Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - YAHOO

Pages: 1 ... 125 126 [127] 128 129 ... 134
1891


          กลับมาอีกแล้วกับกิจกรรม พาน้องท่องฟ้าปี53 “ท่องฟ้า พาไออุ่น” ที่โต้โผใหญ่ใจดีไม่ใช่ใครอื่น “หนุ่มกฤต เจนพานิชการ” หัวหน้าทีมข่าวสกายรีพอร์ท พร้อมฝูงบินครอบครัวข่าว ที่จะรับสมัครน้องๆเยาวชนอายุ 7-18ปี และยังไม่เคยมีประสบการณ์ขึ้นเครื่องบิน ให้มาสัมผัสความสนุกกับทริปพิเศษโดยจะร่วมกันนำเสื้อผ้าและเครื่องกันหนาวไปมอบให้ที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยสายการบินแอร์เอเชีย กรมการบินพลเรือน ครอบครัวข่าว และพันธมิตรสนับสนุน น้องๆคนไหนอยากสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ก็ส่ง SMS มาร่วมสนุกได้ ดดยติดตามรายละเอียดได้ในรายการ ตู้ปณข่าว 3 และช่วงข่าวของรายการครอบครัวข่าว เริ่มตั้งแต่ 1 ธันวาคม โดยจะเดินทางในวันที่ 9 และ 10 ธันวาคม ส่งด่วนรับจำนวน 100 คนเท่านั้น

1892
เรียกความทรงจำประทับใจอีกครั้งกับ “แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง” ตำนานรักดอกเหมย ทางช่อง 3

  

         กลับมากระชากใจ แฟน ๆชาวช่อง 3 อีกครั้งกับสุดยอดซีรีส์ที่โด่งดังไปทั่วเอเชีย “แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง” ครั้งนี้ช่อง 3 นำกลับมามอบเป็นของขวัญปีใหม่ ลงจอในช่วงตำนานรักดอกเหมย ให้แฟนซีรีส์เกาหลีได้ชื่นใจกันอีกครั้งกับ 2 พระนาง สวย – หล่อ “ลี ยอง เอ” และ “จี จิน ฮี ”

          “แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง” สวมบทโดย “ลี ยอง เอ” นางใน สาวผู้มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์ มุ่งมั่นการงาน ช่วยเหลือผู้อื่น ครบถ้วนตามหลักธรรมมาภิบาล และ “จี จิน ฮี”องครักษ์หนุ่มผู้มีลักษณะนิสัย สุขุม นุ่มลึก อบอุ่นและกล้าหาญ ซีรีส์เรื่องนี้สร้างมาจากเค้าโครงเรื่องจริงของหญิงสาวที่ชื่อ “จังกึม” เธอเป็นเด็กที่เกิดจากครอบครัวยากจน แต่โชคก็ยังเข้าข้างเมื่อ เธอได้มีโอกาสเข้าไปเรียนรู้ในวังหลวงเพื่อฝึกฝนการปรุงอาหาร การนำยาสมุนไพรมารักษาโรค ด้วยเหตุที่เธอนั้นมีความสามารถ เฉลียวฉลาด มีคุณสมบัติแม่ครัวแห่งวังหลวง จึงทำให้เธอเพียบพร้อมที่จะเป็นนางกำนันฝ่ายในและต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมายจากการแย่งชิง ยศฐาบรรดาศักดิ์ “จังกึม” จะสามารถผ่านพ้นปัญหาเหล่านี้ไปได้หรือไม่ต้องมาคอยลุ้นกันอีกครั้ง

          ติดตามชมซีรีส์เกาหลีเรื่อง “แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง” ได้ในช่วงตำนานรักดอกเหมย ออกอากาศทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 13.00- 14.00 น เริ่มตอนแรก 6 ธันวาคมศกนี้ทางช่อง 3

1893
เปิดโปรแกรม “วายุภัคมนตรา” “บอย” ประกบ “มาร์กี้” ประทับใจ “พี่อ๊อฟ” ผู้จัดมือดี เผย วายุภัคมนตรา สนุกครบรสชาติ





          หลังจากที่ได้ติดตามชมละครซี่รีย์ 4 หัวใจแห่งขุนเขาทั้ง 3 เรื่องไปแล้ว ก็มาถึงละครซีรี่ย์สุดท้ายที่กล่าวถึงบทสรุปของละครซีรี่ย์ทั้ง 4 เรื่อง โดยมีหนุ่มหล่อ มาดเข้ม อย่าง บอย “ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ที่เข้ามารับบทเป็นหนุ่มหล่อเพลย์บอยตัวพ่อแต่ต้องเจอกับนางเอกสาวหน้าหวานอย่าง มาร์กี้ “ราศี บาเล็นซิเอก้า” ที่จะเข้ามาถอดเขี้ยวเล็บเสือร้ายเพลย์บอยจนหมดสิ้น แถมละครเรื่องนี้ยังได้ผู้จัดมือดีอย่าง พี่อ๊อฟ “พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” และ พี่แดง “ธัญญา วชิรบรรจง” เข้ามาดูแลและถ่ายทอดอารมณ์ของละครให้น่าติดตามแถมยังแฝงความลึกลับและไสยศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย

          โดยหนุ่มบอยได่เผยว่า “ต้องบอกก่อนเลยว่าจริงๆแล้วผมได้สัมผัสถึงกองละครทุกๆกองและทุกกองก็สนุกไม่แพ้กันเลยครับ อย่างละครเรื่องวายุภัคมนตรานี้เป็นละครเรื่องสุดท้ายที่จะปิดฉากความรักทั้งหมดของทั้ง 4 เรื่องรวมถึงความรักในแบบของตัววายุภัคเองที่จะสยบความเจ้าชู้ไว้ที่ทิชากรได้อย่างไร แถมยังต้องเจอมนต์ดำไสยศสาตร์ของนางโหงพรายที่ติดตามตัวตลอดเวลาทำให้ผมต้องเจอกับมาร์กี้ที่เข้ามาช่วยเหลือวายุภัครให้พ้นไสยสาตร์ในแบบโก๊ะๆของเธอนะครับ ซึ่งละครเรื่องนี้ก็เป็นละครรักโรแมนติกที่น่าติดตามมาก ตัวผมเองก็มีหลากหลายฉากที่ประทับใจ ทั้งความสมจริงในฉากด้านเอฟเฟคต่างๆน่าประทับใจมาก มีทั้งฉากบนโลกมนุษย์และฉากบนสวรรค์ ซึ่งบอกได้เลยว่าทุกอย่างดีมากๆครับ และผมก็ขอฝากละครเรื่องนี้ด้วยนะครับใกล้จะออนแอร์แล้วยังไงก็ช่วยให้กำลังใจผมด้วยนะครับ”

          ส่วนนางเอกสาวสวยที่มาในลุคสาวโบฮีเมียนได้กล่าวว่า“เรื่องนี้กี้รู้สึกดีมากค่ะและเป็นเกียรติมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของละคร 40 ปี ช่อง 3 และก็ยังได้ร่วมงานกับพี่อ๊อฟ อีกด้วยค่ะ เมื่อก่อนเคยถ่ายละครแล้วรู้สึกอายๆแต่พอมาครั้งนี้เจอพี่อ๊อฟก็รู้สึกดีมากเลยค่ะ ซึ่งในเรื่องกี้จะเป็นลูกสาวของหมอไสยขาวแต่ก็พอมีวิชาอยู่บ้างซึ่งพอเจอพระเอกที่โดนโหงพรายทำร้ายเราก็เลยเข้าไปช่วยทำให้ความรักและความลับดำเนินเรื่องต่อไปค่ะ ละครเรื่องนี้มีหลากหลายอารมณ์และหลายรสชาตินะคะทั้งสนุก เศร้า ลึกลับ ปนความฮาไว้ให้ได้ชมมากมาย ยังไงก็ขอฝากละครชุด 4 หัวใจแห่งขุนเขาโดยเฉพาตอนวายุภัคมนตรานะคะ”

          จากพระนางคู่ขวัญได้กล่าวไปแล้วผู้กำกับมือดีอย่างพี่อ๊อฟก็ได้เอ่ยปากชมคู่ขวัญและเผยถึงละครเรื่องนี้ว่า “ครั้งนี้ผมรับหน้าที่เป็นทั้งผู้จัดและผู้กำกับด้วยซึ่งละครเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องยากเลยเพราะต้องรู้คาแรคเตอร์ทั้งหมดของตัวละครจากเรื่องแรกจนมาถึงเรื่องนี้ เราต้องดำเนินเรื่องให้เรื่องสอดคล้องและเกี่ยวเนื่องกัน แต่จะต่างกันตรงที่ในส่วนนี้จะยากตรงการทำซีจีและเอฟเฟคต่างๆ โดยเฉพาการใช้สลิง ซึ่งที่ผ่านมาเคยทำในส่วนของละครผี แอคชั่น ดราม่า พีเรียดมาเยอะแล้วแต่แนวแฟนตาซียังไม่เคยทำ การดีไซด์งานจะยากพอสมควรไม่ว่าจะเป็นการวางโครงเรื่องของผีทุกอย่างครับ แต่ก็โชคดีที่นักแสดงเป็นวัยใกล้เคียงกันทำให้การทำงานไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ด้วยครับ ยังไงดูเรื่องที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 แล้วก็อย่าลืมติดตามเรื่องที่ 4 นะครับรับรองว่าเป็นละครรักโรแมนติกคอมเมดี้ที่น่ารักและยังได้ร่วมฉลองครบรอบ 40 ปี ของช่องด้วยนะครับ ขอให้มีความสุขกับละครนะครับ”

          นอกจากนี้ยังมีดารานักแสดงฝีมืออีกมากมายที่นำทับมาสร้างสีสันความสนุกให้กับละครไม่ว่าจะเป็น สันติสุข พรหมศิริ, จินตหรา สุขพัฒน์, สุเชาว์ พงษ์วิไล, สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์, เบญจพล เชยอรุณ ขอแนะนำ “จุฬา ศรีคำมา” มิสก๊อสซิบสตาร์ ผู้รับบทเป็น “โหงพราย” ดาราดาวรุ่ง ใบเตย “สุชัญญา โยธิกุล” รับบทเป็น “พันทิรา” และน้องเบนซ์ “กัญญ์พัสวี ตั้งมั่นคงวรกุล” ผู้รับบท “ปิ่นมุก” งานนี้ยังมีนักแสดงรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ที่มากความสามารถเข้ามาสร้างความสนุกในครั้งนี้อีกด้วย

          “วายุภัคมนตรา” เป็นบทประพันธ์ของ “แพรณัฐ” กำกับการแสดงโดย อ๊อฟ “พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” โดยเรื่องราวของวายุภัคมนตราเกิดขึ้นจากทิชากรหรือกะทิซึ่งเป็นนักเขียนนิยายโรมานที่ได้รับความนิยมในหมู่นักอ่าน เธอเป็นลูกสาวของอดีตหมอไสยจอมขมังเวทย์ที่ผันตัวมาเป็นหมอนวดแผนโบราณ วันหนึ่งเธอจำเป็นต้องเข้าไปไร่องุ่นสายลม แต่สิ่งที่เธอเห็นคือใบหน้าหมอคล้ำของชายหนุ่มที่เหมือนถูกของและเงาของนางโหงพรายที่เกาะอยู่ด้านหลัง เธอพยายามบอกแต่ถูกว่ากลับ บางครั้งที่เธอจู่โจทเข้าเอาน้ำมนต์สาดใส่ไปทั่วตามประสาเธอ วายุภัคก็ยังหนีรอดไปได้ ทำให้บางครั้งวายุภัคแอบประทับใจในตัวเธออย่างไม่น่าเชื่อและยอมให้ทิชากรช่วยอย่างเต็มใจความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มไปด้วยดีแต่หากไม่มีซองแตลคู่รักเก่าเข้ามาเกี่ยวข้องแต่เธอก็ไม่ละความพยายามที่จะช่วยวายุภัค”

          ทิชากรจะสามารถช่วยวายุภัคและปราบนางโหงพรายได้หรือไม่ บทสรุปของละครซีรี่ย์ทั้ง 4 เรื่องจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน “วายุภัคมนตรา” ทุกคืนวันศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 20.30 น. เริ่มวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม ศกนี้

1894


“บอสอ๋อง วรวรรธน์” เปิดโปรเจ็คใหญ่ครั้งแรกของโลกออนไลน์ “Big Fan Can Vote” ร่วมโหวต 10 สาขา สุดยอดของช่อง 3 แห่งปี

          ครั้งแรกของโลกออนไลน์สำหรับแฟนคลับช่อง 3 กับการเข้าร่วมสนุกสุดยอดโหวตแห่งปี โดยคุณอ๋อง “วรวรรธน์ มาลีนนท์” บอสใหญ่ของเว็บไชต์มาแรง “My3Space.com” ที่ได้ร่วมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับบรรดาแฟนคลับตัวจริงของช่อง 3 และชาวออนไลน์ โดยหลังจากที่เปิดตัวเว็บไชต์อย่างเป็นทางการไปแล้วได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง จึงได้จัดโปรเจ็คยักษ์คืนกำไรและร่วมสร้างความสนุกให้กับบรรดาแฟนคลับตัวจริงของช่อง 3 กับกิจกรรม “My 3 Space Fan Can Vote” สุดยอดโหวตออนไลน์ ที่ร่วมค้นหาสุดยอดของสุดยอดดารา พิธีกร ละคร รายการแห่งช่อง 3

          My 3 Space Fan Can Vote ร่วมโหวตออนไลน์ค้นหาสุดยอดนักแสดง พิธีกร ผู้ประกาศข่าว ละคร และรายการต่างๆที่คุณชื่นชอบแห่งปี 2010 ลุ้นรางวัลออนทัวร์ถ่ายรูปสุดเก๋กับดาราขวัญใจของคุณ และรับของพรีเมียมอื่นๆอีกมากมายโดนโหวตออนไลน์ครั้งนี้สำหรับแฟนคลับตัวจริงเสียงจริงของชาวช่อง 3 โดยเฉพาะ การร่วมสนุกครั้งนี้ให้ร่วมโหวตใน 10 สาขา ดังนี้ 1.พระเอกสุดแซ่บสยบโลกออนไลน์ 2.นางฟ้า….ไซเบอร์ 3.หน้าใหม่ เน็ตล่ม 4.วายร้าย….ไวรัส 5.คนข่าวช่างจ้อ ย่อโลกเวิลด์ไวด์ 6.ละครออนไลน์ โดนใจชาวฉึก(ฉึก) 7.รายการบันเทิงฮอตคลิก 8.คำฮิต ติดแช็ท !! 9.ข่าวฮิต ยอดคลิกถล่ม 10.The Best of My 3 Space เพียงท่านใช้สิทธ์แฟนคลับตัวจริงติดตามการอัพผลคะแนนและร่วมโหวตโดยการสมัครสมาชิก แล้วร่วมคลิกโหวตได้ตั้งแต่วันนี้ – 15 กุมภาพันธ์ 2011 และติดตามผลคะแนนประจำสัปดาห์ได้ทุกวันอังคารในรายการโต๊ะข่าวบันเทิงและ WWW.My3Space.com ประกาศผู้โชคดีได้รับรางวัล วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2011

          ลุ้นและติดตามผลคะแนนต่างๆ พร้อมร่วมสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ ร่วมโหวตออนไลน์ครั้งแรกกับ My 3 Space Big Fan Can Vote ให้กับดาราที่คุณชื่นชอบแฟนคลับช่อง 3 ตัวจริงห้ามพลาด รีบสมัครเป็นสมาชิกเพื่อใช้สิทธิ์โหวตและลุ้นรางวัล โดยสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ WWW.My3Space.com

1895
TK park ปิดให้บริการ Mini TK ชั้น G อาคารสำนักงานเซ็นทรัลเวิลด์ เตรียมพบกับการกลับมาของ TK park ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
4 มกราคม นี้....พบกันแน่

อุทยานการเรียนรู้ TK park Mini TK จะปิดให้บริการตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 2553 เป็นต้นไป เพื่อเตรียมย้ายกลับสู่บ้านหลังเดิมให้หายคิดถึง ในวันที่ 4 มกราคม 2554  ทั้งนี้ Mini TK จะงดให้บริการยืมหนังสือตั้งแต่วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2553 เป็นต้นไป เพื่อตรวจนับและปรับปรุงฐานข้อมูลหนังสือและสื่อเพื่อให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ณ อุทยานการเรียนรู้ TK park ชั้น 8 Dazzle Zone ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้
               
            สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02 264 5963-65, 02 402 6946 โทรสาร 02 264 5966
            ติดตามข่าวสารการกลับมาอีกครั้งอย่างเต็มรูปแบบได้ที่ www.tkpark.or.th
            Facebook: www.facebook.com/tkparkclub
            Twitter: @tkpark_TH

1896
โททาล และ เอลฟ์ บุกเวทีมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2010 เชิญแฟนคลับฟอร์มูล่า – วัน ร่วมกิจกรรม “รวมพลแฟนพันธุ์แท้ เอฟ-วัน ”
 
          “กลุ่มสิทธิผล” นำโดยผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องโททาล (Total) และเอลฟ์ (ELF) ให้ท่านได้สัมผัสรถฟอร์มูล่า-วัน (เรโนลต์ เอฟ1 อาร์30) ซึ่งเป็น โชว์คาร์มาจัดแสดงพร้อมเชิญแฟนคลับร่วมกิจกรรม “รวมพลแฟนพันธุ์แท้ เอฟวัน ” ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27 ณ บูธกลุ่มสิทธิผล M10-M14 โซนมอเตอร์สปอร์ต อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

          นายพิภพ ยิ่งพัฒนา ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น “เอลฟ์” (ELF) บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด บริษัทในเครือกลุ่มสิทธิผล เปิดเผยว่า “งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคมนี้ นอกจากกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ แล้ว ไฮไลท์ในงานท่านจะได้สัมผัสกับรถ ฟอร์มูล่า-วัน (เรโนลต์ เอฟ1 อาร์30) ซึ่งเป็นโชว์คาร์ พร้อมพบกับ “น้าเบส” นายมนูสาสน์ ศรีพนา ผู้คร่ำหวอดในวงการแข่งขันรถฟอร์มูล่า-วัน และนักพากย์และคอมเมนเตเตอร์ที่จะมาให้ความรู้เจาะลึกข้อมูลรถฟอร์มูล่า-วัน พร้อมบอกเล่าถึงประสบการณ์การแข่งขันรายการเด่นๆ ที่น่าสนใจ

          เพื่อการันตีความแน่นอนที่ท่านจะได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดกับรถฟอร์มูล่า-วัน พร้อมพบปะพูดคุยกับ “น้าเบส” ขอเชิญชวนทุกท่านโดยเฉพาะคนรักกีฬามอเตอร์สปอร์ต ลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อร่วมกิจกรรม “รวมพลแฟนพันธุ์แท้ เอฟ-วัน” ในระหว่างวันที่ 4-6 และ 10-12 ธันวาคม 2553 โดย ส่งข้อความ (SMS) คำว่า “แฟนพันธุ์แท้ F-1” มาที่ 081-695-5454 ด่วน ส่งก่อนมีสิทธิ์ก่อน รับจำนวนจำกัด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

          พิเศษสุดสำหรับผู้ร่วมกิจกรรมและซื้อน้ำมันเครื่องโททาลและเอลฟ์ ท่านจะได้เก็บภาพความประทับใจกับรถฟอร์มูล่า-วัน พร้อมเล่นเกม และรับของที่ระลึกที่มีจำนวนจำกัดสำหรับ แฟนพันธุ์แท้ เอฟ-วัน เท่านั้น แล้วพบกันที่บูธกลุ่มสิทธิผล M10-M14 โซนมอเตอร์สปอร์ต อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

1897
“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27” เปิดลานศิลปวัฒนธรรม หนุนเยาวชนโชว์ความสามารถรักษาเอกลักษณ์ไทย
 
          “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27” ร่วมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย สนับสนุนเยาวชน ขึ้นเวทีแสดงความสามารถด้านศิลปพื้นบ้านไทย เชิญประชาชนชมฟรีทุกวันตลอดงาน

          ประพงษ์ ไม้เจริญ รองประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27” เปิดเผยว่า ผู้จัดงานฯ ร่วมกับสมาคมศิลปวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ไทย ชมรมสร้างสรรค์ศิลปินน้อย และโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร จัดลานศิลปวัฒนธรรม และเอกลักษณ์ไทยหน้าอาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนแสดงความสามารถด้านต่างๆ อาทิ การแสดงดนตรีไทย ดนตรีพื้นบ้าน การแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทย กระบี่กระบอง และการแสดงนาฏศิลป์ ซึ่งเยาวชนจะทำการแสดงหมุนเวียนสลับเปลี่ยนกันในแต่ละวัน โดยการแสดงจะเริ่มประมาณ 15.00น.ของทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 1-12 ธันวาคม 2553

          นอกจากนี้ภายในงานยังมีการแสดงของนักเรียนจากโรงเรียนที่ร่วมกิจกรรมและชนะการประกวด ภายใต้โครงการ “ลมหายใจไร้มลทิน” รวมถึงการแสดงของผู้ชนะการประกวดขับร้องเพลงลมหายใจ ไร้มลทินอีกด้วย

          และที่พลาดชมไม่ได้ คือ นิทรรศการผลงานศิลปะของน้องๆ จากชมรมศิลปินน้อย MOTOR EXPO ซึ่งจัดแสดงผลงานต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 8 แล้ว หากท่านใดสนใจผลงานภาพวาด สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ โดยรายได้จากการจำหน่ายภาพจะนำไปมอบแก่กองทุนการศึกษาภาคศิลปะของชมรมศิลปินน้อยฯ และทุนสนับสนุนการเรียนการสอนภาคศิลปะบำบัดสำหรับเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือ (ออทิสติก)

          ขอเชิญผู้สนใจและประชาชนทั่วไปร่วมรับชมและเป็นกำลังใจแก่เยาวชน พร้อมร่วมกิจกรรมในวันมหากุศล (GRAND CHARITY DAY) วันพุธที่ 1 ธันวาคม 2553 โดยผู้จัดงานฯ จะนำรายได้จากการจำหน่ายบัตรชมงานในวันนั้นทั้งหมดมอบให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนาพร้อมร่วมสมทบเข้าโครงการลมหายใจ ไร้มลทินเพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมรณรงค์ปลูกฝังค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริตแก่เยาวชนไทยต่อไปเป็นปีที่ 5

1898
36 ค่ายรถยนต์กับ 3 ค่ายมอเตอร์ไซค์รวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว อัดโปรโมชั่นแรงที่สุดแห่งปีใน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27"
 
          "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" เริ่มแล้ว รวม 36 ค่ายรถยี่ห้อดังจาก 13 ประเทศทั่วโลก พร้อมค่ายมอเตอร์ไซค์อีก 3 ยี่ห้อ กระหน่ำโปรโมชั่นจูงใจผู้บริโภคส่งท้ายปี คาดเม็ดเงินสะพัดถึง 23,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดจองรถ 20,000 คัน เผยทิศทางตลาดปีหน้า กระแสตลาดรถเล็กประหยัดพลังงานมาแรง สอดรับแนวคิด "น้ำหนึ่งใจเดียว...สร้างสรรค์ยานยนต์รักโลก"
 
          ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" หรือ "The 27th Thailand International Motor Expo 2010" ซึ่งปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "น้ำหนึ่งใจเดียว...สร้างสรรค์ยานยนต์รักโลก" (Unify...Create Earth-Loving Vehicles) เปิดเผยว่า "ปีนี้ได้รวมค่ายรถยนต์ยี่ห้อดังจากทั่วโลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 36 ยี่ห้อ จาก 13 ประเทศ รวมถึงค่ายรถจักรยานยนต์อีก 3 ยี่ห้อ ซึ่งจะมาสร้างสีสันภายในงานรถคึกคักยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดมูลค่าประมาณ 23,000 ล้านบาท (รวมรถใหม่ รถมือสอง รถเพื่อการพาณิชย์ อุปกรณ์รถยนต์ เครื่องเสียงติดรถยนต์ ฯลฯ)
 
          "เมื่อพิจารณาจากปัจจัยด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาวะเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศ รวมถึงช่วงสิ้นปีเป็นฤดูกาลเปลี่ยนรถเพื่อต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง คาดว่ายอดจำหน่ายรถภายในงานจะสูงถึง 20,000 คัน ประเมินเทียบกับปีที่แล้ว ผมตั้งเป้าหมายไว้ที่ 15,000 คัน แต่บริษัทรถยนต์ปิดยอดวันสุดท้ายรวมแล้วทำได้ถึง 25,220 คันทีเดียว" นายขวัญชัย กล่าว
 
          สำหรับงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" รวมพื้นที่จัดแสดงงานทั้งสิ้น 85,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น ภายในอาคารจำนวน 60,000 ตารางเมตร กับพื้นที่ภายนอกอีก 25,000 ตารางเมตร พร้อมพัฒนามาตรฐานการจัดงานที่สูงขึ้น โดยเฉพาะการนำระบบไอทีมาใช้ อาทิ การจัดทำบัตรผู้สื่อข่าวสมาร์ทการ์ด สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้า ซึ่งสามารถระบุข้อมูลเบื้องต้นเฉพาะบุคคลผ่านระบบฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ ช่วยให้ผู้สื่อช่าวได้รับความสะดวกในการลงทะเบียน
 
          นอกจากนี้ ได้เพิ่มเครื่องตรวจวัดระดับเสียงในพื้นที่แสดงงานเป็น 15 จุดจากเดิมมีอยู่ 5 จุดติดตั้งโดยเครื่องจะตรวจวัดระดับเสียงตลอดเวลางาน ผ่านห้องควบคุมเพียงจุดเดียว เพื่อสะดวกต่อการตรวจวัดค่าเสียง ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางเสียงหรือคลื่นรบกวนบริเวณพื้นที่แสดงงาน อันจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ชมงานและผู้ร่วมแสดงในงาน
 
          ด้านอิมแพ็คก็มีความพร้อมด้านสถานที่จัดงานอย่างเต็มที่ โดยสร้างอาคารจอดรถเพิ่มอีก 2 อาคาร ทำให้พื้นที่จอดรถนอกอาคาร 6 แห่ง และที่จอดรถในอาคาร 3 แห่ง สามารถรองรับรถยนต์ได้ถึง 15,000 คัน พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อใช้ในการควบคุมและดูแลจราจรในพื้นที่โดยรอบช่วยลดปัญหาจราจรติดขัดอีกทางหนึ่ง
 
          ส่วนทิศทางตลาดรถยนต์ในปี 2554 น่าจะเป็นปีทองของตลาดรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดน้ำมันตามภาวะตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น ด้านตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ (กระบะขนาด 1 ตัน) เชื่อว่ายังรักษาระดับการเติบโตได้ดี เพราะไทยถือเป็นฐานการผลิตและส่งออกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลกเช่นกัน
 
          ด้านรายชื่อของรถยนต์ที่เข้าร่วมงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" ได้แก่ เอาดี/เบนท์ลีย์/บีเอม ดับเบิลยู/เชอรี/เชฟโรเลต์/ซีตรอง/ดีเอฟเอม/เฟียต/ฟอร์ด/โฟตอน/กแรนด์ แคร์รีบอย/ฮอนดา/ฮันเด/อีซูซุ/เกีย/แลนด์ โรเวอร์/เลกซัส/มาสดา/เมอร์เซเดส-เบนซ์/มีนี/มิตซูบิชิ/มิตซูโอกะ/เอมทีเอม/นิสสัน/เปอโฌต์/โพร์เช/ ปโรตอน/รูฟ/สโกดา/ซังยง/ซูบารุ/ซูซูกิ/ทาทา/โตโยตา/โฟล์คสวาเกน และ โวลไว ส่วนรถจักรยานยนต์ปีนี้เข้าร่วมงานถึง 3 ยี่ห้อด้วยกัน ได้แก่ ดูคาติ ฮาร์เลย์ฯ และเอ.พี.ฮอนด้า
 
          นอกจากนี้ บริษัทรถยนต์ยังนำรถแนวคิด รถเด่น หลากหลายรุ่นมาจัดแสดงภายในงาน เพื่อสร้างสีสันและดึงดูดใจแก่ผู้ชม ดังต่อไปนี้
 
          MAZDA RYUGA (มาซดา รียูกะ)
          รียูกะ (RYUGA) เป็นรถต้นแบบถูกพัฒนาต่อเนื่องมาจาก นากาเร (NAGARE) รถต้นแบบที่สร้างชื่อเสียงให้กับมาซดาอย่างมาก โดยได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก "คาเระซานซุย" (KARESANSUI) ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่น สื่อให้เห็นถึงเส้นสายความพลิ้วไหวของรถอย่างสงบแม้ในขณะที่ตัวรถจอดนิ่งอยู่กับที่ รียูกะ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน E85 สามารถใช้เชื้อเพลิงชีวภาพได้
 
          MITSUBISHI I MIEV SPORT (มิตซูบิชิ ไอ เมียฟ สปอร์ท)
          ไอ เมียฟ สปอร์ท (I MIEV SPORT) รถไฟฟ้าที่ไม่มีการปล่อยมลพิษออกมาเลย ขับเคลื่อนโดยอาศัยกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 20 กิโลวัตต์ ในด้านหน้าและด้านหลัง 47 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ด้าหน้าและ 180 นิวตัน-เมตร สำหรับด้านหลัง ความเร็วสูงสุดทำได้ 180 กม./ชม.
 
          HYUNDAI BLUE-WILL (ฮันเด บลู-วิลล์)
          บลู-วิลล์ (BLUE-WILL) เป็นรถยนต์ลำดับที่ 4 ในสายพันธุ์รถต้นแบบรหัส HND ผลงานสร้างสรรค์ ของ ADVANCE DESIGN STUDIO ศูนย์การออกแบบรถยนต์ของฮุนไดที่เมืองนันยาง ประเทศเกาหลีใต้ ตามแนวคิดที่ "ECO-SLEEKER"
 
          บลู-วิลล์ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินทำจากอลูมิเนียมน้ำหนักเบาขนาด 1.6 ลิตร ที่ฉีดเชื้อเพลิงโดยตรงแบบ GDI ให้แรงม้าสูงสุดถึง 152 แรงม้า และรองรับการเป็นรถยนต์ไฮบริดที่โดดเด่นในเรื่องของความประหยัดด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยี PARALLEL HYBRID DRIVE ARCHITECTURE  จากฮันเด
 
          TATA INDICA VISTA EV (ทาทา อินดิกา วิสตา อีวี)
          ทาทา อินดีคา วิสตา อีวี (TATA INDICA VISTA EV) รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า อีกทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค ด้วยการรองรับผู้โดยสารได้ถึงสี่คน พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ มีระยะทางการขับขี่ได้ถึง 200 กิโลเมตร อัตราเร่งจาก 0-60 กม./ชม. ในเวลา 10 วินาทีด้วยการชาร์จไฟเพียงครั้งเดียว
 
          เตรียมพบกับนวัตกรรมยานยนต์รักโลก และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจได้ในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 1-12 ธันวาคม 2553 พร้อมรับชมการถ่ายทอดสดงานได้ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ในวันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม 2553 ตั้งแต่เวลา 13.50 - 15.40 น.

1899
งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27” เปิดงานยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคมนี้ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี



          จากภาพ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (คนที่ 4 จากซ้าย) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27” หรือ “The 27th Thailand International Motor Expo 2010” โดยมีนายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงานฯ (คนที่ 5 จากซ้าย) ให้การต้อนรับ ณ ห้องรอยัล จูบีลี อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันพุธที่ 1 ธันวาคม 2553

 
 

1900


SF Strike Bowl ฉลองวันพ่อ...เอาใจลูกๆ บอกรักพ่อสุดเก๋ เพียงควงคู่พ่อมาโยนโบว์ล รับฟรีทันที!!! 1 เกม

          เอส เอฟ สไตร์ค โบว์ล เอาใจครอบครัวสุขสันต์ จัดกิจกรรมพิเศษเฉลิมฉลองวันพ่อแห่งชาติ ชวนลูกๆ บอกรักพ่อแบบมีสไตล์ เพียงชวนพ่อมาโยนโบว์ล ที่ เอส เอฟ สไตร์ค โบว์ล ทุกสาขา ในวันพ่อ 5 ธันวาคมนี้ ตลอดทั้งวัน (เอส เอฟ สไตร์ค โบว์ล เอ็มบีเค เซ็นเตอร์, รามคำแหง, เดอะมอลล์ บางกะปิ-บางแค-งามวงศ์วาน และ เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์-พัทยาบีช-ขอนแก่น) รับสิทธิ์โยนโบว์ลฟรีทันที!!! 1 เกม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SF Call Center 02-268 8888, www.sfcinemacity.com และ We love SF http://www.facebook.com/weloveSF

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-611 7111 PR.-SF Strike Bowl

1901
ตัวอย่างละคร: มงกุฎดอกส้ม

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=L17aZIzrQGQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=L17aZIzrQGQ</a>
 
 

1902


ข่าวซุบซิบ: “พลอย จริยะเวช เตรียมเซอร์ไพร้สคริสต์มาส พี่บึ้ก ด้วยตุ๊กตา แบร์ริสต้า แบร์”
         
          พอว่างจากงานเขียนพ็อคเก็ตบุ๊ค I Love Breakfast ที่กำลังฮ็อตสุดๆ ในตอนนี้ สาวพลอย จริยะเวช รีบ ตอบรับคำเชิญมาร่วมงานคริสต์มาสกับสตาร์บัคส์ โดยได้ร่วมเลือกของขวัญชิ้นพิเศษเพื่อคนพิเศษต้อนรับเทศกาลส่งความสุขที่กำลังจะมาถึง งานนี้สาวเก๋อย่างพลอยไม่พลาดที่จะมีกิมมิกเก๋ๆ สไตล์แฟชั่นนิสต้าตัวจริง จัดแจงหากระดาษห่อของขวัญลายจุดแดงขาวเข้าเทศกาลใส่ในถุงผ้าสตาร์บัคส์ พร้อมคว้าเจ้า ตุ๊กตาหมี แบร์ริสต้า สโนว์ บอย น่ารักน่าชัง สาวพลอยแอบกระซิบว่าจะของขวัญชิ้นนี้ที่จัดไปจะนำไปเอาใจ “พี่บึ้ก เท็ดดี้แบร์ตัวจริงที่บ้านจะได้ลดน้ำหนักเสียทีไม่งั้นจะพุงหนาเหมือนน้องหมีนี้” คู่นี้เค้ากุ๊กกิ๊กกันตลอดเลยค่า.... ใครกำลังหาไอเดียของขวัญเก๋ๆ แวะมาได้ที่ร้านสตาร์บัคส์ ทุกสาขาจ้า

1903
ภาวะตลาดทองคำวันนี้วันที่ 30 พฤศจิกายน 2553
 
          ข้อมูลทองคำวันนี้
          - ราคาสมาคม เปิดที่ 19,450 - 19,550
          - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,367
          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.19 – 30.23
          - GFZ10 Hi- Low 19,630 – 19,530 ปิดที่ 19,570
 
Gold Insight

          สัญญาทองคำตลาด COMEX
          ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 3.2 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,367.5 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,352.60 - 1,368.20 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาหนี้สาธารณะอาจลุกลามในยุโรป อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นไม่มากนักเนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
          ปิดลบ 39.51 จุด หรือ 0.36% แตะที่ 11,052.49 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.64 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 1,187.76 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 9.34 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 2,525.22 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าปัญหาหนี้สาธารณะอาจลุกลามไปทั่วยุโรป รวมถึงสเปนและโปรตุเกส แม้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) อนุมัตวงเงินกู้ฉุกเฉินให้กับไอร์แลนด์ก็ตาม อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดได้แรงหนุนจากรายงานของสมาคมผู้ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐ (NRF) ที่ระบุว่า ชาวอเมริกันออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า

          สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
          ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.97 ดอลลาร์ หรือ 2.35% ปิดที่ 85.73 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัว ในช่วง 83.59-85.83 ดอลลาร์ หลังจากสมาคมผู้ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐ (NRF) รายงานว่า ชาวอเมริกันออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่อนุมัตวงเงินกู้ฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือไอร์แลนด์

          กองทุน SPDR Gold Trust
          กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 30 พฤศจิกายน ซื้อเข้า 1.52 ตันเปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,285.08 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,286.60 ตัน
          USD/EU ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนนี้เนื่องจากวงเงินกู้ฉุกเฉินที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศและสหภาพยุโรปอนุมัตให้กับไอร์แลนด์นั้น ไม่สามารถบรรเทากระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปได้ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.93% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3117 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3240 ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ1.3140 ดอลลาร์ต่อยูโร
          USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 84.240 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 84.100 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 84.20 เยนต่อดอลลาร์
          USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30.15-30.19 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.19-30.23 บาทต่อดอลลาร์
 
ข่าวเศรษฐกิจโลก
          - ธนาคารกลางจีนจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค. ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนพ.ย.มีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ในปีนี้ นายลู่ เจิ้นเหว่ย หัวหน้านักวิเคราะห์จากอินดัสเทรียล แบงค์ คาดว่า ดัชนีซีพีไอเดือนพ.ย.ของจีนจะพุ่งขึ้น 4.8% ต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนต.ค. และคาดว่าดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เดือนพ.ย.จะพุ่งขึ้นในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ นายลู่คาดว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่เดือนพ.ย.ของธนาคารพาณิชย์ในประเทศจีนจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.80 ล้านล้านหยวน ขณะที่ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M1 และปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 จะขยายตัว 23.9% และ 20.2% ตามลำดับในเดือนพ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.8% และ 0.9% ตามลำดับจากเดือนต.ค. ซึ่งการเพิ่มขึ้นของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบจะยิ่งทำให้กระแสคาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อในจีนทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ นายลู่คาดว่า ธนาคารกลางจีนจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งประมาณวันที่ 7 - 18 ธ.ค.ปีนี้ และคาดว่าจีนจะประกาศเพิ่มเพดานการกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์อีก 0.5% เป็น 1%
          - ปัญหาหนี้สาธารณะอาจลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยุโรป รวมถึงสเปนและโปรตุเกส แม้ไอเอ็มเอฟและอียูอนุมัตวงเงินกู้ฉุกเฉินมูลค่า 8.5 หมื่นล้านยูโร (1.13 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับไอร์แลนด์ก็ตาม ทั้งนี้ก็เพราะนักลงทุนกังวลว่ารัฐบาลไอร์แลนด์จะไม่สามารถทำตามเงื่อนไขของไอเอ็มเอฟและอียูที่กำหนดให้ไอร์แลนด์ใช้มาตรการรัดเข็มขัด นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวยังทำให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชนไอร์แลนด์
          - รัฐบาลไอร์แลนด์ให้คำมั่นสัญญาว่าจะลดยอดขาดดุลงบประมาณให้อยู่ต่ำกว่าระดับ 3% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ภายในปี 2557 นอกจากนี้ มาตรการรัดเข็มขัดของไอร์แลนด์ยังระบุถึงการลดยอดขาดดุลงบประมาณลง 1.5 หมื่นล้านยูโร (2.0 หมื่นล้านดอลลาร์) จากปี 2554 - 2557 ด้วยการลดตัวเลขการใช้จ่ายภาคสาธารณะมูลค่า 1.0 หมื่นล้านยูโร (1.33 หมื่นล้านดอลลาร์) และขึ้นภาษีเป็นวงเงินรวม 5.0 พันล้านยูโร (6.7 พันล้านดอลลาร์)
          - รายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 400,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 900,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะพุ่งขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.4%
          - คณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 16 ประเทศ ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 105.3 จุดในเดือนพ.ย. จากระดับ 103.8 จุดในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะที่ระดับ 105 จุดโดยมาตรวัดความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้ผลิต ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 0.9 จากเดิมที่ระดับศูนย์ ส่วนมาตรวัดความเชื่อมั่นในภาคบริการ ปรับตัวขึ้นแตะ 10.2 จากระดับ 8.1 และมาตรวัดความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มสู่ระดับ -9.4 จากเดิม -10.9
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
 
  อาทิตย์ที่

29 - 30 พ.ย. 2553
 ข้อมูลที่น่าจับตา
 ตัวเลขเดิม
 ตัวเลข คาดการณ์
 ตัวเลขจริง
 
วันจันทร์
 · Treasury Currency Report
 -
 -
 -
 
วันอังคาร
 · S&P/CS Composite-20 HPI

· Chicago PMI

· CB Consumer Confidence

· ECB President Trichet Speaks

· Fed Chairman Bernanke Speaks
 1.7%

60.6

50.2

-

-
 1.2%

60.1

52.7

-

-

1904
สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคาร ที่ 30 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00 น.
 
          ทิศทางราคาทองคำ
          ราคาทองคำเปิดตลาดในวันศุกร์ที่ระ ดับ 1363 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.27 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.30 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19450 บาท กับ 19550 บาท GFZ10 เปิดที่ 19590 บาท และ GFG11 เปิดที่ 19650 บาท สำหรับ GF10Z10 เปิดที่19590 บาท และ GF11G11 เปิดที่ 19650 บาท SPDR ซื้อเข้า 1.52 ตัน คงทองที่ระดับ 1286.60 ตัน น้ำมันบวก 1.97 เหรียญ/บาร์เรล มาปิดที่ระดับ 85.73 เหรียญ/บาร์เรล และดัชนีดาวโจนส์ลบ 39.51 จุด มาปิดที่ระดับ 11052.49 จุด ราคาทองคำในตลาดเอเชียค่อนข้างเคลื่อน ไหวในช่วงแคบๆระหว่าง 1359-1367 เหรียญ โดยปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2509 คู่สัญญาGold Futures 10 บาทอยู่ที่ 1678 คู่สัญญา Open Interest 50 บาท อยู่ที่ 10441 คู่สัญญา เพิ่มขึ้น 0.17 % Open Interest 10 บาท อยู่ที่ 6503 คู่สัญญา เพิ่มขึ้น 2.09 % รวมถึงราคาในตลาดลอนดอนและตลาดComex เองปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1360 เหรียญ ก่อนที่จะดีดขึ้นในปลายตลาดมาปิดที่ 1367 เหรียญ โดยที่ภาพรวมทั่วไปค่าเงินดอลลาร์เองยังแข็งค่าขึ้นจากภาวการณ์กังวลในกลุ่มประเทศในยุโรปเช่นเดิม ค่าเงินยูโรเองหลุดระดับ 1.3100 ดอลลาร์/ยูโร ลงไปทำต่ำสุดที่ระดับ 1.3063 ดอลลาร์/ยูโร

          วิเคราะห์ทางเทคนิค
          ราคาทองคำแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบและเคลื่อนไปในทิศทาง Sideway ตามที่คาดเคลื่อนตัวอยู่ในช่วง 1360-1367 เหรียญ โดยทิศทางยังคาดว่ายังเคลื่อนตัวไปในทิศทาง Sideway จนกว่าจะสามารถสะสมพลังได้อย่างสมบูรณ์และ breakout ที่ระดับ 1380 เหรียญขึ้นไปได้ โดยยังเป็นเรื่องของการกดดันที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ทองคำมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1350 เหรียญ และ แนวต้านที่ระดับ 1380 เหรียญทองคำแท่งไทยมีแนวรับที่ 19350 แนวต้านที่ 19700 บาทGold Futures Series Z มีแนวรับอยู่ที่ระดับ 19580 บาท และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 19670 บาท

          คำแนะนำ
          สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัว อาจจะลงทุนในช่วงนี้ได้ยาก เพราะราคาไม่ค่อยมีการแกว่งตัว
          นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) รอจังหวะเข้าช้อนซื้อรักษา port ที่ 40%
          นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง รอจังหวะเข้าช้อนซื้อเช่นเดียวกัน อาจจะรอจังหวะเข้าช้อนซื้อในตลาดกลางคืน รักษา port ที่30-40% โดยภาพรวมยาวๆยังมองว่าเป็นทิศทางขาขึ้น

          สรุปได้ว่า ทำกำไรบางส่วนแต่ไม่แนะนำให้ทำ short position ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงของการสะสมพลัง

1905
ค่ายเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก โชว์ยอดขายทองคำ 10 เดือน ทะลุ 1.3 แสนล้าน



 ค่ายเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก โชว์ยอดขายทองคำ 10 เดือน ทะลุ 1.3 แสนล้าน ในขณะที่ครองส่วนแบ่งตลาด โกลด์ฟิวเจอร์สแบบต่อเนื่องกว่า 16%

          ค่ายเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ตอกย้ำความเป็นผู้นำการให้บริการลงทุนทองคำครบวงจร อัพเดทตัวเลขยอดการขายทองคำในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา เติบโตทะลุกว่า 1.3 แสนล้านบาท ในขณะที่ธุรกิจ โบรกเกอร์ทองคำก็ไปได้สวย มีส่วนแบ่งตลาดในตลาดโกลด์ฟิวเจอร์สถึง 16% เป็นที่หนึ่งในโบรกเกอร์ทองคำด้วยกัน ล่าสุดประสบความสำเร็จจากการร่วมงานถนนสายทองคำในงาน Set in The City 2010 เพิ่มรายชื่อ นักลงทุนทองคำได้มากกว่า 300 ราย พร้อมสถานการณ์ทองสัปดาห์นี้ แนะนักลงทุนให้ขายทำกำไรเป็นช่วงๆเล่นเป็นรอบ   
       
          นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุกเปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่ต้นปี ผลจากการวางกลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจทองคำ สู่การเป็นผู้นำการให้บริการลงทุนทองคำที่ครบวงจร ส่งผลให้ยอดนำเข้า-ส่งออกทองคำของกลุ่มเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก มียอดรายได้ที่แจ้งต่อกรมสรรพากรแล้ว เป็นมูลค่ารวมกว่า 130,000 ล้านบาท (หนึ่งแสนสามหมื่นล้านบาทถ้วน) ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเจริญเติบโตที่สม่ำเสมอ โดยยอดขายทองคำหลักนั้น ดำเนินการผ่านบริษัท เฮช.อาร์ โกลด์ แอนด์ ซิลเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ และถือว่าเป็นบริษัทที่มีการเจริญเติบโตและมีรายได้สูงเป็นอันดับที่ 47 ของประเทศ ที่จัดอันดับโดยนิตยสาร Business.com นั่นเอง ในขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด โบรกเกอร์ทองคำ ที่ปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดในการซื้อขายสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์ส ประมาณร้อยละ 16% ซึ่งถือว่ายังคงครองอันอันดับหนึ่ง ในช่วง 6 เดือน เมื่อเทียบกับกลุ่มบริษัทโบรกเกอร์ทองคำทั้ง 5 บริษัท โดยในปีหน้ามีแผนที่จะรุกขยายส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็นร้อย 20 ด้วย

          งาน Set in the City ที่พึ่งผ่านมากลุ่ม MTS Gold แม่ทองสุก สามารถเรียกความสนใจจากนักลงทุนกว่า 300 ราย พร้อมกับการจองสัมมนา MTS Academy เพื่อความรู้การลงทุนในทองคำมากขึ้นอย่างหนาแน่น โดยที่นักลงทุนให้ความสนใจกับเครื่องมือการลงทุนทองคำประสมประสานไปกับการลงทุนใน Gold Futures นั่นคือ ระบบการซื้อขายผ่าน Online System ที่เรียกว่า MTS Gold Online ซึ่งกลุ่ม MTS Gold แม่ทองสุก สามารถพัฒนาเพิ่มระยะเวลาไปจนถึงเที่ยงคืนได้ประสบความสำเร็จอย่างสูง เนื่องจากตลาดทองคำมีการซื้อขายสูงในช่วงตลาดนิวยอร์ก อีกทั้งมีราคาที่ผันผวนขึ้นลงรุนแรงในช่วงตลาดดังกล่าว บางวันถึง $30 ซึ่งเกิดบ่อยขึ้น นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ย้ำว่าระบบ Gold Online ของบริษัทเป็น Real Time สามารถช่วยเพิ่มผลกำไรให้กับนักลงทุนที่ซื้อขายทองแท่งอีกทั้งสามารถใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงของการลงทุนได้ควบคู่ไปกับ Gold Futures จึงนับว่าเป็น เครื่องมือที่ช่วยนักลงทุนที่สนใจลงทุนในทองคำอย่างมากในขณะนี้

          วิเคราะห์ทางเทคนิค ราคาทองคำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงิน US Dollar ซึ่งเป็นผลจากความกังวลในภาวะหนี้สินของประเทศกลุ่มยุโรป ทำให้มีแรงเทขายทำกำไรเข้ามา ในตลาดทองคำช่วงปลายสัปดาห์อย่างหนาแน่น แต่จากการอ่อนค่าของเงินบาท สามารถเป็นตัวช่วยพยุงทอง ให้อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยคาดว่าราคาขายทองคำในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนตัวทาง side way up ขึ้นอยู่กับแรงกดดันของค่าเงินดอลลาร์ โดยมีแนวรับสำคัญที่ระดับ $1350 และ $1340 ตามลำดับ แนวต้านที่ระดับ $1370 และ $1385 สำหรับราคาทองคำแท่งของไทยจะมีแนวรับที่ระดับ 19,350 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,700 บาท จึงแนะนำให้นักลงทุนทำกำไรเป็นรอบ เล่นช่วงสั้นมากขึ้นตามความผันผวนของราคา

Pages: 1 ... 125 126 [127] 128 129 ... 134