Post by: FB on March 29, 2012, 05:11:14 PM
สูบคู่กู้โลก (Official Teaser)
เตรียมตัวฮาโลกแตกกันไว้เลย เมื่อผู้กำกับอารมณ์ดี “เป้-นฤบดี เวชกรรม” จูงมือเพื่อนสนิท “เปิ้ล นาคร” และนางเอกสาวสวย “น้องแม็กกี้ อาภา” ทำพิธีบวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์เรื่อง “สูบคู่กู้โลก” ซึ่งเดินทางมาทำพิธีบวงสรวง เพื่อสร้างฤกษ์เอาชัยก่อนจะเดินหน้าเปิดกล้องแบบเต็มสูบ ถึงวัดสมานรัตนาราม พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันจันทร์ที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา
สำหรับนักแสดงสูบคู่ที่จะมาป่วนชวนฮากันให้โลกแตกในภาพยนตร์ สูบคู่กู้โลก ครั้งนี้ ผู้กำกับเป้ นฤบดี ก็คว้าตัวนักแสดงฮาระดับเทพอย่าง “หม่ำ-เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา” ประกบ “เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย” และคู่พระ-นางดาวรุ่งที่จะมาร่วมขบวนการกู้โลกได้แก่ นางเอกสาวสวย “น้องแม็กกี้ อาภา ภาวิไล” (จากภาพยนตร์ คน-โลก-จิต) กับพระเอกใหม่ใสกิ๊ก “น้องภูมิ รังษีธนานนท์” โดยเรื่องราวของภาพยนตร์แนวคอเมดี้ แอบไซไฟเล็กๆ ผู้กำกับเป้ นฤบดีเล่าให้ฟังว่า
“วันนี้พวกเรามาบวงสรวงทำพิธีเปิดกล้องหนังเรื่อง สูบคู่กู้โลก จะ เป็นหนังตลกคอเมดี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับแก๊งมอเตอร์ไซค์ เป็นแก๊งช็อปเปอร์ก้านยาว 2 คน คือ พี่เปิ้ล นาคร กับพี่หม่ำ จ๊กมก ซึ่งวันๆดูจะไม่มีอะไรทำ นอกจากการหาเงินใช้หนี้ แต่สุดท้ายดันมีภาระกิจต้องมากู้โลก เรื่องนี้เป็นคอเมดี้แต่จะผสมลูกเล่นไซไฟนิดหน่อยนะครับ มีความเป็นแฟนตาซี จินตนาการมีมนุษย์ต่างดาวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก็ต้องรอดูและติดตามว่าแก๊งมอเตอร์ไซค์ก้านยาวของ พี่เปิ้ล พี่หม่ำ รวมถึงนางเอก พระเอก ทั้งน้องแม๊กกี้ และน้องภูมิ กับมนุษย์ต่างดาวบุกโลก พวก เขาเหล่านี้จะคลิกกันอย่างไร และสุดท้ายจะช่วยเหลือกันแบบไหน เตรียมเปิดกล้องปลายเดือนมีนาคมนี้ และคาดว่าจะได้ชมกันในปีนี้นะครับ”
ติดตามชมภาพยนตร์ชวนฮาโลกแตก “สูบคู่กู้โลก” ผลงานกำกับโดย “เป้-นฤบดี เวชกรรม” ร่วมด้วยนักแสดงนำ หม่ำ จ๊กมก, เปิ้ล นาคร, แม็กกี้ อาภา และภูมิ รังษีธ
Post by: FB on September 22, 2012, 01:07:12 AM
สูบคู่กู้โลก (Official Teaser)
2 คนนี้กำลังจะกลับมา
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ จ๊อด (หม่ำ จ๊กม๊ก) กับ อี๊ด (เปิ้ล นาคร) คู่เกรียนตัวเมพ เจ้าของอู่ซ่อมชอปเปอร์
กำลังถูกตามล่าจากเจ้าหนี้ ในขณะที่โลกมนุษย์กำลังจะเกิดภัยพิบัติ...
เมื่องานเข้าเต็มๆแบบนี้ทั้งคู่จะตัดสินใจเลือกอะไร
ระหว่างภารกิจ ปลดหนี้ กับ กู้โลก ร่วมลุ้นระทึกกับภารกิจฮาครั้งใหญ่ใน
"สูบคู่กู้โลก"
22 พฤศจิกายน นี้ โปรดระวังคนข้างๆ คุณ ในโรงภาพยนตร์
Post by: FB on September 22, 2012, 01:08:02 AM
จะเกิดอะไรขึ้น??? เมื่อซุป’ตาร์ตลกอันดับหนึ่งของเมืองไทย “หม่ำ จ๊กมก และ เปิ้ล นาคร” ปะทะกับ “มนุษย์ต่างดาว” ในภาพยนตร์ “สูบคู่กู้โลก” (คอมิดี้-ไซไฟ) หนังไอเดียบรรเจิด และผลงานการกำกับภาพยนตร์ลำดับที่ 4 ของ เป้-นฤบดี เวชกรรม ที่เคยฝากผลงานกำกับภาพยนตร์มาแล้วจาก สาระแนห้าวเป้ง, สาระแนสิบล้อ และสาระแนเห็นผี ซึ่งที่มาของไอเดียแหวก แปลก สุดฮา ครั้งนี้จะหลุดโลกขนาดไหน พบกับความมันส์ สุดเพี้ยนจาก 2 ซุป’ตาร์ เมื่อต้องมาฟีทเจอริ่งกับมนุษย์ต่างดาว จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง คงต้องให้ผู้กำกับหนุ่มอารมณ์ดี เป็นผู้เล่าให้ฟังถึงที่มาของภาพยนตร์
“ผมอยากทำหนังสนุกๆ โดยนำเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว แก๊งมอไซค์ และภัยพิบัติ นี่คือประเด็นหลักของหนังเรื่องนี้ครับ ส่วนตัวผมรู้สึกว่าภัยพิบัติบนโลกมันเริ่มเยอะขึ้น ก่อนหน้านี้ดูข่าว เรื่องเล่าเช้านี้ มีข่าวว่าเห็นกลุ่มแสงไฟซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไร ที่น่านฟ้าญี่ปุ่น ก่อนที่จะเกิดสึนามิ ผมก็สนใจเรื่องนี้ขึ้นมา พอเปิดดูในอินเตอร์เน็ต ก็มีคนสนใจกันเยอะมาก แล้วมันก็มาแมชรวมกันกับเรื่องตั้งแต่สมัยเด็กๆ ของผม ผมชวนเพื่อนๆ มานอนเล่นสนามหญ้าหน้าบ้าน อยู่ๆ ก็เห็นแสงบนท้องฟ้า แล้วมันก็หักเหเป็นมุมฉากก่อนจะหายไป ซึ่งมันยังคงเป็นเรื่องค้างคาใจผมอยู่ว่าแสงที่ได้เห็นนั้นคืออะไร แล้วผมก็มานั่งคิดว่า ถ้าหากเกิดโลกของเราจะแตก และเกิดภัยพิบัติขึ้นมาจริงๆ ล่ะ นี่คือไอเดียที่ผมหยิบมาทำเป็นหนัง แล้วคิดต่อยอดอีกนิดว่า ในมุมของหนังคอมิดี้ ถ้าโลกเกิดภัยพิบัติขึ้นมา คนที่จะกู้โลกได้นั้นควรจะเป็นกลุ่มคนแบบไหนดี สุดท้ายแล้วเราก็เลือกไปโฟกัสกลุ่มแก๊งมอเตอร์ไซค์ จึงเกิดเป็นภาพยนตร์ สูบคู่กู้โลก
โดยเรื่องราวฮาๆ ขำๆ มันเกิดขึ้นที่แก๊งสูบคู่ ที่มีอยู่ 2 คน คือ อี๊ด ก้านยาว กับ จ๊อด แฮนด์ลิง ผมคุยกับ เปิ้ล นาคร ก่อนว่าจะทำหนังแนวนี้ ซึ่งเปิ้ลเขาก็สนใจมาก โดยเปิ้ลมารับบทเป็น อี๊ด ก้านยาว ที่มีคาแรคเตอร์ เป็นคนชอบโวยวาย เจ้าความคิด แต่ขี้กลัว และก็มักจะหาเรื่องเดือดร้อนมาให้กับจ๊อดอยู่เสมอ มันใช่ตรงที่เรามักจะเห็นเวลาที่เปิ้ลอยู่กับพี่หม่ำ แล้วเขามักจะชอบเล่นปีนเกลียวพี่หม่ำตลอด และแน่นอนครับคนที่เหมาะจะมารับบท จ๊อด ก็หนีไม่พ้นพี่หม่ำ จ๊กม๊ก และเราก็เห็นความน่ารักของพี่หม่ำตรงที่ เขาเป็นคนรักพวกพ้อง เป็นผู้ใหญ่ที่นิ่ง น่ารัก เวลาโดนน้องแหย่ จะมีอารมณ์โกรธ โมโห แต่จะไม่จริงจังอะไร เหมาะและตรงกับคาแรคเตอร์ จ๊อด หัวหน้าแก๊งสูบคู่ เจ้าของอู่ มีนิสัยรักลูกน้องและเสียสละ มีความขัดแย้งในตัว รักอิสระ แต่ต้องมาอยู่อู่ที่เป็นสมบัติของพ่อเขาที่ไม่อยากให้ขาย ตอนจีบพี่หม่ำมาเล่นก็ใช้เวลานานอยู่ แล้วเขาก็ตอบตกลงด้วยเหตุผลที่ว่า หนังแปลกดีน่าสนใจ (หัวเราะ) นับว่าเราโชคดีมากครับ และเมื่อแก๊งสูบคู่ต้องมาเจอกับมนุษย์ต่างดาว มันก็เกิดเรื่องราวต่างๆ มากมาย 2 คนนี้จะทำยังไง จะกู้โลก จะกลัว หรือจะหนี รับรองว่าหนังแปลกแต่ฮาแน่นอน 23 ตุลาคมนี้ ครับมาช่วยกันกู้โลกให้น่าอยู่ด้วยเสียงหัวเราะกันเยอะๆ นะครับ (ยิ้ม)”
ความฮาแบบหลุดโลก จะโคจรมาหาคุณ เมื่อ “หม่ำ จ๊กมก และ เปิ้ล นาคร” ปะทะ “มนุษย์ต่างดาว” ในภาพยนตร์ “สูบคู่กู้โลก” ผลงานกำกับจาก “เป้ นฤบดี เวชกรรม” เตรียมตัวฮาโลกแตกพร้อมกัน 22 พฤศจิกายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
Post by: FB on September 27, 2012, 07:27:44 PM
สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์ชั่นแนล ร่วมกับ เดอะ พิพัล ทรี จำกัด แถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ “สูบคู่กู้โลก” ผลงานกำกับ ลำดับที่4 ของ เป้ นฤบดี เวชกรรม ผู้กำกับเดียวกับ สาระแนห้าวเป้ง, สาระแนสิบล้อ และสาระแนเห็นผี พร้อมเปิดตัวฮีโร่กู้โลก หม่ำ จ๊กม๊ก กับ เปิ้ล นาคร และผู้ร่วมภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ แม็กกี้ อาภา ที่ควงคู่มากับหนุ่มต่างดาว ภูมิ รังษีธนานนท์ ณ โรงภาพยนตร์ SF WORLD CINEMA ชั้น7 เซ็นทรัลเวิล์ด เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา
เรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างดีเมื่องานแถลงข่าวภาพยนตร์ “สูบคู่กู้โลก” เริ่มเปิดตัวด้วยคู่หูป่วนฮา “หม่ำ จ๊กม๊ก และ เปิ้ล นาคร” ที่ตามด้วย ผู้กำกับเป้ นฤบดี เล่าถึงภารกิจอันยิ่งใหญ่สุดไซไฟในครั้งนี้ กับภาพยนตร์แนวคอมิดี้-ไซไฟ จากนั้นเปิดตัวหนุ่มต่างดาวหน้าทะเล้น ภูมิ รังษีธนานนท์ และสาวแว๊นส์สุดสวย แม็กกี้ อาภา เล่าถึงภารกิจอันฮาทะลุโลกในครั้งนี้ ที่แม้จะเป็นหนังตลกแต่ทุ่มทุนสร้างด้านคอมพิวเตอร์กราฟฟิกอย่างอลังการ และพูดคุยเกี่ยวกับเบื้องหน้าเบื้องหลังเจาะลึกความฮากันอย่างจะจะ โดยเฉพาะเปิ้ล นาคร ที่งานนี้ดูเหมือนจะโดนตลกรุ่นพี่หม่ำ จ๊กม๊ก เล่นอำมุกฮาเอาคืนกันกลางเวทีงานแถลงข่าวกันแบบไม่เว้นวรรคให้หายใจเลยทีเดียว และปิดท้ายด้วยการถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก โดยได้รับเกียรติจาก ผู้บริหารสหมงคลฟิล์มฯ คุณจาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการฝ่ายสื่อสารการตลาด และคุณชมศจี เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการฝ่ายขาย ร่วมด้วยผู้สนับสนุนภาพยนตร์ บ.ไทยประกันชีวิต จก.(มหาชน) คุณดวงนภารัตน์ ศรีสุข ผู้จัดการอาวุโสส่วนสื่อสารมวลชน และผู้ควบคุมงานสร้าง อิษรา เวชกรรม ร่วมกับทีมนักแสดงก่อนจบงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ครั้งนี้
ภาพยนตร์สูบคู่กู้โลก เป็นเรื่องราวของแก๊งสูบคู่ พี่จ๊อด กับน้องอี๊ด สองพี่น้องร่วมสาบานที่กำลังถูกตามล่าจากเจ้าหนี้ แถมยังมีไอ้ป๋องหลานชายสุดกวนโอ้ย คอยกวนประสาทไปวันๆ ที่วันดีคืนดีดันกลายเป็นมนุษย์ต่างดาวซะนี่ สองคู่หูแก๊งสูบคู่จึงเริ่มรู้ว่าโลกเรากำลังจะเกิดวิกฤตอันร้ายแรงขึ้น แล้วชะตากรรมของมนุษย์โลกจะเป็นเช่นไร เมื่อแก๊งสูบคู่ดันขออาสากู้โลก ส่วน เนย สาวแว๊นส์คนนี้จะเข้ามาร่วมภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ได้อย่างไร ติดตามชมความฮาทะลุต่างดาวได้ 22 พฤศจิกายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
Post by: FB on October 15, 2012, 03:26:23 PM
ถึงคราวที่ต้องหา มนุษย์ต่างดาว มาฟีเจอริ่งกับ แก๊งสูบคู่ตัวแสบ “หม่ำ จ๊กม๊ก กับ เปิ้ล นาคร” ในภาพยนตร์ สูบคู่กู้โลก แล้วใครกันจะเป็นผู้ถูกคัดเลือกสวมบทสำคัญในครั้งนี้ จนเมื่อ เป้ นฤบดี ผู้กำกับหนุ่มอารมณ์ดี ได้บังเอิญเจอกับ เอ ศุภชัย นักปั้นดาราผู้โด่งดังในวงการบันเทิงไทยบ้านเรา พร้อมกับส่งมอบนักแสดงหนุ่มวัยรุ่น ภูมิ รังษีธนานนท์ ให้กับผู้กำกับเป้ ด้วยการการันตีอย่างหนักแน่นว่า คาแร็คเตอร์ที่กำลังตามหาจะเป็นใครไปไม่ได้เลย ต้องเด็กคนนี้คนเดียวเท่านั้น!!! จนเมื่อถึงวันเปิดกล้อง ทั้งทีมงาน และผู้กำกับต่างก็ลงมติเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่แหละ ใช่เลย มนุษย์ต่างดาว ที่ตามหา โดย เป้ นฤบดี เล่าถึงนักแสดงดาวรุ่งครั้งนี้ว่า
“ผมอยากให้จับตามมอง ป๋อง หลานของจ๊อดในเรื่องนี้ครับ รับบทโดย ภูมิ รังษีธนานนท์ เราตั้งโจทย์ไว้คร่าวๆ ว่า อยากได้เด็กไทย วัยรุ่นอายุประมาณ 17-18 ปี แล้วครั้งแรกที่เราเจอภูมิ เขามีความเป็นธรรมชาติของตัวเองสูงมาก มันใช่เลยครับ ตรงกับคาแร็คเตอร์ของ ป๋อง ที่มีนิสัยทะโมน กวนตีน ทำตัวซ่า ออกแนวปากหมา แต่หนักกว่านั้นคือ ภูมิจะต้องรับบทเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ ซึ่งภูมิเองก็ทำการบ้านมาดีมากครับ เขาตีโจทย์มนุษย์ต่างดาวออกมาได้อย่างเข้าท่าเลย และมันพิเศษอย่างมากก็ตรงที่ภูมิเวลาเข้าฉากเจอพี่หม่ำ กับเปิ้ล พวกเขาเหมือนเป็นคนเผ่าพันธุ์เดียวกันนะ (หัวเราะ) คนละวัยแต่ไปด้วยกันได้ดีครับ”
นอกจากนี้ผู้กำกับเป้ ยังคว้านางเอกสาวสวยมากความสามารถ แม็กกี้ อาภา ที่ก่อนหน้านี้เธอสวมบทดราม่าจัดจากภาพยนตร์ คน-โลก-จิต มาแล้ว แต่สำหรับภาพยนตร์สูบคู่กู้โลก ผู้กำกับเป้ขอจับสาวน้อยพลิกโฉมแบบสุดขั่วมาร่วมขบวนการกู้โลก กับบทนางเอกคอมิดี้ที่ตกหลุมรักหนุ่มต่างดาว โดยเล่าว่า “แม็กกี้ จะต้องดึงความเป็นตัวเองออกมาค่อนข้างเยอะเลยในเรื่องนี้ ซึ่งคาแร็คเตอร์ เนย จะเป็นนักเรียนหญิงพาณิชย์ เป็นเด็กแก่แดดแก่ลม นิสัยเฮี้ยวๆ กล้าจีบผู้ชาย ผมให้น้องเขาทำการบ้านเกี่ยวกับวัยรุ่น ภาษาที่วัยรุ่นเขาชอบใช้กันในโซเชียลเน็ตเวิร์ค จะเป็นภาษาวิบัติเพี้ยนๆ ที่จะต้องเอามาใช้ในหนังเวลาที่เข้ากับกลุ่มแก๊งเพื่อนสาว ต้องยอมรับว่าแม็กกี้เขาใช้ยีนส์พ่อมาเล่นหนังได้อย่างดีเลย ตา ปาก แววตา เฮ้ยนี่มันพี่อรุณ ภาวิไลชัดๆ (หัวเราะ)”
“สูบคู่กู้โลก” ภาพยนตร์คอมิดี้-ไซไฟ กับ “หม่ำ จ๊กม๊ก และ เปิ้ล นาคร” 2 ฮีโร่ผู้ที่จะมาแท็คทีมกู้โลก กับภารกิจอันยิ่งใหญ่ พร้อมปะทะหนุ่มต่างดาว “ภูมิ รังษีธนานนท์” และสาวต่าง’หวัด “แม็กกี้ อาภา” โดยผลงานกำกับของ “เป้ นฤบดี” พร้อมใจกันฮากู้โลก 8 พฤศจิกายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
Post by: FB on October 15, 2012, 04:13:45 PM
เมื่อโลกถูกรุกราน จะมีใครเล่าที่พร้อมจะระรานกลับ
"หม่ำ จ๊กม๊ก" และ "เปิ้ล นาคร"
ขออาสารับตำแหน่งฮีโร่ "กู้โลก"
แต่จะเอาอยู่หรือไม่ แล้วชีวิตพวกเราจะสงบสุขได้จริงใช่ไหม
เตรียมลุ้นระทึกกับภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ ที่ต้องปะทะกับ
หนุ่มต่างดาว หน้าทะเล้น "ภูมิ รังษีธนานนท์"
และ สาวต่าง'หวัด น่าถนอม "แม็กกี้ อาภา"
โดยผลงานกำกับของ "นฤบดี เวชกรรม"
(จากผู้กำกับ สาระแนห้าวเป้ง-สาระแนสิบล้อ-สาระแนเห็นผี)
8 พฤศจิกายนนี้ : ในโรงภาพยนตร์
Post by: FB on October 15, 2012, 05:05:59 PM
สูบคู่กู้โลก -Teaser
สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
ร่วมกับ
เดอะ พิพัล ทรี จำกัด
ชวนกันฮาทะลุโลกกับภาพยนตร์ คอมิดี้-ไซไฟ
สูบคู่กู้โลก
เมื่อโลกถูกรุกราน จะมีใครเล่าที่พร้อมจะระรานกลับ
“หม่ำ จ๊กม๊ก” และ “เปิ้ล นาคร”
ขออาสารับตำแหน่งฮีโร่ “กู้โลก”
แต่จะเอาอยู่หรือไม่ แล้วชีวิตพวกเราจะสงบสุขได้จริงใช่ไหม
เตรียมลุ้นระทึกกับภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ ที่ต้องปะทะกับ
หนุ่มต่างดาว หน้าทะเล้น “ภูมิ รังษีธนานนท์”
และ สาวต่าง’หวัด น่าถนอม “แม็กกี้ อาภา”
โดยผลงานกำกับของ “นฤบดี เวชกรรม”
(จากผู้กำกับ สาระแนห้าวเป้ง-สาระแนสิบล้อ-สาระแนเห็นผี)
8 พฤศจิกายน นี้
ทุกโรงภาพยนตร์
กำหนดฉาย 8 พฤศจิกายน 2555
แนวภาพยนตร์ คอมิดี้ / ไซไฟ
ผู้สร้างและจัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
บริษัทดำเนินงานสร้าง เดอะ พิพัล ทรี จำกัด
อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
ควบคุมการสร้าง นฤบดี เวชกรรม, อิษรา เวชกรรม
ประสานงานสร้าง สุนันทา ชูกุล
กำกับภาพยตร์ นฤบดี เวชกรรม
กำกับภาพ พีรวัฒน์ สังข์กลาง
ลำดับภาพ พิชานนท์ วงศ์วิทยาเมธากุล, วิสิฎสร สุทธิไชยากุล
ออกแบบงานสร้าง สมยศ ศรีดา
กำกับศิลป์ สมยศ ศรีดา
เรื่องและบทภาพยนตร์ นฤบดี เวชกรรม, กฤษณะ จิตรเนาวรัตน์,
พิชานนท์ วงศ์วิทยาเมธากุล, เสกสรร รัตนพรพิศ
ออกแบบเครื่องแต่งกาย ภิรมย์ เรืองกิจการ
เทคนิคพิเศษทางภาพ เซอร์เรียล สตูดิโอ จำกัด
บันทึกเสียง ห้องบันทึกเสียงรามอินทรา
ฟิล์มแลบส์ สยามพัฒนาฟิล์ม
ดนตรีประกอบ และออกแบบเสียง สโนว์แมน&คณิสร สตูดิโอ
แสดงนำโดย เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, นาคร ศิลาชัย
แม็กกี้ อาภา, ภูมิ รังษีธนานนท์
สหรัถ สังคปรีชา, ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ
พีท ทองเจือ, จาตุรงค์ พลบูรณ์, ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม
Post by: FB on October 15, 2012, 05:06:45 PM
สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ประกาศเตรียมตัวฮาโลกสะท้าน เมื่อ ผู้กำกับเป้-นฤบดี เวชกรรม ที่เคยมีผลงานชวนอารมณ์ดีสร้างเสียงหัวเราะมาแล้วจากภาพยนตร์เรื่อง สาระแนห้าวเป้ง, สาระแนสิบล้อ และสาระแนเห็นผี กลับมาเรียกเสียงฮาอีกครั้งกับภาพยนตร์เรื่อง “สูบคู่กู้โลก” พร้อมคว้าซุป’ตาร์ฮาขั้นเทพ “หม่ำ จ๊กม๊ก” ปะทะ “เปิ้ล นาคร” สวมบทบาท คู่เกรียนสุดป่วนแห่งแก๊ง ชอปเปอร์ก้านยาว ที่จะมาเบิ้ลเครื่องโชว์พลังความฮา แบบซิ่งสุดขั่วกับภารกิจกู้โลก โดยมีนางเอกสาวสวย “แม็กกี้ อาภา” และพระเอกหน้าใหม่ใสกิ๊ก “ภูมิ รังษีธนานนท์” ร่วมป่วนโลกในครั้งนี้ด้วย
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ แก๊งสูบคู่ จ๊อด (หม่ำ จ๊กม๊ก) กับ อี๊ด (เปิ้ล นาคร) คู่เกรียนตัวป่วน เจ้าของอู่ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ชอปเปอร์ กำลังถูกตามล่าจากเจ้าหนี้ ทั้งคู่จึงต้องคิดวิธีหาเงินชดใช้หนี้สินอันท่วมหัว ส่วนหลานชาย ป๋อง (ภูมิ รังษีธนานนท์) ที่ชอบก่อเรื่อง สร้างวีรกรรมบ้าบอไปวันๆ กลับกลายเป็นชายหนุ่มเรียบร้อย สุภาพบุรุษตัวพ่อ และกลายเป็นขวัญใจของ เนย (แม็กกี้ อาภา) สาวพาณิชย์สุดจี๊ด จึงทำให้ จ๊อด กับ อี๊ด เริ่มสงสัยกับพฤติกรรมของหลานชาย และพยายามสืบหาสาเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้
แต่บร๊ะเจ้า!! มันชักจะวุ่นวายไปกันใหญ่ เมื่อความจริงถูกเปิดเผยว่า ป๋อง คือ มนุษย์ต่างดาว! และโลกของเรากำลังจะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ ชะตากรรมชีวิตของมนุษย์โลกจะเป็นเช่นไร เมื่อได้แก๊งสูบคู่ จ๊อด- อี๊ด อาสามากู้โลกเอง แล้วหนี้สินที่ถูกทวงตามอีกล่ะจะทำยังไง ร่วมลุ้นระทึกกับภารกิจฮาครั้งใหญ่ใน “สูบคู่กู้โลก”
จุดเริ่มต้น ความฮาทะลุนอกโลก
มนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่ ด้วยความที่ไม่มีหลักฐานใดๆพิสูจน์ออกมาได้ชัดเจน ก็ยากที่จะเชื่อ จนกว่าจะได้เห็นด้วยตาของตัวเอง นับว่าเป็นเรื่องยากที่เราจะเห็น มนุษย์ต่างดาว และจานบิน ปรากฏตัวเผยโฉมแบบไม่แคร์สื่อ แม้จะเป็นเวลานานมาแล้วก็ตามกับเรื่องราวลึกลับ ทำให้มนุษย์โลกฉงนจนถึงทุกวันนี้ โดยหนึ่งในนั้นรวมถึง เป้-นฤบดี เวชกรรม กับเรื่องราวคาใจสมัยเด็กที่ถูกบันทึกไว้ในใจตลอดมา กลายเป็นผลงาน กำกับ-เขียนบทของเขา ในภาพยนตร์ สูบคู่กู้โลก โดยเล่าเรื่อง Flashback ในช่วงวัยเยาว์ว่า “เริ่มต้นตอนเด็กๆซึ่งเป็นเรื่องที่ติดใจ ฝังใจผมมาตั้งแต่เด็กตอนอายุ 12 ปี นอนเล่นอยู่สนามหญ้าหน้าบ้านกับกลุ่มเพื่อน พวกเราก็นอนดูดาวกันเพลินๆ นั่น ดาวลูกไก่ นั่นดาวไถ สักพักผมเห็นแสงเหมือนเครื่องบิน 2 ลำ บินคู่กันไป จากนั้นมันกลับหักเลี้ยวเป็นมุมฉากขึ้นไป ผมก็เริ่มงง เฮ้ย!เครื่องบินมันบินเป็นมุมฉาก แล้วก็แว๊บหายไป ก็หันไปถามกันว่าเห้ยตาฟาดป่าว ก็ไม่นี่ แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร หลังจากนั้นเราก็คุยเรื่องนี้กันทุกวัน เมื่อก่อนนั้นมันยังไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีกูเกิ้ล ก็เข้าห้องสมุดเปิดดูแต่เรื่องUFO มนุษย์ต่างดาวสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า แล้วก็เริ่มสนใจเรื่องแบบนี้ ซึ่งมันถูกเมมโมรี่ไว้ในหัวผมตั้งแต่สมัยเด็กๆ”
และหากมนุษย์ต่างดาวกำลังบุกโลกเราจริง มันจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้เอง หลายคนเริ่มตั้งข้อสันนิษฐานจากเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆบนโลกที่เกิดขึ้น สื่อทุกประเภทต่างประโคมข่าวอย่างต่อเนื่องประหนึ่งคล้ายว่ามนุษย์ต่างดาวกำลังส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง หรือพวกมันกำลังเริ่มที่จะบุกโลกอย่างจริงจัง ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เป้ นฤบดี จึงเล่าที่มาของไอเดียเรื่องราวในภาพยนตร์ว่า “ผมเริ่มรู้สึกว่าภัยพิบัติบนโลก มันเริ่มเยอะขึ้น วันนั้นดูข่าวคุณสรยุทธ เรื่องเล่าเช้านี้ มีข่าวว่าเห็นกลุ่มแสงไฟซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไรที่น่านฟ้าญี่ปุ่น ก่อนที่จะเกิดสึนามิ ผมก็สนใจเรื่องนี้ขึ้นมาอีก พอมันรวมกันกับเรื่องมนุษย์ต่างดาวสมัยเด็กของผมที่ยังค้างคาใจอยู่ ก็คิดขึ้นมาว่า ถ้าเกิดโลกของเราจะพัง เกิดภัยพิบัติขึ้นมาจริงๆล่ะจะเป็นอย่างไร แล้วคิดต่อยอดอีกนิดในมุมของหนังคอมิดี้ หากมนุษย์ต่างดาวบุกมา คนที่จะกู้โลกได้นั้นควรจะเป็นกลุ่มคนแบบไหนดี”
แล้วใครกันคือ ฮีโร่“กู้โลก”ตัวจริง
เป็นเรื่องที่ผู้กำกับและทีมเขียนบท ต้องแชร์ไอเดียร่วมกันอย่างหนักก่อนที่จะลงมือเขียนบทกันอย่างจริงจัง กับกลุ่มคนที่จะถูกคัดเลือก เพื่อมาเป็นฮีโร่ หน่วยกู้โลกให้พ้นภัยพิบัติในครั้งนี้ โดย ชอ กฤษณะ หนึ่งในก๊วนผู้ร่วมเขียนบทภาพยนตร์ ได้เล่าเสริมว่า “ก่อนหน้านี้สาระแนสิบล้อ เป็นผีสิงรถแปลงร่างเป็นทรานส์ฟอร์เมอร์ สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับคนดูไม่น้อย พวกเราก็คิดต่อว่าหนังเรื่องหน้ามันจะต้องแรงขึ้นกว่าอย่างมาก(555) โดยเลือกโฟกัสที่กลุ่มมอเตอร์ไซค์เป็นอันดับแรก ด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเราชอบขี่มอเตอร์ไซค์กัน(555) แต่เราเลือกเป็นแก๊งชอบเปอร์ เพราะด้วยความมันส์ ความมีสีสัน รวมถึงสไตล์การแต่งตัวของพวกเขาที่เป็นเอกลักษณ์ จึงจับแก๊งชอปเปอร์มาใส่ไว้ในหนัง สำหรับบทเรื่องนี้เราใช้เวลา 4- 5 เดือน กว่าจะเขียนบทออกมาเสร็จสมบูรณ์ มันยากตรงเรื่องของมนุษย์ต่างดาว เพราะไม่คุ้นเคย และก็ไม่เคยเห็นตัวจริง จึงต้องใช้ระยะเวลาในการรีเสิร์ชข้อมูลพอสมควร”
และผู้ที่ขอมีส่วนร่วมกระบวนการค้นหาข้อมูลมนุษย์ต่างดาวในครั้งนี้ก็คือ หลังเลนส์ สาระแน (เสกสรร รัตนพรพิศ) โดยเล่าว่า “ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว ผมจึงขอพี่เป้ ผู้กำกับ เข้ามาแจมในทีมเขียนบท จะเรียกว่าผมเกาะพวกพี่เขาก็ได้ครับ(555) ช่วงรีเสิร์ชหาข้อมูลหลักๆเราพึ่งพาอาศัยอินเตอร์เน็ต ใช้เวลาดูคลิปตามเว็บไซท์ต่างๆ เพื่อหาข้อมูลมนุษย์ต่างดาว สังเกตรูปร่างลักษณะควรเป็นยังไง แล้วมนุษย์ต่างดาวของหนังเรื่องนี้จะออกมาเป็นแบบไหน ดูหนัง ดูสารคดีที่เกี่ยวกับเอเลี่ยน แชร์ไอเดียกับพวกพี่ๆ รวมถึงเรื่องราวที่สามารถนำมาดัดแปลงเป็นมุกตลกใส่ลงไปในเรื่องด้วยครับ”
แน่นอนแหล่งข้อมูลหลักสำคัญที่ผู้กำกับและทีมงานเขียนบท เลือกที่จะเจาะลึกนั้นคงจะเป็นใครอื่นไม่ได้ถ้าไม่ใช่บุคคลท่านนี้ ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน (นายกสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย) รวมถึงบุคคลที่เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง โดย เป้ นฤบดี เล่าว่า “ผมได้มีโอกาสพบและคุยข้อมูลกับ ศ.ดร.นพ.เทพพนม ท่านก็มีเรื่องราวสนุกๆเล่าให้ฟังเยอะเลย ถ้าใครได้เคยดูรายการที่เขาไปออกตามโทรทัศน์ เขาจะเล่าว่าสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ และเขาเคยเห็นมนุษย์ต่างดาวมาแล้ว หรือจะเป็นกลุ่มของ พีท ทองเจือ ซึ่งเขาก็สนใจด้านนี้เช่นกัน กลุ่มเขากะลา จ.นครสวรรค์ กลุ่มที่บอกว่าติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้มานานแล้ว โดยผมหาข้อมูลจากกลุ่มคนพวกนี้”
จากประสบการณ์ตรงของ เป้ นฤบดี ถูกนำมาผสมผสานกับแหล่งข้อมูลอ้างอิงถึงเรื่องราวมนุษย์ต่างดาว จนกลายมาเป็นภาพยนตร์คอมิดี้-ไซไฟ ผลงานกำกับภาพยนตร์ลำดับที่ 4 ของ เป้ นฤบดี ซึ่งก่อนหน้านี้ฝากผลงานกำกับไว้กับภาพยนตร์ สาระแนห้าวเป้ง, สาระแนสิบล้อ และสาระแนเห็นผี ด้วยประเด็นการเล่าเรื่องที่ทั้งแปลก แหวก และยังไม่มีใครกล้าทำ กล้าสร้างมาก่อน โดยเล่าว่า “ประเด็นหลักของหนังคือ แก๊งมอไซค์ ภัยพิบัติ และมนุษย์ต่างดาว สำหรับมนุษย์ต่างดาวมันมีหลากหลายมุม อย่างหนังฮอลลีวู้ดที่ทำกัน เขาจะนำเสนอว่ามนุษย์ต่างดาวบุกโลก หรือไม่ก็มนุษย์โลกช่วยเหลือมนุษย์ต่างดาว ผมก็มานั่งคิดว่าถ้าเป็นประเทศไทยล่ะจะทำในลักษณะไหนดี ส่วนเรื่องของภัยพิบัติที่เกิดขึ้น มันก็เกิดขึ้นจากสิ่งที่พวกเราทำกันเองนั่นแหละ ผมคิดว่าเวลาเราทำอะไรมันเหมือน เด็ดดอกไม้สะเทือนดวงดาว ซึ่งมันจะเชื่อมโยงกันหมดครับ และนี่คือไอเดียหลักที่พวกเรานำมาสร้างเป็นภาพยนตร์สูบคู่กู้โลก”
Post by: FB on October 15, 2012, 05:07:20 PM
“จ๊อด” รับบทโดย หม่ำ จ๊กม๊ก (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา)
เจ้าของอู่สูบคู่ ฉายา “จ๊อด แฮนด์ลิง” รับมรดกอู่ซ่อมรถมาจากบรรพบุรุษ ชอบสะสมมอเตอร์ไซค์ ชอปเปอร์รุ่นต่างๆ หัวเด็ด บาทาขาด ก็ไม่ยอมขายอู่แห่งนี้ แม้จะไม่มีเงินใช้หนี้ก้อนโตก็ตาม เป็นคนมีน้ำใจ และไม่เคยขัดใจ อี๊ด รุ่นน้องสุดเกรียนจอมวางแผน ที่คอยแต่จะหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ทุกครั้ง
“อี๊ด” รับบทโดย เปิ้ล นาคร (นาคร ศิลาชัย)
ชายวัยกลางคน หน้าตาเหมือนคนอดนอนตลอดเวลา ฉายา “อี๊ด ก้านยาว” เพราะชอบขี่มอไซค์ชอปเปอร์ก้านยาว เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับจ๊อด ที่รักกันมากขนาดอาบน้ำ ถูรักแร้ให้กันได้ และเขานี่แหละที่เป็นคนหาหนี้ก้อนโตมาให้จ๊อดนั่นเอง ดังนั้นอี๊ดจึงต้องคอยวางแผนการไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตามที่จะหาเงินมาใช้หนี้ให้ได้
“ป๋อง” รับบทโดย ภูมิ รังษีธนานนท์
หลานชายสุดเกรียน นิสัยกวนสุดๆ ไม่ค่อยจะใส่ใจอะไร จนเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ถูกชนคว่ำ ป๋อง ฟื้นขึ้นมาและกลายเป็นคนเรียบร้อย นิสัยอ่อนโยน สุภาพบุรุษ และยังซ่อมเครื่องยนต์เก่ง ซึ่งผิดกับป๋องคนเดิมจากหน้ามือเป็นหลังตรี...น!ไปเลย จนความจริงถูกเปิดเผยว่า ป๋อง คือ มนุษย์ต่างดาว!!!
“เนย” รับบทโดย แม็กกี้ อาภา
สาวเปรี้ยว แรงส์ ปากแดงสไตล์ Utip ความสามารถพิเศษ ขี่มอเตอร์ไซค์เป็น ถือคติว่าเกิดเป็นหญิงจีบผู้ชายก่อนได้ เป็นเพื่อนกับป๋องตั้งแต่เด็ก แต่เพิ่งจะตกหลุมรักก็ตอนโตเป็นนักเรียนพาณิชย์ จึงพยายามจีบป๋องแบบทุ่มสุดตัว ทั้งแจกBB ชวนไปเที่ยว เลี้ยงไอติม บลาๆๆ ....ก่อนที่จะรู้ตัวว่ากำลังออกเดทกับมนุษย์ต่างดาว!!!
การคัดเลือกนักแสดง
แก๊งสูบคู่
เมื่อ “หม่ำ จ๊กม๊ก” และ “เปิ้ล นาคร” ถูกจับคู่สวมบทฮีโร่กู้โลกกับคาแร็คเตอร์กวนๆที่ผู้กำกับ เป้ นฤบดี เล็งเห็นว่าเหมาะและเข้ากับตัวละครในภาพยนตร์ ซึ่งคำว่า “สูบคู่” คือที่มาของ 2 ตัวละครนำ “จ๊อด-อี๊ด” ที่เปิดอู่รับซ่อมมอไซค์ทุกประเภท บริการตั้งแต่เติมลมยาง เปลี่ยนลูกสูบรถ จูนแต่งเครื่องมอไซค์ และทั้งคู่เป็นรุ่นพี่-รุ่นน้องสนิทสุดซี้ระดับเกรียน ที่ชอบซิ่งมอไซค์ชอปเปอร์ โดย เป้ นฤบดี เล่าถึง คาแร็คเตอร์แก๊งสูบคู่ว่า “แก๊งสูบคู่ จะมีอยู่ 2 คน คือ อี๊ด ก้านยาว กับ จ๊อด แฮนด์ลิง ผมคุยกับ เปิ้ล นาคร ก่อนว่าจะทำหนังแนวนี้ ซึ่งเปิ้ลเขาก็สนใจมาก โดยเปิ้ลมารับบทเป็น อี๊ด ก้านยาว ที่มีคาแร็คเตอร์ เป็นคนชอบโวยวาย เจ้าความคิด แต่ขี้กลัว และก็มักจะหาเรื่องเดือดร้อนมาให้กับจ๊อดอยู่เสมอ มันใช่ตรงที่เรามักจะเห็นเวลาที่ เปิ้ลอยู่กับพี่หม่ำ แล้วเขามักจะชอบเล่นปีนเกลียวพี่หม่ำตลอด”
เปิ้ล นาคร เล่าถึง ความสนุกกับคาแร็คเตอร์สุดมันส์ ที่ต้องปรับลุคให้ดูเข้ม ติดหนวด ติดเครา มาดแมนด้วยเสื้อลาย
สก็อต กางเกงยีนส์ แถมยังต้องฝึกขี่มอไซค์ที่ไม่ธรรมดาในเรื่องนี้ว่า “อี๊ด เป็นเพื่อนรุ่นน้องของ พี่จ๊อด เราเป็นแก๊งมอเตอร์ไซค์ ชอปเปอร์ เป็นคนชอบวางแผนทุกเรื่อง เป็นตัววางแผนการต่างๆ แล้วก็พา พี่จ๊อดไปร่วมกับแผนการด้วยตลอด คาแร็คเตอร์ก็คล้ายตัวเราเองนี่แหละ แนวกล้าๆ แต่ใจมะหมา แต่ความยากมันอยู่ที่เราต้องขี่ชอปเปอร์ มันไม่ใช่ฮาเลย์ เดวิดสัน หรือ ดูคาติ แต่ว่านี่มันเป็นก้านยาว ที่ยาวเกือบ 2 เมตร เอ่อ!..ไม่ใช่ทุเรียนนะครับ แต่เป็นมอเตอร์ไซค์ยาว
ถึง 2 เมตร ขับคันนี้ถึงขั้นปวดแขนเลยนะ แต่ก็มันส์อีกแบบนึงดีครับ เสียงดังกระฮึ่มมาก เวลาที่เราขี่บนถนน มันก็เพลินดีนะ เข้าใจเลยทำไมผู้ชายส่วนใหญ่ชอบขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามสถานที่ต่างๆ”
เป้ นฤบดี เล่าต่อว่า “ซึ่งแน่นอนครับคนที่เหมาะจะมารับบท จ๊อด ก็หนีไม่พ้นพี่หม่ำ จ๊กม๊ก และเราก็เห็นความน่ารักของพี่หม่ำตรงที่ เขาเป็นคนรักพวกพ้อง เป็นผู้ใหญ่ที่นิ่ง น่ารัก เวลาโดนน้องแหย่ จะมีอารมณ์โกรธ โมโห แต่จะไม่จริงจังอะไร เหมาะและตรงกับคาแร็คเตอร์ จ๊อด หัวหน้าแก๊งสูบคู่ เจ้าของอู่ มีนิสัยรักลูกน้องและเสียสละ มีความขัดแย้งในตัว รักอิสระ แต่ต้องมาอยู่อู่ที่เป็นสมบัติของพ่อเขาที่ไม่อยากให้ขาย ตอนจีบพี่หม่ำมาเล่นก็ใช้เวลานานอยู่ แล้วเขาก็ตอบตกลงด้วยเหตุผลที่ว่า หนังแปลกดีน่าสนใจ(หัวเราะ) นับว่าเราโชคดีมากครับ”
หม่ำ จ๊กม๊ก เล่าถึงบทบาทครั้งใหม่ว่า “เป็นเจ้าของอู่มอเตอร์ไซค์ ชื่อ จ๊อด ฉายา จ๊อด แฮนด์ลิง คาแร็คเตอร์จะเป็นคนนิ่งๆเงียบๆ เป็นคนทำมาหากินมากกว่า แต่ว่าเรื่องที่มันเกิด เกิดเพราะไอ้อี๊ด มันชอบหาเรื่องมาให้ตลอด ชอบพาไปนอกลู่ นอกทาง จนมีปัญหาหลายๆอย่าง ทำให้เราปวดหัว มีหลานชื่อ ไอ้ป๋อง หลานก็ดันชอบทำตัวลึกลับอีก ส่วนเรื่องขี่มอไซค์ผมไม่ได้กังวลอะไรเลย เพียงแต่ไม่ได้จับมันมานานเกือบ 20 ปีแล้ว ขี่แปปเดียวมันก็ได้อยู่แล้ว แต่บังเอิญว่ามันไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ธรรมดาทั่วไป มันก็ยากนิดหน่อยขี่ได้ประมาณ 10 กิโลเมตร ขาเริ่มสั่นล่ะ ส่วนเรื่องเสื้อผ้า รองเท้า ก็จะเฮ้วๆหน่อยนะ กางเกงยีนต์ขาเดฟ เสื้อหนัง ก็จะออกมาเท่ๆหน่อย มีหมวกกันน็อค ใส่ถุงมือ เครื่องประดับครบแบบฉบับนักขี่มอเตอร์ไซค์เลยล่ะ”
แก๊งผู้บุกรุก (หัวใจ)
ถึงคราวที่ต้องหา มนุษย์ต่างดาว มาฟีเจอริ่งกับ แก๊งสูบคู่ตัวแสบ แล้วใครกันจะเป็นผู้ถูกคัดเลือกสวมบทสำคัญในครั้งนี้ จนวันนึง เป้ นฤบดี ได้บังเอิญเจอกับ เอ ศุภชัย นักปั้นดาราผู้โด่งดังในวงการบันเทิงไทยบ้านเรา พร้อมกับส่งมอบ นักแสดงหนุ่มวัยรุ่น ภูมิ รังษีธนานนท์ ให้กับผู้กำกับเป้ ด้วยการการันตีอย่างหนักแน่นว่า คาแร็คเตอร์ที่กำลังตามหาจะเป็นใครไปไม่ได้เลย ต้องเด็กคนนี้คนเดียวเท่านั้น!!! จนเมื่อถึงวันเปิดกล้อง ทั้งทีมงาน และผู้กำกับต่างก็ลงมติเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่แหละ ใช่เลย มนุษย์ต่างดาว ที่ตามหา โดย เป้ นฤบดี เล่าถึงนักแสดงดาวรุ่งครั้งนี้ว่า “ผมอยากให้จับตามมอง ป๋อง หลานของจ๊อดในเรื่องนี้ครับ รับบทโดย ภูมิ รังษีธนานนท์ เราตั้งโจทย์ไว้คร่าวๆว่า อยากได้เด็กไทย วัยรุ่นอายุประมาณ 17-18 ปี แล้วครั้งแรกที่เราเจอภูมิ เขามีความเป็นธรรมชาติของตัวเองสูงมาก มันใช่เลยครับ ตรงกับคาแร็คเตอร์ของ ป๋อง ที่มีนิสัยทะโมน กวนตีน ทำตัวซ่า ออกแนวปากหมา แต่หนักกว่านั้นคือ ภูมิจะต้องรับบทเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ ซึ่งภูมิเองก็ทำการบ้านมาดีมากครับ เขาตีโจทย์มนุษย์ต่างดาวออกมาได้อย่างเข้าท่าเลย”
ภูมิ รังษีธนานนท์ เล่าถึงการประเดิมบทพระเอกครั้งแรก เหมือนโดนรับน้องเต็มๆ ที่ต้องแสดงควบ 2 บทบาท “ด้วยความที่เป็นหนังคอมิดี้ ผมก็หลุดขำตลอดเลย แถมเรื่องนี้ผมต้องแสดงเป็น 2 คาแร็คเตอร์ คือรับบทเป็น ป๋อง หลานของน้า จ๊อด กับน้าอี๊ด ที่มีนิสัยกวน จนวันนึงป๋องก็เปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังตรี...น! ซึ่งก่อนเปิดกล้องผมมีไปเรียนแอ็คติ้งการแสดง พยายามเล่นออกมาให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่พอสวมบทมนุษย์ต่างดาวมันต้องนิ่ง เมื่อมาเจอพี่เปิ้ล-พี่หม่ำผมจะไหวหรอ ขนาดเตรียมตัวมาแล้วก็ยังหลุดขำกระจายครับ”
เป้ นฤบดี เล่าถึงความประทับใจพระเอกน้องใหม่ว่า “มันพิเศษก็ตรงที่ภูมิเวลาเข้าฉากเจอพี่หม่ำ กับเปิ้ล พวกเขาเหมือนเป็นคนเผ่าพันธุ์เดียวกันนะ(หัวเราะ) คนละวัยแต่ไปด้วยกันได้ดี” พร้อมทั้งพูดถึง แม็กกี้ อาภา กับบทนางเอกสาวที่จะมาตกหลุมรักมนุษย์ต่างดาวแบบไม่รู้ตัว ในเรื่องนี้ว่า “แม็กกี้ จะต้องดึงความเป็นตัวเองออกมาค่อนข้างเยอะเลยในเรื่องนี้ ซึ่งคาแร็คเตอร์ เนย จะเป็นนักเรียนหญิงพาณิชย์ เป็นเด็กแก่แดดแก่ลม นิสัยเฮี้ยวๆ กล้าจีบผู้ชาย ผมให้น้องเขาทำการบ้านเกี่ยวกับวัยรุ่น ภาษาที่วัยรุ่นเขาชอบใช้กันในโซเชียลเน็ตเวิร์ค จะเป็นภาษาวิบัติเพี้ยนๆ ที่จะต้องเอามาใช้ในหนังเวลาที่เข้ากับกลุ่มแก๊งเพื่อนสาว ต้องยอมรับว่าแม็กกี้เขาใช้ยีนส์พ่อมาเล่นหนังได้อย่างดีเลย ตา ปาก แววตา เฮ้ยนี่มันพี่อรุณ ภาวิไลชัดๆ(หัวเราะ)” :'(
Post by: FB on October 15, 2012, 05:07:50 PM
นอกจากฝึกฮา ยิงมุกตลก แม็กกี้ ยังต้องรับบทที่ตัวเธอเองยังไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต คือ การตามจีบผู้ชาย โดยเล่าต่อว่า “เนยพอได้เจอกับป๋องก็ปิ๊งทันที จากนั้นตั้งหน้าตั้งตาจีบเลย โอ้ยยย..(ลากเสียงยาวมาก) ฉากที่จะต้องเข้าไปจีบผู้ชายเนี่ย เขินมาก เราเป็นผู้หญิง แล้วเราก็ไม่เคยที่จะต้องไปจีบใครเขาก่อน พอจีบไปได้สักพักดันรู้ความจริงว่า ป๋องเป็นมนุษย์ต่างดาว งานเข้าเลยทีนี้ เกิดเป็นความรักระหว่างคนกับมนุษย์ต่างดาว แล้วจะลงเอยไงล่ะทีนี้”
แก๊งร่วมป่วนโลก
นอกจากนักแสดงนำที่จะชวนกันฮาทะลุโลกแล้ว เป้ นฤบดี ยังขอเบิ้ลความฮาด้วยแขกรับเชิญสุดพิเศษโดยเล่าว่า “นักแสดงรับเชิญเรื่องนี้มากันเยอะครับ ยกตัวอย่าง ดีเจเชาเชา มารับบทเป็นนักปั่นจักรยานเสือหมอบ ทั้งเรื่องปั่นอยู่คนเดียว ออกแนวเพี้ยนๆ แล้วก็ต้องเจอกับมนุษย์ต่างดาวด้วยเช่นกัน ส่วน พี่จตุรงค์ มกจ๊ก มารับเชิญเป็นนักสืบจอมโหด ต้องปะทะมุกตลกทั้งพี่หม่ำ และเปิ้ล กันอย่างถึงพริกถึงขิง ส่วนนักแสดงรับเชิญที่ทำให้กองถ่ายแตก คือ ก้อง นูโว ที่วันนั้นสาวๆในกองไม่เป็นอันทำงานกันเลยครับ แม้แต่ ต๊อก ศุภกรณ์ รับเชิญในบท จ่าเสม ก็แสดงแบบจัดเต็มมากๆ หรือ พีท ทองเจือ นอกจากเป็นแหล่งข้อมูลของเราแล้ว เราก็ยังเชิญมาร่วมแสดงด้วยเช่นกันในบท เฮียง้วน และยังมีอีกหลายคนเลยครับที่เราเชิญมาร่วมสร้างความสนุก”
ฉากฮาหลุดสุดสะท้าน
เปิดตัวแก๊งสูบคู่
เป้ นฤบดี เล่าถึงการร่วมงานกับนักแสดงคุณภาพ และเล่าถึงฉากประทับใจในสปิริทของหม่ำ จ๊กม๊ก ครั้งนี้ว่า “ฉากที่ประทับใจคือ ฉากขี่มอเตอร์ไซค์ ด้วยการที่พี่หม่ำต้องสวมบท จ๊อด แฮนด์ลิง ดังนั้นแฮนด์จะต้องสูงขนาดนี้(ทำท่า) ผมลองขี่ดูแล้วมันไม่ง่ายเลยครับ ส่วนเปิ้ล นั้นฉายาเขา อี๊ด ก้านยาว คนที่จะขี่มอไซค์ก้านยาวได้นั้น ผมว่าต้องเป็นนักเจ็ทสกีระดับโลกเท่านั้นเลยนะ แล้วทั้งคู่เขายอมขี่กันจริงๆ โดยวันนั้นต้องขี่บนถนนยาวประมาณ 15 กิโลเมตรเท่านั้นไม่พอต้องขี่ปาดหน้ากันไปมาด้วยนะ แล้วไม่มีการซ้อม ขี่กันจริงตอนนั้นเลย แต่พอขี่ไปได้สัก 10 กิโลเมตร พี่หม่ำขอจอดมอไซค์ แกลงไปนั่งกองกับพื้นถนน ขาสั่นพับๆ และบอกว่า เขาไม่ได้ขี่มอไซค์มาจะ 20 ปีแล้ว ผมยกให้แกเลยเรื่องสปิริทการแสดง ประทับใจพี่หม่ำมากครับ”
เปิ้ล นาคร เล่าถึงฉากนี้ว่า “เป็นฉากที่เราสองคนดูเท่มาก ต้องแซงกันไปแซงกันมา ด้วยความที่มอเตอร์ไซค์ของพี่หม่ำหน้าไม่ยาวเท่ากับมอเตอร์ไซค์ของเรา เวลาแซงปาดหน้าเขาจะมาทับรถเราตลอด เราก็พยายามดิ้นไปดิ้นมาไม่ให้โดน แต่เขามั่นใจศักยภาพการขี่มอเตอร์ไซค์ของเขามาก สังเกตเวลาเขาขี่ไม่เหมือนขี่ชอปเปอร์เลยนะ เหมือนอะไรไปดูเอาเอง พี่หม่ำเขาเรียกตัวเขาเองว่าซุปตาร์ขาลง แต่ถ้าเมื่อไหร่หนังเรื่องสูบคู่กู้โลกเข้าฉาย เรา 2 คนจะกลายเป็นซุปตาร์ขาขึ้นแน่นอน อิอิ”
หม่ำ จ๊กม๊ก เล่าถึงการร่วมงานกับผู้กำกับ เป้ นฤบดี ว่า “ผมกับเป้ เรารู้จักกันมาก่อนแล้ว ตั้งแต่ยุคสาระแน นั่งยางโชว์ เราก็ร่วมงานกันมาบ่อยอยู่ เป้เขาเป็นคนฉลาดเลยแหละ และเป็นคนเข้าใจอารมณ์ศิลปะภาพยนตร์ได้อย่างดี เวลาที่เขาต้องการอะไรเขาก็จะบอกเรา อารมณ์ซีนนี้ต้องเป็นประมาณนี้นะพี่ หรือซีนนี้มันต้องซีเรียส อยากให้ออกซึ้งๆหน่อย เขาจะบอกตลอดถ้าเขาต้องการให้หนังสื่อออกมาเป็นแบบไหน”
สยิวกิ้ว หม่ำ-เปิ้ล เปลือยลงอ่าง
ฉากเด็ด มุกฮา ที่ไม่อยากให้พลาด หม่ำ-เปิ้ล เล่นจริง จับจริง และเสียวจริง โดยไม่มีการเตี๊ยมมุก หรือซ้อมกันมาก่อน เรียกว่ามุกสดที่จะต้องประชันกันแบบจะจะเลย โดย หม่ำ จ๊กม๊ก เล่าถึงฉากสยิวกิ้วนี้ว่า “เป็นฉากอาบน้ำในอ่าง เรื่องมันเกิดขึ้นก็คือไอ้อี๊ดชวนเราไปเล่นการพนัน เราก็ไม่อยากไปแต่ก็ต้องยอมมัน แล้วมันก็ดันเอาเงินเราไปเล่นจนเสียหมดอีก ก็เลยโมโห งอน พอกลับมาบ้านไอ้อี๊ดมันก็เลยไถ่โทษด้วยการอาบน้ำให้ อาบไปอาบมาเหมือนคู่เกย์กันมาก ตอนแสดงเปิ้ลมันก็เล่นจริงจังมาก ถูรักแร้ให้ เราก็จั๊กกะจี้ มันเล่นจริง หยิกจริง ใช้เวลาถ่ายประมาณ 2 เทคได้ อ่อ มันจับจริงด้วย ต้องไปดูในหนังมันจับอะไร”
เปิ้ล นาคร เล่าต่อว่า “เป็นเรื่องของลูกผู้ชายชอปเปอร์ สูบคู่ที่ลงอ่างอาบน้ำด้วยกัน เราเล่นกันแบบเข้าขากันดี พี่หม่ำไม่ถือตัวด้วย เขาเป็นรุ่นพี่แต่อนุญาตให้เราทำอนาจารเขาได้หลายอย่าง อยากจะบอกว่าของพี่หม่ำน่ารัก(หึหึ) น่าหม่ำมากๆ(ทำท่ากัดปาก)” พร้อมทั้งเล่าถึงความรู้สึกที่ได้การร่วมงานกับนักแสดงตลกรุ่นพี่ว่า “โอ้ย! เล่นคู่กับพี่หม่ำนี่ เคยฝันไว้เลยว่าชาตินี้ ถ้าเรามีบุญจริงๆนะ ขอให้มีโอกาสเล่นหนังกับพี่หม่ำสักเรื่องนึงเหอะ จะเป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูลของเรามาก จะเป็นเกียรติกับนามสกุลศิลาชัยมากที่ได้ฟีเจอริ่งกับตระกูลวงษ์คำเหลา พอได้เล่นจริงๆ โหว...พี่หม่ำ(หัวเราะ) เขาเกินมนุษย์อ่ะ เราเคยคิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ตลกทั่วไป เขาเป็นซุปตาร์นะ แต่จริงๆแล้วพี่หม่ำเป็นมนุษย์ต่างดาว เขาเป็นอะไรที่คิดแปลกอยู่ตลอดเวลา แบบตลกคนอื่นก็จะมีสูตรของเขาเล่น หนึ่ง สอง สาม ตึ่ง โป๊ะ!!! แต่พี่หม่ำเนี่ย หนึ่ง สอง และ พลิกไปไหนก็ไม่รู้ เราก็อ้าว...แล้วไงดีเนี่ย แต่ว่าเราเป็นคนชอบจังหวะแบบนี้ ชอบจังหวะที่คนคาดไม่ถึงเหมือนกัน มันก็เลยเกิดเคมีที่เรียกว่าลงตัว เป็นสูบ2สูบที่ขาดกันไม่ได้พอเวลาเล่นเฮ้ย!มันส์ดีว่ะ มิน่าทำไมเขาถึงเป็นซุปตาร์อันดับหนึ่งของประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ใช่ของไทยนะ ของไทยต้องเปิ้ล นาคร(ยิ้ม)”
กุ๊กกิ๊ก อาโนเนะ ที่ลากยาวถึง 6 ชั่วโมงเต็ม
เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้กำกับอารมณ์ดี ทำแต่หนังตลกเฮฮา พอถึงฉากที่ต้องมีเลิฟซีน เป้ นฤบดี ถึงกลับบ่นว่ายากที่สุด “สำหรับผมแล้วฉากเลิฟซีน กลายเป็นฉากที่ยากสำหรับผมนะ ก็มันเป็นหนังตลก พอมีเลิฟซีนเข้ามามันดูขัดอารมณ์นิดหน่อย แต่ว่าในบทมันต้องมีครับ เป็นฉากสำคัญซะด้วย โดย เนย นางเอกของเรื่องช่วยเติมพลังให้กับมนุษย์ต่างดาว แค่ฉากเติมพลังนี่แหละครับ ใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมง เริ่มถ่ายตอน 5 ทุ่ม กว่าจะถ่ายเสร็จปาไปตี 5 สว่างเลยครับ”
แม็กกี้ เล่าถึงฉากเลิฟซีนทรหดครั้งนี้ว่า “มันก็พอมีกุ๊กกิ๊กหลายฉากนะ อย่างฉากกอดก็เล่นไป 18 เทค แม็กกี้เขินด้วย และบางทีมันก็อยู่ที่จังหวะวิ่ง จังหวะกระโดดกอดอีก แต่ฉากกุ๊กกิ๊กเยอะกว่านี้ก็มีนะคะ เป็นตอนที่เนยจะต้องเติมพลังให้ป๋อง เนยก็เลย จุ๊บ แค่จุ๊บนี่แหละค่ะ ถ่ายกันยันเช้า 6 ชั่วโมงเต็ม อีกอย่างมันคือจุ๊บแรกของแม็กกี้ด้วยค่ะ” แม็กกี้เล่าต่อถึงการร่วมงานกับผู้กำกับและนักแสดงรุ่นพี่อีกว่า “รู้สึกโชคดีมากๆที่ได้เจอนักแสดงรุ่นใหญ่ พี่หม่ำ และพี่เปิ้ล โอ้วโห! พวกพี่เขาปล่อยมุกตลกกันกระจายเลย หรือถ้าได้เข้าฉากด้วยแม็คกี้ก็จะหลุดขำมุกพวกพี่เขาตลอด ต้องพยายามตั้งสติจะได้ไม่หลุด ส่วนพี่เป้ เป็นผู้กำกับมืออาชีพ ทำงานกับพี่เป้ เขาจะเป๊ะทุกอย่าง ในเรื่องมุมกล้อง เรื่องมุกตลก ทุกครั้งก่อนที่จะเข้าฉากพี่เป้จะเป็นคนมาบรีฟบทเองเลย และจะบอกกับนักแสดงว่าต้องการแบบนี้นะ ฉากนี้อารมณ์ประมาณนี้นะ มากน้อยประมาณไหน บางทีแม็คกี้แสดงออกมามากไป พี่เป้ก็จะบอกว่าน้อยลงมาหน่อยเยอะไปนะ(555) พี่เป้ใจดี ไม่ดุเลยค่ะ”
Post by: FB on October 15, 2012, 05:08:19 PM
เมื่อเป็นนักแสดงน้องใหม่ ก็ต้องเจอพวกพี่ๆละลายพฤติกรรม หรือถูกกลั่นแกล้งเป็นเรื่องธรรมดา พระเอกหนุ่ม ภูมิ รังษีธนานนท์ ก็ไม่พ้นที่จะโดน 2 รุ่นพี่แท็คทีมแกล้ง โดยภูมิเล่าว่า “ฉากวันเกิด ป๋องครับ น้าจ๊อดกับน้าอี๊ดมาเลย เดินถือเค้กมาเซอร์ไพรส์วันเกิดหลาน ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ แล้วเขาก็บอกให้ผมหลับตาอธิษฐาน เท่านั้นแหละครับ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู ปั๊ป!เต็มหน้าเลย แอบดึงเทียนออกตอนผมหลับตาอย่างไว แสบตามาก เค้กเต็มตาเลย (555) โหววว...เล่นเราซะเสียเลย พี่เปิ้ลนี่ตัวการเลย เทคเดียวฮาเลยครับ ร่วมงานกับพี่หม่ำ เขามีความเป็นโปรเฟสชั่นนอลมาก อย่างบางทีเขาจะอิมโพรไวส์เองไม่ต้องเล่นตามบท คือเห็นอะไรเล่นได้หมดเก่งมากครับ และด้วยความที่พี่หม่ำเป็นถึงซุป’ตาร์ตลกอันดับต้นเลย ผมก็ไม่เคยคิดว่าจะได้มีโอกาสร่วมงานกับพี่เขามาก่อน ตื่นเต้นมาก ครั้งแรกที่ต้องเข้าฉากร่วมกัน ผมไปไม่เป็นเลยนะ โอ้วโฮ!ตัวเกร็งมาก แต่พอเริ่มเข้าฉากกันบ่อยก็โอเคครับ พี่หม่ำเป็นคนน่ารักนิสัยดี ส่วนพี่เปิ้ล นอกบทตลอดเลยครับ ฉากที่ต้องนอนอยู่ เขาก็ลากผมลงมากองกับพื้นซะงั้น ฮาเลย เขาชอบเล่นตอนผมเผลอ ร้ายอ่ะ(555)”
เปิ้ล นาคร เล่าถึงการร่วมงานกับภูมิ ครั้งนี้ว่า “ตอนแรกเราก็แอบคิดนะ น้องคนนี้จะเล่นไหวเหรอแต่พอได้คลุกคลีกันบ่อย อยู่ด้วยกันมากๆ ก็เฮ้ยหน้าภูมิมันเหมือนมนุษย์ต่างดาวเลย กระดิกหูได้อีกด้วย มีรอยยิ้มเป็นมนุษย์ต่างดาว ส่วนตัวของภูมิเองก็มีความเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวมีจริง ภูมิแรงเยอะมาก ว่างไม่ได้ ต้องเดาะบอลใส่ผนังห้องนอน เราแทบไม่เป็นอันนอนเลย เดาะตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตอนกลางคืน เปิดประตูไปถามเฮ้ยทำไรว่ะภูมิ น้องตอบว่า อ่อ!ผมเตะบอลอัดผนังครับ อายุ 17 ปี วัยกำลังเดาะบอลเลย(หัวเราะ) ไฮเปอร์มาก”
เป้ นฤบดี เล่าถึงการร่วมงานกับทีมนักแสดง และคิดว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้นักแสดงเหล่านี้มาเติมความสนุกแบบเต็มพิกัดในภาพยนตร์ล่าสุดของเขาครั้งนี้ว่า “มันสนุกตั้งแต่เราเริ่มคิดไอเดียของหนังออกมาแล้ว และมันก็น่าตื่นเต้นตรงที่หนังเรื่องนี้ผมแพ็คทีมนักแสดงและทีมงานสร้างไปไกลถึงจันทบุรี โดยจับอยู่ในที่เดียวกันหมดไม่มีใครหนีไปไหนได้(555) จะหลุดคาแร็คเตอร์ก็ไม่ได้ เพราะตื่นเช้ามาก็ต้องใส่ชุดทำงานกันต่อ พี่หม่ำตื่นเช้ามาเขาก็จะมาช่วยเสนอมุก ไอเดียตลกกับผมตลอด แม้จะเลิกกองตอนเย็น พี่หม่ำก็ยังเอามุกใหม่ๆมาเสนอตลอด การร่วมงานกับพี่หม่ำสนุกมาก แล้วเขาเป็นคนตั้งใจทำงานเต็มที่กับงาน และมีสปิริทการแสดงสูงมาก ส่วนเปิ้ลเราร่วมด้วยช่วยกันตั้งแต่เรื่องบทหนังแล้วครับ เวลาผมรู้สึกติดขัดก็จะถามเปิ้ลเขามีไอเดียอะไรเสนอไหม เขาก็จะมาช่วยเติมบทให้สมบูรณ์มากขึ้น เปิ้ลเหมือนเป็นคนดูให้กับผม ในขณะที่หนังยังไม่สร้าง ซึ่งอันนี้มีประโยชน์มากเลย”
เปิ้ล นาคร เสริมถึงการร่วมงานกับผู้กำกับสุดซี้ต่อว่า “ได้กลับมาร่วมงานกันอีก ก็ยังเป็นกองถ่ายที่สนุกมากครับ สำหรับเป้ เขากำกับเรามาตั้งแต่หนังเรื่องแรกของเขาเลย สาระแนห้าวเป้ง สาระแนสิบล้อ สาระแนเห็นผี ก็คนนี้แหละครับผู้กำกับคนเดียวกัน เจ้าของเดียวกันกำกับมาตลอด...แล้วก็เข้าใจทางการแสดงของเราอย่างดี เพราะฉะนั้น อารมณ์ต่างๆของหนังก็จะเป็นลายเซ็นต์เดียวกันของคุณเป้ นฤบดี เวชกรรม เราเองก็มีความสุขมากที่ได้ร่วมงานกับเขา เป้ เป็นผู้กำกับที่เปิดโอกาสให้นักแสดงได้แชร์ไอเดียอย่างเต็มที่ เป้จะบอกว่าต้องการอารมณ์แบบไหน นักแสดงจะต้องตีโจทย์และทำความเข้าใจ พอทำการแสดงออกมาแล้ว ใช่ หรือ ไม่ใช่ เดี๋ยวเป้เขาจะบอกว่าต้องแบบนี้นะ แบบนั้นนะ ซึ่งผมประทับใจการทำงานของเป้ เวลาได้ทำงานร่วมกันแล้วเราจะรู้สึกรีแลกซ์ และสนุกมากครับ”
เบื้องหลังการออกแบบความฮา
ปี 2009 สาระแน ห้าวเป้ง !! คือผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ เป้ นฤบดี ที่กวาดรายได้ทะลุถึง 100 ล้านบาท ต่อมา ปี 2010 สาระแนสิบล้อ และ สาระแนเห็นผี ก็เป็นหนังที่เรียกเสียงฮาและกวาดรายได้อย่างไม่ทิ้งห่างกันเลย จนเมื่อเขาตัดสินใจเปิดโปรดักชั่นเฮ้าส์ (เดอะ พิพัล ทรี จำกัด)เป็นของตัวเอง และมุ่งมั่นลุยหน้าสร้างภาพยนตร์อย่างเต็มกำลัง โดยเล่าว่า “หลักๆแล้วทีมงานสร้างก็ทีมงานเดิมที่ทำหนังมาด้วยกันตั้งแต่ สาระแนห้าวเป้ง เรื่องแรกกันเลย ทีมเขียนบทหลักๆก็เป็น ชอ กฤษณะ จิตรเนาวรัตน์ ซึ่งมี หลังเลนส์ เสกสรร เข้ามาช่วยเสริมบทและเป็นทีมงาน ส่วนทีมตัดต่อความฮาเป็น กอล์ฟ พิชานนท์ และ อัพ วิสิฏสร เจ้าเดิม รวมถึงผู้ออกแบบงานสร้าง สมยศ ศรีดา หรือแม้แต่ สตาร์บัคส์ พงศ์พิชญ์ ก็เข้ามาร่วมทีมด้วยเช่นกันครับ”
ซึ่งช่วงระยะเวลาในการถ่ายทำ เป้ นฤบดี ขอยกกองไปปักหลักที่ จ.จันทบุรี บ้านเกิดของตัวเอง และ เลือกใช้โลเคชั่นทุกซอกทุกมุมเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ โดยเฉพาะโลเคชั่นหลักของเรื่องนี้ คือ อู่สูบคู่ ที่ทีมออกแบบงานสร้าง ต้องเนรมิตอู่ซ่อมมอไซค์ และสร้างขึ้นมาใหม่ ณ บริเวณใต้สะพานปากน้ำแขมหนู ใกล้กับหาดเจ้าหลาว บริเวณที่ชาวบ้านแถวนั้นบอกว่า เคยเป็นจุดที่มีคนเห็นมนุษย์ต่างดาวมาแล้ว...อุ๊บส์! โดย เป้ นฤบดี ขอเล่าถึงโลเคชั่นหลักในการถ่ายทำว่า “เราเลือกบริเวณ หาดเจ้าหลาว ที่รายล้อมไปด้วย ภูเขา ทะเล ต้นไม้ บรรยากาศแบบนี้แหละ ผมคิดว่า เหมาะที่จะเล่าเรื่องมนุษย์ต่างดาว จุดที่เราทำการเซ็ทฉากอู่สูบคู่ขึ้นมา คือ ใต้สะพานปากน้ำแขมหนู เป็นจุดปากอ่าวพอดี และมันบังเอิญมากที่โลเคชั่นตรงนี้เป็นจุดที่มีคนเคยเห็นมนุษย์ต่างดาวด้วย เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ เขาเล่ามาอีกทีว่าเห็นตรง
สะพานข้ามปากอ่าวนี้เลย เราใช้อู่สูบคู่เป็นโลเคชั่นหลัก และใช้เวลาสร้างประมาณเดือนนึง เพราะตรงนั้นเป็นเพียงศาลาโล่งๆ มีเสาอยู่ประมาณ 8 ต้นเองครับ”
สมยศ ศรีดา ผู้ออกแบบงานสร้าง เล่าเสริมต่อว่า “ผมออกแบบอู่สูบคู่จากสภาพแวดล้อมตามที่มีอยู่ เริ่มแรกออกแบบมาเป็น3D เพื่อให้ผู้กำกับดูความเหมาะสมในแต่ละส่วนของอู่ และเพื่อรองรับกับมุมกล้องที่จะต้องใช้ถ่ายในแต่ละฉากก่อน จากนั้นเมื่อถึงขั้นตอนการสร้างขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องมีการเก็บงานพวกรายละเอียดของอู่ค่อนข้างเยอะพอสมควร สำหรับการออกแบบงานสร้างของเรื่องนี้จึงค่อนข้างใช้เวลาเป็นเดือนครับ รวมถึงระยะเวลาการขนส่งพวกอุปกรณ์ประกอบฉากต่างๆของจากกรุงเทพมาถึงจันทบุรี แต่เราโชคดีที่สามารถหามอไซค์พวกชอปเปอร์ มอไซค์แต่งจากที่นู่น ผมไปเจออู่รถชื่อ อู่ช่างเล็ก ต้องขอบคุณอย่างมาก แถมพี่เล็กยังใจดีนำอุปกรณ์รถ และแก๊งชอปเปอร์ของเขามาร่วมแสดงเข้าฉากให้อีกด้วย”
การออกแบบ มนุษย์ต่างดาว และฉากพิเศษ ระดับอินเตอร์
หลังจากที่คนดูฮือฮากับฉากผีรถสิบล้อทรานฟอร์เมอร์ ในภาพยนตร์เรื่อง สาระแนสิบล้อ กันมาแล้ว กลับมาคราวนี้ ภาพยนตร์ สูบคู่กู้โลก เป็นแนวคอมิดี้-ไซไฟ ที่นำเอาเรื่องต่างดาวเข้ามาผสมปนความฮา ซึ่ง เป้ นฤบดี ก็อดที่จะทำเซอร์ไพรส์กับการดีไซน์ มนุษย์ต่างดาว จานบิน รวมถึงฉากพิเศษ ที่เชื่อว่าในประเทศไทยคงยังไม่มีใครกล้าทำมาก่อน ให้กับบรรดาแฟนหนังที่รอติดตามผลงานล่าสุดของเขาอยู่ ด้วยการแท็คทีมกับ เซอร์เรียล สตูดิโอ ทีมออกแบบเทคนิคพิเศษทางภาพ ทีมเดิมและทีมเดียวกับสาระแนสิบล้อนั่นเอง โดย เป้ นฤบดี เล่าถึงการออกแบบดีไซน์ มนุษย์ต่างดาวเบื้องต้นว่า “ผมตีความมนุษย์ต่างดาว ว่าสื่อสารด้วยจิต รูปร่างคล้ายมนุษย์นี่แหละ แต่สามารถรับรู้ความคิดคนอื่นได้ ไม่ซับซ้อน ไม่โกหก ไม่ทำร้าย และก็บริสุทธิ์ ถ้าเทียบกับมนุษย์ต่างดาวตามข้อมูลจริงจะมีหลายชนิดมาก คือ มีทั้งร้าย มีทั้งดี มีเผ่าพันธ์ แต่เราไม่ได้ไปติดกับอะไรตรงนั้น เราเอามาปรับเปลี่ยนให้มันเป็นอารมณ์ของป๋องครับ”
Post by: FB on October 15, 2012, 05:08:48 PM
จานบินช่องเปิดปิดของยาน หรือตัวยานที่เรานำลักษณะของดอกบัวเข้ามาเล่นในการดีไซน์ และไม่เหมือนจานบินที่เราเคยเห็นอย่างแน่นอนครับ ส่วนตัวมนุษย์ต่างดาว จะเป็นสีเทา ใส่ความเป็นเด็กที่ดูน่ารักเข้าไป หัวโต ตาโต ตัวออกนิ่มๆหยุ่นๆเหมือนก้นเด็ก การออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟฟิกเรื่องนี้ยากกว่าเรื่อง สาระแนสิบล้อ เพราะมีช็อทดีไซน์ค่อนข้างเยอะ
ยกตัวอย่าง ฉากที่เกิดภัยพิบัติ ฉากป๋องใช้พลังจิต ฉากอวกาศนอกโลก ซึ่งทีมงานต้องทำงานกันหนักเพื่อการออกแบบดีไซน์ออกมาดูสมจริง ถึงแม้มันจะเป็นหนังตลก แต่ในเรื่องของ CG ทีมงานเราออกแบบกันจริงจังมากครับ”
บทเพลงป้องกันโลกขึ้นสนิม
เปิ้ล นาคร นอกจากจะเป็นนักแสดงนำ และช่วยสรรหามุกตลกมาเสริมในบทภาพยนตร์ครั้งนี้แล้ว เขายังอาสาแต่งเนื้อร้อง เพลงประกอบภาพยนตร์ สูบคู่กู้โลก ที่มีชื่อเพลงว่า “บาดทะยัก” พร้อมกับเข้าห้องอัดลงเสียงร้องเองอีกด้วย โดย เปิ้ล นาคร เล่าให้ฟังถึงการทุ่มสุดตัวครั้งนี้ว่า “ผมชอบทำนองเพลงนี้ ฟังแล้วมันโจ๊ะๆดี แล้วผมก็มาแต่งเนื้อร้องใหม่ ซึ่งตั้งชื่อเพลง บาดทะยัก มันมีที่มาแบบนี้ครับ ทุกวันนี้โลกเราเกิดภัยพิบัติมากมาย และมันก็เกิดจากฝีมือมนุษย์เราเองนี่แหละดังนั้นเราจึงต้องช่วยกันรักษาโลกของเราให้น่าอยู่ ป้องกันโลกของเราให้ดีก่อนที่โลกเราจะแตก หรือก่อนที่โลกเราจะเป็นสนิมนั่นเอง เปรียบได้กับความรัก คนเรารักกันก็ต้องดูแลความรักระหว่างกันให้ดี อย่าปล่อยให้ความรักของคุณเป็นสนิม มันไม่ต่างกับการหยิบมีดที่เป็นสนิมมาแทง แผลที่เกิดมันก็จะกลายเป็นบาดทะยักนั่นเองครับ” ซึ่งเพลงประกอบภาพยนตร์ครั้งนี้ ยังได้มีการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ โดยได้นักแสดงนำอย่าง หม่ำ จ๊กม๊ก, แม็กกี้ อาภา และภูมิ รังษีธนานนท์ มาร่วมแจมจังหวะโจ๊ะๆ มันส์ๆ กวนๆ แบบฮายกทีมกันเลยทีเดียว
เตรียมตัวให้พร้อมเมื่อโลกวิกฤต กับ 2 ฮีโร่ที่จะมากู้โลก
เปิ้ล นาคร เล่าถึงความน่าสนใจในภาพยนตร์ว่า “ประเด็นที่เป้ ผู้กำกับ เขาบอกมาคือ พี่หม่ำ กับ เปิ้ล จะต้องเจอมนุษย์ต่างดาวนะ เราก็เฮ้ย!เอางั้นเลยหรอ มันน่าสนุกตรงที่ถ้ามนุษย์ต่างดาวมาโลกเรา แล้วเราจะคุยกับเขายังไง แล้วเปิ้ลกับหม่ำจะทำยังไง จะคุยหรือจะยิงให้ตายไปเลยดีนะ น่าสนใจตรงนี้แหละครับ พอได้ดูแล้วก็จะกลับมานั่งคิดกันต่อ ขนาดโลกเรายังมีสิ่งมีชีวิตอยู่ได้เลย แล้วทำไมก้อนหินดวงอื่นๆที่ล้อมรอบดวงอาทิตย์ในจักวาลเรานี้จะไม่มีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นบ้างล่ะ หรือเราอยู่กันไกลเกินไป ยานอวกาศเราไปไม่ถึงหรือเปล่า เออ!น่าคิดนะ เราต้องสู้กับมนุษย์ต่างดาวยังไง แล้วเราสู้กับโลกนี้ที่กำลังจะเกิดภัยพิบัติ ความสูญเสียมันเกิดจากใคร เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ต่างดาว หรือ มนุษย์ เราเอง จ๊อดกับอี๊ดจะกู้โลกได้หรือไม่ นั่นคือหน้าที่ของสูบคู่ที่จะต้องช่วยกันกู้โลก”
เป้ นฤบดี เล่าถึงความตั้งใจสร้างภาพยนตร์ สูบคู่กู้โลก หนังเบาสมอง ที่แอบแฝงด้วยสาระว่า “แค่คิดมันก็สนุกแล้วนะ หากโลกเราจะแตก แถมยังมีมนุษย์ต่างดาวบุกอีก ผมอยากทำหนังให้คนดูได้รับความแปลกใหม่อยู่ตลอดครับ สำหรับสูบคู่กู้โลก เราก็นำเรื่องคอมพิวเตอร์กราฟฟิก CG โดยทีมงานเดิมที่สร้างหุ่นยนต์สิบล้อ คือ เซอร์เรียล สตูดิโอ มาสร้างและเติมความสนุก ลูกเล่น อย่างมนุษย์ต่างดาว จานบินยูเอฟโอ บรรยากาศของหนัง ซึ่งมีอยู่หลายฉากครับ เป็นความจำเป็นอย่างมากที่เราต้องดึงมาสร้างให้คนดูตื่นเต้น เพราะสิ่งเหล่านี้เราไม่ได้พบเห็นในชีวิตประจำวัน และเรื่องของความตลก แน่นอนเราจะได้เห็นการประชันมุกระหว่าง 2 นักแสดง สุดยอดตลกเมืองไทย พี่หม่ำ จ๊กม๊ก กับ เปิ้ล นาคร ที่อีกคนมักจะนำพาเรื่องเดือดร้อนมาให้เสมอ ส่วนอีกคนทั้งที่รู้ว่าเดือดร้อนแต่ก็ยอมเดินตามมาด้วยตลอด เป็นครั้งแรกที่ 2 คนนี้จะมาประชันกัน เรื่องมุกตลกไม่มีใครยอมกันลงเลยครับ สูบคู่กู้โลก มนุษย์ต่างดาว UFO ครั้งแรกในเมืองไทย ติดตามความสนุกของมนุษย์ต่างดาวกับแก๊งมอไซค์ เมื่อมาเจอกันแล้วมันจะป่วนโลกกันขนาดไหน”
เกร็ดภาพยนตร์
ครั้งแรกของ “หม่ำ จ๊กม๊ก” กับ “เปิ้ล นาคร” ที่ต้องแสดงประกบ มนุษย์ต่างดาว
ณ โลเคชั่น “อู่สูบคู่” ทีมงานยึดใต้สะพานปากน้ำแขมหนู ใกล้ๆหาดเจ้าหลาว สร้างเป็นอู่ซ่อมมอไซค์ขึ้นมา และจุดโลเคชั่นนี้เอง ที่ชาวบ้านย่านนั้นบอกมาว่า มีคนเคยเห็นมนุษย์ต่างดาวมาแล้ว
ครั้นเมื่อยังเป็นด.ช.เป้ นฤบดี อายุ 12 ขวบ เขาชวนเพื่อนๆมานอนเล่นสนามหญ้าหน้าบ้าน และได้เห็นปรากฎการณ์แปลกๆบนท้องฟ้า ตั้งแต่นั้นมาเขาก็เริ่มสนใจ เข้าห้องสมุดค้นคว้าแต่เรื่อง มนุษย์ต่างดาว UFO สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า และเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นมีจริง
ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน (นายกสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย) แหล่งข้อมูลสำคัญของทีมงาน เพราะเขาคือผู้ที่ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ เคยเห็นและเจอมนุษย์ต่างดาวมาแล้ว แถมยังมีเพื่อนเป็นมนุษย์ต่างดาวอีกด้วย
พีท ทองเจือ หนึ่งในนักแสดงของ สูบคู่กู้โลก ยังเล่าให้ผู้กำกับ และทีมงานฟังว่า เป็นคนที่มีความเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวเช่นกัน และบ้านของเขายังตั้งอยู่ในห้วงมิติอันลึกลับ ที่วันดีคืนดีก็รู้สึกเหมือนมนุษย์ต่างดาวมาปรากฏตัว ด้วยลักษณะแสงบางอย่างที่มักจะเกิดขึ้นเหนือหลังคาบ้านของเขา
ในประเทศไทย กลุ่มเขากะลา จ.นครสวรรค์ คือ สถานที่สำคัญและเป็ศูนย์แห่งการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว และมีผู้เดินทางไปพิสูจน์อย่างมากมาย รวมถึงศิลปินดารา ซึ่งผู้ที่ไปชมมักจะถ่ายภาพออกมาและได้ภาพแปลกๆอยู่เสมอ
Post by: FB on October 15, 2012, 05:09:25 PM
เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา (รับบท จ๊อด)
ด้วยความสามารถที่หลากหลายและหลายคนรู้จัก “หม่ำ จ๊กม๊ก” จากการเป็นนักแสดงตลก และพิธีกรรายการต่างๆตามช่องโทรทัศน์ นอกจากนี้เขายังเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ และได้รับฉายาว่าเป็น “ผู้กำกับร้อยล้าน” สำหรับผลงานกำกับที่ผ่านมาได้แก่ภาพยนตร์เรื่อง แหยมยโสธร1-2, บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 1-2, วงษ์คำเหลา, โป๊ะแตก, จั๊กกะแหล๋น และ ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน นอกจากนี้ยังมีผลงานทางการแสดงในภาพยนตร์อีกมากมาย ได้แก่ ภาพยนตร์ องค์บาก(2003), บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม(2004), เฉิ่ม(2005), ต้มยำกุ้ง(2005), แหยมยโสธร(2005) , บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม ภาค 2(2007), วงษ์คำเหลา(2009),โป๊ะแตก(2010), จั๊กกะแหล๋น(2011), ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน(2011), วอนโดนเตะ(2011) เป็นต้น
นาคร ศิลาชัย (รับบท อี๊ด)
หลายคนยังจดจำภาพตลกฮากลิ้งของหนุ่มคนนี้จากการรับหน้าที่เป็นพิธีกรร่วมใน รายการ ยุทธการขยับเหงือก ก่อนที่จะเห็นผลงานมากมายของ เปิ้ล นาคร ทั้งผลงานแสดงละครโทรทัศน์, โฆษณา, มิวสิกวิดีโอ, ผลงานเขียน หรือแม้แต่เป็นนักกีฬาแข่งเจ็ตสกี คว้าแชมป์มาแล้วนับไม่ถ้วน อีกทั้งผลงานแสดงทางด้านภาพยนตร์ ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง ขอชื่อ สุธี สามสี่ชาติ (2532), ฉลุย โครงการ 2 (2533), เจนนี่ กลางวันครับ กลางคืนค่ะ (2539), โกยเถอะเกย์ (2550), สาระแน ห้าวเป้ง!! (2552), สาระแนสิบล้อ (2553), สาระแนเห็นผี (2553) และ รักเว้ยเฮ้ย (2555)
แม็กกี้ อาภา (รับบท เนย)
ขึ้นชื่อว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เพราะเป็นลูกสาวคนสวยของ อรุณ ภาวิไล ที่มีฝีมือการแสดงได้อย่างดีเยี่ยม ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการแสดงละครโทรทัศน์ น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์, ละครเพลงหนึ่งในดวงใจ เดอะมิวสิกคัล แถมยังสวมบทบาทพิธีกรสาว CJ แม็กกี้ ของ Chic Channel 68 และเข้าสู่วงการภาพยนตร์ไทย ด้วยการประเดิมหนังเรื่องแรก คน-โลก-จิต(2555) ที่ต้องรับบทหนัก ทั้งเครียด แสนจะกดดัน แต่เธอก็สื่ออารมณ์ออกมาได้อย่างดี ล่าสุด แม็กกี้ ตัดสินใจพลิกคาแรคเตอร์สวมบทนางเอกหน้าทะเล้น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็นเธอรับบทสาวแว๊นส์ ใจกล้า บ้าผู้ชายกับหนังคอมิดี้-ไซไฟ “สูบคู่กู้โลก”
ภูมิ รังษีธนานนท์ (รับบท ป๋อง)
ก่อนหน้านี้เคยมีผลงานแสดงภาพยนตร์มาแล้ว เรื่อง มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย (2555) แต่ถึงจะไม่ได้รับบทเด่นเท่าไหร่นัก แต่ด้วยความหล่อที่เด่นเข้าตาผู้กำกับ เป้ นฤบดี จึงเลือกภูมิ เป็นพระเอกใน สูบคู่กู้โลก และด้วยความสามารถทางการแสดง ทำให้ในเรื่องนี้ เขาจึงต้องรับบทบาทถึง 2 คาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน นับว่าเป็นการประเดิมบทพระเอกครั้งแรก ที่นอกจากจะต้องเตรียมความพร้อมทางด้านการแสดงแล้ว ยังต้องเตรียมตัวรับมุกตลกจากรุ่นพี่หม่ำ จ๊กม๊ก และ เปิ้ล นาคร มาอย่างดีที่สุดอีกด้วย
ประวัติผู้กำกับ
นฤบดี เวชกรรม (ผู้กำกับ-เขียนบท)
เป้ นฤบดี จบการศึกษาปริญญาตรี คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เริ่มต้นทำงานในวงการภาพยนตร์ด้วยการเป็นผู้กำกับศิลป์ให้กับ มานพ อุดมเดช จาก กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน และยังเคยได้รับรางวัลกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม รางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง จากภาพยนตร์เรื่อง ฝากฝันไว้เดี๋ยวจะเลี้ยวมาเอา และเริ่มมีผลงานโฆษณา งานละคร ก่อนที่จะเริ่มมาสร้างความสนุกสนาน มันส์แบบฮาๆให้กับรายการ สาระแน ในฐานะเป็นทั้งผู้ร่วมก่อตั้งรายการ และควบคุมการผลิต ด้วยความตั้งใจอยากเป็นผู้กำกับ และรักงานสายภาพยนตร์ จึงหันมาสร้างภาพยนตร์และกำกับเอง ซึ่งผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกคือ สาระแน ห้าวเป้ง!!(2009) ที่กวาดรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท และตามมาด้วยภาพยนตร์เรื่อง สาระแนสิบล้อ(2010) และ สาระแนเห็นผี(2010)
ปัจจุบัน เป้ นฤบดี เป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท เดอะ พิพัลทรี จำกัด เดินหน้าลุยงานโปรดักชั่นเฮ้าส์อย่างเต็มสูบ โดยประเดิมผลงานชิ้นเอกด้วยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง สูบคู่กู้โลก แนวคอมิดี้-ไซไฟ ที่ดึงคนสนิท หม่ำ จ๊กม๊ก และ เปิ้ล นาคร มาประชันความสนุก ตลก ฮา แบบไร้ขีดจำกัด ในภาพยนตร์ครั้งนี้
กฤษณะ จิตรเนาวรัตน์ (เขียนบท)
ผลงาน>> สาระแนห้าวเป้ง, สาระแนสิบล้อ, สาระแนเห็นผี
สมยศ ศรีดา (ผู้ออกแบบงานสร้าง, กำกับศิลป์)
ผลงาน>> สาระแนห้าวเป้ง, สาระแนสิบล้อ, สาระแนเห็นผี
ทศพร พูนนารถ (ผู้ออกแบบเทคนิคพิเศษทางภาพ)
ผลงาน>> สาระแนสิบล้อ, สาระแนเห็นผี, อันธพาล, จันดารา
Post by: FB on October 16, 2012, 03:38:08 PM
บทบาท และคาแร็คเตอร์ใหม่ล่าสุด ที่รับแสดงใน สูบคู่กู้โลก เป็นอย่างไรบ้าง
รับบทเป็น อี๊ด เพื่อนรุ่นน้องของ พี่จ๊อด รับบทโดย พี่หม่ำ จ๊กม๊ก เราเป็นแก๊งมอเตอร์ไซค์ชอปเปอร์ อี๊ดจะขี่ชอปเปอร์ก้านยาว แล้วก็มีหลานชื่อ ป๋อง สำหรับ อี๊ด ในเรื่องจะชอบวางแผนทุกเรื่อง เป็นตัววางแผนการต่างๆ แล้วก็พาพี่จ๊อดไปร่วมกับแผนการด้วยตลอด แต่แผนการจะสำเร็จไหม แล้วแผนมันจะออกมาเป็นยังไง สนุกตรงนี้แหละ
เล่าเรื่องย่อ
แก๊งก้านยาวสูบคู่เนี่ย มันมาจากลูกสูบที่อยู่ในตัวมอเตอร์ไซค์ มันจะมีลูกสูบเข้า-สูบออกเป็นตัวสำคัญที่จะมีพลังทำให้รถขับเคลื่อนไปได้ สูบคู่ก็หมายความว่าตัวอี๊ดกับพี่จ๊อด 2 คน เป็นที่มาของสูบคู่ พวกเราใช้ชีวิตแบบแก๊งชอปเปอร์ไปเรื่อยๆ จนวันนึงดันไปติดหนี้ เฮียง้วน รับบทโดย พีท ทองเจือ ก็เลยเกิดเรื่องราวขึ้น เฮียง้วนตามมาทวงหนี้ เราก็เลยหนีหนี้จนเกิดการตามล่ากันชุดใหญ่ในเรื่อง ประเด็นสำคัญคือหนีหนี้ไป หนีหนี้มา ดันไปเจอสิ่งที่มวลมนุษยชาติคาดไม่ถึง มันคือมนุษย์ต่างดาว พยามบอกทุกคนแต่ไม่มีใครเชื่อ สุดท้ายเราก็เกิดความสัมพันธ์กับมนุษย์ต่างดาว แต่ต้องไปดูว่าเขามายังไง เราต้องสู้กับมนุษย์ต่างดาวยังไง แล้วเราสู้กับโลกนี้ที่กำลังจะเกิดภัยพิบัติ เกิดความสูญเสียมันเกิดจากใคร เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ต่างดาว หรือ มนุษย์ เราเอง จ๊อดกับอี๊ดจะกู้โลกได้หรือไม่ นั่นคือหน้าที่ของสูบคู่ที่จะต้องช่วยกันกู้โลก
“น้าอี๊ด” ในเรื่องนี้จะออกมาแนวๆ หรือเกรียนโลกขนาดไหนบ้าง
ก็คล้ายตัวของเปิ้ล นาคร จบการแสดงจากโรงเรียนนาครโดยตรง ไม่ได้เรียนการแสดงมาจากไหน เล่นยังไงมันก็ออกมาเป็นตัวของเปิ้ล นาครเองเหมือนเดิม จะให้แสดงเป็นตัวอื่นเราเขินนะ ก็แสดงเป็นตัวเราเองนี่แหละ แนวกล้าๆแต่ใจมะหมา เป็นแนวนี้แหละ เพียงแต่เปลี่ยนบทบาทอาชีพใหม่ เป็นแก๊งมอเตอร์ไซค์ชอปเปอร์ แก้ปัญหาต่างๆในเรื่อง แต่ก็แก้ไขสไตล์น้าอี๊ด เรื่องนี้น้าอี๊ด หนวดงามมาก แต่ความยากมันอยู่ที่เราต้องขี่ชอปเปอร์ มันไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ธรรมดา ไม่ใช่ฮาเลย์ เดวิดสัน หรือ ดูคาติ ถ้ารุ่นแบบนั้นยากไม่เท่าไหร่ แต่ว่านี่มันเป็นก้านยาว ยาวเกือบ 2 เมตร เอ่อ!..ไม่ใช่ทุเรียนนะครับ แต่เป็นมอเตอร์ไซค์ยาวถึง 2 เมตร ขับคันนี้ถึงขั้นปวดแขนเลยนะ แต่ก็มันส์อีกแบบนึงดีครับ เสียงดังกระฮึ่มมาก เวลาที่เราขี่บนถนนมันก็เพลินดีนะ เข้าใจเลยทำไมผู้ชายส่วนใหญ่ชอบขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามสถานที่ต่างๆ
เมื่อได้แสดงประกบคู่กับรุ่นพี่ ซุป’ตาร์ตลกสุดซี้ “หม่ำ จ๊กม๊ก” รู้สึกอย่างไรบ้าง
โอ้ย! เล่นคู่กับพี่หม่ำนี่ เคยฝันไว้เลยว่าชาตินี้ ถ้าเรามีบุญจริงๆนะ ขอให้มีโอกาสเล่นหนังกับพี่หม่ำสักเรื่องนึงเหอะ จะเป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูลของเรามาก จะเป็นเกียรติกับนามสกุลศิลาชัยมากที่ได้ฟีเจอริ่งกับตระกูลวงษ์คำเหลา พอได้เล่นจริงๆเมื่อไหร่จะปิดกล้องว่ะ โหว...พี่หม่ำ(หัวเราะ) เขาเกินมนุษย์อ่ะ เราเคยคิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ตลกทั่วไป เขาเป็นซุปตาร์นะ และจริงๆแล้วพี่หม่ำเป็นมนุษย์ต่างดาว เขาเป็นอะไรที่คิดแปลกอยู่ตลอดเวลา แบบตลกคนอื่นก็จะมีสูตรของเขาเล่น หนึ่ง สอง สาม ตึ่ง โป๊ะ!!! แต่พี่หม่ำเนี่ย หนึ่ง สอง และ พลิกไปไหนก็ไม่รู้ เราก็อ้าว...แล้วไงดีเนี่ย แต่ว่าเราเป็นคนชอบจังหวะแบบนี้ ชอบจังหวะที่คนคาดไม่ถึงเหมือนกัน มันก็เลยเกิดเคมีที่เรียกว่าลงตัว เป็นสูบ2สูบที่ขาดกันไม่ได้พอเวลาเล่นเฮ้ย!มันส์ดีว่ะ พี่หม่ำแปลกดี แปลกมนุษย์มะนา แล้วพอผู้กำกับเขาบอกบทมาอย่างนึงเขาจะยืนนิ่งแหละ เราก็เอาแล้วไง อาร์ตแล้ว ติสเข้าแล้ว สักพักนึงตึ๊ง!คิดมาใหม่เปลี่ยนนู่นเปลี่ยนนี่อะไรแบบนี้ เขาคิดตลอดเวลามิน่าทำไมเขาถึงเป็นซุปตาร์อันดับหนึ่งของประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ใช่ของไทยนะ ของไทยต้องเปิ้ล นาคร(ยิ้ม)
ร่วมงานกับ “หม่ำ จ๊กม๊ก” เป็นอย่างไรบ้าง
เวลาเข้าฉากร่วมกันทีไรมันก็จะเหมือนมีการเล่นเชิงกันตลอด พอบทมาแบบนี้เขาจะไปอีกแบบนึง เราก็คิดเตรียมไว้อย่างนึง แต่บางทีก็เตี๊ยมกัน บางทีเค้าก็เสนอมุกเรา ก็เฮ้ยเออเจ๋งว่ะ ผมไม่เล่นได้ไหม(หัวเราะ) มันไม่ใช่ มันไม่ใช่ผม บางทีเสนอมุกให้พี่หม่ำ พี่หม่ำเอาไปกินเฉยเลย ตลกด้วยอ่ะจำไว้เลยพี่หม่ำ หึ หึ
ฉากประทับใจของ “เปิ้ล นาคร” ปะทะ “หม่ำ จ๊กม๊ก”
ประทับใจฉากอาบน้ำด้วยกันครับ เป็นเรื่องของลูกผู้ชายชอปเปอร์ สูบคู่ที่ลงอ่างอาบน้ำด้วยกัน เราเล่นกันแบบเข้าขากันดี พี่หม่ำไม่ถือตัวด้วย เขาเป็นรุ่นพี่แต่อนุญาตให้เราทำอนาจารเขาได้หลายอย่าง อยากจะบอกว่าของพี่หม่ำน่ารัก(หึหึ) น่าหม่ำมากๆ(ทำท่ากัดปาก)
อีกฉากที่ประทับใจ คือ ฉากเราสองคนต้องขี่ชอปเปอร์ออกไปตามท้องถนน เท่อ่ะ เป็นฉากเปิดตัวแล้วเราก็ต้องแซงกันไปแซงกันมา ด้วยความที่มอเตอร์ไซค์ของพี่หม่ำหน้าไม่ยาวเท่ากับมอเตอร์ไซค์ของเรา เวลาแซงปาดหน้าเขาจะมาทับรถเราตลอด เราก็พยายามดิ้นไปดิ้นมาไม่ให้โดน แต่เขามั่นใจศักยภาพการขี่มอเตอร์ไซค์ของเขามาก แต่สังเกตเวลาเขาขี่ไม่เหมือนขี่ชอปเปอร์เลยนะ เหมือนอะไรต้องไปดูเอา(หัวเราะ) ล้อเล่นนะพี่หม่ำ...เขาเรียกตัวเขาเองว่าซุปตาร์ขาลง แต่ถ้าเมื่อไหร่หนังเรื่องสูบคู่กู้โลกเข้าฉาย เรา 2 คนจะกลายเป็นซุปตาร์ขาขึ้นแน่นอน อิอิ
กลายเป็นผู้กำกับสุดซี้ ไปแล้วระหว่าง เปิ้ล กับ เป้ กลับมาร่วมงานกันอีกแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง
ได้กลับมาร่วมงานกันอีก ก็ยังเป็นกองถ่ายที่สนุกมากครับ สำหรับเป้ เขากำกับเรามาตั้งแต่หนังเรื่องแรกของเขาเลย สาระแนห้าวเป้ง สาระแนสิบล้อ สาระแนเห็นผี ก็คนนี้แหละครับผู้กำกับคนเดียวกัน เจ้าของเดียวกันกำกับมาตลอด...แล้วก็เข้าใจทางการแสดงของเราอย่างดี เพราะฉะนั้น อารมณ์ต่างๆของหนังก็จะเป็นลายเซ็นต์เดียวกันของคุณเป้ นฤบดี เวชกรรม เราเองก็มีความสุขมากที่ได้ร่วมงานกับเขา ที่เขากำกับหนังให้เรา เป้ เป็นผู้กำกับที่เปิดโอกาสให้นักแสดงได้แชร์ไอเดียอย่างเต็มที่ เป้จะบอกว่าต้องการอารมณ์แบบไหน นักแสดงจะต้องตีโจทย์และทำความเข้าใจ พอทำการแสดงออกมาแล้ว ใช่ หรือ ไม่ใช่ เดี๋ยวเป้เขาจะบอกว่าต้องแบบนี้นะ แบบนั้นนะ ผมประทับใจการทำงานของเป้ เวลาได้ทำงานร่วมกันแล้วเราจะรู้สึกรีแลกซ์ และสนุกมากครับ
นอกจากพี่หม่ำ จ๊กม๊ก แล้วยังมีนักแสดงหน้าใหม่ คู่พระเอก-นางเอกของเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง
น้องแม็กกี้ กับ น้องภูมิ สำหรับแม็กกี้ อาภา น่ารักดี เลือดพ่ออ่ะนะ เลือดศิลปิน คุณอรุณ ภาวิไล เห็นหน้าน้องแล้วเหมือนได้คุยกับพ่อเขาอ่ะ (หัวเราะ) ก็เป็นเด็กที่น่ารักและมีพรสวรรค์มาก เหมือนเขาเป็นมาแต่เกิด เพราะว่าพ่อเขาเป็นศิลปิน ลูกสาวเลยได้มาเต็มๆเวลาสั่งให้เล่นก็เล่นได้เลย เขามีความน่ารักแบบต่างจังหวัด สวยบ้านนอก สวยแบบอุทัยทิพย์ เข้ากับตัวละครที่แสดงเลย นางงามต่างจังหวัด(ยิ้ม)
ส่วนภูมิ เป็นพระเอกเรื่องแรกเต็มตัว ตอนแรกเราก็แอบคิดนะ น้องคนนี้จะเล่นไหวเหรอ หน้าตามันช่าง...แต่พอได้คลุกคลีกันบ่อย อยู่ด้วยกันมากๆ ก็เฮ้ยหน้าภูมิมันเหมือนมนุษย์ต่างดาวนี่หว่า เป็นพระเอกที่เหมือนมนุษย์ต่างดาวมาก กระดิกหูได้อีกด้วย เวลายิ้มจะไม่เหมือนมนุษย์ที่เราเห็นทั่วไป จะมีรอยยิ้มเป็นมนุษย์ต่างดาว ส่วนตัวของภูมิเองก็มีความเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวมีจริง อายุแค่ 17 ปีเอง แต่แรงเยอะมาก ว่างไม่ได้ ต้องเดาะบอลใส่ผนังห้องนอน เราแทบไม่เป็นอันนอนเลย เดาะตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตอนกลางคืน เปิดประตูไปถามเฮ้ยทำไรว่ะภูมิ น้องตอบว่า อ่อ!ผมเตะบอลอัดผนังครับ อายุ 17 ปี วัยกำลังเดาะบอลเลย(หัวเราะ) ไฮเปอร์มาก น่ารักอ่ะ ชอบภูมิเดาะบอล
ความน่าสนใจ และความสนุกสนาน ที่จะได้ชมในภาพยนตร์ “สูบคู่กู้โลก”
แรกเลยเราตั้งใจทำหนังตลก แน่นอนหนังตลกเราชอบโดยนิสัยแล้ว เปิ้ล กับ หม่ำ เราสองคนไม่ชอบเรื่องเครียด แต่ประเด็นที่เป้ ผู้กำกับ เขาบอกมาคือ พี่หม่ำ กับ เปิ้ล จะต้องเจอมนุษย์ต่างดาวนะ เราก็เฮ้ย!เอางั้นเลยหรอ แล้วมนุษย์ต่างดาวมีจริงเหรอ ด้วยความเชื่อของเป้ ผู้กำกับด้วย เขาทุ่มเทเวลาศึกษาและพูดคุยจากแหล่งข้อมูล ทั้ง ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน ผู้เชื่อ และติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้, พีท ทองเจือ ที่เชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาว เขาพยามไปศึกษาอย่างจริงจัง และโดยส่วนตัวเป้ เขาก็มีความเชื่อเรื่องนี้อยู่แล้วด้วย มันน่าสนุกตรงที่ถ้ามนุษย์ต่างดาวมาโลกเรา แล้วเราจะคุยกับเขายังไง แล้วเปิ้ลกับหม่ำจะทำยังไง จะคุยหรือจะยิงให้ตายไปเลยดีนะ น่าสนใจตรงนี้แหละครับ พอได้ดูแล้วก็จะกลับมานั่งคิดกันต่อ ขนาดโลกเรายังมีสิ่งมีชีวิตอยู่ได้เลย แล้วทำไมก้อนหินดวงอื่นๆที่ล้อมรอบดวงอาทิตย์ในจักวาลเรานี้จะไม่มีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นบ้างล่ะ หรือเราอยู่กันไกลเกินไป ยานอวกาศเราไปไม่ถึงหรือเปล่า เออ!น่าคิดนะ
ฝากผลงาน สูบคู่กู้โลก
อยากให้ชมกันเยอะๆนะครับ เรามาร่วมใช้วิจารณญาณกันดู และลองถามตัวเองกันว่า เชื่อหรือไม่มนุษย์ต่างดาวมีจริง ไม่ใช่หนังสารคดี แต่เป็นหนังที่สนุก ที่มีสไตล์ความบันเทิง ตามแบบฉบับของผู้กำกับ เป้ นฤบดี รวมถึงนักแสดง พี่หม่ำ กับ เปิ้ล นักแสดงท่านอื่นๆ ...จำไว้นะ ต้องมาดูกันครับ
FYI: เปิ้ล นาคร
คุณเชื่อไหมมนุษย์ต่างดาวมีจริง
- กดไลท์ให้ล้านครั้ง เชื่อว่าต้องมีแน่นอน เพราะขนาดโลกเราเป็นก้อนหินก้อนนึงที่อยู่รายล้อมดวงอาทิตย์ ที่เราอุปโหลกเรียกันเองว่า โลก แล้วตั้งชื่อก้อนหินก้อนนั้นว่าดาวพฤหัส ดาวอังคาร ดวงจันทร์ แล้วก้อนหินก้อนนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตอยู่เลย แล้วทำไมก้อนหินก้อนนั้นจะมีสิ่งมีชีวิตไม่ได้ล่ะ
มนุษย์ต่างดาวในจินตนาการของคุณเป็นแบบไหน
- คิดว่าน่าจะเป็นวุ้นๆ หน้าจะเหมือนเฉาก๊วย ดำๆหยุ่นๆเด้งๆดึ๋งๆ เขาเหนือมนุษย์ไปแล้ว ไม่ต้องใช้กระดูก ไม่ต้องใช้ผิวหนัง ไม่ต้องใช้กล้ามเนื้อ แล้วไง เขาจะเป็นชากังราว ส่วนตาอาจจะอยู่ข้างในก็ได้เรามองไม่เห็น บางทีเราคิดว่าเขาต้องมีตาเหมือนมนุษย์ แต่เขาอาจจะไม่มี เขาเป็นเฉาก๊วย เชื่อดิมนุษย์ต่างดาวเหมือนเฉาก๊วย
ถ้าคุณได้เจอมนุษย์ต่างดาวตัวเป็นๆล่ะ
- อยากจะบอกว่าเรารักกันนะ อย่าเกลียดกันนะ เรามีความรู้สึกดีๆต่อกันนะ แล้วเขาก็จะงงๆ เพราะเขาเป็นเฉาก๊วย(หัวเราะ)...เรารักกันนะ อ่ะเฉาก๊วยน่ะ
วันหนึ่งคุณตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าคุณกลายเป็นมนุษย์ต่างดาว มีความสามารถก็อปปี้เป็นอะไรก็ได้ คุณจะเลือกก็อปปี้เป็น
- อยากเป็น.....นึกไม่ออกอ่ะ!
Post by: FB on October 19, 2012, 02:44:30 PM
มาแล้วจ้า...โปสเตอร์สุดฮาจากภาพยนตร์ “สูบคู่กู้โลก” ที่เตรียมจ่อคิวฉาย 8 พฤศจิกายนนี้แล้ว โดยนายแบบสุดหล่อที่ปรากฏโฉมบนโปสเตอร์จะเป็นใครไปเสียมิได้ ถ้าไม่ใช่ คู่หูแสบซ่า “หม่ำ จ๊กม๊ก กับ เปิ้ล นาคร” พร้อมด้วยผู้ร่วมขบวนการ คู่พระเอก-นางเอก “ภูมิ รังษีธนานนท์” และ “แม็กกี้ อาภา” นอกจากนี้ยังมี ผู้กำกับเป้ นฤบดี ตามมาให้กำลังใจทีมนักแสดง กับการถ่ายโปสเตอร์ประกอบภาพยนตร์ในครั้งนี้ ณ Box Shot Studio
ซึ่งภารกิจของวันนี้เริ่มจากนักแสดงรุ่นพี่ “หม่ำ-เปิ้ล” ที่พอมาถึงก็ถูกจับเปลี่ยนเป็นชุดคาแร็คเตอร์สวมบทบาท จ๊อด-อี๊ด แห่งแก๊งสูบคู่ พร้อมเข้าฉากวาดลีลาการแอ็คท่าโชว์นักแสดงรุ่นน้องได้ชมกันก่อน ตั้งแต่มาดเท่ ยันมาดฮา แต่ท่าที่ทำให้ทั้งคู่ถึงกับเกิดอาการหอบขึ้นนั้น เป็นท่ากระโดดที่กว่าจะได้ภาพสวยถูกใจทีมอาร์ตไดเรคเตอร์นั้น กระโดดกันมิใช่น้อยๆ เลย โธ่! ไม่สงสารกันบ้างเลยอายุจะห้าสิบกันแล้วนะจ้ะ แต่ด้วยสปิริตนักแสดงขั้นเทพแล้วสั่งให้กระโดด หรือจะตีลังกา ก็พร้อมเสมอแหละน่า จากนั้นถึงคิวนักแสดงรุ่นน้องกันบ้างพระเอกหนุ่ม ที่ต้องร้องเพลงว่า ฉันมาไกล มาไกลเหลือเกิน มาจากต่างดาวนู้นน ภูมิ รังษี ธนานนท์ ด้วยท่าโพสต์มาดนิ่งๆ หล่อเนี๊ยบ ไม่ต้องใช้แรงงานเยอะอะไรมากนัก ทั้งที่อยากจะออกอาการโชว์ท่าฮา ฮา บ้าง นั่นเพราะว่าตัวจริงหนุ่มภูมิอยู่นิ่งๆ เป็นกับเขาที่ไหนกัน ทีมงานถึงขั้นการันตีว่าซนเหมือนลิงเลยทีเดียว ปิดท้ายด้วยสาวน้อยสวยใสสไตล์ยูทิป แม็กกี้ อาภา พอจะทำให้ทีมงานกระชุ่มกระชวยในการทำงานขึ้นมากันบ้างกับลีลาโพสต์ท่าน่ารัก น่าหยิกซะจริงเชียวนะ ด้านผู้กำกับเป้ นฤบดี ก็ขอแอบตามมาถึงสตูดิโอถ่ายทำ เพื่อแอบดู เอ้ย!เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทีมนักแสดงกันสักหน่อย ก่อนแยกย้ายกลับบ้าน หม่ำ จ๊กม๊ก เล่าถึงเบื้องหลังการถ่ายโปสเตอร์ในครั้งนี้ว่า
“สำหรับเรื่องนี้ผมรับบทเป็น จ๊อด แฮนด์ลิง ส่วนเปิ้ลเขารับบทเป็น อี๊ด ที่คอยแต่จะหาเรื่องมาให้เราตลอดเวลา ซึ่งตัวจริงๆ เปิ้ลก็เป็นแบบนั้นแหละคอยหาเรื่องมาให้ (ตึงโป๊ะ!) เราต้องเล่นเป็นคู่หูกัน แล้วก็มีหลานชื่อ ป๋อง ที่มักจะชอบทำตัวแปลกๆ หนังเรื่องนี้เป็นจะเป็นแนวคอมิดี้-ไซไฟ ที่มีมนุษย์ต่างดาวร่วมแสดงด้วยในเรื่องนี้ ส่วนวันนี้มาถ่ายโปสเตอร์ ทีมงานสั่งให้กระโดด กระโดดกันจนหอบ อารมณ์เหมือนวิ่งหนีมนุษย์ต่างดาว แต่ผมว่าคล้ายๆ วิ่งหนีปอปมากกว่านะ (ยิ้ม) ภาพจะออกมาเป็นยังไงต้องดูกันเองครับ ส่วนหนังจะเข้าฉาย 8 พฤศจิกายนนี้ ก็ฝากติดตามกันด้วย ฮาแน่”
ส่วน เปิ้ล นาคร ขอแอบแซวรุ่นพี่หม่ำ พร้อมทิ้งท้ายฝากผลงานว่า “เพราะว่าเป็นภาพยนตร์ที่ออกแนวตึงตังที่ต้องผจญกับมนุษย์ต่างดาว จึงต้องวิ่งหนีบ้างต่อสู้กันบ้างครับ ขนาดน้องภูมิ น้องแม็กกี้ กระโดดยังเหนื่อยเลยครับ แล้วคนอายุปูนนี้แบบพี่หม่ำจะไม่เหนื่อยได้ไง ฝากติดตามด้วยครับ เปิ้ลกับพี่หม่ำจะกู้โลกกันอย่างไร ชีวิตตัวเองยังกู้แทบไม่ได้แต่ดันทะลึ่งจะกู้โลกกัน ต้องดูให้ได้นะครับ”
ภาพยนตร์ “สูบคู่กู้โลก” นำทีมโดย “หม่ำ จ๊กม๊ก-เปิ้ล นาคร” ที่จะชวนคุณพร้อมใจกันกู้โลกด้วยเสียงหัวเราะ 8 พฤศจิกายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
Post by: FB on October 19, 2012, 02:47:59 PM
แก๊งมอเตอร์ไซค์-มนุษย์ต่างดาว-ภัยพิบัติ ทั้ง 3 สิ่งนี้ ถูกนำมาเชื่อมโยงกันแล้ว มันกลายเป็นภาพยนตร์คอมิดี้-ไซไฟ และเมื่อมนุษย์ต่างดาวที่ต้องลงมาบนโลกมนุษย์ แทนที่จะไปอยู่ในองค์การนาซ่า แต่กลับมาอยู่กับมนุษย์สุดเพี้ยน แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น พบกับการปะทะกันครั้งแรกของซุป’ตาร์ตลก ระหว่าง หม่ำ จ๊กม๊ก VS. เปิ้ล นาคร คู่หูแห่งแก๊งสูบคู่ ที่พร้อมจะมาป่วนโลกกันให้ฮากลิ้ง พร้อมกันตุลาคมนี้
เหตุผลตัดสินใจประชันความฮากับนักแสดงรุ่นน้อง เปิ้ล นาคร ในภาพยนตร์ล่าสุดครั้งนี้
ก็ใช้เวลาตัดสินใจอยู่หลายเดือนนะ เป็นช่วงที่ผมพักยังไม่ได้เริ่มโปรเจ็คต์หนังเรื่องใหม่ของตัวเองด้วย ทั้งเป้ ผู้กำกับ และเปิ้ล ก็เอาบทมาให้อ่านก่อน ซึ่งอ่านแล้วมันน่าสนใจดีมันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเพื่อนรัก หลานรัก แล้วก็ตัดเป็น Pilot หนังมาให้ดูอีกด้วย ดูแล้วเออหนังตลกแปลกดีนะ จึงตัดสินใจครับ
บทบาทครั้งใหม่ของ หม่ำ จ๊กม๊ก ใน สูบคู่กู้โลก เป็นอย่างไรบ้าง
เป็นเจ้าของอู่มอเตอร์ไซค์ ดัดแปลงมอเตอร์ไซค์ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ชื่อ จ๊อด ฉายา จ๊อด แฮนด์ลิง มีเพื่อนรุ่นน้องชื่อ ไอ้อี๊ด รับบทโดยเปิ้ล นาคร คาแร็คเตอร์ของจ๊อด จะเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ เป็นคนทำมาหากินมากกว่า แต่ว่าเรื่องที่มันเกิด เกิดเพราะไอ้อี๊ด มันชอบหาเรื่องมาให้ตลอด ชอบพาไปนอกลู่ นอกทางจนมีปัญหาหลายๆ อย่าง ทำให้เราปวดหัว มีหลานชื่อไอ้ป๋อง หลานก็ดันชอบทำตัวลึกลับ เราก็จะไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรของมันอีก
บทของ จ๊อด มีความคล้ายตัวตนของ หม่ำ จ๊กม๊ก ด้วยไหม
ก็คล้ายนะ ส่วนตัวผมก็ไม่ชอบเล่นการพนันอยู่แล้วด้วย แล้วก็รักเพื่อน รักพวกพ้อง ไปไหนไปกันตลอด อย่างในเรื่องก็จะโดนไอ้อี๊ดคอยกวนตลอด ชีวิตจริงไอ้เปิ้ลมันก็ชอบแหย่ ชอบปีนเกลียวรุ่นพี่อยู่แล้ว
เรื่องราวความสนุกของ สูบคู่กู้โลก
เป็นหนังตลก ที่ว่าด้วยเรื่องราวความผูกพันระหว่างหลานชาย และเพื่อนรุ่นน้อง ไอ้อี๊ด ที่คอยดูแลเป็นห่วงเรานะ แต่ก็ไม่รู้ทำไมมันชอบกวนเราตลอด แถมชอบพาเราไปทำอะไรที่เสียๆ หายๆ พาเราไปในทางที่ไม่ดีนั่นเอง ซึ่งจ๊อดเองก็มักจะเชื่อไอ้อี๊ดมันอยู่ตลอด ก็พาไปเล่นการพนัน ติดเงินเขาบ้าง เป็นหนี้ก้อนโต จนถูกตามทวงหนี้ถ้าไม่ใช้เงินคืนก็จะโดนยึดรถมอเตอร์ไซค์ ยึดอู่รถ เรื่องราวทั้งหมดมันเกิดขึ้นก็เพราะไอ้อี๊ดคนเดียวเลย ส่วนไอ้ป๋องหลานชายนั้นก็มีเรื่องวุ่นวายอีก ทำตัวลับๆ ล่อๆ จนจ๊อดกับอี๊ดรู้ความจริงว่าไอ้ป๋อง มันเป็นมนุษย์ต่างดาว ที่ลงมาบุกโลก มันก็วุ่นวายไปหมดล่ะทีนี้ มันสนุกตรงนี้แหละ
ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้จะได้เห็น พี่หม่ำ ในลุคสิงห์นักบิดมอไซค์กันอย่างแน่นอน
ใช่ต้องขี่มอเตอร์ไซค์แบบชอปเปอร์ เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่จ๊อดเขาแต่งขึ้นมาเองเท่ๆ ในเรื่องนี้ เพราะจ๊อดเขาทำอู่รถนี่ รับตกแต่งมอเตอร์ไซค์ทุกรุ่นทุกยี่ห้อด้วย ผมเองก็ขี่มอเตอร์ไซค์เป็นอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้จับมันมานานเกือบ 20 ปีเลย ขี่แปปเดียวมันก็ได้อยู่แล้วแต่มันไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ธรรมดาทั่วไป มันก็ยากนิดหน่อยขี่ได้ประมาณ 10 กิโลเมตร ขาเริ่มสั่นล่ะ ส่วนเรื่องเสื้อผ้า รองเท้า ก็จะเฮ้วๆ หน่อยนะ กางเกงยีนต์ขาเดฟ เสื้อหนัง ก็จะออกมาเท่ๆ หน่อย มีหมวกกันน็อค ใส่ถุงมือ เครื่องประดับครบแบบฉบับนักขี่มอเตอร์ไซค์เลยล่ะ
ฉากเด็ด มุกฮา ในหนังที่คนดูไม่ควรพลาดเลย
เป็นฉากอาบน้ำในอ่าง เรื่องมันเกิดขึ้นก็คือไอ้อี๊ดชวนเราไปเล่นการพนัน เราก็ไม่อยากไปแต่ก็ต้องยอมมัน แล้วมันก็ดันเอาเงินเราไปเล่นจนเสียหมดอีก ก็เลยโมโห งอน พอกลับมาบ้านไอ้อี๊ดมันก็เลยไถ่โทษด้วยการอาบน้ำให้ อาบไปอาบมาเหมือนคู่เกย์กันมาก แล้วป๋องหลานชายก็ดันมาเห็นพอดีอีก ส่วนเปิ้ลมันก็เล่นจริงจังมาก ถูรักแร้ให้ เราก็จั๊กกะจี้ มันเล่นจริง หยิกจริง ใช้เวลาถ่ายประมาณ 2 เทคได้ อ่อ มันจับจริงด้วย ต้องไปดูในหนังมันจับอะไร
มีเรื่องมนุษย์ต่างดาวเข้ามาด้วย จึงมีฉากที่ต้องใช้ CG เยอะอยู่เหมือนกัน ตอนถ่ายทำเป็นอย่างไรบ้าง
ถ่ายเยอะอยู่ ต้องถ่ายกับฉากหลังที่เป็นบลูสกรีน เพราะเอาไปทำ CG อีกทีนึง แล้วมันไม่ได้ถ่ายกันง่ายๆนะ ถ้าเป็นไดอะล็อคเราพูดก็เสร็จ แต่นี่ในเรื่องการวางจุดมาร์คมันจะต้องตรงและชัดเจนมาก ทำให้การถ่ายมันช้า ซึ่งบางทีผมเองก็แอบหงุดหงิดอยู่บ้างเล็กน้อย
นอกจากประกบคู่ เปิ้ล นาครแล้ว เรื่องนี้ยังได้ดวนมุกกับนักแสดงรับเชิญ จตุรงค์ มกจ๊ก อีกด้วย
ใช่ รงค์มาเล่นรับเชิญ รับบทเป็นตำรวจจอมโหด และก็เป็นเพื่อนกับจ๊อดในเรื่อง เขามาสืบหาของบางอย่างที่หายไป ไอ้เราก็ไม่รู้เรื่อง แต่ชาวบ้านดันไปแจ้งความ จึงมีการลงไม้ลงมือกัน เราก็เล่นคิวมุกตลกสด ซึ่งก็ออกมาฮาดีอีกแบบนึง
การร่วมงานกับ เปิ้ล นาคร ในเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง
เปิ้ลมันก็เล่นของมันไปเรื่อย เราก็คอยรับและคอยส่ง เป็นคนขี้เล่นไง เราก็พอจะรู้ทางเปิ้ลอยู่แล้ว เป็นมุกของเปิ้ลแหละ มันเล่นแล้วเราก็พลอยรำคาญไปด้วยเวลาเล่นไปในหนังน่ะ ต้องไปดูบางทีก็หลุดพูดจริง มันจะเล่นตลอด เล่นไม่ดูกาลเทศะ เล่นไม่ดูว่าหนังจะเป็นยังไง อารมณ์หนังถึงไหน บางทีอารมณ์ซีเรียสเปิ้ลมันก็จะเล่น อารมณ์หัวเราะมันก็จะเล่นตามประสามันแหละ มุกออกมาก็จะคล้ายๆ กวนๆ แบบฉบับเปิ้ลนั่นแหละ แต่เป็นการร่วมงานที่สนุกดีนะ ปกติเรา 2 คน ก็สนิทกันอยู่แล้ว ร่วมงานก็ไม่เครียด ไม่ค่อยซ้อมบทกันอยู่แล้ว ต่างคนต่างไม่ชอบซ้อมแต่เราจะเข้าขากันได้ดีมาก
พระเอกใหม่ สุดหล่อ ภูมิ รังษีธนานนท์ มารับบทเป็นหลาน และยังต้องเข้าฉากด้วยกันบ่อย มีหลุดฮาบ่อยไหม
ภูมิเป็นน้องใหม่ที่พูดอะไรเข้าใจง่าย มารับบทป๋อง หลานชายของจ๊อด เวลาเราอธิบายน้องเขาเข้าใจได้ดีเลยนะ ผมว่าการแสดงเขาโอเคเลย แต่ก็มีหลุดยิ้ม หลุดขำ ก็เพราะไอ้เปิ้ล นั่นแหละ ที่มันเล่นตลอด เล่นไปเรื่อย แล้วเราก็เล่นไปเรื่อยด้วย ภูมิก็เลยหลุด หลุดอยู่แล้ว
เล่าถึงการร่วมงานกับผู้กำกับเป้ นฤบดี เป็นอย่างไรบ้าง
ผมกับเป้ เรารู้จักกันมาก่อนแล้ว ตั้งแต่ยุคสาระแน นั่งยางโชว์ เราก็ร่วมงานกันมาบ่อยอยู่ เป้เขาเป็นคนฉลาดเลยแหละ และเป็นคนเข้าใจอารมณ์ศิลปะภาพยนตร์ได้อย่างดี เวลาที่เขาต้องการอะไรเขาก็จะบอกเรา อารมณ์ซีนนี้ต้องเป็นประมาณนี้นะพี่ หรือซีนนี้มันต้องซีเรียส อยากให้ออกซึ้งๆ หน่อย เขาจะบอกตลอดถ้าเขาต้องการให้หนังสื่อออกมาเป็นแบบไหน
ฝากผลงาน
สูบคู่กู้โลก ผลงานกำกับของเป้ นฤบดี และนักแสดง หม่ำ เปิ้ล ติดตามชม 8 พฤศจิกายนนี้ครับ
FYI: หม่ำ จ๊กม๊ก
คุณเชื่อไหมมนุษย์ต่างดาวมีจริง
- เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง แต่ถ้ามีจริงก็น่าจะโผล่มาให้เห็นบ้าง มีแต่ข่าวลือ แต่ลึกๆก็รู้สึกว่าน่าจะมี เพียงเราไปไม่ถึงเขาเอง
มนุษย์ต่างดาวในจินตนาการของคุณเป็นแบบไหน
- ก็คงเหมือนเรานี่แหละ แต่หน้าตาอาจจะแปลกกว่า ลักษณะน่าจะคล้ายคนเรานี่แหละ
ถ้าคุณได้เจอมนุษย์ต่างดาวตัวเป็นๆล่ะ
- จะถามว่าผู้หญิงบ้านเขาสวยไหม หากสวยพาผมไปอยู่ด้วย
วันหนึ่งคุณตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าคุณกลายเป็นมนุษย์ต่างดาว มีความสามารถก็อปปี้เป็นอะไรก็ได้ คุณจะเลือกก็อปปี้เป็น
- ณเดชน์ คูกิมิยะ อยากหล่อบ้าง
Post by: FB on October 26, 2012, 05:04:52 PM
ขึ้น ชื่อว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เพราะเป็นลูกสาวคนสวยของ อรุณ ภาวิไล ที่มีฝีมือการแสดงได้อย่างดีเยี่ยม ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการแสดงละครโทรทัศน์ น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์, ละครเพลงหนึ่งในดวงใจ เดอะมิวสิกคัล แถมยังสวมบทบาทพิธีกรสาว CJ แม็กกี้ ของ Chic Channel 68 และเข้าสู่วงการภาพยนตร์ไทย ด้วยการประเดิมหนังเรื่องแรก คน-โลก-จิต(2555) ที่ต้องรับบทหนัก ทั้งเครียด แสนจะกดดัน แต่เธอก็สื่ออารมณ์ออกมาได้อย่างดี ล่าสุด แม็กกี้ ตัดสินใจพลิกคาแร็คเตอร์สวมบทนางเอกหน้าทะเล้น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็นเธอรับบทสาวแว๊นส์ ใจกล้า บ้าผู้ชายกับหนังคอมิดี้-ไซไฟ “สูบคู่กู้โลก”
ประเดิมบทนางเอกคอมิดี้เรื่องแรก ครั้งแรกเลย เป็นอย่างไรบ้าง
ใช่ ค่ะ ครั้งแรกกับบทตลกๆ ในสูบคู่กู้โลก แม็กกี้ รับบทเป็น เนย คาแร็คเตอร์จะเป็นเด็กสาวแว๊นส์ๆ แก่นๆ ใจกล้า กล้าคุย กล้าแซวผู้ชาย และมีความมั่นใจในความสวยของตัวเองมาก แล้วจะเป็นหัวโจกของกลุ่มเพื่อนสาว ในแก๊งก็จะมีกันอยู่ 3 คน คือ เนย ยุ้ย และน้ำ ไปไหนเราก็จะไปด้วยกันตลอด ก็รู้สึกดีใจที่ได้เล่นตลก เพราะรู้สึกเป็นธรรมชาติและสนุก ก่อนหน้านี้แม็กกี้เล่นหนัง คน-โลก-จิต ก็เป็นแนวดราม่า ต้องใช้อารมณ์สื่อออกมาค่อนข้างเยอะเลย สำหรับเรื่องสูบคู่กู้โลก จะแตกต่างกันกันมากค่ะ เรียกว่าพลิกบทบาทจากหนังที่เคยแสดงมาเลยค่ะ (ยิ้ม) เรื่องนี้รับรองฮาแน่นอนค่ะ
เรื่องราวมันเป็นไงมาไงบ้าง
แก๊ง 3 สาวของเนยเนี่ย แว๊นส์มอเตอร์ไซค์จนเกิดเรื่องน่ะสิค่ะ แต่ก็ทำให้เนยได้เจอกับป๋อง หนุ่มหล่อ เพื่อนสมัยเด็กที่กลับมาเจอกันบังเอิญอีกครั้ง เนยก็เลยจัดการจีบป๋อง โทรหา ชวนไปเดทด้วยกัน ซึ่งป๋องเขาเป็นหลานของน้าจ๊อดกับน้าอี๊ด จนวันนึงความจริงเปิดเผย ป๋อง คือมนุษย์ต่างดาวที่ลงมาบุกโลกมนุษย์ แล้วกลายเป็นว่าเนยกำลังรักอยู่กับมนุษย์ต่างดาว ต้องไปลุ้นกันค่ะว่าความรักระหว่างมนุษย์โลกกับมนุษย์ต่างดาวจะเป็นยังไง จะฟีเจอริ่งกันยังไง ต้องติดตามชมกันค่ะ
ลุคของ “เนย” ใน “สูบคู่กู้โลก” เป็นอย่างไรบ้าง
ลุ คของเนยจะต้องแต่งหน้าจัดจ้าน ทาปากแดง ทาหน้าวอกๆ หน่อย ตามสไตล์สาวแว๊นส์ เท่านั้นไม่พอ ยังต้องเดินขาโก่งๆ หัวเข่าต้องดูดำๆ หน่อย แล้วก็ต้องแว๊นส์ให้ไป คือต้องขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยค่ะ ซึ่งแม็กกี้เคยขี่แต่จักรยาน ส่วนมอเตอร์ไซค์ถ้าจำไม่ผิดเคยลองบิดๆ อยู่ 2 ครั้ง พอมาเล่นเรื่องนี้ก็ต้องมีการซ้อมขี่กันก่อนแสดงจริง มันก็ยากตรงที่มอเตอร์ไซค์มันหนัก เราต้องประคองให้ไม่ล้ม โชคดีที่ไม่ล้มเลยค่ะ
“เนย” กับ “แม็กกี้” เหมือนหรือแตกต่างกันมากไหม
จริงๆ แม็กกี้เป็นคนแต่งตัวเรียบร้อยกว่าเนยเยอะเลยนะคะ ในเรื่องเนยจะใส่กระโปรงสั้น นุ่งกางเกงขาสั้น แถมมั่นใจความสวยของตัวเองมาก สวยแบบไม่แคร์สื่อเลย แก๊งเพื่อนๆ ก็ช่วยสนับสนุนเรื่องการจีบผู้ชาย ยุให้ชวนหนุ่มออกเดทตลอด แต่ตัวจริงแม็กกี้ขี้อายนะ เรียบร้อยกว่าเนยมากค่ะ (555)
ถ้าอย่างนั้นคงต้องเตรียมตัวทำการบ้านกับบท จีบผู้ชาย มาพอสมควรเลยสิ
โอ้ ยยย.. (ลากเสียงยาวมาก) ฉากที่จะต้องเข้าไปจีบผู้ชายเนี่ย เขินค่ะ เขินมาก เราเป็นผู้หญิง แล้วเราก็ไม่เคยที่จะต้องไปจีบใครเขาก่อน แต่ว่าด้วยบทบาทและเนื้อเรื่องเราต้องเข้าหาก่อน ก็ฮึดสู้ เอาว่ะลองดู แต่ก็เตรียมตัวมานะ แม็กกี้ดูจากเพื่อนๆ บ้าง แล้วก็ถามเพื่อนๆ คอยสังเกตวัยรุ่นต่างจังหวัดเขาเป็นกันยังไงนะ เพราะในเรื่อง เนย เป็นเด็กนักเรียนพาณิชย์ต่างจังหวัด ดูว่าการแสดงออกเป็นประมาณไหน เวลาเขาเป็นแฟนกันเขาทำยังไงกันบ้าง
จีบผู้ชายอย่างเดียวหรอ มีฉากกุ๊กกิ๊กด้วยไหมเรื่องนี้
เลิฟ ซีนเบาเบา กอดกัน เฉพาะฉากกอดก็ถ่ายกันอยู่ 18 เทคเห็นจะได้ค่ะ (555) ก็อย่างที่บอกแม็กกี้เขิน พอเขินก็เลย 18 เทค นี่แค่เฉพาะฉากกอดอย่างเดียวนะคะ เป็นฉากหลังจากที่ป๋องหายตัวไปแล้วกลับมาอีกครั้ง เนยมาเจอที่อู่รถน้าจ๊อด น้าอี๊ด ด้วยความดีใจ เนยจะต้องวิ่งกระโดดกอดป๋องค่ะ ซึ่งบางทีมันก็อยู่ที่จังหวะวิ่ง จังหวะกระโดดกอดอีก หรืออยู่ๆก็มีเสียงเพลงลูกทุ่งจากรถที่วิ่งๆ อยู่แถวนั้น ก็ต้องเทคกันใหม่หลายรอบค่ะ ส่วนป๋องก็ได้กอดฟรีไป (555) แต่ฉากกุ๊กกิ๊กเยอะกว่านี้ก็มีนะคะ เป็นตอนที่ป๋อง มนุษย์ต่างดาวเขาเริ่มจะหมดพลังแล้ว แล้วเขาถามเนยว่ามนุษย์โลกเขาเติมพลังกันยังไง เนยก็เลยจุ๊บ ซึ่งฉากนี้ก็ถ่ายกัน 6 ชั่วโมง ถ่ายกันยันเช้าเลยค่ะ เขิน และพยายามทำใจจุ๊บแรกของแม็กกี้เลยนะ ไปดูเอาในหนังดีกว่าค่ะ (ยิ้ม)
ประทับใจฉากไหนเป็นพิเศษไหม
ฉาก เปิดตัว เนย นี่แหละค่ะ ขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนสาม แว๊นส์มากับแก๊งเพื่อนเลยค่ะ เพิ่งเลิกเรียนชุดนักเรียนก็มินิสเกิร์ตสีแดงสดมาก ก็ดันมาแหกโค้งชนกับมอเตอร์ไซค์ของป๋อง และจักรยานเสือหมอบของพี่เชาเชา ฉากนี้ได้ปลดปล่อยอารมณ์เต็มที่เลยค่ะ ด้วยการต่อปากต่อคำกับพี่เชาเชามันส์มาก เถียงกันไปมายิงมุกกันดุเด็ดเผ็ดมันส์ พี่เชาเชาเขาก็จะไม่ยอม สนุกมากค่ะเหมือนได้ระบายอารมณ์ลงในฉากนี้ (555)
ร่วมงานกับ ภูมิ รังษีธนานนท์ เป็นอย่างไรบ้าง
จริงๆ เรามีการเวิร์คชอป ทำความรู้จักกันก่อนอยู่แล้ว เพื่อที่เวลาแสดงจะได้ไม่เขินกัน แต่แม็กกี้ก็ยังเขินอยู่ดี (ยิ้ม) สำหรับภูมิ เขาแสดงได้เป็นธรรมชาติดีนะ เล่นได้เป็นตัวของเขาเองเลยค่ะ ภูมิเขาไม่ค่อยเขิน หรือแอบเขินแต่เก็บอาการก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ร่วมงานกันก็โอเคค่ะ ภูมิเขาเป็นคนน่ารัก นิสัยดี เข้ากันได้กับทุกคนในกองถ่ายเลย เวลาพักเขาก็จะชอบไปเล่นกับพี่ๆ ในกอง เป็นคนกันเองดีค่ะ
ได้มีโอกาสร่วมงานกับซุป’ตาร์ตลกเมืองไทย ทั้ง พี่หม่ำ จ๊กม๊ก และ พี่เปิ้ล นาคร รู้สึกอย่างไรบ้าง
รู้สึก โชคดีมากๆที่ได้เจอนักแสดงรุ่นใหญ่ ทั้งพี่หม่ำ และพี่เปิ้ล โอ้วโห! พวกพี่เขาปล่อยมุกตลกกันกระจายเลย ตอนแม็กกี้ยังไม่เข้าฉากนั่งดูพวกพี่เขาแสดงก็ขำอยู่หน้าจอมอนิเตอร์ หรือถ้าได้เข้าฉากด้วยแม็กกี้ก็จะหลุดขำมุกพวกพี่เขาตลอดเลย พยามตั้งสติจะไม่หลุด แต่ก็หลุดในช่วงแรกๆ หลังๆ แม็กกี้จะเริ่มทำเป็นหูหนวกตาบอดเลยค่ะ หรือถ้าจะต้องมองหน้าพี่เปิ้ล ก็ไปมองที่หูของพี่เปิ้ลแทน ยังไงล่ะแค่เห็นหน้าพี่เปิ้ลมันก็ขำแล้วค่ะ (555) แต่พวกพี่เขาก็มีแนะนำนะ ว่าจังหวะนี้ให้เราเล่นแบบนี้ หรือหากส่งมุกมาให้แล้วลองต่อแบบนี้มันก็จะสนุกสนาน ฮามากขึ้น
การทำงานกับ ผู้กำกับเป้ นฤบดี เป็นอย่างไรบ้าง
พี่ เป้ เป็นผู้กำกับมืออาชีพ ประทับใจมากพี่เป้เป็นคนน่ารัก ทำงานกับพี่เป้ เขาจะเป๊ะทุกอย่าง ในเรื่องมุมกล้อง เรื่องมุกตลก ทุกครั้งก่อนที่จะเข้าฉากพี่เป้จะเป็นคนมาบรีฟบทเองเลย และจะบอกกับนักแสดงว่าต้องการแบบนี้นะ ฉากนี้อารมณ์ประมาณนี้นะ มากน้อยประมาณไหน บางทีแม็กกี้แสดงออกมามากไป พี่เป้ก็จะบอกว่าน้อยลงมาหน่อยเยอะไปนะ พี่เป้ใจดี ไม่ดุเลยค่ะ
เสน่ห์ของหนัง และสิ่งที่คนดูจะได้จาก สูบคู่กู้โลก
สำหรับสูบคู่กู้โลก เป็นหนังแนวคอมิดี้-ไซไฟ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะได้ดูพี่หม่ำกับพี่เปิ้ลปะทะความฮากัน รับรองว่าฮามาก และสิ่งที่คนดูจะได้รับ แน่นอนสิ่งแรกเลยคือความสนุก ความฮา ความบันเทิง รวมถึงเรื่องมนุษย์ต่างดาว มีจริงหรือเปล่า แล้วมนุษย์ต่างดาว หน้าตาเป็นแบบไหน และความรักของมนุษย์ดาวจะเป็นยังไงนะ คุณจะได้รู้ได้เห็นจาก สูบคู่กู้โลก ค่ะ
มีบทบาทไหนที่แม็กกี้ อยากจะแสดงเป็นพิเศษไหม
ที่ ผ่านมาแสดง ดราม่าแล้ว ตลกแล้ว ก็คงอยากรับบท เป็นผีค่ะ (555) มันท้าทายดีนะ เราคงต้องทำการบ้านหนัก ศึกษาข้อมูลของผี มันยากนะ
ฝากผลงานความฮากันหน่อย
รับประกัน ความฮา 100 เปอร์เซ็นต์จากพี่หม่ำ พี่เปิ้ล แน่นอนค่ะ และเป็นผลงานการแสดงคอมิดี้เรื่องแรกของแม็กกี้ กับภูมิ ด้วยนะคะ กับภาพยนตร์ สูบคู่กู้โลก ผลงานกำกับของพี่เป้ นฤบดี ผู้กำกับอารมณ์ดี ดูไปยิ้มไปพร้อมกันพฤศจิกายนนี้ค่ะ
FYI: แม็กกี้ อาภา
คุณเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวไหม
- ก็น่าจะมีจริงนะคะ
มนุษย์ต่างดาวในจินตนาการคุณเป็นแบบไหน
- น่าจะตัวลีบๆผอมๆ พกปืนไซไฟ หรืออาจะมีแขนเยอะๆ คงประหลาดหน่อย คิดว่านะ
หากเจอมนุษย์ต่างดาวตัวเป็นๆ
- คงช็อคไปเลย
แล้วจะลองคบมนุษย์ต่างดาวเป็นแฟนไหม
- จะรักกันยังไงล่ะ??? ถ้ามนุษย์ต่างดาวหน้าตาหล่อ หุ่นเป๊ะๆ ก็ขอคิดดูก่อนค่ะ
Post by: FB on October 26, 2012, 05:05:30 PM
เมื่อ “หม่ำ จ๊กม๊ก” และ “เปิ้ล นาคร” ถูกจับคู่สวมบทฮีโร่กู้โลกกับคาแร็คเตอร์กวนๆ ที่ผู้กำกับเป้ นฤบดี เล็งเห็นว่าเหมาะและเข้ากับตัวละครในภาพยนตร์ “สูบคู่กู้โลก” ซึ่งคำว่า “สูบคู่” คือที่มาของ 2 ตัวละครนำ “จ๊อด-อี๊ด” ที่เปิดอู่รับซ่อมมอไซค์ทุกประเภท และยังเป็นรุ่นพี่-รุ่นน้องสนิทสุดซี้ระดับเกรียน ที่ชอบซิ่งมอไซค์ชอปเปอร์ แน่นอนเราจะได้เห็นการเปลี่ยนลุคใหม่ของนักแสดงจากเรื่องนี้
โดย เฉพาะ เปิ้ล นาคร เล่าถึงการปรับลุค ติดหนวด ติดเครา มาดแมนด้วยเสื้อลายสก็อต กางเกงยีนส์ แถมยังต้องฝึกขี่มอไซค์ที่ไม่ธรรมดาในเรื่องนี้อีกว่า “อี๊ด เป็นเพื่อนรุ่นน้องของ พี่จ๊อด เราเป็นแก๊งมอเตอร์ไซค์ ชอปเปอร์ เป็นคนชอบวางแผนทุกเรื่อง เป็นตัววางแผนการต่างๆ แล้วก็พา พี่จ๊อดไปร่วมกับแผนการด้วยตลอด คาแร็คเตอร์ก็คล้ายตัวเราเองนี่แหละ แนวกล้าๆ แต่ใจมะหมา แต่ความยากมันอยู่ที่เราต้องขี่ชอปเปอร์ มันไม่ใช่ฮาเลย์ เดวิดสัน หรือ ดูคาติ แต่ว่านี่มันเป็นก้านยาว ที่ยาวเกือบ 2 เมตร เอ่อ!..ไม่ใช่ทุเรียนนะครับ แต่เป็นมอเตอร์ไซค์ยาวถึง 2 เมตร ขับคันนี้ถึงขั้นปวดแขนเลยนะ แต่ก็มันส์อีกแบบนึงดีครับ เสียงดังกระฮึ่มมาก เวลาที่เราขี่บนถนน มันก็เพลินดีนะ เข้าใจเลยทำไมผู้ชายส่วนใหญ่ชอบขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามสถานที่ต่างๆ”
ด้าน นักแสดงตลกรุ่นพี่ หม่ำ จ๊กม๊ก เล่าถึงคาแร็คเตอร์สุดกวนครั้งนี้ว่า “เป็นเจ้าของอู่มอเตอร์ไซค์ ชื่อ จ๊อด ฉายา จ๊อด แฮนด์ลิง คาแร็คเตอร์จะเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ เป็นคนทำมาหากินมากกว่า แต่ว่าเรื่องที่มันเกิด เกิดเพราะไอ้อี๊ด มันชอบหาเรื่องมาให้ตลอด ชอบพาไปนอกลู่ นอกทาง จนมีปัญหาหลายๆ อย่าง ทำให้เราปวดหัว มีหลานชื่อ ไอ้ป๋อง หลานก็ดันชอบทำตัวลึกลับอีก ส่วนเรื่องขี่มอไซค์ผมไม่ได้กังวลอะไรเลย เพียงแต่ไม่ได้จับมันมานานเกือบ 20 ปีแล้ว ขี่แปปเดียวมันก็ได้อยู่แล้ว แต่บังเอิญว่ามันไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ธรรมดาทั่วไป มันก็ยากนิดหน่อยขี่ได้ประมาณ 10 กิโลเมตร ขาเริ่มสั่นล่ะ ส่วนเรื่องเสื้อผ้า รองเท้า ก็จะเฮ้วๆ หน่อยนะ กางเกงยีนต์ขาเดฟ เสื้อหนัง ก็จะออกมาเท่ๆ หน่อย มีหมวกกันน็อค ใส่ถุงมือ เครื่องประดับครบแบบฉบับนักขี่มอเตอร์ไซค์เลยล่ะ”
และด้วย สปิริตทางการแสดงของ หม่ำ จ๊กม๊ก ทำให้ฉากขี่มอไซค์เปิดตัวแก๊งสูบคู่ที่จะต้องซิ่งกันไปมาบนถนนภูเขาที่ต้อง ขึ้น-ลง คดเคี้ยวไป-มา แถมเป็นเส้นทางยาวไกลหลายกิโลเมตร จึงเป็นฉากที่ผู้กำกับเป้ นฤบดี ยกให้เป็นฉากประทับใจที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงคุณภาพว่า “ผมประทับใจ ฉากขี่มอเตอร์ไซค์ ด้วยความที่พี่หม่ำต้องสวมบท จ๊อด แฮนด์ลิง ดังนั้นแฮนด์จะต้องสูงขนาดนี้ (ทำท่า) ผมลองขี่ดูแล้วมันไม่ง่ายเลยครับ ส่วนเปิ้ล นั้นฉายาเขา อี๊ด ก้านยาว คนที่จะขี่มอไซค์ก้านยาวได้นั้น ผมว่าต้องเป็นนักเจ็ทสกีระดับโลกเท่านั้นเลยนะ แล้วทั้งคู่เขายอมขี่กันจริงๆ โดยวันนั้นต้องขี่บนถนนยาวประมาณ 15 กิโลเมตร เท่านั้นไม่พอต้องขี่ปาดหน้ากันไปมาด้วยนะ แล้วไม่มีการซ้อม ขี่กันจริงตอนนั้นเลย แต่พอขี่ไปได้สัก 10 กิโลเมตร พี่หม่ำขอจอดมอไซค์ เขาลงไปนั่งกองกับพื้นถนน ขาสั่นพับๆ และบอกว่า เขาไม่ได้ขี่มอไซค์มาจะ 20 ปีแล้ว ผมยกให้แกเลยเรื่องสปิริตการแสดง ประทับใจพี่หม่ำมากครับ”
ส่วน เปิ้ล นาคร ได้เล่าเพิ่มเติมถึงฉากประทับใจนี้ว่า “เป็นฉากที่เราสองคนผมกับพี่หม่ำดูเท่มาก ต้องแซงกันไปแซงกันมา ด้วยความที่มอเตอร์ไซค์ของพี่หม่ำหน้าไม่ยาวเท่ากับมอเตอร์ไซค์ของเรา เวลาแซงปาดหน้าเขาจะมาทับรถเราตลอด เราก็พยายามดิ้นไปดิ้นมาไม่ให้โดน แต่เขามั่นใจศักยภาพการขี่มอเตอร์ไซค์ของเขามาก สังเกตเวลาเขาขี่ไม่เหมือนขี่ชอปเปอร์เลยนะ เหมือนอะไรไปดูเอาเอง พี่หม่ำเขาเรียกตัวเขาเองว่าซุปตาร์ขาลง แต่ถ้าเมื่อไหร่หนังเรื่องสูบคู่กู้โลกเข้าฉาย เรา 2 คนจะกลายเป็นซุปตาร์ขาขึ้นแน่นอน อิอิ”
ร่วมใจกันกู้โลกด้วยเสียงหัวเราะ ฮาพร้อมกันทั่วประเทศ 8 พฤศจิกายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
Post by: FB on October 26, 2012, 05:06:25 PM
ถึง คราวนักแสดงหนุ่มน้องใหม่ “ภูมิ รังษีธนานนท์” ขึ้นแท่นพระเอกสุดหล่อในภาพยนตร์ “สูบคู่กู้โลก” และด้วยความหล่อที่เกินหน้าเกินตานักแสดงรุ่นพี่อย่าง “หม่ำ จ๊กม๊ก กับ เปิ้ล นาคร” จึงเป็นเหตุทำให้โดนหมั่นไส้ พร้อมทั้งโดนผู้กำกับเป้ นฤบดี และทีมงานแท็คทีมแกล้งสารพัดวิธี เรียกว่าถูกจับรับน้อง แบบจัดหนักกันเลยงานนี้ แหม!เกิดมาหน้าตาดี หล่อกระชากใจสาวขนาดนี้ ยังไงก็ไม่พ้นที่จะโดนรุมแกล้งอย่างแน่นอน แต่ที่พวกพี่เขาแกล้งน่ะ เพราะรักหรอกนะจึงหยอกเล่น ซึ่งหนุ่มหล่อภูมิก็ขอเปิดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า
“ด้วย ความที่เป็นหนังคอมิดี้ มันฮามากจนผมหลุดขำตลอดเลยครับ ในเรื่องผมรับบทเป็น ป๋อง หลานของน้าจ๊อด กับน้าอี๊ด แสดงโดยพี่หม่ำกับพี่เปิ้ลครับ ป๋องจะมีนิสัยกวนโอ้ย ไร้สาระ บ้าบอไปวันๆ จนวันนึง ก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนจากคนกลายเป็นมนุษย์ต่างดาว!!! ทำให้เกิดเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้น มันสนุกตรงที่เมื่อน้าจ๊อดน้าอี๊ดต้องปะทะกับมนุษย์ต่างดาวนี่แหละครับ ส่วนเรื่องที่โดนรับน้องในกองถ่าย ต้องยกให้พี่หม่ำ-พี่เปิ้ลเลยแสบมาก (555) เป็นฉากวันเกิดของป๋องครับ น้าจ๊อดกับน้าอี๊ดมาเลย เดินถือเค้กมาเซอร์ไพรส์วันเกิดหลาน ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ แล้วเขาก็บอกให้ผมหลับตาอธิษฐาน เท่านั้นแหละครับ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู ป๊าบบ!เต็มหน้าเลย แอบดึงเทียนออกตอนผมหลับตาอย่างไว แสบตามาก เค้กเต็มตาเลย (555) โหววว...เล่นเราซะเสียเลย พี่เปิ้ลนี่ตัวการเลย แต่รับรองว่าเทคเดียวฮาเลยครับ หรือจะเป็นฉากตอนนอนผมก็โดนแกล้ง พยายามจะไม่หลุดขำ ก็ปล่อยไหลตามมุกพวกพี่ๆ เขาไป ต้องไปดูในหนังว่าผมโดนแกล้งอะไรบ้าง เยอะอ่ะ”
แม้จะโดนรับ น้องขนาดนี้แต่หนุ่มภูมิก็ดีใจมากที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้ร่วมงานกับซุป ’ตาร์ตลกอันดับหนึ่งของเมืองไทย โดยภูมิเล่าถึงความรู้สึกและการเข้าฉากครั้งแรกด้วยกัน แถมยังเกร็งไปทั้งตัวว่า“ร่วมงานกับพี่หม่ำ เขามีความเป็นโปรเฟสชั่นนอลมาก อย่างบางทีเขาจะอิมโพรไวส์เองไม่ต้องเล่นตามบท คือเห็นอะไรเล่นได้หมดเก่งมากครับ และด้วยความที่พี่หม่ำเป็นถึงซุป’ตาร์ตลกอันดับต้นเลย ผมก็ไม่เคยคิดว่าจะได้มีโอกาสร่วมงานกับพี่เขามาก่อน ตื่นเต้นมาก ครั้งแรกที่ต้องเข้าฉากร่วมกัน ผมไปไม่เป็นเลยนะ โอ้วโฮ!ตัวเกร็งมาก แต่พอเริ่มเข้าฉากกันบ่อยก็โอเคครับ พี่หม่ำเป็นคนน่ารักนิสัยดี ส่วนพี่เปิ้ล นอกบทตลอดเลยครับ ฉากที่ต้องนอนอยู่ก็ลากผมลงมากองกับพื้นซะงั้น ฮาเลย เขาชอบเล่นตอนผมเผลอ ร้ายอ่ะ (555) ได้ร่วมงานกับพี่หม่ำ-พี่เปิ้ลรู้สึกดีใจมากเลยครับ”
ด้าน นักแสดงรุ่นพี่ เปิ้ล นาคร ขอเปิดใจถึงสาเหตุการละลายพฤติกรรมนักแสดงหน้าใหม่ และเล่าถึงการร่วมงานกับพระเอกหนุ่ม ภูมิว่า
“ตอนแรกเราก็แอบ คิดนะ น้องคนนี้จะเล่นไหวเหรอแต่พอได้คลุกคลีกันบ่อย อยู่ด้วยกันมากๆ ก็เฮ้ยหน้าภูมิมันเหมือนมนุษย์ต่างดาวเลย กระดิกหูได้อีกด้วย มีรอยยิ้มเป็นมนุษย์ต่างดาว ส่วนตัวของภูมิเองก็มีความเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวมีจริง ภูมิแรงเยอะมาก ว่างไม่ได้ ต้องเดาะบอลใส่ผนังห้องนอน เราแทบไม่เป็นอันนอนเลย เดาะตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตอนกลางคืน เปิดประตูไปถามเฮ้ยทำไรว่ะภูมิ น้องตอบว่า อ่อ!ผมเตะบอลอัดผนังครับ อายุ 18 ปี วัยกำลังเดาะบอลเลย (หัวเราะ) ไฮเปอร์มาก”
เมื่อโลกต้องการ “ฮีโร่” ไม่มีใครพร้อมไปกว่าพวกเขา “หม่ำ จ๊กม๊ก และ เปิ้ล นาคร” นำทีมปะทะหนุ่มต่างดาว “ภูมิ รังษีธนานนท์” ร่วมด้วยสาวสก๊อย “แม็กกี้ อาภา” ที่จะมาปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่ ในภาพยนตร์ “สูบคู่กู้โลก” ชวนกันฮาทะลุโลกพร้อมกัน 8 พฤศจิกายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
Post by: FB on October 27, 2012, 03:56:55 PM
สูบคู่กู้โลก ภาพยนตร์คอมิดี้-ไซไฟ ที่นำแสดงโดย หม่ำ จ๊กม๊ก, เปิ้ล นาคร และมนุษย์ต่างดาว! หากจะว่าไปแล้วแค่เห็นหน้านักแสดงตลกคู่นี้ก็ฮากันกระจาย แต่ผู้กำกับเป้ นฤบดี ยังขอดับเบิ้ลความฮาทวีคูณเข้าไปอีก ด้วยการทำเซอร์ไพรส์คนดู เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ กับนักแสดงรับเชิญสุดพิเศษ “ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา” โดยจับมาประชันมุกตลกแบบไม่ห่วงหล่อ แต่เน้นฮาเต็มพิกัด ซึ่งกว่าจะได้คิวหนุ่มหล่ออมตะมาได้นั้น เป็นเรื่องที่หินมาก เพราะหนุ่มก้องทั้งคิวทอง ทั้งฮ๊อตสุดๆ มีงานแน่นทุกวี่ทุกวัน และด้วยความพยายามของทีมงาน (สาวๆ) ในที่สุดก็คว้าตัวเป็นๆ หนุ่มก้องมาได้ โดยผู้กำกับเป้ นฤบดีเล่าถึงนักแสดงรับเชิญสุดกรี๊ดครั้งนี้ว่า
“นัก แสดงรับเชิญในเรื่องนี้มีหลายคนเลยครับ แต่คนที่เรียกเสียงกรี๊ดจนกองถ่ายแทบจะแตกนั้น คือ ก้อง นูโว เชื่อไหมครับวันนั้นสาวๆ ในกองถ่ายไม่เป็นอันทำงานกันเลย แม้กระทั่งภรรยาผมเองด้วย (555) ตอนที่ทีมงานติดต่อไปกว่าจะได้คิวก้องก็ยากอยู่ไม่น้อยเลย แต่ในที่สุดเราก็ได้คิวก้องมา และคุยเกี่ยวกับเรื่องบท ซึ่ง ก้อง เขาก็ช่วยเสนอไอเดียมาว่า ขอเล่นเป็นตัวลอยๆ ที่ไม่ต้องอินในคาแรคเตอร์ เราก็เลยจัดให้สนุกสนานไปกับแก๊งสูบคู่ โดยจับให้มาปะทะมุกตลกกับพี่หม่ำและเปิ้ลครับ จับตาดูในแต่ละฉากที่ก้องโผล่มาให้ดี มุกเขาไม่ธรรมดานะ นอกจากก้องแล้วก็ยังมีนักแสดงรับเชิญอีกเพียบ ยกตัวอย่าง ดีเจเชาเชา มารับบทเป็นนักปั่นจักรยานเสือหมอบ ทั้งเรื่องปั่นอยู่คนเดียว ออกแนวเพี้ยนๆ ส่วน พี่จตุรงค์ มกจ๊ก ก็รับเชิญเป็นนักสืบจอมโหด แม้แต่ ต๊อก ศุภกรณ์ รับเชิญในบท จ่าเสม ก็แสดงแบบจัดเต็มมากๆ ร่วมถึง พีท ทองเจือ นอกจากเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวให้กับเราแล้ว เราก็ยังเชิญมาร่วมแสดงด้วยเช่นกันในบท เฮียง้วน และยังมีอีกหลายคนเลยครับที่เราเชิญมาร่วมสร้างความสนุกในครั้งนี้”
และ ด้วยความบังเอิญเป็นอย่างมาก เมื่อทีมงานแอบกระซิบมาว่านอกจากผู้กำกับเป้ ที่มีความเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวแล้ว นักแสดงรับเชิญทุกคนในเรื่องต่างก็เชื่อว่า มนุษย์ต่างดาวนั้นมีจริงเช่นเดียวกัน แม้กระทั่ง ก้อง สหรัถ ก็มีความเชื่อและสนใจเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวด้วย โดยเล่าว่า
“รู้สึก ดีใจครับที่ได้มีส่วนร่วมในภาพยนตร์ครั้งนี้ ก็ได้มาปะทะกับพี่หม่ำอีกแล้ว ผมก็คอยส่งมุกรับมุกไปเรื่อย พี่หม่ำเขาก็จะตบมุกกลับมาตามสไตล์เขาแหละตลกหน้าตาย กับคาแรคเตอร์ของผมอยู่ๆเป็นใครก็ไม่รู้มาโผล่ที่อู่สูบคู่ จะมามา ไปไป เป็นรับเชิญในเรื่องนี้ครับ ฝากติดตามชมด้วยนะครับ สำหรับเรื่องมนุษย์ต่างดาว ส่วนตัวผมเชื่อนะว่ามีจริง ในเมื่อมันยังมีเราแล้วทำไมมันยังจะมีเขาไม่ได้ โลกเราก็ยังมีมนุษย์อยู่เลย โลกอื่น ดาวอื่นก็น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อยู่ เพราะจักรวาลเรามีตั้งเป็นแสน เป็นล้านดวงดาว การที่จะมีมนุษย์ต่างดาว หรือสิ่งมีชีวิตต่างดาวก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าผมมีโอกาสได้ไปต่างดาวนะ ผมจะไม่ไปคนเดียวครับ ผมจะยกวงนูโว ยกไปทั้งวงเลย เอาไปเล่นคอนเสิร์ตที่ต่างดาว (555)”
แอร๊ยย! ถ้าก้องจะยกวงนูโวไปเล่นคอนเสิร์ตที่ต่างดาวจริงๆ เห็นทีคนที่เดือดร้อนคงจะเป็นแฟนคลับแน่ๆ เพราะต้องตามไปดูไกลถึงนอกโลกนู้นนนน....แต่ยังไงก็ตามไปเป็นกำกลังใจให้ หนุ่มก้อง ในภาพยนตร์ล่าสุด สูบคู่กู้โลก ทุกโรงภาพยนตร์ 8 พฤศจิกายนนี้ ชวนกันไปกรี๊ดดด...ให้โรงหนังแตกกันเลยเน่อ
Post by: FB on October 30, 2012, 03:40:18 PM
Mv. บาดทะยัก (Ost.สูบคู่กู้โลก)
เนื้อร้อง/ขับร้องโดย เปิ้ล นาคร
สูบคู่กู้โลก 8 พฤศจิกายน
โลกจะอยู่ในกำมือของพวกเขา
Post by: FB on October 30, 2012, 03:41:13 PM
ไม่ปฏิเสธเลยสักนิดว่าตัวเองนั้นเป็น หัวโจกของสาวสก๊อย แต่ก่อนที่จะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ “แม็กกี้ อาภา” จึงรีบออกมาชี้แจง อย่าเพิ่งตกใจไป มันเป็นแค่การแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง สูบคู่กู้โลก ก็เท่านั้นเอง สำหรับเรื่องนี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่เธอขอพลิกบทบาทมารับบทนางเอกสก๊อยสาว สวย แถมยังมีก๊วนเพื่อนสาวที่จะมาเรียกเสียงฮา อย่าง นิสา บุญสันเทียะ กับ ปวีณา โรจน์จินดางาม (จากภาพยนตร์ สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก) และยังต้องฝึกแว๊นส์ ขี่มอไซค์ให้เป็นอีก เพื่อให้ดูเหมาะสมกับตำแหน่งแกนนำ สก๊อยเกิร์ล แม้กระทั่งนิสัยก็ต้องทำการบ้านกับบทบาทที่ได้รับในครั้งนี้มาอย่างดี โดยแม็กกี้เล่าให้ฟังว่า
“ก่อนหน้านี้แม็กกี้เล่นหนัง คน-โลก-จิต ก็เป็นแนวดราม่า ต้องใช้อารมณ์สื่อออกมาค่อนข้างเยอะเลย สำหรับเรื่องสูบคู่กู้โลก จะเป็นแนวคอมิดี้แตกต่างกันมากค่ะ เรียกว่าพลิกบทบาทจากหนังที่เคยแสดงมาเลย และรู้สึกดีใจที่ได้เล่นตลก สนุกดีค่ะ (ยิ้ม) แม็กกี้รับบทเป็น เนย สาวแว๊นส์ ที่มีความมั่นใจในความสวยของตัวเองมากกก... เป็นหัวโจกของกลุ่มเพื่อนสาว ซึ่งในแก๊งจะมีกันอยู่ 3 คน คือ เนย ยุ้ย และน้ำ ไปไหนเราก็จะไปด้วยกันตลอด เป็นวัยรุ่นต่างจังหวัด เรียนพาณิชย์ ซึ่งเรื่องมันเกิดก็เพราะแก๊ง 3 สาว แว๊นส์มอไซค์แบบซ้อนสามจนล้มคว่ำ แต่ก็ดันกลายเป็นอุบัติเหตุรัก ที่ทำให้เนยได้เจอกับป๋อง เพื่อนสมัยเด็กที่กลับมาเจอกันอีกครั้ง เนยก็เลยจีบป๋องซะเลยค่ะ สำหรับฉากนี้ เป็นฉากเปิดตัว เนย กับแก๊งเพื่อนสาว และเป็นฉากที่แม็กกี้ชอบมากด้วย ชอบตรงชุดนักเรียนนี่แหละ มินิสเกิร์ตสีแดงสด (หัวเราะ) ล้อเล่นนะ ชอบตรงที่ได้จีบผู้ชายก่อน แล้วจีบไปจีบมาก็เพิ่งจะรู้ตัวว่า ป๋องเป็นมนุษย์ต่างดาว เอาล่ะซิ เนยจะทำยังไง ก็ต้องไปลุ้นกันว่าความรักระหว่างมนุษย์โลกกับมนุษย์ต่างดาวจะฟีทเจอริ่งกัน ยังไง รับรองฮาแน่นอนค่ะ”
และนอกจากแก๊งเพื่อนสาวสก๊อยที่ต้อง เล่นมุกตลกร่วมกัน สาวแม็กกี้ก็ยังได้มีโอกาสร่วมปะทะมุกฮากับแก๊งสูบคู่ หม่ำ จ๊กม๊ก และ เปิ้ล นาคร รวมถึงนักแสดงรับเชิญ ดีเจเชาเชา ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม ซึ่งแม็กกี้รู้สึกดีใจและตื่นเต้นที่ได้มีอากาสร่วมงานกับนักแสดงรุ่นพ่อ เอ้ย!รุ่นพี่ โดยเล่าให้ฟังว่า
“รู้สึกโชคดีมากๆ ที่ได้เจอนักแสดงรุ่นใหญ่ ทั้งพี่หม่ำ และพี่เปิ้ล โอ้วโห! พวกพี่เขาปล่อยมุกตลกกันกระจายเลย ตอนแม็กกี้ยังไม่เข้าฉากนั่งดูพวกพี่เขาแสดงก็ขำอยู่หน้าจอมอนิเตอร์ หรือถ้าได้เข้าฉากด้วยแม็กกี้ก็จะหลุดขำมุกพวกพี่เขาตลอดเลย พยามตั้งสติจะไม่หลุด แต่ก็หลุดในช่วงแรกๆ หลังๆ แม็กกี้จะเริ่มทำเป็นหูหนวกตาบอดเลยค่ะ หรือถ้าจะต้องมองหน้าพี่เปิ้ล ก็ไปมองที่หูของพี่เปิ้ลแทน ยังไงล่ะแค่เห็นหน้าพี่เปิ้ลมันก็ขำแล้วค่ะ (555) แต่พวกพี่เขาก็มีแนะนำนะ ว่าจังหวะนี้ให้เราเล่นแบบนี้ หรือหากส่งมุกมาให้แล้วลองต่อแบบนี้มันก็จะสนุกสนาน ฮามากขึ้น หรือจะเป็นฉากที่ต้องปะทะกับพี่เชาเชา ฉากนี้แม็กกี้สนุกมากเหมือนได้ปลดปล่อยอารมณ์อย่างเต็มที่ ก็คือพี่เชาเชาในเรื่องเขาจะเป็นนักปั่นจักรยานเสือหมอบ แล้วมาเจอแก๊งสาวสก๊อย จึงเกิดการเถียงต่อปากต่อคำกันแบบดุเด็ดเผ็ดมันส์ ส่วนพี่เชาเชาเขาก็ไม่ยอมเรา แม็กกี้เลยตั้งชื่อฉากนี้ว่าฉากระบายอารมณ์(555) เชื่อไหมคะฉากนี้พี่เป้ ผู้กำกับต้องสั่งคัท เพราะว่านักแสดงใส่อารมณ์เต็มที่มากเกินไปค่ะ ห้ามพลาดเลยฉากนี้(ยิ้ม)”
เมื่อโลกต้องการ ฮีโร่ ไม่มีใครพร้อมไปกว่าพวกเขา “หม่ำ จ๊กม๊ก และ เปิ้ล นาคร” พร้อมผู้ร่วมขบวนการสาวสวยใจสก๊อย “แม็กกี้ อาภา” ชวนกันฟีเจอริ่งหนุ่มต่างดาว “ภูมิ รังษีธนานนท์” เตรียมฮาทะลุโลกพร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์ 8 พฤศจิกายนนี้
Post by: FB on November 02, 2012, 05:56:03 PM
เป้ นฤบดี จบการศึกษาปริญญาตรี คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เริ่มต้นทำงานในวงการภาพยนตร์ด้วยการเป็นผู้กำกับศิลป์ให้กับ มานพ อุดมเดช จาก กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน และยังเคยได้รับรางวัลกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม รางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง จากภาพยนตร์เรื่อง ฝากฝันไว้เดี๋ยวจะเลี้ยวมาเอา และเริ่มมีผลงานโฆษณา งานละคร ก่อนที่จะเริ่มมาสร้างความสนุกสนาน มันส์แบบฮาๆ ให้กับรายการ สาระแน ในฐานะเป็นทั้งผู้ร่วมก่อตั้งรายการ และควบคุมการผลิต ด้วยความตั้งใจอยากเป็นผู้กำกับ และรักงานสายภาพยนตร์ จึงหันมาสร้างภาพยนตร์และกำกับเอง ซึ่งผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกคือ สาระแน ห้าวเป้ง!! (2009) ที่กวาดรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท และตามมาด้วยภาพยนตร์เรื่อง สาระแนสิบล้อ (2010) และ สาระแนเห็นผี (2010)
ปัจจุบัน เป้ นฤบดี เป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท เดอะ พิพัล ทรี จำกัด เดินหน้าลุยงานโปรดักชั่นเฮ้าส์อย่างเต็มสูบ โดยประเดิมผลงานชิ้นเอกด้วยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง สูบคู่กู้โลก แนวคอมิดี้-ไซไฟ ที่ดึงคนสนิท หม่ำ จ๊กม๊ก และ เปิ้ล นาคร มาประชันความสนุก ตลก ฮา แบบไร้ขีดจำกัด ในภาพยนตร์ครั้งนี้
A: คงต้องให้เล่าถึงไอเดียที่มาของภาพยนตร์เรื่องล่าสุด สูบคู่กู้โลก
มี อยู่ 2 ประเด็นหลักๆ เลยครับ เริ่มต้นตอนเด็กๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ติดใจ ฝังใจเรามาตั้งแต่เด็กตอนอายุ 12 ปี นอนเล่นอยู่สนามหญ้าหน้าบ้านกับกลุ่มเพื่อน พวกเราก็นอนดูดาวกันเพลินๆ นั่น ดาวลูกไก่ นั่นดาวไถ สักพักเราเห็นแสงจากเครื่องบิน 2 ลำ บินคู่กันไป จากนั้นมันกลับหักเลี้ยวเป็นมุมฉากขึ้นไป เราก็เริ่มงง เฮ้ย!เครื่องบินมันบินเป็นมุมฉาก แล้วก็แว๊บหายไป ก็หันไปถามกันว่าเห้ยตาฟาดป่าว ก็ไม่นี่ แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร หลังจากนั้นเราก็คุยเรื่องนี้กันทุกวัน เมื่อก่อนนั้นมันยังไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีกูเกิ้ล ก็เข้าห้องสมุดเปิดดูแต่เรื่อง UFO สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า แล้วก็เริ่มสนใจเรื่องแบบนี้ ซึ่งมันถูกเมมไว้ในหัวเราตั้งแต่สมัยเด็กๆ
และ จากที่ทำหนังเรื่องสาระแนเห็นผีจบ ก็เริ่มรู้สึกว่าภัยพิบัติบนโลก มันเริ่มเยอะขึ้น วันนั้นดูข่าวคุณสรยุทธ เรื่องเล่าเช้านี้ มีข่าวว่าเห็นกลุ่มแสงไฟซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไรที่น่านฟ้าญี่ปุ่น ก่อนที่จะเกิดสึนามิ ผมก็สนใจเรื่องนี้ขึ้นมาอีก พอเปิดดูในอินเตอร์เน็ต ก็มีคนสนใจกันเยอะมาก แล้วมันก็มาแมชรวมกันกับเรื่องตั้งแต่สมัยเด็กๆ ของผมที่ยังค้างคาใจอยู่ จนคิดขึ้นมาว่า แล้วถ้าเกิดโลกของเราจะพัง จะเกิดภัยพิบัติขึ้นมาจริงๆ ล่ะ จึงเกิดไอเดียหยิบมุมมองนี้มาทำเป็นหนัง แล้วคิดต่อยอดอีกนิดว่า ในมุมของหนังคอมิดี้ คนที่จะมากู้โลกได้จะเป็นกลุ่มคนประเภทไหน จะเป็นคนเพี้ยน เป็นมนุษย์ต่างดาว แล้วถ้าเป็นคนธรรมดาปกติ พวกเขาจะสนใจแต่ชีวิตประจำวันอย่างเดียวหรือเปล่า ด้วยประเด็นเหล่านี้จึงเกิดเป็นภาพยนตร์ สูบคู่กู้โลก ครับ
A: จากไอเดียต่อยอดสู่บทภาพยนตร์คอมิดี้-ไซไฟ อย่างไรบ้าง
เรา ก็นำมาคิดต่อว่า ถ้าโลกเกิดภัยพิบัติขึ้นมา คนที่จะกู้โลกได้นั้นควรจะเป็นกลุ่มคนแบบไหนดี สุดท้ายแล้วเราก็เลือกไปโฟกัสกลุ่มแก๊งมอเตอร์ไซค์ เป็นแก๊งประดิษฐ์มอไซค์ขึ้นมากันเอง พวกมอไซค์ก้านยาว แฮนด์ลิง หน้าตาประหลาดๆ แต่งเป็นไดโนเสาร์บ้าง แต่งเป็นผู้หญิงบ้าง ผมได้ข้อมูลมาจาก สตาร์บัคส์ พงศ์พิชญ์ ซึ่งเขาก็เป็นพวกชอบแต่งมอไซค์อยู่แล้ว เขาจะชอบมาคุยให้ฟังบ่อยๆ หลายคนอาจจะคิดว่าคนพวกนี้มักมีความคิดแปลกๆ บ้างก็ว่าป่วนเมืองเวลาขี่มอไซค์เสียงท่อจะดังรบกวนชาวบ้าน ซึ่งพอเราได้คุยกับพวกเขาแล้ว เขาแค่รักอิสระ ใช้ชีวิตปกติแบบพวกเรานี่แหละครับ พอวัน นึงอยากระบายก็หามอไซค์มาแล้วประดิษฐ์ขึ้นเองขี่เอง พวกเขาจะเป็นพวกรักษ์ธรรมชาติ ชอบเดินทางท่องเที่ยว ผมจึงนำกลุ่มแก๊งมอไซค์มาผสมผสานกับเรื่องราวมนุษย์ต่างดาว ถ้าหากถึงคราวที่พวกเขาต้องช่วยกันกู้โลก ช่วยเหลือโลกมันจะเกิดอะไรขึ้น
A: ด้วยเหตุผลอะไรถึงเลือกเป็นกลุ่มแก๊งมอเตอร์ไซค์ ทำไมไม่เลือกแก๊งจักรยาน หรือแก๊งเซียนพระ
ส่วน ตัวผมชอบขี่มอเตอร์ไซค์อยู่แล้วด้วยครับ พอจะรู้จักลักษณะนิสัยของคนกลุ่มแก๊งมอเตอร์ไซค์อยู่บ้างพอสมควร เราก็แค่ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย
A: ความสนุกสนานที่จะกลับมาสร้างเสียงหัวเราะในภาพยนตร์ล่าสุดครั้งนี้
หลัง จากที่เราทำ สาระแนห้าวเป้ง เป็นแนวแคนดิดไปแล้ว สาระแนสิบล้อ เรื่องราวผีสิงหุ่นยนต์ และ สาระแนเห็นผี เรื่องราวชีวิตวัยรุ่นที่ดันไปเจอผีบอกทางหนี ล่าสุดเราก็ยังอยากทำหนังสนุกๆ โดยนำเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว กับแก๊งมอเตอร์ไซค์ แค่คิดมันก็สนุกแล้ว แก๊งสูบคู่ จะกู้โลกกันยังไงนะ (ยิ้ม)
A: มนุษย์ต่างดาว ของผู้กำกับเป้ นฤบดี ถูกนำเสนอในมุมไหน
ประเด็น หลักของหนังคือ แก๊งมอไซค์ ภัยพิบัติ และมนุษย์ต่างดาว โดย 3 สิ่งต้องค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับมนุษย์ต่างดาวมันมีหลากหลายมุมนะครับ อย่างหนังฮอลลีวู้ดที่ทำกัน เขาจะนำเสนอว่ามนุษย์ต่างดาวบุกโลก หรือมนุษย์ช่วยเหลือมนุษย์ต่างดาว ผมก็มานั่งคิดว่าถ้าเป็นประเทศไทยจะยังไงดี ส่วนเรื่องของภัยพิบัติที่เกิดขึ้น มันก็เกิดขึ้นจากสิ่งที่พวกเราทำกันเองนั่นแหละ ผมคิดว่าเวลาเราทำอะไรมันเหมือน เด็ดดอกไม้สะเทือนดวงดาว ซึ่งมันจะเชื่อมโยงกันหมด ก็นำเรื่องราวเหล่านี้มาสร้างให้เป็นหนังคอมิดี้สนุกสนานครับ
A: ขั้นตอนการค้นหาข้อมูล และการเตรียมงานสร้างเป็นอย่างไรบ้าง
ถ้า เป็นเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว ผมได้มีโอกาสพบและคุยข้อมูลกับ ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน (นายกสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย) ท่านก็มีเรื่องราวสนุกๆเล่าให้ฟังเยอะเลย หรือจะกลุ่มของพีท ทองเจือ ซึ่งเขาก็สนใจด้านนี้เช่นกัน กลุ่มเขากะลา โดยผมหาข้อมูลจากกลุ่มคนพวกนี้ หรือแม้แต่ในเรื่องเล่าเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวในพระพุทธศาสนา เราก็ศึกษาเช่นกันครับ แล้วเราลองถามจากผู้คนทั่วไป ส่วนใหญ่ไม่น้อยกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ พวกเขาจะสนใจ หรือบางคนก็จะบอกว่าเคยเห็นแว๊บๆ มันเริ่มสนุกตั้งแต่เราค้นหาข้อมูลกันแล้วครับ จากนั้นเราก็นำมาเล่าเรื่อง จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามนุษย์ต่างดาวมาอยู่กับแก๊งมอไซค์ที่ดันมีนิสัยเพี้ยนๆ มันน่าจะสนุกดีนะ
ส่วนงานโปรดักชั่นต่างๆ สำหรับโลเคชั่น เราเลือกบริเวณแถว หาดเจ้าหลาว จ.จันทบุรี รายล้อมไปด้วย ภูเขา ทะเล ต้นไม้ บรรยากาศแบบนี้แหละที่ผมคิดว่า เหมาะที่จะเล่าเรื่องมนุษย์ต่างดาว มันมีส่วนสัมพันธ์กันได้อย่างดีเยี่ยมเลย จุดที่เราทำการเซ็ทฉากอู่สูบคู่ขึ้นมา คือ ใต้สะพานปากน้ำแขมหนู เป็นจุดปากอ่าวพอดี และมันบังเอิญมากที่โลเคชั่นตรงนี้เป็นจุดที่มีคนเคยเห็นมนุษย์ต่างดาวด้วย เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ เขาเล่ามาอีกทีว่าเห็นตรงสะพานข้ามปากอ่าวนี้เลย และอู่สูบคู่เป็นโลเคชั่นหลักที่เราใช้ถ่ายทำหนังเรื่องนี้เช่นกัน ใช้เวลาสร้างประมาณเดือนนึง เพราะตรงนั้นเป็นศาลาโล่งๆ และมีเสาอยู่ประมาณ 8 ต้น เราก็ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมดครับ โดยผู้ออกแบบงานสร้าง สมยศ ศรีดา ออกแบบอู่และทำการดีไซน์ลุคนักแสดง ทั้งเสื้อผ้า รถมอเตอร์ไซค์ ตามสไตล์ที่มีอยู่ในประเทศไทยครับ หลักๆ แล้วทีมงานสร้างก็ทีมงานเดิมที่ทำหนังมาด้วยกันตั้งแต่สาระแนห้าวเป้งเรื่อง แรกกันเลย ทีมเขียนบทก็เป็น กฤษณะ จิตรเนาวรัตน์ ตามเดิมครับ
Post by: FB on November 02, 2012, 05:56:38 PM
แก๊ง สูบคู่ จะมีอยู่ 2 คน คือ อี๊ด ก้านยาว กับ จ๊อด แฮนด์ลิง ผมคุยกับ เปิ้ล นาคร ก่อนว่าจะทำหนังแนวนี้ ซึ่งเปิ้ลเขาก็สนใจมาก โดยเปิ้ลมารับบทเป็น อี๊ด ก้านยาว ที่มีคาแร็คเตอร์ เป็นคนชอบโวยวาย เจ้าความคิด แต่ขี้กลัว และก็มักจะหาเรื่องเดือดร้อนมาให้กับจ๊อดอยู่เสมอ มันใช่ตรงที่เรามักจะเห็นเวลาที่เปิ้ลอยู่กับพี่หม่ำ แล้วเขามักจะชอบเล่นปีนเกลียวพี่หม่ำตลอด และแน่นอนครับคนที่เหมาะจะมารับบท จ๊อด ก็หนีไม่พ้นพี่หม่ำ จ๊กม๊ก และเราก็เห็นความน่ารักของพี่หม่ำตรงที่ เขาเป็นคนรักพวกพ้อง เป็นผู้ใหญ่ที่นิ่ง น่ารัก เวลาโดนน้องแหย่ จะมีอารมณ์โกรธ โมโห แต่จะไม่จริงจังอะไร เหมาะและตรงกับคาแร็คเตอร์ จ๊อด หัวหน้าแก๊งสูบคู่ เจ้าของอู่ มีนิสัยรักลูกน้องและเสียสละ มีความขัดแย้งในตัว รักอิสระ แต่ต้องมาอยู่อู่ที่เป็นสมบัติของพ่อเขาที่ไม่อยากให้ขาย ตอนจีบพี่หม่ำมาเล่นก็ใช้เวลานานอยู่ แล้วเขาก็ตอบตกลงด้วยเหตุผลที่ว่า หนังแปลกดีน่าสนใจ (หัวเราะ) นับว่าเราโชคดีมากครับ
และอยาก ให้จับตามอง ป๋อง หลานของจ๊อดในเรื่องนี้ครับ รับบทโดย น้องภูมิ รังษีธนานนท์ เราตั้งโจทย์ไว้คร่าวๆว่า อยากได้เด็กไทย วัยรุ่นอายุประมาณ 17-18 ปี แล้วครั้งแรกที่เราเจอภูมิ เขามีความเป็นธรรมชาติของตัวเองสูงมาก มันใช่เลยครับ ตรงกับคาแร็คเตอร์ ทะโมน กวนตีน นิสัยซ่า ออกแนวปากหมา และป๋อง จะต้องรับบทเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ก็อปปี้ร่างของป๋องมาอีกด้วย โดยบทมนุษย์ต่างดาวในร่างของป๋องจะมาแบบว่างเปล่าเลยครับ แต่จะซึมซับเอาทุกอย่างจากมนุษย์ ภูมิเองก็ทำการบ้านมาดีมากครับ เขาตีโจทย์มนุษย์ต่างดาวออกมาได้อย่างเข้าท่าเลย
สำหรับบทนาง เอก เนย คาแร็คเตอร์จะเป็นนักเรียนหญิงพาณิชย์ เป็นเด็กแก่แดดแก่ลม นิสัยเฮี้ยวๆ กล้าจีบผู้ชาย แต่จะมีมุมความเป็นเด็กผู้หญิงน่ารักๆ เวลาที่ผู้ชายเขาเอาจริงขึ้นมาก็จะเขินอาย รับบทโดย น้องแม็กกี้ อาภา ลูกสาวของพี่อรุณ ภาวิไล ซึ่งเรื่องสูบคู่กู้โลก แม็กกี้จะต้องดึงความเป็นตัวเองออกมาค่อนข้างเยอะเลย ผมให้น้องเขาทำการบ้านเกี่ยวกับวัยรุ่น ภาษาที่วัยรุ่นเขาชอบใช้กันในโซเชียลเน็ตเวิร์ค จะเป็นภาษาวิบัติเพี้ยนๆ ที่จะต้องเอามาใช้ในหนังเวลาที่เข้ากับกลุ่มแก๊งเพื่อนสาว เนยจะต้องเป็นหัวโจก ต้องบอกว่าแม็กกี้เขาใช้ยีนส์พ่อมาเล่นหนังได้อย่างดีเลย ตา ปาก แววตา เฮ้ยนี่มันพี่อรุณชัดๆ (หัวเราะ)
A: การดีไซน์ รูปร่าง หน้าตา “มนุษย์ต่างดาว” ที่คนดูจะได้เห็นในเรื่องนี้
ผม ตีความมนุษย์ต่างดาว ว่าน่าเป็นอะไรที่ต้องใช้แต่สมอง ใช้จิต และสื่อสารด้วยจิต รูปร่างคล้ายมนุษย์นี่แหละ แต่สามารถรับรู้ความคิดคนอื่นได้ ไม่ซับซ้อน ไม่โกหก ถ้าใครถามว่าเป็นอะไร ก็จะบอกว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว อยู่ที่ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เราจึงดีไซน์ออกมาเป็นเด็ก ที่บริสุทธิ์และใส ถ้าเทียบกับมนุษย์ต่างดาวตามข้อมูลจริงจะมีหลายชนิดมาก คือ มีทั้งร้าย มีทั้งดี มีเผ่าพันธ์ เต็มไปเลยนะจำแนกกันมามันมีอยู่ แต่เราไม่ได้ไปติดกับอะไรตรงนั้น เราเอามาปรับเปลี่ยนให้มันเป็นอารมณ์ของป๋อง ใช้สมองมากกว่า ร่างกาย และใช้พลังจิต
A: เรื่องราวความสนุกของ สูบคู่กู้โลก
เรื่อง ราวของ 2 คู่หูเพื่อนซี้แก๊งสูบคู่ คือ จ๊อด แฮนด์ลิง (หม่ำ จ๊กม๊ก) กับ อี๊ด ก้านยาว (เปิ้ล นาคร) ตกอยู่ในช่วงคับขันของชีวิต ติดหนี้พนันบอลก้อนโต จึงโดนลูกน้องของเฮียง้วน (พีท ทองเจือ)ตามล่า และขู่บังคับให้หาเงินมาคืนภายใน 3 วันเท่านั้น ถ้าไม่อย่างนั้นจะโดนยึดอู่รถ ซึ่งเป็นจังหวะที่ ป๋อง (ภูมิ รังษีธนานนท์) หลานชายกลับมาอยู่ด้วย แต่มันก็ดันมีพฤติกรรมประหลาด ประดิษฐ์อะไรบางอย่างอยู่ในห้องนอน จนวันนึงป๋องเดินหายเข้าไปในป่า ด้วยความสงสัยของจ๊อดกับอี๊ด จึงแอบสะกดรอยตามหลาน แล้วก็ต้องช็อคตกใจเมื่อรู้ว่า ป๋อง มันคือมนุษย์ต่างดาวที่กำลังลงมาบุกโลก เรื่องราวมันจะเข้มข้นขึ้น เมื่อแก๊งสูบคู่ต้องปฏิบัติภาระกิจสำคัญควบคู่กันไป กู้โลกจากมนุษย์ต่างดาว พร้อมกับต้องกู้อู่รถตัวเองให้รอพ้นจากแก๊งทวงหนี้อีก
A: ฉากประทับใจพิเศษ ของผู้กำกับ
ฉาก ที่ประทับใจคือ ฉากขี่มอเตอร์ไซค์ ด้วยการที่พี่หม่ำต้องสวมบท จ๊อด แฮนด์ลิง ดังนั้นแฮนด์จะต้องสูงขนาดนี้ (ทำท่า) ผมลองขี่ดูแล้วมันไม่ง่ายเลยครับ ส่วนเปิ้ล นั้นฉายาเขาก้านยาว คนที่จะขี่มอไซค์ก้านยาวได้นั้น ผมว่าต้องเป็นนักเจ็ทสกีระดับโลกเท่านั้นเลยนะ แล้วทั้งคู่เขายอมขี่กันจริงๆ โดยวันนั้นต้องขี่บนถนนยาวประมาณ 15 กิโลเมตร เท่านั้นไม่พอต้องขี่ปาดหน้ากันไปมาด้วยนะ แล้วไม่มีการซ้อม ขี่กันจริงตอนนั้นเลย แต่พอขี่ไปได้สัก 10 กิโลเมตร พี่หม่ำขอจอดมอไซค์ แกลงไปนั่งกองกับพื้นถนน ขาสั่นพับๆ และบอกว่า เขาไม่ได้ขี่มอไซค์มาจะ 20 ปีแล้ว ผมยกให้แกเลยเรื่องสปิริทการแสดง ประทับใจพี่หม่ำมากครับ
A: ฉากที่รูสึกหนักใจเป็นพิเศษ
สำหรับ ผมแล้วฉากเลิฟซีน กลายเป็นฉากที่ยากสำหรับผมนะ ก็มันเป็นหนังตลก พอมีเลิฟซีนเข้ามามันดูขัดอารมณ์นิดหน่อย แต่ว่าในบทมันต้องมีครับ เป็นฉากสำคัญซะด้วย เมื่อมนุษย์ต่างดาวลงมาอยู่บนโลกมนุษย์นาน พลังก็เริ่มจะหมด จึงให้เนย นางเอกของเรื่องช่วยเติมพลังให้นี่แหละครับ ต้องไปดูในหนังว่า เนย จะช่วยเติมพลังให้กับ ป๋อง มนุษย์ต่างดาวด้วยวิธีอะไร แค่ฉากเติมพลังนี่แหละครับ ใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมง เริ่มถ่ายตอน 5 ทุ่ม กว่าจะถ่ายเสร็จปาไปตี 5 สว่างเลยครับ
A: นักแสดงรับเชิญที่น่าจับตามองในเรื่องนี้ เป็นใครกันบ้าง
หลาย คนเลยครับ นักแสดงรับเชิญเรื่องนี้ ยกตัวอย่าง ดีเจเชาเชา มารับบทเป็นนักปั่นจักรยานเสือหมอบ ทั้งเรื่องปั่นอยู่คนเดียว ออกแนวเพี้ยนๆ ส่วน พี่จตุรงค์ มกจ๊ก ก็รับเชิญเป็นนักสืบจอมโหด แล้วนักแสดงรับเชิญที่ทำให้กองถ่ายแตก คือ ก้อง นูโว วันนั้นสาวๆ ในกองไม่เป็นอันทำงานกันเลยครับ แม้แต่ ต๊อก ศุภกรณ์ รับเชิญในบท จ่าเสม ก็แสดงแบบจัดเต็มมากๆ ครับ หรือ พีท ทองเจือ นอกจากเป็นแหล่งข้อมูลของเราแล้ว เราก็ยังเชิญมาร่วมแสดงด้วยเช่นกันในบท เฮียง้วน และยังมีอีกหลายคนเลยครับที่เราเชิญมาร่วมสร้างความสนุกในครั้งนี้
A: เบื้องหลังความสนุกสนานของกองถ่ายเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อยกกองถ่ายและทีมนักแสดงไปปักหลักถึง จันทบุรี กันหมดเลย
สนุก สนานกันมากครับ ด้วยสถานที่เราไปถ่ายทำกันที่หาดเจ้าหลาว เราไปแบบแพ็คทีม จับอยู่ในที่เดียวกันหมดไม่มีใครหนีไปไหนได้ จะหลุดคาแร็คเตอร์ก็ไม่ได้ด้วยนะ เพราะตื่นเช้ามาก็ต้องใส่ชุดคาแร็คเตอร์ทำงานกันต่อ พี่หม่ำตื่นเช้ามาเขาก็จะมาช่วยเสนอมุก ไอเดียตลกกับผมตลอด แม้จะเลิกกองตอนเย็น พี่หม่ำก็ยังเอามุกใหม่ๆ มาเสนอตลอด การร่วมงานกับพี่หม่ำสนุกมาก แล้วเขาเป็นคนตั้งใจทำงานเต็มที่กับงาน และมีสปิริทการแสดงสูงมากครับ ส่วนเปิ้ลเราร่วมด้วยช่วยกันตั้งแต่เรื่องบทหนังแล้วครับ เวลาผมรู้สึกติดขัดก็จะถามเปิ้ลเขามีไอเดียอะไรเสนอไหม เขาก็จะมาช่วยเติมบทให้สมบูรณ์มากขึ้น เปิ้ลเหมือนเป็นคนดูให้กับผม ในขณะที่หนังยังไม่สร้าง ซึ่งอันนี้มีประโยชน์มากเลย เปิ้ลจะดูภาพรวมๆ
A: คิดว่าเรื่อง สูบคู่กู้โลก นอกจากเป็นผู้กำกับแล้ว ยังเป็นป๋าดัน พระเอก นางเอก หน้าใหม่ด้วยไหม
ภูมิ เนี่ยเคยแสดงหนังมาก่อนแล้วครับ แต่ว่าถ้ารับบทพระเอกก็เรื่องนี้เรื่องแรกเลย พอมาอยู่กับทีมงานเราเขาก็ไม่เขิน จะรีแล็กซ์ เป็นธรรมเนียมของกองเราเสมอเวลามีนักแสดงหน้าใหม่ พวกเราจะละลายพฤติกรรมกันก่อนจนคุ้นเคยสนิทกัน พอผมสั่งแอ็คชั่นปุ๊ป ภูมิจะไม่รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนแปลกหน้าครับ มันก็มีบ้างนะตามประสาเด็กที่จะมีสมาธิสั้นนิดนึง บางครั้งเราก็ต้องบอกภูมิหยุดทำสมาธิสัก 20 วินาทีก่อนนะ แล้วก็ผ่านไปได้ดีครับ มันพิเศษก็ตรงที่ภูมิเวลาเข้าฉากเจอพี่หม่ำ กับเปิ้ล พวกเขาเหมือนเป็นคนเผ่าพันธุ์เดียวกันนะ (หัวเราะ) คนละวัยแต่ไปด้วยกันได้ดี ทำงานกันก็มุกสดเฮฮากันได้ดี นอกงานพวกเขาก็เฮฮากันได้ ส่วนแม็กกี้ เขาก็แสดงหนังเรื่อง คน-โลก-จิต มาก่อนแล้ว แต่เรื่องนี้พลิกบทบาทมากด้วยการเป็นนางเอกหนังตลก แล้วแม็กกี้เขาจะคอยช่วยเรื่องการต่อบทให้กับภูมิ ด้วยการจำบททั้งของภูมิและก็ของตัวเอง ทำให้การทำงานผ่านไปได้ดีตลอดครับ ผมโชคดีมากสำหรับนักแสดงในเรื่องนี้ครับ (ยิ้ม)
A: ความน่าสนใจของ สูบคู่กู้โลก
ผม อยากทำหนังให้คนดูได้รับความแปลกใหม่อยู่ตลอดครับ สำหรับสูบคู่กู้โลก เราก็นำเรื่องคอมพิวเตอร์กราฟฟิก CG โดยทีมงานเดิมที่สร้างหุ่นยนต์สิบล้อ คือ เซอร์เรียลสตูดิโอ มาสร้างและเติมความสนุก ลูกเล่น อย่างมนุษย์ต่างดาว จานบินยูเอฟโอ บรรยากาศของหนัง ซึ่งมีอยู่หลายฉากครับ เป็นความจำเป็นอย่างมากที่เราต้องดึงมาสร้างให้คนดูตื่นเต้น เพราะสิ่งเหล่านี้เราไม่ได้พบเห็นในชีวิตประจำวัน
และเรื่องของความตลก แน่นอนเราจะได้เห็นการประชันมุกระหว่าง 2 นักแสดง สุดยอดตลกเมืองไทย พี่หม่ำ จ๊กม๊ก กับ เปิ้ล นาคร ที่อีกคนมักจะนำพาเรื่องเดือดร้อนมาให้เสมอ ส่วนอีกคนทั้งที่รู้ว่าเดือดร้อนแต่ก็ยอมเดินตามมาด้วยตลอด เป็นครั้งแรกที่ 2 คนนี้จะมาประชันกันจะจะ เรื่องมุกตลกไม่มีใครยอมกันลงเลยครับ
A: ฝากผลงาน
สูบ คู่กู้โลก ผลงานลำดับที่ 4 ผมคิดว่าหนังเป็นแนวแปลกใหม่ ไซไฟ คอมิดี้ นำแสดงโดยหม่ำ จ๊กม๊ก และ เปิ้ล นาครมนุษย์ต่างดาว UFO ครั้งแรกในเมืองไทย ติดตามความสนุกของ มนุษย์ต่างดาวกับแก๊งมอไซค์ เมื่อมาเจอกันแล้วมันจะป่วนโลกกันขนาดไหน พฤศจิกายนนี้ครับ
FYI: เป้ นฤบดี
คุณมีความเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวไหม
- ผมเชื่อ และยังสงสัยตั้งแต่ตอนอายุ 12 ปี กับแสงหักเหที่ผมเห็นมันคืออะไรกันแน่ และจักรวาลของเรามีดวงดาวนับแสนล้านดวง สิ่งมีชีวิตที่จะเกิดขึ้นคงไม่ได้มีแค่พวกเรา อันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ
มนุษย์ต่างดาวในจินตนาการคุณเป็นแบบไหน
- ตามความคิดของผม มาเป็นลักษณะแบบจิต ใช้พลังจิตที่สูง แม้แต่การสื่อสาร
หากคุณได้เจอมนุษย์ต่างดาวขึ้นมา
- จะทักทายด้วยคำว่า สวัสดี อันดับแรกก่อนเลย
วันหนี่งคุณตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าคุณกลายเป็นมนุษย์ต่างดาว มีความสามารถก็อปปี้อะไรก็ได้
คุณจะเลือกก็อปปี้เป็น
- อาราเล่ สนุก ไม่ต้องคิดมาก ต่อสู้ใครก็ได้ เวลาเสียก็มี ดร.สลัมคอยซ่อม
Post by: FB on November 02, 2012, 05:57:55 PM
ก่อน หน้านี้เคยมีผลงานแสดงภาพยนตร์มาแล้ว เรื่อง มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย (2555) แต่ถึงจะไม่ได้รับบทเด่นมากแต่ด้วยความหล่อที่เด่นเข้าตาผู้กำกับ เป้ นฤบดี จึงเลือกภูมิ เป็นพระเอกใน สูบคู่กู้โลก และด้วยความสามารถทางการแสดง ทำให้ในเรื่องนี้ เขาจึงต้องรับบทบาทถึง 2 คาแร็คเตอร์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน นับว่าเป็นการประเดิมบทพระเอกครั้งแรก ที่นอกจากจะต้องเตรียมความพร้อมทางด้านการแสดงแล้ว ยังต้องเตรียมตัวรับมุกตลกจากรุ่นพี่หม่ำ จ๊กม๊ก และ เปิ้ล นาคร มาอย่างดีที่สุดอีกด้วย
ประเดิมบทพระเอกเรื่องแรก เหมือนโดนรับน้องเลย กับการแสดงควบ 2 คาแร็คเตอร์ เป็นอย่างไรบ้าง
เป็น หนังที่แปลกครับ (555) ด้วยความที่เป็นหนังคอมิดี้ ผมก็หลุดขำตลอดเลยครับ แถมเรื่องนี้ผมต้องแสดงเป็น 2 คาแร็คเตอร์ คือรับบทเป็น ป๋อง หลานของน้าจ๊อด กับน้าอี๊ด แสดงโดยพี่หม่ำกับพี่เปิ้ลครับ จะมีนิสัยกวนโอ้ย ไร้สาระ บ้าบอไปวันๆ จนวันนึงกำลังเดินทางกลับมาที่อู่ของน้า ก็ดันเกิดอุบัติเหตุขึ้น พอฟื้นขึ้นมาก็กลายเป็นป๋อง ที่เรียบร้อย นิ่งๆบื่อๆ ไม่รู้อะไรเลยว่างเปล่ามาก ไม่ค่อยพูดอีก เปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ เปลี่ยนจากคนกลายเป็นมนุษย์ต่างดาวครับ
แล้ว ป๋อง บทบาทไหนใกล้เคียงตัวของ ภูมิ มากที่สุด
ป๋อ งที่กวนโอ้ยสิครับ เหมือนผมเลย(555) เล่นง่ายเลย แต่ถ้าเป็นป๋อง มนุษย์ต่างดาว จะต้องเงียบๆขรึมๆ ยากเลย เพราะผมไม่ใช่คนเงียบ ผมชอบคุย เฮฮา สนุกสนานไปเรื่อย แต่ลึกๆผมก็แอบเป็นคนขี้อายนะ แรกๆก็ยาก แต่เริ่มแสดงไปเรื่อยๆเราก็ชิน เริ่มจับทางได้บ้างครับ อ่อ!ป๋องต่างดาวเนี่ย เขาไม่รู้จักความรักมันคืออะไร เหมือนผมเลยไม่ค่อยรู้จักความรัก...เชื่อไหม?(ยิ้ม)
เรื่องราว สูบคู่กู้โลก เป็นอย่างไร
ป๋อ ง หลานของน้าจ๊อด กับน้าอี๊ด กำลังเดินทางกลับมาที่อู่ แต่ดันเกิดอุบัติเหตุรถชนก่อน ทำให้ป๋องจากเดิมที่ชอบกวนตีนชาวบ้าน ก็เปลี่ยนเป็นป๋องที่เรียบร้อย ไม่พูดไม่จา และขรึมๆ ทำตัวแปลกไป จนน้าจ๊อดกับน้าอี๊ดเริ่มสงสัย และสะกดรอยตามเข้าไปในป่า ก็ทำให้รู้ว่า ป๋อง เนี่ยมันคือมนุษย์ต่างดาว มันก็วุ่นวายไปกันใหญ่ เพราะพวกน้าก็โดนเฮียง้วนเจ้าหนี้ตามล่าทวงเงิน ก็ต้องหนี พอหนีก็ดันมาเจอมนุษย์ต่างดาวที่ลงมาบุกโลกอีก มันสนุกตรงนี้แหละครับ ต้องติดตามชม
เตรียมตัวมาพร้อมกับการแสดงขนาดไหน
ก่อน เปิดกล้องผมมีไปเรียนแอ็คติ้งการแสดง ก็พยายามถามครูที่สอนตลอดว่า ต้องแสดงยังไง ต้องทำอะไรบ้าง ครูก็บอกว่าให้เล่นออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด สบายๆไป ซึ่งมันก็เข้าทางผมนะ ผมเป็นคนตลก เฮฮา แต่ขนาดเตรียมตัวมาแล้วก็ยังหลุดขำอยู่ดีครับ เพราะเป็นหนังคอมิดี้ไม่เครียด ผมเลยหลุดขำกระจาย
ในฐานะเราเป็นพระเอกน้องใหม่ โดนพี่หม่ำ พี่เปิ้ล รับน้องยังไงบ้าง
ใน ฉากเลี้ยงวันเกิดป๋องครับ น้าจ๊อดกับน้าอี๊ดมาเลย เดินถือเค้กมาเซอร์ไพรส์วันเกิดหลาน ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ แล้วเขาก็บอกให้ผมหลับตาอธิษฐาน เท่านั้นแหละครับ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู ปั๊ป!เต็มหน้าเลย แอบดึงเทียนออกตอนผมหลับตาอย่างไว แสบตามาก เค้กเต็มตาเลย (555) โหววว...เล่นเราซะเสียเลย พี่เปิ้ลนี่ตัวการเลย อ้าววันเกิดป๋อง ร้องเพลงให้ป๋อง หลับตา เรียบร้อย เทคเดียวฮาเลยครับ
ฉากที่รู้สึกประทับใจเป็นพิเศษ
ฉาก ขี่มอเตอร์ไซค์ครับ คันมันใหญ่นะ แล้วต้องขี่ขึ้นภูเขาเลื้อยขึ้นเลื้อยลง ผมก็อัดเต็มที่เลยมันแรงมาก ปกติผมจะขี่คันเล็กๆ ผมขี่กอลิล่า คันนิดเดียวเองขี่ไปเรียนบ้าง ขี่กับแก๊งเพื่อนๆ แต่คันนี้มันใหญ่และแรงกว่าเยอะทรงตัวลำบากด้วยความที่หนัก เวลาเข้าโค้งต้องปล่อยครัช มันก็ยากอยู่นะ แต่สนุกดีครับขี่ไปทั่วชอบที่มันได้ขี่ขึ้นลงภูเขานี่แหละครับ ฉายเดี่ยวเลยฉากนี้ ส่วนทีมตากล้อง ทีมงานก็จะอยู่ในรถกะบะอีกคันคอยขับตามครับ
การร่วมงานกับนักแสดงรุ่นพี่ ทั้งพี่หม่ำ และ พี่เปิ้ล รู้สึกอย่างไรบ้าง
การ ได้มาร่วมงานกับพี่หม่ำ เขามีความเป็นโปรเฟสชั่นนอลมาก อย่างบางทีเขาจะอิมโพรไวส์เองไม่ต้องเล่นตามบท คือเห็นอะไรเล่นได้หมดเก่งมากครับ และด้วยความที่พี่หม่ำเป็นถึงซุป’ตาร์ตลกอันดับต้นเลย ผมก็ไม่เคยคิดว่าจะได้มีโอกาสร่วมงานกับพี่เขามาก่อน ตื่นเต้นมาก ครั้งแรกที่ต้องเข้าฉากร่วมกันผมไปไม่เป็นเลยนะ โอ้วโฮ!ตังเกร็งมาก แต่พอเริ่มเข้าฉากกันบ่อยก็โอเคครับ พี่หม่ำเป็นคนน่ารักดี นิสัยดี
ส่วน พี่เปิ้ล นอกบทตลอดเลยครับ ฉากที่ต้องนอนอยู่ เขาก็ลากผมลงมากองกับพื้นซะงั้น ฮาเลย เขาชอบเล่นตอนผมเผลอ บางทียืนๆผมก็กระตุกขำออกมาตลอด ร้ายอ่ะ (555) หลังๆ เริ่มไหลตามพวกพี่เขาไป ไหลไปเรื่อยเลยทีนี้ พี่เปิ้ลเขาจะจริงจังกับการทำงานมากนะ เพียงแต่เขาเป็นคนตลก เขาเป็นคนไม่ซีเรียสแต่ว่าตั้งใจทำงานมาก ถ้าพี่เป้ ผู้กำกับยังไม่สั่งคัท เขาก็จะเล่นต่อมุกกันไปเรื่อย เล่นเอง ทำนู่นทำนี่ครับ
มีสอนแสดงตลก หรือแนะนำการปล่อยมุกอะไรกับภูมิบ้างไหม
มี ครับ บางครั้งเขาก็จะบอกว่าทำแบบนี้ เพื่อที่จะได้ออกมาฮา เขาก็จะสอน บางฉากที่ต้องเล่นด้วยกันเขาก็จะมาพูดสอนให้เล่นแบบนี้ แบบนี้ ผมก็จำๆ ไว้ ชอบสอนมุกตลกว่าต้องทำแบบนี้นะ คือตอนแสดงผมไม่มีมุกตัวเองหรอก แต่อาศัยไหลตามพวกพี่เขาไป ก็ออกมาฮาดี
การทำงานกับพี่เป้ ผู้กำกับ อารมณ์ดีเป็นอย่งไรบ้าง
พี่ เป้ ผู้กำกับ จะคอยสอนตลอดว่าให้เล่นเป็นธรรมชาติ ปล่อยสบายๆไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องคิดมาก อย่าเพิ่งไปคิดถึงเรื่องข้างหน้า สบายๆเล่นไปเลย เขาจะแนะนำผมตลอด หลังจอมอนิเตอร์ผมก็ชอบพูดคุยกับเขา เขาก็จะสอน บางทีเขาก็จะบอกว่าอยากได้เพิ่มตรงนั้นอีก การทำงานกับพี่เป้ และพวกพี่ๆสนุกดีครับ ชอบมากสนุกมาก ไม่คิดว่าจะสนุกขนาดนี้ สนุกเว่อร์ แฮปปี้ (ยิ้มกว้าง) ได้มาทะเลด้วย พวกพี่ๆ ที่กองก็น่ารักเป็นกันเองมากครับ
“แม็กกี้” นางเอกใน “สูบคู่กู้โลก” ร่วมงานกันครั้งแรกเป็นอย่างไรบ้าง
น่า รักครับ แม็กกี้ตั้งใจทำงานมาก แล้วเรื่องนี้เราต้องมีฉากกุ๊กกิ๊กกันด้วย ผมก็เขินเลย ไม่เคยแสดงแบบนี้มาก่อน ก็จะเกร็งๆ ถ้าต้องมีฉากกุ๊กกิ๊กกัน แต่สุดท้ายมันคือการแสดงเราก็ต้องพยามไม่เขินครับ
ความน่าสนใจของภาพยนตร์ สูบคู่กู้โลก
เป็น หนังแนวคอมิดี้-ไซไฟ เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาว ผมว่ามันน่าสนใจดีนะ หนังไทยที่เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวไม่ค่อยมีใครสร้างกันนะครับ ก็นับว่าแปลกใหม่ดี เชื่อว่าคนดูจะได้เฮฮากันอย่างแน่นอนครับ
ฝากผลงาน
สูบ คู่กู้โลก ฝากผลงานด้วยนะครับ รับรองความฮาโดยซุป’ตาร์ตลกเมืองไทย พี่หม่ำ จ๊กม๊ก, พี่เปิ้ล นาคร ร่วมด้วยนางเอกสาวสวย พี่แม็กกี้ อาภา และผม ภูมิ รับบทเป็นป๋อง เย้! เป็นครั้งแรกด้วยที่เล่นเป็นพระเอกครับ (ยิ้ม)
FYI: ภูมิ รังษีธนานนท์
คุณเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวไหม
- เชื่อครับ ผมว่าเราคงไม่อยู่กันแค่นี้หรอก บนจักรวาลนี้มีดาวดวงอื่นอีกเยอะแยะ มันน่าจะมีสิ่งมีชีวิตนอกโลก
มนุษย์ต่างดาวในจินตนาการของคุณเป็นแบบไหน
- น่าจะหัวโตๆ ตาโตๆ ตัวสีเทา ผอมๆ หน่อยไม่ใส่เสื้อ คิดว่านะ
หากคุณเจอมนุษย์ต่างดาวตัวเป็นๆ
- ???? ไปไม่เป็นเลย
วันหนึ่งคุณตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าคุณกลายเป็นมนุษย์ต่างดาว มีความสามารถก็อปปี้อะไรก็ได้ คุณจะเลือกก็อปปี้เป็น
- บ็อบ มาเล่ย์ เพราะเขาคือคนริเริ่มดนตรีเรกเก้ เป็นตำนานเลย แต่ให้ผมไปร้องเพลงก้คงไม่ไหวนะ 555
Post by: FB on November 02, 2012, 05:58:54 PM
เป็นครั้งแรกที่ หนุ่มภูมิ รังษีธนานนท์ และสาวแม็กกี้ อาภา ประกบคู่พระเอก-นางเอกในภาพยนตร์เรื่อง สูบคู่กู้โลก แนวคอมิดี้-ไซไฟ แม้ทั้งคู่จะเคยมีผลงานภาพยนตร์ผ่านตามาบ้างแล้ว แต่เมื่อต้องมาสวมบทบาท “หนุ่มต่างดาว และสาวต่างจังหวัด” ในเวอร์ชั่นของผู้กำกับเป้ นฤบดี เวชกรรม แต่ละคนจึงต้องเตรียมตัวทำการบ้านกับคาแรคเตอร์ในครั้งนี้ก่อนมาเข้าฉากอยู่ ไม่น้อยเลย ที่นอกจากจะต้องเตรียมตัวมารับมุกฮาจากนักแสดงรุ่นพี่ หม่ำ จ๊กม๊ก และ เปิ้ล นาคร แล้ว ฉากที่ดูจะหนักใจของทั้งคู่จึงเป็นฉากกุ๊กกิ๊กเลิฟซีน โดยเฉพาะแม็กกี้ สาวสวยที่ไปไหนมาไหนต้องมีคุณแม่จอยประกบอยู่ไม่ห่างนั้น จึงทำให้หนุ่มๆไม่กล้าเข้าใกล้กันเลย แต่บทบาทของ เนย มันดันตรงกันข้ามกันกับนิสัยของแม็กกี้ ที่จะต้องวิ่งเข้าหาและคอยตามจีบผู้ชายก่อนนี่สิ แม็กกี้จึงเล่าถึงบท เนย ว่า
“เนย จะเป็นสาวแต่งหน้าจัด ทาปากแดง แถมต้องเดินขาโก่งๆหัวเข่าต้องดำ และเด็ดตรงที่กล้าจีบผู้ชายก่อน ซึ่งแม็กกี้ต้องทำการบ้านกับคาแร็คเตอร์นี้มาก่อน กับ ฉากที่จะต้องเข้าไปจีบผู้ชายเนี่ย เขินค่ะ เขินมาก เราเป็นผู้หญิง แล้วเราก็ไม่เคยที่จะต้องไปจีบใครเขาก่อน แต่ว่าด้วยบทบาทและเนื้อเรื่องเราต้องเข้าหาก่อน ก็ฮึดสู้ เอาว่ะลองดู แต่ก็เตรียมตัวมานะ แม็กกี้ดูจากเพื่อนๆบ้าง แล้วก็ถามเพื่อนๆ คอยสังเกตวัยรุ่นต่างจังหวัดเขาเป็นกันยังไงนะ เพราะในเรื่อง เนย เป็นเด็กนักเรียนพาณิชย์ต่างจังหวัด ดูว่าการแสดงออกเป็นประมาณไหน เวลาเขาเป็นแฟนกันเขาทำยังไงกันบ้างค่ะ”
และสำหรับฉากสำคัญของ เรื่องนี้ ที่แม็กกี้ทุ่มทุนสร้างด้วยการเสียสละจูบแรกของเธอให้กับพระเอกหล่อ ภูมิ โดยเป็นฉากที่หนุ่มต่างดาวเริ่มจะหมดพลังเมื่อมาอยู่บนโลกมนุษย์ เดือดร้อนถึงสาวมนุษย์โลกที่ตกหลุมรักเข้าอย่างจัง โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังรักกับมนุษย์ต่างดาวนั่นเอง จึงอาสาเติมพลังด้วยการประทับรอยจูบ และฉากนี้เองที่ลากยาวถึง 6 ชั่วโมงเต็ม ทั้งทีมงาน ทีมนักแสดงต่างก็ลุ้นกันตัวเกร็งกว่าจะผ่านพ้นฉากนี้ไปได้ ซึ่งแม็กกี้เล่าแบบเขินๆกับฉากกุ๊กกิ๊กนี้ว่า
“ก็พอจะมีให้ กุ๊กกิ๊กกันหลายฉากอยู่ ถ้าเป็นเลิฟซีนเบาเบา กอดกัน แค่เฉพาะฉากกอดก็ถ่ายกันอยู่ 18 เทคเห็นจะได้ค่ะ(555) ก็อย่างที่บอกแม็กกี้เขิน พอเขินก็เลย 18 เทค นี่แค่เฉพาะฉากกอดอย่างเดียวนะคะ เป็นฉากหลังจากที่ป๋องหายตัวไปแล้วกลับมาอีกครั้ง เนยมาเจอที่อู่รถน้าจ๊อด น้าอี๊ด ด้วยความดีใจ เนยจะต้องวิ่งกระโดดกอดป๋องค่ะ ซึ่งบางทีมันก็อยู่ที่จังหวะวิ่ง จังหวะกระโดดกอดอีก หรืออยู่ๆก็มีเสียงเพลงลูกทุ่งจากรถที่วิ่งๆอยู่แถวนั้น ก็ต้องเทคกันใหม่หลายรอบค่ะ ส่วนป๋องก็ได้กอดฟรีไป(555) ส่วนฉากกุ๊กกิ๊กเยอะกว่านี้ จะเป็นตอนที่ป๋อง มนุษย์ต่างดาวเริ่มจะหมดพลังแล้ว เนยก็ไม่รู้จะทำยังไงเลยเม้าท์ทูเม้าท์ซะเลย ซึ่งฉากนี้ก็ถ่ายกัน 6 ชั่วโมง ถ่ายกันยันเช้าเลยค่ะ เขิน และพยายามทำใจจุ๊บแรกของแม็กกี้เลยนะ ไปดูเอาในหนังดีกว่าค่ะ(ยิ้ม)”
แม็กกี้ยังเล่าถึงการร่วมงาน กับพระเอกหนุ่มหล่ออีกว่า “จริงๆเรามีการเวิร์คชอป ทำความรู้จักกันก่อนอยู่แล้ว เพื่อที่เวลาแสดงจะได้ไม่เขินกัน แต่แม็กกี้ก็ยังเขินอยู่ดี(ยิ้ม) สำหรับภูมิ เขาแสดงได้เป็นธรรมชาติดีนะ เล่นได้เป็นตัวของเขาเองเลยค่ะ ภูมิเขาไม่ค่อยเขิน หรือแอบเขินแต่เก็บอาการก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ร่วมงานกันก็โอเคค่ะ ภูมิเขาเป็นคนน่ารัก นิสัยดี เข้ากันได้กับทุกคนในกองถ่ายเลย เวลาพักเขาก็จะชอบไปเล่นกับพี่ๆในกอง เป็นคนกันเองดีค่ะ ก็ขอฝากภาพยนตร์ สูบคู่กู้โลก เป็นหนังแนวคอมิดี้-ไซไฟ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะได้ดูพี่หม่ำกับพี่เปิ้ลปะทะความฮากัน รับรองว่าฮามาก และสิ่งที่คนดูจะได้รับ แน่นอนสิ่งแรกเลยคือความสนุก ความฮา ความบันเทิง รวมถึงเรื่องมนุษย์ต่างดาว มีจริงหรือเปล่า แล้วมนุษย์ต่างดาว หน้าตาเป็นแบบไหน และความรักของมนุษย์ดาวจะเป็นยังไงนะ คุณจะได้รู้ได้เห็น 8 พฤศจิกายนนี้นะคะ”
เมื่อโลกต้องการฮีโร่ ไม่มีใครพร้อมไปกว่าพวกเขา “หม่ำ จ๊กม๊ก” กับ “เปิ้ล นาคร” ในภาพยนตร์สูบคู่กู้โลก คอมิดี้-ไซไฟ ผลงานกำกับของนฤบดี เวชกรรม เตรียมตัวกู้โลกด้วยเสียงฮาพร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์ 8 พฤศจิกายนนี้
Post by: FB on November 02, 2012, 06:00:37 PM
Mv. บาดทะยัก (Ost.สูบคู่กู้โลก)
สุดๆ ไปเลย สำหรับคุณพ่อลูกอ่อน เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย นอกจากจะเป็นนักแสดง และช่วยสรรหามุกตลกมาเสริมในบทภาพยนตร์ สูบคู่กู้โลก ผลงานกำกับ เป้ นฤบดี เพื่อนรักสุดซี้ของเขาในครั้งนี้แล้ว ยังออกตัวแรง ขออาสาทั้งแต่งเนื้อร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ ที่มีชื่อเพลงว่า “บาดทะยัก” แต่ก็ยังสะใจไม่มากพอ เปิ้ลยังขอเดินลุยเดี่ยวเข้าห้องอัดลงเสียงร้องเองอีกด้วย โดย เปิ้ล นาคร เล่าให้ฟังถึงการทุ่มสุดตัว และความหมายของเพลงนี้ว่า
“ผมชอบ ทำนองเพลงนี้ ฟังแล้วมันโจ๊ะๆ ดี แล้วผมก็มาแต่งเนื้อร้องใหม่ ซึ่งตั้งชื่อเพลง บาดทะยัก มันมีที่มาแบบนี้ครับ ทุกวันนี้โลกเราเกิดภัยพิบัติมากมาย และมันก็เกิดจากฝีมือมนุษย์เราเองนี่แหละดังนั้นเราจึงต้องช่วยกันรักษาโลก ของเราให้น่าอยู่ ป้องกันโลกของเราให้ดีก่อนที่โลกเราจะแตก เปรียบได้กับความรัก คนเรารักกันก็ต้องดูแลความรักระหว่างกันให้ดี อย่าปล่อยให้ความรักของคุณเป็นสนิม มันไม่ต่างกับการหยิบมีดที่เป็นสนิมมาพอไปบาดใครก็จะรู้สึกเป็นบาดทะยักแล้ว ตายทันที อย่าเพิ่งอ้วกครับยังไม่จบ โลกเราครับ ถ้าเกิดว่าเราไม่รักษาโลก โลกเราก็จะเกิดสนิม เกิดสนิมเมื่อไหร่โลกเราจะเป็นบาดทะยักนั่นหมายถึงหายนะจะเกิดบนโลกมนุษย์ เรา บาดทะยา บาดทะยัก...”
ซึ่งเพลประกอบภาพยนตร์ครั้งนี้ ยังได้มีการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ โดยได้นักแสดงนำอย่าง หม่ำ จ๊กม๊ก, แม็กกี้ อาภา และ ภูมิ รังษีธนานนท์ มาร่วมแจมจังหวะโจ๊ะๆ มันส์ๆ กวนๆ แบบฮายกทีมกันเลยทีเดียว เรียกว่าจะได้เห็นลีลาของนักแสดงกันทุกคนอย่างแน่นอน ส่วนท่าเต้นใครจะจี๊ดโดนใจที่สุดคงต้องชมกันเอาเอง รับรองฮาแน่นอนจ้า
ติดตาม ฟังเพลงและชมมิวสิควิดีโอได้ที่ http://www.youtube.com/SahamongkolfilmInt และ https://www.facebook.com/sahamongkolfilmint หรือ http://www.youtube.com/watch?v=O_TxsNlK1AQ ซ้อมร้อง ซ้อมเต้น เรียกน้ำย่อยกันไปพลางๆ ก่อนที่จะพบกับความฮาแบบทะลุโลก 8 พฤศจิกายนนี้
Post by: FB on November 09, 2012, 05:13:36 PM
เพราะ เป็นภาพยนตร์แนวคอมิดี้-ไซไฟ ที่นำเอาเรื่องต่างดาวเข้ามาผสมปนความฮา “สูบคู่กู้โลก” ผลงานกำกับของ เป้ นฤบดี จึงพิถีพิถันกับการดีไซน์ มนุษย์ต่างดาว จานบิน รวมถึงการออกแบบฉากพิเศษ ที่เชื่อว่าในประเทศไทยคงยังไม่มีใครกล้าทำมาก่อน ซึ่งในส่วนความฮาขั้นเทพนั้นการันตีได้จากการเลือกนักแสดงนำอย่าง หม่ำ จ๊กม๊ก และ เปิ้ล นาคร จับคู่ร่วมป่วนสร้างเสียงหัวเราะกันแล้ว ในส่วนของเรื่องความเป็นไซไฟ ผู้กำกับเป้ก็พร้อมลุยและเตรียมเซอร์ไพรส์ให้กับบรรดาแฟนหนังที่รอติดตามผล งานล่าสุดของเขาอยู่เช่นกัน ด้วยการแท็คทีมกับ เซอร์เรียล สตูดิโอ ทีมออกแบบเทคนิคพิเศษทางภาพ ซึ่งเคยร่วมงานกันมาก่อนหน้านี้ในภาพยนตร์ที่ผ่านมา โดย ผู้กำกับเป้เล่าถึงการออกแบบดีไซน์ มนุษย์ต่างดาวเบื้องต้นว่า
“ผม ตีความมนุษย์ต่างดาว ว่าสื่อสารด้วยจิต รูปร่างคล้ายมนุษย์นี่แหละ แต่สามารถรับรู้ความคิดคนอื่นได้ ไม่ซับซ้อนมากนัก ถ้าเทียบกับมนุษย์ต่างดาวตามข้อมูลจริงจะมีหลายชนิดมาก คือ มีทั้งร้าย มีทั้งดี มีเผ่าพันธ์ แต่เราไม่ได้ไปติดกับอะไรตรงนั้น เราเอามาปรับเปลี่ยนให้มันเป็นอารมณ์ของป๋องตามบทภาพยนตร์ครับ”
และ แน่นอนหากคุณเป็นคนที่ชอบดูภาพยนตร์ไซไฟ คงไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ด้วยทีมงานออกแบบเทคนิคพิเศษทางภาพระดับโปรเฟสเชอนอล เซอร์เรียล สตูดิโอ (ผลงานที่ผ่านมา จันดารา, คนโลกจิต, สาระแนสิบล้อ, ชัมบาลา เป็นต้น) ที่จะมาสร้างปรากฏการณ์มนุษย์ต่างดาว และการดีไซน์ฉากสุดอลังการที่เทียบเท่าหนังฮอลลิวู้ด โดยผู้ควบคุมเทคนิคพิเศษทางภาพ โก้-ทศพร พูนนารถ เล่าถึงการดีไซน์มนุษย์ต่างดาวเวอร์ชั่นพิเศษ ในครั้งนี้ว่า
“ทาง พี่เป้ ผู้กำกับจะดีไซน์เบื้องต้นมาก่อน ตอนเรานั่งคุยกันต่างคนจะมีภาพมนุษย์ต่างดาว และจานบิน อยู่ในหัวกันอยู่แล้ว แต่สำหรับมนุษย์ต่างดาวสไตล์ของเป้ นฤบดี จะมีความเป็นสากล และใส่ความเป็นไทยเข้ามาผสมผสาน เริ่มจากการดีไซน์จานบินช่องเปิดปิดของยาน หรือตัวยานที่เรานำลักษณะของดอกบัวเข้ามาเล่นในการดีไซน์ และไม่เหมือนจานบินที่เราเคยเห็นอย่างแน่นอนครับ ส่วนตัวมนุษย์ต่างดาว จะเป็นสีเทา ใส่ความเป็นเด็กที่ดูน่ารักเข้าไป หัวโต ตาโต ตัวออกนิ่มๆ หยุ่นๆ เหมือนก้นเด็ก การออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟฟิกเรื่องนี้ยาก เพราะมีช็อตดีไซน์ค่อนข้างเยอะ ยกตัวอย่าง ฉากที่เกิดภัยพิบัติ ฉากป๋องใช้พลังจิต ฉากอวกาศนอกโลก รายละเอียดยิบย่อยก็มีเยอะมาก ซึ่งทีมงานต้องทำงานกันหนักเพื่อการดีไซน์ออกมาดูสมจริง ถึงแม้มันจะเป็นหนังตลก แต่ในเรื่องของ CG ทีมงานเราออกแบบกันจริงจังมากครับ”
Post by: FB on November 14, 2012, 03:50:32 PM
สห มงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับ เดอะ พิพัล ทรี จำกัด จัดงานรอบปฐมทัศน์กับภาพยนตร์ไทยสุดฮาเรื่อง “สูบคู่กู้โลก” ผลงานกำกับโดย เป้ นฤบดี เวชกรรม พร้อมนำทุกท่านเข้าสู่ขบวนการกู้โลก ที่แสดงนำโดย หม่ำ จ๊กม๊ก กับ เปิ้ล นาคร และผู้ร่วมภารกิจ แม็กกี้ อาภา กับหนุ่มต่างดาว ภูมิ รังษีธนานนท์ ณ โรงภาพยนตร์ SF WORLD CINEMA ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
สำหรับบรรยากาศในงานสนุก สนานด้วยแสงสีปาร์ตี้สะท้อนแสง แถมเซอร์ไพรส์!ด้วยเหล่ามนุษย์ต่างดาวที่เดินทางจากนอกโลกมาร่วมงานนี้ ด้วยการกระโดดขึ้นแดนซ์บนเวที และมี เปิ้ล นาคร ร้องเพลง บาดทะยัก เพลงประกอบภาพยนตร์ที่เขาทั้งร้องและแต่งเนื้อเพลงด้วยตัวเอง จากนั้น หม่ำ จ๊กม๊ก ก็ขอตามขึ้นมาแจมบนเวทีด้วยท่าเต้นอันเป็นเอกลักษณ์ ด้านนางเอกสาวสวย แม็กกี้ อาภา และพระเอกหนุ่มสุดแซ่บ ภูมิ รังษีธนานนท์ ก็ไม่ยอมแพ้นักแสดงรุ่นพี่ ร่วมแดนซ์กระจายกันในปาร์ตี้ครั้งนี้ ทำให้แขกรับเชิญที่มาร่วมงานเฮฮากันแบบสุดเหวี่ยง แต่ความสนุกยังไม่หมดเมื่อพิธีกร ดีเจเชาเชา หนึ่งในนักแสดงรับเชิญของเรื่องนี้เช่นกัน ยังได้เชิญ ผู้กำกับ เป้ นฤบดี และนักแสดงรับเชิญท่านอื่นขึ้นมาร่วมเม้าท์เบื้องหลังกองถ่ายและความเชื่อ เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว ได้แก่ พีท ทองเจือ, แอนนา ชวนชื่น, ต๊อก ศุภกรณ์, บอย ชิงร้อยฯ สร้างเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มก่อนที่จะเข้าไปชมภาพยนตร์กันอย่างถ้วนหน้า
และปิด ท้ายด้วยการถ่ายภาพหมู่ร่วมกันเป็นที่ระลึก ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้บริหารและพันธมิตรทางภาพยนตร์ได้แก่ เตือนใจ เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการ บ.สหมงคลฟิล์มฯ, วราภรณ์ ลีกุลนิมิต ผู้จัดการส่วนโฆษณา บ.ไทยประกันชีวิตฯ และ สุพัฒน์ งามวงศ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บ.เอส เอฟ ซีเนม่า ร่วมกับทีมนักแสดงและผู้กำกับในครั้งนี้
เมื่อโลกต้องการ “ฮีโร่” ไม่มีใครพร้อมไปกว่าพวกเขา “หม่ำ จ๊กม๊ก และ เปิ้ล นาคร”
ชวนมากู้โลกพร้อมกัน 8 พฤศจิกายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์