Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - happy

Pages: 1 ... 1869 1870 [1871] 1872 1873 ... 2253
28051
สแกนเนีย รุกตลาดรถเฉพาะกิจ เริ่มที่รถดับเพลิงและรถที่ใช้ในกิจการไฟฟ้าก่อน
ชูจุดเด่นด้านเทคโนโลยีเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง และมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก

               ตลาดรถเฉพาะกิจสดใส หลังภาครัฐและเอกชนให้ความสนใจในประสิทธิภาพและมาตรฐานความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ด้านสแกนเนียสบช่องเดินหน้ารุกบุกตลาดรถดับเพลิงประเภทอัคคีภัยทั่วไปและอัคคีภัยที่เกิดจากสารเคมีและน้ำมัน รวมถึงกลุ่มรถที่ใช้ในกิจการไฟฟ้า พร้อมชูจุดเด่นด้านเทคโนโลยีเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ประหยัดเชื้อเพลิง และมีความทนทานสูง พร้อมระบบความปลอดภัยที่มีมากับรถได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับระดับโลก


นายณรงค์ฤทธิ์ อิทธิสารรณชัย

               นายณรงค์ฤทธิ์ อิทธิสารรณชัย ผู้จัดการฝ่ายสนับสนุนการขาย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวถึงการเติบโตของตลาดรถที่ใช้ในกิจการเฉพาะว่า เกิดจากกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีความจำเป็นต้องใช้รถในกิจการเฉพาะหันมาให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยสูง โดยเฉพาะในกลุ่มของรถดับเพลิง รถกระเช้า รวมถึงรถบันได และ กลุ่มรถที่ใช้ในกิจการไฟฟ้า เช่นรถขุดเจาะ และรถติดตั้งวางเสาไฟฟ้า

               โดยในกลุ่มของรถดับเพลิง รถกระเช้า และรถบันได นั้น มีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถตอบโจทย์ การปฏิบัติงานป้องกันอุบัติภัยให้ครอบคลุมต่อต้นเหตุของอุบัติภัยที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉาะในส่วนของรถดับเพลิง ต้องสามารถเดินทางไปยังที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ และทำงานได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ช่วยให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ




               ล่าสุด สแกนเนีย ได้ส่งมอบรถดับเพลิงประสิทธิภาพสูงให้แก่ หน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลเจ้าพระยาสุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี รุ่น P 410 CB4X2HSZ ติดตั้งปั๊มน้ำและโฟมที่มีขนาดแรงดันกำลังสูงถึง 4,000-6,000 ลิตร/นาที ขณะที่รถดับเพลิงมาตรฐานทั่วไปจะมีขนาดปั๊มน้ำและโฟมที่มีกำลังแรงดันเพียง 3,000 ลิตร/นาที จากความต้องการขนาดแรงดันที่สูงขึ้น ทำให้หน่วยงานบรรเทาสาธารณะภัยมีความต้องการรถดับเพลิง Scania ซึ่งเป็นรถบรรทุกที่มีเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง สามารถฉีดน้ำได้ไกลขึ้นและมีระยะเวลาการทำงานที่ยาวนาน นอกจากนั้น รถสแกนเนีย ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ (Opticruise) และ เบรกลม ช่วยให้การควบคุมรถง่ายยิ่งขึ้นและมีความปลอดภัยสูง

               สำหรับกลุ่มของรถที่ใช้ในกิจการไฟฟ้า รถขุดเจาะ และ รถติดตั้งวางเสาไฟฟ้า เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ สแกนเนีย ให้ความสำคัญ เนื่องจากลูกค้าหลักของรถในกลุ่มนี้คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการให้บริการด้านไฟฟ้าทั้งในภาคอุสาหกรรมและครัวเรือนทั่วทั้งประเทศไทย มีความต้องการใช้รถเพื่อขยายและปรับปรุงพื้นที่การให้บริการไฟฟ้าให้เป็นไปอย่างทั่วถึงครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยในปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน สแกนเนีย มีการส่งมอบรถให้แก่ กฟผ. แล้วทั้งสิ้น 36 คัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มจำนวน เพื่อให้เพียงพอต่อการขยายการให้บริการแก่ประชาชน

               ส่วนจุดเด่นที่สำคัญของรถ สแกนเนีย ซึ่งสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดทั้ง 2 กลุ่มได้เป็นอย่างดี คือ ด้านเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพ ให้กำลังแรงม้าสูง สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ มีความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อย รวมถึงมีระบบความปลอดภัยสูง ทั้งยังมีความพร้อมด้านการบริการหลังการขายและอะไหล่ รวมถึงหน่วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินซึ่งพร้อมให้บริการได้ตลอด24ชั่วโมง นอกจากนั้น สแกนเนีย ยังมีการจัดอบรมทักษะการขับขี่อย่างสม่ำเสมอให้แก่พนักงานขับรถ ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของขับขี่อย่างปลอดภัย โดยในการอบรมนั้นประกอบไปด้วยการเพิ่มทักษะการขับขี่ทั้งในเวลาปกติและเมื่อเกิดเหตุการณ์เฉพาะหน้า การควบคุมรถให้มีความปลอดภัย และเรียนรู้การใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้สามารถใช้งานรถสแกนเนียได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย




28052
สภาสังคมสงเคราะห์ฯ และ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ เชิญเข้าร่วมงาน The Platinum Mother’s Day
ชมกิจกรรมไฮไลท์แฟชั่นโชว์จากแม่ลูกดาราชื่อดัง พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดอกมะลิวันแม่


สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์  ร่วมกับ เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์  จัดงาน The Platinum Mother’s Day ตั้งแต่วันที่ 7 – 13 สิงหาคม 2557 ณ บริเวณ เดอะ แพลทินัม สตรีท ศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ เพื่อเป็นการเทิดทูนและเผยแพร่พระเกียรติคุณสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผู้ทรงเป็นพระมิ่งแม่แห่งชาติ เผยแพร่พระคุณแม่และบทบาทของแม่ที่มีต่อครอบครัว ปลูกจิตสำนึกถึงความสำคัญของความกตัญญูต่อแม่ผู้มีพระคุณ อันเป็นวัฒนธรรมดีงามของไทย

ภายในงานมีการออกร้านดอกมะลิสัญลักษณ์วันแม่แห่งชาติปี2557 จัดช่อตกแต่งสวยงาม หลากหลายรูปแบบ เพื่อนำไปบอกรักแม่ รายได้จากการจำหน่ายส่วนหนึ่งทูลเกล้าฯถวาย สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยและอีกส่วนหนึ่งสมทบทุนร่วมใจสงเคราะห์ชุมชนเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสทั่วประเทศ โดยสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์  เป็นผู้นำมาจัดจำหน่าย ณ บริเวณด้านหน้าโซน 2  นอกจากนั้นยังมีการจำหน่ายสินค้าของฝากคัดสรรมาสำหรับคุณแม่โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นต้นมะลิจัดใส่กระถางแสนสวยเสื้อผ้าเครื่องประดับของที่ระลึกเคสมือถือทำมือ กระเป๋าถือของคุณแม่ เซตเครื่องสำอางบำรุงผิว  ฯลฯ  มากมายกว่า 50 ร้านค้า

สำหรับพิธีเปิดงานได้รับเกียรติจาก พลตรีหญิงคุณหญิงอัสนีย์  เสาวภาพ  ประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานเปิดงานในวันศุกร์ที่ 8 ส.ค.  เวลา 16.30 น. ณ บริเวณ เดอะ แพลทินัม สตรีท พร้อมเปิดตัวแฟชั่นโชว์คู่แม่ลูกดารา สุดน่ารัก เช่น  คุณศิริพิชญ์ วิมลโนช(กีต้าร์) - น้อง เติมเต็ม  คุณอัญชลี  หัสดีวิจิตร (เอ)– น้องเอวี่ , มนัสวี กฤตานุกูลย์  (หลิว) – น้องแฟรี่, คุณพิยดา จุฑารัตนกุล(อ้อม) – น้องนาวา  ที่จะมาร่วมสร้างความสุขสุดประทับใจ ด้วยการเดินแฟชั่นโชว์ในชุดหลากหลายสไตล์ เช่น  FEMININE CHIC,ELEGANT LADY CLASSIC ,SUPER MODEL EDGY AND MUSCULINE LOOK  ,SPORTY LOOK

พลาดไม่ได้กับงาน The Platinum Mother’s Day ตั้งแต่วันที่ 7 – 13 สิงหาคม 2557 ณ บริเวณ เดอะ แพลทินัม สตรีท ศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์

28053
กทม.เปิดตัวรายการทีวีเรียลลิตี้และทอล์คโชว์ครั้งแรกของไทย
มุ่งลดปัญหายาเสพติดก้าวขึ้นสู่มหานครแห่งความปลอดภัย


               นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รักษาการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้จัดทำโครงการประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของกรุงเทพมหานคร เพื่อรณรงค์ปลุกจิตสำนึกให้เด็ก เยาวชน และประชาชนได้รับรู้และตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดผ่านรายการโทรทัศน์ประเภทเรียลลิตี้โชว์และรายการเกมและทอค์ลโชว์ครั้งแรกของประเทศไทย จำนวน  2  รายการ ได้แก่ รายการโชว์พาว และรายการภูมิคุ้มกัน  เนื่องจากกรุงเทพมหานครเล็งเห็นว่ายาเสพติดเป็นปัญหาสังคมที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง

               สำหรับรูปแบบรายการโทรทัศน์ “รายการโชว์พาว” เป็นรายการโทรทัศน์ประเภทเรียลลิตี้โชว์ที่แสดงถึงพลังและความคิดของเยาวชน เพื่อค้นหานักสร้างหนังสั้นรุ่นใหม่ โดยรายการดังกล่าวจะมีเนื้อหารณรงค์ต่อต้านยาเสพติดที่โดนใจวัยรุ่น สร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชนไทย นำเสนอมุมมองเพื่อกระตุกต่อมความคิด สะกิดจิตสำนึกของวัยรุ่นผ่านกิจกรรมการประกวดหนังสั้น จำนวน 10 เรื่อง โดยมีทีมผู้กำกับระดับปรมาจารย์ อาทิ  อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร พิง ลำพระเพลิง และอ.ประวิทย์ แต่งอักษร เป็นคณะกรรมการตัดสิน โดยผู้ชนะจะได้เงินรางวัลสูงสุด 100,000 บาท  ซึ่งจะออกอากาศทั้งหมด 13 ตอน ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ทุกวันอังคาร ตั้งแต่เวลา 17.00 – 17.30 น. เริ่มออกอากาศวันที่ 19 สิงหาคม 2557




               ส่วน “รายการภูมิคุ้มกัน” เป็นรายการโทรทัศน์ประเภทเกมและทอล์คโชว์ที่มีเนื้อหารณรงค์ต่อต้านยาเสพติดให้สาระความรู้ความสนุกสนานที่เป็นประโชน์ต่อเด็ก เยาวชน และประชาชน รวมทั้งจะเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ของคนในครอบครัว เพื่อน และชุมชน โดยรายการดังกล่าวจะออกไปถ่ายทำตามโรงเรียนมัธยมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 10 แห่ง เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี รวมทั้งยังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับให้กับเด็กและเยาวชนไทยอีกด้วย ซึ่งรายการดังกล่าวจะออกอากาศทั้งหมด  52  ตอน ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง GMM Channel  ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 24.00-24.30 น. เริ่มออกอากาศเดือนตุลาคม 2557

               นางผสุดี กล่าวต่อว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดของประเทศไทยในปัจจุบันจัดได้ว่าอยู่ในขั้นวิกฤติ นับวันยิ่งจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครถือว่าเป็นพื้นที่สำคัญที่มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องและยังคงสภาพที่สำคัญ 4 ประการ คือ  1.การคงสภาพเป็นพื้นที่การค้า พื้นที่พักเก็บและพื้นที่ลำเลียงผ่าน  2.การแพร่ระบาดและการแพร่กระจายของยาเสพติดเพิ่มขึ้น 3.การมีผู้ค้าและผู้เสพรายใหม่เพิ่มขึ้นและมีอายุน้อยลง และ 4.ยาบ้ายังคงเป็นปัญหาหลักที่มียาไอซ์แพร่ระบาดมากขึ้น โดยเยาวชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่มีอายุต่ำกว่า  20 ปีเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพิ่มขึ้น 6 เท่า ขณะที่เยาวชนรายใหม่เสพยาเสพติดเพิ่มขึ้นร้อยละ 80%

               “นโยบายหลักด้านมหานครแห่งความปลอดภัยของหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นมาตรการเร่งด่วนที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มความสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนกรุงเทพฯ  ประกอบกับแผนยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2556 – 2559 ยังคงให้ความสำคัญกับงานด้านยาเสพติด โดยกำหนดวิสัยทัศน์ “กรุงเทพมหานครเป็นผู้นำในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการสร้างสังคมเข้มแข็งเพื่อคุณภาพชีวิต” นางผุสดี กล่าว

28054

ทีวีดาวเทียมยักษ์ใหญ่อินเดียเลือกใช้สวิตช์โบรเคด
รับกระแสคลาวด์โตต่อเนื่อง

บริษัท วิดีโอคอน ดีทูเอช ผู้ให้บริการเครือข่ายผ่านดาวเทียม DTH
ใช้สวิตช์ Brocade VDX 6720 และเทคโนโลยี VCS Fabric เพิ่มประสิทธิภาพดาต้าเซ็นเตอร์


บริษัท โบรเคด (Brocade) ผู้นำด้านโซลูชั่นแฟบริกเน็ตเวิร์กกิ้งดาต้าเซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัท วิดีโอคอน ดีทูเอช (Videocon D2H) ผู้ให้บริการเครือข่ายผ่านดาวเทียม DTH (Direct-To-Home) รายใหญ่ของอินเดีย ได้เลือกโซลูชั่น Brocade® Ethernet Fabric เพื่อปรับปรุงการทำงานของดาต้าเซ็นเตอร์เน็ตเวิร์ก

โดยดาต้าเซ็นเตอร์ของบริษัท วิดีโอคอน ดีทูเอช จะนำเทคโนโลยี Brocade VCS® Fabric ใช้คู่กับสวิตช์ Brocade VDX® สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีอยู่และดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจที่รวดเร็วอย่างต่อเนื่อง





อินเดียเป็นประเทศที่มีตลาดการแข่งขันดาวเทียม DTH สูงที่สุดในโลก โดยมีผู้ให้บริการเอกชนและองค์กรกระจายเสียงทางโทรทัศน์ของรัฐจำนวน 6 ราย บริษัท วิดีโอคอน ดีทูเอช เริ่มให้บริการครั้งแรกในปี 2009 นับเป็นผู้ให้บริการรายล่าสุดของตลาด แต่มีสมาชิกรับชมมากถึง 10 ล้านรายในเวลาแค่ 4 ปี

ดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่ของวิดีโอคอน ดีทูเอช ใช้สวิตช์ VDX 6720 ของโบรเคด ซึ่งได้รับการออกแบบสำหรับรองรับการทำงานเวอร์ชวลไลเซชั่นโดยเฉพาะ พร้อมฟีเจอร์เทคโนโลยี Brocade VCS Fabric เพื่อให้เน็ตเวิร์กทำงานได้กระชับฉับไวยิ่งขึ้น โมบิลิตี้ของเวอร์ชวลแมชชีนสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องตั้งค่าระบบใหม่ และสามารถบริหารจัดการแฟบริกทั้งระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แฟบริกแต่ละผืนจะทำงานเหมือนดีไวซ์เวอร์ชวลอีเธอร์เน็ตหนึ่งชิ้น ทำให้บริหารจัดการได้ง่ายยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ยังกำจัดการใช้งานโปรโตคอล STP ซึ่งเป็นอุปสรรคในการทำงานของเวอร์ชวลไลซ์ดาต้าเซ็นเตอร์ เลเยอร์เดี่ยวของอีเธอร์เน็ตแฟบริกมีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสูง ด้วยการทำมัลติพาธโหลดบาลานซ์ ที่เลเยอร์ 1, 2 และ 3 และรองรับเกตเวย์แบบมัลติเพิลที่เลเยอร์ 3 อีกด้วย


ซาเมียร์ ดฮากา รองประธานฝ่ายไอที บริษัท วิดีโอคอน ดีทูเอช กล่าวว่า “ด้วยการเติบโตที่รวดเร็วของธุรกิจ ทำให้ทราฟฟิกภายในดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มมากขึ้น การตัดสินใจเรื่องเน็ตเวิร์กกิ้งที่ชาญฉลาดเป็นสิ่งจำเป็นในการแก้ไขปัญหาคอขวดของเน็ตเวิร์กที่เพิ่มขึ้นจากการใช้งานเวอร์ชวลไลเซชั่นของดาต้าเซ็นเตอร์ เราได้ศึกษาและทดสอบตัวเลือกต่างๆ ในตลาดกว่า 6 เดือน และตัดสินใจเลือกใช้สวิตช์ VDX ของโบรเคด”

เอ็ดการ์ ดิแอซ ผู้อำนายการระดับภูมิภาค บริษัทโบรเคด ประเทศอินเดีย กล่าวว่า “วิดีโอคอน ดีทูเอช เติบโตและก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเน็ตเวิร์กกิ้งที่ทันสมัยและเหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจ โซลูชั่นอีเธอร์เน็ตแฟบริกของโบรเคดสามารถแก้ปัญหาของดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งหมดของวิดีโอคอน ดีทูเอช ได้ครบถ้วน ทั้งเรื่องความเร็ว การปรับขนาด ความยืดหยุ่น การเชื่อมต่อของเวอร์ชวลแมชชีน และการจัดการระบบแบบออโตเมชั่น”

เกี่ยวกับโบรเคด

โซลูชั่นเน็ตเวิร์กกิ้งในด้านต่างๆ จากบริษัทโบรเคด (Nasdaq: BRCD) ช่วยให้บริษัทและองค์กรธุรกิจชั้นนำทั่วโลกสามารถก้าวข้ามช่วงเปลี่ยนผ่านอย่างราบรื่นไปสู่ยุคใหม่ที่ทั้งแอพพลิเคชั่นและข้อมูลที่ใช้งานสามารถอยู่ได้ในทุกสถานที่อย่างแท้จริง (www.brocade.com)

###

© 2014 Brocade Communications Systems, Inc. All Rights Reserved.

ADX, Brocade, Brocade Assurance, the B-wing symbol, DCX, Fabric OS, HyperEdge, ICX, MLX, MyBrocade, OpenScript, VCS, VDX, and Vyatta are registered trademarks, and The Effortless Network and The On-Demand Data Center are trademarks of Brocade Communications Systems, Inc., in the United States and/or in other countries. Other brands, products, or service names mentioned may be trademarks of others.

28055
มาร่วมเปิดประสบการณ์ดนตรีกับแอน ธิติมา ใน TK park Music Ed. 2014 ครั้งที่


อุทยานการเรียนรู้ TK park ชวนทุกท่าน เพลิดเพลินกับนักร้องสาวที่มีเสียงสวยใสที่สุดคนหนึ่งของวงการเพลง “แอน ธิติมา กับเสียงจากหัวใจ” เธอมีบทเพลงฮิตมากมาย ตั้งแต่เป็นศิลปินกลุ่มจนถึงศิลปินเดี่ยว แอนจะมาร้องเพลงเพราะๆ ให้เราฟังและเล่าเรื่องราวเส้นทางเดินบนถนนสายดนตรีของเธอ พร้อมเผยเคล็ดลับของการเป็นนักร้องที่ดีให้เราฟังกันอีกด้วย โดยมี สัปปะรดแนน-ณัฐกฤตา พงษ์ธนานิกร เป็นพิธีกรดาเนินรายการ

ผู้ที่สนใจสามารถพบกันในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2557 เวลา 16.30 - 18.00 น. ที่อุทยานการเรียนรู้ TK park Dazzle Zone ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.tkpark.or.th และ www.facebook.com/tkparkclub

28056
สวทน. โดยสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง 
จัดงานเสวนา “ผ่าทางตันการปฎิรูประบบขนส่งทางรางของไทย ให้ยั่งยืนคุ้มค่า2.4 ล้านล้าน”

เตรียมจัดงานประชุมวิชาการระบบขนส่งทางรางแห่งชาติ ครั้งใหญ่ 28-29 ส.ค.นี้

ในโอกาสที่ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ  สวทน. เตรียมจัดงานประชุมวิชาการระบบขนส่งทางรางของไทย ปี 2557 (Thailand Rail Academy Symposium) ครั้งใหญ่ในวันที่ 28-29 สิงหาคม 2557 นี้ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการปฏิรูปยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศสู่ความก้าวหน้าของระบบขนส่งคมนาคมและศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่ง คสช.จะได้เสนอโครงการพื้นฐานและขนส่งทางราง 2.4 ล้านล้านบาท เข้าสู่คณะรัฐมนตรี นั้น สวทน. ระดมผู้เชี่ยวชาญจัดเสวนา ในหัวข้อ “ผ่าทางตันการปฏิรูประบบขนส่งทางราง ให้ยั่งยืนคุ้มค่าการลุงทุน 2.4 ล้านล้านบาท” เสนอการแก้ปัญหาอุปสรรคที่เปรียบเสมือนทางตันใน 5 ด้าน อาทิ ด้านการสร้างฐานความรู้ กำลังคนและต่อยอดสู่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง, ด้านการพัฒนาระบบบริหารจัดการและเทคโนโลยี, ด้านบุรณาการพัฒนาเมืองที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค เชื่อมโยงอุตสาหกรรม การเกษตรและการท่องเที่ยวตามเส้นทางระบบรางและโครงข่าย, ด้านส่งเสริมวิชาการวิศวกรรมขนส่งและการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด, ด้านการสนับสนุนพัฒนาการวิจัยและการผลิตบุคลากร  เผยแนวคิดในอนาคตจัดตั้งสถาบันวิชาการระบบขนส่งทางรางของไทย (Thailand Rail Academy) และเชิญชวนกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วม งานประชุมวิชาการระบบขนส่งทางรางของไทย ปี 2557 เป็นครั้งแรกในประเทศไทยเพื่อเปิดเวทีเผยแพร่องค์ความรู้ครั้งใหญ่แห่งปี พร้อมจัดนิทรรศการนักศึกษาพบผู้ประกอบการทางรางและจัดประกวดผลงานนวัตกรรมทางวิศวกรรมระบบรางปลายเดือนสิงหาคมนี้


                ผู้ร่วมเสวนา 5 ท่าน  ในหัวข้อ “ผ่าทางตันการปฏิรูประบบขนส่งทางราง ให้ยั่งยืนคุ้มค่าการลุงทุน 2.4 ล้านล้านบาท ”ประกอบด้วย ดร. เยี่ยมชาย ฉัตรแก้ว อดีตรองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย, ศ.ดร วัลลภ สุระกำพลธร ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง สวทน.ดร.สมประสงค์ สัตยมัลลี ผู้อำนวยการกองวิชาการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ดร. เทิดเกียรติ ลิมปิทีปราการ ผู้แทนสมาพันธ์วิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย และ ดร.ณัฐวุฒิ หลิ่วพิริยะวงศ์ ประธานสาขาวิศวกรรมระบบขนส่งทางราง คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

                ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ซึ่งเป็นประธานของานเสวนา  กล่าวว่า “ในยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศไทยให้โปร่งใสมั่นคงและยั่งยืน สวทน. มีความมุ่งมั่นในภารกิจการสร้างฐานความรู้และผลิตบุคคลากร เพื่อรองรับโครงการลงทุนและทิศทางการพัฒนาประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และตรงเป้าหมาย ในการปฎิรูประบบขนส่งทางรางของประเทศไม่ว่าจะเป็นรถไฟในเมือง รถไฟทางคู่ระหว่างเมือง หรือรถไฟเพื่อเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและศักยภาพทางเศรษฐกิจ  การประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม  พร้อมก้าวเป็นฮับโลจิสติกส์ ของอาเซียน ทั้งหมดนี้จะเป็นไปได้อย่างยั่งยืนและคุ้มค่า ประเทศไทยจึงต้องให้ความสำคัญและลงทุนกับการผลิตบุคคลากร วิศวกรและช่างเทคนิค พร้อมทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยี การวิจัยที่จะต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง”

                ศ.ดร วัลลภ สุระกำพลธร ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง สวทน. กล่าวสรุปว่า “ข้อเสนอจากการเสวนา ในหัวข้อ “ผ่าทางตันการปฏิรูประบบขนส่งทางราง ให้ยั่งยืนคุ้มค่าการลุงทุน 2.4 ล้านล้านบาท” จากยุทธศาสตร์พัฒนาการคมนาคมระยะเวลา 8 ปี ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2558 –2565 วงเงินรวม 2.4 ล้านล้านบาทประกอบด้วย 5 แผนงาน คือ แผนงาน ที่ 1.การพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง วงเงิน 6.7 แสนล้านบาท โดยเป็นโครงการรถไฟรางคู่ 17 เส้นทางและอื่นๆ แผนงาน ที่ 2.การพัฒนาโครงข่ายขนส่งสาธารณะรถไฟฟ้า 10 เส้นทางโดยจะมีการประกวดราคาเพิ่มเติมและถนนกรุงเทพฯ 1.2 ล้านล้านบาท อีก112 กิโลเมตรในระหว่างปี 2557-2558  แผนงาน ที่ 3.เป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางหลวงเพื่อเชื่อมโยงฐานการผลิตที่สำคัญของประเทศสู่ประชาคมอาเซียนวงเงินประมาณ 6.4 แสนล้านบาท แผนงาน ที่ 4.การพัฒนาโครงข่ายทางน้ำ และแผนงาน ที่ 5.การพัฒนาท่าอากาศยาน นั้น จะเห็นได้ว่าการพัฒนาประเทศไม่ใช่เพียงการจัดซื้อรถไฟหรือการก่อสร้างเท่านั้น  แต่เราต้องมองถึงการผลิตกำลังคน  เนื่องจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ  บริการที่ดี การปฏิบัติการและความปลอดภัยจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะ “คน”  เราต้องสร้างบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญทุกระดับเพื่อรองรับโครงการระบบขนส่งทางรางและคมนาคมในครั้งนี้  จากการศึกษาวิเคราะห์คาดว่าความต้องการกำลังคนในอนาคต ปี 2563 มีจำนวน 31,000 คน ประกอบด้วย วิศวกร 6,000 คน ช่างเทคนิค 12,000 คน และเจ้าหน้าที่ประจำสถานี 13,000 คน การสร้างฐานความสามารถ เพื่อบรรลุจำนวนการผลิตบุคลากรในการรองรับเทคโนโลยีระบบขนส่งทางรางนั้น เนื่องจากประเทศไทยมีความได้เปรียบในด้านยุทธศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางของอาเซียน และเปี่ยมประสบการณ์ความเชี่ยวชาญเป็นฐานการผลิตและส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนประกอบรายใหญ่ของโลกและครบวงจรอยู่แล้ว  ดังนั้นการวางระบบในการพัฒนากำลังคนให้เกิดองค์ความรู้ระบบขนส่งทางรางในประเทศ และมีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดความรู้เชิงลึกเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศไทย นำไปสู่ การต่อยอดเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องในอนาคต  เช่น การผลิตชิ้นส่วน อะไหล่ เบาะ ตัวถัง วงจรไอที เป็นต้น จึงทำให้เกิดการจ้างงานและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทย  รัฐควรกำหนดให้เมกะโปรเจ็คใช้ชิ้นส่วนจากผู้ผลิตในประเทศ เพื่อส่งเสริมการวิจัยพัฒนา ลดการนำเข้าและหันมาส่งเสริมการผลิตภายในประเทศแทน

                การบูรณาการเชี่อมไทยเข้าด้วยกัน เชื่อมต่ออาเซียนและชุมชนโลก โดยพัฒนาระบบราง สร้างเมือง ชุมชนที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค เชื่อมโยงกับฐานการผลิตอุตสาหกรรม การเกษตรและการท่องเที่ยว ตามที่เส้นทางระบบรางและโครงข่าย จะผ่านไปซึ่งประชากรในภูมิภาคอาเซียนมีกว่า 300 ล้านคน  เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนส่วนรวมมากที่สุด ระบบบริหารจัดการและเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ เพื่อการพึ่งพาตนเองและการบริการที่มีมาตรฐานปลอดภัยสูง ไม่ว่าจะเป็น รถไฟในเมือง, รถไฟระหว่างเมือง, หรือรถไฟความเร็วสูง ในด้านเงินทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานขนส่งระบบรางซึ่งมีมูลค่าสูงจำเป็นต้องแสวงหาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม หรือการร่วมทุนกับภาคเอกชน

                ในการเสริมความแข็งแกร่งด้านวิศวกรรมขนส่งทางราง ทาง สวทน. เตรียมจัด งานประชุมวิชาการระบบขนส่งทางรางของไทย ประจำปี 2556  (Thailand Rail Academy Symposium 2014)  ภายใต้แนวคิด Rail Development For National Reform  ในวันที่ 28-29 สิงหาคม 2557 ณ ห้องบอลรูม โรงแรม สวิสโฮเต็ล กรุงเทพ ซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เวทีระดับชาติด้านการพัฒนาความรู้และเทคโนโลยีและนิทรรศการระบบขนส่งทางราง ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี โดยกูรูผู้มีชื่อเสียงจากในและต่างประเทศ มาถ่ายทอดประสบการณ์ตรงและกรณีศึกษาที่น่าสนใจในนานาประเทศ  ชมผลิตภัณฑ์และบริการจากผู้ประกอบการชั้นนำของโลกและประเทศไทย กลุ่มเป้าหมายผู้ร่วมประชุมเป็นนักวิชาการ  วิศวกร นักวิจัย นักพัฒนาเมือง และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมระบบราง ส่วนที่ 2 เป็น นิทรรศการ และเวที Rail Best Job Opportunity สำหรับนิสิต นักศึกษา ระดับ ปวส. และ ปริญญาตรี  พร้อมทั้งจัดประกวดผลงานนวัตกรรมระบบขนส่งทางราง จาก 30 ทีมนักศึกษาจากกรุงเทพและต่างจังหวัด ผู้มาร่วมงานไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ สนใจสามารถดูรายละเอียดและลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ www.sti.or.th/thaist

                เพื่อให้การปฏิบัติการด้านระบบขนส่งทางรางของประเทศไทยดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง โดยบุคลลากรคนไทย โดยมีขีดความสามารถตั้งแต่การวางแผนและการตัดสินใจด้านนโยบาย การบริหารจัดการและการปฏิบัติที่ดี รวมทั้งสามารถวิจัยพัฒนาออกแบบ และสร้างวิศวกรรมเพื่อการผลิตในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง สวทน. มีแผนงานในอนาคตที่จะจัดตั้ง สถาบันวิชาการระบบขนส่งทางรางของประเทศไทย (Thailand Rail Academy) ทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงาน เชื่อมโยง ส่งเสริมสนับสนุน และอำนวยความสะดวก เพื่อพัฒนาบุคลากร สร้างความเชี่ยวชาญ เพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการและสั่งสมความรู้ความสามารถของประเทศด้านเทคโนโลยีระบบขนส่งทางรางให้ก้าวไกล เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ

                ทางด้าน สมาพันธ์วิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย มีแนวคิดที่จะส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรที่ทำงานในสายงานและอุตสาหกรรมนี้  รวมทั้งแนวคิด “การเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด” จะทำให้คนไทยได้เสริมสร้างพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนวัตกรรมและเทคโนโลยีมีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

                ในด้านการสร้างเครือข่ายพัฒนาวิจัยและผลิตบุคลากร เป็นการผนึกกำลังของ 19 องค์กร ระหว่าง 3 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มงานวิจัยและสถาบันการศึกษา, กลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมระบบราง และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) มีความก้าวหน้าในด้านการพัฒนากำลังคน โดยเปิดหลักสูตร 2 ระดับ คือ ระดับปริญญาตรีวิศวกรรมขนส่งทางราง (Railway Transportation Engineering) ซึ่งร่วมกับทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล)  เปิดสอนรุ่นแรกปี 2556 จำนวน 49 คน และปี 2557 จำนวน 45 คน เน้นความเข้มข้นในวิชาการควบคู่กับการปฏิบัติ  ส่งเสริมงานวิจัยและเตรียมลงทุนระยะที่ 2 และ 3 สร้างเพิ่มห้องปฏิบัติการขนส่งระบบราง เพื่อตอบสนองการผลิตบัณฑิตและบุคคลากรที่เพิ่มขึ้น  พร้อมทั้งความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมในการทำวิจัย  ตลอดจนเชิญศาสตราจารย์ จากสหรัฐอเมริกามาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ทางด้านเทคโนโลยีด้านรถไฟความเร็วสูง เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้ให้กับนักวิจัยและวิศวกรไทยในการนำไปพัฒนาต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ สวทน. ได้สนับสนุนให้มหาวิทยาลัย 5 แห่ง ประกอบด้วย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยมหิดล ทำการพัฒนารายวิชาที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมระบบรางจำนวน 12 วิชา เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนเป็นรายวิชาเลือกด้านวิศวกรรมระบบรางในคณะวิศวกรรมศาสตร์ของแต่ละสถาบันการศึกษา ซึ่งผลิตนักศึกษาระดับวิศวกรเข้าสู่ตลาดแรงงานด้านระบบขนส่งทางรางในรุ่นแรกประมาณ 150 คน  ส่วนการสร้างกำลังคนในระดับช่างเทคนิค( ปวส.) เข้าสู่ตลาดแรงงาน  ได้พัฒนาเป็น 8 รายวิชาโดยมอบให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี(มจธ.) เป็นผู้พัฒนาหลักสูตร ฝึกอบรมอาจารย์และพัฒนาสื่อการเรียนการและนำร่องการเรียนการสอนใน  4 วิทยาลัย ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม วิทยาลัยเทคนิคนครปฐม วิทยาลัยเทคนิคเทคโนโลยัสยาม และวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา ผลผลิตนักศึกษาในปี 2556 จำนวน 130 คน และปี 2557 คาดว่าประมาณ 300 คน

รายชื่อและตำแหน่งผู้เข้าร่วมเสวนา

1. ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์

ตำแหน่ง: เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) 

Name : Dr. Pichet Durongkaveroj

Secretary General of National Science Technology and Innovation Policy Office (STI)

2. ศ.ดร. วัลลภ สุระกำพลธร

ตำแหน่ง : ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง สวทน.

Name: Professor Wanlop Surakampontorn,

Ph.D., Director of Thailand Advanced Institute of Science and Technology (THAIST)

3. ดร.เยี่ยมชาย ฉัตรแก้ว

ตำแหน่ง : (อดีต) รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

Name : Dr. Yiemchai Chatkeo,

4. ดร.สมประสงค์ สัตยมัลลี

ตำแหน่ง : ผู้อำนวยการกองวิชาการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย 

Name: Dr. Somprasong Suttayamully

Director, Technical Division, Mass Rapid Transit Authority of Thailand

5. ดร.เทอดเกียรติ ลิมปิทีปราการ 

ตำแหน่ง : ผู้แทนสมาพันธ์วิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย

Name : Dr. Terdkiat Limpeteeprakarn

6. ดร. ณัฐวุฒิ หลิ่วพิริยะวงษ์

ตำแหน่ง : ประธานสาขาวิศวกรรมรขนส่งทางราง คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

Name: Dr. Nuttawut Lewpiriyawong

Head of Rail Transportation Engineering, Faculty of Engineering, KMITL


               

               

28057
แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ยาทาเล็บแบรนด์ Lynn & Co.


Group-018-Final-Labels

ลินน์แอนด์โค (LYNN & Co.) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ยาทาเล็บและดูแลรักษาเล็บคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด “Catwalk” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากแฟชั่นโชว์สุดร้อนแรงบนรันเวย์ชั้นนำทั้ง 6 เมืองในโลก คือ นิวยอร์ก มิลาน ปารีส มาดริด โตเกียว และลอนดอน ด้วยสูตรเอกสิทธิ์เฉพาะจึงช่วยให้สีเล็บสวยเนียนเรียบ ติดทนนาน ไม่มีฟองอากาศ เผยผลลัพธ์ให้เล็บสวยเหมือนออกมาจากซาลอน ทั้งยังปราศจากสารเคมีสารโทลูอีน สารไดบิวทิลพธาเลธ สารฟอร์มาลดีไฮด์ สารฟอร์มาลดีไฮด์เรซิ่น ที่เป็นอันตรายต่อเยื่อบุจมูกและทางเดินหายใจเพื่อส่งมอบความงามที่ปลอดภัยสู่สาวๆ ชาวไทย มีให้เลือก 6 สี จำหน่ายในราคาพิเศษเพียงขวดละ 420 บาท สามารถหาซื้อได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 081-130-4888 หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ผ่านทาง www.facebook.com/lynnandco และทางอินสตาแกรม @Lynnandco

LynnCo_Bottles_HiRes_BaseCoat               LynnCo_Bottles_HiRes_London

LynnCo_Bottles_HiRes_Madrid               LynnCo_Bottles_HiRes_Milan

LynnCo_Bottles_HiRes_NewYork               LynnCo_Bottles_HiRes_Paris

LynnCo_Bottles_HiRes_Tokyo               LynnCo_Bottles_HiRes_TopCoat

28058

จากัวร์ แลนด์โรเวอร์
ฉลองยอดขายทะลุเป้าจากกิจกรรม “แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ เดย์”
ในงานมหกรรมยานยนต์ เมกา ออโต้ โชว์ 2014

รถยนต์หรูสองแบรนด์ดังโกยยอดสั่งซื้อในงานรวมกว่า 50 ล้านบาทในสองสัปดาห์


ซิตี้ ออโต้โมบิล ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ฉลองความสำเร็จยอดขายรถยนต์หรูสองแบรนด์ดังจากการจัดกิจกรรม “แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ เดย์” ภายในงานมหกรรมยานยนต์ เมกา ออโต้ โชว์ 2014 ณ ศูนย์การค้าเมกาบางนา ซึ่งจัดแสดงยนตรกรรมระดับโลกหลากหลายรุ่น อาทิ เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต, เรนจ์โรเวอร์ อีโวค, เรนจ์โรเวอร์, แลนด์โรเวอร์ ฟรีแลนเดอร์, จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ และ จากัวร์ เอ็กซ์เจ โดยมียอดสั่งซื้อสูงเกินความคาดหมาย รวมกว่า 50 ล้านบาทภายในช่วงเวลาเพียงสองสัปดาห์ของการจัดงาน ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือและการปฏิบัติหน้าที่อย่างดีเยี่ยมของพนักงานฝ่ายขายและทีมงานสนับสนุนของ ซิตี้ ออโต้โมบิล เพื่อการนำเสนอสุดยอดยนต์และบริการที่เหนือระดับแก่ผู้บริโภคในเมืองไทย

กิจกรรมของจากัวร์แลนด์โรเวอร์ โดย ซิตี้ ออโต้โมบิล ได้รับความสนใจอย่างเนืองแน่นและมีผู้เข้าชมงานกว่า 100,000 คนในแต่ละวัน โดยเฉพาะไฮไลท์การนำเสนอเอ็กเซ็กคิวทีฟคาร์ในราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 1.9 ล้านบาท ที่ได้รับความสนใจจากเหล่าลูกค้าหน้าใหม่ของแบรนด์แลนด์โรเวอร์อย่างล้นหลามจนทำให้มีการสั่งซื้อตั้งแต่วันแรกของการจัดงาน นอกจากนี้ผู้ที่สั่งซื้อรถยนต์ทุกรุ่นจากกิจกรรม “แลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่ เดย์” จะได้รับแพ็คเกจบริการการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนบริการหลังการขายและการซ่อมบำรุงด้วยมาตรฐานระดับโลก   

มร.ริชาร์ด เฮก ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด เปิดเผยว่า “ผมขอขอบคุณพนักงานฝ่ายขายของจากัวร์แลนด์โรเวอร์ ทุกท่าน ที่ปฏิบัติหน้าที่และให้บริการแก่ผู้บริโภคในงาน เมกา ออโต้ โชว์ อย่างอุตสาหะ ซึ่งนอกจากยอดสั่งจองกว่า 50 ล้านบาทภายในระยะเวลาเพียงสองสัปดาห์แล้ว เรายังได้รับคำชื่นชมอย่างมากจากผู้บริโภคถึงการให้คำแนะนำที่ดีเยี่ยมจากทีมงานฝ่ายขายและฝ่ายเทคนิคของเราอีกด้วย ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากการลงทุนเพื่อการพัฒนาบริการทั้งก่อนและหลังการขายของเรา ซึ่งความต้องการรถยนต์จากัวร์แลนด์โรเวอร์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสิ่งสะท้อนที่ชัดเจนถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์จากัวร์แลนด์โรเวอร์ในประเทศไทย”



จากัวร์แลนด์โรเวอร์ทุ่มเทเพื่อการขยายธุรกิจและฐานลูกค้าระดับสูงในเมืองไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยการจัดกิจกรรมการตลาดและมอบข้อเสนอระดับเอ็กซคลูซีฟเพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า นอกจากนี้บริษัทยังได้ลงทุนทางด้านการขาย เครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับบริการหลังการขายเพื่อมอบบริการชั้นเยี่ยมที่สมบูรณ์แบบแก่ลูกค้า

ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยานยนต์ และข้อมูลเชิงเทคนิคได้ที่เว็บไซต์ www.landroverthailand.com, www.jaguarthailand.com และ http://facebook.com/thailandlandrover


###

เกี่ยวกับ บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด

บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด คือผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์เพียงรายเดียวในประเทศไทย โดยรับผิดชอบการนำเข้า จัดจำหน่าย และบริการหลังการขายสำหรับรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ทุกรุ่นในประเทศไทย บริษัทฯ ขณะนี้บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด ได้เปิดศูนย์บริการ 2 แห่งที่ถนนวิทยุ และถนนเพชรบุรี ทั้งนี้ยังได้ลงทุนจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีล้ำสมัยตามมาตรฐานของจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ซึ่งจะพร้อมให้บริการในปีหน้า

28059
ซุบซิบ "แต้ว ณฐพร ร่วมคืนความสุขให้กับคนไทยทุกจาน"


ช่วงนี้แฟนๆ ของช่อง 3 คงกำลังอินกับละครซีรีส์ฟอร์มยักษ์แดนซากุระ“รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน”  ที่ได้สาวแต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ นางเอกคิวทอง ที่รับบทเป็น แพรวดาว สาวไทยที่พระเอกอย่างมาริโอ้เจอปุ๊บก็หลงรักปั๊บ คราวนี้สาวแต้วขออาสาคืนความสุขให้คนไทยทุกจานเอ้ย!! ทุกคน ด้วยการร่วมปรุงอาหารจานเด็ด ในงานแถลงข่าวเปิดโครงการจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ เพื่อคืนความสุขให้คนไทยทุกจาน พบกับสาวแต้วได้ในวันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2557 เวลา 10.30 น. ณ ร้านอาหารนายอู๋ ตลาดสามย่านนะจ๊ะ

28060
ผู้บัญชาการยกนิ้ว เวิลด์ออฟแท็งค์ iCafe Tournament อุบลฯ ตื่นเต้น เร้าใจ ตั้งแต่ต้นจนจบ!

28061
เมแกน ฟ็อกซ์ นำทีมนักแสดงจาก Teenage Mutant Ninja Turtles หรือ เต่านินจา เปิดตัวรอบปฐมทัศน์ ที่ลอสแองเจลิส


Megan

เมแกน ฟ็อกซ์ นำทีมนักแสดงจาก Teenage Mutant Ninja Turtles หรือ เต่านินจา ซึ่งประกอบด้วย วิลล์ อาร์เน็ต, อลัน ริตช์สัน, พีท โพลสแซค, เจเรมี โฮเวิร์ด, วิลเลียม ฟิตช์เนอร์, โนอา ฟิชเชอร์ และ แดนนี วูดเบิร์ด พร้อมด้วย โจนาธาน ลีเบสแมน ผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้อำนวยการสร้าง อย่าง ไมเคิล เบย์, แอนดรูว์ ฟอร์ม และ แบรดลีย์ ฟูลเลอร์ ร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ ที่ รีเจนซี วิลเลจ เธียเตอร์ ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา






TMNT

Teenage Mutant Ninja Turtles หรือ เต่านินจา เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่น แฟนตาซี ผจญภัย ที่เต็มไปด้วยสุดยอดเทคนิคตระการตาและฉากต่อสู้สุดมันส์ ซึ่งมีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ในไทย รอบพิเศษหลัง 2 ทุ่ม ตั้งแต่ 12 -20 สิงหาคม และฉายจริง 21 สิงหาคม นี้

ความมืดมนได้เข้ามายึดครองนิวยอร์กซิตี้ เมื่อเชรดเดอร์และกองกำลังฟุตแคลนที่ชั่วร้ายของเขาได้เข้าครอบงำทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ตำรวจไปจนถึงนักการเมือง อนาคตดูน่ากลัวและสยดสยอง จนกระทั่งสี่พี่น้องนอกสังคมขึ้นมาจากท่อระบายน้ำและค้นพบชะตาของพวกเขาในฐานะ Teenage Mutant Ninja Turtles หรือ เต่านินจา ทั้งสี่ต้องร่วมมือกับเอพริล นักข่าวสาวสุดมั่น และเวิร์น เฟนวิค ช่างภาพหัวหมอ เพื่อกอบกู้เมืองและทำลายแผนร้ายของเชรดเดอร์


MeganFox_MichaelBay


Megan_AlanRi_PeteZ



MeganFox_WillArnett


TMNT-Cast


TMNT-Team

28062
ตัวอย่างแรกจาก The Spongebob Movie Sponge Out Of Water 3D สพันจ์บ็อบ ฮีโร่จากใต้สมุทร 3D


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=jK__Hutnobo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=jK__Hutnobo</a>

พาราเมาท์ พิคเจอร์ส และนิคคาโลเดียน มูฟวี่ส์ เอาใจแฟนคลับรุ่นเล็ก ส่งตัวอย่างแรกจาก The SpongeBob Movie Sponge Out Of Water 3D สพันจ์บ็อบ ฮีโร่จากใต้สมุทร 3D มาให้ชมกัน เตรียมพบกับการยกทีมขึ้นบกของเหล่าสิ่งมีชีวิตไร้กระดูกสันหลัง ซึ่งขึ้นมาผจญภัยกันบนภาคพื้นดิน ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้แอนโตนิโอ แบนเดรัส มารับบทโจรสลัด และทอม เคนนี่ เจ้าของเสียงพากย์ในซีรีย์ มาพากย์เสียงสพันจ์บ็อบ ภาพยนตร์กำกับการแสดงโดย พอล ทิบบิท

พบกับความสนุกหรรษาในภาพยนตร์ระบบ 3 มิติ ต้อนรับปิดเทอมใหญ่ 9 เมษายน นี้

28063
สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ชูครัวไทยเป็นครัวโลกบนเวทีนานาชาติ
จัดใหญ่...แข่งสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลกครั้งที่ 2 วันที่ 1-3 ส.ค. นี้ ที่เซ็นทรัล ชิดลม


               เซ็นทรัล ชิดลม// สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม จัดพิธีเปิดการแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลกครั้งที่ 2 หรือ The 2nd Thailand Culinary World Challenge 2014 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลมูลค่ารวม 17,500  เหรียญสหรัฐ ร่วมสนับสนุนการจัดงานโดยธนาคารกรุงเทพ เซ็นทรัล ชิดลม และองค์กรที่เกี่ยวข้อง หนึ่งในกิจกรรมพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นครัวโลก(Thailand Food Quality to the World) ระหว่างวันที่ 1 - 3 สิงหาคม 2557 เวลา 15.00–21.00 น. ณ ลานมรกต เซ็นทรัล ชิดลม


               พล.อ.อ.ประจิน  จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวในพิธีเปิดการแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลกครั้งที่ 2 ว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยฝ่ายเศรษฐกิจ ตระหนักดีว่าการเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ตลอดจนการส่งเสริมภาพลักษณ์ในภาคธุรกิจบริการ ร้านอาหาร และการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเป็นภารกิจสำคัญที่เชื่อมโยงเกื้อหนุนกันและกันกับภาคการผลิต ทั้งภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรม โดยยังคงมุ่งส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล เป็นที่ยอมรับจากประเทศคู่ค้าทั้งในด้านคุณภาพ และความปลอดภัย

               “ผมขอชื่นชมหน่วยงานภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานในวันนี้ ที่ได้ให้การสนับสนุน ร่วมมือ ร่วมใจกับหน่วยงานภาครัฐ ขณะเดียวกันก็ขอชื่นชมผู้ประกอบการในภาคธุรกิจร้านอาหาร และบริการต่างๆ ที่เห็นความสำคัญของมาตรฐานการจัดการด้านสุขลักษณะที่ดี โดยเข้าร่วมโครงการ  “ครัวอาหารของไทย ก้าวไกลมาตรฐานสากล" ที่สถาบันอาหารได้จัดทำขึ้น  แสดงให้เห็นว่าทุกภาคส่วนต่างกำลังตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองเพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือสร้างคุณค่าให้กับสินค้าและบริการของประเทศไทยในเวทีโลก”






               พล.อ.อ.ประจิน กล่าวเพิ่มเติมว่า การกระตุ้นให้เกิดการใช้วัตถุดิบไทยเพื่อปรุงอาหารผ่านรูปแบบการจัดการแข่งขันในวันนี้ เชื่อว่าจะส่งผลให้อุตสาหกรรมอาหารตลอดห่วงโซ่เกิดแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจอาหารไทยตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ  ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสดีในการสร้างภาพลักษณ์ให้กับอาหารไทยให้เกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพ และรสชาติ ที่สำคัญยังได้รับการพัฒนารูปลักษณ์และวิธีการนำเสนอให้สวยงาม น่าสนใจ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบไทย ตลอดจนสินค้าและบริการด้านอาหาร ด้านการท่องเที่ยว และความพร้อมด้านการจัดงานในระดับระหว่างประเทศของไทยไปพร้อมกันอีกด้วย

               นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสถาบันอาหาร ได้ร่วมกับหน่วยงานเอกชน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด พร้อมด้วยองค์กรพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง อาทิ สมาคมเชฟประเทศไทย (Thailand Chefs Associations) ชมรมพ่อครัว-แม่ครัวภาคเหนือ (Northern Chefs Club) สมาคมเชฟเมืองพัทยาและจังหวัดชายฝั่งภาคตะวันออก ชุมนุมเชฟอีสาน (Chef’s Association North Eastern) ชมรมพ่อครัวชะอำ-หัวหิน (Cha-am Hua Hin Chefs Club) และชมรม Thailand Culinary Academy เป็นต้น ในการจัดการแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลกครั้งที่ 2 ขึ้น กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 3 สิงหาคม 2557 บริเวณลานมรกต เซ็นทรัล ชิดลม ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลมูลค่ารวม 17,500 เหรียญสหรัฐ โดยผู้ชนะเลิศได้รับรางวัลเงินสดจำนวน 10,000 เหรียญสหรัฐรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับ 5,000 เหรียญสหรัฐรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับ 2,500 เหรียญสหรัฐ พร้อมถ้วยรางวัล และประกาศนียบัตร โดยมีเชฟจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมการแข่งขัน 10 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, มาเลเซีย, พม่า, สิงคโปร์, กัมพูชา, เกาหลีใต้, สาธารณรัฐเช็ก, สาธารณรัฐประชาชนจีน และไต้หวัน

               การจัดการแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลกครั้งที่ 2 นี้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่กระทรวงอุตสาหกรรมให้การสนับสนุน ภายใต้โครงการ Thailand Food Quality to the Worldและเป็นการต่อยอดจาก “The 1st Thailand Culinary World Challenge 2013” เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีส่วนช่วยกระตุ้นและรณรงค์ให้เกิดการใช้วัตถุดิบไทยทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สามารถเผยแพร่วัฒนธรรมตลอดจนประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยผ่านอาหาร






               “นอกจากการแข่งขันทำอาหารไทยและอาหารนานาชาติโดยวัตถุดิบไทยของเชฟมืออาชีพจากทั่วโลกแล้ว ภายในงานยังจัดให้มีพิธีมอบเกียรติบัตร World Class Food Safety Standard in Mass Catering สำหรับร้านอาหาร หรือครัวในธุรกิจบริการ อาทิ ครัวโรงแรม ครัวโรงพยาบาล และครัวโรงเรียน ภายใต้โครงการ  "โครงการครัวอาหารของไทย ก้าวไกลมาตรฐานสากล" เป็นกิจกรรมเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2557 ที่สถาบันอาหารได้เข้าทำการตรวจเยี่ยมและให้การรับรองตามมาตรฐานการจัดการด้านสุขลักษณะที่ดีในครัวผลิตอาหาร(GMP in Mass Catering)ของCODEX โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 214 รายทั่วประเทศ สำหรับการเข้ารับเกียรติบัตรในวันนี้นั้น มีผู้ประกอบการตอบรับเข้าร่วมทั้งสิ้น  จำนวน  55  สถานประกอบการ”

               ด้านนายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมอื่นๆ ภายในงาน ได้จัดให้มีนิทรรศการ 60 นวัตกรรมอาหารแห่งภูมิปัญญาไทย ภายใต้โครงการเสริมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่อุตสาหกรรมอาหารและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่คุณค่าอาหารของไทย(Thailand Food Forward) นอกจากนี้ยังมีบูธจากสมาคมเชฟประเทศไทย และเชฟชื่อดังจำนวน 20 บูธ ร่วมกันรังสรรค์อาหาร 60 เมนู สุดพิเศษจำหน่ายเพียง 60 บาททุกเมนู โดยรายได้จากการจำหน่ายอาหารจะมอบให้กับทีมThailand Culinary Academy และมูลนิธิรามาธิบดีในพระบรมราชูปถ้มภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทั้งยังมีบูธจากบริษัทฯ ผู้ผลิตอาหารชั้นนำจำนวน  10 บูธและบูธจากโครงการ “Thailand Food Forward” จำนวน 10 บูธ นำสินค้ามาร่วมจำหน่ายอีกด้วย

               นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีบูธลงนามถวายพระพรออนไลน์ เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยทุกคนร่วมกันแสดงความจงรักภักดี ร่วมถวายพระพร และเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ภายในงานอีกด้วย












28064
พิธีเปิดการแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลกครั้งที่ 2


               พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ที่4 จากขวา) ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานการแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลกครั้งที่ 2 หรือ The 2nd Thailand Culinary World Challenge 2014 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลมูลค่ารวม 17,500  เหรียญสหรัฐ จัดโดยสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม หนึ่งในกิจกรรมพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นครัวโลก(Thailand Food Quality to the World) โดยมีนายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม(ที่ 5 จากขวา) นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร(ที่ 3 จากขวา)  นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) (ที่ 1 จากซ้าย) และนางยุวดี จิราธิวัฒน์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด (ที่ 4 จากซ้าย) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม และแขกผู้มีเกียรติร่วมงานด้วย เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ ลานมรกต เซ็นทรัล ชิดลม

28065
สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม  จัด A Taste of Thai : LANNA Cuisine Exclusive Dinner
ยกระดับอาหารล้านนาขึ้นโต๊ะหรู  สร้างอัตลักษณ์ครัวภูมิภาคไทยสู่สากล



ท่านประจิน จั่นตอง ร่วมถ่ายรูปกับแขก

               เมื่อค่ำวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สถาบันอาหาร จัดงานกาลาดินเนอร์ A Taste of Thai : LANNA Cuisine  Exclusive Dinner โดย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ร่วมด้วย นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร และคณะผู้บริหารจากกระทรวงอุตสาหกรรมให้การต้อนรับ โดยมีผู้เข้าร่วมงานจำนวน 200 ท่าน  ประกอบด้วย แขกกิตติมศักดิ์ บุคคลสำคัญในแวดวงต่างๆ แขกรับเชิญต่างประเทศ อาทิ เอกอัครราชทูต อัครราชทูต ทูตจากประเทศต่างๆที่ประจำอยู่ในประเทศไทย ผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง  ข้าราชการระดับสูงประจำจังหวัด และจังหวัดใกล้เคียง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แขกรับเชิญในแวดวงอาหาร เชฟที่มีชื่อเสียงจาก 10 ประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลกครั้งที่ 2  และสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์อาหารท้องถิ่นของไทย เพิ่มทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค ตลอดจนสร้างการรับรู้อาหารไทยในเมนูใหม่ๆ ด้วยการนำเสนอวิธีการรับประทานอาหารท้องถิ่นของไทยในรูปแบบสากล

               งาน A Taste of Thai : LANNA Cuisine  Exclusive Dinner เป็นการนำวัตถุดิบพื้นบ้านล้านนามาถ่ายทอดผ่านความคิดสร้างสรรค์ของเชฟที่มีชื่อเสียง แต่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติแบบตำรับเดิมมาเสิร์ฟบนโต๊ะดินเนอร์สุดหรู โดยเชฟจะช่วยจัดรูปแบบการนำเสนออาหาร ซึ่งนับว่าเป็นการให้ความสำคัญทั้งเรื่องรสชาติ  และการนำเสนอที่สวยงาม ผสมผสานกับการนำวิถีชีวิต วัฒนธรรม กลิ่นไอของความเป็นล้านนา วัสดุอุปกรณ์ในการจัดเน้นของล้านนา เข้ามาเป็นองค์ประกอบของงานด้วย

               โดยก่อนเริ่มงานทุกท่านคงจะได้สัมผัสกับคานาเป้อาหารล้านนา เสิร์ฟแบบค็อกเทล ประกอบด้วย ไก่ย่างซอสน้ำจิ้มแจ่ว ข้าวเหนียวทอด, ลาบปลาทูน่า แครกเกอร์, พล่ากุ้งน้ำพริกเผากะทิสด, แซนด์วิชเปิดหน้าไข่ดาวเบคอน และขนมปังหน้าอกไก่รมควันและมะเขือเทศ ซึ่งเป็นฝีมือการปรุงจาก เชฟทีม Thailand  Culinary  Academy

               สำหรับเมนูอาหารกาลาดินเนอร์สุดหรู ถ่ายทอดผ่านฝีมือเชฟฉลอง สักกะพลางกูล นายกชมรมพ่อครัวแม่ครัวภาคเหนือและทีม ประกอบด้วย Appetizer หรือเมนูอาหารเรียกน้ำย่อย ได้แก่เมี่ยงลิ้นจี่  หมี่กรอบสมุนไพร และไส้อั่วขิงอ่อน ตามมาด้วยเมนูซุป ได้แก่ แกงเลียงปูนิ่มผักโครงการหลวง คั่นด้วย ซอร์เบแม่โขง หลังจากนั้นเสิร์ฟ Main Course อาหารจานหลักจานแรก ได้แก่ แอ็บปลาเสิร์ฟพร้อมเห็ดคั่ว อาหารจานหลักจานที่ 2 ได้แก่ แกงแคอกไก่  เสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิ ปิดท้ายด้วย ของหวาน ได้แก่ ล้านนาสตรอเบอรี่มูสเค้ก โดยฝีมือการสร้างสรรค์ของเชฟเดช แสงสีจันทร์ นายกสมาคมเบเกอรี่แห่งประเทศไทย


ท่านประจิน ร่วมโต๊ะดินเนอร์


ท่านประจินสนทนากับเชฟ

               พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง  หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวว่า งาน A Taste of Thai : Lanna Cuisine Exclusive Dinner ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ได้จัดขึ้นนี้ เพื่อเป็นการริเริ่มให้มีการจัดเลี้ยงรูปแบบใหม่ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ของอาหารไทย เป็นการนำอาหารล้านนา ซึ่งเป็นอาหารที่มีอัตลักษณ์ แสดงถึงภูมิปัญญา และวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวไทยในภาคเหนือ มาประยุกต์ตามแนวนโยบาย ครัวภูมิภาคไทย อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการครัวไทยสู่ครัวโลก มาเผยแพร่ให้กับ เชฟชาวต่างชาติ ได้สัมผัส รับรู้ และรู้จัก อาหารไทยอย่างแท้จริง

               “การร่วมกันสนับสนุน ประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมอัตลักษณ์อาหารภูมิภาคของไทยให้เป็นที่ยอมรับไปทั่วประเทศและทั่วโลก ถือเป็นมิติใหม่แห่งวงการอาหารพื้นบ้านที่ถูกยกระดับขึ้นสู่ภาคธุรกิจบริการที่มีมาตรฐานสากล ทั้งในแง่คุณภาพ ความปลอดภัย และคุณค่าทางโภชนาการ พร้อมพัฒนารูปแบบการนำเสนอ การตกแต่งอาหาร และการบริการในหลากหลายระดับ โดยขณะนี้ทราบว่าทางสถาบันอาหารได้มีการทำวิจัยและเตรียมดำเนินการสนับสนุนให้เกิดโต๊ะอาหารจากภูมิภาคอื่นๆ เช่น  โต๊ะปักษ์ใต้ และสำรับไทยภาคกลาง ในลำดับต่อไป”

               นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า งาน A Taste of Thai :  Lanna Cuisine  Exclusive Dinner เป็นงานที่เกิดจากโครงการครัวภูมิภาคไทย เป็นโครงการที่สอดรับกับนโยบายโครงการครัวไทยสู่ครัวโลกซึ่งเป็นนโยบายเชิงรุกของกระทรวงอุตสาหกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการดำเนินการพัฒนาระบบคุณภาพการผลิตสินค้าอาหารให้มีความปลอดภัย ตลอดจนการให้ความรู้กับผู้ประกอบการในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมีมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์อัตลักษณ์ของอาหารไทย ว่าเป็นอาหารที่มีคุณภาพ ด้วยวัตถุดิบและเครื่องปรุงที่มีความเป็นเอกลักษณ์รวมถึงการใช้พืชผักสมุนไพรที่มีประโยชน์ ตลอดจนมีคุณค่าที่คงความเป็นเอกลักษณ์ และยังมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน เมื่อนำทั้งภาคอุตสาหกรรม และอาหารท้องถิ่นมาผนวกกัน  จะสามารถสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศไทยได้ ซึ่งวันนี้ประเทศไทยไม่เป็นเพียงครัวของโลก แต่เป็นครัวที่ผลิตอาหารคุณภาพ ปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการ


นายเพ็ชร ชินบุตร


ผอ.สถาบันอาหารถ่ายรูปกับแขก

               ด้านนายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับบรรยากาศ และรูปแบบของการจัดงานวันนี้ได้หยิบยกวัฒนธรรม และศิลปะพื้นบ้านรวมถึงวิถีชีวิตของชาวล้านนา ซึ่งเป็นท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง รวมถึงอาหารอีกหลายชนิดในรสชาติต้นตำรับ ที่คัดสรรวัตถุดิบชั้นดีผ่านการสร้างสรรค์รูปแบบและวิถีการนำเสนอที่ทันสมัยพร้อมนำมาเสิร์ฟให้ท่านได้ดื่มด่ำกับรสชาติ และรสสัมผัสที่พิเศษ

               “การนำอาหารล้านนาที่มองเป็นอาหารธรรมดาขึ้นสู่การรับประทานในรูปแบบที่เป็นสากล ด้วยฝีมือการประยุกต์วัตถุดิบไทยสู่เมนูอาหารแบบไทยล้านนา เชื่อว่าจะเป็นการร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ให้อาหารไทยเทียบชั้นอาหารระดับสากลได้อย่างสมบูรณ์”


วิศิษฎ์ ลิ้มประนะ,เกษสุดา และประเวศวุฒิ ไรวา


ศีกัญญา-ณชนก รัตนทารสและจูน-สาวิตรี โรจนพฤกษ์


เชฟวิลเมนท์,เชฟชุมพล


สาวงามรวมตัวในงาน


การแสดงสุดตระการตา


พลังความสำเร็จ


เมนูเมี่ยงลิ้นจี่ หมี่กรอบสมุนไพร ไส้อั่วขิงอ่อน


แกงเลียงปูนิ่มผักโครงการหลวง


ซอร์เบแม่โขง


แอ็บปลาเสิร์ฟพร้อมเห็ดคั่ว


ล้านนาสตรอเบอรี่มูสเค้ก

Pages: 1 ... 1869 1870 [1871] 1872 1873 ... 2253