Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - sianbun

Pages: 1 ... 225 226 [227] 228 229 230
3391
เต้ สันต์ ภิรมย์ภักดี แห่งน้ำสิงห์ ชวนสองสาว ไอซ์-แตงโม  เผยนาทีชีวิต พร้อมส่งความห่วงใยสู่สังคม ผ่านพ็อคเก็ตบุ๊ค “รู้ 100 TRICKS ชีวิต ปลอดภัย”



น้ำดื่มสิงห์ ภายใต้การนำของสิงห์หนุ่มมากความสามารถ  เต้-สันต์ ภิรมย์ภักดี เปิดตัวหนังสือ  “รู้ 100 TRICKS ชีวิตปลอดภัย” ซึ่งรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับภัยอันตรายต่างๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้รอบๆ ตัวเรา   พร้อมแนะนำวิธีป้องกันแบบสั้น กระชับ เข้าใจง่าย ถึง 100 TRICKS ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง เพื่อทางรอดปลอดจากภัยต่างๆ  ส่งมอบความปราถนาดีและห่วงใยสู่สังคมไทย  โดยจัดทำขึ้นเพื่อมอบให้เป็นสาธารณะประโยชน์ตามหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมเผยนาทีชีวิตกับสองสาว ไอซ์- ณ ลานแฟชั่นแกลอรี่ ชั้น 1 สยามพารากอน  เมื่อวันก่อน

คุณสันต์    ภิรมย์ภักดี     ผู้จัดการกลุ่มการตลาด NON ALCOHOL บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด  กล่าวถึงที่มาในการจัดทำหนังสือว่า   “ตลอดเวลาที่ผ่านมาน้ำดื่มสิงห์เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่คู่กับ  คนไทยมานาน  เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย การสร้างสรรค์โครงการต่างๆมากมาย      เราทำขึ้นด้วยความตระหนักในความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมไทย กอปรกับความต้องการส่งมอบความปรารถนาดีและความห่วงใยที่มีต่อคนในสังคมเสมือนคนในครอบครัว  น้ำสิงห์จึงจัดทำหนังสือ “ รู้ 100 TRICKS ชีวิตปลอดภัย ”   ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการในรูปแบบหนังสือพ็อกเก็ตบุ้คที่เกิดจากความตั้งใจที่จะรวบรวมวิธีการ  เคล็ดลับ  ที่จะทำให้ชีวิตของทุกคนในสังคมไทย  รอดปลอดภัย จากอุบัติเหตุหรืออุบัติภัยต่างๆ แบบที่สั้น กระชับ และเข้าใจง่าย สามารถนำไปปฎิบัติได้จริง เพื่อมอบให้เป็นสาธารณะประโยชน์ตามหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศ   ซึ่งผมอยากใช้โอกาสที่ผมได้มานั่งอยู่ตรงนี้  ช่วยคนอื่นให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าเพียงแค่ 1 TRICK ในหนังสือเล่มนี้จะสามารถช่วยชีวิตใครได้สักกคน  ผมว่าก็คุ้มที่สุดแล้วครับ”     

ในงานยังมีสองดาราสาวรับเชิญอย่าง ไอซ์ อภิษฎา เครือคงคา และ แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์  มาร่วมพูดคุยมาถึงประสบการณ์นาทีชีวิตที่เธอทั้งสองประสบชนิดที่ทำให้เธอต้องจดจำถึงทุกวันนี้  และยังมีการแสดงสถานการณ์จำลองประกอบการสนทนา พร้อมคำแนะนำวิธีการป้องกันภัยต่างๆจากผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย

บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้จัดทำโครงการเพื่อสังคม ด้วยการเปิดตัวหนังสือ “รู้ 100 TRICKS ชีวิต ปลอดภัย” เนื่องจากเล็งเห็นถึงภัยต่างๆในปัจจุบันที่เกิดขึ้นรอบๆตัว ไม่ว่าจะเป็นภัยจากนุษย์  มิจฉาชีพ  เทคโลยี  รถยนต์  ภัยธรรมชาติและอีกสารพัดภัย ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกชีวิต  ประชาชนควรได้รับความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับวิธีปฎิบัติตนในสถานการณ์ที่เกิดภัยต่างๆ จึงมีแนวคิดในการจัดทำเป็นหนังสือพ็อคเก็ตบุค โดยจัดทำขึ้นเพื่อมอบให้กับหน่วยงาน องค์กร สถาบันการศึกษา โดยใช้ชื่อว่า “รู้ 100 TRICKS ชีวิตปลอดภัย” เป็นหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับภัยอันตรายต่างๆ พร้อมแนะนำวิธีป้องกันแบบสั้น กระชับ เข้าใจง่าย 100 วิธี ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง  เพื่อรอดปลอดจากภัยต่างๆ หากหน่วยงานไดต้องการเป็นเจ้าของหนังสือดังกล่าว สามารถติดต่อขอบรับหนังสือได้ที่เบอร์ 02-242-4499 ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-18.00 น.

3392
เอชพีเปิดกลยุทธ์ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ “When Everything Counts”




  เอชพีเปิดกลยุทธ์ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ “When Everything Counts” จัดแคมเปญช่วยลูกค้าบริหารจัดการงานพิมพ์เพื่อลดค่าใช้จ่ายในองค์กร

          ช่วยลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ลดค่าใช้จ่ายในองค์กรถึงร้อยละ 30 ด้วยโซลูชั่นการบริหารจัดการงานพิมพ์แบบ Managed Print Services (MPS) สามารถประหยัดพลังงานถึงร้อยละ 30 – 80
          ให้ลูกค้าเอสเอ็มบีสามารถ ‘ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า’ โดยเสนอโซลูชั่นลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์และประหยัดพลังงานสูงสุดถึงร้อยละ 50 พร้อมมอบแคมเปญ HP Officejet Pro Leasing Program บริการให้ใช้เครื่องฟรีเพื่อช่วยลูกค้า SMB ประหยัดการลงทุนฮาร์ดแวร์

          เอชพีนำเสนอกลยุทธ์การตลาด “When Everything Counts” สำหรับลูกค้าทุกระดับสู้วิกฤติเศรษฐกิจในปีนี้ ด้วยวิธีการแปลงค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (CAPEX) ให้เป็นค่าใช้จ่ายที่จัดการและควบคุมได้ (OPEX) หมายถึงลดค่าใช้จ่ายด้านการพิมพ์อย่างมีประสิทธิภาพ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและพลังงานอย่างเหนือชั้นนอกจากนี้ มีโซลูชั่นและบริการที่มีความยืดหยุ่นเสนอเป็นทางเลือกเพิ่มเติม สนับสนุนการทำงานของลูกค้าระดับเอสเอ็มบีและลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ข้อเสนอเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในการวางกลยุทธ์ด้านการลดต้นทุนทั้งแบบทันทีและในระยะยาวท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย ณ ปัจจุบัน ที่ทุกอย่างถูกคำนวนเป็นเงินต้นทุนและค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น แม้กระทั่งค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึง เช่น ค่าพลังงานและการสิ้นเปลืองเวลาจากความยุ่งยากด้านการจัดการ รวมทั้งยังเป็นการวางระบบบริหารจัดการเพื่อความสำเร็จของธุรกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว

          นำพาธุรกิจฝ่าวิกฤติด้วยระบบการจัดการงานพิมพ์ที่มีคุณภาพอย่างเหนือชั้น
          แม้ว่าเศรษฐกิจในปัจจุบันจะอยู่ในสภาวะถดถอย แต่ตลาดไอทีในเอเชียแปซิฟิกยังคงได้รับการคาดหวังว่าจะสามารถขยายตัวได้ในปี พ.ศ. 2552 ซึ่งในภาวะเช่นนี้ องค์กรธุรกิจต่างมุ่งหวังและให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนค่าใช้จ่ายด้านการซื้อสินทรัพย์ที่จะกลายเป็นต้นทุนให้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สามารถจัดการและควบคุมได้แทน อันเนื่องมาจากการที่ผู้บริหารต้องการรักษาความคล่องตัวทางด้านเงินสดและเลื่อนภาระทางการเงินออกไปให้ยาวนานขึ้น ทั้งนี้ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรม เช่น บริษัท IDC ได้ให้ข้อสังเกตว่ามีความต้องการทางด้านบริการการพิมพ์แบบ Managed Print Services เพิ่มขึ้นอย่างมากทั่วทั้งภูมิภาค เช่นเดียวกับความต้องการใช้งานโซลูชั่นที่ล้ำหน้าเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจส่งผลสู่การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในธุรกิจองค์กร ฯลฯ

          นายสมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยได้กลายเป็นเรื่องเร่งด่วนทางธุรกิจที่ทุกบริษัทต้องหันมาใส่ใจในเงินทุกบาทที่ใช้จ่ายไป เมื่อทุกอย่างมีความสำคัญสำหรับการตัดค่าใช้จ่ายในสภาวะการดำเนินธุรกิจที่มีความท้าทายเช่นนี้ บริษัทต่างๆ สามารถวางใจให้เอชพีเป็นคู่ค้าที่จะช่วยหาหนทางแบบเร่งด่วนและรวดเร็วเพื่อช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน โดยขั้นแรกคำนึงถึงการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดและลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น คือการตระหนักถึงค่าใช้จ่ายที่ มองไม่เห็นและคาดไม่ถึง เอชพีต้องการทำหน้าที่ของเราในการช่วยหาทางออกให้กับลูกค้าเพื่อ ลดค่าใช้จ่าย และลดความกดดันเรื่องกระแสการเงินหมุนเวียนในธุรกิจ สามารถจัดการกับค่าใช้จ่ายในเรื่องการพิมพ์ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่คุ้มค่าของเรา ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นด้านการพิมพ์ เครื่องมือเสริม และโปรแกรมสนับสนุนต่างๆ ซึ่งรวมถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นในการบริหารงานพิมพ์แบบ Managed Print Services (MPS) ของเอชพี นับเป็นเครื่องยืนยันว่าถึงเวลาแล้วที่ลูกค้าควรหันไปให้ความสำคัญแก่บริการดังกล่าว และคว้าโอกาสเพื่อการประหยัดต้นทุนอย่างเร่งด่วน จึงจะสามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้ผลยิ่งขึ้น และเพิ่มพูนประสิทธิผลภายในบริษัท นอกจากนี้ การปรับเวิร์คโฟลว์ด้านงานเอกสาร (Document Workflows) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นยังนับเป็นวิธีใหม่ของการบริหารต้นทุนทางไอทีและธุรกิจให้คุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการรองรับการเติบโตในระยะยาวเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว ดังนั้น การประกาศกลยุทธ์ “When Everything Counts” ในวันนี้ ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงพันธะสัญญาที่เอชพีมีต่อลูกค้ามากยิ่งขึ้น และเป็นการชี้นำตลาดให้คำนึงถึงลูกค้าของตนเองยามวิกฤติ เพื่อเข้าช่วยเหลือพวกเขาทันเวลาทั้งยังสามารถยกระดับผลประกอบการธุรกิจให้อยู่ใด้ ด้วยการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด”

          แคมเปญ “When Everything Counts” มุ่งที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในเซ็กเม้นต์เอสเอ็มบีและเอ็นเตอร์ไพรซ์ด้วยโซลูชั่นและบริการดังนี้
          กลุ่มลูกค้าเอสเอ็มบี (SMBs) ลูกค้าเอสเอ็มบีให้ความสำคัญกับปัญหาความกดดันด้านงบประมาณอย่างเร่งด่วน ชุดโซลูชั่นและโปรแกรมของเอชพีจะช่วยให้ธุรกิจเอสเอ็มบี สามารถลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ และลดต้นทุนการใช้พลังงาน มีการจัดการระบบการพิมพ์และการใช้ประสิทธิภาพเครื่องพิมพ์ในบริษัทได้อย่างคุ้มค่าและลดปัญหาค่าใช้จ่ายในทันที

          การจัดการงานพิมพ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับลูกค้าเอสเอ็มบีประกอบไปด้วย
          การลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ต่อหน้า (CPP) ได้ถึงร้อยละ 50 ด้วยเครื่องพิมพ์ HP Officejet Pro System รุ่นล่าสุด ที่นอกจากจะลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แล้ว ยังช่วยลดพลังงานเมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์แบรนด์อื่นๆ

          ประหยัดพลังงานด้วยเทคโนโลยี Instant-on ของเครื่องพิมพ์ HP LaserJet ที่สามารถเริ่มการพิมพ์หน้าแรกได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานได้สูงสุดร้อยละ 50 เหนือกว่าการใช้เทคโนโลยีฟิวเซอร์แบบเก่า

          แปลงค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน (CAPEX) ให้เป็นค่าใช้จ่ายที่จัดการและควบคุมได้ (OPEX) ด้วยโครงการ “HP Leasing Program” ลดค่าใช้จ่ายด้านฮาร์ดแวร์และค่าดำเนินการด้วยโปรแกรมการใช้เครื่องพิมพ์รุ่น HP Officejet Pro โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งทำให้ลูกค้า เอสเอ็มบีสามารถอัพเกรดเครื่องพิมพ์ที่มีอยู่โดยไม่ต้องจ่ายเงินค่าฮาร์ดแวร์เพิ่ม ช่วยให้ลูกค้า SMB สามารถปรับปรุงสภาพคล่องของกระแสเงินสดหมุนเวียนในธุรกิจ ลูกค้าจ่ายเพียงค่าหมึกพิมพ์เพียงเดือนละ 2 ตลับในราคาตายตัว โดยผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนตลอดระยะเวลาการใช้เครื่องพิมพ์ หรืออย่างต่ำ 12 เดือน ซึ่งจะช่วย SMBs ลดค่าใช้จ่ายใน การพิมพ์ได้มากกว่า 50% จากการใช้เครื่องพิมพ์ในกลุ่ม HP Officejet Pro

          ตั้งค่าการพิมพ์เป็นแบบ 2 หน้าอัตโนมัติ หรือ Duplex Printing เพื่อลดการสิ้นเปลืองของกระดาษ นอกจากนี้ เทคโนโลยีการส่งข้อมูลดิจิตอลของ HP เช่น การส่งแฟกซ์ไปยังอีเมล์ และการจัดการไฟล์ดิจิตอล จะทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเอกสารไปเป็นดิจิตอลฟอร์แมท จึงช่วยลดการใช้กระดาษและลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ ในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานด้วย (ตามการรายงานของการ์ทเนอร์ องค์กรสามารถลดค่ากระดาษต่อปีได้อย่างน้อยร้อยละ 30 โดยเลือกการพิมพ์สองหน้าไว้เป็นค่ามาตรฐานในเครื่องพิมพ์ทั่วทั้งองค์กร)

          โซลูชั่น Color Access Control ช่วยจัดการงานพิมพ์สีเพื่อประหยัดต้นทุน ลูกค้าสามารถ ควบคุมและตรวจสอบการพิมพ์สีในองค์กรให้เหมาะสมต่อความสำคัญของงานและผู้ใช้ รวมทั้งเรียงลำดับงานที่จำเป็น เพื่อให้สามารถจัดการและควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิผลที่คุ้มค่ายิ่งขึ้น

          สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ (Enterprise Segment) เอชพีสนับสนุนให้ลูกค้าองค์กรบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพทันที เพื่อเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตของผลผลิตทางธุรกิจทั้งในเวลาอันใกล้และในระยะยาว เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับความสำเร็จในอนาคตเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยบริหารจัดการงานพิมพ์ดังนี้

          การจัดการงานพิมพ์สำหรับลูกค้าองค์กรประกอบไปด้วย
          บริการ HP Managed Print Services (MPS) ช่วยให้องค์กรสามารถลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับงานด้านภาพและการพิมพ์ได้มากถึงร้อยละ 30 บริการ HP MPS ช่วยให้ลูกค้าองค์กรสามารถจัดการลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และบริหารสภาพแวดล้อมงานด้านภาพและการพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย ลูกค้าจึงสามารถทุ่มเทความสนใจไปที่ การบริหารงานหลักของพวกเขาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการงานพิมพ์ นอกจากนี้ องค์กรธุรกิจยังจะได้รับโอกาสอัพเกรดอุปกรณ์เครื่องพิมพ์ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยยิ่งขึ้นเหมาะสมกับสภาพการขับเคลื่อนของอุตสาหกรรมเพื่อลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการบริหารต้นทุนรวมขององค์กร (Total Cost of Ownership) อีกด้วย

          ตอกย้ำการเพิ่มผลิตผลทางธุรกิจด้วยทรัพยากรที่น้อยกว่า ดังจะเห็นได้จากการที่ นักวิเคราะห์ในวงการธุรกิจได้จัดอันดับให้เอชพีอยู่ในฐานะผู้บริหารงานด้านการพิมพ์ระดับแถวหน้า อาทิ การ์ทเนอร์ (Gartner) ได้จัดให้เอชพีอยู่ในกลุ่มผู้นำ (Leaders Quadrant) ในประเภท “Magic Quadrant for Managed Print Services Worldwide” ไอดีซี (IDC) ได้เผยผลวิจัยผู้ใช้ล่าสุดว่าเอชพีได้รับเลือกให้เป็นอันดับหนึ่งในประเภท ผู้ให้บริการ ซึ่งพบว่าระบบการบริหารจัดการงานพิมพ์ของเอชพีเป็นโซลูชั่นที่ ติดตั้งง่าย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานเดิม งานวิจัยที่จัดทำขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของไอดีซีเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า ร้อยละ 15-20 ขององค์กรทั้งหมดที่ไอดีซีได้สัมภาษณ์ระบุว่าพวกเขาวางแผนที่จะเริ่มใช้งานโซลูชั่นการพิมพ์หรือบริการที่เกี่ยวกับเอกสารในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า และ แบบสำรวจเดียวกันได้แสดงให้เห็นว่าเอชพีเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจของธุรกิจในประเภทตลาดบริการการพิมพ์

          บริหารงานพิมพ์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วย HP Optimization Assessment ที่ช่วยให้องค์กรพัฒนาแผนการใช้งานเครื่องพิมพ์และปรับสภาพแวดล้อมการพิมพ์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อหาโซลูชั่นที่จะตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัย คำนวนอัตราการคืนทุน การทำสำเนาภาพเอกสาร และปัญหาทางธุรกิจอื่นๆ การประเมินดังกล่าวจะระบุเครื่องมือสนับสนุน วางระเบียบแบบแผน และแนะวิธีการใช้การดูแลรักษาเครื่องพิมพ์ทั้งหมดในองค์กรได้ในระยะยาว

          สนับสนุนการบริหารจัดการกระแสเงินหมุนเวียนของลูกค้าองค์กร ด้วยการนำเสนอสัญญาให้บริการที่มีความยืดหยุ่น สืบเนื่องจากสภาวะตลาดในปัจจุบัน เอชพีจึงช่วยลูกค้าองค์กร ให้มีการบริหารจัดการกระแสเงินหมนเวียน ด้วยการนำเสนอสัญญาให้บริการที่มีความยืดหยุ่น โดยเสนอทางเลือกใหม่ในการแบ่งจ่ายผ่อนชำระได้ตามระยะที่ต้องการแทนที่จะต้องจ่ายเงินค่าบริการทั้งหมดในคราวเดียวดังแต่ก่อน ข้อเสนอใหม่นี้ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกว่าจะชำระค่าบริการตามสัญญาระบุ เป็นรายเดือน รายไตรมาส หรือรายครึ่งปี ทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์จาก HP Care Packs เช่นเดิม สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่ต้องการยืดระยะเวลาการใช้งานเครื่องพิมพ์ ลูกค้าสามารถเลือกบริการประกันสินค้าหลังการขายเพิ่มเติมเพื่อคุ้มครองนานกว่าเดิมจากระยะเวลาประกันมาตรฐาน12 เดือน และหากลูกค้าทำสัญญาเพื่อรับบริการหลังการการขายสำหรับเครื่องพิมพ์ที่กำหนด หรือเครื่องพิมพ์ มัลติฟังก์ชั่น (MFP) ที่มีระยะเวลานาน 3 ถึง 5 ปี ลูกค้าสามารถเลือกที่จะไม่ต้องจ่ายค่าบริการใดๆ ในช่วง 12 เดือนแรกของสัญญาได้

          นอกเหนือจากบริการภาพและการพิมพ์แล้ว นวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์ยังมีส่วนช่วยลดค่าไฟอีกด้วย อาทิ ใช้บริการงานพิมพ์ของเอชพีที่ช่วยลดการใช้พลังงานและวัตถุดิบน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการใช้ผลิตภัณฑ์เดี่ยวๆ ประหยัดการใช้พลังงานได้มากถึงร้อยละ 50 ด้วยเครื่องพิมพ์เลเซอร์เจ็ทของเอชพีที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Instant-on และซอฟต์แวร์ HP Web Jetadmin (WJA) ที่ได้รับรางวัล บริษัทจึงสามารถตั้งค่า sleep mode และ wake mode เพื่อปิดเครื่องในช่วงตอนกลางคืนและวันหยุดสุดสัปดาห์ และสามารถประหยัดพลังงานที่ใช้ในสำนักงานได้มากถึงร้อยละ 66 นอกจากนี้ องค์กรยังสามารถทำการประเมินจำนวนเครื่องพิมพ์และปรับลดจำนวนเครื่องพิมพ์ให้เหมาะสมตามการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรจึงสามารถเลือกกำจัดอุปกรณ์ที่มีการใช้งานน้อยออกไปได้

          นอกจากนี้ มีอีกหลายวิธีที่เอชพีสามารถช่วยบริษัทต่างๆ ประเมินอุปกรณ์เครื่องพิมพ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันและคำนวนค่าใช้จ่ายจากการพิมพ์ อาทิ
          บริการประเมินการพิมพ์ที่เรียกว่า “HP Eco Printing Assessment” เพื่อประเมินการใช้พลังงาน การใช้กระดาษ และปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน รวมทั้งให้คำแนะนำวิธีปฏิบัติในการเคลื่อนตัวสู่การเป็น “องค์กรสีเขียว”

          HP Carbon Footprint Calculator เพื่อเปรียบเทียบปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนของอุปกรณ์เครื่องพิมพ์ที่มีอยู่เดิม กับเครื่องพิมพ์ชุดใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เพื่อให้ตระหนักถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน

          “ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกบริการด้านการพิมพ์ของเอชพีได้เติบโตอย่างมาก โดยมูลค่าสัญญาลูกค้าได้เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 108 ในปีพ.ศ. 2551 เมื่อเทียบกับในปี 2550 ลูกค้าที่ใช้บริการด้านการพิมพ์ในเอเชียแปซิฟิกสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านการพิมพ์ลงไปได้ ในฐานะผู้นำทางด้านธุรกิจการพิมพ์เราจึงได้นำกลยุทธ์ “When Everything Counts” มานำเสนอเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า ในประเทศไทย ซึ่งเราเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยลูกค้าของเราตั้งแต่กลุ่มเอสเอ็มบีจนถึง เอ็นเตอร์ไพรซ์ให้ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ เตรียมความพร้อมเพื่อความสำเร็จในอนาคตเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยจะช่วยให้ลูกค้าลดค่าใช้จ่ายทางด้านการจัดการงานพิมพ์ ซึ่งค่าใช้จ่ายบางอย่างอาจเป็นค่าใช้จ่ายที่มองไม่เห็นหรือไม่ใด้ตระหนักต่อผลกระทบในภาพรวม แต่ ณ สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ที่การใช้จ่ายทุกบาททุกสตางค์ต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังและรอบคอบ นี่จึงเป็นโอกาสในการประหยัดค่าใช้จ่ายที่บริษัทต้องคำนึงถึง ซึ่งบริการด้านงานพิมพ์ของเอชพีจะสามารถช่วยให้ลูกค้าลดใช้จ่ายของต้นทุนสูงสุดถึงร้อยละ 30 ได้อย่างแน่นอน” นายสมชัย กล่าวปิดท้าย

          ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
          เอชพี เป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดของโลกที่นำเสนอประสบการณ์การใช้งานเทคโนโลยี ที่สะดวกและง่ายดายสำหรับลูกค้าคอนซูเมอร์จนถึงองค์กรธุรกิจระดับต่างๆ ด้วยพอร์ทโฟลิโอ ที่ครอบคลุมด้านการพิมพ์ คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ การบริการ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานทาง ด้านไอที สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอชพี (NYSE: HPQ) สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.hp.com

3393
ลิสเตอรีน เปิดตัว น้ำยาบ้วนปาก “ลิสเตอรีน โทเทิลแคร์” 6 พลังปกป้องในขวดเดียว





 
             - มั่นใจปี 52 ตลาดยังโตกว่า 20% เตรียมปล่อยกลยุทธ์เด็ดตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 -

          น้ำยาบ้วนปากลิสเตอรีนรุกหนักส่ง “ลิสเตอรีน โทเทิลแคร์” นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่รวม 6 พลังปกป้องไว้ในขวดเดียว หวังเสนอเป็นทางเลือกใหม่แก่ผู้บริโภคตอบโจทย์ตลาดทั้งความคุ้มค่าควบคู่คุณภาพรับยุครัดเข็มขัด เชื่อมั่นตลาดยังโตได้อีกมาก หลังปี 2551 ยิ้มรับอัตราการเติบโต 18.5% ด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่า 70% มั่นใจปี 2552 ยังครองแชมป์ คาดปิดฉากปีด้วยอัตราเติบโตกว่าปี 2551 ประมาณ 20% - 25%

          นางสาวประมวลศรี คงยิ่งยง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน คอนซูเมอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปากลิสเตอรีน เปิดเผยว่า ตลาดน้ำยาบ้วนปากในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา เติบโตอย่างมากอยู่ที่ 18.5% โดยสาเหตุหลักที่ตลาดโตขนาดนี้ เกิดมาจากการที่ผู้บริโภคเริ่มเข้าใจว่าการแปรงฟันอย่างเดียวไม่เพียงพอ ซึ่งพิสูจน์ได้จากตัวเลขผู้ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีมากอย่างก้าวกระโดดถึง 51% จากเดิมที่มีอยู่เพียง 38% เท่านั้น ซึ่งทางลิสเตอรีนเองมองว่าตัวเลขในการเติบโตคงไม่หยุดเพียงแค่ 51% เท่านั้น และคาดว่าโอกาสในอนาคตยังมีอีกมาก

          “เราพบว่าตลาดน้ำยาบ้วนปากถึงแม้จะมีมูลค่าอยู่เพียง 1,400 ล้านบาทในเมืองไทย แต่อัตราการเติบโตมีสูงมาก เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปากมากขึ้นลิสเตอรีนจึงต้องจับกระแสความต้องการผู้บริโภคให้ทัน เพื่อพัฒนาสินค้าให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา

          จากผลการสำรวจของกองทันตสาธารณสุขปี 2549–2550และจากผลการสำรวจและวิจัยตลาดกับผู้บริโภค พบว่าปัจจุบันแม้คนไทยจะแปรงฟันเป็นประจำทุกวันทั้งตอนเช้า และก่อนนอน แต่ก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพช่องปากอยู่ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ เป็นปัญหาที่ทันตแพทย์ ส่วนใหญ่พบในคนไข้ และเกิดซ้ำๆ บ่อยๆ โดยผลสำรวจระบุว่า คนไทยมีปัญหาฟันผุสูงถึง 83% ปัญหาปริทันต์อักเสบมากถึง 85% ปัญหาโรคเหงือก และหินน้ำลายมากกว่า 50% เกิดปัญหาฟันเหลืองมีคราบ 29% ปัญหาหินปูน 22% และปัญหากลิ่นปาก 20%

          จากผลการสำรวจดังกล่าว ลิสเตอรีนจึงนำองค์ความรู้ทางด้านทันตกรรม พร้อมประสบการณ์วิจัยพัฒนา ผลิตภัณฑ์ที่มีมายาวนานและต่อเนื่องถึง 130 ปี คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ “ลิสเตอรีน โทเทิลแคร์” ซึ่งนับเป็นสุดยอดนวัตกรรมที่โดดเด่นด้วย 6 คุณสมบัติ ประกอบด้วย 1) ช่วยให้ลมหายใจสดชื่นยาวนาน 12 ชั่วโมง 2) ป้องกันฟันผุ 3) ลดการสะสมของแบคทีเรีย 4) ลดการก่อตัวใหม่ของหินปูนและปกป้องฟันขาว อย่างเป็นธรรมชาติ 5) ลดการสะสมของคราบพลัค และ 6) ดูแลเหงือกให้มีสุขภาพดี โดยทั้งหมดถูก บรรจุไว้ในขวดเดียว”

          นอกจากนี้ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน คอนซูเมอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังกล่าวเสริมว่าได้ทุ่มทุนงบประมาณในการทำกิจกรรมการตลาดไว้สูงถึง 150 ล้านบาท หวังตอกย้ำความเป็นอันดับ1ของน้ำยาบ้วนปากโดยชูกิจกรรมการตลาด ไม่ว่าจะเป็นสื่อโฆษณาในช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สื่อโฆษณาทีวี สื่อโฆษณาตามรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน สื่อโฆษณาวิทยุ สื่อตามนิตยสารหนังสือต่างๆ รวมถึง สื่อในห้างร้านค้า นอกจากนี้ยังมี การแจกสินค้าให้ทดลองผ่าน คลินิคทันตกรรมชั้นนำจากคุณสมบัติสินค้าที่โดดเด่น และแผนการตลาดที่อัดแน่น ลิสเตอรีนคาดว่าจะสามารถครองแชมป์อันดับ 1 ให้แข็งแกร่งขึ้นโดยหวังว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 75% จากเดิมที่มีอยู่ปัจจุบัน 70% ในขณะที่คู่แข่งยังคงทิ้งห่างในส่วนแบ่งการตลาด โดย คอลเกต 10.7% ซิสเท็มมา 8.2% และ มายบาซิน 5.9% ลิสเตอรีน โทเทิลแคร์ มีให้เลือก 4 ขนาด ประกอบด้วย 80, 250, 500 และ 750 มิลลิลิตรร่วมพิสูจน์ 6 พลังปกป้อง ที่เหนือกว่าจากลิสเตอรีน โทเทิลแคร์ ได้แล้ววันนี้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ

3394
ING ลุยปั๊มยอดกองทุนเปิด “ไทย ไลฟ์ไซเคิล”

 
             ***** ช่วงนี้ “จุมพล สายมาลา” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจกองทุนรวมและที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) คิวแน่นเอี๊ยดตลอด เพราะต้องเดินสายให้ข้อมูลกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล ที่เปิดขาย IPO พร้อมกัน 3 กองรวด ได้แก่ กองทุนเปิด เอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015, 2020 และ 2025 หวังตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการวางแผนสู่อิสรภาพทางการเงินหลังวัยเกษียณ ด้วยจุดเด่นด้านนโยบายลงทุนที่ปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนตามช่วงอายุที่เปลี่ยนแปลงไป โดยแต่ละกองจะทยอยลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นแ ละเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2688-7777 หรือ www.ingfunds.co.th เสนอขายระหว่าง 19-26 มี.ค.นี้ จองขั้นต่ำ 10,000 บาทเท่านั้น *****

          ***** บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เดินสายให้ข้อมูลกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล ที่กำลังเสนอขายIPO พร้อมกัน 3 กองรวด ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015, 2020 และ 2025 จับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการวางแผนทางการเงินหลังวัยเกษียณ งานนี้แว่วว่าได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เพราะนโยบายลงทุนที่เน้นดูแล “ความเสี่ยง” ด้วยการเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงอย่างตราสารหนี้ภาครัฐ สามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ยังมีสภาพคล่องสูง ซื้อขายได้ทุกวันทำการ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ไอเอ็นจี โทร.0-2688-7777 หรือ www.ingfunds.co.th เสนอขายระหว่าง 19-26 มี.ค.นี้ จองขั้นต่ำ 10,000 บาทเท่านั้น *****
 
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
          คุณพรพรรณ ไพบูลย์วัฒนชัย
          ผู้อำนวยการ ฝ่ายธุรกิจกองทุนรวมและที่ปรึกษาการลงทุน
          บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด
          T- 0-2688-7785 F- 0-2688-7707 E- Pornpun.P@ingfunds.co.th

3395
SF จัดกิจกรรม “Fast 4 your life Thailand tune up car record” พร้อมออกแคมเปญ Super Fast Challenge ลุ้น!!!ท้าความมันส์ จาก 2 การแข่งขันระดับโลก กับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Fast and Furious 4




“โรงภาพยนตร์ในเครือเอส เอฟ” ร่วมกับ “ค่ายหนังยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์, Goodyear, I-Tech, XO Auto Sport, Federbrau เอาใจคอหนังแอ็คชั่นที่รักความแรงกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Fast and Furious 4 จัดกิจกรรม “ Fast 4 your life Thailand tune up car record ”  รวมพลคนรักความแรงหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในวันที่ 22 มีนาคม พร้อมเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 1 เมษายน พิเศษสุดกับแคมเปญ Super Fast Challenge ลุ้น!!!ตื่นเต้นกับการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ความมันส์จาก 2 การแข่งขันระดับโลก และชมภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 4 ก่อนใคร เมื่อซื้อบัตรชมภาพยนตร์ ทุกๆ 2 ที่นั่ง ที่โรงภาพยนตร์ในเครือ SF ทุกสาขาทั่วประเทศ

นายสุพัฒน์ งามวงศ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้า เอส เอฟ ได้เปิดประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่กับ 2 กิจกรรมสุดแรงแห่งแรกและแห่งเดียวกับกิจกรรม “Fast 4 your life Thailand tune up car record” โดยเอส เอฟ ร่วมกับ ค่ายหนัง ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส พร้อมด้วยพาร์ทเนอร์ธุรกิจ อาทิ Goodyear, I-Tech, XO Auto Sport, Federbrau และอื่นๆ อีกมากมาย จัดขึ้นเพื่อเอาใจคอหนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ Fast and Furious 4 โดยวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคมนี้ ซึ่งจะเป็นการรวมตัวของรถแต่งยี่ห้อดัง อาทิ  NISSAN 350Z, MAZDA RX8 และอื่นๆ อีกมากมายจากทั่วประเทศจำนวนกว่า 100 คัน มาร่วมโชว์แปลตัวอักษรเป็นคำว่า Fast & Furious 4 ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลต์ของงานถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งที่เป็นการรวมตัวของเหล่าเซียนแต่งรถมากที่สุดในประเทศไทย โดยเปิดให้สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปได้ร่วมชมตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งจะใช้เฮลิคอปเตอร์บังคับติดกล้องที่ใช้ในการถ่ายภาพยนตร์เก็บภาพบรรยากาศจากมุมสูง เพื่อให้ทุกท่านได้ชมกับแบบ 360 องศากันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ใน วันพุธที่ 1 เมษายน ศกนี้ เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่กระตุ้นความมันส์แบบสุดประทับใจที่ถือได้ว่าเป็นอีกวันของการรวมพลคนรักความแรงที่จะได้พบกับที่สุดของการรวมตัวครั้งสำคัญของเหล่านักซิ่งสุดมันส์ กับกิจกรรมกระตุ้มต่อมอะดรีนาลีนอีกมากมาย พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตจาก Buddha Bless แถมยังได้ลุ้นชมภาพยนตร์ Fast and Furious 4 ก่อนใคร โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งกิจกรรมทั้ง 2 วัน จะจัดขึ้น ณ ลานด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชดำริ

สุพัฒน์กล่าวอีกว่า “สำหรับลูกค้าที่พลาดโอกาสกับ 2 กิจกรรมยักษ์ใหญ่ ก็ไม่ต้องเสียใจเพราะ เอส เอฟ ยังจัดบิ๊กแคมเปญเพิ่มดีกรีความมันส์ ให้สำหรับลูกค้ากันอย่างต่อเนื่องเพียงมาชมภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 4 ทุกๆ 2 ที่นั่ง ที่โรงภาพยนตร์ในเครือ SF ทุกสาขาทั่วประเทศ ร่วมลุ้นเป็นส่วนหนึ่งกับที่สุดของประสบการณ์ความแรง กิจกรรมท้าความมันส์ระดับโลก จาก 2 การแข่งขันระดับโลก

การแข่งขันท้าความเร็วที่ดังที่สุดในอเมริกา NASCAR, Daytona International Speed way Daytona Beach
การแข่งขัน DTM สนาม Nürburgring การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่ดุเดือดที่สุดแห่งปี                  ณ ประเทศ Germany

สำหรับแคมเปญนี้ ถือเป็นการมอบสิทธิพิเศษที่ดียิ่งกว่าให้กับลูกค้าในเวลาที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์เรียกว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของหนัง ซึ่งจะมีหนังทั้งไทยและต่างประเทศฟอร์มใหญ่เข้าฉาย ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกในวงการหนัง ที่มอบประสบการณ์ความแรงแบบติดสนามแข่งที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน ซึ่งถือได้ว่าเป็น บิ๊กอีเว้นต์ บิ๊กโปรโมชั่น ต้อนรับต้นปี 52 และในปีนี้เอส เอฟ ก็จะจัดกิจกรรมดีๆ อย่างนี้ออกมาอยู่เรื่อยๆ เพื่อเป็นการคืนกำไรให้ลูกค้า เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น จึงทำให้เรามั่นใจว่าแคมเปญนี้จะได้รับการตอบรับอย่างดีอีกครั้งจากบรรดาคอหนังทั้งหลายอย่างแน่นอน” สุพัฒน์กล่าวทิ้งท้าย

ด้านนายชาลี  จิตจรุงพร  รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยเบฟเวอร์เรจ จำกัด กล่าวว่า                  “เบียร์เฟดเดอร์บรอย เป็นเบียร์พรีเมียมเยอรมัน ที่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟสไตล์เท่ห์ๆ รักความท้าทาย พร้อมหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับชีวิตอย่างลงตัว ซึ่งการที่มาสนับสนุนการกิจกรรมร่วมกับภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 4 ร่วมกับ SF นั้น เพราะเล็งเห็นว่า หนังเรื่องนี้ตรงกับคาร์แร็กเตอร์ของเฟดเดอร์บรอย และกลุ่มลูกค้าของเฟดเดอร์บรอย มากว่านั้นเฟดเดอร์บรอย และ SF ยังร่วมกันมอบรางวัล package tour ดูรถแข่ง DTM ที่ประเทศเยอรมัน ให้กับผู้โชคดี ถึง 2 ที่นั่งอีกด้วยด้วย”

ด้านนายริชาร์ด เฟลมมิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กู๊ดเยียร์ ประเทศไทย/ภูมิภาคอาเซียน จำกัด กล่าวสนับสนุนกิจกรรมนี้ว่า “สำหรับยางกู๊ดเยียร์ เป็นยางระดับโลกที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน โดยเฉพาะในวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ต  ซึ่งในการแข่งขัน Formula-1 นั้น กู๊ดเยียร์ยังครองสถิติได้รับชัยชนะถึง 368 ครั้ง โดยที่ยังไม่มีใครสามารถทำลายสถิตินี้ได้ จึงกล่าวได้ว่า กู๊ดเยียร์คงเป็นผู้ผลิตยางอันดับต้นๆ ของโลกที่อยู่ในใจของแฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ต และผู้ที่ชื่นชอบความเร็วเสมอมา และสำหรับภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 4 ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมจากคอหนังทั่วโลก รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบในความเร็วอีกด้วย ดังนั้นการเข้าร่วมสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้ ร่วมกับโรงภาพยนตร์ในเครือเอส เอฟ นั้น จึงเป็นโอกาสดีที่จะตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในด้านกีฬามอเตอร์สปอร์ตของกู๊ดเยียร์  และถือเป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของทางบริษัทฯ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทุกด้านโดยทาง Goodyear ได้มอบรางวัลพิเศษสำหรับผู้โชคดีที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้โดยนำผู้โชคดีไปชม NASCAR ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศแม่ของ Goodyear ถึง 2 ที่นั่ง และรางวัลพิเศษอื่นๆอีกมากมาย สำหรับลูกค้าของ Goodyear และ SF”

ด้านนายเฮนรี่ ออง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท แวร์ซาทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า นับเป็นเรื่องที่ดีสำหรับบลูทูช ไอเทค ที่ได้เข้าร่วมสนับสนุนกับทางเอสเอฟ ในการเปิดตัวภาพยนต์เรื่อง Fast and Furious 4 ซึ่งเป็นภาพยนต์เกี่ยวกับรถยนต์ ที่กำลังได้รับความนิยมจากแฟนหนังทั่วโลก ซึ่งการเข้ามาร่วมสนับสนุนในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการร่วมรณรงค์กฏหมายเรื่องการโทรไม่ขับ หรือขับรถอย่างปลอดภัยควรใช้อุปกรณ์เสริมอีกทางหนึ่งด้วย  ซึ่งบลูทูช ไอเทค ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่รักการขับรถ ทั้งยังชื่นชอบในเรื่องความเร็ว และความปลอดภัยในการขับ จึงได้ร่วมกับเอสเอฟในการมอบส่วนลดพิเศษ และมอบของกำนัลต่าง ๆ  อาทิเช่น บัตรชมภาพยนตที่โรงภาพยนตร์ในเครือเอส เอฟ, ตุ๊กตาหมี i.Tech และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับลูกค้าเอส เอฟ ทุกท่านที่สนใจสามารถแวะชมสินค้า ได้ที่บูทไอเทค ณ โรงภาพยนตร์ในเครือเอสเอฟทุกสาขา (เฉพาะในสาขากรุงเทพฯ และปริมณฑล) ตลอดทั้งเดือนเมษายน ศกนี้เชื่อว่าจะเป็นการืนกำไรให้กับลูกค้าอีกช่องทางหนึ่ง

3396
ซัมซุงส่ง “Aqua Gadgets” ดับร้อนรับสงกรานต์



     ปีใหม่ไทยใกล้จะเวียนมาบรรจบอีกวาระพร้อมกับเดือนที่ร้อนที่สุดในช่วงคิมหันต์ฤดูนี้ หลายๆ คน อาจจะวางแผนไปท่องเที่ยวหลบร้อนกับคนที่รักในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เพื่อเป็นสิริมงคล หรืออาจมีโปรแกรมไปเล่นสาดน้ำสงกรานต์คลายร้อนกันให้ฉ่ำใจแถวถนนข้าวสาร ไม่ว่าจะเป็นวิธีดับร้อนแบบ ไหน ดูเหมือนว่าช่วงเทศกาลแห่งการเล่นน้ำสงกรานต์นี้ จะทำให้เรานึกถึงโทนสีเย็นๆ อย่างสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน ที่สามารถเนรมิตรบรรยากาศท่ามกลางอุณหภูมิอันร้อนระอุให้เย็นสดชื่นขึ้นมาได้ในพริบตา ยิ่งถ้ามีของใช้ จำพวกเก็ดเจ็ทอิเล็คทรอนิคส์ใกล้ๆตัวที่เป็นโทนสีฟ้า-น้ำเงิน ยิ่งจะช่วยให้อารมณ์ของคุณสดชื่นแจ่มใสขึ้นมาได้ อย่างไม่น่าเชื่อ ลองมาดูผลิตภัณฑ์ “Aqua Gadget” จากซัมซุง ที่คัดสรรมาเพื่อสร้างความชุ่มฉ่ำต้อนรับ ช่วงสงกรานต์ให้ลองเลือกใช้กันดู

          ทัชโฟนรักษ์โลก “ซัมซุง บลู เอิร์ธ” (Samsung Blue Earth)
          สร้างความฮือฮาให้กับวงการในการเปิดตัวครั้งแรกที่งาน World Mobile Congress กรุงบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ทัชโฟนสีฟ้าสดใสดั่งสีมหาสมุทรบนลูกโลกในหนังไซไฟแนวอวกาศ “ซัมซุง บลู เอิร์ธ” (Samsung Blue Earth) เป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลกที่ชาร์จไฟด้วยพลังงานจากแสงอาทิตย์ด้วยแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง สามารถเปิดเครื่องรับสายได้ตลอดเวลาไร้ปัญหาแบตเตอรี่หมดกลางคัน ออกแบบมาเพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูงสุดภายใต้แนวคิด “The Blue Earth Dream: Eco-Living with SAMSUNG Mobile” โดยตัวเครื่องใช้วัสดุที่เป็นชิ้นส่วนพีซีเอ็มรีไซเคิลจากขวดน้ำพลาสติก พร้อมระบบหน้าจอสัมผัสใช้งานสะดวกง่ายดาย โดดเด่นด้วยลูกเล่นเพื่อการประหยัดพลังงานแบบโดนใจ “อีโค่โหมด” ให้การใช้พลังงานต่ำระหว่างเบราซ์ Widget หน้าจอ และ “โหมดอีโค่-วอล์ก” ที่เป็นฟังก์ชันนับจำนวนก้าวที่เดินของเจ้าของเครื่องและคำนวณออกมาเป็นจำนวนต้นไม้ที่ช่วยอนุรักษ์ไว้ได้จากการลดการใช้รถยนต์ ทั้งตัวเครื่องปลอดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งสารทนไฟประเภทโบรมีน เบอรีเลียม และ สารประกอบฟธาเลต (Phthalate) นอกจากรูปลักษณ์ที่ทันสมัยในโทนสีอะควาเย็นตาแล้ว ยังช่วยให้คุณ อินเทรนด์ได้แบบไม่ทำร้ายโลกอีกด้วย

          เครื่องดูดฝุ่น “ซัมซุง VCC 8451”
          ด้วยดีไซน์สวยกะทัดรัดและเทคโนโลยีล้ำสมัยของ “ซัมซุง VCC 8451” เครื่องดูดฝุ่นใหม่ที่มาในโทนสีฟ้าครามสดใส สร้างสีสันความสนุกให้การทำความสะอาดบ้านไม่เป็นเรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป โดดเด่นด้วยระบบ Twin Chamber ไม่ใช้ถุงเพื่อการแยกฝุ่นผงลดปัญหาฝุ่นเต็มเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพให้มอเตอร์สามารถทำงานได้อย่างสม่ำเสมอ มาพร้อมกับแปรงดูดฝุ่นแบบ 2-Step Brush ที่สามารถดูดฝุ่นได้ทั้งบนพื้นแข็งและพื้นปูพรม ล้อยางออกแบบมาเป็นพิเศษ ไม่ทำให้เกิดรอยบนพื้นผิว และยังมีปุ่มเก็บสายไฟอัตโนมัติที่ด้ามจับ ทำงานได้ง่ายด้วยปุ่มรีโมทไฟฟ้าบังคับเปิด-ปิด ระบบแยกฝุ่นสามารถทำงานอย่างละเอียดเพื่อประสิทธิภาพที่คงทนและยากต่อการอุดตันในมอเตอร์ นอกจากนี้ยังมีซิลเวอร์นาโนฟิลเตอร์ (Silver NANO Filter) เทคโนโลยีเอกสิทธิ์ของซัมซุงเคลือบผิวป้องกันเชื้อโรคและระบบฟอกอากาศ HEPA 12 ชั้น วางจำหน่ายในราคา 9,990 บาท

          มินิโน้ตบุ๊ค “ซัมซุง NC10”
          ส่วนใครที่ไม่ได้ออกไปฉลองสงกรานต์เพราะมีงานคั่งค้างอยู่ก็สามารถเย็นใจขึ้นมาได้อีกนิดถ้าได้ ทำงานบนมินิโน้ตบุ๊คประสิทธิภาพสูง สีสันสดสวยจากซัมซุง “NC10” ที่ได้ฤกษ์เปิดตัวต้อนรับสงกรานต์ในช่วง เดือนเมษายนนี้ มาใน 2 โทน คือ สีน้ำเงิน Deep Blue Sea และสีฟ้า Azurine Blue สดใส ขนาดหน้าจอ 10.2 นิ้ว ดีไซน์บางเฉียบทันสมัย น้ำหนักเบาเพียง 1.33 กิโลกรัม อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพล้ำหน้า มินิโน้ตบุ๊คทั่วไปด้วยชิพอัจฉริยะอินเทลอะตอมโปรเซสเซอร์ พร้อมระบบปฏิบัติการวินโดว์เอ็กซ์พีโฮม (Genuine Microsoft Windows XP Home) รองรับการทำงานทุกรูปแบบ รวมถึงมีฟังก์ชันเพื่อการใช้งาน มัลติมีเดียที่สมบูรณ์ครบถ้วน มีคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐานที่ใช้กับเครื่องพีซี สามารถวางมือพิมพ์บนแป้นได้อย่าง สะดวกสบาย ให้ความคล่องตัวสามารถพกพาไปในที่ต่างๆ และให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้ขีดจำกัด มาพร้อมกล้องเว็บแคมบิวท์-อินความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่แบบ 6 เซลล์ ใช้งานได้นาน ติดต่อกัน สูงสุดถึง 7 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเสียบชาร์จ

          กล้องแคมคอร์ดเดอร์ “ซัมซุง SMX-F34”
          เก็บภาพประทับใจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วยกล้องแคมคอร์ดเดอร์ดีไซน์ล้ำสไตล์ “ซัมซุง SMX F34” สีน้ำเงินสดใสทั้งตัวเครื่อง ให้การอัพโหลดไฟล์วิดีโอขึ้นเว็บ YouTube ได้ทันทีแบบไม่ต้องแฟลง ฟอร์แม็ท เปิดประสบการณ์ดิจิตอลแบบไฮ-เดฟสมบูรณ์แบบด้วยการเชื่อมต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอื่นๆ ที่เป็นฟูลเอชดี (Full HD) เพื่อแชร์ความทรงจำร่วมกันของเทศกาลนี้ไปได้อีกเนิ่นนาน พร้อมฟังก์ชัน Intelli Zoom เอกสิทธ์เฉพาะจากซัมซุง ให้การซูมแบบออพติคัลได้สูงถึง 34 เท่า โดยยังคงความละเอียดคมชัด ของภาพไว้ได้ด้วยระบบเซ็นเซอร์รับภาพ CCD 680,000 พิกเซล ที่ค่าความละเอียด 720x480 พิกเซล พร้อมระบบบีบอัดไฟล์ H.264 Compression ให้สามารถใช้พื้นที่บนเฟลชเมมโมรี่ภายในเครื่องขนาด 16 กิกะไบต์ได้อย่างเต็มที่ หน้าจอแอลซีดีขนาด 3.7 นิ้วให้การดิสเพลย์ภาพที่คมชัดสมจริง นอกจากนี้ ยังมีระบบตัดเสียงแบบ 3 มิติที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นความสามารถเจ๋งๆ แบบนี้แต่เป็นกล้อง แคมคอร์ดเดอร์ที่ใช้งานได้อย่างง่ายเหลือเชื่อ เพราะปุ่มควบคุมข้างจอแสดงภาพได้รับการออกแบบมาให้เข้าใจ ได้ง่าย สามารถแสดงเมนูลัดเพื่อการพรีวิวภาพได้ทันที

          เครื่องเล่นเอ็มพี 3 “ซัมซุง S3”
          สำหรับใครที่รักการฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจก็สามารถปลดปล่อยอิสระไปกับสุนทรียภาพแห่งท่วงทำนองที่เร้าใจ เข้ากับบรรยากาศปาร์ตี้สงกรานต์สุดมันส์ที่ไม่ต้องกังวลว่าจะตื่นไปทำงานไม่ไหวกันได้อีกหลายวัน ด้วยเครื่องเล่นเอ็มพี 3 “ซัมซุง S3” ให้การฟังเพลงที่คุณชื่นชอบเต็มเปี่ยมไปด้วยอรรถรส มาพร้อมสุดยอด เทคโนโลยีแห่งประสิทธิภาพในขนาดพกพาด้วยระบบ DNSe™เอกสิทธิ์จากซัมซุง เพื่อคุณภาพเสียงชัดใส สมบูรณ์แบบ สามารถเล่นไฟล์วิดีโอผ่านหน้าจอทีเอฟทีแอลซีดีกว้าง 1.8 นิ้ว แสดงภาพละเอียดคมชัด ช่วยให้การชมมิวสิควีดีโอของคุณเต็มอิ่มด้วยอรรถรสแห่งความบันเทิง พร้อมเกมส์มันส์ๆ ในเครื่องกว่า 5 เกมส์ ให้คุณสนุกได้ก่อนใคร ตัวเครื่องดีไซน์โฉบเฉี่ยวทันสมัย พกพาสะดวก เหมาะกับผู้ใช้ในทุกสไตล์ แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน สามารถเล่นไฟล์เพลงเอ็มพี 3 ได้ต่อเนื่องถึง 25 ชั่วโมง และเล่นไฟล์วีดีโอ ได้นานถึง 4 ชั่วโมง จำหน่ายในราคา 3,490 บาท สำหรับเครื่องความจุ 2 กิกะไบต์ และ 4,490 บาท สำหรับเครื่องความจุ 4 กิกะไบต์

          หลังจากที่มีความสุขไปกับเก็ดเจ็ทโทนสีอะควากันไปแล้ว อย่าลืมช่วยสืบสานและรักษาประเพณีอันดีงามในช่วงสงกรานต์นี้กันด้วย เพื่อให้หน้าร้อนนี้มีช่วงเวลาดีๆ ที่น่าจดจำร่วมกันต่อไปนานๆ

3397
ข่าวโครงการ "BIG DESIGN WEEK 2009

 สำนักพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่าสินค้า กรมส่งเสริมการส่งออก ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ “BIG DESIGN WEEK 2009: Raising Design & Brand Value” การสัมมนาให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์ ให้เป็นไปตามแนวโน้มตลาดโลก พบกับกิจกรรม Trend Talk (20-23 มี.ค.) การให้ความรู้ด้านแนวโน้มสินค้าในตลาดเป้าหมายหลัก รวมถึงตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ โดยวิทยากรและผู้คาดการณ์แนวโน้มการออกแบบจากต่างประเทศ , Design & Brand Clinic (21-24 มี.ค.) การให้คำปรึกษารายบริษัทด้านการออกแบบและด้านการสร้างแบรนด์, Design Circle (20-24 มี.ค.) กิจกรรมที่เชื่องโยงนักออกแบบและผู้ผลิตให้เกิดการบูรณาการทำงานส่งเสริมซึ่งกันและกัน และ Brand Focus (21 และ 23 มี.ค.) กิจกรรมส่งเสริมการสร้างแบรนด์เพื่อสู่ตลาดโลก ระหว่างวันที่ 21-24 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ณ เซน อีเว้นท์ แกลเลอรี่ ชั้น 8 ห้างสรรพสินค้าเซน ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 0 2512 0093-104 ต่อ 481 หรือ 649 ดาวน์โหลดใบสมัครที่ www.bigdesignweek.net

3398
ASIA SPA & WELLNESS FESTIVAL 2009 - 20-22 มีนาคม 2552

  งาน Asia Spa & Wellness Festival เป็นงานที่จัดขึ้นโดยบริษัท Organizer ผู้คร่ำหวอดในการจัดงานด้าน Lifestyle และ การท่องเที่ยว มากว่า 8 ปี โดยงาน Asia Spa & Wellness Festival ครั้งแรกที่จัดขึ้นในปี 2006 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นั้นได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยมีบริษัทต่างๆร่วมออกบูธในงานกว่า 40 บริษัท มีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 20,012 คน และต่อมาในปี 2007 ได้มีการจัดงานนี้ขึ้นอีกครั้ง โดยมีบริษัทเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้นเกว่า 60 บริษัท และมีผู้เข้าชมงานกว่า 23,487 คน

          ในปี 2009 นี้จะมีการจัดงาน Asia Spa & Wellness Festival ขึ้นอีกครั้งโดยใช้ ศูนย์ประชุม รอยัล พารากอน ฮอลล์ กรุงเทพฯ เป็นสถานที่จัดงาน โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 20,000 คน และบริษัทต่างๆเข้าร่วมมากกว่า 80 บริษัท ทำให้งาน Asia Spa & Wellness Festival ถือเป็นหนึ่งในงาน Trade Show ชั้นนำของทวีปเอเชีย และจากความสำเร็จของงานในครั้งก่อนได้แสดงให้เห็นว่าการเข้าร่วมในงานนี้ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ที่จะได้ทำการประชาสัมพันธ์สินค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ แก่ผู้เข้าร่วมชมงาน ทั้งที่เป็นกลุ่ม Trade Buyers และกลุ่มลูกค้าทั่วไป
          นอกจากนี้ ในช่วงกิจกรรมต่างๆภายในงาน ยังทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้มีโอกาสติดต่อ และทำความรู้จักกัน ระหว่างผู้ขาย – ผู้ซื้อ ทั้งในช่วงระหว่างพิธีเปิด ช่วง VVIP Tour ช่วงรับประทานอาหารกลางวัน หรืองานเลี้ยงอาหารค่ำ และถือเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจต่างๆสามารถทำการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และทำข้อตกลงซื้อขายต่างๆ เพิ่มเติมได้

          จากการทำการตลาดและการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง ทำให้งาน Asia Spa & Wellness Festival 2009 สามารถดึงดูดบริษัทต่างๆเข้าร่วมงานกว่า 80 บริษัท รวมถึงผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลก ถือเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าการเข้าร่วมงาน Asia Spa & Wellness Festival 2009 เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับผู้ประกอบธุรกิจสปา ธุรกิจดูแลสุขภาพ ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจเสริมความงาม ในการที่สร้างส่วนแบ่งทางการตลาดในภูมิภาคเอเชีย
          สิ่งที่ทำให้งาน Asia Spa & Wellness Festival 2009 ถือเป็นงานในระดับแนวหน้าและเหนือชั้นกว่างานที่เกี่ยวกับธุรกิจสปา ด้านดูแลสุขภาพ การท่องเที่ยว และธุรกิจความงาม อื่นๆในภูมิภาคนี้ก็คือ กลุ่มบริษัทที่ได้เข้าร่วมงานทั้งหมด ถือเป็นบริษัทชั้นนำในกลุ่มธุรกิจ สปา ดูแลสุขภาพ โรงแรม รีสอร์ท และธุรกิจเสริมความงาม รวมทั้ง Host Buyers Program ที่จะมีขึ้นภายในงานอีกด้วย

นอกจากนี้ ด้วยความร่วมมือของสมาคมสปาไทย (TSPA) ยังได้มีการจัดการประชุมสัมมนาเป็นระยะเวลา 2 วันภายในงานด้วย โดยมีการเชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการสปาและดูแลสุขภาพจากทั่วโลกจำนวนมาก เช่น Professor Dr Gerard Bodeker (Australia), Larry Oskin (United States), Dr. Manish Patwardhan (India), Marisa Dimitriadis (South Africa), Toni Mehmann (Switzerland), Jon Tay (Singapore), Dr. Franz Linser (Austria), Norman Jones (Thailand), Sheila T. Cluff (United States), Melinda Yon (Hong Kong / Malaysia), Ingo R. Schweder (Thailand), Julia Svath (Ireland), Scott White (United States), Dr. Orawan Kitchawengkul (Thailand), Terry Liew (Singapore), Kerry Jenni (United States), Grace Gawler (Australia), Pip Cornell (Australia), Stella Sigfusdottir (United States), และ Andrew Jacka (Thailand) เพื่อมาเป็นวิทยากรภายในงาน

          ท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมของงานได้จากเว็บไซต์ www.asiaspafestival.com

3399
บทวิจัยแนวโน้มตลาดทองคำ โดย YLG Bullion International

   สรุปเกี่ยวกับการลงทุนทองคำในช่วงสัปดาห์ก่อน นับว่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเชียร์บอล เพราะราคาที่ทำท่าว่าจะดิ่งทะลุแนวรับไปไกลหลังจากร่วงลงไปถึงระดับ $882 กลับพุ่งไปอยู่ที่ $945 ภายในเวลาอันสั้นในคืนวันพุธ เรียกได้ว่าใครดูราคาอยู่ คงจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ พอมาวันพฤหัสบดีทองคำบ้านเราทำท่าว่าจะปรับตัวลดลงแต่พอตกดึกราคาก็พุ่งไปถึง $961 เลยทีเดียว การซื้อขายทองคำที่ราคาผันผวนแบบนี้ดูน่าตื่นเต้นนี้ เกิดจากปัจจัยสำคัญดังนี้
ประการแรก นักลงทุนจำนวนมากชะลอการเข้าซื้อทองคำ ในขณะที่บางกลุ่มกระหน่ำขายสัญญาอย่างหนักเพื่อนำเงินเข้าลงทุนในตลาดหุ้น หลังจากเฟดประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่ครอบคลุมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคและอัตราการปล่อยกู้ในภาคเอกชน อีกทั้งเพิ่มอัตราการจ้างงาน ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในอีกทางหนึ่ง จากเหตุดังกล่าวทำให้ทองมีความน่าดึงดูดใจน้อยลงในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย

ในทางกลับกันหากเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจของโลกเริ่มที่จะปรับตัวดีขึ้นจากปัจจัยเกี่ยวกับเงินเฟ้อซึ่งจะเกิดขึ้นจากการปรับตัวขึ้นของน้ำมันตามความต้องการที่เพิ่มของพลังงานเพื่อมาขับเคลื่อนธุรกิจและอุตสาหกรรม และการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนซึ่งเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินโดยตรง ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินสกุลดอลลาร์ในระบบมีอยู่เป็นจำนวนมาก ยิ่งทำให้ปัจจัยเกี่ยวกับเงินเฟ้อดูเด่นชัด และอาจจะมาถึงเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ เมื่อแนวโน้มเงินเฟ้อเริ่มส่งผลกระแสการใช้ทองคำเพื่อประกันความเสี่ยงกับเงินเฟ้อก็มีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาเช่นกัน
 
ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันในช่วงนี้เริ่มเห็นทิศทางขาขึ้นที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าโอเปคจะมีมติคงเพดานการผลิต และจะประเมินสถานการณ์ในตลาดน้ำมันและทบทวนเพดานการผลิตอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 28 พ.ค. ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นเป็นระยะๆจากทัศนะในแง่บวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของภาคการเงินของสหรัฐ หลังตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่งขึ้นมาหลายวันติดต่อกัน นักลงทุนควรเริ่มกลับมาให้ความสนใจกับราคาน้ำมันมากขึ้น เพราะปัจจัยเงินเฟ้อดูจะมีผลกับทองคำมากขึ้นอยู่เรื่อยๆ

สำหรับกองทุน ETF ของ SPDR Gold Trust ซึ่งท่ามกลางกระแสลบมากมายที่มีผลต่อราคาทอง กองทุน ETF ของ SPDR Gold Trust ยังคงเดินหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่อยู่เรื่อยๆ โดยล่าสุดปรับขึ้นมาอยู่ที่ 1,103.29 ตันในวันที่ 19 มี.ค. โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมในวันก่อน 18.96 ตันหรือ 1.7% ซึ่งทำให้มองได้ว่านักลงทุนที่ลงทุนในกองทุน ETF ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างใหญ่ของนักลงทุนในทองคำยังคงมองทองคำบวก และไม่ได้สูญเสียความมั่นใจในทองคำไป และความมั่นใจได้เริ่มทำกำไรในช่วงปลายสัปดาห์

ทิศทางทองคำในช่วงนี้เรายังคงมองบวกอยู่ โดยมองว่าการปรับตัวลงของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาเป็นเพียงการปรับฐานเก็งกำไรในระยะสั้น การที่ตลาดหุ้นของสหรัฐปรับตัวขึ้นมาหลายวันติดต่อกัน ยังไม่เป็นหลักฐานที่หนักแน่นมากพอที่จะสรุปว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้เปลี่ยนเป็นทิศทางบวกแล้ว แต่หากเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจของโลกเริ่มดีขึ้น ปัจจัยของเงินเฟ้อก็น่าจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับราคาทอง
การปรับตัวเหนือระดับ $940 ซึ่งเป็นแนวต้านที่สำคัญในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไปจนถึงที่ราคา $961 ในคืนวันพฤหัสบดียิ่งทำให้ดูได้ว่าการปรับฐานได้สิ้นสุดแล้ว อย่างไรก็ตามนักลงทุนระยะสั้นควรลงทุนอย่างระมัดระวังเนื่องจากการปรับตัวขึ้นอย่างฉับพลันมักจะติดตามมาด้วยการร่วงลงของราคาจากการเก็งกำไร และทำให้มีความเป็นไปได้ว่าราคาจะปรับตัวลงอีกครั้งในระยะสั้น
ข้อมูลจากฝ่ายวิจัย บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด สำหรับท่านที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม หรือสนใจการลงทุนเกี่ยวกับทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์ส์ ติดต่อโทร 02-287-1155 หรือ www.ylgbullion.com 

3400
SF-เจแปน ฟาวน์เดชั่น เปิดเทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2009-ซากุระ แฟนหนังตอบรับล้นหลาม



คุณชินยะ อาโอกิ ผู้อำนวยการสำนักข่าวสารญี่ปุ่น สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย (ที่ 3 จากขวา) และ คุณสุวรรณี ชินเชี่ยวชาญ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด (ที่ 4 จากซ้าย) ร่วมเปิด "เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2009-ซากุระ" ร่วมด้วยคุณทาเคจิ โยชิคาวะ ผู้อำนวยการ เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ, คุณฮิโรชิ ยามาดะ ผู้อำนวยการบริหารองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และ คุณสุพัฒน์ งามวงศ์ไพบูลย์ ผอ.ฝ่ายการตลาด บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด โดยงานนี้ได้คัดสรรภาพยนตร์คุณภาพเยี่ยมจากแดนซากุระ จำนวน 6 เรื่อง 6 รส มาให้แฟนหนังชาวไทยได้ชมกันอย่างเต็มอิ่ม ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็วๆ นี้

เจแปน ฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ, องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และ สถานฑูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมกับ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์กลางเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ  ที่พร้อมรองรับและจัดฉายภาพยนตร์คุณภาพทั้งในและนอกกระแส ให้แฟนหนังชาวไทยได้ชมกันอย่างต่อเนื่อง  เปิดศักราชเทศกาลภาพยนตร์ด้วย  “เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2009-ซากุระ” (Japanese Film Festival 2009)     ที่คัดสรรสุดยอดหนังดีมีคุณภาพ ที่มาพร้อมกับรางวัลการันตีมากมายจากแดนซากุระให้ชมกันอย่างเต็มอิ่มถึง 6 เรื่อง 6 รส ภายใต้คอนเซ็ปต์สดชื่นหวานซึ้งของ “ดอกซากุระ”  ซึ่งในมุมมองของคนญี่ปุ่น หมายถึง การเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดภาคเรียน การเริ่มต้นชีวิตใหม่ หรือ ความสมหวังจากสิ่งที่รอคอย  โดยในเทศกาลฯ ครั้งนี้ได้เสนอฉายภาพยนตร์หลากหลายรสชาติ  ทั้งภาพยนตร์รักโรแมนติก ภาพยนตร์ตลก ตลอดจนภาพยนตร์ชีวิต ในรูปแบบสบายๆ ผสมผสานกลิ่นอายใน คอนเซ็ปต์ดอกซากุระ จำนวน 6  เรื่อง  ได้แก่ Honey and Clover, Fine Snow/ The Makioka Sisters,  Maiko Haaaan,  Hana and Alice,  Town of Evening Calm,Country of Cherry Blossoms  และ Closed Note

สำหรับภาพยนตร์ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดในครั้งนี้  ได้แก่  เรื่อง Town of Evening Calm,Country of Cherry Blossoms  นำเสนอเรื่องราวในอดีตของหญิงสาวชื่อ ‘มินามิ’ ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวในครอบครัว จากเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิม่า แต่สุดท้ายเธอก็ต้องเสียชีวิตด้วยผลกระทบจากสารกัมมันตภาพรังสี  และเรื่องราวในสมัยปัจจุบันของ ‘นานามิ’  เด็กสาวชาวโตเกียว ที่แอบตามพ่อของเธอเดินทางไปยังฮิโรชิม่า  ซึ่งการเดินทางดังกล่าวทำให้เธอได้ค้นพบกับรากเหง้าของครอบครัวตนเอง  โดยภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว จะจัดฉายด้วยกัน 2 รอบ คือ วันเปิดเทศกาล ในวันที่ 20 มี.ค. นี้ เวลา 19.00-21.00 น.  และวันปิดเทศกาล (22 มี.ค. นี้)  ที่จะทำให้ผู้ชมได้สัมผัสและเข้าใจเรื่องราวจากภาพยนตร์ที่สื่อผ่านบรรยากาศแห่ง “ดอกซากุระ” และตัวละครที่โลดแล่นอยู่บนแผ่นฟิล์มได้อย่างซาบซึ้งกินใจ  พร้อมทั้ง ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรม  และประเพณีที่สวยงามในการดำเนินชีวิตของคนญี่ปุ่นจากภาพยนตร์แต่ละเรื่องอีกด้วย

เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2009-ซากุระ (Japanese Film Festival 2009) จะเริ่มฉายให้ชมฟรี! ตั้งแต่วันที่ 20-22 มีนาคมนี้  ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิลด์  สนใจติดต่อรับบัตรชมฟรี 1 ใบ ต่อ 1 ท่าน  ภายในเวลา 1 ชั่วโมง ก่อนเวลาฉายภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ  บริเวณหน้าโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิลด์

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SF Call Center 02-268 8888, www.sfcinemacity.com และ  www.jfbkk.or.th

รอบฉาย “เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2009-ซากุระ”


             วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม 2552 (เปิดเทศกาลฯ)
 
                        20:00    "Town of Evening Calm, Country of Cherry Blossoms" (Eng-Sub)

             วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม 2552

                        14:00     "Honey and Clover" (Eng-Sub)
                        16:30     "Fine Snow/The Makioka Sisters" (Eng-Sub)
                        19:45     "Maiko Haaaan!!!!" (Eng-Sub)

             วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2552

                        14:00     "Hana and Alice" (Thai-Sub)   
                        16:45     "Town of Evening Clam, Country of Cherry Blossoms" (Eng-Sub)
                        19:15     "Closed Note" (Eng-Sub)

3401
news & activity / ARTY Professional “ Dangerous Forest ”
« on: March 21, 2009, 12:01:26 AM »
ARTY  Professional  “ Dangerous Forest ”




          เปิดตัว : คุณจินตนา  เฉลิมชัยกิจ  ผู้อำนวยการฝ่ายเครื่องสำอางและน้ำหอม และคุณนิชาภา  พิริยะโภคิณ  ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ ARTY  Professional  บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล  จำกัด (มหาชน)  จัดงาน เปิดตัว  Spring Summer Make Up  Collection  2009  ลิปสติกคอลเลคชั่นใหม่  “ Dangerous Forest ”            ด้วยสีสันอันสดใสแห่งดอกไม้นานาพันธุ์   กว่า  30  โทนสี    รังสรรค์โดย  Creative Make up Artist ชื่อดัง คุณสุรพล  ลิ้มวานิช  (คุณดำ)  นางแบบรับเชิญ  คุณโอเด็ด  เฮนเรียต  แจ๊คโคมิน และพิธีกรรับเชิญ  คุณภัทรวรินทร์ ทิมกุล (คุณเมย์)  พร้อมแขกรับเชิญจากหลากหลายวงการ ที่มาร่วมแสดงความยินดี  ณ    ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด

เครื่องสำอาง  ARTY  Professional บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล  จำกัด (มหาชน)  โดยคุณนิชาภา พิริยะโภคิณ  ผู้จัดการผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ARTY   Professional  ผู้เชี่ยวชาญด้านการแต่งหน้าด้วยเทคนิคการแก้ไขรูปหน้า และอยู่เบื้องหลังความงามความสำเร็จของสุภาพสตรีมากมาย ในครั้งนี้จัดงาน ARTY  Professional  “ Dangerous Forest ” เปิดตัว  Spring Summer Make Up  Collection  2009 ลิปสติกคอลเลคชั่นใหม่ “Dangerous Forest ” ด้วยสีสันอันสดใสแห่งดอกไม้ป่านานาพันธุ์ กว่า 30  โทนสี  อาทิ สีน้ำเงิน ,   สีม่วง , สีเขียว , สีเหลือง    เพื่อสื่อสารถึงความสนุกสนานของสีสันลิปสติกที่เหมาะกับหญิงสาวที่มีความมั่นใจ เป็นตัวของตัวเอง  ปลุกรัศมี Dangerous ที่ซ่อนอยู่ในตัวเองให้ออกมา ภายในงานพบกับ DJ รับเชิญ  คุณนันทวิมล       พลพาณิช  ที่มามอบความบันเทิงด้านเสียงเพลงในแนว  “ Live drum from the deep jungle & House mixed ”   และพบกับ  Creative Make up Artist ชื่อดัง คุณสุรพล  ลิ้มวานิช    (คุณดำ) ที่มาเผยถึงแรงบันดาลใจพร้อมเทคนิคการผสมสีในคอลเลคชั่น“ Dangerous Forest ”  ชมแฟชั่นโชว์สุดตระการตาในชุด“Extremely Dangerous Forest” นางแบบรับเชิญ           คุณโอเด็ด  เฮนเรียต แจ๊คโคมิน  และพิธีกรรับเชิญมากความสามารถ           คุณภัทรวรินทร์ ทิมกุล (คุณเมย์)  พร้อมแขกรับเชิญจากหลากหลายวงการ อาทิ แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์  โรจนสุนันท์ , คุณจีรนันท์ พิตรปรีชา , คุณเอิร์ธ  สายสว่าง , 3 พี่น้อง วงดนตรีวีทรีโอ  คุณทวีเวท  ศรีณรงค์ (เป้) , คุณอุทัยศรี  ศรีณรงค์ (ป่าน) ,  คุณพินทุสร  ศรีณรงค์ (ปุย) ฯลฯ


ARTY   DANGEROUS   FOREST  COLOR   LIPS
   เปิดประตูสู่โลกแห่งสีสันและความงามในหนึ่งเดียว เพื่อริมฝีปากที่สวยเย้ายวน ทักทายด้วยเนื้อสัมผัสเนียน ละเอียด เข้มข้นด้วยสีสันจากเม็ดสีอณูเล็กแต่ ดูแลริมฝีปากด้วย Tocopheryl Acetate (อนุพันธ์ของวิตามิน อี) ช่วยคงความชุ่มชื้นและ Palmitoyl  Oligopeptide ช่วยให้ริมฝีปากค่อย ๆ แลดูอวบอิ่ม และเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึง Chamomile Extract สารสกัดจากดอกคาโมมาย ที่มีคุณสมบัติทั้งในด้าน Soothing & Emollient Effect เพื่อการรังสรรค์ริมฝีปากให้แลดูสวยชุ่มชื่น เนียนนุ่มอย่างมีสุขภาพดี มีชีวิตชีวา   ( ราคา 550 บาท )

ARTY   DANGEROUS  FOREST  SESSION   GLOSS
   พลิกโฉมริมฝีปากให้เย้ายวน สวยวาว ด้วยลิปกลอสเนื้อใสสลับสี 3 ชั้น เน้นความแวววาวราวกระจก เติมแต่งด้วยประกายเจิดจ้าของเกล็ดมุกสีเงิน ผสานของกับความนุ่ม ฉ่ำ เพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก และดูแลริมฝีปากด้วย Tocopheryl Acetate (อนุพันธ์ของวิตามิน อี) เน้นคงความชุ่มชื้น, Palmitoyl Oligopeptide ช่วยให้ริมฝีปากแลดูอวบอิ่ม  และเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึง Chamomile Extract สารสกัดจากดอกคาโมมาย ที่มีคุณสมบัติทั้งในด้าน Soothing & Emollient Effect เพื่อการรังสรรค์ริมฝีปากให้แลดูสวยชุ่มชื่น เนียนนุ่มอย่างมีสุขภาพดี มีชีวิตชีวา    ( ราคา  350 บาท )

ARTY   DANGEROUS   FOREST   SHINY LIP
   แต่งแต้มริมฝีปากให้สวยใสอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยลิปกลอสที่เน้นความแวววาว ด้วยการผสมผสานของออยล์ที่ให้คุณสมบัติแวววาวสูงและเกล็ดประกายมุกระยิบระยับเจิดจรัสในทุกมุมมอง พร้อมการดูแลริมฝีปากได้มากยิ่งขึ้นด้วยอนุพันธ์ของวิตามินอี, สารสกัดจากเมล็ดโจโจ้บาและสารสกัดจากดอกกุหลาบป่า ช่วยเติมความเนียนนุ่มชุ่มชื้น ให้ริมฝีปากอวดเสน่ห์เย้ายวนได้อย่างสนุกสนาน   ( ราคา  450  บาท )

3402
news & activity / Grand Opening SanukGadget@Centralworld
« on: March 20, 2009, 11:47:17 PM »
Grand Opening SanukGadget@Centralworld เปิดตัวสินค้าไฮเทคเอาใจวัยรุ่น

บริษัท เอส.ดี.เค. เทคโนโลยี อินโนเวชั่น จำกัด ร่วมกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จัดงาน Grand Opening SanukGadget @ CentralWorld ซึ่งเป็นการเปิดตัว SanukGadget ร้านค้าที่เน้นเทคโนโลยีเพื่อตอบรับ Digital ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งมี Gadget สุดสนุกมากมายในเรื่อง Digital Entertainment ทั้งร้องเต้น เล่น ฟังไม่ว่าจะเป็น Gadget ต่างๆ ทั้งหูฟัง brand Name ชั้นนำจากทุกมุมโลก, เครื่องเล่น Harddisk
Karaoke เพื่อความบันเทิงภายในบ้าน, อุปกรณ์ Joystick สำหรับ Gamer, อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ดนตรี และdigital DJ และ Gadget อีกมากมายทั้งเครื่องเล่นภาพและเสียงแบบพกพา ลำโพง อุปกรณ์เสริมต่างๆ ทั้งของiPhone, iPod และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อตอบสนองความบันเทิง In Trend หลากหลายรูปแบบ

Grand Opening SanukGadget @ CentralWorld เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 20 มีนาคม 2552 และจะมีไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2552 ณ ลานเอเทรี่ยม 2 ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีดีเจเพชรจ้าและ ดารานักร้อง อาทิ อ๋อ วงอินคา (นล สิงหลกะ), ติว วง bkk (ศิวัฒน์ นฤทัย), ต่อ นันทวัฒน์ อาศิร พจนกุล ที่จะมาร่วมพูดคุยในเรื่องของสะสม Gadget

สอบถามรายละเอียดสินค้า Gadget เพิ่มเติมได้ที่ร้าน SanukGadget ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
หรือทางเว็บไซต์ www.sanukgadget.com

ข้อมูลเกี่ยวกับ SANUKGADGET
เกี่ยวกับ SanukGadget ที่เราอยากให้คุณรู้

ประวัติของ SanukGadget
คุณไตรเทพ ศรีกาลรา และคุณการันต์ ศรีกาลราได้ก่อตั้ง บริษัท เอส.ดี.เค.เทคโนโลยี อินโนเวชั่น ขึ้นเมื่อปี 2004 เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจของคุณพ่อและคุณแม่
(คุณธนวัฒน์ และคุณณัชนิกานต์ ศรีกาลรา) ที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านอะไหล่อิเล็กทรอนิกส์มากว่า 30 ปีในนามของ เอส.ดี.เค.เอ็นเตอร์ไพรส์ โดยเริ่มต้นจัดจำหน่าย
และวางระบบผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้องบันทึกเสียงด้วยเทคโนโลยี ระบบ digital ในชื่อของ Proplugin.com “where all the Pros Trust” โดยถือเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทยที่ให้บริการ และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้าน Computer Music อย่างครบวงจร แบบ One Stop Solution ด้วยความเชี่ยวชาญในการแนะนำผลิตภัณฑ์และ solution ที่เหมาะสมกับการใช้งาน และการบริการที่เป็นกันเอง รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกครบวงจรทั้งผลิตภัณฑ์ด้าน Computer Music, Pro Audio, เครื่องดนตรี,อุปกรณ์ DJ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆจาก หลากหลาย Brand Name ชั้นนำของโลกจึงทำให้ Proplugin เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในเวลาอันรวดเร็วจากมืออาชีพหลากหลายวงการ และได้รับความไว้วางใจจาก Brand Name ชั้นนำจากต่างประเทศหลาย Brand ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายในไทยแต่เพียงผู้เดียวทั้ง Jays, Native Instruments, Novation, SE, Macally,Equation, Eden, Soundtech รวมถึงได้รับความไว้วางใจจาก Distributor ชั้นนำในเมืองไทยในการจัดจำหน่ายสินค้าต่อมาด้วยการเล็งเห็นถึงแนวโน้มเทคโนโลยี และ lifestyle ที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงTechnology ได้ง่ายขึ้นประกอบกับ lifestyle ของคนไทยที่มีการใช้เทคโนโลยี ในชีวิตประจำวัน และเพื่อความบันเทิงในการตอบสนอง lifestyle แต่ละด้านมากขึ้น จึงได้มีการเริ่มก่อตั้งแผนก SanukGadget.com ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดด้วยการวาง position ที่เน้นในเรื่อง Digital Entertainment เพื่อตอบสนอง Lifestyle ในหลากหลายด้านทั้ง ร้อง เล่น เต้น ฟัง ด้วย Gadget หลากหลายทั้งหูฟัง brand Name ชั้นนำจากทุกมุมโลก, เครื่องเล่น Harddisk Karaoke เพื่อความบันเทิงภายในบ้าน, อุปกรณ์joystick สำหรับ Gamer, อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ดนตรี และ digital DJ และ Gadget อีกมากมายทั้งเครื่องเล่นภาพและเสียงแบบพกพา ลำโพง อุปกรณ์เสริมต่างๆ จนได้รับการตอบรับที่ดี และได้ขยายสาขามายัง CentralWorld เพื่อตอบสนองแก่กลุ่มเป้าหมายให้ดียิ่งขึ้นเมื่อ 16 ธ.ค. 2008 และเพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำ Trend ในเรื่อง Gadgets ของSanukGadget “think of Fun, think SanukGadget.com”

3403
อาดิดาสเอาใจผู้หญิงด้วยแคมเปญ “Me, Myself”



 
อาดิดาสเปิดตัวแคมเปญ Me, Myself เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงมีความมั่นใจ และกระตุ้นให้ผู้หญิงหันมาให้ความสนใจด้านกีฬาและสุขภาพมากขึ้น ด้วยการผสมผสานแฟชั่นและกีฬาเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้หญิงมั่นใจว่าตัวเองสามารถดูดีได้อย่างมั่นใจในทุกกิจกรรมที่ทำ

แนวคิดดังกล่าว ได้ถ่ายทอดมาสู่ชุดรูปภาพที่คุ้นเคยของผู้หญิงทั่วโลก ที่แสดงถึงช่วงเวลาสำคัญของพวกเธอเหล่านั้นทั้งในการออกกำลังกายและในการใช้ชีวิตประจำวัน ผลงานสร้างสรรค์ ‘Me, Myself’ นี้เป็นชุดของภาพคนที่เป็นภาพของผู้หญิงที่เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะหนึ่ง และมีความเป็นธรรมชาติ ถ่ายโดยที่เขาเหล่านั้นไม่รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อน โดยการจับภาพดังกล่าวได้เกิดขึ้นในระหว่างหรือหลังจากการเล่นกีฬา และรูปภาพเหล่านี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงภาพของผลิตภัณฑ์ชุดผู้หญิงที่สวยงามของคอลเล็คชั่น อาดิลิเบรีย (adilibria) ไคลมา 365 (Clima 365) และกลุ่มสินค้าโยคะ ยาตรา และเทคฟิต เพาเวอร์เวป (Yatra and TECHFIT™ POWERWEB Yoga ranges) ที่ได้ถูกแสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหว เพื่อบ่งบอกให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการใช้งาน และความมีสไตล์ไม่ว่าผู้สวมใส่จะอยู่ในสถานที่ออกกำลังกาย สวนสาธารณะ พบปะเพื่อนฝูง หรือเดินเล่นก็ตาม

หัวใจหลักของแคมเปญ Me, Myself คือ การสร้างพลังความมุ่งมั่นให้แก่ตัวของผู้หญิงเอง นอกจากนี้ยังต้องการแสดงให้เห็นถึงความสร้างสรรค์และความสดใหม่ในผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิงสื่อต่างๆ รวมถึงส่วนอื่นๆ ทั้งที่ร้านค้า เว็บไซต์ การประชาสัมพันธ์ และกระบวนการสื่อสารทั้งหมดจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

สำหรับกิจกรรมในงาน Me, Myself ที่ลานแฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน นี้เป็นกิจกรรม 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 20 - 23 มีนาคม 2552 โดยกิจกรรมในงานเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับสุภาพสตรี และเป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิงทั่วไป มีทั้งการให้คำแนะนำด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพในด้านต่างๆ การดูดวงด้านสีที่ถูกโฉลกตามความเชื่อ การแนะนำเรื่องของอาหารการกิน รวมถึงการแนะนำด้านการแต่งตัวให้สวยงามเพื่อไปเล่นกีฬา และถ่ายรูปที่ระลึก และรับบัตรส่วนลดสำหรับการซื้อสินค้าอาดิดาสในราคาพิเศษ

นอกจากนี้ กิจกรรมตลอดปี 2552 จะก่อให้เกิดความเข้าใจและเข้าถึงกับผู้หญิงในรูปแบบที่มีความหมายและใกล้ชิดมากขึ้น โดยแคมเปญ “Me, Myself” นี้ได้เริ่มในเดือนเมษายน 2552 ผู้บริโภคจะได้รับออร์แกไนเซอร์ “Me, Myself” เมื่อซื้อเสื้อผ้าในไลน์สุภาพสตรีของอาดิดาสครบ 2,500 บาท ออร์แกไนเซอร์ดังกล่าวมีจำนวน 400 เล่มเท่านั้น ภายในจะประกอบด้วยเนื้อหาที่หลากหลายเช่น เป้าหมายของฉัน (My Goals) ตารางบันทึก

การฝึกซ้อมของฉัน (My Training Log) และสิ่งที่ฉันจะทำ (My Things To Do) เพื่อที่จะกระตุ้นสุภาพสตรีเหล่านั้นให้อยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อที่จะบรรลุจุดมุ่งหมายในการมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง โดยระยะเวลาโปรโมชั่นจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน 2552 หรือจนกว่าของจะหมด สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ร้านอาดิดาส คอนเซ็ปท์ ทุกสาขา

FACT SHEET

คอลเลคชั่นใหม่ของ adidas Women ในปีนี้มีอะไรบ้าง
ในปี 2009 นี้อาดิดาสมีสินค้าสำหรับผู้หญิงให้เลือกมากขึ้นในหลากหลายสไตล์ เนื่องจากมีการทำ Research มาแล้วว่ากิจกรรมส่วนใหญ่ของผู้หญิงจะอยู่ใน Fitness และกิจกรรมที่ผู้หญิงทำใน Fitness ก็จะมีอยู่หลักๆ 4 ประเภทกิจกรรม คือ การเข้าคลาสโยคะ, คลาสแด๊นซ์, คอมแบท, เล่นฟิตเนสทั่วๆ ไป

ดังนั้น กิจกรรมแต่ละประเภทก็ต้องการเสื้อผ้าที่แตกต่างกันออกไป อาดิดาสจึงออกแบบและพัฒนาสินค้าขึ้นมา 4 กลุ่มหลักๆ เช่น อดิลิเบรีย (adilibria) และไคลมา 365 (Clima 365) สำหรับการเล่นฟิตเนสทั่วๆ ไป กลุ่มสินค้ายาตรา และเทคฟิต เพาเวอร์เวป สำหรับเล่นโยคะ (Yatra and TECHFIT™ POWERWEB Yoga ranges) คอมแบทสำหรับเข้าคลาสคอมแบท และแด๊นซ์สำหรับเข้าคลาสแด๊นซ์ ซึ่งโดยคอลเลคชั่นเสื้อผ้าดังกล่าวนอกจากคำนึงในด้านประสิทธิภาพในการใช้งานแล้ว   ทางอาดิดาสยังได้คำนึงถึงความสวยมีสไตล์  การดีไซน์ที่โดดเด่นซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้หญิงต้องการ เพราะไม่ว่าคุณจะออกกำลังกายหรือไปพบเพื่อนฝูงคุณก็ยังรู้สึกมั่นใจได้ตลอดเวลา เนื่องจากอาดิดาสได้ออกแบบเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงโดยการผสมผสานระหว่างฟังก์ชั่นและสไตล์ ดังนั้นคอลเลคชั่นนี้รองรับและตอบสนองความต้องการของผู้หญิงให้คุณสวยและสวยยิ่งขึ้นในแบบของตัวคุณเองได้อย่างแน่นอน

ความโดดเด่นเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรม  วัสดุ คุณภาพการตัดเย็บ
เทคโนโลยีเด่นๆ ของอาดิดาสก็คือ Tech Fit Powerweb ซึ่งช่วยในเรื่องของการกระชับและพยุงกล้ามเนื้อ ช่วยลดการสูญเสียพลังงาน และช่วยเพิ่มพลังในการเคลื่อนไหว อีกเทคโนโลยีที่ขาดไม่ได้คือไคลมาคูล เนื่องจากในประเทศไทยมีอากาศค่อนข้างร้อนชื้น ดังนั้นการดีไซน์ช่องทางการหมุนเวียนอากาศที่ช่วยนำพาเหงื่อ และความร้อนจากร่างกายออกสู่ด้านนอกจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นมาก ซึ่งเทคโนโลยีไคลมาคูลช่วยได้ในเรื่องนี้

ภาพรวมและเทรนด์ของแฟชั่นที่ปัจจุบันหันมานิยมเสื้อผ้าในแนวสปอร์ต - ไลฟ์สไตล์
เป็นเพราะผู้หญิงในปัจจุบันต้องการความสะดวกรวดเร็ว เพราะด้วยหน้าที่การงานหรือการดำรงชีวิตในแต่ละวันที่ต้องมีภาระกิจมากมายและเร่งรีบ แต่อย่างไรในความเป็นผู้หญิงก็อยากที่จะให้ตัวเองดูดีอยู่เสมอ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง ดังนั้นเสื้อผ้าในแนวสปอร์ต - ไลฟ์สไตล์ จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับผู้หญิงยุคใหม่ได้ดี

กลุ่มเป้าหมายของ adidas:  Me, Myself
ผู้หญิงอายุ 18 – 30 ปี เป็นกลุ่มที่จะโฟกัสในเรื่องของการสื่อสารข้อมูล แต่กลุ่มเป้าหมายสามารถกว้างได้มากถึงอายุ 15 - 40 ปี เป็นผู้หญิงที่มีความเป็นตัวของตัวเอง

ช่องทางการจัดจำหน่าย
ร้านอาดิดาส คอนเซ็บสโตร์ และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

3404
เปิดตัว TOPSHOP Style Advisor สุดยอดประสบการณ์ช็อปปิ้ง ครั้งแรกของเมืองไทย

(20 มีนาคม 2552 ณ TOPSHOP@CentralWorld) เปิดตัว TOPSHOP Style Advisor สุดยอดประสบการณ์ช็อปปิ้ง ครั้งแรกของเมืองไทย กับแบรนด์อิมพอรต์สุดเก๋จากเกาะอังกฤษ ด้วย การนำเสนอบริการฟรีสุดพิเศษ Style Advisor เพื่อเป็นเพื่อนช่วยช๊อป และให้คำแนะนำ ช่วยให้คุณแต่งตัวอย่างสนุกสนาน พร้อมทั้งได้รับบริการอย่าง Exclusive และเป็นกันเอง ดั่งคุณคือ Celebrities

Style Advisor ถูกจัดให้มีขึ้นครั้งแรก ในปี 2001 ณ TOPSHOP Mega Store ที่ Oxford Circus กลางกรุง London โดยลูกค้าจะได้รับการดูแลจาก Style Advisor ที่มีประสบการณ์ในวงการณ์แฟชั่น ช่วยเหลือท่านเลือกสรรแฟชั่นที่นำ Trend และเหมาะสมกับตัวท่าน มีห้องที่จัดสรรเฉพาะอย่างสวยงาม รวมทั้งบริการเครื่องดื่มให้ท่านได้นั่งพักผ่อนและช๊อปปิ้งอย่างสบายอารมณ์  โดยบริการนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดใด เพียงแค่ท่านโทรมาจอง เวลานัดหรือเพียง นัดผ่านทาง e-mail ท่านก็สามารถ ได้รับบริการนี้แล้ว
หลังจากTOPSHOP เปิดให้บริการ Style Advisor แห่งแรกที่  Oxford Circus กรุง London บริการนี้ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นทั้งลูกค้า และ กลุ่มเซเลบริตี้มากมาย บริการนี้ถูกจองเต็มทุกอาทิตย์ จุดเริ่มต้นจากอดีตที่เคยมี Style Advisor เพียงแค่ 4 คน ปัจจุบันทีม Style Advisor ทั้งหมดมีถึง 85 คนใน TOPSHOP ทั่วเกาะอังกฤษ ไม่รวม TOPSHOP สาขาอื่นๆทั่วโลก

มาถึงวันนี้เพื่อให้ลูกค้า Fashionista เมืองไทยได้รับอภิสิทธิ์ทัดเทียมกับลูกค้า TOPSHOP ทั่วโลก TOPSHOP Thailand @ CentralWorld โดยในงานนี้ได้รับความร่วมมือจาก TOPSHOP ประเทศอังกฤษ, Charlotte Swindlehurst Style Advisor  ซึ่งเธอได้ร่วมงานกับ TOPSHOP เป็นเวลา 5 ปี และคร่ำหวอดอยู่ในวงการแฟชั่น มาร่วมงานในครั้งนี้ และแนะนำเทรนด์แฟชั่นล่าสุดจากแคทวอลค์  รวมไปถึงการเปิดตัว Style Advisor คนแรกของเมืองไทย คุณใหม่-วีรพล วิวัฒน์กมลวัฒน์ ที่เพิ่งกลับมาจาก London มีประสบการณ์ ทำงาน อยู่ในวงการ Fashion ที่ประเทศ อังกฤษ ถึง4ปี รวมทั้งมีประสบการณ์ทำงานใน TOPSHOP ที่อังกฤษ สาขา Oxford Circus  ที่จะประจำอยู่ที่ TOPSHOP@CentralWorld คอยให้บริการกับลูกค้าโดยเฉพาะ

งานนี้สื่อมวลชนทุกท่านจะได้สัมผัสการสาธิตการแต่งตัว โดยมี คุณดวง-วรรณพร โปษยานนท์ เป็นเซเลบริตี้คนแรกในเมืองไทย ที่จะมาร่วมประสบการณ์การช๊อปปิ้งและใช้การบริการ จาก Style Advisor พร้อมทั้งแนะนำคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด สปริง-ซัมเมอร์ 2009 สำหรับลูกค้า 30 ท่านแรกที่ จองและใช้บริการ จะได้รับส่วนลดและของกำนันสุดเก๋ ที่ TOPSHOP ชั้น 1  เซ็นทรัลเวิลด์ โซนบีคอน

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-229-7598 หรือ e-mail: topshopstyleadvisor@cmg.co.th


TOPSHOP Style Advisor, Thailand Profile

Mai-Weerapol Wiwatkamolwat is a new Style Advisor for TOPSHOP Thailand, since graduated from Central St. Martins collage of  Art in Fashion womenswear, Mai start doing his T Shirt brand call Marada  with a friend, wholesale in UK to many retail shops included ASOS, JOY, CULT Clothing. This gave him opportunity to meet with TOPSHOP Concession Buyer, in year 2005, he bring Marada to join TOPSHOP concession area in Oxford circus.

After that he join the team of young London fashion brand “Rodnik” working as an assistant designer and Studio Manager for their SP-SU08 and being a force behind the brand for its success to be on schedule in London fashion week for their AW 08. Rodnik also received Newgen sponsorship by TOPSHOP sponsored for their after show party in TOPSHOP Oxford circus flagship store.

Before come back to settle down in Thailand, Mai had gain so much experiences working for many London fashion designers on part time basis and internship such as Preen, Majan Perjosky, Roksanda Llincic and also the last role as a consultant base design assistant and production assistant for a new Luxury fashion brand call Kisa London.

TOPSHOP Style Advisor, ประเทศไทย

ใหม่ -วีรพล วิวัฒน์กมลวัฒน์ Style Advisor คนแรกของเมืองไทย หลังจากที่จบการศึกษา ในสาขา Fashion Womenswear จาก St. Martins Collage of Arts ใหม่ได้มีโอกาสผลิตเสื้อยืดร่วมกับเพื่อนดีไซน์เนอร์นำเสนอคอลเลคชั่นเสื้อยืด ขายอยู่ในประเทศ อังกฤษ หลังจากนั้นไม่นานใหม่ ได้มีโอกาสพบกับ Buyer ของ Topshop จึงมีโอกาส นำเสื้อยืด ที่ผลิตเข้าไปขายในห้าง TOPSHOP กลางกรุงลอนดอน

หลังจากนั้น ใหม่ ได้โอกาส ไปทำงานกับ ลอนดอน ยังส์ ดีไซน์เนอร์แบรด์ Rodnik ในตำแหน่ง Assistant Designer และ Studio Manager, เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ของแบรนด์ Rodnik, Rodnik ได้รับการยอมรับ ใน London ในฐานะ New comer จนได้เข้ารวม London Fashion week AW 08 รวมทั้งได้รับ สปอนเซอร์จาก TOPSHOP ให้จัดปาร์ตี้หลังแฟชั่นโชว์ ใน TOPSHOP สาขาใหญ่ Oxford Circus.

ในระหว่างที่ ใหม่ เรียนอยู่ในประเทศอังกฤษ ใหม่ ก็ได้ร่วมงานกับยังส์ดีไซน์เนอร์อังกฤษอื่นอื่น อีก มากอาทิเช่น Preen, Marjan Perjosky, Roksanda Llincic รวมทั้งช่วยงาน ดีไซน์เนอร์ไทย  ธีระบุล ทรงวิทย์ อีกด้วย

ก่อนกลับมาอยู่เมืองไทย ใหม่ ก็ได้ย้ายไปทำงานกับบริษัทเสื้อผ้าชั้นสูง Kisa London ในตำแหน่ง Assistant Designer and Production Assistant โดยคำแนะนำขอเจ้านาย เก่าที่เคยร่วมงานกัน จาก Rodnik


TOPSHOP Style Advisor, UK Profile

Name: Charlotte Swindlehurst, Age: 29

Job Title: Style Advisor Assistant Manager

Length Of Service: Worked for TOPSHOP nearly 5 years in Style Advisor Department

Career History: Studied BA (Hons) Fashion Management degree at London College of Fashion, then worked in Fashion PR based in London for 2 years. After living and doing styling work in Sydney Australia for a year, came back to England and have worked in Style Advising ever since.
 
Career Highlight: With TOPSHOP traveling to lots of different countries (New York, Poland) getting to use my skills and product knowledge on lots of different customers. Helping educating them on the TOPSHOP brand.

Tip of the season:
Really excited about the bright block colors which are going to be around all summer. Great to be teamed with anything tassled !!

ชาล็อต สวินเดิลเฮิรสท์: Style Advisor Assistant Manager ได้ร่วมงานกับ  TOPSHOP ประเทศอังกฤษเป็นเวลา 5 ปี ในแผนก Style Advisor

ประวัติการทำงาน:  จบการศึกษา BA (Hons) Fashion Management จาก London College of Fashion ประเทศอังกฤษ หลังจากนั้นได้ทำงานในวงการแฟชั่นด้านประชาสัมพันธ์เป็นเวลา 2 ปี  และได้มีโอกาสทำงานด้านสไตลลิ่งที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียประมาณ 1 ปี และกลับมาทำงาน Style Advisor ที่ประเทศอังกฤษหลังจากนั้นเป็นต้นมา

การทำงานกับ TOPSHOP ทำให้ได้เดินทางไปหลากหลายประเทศ ทั้ง New York และ Poland ได้ใช้ความสามารถและความรู้ในตัวสินค้าและแบรนด์ TOPSHOP กับลูกค้าที่หลากหลาย ให้ลูกค้าได้รู้จักแบรนด์ TOPSHOP มากขึ้น

Tip of the Season:
“Really excited about the bright block colors which are going to be around all summer. Great to be teamed with anything tassled !! ” Charlotte Said

3405
เซ็นทรัลเวิลด์ ปลุกชีวิตชีวารับความสดชื่นของซัมเมอร์ ชมแฟชั่นสุดฮิป เพลินกับสวนสวยหลากสไตล์ พร้อมช็อปปิ้งไร้ขีดจำกัด ใน CentralWorld Summer Unlimited Shopping วันนี้–10 พ.ค.นี้
 
ซัมเมอร์นี้ อย่ามัวแต่กลัวร้อนจนทำให้ความสนุกหายไป ลุกออกมาท้าแดดให้สะใจกันดีกว่า กับงาน  CentralWorld Summer Unlimited Shopping ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จัดขึ้น เพื่อต้อนรับเทศกาลซัมเมอร์ ทั้งยังเอาใจผู้ที่ชื่นชอบและสนใจในเรื่องแฟชั่นด้วยกิจกรรมสุดฮิปมากมาย ตั้งแต่วันนี้ – 10 พฤษภาคม 2552 โดยจะจัดแถลงข่าวเกี่ยวกับงานนี้ขึ้นในวันศุกร์ที่ 20 มีนาคมนี้ ณ บริเวณ โซน Heaven on 7 ชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ The Largest Lifestyle Shopping Destination in Bangkok ศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และสมบูรณ์แบบที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

   กันตภณ ผาณิตรัตน์ ผู้อำนวยการ การตลาด ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กล่าวถึงงาน ครั้งนี้ว่า จัดขึ้นในธีม Sparkling Green in Garden “ปลุกชีวิตชีวารับความสดชื่นของ Summer” ภายใต้ Mood & Tone คือ Summer Garden โดยมีกิจกรรมต่างๆ มากมายที่จะมาเพิ่มดีกรีให้ร้อนนี้มีสีสันจัดจ้านซาบซ่านยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นโชว์สุดฮิป, ตื่นตาตื่นใจกับการตกแต่งศูนย์ฯ ด้วยสวนดีไซน์หลากสไตล์จากฝีมือการออกแบบของ สกุล อินทกุล ตลอดจน แคมเปญการช็อปปิ้งแบบไร้ขีดจำกัดกับประสบการณ์ Unlimited Shopping ตลอดซัมเมอร์ ทั้งที่ CentralWorld และ CentralFestival Pattaya Beach ตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.-10 พ.ค.นี้
“ในฐานะที่เซ็นทรัลเวิลด์เป็นศูนย์รวมความหลากหลายของไลฟ์สไตล์ ตอบสนองความต้องการได้กับลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งไทยและต่างชาติ ซึ่งเซ็นทรัลเวิลด์เป็นหนึ่งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ผู้คนจะสามารถมาเลือกซื้อสินค้าในแบบที่เป็นตัวคุณเองจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำที่รวมมาจากทั่วโลก เราก็อยากให้เกิดการใช้จ่ายเพื่อเตรียมตัวรับปีใหม่ไทยที่จะมาถึง และยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่งได้ด้วย
 ปีนี้ต้องบอกว่าเรามีความพิเศษมากคือ เราได้ คุณสกุล อินทกุล นักออกแบบการจัดดอกไม้คนไทยที่มีผลงานมากมายทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้มาร่วมออกแบบสวนสวยดีไซน์เก๋ๆ 7 สวน 7 แบบ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก 7 ประเทศ คือ ไทย, จีน, ญี่ปุ่น, อังกฤษ, อิตาลี, อียิปต์ และอินเดีย ที่จะโชว์อยู่ทั้งภายนอกและภายในศูนย์ฯ ตลอดช่วงซัมเมอร์นี้เลย ซึ่งการจัดงานทุกๆ ครั้งรวมถึงครั้งนี้ของเราก็เพื่อตอบสนองทุกความชอบความสนใจ ทำให้ทุกคนมั่นใจได้ว่ามาที่นี่คุณจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่พิเศษสุด และแตกต่างจากที่อื่น เป็นการตอกย้ำถึงภาพลักษณ์ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ว่าเป็น แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและสมบูรณ์แบบที่สุด เป็นแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ เราหวังว่าทุกคนที่มาเซ็นทรัลเวิลด์จะได้รับความสุขจากช่วงซัมเมอร์อย่างเต็มที่” กันตภณ กล่าว   

สีสันหลักๆ ในงานนี้ อยู่ที่โชว์สุดพิเศษที่จะทำให้ความร้อนแรงพุ่งปรี๊ดคือ “แฟชั่นโชว์ Sparkling Green in Garden” พบกับนางแบบนายแบบที่จะมาโพสท่วงท่าลีลาแบบมืออาชีพในชุดเสื้อผ้าสไตล์เก๋ๆ และ accessory แบบ paper dress up doll แต่ไฮไลท์เด็ดอยู่ที่ซีน นางเอกสาวสุดฮอต แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ ที่แปลงโฉมเป็น Paper Doll ตุ๊กตาแสนสวย เพื่อให้พระเอกหนุ่มหล่อคนรู้ใจ เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ นำชุดกระดาษต่างๆ มาแต่งตัวให้ ต้องมาลองดูกันว่า ชุดแฟชั่นที่โดนใจทั้งหนุ่มเวียร์และสาวแพนมากที่สุดจะออกมาสวยหรือเซ็กซี่ขนาดไหน
         
   เต็มตากับแฟชั่นจี๊ดๆ ของสาวสวยไปแล้ว ก็ได้เวลาของสาวๆ ที่ชอบหนุ่มแดนกิมจิได้กรี๊ดกันบ้าง เพราะเซอร์   ไพร์สปิดท้ายแคทวอล์คครั้งนี้ เป็นแฟชั่นโชว์ของนักร้องหนุ่มจากเกาหลี คิม แทกุน ที่นอกจากจะออกมาเดินแบบในสไตล์หล่อๆ เท่ๆ ยั่วใจสาวไทยแล้ว ยังแถมของขวัญชิ้นใหญ่ด้วยการขึ้นเวทีร้องเพลงให้ผู้ชมทั้งหลายได้ฟังอีกด้วย

   ชมโชว์ฮ็อตๆ กันไปแล้ว ต้องชวนมาพักผ่อนคลายร้อนกันที่สวนสวยหลากหลายรูปแบบ เพื่อสัมผัสกับ Relaxing Experience ซึ่งงานนี้ มีการตกแต่งศูนย์ฯ โดยเนรมิตพื้นที่ทั่วทั้งศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ให้ร่มรื่นด้วยบรรยากาศของสวนนานาสไตล์หลากหลายรูปแบบที่ได้แรงบันดาลใจจาก 7 ประเทศ อาทิ ไทย, ญี่ปุ่น, อินเดีย, จีน, อังกฤษ, อิตาลีและอียิปต์ จากสุดยอดฝีมือการออกแบบของ สกุล อินทกุล นักจัดดอกไม้ชื่อดัง ที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติและการออกแบบเชิงศิลปะ ให้ต้นไม้ดูสวยงามกว่าที่เคย

   สำหรับ สวนสวยนานาสไตล์หลากหลายรูปแบบ ที่ได้แรงบันดาลใจจาก 7 ประเทศ มีดังนี้
•   "สวนแห่งซูโจว" ประเทศจีน ชมความงามของหินเขามอในสวนของพระราชวังต้องห้าม พร้อมศาลาและสวนในพระราชวังแห่งเมืองซูโจว ซุ้มประตูที่งดงาม และอลังการของพระราชวังชั้นในของจีน
•   "สวนบัวแห่งอยุธยา" ประเทศไทย ย้อนความงามในอดีตกับสายน้ำและดอกบัว ซึ่งอยู่คู่วิถีชีวิตไทย รวมถึงสถาปัตยกรรมเขตร้อนที่วิจิตรบรรจง ในบรรยากาศของความเป็นไทย
•   "สวนหินแห่งเกียวโต" ประเทศญี่ปุ่น วิจิตรงดงามด้วยสวนที่ผสมผสานของสวนหิน ที่ดึงเอาตัวตนของสวนหินญี่ปุ่นออกมาอย่างชัดเจน
•   "สวนน้ำชา ชานกรุงลอนดอน" ประเทศอังกฤษ ความงามของรูปแบบสวนที่มีรูปทรงเรขาคณิตพร้อมทั้งบรรยากาศของการดื่มน้ำชา
•   "สระสรงขององค์ฟาโรห์ แห่ง Aswan" ประเทศอียิปต์ ความงามของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ขององค์ฟาโรห์ แสดงถึงอำนาจที่น่าค้นหาแห่งเมือง Aswan
•   "สวนโรมันแห่งกรุงโรม" ประเทศอิตาลี เนรมิตสวนจากพระเจ้า ก้าวล้ำข้ามดินแดนสู่ความโรแมนติกหรู ก่อเกิดดีไซน์สไตล์ยุโรปแท้
•   "สวนโมกุลแห่งอากกรา" ประเทศอินเดีย ความงามของทัชมาฮาล เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและเป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

หลังจากเพลิดเพลินไปกับความมีชีวิตชีวาทั้งจากแฟชั่นโชว์ และสัมผัสความร่มรื่นของสวนสวยหลากสไตล์ไปแล้ว ก็ถึงเวลาสนุกกับแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ ท้าลมร้อน CentralWorld Summer Unlimited Shopping เป็นการช็อปแบบไม่มีขีดจำกัด เต็มพิกัดกับแบรนด์ดังทั่วโลก  และ Flagship Store ทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศ อาทิ Ted Baker, XXI Forever,  Esprit, Topshop Topman, iStudio by Copperwired และยังจะได้พบ Limited Edition & New Arrival สินค้าหายาก มีจำนวนจำกัด อาทิ Miss Sixty and Energie - Spring Summer 09, Ted Baker - Spring Summer Collection, LaSenza - Betty Boop Collection, Esprit - Summer Hippy Floral, Pronto Limited Edition : Cheap Monday "Narrow: Ice black" และอีกมากมาย

ใหม่ล่าสุดกับ Chic Promotion ช็อปสนุกไปกับโปรโมชั่นโดนใจ และคืนเงินให้ได้   ช็อปต่อทันที รวมถึง Summer WOW Event รวมสุดยอดอีเว้นท์ที่จะสร้างความสนุกซึ่งได้คัดสรรอย่างหลากหลายมาให้คุณตลอดช่วงซัมเมอร์ อาทิ Splashy Songkran Fest, Melody of life, Runway to Realway, Power Buy Photo Fest 2009,  G Sport Basketball, Balloon Fest, Bangkok Bike Fest 2009 , Mobile World, FUNFAN in BANGKOK, Yosakoi Soran in THAILAND, OTOP Festival และอีเว้นท์อีกมากมายตลอดซัมเมอร์นี้

   สุดคุ้มกับโปรโมชั่นร้อนแรง รับโชค 2 ต่อ ที่ CentralWorld และ CentralFestival Pattaya Beach
โชคต่อที่ 1 ช้อปครบทุก 1,500 บาท/ใบเสร็จ/วัน จะได้รับ Summer Cash Coupon Pack มูลค่า 1,500 บาท คืนกลับทันที Summer Cash Coupon นี้สามารถใช้เป็นส่วนลดในการซื้อครั้งต่อไปกับร้านค้าที่ร่วมรายการ และตามเงื่อนไขหลังบัตร

โชคต่อที่ 2 เตรียมตัวตื่นตาไปกับโชว์ระดับโลก Mamma Mia! ที่ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วโลกมาแล้ว เพียงช้อปครบทุก 1,500 บาท/ใบเสร็จ/วัน จะได้รับ CentralWorld Summer Unlimited 1 Sticker สะสมครบ 35 ดวง แลกรับบัตรชม 2 ที่นั่งทันที โดยการแสดงครั้งประวัติศาสตร์นี้จะมีขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม 2552 ณ โรงละครรัชดาลัย เธียเตอร์

พิเศษสุด !!! ระหว่างวันที่ 27-29 มี.ค.นี้ เอาใจนักช็อปด้วย  Midnight Sale เปิดให้ช็อปกันกระหน่ำถึงเที่ยงคืน ลดทั้งศูนย์ฯ สูงสุดถึง 70% พร้อมลุ้นรับรางวัลมากมาย ทั้งยัง มีกิจกรรมสร้างสีสันให้ผู้มาช็อปได้ใกล้ชิดกับนักแสดงชื่อดังช่วงซัมเมอร์นี้อีกด้วย

วันที่ 27 มี.ค. 52 เวลา18.30 น. พบกับนักแสดงนำเรื่อง “อนึ่ง..คิดถึงเป็นอย่างยิ่ง” คือ อาร์ตี้-ธนฉัตร ตุลยฉัตร,  บอย-ธวัชชัย เพ็ญภักดี และ ข้าวฟ่าง-สมประสงค์ ศรีบัว ส่วนใครเป็นแฟนคลับเอเอฟ รอกรี๊ดกับศิลปินคนโปรด ตี๋+พะแพง ที่จะควงกันมาเปิดมินิคอนเสิร์ต เวลา 22.00 น.

วันที่ 28 มี.ค. 52 เวลา 18.30 น. พบกับนักแสดงนำเรื่อง ม. 3 ปี4 ฉันรักเธอ และในช่วงเวลา 22.00 น. พบกับมินิคอนเสิร์ตจาก Nice 2 meet U และ เฟ-ฟาง-แก้ว

วันที่ 29 มี.ค. 52 เวลา 18.30 น. ใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์ “ความจำสั้น แต่รักฉันยาว” เชิญพบกับนักแสดงนำ ญารินดา บุนนาค, ศันสนีย์ วัฒนานุกูล, กฤษณ เศรษฐธำรงค์ 

   ปลุกชีวิตชีวารับความสดชื่นของฤดูร้อน ด้วยกิจกรรมสุดฮิป และสัมผัสความสวยของสวนนานาชนิดที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก 7 ประเทศ โดยฝีมือการออกแบบของนักจัดดอกไม้มืออาชีพ สกุล อินทกุล พร้อมสนุกกับการช็อปตามสไตล์โปรดของแต่ละคน ในงาน CentralWorld Summer Unlimited Shopping ตลอดซัมเมอร์ทั้งที่ CentralWorld และ CentralFestival Pattaya Beach ตั้งแต่วันนี้ -10 พ.ค. ศก นี้

Pages: 1 ... 225 226 [227] 228 229 230