Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - YAHOO

Pages: 1 ... 129 130 [131] 132 133 134
1951
ภาวะตลาดทองคำวันนี้ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2553
 
          ข้อมูลทองคำวันนี้
          - ราคาสมาคม เปิดที่ 19,050 - 19,150
          - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,353
          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 29.86 – 29.90
          - GFZ10 Hi- Low 19,390 – 19,300 ปิดที่ 19,380
 
Gold Insight
 
          สัญญาทองคำตลาด COMEX
          ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 7.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,350.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,349.10-1,366.40 ดอลลาร์ เพราะถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและ เยน หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาด อย่างไรก็ตาม ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐช่วยหนุนสัญญาพลาตินัมและพัลลาเดียมดีดตัวขึ้น เนื่องจากพลาตินัมเป็นโลหะสำคัญที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
          ปิดบวก 6.13 จุด หรือ 0.06% แตะที่ 11,124.62 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.12 จุด หรือ 0.09% แตะที่ 1,184.38 จุด เพราะได้แรงหนุนจากดัชนีภาคการผลิตที่ขยายตัวแข็งแกร่งของสหรัฐและจีน อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่การสหรัฐจะจัดการเลือกตั้งสมาชิก สภาคองเกรสช่วงกลางสมัยในวันที่ 2 พ.ย. และก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 2-3 พ.ย. ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าทั้งสองเหตุการณ์จะมีอิทธิพลต่อภาวะการซื้อขายใน การตลาดการเงินสหรัฐ

          สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
          ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.52 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.95 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 83.20- 82.95 ดอลลาร์ เนื่องจากดัชนีภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีนทำให้นักลงทุนคาดว่า ความต้องการพลังงานของทั้งสองประเทศจะดีดตัวขึ้นด้วย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ทางการสหรัฐจะ เปิดเผยในวันพุธนี้

          กองทุน SPDR Gold Trust
          กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 2 พ.ย. ไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1,293.10 ตัน
          USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตมีการขยายตัวที่แข็งแกร่งแม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นไปอย่างล่าช้าก็ตาม ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนมีท่าทีเตรียมพร้อมรับผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐ และผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ในวงกว้างว่าเฟดจะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.3892 ดอลลาร์ต่อยูโร
          USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้น 0.24% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 80.580 เยน จากระดับของวันศุกร์ (29 ต.ค.) ที่ 80.390 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 80.66 เยนต่อดอลลาร์
          USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 29.85-29.88 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 29.86-29.90 บาทต่อดอลลาร์
 
ข่าวเศรษฐกิจโลก
          - กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมก่อสร้างขยายตัว 0.5% แตะระดับ 8.017 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบกับระดับ 7.975 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม เพราะได้แรงหนุนจากโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและการก่อสร้างหน่วยงานราชการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ข้อมูลของกระทรวงระบุว่า ยอดการใช้จ่ายในโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในช่วงดังกล่าวมีมูลค่าทั้งสิ้น 4.82 แสนล้านดอลลาร์ สอดคล้องกับการคาดการณ์ในเดือนสิงหาคม และยอดการใช้จ่ายในการก่อสร้างหน่วยงานของภาครัฐมีมูลค่าทั้งสิ้น 3.197 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน ส่วนยอดการใช้จ่ายในการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ลดลง 2.5% เมื่อเทียบกับยอดค่าใช้จ่ายในเดือนสิงหาคม และต่ำกว่าตัวเลขของปีที่แล้ว 21.3%
          - สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 56.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 54.0 จุด หลังจากขยายตัว 54.4 จุดในเดือนก.ย. ซึ่งดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัว
          - นักลงทุนมีท่าทีเตรียมพร้อมรับผลการเลือกตั้งช่วงกลางสมัยของสมาชิกสภาคองเกรสในวันที่ 2 พ.ย. และการประชุมนโยบายของเฟดในวันที่ 2-3 พ.ย. โดยมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่า เฟดจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น
          - รายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล
          - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิด เผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.ย.ขยับขึ้นเพียง 0.2% น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% เนื่องจากรายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ย.ปรับตัวลดลง 0.1% ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 14 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ารายได้ส่วนบุคคลจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย.
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
 
  อาทิตย์ที่

1 - 2 พ.ย. 2553
 ข้อมูลที่น่าจับตา
 ตัวเลขเดิม
 ตัวเลข คาดการณ์
 ตัวเลขจริง
 
วันจันทร์
 · Core PCE Price Index

· Personal Spending

· Personal Income

· ISM Manufacturing PMI

 
 0.1%

0.4%

0.5%

54.4
 0.1%

0.4%

0.3%

54.2
 0.0%

0.2%

-0.1%

56.9
 
วันอังคาร
 · Congressional Elections

 
 -
 -
 
 
 
 
 
 
 

1952
สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคาร ที่ 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00น
 
ทิศทางราคาทองคำ
          ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1358 เหรียญ ค่าเงินบาท 29.85 บาท/ดอลลาร์ กับ 29.88 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19100 บาท กับ 19200 บาท GFZ10 เปิดที่ 19330 บาท และ GFG11 เปิดที่ 19390 บาท GF10Z10 เปิดที่ 19310 บาท และ GF10G11 เปิดที่ 19370 บาท SPDR ถือครอง 1293.10 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมันบวก 1.52 เหรียญ/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 82.95 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์บวก 6.13 จุด ปิดที่ระดับ 11124.62 จุด
          ราคาทองคำในตลาดเอเชียเคลื่อนปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 1358 เหรียญ และทะลุระดับ 1360 เหรียญ ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1365 เหรียญ โดยที่มีปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5906 คู่สัญญา และ Gold Futures 10 บาท อยู่ที่ 2595 คู่สัญญา แต่ว่าปริมาณ Open Interest 50 บาท ปรับตัวลดลง 15% และ Open Interest 10 บาท ลดลง 17% โดยที่ในตลาดลอนดอนและ Comex ราคาค่อนข้างทรงตัวและเกิดแรงเทขายทำกำไร ไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับประมาณ 1349 เหรียญ และกลับมาปิดที่ระดับ 1350 เหรียญ โดยที่เมื่อวานตัวเลขทางเศรษฐกิจ คือ ISM Manufacturing ดีกว่าที่คาด ทำให้ค่าเงินดอลลาร์เองปรับตัวแข็งค่าขึ้นบ้างเล็กน้อย ส่วนค่าเงินยูโรร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.3875 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3947 ดอลลาร์/ยูโร ค่าเงินเยนอยู่ที่ระดับ 80.72 เยน/ดอลลาร์ น้ำมันบวก 1.52 เหรียญ/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 82.95 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์บวก 6.13 จุด ปิดที่ระดับ 11124.62 จุด โดยที่คืนนี้ยังไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญออกมา ตลาดยังคงเฝ้าดูผลของการประชุม FED

วิเคราะห์ทางเทคนิค
          ราคาทองคำแกว่งตัวในภาวะขาขึ้นและมีแรงเทขายทำกำไรเป็นรอบ ทำให้ราคาทองคำทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1365 เหรียญ และเทขายทำกำไรทดสอบแนวรับแรกที่ระดับ 1350 เหรียญ Oscillator ระยะสั้นรายชั่วโมงเป็นสัญญาณบวกขึ้น โดยที่ราคายังเป็นทิศทางขาขึ้น แต่ว่าน่าจะมีการแกว่งตัวตามมา ตลาดน่าจะรอความชัดเจนของ FED ในคืนวันพรุ่งนี้ แนวต้านในเชิงเทคนิคอยู่ที่ระดับ 1370 เหรียญ และแนวรับอยู่ที่ระดับ 1345 เหรียญ ราคาสมาคมปิดตลาดที่ระดับ 19150 บาท และ 19250 บาท

          สำหรับราคาทองคำแท่งของไทย แนวรับอยู่ที่ระดับ 19000 บาท แนวต้านอยู่ที่ระดับ 19200 บาท
          Gold Futures Series Z10 มีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 19240 บาท และมีแนวต้านที่ระดับ 19400 บาท

คำแนะนำ
          สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)  ให้เก็งกำไรในภาวะขาขึ้น และตามการแกว่งตัวตามตลาด โดยที่ซื้อบริเวณแนวรับ
ลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)
          หลังจากที่เมื่อวานให้ขายทำกำไรไปบ้างแล้ว วันนี้ให้ทยอยเข้าซื้อ รักษา Port ที่ระดับ 40% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ทยอยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงเท่านั้น

          บท วิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

1953


ค่าย MTS Gold แม่ทองสุก ปิ๊งไอเดียเก๋ ร่วมกับ TFEX ร่วมให้ความรู้ลงทุนทองคำผ่านละครฮิต “บางรักซอย 9”

          เปิดออกมาแล้ว กับแคมเปญเก๋ๆของตลาดอนุพันธ์ (TFEX) ที่ร่วมกับรายการมันนี่แชนแนล ทำรายการบางรักซอย 9 ภาคพิเศษ ทอง ทอง ทอง เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์สให้กับสาธารณชนมากขึ้น ซึ่งไอเดียเก๋ๆ แบบนี้ คุณหมอกฤชรัตน์ หิรัญยศิริ หัวเรือใหญ่ค่ายเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญมือหนึ่งด้านธุรกิจทองคำเห็นไอเดียปุ๊บ ก็ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการด้วยปั๊บ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คุณหมอทุ่มเทกับการให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนทองคำแบบมืออาชีพมาโดยตลอด ถึงขนาดปลุกปั้น MTS ACADEMY หรือ สถาบันการลงทุนทองคำที่ครบวงจร ที่จัดหลักสูตรการให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนทองคำให้กับนักลงทุนทองคำตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปยันมืออาชีพทีเดียว ส่วนแฟนๆ คุณหมอ ก็รอติดตามชมแบบเกาะติดหน้าจอแก้วได้ ในรายการแบบละครซีรีย์ซิท – คอม สุดฮิต “บางรักซอย 9” ภาคพิเศษ “ทอง ทอง ทอง” ตอนแรกในวันศุกร์ ที่ 5 พ.ย. 53 นี้ ทางช่อง 9 อสมท. เวลา 13.00น. นี้จ้า และถ้าใครพลาดโอกาสแต่อยากรู้เรื่องการลงทุนทองคำแบบเต็ม ๆ ก็อย่าลืมจองที่นั่งเรียนในแต่ละคลาสกับทางเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ได้ที่ www.mtsgold.co.th หรือ โทร 02-222-5959 ได้เลยนะจ๊ะ

1954


MTS Gold แม่ทองสุก ชี้ตลาดทองคำเที่ยงคืนคึกคัก ยอดเทรดเพิ่มเท่าตัว หลังเปิด “เอ็มทีเอส มิดไนท์เทรด” เต็มรูปแบบ รับการเคลื่อนไหวทองโลก
 
          ค่าย MTS GOLD แม่ทองสุก ผู้นำตลาดลงทุนทองคำครบวงจร ประสบความสำเร็จอย่างสูง หลังนำร่องเปิดตัวบริการ “MTS MIDNIGHT TRADE” ขยายเวลาการให้บริการซื้อ-ขายทองคำแท่งถึงเที่ยงคืนเป็นเจ้าแรกของเมืองไทย ส่งผลให้ยอดเทรดทองคำเพิ่มสูงขึ้นเกือบเท่าตัวต่อเดือน ในขณะที่ลูกค้าสนใจลงทุนทองคำเพิ่มขึ้นเกือบ 1,000 รายต่อเดือน ระบุชัดผลจากตลาดทองคำโลกเคลื่อนไหวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดทองไทยปิดตลาดช่วงกลางคืน การเพิ่มบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและนักลงทุน จึงเพิ่มโอกาสและทางเลือกในการลงทุนทองคำแท่งในตลาดทองโลก ทั้ง ลอนดอน และนิวยอร์ก เป็นต้น

          น.พ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการ “MTS MIDNIGHT TRADE” ซึ่งเป็นการขยายเวลาบริการให้แก่ลูกค้านักลงทุนทองคำแท่งแก่ลูกค้าถึงเที่ยงคืน ซึ่งถือว่าเป็นผู้ประกอบการร้านทองคำรายแรกของประเทศไทยที่ให้บริการเทรดทองคำแท่งถึงเที่ยงคืนเต็มรูปแบบเป็นรายแรกของประเทศ โดยลูกค้าสามารถส่งคำสั่งซื้อ-ขายทองคำผ่านระบบโกลด์ออนไลน์ , โกลด์โฟน และระบบโกลด์โมบาย ได้ถึงเที่ยงคืน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าและนักลงทุน รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนทองคำแท่งให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่าปริมาณการซื้อขายทองคำเพิ่มขึ้นถึงกว่า 1 เท่าตัว โดยมีลูกค้าที่ซื้อขายทองคำเพิ่มขึ้นเกือบ 1 พันราย นับเป็นช่องทางเลือกใหม่ในการลงทุนกับลูกค้านั่นเอง

          ก่อนหน้านี้ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ได้เปิดให้บริการซื้อ-ขายทองคำแท่งแก่ลูกค้าในช่วงกลางคืน ตั้งแต่ 09.40-21.50 น. อยู่แล้ว แต่ทั้งนี้เพื่อรองรับความต้องการลงทุนทองคำแท่งของลูกค้า เนื่องจากช่วงที่ตลาดทองคำโลกอันได้แก่ ตลาด ลอนดอน และนิวยอร์กมีปริมาณการซื้อ-ขายมาก ราวๆ 70-80% ของมูลค่าการซื้อ-ขายทองคำรวมทั้งโลก ตรงกับตลาดทองคำไทยปิดตลาดในตอนกลางคืน ในแต่ละวันอาจมีการเคลื่อนไหวของส่วนต่างราคาค่อนข้างมาก ตั้งแต่ 10-30 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งกรณีที่ลูกค้าที่มีความต้องการซื้อ-ขาย หรือลงทุนทองคำแท่งช่วงกลางคืน ก็จะเสียโอกาสในการลงทุนไป ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการเปิดให้บริการลงทุนทองคำแท่งในช่วงกลางคืน และขยายเวลาไปจนถึงเที่ยงคืนนั่นเอง

          “สำหรับทิศทางราคาทองคำในตลาดเอเชียเคลื่อนปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 1358 เหรียญ และทะลุระดับ 1360 เหรียญ ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1365 เหรียญ โดยที่มีปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5906 คู่สัญญา และ Gold Futures 10 บาท อยู่ที่ 2595 คู่สัญญา แต่ว่าปริมาณ Open Interest 50 บาท ปรับตัวลดลง 15% และ Open Interest 10 บาท ลดลง 17% โดยที่ในตลาดลอนดอนและ Comex ราคาค่อนข้างทรงตัวและเกิดแรงเทขายทำกำไร ไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับประมาณ 1349 เหรียญ และกลับมาปิดที่ระดับ 1350 เหรียญ โดยที่เมื่อวานตัวเลขทางเศรษฐกิจ คือ ISM Manufacturing ดีกว่าที่คาด ทำให้ค่าเงินดอลลาร์เองปรับตัวแข็งค่าขึ้นบ้างเล็กน้อย ส่วนค่าเงินยูโรร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.3875 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3947 ดอลลาร์/ยูโร ค่าเงินเยนอยู่ที่ระดับ 80.72 เยน/ดอลลาร์ น้ำมันบวก 1.52 เหรียญ/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 82.95 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์บวก 6.13 จุด ปิดที่ระดับ 11124.62 จุด โดยที่คืนนี้ยังไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญออกมา ตลาดยังคงเฝ้าดูผลของการประชุม FED” น.พ.กฤชรัตน์ กล่าว

          ทั้งนี้วิเคราะห์ทางเทคนิคราคาทองคำแกว่งตัวในภาวะขาขึ้นและมีแรงเทขายทำกำไรเป็นรอบ ทำให้ราคาทองคำทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1365 เหรียญ และเทขายทำกำไรทดสอบแนวรับแรกที่ระดับ 1350 เหรียญ Oscillator ระยะสั้นรายชั่วโมงเป็นสัญญาณบวกขึ้น โดยที่ราคายังเป็นทิศทางขาขึ้น แต่ว่าน่าจะมีการแกว่งตัวตามมา ตลาดน่าจะรอความชัดเจนของ FED ในคืนวันพรุ่งนี้ แนวต้านในเชิงเทคนิคอยู่ที่ระดับ 1370 เหรียญ และแนวรับอยู่ที่ระดับ 1345 เหรียญ ราคาสมาคมปิดตลาดที่ระดับ 19150 บาท และ 19250 บาท สำหรับราคาทองคำแท่งของไทย แนวรับอยู่ที่ระดับ 19000 บาท แนวต้านอยู่ที่ระดับ 19200 บาท Gold Futures Series Z10 มีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ19240 บาทและมีแนวต้านที่ระดับ 19400 บาท

          สำหรับทิศทางของการลงทุนจากบทวิเคราะห์ของ MTS Gold แม่ทองสุกประจำวันนี้ (2 พ.ย.) ระบุว่า สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) ให้เก็งกำไรในภาวะขาขึ้น และตามการแกว่งตัวตามตลาด โดยที่ซื้อบริเวณแนวรับ ส่วนลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) หลังจากที่เมื่อวานให้ขายทำกำไรไปบ้างแล้ว วันนี้ให้ทยอยเข้าซื้อ รักษา Port ที่ระดับ 40% ส่วนนักลงทุนระยะยาวทองคำแท่งให้ทยอยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงเท่านั้น

1955
 ฝ่าอุปสรรคสู่ แชมป์กีฬาผจญภัย ดิ ไอบิส เกาะสมุย โทรฟี่

   กีฬาผจญภัยหรือที่ชาวต่างชาติเรียกกันว่า แอดแวนเจอร์ เรค เป็นกีฬาอีกชนิดหนึ่งที่ถือว่ากำลังเริ่มฮิตและเผยแพร่อยู่ในเมืองไทยมาหลายปีติดต่อกัน ปีนี้ ในสนามที่ 2 ของการแข่งขันกีฬาผจญภัยในรายการ
 "ดิ ไอบิส เกาะสมุย โทรฟี่ 2010" ครั้งที่ 2 และ วิ่งหรรษา ประจำปี 2553  มีขึ้นที่ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
ในการแข่งขันกีฬาผจญภัย ต้องถือว่า "โหด" มากกว่าการแข่งขันวิ่งมาราธอนทั่วไป  เพราะต้องใช้พละกำลัง แรงกาย แรงใจ  ตลอดจนทักษะความสามารถ  ที่จะต้องวิ่งกันอย่างทรหด มากกว่า "ไตรกีฬา"  ที่นักกีฬาต้องอึดและมีทักษะเพียงพอที่จะว่ายน้ำขี่จักรยาน และวิ่งได้ แต่สำหรับกีฬาแอดเวนเจอร์ ยังจะต้องมีทั้งทักษะความสามารถและพลังใจที่เพียงพอจึงจะสู้ศึกลุยชัยในการแข่งขันครั้งนี้ได้ เพราะ ทั้งวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ปีนป่าย ซึ่งไม่ใช่แค่รอบเดียว
 แต่ทำซ้ำไปซ้ำมา ฝ่าฝันอุปสรรค การคว้าชัยของเกมกีฬาที่ชื่อว่า "กีฬาผจญภัย" กว่าจะได้แชมป์มาได้ต้องอยู่ที่
"การเอาชนะตัวเอง" ถือเป็นชัยชนะที่ต้องชนะด้วยร่างกายและจิตใจ เพราะความโหด ดังนั้นกีฬาแอดเวนเจอร์
จึงกำหนดให้นักกีฬาแข่งขันกันเป็นทีม ทีมละ 2 คน โดยสองคนนี้ต้องช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคมาถึงเส้นชัยให้เร็วที่สุด โดยใช้ความสามารถทั้งด้านทีมเวิร์ก การอ่านแผนที่ และการแก้ปัญหาไปพร้อมกับการฝึกความอดทนภายใต้สภาวะความกดดัน การทิ้งเพื่อน ไว้ข้างหลังจะถูกปรับแพ้ ทีมที่มาถึงเส้นชัยได้ก่อนและปฏิบัติตามกฎกติกามารยาทจะเป็น
ผู้ชนะ
   อากาศ เวลา เส้นทาง ความเหนื่อยล้า ความหิวโหย ความกดดันที่เพิ่มทุกขณะ ผู้แข่งขันจึงต้องปรับสภาพของตัวเองทั้งร่างกาย และจิตใจ รู้จักอดกลั้นและอดทนเพื่อพาทีมเข้าสู่จุดหมายพร้อมกัน ทักษะทุกชนิดต้องถูกนำออกมาใช้ ตั้งแต่สภาพร่างกาย ทักษะทางด้านกีฬา ประสบการณ์ ความรู้ ทุกแง่มุม ความอดทนอดกลั้นที่สำคัญอยู่ที่ "ทีมเวิร์ค" บัดดี้ผ่าน เราก็ผ่าน บัดดี้เจ็บเราก็ต้องแบกพาผ่านกันไป ห้ามทิ้งกันเป็นอันเด็ดขาด นี่คือความหมายที่แอบแฝงให้เห็นว่า "การเป็นผู้ชนะไม่จำเป็นต้องอยู่คนเดียวโลก"
   บทพิสูจน์ที่ว่านี้ได้เกิดขึ้นที่ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี บนสนามอันแสนจะทรหด ในรายการที่มีชื่อว่า
การแข่งขันกีฬาผจญ “ ดิ ไอบิส เกาะสมุย โทรฟี่ “ ที่จัดมาเป็นครั้งที่ 2 แล้ว การแข่งขันแบ่งเป็น 2 ระดับ เริ่มจาก แอดเวนเจอร์ สำหรับนักกีฬาใหม่และนักรบสุดสัปดาห์ และอีกประเภทเอ็กซ์ตรีม สำหรับนักกีฬาผู้มีประสบการณ์ โดยแบ่งออกเป็นประเภททีมชายคู่, หญิงคู่, คู่ผสม, ชายอายุรวมกัน 80 ปีขึ้นไป เรียกว่า มาสเตอร์และชายอายุรวมกัน 100 ปีขึ้นไปเรียกว่า แกรนด์ มาสเตอร์ หญิง
8 ชั่วโมง กับบทพิสูจน์ที่นักรบเฉพาะกิจเหล่านี้จะต้องเผชิญกับด่านหฤโหด วิ่ง ว่าย พาย ปั่น สลับกับด่านทดสอบที่ไม่มีใครรู้ ว่า เส้นทางจะไกลขนาดไหน จะเจออะไร ประเภทไหน ในเบื้องหน้าทุกคนต้องเจอเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะอายุเท่าไร เพศอะไร จะมีความต่างกันอยู่แค่ เส้นทางที่ยาวไกลแตกต่างกันเท่านั้น
สำหรับการแข่งขันกีฬาผจญภัยรายการ "ดิ ไอบิส เกาะสมุย โทรฟี่ 2010" ครั้งที่ 2 และ วิ่งหรรษา ประจำปี 2553ได้รับการสนับสนุนจาก โรงแรมไอบิส สมุย บ่อผุด, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมโรงแรมไทยแห่งเกาะสมุยและได้รับความสนใจจากผู้แข่งขันทั่วโลก ซึ่งถือได้ว่าเป็นการแข่งขันที่ได้รับความนิยมถึงขนาดติดอันดับเอเชียเลยทีเดียว ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันมีทั้งหมด 103 ทีมจากทั่วโลก แบ่งเป็นประเภทแอดแวนเจอร์ 70 ทีม และประเภทเอ็กซ์ตรีม 33 ทีม ปีนี้ได้ออกสตาร์ทที่หมู่บ้านชาวประมง และเข้าเส้นชัยที่โรงแรมไอบิส สมุย บ่อผุด เกาะสมุย
จ.สุราษฎร์ธานี โดยมี นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
เป็นประธานเปิดการแข่งขัน พร้อมด้วย มร.เซอร์จ เฮนเก้นส์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน บจก.แอคทีฟ แมเนจเม้นท์ เอเชีย ร่วมด้วย สายโพยม สมสุข หัวหน้าศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวเกาะสมุย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ยังมี นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง จ.ภูเก็ต ที่มาร่วมในงานนี้ด้วย
   หลังจากออกสตาร์ททั้ง 2 ประเภทจะแข่งขันไม่เหมือนกัน เริ่มจากประเภทเอ็กซ์ตรีม (ระดับยาก) มือเซียนที่มีประสบการณ์ด้วยเส้นทางที่ยาวไกล กว่า ใช้ระยะทาง 43.45 กิโลเมตร ผู้แข่งขันจะต้องวิ่งไปก่อน จะมาว่ายน้ำ กลับมาวิ่ง มาพายเรือคายัค ต่อด้วย วิ่ง ปั่นจักรยาน วิ่งอีกครั้ง แต่เส้นทางวิ่งแต่ละที่ไม่เหมือนกัน มีทั้งบนหาดทราย วิ่งขึ้นเขานักกีฬาจะได้ ชื่นชมกับธรรมชาติหาดทรายขาว ขนานไปกับทะเล มะพร้าวริมชายหาด น้ำตก และจุดชมวิวบนภูเขา มีทั้งวิ่งธรรมดา รวมทั้งวิ่งแบกห่วงยางด้วย ต่อจากนั้นกลับมาเล่นเกม ซึ่งเป็นเกมส์ที่ใช้มะพร้าวที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะสมุย (Coconut island) มาใช้ในการแข่งขัน ผู้แข่งขันจะต้องปีนต้นมะพร้าว และเก็บลูกมะพร้าวมายังจุดเช็คเวลา และก็ปั่นจักยานบนทางเรียบ ก่อนมาเล่นเกม ปั่นจักยานบนแผ่นไม้ ตามด้วยการปั่นจักรยานขึ้นภูเขาอีกครั้ง ซึ่งตามจุดต่างๆ ที่นักกีฬาต้องหยุดเพื่อ เช็คเวลา นักกีฬาจะต้องจำรูปภาพเพื่อที่จะมาเล่นเกมส์ในด่านต่อไป ปิดท้ายด้วยเกมส์ยิงหนังสติกให้โดนลูกมะพร้าวที่แขวนไว้ตามจุด หลังจากนั้นนักกีฬาจะวิ่งเข้าเส้นชัย ที่โรงแรมไอบิส สมุย บ่อผุด

ส่วน นักกีฬาแอดเวนเจอร์ กลุ่มนักรบสุดสัปดาห์ ต้องลุยเส้นทางความโหดด้วยระยะทาง 36.8 กิโลเมตร
เริ่มต้นจากการวิ่งเช่นกัน ก่อนมาปั่นจักรยาน กลับมาวิ่งก่อนจะกลับมาเล่นเกม ปั่นจักรยานเสือภูเขา 2 สถานที่ที่โหดแตกต่างกัน ก่อนจะกลับมาเล่นเกมพิเศษที่โหดไม่แพ้การแข่งขัน รวมทั้งกลับไปขี่จักรยานอีกครั้ง ก่อนกลับมาวิ่ง ต่อด้วยว่ายน้ำ ในทะเล และพายเรือคายัค เมื่อผู้แข่งขันเทียบเรือคายัคที่ชายหาดอย่างราบรื่นแล้ว
นักกีฬาจะต้องต่อด้วยการวิ่งระยะสั้นและกลับมาเล่นเกมในทะเลที่สุดเหนื่อย และหฤโหด ก่อนจะวิ่งเข้าเส้นชัยในที่สุด
    
   ช่วงแข่งขัน อะดรีนาลิน พุ่งพล่าน เหงื่อไหลอาบกายมากๆพอ กับน้ำที่กินเข้าไป หลายคนหิว หลายคนเหนื่อย จนพูดไม่ออก หลายคนใช้เสียงแผดร้อง เรียกกำลังใจ เช่นเดียวกับบางคนที่ไม่ว่าจะเจ็บ ขนาดไหน ทั้งคู่อึดก็ต้องกอดคอกันฝ่าอุปสรรคอย่างไม่ยอมแพ้ เห็นได้จากที่ไม่มีนักแข่งคู่ไหนที่ถอดใจขอถอนตัวกลางคัน แม้จะดูเหมือนอันตราย แต่นักกีฬาแต่ละคนต่างก็ทราบขีดจำกัด ของตัวเองดี มุ่งหวังเพียงเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเพื่อสนุกสนาน
เสียงแห่งชัยชนะดังขึ้นอย่างไม่ว่างเว้น หากจอมอึดแต่ละคู่ก็ ยังคงมุ่งมั่นอย่างไม่ย่อท้อ นั้นเพราะพวกเขารู้แล้วว่า
ชนะคนอื่นจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป ถ้าไม่รู้จักที่จะเอาชนะใจตัวเอง ทุกคนต่างพาตัวเองมายังเส้นชัย ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มบอกกับเพื่อนฝูงว่าปีหน้าจะ กลับมาแข่งอีก นี่แหละเสน่ห์ที่หยุดไม่ได้ของ กีฬาแอดเวนเจอร์แสนโหดชนิดนี้
   นอกจากนั้น การจัดการแข่งขันรายการนี้เพื่อให้เป็นไปตามความนโยบายหน่วยงานสมุย
และธุรกิจที่มุ่งมั่นและมั่นคงเพื่อความยั่งยืนของพื้นที่สีเขียว จำนวนเงินส่วนหนึ่งของการจัดการแข่งขันนี้ จะนำเข้าโครงการ "เดอะ กรีนไอแลนด์ โปรเจค" เพื่อสนับสนุนการรักษาสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นนั้นด้วย
   สำหรับผลการแข่งขันผู้ที่เข้าเส้นชัยในประเภทเอ็กซ์ตรีม (ระดับยาก) แชมป์โอเวอร์ออลตกเป็นของ จ.อ.สมาน กุนัน - เสรี เรืองสิริ จากทีมนกแอร์ - สปอร์ตไบซิเคิลที่ได้แชมป์ประเภทชายคู่ ด้วย ซึ่งจ.อ.สมาน เคยเป็นแชมป์
"อัมรินทร์ เอ้าท์ดอร์ อันลิมิเต็ด เชียงใหม่ ชาเล้นจ์ 2552" มาก่อนทำเวลาได้ 4.15.30 ชม. รองแชมป์ทั้งประเภทโอเวอร์ออลและประเภทชายคู่เป็นของ คอสโม ริชาร์ดส์ และ เจเรมี่ ริทชี่ จากทีมชิรูเอ็นดูเร็นซ์ ระดับแชมป์จากฮ่องกง ทำเวลาได้ 4.29.44 ชม.ส่วนแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว ชฎารักษ์ ไชยกำจร - สุวัฒน์ ไพบูลย์ จากเดอะ สมุย กาเซท เนื่องจากโซ่จักรยานขาดทำให้เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 โอเวอร์ออลและประเภทชายคู่ ด้วยเวลา 4.33.13 ชม.
   หลังเข้าเส้นชัย จ.อ.สมาน กุนัน - เสรี เรืองสิริ จากทีมนกแอร์ – สปอร์ตไบซิเคิล กล่าวว่า " เป็นแมตช์ที่สุดยอดที่สุด สำหรับการแข่งขันกีฬาผจญภัย ไอบิส เกาะสมุย โทรฟี่ ในปี 2553 นี้ภูมิใจมากที่ได้แชมป์โอเวอร์ออล ต้องขอบคุณผู้สนับสนุน นกแอร์ และเอาท์ดอร์อันลิมิเต็ด รวมทั้งพาวเวอร์บาย สปอร์ตไบซิเคิล ที่ให้การสนับสนุนด้วยดีมาตลอด ปีนี้ต้องถือว่าการแข่งขันที่โหดที่สุดก็คือ การวิ่ง ยอมรับว่าการวิ่งโหดมากขึ้นต้องวิ่งขึ้นเขา เวลาวิ่งรู้สึกว่าเดี๋ยวจะถึงยอดเขาแล้ว แต่ในความเป็นจริงจะถึงยอดเขาก็ไม่ถึงซะที ใช้เวลาวิ่งบนเขายาวนานมาก ต้องขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนทุกคน ดีใจที่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้"
   ส่วนแชมป์ประเภทอื่นๆ เริ่มจากแชมป์ประเภทมาสเตอร์ (ชายอายุรวมกัน 80 ปีขึ้นไป) ตกเป็นของ นิพนธ์ สุวรรณ - เจริญ ฆังคะโร ทำเวลาได้ 4.55.39 ชม. ประเภทแกรนด์มาสเตอร์ (ชายอายุรวมกัน 100 ปีขึ้นไป) ดาวิด แม็คโคมิค- สตีเฟน แม็คโคมิค (แบน ออฟ บราเธอร์) 5.42.08 ชม. แชมป์ประเภทหญิงคู่ แพททริเซีย เวยสแมนเทล - แคทาริน พัฟฟ์ (สไปซ์โรด ไอรอนไมเดนส์) 6.36.28 ชม. แชมป์ประเภทคู่ผสม ทรงพล ศรีพิบูลย์บรรเจิด - ช่อทิพย์ กันอ่วม
5.42.55 ชม. ประเภทแอดแวนเจอร์ (ระดับง่าย) แชมป์โอเวอร์ออล เป็นของอำนาจ เหงี่ยมไพศาล - ภูชิต ใจรังษี จากกรีน สมุย ไบค์ คลับ 3.52.54 ชม.พร้อมทั้งคว้าแชมป์ประเภทชายคู่ด้วย ส่วนรองแชมป์โอเวอร์ออล เป็นของ ซิกไฟล์ เวอร์ไฮเก้ - อลัน คริสเตอร์ จากทีมไลออน คลับ 3.56.24 ชม.ได้แชมป์ประเภทมาสเตอร์ (ชายอายุรวมกัน 80 ปีขึ้นไป)
   ด้าน อำนาจ เหงี่ยมไพศาล - ภูชิต ใจรังษี จากกรีน สมุย ไบค์ คลับ ที่เพิ่งได้แชมป์ครั้งแรกกล่าวว่า "มาแข่งขันรายการนี้ ยอมรับว่า สนุกมาก ได้เพื่อนเพิ่ม กีฬาผจญภัยมีความสำคัญที่สุดก็อยู่ที่เพื่อนคู่หู พาร์ทเนอร์คู่ใจของเราสำคัญที่สุด เวลาแข่งขันต้องช่วยกันอย่างมาก ต้องรู้ใจกันตลอดเส้นทาง ล้มก็เหมือนกัน เมื่อล้มแล้วต้องลุกขึ้นสู้
มีตะคริวจับ พักแล้วสู้ต่อ ที่ชนะได้แชมป์โอเวอร์ออลเพราะใจสู้"
   ด้านแชมป์ประเภทอื่นๆ ประเภทแกรนด์ มาสเตอร์ (ชายอายุรวมกัน 100 ปีขึ้นไป) จิรัสเกียรติ ปักปิ่น - บังอร เกาะพันธุ์ จากเอ็มบี ชาแนล 4.43.57 ชม.แชมป์ประเภทหญิงคู่ คอลลีน ชาน - โอลิเวีย มาสเตอร์ จากชอคโกแลต แกงการู 5.44.35 ชม. แชมป์ประเภทคู่ผสม สุธินี ราล์ฟ - เกร็กราล์ฟ จากสไปซ์ โรดส์ 4.50.17 ชม.
        กีฬาผจญภัยสนามต่อไป "เดอะ ยารา บางกอก ชาเล้นจ์" ที่จัดขึ้นโดย แอคทีฟ แมเนจเม้นท์ เอเชีย จำกัด ที่ แถบชานเมือง บริเวณหนองจอก กรุงเทพ ในวันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2553 โดยมิสเตอร์ เซอร์จ เฮนเกนส์
ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน ได้กล่าวไว้ว่า “ สนามแข่งขันสนามต่อไปจะแตกต่างจากเกาะสมุยอย่างสิ้นเชิง โดยสนามนี้ได้ถูกจัดขึ้นท่ามกลางกลิ่นไอธรรมชาติอันเขียวขจีของชนบทไทยในอดีตบนพื้นที่ราบที่ล้อมรอบไปด้วยทุ่งข้าวอันเหลืองอร่าม ที่ตั้งตารอความท้าทายจากผู้กล้าและรักการผจญภัยให้เข้ามาสัมผัส ”

เหล่าจอมอึดทั้งหลายไว้พบกัน ที่สนาม "เดอะ ยารา บางกอก ชาเล้นจ์" สนามกีฬาผจญภัยสนามสุดท้ายของปี 2553 นี้
   
ผู้ชนะเลิศ ประเภท เอ็กซ์ตรีม / มืออาชีพ
1   120   แอร์ ทีมแอดแวนเจอร์   สมาน กุนัน /  เสรี เรืองสิริ   4:15:30
2   128   ชิรู เอ็นดูเร็ค   คอสโม ริชาร์ดส์ / เจเรมี่ ริทชี่    4:29:44
3   113   The Samui Gazette   ชฏารักษ์  ไชยกำจร / สุวัฒน์ ไพบูลย์   4:33:13

ผู้ชนะเลิศ ประเภท แอดเวนเจอร์ / มือสมัครเล่น
1   68   Green Samui Bike   อำนาจ เหงียมไพศาล / ภูชิต ใจรังษี   3:52:54
2   1   Lion club   Siegfried Verheijke / Allan Christer   3:56:24
3   11   Cheeky monkey   Jago Gazendam / Will Kirkwood   4:28:17

ลำดับและระยะทาง ของกีฬาผจญภัยแต่ละเภทกีฬา
ประเภทแอดแวนเจอร์               ประเภทเอ็กซ์ตรีม
Samui Trophy   Km.   CHECK      Samui Trophy   Km.   CHECK
AV   Distance   POINT      EX   Distance   POINT
RUN SECTION 1   1.4   CP 1      RUN SECTION 1A   4.7   
BIKE SECTION 1   6   CP 2      SWIM SECTION   0.8   
RUN SECTION 2   5   CP 2      RUN SECTION 1B   0.5   CP 6
GAME       CP 2      KAYAK SECTION    5.6   CP M
BIKE SECTION 2   5.6   CP 4      RUN SECTION 2   1.55   CP 1
BIKE SECTION 3   7.2   CP 4      BIKE SECTION 1   7.3   CP 3
SPICE GAME       CP 4      RUN SECTION 3   6.2   CP 3
BIKE SECTION 4   4.8   CP 5      GAME       CP 3
RUN SECTION 3   0.7          BIKE SECTION 2   4.1   CP 4
SWIM SECTION   0.5   CP M      BIKE SECTION 3   7.2   CP 4
KAYAK SECTION   2.8   CP 6      SPICE GAME       CP 4
RUN SECTION 4   2.8          BIKE SECTION 4   4.8   CP 5
GAME       FINISH      RUN SECTION 4   0.7   
               GAME       FINISH
   36.8             43.45   


ข่าวใต้ภาพ

ชื่อรูป 6635
รามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาผจญภัยรายการ "ดิ ไอบิส เกาะสมุย โทรฟี่
2010" ครั้งที่ 2 และ วิ่งหรรษา ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

ชื่อรูป 6773-6776-7069-7074
อำนาจ งามไพศาล - ภูชิต จีรังษี จากกรีน สมุย ไบค์ คลับ คว้าแชมป์โอเวอร์ออลและชายคู่ ประเภทแอดแวนเจอร์
ด้วยเวลา 3.52.54 ชม.ในกีฬาผจญภัยรายการ "ดิ ไอบิส เกาะสมุย โทรฟี่ 2010" ครั้งที่ 2 และวิ่งหรรษา ที่เกาะสมุย
จ.สุราษฎร์ธานี

ชื่อรูป  6792-6800-6815-7093-7102
จ.อ.สมาน กุนัน - เสรี เรืองสิริ จากนกแอร์ ทีมแอดแวนเจอร์ คว้าแชมป์โอเวอร์ออลและแชมป์ชายคู่ประเภทเอ็กซ์ตรีม ด้วยเวลา 4.15.30 ชม. ในกีฬาผจญภัยรายการ "ดิ ไอบิส เกาะสมุย โทรฟี่ 2010" ครั้งที่ 2 และ วิ่งหรรษา ที่เกาะสมุย
จ.สุราษฎร์ธานี

ชื่อรูป 6779
ภาพว่ายน้ำในทะเลของการแข่งขันกีฬาผจญภัยรายการ "ดิ ไอบิส เกาะสมุย
โทรฟี่ 2010" ครั้งที่ 2 และ วิ่งหรรษา ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

เกี่ยวกับ IBIS
ไอบิส เป็นแบรนด์โรงแรมชั้นประหยัด ภายใต้การให้บริการของกลุ่มแอคคอร์ ให้บริการห้องพักและบริการคุณภาพสุดคุ้มในทุกโรงแรม ห้องพักได้รับการออกแบบเพื่อประโยชน์ใช้สอยสูงสุด รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกสบายภายในห้องครบครัน บริการหลักในโรงแรมมีตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งยังมีอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายพร้อมให้บริการอีกด้วย คุณภาพของโรงแรมไอบิส ได้รับการรับรองโดยองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยมาตราฐาน หรือ ISO 9001 ตั้งแต่ปี 2540 นอกจากนี้ไอบิส ยังเป็นแบรนด์โรงแรมนานาชาติแห่งแรก ที่ส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเกือบ 1 ใน 3 ของโรงแรมในเครืองทั้งหมด ได้รับใบรับรองมาตราฐาน ISO 14001 แล้ว ไอบิส ก่อตั้งเมื่อปี 2517 ด้วยเป็นผู้นำในยุโรป และเป็นหนึ่งในโรงแรมชั้นประหยัด เครือแรกของโลก ด้วยจำนวนห้องพักกว่า 102,000 ห้อง และกว่า 861 โรงแรม แห่งใน 45 ประเทศ รวมถึง 6 โรงแรมในประเทศไทยด้วย ซึ่งคุณสามารถพบโรงแรมไอบิส ในประเทศไทย ได้ทั้งในโลเคชั่นแบบซิตี้ และรีสอร์ท (ภูเก็ต กะตะ และป่าตอง, เกาะสมุย, พัทยา และกรุงเทพฯ ที่สาทร และนานา) โดยในปีนี้ ทางโรงแรมไอบิส ประเทศไทย จะทำการเปิดโรงแรมฯ เพิ่มอีกหนึ่งแห่งในกรุงเทพฯ ซึ่งมีชื่อว่า โรงแรมไอบิส กรุงเทพฯ ริเวอร์ไซด์ ในเดือนพฤศจิกายน 2553 นี้  สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ibishotel.com/thailand


เกี่ยวกับ AMA   
กีฬาผจญภัย เป็น กีฬาใหม่ซึ่งเพิ่งจะได้รับความนิยมในทวีปเอเชียและประเทศไทย   โดย แอคทีฟ แมเนจเม้นท์ เอเชีย (AMA) ได้นำเข้ามาสู่ประเทศไทย ด้วยการแข่งขัน อเมซซิ่ง แอดเวนเจอร์ เรซ ซีรี่ส์ ขณะนี้เข้าสู่ปีที่ 4 ของการดำเนินการแล้ว AMA เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในเรื่องการจัดการภาคสนามรวมถึงระบบโลจิสติกส์ที่เชื่อถือได้ การแข่งขันแบบน็อนสต๊อบนี้ ใช้ระยะเวลาในการแข่งขันรวมทั้งหมด 4-8 ชั่วโมง ในช่วงเวลานี้นักกีฬาแต่ละทีมต้องวิ่ง, เข้าป่า, ปั่นจักรยาน, พายเรือ ต้องหาเส้นทางเพื่อไปให้ถูกทางในป่านั่นเอง ความพร้อมของทีมวัดด้วยนาฬิกาจับเวลา, แต่กีฬาผจญภัยต้องอาศัยทีมเวิร์ค, ความพยายาม, กลยุทธ์ และความตั้งใจจริง อีกทั้ง แอคทีฟ แมเนจเม้นท์ เอเชีย ยังเป็นผู้นำทางด้านการจัดสัมมนาฝึกอบรบต่าง  ๆ โดยเฉพาะอบรมการเรียนรู้เชิงประสบการณ์



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
 
บริษัท แอคทีฟ แมเนจเม้นท์ เอเชีย จำกัด
คุณนิด / คุณสร้อย / คุณใหม่ (สามารถสื่อสารได้ 2 ภาษา: ไทย - อังกฤษ)
โทร. 02 7189581-2
แฟกซ์ 02 7189583
อีเมลล์:     info@active-asia.com
เว็บไซต์:  www.kohsamuitrophy.com 
    www.ama-events.com



1956
สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ ที่ 11 ตุลาคม 2553 เวลา 09.00น
 
          ทิศทางราคาทองคำ
          ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1332 เหรียญ ค่าเงินบาท 29.94 บาท/ดอลลาร์ กับ 29.98 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18850 บาท กับ 18950 บาท GFV10 เปิดที่ 18990 บาท และ GFZ10 เปิดที่ 19110 บาท และ GF10V10 เปิดที่ 18990 บาท และ GF10Z0 เปิดที่ 19040 บาท SPDR ถือครอง 1288.24 ตัน (ขายออก 0.30 ตัน) น้ำมันบวก 99 เซนต์ ปิดที่ระดับ 82.66 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์บวก 57.90 จุด ปิดที่ระดับ 11006.48 จุด
          โดยราคาทองคำในระหว่างวันศุกร์มีการปรับตัวลดลง มีแรงเทขายทำกำไรค่อนข้างมากราคาในตลาดเอเชียทรงตัว 1327-1332 เหรียญ โดยที่ราคาทองคำในตลาดลอนดอนและ Comex เอง แกว่งตัวอย่างมากในคืนวันศุกร์หลังจากปรับลงและดีดกลับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1347 เหรียญ และมีการแกว่งตัวขึ้นลง 5 เหรียญโดยตลอด และกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 1345 เหรียญ โดยที่ค่าเงินดอลลาร์เองเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นและกลับมาอ่อนค่าเมื่อตัวเลข Non farm Employment Change ออกมาต่ำกว่าที่คาด กดดันให้ดอลลาร์ต่อยูโร กลับมาปิดที่ระดับ 1.3926 ดอลลาร์/ยูโร ดัชนีดาวโจนส์บวก 57.90 จุด ปิดที่ระดับ 11006.48 จุด โดยทะลุ 11000 จุดได้แล้ว โดยที่น้ำมันขึ้นต่อเนื่องเหนือระดับ 80 เหรียญ น้ำมันบวก 99 เซนต์ ปิดที่ระดับ 82.66 เหรียญ/บาร์เรล SPDR ถือครอง 1288.24 ตัน (ขายออก 0.30 ตัน)

          วิเคราะห์ทางเทคนิค
          ราคาทองคำยังมีการปรับตัวพักฐานบ้างช่วงสั้นๆ ลักษณะของการปรับตัวขึ้นบันไดสั้นๆเท่านั้นเอง และดีดตัวกลับ ณ ขณะนี้ 1351 เหรียญ ภาพรวมมองว่ายังเป็นทิศทางขาขึ้นต่อเนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า แนวต้านถัดไปทางจิตวิทยาอยู่ที่ระดับ 1364 เหรียญ และแนวรับอยู่ที่ระดับ 1330 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทย วันนี้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าอีกครั้งหนึ่งที่ระดับ 30.05 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากความกังวลที่ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะออกมาตรการบางอย่างในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นการประชุมของ คณะรัฐมนตรี ดังนั้นราคาทองคำของไทยยังเคลื่อนตัวไปในทิศทาง Sideway up และทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่า แต่คาดว่าจะแข็งค่าไปได้อีกไม่มากนัก

          คำแนะนำ
          สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)
          Gold Futures Series V10 มีแนวรับอยู่ที่ระดับ 19250 บาท และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 19370 บาท ให้เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวของตลาด

          ลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)
          ยังเป็นการเข้าซื้อต่อเนื่อง หลังจากที่วันศุกร์น่าจะเข้าซื้อแล้วบางส่วนแล้ว ยังมองเป็นทิศทางขาขึ้น รักษา Port ประมาณ 20-30%

          นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
          ยังเป็นลักษณะการรอเข้าซื้อเนื่องจาก เป็นนักลงทุนระยะยาว ยังไม่เห็นสัญญาณเข้าซื้อที่ชัดเจน ต้องเข้าใจว่า นักลงทุนระยะสั้นและระยะยาว คิดต่างกัน

          สรุปได้ว่า นักลงทุนที่ถือครอง Long Position คงจะ let profit run และทำกำไรระยะสั้นเป็นระยะๆตามการแกว่งตัวของตลาด ส่วนนักลงทุนที่ถือครอง Short Position แนะนำว่าควรที่จะลด สถานะการถือครอง และ Square Position ออกไปให้ได้มากที่สุดตามที่เราได้แนะนำไปก่อนหน้านี้แล้ว

          บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

1957
โรช ไดแอกโนสติกส์  จับมือ ไบโอเทค ประกาศผลมอบรางวัล โครงงานวิจัยพันธุกรรม The Great Gigabase Grant มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท

โรช ไดแอกโนสติกส์ [ประเทศไทย] จับมือกับ ไบโอเทค และ ไบโอจีโนเมด ประกาศผลและมอบรางวัลในโครงการประกวดผลงานวิจัยพันธุกรรม THE GREAT GIGABASE GRANT หรือ 3Gs ค้นพบ 3 โครงงานวิจัยพันธุกรรมระดับคุณภาพที่สามารถต่อยอดรักษาโรค ออทิสติกส์ แบคทีเรียดื้อยา และ มาลาเรีย นับเป็นประโยชน์แก่มวลมนุษย์ โดยคณะแพทย์ชาวไทยคว้ารางวัลที่ 1 และ 2 รวมมูลค่ารางวัลทั้งหมดกว่า  3 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวเครื่องวิจัยพันธุกรรมรุ่มใหม่ขนาดเล็ก GS Junior มั่นใจ ช่วยขยายผลงานวิจัยในไทยเพิ่มมากขึ้น   

ดร.สมวงษ์   ตระกูลรุ่ง ผู้อำนวยการ  สถาบันจีโนม ไบโอเทค เปิดเผยว่า เมื่อปีที่ผ่านมา บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์    (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมกับ สถาบันจีโนม ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ หรือ ไบโอเทค และ           บริษัท ไบโอจีโนเมด จำกัด จัดให้มีโครงการประกวดผลงานวิจัยพันธุกรรม THE GREAT GIGABASE GRANT หรือ 3Gs โดยเปิดรับผลงานวิจัยด้านพันธุกรรม เพื่อคัดเลือกให้รับทุนสนับสนุนการวิจัย โดย บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ [ประเทศไทย] จำกัด ได้สนับสนุนน้ำยา ในการทำ วิจัย จำนวน 3 ทุน รวมมูลค่าประมาณ 3.5 ล้านบาท ปรากฏว่ามีนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และบุคลากรทางการแพทย์ทั้งในประเทศและอินโดไชน่าให้ความสนใจส่งผลงานเข้ามาให้พิจารณามากถึง 15 โครงการ     ซึ่งแต่ละโครงการนับว่ามีความน่าสนใจทั้งเชิงวิชาการและประโยชน์ต่อสังคม ทั้งนี้ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ตัดสินให้ ผลงานที่ได้รับทุน 3 โครงการ ได้แก่ อันดับที่ 1 โครงการศึกษาพันธุกรรมของคนไข้ออทิสติกส์ โดย นพ.พรพรต ลิ้มประเสริฐ และคณะ อันดับที่ 2 โครงการศึกษาหายีนของแบคทีเรียที่ดื้อยาหลากหลาย โดย นพ.ชาญวิทย์ ตรีพุทธรัตน์ และคณะ และ อันดับที่ 3 โครงการศึกษาการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องของเชื้อมาลาเรีย โดย ดร.ฟิลลิป ชอวร์ และคณะ ซึ่งแต่ละโครงการมีศักยภาพที่จะนำไปศึกษาวิจัย เพื่อขยายผลให้เกิดประ โยชน์ต่อการพัฒนาการรักษาผู้ป่วยได้จริง   

สำหรับการตัดสิน โครงการวิจัยพันธุกรรม THE GREAT GIGABASE GRANT หรือ 3Gs ได้รับการพิจารณาจาก คณะกรรมการ ซึ่งล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่เคยผ่านการรับทุนวิจัยด้านต่างๆ มาแล้วจากประเทศต่างๆ จำนวนกว่า 30 ท่าน โดยพิจารณาแล้วเห็นว่า โครงการศึกษาพันธุกรรมของคนไข้ออทิสติกส์ จะทำให้ค้นหายีนที่มีความเกี่ยวข้องกับโรค หรือยีนที่เกี่ยวข้อง และนำไปสู้การป้องกันและรักษาได้  โครงการศึกษาหายีนของแบคทีเรียที่ดื้อยาหลากหลาย (Multidrug Resistance) สามารถค้นหายีนที่เกี่ยวข้องมากกว่า 1 ยีน ซึ่งอาจกระจายหลากหลายในแบคทีเรียหลายชนิด เป็นการช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการใช้ เทคนิดเดิมในการวิจัยที่อาจจะทำไม่ได้ และ โครงการศึกษาการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องของเชื้อมาลาเรีย ชนิดพลาสโมเดียม ฟัลสิฟารัม (Plasmodium falciparum) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของยีน ในช่วงเวลาชีวิตของเชื้อดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะสามารถคาดการณ์การก่อให้เกิดโรค หรืออาจจะสามารถทำให้การวิจัยดังกล่าวค้นพบ ยาที่จะใช้ในการรักษาอย่างมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น โดยเชื่อมั่นว่าการมอบรางวัลให้เป็นทุนวิจัยพันธุกรรมแก่ทั้ง 3 โครงการ จะเป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์และสาธารณะสุขของประเทศต่อไป

นายพิเชษฐพงษ์ ศรีสุวรรณกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ [ประเทศไทย] จำกัด กล่าวว่า  โครงการวิจัยพันธุกรรม  THE GREAT GIGABASE GRANT หรือ 3Gs นักวิจัยจะต้องทำการวิจัยผ่านเครื่อง GS FLX (เครื่องถอดรหัสพันธุกรรม) ที่มีเทคโนโลยีและระบบซอฟแวร์ขั้นสูง ด้วยหลักการ Pyrosequencing อ่านลำดับดีเอ็นเอด้วยหลักการ Sequencing by Synthesis โดยปฏิกิริยาสร้างสายดีเอ็นเอ ซึ่งในการทำงานวิจัยแต่ละครั้ง จำเป็นต้องใช้น้ำยาตรวจแบบพิเศษที่มีราคาค่อนข้างสูง การสนันสนุนทุกวิจัยแก่นักวิชาการครั้งนี้ นับเป็นการลดข้อจำกัดของนักวิจัย ที่จะคิดค้นหรือพัฒนาผลงานวิจัยใหม่ๆ โดยการมอบทุนวิจัยพันธุกรรมครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกในแถบอินโดไชน่าที่เปิดโอกาสให้นักวิจัยรับทุนเพื่อทำการทดลองโครงการที่จะประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ ด้วยเทคนิค High throughput sequencing ในการหาลำดับพันธุกรรม และทั้ง 3 โครงการที่ผ่านการพิจารณารับทุน ล้วนแล้วแต่จะเป็นประโยชน์ต่องานวิจัย อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นให้นักวิจัยไทย ที่ขาดแคลนทุนในการศึกษาทำการวิจัยโดยใช้เทคนิคใหม่ๆ ให้พัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว

บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ [ประเทศไทย] จำกัด รู้สึกยินที่ได้มีส่วนร่วมกัน ไบโอจีโนเมด และ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ในการจัดโครงการโครงการวิจัยพันธุกรรม  THE GREAT GIGABASE GRANT หรือ 3Gs ครั้งนี้ และเชื่อว่าจะมีการสานต่อให้มีโครงการต่อไปอีกในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากในปัจจุบัน มีการพัฒนาเครื่องถอดรหัสพันธุกรรมให้มีขนาดเล็กลง ทำให้สถาบันเกี่ยวกับการวิจัยพันธุกรรมมีศักยภาพที่จะนำมาใช้งานได้เพิ่มมากขึ้น โดยในส่วนของ โรช ไดแอกโนสติกส์ ได้นำเครื่องถอดรหัสพันธุกรรมรุ่นใหม่ GS Junior มีประสิทธิภาพสูงขนาดเล็ก เข้ามาในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้การถอดรหัสพันธุกรรม เพื่อค้นคว้าวิจัยและพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง ด้านการแพทย์  ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ และด้านเกษตรกรรมวงการแพทย์ มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายชนกกล่าวสรุป    ในที่สุด 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ บริษัท พีอาร์ โฟกัส จำกัด
Tel. 02-6547-551-2   Fax. 02-6547553 / E-mail: prfocus@truemail.co.th / www.prfocus.co.th

ประภาส จรสรัมย์
โทรศัพท์ 08-1827-7354   นิตยา     เจนศิริทวีทรัพย์
โทรศัพท์  08-6663-3564

เกี่ยวกับเครื่องถอดรหัสพันธุกรรม GS Junior
บริษัท 454 ไลฟ์ไซน์ จำกัด และ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ จำกัด ได้นำเสนอ GS FLX มาเป็นเวลากว่า 4 ปี              ในปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาเครื่องถอดรหัสพันธุกรรมรุ่มใหม่ล่าสุด รุ่น GS Junior ซึ่งเป็นเครื่องมือถอดรหัสพันธุกรรม ระดับจีโนม สามารถทำการถอดรหัสพันธุกรรมได้มากถึง 35 ล้านลำดับพันธุกรรม ภายในเวลาสิบชั่วโมง และมีราคาที่ย่อมเยากว่า เครื่อง GS FLX ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นพี่ที่มีขนาดใหญ่กว่า ทั้งนี้ เครื่องถอดรหัสพันธุกรรม รุ่น GS Junior เหมาะกับงานวิจัยสำหรับนักวิจัยทั่วไป  ที่สามารถทำงานวิจัยส่วนตัว เช่นการหาจีโนม แบคทีเรีย ไวรัส หรือแม้กระทั่งการหายีนผิดปกติต่างๆ ด้วยความรวดเร็วกว่าเทคนิคดั้งเดิมที่กินเวลาและค่าใช้จ่ายมากกว่า อีกทั้ง บ.โรชฯยังมีโครงการการวิจัย เพื่อผลิต ชุดการตรวจยีนดื้อยาของเชื้อไวรัส เอช ไอ วี ระดับลึก ซึ่งสามารถตรวจหายีนที่เริ่มกลายพันธ์เป็นยีนดื้อยาได้ในระยะเริ่มแรก (ตั้งแต่การเริ่มกลายพันธ์ประมาณ 1%) โดยเทคนิค ณ ปัจจุบันนั้นจะตรวจพบได้ต่อเมื่อยีนกลายพันธ์ไปกว่า 20% แล้วเท่านั้น


1958



Concept
ภาพยนตร์โฆษณาชุด “ตัวจริง”

เจ้าของสินค้า               :   บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด
สินค้า                  :   SuperShield
Title                  :   ตัวจริง
ความยาว               :   45 วินาที
เอเจนซี่โฆษณา            :   บริษัท ทีบีดับบลิวเอ (ประเทศไทย) จำกัด
Executive Creative Director         :   คุณฤทธิ์ พร้อมพิชาญ
Art Director               :   คุณณัฐกรณ์ สมินทรปัญญา
Copy Writer               :   คุณพีรยศร์ พิชิตนภากุล
Production House            :   The Shood
Director               :   คุณวิวัฒน์ วงศ์กระพันธุ์
จุดมุ่งหมายของภาพยนตร์โฆษณา      :   SuperShield สีทนตัวจริงที่ผ่านการใช้งาน
จริงมากว่า 30 ปี

Concept ของภาพยนตร์โฆษณา  

           เรื่องของคุณภาพและความทน…เป็นเรื่องที่ต้องผ่านการพิสูจน์กันด้วยเวลาเท่านั้น ไม่มีทางอ้อมหรือทางลัด ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องของสีทาบ้านแล้ว สี SuperShield เนี่ยตัวจริง และเป็นเจ้าเดียวที่ผ่านการพิสูจน์จากการใช้งานจริง โดยอาคารชั้นนำระดับประเทศร่วม 30 ปี รวมถึงบ้าน คุณปัญญา นิรันดร์กุล เองก็เป็นอีกหนึ่งในบทพิสูจน์นี้

   วิธีการนำเสนอภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้ เรานำเสนอผ่านชีวิตในด้านที่คุณไม่เคยเห็นในตัวของคุณปัญญา นิรันดร์กุล คือการวาดภาพสีน้ำ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับเรื่องของสีทาบ้านได้อย่างลงตัวและสวยงาม ด้วยความหมายว่า…ถ้าเป็นสีน้ำ คุณปัญญายังเป็นแค่มือใหม่ แต่ถ้าเป็นสีทาบ้าน สี SuperShield คือตัวจริงที่ผ่านการพิสูจน์จากการใช้งานจริงมาร่วม 30 ปี และจะเน้นย้ำอยู่ตลอดทั้งเรื่องว่า “มือใหม่ ต้องใช้เวลาพิสูจน์อีกนาน…แต่สี SuperShield ทนตัวจริง พิสูจน์มาแล้วร่วม 30 ปี”

1959


        มร.คริสตอฟ แอลเอ็ม คารอง (คนที่ 3 จากซ้าย) รองประธานบริหารโรงแรมโซฟิเทล ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย และผู้จัดการใหญ่โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สีลม มอบช่อดอกไม้ให้การต้อนรับ “เคน” ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ (คนที่ 2 จากซ้าย) นักแสดงนำฝ่ายชาย พร้อมด้วย ซาร่า เล็กจ์ นักแสดงสมทบฝ่ายหญิง ชูชัย องอาจชัย ผู้กำกับการแสดง และ ยุวดี ไทยหิรัญ ผู้จัดละคร เนื่องในโอกาสเข้าถ่ายทำละครเรื่อง “รหัสทรชน” ที่ วีไนน์ ไวน์บาร์แอนด์ เรสเตอร์รอง ชั้น 37 โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สีลม อย่างเป็นทางการ เมื่อเร็วๆ นี้

ละครเรื่อง “รหัสทรชน” ผลิตโดย ยุวดี ไทยหิรัญ ผู้จัดละครชื่อดัง แห่งค่ายยูมา ที่กำลังจะออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3 เร็วๆ นี้

จากภาพ (จากซ้าย)
1. ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ นักแสดงนำฝ่ายชาย ละคร “รหัสทรชน”
2. มร.คริสตอฟ แอลเอ็ม คารอง (คนกลาง) รองประธานบริหารโรงแรมโซฟิเทล ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย และผู้จัดการใหญ่โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สีลม
3. ซาร่า เล็กจ์ นักแสดงสมทบฝ่ายหญิง
4. ชูชัย องอาจชัย ผู้กำกับการแสดงละคร “รหัสทรชน”
5. ยุวดี ไทยหิรัญ ผู้จัดละคร “รหัสทรชน”

1960



 
         - เว็บไซต์ thaitv3.com เปิดคอลัมน์ใหม่ TV3 Star Chat นำดาราที่แฟนๆช่อง 3 ชื่นชอบมานั่งพูดคุยกันสดๆกับทางบ้านผ่านระบบ interactive โดยแฟนๆสามารถพิมพ์คำถามที่หน้าจอเว็บไซต์ ซึ่งดาราจะมาตอบผ่านกล้องวีดีโอให้ชมกันสดๆ เลยทีเดียว

          - เป็นปลื้มกันทีเดียวสำหรับ หนุ่มแซ๊ก “ธนินวัฒน์ พัฒนวีรคุณ” ที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามในการเปิดรับแฟนๆเข้าร่วมกิจกรรม ชวนไปเก็บขยะที่ชายหาดแม่รำพึง จังหวัดระยอง ที่ใช้ชื่อกิจกรรมว่า “ทีวี360 องศา รักษ์น้ำเพื่ออนาคตกับSCG ครั้งที่ 2” โดยจะมี เต๋า สมชาย – ต๊อก ศุภกรณ์ – ใหญ่ ศิระ เจสัน ยัง – โซบี โชติรส เดินทางไปในวันที่15-16 ตุลาคม ศกนี้

          - ส่วน พีเค และ กาละแมร์ ก็จะควงคู่กันมาเป็นพิธีกร ในงานแถลงข่าวความคืบหน้าของการ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่อง เชลล์ดอนของคนไทยที่ไปฉายกว่า 110 ประเทสทั่วโลก โดยเปิดตัว ทีมพากย์ซีซั่น 3 อาทิ ปอ ทฤษฎี – แมท ภีรนีย์ – ดอม เหตระกูล – กาละแมร์ และ พีเค วันพุธที่ 13 ตุลาคม ศกนี้ เวลา 13.30 น. ที่ชั้น 2 อาคารมาลีนนท์ 2 ถนนพระราม 4

1961
เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ครั้งที่ 6
เรามอบความรู้คู่ความบันเทิง 16 – 30 พฤศจิกายน 2553 โดยอุทยานการเรียนรู้ TK park ณ สถาบันเกอเธ่และสมาคมฝรั่งเศส

เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ครั้งที่ 6 (The 6th Science Film Festival)
วันอังคารที่ 16 – วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน 2553
ณ สถาบันเกอเธ่ ซอยสาทร 1 และสมาคมฝรั่งเศส ถ. สาทร
วันธรรมดาฉายเวลา 11.00 – 15.00 น. วันเสาร์อาทิตย์ฉายเวลา 13.00 – 17.00 น.
กลับมาอีกครั้งกับเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ครั้งที่ 6 ภายใต้หัวข้อ “เรามอบความรู้คู่ความบันเทิง”
ปีนี้อุทยานการเรียนรู้ TK park ร่วมกับสถาบันเกอเธ่และสมาคมฝรั่งเศส จัดฉายภาพยนตร์วิทยาศาสตร์หลากหลายแขนง ตั้งแต่ความหลากหลายทางชีวภาพ, ชีววิทยา, นาโนเทคโนโลยี, สิ่งแวดล้อม และวิทยาศาสตร์น่ารู้ทั่วไป
จากกว่า 10 ประเทศทั่วโลก พร้อมนิทรรศการความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) เนื่องในโอกาสที่สหประชาชาติได้ประกาศให้ปีค.ศ 2010 เป็นปีแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ (International Year of Biodiversity)

เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ภาพยนตร์ทุกเรื่องพากย์เสียงภาษาไทย
สำรองที่นั่งและสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 02 264 5963-5 ต่อ135 และ www.tkpark.or.th
(โครงการความร่วมมือระหว่างอุทยานการเรียนรู้ TK park, สถาบันเกอเธ่ และสมาคมฝรั่งเศส)

1962
          นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และนายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงสูตรใหม่ ซึ่งเป็นการปรับปรุงผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดของ ปตท. ให้มีคุณภาพระดับพรีเมียม และสามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค

          นายประเสริฐ กล่าวว่า นอกจากภารกิจในการดูแลความมั่นคงทางพลังงาน และสร้างความมั่นใจให้คนไทยได้มีน้ำมันเชื้อเพลิงใช้อย่างเพียงพอในราคาที่เป็นธรรมแล้ว ปตท. ยังเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อยานยนต์และสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการคิดค้นและวางตลาดน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว หรือ การเปิดตัวน้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำเป็นรายแรกของประเทศ มาจนถึงวันนี้กับ PTT Blue Innovation นวัตกรรมน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูง ที่ใช้เทคโนโลยีระดับพรีเมียม เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพน้ำมันทุกผลิตภัณฑ์ของ ปตท. ให้สูงขึ้น ในราคาเท่าเดิม และสามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคได้อย่างลงตัว นับเป็นความภาคภูมิใจของ ปตท. ที่ได้สร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้สังคมไทย เพื่อให้คนไทยได้ใช้น้ำมันที่ดีที่สุด และได้รับบริการที่ดีที่สุดจากสถานีบริการครบวงจรที่ทันสมัยไม่แพ้ที่ใดในโลก ทั้งนี้ ปตท. ยืนยันที่จะคงความเป็นผู้นำทางนวัตกรรมด้านเชื้อเพลิงคุณภาพ เพื่อสร้างสรรค์สังคมไทยให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนตลอดไป

          นายปรัชญา เปิดเผยว่า ปตท. ภูมิใจนำเสนอ PTT Blue Innovation นวัตกรรมน้ำมันเชื้อเพลิงเกรดพรีเมียมที่มีจุดเด่นในเรื่องการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานเต็มสมรรถนะ เพิ่มอัตราเร่ง ทั้งยังประหยัดเชื้อเพลิง และช่วยรักษาความสะอาดของเครื่องยนต์ให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ ตลอดจนเป็นมิตรกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม และสามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ขับขี่รถยนต์ทุกประเภทได้อย่างครบถ้วน ผ่านการทดสอบทั้งในห้องปฏิบัติการและการทดสอบภาคสนามกับผู้ขับขี่จริง ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่า PTT Blue Innovation คือเทคโนโลยีระดับพรีเมียมของชีวิตคุณ และเป็นนวัตกรรมแห่งความสำเร็จที่ต่อยอดแนวคิด PTT Life Station ได้อย่างลงตัว โดยได้เลือกสีฟ้าหรือ “Blue” ซึ่งเป็นสีที่สื่อถึงความทันสมัย มีระดับ รวมทั้งยังสื่อถึงจิตสำนึกที่ดีต่อโลกและสิ่งแวดล้อมมาเป็นสื่อกลางในการส่งผ่านนวัตกรรมกรรมนี้ไปสู่การรับของผู้บริโภค

          PTT Blue Innovation กลุ่มเบนซินได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการผสมสารทำความสะอาด Inno Protection ที่ผ่านมาตรฐานสูงสุด Top Tier Requirement ของสหรัฐอเมริกา ได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก ช่วยทำความสะอาดระบบหัวฉีด ทำให้การเผาไหม้เชื้อเพลิงเป็นไปอย่างสมบูรณ์ ตลอดจนช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผนวกกับสารลดแรงเสียดทาน Generation 2 Friction Modifier เวอร์ชั่นล่าสุด รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ช่วยเสริมการหล่อลื่นที่ผนังกระบอกสูบ ทำให้น้ำมันหล่อลื่นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากขึ้นด้วย

          ในส่วนของ PTT Blue Innovation กลุ่มดีเซล ได้ผสม Blue Booster ซึ่งเป็นสารพิเศษที่ช่วยเพิ่มค่าซีเทนได้สูงสุดถึง 68 (ค่าซีเทนอาจแตกต่างกันบ้างขึ้นอยู่กับน้ำมันพื้นฐานที่ได้จากโรงกลั่น) ช่วยให้การเผาไหม้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ เครื่องยนต์ทำงานเต็มประสิทธิภาพ เพิ่มแรงบิด และเมื่อทำงานร่วมกับสารทำความสะอาด Nano Clean ที่ช่วยชะล้างทำความสะอาดหัวฉีด และทำให้เครื่องยนต์เดินเรียบ สะอาดเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา รวมทั้งยังช่วยลดควันดำและไอเสียในระดับ Nano Particle ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลทุกประเภท รวมทั้งระบบคอมมอนเรล

          ในชีวิตจริงผู้บริโภคไม่สามารถเปลี่ยนรถยนต์ได้บ่อยเท่าที่ใจต้องการ แต่สิ่งที่สามารถเปลี่ยนและเลือกได้ คือน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่ง ปตท. ได้เลือกสรรน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดให้รถยนต์สามารถแสดงสมรรถนะของเครื่องยนต์ออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ PTT Blue Innovation เทคโนโลยีระดับพรีเมียม จึงเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมแห่งความสำเร็จที่ ปตท. ภาคภูมิใจ ภายใต้ความเชื่อที่ว่า “Life is Different” ปตท. จึงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการให้สามารถตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของทุกคนอย่างไม่หยุดยั้งต่อไป

1963
“แคลจี” มอบเสื้อเชิ้ต เมื่อสะสมคูปองครบ 12 ใบ




ผลิตภัณฑ์แคลจี วิทยาการใหม่ โปรตีนบำรุงข้อ Collagen Hydrolysate ที่ให้ Collagen Type II ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ จัดโปรโมชั่นพิเศษมอบเสื้อเชิ้ต แคลจี เมื่อสะสมคูปองที่แนบมาในกระป๋อง ครบ 12 ใบ ส่งเข้ามาแลกรับเสื้อเชิ้ตแคลจี ผ้าค้อตตอนเกรดเอ สีฟ้าสดใส ได้ทันที ที่บริษัท เฮลธ์ อิมแพค จำกัด  สอบถามโทร   02-8604561 หรือ  081-657-2351

1964
แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ จัดเสวนาพิเศษ วิทยาการใหม่และความก้าวหน้า ของโบทูไลนุ่มท็อกซิน ฉลองครบรอบ 10 ปี Dysport ผลิตภัณฑ์ของอิปเซ่น ไบโอเทค [IPSEN-BIOTECH]

                 

        นายอารมภ์  วีระพัฒนา (ที่ 1 จากขวา) ผู้จัดการแผนก อิปเซ็น ไบโอเท็ค  บริษัท แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อสุขภาพระดับชั้นนำจากทั่วโลก  เป็นประธาน จัดงานเสวนาพิเศษ ในโอกาสฉลองครบรอบ 10 ปี Dysport ผลิตภัณฑ์ของ     อิปเซ่น ไบโอเท็ค [IPSEN-BIOTECH] ในประเทศไทย โดยมี ศ.นพ.สุทธิพันธ์  จิตพิมลมาศ DCN FRCP (กลาง) ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยขอนแก่น, พญ.สุจิตรา  นภาธร(ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการ   ธนิยะเมดิคอล คลีนิค  มาเป็นวิทยากรพิเศษ  บรรยายถึงคุณประโยชน์ ของ ดีสพอร์ต [Dysport] ทั้งใน ด้านการรักษาโรคหน้ากระดูกครึ่งซีก,ลดริ้วรอยเสริมความงาม,ฉีดกระชับหน้าอก,สะโพกและส่วนอื่นๆ ของร่างกาย  และแนวโน้มของวิทยาการใหม่ๆ ในอนาคต นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวชภัณฑ์จำนวนมากให้เกียรติร่วมงาน   ณ โรงแรมพลูแมน คิง-เพาเวอร์ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ  นี้  

1965
KTAMขายตราสารหนี้ตปท.6เดือนชู1.85%

          นายสมชัย  บุญนำศิริ  กรรมการผู้จัดการ  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย ธนทรัพย์ เอ 6เดือน 3  ( KTSUPA6M3 )   ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่  19  ตุลาคม 2553  เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศไม่เกิน 79% โดยจะเน้นลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้   เงินฝากธนาคารบาร์เคลย์ สาขาดูไบ  และตั๋วแลกเงินของธนาคารธนชาต โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการ ที่  1.85% ต่อปี    และเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน     

           นายสมชัย  กล่าวต่อไปว่า   แนวโน้มอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศยังปรับลดลงต่อเนื่องจากสภาพคล่องของระบบการเงินที่อยู่ในระดับสูง  โดยผ่านการอัดฉีดสภาพคล่องและการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยต่ำของธนาคารกลางประเทศต่างๆ  โดยเฉพาะตราสารหนี้ภาคเอกชนที่ Credit Spread ปรับลดลงค่อนข้างมาก ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา    ถึงแม้ว่ากระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายมายังกลุ่มประเทศในเอเชียและตลาดเกิดใหม่ต่างๆ ทำให้ค่าเงินของประเทศมีความผันผวนในทิศทางแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง  และมีส่วนกดดันให้ภาครัฐออกมาตรการสกัดกั้นการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศที่จะมาเก็งกำไรค่าเงิน

               สำหรับประเทศไทย  รัฐบาลได้ออกมาตรการ การยกเลิกการยกเว้นภาษีจากผลตอบแทนของเงินลงทุนในพันธบัตรภาครัฐไทย  ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยเหนือระดับ 30บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ    และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะมากกว่า 3 ปี ขึ้นไปปรับเพิ่มขึ้น   แต่โดยภาพรวมเมื่อพิจารณาจากตลาดอัตราแลกเปลี่ยนและตลาดสวอปของอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน  ยังไม่มีผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว   ทั้งนี้ ตลาดการเงินยังคงรอผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันพุธที่ 20 ตุลาคม ซึ่งหากพิจารณาจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้นในปัจจุบันสะท้อนถึงความเป็นไปได้มากขึ้นที่คณะกรรมการนโยบายการเงินจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่จะถึงนี้

Pages: 1 ... 129 130 [131] 132 133 134