Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - FB

Pages: 1 ... 78 79 [80] 81
1186
โปสเตอร์ Camellia หนังใหม่จากค่าย FivestarProduction


 
ในวันหนึ่งๆ มีเรื่องน่าประหลาดใจเกิดขึ้นมากมาย
โดยเฉพาะเรื่อง.... ความรัก
แม้จะเจ็บปวด ... ยากจะลืมเลือน ... หรือเต็มไปด้วยความหอมหวาน
ความรักก็ยังคงจะมีเซอร์ไพรส์ให้กับเราเสมอ...
เพราะความรักไม่เคยหยุดสร้างความประหลาดใจ
ดังเช่นในภาพยนตร์
 
           “Camellia” หรือ “ดองแบก” ในภาษาเกาหลี เป็นทั้ง ชื่อเกาะ, ชื่อป่า และ ชื่อดอกไม้ ดอกดองแบก มีลักษณะเป็นไม้พุ่ม ดอกสีขาว หรือ สีชมพู และยังเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำเมือง ปูซาน ประเทศเกาหลี ซึ่งมีความหมายถึงการรอคอย คำมั่นสัญญาซึ่งได้เคยให้ไว้แก่กัน และ เป็นดอกไม้ที่แทน ... รักนิรันดร์ ...

          “Camellia” มีเนื้อหาของภาพยนตร์ที่ว่าด้วยความน่าประหลาดใจแห่งความรัก ที่เกิดขึ้นในเมือง ปูซาน เกาหลีใต้ ผ่านสามห้วงเวลา ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต โดยสามผู้กำกับภาพยนตร์ และนักแสดงจากสามประเทศ เกาหลี, ญี่ปุ่น และ ไทย ซึ่งทั้งหมดจะทำให้เรารู้ว่าความรักใน ปูซาน จะดำเนินไปในรอยทางใดในความต่างแห่งยุคสมัยที่พวกเขาต้องเผชิญ แม้จะต่างกันที่ภาษา แต่ก็สามารถสื่อสารกันได้ภายใต้ภาษารักเดียวกัน

1187
Movie: Dragon Peral มหัศจรรย์มังกรเหนือกาลเวลา


 
         The Dragon Pearl
          จัดจำหน่ายโดย เอ็ม พิคเจอร์ส
          ชื่อภาษาไทย มหัศจรรย์มังกรเหนือกาลเวลา
          เว็ปไซด์ตัวอย่างภาพยนตร์ http://www.youtube.com/watch?v=rxEUJzP4374
          ภาพยนตร์แนว ผจญภัย
          จากประเทศ ออสเตรเลีย - จีน
          กำหนดฉาย 11 สิงหาคม 2554
          ณ โรงภาพยนตร์ ทุกโรงภาพยนตร์
          นักแสดง Sam Neill (แซม นีลล์) จาก Day Breaker, Jurassic Park
          Wang Ji (หวัง จี) จาก The Karate Kid
          Li Lin Jin (หลี่ หลิน จิน) นักแสดงเด็กดาวรุ่งจากจีน
          และ Louis Corbett หลุยส์ คอร์เบ็ตต์ นักแสดงเด็กดาวรุ่งจากออสเตรเลีย

          ผู้กำกับ Mario Andreacchio (มาริโอ อังเดรอัคคิโอ)
          อำนวยการสร้าง
          จุดเด่น The Dragon Pearl เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่เกิดจากสนธิสัญญาความร่วมมือกันระหว่างออสเตรเลีย และ จีน ภาพยนตร์แอคชั่นผจญภัย ด้วยฉากที่อลังการงานสร้างสมจริง และสัตว์ในตำนานของจีนอย่าง “มังกร” มังกรตัวนี้ถูกสร้างขึ้นโดยไรซิง ซัน พิคเจอร์ส ผู้ซึ่งเคยผ่านผลงานบล็อกบัสเตอร์มาแล้วหลายเรื่องเช่น Harry Potter, Batman, Spiderman, Lord of the Rings และ The Green Lantern รวมถึงสถานที่ที่ใช้ในการถ่ายทำ เวิลด์ สตูดิโอส์ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น
คอมเพล็กซ์สตูดิโอที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่ฉากกว่า 3 ล้านตารางเมตร จึงถือว่าเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อีกเรื่องที่น่าติดตาม

          เรื่องย่อ เรื่องราวของเด็กหนุ่ม ที่ต้องเดินทางไปหาพ่อที่ประเทศจีน ซึ่งพ่อของเขา เป็นนักโบราณคดี ครั้งนี้พวกเขาได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่ปรากฏอยู่ใต้วัด มันคือของเก่าโบราณ และมังกรมีที่ชีวิตจริงๆ พวกเขาไม่รู้เลยว่าของสิ่งนี้ เกี่ยวข้องกับอะไร มันมีค่าแค่ไหน ถึงทำให้เกิดการแย่งชิงกัน และจุดประสงค์ของมังกร ที่ปรากฏให้เห็นนั่นกำลังบอกอะไรกันแน่

          เรื่องย่อ – 1
          ในความเป็นจริงแล้ว มันควรจะเป็นวันหยุดพักผ่อนเงียบๆ ในแหล่งขุดค้นหาวัตถุโบราณในประเทศจีน เมื่อจอชและหลิง เด็กวัยรุ่นสองคน ได้ไปใช้เวลาอยู่กับครอบครัวของพวกเขา แต่ไม่นานนัก สิ่งแปลกประหลาดและลึกลับต่างๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น และนำไปสู่การค้นพบ "สัตว์ประหลาด" ในถ้ำ ที่ทางเข้าออกถูกซ่อนอยู่ในวัดมานานหลายพันปี จอชพยายามจะเตือนพ่อของเขาและคนอื่นๆ เกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่พวกเขาได้พบ แต่กลับถูกตำหนิว่าเป็น "กระต่ายตื่นตูม” และ “เด็กเล็กๆ ที่เห็นสัตว์ประหลาด” หลิงสัมผัสได้ว่ามีพลังอำนาจยิ่งใหญ่บางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ซ่อนเร้นอยู่และรับรู้ว่า จริงๆ แล้ว “สัตว์ประหลาด” ตัวนี้คือมังกรจีนโบราณ ที่ถูกกักขังอยู่ใต้ดินเพราะมันถูกพรากจาก “ไข่มุก” วิเศษของมัน เกิดอะไรขึ้นกับไข่มุกนั้น
          แล้วตอนนี้มันอยู่ที่ไหน อันตรายอะไรที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในแหล่งขุดซากอารยธรรมโบราณที่พ่อของจอชทำงานอยู่ พวกเขาเป็นเพียงคนกลุ่มเดียวรึเปล่าที่รู้เกี่ยวกับพลังของไข่มุกโบราณเม็ดนี้ มังกรที่หลับไหลได้ถูกปลุกให้ตื่นแล้ว การต่อสู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจระหว่างธรรมะและอธรรม และในที่สุด พ่อแม่ของพวกเขาก็ได้ตระหนักเสียทีว่า ลูกๆ ของพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้เพี้ยนเลยซักนิด ช่างเป็นวันหยุดที่น่าตื่นเต้นจริงๆ!

          เรื่องย่อ – 2
          เมื่อจอช (หลุยส์ คอร์เบ็ตต์) และหลิง (หลี่ หลิน จิน) ได้ตามไปสมทบกับพ่อแม่ของพวกเขา คริส (แซม นีลล์) และดร.หลี่ (หวัง จี) ในแหล่งขุดค้นหาวัตถุโบราณในจีน พวกเขาก็ได้พบบางสิ่งที่เกินกว่าพวกเขาจะจินตนาการ ถูกขังอยู่ใต้วัด มันเป็นมังกรจีนที่มีชีวิตอยู่จริงๆ สองพันปีก่อน เพื่อปกป้องอาณาจักร มังกรได้ให้องค์ฮ่องเต้ยืมไข่มุกที่ทรงอานุภาพของมัน แต่แทนที่ไข่มุกนั้นจะถูกส่งคืน มันกลับถูกฝังไปพร้อมกับพระศพของฮ่องเต้ใต้พระราชวัง และด้วยความไร้พลังเมื่อขาดไข่มุก ซึ่งเป็นแหล่งพลังของมัน มังกรตัวนี้ก็ถูกจองจำนับตั้งแต่นั้นมา เมื่อรู้ว่าไข่มุกมังกรถูกฝังอยู่ในแหล่งขุดค้นหาวัตถุโบราณ จอชและหลิงก็ร้องขอความช่วยเหลือจากพ่อและแม่ของพวกเขา แต่เมื่อไม่ได้รับความช่วยเหลือ พวกเด็กๆ ก็รู้ว่า พวกเขาจะต้องตามหาไข่มุกด้วยตัวเองเสียแล้ว อย่างไรก็ดี มีคนคนหนึ่งที่เชื่อเรื่องของพวกเขา เขาคือนักโบราณคดี ฟิลิป ดูคัส (โรเบิร์ต แมมโมน) ผู้อยากจะยึดครองพลังอันยิ่งใหญ่ของไข่มุกมังกรเพื่อใช้ในแผนการชั่วร้ายของตัวเอง หนทางเดียวที่จะหยุดยั้งเขาไว้ได้คือจอชกับหลิงต้องตามหาไข่มุกมังกรให้พบก่อนเพื่อส่งมันคืนให้กับเจ้าของที่แท้จริง

          ประวัตินักแสดง
          Sam Neill แซม นีลล์
          แซม นีลล์ ที่อาจเป็นที่รู้จักดีที่สุดจากการแสดงนำใน Jurassic Park มีผลงานการแสดงที่หลากหลายตลอดระยะเวลาเกือบสี่ทศวรรษ ผลงานของเขายังรวมถึง The Hunt for Red October, The Piano, Bicentennial Man, Daybreakers, The Dish และ Legend of the Guardians: The Owls of Ga’ Hoole
          ใน The Dragon Pearl แซม นีลล์รับบทดร.คริส เชส นักโบราณคดีชื่อดัง ผู้ได้รับเชิญให้มีส่วนร่วมในการขุดค้นทางโบราณคดีครั้งสำคัญในจีน เมื่อจอช ลูกชายของเขามาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ในวันหยุดพักผ่อน ความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาถูกดึงเข้าไปพัวพันกับวังวนของปริศนาและการค้นพบ

          Jordan Shan จอร์แดน ชาน
          นักแสดงและนักดนตรีชื่อดังชาวจีน จอร์แดน ชาน เฉินเสี่ยวชุน ได้ร่วมแสดงใน Dragon Pearl ในบทอู๋ตง ผู้มีอารมณ์ขัน หลังจากที่เปิดตัวในโลกภาพยนตร์ด้วยเรื่อง Twenty Something (1994) ชานก็กลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วในฐานะขาประจำภาพยนตร์แนวแก๊งอันธพาล และเขาก็ได้รับการยกย่องจากบทบาทแรกๆ ของเขาในเวทีฮ่องกง ฟิล์ม อวอร์ดหลายครั้ง นอกจากนั้นแล้ว อาชีพนักดนตรีของเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก ด้วยการมีอัลบัม 9 ชุดในช่วงหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ชาน ผู้เป็นที่รู้จักจากเอกลักษณ์ในการผสมผสานฮิปฮ็อปและอาร์แอนด์บี เข้ากับดนตรีจีนแบบดั้งเดิม มีวิธีการทำเพลงที่ทำให้เขากลายเป็นศิลปินน่าตื่นเต้นที่น่าจับตามอง
ชานรับบทอู๋ตงใน Dragon Pearl ผู้พิทักษ์วัดโบราณ ผู้สืบทอดหน้าที่นี้จากบรรพบุรุษ หลังจากรับรู้ถึงความสำคัญที่แท้จริงของจอช (คอร์เบ็ตต์) และหลิง (หลี่ หลิน จิง) อู๋ตงก็กลายเป็นเหมือนอาจารย์ที่คอยนำทางวีรบุรุษตัวน้อยขณะที่พวกเขาพยายามจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ลุล่วงและทำตามสิ่งที่พวกเขาถูกคาดหวังไว้ให้สำเร็จให้จงได้

          Wang Ji หวัง จี
          หวัง จี เป็นดาราดังในจีนและมีผลงานภาพยนตร์และซีรีส์โทรทัศน์หลายสิบเรื่อง ผลงานนอกประเทศจีนที่โด่งดังที่สุดของเธอได้แก่ A Native of Beijing in New York (1994), Sophie’s Revenge (2008), The Karate Kid (2009) และ The War of Ma Wen (2010)
          หวัง จี นักแสดงมากความสามารถ รับบทดร.หลี่ นักวิทยาศาสตร์ผู้นำทีมในการขุดค้นหาโบราณวัตถุ ดร.หลี่ ผู้แข็งแกร่งแต่ยุติธรรม จริงจังกับการทำงานของเธอ แต่เธอก็มีน้ำอดน้ำทนและคอยให้กำลังใจผู้ที่อยู่รอบตัวเธออยู่เสมอๆ ซึ่งมันก็ทำให้เธอเป็นที่รักของทุกคนที่ทำงานอยู่ ณ ที่นั้นและหลิง ลูกสาวของเธอเองด้วย (หลี่ หลิน จิน)
          Li Lin Jin หลี่ หลิน จิน
          หลี่ หลิน จิน สาวน้อยผู้ร่าเริง เปิดตัวได้อย่างน่าประทับใจใน The Dragon Pearl หลังจากที่ได้เรียนการเต้น ร้องเพลงและแสดงตั้งแต่เด็กๆ และได้รับการยกย่องว่าเป็น “ดาราดาวรุ่งอนาคตไกล”
          นักแสดงรุ่นเยาว์ผู้นี้รับบท หลิง ลูกสาวของดร. หลี่ นักวิทยาศาสตร์ผู้เป็นหัวหน้าทีมในการขุดค้นครั้งนี้ (หวัง จี) ด้วยความเบื่อหน่ายกับจอช (คอร์เบ็ตต์) เพื่อนชาวตะวันตกผู้มุทะลุของเธอ หลิงก็พยายามจะเสนอตัวช่วยเสมอ และเมื่ออู๋ตงเข้ามาพัวพันกับการขุดค้นอย่างมีเลศนัย หลิงก็มอบหมายภารกิจให้กับตัวเองในการสืบหาความจริง…แน่นอนว่าด้วยความช่วยเหลือของจอช
          Louis Corbett หลุยส์ คอร์เบ็ตต์
          หลุยส์ คอร์เบ็ตต์ นักแสดงพรสวรรค์รุ่นเยาว์ เป็นหนึ่งในนักแสดงนำของ The Dragon Pearl หลังจากที่เคยรับบทสำคัญใน Charlotte’s Web (2006) และภาพยนตร์ออสเตรเลียอีกหลายเรื่องมาแล้ว
          คอร์เบ็ตต์รับบทจอช เชส ลูกชายของดร.คริส เชส (แซม นีลล์) ผู้ไปพักผ่อนวันหยุดในประเทศจีน ด้วยการเยี่ยมชมแหล่งขุดค้นวัตถุโบราณที่พ่อเขาทำงานอยู่ ด้วยการร่วมมือกับหลิง เด็กสาวชาวจีนหัวรั้นผู้ฉลาดเฉลียว ทั้งคู่ก็ได้ค้นพบปริศนาสำคัญที่หลับไหลมานานหลายร้อยปี และพบตัวเองถูกดึงเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวอันตรายของการแย่งชิงสมบัติโบราณด้วย
          มังกร
          มังกรตามตำนานตะวันตกเป็นสัตว์ชั่วร้าย ที่พ่นไฟ อาศัยอยู่ในถ้ำ และจำเป็นต้องถูกสังหาร แต่มังกรจีนกลับตรงกันข้ามมังกรจีนเป็นสัตว์ให้คุณ ที่ให้พลังอำนาจของมันแก่ฮ่องเต้ และเป็นตัวแทนของพลังธรรมชาติทั้งมวลมังกรจีนในภาพส่วนใหญ่ จะไล่ตามไข่มุก ที่เปรียบได้กับพลังและความรู้ทั้งปวง
          มังกรจีนมี 9 ประเภท
          มังกรทองเป็นมังกรที่ทรงพลังที่สุดและให้คุณมากที่สุด
          มังกรที่ปรากฏในเรื่องราวนี้เป็นมังกรทอง

          มีการบรรยายถึงมังกรในลักษณะต่างๆ มากมาย ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันไปตามสถานที่และยุคสมัยในประวัติศาสตร์
          ความท้าทายอยู่ที่การวาดภาพมังกรที่ดู “สมจริง” ในภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชัน ไม่เพียงแต่ในลักษณะ “กายภาพ” ของมัน แต่เป็นลักษณะ “การเคลื่อนไหว” และเสียงของมันด้วย

          ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำอนุญาตอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีนและหน่วยงานด้านภาพยนตร์ให้สร้างมังกร CGI โดยศิลปินตะวันตก ภายใต้การปรึกษากับที่ปรึกษาชาวจีน
          มังกรตัวนี้ถูกสร้างขึ้นโดยไรซิง ซัน พิคเจอร์ส ผู้ซึ่งเคยผ่านผลงานบล็อกบัสเตอร์มาแล้วหลายเรื่องเช่น Harry Potter, Batman, Spiderman, Lord of the Rings, The Green Lantern และ ฯลฯ

          ข้อมูลงานสร้าง
          ผลงานร่วมสร้าง
          The Dragon Pearl เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่เกิดจากสนธิสัญญาความร่วมมือกันระหว่างออสเตรเลียและจีน
สนธิสัญญาการสร้างภาพยนตร์ร่วมกันคือการที่ผู้อำนวยการสร้างสองคนจากสองประเทศ ยินยอมภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ที่จะให้ความร่วมมือด้านวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์และการเงินเพื่อผลิตภาพยนตร์ร่วมกัน ผลงานภาพยนตร์ที่ออกมาจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นภาพยนตร์จีนสมบูรณ์และภาพยนตร์ออสเตรเลียสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน

          สถานที่ถ่ายทำ
          ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำทั้งหมดในประเทศจีน ที่เหิงเตียน เวิลด์ สตูดิโอส์ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นคอมเพล็กซ์สตูดิโอที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่ฉากกว่า 3 ล้านตารางเมตร นอกจากนั้น ยังมีการใช้สถานที่อื่นๆ ทั้งในและรอบเฮงเตียนด้วยเช่นกัน เหิงเตียนจะอยู่ห่างออกไปทางตอนใต้ของเซี่ยงไฮ้ ในมณฑลเจ๋อเจียง
          งานโพสต์โปรดักชันทั้งหมดถูกสร้างขึ้นในอเดเลด ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย CGI และวิชวล เอฟเฟ็กต์จะถูกสร้างโดยไรซิง ซัน พิคเจอร์ส และคอนเวอร์เจน ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ที่อเดเลด

1188
เฮ้าส์ อาร์ซีเอชวนคุณดู Me and You and Everyone We Know อีกครั้ง 11-17 สิงหาคมนี้


         
          ก่อนจะดู The Future
          เฮ้าส์ อาร์ซีเอชวนคุณดู Me and You and Everyone We Know อีกครั้ง
          11-17 สิงหาคมนี้

          มิแรนด้า จูลาย กลับมาแล้ว เธอคือศิลปินสุดเก๋ และฮิพแห่งยุค ที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน ปีนี้ผลงานชิ้นใหม่ของเธอ The Future ได้เดินทางมาถึงเมืองไทยแล้ว และมีโปรแกรมเข้าฉายบ้านเรา 18 สิงหาคมนี้ ที่โรงภาพยนตร์เฮ้าส์ อาร์ซีเอ

          แต่ก่อนที่จะไปสัมผัส “การเดินทางสู่อนาคต” ของจูลาย เราขอเชิญชวนมิตรรักแฟนหนังมาชมผลงานชิ้นที่แล้ว และเป็นงานที่สร้างชื่อให้กับเธออย่างมากอีกครั้งหนึ่ง นั่นคือ Me and You and Everyone We Know หรือ โลกของเรา เหงาเพราะเธอ
เรื่องราวความรักเหงาๆ ของพนักงานขายรองเท้า และศิลปินสาวสุดเซอร์ พร้อมกับเรื่องโรแมนติคของคนอื่นๆ รอบข้างพวกเขา
Me and You and Everyone We Know จะฉายให้คุณสัมผัสบรรยากาศอันแสนอบอุ่นน่ารักนั้นอีกครั้ง ด้วยฟิล์ม 35 มม. ที่โรงภาพยนตร์เฮ้าส์ อาร์ซีเอ 11 – 17 สิงหาคม 2554 นี้

          สอบถามรอบฉายหรือรายละเอียดอื่นๆ ได้ที่ 0-2641-5177-8 หรือ www.facebook.com/houseRCA

1189
1 กันยา ชวนกันมา "ปีนเกลียวหัวใจ" กับ Ceremony “เด็กกว่าแล้วไง?!”

         
 
          อ้าว! ก็คนมันรัก...”อายุ” ไม่ใช่ประเด็น!
          โรแมนติคหวาน “อึนๆ” ชวนมึนหัว โดยผู้สร้าง Juno และ Up in the Air
 
           เชื่อว่าทุกคนคงเคย “แอบรัก” คนที่อายุมากกว่ากันมาบ้าง แต่เรื่องของหัวใจ ไยจะต้องเอาเรื่องของวัยมาเป็นอุปสรรค ใช่แล้ว นางเอกสาวใหญ่ อูม่า เธอร์แมน กลับมาพร้อมกับผลงานโรแมนติคขำกลิ้งสุดน่ารัก เรื่อง Ceremony ที่ต้องโดนใจคนที่มีประสบการณ์ “รักข้ามรุ่น” ทุกคน

          Ceremony เล่าเรื่องของไอ้หนุ่มน้อยท่าทางไม่เอาไหน แซม (ไมเคิล แองการาโน่) ที่หาญกล้าบุกเข้าไปร่วมงานแต่งของ ผู้กำกับสารคดีจอมโอ้อวด (ลี เพซ) และสาวสวยงามสง่า โซอี้ (อูม่า เธอร์แมน) เพียงเพราะเหตุผลเดียวเท่านั้น คือทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งเจ้าสาวมาเป็นของเขา!!

          ที่มาที่ไปของภารกิจในครั้งนี้ก็คือ เมื่อไม่นานมานี้ แซมและโซอี้ไปพบรัก แต่ฝ่ายหญิงเห็นว่า ตัวเธอนั้นอายุแตกต่างจากแซมอยู่หลายปี ด้วยช่องว่างระหว่างวัยที่ห่างกันมากเหลือเกิน โซอี้จึงไปเป็นฝ่ายตัดความสัมพันธ์ก่อนทุกอย่างจะเลยเถิด หากแต่แซมไม่คิดอย่างนั้น เขามาหาเธออีกครั้งเพื่อถามกับเธอไปตรงๆ ว่า “เด็กกว่าแล้วยังไง?”
         
          Ceremony อำนวยการสร้างโดย เจสัน ไรต์แมน ผู้กำกับ Juno และ Up in the Air และกำกับโดย แม็กซ์ วิงคเลอร์ คนทำหนังหน้าใหม่ที่ก่อนหน้านี้กวาดรางวัลหนังสั้นมามากมาย

          แม็กซ์ วิงคเลอร์ นำเอาประสบการณ์ส่วนตัวและเพื่อนๆ (ซึ่งอยู่ในวัย 20 ปลายๆ) มาถ่ายทอดอย่างสนุกสนานครื้นเครง วิงคเลอร์บอกว่า เมื่อเรายังเป็นหนุ่ม เราก็คิดว่าความรักเท่านั้น ก็เพียงพอแล้วสำหรับชีวิตคู่ และเราทุกคนก็จะได้รับบทเรียนชีวิตแตกต่างกันออกไป
         
          Ceremony เหมาะเจาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการรับชมแง่มุมใหม่ๆ ของความรัก ที่ได้รับการถ่ายทอดอย่างขบขันและอ่อนโยน หนังมีคิวลงฉายในบ้านเราแล้ว 1 กันยายนนี้ โปรดติดตามรายละเอียดต่อไป

1190
เฉินหลง ทุ่มเททั้งชีวิต สร้าง 1911 (หนึ่งเก้าหนึ่งหนึ่ง) หนังเรื่องที่ 100 ในชีวิตนักแสดง



          เมื่อพูดถึงซุปเปอร์สตาร์แห่งเอเชียอย่าง เฉินหลง ไม่มีใครที่ไม่รู้จักชื่อและผลงานของเขา เฉินหลง ถือเป็น บุคคลสำคัญแห่งเอเชียเลยทีเดียว นอกจากการเป็นนักแสดงที่มากฝีมือแล้ว เขายังเป็นทั้งโปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ นักร้อง และ ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ นับจากเขาเริ่มงานในวงการบันเทิงในปี 1962 จนถึงปัจจุบันเขามีผลงานภาพยนตร์มาแล้วมากมายถึง 99 เรื่อง มีทั้งหนังจีนและฮอลลีวูด นอกจากนี้ เขายังได้รับเลือกให้ประทับรอยฝ่ามือที่ Hollywood Walk of Fame (ฮอลลีวู้ด วอล์ค ออฟ เฟรม) ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของนักแสดงหลายๆ คน ดังนั้นเมื่อถึงผลงานเรื่องที่ 100 จึงไม่ใช่เรื่องธรรมดาในชีวิตนักแสดงคนหนึ่ง ที่ไม่เพียงมีผลงานมามากมาย แต่ยังเปี่ยมไปด้วยคุณภาพและได้รับความนิยม และสำหรับ 1911 (หนึ่งเก้าหนึ่งหนึ่ง) ผลงานเรื่องที่ 100 เป็นหนังที่เป็นโปรเจคในฝันของเฉินหลงที่เขาอยากจะทำนับตั้งแต่เข้าวงการมา และเขาต้องการทำมันออกมาให้ดีที่สุด โดยทุ่มเททั้งชีวิต แสดงนำ กำกับ และอำนวยการสร้าง โดยใช้เงินลงทุนไปกว่า 900 ล้านบาท เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่มีความหมายกับชาวจีนอย่าง เหตุการณ์ “การปฏิวัติ ชินไฮ่” ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของจีนสู่สาธารณรัฐ ซึ่งความพิเศษของหนังเรื่องนี้ นอกจากเป็นเรื่องที่ 100 ของเฉินหลงแล้ว ยังเป็นการครบรอบ 100 ปีการปฏิวัติชินไฮ่ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำฝันของเฉินหลงให้เป็นจริง โดยเฉินหลงพูดถึงเรื่องนี้ว่า ”ผมคิดว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการสร้าง ชาวจีนอย่างพวกเราถือว่าทุกตัวเลขล้วนมีความหมาย นี่คือโอกาสพิเศษเพราะเป็นการครบรอบ 100 ปีของการปฏิวัติซินไฮ่ และยังเป็นการที่ผมแสดงหนังครบ 100 เรื่องพอดีอีกด้วย นี่คือสัญญาณบางอย่างที่ทำให้ผมต้องทำหนังเรื่องนี้" สำหรับการปฏิวัติชินไฮ่ ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญของจีน และการเล่าเรื่องครั้งนี้เป็นการเล่าผ่านตัวแสดงที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น

          นอกจากการแสดงของนักแสดงคุณภาพในเรื่อง ที่ตั้งใจทำเพื่อถ่ายทอดประวัติบุคคลสำคัญทั้งหมดแล้ว ฉากแอ็คชั่นการต่อสู้ต่างๆในเรื่อง ก็ถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันเช่นกัน เรียกได้ว่ามีการเนรมิตฉากสงครามกลางเมืองขึ้นมา ทั้งฉากการรบในปักกิ่ง และ ฉากสำคัญของเรื่องที่มีการสร้างสมรภูมิรบขึ้นมาใหม่เพื่อความสมจริงและทำให้ผู้ชมเข้าถึงเหตุการณ์จริงมากขึ้น นั่นก็คือการสร้างสมรภูมิรบในเหมืองถ่านหินฟูซิน ซึ่งถือว่าเป็นเหมืองถ่านที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

          1911 (หนึ่งเก้าหนึ่งหนึ่ง) เล่าถึงเหตุการณ์ “การปฏิวัติชินไฮ่” ในปีค.ศ.1911 เมื่อกลุ่มนายทหารลุกขึ้นมาต่อต้านการปกครองแบบราชวงศ์ ของราชวงศ์ชิงที่มีมานานกว่า 267 ปีและยุติการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่มีมากว่า 2,000 ปี พร้อมกับ สถาปนาการปกครองแบบ สาธารณรัฐ ขึ้น เรื่องราวทั้งหมดถูกเล่าผ่านตัวละครที่มีบทบาทในการปฎิวัติอย่าง แม่ทัพหวงซิ่ง (เฉินหลง) และเขายังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคก๊กมินตั๋ง และเป็นผู้นำคณะปฎิวัติของ ดร.ซุนยัดเซน (วินสตัน เชา) เขาได้ต่อสู้กับกองทัพของจักรพรรดิจนสามารถเอาชนะได้ โดยมี ซูจงฮั่น (หลี่ปิงปิง) ภรรยาเป็นที่ปรึกษาและคอยให้กำลังใจ

          1911 (หนึ่งเก้าหนึ่งหนึ่ง) 3 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

1191
มาแล้ว ทีเซอร์โปสเตอร์ “Happy Feet 2”
      


           ปล่อยมาแล้ว ทีเซอร์โปสเตอร์ของ ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องดังภาคต่อจาก “Happy Feet” ที่ได้รับ Academy Award® เรื่อง “Happy Feet 2” พาผู้ชมหวนคืนสู่ทัศนียภาพที่งดงามของขั้วโลกใต้ด้วยรูปแบบ 3 มิติสุดอลังการ

           มัมเบิล เจ้าแห่งการเต้นแท็ปประสบปัญหาเข้าเมื่อ เอริค ลูกชายตัวน้อยของเขาเป็นโรคเต้นไม่หยุด เขาต่อต้านการเต้น เอริคจึงหลบหนีไปจนได้พบกับสเว็นผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นเพกวินบินได้! มัมเบิลไร้ซึ่งความหวังที่จะประชันกับจ่าฝูงตัวใหม่ที่มีเสน่ห์ดึงดูดตัวนี้ได้ แต่ทุกอย่างเลวร้ายยิ่งกว่าเมื่ออำนาจอันทรงพลังได้สั่นคลอนโลก

          เอริคได้เรียนรู้ “ความกล้าหาญและความทรหด” เมื่อมัมเบิลนำสายพันธุ์เพนกวินมารวมตัวกัน ซึ่งรวมถึงสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งทุกประเภท ตั้งแต่ตัวเคยจิ๋วไปจนถึงแมวน้ำช้างยักษ์เพื่อจัดการให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง

ภาพยนตร์เรื่อง “Happy Feet 2” กำกับโดย จอร์จ มิลเลอร์ เจ้าของรางวัล Oscar® ในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์ต้นฉบับ “Happy Feet” ภาพยนตร์ได้รับความโดดเด่นจากเสียงพากย์ของ เอลิจาห์ วูด, โรบิน วิลเลียมส์, แฮงค์ อาซาเรีย, อเลเซีย มัวร์ (P!nk), แบรด พิตต์, แม็ตต์ เดมอน, โซเฟีย เวอร์การ่า, คอมมอน, ฮิวโก้ วีฟวิ่ง, แม็กด้า ซูบันสกี, แอนโธนี่ ลาพาเกลีย, ริชาร์ด คาร์เตอร์ และ เบ็นจามิน “Lil P-Nut” ฟลอร์ส จูเนียร์

          จอร์จ มิลเลอร์ ร่วมเขียนบทภาพยนตร์กับแกรี่ แอ็ค, วอร์เร็น โคลแมน และ พอล ลิฟวิงสตัน มอลเลอร์อำนวยการสร้างภาพยนตร์ร่วมกับดั๊ก มิตเชลและบิล มิลเลอร์ โดยมีคริส เดอฟาเรีย, เกรแฮม เบิร์ค และ บรูซ เบอร์แมน ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างบริหาร ซาเวียน โกลเวอร์ ผู้เป็นตำนานแห่งการเต้นแท็ปกลับมาร่วมในด้านการผลิตเพื่อสร้างสเต็ปการเต้นของเหล่าตัวละครเพนกวินที่ปรากฏอยู่บนจอ เดวิด เพียร์ส ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพ ร็อบ โคลแมน ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับแอนิเมชั่น เพลงประกอบภาพยนตร์ให้เสียงร้องโดย P!nk ดนตรีจากจอห์น โพเวล

          “Happy Feet 2” จะฉายในรูปแบบ 3 มิติและ 2 มิติในโรงภาพยนตร์บางแห่ง และในโรงภาพยนตร์ระบบ IMAX เริ่ม 8 ธันวาคม 2011

1192
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ “ศึกนันทบุเรง”


 
         ภายหลังการประกาศเอกราชของพระนเรศ ในปี พ.ศ. ๒๑๒๗ แล้ว พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงได้โปรดให้กรีฑาทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาคืนเป็นเมืองขึ้นถึง ๔ ครั้ง คือ ในคราวศึกพระยาพะสิมและ พระเจ้าเชียงใหม่นรธาเมงสอ ในปี พ.ศ. ๒๑๒๗ – ๒๑๒๘ ศึกนันทบุเรง ปี พ.ศ. ๒๑๒๙ ศึกมหา อุปราชาในปี พ.ศ. ๒๑๓๓ และศึกยุทธหัตถีในปี พ.ศ. ๒๑๓๕ โดยศึกสำคัญที่ทำอยุธยาต้องเผชิญกับวิกฤติการณ์อันสุ่มเสี่ยงต่อการสิ้นสูญแผ่นดินคือ ศึกนันทบุเรง ซึ่งน้อยคนที่เคยได้ยินหรือระลึกได้ แต่วีรกรรมของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งเป็นที่จดจำ ทั้งการออกปล้นค่ายพม่าจนเป็นที่มาของเรื่องพระแสงดาบคาบค่าย หรือการสังหารลักไวทำมู ทหารเอกข้างหงสาวดี ล้วนอุบัติในศึกนันทบุเรงทั้งสิ้น

          ภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ “ศึกนันทบุเรง” ถ่ายทอดเรื่องราวอันเป็นผลจากการปราชัยของหงสาวดีในคราวศึกพระยาพะสิมและพระเจ้าเชียงใหม่ ซึ่งทำให้พระเจ้านันทบุเรงทรงตระหนักในพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนเรศวร และในความเข้มแข็งของกองทัพอยุธยา จึงทรงยกทัพใหญ่เป็นทัพกษัตริย์มาย่ำยีราชธานีสยาม หวังให้ราบเป็นหน้ากลองเพื่อเป็นการแก้มือและเพื่อรักษาซึ่งพระเกียรติยศมิให้เป็นที่ดูแคลนแก่เหล่าเจ้าประเทศราชในการปกครองของฝ่ายพม่า

          กองทัพกษัตริย์ของพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงมีความสมบูรณ์ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามกว่าทุกศึก ประกอบด้วยช้าง ๓,๒๐๐ ทัพม้า ๑๒,๐๐๐ และไพร่ราบซึ่งมีจำนวนถึง ๒๕๒,๐๐๐ โดยมีนายทัพผู้ปรีชาสามารถมาร่วมรบ ทั้งพระมหาอุปราชา มังจาปะโร และลักไวทำมูทหารกล้า

          กิตติศัพท์ความยิ่งใหญ่น่าเกรงขามของทัพหงสาวดีที่ยกเข้ามานี้ ส่งผลให้เจ้าเมืองในขอบขัณฑสีมาของราชอาณาจักรอยุธยาข้างฝ่ายเหนือประหวั่นพรั่นพรึงถึงกับสมคบคิดกันแปรพักตร์เข้าสมานสมัครพระเจ้านันทบุเรงรบสมเด็จพระนเรศวร เป็นเหตุให้สมเด็จพระนเรศวรต้องเผชิญทั้งศึกนอกและศึกใน สถานการณ์กลับยิ่งบีบคั้นให้คับขันยิ่งขึ้น เมื่อพระศรีสุพรรณธรรมาธิราช พระอนุชาเจ้ากรุงละแวกซึ่งขัดพระทัยสมเด็จพระนเรศวรแต่กาลก่อน ได้ยุยงให้พระเชษฐาตัดสัมพันธไมตรีกับอยุธยา ละแวกจึงกลายเป็นหอกข้างแคร่ ที่พร้อมจะกระหน่ำซ้ำเติมสยามให้ย่อยยับหากมีอันพลาดท่าเสียทีในศึกนันทบุเรงนี้

          ภัยรอบด้านบีบรัดให้สมเด็จพระนเรศวรทรงต้องเผชิญศึกอย่างโดดเดี่ยว ซ้ำเคราะห์กลับทับทวีคูณเมื่อสหายศึก เช่น เลอขิ่น และกองกำลังเมืองคัง ซึ่งร่วมกรำศึกกันมาแต่เบื้องต้นคิดถอนตัวตีจาก เพราะพิษรักระหว่างรบที่จบลงด้วยความร้าวฉานระหว่างเลอขิ่นกับพระราชมนูขุนศึกคู่พระทัย ความขัดแย้งด้วยเหตุส่วนตัวได้บานปลายกลายเป็นภัยของแผ่นดินในคราวคับขันเมื่ออยุธยาต้องเผชิญศึก ซึ่งประมาณได้ว่าเป็นมหาสงครามภายใต้โทสจริตของพระเจ้านันทบุเรง

          ด้วยข้อจำกัดที่รุมเร้าหลายประการ ผสานกับจำนวนไพร่พลที่เป็นรองหงสาวดี อยู่หลายขุม ทำให้สมเด็จพระนเรศวรทรงจำต้องปรับยุทธศาสตร์การตั้งรับทัพหงสาวดี โดยทรงใช้พระนครศรีอยุธยาซึ่งมีทำเลที่ตั้งที่ได้เปรียบเป็นฐานบัญชาการรบแต่เพียงแห่งเดียว ทรงส่งกำลังออกไปปักปราการ วางแนวป้องกันมิให้พม่าเข้ามาปลูกค่ายใกล้ขอบคูพระนครและกำแพงเมือง ทั้งยังแต่งกำลังเป็นกองโจรเข้าปล้นค่ายข้าศึกอย่างอาจหาญ

          เมื่อศึกเหนือเสือใต้รุมกระหน่ำ ขุนนางผู้ใหญ่ขาดสามัคคีคิดคดคำนึงแต่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง จอมทัพผู้รั้งราชบัลลังก์และความอยู่รอดของแผ่นดินก็มาพลาดท่า ต้องศาสตรากลางสมรภูมิ ยอดทหารเอกกรุงศรีถูกขุนศึกผู้ชาญณรงค์กว่าจับเป็นเชลย ชะตากรรมกรุงศรีอยุธยาและสมเด็จพระนเรศวรจะลงเอยอย่างไร ต้องติดตามในภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ “ศึกนันทบุเรง” ซึ่งมีกำหนดฉายพร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ๑๑ สิงหาคม นี้

1193
ทีเซอร์โปสเตอร์และตัวอย่างแรก Contagion



          ปล่อยกันมาแล้วกับทีเซอร์โปสเตอร์และตัวอย่างแรก หนัง Sci-Fi เรื่องใหม่ ของ Warner Bros. กับภาพยนตร์เรื่อง Contagion จากผลงานการกำกับของ สตีเวน โซเดอเบิร์ก ที่เคยฝากผลงานการกำกับมาแล้ว กับภาพยนตร์ Ocean's ทั้งสามภาค และยังได้นักแสดงมากฝีมือมากมายมาร่วมแสดง ไม่ว่าจะเป็น แมตต์ เดมอน , เคต วินสเลต , จู๊ด ลอว์ , มาเรียน โกทิลลาร์ด , ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น ฯลฯ

          Contagion เล่าถึงการแพร่กระจายของเชื่อไวรัสผ่านทางอากาศ ซึ่งร้ายแรงขนาดสามารถฆ่าคนตายได้เพียงชั่วข้ามคืน และเมื่อไวรัสนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก เหล่าบรรดาหมอและนักวิทยาศาสตร์ต่างร่วมมือกันคิดค้นหาวิธียับยั้งและรักษา ในขณะเดียวกัน ประชาชนต่างก็ดิ้นรนเอาชีวิตรอดด้วยเช่นกัน

          Contagion ฉาย 29 กันยายนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

1194
MOVIE GUIDE: Crazy Stupid Love

ภาพยนตร์เรื่อง Crazy Stupid Love
 
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Leqd1l4P7f8" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Leqd1l4P7f8</a>

1195
โปสเตอร์และตัวอย่าง Sherlock Holmes: A Game of Shadows


 
          2 โปสเตอร์แรก และ ตัวอย่างแรก ซับไทย Sherlock Holmes: A Game of Shadows
 
          มาแล้ว 2 โปสเตอร์แรก และ ตัวอย่างแรก ซับไทย Sherlock Holmes: A Game of Shadows

          การกลับมาอีกครั้งของสองคู่หู Holmes และ Watson จากหนังเรื่อง Sherlock Holmes: A Game of Shadows ที่รอบนี้ได้ผู้กำกับคนเดิม Guy Ritchie มานั่งแท่นผู้กำกับอีกครั้ง พร้อมทั้งได้สองนักแสดงคู่เดิม Robert Downey Jr. และ Jude Law กลับมารับบทคู่หู Holmes และ Watson อีกครั้ง

          Sherlock Holmes: A Game of Shadows มีกำหนดเข้าฉายในไทยวันที่ 22 ธันวาคม 2011 นำแสดงโดย Robert Downey Jr., Jude Law, Noomi Rapace, Stephen Fry, Jared Harris, Gilles Lellouche กำกับโดย Guy Ritchie.

1196
อีซูซุเดินหน้า “เอ็นเตอร์เทนเมนท์ มาร์เก็ตติ้ง” ส่ง “อีซูซุมิว-เซเว่น ช้อยส์” ประกบคู่พระเอกในภาพยนตร์ “รักเลี้ยวเฟี้ยวว!! (อ่ะ)




 
         อีซูซุเดินหน้าใช้กลยุทธ์ “เอ็นเตอร์เทนเมนท์ มาร์เก็ตติ้ง” ล่าสุดส่ง “อีซูซุมิว-เซเว่น ช้อยส์” โลดแล่นรับบทเด่นบนแผ่นฟิล์มในฐานะพาหนะคู่ใจของพระเอกหนุ่มเจ้าเสน่ห์ “หลุยส์ สก๊อต” ในโรดมูวี่แนวโรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง “รักเลี้ยวเฟี้ยวว!! (อ่ะ)” ร่วมถ่ายทอดชีวิตหลากหลายมุมมองกับการเดินทางบนเส้นทางอันสวยงามของเมืองไทย

          คุณปนัดดา เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ในฐานะผู้สนับสนุนหลักภาพยนตร์เรื่อง “รักเลี้ยวเฟี้ยวว!! (อ่ะ)” กล่าวว่า “อีซูซุภูมิใจที่ “อีซูซุ มิว-เซเว่น ช้อยส์” ได้รับความไว้วางใจจากไอพีเอ็มฟิล์ม ให้มารับบทเด่นควบคู่กับคุณหลุยส์ สก๊อต พระเอกหนุ่มฮอตที่กำลังมาแรงในเวลานี้ในฐานะรถยนต์คู่ใจในการเดินทางท่องเที่ยวทั่วไทย ด้วยความเป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ขับเคลื่อน 2 ล้ออารมณ์สปอร์ตที่สะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ใช้รถรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์โดดเด่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Your way…Your Choiz สนุกกับชีวิตที่เลือกได้...ในสไตล์คุณ ซึ่งสอดคล้องกับบุคลิกและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่าง “กรธวัช” (หลุยส์ สก๊อต) อีซูซุรู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนภาพยนตร์ไทย ฝีมือคนไทย ถ่ายทำบนผืนแผ่นดินอันงดงามของไทย อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศอีกด้วย”       
   
          สำหรับบรรยากาศเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “รักเลี้ยวเฟี้ยวว!! (อ่ะ)” หลังจากกองถ่ายได้ถ่ายทำภาพยนตร์ท่ามกลางบรรยากาศอันสวยงามของไร่กะหล่ำปลีบนภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว กองถ่ายฯได้เลี้ยวมาที่จังหวัดเลย โดยเริ่มถ่ายทำฉากที่น้าชัย (อู๊ด เป็นต่อ) พา กรธวัช (หลุยส์ สก๊อต) มาศึกษาประวัติศาสตร์ที่พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน ในอำเภอด่านซ้าย จากนั้นเป็นการถ่ายทำฉากการเดินทางด้วยรถ “อีซูซุมิว-เซเว่น ช้อยส์” บนถนนหมายเลข 203 ที่มีความสวยงามตามธรรมชาติอย่างอุดมสมบูรณ์สู่เมืองเชียงคาน เพื่อถ่ายทำฉากหนังกลางแปลงบริเวณสวนสาธารณะริมแม่น้ำโขงยามเย็นกันต่อ โดยมีชาวเมืองเชียงคานให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

เช้าวันรุ่งขึ้น กองถ่ายฯ ยังคงเก็บเกี่ยวความงดงามของธรรมชาติที่ “แก่งคุดคู้” ก่อนเดินทางขึ้นเขาไปบน “ภูทอก” ภูทะเลหมอกที่มีระดับความสูงกว่าน้ำทะเลถึง 834 เมตร มองเห็นเมืองเชียงคานโดยรอบ 360 องศา บนภูทอกกรธวัชได้พบน้าเป๋อ (คุณปุ๊ย ตีสิบ) และภรรยา ที่มาเที่ยวชมธรรมชาติและแสดงความรักความเข้าใจต่อกัน เสริมมุขขำขันกันแบบสดๆ ก่อนที่จะกลับมาถ่ายทำฉากสวยๆ ในเมืองเชียงคานกันต่อ

          การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “รักเลี้ยวเฟี้ยวว!!(อ่ะ)” ที่เมืองเชียงคาน จังหวัดเลย เป็นการรวมตัวของนักแสดงเกือบครบทีมบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานเฮฮา แม้จะต้องเจอทั้งฝนตกบนภูและแดดจ้าในเมืองตลอดการถ่ายทำก็ตาม โดยคุณอรุณศักดิ์ อ่องลออ ผู้กำกับการแสดง กล่าวว่า “เราเลือกเชียงคานเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำเพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สงบ และยังคงรักษาวัฒนธรรมไว้เป็นอย่างดี สามารถขับรถท่องเที่ยวได้ตามแนวโรดมูฟวี่ของหนังเรื่องนี้ โดยมีรถและหลุยส์เป็นพระเอกทั้งคู่เพราะเดินทางไปด้วยกันตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นความลงตัวของรถ “อีซูซุมิว-เซเว่น ช้อยส์” และกรธวัชที่สวมบทโดยคุณหลุยส์ สก๊อต ที่มีไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่และทันสมัยเหมือนกัน” ส่วนคุณหลุยส์ สก๊อต ปิดท้ายว่า “เหนื่อยนิดหน่อยเพราะอากาศร้อนและเจอฝนตกตลอด แต่ทุกคนในทีมก็สนุกสนานและให้ความเป็นกันเอง ซึ่งแต่ละสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีกลิ่นอายของความเป็นประเทศไทยที่แตกต่างกันไป ฝากผลงานเรื่อง “รักเลี้ยวเฟี้ยวว!!(อ่ะ)” รับรองว่าทุกคนจะได้เห็นหลายๆ มุมของประเทศไทยที่อันซีนจริงๆ ครับ”

          ภาพยนตร์เรื่อง “รักเลี้ยวเฟี้ยวว!!(อ่ะ)” ดำเนินเรื่องในลักษณะของโรดมูฟวี่ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างไอพีเอ็มฟิล์ม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และอีซูซุ นำเสนอเรื่องราวของ “กรธวัช” รับบทโดย หลุยส์ สก๊อต นักบริหารหนุ่มไฟแรงที่ประสบความสำเร็จ แต่ต้องมาเผชิญกับปัญหาชีวิตที่จู่โจมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว จึงตัดสินใจเลี้ยวออกจากเส้นทางชีวิตแบบเดิมๆ เลือกออกเดินทางด้วยรถยนต์คู่ใจ “อีซูซุมิว-เซเว่น ช้อยส์” เพื่อค้นหาความหมายของชีวิต ไปยังสถานที่สวยงามต่างๆ ทั่วไทย ไม่ว่าจะเป็นภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์, อ.เชียงคาน จังหวัดเลย, จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดลำปาง, หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเชียงราย ไปสัมผัสธรรมชาติและผู้คนที่เขาไม่เคยรู้จัก ท้ายสุดเขาจะพบคำตอบของการแก้ปัญหา หรือพบการดำเนินชีวิตที่ดีกว่า “กรธวัช” จะบอกคุณพร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์ในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้
 
          ภาพยนตร์เรื่อง “รักเลี้ยวเฟี้ยวว!!(อ่ะ)”         
          นำแสดงโดย คุณหลุยส์ สก๊อต, คุณจอนนี่ อันวาร์, คุณปุ้ย ตีสิบ, คุณอู๊ด เป็นต่อ และตุ๊กติ๊ก (ณิชาวรินทร์ เบิกอรุณรุ่ง) นักแสดงคุณภาพจากรายการแอคติ้งควีน
          อำนวยการสร้างโดย คุณภีมเขตร บุตรเพชรวรัท
          กำกับการแสดงโดย คุณอรุณศักดิ์ อ่องลออ
 
          ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานองค์กรสัมพันธ์
          บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
          โทร. 02-966-2127-9

1197
ใหม่ สริยา งานเข้า!!! ถูกทาบเล่นหนังอีโรติก “น้ำตาลแดง 3”


 
          ไม่น่าเชื่อว่าดารานักแสดงสาวมากฝีมืออย่าง ใหม่-สริยา อัศวเลิศพานิช จากละครเรื่อง ไฟอมตะ และ บันทึกกรรม จะถูกผู้บริหารคนเก่ง ปรัชญา ปิ่นแก้ว ทาบรับบทนางเอกในภาพยนตร์อีโรติกเรื่องใหม่ “น้ำตาลแดง 3” งานนี้สาวใหม่เผยให้ฟังว่า

           “พี่ปรัชฯ ติดต่อมาจริงค่ะ ติดต่อมาหลายเดือนแล้ว แต่ตอนนั้นใหม่ไม่พร้อมก็เลยปฏิเสธพี่เค้าไปค่ะ จริงๆ พี่เค้าจะให้ใหม่ไปเล่นเอ็มวีก่อน แต่เผอิญว่าใหม่ติดงานไม่สามารถไปเล่นได้ พี่เค้าก็เลยบอกว่า เดี๋ยวมาเล่นหนังให้พี่แล้วกัน ใหม่ก็ ค่ะ..ค่ะ..ไป จนกระทั่งพี่เค้าติดต่อมาอีกรอบหนึ่งว่าจะให้เล่นหนังเรื่อง น้ำตาลแดง 3 รับบท นางเอก เลยนะ ตอนแรกใหม่ก็นึกว่าเป็นหนังธรรมดา แต่พอพี่เค้าบอกว่าต้องเซ็กซี่นะ ใหม่ก็บอกพี่เค้าไปว่า ใหม่ไม่พร้อม ขอเป็นเรื่องหน้าแล้วกัน นั่น...มีต่อรองด้วย (หัวเราะ) พี่เค้าก็ไม่ว่าอะไรค่ะ เพราะก็วางโปรเจ็คหนังไว้หลายเรื่องเหมือนกัน ใหม่ก็ยังบอกพี่เค้าไปเลยว่าถ้ามีบทอะไรที่ไม่ต้องเซ็กซี่ก็ติดต่อใหม่ไปเล่นได้นะคะ (หัวเราะ)”

1198
“ซัคซี้ด ห่วยขั้นเทพ” กระแสแรงที่ไต้หวัน คนดูชื่นชอบ ต่อแถวขอลายเซ็นนานกว่า 2 ชม.


 
          “ซัคซี้ด ห่วยขั้นเทพ” ภาพยนตร์ร็อควัยรุ่น รักวัยเรียน ค่าย จีทีเอช ของผู้กำกับ หมู-ชยนพ บุญประกอบ นอกจากประสบความสำเร็จในเมืองไทย โกยรายได้ไปกว่า 80 ล้าน และส่งให้นักแสดง เก้า-จิรายุ ละอองมณี, พีช-พชร จิราธิวัฒน์, แนท-ณัฐชา นวลแจ่ม และ เอิร์ธ-ธวัช พรรัตนประเสริฐ แจ้งเกิดไปแล้วนั้น ล่าสุด “ซัคซี้ด ห่วยขั้นเทพ” ยังประสบความสำเร็จ ดังไกลถึงต่างแดน ในงานเทศกาลภาพยนตร์ “ไทเป ฟิล์ม เฟสติวัล” ประเทศไต้หวัน มีคนรอคิวชมหนังนับพันคน และต่อคิวขอลายเซ็น ผู้กำกับ นักแสดง แนท-ณัฐชา กับ พีช-พชร นานกว่า 2 ชั่วโมง

          พีช-พชร เผยว่า “ดีใจมากครับที่หนัง ซัคซี้ด ห่วยขั้นเทพ ประสบความสำเร็จทั้งในเมืองไทย และต่างประเทศ ที่ไต้หวัน ผมและพี่หมู ผู้กำกับ รวมถึงแนท นางเอก อึ้ง และทึ่งมาก ที่คนดูไต้หวันชอบหนังเรื่องนี้ และเข้าใจมุกตลกในเรื่อง รอบที่ฉายมีคนดูเต็มโรง ซึ่งคนดูชอบมาก หัวเราะในหลายๆ ฉาก และหลังจากหนังจบ ทุกคนก็ร่วมฟังการสัมภาษณ์พูดคุย และชอบฉากที่ผมแต่งตัวเป็นผู้หญิง แล้ววิ่งไล่ตีเด็ก เขาขำกันเยอะมาก คือทุกคนเข้าใจมุกในหนัง และเข้าคิวรอขอลายเซ็นพวกเรานานกว่า 2 ชั่วโมง เป็นสิ่งที่ผมและทีมงานประทับใจมากครับ ที่ทุกคนชอบหนังเรื่องนี้ และที่ปลื้มใจสุดๆ คือ แฟนๆ ไต้หวันมาส่งพวกเราที่สนามบินด้วย มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ ซัคซี้ด เป็นหนังที่ตอบโจทย์ว่า หนังเป็นภาษาสากล ที่ไม่ว่าชาติไหนๆ ก็เข้าใจ ดีใจครับที่หนังไทยโดนใจต่างชาติ มันเป็นแรงใจที่จะทำให้ผมและเพื่อนๆ ทำงานให้ดียิ่งขึ้นครับ และซัคซี้ด กำลังจะไปฉายที่ สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย เป็นประเทศต่อไปครับ”

1199
ครบปีความสำเร็จ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” เสนาเพชรพร้อมลุย “30+” หนังโรแมนติคคอมมิดี้เรื่องที่ 2



          อีกไม่ถึงเดือนก็จะครบรอบ1ปีที่ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่า” ได้สร้างปรากฎการณ์ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ให้ทุกหัวใจที่มีความรักได้อิ่มเอมและซาบซึ้งใจไปยังผู้ชมนับตั้งแต่เปิดตัวเป็นครั้งแรก และโดยที่ไม่มีใครคาดคิดเมื่อหนังรักเล็กๆ เรื่องนี้ได้เข้าไปอยู่ในความทรงจำแก่ผู้ชมในหลายๆ ประเทศ ที่ได้มีโอกาสสัมผัสเรื่องราวที่แสนอบอุ่นจนเกิดเป็นกระแสความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ให้หัวใจของทีมงานตลอดจนนักแสดง ผู้กำกับทุกคน หัวใจพองโตตลอด 1 ปีที่ผ่านมา จนกระทั่งเกิดเป็นคำถามจากเหล่าแฟนๆ สิ่งเล็กเล็กว่า เมื่อไหร่หนอที่เราจะได้สนุกสนาน อิ่มอุ่น ซาบซึ้งไปกับรอยยิ้มเสียงหัวเราะ และหยาดน้ำตาแห่งความสุขกับหนังรักดีๆ ที่จะมาเติมเต็มหัวใจคนดูอีกครั้ง จนอดไม่ได้จะหาคำตอบจากคำถามที่หลายคนอยากรู้เหลือเกินว่า ตอนนี้ผู้กำกับสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารักกำลังทำอะไรกันอยู่ เมื่อไหร่เราจะได้ดูหนังเรื่องที่ 2 กันสักที ทีมข่าวบันเทิงไม่นิ่งนอนใจ เจอตัวเสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร เลยจับมาเฉลยข้อข้องใจเสียเลย

          “ครับก่อนอื่นต้องขอบคุณนะครับสำหรับแฟนๆ ภาพยนตร์เรื่องสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก คิดว่าระยะเวลาที่ผ่านไป ดูเหมือนจะเนิ่นนานแสนนาน ได้รับกระแส เสียงตอบรับคำชื่นชมที่แสนอบอุ่นมากๆ ทั้งผกก.ทั้งทีมงาน ทั้งนักแสดงมาตลอดเวลา รู้สึกว่าขอบคุณ และก็รู้สึกดีใจมากที่มีคนชื่นชอบภาพยนตร์ไทยเยอะขนาดนี้ รวมทั้งขอบคุณแฟนๆชาวต่างประเทศด้วยนะครับ I Would like to say thank you to all the audience ไม่รู้จะพูดว่าอะไร ก็ถือว่าคุณสนับสนุนหนังไทยได้ดีมาก แล้วก็ภูมิใจในความเป็นไทยนะครับ”

          แล้วรู้มั้ยว่าแฟนๆ หลายคนถามมาตลอดว่าจะครบปีแล้วจากสิ่งเล็กเล็กแล้วเมื่อไหร่จะได้ดูหนังเรื่องที่ 2 ของพี่ๆ กัน “สำหรับหนังเรื่องที่2 เหรอครับ ก็เริ่มก่อหวอดแล้วครับ ก็ถือว่าเริ่มเป็นคลื่นใต้น้ำเล็กๆ ค่อยๆ ปล่อย เริ่มแง้มออกมาทีละนิด ทีละนิดว่ามีอะไร จริงๆ แล้วก็เริ่มเปิดกล้องไปแล้ว โดยตอนนี้มีชื่อที่เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่าโปรเจ็คต์ “30+” ครับ ก็เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งซึ่งมาในแนวทางของโรแมนติคคอมมิดี้ เป็นความรู้สึกที่คิดว่าน่าจะสัมผัสโดนใจผู้หญิง อย่างเรื่องที่แล้วเป็นเรื่องของเด็กสาวมัธยมที่แอบรักรุ่นพี่และยอมเปลี่ยนตัวเองทุกอย่าง ส่วนเรื่องนี้ก็จะโตขึ้นมาเป็นหญิงสาววัยทำงาน ซึ่งก็คงต้องติดตามกันนะครับว่าโดนใจบางคนหรือทุกคนก็ยังไม่รู้นะครับ โดยเป็นการรวมทีมงาน ซึ่งมีผมเป็นผกก.นะครับ แต่อันนี้เป็นงานเดี่ยว เพราะคุณวศินก็กำลังพัฒนาอีกโปรเจ็คต์ แล้วก็ทีมงานผู้ช่วย 1 และผู้ช่วย 2 ซึ่งเป็นทีมงานที่สร้างสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก หรือแม้แต่คนแต่งเพลง ก็ยังคงเป็นคนแต่งในเรื่องของสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก แม้แต่นายทุนก็ใช่อีกนะครับ ก็เป็นโปรเจ็คต์ของ สหมงคลฟิล์มฯ และหัวฟิล์มท้ายฟิล์ม เพราะฉะนั้นรับรองได้ว่ามาตรฐานคุณภาพก็พยายามรักษาไว้คงเดิม และให้คงดีกว่าเดิมด้วยครับ แล้วที่สำคัญหัวใจของเรื่องก็คือบทภาพยนตร์ เราก็ยังได้คนเดิมที่เขียนบทเรื่องสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารักด้วยครับ ส่วนพระเอกนางเอกรับรองว่าเซอร์ไพรส์แน่นอน เพราะเป็นซุปตาร์ระดับแนวหน้าแห่งยุค ที่ยังไม่เคยประกบบทบาทคู่กันมาก่อนทั้งหนัง และละคร โดยเฉพาะนางเอกเป็นเจ้าแม่เมโลดราม่าเลยทีเดียว จะพลิกบทบาทมาเล่นโรแมนติคคอมมิดี้เต็มๆ ตัวเป็นครั้งแรกด้วย ก็อยากให้แฟนๆ ทุกคนเอาใจช่วยกันนะครับ”

          แน่นอนว่าทีมข่าวบันเทิงก็จะเอาใจช่วยและไม่รีรอที่จะเสนอความคืบหน้าของ “30+” อย่างแน่นอน และมาตามดูกันว่าซุปตาร์รายใดที่จะมารับบทคู่พระนางของหนังตลกโรแมนติคเรื่องที่สองของผู้กำกับสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารักกัน

1200
One Day…วันเดียว วันนั้น วันของเรา ผลงานหนังรักสุดโรแมนติกเรื่องล่าสุดของ “แอนน์ แฮตธาเวย์”



          One Day…วันเดียว วันนั้น วันของเรา ผลงานหนังรักสุดโรแมนติกเรื่องล่าสุดของ “แอนน์ แฮตธาเวย์” ที่จะมาสะกดหัวใจทุกดวง… 18 สิงหาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

          เอ็ม พิคเจอร์ส เอาใจคอหนังโรแมนติกส่งภาพยนตร์รักสุดซึ้ง One Day (วันเดย์) หรือชื่อไทย วันเดียว วันนั้น วันของเรา พร้อมสร้างความประทับใจให้คุณตราตรึงไปกับหนังรักแห่งปีเรื่องล่าสุด ที่สร้างจากนิยายขายดีชื่อดัง One Day แสดงนำโดยนักแสดงแม่เหล็กเจ้าแม่หนังโรแมนติกคอเมดี้อย่าง Anne Hathaway (แอนน์ แฮตธาเวย์) ที่มาพร้อมกับพระเอกในตาหวานซึ้งอย่าง Jim Sturgess (จิม สเตอร์เกสส์) จากภาพยนตร์ 21(ทเวนตี้วัน) ที่จะมากระชากใจสาวๆ เมืองไทย
         
          Anne Hathaway (แอนน์ แฮตธาเวย์) ถูกขนานนามว่าเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทคนหนึ่งของฮอลลีวู้ด และมีผลงานมาแล้วมากมายอาทิ The Devil wear Prada (เดอะ เดวิล แวร์ พราด้า ปี 2006), Love and other drug( เลิฟ แอนด์ อาเธอร์ ดรัก ปี 2010), Brokeback Mountain (โบรกแบ็ค เมาเท่น ปี 2005) และผลงานสร้างชื่อที่ทำให้เธอขึ้นแท่นเป็นขวัญใจผู้ชมทั่วโลกจากภาพยนตร์เรื่อง The Princess Diary (เดอะ ปริ๊นเซส ไดอารี่ ปี 2004) ทั้งนี้เธอยังได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแห่งเกียรติยศออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง Rachel Getting married (ราเชล เก็ตติ้ง แมริท ปี 2008) ซึ่งนับว่าเธอเป็นนางเอกแถวหน้าของวงการฮอลลีวู้ดที่ประสบความสำเร็จสูงสุดมาแล้วอย่างมากมาย ด้วยบทบาทการแสดงที่การันตีความสามารถระดับชั้นเซียนของเธอ ที่สะกดคนดูให้มีความรู้สึกคล้อยตามไปกับบทที่เธอแสดงออกมาได้อย่างกลมกลืน ซึ่งค่าตัวของเธอก็แซงหน้าดาราสาวคนอื่นๆ ไปอย่างพุ่งพรวดจนถูกขนานนามว่าเธอคือ Julia Robert (จูเลีย โรเบิร์ต) คนต่อไป และล่าสุดที่เธอโดดมามารับบทนำใน One Day เธอได้เล่าให้ฟังถึงผลงานสุดประทับใจในครั้งนี้ว่า…..

          “…จะว่าไปแล้วตลอดระยะเวลาที่ฉันได้แสดงมาหลายต่อหลายเรื่อง ฉันกลับชอบบทของ เอ็มมา มอร์ลีย์ ในเรื่อง One Day มากที่สุด หลังจากที่ทางทีมงานส่งบทมาให้ฉันอ่าน ฉันหลงรักเอ็มมาขึ้นมาทันที เชื่อไหมถึงขนาดว่าฉันบินตรงจากลอนดอน เพื่อไปพบกับผู้กำกับและถามผู้กำกับทันทีว่าทำไมฉันถึงควรได้รับบทนี้ ฉันค่อนข้างเชื่อเรื่องโชคชะตาว่า ถ้าคุณโชคดี คุณก็จะเจอเรื่องราวที่ประทับใจที่สุดแบบคาดไม่ถึง และฉันเองก็เช่นกัน ที่ทำให้ฉันกับเอ็มมากลายมาเป็นคนๆ เดียวกัน

          ไม่แปลกเลยที่ One Day เป็นภาพยนตร์ที่เราสามารถประทับใจได้แม้เพียงแค่อ่านตัวอักษร และในบทของเรื่องนี้เอ็มมาต้องเป็นคนที่ร่าเริงที่เข้มแข็ง ฉลาดแต่มักไม่มั่นใจในตัวเอง ถือว่าเป็นตัวละครที่ซับซ้อนมากๆ ฉันรู้สึกท้าทายทุกครั้งที่ต้องแสดง ฉันก็โชคดีมากที่ได้ร่วมงานกับผู้กำกับคนเก่งอย่าง เชอร์ฟิก เธอเป็นผู้กำกับที่ละเอียดถี่ถ้วนใส่ใจในทุกๆ รายละเอียดของตัวละครทุกขั้นตอนในการถ่ายทำ เชอร์ฟิก รวบรวมสถานที่ทุกมุมที่สุดแสนโรแมนติกในยุโรป มาไว้ในเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็น ลอนดอน, ปารีส, เอดินเบิร์กห์ ล้วนแล้วแต่เป็นเมืองในฝันของใครหลายๆ คนรวมถึงตัวฉันเองด้วย

          ที่สำคัญเรื่องนี้ฉันยังได้ร่วมงานกับ จิม ได้เห็นวิธีการแสดงของจิม เขาเป็นนักแสดงที่เก่งมาก ทุกอารมณ์ที่เขาถ่ายทอดส่งมาให้ได้สมบูรณ์แบบสุดๆ เขาสามารถทำให้ฉันหลงใหลและเคลิ้มตามไปกับทุกคำพูดที่เขาได้พูดกับเอ็มมา ฉันชื่นชม จิม มากนะเพราะเขาเป็นสุดยอดนักแสดงอีกคนที่ฉันประทับใจที่สุด…”

          18 สิงหาคมนี้…ความรัก ความซาบซึ้ง จะสะกดทุกหัวใจ ในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณ!?

Pages: 1 ... 78 79 [80] 81