Show Posts
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
346
news & activity / อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์หนุนข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์ที่ให้หน่วยงานราชการ
« on: April 28, 2011, 04:55:19 PM »
อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์หนุนข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์ที่ให้หน่วยงานราชการใช้แต่ซอฟต์แวร์แท้ โดยบอกว่าจะช่วยยกระดับบริการสาธารณะ กระตุ้นเศรษฐกิจ และเพิ่มโอกาสในการจ้างงาน
กรุงเทพฯ (วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554) – หลายฝ่ายในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ออกมาบอกวันนี้ว่าสนับสนุนความคิดริเริ่มในการร่างนโยบายเพื่อกำกับดูแลการใช้ซอฟต์แวร์ในหน่วยงานราชการไทย
ความคิดริเริ่มนี้เป็นของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นาย อลงกรณ์ พลบุตร และนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ต้องการให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในการกำหนดให้หน่วยงานราชการต้องใช้แต่ซอฟต์แวร์แท้ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง
หน่วยงานราชการต้องปฏิบัติตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ซึ่งกำหนดให้ใช้แต่ซอฟต์แวร์แท้ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี การกำหนดให้หน่วยงานราชการต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์โดยเคร่งครัด แสดงให้เห็นว่าไทยเอาจริงกับการปกป้องสิทธิด้านทรัพย์สินทางปัญญา และการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ข้อเสนอในครั้งนี้อาจช่วยลดอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์บนพีซีของไทยลงได้ ที่ตามสถิติล่าสุดในปีพ.ศ. 2552 สูงถึงร้อยละ 75
“หน่วยงานราชการที่ใช้ซอฟต์แวร์แท้ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง จะสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งกว่าหน่วยงานราชการที่ใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน ไม่ว่าจะเป็นด้านความสะดวก ความรวดเร็ว หรือความปลอดภัย” นางสาว วารุณี รัชตพัฒนากุล โฆษกของกลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์กล่าว “หากภาครัฐหันมาใช้ซอฟต์แวร์แท้ย่อมเป็นการกระตุ้นให้ภาคเอกชนทำตาม ส่งผลให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เฟื่องฟู”
ผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์กล่าวว่า ภาครัฐควรดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ เพื่อวางรากฐานในการบริการจัดการสินทรัพย์ด้านซอฟต์แวร์
ขั้นแรก ควรกำหนดนโยบายด้านซอฟต์แวร์ ทั้งการจัดซื้อจัดหา การใช้งาน และการเลิกใช้งาน สำหรับหน่วยงานราชการทั้งหมด ซึ่งการสื่อสารมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้
“ควรเริ่มโดยการสื่อสารให้ข้าราชการและพนักงานทุกคนซึ่งใช้พีซีเข้าใจในกฎ ระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ เกี่ยวกับการใช้งานซอฟต์แวร์” นาย สมพร มณีรัตนะกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยซอฟท์แวร์เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์แปลภาษาชั้นนำกล่าว “
ขั้นที่สอง ควรตรวจสอบว่ามีซอฟต์แวร์ใดบ้างติดตั้งอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และมีใบอนุญาตใช้งานซอฟต์แวร์นั้นๆ ครบถ้วนหรือไม่
ขั้นที่สาม ควรดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลซอฟต์แวร์ที่มีอยู่นั้นทันสมัยและถูกต้อง
“ซอฟต์แวร์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริม ภายใต้นโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของรัฐบาล และการเสนอเพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลตระหนักว่าทรัพย์สินทางปัญญาเป็นส่วนสำคัญยิ่งสำหรับการพัฒนานวัตกรรมในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์” นาย สมพร กล่าว “รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เป็นอย่างดี โดยการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาในภาคเอกชน ผ่านทางกองบังคับการปราบปรามและการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) อย่างต่อเนื่อง เมื่อนโยบายใหม่นี้ประกาศใช้ จะยิ่งเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ให้เติบโตได้โดยไม่ถูกบั่นทอนด้วยการละเมิดลิขสิทธิ์ นับเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง”
เกี่ยวกับบีเอสเอ
กลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ (www.bsa.org) มีสมาชิกที่ประกอบด้วยผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ใช้ในกิจการอีคอมเมิร์ส สมาชิก บีเอสเอรวมถึง อโดบี, อจิเล้นท์ เทคโนโลยีส์, แอปเปิ้ล, อควาโฟล, เออาร์เอ็ม, อาร์ฟิค เทคโนโลยี, ออโต้เดสค์, เบนลี่ ซิสเต็มส์, ซีเอ็นซี/มาสเตอร์แคม คอเรล, แดสเซิลท์ ซิสเต็มส์ โซลิดเวิร์คส์ คอร์ปอเรชั่น, เมนทอร์ กราฟฟิกส์ ครอป, ไมโครซอฟท์, มินิแท็บ, เน็ดกราฟฟิกส์, ออร์โบเทค, พีทีซี, โปรเกรส ซอฟต์แวร์, เควสท์ ซอฟต์แวร์, โรเซ็ตต้า สโตน, ซีเมนส์, ไซเบส, ไซแมนเทค, เทคล่า, ไทยซอฟท์แวร์เอ็นเตอร์ไพร์ส และ เดอะ แมธเวิร์กส์
กรุงเทพฯ (วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554) – หลายฝ่ายในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ออกมาบอกวันนี้ว่าสนับสนุนความคิดริเริ่มในการร่างนโยบายเพื่อกำกับดูแลการใช้ซอฟต์แวร์ในหน่วยงานราชการไทย
ความคิดริเริ่มนี้เป็นของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นาย อลงกรณ์ พลบุตร และนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ต้องการให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในการกำหนดให้หน่วยงานราชการต้องใช้แต่ซอฟต์แวร์แท้ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง
หน่วยงานราชการต้องปฏิบัติตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ซึ่งกำหนดให้ใช้แต่ซอฟต์แวร์แท้ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี การกำหนดให้หน่วยงานราชการต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์โดยเคร่งครัด แสดงให้เห็นว่าไทยเอาจริงกับการปกป้องสิทธิด้านทรัพย์สินทางปัญญา และการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ข้อเสนอในครั้งนี้อาจช่วยลดอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์บนพีซีของไทยลงได้ ที่ตามสถิติล่าสุดในปีพ.ศ. 2552 สูงถึงร้อยละ 75
“หน่วยงานราชการที่ใช้ซอฟต์แวร์แท้ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง จะสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งกว่าหน่วยงานราชการที่ใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน ไม่ว่าจะเป็นด้านความสะดวก ความรวดเร็ว หรือความปลอดภัย” นางสาว วารุณี รัชตพัฒนากุล โฆษกของกลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์กล่าว “หากภาครัฐหันมาใช้ซอฟต์แวร์แท้ย่อมเป็นการกระตุ้นให้ภาคเอกชนทำตาม ส่งผลให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เฟื่องฟู”
ผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์กล่าวว่า ภาครัฐควรดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ เพื่อวางรากฐานในการบริการจัดการสินทรัพย์ด้านซอฟต์แวร์
ขั้นแรก ควรกำหนดนโยบายด้านซอฟต์แวร์ ทั้งการจัดซื้อจัดหา การใช้งาน และการเลิกใช้งาน สำหรับหน่วยงานราชการทั้งหมด ซึ่งการสื่อสารมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้
“ควรเริ่มโดยการสื่อสารให้ข้าราชการและพนักงานทุกคนซึ่งใช้พีซีเข้าใจในกฎ ระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ เกี่ยวกับการใช้งานซอฟต์แวร์” นาย สมพร มณีรัตนะกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยซอฟท์แวร์เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์แปลภาษาชั้นนำกล่าว “
ขั้นที่สอง ควรตรวจสอบว่ามีซอฟต์แวร์ใดบ้างติดตั้งอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และมีใบอนุญาตใช้งานซอฟต์แวร์นั้นๆ ครบถ้วนหรือไม่
ขั้นที่สาม ควรดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลซอฟต์แวร์ที่มีอยู่นั้นทันสมัยและถูกต้อง
“ซอฟต์แวร์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริม ภายใต้นโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของรัฐบาล และการเสนอเพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลตระหนักว่าทรัพย์สินทางปัญญาเป็นส่วนสำคัญยิ่งสำหรับการพัฒนานวัตกรรมในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์” นาย สมพร กล่าว “รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เป็นอย่างดี โดยการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาในภาคเอกชน ผ่านทางกองบังคับการปราบปรามและการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) อย่างต่อเนื่อง เมื่อนโยบายใหม่นี้ประกาศใช้ จะยิ่งเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ให้เติบโตได้โดยไม่ถูกบั่นทอนด้วยการละเมิดลิขสิทธิ์ นับเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง”
เกี่ยวกับบีเอสเอ
กลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ (www.bsa.org) มีสมาชิกที่ประกอบด้วยผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ใช้ในกิจการอีคอมเมิร์ส สมาชิก บีเอสเอรวมถึง อโดบี, อจิเล้นท์ เทคโนโลยีส์, แอปเปิ้ล, อควาโฟล, เออาร์เอ็ม, อาร์ฟิค เทคโนโลยี, ออโต้เดสค์, เบนลี่ ซิสเต็มส์, ซีเอ็นซี/มาสเตอร์แคม คอเรล, แดสเซิลท์ ซิสเต็มส์ โซลิดเวิร์คส์ คอร์ปอเรชั่น, เมนทอร์ กราฟฟิกส์ ครอป, ไมโครซอฟท์, มินิแท็บ, เน็ดกราฟฟิกส์, ออร์โบเทค, พีทีซี, โปรเกรส ซอฟต์แวร์, เควสท์ ซอฟต์แวร์, โรเซ็ตต้า สโตน, ซีเมนส์, ไซเบส, ไซแมนเทค, เทคล่า, ไทยซอฟท์แวร์เอ็นเตอร์ไพร์ส และ เดอะ แมธเวิร์กส์
347
news & activity / กรมป่าไม้และราชบุรีโฮลดิ้ง เปิดโครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ปี 4
« on: April 28, 2011, 04:54:34 PM »
กรมป่าไม้และราชบุรีโฮลดิ้ง เปิดโครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ปี 4 บทพิสูจน์เจตนารมณ์อนุรักษ์ป่าชุมชนอย่างยั่งยืน
กรมป่าไม้ ร่วมกับ บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำพันธกิจการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าโครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ปี 4 ในการจัดประกวดป่าชุมชนทั่วประเทศ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โดยในปีนี้ได้มีการเพิ่มรางวัลเยาวชนคนรักษ์ป่าเพื่อสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์ป่าแก่เยาวชน นอกจากนี้ยังมีค่ายเยาวชนกล้ายิ้ม การสัมมนาเครือข่ายผู้นำป่าชุมชน การบำรุงรักษาป่าชุมชนทั่วประเทศรวมทั้งการส่งเสริมการศึกษาการอนุรักษ์ป่าในโรงเรียนและสถาบันการศึกษาเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของทุกภาคส่วนในชุมชนทุกระดับและสังคมอย่างต่อเนื่อง
โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน เริ่มดำเนินโครงการในปี 2551 จนปัจจุบันเป็นปีที่ 4 โดยความร่วมมือของกรมป่าไม้ และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมขับเคลื่อนพัฒนาป่าชุมชนและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศให้มีความสมบูรณ์ตามระบบนิเวศ ผ่านการดำเนินกิจกรรมหลัก ได้แก่ การประกวดป่าชุมชน ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การสัมมนาเครือข่ายผู้นำป่าชุมชน เพื่อเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ ถ่ายทอด และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างป่าชุมชนต่าง ๆ อีกทั้งการจัดค่ายเยาวชนกล้ายิ้ม เพื่อสร้างเยาวชนคนรักษ์ป่าที่จะสานต่อเจตนารมณ์การดูแลรักษาป่าของชุมชนต่อไป
นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี 2554 ดำเนินการเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์ป่าชุมชนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กิจกรรมการประกวดเพื่อคัดเลือกป่าชุมชนที่มีระบบการบริหารจัดการป่าที่ดี ทั้งในมิติด้านสังคม เศรษฐกิจ และความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อการยกย่องและเชิดชูป่าชุมชนที่มีความสามารถและเป็นแบบอย่างในการเรียนรู้ของป่าชุมชนอื่น ดังเช่นป่าชุมชนเขาวง จ.ชัยภูมิ ป่าชุมชนบ้านทาป่าเปา จ.ลำพูน และป่าชุมชนบ้านห้วยไร่บูรพา จ.อุดรธานี ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศของโครงการระหว่างปี 2551-2553 นอกจาก การสานต่อกิจกรรมประกวดป่าชุมชนรางวัลชนะเลิศระดับประเทศแล้ว ยังมีกิจกรรมค่ายเยาวชนกล้ายิ้ม การสัมมนาเครือข่ายผู้นำป่าชุมชน ซึ่งเป็นกระบวนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติแก่เยาวชนและผู้นำป่าชุมชน ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ของประเทศในปัจจุบันและอนาคต
สำหรับรางวัลการประกวดป่าชุมชนตัวอย่าง ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ จะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชนจำนวน 200,000 บาท รางวัลดีเด่นระดับภาค จะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชนจำนวน 100,000 บาท จำนวน 4 รางวัล รางวัลดีเด่นระดับจังหวัด จะได้รับเกียรติบัตรจากอธิบดีกรมป่าไม้และเงินสนับสนุนการอนุรักษ์ป่าชุมชน และรางวัลชมเชย จะได้รับเกียรติบัตรจากอธิบดีกรมป่าไม้และเงินสนับสนุน การอนุรักษ์ป่าชุมชน รวมทั้งสิ้น 138 รางวัล
สำหรับการประกวดในปีนี้ มีรางวัลพิเศษเฉพาะด้าน คือ รางวัลป่าชุมชนดีเด่น ด้านการส่งเสริมเยาวชนคนรักษ์ป่า จะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจากปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชนจำนวน 100,000 บาท เพื่อส่งเสริมสนับสนุนป่าชุมชนที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบทบาทของเยาวชนให้มีส่วนร่วมอนุรักษ์ ป่าชุมชนอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น
การประกวดป่าชุมชน เปิดรับสมัครป่าชุมชนเข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2554 และจะประกาศผลรางวัลในเดือนกันยายน 2554 ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้และศูนย์ส่งเสริมวนศาสตร์ชุมชนหรือหน่วยงานในสังกัดกรมป่าไม้ทั่วประเทศ
นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ และกรมป่าไม้ได้ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน มาเป็นปีที่ 4 แล้ว โดยมีป่าชุมชนเข้าร่วมในกิจกรรม ต่าง ๆ ของโครงการเป็นที่น่าพอใจ บริษัทฯ รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ของประเทศผ่านกลไกป่าชุมชน ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาอนุรักษ์ป่าโดยชุมชนและเพื่อชุมชนที่ได้ผลและมีความยั่งยืน โดยกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการได้กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมของชุมชนให้ขยายเป็นวงกว้าง ตอกย้ำจิตสำนึกการดูแลรักษาป่าและใช้ประโยชน์จากป่าให้ครอบคลุมผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม อีกทั้งส่งเสริมให้ชุมชนดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง การดำเนินกิจกรรมในปีที่ 4 บริษัทฯ มั่นใจว่า ป่าชุมชนต่าง ๆ จะให้การตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมของโครงการเป็นอย่างดี และป่าชุมชนเหล่านี้จะเป็นแนวร่วมที่สำคัญในการดูแลรักษาป่าของประเทศต่อไปในอนาคต
นอกจากกิจกรรมหลักที่กล่าวข้างต้นแล้ว ในปีนี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมกับกรมป่าไม้จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการ “84 ป่าชุมชนปลูกต้นไม้ถวายพ่อ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ โครงการ “ป่าในเมืองเพื่อการศึกษากล้ายิ้มเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” มุ่งเน้นการปลูกเพิ่มจำนวนต้นไม้ในป่าชุมชนของประเทศให้มากขึ้น และสร้างพื้นที่สีเขียวกระจายทุกพื้นเพื่อส่งเสริมการสะสมคาร์บอนภายในพื้นที่ป่า อีกทั้งยังต้องการส่งเสริมการศึกษาการอนุรักษ์ป่าในโรงเรียนและสถาบันการศึกษาเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของทุกภาคส่วนในชุมชนทุกระดับและสังคมอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
กรมป่าไม้
อำนวยพร ชลดำรงค์กุล
โทร. 02 561 4292 -3 ต่อ 5914
อีเมล์: amchol44@gmail.com
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
วิวรรณ พยัฆวิเชียร
โทร. 0 2978 5221-4 อีเมล์ : wiwanp@ratch.co.th
กรมป่าไม้ ร่วมกับ บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำพันธกิจการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินหน้าโครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ปี 4 ในการจัดประกวดป่าชุมชนทั่วประเทศ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โดยในปีนี้ได้มีการเพิ่มรางวัลเยาวชนคนรักษ์ป่าเพื่อสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์ป่าแก่เยาวชน นอกจากนี้ยังมีค่ายเยาวชนกล้ายิ้ม การสัมมนาเครือข่ายผู้นำป่าชุมชน การบำรุงรักษาป่าชุมชนทั่วประเทศรวมทั้งการส่งเสริมการศึกษาการอนุรักษ์ป่าในโรงเรียนและสถาบันการศึกษาเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของทุกภาคส่วนในชุมชนทุกระดับและสังคมอย่างต่อเนื่อง
โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน เริ่มดำเนินโครงการในปี 2551 จนปัจจุบันเป็นปีที่ 4 โดยความร่วมมือของกรมป่าไม้ และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมขับเคลื่อนพัฒนาป่าชุมชนและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศให้มีความสมบูรณ์ตามระบบนิเวศ ผ่านการดำเนินกิจกรรมหลัก ได้แก่ การประกวดป่าชุมชน ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การสัมมนาเครือข่ายผู้นำป่าชุมชน เพื่อเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ ถ่ายทอด และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างป่าชุมชนต่าง ๆ อีกทั้งการจัดค่ายเยาวชนกล้ายิ้ม เพื่อสร้างเยาวชนคนรักษ์ป่าที่จะสานต่อเจตนารมณ์การดูแลรักษาป่าของชุมชนต่อไป
นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี 2554 ดำเนินการเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์ป่าชุมชนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กิจกรรมการประกวดเพื่อคัดเลือกป่าชุมชนที่มีระบบการบริหารจัดการป่าที่ดี ทั้งในมิติด้านสังคม เศรษฐกิจ และความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อการยกย่องและเชิดชูป่าชุมชนที่มีความสามารถและเป็นแบบอย่างในการเรียนรู้ของป่าชุมชนอื่น ดังเช่นป่าชุมชนเขาวง จ.ชัยภูมิ ป่าชุมชนบ้านทาป่าเปา จ.ลำพูน และป่าชุมชนบ้านห้วยไร่บูรพา จ.อุดรธานี ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศของโครงการระหว่างปี 2551-2553 นอกจาก การสานต่อกิจกรรมประกวดป่าชุมชนรางวัลชนะเลิศระดับประเทศแล้ว ยังมีกิจกรรมค่ายเยาวชนกล้ายิ้ม การสัมมนาเครือข่ายผู้นำป่าชุมชน ซึ่งเป็นกระบวนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติแก่เยาวชนและผู้นำป่าชุมชน ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ของประเทศในปัจจุบันและอนาคต
สำหรับรางวัลการประกวดป่าชุมชนตัวอย่าง ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ จะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชนจำนวน 200,000 บาท รางวัลดีเด่นระดับภาค จะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชนจำนวน 100,000 บาท จำนวน 4 รางวัล รางวัลดีเด่นระดับจังหวัด จะได้รับเกียรติบัตรจากอธิบดีกรมป่าไม้และเงินสนับสนุนการอนุรักษ์ป่าชุมชน และรางวัลชมเชย จะได้รับเกียรติบัตรจากอธิบดีกรมป่าไม้และเงินสนับสนุน การอนุรักษ์ป่าชุมชน รวมทั้งสิ้น 138 รางวัล
สำหรับการประกวดในปีนี้ มีรางวัลพิเศษเฉพาะด้าน คือ รางวัลป่าชุมชนดีเด่น ด้านการส่งเสริมเยาวชนคนรักษ์ป่า จะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจากปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชนจำนวน 100,000 บาท เพื่อส่งเสริมสนับสนุนป่าชุมชนที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบทบาทของเยาวชนให้มีส่วนร่วมอนุรักษ์ ป่าชุมชนอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น
การประกวดป่าชุมชน เปิดรับสมัครป่าชุมชนเข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2554 และจะประกาศผลรางวัลในเดือนกันยายน 2554 ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้และศูนย์ส่งเสริมวนศาสตร์ชุมชนหรือหน่วยงานในสังกัดกรมป่าไม้ทั่วประเทศ
นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ และกรมป่าไม้ได้ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน มาเป็นปีที่ 4 แล้ว โดยมีป่าชุมชนเข้าร่วมในกิจกรรม ต่าง ๆ ของโครงการเป็นที่น่าพอใจ บริษัทฯ รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ของประเทศผ่านกลไกป่าชุมชน ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาอนุรักษ์ป่าโดยชุมชนและเพื่อชุมชนที่ได้ผลและมีความยั่งยืน โดยกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการได้กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมของชุมชนให้ขยายเป็นวงกว้าง ตอกย้ำจิตสำนึกการดูแลรักษาป่าและใช้ประโยชน์จากป่าให้ครอบคลุมผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม อีกทั้งส่งเสริมให้ชุมชนดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง การดำเนินกิจกรรมในปีที่ 4 บริษัทฯ มั่นใจว่า ป่าชุมชนต่าง ๆ จะให้การตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมของโครงการเป็นอย่างดี และป่าชุมชนเหล่านี้จะเป็นแนวร่วมที่สำคัญในการดูแลรักษาป่าของประเทศต่อไปในอนาคต
นอกจากกิจกรรมหลักที่กล่าวข้างต้นแล้ว ในปีนี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมกับกรมป่าไม้จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการ “84 ป่าชุมชนปลูกต้นไม้ถวายพ่อ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ โครงการ “ป่าในเมืองเพื่อการศึกษากล้ายิ้มเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” มุ่งเน้นการปลูกเพิ่มจำนวนต้นไม้ในป่าชุมชนของประเทศให้มากขึ้น และสร้างพื้นที่สีเขียวกระจายทุกพื้นเพื่อส่งเสริมการสะสมคาร์บอนภายในพื้นที่ป่า อีกทั้งยังต้องการส่งเสริมการศึกษาการอนุรักษ์ป่าในโรงเรียนและสถาบันการศึกษาเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของทุกภาคส่วนในชุมชนทุกระดับและสังคมอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
กรมป่าไม้
อำนวยพร ชลดำรงค์กุล
โทร. 02 561 4292 -3 ต่อ 5914
อีเมล์: amchol44@gmail.com
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
วิวรรณ พยัฆวิเชียร
โทร. 0 2978 5221-4 อีเมล์ : wiwanp@ratch.co.th
348
news & activity / ทรู ห่วงลูกค้าซีดีเอ็มเอของ กสท และฮัทช์ปัจจุบันกว่าล้านราย กระทบหนัก
« on: April 28, 2011, 04:53:41 PM »
ทรู ห่วงลูกค้าซีดีเอ็มเอของ กสท และฮัทช์ปัจจุบันกว่าล้านราย กระทบหนัก ประกาศจุดยืนชัดเจน สู้เพื่อประโยชน์ลูกค้า คนไทย และประเทศไทย
ทรูห่วงหนักลูกค้าซีดีเอ็มเอของ กสท และฮัทช์กว่า 1 ล้านรายทั่วประเทศ ใช้บริการไม่ได้ หากศาลปกครองมีคำสั่งให้ กสท โทรคมนาคม หยุดดำเนินการการให้บริการสื่อสาร ย้ำชัด ผู้ประกอบการไทยต้องสู้ เพื่อประโยชน์ลูกค้า คนไทย และประเทศไทย
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ตามที่บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ได้ยื่นฟ้องศาลปกครองเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2554 ให้ศาลมีคำสั่งให้ กสท โทรคมนาคม ระงับการดำเนินการต่างๆ ตามสัญญาระหว่าง บมจ. กสท โทรคมนาคม และกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ในการร่วมลงทุนเพื่อให้บริการสื่อสารในระบบ ซีดีเอ็มเอ และเอชเอสพีเอ กลุ่มทรูรู้สึกกังวลและเป็นห่วงอย่างมากที่สุดว่า หากศาลมีคำสั่งให้หยุด ดำเนินการให้บริการสื่อสารในระบบซีดีเอ็มเอ และเอชเอสพีเอดังกล่าว จะสร้างความเดือดร้อนต่อลูกค้า ซีดีเอ็มเอของ กสท และฮัทช์กว่า 1 ล้านราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ใช้บริการซีดีเอ็มเอมายาวนานเกือบ 10 ปี ทำให้ไม่สามารถใช้บริการได้ตามปกติ ซึ่งความเดือดร้อนดังกล่าวไม่ได้เป็นความผิดของลูกค้า รวมทั้งไม่ได้เกิดจากความขัดข้องของสัญญาณ และเครือข่ายการให้บริการทั้งสิ้น
“ปัจจุบันการสื่อสารเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งในการดำเนินชีวิต หากลูกค้าทั้ง 1 ล้านรายไม่สามารถใช้บริการ ติดต่อสื่อสารได้ จะเกิดผลกระทบอย่างหนักต่อลูกค้า ทั้งการใช้งานตามปกติและกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งความเดือดร้อนดังกล่าวจะกระจายถึงลูกค้าที่อยู่ในทุกภาคส่วนของประเทศ กลุ่มทรู ขอย้ำว่าจะยืนหยัดต่อสู้จนถึงที่สุดเพื่อไม่ให้ลูกค้าซีดีเอ็มเอของ กสท และฮัทช์ทั้ง 1 ล้านรายได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน ” นายศุภชัย กล่าวสรุป
ทรูห่วงหนักลูกค้าซีดีเอ็มเอของ กสท และฮัทช์กว่า 1 ล้านรายทั่วประเทศ ใช้บริการไม่ได้ หากศาลปกครองมีคำสั่งให้ กสท โทรคมนาคม หยุดดำเนินการการให้บริการสื่อสาร ย้ำชัด ผู้ประกอบการไทยต้องสู้ เพื่อประโยชน์ลูกค้า คนไทย และประเทศไทย
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ตามที่บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ได้ยื่นฟ้องศาลปกครองเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2554 ให้ศาลมีคำสั่งให้ กสท โทรคมนาคม ระงับการดำเนินการต่างๆ ตามสัญญาระหว่าง บมจ. กสท โทรคมนาคม และกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ในการร่วมลงทุนเพื่อให้บริการสื่อสารในระบบ ซีดีเอ็มเอ และเอชเอสพีเอ กลุ่มทรูรู้สึกกังวลและเป็นห่วงอย่างมากที่สุดว่า หากศาลมีคำสั่งให้หยุด ดำเนินการให้บริการสื่อสารในระบบซีดีเอ็มเอ และเอชเอสพีเอดังกล่าว จะสร้างความเดือดร้อนต่อลูกค้า ซีดีเอ็มเอของ กสท และฮัทช์กว่า 1 ล้านราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ใช้บริการซีดีเอ็มเอมายาวนานเกือบ 10 ปี ทำให้ไม่สามารถใช้บริการได้ตามปกติ ซึ่งความเดือดร้อนดังกล่าวไม่ได้เป็นความผิดของลูกค้า รวมทั้งไม่ได้เกิดจากความขัดข้องของสัญญาณ และเครือข่ายการให้บริการทั้งสิ้น
“ปัจจุบันการสื่อสารเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งในการดำเนินชีวิต หากลูกค้าทั้ง 1 ล้านรายไม่สามารถใช้บริการ ติดต่อสื่อสารได้ จะเกิดผลกระทบอย่างหนักต่อลูกค้า ทั้งการใช้งานตามปกติและกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งความเดือดร้อนดังกล่าวจะกระจายถึงลูกค้าที่อยู่ในทุกภาคส่วนของประเทศ กลุ่มทรู ขอย้ำว่าจะยืนหยัดต่อสู้จนถึงที่สุดเพื่อไม่ให้ลูกค้าซีดีเอ็มเอของ กสท และฮัทช์ทั้ง 1 ล้านรายได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน ” นายศุภชัย กล่าวสรุป
349
news & activity / เปิดตัวแสตมป์มิตรภาพ 60 ปี ไทย-ลาว สัมพันธ์มั่นยืน
« on: April 28, 2011, 04:52:47 PM »
เปิดตัวแสตมป์มิตรภาพ 60 ปี ไทย-ลาว สัมพันธ์มั่นยืน
นางสาวอานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ที่ 3 จากซ้าย) ให้การต้อนรับ ฯพณฯ นายอ้วน พมมะจัก เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย (ที่ 3 จากขวา) และ นายภาสกร ศิริยะพันธุ์ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ (ที่ 2 จากซ้าย) ในโอกาสร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดตัวแสตมป์ชุดที่ระลึก 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย – ลาว ซึ่งจัดสร้างขึ้นเพื่อร่วมฉลองมิตรภาพอันดีระหว่างสองประเทศ ณ พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร สามเสนใน เร็วๆนี้
นางสาวอานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ที่ 3 จากซ้าย) ให้การต้อนรับ ฯพณฯ นายอ้วน พมมะจัก เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย (ที่ 3 จากขวา) และ นายภาสกร ศิริยะพันธุ์ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ (ที่ 2 จากซ้าย) ในโอกาสร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดตัวแสตมป์ชุดที่ระลึก 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย – ลาว ซึ่งจัดสร้างขึ้นเพื่อร่วมฉลองมิตรภาพอันดีระหว่างสองประเทศ ณ พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร สามเสนใน เร็วๆนี้
350
news & activity / แอมเวย์เปิด “แอมเวย์ ช็อป สยามดิสคัฟเวอรี่” ขยายโอกาสทางธุรกิจสู่ผู้บริโภคยุคใหม
« on: April 28, 2011, 04:50:20 PM »
แอมเวย์เปิด “แอมเวย์ ช็อป สยามดิสคัฟเวอรี่” ขยายโอกาสทางธุรกิจสู่ผู้บริโภคยุคใหม่
บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ขยายโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญด้วยการเปิด “แอมเวย์ ช็อป สยามดิสคัฟเวอรี่” ซึ่งเป็นสาขาที่ 49 และเป็นสาขาแรกที่แอมเวย์นำแบรนด์เข้าสู่ศูนย์การค้าย่าน ใจกลางเมือง ภายใต้งบลงทุน 70 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของนักธุรกิจแอมเวย์และ สมาชิกที่มีกว่า 1 ล้านรหัสทั่วประเทศให้มีความสะดวกมากขึ้น สร้างโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และโอกาสทางธุรกิจได้ง่ายขึ้น รวมทั้งตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในเมืองอย่างแท้จริง
“แอมเวย์ ช็อป สยามดิสคัฟเวอรี่” ตั้งอยู่ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ มีการตกแต่งในรูปแบบ พรีเมี่ยม หรูหรา สวยทันสมัย บนขนาดพื้นที่ใช้สอย 1,200 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 6 โซนดังนี้ 1. โอกาสทางธุรกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักธุรกิจแอมเวย์ และเปิดโอกาสทางธุรกิจสู่ลูกค้าและสมาชิกใหม่ 2. การจำหน่ายสินค้า โดยการจัดวางสินค้าแยกตามประเภทสินค้ากลุ่มหลักและเพอร์เซอนอล ช็อปเปอร์ส แค็ตตาล็อก 3. การบริการทางธุรกิจ (Business center) และเคาน์เตอร์จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง อาร์ทิสทรีและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ 4. แอมฟิตคลับ (AmFit Club) นำเสนอโปรแกรมลดน้ำหนักที่พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือของนิวทริไลท์และทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเริ่มที่สาขานี้เป็นแห่งแรกของไทย 5. การตรวจสุขภาพและความงาม โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงามให้บริการแนะนำและคำปรึกษาอย่างใกล้ชิด และ 6. การจัดแสดงและสาธิตเครื่องกรองน้ำอีสปริง เครื่องกรองอากาศแอทโมสเฟียร์ และชุดประกอบอาหารไอคุ้ก เป็นต้น
แอมเวย์ ช็อป สยามดิสคัฟเวอรี่ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. โทร. 0-2658-0030-1
บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ขยายโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญด้วยการเปิด “แอมเวย์ ช็อป สยามดิสคัฟเวอรี่” ซึ่งเป็นสาขาที่ 49 และเป็นสาขาแรกที่แอมเวย์นำแบรนด์เข้าสู่ศูนย์การค้าย่าน ใจกลางเมือง ภายใต้งบลงทุน 70 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของนักธุรกิจแอมเวย์และ สมาชิกที่มีกว่า 1 ล้านรหัสทั่วประเทศให้มีความสะดวกมากขึ้น สร้างโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และโอกาสทางธุรกิจได้ง่ายขึ้น รวมทั้งตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในเมืองอย่างแท้จริง
“แอมเวย์ ช็อป สยามดิสคัฟเวอรี่” ตั้งอยู่ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ มีการตกแต่งในรูปแบบ พรีเมี่ยม หรูหรา สวยทันสมัย บนขนาดพื้นที่ใช้สอย 1,200 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 6 โซนดังนี้ 1. โอกาสทางธุรกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักธุรกิจแอมเวย์ และเปิดโอกาสทางธุรกิจสู่ลูกค้าและสมาชิกใหม่ 2. การจำหน่ายสินค้า โดยการจัดวางสินค้าแยกตามประเภทสินค้ากลุ่มหลักและเพอร์เซอนอล ช็อปเปอร์ส แค็ตตาล็อก 3. การบริการทางธุรกิจ (Business center) และเคาน์เตอร์จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง อาร์ทิสทรีและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ 4. แอมฟิตคลับ (AmFit Club) นำเสนอโปรแกรมลดน้ำหนักที่พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือของนิวทริไลท์และทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเริ่มที่สาขานี้เป็นแห่งแรกของไทย 5. การตรวจสุขภาพและความงาม โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงามให้บริการแนะนำและคำปรึกษาอย่างใกล้ชิด และ 6. การจัดแสดงและสาธิตเครื่องกรองน้ำอีสปริง เครื่องกรองอากาศแอทโมสเฟียร์ และชุดประกอบอาหารไอคุ้ก เป็นต้น
แอมเวย์ ช็อป สยามดิสคัฟเวอรี่ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. โทร. 0-2658-0030-1