Show Posts
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
4921
news & activity / แคริ่ง แนะนำ ครีมยืดผมถาวร สูตรพิเศษ
« on: July 05, 2010, 10:25:11 AM »
แคริ่ง แนะนำ ครีมยืดผมถาวร สูตรพิเศษ
แคริ่ง ผลิตภัณฑ์อันดับ 1 ที่แชมป์ผมโลก เลือกใช้ รับรอง ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ ครีมยืดผมถาวรสูตรพิเศษ รับรองคุณภาพโดยสมาคมจัดชิงแชมป์ผมแห่งประเทศไทย เหมาะสำหรับเส้นผมหยิกธรรมชาติ หรือผมดัด ด้วยสูตรทรงประสิทธิภาพ ปราศจากกลิ่นฉุน ไม่แสบตา ไม่ทำร้ายเส้นผม สภาพผมหลังการยืดแลดูเป็นธรรมชาติ นุ่มสลวยเป็นประกายเงางาม สามารถนำไปใช้กับวิธีรีบอนดดิ้ง ด้วยคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวของผลิตภัณฑ์จึงทำให้คุณผู้หญิงทั่วโลกให้ความไว้วางใจ และเลือกใช้ครีมยืดผมถาวรสูตรพิเศษ แคริ่ง ในราคาที่คุณพึงพอใจ ขนาด 50 มล. ราคา110 บาท หรือผู้ที่สนใจสามารถสอบถามได้แล้ววันนี้ตามร้านเสริมสวยและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ โทร.02-892-0525-34 หรือ คุณวรานันท 089-951-4500
แคริ่ง ผลิตภัณฑ์อันดับ 1 ที่แชมป์ผมโลก เลือกใช้ รับรอง ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ ครีมยืดผมถาวรสูตรพิเศษ รับรองคุณภาพโดยสมาคมจัดชิงแชมป์ผมแห่งประเทศไทย เหมาะสำหรับเส้นผมหยิกธรรมชาติ หรือผมดัด ด้วยสูตรทรงประสิทธิภาพ ปราศจากกลิ่นฉุน ไม่แสบตา ไม่ทำร้ายเส้นผม สภาพผมหลังการยืดแลดูเป็นธรรมชาติ นุ่มสลวยเป็นประกายเงางาม สามารถนำไปใช้กับวิธีรีบอนดดิ้ง ด้วยคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวของผลิตภัณฑ์จึงทำให้คุณผู้หญิงทั่วโลกให้ความไว้วางใจ และเลือกใช้ครีมยืดผมถาวรสูตรพิเศษ แคริ่ง ในราคาที่คุณพึงพอใจ ขนาด 50 มล. ราคา110 บาท หรือผู้ที่สนใจสามารถสอบถามได้แล้ววันนี้ตามร้านเสริมสวยและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ โทร.02-892-0525-34 หรือ คุณวรานันท 089-951-4500
4922
news & activity / CAT CDMA ขยายเวลาโปรโมชั่นโทรต่างประเทศราคาประหยัด กด 009 ผ่าน CAT CDMA
« on: July 05, 2010, 10:23:35 AM »
CAT CDMA ขยายเวลาโปรโมชั่นโทรต่างประเทศราคาประหยัด กด 009 ผ่าน CAT CDMA เริ่มต้นนาทีละ 3 บาท
CAT CDMA ขยายเวลาโปรโมชั่นโทรต่างประเทศ เพียงกด 009 ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ CAT CDMA เริ่มต้นนาทีละ 3 บาท 15 ปลายทางทั้งโทรศัพท์บ้านและโทรศัพท์มือถือ อาทิ ลาว มาเลเซีย มาเก๊า บรูไน อเมริกา อะแลสกา ฮาวาย กวม มิดเวย์ (เวค) แคนาดา จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ รัสเซีย และเกาหลีใต้.....ได้เวลาโทรประหยัดแล้ววันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2553 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CAT Contact Center 1322 หรือ www.catcdma.com
CAT CDMA ขยายเวลาโปรโมชั่นโทรต่างประเทศ เพียงกด 009 ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ CAT CDMA เริ่มต้นนาทีละ 3 บาท 15 ปลายทางทั้งโทรศัพท์บ้านและโทรศัพท์มือถือ อาทิ ลาว มาเลเซีย มาเก๊า บรูไน อเมริกา อะแลสกา ฮาวาย กวม มิดเวย์ (เวค) แคนาดา จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ รัสเซีย และเกาหลีใต้.....ได้เวลาโทรประหยัดแล้ววันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2553 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CAT Contact Center 1322 หรือ www.catcdma.com
4923
news & activity / Re: ไวไว รุกตลาดไม่หยุด ออก “ไวไว หมูสับ” อร่อยสุดในตลาด
« on: July 05, 2010, 10:22:41 AM »
โปรโมชั่น 10 มุมซองไวไวแลกข้าวฟรี
โฆษณาทางสื่อโทรทัศน์ โปรโมชั่น 10 มุมซองไวไวแลกข้าวฟรี
เอเยนซี่ : บริษัท ซินเซียลี่ยัวส์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด
ลูกค้า : บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด
สินค้า : บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว
กิจกรรม : ภาพยนตร์โฆษณา 1 เรื่อง 15 วินาที เรื่อง ใจดำ
ความคิดสร้างสรรค์ : คุณไกรศร ลีลาชัยพิสิฐ (Creative Director)
คุณชวเลข จุลาเกตุโพธิชัย (Art Director)
คุณชัชวาล หุตะภิญโญ (Copy Writer)
บริษัทผู้ผลิต : Phoscine
ผู้กำกับภาพยนตร์ : คุณไกรศร ลีลาชัยพิสิฐ (Film Director)
คุณกิรเดช เกตกินทะ (Film Director)
ที่มาของแนวคิด :
โดยปกติแล้วไวไวได้มีการจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการขายซึ่งเป็นการคืนกำไรให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องเสมอมา แต่ในครั้งนี้ไวไวยังมุ่งหวังที่จะคืนกำไรสู่สังคม ด้วยการริเริ่มกิจกรรมภายใต้ Concept “กินไวไว ช่วยเกษตรกรไทย” โดยการใช้กลยุทธ์ “ตัดมุมซองไวไวรสใดก็ได้ 10 มุม แลกข้าวหอมมะลิ ฟรี” เนื่องจากข้าวเป็นอาหารหลักของชาวไทย และการบริโภคข้าวนั้นยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรไทย
นอกจากนี้ทางไวไวได้รับความอนุเคราะห์จากโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ซึ่งเป็นโรงสีข้าวตัวอย่าง และยังเป็นแหล่งรับซื้อข้าวเปลือกมาจากเกษตรกรไทยในราคาที่สมเหตุสมผลกว่าการขายให้โรงสีข้าวทั่วไป ทำให้เกษตรกรไทยมีรายได้มากขึ้นอีกด้วย
แนวความคิดโฆษณา :
แนวทางการนำเสนอจึงพูดถึงการได้กินไวไวไปด้วย แล้วยังมีโอกาสได้ช่วยเหลือเกษตรกรของไทยไปด้วย เพราะ 10 มุมซองของไวไว สามารถนำมาแลกข้าวหอมมะลิของโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ยิ่งกินไวไวยิ่งมาก ก็ยิ่งเป็นการสนับสนุนรายได้ให้ทางเกษตรกรไทยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ยังได้ 2 ดีเจคู่หูชื่อดัง ดีเจป๋อง กมล ทองพลับ และดีเจต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ มาร่วมสร้างสีสันอีกด้วย
เนื้อเรื่องโฆษณา :
นำเสนอเรื่องราวด้วยการดำเนินชีวิตตามปกติของ ดีเจป๋อง ที่กำลังทำไวไวรสปรุงสำเร็จรับประทาน แล้วทิ้งซองตามปกติ แต่วินาทีที่ซองไวไวหล่นลงไปในถังขยะ ได้มีเสียงของดีเจต้นหอมต่อว่าดีเจป๋องว่าใจดำและไม่นึกถึงชาวนาบ้างเลย ดีเจป๋องก็ตกใจและงงว่าตนแค่ทิ้งซองไวไวทำไมถึงต้องโดนว่าเช่นนี้ จากนั้นก็เป็นการเฉลยว่าการตัดมุมซองไวไวให้ครบ 10 ซอง สามารถนำไปแลกข้าวหอมมะลิไวไว ที่ผลิตโดยโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ซึ่งเป็นการช่วยเกษตรกรไทยทางอ้อมนั่นเอง
โฆษณาทางสื่อโทรทัศน์ โปรโมชั่น 10 มุมซองไวไวแลกข้าวฟรี
เอเยนซี่ : บริษัท ซินเซียลี่ยัวส์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด
ลูกค้า : บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด
สินค้า : บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว
กิจกรรม : ภาพยนตร์โฆษณา 1 เรื่อง 15 วินาที เรื่อง ใจดำ
ความคิดสร้างสรรค์ : คุณไกรศร ลีลาชัยพิสิฐ (Creative Director)
คุณชวเลข จุลาเกตุโพธิชัย (Art Director)
คุณชัชวาล หุตะภิญโญ (Copy Writer)
บริษัทผู้ผลิต : Phoscine
ผู้กำกับภาพยนตร์ : คุณไกรศร ลีลาชัยพิสิฐ (Film Director)
คุณกิรเดช เกตกินทะ (Film Director)
ที่มาของแนวคิด :
โดยปกติแล้วไวไวได้มีการจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการขายซึ่งเป็นการคืนกำไรให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องเสมอมา แต่ในครั้งนี้ไวไวยังมุ่งหวังที่จะคืนกำไรสู่สังคม ด้วยการริเริ่มกิจกรรมภายใต้ Concept “กินไวไว ช่วยเกษตรกรไทย” โดยการใช้กลยุทธ์ “ตัดมุมซองไวไวรสใดก็ได้ 10 มุม แลกข้าวหอมมะลิ ฟรี” เนื่องจากข้าวเป็นอาหารหลักของชาวไทย และการบริโภคข้าวนั้นยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรไทย
นอกจากนี้ทางไวไวได้รับความอนุเคราะห์จากโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ซึ่งเป็นโรงสีข้าวตัวอย่าง และยังเป็นแหล่งรับซื้อข้าวเปลือกมาจากเกษตรกรไทยในราคาที่สมเหตุสมผลกว่าการขายให้โรงสีข้าวทั่วไป ทำให้เกษตรกรไทยมีรายได้มากขึ้นอีกด้วย
แนวความคิดโฆษณา :
แนวทางการนำเสนอจึงพูดถึงการได้กินไวไวไปด้วย แล้วยังมีโอกาสได้ช่วยเหลือเกษตรกรของไทยไปด้วย เพราะ 10 มุมซองของไวไว สามารถนำมาแลกข้าวหอมมะลิของโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ยิ่งกินไวไวยิ่งมาก ก็ยิ่งเป็นการสนับสนุนรายได้ให้ทางเกษตรกรไทยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ยังได้ 2 ดีเจคู่หูชื่อดัง ดีเจป๋อง กมล ทองพลับ และดีเจต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ มาร่วมสร้างสีสันอีกด้วย
เนื้อเรื่องโฆษณา :
นำเสนอเรื่องราวด้วยการดำเนินชีวิตตามปกติของ ดีเจป๋อง ที่กำลังทำไวไวรสปรุงสำเร็จรับประทาน แล้วทิ้งซองตามปกติ แต่วินาทีที่ซองไวไวหล่นลงไปในถังขยะ ได้มีเสียงของดีเจต้นหอมต่อว่าดีเจป๋องว่าใจดำและไม่นึกถึงชาวนาบ้างเลย ดีเจป๋องก็ตกใจและงงว่าตนแค่ทิ้งซองไวไวทำไมถึงต้องโดนว่าเช่นนี้ จากนั้นก็เป็นการเฉลยว่าการตัดมุมซองไวไวให้ครบ 10 ซอง สามารถนำไปแลกข้าวหอมมะลิไวไว ที่ผลิตโดยโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ซึ่งเป็นการช่วยเกษตรกรไทยทางอ้อมนั่นเอง
4924
news & activity / Re: ไวไว รุกตลาดไม่หยุด ออก “ไวไว หมูสับ” อร่อยสุดในตลาด
« on: July 05, 2010, 10:21:27 AM »
“10 มุมซองไวไว...แลกข้าวฟรี”
มีข่าวดีมาบอกจ้า...บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตราไวไว ออก “โปรโมชั่น 10 มุมซองไวไว...แลกข้าวฟรี” เพียงตัดมุมซองไวไวรสใดก็ได้ 10 มุม แลกข้าวหอมมะลิ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ขนาด 150 กรัม ฟรีได้ที่ไปรษณีย์ทุกสาขาทั่วประเทศ หน่วยรถของบริษัทฯ และร้านค้าที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ตุลาคม 2553 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด โทร. 028-116-210-7 ของดีแบบนี้ช้าหมดอดนะจ๊ะ
มีข่าวดีมาบอกจ้า...บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตราไวไว ออก “โปรโมชั่น 10 มุมซองไวไว...แลกข้าวฟรี” เพียงตัดมุมซองไวไวรสใดก็ได้ 10 มุม แลกข้าวหอมมะลิ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ขนาด 150 กรัม ฟรีได้ที่ไปรษณีย์ทุกสาขาทั่วประเทศ หน่วยรถของบริษัทฯ และร้านค้าที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ตุลาคม 2553 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด โทร. 028-116-210-7 ของดีแบบนี้ช้าหมดอดนะจ๊ะ
4925
news & activity / ไวไว รุกตลาดไม่หยุด ออก “ไวไว หมูสับ” อร่อยสุดในตลาด
« on: July 05, 2010, 10:19:14 AM »
ไวไว รุกตลาดไม่หยุด ออก “ไวไว หมูสับ” อร่อยสุดในตลาด
“ไวไว” ระเบิดศึกตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รุกหนักไม่หยุด หวังขึ้นครองใจผู้บริโภคเป็นอันดับ 1 ท้าชนเจ้าตลาดออก “ไวไว หมูสับ” ใหม่ เพิ่มความอร่อยตรงที่เนื้อหมูคัดพิเศษ นำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงรส แล้วนำไปรวนในน้ำมันหอมเจียว ทำให้รสชาติของหมูสับมีรสชาติที่กลมกล่อม และเข้มข้นกว่าที่เคยมีในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วไป พร้อมเตรียมอัดแคมเปญเต็มสูบ ครบ 360 องศา ซึ่งรวม TVC ใหม่ ด้วย Concept “ไวไว หมูสับ ไม่ใช่แค่หมูสับ” หวังแชร์ตลาดรสจืดเพิ่ม
นางสาวเบญญาภา ปริญณรัฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และเส้นหมี่อบแห้ง ภายใต้เครื่องหมายการค้า "ไวไว" เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเลือกของผู้บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทางบริษัทฯ จึงได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “ไวไว หมูสับ” และเนื่องด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับ เป็นรสชาติที่ผู้บริโภคให้ความนิยมเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสจืด และไวไวยังไม่มีสินค้ารสหมูสับวางจำหน่ายในตลาด จึงได้พัฒนารสชาติหมูสับที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยให้รสชาติของเนื้อหมูที่คัดพิเศษ นำคลุกเคล้าด้วยเครื่องปรุงรสอย่างดี แล้วนำมาเจียวในน้ำมันเจียวหอม จนได้กลิ่นหอมของหมูสับ และน้ำมันเจียวหอม ที่ให้รสชาติที่กลมกล่อมและเข้มข้นกว่าที่เคยมีในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วไป
เพื่อเป็นการสร้างความจดจำ และตอกย้ำจุดเด่นของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ไวไว รสหมูสับ” ที่เปี่ยมด้วยรสชาติบะหมี่หมูสับที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน ภายใต้ Concept “ไม่ใช่แค่หมูสับ ไวไวหมูสับ” เพราะให้รสชาติของหมูสับที่ปรุงรสด้วย โดยการออกภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ 1 เรื่อง 30 วินาที เรื่อง แตกตื่น โดย บริษัท ซินเซียลี่ ยัวส์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด และผู้ผลิตภาพยนตร์ บริษัท โฟสซีน จำกัด นำเสนอเรื่องราวด้วยเหตุการณ์ประหลาดที่ทำให้ผู้คนแตกตื่น และต่างอุทานเป็นเสียงเดียวกันด้วยความตื่นเต้นว่า “หมูสับ!!!” ซึ่งภาพที่เห็นไม่ใช่แค่เนื้อหมูที่ถูกสับอยู่บนเขียงหมู แต่ผู้ที่กำลังสับหมูอยู่กลางถนนคือ หมูเป็นๆ มายืนสับหมูล้อความหมายของคำว่า “หมูสับ” อย่างที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ทุกคนต้องมาร่วมอร่อยกับไวไวหมูสับ ที่ไม่ใช่แค่หมูสับ “ไวไว หมูสับ” (ปรุงรสด้วย)
นางสาวเบญญาภา กล่าวต่ออีกว่า ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นตลาดที่มีความแข่งขันค่อนข้างสูงปัจจัยที่สนับสนุนการแข่งขันอันดับต้นๆ ได้แก่ เศรษฐกิจที่ค่อนข้างไม่เติบโต เป็นเหตุให้ความต้องการของผู้บริโภคเสริมให้มีอัตราการเจริญเติบโตของตลาดบะหมี่กึ่งอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะแบ่งเป็นกลุ่มหลัก ๆ ได้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มรสเผ็ด และกลุ่มรสจืด โดยมีเจ้าตลาดอยู่ไม่เพียงกี่ราย และกลุ่มรสเผ็ดจะมีรสชาติยอดนิยมอย่าง ต้มยำกุ้ง และต้มโคล้ง ส่วนรสจืดจะมีหมูสับ และปรุงสำเร็จของไวไวเป็นหลัก อย่างไรก็ตามรสชาติหมูสับมีอัตราส่วนประมาณกว่า 70% ในกลุ่มบะหมี่รสจืดซึ่งเป็นเหตุทำให้ไวไวต้องการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยการออกไวไวหมูสับอย่างเป็นทางการ
“วัตถุประสงค์หลักในการออกสินค้าใหม่ “ไวไวหมูสับ” ในครั้งนี้ เราต้องการที่จะสร้างความเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับทั้งผลิตภัณฑ์ของไวไว และตลาดหมูสับโดย ทั้งยังสร้างความแข็งแรงให้กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา ไวไว อีกทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค พร้อมนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กลุ่มผู้บริโภคที่นิยมรสชาติหมูสับ โดยใช้กลยุทธ์ทางการตลาดอย่างเข้มข้น ทั้งในส่วนของ Above The Line และ Below The Line ซึ่งคาดว่าเมื่อผู้บริโภคถ้าได้ลอง “ไวไว หมูสับ” ใหม่ แล้วทุกคนต้องติดใจกับรสชาติที่อร่อย ไม่ใช่แค่หมูสับธรรมดา แต่ไวไว คือ หมูสับปรุงรสหอมน้ำมันเจียว ซึ่งทำให้รสชาติกลมกล่อมแบบที่ผู้อื่นไม่มี และเมื่อคิดถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับ ต้องคิดถึงไวไว (Top of mind) ในสูตรเฉพาะของไวไว ที่ไม่เหมือนใครตาม Concept ที่ “ไม่ใช่แค่หมูสับ ไวไว หมูสับ” (ปรุงรสด้วย)” นางสาวเบญญาภา กล่าวปิดท้าย
“ไวไว” ระเบิดศึกตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รุกหนักไม่หยุด หวังขึ้นครองใจผู้บริโภคเป็นอันดับ 1 ท้าชนเจ้าตลาดออก “ไวไว หมูสับ” ใหม่ เพิ่มความอร่อยตรงที่เนื้อหมูคัดพิเศษ นำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงรส แล้วนำไปรวนในน้ำมันหอมเจียว ทำให้รสชาติของหมูสับมีรสชาติที่กลมกล่อม และเข้มข้นกว่าที่เคยมีในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วไป พร้อมเตรียมอัดแคมเปญเต็มสูบ ครบ 360 องศา ซึ่งรวม TVC ใหม่ ด้วย Concept “ไวไว หมูสับ ไม่ใช่แค่หมูสับ” หวังแชร์ตลาดรสจืดเพิ่ม
นางสาวเบญญาภา ปริญณรัฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และเส้นหมี่อบแห้ง ภายใต้เครื่องหมายการค้า "ไวไว" เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเลือกของผู้บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทางบริษัทฯ จึงได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “ไวไว หมูสับ” และเนื่องด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับ เป็นรสชาติที่ผู้บริโภคให้ความนิยมเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสจืด และไวไวยังไม่มีสินค้ารสหมูสับวางจำหน่ายในตลาด จึงได้พัฒนารสชาติหมูสับที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยให้รสชาติของเนื้อหมูที่คัดพิเศษ นำคลุกเคล้าด้วยเครื่องปรุงรสอย่างดี แล้วนำมาเจียวในน้ำมันเจียวหอม จนได้กลิ่นหอมของหมูสับ และน้ำมันเจียวหอม ที่ให้รสชาติที่กลมกล่อมและเข้มข้นกว่าที่เคยมีในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วไป
เพื่อเป็นการสร้างความจดจำ และตอกย้ำจุดเด่นของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ไวไว รสหมูสับ” ที่เปี่ยมด้วยรสชาติบะหมี่หมูสับที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน ภายใต้ Concept “ไม่ใช่แค่หมูสับ ไวไวหมูสับ” เพราะให้รสชาติของหมูสับที่ปรุงรสด้วย โดยการออกภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ 1 เรื่อง 30 วินาที เรื่อง แตกตื่น โดย บริษัท ซินเซียลี่ ยัวส์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด และผู้ผลิตภาพยนตร์ บริษัท โฟสซีน จำกัด นำเสนอเรื่องราวด้วยเหตุการณ์ประหลาดที่ทำให้ผู้คนแตกตื่น และต่างอุทานเป็นเสียงเดียวกันด้วยความตื่นเต้นว่า “หมูสับ!!!” ซึ่งภาพที่เห็นไม่ใช่แค่เนื้อหมูที่ถูกสับอยู่บนเขียงหมู แต่ผู้ที่กำลังสับหมูอยู่กลางถนนคือ หมูเป็นๆ มายืนสับหมูล้อความหมายของคำว่า “หมูสับ” อย่างที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ทุกคนต้องมาร่วมอร่อยกับไวไวหมูสับ ที่ไม่ใช่แค่หมูสับ “ไวไว หมูสับ” (ปรุงรสด้วย)
นางสาวเบญญาภา กล่าวต่ออีกว่า ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นตลาดที่มีความแข่งขันค่อนข้างสูงปัจจัยที่สนับสนุนการแข่งขันอันดับต้นๆ ได้แก่ เศรษฐกิจที่ค่อนข้างไม่เติบโต เป็นเหตุให้ความต้องการของผู้บริโภคเสริมให้มีอัตราการเจริญเติบโตของตลาดบะหมี่กึ่งอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะแบ่งเป็นกลุ่มหลัก ๆ ได้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มรสเผ็ด และกลุ่มรสจืด โดยมีเจ้าตลาดอยู่ไม่เพียงกี่ราย และกลุ่มรสเผ็ดจะมีรสชาติยอดนิยมอย่าง ต้มยำกุ้ง และต้มโคล้ง ส่วนรสจืดจะมีหมูสับ และปรุงสำเร็จของไวไวเป็นหลัก อย่างไรก็ตามรสชาติหมูสับมีอัตราส่วนประมาณกว่า 70% ในกลุ่มบะหมี่รสจืดซึ่งเป็นเหตุทำให้ไวไวต้องการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยการออกไวไวหมูสับอย่างเป็นทางการ
“วัตถุประสงค์หลักในการออกสินค้าใหม่ “ไวไวหมูสับ” ในครั้งนี้ เราต้องการที่จะสร้างความเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับทั้งผลิตภัณฑ์ของไวไว และตลาดหมูสับโดย ทั้งยังสร้างความแข็งแรงให้กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา ไวไว อีกทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค พร้อมนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กลุ่มผู้บริโภคที่นิยมรสชาติหมูสับ โดยใช้กลยุทธ์ทางการตลาดอย่างเข้มข้น ทั้งในส่วนของ Above The Line และ Below The Line ซึ่งคาดว่าเมื่อผู้บริโภคถ้าได้ลอง “ไวไว หมูสับ” ใหม่ แล้วทุกคนต้องติดใจกับรสชาติที่อร่อย ไม่ใช่แค่หมูสับธรรมดา แต่ไวไว คือ หมูสับปรุงรสหอมน้ำมันเจียว ซึ่งทำให้รสชาติกลมกล่อมแบบที่ผู้อื่นไม่มี และเมื่อคิดถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับ ต้องคิดถึงไวไว (Top of mind) ในสูตรเฉพาะของไวไว ที่ไม่เหมือนใครตาม Concept ที่ “ไม่ใช่แค่หมูสับ ไวไว หมูสับ” (ปรุงรสด้วย)” นางสาวเบญญาภา กล่าวปิดท้าย
4926
news & activity / ปีที่ 9 กับเทศกาลดนตรีแจ๊ส HUA HIN JAZZ FESTIVAL 2010 Presented by PTT”
« on: July 05, 2010, 10:17:05 AM »
ปีที่ 9 กับเทศกาลดนตรีแจ๊ส HUA HIN JAZZ FESTIVAL 2010 Presented by PTT”
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดงาน “HUA HIN JAZZ FESTIVAL 2010 Presented by PTT” พร้อมด้วย นายณัฐชาติ จารุจินดา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), นางจิรานุช ภิรมย์ภักดี บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, นางปัทมา โยชิมุระ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท และ นายอภินันท์ จันทรังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมเป็นประธานเปิดงานเทศกาลดนตรี “HUA HIN JAZZ FESTIVAL 2010 Presented by PTT” โดยมีศิลปินแจ๊สระดับโลก และศิลปินชื่อดังของเมืองไทยกว่า 30 ชีวิต มาร่วมบรรแลงเพลงแจ๊ส พร้อมอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์มาขับกล่อมแฟนเพลง ณ บริเวณริมชายหาดหัวหิน เมื่อเร็วๆ นี้
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดงาน “HUA HIN JAZZ FESTIVAL 2010 Presented by PTT” พร้อมด้วย นายณัฐชาติ จารุจินดา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), นางจิรานุช ภิรมย์ภักดี บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, นางปัทมา โยชิมุระ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท และ นายอภินันท์ จันทรังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมเป็นประธานเปิดงานเทศกาลดนตรี “HUA HIN JAZZ FESTIVAL 2010 Presented by PTT” โดยมีศิลปินแจ๊สระดับโลก และศิลปินชื่อดังของเมืองไทยกว่า 30 ชีวิต มาร่วมบรรแลงเพลงแจ๊ส พร้อมอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์มาขับกล่อมแฟนเพลง ณ บริเวณริมชายหาดหัวหิน เมื่อเร็วๆ นี้
4927
news & activity / แอทโฮม (ผ้าชอบ) ลดทันที ! 1,300 บาท สำหรับผู้ที่ช้อปผ่าน M Card
« on: July 05, 2010, 10:15:14 AM »
แอทโฮม (ผ้าชอบ) ลดทันที ! 1,300 บาท สำหรับผู้ที่ช้อปผ่าน M Card
เครื่องรีดถนอมผ้าไอน้ำ แอทโฮม (ผ้าชอบ) เอาใจสมาชิกบัตร M Crad รับส่วนลดพิเศษ 1,300 บาท เมื่อซื้อเครื่องรีดถนอมผ้าไอน้ำ แอทโฮม รุ่น Easy Care Limited Edition สีชมพูหวานแหวว ตัวเครื่องเล็กกะทัดรัด กำลังไฟ 1,500 วัตต์ จุน้ำถึง 1.8 ลิตร ผู้ช่วยคุณแม่บ้านให้ประหยัดเวลาและประหยัดแรงในการรีดผ้า รับประกันสินค้า 1 ปี จากเดิมราคา 4,590 บาท เหลือเพียง 3,290 บาท รับฟรี! ถุงมือรองรีดและ CD การใช้งาน รวมมูลค่า 500 บาท ด่วน! สินค้ามีจำนวนจำกัด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kuron.co.th หรือสอบถามที่โทร.02-736-0303
เครื่องรีดถนอมผ้าไอน้ำ แอทโฮม (ผ้าชอบ) เอาใจสมาชิกบัตร M Crad รับส่วนลดพิเศษ 1,300 บาท เมื่อซื้อเครื่องรีดถนอมผ้าไอน้ำ แอทโฮม รุ่น Easy Care Limited Edition สีชมพูหวานแหวว ตัวเครื่องเล็กกะทัดรัด กำลังไฟ 1,500 วัตต์ จุน้ำถึง 1.8 ลิตร ผู้ช่วยคุณแม่บ้านให้ประหยัดเวลาและประหยัดแรงในการรีดผ้า รับประกันสินค้า 1 ปี จากเดิมราคา 4,590 บาท เหลือเพียง 3,290 บาท รับฟรี! ถุงมือรองรีดและ CD การใช้งาน รวมมูลค่า 500 บาท ด่วน! สินค้ามีจำนวนจำกัด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kuron.co.th หรือสอบถามที่โทร.02-736-0303
4928
news & activity / 94.5 ลูกทุ่งอินเตอร์ ร่วมงาน “ไวไว หมูสับ”
« on: July 05, 2010, 10:13:41 AM »
94.5 ลูกทุ่งอินเตอร์ ร่วมงาน “ไวไว หมูสับ”
นางสาวเบญญาภา ปริญณรัฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไวไว ให้การต้อนรับ เหล่าดีเจ. จาก 94.5 ลูกทุ่งอินเตอร์ นำทีมโดยดีเจ.เคนโด้-เกียงไกรมาศ พจนสุนทร ดีเจ.บองวุฒิ-ณัฐวุฒิ เจียรนำโชค ดีเจ.เยส-ปริเยส ดีเจ.หมูแหม่ม-เมสินี ที่มาแสดงความยินดีในงานแถลงข่าว เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ไวไว หมูสับ “ไม่ใช่แค่หมูสับ ไวไวหมูสับ” พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาไวไว หมูสับใหม่ ณ ลานด้านหน้าห้างโตคิว เมื่อเร็ว ๆ นี้
นางสาวเบญญาภา ปริญณรัฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไวไว ให้การต้อนรับ เหล่าดีเจ. จาก 94.5 ลูกทุ่งอินเตอร์ นำทีมโดยดีเจ.เคนโด้-เกียงไกรมาศ พจนสุนทร ดีเจ.บองวุฒิ-ณัฐวุฒิ เจียรนำโชค ดีเจ.เยส-ปริเยส ดีเจ.หมูแหม่ม-เมสินี ที่มาแสดงความยินดีในงานแถลงข่าว เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ไวไว หมูสับ “ไม่ใช่แค่หมูสับ ไวไวหมูสับ” พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาไวไว หมูสับใหม่ ณ ลานด้านหน้าห้างโตคิว เมื่อเร็ว ๆ นี้
4929
news & activity / ร่วมงาน ไวไว หมูสับ
« on: July 05, 2010, 10:11:02 AM »
ร่วมงาน ไวไว หมูสับ
ดีเจ. เลิฟ , ดีเจ. บิ๊ก จากคลื่นซี้ด ร่วมแสดงความยินดี ในงานแถลงข่าว เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ไวไว หมูสับ “ไม่ใช่แค่หมูสับ ไวไวหมูสับ” พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาไวไว หมูสับใหม่ และร่วมสถิติการสับหมูที่ยิ่งใหญ่บนเขียงที่ยาวที่สุดครั้งแรกของโลก โดยมี นางสาวเบญญาภา ปริญณรัฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา ไวไว ให้การต้อนรับ ณ ลานด้านหน้าห้างโตคิว เมื่อเร็ว ๆ นี้
ดีเจ. เลิฟ , ดีเจ. บิ๊ก จากคลื่นซี้ด ร่วมแสดงความยินดี ในงานแถลงข่าว เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ไวไว หมูสับ “ไม่ใช่แค่หมูสับ ไวไวหมูสับ” พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาไวไว หมูสับใหม่ และร่วมสถิติการสับหมูที่ยิ่งใหญ่บนเขียงที่ยาวที่สุดครั้งแรกของโลก โดยมี นางสาวเบญญาภา ปริญณรัฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา ไวไว ให้การต้อนรับ ณ ลานด้านหน้าห้างโตคิว เมื่อเร็ว ๆ นี้
4930
news & activity / เลอซาช่า สอนทำผมพนักงาน
« on: July 05, 2010, 10:08:31 AM »
เลอซาช่า สอนทำผมพนักงาน
นายชาคริต งามเขียว แฮร์ สไตร์ลิส บริษัท คิวรอน จำกัด ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม “เลอซาช่า” ผมตรง ผมสวย คุณทำได้ จัดกิจกรรมเวิร์คชอปสอนทำผมให้ให้แก่พนักงาน บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด โดยเน้นสอนการจัดแต่งทรงผมให้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ ให้สวยล้ำอินเทรนด์กว่าใคร ได้รับความสนใจเป็นอย่างดี ณ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เมื่อเร็วๆ นี้
นายชาคริต งามเขียว แฮร์ สไตร์ลิส บริษัท คิวรอน จำกัด ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม “เลอซาช่า” ผมตรง ผมสวย คุณทำได้ จัดกิจกรรมเวิร์คชอปสอนทำผมให้ให้แก่พนักงาน บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด โดยเน้นสอนการจัดแต่งทรงผมให้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ ให้สวยล้ำอินเทรนด์กว่าใคร ได้รับความสนใจเป็นอย่างดี ณ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เมื่อเร็วๆ นี้
4931
news & activity / วัน-ทู-คอล! ชวน โจ๋ไทย ประกวดแผนพัฒนาธุรกิจ
« on: July 05, 2010, 10:05:33 AM »
วัน-ทู-คอล! ชวน โจ๋ไทย ประกวดแผนพัฒนาธุรกิจ “เรื่องกล้วย กล้วย” ชิงทุนกว่า 5 แสนบาท ในโครงการ “วัน-ทู-คอล! แบรนด์เอจ อวอร์ด” ปี 4
“วัยรุ่นยุคใหม่” กับ “เรื่อง กล้วย กล้วย” กลายเป็นคำคู่กันไปแล้วในปัจจุบัน เพราะดูเหมือนว่าเมื่อพวกเขาชอบสิ่งไหน พวกเขาก็สามารถทำฝันให้เป็นจริงได้ไม่ยาก ทั้ง “เรียน – เล่น – เต้น – ร้อง” ที่ดูจะเป็นเรื่องง่ายราวกับ ปอกกล้วยเข้าปาก แต่วันนี้ ถ้ามีโจทย์ให้เด็กไทยได้ลองตีลังกาคิด ช่วยทำให้ “กล้วยไทย” ได้โกอินเตอร์ ถูกใจคนไทยและทั่วโลก ให้กลายเป็น กล้วยทองคำ มีมูลค่าหลายล้าน....แบบนี้ ยังเป็นเรื่องกล้วย กล้วย ของเด็กไทยอีกได้ไหม ...เยาวชนกลุ่มไหนที่คิดว่า แน่...ต้องไม่พลาด
วัน-ทู-คอล! สานต่อโครงการดีๆ ที่ไม่มีวันหยุดคิดกับโครงการประกวดแผนพัฒนาธุรกิจ “วัน-ทู-คอล! แบรนด์เอจ อวอร์ด” ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในหัวข้อ “เรื่องกล้วย กล้วย” เพื่อเชิญชวนนิสิต นักศึกษาชั้นปีที่ 3 - 4 มาร่วมประลองไอเดีย ใส่ความมันส์ สุดจี๊ด เพื่อชิงความเป็นเลิศด้านการเขียนแผนพัฒนาธุรกิจ ประเภทของขบเคี้ยว (Snack Foods) ที่มีกล้วยเป็นวัตถุดิบหลักหรือแปรรูปมาจากกล้วยไทยทุกชนิด
โดยหนึ่งในกติกาของการแข่งขันนี้ นักศึกษาจะต้องหาสินค้า OTOP ประเภทขนมขบเคี้ยวที่ทำจากกล้วยไทยทุกชนิด และนำความคิดสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่ ไปช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจและมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีส่วนช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับสินค้าในท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักในสายตาคนไทย และชาวต่างชาติ พร้อมชิงทุนการศึกษารวมกว่า 500,000 บาท ด้วย
ด้าน นายอเนก อนันต์วัฒนพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลุ่มลูกค้าพรีเพด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวถึงการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า “สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาชั้นปีที่ 3-4 ทุกคณะได้เข้ามาใช้เป็นเวทีก่อนเข้าสู่โลกธุรกิจจริง ที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน สิ่งที่เยาวชนจะได้รับคือความรู้ใหม่ ๆ ประสบการณ์ และสถานการณ์ที่ท้าทายมากกว่าที่ได้เคยเรียนจากตำรา ได้ฝึกทักษะของการเป็นนักการตลาดยุคใหม่ที่ต้องมีหลักคิดที่ทำให้สินค้าเป็นได้มากกว่าตัวมันเอง มีคุณค่ามากกว่าสิ่งที่เป็นอยู่ และช่วยให้สังคมยืดหยัดอยู่ได้ ในขณะที่วิธีการทำตลาดสินค้าทั่วโลกมีเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เยาวชนจึงควรเปิดโลกทัศน์ออกมาเพื่อเรียนรู้สิ่งที่นักการตลาดมืออาชีพควรมี วิธีพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส...จึงอยากเชิญชวนนิสิตนักศึกษาที่สนใจได้เปิดประสบการณ์ การทำงานเป็นกลุ่มร่วมกับเพื่อนๆ เพราะเวทีนี้เปิดกว้างให้กับคนรุ่นใหม่ ที่มีความฝัน ความมุ่งมั่น และอยากจะทำธุรกิจเป็นของตนเอง เพื่อให้ได้ก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายที่หวังไว้ในอนาคต”
นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมโรดโชว์ขึ้นทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อเชิญชวนนิสิตนักศึกษา ชั้นปีที่ 3 -4 เข้าร่วมส่งผลงานเขียนแผนพัฒนาธุรกิจการตลาด “เรื่องกล้วย กล้วย” พร้อมนำความรู้และมุมมองการตลาดใหม่ๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ที่มีชื่อเสียง อาทิ “เทคนิคการเขียนแผนการตลาด” และ “การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ผ่านงานดีไซน์” เพื่อเป็นแนวทางในการจุดประกายความคิด พัฒนาสร้างสรรค์แผนธุรกิจให้สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง โดยเมื่อเร็วๆนี้ ได้จัดโรดโชว์ครั้งแรกให้กับนักศึกษาในเขตกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ณ หอประชุมโรงละคร ม.กรุงเทพ กล้วยน้ำไท
ด้าน ผศ.ดร.วีระพงศ์ มาลัย คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หนึ่งในกูรูให้ความรู้เทคนิคการเขียนแผนการตลาด ชี้ให้เห็นถึงแนวคิดว่า “ทุกอาชีพก็ต้องทำการตลาด ดังนั้นการเขียนแผนการตลาดซึ่งเป็นหนึ่งขั้นตอน เพราะชีวิตคนเราจะทำธุรกิจได้ดีหรือเจ๊งก็ขึ้นอยู่กับกระดาษเพียงแผ่นเดียว ยิ่งหากไม่ลองเขียน ลองคิด ก็อาจจะเกิดความผิดพลาดได้ ข้อสำคัญของการเขียนแผนการตลาด เพื่อให้เห็นช่องทางในการทำธุรกิจ เสมือนมีแผนที่นำทางไม่ให้หลงทิศ”
อีกหนึ่งกูรูหนุ่มแนว ผู้คลุกคลีงานดีไซน์ นายพิชิต วีรังคบุตร ผ.อ.ฝ่ายนิทรรศการและกิจกรรมสัมพันธ์ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ TCDC ซึ่งเป็นหนึ่งในกูรูที่จะออกโรดโชว์ให้ความรู้แก่นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า “สิ่งที่ผมอยากฝากน้องๆ ที่สนใจอย่าลืมมองหา Motivation – แรงจูงใจ เพื่อจะได้ Drive – สร้างแรงขับเคลื่อน แล้วจะทำให้เราเกิด Passion กระหายความสำเร็จ เหมือนกับคนจีนในยุคโบราณครับ ที่ประสบความสำเร็จได้เพราะพวกเขามี Passion”
ซึ่งโครงการ “วัน-ทู-คอล! แบรนด์เอจ อวอร์ด” ปีนี้ ได้ดึงดูดนักศึกษาจำนวนมากให้มาสมัคร รวมทั้งน้องโบว์-วัลดี ศรีโปฏก คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ที่เข้าฟังแนวคิดโครงการ โดยเธอบอกว่า “โบว์มองว่าการเขียนแผนธุรกิจ เรื่องกล้วย กล้วย เป็นงานท้าท้ายชิ้นหนึ่ง ที่จะทำอย่างไรให้คนหันมาสนใจและกินกล้วยมากยิ่งขึ้น เพราะโบว์เป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบกินกล้วย แต่งานนี้ต้องจับกลุ่มคิดกับเพื่อนว่าจะตีโจทย์อย่างไร แต่สินค้าที่จะมาต่อยอดคงเป็นกลุ่มวัยรุ่น เพื่อให้เขาหันมากินกล้วยไทย ที่เป็นผลไม้ประจำชาติ จึงอยากลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้กับตัวเองดูบ้างค่ะ”
อีกหนึ่งสาวที่แม้ปีนี้จะยังไม่มีโอกาสสมัครเข้าร่วมแข่งขัน เพียงเพราะอยู่ชั้นปีที่ 2 นางสาวณัฐธิดา คันธจินทร์ หรือน้องแอน ศึกษาอยู่คณะวิทยาการจัดการ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา เป็นอีกหนึ่งเด็กไทยรุ่นใหม่ที่อยากจะเห็นตลาดกล้วยไทยเติบโตกว่าที่เป็นอยู่ “อยากให้เห็นกล้วยไทยเป็นของกินเล่นที่ทุกเพศทุกวัย สามารถกินได้ ซึ่งแอนมีแนวคิดที่จะดัดแปลงให้เป็นกล้วยเคลือบช็อคโกแลต เพื่อที่จะได้เป็นของกินเล่นและเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นให้มากขึ้น เพราะมีความทันสมัยอย่างช็อคโกแลตควบคู่กับความเป็นกล้วยไทยรวมอยู่ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว”
เวทีนี้ เปิดโอกาสให้กับนักศึกษาชั้นปีที่ 3-4 ทั่วประเทศ ที่สนใจ สมัครเข้าร่วมแข่งขันประกวดแผนพัฒนาธุรกิจ พร้อมส่งผลงานได้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 13 สิงหาคม ศกนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม และดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.ais.co.th/12call หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ 1175
โอกาสทุกวันนี้ ได้เปิดกว้างให้เด็กไทยได้โชว์ศักยภาพอย่างมากมาย ขอเพียงเด็กไทยอย่าหยุดแตกหน่อความคิดสร้างสรรค์ สักวันหนึ่ง ความสำเร็จจะไม่ไกลเกินเอื้อม
“วัยรุ่นยุคใหม่” กับ “เรื่อง กล้วย กล้วย” กลายเป็นคำคู่กันไปแล้วในปัจจุบัน เพราะดูเหมือนว่าเมื่อพวกเขาชอบสิ่งไหน พวกเขาก็สามารถทำฝันให้เป็นจริงได้ไม่ยาก ทั้ง “เรียน – เล่น – เต้น – ร้อง” ที่ดูจะเป็นเรื่องง่ายราวกับ ปอกกล้วยเข้าปาก แต่วันนี้ ถ้ามีโจทย์ให้เด็กไทยได้ลองตีลังกาคิด ช่วยทำให้ “กล้วยไทย” ได้โกอินเตอร์ ถูกใจคนไทยและทั่วโลก ให้กลายเป็น กล้วยทองคำ มีมูลค่าหลายล้าน....แบบนี้ ยังเป็นเรื่องกล้วย กล้วย ของเด็กไทยอีกได้ไหม ...เยาวชนกลุ่มไหนที่คิดว่า แน่...ต้องไม่พลาด
วัน-ทู-คอล! สานต่อโครงการดีๆ ที่ไม่มีวันหยุดคิดกับโครงการประกวดแผนพัฒนาธุรกิจ “วัน-ทู-คอล! แบรนด์เอจ อวอร์ด” ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในหัวข้อ “เรื่องกล้วย กล้วย” เพื่อเชิญชวนนิสิต นักศึกษาชั้นปีที่ 3 - 4 มาร่วมประลองไอเดีย ใส่ความมันส์ สุดจี๊ด เพื่อชิงความเป็นเลิศด้านการเขียนแผนพัฒนาธุรกิจ ประเภทของขบเคี้ยว (Snack Foods) ที่มีกล้วยเป็นวัตถุดิบหลักหรือแปรรูปมาจากกล้วยไทยทุกชนิด
โดยหนึ่งในกติกาของการแข่งขันนี้ นักศึกษาจะต้องหาสินค้า OTOP ประเภทขนมขบเคี้ยวที่ทำจากกล้วยไทยทุกชนิด และนำความคิดสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่ ไปช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจและมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีส่วนช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับสินค้าในท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักในสายตาคนไทย และชาวต่างชาติ พร้อมชิงทุนการศึกษารวมกว่า 500,000 บาท ด้วย
ด้าน นายอเนก อนันต์วัฒนพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลุ่มลูกค้าพรีเพด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวถึงการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า “สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาชั้นปีที่ 3-4 ทุกคณะได้เข้ามาใช้เป็นเวทีก่อนเข้าสู่โลกธุรกิจจริง ที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน สิ่งที่เยาวชนจะได้รับคือความรู้ใหม่ ๆ ประสบการณ์ และสถานการณ์ที่ท้าทายมากกว่าที่ได้เคยเรียนจากตำรา ได้ฝึกทักษะของการเป็นนักการตลาดยุคใหม่ที่ต้องมีหลักคิดที่ทำให้สินค้าเป็นได้มากกว่าตัวมันเอง มีคุณค่ามากกว่าสิ่งที่เป็นอยู่ และช่วยให้สังคมยืดหยัดอยู่ได้ ในขณะที่วิธีการทำตลาดสินค้าทั่วโลกมีเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เยาวชนจึงควรเปิดโลกทัศน์ออกมาเพื่อเรียนรู้สิ่งที่นักการตลาดมืออาชีพควรมี วิธีพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส...จึงอยากเชิญชวนนิสิตนักศึกษาที่สนใจได้เปิดประสบการณ์ การทำงานเป็นกลุ่มร่วมกับเพื่อนๆ เพราะเวทีนี้เปิดกว้างให้กับคนรุ่นใหม่ ที่มีความฝัน ความมุ่งมั่น และอยากจะทำธุรกิจเป็นของตนเอง เพื่อให้ได้ก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายที่หวังไว้ในอนาคต”
นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมโรดโชว์ขึ้นทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อเชิญชวนนิสิตนักศึกษา ชั้นปีที่ 3 -4 เข้าร่วมส่งผลงานเขียนแผนพัฒนาธุรกิจการตลาด “เรื่องกล้วย กล้วย” พร้อมนำความรู้และมุมมองการตลาดใหม่ๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ที่มีชื่อเสียง อาทิ “เทคนิคการเขียนแผนการตลาด” และ “การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ผ่านงานดีไซน์” เพื่อเป็นแนวทางในการจุดประกายความคิด พัฒนาสร้างสรรค์แผนธุรกิจให้สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง โดยเมื่อเร็วๆนี้ ได้จัดโรดโชว์ครั้งแรกให้กับนักศึกษาในเขตกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ณ หอประชุมโรงละคร ม.กรุงเทพ กล้วยน้ำไท
ด้าน ผศ.ดร.วีระพงศ์ มาลัย คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หนึ่งในกูรูให้ความรู้เทคนิคการเขียนแผนการตลาด ชี้ให้เห็นถึงแนวคิดว่า “ทุกอาชีพก็ต้องทำการตลาด ดังนั้นการเขียนแผนการตลาดซึ่งเป็นหนึ่งขั้นตอน เพราะชีวิตคนเราจะทำธุรกิจได้ดีหรือเจ๊งก็ขึ้นอยู่กับกระดาษเพียงแผ่นเดียว ยิ่งหากไม่ลองเขียน ลองคิด ก็อาจจะเกิดความผิดพลาดได้ ข้อสำคัญของการเขียนแผนการตลาด เพื่อให้เห็นช่องทางในการทำธุรกิจ เสมือนมีแผนที่นำทางไม่ให้หลงทิศ”
อีกหนึ่งกูรูหนุ่มแนว ผู้คลุกคลีงานดีไซน์ นายพิชิต วีรังคบุตร ผ.อ.ฝ่ายนิทรรศการและกิจกรรมสัมพันธ์ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ TCDC ซึ่งเป็นหนึ่งในกูรูที่จะออกโรดโชว์ให้ความรู้แก่นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า “สิ่งที่ผมอยากฝากน้องๆ ที่สนใจอย่าลืมมองหา Motivation – แรงจูงใจ เพื่อจะได้ Drive – สร้างแรงขับเคลื่อน แล้วจะทำให้เราเกิด Passion กระหายความสำเร็จ เหมือนกับคนจีนในยุคโบราณครับ ที่ประสบความสำเร็จได้เพราะพวกเขามี Passion”
ซึ่งโครงการ “วัน-ทู-คอล! แบรนด์เอจ อวอร์ด” ปีนี้ ได้ดึงดูดนักศึกษาจำนวนมากให้มาสมัคร รวมทั้งน้องโบว์-วัลดี ศรีโปฏก คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ที่เข้าฟังแนวคิดโครงการ โดยเธอบอกว่า “โบว์มองว่าการเขียนแผนธุรกิจ เรื่องกล้วย กล้วย เป็นงานท้าท้ายชิ้นหนึ่ง ที่จะทำอย่างไรให้คนหันมาสนใจและกินกล้วยมากยิ่งขึ้น เพราะโบว์เป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบกินกล้วย แต่งานนี้ต้องจับกลุ่มคิดกับเพื่อนว่าจะตีโจทย์อย่างไร แต่สินค้าที่จะมาต่อยอดคงเป็นกลุ่มวัยรุ่น เพื่อให้เขาหันมากินกล้วยไทย ที่เป็นผลไม้ประจำชาติ จึงอยากลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้กับตัวเองดูบ้างค่ะ”
อีกหนึ่งสาวที่แม้ปีนี้จะยังไม่มีโอกาสสมัครเข้าร่วมแข่งขัน เพียงเพราะอยู่ชั้นปีที่ 2 นางสาวณัฐธิดา คันธจินทร์ หรือน้องแอน ศึกษาอยู่คณะวิทยาการจัดการ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา เป็นอีกหนึ่งเด็กไทยรุ่นใหม่ที่อยากจะเห็นตลาดกล้วยไทยเติบโตกว่าที่เป็นอยู่ “อยากให้เห็นกล้วยไทยเป็นของกินเล่นที่ทุกเพศทุกวัย สามารถกินได้ ซึ่งแอนมีแนวคิดที่จะดัดแปลงให้เป็นกล้วยเคลือบช็อคโกแลต เพื่อที่จะได้เป็นของกินเล่นและเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นให้มากขึ้น เพราะมีความทันสมัยอย่างช็อคโกแลตควบคู่กับความเป็นกล้วยไทยรวมอยู่ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว”
เวทีนี้ เปิดโอกาสให้กับนักศึกษาชั้นปีที่ 3-4 ทั่วประเทศ ที่สนใจ สมัครเข้าร่วมแข่งขันประกวดแผนพัฒนาธุรกิจ พร้อมส่งผลงานได้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 13 สิงหาคม ศกนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม และดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.ais.co.th/12call หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ 1175
โอกาสทุกวันนี้ ได้เปิดกว้างให้เด็กไทยได้โชว์ศักยภาพอย่างมากมาย ขอเพียงเด็กไทยอย่าหยุดแตกหน่อความคิดสร้างสรรค์ สักวันหนึ่ง ความสำเร็จจะไม่ไกลเกินเอื้อม
4932
news & activity / บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ใช้สื่อดิจิตอลแนะนำผลิตภัณฑ์ที่สาขาของธนาคาร
« on: July 05, 2010, 10:03:43 AM »
บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ใช้สื่อดิจิตอลแนะนำผลิตภัณฑ์ที่สาขาของธนาคาร
นายมาร์ค อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) แนะนำสื่อดิจิตอลที่สาขาธนาคารใช้ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการอันหลากหลายของธนาคารและบริษัทในเครือ โดยสามารถให้ข้อมูล พร้อมทั้งสร้างความสนใจและจดจำแก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไปได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ธนาคารได้เริ่มติดตั้งสื่อดิจิตอลดังกล่าวในสาขาของธนาคารในย่านธุรกิจ และคาดว่าจะติดตั้งได้กว่า 300 สาขา ภายในปีนี้
นายมาร์ค อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) แนะนำสื่อดิจิตอลที่สาขาธนาคารใช้ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการอันหลากหลายของธนาคารและบริษัทในเครือ โดยสามารถให้ข้อมูล พร้อมทั้งสร้างความสนใจและจดจำแก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไปได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ธนาคารได้เริ่มติดตั้งสื่อดิจิตอลดังกล่าวในสาขาของธนาคารในย่านธุรกิจ และคาดว่าจะติดตั้งได้กว่า 300 สาขา ภายในปีนี้
4933
ข่าวบันเทิง / ประชาสัมพันธ์งานคอนเสิร์ตการกุศล
« on: July 05, 2010, 10:02:25 AM »
ประชาสัมพันธ์งานคอนเสิร์ตการกุศล
นครินทร์เธียเตอร์ โรงละครใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อร่วมสนับสนุนด้านศิลปะ จัดคอนเสิร์ตการกุศล
Music Battle"TIK SHIRO VS KYLE DILLINGHAM" (ติ๊ก ชีโร่ VS ไคล์ดิลลิ่งแฮม)
การปะทะกันของสองอัจฉริยะทางดนตรีจากโลกตะวันออกและโลกตะวันตก
ท่านจะได้พบกับติ๊ก ชีโร่ กับ ลีลาการร้องเพลงที่มีเอกลักษณ์ ฝีมือทางดนตรีที่แตกต่าง การตีกลองสบัดไชย เปิงมาง ฯลฯ ปะทะกับ KYLE Dillingham นักไวโอลินฝีมือเยี่ยมผู้เคยฝากผลงานไว้เบื้องหลังหน้ากากในละครเพลง "ลิลิตพระลอ" ณ ภัทราวดีเธียเตอร์ ฑูตวัฒนธรรมชาวอเมริกันที่เดินทางทั่วโลกถ่ายทอดเสียงไวโอลิน ครั้งนี้เขาจะมาบนสเก็ตบอร์ด !?!
ณ โรงละครแปลงร่างได้ (Theatre that transforms) นครินทร์เธียเตอร์
! พลาดไม่ได้ วันที่ 9-10 กรกฎาคมนี้ เวลา 19.30 น.
รายได้ไม่หักค่าใช้จ่าย นำไปบริจาคการกุศลเพื่อสนับสนุน 3 สถาบันการ ศึกษา
เพื่อสนับสนุนด้าน การเรียนรู้ .. สร้างคน ..สร้างสังคมที่สันติและงดงาม โดยบริจาคให้แก่
กองทุนเพื่อการศึกษาศิลปะ โดย มูลนิธิละครธรรมะในพระสังฆราชูปถัมภ์ ก่อตั้งโดย คุณภัทราวดี มีชูธน
สาวิกาสิกขาลัย มหาวิชชาลัยธรรมะเพื่อเยียวยาสังคม ก่อตั้งโดย แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
สถาบันวิมุตตยาลัย สถาบันการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพแห่งการตื่นรู้ สู่อิสรภาพ ก่อตั้งโดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี)
สำรองที่นั่งได้ที่จุดบริการ totalreservation ทุกสาขา
Call Center 02-8335555 และ www.totalreservation.com
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.nakarintheatre.com
www.facebook.com/NakarinTheatre
นครินทร์เธียเตอร์ โรงละครใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อร่วมสนับสนุนด้านศิลปะ จัดคอนเสิร์ตการกุศล
Music Battle"TIK SHIRO VS KYLE DILLINGHAM" (ติ๊ก ชีโร่ VS ไคล์ดิลลิ่งแฮม)
การปะทะกันของสองอัจฉริยะทางดนตรีจากโลกตะวันออกและโลกตะวันตก
ท่านจะได้พบกับติ๊ก ชีโร่ กับ ลีลาการร้องเพลงที่มีเอกลักษณ์ ฝีมือทางดนตรีที่แตกต่าง การตีกลองสบัดไชย เปิงมาง ฯลฯ ปะทะกับ KYLE Dillingham นักไวโอลินฝีมือเยี่ยมผู้เคยฝากผลงานไว้เบื้องหลังหน้ากากในละครเพลง "ลิลิตพระลอ" ณ ภัทราวดีเธียเตอร์ ฑูตวัฒนธรรมชาวอเมริกันที่เดินทางทั่วโลกถ่ายทอดเสียงไวโอลิน ครั้งนี้เขาจะมาบนสเก็ตบอร์ด !?!
ณ โรงละครแปลงร่างได้ (Theatre that transforms) นครินทร์เธียเตอร์
! พลาดไม่ได้ วันที่ 9-10 กรกฎาคมนี้ เวลา 19.30 น.
รายได้ไม่หักค่าใช้จ่าย นำไปบริจาคการกุศลเพื่อสนับสนุน 3 สถาบันการ ศึกษา
เพื่อสนับสนุนด้าน การเรียนรู้ .. สร้างคน ..สร้างสังคมที่สันติและงดงาม โดยบริจาคให้แก่
กองทุนเพื่อการศึกษาศิลปะ โดย มูลนิธิละครธรรมะในพระสังฆราชูปถัมภ์ ก่อตั้งโดย คุณภัทราวดี มีชูธน
สาวิกาสิกขาลัย มหาวิชชาลัยธรรมะเพื่อเยียวยาสังคม ก่อตั้งโดย แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
สถาบันวิมุตตยาลัย สถาบันการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพแห่งการตื่นรู้ สู่อิสรภาพ ก่อตั้งโดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี)
สำรองที่นั่งได้ที่จุดบริการ totalreservation ทุกสาขา
Call Center 02-8335555 และ www.totalreservation.com
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.nakarintheatre.com
www.facebook.com/NakarinTheatre
4934
news & activity / เกาหลีใต้ขึ้นดอกเบี้ยหนุนยิลด์กิมจิพุ่ง KTAMเปิดขายพันธบัตร1ปี11เดือนชู2.65%
« on: July 05, 2010, 10:01:22 AM »
เกาหลีใต้ขึ้นดอกเบี้ยหนุนยิลด์กิมจิพุ่ง KTAMเปิดขายพันธบัตร1ปี11เดือนชู2.65%
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ให้ผู้ลงทุนได้เลือกตามความเหมาะสม โดยมีตราสารหนี้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 12
( KTFF12 ) เปิดจำหน่าย วันที่ 30 มิถุนายน - 6 กรกฎาคม 2553 อายุ 1 ปี11 เดือน มูลค่า โครงการ 700 ล้านบาท มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนจะพิจารณาความมั่นคงของผู้ออกตราสารเป็นหลัก และเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสม เมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยง ส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในพันธบัตรภาครัฐประเทศเกาหลีใต้ ทั้ง 100% เครดิตเรตติ้งที่ AAโดยฟิทซ์ และเป็นกองทุนที่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุก3 เดือน ผลตอบแทนประมาณการที่ 2.65% ต่อปี และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
สำหรับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดการณ์ว่าเกาหลีใต้ อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 8 กรกฎาคม นี้ เนื่องจาก มีการปรับเพิ่มประมาณการณ์ GDP ในปี 2553 จากเดิม 5.00 % ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.80 % ประกอบกับแรงกดดันจากเงินเฟ้อของประเทศ ซึ่งคาดว่าอาจจะมากกว่า 3.00% ในช่วงครึ่งปีหลัง จึงทำให้ Yield ของพันธบัตรเกาหลีใต้ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นในทุกช่วงอายุ นับว่าเป็นโอกาสที่ดี สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว เพื่อล็อกผลตอบแทนไว้
นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดจำหน่ายรอบใหม่ สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 1 ( KTFIX3M1 ) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2553 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ 99 % ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์ อายุโครงการ 3 เดือน ผลตอบแทนประมาณการที่ 0.90% ต่อปี โดยไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ให้ผู้ลงทุนได้เลือกตามความเหมาะสม โดยมีตราสารหนี้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 12
( KTFF12 ) เปิดจำหน่าย วันที่ 30 มิถุนายน - 6 กรกฎาคม 2553 อายุ 1 ปี11 เดือน มูลค่า โครงการ 700 ล้านบาท มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนจะพิจารณาความมั่นคงของผู้ออกตราสารเป็นหลัก และเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสม เมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยง ส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในพันธบัตรภาครัฐประเทศเกาหลีใต้ ทั้ง 100% เครดิตเรตติ้งที่ AAโดยฟิทซ์ และเป็นกองทุนที่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุก3 เดือน ผลตอบแทนประมาณการที่ 2.65% ต่อปี และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
สำหรับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดการณ์ว่าเกาหลีใต้ อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 8 กรกฎาคม นี้ เนื่องจาก มีการปรับเพิ่มประมาณการณ์ GDP ในปี 2553 จากเดิม 5.00 % ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.80 % ประกอบกับแรงกดดันจากเงินเฟ้อของประเทศ ซึ่งคาดว่าอาจจะมากกว่า 3.00% ในช่วงครึ่งปีหลัง จึงทำให้ Yield ของพันธบัตรเกาหลีใต้ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นในทุกช่วงอายุ นับว่าเป็นโอกาสที่ดี สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว เพื่อล็อกผลตอบแทนไว้
นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดจำหน่ายรอบใหม่ สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 1 ( KTFIX3M1 ) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2553 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ 99 % ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์ อายุโครงการ 3 เดือน ผลตอบแทนประมาณการที่ 0.90% ต่อปี โดยไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย
4935
news & activity / เมื่อเธอเป็น “นักล่าฝัน” และฉันเป็น “กำลังใจ”
« on: July 05, 2010, 09:59:20 AM »
เมื่อเธอเป็น “นักล่าฝัน” และฉันเป็น “กำลังใจ”ในงาน Dream Catcher’s Day โดย ครูพี่แนน-เอ็นคอนเส็ปท์ “ความสำเร็จ” หรือ “ความพลาดหวัง”ที่เยาวชนได้พบ …“ไม่ใช่ฟ้าลิขิต แต่เป็นสิ่งที่ตัวเราได้ลิขิตชีวิตตัวเอง”
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เอ็นคอนเส็ปท์ อี แอคเคเดมี่ ได้จัดงาน E-Ceremony Dream Catcher’s Dayเพื่อแสดงความยินดีกับนักเรียนของสถาบันฯ ที่ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น และได้ก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัย หรือเข้าเรียนต่อในระดับมัธยมปลายในสถาบันการศึกษาที่วาดหวังไว้
งานเลี้ยงฉลองเล็ก ๆ จัดขึ้นอย่างอบอุ่น ณ เอ็นคอนเส็ปท์ สาขาพญาไท ชั้น 9 อาคารวรรณสรณ์ ท่ามกลางกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่สามารถพิชิตฝันเข้าสู่สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ที่มาร่วมงานร่วมงานอย่างคึกคัก รวมทั้งมีบุคคลในวงการศึกษามาร่วมเปิดทัศนะที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
นายดิลก พัฒน์วิชัยโชติ ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาในกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับเยาวชนทั้งหมดและให้ข้อคิดที่น่าสนใจว่า “สังคมวันนี้ต้องการคนเก่งที่เป็นคนดี ไม่ใช่เก่งเอาผลประโยชน์ส่วนตัว หรือละเลยสังคม ไม่สนใจบ้านเมือง ดังนั้น การเข้าสู่สถาบันการศึกษาแห่งใหม่ในวันนี้ ขอให้เยาวชนคิดเสมอว่า ต้องพัฒนาตัวเองเพื่อให้เป็นผู้ที่มี “ร่างกายสมบูรณ์ คือ มีหัวใหญ่ กายโต ใจกว้าง” ...ซึ่งแปลว่า คุณต้องมี ความรู้สติปัญญาดี สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ มีคุณธรรม ความคิดดี แสดงออกในทางที่ดี รวมทั้ง รู้จักอดทนต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อ เพราะนักวิชาการโลกได้กำหนดคุณสมบัติของพลเมืองโลกในศตวรรษที่ 21 ไว้ว่า ต้องเป็นผู้มีความสามารถเหนือกว่า ทั้งด้านการคิด การริเริ่ม สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เป็นนักแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ อีกทั้งต้องเป็นคนดี สื่อสารและทำงานเป็นทีมร่วมกับผู้อื่นได้ สุดท้ายคือต้องเป็นผู้มีจิตสาธารณะ เห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน”
ด้านครูพี่แนน-อริสรา ธนาปกิจ รองผู้อำนวยการและหัวหน้าทีมเอ็ดดูเทนเนอร์ แห่งเอ็นคอนเส็ปท์
อี แอคเคเดมี่ เปิดใจว่า “ไม่สำคัญว่าทุกคนจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการได้ทั้งหมด หากเราได้พยายามเต็มที่ อย่างทุ่มเทสุดความสามารถ มีความรับผิดชอบและมีวินัยต่อตัวเอง ก็ขอให้เยาวชนจงภูมิใจในตัวเอง และขอย้ำให้เยาวชนได้ระลึกไว้เสมอว่า “ความสำเร็จเกิดจากการที่เราลิขิตชีวิตตัวเอง ไม่ใช่ฟ้าประทาน” ...วันนี้รู้สึกภูมิใจและดีใจมากที่ปี 2553 นี้มีนักเรียนของสถาบันผ่านการสอบเข้าสู่คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยต่างๆได้มากกว่า 51% รวมไปถึงแต่ละคณะในแต่ละมหาวิทยาลัยต่างๆ อีกมากมาย สำหรับน้องที่พลาดหวังพี่แนนขอเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปนะคะ อย่ายอมแพ้ สู้ๆ คะ”
พลังของเหล่า “นักล่าฝัน” ที่ทำฝันเป็นจริง
สำหรับสุดยอดเหล่าเยาวชนคนเก่งที่พิชิตข้อสอบด้วยคะแนนอันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งมาร่วมงานด้วย อาทิ น้องอุ๊บอิ๊บ-นางสาวศิริมา ระงับภัย สอบติดอันดับ 1 ด้วยคะแนน 85% คณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ เล่าเคล็ดลับการเรียนและการสอบว่า “ต้องหาสิ่งที่เราชอบให้เจอก่อน แล้วตั้งเป้าหมายว่าเราอยากเป็นอะไร จากนั้นก็มุ่งหน้าทำให้เต็มที่ สิ่งที่หนูทำอยู่เสมอ คือ ตั้งใจเรียนในห้องเรียน ทำข้อสอบเก่ามาก ๆ หมั่นทบทวนเนื้อหาที่เรียน เพราะเชื่อว่าเมื่อทำเต็มที่แล้วผลที่กลับมาก็จะดีเอง ด้านภาษาอังกฤษเมื่อก่อนก็ไม่เด่นอะไร รู้สึกว่ากฎเยอะเหลือเกิน จำไม่ได้แน่ ๆ โชคดีที่ได้มาเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นระบบ ทำให้สามารถจัดการได้ดีขึ้น...หนูใช้เวลาเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยประมาณ 1 ปี แต่ที่จริงหนูได้อ่านหนังสือสะสมมาอยู่แล้วตั้งแต่ม.4 และม. 5 คะ”
ด้านน้องมะนาว-นางสาวปารมี กีรติวิทยานันท์ สอบได้ที่ 1 ของประเทศด้วยคะแนน 88.83% ติดคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “ตอนอยู่ชั้นม.4 ได้เรียนกฎหมายของวิชาสังคม รู้สึกชอบวิชามากนี้ เลยหันมาทุ่มเทด้วยการร่วมกิจกรรมเกี่ยวกฎหมาย ส่งประกวดเรียงความด้านกฎหมาย เพื่อตอกย้ำความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ...หนูคิดว่าด้วยสภาพสังคมที่ค่อนข้างมีปัญหา กฎหมายจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่หากอยู่ในมือคนที่บริสุทธ์และซื่อสัตย์จริง ๆ จะสามารถช่วยสังคมได้ค่อนข้างเยอะคะ สำหรับเคล็ดลับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยคือ ต้องมีความรับผิดชอบตัวเอง มีวินัย ถ้าวางแผนว่าจะทำก็ต้องทำให้ได้ ไม่ใช่เดี๋ยวค่อยทำ จะกลายเป็นดินพอกหางหมู ต้องมีความสม่ำเสมอไม่ใช่มาฟิตอ่านเฉพาะใกล้สอบคะ”
ด้านน้องวุฒิ- พูลสมบัติ สอบได้คะแนนคิดเป็น 82.97% คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าว่า “ต้องหาความชอบให้เจอก่อน มันถึงจะเป็นแรงใจให้เราอยากทำให้สำเร็จ ที่ผมเลือกคณะจิตวิทยา เพราะคิดว่า สังคมปัจจุบันมีปัญหาเรื่องนี้กันมาก คนเราขาดจิตสำนึก จึงอยากมีส่วนในการพัฒนาสังคม คิดว่าเป็นอาชีพที่สร้างสรรค์ประโยชน์และมีอนาคต เทคนิคความสำเร็จของผมส่วนหนึ่งคือ การใช้ภาษาอังกฤษให้ได้ทุกวัน อ่านทุกสิ่งที่เป็นภาษาอังกฤษ หากไม่เข้าใจก็จะต้องหาคำตอบให้ได้ ทำให้เราต่อยอดไปสู่เรื่องอื่น ๆ ได้เรื่อย ๆ การดูหนัง ฟังเพลง เพราะภาษาอังกฤษเข้าไปมีบทบาทในทุกอาชีพอยู่แล้ว”
วันนี้โลกต้องการ“คนเก่งที่เป็นคนดี” และ“เยาวชนที่สู้ไม่ถอย”
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เอ็นคอนเส็ปท์ อี แอคเคเดมี่ ได้จัดงาน E-Ceremony Dream Catcher’s Dayเพื่อแสดงความยินดีกับนักเรียนของสถาบันฯ ที่ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น และได้ก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัย หรือเข้าเรียนต่อในระดับมัธยมปลายในสถาบันการศึกษาที่วาดหวังไว้
งานเลี้ยงฉลองเล็ก ๆ จัดขึ้นอย่างอบอุ่น ณ เอ็นคอนเส็ปท์ สาขาพญาไท ชั้น 9 อาคารวรรณสรณ์ ท่ามกลางกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่สามารถพิชิตฝันเข้าสู่สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ที่มาร่วมงานร่วมงานอย่างคึกคัก รวมทั้งมีบุคคลในวงการศึกษามาร่วมเปิดทัศนะที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
นายดิลก พัฒน์วิชัยโชติ ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาในกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับเยาวชนทั้งหมดและให้ข้อคิดที่น่าสนใจว่า “สังคมวันนี้ต้องการคนเก่งที่เป็นคนดี ไม่ใช่เก่งเอาผลประโยชน์ส่วนตัว หรือละเลยสังคม ไม่สนใจบ้านเมือง ดังนั้น การเข้าสู่สถาบันการศึกษาแห่งใหม่ในวันนี้ ขอให้เยาวชนคิดเสมอว่า ต้องพัฒนาตัวเองเพื่อให้เป็นผู้ที่มี “ร่างกายสมบูรณ์ คือ มีหัวใหญ่ กายโต ใจกว้าง” ...ซึ่งแปลว่า คุณต้องมี ความรู้สติปัญญาดี สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ มีคุณธรรม ความคิดดี แสดงออกในทางที่ดี รวมทั้ง รู้จักอดทนต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อ เพราะนักวิชาการโลกได้กำหนดคุณสมบัติของพลเมืองโลกในศตวรรษที่ 21 ไว้ว่า ต้องเป็นผู้มีความสามารถเหนือกว่า ทั้งด้านการคิด การริเริ่ม สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เป็นนักแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ อีกทั้งต้องเป็นคนดี สื่อสารและทำงานเป็นทีมร่วมกับผู้อื่นได้ สุดท้ายคือต้องเป็นผู้มีจิตสาธารณะ เห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน”
ด้านครูพี่แนน-อริสรา ธนาปกิจ รองผู้อำนวยการและหัวหน้าทีมเอ็ดดูเทนเนอร์ แห่งเอ็นคอนเส็ปท์
อี แอคเคเดมี่ เปิดใจว่า “ไม่สำคัญว่าทุกคนจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการได้ทั้งหมด หากเราได้พยายามเต็มที่ อย่างทุ่มเทสุดความสามารถ มีความรับผิดชอบและมีวินัยต่อตัวเอง ก็ขอให้เยาวชนจงภูมิใจในตัวเอง และขอย้ำให้เยาวชนได้ระลึกไว้เสมอว่า “ความสำเร็จเกิดจากการที่เราลิขิตชีวิตตัวเอง ไม่ใช่ฟ้าประทาน” ...วันนี้รู้สึกภูมิใจและดีใจมากที่ปี 2553 นี้มีนักเรียนของสถาบันผ่านการสอบเข้าสู่คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยต่างๆได้มากกว่า 51% รวมไปถึงแต่ละคณะในแต่ละมหาวิทยาลัยต่างๆ อีกมากมาย สำหรับน้องที่พลาดหวังพี่แนนขอเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปนะคะ อย่ายอมแพ้ สู้ๆ คะ”
พลังของเหล่า “นักล่าฝัน” ที่ทำฝันเป็นจริง
สำหรับสุดยอดเหล่าเยาวชนคนเก่งที่พิชิตข้อสอบด้วยคะแนนอันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งมาร่วมงานด้วย อาทิ น้องอุ๊บอิ๊บ-นางสาวศิริมา ระงับภัย สอบติดอันดับ 1 ด้วยคะแนน 85% คณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ เล่าเคล็ดลับการเรียนและการสอบว่า “ต้องหาสิ่งที่เราชอบให้เจอก่อน แล้วตั้งเป้าหมายว่าเราอยากเป็นอะไร จากนั้นก็มุ่งหน้าทำให้เต็มที่ สิ่งที่หนูทำอยู่เสมอ คือ ตั้งใจเรียนในห้องเรียน ทำข้อสอบเก่ามาก ๆ หมั่นทบทวนเนื้อหาที่เรียน เพราะเชื่อว่าเมื่อทำเต็มที่แล้วผลที่กลับมาก็จะดีเอง ด้านภาษาอังกฤษเมื่อก่อนก็ไม่เด่นอะไร รู้สึกว่ากฎเยอะเหลือเกิน จำไม่ได้แน่ ๆ โชคดีที่ได้มาเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นระบบ ทำให้สามารถจัดการได้ดีขึ้น...หนูใช้เวลาเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยประมาณ 1 ปี แต่ที่จริงหนูได้อ่านหนังสือสะสมมาอยู่แล้วตั้งแต่ม.4 และม. 5 คะ”
ด้านน้องมะนาว-นางสาวปารมี กีรติวิทยานันท์ สอบได้ที่ 1 ของประเทศด้วยคะแนน 88.83% ติดคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “ตอนอยู่ชั้นม.4 ได้เรียนกฎหมายของวิชาสังคม รู้สึกชอบวิชามากนี้ เลยหันมาทุ่มเทด้วยการร่วมกิจกรรมเกี่ยวกฎหมาย ส่งประกวดเรียงความด้านกฎหมาย เพื่อตอกย้ำความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ...หนูคิดว่าด้วยสภาพสังคมที่ค่อนข้างมีปัญหา กฎหมายจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่หากอยู่ในมือคนที่บริสุทธ์และซื่อสัตย์จริง ๆ จะสามารถช่วยสังคมได้ค่อนข้างเยอะคะ สำหรับเคล็ดลับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยคือ ต้องมีความรับผิดชอบตัวเอง มีวินัย ถ้าวางแผนว่าจะทำก็ต้องทำให้ได้ ไม่ใช่เดี๋ยวค่อยทำ จะกลายเป็นดินพอกหางหมู ต้องมีความสม่ำเสมอไม่ใช่มาฟิตอ่านเฉพาะใกล้สอบคะ”
ด้านน้องวุฒิ- พูลสมบัติ สอบได้คะแนนคิดเป็น 82.97% คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าว่า “ต้องหาความชอบให้เจอก่อน มันถึงจะเป็นแรงใจให้เราอยากทำให้สำเร็จ ที่ผมเลือกคณะจิตวิทยา เพราะคิดว่า สังคมปัจจุบันมีปัญหาเรื่องนี้กันมาก คนเราขาดจิตสำนึก จึงอยากมีส่วนในการพัฒนาสังคม คิดว่าเป็นอาชีพที่สร้างสรรค์ประโยชน์และมีอนาคต เทคนิคความสำเร็จของผมส่วนหนึ่งคือ การใช้ภาษาอังกฤษให้ได้ทุกวัน อ่านทุกสิ่งที่เป็นภาษาอังกฤษ หากไม่เข้าใจก็จะต้องหาคำตอบให้ได้ ทำให้เราต่อยอดไปสู่เรื่องอื่น ๆ ได้เรื่อย ๆ การดูหนัง ฟังเพลง เพราะภาษาอังกฤษเข้าไปมีบทบาทในทุกอาชีพอยู่แล้ว”
วันนี้โลกต้องการ“คนเก่งที่เป็นคนดี” และ“เยาวชนที่สู้ไม่ถอย”