Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - YAHOO

Pages: 1 ... 126 127 [128] 129 130 ... 134
1906


          บริษัท เฮลธ์ อิมแพค จำกัด แนะนำวิตามิน ซี รูปแบบใหม่ “ ซีโด้ เฮลธ์ตี้ กัมมี่” เจลลี่รูปกลีบส้ม เนื้อเหนียวนุ่มหนึบหนับ ให้คนรุ่นใหม่เคี้ยวสนุกกับรสชาติแสนอร่อย ในแต่ละเม็ดอุดมด้วยวิตามินซี 60 มิลลิกรัม ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ทุกวัยที่ใส่ใจสุขภาพ จำหน่ายในราคาเพียง กล่องละ 145 บาท มีวางจำหน่ายที่ร้านขายยา ระดับชั้นนำทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่โทรศัพท์ 02-860-4561 , 02-435-8998  ทุกวันเวลาทำการ

 
 

1907
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ร่วมกับทรู เผยผลรางวัลสุดยอดสารคดีข่าว “สายฟ้าน้อย” ครั้งที่ 6 ประจำปี 2553
 
          สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ร่วมกับทรู เผยผลรางวัลสุดยอดสารคดีข่าว “สายฟ้าน้อย” ครั้งที่ 6 ประจำปี 2553  ม.กรุงเทพ คว้าแชมป์สารคดีเชิงข่าววิทยุฯ ครั้งแรก

          สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ร่วมกับ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ส่งเสริมความสามารถนิสิตนักศึกษาสายสื่อสารมวลชนรุ่นเยาว์ เฟ้นหาสุดยอดผลงานสารคดีเชิงข่าววิทยุ-โทรทัศน์ดีเด่น “สายฟ้าน้อย” ครั้งที่ 6 ประจำปี 2553 ชิงรางวัลโล่เกียรติยศ เกียรติบัตร พร้อมทุนการศึกษามูลค่ารวมกว่า 135,000 บาท จากผลงานเยาวชนระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศ จำนวน 134 ผลงาน แบ่งเป็นสารคดีเชิงข่าวโทรทัศน์ 44 เรื่อง และสารคดีเชิงข่าววิทยุฯ 90 เรื่อง ซึ่งในปีนี้ “มหาวิทยาลัยกรุงเทพ” โดดเด่นคว้าสุดยอดสารคดีเชิงข่าววิทยุฯ จากเรื่อง “เมื่อเด็กไทยอ่านภาษาไทยไม่ออก” ส่วนผลงานสารคดีโทรทัศน์เลือกได้เพียงรางวัลชมเชยอันดับหนึ่ง จากเรื่อง “ลมหายใจที่ต้องสู้” ของมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
          นายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวถึงผลงานผลิตสารคดีข่าววิทยุ-โทรทัศน์ระดับอุดมศึกษา ในโครงการ “สายฟ้าน้อย” ครั้งนี้ว่า “โครงการสายฟ้าน้อย เป็นกิจกรรมหนึ่งที่สะท้อนถึงพัฒนาการด้านการผลิตสารดคีเชิงข่าวของเยาวชนที่ศึกษาด้านนิเทศศาสตร์ และสื่อสารมวลชนได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากคุณภาพของผลงานที่ส่งเข้ามาประกวดมีการคัดสรร และเข้าถึงเนื้อหาเชิงลึกมากขึ้น ทำให้การตัดสินของคณะกรรมการจะต้องวิเคราะห์ผลงานแต่ละชิ้นอย่างละเอียด ชัดเจน และโปร่งใสเพื่อให้นิสิตนักศึกษา นำคำวิจารณ์ทั้งผลงานของตนเอง และทีมอื่นไปเรียนรู้ แก้ไขข้อบกพร่องในงานข่าวอื่นๆ ต่อไป อีกทั้งยังถ่ายทอดความรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับต่อไปยังรุ่นน้องอีกด้วย ดังนั้น ยังคงคาดหวังว่าผลงานในปีต่อๆ ไปจะมีความน่า สนใจ และน่าจับตามองมากยิ่งขึ้น”
          นางสาวเสาวนีย์ ลิมมานนท์ ผู้ช่วยบริหารงานกรรมการผู้จัดการใหญ่ รับผิดชอบงานซีเอสอาร์ [CSR] และหัวหน้าสายงานสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์การตลาดกลุ่มทรู บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น องค์กรที่ให้การสนับสนุนโครงการสายฟ้าน้อยมาโดยตลอด เปิดเผยว่า “โครงการประกวดสารคดีเชิงข่าววิทยุ-โทรทัศน์ “สายฟ้าน้อย” เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 โดยคณาจารย์สถาบันการศึกษา สาขานิเทศศาสตร์และสื่อสารมวลชนทั่วประเทศ ต่างร่วมให้การสนับสนุนและให้คำปรึกษาแก่นิสิตนักศึกษาในการส่งผลงานเข้าประกวดด้วยดีมาโดยตลอด การร่วมมือกับสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยในการจัดโครงการดังกล่าว จึงเป็นการสานต่อพันธกิจของกลุ่มบริษัททรูที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์สังคมแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังมีส่วนร่วมเพิ่มโอกาสในการสร้างบุคลากรคุณภาพด้านวิทยุและโทรทัศน์ ให้เป็นผู้ถึงพร้อมซึ่งความรู้ควบคู่ไปกับคุณธรรม จริยธรรมวิชาชีพ เพื่อก้าวสู่การเป็นนักสื่อสารมวลชนที่ดีและมีคุณภาพของสังคมต่อไป”
          ทั้งนี้ โครงการสายฟ้าน้อย ครั้งที่ 6 มีนิสิตนักศึกษาสายสื่อสารมวลชนจากสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศ ส่งผลงานเข้าประกวด จำนวนทั้งสิ้น 134 เรื่อง แบ่งเป็นผลงานสารคดีเชิงข่าววิทยุกระจายเสียง จำนวน 90 เรื่อง และผลงานสารคดีเชิงข่าววิทยุโทรทัศน์ จำนวน 44 เรื่อง โดยคณะกรรมการตัดสิน ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ และนักวิชาการจากวงการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ จำนวน 5 คน พิจารณาจากหลักเกณฑ์ 4 ประการ ได้แก่ คุณภาพของกระบวนการผลิต คุณค่าของเนื้อหา ผลงานกระชับ ชัดเจน น่าสนใจ และมี จริยธรรมของนักการสื่อสารมวลชนที่ดี
          สำหรับผลตัดสินการประกวดสารคดีเชิงข่าววิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ “สายฟ้าน้อย” ครั้งที่ 6 ประจำปี 2553 มีดังนี้

          รางวัลสารคดีเชิงข่าววิทยุ
          รางวัลดีเด่น ได้แก่
          เรื่อง "เมื่อเด็กไทยอ่านภาษาไทยไม่ออก"
          จาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 25,000 บาท

          รางวัลชมเชย ได้แก่
          1. เรื่อง "เซ็กซ์วัยใส ปัญหาเชิงซ้อนของสังคมไทย"
          จาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 10,000 บาท
          2.เรื่อง "ชายหาด...ค้ากาม"
          จาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 10,000 บาท
          3.เรื่อง "เสียงเรียกจากราไวย์...ความทุกข์ใจบนแผ่นดิน"
          จาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 10,000 บาท

          รางวัลสารคดีเชิงข่าวโทรทัศน์
          รางวัลชมเชย อันดับ 1 ได้แก่
          เรื่อง "ลมหายใจที่ต้องสู้"
          จาก มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต โล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 20,000 บาท
          รางวัลชมเชย อันดับ 2 ได้แก่
          เรื่อง "เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญสะอาดจริงหรือ?"
          จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 15,000 บาท
          รางวัลชมเชย อันดับ 3 ได้แก่
          เรื่อง "ควัน...มือสอง"
          จาก มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 15,000 บาท
          รางวัลชมเชย อันดับ 4 ได้แก่
          เรื่อง "ภัยใต้แผ่นดิน"
          จาก มหาวิทยาลัยรังสิต โล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 15,000 บาท

          หมายเหตุ ติดตามรายละเอียดผลการตัดสินและคำอธิบายประกอบที่ www.thaibja.org

1908
“แว๊กซ์วัน” ปลุกกระแสคนรักรถ...ลด แลก แจก แถม ในงาน “Motor Expo 2010”
 
          บริษัท สยามพูลทรัพย์อินเตอร์ เคมีคอล จำกัด ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายอุปกรณ์ดูแลและรักษารถยนต์ ร่วมออกบูธแสดงสินค้า ในงาน Motor Expo 2010 พบกับโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม อาทิ สินค้านาทีทอง สินค้าซื้อ 1 แถม 1 และสินค้าราคาเดียวเริ่มต้นที่ 39 บาท ฯลฯ และพิเศษในงานพบกับผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์ระดับไฮคลาส Waxone Max มีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ แชมพูล้างรถพร้อมเคลือบเงา (Waxone Max Wash & Wax Car Wax Shampoo) ผลิตภัณฑ์ลบรอยแมวข่วน (Waxone Max Cleaner & Soft Wax) และผลิตภัณฑ์เคลือบเงารถ (Waxone Max Top Coat Triple Wax)

          พลาดไม่ได้ กับบูธผลิตภัณฑ์ Waxone No.J11-J12 ในงาน Motor Expo 2010 ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2553 ณ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
 
 

1909
บมจ. แจ๊กเจีย ร่วมโครงการฝึกอบรม
 
          บมจ. แจ๊กเจียอุตสาหกรรม (ไทย) จำกัด มหาชน ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ออมรอน ร่วมโครงการฝึกอบรม “การสร้างเสริมสุขภาพองค์รวมสำหรับหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ พระภิกษุ สามเณร ในพระราชูปถัมภ์ ฯ ” เพื่อให้บริการด้านสุขภาพอนามัยแก่พระภิกษุและสามเณร ซึ่งจะทำให้พระภิกษุและสามเณร ทั่วประเทศมีสุขภาพดี เมื่อเร็วๆ นี้
 
 

1910
 นอกจากนี้ แขกรับเชิญพิเศษทั้ง 3 ท่าน ยังชวนทุกคนร่วมสนุกส่งไอเดียสร้างสรรค์ กับกิจกรรม “Share A Cup…Share A Story Video Contest” เชิญชวนให้แฟนๆ สตาร์บัคส์ ร่วมสร้างสรรค์วิดีโอคลิปเกี่ยวกับความประทับใจที่มีต่อเทศกาลคริสต์มาสกับสตาร์บัคส์ ความยาวไม่เกิน 3-5 นาที มาที่ www.facebook.com/StarbucksThailand โดยคลิปวิดีโอที่ได้รับการคลิก Like มากที่สุด 15 ท่าน จะได้รับกิฟท์เซ็ตคริสต์มาสคอลเลคชั่นสุดพิเศษจากสตาร์บัคส์เป็นของรางวัล โดยกิจกรรมจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน ถึง 12 ธันวาคม นี้

          นอกจากกิจกรรมดีๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาสนี้ สตาร์บัคส์ ยังได้เตรียมหลากหลายความพิเศษเพื่อที่จะมอบเป็นของขวัญให้แก่ทุกคน ไม่ว่าจะเป็น การกลับมาของเครื่องดื่มยอดนิยมประจำเทศกาล อย่าง “ทอฟฟี่ นัท ลาเต้” ที่ให้รสชาติกลมกล่อม หอมหวานของทอฟฟี่และถั่ว ผสานเข้ากับความนุ่มนวลของช็อตเอสเพรสโซ่และฟองนม “เปปเปอร์มิ้นท์ มอคค่า” เครื่องดื่มที่ผสานช็อคโกแลตเข้มข้น เข้ากับช็อตเอสเพรสโซ่ นมและกลิ่นหอมแสนสดชื่นของเปปเปอร์มิ้นท์ ปิดท้ายด้วยความนุ่มละมุนของวิปครีม และน้ำเชื่อมช็อคโกแลต โดยเครื่องดื่มทั้งสองชนิดมีให้เลือกทั้งแบบร้อน เย็น และปั่น ซึ่งรับประทานเข้ากันได้ดีกับขนมพิเศษประจำเทศกาล อาทิ แครนเบอร์รี่ บลิสบาร์ หรือ ไวท์ช็อคโกแลตเบอรรี่มัฟฟิน เนื้อนุ่ม ช่วยเพิ่มสีสันให้กับการเฉลิมฉลองคริสต์มาสนี้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่มองหาของขวัญชิ้นพิเศษ สตาร์บัคส์มีหลากหลายผลิตภัณฑ์ของขวัญที่เหมาะจะมอบเป็นของขวัญสำหรับตัวคุณเองหรือคนพิเศษในช่วงเทศกาลสำคัญนี้ไว้ให้เลือกสรรอีกด้วย

          ส่วนใครที่รอคอยเมล็ดกาแฟแห่งการเฉลิมฉลองที่มีให้ลิ้มลองรสชาติเพียงปีละหน ปีนี้เป็นปีครบรอบปีที่ 26 ของเมล็ดกาแฟ “คริสต์มาส เบลนด์” ที่จะกลับมามอบความสุขให้คอกาแฟอีกครั้ง ด้วยกลิ่นหอมละมุนของเครื่องเทศและรสชาติกลมกล่อมจากเมล็ดกาแฟที่ผ่านการบ่มพิเศษ บรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์สีแดงสดใส เหมาะอย่างยิ่งที่จะมอบเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลส่งความสุขนี้เช่นกัน

          พิเศษสุดๆ กับของขวัญชิ้นพิเศษที่สตาร์บัคส์เตรียมนำมามอบ สำหรับลูกค้าสตาร์บัคส์ที่ซื้อเครื่องดื่มคริสต์มาสรสชาติและขนาดใดก็ได้ 1 แก้ว และเติมสตาร์บัคส์ การ์ด มูลค่า 2,000 บาท รับฟรีทันที Starbucks Yearly Planner 2011 ดีไซน์เก๋ ที่ทุกคนรอคอยที่จะเป็นเจ้าของ

          และเป็นประจำทุกปี ลูกค้าสามารถมีส่วนร่วมแบ่งปันสิ่งดีๆ คืนสู่สังคมในช่วงคริสต์มาสนี้ ผ่านการร่วมบริจาคหนังสือได้ที่ร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขา เพื่อนำไปมอบให้กับมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ซึ่งสตาร์บัคส์ได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 เตรียมพบกับมหัศจรรย์ของเทศกาลคริสต์มาสได้แล้ว ที่ร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 11 มกราคม 2554 นี้



เกี่ยวกับสตาร์บัคส์

          บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ มุ่งมั่นในการเสาะแสวงหาและคัดสรรเมล็ดกาแฟอาราบิก้า ชั้นเยี่ยมจากทั่วโลกมาตั้งแต่ปี พ.ศ 2514 สตาร์บัคส์ ถือเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกธุรกิจคั่วบดกาแฟ และร้านกาแฟระดับโลก

          ด้วยมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจและความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ ทำให้สตาร์บัคส์ สามารถมอบ ประสบการณ์สตาร์บัคส์ ที่พิเศษให้กับลูกค้าผ่านกาแฟทุกแก้วของสตาร์บัคส์ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์สตาร์บัคส์ได้ โดยคลิกไปที่ www.starbucks.com

เกี่ยวกับสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไทยแลนด์สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไทยแลนด์ เปิดดำเนินการในประเทศไทยสาขาแรกที่เซ็นทรัล ชิดลม เมื่อเดือนกรกฎาคม 2541 ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 133 สาขา ทั่วประเทศไทย สตาร์บัคส์ มุ่งมั่นที่จะมอบ ประสบการณ์สตาร์บัคส์ ให้กับลูกค้าในประเทศไทย ขณะเดียวกัน ก็มุ่งมั่นในการให้ความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมบริเวณแหล่งปลูกกาแฟ พร้อมทั้งชาวไร่กาแฟและครอบครัวชาวไร่กาแฟชาวไทยภูเขาทางภาคเหนือ ภายใต้ชื่อ กาแฟม่วนใจ๋ เบลนด์

          สตาร์บัคส์ มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มพิเศษเฉพาะบุคคลเพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า พาร์ทเนอร์สตาร์บัคส์ พร้อมที่จะแบ่งปันความรู้ ความชำนาญในด้านกาแฟของสตาร์บัคส์ ให้กับลูกค้าทุกคน ด้วยการเตรียมเครื่องดื่มแบบพิเศษเฉพาะบุคคล หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสตาร์บัคส์ กรุณาคลิกไปที่ http://www.starbucks.co.th

1911
สตาร์บัคส์ ชวน 3 นักเล่าเรื่อง ร่วมแบ่งปันไอเดียเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส กับกิจกรรม ‘Share A Cup…Share A Story’

          สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไทยแลนด์ จัดงานต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส เชิญชวนลูกค้าร่วมส่งต่อมนต์เสน่ห์แห่งเทศกาลคริสต์มาส (Christmas Tradition) ที่แสนอบอุ่นและน่ารื่นรมย์ กับกิจกรรมสุดเก๋ “Share A Cup…Share A Story Video Contest” เปิดโอกาสให้แฟนๆ สตาร์บัคส์ ร่วมสนุกส่งคลิปวิดีโอแบ่งปันเรื่องราวความประทับใจเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาส ผ่าน “เฟซบุ๊ก” โซเซียลมีเดียสุดฮอตในขณะนี้ เพื่อลุ้นรับกิฟท์เซ็ตคริสต์มาสคอลเลคชั่นล่าสุดจากสตาร์บัคส์ นอกจากนี้สตาร์บัคส์ยังได้เชิญ 3 นักเล่าเรื่อง 3 สไตล์สุดสร้างสรรค์ ได้แก่ พลอย จริยะเวช นักเขียนไลฟ์สไตล์ผู้เล่าเรื่องภาพงานเขียนที่สนุกสนานและมีสไตล์เฉพาะตัว โลเล ทวีศักดิ์ ศรีทองดี ศิลปินและนักวาดภาพ กับการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านผลงานศิลปะอันน่าทึ่ง และ เมษ ธราธร ผู้กำกับนักเขียนบทรุ่นใหม่ จากค่าย GTH กับผลงานบนแผ่นฟิล์ม ได้มาร่วมแบ่งปันแรงบันดาลใจในการถ่ายทอดเรื่องราว พร้อมบอกต่อไอเดียเก๋ๆ และเลือกของขวัญชิ้นพิเศษให้กับคนสำคัญในการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส ณ ร้านสตาร์บัคส์ สาขาเอกมัย

          มร. เมอร์เรย์ ดาร์ลิง กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า “ช่วงเทศกาลคริสต์มาสของทุกๆ ปี เป็นช่วงเวลาพิเศษที่ผู้คนได้ใกล้ชิดกันและแบ่งปันเรื่องราวและสิ่งดีๆ ให้แก่กัน สตาร์บัคส์เองได้ร่วมส่งต่อเสน่ห์ของเทศกาลอันน่ารื่นรมย์นี้เป็นประจำทุกปี เราได้แนะนำเครื่องดื่มประจำเทศกาล อย่าง ทอฟฟี่ นัท ลาเต้ เปปเปอร์มิ้นท์ มอคค่า เมล็ดกาแฟสตาร์บัคส์คริสต์มาส เบลนด์ รวมไปถึงหลากหลายของขวัญสุดพิเศษเป็นเอกลักษณ์ และกิจกรรมเพื่อสังคมที่สตาร์บัคส์ได้ทำเป็นประจำทุกๆ ปี สตาร์บัคส์รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาพิเศษของการแบ่งปันที่มีความหมาย สำหรับปีนี้ สตาร์บัคส์ได้จัดกิจกรรมพิเศษขึ้นโดยใช้ชื่อว่า “Share A Cup…Share A Story Video Contest” ซึ่งเราหวังว่าลูกค้าจะสนุกในการแบ่งปันเรื่องราวที่ประทับใจเข้ามาที่ สตาร์บัคส์ ไทยแลนด์ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ ที่มีสมาชิกอยู่เกือบ 100,000 คน ซึ่งได้กลายเป็นจุดนัดพบออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของคนรักสตาร์บัคส์ ในประเทศไทยในขณะนี้ เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองช่วงเวลาสุดพิเศษนี้ไปพร้อมๆ กัน”

          พลอย จริยะเวช
 

          เริ่มต้นจากสาวอารมณ์ดี พลอย จริยะเวช ที่เพิ่งฝากผลงานพ็อกเก็ตบุ๊คล่าสุด อย่าง I Love Breakfast ที่ได้แรงบันดาลใจจากการ “อยากเปลี่ยนตัวเอง” ให้มีสุขภาพดีขึ้น โดยหันมารับประทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์ สำหรับพ็อกเก็ตเล่มล่าสุดนี้ เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเขียนต้นฉบับที่ร้านสตาร์บัคส์ สาขาออลซีซั่น เพลส

          ความหมายของ “เทศกาลคริสต์มาส” สำหรับคุณพลอยแล้ว คือ ความสุข และความอบอุ่นแห่งการเฉลิมฉลองและการรวมตัวกันของคนในครอบครัว โดยในปีนี้ คุณพลอยได้แนะนำไอเดียใหม่ในการส่งมอบความสุขให้คนพิเศษแทนที่จะให้เป็นของขวัญหรือดอกไม้ตามปกติ ด้วยการส่งเครื่องดื่มประจำเทศกาลคริสต์มาส อย่าง เปปเปอร์มิ้นท์ มอคค่า หรือ ทอฟฟี่ นัท ลาเต้ คู่กับขนมหรือของทานเล่นน่ารักๆ ที่เข้าคู่กันอย่างลงตัว เพื่อเซอร์ไพรส์ในเช้าวันคริสต์มาสที่แสนอบอุ่น ซึ่งแรงบันดาลใจนี้เธอได้จากการไปร่วมเวิร์คช้อป คอฟฟี่ คอลเลจ กับสตาร์บัคส์ ที่ประเทศญี่ปุ่น

          สำหรับของขวัญในถุง My First Starbucks Christmas Shopping Bag นั้น คุณพลอยเลือกของขวัญเป็นตุ๊กตาหมี “แบร์ริสต้า แบร์ บอย สโนว์แมน” มอบให้กับสามีที่น่ารัก พร้อมมีกิมมิกน่ารักๆ สไตล์สาวพลอยด้วยกระดาษห่อของขวัญลายจุดที่เธอกำลังอินสุดๆ แนบมาด้วย

 เมษ ธราธร


          ผู้กำกับและนักเขียนบทหนุ่มอารมณ์ดี ที่ฝากผลงานชิ้นล่าสุด (สดๆ ร้อนๆ) กับผลงานกำกับมิวสิค วิดีโอ ประกอบภาพยนตร์แนวมอนสเตอร์-คอมเมดี้ เรื่องล่าสุดจากค่าย GTH “กระดึ๊บ” ที่จะเข้าฉายในอีก ไม่นานนี้

          สำหรับหนุ่มเมษ “เทศกาลคริสต์มาส” คือ ช่วงเวลาแห่งความสุข ที่เหมาะกับการเฉลิมฉลองกับผองเพื่อนร่วมก๊วนในบรรยากาศเย็นๆ สบายๆ โดยในปีนี้ คุณเมษ ในฐานะผู้กำกับรุ่นใหม่ แนะนำไอเดียของขวัญประจำเทศกาลอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยการทำวิดีโอคลิปและส่งให้เพื่อนๆ เพื่อส่งต่อความคิดถึง ความรู้สึกดีๆ และแน่นอนว่าสามารถสร้างรอยยิ้มให้กับผู้รับได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นผลงานที่คุณลงมือทำด้วยตัวคุณเองด้วยความตั้งใจ

          สำหรับของขวัญที่หนุ่มเมษเลือกมาใส่ในถุงช้อปปิ้ง คือ ตุ๊กตาหมี “แบร์ริสต้า แบร์ บอย สโนว์แมน” สีขาว พร้อมด้วยแก้วสตาร์บัคส์พร้อมหลอดสีแดงสดใสเข้ากับเทศกาล ซึ่งเจ้าตัวบอกของขวัญสองชิ้นนี้ ขอมอบให้กับตัวเอง เพราะนึกถึงงานเทศกาลประกวดหนัง กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ที่จะมีการมอบรางวัลเป็นหมีที่ทำจากแก้ว ก็เลยอยากมอบตุ๊กตาหมีและแก้วสตาร์บัคส์ให้กับตนเองเป็นของรางวัลบ้าง

 
 โลเล ทวีศักดิ์ ศรีทองดี


          ศิลปินมากความสามารถ กับผลงานชิ้นโบว์แดง หุ่น Dollar 009 ประติมากรรมที่ทำมาจากไฟเบอร์กลาส ขนาดความสูง 6 เมตร ที่เคยตั้งตระหง่านหน้าลานด้านหน้าหอศิลปะวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ล่าสุดบินไปอวดโฉมให้กับชาวโลกได้รู้จักความสามารถของศิลปินชาวไทยถึงเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ณ ชายหาด Gwangalli ในงานแสดงศิลปะร่วมสมัย Busan Biennale 2010 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดย หนุ่มโลเล ได้เปิดเผยว่า ร้านสตาร์บัคส์ สาขานิมมานเหมินทร์ ในจังหวัดเชียงใหม่ คือ สถานที่แห่งความประทับใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจในการครีเอทผลงานหุ่นขนาดยักษ์ชิ้นนี้ขึ้นมา

          สำหรับ “เทศกาลคริสต์มาส” คุณโลเล ได้ให้ข้อแนะนำแสนน่ารัก ที่ทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆ “ผมว่า เราสามารถให้ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ แก่กันได้ โดยเพิ่มความพิเศษด้วยการแนบการ์ดหรือกระดาษโน้ต ที่มีข้อความส่วนตัว (personalized) ซึ่งอาจจะเป็นคำอวยพร หรือถ้อยคำแสดงความรู้สึก… น่าจะ สื่อความหมายลึกซึ้งให้ผู้ได้รับรู้สึกประทับใจ”

          ส่วนของขวัญที่คุณโลเลเลือกสรรใส่ใน My First Starbucks Christmas Shopping Bag นั้นมี ทั้งช็อคโกแลต ตุ๊กตากวางเรนเดียร์ แก้วน้ำสีสันสดใส ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเตรียมให้กับเพื่อนสมาชิกในวงดนตรี Happyband แทนคำขอบคุณและมิตรภาพที่มีให้แก่กัน


1912


สตาร์บัคส์ ดึง “เฟซบุ๊ก” เปิดตัว คริสต์มาส แคมเปญ ชวนลูกค้าส่งวิดีโอ คลิป แชร์ความประทับใจ กับกิจกรรม “Share A Cup Share A Story”

          สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไทยแลนด์ นำโดย มร. เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย นางสุมนพินทุ์ โชติกะพุกกะณะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร และสตาร์บัคส์ พาร์ทเนอร์ (พนักงาน) เปิดตัวคริสต์มาสแคมเปญประจำปีนี้ ภายใต้ธีม “Share A Cup…Share A Story” ด้วยการกลับมาของเครื่องดื่มยอดนิยมประจำเทศกาล อย่าง ทอฟฟี่ นัท ลาเต้ และ เปปเปอร์มิ้นท์ มอคค่า พร้อมด้วยหลากหลายของขวัญดีไซน์น่ารักสีสันสดใส และในปีนี้ สตาร์บัคส์ ยังได้ดึงเอาโซเชียลมีเดียสุดฮอต อย่าง “เฟซบุ๊ก” ที่สตาร์บัคส์ ประเทศไทย มีสมาชิกอยู่อย่างเหนียวแน่นกว่า 100,000 คน มาร่วมเฉลิมฉลองไปกับสตาร์บัคส์ ด้วยการเชิญชวนลูกค้าร่วมแบ่งปันเรื่องราวความสุขในช่วงเทศกาลกับสตาร์บัคส์ ผ่านการแชร์วิดีโอ คลิป ความยาวประมาณ 3-5 นาที บน www.facebook.com/StarbucksThailand

          ผู้ที่ได้รับการโหวตสูงสุดจากสมาชิกในแฟนเพจจำนวน 15 ท่าน จะได้รับรางวัลกิฟท์เซ็ตคริสต์มาสคอลเลคชั่นสุดพิเศษจากสตาร์บัคส์ รวมมูลค่าของรางวัลทั้งหมดกว่า 75,000 บาท กิจกรรมนี้จะเริ่มในวันที่ 15 พฤศจิกายน ถึง 12 ธันวาคมนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/StarbucksThailand

1913
อัลบา สตาร์ [ALBA Star] เผยประกายแสงระยับ จากดวงดาว



          อัลบา (ALBA) ผู้นำเทรนด์เรือนเวลาคุณภาพจากญี่ปุ่น ร่วมเผยความเป็นดาวในตัวคุณ กับนาฬิกาแห่งดวงดาว “อัลบา สตาร์ (ALBA Star)” เทรนด์เวลาสไตล์เจแปนนีสต้า ที่หยิบความงดงามแห่งดวงดาวมาประดับไว้บนหน้าปัดนาฬิกาหลากสีสัน ทั้งหน้าปัดสีขาวที่ดูสะอาด บริสุทธิ์ เปรียบประดุจดั่งประกายแสงแห่งดวงดาว หน้าปัดสีดำที่ซ่อนมนต์สะกดแห่งความเสน่หาในยามรัตติกาล และหน้าปัดสีชมพู ที่บ่งบอกถึงความอ่อนโยน อ่อนหวานของ กุลสตรี ผสานความโดดเด่นแห่งแสงสะท้อนระยิบระยับของกลิตเตอร์บนหน้าปัดและคริสตัลสวารอฟสกี้รอบขอบหน้าปัดทรงกลม ขนาด 28 มิลลิเมตร หรูหรางดงามดั่งดวงดาวที่ส่องประกายบนท้องฟ้า กับช่องบอกวันที่ “บิ๊กสตาร์” บนตำแหน่งที่ 5 นาฬิกาของหน้าปัด ให้คุณเผยประกายโดดเด่นดั่ง “ซุปเปอร์สตาร์” ในราคาเพียง 2,770 บาทเท่านั้น !

          ร่วมเป็นหนึ่งใน “ซุปเปอร์สตาร์” กับ “อัลบา สตาร์” ได้แล้ววันนี้ ที่เคาน์เตอร์อัลบาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือ www.albathailand.com และ facebook ของ ALBA Thailand

1914
แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ กรุ๊ป มอบนมแพะดีจี แก่ บ้านเด็กอ่อนปากเกร็ด


 
          นายไพบูลย์ ลีลาภาณุมาศ (ซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ กรุ๊ป หรือ PHCG ผู้นำธุรกิจด้านการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อสุขภาพระดับชั้นนำจากทั่วโลก เป็นตัวแทนนำคณะผู้บริหารและพนักงาน ไปจัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวันและมอบผลิตภัณฑ์นมแพะผงดีจี จากประเทศนิวซีแลนด์ ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงนมแม่ ให้แก่ บ้านเด็กอ่อนพญาไท โดยมีนางมณีโชติ เงินดี (กลาง) นักสังคมสงเคราะห์ บ้านเด็กอ่อนปากเกร็ด เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปแบ่งปันเลี้ยงดูเด็กอ่อนผู้ด้อยโอกาสให้ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ณ บ้านเด็กอ่อนปากเกร็ด เมื่อเร็วๆ นี้

1915
มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จัดงานสัปดาห์ไม้ดอกไม้ประดับ และตลาดนัดเพื่อสุขภาพ

 
          มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา งานสัปดาห์ไม้ดอกไม้ประดับและตลาดนัดเพื่อสุขภาพ ขอเชิญประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงาน ในวันที่ 23-27 พฤศจิกายน 2553 ณ.มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา นอกจากนี้ ภายในงานยังมี บริการตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูกด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ จากผลิตภัณฑ์ โซลูแคล ( แคลเซียมผสมคอลลาเจน ) เพื่อกระดูกที่แข็งแรงพร้อมรับหนังสือ เรื่องโรคข้อเสื่อมและกระดูกพรุน โดย รศ. นพ. พงษ์ศักดิ์ ยุกตะนันทน์ จาก บริษัท เฮลธ์ อิมแพค จำกัด ไปให้บริการฟรี สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติม ที่ 02-8604561

1916
ทรู อินเทอร์เน็ต จับมือ ซี-สเกลเลอร์ เอาใจลูกค้าองค์กร เปิดตัวบริการ Security Exchange ป้องกันภัยไวรัสออนไลน์รายแรกของเมืองไทย
 
 

          ทรู อินเทอร์เน็ต ผนึก ซี-สเกลเลอร์ ยกระดับความปลอดภัยการใช้งานเว็บไซต์ลูกค้าองค์กร เปิดตัวบริการล่าสุด Security Exchange เทคโนโลยีป้องกันภัยคุกคามออนไลน์บน Cloud รายแรกของไทย โดยไม่ต้องใช้ซอฟท์แวร์ ทั้งตรวจสอบ กลั่นกรอง และสกัดกั้นสารพัดภัยร้ายออนไลน์ที่มาจากการใช้งานเว็บ 2.0 เว็บเมล และโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คกิ้งได้ทันที พร้อมเรียกดูข้อมูลการใช้งานจริงตลอด 24 ชั่วโมง ชูประสิทธิภาพโดดเด่นสะดวก ประหยัด ครบทุกรูปแบบ เพิ่มศักยภาพการทำงานให้ลูกค้าองค์กรเต็มที่ยิ่งขึ้น

          นายวสุ คุณวาสี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด กล่าวว่า ภัยคุกคามที่พบในระบบปฏิบัติการอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน มีอัตราการแพร่ระบาดที่รุนแรงและรวดเร็วมาก ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของลูกค้าองค์กร บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จึงร่วมกับบริษัทซี-สเกลเลอร์(Zscaler) ผู้นำบริการ Web Security ระดับโลก เปิดตัวบริการใหม่ล่าสุดสำหรับลูกค้าองค์กร Security Exchange เทคโนโลยีป้องกันภัยคุกคามออนไลน์ จากการใช้งานเว็บ 2.0 ทั้งเว็บเมล อาทิ gmail, hotmail, yahoo และกลุ่มโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค อาทิ facebook, twitter, hi5 เป็นต้น โดยเป็น Web Security on Cloud รายแรกในประเทศไทย ทำหน้าที่กลั่นกรองและป้องกันภัยร้ายจากไวรัส สปายแวร์ แอดแวร์ หรือ มัลแวร์ ที่คาดว่าจะเป็นอันตราย มีการอัพเดทข้อมูลให้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ บริการ Security Exchange ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่จะช่วยให้การทำงานในองค์กรคล่องตัวยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำ Report รูปแบบต่างๆ การบริหารจัดการกำหนดสิทธิการใช้งานเว็บไซต์ ควบคุมและแบ่งแยกช่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ตามความต้องการ รวมถึงระบบที่จะช่วยป้องกันการส่งข้อมูลที่ไม่ต้องการเปิดเผยออกสู่ภายนอกองค์กรได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับทุกองค์กร ที่ต้องการเสริมสร้างประสิทธิภาพในด้านการรักษาความปลอดภัย สำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งขาเข้าและขาออก บนเครื่องพีซี โน้ตบุ้ค ตลอดจนสมาร์ทโฟนต่างๆ

          นายมาโนช แอปติ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ซี-สเกลเลอร์ จำกัด (Zscaler) กล่าวว่าซี-สเกลเลอร์ เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเทคโนโลยี Cloud ระดับโลก โดยให้บริการ Web Security แล้วใน 140 ประเทศทั่วโลก ขณะเดียวกันมองว่าประเทศในแถบเอเชีย โดยเฉพาะ จีน เกาหลีและญี่ปุ่น มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นการที่ประเทศในแถบเอเชียจะประสบภาวะจากภัยคุกคามที่มาจากการใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ จึงมีแนวโน้มสูงขึ้น การร่วมมือกับ ทรู อินเทอร์เน็ต เปิดให้บริการ Security Exchange เนื่องจากเห็นว่าทรู อินเทอร์เน็ต เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพียงรายเดียวที่ให้ความสำคัญในด้านการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในประเทศไทย รวมทั้งมีบริการต่างๆที่หลากหลายเหมาะสำหรับลูกค้าองค์กร โดยเฉพาะบริการด้าน Security จึงมั่นใจว่าบริการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าองค์กร ที่ต้องการระบบป้องกันภัยจากการใช้งานเว็บไซต์ที่สะดวกและมีประสิทธิภาพสูง ด้วยเทคโนโลยี Software-as-a-Service (SaaS) ทำให้ประหยัดเพราะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง ขณะเดียวกันยังลดต้นทุน เนื่องจากไม่ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์หรือซอฟท์แวร์ใดๆเพิ่มเติม
 
          ลูกค้าอินเทอร์เน็ตองค์กรที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 0-2620-0400 กด 2

1917
โรงพยาบาลรามาธิบดี จัดงานดูแลสุขภาพชายเพื่อวันพ่อ

 
          โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยคณะแพทยศาสตร์ จะจัดงาน “ มาดูแลสุขภาพชายเพื่อวันพ่อกันเถิด ครั้งที่ 4” โดยภายในงานจะมีการจัดบรรยายให้ความรู้ทางวิชาการ, การจัดนิทรรศการสุขภาพเพศชาย การจัดกิจกรรมพิเศษ การทดสอบสมองเสื่อม การตรวจฮอร์โมนเพศชาย และการให้บริการตรวจสุขภาพให้แก่ประชาชนฟรี ฯลฯ โดยบริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ [ประเทศไทย] จำกัด ให้การสนับสนุนน้ำยา เพื่อการเจาะเลือดวัดระดับพีเอสเอ เพื่อดูความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก จำนวน 300 ท่าน ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมงาน ในวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2553 นี้ ระหว่างเวลา 06.00-12.30 น. บริเวณห้องประชุมชั้น 5 อาคารศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ โทรศัพท์ 085-676-2434 
 

1918
ทรูรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 รายได้จากบริการเพิ่มขึ้น บริการบรอดแบนด์และ ทรูวิชั่นส์เติบโตต่อเนื่อง
 
          บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2553 รายได้จากการให้บริการโดยรวมเพิ่มขึ้น ทรูออนไลน์มีผลประกอบการที่ดี โดยรายได้จากบริการ บรอดแบนด์เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ทรูวิชั่นส์ปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ ผ่านมา จากรายการ ทรู อะคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่น 7 และการเริ่มฤดูกาลใหม่ของรายการฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ทำให้สามารถชดเชยผลการดำเนินงานของทรูมูฟที่อ่อนตัวลง อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทำให้ EBITDA ลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา

          ในไตรมาส 3 ปี 2553 กลุ่มทรูมีรายได้จากค่าบริการโดยรวม (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย หรือ IC) เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.0 จากไตรมาสที่ผ่านมา แต่ลดลงร้อยละ 0.8 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า เป็น 13.0 พันล้านบาท เป็นผลจากผลประกอบการของทรูมูฟชะลอตัวจากการแข่งขัน ในขณะที่ กำไรจากการดำเนินงาน ก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA โดยรวมลดลงร้อยละ 2.8 จากไตรมาสที่ผ่านมา และร้อยละ 9.9 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า เป็น 4.3 พันล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจากการขยายโครงข่ายและค่าใช้จ่ายด้านการตลาด อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสนี้ ทรูรายงานผลกำไรสุทธิจำนวน 1.2 พันล้านบาท รวมกำไรอัตราแลกเปลี่ยนจากค่าเงินบาทแข็งตัว

          นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กล่าวว่า “รายได้โดยรวม ของกลุ่มทรูดีขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยภาพนอกโดยรวมปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับบริการ บรอดแบนด์และทรูวิชั่นส์เติบโตต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ผลการดำเนินงานโดยรวมอ่อนตัวลง เนื่องจากการแข่งขันที่ทรูมูฟ

          “เป็นที่น่ายินดีว่าการที่สมาร์ทโฟนได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้จากบริการแบบรายเดือนและบริการที่ไม่ใช่เสียงของทรูมูฟเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4 จากยอดขาย iPhone 4 ที่เพิ่มขึ้น หลังประสบความสำเร็จในการเปิดตัวในเดือนกันยายนที่ผ่านมา”

          “สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี คาดว่ารายได้จากการให้บริการโดยรวมของกลุ่มทรูจะเติบโตต่อเนื่อง จากการเปิดตัวโปรโมชั่นใหม่ๆ ของทรูมูฟ และจากรายได้บริการโทรศัพท์ทางไกลข้ามแดนระหว่างประเทศ (International Roaming – IR) ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ในขณะเดียวกัน โปรโมชั่นใหม่จากบริการบรอดแบนด์ และรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ จะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้ทรูออนไลน์และทรูวิชั่นส์ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น ในขณะที่ บริษัทจะเน้นการควบคุมการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวดในไตรมาสที่ 4”

          สำหรับ ทรูมูฟ รายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่า IC) ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 เป็น 5.7 พันล้านบาท เนื่องจากรายได้จากบริการแบบรายเดือนและบริการที่ไม่ใช่เสียงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทำให้สามารถชดเชยรายได้จากบริการแบบเติมเงินที่ปรับตัวลดลง ซึ่งส่งผลให้รายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่า IC) ลดลงร้อยละ 3.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม รายได้จากบริการแบบรายเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 จากไตรมาสก่อนหน้า และร้อยละ 7.2 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็น 1.6 พันล้านบาท โดยมียอด ผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้น รายได้จากบริการที่ไม่ใช่เสียงโดยรวมเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 6.1 และร้อยละ 12.1 ในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากบริการโมบายอินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น รวมทั้งทรูมูฟขยายโครงข่ายข้อมูลอย่างต่อเนื่อง สำหรับไตรมาสนี้ ทรูมูฟมีจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นประมาณ 181,000 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้น 16.5 ล้านราย ทั้งนี้ รายรับ ค่า IC สุทธิปรับตัวเข้าสู่ระดับสมดุลมากขึ้น โดยทรูมูฟยังคงมีรายรับค่า IC สุทธิจำนวนทั้งสิ้น 26 ล้านบาทในไตรมาสนี้ เมื่อเทียบกับจำนวน 60 ล้านบาทในไตรมาสที่ผ่านมา

          ทรูออนไลน์ มีรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 1.7 จากไตรมาสก่อนหน้า และร้อยละ 4.3 จาก ไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา เป็น 6.7 พันล้านบาท เนื่องจากบริการบรอดแบนด์เติบโตอย่างเป็นนัยสำคัญ ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 ทรูออนไลน์เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่กำหนดมาตรฐานความเร็วใหม่ของบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ด้วยความเร็ว 6 Mbps ส่งผลให้รายได้จากบริการบรอดแบนด์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในอัตราร้อยละ 5.8 จากไตรมาส 2 และร้อยละ 9.9 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน เป็น 1.7 พันล้านบาท และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 9.1 ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2553 เทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้ในไตรมาสนี้ มียอดผู้ใช้บริการ บรอดแบนด์รายใหม่สุทธิจำนวน 35,000 ราย เพิ่มขึ้น 2,200 ราย จากไตรมาส 2 โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิที่สูงสุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้มียอดผู้ใช้บริการบรอดแบนด์เพิ่มขึ้นเป็น 788,000 ราย

          ผลประกอบการของทรูวิชั่นส์ ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากรายการ ทรู อะคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่น 7 และการเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ของรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีก โดยทั้งสองรายการมีส่วนช่วยสนับสนุนให้รายได้จากการให้บริการของทรูวิชั่นส์เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 4.6 จากไตรมาสที่ผ่านมา เป็น 2.4 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส เดียวกันปีก่อนหน้า รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 โดยส่วนใหญ่มาจากการรับทำการโฆษณา ทั้งนี้ยอดผู้ใช้บริการโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 จากไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 1.7 ล้านราย

          บริษัทดำเนินนโยบายในการลดภาระหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการชำระคืนหนี้จำนวน 1.3 พันล้านบาทใน ไตรมาส นี้ และจำนวนรวมทั้งสิ้น 4.0 พันล้านบาท ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2553 ทำให้ปัจจุบันอัตราส่วนหนี้สินต่อ EBITDA สุทธิ ปรับตัวดีขึ้นเป็น 3.1 เท่า เมื่อเทียบกับ 3.2 เท่าในไตรมาส 2

          นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน กล่าวเสริมว่า “ในปีนี้บริษัทจะยังคงให้ ความสำคัญกับการเพิ่มความน่าเชื่อถือทางการเงินโดยการลดภาระหนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมองหาโอกาสในการรีไฟแนนซ์ นอกจากนี้ บริษัทยังจะได้รับประโยชน์จากการที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ทำสัญญาซื้อหุ้นทรูทั้งหมดจาก KfW การซื้อหุ้นดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2553 จะทำให้ข้อผูกพันของบริษัทในการจ่ายเงินปันผลสะสมค้างจ่ายจำนวน 5.6 พันล้านบาทให้กับ KfW สิ้นสุดลง รวมทั้งยังแสดงถึงความเชื่อมั่นของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในศักยภาพการเติบโตของกลุ่มทรู และอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยโดยรวม ทั้งนี้บริษัท ต้องขอขอบคุณ KfW ที่ร่วมมีส่วนในการพัฒนาธุรกิจของบริษัท จนมีความก้าวหน้าดังเช่นในปัจจุบัน”

1919
“ทรูรวมน้ำใจไทย ช่วยภัยหนาว” สานต่อโครงการทำดีให้พ่อดู เชิญชวนรวมพลังคนไทย ต้านภัยหนาวทั่วประเทศ
 
          ทรู สานต่อโครงการทำดีให้พ่อดู มอบความอบอุ่นให้คนไทยหายหนาว “ทรูรวมน้ำใจไทย ช่วยภัยหนาว” นำร่องซื้อเสื้อกันหนาวและผ้าห่มจำนวน 10,000 ชิ้น เตรียมมอบให้ผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ พร้อมเชิญชวนลูกค้าและพี่น้องชาวไทย ร่วมบริจาคเสื้อกันหนาวและ ผ้าห่มที่กล่องรับบริจาค ณ ร้านทรูมูฟสแควร์ สยาม ซอย 2 ร้านทรูคอฟฟี่สาขามหาวิทยาลัยมหิดล ร้านทรูช็อปสาขาซีคอน สแควร์ และสาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต หรือบริเวณศูนย์การค้าสยามพารากอน นอกจากนี้ยังสามารถมีส่วนร่วมช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยให้พ้นภัยหนาวด้วยการบริจาคเงินผ่าน SMS ของทรูมูฟ หมายเลข 91233 เพื่อนำเงินบริจาคทั้งหมดมอบให้ผู้ประสบภัยหนาวผ่านมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย



          นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทรูในฐานะบริษัทไทย ร่วมช่วยเหลือคนไทยที่ประสบภัยหนาว ซึ่งหลายจังหวัดกำลังประสบกับภาวะอากาศหนาวเย็น ขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มและผ้าห่ม หลายพื้นที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่ภัยหนาว กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยคาดการณ์ว่าปีนี้จะเป็นปีที่ประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นที่สุด ในรอบ 30 ปี ทรูจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการมอบความอบอุ่นให้คนไทยหายหนาว “ทรูรวมน้ำใจไทย ช่วยภัยหนาว” เป็นการสานต่อโครงการทำดีให้พ่อดู โดยทรูจะร่วมบริจาคเงินซื้อเสื้อกันหนาวและผ้าห่มจำนวน 10,000 ชิ้น และรวมพลังผู้บริหาร พนักงาน เพื่อนคู่ค้านำไปมอบให้ผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ภัยหนาว อาทิ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน รวมทั้งโรงเรียนที่ประสบภัยในโครงการทรูปลูกปัญญา พร้อมเชิญชวนลูกค้าและประชาชนทั่วไป ร่วมบริจาคเสื้อกันหนาวและผ้าห่มทั้งของใหม่และใช้แล้ว ที่กล่องรับบริจาค ณ ร้านทรูมูฟสแควร์ สยาม ซอย 2 ร้านทรูคอฟฟี่สาขามหาวิทยาลัยมหิดล ร้านทรูช็อปสาขาซีคอน สแควร์ และสาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2553 หรือบริเวณศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2553

          นอกจากนี้ ลูกค้าและพี่น้องชาวไทยยังสามารถร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว โดยบริจาคเงินผ่าน SMS ของทรูมูฟ เพียงพิมพ์ 1 ส่งไปที่หมายเลข 91233 บริจาคครั้งละ 10 บาท สามารถส่ง SMS บริจาคได้ไม่จำกัด ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน - 15 ธันวาคม 2553 ทั้งนี้เงินทั้งหมดนำไปบริจาคผ่านมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยต่อไป”

          “โครงการ “ทำดีให้พ่อดู” เป็นโครงการที่ทรูดำเนินการเพื่อปลูกจิตสำนึกและรณรงค์ให้คนไทยร่วมกันทำความดีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งโครงการทำดีให้พ่อดู “ทรูรวมน้ำใจไทย ช่วยภัยหนาว” ในครั้งนี้ มุ่งรวมน้ำใจคนไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวทั่วประเทศ โดยเฉพาะฤดูหนาวปีนี้ที่อากาศหนาวเย็นกว่าทุกปีที่ผ่านมา มั่นใจว่าพลังน้ำใจของคนไทยจะสามารถแปรเปลี่ยนเป็นพลังความอบอุ่นให้พี่ น้องชาวไทยได้พ้นภัยหนาวอย่างแน่นอน” นายศุภชัย กล่าวสรุป

          จากภาพ กลุ่มทรู โดย นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมคณะผู้บริหารกลุ่มทรู ศิลปินเอเอฟ 7 นำโดย บอส-ธนบัตร งามกมลชัย และกรีน-จิรพัฒน์ ศิริไชย สานต่อโครงการทำดีให้พ่อดู มอบความอบอุ่นให้คนไทยหายหนาว “ทรูรวมน้ำใจไทย ช่วยภัยหนาว” บริจาคเงินซื้อเสื้อกันหนาวและผ้าห่มให้ผู้ประสบภัยหนาว จำนวน 10,000 ชิ้น พร้อมเชิญชวนลูกค้าและพี่น้องชาวไทย ร่วมบริจาคเสื้อกันหนาวและผ้าห่มที่กล่องรับบริจาค ณ ร้านทรูมูฟสแควร์ สยาม ซอย 2 ร้านทรูคอฟฟี่สาขามหาวิทยาลัยมหิดล ร้านทรูช็อปสาขาซีคอน สแควร์ และสาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต หรือศูนย์การค้าสยามพารากอน หรือบริจาคเงินผ่าน SMS หมายเลข 91233 เพื่อนำเงินบริจาคมอบให้ผู้ประสบภัยหนาวต่อไป

1920
MTS GOLD แม่ทองสุก ลุยโปรโมท “MTS MIDNIGHT TRADE” พร้อมนำบริการลงทุนทองครบวงจร “ทองแท่ง-ฟิวเจอร์ส” ร่วมงานถนนสายลงทุนทองคำ

 

          นาย ณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ผู้นำด้านการลงทุนทองคำครบวงจรและผู้นำด้านการลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์ส ลุยโปรโมท “MTS MIDNIGHT TRADE” รับกิจกรรมถนนสายลงทุนทองคำ ในงาน Set In The City 2010 ในช่วง 18-21 พฤศจิกายนนี้ ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อร่วมสนับสนุนการกระตุ้นการซื้อขายสัญญาลงทุนให้ตลาดโกลด์ฟิวเจอร์ส โดยบริการเป็นการขยายเวลาบริการให้แก่ลูกค้านักลงทุนทองคำแท่งแก่ลูกค้าถึงเที่ยงคืน ตั้งแต่เวลา 09.40-24.00 น. เพื่อรองรับความต้องการลงทุนทองคำแท่งของลูกค้าในช่วงที่ตลาดทองคำโลกอันได้แก่ ตลาดโคเม็กซ์, ลอนดอน และนิวยอร์กมีการซื้อ-ขาย ซึ่งตรงกับตลาดทองคำไทยปิดตลาดในตอนกลางคืน ซึ่งนับเป็นผู้ประกอบการร้านทองรายแรกของประเทศไทยที่ให้บริการเต็มรูปแบบในลักษณะนี้ ทั้งผ่านระบบโกลด์ออนไลน์ , โกลด์โฟน และระบบโกลด์โมบาย ทั้งนี้เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าและนักลงทุน รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนทองคำแท่งให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้นด้วย ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลได้จากเว็บไซต์ www.mtsgold.co.th หรือที่ โทร. 02-222-6222

Pages: 1 ... 126 127 [128] 129 130 ... 134