Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - news

Pages: 1 2 3 [4] 5 6 ... 330
46
LINE เผยยอดการใช้งาน LINE VDO Call พุ่งสูงขึ้นกว่า 400% รับปีใหม่พร้อม LINE Meeting อีกฟีเจอร์มาแรง สอดรับการ Work from Home
 
การใช้งาน LINE Group VDO Call

LINE ประเทศไทย ตอกย้ำตำแหน่งแชตแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งของคนไทย เผยยอดการใช้งานฟีเจอร์ฮิต LINE VDO Call และ LINE Meeting เพิ่มสูงขึ้นกว่า 400% และ 480% ตามลำดับ ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2564 เป็นต้นมา สอดรับไลฟ์สไตล์การรับมือการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่และวีถีการ Work from Home ของคนไทย ให้อยู่บ้านและทำงานได้อย่างสะดวกมีประสิทธิภาพ พร้อมยังสามารถสื่อสารและส่งความห่วงใยให้คนใกล้ชิดและครอบครัวได้ตลอดเวลา

จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จากปีที่แล้ว ทำให้คนไทยปรับตัว หันมาใช้เครื่องมือออนไลน์ในการทำงานและการสื่อสารกันอย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นเครื่องมือที่ใช้กันเป็นประจำไปแล้ว ซึ่งเมื่อการระบาดระลอกใหม่ในช่วงเปิดปี 2564 เป็นต้นมา ก็ทำให้ผู้ใช้งานไลน์กลับมานิยมใช้ฟีเจอร์ Group VDO Call และ LINE Meeting ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน เพื่อติดต่อสื่อสารเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ทำให้ยอดผู้ใช้ Group VDO Call ก็มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 400% ขณะที่ฟีเจอร์ LINE Meeting เป็นฟีเจอร์ประชุมกันได้โดยไม่ต้องเป็นเพื่อนบน LINE ซึ่งเปิดตัวได้ไม่นานก็มาแรง มีผู้ใช้เพิ่มสูงขึ้น 480% (เปรียบเทียบวันที่ 5 ม.ค. กับ วันที่ 3 ม.ค.) สะท้อนถึงความนิยมของแพลตฟอร์มและฟีเจอร์ที่สามารถตอบสนองการใช้ชีวิตและการสื่อสารทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานของแอปพลิเคชัน LINE ได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกใจผู้ใช้งาน ทั้งนี้การใช้งานส่วนใหญ่เป็นการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก โดยมีฟิลเตอร์ที่ผู้ใช้นิยมสูงสุดได้แก่ ฟิลเตอร์ Youth และแอฟเฟคยอดนิยมสูงสุดคือ Christmas                       


สำหรับ LINE Meeting เป็นเครื่องมือที่ใช้ง่าย กดเพียงไม่กี่ปุ่มก็สามารถสร้างลิงค์เชิญประชุม แชร์ให้เพื่อน และกดเข้าร่วมได้เลยทันที โดยไม่ต้องสร้างห้องสนทนาหรือเชิญเข้ากลุ่มแชต พร้อมภาพแบคกราวด์และฟีลเตอร์ตกแต่งใบหน้าตัวเองให้มีสีสัน ทั้งยังสามารถใช้ได้ทั้งบนโทรศัพท์และและคอมพิวเตอร์ 

การใช้งาน LINE Meeting

ไม่ว่าจะ Work From Home หรือ Stay at Home ก็ใช้สามารถใช้ LINE Meeting ในชีวิตประจำวันได้เช่นกัน

•   สร้างลิงก์ URL ไว้เชิญเพื่อนเข้าร่วมประชุมได้รวดเร็วทันใจ คลิกลิงก์เดียวก็เข้าประชุมได้ทันที
•   สามารถย่อหน้าจอระหว่างประชุมผ่านมือถือ เพื่อมาตอบแชท หรือพิมพ์ในห้องแชทเฉพาะกิจสำหรับประชุมนั้น โดยระบบจะสร้างห้องแชทชั่วคราวขึ้นมาโดยอัตโนมัติ และห้องแชทดังกล่าวจะหายไปเมื่อประชุมเสร็จสิ้น
•   จะประชุมงานก็ดี จะปาร์ตี้กันผ่านวิดีโอคอล LINE ก็ยังได้ รองรับการใช้งานได้ทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์* โดยสามารถเข้าร่วมได้มากสุดถึง 500 คน
•   สามารถเลือกลบคนออกจากประชุมได้ ให้การประชุมปลอดภัย ไม่มีใครรบกวนหรือทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม
•   พร้อมฟังก์ชั่นอื่นๆ อีกหลากหลาย ให้การประชุมของคุณลื่นไหล อยากคุยอะไรก็ง่าย ไม่สะดุด ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่น ‘Watch Together’ ไว้แชร์หน้าจอ หรือดูวิดีโอยูทูปร่วมกันได้ระหว่างประชุม พร้อมเอฟเฟกต์ ฟิลเตอร์ต่างๆ* ให้เลือกใช้จุใจ ดูพรีวิวก่อนเข้าประชุมได้ไม่ต้องกลัว รวมถึงพื้นหลังทั้งแบบสำเร็จรูป และแบบตกแต่งเองได้ตามใจชอบ เช่น เบลอพื้นหลังสำหรับการประชุมผ่านมือถือจากนอกสถานที่ เป็นต้น

LINE ได้กลายเป็นเหมือนปัจจัย 5 ในการใช้ชีวิตของคนไทย ด้วยการเป็นช่องทางสำคัญทำให้การใช้ชีวิตในยุค New Normal ง่ายและสะดวกขึ้น ลดช่องว่างและเชื่อมโยงคนไทยให้เข้าถึงข้อมูล บริการต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา ทำให้ LINE กลายเป็นแพลตฟอร์มที่เข้าใจคนไทย เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการดำเนินชีวิต (Life Infrastructure) ที่จะตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ที่ต้องเปลี่ยนไปของคนไทยได้อย่างแท้จริง

47
LINE STICKERS จัดงาน LINE Creators Connect Day 2020 ยกระดับครีเอเตอร์ไทยก้าวสู่ธุรกิจมืออาชีพ เผยจำนวนครีเอเตอร์หน้าใหม่ปี 2020 พุ่งสูงขึ้น 31% รวมจำนวนครีเอเตอร์ปัจจุบัน 680,000 คน

LINE ประเทศไทย โดย LINE STICKERS จัดงาน LINE Creators Connect Day 2020 รวมตัวเหล่าครีเอเตอร์ดาวเด่นร่วมแบ่งปันเคล็ดลับการวาดสติกเกอร์ให้ขายดี พร้อมมุ่งสนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจให้ครีเอเตอร์ หน้าใหม่พัฒนาฝีมือ ยกระดับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สติกเกอร์ไทยสู่ระดับโลก ในงานมีครีเอเตอร์นักออกแบบสติกเกอร์แถวหน้าของไทยและครีเอเตอร์มือใหม่เข้าร่วมงานกันอย่างคึกคัก



นางสาวอิสรี ดำรงพิทักษ์กุล หัวหน้าธุรกิจ LINE STICKERS - LINE ประเทศไทย กล่าวว่า “ในปี 2563 นี้มีผู้ใช้งานสมัครเข้าเป็นครีเอเตอร์ LINE STICKERS ถึง 680,000 คน เพิ่มขึ้นถึง 31% จากปีก่อนหน้า โดยในปีนี้มีการสร้างสรรค์สติกเกอร์ถึง 4 ล้านชุด และมียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นถึง 18% ตัวเลขความสำเร็จนี้ สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยสนใจจะเป็นครีเอเตอร์เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันครีเอเตอร์เหล่านั้นก็ได้สร้างสรรค์ผลงานเป็นที่ถูกใจผู้ใช้งาน LINE อีกด้วย สำหรับในปี 2564 LINE STICKERS มีแผนที่จะเชื่อมโยงกับหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ Creative Economy Agency (Public Organization) เป็นต้น เพื่อที่จะส่งเสริมอาชีพครีเอเตอร์ให้ไปได้ไกลกว่าเดิม โดยเน้นการยกระดับให้เป็นศิลปินมืออาชีพอีกแขนงหนึ่งที่ได้รับการยอมรับ น่าภูมิใจ มีรายได้ และสามารถต่อยอดลายเส้น คาแรคเตอร์ หรือตัวการ์ตูนไปสู่ธุรกิจสินค้าอื่นๆ ได้ นอกจากนั้น เราจะมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพให้กับครีเอเตอร์ตลอดทั้งปี จัดแคมเปญพิเศษทั้งแบบธีมและเทศกาล เพื่อเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ได้ร่วมโปรโมท เพิ่มการมองเห็น ขยายฐานผู้ติดตามของแต่ละคนให้มากขึ้น” 





ภายในงาน LINE ประเทศไทย ยังได้เปิดเผยเทรนด์การออกแบบสติกเกอร์ประจำปี 2020 ซึ่งมีความโดดเด่นจากปีก่อนๆ อาจเนื่องมาจากสถานการณ์ COVID-19 ที่เป็นประเด็นให้เหล่าครีเอเตอร์ได้หยิบยกเข้ามาสอดแทรกในผลงานตลอดครึ่งปีแรก ในขณะที่ไตรมาส 3 เราจะเห็นเทรนด์ออกแบบลายเส้นที่เป็นแนวมินิมอล โทนสีพาสเทล และไตรมาส 4 เป็นเทรนด์สติกเกอร์รูปผู้หญิงลายเส้นเสมือนจริง และตัวอักษรขนาดใหญ่ นอกจากนี้ในงานยังมีการจัดสัมมนาแบ่งปันความรู้ โดยได้รับเกียรติจาก นางสาว กมลกานต์ โกศลกาญจน์ Trend Researcher จาก สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) (CEA) ร่วมบรรยายเรื่อง “เทรนด์ 2021 คำสำคัญแห่งปีและเทรนด์ที่ครีเอเตอร์ควรรู้” และครีเอเตอร์เจ้าของผลงานชื่อดังอย่าง ดึ๊บ ดึ๊บ และ หมาจ๋า ร่วมแบ่งปันเคล็ดลับการสร้างสรรค์ไอเดียสดใหม่ และการต่อยอดผลงานไปสู่ธุรกิจ Intellectual Property

โดย ซัน-อภิชาต ธีรวิทยานิพนธ์ ครีเอเตอร์เจ้าของคาแรคเตอร์ ดึ๊บ ดึ๊บ คาแรคเตอร์ขาวดำพร้อมคำพูดและท่าทางสุดกวน ได้แบ่งปันวิธีคิดเพื่อการสร้างสรรค์สติกเกอร์ให้ประสบความสำเร็จว่า “สิ่งสำคัญที่สุดในผลงาน คือ ต้องมีเอกลักษณ์และคุณค่าในตัวเอง เพื่อที่จะทำให้คนรักในตัวการ์ตูนที่เราสร้างขึ้น และสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่สามารถทำให้เกิดไวรัลได้ เกิดการส่งต่อกัน นอกจากนั้นการเป็นครีเอเตอร์ของ LINE STICKERS มีโอกาสดีกว่าแพลตฟอร์มอื่นมาก เพราะเข้าถึงคนไทยกว่า 47 ล้านคน และยังผู้ใช้งานในต่างประเทศอีก นอกจากนั้น ยังได้รับการสนับสนุนจาก LINE ในการจับมือกับแบรนด์ เป็นครีเอเตอร์ให้กับแบรนด์ชั้นนำอีกด้วย”

ด้าน นัด-ณัฐวีร์ ลิมปนิลชาติ ครีเอเตอร์เจ้าของคาแรคเตอร์หมาจ๋า หรือ Dogplease คาแรคเตอร์ขวัญใจคนรักสุนัข เพิ่มเติมว่า “นอกจากการสร้างสรรค์สติกเกอร์ให้สวยงามถูกใจผู้ใช้แล้ว การทำการตลาดให้กับสติกเกอร์ก็เป็นเรื่องสำคัญมาก ต้องมีช่องทางให้ผู้ใช้ได้เห็นสติกเกอร์ของเราในหลายช่องทาง เปรียบเหมือนกับต้องมีหน้าร้านหลายๆ ร้าน ทั้งบนแพลตฟอร์ม LINE เอง และบนแพลตฟอร์ม Social media อื่นๆ อีกทั้งเอกลักษณ์และคุณภาพของงานก็มีความสำคัญ ซึ่งถ้าเรารักษาคุณภาพไว้ได้ แบรนด์ใหญ่ๆ ก็จะเล็งเห็นโอกาสที่จะทำงานร่วมกับเรา”   

อีกความพิเศษในงาน LINE Creators Connect Day 2020 ได้แก่พิธีมอบรางวัลต่างๆ ให้กับครีเอเตอร์ที่มีผลงานโดดเด่น เพื่อเป็นกำลังใจให้เหล่าครีเอเตอร์สร้างสรรค์ผลงานคุณภาพ อาทิ

-   รางวัล S-Rank ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ครีเอเตอร์ที่ทำยอดขายได้ดีในตลาด Official Stickers และได้รับความนิยมในการใช้สติกเกอร์จากผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง โดยผู้ที่ได้รับรางวัลได้แก่ หัวกลมดุ๊กดิ๊ก (Circle Dukdik) สติกเกอร์ขาวดำสไตล์จิกกัด และ ดึ๊บ ดึ๊บ (Dueb Dueb) สติกเกอร์ขาวดำสไตล์กวน

-   รางวัล Super Star รางวัลสำหรับครีเอเตอร์ที่สร้างผลงานที่มีคุณภาพในตลาดอย่างต่อเนื่อง และได้รับความนิยมในตลาด LINE Creators Market ตลอดปี 2017-2019 ได้แก่
o   หมีหงุดหงิด
o   ว๊อตตะ ปั๊ก หมาปั๊กสุดกวน
o   สำราญแมน คาแรคเตอร์ผู้ชายสไตล์เกรียนๆ
o   ตัวกลม
o   หมีขอสุดขี้อ้อน

และ ยังมีการมอบโล่และเงินรางวัลให้กับ 10 ผู้ชนะการประกวด LINE STICKERS Contest 2020 การประกวดสติกเกอร์ปีที่ 6 ภายใต้หัวข้อ "เล่นใหญ่ให้มากกว่าเดิม!" รวมมูลค่ากว่า 700,000 บาท




และทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของกิจกรรมและแผนทางธุรกิจที่ LINE ประเทศไทย เตรียมไว้ให้กับ LINE STICKERS ครีเอเตอร์ทุกระดับ สะท้อนวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพและผลักดันครีเอเตอร์คนไทยให้ไปสู่ระดับมืออาชีพอย่างแท้จริง ส่วนปี 2021 จะมีกิจกรรมดีๆ อะไรบ้าง โปรดติดตาม

ผู้สนใจเป็นครีเอเตอร์ LINE STICKERS สามารถอ่านรายละเอียด และส่งผลงานเข้ามาได้ที่
creator.line.me

48

LINE จับมือ ร้านค้าออนไลน์ ปล่อยแคมเปญ “กักตัว แต่ไม่ กักยอด” กระตุ้นยอดขายด้วย MyShop ผ่าน 10 เพจดัง


LINE ประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญเร่งด่วน “กักตัว แต่ไม่ กักยอด” ช่วยผู้ประกอบการเดินหน้าต่อในสถานการณ์โควิด 19 ระบาดรอบใหม่ ด้วยกลยุทธ์การสร้างร้านค้าให้เป็นที่รู้จักผ่าน 10 เพจดัง อาทิ ปันโปร เซลเฮียร์, รู้ยัง และเพจชั้นนําอีกมากมาย ทั้งยังมอบส่วนลดค่าจัดส่งสินค้าเมื่อใช้บริการ ShipPop พร้อมส่งผู้ช่วยพิเศษช่วยร้านค้าในการเปิดบัญชี LINE OA และฟีเจอร์ MyShop เพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ฟรี

นายเลอทัด ศุภดิลก หัวหน้าหัวหน้าฝ่ายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย
กล่าวว่า “LINE ตระหนักถึงสถานการณ์ยากลำบากที่ผู้ประกอบการต่างๆ ต้องเผชิญมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่โควิด-19 แพร่ระบาดในปีที่ผ่านมา และอาจจะกำลังมีระลอกใหม่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้ลูกค้าไม่สามารถไปที่หน้าร้านได้ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ LINE ในฐานะแพลตฟอร์มออนไลน์หลักที่สามารถเข้าถึงคนไทยมากกว่า 47 ล้านคนจึงออกแคมเปญ “กักตัว แต่ไม่ กักยอด” เพื่อสนับสนุนให้เกิดการค้าขายทำธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยแคมเปญนี้จะเน้นการสร้างการรับรู้ให้แก่ทั้งร้านค้าเก่าและใหม่เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผ่าน 10 เพจดัง ได้แก่ Sale Here, ปันโปร, ชอปช้อป, Eventpass, Promotion 2U, ลดราคาบอกด้วย, ติดโปร, รู้ยัง, ชี้เป้าโปรถูก, โปรจ้า รวมไปถึงการมอบส่วนลดค่าจัดส่งสินค้าเมื่อใช้บริการผ่านระบบ SHIPPOP รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท

นอกจากนั้น LINE ยังมองเห็นถึงอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการยังไม่สามารถปรับตัวมาสู่ช่องทางออนไลน์ได้ นั่นคือ ความรู้ในการเปิดร้านค้าออนไลน์ LINE จึงได้จัดทีมผู้ช่วยพิเศษให้แก่ผู้ประกอบการที่ยังไม่มีร้านออนไลน์ เพื่อช่วยในการเปิดบัญชี LINE OA และฟีเจอร์ MyShop ได้ฟรีไม่มีค่าบริการ ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาต้นทุนด้านการตลาดให้กับร้านค้าออนไลน์ที่เพิ่งเริ่มต้น และเพิ่มโอกาสให้ร้านค้าเป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว สามารถสร้างยอดขายเติบโตได้ต่อไปในทุกสถานการณ์”

ร้านค้าที่สนใจสามารถสมัครใช้บริการ MyShop ที่ https://linemyshop.com จากนั้นลงทะเบียนผ่าน BCRM Form และมีการซื้อขายขั้นตํ่า 1 ออเดอร์ ตั้งแต่ 4 มกราคม - 10 กุมภาพันธ์ 2563 ก็สามารถร่วมแคมเปญเพื่อลุ้นรับสิทธิพิเศษได้ทันที

49
ภาพข่าวประชาสัมพันธ์: เนทติเซนท์ จับมือ “หัวเว่ย คลาวด์” เปิดตัว netizen.cloud ยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลสำหรับ SAP ERP ที่ดีที่สุด เจ้าแรกในประเทศไทย
 


นายกฤษดา สาธุกิจชัย Founder บริษัท เนทติเซนท์ จำกัด พร้อมด้วย นางสาวปิยะธิดา อิทธิระวิวงศ์ ประธานกรรมการ ธุรกิจคลาวด์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) และนายเสรี สาธุกิจชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท เนทติเซนท์ จำกัดจำกัด ร่วมลงนาม พร้อมเปิดตัวโซลูชัน netizen.cloud คลาวด์ที่ดีที่สุดเจ้าแรกในประเทศไทย “ที่คุณเชื่อมั่น และสัมผัสได้” บริการโซลูชันคลาวด์สำหรับองค์กรที่ใช้ซอฟต์แวร์ SAP ERP เพื่อนำไปสู่การเป็น Digital Enterprise ขับเคลื่อนอนาคตธุรกิจไทย โดยมี นายดิษฐพงษ์ แซ่จัง, นายสุรศักดิ์ วนิชเวทย์พิบูลย์ ร่วมงาน ณ อาคารที-วัน สุขุมวิท 40 เมื่อเร็วนี้

50
LINE โชว์แกร่ง นำคนไทยปรับตัวสู้ COVID เปิดบทสรุปเส้นทางความสําเร็จ ส่งท้ายปี 63 ยกระดับชีวิตคนไทย เป็นแพลตฟอร์มที่ใช่ ในยุค New Normal อย่างแท้จริง

LINE ประเทศไทย เปิดเผยความสำเร็จการพัฒนาแพลตฟอร์มในปี 63 มุ่งสนับสนุนคนไทยปรับตัวในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และการดำเนินธุรกิจ พร้อมข้อมูลการใช้งานในฐานะแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งครองใจคนไทย 47 ล้านคน ตอกย้ำจุดยืน Life Infrastructure ที่นำเสนอบริการหลากหลาย พร้อมเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ New Normal Lifestyle

ช่วยคนไทยสื่อสารดี ทํางานได้ ขายของง่ายบนโลกดิจิทัล





จากช่วงปี 63 ที่ผ่านมา เผยให้เห็นว่า LINE เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทยอย่างแท้จริง คนไทยนิยมใช้ LINE ทั้งกับชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ที่มักใช้ LINE สำหรับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวประจำวันเท่านั้น พฤติกรรมนี้ทำให้ตัวเลขการใช้งาน LINE Call, LINE Group Call และ การใช้งาน LINE บนคอมพิวเตอร์ สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักในช่วงไตรมาส 2 ของปี และเมื่อมีการล็อคดาวน์ นำมาซึ่งพฤติกรรมการทำงานที่บ้าน (Work From Home) LINE จึงได้พัฒนาและปล่อยฟีเจอร์ LINE Meeting ที่ช่วยอํานวยความสะดวกในการประชุมผ่าน LINE ขึ้นในเดือนก.ย. จนกลายเป็นที่นิยมด้วยจํานวนประชุมที่สร้างผ่าน LINE Meeting ในไทยมากถึง 22 ล้านครั้งภายใน 3 เดือนหลังเปิดให้บริกาฟีเจอร์นี้ นับเป็นยอดการใช้งานที่สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก

ในส่วน LINE สำหรับธุรกิจ LINE ได้กลายเป็นช่องทางสำคัญในการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ให้กับคนไทย โดยมีการใช้งาน LINE Official Account เพิ่มขึ้นสูงกลายเป็น 4 ล้านบัญชี ในเดือนพ.ค. และมีจำนวนร้านค้าที่ใช้งานเครื่องมือ My Shop เพื่อเปิดร้านบน LINE Official Account เพิ่มขึ้นถึง 48% ต่อเดือน ส่งผลต่อจำนวนผู้ใช้งาน นักช้อปที่เข้ามาเยี่ยมชมร้านค้าออนไลน์ที่สร้างผ่านเครื่องมือ MyShop นี้รวมมากกว่า 9 ล้านคนภายในเวลาหนึ่งปี

ในขณะเดียวกัน หน้าไทม์ไลน์ในแอปฯ LINE ก็ได้กลายเป็นแหล่งโซเชียลแห่งใหม่สำหรับคนไทยในการสร้างและส่องคอนเทนต์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยพบยอดการดูคอนเทนต์บนสตอรี่ในหน้าไทม์ไลน์ที่มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาถึง 27%  (เปรียบเทียบธ.ค. 63 กับ ธ.ค. 62) รวมถึงส่งผลให้โฆษณาในหน้าแชท หรือที่เรียกว่า Smart Channel กลายเป็นโฆษณาทําเลทองบนแพลตฟอร์ม LINE สําหรับนักการตลาด ด้วยยอดการเติบโตรายปี YoY ของรายได้จากโฆษณาในตำแหน่งนี้สูงถึง 512%

ด้วยเป้าหมายในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ คนทำธุรกิจในไทยไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ ให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ แม้เผชิญวิกฤตครั้งใหญ่แห่งปี LINE ประเทศไทย จึงมีการจัดสัมมนา ให้ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องดิจิทัล ซึ่งเป็นทางรอดของผู้ประกอบการไทย ในรูปแบบออนไลน์ให้กับองค์กรและคนทําธุรกิจอย่างต่อเนื่องมากมาย ไม่ว่าจะเป็น LIVE LINE for Business ในช่วงเดือนเมษายน และการเผยเทรนด์โซลูชั่นครั้งใหญ่ ทางรอดธุรกิจไทยหลังวิกฤตในงาน LINE Thailand Business 2020 เดือนตุลาคมที่ผ่านมา รวมไปถึงรายการพูดคุยถึงเทรนด์ เคล็ดลับการทำธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับ SME ไทยอย่าง SME Biz Talk ที่จัดขึ้นอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน ที่แต่ละงานล้วนได้รับการตอบรับอย่างดี ด้วยยอดการรับชมหลักแสนแทบทั้งสิ้น


คอนเทนต์คุณภาพโดนใจ เสริมไลฟ์สไตล์คนไทยยุค New Normal



ในด้านของคอนเทนต์ LINE TV ได้ส่งออกคอนเทนต์ขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ 28 ประเทศทั่วโลก โดยเป็น LINE TV Original Content หรือคอนเทนต์ที่สร้างโดย LINE TV เองถึง 22 คอนเทนต์ พร้อมประกาศศักดาคุณภาพซีรีส์ไทย เดินหน้าเข้าชิงรางวัลทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตลอดปี อาทิ ซีรีส์ “Mother เรียกฉันว่า...แม่” ที่ร่วมเข้าชิงรางวัลรวมกว่า 7 สาขาบนเวที Asian Television Awards 2020 เมื่อช่วงต้นปี ยิ่งไปกว่านั้น LINE TV ยังเป็นแพลตฟอร์มสำคัญปลุกกระแสคอนเทนต์ซีรี่ย์วาย หรือ BoyLove จนฮอตฮิตขึ้นมาด้วยยอดผู้เข้าชมคอนเทนต์รวมทะลุ 19 ล้านคนบน LINE TV ในปี 63

สำหรับ LINE Today ก็ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ในช่วงล็อกดาวน์ต้นปี ยอดการเข้าอ่านคอนเทนต์บน LINE TODAY เพิ่มขึ้นถึง 24.5% (เปรียบเทียบม.ค. 63 และ มี.ค. 63) โดยเฉพาะคอนเทนต์สายไลฟ์สไตล์ เพิ่ม 34% และสายบันเทิงเพิ่ม 11% สื่อให้เห็นความนิยมของคอนเทนต์สำหรับคนไทยในอีกแง่มุมหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงดังกล่าวนอกเหนือจากคอนเทนต์พิเศษอัปเดตสถานการณ์โควิด-19 และคอนเทนต์ประเมินอาการ ที่เป็นคอนเทนต์ติดอันดับคนอ่านมากที่สุดในช่วงเวลานั้น  นอกจากนี้ LINE TODAY ยังได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ ปรับโฉมหน้าตาการใช้งานใหม่ในช่วงกลางปี ส่งผลให้ยอดการอ่านต่อวันเพิ่มขึ้นถึง 36% อีกด้วย

อีกหนึ่งบริการที่ถือว่าได้รับความนิยมและเป็นจุดเด่น สร้างสีสันให้กับการใช้ LINE เพื่อการสื่อสารไปไม่น้อยในปีนี้คือ LINE Melody บริการเสียงเรียกเข้า เสียงรอสายเมื่อโทรผ่าน LINE โดยในปีนี้ ได้มีการเพิ่มจำนวนเพลงเป็นเท่าตัว ขยายฐานเพลงให้หลากหลาย ครอบคลุมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เพลงแนวลูกทุ่ง อินดี้ เคป๊อบ เป็นต้น และยังมีการพัฒนาฟีเจอร์ต่อยอด เช่น การเปิดฟังก์ชั่นส่งเพลงจาก LINE MELODY เป็นของขวัญวันเกิดผ่าน LINE ได้ ส่งผลให้มียอดผู้ซื้อเติบโตถึง 187% (เปรียบเทียบธ.ค. 62 และธ.ค. 63)

นอกจากนี้ LINE WEBTOON แพลตฟอร์มการ์ตูนออนไลน์ฟรียอดนิยมจาก LINE ก็ประสบความสำเร็จ สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ ส่งสองการ์ตูนยอดฮิตอย่าง ‘ความลับของนางฟ้า’ และ ‘ Sweet Home’ สร้างเป็นละครซี่รี่ส์ออนไลน์บนแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง Viu Thailand และ Netflix และได้รับกระแสตอบรับบนโซเชียลอย่างล้นหลาม ถือเป็นการขยายฐานผู้อ่านการ์ตูนดิจิทัลผ่านละครซีรี่ส์ครั้งใหญ่ และเป็นเครื่องการันตีคุณภาพการ์ตูนบนแพลตฟอร์มได้เป็นอย่างดี

พัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย ชิม ช้อป ใช้จ่ายอะไรก็ง่าย สบายกว่าที่คิด



ความเคลื่อนไหวด้านธุรกิจครั้งใหญ่แห่งปี 63 นี้คงหนีไม่พ้นการประกาศควบรวมกิจการระหว่าง LINE MAN กับ Wongnai ในช่วงกลางปี ถือเป็นการเดินหน้าขยายขอบเขตให้บริการครั้งใหญ่ของ LINE MAN ตอบโจทย์การเป็นผู้ช่วยในชีวิตประจําวันผู้ใช้ให้ครบวงจรและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จนปัจจุบัน LINE MAN Wongnai ได้ขยายพื้นที่ให้บริการครอบคลุมถึง 36 จังหวัดทั่วไทย ด้วยอัตราการเติบโตของจำนวนออเดอร์สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 5 เท่าภายในปีเดียว

ในด้านของระบบการเงิน การช้อป การใช้จ่ายของคนไทย LINE ยังคงให้ความสำคัญ เดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย ให้ชิม ช้อป ใช้จ่ายอะไรก็ง่าย สบายกว่าที่คิด ด้วยการปรับเปลี่ยนหน้าตาการใช้งานหน้า Home และหน้า Wallet ในแอปฯ LINE ครั้งใหญ่ในช่วงเดือนก.ค. ให้ผู้ใช้เข้าถึงบริการต่างๆ ด้านไลฟ์สไตล์ได้รวดเร็วขึ้นในหน้า Home และเข้ามาช้อป ใช้จ่าย ชำระเงินได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้นในหน้า Wallet รวมไปถึงการพัฒนาปรับปรุงระบบและขยายฐานพาร์ทเนอร์มาอย่างต่อเนื่องมาตลอดของ Rabbit LINE Pay แพลตฟอร์มการชำระเงินบนมือถือบนหน้า Wallet ในแอปฯ LINE ที่ทำให้ยอดผู้ใช้งานปัจจุบันของ Rabbit LINE Pay ทะยานเพิ่มขึ้นเป็น 8 ล้านราย พร้อมร้านค้าที่รองรับระบบถึง 3 แสนร้านทั่วประเทศ

อีกหนึ่งไฮไลท์ในปีนี้ คือการเปิดตัว LINE BK โซเชียลแบงกิ้งเต็มรูปแบบแห่งแรกของไทยเมื่อเดือน ต.ค. ความร่วมมือครั้งใหญ่ระหว่าง LINE (ลงทุนผ่านบริษัท ไลน์ ไฟแนนเชียล เอเชีย) และธนาคารกสิกรไทย (ลงทุนผ่านบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด หรือ เควิชั่น) ที่ผสานความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลแบงกิ้งของธนาคารกสิกรไทย เข้ากับพลังของดิจิทัลแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง LINE ที่มีผู้ใช้มากกว่า 47 ล้านคน โดยหลังเปิดให้บริการเพียง 2 เดือน มียอดผู้ใช้บริการทะลุเกิน 1 ล้านราย เดินหน้าสู่เป้าหมายขึ้นเป็น 1 ใน 5 บริการชั้นนำด้านธุรกิจการให้บริการสินเชื่อภายในระยะเวลา 5 ปี

ในปี 2564 LINE จะยังคงมุ่งมั่นสร้างความสุขให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่อง และพร้อมเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในไลฟ์สไตล์ของคนไทย ให้มีความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะด้วยบริการที่มีอยู่เดิม บริการต่อยอดที่สร้างความหลากหลายและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น รวมถึงบริการใหม่ๆ อีกมากมายที่จะมาสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้กับคนไทยและธุรกิจต่างๆ ของไทยต่อไปอีกมากมาย

#LINEThailand #LifeONLINE #LINEInfographic

51

กลุ่มทรู รับใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ย่าน 700 MHz พร้อมเพิ่มสัญญาณ 5G ใช้งานได้ทันที ย้ำผู้นำเครือข่ายอัจฉริยะที่ดีกว่า เร็วแรงกว่า รายแรกและรายเดียวที่ครบสุดทุกย่านความถี่ พร้อมสร้างโครงข่าย 5G ที่ดีที่สุดในไทย



สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ โดย พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร (ที่4จากขวา) ประธานคณะกรรมการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กสทช. มอบใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ให้แก่ บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด โดยมี นายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ (ที่4จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) พร้อมคณะผู้บริหารกลุ่มทรู ร่วมรับมอบใบอนุญาตฯ โดย ทรู 5G จะดำเนินการเพิ่มสัญญาณบริการ 5G บนคลื่นความถี่ 700 MHz ให้ลูกค้าใช้งานได้ทันทีในพื้นที่ที่ กสทช. ได้ปรับปรุงสัญญาณทีวีดิจิทัลเพื่อใช้ในงานด้านโทรคมนาคมแล้ว ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ และพร้อมเพิ่มสัญญาณให้ครอบคลุมทั่วประเทศทันทีที่ กสทช. ดำเนินการปรับปรุงสัญญาณทีวีดิจิทัลเพื่อใช้ในงานด้านโทรคมนาคมแล้วเสร็จครบทุกภูมิภาค ตอกย้ำผู้นำเครือข่ายอัจฉริยะที่ดีกว่า เร็วแรงกว่า รายแรกและรายเดียวที่ครบสุดทุกย่านความถี่ พร้อมสร้างโครงข่าย 5G ที่ดีที่สุดในไทย

เครือข่ายอัจฉริยะ ทรู 5G พร้อมมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่า เร็วแรงกว่า ด้วยความแข็งแกร่งและครบครันทั้งในด้านเครือข่ายรายแรกและรายเดียวที่มีคลื่นความถี่ครบที่สุดทุกย่านความถี่ พร้อมความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในประเทศและระดับโลกอย่างไชน่าโมบายล์ และความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลครบวงจรของกลุ่มทรู ทั้งดิจิทัลโซลูชันและเทคโนโลยีอัจฉริยะ อาทิ Smart IoT, Robotics, Cloud, AI และ Data Analytics โดย ทรู 5G จะนำคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz ที่ได้รับใบอนุญาตในครั้งนี้ รวมทั้งคลื่นความถี่ย่านอื่นๆ ที่มีหลากหลายและครบที่สุดถึง 7 ย่านความถี่ มาออกแบบโครงข่ายให้ครอบคลุมและตอบโจทย์การสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดของลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มีพฤติกรรมการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งคลื่นย่านความถี่ต่ำทั้งย่าน 700 MHz, 850 MHz และ 900 MHz จะเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการทั้งในด้านความครอบคลุมพื้นที่กว้างไกลและการทะลุทะลวงเข้าถึงภายในอาคารสูง ทั้งยังสามารถนำมาใช้เติมเต็มและเสริมกับคลื่นย่านความถี่กลาง โดยเฉพาะคลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz ที่ให้บริการ ทรู 5G อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องความจุ (Capacity) ในการรองรับปริมาณการใช้งานที่หนาแน่น เหมาะกับการให้บริการในพื้นที่ชุมชนหรือเมืองใหญ่ ทำให้เครือข่ายทรู 5G ตอบโจทย์ทั้งความครอบคลุมและสามารถส่งมอบประสบการณ์การใช้งาน 5G ที่เร็วแรงและดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ขณะที่คลื่นความถี่สูงย่าน 26 GHz จะให้บริการในพื้นที่ที่มีความต้องการโดยเฉพาะ เช่น พื้นที่อุตสาหกรรม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ทั้งด้านคุณภาพ ต้นทุน และประหยัดเวลาได้เป็นอย่างดี ทำให้ทรู 5G เป็นเครือข่ายที่ดีที่สุด พร้อมที่สุดที่จะร่วมพลิกโฉมประเทศไทย และสร้างอัจฉริยภาพสู่โลกใหม่ที่ยั่งยืนไปด้วยกัน

52
ลองกิ โซลาร์ (LONGi Solar) ครองตำแหน่งโซลาร์เซลล์แบรนด์แรก ที่ส่งมอบโมดูลผลิตไฟฟ้าเกิน 20 กิกะวัตต์ในปี 2563


กรุงเทพฯ 22 ธันวาคม 2563 – ลองกิ (LONGi) สร้างสถิติใหม่ในการเป็นโซลาร์เซลล์แบรนด์แรกของปี พ.ศ. 2563 ที่สามารถส่งมอบโมดูลผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้มากกว่า 20 กิกะวัตต์ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2543 ลองกิให้ความสำคัญกับการเกาะติดแนวโน้มของตลาดและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์และระบบโมดูลผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และคุณภาพระดับสูง เพื่อมอบบริการที่คุ้มค่าคุ้มราคาให้แก่ผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง


การให้ความสำคัญกับผู้บริโภค
ลองกิได้จัดทำระบบบริหารงานแบบรวมศูนย์ทั่วโลก เพื่อรับมือกับข้อร้องเรียนของผู้บริโภค มาตรฐานบริการ การตรวจสอบคุณภาพ และขั้นตอนการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าทุก ๆ ปัญหาจะได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที


ด้วยแผ่นชิปคุณภาพสูง เซลล์แสงอาทิตย์แบบ Passivated Emitter and Rear Cells (PERC) ประสิทธิภาพเยี่ยม และการปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเข้มงวดในเรื่องวัสดุผลิตโมดูลและขั้นตอนการทำงาน ทำให้โมดูลของลองกิมอบประสิทธิภาพการทำงานที่ดีเยี่ยม ทั้งในการทดสอบความน่าเชื่อถือโดยองค์กรภายนอก การประเมินพลังงานที่ได้จากเซลล์ และการใช้งานจริงของลูกค้า ลองกิยังทำงานร่วมกับ B&V, TÜV SÜD, TÜV Rheinland, RETC และสถาบันอื่น ๆ ในการก่อสร้างโครงการนำร่องระดับโลก เพื่อการประเมินประสิทธิภาพการปล่อยพลังงานจากโมดูลของบริษัท

โดยในการจัดอันดับ PV Tech Bankability ลองกิถือเป็นแบรนด์โซลาร์เซลล์เพียงแบรนด์เดียวที่เป็นซัพพลายเออร์โมดูลโซลาร์เซลล์ได้คะแนนระดับทริปเปิ้ลเอ (AAA) ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 ในปี พ.ศ. 2563 อันเป็นผลจากการปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งของบริษัท เพื่อมุ่งสู่การเป็นซัพพลายเออร์ที่สามารถส่งมอบโมดูลโซลาร์เซลล์ไปทั่วโลกได้ครบ 20 กิกะวัตต์


คำมั่นสัญญาแห่งการสรรค์สร้างนวัตกรรม 
ด้วยคำมั่นสัญญาแห่งการค้นคว้าและพัฒนาและการคิดค้นนวัตกรรม ทำให้ลองกิมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในฐานะซัพพลายเออร์โมดูลโซลาร์เซลล์ประสิทธิภาพสูงที่น่าเชื่อถือ (ทั้งโมดูลรุ่น Hi-MO 1 ถึง Hi-MO 5) ด้วยการประหยัดต้นทุนทั้งในส่วนต้นทุนเฉลี่ยตลอดอายุการผลิตไฟฟ้า (Levelized Cost of Energy: LCOE) และอุปกรณ์ควบคุมระบบโดยรวม (Balance-of-System: BOS) ผนวกกับการปล่อยพลังงานในระดับสูง ทำให้โมดูลของลองกิได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางทั่วโลก

โซลาร์เซลล์แบบ Bifacial Module รุ่น Hi-MO 5 ของลองกิซึ่งใช้เซลล์แบบ M10 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ได้มีการเปิดตัวทั่วโลกในปีนี้และถูกจัดส่งแก่บรรดานักลงทุนในธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม การนำเสนอผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ ๆ ของบริษัทแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาในการส่งมอบมูลค่าแก่ลูกค้าทั่วโลกผ่านการนำเสนอนวัตกรรมที่ล้ำสมัยอย่างต่อเนื่อง

ลองกิเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2560 ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์โมดูลโซลาร์เซลล์แบบโมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอน ซึ่งภายในปี 2563 นี้ โมดูลโมโนคริสตัลไลน์ของลองกิจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้ารวมได้มากกว่า 30 กิกะวัตต์ บริษัทยังทำงานร่วมกับองค์กรพาณิชย์และหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่งในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในเมืองไทย ซึ่งรวมถึงโครงการหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ 20 กิโลวัตต์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโครงการหลังคาโรงงานพลังงานแสงอาทิตย์ 1 เมกะวัตต์ที่จังหวัดราชบุรี


มร.เดนนิส ชี รองประธานกรรมการอาวุโส ลองกิ โซลาร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่พัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์เนื่องจากได้รับแสงอาทิตย์อย่างมหาศาล โดยเราต้องการนำเสนอเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์แบบโมโนคริสตัลไลน์เข้าสู่ประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น โดยในช่วงทศวรรษข้างหน้า เราต้องการเป็นซัพพลายเออร์แผงโซลาร์เซลล์แบบโมโนคริสตัลไลน์อันดับหนึ่งของประเทศ”

53


การเที่ยวคนเดียวจะไม่ใช่ปัญหาของคุณอีกต่อไป ด้วย GoProHERO9 Black เพื่อนซี้คนใหม่สำหรับทริปส่งท้ายปีในสไตล์ #MOREEVERYTHING







GoPro: Introducing HERO9 Black — More Everything
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=xYX6b1-9Coo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=xYX6b1-9Coo</a>

กรุงเทพฯ 18 ธันวาคม 2020 – เซ็งไหมเวลาที่เพื่อนนัดไปเที่ยวทีไรแล้วก็มาเททุกที? ต่อจากนี้ไปไม่ว่าใครจะเท คุณก็จะไม่กลัว เพราะ GoProHERO9 Black จะเป็นเพื่อนร่วมเดินทางสุดพิเศษคนใหม่ของคุณด้วยลูกเล่นและฟังค์ชั่นที่จะทำให้คุณได้ภาพและวีดีโอในแบบที่ไม่เหมือนใคร ทีนี้ถึงเวลาเก็บกระเป๋าเดินทางของคุณและออกเดินทางไปเก็บภาพสวยๆให้เพื่อนคุณได้อิจฉากันเลย!

นอกจากการไปเที่ยวแบบไม่ต้องง้อใครแล้ว คุณอาจจะได้พบเจอกันเส้นทางชีวิตใหม่ๆ แบบที่คุณชอบเช่นการถ่ายคลิปวีดีโอหรือ Vlog สำหรับลงในโซเชียลมีเดียส่วนตัวของคุณ ด้วย GoProHERO9 Black กับจอแสดงผลด้านหน้าขนาด 1.4 นิ้ว สะดวกสบายสำหรับการเซลฟี่ แถมยังถ่ายวีดีโอได้คมชัดสุดถึง 5K และภาพนิ่งที่ 20 ล้านพิกเซล เชื่อได้เลยว่าภาพและวีดีโอทั้งหมดที่ถูกถ่ายออกมานั้น จะสะกดตาทุกๆคนที่ได้เห็น รวมไปถึงเพื่อนตัวดีที่เทคุณในทริปนี้อีกด้วย!

ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบความสมบูรณ์แบบ รู้สึกว่าการถ่ายภาพ 20 ล้านพิกเซลยังไม่โดนใจ GoProHERO9 Black มีโหมด SuperPhoto ที่จะช่วยปรับสภาพแวดล้อม รอบตัวคุณทั้งเรื่องแสงและสีของภาพให้ออกมาเป็นภาพที่เพอร์เฟคที่สุดในช่วงเวลานั้น การไปเที่ยวคนเดียวอาจจะมีอีกหนึ่งข้อให้คุณอารมณ์เสียคือการพลาดช็อตสำคัญที่มันอาจจะเกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิตคุณ แต่ถ้าหากคุณพกเจ้า GoProHERO9 Black ติดตัวไปด้วย จะไม่มีคำว่าเสียดายจังหลุดออกจากปากคุณอย่างแน่นอน เพราะโหมด Hindsight คือฟีเจอร์ที่จะช่วยเก็บภาพวีดีโอ 30 วินาทีก่อนหน้าที่คุณจะกดบันทึก ทำให้คุณจะไม่มีทางพลาดช็อตสำคัญนั้นๆอย่างแน่นอน นอกจากเรื่องลูกเล่นหรือฟีเจอร์ใหม่ๆแล้ว GoProHERO9 Black ก็ยังเพิ่มขนาดแบตเตอรี่ขึ้นอีก 30% ทำให้คุณสามารถสนุกไปกับกล้องตัวจิ๋วตัวนี้ต่อไปได้อีกนาน!

ไม่หมดเพียงแค่นี้ แม้กระทั่งคุณจะต้องรีบวิ่งไปเก็บภาพพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน GoProHERO9 Black ก็มีฟังค์ชั่นรองรับเรื่องของการสั่นไหวของวีดีโอที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมและขึ้นชื่อในกล้อง GoPro ที่เรียกว่า Hypersmooth 3.0 ยิ่งไปกว่านั้นกล้องตัวนี้มันยังสามารถปรับระดับตามเส้นขอบฟ้า หรือ Horizon Levelling ที่จะช่วยให้วีดีโอของคุณไม่เอนเอียงขณะกำลังวิ่งไปเก็บภาพพระอาทิตย์ตกดินอีกด้วย

ถ้าฟังค์ชั่นพวกนี้ยังเจ๋งไม่พอ เรามีอีกหนึ่งลูกเล่นไม้ตายจาก GoProHERO9 Black นั่นก็คือ TimeWarp 3.0 ฟีเจอร์ที่จะช่วยเพิ่มและลดความเร็วA person swimming in a pool of water

วีดีโอของคุณ ให้ดูสนุกและน่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ทำให้คุณสามารถลดระยะเวลาในการถ่ายวีดีโอจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส แถมในความเร็วปกติฟังค์ชั่นนี้ก็ยังสามารถเก็บเสียงระหว่างถ่ายได้อีกด้วย

ความดีเด่นของเจ้ากล้อง GoProHERO9 Black ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ถ้าในเมื่อ Free diving และ Surfing เป็นกิจกรรมสุดฮิตของเหล่าวัยรุ่นในประเทศไทยแล้ว คุณจะยอมพลาดการเก็บภาพเท่ห์ๆไว้อวดเพื่อนๆของคุณได้อย่างไร? ในเมื่อคุณมี GoProHERO9 Black อยู่ในมือแล้ว เพราะเจ้ากล้อง Action Camera ตัวจิ๋วนี้สามารถกันน้ำได้ถึง 10 เมตรแบบไม่ต้องใส่เคสกันน้ำ และยังสามารถกันน้ำได้สูงสุดที่ 60 เมตรถ้าหากมีเคสกันน้ำ ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลเลย ไม่ว่าจะขึ้นเขา หรือ ลงทะเล GoProHERO9 Black ก็พร้อมที่จะฝ่าฟันไปกับคุณทุกที่ และทุกสถานการณ์!

พบกับโปรโมชันสุดแรงส่งท้ายปีจาก GoPro

1. ซื้อ GoPro MAX ราคาพิเศษเพียง 15,000 บาท จากปกติ 17,000 บาท

2. ซื้อ HERO9 Black สุดคุ้มเพียง 15,999 บาท

3. แท่นชาร์จ Dual battery charger และแบตเตอรี่สำหรับ GoPro HERO7,8 ลดพิเศษสูงสุดทันที 50% หรือจนกว่าสินค้าจะหมด (โปรโมชันพิเศษเฉพาะซื้อใน GoPro Official Store)

ซื้อทันทีผ่าน Official Store http://bit.ly/GoProFlagshipStore หรือสามารถตรวจสอบรายชื่อตัวแทนจำหน่ายได้ที่  http://bit.ly/GoProFlagshipStore

เกี่ยวกับ GoPro
GoPro ช่วยให้คนทั่วโลกได้เฉลิมฉลองและแบ่งปันเรื่องราวในมุมที่ลึกซึ้งขึ้น และน่าตื่นเต้นมากขึ้น GoPro, HERO, Quik, QuikStories และโลโก้ของบริษัท คือเครื่องหมายการค้า หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ GoPro, Inc. ในสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ สำหรับเครื่องหมายอื่นๆ ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทเจ้าของนั้นๆ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.gopro.com ผู้ใช้ GoPro สามารถส่งภาพนิ่ง ไฟล์วิดีโอแบบ raw และวิดีโอที่ตัดต่อแล้วไปที่ GoPro Awards เพื่อลุ้นรับรางวัล social stoke, GoPro gear และเงินรางวัล โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gopro.com/awards นอกจากนี้ คุณยังสามารถติดตาม GoPro ได้ทาง Facebook, Instagram, LinkedIn, TikTok, Twitter, YouTube, และ บล๊อก The Inside Line ของ GoPro

วีดีโอผลิตภัณฑ์GoPro HERO9 Black: https://www.youtube.com/watch?v=xYX6b1-9Coo&ab_channel=GoPro

54

“DGA เดินหน้าออกบูธนิทรรศการในโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนจังหวัดนครสวรรค์”










นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ "หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 ณ อบต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ในการนี้ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) หรือ DGA โดย นายชรินทร์ ธีรจิตยางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ได้เข้าร่วมในงานดังกล่าว เพื่อเปิดประสบการณ์บริการดิจิทัลภาครัฐที่เข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย และลดภาระ ให้กับประชาชนชาวนครสวรรค์ โดยทาง DGA ได้นำบริการภาครัฐไปแนะนำประชาชน ทั้งสิ้น 3 บริการ คือ “ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ หรือ Government Smart Kiosk” ซึ่งเป็นช่องทางเพื่อการเข้าถึงข้อมูลและบริการ ภาครัฐ แบบครบวงจร ในรูปแบบดิจิทัล ด้วยบัตรประจำตัวประชาชน สามารถตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น สิทธิประกันสุขภาพ, สิทธิประกันสังคม, การตรวจสอบเงินสะสม (กรณีชราภาพ), เช็คเครดิตบูโรสรุปอย่างย่อได้ ง่าย สะดวก รวดเร็ว มีระบบการรักษาความปลอดภัยสูง สามารถใช้บริการได้อย่างมั่นใจ ปัจจุบันมีจุดติดตั้งครอบคลุมในทุกภูมิภาคทั่วประเทศทั้งหมด 119 จุด สำหรับพี่น้องชาวนครสวรรค์สามารถใช้บริการได้ที่ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์

DGA ยังได้แนะนำให้ประชาชนรู้จักแอปพลิเคชั่น CITIZENinfo (ซิติเซ่นอินโฟ) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่น ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงจุดให้บริการภาครัฐ ทราบงานบริการ และจัดเตรียมเอกสารล่วงหน้าในการเข้าใช้บริการ ตลอดจนช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และลดเวลาในการทำธุรกรรมกับหน่วยงานภาครัฐได้ ปัจจุบัน แอปพลิเคชัน CITIZENinfo มีข้อมูล จุดให้บริการประชาชน และบริการของหน่วยงานภาครัฐมากกว่า 80,000 จุดบริการ โดยสามารถดาวน์โหลด ได้แล้วผ่าน App Store และ Google Play   

นอกจากนี้ยังได้นำบริการ Biz Portal (บิซ พอร์ทัล) ศูนย์กลางบริการภาครัฐ เพื่อภาคธุรกิจ มิติใหม่ของการติดต่อราชการเพื่อเริ่มต้นธุรกิจแบบครบวงจรผ่านเว็บไซต์ bizportal.go.th เพื่ออำนวยความสะดวกในการยกระดับผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ง่าย และรวดเร็วมากขึ้น ง่ายครบ จบที่เดียว ไม่ต้องวิ่งไปติดต่อหลายหน่วยงาน

“โดยทาง สพร.ได้มีมาตรการทางด้านสาธารณสุข ในการเว้นระยะห่างทางสังคม (Special Distancing) และได้มีบริการฉีดสเปรย์และแอลกอฮอล์ ให้ประชาชนก่อนทดลองใช้บริการ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมงานและพนักงานในบริเวณการจัดงาน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาลของรัฐบาล”

สำหรับ DGA เป็นหน่วยงานในการกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายและมอบอำนาจให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย) เป็นผู้กำกับดูแล และมีภารกิจในการเป็นหน่วยงานกลางของระบบรัฐบาลดิจิทัล ทำหน้าที่ให้บริการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานอื่นเกี่ยวกับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลให้สามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือในการบริการงานภาครัฐและการจัดทำบริการสาธารณะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน ทั้งนี้ประชาชนสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dga.or.th

55

เชิญชวนผู้ประกอบการส่งผลงานเข้าประกวดผลิตภัณฑ์พลาสติก Thailand Plastic 4th Awards 2020 ชิงรางวัลชนะเลิศ เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดในเวที “ASEAN Plastics Awards 2022”

กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกไทย และสถาบันพลาสติก ขอเชิญชวนผู้ประกอบการไทยส่งผลงานประกวดผลิตภัณฑ์พลาสติกอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ปีที่ 4 ภายใต้แนวคิด The New Normal Life โดยประเภทกลุ่มผู้ประกอบการ สามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ตามหัวข้อ ดังนี้   

• บรรจุภัณฑ์ใช้บรรจุอาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage Packaging)
• บรรจุภัณฑ์ไม่ได้ใช้บรรจุอาหารและเครื่องดื่ม (Non-Food and Beverage Packaging)
• ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และการขนส่ง (E-commerce and Logistic)
• ผลิตภัณฑ์ใช้ในชีวิตประจำวัน (Lifestyle Product)
• ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical and Healthcare)
• ผลิตภัณฑ์ภาคอุตสาหกรรม (Construction / Industrial)
• ผลิตภัณฑ์เพื่อการศึกษา เสริมพัฒนาการ (Toy, Stationery & Education)

โดยประเภทกลุ่มผู้ประกอบการ สามารถส่งชิ้นงานได้ 7 หมวดประเภท โล่รางวัล Gold Awards, โล่รางวัล Silver Awards, โล่รางวัล Bronze Awards และรางวัลชมเชย(ถ้ามี)

ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ Gold Awards จะได้สิทธิ์เป็นตัวแทนประเทศไทยส่งผลงานเข้าประกวด “ASEAN Plastics Awards 2022”

• โดยสามารถสมัครส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2564
• ประกาศผลการคัดเลือกผู้เข้ารอบ: 8-12 กุมภาพันธ์ 2564
• ส่งผลงานจริงภายในวันที่ 31 มีนาคม 2564
• ประกาศรางวัล ณ โรงแรม S 31 วันที่2 เมษายน 2546   

ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ https://forms.gle/e9bL1QJAJjjsYyMz9 (มีค่าใช้จ่ายในการสมัคร 1,500 บาทต่อ 1 ชิ้นผลงาน) หรือสอบถามรายละอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประสานงานกลุ่มฯ พลาสติก คุณเกษราภรณ์ โทร. 02-345-1006

56

นิตยสาร Business+ จัดงานสัมมนา “Digital SMEs in New Normal Era” เผยเคล็ดลับความสำเร็จ เพื่อให้ธุรกิจไม่ตกยุค


นิตยสาร Business+ โดย บมจ. เออาร์ไอพี จัดงานสัมมนา “Digital SMEs in New Normal” เสริมแกร่งให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับฟังความสำเร็จจากผู้ประกอบการที่สามารถปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ทันยุค New Normal กับการเสวนา 2 หัวข้อประกอบด้วย หัวข้อ “ทะเลกว้างใหญ่ แต่ยังมีรูรั่วให้มือใหม่เกิดได้” โดยมี คุณสุภัทรา ดวงงา เจ้าของชาบูอินดี้ (คนที่ 3 จากซ้าย) คุณเบิร์ด ทรงวุฒิ พัฒนศิลาพร เจ้าของ BirdEyeView Wedding Studio (คนที่ 4 จากซ้าย) และ คุณพิมพ์พิชา อุตสาหจิต ทายาทรุ่น 3 ของตระกูลอุตสาหจิต (คนที่ 2 จากซ้าย) ดำเนินการเสวนาโดย คุณพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอทีและดิจิทัล บมจ.เออาร์ไอพี (คนที่ 1 จากซ้าย)

ต่อจากนั้นได้ทำการเสวนาหัวข้อ “เอสเอ็มอีต้องปรับตัวสู่ New Normal” ฟังเคล็ดลับความสำเร็จของเอสเอ็มอีที่ปรับตัวให้ทันความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ธุรกิจไม่ตกยุค โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ คุณกุลโชค โพธิ์พัฒนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ.ไอ.เทคโนโลยี จำกัด (คนที่ 3 จากซ้าย) และ คุณวิฑูรย์ วงศ์หาญกุล ประธานกรรมการบริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด (คนที่ 2 จากซ้าย) ดำเนินการเสวนาโดย คุณธนิต แกล้วเดชศรี บรรณาธิการอำนวยการนิตยสาร BUSINESS+ (คนที่ 1 จากซ้าย) ณ ห้องเลอโลตัส โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา

57
LINE ชูคีย์หลัก “เข้าใจ เข้าถึง” พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับผู้ใช้ชาวไทย ปล่อยวิดีโอซีรี่ส์ “ใช้ LINE ชีวิตสบายกว่าที่คิด” เผยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยุคใหม่ด้วย LINE ชีวิตง่ายขึ้นอีกเยอะ!!


LINE ประเทศไทย เปิดตัววิดีโอซีรี่ส์ “ใช้ LINE ชีวิตสบายกว่าที่คิด” สะท้อนมุมมองการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่มี LINE เป็นเครื่องมือทำให้ชีวิตง่ายขึ้นในหลากหลายสถานการณ์ เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าใจถึงฟีเจอร์ใน LINE ที่ถูกพัฒนาเพื่อให้ผู้ใช้มีชีวิตที่สะดวกสบายขึ้น ตอกย้ำการเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการดำเนินชีวิต (Life Infrastructure) ของคนไทยอย่างแท้จริง ประสบผลสำเร็จ ได้รับความสนใจจากการเข้าชมของคนไทยด้วยยอดวิวรวมกว่า 1 ล้าน ภายใน 3 สัปดาห์!


ชาญวุฒิ ลือชัยสิทธิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด LINE ประเทศไทย กล่าวว่า “LINE มีการพัฒนาปรับปรุงฟีเจอร์ในไลน์แชตอยู่อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องมาโดยตลอดเนื่องด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน โดยหลักการพัฒนานั้น เรายึดหลัก Humanized Technology คือ ต้องศึกษาเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นหลักว่าต้องการอะไร และแพลตฟอร์มของเราจะช่วยให้ผู้ใช้มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ดีขึ้น สะดวกขึ้น ง่ายขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะฟีเจอร์หลายอย่างที่ผู้ใช้คนไทยยังไม่เคยรู้จักหรือยังไม่เคยใช้ ทั้งที่จริงแล้ว ในแอปฯ LINE มีหลากหลายฟีเจอร์และฟังก์ชั่นที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของคนไทยได้ตั้งแต่เช้าไปจนถึงก่อนเข้านอน ไม่ว่าจะด้านส่วนตัวหรือด้านการทำงาน เราจึงจัดทำคลิปวีดีโอซีรี่ส์นี้ขึ้นมา ภายใต้คอนเซปต์ “ใช้ LINE ชีวิตสบายกว่าที่คิด” จำลองสถานการณ์ในวิถีชีวิตประจำวันของคนทั่วไป ที่สามารถใช้ฟังก์ชั่น ฟีเจอร์ต่างๆ ใน LINE มาช่วยให้ชีวิตสบายกว่าที่คิด โดยไม่ว่าใครดูก็สามารถ ‘เข้าถึง’ และ ‘เข้าใจ’ เรื่องราวได้ง่าย เช่นเดียวกับฟีเจอร์ ฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เราปรับปรุงเพิ่มเติมมา ที่ต้อง ‘เข้าถึง’ ได้ง่าย และสร้างมาจากความ ‘เข้าใจ’ วิถีชีวิตประจำวันของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดีเช่นกัน ซึ่งวิดีโอซีรี่ส์ชุดนี้ได้รับผลตอบรับดีมาก สามารถสร้างยอดวิวได้รวมเกิน 1.5 ล้านวิวภายใน 3 สัปดาห์เท่านั้น”

วีดีโอซีรี่ส์ “ใช้ LINE ชีวิตสบายกว่าที่คิด” เป็นการจำลองสถานการณ์อันหลากหลายที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป เช่นเดียวกับที่เกิดในชีวิตประจำวันของคู่รัก "ต๋อง" และ "เฟิร์น" คู่รักวัย First Jobber ที่ใช้ LINE ในสถานการณ์ต่างๆ ทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันง่ายกว่าที่เคยเป็น ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่นแจ้งเตือนวันเกิดเพื่อนพร้อมส่ง Gift หรือ Card อวยพรผ่าน LINE ได้ทันใจในหน้า Home การใช้ Rabbit LINE Pay (ในหน้า Wallet) ทวงเงินและจ่ายเงินให้กัน ใช้ LINE Meeting ประชุมกับเจ้านายเมื่อทำงานที่บ้าน และใช้ฟีเจอร์ Watch Together ดูบอลพร้อมเพื่อนโดยไม่ต้องเดินทางไปรวมตัวกัน รวมไปถึงการใช้ LINE Avatar เพื่อสร้างสีสัน ความสนุกระหว่างวัน ลดความตึงเครียด โพสต์ในหน้า LINE ไทม์ไลน์ ที่นอกจากเป็นพื้นที่สร้างสรรค์คอนเทนต์ดีๆ ระหว่างวันแล้ว ยังสามารถเป็นแหล่งโซเชียลใหม่ไว้สร้างฐานผู้ติดตามหรือขายของได้อีกด้วย เป็นต้น โดยวีดีโอซีรี่ส์แบ่งออกเป็น 2 เวอร์ชั่นเพื่อความสะดวกในการรับชม ทั้งเวอร์ชั่นสั้น 1 นาทีที่เน้นการใช้ฟีเจอร์ LINE ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเวอร์ชั่นยาวที่ฉายให้เห็นชีวิตประจำวันของ "ต๋อง" และ "เฟิร์น" ทั้งวัน โดยสามารถใช้ LINE เพื่ออำนวยความสะดวกในช่วงเวลาต่างๆ ได้ทั้งวัน

ด้วยวิสัยทัศน์ Life on LINE ที่มุ่งพัฒนาบริการเพื่อจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานชีวิตดิจิทัลให้กับผู้คนในสังคม ปัจจุบัน LINE ได้พัฒนาจนกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิตคนไทยไปแล้ว หากแต่ก็ยังมีผู้ใช้งานอีกมากที่ยังไม่ได้ใช้ LINE เพื่อประโยชน์ในการดำเนินชีวิตอย่างเต็มที่ วีดีโอซีรี่ส์ “ใช้ LINE ชีวิตสบายกว่าที่คิด” จะเป็นเครื่องตอกย้ำความครบครันของ LINE ในการอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตในยุค New Normal และสร้างการรับรู้ให้กับฟีเจอร์ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักได้เป็นอย่างดี

วิดีโอ “ใช้ LINE ชีวิตสบายกว่าที่คิด”: https://www.youtube.com/watch?v=B15qwqsrDiU

วิดีโอ “ใช้ LINE ชีวิตสบายกว่าที่คิด - ฟีเจอร์แจ้งเตือนวันเกิด”: https://www.youtube.com/watch?v=9oD1pj2MyGc

วิดีโอ “ใช้ LINE ชีวิตสบายกว่าที่คิด – LINE Meeting”: https://www.youtube.com/watch?v=NuLOK_3K01E

วิดีโอ “ใช้ LINE ชีวิตสบายกว่าที่คิด - LINE ไทม์ไลน์”: https://www.youtube.com/watch?v=ZYlv1rrVW4A

#LINETHAILAND #ใช้LINEชีวิตสบายกว่าที่คิด #LifeonLINE

58

ทรู 5G พร้อมร่วมขับเคลื่อนวงการ “หุ่นยนต์เพี่ออุตสาหกรรม” แบ่งปันวิสัยทัศน์ในงานสัมมนาออนไลน์ “5 New S-Curve Season 2”


กลุ่มทรูร่วมแบ่งปันมุมมองการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ โดยนายธวัชชัย ฤกษ์สำราญ รองผู้อำนวยการธุรกิจโมบายล์ และคณะกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมเป็นวิทยากรในงานสัมมนาออนไลน์“5 New S-Curve Season 2” EP.3 หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม (Robotics) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ประกอบการในการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้ในภาคอุตสาหกรรม พร้อมด้วยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายองค์กร อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยนายธวัชชัย ได้กล่าวถึงปัจจัยที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ได้แก่ ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและระบบนิเวศดิจิทัล อาทิ Cloud, AI รวมทั้งโซลูชันต่างๆ ซึ่งหุ่นยนต์สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ และ Smart Living โดยกลุ่มทรูมีความพร้อมทั้งเครือข่าย 5G และดิจิทัลแพลตฟอร์ม อีกทั้งได้พัฒนาหุ่นยนต์มานานกว่า 4 ปีแล้ว พร้อมกับมีความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศในการพัฒนาโซลูชันต่างๆ ตลอดจนร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำกว่า 20 แห่ง นำหุ่นยนต์ไปสนับสนุนการเรียนของนักศึกษา โดยในปีหน้าจะขยายไปยังกลุ่มนักเรียนมัธยมและนักเรียนอาชีวะด้วย  สำหรับการนำหุ่นยนต์มาใช้ในภาคบริการจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหุ่นยนต์มีระบบ AI, Cloud ประกอบกับการมีโมเดลการเช่าใช้หุ่นยนต์จะช่วยลดอุปสรรคด้านการลงทุนของผู้ประกอบการได้อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ยังต้องการบุคลากรที่มีความรู้และทักษะ รวมทั้งผู้มีความเชี่ยวชาญด้าน System Integration ที่จะช่วยเติมเต็มให้อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เติบโตยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ งานดังกล่าวจัดโดยกลุ่มบางกอกโพสต์ ร่วมกับ หอการค้าไทย และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) TCEB

59

GoPro มอบเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้ชนะที่ส่งผลงานวิดีโอเข้าประกวด HERO9 Black Million Dollar Challenge ประจำปี 2020

มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวด 29,000 คนจาก 125 ประเทศ โดยเป็นคลิปวิดีโอที่ถ่ายด้วยกล้อง GoPro HERO9 Black เพื่อร่วมชิงส่วนแบ่งเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ในสัดส่วนที่เท่าๆกันและวีดีโอที่ได้ออกมานั้นก็คือ วีดีโอแห่งความสุขตลอด 2 นาที ตั้งแต่สวนหลังบ้าน ชนบทห่างไกลและสถานที่แปลกๆ อีกมากมาย



กรุงเทพ, 16 ธันวาคม 2563 – วันนี้โกโปร (GoPro) พร้อมที่จะนับถอยหลังอย่างภาคภูมิใจ สำหรับการปล่อยวิดีโอไฮไลท์ Million Dollar Challenge ครั้งที่สาม โดยจะมอบเงินรางวัลมูลค่า 17,857 เหรียญดอลลาร์สหรัฐให้กับผู้ชนะทั้ง 56 คน ที่ผ่านการคัดเลือกเพื่อช่วยเติมเชื้อเพลิงและไฟในตัวพวกเขา รวมไปถึงการทำตามความฝันในชีวิตของพวกเขาต่อไป

ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา GoPro ได้เปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งก็คือ HERO9 Black และในวันเดียวกันนั้น GoPro ก็ได้ทำการเปิดตัวการแข่งขัน HERO9 Black Million dollar Challenge โดยมีเวลาให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันเพียง 80 วันเท่านั้น เพื่อถ่ายทำและแชร์คลิปที่สร้างสรรค์และตระการตาที่สุด การแข่งขันนี้จัดขึ้นผ่าน GoPro Awards และได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่อยากเข้าร่วมจากทั่วทุกมุมโลกแสดงความคิดสร้างสรรค์และร่วมส่งวิดีโอจาก HERO9 Black ที่เจ๋งและดีที่สุดของตน กติกามีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือวิดีโอคลิปนั้นจะต้องถ่ายทำด้วย HERO9 Black

“การแข่งขัน Million Dollar Challenge คือการแข่งขันที่เราอยากจะให้ลูกค้าของเราแสดงความสามารถของทุกคนออกมาให้เราเห็นผ่านกล้องรุ่นใหม่ล่าสุดของเราซึ่งก็คือ HERO9 Black” นิคโคลัส วู้ดแมน ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของ GoPro กล่าว

“นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งโอกาสครั้งใหญ่ของเราที่จะได้คืนกำไรให้กับผู้ใช้ GoPro อีกด้วย เพราะเหล่าผู้ใช้นี้ คือสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนแบรนด์ของเรา เราจึงได้จัดทำการแข่งขันนี้เพื่อประกาศความคิดสร้างสรรค์จากผู้ใช้งานของเรา เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขาทำสิ่งเจ๋งๆแบบนี้ต่อไป”

การแข่งขัน Million Dollar Challenge ครั้งนี้ นับเป็นปีที่สามแล้ว และครั้งนี้เราได้ บันทึกไว้ว่ามีการส่งเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 29,000 ครั้งจาก 125 ประเทศ โดยทีม GoPro ใช้เวลากว่า 250 ชั่วโมงในการตรวจสอบทุกวีดีโอคลิปเพื่อคัดสรรคลิปวีดีโอ
ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย โดยผู้ชนะทั้ง 56 คน จะได้รับเงินรางวัลกว่า 550,000 บาท หรือ 17,857 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อคน

การแข่งขันในปีนี้ถูกถ่ายทำในรูปแบบวีดีโอทั้งหมดโดย HERO9 Black ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์รับภาพ 23.6MP และสามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด 5K ฟังค์ชั่นกันสั่นของวิดีโอ HyperSmooth 3.0 และการปรับระดับตามเส้นขอบฟ้าภายในกล้อง เมื่อใช้คู่กับอุปกรณ์เสริม Max Lens Mod HERO9 Black สามารถถ่ายวิดีโอได้กว้างและนิ่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาในกล้องตระกูล HERO ทำให้ได้มุมมองที่แปลกใหม่และไม่ซ้ำใคร นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงและเพิ่มเติมลูกเล่นใหม่ๆ ภายในตัวกล้อง เช่น หน้าจอด้านหน้า หน้าจอด้านหลังที่ใหญ่ขึ้น และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น 30% เพียงเท่านี้ก็ชัดเจนแล้วว่าทำไม HERO9 Black จึงเป็นกล้องที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนกันยายน
 
สำรวจรายชื่อผู้ได้รับรางวัล GoPro HERO9 Black Million Dollar Challenge  ที่ The Inside Line ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้องที่ได้ฉายาว่า “เหนือขึ้นอีกหนึ่งระดับ” GoPro.com


เกี่ยวกับ GoPro
GoPro ช่วยให้คนทั่วโลกได้เฉลิมฉลองและแบ่งปันเรื่องราวในมุมที่ลึกซึ้งขึ้น และน่าตื่นเต้นมากขึ้น GoPro, HERO, Quik, QuikStories และโลโก้ของบริษัท คือเครื่องหมายการค้า หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ GoPro, Inc. ในสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ สำหรับเครื่องหมายอื่นๆ ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทเจ้าของนั้นๆ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.gopro.com ผู้ใช้ GoPro สามารถส่งภาพนิ่ง ไฟล์วิดีโอแบบ raw และวิดีโอที่ตัดต่อแล้วไปที่ GoPro Awards เพื่อลุ้นรับรางวัล social stoke, GoPro gear และเงินรางวัล โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gopro.com/awards นอกจากนี้ คุณยังสามารถติดตาม GoPro ได้ทาง Facebook, Instagram, LinkedIn, TikTok, Twitter, YouTube และบล็อก The Inside Line ของ GoPro

GoPro, HERO และโลโก้อื่น ๆ เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ GoPro, Inc. ทั้งในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ

60
ติงส์ ออน เน็ต ร่วมมือ ม.เทคโนโลยีมหานคร พัฒนา Things on Net Academy ยกระดับเทคโนโลยีไอโอทีต่อยอดสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน






กรุงเทพ, 15 ธันวาคม 2563 – ติงส์ ออน เน็ต และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ลงนามบันทึกข้อตกลงในโครงการ Things on Net Academy เพื่อยกระดับองค์ความรู้เทคโนโลยีไอโอทีในการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีไอโอทีในภาคการศึกษา รวมถึงต่อยอดการเรียนการสอน การวิจัย ไปสู่นวัตกรรมการใช้งานจริงที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

นายปวิณ วรพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ติงส์ ออน เน็ต จำกัด เปิดเผย ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นจากที่ทั้งสององค์กรเล็งเห็นถึงความสำคัญของสถาบันการศึกษาที่มีบทบาทในการเป็นแหล่งเรียนรู้ อีกทั้งเป็นศูนย์กลางของชุมชนที่มีความใกล้ชิดและเข้าใจสภาพแวดล้อม สังคมและวัฒนธรรมเป็นอย่างดี จึงเป็นกลไกสำคัญหนึ่งของไอโอทีอีโคซิสเต็ม (IoT Ecosystem) ในการพัฒนาด้านเทคโนโลยีไอโอทีของประเทศไทยเพื่อแข่งขันกับเวทีโลก และถือเป็นองค์กรหนึ่งที่มีส่วนช่วยพัฒนาชุมชนได้ดีที่สุด 

“ติงส์ ออน เน็ต มีเป้าหมายสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการศึกษา และส่งเสริมคนในสังคมและชุมชนต่างๆ เข้าถึงองค์ความรู้ที่เป็นเลิศระดับโลก สามารถนำเทคโนโลยีไอโอทีไปปรับใช้เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ถือเป็นสถาบันการศึกษาที่ตอบโจทย์ มุ่งเน้นความเป็นเลิศทางวิชาการ มีระบบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน มีหลักสูตรและองค์ความรู้ที่หลากหลาย ที่ผ่านมาได้ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพและความสามารถจำนวนมากเข้าสู่ตลาดเทคโนโลยีซึ่งเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง” 

ทั้งนี้ ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว บริษัท ติงส์ ออน เน็ต จะนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีไอโอที เครือข่าย และโซลูชันระดับโลกของบริษัทมาร่วมขยายผลโครงการพัฒนาการศึกษา พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับมหาวิทยาลัยและชุมชนโดยรอบด้วยเทคโนโลยีไอโอที โดยในเบื้องต้นได้แบ่งการดำเนินการออกเป็น 3 ระยะ

ในระยะแรกเพื่อให้โครงการความร่วมมือสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ติงส์ ออน เน็ต และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ได้ทำความร่วมมือแบบบูรณาการที่เป็นรูปธรรมด้วยการส่งทีมวิศวกรเข้าติดตั้งเสาสัญญาณไอโอทีของติงส์ ออน เน็ต เพื่อให้สัญญาณครอบคลุมพื้นที่มหาวิทยาลัยและชุมชนโดยรอบ สนับสนุนอุปกรณ์ไอโอทีและเซ็นเซอร์ สนับสนุนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีแก่นักศึกษา

โครงการระยะที่สอง ติงส์ ออน เน็ต สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีไอโอทีผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการติดตั้งชุดอุปกรณ์เซ็นเซอร์และโซลูชันติดตามรถรับ-ส่งภายในมหาวิทยาลัย โครงการติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศในห้องเรียน โครงการตรวจสอบคุณภาพน้ำใช้ และโครงการติดตั้งระบบติดตามสัตว์ใหญ่ เป็นต้น

โครงการระยะที่สาม ติงส์ ออน เน็ต สนับสนุนกิจกรรมสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ของนักศึกษาและมหาวิทยาลัยในการพัฒนาแพลตฟอร์มด้านเทคโนโลยีไอโอทีที่สร้างประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมจริง

ด้าน ดร.สุเจตน์ จันทรังษ์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า “ติงส์ ออน เน็ต เป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้นำไอโอทีโซลูชันครบวงจรด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีสื่อสารชั้นนำระดับโลก และมีเป้าหมายสอดคล้องกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครที่ต้องการสร้างความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีไอโอทีให้กับภาคการศึกษา  โดยความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยสามารถยกระดับและพัฒนาศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถให้นักศึกษาสู่ระดับอาชีพ สร้างนักพัฒนาเทคโนโลยีไอโอทีชั้นนำของประเทศ อีกทั้งยังต่อยอดงานวิจัยจากภาควิชาการไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีไอโอทีเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน”

เทคโนโลยีไอโอทีของติงส์ ออน เน็ต จะเข้ามาช่วยพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมต่างๆ จากการรังสรรค์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครให้มีความเป็นอัจฉริยะมากขึ้น อาทิ การพัฒนาหุ่นยนต์ (Robot) ต้นแบบสร้างอรรถประโยชน์ที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ ช่วยเติมเต็มฟังก์ชันการทำงานด้านต่างๆ ให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประยุกต์ใช้กับงานด้านการเกษตรในรูปของโรบอทตัดหญ้า พ่นปุ๋ย ใช้งานในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ หรือใช้ในด้านการทหาร เป็นต้น

นายปวิณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือครั้งนี้ จะสามารถสร้างสรรค์โครงการที่เป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนานวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีไอโอทีให้กับมหาวิทยาลัยอื่นๆ และชุมชนรอบข้างในเขตหนองจอก เพื่อยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยให้ดีขึ้น (Smart Community) สอดรับกับนโยบายของภาครัฐบาลที่เดินหน้าพัฒนาเมืองต่างๆ สู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City)

ปัจจุบัน ติงส์ ออน เน็ต ผู้เชี่ยวชาญด้านไอโอทีโซลูชั่นครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีเครือข่ายระดับโลก พร้อมบริการและอุปกรณ์พร้อมใช้งานครอบคลุมทุกธุรกิจ อาทิ Smart City & Smart Building ระบบเมืองอัจฉริยะและอาคารอัจฉริยะที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้อยู่อาศัย, Cold Chain Management ระบบตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้นสำหรับตู้แช่สินค้า ทั้งแบบแช่เย็นและแช่แข็งในอุตสาหกรรมค้าปลีก หรือธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อให้สินค้าคงคุณภาพความเย็นที่เหมาะสม ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง และการวางจำหน่ายจนถึงมือผู้บริโภค, ระบบ Asset tracking ผู้ช่วยติดตามพัสดุภัณฑ์และทรัพย์สินมูลค่าสูง ทั้งในและนอกสถานที่, ระบบ Safety and Environmental สามารถตรวจวัดอุณหภูมิและคุณภาพอากาศ เพื่องานด้านความปลอดภัยในการบริหารงาน Facility management และระบบ Energy saving ช่วยบริหารจัดการการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า

เกี่ยวกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (มทม.) (Mahanakorn University of Technology: MUT) ได้รับอนุมัติจากทบวงมหาวิทยาลัยให้จัดตั้งขึ้นในนามของ "วิทยาลัยมหานคร" เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2533 ในระยะแรกเปิดดำเนินการสอนเพียงหนึ่งคณะ คือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ หลังจากนั้น ได้ขยายการเรียนการสอนไปในสาขาวิชาต่างๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับโดยมุ่งเน้นความเป็นเลิศทางวิชาการและการเรียนการสอนอย่างมีคุณภาพ

ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร เปิดดำเนินการสอนคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี คณะสัตวแพทยศาสตร์ และคณะบริหารธุรกิจ ระดับปริญญาโทและปริญญาตรี โดยในอนาคตจะขยายการเรียนการสอนไปในสาขาอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป

เกี่ยวกับ ติงส์ ออน เน็ต
บริษัท ติงส์ ออน เน็ต จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้นำไอโอทีโซลูชันครบวงจรด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีสื่อสารชั้นนำระดับโลก และเป็นผู้ถือสิทธิ์การให้บริการโครงข่ายซิกฟอกส์ (Sigfox) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะไกลที่ใช้พลังงานในการรับส่งข้อมูลต่ำ (Low Power Wide Area Network: LPWAN) โดยมีเครือข่ายครอบคลุม 72 ประเทศทั่วโลก www.thingsonnet.net

Pages: 1 2 3 [4] 5 6 ... 330