Show Posts
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
61
Sport News & Motor Sport / กกท.ดัน“ซุปเปอร์บอน”นักมวยอัจฉริยะคืนถิ่นติวเข้มสร้างแรงบันดาลใจเยาวชนเมืองลุง
« on: September 28, 2020, 07:29:31 AM »
กกท.ดัน “ซุปเปอร์บอน” นักมวยอัจฉริยะคืนถิ่น ติวเข้มสร้างแรงบันดาลใจเยาวชนเมืองลุง
“ซุปเปอร์บอน” นักชก วัย 29 ปี ยอดฝีมือระดับโลก ชาวจังหวัดพัทลุง หวนตอบแทนบ้านเกิด ในกิจกรรม “มวยไทยฮีโร่คลินิกกับซุปเปอร์บอน” ตามโครงการสืบสานตำนาน วีรบุรุษมวยไทย จัดโดย กกท. ที่ โรงเรียนกงหราพิชากร จ.พัทลุง เพื่อติวเข้มเผยแพร่ทักษะมวยไทยให้กับนักมวยเยาวชนจากค่ายต่าง ๆ ในจังหวัดพัทลุง รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจในการก้าวสู่เวทีระดับโลกให้กับนักมวยรุ่นจิ๋วในท้องถิ่น
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทาง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้จัดกิจกรรม “มวยไทยฮีโร่คลินิกกับซุปเปอร์บอน” ในโครงการ “สืบสานตำนาน วีรบุรุษมวยไทย” เพื่อฟื้นฟูและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกีฬามวยไทย โดยมีกิจกรรมพิเศษด้วยการนำ "ซุปเปอร์บอน” ศุภชัย หมื่นสังข์ นักมวยชื่อดัง ชาวพัทลุง มาถ่ายทอดประสบการณ์สู่นักมวยเยาวชนในจังหวัดพัทลุง ที่ โรงเรียนกงหราพิชากร อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ซึ่งมี นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานพิธีเปิด ร่วมด้วย นางสาว “อราเบลล่า สิตานัน เกรโกรี่” ทูตการกีฬา จ.พัทลุง และผู้บริหารกกท. และ ผู้บริหารภาคส่วนภายในจังหวัดพัทลุง ร่วมในพิธี
นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “กีฬามวยไทย มีชื่อเสียงไปทั่วโลก สร้างรายได้ให้กับนักมวย นักกีฬาอาชีพ และบุคคลากรในวงการกีฬามวย ทั้งจากกิจกรรมกีฬามวยโดยตรง และจากการท่องเที่ยว เพื่อเข้าฝึกซ้อมและชมการแข่งขัน จนเมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้กีฬามวยไทยและบุคลากรในวงการประสบปัญหาด้านภาพลักษณ์ การจัด "กิจกรรมมวยไทยฮีโร่คลินิกกับซุปเปอร์บอน" จึงเป็นหนึ่งในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมรณรงค์ เพื่อฟื้นฟูและสร้างภาพลักษณ์ศิลปะกีฬามวยไทย เเละเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย”
นายจิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย องค์กรศิลปะต่อสู้ที่มีชื่อเสียงระดับโลก กล่าวว่า ทางเราได้นำ “ซุปเปอร์บอน” นักมวยซูเปอร์สตาร์ วัน แชมเปียนชิพ มาร่วมงาน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและคาดหวังที่จะสร้างวีรบุรุษมวยไทยในรุ่นต่อไปจากกิจกรรมนี้ โดยซุปเปอร์บอน ถือเป็นนักกีฬา อัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้มากที่สุดคนหนึ่ง คว้าแชมป์มามากมาย ทั้งมวยไทยอาชีพ มวยไทยสมัครเล่น และคิกบ็อกซิ่ง พัฒนาตัวเองจากการเป็นนักมวยภูธร ไต่เต้าตนเองจากท้องถิ่น ปัจจุบันประสบความสำเร็จในระดับโกลบอล ซูเปอร์สตาร์ เป็นโอกาสอันดีของเยาวชนที่กำลังก้าวเข้าสู่อาชีพมวยไทย ได้ศึกษากุญแจสู่ความสำเร็จ สร้างโอกาสให้ตนเองก้าวสู่การเป็นนักกีฬาเงินแสน เงินล้าน ประสบความสำเร็จเหมือนกับซุปเปอร์บอนในอนาคต
ด้าน “ซุปเปอร์บอน” หรือ ศุภชัย หมื่นสังข์ กล่าวว่า “ผมมีบ้านเกิดอยู่ที่ ต.แหลมโตนด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง สมัยเด็กได้เรียนรู้วิชามวยจากพ่อที่ชื่นชอบกีฬามวยเป็นชีวิตจิตใจตั้งแต่วัย 5-6 ขวบ พัฒนาตัวเองจากการเป็นนักมวยภูธร กว่าจะได้พิสูจน์ตัวเอง สร้างฝีมือสร้างชื่อจนได้รับการยอมรับในการเป็นนักชกเบอร์ต้นๆ ระดับประเทศหรือระดับโลก ต้องใช้ทั้งการฝึกฝนร่างกายอย่างหนักและจิตใจที่รักกีฬาอย่างแท้จริง”
“ผมดีใจมากที่ได้มีโอกาสมาถ่ายทอดทักษะและสร้างแรงบันดาลใจในการก้าวสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ ให้กับน้องๆ เยาวชนในท้องถิ่น ที่เป็นจังหวัดบ้านเกิดของผม เพราะตัวผมเองก็เกิดจากการเป็นดาวรุ่งในเขตภูธร เหมือนที่เขาว่าช้างเผือกก็ต้องอยู่ในป่าครับ”
กกท ดัน ซุปเปอร์บอน นักมวยอัจฉริยะคืนถิ่น ติวเข้มสร้างแรงบันดาลใจเยาวชนเมืองลุง
สัมภาษณ์ ดร ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย
สัมภาษณ์ คุณจิติณัฐ อัษฎามงคล
สัมภาษณ์ ดร ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย
สัมภาษณ์ คุณจิติณัฐ อัษฎามงคล
“ซุปเปอร์บอน” นักชก วัย 29 ปี ยอดฝีมือระดับโลก ชาวจังหวัดพัทลุง หวนตอบแทนบ้านเกิด ในกิจกรรม “มวยไทยฮีโร่คลินิกกับซุปเปอร์บอน” ตามโครงการสืบสานตำนาน วีรบุรุษมวยไทย จัดโดย กกท. ที่ โรงเรียนกงหราพิชากร จ.พัทลุง เพื่อติวเข้มเผยแพร่ทักษะมวยไทยให้กับนักมวยเยาวชนจากค่ายต่าง ๆ ในจังหวัดพัทลุง รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจในการก้าวสู่เวทีระดับโลกให้กับนักมวยรุ่นจิ๋วในท้องถิ่น
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทาง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้จัดกิจกรรม “มวยไทยฮีโร่คลินิกกับซุปเปอร์บอน” ในโครงการ “สืบสานตำนาน วีรบุรุษมวยไทย” เพื่อฟื้นฟูและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกีฬามวยไทย โดยมีกิจกรรมพิเศษด้วยการนำ "ซุปเปอร์บอน” ศุภชัย หมื่นสังข์ นักมวยชื่อดัง ชาวพัทลุง มาถ่ายทอดประสบการณ์สู่นักมวยเยาวชนในจังหวัดพัทลุง ที่ โรงเรียนกงหราพิชากร อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ซึ่งมี นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานพิธีเปิด ร่วมด้วย นางสาว “อราเบลล่า สิตานัน เกรโกรี่” ทูตการกีฬา จ.พัทลุง และผู้บริหารกกท. และ ผู้บริหารภาคส่วนภายในจังหวัดพัทลุง ร่วมในพิธี
นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “กีฬามวยไทย มีชื่อเสียงไปทั่วโลก สร้างรายได้ให้กับนักมวย นักกีฬาอาชีพ และบุคคลากรในวงการกีฬามวย ทั้งจากกิจกรรมกีฬามวยโดยตรง และจากการท่องเที่ยว เพื่อเข้าฝึกซ้อมและชมการแข่งขัน จนเมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้กีฬามวยไทยและบุคลากรในวงการประสบปัญหาด้านภาพลักษณ์ การจัด "กิจกรรมมวยไทยฮีโร่คลินิกกับซุปเปอร์บอน" จึงเป็นหนึ่งในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมรณรงค์ เพื่อฟื้นฟูและสร้างภาพลักษณ์ศิลปะกีฬามวยไทย เเละเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย”
นายจิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย องค์กรศิลปะต่อสู้ที่มีชื่อเสียงระดับโลก กล่าวว่า ทางเราได้นำ “ซุปเปอร์บอน” นักมวยซูเปอร์สตาร์ วัน แชมเปียนชิพ มาร่วมงาน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและคาดหวังที่จะสร้างวีรบุรุษมวยไทยในรุ่นต่อไปจากกิจกรรมนี้ โดยซุปเปอร์บอน ถือเป็นนักกีฬา อัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้มากที่สุดคนหนึ่ง คว้าแชมป์มามากมาย ทั้งมวยไทยอาชีพ มวยไทยสมัครเล่น และคิกบ็อกซิ่ง พัฒนาตัวเองจากการเป็นนักมวยภูธร ไต่เต้าตนเองจากท้องถิ่น ปัจจุบันประสบความสำเร็จในระดับโกลบอล ซูเปอร์สตาร์ เป็นโอกาสอันดีของเยาวชนที่กำลังก้าวเข้าสู่อาชีพมวยไทย ได้ศึกษากุญแจสู่ความสำเร็จ สร้างโอกาสให้ตนเองก้าวสู่การเป็นนักกีฬาเงินแสน เงินล้าน ประสบความสำเร็จเหมือนกับซุปเปอร์บอนในอนาคต
ด้าน “ซุปเปอร์บอน” หรือ ศุภชัย หมื่นสังข์ กล่าวว่า “ผมมีบ้านเกิดอยู่ที่ ต.แหลมโตนด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง สมัยเด็กได้เรียนรู้วิชามวยจากพ่อที่ชื่นชอบกีฬามวยเป็นชีวิตจิตใจตั้งแต่วัย 5-6 ขวบ พัฒนาตัวเองจากการเป็นนักมวยภูธร กว่าจะได้พิสูจน์ตัวเอง สร้างฝีมือสร้างชื่อจนได้รับการยอมรับในการเป็นนักชกเบอร์ต้นๆ ระดับประเทศหรือระดับโลก ต้องใช้ทั้งการฝึกฝนร่างกายอย่างหนักและจิตใจที่รักกีฬาอย่างแท้จริง”
“ผมดีใจมากที่ได้มีโอกาสมาถ่ายทอดทักษะและสร้างแรงบันดาลใจในการก้าวสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ ให้กับน้องๆ เยาวชนในท้องถิ่น ที่เป็นจังหวัดบ้านเกิดของผม เพราะตัวผมเองก็เกิดจากการเป็นดาวรุ่งในเขตภูธร เหมือนที่เขาว่าช้างเผือกก็ต้องอยู่ในป่าครับ”
62
Sport News & Motor Sport / “ธนกร” ฟอร์มฮอต! เบิ้ลแชมป์ ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ สนาม 3 นำโด่งคะแนนสะสม
« on: September 28, 2020, 07:24:41 AM »
“ธนกร” ฟอร์มฮอต! เบิ้ลแชมป์ ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ สนาม 3 นำโด่งคะแนนสะสม
ธนกร หลักหาญ ยอดนักบิดดาวรุ่งของ ฮอนด้า หมายเลข 20 สร้างผลงานระดับมาสเตอร์ผงาดคว้าแชมป์ทั้ง 2 เรซ ในศึก ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ สนาม 3 นำโด่งบนตารางแชมเปี้ยนชิพ หลังบดเอาชนะคู่แข่งอย่าง ธุรกิจ บัวผา และ ชานนท์ อินต๊ะ อย่างสุดมันส์ที่ สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันอาทิตย์
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ รายการ ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ 2020 ดวลความเร็วสนาม 3 เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 26-27 กันยายน ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร
ศึก ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ การแข่งขันที่เป็นขั้นบันไดสำคัญของโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ที่ปูทางสร้างนักบิดไทยให้ก้าวขึ้นสู่การแข่งขันโมโตจีพี ให้ได้ภายในปี 2025 โดยใช้รถแข่งโปรโตไทป์อย่าง Honda NSF250 ซึ่งเป็นรถแข่งสเป็คเดียวกับการแข่งขัน โมโตทรี ชิงแชมป์โลก ให้นักแข่งเยาวชนไทยได้พัฒนาฝีมือผ่านเรซที่เข้มข้น ดวลความเร็ว 2 เรซต่อ สนาม
เกมเรซแรกของสนาม 3 ดวลกันในช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 26 กันยายน ตำแหน่งโพลเป็นของ ธุรกิจ บัวผา เจ้าของหมายเลข 21 ขนาบข้างด้วย เกียรติศักดิ์ สิงหพงษ์ หมายเลข 4 ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ ธนกร หลักหาญ หมายเลข 20 จ่าฝูงบนตารางคะแนนสะสม โดย ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ ซึ่งเน้นพัฒนานักบิดสู่ระดับโลก ใช้จำนวนรอบในการแข่งขันถึง 15 รอบสนาม เพื่อให้นักบิดเยาวชนสร้างความคุ้นเคยกับระยะทางยาวๆ ก่อนก้าวขึ้นสู่เกมระดับอาชีพในอนาคต
จบการแข่งขัน 15 รอบสนาม แชมป์เรซที่ 5 เป็นของ ธนกร อาศัยจังหวะที่ยอดเยี่ยม ขยับขึ้นมาจากกริดที่ 3 บิดเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 27 นาที 39.396 วินาที เฉือนอันดับ 2 อย่าง ธุรกิจ เพียง 0.108 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 ตกเป็นของ ชานนท์ เจ้าของหมายเลข 7 ตามหลังแชมป์ 11.257 วินาที
ส่วนเรซที่ 6 มีขึ้นในช่วงสายของวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน กริดสตาร์ทยังคงเหมือนเดิมโพลเป็นของ ธุรกิจ ขนาบข้างด้วย เกียรติศักดิ์ ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ ธนกร โดยการลุ้นแชมป์เรซที่ 6 ยังคงเข้มข้นเช่นเคย จบ 15 รอบ แชมป์ตกเป็นของ ธนกร ที่เข้าวิน 2 เรซติดต่อกันด้วยเวลา 27 นาที 35.830 วินาที เฉือน ธุกิจ อันดับ 2 เพียง 0.179 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ชานนท์ ตามหลังแชมป์ 0.412 วินาที
ผ่านการแข่งขัน 3 สนามแรกของปี ผู้นำบนตารางแชมเปี้ยนชิพได้แก่ ธนกร หลักหาญ มีทั้งสิ้น 95 คะแนน อันดับ 2 เป็นของ กรดนัย เกิดแก้ว มี 61 คะแนน ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ วัชรรินทร์ ทับทิบอ่อน มี 58 คะแนน โดยสนามถัดไปของ ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 17-18 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เช่นเคย
แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” และการแข่งขันฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ ตลอดปี 2020 ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม fb.com/aphondaracingth
#WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #RaceToTheDream #APHondaThailand #ThailandTalentCup #MotorSport #APHondaRacingThailand #ORBricSuperbike2020 #ChangInternationalCircuit
63
Sport News & Motor Sport / เช็กตารางแข่ง ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ ดวลเดือดสนามช้าง 26-27 ก.ย. นี้
« on: September 26, 2020, 11:01:14 AM »
เช็กตารางแข่ง ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ ดวลเดือดสนามช้าง 26-27 ก.ย. นี้
ร่วมลุ้นและเชียร์เหล่านักบิดดาวรุ่งอนาคตไกลจากโครงการ ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม ในศึกดวลความเร็ว ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ 2020 สนาม 3 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 26-27 กันยายนนี้ โดยจัดขึ้นเป็นซับพอร์ตเรซในรายการ OR BRIC Superbike 2020
-วันเสาร์ที่ 26 ก.ย. 2563
รอบซ้อม เวลา 8:30-8:50 น.
รอบควอลิฟาย เวลา 13:00-13:20 น.
รอบชิงชนะเลิศ เรซหนึ่ง เวลา 17:15-17:55 น.
-วันอาทิตย์ที่ 27 ก.ย. 2563
รอบวอร์มอัพ เวลา 8:00-8:10 น.
รอบชิงชนะเลิศ เรซสอง เวลา 10:25-11:05 น.
ติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขัน ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ 2020 สนาม 3 ได้ในวันอาทิตย์ที่ 27 ก.ย. นี้ ทาง TRUE4U ช่อง 24 ตั้งแต่เวลา 14.30-17.00 น. หรือ Online Live Streaming ทางเพจ BRIC Superbike และ Chang Circuit Buriram หรือทาง Youtube ช่อง BRIC Channel ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป
แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” และการแข่งขันฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ ตลอดปี 2020 ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม fb.com/aphondaracingth
#WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #RaceToTheDream #APHondaThailand #ThailandTalentCup #MotorSport #APHondaRacingThailand #ORBricSuperbike2020 #ChangInternationalCircuit
64
Sport News & Motor Sport / โออาร์สนาม 3 ระอุ! “ฐิติพงศ์” ตั้งเป้าคัมแบ็ก “นครินทร์” เจ็บ ลุ้นผ่านฟิตลงบิด
« on: September 26, 2020, 10:46:18 AM »
โออาร์สนาม 3 ระอุ! “ฐิติพงศ์” ตั้งเป้าคัมแบ็ก “นครินทร์” เจ็บ ลุ้นผ่านฟิตลงบิดสุดสัปดาห์นี้
“ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร ยอดนักบิดจาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ตั้งเป้าคว้าชัยในศึก OR BRIC Superbike สนาม 3 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ คัมแบ็กสู่เส้นทางป้องกันแชมป์ “ชี้อะไรก็เกิดขึ้นได้” ขณะ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จ่าฝูงจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม พลาดล้มรอบซ้อมบาดเจ็บที่แขนลุ้นผ่านฟิตลงบิดสุดสัปดาห์นี้ ด้าน “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ทนานนท์ ไม่ประมาทหวังยกระดับผลงานให้เร็วกว่าเดิม ส่วน ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เดือดไม่แพ้กัน “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ แชมป์เอเชีย จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม เล็งคว้าแชมป์ประเดิมเรซในไทย แฟนความเร็วลุ้นเดือดวันเสาร์อาทิตย์นี้
ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 เตรียมดวลความเร็วสนามที่ 3 ของปีระหว่างวันที่ 26-27 กันยายนนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
สถานการณ์ในการลุ้นแชมป์รุ่นใหญ่อย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี เอสบี1 ทวีความเข้มข้นอย่างมาก โดย“ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม รั้งจ่าฝูงมีทั้งสิ้น 45 คะแนน เหนือทีมเมทอย่าง “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ เพียง 4 แต้มเท่านั้น ส่วนคู่หูจาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ต้องเจองานยากลำบากในการป้องกันแชมป์ “ซีเค” ชัยวิชิต นิสสกุล รั้งอันดับ 3 ตามหลัง 16 คะแนน ส่วนแชมป์เก่าอย่าง “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร ที่ไม่มีแต้มจากสนามแรกแต่กลับมาขึ้นโพเดี้ยมในสนาม 2 รั้งอันดับ 4 ตามหลังจ่าฝูงถึง 25 คะแนน
โดยล่าสุดนับเป็นข่าวร้ายของ ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม เมื่อ “ชิพ” นครินทร์ จ่าฝูงพลาดล้มจากการซ้อมในโค้ง 8 เมื่อวันพฤหัสบดี จนได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่แขนซ้าย และในวันนี้ก็ไม่สามารถลงซ้อมได้ ซึ่งจะต้องมาลุ้นกันว่าอดีตนักบิดโมโตทรีรายนี้ จะสามารถลงแข่งขันเพื่อรักษาความได้เปรียบบนตารางคะแนนสะสมได้หรือไม่
ขณะที่ ฐิติพงศ์ กล่าวถึงผ่านการซ้อม 2 วันว่า “ตอนนี้เวลาของเรายังไม่ค่อยลงตัวนักในการซ้อม ซึ่งทีมงานก็พยายามทำงานกันอย่างหนัก เพื่อให้พร้อมสำหรับการแข่งบขันสุดสัปดาห์นี้ น่าเสียดายที่สนามแรกผมพลาดล้มจนไม่มีแต้ม แต่ยังกลับมาขึ้นโพเดี้ยมในสนามที่ 2 ได้ ซึ่งในสนามนี้ผมหวังที่จะกลับมาคว้าชัยชนะให้ได้ และเชื่อว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในการลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้”
ด้าน อภิวัฒน์ รองจ่าฝูงจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม ซึ่งตามหลังทีมเมทอยู่ 4 คะแนน กล่าวว่า “จากการซ้อม 2 วันที่ผ่านมา ถือว่าเราพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เวลาต่อรอบที่ทำได้ ผมคิดว่าเราน่าจะเร็วได้กว่านี้ ส่วนในการแข่งขัน ต้องไม่ประมาท เพราะยังเหลืออีก 2 สนาม ผมมีคะแนนตามหลังทีมเมทอยู่ 4 แต้ม เชื่อว่าจะยังคงเป็นงานหนัก ส่วนตัวผมเองจะรักษามาตรฐานการขี่ให้รอบคอบ เพื่อให้สถานการณ์การลุ้นแชมป์ไม่มีความเสี่ยงมากนัก”
ส่วนการแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ซึ่งในสนามนี้มี 3 นักบิดดาวดังระดับเอเชียอย่าง “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รวมถึง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช และ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ จาก เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เข้าร่วมการแข่งขันด้วยถือเป็นการสร้างความเข้มข้นขึ้นอย่างมาก
รัฐพงษ์ กล่าวหลังผ่านการซ้อมทั้งสิ้น 8 เซสชั่น ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาว่า “หลังผ่านการซ้อมถือว่าเราทำงานกันได้อย่างลงตัว แต่ก็ยังมีงานที่ยังต้องมาแก้ไขกันต่อ เพราะต้องลงแข่งด้วยยางที่แตกต่างกันกับรายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ทำให้ต้องมีการเซ็ตติ้งที่ต่างออกไป แต่เวลาโดยรวมถือว่าน่าพอใจครับ ผมตั้งเป้าจะคว้าโพลให้ได้ แน่นอนว่าเป้าหมายคือการคว้าแชมป์ แต่ก็ไม่ประมาทและเราจะทำงานให้อย่างรอบคอบ เพื่อเน้นผลการแข่งขันที่แน่นอน”
สำหรับ มุกข์ลดา ที่ขยับขึ้นมาแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เป็นครั้งแรก กล่าวว่า “มุกข์ ถือเป็นรุกกี้ของรายการนี้เลยค่ะ และก็เป็นงานยากในการปรับตัวเพราะที่ผ่านมาเราแข่บขันในรุ่น 250 ซีซี มาหลายปี แต่หลังจากการซ้อมหลายครั้งในปีนี้ รวมถึงการทดสอบร่วมกับทีมก็มีความคืบหน้าอย่างมาก และการซ้อม 2 วันนี้ก็มีการเก็บข้อมูลหลายอย่าง รวมถึงเรื่องยางที่แตกต่างจากยางที่เราซ้อมสำหรับเรซในเอเชีย ทำให้มีการทำงานเพิ่มขึ้นมาในเรื่องเซ็ตติ้งและการปรับสไตล์การขี่เล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าน่าพอใจ”
ทั้งนี้ ศึก OR BRIC Superbike 2020 สนามที่ 3 จะเข้าโปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 26 กันยายนนี้ และจับเวลารอบควอลิฟายในช่วงบ่ายของวัยเดียวกัน ก่อนจะแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายนนี้
แฟนความเร็วสามารถติดตามชมถ่ายทอดสดการแข่งขันทาง TRUE4U ช่อง 24 เวลา 14.30-17.00 น. และผ่าน Online Live Streaming ทางเพจ BRIC Superbike และ Chang Circuit Buriram หรือทาง Youtube ช่อง BRIC Channel ตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป
NEWS OR BRIC SBK 2020 RACE 3 FRIDAY
“ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร ยอดนักบิดจาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ตั้งเป้าคว้าชัยในศึก OR BRIC Superbike สนาม 3 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ คัมแบ็กสู่เส้นทางป้องกันแชมป์ “ชี้อะไรก็เกิดขึ้นได้” ขณะ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จ่าฝูงจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม พลาดล้มรอบซ้อมบาดเจ็บที่แขนลุ้นผ่านฟิตลงบิดสุดสัปดาห์นี้ ด้าน “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ทนานนท์ ไม่ประมาทหวังยกระดับผลงานให้เร็วกว่าเดิม ส่วน ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เดือดไม่แพ้กัน “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ แชมป์เอเชีย จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม เล็งคว้าแชมป์ประเดิมเรซในไทย แฟนความเร็วลุ้นเดือดวันเสาร์อาทิตย์นี้
ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 เตรียมดวลความเร็วสนามที่ 3 ของปีระหว่างวันที่ 26-27 กันยายนนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
สถานการณ์ในการลุ้นแชมป์รุ่นใหญ่อย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี เอสบี1 ทวีความเข้มข้นอย่างมาก โดย“ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม รั้งจ่าฝูงมีทั้งสิ้น 45 คะแนน เหนือทีมเมทอย่าง “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ เพียง 4 แต้มเท่านั้น ส่วนคู่หูจาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ต้องเจองานยากลำบากในการป้องกันแชมป์ “ซีเค” ชัยวิชิต นิสสกุล รั้งอันดับ 3 ตามหลัง 16 คะแนน ส่วนแชมป์เก่าอย่าง “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร ที่ไม่มีแต้มจากสนามแรกแต่กลับมาขึ้นโพเดี้ยมในสนาม 2 รั้งอันดับ 4 ตามหลังจ่าฝูงถึง 25 คะแนน
โดยล่าสุดนับเป็นข่าวร้ายของ ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม เมื่อ “ชิพ” นครินทร์ จ่าฝูงพลาดล้มจากการซ้อมในโค้ง 8 เมื่อวันพฤหัสบดี จนได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่แขนซ้าย และในวันนี้ก็ไม่สามารถลงซ้อมได้ ซึ่งจะต้องมาลุ้นกันว่าอดีตนักบิดโมโตทรีรายนี้ จะสามารถลงแข่งขันเพื่อรักษาความได้เปรียบบนตารางคะแนนสะสมได้หรือไม่
ขณะที่ ฐิติพงศ์ กล่าวถึงผ่านการซ้อม 2 วันว่า “ตอนนี้เวลาของเรายังไม่ค่อยลงตัวนักในการซ้อม ซึ่งทีมงานก็พยายามทำงานกันอย่างหนัก เพื่อให้พร้อมสำหรับการแข่งบขันสุดสัปดาห์นี้ น่าเสียดายที่สนามแรกผมพลาดล้มจนไม่มีแต้ม แต่ยังกลับมาขึ้นโพเดี้ยมในสนามที่ 2 ได้ ซึ่งในสนามนี้ผมหวังที่จะกลับมาคว้าชัยชนะให้ได้ และเชื่อว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในการลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้”
ด้าน อภิวัฒน์ รองจ่าฝูงจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม ซึ่งตามหลังทีมเมทอยู่ 4 คะแนน กล่าวว่า “จากการซ้อม 2 วันที่ผ่านมา ถือว่าเราพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เวลาต่อรอบที่ทำได้ ผมคิดว่าเราน่าจะเร็วได้กว่านี้ ส่วนในการแข่งขัน ต้องไม่ประมาท เพราะยังเหลืออีก 2 สนาม ผมมีคะแนนตามหลังทีมเมทอยู่ 4 แต้ม เชื่อว่าจะยังคงเป็นงานหนัก ส่วนตัวผมเองจะรักษามาตรฐานการขี่ให้รอบคอบ เพื่อให้สถานการณ์การลุ้นแชมป์ไม่มีความเสี่ยงมากนัก”
ส่วนการแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ซึ่งในสนามนี้มี 3 นักบิดดาวดังระดับเอเชียอย่าง “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รวมถึง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช และ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ จาก เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เข้าร่วมการแข่งขันด้วยถือเป็นการสร้างความเข้มข้นขึ้นอย่างมาก
รัฐพงษ์ กล่าวหลังผ่านการซ้อมทั้งสิ้น 8 เซสชั่น ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาว่า “หลังผ่านการซ้อมถือว่าเราทำงานกันได้อย่างลงตัว แต่ก็ยังมีงานที่ยังต้องมาแก้ไขกันต่อ เพราะต้องลงแข่งด้วยยางที่แตกต่างกันกับรายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ทำให้ต้องมีการเซ็ตติ้งที่ต่างออกไป แต่เวลาโดยรวมถือว่าน่าพอใจครับ ผมตั้งเป้าจะคว้าโพลให้ได้ แน่นอนว่าเป้าหมายคือการคว้าแชมป์ แต่ก็ไม่ประมาทและเราจะทำงานให้อย่างรอบคอบ เพื่อเน้นผลการแข่งขันที่แน่นอน”
สำหรับ มุกข์ลดา ที่ขยับขึ้นมาแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เป็นครั้งแรก กล่าวว่า “มุกข์ ถือเป็นรุกกี้ของรายการนี้เลยค่ะ และก็เป็นงานยากในการปรับตัวเพราะที่ผ่านมาเราแข่บขันในรุ่น 250 ซีซี มาหลายปี แต่หลังจากการซ้อมหลายครั้งในปีนี้ รวมถึงการทดสอบร่วมกับทีมก็มีความคืบหน้าอย่างมาก และการซ้อม 2 วันนี้ก็มีการเก็บข้อมูลหลายอย่าง รวมถึงเรื่องยางที่แตกต่างจากยางที่เราซ้อมสำหรับเรซในเอเชีย ทำให้มีการทำงานเพิ่มขึ้นมาในเรื่องเซ็ตติ้งและการปรับสไตล์การขี่เล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าน่าพอใจ”
ทั้งนี้ ศึก OR BRIC Superbike 2020 สนามที่ 3 จะเข้าโปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 26 กันยายนนี้ และจับเวลารอบควอลิฟายในช่วงบ่ายของวัยเดียวกัน ก่อนจะแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายนนี้
แฟนความเร็วสามารถติดตามชมถ่ายทอดสดการแข่งขันทาง TRUE4U ช่อง 24 เวลา 14.30-17.00 น. และผ่าน Online Live Streaming ทางเพจ BRIC Superbike และ Chang Circuit Buriram หรือทาง Youtube ช่อง BRIC Channel ตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป
65
Sport News & Motor Sport / ปอร์เช่ เป็นเจ้าภาพ จัดกิจกรรมการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่ Esports tournament with Forz
« on: September 25, 2020, 07:21:42 AM »
ปอร์เช่ เป็นเจ้าภาพ จัดกิจกรรมการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่ Esports tournament with Forza ครั้งแรกใน เอเชียแปซิฟิก"
สิงคโปร์/ออสเตรเลีย. ครั้งแรกของภูมิภาคด้วยความร่วมมือของ Porsche Asia Pacific และ Porsche Cars Australia ประสานพลังกับแพลตฟอร์มเกมส์แข่งรถชื่อดัง Forza Motorsport 7 เนรมิตกิจกรรมการแข่งขัน simulation racing tournament ภายใต้ชื่อ Porsche Asia Pacific Forza Cup
โปรแกรมการแข่งขันที่เปิดให้เข้าร่วมลงทะเบียน online อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วรอคอยเหล่านักขับเกมเมอร์ ยอดฝีมือทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก ระเบิดสงครามความเร็วสุดตื่นเต้นและท้าทายบนสนามแข่งเสมือนจริงของ Forza Motorsport 7 อาทิ Bathurst, Nürburgring, Le Mans, Silverstone และ Hockenheimring
นักแข่งทั้งหมดจะเข้าร่วมแข่งขันเพื่อสะสมคะแนนรอบจัดอันดับใน 3 สนามแรก โดยมีกำหนดการแข่งขันแต่ละสนาม ทุกสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน ถึง 18 ตุลาคม เมื่อจบการแข่งขันสนามที่ 3 นักแข่งที่มีคะแนนสูงสุด 16 อันดับแรก จะได้รับการคัดเลือกให้ผ่านเข้าไปแข่งต่อในรอบสุดท้าย ภายใต้ข้อจำกัดให้มีผู้เข้ารอบสุดท้ายจากประเทศเดียวกันได้มาก ที่สุดเพียง 3 ราย ส่งผลต่อการขับเคี่ยวที่ทวีความดุเดือดเข้มข้นเป็นพิเศษ เพื่อเป้าหมายในการคว้าตำแหน่งแชมเปี้ยน คนแรกของรายการ Porsche Asia Pacific Forza Cup – ในส่วนของการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ Grand Finals จะจัดขึ้นในวันที่ 31ตุลาคม
ผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 16 คน และผู้เข้าแข่งขันที่มีอันดับสูงสุด 3 อันดับแรก จะได้รับรางวัลจากผลิตภัณฑ์ Porsche Driver’s Selection และ HUGO BOSS ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของ Porsche Asia Pacific Forza Cup
สำหรับผู้ชนะจะได้รับโอกาสสุดพิเศษ เข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การขับรถแข่งจริงจากกิจกรรม track experience ที่ Porsche Experience Centre Hockenheimring ในปี 2021 ซึ่งจะนำแชมเปี้ยนลงสนามทดสอบประสิทธิภาพ การบังคับควบคุม Centre’s handling track, สนามทดสอบ off-road course และ dynamic surface เปิดโลกใหม่ แห่งการขับขี่รถแข่งสมรรถนะสูงในระดับที่เหนือขึ้นไปอีกขั้น
โลดแล่นไปบนสนามแข่งความเร็วสูงด้วยโปรแกรมการแข่งขัน Porsche Asia Pacific Forza Cup
สงครามความเร็วออนไลน์นี้เปิดให้ผู้สนใจที่มี Xbox game ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเข้าร่วมกิจกรรม โดยสามารถเข้าระบบ ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ PC, Xbox One, Xbox One S, หรือ Xbox One X เพื่อลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน หรือสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมในส่วนของรายละเอียดการแข่งขันและตารางคะแนนสะสมได้ที่: https://porscheapforzacup.com/
รอบจัดอันดับสนามแรก: วันที่ 29 กันยายน (00:00 GMT+8) ถึงวันที่ 4 ตุลาคม (23:59 GMT+8)
ประเดิมสนามแรกด้วยปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) ยนตรกรรมซูเปอร์สปอร์ตสมรรถนะสูงสร้างชื่อเสียงในฐานะ รถยนต์จากสายการผลิตปกติคันแรกที่สามารถทำลายสถิติเวลาต่อรอบสนาม Nürburgring Nordschleife เมื่อปี 2013 ด้วยตัวเลขระดับ 7 นาที พร้อมประลองความเร็วบนสนาม Forza Motorsport 7 Bathurst อันสวยงามราวกับรางรถไฟ เหาะด้วยการผสมผสานระหว่างโค้งความเร็วสูงและความเร็วต่ำกว่า 23 โค้งและความลาดชันของสนามที่สูงสุดถึง 16 เปอร์เซ็นต์
รอบจัดอันดับสนามที่ 2 : วันที่ 6 ตุลาคม (00:00 GMT+8) ถึงวันที่ 11 ตุลาคม (23:59 GMT+8)
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะได้รับโอกาสขับขี่ในสนามแข่งระดับตำนาน Nürburgring Nordschleife ที่บรรดาผู้รักความเร็ว ทั่วโลกล้วนต้องการพิชิตให้ได้สักครั้งในชีวิตกุมบังเหียนม้าศึกคู่ใจปอร์เช่ 911 จีที 3 อาร์เอส (911 GT3 RS) รถสปอร์ตคลาสสิก 911 ที่ทรงพลังที่สุด ซึ่งยังคงสามารถนำมาวิ่งบนถนนสาธารณะได้ถูกต้องตามกฎหมายจราจรเเละ ก้าวข้ามทุกขีดจำกัดด้วยเครื่องยนต์ขนาดความจุ 4.0 ลิตร 6 สูบ ไร้ระบบอัดอากาศ
รอบจัดอันดับสนามที่ 3 : วันที่ 13 ตุลาคม (00:00 GMT+8) ถึงวันที่ 18 ตุลาคม (23:59 GMT+8)
การแข่งขันรอบจัดอันดับสนามที่ 3 นำพานักขับไปยัง Le Mans ลงสนามหลังพวงมาลัยรถแข่งเจ้าของตำแหน่งแชมป์ 3 สมัยติดต่อกันในรายการประลองความเร็วสุดทรหด 24 Hours of Le Mans ด้วยปอร์เช่ 919 ไฮบริด (Porsche 919 Hybrid) รถคันนี้ยังควบสถิติเจ้าของตำแหน่งโพล 2 ครั้ง พร้อมคว้าแชมป์อีกหกสนามจากรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ World Endurance Championship ตั้งแต่ปี 2015 ถึง 2017
Porsche Asia Pacific Forza Cup – รอบชิงชนะเลิศ Grand Finals: วันที่ 31 ตุลาคม (Starts at 18:00 GMT+8)
ปิดท้ายความเร้าใจด้วยผู้เข้ารอบสุดท้าย 16 ราย ซึ่งจำกัดจำนวนไม่เกิน 3 คนจากแต่ละประเทศกลับสู่จุดกำเนิด อันเรียบง่ายตามแนวคิดของ Porsche Asia Pacific Forza Cup ชิงความเป็นหนึ่งใน 2 สนามสุดท้าย ด้วยปอร์เช่ เคย์แมน จีที 4 คลับสปอร์ต (Porsche Cayman GT4 Clubsport) รถสปอร์ตที่ถือได้ว่าเป็นตัวแทนของรถแข่งสายสนามพันธุ์แท้ โดดเด่นด้วยน้ำหนักตัวที่เบาให้ดุลยภาพระหว่างสมรรถนะและการบังคับควบคุมที่ยอดเยี่ยม
เริ่มการแข่งขันรอบชิงในสนามที่ 1 ด้วย Forza Motorsport 7 Silverstone บ้านเกิดของ British Grand Prix และหนึ่งในสนามแข่งรถ Formula 1TM ที่ทำความเร็วได้สูงที่สุดในฤดูกาลแท้จริงแล้วเส้นทางรอบสนาม Silverstone เคยเป็นส่วนหนึ่งของสนามบินซึ่งสามารถรองรับการขึ้นลงของเครื่องบินเจ็ทความเร็วเหนือเสียง!
ผู้แข่งขันที่เดินทางมาถึงการเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย บนสนามที่ 2 ของการคั่วตำแหน่งแชมป์ Hockenheimring เป็นอีกหนึ่ง ตำนานความเร็วที่ปฎิเสธไม่ได้ เส้นทางอันเปรียบเสมือนสนามหลังบ้านของ German Grand Prix ซึ่งจัดเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมารวมทั้งเป็นที่ตั้งของ Porsche Experience Centre ใหม่ล่าสุดแห่งที่ 7 ของโลกอีกด้วย
66
Sport News & Motor Sport / “OR BRIC Superbike” เรตติ้ง” กระฉูด! สองค่ายยักษ์ดันดาวดังระดับเอเชียสู้ศึก 600
« on: September 22, 2020, 03:45:52 PM »
“OR BRIC Superbike” เรตติ้ง” กระฉูด! สองค่ายยักษ์ดันดาวดังระดับเอเชียสู้ศึก 600 ซีซี ดวลสุดสัปดาห์นี้
ศึก 2 ล้อชิงแชมป์ประเทศไทย “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020” เตรียมระเบิดความมันส์สนามที่ 3 วันที่ 26-27 กันยายนนี้ โดยสนามที่ผ่านมาเรตติ้งผู้ชมออนไลน์สูงขึ้น 3 เท่า ยอด Reach ทะลุ 4 แสน “สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” โปรโมเตอร์เผยความนิยมพุ่งสูงจากความเข้มข้นของการลุ้นแชมป์ของนักบิดไทยระดับเอเชีย อาทิ “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร, “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ และ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ที่ขับเคี่ยวกันอย่างหนัก รวมทั้งสถานการ์สุดเดือดที่พลิกให้การแข่งขันเป็นเกมส์พรีเมี่ยมระดับเอเชีย โดย เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ประกาศส่ง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช และ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ และ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ประกาศส่ง “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ยอดฝีมือจากศึกเอเชีย มาร่วมลงแข่งในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (เอสเอส1) สุดสัปดาห์แฟนความเร็วลุ้นกันสุดมันส์แน่นอน
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 (OR BRIC Superbike Championship 2020) เตรียมดวลความเร็วสนามที่ 3 ของปีระหว่างวันที่ 26-27 กันยายนนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
สุดยอดการแข่งขันซูเปอร์ไบค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองไทย เปิดฉากดวลความเร็วมาแล้ว 2 สนาม โดยในสนามที่ผ่านมา นับเป็นรายการแข่งขันแรกที่เปิดให้มีผู้ชมเข้าชมเกมในสนาม จำกัดที่ 6,000 คนต่อวัน จากมาตรการที่รัดกุมเพื่อป้องกันการระบาดของ “โควิด-19”
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า “ภายหลังผ่านการแข่งขัน 2 สนามแรกของปีสถานการณ์ลุ้นแชมป์ของทุกคลาส ทวีความเข้มข้นขึ้นอย่างมาก โดยสนามที่ 3 ซึ่งจะมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้จะถือเป็นการกำหนดการลุ้นแชมป์ของฤดูกาล 2020 เลยก็ว่าได้”
โดยการลุ้นแชมป์ในรุ่นใหญ่ที่สุดของเมืองไทยอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (เอสบี1) ผู้นำเปลี่ยนมาเป็นของ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม แชมป์สนามที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 45 คะแนน เหนือทีมเมทอย่าง “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ เพียง 4 แต้มเท่านั้น ส่วนคู่หูจาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ต้องเจองานยากลำบากในการป้องกันแชมป์ “ซีเค” ชัยวิชิต นิสสกุล รั้งอันดับ 3 ตามหลัง 16 คะแนน ส่วนแชมป์เก่าอย่าง “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร ที่ไม่มีแต้มจากสนามแรกแต่กลับมาขึ้นโพเดี้ยมในสนาม 2 รั้งอันดับ 4 ตามหลังจ่าฝูงถึง 25 คะแนน
ส่วนสถานการณ์ในรุ่น ซูเปอร์สต็อก 1,000 ซีซี (เอสที1) “ชานนท์ ชุ่มใจ” จาก ยามาฮ่า ไดนาโวลต์ อาร์ซีที รั้งจ่าฝูงมีทั้งสิ้น 45 คะแนน เหนือ “สิรภพ พูลศรี” จาก ยามาฮ่า ดิออน แคปิตอล ยาโมโตสปอร์ต อันดับ 2 อยู่ 9 คะแนน ตามด้วย “อัศวิน คงทนไพศาล” จาก โกโก้ เรซซิ่ง ตามหลัง 18 คะแนน
ด้านการลุ้นแชมป์ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (เอสเอส1) ซึ่งถือเป็นอีกรุ่นไฮไลต์ของ OR BRIC Superbike ฤดูกาลนี้ ความได้เปรียบอยู่กับ “คณาทัต ใจมั่น” นักบิดหนุ่มจาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี เคเอ็นบี เรซซิ่ง ทีม ที่คว้าชัยชนะ 2 สนามแรก รั้งจ่าฝูงโดยมี 50 แต้มเต็ม เหนือคู่แข่งคนสำคัญอย่าง “สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง” จาก ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง คลับ อยู่ 10 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เป็นของ “นิติพงศ์ แสงสว่าง” ดาวรุ่งจาก ยามาฮ่า ทีเอส เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 18 คะแนน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดในคลาส ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (เอสเอส1) สนามนี้ ขับเคี่ยวกันดุเดือดแน่นอน เพราะมีนักแข่งยอดฝีมือ ดาวดังระดับเอเชีย ตบเท้าเข้าร่วมมากมาย เริ่มจาก เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ทีมแข่งชั้นนำของไทย ประกาศส่ง 2 นักบิดฝีมือดี “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช และ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ ลงแข่งขัน หลังศึกชิงแชมป์ทวีปเอเชียอย่าง เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2020 ถูกยกเลิกการแข่งขันจากพิษโควิด-19
ส่วน ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ประกาศส่ง “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ลงแข่งขัน หลังศึกชิงแชมป์เอเชียถูกยกเลิกเช่นกัน นอกจากนี้ ยังได้รับการยืนยันจาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด หนึ่งในยอดทีมแข่งของไทยจะดัน “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล อดีตแชมป์ในคลาส ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี ขยับขึ้นมาแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (เอสเอส1) สนามที่ 3 ในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งจะทำให้การแข่งขันเข้มข้นขึ้นอย่างมาก
“เห็นได้ชัดว่าในปีนี้ OR BRIC Superbike ได้รับความนิยมขึ้นสูงมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ในรุ่นใหญ่อย่าง ซูเปอร์ไบค์ เอสบี1 มีนักบิดชั้นนำจากเวทีเอเชียมาแข่งขันด้วย และการแข่งขันใน 2 สนามแรกก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ซีรีส์ชิงแชมป์ประเทศไทยมีมาตรฐานสูงไม่แพ้การชมเกมระดับโลกเลย ผมเชื่อว่าสนามที่ 3 ซึ่งมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ จะมีความเข้มข้นกว่าทุกๆ สนามที่ผ่านมา เพราะจะเป็นสนามที่ชี้ว่าสถานการณ์ลุ้นแชมป์จะเป็นเช่นไรก่อนเข้าสู่สนามสุดท้ายเพื่อตัดสินแชมป์กันอีกครั้ง” นายตนัยศิริ เผย
นายตนัยศิริ กล่าวถึงผลตอบรับของ OR BRIC Superbike Championship ฤดูกาล 2020 ว่า “เรายังได้รับการตอบรับที่ท่วมท้นผ่านการถ่ายทอดสด โดยเฉพาะทางระบบ ออนไลน์สตรีมมิ่ง มียอดการเข้าถึง หรือ ยอด reach เพื่อเข้าชมการถ่ายทอดสด สูงสุดเฉลี่ยกว่าสนามละ 4 แสนคน เติบโตจากปีที่ผ่านมาเกือบ 3 เท่าตัว รวมถึงการขยายการถ่ายทอดสดไปยัง 3 ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว, เมียนมาร์ และ กัมพูชา ก็ถือเป็นหนึ่งในแผนการเพิ่มความนิยมของ OR BRIC Superbike Championship ด้วยเช่นกัน”
ทั้งนี้ ศึก OR BRIC Superbike Championship สนามที่ 3 จะเข้าโปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 26 กันยายนนี้ และจับเวลารอบควอลิฟายในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ก่อนจะแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายนนี้
แฟนความเร็วสามารถติดตามชมถ่ายทอดสดการแข่งขันทาง TRUE4U ช่อง 24 เวลา 14.30-17.00 น. และผ่าน Online Live Streaming ทางเพจ BRIC Superbike และ Chang Circuit Buriram หรือทาง Youtube ช่อง BRIC Channel ตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป
OR BRIC สนามที่ 2 วันแข่ง 6 9 63
ศึก 2 ล้อชิงแชมป์ประเทศไทย “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020” เตรียมระเบิดความมันส์สนามที่ 3 วันที่ 26-27 กันยายนนี้ โดยสนามที่ผ่านมาเรตติ้งผู้ชมออนไลน์สูงขึ้น 3 เท่า ยอด Reach ทะลุ 4 แสน “สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” โปรโมเตอร์เผยความนิยมพุ่งสูงจากความเข้มข้นของการลุ้นแชมป์ของนักบิดไทยระดับเอเชีย อาทิ “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร, “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ และ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ที่ขับเคี่ยวกันอย่างหนัก รวมทั้งสถานการ์สุดเดือดที่พลิกให้การแข่งขันเป็นเกมส์พรีเมี่ยมระดับเอเชีย โดย เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ประกาศส่ง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช และ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ และ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ประกาศส่ง “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ยอดฝีมือจากศึกเอเชีย มาร่วมลงแข่งในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (เอสเอส1) สุดสัปดาห์แฟนความเร็วลุ้นกันสุดมันส์แน่นอน
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2020 (OR BRIC Superbike Championship 2020) เตรียมดวลความเร็วสนามที่ 3 ของปีระหว่างวันที่ 26-27 กันยายนนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
สุดยอดการแข่งขันซูเปอร์ไบค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองไทย เปิดฉากดวลความเร็วมาแล้ว 2 สนาม โดยในสนามที่ผ่านมา นับเป็นรายการแข่งขันแรกที่เปิดให้มีผู้ชมเข้าชมเกมในสนาม จำกัดที่ 6,000 คนต่อวัน จากมาตรการที่รัดกุมเพื่อป้องกันการระบาดของ “โควิด-19”
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า “ภายหลังผ่านการแข่งขัน 2 สนามแรกของปีสถานการณ์ลุ้นแชมป์ของทุกคลาส ทวีความเข้มข้นขึ้นอย่างมาก โดยสนามที่ 3 ซึ่งจะมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้จะถือเป็นการกำหนดการลุ้นแชมป์ของฤดูกาล 2020 เลยก็ว่าได้”
โดยการลุ้นแชมป์ในรุ่นใหญ่ที่สุดของเมืองไทยอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (เอสบี1) ผู้นำเปลี่ยนมาเป็นของ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีจาก ยามาฮ่า เพาเวอร์สปีด วีไอพี 123 เรซซิ่ง ทีม แชมป์สนามที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 45 คะแนน เหนือทีมเมทอย่าง “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ เพียง 4 แต้มเท่านั้น ส่วนคู่หูจาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ต้องเจองานยากลำบากในการป้องกันแชมป์ “ซีเค” ชัยวิชิต นิสสกุล รั้งอันดับ 3 ตามหลัง 16 คะแนน ส่วนแชมป์เก่าอย่าง “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร ที่ไม่มีแต้มจากสนามแรกแต่กลับมาขึ้นโพเดี้ยมในสนาม 2 รั้งอันดับ 4 ตามหลังจ่าฝูงถึง 25 คะแนน
ส่วนสถานการณ์ในรุ่น ซูเปอร์สต็อก 1,000 ซีซี (เอสที1) “ชานนท์ ชุ่มใจ” จาก ยามาฮ่า ไดนาโวลต์ อาร์ซีที รั้งจ่าฝูงมีทั้งสิ้น 45 คะแนน เหนือ “สิรภพ พูลศรี” จาก ยามาฮ่า ดิออน แคปิตอล ยาโมโตสปอร์ต อันดับ 2 อยู่ 9 คะแนน ตามด้วย “อัศวิน คงทนไพศาล” จาก โกโก้ เรซซิ่ง ตามหลัง 18 คะแนน
ด้านการลุ้นแชมป์ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (เอสเอส1) ซึ่งถือเป็นอีกรุ่นไฮไลต์ของ OR BRIC Superbike ฤดูกาลนี้ ความได้เปรียบอยู่กับ “คณาทัต ใจมั่น” นักบิดหนุ่มจาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด ดี.ไอ.ดี. เออห์ลิน กิ๊กะไบค์ ลิควิ โมลี เคเอ็นบี เรซซิ่ง ทีม ที่คว้าชัยชนะ 2 สนามแรก รั้งจ่าฝูงโดยมี 50 แต้มเต็ม เหนือคู่แข่งคนสำคัญอย่าง “สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง” จาก ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง คลับ อยู่ 10 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เป็นของ “นิติพงศ์ แสงสว่าง” ดาวรุ่งจาก ยามาฮ่า ทีเอส เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 18 คะแนน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดในคลาส ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (เอสเอส1) สนามนี้ ขับเคี่ยวกันดุเดือดแน่นอน เพราะมีนักแข่งยอดฝีมือ ดาวดังระดับเอเชีย ตบเท้าเข้าร่วมมากมาย เริ่มจาก เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ทีมแข่งชั้นนำของไทย ประกาศส่ง 2 นักบิดฝีมือดี “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช และ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ ลงแข่งขัน หลังศึกชิงแชมป์ทวีปเอเชียอย่าง เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2020 ถูกยกเลิกการแข่งขันจากพิษโควิด-19
ส่วน ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ประกาศส่ง “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ลงแข่งขัน หลังศึกชิงแชมป์เอเชียถูกยกเลิกเช่นกัน นอกจากนี้ ยังได้รับการยืนยันจาก ยามาฮ่า พิเรลลี ไฮสปีด หนึ่งในยอดทีมแข่งของไทยจะดัน “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล อดีตแชมป์ในคลาส ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี ขยับขึ้นมาแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (เอสเอส1) สนามที่ 3 ในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งจะทำให้การแข่งขันเข้มข้นขึ้นอย่างมาก
“เห็นได้ชัดว่าในปีนี้ OR BRIC Superbike ได้รับความนิยมขึ้นสูงมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ในรุ่นใหญ่อย่าง ซูเปอร์ไบค์ เอสบี1 มีนักบิดชั้นนำจากเวทีเอเชียมาแข่งขันด้วย และการแข่งขันใน 2 สนามแรกก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ซีรีส์ชิงแชมป์ประเทศไทยมีมาตรฐานสูงไม่แพ้การชมเกมระดับโลกเลย ผมเชื่อว่าสนามที่ 3 ซึ่งมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ จะมีความเข้มข้นกว่าทุกๆ สนามที่ผ่านมา เพราะจะเป็นสนามที่ชี้ว่าสถานการณ์ลุ้นแชมป์จะเป็นเช่นไรก่อนเข้าสู่สนามสุดท้ายเพื่อตัดสินแชมป์กันอีกครั้ง” นายตนัยศิริ เผย
นายตนัยศิริ กล่าวถึงผลตอบรับของ OR BRIC Superbike Championship ฤดูกาล 2020 ว่า “เรายังได้รับการตอบรับที่ท่วมท้นผ่านการถ่ายทอดสด โดยเฉพาะทางระบบ ออนไลน์สตรีมมิ่ง มียอดการเข้าถึง หรือ ยอด reach เพื่อเข้าชมการถ่ายทอดสด สูงสุดเฉลี่ยกว่าสนามละ 4 แสนคน เติบโตจากปีที่ผ่านมาเกือบ 3 เท่าตัว รวมถึงการขยายการถ่ายทอดสดไปยัง 3 ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว, เมียนมาร์ และ กัมพูชา ก็ถือเป็นหนึ่งในแผนการเพิ่มความนิยมของ OR BRIC Superbike Championship ด้วยเช่นกัน”
ทั้งนี้ ศึก OR BRIC Superbike Championship สนามที่ 3 จะเข้าโปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 26 กันยายนนี้ และจับเวลารอบควอลิฟายในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ก่อนจะแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายนนี้
แฟนความเร็วสามารถติดตามชมถ่ายทอดสดการแข่งขันทาง TRUE4U ช่อง 24 เวลา 14.30-17.00 น. และผ่าน Online Live Streaming ทางเพจ BRIC Superbike และ Chang Circuit Buriram หรือทาง Youtube ช่อง BRIC Channel ตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป
67
Sport News & Motor Sport / นิตยสาร @Kitchen ชวนร่วมสนุกกับแรลลี่วิถีใหม่ “@Kitchen Rally ปีที่ 8 รวมพล
« on: September 21, 2020, 07:29:24 AM »
นิตยสาร @Kitchen ชวนร่วมสนุกกับแรลลี่วิถีใหม่ “@Kitchen Rally ปีที่ 8 รวมพลคน Eco โกเมืองกาญจน์”
@Kitchen นิตยสารเพื่อคนรักครัว จัดทริปพิเศษเอาใจผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมเอาต์ติงสุดชิคที่จะได้เพลิดเพลินกับการแข่งขันแรลลี่แสนสนุกท่ามกลางธรรมชาติ กับกิจกรรม “@Kitchen Rally #8 รวมพลคน Eco โกเมืองกาญจน์” เส้นทางกรุงเทพฯ – กาญจนบุรี ในระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2563 ณ อเวย์ กาญจนบุรี เทวมันตร์ทรา รีสอร์ตแอนด์สปา รีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาว ริมแม่น้ำแควใหญ่ ใกล้ชิดธรรมชาติ
โดยผู้เข้าร่วมแข่งขันเริ่มลงทะเบียน ณ โชว์รูม บุญถาวร ถนนบรมราชชนนี เพื่อรับเบอร์รถ เสื้อ กติกา Snack Box และ Gift Set จากนั้นเพลิดเพลินกับกิจกรรมสุดสนุกพร้อมชมวิวสวยๆ ตลอดเส้นทาง อาทิ กิจกรรมถ่ายภาพที่ร้านคาเฟ่ในสไตล์ New Normal, ทำป๊อปคอร์นสุด DIY และกิจกรรม CSR ร่วมแบ่งปันน้ำใจให้น้องๆ ในโครงการ "อิ่มท้อง น้องอิ่มด้วย ปีที่ 8" ที่โรงเรียนวัดพุน้อย จ.กาญจนบุรี ปิดท้ายด้วยอาหารมื้อพิเศษและปาร์ตี้กลางคืนสุดเก๋กับกิจกรรมประกวดการแต่งกายในธีม แต่งตัวลอยกระทง ให้มงลง นอกจากนี้ผู้เข้าแข่งขันยังได้ร่วมลุ้นรางวัลรวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท อาทิ ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ภายในประเทศ 2 ที่นั่ง, เครื่องใช้ไฟฟ้า,เครื่องดูดฝุ่น, เครื่องกรองน้ำ, Gift voucher และอื่นๆ อีกมากมาย
มั่นใจ สะอาด ปลอดภัยไปกับแรลลี่วิถีใหม่ด้วยมาตรการป้องกันสุดเข้มข้น อาทิ ตรวจวัดอุณหภูมิห้ามเกิน 37.5°C, ผู้ร่วมเดินทางสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา, รักษาระยะห่าง Social Distancing1-2 เมตร, มีบริการเจลแอลกอฮอล์ทุกจุดที่ทำกิจกรรม และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในการทำความสะอาดที่พักบริเวณพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยๆ เช่น ผ้าปูที่นอนและผ้าเช็ดตัวซักด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 60°C ยึดแนวทางปฏิบัติการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อโรคของ Safety and Health Administration และยึดแนวทางปฏิบัติการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อโรคของ Safe Travels (WTTC-Global)
ติดตามรายละเอียดและใบสมัครได้ที่ www.atkitchenmag.com และ FB: @Kitchen Magazine
** สมัครร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันนี้ - 5 ตุลาคม 2563
กรอกแบบฟอร์มเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ https://forms.gle/sC5e3yzExJP3qFNq6
หรือดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ https://bit.ly/3gMTpES
• ผู้ร่วมแข่งขัน 2 ท่าน ต่อรถ 1 คัน ราคา 6,900 บาท
พิเศษ! สำหรับสมาชิกนิตยสาร @Kitchen และ Gourmet & Cuisine ราคา 6,400 บาท
(อัตรานี้รวมค่าที่พัก 1 คืน, ค่าอาหาร พร้อมรับเสื้อกิจกรรมแรลลี่ จำนวน 2 ตัว)
หมายเหตุ
เด็กอายุ 6-11 ปี มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 1,500 บาท/คน (อาหารทุกมื้อ+เสื้อ)
เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป มีเตียงเสริมเพิ่ม 3,500 บาท/คน (เตียงเสริม+อาหารทุกมื้อ+เสื้อ)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
คุณรัตติกาล (องุ่น) 0-2691-4126 ต่อ1313 หรือ คุณน้ำผึ้ง 0-2691-5753 ต่อ 1405
หรือ Line ID : send2ma
68
Sport News & Motor Sport / สองคู่สุดเดือด!! "เพชรมรกต" ป้องแชมป์โลกสำเร็จ "กัปปิตัน" ปิดจ๊อบไวชนะน็อกใน 6วิ
« on: September 20, 2020, 11:56:33 AM »
สองคู่สุดเดือด!! "เพชรมรกต" ป้องแชมป์โลกสำเร็จ "กัปปิตัน" ปิดจ๊อบไวชนะน็อกใน 6 วินาที
ONE : A NEW BREED III สุดมันส์ "เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี" ชนะน็อก "แม็กนัส แอนเดอร์สัน" ผู้ท้าชิงชาวสวีเดน ยก 3 ป้องกันแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ไว้ได้อย่างสวยงาม เจ้าตัวเผย ชกได้ตามแผนที่เตรียมมา ส่วนครั้งหน้าอยากท้าชน "เปรโตเซียน" ในรูปแบบมวยไทย ขณะที่คู่คิกบ็อกซิ่ง “กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี” แทบไม่เสียเหงื่อ เอาชนะน็อก "เพชรทนง" ไปเพียงแค่ยกแรก ใช้เวลาไปเพียงแค่ 6 วินาที
การแข่งขัน วัน แชมเปียนชิพ ONE: A NEW BREED III ภาคสุดท้ายของซีรีส์ ออกอากาศบันทึกการแข่งขันไปสู่แฟน ๆ กว่า 150 ประเทศทั่วโลกได้รับชมอย่างยิ่งใหญ่ โดยไฮไลต์อยู่ที่ คู่เอก “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” วัย 26 ปี ป้องกันแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต กับ “แม็กนัส แอนเดอร์สัน” ผู้ท้าชิงชาวสวีเดนวัย 26 ปีเท่ากัน
เปิดฉากยกแรก ทั้งคู่ปักหลักซดอาวุธกันทันที เพชรมรกต ดูเชิงด้วยการเน้นเตะซ้าย ขณะที่ แอนเดอร์สัน เก็บอาวุธและมีโต้ด้วยแข้งเช่นกัน ปลายยกเข้าจับวงใน ซึ่ง เพชรมรกต มีขวางหน้าโชว์ตามแบบฉบับสไตล์มวยไทย ต่อด้วยยกสอง เพชรมรกต เดินไล่ต้อนคู่ชกเข้ามุมแล้วตามด้วยยิงหมัดและฟันศอก ฝั่ง แอนเดอร์สัน ยังคงวนออกข้างเน้นป้องกันตัวและมีออกแข้งโต้นักชกไทยอยู่ตลอด ยกสาม ถือเป็นยกอวสานของนักชกชาวสวีดิช เมื่อ เพชรมรกต เร่งเครื่องเต็มที่ต้อนเข้าเชือกแล้วยิงหมัดเข้าเต็มปลายคางของ แอนเดอร์สัน ซึ่งผู้ท้าชิงชาวสวีเดนโดนหมัดนี้เข้าไปออกอาการเมา ทำให้กรรมการนับถึงแปด จากนั้นออกมาสู้กันใหม่ เพชรมรกต ไม่ปล่อยวินาทีทองหลุดลอย ไล่ยำใหญ่ยิงหมัดเป็นชุด กรรมการชี้ขาดทนดูไม่ได้ตัดสินใจยุติการชก แล้วตัดสินให้ เพชรมรกต เอาชนะน็อกไปในยกที่ 3 ป้องกันแชมป์ครั้งแรกไว้ได้อย่างสวยงาม
หลังเกม “เพชรมรกต” กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่สามารถป้องกันแชมป์โลกครั้งนี้เอาไว้ได้ ซึ่งการเตรียมตัวก่อนชิงแชมป์ไฟต์นี้ ถือว่าทำได้ตามแผนที่วางไว้ คือ ยกแรกเดินเข้าหา จากนั้นยกสองและยกสามก็ค่อย ๆ เดินเบียดเร็วขึ้น ส่วนคู่ชกครั้งต่อไป อยากให้ “เปรโตเซียน” มาชกมวยไทยกับตนเองดูสักครั้ง
ส่วนคู่รอง ชกกันในรูปแบบคิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต ระหว่าง “กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี” เจอกับนักชกรุ่นพี่อย่าง “เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส” ซึ่งรูปเกมจบลงแบบที่ทั้งคู่เหงื่อยังไม่ทันซึม หลังจากระฆังยกแรกดังขึ้น กัปปิตัน พุ่งเข้าหาทันทีตามด้วยแย๊บซ้ายสองหมัด แล้วตามด้วยยิงหมัดขวาตรง โดยดอกนี้เข้าเต็ม ๆ ปลายคางของเพชรทนง ส่งให้ เพชรทนง ล้มหงายท้อง ศีรษะกระแทกกับพื้นผ้าใบอย่างจัง กรรมการไม่นับ ตัดสินให้ กัปปิตัน ชนะน็อกไปในยกที่ 1 ด้วยเวลาเพียงแค่ 6 วินาทีเท่านั้น
หลังการชก “กัปปิตัน” ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกดีใจมากที่ชนะครั้งนี้ ขอขอบคุณ "เสี่ยโบ๊ท" ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ เพชรยินดี ที่ให้โอกาสมาชกในศึก วัน แชมเปียนชิพ สำหรับการฝึกซ้อมไฟต์นี้ตนเองเตรียมตัวมานานกว่า 1 เดือน ส่วนสำคัญเลยก็คือการเตรียมหมัดและลูกเตะขา แล้วก็แก้ทางรุ่นพี่มาอย่างดี จนเป็นที่มาของชัยชนะในครั้งนี้นั่นเอง
ขณะที่คู่ค้ำ ริกะ อิชิเกะ นักสู้สาวสวยลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น คืนสังเวียนการต่อสู้ในรูปแบบผสมผสาน (MMA) รุ่นอะตอมเวต อีกครั้ง เจอกับ "น้องอิ๋ว" สุนิษา ศรีแสน นักสู้น้องใหม่สายเลือดไทย-ลาว วัย 20 ปี เปิดฉากยกแรก ทั้งคู่ยังไม่เร่งมาก ปักหลักดูเชิงกันกลางเวที ยังไม่มีจังหวะจับล็อกกัน เนื่องจาก ริกะ และสุนิษา ต่างก็จับจังหวะดูอาวุธกันที่วงนอกตลอดทั้งยก ยกสอง เกมเข้มข้นมากขึ้น เมื่อ ริกะ เดินเข้าหา สุนิษาไม่ผลีผลามถอยฉากวนออกข้าง ซึ่ง สุนิษา เตรียมหมัดมาสู้โดยเฉพาะ มีหมัดแย๊บคอยรบกวนตลอด ไม่เน้นปล้ำ เพราะรู้ตัวเองเป็นรองเรื่องประสบการณ์ในการปล้ำจับล็อก ปลายยกที่สอง ริกะเข้าล็อกคอสุนิษาได้แล้ว แต่ระฆังดังหมดช่วยสุนิษาไว้ได้ ยกสาม ริกะ เดินเกมเข้าหาเหมือนเดิม มีบังแข้งรุ่นน้องแล้วถีบและแลกเตะกันหลายชุด ช่วงกลางยกทั้งคู่เข้าวงในปล้ำสู้กัน โดนกรรมการชูใบเหลืองให้ทั้งคู่ จากนั้นปล้ำกันอีกหนึ่งชุด แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ หมดยกสุดท้าย กรรมการรวบคะแนนแล้วตัดสินให้ "น้องอิ๋ว" สุนิษา ศรีแสน เป็นฝ่ายชนะคะแนนไป
หลังเกม “สุนิษา” ร่ำไห้ด้วยความดีใจที่สามารถสยบเอาชนะไอดอลของเธอ โดย สุนิษา กล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก และขอขอบคุณวันแชมเปียนชิพที่ให้โอกาสมาชกในเวทีต่อสู้ระดับโลก ขอขอบคุณอาจารย์กอก ที่คอยเป็นเทรนเนอร์ในการฝึกซ้อมให้จนคว้าชัยชนะ เก็บสถิติการชนะครั้งแรกในรายการนี้ ซึ่งโค้ชได้ให้ตนเองซ้อมในการต่อสู้ทุกอย่างเตรียมตัวรอบด้าน เช่น ยูโด มวยปล้ำ และมวยไทย
ส่วนผลมวยประกอบรายการคู่อื่น ๆ มีดังนี้ ฟิลิปเป โลโบ (บราซิล) ชนะคะแนน ยอดพนมรุ้ง จิตรเมืองนนท์ (มวยไทย) รุ่นแบนตัมเวต และ ยูริก ดาฟเทียน (รัสเซีย) ชนะน็อก บางพลีน้อย เพชรยินดีอะคาเดมี ยก 2 (มวยไทย) รุ่นเฟเธอร์เวต
ONE : A NEW BREED III สุดมันส์ "เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี" ชนะน็อก "แม็กนัส แอนเดอร์สัน" ผู้ท้าชิงชาวสวีเดน ยก 3 ป้องกันแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ไว้ได้อย่างสวยงาม เจ้าตัวเผย ชกได้ตามแผนที่เตรียมมา ส่วนครั้งหน้าอยากท้าชน "เปรโตเซียน" ในรูปแบบมวยไทย ขณะที่คู่คิกบ็อกซิ่ง “กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี” แทบไม่เสียเหงื่อ เอาชนะน็อก "เพชรทนง" ไปเพียงแค่ยกแรก ใช้เวลาไปเพียงแค่ 6 วินาที
การแข่งขัน วัน แชมเปียนชิพ ONE: A NEW BREED III ภาคสุดท้ายของซีรีส์ ออกอากาศบันทึกการแข่งขันไปสู่แฟน ๆ กว่า 150 ประเทศทั่วโลกได้รับชมอย่างยิ่งใหญ่ โดยไฮไลต์อยู่ที่ คู่เอก “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” วัย 26 ปี ป้องกันแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต กับ “แม็กนัส แอนเดอร์สัน” ผู้ท้าชิงชาวสวีเดนวัย 26 ปีเท่ากัน
เปิดฉากยกแรก ทั้งคู่ปักหลักซดอาวุธกันทันที เพชรมรกต ดูเชิงด้วยการเน้นเตะซ้าย ขณะที่ แอนเดอร์สัน เก็บอาวุธและมีโต้ด้วยแข้งเช่นกัน ปลายยกเข้าจับวงใน ซึ่ง เพชรมรกต มีขวางหน้าโชว์ตามแบบฉบับสไตล์มวยไทย ต่อด้วยยกสอง เพชรมรกต เดินไล่ต้อนคู่ชกเข้ามุมแล้วตามด้วยยิงหมัดและฟันศอก ฝั่ง แอนเดอร์สัน ยังคงวนออกข้างเน้นป้องกันตัวและมีออกแข้งโต้นักชกไทยอยู่ตลอด ยกสาม ถือเป็นยกอวสานของนักชกชาวสวีดิช เมื่อ เพชรมรกต เร่งเครื่องเต็มที่ต้อนเข้าเชือกแล้วยิงหมัดเข้าเต็มปลายคางของ แอนเดอร์สัน ซึ่งผู้ท้าชิงชาวสวีเดนโดนหมัดนี้เข้าไปออกอาการเมา ทำให้กรรมการนับถึงแปด จากนั้นออกมาสู้กันใหม่ เพชรมรกต ไม่ปล่อยวินาทีทองหลุดลอย ไล่ยำใหญ่ยิงหมัดเป็นชุด กรรมการชี้ขาดทนดูไม่ได้ตัดสินใจยุติการชก แล้วตัดสินให้ เพชรมรกต เอาชนะน็อกไปในยกที่ 3 ป้องกันแชมป์ครั้งแรกไว้ได้อย่างสวยงาม
หลังเกม “เพชรมรกต” กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่สามารถป้องกันแชมป์โลกครั้งนี้เอาไว้ได้ ซึ่งการเตรียมตัวก่อนชิงแชมป์ไฟต์นี้ ถือว่าทำได้ตามแผนที่วางไว้ คือ ยกแรกเดินเข้าหา จากนั้นยกสองและยกสามก็ค่อย ๆ เดินเบียดเร็วขึ้น ส่วนคู่ชกครั้งต่อไป อยากให้ “เปรโตเซียน” มาชกมวยไทยกับตนเองดูสักครั้ง
ส่วนคู่รอง ชกกันในรูปแบบคิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต ระหว่าง “กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี” เจอกับนักชกรุ่นพี่อย่าง “เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส” ซึ่งรูปเกมจบลงแบบที่ทั้งคู่เหงื่อยังไม่ทันซึม หลังจากระฆังยกแรกดังขึ้น กัปปิตัน พุ่งเข้าหาทันทีตามด้วยแย๊บซ้ายสองหมัด แล้วตามด้วยยิงหมัดขวาตรง โดยดอกนี้เข้าเต็ม ๆ ปลายคางของเพชรทนง ส่งให้ เพชรทนง ล้มหงายท้อง ศีรษะกระแทกกับพื้นผ้าใบอย่างจัง กรรมการไม่นับ ตัดสินให้ กัปปิตัน ชนะน็อกไปในยกที่ 1 ด้วยเวลาเพียงแค่ 6 วินาทีเท่านั้น
หลังการชก “กัปปิตัน” ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกดีใจมากที่ชนะครั้งนี้ ขอขอบคุณ "เสี่ยโบ๊ท" ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ เพชรยินดี ที่ให้โอกาสมาชกในศึก วัน แชมเปียนชิพ สำหรับการฝึกซ้อมไฟต์นี้ตนเองเตรียมตัวมานานกว่า 1 เดือน ส่วนสำคัญเลยก็คือการเตรียมหมัดและลูกเตะขา แล้วก็แก้ทางรุ่นพี่มาอย่างดี จนเป็นที่มาของชัยชนะในครั้งนี้นั่นเอง
ขณะที่คู่ค้ำ ริกะ อิชิเกะ นักสู้สาวสวยลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น คืนสังเวียนการต่อสู้ในรูปแบบผสมผสาน (MMA) รุ่นอะตอมเวต อีกครั้ง เจอกับ "น้องอิ๋ว" สุนิษา ศรีแสน นักสู้น้องใหม่สายเลือดไทย-ลาว วัย 20 ปี เปิดฉากยกแรก ทั้งคู่ยังไม่เร่งมาก ปักหลักดูเชิงกันกลางเวที ยังไม่มีจังหวะจับล็อกกัน เนื่องจาก ริกะ และสุนิษา ต่างก็จับจังหวะดูอาวุธกันที่วงนอกตลอดทั้งยก ยกสอง เกมเข้มข้นมากขึ้น เมื่อ ริกะ เดินเข้าหา สุนิษาไม่ผลีผลามถอยฉากวนออกข้าง ซึ่ง สุนิษา เตรียมหมัดมาสู้โดยเฉพาะ มีหมัดแย๊บคอยรบกวนตลอด ไม่เน้นปล้ำ เพราะรู้ตัวเองเป็นรองเรื่องประสบการณ์ในการปล้ำจับล็อก ปลายยกที่สอง ริกะเข้าล็อกคอสุนิษาได้แล้ว แต่ระฆังดังหมดช่วยสุนิษาไว้ได้ ยกสาม ริกะ เดินเกมเข้าหาเหมือนเดิม มีบังแข้งรุ่นน้องแล้วถีบและแลกเตะกันหลายชุด ช่วงกลางยกทั้งคู่เข้าวงในปล้ำสู้กัน โดนกรรมการชูใบเหลืองให้ทั้งคู่ จากนั้นปล้ำกันอีกหนึ่งชุด แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ หมดยกสุดท้าย กรรมการรวบคะแนนแล้วตัดสินให้ "น้องอิ๋ว" สุนิษา ศรีแสน เป็นฝ่ายชนะคะแนนไป
หลังเกม “สุนิษา” ร่ำไห้ด้วยความดีใจที่สามารถสยบเอาชนะไอดอลของเธอ โดย สุนิษา กล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก และขอขอบคุณวันแชมเปียนชิพที่ให้โอกาสมาชกในเวทีต่อสู้ระดับโลก ขอขอบคุณอาจารย์กอก ที่คอยเป็นเทรนเนอร์ในการฝึกซ้อมให้จนคว้าชัยชนะ เก็บสถิติการชนะครั้งแรกในรายการนี้ ซึ่งโค้ชได้ให้ตนเองซ้อมในการต่อสู้ทุกอย่างเตรียมตัวรอบด้าน เช่น ยูโด มวยปล้ำ และมวยไทย
ส่วนผลมวยประกอบรายการคู่อื่น ๆ มีดังนี้ ฟิลิปเป โลโบ (บราซิล) ชนะคะแนน ยอดพนมรุ้ง จิตรเมืองนนท์ (มวยไทย) รุ่นแบนตัมเวต และ ยูริก ดาฟเทียน (รัสเซีย) ชนะน็อก บางพลีน้อย เพชรยินดีอะคาเดมี ยก 2 (มวยไทย) รุ่นเฟเธอร์เวต
69
Sport News & Motor Sport / ดวลเดือด!! “สุนิษา” ท้าชนไอดอล “ริกะ” หวังแจ้งเกิดบนสังเวียน ONE
« on: September 16, 2020, 07:42:02 AM »
ดวลเดือด!! “สุนิษา” ท้าชนไอดอล “ริกะ” หวังแจ้งเกิดบนสังเวียน ONE
“Thunderstorm” สุนิษา ศรีแสน สาวลูกครึ่งไทย-ลาว ปลื้มใจดวลไอดอลตัวแม่ MMA “ริกะ อิชิเกะ” สาวสวยลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ยอมรับคู่แข่งฝีมือไม่น่ารักเหมือนหน้าตา ตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อมในฐานะมวยรอง หวังแจ้งเกิดบนสังเวียนระดับโลก
ความเคลื่อนไหวของ วัน แชมเปียนชิพ ในศึก ONE: A NEW BREED III ในวันที่ 18 กันยายนนี้ มีคู่ที่สนุกและสร้างสีสัน ก็คือการเจอกันของ 2 สาวสวยที่จะดวลศึกสายเลือดกัน ระหว่าง “ริกะ อิชิเกะ” สาวสวยลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น และ “Thunderstorm” สุนิษา ศรีแสน ในการต่อสู้แบบผสมผสาน รุ่นอะตอมเวต
“น้องอิ๋ว” สุนิษา ศรีแสน นักสู้น้องใหม่วัย 20 ปีที่เปิดตัวกับทาง วัน แชมเปียนชิพ ได้เพียงไฟต์เดียว และแพ้ให้กับคู่แข่งแถวหน้าตัวเก่งระดับประเทศ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” อดีตแชมป์โลกสาว 2 ประเภทกีฬา ในศึก ONE: NO SURRENDER
มาถึงไฟต์ที่สองก็ต้องเจอตัวแม่แห่งวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ของไทย “ริกะ อิชิเกะ” ในศึก ONE: A NEW BREED III ทำให้เตรียมใจไว้แล้วว่าฝีมือคู่แข่งรายล่าสุดจะไม่น่ารักเหมือนหน้าตาแน่นอน สุนิษาไม่หวั่นบารมี ตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อมในฐานะมวยรองที่หวังจะแจ้งเกิดบนสังเวียนระดับโลกให้ได้
“สุนิษา ศรีแสน” เปิดใจว่า “ในการลงสนามนัดแรก ของศึก ONE: NO SURRENDER ตอนสู้กับ พี่แสตมป์ ถือเป็นโอกาสดีที่หนูได้เจอนักสู้เก่งๆ ถึงแม้จะแพ้ตั้งแต่ยกแรก แต่ไม่รู้สึกเสียใจอะไร เพราะเราได้ประสบการณ์ และได้ปรากฏตัวบนเวทีระดับโลก อีกอย่างไฟต์นั้นไม่ได้บอบช้ำอะไรมาก เพราะกรรมการยุติการแข่งขันก่อน ซึ่งก็ยอมรับว่าสมเหตุสมผลค่ะ อีกอย่างหนูร้างเวทีไปนาน และเพิ่งกลับมาซ้อมเพื่อลงแข่งขัน ทำให้ต้องมีการเคาะสนิมบ้าง”
“ผิดกับในศึก ONE: A NEW BREED III ไฟต์นี้หนูมีเวลาเตรียมตัวมากกว่าไฟต์แรก และเป็นการชกต่อเนื่องด้วย ร่างกายจึงเข้าที่เข้าทางมากกว่าแน่นอนค่ะ ในความรู้สึกของหนูกับ พี่ริกะ คือเขาเป็นคนดัง น่ารัก เก่ง และฮอตมาก น่ารักขนาดนี้ไม่น่าเป็นนักสู้เลย หนูย้อนกลับไปดูไฟต์ย้อนหลังของเขา พื้นล่างเขาแน่นมาก และชนะซับมิชชันมาหลายไฟต์ ฝีมือไม่น่ารักเหมือนหน้าตาเลย หนูยิ่งชอบเข้าไปอีก ฟอร์มช่วงหลังๆ ของ พี่ริกะ หนูเห็นว่าเขามีจุดอ่อนที่ไม่ค่อยชอบหมัด แต่หนูก็จำเป็นต้องเน้นพื้นล่างไปเยอะๆ เพื่อป้องกันตัว และต่อสู้ จริงๆ แผนของเราคือไม่มีแผน เราต้องดูสถานการณ์เฉพาะหน้าว่าคู่แข่งเขาเล่นอะไร เราก็เตรียมไปทั้งล่างทั้งบนค่ะ”
“ก่อนแข่งรายการนี้ ปกติจะฝึกซ้อมอยู่ที่ยิมของมหาวิทยาลัยบูรพา ภายใต้การดูแลของ “อาจารย์กอก” บรรพต อยู่สงค์ และมีการเปลี่ยนย้ายสถานที่ฝึกซ้อมบ้างในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อเจอคู่ซ้อมที่มีความหลากหลายในเรื่องสไตล์การต่อสู้และรูปร่าง ถือเป็นการเตรียมตัวอย่างดีที่สุด”
สำหรับศึก ONE: A NEW BREED III นอกจากจะมีการแข่งขันระหว่าง "สุนิษา vs ริกะ" แล้ว ยังมีการชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ระหว่าง "เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี vs แม็กนัส แอนเดอร์สัน" และอีกคู่สำคัญคือการเผชิญหน้าระหว่างสองนักมวยไทยชื่อดังที่เพิ่งเซ็นสัญญาเข้ามาอย่าง "กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี vs เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส" ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งจะมีการออกอากาศในรูปแบบบันทึกการแข่งขัน ในวันศุกร์ที่ 18 กันยายนนี้ โดยแฟนๆ สามารถรับชมได้ทาง ONE Super App, YouTube ONE Championship และ AIS PLAY เวลา 19.30 น. ส่วนไทยรัฐทีวี ช่อง 32 จะเริ่มเวลา 22.40 น.
70
Sport News & Motor Sport / “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงสนับสนุนด้านการศึกษากับม.ธรรมศาส
« on: September 16, 2020, 07:36:03 AM »
“มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงสนับสนุนด้านการศึกษากับม.ธรรมศาสตร์ สร้างบุคลากรคุณภาพให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย”
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าสานต่อโครงการเพื่อสนับสนุนการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มร. โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และรศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) สนับสนุนทุนการศึกษา และโครงการฝึกงานแก่นักศึกษาชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 4 ที่มีผลการเรียนดีเด่น สาขาวิศวกรรมเทคโนโลยียานยนต์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อเป็นการมอบโอกาสในการศึกษา และสนับสนุนให้นักศึกษาได้มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานจริงด้วยการเรียนรู้แบบบูรณาการจากการทำงาน (Work Integrated Learning – WIL) นอกจากนี้ โครงการนี้ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่ได้รับทุนการศึกษา ทำงานร่วมกับมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ต่อไปในอนาคตอีกด้วย
“มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มุ่งมั่นเพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาแก่เยาวชนไทย ภายใต้ปณิธานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม 'สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย’ โดยโครงการในครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่จะทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างทรัพยากรบุคคลทางด้านวิศวกรรมยานยนต์ ที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยซึ่งถือเป็นฐานการผลิตและส่งออกยานยนต์ที่สำคัญของโลก อันจะเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน” มร. ชกกิ กล่าว
นอกจากนี้ ที่ผ่านมามิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ให้การสนับสนุนโครงการด้านการศึกษาแก่เยาวชนไทยหลากหลายโครงการ ได้แก่ หลักสูตรนักศึกษาฝึกงานประจำปี (Talent Internship Program) กับ 9 มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ และโครงการมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีผลการเรียนดีเด่น ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เป็นต้น
71
Sport News & Motor Sport / สุดเดือด!! พงษ์ศิริ-ซุปเปอร์เล็ก แท็กทีม คว้าชัยศึก ONE : A NEW BREED II
« on: September 14, 2020, 07:31:07 AM »
สุดเดือด!! พงษ์ศิริ-ซุปเปอร์เล็ก แท็กทีม คว้าชัยศึก ONE : A NEW BREED II
"พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม" สมราคานักชกจอมบู๊ เจ้าของสมญา "แฝดอโยธยา" ในวัย 29 ปี เดินยิงหมัดฟันศอก ต้อนเอาชนะคะแนน "ฌอน แคลนซี" นักชกจากไอร์แลนด์ ไปอย่างขาดลอย โดย "พงษ์ศิริ" ได้นับแปดในยกที่สอง เจ้าตัว เผย รู้สึกดีใจมากที่ได้รับชัยชนะใน วัน แชมเปียนชิพ ครั้งนี้ ถือเป็นรายการต่อสู้ระดับโลก และชกได้ตามแผนที่ตัวเองวางไว้คือ เตรียมหมัดและศอกมาเป็นพิเศษด้าน "ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9" ไม่ทำให้กองเชียร์ชาวไทยผิดหวัง จัดการสยบเอาชนะคะแนน "ฟาห์ดี คาเล็ด" นักชกจากตูนีเซีย ไปได้เช่นกัน
ศึก วัน แชมเปียนชิพ ONE : A NEW BREED II เมื่อคืนวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา จัดการแข่งขันในระบบปิดห้ามคนเข้าดู โดยคู่เอก พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม นักชกจอมบู๊วัย 29 ปี เจ้าของสมญา "แฝดอโยธยา" ดวลกับ ฌอน แคลนซี นักชกจากไอร์แลนด์ วัย 31 ปี ในกติกามวยไทย 3 ยก รุ่นแบนตัมเวต
เปิดฉากยกแรก พงษ์ศิริ เดินยิงหมัดเตะขาชวนทะเลาะกับคู่ชกทันที ซึ่ง แคลนซี ยังไม่แลกมาก ถอยวนดูจังหวะและบังอาวุธของพงษ์ศิริเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ปลายยก พงษ์ศิริได้จังหวะฟันศอกเข้าเต็มๆบริเวณใต้ตาขวาของนักชกชาวไอริช ทำให้ แคลนซี เกิดแผลแตกทันที ยกสอง พงษ์ศิริออกมาเดินเช่นเคย ต้นยก พงษ์ศิริ ต้อนคู่ชกเข้ามุม แล้วยิงหมัดขวาเข้าเต็มใบหน้าของแคลนซี ทำให้ แคลนซี ร่วงลงไป แล้วถูกกรรมการนับ 8 จากนั้น พงษ์ศิริ ก็ยังไม่ถอยปักหลักคุมเกมปิดจังหวะเกมรุกของคู่ต่อสู้ได้ดีส่วนเกมยกสาม ยกสุดท้าย เจ้าของสมญา "แฝดอโยธยา" ออกมาแลกอาวุธทั้งหมัดทั้งศอกกับแคลนซีอย่างสนุกเหมือนเดิม ไม่สนว่าตัวเองคะแนนออกนำ เนื่องจากได้นับแปดมาก่อนแล้ว ซึ่ง พงษ์ศิริ ออกหมัดได้แม่นและหนักหน่วงกว่า และก็คุมเกมไว้ได้ในช่วงปลายยกเมื่อชกกันครบสามยก กรรมการชูมือให้ พงษ์ศิริ เป็นฝ่ายชนะคะแนน ไปอย่างสนุก
หลังเกม พงษ์ศิริ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจมากที่ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ถือเป็นรายการใหญ่ระดับโลก ซึ่งไฟต์นี้ถือว่าชกได้ตามแผนที่วางไว้ เพราะตนเองเตรียมหมัดเตรียมศอกมาเป็นพิเศษอยู่แล้วต้องขอบคุณ วัน แชมเปียนชิพ ที่ให้โอกาสได้ชกบนสังเวียนระดับโลกในครั้งต่อไปจะทำผลงานให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
ส่วน คู่รอง ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 นักชกจอมฝีมือวัย 24 ปี จาก จ.บุรีรัมย์ พบกับ ฟาห์ดี คาเล็ด นักชกจากตูนิเซีย วัย 25 ปี ชกกันในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (61.2 กก.) เปิดฉากยกแรก ซุปเปอร์เล็ก เดินลุยทันที มีลูกเตะกับยิงหมัดชิงจังหวะสู้กับคาเล็ด อยู่ตลอด ซึ่งปลายยก คาเล็ด ต่อยหมัดฮุกขวาเข้าปลายคางของซุปเปอร์เล็ก ทำเอานักชกไทยออกอาการเซเล็กน้อย ยกสอง ซุปเปอร์เล็ก ออกมาเร่งเครื่องเข้าเกียร์เดินหน้า พร้อมกับสาดแข้งขวาเข้าใส่นักชกจากตูนีเซียไปหลายชุด ด้าน คาเล็ด แม้จะโดนแข้งไปหลายดอกแต่ก็ดักโต้คืนด้วยหมัดรูปเกมยังคงสนุกคู่คี่ ต่อด้วยยกสาม เป็นยกสุดท้าย ทั้งคู่ไม่ถอยปักหลักซดอาวุธกันกลางเวที โดย ซุปเปอร์เล็ก เน้นวางแข้งหนัก ๆ ขณะที่ คาเล็ด มีหมัด แต่เป็นทางซุปเปอร์เล็กที่ออกแข้งได้หนักแน่นกว่า เตะเข้าชายโครงนักชกตูนีเซียตลอดในยกนี้ ซึ่งดูเหมือน คาเล็ด จะบังแข้งของซุปเปอร์เล็กไม่อยู่ทำให้สถานการณ์รูปเกมของนักชกไทยได้เปรียบทันที จากนั้นช่วงปลายยก ซุปเปอร์เล็ก ก็ถอยคุมเกมคุมจังหวะ เมื่อหมดยกสุดท้าย กรรมการชูมือให้ ซุปเปอร์เล็ก ชนะคะแนนไปได้
หลังเกม ซุปเปอร์เล็ก กล่าวว่า ตนเองรู้สึกภาคภูมิใจมากที่ครั้งนี้เก็บชัยชนะได้ เพราะเป็นการชกในรูปแบบคิกบ็อกซิ่งเป็นครั้งแรก แต่ก็ยังผิดหวังตัวเองเล็ก ๆ ที่ชกไม่ได้ตามที่ตนเองตั้งใจไว้ เนื่องจากตั้งใจจะเตะให้มากกว่านี้ แต่ครั้งนี้ออกอาวุธด้วยแข้งได้น้อยอยู่ ซึ่งไฟต์หน้าหากมีโอกาสชกในวัน แชมเปียนชิพ อีกตนเองจะทำผลงานให้ดีมากขึ้นกว่านี้
ขณะที่ ซุปเปอร์เกิร์ล จรูญศักดิ์มวยไทย นักชกสาวดาวรุ่งวัย 16 ปี พบกับ มิลากรอส โลเปซ นักชกจากอาร์เจนติน่า วัย 24 ปี โดยทั้งคู่ชกกันในรูปแบบมวยไทย รุ่นแคตช์เวต (53.7 กก.) ยกแรก ซุปเปอร์เกิร์ล อาศัยสภาพร่างกายที่สดกว่า เดินเข้าหาลุยต่อยหมัดส่ง โลเปซ ร่วงลงไปนอนให้กรรมการนับ 8 ครั้งแรกในช่วงต้นยก จากนั้น นักชกสาวจากแดนฟ้า-ขาว ลุกขึ้นมาสู้ต่อ แต่ก็ต้านพลังกำปั้นของนักชกสาวดาวรุ่งไทยไม่ไหว เนื่องจาก ซุปเปอร์เกิร์ล เดินรัวกำปั้นชุดใหญ่ ถล่มส่ง โลเปซ ร่วงลงไปกองกับพื้นผ้าใบอีกหน ซึ่งครั้งนี้กรรมการไม่นับ ตัดสินให้ ซุปเปอร์เกิร์ล เป็นฝ่ายชนะน็อกไปในยกที่ 1 อย่างสวยงาม
ส่วนผลมวยประกอบรายการคู่อื่น ๆ โบรแกน สตอร์ตอิง (นิวซีแลนด์) ชนะซับมิสชั่น (แบบคู่ต่อสู้ขอยอมแพ้) ปราชญ์ บัวภา ยก 1 ด้วยเวลา 3.51 นาที ในรูปแบบการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นแคตช์เวต 67.5 กก., อาบู มุสลิม อาลิคานอฟ (รัสเซีย) ชนะซับมิสชั่น (แบบคู่ต่อสู้ขอยอมแพ้) ปาสคาล แจสกีวีซ (ฝรั่งเศส) ยก 2 ด้วยเวลา 2.08 นาที ในรูปแบบการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นไลต์เวต, วิชญกรณ์ เนียมถนอม ชนะซับมิสชั่น (แบบคู่ต่อสู้ขอยอมแพ้) คาลิด ฟริกกินี (โมร็อคโก) ยก 1 ด้วยเวลา 2.11 นาที ในรูปแบบการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นไลต์เวต
"พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม" สมราคานักชกจอมบู๊ เจ้าของสมญา "แฝดอโยธยา" ในวัย 29 ปี เดินยิงหมัดฟันศอก ต้อนเอาชนะคะแนน "ฌอน แคลนซี" นักชกจากไอร์แลนด์ ไปอย่างขาดลอย โดย "พงษ์ศิริ" ได้นับแปดในยกที่สอง เจ้าตัว เผย รู้สึกดีใจมากที่ได้รับชัยชนะใน วัน แชมเปียนชิพ ครั้งนี้ ถือเป็นรายการต่อสู้ระดับโลก และชกได้ตามแผนที่ตัวเองวางไว้คือ เตรียมหมัดและศอกมาเป็นพิเศษด้าน "ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9" ไม่ทำให้กองเชียร์ชาวไทยผิดหวัง จัดการสยบเอาชนะคะแนน "ฟาห์ดี คาเล็ด" นักชกจากตูนีเซีย ไปได้เช่นกัน
ศึก วัน แชมเปียนชิพ ONE : A NEW BREED II เมื่อคืนวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา จัดการแข่งขันในระบบปิดห้ามคนเข้าดู โดยคู่เอก พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม นักชกจอมบู๊วัย 29 ปี เจ้าของสมญา "แฝดอโยธยา" ดวลกับ ฌอน แคลนซี นักชกจากไอร์แลนด์ วัย 31 ปี ในกติกามวยไทย 3 ยก รุ่นแบนตัมเวต
เปิดฉากยกแรก พงษ์ศิริ เดินยิงหมัดเตะขาชวนทะเลาะกับคู่ชกทันที ซึ่ง แคลนซี ยังไม่แลกมาก ถอยวนดูจังหวะและบังอาวุธของพงษ์ศิริเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ปลายยก พงษ์ศิริได้จังหวะฟันศอกเข้าเต็มๆบริเวณใต้ตาขวาของนักชกชาวไอริช ทำให้ แคลนซี เกิดแผลแตกทันที ยกสอง พงษ์ศิริออกมาเดินเช่นเคย ต้นยก พงษ์ศิริ ต้อนคู่ชกเข้ามุม แล้วยิงหมัดขวาเข้าเต็มใบหน้าของแคลนซี ทำให้ แคลนซี ร่วงลงไป แล้วถูกกรรมการนับ 8 จากนั้น พงษ์ศิริ ก็ยังไม่ถอยปักหลักคุมเกมปิดจังหวะเกมรุกของคู่ต่อสู้ได้ดีส่วนเกมยกสาม ยกสุดท้าย เจ้าของสมญา "แฝดอโยธยา" ออกมาแลกอาวุธทั้งหมัดทั้งศอกกับแคลนซีอย่างสนุกเหมือนเดิม ไม่สนว่าตัวเองคะแนนออกนำ เนื่องจากได้นับแปดมาก่อนแล้ว ซึ่ง พงษ์ศิริ ออกหมัดได้แม่นและหนักหน่วงกว่า และก็คุมเกมไว้ได้ในช่วงปลายยกเมื่อชกกันครบสามยก กรรมการชูมือให้ พงษ์ศิริ เป็นฝ่ายชนะคะแนน ไปอย่างสนุก
หลังเกม พงษ์ศิริ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจมากที่ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ถือเป็นรายการใหญ่ระดับโลก ซึ่งไฟต์นี้ถือว่าชกได้ตามแผนที่วางไว้ เพราะตนเองเตรียมหมัดเตรียมศอกมาเป็นพิเศษอยู่แล้วต้องขอบคุณ วัน แชมเปียนชิพ ที่ให้โอกาสได้ชกบนสังเวียนระดับโลกในครั้งต่อไปจะทำผลงานให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
ส่วน คู่รอง ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 นักชกจอมฝีมือวัย 24 ปี จาก จ.บุรีรัมย์ พบกับ ฟาห์ดี คาเล็ด นักชกจากตูนิเซีย วัย 25 ปี ชกกันในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (61.2 กก.) เปิดฉากยกแรก ซุปเปอร์เล็ก เดินลุยทันที มีลูกเตะกับยิงหมัดชิงจังหวะสู้กับคาเล็ด อยู่ตลอด ซึ่งปลายยก คาเล็ด ต่อยหมัดฮุกขวาเข้าปลายคางของซุปเปอร์เล็ก ทำเอานักชกไทยออกอาการเซเล็กน้อย ยกสอง ซุปเปอร์เล็ก ออกมาเร่งเครื่องเข้าเกียร์เดินหน้า พร้อมกับสาดแข้งขวาเข้าใส่นักชกจากตูนีเซียไปหลายชุด ด้าน คาเล็ด แม้จะโดนแข้งไปหลายดอกแต่ก็ดักโต้คืนด้วยหมัดรูปเกมยังคงสนุกคู่คี่ ต่อด้วยยกสาม เป็นยกสุดท้าย ทั้งคู่ไม่ถอยปักหลักซดอาวุธกันกลางเวที โดย ซุปเปอร์เล็ก เน้นวางแข้งหนัก ๆ ขณะที่ คาเล็ด มีหมัด แต่เป็นทางซุปเปอร์เล็กที่ออกแข้งได้หนักแน่นกว่า เตะเข้าชายโครงนักชกตูนีเซียตลอดในยกนี้ ซึ่งดูเหมือน คาเล็ด จะบังแข้งของซุปเปอร์เล็กไม่อยู่ทำให้สถานการณ์รูปเกมของนักชกไทยได้เปรียบทันที จากนั้นช่วงปลายยก ซุปเปอร์เล็ก ก็ถอยคุมเกมคุมจังหวะ เมื่อหมดยกสุดท้าย กรรมการชูมือให้ ซุปเปอร์เล็ก ชนะคะแนนไปได้
หลังเกม ซุปเปอร์เล็ก กล่าวว่า ตนเองรู้สึกภาคภูมิใจมากที่ครั้งนี้เก็บชัยชนะได้ เพราะเป็นการชกในรูปแบบคิกบ็อกซิ่งเป็นครั้งแรก แต่ก็ยังผิดหวังตัวเองเล็ก ๆ ที่ชกไม่ได้ตามที่ตนเองตั้งใจไว้ เนื่องจากตั้งใจจะเตะให้มากกว่านี้ แต่ครั้งนี้ออกอาวุธด้วยแข้งได้น้อยอยู่ ซึ่งไฟต์หน้าหากมีโอกาสชกในวัน แชมเปียนชิพ อีกตนเองจะทำผลงานให้ดีมากขึ้นกว่านี้
ขณะที่ ซุปเปอร์เกิร์ล จรูญศักดิ์มวยไทย นักชกสาวดาวรุ่งวัย 16 ปี พบกับ มิลากรอส โลเปซ นักชกจากอาร์เจนติน่า วัย 24 ปี โดยทั้งคู่ชกกันในรูปแบบมวยไทย รุ่นแคตช์เวต (53.7 กก.) ยกแรก ซุปเปอร์เกิร์ล อาศัยสภาพร่างกายที่สดกว่า เดินเข้าหาลุยต่อยหมัดส่ง โลเปซ ร่วงลงไปนอนให้กรรมการนับ 8 ครั้งแรกในช่วงต้นยก จากนั้น นักชกสาวจากแดนฟ้า-ขาว ลุกขึ้นมาสู้ต่อ แต่ก็ต้านพลังกำปั้นของนักชกสาวดาวรุ่งไทยไม่ไหว เนื่องจาก ซุปเปอร์เกิร์ล เดินรัวกำปั้นชุดใหญ่ ถล่มส่ง โลเปซ ร่วงลงไปกองกับพื้นผ้าใบอีกหน ซึ่งครั้งนี้กรรมการไม่นับ ตัดสินให้ ซุปเปอร์เกิร์ล เป็นฝ่ายชนะน็อกไปในยกที่ 1 อย่างสวยงาม
ส่วนผลมวยประกอบรายการคู่อื่น ๆ โบรแกน สตอร์ตอิง (นิวซีแลนด์) ชนะซับมิสชั่น (แบบคู่ต่อสู้ขอยอมแพ้) ปราชญ์ บัวภา ยก 1 ด้วยเวลา 3.51 นาที ในรูปแบบการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นแคตช์เวต 67.5 กก., อาบู มุสลิม อาลิคานอฟ (รัสเซีย) ชนะซับมิสชั่น (แบบคู่ต่อสู้ขอยอมแพ้) ปาสคาล แจสกีวีซ (ฝรั่งเศส) ยก 2 ด้วยเวลา 2.08 นาที ในรูปแบบการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นไลต์เวต, วิชญกรณ์ เนียมถนอม ชนะซับมิสชั่น (แบบคู่ต่อสู้ขอยอมแพ้) คาลิด ฟริกกินี (โมร็อคโก) ยก 1 ด้วยเวลา 2.11 นาที ในรูปแบบการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นไลต์เวต
72
Sport News & Motor Sport / “ก้อง-สมเกียรติ” ลงซ้อมวันแรกมิซาโน กดเวลาเร็วขึ้นกว่าปีก่อน
« on: September 14, 2020, 07:21:13 AM »
“ก้อง-สมเกียรติ” ลงซ้อมวันแรกมิซาโน กดเวลาเร็วขึ้นกว่าปีก่อน
ดาวรุ่งนักบิดไทยวัย 21 ปี “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ประเดิมผลงานการซ้อมวันแรกที่มิซาโนได้ตามเป้าหมาย กดเวลาเร็วขึ้นกว่าปีที่แล้ว จบรอบ Free Practice ทั้ง 2 ครั้ง ตามหลังจ่าฝูง 1.362 วินาที รั้งอันดับที่ 24 เจ้าตัวมั่นใจยังเร็วขึ้นได้อีก
นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกเวิลด์กรังด์ปรีซ์ รุ่นโมโตทู กล่าวว่า “ผมเร่งเต็มที่ตั้งแต่ในช่วงเช้าของการซ้อม เพื่อหวังทำเวลาให้เร็วกว่าปีที่แล้ว และก็สามารถทำได้ตามเป้าหมาย พอช่วงบ่ายเราทดลองบางอย่างเพื่อหาสิ่งที่ดีกว่า แต่ก็ทำไม่ได้อย่างที่คิด ซึ่งตัวผมเองยังมีความผิดพลาดหลายจุด พยายามเบรกหนักขึ้น แต่กลายเป็นว่ารักษาเรซซิ่งไลน์ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในรอบควอลิฟายวันเสาร์นี้ ทุกอย่างน่าจะลงตัวและดีขึ้นกว่านี้แน่นอน”
แฟนกีฬาความเร็วชาวไทยสามารถส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา หมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในศึกซานมาริโน กรังด์ปรีซ์ ผ่านการถ่ายทอดสดทางช่อง PPTV HD36 ในวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายนนี้ รุ่นโมโตทู ชิงชัยเวลา 17:20 น. ตามเวลาประเทศไทย
#WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #MotoGP #MotorSport #SC35 #Moto2 #RaceToTheDream #APHondaThailand #IdemitsuHondaTeamAsia
ดาวรุ่งนักบิดไทยวัย 21 ปี “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ประเดิมผลงานการซ้อมวันแรกที่มิซาโนได้ตามเป้าหมาย กดเวลาเร็วขึ้นกว่าปีที่แล้ว จบรอบ Free Practice ทั้ง 2 ครั้ง ตามหลังจ่าฝูง 1.362 วินาที รั้งอันดับที่ 24 เจ้าตัวมั่นใจยังเร็วขึ้นได้อีก
นักบิดหนึ่งเดียวของไทยในศึกเวิลด์กรังด์ปรีซ์ รุ่นโมโตทู กล่าวว่า “ผมเร่งเต็มที่ตั้งแต่ในช่วงเช้าของการซ้อม เพื่อหวังทำเวลาให้เร็วกว่าปีที่แล้ว และก็สามารถทำได้ตามเป้าหมาย พอช่วงบ่ายเราทดลองบางอย่างเพื่อหาสิ่งที่ดีกว่า แต่ก็ทำไม่ได้อย่างที่คิด ซึ่งตัวผมเองยังมีความผิดพลาดหลายจุด พยายามเบรกหนักขึ้น แต่กลายเป็นว่ารักษาเรซซิ่งไลน์ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในรอบควอลิฟายวันเสาร์นี้ ทุกอย่างน่าจะลงตัวและดีขึ้นกว่านี้แน่นอน”
แฟนกีฬาความเร็วชาวไทยสามารถส่งกำลังใจเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา หมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในศึกซานมาริโน กรังด์ปรีซ์ ผ่านการถ่ายทอดสดทางช่อง PPTV HD36 ในวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายนนี้ รุ่นโมโตทู ชิงชัยเวลา 17:20 น. ตามเวลาประเทศไทย
#WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #MotoGP #MotorSport #SC35 #Moto2 #RaceToTheDream #APHondaThailand #IdemitsuHondaTeamAsia
73
Sport News & Motor Sport / ศึก ONE: A NEW BREED II ศุกร์ 11 ก.ย. มันส์แน่ “พงษ์ศิริ-ฌอนแคลนซี”ไฟต์นี้
« on: September 11, 2020, 02:40:33 PM »
ศึก ONE: A NEW BREED II ศุกร์ 11 ก.ย. มันส์แน่ “พงษ์ศิริ-ฌอนแคลนซี”ไฟต์นี้ห้ามกระพริบตา
มวยคู่เอก วัน แชมเปียนชิพ สุดสัปดาห์นี้ “แฝดน้องอโยธยา” พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ยอดมวยจอมบู๊ พบกับ ฌอน แคลนซี ชาวไอริช ดีกรีแชมป์ WBC พร้อมคู่มวยสุดมันส์มาเต็มเวที ด้าน “Superbenz” วิชญกรณ์ เนียมถนอม เปิดตัวบู๊ MMA ครั้งแรกในศึก ONE: A NEW BREED II
ความเคลื่อนไหว “วัน แชมเปียนชิพ” ศึก ONE: A NEW BREED II วันที่ 11 กันยายนนี้ คู่เอกของรายการ พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม เจ้าของฉายา “แฝดน้องอโยธยา”นักชกเมืองย่าโมวัย 29 ปี เจ้าของเข็มขัดมวยไทยหลายเส้นซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความบู๊ดุดัน บ้าเลือดดีเดือด สู้ไม่ถอย กลับสู่สังเวียน วัน แชมเปียนชิพ อีกครั้ง พบกับ “Clubber” (คลับเบอร์) ฌอน แคลนซี วัย 31 ปี ซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์ WBC รุ่นซูเปอร์ไลต์เวต และรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม WBC มวยไทย เมื่อปี 2562 ที่ลงแข่งขันรายการนี้เป็นครั้งแรก ในกติกามวยไทย 3 ยก รุ่นแบนตัมเวต
พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม กล่าวว่า “ในวัน แชมเปียนชิพ สองไฟต์ก่อนหน้านี้ ผมต้องปล่อยน้ำหนักตัวขึ้นไปอยู่ในรุ่นเฟเธอร์เวต (65.9 – 70.3 กก.) ซึ่งทำให้เสียเปรียบทั้งเรื่องน้ำหนักและช่วงชก เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ทั้ง 2 นัดทำให้ในรายการนี้ ผมปรับน้ำหนักลงมาสู้ในรุ่นแบนตัมเวต (61.3 – 65.8 กก.) ผมรู้สึกดีมากๆครับ ผมรู้สึกได้ถึงความพริ้ว ความคล่องตัว มันไม่อืด ออกอาวุธได้ไวกว่าเดิมครับ”
“สำหรับคู่แข่ง ฌอน แคลนซี เท่าที่ดูเขาจะตัวใหญ่กว่าผมนิดหน่อย เป็นมวยหมัด เตะ ขาแข็งแรง ส่วนผมก็เตรียมบู๊ เดินอัด ผมเตรียมลูกศอก เตะ อาศัยลูกอึดทน และบุกไม่ถอยอยู่แล้วจะเอาให้ถึงน็อก การันตีความดุเดือดเร้าใจแน่นอนครับ”
อีกคู่ที่น่าสนใจเป็นการก้าวสู่สังเวียนครั้งแรกของ “Superbenz” วิชญกรณ์ เนียมถนอม นักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) พันธุ์ดุสัญชาติไทย วัย 23 ปี เจ้าของแชมป์ทัวร์นาเมนต์สมัครเล่น MFC โดยชิมลางไฟต์แรกกับแชมป์คิกบ็อกซิ่งจากโมร็อกโก “Monster” คาลิด ฟริกกีนี วัย 21 ปี ที่เพิ่งผันตัวมาเอาดีเปิดซิงในกีฬานี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน
“วิชญกรณ์ เนียมถนอม” เปิดใจว่า “ผมเริ่มต้นจากการเรียนมวยไทย ที่ค่ายของลูกชาย “พุฒ ล้อเหล็ก” จังหวัดตรัง จนเปลี่ยนมาแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) และเมื่อปีที่แล้ว ผมย้ายไปสังกัด Yorky MMA ของ “JJ” นิโคลัส ลี หรือ นิค อดีตนักกีฬา วัน แชมเปียนชิพ ทำให้ได้ลองเล่นศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานชุดใหญ่ ได้ลงแข่งครั้งแรกคว้าชัยชนะด้วยการน็อกตั้งแต่ยกแรก จนได้เซ็นสัญญากับ วัน แชมเปียนชิพ และได้คิวเปิดตัวศึกแรกทันที ตอนแรกผมยังไม่กล้าตอบตกลงเพราะร้างเวที MMA ไปหลายเดือน แต่พอ ได้นิคช่วยดูแลและฝึกซ้อม อีกทั้งในช่วงโควิด-19 ผมตั้งใจซ้อมและสอนมวยอยู่ที่บ้าน ทางนิคเชื่อใจว่าผมทำได้ สร้างความมั่นใจให้ผม จนตอบรับที่จะแข่งรายการนี้ และนี่ก็นับว่าเป็นโอกาสที่ดีมากครับ ที่จะได้โชว์ฝีมือในเวทีระดับโลก”
ศึก ONE: A NEW BREED II วันศุกร์ที่ 11 กันยายนนี้ จะออกอากาศบันทึกการแข่งขันไปสู่แฟนๆ กว่า 150 ประเทศทั่วโลก ทาง ONE Super App, YouTube ONE Championship และ AIS PLAY ซึ่งจะเริ่มเวลา 19.30 น. ส่วนไทยรัฐทีวี ช่อง 32 จะเริ่มเวลา 22.40 น.
74
Sport News & Motor Sport / ฮอนด้ายกทัพ All New Forza350 บุกชลบุรี ท้าพิสูจน์ความแรงขุมพลัง eSP+ ใหม่
« on: September 11, 2020, 02:34:50 PM »
ฮอนด้ายกทัพ All New Forza350 บุกชลบุรี ท้าพิสูจน์ความแรงขุมพลัง eSP+ ใหม่ วันอาทิตย์ที่ 13 ก.ย.นี้
เอ.พี. ฮอนด้า เดินหน้าจัดกิจกรรมทดลองขับขี่ให้กับผู้ที่สนใจบิ๊กสกู๊ตเตอร์ All New Forza350 อย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ ตลอดเดือนกันยายนนี้
ล่าสุด เตรียมยกทัพ All New Forza350 บุกชลบุรี ท้านักบิดในพื้นที่เข้าร่วมสัมผัสความแรงของขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ eSP+ 4 วาล์ว ที่สุดในคลาส 350 จัดขึ้น ณ ตลาดนินจา ในวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายนนี้ โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนทดลองขับขี่ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย คลิกที่ >> https://bit.ly/3gIABGv
ตารางกิจกรรมทดลองขับขี่ All New Forza350
- วันที่ 13 กันยายน 2563 ณ ตลาดนินจา ชลบุรี
- วันที่ 19 กันยายน 2563 ณ ประเสริฐแลนด์ เชียงใหม่
- วันที่ 26 กันยายน 2563 ณ ศูนย์ขับขี่ปลอดภัย ฮอนด้า กรุงเทพฯ
#AllNewForza350 #OnlyForTheGreatest #เพราะที่สุดมีเพียงหนึ่งเดียว #HondaMotorcycle #Forza350 #PremiumBigScooter
เอ.พี. ฮอนด้า เดินหน้าจัดกิจกรรมทดลองขับขี่ให้กับผู้ที่สนใจบิ๊กสกู๊ตเตอร์ All New Forza350 อย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ ตลอดเดือนกันยายนนี้
ล่าสุด เตรียมยกทัพ All New Forza350 บุกชลบุรี ท้านักบิดในพื้นที่เข้าร่วมสัมผัสความแรงของขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ eSP+ 4 วาล์ว ที่สุดในคลาส 350 จัดขึ้น ณ ตลาดนินจา ในวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายนนี้ โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนทดลองขับขี่ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย คลิกที่ >> https://bit.ly/3gIABGv
ตารางกิจกรรมทดลองขับขี่ All New Forza350
- วันที่ 13 กันยายน 2563 ณ ตลาดนินจา ชลบุรี
- วันที่ 19 กันยายน 2563 ณ ประเสริฐแลนด์ เชียงใหม่
- วันที่ 26 กันยายน 2563 ณ ศูนย์ขับขี่ปลอดภัย ฮอนด้า กรุงเทพฯ
#AllNewForza350 #OnlyForTheGreatest #เพราะที่สุดมีเพียงหนึ่งเดียว #HondaMotorcycle #Forza350 #PremiumBigScooter
75
Sport News & Motor Sport / CT125 Trail Experience จัดเต็มความสนุก ณ อ่างเก็บน้ำมาบประชัน
« on: September 10, 2020, 02:28:01 PM »
CT125 Trail Experience จัดเต็มความสนุก ณ อ่างเก็บน้ำมาบประชัน
รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสร้างความสนุกตื่นเต้นและประทับใจให้กับสาวกสายลุยอย่าง Honda CT125 กันถ้วนหน้า สำหรับกิจกรรม CT125 Trail Experience ครั้งที่ 2 ด้วยการเชิญเจ้าของ CT125 มาร่วมเปิดประสบการณ์ความสนุกนอกเส้นทาง พิชิตเส้นทางธรรมชาติสุดท้าทาย บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำมาบประชัน จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยการเข้าแคมป์ Workshop แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ในกิจกรรมสาธิต Coffee Drip Camp สอนวิธีการดริปกาแฟในแคมป์ที่สามารถทดลองทำได้เอง รวมถึงกิจกรรมสอนวิธีการตกปลาอย่างถูกวิธี โดยกูรูจาก Bangkok Hooker ที่พร้อมเผยเคล็ดลับการใช้คันเบ็ดแบบเจาะลึกทุกรายละเอียด
ใครที่พลาดไปไม่ต้องเสียใจ! ครั้งหน้ายังมี เตรียมตัวให้พร้อม รอติดตามความสนุกของกิจกรรม CT125 Trail Experience ครั้งต่อไปได้ที่ CUB House หรือ Honda Wing Center สาขาที่ท่านซื้อรถ และช่องทางออนไลน์ได้ที่
เว็บไซต์ : www.aphonda.co.th, www.hondacubhouse.com
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : www.fb.com/hondamotorcyclethailand
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : www.fb.com/cubhousebyhonda
#HondaCT125 #CT125 #TimetoTrail #ได้เวลาออกนอกเส้นทาง #CT125TrailExperience #อ่างเก็บน้ำมาบประชัน #CUBHouse #CultureUniqueBikes #APHonda #Honda #HondaThailand #WhatStopsYou #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า