Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - noosuu

Pages: 1 2 3 [4]
46
 บังเอิญได้หนังสือเกี่ยวกับสุขภาพมาเล่มนึง (โดยคุณเอมอร ตรีภิญโญยศ ) อ่านแล้วก็รู้สึกอยากแบ่งปัน อาจเป็นประโยชน์บ้างเล็กๆน้อยๆ เราทุกคนมีการดำเนินชีวิตประจำวันที่ไม่แตกต่างกันนัก แต่เราจะทำไงล่ะให้ตัวเรามีสุขภาพดีทั้งร่างกาย และจิตใจ ที่สำคัญต้องห่างไกลจากโรคด้วย ดังนั้นเราต้องเปลี่ยนตัวเอง เพื่อตัวเอง ตามหลักปฏิบัติง่ายๆ ไม่วุ่นวาย เริ่มทำได้ทันที เค้าว่าไว้ตามนี้ค่ะ   

1.  ควรรับประทานอาหารเช้าทุกวัน  เพราะอาหารมื้อเช้าจะช่วยกระตุ้นเมตาบอลิซึมให้เผาผลาญแคลอรี่ตลอดทั้งวัน และยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ทำให้สดชื่น สมองสดใส พร้อมรับมือกับงานได้อย่างสบาย

2.  นอนหลับอย่างน้อยวันละ  7 - 8 ชั่วโมง  เพราะการนอนหลับเพียงพอ จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้น และทำให้เซลล์ต่างๆในร่างกายสร้างตัวได้ดี

3.  รับประทานน้ำมันตับปลา กรดไขมัน โอเมก้า-3  เพราะมีประโยชน์ต่อหัวใจ ช่วยลดคอเลสเตอรอล  หรืออาจจะทานเนื้อปลาที่มีไขมันซัก 3 มื้อต่อสัปดาห์ เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน และปลาซาร์ดีน

4.  ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ  3 ครั้ง ครั้งละ 20 นาที  จะทำให้หัวใจทำงานได้ดี ทำให้ข้อต่อต่างๆเกิดความยืดหยุ่น ลดอาการกระดูกพรุนเมื่อถึงวัยทองได้อีกด้วย

5.  ทำสมาธิ  เป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยลดความเครียด และลดความดันในเลือด เพราะเวลาที่เรากำหนดลมหายใจเข้าลึกๆ จะช่วยให้ออกซิเจนเข้าปอดได้อย่างเต็มที่ ทำให้ความเครียดลดลง และทำให้สมองได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ

6.  หัวเราะวันละนิด  เพราะทุกครั้งที่เราหัวเราะ ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขออกมา ทำให้หายเครียด และลดเรื่องความวิตกกังวลลงได้

7.  รับประทานผัก และ ผลไม้ เป็นประจำ เพราะในผักและผลไม้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถป้องกันโรคมะเร็งได้

8.  ดื่มชาทุกวัน  การดื่มชาทุกวันจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร และลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ด้วย

ก็นับข้อดีได้ 8 ข้อ... แล้วจารอช้าอยู่ใย ... มาเปลี่ยนตัวเอง เพื่อตัวเองกันดีกว่าค่ะ

 
ขอขอบคุณที่มา...
http://baantonrak.multiply.com/

47
        ขั้นตอนที่ 1 รู้จักตนเอง ขั้นตอนแรกนี้เป็นการค้นหาสิ่งที่เป็นอยู่จริงในชีวิตโดยดูจาก "วงล้อชีวิต" ซึ่งตัวเราต้องเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง เริ่มจาก วาดวงกลม 1 วงแล้วลากเส้น 8 เส้นออกไปจากจุดศูนย์กลางให้ได้สัดส่วนเท่าๆกัน (ลักษณะเหมือนการตัดแบ่งขนมเค้ก) กำหนดเส้นแต่ละเส้นนั้นแทนเรื่องต่างๆในชีวิตต่อไปนี้ สุขภาพ เงิน ความสนุก เพื่อนและครอบครัว ความรัก อาชีพ การพัฒนาตนเอง สิ่งแวดล้อมทางจิตใจ จากนั้นก็ให้จุดตำแหน่งความพอใจลงบนเส้นนั้นๆ โดยจุดศูนย์กลางของวงกลมคือ ความพอใจเป็น 0 ค่อยๆไกลออกไปจนถึงเส้นรอบวงซึ่งมีค่าสูงสุดเป็น 10 เมื่อได้ตำแหน่งครบหมดแล้วก็ลากแต่ละจุดต่อเนื่องกัน ทีนี้เราก็จะเห็นว่าชีวิตเรานั้นมีเรื่องใดสมดุลและมีเรื่องใดบ้างที่เราต้องเปลี่ยนแปลง

           ขั้นตอนที่ 2 ค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ เรามักปล่อยให้ชีวิตสร้างอะไรๆขึ้นมาเองแทนที่จะสร้างอะไรๆให้ชีวิต นั่นเป็นเพราะเราไม่ได้นึกถึงสิ่งที่เราต้องการในชีวิตอย่างจริงจัง สิ่งที่ต้องการที่ว่านี้จะเป็นอะไรก็ได้ที่เราชอบหลงใหลและทำมันได้ดี ดีในที่นี้เราไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะปัจจัยต่างๆในชีวิตของแต่ละคนนั้นต่างกัน ในขึ้นตอนนี้เพียงแต่หาสิ่งสิ่งนั้นในตคัวเองให้เจอก่อนก็พอ

           ขั้นตอนที่ 3 กำจัดข้อด้อยในตัวเอง เมื่อรู้ข้อดีในตัวเองแล้วก็ต้องรู้ข้อด้อยและกำจัดมันเสีย ขั้นตอนนี้ยากสักหน่อยเพราะนอกจากจะต้องจริงใจที่จะยอมรับข้อเสียของตัวเองแล้วยังต้องจริงจังที่จะแก้ไขมันด้วย เพื่อให้สัมฤทธิ์ผล แนะนำให้บันทึกลงในไดอารี่เหมือนเป็นโปรเจ๊กต์หนึ่งที่ต้องจัดการให้เสร็จตามกำหนดและเป้าหมายที่วางไว้

           ขั้นตอนที่ 4 ทิ้งความกลัวไว้เบื้องหลัง หลายคนยอมรับว่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะไม่มั่นใจว่าอะไรเกิดขึ้นบ้าง และที่สำคัญรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนต่อสู้อยู่คนเดียวตามลำพัง ขั้นตอนนี้แนะนำให้หากำลังใจสนับสนุน อาจเป็นเพื่อนหรือคนในครอบครัวก็ได้ ทั้งนี้คนคนนั้นจะต้องประสบความสำเร็จในเรื่องที่เรากำลังจะเปลี่ยนแปลง

           ขั้นตอนที่ 5 ลงมือปฎิบัติในสิ่งที่ต้องการ เมื่อรู้แล้วว่าตนเองต้องการอะไรก็ถึงเวลาที่ต้องลงมือทำเสียที เริ่มจากตัดรูปภาพหรือถ้อยคำจากหนังสือที่สื่อถึงสิ่งที่เราต้องการจะเป็นหรือเปลี่ยนแปลง เลือกให้ขนาดใหญ่หน่อยมาติดไว้บนผนังให้เห็นชัดๆ เพื่อย้ำเตือนและเป็นแรงบันดาลใจ จากนั้นหาวันว่างเดือนละ 2-3 วัน เพื่อ ทำในสิ่งที่เป็นเป้าหมายของเรา

           ขั้นตอนที่ 6 บริหารอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดสรรเวลาให้ถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการจะเปลี่ยนชีวิตตัวเองใหม่เพราะต้องมีเวลาที่จะเปลี่ยนแปลง มีกฎเกี่ยวกับการบริหารเวลาในชีวิตอยู่ข้อหนึ่งคือ "กฎ 80-20 " นั่นคือ เวลาร้อยละ 20 ของชีวิตควรให้กับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตตัวเอง อีกรอ้ยละ 80 ให้กับสิ่งที่สำคัญรองๆลงไป กฎนี้จะทำให้เราเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ง่ายขึ้น

           ขั้นตอนที่ 7 เสริมสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดี เมื่อเรารู้จักตัวเองแล้วก็ต้องทำให้คนอื่นรู้จักตัวเราด้วย เสื้อผ้าที่ใส่แล้วรู้สึกไม่มั่นใจก็ทิ้งไป ส่วนการแต่งหน้าทำผม ห้ามขี้เหนียวเด็ดขาด เครื่องสำอางค์ดีๆ ทรงผมที่รับกับใบหน้าจะทำให้เราดูดีและมีเสน่ห์ขึ้น นอกจากนี้อย่าลืมเรื่องบุคลิก ท่าทางการยืนหันหน้าเข้าหาผู้พูดและสบสายตาอย่างเหมาะสมถูกจังหวะจะทำให้เราดูมั่นใจและเป็นกันเองในเวลาเดียวกัน

           ขั้นตอนที่ 8 ชมเชยตัวเอง เมื่อการเปลี่ยนแปลงนั้นสำเร็จ หลังจากเปลี่ยนแปลงตัวเองได้สักระยะ เมื่อได้รับผลตอบรับกลับมาจากคนรอบข้างก็ควรhappyกับมัน แม้จะไม่สำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ถ้าไปไกลได้เกินครึ่งก็น่าจะพอฉลองกันได้ อย่าลืมว่าไม่มีคำชมเชยใดจะมีพลังเท่าตัวเราชมตัวเราเอง เพราะฉะนั้นห้ามลืมชมตัวเองเด็ดขาด

- ขอขอบคุณที่มา
ผู้หญิงนะคะดอทคอม

48
news & activity / CABIN CREW SHOPPING FAIR ครั้งที่ 2
« on: December 23, 2009, 11:34:22 AM »
CABIN CREW SHOPPING FAIR ครั้งที่ 2

ที่มา : www.facebook.com

ไม่ไหวแล้วววว กลุ้มใจมากกก เผลอแป๊บเดียว เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง ล้นตู้ออกมาอีกแล้วคะ โทรไปปรึกษาเพื่อนๆที่อยู่สายการบินอื่นๆ เช่น Thai Airways, Jetstar, Nok Air, Thai Air Asia, JALway, Etihad, Emirate, Qatar, Cathay Pacific, และสายการบินอื่นๆ ก็เป็นเหมือนกันหมด! สามีก็ขู่ว่า ถ้าไม่เคลียร์ให้หมดภายในสิ้นปี จะขอเลิก คุณพี่ก็กลัวคุณพี่จะเป็นปัญหาสังคมค่ะ! ก็เลยนัดกันว่าจะนัดหยุดงานมาขายของเลหลังกันอีก!

แหม แต่ใครจะว่าก็ว่าเหอะ เล่นไปเจอ ของเก๋ๆ แบรนด์เนม ลด 50% บ้าง ลด 70% บ้าง ใครไม่ซื้อ เราก็ขอขนไว้ก่อน เพราะเราจำได้ว่า เดี๋ยวใส่ไม่ได้ ก็เอาไปขายให้กับเพื่อนๆ ได้ที่งาน Cabin Crew Shopping Fair

ใครได้มางานคราวที่แล้ว คงจำบรรยากาศผู้คนล้านแปด ที่แห่กันมาซื้อของกันมากมาย ที่มีตั้งแต่ของทำเอง ของที่ระลึกของสายการบิน เครื่องสำอาง รองเท้า เสื้อผ้าแบรนด์เนม มาขายได้ไงคะตัวละสองสามร้อย กระเป๋า Hi-So เหลือไม่กี่พัน โอ๊ยคุณพี่จะบ้า!! แล้วอีกเยอะแยะ! คราวนี้คุณพี่รับรองได้ ทั้งของที่นำมาขาย และ กิจกรรม ยิ่งใหญ่กว่าคราวที่แล้ว ทั้งร้านค้ากว่า 80 ร้าน และกิจกรรมบนเวทีมากมาย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม ชั้น 7 ที่เดิม! Centerpoint@CentralWorld

แหมๆๆ คุณพี่ไม่ได้ขี้เหนียวหรอกนะคะ รายได้ส่วนหนึ่งของการจัดงานจะนำไปช่วยน้องๆ สร้างบ้านพักให้นักเรียนกำพร้าที่โรงเรียนบนดอยสามสิบ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งปีที่แล้วเราก็ได้ช่วยบ้านครูน้อยเป็นจำนวนเงินหลายหมื่นเชียวนะ ถือว่าคุ้มนะคะ

งานนี้นอกจากจะได้ของดี ราคาถูก ที่อาจจะนำไปเป็นของขวัญให้คนที่คุณรักเท่าฟ้า หรือ เป็นของขวัญให้ตัวเอง ในวันปีใหม่ที่จะมาถึง ยังจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทำบุญอีกด้วย
ยังไงก็เจอกันนะคะ
จากพี่นางฟ้าผู้บ้าคลั่ง!


49
ผ่านไปแล้วค่ะกับ enjoyjam.net meeting ครั้งที่ 5 ด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง มี ขนม ผลไม้ และน้ำ  ที่ทางเว็บจัดไว้ให้ รวมทั้งที่เพื่อนๆ สมาชิก หิ้วกันมาคนละไม้คนละมือ  ทำให้พวกเราอิ่มท้องกันได้ตลอดงาน  

มาเริ่มเข้างานกันเลยดีกว่าคะ  

แฮนด์บิลกองใหญ่มหึมาพวกนี้  เอามาแจกทั้งหมดเลยค่ะ  ไม่รวม Doraemon ข้างหลังนะค่ะ


[/


center]


รับแฮนด์บิลกันไปแล้วเรียบร้อยแล้ว  มาพักเบรกทานขนม ผลไม้กันก่อนเลยค่ะ










อยู่ว่างๆ ก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ




หลังจากอิ่มกันเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มจับของขวัญกันต่อเลยค่ะ

























แจกของกันต่อเลยค่ะ  เสื้อจ๊ะเอ๋   โกยแล้วจ้า  



เสื้อ สามพันโบก  ลายสวยมาก  ตัวหนังสือเป็นเงาๆ  จานเล็กได้ไปซะแล้ว  อดเลยเรา



แจกกันกันพอหอมปากหอมคอ ก็เริ่มมาประมูลของสะสมกัน เงินที่ได้จากการะประมูล จะนำไปจัด meeting ครั้งต่อไป  และนำบางส่วนไปทำบุญ  เดี๋ยวแจ้งรายละเอียดของสถานที่ทำบุญ และวันที่จะไป  ทางเว็บบอร์ดภายหลังนะค่ะ


เริ่มประมูลชุดที่ 1   คุณ beeberry ประมูลไป  230 บาท


ชุดที่ 2 คุณ danjung ประมูลไป  370 บาท


ชุดที่ 3 คุณ nadee ประมูลไป  170 บาท


ชุดที่ 4 คุณ na ประมูลไป  200 บาท


ชุดที่ 5 คุณ teenoi 99  ประมูลไป  310 บาท


ชุดที่ 6 คุณ ultraman v2 ประมูลไป  350 บาท


รวมยอดทั้งสิ้น 1,630 บาทค่ะ  ขอบคุณขอมูลจาก  pooklook ค่ะ
http://entertain.enjoyjam.net/forum/index.php/topic,6677.0.html



เริ่มแจกเสื้อยืดกันต่อเลยค่ะ


ตามด้วย กระเป๋าผ้า…  อ่ะน่ะ  มือใครค่ะ  ยังไม่ให้ง่ายๆ นะค่ะ  ต้องเล่นเกมส์กันก่อน

 

งานจบแล้วคะ  ได้รับของแจกกันไปถ้วนหน้า  ใครไม่ได้มา  ไม่ต้องเสียดายนะค่ะ  คราวหน้าเรายังมีคะ  รอติดตามข่าวสารได้ทางเว็บบอร์ดนะค่ะ  อ่า  ก่อนกลับ  ถ่ายรูปเป็นที่ระทึก เอ้ย !!  ระลึกกันหน่อยค่ะ  อ่ะ แช๊ะ

 


ขอขอบคุณสำหรับ  ขนม ผลไม้ น้ำ , ของที่นำมาแจกเพื่อนสมาชิก , เพื่อนสมาชิกที่ร่วมประมูลของ  และที่สำคัญ เพื่อนๆ สมาชิกทุกคนที่มาร่วมสนุกกันค่ะ

50
<a href="http://www.youtube.com/v/2KIpMrCqO70&amp;hl=en_US&amp;fs=1" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/2KIpMrCqO70&amp;hl=en_US&amp;fs=1</a>


อ่าน เรื่องย่อ Crossing Over  http://entertain.enjoyjam.net/movie.php?id=151

51
<a href="http://www.youtube.com/v/KXwDmArkUtw&amp;hl=en_US&amp;fs=1" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/KXwDmArkUtw&amp;hl=en_US&amp;fs=1</a>

อ่านเรื่องย่อ  ปายอินเลิฟ http://entertain.enjoyjam.net/movie.php?id=162 :'(
   


52
ว่าจะไปซื้อมาม่าตุนไว้หลายๆ ลัง   :-[

53
พอดีอ่านเจอ เลยเอามาฝากเพื่อนๆ ค๊า  :)

สาวๆ ที่มีผิวสีคล้ำส่วนมากมักแอบอิจฉาสาวผิวขาวเป็นธรรมดา เพราะไม่ว่าจะใส่เสื้อผ้าสีอะไร ก็ดูเข้าท่าไปซะหมด ส่วนสาวผิวคล้ำอย่างเรา ขืนใส่เสื้อผ้าสีสด มีหวังโดนล้อว่าอีกาคาบพริกแน่นอน วันนี้เราเลยมีวิธีการเลือกใส่เสื้อผ้าที่เหมาะกับสาวสีผิวต่างๆ มาฝากกันค่ะ. . .

           ผิวอมชมพู
          สีผิวแบบนี้จะส่งผลให้เจ้าของผิวดูเปล่งปลั่งและดูมีสุขภาพดีกว่าสีผิวอื่นๆ ฉะนั้นเสื้อผ้าที่เลือกใส่ควรเลือกเป็นโทนสีอ่อนๆ สดใสๆ อย่างสีฟ้าอมเขียว สีฟ้าอ่อน โกโก้ สีชมพูอ่อน สีส้ม เป็นต้น เพราะโทนสีเหล่านี้จะช่วยทำให้สีผิวของคุณดูเจิดจรัสเกินหน้าคนอื่นๆ เชียวค่ะ

           ผิวขาวอมเหลือง         
          สาวที่มีผิวขาวมากนั้นถือว่าค่อนข้างโชคดีเหมือนสาวผิวอมชมพู เพราะสามารถเลือกโทนสีสดๆ มาส่วมใส่ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีเขียว สีฟ้า สีชมพู เป็นต้น ฉะนั้น อย่าแปลกใจถ้าจะมีใครแอบชำเลืองคุณด้วยความอิจฉา "ผิวพรรณที่ต่างกันจะให้สวมเสื้อผ้าสีเดียวกันแล้วดูสวยงามเหมือนกัน คงเป็นไปไม่ได้ ควรเลือกสีสันเสื้อผ้าให้เหมาะกับสีผิวจะดีกว่าค่ะ"

          ผิวขาวซีด         
          สีผิวที่ขาวจนเกินไปจนแลดูเหมือนสุขภาพไม่แข็งแรงนัก ควรเลือกสีที่มีโทนค่อนข้างเข้ม หรือหม่นสักเล็กน้อยเพื่อขับสีผิวให้ดูเข้มขึ้นเล็กน้อย เช่น สีแดงเข้ม สีเหลืองอมน้ำตาล สีน้ำตาลไหม้ หรือสีเขียวเข้ม เป็นต้น

           ผิวสองสี หรือผิวสีน้ำผึ้ง
          สาวผิวสีนี้ค่อนข้างดูเซ็กซี่มีเสน่ห์อยู่ในตัว การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมจึงควรเลือกเสื้อผ้าที่มีสีค่อนข้างอ่อน โดยเฉพาะสีผสมต่างๆ ที่ดูไม่ร้อนแรงหรือเย็นตาจนเกินไป เช่น สีน้ำตาลอมแดง สีเขียวอมฟ้า สีชมพูอมส้ม สีเลือดนก สีชมพูหม่น เป็นต้น

           ผิวสีคล้ำ ดำ แทน
          ควรเลือกใส่เสื้อผ้าสีโทนกลางๆ ไม่อ่อนจนเกินไปและไม่สดเกินไป หรือเลือกเฉดสีที่ค่อนข้างเข้มก็ดี เช่น สีกรมท่า สีน้ำตาลเข้ม สีฟ้า สีม่วง สีเทา สีเขียวเข้ม เพราะสีเสื้อโทนนี้สามารถทำให้ผิวของคุณดูกลมกลืนกับเสื้อผ้า และยังทำให้คุณดูขาวขึ้นกว่าการใส่เสื้อที่มีสีสันสดๆ ด้วยค่ะ

          ลองเอาเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ดู เพื่อว่าคุณจะได้มั่นใจในตัวเองมากขึ้นเวลาแต่งตัว อีกทั้งยังไม่โดนล้อว่าเป็นสาวจาไมก้าด้วย...

54
เข้าไปแก้ไข Profile และใส่รูป avatar กันนะค่ะ

- ก่อนอื่น login เข้า board ก่อนค่ะ
- แล้วคลิ๊กไปที่เมนู Profile
- ให้ดูเมนูทางด้านซ้าย ดูที่ส่วนของ Modify Profile แล้วคลิ๊กเมนูย่อย  Forum Profile Information
   เลือก Personalized Picture:  ถ้าต้องการใช้รูปที่ enjoyjam board จัดไว้ให้
   เลือก I have my own pic:   ถ้าต้องการเอาลิ้งของรูปมาใส่ อย่าลืมใส่ url ด้วยนะคะ
    เลือก I will upload my own picture: ถ้าต้องการ upload รูปขึ้นไป  อย่าลืม กด browse เลือกรูปด้วนะคะ
- ข้อมูลอื่นๆ ใส่ได้ตามต้องการเลยค่ะ  อ้อ ใส่ Personal Text: ด้วยก้อดีนะค่ะ

enjoy! นะค่ะ  ::)

55
พี่รู้ไหม ดิฉันพึ่งกลับมาจากเวียดนาม ดิฉันพาลูกค้าไปเที่ยวฮานอย ฮาลองมา ที่ฮาลองเราพาลูกค้าลงเรือล่องอ่าวฮาลอง
และที่อ่าวฮาลอง เราโดนพายุ เรือที่เรานั่งอยู่หมุนวน มันคงสนุกสนานเร้าใจมาก หากว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องจำลองที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์
หรือในสวนสนุก แต่ทว่า เรื่องนั้นมันเกิดขึ้นจริง ตัวแสดงจริง ไม่ใช้เทคนิค ไม่มีตัวแสดงแทน และกดรีสตาร์ทเริ่มใหม่ไม่ได้
นาทีนั้น หญิงในวัยสามสิบเอ็ดอย่างดิฉัน บังเกิดความกลัวขึ้นอย่างมหาศาล ในใจคิดวนไปวนมาว่า นี่ตกลงกูจะต้องมาตายที่เวียดนามเนี่ยนะ
ถ้าเรือจมลง หญิงวัยสามสิบเอ็ดที่ว่ายน้ำไม่เป็นอย่างกูจะเอาชีวิตให้รอดอีท่าไหนดี นี่กูจะไม่ได้กลับบ้านแล้วหรอ ทุกอย่างมันจะต้องจบลงที่นี่จริงๆหรอ
ไม่เร็วไปหน่อยหรอ สามสิบเอ็ดเองนะ อาจจะแก่ไปที่จะเดินสยาม แต่ก็สาวไปที่จะต้องมาตายที่อ่าวฮาลองนะ
 
สิ่งที่ทำให้ดิฉันกลัวมาก ก็คือ เพื่อนดิฉันเคยเรือล่มที่นี่ มีคนเสียชีวิตหลายสิบคน แต่เพื่อนดิฉันของเค้าแรงรอดมาได้ แต่ก็รอดมาได้ในสภาพสติสัมปชัญญะขาดวิ่น
สติแตกไปหนึ่งพรรษา วินาทีนั้น ทุกๆสิ่งที่มันเคยเล่าให้ฟังย้อนกลับมาใหม่ แล้วก็คิดว่า เข้าใจแล้ว กูเข้าใจมึงแล้ว กูเข้าไปนั่งกลางใจมึงแล้ว
ขอให้กูรอดแบบมึงนะ
 
เรือเอียงมากเลยพี่ ลมแรงมาก รู้สึกว่าเรือมันหมุน มันเหวี่ยง มันวูบ ลูกค้า 21 คน สายตา 21 คู่หันมามองดิฉันเป็นตาเดียว
ดิฉันอยากจะบอกว่าดิฉันรักทุกคน แต่ดิฉันว่ายน้ำไม่เป็น อยากฝากความหวังที่ฉันจนเกินไป เพราะฉันไม่ได้มีทุกอย่างที่ควรจะเฝ้ารอ
อยากบอกว่าหากคว่ำขึ้นมาจริงๆ ก็ยินดีที่ได้รู้จักนะทุกๆท่าน
 
ลูกน้องไต้ก๋ง เดินลงมาจากดาดฟ้าเรือ ตากฝนเปียกโชกลงมา แลเท่ห์มาก ท่ามกลางพายุพัดโหมกระหน่ำ มีชายฉกรรจ์หนึ่งท่าน เดินทรนงองอาจท่ามกลางสายฝน บุกทะลวงเข้ามาในห้องโดยสารของเรือที่เต็มไปด้วยผู้โดยสารที่ต่างก็นั่งตื่นตระหนก ด้วยไม่รู้ชะตาชีวิตของตนเองที่ถูกฝากไว้ในเอื้อมมือและวิจารณญาณของไต้ก๋งเรือ
ชายผู้นั้นตะโกนโหวกเหวกออกมาเป็นภาษาเวียดนาม "โหมดฮายบาโบ๋นเสา เนิ๊กเดิ่กคง"
ดิฉันฟังแล้วสบถขึ้นมาในใจ เฮ้ นี่มันแปลว่าอะไรกันนี่ มึงไม่ใส่ซับไทยนิดนึงหรอ พระเจ้า ทำไมกูไม่เคยคิดซื้อวีซีดี เวียดนามเรียนได้ง่ายจัง ไว้ศึกษาด้วยตนเองที่บ้าน
มาก่อนเลยวะเนี่ย โอ้ว พลาดมาก
 
แล้วชายผู้นั้นก็วิ่งทะลวงเข้าไปด้านหลังของเรือ หายไปสามสิบแปดวินาที แต่ในการรับรู้ของดิฉันนั้นมันยาวนานเหมือนชาติครึ่ง
ในใจคิดว่าเค้าคงคิดหาวิธีแก้ปัญหาได้แล้ว มองในแง่วิทยาศาสตร์ เค้าอาจจะวิ่งเข้าไปหลังเรือ เดินลงใต้ท้องเรือไปจัดการกับเครื่องยนต์ หรือมองในแง่ไสยศาสตร์ เค้าอาจจะงมลงไปดัดแก้หางเสือเรือให้โค้งวนได้ฮวงจุ้ยที่เป็นมงคลมากกว่าที่เป็นอยู่ แต่สิ่งที่ดิฉันเห็นหลังจากนั้นคือ....
ชายผู้นั้นใช้ตีนบานๆถีบประตูผ่างงง...งงออกมา แล้วโยนสิ่งที่เรียกว่าเสื้อชูชีพสีส้มสดใสสว่างไสวออกมาหนึ่งกองใหญ่
ดิฉันอดไม่ได้ที่จะอุทานในใจ "นี่ มึงกะจะล่มจริงๆเลยใช่ไหม...มึงรู้ไหม กูว่ายน้ำไม่เป็น ไม่ว่าจะกบ จะกรรเชียง จะผีเสื้อ จะตัวห่าอะไรตกน้ำ กูก็ว่ายไม่เป็นทั้งนั้น"
 
โห อะไรวะเนี่ย ทำไมชีวิตกูต้องมาเจออไรแบบนี้วะเนี่ย นี่กูจะไม่ได้กลับบ้านจริงๆหรอ พ่อแม่กูจะตกใจไหมเนี่ย แล้วคนที่กูรักอีกล่ะ ต๊ายตาย ทำใจไม่ได้
สุดแสนเสียใจ เข้าใจแล้วกับความรู้สึกว่าความตายมันใกล้แค่เอื้อมนั้นมันเป็นยังไง ทำใจแล้วว่าคงจะต้องตกน้ำแน่ เย็นนะนั่นน่ำน่ะ ตาย นิ้วเหี่ยวแน่กู
สำรวจกระเป๋าถือ หยิบพาสปอร์ตออกมาใส่กระเป๋ากางเกงไว้ กะว่าถ้ารอด ดิฉันก็จะมีเอกสารเดินทางกลับบ้านได้ หรืออย่างน้อยที่สุดปอเต๊กตึ๊งเวียดก็จะจำแนกได้ว่าอีนี่เป็นใคร
 
คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ คิดถึงบ้าน คิดถึงแฟน คิดถึงเพื่อน คิดถึงเมืองไทย คิดถึงทุกเรื่องในชีวิตที่ผ่านเข้ามา ที่ดำรงอยู่ และก็ถามตัวเองว่านี่มันกำลังจะดับไปจริงๆหรอ
กลัวมากๆพี่ กลัวที่สุดในชีวิต
 
รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้าย เดินไปเขย่าพี่ไกด์ท้องถิ่น พี่ไปบอกกัปตันเลยนะ บอกเลยนะ ประคองไปหาที่หลบด่วน เข้าใจไหมด่วน ไม่เอาแบบนี้ ไม่ล่ม ไม่คว่ำ
กลัวเข้าใจไหม กลัว กลัวมากๆ ดูสีหน้า ดูแววตานี่ กลัวมากๆ กัปตันเป็นคนแถวนี้ไม่ใช่หรอ รู้จักที่หลบไหม ไปหาด่วน
ดูลูกค้านะ นั่งขี้ราดกันทั้งลำแล้ว
 
พี่ แล้วเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตก็มาถึง เราเจอผืนน้ำที่อยู่ท่ามกลางวงล้อมของภูเขาหินปูน เราเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในวงล้อมนั้นทัน ผืนน้ำบริเวณนั้นเรียบมาก เรียบเหมือนหน้าอกกระเทยหัวโปก เป็นความเรียบที่สวยงามที่สุดเท่าที่เคยเห็น นาทีนั้นรู้เลยว่าชีวิตมีค่า ขอบคุณพระเจ้าที่ยังไม่รีบเอาหนูกลับไป
รู้เลยพี่ว่าชีวิตมันสวยงาม เวลาที่เราเซ็งกร่อย เวลาที่เรารู้สึกว่าชีวิตเราเส็งเคร็งเกินรับไหว รู้สึกว่าอยากหายไปจากโลกใบนี้ เมื่อมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้
มาเถิดมาเลย ความซวย ความเส็งเคร็ง ความเห่ย มาเถิด ได้โปรดมาเถิด ขออย่างเดียว ขอแค่ให้กูมีชีวิตได้อยู่เซ็งต่อ กร่อยต่อ ขอแค่นี้เอง

Pages: 1 2 3 [4]