Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: 1 ... 2150 2151 [2152] 2153 2154 ... 2407
32266

จากอังกฤษสู่นิวอิงก์แลนด์ และโอเรกอน

                “ในการสร้างอนิเมชั่นสต็อป โมชัน หรือที่เราเรียกกันในอังกฤษว่าอนิเมชั่นสต็อปเฟรม คุณจะต้องรักมัน…มาเป็นปีๆ ครับ” ผู้กำกับแซม เฟล ผู้มีประสบการณ์มากมายและสอนตัวเองในศิลปะแขนงนี้กล่าว “ใน ParaNorman เราอยากจะลองวิธีการสร้างอนิเมชั่นที่แปลกใหม่ ที่ให้ความรู้สึกแบบละครน้อยลงและให้ความรู้สึกแบบหนังมากขึ้น ParaNorman มีอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นมากมายจนคุณไม่น่าจะสร้างมันแบบสต็อป โมชัน มันมีฉากฝูงชนที่มีตัวประกอบ การไล่ล่า ไดอะล็อคทับซ้อนกัน ช็อตโคลสอัพและช็อตปฏิกิริยา โดยที่สองในสามของฉากพวกนี้เกิดขึ้นกลางแจ้ง”
   คริส บัตเลอร์ ผู้กำกับ ParaNorman เล่าว่า “มีมาตรฐานบางอย่างที่เรากำหนดไว้สำหรับตัวเอง คุณจะรู้สึกถึงความทะเยอทะยานของโปรเจ็กต์นี้ในทุกวัน แต่คุณก็จะลืมตัวไปกับโลกแฟนตาซีใบนั้น ในตอนที่คุณทำงานในหนังสต็อป โมชัน คุณจะได้ทำในสิ่งที่พิเศษสุดที่คุณหวังว่าจะมีผู้ชมไปอีกหลายสิบปีน่ะครับ”
   “ผมทำงานอนิเมชั่นมาโดยตลอด นอร์แมนเป็นเด็กที่ชอบแต่งเรื่อง และผมเองก็เหมือนกัน ตอนที่ผมอายุ 8 ขวบ ผมรู้ว่าผมอยากเล่าเรื่องด้วยอนิเมชั่น ด้วยตัวละครและภาพวิชวล ผมไล่ตามความฝันนั้นและมันก็กลายเป็นความจริงสำหรับผม”
   ก่อนหน้าที่บัตเลอร์จะเริ่มทำงานในไลก้า และทำหน้าที่ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายสตอรีบอร์ดในภาพยนตร์ของบริษัทเรื่อง Coraline เขามีไอเดียสำหรับภาพยนตร์อนิเมชั่นออริจินอล ที่เขาเริ่มต้นเขียนบท เขาตั้งข้อสังเกตว่า “มีธรรมเนียมที่นักวาดภาพสตอรีบอร์ดและซูเปอร์ไวเซอร์จะกลายเป็นผู้กำกับหนังอนิเมชั่น ก่อนอื่นคุณจะสร้างหนังด้วยภาพวาด แล้วคุณค่อยสร้างมันขึ้นมาจริงๆ ผมอยากเห็นเรื่องราวของผมเป็นภาพจริงๆ ขึ้นมาในรูปแบบสต็อป โมชันครับ”
   “การเขียน ParaNorman เป็นงานแห่งรัก ผมอยากจะสร้างหนังซอมบี้สำหรับเด็กๆ เป็นการนำปริศนาแบบสกู๊ปปี้ดูไปสู่บทสรุปที่สมเหตุสมผล แทนที่จะหักล้างความเชื่อนั้นๆ และมันก็มีไอเดียที่ว่า ‘จะเกิดอะไรขึ้นถ้า’ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผมกับยายผมด้วย ผมก็เลยจับมันใส่ลงในบทที่จะแสดงความเคารพต่อเรื่องนั้นและเต็มไปด้วยการผจญภัย ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวตนของเราด้วย หนึ่งในธีมหนังของเราคือ ‘คุณจะตัดสินหนังสือจากปกไม่ได้’ น่ะครับ”
   เขาขยายความต่อว่า “ผมใช้เวลา 10 ปีกว่าจะเขียนบทเสร็จ ผมจะเขียนๆ หยุดๆ เช่นว่าผมจะทำงานในหนังของคนอื่นทั้งวัน แล้วก็กลับมาบ้าน รีแล็กซ์ด้วยการเขียนบท ดังนั้น ParaNorman ซึ่งตอนแรกยังไม่มีชื่อ เป็นแค่หนังซอมบี้ซักเรื่อง ก็ใช้เวลาถือกำเนิดนานมากครับ”
   ผู้อำนวยการสร้างเอรีแอนน์ ซุทเนอร์มาร่วมงานนี้ตั้งแต่เริ่มแรก ก่อนหน้าที่บทจะเขียนเสร็จเสียอีก เธอเล่าว่า “เรื่องราวเกี่ยวกับเด็กนอกกลุ่มและเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดมีเสน่ห์ที่มีความเป็นสากลและอมตะ แต่เรื่องนี้จะแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ที่เราเคยดูมา สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจเกี่ยวกับบทของคริสคือการที่เขาคิดหนังเรื่องนี้ว่าเป็นหนังสำหรับเด็กและเกี่ยวกับเด็ก โดยไม่ได้ดูถูกพวกเขา และการที่หนังเรื่องนี้ได้พูดกับคนเป็นพ่อแม่อย่างฉันด้วย คริสแสดงให้เห็นว่านอร์แมนเผชิญหน้ากับความกลัวและยอมรับพรสวรรค์พิเศษที่เขามีอย่างไร”
   “คริสทำงานอย่างหนักเพื่อผสมผสานตัวละครเยี่ยมๆ เรื่องอบอุ่นหัวใจ ซีเควนซ์แอ็กชัน/ผจญภัยที่น่าตื่นตาตื่นใจ และคอเมดี ที่ไม่ได้เป็นแค่แก๊ก แต่เป็นอารมณ์ขันจริงๆ ด้วยค่ะ”
   สิ่งหลังนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญเสมอเพราะบัตเลอร์ตระหนักตั้งแต่เริ่มแรกแล้วว่า “เรื่องน่ากลัวไม่ใช่สิ่งที่พาคุณไปได้ตลอดเรื่อง แต่มันเป็นอารมณ์ขันที่เกิดจากตัวละครต่างหาก”
   ซุทเนอร์ ผู้ซึ่งประสบการณ์สต็อป โมชันของเธอรวมถึงการร่วมมือกับเฮนรี เซลิค ผู้กำกับ Coraline มากว่าสิบปี ได้ร่วมงานกับบัตเลอร์เพื่อพัฒนาบทภาพยนตร์เรื่องนี้ต่อ เธอตั้งข้อสังเกตว่า “สต็อป โมชันเป็นวิธีการสร้างหนังที่งดงาม และเป็นวิธีการที่พัฒนามาเป็นกระบวนการการร่วมมือกันที่แท้จริง แม้แต่ในระหว่างการพัฒนาบท เพราะเรื่องของสื่อและประสบการณ์ในแผนกเรื่องราวของคริส เราก็เลยโฟกัสไปที่การสำรวจด้านวิชวลเพิ่มเติมจากเรื่องของจังหวะและโครงสร้าง”
   ที่ไลก้า ผู้อำนวยการสร้างทราวิส ไนท์ได้อ่านบทภาพยนตร์ที่ยังไม่สมบูรณ์ เขายอมรับว่า “ได้เห็นหลายส่วนของตัวเองและลูกๆ ของผมในนอร์แมน” ดังนั้น เขาก็เลยอยากรู้ว่าเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ดังนั้น ระหว่างการถ่ายทำ Coraline เรื่อง ParaNorman จึงถูกเพิ่มเข้ามาในตารางการพัฒนางานของไลก้า ก่อนจะถูกขยับเลื่อนมาอยู่แถวหน้าอย่างรวดเร็ว
   ซุทเนอร์รำพึงว่า “ในโลกอนิเมชั่น ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การผลักดันหนังเรื่องนี้ให้เข้าสู่ตารางการทำงานเกิดขึ้นได้เร็วมากเลยค่ะ!”
   บัตเลอร์เล่าว่า “หน้าท้ายๆ ซึ่งรวมถึงตอนไคลแม็กซ์ ถูกกำหนดเอาไว้แล้วทั้งหมด ด้วยความที่ตัวผมเองก็มาจาก [แผนกที่ไลก้า] เรื่องราวอยู่แล้ว ผมก็รู้ดีว่ามันสำคัญขนาดไหน แต่มันก็ถูกเขียนขึ้นระหว่างที่เราทำงานใน Coraline พอหนังเรื่องนั้นเสร็จ เราก็ไปวางแผน ParaNorman กันต่อ จริงๆ แล้ว ผมยังไม่ได้พักผ่อนจริงๆ จังๆ ตั้งแต่ Coraline แล้วนะครับเนี่ย…!”
   ซุทเนอร์ตั้งข้อสังเกตว่า “คริสรู้ว่าเขาอยากให้สิ่งที่เขาเขียนลงบนกระดาษไปโลดแล่นบนหน้าจออย่างไร ฉันบอกได้ว่าเขามีความเข้มแข็งพอสำหรับการเป็นผู้กำกับตามศักยภาพของเขา และฉันก็บอกให้เขาเชื่อในสัญชาตญาณตัวเอง”
   “ไลก้าไม่ใช่สตูดิโออนิเมชั่นแห่งแรกที่มีผู้กำกับมาจากแผนกเรื่องราว แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาแตกต่างคือในตอนที่พวกเขาเชื่อใจผู้กำกับ พวกเขาเชื่อใจวิสัยทัศน์ของผู้กำกับ พวกเขาศรัทธาในคริสเพราะเขาเป็นนักเล่าเรื่องด้วยภาพอยู่แล้วค่ะ”
   บัตเลอร์เล่าว่า “สตูดิโออื่นคงอยากจะเปลี่ยนแปลงมันและสร้างหนังเรื่องนี้โดยตัดองค์ประกอบที่ท้าทายออกไป แต่ทราวิสมองความท้าทายเหล่านี้ว่าเป็นโบนัส และนั่นก็คือสิ่งที่ทำให้ไลก้าพิเศษสุด ที่นี่ เราอยากจะสร้างเนื้อหาที่ผิดจากธรรมดา เหมือนตัวนอร์แมนเอง และทุกย่างก้าวที่ไลก้าแห่งนี้ ทราวิสก็ได้สนับสนุนผมและวิสัยทัศน์ของผมครับ”
   ในส่วนตัวเขา เฟลรู้สึกมั่นใจพอที่จะเข้าร่วมโปรเจ็กต์นี้ในปี 2009 เขาตั้งข้อสังเกตว่า “ผมเพิ่ง่ได้ดู Caroline และคิดว่างานสร้างของไลก้าทั้งน่าทึ่งและทะเยอทะยาน มันคงจะเกิดขึ้นที่อื่นไม่ได้ ผมอยากจะมาร่วมงานกับคนพวกนี้ ที่สร้างมิติการทำงานใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นน่ะครับ”
   “ความเฉียบคมแบบอังกฤษในบทของคริสมีเสน่ห์สำหรับผม แต่สิ่งที่โดนใจผมจริงๆ คือนอร์แมน ตัวละครหลักของเรื่องและลักษณะที่เขาเติบโตและเปลี่ยนแปลง ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องดีที่เด็กๆ จะได้รู้ว่า การเป็นคนแตกต่าง และโดดเด่นเป็นเรื่องที่โอเคน่ะครับ”
   ซุทเนอร์ตั้งข้อสังเกตว่า “แซมสามารถผลักดันไอเดียของคริสให้ไปไกลกว่าเดิม แต่ก็ยังชี้ให้เห็นถึงวิธีการสร้างเนื้อหานี้ให้เป็นจริงขึ้นมาค่ะ”
   เฟลถูกใจคอนเซ็ปต์ของบัตเลอร์ในเรื่อง “จอห์น คาร์เพนเตอร์ปะทะจอห์น ฮิวจ์” และเขาก็ชื่นชอบไอเดียของการที่คนนอกกลุ่มเบรคฟาสต์ คลับของฮิวจ์ต้องรับมือกับคำสาปของพวกซอมบี้ที่เหมือนกับหมอกด้วย
   เฟลกล่าวว่า “กลายเป็นเราทำงานร่วมกันเพื่อถ่ายทอดจิตวิญญาณดังกล่าว คริสเปิดกว้างต่อไอเดียของผมเกี่ยวกับการคิดโครงสร้าง เราอยากจะสร้างสิ่งที่ครอบครัวจะชอบดู และได้เล่นกับแนวหนังที่เป็นที่รัก ผมกับคริสรู้ว่าเรากำลังถ่ายทอดกลิ่นไอของยุค 80s ไม่ได้ทำงานผสมผสานศิลปะ และเราก็คงจะนำทางภาพไปยังแนวทางนั้น ไปสู่เมืองอเมริกันเล็กๆ แม้ว่าเราจะเป็นคนอังกฤษก็ตามที!”
   บัตเลอร์ให้ความเห็นว่า “มันต้องเป็นนิวอิงก์แลนด์ครับ นั่นเป็นส่วนสำคัญของเรื่องราว ผมเคยใช้เวลาอยู่ที่นั่น และมันก็เหมือนกับการอยู่กับบ้านที่มีขอบประตูบิดเบี้ยวและรั้วโทรมๆ น่ะครับ…”
   ไนท์ตั้งข้อสังเกตว่า “ผมคิดว่าศิลปินทุกคนจะดึงแรงบันดาลใจมาจากสามแหล่ง คือประสบการณ์ส่วนตัวหรือความทรงจำ, สิ่งที่พวกเขาสังเกตหรือค้นคว้าและสุดท้ายคือจินตนาการครับ ถ้าคุณดึงอะไรจากสองแหล่งแรกไม่ได้ จินตนาการก็จะต้องถูกใช้อย่างหนัก และมันก็จะประสานร้อยเรียงทุกอย่างที่กล่าวถึงข้างต้น และอื่นๆ เข้าด้วยกันครับ”
   “ParaNorman มีภาพที่น่าทึ่งและเป็นการแสดงความเคารพที่น่าตื่นเต้นสำหรับสิ่งบันเทิงต่างๆ ที่เราโตขึ้นมากับมัน แต่มันยังกระตุ้นความประทับใจและความสงสารที่ลึกซึ้งด้วย แม้กระทั่งในช่วงเวลาขำขันและที่ไร้สาระที่สุด เราก็ยังปฏิบัติต่อประเด็นต่างๆ อย่างจริงจังครับ”
   บัตเลอร์เล่าว่า “หนังที่แอมบลินอำนวยการสร้างจากยุค 80s อย่าง The Goonies มีประกายวูบวาบ ความอบอุ่นและความน่าเอ็นดู และพวกเขาก็ไม่ได้ดูแคลนเด็กๆ ในหนังที่สนุกสนานตื่นเต้นเรื่องนี้ มันจะมีสิ่งที่เด็กๆ ต้องเจอในชีวิตประจำวันของโลกแห่งความเป็นจริง เช่นการเข้ากลุ่ม การเผชิญหน้ากับอันธพาล รวมถึงสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเจอในสถานการณ์ปกติ อย่างเช่นการโจมตีของซอมบี้น่ะครับ”
   เฟลเล่าว่า “ผมเองก็เคยดูหนังพวกนั้นเหมือนกัน ตอนที่ผมเป็นวัยรุ่น พวกมันมีความพิเศษ และกล่าวถึงประเด็นต่างๆ แม้ว่าจะมีเรื่องของบ้านผีสิงก็จริง แต่ ParaNorman ก็พูดถึงการกลั่นแกล้ง แต่ไม่ใช่ในเชิงสั่งสอน และบทของคริสก็นำเรื่องราวของนอร์แมนและผู้ชมไปสู่ตอนจบที่แข็งแรงจริงๆ ครับ”
   “หนังเรื่องนี้มีหัวใจครับ มันทั้งดรามา ทั้งสะเทือนอารมณ์ เต็มไปด้วยคอเมดี แอ็กชันและการผจญภัย นอกจากนี้ เรายังตื่นเต้นที่จะผลักดันให้มันยิ่งใหญ่ขึ้นในทิศทางต่างๆ เหล่านี้ รวมถึงในทั้งสองฟากฝั่งของสเกลสต็อป โมชันในแง่ของสโคปและการเคลื่อนไหวด้วยครับ”
   ทริสแทน โอลิเวอร์ ผู้กำกับภาพสต็อป โมชันชื่อดังประทับใจกับบทภาพยนตร์เรื่องนี้และมุมมองทะเยอทะยานที่ผู้กำกับมีต่อเนื้อหานี้ ทั้งสามคนร่วมกันระดมความคิดสำหรับสิ่งที่ซุทเนอร์กล่าวชื่นชมว่าเป็น “มุมกล้องและการเคลื่อนไหวที่มีชีวิตชีวา ซึ่งจะผลักดันขอบเขตของสต็อป โมชันออกไปอีก”
   โอลิเวอร์กล่าวอธิบายว่า “สำหรับผม ในการถ่ายทำหนัง ผมจะต้องมีวิสัยทัศน์จากบนลงล่างเพื่อให้ทุกอย่างสอดคล้องต่อเนื่อง รวมถึงผมต้องร่วมงานกับผู้กำกับด้วย หนังเรื่องนี้ใหญ่กว่าทุกเรื่องที่ผมเคยทำมาแต่ผมมาถึงจุดๆ นี้ในอาชีพของผม ที่ผมมองหาสิ่งที่แตกต่างในหนังทุกเรื่อง ภาพอาร์ตเวิร์คคอนเซ็ปต์ของ ParaNorman ที่ผมได้ดูทำให้ผมประทับใจ ผมรู้จักแซมมากว่า 20 ปีแล้ว และผมก็ชื่นชอบความกระตือรือร้นของคริสในทันที บทของเขาเป็นบทที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ผมเคยทำงานมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในองก์ที่สามน่ะครับ”
   “ตอนที่ผมนั่งคุยกับคริสและแซมในช่วงเริ่มแรก เราได้คุยกันว่าลุคหลักๆ ของ ParaNorman จะเป็นอย่างไร รวมทั้งแรงบันดาลใจและข้อมูลอ้างอิงสำหรับหนังเรื่องนี้ด้วย ผมนำ ‘รีลมู้ด’ จากคลิปหนังและภาพถ่ายจากหนังเรื่องต่างๆ มาให้พวกเราดู และพวกเขาก็สนใจ เราทุกคนมาจากอังกฤษ เราก็เลยพูดภาษาเดียวกันครับ!”
   เขาเล่าว่า “มันไม่แปลกที่มีผู้กำกับสองคนอยู่ในอนิเมชั่น ผมเคยทำงานในโปรเจ็กต์แบบนั้นมาแล้ว และมันก็เวิร์คมากสำหรับ ParaNorman คริสและแซมเติมเต็มช่องว่างของกันและกันในกระบวนการนี้ได้เป็นอย่างดีครับ”
   เฟลเล่าว่า “อนิเมชั่นแบบนี้เหมาะกับการมีผู้กำกับสองคน ผมกับคริสดูเหมือนจะคลิกกัน และเติมเต็มกันและกัน หนังเรื่องนี้เป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่เราต้องควบคุมให้อยู่ แต่เราก็มีวิสัยทัศน์เหมือนๆ กันและเราก็ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กันครับ”
   “เราตัวติดกันเลยครับ” บัตเลอร์กล่าวเสริม “การไม่แบ่งแยกงานเป็นสิ่งสำคัญ ในตอนเริ่มต้น เราพยายามที่จะคิดไปในทางเดียวกัน และโดยส่วนใหญ่แล้ว เราก็ดูทุกอย่างด้วยกัน คุยกัน และเราก็จะคิดให้ได้เหมือนกันก่อนที่จะเดินหน้า เรารู้ว่า ParaNormann คืออะไรและทุกช่วงเวลาของมันควรจะเป็นอย่างไร แต่บางครั้ง เราก็ต้องคุยถึงวิธีการต่างๆ ในการนำเสนอสิ่งเหล่านั้น ระหว่างการถ่ายทำ เราอาจจะไปเยี่ยมส่วนต่างๆ หรือพูดคุยกับอนิเมเตอร์ แต่ทุกช็อตจะถูกตรวจสอบและพูดคุยจากเราทั้งคู่ก่อนครับ”
   “แม้ว่าเราจะไม่เคยพบกันมาก่อน เราต่างก็เคยทำงานในหนังเรื่องเดียวกันมาเมื่อหลายปีก่อน แต่ในช่วงเวลาต่างกัน ผมวาดภาพสตอรีบอร์ดของ The Tale of Despereaux ในช่วงสั้นๆ ก่อนที่แซมจะมารับหน้าที่ผู้กำกับ ตอนนี้ เราก็เลยมาชดเชยเวลาที่ขาดหายไปครับ!”
   ประสบการณ์ในอดีตของทั้งคู่ในแวดวงอนิเมชั่น สต็อป โมชันหมายถึงว่าพวกเขารู้ว่าจะต้องใช้อะไรถึงจะสร้างและเติมเต็มโลกของเด็กผู้ชายและซอมบี้ผู้รุกราน ซึ่งบ่อยครั้งจะอยู่ในลักษณะจำลอง ขึ้นมาได้
   บัตเลอร์ตั้งข้อสังเกตว่า สุนทรียศาสตร์และกระบวนการสต็อป โมชันเองยังต้องอาศัย “การบันทึกความเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ความสมจริง ในการแสดง ในอนิเมชั่นและการดีไซน์”
   “สำหรับผู้ชม มุมมองแรกสู่โลกของนอร์แมนคือการที่วิญญาณมีเวลาให้กับเขามากกว่า พวกเขามีเวลาชั่วกาลนานเลยนี่ครับ แล้วเขาก็สามารถสื่อสารกับพวกวิญญาณได้ดีกว่าด้วย เขามีพรสวรรค์พิเศษที่แบ่งแยกเขาจากคนอื่นๆ แต่พรสวรรค์ของเขานั่นแหละที่สามารถปกป้องเมืองจากคำสาป 300 ปีได้ หัวใจของเรื่องราวนี้คือการที่เขาเกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นกับทั้งคนที่มีชีวิตอยู่และวิญญาณ รวมถึงการที่ครอบครัวของเขาเองยอมรับและรับรู้ว่าเขาไม่เหมือนใครด้วย”
   ในช่วงการเตรียมงานสร้าง การกำกับศิลป์และการวาดสตอรีบอร์ดเกิดขึ้นก่อน เพราะผู้สร้างภาพยนตร์ทุกคนรู้ดีจากประสบการณ์ถึงความสำคัญของนักวาดภาพสตอรีบอร์ดในการวาดภาพทุกฉากและทุกตัวละครขึ้นมา “มันทำให้ผู้กำกับมีอำนาจควบคุมเหนือรายละเอียดมากมายที่จะเกิดขึ้นตามมาได้มากขึ้นค่ะ” ซุทเนอร์กล่าว
   แม้ว่ากระบวนการนี้จะสำคัญต่อภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันขนาดไหน มันก็สำคัญยิ่งกว่าสำหรับภาพยนตร์อนิเมชั่น บัตเลอร์อธิบายว่า “มันไม่เหมือนไลฟ์แอ็กชัน ที่คุณสามารถใช้กล้องหลายตัวหรือเทคใหม่ได้ อนิเมเตอร์ขยับทีละเฟรมๆ ดังนั้น คุณก็ต้องรู้ว่าคุณจะได้ช็อตอะไรก่อนที่คุณจะลงมือทำเสียอีก ประโยชน์ของการทำสตอรีบอร์ดคือการสามารถวาดภาพหนังทั้งเรื่องขึ้นจากบท ซึ่งบ่อยครั้งก็จะมีการใส่ภาพไอเดียใหม่ๆ เข้าไปด้วย และงานที่ได้ก็จะถูกส่งตรงไปให้กับแผนกกล้องครับ”
   “มันเกือบจะเหมือนกับหนังสือการ์ตูนขนาดยักษ์ และแน่นอนว่า นักวาดภาพเรื่องราวก็จะต้องวาดภาพได้ และบอกเล่าเรื่องราวได้ ถ้าจะให้ดี พวกเขาควรจะมีทักษะในการใส่มุขด้วยนะครับ!”
   เฟลเล่าว่า “ทั้งคริสและผมต่างก็เคยวาดภาพสตอรีบอร์ดมาก่อน และเราก็จะลงมือสเก็ตช์บางฉากด้วยตัวเอง เราจะลองไอเดียของกันและกันและดูว่าอันไหนที่เวิร์ค อันไหนไม่เวิร์ค ด้วยความรู้สึกที่ไม่กดดัน เราก็จะทำงานได้อย่างรวดเร็ว เราเป็นคนที่พูดถึงทุกอย่างตั้งแต่การเล่าเรื่อง จนถึงงานกล้องและงานแสดง การวาดภาพสตอรีบอร์ดเป็นสิ่งที่ผมพบว่ามีค่ามาก และเป็นหนึ่งในตอนที่ผมชอบที่สุดในการสร้างหนังอนิเมชั่นด้วย”
   บัตเลอร์พบด้วยว่า “บางสิ่งที่นักวาดภาพใส่เข้ามาอาจเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวละครหรือโลเกชัน โดยผมจะกลับไปรีไรท์บทใหม่ครับ”
   “ผมเคยร่วมงานกับทีมงาน ParaNorman หลายคนใน Coraline เราก็เลยมีวิธีการสื่อสารกันทางลัด นี่เป็นทีมงานที่สนิทกันมาก และพวกเขาก็มีประสบการณ์คร่ำหวอดในด้านสต็อป โมชัน พวกเราบางคนเคยร่วมงานกันมาก่อนหน้า Coraline ด้วยซ้ำไป เราโตขึ้นมาในวงการนี้ครับ”
   ในกระบวนการนี้ ทุกคนที่ไลก้าทำงานกับมอนิเตอร์ LCD จอแบนซินทิคของวาคอม ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถใช้ปากกาอินเตอร์แอ็กทีฟวาดลงบนหน้าจอได้โดยโดยตรง บนปลายปากกาและยางลบมีจุดรองรับแรงกดถึง 1,000 ระดับ เพื่อให้ได้การควบคุมภาพที่แม่นยำ ในขณะที่หน้าจอจะมีสแตนด์ที่ปรับระดับได้ เพื่อให้ได้มุมการทำงานที่เหมาะสมที่สุด
   บัตเลอร์ตั้งข้อสังเกตว่า “ด้วยซินทิค เราสามารถสสร้างหนังทั้งเรื่องจากพาเนลสตอรีบอร์ด พร้อมด้วยเสียง ดนตรีและไดอะล็อค เราสามารถดูมันเพื่อทำให้แน่ใจว่ามันจะออกมาดีน่ะครับ”
   เฟลกล่าวชื่นชมว่า “ในการมาทำงานใน ParaNorman ที่ไลก้า ผมประทับใจกับโครงสร้างและการดำเนินงานของที่นี่นมาก มันอยู่ในที่ห่างไกลอย่างโอเรกอน ห่างจากกระแสเมนสตรีม และอุดมไปด้วยเทคโนโลยีเก่าและใหม่ นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับอนิเมชั่น โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีความคิดก้าวหน้าแบบนี้ครับ”

32267

ประวัติฉบับย่อของสต็อป โมชัน

                ทีละเฟรมๆ ภาพยนตร์สต็อป โมชันถึงโลดแล่นมีชีวิตขึ้นมา
              ผู้อำนวยการสร้างเอรีแอนน์ ซุทเนอร์ตั้งข้อสังเกตว่า มันเป็นศิลปะที่ซึ่ง “ตัวละครเป็นจริงอย่างสัมผัสได้ ฉากรอบตัวพวกเขาถูกสร้างขึ้นด้วยมือ และคุณก็จินตนาการถึงทุกอย่างในสามมิติ”
   ผู้อำนวยการสร้างทราวิส ไนท์กล่าวเสริมว่า “มันเป็นกระบวนการที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เกิดหนังถือกำเนิดขึ้นใหม่ๆ ด้วยเสน่ห์ ความอบอุ่นและความงามที่อนิเมชั่นรูปแบบอื่นไม่มี ไม่ว่ามันจะวิเศษซักแค่ไหน และด้วยความที่คุณมีโอกาสเดียวที่จะทำมันให้ถูกต้อง ทุกช็อตก็เลยมีความเสี่ยงสูงครับ”
   “อนิเมเตอร์ที่ทะเยอทะยานรุ่นแล้วรุ่นเล่าได้ทดลองสร้างอนิเมชั่นแบบนี้ขึ้นในห้องใต้ดินหรือโรงรถของพ่อแม่ มันเป็นช่วงเวลามหัศจรรย์สำหรับคุณในตอนที่บางสิ่งมีชีวิตขึ้นมาน่ะครับ”
   แบรด ชิฟฟ์ ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายอนิเมชั่น ตั้งข้อสังเกตว่า “กระบวนการสต็อป โมชันมีจิตวิญญาณบางอย่างที่พิเศษสุด มันเกิดขึ้นจากสัมผัสของสิ่งที่คุณทำงานด้วยครับ”
   สำหรับผู้ชมและทีมงาน กระบวนการอนิเมชั่นสต็อป โมชันเคยเป็น เป็นและมักจะเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลอย่างพิเศษสุดเสมอ ทีละเฟรมๆ (มี 24 เฟรมต่อวินาทีในภาพยนตร์) อนิเมเตอร์จะบรรจงควบคุมวัตถุที่จับต้องได้ (ตัวละคร อุปกรณ์ ฉาก ฯลฯ) ในสเตจการทำงาน แต่ละเฟรมจะถูกถ่ายรูปไว้สำหรับกล้องภาพยนตร์ ในตอนที่เฟรมที่ถูกถ่ายรูปไว้เป็นพันๆ ภาพถูกเรียงตามลำดับ ตัวละครและสิ่งแวดล้อมก็จะเคลื่อนไหวในลักษณะลื่นไหลและต่อเนื่อง มันเป็นเวทมนตร์ภาพยนตร์ที่ถูกเนรมิตขึ้นด้วยมือ
   ตัวละครใน ParaNorman มีชีวิตขึ้นมาได้ด้วยรูปแบบศิลปะที่โดดเด่น ภาพยนตร์สต็อป โมชันสามารถเทียบได้กับภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันตรงที่จะต้องมีการสร้างและตกแต่งฉากจริงๆ และมีตัวละครที่จะถูกจัดแต่งทรงผม หาเสื้อผ้าให้ ผ่านการจัดแสง และกำกับ
   แต่โลกของภาพยนตร์ทั้งเรื่องผุดขึ้นมาจากจินตนาการล้วนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความคิดสร้างสรรค์ของอนิเมเตอร์ ผู้ขยับตัวละครในระยะหน่วยเป็นมิลลิเมตรสำหรับแต่ละเฟรม ในการเคลื่อนไหวนี้เองที่ศิลปะที่โดดเด่นไม่เหมือนใครได้ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้น
   ตัวอย่างแรกของสต็อป โมชันในภาพยนตร์คือในภาพยนตร์ขนาดสั้นปี 1898 เรื่อง The Humpty Dumpty Circus ซึ่งชาวอังกฤษ อัลเบิร์ต อี. สมิธและเจมส์ สจวร์ต แบล็คตัน ได้ใช้เทคนิคใหม่ในการเนรมิตชีวิตให้กับตัวตุ๊กตุ่นสัตว์และนักกายกรรมในสวนสัตว์
   อนิเมเตอร์ชาวยุโรปเป็นคนกลุ่มแรกที่ใช้หุ่นเชิดและวัตถุอื่นๆ ในการเล่าเรื่องราวต่อเนื่อง แต่วิลลิส ฮาโรลด์ โอ’ ไบรอัน ชาวแคลิฟอร์เนีย เป็นผู้ที่ทำให้มันกลายเป็นศิลปะมากขึ้นด้วยการขัดเกลามันตลอดเวลาหลายสิบปี ผลงานของโอ’ ไบรอันรวมถึงภาพยนตร์ขนาดสั้น, ภาพยนตร์ปี 1925 เรื่อง The Lost World และ King Kong ต้นฉบับ (1933) (ร่วมกับประติมากร มาร์เซล เดลกาโด้) หุ่นกลไกที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับภาพยนตร์เรื่องหลังได้กลายเป็นต้นแบบที่ยังคงใช้มาจนถึงทุกวันนี้ โอ’ ไบรอันได้รัรบรางวัลออสการ์จากผลงานของเขาใน Mighty Joe Young (1949)
   ลูกศิษย์คนหนึ่งของโอ’ ไบรอันในภาพยนตร์เรื่องหลังนี้คือเรย์ แฮร์รีเฮาเซน ผู้ต่อยอดเทคนิคของอาจารย์เขาและผู้ซึ่ง “ไดนาเมชัน” ของเขาจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับอนิเมเตอร์รุ่นแล้วรุ่นเล่า แฮร์รีเฮาเซนได้ผสมผสานไลฟ์แอ็กชันและอนิเมชั่น สต็อป โมชันเข้าด้วยกันอย่างประณีตเพื่อทำให้มนุษย์และสิ่งที่เขาสร้างขึ้นสามารถมีปฏิสัมพันธ์กันได้ในภาพยนตร์แฟนตาซีอย่าง The Beast from 20,000 Fathoms (1953), 20 Million Miles to Earth (1957), The 7th Voyage of Sinbad (1958) และ Jason and the Argonauts (1963)
   อนิเมเตอร์ชาวฮังกาเรียน จอร์จ แพล (จอร์จี้ แพล มาร์คซินแซ็ค) ได้เดินทางมายังฮอลลีวูดในช่วงต้นยุค 40s ที่ซึ่งเขาได้อำนวยการสร้างซีรีส์ภาพยนตร์ขนาดสั้น “Puppetoon” ให้กับพาราเมาท์ พิคเจอร์ส แตกต่างจากเทคนิคของโอ’ ไบรอันและแฮร์รีเฮาเซน ทีมงานของแพลใช้อนิเมชั่นตัวแทน ซึ่งอาศัยหุ่นเชิดหรือชิ้นส่วนที่สลักด้วยมือมากถึง 9,000 ชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นแตกต่างกันเล็กน้อย สำหรับการถ่ายทำทีละเฟรมๆ เพื่อสร้างภาพลวงตาของการเคลื่อนไหวขึ้นมา
   ภาพยนตร์ขนาดสั้นหลายเรื่องของแพลได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดและตัวแพลเองก็ได้รับรางวัลออสการ์เกียรติยศในปี 1944 ผู้กำกับ/ผู้อำนวยการสร้างผู้นี้ยังคงใช้อนิเมชั่นหุ่นเชิดในงานสร้างภาพยนตร์ขนาดยาวอีกหลายเรื่องเช่น The Great Rupert (1950), tom thumb (1958) และ The Wonderful World of the Brothers Grimm (1962)
   ผู้ใหญ่และเด็กหลายล้านคนจากสองรุ่นคุ้นเคยกับผลงานของอาร์เธอร์ แรนคิน จูเนียร์ และจูลส์ แบสเป็นอย่างดี ในการใช้กระบวนการหุ่นเชิดสต็อป โมชันที่พวกเขาเรียกว่า “อนิเมจิค” แรนคิน/แบสได้ทำให้ผู้ชมจอแก้วได้ชื่นชมกับรายการพิเศษที่แสนคลาสสิกในช่วงวันหยุดอย่าง Rudolph the Red-Nosed Reindeer (1964) และ Santa Claus is Comin’ to Town (1970) แบสได้กำกับภาพยนตร์เรื่อง The Daydreamer (1966) และ Mad Monster Party? (1967) ซึ่งใช้กระบวนการเดียวกัน
   หลายปีให้หลัง อาร์ดแมน อนิเมชั่นส์จากอังกฤษ ถูกก่อตั้งโดยปีเตอร์ ลอร์ดและเดวิด สปร็อกซ์ตัน บริษัทนี้ ที่มีนิค ปาร์คร่วมงานด้วย ได้สร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นมาด้วยภาพยนตร์อนิเมชั่นขนาดสั้นสต็อป โมชัน/”เคลย์เมชัน” ที่ได้รับรางวัลออสการ์ของพวกเขาอย่าง Creature Comforts และA Close Shave และ The Wrong Trousersที่มีวอลเลซและโกรมิทเป็นตัวเอกก่อนหน้าที่พวกเขาจะสานต่อความสำเร็จนั้นในแวดวงภาพยนตร์
   ในปี 1982 ทิม เบอร์ตัน นักวาดภาพคอนเซ็ปต์ของดิสนีย์ได้สร้างภาพยนตร์ขนาดสั้นเรื่อง Vincent กับริค ไฮน์ริคส์ อนิเมเตอร์จากดิสนีย์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ถ่ายทำในสีขาวดำแบบเอ็กซ์เพรสชันนิสต์และบรรยายโดยวินเซนต์ ไพรซ์ ถูกถ่ายทำในรูปแบบสต็อป โมชัน
   สิบปีให้หลัง เบอร์ตันได้เลือกทีมนักวาดภาพและอนิเมเตอร์ให้สร้างสิ่งที่จะกลายเป็นมิวสิคัลสต็อป โมชัน ที่แปลกใหม่ The Nightmare Before Christmas จากเรื่องราวดั้งเดิมของเขา และเขาก็ได้ทาบทามเฮนรี เซลิค เพื่อนร่วมชั้นจากแคลิฟอร์เนีย อินสติติวท์ ออฟ ดิ อาร์ตส์ (หรือแคลอาร์ตส์) และเพื่อนร่วมงานจากดิสนีย์ให้มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้
   ในศตวรรษที่ 21 มีการก่อตั้งไลก้า, อิงค์. เพื่อนำเสนอผลงานของผู้กำกับ นักออกแบบ และอนิเมเตอร์ที่ได้รับรางวัลในสายงานอนิเมชั่นและโฆษณา ไลก้ามีพนักงาน 550 คนและมีชื่อเสียงจากความสามารถในการเล่าเรื่องและการเคลื่อนไหวของตัวละครในสื่ออนิเมชั่นที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึง 2D, CG และสต็อป โมชัน
   แม้ว่าก่อนหน้านี้ไลก้าจะมีส่วนร่วมในการทำงานในภาพยนตร์สต็อป โมชันที่ได้รับการเสนอชื่อชิงออสการ์เรื่อง Corpse Bride (2005) ที่กำกับโดยทิม เบอร์ตันและไมค์ จอห์นสัน ซึ่งถูกสร้างขึ้นในอังกฤษ แต่ตัวบริษัทนั้นตั้งอยู่ในโอเรกอน สหรัฐอเมริกา ที่นั่นเองที่ไลก้าได้สร้างมิติใหม่ด้วย Coraline ภาพยนตร์สต็อป โมชันเรื่องนี้ที่กำกับโดยเฮนรี เซลิคเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ถูกคิดและถ่ายทำในระบบสเตอริโอสโคปิค 3D ทำให้มันแตกต่างจากทุกเรื่องที่คอหนังเคยสัมผัสมาก่อน Coraline ซึ่งเป็นตัวจุดประกายกระแสสต็อป โมชันให้กลับมาอีกครั้ง เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ถูกสร้างขึ้นที่ฮิลส์โบโร, โอเรกอนสตูดิโอส์ของไลก้า และ ParaNorman ก็เป็นเรื่องที่สอง
   ทราวิส ไนท์ ซีอีโอของไลก้า ผู้ควบหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างและอนิเมเตอร์หลักใน ParaNorman ให้ความเห็นว่า “สต็อป โมชันเป็นกระบวนการที่เรียบง่ายมากๆ แต่การสร้างมันให้ออกมาดีเป็นหนึ่งในเรื่องที่ยากที่สุด อนิเมชั่นรูปแบบอื่นๆ เป็นการทำซ้ำ แต่สต็อป โมชันเป็นกระบวนการที่เคลื่อนไหว คุณจะเริ่มต้นที่หนึ่งและลงเอยที่อีกที่หนึ่งครับ”
   ผู้อำนวยการสร้างเอรีแอนน์ ซุทเนอร์จาก ParaNorman กล่าวว่า “มันมีความรู้สึกที่ว่า ขณะนี้ ในศตวรรษที่ 21 สต็อป โมชันได้รับความนิยมกว่าแต่ก่อน ตอนนี้ ด้วยความสามารถของเราในการสร้างหนังพวกนี้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบใน 3D ผู้ชมก็สามารถถูกดึงเข้าสู่เรื่องราวได้อย่างแท้จริงค่ะ”
   ผู้กำกับแซม เฟลจาก ParaNorman กล่าวว่า “ในหนังเรื่องหนึ่งที่ผมกำกับก่อนหน้านี้ ผมอยากที่จะสร้างมันออกมาเป็นสต็อป โมชัน แต่ผมต้องทำให้มันเป็น CG แทน เครื่องมือที่ผมใฝ่ฝันถึงในตอนนั้นกลายเป็นความจริงแล้วที่ไลก้า ที่ซึ่งเทคโนโลยีใหม่ๆ ถูกหลอมรวมเข้ากับกระบวนการสต็อป โมชันแบบดั้งเดิมน่ะครับ”
   “สำหรับหนังเรื่องนี้ ไลก้าได้ก้าวพ้นขอบเขตของสิ่งที่คุณนึกถึงว่าเป็นอนิเมชั่น สต็อป โมชันแบบดั้งเดิม” ผู้กำกับคริส บัตเลอร์จาก ParaNorman กล่าว “แต่หนึ่งในเหตุผลที่เราสร้างหนังเรื่องนี้ให้เป็นสต็อป โมชันตั้งแต่ทีแรกเพราะธรรมเนียมที่เรย์ แฮร์รีเฮาเซนกำหนดไว้เมื่อหลายปีก่อน เขามีสัตว์ประหลาดของเขา และเราก็มีซอมบี้ของเราครับ

32268

ชื่อไทย      พารานอร์แมน สยบคำสาปหมู่บ้านต้องมนตร์
วันที่เข้าฉาย      4 ตุลาคม 2555
จัดจำหน่าย      บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์)
เว็บไซต์      www.paranorman-movie.com

ทีมนักพากย์

โคดี้ สมิท-แม็คฟีย์ (Kodi Smit-McPhee)   พากย์เสียง         นอร์แมน แบ็บค็อก
ทัคเกอร์ อัลบริซซี (Tucker Albrizzi)    พากย์เสียง          นีล
แอนนา เคนดริค (Anna Kendrick)      พากย์เสียง          คอร์ทนีย์
เคซีย์ แอฟเฟล็ค (Casey Affleck)      พากย์เสียง          มิทช์
คริสโตเฟอร์ มินท์-แพลซ (Christopher Mintz-Plasse)พากย์เสียง          อัลวิน
เลสลีย์ แมนน์ (Leslie Mann)      พากย์เสียง          แซนดร้า แบ็บค็อก
เจฟฟ์ การ์ลิน (Jeff Garlin)       พากย์เสียง          เพอร์รี แบ็บค็อก
อีเลน สตริทช์ (Elaine Stritch)      พากย์เสียง          คุณยาย
เบอร์นาร์ด ฮิล (Bernard Hill)      พากย์เสียง          ผู้พิพากษา
โจเดลล์ เฟอร์แลนด์ (Jodelle Ferland)    พากย์เสียง          แอ็กกี้
เทมเพสท์ เบลดโซ (Tempestt Bledsoe)   พากย์เสียง          นายอำเภอฮูเปอร์
อเล็กซ์ บอร์สไตน์ (Alex Borstein)                    พากย์เสียง          คุณนาย เฮนส์เชอร์
จอห์น กู๊ดแมน (John Goodman)      พากย์เสียง         มิสเตอร์เพรนเดอร์แกสท์
   
ทีมผู้สร้าง
   แซม เฟล (Sam Fell)—ผู้กำกับ
   คริส บัตเลอร์ (Chris Butler)—ผู้กำกับ บทภาพยนตร์
   เอรีแอนน์ ซุทเนอร์ (Arianne Sutner)—ผู้อำนวยการสร้าง



ข้อมูลงานสร้าง

เรื่องย่อ

                เมื่อเมืองเล็กๆ ถูกกองทัพซอมบี้บุก พวกเขาจะเรียกหาใครได้ล่ะ? “นอร์แมน!”
   โฟกัส ฟีเจอร์สและไลก้า บริษัทที่อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ได้รับการเสนอชื่อชิงอคาเดมี อวอร์ด Coraline ภูมิใจนำเสนอ คอเมดีทริลเลอร์ Paranorman หลังจาก Coraline ภาพยนตร์เรื่อง ParaNorman เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นสต็อป โมชันเรื่องที่สองที่ไลก้าสร้างขึ้นในรูปแบบ 3D ด้วยการผสมผสานศิลปะที่น่าทึ่งสองรูปแบบเข้าด้วยกันเพื่อบอกเล่าเรื่องราวสยองขวัญสุดฮา ประทับใจอย่างวิเศษสุดและสนุกสนานเคล้าสยดสยองใหม่เอี่ยมเรื่องนี้
   เรื่องราว ParaNorman เกิดขึ้นในเมืองบลิธ ฮอลโลว์ ที่ซึ่งชาวเมืองสร้างรายได้จากการหาประโยชน์จากประวัติศาสตร์ของเมือง ที่เคยเกิดการล่าแม่มดอันลือลั่นเมื่อ 300 ปีก่อน นอร์แมน แบ็บค็อก (พากย์เสียงโดยโคดี้ สมิท-แม็คฟีย์ จาก Let Me In และ The Road) เด็กชายวัย 11 ขวบ ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการชื่นชมข้อดีของภาพยนตร์สยองขวัญและศึกษาตำนานผีสาง จริงๆ แล้ว นอร์แมนมีพรสวรรค์ในการมองเห็นและพูดกับวิญญาณได้ เหมือนกับคุณยายที่เขารัก (อีเลน สตริทช์) ส่วนใหญ่แล้ว เขาชื่นชอบที่จะใช้เวลาอยู่กับวิญญาณมากกว่าพ่อผู้หงุดหงิด (เจฟฟ์ การ์ลิน), แม่ผู้ใจลอย (เลสลีย์ แมนน์) และคอร์ทนีย์ (แอนนา เคนดริค) พี่สาวสุดเฟคของเขา เมื่ออยู่ที่โรงเรียน นอร์แมนต้องคอยหนีจากอัลวิน (คริสโตเฟอร์ มินท์-แพลซ) เด็กเกเร ปรับทุกข์กับนีล (ทัคเกอร์ อัลบริซซี) ผู้ประทับใจในตัวเขาและพยายามปล่อยให้เสียงของครูเฮนส์เชอร์ (อเล็กซ์ บอร์สไตน์) เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
   จู่ๆ นอร์แมนก็ได้รับการติดต่อจากเพรนเดอร์แกสท์ (จอห์น กู๊ดแมน) ลุงนิสัยพิลึกของเขา ผู้ทำให้เขาประหลาดใจด้วยความลับที่ว่าคำสาปหลายร้อยปีของแม่มดเป็นของจริงและมันก็กำลังจะกลายเป็นจริง มีเพียงนอร์แมนเท่านั้นที่จะหยุดยั้งคำสาปนี้ไม่ให้มันเกิดขึ้นและทำร้ายชาวเมืองได้ เมื่อกองทัพซอมบี้ ที่นำทีมโดยผู้พิพากษา (เบอร์นาร์ด ฮิล) โผล่ขึ้นมาจากหลุมโดยไม่คาดฝัน นอร์แมนร่วมกับคอร์ทนีย์, อัลวิน, นีลและมิทช์ (เคซีย์ แอฟเฟล็ค) พี่ชายร่างใหญ่ของนีลต้องรีบเร่งแข่งกับเวลาขณะเดียวกับที่นายอำเภอฮูเปอร์ (เทมเพสท์ เบลดโซ) ไล่ล่าตัวพวกเขา ซ้ำร้าย คนทั้งเมืองต่างก็พากันหยิบจับอาวุธกันทั้งเมืองเพื่อเตรียมทำสงคราม
   นอร์แมนต้องดึงเอาคุณสมบัติทั้งหมดของวีรบุรุษออกมา ทั้งความกล้าหาญและความเมตตา เมื่อเขาพบว่ากิจกรรมที่ไม่ธรรมดาของเขาถูกผลักดันไปจนถึงขีดจำกัดสุดขอบโลก
   โฟกัส ฟีเจอร์ส ภูมิใจเสนอ ParaNorman ผลงานสร้างโดยไลก้า นำแสดงโดยโคดี้ สมิท-แม็คฟีย์, ทัคเกอร์ อัลบริซซี, แอนนา เคนดริค, เคซีย์ แอฟเฟล็ค, คริสโตเฟอร์ มินท์-แพลซ, เลสลีย์ แมนน์, เจฟฟ์ การ์ลิน, อีเลน สตริทช์, เบอร์นาร์ด ฮิล, โจเดลล์ เฟอร์แลนด์, เทมเพสท์ เบลดโซ, อเล็กซ์ บอร์สไตน์และจอห์น กู๊ดแมน ออกแบบเครื่องแต่งกายโดยเด็บราห์ คุ้ก ดนตรีโดยจอน ไบรอัน ลำดับภาพโดยคริสโตเฟอร์ เมอร์รีย์, เอซีอี ออกแบบงานสร้างโดยเนลสัน โลว์รี กำกับภาพโดย ทริสแทน โอลิเวอร์ อำนวยการสร้างโดยเอรีแอนน์ ซุทเนอร์, ทราวิส ไนท์ เขียนบทโดยคริส บัตเลอร์ กำกับโดยแซม เฟล, คริส บัตเลอร์ จัดจำหน่ายโดยโฟกัส ฟีเจอร์ส



32269
“พันธบัตรป่าไม้” แรงจูงใจฟื้นป่าสมดุล 30 ปี 20 ล้านไร่

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย



               ท่ามกลางสถานการณ์ป่าไม้ถูกทำลาย  พื้นที่ป่าลดลงต่อเนื่องจนเหลือเพียง 107.6 ล้านไร่  กิจกรรมปลูกป่าและฟื้นฟูป่ายังทดแทนได้ไม่เพียงพอ และยังขึ้นอยู่กับการลงมือทำของคนที่เห็นประโยชน์ “พันธบัตรป่าไม้” เป็นอีกเครื่องมือทางการเงินที่จะช่วยสร้างสมดุลคนกับธรรมชาติได้อีกทางหนึ่ง เพราะสามารถนำมาใช้ระดมทุนหรือทรัพยากรจากนักลงทุนภาคเอกชนและประชาชนได้กว้างขวางมากขึ้น

               ผลศึกษาแนวทางการดำเนินการพันธบัตรป่าไม้สำหรับประเทศไทย  แนะตั้งองค์การมหาชนดำเนินการออกพันธบัตรป่าไม้ระยะยาวมีผลตอบแทนทั้งดอกเบี้ยและเป็นเครื่องมือซีเอสอาร์สร้างภาพลักษณ์องค์กรเพื่อสังคม  เพิ่มโอกาสให้ผู้สนใจร่วมปลูกป่าและอนุรักษ์ป่าได้แม้ไม่ต้องลงมือเอง  เพราะเงินจากการขายพันธบัตรจะนำไปใช้เพื่อปลูกป่าเพิ่ม  เสริมป่าเก่า  สร้างชุมชนคนรักษ์ป่า กำหนดตัวอย่างพันธบัตรระยะยาว 30 ปี ช่วยปลูกป่าและฟื้นฟูสภาพป่าเพิ่ม 20 ล้านไร่


               ทั้งนี้ รศ.ดร.อดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา  ที่ปรึกษา ฝ่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย   หัวหน้าโครงการวิจัยการพัฒนาความรู้และยุทธศาสตร์ความตกลงพหุภาคีด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยจาก สกว. เปิดเผยความคืบหน้าการนำแนวทาง “พันธบัตรป่าไม้” มาใช้ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ป่า  โดยระบุว่า

               ที่ผ่านมาพื้นที่ป่าไม้ของไทยลดลงไปมากและมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ โดยที่ไม่สามารถนำทรัพยากรจากงบประมาณปกติมาใช้เพื่อการปลูกป่าและฟื้นฟูป่าได้มากนัก เนื่องจากข้อจำกัดของระบบการคลังในส่วนราชการ   ดังนั้นแนวทางหนึ่งที่สามารถทำได้และลดข้อจำกัดการพึ่งพิงทรัพยากรของภาครัฐ(งบประมาณและบุคลากร)  คือ การนำระบบพันธบัตรป่าไม้มาใช้  เพราะเป็นระบบที่ทำให้สามารถระดมทรัพยากรภาคเอกชนและ ภาคประชาชนได้โดยตรง  ไม่ต้องไปพึ่งงบประมาณของรัฐเป็นหลัก  โดยระบบนี้มีดำเนินการแล้วในประเทศชิลีและมีอีกหลายประเทศสนใจอยู่ระหว่างศึกษาดำเนินการเช่นเดียวกับประเทศไทย คือ บราซิลและสหรัฐอเมริกา

               พันธบัตรป่าไม้จะเป็นเครื่องมืออย่างดีในการเพิ่มโอกาสให้กับผู้สนใจที่ไม่มีโอกาสได้ลงมือปลูกต้นไม้ ฟื้นฟูสภาพป่า  ได้เข้ามาลงทุนซื้อพันธบัตรป่าไม้ซึ่งเป็นพันธบัตรระยะยาวโดยมีผลตอบแทนคือดอกเบี้ย  และมากกว่านั้นการลงทุนพันธบัตรป่าไม้ในภาคเอกชนยังเป็นเครื่องมือซีเอสอาร์สร้างภาพลักษณ์องค์กรได้อีกทางหนึ่ง  แนวทางการดำเนินงานของพันธบัตรป่าไม้คือ การนำเงินที่ได้จากการซื้อพันธบัตรไปใช้ในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าไม้ ด้วยการปลูกป่า และบำรุงรักษาป่าอย่างเป็นรูปธรรม  เนื่องจากที่ผ่านมาลำพังการปลูกป่าตามภารกิจของหน่วยงานหรือตามโครงการ/วาระพิเศษต่าง ๆ ที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนพยายามดำเนินการนั้นยังไม่เพียงพอและขาดความต่อเนื่องจึงไม่สามารถฟื้นคืนสภาพป่าได้มากนักเมื่อเทียบกับพื้นที่ป่าซึ่งถูกทำลายต่อเนื่อง

              สำหรับแนวทางการดำเนินการพันธบัตรป่าไม้ที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทยนั้น  การศึกษาได้ประมาณการรายรับและรายจ่าย โดยยึดหลักการที่ว่าเมื่อป่าไม้มีคุณค่าอนันต์ผู้ใช้หรือผู้ได้ประโยชน์จากป่าก็ควรจ่ายเพื่อนำเงินนั้นไปฟื้นฟูบำรุงรักษาธรรมชาติให้สมดุล  รายรับจึงมาจากผู้ใช้ประโยชน์ระบบนิเวศป่าไม้ที่สมบูรณ์ขึ้นและให้ประโยชน์ได้ภายใต้การจัดการดูแลให้สมดุล ได้แก่ รายได้การทำไม้อย่างยั่งยืน การขายคาร์บอนเครดิตในภาคป่าไม้  การเก็บค่าน้ำจากผู้ใช้น้ำรายใหญ่  บางส่วนจากงบประมาณป้องกันปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งของรัฐบาล  การเก็บภาษีคาร์บอน  กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และรายรับอื่น ๆ  เช่นงบประมาณด้านการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  และงบประมาณในการฟื้นฟูดินเค็ม เป็นต้น  
 
              ประมาณการมูลค่าผลตอบแทนทางการเงินของป่าไม้เบื้องต้น  ตลอดอายุพันธบัตร 30 ปี จะต้องเพิ่มพื้นที่ป่าปลูก 20 ล้านไร่ โดยมีต้นทุนในการปลูกป่าและฟื้นฟูป่าประมาณ 1.5 แสนล้านบาท  ขณะที่จะมีรายรับจากระบบนิเวศป่าที่ดีขึ้น(รายรับ 5 แหล่ง) ประมาณ 4.6 แสนล้านบาท  ผลตอบแทนทางการเงินของป่าไม้ตลอดอายุพันธบัตรจึงมีความคุ้มค่าคือราว 3 แสนล้านบาท ซึ่งสามารถนำไปจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ซื้อพันธบัตรเมื่อครบกำหนดเวลาได้

              “สำหรับต้นทุนในการปลูกป่าและฟื้นฟูป่านั้น ต้นทุนส่วนใหญ่คือการปลูกป่าและบำรุงรักษา ประมาณ 1.3 แสนล้านบาทตลอด 30 ปี  โดยการลงทุนจะน้อยลงเรื่อย ๆตามสภาพป่าที่ดีขึ้นในแต่ละปี  ส่วนต้นทุนในการทำไม้ประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท  โดยเลือกดำเนินการในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมและพื้นที่บุกรุกปลูกพืชเศรษฐกิจ จากกรมป่าไม้  กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช”

              การศึกษายังเห็นว่าแนวทางที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนคือต้องมีการตั้งองค์การมหาชนขึ้นดำเนินการ โดยการศึกษานี้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนสภาพองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) ให้เป็นองค์การมหาชนที่มีภารกิจด้านการปลูกป่า มีกฎหมายเป็นของตนเอง สามารถออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนได้ และมีการประสานงานกับหน่วยงานอื่นของรัฐ
 
              อย่างไรก็ตาม แนวทางหนึ่งในการปลูกป่าและฟื้นฟูป่าในพื้นที่ซึ่งมีชุมชนอยู่กับป่า หรือมีการบุกรุกปลูกพืชเศรษฐกิจอยู่แล้ว   ก็อาจปรับเปลี่ยนสร้างความร่วมมือ สร้างอาชีพใหม่ให้ทำหน้าที่ปลูกป่าและดูแลป่าและมีรายได้เพียงพอดำรงชีพ โดยไม่ต้องออกจากพื้นที่  ในระยะยาวคนเหล่านี้จะกลายมาเป็นผู้ปกป้องดูแลพื้นที่ป่า  และพันธบัตรป่าไม้ยังสามารถทำควบคู่ไปได้กับกิจกรรมปลูกป่าหรืออนุรักษ์ป่าอื่น ๆ ที่ดำเนินการอยู่แล้ว อาทิ  กองทุนสวนป่า  และ ธนาคารต้นไม้  เป็นต้น

              ดร.อดิศร์ กล่าวด้วยว่า การปลูกป่าและฟื้นฟูป่าปีละ 1 ล้านไร่ก็ถือว่ามากแล้ว  และสิ่งที่ควรจะทำใน ระยะ 1-2 ปีแรกคือการสร้างรูปแบบชุมชนป่าไม้ให้เป็นที่ประจักษ์กับชาวบ้าน ให้เป็นตัวอย่างชุมชน (1ชุมชนหรือ 1 ยูนิต )จะใช้เนื้อที่ป่าประมาณ 2-3 หมื่นไร่เพื่อให้เกิดการทำงานที่มีขนาดใหญ่พอสมควร และจะแสดงให้เห็นว่า ฐานะความเป็นอยู่  รายได้ อาชีพเสริม โรงเรียน สาธารณสุข ทุกอย่างลงตัวไม่ต้องอพยพมาในเมือง  อยู่ในนั้นครอบครัวก็อยู่ด้วยกัน  และที่สำคัญรัฐต้องมีนโยบายที่ชัดเจน ไม่ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ไม่มั่นใจอย่างที่ผ่านมาซึ่งมีลักษณะ “วันหนึ่งบอกให้เขาปลูกต้นไม้ และวันหนึ่งบอกให้เขาตัดต้นไม้”  .


32270
มูลนิธิสยามกัมมาจล

                โครงการ ““ปลูกใจ..รักษ์โลก” โดย มูลนิธิกองทุนไทย ร่วมภาคีองค์กรสิ่งแวดล้อม และมูลนิธิสยามกัมมาจล ธ.ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)  เปิดรับโครงการสิ่งแวดล้อม ของกลุ่มเยาวชน อายุ 15 - 25 ปี จำนวน 20 โครงการ เพื่อให้การสนับสนุนงบประมาณดำเนินโครงการๆ ละ 30,000 บาท สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ -15 กันยายน 2555 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 02-314-4112-3 ต่อ 301,302 085-325-5323 หรือที่ www.scbfoundation.com, www.tff.or.th

32271

กลุ่มคนรักศิลปะ

เทศกาลศิลปะฯ

                ภาพกิจกรรมสนุกๆที่แฝงไปด้วยสาระและแง่คิดของกลุ่มคนรักศิลปะกว่า 30 กลุ่ม ในงาน“เทศกาลศิลปะสร้างสรรค์เพื่อเยาวชน ตอน The Little BIG Project”ที่ทางอุทยานการเรียนรู้ TK park ร่วมกับ ศูนย์นวัตกรรมการแสดงเพื่อพัฒนาเยาวชน (IPAC) จัดขึ้น ณ ลานสานฝัน อุทยานการเรียนรู้ TK park ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็วๆนี้ ได้รับการตอบรับจากผู้ชมเป็นจำนวนมาก กิจกรรมที่จัดขึ้นดังกล่าวเพื่อพัฒนาเยาวชนและการแสดงออกถึงพลังสร้างสรรค์งานศิลปะแขนงต่างๆของเยาวชน และภายในงานยังมีการเปิดรับบริจาคเพื่อมอบรายได้ให้กับโครงการอาสาสมัครนักอ่านเพื่อการบำบัด มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กและสถาบันราชานุกูล




การแสดงจากกลุ่มคนรักศิลปะ


บรรยากาศภานในงาน


เยาวชนเข้าร่วมกิจกรรม

32272
มอบมุมความรู้อาเซียน“ ASEAN Knowledge Corner ”


                เมื่อวันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา ดร.ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล(คนขวาชุดดำ) ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) หรือ TK park  มอบสื่อการเรียนรู้อาเซียน หรือ “ ASEAN Knowledge Corner ”พร้อมชุดนิทรรศการพิพิธอาเซียน และสื่อดิจิตอลเพื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับ 10 ชาติสมาชิกอาเซียนให้แก่อุทยานการเรียนรู้ จ.สมุทรสาคร หรือ SK park โดยมีนายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ (คนกลาง)นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ให้เกียรติมาเป็นประธานรับมอบ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับสมาชิกเพื่อนบ้านอาเซียนแก่เยาวชนและประชาชนได้ศึกษาค้นคว้า เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558




32273
“หลักสูตรแกนกลางอาเซียน”
กรอบการเรียนรู้เด็กไทยสู่ “ประชาคมอาเซียน”




               ในปี 2558 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเป็นทางการ ทุกฝ่ายต่างเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่ต้องเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะภาคการศึกษา ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเตรียมความพร้อมของเด็กและเยาวชน ที่ถือเป็นอนาคตสำคัญของประเทศ


ดร.เบญจลักษณ์

               โดยในการบรรยายพิเศษหัวข้อ “การเพิ่มโอกาสทางการเรียนรู้ของเด็กไทย เตรียมพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน” จาก งานประชุมวิชาการ “TK Conference on Reading 2012” ซึ่งจัดโดยสำนักงานอุทยานการเรียนรู้(สอร.) หรือ TK park ดร.เบญจลักษณ์ น้ำฟ้า รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า “ขณะนี้ทางสำนักเลขาธิการอาเซียนได้จัดทำ  “Asean Curriculum Sourcebook หรือ หลักสูตรแกนกลางอาเซียน” โดยจะกำหนดให้เป็นหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของเด็กไทย ตั้งแต่ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวะศึกษา รวมถึงการศึกษานอกโรงเรียนที่จัดการศึกษาในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้เด็กและพลเมืองอาเซียนได้เรียนรู้สิ่งที่คล้ายคลึงกัน

               ทั้งนี้ หลักสูตรแกนกลางอาเซียน หรือ  Asean Curriculum Sourcebookมีกรอบการเรียนรู้ร่วมกัน 5 เรื่องหลักคือ1. Knowing ASEAN ความรู้เกี่ยวกับอาเซียน 2. Valuing and Diversity การเห็นคุณค่าความเป็นหนึ่งและความหลากหลาย 3. Connecting Global and Local การเชื่อมโยงโลกและท้องถิ่น 4. Promoting Equity and Justice การส่งเสริมความเสมอภาคและความยุติธรรม และ 5. Work Together a sustainable Future การทำงานร่วมกันเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนซึ่งขณะนี้ สพฐ.กำลังให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการวางหลักสูตรสำหรับเด็กไทย โดยหลังจากนี้จะมีการนำหลักสูตรของแต่ละประเทศทั้ง 10 ชาติสมาชิกอาเซียนมาดูในภาพรวมอีกครั้งเพื่อให้เด็กไทยและพลเมืองอาเซียนได้เรียนรู้สิ่งที่คล้ายกันและมีคุณลักษณะเฉพาะในความเป็นอาเซียน”


หนังสือรู้จักประชาคมอาเซียน


กิจกรรมพิพิธอาเซียนที่อุทยานการเรียนรู้ต้นแบบ TK park


กิจกรรมพิพิธอาเซียนที่ จ.สตูล


กิจกรรมพิพิธอาเซียน อ.หาดใหญ่

               รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมของเด็กไทย คือ “ภาษาอังกฤษ” ซึ่งจะถือเป็นภาษาทางการของอาเซียน และมีความสำคัญมาก เพราะในอนาคตจะมีอาชีพที่สามารถเดินทางหรือมีการเคลื่อนย้ายแรงงานได้อย่างเสรีในประชาคมอาเซียน 8 วิชาชีพ ได้แก่ แพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ สถาปนิก วิศวะ ช่างสำรวจ นักการบัญชี และอาชีพด้านการท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน สพฐ. ได้เตรียมโรงเรียนที่เรียกว่า Education Hub เพื่อเตรียมรองรับเด็ก เยาวชนชาวอาเซียนที่ย้ายตามพ่อแม่เข้ามาทำงานในประเทศไทยให้สามารถเข้าเรียนในโรงเรียนของรัฐบาลได้

               “ขณะนี้ยังเหลือระยะเวลาอีกประมาณ 2-3 ปี ก่อนก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งเราต้องใช้โอกาสนี้ในการสร้างคุณภาพของประชากร เตรียมเยาวชนของเราให้พร้อม และเพิ่มโอกาสทางการเรียนรู้ของเด็กไทย เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน ทั้งสถานศึกษา แหล่งเรียนรู้ และ ห้องสมุด ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพประชากรของประเทศ รวมทั้งการสร้างให้เด็กและเยาวชนเกิดนิสัยการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เพราะความรู้นั้นจะสามารถติดตัวเด็กไปและทำให้เด็กและยาวชนเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต”


ดร.ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล




               ด้าน ดร.ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ หรือ TK park กล่าวสนับสนุนว่า “ ประชาคมอาเซียน เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเรามากขึ้น จำเป็นต้องเรียนรู้และเตรียมความพร้อมเด็กและเยาวชนไทย เข้าสู่การเป็นพลเมืองอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะการเพิ่มทักษะด้านภาษา เพราะการที่จะร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันได้  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสื่อสารจึงเห็นด้วยที่เราควรจะเน้นเรื่องของภาษามากขึ้น  โดย TK park ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทในการส่งเสริมและปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน  ซึ่งในปีนี้ TK park ได้จัดโครงการที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านอาเซียนนอกจากงานประชุมวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ส่งเสริมการอ่านในกลุ่มประเทศอาเซียนแล้ว ยังมีการจัดมุมความรู้อาเซียน หรือ ASEAN Knowledge Corner , การผลิตสื่อดิจิตัลที่เกี่ยวกับอาเซียน และการจัดชุดนิทรรศการพิพิธอาเซียนสัญจรไปยังเครือข่ายต่างๆ ทั่วภูมิภาค เพื่อสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนรักการอ่านและเรียนรู้เกี่ยวกับสมาชิกอาเซียนเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน”

///////////////////////////////////////////////

32274
มดอาสา ปลูกไผ่เพื่อผู้ประสบภัย

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)






มดอาสา ปลูกไผ่เพื่อผู้ประสบภัย : (15 ก.ค.55) รศ.ดร.เชาวลิต ลิ้มมณีวิจิตรรองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) นำทัพมดอาสา และนักคึกษาเก่า มจธ. ร่วมกับ คุณปรีดา ลิ้มนนทกุล ผู้ดำเนินโครงการถุงยังชีพถาวรเพื่อฟื้นฟูอาชีพผู้ประสบภัย พร้อมชาวต่างชาติกลุ่ม Bangkok VanGuards นายอำเภอเมือง จ.ชัยนาท และกำนัน ตำบลคักคะเน ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์และปลูกต้นไผ่กิมซุ่ง ในพื้นที่โครงการ “ศูนย์การเรียนรู้ไผ่  ธรรมามูลแบงคอกแวนการ์ด” ณ ศูนย์การเรียนรู้ไผ่ ต.ธรรมามูล จ.ชัยนาท ซึ่งโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการบริหารจัดการพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมของ Thaiflood.com เพื่อสนับสนุนพืชเศรษฐกิจทนน้ำอย่างไผ่กิมซุ่ง ให้แก่เกษตรกรที่ประสบภัย.//

32275
มจธ. ลุยสร้างเด็กไทยให้เก่งคอมฯ

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)






                มจธ. ลุยสร้างเด็กไทยให้เก่งคอมฯ : คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ (SIT) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จัดโครงการอบรมความรู้เบื้องต้นในการใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ให้กับนักเรียนระดับประถมศึกษาโรงเรียนเครือข่ายมหาวิทยาลัย ในเขตอำเภอพระประแดง ที่ยังขาดโอกาสในการใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย – ก.ย.2555 เพื่อสอนความรู้เบื้องต้นและการใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต พร้อมทั้งการสร้างประกอบหุ่นยนต์ด้วยอุปกรณ์ต่างๆ และสอนการเขียนโปรแกรมควบคุมหุ่นยนต์เบื้องต้น ซึ่งขณะนี้มีโรงเรียนที่ได้รับการอบรมแล้วได้แก่ โรงเรียนวัดคันลัด และโรงเรียนราษฎร์บูรณะ (มูฮัมหมัดอุทิศ) และโครงการนี้ยังคงจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องและจะจบลงในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ .//

32276
ชุดาภา อินรับบทแม่ ในภ.ค่าน้ำนม
เลี้ยงลูกวัยรุ่น ต้องเข้าใจและให้อภัย


               ต้อนรับวันแม่ที่จะถึงเร็วๆนี้ นักแสดงมากฝีมือชุ-ชุดาภา จันทเขตต์  รับบทแม่ผู้เสียสละ เป็นซิงเกลิมัมเลี้ยงลูก3คนในภ.ค่าน้ำนม ของค่ายอภิชามณี เจ้าตัวเผย แต่ละซีนที่เข้าฉากเป็นซีนอารมณ์ทั้งนั้นต้องถ่ายทอดอารมณ์ความเป็นแม่จนถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่เมื่อเห็นทั้งความสุขและความทุกข์ของลูก โดยเฉพาะวัยรุ่น แม่ต้องเข้าใจและให้อภัย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น






               ชุดาภาเผย “ในภ.ค่าน้ำนม พี่รับบทเป็นสายพิณ แม่ที่มีลูก3คน  กำลังเข้าสู่วัยรุ่น 2 คนดวงรับบทโดย โบวี่- อัฐมา ชีวนิชพันธ์ รัชรับบทโดย หมู- ธีรภัทร์ แย้มศรี และน้องคนเล็กขวัญรับบทโดย อ้าย-ด.ญ. จรัสรวี พวงทวาย เราต้องเลี้ยงคนเดียวเพราะสามีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุพี่ก็ไม่ได้เล่นหนังรับบทเต็มๆมาเกือบ10ปีได้ก็ดีใจค่ะ ในบทแม่ที่ได้รับ ต้องถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของความเป็นแม่ แล้วยิ่งมีลูกช่วงวัยรุ่นก็จะค่อนข้างหัวเลี้ยวหัวต่อบทในเรื่องนี้ค่อนข้างดีที่แม่มีความเช้าใจลูก ยอมรับ และให้อภัยลูกจนในที่สุดลูกก็ผ่านพ้นเหตุการณ์ร้ายๆมาได้ พี่รู้สึกว่าความเป็นแม่นี่ยากมาก ถือว่าเป็นพระของลูกเลยหละทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ลูกได้ยิ้ม ได้มีความสุข แม้ว่าตัวเองจะลำบากก็ไม่เป็นไร  ไม่มีแม่คนไหนโกรธเกลียดลูกแม้ว่าลูกจะทำอะไรผิดพลาดไป สุดท้ายแม่ก็ต้องให้อภัย  พี่เข้าฉากแต่ละซีน ส่วนมากเป็นซีนอารมณ์ทั้งนั้นบางซีนอินจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เวลาลูกมากอด ลูกขอโทษเมื่อทำผิด พี่น้ำตาไหลเลย มันออกมาจากข้างในจริงๆแล้วบางซีนก็ร้อนมาก ถ่ายทำกลางแดดเปรี้ยง อารมณ์แม่ไม่ออก(หัวเราะ) แต่โชคดีที่น้องๆโบวี่กับหมู ที่เป็นลูกเรา เค้าสู้ไหว พี่ก็ไหวเหมือนกัน ซีนอารมณ์ก็สามารถส่งอารมณ์กัน กอดกันร้องไห้กลางแดดเปรี้ยง 3 คนแม่ลูก  ผู้กำกับฯนะติ  พันธุ์มณี เค้าก็กลัวพี่จะเป็นลมนะ ให้ทีมงานพร้อมยาดม ยาลม ผ้าเย็น ตลอดเวลา(หัวเราะ)






               สำหรับภ.เรื่องนี้ พี่ฝากผลงานด้วยค่ะ  ภ.เรื่องนี้พี่ตั้งใจเต็มที่ อยากให้ทั้งแม่และลูกได้ไปชม เชื่อว่าแม่จะประทับใจลูกส่วนลูกจะรักแม่มากขึ้น ภ.ค่าน้ำนม มีโปรแกรมฉาย 2 สิงหาคมนี้ในโรงภาพยนตร์

32277
เอส เอฟ ชวนคุณลุ้นรับของรางวัลโดนใจวัยจี๊ดจากภาพยนตร์
เรื่อง “สเต็ปโดนใจ หัวใจโดนเธอ” (STEP UP 4 REVOLUTION)


                โรงภาพยนตร์ในเครือเอส เอฟ ต้อนรับการกลับมาแบบร้อนแรง และทำให้หัวใจสูบฉีดมากกว่าทุกภาคในภาพยนตร์เรื่อง STEP UP 4 REVOLUTION สเต็ปเดียวที่จะปฏิวัติความมันส์ทั้งโลก เพียงลูกค้าซื้อบัตรชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ทุก 2 ที่นั่ง รับคูปองลุ้นของรางวัลสุดโดน หูฟังจาก Skullcandy จำนวน 30 รางวัล และ นาฬิกาจาก FILA จำนวน 17 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 2 แสนบาทที่โรงภาพยนตร์เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า, เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า และ เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ ทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้ถึง 5 สิงหาคมศกนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SF Call Center 02-268- 8888 และ www.sfcinemacity.com

32278
เอส เอฟ และ ไทยประกันชีวิต ควงซุปตาร์ อั้ม พัชราภา, คริส หอวัง และซันนี่ สุวรรณเมธา เปิดไลฟ์สไตล์ใหม่เอาใจคอหนัง กับ “ไทยประกันชีวิต Crystal Cinema”
โรงภาพยนตร์ดิจิตอล 3 มิติที่ดีที่สุดเพื่อคนไทย


พิธีเปิดโรง“ไทยประกันชีวิต Crystal Cinema”

                เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า และไทยประกันชีวิต จัดเต็มควงซุปตาร์ตัวแม่ อั้ม พัชราภาพ ไชยเชื้อ พร้อมด้วยนางเอกหนังร้อยล้าน คริส หอวัง และซันนี่ สุวรรณเมธา จากภาพยนตร์เรื่องรัก 7 ปีดี 7 หน ร่วมงานแถลงข่าวเปิดโรงภาพยนตร์  “ไทยประกันชีวิต Crystal Cinema” โรงภาพยนตร์ดิจิตอล 3 มิติที่ดีที่สุดเพื่อคนไทยใจกลางเมืองย่านพระรามเก้า งานนี้ไอเดียงานสุดเก๋หรูเลิศอลังการสมคอนเซปคริสตัล เปล่งประกายเฉิดฉายสมคำล่ำลือ อีกทั้งยังได้ซุปตาร์มาบอกเล่าถึงไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต และความสุขในมุมมองที่อยากได้








                สำหรับความสุขของสาวสวยมากความสามารถ อั้ม พัชราภา เผยว่า “ปกติอั้มเป็นคนที่ใช้ชีวิตในทุกๆวันอย่างเต็มที่อยู่แล้ว  ทำงานก็ทำเต็มที่ สังสรรค์กับเพื่อนก็เต็มที่ สำหรับอั้มอย่างงานแสดงก็เป็นสิ่งที่อั้มรัก บางทีการที่อั้มได้อยู่กับแก๊งเพื่อนๆของอั้ม ได้เที่ยว ได้ช้อปปิ้ง ได้ดูหนัง ซึ่งอั้มเป็นคนชอบดูหนังอยู่แล้ว ยิ่งถ้าได้มาดูโรงภาพยนตร์ดีๆ บริการดีๆ เดินทางสะดวก ก็ทำให้อั้มมีความสุขแล้วค่ะ”










น้องไมร่า ผู้ชนะเลิศ ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ 2011


ลีลาอ.วีระพงศ์ ทวีศักดิ์ นักดนตรีพิณแก้ว ผู้เป็นที่ 1 ในเอเชีย

                ทางด้าน คริส หอวัง ดาราสาวหน้าหมวยชื่อดังที่กำลังมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง รัก 7 ปี ดี 7 หน เผยว่า “โดยปกติถ้าคริสมีเวลาว่างจากการทำงาน คริสก็จะพาคุณพ่อกับคุณแม่ไปทานข้าว ออกไปช้อปปิ้งกับคุณแม่และพลอย นัดเพื่อนๆไปดูหนังบ้าง สำหรับคริสก็รู้สึกดีใจที่นอกจากไทยประกันชีวิตจะดูแลชีวิตคนไทยแล้ว ยังได้ดูแลมอบความสุขให้กับลูกค้า ร่วมกับเอส เอฟทำโรงภาพยนตร์คุณภาพให้คนไทยได้ดูกันอีก ไว้ถ้ามีโอกาส คริสจะชวนเพื่อนมาดูหนังที่โรงนี้ค่ะ จะได้รู้สึกอบอุ่น เหมือนมีคนคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา” ตบท้ายด้วยหนุ่ม ซันนี่ สุวรรณเมธา พระเอกสุดติสจากภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน กล่าวว่า “ผมว่าดีนะครับ ที่ทางเอส เอฟ และไทยประกันชีวิต ได้ทำโรงภาพยนตร์ดิจิตอล 3 มิติที่มีคุณภาพทั้งระบบฉาย ภาพ เสียง ที่นั่งที่สะดวกสบาย ซึ่งผมเชื่อว่า โรงภาพยนตร์ ไทยประกันชีวิต  Crystal Cinema สามารถตอบโจทย์ได้อย่างดีเยี่ยมและทำให้ลูกค้าทุกคนที่ได้เข้ามาใช้บริการที่โรงได้รับความสุขกลับไปครับ” 

                แหม..สงสัยต้องแวะมาดูที่โรงไทยประกันชีวิต  Crystal Cinema ที่โรงภาพยนตร์เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า พระรามเก้า บ่อยๆ ซะแล้ว เผื่อจะได้เจอเหล่าซุปตาร์พาหวานใจตัวจริงมาสวีทสุขสันต์ลั้นลา..

32279

“ปทุมธานี มอเตอร์โชว์ 2012”
ยอดจองกระหน่ำ ทะลุเป้า 7 วันโกยกว่า 900 คัน

               ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากสำหรับการจัดงานครั้งแรกของ “คุณจรวย ขันมณี” แห่งยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป ที่ได้รับความไว้วางใจจากโตโยต้า ให้จัดงาน “ปทุมธานี มอเตอร์โชว์ 2012” ผลตอบรับสำหรับผู้เข้าชมงานเป็นไปตามคาด จบงาน 7 วัน (19-25 ก.ค.55) ยอดจองรถยนต์
โตโยต้าทะลุเป้าโกยมากกว่า 900 คัน พร้อมคืนกำไรให้ลูกค้าเต็มพิกัดแจกทองรวมกว่าล้านบาท


               บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึงยอดจองรถภายในงาน “ปทุมธานี มอเตอร์โชว์ 2012” หลังจากเสร็จสิ้นงานรวม 7 วัน (19-25 กรกฏาคม 2555) สูงถึง 972คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจำนวน 541คัน และ รถกระบะเพื่อการพาณิชย์จำนวน 431คัน

               รถโตโยต้าหลากหลายรุ่นได้รับความสนใจเป็นอย่างมากภายในงาน “ปทุมธานี มอเตอร์โชว์ 2012” ครั้งนี้ อันเนื่องมาจากเข้าหลักเกณฑ์ ตามนโยบายคืนภาษีให้กับประชาชนเมื่อซื้อรถคันแรกของรัฐบาล จึงส่งผลให้ลูกค้าในจังหวัดปทุมธานีและจังหวัดใกล้เคียง เข้าจองรถในงานนี้มากเป็นพิเศษ
            อีกทั้งจำนวนยอดจองรถยนต์โตโยต้าดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคในเขตจังหวัดปทุมธานี และจังหวัดใกล้เคียง อยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ รวมถึงแคมเปญแจกทองรวมมูลค่ากว่าล้านบาท นับว่าเป็นแคมเปญสุดระทึกใจสำหรับผู้ที่จองรถภายในงาน จึงส่งผลให้ยอดจองรถยนต์รวมหลังเสร็จสิ้นงานเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้



นายจรวย ขันมณี

               ด้านนายจรวย ขันมณี ประธานกรรมการ บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดงาน “ปทุมธานี มอเตอร์โชว์ 2012” เปิดเผยว่า “ความสำเร็จในการจัดงานครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่มอบความไว้วางใจให้ บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ดำเนินงานในการจัดงานครั้งนี้ พร้อมทั้ง ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ทั้ง 5 รายในเขตจังหวัดปทุมธานีที่ร่วมสร้างความสำเร็จไปด้วยกัน ได้แก่ บริษัท โตโยต้าปทุมธานี ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด, บริษัท โตโยต้าเฟรนส์ชิป จำกัด, บริษัท โตโยต้า พาราก้อน มอเตอร์ จำกัด, บริษัท โตโยต้า เภตรา จำกัด บริษัท โตโยต้า พี.เอส. เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด

               อีกทั้งขอขอบคุณ นายขจรศักดิ์ สิงโตกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ที่ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ปทุมธานี มอเตอร์โชว์ 2012” จึงส่งผลให้งานนี้ประสบความสำเร็จทั้งด้านผู้เข้าชมงาน รวมถึงจำนวนยอดจองรถที่สูงเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้”

###

เกี่ยวกับ “ปทุมธานี มอเตอร์โชว์ 2012”

งาน “ปทุมธานี มอเตอร์โชว์ 2012” เป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นการรวบรวมตัวแทนจำหน่ายในจังหวัดปทุมธานีทั้ง 5 ราย ได้แก่ โตโยต้า ปทุมธานี
โตโยต้า เภตรา โตโยต้า เฟรนส์ชิพ โตโยต้า พาราก้อน และโตโยต้า พี.เอส.เอ็นเตอร์ไพรซ์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคให้สามารถสัมผัส และเป็นเจ้าของนวัตกรรมอันล้ำสมัยของโตโยต้าได้อย่างใกล้ชิด


###

เกี่ยวกับ “บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป จำกัด”

บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนิตยสารยานยนต์, นักเลงรถ, นักเลงรถกระบะ, นักเลงมอเตอร์ไซค์ และหนังสือฉบับพิเศษ ในโครงการหนังสือคุณค่าอีกหลายเล่ม นิตยสารและหนังสือทุกเล่มให้สาระและประโยชน์คุ้มค่าที่สุดกับผู้ใช้รถใช้ถนน เป็นที่นิยมและยอมรับจากผู้อ่านทุกระดับทั่วประเทศ

32280
บอย ปกรณ์ นำทีมอาสาสมัครซิกน่าประกันภัยสร้างบ้าน 2 หลังให้ผู้ยากไร้ จ.ระยอง
ต่อยอดจากการขายเสื้อยืดการกุศลที่ตนเองออกแบบเพื่อหาทุนสร้างบ้านให้ผู้ยากไร้


                 บอย - ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หนุ่มหนวดเจ้าเสน่ห์ พรีเซนเตอร์คนใหม่ของ ซิกน่า ประกันภัย นำทีมลูกค้าและพนักงานซิกน่าร่วมเป็นอาสาสมัคร “ทำดี 1 วันกับซิกน่า สร้างบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ให้มีที่อยู่อาศัย” เพื่อสร้างบ้านให้แก่ผู้ยากไร้จำนวน 2 หลังที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2555 พร้อมส่งมอบบ้านให้แก่เจ้าของบ้านร่วมกับผู้บริหารของซิกน่า ประกันภัย และมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทย (Habitat for Humanity Thailand) เจ้าตัวเผยรู้สึกอิ่มเอมใจที่มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ ตั้งแต่การออกแบบเสื้อยืดการกุศลเพื่อนำไปจำหน่ายสมทบทุนสร้างบ้านโดยไม่หักค่าใช้จ่าย ซึ่งสำเร็จอย่างดียิ่งตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จนถึงการนำทีมอาสาสมัครเสียสละแรงกายมาเป็นอาสาสมัครในการสร้างบ้านด้วยตนเอง จนกระทั่งส่งมอบบ้านให้เจ้าของบ้านได้อยู่อาศัยจริงในวันนี้










                 บอย - ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ [ในฐานะพรีเซนเตอร์คนใหม่ของ /size]ซิกน่า ประกันภัย เปิดเผยจากในงาน “ทำดี 1 วันกับซิกน่า สร้างบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ให้มีที่อยู่อาศัย” ว่า “รู้สึกดีใจที่ทราบว่า ปีนี้ ซิกน่าประกันภัยมีกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ในการสร้างบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ จำนวน 2 หลัง เพื่อให้คนกลุ่มนี้ได้มีโอกาสมีบ้านเป็นของตนเอง ซึ่งทุกคนก็ทราบดีว่า บ้านเป็นปัจจัยสี่ที่เป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน และหลายคนก็คงจะมีความฝันที่อยากมีบ้านเป็นของตนเองสักครั้งหนึ่งในชีวิต ผมคิดว่า การที่เราได้อยู่อาศัยในบ้านที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็มีส่วนช่วยส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นได้ และยิ่งถ้าเป็นบ้านที่เป็นของตนเองแล้วล่ะก็ เราจะยิ่งรู้สึกภูมิใจและรู้สึกมั่นคงขึ้นในชีวิตนะครับ ซึ่งสอดคล้องกับหลักแนวคิดกิจกรรมเพื่อสังคมของซิกน่าเลย การที่ผมได้มีส่วนช่วยเหลือในโครงการนี้ ตั้งแต่การร่วมออกแบบเสื้อยืดการกุศลกับทางซิกน่า ให้ออกมาเป็นลวดลายตามสไตล์ของผม เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับแฟนคลับและประชาชนทั่วไปเพื่อสมทบทุนสร้างบ้านให้แก่ 2 หลังนี้โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมากในช่วงที่ผ่านมา ตลอดจนถึง วันนี้ที่ได้มาเห็นบ้านหลังจริงที่เรามีส่วนร่วมช่วยเหลือตั้งแต่ต้น ได้มาเห็นกับตาว่าเงินที่เราช่วยกันระดมทุนได้กลายมาเป็นบ้านจริงๆ อยู่ตรงหน้าของเรา ได้มาเป็นอาสาสมัครสร้างบ้านร่วมกับทีมอาสาสมัครอีก 30 คน ลงมือจับจอบจับเสียมขุดดินด้วยตนเอง และยังได้มาเจอเจ้าของบ้านทั้ง 2 ครอบครัวที่เขาเฝ้ารอบ้านหลังใหม่มานาน จนกระทั่งได้มาส่งมอบบ้านในวันนี้ ผมรู้สึกอิ่มเอมใจจริงๆ ครับ ผมได้ฟังเจ้าของบ้านเขาเล่าว่าค่าเช่าบ้านของเขาเดือนละ 2,000 บาทซึ่งสูงมากสำหรับเขา ถ้าเขามีบ้านเป็นของตนเองเขาก็จะประหยัดค่าเช่าตรงนี้มาใช้จ่ายอย่างอื่นได้ แต่ในขณะที่เราอยู่ในเมืองมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายกว่าเขามาก บางครั้งเราก็ใช้เงินแบบที่ลืมนึกถึงประโยชน์ความจำเป็น ผมเลยรู้สึกว่าการที่เราได้สละความสุขสบายแค่ 1 วันมาสร้างบ้านให้บ้านเขาเสร็จและเข้าอยู่ได้โดยเร็ว มันเป็นความสุขที่ประเมินค่าไม่ได้ ผมรู้สึกดีใจและขอขอบคุณทั้งซิกน่า ประกันภัย ทางมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทย และแฟนคลับทุกๆ คนที่ช่วยกันสนับสนุนให้โครงการดีๆ แบบนี้เกิดขึ้นและสำเร็จลงอย่างสมบูรณ์นะครับ ผมว่า วันนี้ ทั้ง 2 ครอบครัวคงหลับฝันดีมากๆ หลังจากที่ส่งมอบบ้านแล้วในวันนี้ครับ”










ครอบครัวนายคิม เท้าพยุง


ครอบครัวนายวิแต้ม สีหะวงษ์

                 กิจกรรม“ทำดี 1 วันกับซิกน่า สร้างบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ให้มีที่อยู่อาศัย” เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพื่อสังคมของซิกน่า ประกันภัย เพื่อสร้างบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ จำนวน 2 ครอบครัวในชุมชนสำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ. ระยอง ซึ่งจัดขึ้นตามแนวคิด CSR ของซิกน่าที่ต้องการ “เติมเต็มความต้องการพื้นฐานของมนุษย์: จัดหาน้ำสะอาด-สร้างที่พักปลอดภัย-สร้างชุมชนที่ยั่งยืน” และเป็นกิจกรรมที่ 2 ที่บอย- ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ร่วมกิจกรรมกับซิกน่า ประกันภัย ต่อเนื่องจากกิจกรรม ขายเสื้อยืดการกุศลที่ออกแบบโดย บอย ปกรณ์ ที่สยามเซ็นเตอร์ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟนคลับและประชาชนทั่วไปเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

Pages: 1 ... 2150 2151 [2152] 2153 2154 ... 2407