Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - news

Pages: 1 ... 289 290 [291] 292 293 ... 330
4351
Razer เปิดตัวคอนเซ็ปต์สโตร์สาขาใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เกมเมอร์ชาวไทยจะได้สัมผัสประสบการณ์เกมในบ้านหลังใหม่ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

















กรุงเทพฯ ประเทศไทย - Razer™ ผู้นำระดับโลกด้านอุปกรณ์เชื่อมต่อและซอฟต์แวร์สำหรับเกมเมอร์ เปิดตัว คอนเซ็ปต์สโตร์สาขาใหม่แห่งที่ 3 ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดร้านค้าคอนเซ็ปต์แล้ว 2 แห่งที่ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน และกรุงมะลินา ประเทศฟิลิปปินส์   

ที่ RazerStore เกมเมอร์จะได้สัมผัสประสบการณ์เกมและสินค้าที่ทันสมัยที่สุดจาก Razer ตั้งแต่ระบบ อุปกรณ์เชื่อมต่อ กลุ่มเครื่องเสียง ไปจนถึงอุปกรณ์สวมใส่ ซอฟท์แวร์ เสื้อผ้าและเกียร์ต่างๆ โดยเหล่าเกมเมอร์สามารถทดสอบประสบการณ์เกมที่ร้านได้ตลอดทั้งวัน ภายในร้านที่จัดแต่งอย่างลงตัวและเพรียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์เกมที่ทันสมัยมากมายกว่า 30 ประเภท ซึ่งเหล่าเกมเมอร์จะได้ทดลองอุปกรณ์ที่ทรงประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในโลกเหล่านี้   

Razer ได้เลือกเปิด RazerStore ในประเทศต่างๆ ตามคำเรียกร้องของคนที่มีความสำคัญที่สุด นั่นคือเหล่าเกมเมอร์  พร้อมทั้งมีคอมมิวนิตี้คนเล่นเกมและมีการเติบโตของกีฬา อีสปอร์ต (eSports) อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยดังกล่าวทำให้ประเทศไทยนั้นมีความเหมาะสมในการตั้ง RazerStore สาขาใหม่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน 3 สาขา ด้วยพื้นที่ถึง 180 ตารางเมตร นอกจากจะมีกลุ่มนักเล่นเกมที่เหนียวแน่นแล้ว RazerStore สาขากรุงเทพฯแห่งนี้ จะใช้เป็นสถานที่ในการเทรนเหล่าโปรแกรมเมอร์หน้าใหม่ในประเทศไทยอีกด้วย และด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้ RazerStore ได้สร้างห้องอเนกประสงค์ที่สามารถใช้ในการฝึกซ้อมกีฬาอีสปอร์ตภายในร้านอีกด้วย

Min-Liang Tan ประธานบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งของ Razer กล่าวว่า "พวกเราต้องการให้ RazerStore สาขากรุงเทพฯ เป็นสถานที่จุดประกายและเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างเกมเมอร์ชาวไทย โดยเราหวังว่าจะสามารถทำให้วงการอีสปอร์ตของประเทศไทยเติบโตยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นการตอบแทนคืนกลับให้แก่สังคมที่เราดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด” และเพื่อเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาวงการอีสปอร์ตของไทย Razer ได้จัดให้มีการเซ็นสัญญาระหว่าง Estrell ทีมนักกีฬาอีสปอร์ตชื่อดังของไทย  เพื่อเข้าเป็นสมาชิกใหม่ร่วมสังกัด Team Razer ในโอกาสฉลองเปิด RazerStore แห่งใหม่นี้อีกด้วย

RazerStore แหล่งรวมกลุ่มคนเล่นเกมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “Touch, Play, Stay” ให้เหล่าเกมเมอร์ได้สัมผัสและทดลองผลิตภัณฑ์ของ Razer ให้จุใจจนไม่อยากไปไหน มีสเตชั่นสำหรับเล่นเกมมากกว่า 30 สเตชั่นให้ทั้ง Razer Blade แล็ปท็อปสำหรับเล่นเกมมากถึง 20 เครื่อง, NZXT H440 ที่ Razer ได้ออกแบบเคส 2 เครื่อง, คอนโซล Forge TV 6 เครื่อง, คอนโซล Xbox One 5 เครื่อง และอุปกรณ์เชื่อมต่อระดับโปรเฟสชั่นเนลเกรดอีกมากมาย

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเป็น RazerStore ที่กรุงเทพฯ Razer ได้จัดกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นโดยเหล่าเกมเมอร์สามารถร่วมกิจกรรมเพื่อรับรางวัล ทั้ง เสื้อเชิ้ต, L33t packs และของที่ระลึกมากมาย โดยแฟนตัวจริงที่นำอุปกรณ์เชื่อมต่อหรือระบบของ Razer มาแสดงภายในงานจะได้รับหูฟังสำหรับโทรศัพท์มือถือ Razer Kraken Mobile หรือสายรัดข้อมืออัจฉริยะ Nabu X

RazerStore กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ชั้น 4 โซนเอเทรี่ยม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยผู้สนใจสามารถเข้าดูรายละเอียดของร้านได้ที่ http://www.razerzone.com/razerstores/bangkok

เกี่ยวกับ Razer:
Razer™ คือผู้นำระดับโลกด้านอุปกรณ์และซอฟต์แวร์สำหรับเกมเมอร์

Razer เปลี่ยนวิธีการที่ผู้คนเล่นเกม มีส่วนร่วมกับเกมเมอร์คนอื่น ๆ และเข้าใจไลฟ์สไตล์ของเกมเมอร์ หลังจากได้รับรางวัล "Best of CES" สี่ปีติดต่อกัน ผู้นำด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของบริษัทยังคงต่อยอดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ ๆ ให้กับคอมมิวนิตี้นักเล่นเกมซึ่งคาดว่ามีมากกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วโลก

ดีไซน์และเทคโนโลยีชั้นยอดของ Razer ประกอบด้วยอินเทอร์เฟซผู้ใช้และอุปกรณ์ระบบ voice-over IP สำหรับเกมเมอร์และแพลตฟอร์มระบบคลาวด์เพื่อการกำหนดค่าและปรับปรุงอุปกรณ์เล่นเกม

Razer ก่อตั้งในปี 2005 ได้รับการสนับสนุนโดย IDG-Accel และ Heliconia Capital Management (Heliconia) บริษัทในเครือของ Temasek ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนของสิงคโปร์ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ http://www.razerzone.com/about-razer

4352
เอซุสROG G752 โน้ตบุ๊คเกมมิ่งโฉมใหม่ กับที่สุดแห่งความแรงและความครบครัน









เอซุสขอแนะนำโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับซีรี่ส์ ROG กับเอซุส ROG G752 ซึ่งได้รับการออกแบบมาสำหรับคอเกมที่หลงใหลในประสิทธิภาพของการทำงาน ควบคู่ไปกับรูปลักษณ์อันโดดเด่น มีเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ โดยตัวเอซุส ROG G752 นี้ นอกเหนือจากฮาร์ดแวร์ที่ได้รับการอัพเกรดขั้นสุดแล้ว ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่เข้ามาช่วยยกระดับการใช้งานขึ้นมาอีกขั้น เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมขีดสุดแห่งยุคปัจจุบัน
มร. เจฟฟ์ โล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“โน้ตบุ๊คเอซุส ROG G752 มาพร้อมกับนวัตกรรมที่โดดเด่นจากภายในถึงภายนอก ไม่ว่าจะเป็นสเปคที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นจาก G751อีกทั้งมีดีไซน์โฉบเฉี่ยวทันสมัยมากขึ้น รวมถึงประสิทธิภาพของระบบระบายความร้อนแบบใหม่ ซึ่งได้รับการวิจัยและพัฒนาจากประสบการณ์ที่เรามีมาอย่างยาวนานในผลิตภัณฑ์สาย ROG ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราครบครัน และเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในใจเกมเมอร์เสมอมา”

เอซุส ROG G752 ได้รับการออกแบบให้มีดีไซน์โฉบเฉี่ยว ด้วยโทนสีที่ผสมผสานกันระหว่างสีเงินไทเทเนียมกับทองแดงที่ส่วนของระบบระบายความร้อนด้านหลังเครื่อง ภายใต้ปรัชญาการออกแบบที่บ่งบอกถึงความเป็นเกมเมอร์ ด้านของระบบระบายความร้อนภายในได้รับการปรับปรุงใหม่โดยใช้ชื่อว่า 3D Vapor Chamber Thermal System ซึ่งจะใช้การทำงานร่วมกันของหลายองค์ประกอบในการระบายความร้อน ไม่ว่าจะเป็น พัดลมและฮีตซิงค์ระบายความร้อนแยกกันระหว่าง CPU และ GPU ร่วมกับช่องระบายด้านหลังเครื่องที่มีระบบไล่ฝุ่นภายในตัว เพื่อการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ด้วยระบบระบายความร้อนที่ได้รับการออกแบบเป็นอย่างดี ทำให้เอซุส ROG G752 มาพร้อมกับพลังประมวลผลอันทรงพลังได้อย่างลงตัว ด้วย Intel® Core™ i7-6700HQ Processor ทั้งยังจัดเต็มด้านการแสดงผลด้วยกราฟิกการ์ด NVIDIA® GeForce® GTX™ 9 Series หน้าจอขนาดใหญ่ถึง17.3 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD รองรับการทำงานของฟีเจอร์ NVIDIA G-SYNC เพื่อการแสดงผลเกมอย่างไหลลื่น มาพร้อมหน่วยความจำ DDR4 ถึง 16GB เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วด้วย SSDความเร็วสูงร่วมกับ HDD 1TB 7200RPM ทำให้สามารถรีดประสิทธิภาพได้อย่างเต็มกำลัง ไม่ว่าจะเล่นเกม หรือทำงานก็ตาม

นอกเหนือจากฮาร์ดแวร์ที่เปี่ยมประสิทธิภาพแล้ว เอซุส ROG G752 ยังครบครันด้วยองค์ประกอบต่างๆ ที่ช่วยเสริมประสบการณ์การใช้งานให้เหนือชั้นขึ้นไปอีก เช่น คีย์บอร์ดที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ กับปุ่มที่ออกแบบเป็นอย่างดีตามหลักการยศาสตร์ และระยะกดเพียงแค่ 2.5 มิลลิเมตร ทำให้สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังสามารถไฮไลท์สีปุ่มเป็นพิเศษตามรูปแบบของเกมที่เล่น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเกมเมอร์ตัวจริงเช่นคุณ

ในด้านการเชื่อมต่อก็ครบครันขึ้น ด้วยพอร์ต USB Type-C ที่รองรับการรับส่งข้อมูลตามมาตรฐาน USB 3.1 ซึ่งให้ความเร็วที่สูงกว่ามาตรฐานทั่วไปในปัจจุบันถึงสองเท่าตัว ช่วยให้การรับส่งข้อมูลทำได้อย่างรวดเร็ว
ด้านความบันเทิง เอซุส ROG G752 พร้อมมอบเสียงอันทรงพลังด้วยชุดลำโพงภายใน ประกอบกับซับวูฟเฟอร์เพื่อเสียงเบสที่เต็มอิ่ม ทั้งยังมีระบบเสียง SonicMasterร่วมกับระบบ Sonic Studio ซึ่งช่วยมอบเสียงคุณภาพสูงสำหรับการเล่นเกม ควบคู่ไปกับการช่วยลดเสียงรบกวนที่เกิดจากการทำงานของระบบ นอกจากนี้ยังมีระบบ Sonic Radar ที่ช่วยจำลองตำแหน่งของเสียงในเกมให้แม่นยำ ถูกต้องที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเสียงปืน เสียงฝีเท้า รวมถึงเสียงต่างๆ ในเกม เพื่อยกระดับการเล่นเกมให้เหนือชั้นกว่าที่คุณเคยสัมผัสมา

สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการปรับแต่งการทำงานของเอซุส ROG G752 ก็ทำได้อย่างง่ายดายด้วยซอฟต์แวร์ ROG Gaming Center ซึ่งสามารถใช้แสดงข้อมูลการทำงานของ CPU และ GPU ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว อุณหภูมิการทำงาน รวมถึงยังสามารถปรับเร่งความเร็วได้ เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือขึ้นไปอีกระดับ รวมถึงยังมาพร้อมตัวเลือกในการปรับแต่งการทำงานของปุ่มมาโคร ตั้งค่าปุ่มลัด รวมถึงการปรับระดับเสียงให้เหมาะสมกับการทำงานแต่ละประเภทที่สุด

Specification:
Model   G752VT-GC090T
CPU   Intel Core i7-6700HQDDR4
Memory   16 GB (2 x 8GB)
HDD   SSD PCIe 128GB + HDD 1TB
VGA   NVIDIA GeForce GTX 970M 3GB
OS   Windows 10
Display   17.3” Full HD
Price   64,990 Baht

Model   G752VL-T7030T
CPU   Intel Core i7-6700HQDDR4
Memory   16 GB (2 x 8GB)
HDD   SSD PCIe 128GB + HDD 1TB
VGA   NVIDIA GeForce GTX 965M 2GB
OS   Windows 10
Display   17.3” Full HD
Price   57,990Baht

เกี่ยวกับเอซุส
เอซุส ผู้จำหน่ายโน้ตบุ๊ครายใหญ่หนึ่งในสามอันดับที่มีผู้ใช้ทั่วโลกสูงสุด เราเป็นผู้นำในการออกแบบและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการทางด้านดิจิตอลทั้งที่บ้านและที่ทำงานอาทิ โน้ตบุ๊ค เดสก์ท็อปพีซีออลอินวันพีซี แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน หลักในการออกแบบคือเรายึดถือความต้องการของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราเป็นผู้ปฎิวัติวงการคอมพิวเตอร์ด้วย Eee PC ที่ได้รับรางวัลต่างๆถึง 4,256 รางวัล ในปี 2013  ปัจจุบันเอซุส มีพนักงานกว่า 13,600 คนทั่วโลก มีทีมวิจัยและพัฒนากว่า 4,500 คน รายได้เมื่อปี 2013 ประมาณ 14 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook:www.facebook.com/ASUSTHAILAND หรือติดต่อสอบถามได้ที่ E-mail : Asusth_pr@asus.com หรือโทร 02-677-4422-9

4353
ไอเน็ต จับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่ ซิมบร้า รุกตลาดการให้บริการอีเมล์แอสอะเซอร์วิส


คุณมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน)

คุณ Marcus Teo รองประธานภูมิภาคและผู้จัดการทั่วไป บริษัท Synacor


กรุงเทพฯ – 20 พฤศจิกายน 2558 บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET  ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีและคลาวด์เซอร์วิสชั้นนำของไทย เปิดเผยถึงความสำเร็จในให้บริการอีเมล์ออน คลาวด์เรียกว่า Email as a Service (EaaS) โดยเลือกใช้งานแพลตฟอร์ม Zimbra ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของทาง Synacor Inc ในการให้บริการอีเมล์ภายในประเทศไทยที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสำหรับลูกค้าระดับองค์กร 

ทุกวันนี้อีเมล์เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับองค์กรเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งนอกจากใช้ในการสื่อสารแล้ว บทบาทที่สำคัญอย่างหนึ่งของอีเมล์ต่อไปในอนาคตคือ สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการระบุตัวตน (Identification หรือ ID) ของบุคคลเพื่อใช้ยืนยันสิทธิในการทำธุรกรรมต่างๆ โดยเฉพาะธุรกรรมทางด้านอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย ดังนั้นการมีระบบอีเมล์ที่มีประสิทธิภาพ ความปลอดภัยสูงและตั้งอยู่ในประเทศไทย จะทำให้องค์กรสามารถไว้วางใจกับการทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ดีขึ้น อีกทั้งในปัจจุบันทุกองค์กรมีการนำระบบไอทีเข้ามาใช้งาน  ประกอบกับวิถีการทำงานในยุคดิจิตอลซึ่งต้องการความเป็นโมบิลิตี้ (mobility) มากขึ้น รวมทั้งยังต้องสามารถทำงานได้จากหลายอุปกรณ์ (multiple devices) ซึ่งเป็นมีความจำเป็นอย่างสูงในยุคปัจจุบัน แต่การลงทุนสร้างระบบเมล์เองอาจเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าในด้านฮารด์แวร์ ซอฟต์แวร์ ระบบเครือข่ายเพื่อเชื่อมต่อได้จากทุกที่ รวมถึงต้องมีบุคคลากรในการดูแลระบบให้มีความเสถียรภาพและปลอดภัยสูงสุด ดังนั้นการใช้บริการ Email as a Service จากผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในยุคนี้

บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีที และคลาวด์เซอร์วิสชั้นนำ ที่มีมาตรฐานการให้บริการเทียบเท่าระดับสากล ร่วมมือกับบริษัท Synacor, Inc ผู้ให้บริการอีเมล์แพลตฟอร์มชั้นนำของโลกในนาม Zimbra ผสานความร่วมมือการให้บริการอีเมล์ออนคลาวด์ในรูปแบบ Email as a Service (EaaS) ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย เหมาะสำหรับการใช้งานขององค์กรตั้งแต่ขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ไปถึงองค์กรขนาดใหญ่ พร้อมที่จะส่งมอบบริการอีเมล์ที่มีประสิทธิภาพในการใช้งาน ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยและมีเสถียรภาพ เพื่อให้องค์กรและธุรกิจต่างๆ มั่นใจในการติดต่อสื่อสาร

คุณมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “ ไอเน็ต รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับโอกาสสำคัญที่จะทำงานร่วมเป็นพันธมิตรกับ Synacor Inc ในครั้งนี้ นี่คือเครื่องพิสูจน์ถึงความเป็นผู้นำของบริษัทฯ ในการนำโซลูชันด้านการให้บริการ Managed Service Providers ระดับโลกอย่าง Zimbra ผสานเข้ากับคลาวด์อินฟราสตรัคเจอร์ของไอเน็ต ที่มีการควบคุมคุณภาพการให้บริการและความปลอดภัยได้ตามมาตรฐานสากลเข้าด้วยกัน ในการให้บริการ EaaS อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์สูงสุดในการใช้งานของลูกค้า ในปัจจุบันไอเน็ตมีผู้ใช้บริการแล้วมากกว่า 50,000 ยูสเซอร์ ซึ่งนับเป็นผู้ให้บริการ Email as a Service บนแพลตฟอร์ม Zimbra ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้”

คุณ Marcus Teo รองประธานภูมิภาคและผู้จัดการทั่วไป บริษัท Synacor กล่าวว่า “ เรารู้สึกยินดีเช่นกันในการได้เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน)  ที่จะช่วยให้เราสามารถขยายตลาดของเราในประเทศไทย การเป็นพาร์ทเนอร์กันจะทำให้เราสามารถที่จะมอบระบบแพลตฟอร์ม Zimbra (ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของ Synacor) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับองค์กรที่ต้องการดึงเอาประโยชน์สูงสุดจากโซลูชันด้านการสื่อสารที่ติดตั้งตั้งบนคลาวด์อินฟราสตรัคเจอร์ที่สามารถขยายได้ในอนาคตและที่สำคัญเป็นมาตรฐานเปิดมาใช้งานได้อย่างเต็มที่”

เกี่ยวกับ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET ผู้ให้บริการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีที และคลาวด์เซอร์วิสชั้นนำ (ICT Infrastructure as a Service Provider) ด้วยประสบการณ์การให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตและไอซีทีโซลูชั่นมายาวนาน ประกอบกับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ได้พัฒนาแนวทางการให้บริการเป็น ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีที (ICT Infrastructure as a Service Provider) เพื่อมุ่งมั่น คิดค้น พัฒนานวัตกรรม สินค้า บริการและแอพลิเคชั่นส์ต่างๆ รวมถึงให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้งระบบโครงข่าย เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าและสร้างความพึงพอใจอย่างต่อเนื่องด้วยมาตรฐานระดับสากล สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.inet.co.th

เกี่ยวกับ Synacor
Synacor (NASDAQ:SYNC) เป็นบริษัทผู้นำเสนอเทคโนโลยีชั้นนำที่สามารถนำมาปรับใช้ได้จริงและเชื่อถือได้อย่างสูง (trusted technology deployment) สามารถให้บริการได้บนหลากหลายแพลตฟอร์มและเป็นคู่ค้าร่วมในการให้คำปรึกษาแก่คู่ค้าและนำเสนอระบบ (revenue partner) สำหรับผู้ให้บริการวีดีโอ อินเทอร์เน็ตและระบบการสื่อสารแบบต่าง ๆ รวมทั้งโรงงานผลิตอุปกรณ์และองค์กรขนาดใหญ่ทั้งหลาย นำเสนอประสบการณ์และการโฆษณายุคใหม่บนรูปแบบจอภาพที่หลากหลายไปยังลูกค้าขององค์กรเหล่านี้ซึ่งต้องการปรับนำเทคโนโลยี่มาใช้ (implementation) ที่สามารถขยายได้ตามการใช้งาน (scalable) มีข้อมูลที่นำมาใช้ได้จริง(actionable data) และเป็นระบบที่ทันสมัยและซับซ้อน (sophisticated) โดยล่าสุด Synacor ได้ทำการควบรวมกิจการกับ Zimbra, Inc  สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.synacor.com

เกี่ยวกับ Zimbra
Zimbra Collaboration Suite เป็นชุดซอฟต์แวร์ด้านเซิรฟเวอร์ที่รวมบริการที่เป็นหัวใจในการประสานงานขององค์กรอย่าง email, calendar และ address book รวมทั้ง document management ที่มีโปรแกรม word processor และ spreadsheet แบบออนไลน์ โดยข้อมูลทั้งหมดผู้ใช้สามารถกำหนดสิทธิและ share ให้กันเพื่อทำงานร่วมกันได้อย่างรวดเร็ว
ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการของ Zimbra Collaboration Suite จากที่ไหนก็ได้ผ่านเว็บ Zimbra Web Client และบนมือถือด้วย Zimbra Mobile Web Client หรือจะใช้โปรแกรม email client อย่าง Outlook, Outlook Express, Thunderbird, Evolution ก็ได้
แพลตฟอร์ม Zimbra นี้ยังมีระบบความปลอดภัยเชิงลึก ทำให้ผู้ให้บริการและผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มด้านการสื่อสารที่มีความปลอดภัย เหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ไปถึงองค์กรขนาดใหญ่

4354














ชื่อสินค้า      :    โมบายชัวร์ ศูนย์บริการมือถือ Smart Serviceครบวงจร
ชื่อภาพยนตร์โฆษณา   :    เรื่อง "รักร้าว"
ความยาว      :     15 วินาที / 30 วินาที
เจ้าของสินค้า      :   บริษัท โมบายชัวร์ จำกัด
บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์:   Sincerely Yours Communications Ltd.
ครีเอทีฟ / ผู้กำกับภาพยนตร์: ไกรศร ลีลาชัยพิสิฐ (Executive Creative Director)


บริษัท โมบายชัวร์ จำกัด ผู้ให้บริการศูนย์บริการมือถือ Smart Service “Mobile Sure” โมบายชัวร์… ศูนย์จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริม อะไหล่โทรศัพท์มือถือที่ได้มาตรฐาน พร้อมบริการทั้งงานซ่อม, บริการรับชำระ, บริการซื้อขายแลกเปลี่ยน, บริการด้านแอพพิเคชั่น, ตรวจเช็คเเบบครบวงจร ภายใต้สโลแกน "ผู้ให้บริการสมาร์ทโฟนและแอปพลิเคชั่น แบบครบวงจร On The Way" เพื่อสร้างนวัตกรรมการให้บริการใหม่ล่าสุด ที่จะมาให้บริการภายในปั๊มน้ำมัน บีทีเอส เอ็มอาร์ที มหาวิทยาลัย สนามบิน และคอมมูนิตี้มอลล์ พร้อมปูพรมทั่วไประทศ การันตีการให้บริการครบวงจร แบบจัดเต็ม สินค้าแท้มาตรฐานเยี่ยม พร้อมให้บริการชอปปิ้งออนไลน์ที่ www.mobilesure.co.th หรือสามารถติดได้ที่ 02-158-0348-9 เปิดให้บริการมากกว่า 100 แห่งภายในปี 2559

และเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ของกลุ่มเป้าหมาย “Mobile Sure” โมบายชัวร์…จึงได้ออกภาพยนตร์โฆษณามาทั้งหมด จำนวน 3 เรื่อง ชื่อภาพยนตร์โฆษณา"รีบ" "รักร้าว" "ทุกบาทมีค่า" ความยาว15, 30 วินาที

แนวคิดภาพยนตร์โฆษณาโมบายชัวร์
วัตถุประสงค์
เพื่อแนะนำ โมบายชัวร์ ศูนย์บริการมือถือ Smart Service ครบวงจร On The Way ช่องทางใหม่ที่ตอบโจทย์นักเดินทางและคนทำงาน ผู้ที่เดินทางบ่อย ๆ ด้วยบริการทุกเรื่องของมือถือระหว่างการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องซ่อม ส่งซ่อมที่นี่แล้วสามารถเลือกสาขาที่ต้องการรับเครื่องได้ทั่วไทย เรื่องซื้อขายแลกเปลี่ยน ที่นี่รับเทิร์นมือถือพร้อมรับประกันเครื่องใหม่ 2 ปี หรือเรื่องรับจ่ายบิลมือถือทุกค่าย ฟรีค่าธรรมเนียม พร้อมบริการให้คำปรึกษาเรื่องมือถือ

แนวคิด (Creative Concept)
“ทุกเรื่องมือถือระหว่างเดินทาง แวะโมบายชัวร์”
นำเสนอผ่านภาพยนตร์โฆษณาความยาว 15 วินาที 3 เรื่องแยกตามจุดขายของโมบายชัวร์คือ เรื่องซ่อมเทิร์นมือถือ และเรื่องจ่ายบิลมือถือ ทั้ง 3 เรื่องใช้วิธีการนำเสนอแบบ Slice of Life สอดแทรกอารมณ์ขันไปกับการเล่าเรื่อง

เรื่องย่อ“รักร้าว”
นำเสนอเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่ง กำลังง้อออดอ้อนต้องการคืนดีกับแฟนสาวให้ได้แต่เธอไม่เล่นด้วย เตะเขากระเด็นออกมาจากรถ เขาลุกขึ้นหยิบมือถือซึ่งขณะนี้จอแตกและมีรอยร้าวผ่ากลางระหว่างรูปเขาและเธอเมื่อครั้งหวานชื่น เขาร้องไห้อาลัยรักขณะที่เธอขับรถหนีไป เขามองตามและเหลือบไปเห็นป้ายร้าน โมบายชัวร์ ทำให้เขาคิดได้ เอามือถือเครื่องเก่าไปเทิร์น ได้เครื่องใหม่สดใสกว่า และไม่ลืมขอถ่ายรูปกับพนักงานสาวน่ารักของร้านด้วยประกอบกับเสียงโฆษกว่า “รักร้าว โนรีเทิร์น แต่มือถือเทิร์นได้ ซื้อเครื่องใหม่พร้อมประกัน 2 ปี แวะโมบายชัวร์ ครบวงจร On The Way”

4355
ภาพข่าว: เชื่อมต่อทุกชีวิตให้ลงตัว ในงาน “CAT Network Showcase 2015”



          ดร. ดนันท์ สุภัทรพันธุ์(ซ้าย)ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์,สมยศ ธนพิรุณธร(ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริการลูกค้าภาครัฐและพัฒนา ณ สงขลา(ที่ 3 จากซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มสำนักงานบริการ 2บริษัท กสท โทรคมนาคม (จำกัด) มหาชน หรือ CAT ร่วมเป็นวิทยากรพร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ด้านไอที ในหัวข้อ "Connecting LIFE Together" เพื่อแสดงให้ถึงอิทธิพลของเทคโนโลยีและไอทีที่สามารถจะเชื่อมต่อชีวิตทุกด้านไว้ด้วยกันได้อย่างง่ายดายสะดวกรวดเร็ว พร้อมแนะนำให้ผู้ประกอบการได้เห็นถึงโอกาสและการรับมือทางธุรกิจสำหรับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคไอที ท่ามกลางผู้ที่สนใจทั้งชาวไทยและต่างชาติ ภายในงาน "CAT Network Showcase 2015"ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

4356
เดลล์ ฉลอง 20 ปีในไทยอย่างยิ่งใหญ่ในงาน Your life solutions powered by Dell พร้อมประกาศการก้าวสู่ปีที่ 21 เต็มรูปแบบด้วยแผน “Dell 2020 Legacy of Good Plan”





          นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และผู้จัดการทั่วไป ภาคพื้นอินโดจีน และนายธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด นำทีมเดลล์จุดพลุเฉลิมฉลองความสำเร็จตลอด 20 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย กับความสำเร็จในการขยายธุรกิจทั้งในส่วนธุรกิจองค์กร (คอมเมอร์เชี่ยล) และธุรกิจในกลุ่มคอนซูเมอร์อย่างต่อเนื่อง พร้อมประกาศการก้าวเข้าสู่ปีที่ 21 ด้วยแผนงาน "Dell 2020 Legacy of Good Plan" คืนกลับสิ่งที่ดีสู่ลูกค้าทั้งองค์กรธุรกิจและผู้บริโภคในประเทศ ผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่เดลล์พัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ภายในงานพบกับพันธมิตรธุรกิจที่สำคัญของเดลล์อย่าง Intel, Microsoft, โรงพยาบาลสมิติเวช, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และมหาวิทยาลัยบูรพา ที่ต่างมาร่วมแสดงความยินดี และบอกถึงความประทับใจในประสิทธิภาพและการบริการเปี่ยมคุณภาพของเดลล์ ที่สามารถดึงศักยภาพในทุกมิติของแต่ละองค์กรออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นยังมีการเปิดตัวสินค้าตัวใหม่จากเดลล์จำหน่ายให้กับผู้ที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ ลาน Eden ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด เมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเดลล์ ได้ที่www.facebook.com/DellThailand หรือ www.dell-thailand.com

4357
ซัมซุงจัดกิจกรรม “Meet the Blind” เปิดโลกทัศน์ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเข้าใจผู้พิการทางสายตา พร้อมเตรียมเปิดตัวโครงการ "Read for the Blind 2015" ชวนคนไทยอ่านหนังสือเสียงผ่านแอพพลิเคชันร่วมกัน 1,000 คน 29 พฤศจิกายนนี้ที่เซ็นทรัลเวิลด์









          หากพูดถึงการสร้างสังคมให้น่าอยู่ หนึ่งส่วนที่สำคัญคือความสัมพันธ์ระหว่างคนทุกระดับในสังคม ไม่ใช่แค่เพียงความสัมพันธ์ระหว่างคนปกติด้วยกันเพียงเท่านั้น แต่รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนปกติและผู้พิการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและต้องทำความเข้าใจเป็นอย่างมาก เพื่อการปรับตัวเข้าหากันและอยู่ร่วมกันสร้างสังคมที่มีความสุข ด้วยเหตุนี้ ซัมซุงจึงได้จัดกิจกรรม "Meet the Blind" พาสื่อมวลชนและอาสาสมัครมาพบกับผู้พิการทางสายตาเพื่อค้นหาจุดสมดุลแห่งความเข้าใจร่วมกัน

          กิจกรรม "Meet the Blind" เป็นส่วนหนึ่งของโครงการทำความดีครั้งยิ่งใหญ่ของซัมซุง "Read for the Blind 2015" อ่านหนังสือเสียงเพื่อผู้พิการทางสายตาผ่านแอพพลิเคชัน โดยกิจกรรม Meet the Blind ได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมใช้เวลาร่วมกับผู้พิการทางสายตาด้วยกิจกรรมง่ายๆ ในชีวิตประจำวันที่สามารถทำร่วมกันได้ เช่น การนั่งทานอาหารหรือเดินซื้อของด้วยกัน ซึ่งจะเป็นการเปิดโลกทัศน์ แลกเปลี่ยนมุมมอง แบ่งปันประสบการณ์ เพื่อเรียนรู้และเข้าใจคนตาบอดที่มีอยู่กว่า 700,000 คนในประเทศไทย

          ด้าน นายสิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานฝ่ายกลยุทธ์ ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการว่า "สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในการใช้ชีวิตของคนตาบอดในทุกด้าน ทั้งเรื่องการเดินทาง ความบันเทิง การศึกษา ฯลฯ โดยซัมซุงได้เห็นความสำคัญในจุดนี้ จึงมีความมุ่งมั่นพัฒนาซอฟต์แวร์ให้รองรับการใช้งานของผู้พิการทางสายตามากขึ้น ซึ่งแอพพลิเคชัน Read for the Blind ก็เป็นหนึ่งในความตั้งใจนั้น การเกิดขึ้นของโครงการและแอพพลิเคชัน Read for the Blind นับว่าเป็นปรากฏการณ์การทำความดีเพื่อสังคมครั้งยิ่งใหญ่ที่สามารถวัดได้จากความสำเร็จของโครงการที่เปิดตัวไปครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2556 โดยซัมซุงและองค์กรพันธมิตรได้รวมพลังคนไทยสร้างบทความและหนังสือเสียงเพื่อผู้พิการทางสายตากว่า 12,000 ชิ้น ภายใน 1 ปีผ่านแอพพลิเคชัน Read for the Blind จากเดิมที่มีหนังสือเสียงในประเทศไทยเพียง 5,000 เล่ม ซึ่งน้อยกว่า 1% ของจำนวนคนตาบอดกว่า 700,000 คนเสียอีก โดยแอพพลิเคชัน Read for the Blind ได้รับผลตอบรับที่ดีด้วยยอดดาวน์โหลดกว่า 100,000 ดาวน์โหลด ช่วยให้คนไทยสามารถทำความดีกันได้อย่างง่ายๆ ทุกที่ทุกเวลา และสามารถผลิตบทความและหนังสือเสียงได้อย่างหลากหลายและเพียงพอต่อความต้องการของผู้พิการทางสายตา เพื่อสานต่อความดีนี้ จึงเป็นที่มาของการกลับมาอีกครั้งของโครงการทำความดีครั้งยิ่งใหญ่ 'Read for the Blind 2015' ซึ่งอยู่ภายใต้แนวคิด 'อ่านเปลี่ยนชีวิต' ซึ่งซัมซุงเห็นว่าการอ่านนั้นสามารถเปลี่ยนความคิด ทัศนคติมุมมองต่อโลก รวมไปถึงเปลี่ยนชีวิตทั้งผู้อ่าน และผู้ฟัง สำหรับโครงการนี้ หนังสือเสียงที่อาสาสมัครได้ร่วมกันอ่านและผลิตขึ้นมานั้น เป็นส่วนสำคัญที่สามารถเปลี่ยนชีวิตเพื่อนร่วมสังคมที่เป็นผู้พิการทางสายตาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้"

          นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ หนึ่งในผู้ริเริ่มแอพพลิเคชัน Read for the Blind กล่าวว่า "โครงการ Read for the Blind ให้อะไรมากกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่เป็นการช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา แต่ยังช่วยให้อาสาสมัครและคนทั่วไปได้มีโอกาสในการทำความดีได้ง่ายๆ มีอาสาสมัครหลายคนที่มีความสุขกับการอ่านหนังสือเสียงบนแอพพลิเคชัน Read for the Blind เขาใช้เวลาว่างจากการทำงานในการอ่านหนังสือเสียง ซึ่งบทความและหนังสือที่บันทึกโดยแอพพลิเคชัน Read for the Blind หลายเล่มติดอันดับ Top 10 คนฟังมากที่สุดในระบบหนังสือเสียง อาสาสมัครบางคนมีผู้พิการทางสายตาติดตามเป็นแฟนคลับเยอะ เพราะอ่านได้สนุกและน้ำเสียงไพเราะ ทำให้เราได้ค้นพบว่า Read for the Blind ได้กลายเป็นอีกหนึ่งคอมมิวนิตี้ที่รวมสังคมระหว่างคนทั่วไปและผู้พิการทางสายตาไว้เป็นหนึ่ง สร้างความสุขเล็กๆ ให้เกิดขึ้นในสังคม

          สำหรับกิจกรรม Meet the Blind ในครั้งนี้ ทำให้เราได้ลองใช้ชีวิตร่วมกับผู้พิการทางสายตาเหมือน 'เพื่อน' คนหนึ่ง ทำให้ได้เรียนรู้และเข้าใจพวกเขามากขึ้น ว่าพวกเขาก็เป็นเพื่อนที่มีความสามารถและศักยภาพในการดำรงชีวิตได้แทบไม่ได้ต่างจากคนปกติอย่างเราๆ เพื่อนที่เราสามารถนั่งคุยหรืออ่านหนังสือให้เขาฟังได้โดยไม่ต้องคิดถึงความแตกต่าง เจตคติในแง่บวกแบบนี้จะทำให้พวกเขามีความสุขและมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป กิจกรรมในวันนี้เป็นการทำความดีง่ายๆ รูปแบบหนึ่งเพื่อผู้พิการทางสายตาซึ่งหากเราต้องการช่วยเหลือพวกเขา การอ่านหนังสือเสียงผ่านแอพพลิเคชัน Read for the Blind ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา"

          ด้าน นายนุวัตร ตาตุ ผู้พิการทางสายตาที่มาเข้าร่วมกิจกรรม Meet the Blind เล่าให้ฟังว่า "ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับประโยชน์จากหนังสือเสียงในโครงการ Read for the Blind ที่ผ่านมา หลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่าการอ่านหนังสือเสียงสามารถเปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งได้ แต่สำหรับผมหนังสือเสียงที่ได้รับการผลิตผ่านแอพพลิเคชัน Read for the Blind ให้ประโยชน์กับผมมาก ครอบคลุมหนังสือหลากหลาย ทั้งให้ความรู้และความบันเทิง ถือว่าเป็นการเปิดโลกใหม่ให้กับผม ผมเลยอยากเชิญชวนคนไทยทุกคนมาร่วมกันทำความดีโดยการอ่านหนังสือเสียงกับ Read for the Blind ปีนี้กันเยอะๆ ครับ"

          แอพพลิเคชัน Read for the Blind 2 มีการปรับปรุงใหม่เพื่อเพิ่มคุณสมบัติพิเศษให้มากขึ้น เช่น เพิ่มฟังก์ชันแสดงความคิดเห็นเพื่อให้ผู้พิการทางสายตาที่เข้ามาฟังสามารถแสดงความเห็นต่อหนังสือเสียงเล่มนั้นได้หรือสามารถร้องขอหนังสือที่อยากฟังได้ ฟังก์ชันในการเชิญเพื่อนมาช่วยกันอ่านหนังสือเสียงเล่มเดียวกัน ฟังก์ชันย้อนกลับไปแก้ไขคำที่อ่านผิดเฉพาะจุด และที่สำคัญ ผู้พิการทางสายตายังสามารถฟังหนังสือเสียงผ่านแอพพลิเคชัน Read for the Blind 2 บนสมาร์ทดีไวซ์ได้เลย จากเดิมที่ต้องโทรศัพท์เข้ามาฟังผ่านฮ็อตไลน์ 1414เท่านั้น

          "ซัมซุงตั้งเป้าผลิตบทความและหนังสือเสียงเพิ่มขึ้น 10,000 ชิ้นจากเดิมที่มีอยู่ 12,000 ชิ้น รวมทั้งสิ้น 22,000 ชิ้น ภายในเดือนมีนาคม 2559 โดยคาดหวังให้หนังสือเสียงที่ผลิตบนแอพพลิเคชันของเรานี้ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนชีวิตผู้พิการทางสายตาอีกหลายคนในสังคมไทย" นายสิทธิโชคทิ้งท้าย

          ซัมซุงเชิญร่วมกันทำความดีครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งในงาน Read for the Blind 2015 ชวนคนไทย 1,000 คนมา "อ่านเปลี่ยนชีวิต" อ่านหนังสือเสียงเพื่อผู้พิการทางสายตาผ่านแอพพลิเคชัน Read for the Blind 2 ฉบับปรับปรุงใหม่บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ดาวน์โหลดฟรีผ่าน Google Store และ App Store ในวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายนนี้ ณ เมืองไทย จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์เฮาส์ ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้ลงทะเบียนแล้วที่ Facebook.com/ReadfortheBlind

4358
Razer เปิดตัวคอนเซ็ปต์สโตร์สาขาใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เกมเมอร์ชาวไทยจะได้สัมผัสประสบการณ์เกมในบ้านหลังใหม่ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์



กรุงเทพฯ ประเทศไทย - Razer™ ผู้นำระดับโลกด้านอุปกรณ์เชื่อมต่อและซอฟต์แวร์สำหรับเกมเมอร์ เปิดตัว คอนเซ็ปต์สโตร์สาขาใหม่แห่งที่ 3 ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดร้านค้าคอนเซ็ปต์แล้ว 2 แห่งที่ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน และกรุงมะลินา ประเทศฟิลิปปินส์   

ที่ RazerStore เกมเมอร์จะได้สัมผัสประสบการณ์เกมและสินค้าที่ทันสมัยที่สุดจาก Razer ตั้งแต่ระบบ อุปกรณ์เชื่อมต่อ กลุ่มเครื่องเสียง ไปจนถึงอุปกรณ์สวมใส่ ซอฟท์แวร์ เสื้อผ้าและเกียร์ต่างๆ โดยเหล่าเกมเมอร์สามารถทดสอบประสบการณ์เกมที่ร้านได้ตลอดทั้งวัน ภายในร้านที่จัดแต่งอย่างลงตัวและเพรียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์เกมที่ทันสมัยมากมายกว่า 30 ประเภท ซึ่งเหล่าเกมเมอร์จะได้ทดลองอุปกรณ์ที่ทรงประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในโลกเหล่านี้   

Razer ได้เลือกเปิด RazerStore ในประเทศต่างๆ ตามคำเรียกร้องของคนที่มีความสำคัญที่สุด นั่นคือเหล่าเกมเมอร์  พร้อมทั้งมีคอมมิวนิตี้คนเล่นเกมและมีการเติบโตของกีฬา อีสปอร์ต (eSports) อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยดังกล่าวทำให้ประเทศไทยนั้นมีความเหมาะสมในการตั้ง RazerStore สาขาใหม่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน 3 สาขา ด้วยพื้นที่ถึง 180 ตารางเมตร นอกจากจะมีกลุ่มนักเล่นเกมที่เหนียวแน่นแล้ว RazerStore สาขากรุงเทพฯแห่งนี้ จะใช้เป็นสถานที่ในการเทรนเหล่าโปรแกรมเมอร์หน้าใหม่ในประเทศไทยอีกด้วย และด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้ RazerStore ได้สร้างห้องอเนกประสงค์ที่สามารถใช้ในการฝึกซ้อมกีฬาอีสปอร์ตภายในร้านอีกด้วย

Min-Liang Tan ประธานบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งของ Razer กล่าวว่า "พวกเราต้องการให้ RazerStore สาขากรุงเทพฯ เป็นสถานที่จุดประกายและเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างเกมเมอร์ชาวไทย โดยเราหวังว่าจะสามารถทำให้วงการอีสปอร์ตของประเทศไทยเติบโตยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นการตอบแทนคืนกลับให้แก่สังคมที่เราดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด” และเพื่อเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาวงการอีสปอร์ตของไทย Razer ได้จัดให้มีการเซ็นสัญญาระหว่าง Estrell ทีมนักกีฬาอีสปอร์ตชื่อดังของไทย  เพื่อเข้าเป็นสมาชิกใหม่ร่วมสังกัด Team Razer ในโอกาสฉลองเปิด RazerStore แห่งใหม่นี้อีกด้วย

RazerStore แหล่งรวมกลุ่มคนเล่นเกมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “Touch, Play, Stay” ให้เหล่าเกมเมอร์ได้สัมผัสและทดลองผลิตภัณฑ์ของ Razer ให้จุใจจนไม่อยากไปไหน มีสเตชั่นสำหรับเล่นเกมมากกว่า 30 สเตชั่นให้ทั้ง Razer Blade แล็ปท็อปสำหรับเล่นเกมมากถึง 20 เครื่อง, NZXT H440 ที่ Razer ได้ออกแบบเคส 2 เครื่อง, คอนโซล Forge TV 6 เครื่อง, คอนโซล Xbox One 5 เครื่อง และอุปกรณ์เชื่อมต่อระดับโปรเฟสชั่นเนลเกรดอีกมากมาย

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเป็น RazerStore ที่กรุงเทพฯ Razer ได้จัดกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นโดยเหล่าเกมเมอร์สามารถร่วมกิจกรรมเพื่อรับรางวัล ทั้ง เสื้อเชิ้ต, L33t packs และของที่ระลึกมากมาย โดยแฟนตัวจริงที่นำอุปกรณ์เชื่อมต่อหรือระบบของ Razer มาแสดงภายในงานจะได้รับหูฟังสำหรับโทรศัพท์มือถือ Razer Kraken Mobile หรือสายรัดข้อมืออัจฉริยะ Nabu X

RazerStore กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ชั้น 4 โซนเอเทรี่ยม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยผู้สนใจสามารถเข้าดูรายละเอียดของร้านได้ที่ http://www.razerzone.com/razerstores/bangkok

เกี่ยวกับ Razer:
Razer™ คือผู้นำระดับโลกด้านอุปกรณ์และซอฟต์แวร์สำหรับเกมเมอร์

Razer เปลี่ยนวิธีการที่ผู้คนเล่นเกม มีส่วนร่วมกับเกมเมอร์คนอื่น ๆ และเข้าใจไลฟ์สไตล์ของเกมเมอร์ หลังจากได้รับรางวัล "Best of CES" สี่ปีติดต่อกัน ผู้นำด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของบริษัทยังคงต่อยอดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ ๆ ให้กับคอมมิวนิตี้นักเล่นเกมซึ่งคาดว่ามีมากกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วโลก

ดีไซน์และเทคโนโลยีชั้นยอดของ Razer ประกอบด้วยอินเทอร์เฟซผู้ใช้และอุปกรณ์ระบบ voice-over IP สำหรับเกมเมอร์และแพลตฟอร์มระบบคลาวด์เพื่อการกำหนดค่าและปรับปรุงอุปกรณ์เล่นเกม

Razer ก่อตั้งในปี 2005 ได้รับการสนับสนุนโดย IDG-Accel และ Heliconia Capital Management (Heliconia) บริษัทในเครือของ Temasek ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนของสิงคโปร์ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ http://www.razerzone.com/about-razer

4359
Infestation ชวนคุณบุกงาน Razer Store Bangkok Opening!


22 พ.ย.นี้ ร่วมฉลองเปิดตัว RazerStore สาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก!! ซึ่งจะเปิดในประเทศไทย ณ ห้อง A406 RazerStore TH, ชั้น 4 Central World กรุงเทพฯ ภายในงานคุณจะได้พบกิจกรรม และของรางวัลมากมาย โดยงานจะเริ่มเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป

สถานที่ และวันเวลาจัดงาน ห้อง A406 RazerStore TH, ชั้น 4 Central World กรุงเทพฯ วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน 2558 งานเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป



พิเศษสำหรับชาว Infestation ทุกท่านที่มาร่วมงาน!!

     ในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ย. 58 จะมีทีมงานเกม Infestation ไปแจกของรางวัลด้วย ง่ายๆ เพียงถ่ายภาพ Selfie ตนเองพร้อมภาพบรรยากาศภายในงาน แล้วโพสลงแฟนเพจ Razer พร้อมติด Hashtag #infestation รับไปเลยทันที
     • NVG Goggles (K.Style) 1 ea
     • SWAT Armor 1 ea
     • ALICE Rucksack 1 ea
     • Bandages DX 10 ea
     • STANAG C-Mag 3 ea
     • SIG SAUER 556 1 ea

พร้อมสิทธิ์จับฉลาก 1 ครั้ง ลุ้นรับ AW Magnum  Set ภายในประกอบไปด้วย
     • AW Magnum 1 ea
     • FMG9 1 ea
     • Medium Vest VDV 1 ea
     • K. Style Helmet 1 ea

หมายเหตุ : ของรางวัลมีจำนวนจำกัด มาก่อนมีสิทธิ์ก่อน ทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนกติกาการจับรางวัลตามความเหมาะสมที่หน้างาน โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

4360
เครื่องม้วนผมเรมิงตัน เคิร์ล เรโวลูชั่น (Remington Curl Revolution) รุ่น CI-606 เนรมิตผมลอนสวยดุจมืออาชีพ




เรมิงตัน (Remington)  แบรนด์อุปกรณ์ดูแล ตกแต่งเส้นผมและหนวดเคราจากอเมริกา ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่เอาใจคนรักผมลอน “เครื่องม้วนผม เคิร์ล เรโวลูชั่น (Curl Revolution) รุ่น CI-606” ให้คุณเนรมิตผมลอนสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยฟังก์ชั่นที่ออกแบบออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและรวดเร็วแม้เคยทำครั้งแรก พร้อมเทคโนโลยีเซ็ทม้วนลอน อัตโนมัติแบบหมุนได้ 2 ทาง มีฟังค์ชั่นบูสอุณหภูมิความร้อน ร้อนเร็วภายใน 15 วินาที สามารถปรับระดับอุณหภูมิความร้อน 5 ระดับสูงสุดถึง 230 องศาฯ เพื่อผลลัพธ์ของลอนผมที่แตกต่างกันตามสไตล์ที่ชอบ แผ่นความร้อนเคลือบเซรามิค ทัวร์มาลีน ไอออนิค ช่วยให้ผมนุ่มลื่น เงางาม ลดการเกิดไฟฟ้าสถิตบนเส้นผม มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งานหลัง 60 วินาที สามารถใช้ได้กับระบบไฟทั่วโลก

เป็นเจ้าของ เครื่องม้วนผมเรมิงตัน เคิร์ล เรโวลูชั่น (Remington Curl Revolution) รุ่น CI-606 ได้ในราคาเพียง 4,990 บาท พร้อมฟรีกระเป๋าสำหรับจัดเก็บอุปกรณ์และการรับประกันสินค้า 2 ปี ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป สอบถามเพิ่มเติมที่ beauty@noblecosper.com โทร. 02-721-2361-70 หรือเพียงค้นหาคำว่า Remington Thailand ใน www.facebook.com     

4361
ซัมซุงปฏิวัติวงการระบบปรับอากาศ เปิดตัว 4 ผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่มาพร้อมสุดยอด เทคโนโลยีล้ำสมัย ในงาน “Samsung AC Forum 2015” ณ ประเทศเกาหลีใต้





          ซัมซุงประกาศศักดาผู้นำแห่งนวัตกรรมปรับอากาศ เปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ 4 รายการ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศแบบฝังในฝ้าสำหรับกระจายลมรอบด้าน 360 องศาโฉมใหม่ (360 Cassette) ระบบทำความเย็นดีวีเอ็มรุ่นใหม่ (DVM Chiller) ระบบปรับอากาศสำหรับอาคาร ดีวีเอ็ม เอส 30แรงม้า (DVM S 30HP) และเครื่องปรับอากาศระบบวีอาร์เอฟแบบเป่าลมด้านข้าง (DVM S Eco) โดยทั้ง 4รุ่นได้มาปรากฏโฉมในงาน "Samsung AC Forum 2015" ณ ประเทศเกาหลีใต้ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถือเป็นนวัตกรรมชั้นเยี่ยมจากตระกูลเทคโนโลยีวิศวกรรมระบบ HVAC (ระบบทำความร้อน ระบายอากาศและปรับอากาศ) จึงพร้อมพลิกโฉมวงการผ่านการนำเสนอคุณสมบัติประหยัดพลังงาน สมรรถภาพสูง ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า และปรับอากาศให้เย็นได้เร็วกว่าที่เคย

          มร. บีเค ยูน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า "ซัมซุงจริงจังกับการพัฒนาเทคโนโลยีอยู่เสมอเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ให้แก่ผู้บริโภค โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะขยับยอดขายให้สูงถึงหนึ่งหมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อปีให้ได้ภายในปี 2563 เพื่อเป็นผู้นำด้านโซลูชันการปรับอากาศแห่งอนาคต"

เครื่องปรับอากาศแบบฝังในฝ้าสำหรับกระจายลมรอบด้าน 360 องศา (Samsung 360 Circular Cassette Design)
          Samsung 360 Cassette เป็นเครื่องปรับอากาศที่จะมาพลิกโฉมและปฏิวัติวงการปรับอากาศ ด้วยการออกแบบด้วยดีไซน์วงกลมที่กระจายลมรอบทิศทางอย่างสมบูรณ์แบบ สามารถทำให้กระแสลมเย็นก่อตัวเป็นชั้นๆ ช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในห้องให้คงที่สม่ำเสมอทั่วห้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับการออกแบบเครื่องเพื่อกระจายลมรอบด้าน 360 องศา การควบคุมทิศทางลมโดยไม่อาศัยบานสวิงปรับลมของตัวเครื่อง

          รับประกันว่าผลิตภัณฑ์ล่าสุดนี้พร้อมสร้างความเย็นแสนสบายให้อย่างรวดเร็ว ไม่มีกระแสลมหนาวปะทะผู้ใช้เป็นช่วงๆ เพราะตัวเครื่องสามารถควบคุมปริมาณกระแสลมได้อย่างสมบูรณ์หากเทียบกับเครื่องปรับอากาศแบบฝังในฝ้าสี่ทิศทางเนื่องจากเครื่องรุ่นนี้พร้อมกระจายลมรอบด้าน 360 องศาอย่างแท้จริง ส่งผลให้สามารถทำความเย็นได้เร็วขึ้นถึง 34% และไม่มีการสูญเสียอัตราการไหลของลมไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 25% เหมือนเครื่องปรับอากาศฝังในฝ้ารุ่นดั้งเดิมที่เป็นแบบสี่ทิศทาง

          เครื่องปรับอากาศแบบฝังในฝ้าสำหรับกระจายลมรอบด้าน 360 องศานี้ไม่เพียงมีสมรรถภาพการทำงานเยี่ยมยอด หากแต่ยังมาพร้อมดีไซน์เรียบหรูพร้อมประดับเข้ากับสิ่งก่อสร้างทุกรูปแบบอย่างกลมกลืน ตัวเครื่องมีช่องแอร์และจอแสดงผลการควบคุมตัวเครื่องที่ชาญฉลาดพร้อมช่วยให้ผู้ใช้งานปรับกระแสทิศทางลมได้ตามชอบใจ ไม่ว่าจะเลือกแบบกระแสลมแนวนอน แนวตั้งหรือแม้แต่แยกปริมาณลมเฉพาะโซน

          ที่สำคัญ เครื่องปรับอากาศรุ่นนี้จะฝังอยู่เพดานหรือติดตั้งแบบเปลือยก็ได้ เรียกได้ว่ามีความยืดหยุ่นในการติดตั้งสูงแถมยังเข้ากันได้ดีกับทุกสไตล์การตกแต่งห้อง มีรีโมทคอนโทรลแบบจอหน้าปัดหมุนพร้อมปุ่มสั่งการควบคุมความเย็นแสนสบาย ยิ่งไปกว่านั้น นวัตกรรมแห่งการปรับอากาศรุ่นนี้ยังมีตัวช่วยอย่าง "Samsung Virus Doctor" ที่คอยช่วยคุ้มครองสุขภาพของผู้ใช้งานด้วยการคอยกำจัดฝุ่น สิ่งปนเปื้อนในอากาศ เชื้อโรค แบคทีเรียและไวรัสด้วย

          ระบบปรับอากาศสมรรถภาพสูงสำหรับอาคารรุ่นใหม่ภายใต้เทคโนโลยีวีอาร์เอฟ หรือ "ซัมซุง ดีวีเอ็ม เอส30 แรงม้า (Samsung DVM S 30HP)"

          ระบบปรับอากาศซุปเปอร์ ดีวีเอ็ม (Digital Variable Multi) รุ่นใหม่จากซัมซุงโดดเด่นยิ่งขึ้นทั้งในด้านประสิทธิภาพและสมรรถภาพในการทำงาน ผลิตภัณฑ์ล่าสุด หรือ "ซัมซุง ดีวีเอ็ม เอส 30 แรงม้า" ผสมผสานเทคโนโลยีดีวีเอ็ม เอสกับนวัตกรรมใหม่เอี่ยมไว้อย่างลงตัวพร้อมส่งมอบสมรรถภาพ ประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือที่ดียิ่งกว่าที่เคยให้แก่ผู้ใช้งาน

          ระบบปรับอากาศสำหรับอาคาร ดีวีเอ็ม เอส 30 แรงม้า รุ่นใหม่มีจุดแข็งที่จะมาปฏิวัติวงการหลายประการ อาทิ Super Inverter Scroll Compressor ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี Flash Injection ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ

          ยิ่งไปกว่านั้นระบบปรับอากาศล่าสุดนี้ยังมีพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนความร้อนมากขึ้นด้วยแผงแลกเปลี่ยนความร้อนแบบไฮบริด พร้อมการควบคุมปริมาณน้ำยาที่พอเหมาะ จึงมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงกว่าผลิตภัณฑ์รุ่นก่อนถึง 10% และมีหัวจ่ายทรงวงรีรุ่นใหม่ที่ช่วยปรับปรุงการทำงานของช่องไหลอากาศและเพิ่มอัตราไหลอากาศได้มากถึง 17%

          ระบบปรับอากาศสำหรับอาคาร "ดีวีเอ็ม เอส" จากซัมซุงมีคุณลักษณะสอดคล้องกับกฎระเบียบด้านความปลอดภัยทุกประการเพราะมีระบบตรวจจับการรั่วไหลระดับนวัตกรรม ในกรณีตรวจพบการรั่วไหล ระบบนี้สามารถสั่งการให้มีการดูดเอาสารทำความเย็นเข้าสู่ช่องทำงานหลักอัตโนมัติและปิดวาล์วทั้งหมดเพื่อแยกสารทำความเย็นจากส่วนอื่นๆ ของระบบ

          "ดีวีเอ็ม เอส อีโค 14 แรงม้า (DVM S Eco 14HP)" เครื่องปรับอากาศระบบวีอาร์เอฟแบบเป่าลมด้านข้างรุ่นใหม่จากซัมซุง

          ซัมซุง ดีวีเอ็ม เอส อีโค 14 แรงม้า เป็นเครื่องปรับอากาศระบบวีอาร์เอฟแบบเป่าลมด้านข้างรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยปรับอากาศให้อพาร์ทเมนท์และอาคารสำนักงานแบบเครื่องเดียวเอาอยู่ แถมติดตั้งนอกตึกในพื้นที่ที่จำกัดได้ ผลิตภัณฑ์นี้พัฒนาขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการโหลดเครื่องเพื่อใช้งานหลายครั้งรวมถึงการติดตั้งสายภายในสำหรับใช้งานในอาคารที่มีหลายห้องด้วย

          ซัมซุง ดีวีเอ็ม เอส อีโค 14 แรงม้า มีนวัตกรรมการออกแบบครบเครื่องด้วย คอมเพรสเซอร์แบบอินเวอร์เตอร์ สโครลล์ (Inverter Scroll Compressor) และครีบระบายความร้อนแบบมีหยัก (Corrugate Fin) ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำความร้อนราว 20% แต่ยังช่วยเพิ่มปริมาณลมอีกราว 10% ด้วยหากเทียบกับเครื่องปรับอากาศระบบวีอาร์เอฟแบบปล่อยลมด้านข้างรุ่นดั้งเดิมจำนวนแรงม้าที่เพิ่มสูงขึ้นของเครื่องปรับอากาศรุ่นดีวีเอ็ม เอส อีโค (สูงสุดถึง 14 แรงม้า) ในครั้งนี้ หมายถึง ผู้ใช้สามารถใช้เครื่องปรับอากาศติดตั้งภายนอกเพียงเครื่องเดียวสำหรับดูแลการปรับอากาศของอพารท์เมนท์หรืออาคารสำนักงานทั้งหลังได้ แทนที่จะต้องอาศัยการติดตั้งหลายเครื่องซึ่งสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากกว่า ผู้ใช้สามารถมั่นใจว่าดูแลการปรับอากาศได้อย่างทั่วถึงเพราะเครื่องปรับอากาศดีวีเอ็ม เอส อีโครุ่นล่าสุดมาพร้อมท่อที่มีความยาวสูงสุดถึง 160 เมตรและความสูงถึง 50 เมตร ตัวเครื่องของดีวีเอ็ม เอส อีโค (สูงสุดถึง 14 แรงม้า) นั้นมีขนาดเล็กกว่า1 ตารางเมตรเสียอีก (940 ตารางมิลลิเมตร) เรียกได้ว่าทั้งประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งมากขึ้น ทั้งประสิทธิภาพสูงขึ้นและทั้งติดตั้งง่ายขึ้นเพราะมีท่อต่อถึง 4 ทิศทาง

          ระบบทำความเย็นดีวีเอ็มรุ่นนวัตกรรมก้าวล้ำ ประหยัดพลังงานเต็มพิกัดจากซัมซุง (DVM Chiller)
          ซัมซุง ดีวีเอ็ม ชิลเลอร์ ระบบทำความเย็นดีวีเอ็มรุ่นใหม่มีขนาดกะทัดรัด แต่ทรงพลังเพราะผนวกรวมจุดแข็งของทั้งระบบชิลเลอร์ที่อาศัยอากาศในการระบายความร้อนและระบบวีอาร์เอฟ (ระบบที่สามารถเปลี่ยนแปลงปริมาณสารทำความเย็นตามภาระโหลดของการทำความเย็น) ไว้อย่างลงตัว

          ระบบทำความเย็นดีวีเอ็มรุ่นใหม่มีคุณลักษณะสอดคล้องกับกฎระเบียบที่เคร่งครัดยิ่งขึ้นของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับปริมาณก๊าซฟลูออริเนต (F-Gas levels) ทุกประการ ตลอดจนตอบสนองความต้องการซื้อระบบ HVAC(ระบบทำความร้อน ระบายอากาศและปรับอากาศ) ที่ทำงานโดยอาศัยน้ำเป็นหลักในตลาดซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วย ซัมซุงพัฒนาระบบทำความเย็นรุ่นใหม่นี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ แม้จะทำงานโดยอาศัยอากาศในการระบายความร้อนเป็นหลัก แต่ครบเครื่องเรื่องประหยัดพลังงาน ใช้งานง่ายและดีไซน์กะทัดรัด

          เนื่องจากระบบทำความเย็นดีวีเอ็มจากซัมซุงสามารถลดปริมาณการใช้งานสารทำความเย็นลงได้มากเมื่อเทียบกับระบบทำความเย็นแบบดั้งเดิม ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้จึงไม่เพียงผ่านเกณฑ์กำกับปริมาณสารทำความเย็นที่ประกาศใช้โดยสหภาพยุโรปเมื่อปี 2558 แต่ยังจะผ่านเกณฑ์กำกับที่เตรียมใช้ลดปริมาณสารทำความเย็นลงอีกในอนาคตอันใกล้ด้วย (35% ในปี 2561)

          ทั้งนี้ ระบบทำความเย็นดีวีเอ็มจากซัมซุงมาพร้อมคอมเพรสเซอร์แบบอินเวอร์เตอร์ สโครลล์ชนิดมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงไร้แปรงถ่าน (BLDC Inverter Scroll Compressor) ระดับมาตรฐานโลก ครบครันด้วยเทคโนโลยีแฟลช อินเจ็คชั่น (Flash Injection) พร้อมผลิตน้ำอุ่นความร้อน 45° องศาเซลเซียสแม้อุณหภูมิแวดล้อมจะอยู่ ณ -20°องศาเซลเซียสก็ตาม ที่สำคัญ ยังเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานดียิ่งกว่าที่เคยหรือประหยัดพลังงานได้มากขึ้นนั่นเอง เรียกได้ว่าผู้ใช้จะสามารถประหยัดค่าสาธารณูปโภคต่อไปได้ถึงราว 36 – 50% ต่อปีทีเดียวหากเทียบกับระบบทำความเย็นรุ่นดั้งเดิม

          ระบบทำความเย็นดีวีเอ็มของซัมซุงยังสามารถทำน้ำเย็นเพื่อใช้ในระบบ Thermal Ice Storage โดยมีเซ็นเซอร์ตรวจวัดแรงดันในตัวเพื่อป้องกันมิให้เกิดกรณีอุปกรณ์ขัดข้องเพราะน้ำแข็งตัวจนขยายตัวสร้างรอยปริร้าวหรือรอยรั่วต่าง ๆ

          นอกจากนี้ บนเวที Samsung AC Forum 2015 ซัมซุงเปิดเผยให้ทราบว่าบริษัทมีแผนจะร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญชื่อดังของโลกในหลายโครงการเพื่อเชื่อมการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ผ่านอินเทอร์เน็ตเข้ากับพื้นที่การใช้ชีวิตของมนุษย์ในอนาคต โดยจะมีทั้งอาจารย์และสถาปนิกคนดังหลายรายร่วมโครงการดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ รัสเซล บราวน์ สมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้งมาในระดับประเทศของราชสภาสถาปนิกอังกฤษ ได้ขึ้นเวทีเพื่อร่วมแสดงวิสัยทัศน์ของเขาต่อสถาปัตยกรรมและการออกแบบพื้นที่ใช้สอยในอนาคตด้วยเพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่านวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นจะมอบอะไรให้แก่มนุษย์บ้าง

4362
Your own world of audiophile sound Sennheiser launches the HD 630VB – its first closed-back audiophile headphones













  Launching the HD 630VB, audio specialist Sennheiser is introducing its first closed audiophile headphone model. The circumaural headphones deliver balanced, audiophile sound and offer a distraction-free listening experience, whether at home or on the move. Featuring a rotary bass dial, the HD 630VB allows for the user to customize the bass response according to their personal preferences.

          Audiophile sound with optional bass boost
          With the launch of the closed-back HD 630VB, audio specialist Sennheiser combines the brilliant sound of open audiophile models with excellent ambient noise attenuation. The new headphones deliver an impressively spatial sound image, while allowing for the users to enjoy their listening experience without any distractions. "The HD630VB is a milestone for Sennheiser: For the first time, we translated our long-standing experience in the field of high-end audio into a closed-back design. Featuring passive noise cancelling, the HD630VB reliably insulates the user from ambient noise, so he can fully focus on his music", said Axel Grell, Portfolio Manager Audiophile at Sennheiser.

          Specifically developed for the HD 630VB, Sennheiser's pro-prietary high-performance trans-ducer is the "heart" of this model. It delivers the power for an intense bass experience which can be customized via a rotary bass dial according to the listening environment, the music being played and the user's individual preferences. With total harmonic distortion of less than 0.08 percent (at 1 kHz and 100 dB sound pressure level) and thanks to a coil wire made from pure aluminium, the HD630VB achieves an unaltered sound image with a precise reproduction of voices and instruments in the mid-ranges and brilliant trebles.

          Exceptional sound experience at home and on the move
          With an impedance as low as 23 Ω, the HD 630VB is an ideal companion to portable music devices as well. Offering a frequency response of 10 to 42,000 HZ, the headphones are suitable for reproducing high-resolution audio files. Enjoyment of quality audio on the move is effortless thanks to a collapsible design that has been crafted from lightweight materials: Sennheiser used dampened aluminium on the ear cups, headband and sliders. "We chose these robust materials to ensure maximum durability", said Axel Grell. "Additionally, we made sure the ear pads are exchangeable and easy to replace." Featuring a remote control on the right ear cup and a microphone which has been integrated into the high-quality OFC cable, users can comfortably control music and take calls on current smartphone models.

          Clean design language and excellent comfort
          Styled with Sennheiser's clean, contemporary design ethos, the HD630VB radiates cool, purpose and performance, combining great comfort with desirable good looks. The adjustable headband lets users achieve the perfect fit, while the soft ear pads give enhanced comfort even over long periods of listening enjoyment. "The HD630VB impresses with both its exceptional sound performance and its minimalistic modern design", said Axel Grell.

          The HD 630VB will be available through selected Sennheiser sales partners from 12 November 2015 at THB22,990 Sennheiser offers a two-year warranty on the headphones.

4363















ชื่อสินค้า      :    โมบายชัวร์ ศูนย์บริการมือถือ Smart Serviceครบวงจร
ชื่อภาพยนตร์โฆษณา   :    เรื่อง "ทุกบาทมีค่า"
ความยาว      :     15 วินาที / 30 วินาที
เจ้าของสินค้า      :   บริษัท โมบายชัวร์ จำกัด
บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์:   Sincerely Yours Communications Ltd.
ครีเอทีฟ / ผู้กำกับภาพยนตร์: ไกรศร ลีลาชัยพิสิฐ (Executive Creative Director)


บริษัท โมบายชัวร์ จำกัด ผู้ให้บริการศูนย์บริการมือถือ Smart Service “Mobile Sure” โมบายชัวร์… ศูนย์จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริม อะไหล่โทรศัพท์มือถือที่ได้มาตรฐาน พร้อมบริการทั้งงานซ่อม, บริการรับชำระ, บริการซื้อขายแลกเปลี่ยน, บริการด้านแอพพิเคชั่น, ตรวจเช็คเเบบครบวงจร ภายใต้สโลแกน "ผู้ให้บริการสมาร์ทโฟนและแอปพลิเคชั่น แบบครบวงจร On The Way" เพื่อสร้างนวัตกรรมการให้บริการใหม่ล่าสุด ที่จะมาให้บริการภายในปั๊มน้ำมัน บีทีเอส เอ็มอาร์ที มหาวิทยาลัย สนามบิน และคอมมูนิตี้มอลล์ พร้อมปูพรมทั่วไประทศ การันตีการให้บริการครบวงจร แบบจัดเต็ม สินค้าแท้มาตรฐานเยี่ยม พร้อมให้บริการชอปปิ้งออนไลน์ที่ www.mobilesure.co.th หรือสามารถติดได้ที่ 02-158-0348-9 เปิดให้บริการมากกว่า 100 แห่งภายในปี 2559

และเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ของกลุ่มเป้าหมาย “Mobile Sure” โมบายชัวร์…จึงได้ออกภาพยนตร์โฆษณามาทั้งหมด จำนวน 3 เรื่อง ชื่อภาพยนตร์โฆษณา"รีบ" "รักร้าว" "ทุกบาทมีค่า" ความยาว15, 30 วินาที

แนวคิดภาพยนตร์โฆษณาโมบายชัวร์
วัตถุประสงค์
เพื่อแนะนำ โมบายชัวร์ ศูนย์บริการมือถือ Smart Service ครบวงจร On The Way ช่องทางใหม่ที่ตอบโจทย์นักเดินทางและคนทำงาน ผู้ที่เดินทางบ่อย ๆ ด้วยบริการทุกเรื่องของมือถือระหว่างการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องซ่อม ส่งซ่อมที่นี่แล้วสามารถเลือกสาขาที่ต้องการรับเครื่องได้ทั่วไทย เรื่องซื้อขายแลกเปลี่ยน ที่นี่รับเทิร์นมือถือพร้อมรับประกันเครื่องใหม่ 2 ปี หรือเรื่องรับจ่ายบิลมือถือทุกค่าย ฟรีค่าธรรมเนียม พร้อมบริการให้คำปรึกษาเรื่องมือถือ

แนวคิด (Creative Concept)
“ทุกเรื่องมือถือระหว่างเดินทาง แวะโมบายชัวร์”
นำเสนอผ่านภาพยนตร์โฆษณาความยาว 15 วินาที 3 เรื่องแยกตามจุดขายของโมบายชัวร์คือ เรื่องซ่อมเทิร์นมือถือ และเรื่องจ่ายบิลมือถือ ทั้ง 3 เรื่องใช้วิธีการนำเสนอแบบ Slice of Life สอดแทรกอารมณ์ขันไปกับการเล่าเรื่อง

เรื่องย่อ“ทุกบาทมีค่า”
นำเสนอเรื่องราวของชายหนุ่มนักบิดคนหนึ่ง ขณะติดไฟแดง มีโทรศัพท์เข้ามาเขาล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบมือถือ ทันใดนั้น เหรียญสิบในกระเป๋าเกิดติดขึ้นมาด้วยและร่วงกลิ้งไปกับพื้นถนน ด้วยความเสียดายเขาทิ้งมอเตอร์ไซค์ แล้ววิ่งไล่ตามพยามเก็บให้ได้อย่างไม่ลดละ ทั้งวิ่ง ทั้งก้ม ทั้งมุด ทั้งคลาน ทุ่มเทสุดๆ ทุกวิถีทางกว่าจะคว้าเหรียญกลับคืนมาได้ มีเสียงโฆษกพูดแนะนำเขาว่า “เสียดายเงินขนาดเนี้ยะ มานี่เลย จ่ายบิลมือถือทุกค่าย ฟรีค่าธรรมเนียม”เขาเหลือบมองป้ายร้านโมบายชัวร์ และมาจ่ายบิลมือถืออย่างมีความสุขที่นี่เพราะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม โฆษกพูดต่อ“แวะโมบายชัวร์ ครบวงจร On The Way”

4364
เดลล์ ฉลอง 20 ปีในไทยอย่างยิ่งใหญ่ จัดงาน Your life solutions powered by Dell ประกาศความพร้อมสู่ปีที่ 21 ด้วยแผน “Dell 2020 Legacy of Good Plan”



นายอโณทัย เวทยากร(ที่ 4 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และผู้จัดการทั่วไป ภาคพื้นอินโดจีน และนายธเนศ อังคศิริสรรพ (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วยพันธมิตรธุรกิจที่ให้การสนับสนุนมาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ร่วมงาน Your life solutions powered by Dell เพื่อฉลองความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย กับความสำเร็จในการขยายธุรกิจทั้งในส่วนธุรกิจองค์กร (คอมเมอร์เชี่ยล) และธุรกิจในกลุ่มคอนซูเมอร์อย่างต่อเนื่อง พร้อมประกาศการก้าวเข้าสู่ปีที่ 21 ด้วยแผนงาน “Dell 2020 Legacy of Good Plan” คืนกลับสิ่งที่ดีสู่ลูกค้าทั้งองค์กรธุรกิจและผู้บริโภคในประเทศ ผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่เดลล์พัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ภายในงานมีการเปิดตัวสินค้าตัวใหม่จากเดลล์จำหน่ายให้กับผู้ที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง   ณ ลาน Eden ชั้น 1  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด เมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเดลล์ ได้ที่ www.facebook.com/DellThailand หรือ www.dell-thailand.com

4365
เอซุส Zen AiO พลิกโฉมคอมพิวเตอร์ออลอินวันกับการเชื่อมต่อที่ครบครัน ประสิทธิภาพสูง ในดีไซน์บางเฉียบ


 




ปัจจัยหลักในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปแบบออลอินวัน ก็คือความสะดวกสบายทั้งในการจัดวางในบ้าน ในการใช้งานประจำวัน ล่าสุดเอซุสขอนำเสนอ Zen AiO คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปออลอินวันที่ลงตัวทั้งในด้านของดีไซน์ รูปแบบการจัดวาง รวมถึงการใช้งานที่ครบครันในเครื่องเดียว ทำให้ Zen AiO เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่สื่อให้ความสนใจมากที่สุด นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในช่วงกลางปีที่ผ่านมาที่งาน Computex ณ ประเทศไต้หวัน

มร. เจฟฟ์ โล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “Zen AiO จะกลายเป็นออลอินวันที่เข้ามาพลิกโฉมคอมพิวเตอร์แบบเดิมๆ ที่เราคุ้นเคยกันมา ในเรื่องของดีไซน์ที่โดดเด่น รูปลักษณ์อันสวยงาม ลงตัว แต่ภายในอัดแน่นไปด้วยขุมพลังประสิทธิภาพสูง ทำให้ Zen AiO เป็นคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสำหรับไม่ว่าจะใช้งานทั่วไปในบ้าน ใช้ทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง รวมถึงใช้งานเพื่อความบันเทิงของคุณ”

จุดที่โดดเด่นที่สุดของ Zen AiO ก็คือดีไซน์ที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นขอบตัวเครื่องที่บาง ทั้งยังใช้วัสดุพรีเมียมอย่างอลูมิเนียมสีทองที่ได้รับการบรัชลายแบบแฮร์ไลน์ในสไตล์แห่ง Zen ที่ต้องผ่านกระบวนการกว่า 17 ขั้นตอน ด้านของฐานตั้งก็ได้รับการออกแบบให้มีความคล้ายคลึงกับตัวอักษร人ในภาษาจีนซึ่งหมายถึงมนุษย์ อันแสดงให้เห็นถึงปรัชญาในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจความต้องการของผู้ใช้งาน รวมถึงยังให้ความมั่นคง แข็งแรงกับ Zen AiO อีกด้วย

ด้านของการเชื่อมต่อ Zen AiO ก็มีให้มาอย่างครบครัน เช่น การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายตามมาตรฐาน 802.11ac ที่ให้ความเร็วสูงกว่า 802.11n ถึง 3 เท่า นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ USB 2.0, USB 3.0 รวมถึงยังมี USB 3.1 ในแบบ Type-C ซึ่งถือเป็นพอร์ตแห่งอนาคตมาให้ด้วย นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีช่อง HDMI เพื่อใช้สำหรับเชื่อมต่อกับจอแสดงผลภายนอกเพิ่มเติมได้อีก ทำให้ Zen AiO เป็นคอมพิวเตอร์ที่ครบครันในด้านของการเชื่อมต่อที่สุดในปัจจุบันของเอซุส

เรื่องของประสิทธิภาพก็เป็นอีกสิ่งที่เอซุสใส่ใจในกับทุกผลิตภัณฑ์ โดย Zen AiO ก็มาพร้อมกับพลังประมวลผลจากชิป 6th Generation Intel Core i5 รุ่นล่าสุด ทำงานควบคู่กับแรมแบบ DDR4 ชิปกราฟิก GeForce ซีรี่ส์ 9 มาพร้อมกับ Windows 10 ทำให้สามารถเปิดเครื่องใช้งานได้ทันที ทั้งยังจัดเต็มด้านความบันเทิงด้วยลำโพงภายใน 6 ตัว พลังเสียงรวม 16 วัตต์ พร้อมระบบเสียง SonicMaster Premium เพื่อคุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยมที่สุด

การจะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดี ปัจจัยหลักก็คือจอแสดงผล Zen AiO มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสคุณภาพสูงทั้งขนาด 21.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD และขนาด 23.8 นิ้ว ความละเอียดระดับ Ultra HD 4K ให้มุมมองที่กว้าง ภาพสีสันสวยงาม คมชัด ทำให้คุณดื่มด่ำไปกับความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการรับชมภาพยนตร์ การเล่นเกม หรือจะใช้ในการทำงานก็สะดวกสบาย ด้วยพื้นที่บนหน้าจอที่มีให้ใช้สอยได้มากมาย เหมาะกับงานที่ต้องเปิดใช้งานหลายหน้าต่าง เช่น การตัดต่อวิดีโอ ก็ทำได้อย่างคล่องตัวในจอเดียว

นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ใช้งาน Zen AiO ทุกท่าน รับพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ ASUS WebStorage ใช้งานได้ฟรีถึง 100 GB เป็นระยะเวลา 1 ปี ทำให้สามารถเก็บไฟล์ที่ต้องการบนพื้นที่ออนไลน์ และสามารถเข้าถึงไฟล์จากอุปกรณ์อื่นนอกสถานที่ได้อย่างง่ายดาย เช่น จากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือจากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการเข้าถึงและเก็บข้อมูลได้เป็นอย่างดี

เกี่ยวกับเอซุส
เอซุส ผู้จำหน่ายโน้ตบุ๊ครายใหญ่หนึ่งในสามอันดับที่มีผู้ใช้ทั่วโลกสูงสุด เราเป็นผู้นำในการออกแบบและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการทางด้านดิจิตอลทั้งที่บ้านและที่ทำงาน อาทิ โน้ตบุ๊ค เดสก์ท็อปพีซี ออลอินวันพีซี แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน หลักในการออกแบบคือเรายึดถือความต้องการของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราเป็นผู้ปฎิวัติวงการคอมพิวเตอร์ด้วย Eee PC ที่ได้รับรางวัลต่างๆ ถึง 4,256 รางวัล ในปี 2013  ปัจจุบันเอซุส มีพนักงานกว่า 13,600 คนทั่วโลก มีทีมวิจัยและพัฒนากว่า 4,500 คน รายได้เมื่อปี 2013 ประมาณ 14 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook:  www.facebook.com/ASUSTHAILAND หรือติดต่อสอบถามได้ที่ E-mail : Asusth_pr@asus.com หรือโทร 02-677-4422-9

Pages: 1 ... 289 290 [291] 292 293 ... 330