Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - pooklook

Pages: 1 ... 69 70 [71]
1051
โรคปวดหลัง ร้ายไม่ใช่เล่น!! เฉลี่ยอายุต่ำ...อาหารทำพิษ (เดลินิวส์)

          เคยไหม? ลุกนั่ง ก้มเงย ปวดสันหลังวาบ การใช้ชีวิตประจำวันดูเชื่องช้ากว่าปกติ โดยเฉพาะในชีวิตคนทำงานอาการปวดหลังเป็นเหมือนเครื่องบั่นทอนให้งานไม่เป็น ไปตามเป้าหมาย แต่จะทำเช่นไรเมื่ออาชีพที่ทำอยู่อาจมี ส่วนทำให้เกิดอาการเหล่านี้

          ยิ่งในคนที่มีอาการเรื้อรัง เมื่อทำงานยิ่งซ้ำเติมความเจ็บปวดให้มากขึ้น...

          แต่ใช่ว่าเราจะอยู่กับอาการเจ็บปวดนั้นไม่ได้ โดย นพ.ธวัช ประสาทฤทธา ผู้เชี่ยวชาญ สาขาเวชกรรม ด้านออร์โธปิดิกส์ รพ.เลิดสิน กล่าวถึงที่มาของอาการปวดหลังว่า 90% อาการเหล่านี้ไม่สามารถตัดสินได้ว่ามาจากสาเหตุใด แต่อาจมีหลายปัจจัยรวมๆ กัน ส่วนสถานการณ์ของผู้ป่วยที่เป็นโรคปวดหลังขณะนี้ในแต่ละวันมีผู้มาพบแพทย์ ไม่ต่ำกว่า 300 คน และมีแนวโน้มอนาคตคนไข้จะมีอายุต่ำลง เนื่องจากสภาพสังคมปัจจุบันมีส่วนช่วยให้ประสบกับภาวะเหล่านี้มากขึ้น

          สาเหตุ ของอาการเกิดจาก 1.กล้ามเนื้อบริเวณแผ่นหลังมีอาการอักเสบ 2.หมอนรองกระดูกเคลื่อนตัวหรือได้รับการกระทบกระเทือน 3.กระดูกที่ลึกลงไปใต้ผิวหนังมีอาการผิดปกติ

          หากมีอาการปวดเมื่อยบริเวณแผ่นหลังโดยไม่มีไข้เข้ามาแทรกซ้อนเพียง 1 อาทิตย์ ก็จะหายเป็นปกติ โดยแพทย์ไม่ต้องให้ยา แต่ควรลดกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดอาการ เช่น ยกของหนัก เล่นกีฬา

          ส่วนผู้ที่มีอาการปวดติดต่อกันมากกว่า 1 อาทิตย์ ควรไปพบแพทย์เพื่อหาทางแก้ไข เนื่องจากอาจเป็นโรคที่ร้ายแรง เช่น ติดเชื้อบริเวณกระดูกสันหลังหรือมะเร็งกระดูกที่หลายคนนึกว่าเป็นอาการปวด หลังธรรมดา แต่กลับมีอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ โดยการรักษาแพทย์จะให้ยาแก้ปวด แก้อักเสบ หรือยากล่อมประสาทเพื่อลดอาการเจ็บปวด ด้านรายที่มีอาการหนักถึงขั้นผ่าตัดแพทย์ต้องตรวจให้ชัดเจนว่าสาเหตุเกิดจาก ส่วนใดแล้วจึงทำการผ่าตัด

          "หากเป็นอาการปวดที่ไม่รุนแรงเพียง 5 วันก็หายเป็นปกติ แต่ถ้าเป็นอาการร้ายแรงคือ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทจะต้องใช้เวลาในการรักษานานกว่าจะหายเป็นปกติ ส่วนอายุเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้อาการปวดหายช้ากว่าปกติ"

          ปัจจุบัน หลายคนทำงานเกินเวลาเพื่อให้ได้เงินเพิ่มมากขึ้น แต่ นพ.ธวัช มองว่า การทำงานบางอย่าง ซึ่งต้องอยู่กับที่เกิน 8 ชั่วโมงจะทำให้เกิดโรคปวดหลัง ซึ่งอาชีพที่เสี่ยง เช่น พนัก งานขับรถ, คนยกของ, พนักงานเย็บผ้า ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ควรพักให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย

          เดิมคนที่มีอายุเกิน 30 ปี จะมีอาการปวดหลัง แต่ ขณะนี้พบว่า มีเด็กที่อายุเพิ่ง 20 ปี ก็มีอาการปวดหลังมากขึ้นเนื่องจากสภาพสังคมตอนนี้เด็กส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ หน้าคอม พิวเตอร์นานทำให้เกิดอาการปวดหลัง ขณะเดียวกัน อาหารส่วนใหญ่มีสารพิษเจือปนทำให้คนแก่เร็วขึ้น เช่น ผงชูรสที่ผสมในอาหารส่งผลให้กระดูกผุเร็วขึ้น หรือบรรดาสารสีต่าง ๆ ที่จะเป็นตัวบั่นทอนความแข็งแรงของกระดูก

          "การดื่มเหล้าสูบบุหรี่ก็เป็นอีกตัวที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดหลัง เพราะในบุหรี่มีสารนิโคตินทำให้หลอดเลือดหดตัวส่งผลให้เลือดไปหล่อเลี้ยง เซลล์ไม่ดีเป็นผลให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรัง"

          การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ ควรเอาใจใส่ อาหารที่รับประทานให้มีความสะอาดปราศจากสารพิษให้มากที่สุด และต้องพักผ่อนเพียงพอ ไม่ทำงานหนักเกินไป และไม่ควรกินยาเอง แต่ควรกินยาตาม แพทย์สั่งเพราะบางครั้งกินยา เองก็จะแก้ปัญหาไม่ตรงจุด อยากให้นึกว่าชีวิตเรามีค่ามาก กว่าราคายา ดังนั้นควรดูแลรักษากันให้ดี

          โรคปวดหลังอาจเป็นอีกหนึ่งบทสะท้อนถึงคุณภาพชีวิตของคนไทย ที่วันนี้ความป่วยไข้เริ่มเข้ามาใกล้เยาวชนมากขึ้น ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้คุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ในอนาคตก็จะต่ำลงไปด้วย

1052
ไร้สังกัด / คำคมชโลมใจ
« on: March 14, 2009, 10:51:45 PM »
อันรูปสวย รวยทรัพย์ นับค่าล้น
ไม่เท่าคน รวยวิชา สง่าศรี
รูปไม่งาม แต่น้ำใจ ใหญ่อารี
ก็ย่อมดี กว่ารูปงาม ทรามน้ำใจ
 
ถ้างามน้อย ด้อยวิชา พาตนยาก
จะลำบาก เหลือล้น จนเติบใหญ่
ทั้งรูปสวย รวยรินวิชา น่าชื่นใจ
ช่วยตนให้ ก้าวหน้า ได้ถาวร
 
 
ส่องกระจก ส่องแต่กาย ส่องใจบ้าง
สวยรูปร่าง ใจขี้เหร่ เท่ห์ตรงไหน
ควรจะสวย ทั้งร่างกาย และจิตใจ
จะเยื้องกราย ไปที่ใด ใครก็ชม
 
 
อยากได้ดี ไม่ทำดี นั้นมีมาก
ดีแต่อยาก แต่ไม่ทำ น่าขำหนอ
อยากได้ดี ต้องทำดี อย่ารีรอ
ดีแต่ขอ รอแต่ดี ไม่ดีเลย
 
 
ที่มา : คำคมจากหนังสือ คำคมชโลมใจ พระครูน้ำฝน วัดไผ่ล้อม นครปฐม

1053


" ชมคนด้วยวาจา...มีค่ายิ่งกว่ามอบไข่มุกให้เป็นของขวัญ
ทำร้ายคนด้วยวาจา...สาหัสยิ่งกว่าทิ่มแทงด้วยหอกดาบ.."
"ซุนวู"



" คนอื่นช่วยเรา...เราจะจำไว้ชั่วชีวิต
เราช่วยคนอื่น...จงอย่าจำใส่ใจ "
"ฮั่วหลัวเกิง"




" มีชีวิตอย่างไร้คุณธรรม
มิสู้ตายอย่างมีคุณธรรม
ได้มาด้วยความคดโกง
มิสู้ยอมเสียอย่างซื่อตรง..."
"หวังติ้งเป่า"



" น้ำใสสะอาดเกินไป...ย่อมไร้ซึ่งมัจฉา
คนที่เข้มงวดเกินไป......ย่อมไร้ซึ่งบริวาร "
"ปันกู้"



" ความไม่พอใจ...ความกลัดกลุ้มหงุดหงิด
ควรจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราฮึดสู้มากยิ่งขึ้น
ไม่ควรเป็นสิ่งที่ทำให้เราท้อแท้..ห่อเหี่ยวยอมจำนน
ต่ออุปสรรค์..."
"หลี่ต้าเจา"



" ในชีวิตของเรา..มิตรภาพเปรียบเสมือนโคมส่องสว่าง
ดวงหนึ่ง....ซึ่งสาดส่องจิตวิญญาณของเราให้สว่างไสว
ทำให้ชีวิตของเรามีแสงสีอันงดงาม.."
"ปาจิน"

๗.

" ตัวสกปรกก็คิดจะอาบน้ำ เท้าสกปรกก็คิดจะล้างเท้า
แต่ใจสกปรก กลับไม่คิดที่จะชำระใจ..."
"หยางว่านหลี่"

๘.

" สุขสบายเกินไป..เส้นสายก็พลอยหย่อนยาน
จิตใจก็พลอยขลาดกลัว"
"หูหลินอี้"

๙.

" พูดน้อย กลุ้มน้อย ตัณหาน้อย นอนน้อย...
....ถ้าสี่อย่างนี้น้อย ก็ใกล้จะเป็นเซียนแล้ว"
"ซุนซือเหมี่ยว"

๑๐.

" คนที่เชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป...
เป็นคนที่โดดเดี่ยวอ้างว้างที่สุด!"
"ลู่ซู"

๑๑.

" ไม่มีอะไรแย่เท่ากับความเย่อหยิ่งอวดดี....
ผู้ที่คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ คือ คนที่ดีพอ...
ผู้ที่คิดว่าตัวเองดีแล้ว คือ ผู้ที่ดีไม่พอ...!"
"ฟังเสี้ยวหยู"

๑๒.

" ต้องกล้าที่จะมองความจริง...
แม้ว่าความจริงอาจจะทำให้เราเจ็บปวดมากๆ"
"จางจื้อซิน"

๑๓.

" ความอิจฉา เป็นอุปสรรคต่อมิตรภาพ...
ความระแวงสงสัย..เป็นศัตรูตัวร้ายกาจของความรัก...
...ความรักถ้าปราศจากความซื่อสัตย์จริงใจต่อกันเสียแล้ว
ก็ไม่อาจเชื่อถือซึ่งกันและกันได้"
"ซุนยาง"

๑๔

" ยามมีควรคิดถึงความจน...
....ยามจนไม่ควรคิดถึงยามมี..!"
"เจิงก่วงเสียนเหวิน"

๑๕

" อย่าทำความชั่ว เพราะคิดว่าผิดนิดเดียว...
อย่าละเว้นการทำความดี...
เพราะคิดว่าได้บุญกุศลแค่นิดเดียว..."
"เผยสงจือ"

๑๖

" รู้เหตุผลไม่อับจน รู้กาละไม่ถูกด่า รู้ประหยัดไม่ขัดสน "
"ซูลิน"

๑๗

" ใช้จิตใจที่ชอบตำหนิผู้อื่น...มาตำหนิตัวเอง....
ใช้จิตใจที่ชอบให้อภัยตัวเอง...ให้อภัยผู้อื่น.."
"เจิงจิ้นเสียนเหวิน"

๑๘

" ขี้เกียจแล้วยังฟุ่มเฟือย...ย่อมยากจน
ขยันและประหยัด..ย่อมร่ำรวย.."
"ก่วนจ้ง"

๑๙

"…สูงส่งแต่ไม่เย่อหยิ่ง ชนะแต่ไม่ลำพอง
ปราดเปรื่องแต่รู้จักลงเวที เข้มแข็งแต่มีความอดกลั้น.."
"ขงเบ้ง"

๒๐

"..ก่อนที่จะเอาชนะคนอื่น...จักต้องเอาชนะตัวเอง
ให้ได้เสียก่อน
ก่อนที่จะว่าคนอื่น...ควรพิจารณาดูตัวเองเสียก่อน
ก่อนหน้าที่จะรู้จักคนอื่น...ควรจะรู้จักตัวเองเสียก่อน.."
"หลี่ปุ๊เหว่ย"

๒๑

" ผู้ที่รู้จักคนอื่นเป็นคนฉลาด.....ผู้ที่รู้จักตัวเองเป็นคนมีสติ.."
"เล่าจื้อ"

๒๒

" การตกระกำลำบากเป็นมหาวิทยาลัยชั้นสูง
ในการฝึกฝนยอดคน..!!"
"เหลียงฉี่เชา"

๒๓

" สิ่งที่ตัวเราไม่ชอบ ...จงอย่าทำกับคนอื่น.."
"ขงจื้อ"

๒๔.

" คนที่ทำได้อาจพูดไม่ได้...คนที่พูดได้อาจทำไม่ได้.!!"
"ซือหม่าเชียน"

๒๕.

" คนเราหนีไม่พ้นความตาย...แต่ความหมายการตายนั้น
ไม่เหมือนกัน...
บ้างมีค่าหนักกว่าขุนเขา...บ้างไร้ค่าเบากว่าขนนก...!"
"ซือหม่าเชียน"
--
สว่างตา ด้วยแสงไฟ สว่างใจ ด้วยแสงธรรม
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

สรณะอื่น ไม่มี ชีวิตนี้เพื่อพระรัตนตรัย
ธรรมะสวัสดี กรุ๊ป
คลังเมล์สาระดีๆทางธรรม และทางโลกและอื่นๆอีกมากมาย เพียบ!
http://groups.google.com/group/DhammaSawasdee?hl=th

1054


ผู้จัดการออนไลน์ - มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติอย่าง "โอลิมปิกเกม" ที่ประเทศจีน เพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ ซึ่ง“ผ่านมาแวะกิน ย่อมไม่พลาดการชมและเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทยอยู่แล้ว
       
ครั้นพูดถึงประเทศจีนแล้วก็อดคิดถึงย่านจีนๆในไทยๆไม่ได้ แหม...จะเป็นที่ไหนได้ นอกจากย่านเยาวราช ไชน่าทาวน์เมืองไทย ย่านเศรษฐกิจ การค้า ที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ อีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยหลากหลายอย่างร้านที่มีโอกาสแวะไปกินครั้งนี้ คือ ร้าน "ก๋วยจั๊บอ้วนโภชนา" ร้านรถเข็นเล็กๆตั้งอยู่หน้า "โรงหนังไชน่าทาวน์ราม่า" กินแล้วลืมรสชาติไม่ลงจนต้องมาบอกต่อ



ร้านนี้เปิดขายด้วยประสบการณ์เก๋ามากว่า 30 ปี ขายกวยจั๊บน้ำใสอย่างเดียว แต่ลูกค้าแน่นร้านตลอด กวยจั๊บน้ำใส (ธรรมดา 30 บาท,พิเศษ 40 บาท)ใช้เส้นใหญ่อย่างดีทำให้เส้นเหนียวนุ่มไม่เกาะกัน ไม่เละแฉะ จุดเด่นของร้านที่หลายคนติดอกติดใจ อยู่ที่น้ำซุปรสเข้มข้น เผ็ดร้อนจากพริกไทยที่กลายเป็นส่วนผสมหลักซึ่งขาดไม่ได้ของทางร้าน ที่ถูกทำมาต้มคู่กับกระดูกหมู เวลาซดน้ำร้อนๆทำให้รู้สึกโล่งคอดี


ในชามยังมี หมูกรอบ ที่แต่ละวันต้องเตรียมไว้กว่า 100 กิโลกรัม จัดเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของทางร้านเช่นกัน เพราะหมูกรอบจะถูกนำไปทอดจนหนังกรอบและเนื้อนุ่ม นอกจากนี้ก็ยังมีสารพัดเครื่องในอย่าง กระเพาะหมู ลิ้นหมู หัวใจหมู ตับหมู ปอดหมู กระดูกหมูอ่อน เสิร์ฟมาภายในชาม



อีกหนึ่งความพิเศษ คือ ที่ร้านจะมี ปาท่องโก๋กรอบตัวเล็ก (5บาทและ10บาท) ไว้ให้สำหรับกินคู่กวยจั๊บด้วย ซึ่งก็เข้ากันได้ดีอย่างลงตัว และสำหรับคนไม่กินเส้นก็ยังสามารถสั่งเป็นแบบ เกาเหลา (40บาท) มากินได้ ด้วยจะเป็นเกาเหลาชามโต อุดมด้วยเครื่องในหมูหลากประเภท เครื่องในที่นี่ไร้กลิ่นคาว เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ ช่วงยามเย็นใครไปเดินเล่นเยาวราช ก็ลองแวะไปชิมกวยจั๊บน้ำใสสูตรพริกไทยของร้าน “ก๋วยจั๊บอ้วนโภชนา” กันได้

ร้าน "กวยจั๊บอ้วนโภชนา" เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 18.00-03.00 น. เปิดทุกวัน วันหยุดไม่แน่นอนสามารถสอบถามได้จากทางร้าน การเดินทางตรงจากวงเวียนโอเดียนมาเรื่อยๆร้านจะอยู่ซ้ายมือ ตรงข้ามห้างขายทองเลี่ยงเซ่งเฮง ร้านอยู่หน้าโรงหนังไชน่าทาวน์รามา (นิวแหลมทอง) จอดรถได้ตั้งแต่ 20.00 น.ขึ้นไป โทร.08-6508-9979

Pages: 1 ... 69 70 [71]