Show Posts
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
16
ข่าวภาพยนตร์ / “สตาร์บัคส์”สะใจมีวันนี้ได้ เพราะ “ห้าวเป้ง” ประสบการณ์ซื้อไม่ได้
« on: June 06, 2011, 05:49:02 PM »
“สตาร์บัคส์”สะใจมีวันนี้ได้ เพราะ “ห้าวเป้ง” ประสบการณ์ซื้อไม่ได้ 2 ปีมีหนัง 5 เรื่อง ชวนสมัคร “คนกล้าท้าห้าวเป้ง 2” แน่จริงมาเอาเงินล้าน!!!!
ไม่มีใครคาดคิดจากวันแรกที่กลุ่มสาระแนตัวดี “วิลลี่-เปิ้ล-หอย” จับมือกับ “เสี่ยเจียง” หัวเรือใหญ่ค่ายหนังไทย “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” พลิกสูตรแหวกตาราการทาหนังที่เคยมีในประวัติศาสตร์ส่ง“สาระแนห้าวเป้ง” แคนดิดมูฟวี่ สุดแหวก สุดบ้า สุดท้าทาย เปิดตัวออกไปส่งผลให้เกิดกระแสความสาเร็จทะลุร้อยล้านจนต้องมีการวิ่ง “ห้าวเป้งแก้บนทะลุร้อยล้าน” และส่งผลให้ชีวิตของ สตาร์บัคส์-หลังเลนส์ 2 ครีเอทีฟหนุ่มจบใหม่จากรั้วศิลปากรในขณะนั้นต้องพลิกผันเพียงชั่วข้ามคืน จากเด็กหนุ่มธรรมดากลายเป็นดารา (จาเป็น) สุดฮอตโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วบ้านทั่วเมือง ปัจจุบันทั้งคู่กลายเป็นครีเอทีฟและพนักงานประจาของบ.ลักษ์ 666 อยู่เบื้องหลังการผลิตรายการ แคนดิด-เรียลลิตี้สุดฮิตอย่าง “สาระแน” และเป็น1ในทีมงานผลิตภาพยนตร์ของ “ลักษ์ฟิล์ม” ทั้งสาระแนสิบล้อและสาระแนเห็นผี แถมยังมีผลงานในแวดวงบันเทิงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สตาร์บัคส์- “พงศ์พิชญ์ ปรีชาบริสุทธิ์กุล” ที่เข้าตาเหล่าผู้สร้างภาพยนตร์อย่างเต็มสองตา จนพูดได้ว่าด้วยระยะเวลาเพียง2ปี หนุ่มบัคส์กลายเป็นนักแสดงที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว แถมยังโตวันโตคืน (และอาจเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่โตเร็วที่สุด) มีผลงานการแสดงภาพยนตร์ออกมาอย่างต่อเนื่องถึง 5-6 เรื่องนับตั้งแต่ สาระแนห้าวเป้ง, ฮูอาร์ยู..ใครในห้อง,สาระแนสิบล้อ,สาระแนเห็นผี,สมอลล์รูกูแนว ฯลฯ แว่วๆ มาว่ายังมีผลงานที่อยู่ในระหว่างการถ่ายทาอีกต่างหาก แหมของเขาแรงจริงๆ ล่าสุดสตาร์บัคส์กาลังจะกลับมาสร้างความฮือฮาครั้งใหม่กับ “สาระแนห้าวเป้ง2” อภิมหาโปรเจ็คต์ที่ห้าวกว่า เป้งกว่า ท้าทายมากกว่า และที่สาคัญเปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไปได้มีโอกาสแจ้งเกิดเฉกเช่นหนุ่มบัคส์ด้วยการเข้ามาร่วมเป็น 1 ใน “ผู้กล้าท้าห้าวเป้ง” พร้อมมีสิทธิ์พิชิตเงินรางวัลถึง1ล้านบาท งานนี้หนุ่มบัคส์ยืนยันว่าเงินอาจไม่ใช่สาคัญ เพราะสิ่งที่จะได้รับหลายๆ อย่างเงินก็ไม่อาจซื้อได้ดังเช่นที่เจ้าตัวเคยได้รับมาแล้ว
“ก็ไม่เคยคิดครับว่า ชีวิตเราจะเดินมาถึงตรงนี้ ก็รู้สึกดีสนุกสนานร่าเริง แล้วก็ดีใจที่ได้ร่วมงานกับพวกพี่ๆ เขาครับ พวกพี่เปิ้ลพี่หอยพี่วิลลี่ และพวกพี่ๆ ทีมงาน พวกน้องๆ ที่อยู่ในทีมสาระแนครับ จากวันนั้นถึงวันนี้มีหลายๆ อย่างเกิดขึ้นกับชีวิต เหนือความคาดคิดครับ คุ้มค่าครับแค่นี้ก็นอนตายตาหลับแล้วครับ เพราะหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในรอบ 2 ปีนี้ไม่เพียงเปลี่ยนชีวิตครับ ผมเชื่อว่าเงินท่วมหัวก็หาซื้อไม่ได้ เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกๆ คนครับ และตอนนี้ก็กาลังเตรียมตัวกันกับพี่ๆ ทีมงานพี่เป้, พี่เคน, พี่ช., พี่วิลลี่, พี่เปิ้ล, พี่หอย พวกเรากาลังสุมหัวกันครับ ไอเดียลูกบ้าทั้งหมดกาลังงอกเงยกันออกมา เพราะพวกเรากาลังจะมีห้าวเป้ง 2 กัน สาหรับสาระแนห้าวเป้งภาค2 ตอนนี้ เปิดให้ทุกคนได้มีโอกาสได้เข้ามาร่วมรับประสบการณ์แบบห้าวเป้ง ซึ่งตอนนี้เปิดรับสมัครอยู่ครับ ใครสนใจจะเดินมา นั่งรถมาสมัครได้เลยครับที่บ.ลักษ์ 666 ตรงที่ทาวน์อินทาวน์นะครับ ประสบการณ์ใหม่ๆกาลังรอคนที่คิดว่าตัวเองห้าวเป้งอยากลอง พบกับการแข่งขัน ใครชนะเอาไปเลยครับเงิน1ล้านบาท แลกกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หาที่ไหนไม่ได้แน่นอนครับ แล้วเจอกันได้ครับผมที่บ.ลักษ์ 666กับสาระแนเห้าวเป้งภาค 2 เจอกันเลย”
งานนี้นอกจากหนุ่มสตาร์บัคส์จะเลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นรุ่นพี่แล้วยังอาสาเชิญชวนบรรดาหนุ่มสาวที่มีอายุ 18-30 ปี การศึกษาไม่เน้น แถมหน้าตาไม่มีผล ขอให้เป็นคนกุ๊กกิ๊ก นิสัยห้าวกล้า บ้าเป้ง รักสนุก ชอบแกล้ง ชอบอา ชอบฮาบ้างอะไรบ้าง พร้อมเขียนเล่าประสบการณ์ห้าวเป้ง! แบบสั้นๆ พร้อมประวัติและรูปถ่าย ส่งมาที่ 1525 ซ.ลาดพร้าว 94 (ทาวน์อินทาวน์) แขวงพลับพลา เขตวังทองกลาง กทม.10310 หรือสมัครได้ที่ บริษัท ลักษ์ 666 จากัด หรือ ติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทร 02-530-7939 หรือสมัครโดยส่งอีเมล์มาได้ที่ saranairchannel@gmail.com หรือ สมัครทาง https://www.facebook.com/hajakreng รีบหน่อยนะจ๊ะก่อน22 มิ.ย.นี้เท่านั้น หรือถ้ากล้าพอก็วอลค์-อิน บุกเข้ามาสมัครที่ลักษ์666 ได้เลยจ้า
ไม่มีใครคาดคิดจากวันแรกที่กลุ่มสาระแนตัวดี “วิลลี่-เปิ้ล-หอย” จับมือกับ “เสี่ยเจียง” หัวเรือใหญ่ค่ายหนังไทย “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” พลิกสูตรแหวกตาราการทาหนังที่เคยมีในประวัติศาสตร์ส่ง“สาระแนห้าวเป้ง” แคนดิดมูฟวี่ สุดแหวก สุดบ้า สุดท้าทาย เปิดตัวออกไปส่งผลให้เกิดกระแสความสาเร็จทะลุร้อยล้านจนต้องมีการวิ่ง “ห้าวเป้งแก้บนทะลุร้อยล้าน” และส่งผลให้ชีวิตของ สตาร์บัคส์-หลังเลนส์ 2 ครีเอทีฟหนุ่มจบใหม่จากรั้วศิลปากรในขณะนั้นต้องพลิกผันเพียงชั่วข้ามคืน จากเด็กหนุ่มธรรมดากลายเป็นดารา (จาเป็น) สุดฮอตโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วบ้านทั่วเมือง ปัจจุบันทั้งคู่กลายเป็นครีเอทีฟและพนักงานประจาของบ.ลักษ์ 666 อยู่เบื้องหลังการผลิตรายการ แคนดิด-เรียลลิตี้สุดฮิตอย่าง “สาระแน” และเป็น1ในทีมงานผลิตภาพยนตร์ของ “ลักษ์ฟิล์ม” ทั้งสาระแนสิบล้อและสาระแนเห็นผี แถมยังมีผลงานในแวดวงบันเทิงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สตาร์บัคส์- “พงศ์พิชญ์ ปรีชาบริสุทธิ์กุล” ที่เข้าตาเหล่าผู้สร้างภาพยนตร์อย่างเต็มสองตา จนพูดได้ว่าด้วยระยะเวลาเพียง2ปี หนุ่มบัคส์กลายเป็นนักแสดงที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว แถมยังโตวันโตคืน (และอาจเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่โตเร็วที่สุด) มีผลงานการแสดงภาพยนตร์ออกมาอย่างต่อเนื่องถึง 5-6 เรื่องนับตั้งแต่ สาระแนห้าวเป้ง, ฮูอาร์ยู..ใครในห้อง,สาระแนสิบล้อ,สาระแนเห็นผี,สมอลล์รูกูแนว ฯลฯ แว่วๆ มาว่ายังมีผลงานที่อยู่ในระหว่างการถ่ายทาอีกต่างหาก แหมของเขาแรงจริงๆ ล่าสุดสตาร์บัคส์กาลังจะกลับมาสร้างความฮือฮาครั้งใหม่กับ “สาระแนห้าวเป้ง2” อภิมหาโปรเจ็คต์ที่ห้าวกว่า เป้งกว่า ท้าทายมากกว่า และที่สาคัญเปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไปได้มีโอกาสแจ้งเกิดเฉกเช่นหนุ่มบัคส์ด้วยการเข้ามาร่วมเป็น 1 ใน “ผู้กล้าท้าห้าวเป้ง” พร้อมมีสิทธิ์พิชิตเงินรางวัลถึง1ล้านบาท งานนี้หนุ่มบัคส์ยืนยันว่าเงินอาจไม่ใช่สาคัญ เพราะสิ่งที่จะได้รับหลายๆ อย่างเงินก็ไม่อาจซื้อได้ดังเช่นที่เจ้าตัวเคยได้รับมาแล้ว
“ก็ไม่เคยคิดครับว่า ชีวิตเราจะเดินมาถึงตรงนี้ ก็รู้สึกดีสนุกสนานร่าเริง แล้วก็ดีใจที่ได้ร่วมงานกับพวกพี่ๆ เขาครับ พวกพี่เปิ้ลพี่หอยพี่วิลลี่ และพวกพี่ๆ ทีมงาน พวกน้องๆ ที่อยู่ในทีมสาระแนครับ จากวันนั้นถึงวันนี้มีหลายๆ อย่างเกิดขึ้นกับชีวิต เหนือความคาดคิดครับ คุ้มค่าครับแค่นี้ก็นอนตายตาหลับแล้วครับ เพราะหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในรอบ 2 ปีนี้ไม่เพียงเปลี่ยนชีวิตครับ ผมเชื่อว่าเงินท่วมหัวก็หาซื้อไม่ได้ เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกๆ คนครับ และตอนนี้ก็กาลังเตรียมตัวกันกับพี่ๆ ทีมงานพี่เป้, พี่เคน, พี่ช., พี่วิลลี่, พี่เปิ้ล, พี่หอย พวกเรากาลังสุมหัวกันครับ ไอเดียลูกบ้าทั้งหมดกาลังงอกเงยกันออกมา เพราะพวกเรากาลังจะมีห้าวเป้ง 2 กัน สาหรับสาระแนห้าวเป้งภาค2 ตอนนี้ เปิดให้ทุกคนได้มีโอกาสได้เข้ามาร่วมรับประสบการณ์แบบห้าวเป้ง ซึ่งตอนนี้เปิดรับสมัครอยู่ครับ ใครสนใจจะเดินมา นั่งรถมาสมัครได้เลยครับที่บ.ลักษ์ 666 ตรงที่ทาวน์อินทาวน์นะครับ ประสบการณ์ใหม่ๆกาลังรอคนที่คิดว่าตัวเองห้าวเป้งอยากลอง พบกับการแข่งขัน ใครชนะเอาไปเลยครับเงิน1ล้านบาท แลกกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หาที่ไหนไม่ได้แน่นอนครับ แล้วเจอกันได้ครับผมที่บ.ลักษ์ 666กับสาระแนเห้าวเป้งภาค 2 เจอกันเลย”
งานนี้นอกจากหนุ่มสตาร์บัคส์จะเลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นรุ่นพี่แล้วยังอาสาเชิญชวนบรรดาหนุ่มสาวที่มีอายุ 18-30 ปี การศึกษาไม่เน้น แถมหน้าตาไม่มีผล ขอให้เป็นคนกุ๊กกิ๊ก นิสัยห้าวกล้า บ้าเป้ง รักสนุก ชอบแกล้ง ชอบอา ชอบฮาบ้างอะไรบ้าง พร้อมเขียนเล่าประสบการณ์ห้าวเป้ง! แบบสั้นๆ พร้อมประวัติและรูปถ่าย ส่งมาที่ 1525 ซ.ลาดพร้าว 94 (ทาวน์อินทาวน์) แขวงพลับพลา เขตวังทองกลาง กทม.10310 หรือสมัครได้ที่ บริษัท ลักษ์ 666 จากัด หรือ ติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทร 02-530-7939 หรือสมัครโดยส่งอีเมล์มาได้ที่ saranairchannel@gmail.com หรือ สมัครทาง https://www.facebook.com/hajakreng รีบหน่อยนะจ๊ะก่อน22 มิ.ย.นี้เท่านั้น หรือถ้ากล้าพอก็วอลค์-อิน บุกเข้ามาสมัครที่ลักษ์666 ได้เลยจ้า
17
ข่าวภาพยนตร์ / MOVIE GUIDE: Dolphin Tale 6 ตุลาคม
« on: June 06, 2011, 05:46:17 PM »
MOVIE GUIDE: Dolphin Tale
คลิปพิเศษจาก Dolphin Tale หนังใหม่ของ Warner Bros. ซึ่งหนังจะเข้าฉาย 6 ตุลาคมนี้
DOLPHIN TALE - Special Content Trailer :: Encodes and Streaming Links
คลิปพิเศษจาก Dolphin Tale หนังใหม่ของ Warner Bros. ซึ่งหนังจะเข้าฉาย 6 ตุลาคมนี้
DOLPHIN TALE - Special Content Trailer :: Encodes and Streaming Links
18
ข่าวภาพยนตร์ / Movie: สมอลล์รู กูแนว (SMALL RULE) 9 มิถุนายน 54
« on: June 06, 2011, 05:44:23 PM »
Movie: สมอลล์รู กูแนว (SMALL RULE) ฉาย 9 มิถุนายน 54
ผลิตโดย พระนครฟิลม์
นำแสดงโดย
สตาร์บั๊ค เล่นเป็น ซื่อสัตย์ มือกีต้าร์และหัวหน้าวง
กิ๊ฟซี่ เล่นเป็น เปียกปูน ลูกสาวเชฟมือทอง
น้ำแข็ง AF7 เล่นเป็น แข็ง มือกีตาร์โซโล
ไกด์ OIC เล่นเป็น รั่ว มือกลอง
บอม OIC เล่นเป็น ไข่ มือเบส
นิคกี้ OIC เล่นเป็น จิ๋ม นักร้องนําคนใหม่ของวง
เซน The Star เล่นเป็น โต มือคีย์บอร์ดและนักแต่งเพลง
แจ๊ส ชวนชื่น เล่นเป็น ว่าว อดีตสมาชิกวง
เกด เล่นเป็น สุดฝัน เพื่อนสาวเปียกปูน
โซเฟีย ลา เล่นเป็น แม่ของซื่อสัตย์
แอนนา ชวนชื่น เล่นเป็น เชฟมือทองพ่อเปียกปูน
ผลิตโดย พระนครฟิลม์
นำแสดงโดย
สตาร์บั๊ค เล่นเป็น ซื่อสัตย์ มือกีต้าร์และหัวหน้าวง
กิ๊ฟซี่ เล่นเป็น เปียกปูน ลูกสาวเชฟมือทอง
น้ำแข็ง AF7 เล่นเป็น แข็ง มือกีตาร์โซโล
ไกด์ OIC เล่นเป็น รั่ว มือกลอง
บอม OIC เล่นเป็น ไข่ มือเบส
นิคกี้ OIC เล่นเป็น จิ๋ม นักร้องนําคนใหม่ของวง
เซน The Star เล่นเป็น โต มือคีย์บอร์ดและนักแต่งเพลง
แจ๊ส ชวนชื่น เล่นเป็น ว่าว อดีตสมาชิกวง
เกด เล่นเป็น สุดฝัน เพื่อนสาวเปียกปูน
โซเฟีย ลา เล่นเป็น แม่ของซื่อสัตย์
แอนนา ชวนชื่น เล่นเป็น เชฟมือทองพ่อเปียกปูน
19
ข่าวภาพยนตร์ / MVD แนะนำหนังออกใหม่เดือนมิถุนายน 2554
« on: June 05, 2011, 06:52:42 PM »
MVD แนะนำหนังออกใหม่เดือนมิถุนายน 2554
เอ็มวีดี แนะนำ DVD เรื่อง: Bloodworth หัวใจบรรเลง บทเพลงชีวิต
ชื่อเรื่อง : Bloodworth
ชื่อไทย : หัวใจบรรเลง บทเพลงชีวิต
แนวหนัง : โรแมนติก/ดนตรี
นักแสดง : วาล คิลเมอร์, คริส คริสต็อฟเฟอร์สัน, ฮิลลารี่ ดัฟฟ์
ผู้กำกับ : เชน แด็กส์ เทเลอร์
กว่า 40 ปีมาแล้วที่ อี.เอฟ. บลัดเวิร์ธ ทิ้งครอบครัวที่แสนอบอุ่นไปโลดแล่นบนทางเดินแห่งเสียงเพลงของเขา แต่ที่ปลายทางนั้นกลับนำพาเขามาที่จุดเดิมอีกครั้ง จูเลีย (ฟรานเซส คอนรอย) อดีตภรรยาของเขาที่ถูกทำร้ายจิตใจจนบอบช้ำ รวมทั้งลูกชายทั้งสามคน วอร์เรน (วาล คิลเมอร์) บอยด์ (ดไวท์ โยอาแคม) และเบรดี้ (เอิร์ล บราวน์) ที่ยังคงจมอยู่กับความโกรธในการกระทำของพ่อ ในขณะที่บลัดเวิร์ธได้มีคู่ซี้คนใหม่ที่เป็นเพื่อนยามทุกข์ให้แก่เขา นั่นคือ เฟลมมิ่ง หลานชายของเขาเองที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน และเมื่อเฟลมมิ่งเกิดตกหลุมรักกับสาวในฝัน เรเวน (ฮิลลารี่ ดัฟฟ์) ประวัติศาสตร์ของบลัดเวิร์ธจะซ้ำรอยเดิมหรือไม่...
พบกับ Bloodworth หัวใจบรรเลง บทเพลงชีวิต พร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 30 มิถุนายน 2554 ในรูปแบบ วีซีดี 179 บาทและดีวีดี299 บาท
สินค้า ดีวีดี มีรายละเอียดสเปคของแผ่นดังนี้
DVD Feature
ความยาว 95 นาที
Aspect Ratio Widescreen 2.35:1
Languages English, French, Portuguese, Spanish 5.1 (Dolby Digital)
Subtitles English, English SDH, French, Portuguese, Spanish, Chinese, Korean, Thai
Special Features
- คอมเมนทารี่โดยผู้กำกับและผู้เขียนบท
- ฉากที่ถูกตัดทิ้ง
- จากกระดาษสู่จอเงิน: เบื้องหลังงานสร้างภาพยนตร์
- เบื้องหลังงานนสร้างเพลงประกอบภาพยนตร์ “You Don’t Tell Me What To Do”
- คลิปโปรโมตภาพยนตร์
ท่านสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมและ ติดตามความเคลื่อนไหวบริษัท เอ็ม วี ดี จำกัด ได้ที่ http://www.mvd.co.th , http://www.facebook.com/mvdmovies , http://twitter.com/mvdmovies
เอ็มวีดี แนะนำ DVD เรื่อง: Bloodworth หัวใจบรรเลง บทเพลงชีวิต
ชื่อเรื่อง : Bloodworth
ชื่อไทย : หัวใจบรรเลง บทเพลงชีวิต
แนวหนัง : โรแมนติก/ดนตรี
นักแสดง : วาล คิลเมอร์, คริส คริสต็อฟเฟอร์สัน, ฮิลลารี่ ดัฟฟ์
ผู้กำกับ : เชน แด็กส์ เทเลอร์
กว่า 40 ปีมาแล้วที่ อี.เอฟ. บลัดเวิร์ธ ทิ้งครอบครัวที่แสนอบอุ่นไปโลดแล่นบนทางเดินแห่งเสียงเพลงของเขา แต่ที่ปลายทางนั้นกลับนำพาเขามาที่จุดเดิมอีกครั้ง จูเลีย (ฟรานเซส คอนรอย) อดีตภรรยาของเขาที่ถูกทำร้ายจิตใจจนบอบช้ำ รวมทั้งลูกชายทั้งสามคน วอร์เรน (วาล คิลเมอร์) บอยด์ (ดไวท์ โยอาแคม) และเบรดี้ (เอิร์ล บราวน์) ที่ยังคงจมอยู่กับความโกรธในการกระทำของพ่อ ในขณะที่บลัดเวิร์ธได้มีคู่ซี้คนใหม่ที่เป็นเพื่อนยามทุกข์ให้แก่เขา นั่นคือ เฟลมมิ่ง หลานชายของเขาเองที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน และเมื่อเฟลมมิ่งเกิดตกหลุมรักกับสาวในฝัน เรเวน (ฮิลลารี่ ดัฟฟ์) ประวัติศาสตร์ของบลัดเวิร์ธจะซ้ำรอยเดิมหรือไม่...
พบกับ Bloodworth หัวใจบรรเลง บทเพลงชีวิต พร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 30 มิถุนายน 2554 ในรูปแบบ วีซีดี 179 บาทและดีวีดี299 บาท
สินค้า ดีวีดี มีรายละเอียดสเปคของแผ่นดังนี้
DVD Feature
ความยาว 95 นาที
Aspect Ratio Widescreen 2.35:1
Languages English, French, Portuguese, Spanish 5.1 (Dolby Digital)
Subtitles English, English SDH, French, Portuguese, Spanish, Chinese, Korean, Thai
Special Features
- คอมเมนทารี่โดยผู้กำกับและผู้เขียนบท
- ฉากที่ถูกตัดทิ้ง
- จากกระดาษสู่จอเงิน: เบื้องหลังงานสร้างภาพยนตร์
- เบื้องหลังงานนสร้างเพลงประกอบภาพยนตร์ “You Don’t Tell Me What To Do”
- คลิปโปรโมตภาพยนตร์
ท่านสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมและ ติดตามความเคลื่อนไหวบริษัท เอ็ม วี ดี จำกัด ได้ที่ http://www.mvd.co.th , http://www.facebook.com/mvdmovies , http://twitter.com/mvdmovies
20
ข่าวภาพยนตร์ / MOVIE : BUDDHA 20 ตุลาคม
« on: June 05, 2011, 12:42:38 PM »
BUDDHA มหากาพย์มังงะแห่งการผจญภัยของเจ้าชายสิทธัตถะ
ในโลกของการ์ตูนมังงะ ชื่อของ เทซึกะ โอซามุ ถือเป็นปรมาจารย์คนสำคัญผู้ให้กำเนิดตัวละครอย่าง เจ้าหนูอะตอม และ แบล็คแจ็ค ซึ่ง ณ บัดนี้ ถึงเวลาแล้วที่ผลงานอันแสนภาคภูมิใจของโอซามุ จะถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูน ด้วยทุนสร้างมหาศาล และเนื้อหาที่ต้องการนำผู้ชมเข้าไปทำความรู้จักกับ อภิมหาศาสดาแห่งศาสนาพุทธ – Buddha
Buddha จะพาคนดูย้อนกลับไปเมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน ณ ดินแดนชมพูทวีป เจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติขึ้นในตระกูลศากยวงศ์ ผู้ครองแคว้นกบิลพัสดุ์ การเติบโตมาในรั้วของพระราชวังซึ่งเต็มไปด้วยความโอ่อ่า ชีวิตที่พูนพร้อม สนองความต้องการของเจ้าชายน้อยได้ทุกๆ ด้าน โดยพระองค์หาได้ทราบไม่ว่า ภายนอกรั้วราชวังนั้น เต็มไปด้วยความแร้นแค้นและยากไร้ของผู้คนอีกนับล้าน
ชะตาชีวิตของเจ้าชายสิทธัตถะ ถูกเล่าขนานไปกับลูกทาสที่ชื่อ ชาปาระ ที่พลัดหลงกับพ่อแม่มาตั้งแต่ยังเด็ก และถูกชุบเลี้ยงขึ้นมาโดยแม่ทัพใหญ่ ชาปาระ พยายามปกปิดชาติกำเนิดที่แท้จริงของตนเองไว้ เพียงเพราะคิดว่าการได้เป็นใหญ่เป็นโต และได้ออกทำสงคราม จะนำมาซึ่งความสุขสงบในชีวิต
ในขณะเดียวกัน Buddha ยังเล่าแง่มุมความรักของ เจ้าชายสิทธัตถะ กับโจรสาวที่ชื่อ มิคาอิลา ซึ่งรักใคร่ชอบพอกัน แต่ถูกกีดกันโดย พระเจ้าสุทโธทนะ ความโดดเด่นของ Buddha (นอกเหนือจากการรังสรรค์ฉากหลังที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างล้นเหลือ ด้วยศิลปินหลายชีวิตที่มาร่วมกันวาด) อยู่ตรงที่การผูกปมเรื่องของเทซึกะ โอซามุ ที่ยังแสดงความเหนือชั้น และลูกล่อลูกชน เรียกร้องความสนใจและกระตุ้นเร้าผู้ชมอยู่ตลอดเวลา ราวกับกำลังนั่งชมภาพยนตร์ผจญภัยชั้นเยี่ยม
นอกจากนี้ Buddha ยังบอกเล่าพุทธประวัติอันละเอียดลออ ได้เข้าใจง่าย ไม่เพียงแต่เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน หากยังคงแก่นแท้สำคัญในชีวิตช่วงต้นของเจ้าชายสิทธัตถะไว้ทั้งหมด ตั้งแต่การตั้งคำถามกับชีวิต ความสุข และความเท่าเทียมกันของมนุษย์ ก่อนจะเดินทางไปสู่การค้นหาวิธีการดับทุกข์โดยการเสด็จออกผนวช
Buddha เป็นมหากาพย์เรื่องยิ่งใหญ่ที่ชาวพุทธ หรือผู้ที่สนใจพุทธประวัติจำเป็นต้องชม เพราะสิ่งที่สำคัญนอกเหนือจากเรื่องราวอันสนุกสนานนั้น คือการได้เรียนรู้แก่นแท้ที่มาของ “ธรรมะ” เทซึกะ โอซามุ เจ้าของบทประพันธ์เล่าว่า เขาเขียน Buddha ขึ้นมา เพราะต้องการให้เด็กๆ เยาวชน และคนทั่วไป ได้รู้จักพระพุทธเจ้ามากยิ่งขึ้น และอีกเหตุผลหนึ่ง เขาต้องการปลอบประโลมมนุษย์ทุกคนที่หาทางออกให้กับปัญหาของตัวเองไม่ได้ โอซามุเชื่อว่า เรื่องราวของเจ้าชายสิทธัตถะ จะช่วยให้มนุษย์ทุกคนฮึกเหิม เกิดแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีสติ
เกร็ดภาพยนตร์
- Buddha เป็นผลงานสร้างสุดใหญ่ของสตูดิโอ โตเอะ โดยร่วมมือจัดจำหน่ายกับบริษัท วอร์เนอร์ บราเธอร์ส เจแปน
- ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นในวาระการเฉลิมฉลอง 750 ปีของพระอาจารย์ชินรัน นักบวชในศาสนาพุทธที่เป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนในญี่ปุ่น
- Buddha ออกฉายที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทำรายได้เปิดตัวได้สูงถึง 170 ล้านเยน
- เพลงประกอบที่ใช้ในหนังนั้น เป็นเพลงของวงร็อคชื่อดัง X-Japan
ในโลกของการ์ตูนมังงะ ชื่อของ เทซึกะ โอซามุ ถือเป็นปรมาจารย์คนสำคัญผู้ให้กำเนิดตัวละครอย่าง เจ้าหนูอะตอม และ แบล็คแจ็ค ซึ่ง ณ บัดนี้ ถึงเวลาแล้วที่ผลงานอันแสนภาคภูมิใจของโอซามุ จะถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูน ด้วยทุนสร้างมหาศาล และเนื้อหาที่ต้องการนำผู้ชมเข้าไปทำความรู้จักกับ อภิมหาศาสดาแห่งศาสนาพุทธ – Buddha
Buddha จะพาคนดูย้อนกลับไปเมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน ณ ดินแดนชมพูทวีป เจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติขึ้นในตระกูลศากยวงศ์ ผู้ครองแคว้นกบิลพัสดุ์ การเติบโตมาในรั้วของพระราชวังซึ่งเต็มไปด้วยความโอ่อ่า ชีวิตที่พูนพร้อม สนองความต้องการของเจ้าชายน้อยได้ทุกๆ ด้าน โดยพระองค์หาได้ทราบไม่ว่า ภายนอกรั้วราชวังนั้น เต็มไปด้วยความแร้นแค้นและยากไร้ของผู้คนอีกนับล้าน
ชะตาชีวิตของเจ้าชายสิทธัตถะ ถูกเล่าขนานไปกับลูกทาสที่ชื่อ ชาปาระ ที่พลัดหลงกับพ่อแม่มาตั้งแต่ยังเด็ก และถูกชุบเลี้ยงขึ้นมาโดยแม่ทัพใหญ่ ชาปาระ พยายามปกปิดชาติกำเนิดที่แท้จริงของตนเองไว้ เพียงเพราะคิดว่าการได้เป็นใหญ่เป็นโต และได้ออกทำสงคราม จะนำมาซึ่งความสุขสงบในชีวิต
ในขณะเดียวกัน Buddha ยังเล่าแง่มุมความรักของ เจ้าชายสิทธัตถะ กับโจรสาวที่ชื่อ มิคาอิลา ซึ่งรักใคร่ชอบพอกัน แต่ถูกกีดกันโดย พระเจ้าสุทโธทนะ ความโดดเด่นของ Buddha (นอกเหนือจากการรังสรรค์ฉากหลังที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างล้นเหลือ ด้วยศิลปินหลายชีวิตที่มาร่วมกันวาด) อยู่ตรงที่การผูกปมเรื่องของเทซึกะ โอซามุ ที่ยังแสดงความเหนือชั้น และลูกล่อลูกชน เรียกร้องความสนใจและกระตุ้นเร้าผู้ชมอยู่ตลอดเวลา ราวกับกำลังนั่งชมภาพยนตร์ผจญภัยชั้นเยี่ยม
นอกจากนี้ Buddha ยังบอกเล่าพุทธประวัติอันละเอียดลออ ได้เข้าใจง่าย ไม่เพียงแต่เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน หากยังคงแก่นแท้สำคัญในชีวิตช่วงต้นของเจ้าชายสิทธัตถะไว้ทั้งหมด ตั้งแต่การตั้งคำถามกับชีวิต ความสุข และความเท่าเทียมกันของมนุษย์ ก่อนจะเดินทางไปสู่การค้นหาวิธีการดับทุกข์โดยการเสด็จออกผนวช
Buddha เป็นมหากาพย์เรื่องยิ่งใหญ่ที่ชาวพุทธ หรือผู้ที่สนใจพุทธประวัติจำเป็นต้องชม เพราะสิ่งที่สำคัญนอกเหนือจากเรื่องราวอันสนุกสนานนั้น คือการได้เรียนรู้แก่นแท้ที่มาของ “ธรรมะ” เทซึกะ โอซามุ เจ้าของบทประพันธ์เล่าว่า เขาเขียน Buddha ขึ้นมา เพราะต้องการให้เด็กๆ เยาวชน และคนทั่วไป ได้รู้จักพระพุทธเจ้ามากยิ่งขึ้น และอีกเหตุผลหนึ่ง เขาต้องการปลอบประโลมมนุษย์ทุกคนที่หาทางออกให้กับปัญหาของตัวเองไม่ได้ โอซามุเชื่อว่า เรื่องราวของเจ้าชายสิทธัตถะ จะช่วยให้มนุษย์ทุกคนฮึกเหิม เกิดแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีสติ
เกร็ดภาพยนตร์
- Buddha เป็นผลงานสร้างสุดใหญ่ของสตูดิโอ โตเอะ โดยร่วมมือจัดจำหน่ายกับบริษัท วอร์เนอร์ บราเธอร์ส เจแปน
- ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นในวาระการเฉลิมฉลอง 750 ปีของพระอาจารย์ชินรัน นักบวชในศาสนาพุทธที่เป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนในญี่ปุ่น
- Buddha ออกฉายที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทำรายได้เปิดตัวได้สูงถึง 170 ล้านเยน
- เพลงประกอบที่ใช้ในหนังนั้น เป็นเพลงของวงร็อคชื่อดัง X-Japan
21
ข่าวบันเทิง / ช้อปผ่านเว็บแมงป่อง
« on: June 05, 2011, 12:39:58 PM »
ช้อปผ่านเว็บแมงป่อง
นายเพิ่มสินธุ์ เหินฟ้าปัญญา Deputy of Production Director แมงป่อง ร่วมกับนายกฤชพล เตชะรัตนประเสริฐ General Manager แฮปปี้โฮม มอบบัตรกำนัลที่พัก Manita boutique Hotel, Pattaya ให้แก่ลูกค้าที่ร่วมแคมเปญหรรษาท้าลมร้อนเพียงซื้อสินค้าผ่านเว็บไซค์แมงป่อง โดยมีนายศุภกร สุนทรญาณกิจ Managing director Manitahotel ร่วมมอบ ณ สำนักงานใหญ่แมงป่อง ถนนลาดพร้าว 90 เมื่อวันก่อน
นายเพิ่มสินธุ์ เหินฟ้าปัญญา Deputy of Production Director แมงป่อง ร่วมกับนายกฤชพล เตชะรัตนประเสริฐ General Manager แฮปปี้โฮม มอบบัตรกำนัลที่พัก Manita boutique Hotel, Pattaya ให้แก่ลูกค้าที่ร่วมแคมเปญหรรษาท้าลมร้อนเพียงซื้อสินค้าผ่านเว็บไซค์แมงป่อง โดยมีนายศุภกร สุนทรญาณกิจ Managing director Manitahotel ร่วมมอบ ณ สำนักงานใหญ่แมงป่อง ถนนลาดพร้าว 90 เมื่อวันก่อน
22
ข่าวบันเทิง / ร่วมผจญภัยไปกับ แฮมทาโร่ และเหล่าผองเพื่อน แฮมสเตอร์ ที่แสนน่ารัก
« on: June 05, 2011, 12:36:17 PM »
ร่วมผจญภัยไปกับ แฮมทาโร่ และเหล่าผองเพื่อน แฮมสเตอร์ ที่แสนน่ารัก
TIGA ขอเชิญชวนแฟนๆ มาร่วมผจญภัยไปกับ แฮมทาโร่ และเหล่าผองเพื่อน แฮมสเตอร์ ที่แสนน่ารัก
เพียงตอบคำถามง่ายๆ ใครได้คะแนนมากสุด รับฟรี! iPhone4 (สีขาว)
เพียงสมัครเล่นเกมพิมพ์ TG ส่งมาที่ 4888073
ตั้งแต่ 1 – 30 มิถุนายน 54
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tigatime.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์
ธัญญรัศม์ อัศวมั่นมงคล (นก)
เบอร์ 02-643-1855 ext.218 Fax : 02-643-8570
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2643-1855-9 PR TIGA
TIGA ขอเชิญชวนแฟนๆ มาร่วมผจญภัยไปกับ แฮมทาโร่ และเหล่าผองเพื่อน แฮมสเตอร์ ที่แสนน่ารัก
เพียงตอบคำถามง่ายๆ ใครได้คะแนนมากสุด รับฟรี! iPhone4 (สีขาว)
เพียงสมัครเล่นเกมพิมพ์ TG ส่งมาที่ 4888073
ตั้งแต่ 1 – 30 มิถุนายน 54
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tigatime.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์
ธัญญรัศม์ อัศวมั่นมงคล (นก)
เบอร์ 02-643-1855 ext.218 Fax : 02-643-8570
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2643-1855-9 PR TIGA
23
ข่าวบันเทิง / รายการพันแสงรุ้ง สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) เปิดตัวสารคดีชุดพิเศษ
« on: June 05, 2011, 12:29:09 PM »
รายการพันแสงรุ้ง สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) เปิดตัวสารคดีชุดพิเศษ สัมพันธ์ไทย-เวียดนาม เนื่องในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม 35 ปี
รายการพันแสงรุ้ง เปิดตัวสารคดีชุดพิเศษ สัมพันธ์ไทย-เวียดนาม เนื่องในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม 35 ปี พร้อมจัดนิทรรศการภาพถ่าย “วิถีเวียดนามในสายตาผู้มาเยือน Vietnam in my eyes” โดยมีคุณเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. , รศ.ดร.โคทม อารียา ,Mr.Ngo Duc Thang ทูตเวียดนามประจำประเทศไทย, คุณธานี แสงรัตน์ ผอ.กองเอเชียตะวันออก2 กระทรวงต่างประเทศ และคุณนิรมล เมธีสุวกุล ร่วมพูดคุยในหัวข้อความสัมพันธ์ ไทย-เวียดนาม เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2554 ที่สถาบันปรีดี พนมยงค์
หลังจากที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) ได้ออกอากาศ รายการพันแสงรุ้ง ชุด เหวียตเกี่ยว (คนเวียดนามที่อาศัยอยู่นอกประเทศ) และลูกหลานคนไทยเชื้อสายเวียดนามซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในหลายจังหวัดในภาคอีสาน เช่น นครพนม อุดรธานี หนองคาย ขอนแก่น มุกดาหาร ฯลฯ จำนวน 5 ตอน ที่บอกเล่าเรื่องราวความทรงจำของลูกหลานเหวียตเกี่ยว มีทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ น้ำใจและมิตรภาพที่คนไทยมีต่อคนเวียดนามก่อเกิดเป็นการอยู่ร่วมกันอย่างปรับตัวและเรียนรู้ผสมผสานสองวัฒนธรรมที่แตกต่างอย่างน่าสนใจ ทำให้สารคดีชุดนี้ได้รับความสนใจทั้งจากคนไทยเชื้อสายเวียดนามในประเทศไทยและคนเวียดนามในประเทศเวียดนาม จนทำให้สถานีโทรทัศน์แห่งชาติเวียดนามได้นำรายการพันแสงรุ้ง ชุดเหวียดเกี่ยว จำนวน 5 ตอน ไปเผยแพร่ผ่านสถานี VTV 1 และ VTV4 และ VTV5
นับเป็นการจุดประกายสู่การตามแกะรอยเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตเหวียตเกี่ยวโห่ย เฮืองในเวียดนามที่ยังผูกพันกับประเทศไทย เป็นที่มาให้ทีมงานพันแสงรุ้งเดินทางไปประเทศเวียดนาม เพื่อจัดทำสารคดีชุดพิเศษสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม จำนวน 8 ตอนขึ้นอีกครั้ง สารคดีชุด สัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ถ่ายทอดเรื่องราวการตามแกะรอยเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตเหวียตเกี่ยวโห่ยเฮืองในประเทศเวียดนามที่ยังผูกพันกับประเทศไทย โดยจะเริ่มออกอากาศ ทุกวันเสาร์ เวลา 16.30-17.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน – 23 กรกฏาคม 2554
แม้ความสัมพันธ์ในเชิงรัฐชาติจะมีความเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลก แต่สำหรับผู้คนในสองประเทศ ความสัมพันธ์ยังคงดำรงอยู่อย่างมั่นคง ที่ผ่านมามีผู้คนเดินทางไปมาระหว่างไทยและเวียดนามเป็นจำนวนมาก หลายคนเก็บความประทับใจผ่านภาพถ่าย รายการพันแสงรุ้งเปิดรับภาพถ่ายจากผู้ที่ประทับใจในวิถีชาวเวียดนาม เปิดกว้างไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายในประเทศเวียดนามหรือในประเทศไทย มีช่างภาพมืออาชีพและมือสมัครเล่นส่งรูปมาร่วมกิจกรรมทั้งหมด จำนวน 35 คน ทีมงานคัดเลือกและนำผลงานมาจัดแสดงในงานครั้งนี้ 100 ภาพ ในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ 35 ปี ไทย-เวียดนาม
รายการพันแสงรุ้ง เป็นสารคดีเกี่ยวกับความงดงามอันหลากหลายของวิถีชีวิต วัฒนธรรม กลุ่มชาติพันธุ์และภาษาในประเทศไทยซึ่งมีอยู่ถึง 70 กลุ่มชาติพันธุ์ภาษาโดยแนบแน่นและสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านในอุษาคเนย์นับแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบันและกำลังปรับตัวท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งอย่างแนบเนียนกลมกลืน บ้างก็อยู่ท้าทาย บ้างก็อยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมที่อาจส่งผลต่อการดำรงอยู่ สืบทอดต่อ ปรับเปลี่ยนหรือผันแปรเสื่อมถอยตามกาลเวลาและตัวแปรต่างๆ รายการพันแสงรุ้ง ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 16.30-17.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส(Thai PBS)
รายการพันแสงรุ้ง เปิดตัวสารคดีชุดพิเศษ สัมพันธ์ไทย-เวียดนาม เนื่องในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม 35 ปี พร้อมจัดนิทรรศการภาพถ่าย “วิถีเวียดนามในสายตาผู้มาเยือน Vietnam in my eyes” โดยมีคุณเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. , รศ.ดร.โคทม อารียา ,Mr.Ngo Duc Thang ทูตเวียดนามประจำประเทศไทย, คุณธานี แสงรัตน์ ผอ.กองเอเชียตะวันออก2 กระทรวงต่างประเทศ และคุณนิรมล เมธีสุวกุล ร่วมพูดคุยในหัวข้อความสัมพันธ์ ไทย-เวียดนาม เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2554 ที่สถาบันปรีดี พนมยงค์
หลังจากที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) ได้ออกอากาศ รายการพันแสงรุ้ง ชุด เหวียตเกี่ยว (คนเวียดนามที่อาศัยอยู่นอกประเทศ) และลูกหลานคนไทยเชื้อสายเวียดนามซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในหลายจังหวัดในภาคอีสาน เช่น นครพนม อุดรธานี หนองคาย ขอนแก่น มุกดาหาร ฯลฯ จำนวน 5 ตอน ที่บอกเล่าเรื่องราวความทรงจำของลูกหลานเหวียตเกี่ยว มีทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ น้ำใจและมิตรภาพที่คนไทยมีต่อคนเวียดนามก่อเกิดเป็นการอยู่ร่วมกันอย่างปรับตัวและเรียนรู้ผสมผสานสองวัฒนธรรมที่แตกต่างอย่างน่าสนใจ ทำให้สารคดีชุดนี้ได้รับความสนใจทั้งจากคนไทยเชื้อสายเวียดนามในประเทศไทยและคนเวียดนามในประเทศเวียดนาม จนทำให้สถานีโทรทัศน์แห่งชาติเวียดนามได้นำรายการพันแสงรุ้ง ชุดเหวียดเกี่ยว จำนวน 5 ตอน ไปเผยแพร่ผ่านสถานี VTV 1 และ VTV4 และ VTV5
นับเป็นการจุดประกายสู่การตามแกะรอยเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตเหวียตเกี่ยวโห่ย เฮืองในเวียดนามที่ยังผูกพันกับประเทศไทย เป็นที่มาให้ทีมงานพันแสงรุ้งเดินทางไปประเทศเวียดนาม เพื่อจัดทำสารคดีชุดพิเศษสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม จำนวน 8 ตอนขึ้นอีกครั้ง สารคดีชุด สัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ถ่ายทอดเรื่องราวการตามแกะรอยเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตเหวียตเกี่ยวโห่ยเฮืองในประเทศเวียดนามที่ยังผูกพันกับประเทศไทย โดยจะเริ่มออกอากาศ ทุกวันเสาร์ เวลา 16.30-17.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน – 23 กรกฏาคม 2554
แม้ความสัมพันธ์ในเชิงรัฐชาติจะมีความเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลก แต่สำหรับผู้คนในสองประเทศ ความสัมพันธ์ยังคงดำรงอยู่อย่างมั่นคง ที่ผ่านมามีผู้คนเดินทางไปมาระหว่างไทยและเวียดนามเป็นจำนวนมาก หลายคนเก็บความประทับใจผ่านภาพถ่าย รายการพันแสงรุ้งเปิดรับภาพถ่ายจากผู้ที่ประทับใจในวิถีชาวเวียดนาม เปิดกว้างไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายในประเทศเวียดนามหรือในประเทศไทย มีช่างภาพมืออาชีพและมือสมัครเล่นส่งรูปมาร่วมกิจกรรมทั้งหมด จำนวน 35 คน ทีมงานคัดเลือกและนำผลงานมาจัดแสดงในงานครั้งนี้ 100 ภาพ ในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ 35 ปี ไทย-เวียดนาม
รายการพันแสงรุ้ง เป็นสารคดีเกี่ยวกับความงดงามอันหลากหลายของวิถีชีวิต วัฒนธรรม กลุ่มชาติพันธุ์และภาษาในประเทศไทยซึ่งมีอยู่ถึง 70 กลุ่มชาติพันธุ์ภาษาโดยแนบแน่นและสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านในอุษาคเนย์นับแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบันและกำลังปรับตัวท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งอย่างแนบเนียนกลมกลืน บ้างก็อยู่ท้าทาย บ้างก็อยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมที่อาจส่งผลต่อการดำรงอยู่ สืบทอดต่อ ปรับเปลี่ยนหรือผันแปรเสื่อมถอยตามกาลเวลาและตัวแปรต่างๆ รายการพันแสงรุ้ง ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 16.30-17.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส(Thai PBS)
24
ข่าวภาพยนตร์ / การสร้างภาพยนตร์เรื่อง “THE DARK KNIGHT RISES” ได้เริ่มขึ้นแล้ว การถ่ายทำภาพยนตร
« on: June 05, 2011, 12:27:31 PM »
การสร้างภาพยนตร์เรื่อง “THE DARK KNIGHT RISES” ได้เริ่มขึ้นแล้ว การถ่ายทำภาพยนตร์จะใช้สถานที่ใน 3 ทวีป พร้อมเหล่านักแสดงทั้งหมด
การสร้างภาพยนตร์เรื่อง “THE DARK KNIGHT RISES” ได้เริ่มขึ้นแล้ว การถ่ายทำภาพยนตร์จะใช้สถานที่ใน 3 ทวีป พร้อมเหล่านักแสดงทั้งหมด ที่ร่วมงานภายใต้การกำกับของคริสโตเฟอร์ โนแลน
การเปิดกล้องภาพยนตร์ของวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส และ เลเจนดารี่ พิกเจอร์ส เรื่อง “The Dark Knight Rises” ซึ่งเป็นบทสรุปอันยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์ Batman ไตรภาคของผู้สร้างภาพยนตร์คริสโตเฟอร์ โนแลน ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ดารานำของเหล่านักแสดงทั่วโลกทั้งหมด ได้แก่ คริสเตียน เบล ผู้คว้ารางวัล Oscar® (“The Fighter”) ที่กลับมารับบทแสดง 2 บทบาททั้ง บรูซ เวย์น/แบทแมน อีกครั้ง
ภาพยนตร์ยังแสดงโดย แอน แฮทธะเวย์ ผู้รับบทเป็น เซลิน่า ไคล์; ทอม ฮาร์ดี้ รับบทแสดงเป็น เบน; มารีออง โกติยาร์ ผู้คว้ารางวัล Oscar (“La Vie en Rose”) รับบทแสดงเป็น มิแรนด้า เทต และ โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ รับบทแสดงเป็น จอห์น เบลค
นักแสดงนำหลักผู้กลับมาร่วมแสดง ได้แก่ ไมเคิล เคน เจ้าของรางวัล Oscar® (“The Cider House Rules”) รับบทแสดงเป็น อัลเฟรด; แกรี่ โอล์ดมาน ผู้รับบทเป็นผู้บัญชาการกอร์ดอนและมอร์แกน ฟรีแมน เจ้าของรางวัล Oscar® (“Million Dollar Baby”) กลับมารับบทของลูเซียส ฟ็อกซ์
ในการควบคุมภาพยนตร์เรื่อง “The Dark Knight Rises” คริสโตเฟอร์ โนแลน นำกล้องระบบ IMAX® มาใช้ประโยชน์อย่างครอบคลุมกว่าที่เขาเคยทำในเรื่อง “The Dark Knight” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ภาพยนตร์ถ่ายทำบางส่วนด้วยกล้องระบบ IMAX® ผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าประทับใจมาก โดยผู้กำกับต้องการใช้กล้องอัตราส่วนขนาดยักษ์ให้มากยิ่งขึ้นสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้
บทภาพยนตร์สำหรับเรื่อง “The Dark Knight Rises” เขียนโดย คริสโตเฟอร์ โนแลน และ โจนาธาน โนแลน เนื้อเรื่องโดย คริสโตเฟอร์ โนแลน และ เดวิด เอส. โกเยอร์ ภาพยนตร์อำนวยการสร้างโดยเอ็มม่า โธมัส, คริสโตเฟอร์ โนแลน และ ชาร์ลส์ โรเว็น ผู้ร่วมทีมในภาพยนตร์เรื่อง “Batman Begins” ก่อนหน้านี้ และภาพยนตร์เรื่องดังที่ทำลายสถิติมาแล้วอย่างเรื่อง “The Dark Knight” ผู้อำนวยการสร้างบริหาร ได้แก่ เบ็นจามิน เมลไนเกอร์, ไมเคิล อี. อุสแลน, เควิน เดอ ลา นอย และ โธมัส ทัล พร้อมด้วยจอร์แดน โกล์ดเบิร์ก ทำหน้าที่เป็นผู้ร่วมอำนวยการสร้าง ภาพยนตร์เรื่อง “The Dark Knight” สร้างขึ้นจากตัวละครที่ปรากฏในหนังสือการ์ตูนที่ตีพิมพ์โดย DC Comics แบทแมนถูกสร้างขึ้นมาโดยบ็อบ เคน
เบื้องหลังฉากภาพยนตร์เรื่อง “The Dark Knight Rises” เป็นการกลับมารวมตัวของผู้กำกับพร้อมด้วยผู้ร่วมงานกันมาอย่างยาวนานอีกจำนวนมาก ทุกคนเคยทำงานร่วมกันในภาพยนตร์เรื่อง “The Dark Knight” ทีมงานผู้สร้างสรรค์รวมถึงผู้กำกับภาพ วอลลี่ ฟิสเตอร์ ผู้คว้รางวัล Oscar® เมื่อไม่นานมานี้สำหรับผลงานของเขาในภาพยนตร์ของโนแลน เรื่อง “Inception”; ผู้ออกแบบฉาก นาธาน โครว์ลีย์; ผู้ลำดับภาพ ลี สมิธ และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายเจ้าของรางวัล Oscar® ลินดี้ เฮมมิ่ง (“Topsy-Turvy”) นอกจากนั้นยังมีพอล แฟรงค์ลิน และ คริส คอร์โบล์ด ทั้งคู่คว้ารางวัล Oscars® สำหรับเอ็ฟเฟ็กต์ในภาพยนตร์เรื่อง “Inception” จะมาควบคุมด้านวิชวลและสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์ตามลำดับ ประพันธ์ดนตรีโดย แฮนส์ ซิมเมอร์ ผู้คว้ารางวัล Oscar® (“The Lion King”)
สถานที่ของภาพยนตร์เรื่อง “The Dark Knight Rises” แผ่ขยายไป 3 ทวีปและรวมถึงเมืองของชาวอเมริกันอย่างพิตส์เบิร์ก นิวยอร์คและลอส แองเจลิส รวมไปถึงสถานที่ในประเทศอินเดีย อังกฤษและสก็อตแลนด์
ภาพยนตร์เรื่อง “The Dark Knight Rises” นำเสนอโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ ร่วมกับเลเจนดารี่ พิกเจอร์ส มีกำหนดฉายเริ่มวันที่ 20 กรกฎาคม 2012 ภาพยนตร์จัดจำหน่ายทั่วโลกโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส หนึ่งในกลุ่มบริษัทวอร์เนอร์ บราเดอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท์
การสร้างภาพยนตร์เรื่อง “THE DARK KNIGHT RISES” ได้เริ่มขึ้นแล้ว การถ่ายทำภาพยนตร์จะใช้สถานที่ใน 3 ทวีป พร้อมเหล่านักแสดงทั้งหมด ที่ร่วมงานภายใต้การกำกับของคริสโตเฟอร์ โนแลน
การเปิดกล้องภาพยนตร์ของวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส และ เลเจนดารี่ พิกเจอร์ส เรื่อง “The Dark Knight Rises” ซึ่งเป็นบทสรุปอันยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์ Batman ไตรภาคของผู้สร้างภาพยนตร์คริสโตเฟอร์ โนแลน ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ดารานำของเหล่านักแสดงทั่วโลกทั้งหมด ได้แก่ คริสเตียน เบล ผู้คว้ารางวัล Oscar® (“The Fighter”) ที่กลับมารับบทแสดง 2 บทบาททั้ง บรูซ เวย์น/แบทแมน อีกครั้ง
ภาพยนตร์ยังแสดงโดย แอน แฮทธะเวย์ ผู้รับบทเป็น เซลิน่า ไคล์; ทอม ฮาร์ดี้ รับบทแสดงเป็น เบน; มารีออง โกติยาร์ ผู้คว้ารางวัล Oscar (“La Vie en Rose”) รับบทแสดงเป็น มิแรนด้า เทต และ โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ รับบทแสดงเป็น จอห์น เบลค
นักแสดงนำหลักผู้กลับมาร่วมแสดง ได้แก่ ไมเคิล เคน เจ้าของรางวัล Oscar® (“The Cider House Rules”) รับบทแสดงเป็น อัลเฟรด; แกรี่ โอล์ดมาน ผู้รับบทเป็นผู้บัญชาการกอร์ดอนและมอร์แกน ฟรีแมน เจ้าของรางวัล Oscar® (“Million Dollar Baby”) กลับมารับบทของลูเซียส ฟ็อกซ์
ในการควบคุมภาพยนตร์เรื่อง “The Dark Knight Rises” คริสโตเฟอร์ โนแลน นำกล้องระบบ IMAX® มาใช้ประโยชน์อย่างครอบคลุมกว่าที่เขาเคยทำในเรื่อง “The Dark Knight” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ภาพยนตร์ถ่ายทำบางส่วนด้วยกล้องระบบ IMAX® ผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าประทับใจมาก โดยผู้กำกับต้องการใช้กล้องอัตราส่วนขนาดยักษ์ให้มากยิ่งขึ้นสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้
บทภาพยนตร์สำหรับเรื่อง “The Dark Knight Rises” เขียนโดย คริสโตเฟอร์ โนแลน และ โจนาธาน โนแลน เนื้อเรื่องโดย คริสโตเฟอร์ โนแลน และ เดวิด เอส. โกเยอร์ ภาพยนตร์อำนวยการสร้างโดยเอ็มม่า โธมัส, คริสโตเฟอร์ โนแลน และ ชาร์ลส์ โรเว็น ผู้ร่วมทีมในภาพยนตร์เรื่อง “Batman Begins” ก่อนหน้านี้ และภาพยนตร์เรื่องดังที่ทำลายสถิติมาแล้วอย่างเรื่อง “The Dark Knight” ผู้อำนวยการสร้างบริหาร ได้แก่ เบ็นจามิน เมลไนเกอร์, ไมเคิล อี. อุสแลน, เควิน เดอ ลา นอย และ โธมัส ทัล พร้อมด้วยจอร์แดน โกล์ดเบิร์ก ทำหน้าที่เป็นผู้ร่วมอำนวยการสร้าง ภาพยนตร์เรื่อง “The Dark Knight” สร้างขึ้นจากตัวละครที่ปรากฏในหนังสือการ์ตูนที่ตีพิมพ์โดย DC Comics แบทแมนถูกสร้างขึ้นมาโดยบ็อบ เคน
เบื้องหลังฉากภาพยนตร์เรื่อง “The Dark Knight Rises” เป็นการกลับมารวมตัวของผู้กำกับพร้อมด้วยผู้ร่วมงานกันมาอย่างยาวนานอีกจำนวนมาก ทุกคนเคยทำงานร่วมกันในภาพยนตร์เรื่อง “The Dark Knight” ทีมงานผู้สร้างสรรค์รวมถึงผู้กำกับภาพ วอลลี่ ฟิสเตอร์ ผู้คว้รางวัล Oscar® เมื่อไม่นานมานี้สำหรับผลงานของเขาในภาพยนตร์ของโนแลน เรื่อง “Inception”; ผู้ออกแบบฉาก นาธาน โครว์ลีย์; ผู้ลำดับภาพ ลี สมิธ และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายเจ้าของรางวัล Oscar® ลินดี้ เฮมมิ่ง (“Topsy-Turvy”) นอกจากนั้นยังมีพอล แฟรงค์ลิน และ คริส คอร์โบล์ด ทั้งคู่คว้ารางวัล Oscars® สำหรับเอ็ฟเฟ็กต์ในภาพยนตร์เรื่อง “Inception” จะมาควบคุมด้านวิชวลและสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์ตามลำดับ ประพันธ์ดนตรีโดย แฮนส์ ซิมเมอร์ ผู้คว้ารางวัล Oscar® (“The Lion King”)
สถานที่ของภาพยนตร์เรื่อง “The Dark Knight Rises” แผ่ขยายไป 3 ทวีปและรวมถึงเมืองของชาวอเมริกันอย่างพิตส์เบิร์ก นิวยอร์คและลอส แองเจลิส รวมไปถึงสถานที่ในประเทศอินเดีย อังกฤษและสก็อตแลนด์
ภาพยนตร์เรื่อง “The Dark Knight Rises” นำเสนอโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ ร่วมกับเลเจนดารี่ พิกเจอร์ส มีกำหนดฉายเริ่มวันที่ 20 กรกฎาคม 2012 ภาพยนตร์จัดจำหน่ายทั่วโลกโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส หนึ่งในกลุ่มบริษัทวอร์เนอร์ บราเดอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท์
25
news & activity / เดลล์ จับมือ ดีแทค มอบโปรโมชั่นพิเศษในงาน Mobile Expo 2011
« on: June 05, 2011, 12:25:00 PM »
เดลล์ จับมือ ดีแทค มอบโปรโมชั่นพิเศษในงาน Mobile Expo 2011
นายคเณศณัฎฐ์ ชยามรฉัตรคุปต์ ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจ Mobility บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และนายปภาพรต ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) มอบโปรโมชั่นเศษสำหรับผู้ที่ซื้อ เดลล์ สตรีค และเดลล์ เวนิว ในงานโมบาย เอ็กซ์โป 2011 รับฟรีทันที Happy Internet SIM หรือ dtac internet sim : faster serie3,600 นาที นาน 60 วัน
นายคเณศณัฎฐ์ ชยามรฉัตรคุปต์ ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจ Mobility บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และนายปภาพรต ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) มอบโปรโมชั่นเศษสำหรับผู้ที่ซื้อ เดลล์ สตรีค และเดลล์ เวนิว ในงานโมบาย เอ็กซ์โป 2011 รับฟรีทันที Happy Internet SIM หรือ dtac internet sim : faster serie3,600 นาที นาน 60 วัน
26
news & activity / เอชเอสบีซี หนุนนักศึกษาไทย โชว์ไอเดียธุรกิจ พลิกเรื่องใกล้ตัว
« on: June 05, 2011, 12:17:31 PM »
เอชเอสบีซี หนุนนักศึกษาไทย โชว์ไอเดียธุรกิจ พลิกเรื่องใกล้ตัวสู่ความต้องการของตลาดกับ “รองเท้าส้นสูงปรับส้นได้”
เอชเอสบีซี หนุนนักศึกษาไทย โชว์ไอเดียธุรกิจ พลิกเรื่องใกล้ตัวสู่ความต้องการของตลาดกับ “รองเท้าส้นสูงปรับส้นได้” ในโครงการประกวด “เอชเอสบีซี ยอดนักธุรกิจรุ่นใหม่ 53-54”
-พร้อมเสริมสร้างแนวคิด “ธุรกิจสีเขียว” เทรนด์ใหม่รับกระแสโลกยุคปัจจุบัน-
นับเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน ที่ธนาคารระดับโลกอย่าง “เอชเอสบีซี” ได้มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพและทักษะเชิงธุรกิจของเยาวชนไทย ผ่านโครงการประกวดแผนธุรกิจ “เอชเอสบีซี ยอดนักธุรกิจรุ่นใหม่” เพื่อเตรียมความพร้อมก้าวเข้าสู่โลกธุรกิจในอนาคต เพื่อค้นหาแชมป์ประเทศไทยเข้าชิงชัยในการประกวดรอบชิงชนะเลิศในระดับภูมิภาคที่ฮ่องกง
นายแมตทิว ล็อบเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการสร้างสรรค์โครงการดังกล่าวว่า “โครงการประกวดแผนธุรกิจ “เอชเอสบีซี ยอดนักธุรกิจรุ่นใหม่” ถือเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาระดับอุดมศึกษาได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิจ และมีโอกาสเรียนรู้ทักษะเชิงธุรกิจ เช่น การวางแผนทางธุรกิจ การวางแผนด้านการเงิน การเขียนแผนงานธุรกิจ และทักษะการนำเสนองาน เพื่อพัฒนาเป็นนักธุรกิจที่มีศักยภาพในอนาคต โดยแผนธุรกิจที่ชนะเลิศของไทยในปีนี้ ได้แก่ “Convertible heels” หรือ“รองเท้าแฟชั่นสตรีที่สามารถปรับส้นได้” นำเสนอโดย น.ส.วรวรรณ หวังพนิตกุล และน.ส.ธมนวรรณ เฉิน นักศึกษาจาก คณะบริหารธุรกิจ ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางความคิดล่าสุด เพื่อเป็นทางออกที่สมบูรณ์แบบสำหรับสาวๆที่ต้องการรองเท้าที่ใส่สบาย สะดวก และสร้างความมั่นใจ โดยได้รับสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันกับทีมชนะเลิศของฮ่องกง มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บังคลาเทศ เวียดนาม และบรูไน เพื่อชิงรางวัลสุดยอดแผนธุรกิจ (Best of the Best Award) พร้อมเงินรางวัลเป็นทุนการศึกษามูลค่า 100,000 เหรียญดอลล่าร์ฮ่องกง ที่ฮ่องกง ในเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่แผนธุรกิจ Freshicator นวัตกรรมช่วยชี้วัดคุณภาพความสดของอาหารได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว จาก ม. ธรรมศาสตร์ รางวัลชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ I-AM leather board นวัตกรรมแห่งวัสดุชนิดใหม่ ผลิตจากเศษผงฝุ่นหนัง อันเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์จากกระบวนการฟอกหนังในโรงงานฟอกหนังของไทย จากม.ธรรมศาสตร์เช่นเดียวกัน พร้อมด้วยรางวัลชมเชย 2 รางวัลกับแผนธุรกิจ Plastic Energy ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยแปรรูปขยะพลาสติกให้กลายเป็นพลังงานทดแทนในรูปของน้ำมันดิบ จากม.มหิดล และแผนธุรกิจ Graphene Energy จากจุฬาฯ ที่นำสารพิเศษที่เพิ่งค้นพบที่เรียกว่า Graphene ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลในปีที่ผ่านมา มาสร้างแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพที่เหนือยิ่งกว่า สอดรับกับกระแสการพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง
นอกจากนี้ เอชเอสบีซี ยังสนับสนุนการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับความสำเร็จในการเติบโตธุรกิจ เราจึงได้มอบรางวัลพิเศษแผนธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Business Innovation Award) ให้แก่ทีมที่จัดทำแผนธุรกิจดีเด่นด้านบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมหรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดด้วย เพื่อผลักดันให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและดำเนินธุรกิจอย่างสมดุลและยั่งยืน ซึ่งแผนธุรกิจที่ได้รับรางวัลดังกล่าว ได้แก่ กระถางถ่านชีวภาพ (Charcoal Bio Pot) ธุรกิจที่ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยการพัฒนาเศษอาหารและของเหลือใช้จากการประกอบอาหารจากครัวเรือนและร้านอาหาร โดยใช้หลักการแยกองค์ประกอบของขยะ แล้วนำมาเผาให้เป็นถ่าน แล้วนำถ่านนั้นมาเป็นส่วนประกอบของกระถางไอเดียธุรกิจสีเขียวจากนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ ม.สยาม
“ผมมองว่าโครงการประกวดแผนธุรกิจ “เอชเอสบีซี ยอดนักธุรกิจรุ่นใหม่” สามารถสร้างให้เด็กไทยรู้จักการวางแผนธุรกิจได้อย่างครบวงจร เพราะนอกจากเปิดโอกาสให้คิดแล้ว ยังมีการจัดอบรมเตรียมความพร้อมต่างๆ เพื่อให้เด็กๆได้คิดอย่าง 360 องศา และมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น และร่วมแก้ปัญหาให้ได้มากที่สุด เพื่อความเป็นแผนธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ ในส่วนของมหาวิทยาลัยสยาม เราได้ส่งเด็กเข้าร่วมการประกวดอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ เรามุ่งไปที่ “ธุรกิจสีเขียว” จึงเกิดเป็นแผนธุรกิจ “กระถางถ่านชีวภาพ (Charcoal Bio Pot)” สามารถย่อยสลายได้เอง ที่ร่วมกันคิดโดยอาจารย์และนักศึกษาจากแรงบันดาลใจในเชิงของการทำโครงการเพื่อสังคมซึ่งพยายามเอาสิ่งใกล้ตัว อาทิ ขยะอินทรีย์ที่ผ่านการคัดแยกแล้วมาทดลองเผาให้กลายเป็นถ่าน และจัดการขึ้นรูปแบบ และผลิตเป็นกระถางต้นไม้ พร้อมเพิ่มมูลค่าด้วยการตกแต่งดีไซน์ที่สวยงาม โดยได้นำไปทดลองขายจริงในงานกาชาดที่ผ่านมา ในราคากระถางละ 60 บาท ปรากฏว่าขายดีมาก ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้าเพื่อเสนอขายสู่ตลาดอย่างจริงจัง เพื่อหาทุนมาสนับสนุนกิจกรรมของนักศึกษาในอนาคต” อ.พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริหาร คณะบริหารธุรกิจ ม.สยาม กล่าว
ด้าน น.ส. ธมนวรรณ เฉิน 1 ใน 2 นักศึกษาสาว จากคณะบริหารธุรกิจ ม.ธรรมศาสตร์ ผู้สร้างสรรค์แผนธุรกิจที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในปีนี้ กล่าวว่า “Convertible heels” หรือ “รองเท้าแฟชั่นสตรีที่สามารถปรับส้นได้” เกิดจากการวิเคราะห์ถึงปัญหาใกล้ตัวที่เราเจอในปัจจุบัน มาสร้างเป็นทางเลือกใหม่เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า ผู้หญิงมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับรองเท้า บางครั้งใส่ส้นสูงทั้งวันก็เมื่อย หรือหากในวันนี้ต้องมีกิจกรรมที่สมบุกสมบัน ส้นสูงอาจกลายเป็นปัญหาที่ทำให้เราต้องระวังในการเดินเพิ่มขึ้น บางครั้งเราอาจจำเป็นต้องพกรองเท้าอีกคู่เพื่อเปลี่ยน แต่ก็ไม่สะดวกนัก ดังนั้น หากเรามี “รองเท้าที่เปลี่ยนระดับความสูงของส้นได้ในคู่เดียว ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงปรารถนา และนี่เองคือที่มาของ “Convertible heels” ซึ่งการคิดแผนดังกล่าว เราเริ่มคิดและเริ่มพัฒนาสินค้าขึ้นมาจริงๆ เพื่อทดสอบว่า สามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ ด้วยคำปรึกษาที่ดีจากคุณพ่อซึ่งเป็นวิศวกร และอาจารย์ที่ช่วยแนะนำ ทำให้ “Convertible heels” สามารถเกิดขึ้นได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในอนาคตมองว่าสามารถพัฒนาเป็นธุรกิจจริงจังได้ และที่สำคัญกลุ่มลูกค้าคงไม่ใช่แค่สาวไทยเท่านั้น แต่ความต้องการดังกล่าวมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก จึงทำให้มั่นใจมากว่าแผนธุรกิจดังกล่าวน่าจะสามารถแข่งขันได้กับประเทศต่างๆ ในการประกวดสุดยอดแผนธุรกิจ (Best of the Best Award) ที่ฮ่องกง”
เอชเอสบีซี หนุนนักศึกษาไทย โชว์ไอเดียธุรกิจ พลิกเรื่องใกล้ตัวสู่ความต้องการของตลาดกับ “รองเท้าส้นสูงปรับส้นได้” ในโครงการประกวด “เอชเอสบีซี ยอดนักธุรกิจรุ่นใหม่ 53-54”
-พร้อมเสริมสร้างแนวคิด “ธุรกิจสีเขียว” เทรนด์ใหม่รับกระแสโลกยุคปัจจุบัน-
นับเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน ที่ธนาคารระดับโลกอย่าง “เอชเอสบีซี” ได้มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพและทักษะเชิงธุรกิจของเยาวชนไทย ผ่านโครงการประกวดแผนธุรกิจ “เอชเอสบีซี ยอดนักธุรกิจรุ่นใหม่” เพื่อเตรียมความพร้อมก้าวเข้าสู่โลกธุรกิจในอนาคต เพื่อค้นหาแชมป์ประเทศไทยเข้าชิงชัยในการประกวดรอบชิงชนะเลิศในระดับภูมิภาคที่ฮ่องกง
นายแมตทิว ล็อบเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการสร้างสรรค์โครงการดังกล่าวว่า “โครงการประกวดแผนธุรกิจ “เอชเอสบีซี ยอดนักธุรกิจรุ่นใหม่” ถือเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาระดับอุดมศึกษาได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิจ และมีโอกาสเรียนรู้ทักษะเชิงธุรกิจ เช่น การวางแผนทางธุรกิจ การวางแผนด้านการเงิน การเขียนแผนงานธุรกิจ และทักษะการนำเสนองาน เพื่อพัฒนาเป็นนักธุรกิจที่มีศักยภาพในอนาคต โดยแผนธุรกิจที่ชนะเลิศของไทยในปีนี้ ได้แก่ “Convertible heels” หรือ“รองเท้าแฟชั่นสตรีที่สามารถปรับส้นได้” นำเสนอโดย น.ส.วรวรรณ หวังพนิตกุล และน.ส.ธมนวรรณ เฉิน นักศึกษาจาก คณะบริหารธุรกิจ ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางความคิดล่าสุด เพื่อเป็นทางออกที่สมบูรณ์แบบสำหรับสาวๆที่ต้องการรองเท้าที่ใส่สบาย สะดวก และสร้างความมั่นใจ โดยได้รับสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันกับทีมชนะเลิศของฮ่องกง มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บังคลาเทศ เวียดนาม และบรูไน เพื่อชิงรางวัลสุดยอดแผนธุรกิจ (Best of the Best Award) พร้อมเงินรางวัลเป็นทุนการศึกษามูลค่า 100,000 เหรียญดอลล่าร์ฮ่องกง ที่ฮ่องกง ในเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่แผนธุรกิจ Freshicator นวัตกรรมช่วยชี้วัดคุณภาพความสดของอาหารได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว จาก ม. ธรรมศาสตร์ รางวัลชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ I-AM leather board นวัตกรรมแห่งวัสดุชนิดใหม่ ผลิตจากเศษผงฝุ่นหนัง อันเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์จากกระบวนการฟอกหนังในโรงงานฟอกหนังของไทย จากม.ธรรมศาสตร์เช่นเดียวกัน พร้อมด้วยรางวัลชมเชย 2 รางวัลกับแผนธุรกิจ Plastic Energy ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยแปรรูปขยะพลาสติกให้กลายเป็นพลังงานทดแทนในรูปของน้ำมันดิบ จากม.มหิดล และแผนธุรกิจ Graphene Energy จากจุฬาฯ ที่นำสารพิเศษที่เพิ่งค้นพบที่เรียกว่า Graphene ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลในปีที่ผ่านมา มาสร้างแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพที่เหนือยิ่งกว่า สอดรับกับกระแสการพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง
นอกจากนี้ เอชเอสบีซี ยังสนับสนุนการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับความสำเร็จในการเติบโตธุรกิจ เราจึงได้มอบรางวัลพิเศษแผนธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Business Innovation Award) ให้แก่ทีมที่จัดทำแผนธุรกิจดีเด่นด้านบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมหรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดด้วย เพื่อผลักดันให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและดำเนินธุรกิจอย่างสมดุลและยั่งยืน ซึ่งแผนธุรกิจที่ได้รับรางวัลดังกล่าว ได้แก่ กระถางถ่านชีวภาพ (Charcoal Bio Pot) ธุรกิจที่ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยการพัฒนาเศษอาหารและของเหลือใช้จากการประกอบอาหารจากครัวเรือนและร้านอาหาร โดยใช้หลักการแยกองค์ประกอบของขยะ แล้วนำมาเผาให้เป็นถ่าน แล้วนำถ่านนั้นมาเป็นส่วนประกอบของกระถางไอเดียธุรกิจสีเขียวจากนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ ม.สยาม
“ผมมองว่าโครงการประกวดแผนธุรกิจ “เอชเอสบีซี ยอดนักธุรกิจรุ่นใหม่” สามารถสร้างให้เด็กไทยรู้จักการวางแผนธุรกิจได้อย่างครบวงจร เพราะนอกจากเปิดโอกาสให้คิดแล้ว ยังมีการจัดอบรมเตรียมความพร้อมต่างๆ เพื่อให้เด็กๆได้คิดอย่าง 360 องศา และมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น และร่วมแก้ปัญหาให้ได้มากที่สุด เพื่อความเป็นแผนธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ ในส่วนของมหาวิทยาลัยสยาม เราได้ส่งเด็กเข้าร่วมการประกวดอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ เรามุ่งไปที่ “ธุรกิจสีเขียว” จึงเกิดเป็นแผนธุรกิจ “กระถางถ่านชีวภาพ (Charcoal Bio Pot)” สามารถย่อยสลายได้เอง ที่ร่วมกันคิดโดยอาจารย์และนักศึกษาจากแรงบันดาลใจในเชิงของการทำโครงการเพื่อสังคมซึ่งพยายามเอาสิ่งใกล้ตัว อาทิ ขยะอินทรีย์ที่ผ่านการคัดแยกแล้วมาทดลองเผาให้กลายเป็นถ่าน และจัดการขึ้นรูปแบบ และผลิตเป็นกระถางต้นไม้ พร้อมเพิ่มมูลค่าด้วยการตกแต่งดีไซน์ที่สวยงาม โดยได้นำไปทดลองขายจริงในงานกาชาดที่ผ่านมา ในราคากระถางละ 60 บาท ปรากฏว่าขายดีมาก ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้าเพื่อเสนอขายสู่ตลาดอย่างจริงจัง เพื่อหาทุนมาสนับสนุนกิจกรรมของนักศึกษาในอนาคต” อ.พิเชษฐ์ มุสิกะโปดก ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริหาร คณะบริหารธุรกิจ ม.สยาม กล่าว
ด้าน น.ส. ธมนวรรณ เฉิน 1 ใน 2 นักศึกษาสาว จากคณะบริหารธุรกิจ ม.ธรรมศาสตร์ ผู้สร้างสรรค์แผนธุรกิจที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในปีนี้ กล่าวว่า “Convertible heels” หรือ “รองเท้าแฟชั่นสตรีที่สามารถปรับส้นได้” เกิดจากการวิเคราะห์ถึงปัญหาใกล้ตัวที่เราเจอในปัจจุบัน มาสร้างเป็นทางเลือกใหม่เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า ผู้หญิงมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับรองเท้า บางครั้งใส่ส้นสูงทั้งวันก็เมื่อย หรือหากในวันนี้ต้องมีกิจกรรมที่สมบุกสมบัน ส้นสูงอาจกลายเป็นปัญหาที่ทำให้เราต้องระวังในการเดินเพิ่มขึ้น บางครั้งเราอาจจำเป็นต้องพกรองเท้าอีกคู่เพื่อเปลี่ยน แต่ก็ไม่สะดวกนัก ดังนั้น หากเรามี “รองเท้าที่เปลี่ยนระดับความสูงของส้นได้ในคู่เดียว ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงปรารถนา และนี่เองคือที่มาของ “Convertible heels” ซึ่งการคิดแผนดังกล่าว เราเริ่มคิดและเริ่มพัฒนาสินค้าขึ้นมาจริงๆ เพื่อทดสอบว่า สามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ ด้วยคำปรึกษาที่ดีจากคุณพ่อซึ่งเป็นวิศวกร และอาจารย์ที่ช่วยแนะนำ ทำให้ “Convertible heels” สามารถเกิดขึ้นได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในอนาคตมองว่าสามารถพัฒนาเป็นธุรกิจจริงจังได้ และที่สำคัญกลุ่มลูกค้าคงไม่ใช่แค่สาวไทยเท่านั้น แต่ความต้องการดังกล่าวมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก จึงทำให้มั่นใจมากว่าแผนธุรกิจดังกล่าวน่าจะสามารถแข่งขันได้กับประเทศต่างๆ ในการประกวดสุดยอดแผนธุรกิจ (Best of the Best Award) ที่ฮ่องกง”
27
news & activity / ข่าวประชาสัมพันธ์ “Slim Up Center”
« on: June 05, 2011, 12:13:02 PM »
ข่าวประชาสัมพันธ์ “Slim Up Center”
นอกจาก “โน้ต-ณัฐกานต์” จะแอบซุ่มพาคุณซะมีสุดที่เลิฟเข้าคอร์สเฟิร์มหุ่นจนฟิตปั๋ง! แล้ว แว่วว่าสถาบันลดน้ำหนักชื่อดัง “สลิมอัพ เซ็นเตอร์” (Slim up Center) ยังเตรียมคว้าตัวมาเป็นพรีเซนเตอร์ พร้อมอวดโฉมอย่างเป็นทางการในงาน “ยู แคน ดู อิท” (You can do it) วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2554 เวลา 15.00 น. ณ บริเวณหน้าลิฟท์แก้ว ชั้น G เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
นอกจาก “โน้ต-ณัฐกานต์” จะแอบซุ่มพาคุณซะมีสุดที่เลิฟเข้าคอร์สเฟิร์มหุ่นจนฟิตปั๋ง! แล้ว แว่วว่าสถาบันลดน้ำหนักชื่อดัง “สลิมอัพ เซ็นเตอร์” (Slim up Center) ยังเตรียมคว้าตัวมาเป็นพรีเซนเตอร์ พร้อมอวดโฉมอย่างเป็นทางการในงาน “ยู แคน ดู อิท” (You can do it) วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2554 เวลา 15.00 น. ณ บริเวณหน้าลิฟท์แก้ว ชั้น G เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
28
news & activity / สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดการจับปลาจากธรรมชาติ
« on: June 05, 2011, 12:10:45 PM »
สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดการจับปลาจากธรรมชาติ โดยสนับสนุนโครงการเพาะพันธุ์ปลาทะเลสวยงาม ตอบรับวันทะเลโลก
ในท้องทะเลอันแสนกว้างใหญ่ สิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ต่างแหวกว่ายร่ายเวทมนต์ให้โลกใต้สมุทรมีสีสันสดสวยดุจอาณาจักรแห่งใหม่อันแปลกตาของบรรดาสิ่งมีชีวิต แต่ความสวยงามนั้นเองที่ล่อตาล่อใจ ทำให้บรรดาปลาสวยงามในธรรมชาติได้ถูกคุกคามและมีปริมาณลดลงอย่างน่าใจหาย
ปัจจุบันความต้องการปลาทะเลเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น ทั้งเพื่อการบริโภค การค้า และการตกแต่งตู้ปลาสวยงาม ประชากรปลาทะเลจึงลดลงอย่างรวดเร็วและต้องการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน เช่น กรณีปลาการ์ตูนซึ่งเป็นปลาที่ได้รับความนิยมในการนำมาเลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน เนื่องจากเป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์ชื่อดัง ทั้งยังมีสีสันสวยงาม ทำให้ปลาการ์ตูนถูกจับมาขายเป็นลำดับต้นๆ เพราะมีความต้องของตลาดสูง ทำให้ประชากรปลาการ์ตูนชนิดต่างๆ นั้นลดจำนวนลงอย่างมาก จนเข้าสู่ภาวะวิกฤติ หรือ กรณีตลาดการค้าขายม้าน้ำ ตลาดมีความต้องการม้าน้ำนำไปใช้เป็นส่วนผสมของยาจีน ซึ่งมีการซื้อขายในตลาดค่อนข้างสูง แม้ว่าข้อตกลงระหว่างประเทศจะจัดม้าน้ำเข้าสู่อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือ ไซเตส ที่ว่าด้วยชนิดพันธุ์ที่มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ ที่การซื้อขายในประเทศสามารถกระทำได้ แต่การค้าระหว่างประเทศต้องมีการควบคุม แต่ความจริงที่เป็นอยู่คือ ยังมีการซื้อขายม้าน้ำในตลาดมืดเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ กรณีปลาอมไข่ครีบยาว ซึ่งปัจจุบันถูกจัดให้เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เป็นปลาทะเลสวยงามที่ตลาดโลกมีความต้องการเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มความต้องการของตลาดสูงขึ้นเรื่อยๆ
สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล กรุงเทพ อุทยานสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เล็งเห็นความสำคัญในการฟื้นฟูพันธุ์ปลาทะเล จึงได้สนับสนุน ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ กรมประมง โดยการนำปลาที่ได้จากการเพาะพันธุ์มาจัดแสดงในอควาเรี่ยม เพื่อเป็นการช่วยเผยแพร่ความสำเร็จของทางศูนย์วิจัยฯ และเพื่อช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยลดปริมาณการจับปลาจากธรรมชาติ ทางศูนย์วิจัยฯ ได้เริ่มศึกษาการเพาะพันธุ์ปลาทะเลสวยงามตั้งแต่ปี 2542 จนประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปลาทะเลสวยงามชนิดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพันธุ์ปลาการ์ตูน ตั้งแต่ต้นปี 2544 จนถึงปัจจุบันสามารถเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนของไทยและต่างประเทศได้หลากหลายชนิด อาทิ ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ ปลาการ์ตูนส้มขาว ปลาการ์ตูนอินเดีย ปลาการ์ตูนอินเดียแดง ปลาการ์ตูนลายปล้อง ปลาการ์ตูนอานม้า ปลาการ์ตูนแดง เป็นต้น นอกจากนี้ทางศูนย์วิจัยฯ ยังประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปลาทะเลสวยงามชนิดอื่นๆ อีก อาทิ ม้ำน้ำหนาม ม้าน้ำเหลือง ม้าน้ำส้ม และ ปลาอมไข่ครีบยาว ซึ่งเป็นปลาทะเลสวยงามที่มีความต้องการสูงในการบริโภคและการเลี้ยง
ทั้งนี้เนื่องในโอกาสวันทะเลโลก หรือ World Ocean’s Day สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล กรุงเทพ จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมอนุรักษ์ท้องทะเลโดยการ สานต่อความมุ่งมั่นในการลดการจับสัตว์ทะเลจากธรรมชาติเพื่อนำมาแสดง โดยได้รับความอนุเคราะห์จากคุณไพบูลย์ บุญลิปตานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ อนุญาตให้นำปลาทะเลสวยงามที่ทางศูนย์วิจัยฯ เพาะพันธุ์ได้มาจัดแสดงตามโซนต่างๆ ของสยาม โอเชี่ยน เวิร์ล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ผลงานการเพาะพันธุ์ของทางศูนย์วิจัยฯ โดยปลาทะเลสวยงามจากทางศูนย์วิจัยฯ ที่สยาม โอเชี่ยน เวิร์ลนำมาจัดแสดง ได้แก่ ปลาอมไข่ครีบยาว ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ ปลาการ์ตูนส้มขาว ปลาการ์ตูนอินเดีย ปลาการ์ตูนลายปล้อง ปลาการ์ตูนอานม้า ปลาการ์ตูนลายปล้องหางเหลือง ปลาการ์ตูนอินเดียแดง ปลาการ์ตูนแดง ปลาหูช้าง ปลาจิ้มฟันจระเข้ท้องคม ปลากะรังหน้างอน ม้ำน้ำหนาม ม้าน้ำเหลือง และปลาเฉี่ยวหิน ทั้งนี้เพื่อเป็นการเผยแพร่ข้อมูลความรู้ของปลาทะเลสวยงามเหล่านี้ให้เป็นที่รู้จัก พร้อมช่วยปลูกจิตสำนึกให้สังคมเล็งเห็นถึงความสำคัญของสัตว์โลกใต้ท้องทะเล และเป็นการสนับสนุนผลงานวิจัยของศูนย์วิจัยฯ ให้ประสบความสำเร็จต่อไป
ท่านใดที่สนใจอยากเรียนรู้และเพลิดเพลินกับการชมความสวยงามของปลาทะเลจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ สามารถเข้าชมได้ที่ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ในโซนจัดแสดงต่างๆ ซึ่งทางสยาม โอเชี่ยน เวิร์ลจะขึ้นป้ายแสดงความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ของปลาแต่ละชนิดไว้ที่หน้าตู้ เพื่อให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้เก็บเกี่ยวความรู้และนำไปใช้ประโยชน์
พิเศษเพียงโชว์โลโก้ Breeding Life to the Ocean โดยการถ่ายภาพหรือตัดชิ้นส่วนมาแสดงที่จุดขายตั๋วรับส่วนลดค่าเข้าชมราคาพิเศษเพียง 250 บาททั้งเด็กและผู้ใหญ่ (จากผู้ใหญ่ 380 บาท เด็ก 280 บาท) ตั้งแต่วันที่ 8-30 มิถุนายนนี้ ณ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ชั้น B1-B2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ในท้องทะเลอันแสนกว้างใหญ่ สิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ต่างแหวกว่ายร่ายเวทมนต์ให้โลกใต้สมุทรมีสีสันสดสวยดุจอาณาจักรแห่งใหม่อันแปลกตาของบรรดาสิ่งมีชีวิต แต่ความสวยงามนั้นเองที่ล่อตาล่อใจ ทำให้บรรดาปลาสวยงามในธรรมชาติได้ถูกคุกคามและมีปริมาณลดลงอย่างน่าใจหาย
ปัจจุบันความต้องการปลาทะเลเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น ทั้งเพื่อการบริโภค การค้า และการตกแต่งตู้ปลาสวยงาม ประชากรปลาทะเลจึงลดลงอย่างรวดเร็วและต้องการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน เช่น กรณีปลาการ์ตูนซึ่งเป็นปลาที่ได้รับความนิยมในการนำมาเลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน เนื่องจากเป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์ชื่อดัง ทั้งยังมีสีสันสวยงาม ทำให้ปลาการ์ตูนถูกจับมาขายเป็นลำดับต้นๆ เพราะมีความต้องของตลาดสูง ทำให้ประชากรปลาการ์ตูนชนิดต่างๆ นั้นลดจำนวนลงอย่างมาก จนเข้าสู่ภาวะวิกฤติ หรือ กรณีตลาดการค้าขายม้าน้ำ ตลาดมีความต้องการม้าน้ำนำไปใช้เป็นส่วนผสมของยาจีน ซึ่งมีการซื้อขายในตลาดค่อนข้างสูง แม้ว่าข้อตกลงระหว่างประเทศจะจัดม้าน้ำเข้าสู่อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือ ไซเตส ที่ว่าด้วยชนิดพันธุ์ที่มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ ที่การซื้อขายในประเทศสามารถกระทำได้ แต่การค้าระหว่างประเทศต้องมีการควบคุม แต่ความจริงที่เป็นอยู่คือ ยังมีการซื้อขายม้าน้ำในตลาดมืดเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ กรณีปลาอมไข่ครีบยาว ซึ่งปัจจุบันถูกจัดให้เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เป็นปลาทะเลสวยงามที่ตลาดโลกมีความต้องการเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มความต้องการของตลาดสูงขึ้นเรื่อยๆ
สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล กรุงเทพ อุทยานสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เล็งเห็นความสำคัญในการฟื้นฟูพันธุ์ปลาทะเล จึงได้สนับสนุน ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ กรมประมง โดยการนำปลาที่ได้จากการเพาะพันธุ์มาจัดแสดงในอควาเรี่ยม เพื่อเป็นการช่วยเผยแพร่ความสำเร็จของทางศูนย์วิจัยฯ และเพื่อช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยลดปริมาณการจับปลาจากธรรมชาติ ทางศูนย์วิจัยฯ ได้เริ่มศึกษาการเพาะพันธุ์ปลาทะเลสวยงามตั้งแต่ปี 2542 จนประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปลาทะเลสวยงามชนิดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพันธุ์ปลาการ์ตูน ตั้งแต่ต้นปี 2544 จนถึงปัจจุบันสามารถเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนของไทยและต่างประเทศได้หลากหลายชนิด อาทิ ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ ปลาการ์ตูนส้มขาว ปลาการ์ตูนอินเดีย ปลาการ์ตูนอินเดียแดง ปลาการ์ตูนลายปล้อง ปลาการ์ตูนอานม้า ปลาการ์ตูนแดง เป็นต้น นอกจากนี้ทางศูนย์วิจัยฯ ยังประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปลาทะเลสวยงามชนิดอื่นๆ อีก อาทิ ม้ำน้ำหนาม ม้าน้ำเหลือง ม้าน้ำส้ม และ ปลาอมไข่ครีบยาว ซึ่งเป็นปลาทะเลสวยงามที่มีความต้องการสูงในการบริโภคและการเลี้ยง
ทั้งนี้เนื่องในโอกาสวันทะเลโลก หรือ World Ocean’s Day สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล กรุงเทพ จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมอนุรักษ์ท้องทะเลโดยการ สานต่อความมุ่งมั่นในการลดการจับสัตว์ทะเลจากธรรมชาติเพื่อนำมาแสดง โดยได้รับความอนุเคราะห์จากคุณไพบูลย์ บุญลิปตานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ อนุญาตให้นำปลาทะเลสวยงามที่ทางศูนย์วิจัยฯ เพาะพันธุ์ได้มาจัดแสดงตามโซนต่างๆ ของสยาม โอเชี่ยน เวิร์ล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ผลงานการเพาะพันธุ์ของทางศูนย์วิจัยฯ โดยปลาทะเลสวยงามจากทางศูนย์วิจัยฯ ที่สยาม โอเชี่ยน เวิร์ลนำมาจัดแสดง ได้แก่ ปลาอมไข่ครีบยาว ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ ปลาการ์ตูนส้มขาว ปลาการ์ตูนอินเดีย ปลาการ์ตูนลายปล้อง ปลาการ์ตูนอานม้า ปลาการ์ตูนลายปล้องหางเหลือง ปลาการ์ตูนอินเดียแดง ปลาการ์ตูนแดง ปลาหูช้าง ปลาจิ้มฟันจระเข้ท้องคม ปลากะรังหน้างอน ม้ำน้ำหนาม ม้าน้ำเหลือง และปลาเฉี่ยวหิน ทั้งนี้เพื่อเป็นการเผยแพร่ข้อมูลความรู้ของปลาทะเลสวยงามเหล่านี้ให้เป็นที่รู้จัก พร้อมช่วยปลูกจิตสำนึกให้สังคมเล็งเห็นถึงความสำคัญของสัตว์โลกใต้ท้องทะเล และเป็นการสนับสนุนผลงานวิจัยของศูนย์วิจัยฯ ให้ประสบความสำเร็จต่อไป
ท่านใดที่สนใจอยากเรียนรู้และเพลิดเพลินกับการชมความสวยงามของปลาทะเลจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ สามารถเข้าชมได้ที่ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ในโซนจัดแสดงต่างๆ ซึ่งทางสยาม โอเชี่ยน เวิร์ลจะขึ้นป้ายแสดงความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ของปลาแต่ละชนิดไว้ที่หน้าตู้ เพื่อให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้เก็บเกี่ยวความรู้และนำไปใช้ประโยชน์
พิเศษเพียงโชว์โลโก้ Breeding Life to the Ocean โดยการถ่ายภาพหรือตัดชิ้นส่วนมาแสดงที่จุดขายตั๋วรับส่วนลดค่าเข้าชมราคาพิเศษเพียง 250 บาททั้งเด็กและผู้ใหญ่ (จากผู้ใหญ่ 380 บาท เด็ก 280 บาท) ตั้งแต่วันที่ 8-30 มิถุนายนนี้ ณ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ชั้น B1-B2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
29
news & activity / เดอะ ครีม แอนด์ ฟัดจ์ แฟกตอรี่” ต้อนรับ “เรนนี่ซีซั่น” แนะนำ ไอศกรีมนิวครีเอชั่น
« on: June 05, 2011, 12:07:37 PM »
เดอะ ครีม แอนด์ ฟัดจ์ แฟกตอรี่” ต้อนรับ “เรนนี่ซีซั่น” แนะนำ ไอศกรีมนิวครีเอชั่น “ เฮเซลนัท” แสนอร่อย
“เดอะ ครีม แอนด์ ฟัดจ์ แฟกตอรี่” ร้านไอศกรีมระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยมแบบมิกซ์อิน ในเครือ จีเอฟเอ ต้อนรับเรนนี่ซีซัน แนะนำครีเอชั่นน้องใหม่เอาใจคนรักเฮเซลนัท ด้วยไอศกรีม “เฮเซลนัท” แสนอร่อยคลุกเคล้าด้วยมิกซ์อินอย่างลงตัว อร่อยกรุบกรอบ 3 สไตล์ เพื่อให้คนรักไอศกรีมได้อร่อยรับสายฝนอย่างสดชื่น พบกับ “เฮเซลนัท” ได้แล้วที่ร้าน เดอะ ครีม แอนด์ ฟัดจ์ แฟกตอรี่ ทั้ง 9 สาขา ได้แก่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น G, ศูนย์บันเทิงเชิงศิลป์ ดิ เอสพละนาด ชั้น G, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า ชั้น 6, อาคารเทียบเครื่องบินบี (B) และเอฟ (F) สนามบิน สุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ, ชั้น G ดิอะเวนิว พัทยา, ชั้น G เดอะมอลล์ บางแค, เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช ชั้น 5 และ เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ชั้น 5 ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน ถึง 16 สิงหาคม นี้
“เดอะ ครีม แอนด์ ฟัดจ์ แฟกตอรี่” ร้านไอศกรีมระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยมแบบมิกซ์อิน ในเครือ จีเอฟเอ ต้อนรับเรนนี่ซีซัน แนะนำครีเอชั่นน้องใหม่เอาใจคนรักเฮเซลนัท ด้วยไอศกรีม “เฮเซลนัท” แสนอร่อยคลุกเคล้าด้วยมิกซ์อินอย่างลงตัว อร่อยกรุบกรอบ 3 สไตล์ เพื่อให้คนรักไอศกรีมได้อร่อยรับสายฝนอย่างสดชื่น พบกับ “เฮเซลนัท” ได้แล้วที่ร้าน เดอะ ครีม แอนด์ ฟัดจ์ แฟกตอรี่ ทั้ง 9 สาขา ได้แก่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น G, ศูนย์บันเทิงเชิงศิลป์ ดิ เอสพละนาด ชั้น G, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า ชั้น 6, อาคารเทียบเครื่องบินบี (B) และเอฟ (F) สนามบิน สุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ, ชั้น G ดิอะเวนิว พัทยา, ชั้น G เดอะมอลล์ บางแค, เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช ชั้น 5 และ เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ชั้น 5 ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน ถึง 16 สิงหาคม นี้
30
ข่าวภาพยนตร์ / คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชิญชวนสร้างสังคมแห่งความสุข
« on: June 03, 2011, 03:59:30 PM »
คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชิญชวนสร้างสังคมแห่งความสุข จัดการประกวดหนังสั้นในหัวข้อ “สังคม...อมยิ้ม”
คณะสารสนเทศและสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกับสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย และสมาคมทีมงานสร้างภาพยนตร์ จัดโครงการประกวดหนังสั้น สร้างสังคมแห่งความสุขในหัวข้อ “สังคม...อมยิ้ม” ชิงโล่เกียรติยศและเงินรางวัล ร่วมส่งผลงานเข้าประกวดได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 24 มิถุนายน 2554
รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา ดำรงเกียรติศักดิ์ คณบดีคณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า “ความสุขเป็นสิ่งจำเป็นและต้องการของมนุษย์ การแสวงหาความสุขของแต่ละคนนั้นอาจแตกต่างกัน บางคนอาจได้จากตนเองจากคนในครอบครัว จากคนในสัง คมแวดล้อม แต่ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่เราทุกคนสามารถแบ่งปันให้กันได้โดยไม่ต้องซื้อหาคือการให้ผู้คนมี “รอยยิ้ม” การยิ้มไม่จำเป็นต้องยิ้มให้กว้างที่สุด แค่ “อมยิ้ม” ก็สามารถสร้างความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันและกันได้ หากเรายิ้ม คนรอบข้างยิ้ม เท่ากับสังคม กำลังยิ้ม ย่อมก่อให้เกิดสังคมแห่งความสุขตามมาในที่สุด”
จากแรงบันดาลใจดังกล่าว คณะฯ จึงได้จัดการประกวดหนังสั้นในหัวข้อ “สังคม...อมยิ้ม” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและผู้สนใจงานภาพยนตร์ได้แสดงความสามารถในการผลิตสื่อที่สะท้อนมุมมองหรือเนื้อหาเกี่ยวกั บสังคมในแง่ใดก็ได้ ที่ดูแล้วยิ้มได้ ประทับใจ โดยการประกวดเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไปได้แสดงความสามารถในการผลิตหนังสั้นได้ทีมละไม่เกิน 5 คน ทั้งนี้แต่ละทีมสามารถส่งผลงานได้ไม่จำกัดจำนวน โดยหนังสั้นที่ส่งเข้าประกวดผู้สมัครจะต้องอธิบายถึงแนวคิดในการสร้างสรรค์ เรื่องย่อ พร้อมดีวีดีหนังสั้นที่มีความยาว 5- 8 นาทีต่อเรื่อง
สำหรับรางวัลชนะเลิศและรางวัลป๊อปปูล่าโหวตจะได้รับโล่เกียรติยศ เกียรติบัตรและเงินรางวัล โดยผลงานของผู้เข้าประกวดที่ผ่านการคัดเลือกรอบ 10 ทีมสุดท้ายจะได้รับเกียรติบัตรทุกทีม
ผู้สนใจสามารถส่งใบสมัครและผลงานเป็นดีวีดีหนังสั้น “สังคม...อมยิ้ม” มาได้ที่คณะสารสนเทศและการสื่อสาร อาคาร 75 ปี แม่โจ้ ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50290 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 24 มิถุนายน 2554 และอัพโหลดหนังสั้นขึ้นเว็บไซต์ Youtube.com ได้ระหว่างวันที่ 20– 30 มิ ถุนายน 2554 เพื่อร่วมชิงรางวัล ป๊อปปูล่าโหวต ประกาศผลพร้อมพิธีมอบรางวัลวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 ณ คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ติดตามเงื่อนไข กติกา รายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการประกวดและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ http://www.infocomm.mju.ac.th และ http://facebook.com/infocomm.mju หรือโทร 053-873700 ต่อ 109
คณะสารสนเทศและสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกับสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย และสมาคมทีมงานสร้างภาพยนตร์ จัดโครงการประกวดหนังสั้น สร้างสังคมแห่งความสุขในหัวข้อ “สังคม...อมยิ้ม” ชิงโล่เกียรติยศและเงินรางวัล ร่วมส่งผลงานเข้าประกวดได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 24 มิถุนายน 2554
รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา ดำรงเกียรติศักดิ์ คณบดีคณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า “ความสุขเป็นสิ่งจำเป็นและต้องการของมนุษย์ การแสวงหาความสุขของแต่ละคนนั้นอาจแตกต่างกัน บางคนอาจได้จากตนเองจากคนในครอบครัว จากคนในสัง คมแวดล้อม แต่ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่เราทุกคนสามารถแบ่งปันให้กันได้โดยไม่ต้องซื้อหาคือการให้ผู้คนมี “รอยยิ้ม” การยิ้มไม่จำเป็นต้องยิ้มให้กว้างที่สุด แค่ “อมยิ้ม” ก็สามารถสร้างความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันและกันได้ หากเรายิ้ม คนรอบข้างยิ้ม เท่ากับสังคม กำลังยิ้ม ย่อมก่อให้เกิดสังคมแห่งความสุขตามมาในที่สุด”
จากแรงบันดาลใจดังกล่าว คณะฯ จึงได้จัดการประกวดหนังสั้นในหัวข้อ “สังคม...อมยิ้ม” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและผู้สนใจงานภาพยนตร์ได้แสดงความสามารถในการผลิตสื่อที่สะท้อนมุมมองหรือเนื้อหาเกี่ยวกั บสังคมในแง่ใดก็ได้ ที่ดูแล้วยิ้มได้ ประทับใจ โดยการประกวดเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไปได้แสดงความสามารถในการผลิตหนังสั้นได้ทีมละไม่เกิน 5 คน ทั้งนี้แต่ละทีมสามารถส่งผลงานได้ไม่จำกัดจำนวน โดยหนังสั้นที่ส่งเข้าประกวดผู้สมัครจะต้องอธิบายถึงแนวคิดในการสร้างสรรค์ เรื่องย่อ พร้อมดีวีดีหนังสั้นที่มีความยาว 5- 8 นาทีต่อเรื่อง
สำหรับรางวัลชนะเลิศและรางวัลป๊อปปูล่าโหวตจะได้รับโล่เกียรติยศ เกียรติบัตรและเงินรางวัล โดยผลงานของผู้เข้าประกวดที่ผ่านการคัดเลือกรอบ 10 ทีมสุดท้ายจะได้รับเกียรติบัตรทุกทีม
ผู้สนใจสามารถส่งใบสมัครและผลงานเป็นดีวีดีหนังสั้น “สังคม...อมยิ้ม” มาได้ที่คณะสารสนเทศและการสื่อสาร อาคาร 75 ปี แม่โจ้ ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50290 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 24 มิถุนายน 2554 และอัพโหลดหนังสั้นขึ้นเว็บไซต์ Youtube.com ได้ระหว่างวันที่ 20– 30 มิ ถุนายน 2554 เพื่อร่วมชิงรางวัล ป๊อปปูล่าโหวต ประกาศผลพร้อมพิธีมอบรางวัลวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 ณ คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ติดตามเงื่อนไข กติกา รายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการประกวดและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ http://www.infocomm.mju.ac.th และ http://facebook.com/infocomm.mju หรือโทร 053-873700 ต่อ 109