอก – ใส่ใจทุกรายละเอียด สะกดทุกสายตา
          วอลโว่ V60 T5 Special Edition เปรียบได้กับรถคูเป้ในรูปลักษณ์สปอร์ตแวก้อน ผสานความปราดเปรียว เข้ากับพื้นที่บรรทุกของด้านท้ายที่เพิ่มขึ้น ตอบสนองทุกมิติในชีวิตได้อย่างเต็มพิกัด ดีไซน์ภายนอก สร้างความโดดเด่นเร้าใจด้วยเส้นสายแนวขวางและไฟ Daylight running ที่มุมหน้ารถทั้งสองด้านที่ทำให้ดูเหมือนรถกดต่ำ ไฟหน้าทรงใหม่สไตล์เฉี่ยวที่สื่อถึงความมุ่งมั่น ฝากระโปรงหน้าใหม่ กระจังหน้าที่กว้างขึ้น เพิ่มความโฉบเฉี่ยวทรงพลัง สะกดทุกสายตา

เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย
          วอลโว่ไม่เพียงใส่ใจความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถ แต่ยังรวมไปถึงผู้ที่ร่วมใช้รถใช้ถนนอีกด้วย วอลโว่ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ขึ้นมามากมาย เพื่อช่วยปกป้องคุ้มครองผู้ขับขี่และคนเดินถนนให้ปลอดภัย ด้วยการติดตั้งระบบป้องกันการชนพร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถอัตโนมัติ ที่ให้รถไม่ชนรถ รถไม่ชนคน และรถไม่ชนจักรยาน เป็นครั้งแรกของโลกยนตรกรรม และนี่คือหนึ่งในความมุ่งมั่นที่วอลโว่ต้องการลดการบาดเจ็บและการเสียชีวิตให้เป็นศูนย์ในปี 2020
          ทั้งหมดนี้คือคุณลักษณ์อันโดดเด่นของ วอลโว่ V60 T5 รุ่นปี 2015 Special Edition ที่ผู้ชื่นชอบรถหรูเปี่ยมสมรรถนะ ความปลอดภัย และลูกเล่นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ไม่อาจมองข้าม ที่สำคัญเป็นเวอร์ชั่นพิเศษมีเพียง 32 คันเท่านั้นให้ครอบครอง

โปรโมชั่นวอลโว่ฉลองครบรอบ 88 ปี
          ไฮไลต์ของของโปรโมชั่นในครั้งนี้ คือการจัดโปรแกรมให้ลูกค้าได้ผ่อนรถสบาย ๆ กับวอลโว่ S60 T4F ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 24,888 บาท วอลโว่ V60 T4F ผ่อนเดือนละ 29,888 บาท และวอลโว่ S80 T4 ผ่อนเดือนละ 36,888 บาท โดยโปรแกรมผ่อนสบายจะมีจนถึงวันที่ 30 เมษายนศกนี้
รถที่นำมาจัดโปรโมชั่น มีรายละเอียด ดังนี้
S60 T4F – รถสปอร์ตซีดานและการขับขี่ที่เร้าใจ เริ่มตันผ่อนเดือนละ 24,888 บาท
V60 T4F – รถสปอร์ตแวกอนสำหรับครอบครัวและผู้รักการเดินทาง ผ่อนเดือนละ 29,888 บาท
V40 T5 - รถ 5 ประตูพรีเมี่ยมแฮทช์แบคเพื่อชีวิตอิสระสไตล์สปอร์ต ผ่อนเดือนละ 23,888 บาท
V40 T5 Cross Country – เพื่อชีวิตสไตล์สปอร์ตและการเดินทาง ผ่อนเดือนละ 25,888 บาท
S80 T4 - ซีดานหรูขนาดใหญ่สำหรับผู้บริหาร ผ่อนเดือนละ 36,888 บาท
XC60 – รถครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ เริ่มตันผ่อนเดือนละ 37,888 บาท
          นอกจากนี้วอลโว่ยังเอาใจผู้ขับขี่หัวใจสปอร์ต ในวาระครบรอบ 88 ปี ด้วยการจำหน่าย รถติดชุดแต่งสปอร์ตหรู S60 T4F พร้อม R-Design style kit ราคา 2,325,000 บาทและ Volvo V60 T4F พร้อมชุดแต่ง R-Design style kit ราคา 2,425,000 บาท ในชุดแต่ง R-Design ประกอบด้วย กระจังหน้า R-Design กันชนหน้า R-Design ครอบกระจกมองข้าง แผงใต้กันชนหลัง R-Design ปลายท่อไอเสียคู่ R-Design และล้ออลูมิเนียมขนาด 8x19” ลาย Ixion II โดยรถแต่งที่นำมาจัดโปรโมชั่นนี้มีจำนวนจำกัด
          รถใหม่ทุกคันมาพร้อมบริการ Volvo Maintenance บำรุงรักษา 5 ปีหรือ 100,000 กม. Volvo Warranty บริการรับประกันคุณภาพฟรี 3 ปีหรือ 100,000 กม. และ Volvo Assistance บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 3 ปี ทั้งหมดนี้มอบเป็นบริการมาตรฐานสำหรับลูกค้าวอลโว่
          สำหรับลูกค้าปัจจุบันของวอลโว่ ก็ได้รับสิทธิ์พิเศษเช่นกัน โดยจะได้รับส่วนลดค่าอะไหล่ 16 รายการ 15-25% และฟรีตรวจสภาพรถยนต์ 7 รายการ ประกอบด้วย ระบบปรับอากาศ แบตเตอร์รี่ สายพานขับอุปกรณ์ ระบบระบายความร้อน ระบบเบรก ระบบกันสะเทือนหน้าและหลัง และเมื่อเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง แถมบริการกรองน้ำมันเครื่องฟรี โปรโมชั่นซ่อมบำรุงรถยนต์เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 พฤษภาคม 2558 ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมวอลโว่ใกล้บ้านท่าน หรือ ติดต่อวอลโว่ แคร์เซ็นเตอร์ ที่โทร. 0 2305 4499
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:40:33 PM
Volvo Launches V60 T5 Special Edition with Drive-E Powertrain And Marks Its 88th Anniversary with Special Promotion





          In order to entice luxury sportswagon fans, this year, Volvo Car (Thailand) has brought the Special Edition V60 T5 to launch at the Bangkok International Motor Show. The car is unique with its combination of high performance, state-of-the-art safety technology and features that fit the lifestyle of modern consumers. Only 32 cars will be offered in this exclusive series. In addition, on the occasion of Volvo’s 88th anniversary, Volvo Car (Thailand) is introducing irresistible promotions for both new and current customers to avail of. New car promotions are available from now until 30th April, 2015 at the Motor Show and Volvo showrooms nationwide, while customer service promotions for current customers run until 31st May.
?
Volvo V60 T5 Special Edition: The Privileged Ownership
?          V60 T5 is the latest 5 door sportswagon with the innovative Drive-E Powertrain. The compact lightweight 4-cylinder 2 litre turbo engine produces power equal to those with 6 or 8 cylinders. The car comes with 8-speed geartronic automatic transmission with sport mode, offering impressive drivability and responsiveness across all speed range. In addition, V60 T5 Special Edition is equipped with Polestar Performance making driver’s experience exceptionally satisfying.

Drive-E Powertrain T5: Green Technology that Changes the World
          The Drive-E Powertrain produces 220 HP at 5,500 rpm and delivers maximum torque of 350 Nm from just 1,500 and all the way up to 4,000 revs a minute. It can accelerate from 0-100 km in only 6.8 seconds. While the engine delivers massive power, it produces impressively low emission while achieving high fuel efficiency. The average fuel consumption (city and highway driving combined) is 16.1 km per litre.
?
?
Special features of V60 T5 Special Edition include:
Volvo Drive-E Powertrain innovation ans 8-speed geartronic automatic transmission with paddle shift
Polestar Performance Optimisation
Lane Keeping Aid with steering wheel vibration.
Electric lumbar support in front seats
Rimless rear view mirror with automatic anti-dazzle
Dynamic chassis
Squared twin tailpipes
Sensus Connect: connecting You, the Car, and the World Around You
(New application: Wikipedia, Glympse, Sticher, Here weather, Find fuel)
Navigation system
Two new exterior colours: Savile Grey and Bright Silver Metallic
Sport Leather seat in Beachwood Brown/Offblack
Piano Black Centerstack with Rotary Jewelry Knobs
8x18” aluminium wheels in Titania Design
The uniquely privileged SE logo

          The Look of No Ordinary Sportswagon: The car was designed to feel like a coupe with the utility of a sportswagon, retaining that handy extra space at the rear. Its road presence was made significant by emphasizing the horizontal lines, which visually connects the car directly to the road. The more focused and determined-looking headlamps help create this new, expressive ‘face'. Together with details such as a wider grille and daytime running lights, they give the V60 T5 a striking, squat presence.
Technology Optimized for Safety: Volvo cares not only for drivers and passengers in our cars but also people in the other cars, bikers and pedestrians sharing the roads. Volvo has developed a lot of technology to ensure everyone on the road stays safe. In doing this, we offer innovations that detect and avoid collisions with full auto brake. Volvo is the world’s first to offer the technology that help avoid collisions of car to car, car to bikers and car to pedestrians. And this is Volvo’s journey towards the aim of reducing accidents and serious injuries in and from Volvo cars to zero within 2020.
?
88th Anniversary Promotion
          This year Volvo is proud to celebrate its 88th anniversary, marking a milestone in its successful journey. For this special occasion, Volvo Car (Thailand) is lining up exciting promotions for all its customers, old and new, that will be hard to resist. Take advantage of this anniversary promotion by visiting any of the Volvo Showrooms nationwide or the Volvo Booth at the Bangkok International Motor Show 2015, Booth A13, Challenger Halls, Impact - Muang Thong Thani.
          Highlights include the S60 T4F with easy monthly payments starting from 24,888 Baht, the Volvo V60T4F at 29,888 Baht and the S80 T4 at 36,888 Baht. This anniversary campaign will run from now until 30th April 2015.

The financial programmes include:
S60 T4F - Stylish sport sedan for the young-at-heart starting from 24,888 Baht per month
V60 T4F - Trendy sport wagon ideal for family and travel 29,888 Baht per month
V40 T5 - 5 door Premium hatchback for worry-free and sporty lifestyle 23,888 Baht per month
V40 T5 Cross Country - sporty lifestyle and travel 25,888 Baht per month
S80 T4 - Luxury sedan for executives 36,888 Baht per month
XC60 – Versatile and elegant crossover starting from 37,888 Baht per month
 
          Volvo S60 and V60 T4F customers who would like to give their cars a sportier edge can avail of Volvo Car (Thailand)’s special anniversary offer for cars equipped with R-Design styling kits.
S60 T4F with R-Design Style Kit is available for 2,325,000 Baht, and V60 T4F with R-Design Style Kit for 2,425,000 Baht. The kit includes the R-Design front bumper, Silk Metal side mirror covers, R-Design grille, R-Design rear diffuser, R-Design double sport exhaust pipes, 8x19” aluminium wheels in Ixion II Design. The offer will be available on a first-come first-served basis.
?          Standard to all customers, Volvo offer Free Maintenance for 5 years or 100,000 kilometres, Volvo Warranty for 3 years or 100,000 kilometres and Volvo Assistance, the 24-hour assistance for 3 years.
?          Current Volvo car owners can also benefit from attractive deals that include 15-25% discount for 16 spare parts and free check-up of 7 car components namely air conditioning system, battery, auxiliary belt, cooling system, brake system, front suspension system and rear suspension system. When customers have their engine oil changed, they will also receive engine oil filtering service free of charge. This maintenance promotion runs until 31st May 2015. For more information, please contact Volvo Showroom or call the Volvo Care Center at 0 2305 4499.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:42:14 PM
ครั้งแรกในประเทศไทยกับปอร์เช่ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) รถแข่งสุดยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ปอร์เช่เผยโฉม 919 ไฮบริด พร้อมขนทัพรถหรูร่วมโชว์ในงานมอเตอร์โชว์ 2015







          ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 (Bangkok International Motor Show 2015) เพื่อเป็นการประกาศและตอกย้ำความเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยภายในงานท่านจะได้พบกับสุดยอดรถแข่งระดับโลกเจ้าของความสำเร็จรายการ Le Mans และ WEC ในปี 2014 นั่นคือ ปอร์เช่ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) นอกจากนี้ เอเอเอสฯ ได้ขนทัพสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก ประกอบด้วย ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) รถ Plug-in Hybrid คันแรกของโลกในคลาสรถสปอร์ตอเนกประสงค์ , พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid) รถสปอร์ต ซาลูนสุดหรูที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีระบบขับเคลื่อนแบบ plug-in ไฮบริดคันแรกของโลกในคลาสรถหรู , พานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel) รถยนต์ที่มาพร้อมพละกำลังและแรงบิดสูงแต่มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดอย่างเหลือเชื่อ , มาคันน์ (Macan) รถสปอร์ตอเนกประสงค์ SUV ขนาด Compact ที่โดดเด่นและพร้อมมอบความสนุกสนานในทุกการขับขี่ , และ เคย์แมน (Cayman) รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลาง 2 ที่นั่งมาพร้อมกับความสปอร์ตและเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอย่างเต็มพิกัด พร้อมให้ท่านสัมผัสอย่างใกล้ชิด
          ครั้งแรกในประเทศไทยกับ ปอร์เช่ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) รถแข่งในคลาส Le Mans prototype ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย การันตีความสำเร็จจากรายการ Le Mans และ WEC ในปี 2014 พร้อมให้ทุกท่านยลโฉมภายในงาน ปอร์เช่ 919 ไฮบริด (Porsche 919 Hybrid) มาพร้อมเครื่องยนต์สันดาป เครื่องยนต์ตัว V ขนาด 4 สูบ โดยเครื่องยนต์มีขนาด 2 ลิตร ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรงและ Mono-turbocharging เครื่องยนต์สามารถวิ่งไปได้จนถึงความเร็วที่ 9,000 รอบต่อนาที และมีกำลังขับประมาณ 500 แรงม้า ไม่เพียงเท่านี้ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) ยังมีระบบการนำพลังงานกลับมาใช้อยู่ถึง 2 ระบบ ซึ่งมีพื้นฐานการทำงานโดยนำพลังงานความร้อนจากแก๊สไอเสียผ่านตัวกำเนิดไฟฟ้ามาใช้ใหม่ โดยระบบไฮบริดสำหรับรูปแบบที่ 2 มีฟังก์ชั่นการทำงานคล้ายกับรุ่น 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) ซึ่งระบบนี้จะมีตัวสร้างพลังงานบนเพลาหน้า เมื่อเกิดการเบรกจะทำการเปลี่ยนพลังงานจลน์ไปเป็นพลังงานไฟฟ้า แบตเตอรี่ ลิเธียม ไอออน จะทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บพลังงาน เมื่อผู้ขับขี่ต้องการพลังงานเหล่านี้ มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำการขับเคลื่อนเพลาหน้า และทำให้ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) กลายมาเป็นรถที่มีระบบการขับเคลื่อน 4 ล้ออย่างสมบูรณ์
          เอเอเอสฯ ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้ความมั่นใจว่ารถยนต์ทุกคันที่ทางเอเอเอสฯ นำเข้าและจัดจำหน่ายได้ผ่านการทดสอบโฮโมโลเกชั่น (Homologation) ของประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายและครบทุกกระบวนการที่จำเป็นและสำคัญสำหรับการนำมาใช้งานในประเทศไทย ระบบจัดการของเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับกฎระเบียบและสภาพ ภูมิประเทศของประเทศไทยอย่างดีที่สุด รวมถึงยังมีศูนย์บริการของรถยนต์ปอร์เช่ที่ได้มาตรฐานตามโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีกำหนดไว้ พร้อมทั้งมีทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานโดยตรง พร้อมให้การดูแลและบริการรถยนต์ปอร์เช่ของท่าน โดยลูกค้าสามารถมั่นใจในบริการที่จะได้รับ หากซื้อรถยนต์กับทางเอเอเอสฯ อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขายที่ได้คุณภาพโดยตรงจากโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนี ราคาที่เสียภาษีนำเข้ารถยนต์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และคุณภาพของรถยนต์ปอร์เช่ที่ได้มาตรฐาน

เอเอเอสฯ ขอมอบแคมเปญและข้อเสนอพิเศษสำหรับท่านที่จองรถยนต์ปอร์เช่ภายในงาน
          แคมเปญผ่อน 1.99% นาน 60 เดือน สำหรับ Macan
          ประหยัดยิ่งกว่าด้วยบัตรเติมน้ำมัน PTT Cash Card มูลค่ากว่า 100,000 บาท
          เพลิดเพลิน ไปกับ Paragon Gift Voucher มูลค่า 100,000 บาท
          และที่สำคัญเอเอเอสฯ ยังมอบความเชื่อมั่นให้แด่ลูกค้าที่ซื้อรถจากเอเอเอสฯ ทุกคัน ด้วยจดหมายรับรองการนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อมอบความมั่นใจให้แด่ลูกค้า
          การรับประกันจากโรงงานปอร์เช่เยอรมันนีนานถึง 9 ปี
          *Terms & Conditions Apply
          นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมายที่ทางเอเอเอสฯ ได้จัดเตรียมให้ทุกท่านร่วมสัมผัสและค้นหา ความสุนทรีย์ของสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์กันอย่างใกล้ชิด รวมถึงรถยนต์ไฮไลท์ประจำบูธที่จะสะกดสายตาคุณให้หลงใหลไปกับสมรรถนะอันลือเลื่องที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และมี Accessories ต่างๆ จาก Porsche Driver’s Selection มาให้ท่านเลือกสรรมากมายในราคาพิเศษ ภายในงาน Motor Show 2015 ณ อิมแพค เมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ 2 ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม - 5 เมษายน 2015 นี้
          ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงาน ปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่ “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:44:06 PM
The centre of attraction of the 36th Bangkok International Motor Show 2015 Porsche shows 919 Hybrid for the first time in Thailand







           AAS Auto Service (AAS), the sole authorized importer and distributor of Porsche cars in Thailand, proudly presented the range of Porsche cars on March 23th until April 5th at the 36th Bangkok International Motor Show 2015.
          Porsche stand is located at Booth Hall 2 in the Challenger Hall, featureing exciting line-up of models including: the third generation of the Cayman, the world’s first plug-in hybrid to the luxury class Panamera S E-Hybrid, a three litre engine with an output of 300-bhp Porsche Panamera Diesel, the first plug-in hybrid in the premium SUV segment Cayenne S E-Hybrid and the Macan -- the fifth model line from Porsche and is the first Porsche model to break into the compact SUV segment.
          Moreover, AAS prouds to present the top class of the World Endurance Championship (WEC) and the 24 Hours of Le Mans, Porsche 919 Hybrid for the first time in Thailand. The exceptional efficiency of the Porsche 919 Hybrid is the result of a carefully balanced overall concept. The sum of all of its individual components forms an effective unit: from the combustion engine to the energy recovery systems, chassis and running gear, aerodynamics and driver ergonomics. The combustion engine is a compact V four-cylinder petrol engine that also serves as a load-bearing member in the chassis. It is a frontrunner of the future-oriented downsizing philosophy features two litres of engine displacement, direct fuel injection and mono-turbocharging, the engine that turns at speeds up to 9000 rpm. The compact engine outputs around 500 hp.

About AAS Auto Service Co. Ltd.
          AAS Auto Service Co. Ltd. is the sole authorised importer and service centre of Porsche in Thailand. Porsche vehicles officially imported and distributed by AAS have passed through and fulfilled necessary homologation tests for Thailand. They are fine-tuned with specific adjustments in their engine management system to best suit Thailand’s regulations, fuel quality and driving conditions.
          Among the many benefits of purchasing a Porsche from AAS is the Porsche Approved Warranty every Porsche vehicle comes with. The warranty will be extended up to 9 years provided that all criteria are met, Porsche customers buying cars from AAS can truly enjoy a peace of mind, knowing that AAS is able to provide customers with top quality maintenance and service of their Porsche cars. All Porsche technicians from AAS are also specially trained and certified according to the global Porsche standards. In addition, AAS will also continuously update and remind customers for any upcoming maintenance and workshop campaigns. The team at AAS has the know-how, experience and special equipment to best take care of Porsche cars in Thailand.
          More information please contact AAS Auto Service Co.,Ltd. 02-522-6655 ext.101-103 or visit us at www.porsche.co.th
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:45:25 PM
Mercedes-Benz launches five new premium cars and Mercedes-AMG sports car brand at 36th Bangkok International Motor Show





           Mercedes-Benz Thailand is set to excite the luxury car scene by introducing five stunning models from every product category of the premium car brand. Due to be launched at the 36th Bangkok International Motor Show, running from 25 March – 5 April 2015 at IMPACT Muang Thong Thani are the new C-Class BlueTEC HYBRID in CKD form, the new CLA Shooting Brake, the new GLE-Class Coupé, the new V-Class, and the new Mercedes-AMG GT S. In addition to these new launches, the company’s presence will highlight a strong showcase of more than 30 premium cars from Mercedes-Benz.
          Mr. Michael Grewe, President and CEO of Mercedes-Benz (Thailand) Limited, said: “To reiterate our leadership in the premium segment of the car market, Mercedes-Benz constantly introduces innovative products to address all needs and lifestyles of customers while upholding ‘The Best’ philosophy that echoes our brand values of ‘Fascination’ and ‘Perfection’. Here, at the 36th Bangkok International Motor Show, Mercedes-Benz’s stand exudes the ‘Modern Luxury’ design concept that we used recently at the Paris Motor Show. The introduction of this exhibition pavilion in Thailand marks the Asia debut of this new stand design concept. Our new exhibition stand uses a construction material called lamella to create a ‘Silver Flow’ that visualizes elegance and dynamism of cars by Mercedes-Benz. It is also equipped with well-designed light and sound techniques that serve as ambience to bring out the distinctive characters of the five new cars we are launching at this show.”
          “Our exhibition booth is divided into 6 zones including a zone for cars in the NGCC (New Generation Compact Car) category, a zone for cars in the Contemporary Luxury category, a zone for cars in the Dream Car Category, a zone for AMG & AMG Sport models, and a zone for models equipped with our eco-friendly BlueTEC HYBRID technology. At Mercedes-Benz we are proud to highlight the fact that we can present Thai customers with a complete line of our BlueTEC HYBRID models in the Contemporary Luxury category (the C, E, and S-Class). We also have a zone set to exhibit our highlight models including the Mercedes-AMG GT S and the new GLE-Class Coupé,” continued Mr. Grewe.
          Mr. Martin Schulz, Vice President of Sales and Marketing, added: “The Bangkok International Motor Show this year sees Mercedes-Benz making another all-time record of new cars launched in one event, with five new models being launched across all product categories from our brand. From the New Generation Compact Car (NGCC) category, we are introducing the new CLA Shooting Brake five-door sports compact. In the Contemporary Luxury category we are presenting the completely knocked down (CKD) version of the new C-Class BlueTEC HYBRID and the new V-Class six-seater MPV. As for the Dream Car category, we are offering a perfect combination between sporty appeal of a coupé and the robust look of an SUV in our The new GLE-Class Coupé. In addition, our official launch of Mercedes-AMG in the Thai market will be marked by the introduction of Mercedes-AMG GT S, the second sports car from this brand.”

The new C-Class BlueTEC HYBRID
          The new C-Class BlueTEC HYBRID latest from the C-Class, enhances the Contemporary Luxury hybrid diesel category’s portfolio. With 2 exciting models; C 300 BlueTEC HYBRID Exclusive and C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic, both equipped with HYBRID Technology, the cars come with an excellent power control system which runs on a four-cylinder diesel engine with an electric motor. The automatic transmission ensures smooth driving operation, saving on fuel consumption and reduced pollution every time you slow down or stop the car. The electric motor acts as a generator to convert kinetic energy into electrical energy stored in the lithium ion battery. When energy is required for the motor this is converted back to AC as it leaves the battery. These new vehicles also pass the stringent emission standards for light-duty vehicles (Euro 6).
          For exterior design, the new C-Class BlueTEC HYBRID represents a bold departure from its predecessor, with its striking and dynamic design portraying clarity and arousing emotions. Modern aesthetics inspired the car’s sensuous lines and surfaces, with the easily-sensed harmony and dynamism in it. The C 300 BlueTEC HYBRID Exclusive features a classic Saloon chrome radiator grille while the C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic gets a sporty grille with a central star in the center as well as other key features including AMG aerodynamic kit. The interior has been meticulously designed to offer the highest level of luxury and comfort, but at the same time strongly maintaining a sporty finish. Its one-piece center console panel sweeps to the armrest, creating a modern and purist feel. An innovative touchpad in the hand rest provides simple and intuitive operation of all head-unit functions, such as the MB Audio 20, through finger movements.
          Another highlight in the C-Class is the C 200 Avantgarde. It is another premium model from Mercedes-Benz which outstandingly shines with Avantgarde Bodystyling kit, five-twin-spoke 17 inch light-alloy wheels, and a preinstalled LED High Performance headlamp system for a superior driving experience at night. Reflections of both class and stylishness can be seen in a spacious cabin with black ARTICO leather seats and a multifunction steering wheel.
 
 

Model
   

Engine Type
   

Engine Displacement (cc)
   

Rated Output (hp/rpm)
   

Rated Torque (Nm/rpm)
   

0-100 km/h Acceleration (seconds)
   

Top Speed (km/h)
   

Fuel Consumption Combined (km/l)

C 200

Avantgarde

 
   

Four-cylinder petrol engine
   

1,991
   

184/5,500
   

300/
1,200-4,000
   

7.3
   

235
   

17.5-18.8

C 300 BlueTEC HYBRID Exclusive
   

Four-cylinder diesel bi-turbo engine with intercooler
   

2,143
   

204 / 3,800

From electric motor (27 hp)
   

500 /

1,600-1,800

From electric motor             (250 Nm)
   

6.4
   

244
   

25.0-27.7

C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dymamic
   

Four-cylinder diesel bi-turbo engine with intercooler
   

2,143
   

204 / 3,800

From electric motor (27 hp)
   

500 /

1,600-1,800

From electric motor             (250 Nm)
   

6.4
   

244
   

25.0-27.7
           C 200 Avantgarde priced at 2,590,000 THB
          C 300 BlueTEC HYBRID Exclusive priced at 2,840,000 THB
          C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic priced at 3,090,000 THB
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:45:39 PM
The new CLA Shooting Brake
          The new CLA 250 Shooting Brake AMG Sport is a new five-door sport compact with a distinctive unlike-the-other design. The exterior is strikingly appealing with sharply defined bodylines and the famous diamond radiator grille with Mercedes-Benz’s logo which is exactly matched with the preinstalled AMG sport package. This includes AMG bodystyling kit (front and rear apron, side sill panels), a sporty diffuser in vehicle colour, a two-pipe exhaust system with rectangular tailpipes in polished stainless steel, perforated front brake discs and brake calipers with “Mercedes-Benz” letting, 18-inch AMG multi-spoke light alloy wheels, and the new electronically-operated panoramic sliding sunroof. Apart from all these highlights, many other detailed elements of the new CLA Shooting Brake such as a long bonnet, a sleek greenhouse, narrow window line with frameless side windows, and an elongated coupé-style roof also set the new CLA Shooting Brake apart from other vehicles.
          The interior of our new five-door sport compact derives a very special quality feel from the modern design and chosen materials, as well as preinstalled special equipment. The new CLA Shooting Brake features black ARTICO leather and DINAMICA microfibre sport seats with red topstitching, a three-spoke sports multifunction steering wheel with red contrasting topstitching, and black DINAMICA microfibre door panels. For the ride’s enjoyment and convenience, we offer the MB Audio 20
entertainment
system, which supports radio and CD, as well as an eight-inch free-standing display for the infotainment system preinstalled with an SD-card navigation system. To conjure an individual atmosphere, our LED ambient lighting system is also included. Twelve color schemes are available to suit taste and mood in the interior.
          Spaciousness is one of the strengths of the Shooting Brake models by Mercedes. The cabin of the new CLA 250 Shooting Brake AMG Sport features many equipment packages including the semi-electronically operated EASY-PACK tailgate package. With this package, the tailgate can be opened or closed with a push of a button at the tailgate, the driver’s seat control panel, or the key. Furthermore, variability and consequently functionality are also increased significantly as the rear seats can be adjusted into a 1/3 spilt or a 2/3 split in seconds. The new CLA 250 Shooting Brake AMG Sport’s load compartment capacity ranges from 495 to 1,354 litres, which is the largest in comparison with other premium estates. Today’s drivers can rely on the new CLA Shooting Brake’s capaciousness as they can pack bulky sporting gear or key business apparatus.
          The new CLA Shooting Brake is powered by a 4–cylinder in-line petrol turbo engine with intercooler with a displacement of 1,991 cc. The engine develops 211 HP at 5,500 rpm, with maximum torque of 350 Nm at 1,200-4,000 rpm. Acceleration from zero to 100 km/h is in 6.9 and the top speed is 240 km/h. approximate fuel consumption rate is from 17.5 to 18.2 km/l. The engine is combined with the 7G-DCT automatic transmission set with steering-wheel gearshift paddles. The new CLA 250 Shooting Brake AMG Sport is priced at 2,890,000 THB.

The new GLE-Class Coupé
          Combining two distinctive vehicle styles, the new GLE-Class Coupé is the latest addition to the family of Mercedes-Benz coupés. The sporty nature of a coupé dominates, imbued with the striking characteristics of a robust SUV. From the exterior, its silhouette signals dynamism and agility. The striking, sports-inspired radiator grille is flanked by three-dimensionally designed all-LED headlamps. The forward-sloping bonnet with its typical Mercedes power domes underscores the membership of the new GLE-Class Coupé in the line-up of particularly sporty Mercedes-Benz models. The new GLE-Class Coupé marketed in Thailand is the new GLE 450 AMG 4MATIC Coupé, which is distinguished by its radiator grill with central Mercedes star, LED Intelligent Light headlamps, Active Light System, and AMG sports accessories and equipment, including front and rear apron, 22-inch AMG 5-twin-spoke light-alloy wheels, and an electric panoramic sliding glass sunroof.
          The interior echoes the modern luxury approach to design while staying true to the sporty mood and feel, thanks to its well-thought out combination of the finest materials. In terms of functionality, the three-seater rear seat bench can be adjusted or folded down in 1/3 or 2/3 split to increase capacity of the load compartment. Exceptional infotainment is guaranteed by the MB Audio 20 Radio-CD system, 8-inch display and the intuitive controller that support Garmin® in-car navigation system. The Ambient Lighting system enhances the pleasurable mood of the interior with three selectable colours.
          On the technology front, the new GLE-Class Coupé highlights the Dynamic Select handling control system that offers five different transmission modes: Individual allows personal preferences in control strategies to be programmed and stored; Comfort provides smooth, pleasurable ride of a saloon; Slippery optimises the handling on surfaces with low friction coefficients; Sport and Sport+ turn the car into a sporty, dynamic vehicle. In addition, this new GLE-Class Coupé features the AIRMATIC air suspension with Adaptive Damping System (ADS) that variably adjusts its area of emphasis to road and driving conditions, and the sensor-based anti-overturn system.
          The new new GLE-Class Coupé has a 2,996 cc V6 petrol engine bi-turbo with 9G- TRONIC that produces maximum output of 367hp at 5,500-6,000 rpm and maximum torque of 520 Nm at 1,800-4,000 rpm. It comes with 4MATIC permanent all-wheel-drive system. This car sprints from 0 to 100 km/h in 5.7 seconds and has a top speed of 250 km/h. The new GLE 450 AMG 4MATIC Coupé is priced at 7,990,000 THB.

The new V-Class
          The new V-Class six-seater MPV combines spaciousness and exemplary functionality with the high-class appeal, comfort, efficient driving pleasure and safety that distinguish automobiles bearing the three-pointed star. The exterior features striking lateral bodylines that highlight the benefits of MPV’s platform: space and straightforwardness. Chamfered edges that go along with a large cabin windscreen on the rear, and its chromium frame, increase the van’s agile look and feel. The new V-Class’s Avant-Garde sporty grille, 19-inch alloy wheel as well as all-LED Intelligent Light System headlamps and tail lamps also help complement the eye-catching flair.
          From a preinstalled multifunction steering wheel to cabin equipment for the use of passengers, the interior of the new V-Class - decorated with classic wooden details, piano black panels, black nappa leather - is simplicity with a subtle sense of modernity and optimization for daily life practicality. Best-in-class leather seats are well-stitched with precision and 3 colours ambient lighting ensure a pleasant journey for everyone on board.
          In addition to generous space in the passenger compartment, the sense of spaciousness is emphasised with integration of a large electronic glass sunroof at the rear compartment and the large windscreen of the tailgate. For extra comfort and an unmatched level of luxury in comparison with other vehicles in the same class, the seating in the rear allows numerous configurations to meet any requirements. 4 ergonomically designed Captain Seats, crafted with finest materials, and a multi-purpose table on the center can be arranged to suit sophisticated needs of all passengers that are ergonomically designed and crafted with the finest materials for extra comfort and luxury unmatched by other vehicles in the same class. All the seats support mounting of a child safety seat. The passenger compartment features THERMOTRONIC and TEMPMATIC automatic climate control system, which enables three ventilation modes to offer individual climate control to each passenger. To ensure an ear-pleasing experience, a 640 W Burmester sound system with 15 speakers, bass reflex boxes, and a touchpad for the ease of use, is offered as a standard sound system.
          In terms of technology, an exemplary standard of safety is ensured by totality of equipment and systems perfectly integrated for optimum safety and comfort of the driver and passengers, including Crosswind Assist and ATTENTION ASSIST as standard equipment. ADAPTIVE ESP® (Electronic Stability Program) provides dynamic stability and helps the driver keep control of the vehicle in critical conditions. Six front and side airbags provide optimum protection of both the driver and front passenger. ASR (Acceleration Skid Control) enhances traction for maximum stability especially on slippery or uneven road surfaces. In addition, BAS (Brake Assist) works in conjunction with ABS (Anti-lock Braking System) and EBD (Electronic Brake Force Distribution) for greater safety while driving comfort is enhanced by adaptive cruise control, 360°
camera
and automatic parking assist.
          The new V 250 BlueTEC AVANTGARDE is powered by a four-cylinder bi-turbo in-line diesel engine with a displacement of 2,143 cc that develops 190 hp at 3,800 rpm and highest torque at 440 Nm at 1,400-2,400 rpm. The engine is matched to the 7G-TRONIC PLUS transmission system, resulting in the MPV’s capability to make 0-100 km/h acceleration in 9.1 seconds, a top speed of 206 km/h, and an average fuel consumption of 16.7 km/l. The new V250 BlueTEC AVANTGARDE is priced at 5,490,000 THB.

Mercedes-AMG GT S
          The Mercedes-AMG GT S is the second sports car developed entirely in-house by Mercedes-AMG to combine driving dynamics and first-class racetrack performance with superb everyday practicality and efficiency. Its exterior design embodies sportiness and emotion as an expression of sensual purity. The creative interaction of diverse design elements lends the coupé a superior, self-confident look: radiator grille with central Mercedes star, LED High Performance headlamps, 19-inch (front) and 20-inch (rear) AMG 10-spoke Titanium Grey light-alloy wheels, extendable rear aerofoil, electric panoramic sliding glass sunroof, long bonnet with pronounced powerdomes, broad tail end with dramatic tapered effect, narrow window line with frameless side windows and arched roof line. The interior exudes modernity with nappa leather sports seats and AMG performance steering wheel in leather and DINAMICA microfibre upholstery. Both the seats and steering wheel come with electronic adjustment and memory function.
          The body of the Mercedes-AMG GT S boasts an aluminium spaceframe with an intelligent mix of steel and magnesium, which contributes to the car’s low kerb weight of 1,890 kilograms. The front mid-engine configuration makes for a beneficial weight distribution of 47:53 percent, which translates into extremely agile handling. Additionally, integration of the dry sump lubrication used in race cars also ensures the oil supply, even with high lateral forces.
          A highlight technology feature in the Mercedes-AMG GT S is the AMG RIDE CONTROL sports suspension that lets the driver adjust the damping characteristics in three selectable modes: Comfort, Sport and Sport+. Others include ADAPTIVE BRAKE with HOLD and Hill-Start Assist functions, ATTENTION ASSIST, ESP, cruise control and SPEEDTRONIC.
          The Mercedes-AMG GT S sports a V8 biturbo engine with a displacement of 3,982 cc that develops 510hp at 6,250 rpm and 650 Nm at 1,750-4,750 rpm. With the engine mated to AMG SPEEDSHIFT DCT 7-speed sports transmission, the car sprints from a standstill to 100 km/h in just 3.8 seconds and has a top speed of 310 km/h. Fuel consumption is averaged at 10.4-10.6 km/l. In addition, it has already met the stringent Euro 6 fuel efficiency and emission standards. The Mercedes-AMG GT S is priced at 14,900,000 THB.

Other Mercedes-Benz cars on show
          In addition to the newly-launched cars, Mercedes-Benz’s stand also brings on show a strong lineup of 30 premium cars from every product category of the brand with comprehensive choices of petrol, diesel and CBU models, such as A-Class, B-Class, CLA-Class, C-Class Coupé, E-Class, E-Class Coupé, E-Class Cabriolet, S-Class, SLK-Class, CLS-Class, G-Class, GL-Class, ML-Class.

Special Offers
          The lineup of Mercedes-Benz cars shown at Bangkok International Motor Show comes with appealing special offers from the company as follows:
          Customers who got their cars delivered from 1 March to 30 April 2015 will get a complimentary one-year premium insurance.
          0.99 percent of interest will be exclusively offered to customers who book The E-Class Saloon or The E-Class Estate and participate in Mercedes-Benz Leasing’s financial program (Terms and condition applied).
          MercedesCard campaign – Apply MercedesCard, win a chance of our lucky draw campaign to get A 180 AMG Sport and other prizes valued more than 2.4 million THB. (Conditions apply)

          Mercedes-Benz welcomes interested visitors to an exciting showcase of the latest Mercedes-Benz cars and technological innovations for sustainable mobility at the 36th Bangkok International Motor Show from 25 March to 5 April 2015 in Challenger Hall, IMPACT Muang Thong Thani.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:46:33 PM
เบนท์ลี่ย์ขนทัพรถหรู ร่วมงานมอเตอร์โชว์ 2015





           เบนท์ลี่ย์ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ขนทัพรถหรู เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 เพื่อเป็นการประกาศและตอกย้ำความเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยภายในงานท่านจะได้สัมผัสสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกจากประเทศอังกฤษอย่างใกล้ชิด อาทิเช่น เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที วี8 เอส (Continental GT V8 S) คูเป้สุดหรู 2 ประตู 2 ที่นั่ง พร้อมด้วย เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ดับเบิ้ลยู12 (Flying Spur W12) รถที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมซาลูน 4 ประตูสุดหรูจากประเทศอังกฤษ และ เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ วี8 (Flying Spur V8) รถซาลูน 4 ประตู เครื่องยนต์ วี8 (V8) ทรงพลังใหม่ล่าสุด พร้อมอวดโฉมภายในงาน
          เบนท์ลี่ย์ จีที วี8 เอส (GT V8 S) คอนติเนนทัล (Continental) ใหม่ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 คันนี้มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา เครื่องยนต์ขนาด 4 ลิตร twin-turbo พละกำลังสูงสุดถึง 521 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด เสริมด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่งจาก 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 4.5 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดที่ 309 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นอย่างยิ่ง สำหรับโลโก้ “V8 S” แสดงให้เห็นถึงความเป็นสปอร์ต อย่างแท้จริง ภายในห้องโดยสารมาพร้อมสีแบบทูโทนอย่างหรูหรา เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ดับเบิ้ลยู12 (Flying Spur W12) ที่มาพร้อม เครื่องยนต์ขนาด 6 ลิตร
Twin-turbo W12 และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 616 แรงม้า ให้แรงบิดอันมหาศาลถึง 800 นิวตันเมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นเบนท์ลี่ย์ 4 ประตูที่ทรงพลังมากที่สุดตั้งแต่ เบนท์ลี่ย์เคยมีมา อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 4.3 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้มีประสิทธิภาพในการเกาะถนนและทรงตัวบนพื้นผิวถนนได้อย่างดีเยี่ยม เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ วี8 (Flying Spur V8) มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 4 ลิตร Twin-turbo V8 สร้างพละกำลังแรงม้าถึง 507 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 660 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในระยะเวลาเพียง 5.2 วินาทีและความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 295 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากเติมน้ำมันเต็มถังจะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรเลยทีเดียว"
          เอเอเอสฯ ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้ความมั่นใจว่ารถยนต์ทุกคันที่ทางเอเอเอสฯ นำเข้าและจัดจำหน่ายได้ผ่านการทดสอบโฮโมโลเกชั่น (Homologation) ของประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายและครบทุกกระบวนการที่จำเป็นและสำคัญสำหรับการนำมาใช้งานในประเทศไทย ระบบจัดการของเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับกฎระเบียบและสภาพภูมิประเทศของประเทศไทยอย่างดีที่สุด รวมถึงยังมีศูนย์บริการของรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ได้มาตรฐานตามโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษกำหนดไว้ พร้อมทั้งมีทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานโดยตรง พร้อมให้การดูแลและบริการรถยนต์เบนท์ลี่ย์ของท่าน โดยลูกค้าสามารถมั่นใจในบริการที่จะได้รับ หากซื้อรถยนต์กับทางเอเอเอสฯ อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขายที่ได้คุณภาพโดยตรงจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ ราคาที่เสียภาษีนำเข้ารถยนต์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และคุณภาพของรถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่ได้

สำหรับข้อเสนอสุดพิเศษเมื่อซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากเอเอเอสฯ ภายในงาน
          รับทันทีประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
          พร้อมทั้ง รับการบริการดูแลและบำรุงรักษารถยนต์เบนท์ลี่ย์จากผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม ตลอด 5 ปี (5 Years Free Service Package)
          *Terms & Condition Apply

          นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมายที่ทาง เอเอเอสฯ ได้จัดเตรียมให้ทุกท่าน ร่วมสัมผัสและค้นหาความสุนทรีย์ของสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์กันอย่างใกล้ชิด รวมถึงรถยนต์ไฮไลท์ประจำบูธ ที่จะสะกดทุกสายตาให้หลงใหลไปกับสมรรถนะอันลือเลื่อง ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และมี Bentley Collection ของเบนท์ลี่ย์มาให้ท่านเลือกสรรมากมายในราคาพิเศษ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2558 นี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่ 02-261-1050-51 หรือ เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.bentleymotors.com
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:47:37 PM
อีซูซุตอกย้ำกระแสความแรงไม่หยุด เปิดตัว “อีซูซุ มิว-เอ็กซ์” รุ่นพิเศษ เดอะลิมิเต็ด” ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36





           อีซูซุตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยียานยนต์ ที่ได้รับกระแสความนิยมอย่างฉุดไม่อยู่ทั้ง “อีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์เดย์ไลท์” ที่มาพร้อมกับไฟส่องสว่างเวลากลางวัน และ “Push Start” ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ ที่สตาร์ทเครื่องยนต์เพียงปลายนิ้วพร้อม ISUZU GENIUS ENTRY มาตรฐานปิกอัพระดับโลก พร้อมเปิดตัว “อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ รุ่นพิเศษ เดอะลิมิเต็ด” รถอเนกประสงค์สุดหรู สุดสปอร์ต สุดยอดยนตรกรรมแห่งผู้นำ ที่มาสร้างสีสันให้กับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เติมเต็มความสุขกับกิจกรรมที่หลากหลายในบูธอีซูซุ ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
          มร. ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อีซูซุได้พัฒนารถรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งดีไซน์ทั้งภายนอก และภายในรถยนต์ให้รถอีซูซุทันสมัยสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ และอรรถประโยชน์ที่ครบครันในการใช้งาน ทั้ง “อีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์เดย์ไลท์” และ “อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ที่มาพร้อมกับไฟส่องสว่างเวลากลางวัน มาตรฐานความปลอดภัยสไตล์ยุโรป และ “Push Start” ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ สตาร์ทเครื่องยนต์เพียงปลายนิ้ว พร้อม ISUZU GENIUS ENTRY นอกจากนี้ยังเปิดตัว “อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ รุ่นพิเศษ เดอะลิมิเต็ด” มาให้ทุกท่านสัมผัสกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่น และสมรรถนะอันเหนือชั้นกันอย่างใกล้ชิด พร้อมกิจกรรมเติมเต็มความสุขหลากหลายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36”
          บูธอีซูซุในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ออกแบบในสไตล์สปอร์ตของคนรุ่นใหม่ ที่มาในโทนสีแดงดำ โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ “X” ที่สื่อถึงยนตรกรรมแห่ง ไลฟ์สไตล์ที่พร้อมจะตอบสนองกับทุกกิจกรรมในชีวิตของผู้ใช้รถ เพิ่มสีสันด้วยการเล่นแสงสี สะท้อนการใช้ชีวิตที่มีหลากหลายมิติ โดยรถอีซูซุที่นำมาโชว์ในครั้งนี้ นอกจากรุ่นมาตรฐานแล้วยังมีการตกแต่งรถพิเศษเฉพาะงานนี้เพื่อสร้างสีสันให้กับผู้ใช้รถที่มีใจรักการแต่งรถและกิจกรรมสไตล์เอ็กซ์ ได้แก่ ISUZU MU-X รุ่นพิเศษ THE LIMITED ยอดยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับหรู รุ่นพิเศษ เพิ่มความเท่ สปอร์ตด้วยล้ออัลลอยด์ Koukido Silver สีเงินเข้มเงาพิเศษ กระจกมองข้างแบบ Color Key และสติกเกอร์กราฟฟิกดีไซน์พิเศษรอบคัน เรียบหรูแต่เท่ลงตัวด้วยห้องโดยสารโทนสีดำอารมณ์สปอร์ต พร้อมเบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำ Anthracite Black นอกจากนี้ยังรื่นรมย์ทุกการขับขี่กับระบบความบันเทิงทรงพลังกับระบบเครื่องเสียงและลำโพงจาก KENWOOD เท่ไม่เหมือนใคร มีสีขาว และสีดำให้เลือก
          พิเศษสุด! กับ “ISUZU MU-X THE LIMITED” สีดำ ตกแต่งพิเศษด้วยล้ออัลลอยด์ยี่ห้อ TAM รุ่น RD-309 ขนาด 10x20 นิ้ว พร้อมยาง Falken รุ่น S/TZ-05 ขนาด 265/50R20 ชุดโหลดช่วงล่างจาก Hot Bits และอุปกรณ์จับเรือจาก Thule รุ่น 873 Hydro Guideและ Kit Thule พร้อม เรือคายัค
          ISUZU D-MAX SUPER DAYLIGHT มาตรฐานใหม่ของวงการปิกอัพ ด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวัน บ่งบอกความเป็นผู้นำในทุกเส้นทาง มั่นใจสูงสุดกับช่วงล่าง i-GRIP แพลทฟอร์มออกแบบพิเศษ ให้ทุกส่วนผสานการทำงานเป็นหนึ่ง ด้Œวยระยะฐานล้อที่ยาวกว่า พร้อมช่วงล้Œอที่ กว้Œางกว่‹า สมดุลกับขนาดตัวพร้อมการวางตำแหน่งเครื่องยนต์ที่สมดุลสุด ให้การยึดเกาะถนนทรงตัวดีเยี่ยมด้วยค่า SSF (Static Stability Factor) ให้การบังคับและควบคุมรถเป็นเรื่องง่าย เพื่อเสถียรภาพแห่งการทรงตัวที่ดียิ่งกว่า มาพร้อมกับรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยวทั้งภายนอกและภายใน สะดวกกว่าด้วย Isuzu Genius Entry ระบบกุญแจอัจฉริยะ ล้ำสมัย เปิด-ปิดล็อคประตู และสตาร์ทรถโดยไม่ต้องใช้กุญแจหรือรีโมท
          เพิ่มความเหนือระดับสไตล์ชีวิตเมืองกับ ISUZU D-MAX HI-LANDER รุ่น 4 ประตู ตกแต่งพิเศษด้วยชุดแต่งรอบคัน ทั้งราวหลังคา สปอร์ตบาร์ บันไดข้าง และการ์ดกันชนหน้า สี Gun Metallic และล้ออัลลอยสุดเท่พร้อมยาง Yokohama Geolandar A/T-S ขนาด 275/65R17
          ร้อนแรงสุดๆกับ ISUZU D-MAX X-SERIES SPEED ปิกอัพสุดเท่ ดีไซน์สำหรับ คนหัวใจสปอร์ต Sticker Wrap เงาพิเศษ จาก Tony Wrap A Car ล้ออัลลอยด์จาก Thai Alloy Wheel รุ่น TM-223 ขนาด 10x20 นิ้ว สีดำ พร้อมยาง Nitto รุ่น NT-555 ขนาด 245/40R20 ชุดโหลดช่วงล่างจาก Hot Bits เท่ยิ่งกว่าใครด้วย และกระหึ่มกับเครื่องเสียงเต็มพิกัดจาก UDC
เท่ ดุดันกับ ISUZU D-MAX V-CROSS 4x4 สีแดงเวเนเชียน (Venetian Red) สปอร์ตออฟโรดที่ก้าวข้าม...ทุกความท้าทาย พร้อมสำหรับการผจญภัยใหม่ๆ ให้ชีวิตท้าทายกว่าเคย ด้วยความสะดวกสบายอันสมบูรณ์แบบกับมิติการดีไซน์ที่เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ด้วย UNIVERSAL DESIGN ศาสตร์แห่งการออกแบบโดยให้ผู้ใช้รถเป็นศูนย์กลาง ด้วยการจัดวางตำแหน่งที่นั่ง และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถให้เข้ากับทุกสรีระเพื่อการใช้งานง่ายและหลากหลายรูปแบบ ขับสนุกสะใจด้วยช่วงล่างสมรรถนะสูง รองรับได้ทุกสภาวะ ทั้งเส้นทางออฟโรดสุดโหด หรือเส้นทางที่ต้องการความนุ่มนวล พร้อม TERRAIN COMMAND สวิตช์ปรับเปลี่ยนระบบการขับเคลื่อนจาก 2 ล้อ เป็น 4 ล้อ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ปรับได้ตามใจสั่งเรียกพลังออฟโรดเพื่อการลุยโดยเฉพาะ แต่งพิเศษด้วยชุดกันชนหน้า ARB พร้อมระบบไฟ LED ชุดกันกระแทกด้านข้าง กันชนท้ายและกันกระแทกใต้ท้องรถจาก ARB ชุดยกช่วงล่างพร้อมล้อแม็ก Procomp ยาง BF Goodrich 315/70R18 เสริมความดุดันด้วยชุด WRAP สีดำ
          นอกจากนี้ยังมีพิธีกรคนดังผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาสร้างความสุขสนุกสนานตลอด 12 วัน อาทิ เป็ก-เปรมณัช สุวรรณานนท์ มิค-บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ เอ๊าะ-กีรติ เทพธัญญ์ จอย-ชลธิชา นวมสุคนธ์ VJ เลโอ และ VJ น็อต พร้อมสนุกสนานกับกิจกรรมมากมายภายในบูธ อีซูซุ อาทิ
          ISUZU D-MAX MOTION SCAN ที่จะเอกซ์เรย์เทคโนโลยีของรถอีซูซุดีแมคซ์ ทั้งในเรื่องเครื่องยนต์ ช่วงล่าง โครงสร้างตัวถัง รวมถึงระบบเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัย
          สัมผัสประสบการณ์เสมือนจริง กับ VIRTUAL EXPERIENCE BY V-CROSS 4X4 ให้คุณก้าวข้ามทุกความท้าทาย
          ISUZU INSIGHT INTERACTIVE DISPLAY จอแสดงข้อมูล “อีซูซุ อินไซท์” เทคโนโลยีอัจฉริยะ ช่วยประมวลผลและวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่เพื่อพัฒนาศักยภาพในการขับขี่ให้เต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย
          พบกับ 2 พรีเซนเตอร์สุดฮอตจากอีซูซุ “บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” และ “ก้อง- สหรัถ สังคปรีชา” พร้อม อองตวน ปินโต นักมวยสุดหล่อชาวฝรั่งเศสจากเวที THAI FIGHT
          COVER DANCE จากสาวสวยสุดเซ็กซี่ ดีกรีแชมป์ประเทศไทย ที่จะมาเพิ่มความฮอตขององศานี้
          การประกวดภาพถ่าย Isuzu Motor Show Photo Contest 2015 ส่งภาพที่คุณถ่ายจากกล้องดิจิตอล หรือผ่าน instagram เพียงใส่ Hashtag #isuzuinstagram ลุ้นรับรางวัลบาดใจรวมกว่า 200,000 บาท
          สอบถามข้อมูลรถอีซูซุหรือกิจกรรมต่างๆ ภายในงานได้จากสาวๆ i-Girl
          สัมผัสและทดลองขับ “อีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์เดย์ไลท์” รถปิกอัพมาตรฐานใหม่ระดับโลกที่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างลงตัว และ“อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ISUZU MU-X ยอดยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับหรูที่บูธอีซูซุ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2558 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 25, 2015, 03:48:28 PM
Isuzu momentum continues with the “Isuzu MU-X THE LIMITED” launch at 36th Bangkok International Motor Show





           Isuzu highlighted its leadership in automotive technology which has enjoyed a continuous wave of popularity of the “Isuzu D-MAX Super Daylight” which features innovative SUPER DAYLIGHT technology; and PUSH START, an intelligent ignition system operated by fingertips together with the ISUZU GENIUS ENTRY, the world-class pickup standard. Together with the introduction of the “ISUZU MU-X THE LIMITED”, the ultimate luxury sport utility vehicle for a colorful lifestyle of the new generation. Revitalize yourself with fun-filled activities at the Isuzu Booth, 36th Bangkok International Motor Show, Challenger Hall, Impact Arena, Muang Thong Thani.
          Mr. Hiroshi Nakagawa, President of Tri Petch Isuzu Sales Co., Ltd. Said, “Isuzu has always delivered new innovative products, both from the exterior and interior design perspective which allows Isuzu vehicles to look modern and perfectly fit with the new generations’ lifestyles. Isuzu has relentlessly strived to develop new technologies to improve the performance and functionality of our products. Both the “ISUZU D-MAX SUPER DAYLIGHT” and the “ISUZU MU-X THE LIMITED” are equipped with the daylight technology, the European Safety Standard and also feature the PUSH START, which is an intelligent ignition system operated by fingertips combine with ISUZU GENIUS ENTRY system. In addition, we introduce of the “ISUZU MU-X THE LIMITED” for everyone to experience its outstanding design and superior performance. Special fun-filled activities are also offered at our booth in the 36th Bangkok International Motor Show.”
          The Isuzu Booth at the 36th Bangkok International Motor Show is designed with a sporty style of the new generation. The booth features a black and red color tone that standout by the “X” symbol which represents lifestyle vehicle that fulfill every type of activity desired by the users adding the scintillating lighting technology to reflect the broad variety of lifestyles. Isuzu vehicles display at the Isuzu booth comprises of both standard models and customized versions developed especially for the 36th Bangkok International Motor Show to enhance the colorful atmosphere for the users who have a preference for vehicle customization and the “X” lifestyle activities as follow;
          ISUZU MU-X THE LIMITED, a special edition of a luxury Sport Utility Vehicle. Added style and sportiness with “Koukido” Silver alloy wheels giving super shining dark silver color, Color Key side mirrors, and special Graphic Design sticker decal wrapped around the vehicle, eclectically simple yet luxurious ambience is achieved with an interior cabin in black color tone for that added sporty sensation, with semi-genuine leather seats in Anthracite Black color tone. A pleasant drive is achieved through the presence of a powerful hi-end KENWOOD
entertainment
system that uniquely stylish available in White and Black color.
          Special! The “ISUZU MU-X THE LIMITED” Black color tone. Accessorized with special TAM alloys RD-309 specs 10x20 inches and Falken tyres S/TZ-05 specs 265/50R20. Also featured is the Hot Bits lower suspension kit and boat hauling accessories by Thule in the 873 Hydro Guide and the Thule kit with a kayak to go along with the vehicle.
          ISUZU D-MAX SUPER DAYLIGHT, the new standard of the pickup industry with its SUPER DAYLIGHT technology reflects leadership on every journey. Be Absolute confident with the specially-design i-GRIP Platform lower suspension that enables every component to work in cohesive unity. A longer wheel base and wider wheel track for a perfect equilibrium of the vehicle that features an ideally located engine, resulting in excellent road grip. An SSF (Static Stability Factor) permits accurate vehicle control and stability for a pleasant safe journey; together, with the complement of stunning aesthetic design for both the exterior and interior. The convenience is enhanced with the Isuzu Genius Entry, an intelligent ignition system which allows automatic door locking system and engine start without a key or remote.
          Elevate your city-lifestyle status with the ISUZU D-MAX HI-LANDER 4-door model. Accessorized with special customized kits and a Gun Metallic color tone for the roof rack, sports bar, side rail steps and front bumpers along with Yokohama A/T-S tyres spec 275/65R17.
          Sizzling hot is what you get from the ISUZU D-MAX X-SERIES SPEED stylish pickup that designed especially for sporty customers. Special Sticker Wrap with tinted design by Tony Wrap A Car. Alloy wheels by Thai Alloy Wheel model TM-223 size 10x20 inches in Black color tone and tyres by Nitto model NT-555 size 245/40R20. Special Hot Bits lower suspension system. Stylish beyond your wildest imagination and a spectacular entertainment system by UDC.
          Style and Power are the two ingredients exuded by the ISUZU D-MAX V-CROSS 4x4 in Venetian Red color tone. A sporty off-road vehicle that surpasses every challenge, be ready for a new adventure for a challenging lifestyle like none other with the total comfort delivered in perfection via the Isuzu UNIVERSAL DESIGN concept that focuses on the passenger by designing each and every seating position to complement every equipment feature for optimal ergonomic efficiency by enabling user-friendly, practical functionality and variety. A fun drive with a high performance suspension system that is ready to take on any terrain, grueling off-road trails and a smooth quiet ride. With the TERRAIN COMMAND switch allows the driver to change from 2-wheel drive mode to 4-wheel drive in a fast and accurate fashion while achieving a powerful off-road performance. Special front bumper kits by ARB with LED lights and side bumpers. Rear bumpers and special impact prevention kit underneath the vehicle’s lower surface area by ARB and High-rise suspension system by Procomp with BF Goodrich tyres 315/70R18 and a Black WRAP sticker kit for that powerful and robust look.
          In addition, the popular emcees will entertain you on a daily basis throughout the 12-day automotive extravaganza. Pek-Premmanat Suwannanon, Mick-Baromvudh Hiranyasthiti, Oar-Kirati Thepthan, Joy-Chonticha Nuamsukhon, VJ Lay-O and VJ Knot along with fun-filled activities at the Isuzu Booth such as the following ;
          ISUZU D-MAX MOTION SCAN, an X-Ray technology which allows you to view the inner workings of the Isuzu engine and the structural framework including the comfort and safety system of the ISUZU D-MAX
          Experience style and a robust sensation that is the perfect fit with the VIRTUAL EXPERIENCE BY V-CROSS 4X4
          ISUZU INSIGHT INTERACTIVE DISPLAY, a monitor displaying “ISUZU INSIGHT” intelligent technology that computes algorithms and analyses driving pattern and behavior to achieve highest safety and optimal driving efficiency for the driver.
          Meet Isuzu presenters “Boy-Pakorn Chatborirak” and “Kong-Saharat Sangkapreecha”, along with the charismatic and handsome French Muay-Thai fighter “Antuan Pinto” from THAI FIGHT
          COVER DANCE by sexy female dancers degreed Thailand’s champion who will increase the “heat” level at the event.
          Isuzu Photo Contest 2015. Send in your best digital
camera
photos or via instagram by simply typing in Hashtag #isuzuinstagram and vie for spectacular prizes worth 200,000 Baht.
          For further information or any product information query, please ask our beautiful i-Girl personnel

          Experience and test drive the “ISUZU D-MAX SUPER DAYLIGHT”, the new global standard for pickups that answer every discerning demand of the customer in perfect harmony; and don’t forget to test drive the ISUZU MU-X, the ultimate luxury utility vehicle at the Isuzu Booth at the 36th Bangkok International Motor Show from March 25 to April 5, 2015 at the Challenger Hall, Impact Arena, Muang Thong Thani.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 26, 2015, 03:27:48 PM
บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ส่งนวัตกรรมขุมพลังสองล้อรุ่นล่าสุดในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 พร้อมเดินหน้าขยายศักยภาพการผลิตบิ๊กไบค์ตระกูล GS ในไทย




 
          ไฮไลท์ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
          The new BMW F 800 R
          บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS
          บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 XR
          บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS
          บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure
          บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS
         
          บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย จัดแสดงนวัตกรรมมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูใหม่ล่าสุด มุ่งตอบสนองความต้องการของแฟนๆ บิ๊กไบค์ชาวไทย ส่ง The new BMW F 800 R มอเตอร์ไซค์พรีเมี่ยมขนาดกลางซึ่งได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นและบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 XR ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างสายพันธุ์สปอร์ตและแอดเวนเจอร์ พร้อมด้วยบีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS สมาชิก
          รายล่าสุดของตระกูล GS ในประเทศไทย ให้ลูกค้าได้สัมผัส รวมถึงทัพมอเตอร์ไซค์พรีเมี่ยมของบีเอ็มดับเบิลยู พร้อมรับข้อเสนอและโปรโมชั่นสุดพิเศษภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ได้ ระหว่างวันที่ 25 มีนาคมถึง 5 เมษายน 2558 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี
          บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทยยังเดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุกด้านผลิตภัณฑ์ ขยายศักยภาพการประกอบมอเตอร์ไซค์ของโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย จังหวัดระยอง ให้ครอบคลุมมอเตอร์ไซค์ตระกูล GS ของบีเอ็มดับเบิลยูเพิ่มอีก 3 รุ่นได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS และบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure โดย มร.แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “การขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาดบิ๊กไบค์รวมถึงความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจขยายศักยภาพการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในตลาดประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยโรงงานโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป จังหวัดระยอง จะเริ่มสายการประกอบมอเตอร์ไซค์เพิ่มขึ้นอีก 3 รุ่นได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS
          บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS และบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure เมื่อรวมกับสายการประกอบบีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS และบีเอ็มดับเบิลยู F 800 R ส่งผลให้โรงงานของเราสามารถผลิตยนตรกรรมพรีเมียมสองล้อได้มากถึง 5 รุ่น และครอบคลุมตระกูล GS ยอดนิยม 4 รุ่นด้วยกัน การขยายศักยภาพการผลิตในครั้งนี้ ยังเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู เพื่อส่งออกไปยังตลาดประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ในอนาคตอันใกล้อีกด้วย”
The new BMW F 800 R
          The new BMW F 800 R เป็นโมเดลใหม่ล่าสุดในกลุ่มมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สองสูบแถวเรียงที่เป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ด้วยการพัฒนาคุณภาพอันยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องรับประกันสมรรถนะสไตล์ โรดสเตอร์ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ต การบังคับที่ตอบสนองคล่องแคล่วและประโยชน์อเนกประสงค์ที่มากขึ้นให้แก่เจ้าของกำลังอันแข็งแกร่งเกิดจากเครื่องยนต์สองสูบ 4 วาล์ว แบบหล่อเย็นด้วยน้ำความจุ 798 ซีซี มอบกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 90 แรงม้า (66 กิโลวัตต์) ที่ 8,000 รอบต่อ และช่วยให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ 1 และ 2 ได้ง่ายยิ่งขึ้น สำหรับสองสูบคู่ขนานมอบความสามารถในการเร่งเครื่องขณะที่ยังคงแรงขับที่น่าประทับใจ นอกจากนี้ยังสามารถตอบสนองต่อการขับขี่ได้อย่างฉับไวและมีอัตราการประหยัดพลังงานคล้ายคลึงกับรุ่นก่อนหน้า สำหรับแรงบิดสูงสุดยังคงเดิมที่ 86 นิวตันเมตรที่ 5,800 รอบต่อนาที
          การออกแบบมอเตอร์ไซค์ยังเน้นการผสานเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ขับขี่มากกว่าที่เคย ด้วยระบบรองรับ แรงกระแทกแบบใหม่และการปรับปรุงการออกแบบตามหลักการยศาสตร์ ได้แก่ โช้คกลับหัวซึ่งจะรองรับแรงกระแทกบริเวณล้อหน้า ขณะที่ดิสก์เบรกคู่แบบไฮดรอลิกพร้อม radial brake คาลิเปอร์ ช่วยป้องกันการสูญเสียแรงเบรก รวมถึงเบาะที่นั่งซึ่งปรับระดับต่ำลง (จากเดิม 775 มล. เป็น 770 มล.) แฮนด์บังคับแบบใหม่ และที่วางขาซึ่งช่วยตอบสนองต่อสรีระของผู้ขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น
          การออกแบบใน The new BMW F 800 R ยังเน้นการผสานเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ขับขี่มากกว่าที่เคยด้วยไฟหน้าแบบใหม่ซึ่งออกแบบให้สมมาตร มอบรูปลักษณ์แบบใหม่ให้กับบิ๊กไบค์คันนี้ เสริมด้วยฟีเจอร์ทีได้รับการออกแบบใหม่ต่างๆ ได้แก่ แฟริ่ง แผงหม้อน้ำ บังโคลนหน้า และล้อ
          การคำนึงถึงหลักความปลอดภัย Safety 360° ส่งผลให้ The new BMW F 800 R มาพร้อมกับฟีเจอร์มาตรฐาน ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS
          เมื่อครั้งที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดเพิ่มสมาชิกใหม่ให้แก่มอเตอร์ไซค์สายพันธุ์ GS ด้วยมอเตอร์ไซค์ระดับกลางได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 650 GS และ บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS สิ่งที่มั่นใจได้คือความสนุกสนานขณะขับขี่ จากน้ำหนักที่เบา การควบคุมรถได้อย่างปลอดภัยในทุกสภาวะของพื้นถนน สมรรถนะทรงพลัง และความแกร่งคงทนในทุกเส้นทาง แม้จะต้องฝ่าด่านถนนกรวดหินก็ตาม
          บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2 สูบ 4 วาล์ว หล่อเย็นด้วยน้ำ ขนาด 798 ซีซี มาพร้อมกับหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ แคทตาไลติกคอนเวอร์เตอร์ และเกียร์ 6 สปีดขุมกำลังของบีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS มอบกำลังสูงสุดถึง 75 แรงม้า (55 กิโลวัตต์) ที่ 7,300 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 77 นิวตันเมตรที่ 5,300 รอบต่อนาที
          บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS มาพร้อมกับดิสก์เบรกคู่บริเวณล้อหน้า นอกจากนี้ สมาชิกรายล่าสุดของตระกูล GS นี้ยังได้รับการติดตั้งฟีเจอร์มาตรฐานอย่างระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดอีกด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 XR
          บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดก้าวไปอีกระดับด้วยการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 XR ซึ่งนำเสนอตระกูลมอเตอร์ไซค์ใหม่ล่าสุดภายใต้แนวคิด “Adventure Sport” โดยผสานคุณภาพการขับขี่แบบทัวร์ริ่ง สมรรถนะแข็งแกร่งสไตล์สปอร์ต ความสะดวกสบายสูงสุดและความสามารถในการใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 XR เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความเป็นทัวร์ริ่งและสปอร์ตอย่างแท้จริง
          เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียงของบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 XR นำมาจากบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R โรดสเตอร์ ซึ่งมอบกำลังที่ 160 แรงม้า (118 กิโลวัตต์) ที่ 11,000 รอบต่อนาที โดยมีแรงบิดสูงสุดที่ 112 นิวตันเมตร ที่ 9,250 รอบต่อนาที
          ระบบ Dynamic ESA (Electronic Suspension Adjustment) หรือ การปรับค่าสปริงหรือ ความหนืดของโช๊คด้วยระบบไฟฟ้า สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาวะการขับขี่
          ติดตั้งระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ฟีเจอร์มาตรฐานของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
          บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 XR มาพร้อม โหมดการขับขี่แบบ Riding Mode Pro รวมถึงระบบควบคุมการเกาะถนนแบบไดนามิก (DTC) มอบความปลอดภัยขณะขับขี่ระดับสูงผ่านแรงขับที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS
          บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS เสริมทัพโมเดลสองล้อภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในฐานะมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นที่สองที่ได้รับการประกอบในประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS เชื่อมประสบการณ์การเดินทางแบบออนโรดและออฟโรดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยผสานความสามารถต่างๆ สำหรับการขับขี่บนท้องถนนและการเดินทางไกล ร่วมกับคุณภาพอันแข็งแกร่งในการขับขี่แบบนอกเส้นทาง เชื่อมโลกแห่งการขับขี่ทั้งสองสไตล์ได้อย่างลงตัวอย่างที่มอเตอร์ไซค์ในกลุ่มเดียวกันไม่สามารถทำได้
          สมรรถนะยอดเยี่ยมด้วยเครื่องยนต์ 2 สูบเรียงแถวที่มีระบบหล่อเย็นด้วยน้ำ ด้วยขนาดเครื่องยนต์ 798 ซีซี มาพร้อมระบบจ่ายเชื้อเพลิงและเครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยาแบบวงจรระบบปิด สร้างกำลังสูงสุด 63 กิโลวัตต์ต่อ 85 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงถึง 83 นิวตัน-เมตร ที่ 5,750 รอบต่อนาที ส่งผลให้เครื่องยนต์ของ F 800 GS มอบสมรรถนะยามขับขี่อันปราดเปรียว
เพื่อตอบสนองความต้องการอย่างท่วมท้นของลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทยนำเสนอโมเดลที่ลดระดับความสูงของระบบช่วงล่างลง โดยเป็นการปรับเปลี่ยนพื้นฐานที่มาพร้อมกับบีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS ทุกคัน
          ความปลอดภัยของผู้ขับขี่เป็นหัวใจสำคัญของหลัก “Safety 360°” บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดจึงให้ความสำคัญกับระบบเบรก ABS ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานในบีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS ทุกคัน โดยมาพร้อมกับจานเบรกคู่ติดตั้งบริเวณล้อหน้า
          ระบบรักษาเสถียรภาพของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดถือเป็นระบบมาตรฐานที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในตลาดบิ๊กไบค์ระดับเดียวกัน โดยระบบควบคุมการเกาะถนนจะป้องกันล้อหลังหมุนฟรีขณะเร่งความเร็วซึ่งอาจทำให้สูญเสียการทรงตัวและการเบรกของล้อหลัง
          หน้าปัดแบบอนาล็อกแสดงมาตรวัดความเร็วและรอบของเครื่องยนต์ได้รับการจัดวางในแนวตั้ง โดยได้รับการออกแบบใหม่เพื่อช่วยให้ผู้ขี่อ่านค่าความเร็วบนถนนและความเร็วของเครื่องยนต์ได้ง่ายยิ่งขึ้น หน้าปัดนี้ยังแสดงข้อมูลระดับน้ำมันและอุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นซึ่งเป็นฟังก์ชันพื้นฐาน โดยปุ่มกดต่างๆ ของโมเดลรุ่นใหม่ได้รับการออกแบบให้กะทัดรัดและสอดคล้องกับสรีระของผู้ขับขี่สูงสุด
บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS
          BMW R 1200 GS เป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับระบบไฟหน้าแบบ LED พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานในเวลากลางวัน (Daytime running light) และสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ทั้ง “Rain”, “Road”, “Dynamic”, “Enduro”, และ “Enduro Pro” นอกจากนี้ได้รับการติดตั้งระบบ Dynamic ESA (Electronic Suspension Adjustment) หรือ การปรับค่าสปริงหรือความหนืดของโช๊คด้วยระบบไฟฟ้า สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาวะการขับขี่
          เครื่องยนต์ 4 จังหวะ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำแบบบ๊อกเซอร์ ขนาด 1,170 ซีซี มอบกำลังสูงสุดถึง 125 แรงม้า ต่อ 7,750 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 125 นิวตันเมตร ต่อ 6,500 รอบต่อนาที โดยสามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 200 กม./ชม. โดยมีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 24.4 กม./ลิตร
บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure
          ยึดหลักการใช้งานอเนกประสงค์เช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS มอเตอร์ไซค์รุ่น Adventure
          มาพร้อมกับเครื่องยนต์สองสูบและแชสซีที่ปราดเปรียว เพิ่มจิตวิญญาณแห่งการเดินทางและความสามารถแบบออฟโรดอย่างแท้จริง
          ถังน้ำมันเพิ่มปริมาตรความจุเป็น 30 ลิตร
          สปริงรองรับแรงกระแทกมีความยาวเพิ่มขึ้น 0.8 นิ้ว ทั้งบริเวณล้อหน้าและล้อหลัง เมื่อเทียบกับบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS
บาร์ป้องกันเครื่องยนต์อันทรงพลังและถังน้ำมัน
          บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure รุ่นใหม่ล่าสุดขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แบบ Boxer ที่มีระบบหล่อเย็นด้วยอากาศและน้ำ เช่นเดียวกับ บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS โดยมีเครื่องยนต์ขนาด 1,170 ซีซี ด้วยแรงม้าสูงสุดที่ 92 กิโลวัตต์ /125 แรงม้าที่ 7,750 รอบต่อนาที
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 26, 2015, 03:28:30 PM
BMW Motorrad showcases innovative riding machines at the 36th Bangkok International Motor Show with the announcement of the GS family local assembly line




 
          BMW Motorrad Highlights
          The new BMW F 800 R
          BMW F 700 GS
          BMW S 1000 XR
          BMW R 1200 GS
          BMW R 1200 GS Adventure
          BMW F 800 GS

          BMW Motorrad Thailand brings the latest innovations in ultimate riding machines to
the 36th Bangkok International Motor Show, including the new BMW F 800 R, the even better mid-size premium motorcycle; the BMW S 1000 XR, the perfect balance between sportiness and adventure;
as well as the BMW F 700 GS, the latest member of the GS family to be assembled in Thailand. Big Bike enthusiasts can experience the BMW motorcycle premium line-up with special campaigns and offers at the BMW booth during March 25-April 5, 2015 at Challenger Hall 1-3, Impact Muangthong Thani.
BMW Motorrad Thailand has also announced in its strategic product plan that the BMW Group Manufacturing Thailand Plant in Rayong will expand the local assembly to cover 3 more variants of
the GS family, namely the BMW F 700 GS, the BMW R 1200 GS and the BMW R 1200 GS Adventure.
Mr. Matthias Pfalz, President of BMW Group Thailand commented that, “The rapid growth of Thailand’s Big Bike market and customer demands is an essential reason for our decision to expand our motorcycle assembly lines. Adding more flexibility to our Rayong facility will continue to strengthen BMW Group’s presence in the Thai market. The expansion of the motorcycle assembly line will cover 3 more variants
          of the GS family, namely the BMW 700 GS, the BMW R 1200 GS and the BMW R 1200 GS Adventure. Together with the existing BMW F 800 GS and BMW F 800 R assembly lines, the BMW Group Rayong Plant will be assembling a total of 5 premium two-wheel ranges, with 4 out of 5 models representing Thailand’s popular GS family. This will be also an important step for BMW Group Plant Rayong to undertake export production for other Asian markets in the mid-term.”
The new BMW F 800 R
          The new BMW F 800 R is the latest in the line of characterful in-line two-cylinder motorcycles from BMW Motorrad. Consistent development of its all-around qualities has ensured the dynamic roadster is ready to delight owners with its sporty performance, agile handling and even greater versatility.
Power is sourced, as before, from a liquid-cooled four-valve twin-cylinder engine with 798 cc displacement. With output increasing to 90 hp (66 kW) at 8,000 rpm and shorter ratios for first and second gear, the parallel twin offers even greater sprinting ability while retaining the impressive pulling power, instantaneous responses and low fuel consumption familiar from the predecessor model. Peak torque remains 86 Nm at 5,800 rpm.
          The engaging riding experience on board the F 800 R is further enhanced by new suspension components and optimised ergonomics. For example, an upside-down fork now takes care of front suspension duties, while a hydraulic double-disc brake with radial brake callipers provides fade-resistant stopping power. A new seat fixed lower down (at 770 mm. instead of the previous 775 mm.), combined with new handlebars and rider foot pegs create even better ergonomics for the rider.
          The design of the F 800 R provides a visual showcase for that extra rider engagement. With its newly designed fairings, radiator shields, front mudguard and wheels, plus a new range of colors, the sporty roadster cuts an extremely dynamic figure. The now symmetrical main headlight also gives it a distinctive “face”.
          In keeping with the “Safety 360ฐ” principle, the new F 800 R is fitted with ABS as standard.
BMW F 700 GS
          When BMW Motorrad extended the GS family with an entry-level and medium category in the form of the BMW F 650 GS and the BMW F 800 GS, there was no doubt as to the message: lots of riding fun based on light, safe controllability over all surfaces, plenty of drive power and endurance on trips - even when there are only gravel tracks left to get you where you're going.
          The BMW F 700 GS continues to draw power from the distinctive, liquid-cooled 4-valve 2-cylinder engine with 798 cc, electronic fuel injection, closed-loop catalytic converter and 6-speed gearbox.
The BMW F 700 GS engine now delivers maximum output of 75 hp (55 Kw) at 7,300 rpm and maximum torque of 77 Nm at 5,300 rpm.
          The BMW F 700 GS is now fitted with a double disc brake on the front wheel. What is more, the latest GS model is fitted with the BMW Motorrad ABS as standard.
BMW S 1000 XR
          BMW Motorrad has taken the next step by bringing out the S 1000 XR, which offers this repertoire of core characteristics in a brand-new blend dubbed “Adventure Sport”. This encompasses dynamic touring qualities, sporty performance and high levels of comfort as well as outstanding everyday usability.
          In short, the BMW S 1000 XR serves up its own individual mix of sporting and touring flair at the same time as injecting a generous dose of emotion.
          The straight-four-cylinder engine on the BMW S 1000 XR is derived from that of the S 1000 R roadster. It has an output of 160 hp (118 Kw) at 11,000 rpm and generates maximum torque of 112 Nm at 9,250 rpm.
          Dynamic ESA (Electronic Suspension Adjustment) offers optimum adaptation to the prevailing conditions.
BMW Motorrad ABS as standard
          The BMW S 1000 XR already comes with Riding Mode Pro. The Dynamic Traction Control (DTC) ensures a high standard of riding safety by optimizing traction.
?
BMW F 800 GS
          The dynamic, high-torque water-cooled 2-cylinder in-line engine with 798 cc capacity, fuel injection and closed-loop catalytic converter delivers 63 kW (85 hp) at 7,500 rpm and 83 Nm at 5,750 rpm, making for agile power delivery.
          In response to popular demand among existing BMW F 800 GS customers for a reduction in seating height, BMW Motorrad Thailand now offers lowered suspension as standard equipment.
In accordance with the "Safety 360ฐ" principle, BMW Motorrad provides ABS as standard in the new BMW F 800 GS, with double-disk brakes on the front wheel.
          The BMW Motorrad ASC (Automatic Stability Control) as standard is unique in this market segment. The traction control system prevents unwanted spinning of the rear wheel while accelerating, which would result in the loss of lateral grip and thus break-out of the rear wheel.
          The analog speedometer and engine speed display are arranged vertically, new dial faces ensuring further improved legibility of road speed and engine speed. The information display already includes fuel level and coolant temperature as standard. New generation switch units are more compact in design and offer improved ergonomics.
BMW R 1200 GS
          The world’s first motorcycle with an LED main headlight featuring an integrated daytime running light. The BMW R 1200 GS is equipped with freely selectable riding modes “Rain”, “Road”, “Dynamic”, “Enduro” and “Enduro Pro”. The Dynamic ESA (Electronic Suspension Adjustment) is integral as standard.
          The air/liquid-cooled four stroke flat twin engine with 1170 cc capacity generates maximum output at 125 hp at 7750 rpm and a maximum torque of 125 Nm at 6500 rpm. The ultimate riding machine provides a top speed of over 200 km//h with lowered average consumption of 24.4 km/l.
BMW R 1200 GS Adventure
          Based on the same versatile overall concept as the R 1200 GS, with a spirited twin-cylinder boxer engine and agile chassis, but with enhanced off-road prowess and globetrotting abilities.
Larger fuel tank of 30 liters.
          Spring travel 0.8 inches longer at front and rear compared to R 1200 GS.
          Robust engine and tank protection bar.
          The new R 1200 GS Adventure is powered by the same spirited air/liquid-cooled boxer engine featured on the R 1200 GS, with a displacement of 1,170 cc and an output of 92 kW / 125 hp at 7,750 rpm.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 26, 2015, 03:29:31 PM
Innovation drives the world forward. Meet the BMW i3, the BMW Concept X5 eDrive, and the first-ever BMW 2 Series Active Tourer at the 36th Bangkok International Motor Show




 
          BMW and MINI Highlights
          BMW i3
          BMW 2 Series Active Tourer
          BMW Concept X5 eDrive
          MINI Clubman Concept
          MINI Siam Package

          BMW Group Thailand is demonstrating its innovative premium automotive technology at the 36th Bangkok International Motor Show through the very first presentation of the BMW i3, the BMW Concept X5 eDrive, the Thailand premier of the BMW 2 Series Active Tourer, as well as the highlighted MINI Clubman Concept and MINI Siam Package. The public is invited to experience BMW’s global brand experience first-hand at the BMW and MINI booth which will be showcasing all three premium automobile brands under BMW Group Thailand – BMW, MINI and BMW Motorrad. All customers can enjoy the best deals and promotions during March 25-April 5, 2015 at Challenger Hall 1-3, Impact Muangthong Thani.
BMW i3
          The BMW i3 is being introduced in Thailand for the first time at the 36th Bangkok International Motor Show. The general public is welcome to closely experience the highly-anticipated newcomer,
a pure-electric vehicle that is perfectly suited to cope with the growing challenges of urban mobility.
The debut showcase of the BMW i3 truly represents the dawn of electric mobility in Thailand.
Redefining urban mobility means thinking far beyond environmentally-conscious and agile driving. These considerations gave rise to the LifeDrive architecture concept, which was purpose-built specifically for the BMW i3. It is comprised of two modules; the Life Module and the Drive Module. Think of the Life Module as the passenger cabin, or greenhouse. It is the first-ever mass produced Carbon Fiber Reinforced Plastic (CFRP) passenger cell in the automotive industry, and is a major factor in the car’s efficiency. Carbon Fiber Reinforced Plastic is equally as strong as steel while being 50% lighter, and 30% lighter than aluminum. The result is an electric car that weighs about 1,315 kg with superior acceleration from 0-100 km/h in just 7.9 seconds.
          Due to the lightweight, high-tensile strength of CFRP, the passenger cell has added protection while placing less strain on the battery, which allows for the use of a smaller, lighter battery that saves even more weight, reduces charging time and increases range. The light weight design of the Life Module also lowers the BMW i3’s center of gravity, making it a more engaging and dynamic car to drive. The Drive Module, which is constructed out of 100% aluminum, consists of the 22-kWh lithium-ion battery, electric drive train, MacPherson strut and 5-link rear suspension system and structural and crash components. The battery mounted in the rear, close to the drive wheels, gives impressive performance characteristics while also providing better traction.
          Another benefit of the LifeDrive architecture concept is that there is no space-consuming transmission tunnel running through the center of the car, like in most internal combustion powered cars, because of the separate Drive Module. This gives the BMW i3 the interior space of the BMW 3 Series, while only having the footprint of the much smaller BMW 1 Series.
170-hp, BMW eDrive technology with electric motor with maximum torque of 250 Nm.
22-kWh lithium-ion battery130-160 km. real-world EV range.
          The world’s first electrically powered car with a range extender engine, performing this role via a 650 cc two-cylinder petrol engine developing 25 kW/34 hp. The range extender is used exclusively to generate electric power and to increase the car’s maximum range in day-to-day driving to around 300 kilometres. 0-100 km/h in just 7.9 seconds
Top speed of150 km/h, electronically limited to preserve efficiency.
Perfectly balanced 50-50 weight distribution.
          Charge time based on reaching 80%, using DC quick-charge is approx 0.5 hour
          Charge time based on reaching 80%, using AC quick-charge with BMW i Wallbox is approx. 3-6 hours
          Charge time based on reaching 80%, using the normal household socket is approx. 6-8 hours
BMW 2 Series Active Tourer
          The arrival of the BMW 2 Series Active Tourer sees BMW expand its portfolio into a new model segment. The newcomer in the premium compact class skilfully blends comfort and functionality of space with the trademark BMW strengths of dynamism, style and elegance. Following on from the Coupé as the second member of the new BMW 2 Series range, the harmoniously proportioned Active Tourer combines compact dimensions on the outside with a strikingly spacious feel on the inside.
The versatile luggage compartment, whose capacity can be enlarged from 468 to 1,510 litres, and the 40:20:40 split-folding rear backrest fitted as standard exemplify this model’s excellent everyday practicality. Flexibility is further enhanced by a sliding rear seat, allowing either kneeroom or luggage space to be increased as required. One particularly smart touch is the foldable boot floor that conceals a storage compartment with a handy multifunction tray.
          The new BMW 2 Series Active Tourer is being launched as the new BMW 218i Active Tourer M Sport, equipped with the three-cylinder petrol unit stands out for its exceptional efficiency and great performance abilities. With a six-speed automatic transmission with steptronic, the engine has a displacement of 1.5 litres, generates 100 kW/136 hp.
          The newly developed chassis, comprising a single-joint spring strut axle at the front and a multi-link rear axle, combines agility and directional precision with excellent handling stability and suspension comfort
To maximize the on-road presence of the BMW 2 Series Active Tourer, an M Aerodynamics package, 18-inch M light-alloy wheels on the outside are complemented by an M leather steering wheel and specially upholstered sports seats in the interior.
?
BMW Concept X5 eDrive
          The BMW Concept X5 eDrive succeeds in fusing the familiar brand of driving pleasure generated by the xDrive intelligent all-wheel-drive system and a luxurious ambience enshrined within an interior offering tremendous versatility of use with a plug-in hybrid drive system.
          The BMW Concept X5 is equipped with a drive system comprising a 180 kW/245 hp four-cylinder petrol engine with BMW TwinPower Turbo technology and a 70 kW/95 hp electric motor likewise developed by the BMW Group. The motor is supplied with power from a lithium-ion battery that can be charged from any domestic socket and has sufficient capacity to enable all-electric driving with zero local emissions for a range of up to 30 kilometres
          In addition to the settings that can be activated using the characteristic BMW Driving Experience Control switch, three driving modes can be selected according to requirements and the situation at hand: intelligent hybrid drive with an optimal relationship between sportiness and efficiency (AUTO eDrive);
          pure electric and thus local emission-free driving (MAX eDrive); and SAVE Battery to maintain the current charge level.
          The high degree of flexibility drivers can enjoy when it comes to choosing an energy source is given an added boost by the charging cable that is carried in the vehicle. The battery unit is located underneath the luggage compartment, so that there is only a small loss of load capacity overall – the luggage compartment is able to hold two large suitcases or four 46-inch golf bags.
MINI Clubman Concept
          Following its debut at the Geneva Motor Show, Thai MINI enthusiasts will have an opportunity to feel the touch of the latest MINI concept vehicle at the 36th Bangkok International Motor Show.
The MINI Clubman Concept comes across as sophisticated, cool and elegant. The iconic design is supplemented by high-quality details, plenty of space for functional features and selected materials. Refinement of the hallmark MINI styling ensures instant recognition, both on the exterior and the interior. The extensive colour and material concept redefines contemporary elegance and high-end quality in this segment.
          For over 50 years now, MINI has stood for maximum use of minimum space. 26 centimetres longer and just under 17 centimetres wider than the current MINI Clubman, the MINI Clubman Concept applies this aspiration to a new class of automobile.
          With the characteristic agility of the MINI proportions, the prolonged roof line clearly reflects the car’s extensive utility space. It also gives the silhouette a distinctive elegance, underscored by generous surfaces. The side view instantly conveys the qualities of the MINI Clubman Concept: a long wheelbase, flatly positioned windows and short overhangs reflect characteristic MINI agility.
The most striking rear elements are the characteristic split doors. The typical continuous door frame is no longer made of sheet metal. The door graphic itself provides the frame surrounding the entire rear section like a discreet bracket.
          Along with the exterior, the interior of the MINI Clubman Concept has also grown to larger dimensions. With four doors and five fully-fledged seats, the MINI Clubman Concept offers plenty of space for the pursuit of an active lifestyle.
          The unusual materials are especially worthy of mention: nubuck leather in a light Sky Blue, patent leather in rich Berry Red and black soft nappa leather ensure an exclusive interior atmosphere which is highly expressive. In between, elements in patinised silver add high-end accentuations.
The interior element of the MINI Clubman Concept with the most powerful presence is the leather-covered instrument panel. With a surround in blue limed ash grain and a white porcelain finish, the black upper section of the instrument panel has a hovering appearance. Indirect rear lighting of the gap reinforces this impression and gives the area in front of the driver and front passenger an extremely high-end ambience.
          Celebrating MINI Thailand’s 13th anniversary with the exclusive Siam Package for the MINI 3-door Hatch and the MINI Countryman
          Encounter the very first special accessories package for Thailand as a celebration of MINI’s 13th anniversary in the Kingdom. The Siam Package comprises an exclusive sticker, a badge for the hexagonal radiator grille and an LED projector designed to light up the area around the MINI logo on the doorsill. The exclusive and limited Siam Package valued at 20,000 Baht is available as optional for every variation of the MINI 3-door Hatch and the MINI Countryman purchased at the 36th Bangkok International Motor Show.
Sales Promotion Campaign
          For BMW bookings taken during the 36th Bangkok International Motor Show and for delivery within April 2015, customers will be eligible for give-away gifts as follows:
          For the BMW 116i and BMW 116i M Sport : iPad Air 2 (64 GB WIFI)
          For the BMW X1 sDrive18i, X1 sDrive 18i Line and M Sport, BMW X1 sDrive20d Line and M Sport, BMW 3 Series GT: Rimowa Salsa Deluxe 35L
          For the BMW 5 Series*, and CBU models* : iPad Air 2 (64 GB WIFI + Cellular)
          For the BMW 7 Series*** and all BMW ActiveHybrid 7L : MacBook Pro 13.3” 256 GB
          For the BMW X3 xDrive20i, X3 xDrive20d, X3 xDrive20d Highline : Cruise Bike BMW
(**not including BMW 3 Series Touring, BMW 5 Series Touring, BMW 2 Series, BMW 4 Series, BMW Z4, BMW X5)
(**not including BMW 730Ld Business)
          For MINI bookings taken during the 36th Bangkok International Motor Show and for delivery within April 2015, customers will be eligible for free gifts and opportunities as follows:
Only at the Motor Show 2015, all MINI customers who book their car during 25 March-5 April 2015 with delivery within 30 April 2015 will be eligible to receive a NESCAFÉ® Dolce Gusto® New MINI Limited Version coffeemaker valued at 7,490 Baht
          Special campaigns including eligibility for monthly instalment payments starting from only 11,500 Baht and first class insurance for 1 year for MINI Countryman buyers
          *Terms and conditions apply. BMW Group Thailand reserves the right to amend the above conditions without prior notice.
          More details about the campaigns and other financial products from BMW & MINI Financial Services can be obtained from BMW Contact Centre at 1-800-269-269 (or 1-401-269-269, if calling from a mobile phone), or from authorized dealers nationwide.
          BMW Service Inclusive and MINI Service Inclusive have been changed to BMW and MINI Service and Extended Warranty packages, providing vehicle maintenance and warranty extension of
5 years/100,000 km for BMW and 5 years/50,000 km for MINI
          To celebrate the 10th Anniversary of BMW Service Inclusive (BSI) and MINI Service Inclusive (MSI) in Thailand, BMW Group Thailand is delighted to announce new service packages, while the familiar BMW and MINI Service packages have been brought into line with warranty benefits. The new BMW and MINI Service and Extended Warranty package offers are an added benefit to our customers since the coverage of 5 years/100,000 km for BMW and 5 years/50,000 km for MINI will continue to cover service maintenance costs as well as the extended warranty under the same terms and regulations.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 26, 2015, 03:30:12 PM
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดตัว เดลิกา สเปซ แวกอน รถยนต์นั่งอเนกประสงค์เหนือระดับ ในงาน มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36



           มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ประกาศเปิดตัว เดลิกา สเปซ แวกอน ใหม่ รถยนต์นั่งเอนกประสงค์เหนือระดับนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เจาะกลุ่มนักธุรกิจและครอบครัวด้วยห้องโดยสารกว้าง พร้อมความปลอดภัยสูงสุดจากโครงสร้างนิรภัย Rib Bone Frame และสมรรถนะที่โดดเด่น ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ไมเวค ขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูง 150 แรงม้า ตั้งราคาขาย 1,780,000 บาท เปิดจองในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 และโชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมส่งมอบในเดือนมิถุนายนนี้
          มร. โมะริคาซุ ชกคิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทฯ ประกาศเปิดตัว รถยนต์มิตซูบิชิ เดลิกา สเปซ แวกอน รถยนต์นั่งอเนกประสงค์เหนือระดับ “Premium MPV” ซึ่งเป็นรถนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 พร้อมเปิดรับจองทั้งในงาน และที่โชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศ และมีกำหนดส่งมอบรถให้กับลูกค้าในเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป สำหรับมิตซูบิชิ เดลิกา สเปซ แวกอน เป็นรถที่โดดเด่นด้วยระบบความปลอดภัยซึ่งได้มาตรฐานระดับ 6 ดาวจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมสมรรถนะจากเครื่องยนต์ไมเวคขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า และดีไซน์ที่ลงตัวทั้งภายนอกและภายใน อีกทั้งยังสะดวกสบายด้วยการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ห้องโดยสารกว้างรองรับได้ถึง 7 ที่นั่ง ตอบโจทย์การใช้งานของนักธุรกิจและผู้ที่มองหารถสำหรับครอบครัว

เหนือระดับด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับ 6 ดาว
          มิตซูบิชิ เดลิกา สเปซ แวกอน มาพร้อมระบบความปลอดภัยซึ่งได้มาตรฐานระดับ 6 ดาวในประเทศญี่ปุ่น จากโครงสร้างตัวถังแบบนิรภัยรอบคัน Rib Bone Frame ที่ผลิตจากเหล็กที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษและน้ำหนักเบา (High Tensile Steel) ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างตัวถังรอบคัน เสริมความปลอดภัยอีกขั้นด้วยโครงสร้างตัวถังแบบ Rise Body ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASC (Active Stability Control) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) และถุงลมนิรภัย 5 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมนิรภัยด้านหน้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ม่านนิรภัยซ้าย-ขวา และถุงลมนิรภัยหัวเข่าด้านคนขับ พร้อมความสะดวกสบายในการขับขี่ด้วยการออกแบบช่วงล่างด้านหน้าและด้านหลังที่ให้การขับขี่นุ่มนวล เกาะถนน และทรงตัวได้ดียิ่งขึ้น ให้อารมณ์การขับขี่อย่างรถยนต์นั่งด้วยการปรับระยะหมุนของพวงมาลัยที่น้อยลง และมีรัศมีวงเลี้ยวที่แคบสุดเพียง 5.7 เมตร นอกจากนี้ยังมีการนำโพลีเมอร์ริกที่มีความยืดหยุ่นสูงและมีคุณสมบัติในการคืนรูปที่เหนือกว่ามาผลิตเป็นแก้มกันชนด้านหน้ารถ เพื่อป้องการการเสียหายและดูแลรักษาได้ง่ายกว่า
          มิตซูบิชิ เดลิกา สเปซ แวกอน ได้รับการออกแบบภายใต้คุณสมบัติ 3 ประการ คือ “กว้างขวาง สะดวกสบาย และปลอดภัยสูง” ด้วยการติดตั้งกระจกบังลมหน้าและกระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบตัดแสงยูวี กระจกประตูข้างและกระจกประตูหลังแบบกรองแสงสีเข้ม พร้อมติดตั้งระบบฟอกอากาศ Plasmacluster เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทำหน้าที่กรองอากาศให้บริสุทธิ์รวมทั้งช่วยขจัดหรือลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ทำให้ให้ผู้โดยสารรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเดินทาง
          มิตซูบิชิ เดลิกา สเปซ แวกอน มี 2 สีให้เลือก คือ สีขาวมุก (Warm White Pearl) และสีดำ (Diamond Black Mica)
รายละเอียดผลิตภัณฑ์

การออกแบบภายนอก
          เสริมความสปอร์ตด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ HID ปรับระดับลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติ มาพร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และไฟตัดหมอกคู่หน้าพร้อมตกแต่งแบบโครเมียม
          ประตูด้านข้างซ้าย-ขวาเลื่อนไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
          กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถปรับและพับด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
          กระจกบังลมหน้าและกระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบป้องกันรังสียูวี กระจกประตูข้างแถวที่ 2 แถวที่ 3 และกระจกประตูหลังแบบกรองแสงสีเข้ม
          แก้มด้านหน้ารถซ้าย-ขวาแบบโพลีเมอร์ริก
          เสาอากาศแบบฝังกระจก

การตกแต่งภายใน
          เหนือระดับด้วยตกแต่งภายในด้วยเบาะหนังและวัสดุสังเคราะห์สีดำ พวงมาลัย และหัวเกียร์หุ้มหนัง
          มาตรวัดเรืองแสง พร้อมจอแสดงผลข้อมูลอเนกประสงค์ MID (Multi-Information Display)
          ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบหมุนเวียนอากาศ
          ช่องปรับอากาศสำหรับแถวที่ 2 และแถวที่ 3
          กระจกไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับ
          ไฟส่องสว่างห้องโดยสารพร้อมไฟอ่านแผนที่คู่หน้า
          ไฟอ่านหนังสือ สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2
เบาะนั่ง
          สะดวกสบายด้วยเบาะ 7 ที่นั่ง เบาะนั่งคนขับสามารถปรับสูง-ต่ำ พร้อมที่พักแขนแบบปรับระดับได้
          เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบแยกอิสระ พร้อมที่พักแขนแบบปรับระดับได้
          เบาะนั่งแถวที่ 3 ปรับพับ 50:50 พร้อมปรับพับแบบแขวน
          จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ที่เบาะนั่งแถวที่ 2

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
          เครื่องเล่นดีวีดี ซีดี วิทยุ เอ็มพี3 พร้อมจอภาพระบบสัมผัสขนาด 6.5 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) ระบบนำทางในรถยนต์ (Navigation system) และช่อง USB สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วงที่รองรับไฟล์ภาพยนตร์ และเพลง พร้อมลำโพง 6 ตัวรอบคัน เพื่อคุณภาพเสียงคมชัด รอบทิศทางเพิ่มสุนทรียภาพตลอดการเดินทาง
          ระบบฟอกอากาศ แบบ Plasmacluster ทำให้อากาศสดชื่นและดีต่อสุขภาพ
          จอภาพ LED Back Light ขนาดใหญ่ 10.2 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
          พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ติดตั้งระบบควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย และระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control)

ระบบความปลอดภัย......เหนือระดับ
          ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ปกป้องเหนือชั้นด้วยถุงลมป้องกันกระแทกหัวเข่าด้านคนขับ และเสริมความปลอดภัยของผู้โดยสารด้วยม่านนิรภัย มาพร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ช่วยลดแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
          ระบบเปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติกรณีเบรกกะทันหัน Emergency Stop Signal มาพร้อมไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเปิดไฟเลี้ยว Active Cornering Lamp เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่
          ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Active Stability Control พร้อมระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Start Assist
          ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD ช่วยให้ประสิทธิภาพการเบรกดีขึ้นปลอดภัยมากขึ้น
          ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS ( Keyless Operation System) ช่วยให้สามารถล็อกและปลดล็อกประตู รวมทั้งสตาร์ทเครื่องยนต์ได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องใช้กุญแจ มาพร้อมระบบเซ็นทรัลล็อก ผู้ขับสามารถเปิดหรือปิดล็อกประตูทุกบานโดยปุ่มควบคุมที่ประตูด้านผู้ขับ
          ระบบกุญแจอิมโมบิไลเซอร์ ป้องกันการโจรกรรมโดยจะอนุญาต ให้ติดเครื่องได้เฉพาะลูกกุญแจที่ส่งรหัสสัญญานตรงกับระบบเท่านั้นจึงช่วยให้ปลอดภัยจากการโจรกรรม
          กล้องมองหลังขณะถอยเพิ่มความสะดวกในการถอยจอดให้ง่ายขึ้น

เครื่องยนต์เบนซิน
          เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 4J11 แบบ 4 สูบ เครื่องยนต์ SOHC MIVEC ขนาด 1,998 ลิตร ให้สมรรถนะสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 191 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที มาพร้อมระบบควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ ECI ที่ควบคุมจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอีเล็กทรอนิกส์
          ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ INVECS III พร้อม Sport Mode ระบบเกียร์อันชาญฉลาดที่ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจซึ่งสามารถเรียนรู้และจดจำรูปแบบการขับขี่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสมและทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้การขับขี่เพื่อการควบคุมที่ดีกว่า
          รองรับน้ำมันเบนซิน 91, 95 และแก๊สโซฮอล์ E10, E20

ราคา
          มิตซูบิชิ เดลิกา สเปซ แวกอน 1,780,000 บาท
(ราคาเพิ่ม 15,000 บาท สำหรับสีขาวมุก)
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 26, 2015, 03:30:48 PM
Mitsubishi Motors introduces Delica Space Wagon, the Premium MPV at the 36th Bangkok International Motor Show.


 
           Mitsubishi Motors Thailand has launched Delica Space Wagon, the Premium MPV, targeting businessmen and families with its spacious interior and world-class safety thanks to its Rib Bone Frame safety structure. The Delica Space Wagon, which is fully-imported from Japan, is powered by a 150-horsepower MIVEC 2.0-liter gasoline engine and is priced at 1,780,000 THB. Orders are being accepted at the Bangkok Motor Show as well as all Mitsubishi dealerships nationwide. The vehicles will be ready for delivery to customers starting in June 2015.
          Mr. Morikazu Chokki, President and CEO of Mitsubishi Motors (Thailand) Co., Ltd., informs that the Delica Space Wagon, the “Premium MPV”, imported from Japan is introduced to Thai market today in the 36th Bangkok International Motor Show. Orders are being accepted in the event and all Mitsubishi showrooms nationwide while the car will be ready for delivery to customers from June 2015. Delica Space Wagon delivers high level of safety functions and achieved a total of 6 stars from the JNCAP (Japanese New Car Assessment Program). Apart from the performance from the MIVEC 2.0-liter engine capable of producing 150 horsepower, the Delica Space Wagon also comes with fully-integrated design both inside and out. Comfort is at the highest level thanks to a full range of features and functions, with the large cabin housing a total of 7 seats, making it a highly attractive choice for businessmen and large families.

Outstanding 6-star safety rating
          The Mitsubishi Delica Space Wagon passes the JNCAP crash test with flying colors, achieving a total of 6 stars. This is possible due to its Rib Bone Frame, made from high-tensile steel, which helps strengthen the whole body structure in addition to the impact-absorbing RISE Body. Meanwhile active safety is enhanced with ASC (Active Stability Control), HSA (Hill Start Assist) and a total of 5 airbags – dual front SRS, curtain airbags and knee airbag for the driver. The suspension has been tuned to offer sedan-like ride and handling, offering excellent roadholding while maintaining a high level of ride comfort. The steering is also more direct and the turning radius is only 5.7 meters.
          Meanwhile, highly-flexible polymers that easily return to its original shape are used for the front fender, lowering chances of damage and making it easier to look after. The Mitsubishi Delica Space Wagon cabin has been designed with three concepts in Spacious, Comfortable and Safety. The front windshield and front windows are made from UV cut glass while the rear windows and rear windshield are privacy glass.
          Offered as standard is a Plasmacluster air cleaner that helps purify the air in the cabin, allowing passengers to feel relaxed throughout the journey. The Mitsubishi Delica Space Wagon is available in two body colors: Warm White Pearl and Diamond Black Mica.

Exterior Design
- HID projector with auto leveling system, auto lighting control and front fog lamps with chrome bezel.
- Electric power slide door with anti-jam protection.
- Color-key powered and foldable sideview mirrors with turning light.
- UV cut glass on front windshield and front window with privacy glass on 2nd, 3rd row window and tail gate window.
- Polymeric Plastic front fender.
- Glass antenna.

Interior Design
- Outstanding interior with black leather seats and synthetic, leather wrapped on steering wheel and shift knob.
- High contrast meter with Multi-Information Display.
- Full automatic air conditioning with ventilation.
- Air vent for 2nd and 3rd row seat.
- Power windows with anti-jam protection on driver side.
- Room lamp with front map lamp.

Seats
- Total of 7 seats, driver's seat height adjuster with armrest adjustable.
- Separate type with armrest adjustable for 2nd row seat.
- 50:50 separated foldable for 3rd row seat.
- Anchors for child seat on second row seat.

Comfort and Convenience features
- DVD, CD, radio, MP3 infotainment system with 6.5-inch touchscreen, Bluetooth connectivity, navigation system, USB input for music and movie files and 6 loudspeakers located around the cabin offering high-quality surround sound.
- Plasmacluster air cleaner.
- 10.2-inch LED Back Light roof monitor for rear passengers.
- Multi-function steering wheel (audio system and cruise control).

Outstanding Safety
- Dual front SRS airbags as well as driver knee airbag and curtain airbags on both sides, and seatbelts with pre-tensioners and force limiters team up to protect occupants during an accident.
- The Emergency Stop Signal warns others of extremely hard braking, while Active Cornering Lights helps improve visibility when the turning light is switched on.
- Active Stability Control helps maintain vehicle control in extreme conditions while Hill Start Assist helps the driver when the vehicle stops on an incline.
- The braking system comes with ABS (Anti-lock Braking System), BA (Brake Assist) and EBD (Electronic Brake force Distribution), and provides powerful braking performance.
- The KOS (Keyless Operation System) allows the driver to lock/unlock doors as well as start the engine without having to remove the ignition key from the pocket.
- Central door locking system allows driver to lock/unlock every door from the driver’s controls on the side door panel.
- Immobilizer key allows the engine to be started only if the matching codes are present.
- Rearview camera offers convenience while backing up.

Powertrain
- 4J11 4-cylinder SOHC MIVEC 16 Valve engine has a capacity of 1,998cc and is capable of developing 150 horsepower at 6,000rpm and 191Nm of torque at 4,200rpm. The engine is equipped with an ECI fuel system with electronically-controlled fuel injectors.
- The intelligent 6-speed INVECS III transmission with Sport Mode provides instantaneous response, and adapts to the driving environment, resulting in increased fuel efficiency. The paddle shifters on the steering wheel also allow the driver to shift manually as desire.
- The Delica Space Wagon runs on 91 and 95 unleaded gasoline as well as E10 and E20 gasohol.
Price
- Mitsubishi Delica Space Wagon 1,780,000 Baht
(Additional 15,000 baht for Warm White Pearl color)
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 26, 2015, 03:31:34 PM
เอ็มจี ชวนคนไทยร่วม “Hello FUN” กับ MG3 ใหม่” ประเดิมด้วยยอดจอง 300 คัน ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ พร้อมโปรโมชั่นสุดร้อนแรงจาก “MG6”




 
          บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 เนรมิตเมืองที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน และแรงบันดาลใจตรงจากอังกฤษพร้อมเอ็มจี 3 ใหม่ ที่กำลังมาแรงด้วยฟังก์ชั่นมากมาย และระบบความปลอดภัย ครบครัน ในราคาเริ่มต้นเพียง 479,000 บาท และเอ็มจี 6 ยนตรกรรมมาตรฐานอังกฤษที่จัดเต็มกับโปรโมชั่นพิเศษ
          มร.หวู่ ฮวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย กล่าวว่า “ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ปีนี้ เอ็มจีเตรียมรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของเราคือ MG3 ทั้งรุ่น Hatchback และ Xross รวมถึงรถยนต์รุ่น MG6 Turbo Fastback และรุ่น Sedan มาให้ทุกคนได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งงาน”
          เอ็มจี มี 4 ข่าวดีมาบอกทุกคน เริ่มตั้งแต่ข่าวแรก – รถยนต์ MG6 เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ซึ่งเพิ่งคว้ารางวัล Auto Express Driver Power Award ในสาขา Best Handling เหนือคู่แข่งอีกมากกว่า 150 คันจากแบรนด์อื่น ๆ ทั้งยังเป็นรถยนต์ที่ถูกใช้ในการแข่งขันบริติช ทัวริ่ง คาร์ แชมเปี่ยนชิพ ปี 2014 เสนอโปรโมชั่น สุดร้อนแรง ให้คุณขับ MG6 Turbo ทั้งรุ่น Fastback และรุ่น Sedan ได้ฟรีตลอด 6 เดือนเต็ม ผ่อนเริ่มต้นเพียง 9,555 บาทต่อเดือน สำหรับรุ่น “X” ซึ่งเป็นรุ่นท็อปยังได้รับดีวีดี-เนวิเกเตอร์ พร้อมกล้องมองหลังฟรีอีกด้วย
          ข่าวดีข่าวที่ 2 – MG3 ทั้งรุ่น Hatchback และ Xross ซึ่งถือว่าเป็นรถยนต์ที่มาพร้อมอุปกรณ์และระบบความปลอดภัยแบบเต็มพิกัดภายใต้คุณภาพและมาตรฐานของรถยนต์ยุโรป เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน จะเปิดให้ลูกค้าทุกท่านได้เข้ามาสัมผัสอย่างเต็มที่ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย!!
          MG3 ทั้งรุ่น Hatchback และ Xross มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร VTi-Tech พร้อมเกียร์อัตโนมัติเซเลเมติค 5 สปีดที่สามารถเปลี่ยนมาเป็นโหมดเกียร์ธรรมดาได้
          MG3 ยังมาพร้อมระบบอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยแบบเต็มพิกัดในทุกรุ่น ในราคาเริ่มต้นเพียง 479,000 บาท ด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้าและระบบความปลอดภัยอีกมากมายตั้งแต่ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล?(TCS - Traction Control System) ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน?(MSR - Motor Control Slide Retainer) ระบบควบคุมการทรงตัว?(ESC – Electronic Stability Control) ระบบการช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS - Hill-Start Assist System) ระบบช่วยกระจายแรงเบรก?(EBD Electronic Brake – Force Distribution) โครงสร้างตัวถังนิรภัย?(USD - Ultimate Stiffness Design) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน?(ABS – Anti – Lock Braking System)?และ?ระบบเสริมแรงเบรก?(BA – Brake Assist)?และที่พิเศษกว่าใครอย่าง ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC – Curve Brake Control)
          ราคาจำหน่ายเอ็มจี 3 แบ่งเป็น?รุ่นแฮทช์แบ็ค?(Hatchback)?5?ประตู ได้แก่ รุ่น C ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ 479,000 บาท รุ่น D เหมาะกับผู้มองหาความคุ้มค่าที่ 509,000 บาท รุ่น X พร้อมติดตั้งซันรูฟที่ 559,000 บาท และสำหรับรุ่นครอส (Xross) จะมีเพียงรุ่นเดียว คือ รุ่น X พร้อมซันรูฟ ราคา 595,000 บาท นับว่าเป็นราคาที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับรถยนต์ในระดับเดียวกัน
          นอกจากนั้น ความพิเศษอีกประการหนึ่งของ MG3 ก็คือ ความสนุกในการแต่งแต้มสีสันให้กับรถยนต์ได้ในแบบของคุณเองด้วยการเลือกแต่งสีภายนอกแบบทูโทน ได้แก่ คู่สี Tudor Yellow – Black Top คู่สี Regal Red – White Top และคู่สี Thames Blue – White Top ส่วนสติกเกอร์ตกแต่งหลังคามี?5?สไตล์ ได้แก่?Scottish Kilt , Brit Pop,??MOD, Union Jack?และ?London Tube?รวมทั้งฝาครอบกระจกมองข้าง?4?สี สำหรับรุ่นแฮทช์แบ็ก
          ข่าวดีข่าวที่ 3 –MG3 และ MG6 พร้อมจำหน่ายที่โชว์รูมเอ็มจีทั้ง 25 แห่งทั่วประเทศไทย เอ็มจีมั่นใจในคุณภาพมาตรฐานยุโรปจึงกล้าให้การรับประกัน และบริการ road-side assistance ตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 4 ปีเต็มหรือ 120,000 กิโลเมตร และพิเศษ เอ็มจียังมีบริการ mobile service สำหรับลูกค้าเอ็มจีในประเทศไทยโดยเฉพาะที่พร้อมจะให้บริการในเร็ว ๆ นี้ในทุกที่ที่ลูกค้าสะดวกโดยไม่ต้องเข้ามาที่โชว์รูม
          ส่วนข่าวดีข่าวสุดท้าย – บริษัทลีสซิ่งใหญ่ 5 บริษัทได้แก่ บริษัท ทรู ลีสซิ่ง จำกัด บริษัท กรุงไทย ลีสซิ่ง จำกัด บริษัท ทีเอสเอส ออโต้ เรนทอล จำกัด บริษัท บิซ คาร์ เร้นท์ จำกัด และบริษัท คิวซี ลีสซิ่ง จำกัด เพิ่งสั่งจองรถยนต์ MG3 ทั้งรุ่น Hatchback และรุ่น Xross รวมจำนวนมากกว่า 300 คันเพื่อนำไปใช้ทั่วประเทศ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่บริษัทเหล่านี้จะสั่งซื้อรถยนต์ครั้งละเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเขาต้องพิจารณาหลายด้าน ไม่ใช่แค่เรื่องราคาขายของรถยนต์ แต่ต้องดูทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ความน่าเชื่อถือ มูลค่าในการขายซื้อ และคุณภาพในการบริการ ซึ่งทั้งหมดนี้คือการรับประกันทั้งเรื่องคุณภาพและความน่าเชื่อถือของรถยนต์ MG3
          “ผมขอเชิญชวนทุกคน ไม่ว่าจะวัยไหนเพศไหน ให้เข้ามาสัมผัส “FUN Unlimited” ของบู๊ธเอ็มจีภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม จนถึง 5 เมษายนนี้” มร.หวู่ ฮวน กล่าวทิ้งท้าย

          สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ MG เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ www.mgcars.com หรือเข้าไปเยี่ยมชมรถยนต์เอ็มจีได้ที่โชว์รูมที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากเอ็มจีทั่วประเทศ
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 26, 2015, 03:32:05 PM
MG Invites Thais to Say Hello Fun MG3 with initial Fleet Order over 300 units at the Bangkok International Motor Show, MG6 Gets Red Hot Promotion




 
          MG Sales (Thailand) is to turn MG’s pavilion at the 36th Bangkok International Motor Show 2015 into a virtual “playground” with the feature-packed, fully safety equipped MG3 subcompact with prices as low as 479,000 Baht and the MG6 Turbo compact with special offers.
          Mr. Wu Huan, President of SAIC Motor – CP, the manufacturer of MG vehicles in Thailand stated, “At the Bangkok International Motor Show we bring our latest cars, the new MG3 Hatchback and Xross and the MG6 Turbo Fastback and Sedan, for everyone to see, touch and feel.”
          MG Thailand has four great news - First: The MG6 Turbo 1.8-Litre which has recently won the UK’s Auto Express Driver Power Award for Best Handling over 150 other cars, as well being the base car for winning the 2014 British Touring Car Championship as Manufacturer, is offering new customers of the drive the MG6 Turbo fastback and sedan six months for free. Installments start at only 9,555 Baht a month while the top “X” model gets a free DVD-Navigator upgrade.
          Second, the new MG3 subcompact Hatchback and Xross are now available to the public for the first time as one of the best equipped in class, most accessible European car in Thailand!
          Both the MG3 Hatchback and Xross are powered by powerful1.5-litre VTi-Tech engine coupled to efficient 5-speed SeleMatic automatic transmission with sequential manual mode.
          Packing the most safety and convenient features as standard – including double front airbags - across the range with prices starting at 479,000 Baht, some of which are first in class like the Curve Brake Control (CBC). The there is also a ton of safety features usually found in luxury cars include Traction Control System (TCS), Motor Control Slide Retainer (MSR), Electronic Stability Control (ESC), Hill Start Assist System (HAS ), Electronic Brake -Force Distribution (EBD), Ultimate Stiffness Design (USD) body structure, Anti–Lock Braking System (ABS) and Brake Assist (BA).
          Prices for MG3 Hatchback 1.5 C, 1.5 D and 1.5 X Sunroof range from 479,000, 509,000 and 559,000 Baht respectively, while the MG3 Xross comes only as the 1.5 X Sunroof at 595,000 Baht – the MG3 is simply gives the best value for money in its class.
          What’s more, the new MG3 is so fun to personalization with 2-tone paint option: Tudor Yellow – Black Top, Regal Red – White Top and Thames Blue – White Top. Then there are 5 different roof wraps: Scottish Kilt, Brit pop, MOD, Union Jack and London Tube. Even the side mirrors have 4 different cover options to choose from.
          Third, all new MG3 and MG6 bought from one of our 25 authorized MG showrooms nationwide are protected by a comprehensive 4 years/ 120,000km warranty, 24-hour road-side assistance for the same period AND, unique to Thailand, an Mobile Service by appointment will soon be available to perform routine maintenance at the conveniences of the drivers instead of going to service centres.
          Forth, five major car leasing companies have signed a big order for more than 300 MG3 Hatchback and Xross for use around the country. Fleet operators are hard to satisfy because the criteria used for is not just the initial purchase prices, but the maintenance costs, reliability, resale value and service performances. This is a stamp seal of approval on the quality and reliability of the MG3. The five car leasing companies which have signed fleet orders with us today are True Leasing, Krungthai Leasing, TSS Auto Rental, Biz Car Rent and Q.C. Leasing.
          “I invite everyone young or old, boy or girl, man or woman to come and have “Fun Unlimited” at our MG pavilion at the Bangkok International Motor Show from 25th March through 5th April,” added Mr. Wu.

          For more information, please visit the official MG website: www.mgcars.com Or visit your nearest authorized MG Showroom nationwide.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 26, 2015, 03:33:26 PM
รูปแบบและเทคโนโลยีใหม่ สำหรับแกรนด์ ทัวริ่ง สุดหรู









          - รูปแบบที่ได้รับการยกระดับและเพิ่มคุณสมบัติที่โดดเด่นให้กับครอบครัวคอนติเนนทัล จีที (Continental GT)
          - คอนติเนนทัล จีที W12 (Continental GT W12) เพิ่มพละกำลังเครื่องยนต์เป็น 590 PS (582 แรงม้า/ 434 กิโลวัตต์) และ 720 นิวตันเมตร ประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น
          - ฟลายอิ้ง สเปอร์ (Flying Spur) เพิ่มทางเลือกใหม่เพื่อความหรูหราของรถ 4 ประตู

          เบนท์ลี่ย์ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั่วโลกด้วยการยกระดับ ปรับเปลี่ยน รูปลักษณ์ของคอนติเนนทัล จีที (Continental GT) ให้มีความทันสมัยและเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับรถคันนี้มากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ ฟลายอิ้ง สเปอร์ (Flying Spur) ยังได้เสริมความหรูหราและเพิ่มเรื่องของพละกำลังให้ดียิ่งขึ้น และเป็นจุดเด่นสำคัญสำหรับปี 2015 ที่เบนท์ลี่ย์มุ่งเน้นในเรื่องของการพัฒนาการขับเคลื่อน เทคโนโลยี และความสะดวกสบายของห้องโดยสารอย่างเต็มพิกัดอีกด้วย
          รุ่นใหม่นี้ทำการอวดโฉมและจัดแสดงโชว์ในงานมหกรรมยานยนต์ Geneva Motor Show ตั้งแต่วันอังคารที่ 3 มีนาคมเป็นต้นไป

          Wolfgang Dürheimer, ประธานกรรมการและประธานบริหารของเบนท์ลี่ย์ได้กล่าวว่า:
          “เบนท์ลี่ย์นำเสนอความหรูหราและประสิทธิภาพของรถได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมด้วยความสะดวกสบายอย่างเต็มพิกัดให้กับรถแกรนด์ ทัวริ่ง และจะเป็นจุดขายสำคัญสำหรับปี 2015 ในการขยายสมาชิกใหม่ให้กับครอบครัวเบนท์ลี่ย์ พวกเรารับฟังความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ และด้วยคำแนะนำเหล่านี้นี่เองที่จะนำไปสู่การสรรสร้างรถให้มีรูปลักษณ์ที่น่าประทับใจ , ประหยัด และแน่นอนเหมาะสมกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน"

          รูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นของคอนติเนนทัล จีที (Continental GT)
          เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที (Continental GT) ได้รับการปรับแต่งรูปลักษณ์ภายนอกใหม่ โดยเน้นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นแกรนด์ ทัวเร่อร์ (Grand Tourer) ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น กันชนด้านหน้าจะผสมผสานช่องระบายอากาศที่ได้รับการออกแบบมาใหม่ได้อย่างลงตัว เน้นให้เห็นถึงความทรงพละกำลังของรถจากทางด้านหน้า เสริมทัพด้วย โลโก้ “B” ที่เน้นให้เห็นถึงความเป็นเบนท์ลี่ย์ และเส้นสายของรถ “Power line” ทรงพละกำลังที่ออกแบบได้อย่างลงตัวจนถึงซุ้มล้อด้านหน้า
          ทางด้านหลังของรถจะพบกับฝากระโปรงที่ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้ได้สัดส่วนที่คมชัดยิ่งขึ้น เน้นประโยชน์ในเรื่องของหลักอากาศพลศาสตร์ให้ได้มากที่สุด กันชนหลังได้รับการปรับโฉมด้วยเช่นกัน โดยได้ขยายให้ใหญ่มากขึ้นและสัมผัสได้ถึงความทรงพละกำลังของเครื่องยนต์ และจะมาพร้อมกับ full-width brightware ส่วนรุ่น V8 S และ GT Speed จะแตกต่างด้วยแผ่นกระจายอากาศทางด้านหลังที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อเน้นเรื่องของประสิทธิภาพของรถเป็นหลักในตระกูลคอนติเนนทัล (Continental) นั่นเอง
          รูปลักษณ์ภายนอกได้รับการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมเพื่อการเติมเต็มความโดดเด่นให้กับรถ อาทิเช่น ล้อใหม่ซึ่งสามารถเลือกติดตั้งได้โดยเปลี่ยนจากขนาดล้อ 20 นิ้วเป็น 21 นิ้ว ล้อมาตรฐานของรุ่น GT V8 และ GT W12 จะติดตั้งล้อขนาด 20 นิ้วลาย six-tri-spoke wheel โดยแตกต่างที่ V8 จะพ่นเงาน้อยกว่า ส่วน W12 จะพ่นเงามากกว่า ล้อของชุดแต่ง Mulliner Driving Specification เป็นล้อขนาด 21 นิ้วลาย seven-twin-spoke design ในเฉดสี Graphite grey สำหรับรุ่น V8 S และ GT Speed จะมาพร้อมกับล้อลายสปอร์ตขนาด 21 นิ้ว 5 ก้านอีกด้วย
          สีใหม่มีให้เลือกเพิ่มเติมอีก 3 สีเพื่อทำให้ตัวรถมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น นั่นคือสี Marlin (สีน้ำเงินเข้มเคลือบเมทาลิก), Camel (สีทองอ่อน) และ Jetstream (สีฟ้าอ่อนสว่างเคลือบเมทาลิก)

          ห้องโดยสารที่ทันสมัย สะดวกสบาย
          ห้องโดยสารภายในได้รับการพัฒนาปรับเปลี่ยนให้มีความหรูหรามากยิ่งขึ้น ปุ่ม และแผงควบคุม รวมถึงโทนสีต่างๆ ในห้องโดยสารของรถ 4 ที่นั่งจะเพียบพร้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวก ในขณะที่ชุดแต่ง Mulliner Driving Specification (เป็นชุดแต่งมาตรฐานให้กับรุ่น GT Speed) จะทำให้รถดูสปอร์ตและโดดเด่น ด้วยรอยตะเข็บแบบเพชรหรือ “small-diamond” ตามแบบฉบับของประเทศอังกฤษ การบังคับควบคุมการทำงานของรถจากผู้ขับขี่จะเป็นไปได้ง่ายและเหมาะสมตามหลักสรีรศาสตร์มากขึ้น พวงมาลัยสปอร์ตมาพร้อมกับก้านเกียร์เพื่อช่วยในการเปลี่ยนระดับเกียร์ได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเช่นกัน
          ชิ้นส่วนต่างๆ ที่อยู่บริเวณคอนโซลได้รับการพัฒนาปรับเปลี่ยน แผงควบคุมของผู้ขับขี่จะมาพร้อมกับหน้าปัดใหม่ และกราฟฟิคต่างๆ ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความเหมาะสมและทันสมัยมากขึ้น เทคโนโลยีระบบไฟ LEDs ถูกนำเข้ามาเสริมความหรูหราและความสะดวกสบายในการใช้งานอีกด้วย คอนโซลกลางจะโดดเด่นด้วยก้านเกียร์สีดำใหม่ล่าสุด ที่จะบ่งบอกความเป็นสปอร์ตสุดหรูของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี สำหรับรุ่น V8 และ V8 S Coupe จะมาพร้อมกับที่เก็บของเพิ่มเติมใหม่ล่าสุดที่จะติดตั้งซ่อนอยู่ระหว่างเบาะหลัง และสามารถใช้ในการเก็บของและชาร์จอุปกรณ์เชื่อมต่อไฟฟ้าต่างๆ รวมถึง iPads ได้อีกด้วย
          นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานแล้ว จุดเด่นของอุปกรณ์ภายในได้รับการพัฒนาควบคู่กันไปด้วยเช่นกัน
          สำหรับรุ่น GT W12 และ GT Speed สามารถติดตั้งเบาะเพิ่มความนุ่มนวล softer semi-aniline hide สำหรับเบาะนั่งและพร้อมพนักพิง ผลิตจากหนังคุณภาพสูงที่ใช้อยู่ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ และให้สัมผัสถึงความนุ่มสบาย หรูหรา และให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติด้วยเช่นกัน สีใหม่สำหรับ คอนติเนนทัล (Continental) ในปี 2015 คือสี Shortbread และ Camel
          ส่วนเส้นสายของหลังคาในรุ่น GT V8 และ GT W12 รวมถึงรุ่น Speed Coupe มาในรูปแบบหนัง Alcantara® และมีสีให้เลือกถึง 17 สีเลยทีเดียว
          การเชื่อมต่อแบบ WiFi ในรถจะช่วยทำให้เพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และสามารถทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ จากภายในรถได้

          ประสิทธิภาพของ W12 และความประหยัดที่มากขึ้น
          นอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกให้กับคอนติเนนทัล GT W12 (Continental GT W12) แล้ว เครื่องยนต์ยังได้รับการปรับเปลี่ยนเช่นกัน โดยเปลี่ยน 3 จุดหลักสำหรับเครื่องยนต์ขนาด 6.0 ลิตร Twin Turbo W12 นั่นคือพละกำลังเครื่องยนต์และแรงบิดที่เพิ่มขึ้น จาก 575 PS (567 แรงม้า / 423 กิโลวัตต์) และ 700 นิวตันเมตร เป็น 590 PS (582 แรงม้า / 434 กิโลวัตต์) และ 720 นิวตันเมตรเลยทีเดียว
          การเพิ่มประสิทธิภาพและพละกำลังของเครื่องยนต์นำไปสู่การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากขึ้นอีก 5% โดย GT W12 มาพร้อมกับระบบ variable displacement system และด้วยเครื่องยนต์ใหม่นี้จะมีประสิทธิภาพในการใช้งานร่วมกับส่วนของวาล์วปีกผีเสื้อบนลูกสูบ 6 สูบจาก 12 สูบได้ ส่งผลให้ลดอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงลงและลดระดับ การปล่อยมลพิษหรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) เป็น 329 กรัม/กิโลเมตร และอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงจะอยู่ที่ 14 ลิตร/100 กิโลเมตร (7.14 กิโลเมตร/ลิตร)

          ตัวเลือกของความหรูหราที่เพิ่มใน ฟลายอิ้ง สเปอร์ (Flying Spur)
          เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ (Flying Spur) รถ 4 ประตู ซีดาน ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนและเพิ่มคุณสมบัติที่โดดเด่นเข้าไปในปี 2015
          ล้อขนาด 20 นิ้วแบบ six-tri-spoke wheel สามารถเลือกติดตั้งได้ทั้ง V8 และ W12 ในขณะที่ล้อขนาด 21 นิ้วแบบ 7 ก้านคู่หรือ seven-twin-spoke สามารถติดตั้งได้กับฟลายอิ้ง สเปอร์ (Flying Spur) W12 Mulliner และสามารถพ่นเงาหรือพ่นสี Graphite เพื่อให้ล้อมีความเงางามมากยิ่งขึ้น
          ภายในห้องโดยสารของฟลายอิ้ง สเปอร์ (Flying Spur) ยังมีความทันสมัยที่เพิ่มขึ้น และยังมีจุดเด่นใหม่ๆ ที่จะมาเติมเต็มสำหรับรูปลักษณ์ภายในห้องโดยสาร และการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน แผงหน้าปัดหน้าคนขับได้รับการเปลี่ยนโฉมรูปแบบกราฟฟิคให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ในขณะที่พวงมาลัยได้รับการออกแบบให้มีความเป็นสปอร์ต ปุ่มสวิทช์มาในรูปแบบเหล็กเหมาะสมกับการใช้งานร่วมกับก้านเกียร์ หรือ Shift Paddles ไม่เพียงเท่านี้ใน ฟลายอิ้ง สเปอร์ (Flying Spur) ยังสามารถเรียกใช้งานระบบ WiFi hotspot system เสมือนกับที่ใช้อยู่ในรุ่น คอนติเนนทัล (Continental) เพื่อการเชื่อมต่อที่ดีเยี่ยมขณะขับขี่ และสามารถผ่อนคลายภายในรถฟลายอิ้ง สเปอร์ (Flying Spur) ได้ดียิ่งขึ้น
          อีกหนึ่งคุณสมบัติเด่นที่ได้รับการตกแต่งเพิ่มเติมคือสีใหม่ล่าสุดนั่นคือ สี Marlin, Camel และ Jetstream เหมือนกันกับรุ่น คอนติเนนทัล จีที (Continental GT) ส่วนหนังได้รับการเสริมด้วยสี Shortbread และ Camel
          พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดอยู่ที่ 625 PS (616 แรงม้า / 460 กิโลวัตต์) / 800 นิวตันเมตร (590 lb.ft) สำหรับเครื่องยนต์ฟลายอิ้ง สเปอร์ (Flying Spur) W12 อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพที่มากยิ่งขึ้น และมีความสามารถเสมือนรถแกรนด์ ทัวริ่ง (Grand Touring) ซึ่งต้องยกความดีให้กับระบบ variable displacement system ที่ติดตั้งอยู่ภายในคอนติเนนทัล GT W12 ด้วยเช่นกัน โดยอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง และลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) ต่ำลงเหลือเพียง 333 กรัม/กิโลเมตร เท่านั้น
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 26, 2015, 03:34:27 PM
ฮอนด้า คว้า 4 รางวัล Car of the Year 2015ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36

 
 
          บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด โดยนายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการรับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2558 (Car of the Year 2015) จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่36 จัดโดยบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในปีนี้ฮอนด้าสามารถคว้ารางวัลมาครองได้ทั้งหมด 4รางวัล ได้แก่ ฮอนด้า แจ๊ซ (Honda Jazz) คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประเภทแฮทช์แบ็ค เครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 ซีซี (Best Hatchback under 1,500 cc) ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด (Honda Accord Hybrid) คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยม ประเภทรถยนต์ขนาดกลางไฮบริด ซีดาน เครื่องยนต์ไม่เกิน 2,000 ซีซี (Best Hybrid Mid-size Sedan under 2,000 cc)ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี (Honda City CNG) คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประเภทซีดาน
 
          ก๊าซธรรมชาติ เครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 ซีซี (Best Sedan CNG under 1,500 cc) และ ฮอนด้า เอชอาร์-วี (Honda HR-V)คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประเภทเอสยูวี เครื่องยนต์ไม่เกิน 1,800 ซีซี (Best SUV under 1,800 cc
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 26, 2015, 03:36:08 PM
ศูนย์กลางของแรงดึงดูดเข้าสู่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 ปอร์เช่ เผยโฉม 919 ไฮบริดครั้งแรกในประเทศไทย



          ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เผยโฉม 919 ไฮบริด ท่ามกลางขบวนทัพรถยนต์ปอร์เช่สุดหรู ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 5 เมษายน 2015
          บูธรถยนต์ปอร์เช่ ตั้งอยู่ ณ บริเวณอาคารชาเลนเจอร์ 2 ซึ่งท่านจะได้พบกับ รถสปอร์ตคูเป้ เจเนอเรชั่นที่ 3 ของปอร์เช่ เคย์แมน (Cayman), รถสปอร์ตซาลูนที่มาพร้อมระบบไฮบริดแบบ Plug-in คันแรกในคลาสรถหรู พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid), ซาลูนหรู เครื่องยนต์ 3 ลิตร 300 แรงม้า พานาเมร่า ดีเซล (Panamera Diesel), รถสปอร์ตอเนกประสงค์ที่มาพร้อมระบบไฮบริดแบบ Plug-in คันแรกในคลาสรถ SUV คันแรกของโลก คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) และ มาคันน์ (Macan) โมเดลไลน์ที่ 5 ใหม่ล่าสุดจากปอร์เช่ และได้เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถสปอร์ต ในคลาส Compact SUV

          มากกว่านั้น เอเอเอสฯ ภูมิใจนำเสนอปอร์เช่ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) ที่จะมาเผยโฉมเป็นครั้งแรกในประเทศไทย 919 ไฮบริด (919 Hybrid) รถแข่งในคลาส Le Mans prototype ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย การันตีความสำเร็จจากรายการ Le Mans และ WEC ในปี 2014 พร้อมให้ทุกท่านยลโฉมภายในงาน ปอร์เช่ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) มาพร้อมเครื่องยนต์สันดาป เครื่องยนต์ตัว V ขนาด 4 สูบ โดยเครื่องยนต์มีขนาด 2 ลิตร ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรงและ Mono-turbocharging เครื่องยนต์สามารถวิ่งไปได้จนถึงความเร็วที่ 9,000 รอบต่อนาที และมีกำลังขับประมาณ 500 แรงม้า
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:16:31 PM
บริดจสโตนคว้ารางวัล “Best Selling Tyre” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 17





          บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับรางวัล บริษัทที่มียอดจำหน่ายยางรถยนต์สูงสุดในประเทศ หรือ “Best Selling Tyre Award” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 ตอกย้ำถึงความเป็นที่หนึ่งในตลาดยางรถยนต์ รวมถึงสะท้อนภาพลักษณ์แห่งความอุตสาหะและความมุ่งมั่น ดั่งพันธกิจที่ยึดมั่นเป็นหนึ่งเดียวกันว่า “รับใช้สังคมด้วยคุณภาพที่เหนือกว่า” (Serving Society with Superior Quality) เพื่อครองความเป็นเลิศสำหรับลูกค้าเสมอมา โดยมี ดร. อรรชกา สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นผู้มอบรางวัล ในงาน “Thailand Car of the Year 2015” ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อิมแพค เมืองทองธานี

          Thailand Car of the Year 2015 จัดขึ้นตามแนวคิดเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ อันประกอบด้วย อุตสาหกรรมชิ้นส่วน อุตสาหกรรมการประกอบรถยนต์และสินค้าต่อเนื่องให้มีการเติบโตสู่ระดับสากล อีกทั้งเป็นที่ยอมรับต่อตลาดโลกยิ่งขึ้นในฐานะ "ฐานการผลิตยานยนต์ครบวงจรเพื่อการส่งออก" ซึ่งเกิดความร่วมแรงจากองค์กรหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง นั่นคือสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ไทย, สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย, ร.ย.ส.ท. และบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

          มร.โยชิฮิโระ มิโซบะตะ ผู้จัดการส่วนการตลาดและงานบริหารลูกค้า สายงานธุรกิจยางรถยนต์นั่งและรถบรรทุกขนาดเล็ก บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวหลังจากรับรางวัลว่า “บริดจสโตนรู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลซึ่งเป็นเสียงสะท้อนของผู้บริโภค ถึง บริดจสโตนในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้วยคุณภาพที่เหนือกว่า ซึ่งเรามีเจตนารมย์ที่แน่วแน่ที่จะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดสู่มือผู้บริโภค อย่างหลากหลายและครอบคลุมทุกความต้องการ อย่างแท้จริง”
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:18:17 PM
Bridgestone Receives “Best Selling Tyre Award” for 17th Consecutive Year





          Bridgestone Sales (Thailand) Co., Ltd. recently received the “Best Selling Tyre Award” for the 17th Consecutive Year. This award recognises Bridgestone achieving the best performance in sales as a tyre company. The award affirms Bridgestone’s leading position in the tire market, and also reflects the company’s continuous dedication and determination to contribute to society, as stated in our Founder’s mission - “Serving Society with Superior Quality”. The award was presented by Dr.Atchaka Sibunruang, Permanent Secretary, Ministry of Industry at the “Thailand Car of the Year 2015” awards, and was held at the Royal Jubilee Ballroom, IMPACT Muang Thong Thani, Bangkok.

          The annual “Thailand Car of the Year 2015” awards promote the Thai Automotive Industry, including automobiles and its related parts and accessories, with the aim of attaining sustainable growth to be on par with international standards. The award is jointly organised by both the government and private sectors, which include the Society of Automotive Engineers Thailand, Thailand Automotive Journalists Associations, Royal Automobile Associate of Thailand, and Grand Prix International Co., Ltd.

          “Bridgestone is honoured to receive this award, and be recognised by consumers that we provide products and services of superior quality,” commented Mr. Yoshihiro Mizobata, Division Manager of Marketing & Service Division Consumer B
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:19:59 PM
ภาพข่าว: แลมโบร์กีนี ฉลองความสำเร็จสุดยอดแบรนด์ซูเปอร์คาร์ระดับโลกในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36



          ออโตโมบิลี แลมโบร์กินี ซูเปอร์คาร์ สัญชาติอิตาเลียน และบริษัท นิช คาร์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายแลมโบร์กินี อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย นำโดย มร. แอนเดรีย บัลดิ ผู้จัดการทั่วไป ออโตโมบิลิ แลมโบร์กินี เอเชีย แปซิฟิก (ที 1 จากขวา), คุณวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิช คาร์ จำกัด (ที 2 จากขวา) และ มร.เซบาสเตียน อ็องรี ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก ออโตโมบิลี แลมโบร์กินี (ที 3 จากขวา) ร่วมกันแสดงศักยภาพแบรนด์ซูเปอร์คาร์ระดับพรีเมี่ยมที่มียอดจำหน่ายสูงทั่วโลก นำรถยนต์ระดับเวิลด์คลาสจากอิตาลีหลากหลายรุ่นจัดแสดงภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2558 เวลา 12.00-22.00 น.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:20:43 PM
Photo Release: Lamborghini welcomes an accelerated Thai market at 36th Bangkok International Motor Show



          Automobili Lamborghini partnership with Niche Cars Co., Ltd., the sole authorized dealer for Lamborghini S.p.A. in Thailand, led by Mr. Andrea Baldi, General Manager of Automobili Lamborghini Asia Pacific (1st from right), Mr. Vittawat Chinabarramee, Managing Director of Niche Cars Co., Ltd. (2nd from right) and Mr. Sebastian Henry, Head of South East Asia Automobili Lamborghini (3rd from right). Automobili Lamborghini is set to steer the growing Thai market for global-brand supercars into the fast lane when it showcases its models at the 36th Bangkok International Motor Show. The Italian high-end, luxury car manufacturer will be exhibiting at IMPACT Challenger Halls, Muang Thong Thani, from March 25 - April 05, 2015, between 12 pm and 10 pm.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:23:04 PM
แม็คซัส ร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ส่งรถตู้ทึบ วี 80 แกรนด์คอมบิ ทำตลาดรับลูก พ.ร.บ.การขนส่งทางบก









          บริษัท แม็คซัส มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดย นายอภิเชต สีตกะลิน ประธานบริษัท แม็คซัส มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดรถตู้ทึบรุ่น วี80 แกรนด์คอมบิ รถตู้บรรทุกอเนกประสงค์ เชื้อชาติอังกฤษ ครั้งแรกในประเทศไทย ตอบสนองนโยบายภาครัฐ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก (ฉบับที่12) ที่ปรับเพดานน้ำหนักรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจากเดิม 1.6 ตันขึ้นเป็น 2.2 ตัน รองรับตลาดขนส่งสินค้าที่มีมูลค่าสูง หรือเสียหายได้ง่าย อาทิกลุ่ม โลจิสติกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ กลุ่มอาหาร เบเกอรี่ โรงแรม และกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น โดยชูจุดขาย ปริมาณขนส่งต่อเที่ยวได้มากกว่า ปลอดภัยกว่าทั้งสินค้า และพนักงานประจำรถ พร้อมโชว์รถตู้โดยสาร วีไอพี สุดหรู ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 36 ระหว่างวันที่ 25มีนาคม - 5 เมษายน ที่ผ่านมา

          สำหรับรถตู้ทึบของแม็คซัส มีรากฐานมาจากบริติช เลย์แลนด์ ถือว่าเป็นรถตู้สายพันธุ์อังกฤษที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานกว่าศตวรรษจึงมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการพัฒนารถตู้เพื่อตอบ สนองการใช้งานของลูกค้าอย่างอเนกประสงค์สูงสุด รถตู้ทึบ วี80 แกรนด์คอมบิ นับเป็นมิติใหม่ของภาคขนส่ง ที่จะมีรถตู้ทึบพื้นรถเตี้ยสามารถขนส่งสินค้าขึ้นลงได้สะดวก ตัวตู้มีความแข็งแกร่ง ทนทาน เป็นชิ้นเดียวกับตัวรถ สามารถปรับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ เข้ามาเป็นทางเลือกที่แตกต่างจากการขนส่งโดยรถกระบะ มีเนื้อที่บรรทุกสินค้าต่อเที่ยวที่มากกว่าเมื่อเทียบกับรถกระบะที่มีความยาวเท่ากัน ให้ความคุ้มค่าในเรื่องต้นทุน พร้อมช่วงล่างที่แข็งแกร่ง ทนทาน ตามมาตรฐานรถยุโรป จึงป้องกันความเสียหายของสินค้า เนื่องจากสภาพอากาศของไทยที่มีทั้งฝน ทั้งแดด แปรปรวนกว่าประเทศอังกฤษเป็นอันมาก และยังมีจุดเด่นในเรื่องของความปลอดภัยของสินค้า หมดกังวลเรื่องการสูญหายของสินค้าเมื่อไปจอดแวะพัก รถตู้ แม็คซัสแข็งแกร่ง ใหญ่ สบาย ปลอดภัย พร้อมให้เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ เริ่มจาก แม็คซัส วี80 แกรนด์คอมบิ รถตู้ทึบช่วงยาว ราคาจำหน่าย 1.24 ล้านบาท ด้วยความจุห้องเก็บสัมภาระมากกว่า10 ลูกบาศก์เมตร วางเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล (Bosch) เทอร์โบแปรผัน 2.5 ลิตร 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด330 นิวตันเมตร-เมตร ที่รอบต่ำเพียง 1800 รอบต่อนาที ทนทาน ใช้น้ำมันอย่างคุ้มค่า

         แม็คซัส วี80 คอมบิช่วงสั้น ราคาจำหน่าย 1.19 ล้านบาท เหมาะกับลูกค้าที่ต้องขนสินค้ามีมูลค่าสูง อาทิเครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ เบเกอรี่ เสื้อผ้าแฟชั่นระดับสูง เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงกลุ่มโลจิสติกส์ เป็นต้น

          นอกจากนี้ยังมีรถตู้โดยสาร วี80 แกรนด์ทัวเรอร์ รถตู้วีไอพี 10 ที่นั่ง (11 รวมคนขับ) ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมจำหน่ายคันละ 1.59 ล้านบาท
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:24:36 PM
‘บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36’ เปิดงานสุดอลังกาล หลายค่ายจัดเต็มครบทุกเซกเมนต์ อัดโปรโมชั่นกระชากใจ คาดเงินสะพัดหลายหมื่นล้านบาท



          บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36” สุดยิ่งใหญ่อลังกาล ผู้บริหารบริษัทรถยนต์-จักรยานยนต์ และอุตสาหกรรมยานยนต์พาเหรดร่วมงานคับคั่ง พร้อมเปิดตัวยนตรกรรมรุ่นใหม่ครบทุกเซกเมนต์ อัดแน่นด้วยโปรโมชั่นกระชากใจ มั่นใจในศักยภาพงานแสดงยนตรกรรมดีที่สุด 1 ใน 5 ของโลก ช่วยผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์มีเงินสะพัดหลายหมื่นล้านบาท โดยพิธีเปิดงานมีขึ้น ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
          พิธีเปิดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36” อย่างเป็นทางการ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา09.59 น. โดยมี ดร. ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน, คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงาน พร้อมด้วยผู้แทนคณะทูตจากต่างประเทศ และผู้บริหารค่ายรถยนต์-จักรยานยนต์ มากกว่า 40 ท่าน ร่วมให้เกียรติขึ้นเปิดงานบนเวทีโดยพร้อมพรียงกัน
          การจัดงานในปีนี้มีขึ้นภายใต้แนวคิด “Art of Auto : ยนตรกรรมไร้พรมแดน” เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงศิลปะแห่งโลกยานยนต์ ซึ่งเป็นการพัฒนาแบบไร้ขีดจำกัด สามารถสร้างสรรค์ได้ไม่รู้จบ ทั้งในเรื่องการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกหรือภายใน เส้นสายบนตัวถัง สมรรถนะของเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง เมื่อนำทั้งหมดมารวมกัน ทำให้เราได้ยนตรกรรมที่น่าหลงใหล และมีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เสมือนงานศิลปะชิ้นเอก
          บริษัทรถยนต์และจักรยานยนต์เปิดตัวยนตรกรรมรุ่นใหม่มากกว่า 40 บริษัท อัดแน่นเต็มพื้นที่กว่า 140,000ตร.ม. ภายในอาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งมีการเพิ่มขนาดพื้นที่กว้างขวางมากขึ้น เพื่อรองรับโครงสร้างขนาดใหญ่ของบูธค่ายรถยนต์และจักรยานยนต์ จึงทำให้ ‘บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์’ เป็นงานแสดงยานยนต์ ซึ่งมีพื้นที่การจัดงานใหญ่มากที่สุดในไทย
ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน ‘บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36’ เผยว่า “ในปีนี้เราจัดงานให้มีความยิ่งใหญ่มากขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 36 ปี ภายในงานมีบูธจากค่ายรถยนต์กว่า 30 บริษัท, จักรยานยนต์ 9 บริษัท, อุปกรณ์ตกแต่งประดับยนต์มากกว่า 170 บูธ ยกทัพมาร่วมจัดแสดงคึกคักเต็มพื้นที่ โดยไฮไลต์เด่น คือ การเผยโฉมคอนเซ็ปต์คาร์ และการเปิดตัวพร้อมจำหน่ายยนตรกรรมรุ่นใหม่อีกเป็นจำนวนมาก เร้าใจด้วยการแสดงโชว์สุดอลังการ พร้อมด้วยเทคนิคการนำเสนอล้ำสมัย ทั้งหมดนี้สามารถชมได้ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 36 เท่านั้น”
          ทางด้าน คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงานฯ เผยว่า “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ได้รับการยกย่องให้เป็นงานแสดงยานยนต์ยิ่งใหญ่ที่สุด 1 ใน 5 ของโลก เราเป็นตลาดและศูนย์กลางสำคัญของรถยนต์พวงมาลัยขวา ทุกบริษัทให้ความสำคัญกับงานของเรา และเลือกงานมอเตอร์โชว์ เป็นเวทีเปิดตัวยนตรกรรมรุ่นใหม่โดยเฉพาะ”
          “มอเตอร์โชว์เป็นงานแสดงยานยนต์ในระดับ ‘เอ-พลัส’ (A-Plus) บูธของแต่ละค่ายรถได้รับการออกแบบโดยบริษัทแม่ วัสดุรวมถึงโครงสร้างภายในบูธนำเข้า และใช้คอนเซ็ปต์การก่อสร้างเหมือนกับต่างประเทศ หลายบริษัทลงทุนในการก่อสร้างเฉลี่ยมากกว่า 50-80 ล้านบาท สำหรับการจัดงานภายในระยะเวลาเพียง 14 วัน ด้วยเม็ดเงินลงทุนมหาศาล ทั้งหมดล้วนเป็นข้อยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ คือ งานแสดงยนตรกรรมยิ่งใหญ่สุดในประเทศไทย และได้รับการยอมรับให้ติด 1 ใน 5 ของโลกอีกด้วย”
          สำหรับการเปิดตัวยนตรกรรมใหม่ภายในงานมีหลากหลายรุ่น โดยไฮไลต์สำคัญ คือ การเปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียนกับ “ฟอร์ด เอเวอร์เรส” เอสยูวี 7 ที่นั่ง และ นิว เรนเจอร์ ปิกอัพคันแกร่ง ซึ่งได้รับการปรับโฉมใหม่ (Minor Change) ให้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น โดยแชร์พื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีหลายอย่างมาจากฟอร์ด เอเวอร์เรส จึงทำให้ปิกอัพคันนี้เป็นที่จับตามมองเป็นพิเศษ
ครั้งแรกในไทยกับการเปิดตัว “มาสด้า 2 เครื่องยนต์เบนซิน” ความจุ 1.3 พลัง 93 แรงม้า แรงบิด12.75 กก.-ม. พร้อมทำตลาดในเมืองไทยด้วยรุ่นตัวถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตู หรือซีดาน 4 ประตู โดยทั้ง 2 รุ่น แบ่งออกเป็น 6 รุ่นย่อย
          ทางด้านค่ายรถหรูจากฝั่งยุโรปเปิดทีเด็ดในงานมอเตอร์โชว์ ด้วยยนตรกรรมชั้นนำหลากรุ่น เริ่มจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ เฉลิมฉลองครบรอบ 110 ปี ในไทยอย่างยิ่งใหญ่ เปิดตัวยนตรกรรมหรูพร้อมกัน 5 รุ่น ครอบคลุมการทำตลาดในทุกเซกเมนต์ นับเป็นการเปิดตัวมากที่สุดในไทยภายในงานเดียว เริ่มตั้งแต่ The New CLA Shooting Brake รถคอมแพ็คแบบ 5 ประตู, The New V-Class รถอเนกประสงค์ 6 ที่นั่ง, The New GLE-Class Coupé ยนตรกรรมสุดหรูที่ควบรวมดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวในสไตล์คูเป้ มาผสานไว้กับเอสยูวีได้อย่างลงตัว และ The New C-Class BlueTEC HYBRID อัดแน่นด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริด พร้อมสร้างปรากฎการณ์ด้วยการเปิดตัว “เอเอ็มจี จีที เอส – AMG GT S” ครั้งแรกในเมืองไทย
          ทางด้านบีเอ็ม ดับเบิลยู เปิดตัว “ไอ3” อย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทย นับเป็นรถแฮชท์แบค 3ประตู ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า นวัตกรรมทางเลือกใหม่แห่งอนาคต พร้อมเปิดตัวอีก 1 รุ่นเด็ด ‘ซีรีส์ 2 แอคทีฟ ทัวร์เรอร์’ รถเอ็มพีวีแฮตช์แบ็กต์ 5 ที่นั่ง นับเป็นสายการผลิตเอ็มพีวีรุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยู
          สำหรับคอนเซ็ปต์คาร์มีเปิดตัวทั้งหมด 3 รุ่น “มิไร -Mirai” รถยนต์ซีดานในกลุ่มดี-เซกเม้นต์ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานทางเลือกเชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel Cell Vehicle – FCV) ซึ่งใช้สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าในอนาคต จึงให้สมรรถนะการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์5 อี ไดร์ฟ คอนเซ็ปต์ ยนตรกรรมในกลุ่ม SUV ซึ่งขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Plug-in Hybrid ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยใช้ขุมพลังการขับเคลื่อนผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 2.0 ลิตร เทอร์โบ กับมอเตอร์ไฟฟ้า มีพลังรวมกัน 272 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ต่ำกว่า 7 วินาทีมินิ คลับ แมน คอนเซ็ปต์คาร์ แฮ็ตช์แบ็ค 5 ประตู ซึ่งได้รับการออกแบบอย่างโดดเด่น สง่างามทั้งภายนอกจรด          ภายใน มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางขึ้น สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์แห่งการขับขี่และการใช้ชีวิตอย่างลงตัว ด้วยมิติตัวถังยาว 4223 มม., กว้าง 1,844 มม. และสูง 1,450 มม. อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกรอบคันนอกจากนี้ภายในงานมีการเปิดตัวยนตรกรรมใหม่มากกว่า 30 รุ่น เพื่อเอาใจตลาดครบทุกเซกเม้นต์ นับเป็นการเปิดตัวที่ช่วยสร้างสีสันให้กับวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้เป็นอย่างดี โดยแต่ละค่ายรถยนต์-จักรยานยนต์ จัดหนักด้วยโปรโมชั่นสุดกระชากใจ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ปฏิเสธไม่ได้ ประกันภัยชั้น 1 ฟรี! และของสมนาคุณมากมาย ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 เท่านั้น
          นอกจากนี้ ภายในงานมีการมอบรางวัลพิเศษให้กับบริษัทรถยนต์หรือจักรยานยนต์ ซึ่งร่วมออกบูธจัดแสดงภายในงาน คัดเลือกโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญและทรงคุณวุฒิ เพื่อขึ้นรับรางวัลจาก ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา และคุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ โดยรางวัลแบ่งออกเป็นสาขาต่างๆ ดังนี้
          · การออกแบบบูธยอดเยี่ยม (The Best Design Award 2015)
          · การนำเสนอยอดเยี่ยม (The Best Presentation Award 2015)
          · คอนเซ็ปต์ คาร์ อวอร์ด (Concept Car Award 2015)         
          · คอนเซ็ปต์ ไบค์ อวอร์ด (Concept Bike Award 2015)
          พิเศษสุด! สำหรับผู้เข้าชมงานทุกๆ ท่าน สามารถร่วมสนุกได้ง่ายๆ เพียงกรอกแบบสอบถาม เพื่อลุ้นรับรถยนต์ “ฟอร์ด เฟียสต้า” จำนวน 2 จำนวนรางวัล และมอเตอร์ไซด์อีก 4 รางวัล จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 โอกาสดีๆ แบบนี้ห้ามพลาดเป็นอันขาด
          บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 5 เมษายน 2558 รวม12 วัน ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี รายละเอียดเพิ่มเติม
www.bangkok-motorshow.com
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:27:57 PM
โซนี่ไทย นำทัพนวัตกรรมเครื่องเสียงรถยนต์ระดับ Hi-Res Audio ส่งตรงจากงาน CES 2015 อวดโฉมในงาน Motor Show 2015 เป็นครั้งแรกในเอเชีย









          บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด นำโดย มร. ซูนาโอะ ซากาตะ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากโซนี่คอร์ปอเรชั่นฯ มร.ยามาโมโตะ ซาโตชิ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายวีดีโอแอนด์ซาวน์ และ มร.สเปนเซอร์ โลว์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาดโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์แอนด์ซาวด์ โซนี่ อิเลคทรอนิคส์ สิงคโปร์ ยกทัพสุดยอดเทคโนโลยีเครื่องเสียงรถยนต์ระดับไฮเรสออดิโอ (High-Resolution Audio) รุ่นล่าสุด สร้างสีสันแห่งประสบการณ์ความบันเทิงในรถยนต์ในงาน Bangkok International Motor Show 2015 ด้วยการขนนวัตกรรมไฮไลต์ที่ส่งตรงจากงาน CES 2015 มาอวดโฉมเป็นครั้งแรกในเอเชียในงานนี้แบบเต็มพิกัด อาทิ ผลิตภัณฑ์ต้นแบบชุดฟร้อนท์ระดับ Hi-Res Audio พร้อมเปิดตัวเครื่องเล่นวิทยุซีดีในรถยนต์กำลังขับสูงถึง 100 วัตต์ในตัวเครื่องแรกของโลกที่ให้เสียงกระหึ่มทรงพลังโดยไม่ต้องต่อแอมป์พลิฟลายเออร์เพิ่มเติม รวมถึงเครื่องเสียงพกพาระดับไฮเรสออดิโอ และกล้อง Action Cam ที่สามารถติดตั้งได้ทั้งในรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ จักรยาน รวมถึงอุปกรณ์กีฬาต่าง ๆ เพื่อบันทึกประสบการณ์สุดเร้าใจ พร้อมกันนี้ภายในงาน ยังได้จัดกิจกรรมและโปรโมชั่นสุดพิเศษอีกมากมายที่เตรียมมาเอาใจคนรักเสียงเพลงในงานนี้โดยเฉพาะ

          มร. ซูนาโอะ ซากาตะ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เปิดเผยว่า “นับเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งที่ทุกปีโซนี่ได้มีโอกาสนำเสนอนวัตกรรมเครื่องเสียงรถยนต์สุดล้ำมาให้ผู้บริโภคได้ยลโฉมในงาน Bangkok International Motor Show โดยในปีนี้ โซนี่ในฐานะผู้นำด้านเครื่องเสียงรถยนต์ระดับโลก พร้อมนำเสนอสุดยอดผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยมนอกเหนือไปจากคุณภาพพลังเสียง ยังเติมเต็มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ด้วยการเชื่อมต่อใช้งานกับสมาร์ทโฟนแบบไร้ขีดจำกัด อีกทั้งยังเพลิดเพลินไปกับแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนที่จะช่วยควบคุมความบันเทิงขณะเดินทาง อาทิ การนำทาง, การเล่นเพลง และการโทรศัพท์ขณะขับรถ ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ แอนดรอยด์ ด้วยฟังก์ชั่นการทำงานที่ง่าย และยังให้ความสะดวกสบายไปกับการสั่งงานด้วยเสียงผ่านสมาร์ทโฟน รวมถึงสามารถจัดกลุ่มเพลงโปรดที่คุณชื่นชอบซึ่งจะสามารถสร้างประสบการณ์ในการฟังเพลงสุดเพลิดเพลินได้ตลอดทุกการเดินทาง

          พร้อมกันนี้ทางโซนี่ได้นำเอาผลิตภัณฑ์ Hi-Res Audio ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ล่าสุดสำหรับ ผู้ชื่นชอบการฟังเพลงคุณภาพสูงมาจัดแสดงในงานอีกด้วย เพื่อให้ผู้สนใจได้ทดลองสัมผัสความสุนทรีย์ และเต็มอิ่มกับอรรถรสจากเสียงเพลงคุณภาพระดับ High-Resolution ได้ในทุกที่ ทุกเวลา ตอบรับไลฟ์สไตล์การฟังเพลงในยุคดิจิตอลได้อย่างลงตัว พร้อมชุดฟร้อนท์เอนด์ต้นแบบระดับ Hi-Res Audio ที่นำมาจัดแสดงครั้งแรกในประเทศไทยต่อจากงาน CES 2015

          ผู้สนใจสามารถแวะชมเทคโนโลยีล่าสุด ร่วมทดสอบ และสัมผัสประสบการณ์ความบันทิงในรถยนต์ ณ บูธโซนี่ (D02) ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 อิมแพค เมืองทองธานี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:32:02 PM
ปอร์เช่คว้า 2 รางวัล “Car of The Year 2015” ตอกย้ำความเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมชั้นนำในคลาสรถสปอร์ตหรู









          ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ส่ง คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) คว้ารางวัล “Best Hybrid SUV Under 3,000 CC” และ มาคันน์ ในรางวัล “Best Performance Sport SUV” ในงานรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2015 “Car of The Year 2015” ตอกย้ำความเป็นที่สุดแห่งยนตกรรมชั้นนำในคลาสรถสปอร์ตหรู เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2015 ณ ห้องจูบิลี่ บอลรูม ชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี

          “Car of The Year 2015” จัดขึ้นโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นการทดสอบเพื่อเฟ้นหารถยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ไทย คณะวิศวกรรมศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงสื่อมวลชนสายยานยนต์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ร่วมตัดสินและทดสอบสมรรถนะของรถยนต์จากค่ายรถชั้นนำ ไปเมื่อวันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2015 ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ จังหวัดปทุมธานี กระบวนการคัดสรรผลปรากฎว่า คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) คว้ารางวัล “BEST HYBRID SUV UNDER 3,000 CC” ตอกย้ำความเป็นที่สุดในด้านยนตรกรรมอี-ไฮบริดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในคลาสรถหรู มากไปกว่านั้น มาคันน์ (Macan) คว้ารางวัล “BEST PERFORMANCE SPORT SUV” ตอกย้ำสมรรถนะของรถ SUV ขนาด Compact ที่มอบทั้งประสิทธิภาพอันทรงพลังและความสนุกสนานในทุกการขับขี่ ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย เรียกได้ว่า 2 รางวัลอันทรงคุณค่านี้ เป็นสิ่งการันตีถึงสมรรถนะที่เหนือชั้น รวมไปถึงการผสมผสานระหว่างประสิทธิภาพความเป็นรถสปอร์ตเข้าไว้กับการประหยัดพลังงานได้อย่างลงตัว

          คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) ยนตรกรรมใหม่ล่าสุดจากปอร์เช่ เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่โดดเด่นและล้ำสมัยเมื่อเทียบกับ คาเยนน์ เอส ไฮบริด (Cayenne S Hybrid) รุ่นก่อน โดยสานต่อความสำเร็จของนวัตกรรม อี-ไฮบริด โดยเป็นรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) ระดับพรีเมี่ยมคันแรกของโลกด้วยเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ซึ่งรุ่นใหม่นี้เครื่องยนต์มาในรูปแบบ Parallel full hybrid พร้อมด้วยเทคโนโลยีแบบ Plug-in, Supercharged ขนาดเครื่องยนต์ 3 ลิตร V6 ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ผลิตพละกำลังเครื่องยนต์โดยรวมสูงสุดที่ 416 แรงม้า (306 กิโลวัตต์); ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Tiptronic S; ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Permanent all-wheel drive; อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 5.9 วินาทีเท่านั้น; ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 243 กิโลเมตร/ชั่วโมง; ความเร็วสูงสุดหากขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ 125 กิโลเมตร/ชั่วโมง; อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 3.4 ลิตร/100 กิโลเมตร (29.4 กิโลเมตร/ลิตร); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อยู่ที่ 79 กรัม/กิโลเมตร; ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 18-36 กิโลเมตร; แบตเตอรี่แบบลิเธี่ยม-อิออน (lithium-ion) 10.8 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง

          มาคันน์ (Macan) ใหม่ล่าสุด เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานมหกรรม Auto China 2014 และถือได้ว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ปอร์เช่ต้องการในการสร้างรถสปอร์ตสู่ตลาด แนวคิดของการออกแบบมาในรูปแบบคลาสสิค ซึ่งยังคงมีเส้นสายความเป็นสปอร์ตที่ครบถ้วนตามแบบฉบับสายพันธุ์หรือ DNA ของปอร์เช่ทุกประการ ด้านข้างของมาคันน์ (Macan) ตกแต่งด้วย Side Blades สี Lava Black เพิ่มความ โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ตัวรถมีน้ำหนักเบาเพื่อให้ได้มาซึ่งสมรรถนะที่เต็มพิกัด เครื่องยนต์เทอร์โบคู่ Bi-Turbo ขนาด 2 ลิตร 4 สูบ เบนซิน มาพร้อมกับ Turbocharging อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำแค่เพียง 7.2 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 13.88 กิโลเมตร/ลิตร (NEDC) เท่านั้น เพราะรูปลักษณ์ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี และมีประสิทธิภาพมากที่สุดในคลาสรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) คลาสนี้ ส่งผลให้อัตราเร่งของเครื่องยนต์จาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 6.9 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 223 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด Porsche Doppelkupplung (PDK) ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้กับ มาคันน์ (Macan) ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนที่ดีที่สุดในโลก เพื่อความสนุกสนานในการขับขี่พร้อมประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างดีเยี่ยม ผสมผสานไว้ซึ่งประสิทธิภาพ ความสะดวกสบายและการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันไว้ได้อย่างลงตัว
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:34:04 PM
ฟอร์ด รับรางวัล “รถยอดเยี่ยมแห่งปี” 2 รางวัล



           ฟอร์ด ประเทศไทย นำโดย นายธนบดี กุลทล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด (ซ้าย) รับรางวัล “รถยอดเยี่ยมแห่งปี” ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ณ อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งฟอร์ดได้รับรางวัล “รถยอดเยี่ยมแห่งปี” จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ ฟอร์ด เฟียสต้า EcoBoost ได้รับรางวัลเครื่องยนต์ทันสมัยยอดเยี่ยม (Best Hi-Tech Engine) และฟอร์ด เรนเจอร์ เครื่องยนต์ขนาด 3.2 ลิตร ได้รับรางวัลรถกระบะยอดเยี่ยมแห่งปี (Best Performance Pickup)

          รางวัล “รถยอดเยี่ยมแห่งปี” จัดขึ้นเพื่อคัดสรรรถยนต์ที่ดีที่สุดในประเภทต่างๆ โดยสะท้อนให้เห็นถึงการยกระดับความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและแสดงศักยภาพความก้าวหน้าของการออกแบบและการผลิต โดยรางวัลที่ฟอร์ดได้รับนั้นนับเป็นการตอกย้ำความโดดเด่นของรถฟอร์ดทั้งสองรุ่นเป็นอย่างดี

          ฟอร์ด เฟียสต้า EcoBoost เป็นรถที่มีความโดดเด่นในเรื่องความแรงและการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม ตรงใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหารถยนต์ขนาดเล็กที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างไร้ขีดจำกัด โดยเครื่อง EcoBoost เป็นเครื่องที่มีสมรรถนะชั้นยอดและได้รับรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีระดับนานาชาติติดต่อกันถึง 3 ปีซ้อน และในส่วน ฟอร์ด เรนเจอร์ นั้นเป็นรถยนต์ฟอร์ดที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย เป็นรถยนต์ที่ถือได้ว่าได้สร้างนิยามใหม่ให้กับรถกระบะในประเทศไทย ด้วยรูปลักษณ์ที่ดุดัน ที่มาพร้อมความอเนกประสงค์ บวกกับสมรรถนะชั้นยอดและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกดีที่สุดในรถกระบะ รวมถึงอุปกรณ์ความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถกระบะทั่วๆ ไป
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:40:56 PM
กู๊ดเยียร์ โชว์ยางสปอร์ตสายพันธุ์แรง อีเกิ้ล เอฟวัน ไดเรคชันนอล ไฟฟ์ ในงาน มอเตอร์โชว์ 2015







          กู๊ดเยียร์ ประเทศไทย ร่วมกับ ทรัพย์สมบูรณ์ยางยนต์ โชว์ยางรุ่น อีเกิ้ล เอฟวัน ไดเรคชันนอล ไฟฟ์ (EAGLE F1 Directional 5) ยางสปอร์ตสมรรถนะสูง ที่มาพร้อมกับดอกยางส่วนกลางที่ถูกออกแบบเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการตอบสนองการควบคุมทิศทางได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงดอกยางบริเวณไหล่ยางที่ถูกออกแบบให้มีความต่อเนื่องเป็นพิเศษ ช่วยลดการเสียรูปทรงในขณะเข้าโค้ง และยังช่วยเพิ่มสมรรถนะในการเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ด้วยส่วนผสมพิเศษที่ถูกพัฒนาจากสนามแข่งขันจะช่วยเพิ่มสมรรถนะในการรีดน้ำให้ผู้ขับขี่มั่นใจแม้ในสภาพถนนเปียก ผู้ที่สนใจสามารถร่วมสัมผัสกับนิยามใหม่แห่งความแรงเร้าใจได้แล้ว วันนี้ ถึง 5 เมษายน 2558 ในงานมอเตอร์โชว์ 2015 หรือ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 36 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:42:48 PM
เชฟโรเลตเชิญสัมผัสประสบการณ์ผจญภัยแบบเสมือนจริง ไปกับโคโลราโด ไฮ คันทรี่ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์

          เชฟโรเลตนำเสนอ “ปฏิบัติการลับข้ามโลก” ปรากฏการณ์ใหม่แห่งการผจญภัย ไปกับเชฟโรเลต โคโลราโด บนเส้นทางออฟโรดในประเทศนิวซีแลนด์
          พบกับ โคโลราโด ไฮ คันทรี่ รถกระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง ยกระดับสุนทรียภาพแห่งการออกแบบระดับพรีเมียมและเพิ่มความโดดเด่นทางเทคนิค
          พร้อมสัมผัสรถกระบะ รถเอนกประสงค์ และรถยนต์ของเชฟโรเลตครบทุกรุ่น





          เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย เชิญผู้เข้าชมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ร่วมสัมผัสประสบการณ์ “ปฏิบัติการลับข้ามโลก (The Delivery)” การผจญภัยแบบเสมือนจริง (Virtual Reality) นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของการทดสอบรถไปกับรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด บนเส้นทางออฟโรดในประเทศนิวซีแลนด์
          การผจญภัยแบบเสมือนจริง (Virtual Reality) เป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทยรวมถึงในงานมอเตอร์โชว์ โดยมุ่งสร้างความโดดเด่นให้กับรถโคโลราโดที่บูธเชฟโรเลตในปีนี้ พร้อมกันนี้เชฟโรเลตยังได้จัดแสดงรถกระบะรุ่นท็อปไลน์ โคโลราโด ไฮ คันทรี่ ให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสกับการออกแบบทั้งภายนอกและภายในที่มีความปราณีต ยกระดับรถกระบะให้มีความเหนือชั้นกว่ารถกระบะทั่วไป
          “เราต้องการให้ลูกค้าของเราได้สัมผัสกับศักยภาพและความแข็งแกร่งของโคโลราโดด้วยการขับขี่แบบสมบุกสมบัน และเนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะพาลูกค้าทุกคนไปผจญภัยแบบออฟโรดถึงประเทศนิวซีแลนด์ เราจึงได้นำการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นและการขับขี่แบบบุกตะลุยทุกเส้นทางมาให้ลูกค้าของเราได้สัมผัสผ่านสถานการณ์จำลองแบบเสมือนจริง” คุณอุณา ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าว
          “นอกเหนือจากประสบการณ์ ‘ปฏิบัติการลับข้ามโลก’ ลูกค้ายังจะได้พบกับโคโลราโด ไฮ คันทรี่ รถกระบะรุ่นล่าสุดที่กำหนดนิยามใหม่ของความเป็นรถกระบะที่ไม่ได้เป็นเพียงรถที่รองรับการใช้งานหนักเท่านั้นแต่ยังเป็นรถซึ่งแสดงออกถึงไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตอีกด้วย” คุณอุณากล่าวเสริม

ปฏิบัติการลับข้ามโลก
          ขั้นตอนการผลิตของการผจญภัยแบบเสมือนจริงใน “ปฏิบัติการลับข้ามโลก” เชฟโรเลตได้บันทึกวีดีโอพร้อมกับการใช้เทคโนโลยีการจำลองเหตุการณ์จริงพร้อมทั้งนำรถกระบะโคโลราโดที่อยู่ในฉากต่างๆ เพื่อเน้นย้ำให้เห็นถึงศักยภาพการใช้งานจริงของรถกระบะรุ่นนี้โดยไม่ได้ใช้เทคโนโลยีการสร้างภาพคอมพิวเตอร์กราฟฟิก (CG) แต่อย่างใด
          ผู้เข้าร่วม “ปฏิบัติการลับข้ามโลก” จะนั่งอยู่บนเบาะหน้าของรถโคโลราโดเวอร์ชั่นพิเศษเพื่อร่วมปฎิบัติภารกิจส่งมอบกล่องลึกลับโดยการผจญภัยแบบเสมือนจริงบนเส้นทางออฟโรดผ่านเส้นทางอันสมบุกสมบัน ทิวทัศน์อันงดงาม และบุกตะลุยข้ามแม่น้ำอย่างน่าตื่นเต้นในประเทศนิวซีแลนด์
          การผจญภัยแบบเสมือนจริงของ “ปฏิบัติการลับข้ามโลก” ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีจากบริษัทโอคูลัส ริฟต์ (Oculus Rift) ผู้นำด้านเทคโนโลยีเสมือนจริงอันดับหนึ่งของโลก เทคโนโลยีดังกล่าวใช้การแสดงภาพวีดีโอแบบรอบทิศทางพร้อมเทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟแบบเรียลไทม์ซึ่งช่วยให้ผู้รับชมที่สวมใส่อุปกรณ์ที่ศีรษะได้สัมผัสทั้งเสียง ภาพ และความรู้สึกที่เหนือกว่าจินตนาการ การจำลองดังกล่าวใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวของศีรษะทำให้ผู้รับชมได้เห็นภาพเสมือนจริงรอบด้านเหมือนอยู่ในสถานการณ์จริง
นอกจากนี้ผู้ที่เข้าร่วม “ปฏิบัติการลับข้ามโลก” ยังสามารถแบ่งปันประสบการณ์ผ่านทางโซเชียล มีเดียอื่นๆ ได้อีกด้วย

โคโลราโด ไฮ คันทรี่
          โคโลราโด ไฮ คันทรี่ ได้เปิดตัวสู่สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ยกระดับความพรีเมียมสำหรับรถกระบะในประเทศไทย ชื่อรุ่น “ไฮ คันทรี่” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถกระบะขนาดใหญ่รุ่นท็อปไลน์ของเชฟโรเลตที่จำหน่ายในอเมริกาเหนือ
          เชฟโรเลตพัฒนารถกระบะรุ่นไฮ คันทรี่ ด้วยการให้ความสำคัญสูงสุดกับกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ชีวิตในเมือง รูปลักษณ์ของไฮ คันทรี่ โดดเด่นด้วยโคมไฟหน้าสีเข้ม กระจังหน้าสีเทาอ่อนสลับดำ รวมถึงแผงกันชนเสริม และเสาหลังคากลางวัสดุพื้นมันเงา พร้อมกันนี้ยังคงความสวยงามสะดุดตาด้วยการติดตั้งราวหลังคาแนวขวาง โครงเหล็กแบบสปอร์ต ลายโครเมียมด้านข้างตัวรถ และกระจกมองข้างที่เปิดฝากระบะท้ายสีโครเมียม และล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้วที่ยกระดับไฮ คันทรี่ ให้มีความสง่างามและสมบุกสมบันมากยิ่งขึ้น พร้อมเน้นย้ำความเป็นรถระดับพรีเมียมสำหรับคนเมืองอย่างชัดเจน
          ภายในห้องโดยสารของไฮ คันทรี่ ยังได้รับการตกแต่งใหม่ให้มีความหรูหรามากขึ้นด้วยเบาะที่นั่งคนขับเป็นแบบปรับไฟฟ้าหกทิศทาง หุ้มด้วยหนังเกรดพรีเมียมสี Brown Stone ขณะที่บนแผงแดชบอร์ด คอนโซล และพวงมาลัย ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา ไฮ คันทรี่ มาพร้อมระบบสมาร์ทมีเดียเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน เพลง ภาพถ่าย วีดีโอ และระบบนำทาง ไฮ คันทรี่ ได้รับการติดตั้งกล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะและเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ด้านหลัง เพิ่มความแม่นยำขณะถอยจอดและยกระดับความปลอดภัยสูงสุด

เทรลเบลเซอร์และรุ่นอื่นๆ
          เทรลเบลเซอร์โฉมใหม่ที่เพิ่งได้รับการเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้จะถูกนำมาจัดแสดงภายในงานมอเตอร์โชว์เช่นกัน รถเอนกประสงค์ระดับพรีเมียมรุ่นนี้ภายในมีการตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา เบาะหนังสี Brown Stone และกล้องมองหลัง
          ขุมพลังขับเคลื่อนของไฮ คันทรี่ และเทรลเบลเซอร์ คือ เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ เจนเนอเรชั่นที่สอง เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ให้กำลัง 200 แรงม้า (147 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ซึ่งมีกำลังเทียบเท่าหรือเหนือกว่ารถกระบะรุ่นอื่นๆ ที่มีขนาดเครื่องยนต์ใหญ่กว่า เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ทำให้ไฮ คันทรี่ และเทรลเบลเซอร์ 2.8 ลิตร มีกำลัง
และแรงบิดสูงสุดในระดับเดียวกัน
          นอกจากนี้รถที่เชฟโรเลตนำมาจัดแสดงภายในงานมอเตอร์โชว์ยังรวมถึงเทรลเบลเซอร์ "ออลแบล็ก" ซึ่งได้รับการตกแต่งสไตล์ออฟโรด เพิ่มความโดดเด่นด้วยการติดตั้งวินช์ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ยางออฟโรด ราวหลังคาแบบพิเศษพร้อมไฟตัดหมอก ท่อไอเสียหรือสน็อกเกิลสำหรับการลุยน้ำ และตัวถัง สีดำด้านป้องกันการขีดข่วน ขณะเดียวกันเชฟโรเลตยังนำโคโลราโด ไฮ คันทรี่ รุ่นตกแต่งพิเศษ รวมถึงครูซและโซนิคเวอร์ชั่นพิเศษ พร้อมทั้งสปินมาจัดแสดง สำหรับสมาชิกเชฟวี่ พลัส ยังสามารถมาใช้บริการและนั่งพักผ่อนที่เชฟวี่ พลัส เลานจ์ ได้อีกด้วย
          สำหรับคอลูกหนังและแฟนบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถร่วมสนุกได้ด้วยการส่งคำถามถึงทีมโปรด เพียงแค่ถ่ายภาพในชุดแข่งของทีมปีศาจแดง บันทึกคำถาม และแชร์ทางโซเชียลมีเดีย ก็สามารถรับของที่ระลึกจากเชฟโรเลตได้ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เชฟโรเลตนำเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษ “Time to Enjoy” โดยมีข้อเสนอดังนี้

          เชฟโรเลต โซนิค ดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ ผ่อนนาน 84 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
          เชฟโรเลต แคปติวา ดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ ผ่อนนาน 72 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
          เชฟโรเลต โคโลราโด ดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ ผ่อนนาน 60 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
          เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ผ่อนชำระเริ่มต้นที่ 9,999 บาท

          พบกับบูธเชฟโรเลต A12 ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมถึง 5 เมษายน 2558 ระหว่างเวลา 12.00 – 22.00 น. ที่ชาลเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 – 3 อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:44:24 PM
ประกาศผลรางวัล CAR & BIKE OF THE YEAR 2015 รถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี



          บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จัดงานมอบรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี CAR & BIKE OF THE YEAR 2015 รางวัลแห่งความสำเร็จของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ที่ผ่านการทดสอบ ทั้งด้านสมรรถนะ ความคุ้มค่า ความสะดวกสบาย การจัดงานในปีนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 17 ตามแนวคิดในอันที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ อันประกอบด้วย อุตสาหกรรมชิ้นส่วน อุตสาหกรรมการประกอบรถยนต์และสินค้าต่อเนื่องในไลน์ธุรกิจนี้ให้มีการเติบโตสู่ระดับสากล อีกทั้งเป็นที่ยอมรับต่อตลาดโลกยิ่งขึ้นในฐานะ “ฐานการผลิตยานยนต์ครบวงจรเพื่อการส่งออก” รางวัล CAR & BIKE OF THE YEAR เป็นความร่วมแรงจากองค์กร หน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง นั่นคือ คณะอาจารย์วิศวกรรมสายยานยนต์จากสถาบันต่างๆ และบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ร่วมผลักดันและคัดสรรให้ได้ซึ่งผลสรุปแห่ง CAR & BIKE OF THE YEAR ในหลายหลากสาขา โดยงานนี้ได้รับเกียรติจากนายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ร่วมกับคุณอโณทัย เอี่ยมลำเนา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)ในฐานะประธานจัด CAR & BIKE OF THE YEAR พร้อมด้วย ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ และประธานกรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร , คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ และคุณพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา กรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นเกียรติมอบรางวัลภายในพิธี ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:45:02 PM
สรุปผลการตัดสินรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2015
BMW
BEST HATCHBACK UNDER 1,600 CC
ได้แก่ BMW 116i M Sport
ผู้รับมอบ มร. แมทธิอัส พฟาลซ์
ประธาน
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
Mr. Matthias Pfalz, President, BMW Group Thailand

BEST SEDAN DIESEL
ได้แก่ BMW 325d M Sport
ผู้รับมอบ มร. เจฟฟรีย์ กอดิอาโน
กรรมการผู้จัดการ
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย
Mr. Jeffrey Gaudiano, Managing Director, BMW Group Manufacturing Thailand

BEST HYBRID SEDAN UNDER 3,000 CC
ได้แก่ BMW ActiveHybrid 3 M Sport
ผู้รับมอบ มร. เวนน์ บูคาแน่น
ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน
บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย
Mr. Wayne Buchanan, Chief Financial Officer, BMW Financial Services Thailand

BEST HYBRID MID-SIZE SEDAN UNDER 3,000 CC
ได้แก่ BMW ActiveHybrid 5
ผู้รับมอบ มร. ลาร์ส นีลเซ่น
ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
Mr. Lars Nielsen, Director Sales & Marketing, BMW Thailand

BEST MID-SIZE SEDAN DIESEL
ได้แก่ BMW 525d M Sport
ผู้รับมอบ มร. แฮรัลด์ ไธเนอร์
ผู้อำนวยการด้านการปรับปรุงกระบวนการผลิต
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย
Mr. Harald Theiner, Director – VPS, BMW Group Manufacturing Thailand

BEST LUXURY CAR DIESEL
ได้แก่ BMW 730Ld
ผู้รับมอบ มร. คาร์สเทน มึลเลอร์-เดเทอร์ส
ผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อ
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
Mr. Carsten Mueller-Deiters, Head of Indirect Purchasing, BMW Group Thailand

BEST ROADSTER
ได้แก่ BMW Z4 sDrive20i Highline
ผู้รับมอบ มร. ริวดิเก้ รัดเช็ค
ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและการจัดการ
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
Mr. Ruediger Radscheck, Director Finance & Admin, BMW Group Thailand

BEST SPORT COUPE PETROL
ได้แก่ BMW 640i
ผู้รับมอบ คุณจตุพล พุทธวิบูลย์
ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
Mr. Jatupon Puttaviboon, General Manager Dealer Development,
BMW Group Thailand

BEST SPORT COMPACT
ได้แก่ BMW 220i Coupe M Sport
ผู้รับมอบ คุณปภัสรา อร่ามวงศ์สมุทร
ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
Ms. Prapatsara Aramvongsamut, General Manager Marketing, BMW Thailand

BEST SUPER CAR
ได้แก่ BMW i8
ผู้รับมอบ คุณภัทรพงษ์ อชะปาละศิริ
ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
Mr. Pattarapong Achapalasiri, General Manager Sales, BMW Thailand

BEST SUV DIESEL UNDER 2,000 CC
ได้แก่ BMW X4 xDrive20d M Sport
ผู้รับมอบ คุณสำคัญ เอื้อชูเกียรติ
ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ
บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย
Mr. Samkhan Erchukiat, Chief Operations Officer,
BMW Financial Services Thailand

BEST LUXURY SUV 5 seat
ได้แก่ BMW X5 xDrive30d M Sport
ผู้รับมอบ คุณจริยา คูนลินทิพย์
ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด
บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย
Ms. Jariya Koonlintip, Director Sales and Marketing,
BMW Financial Services Thailand

CHEVROLET
BEST MPV UNDER 1,600 CC
ได้แก่ CHEVROLET SPIN
ผู้รับมอบ คุณเฉลิมพล ตรีชดารัตน์
ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ส่วนรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST HIGH-LIFT PICKUP 3,200 CC
ได้แก่ CHEVROLET COLORADO 2.8 DURAMAX C-Cab LTZ Z71
ผู้รับมอบ คุณณฐพร จิรมหาโภคา
ผู้อำนวยการฝ่ายขายและเครือข่ายผู้จัดจำหน่าย
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ
บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST PPV DIESEL 4WDUNDER 3,200 CC
ได้แก่ CHEVROLET TRAILBLAZER 2.8 LTZ Z71
ผู้รับมอบ คุณอุณา ตัน
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด
บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
FORD
BEST HI-TECH ENGINE
ได้แก่ FORD FIESTA ECOBOOST
ผู้รับมอบ คุณธนบดี กุลทล
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด
ฟอร์ด ประเทศไทย

BEST PERFORMANCE PICKUP
ได้แก่ FORD RANGER 3.2
ผู้รับมอบ คุณอรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร
ฟอร์ด ประเทศไทย



HONDA
BEST HATCHBACK UNDER 1,500 CC
ได้แก่ HONDA JAZZ
ผู้รับมอบ คุณศิริพร ศรีสุข
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

BEST HYBRID MID-SIZE SEDAN UNDER 2,000 CC
ได้แก่ HONDA ACCORD HYBRID
ผู้รับมอบ คุณศิริพร ศรีสุข
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

BEST SEDAN CNG UNDER 1,500 CC
ได้แก่ HONDA CITY CNG
ผู้รับมอบ คุณศิริพร ศรีสุข
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

BEST SUV PETROL UNDER 1,800 CC
ได้แก่ HONDA HR-V
ผู้รับมอบ คุณศิริพร ศรีสุข
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

HYUNDAI
BEST MPV UNDER 3,000 CC
ได้แก่ HYUNDAI H-1 ELITE
ผู้รับมอบ มร.โยชิกาซึ โคนิชิ (Mr. Yoshikazu Konishi)
ผู้จัดการทั่วไป (General Manager)
บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด.

ISUZU
BEST PICKUP 2WD UNDER 2,500 CC
ได้แก่ ISUZU D-MAX 2.5
ผู้รับมอบ มร. ฮิโรชิ นาคางาวะ
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

BEST PICKUP 4WD UNDER 3,200 CC
ได้แก่ ISUZU D-MAX V-CROSS 3.0
ผู้รับมอบ มร. เคียวยะ คนโด้
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

BEST PPV DIESEL 2WD
ได้แก่ ISUZU MU-X 3.0 2WD
ผู้รับมอบ คุณปนัดดา เจณณวาสิน
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด


BEST HI-TECH PICKUP
ได้แก่ ISUZU D-MAX WITH INSIGHT Technology
ผู้รับมอบ มร. โยชิอากิ อูเอดะ
รองกรรมการผู้จัดการ
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

THE MOST POPULAR PPV WITH OVER 20,000 UNIT Sales in 1 year
ได้แก่ ISUZU MU-X
ผู้รับมอบ มร. เคียวยะ คนโด้
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

BEST FUEL ECONOMY PICKUP 2,500 CC
ได้แก่ ALL NEW ISUZU D-MAX
ผู้รับมอบ มร. โยชิอากิ อูเอดะ
รองกรรมการผู้จัดการ
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

BEST CSR PROJECT OF THE YEAR
ได้แก่ “ISUZU GIVES WATER… FOR LIFE” PROJECT รางวัลโครงการเพื่อ
สังคมยอดเยี่ยมแห่งปี โครงการ “อีซูซุให้น้ำ... เพื่อชีวิต”
ผู้รับมอบ มร. ฮิโรชิ นาคางาวะ
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

LEXUS
BEST HYBRID HATCHBACK UNDER 2,000 CC
ได้แก่ LEXUS CT 200h
ผู้รับมอบ คุณประพันธ์ จันทร์วัฒนพงษ
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

BEST HYBRID SUV UNDER 2,500 CC
ได้แก่ LEXUS NX 300h
ผู้รับมอบ คุณบิณฑ สินรุ่งเรือง
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

MAZDA
BEST HATCHBACK UNDER 2,000 CC
ได้แก่ MAZDA 3 SKYACTIV SPORTS HATCHBACK
ผู้รับมอบ มร.ฮิโรโนริ ทานากะ (Mr. Hironori Tanaka)
รองประธานด้านวางแผนองค์กร (The Voice President of Corporate Planning)
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST CAR DIESEL UNDER 1,500 CC
ได้แก่ MAZDA 2 SKYACTIV SEDAN & HATCHBACK
ผู้รับมอบ คุณฮิเดสึเกะ ทาเกะสึเอะ (Mr.Hidesuke Takesue)
ประธานกรรมการบริหาร (President)
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST SUV DIESEL UNDER 2,500 CC
ได้แก่ MAZDA CX-5 SKYACTIV DIESEL 2,200 CC
ผู้รับมอบ คุณธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST PERFORMANCE PICKUP
ได้แก่ MAZDA BT-50 PRO 3,200 CC
ผู้รับมอบ คุณสุวรรณี ชุติรัตนโรจน์
ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

MERCEDES-BENZ
BEST SEDAN UNDER 1,600 CC
ได้แก่ MERCEDES-BENZ C180
ผู้รับมอบ คุณไมเคิล เกรเว่ (Mr. Michael Grewe)
ประธานบริหาร, President & CEO
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST HYBRID SEDAN UNDER 2,500 CC
ได้แก่ MERCEDES-BENZ C300 BlueTEC Hybrid AMG Dynamic
ผู้รับมอบ คุณมาร์ทิน ชูลซ์ (Mr. Martin Schulz)
รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด ,Vice President, Sales & Marketing
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST HYBRID MID-SIZE SEDAN UNDER 2,500 CC
ได้แก่ MERCEDES-BENZ E300 BLUETEC Hybrid AMG Dynamic
ผู้รับมอบ คุณพุทธิ ตุลยธัญ
รองประธานบริหาร ฝ่ายบริการหลังการขาย
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST HYBRID LUXURY CAR
ได้แก่ MERCEDES-BENZ S300 BlueTEC Hybrid
ผู้รับมอบ คุณกฤษณะกร เศวตนันทน์
ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขาย
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST MID-SIZE SEDAN UNDER 2,000 CC
ได้แก่ MERCEDES-BENZ E200
ผู้รับมอบ คุณกันภัย เทวาชลาอังกูร
ผู้จัดการทั่วไป แผนกจัดซื้อวัตถุดิบเพื่อการผลิต
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST LUXURY CAR
ได้แก่ MERCEDES-BENZ CLS 250 Shooting Brake AMG Premium
ผู้รับมอบ คุณไมเคิล เกรเว่ (Mr. Michael Grewe)
ประธานบริหาร, President & CEO
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST SPORT SEDAN
ได้แก่ MERCEDES-BENZ CLA 45 AMG
ผู้รับมอบ คุณมาร์ทิน ชูลซ์ (Mr. Martin Schulz)
รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด ,Vice President, Sales & Marketing
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST SPORT HATCHBACK 5 Door
ได้แก่ MERCEDES-BENZ A45 AMG
ผู้รับมอบ คุณพุทธิ ตุลยธัญ
รองประธานบริหาร ฝ่ายบริการหลังการขาย
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST LUXURY SUV 7 seat
ได้แก่ MERCEDES-BENZ GL 350 BlueTEC AMG Premium
ผู้รับมอบ คุณกฤษณะกร เศวตนันทน์
ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขาย
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

MG
BEST FASTBACK UNDER 1,800 CC
ได้แก่ MG6
ผู้รับมอบ คุณชาญ จองพิศาล
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด
บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

MINI COOPER
BEST SPORT HATCHBACK 3 Door
ได้แก่ MINI COOPER S
ผู้รับมอบ คุณปรีชา นินาทเกียรติกุล
ผู้จัดการทั่วไป
มินิประเทศไทย
Mr. Preecha Ninatkiattikul, General Manager, MINI Thailand

BEST SPORT HATCHBACK DIESEL
ได้แก่ MINI COOPER SD 5-Door
ผู้รับมอบ คุณกฤษฎา อุตตโมตย์
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
Mr. Krisda Utamote, Director Corporate communications, BMW Group Thailand

MITSUBISHI
BEST SEDAN UNDER 1,200 CC
ได้แก่ MITSUBISHI ATTRAGE
ผู้รับมอบ มร. โมะริคาซุ ชกคิ (Mr. Morikazu Chokki)
กรรมการผู้จัดการใหญ่ (President & CEO)
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

BEST PICKUP 4WD UNDER 2,500 CC
ได้แก่ MITSUBISHI TRITON
ผู้รับมอบ มร. มิสึโนะริ คิตาโอะ (Mr. Mitsunori Kitao)
กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ (Executive Vice President & Chief Operating Officer)
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

BEST HIGH-LIFT FREESTYLE CAB 2,500 CC
ได้แก่ MITSUBISHI TRITON
ผู้รับมอบ มร.โคจิ นาคาฮาร่า (Mr. Koji Nakahara)
กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ กำกับดูแลงานด้านการขายในประเทศ
(Executive Vice President – Domestic Sales Unit)
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

BEST PPV DIESEL 4WD UNDER 2,500 CC
ได้แก่ MITSUBISHI PAJERO SPORT 2.5 4WD
ผู้รับมอบ คุณวราทิตย์ อิทธิสารรณชัย (Mr. Varathit Itthisarnronnachai)
ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานขาย และ การตลาด
(Corporate General Manager, Office of Sales and Office of Marketing)
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

BEST HI-TECH ENGINE PICKUP
ได้แก่ MITSUBISHI TRITON
ผู้รับมอบ คุณศุภศักดิ์ ดุละลัมพะ (Mr. Supasak Tulalamba)
ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมการตลาด (General Manager, Event Promotion Division)
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

BEST FUEL ECONOMY ECO CAR
ได้แก่ MITSUBISHI MIRAGE
ผู้รับมอบ คุณผกามาศ ผดุงศิลป์ (Ms. Phakamas Phadungsin)
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ (General Manager , Public Relations Division)
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด


NISSAN
BEST MID-SIZE SEDAN UNDER 2,500 CC
ได้แก่ NISSAN TEANA2.5XV
ผู้รับมอบ คุณประพัฒน์ เชยชม
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส การตลาดและขาย
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST SEDAN CNG UNDER 1,800 CC
ได้แก่ NISSAN SYLPHY 1.6E CNG
ผู้รับมอบ คุณจิระพล รุจิวิพัฒน์
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ การตลาด
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST SUV PETROL UNDER 1,600 CC
ได้แก่ NISSAN JUKE 1.6V
ผู้รับมอบ คุณจิระพล รุจิวิพัฒน์
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ การตลาด
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST SUV PETROL UNDER 2,500 CC
ได้แก่ NISSAN X-TRAIL 2.5 4WD
ผู้รับมอบ คุณประพัฒน์ เชยชม
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส การตลาดและขาย
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST HIGH-LIFT PICKUP 2,500 CC
ได้แก่ NISSAN NAVARA Calibre 2.5V
ผู้รับมอบ คุณประพัฒน์ เชยชม
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส การตลาดและขาย
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

PORSCHE
BEST HYBRID SUV UNDER 3,000 CC
ได้แก่ PORSCHE CAYENNE S E-Hybrid
ผู้รับมอบ คุณวิจิตรา ลิมปมาศ
ผู้จัดการแผนกการตลาดและประชาสัมพันธ์ ปอร์เช่ ประเทศไทย
บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด

BEST PERFORMANCE SPORT SUV
ได้แก่ PORSCHE MACAN
ผู้รับมอบ คุณปวราภา ดุพัสกูล
ผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์ ปอร์เช่ ประเทศไทย
บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด

TOYOTA
BEST HATCHBACK UNDER 1,200 CC
ได้แก่ TOYOTA YARIS
ผู้รับมอบ คุณอัญญา พลอยกิติกูล
รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดรถยนต์นั่ง
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด


BEST SEDAN UNDER 1,500 CC
ได้แก่ TOYOTA VIOS
ผู้รับมอบ คุณนิกร ประเสริฐสม
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

BEST SEDAN UNDER 1,800 CC
ได้แก่ TOYOTA COROLLA ALTIS 1.8V
ผู้รับมอบ คุณสุรศักดิ์ สุทองวัน
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

BEST SELLING CAR
ได้แก่ TOYOTA
ผู้รับมอบ คุณวิเชียร เอมประเสริฐสุข
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

BEST EXPORT CAR
ได้แก่ TOYOTA
ผู้รับมอบ คุณวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

BEST FUEL ECONOMY PICKUP 3,000 CC
ได้แก่ TOYOTA HILUX VIGO
ผู้รับมอบ คุณรุ่งโรจน์ ขันชะลี
ผู้อำนวยการฝ่าย การตลาดรถเพื่อการพาณิชย์
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

VOLVO
BEST SEDAN UNDER 2,000 CC
ได้แก่ VOLVO S60 T5
ผู้รับมอบ คุณคณิตพงศ์ นุตสถิตย์
ผู้ช่วยรองประธานบริหารฝ่ายการตลาด
บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST SUV PETROL UNDER 2,000 CC
ได้แก่ VOLVO XC60 T5
ผู้รับมอบ คุณคณิตพงศ์ นุตสถิตย์
ผู้ช่วยรองประธานบริหารฝ่ายการตลาด
บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
รางวัลพิเศษ
BEST CAR LEASING
ได้แก่ KRUNGSRI AUTO
ผู้รับมอบ คุณไพโรจน์ ชื่นครุฑ
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
และ กรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน)

BEST SELLING TYRE
ได้แก่ BRIDGESTONE
ผู้รับมอบ มร.โยชิฮิโระ มิโซบะตะ (Mr. Yoshihiro Mizobata)
ผู้จัดการส่วนการตลาดและงานบริหารลูกค้า
(Marketing & Service Division Consumer Business)
สายงานธุรกิจยางรถยนต์นั่งและรถบรรทุกขนาดเล็ก (Group Division Manager )
บริษัท บริดจสโตน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

BEST IMPORT TYRE
ได้แก่ DUNLOP
ผู้รับมอบ คุณพรพินันท์ พิสุทธิ์วัชระกุล
กรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท ดันลอปไทร์ (ไทยแลนด์) จำกัด

BEST CAR RENTAL & SERVICES
ได้แก่ MASTER CAR RENTAL
ผู้รับมอบ คุณศุกลกานต์ ธรรมชวนวิริยะ
กรรมการบริหาร
บริษัท มาสเตอร์คาร์ เร้นเทิล จำกัด

BEST INSURANCE COMPANY
ได้แก่ THE VIRIYAH INSURANCE
ผู้รับมอบ คุณสยม โรหิตเสถียร
รองกรรมการผู้จัดการ
บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)

รางวัล BIKE O F THE YEAR 2015
Honda
Best Automatic - Sport
ได้แก่ Honda Click 125i
ผู้รับมอบ ดร. อรรณพ พรประภา
รองประธานกรรมการบริหาร
บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด

Best Automatic – Fashion
ได้แก่ Honda Zoomer
ผู้รับมอบ คุณวรพจน์ พรประภา

Best Automatic - Premium
ได้แก่ Honda PCX
ผู้รับมอบ คุณอารักษ์ พรประภา
กรรมการบริหารบริษัท
บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด

Best Family Bike
ได้แก่ Honda wave 125i
ผู้รับมอบ ดร. อรรณพ พรประภา
รองประธานกรรมการบริหาร
บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด

Best Mini Bike
ได้แก่ Honda MSX
ผู้รับมอบ คุณวรพจน์ พรประภา

Best Off-Road Bike
ได้แก่ Honda CRF 250L
ผู้รับมอบ คุณอารักษ์ พรประภา
กรรมการบริหารบริษัท
บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด

YEARS CONTINUOUSLY MOTORCYCLE BEST SELLER
ได้แก่ Honda ปีที่ 27
ผู้รับมอบ ดร. อรรณพ พรประภา
รองประธานกรรมการบริหาร
บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด

Kawasaki
Best Big Bike Under 300 c.c.
ได้แก่ Kawasaki NINJA 300
ผู้รับมอบ มร. มิทซึฮิโกะ โอกาดะ (Mr. Mitsuhiko Okada)
รองประธานกรรมการบริหาร
บริษัท คาวาซากิมอเตอร์ เอนเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด

Best Big Bike Over 300 c.c.
ได้แก่ Kawasaki Z 800
ผู้รับมอบ มร. มิทซึฮิโกะ โอกาดะ (Mr. Mitsuhiko Okada)
รองประธานกรรมการบริหาร
บริษัท คาวาซากิมอเตอร์ เอนเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด

Suzuki
Best Import Bike Under 125 cc.
ได้แก่ Suzuki Van Van
ผู้รับมอบ คุณนราเทพ เกิดช่วย
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ จำกัด

Best Import Bike Under 1000 cc.
ได้แก่ Suzuki V-Strom 1000 Abs
ผู้รับมอบ คุณนราเทพ เกิดช่วย
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ จำกัด

Yamaha
Best Value Family Bike
ได้แก่ Yamaha Spark 115i
ผู้รับมอบ คุณฉัตรชัย บำรุงพรไพศาล
รองผู้จัดการใหญ่ด้านการผลิต
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด

Best Family Sport
ได้แก่ Yamaha Spark 135i
ผู้รับมอบ มร. มิจิฮิโระ โออิชิ (Mr. Michihiro Oishi)
ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ด้านการเงิน วางแผนและบริหาร
(Assistant to Chief of Finance Corporate Planning & Administration)
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด

THE INNOVATOR OF FASHION AUTOMATIC
ได้แก่ Yamaha
ผู้รับมอบ มร. ทาจึยะ อารินิชิ (Mr. Tatsuya Arinishi)
ผู้จัดการใหญ่ด้านการผลิต (Chief of Manufacturing)
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:47:14 PM
ยามาฮ่า เปิดตัว YZF-R1 และ YZF-R1M ครั้งแรกในเมืองไทย ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 พร้อมจัดทัพ R-Series ตอกย้ำความแรงสไตล์มอเตอร์สปอร์ต









          มร.เท็ตสึยะ อินะมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (คนที่ 7 จากขวา) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง และ ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธาน การจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 (คนที่ 8 จากซ้าย) และนายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษาโครงการ สนาม บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต(คนที่ 8 จากขวา) ให้เกียรติร่วมเปิดบูธยามาฮ่าภายใต้แนวคิด Rev Circuit ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 พร้อมเปิดรถซูเปอร์สปอร์ตในฝัน YZF-R1 และ YZF-R1M ณ ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้

ข้อมูลเพิ่มเติม
         
ยามาฮ่าต่อยอดกลยุทธ์มอเตอร์สปอร์ต ด้วยแนวคิด “Yamaha Rev Circuit”
พร้อมเปิดตัว YZF-R1 และ YZF-R1M ครั้งแรกในเมืองไทย
พร้อมจัดทัพ R-Series ตอกย้ำความแรงสไตล์มอเตอร์สปอร์ต
          ยามาฮ่า ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นมอเตอร์สปอร์ต ด้วยแนวความคิด “Yamaha Rev Circuit” สนามแข่งที่เต็มไปด้วยประสบการณ์สุดเร้าใจในสไตล์ Revs Your Heart พร้อมเปิดตัว รถซูเปอร์สปอร์ต YZF-R1 และ YZF-R1M จัดเต็มกับรถสายพันธ์แรงจากตระกูล R-Series และ NMAX รถออโตเมติกพรีเมี่ยม ใหม่ล่าสุด
          มร.เท็ตสึยะ อินะมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึง แนวความคิดของบูธยามาฮ่าในปีนี้ว่า “ตามที่ทางยามาฮ่าได้จัดงานแถลงนโยบายประจำปี 2558 ซึ่งเน้นกลยุทธ์ด้านมอเตอร์สปอร์ต และแนะนำรถจักรยานยนต์ยามาฮ่ารุ่น YZF-R3 อย่างเป็นทางการยิ่งใหญ่ ซึ่งได้รับการต้อนรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ดังนั้น บูธยามาฮ่าในปีนี้ จึงใช้แนวความคิด “Yamaha Rev Circuit” จำลองเอาสนามแข่งที่เต็มไปด้วยความเร้าใจในสไตล์ Rev Your Heart มาพร้อมกับเทคโนโลยี และดีไซน์สุดล้ำ เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านมอเตอร์สปอร์ต อย่างชัดเจน และในวันนี้ยามาฮ่ายังได้เปิดตัวรถซูเปอร์สปอร์ตในฝัน “YZF-R1” และ “YZF-R1M” ปีล่าสุด สมกับการรอคอยของชาวซูเปอร์ไบค์ รวมถึงรถคอนเซ็ปต์ “03GEN” รถประเภท LMW (Leaning multi wheel) ยานยนต์ต้นแบบสไตล์ฟิวเจอริสติค นำสัญชาตญาณความเป็นยามาฮ่า “Fundamental” ที่รวมความล้ำอนาคตและความเรซซิ่งไว้ในหนึ่งเดียวเปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกในโลก พิเศษสุด สำหรับ “NMAX” รถออโตเมติก พรีเมี่ยม 150 ซีซี ที่กำลังเปิดตัวเร็วๆนี้ และ “MT-07” Sport Naked Bike รุ่นล่าสุด ที่เปิดจอง ที่แรกในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ แห่งนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะได้รับประสบการณ์สุดเร้าใจจากผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีจากยามาฮ่า ที่จะสร้างความประทับใจให้ท่าน ด้วยตัวเองครับ”
          YZF-R1 ปี 2015 ทลายกำแพงกั้นจากรถซูเปอร์ไบค์ระดับ Moto GP มาสู่รถสปอร์ต เพื่อการขับขี่บนท้องถนนองค์ประกอบหลักถูกปรับใหม่ทั้งหมด น้ำหนักที่เบาลงแต่อัดแน่นด้วยรายละเอียดมากขึ้น เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 998 ซีซี คงคอนเซ็ปต์แบบ Crossplane พร้อมเทคโนโลยีแห่งยุคอนาคตก้านสูบไทเทเนียม น้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง ส่งแรงม้าได้มหาศาลและกำลังทอร์ค ที่ไหลลื่น ติดตั้ง Inertial Measurement Unit (IMU) วัดมุมองศาได้ถึง 6 แกน ซึ่งใช้กับ ยานอวกาศและอากาศยาน นับเป็นปรากฎการณ์ของรถยุคใหม่ ซึ่งผู้ขับขี่จะได้สัมผัสกับการควบคุมแบบ 3 มิติเป็นครั้งแรก
          YZF-R1M นี่คือการดึงเทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้พัฒนา YZR-M1 รถแข่ง MotoGP ได้อย่างใกล้เคียงมากที่สุดในรถสปอร์ตเท่าที่เคยมีมา ผสานเทคโนโลยีสุดล้ำเข้าด้วยกัน เพื่อให้รู้สึก ถึงความสนุกและเร้าใจไปกับการขับขี่ อีกทั้งความนุ่มนวลในการควบคุมและความง่ายดายในการบังคับรถ สไตล์ของ R1M ได้แรงบันดาลใจจาก YZR-M1อย่างแท้จริง การสร้างตัวรถภายนอกเน้นหลักกลศาสตร์ของอากาศ ซึ่ง R1M จะเร้าใจผู้ขับขี่ให้ได้สัมผัสถึงประสิทธิภาพที่ก้าวกระโดดไปอีกขั้น
          โดยรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า YZF-R1 ราคาอยู่ที่ 899,000 บาท และ YZF-R1M ราคาอยู่ที่ 1,199,000 บาท
          ทั้งนี้ ภายในบูธ Yamaha Rev Circuit จะประกอบไปด้วยโซนแห่งความเร้าใจต่างๆ 4 โซนหลัก ได้แก่
          · Champion Zone นำเอาสุดยอดรถแชมป์ของยามาฮ่าทั้งในประเทศและระดับโลก มารวมไว้ที่นี่ อาทิ
          o YZR-M1 ของนักแข่งระดับโลกจากทีม Movistar Yamaha MotoGP แชมป์โลก 9 สมัย วาเรนติโน่ รอสซี่ และ แชมป์โลก 4 สมัย ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่
          o YZF-R6 ของ 3 นักแข่งสายเลือดไทย
          § เดชา ไกรศาสตร์ แชมป์การแข่งขัน MFJ SUPERBIKE ALL JAPAN ROAD RACE CHAMPIONSHIP 2012 รุ่น ST-600 ณ ประเทศญี่ปุ่น
          § เฉลิมพล ผลไม้ แชมป์การแข่งขัน MFJ SUPERBIKE ALL JAPAN ROAD RACE CHAMPIONSHIP 2013 รุ่น ST-600 สนามทวินริง โมเตกิ
          § อนุภาพ ซามูล แชมป์การแข่งขัน R2M THAILAND SUPERBIKE CHAMPIONSHIP 2014ประเทศไทย รุ่น 600 ซีซี และแชมป์ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร
          o YZ250F รถซูเปอร์ครอสสายพันธุ์แกร่ง พาหนะคู่ใจของนักแข่ง ชัยยันต์ โรมพันธุ์ แชมป์ FMSCT THAILAND SUPERCROSS 2014
          o FZR SVHO เวฟรันเนอร์สายพันธุ์แรงพาหนะคู่ใจของ สุภัค เสร็จธุระ แชมป์โลก รุ่น PRO-AM RUNABOUT 4 STROKE STOCK ในรายการ INTERNATIONAL JET SKI WORLD CUP 2014

          · R-Series Zone
          o R-Series Zone เอาใจคนสายพันธุ์สปอร์ต ด้วยรถตระกูล R-Series ล่าสุดจาก ยามาฮ่าแรงจัดระดับแชมป์ ทั้งรถซูเปอร์สปอร์ต          ในฝันของชาวบิ๊กไบค์อย่าง YZF-R1, YZF-R1M, YZF-R6 รวมไปถึง YZF-R3 และYZF-R15 ดีเอ็นเอเรซซิ่งสปอร์ตตระกูล R จากยามาฮ่า

          · Super Bike Zone ความเร้าใจจากสนามแข่งสู่ถนนจริง
          o MT-07 Sport Naked Bike 689 ซีซี ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่ บนท้องถนน
          o FZ-09 เครื่องยนต์ 3 สูบ 847 ซีซี ใหม่ล่าสุดที่รวมสไตล์ Naked และ Motard เข้าด้วยกัน
          o Super Tenere มอเตอร์ไซค์สไตล์ Adventure Touring พันธุ์แท้
          o Bolt-R ที่ยิ่งเรียบ ยิ่งเท่ ทันสมัยทั้งลุคและสมรรถนะที่มีความเป็นคนเมืองมากขึ้น
          o TMAX ปี 2015 รถซูเปอร์สปอร์ตออโตเมติก
          o FJR1300A Grand Touring สุดล้ำ
          o SR400 หนึ่งเดียวที่ครองหัวใจนักบิดได้เสมอ นับตั้งแต่วันเปิดตัวเมื่อ 30 ปีก่อน
          o แชมป์แห่งโลกรถวิบาก YZ450F และ YZ250F

          · Rev Station Zone พบกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมสุดล้ำจากยามาฮ่า
          o “03GEN” ยานยนต์ต้นแบบสไตล์ฟิวเจอริสติค ที่นำสัญชาตญาณความเป็น ยามาฮ่า “Fun damental” ที่รวมความล้ำอนาคต และความเรซซิ่งไว้ในหนึ่งเดียว โดยเปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกในโลก ที่ออกแบบโดย แอ๊ดวานซ์ ดีไซน์ กรุ๊ป จาก ยามาฮ่า มอเตอร์ ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น โดย มร.โซอิจิโร ทานากะ (Mr.Souichirou TANAKA)
          o Tricity ABS ที่มาพร้อมกับระบบ LMW ลิขสิทธิ์เฉพาะจากยามาฮ่า
          o NMAX รถออโตเมติกพรีเมี่ยมสุดหรู ขนาด 150 ซีซี ที่กำลังจะเปิดตัวที่ประเทศไทยเร็วๆ นี้
          o Exciter 150 รถครอบครัวสไตล์สปอร์ตพันธุ์แกร่ง
          o เทคโนโลยีเครื่องยนต์อัจฉริยะ Bluecore ที่ให้ทั้งความประหยัดและสมรรถนะ ที่ดีขึ้น ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 60 กม./ลิตร
          o เครื่องยนต์ผ่า YMJET_FI เทคโนโลยีหัวฉีดอัจฉริยะ ประหยัดเหนือชั้น ถึง 55.75 กม./ลิตร
          o กระบอกสูบ DiASil เทคโนโลยีแห่งความทน แกร่ง ประหยัดกว่า ลิขสิทธิ์เฉพาะจากยามาฮ่า

พร้อมรับโปรโมชั่นสุดร้อนแรงภายในงานที่จัดเต็มสำหรับคนพันธุ์สปอร์ตเท่านั้น
          · จอง YZF-R3 พบข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ยต่ำสุด 6.5% ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน
          · Big Bike ทุกรุ่นฟรี ทะเบียน พรบ. พร้อมประกันชั้น 1 เริ่มต้นดอกเบี้ย 1.59%

          และยังมี Yamaha Apparel and Accessories แฟชั่นไลฟ์สไตล์ ผสมผสานความเท่และสะท้อนความเป็นตัวตนที่แตกต่าง มาพร้อมกับอุปกรณ์อะไหล่ตกแต่งแท้จากยามาฮ่า ที่นำเทรนด์ไม่ซ้ำใคร มาให้ช้อปกันแบบจุใจ

          ยามาฮ่ายังมีกิจกรรมการแสดงจากดาราและศิลปินมากมายตลอดทั้ง 10 วัน มาให้ ชาวมอเตอร์ไซค์ได้ร่วมสนุกกัน โดยเฉพาะทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เตรียมพบกับ โชว์จากศิลปินจากค่ายแกรมมี่ อาร์เอส เคพีเอ็น และอื่นๆ อีกมากมาย

          ติดตามประสบการณ์ความเร้าใจได้ที่บูธ Yamaha Rev Circuit ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ที่www.yamahamotor.co.th, www.facebook.com/yamahasociety, IG: @yamahasociety Youtube: Yamaha society
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:49:05 PM
ภาพข่าว: ยามาฮ่า รับรางวัล Thailand Bike of the Year 2015



          บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างสูงตลอดมากว่า 50 ปี คว้ารางวัลเกียรติยศ Thailand Bike of the Year2015 อันประกอบ รางวัล Best Value Family Sport ได้แก่ Spark 115i, รางวัล Best Family Sport ได้แก่ Spark 135i และ รางวัล The Innovator of Fashion Automatic แบรนด์ Yamaha โดยมี นายฉัตรชัย บำรุงพรไพศาล รองผู้จัดการใหญ่ด้านการผลิต(ที่ 2 จากขวา) , มร.มิจิฮิโระ โออิชิ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ด้านการเงิน วางแผนและบริหาร (ที่ 2 จากซ้าย)?และ มร.ทาจึยะ อารินิชิ ผู้จัดการใหญ่ด้านการผลิต (ที่ 3 จากขวา) บริษัท ไทย ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เป็นตัวแทนเข้ารับรางวัลในงานประกาศผล Thailand Bike of the Year 2015 จาก นางอรรชกา สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และนายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน Thailand Car & Bike of the Year 2015 ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคาร ชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 30, 2015, 02:51:22 PM
ภาพข่าว: เชฟโรเลตรับฟังเสียงจากลูกค้า ค้วา 3 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2558



          คุณเฉลิมพล ตรีชฎารัตน์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์รถยนต์นั่ง (ที่ 3 จากขวา) คุณณฐพร จิรมหาโภคา ผู้อำนวยการฝ่ายขายและเครือข่ายผู้จัดจำหน่าย (ที่ 4 จากขวา) คุณอุณา ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด (ที่5 จากซ้าย) บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) รับมอบรางวัลจาก ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กับเชฟโรเลต โคโลราโด ได้รับรางวัลรถกระบะยกสูงยอดเยี่ยม ประเภทเครื่องยนต์ต่ำกว่า 3,200 ซีซี เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ได้รับรางวัลรถอเนกประสงค์ขับเคลื่อนสี่ล้อยอดเยี่ยม ประเภทเครื่องยนต์ดีเซลต่ำกว่า 3,200 ซีซี และเชฟโรเลต สปิน รถเอ็มพีวียอดเยี่ยม ประเภทเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,600 ซีซี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 31, 2015, 01:12:50 PM
ภาพข่าว: คณะผู้บริหาร กรังด์ปรีซ์ กรุ๊ป ให้การต้อนรับนายเขียว กัณหะฤทธิ์ รัฐมนตรีกระทรวงข่าวสารกัมพูชาพร้อม คณะกรรมการจัดงานฯพนมเปญมอเตอร์โชว์2015เยี่ยมชมงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 36



ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ และประธานกรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร , คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ คุณอโณทัย เอี่ยมลำเนาและคุณพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา กรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับนายเขียว กัณหะฤทธิ์ รัฐมนตรีกระทรวงข่าวสารกัมพูชาพร้อมคณะกรรมการจัดงานฯพนมเปญมอเตอร์โชว์ 2015 และผู้บริหารค่ายรถต่างๆจากประเทศกัมพูชาในโอกาสเข้าเยี่ยมชมงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 36 พร้อมประชุมหารือด้านเตรียมความพร้อมของการจัดงานพนมเปญมอเตอร์โชว์ 2015 ที่กำลังจะจัดขึ้นที่ประเทศกัมพูชาในไตรมาสที่ 3 ของปี 2015 ณ งาน Bangkok International Motor Show อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 31, 2015, 01:14:18 PM
AP Honda Unveils RC213V-S Prototype – the World’s Ultimate Superbike at Motor Show 2015 Introducing new experience through a concept: “My Rides My Stories” Launching New MOOVE14 – equipped with smart technology from Honda







          AP Honda, the official Honda motorcycle distributor in Thailand, is unveiling its ultimate technology at the 36th Bangkok International Motor Show and offering unique experience to all under a concept “My Rides My Stories”. A variety of Honda BigBike and motorcycles will be displayed to cater to the different lifestyles of the users. Thailand will be the third country, after Italy and Japan, to exhibit the RC213V-S Prototype, the street version of two-time Moto GP Champion RC213V, during the 13-day motor show. Meanwhile, New Honda MOOVE14, the new smart AT motorcycle with 14-inch wheels, will be released. The model will be represented by new brand ambassador “Yaya” Urassaya Sperbund who will interpret the fun and smart character of the motorcycle. The model will be made available nationwide in the near future. The booth at the motor show will also feature
entertainment
provided by famous artists, special offers for customers, and latest Honda collection at special prices.
          “Under our goal to deliver only the best to all Thai users, AP Honda has provided a variety of products, from Big Bikes to motorcycles, for the modern consumers to enjoy the different experiences and lifestyles. At Bangkok International Motor Show 2015, we are proud to present a new concept, My Rides My Stories, at our booth. Inspired by the helmet visor, the stories of riders will be portrayed as unique experiences of the riders. The highlight of the show is the RC213V-S Prototype, the world’s first superbike to bring the technology of RC213V from the professional racing circuit to the streets. It’s our pleasure to be the third country, after Italy and Japan, to welcome the prototype from Japan for Thais to experience throughout the 13-day show. The RC213V prototype is marked number 93 by Marc Marquez – two-time Moto GP champion who also holds the record of winning 13 out of 18 legs and also won 10 consecutive races in the past season,” said Suchart Arunsaengroj, Director of AP Honda Co Ltd.
          “Apart from superbike, we have also brought premium big bikes for the customers to book at the show. The booth will also feature AP Honda Racing Thailand Team that has just swept home support race championship in 600cc super sport category from World Superbike. The motorbike on display will also be the number 9 by "film" Ratthapark Wilairot, Thailand’s first 600cc champion under Core Motorsport Thailand, and the Moto2 racing motorbike in World GP for Thais to have a closer look. Meanwhile, Honda MOOVE14, the new AT motorcycle with 14-inch wheel, which is equipped with Honda Smart Technology for fun, economy, and confidence will be presented by “Yaya” Urassaya Sperbund. The fun and smart character of the soon-to-be released model will be presented by the young brand ambassador.
          At Honda booth, “My Rides My Stories” will be divided into 4 zones. The first 3 zones will be presented under the concept of “Honda BigBike Excites the World” which are:
          - Premium Sport to display the world’s ultimate superbike RC213V-S Prototype and racing motorcycle RC213V, number 93 by Marc Marquez, the world’s current Moto GP champion
          - Sport Racing to display the racing motorcycles by AP Honda Racing Thailand team that has just grabbed home the Support Race championship from the World Superbike in 600cc category, and the World GP in Moto2 category; and the Honda CBR300R from Honda CBR300R Thailand Dream Cup.
          - Premium Elegance to display the premium HondaBig Bikes that have been designed to cater the diverse demands of the customers. The collection includes Honda Goldwing 40th anniversary edition and Honda CBR1000RR Champion Special, number 93 by Marc Marquez, and such famous models as Goldwing F6B, F6C, CB1100, VFR1200X, NM4, and CTX1300.
          Fun & Smart zone is designed for the motorcycle users to experience the “Power of Fun Projects”. The latest model, Honda MOOVE14, will be premiered at the show, with customized accessories along with other models including MSX125 Masked Rider V1 Model, Zoomer-X Café Racer, Forza300 New Concept. For those enjoying off-road style, Honda CRF250R – the specially-made version for James Bond 007 will also be displayed.
          Apart from the motorcycles, AP Honda will also bring the big fun to all visitors. Famous artists and actresses including Yaya, Katesepsawat “Na Neck” Palakawong na Ayutthaya, and 25Hours will be onstage. Other highlighted experiences will include Track Feeling Eyeglass, Augmented Reality (AR), Lean Machine, Red Fan Battle (especially for football fans). The special shows of the winners from 7th Marketing Plan Contest will also take place on Sunday March 29, 2015 at the activity hall at the back of Challenger Hall 1.
          For those with passion for the decoration, AP Honda has brought copyrighted H2C accessories and Honda Collection gears to offer at special prices at the show.
          For those interested, please visit “My Rides My Stories” booth at the 36th Bangkok International Motorshow 2015. The booth is located at M1/1 in Challenger Hall, Muang Thong Thani, from March 25 to Apirl 5, 2015. For more information, check out www.facebook.com/hondamotorcyclethailand.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on March 31, 2015, 01:15:18 PM
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี สูงสุดถึง 14 รางวัล ในงาน “Car of the Year 2015” สร้างสถิติการรับรางวัลสูงสุดสำหรับแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ



          บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ฉลองความสำเร็จต่อเนื่อง ด้วยการคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีมากที่สุดในประวัติศาสตร์การดำเนินงานของบริษัทและในเซ็กเมนท์ยนตรกรรมหรู ถึง 14 รางวัล ในงาน “Car of the Year 2015” หลังจากสร้างสถิติยอดขายรถยนต์สูงสุดติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมของบีเอ็มดับเบิลยู โดยการมอบรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมในครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 16 โดยบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ทำการทดสอบโดยพิจารณาจากสมรรถนะ, ความปลอดภัย, เทคโนโลยี, ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, การออกแบบ, ความคุ้มค่า และในด้านการขับขี่นั้นพิจารณาจากการบังคับควบคุมรถ, แรงบิด, ประสิทธิภาพของช่วงล่างและอัตราเร่งที่เป็นเยี่ยม
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 01, 2015, 12:55:27 PM
ภาพข่าว: แอสตัน มาร์ติน เผยโฉมไฮไลท์ล่าสุด Vanquish และ DB9 รุ่น Carbon Edition ครั้งแรกในอาเซียน

          แอสตัน มาร์ติน แบงคอก โดย นายคมกริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เฮอริเทจ มอเตอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ไทยแลนด์) จำกัด ภายใต้บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี (MGC) เปิดตัวไฮไลท์ใหม่ล่าสุด Vanquish และ DB9 รุ่น Carbon Edition ครั้งแรกในไทยและเอเชีย

          เปิดตัวไฮไลท์ใหม่ สุดยอดยนตรกรรมสัญชาติอังกฤษ Vanquish และ DB9 รุ่น Carbon Edition ครั้งแรกในไทยและอาเซียน ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 36 โดยได้รับเกียรติจาก นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดงาน เมื่อเร็วๆ นี้


          รายชื่อบุคคลในภาพ (จากซ้ายไปขวา) : มร.แพทริค นิลสัน, ผู้อำนวยการ ภาคพื้นเอเซียแปซิฟิก แอสตัน มาร์ติน ลากอนด้า , นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน), นางสาวเจิดนภางค์ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารการเงิน กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น(เอเชีย) จำกัด, ศรีริต้า เจนเซ่น, นายคมกริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เฮอริเทจ มอเตอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ไทยแลนด์) และ ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 02, 2015, 01:01:22 PM
ภาพข่าว: อิมแพ็คร่วมแสดงความยินดีในพิธีเปิดมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36



          คุณพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด มอบช่อกล้วยไม้ และของที่ระลึกช้างทองคำ เพื่อแสดงความยินดี แด่คุณปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และประธานการจัดงาน บางกอก อินเตอร์แนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ในโอกาสพิธีเปิดงาน อีกทั้งเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีให้แข็งแกร่งและยั่งยืนเสมอไป

          งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ "ยนตรกรรมไร้พรมแดน" เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงศิลปะแห่งโลกยานยนต์ ซึ่งเป็นการพัฒนาแบบไร้ข้อจำกัด สามารถสร้างสรรค์ได้อย่างไม่รู้จบ จัดแสดงระหว่างวันที่ 25 มีนาคม- 5 เมษายน 2558 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 02, 2015, 01:56:10 PM
“น้องเตย”โศจิรัตน์ พืชเพ็ญ สาวสวยสุดน่ารักวัย 23 ปี จากค่ายฮุนได คว้าชัยมิสพรีเซนเตอร์ 2015 ในงาน“บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ”ครั้งที่ 36





          บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และ ผู้จัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ได้จัดการประกวด “มิสพรีเซนเตอร์ ประจำปี 2015” เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้แต่ละค่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ร่วมแสดงในงานฯ ส่งตัวแทนพรีเซนเตอร์เข้าร่วมประกวด โดยเกณฑ์การตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นอกจากการพิจารณาจาก รูปร่าง หน้าตา ความสวยน่ารักของน้องๆพรีเซนเตอร์ที่ร่วมชิงไหวชิงพริบกันแล้ว ยังคงเน้นการพิจารณาจากไหวพริบ การแสดงความสามารถพิเศษและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจากการตอบคำถามของคณะกรรมการเพื่อเฟ้นหาสุดยอดมิสพรีเซนเตอร์แห่งปีเช่นเดิม

          โดยบรรยากาศการชิงชัยเป็นไปอย่างสนุกสนาน เสียงเชียร์ดังกึกก้องจากผู้ชมและสาวงามเพื่อนร่วมค่าย หลังขับเคี่ยวโชว์ความสามารถกันอย่างถึงพริกถึงขิงในรอบตัดสินของ 10 สาวสวยที่เข้าสู่รอบสุดท้าย ท่ามกลางกองเชียร์ แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนที่ร่วมทำข่าวกันอย่างคับคั่ง ส่วนพรีเซนเตอร์ที่พกความน่ารักสวยใส ที่มาพร้อมความเฉลียวฉลาดที่โดดเด่นจนสามารถคว้าตำแหน่ง“มิสพรีเซนเตอร์ประจำปี 2015 “ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36”ไปครอง ได้แก่ น้องเตย-โศจิรัตน์ พืชเพ็ญ วัย 23 ปี จากค่ายฮุนได ชนะใจกรรมการด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ เมื่อค่ำคืนวันที่ 27 มีนาคม 2558 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

          สรุปผลการประกวดมิสพรีเซนเตอร์ประจำปี 2015 “ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36”
          Miss Presenter 2015 ได้แก่ น.ส.โศจิรัตน์ พืชเพ็ญ (เตย) อายุ 23 ปี ค่าย HYNDAI
          รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ น.ส.ดวงชีวัน พรหมเอื้อ (ส้มโอ) อายุ 19 ปี ค่าย ASTON MARTIN
          รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ น.ส.ธนาภรณ์ ผาเหลา (เอมมี่) อายุ 25 ปี ค่าย ROLLS ROYCE
          Miss Favorite ได้แก่ น.ส.ชัชนันท์ ศรรัตนสกุล (ลิลลี่) อายุ 23 ปี ค่าย YAMAHA
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 07, 2015, 12:22:20 PM
ภาพข่าว: Chevrolet Car of the Year 2015



           คุณเฉลิมพล ตรีชฎารัตน์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์รถยนต์นั่ง (ที่ 3 จากขวา) คุณณฐพร จิรมหาโภคา ผู้อำนวยการฝ่ายขายและเครือข่ายผู้จัดจำหน่าย (ที่ 4 จากขวา) คุณอุณา ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด (ที่5 จากซ้าย) บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) รับมอบรางวัลจาก ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กับเชฟโรเลต โคโลราโด ได้รับรางวัลรถกระบะยกสูงยอดเยี่ยม ประเภทเครื่องยนต์ต่ำกว่า 3,200 ซีซี เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ได้รับรางวัลรถอเนกประสงค์ขับเคลื่อนสี่ล้อยอดเยี่ยม ประเภทเครื่องยนต์ดีเซลต่ำกว่า 3,200 ซีซี และเชฟโรเลต สปิน รถเอ็มพีวียอดเยี่ยม ประเภทเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,600 ซีซี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 07, 2015, 12:25:33 PM
ซูซูกิเผยโฉม All New Suzuki CIAZ ซีดานเหนือระดับใหม่” พร้อมยกทัพยนตรกรรมครบรุ่นตอบทุก Way of Life! ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36

          เผยโฉม “All New Suzuki CIAZ” (ออลนิว ซูซูกิ เซียส) ซีดานเหนือระดับใหม่ที่ผสมผสานดีไซน์สปอร์ตและความสง่างาม ตอบไลฟ์สไตล์คนมีระดับ พร้อมพื้นที่ภายในกว้างขวางสะดวกสบาย สมรรถนะการขับขี่เป็นเลิศ และประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม
          ยกทัพยนตรกรรมคุณภาพ Suzuki SWIFT, Suzuki CELERIO, Suzuki ERTIGA MPV 3 แถว 7 ที่นั่ง และ Suzuki CARRY เต็มพื้นที่บูธดีไซน์ใหม่สุดอลังการ
          พร้อมให้บริการคุณภาพทั้งก่อนและหลังการขาย ด้วยเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายและ โชว์รูมมาตรฐานทั่วประเทศแล้ววันนี้
          มอบสิทธิพิเศษเกินห้ามใจ สำหรับช่วงงานมอเตอร์โชว์ 2015









          ซูซูกิ ผู้สร้างสรรค์ยนตรกรรมระดับโลกเพื่อตอบทุก Way of Life! และสร้าง Excitement ให้กับทุกคน วันนี้ ในงานมอเตอร์โชว์ พร้อมเผยโฉม “All New Suzuki CIAZ” (ออลนิว ซูซูกิ เซียส) ซีดานเหนือระดับใหม่ ซึ่งทีมวิศวกรของซูซูกิได้ผสมผสานดีไซน์สปอร์ตและความสง่างามเข้ากันอย่างลงตัว เพื่อตอบไลฟ์สไตล์คนมีระดับ พร้อมออกแบบฟังก์ชั่นพื้นที่ภายในให้มีความกว้างขวางสะดวกสบาย พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายกว้างขวาง สมรรถนะการขับขี่เป็นเลิศ และประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังได้ยกทัพยนตรกรรมคุณภาพ ได้แก่ Suzuki SWIFT, Suzuki CELERIO, Suzuki ERTIGA MPV 3 แถว 7 ที่นั่ง และ Suzuki CARRY จัดแสดงเต็มพื้นที่บูธดีไซน์ใหม่สุดอลังการของซูซูกิ พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยบริการคุณภาพทั้งก่อนและหลังการขาย ด้วยเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายและโชว์รูมมาตรฐานทั่วประเทศแล้ววันนี้ อีกทั้งยังมอบสิทธิพิเศษมากมายเกินห้ามใจสำหรับช่วงงานมอเตอร์โชว์ 2015 ทั้งนี้ คาดการณ์ยอดจองทะลุกว่า 1,000 คัน ในงานมอเตอร์โชว์
          นายทาคายูคิ ซูกิยามา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ซูซูกิมีความภาคภูมิใจที่ได้นำเสนอยนตรกรรมใหม่ล่าสุด ‘All New Suzuki CIAZ’ รถยนต์นั่งที่สรรค์สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีและวิศกรรมของซูซูกิ มีความเป็น ‘ซีดานขนานแท้’ ผสมผสานความสปอร์ตและความสง่างามเข้าด้วยกันอย่างลงตัว มีระดับ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวไทยได้เป็นอย่างดี มีฟังก์ชั่นพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับซีดานในระดับเดียวกัน ให้ความเพลิดเพลินและความสบายในทุกการขับขี่ สมรรถนะเป็นเลิศด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.25 ลิตร ที่ให้ทั้งพลังในการขับขี่ และประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม ควบคุมการขับขี่ได้อย่างแม่นยำและยึดเกาะถนนดีเยี่ยม ควบคุมทุกอย่างได้ดั่งใจ ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่ต้องการรถที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง ซึ่งซูซูกิได้เผยโฉมให้ลูกค้าได้ชมกันในงานมอเตอร์โชว์ ก่อนที่จะมีการเปิดตัวและจำหน่ายอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้”
          นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นอกจากการเผยโฉม All New Suzuki CIAZ ซีดานเหนือระดับใหม่เป็นไฮไลท์ของบูธซูซูกิในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้แล้ว ซูซูกิยังได้จัดแสดงรถรุ่นต่างๆ อาทิ “Suzuki SWIFT RX ชีวิต…สนุกได้อีก” ซึ่งเป็น Suzuki SWIFT รุ่นใหม่ล่าสุด (เสริมรุ่น GLX, GL และ GA) ปรับโฉมใหม่ให้โดดเด่นเร้าใจขึ้น สปอร์ตขึ้นอีกขั้น ตอบตัวตนได้ชัดเจน ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยว ด้วยเครื่องยนต์ 1.25 ลิตร ขับสนุกตื่นเต้นเร้าใจยิ่งกว่า ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่มฟังก์ชั่นและสมรรถนะที่เหนือกว่าอีกขั้นด้วย Paddle Shift, Cruise Control, ไฟหน้า HID และชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่สปอร์ตโฉบเฉี่ยว, สปอยเลอร์หลังดีไซน์สปอร์ต, เบาะนั่งทำจากวัสดุคุณภาพสูง, และพวงมาลัยหุ้มหนังชนิดพิเศษ มีระบบ Keyless Entry และ Keyless Push Start, ชุดสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย, ชุดเชื่อมต่อ USB, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยให้กับ Suzuki SWIFT ทุกรุ่นด้วยถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า, ระบบป้องกันล้อล็อค ABS สี่ล้อ พร้อมระบบกระจายแรงเบรกอิเลคโทรนิกส์ EBD
          นอกจากนี้ ยังมี ‘Suzuki CELERIO ทุกที่คือทางของเรา’ คอมแพ็คคาร์ที่จะเซอร์ไพรส์คุณ! ด้วยความสามารถที่เกินตัว ด้วยเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร ที่ให้ทั้งความแรงและความประหยัด พร้อมความสะดวกสบายเกินคาดด้วยห้องโดยสารกว้างและหลังคาสูง โดนใจคนรุ่นใหม่ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ Suzuki CELERIO ได้สร้างความเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ให้กับพี่น้องชาวไทยทุกภาคทั่วประเทศ กับความแรงและความประหยัดเกินคาด ในกิจกรรมการแข่งขัน ‘Suzuki CELERIO Eco Campion’ เฟ้นหาสุดยอดผู้ใช้งานจริงทั่วประเทศที่สามารถขับประหยัดน้ำมันได้ยอดเยี่ยมที่สุด โดยนายวุฒิชัย อำพันธ์ ล่าสุดเป็นผู้ชนะเลิศในกิจกรรมดังกล่าว และได้รับรางวัลเงินสดมูลค่า 100,000 บาท
          และซูซูกิยังได้จัดแสดงและจำหน่าย ‘Suzuki ERTIGA ทุกเส้นทางอนาคต อยู่ที่คุณนำทาง’ ที่สุดของรถยนต์อเนกประสงค์ 3 แถว 7 ที่นั่งรูปแบบใหม่ ที่สะดวกสบายอย่างมีสไตล์ ด้วยดีไซน์ที่ปราดเปรียวคล่องตัว สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ แข็งแกร่ง และยังคงประสิทธิภาพในการ ขับขี่ที่ดีเยี่ยม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และสุดท้าย ‘Suzuki CARRY รถกระบะอเนกประสงค์แห่งความคุ้ม’ แข็งแกร่ง รองรับการบรรทุกได้เทียบเท่ารถกระบะขนาด 1 ตันโดยทั่วไป เหมาะที่จะเป็นยานพาหนะเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจของคุณ”
          ซูซูกิยังได้สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยการขยายงานบริการแบบเต็มคุณภาพทั้งก่อนและหลังการขาย ตั้งเป้าขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายและโชว์รูมมาตรฐานให้ครบกว่า 100 แห่งเพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการและทดลองขับรถยนต์ซูซูกิครอบคลุมทั่วประเทศ
“สำหรับงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ ซูซูกิพร้อมตอบความต้องการของลูกค้าด้วยรถยนต์ประเภทต่างๆ และรุ่นต่างๆ ที่มีความหลากหลาย เหมาะสมกับทุก Way of Life! และยังได้จัดเตรียมเงื่อนไขสุดพิเศษเกินห้ามใจให้กับผู้ที่สนใจ และซูซูกิมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเคย โดยคาดการณ์ยอดจองรวมอยู่ที่กว่า 1,000 คัน” นายวัลลภสรุป.
          เชิญสัมผัสและทดลองขับรถยนต์คุณภาพทุกรุ่นของซูซูกิ ได้ที่บูธรถยนต์ซูซูกิในงานมอเตอร์โชว์ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษได้ที่บูธซูซูกิได้แล้ววันนี้

          โปรโมชั่นพิเศษช่วงงานมอเตอร์โชว์
          Suzuki Swift ทุกรุ่น รับฟรีประกันภัยชั้น1* พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่า 8,000 บาท และโปรแกรมช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 3 ปี, เงินดาวน์เริ่มต้น 22,100 บาท** วันนี้ถึง 30 เม.ย. 2558
          Suzuki CELERIO รับฟรีประกันภัยชั้น1* พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งสูงสุดมูลค่า 35,000 บาท เฉพาะรุ่น GL และ GLX เท่านั้น, และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
          Suzuki ERTIGA ทุกรุ่น รับฟรีประกันภัยชั้น 1* พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่า 20,000 บาท และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
          Suzuki CARRY ฟรีประกันภัยชั้น 1* พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่ง มูลค่า 15,000 บาท

          หมายเหตุ
          1. เงื่อนไขทุกรุ่นดังกล่าวสำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เท่านั้น
          2. จองและรับรถระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2558
          3. *ฟรีประกันภัยชั้น 1 ปีแรก ไม่รวมพรบ. บุคคลที่ 3 ทุนประกัน 80% ของมูลค่ารถ เฉพาะบริษัทประกันที่ร่วมโครงการ คือ บมจ. วิริยะประกันภัย หรือ บมจ. โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) เท่านั้น
          4. **ดาวน์เริ่มต้น 5% คำนวณจาก Suzuki Swift รุ่น GA MT ราคา 442,000 บาท และเป็นไปตามเงื่อนไขของ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)
          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Suzuki Call Center จากโทรศัพท์พื้นฐาน โทร. 1800-600-900 จากโทรศัพท์เคลื่อนที่ โทร.1401-600-900 และ www.suzuki.co.th
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 07, 2015, 01:11:41 PM
วอลโว่ XC60 T5 และ S60 T5 คว้ารางวัล Car of the Year 2015 ในงานมอเตอร์โชว์

          วอลโว่คว้าสองรางวัลจากงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 36 โดย Volvo XC60 T5 รถครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ ได้รับรางวัล Car of the Year–Best SUV (Petrol) under 2,000 CC และ S60 T5 รถสปอร์ตซีดานพร้อมการขับขี่ที่เร้าใจ ได้รับการยกย่องให้เป็น the Best Sedan under 2,000 CC.

          รถยนต์ทั้งสองรุ่น ติดตั้งระบบเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบใหม่ Drive-E Powertrains ความจุ 2.0 ลิตร ให้พลังสูงสุด 220 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ในช่วงระหว่าง 1,500-4,000 รอบต่อนาที รวมทั้งรองรับน้ำมันเบนซิน 95 แก๊สโซฮอลล์ E10 และ E20


          ในภาพ: นายคณิตพงศ์ นุตสถิตย์ ผู้ช่วยรองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและนางสาวณัฏฐา จิตราคม ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) รับรางวัล Car of the Year จาก นางอรรชกา สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และ นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน CAR & BIKE OF THE YEAR 2015
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 07, 2015, 02:35:15 PM
ภาพข่าว: นิสสัน ในงานมอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 36



           เมื่อเร็วๆนี้ คุณประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย พร้อมด้วย คุณจิระพล รุจิวิพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาด และ คุณสุนทรพันธ์ เดชะเทศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวถึงแนวคิด และไฮไลต์ในการจัดแสดงรถยนต์นิสสันในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลส์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยนิสสันได้นำรถยนต์ครบทุกรุ่นทุกเซกเมนต์ มาจัดแสดง พร้อมข้อเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษ ตลอดจนให้รายละเอียดถึงความมุ่งมั่นของนิสสันในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆและการพัฒนาโชว์รูมและศูนย์บริการ ซึ่งรวมไปถึงการยกระดับทั้งด้านคุณภาพและจำนวนศูนย์บริการให้รองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 08, 2015, 11:48:39 AM
ภาพข่าว: เคทีซีจัดหนักมอบสิทธิพิเศษเต็มพิกัดในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36”



           “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จัด 2 โปรโมชั่นเด็ดเอาใจสมาชิกบัตรขาซิ่ง ในงานมหกรรมรถยนต์ครั้งยิ่งใหญ่ “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36” (The 36th Bangkok International Motor Show) ตั้งแต่วันนี้ – 5 เมษายน 2558 ดังนี้ 1) โปรโมชั่น มินิ ฟรีดอม ทู ฟลาย กับบัตรเครดิตเคทีซี: เมื่อสมาชิกจองรถยนต์มินิ คูเปอร์ กับบริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ จำกัด ผ่านบัตรเครดิตเคทีซี100,000 บาท รับทันทีคะแนนสะสม 140,000 รอยัล ออร์คิด พลัส ไมล์ หรือเทียบเท่ากับการแลกไมล์บัตรโดยสารสายการบินไทยไปกลับกรุงเทพฯ – ลอนดอน จำนวน 2 ที่นั่ง และ 2) รับบริการแบ่งชำระ FLEXI0% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการภายในงาน อาทิ ร้านเครื่องเสียงโซนี่/ เคนวู๊ด/ ไพโอเนียร์/ ร็อคเก็ตซาวด์/ ไดรเวอร์ซาวด์ และร้านบำรุงรักษารถยนต์เมกไกวส์ และซีกเกอร์

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC Phone โทรศัพท์ 0-2665-5000 หรือเว็บไซต์www.ktc.co.th
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 08, 2015, 11:49:41 AM
ภาพข่าว: ยูไนเต็ด มอเตอร์ส เปิดตัว โฟตอน คัมมินส์ เอามาร์ก ซี ในงานมอเตอร์โชว์



          พิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูไนเต็ด มอเตอร์ส จำกัด เปิดตัว รถบรรทุก 6 ล้อ โฟตอน คัมมินส์ รุ่น เอามาร์ค ซี ที่มาพร้ามราคาเพียง 699,000 บาท พร้อมทั้งจัดแสดงรถยนต์เชิงพาณิชย์ โฟตอน คัมมินส์ ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ณ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี เมื่อเร็ว ๆ นี้
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 08, 2015, 12:15:56 PM
ฮอนด้า เปิดประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับภายใต้แนวคิด “Touch The Excitement” พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งยนตรกรรมด้วย 4 รางวัล รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2558 ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36









          คุณพิทักษ์ พฤทธิสาริกร (ที่ 3 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ และคุณสมภพ ปฏิภานธาดา (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และฮอนด้า เลดี้ ร่วมถ่ายภาพกับรถยนต์ไฮไลท์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36

          เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในผู้นำนวัตกรรมยานยนต์และการขับขี่เหนือระดับที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ได้ร่วมจัดแสดงสุดยอดยนตรกรรมมากถึง 14 รุ่น ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ที่อาคาร ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “Touch the Excitement สัมผัสนวัตกรรมการขับขี่เหนือระดับ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว” และคว้า 4 รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2558 (Car of the Year 2015) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของฮอนด้าในการพัฒนายานยนต์ที่มีคุณภาพและสามารถตอบสนองทุกความต้องการในการขับขี่ของลูกค้าทุกกลุ่มในฐานะองค์กรที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นเวลากว่า 50 ปี โดยมี คุณพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ และคุณสมภพ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมงานในครั้งนี้

          สำหรับไฮไลท์สำคัญ คือ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ที่สุดแห่งยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม ซึ่งทุบทุกสถิติด้วยยอดจองกว่า 15,000 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือนหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่ให้การขับเคลื่อนอย่างมีระดับ และฮอนด้า โมบิลิโอ ยนตรกรรมอเนกประสงค์ขนาดซับคอมแพคท์ ที่พร้อมตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนในยุคปัจจุบัน ทั้งนี้ ฮอนด้ายังได้แปลงโฉมเหล่า “ฮอนด้า เลดี้” ให้เป็นสาวลุคมาดมั่นทันสมัยแต่แฝงความงามแบบหญิงไทยในอดีตด้วยชุดร่วมสมัย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากชุดตะเบงมาน ภายใต้แนวคิด "The Part of All” ที่ประยุกต์การออกแบบจากการประกวด Honda LPGA Thai Fashion Design Contest ซึ่งเน้นการตัดเย็บอย่างพิถีพิถันด้วยผ้าสีเงินตลอดทั้งชิ้น รวมถึงมินิคอนเสิร์ตจาก บี้-สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว ที่มาช่วยสร้างสีสันและความสนุกภายในบูธฮอนด้า ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 08, 2015, 03:22:50 PM
Photo Release: Aston Martin Unveils Vanquish and DB9 in Carbon Edition for the First Time in ASEAN

           Aston Martin Bangkok by Mr. Komkrit Nongsawat, General Manager, Heritage Motor Sales and Services (Thailand) Co., Ltd., a subsidiary of MGC-ASIA recently unveiled its Vanquish and DB9 in Carbon Edition for the very first time in ASEAN.

          The event was presided over by Mr. Jaturont Komolmis, the Executive Committee / Chief Operation Officer of Grand Prix International Public Company Limited at the 36th Bangkok International Motor Show 2015.


          In the photo (from left): Mr. Patrik Nilsson, Regional Director - Asia Pacific, Aston Martin Lagonda, Mr. Jaturont Komolmis, the Executive Committee / Chief Operation Officer of Grand Prix International Public Company Limited, Ms. Jerdnapang Thamchuanviriya, Chief Financial Officer, MGC-ASIA, Sririta Jensen, Mr. Komkrit Nongsawat, General Manager, Heritage Motor Sales and Services (Thailand) Co., Ltd., and Dr. Sunhavut Thamchuanviriya, Group Managing Director, MGC-ASIA.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 10, 2015, 03:28:57 PM
คณะผู้จัดงานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 จับรางวัลมอบโชคผู้เข้าชมงาน รวมมูลค่ากว่า 1,700,000 บาท


 
          ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ และประธานกรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร,คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์และกรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ,คุณอโณทัย เอี่ยมลำเนา และคุณพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา กรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันจับรางวัลมอบโชคแก่ผู้ซื้อบัตรเข้าชมงานและตอบแบบสอบถาม ซึ่งจะจับรางวัลมอบโชคเป็นประจำทุกปีในวันสุดท้ายของการจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ท่ามกลางผู้ร่วมชมงาน แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน ที่ร่วมเป็นสักขีพยานใสนการจับรางวัล

          สำหรับการจับรางวัลผู้โชคดีในครั้งนี้ ทางคณะผู้จัดงานฯร่วมกับพันธมิตรทั้งค่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ คัดสรรรางวัลใหญ่ อาทิ รถยนต์ฟอร์ด เฟียสต้า 5 ประตู,จักรยานยนต์คาวาซากิ เคเอสอาร์ โปร,รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สปาร์ค , รถจักรยานยนต์ ซูซูกิ สแมซ และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สไปซี่ รวมมูลค่ากว่า 1,673,000 บาท (หนึ่งล้านหกแสนเจ็ดหมื่นสามพันบาทถ้วน ) โดยมีพิธีจับรางวัลรางวัลแก่ผู้โชคดีท่ามกลางผู้ร่วมชมงาน แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน ที่ร่วมเป็นสักขีพยานในการจับรางวัล เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2558 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

          สรุปรายชื่อผู้โชคดี จากการจับรางวัล มีดังต่อไปนี้
          1.รถยนต์ฟอร์ด เฟียสต้า 5 ประตู จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 754,000 บาท
          ได้แก่ คุณวิจิตร วิริยะส่องแสง จาก กรุงเทพมหานคร
          2. รถยนต์ฟอร์ด เฟียสต้า 5 ประตู จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 754,000 บาท
          ได้แก่ คุณจรุณี สิงหราช จาก กรุงเทพมหานคร
          3. รถจักรยานยนต์ คาวาซากิ เคเอสอาร์ โปร จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 53,900 บาท
          ได้แก่ คุณปริญญา ชูเลิศ จาก จ.สมุทรปราการ
          4. รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สปาร์ค จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 35,500 บาท
          ได้แก่ คุณสุทธิพงษ์ ทองประจุดแก้ว จาก จ.สงขลา
          5. รถจักรยานยนต์ซูซูกิ สแมซ จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 36,500 บาท
          ได้แก่ คุณศิริพร เกษทอง จาก จ.นครราชสีมา
          6. รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สไปซี่ จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 39,100 บาท
          ได้แก่ คุณชันเทพ เทพวุฒิ จาก จ.ชลบุรี
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 10, 2015, 03:30:08 PM
อีกหนึ่งไฮไลท์ของศูนย์กลางที่ดึงดูดทุกความสนใจเข้าสู่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 เอเอเอสฯ เผยโฉมปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 จีทีเอส (911 Carrera 4 GTS) ในงานมอเตอร์โชว์ 2015

          ปอร์เช่ ประเทศไทย โดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เผยโฉมปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 จีทีเอส (911 Carrera 4 GTS) ใหม่อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ณ งานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015

          ปอร์เช่ขยายความเหนือชั้นให้กับรุ่น 911 คาร์เรร่า (Carrera) ด้วยการเสริมทัพรุ่น GTS เพิ่มเติมมาพร้อมกับพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 430 แรงม้า Sport Chrono Package และระบบช่วงล่าง PASM active damper system ที่จะทำการลดระดับของรถได้อีก 10 มิลลิเมตร ส่งผลให้เกิดความสุนทรีย์และความสนุกสนานในการขับขี่มากยิ่งขึ้น รุ่น GTS ออกมาเสริมช่องว่างระหว่างรุ่น 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) ที่มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดที่ 400 แรงม้า (294 กิโลวัตต์) และรุ่นสปอร์ตอย่าง GT3 ที่มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 475 แรงม้า (350 กิโลวัตต์) ได้อย่างลงตัว

          911 CARRERA 4 GTS COUPE มาพร้อมราคาเปิดตัวที่ 18,300,000 บาท

          เกี่ยวกับปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS)
          ปอร์เช่ส่ง 911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) เจเนอเรชั่นที่ 2 เข้าสู่สายการผลิตโดยมีทั้งหมด 4 รุ่น ทั้งคูเป้และคาบริโอเลต (เปิดประทุน) โดยแต่ละรุ่นจะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนล้อหลังและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่เข้ามาเติมเต็มระหว่างรุ่น 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) และรุ่น 911 จีที3 (911 GT3) ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นรถสปอร์ตที่สามารถวิ่งบนท้องถนนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายถึงแม้จุดประสงค์หลักในการผลิตเพื่อใช้ในการแข่งขันบนสนามแข่ง 911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) คือ รถที่เต็มไปด้วยสมรรถนะอันเหนือชั้นผสานกับความคล่องตัว และสร้างความเพลิดเพลินในการขับขี่โดยรถสามารถสร้างพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 430 แรงม้า (316 กิโลวัตต์) มาพร้อมกับ Sport Chrono Package และระบบช่วงล่าง PASM active damper ช่วยลดระดับความสูงของรถได้อีก 10 มิลลิเมตร ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่มากขึ้น ส่งผลให้มีอัตราการเร่งและความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงเหมือนกับ 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) และหากติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ Porsche Doppelkupplungsgetriebe (PDK) อัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ของ 911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) ทำได้ในระยะเวลาเพียง 4.0 วินาทีเท่านั้น (รุ่นคาบริโอเลตทำได้ในระยะเวลา 4.2 วินาที) ความเร็วสูงสุดของรุ่น จีทีเอส (GTS) แต่ละรุ่นมากกว่า 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง; โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 305 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับรุ่นคูเป้ที่มาพร้อมกับระบบเกียร์ธรรมดาและระบบขับเคลื่อนล้อหลัง

          หากมองด้านจุดเด่นที่เพิ่มเข้ามาจะพบว่ารุ่นท็อปใหม่ล่าสุดมีราคาที่น่าดึงดูดใจด้วยจำนวนของอุปกรณ์มาตรฐานที่รวมอยู่ในรถที่ครบครันและคุ้มค่า อาทิเช่น ระบบไฟหน้าแบบไบซีนอน ที่มาพร้อมกับระบบ ไฟเลี้ยว Porsche Dynamic Light System (PDLS) และระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ทำให้เสียงของรุ่นจีทีเอส (GTS) ดุดันและสมบูรณ์แบบ ด้านหน้าโซนคนขับและผู้โดยสารมาพร้อมกับการตกแต่งภายในด้วยวัสดุหนัง Alcantara และส่วนแผงคอนโซลกลางตกแต่งด้วยวัสดุหนัง Alcantara เช่นกัน ซึ่งล้วนเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น จีทีเอส (GTS) จากปอร์เช่นั่นเอง

          ภายนอกของปอร์เช่ 911 ใหม่ล่าสุดจะเหมือนกับรุ่น จีทีเอส (GTS) แต่แตกต่างจากรุ่นคาร์เรร่า (Carrera) ทั่วไป โดยมาพร้อมกับตัวรถของรุ่น 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) ที่มีระยะฐานล้อด้านหลังที่กว้างขึ้น ล้อขนาด 20 นิ้วถูกติดตั้งมาเป็นล้อมาตรฐานพร้อมด้วยดุมล้อสีดำ ส่วนด้านหน้าจะมาพร้อมกับชิ้นส่วนขอบที่มีสีตัดกันได้อย่างลงตัว และไฟหน้าไบซีนอนแบบ smoked bi-xenon headlights ขอบสีดำบนช่องดักอากาศจะทำให้รุ่น จีทีเอส (GTS) มีความโดดเด่นผสานเข้ากับปลายท่อ chrome-plated exhaust tailpipes สีดำได้อย่างลงตัว และนี่คือเอกลักษณ์ของรุ่น จีทีเอส (GTS)
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 10, 2015, 03:31:45 PM
โกโปรร่วมงานมอเตอร์โชว์ แจกกล้องโกโปรรุ่นท็อปทุกวัน








 
          บริษัท เมนทาแกรม จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกล้องโกโปรแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย นำโกโปร กล้องแอคชั่น (Action Camera) ชั้นนำระดับโลกมาให้ผู้รักในความเร็วและผู้มีไลฟสไตล์ไม่หยุดนิ่งได้สัมผัสและทดลองใช้ ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36” (The 36th Bangkok International Motor Show) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2558 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ภายในบูท GoPro ได้สาธิตวิธีการใช้งานกล้อง GoPro รุ่นล่าสุดครบทุกรุ่น ได้แก่ รุ่น Hero4 Black, รุ่น Hero4 Silver และรุ่น Hero รวมไปนำเสนอการใช้งานของอุปกรณ์เสริมที่หลากหลายของ GoPro และยังมีมุมการสาธิตวิธีการตัดต่อวีดีโอโดยโปรแกรม GoPro Studio อีกด้วย นอกจากนี้ ในวันเสาร์-อาทิตย์ มีโชว์พิเศษจาก GoPro ได้แก่ GoPro Dog Show โชว์สุนัขแสนรู้พร้อมสาธิตการใช้งานกล้อง GoPro กับเพื่อนสนิทแสนรัก และ GoPro BMX Show โชว์การขี่จักรยานสุดเร้าใจ พร้อมบันทึกภาพสุดตื่นเต้นด้วยกล้องโกโปร ไม่เพียงเท่านี้ ทาง GoPro ยังแจกกล้อง GoPro รุ่น Hero4 Black รุ่นท็อปล่าสุดของ GoPro มูลค่า 18,500 บาท แจกทุกวัน วันละ 1 เครื่อง จึงสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาร่วมงานอย่างมากมาย ผู้สนใจยังสามารถมาร่วมงานได้ถึงวันที่ 5 เมษายนนี้
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 10, 2015, 03:32:31 PM
ภาพข่าว: โกโปรร่วมงานมอเตอร์โชว์ แจกกล้องโกโปรรุ่นท็อปทุกวัน


 
          นายณัฐพล ปัทมพงศ์ (กลาง)กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมนทาแกรม จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกล้องโกโปรแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมด้วย นายธนรักษ์ ธนันต์มณี (ซ้าย) และนายชนภัฏ จาตุรงคกุล (ขวา) กรรมการบริษัท นำโกโปรกล้องแอคชั่น (Action Camera) ชั้นนำระดับโลกมาให้ผู้รักในความเร็วและผู้มีไลฟสไตล์ไม่หยุดนิ่งได้สัมผัสและทดลองใช้ ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36” พร้อมกิจกรรมสุดเร้าใจเพื่อสาธิตการบันทึกภาพจากกล้องโกโปรและลุ้นรับกล้องโกโปรฟรีทุกวัย
 
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 20, 2015, 11:37:24 AM
ภาพข่าว: ยามาฮ่า คว้ารางวัล Best Design Award 10 ปีซ้อน



          นาง สรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล (ที่ 2 จากขวาแถวหน้า) ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายสื่อสารการตลาด และประชาสัมพันธ์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เป็นตัวแทนรับรางวัล Best Design Award จาก ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา (ที่ 2 จากซ้ายแถวหน้า) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรังค์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยเป็นรางวัลที่ยามาฮ่าได้รับมาอย่างต่อเนื่องถึง 10 ปีซ้อน โดยปีนี้ยามาฮ่าจัดบูธภายใต้แนวคิด Rev Circuit ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ณ ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ
 
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 20, 2015, 11:40:37 AM
ภาพข่าว: แอสตัน มาร์ติน จัดงาน วีไอพี ไนท์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อัลติเมท มาสเตอร์พีช รีเซฟชั่น”



          แอสตัน มาร์ติน โดย คมกริช นงค์สวัสดิ์ และ ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ จัดงาน วีไอพี ไนท์ ในคอนเซ็ปต์ “อัลติเมท มาสเตอร์พีช รีเซฟชั่น” (Ultimate Masterpiece Reception) ณ บูธแอสตัน มาร์ติน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 36 เมื่อเร็วๆ นี้
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 20, 2015, 11:43:45 AM
The 36th Bangkok International Motor Show สร้างเงินสะพัดกว่า 4 หมื่นล้านบาท ยอดจอง 37,027 คัน ผู้เข้าชม 1.7 ล้านคน









          บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36” ประกาศความสำเร็จอย่างสวยหรู สร้างเงินสะพัดกว่า 4 หมื่นล้านบาท จากยอดจองรถยนต์ 37,027 คัน ด้วยเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ทั้งในด้านมูลค่ารวม หรือเทียบมูลค่าต่อหน่วย มีผู้ชมงานกว่า 1.7 ล้านคน ปลุกอุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยไม่มีแรงกระตุ้นจากนโยบายรถคันแรก หรือการเปิดตัว อีโคคาร์รุ่นใหม่ๆ เหมือนในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา นับเป็นความสำเร็จตลอดการจัดงานทั้ง 12 วัน

          ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานจัดงานฯ เผยว่า “งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 จัดขึ้นระหว่าง 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี เป็นความสำเร็จของคนไทยทุกๆ คน ภายในงานมีการจัดแสดงพร้อมจำหน่ายรถยนต์หรือจักรยานยนต์หลายรุ่น ครบทุกเซ็กเมนต์ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เข้าชมงานได้ครอบคลุม”

          “มีการจัดแสดงนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยในคอนเซ็ปต์คาร์ หรือได้รับการติดตั้งในรถรุ่นใหม่พร้อมจำหน่าย ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทำให้ในปีนี้มีผู้เข้าชมงานจำนวนสูงถึง 1.7 ล้านคน นับเป็นตัวเลขใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา จึงเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่า งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ คืองานแสดงยานยนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ของไทย และกลายเป็นไอคอนของอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับโลก”

          ทางด้าน นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ กรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะรองประธานจัดงานฯ เปิดเผยถึงภาพรวมในปีนี้ว่า “งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 มีการเปิดตัวรถยนต์ใหม่หลายรุ่น รวมไปถึงการจัดแสดงนวัตกรรมยานยนต์ที่ทันสมัย มีผู้สนใจเข้าชมตลอดการจัดงาน 12 วัน รวมมากกว่า 1.7 ล้านคน โดยส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน และให้ความสนใจรถยนต์ในระดับราคา 7 แสนบาทขึ้นไป ขณะที่รถยนต์ในกลุ่มราคา 2 ล้านบาท ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน”

          “สำหรับการจัดงานในปีนี้ มียอดจองรถยนต์รวม 37,027 คัน หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยยอดจองรถยนต์ใกล้เคียงกับจำนวนที่ทางผู้จัดได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า แต่ด้วยมูลค่ารวมที่เกิดจากการจองรถเพียงอย่างเดียว มียอดทะลุถึง 4 หมื่นล้านบาท นับเป็นจำนวนที่เกินความคาดหมาย และมีมูลค่าสูงเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้พอสมควร”

          “จากการพิจารณาและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับ ปัจจัยบางส่วนมีสาเหตุมาจากบริษัทรถยนต์ยังไม่มีการเปิดตัว “อีโคคาร์ เฟส 2” ในช่วงนี้ เพราะหลายค่ายต่างรอข้อสรุปที่ชัดเจน ทำให้อีโคคาร์ราคาประมาณ 3-4 แสนบาท ไม่เกิดยอดจำหน่ายขึ้น ผู้บริโภคจึงหันมาให้ความสนใจกับรถยนต์รุ่นที่จำหน่ายราคาตั้งแต่ 7 แสนบาทขึ้นไป รวมไปถึงในรุ่นที่มีระดับราคาประมาณ 2 ล้านบาท ต่างมียอดจำหน่ายมากขึ้น เมื่อนับเฉพาะแค่ยอดจองรถเพียงอย่างเดียว มีมูลค่าเงินสะพัดกว่า 4 หมื่นล้านบาท นับเป็นความสำเร็จในเชิงมูลค่า ไม่ใช่เชิงปริมาณเหมือนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา”

          นายจาตุรนต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความสำเร็จจากการจัดงานในปีนี้ ผมขอขอบคุณคนไทยทุกๆ คน ที่ให้การสนับสนุนงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ด้วยดีเสมอมา และขอขอบคุณบริษัทรถยนต์ ผู้บริหาร พนักงาน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุ่มเทให้กับการทำงานมาโดยตลอด ทุกคนเป็นส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของเราในครั้งนี้”

          สำหรับรถยนต์แบรนด์หลักในตลาด มียอดจองเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้านกลุ่ม “ลักชัวรี่คาร์” มียอดจองเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ในส่วนค่ายรถพรีเมียมแบรนด์ “โรลส์-รอยซ์” หรือกลุ่มซูเปอร์คาร์ เช่น แอสตัน มาร์ติน, เบนท์ลีย์ และลัมบอร์กินี มีผู้บริโภคให้ความสนใจ พร้อมสั่งจองในงานเป็นจำนวนมากเช่นกัน

          สรุปยอดจองรถยนต์ตลอดการจัดงานทั้ง 12 วัน มีจำนวนทั้งหมด 37,027 คัน โดยค่ายที่ครองแชมป์ยอดจองสูงสุด คือ โตโยต้า มียอดจอง 6,144 คัน, ฮอนด้า 5,069 คัน, มาสด้า 4,584 คัน, อีซูซุ 4,485 คัน และนิสสัน 4,042 คัน

          ด้านค่ายจักรยานยนต์ มียอดจองรวมทั้งหมด 1,898 คัน (ไม่นับเคทีเอ็ม) หรือคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท โดยค่ายคาวาซากิ มียอดจอง 370 คัน, ยามาฮ่า มียอดจอง 333 คัน และฮอนด้า มียอดจอง 306 คัน

          ภายหลังเสร็จสิ้นการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ค่าย “กรังด์ปรีซ์กรุ๊ป” ยังมีอีก 1 โปรเจ็กต์ใหญ่รออยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง สำหรับ “มหกรรมยานยนต์นำเข้าและรถมือสอง ครั้งที่ 7” (The 7th Bangkok Imported car & Used car Show) ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมที่กำลังจะถึงนี้
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 21, 2015, 02:42:36 PM
จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ เผย ‘เรนจ์โรเวอร์ อีโวค’ คว้ายอดจำหน่ายสูงสุดของแบรนด์ ในงาน Bangkok International Motor show 2015



          ซิตี้ ออโต้โมบิล ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์แลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ทำยอดขายถล่มทลายกว่า 199 ล้านบาทจากงาน Bangkok International Motor show 2015 ที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึงวันที่ 5 เมษายน 2558 ณ อิมแพคเมืองทองธานี โดยบูธของสองแบรนด์ดังได้ยกขบวนสุดยอดรถสปอร์ต สปอร์ตซีดาน และเอสยูวีสุดหรูที่มาพร้อมนวัตกรรมเพื่อการขับขี่แรงเต็มขั้นหลากหลายรุ่น อาทิ จากัวร์เอฟ – ไทป์ (F-TYPE), จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ (XF), จากัวร์ เอ็กซ์เจ (XJ) รวมไปถึง เรนจ์โรเวอร์ อีโวค (Range Rover Evoque), เรนจ์โรเวอร์ โวค (Range Rover Voque), แลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์ (Land Rover Defender) และ ฟรีแลนเดอร์ (Freelander) โดยรุ่นที่สร้างกระแสฮือฮามากที่สุดในหมู่ผู้เข้าชมงาน คือ เรนจ์โรเวอร์ อีโวค รถเอสยูวีระดับหรูจากอังกฤษ เช่นเดียวกับสุดยอดยานยนต์ที่สมบูรณ์แบบจากจากัวร์ อย่าง จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ สปอร์ตซาลูนสมรรถนะสูง ที่ดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะปรากฏโฉมให้เห็นกันมากยิ่งขึ้นบนท้องถนนในประเทศไทย

          ซิตี้ ออโต้โมบิล ได้มอบข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะลูกค้าที่สั่งจองรถภายในงาน อาทิ การรับประกันตัวถังมาตรฐานนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม. บริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรีตลอด 24 ชั่วโมงนาน 5 ปี และส่วนลด 15% เมื่อซื้อชิ้นส่วนประดับยนต์ของแท้ พร้อมบริการติดตั้งและซ่อมบำรุงโดยช่างผู้ชำนาญงานของ ซิตี้ ออโต้โมบิล ที่ผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐานของจากัวร์แลนด์โรเวอร์ นอกจากนี้ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อผู้จัดจำหน่ายภายในงานเพื่อขอทดสอบสมรรถนะยานยนต์ (สำหรับรุ่นจากัวร์เอฟ-ไทป์ คอนเวอร์ทิเบิล, จากัวร์ เอ็กซ์เจ (XJ), จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ (XF), และ เรนจ์โรเวอร์ อีโวค) โดยเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด ทั้งภายในงาน และหลังจากงาน

          มร.ริชาร์ด เฮก ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด กล่าวว่า “ผมต้องขอขอบคุณทีมงานฝ่ายขายทุกท่านจากตัวแทนจำหน่ายของเรา ที่พยายามปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำรถยนต์จากทั้งสองแบรนด์แก่ผู้ซื้ออย่างดีเยี่ยมในงาน Bangkok International Motor show ครั้งนี้ โดยทุกท่านแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและองค์ความรู้ของบุคคลากรของเราในการต้อนรับลูกค้ารายใหม่เข้าสู่ครอบครัวจากัวร์แลนด์โรเวอร์อย่างอบอุ่น ในงานจัดแสดงยานยนต์ครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นปีที่ยิ่งใหญ่ของเรา โดยบริษัทได้มีแผนที่จะเปิดตัวแฟล็กชิพโชว์รูมและศูนย์บริการที่ทันสมัยครบวงจรบนถนนพระราม 4 เพื่อเป็นการขยายเครือข่ายศูนย์บริการของเราให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันเราบริหารโชว์รูมและศูนย์บริการ 3 แห่ง ได้แก่ เพรสทีจ มอเตอร์ คาร์ส ถนนวิทยุ, จีที คาร์ส ถนนเพชรบุรี และ จีบี ออโต้โมบิลส์ ในจังหวัดภูเก็ต เรายังมีแผนการลงทุนจัดหาอุปกรณ์และเทคโนโลยีและขยายเครือข่ายบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่มีต่อรถยนต์จากัวร์แลนด์โรเวอร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ผ่านการนำเสนอบริการทั้งก่อนและหลังการขายชั้นเลิศระดับเวิลด์คลาสแก่ลูกค้าในประเทศไทย”

          ท่านสามารถค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับยานยนต์และข้อมูลเชิงเทคนิคได้ที่เว็บไซต์ www.landroverthailand.com และwww.jaguarthailand.com
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 21, 2015, 02:43:32 PM
Land Rover Evoque best-seller among award-winning model line-up at 36th Bangkok International Motor show 2015



          City Automobiles, Jaguar Land Rover’s only authorised distributor and service provider in Thailand, bested its sales targets to achieve a total revenue of more than 199 million Baht at this year’s 36th Bangkok International Motor Show 2015, held at Impact Muang Thong Thani from 25th March to 5th April 2015. The dealer showcased its complete line-up of sports cars, sports sedans and luxury SUVs including the Jaguar F-TYPE, Jaguar XF, XJ, Range Rover Evoque, Range Rover, Land Rover Defender and Freelander, with the best-seller Evoque, the superb luxury SUVs found new homes in Thailand following a thoroughly successful motor show outing for the premier British auto maker. Jaguar also sold out its XF models the best - seller, establishing the sports saloon as a genuine alternative to mainstream brands in the Thai market.

          City Automobiles offered special pricing across the board with unique promotions available only during show days. Jaguar Land Rover customers also enjoy a standard 5-year, 150,000km warranty, 5 years roadside assistance, a 15% discount on accessories with free fitting, and excellent after-sales care provided by Jaguar Land Rover’s authorised distributor, City Automobiles. Customers wishing to organise test drives (Jaguar F-TYPE convertible, Jaguar XJ, XF and Range Rover Evoque) could do so directly with JLR sales staff at the show and obviously after the show, by visiting our appointed dealers.

          Richard Haigh, General Manager, City Automobiles Co. Ltd., said, “I would like to express my thanks to our sales team who did a great job during the show days, introducing new customers to these two great British brands and demonstrating their exceptional knowledge and enthusiasm. The motor show kicks off a big year for us, as it brings the launch of City Automobiles’ new flagship showroom and service centre at Rama 4, and so we look forward to growing our network of distributors which includes Prestige Motorcars on Wireless Road, GT Cars on Petchburi Road and GB Automobiles in Phuket. We continue to invest in building our capacity to grow the network further to cater to strong and increasing demand for JLR products in Thailand.”

          Further product and technical information is available at www.landroverthailand.com or at www.jaguarthailand.com.
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 23, 2015, 11:47:06 AM
ภาพข่าว: โรลส์-รอยซ์ โชว์สุดยอดผลงานของบริการบีสโป๊ก ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36



          ดร. สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ (ที่ 5 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลเลียนแนร์ ออโต้ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือมาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด ผู้จําหน่ายอย่างเป็นทางการรายแรกและรายเดียวของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ในประเทศไทย พร้อมด้วยมร.พอล แฮริส (ที่ 5 จากซ้าย) ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด ร่วมเผยโฉมรถยนต์โรลส์-รอยซ์ รุ่นแฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ วอเทอร์สปีด คอลเลคชั่น ซึ่งเป็นการเปิดตัวสู่สายตาสาธารณชนครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2558 โดยมีนายฉัตวิทัย ตันตราภรณ์ (ที่ 4 จากขวา) รองกรรมการผู้จัดการ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก และมร.ไมเคิล ชไนเดอร์ (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัดร่วมงาน
Title: Re: งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015
Post by: MSN on April 23, 2015, 11:50:13 AM
Photo Release: ROLLS-ROYCE SHOWCASES BESPOKE EXPERTISE AT 36TH BANGKOK INTERNATIONAL MOTOR SHOW



          Dr. Sunhavut Thamchuanviriya (5th from right), Managing Director of Millionaire Auto Sales & Services (Thailand) Co., Ltd., the sole authorised dealer of Rolls-Royce Motor Cars in Thailand, together with Mr. Paul Harris (5TH from left), Rolls-Royce Motor Cars’ Regional Director for Asia-Pacific, unveiled the Phantom Drophead Coupé Waterspeed Collection for the first time in Asia Pacific at the 36th Bangkok International Motor Show along with Mr. Chatvithai Tantraporn (4th from right), Deputy Managing Director of Rolls-Royce Motor Cars Bangkok, and Mr. Michael Schneider (4th from left), Rolls-Royce Motor Cars’ General Manager Sales, Asia-Pacific.