Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - fh400

Pages: 1 [2] 3 4 ... 141
16
"อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์" ยกงานแสดงสินค้า B2B อัญมณีมาตรฐานเบอร์หนึ่งโลก
จัดที่ประเทศไทย Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2024
ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านงานแสดงสินค้าธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับในภูมิภาค


อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เตรียมเปิดม่านงานแสดงสินค้า B2B ชั้นแนวหน้าแห่งอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ใจกลางกรุงเทพฯ ประเทศไทย ภายใต้มาตรฐานการจัดแสดงที่พิสูจน์ความสำเร็จมาแล้วทั่วโลก ในงาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2024 (JGAB 2024) วันที่ 1-4 พฤษภาคม 2567 นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ปูพรมผู้ประกอบการไทยเดินหน้าสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ไม่มีสิ้นสุด กับผู้ร่วมแสดงสินค้ากว่า 500 รายจาก 15 ประเทศทั่วโลก พร้อมผู้ซื้อคุณภาพจากกว่า 60 ประเทศ ยิ่งใหญ่กว่าเดิมบนพื้นที่จัดแสดงที่เพิ่มขึ้น 50% รายล้อมด้วยแฟชั่นเวิร์คช้อป งานสัมมนา กิจกรรมนำเทรนด์ธุรกิจ ตอบโจทย์ทุกการเติบโตของธุรกิจบนเวทีระดับสากล จองบูธได้แล้วที่ https://bit.ly/46J3xIO หรือลงทะเบียนร่วมงานล่วงหน้าได้ทาง https://bit.ly/3wbBlRR

คุณสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาเก็ตส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ชื่อของ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จิวเวลเลอรี่ (Informa Markets Jewellery) เป็นที่รู้จักดีในระดับนานาชาติ ในฐานะผู้จัดงานแสดงสินค้า B2B อันดับ 1 ของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ที่มีเครือข่ายอีเว้นท์ร่วม 30 งานในกว่า 10 เมืองสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ประสบความสำเร็จในการสร้างแรงขับเคลื่อนครั้งใหญ่ให้กับตลาดอัญมณีทั่วโลก จากการดึงดูดผู้ซื้อและผู้จัดแสดงที่มากด้วยศักยภาพมารวมตัวในงานแสดงสินค้าที่หลากหลาย อาทิ Jewellery & Gem WORLD Hong Kong, Jewellery & Gem ASIA Hong Kong รวมถึงครั้งแรกของการจัดงาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok (JGAB) ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนสามารถยกระดับให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นอีกศูนย์กลางตลาดอัญมณีแห่งสำคัญของโลก



ความสำเร็จของ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จิวเวลเลอรี่ เกิดจากความเข้าใจในอุตสาหกรรมอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นแง่ของแนวโน้มในตลาดอัญมณี จนถึงการจัดวางทิศทางงานแสดงสินค้า พร้อมความสามารถในการนำมาต่อยอดสร้างประสบการณ์คุณภาพให้กับผู้มาเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าได้เป็นอย่างดี โดยอินฟอร์มาฯ ได้วางกลยุทธ์การจัดงานโดยนำเสนอความน่าสนใจในทุกตารางเมตร เช่นมุมวัตถุดิบ Color Gemstone, Loose Diamond, Pearls ฯลฯ หรือในมุมของอัญมณีและเครื่องประดับสำเร็จรูป ไปจนถึงส่วนจัดแสดงนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ในกลุ่มงานผลิต บรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ทั้งยังเติมเต็มชีวิตชีวาให้งานด้วยแรงดึงดูดของ PAVILIONS นานาประเทศ ซึ่งอาจนับเป็นเอกลักษณ์ของอินฟอร์มาฯ ในการดึงเอาศักยภาพของอัญมณีแต่ละประเทศออกมาจัดแสดงได้อย่างเต็มที่

อีกทั้ง ความสำเร็จดังกล่าวยังถูกตอกย้ำด้วยภาพรวมการเติบโตบนเวทีอุตสาหกรรมอัญมณีในแต่ละภูมิภาค สะท้อนให้เห็นผ่านจำนวนเครือข่ายธุรกิจที่เข้ามาร่วมงานอย่างล้นหลาม ตั้งแต่ ผู้จัดแสดง 3,422 คน จาก 44 ประเทศในงาน JGW และ 1,688 คน จาก 33 ประเทศในงาน JGA รวมถึงด้านความร่วมมือกับหน่วยงานชั้นนำที่ช่วยยกระดับแพลตฟอร์ม B2B อย่างมีคุณภาพ อาทิ เวทีสัมมนาโดยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ เวทีประกวดส่งเสริมพัฒนาฝีมือ เป็นต้น และกลางปีนี้เป็นอีกครั้งที่ประเทศไทย จะได้เปิดประตูต้อนรับผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับจากทั่วโลก เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ไม่มีสิ้นสุด ที่งาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2024 (JGAB 2024) ในระหว่างวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์



โดยงานแสดงสินค้าด้านอัญมณีและเครื่องประดับแห่งภูมิภาคอาเซียน ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 นี้ ได้จัดขึ้นภายใต้มาตรฐานเดียวกันกับงาน Jewellery & Gem ทั่วโลก พร้อมสัมผัสความยิ่งใหญ่กว่าเคย บนพื้นที่จัดแสดงเพิ่มขึ้นถึง 50% รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ ซึ่งออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่พร้อมสานต่อทุกแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้ธุรกิจในมือของผู้มาเยี่ยมชม เตรียมพบกับ

- ผู้ร่วมแสดงสินค้ากว่า 500 รายจาก 15 ประเทศทั่วโลก ที่เข้ามาสร้างสรรค์ผลงานผสมผสานที่ลงตัวของงานฝีมือและความคิด จากคอลเลกชั่นอัญมณีและเครื่องประดับหายากมากกว่า 10,000 รายการ และละลานตากับวัตถุดิบและชิ้นงานสำเร็จที่ตอบโจทย์ธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
- ผู้ซื้อคุณภาพจากทั่วโลกกว่า 60 ประเทศ ที่เข้ามาด้วยความเชื่อมั่นในเครือข่ายธุรกิจอัญมณีระดับโลก โดยคาดการณ์จำนวนผู้เข้าชม ผู้ซื้อตัวจริงในอุตสาหกรรม และผู้นำเทรนด์จากเวทีเครื่องประดับระดับโลก เข้ามาเชื่อมต่อรวมกันไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากภูมิภาคอาเซียน อินเดีย จีน และตะวันออกกลาง
- เวิร์คช้อป สัมมนา และกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจ ที่เป็นการเปิดทุกเทรนด์เครื่องประดับล่าสุดไปจนถึงข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรม พร้อมที่จะช่วยยกระดับความเชี่ยวชาญ ขยายขอบเขตความรู้และความคิดสร้างสรรค์ออกไปอย่างไม่มีสิ้นสุด



เตรียมความพร้อมเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2024 (JGAB 2024) เวทีมาตรฐานงานแสดงสินค้าระดับโลก เพื่อโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับผู้ประกอบการด้านอัญมณีและเครื่องประดับไทยที่ต้องการเติบโตและขยายธุรกิจไปสู่ตลาดสากล ขอเชิญผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมงาน JGAB 2024 เลือกทำเลที่เหมาะสมที่สุด จองบูธได้แล้ววันนี้ที่ https://bit.ly/46J3xIO หรือโทร 063-796-5464 คุณฐิติมา พร้อมลงทะเบียนร่วมงานล่วงหน้าได้แล้วที่ https://bit.ly/3wbBlRR

หรือดูรายละเอียดและติดข่าวสารเพิ่มเติม ได้ทาง
Website: https://jewellerygemaseanbkk.com
Facebook: https://www.facebook.com/JGABThailand
IG: https://www.instagram.com/jewelleryandgemaseanbangkok/
LinkedIn: https://www.linkedin.com/in/jewellery-and-gem-asean-bkk/
Line: https://lin.ee/cp9sd85

17
จุดเริ่มต้นที่พิเศษของชีวิตที่ "แฮตตัน เรสซิเดนซ์ สิริโสธร"
(HATTON- RESIDENCE SIRI SOTHORN ) บ้านเดี่ยวระดับ Luxury สไตล์ Modern English


นับว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวสุด Luxury สไตล์ Modern English  สำหรับ "แฮตตัน" (HATTON RESIDENCE) บนถนนสิริโสธร ฉะเชิงเทรา ที่บริษัท มารวย เรียลเอสเตท จำกัด ได้บรรจงสร้างบนพื้นที่กว่า 30 ไร่ จำนวน 123 ยูนิต  เพื่อให้เป็นโครงการที่หรูที่สุดพร้อมสังคมคุณภาพ  "ดร.สืบวงษ์ สุขะมงคล" ประธานกรรมการบริหาร แพทโก้ กรุ๊ป เผย "แฮตตัน" (HATTON - RESIDENCE SIRI SOTHORN) ถือเป็นบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบที่สุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Where Your Luxury Life Begins" ที่สุดของการใช้ชีวิต เริ่มต้นที่นี่ ด้วยวิถีชีวิตที่เหนือระดับบนโลเคชั่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดของฉะเชิงเทรา ด้วยทำเลที่ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งอาคารสโมสร สระว่ายน้ำ ฟิตเนส กล้อง CCTV และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม ให้ชีวิตทุกวันของคุณเพียบพร้อมแลเต็มไปด้วยความสุนทรีย์ ตลอดจนใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ที่คุณสามารถเข้าถึงทุกการเดินทางได้อย่างคล่องตัว


พบกับ "แฮตตัน" (HATTON- RESIDENCE SIRI SOTHORN) บนถนนสิริโสธร สะดวกทุกการเดินทาง  ในราคาเริ่มต้นที่ 7.49 ล้านบาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 098-498-9555

18
ซูเลียน ร่วมยินดีคู่รักจดทะเบียนวันวาเลนไทน์
มอบทองเป็นของขวัญ ให้คู่รักปีมังกร


นางสาวอัยรินทร์ จุลล์จักรวงศา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซูเลียน ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย นายไพโรจน์ จึงธนาเจริญ นายอำเภอบางบัวทอง ร่วมเป็นประธานในพิธี และเป็นสักขีพยานในงาน จดทะเบียนสมรส ในวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก ภายในงานมีกิจกรรมให้ร่วมสนุก รวมถึงมีการจับรางวัลผู้โชคดี รับสร้อยคอทองคำ มูลค่า 1 สลึง จำนวน 2 เส้น โดยบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความอบอุ่น ณ เฟิร์ส อเวนิว บางบัวทอง เมื่อเร็วๆ นี้

19

นาย นาโอโตะ เซคิดะ ประธานบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด นาย ไดสุเกะ มุราคามิ ประธานบริษัท สยามไดกิ้นเซลล์ จำกัด และนาย ทาคาชิ โออิ ประธานบริษัท ไดกิ้น คอมเพรสเซอร์ อินดัสทรีส์ จำกัด เข้ารับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น หรือ The Prime Minister’s Industry Award 2023 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล จากนายกรัฐมนตรีเศรฐา ทวีสิน
                กลุ่มบริษัทไดกิ้น ประเทศไทย ได้มุ่งเน้นความสําคัญของการลงทุนยกระดับในด้านเทคโนโลยี ภายใต้สโลแกน PERFECTING THE AIR เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและสามารถตอบสนองความต้องการอากาศคุณภาพของผู้บริโภคในทุกช่วงเวลารวมถึงมีการพัฒนาให้สอดรับกับการเปลื่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมโลก และ นโยบายของรัฐบาล ด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและ ความยั่งยืน ภายใต้มาตรฐานใหม่ของภาครัฐ ด้วยผลิตภัณฑ์ไดกิ้น Max Inverter KZ Series โดยมุ่งเน้นพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ใช้พลังงานต่ำสุด ปริมาณการปล่อยคาร์บอนต่ำสุด จากการออกแบบกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กระบวนการจัดหาชิ้นส่วนสีเขียว รวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยี IAQ (Indoor Air Quality) ร่วมกับเทคโนโลยี Streamer ที่เป็นลิขสิทธิเฉพาะของไดกิ้น โดยมีประสิทธิภาพควบคุมฝุ่น ( PM 2.5) และละอองติดเชื้อ (ASHRAE Standard 241) เพื่อคุณภาพอากาศภายในอาคารที่ดีเหมาะสมกับผู้ใช้งานในยุคปัจจุบัน
               จากศักยภาพ และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนก้าวสู่ปีที่ 34 ส่งผลให้ บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 และขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องจากประเทศญี่ปุ่น สู่การเป็นฐานการผลิต, ศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์หลัก และเป็นศูนย์กลาง ในการกำกับดูแลการบริหารจัดการในภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย ส่งผลให้บริษัท ฯได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2566 ถึง 2 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต (Manufacturing and Service of the Future) และ ประเภทการบริหารความปลอดภัย (Safety Management)
               อีกทั้ง ประเทศไทยได้ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจซึ่งผลักดันให้เปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศไทย 4.0 ด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ Value-Based Economy บริษัทฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมไปสู่ทิศทางดังกล่าว และเป็นการตอกย้ำถึงความเอาใจใส่ของผู้บริหาร และการคำนึงถึงความปลอดภัยของพนักงาน ทำให้พนักงานทุกระดับมีความมั่นใจและเกิดแรงจูงใจในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล กระทรวงอุตสาหกรรมจึงมอบรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต และประเทศการบริหารความปลอดภัย เพื่อประกาศเกียรติคุณให้ บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเป็นแบบอย่างแก่ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมและสร้างแรงผลักดันแก่อุตสาหกรรมและเพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจใหม่ของประเทศในอนาคต
               ในขณะเดียวกัน บริษัท ไดกิ้น คอมเพรสเซอร์ อินดัสทรีส์ จำกัด ผู้ผลิตคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ ภายใต้แบรนด์ “ไดกิ้น” มุ่งมั่นพัฒนาระบบการบริหารงานเพื่อยกระดับการดำเนินงานโดยปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง มีการนำระบบ Automation, IoT มาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมการทำงาน ด้วยภายใต้หลักการบริหารนี้ ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ที่โดดเด่นและสอดคล้องกับนโยบาย 4.0 ของกระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้รับเลือกให้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทการเพิ่มผลผลิต (Productivity) เพื่อเป็นแบบอย่างการบริหารจัดการโรงอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนต่อไป
รางวัลอันทรงเกียรติครั้งนี้จึงเป็นสิ่งยืนยันความมุ่งมั่น ตั้งใจพัฒนาสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ของผลิตภัณฑ์ไดกิ้น โดยส่งมอบสินค้าที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน และเป็นรากฐานการพัฒนาและขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทไดกิ้น ประเทศไทย อย่างยั่งยืนต่อไป

20
มารู้จัก “ซิมาเทค” มือปราบมลพิษทางอากาศด้วยฝีมือคนไทย ใช้โซลูชั่นแก้ปัญหากำจัดฝุ่น กลิ่น และเสียงของโรงงานอุตสาหกรรม เช่น โรงปูนซีเมนต์ โรงสีข้าว โรงงานอาหารสัตว์ และโรงงานเหล็ก ลดผลกระทบต่อชุมชน ช่วยเหลือลูกค้าอาการหนัก หรือ ICU มาแล้วกว่า 6,000 โครงการ ด้วยการการันตีผลลัพธ์ 99.9%


         นายอรรถพันธ์ ปริวราพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิมาเทค จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจของ Simatek (ซิมาเทค) คือ การบำบัดมลพิษทางอากาศ ผ่านโซลูชั่นต่างๆ ด้วยการออกแบบ ติดตั้งระบบ และเครื่องกำจัดฝุ่น จัดการฝุ่น ควัน กลิ่น และเสียงตามโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากโรงงานส่วนใหญ่จะต้องผ่านมาตรฐานและกฎหมาย EIA หรือ EIA-Environmental Impact Assessment เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนเมื่อโรงงานอุตสาหกรรมจะต้องมีระบบควบคุมมลพิษ ดังนั้นธุรกิจของ Simatek จึงมีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก โดยเราเริ่มธุรกิจดังกล่าวในประเทศไทยเมื่อปี 2534 แต่ดั้งเดิมแล้วบริษัท ซิมาเทค ที่เราเทกโอเวอร์มาจากเดนมาร์กนั้นทำมาตั้งแต่ปี 2507 ปัจจุบันซิมาเทคได้ร่วมพัฒนาโครงการบำบัดมลพิษทางอากาศไปแล้วกว่า 6,000 โปรเจกต์ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นโรงปูนซีเมนต์ โรงสีข้าว โรงงานอาหารสัตว์ และโรงงานเหล็กโดยเฉพาะกลุ่มโรงงานอาหารสัตว์ หรือโรงงานที่เกี่ยวข้องกับปศุสัตว์ที่มีทั้งฝุ่น มีทั้งกลิ่น และตัวโปรดักส์ หรือผลิตภัณฑ์ โดยโรงงานอาหารสัตว์ที่เราดูแลเมืองไทยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% เราถือเป็นเจ้าตลาดที่ลูกค้ารู้จักและให้ความมั่นใจ


         "ลูกค้าแต่ละรายจะปัญหาไม่เหมือนกัน ซึ่งเราต้องไปดูหน้างานเพื่อวางแผนออกแบบ หรือ Custom เครื่องจักร พร้อมกับหาโซลูชั่นเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะกระบวนการต่างๆ การผลิต และปัญหาของลูกค้าจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บางเจ้าอาจจะโดนปัญหาเรื่องควัน ส่วนอีกเจ้าโดนปัญหาเรื่องกลิ่นการ แก้ปัญหาก็จะแตกต่างกันไป ซึ่งลูกค้าในเมืองไทยส่วนใหญ่เราจะรับลูกค้า ICU หรือลูกค้าหนักๆ เราการันตี 99.9% ลูกค้าส่วนใหญ่ของซิมาเทคจะเป็นลูกค้าที่เข้าใจระบบการทำงานของเรา ซึ่งหากลูกค้าถูกร้องเรียนเราก็จะรีบเข้าไปช่วยเหลือทันที" สำหรับ Know-how หรือ ความรู้ต่างๆ จากเดนมาร์กที่เทคโอเวอร์มานั้นเราได้นำมาพัฒนาต่อยอดมาเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล หรือ Database โดยเฉพาะการกำจัดกลิ่น หรือฝุ่นที่มีความเฉพาะตัวในประเทศไทยแน่นอนว่า know-how ในต่างประเทศอาจจะไม่มี เช่น การกำจัดกลิ่นให้กับโรงงานผลิตน้ำปลาร้า โรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่ต้องใช้มันเส้น ซึ่งมีวิธีกำจัดของเสียไม่เหมือนกัน นายอรรถพันธ์ ยกตัวอย่างเช่นว่า ย้อนกลับไปเมื่อปี 2554 มีโรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งหนึ่งถูกชุมชนโดยรอบ โดยเฉพาะวัดร้องเรียนปัญหาเรื่องกลิ่น ควัน และฝุ่น พร้อมกับขีดเส้นตายว่าจะต้องแก้ไขให้ได้ภายใน 15 วัน ทางเจ้าของโรงงานดังกล่าวก็ติดต่อบริษัทมา ซึ่งเราใช้เวลาประมาณ 14 วันก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ ทำให้โรงงาน วัด และชุมชนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขนอกจากนี้ซิมาเทคยังหาโซลูชั่นให้กับลูกค้าเพื่อแก้ไขปัญหาที่ลูกค้าอาจไม่เห็น เช่น มีโรงงานผลิตกาแฟของบริษัทแห่งหนึ่ง มีกลิ่นกาแฟออกมาบ้าง ซึ่งก็ส่งกลิ่นหอมดี แต่ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้นต้องได้กลิ่นกาแฟทุกวันก็อาจจะไม่ไหว แม้วันที่เราเข้าไปคุยจะยังมีปัญหาร้องเรียน และโรงงานก็มองว่าไม่ใช่ปัญหา แต่เราก็บอกกับผู้บริหารของบริษัทผลิตกาแฟว่า กลิ่นกาแฟที่ล่องลอยในอากาศขณะนี้ คือ โปรดักส์ ซึ่งถ้าไม่มีกลิ่นลอยออกมาก็แปลว่า โปรดักส์คุณไม่ได้หลุดลอดออกมา


         "กลิ่นของโปรดักส์มีโมเลกุลที่เล็กมากและมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เมื่อมันหลุดรอดออกไปในอากาศ ถ้าสามารถเก็บโปรดักส์ที่เป็นกลิ่นกาแฟกลับเข้ามาอยู่ในขวดคุณจะขายได้มากขึ้น ซึ่งลูกค้าก็ไม่เชื่อคิดว่าน่าจะไม่มีอะไร เราก็เลยคำนวณต้นทุนต่างๆ และคิดเป็นเงินออกมาให้เห็น และเราก็ทำ back to back bank guarantee ก็คือ ให้บริษัทซื้อเครื่องจักรจากเรา โดยลูกค้าจะจ่ายเงินให้เราเป็นแบงก์การรันตี หรือเป็นเงินสดให้ก็ได้ และภายใน 18 เดือนนี้เราจะทำ bank guarantee ให้กับบริษัทอีกหนึ่งชุด สมมติว่าลูกค้าคิดว่าจ่ายเงินเราแล้วไม่มีประโยชน์ก็เอา bank guarantee ไปขึ้นเงินได้เลย แต่ ปรากฎว่า 18 เดือนถัดมาลูกค้าก็สั่งเครื่องจักรมาอีก เพราะเห็นแล้วว่ามีความคุ้มค่ามากกว่า" ปัจจุบัน ซิมาเทค ได้นำ Robot Auto เข้ามาช่วยเรื่องการผลิต แต่หากเป็นงานที่ต้องใช้ฝีมือเราก็ยังคงใช้แรงงานที่มีฝีมือเข้ามาจัดการอยู่ ที่สำคัญเรามีบริหารจัดการที่ดีไม่ว่าจะเป็นลดการสูญเสีย เพื่อเข้ามาคุมต้นทุนต่างๆ แม้ต้นทุนของวัตถุในการผลิตชิ้นงานจะสูงขึ้นก็ตาม รวมถึงพัฒนาทักษะแรงงานให้สามารถพัฒนาตามโซลูชั่นต่างๆ ที่กำลังเข้ามาเพิ่มเติมอีกในอนาคต

นายอรรถพันธ์ กล่าวอีกว่า วันที่ 12-14 มีนาคม 2567 นี้เราจะไปร่วมงาน VICTAM Asia ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและการประชุมชั้นนำระดับโลกด้านอุตสาหกรรมการผลิตอาหารสัตว์ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ ซึ่งซิมาเทคได้เข้าไปร่วมงานทุกๆ ปี เนื่องจาก VICTAM เป็นหนึ่งในองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และเราก็ร่วมงานกับทางวิคแทม เอเชีย มาตั้งแต่ปี 2545

"เราก็รู้สึกว่า 360 วันมีแต่การเดินทางไปพบลูกค้า แต่ไม่มีโอกาสได้พบกับเจ้าของกิจการเลย ส่วนใหญ่ก็จะพบกับผู้แทนของบริษัท แต่เมื่อเรามายืนหน้าบูธ เราจะพบกับเจ้าของกิจการต่างๆ เข้ามาทักทาย เข้ามาพูดคุยกับเรา ซึ่งสองปีที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสพบปะลูกค้า VIP กับ Super VIP เป็นจำนวนมาก และการออกบูธของซิมาเทคกับวิสแทมนั้นไม่ได้เป็นการแสดงสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ได้พูดคุยพบปะลูกค้าตัวจริง แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่างๆ ระหว่างกันและกันอีกด้วย"

21

บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด บุกตลาด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดโปรแกรมพิเศษ OPP แนะนำธุรกิจ นำทีมผู้บริหารโดย คุณณัชชานนท์ จุลล์จักรวงศา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (CMO) คุณภานุสรรค์ จุลล์จักรวงศา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูล (CDO) และทีมผู้บริหาร ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย อาทิ การแนะนำธุรกิจ การสาธิตสินค้า รวมถึงได้รับเกียรติจากวิทยากรที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจซูเลียน มาร่วมแชร์ประสบการณ์ อาทิ คุณไพบูลย์ เมืองอุดม ผู้จัดการขายระดับมงกุฎอิสริยะ (RCD) คุณวิมุกดา ภูทับทิม ผู้จัดการขายระดับมงกุฎอิสริยะ (RCD) คุณชายแดน ภูทับทิม ผู้จัดการขายระดับมงกุฎอิสริยะ (RCD) งานนี้ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจซูเลียนในพื้นที่และ จาก สปป.ลาว และจังหวัดใกล้เคียง ร่วมงานอย่างคับคั่ง จัดขึ้น ณ โรงแรม แม่โขง เฮอริเทจ จ.นครพนม เมื่อเร็ว ๆ นี้

22
ซูเลียน เดินหน้าจัด Roadshow ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ ขนทัพเหล่าผู้นำมากความรู้และประสบการณ์ ที่จะเดินทางไปพบคุณ งานนี้ซูเลียนทุ่มสุดตัว สร้างนักขายป้อนสู่เครือข่ายธุรกิจที่ดีที่สุด จัดใหญ่ทั้ง 4 ภาค อาทิ กรุงเทพฯ  พบกับ RCM Saw Aung Min Soe ตัวแทนจาก Zhulian Enterprise Myanmar Co.,Ltd , ภาคเหนือ พบกับ  RCD วิมุกดา ภูทับทิม และ RCD ชายแดน ภูทับทิม, ภาคใต้ RCM ดร.ชาญชัย เจ้ยชุม และภาคอีสาน RCM สุรัตน์ เกื้อกูล พร้อมด้วย CDM โกมล ศรีประศาสตร์ มาพบกับมุมมองและเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ไปพร้อมกับเรา งานนี้ท่านจะได้ความรู้เรื่องการทำแผนการตลาด การตลาดออนไลน์เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจได้อย่างแน่นอน เช็คตารางแล้วเตรียมตัว เตรียมหัวใจไปให้พร้อม  ใครใกล้ที่ไหน ไปที่นั่น ปักหมุดรอได้เลย แล้วพบกัน

23

นายสายัณห์ นวกิจรังสรรค์ Deputy Director บริษัท แอลจี เคม ไลฟ์ ไซเอนเชส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นประธานมอบรางวัลในงาน Yvoire Award 2024 โดยมี นางสาวสกุลตา ทองสง่า CEO & Founder M Med Clinic ขึ้นรับรางวัลในครั้งนี้ ซึ่งงาน Yvoire Award จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 รวม 5 ประเภทรางวัล อาทิ โล่เกียรติยศสำหรับคณาจารย์ที่ให้ความรู้, รางวัลสูงสุดสำหรับคลินิกที่มีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มฯ (The Highest Top Spending) 2 รางวัล ทั้งนี้ยังได้จัดงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้า ภายใต้กิจกรรม “A Dazzling Fiesta for Supreme Spenders” เพื่อเป็นการขอบคุณคู่ค้าผู้มีอุปการะคุณของบริษัทฯ ซึ่งล้วนเป็นคณาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ และผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจความงามชั้นนำ ร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้

24
ไดกิ้น เปิดตัว "MAX Inverter Star Series" ในเครื่องปรับอากาศซีรีย์ใหม่ 5 รุ่น
ดึง "ณเดชน์-บิวกิ้น" ร่วมถ่ายทอดปรากฏการณ์อากาศสมบูรณ์แบบ-คุ้มค่าเต็ม MAX


นายไดสุเกะ มุราคามิ ประธานบริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด แถลงข่าวเปิดตัว Daikin MAX Inverter Star Series ปรากฏการณ์คุ้มอย่าง MAX กับการต่อยอดที่สุดแห่งเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ ให้ความคุ้มแบบเต็ม MAX ผ่านผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง 5 รุ่นใหม่ ชูความโดดเด่นด้วย 4 ฟังก์ชัน ประหยัดไฟ-เย็นเร็ว-ทนทาน-ทำงานเงียบ ขยายระยะเวลารับประกัน 5 ปีเต็มสำหรับเครื่องปรับอากาศติดผนัง Series Y ทุกรุ่น ผ่าน 2 พรีเซ็นเตอร์ ณเดชน์ คูกิมิยะ คู่ บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ร่วมถ่ายทอดปรากฏการณ์สร้างอากาศสมบูรณ์แบบเพื่อคนทุกคนผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่

25
AUA จับมือ "สภาทนายความฯ" ลงนาม MOU พัฒนาหลักสูตรภาษาอังกฤษและการสื่อสารสำหรับสายอาชีพทนายความ


โรงเรียนสถานสอนภาษาสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกา (เอยูเอ) ร่วมกับ สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) พัฒนาและจัดทำหลักสูตรภาษาอังกฤษและสื่อสารสำหรับทนายความ มุ่งเน้นสร้างการเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะการพูดและการสื่อสารภาษาอังกฤษรองรับการใช้งานจริงในสายอาชีพทนายความ โดยหลักสูตรแรก English for Notarial Services Attorney เปิดสอนในรูปแบบของ Workshop

นายเอกพงษ์ ณ ระนอง ผู้อำนวยการบริหาร โรงเรียนสถานสอนภาษาสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกา (เอยูเอ) กล่าวถึงการลงนาม MOU ครั้งนี้ว่า "เอยูเอ เป็นสถาบันที่มีเป้าหมายในการจัดทำหลักสูตรการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและการสื่อสารที่ตอบโจทย์กับผู้เรียนทุกกลุ่ม ซึ่งนั่นรวมถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องใช้ทักษะทางภาษาเฉพาะของสายงานอีกด้วย จึงทำให้สถาบันฯ มีประสบการณ์ที่ครอบคลุมและประสบความสำเร็จในการพัฒนาหลักสูตรสำหรับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในหลากหลายอุตสาหกรรม เป็นที่ยอมรับกันในองค์กรวิชาชีพมาโดยตลอด และความร่วมมือนี้ ก็เป็นโจทย์ครั้งใหม่ที่ความเชี่ยวชาญของเอยูเอจะมีส่วนช่วยฝึกฝนทักษะบุคลากรวิชาชีพกฎหมาย ในการร่วมมือจัดทำและพัฒนาหลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับทนายความ กับ สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์"



หลักสูตรแรกที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างเอยูเอและสภาทนายความฯ จะถูกจัดทำขึ้นในรูปแบบ Workshop ชื่อว่า 'English for Notarial Services Attorney' ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้รับการฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษเฉพาะด้านในสายอาชีพทนายความ พร้อมยังมีการนำเนื้อหาในสถานการณ์ต่าง ๆ มาประยุกต์ ออกแบบบทเรียนที่ตอบโจทย์กับการนำไปใช้ทำงานจริง ทั้งในองค์ความรู้ด้านการพูด การออกเสียง และการสื่อสารที่ถูกหลักการและตรงประเด็น ทำให้หลักสูตรนี้เหมาะกับทั้งทนายความและผู้ที่ประกอบวิชาชีพทางด้านกฎหมาย

ด้าน ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความฯ กล่าวเสริมว่า อาชีพทนายความเป็นอาชีพที่ต้องให้ความสำคัญกับการสื่อสารอย่างมาก อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงในยุคใหม่ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าการมีทักษะด้านภาษาอังกฤษจะช่วยเพิ่มโอกาสที่เปิดกว้างต่อการทำงานในระดับที่สูงขึ้น แปลว่าความร่วมมือกับเอยูเอในการจัดทำหลักสูตรนี้ เราจะได้รับตัวช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่ทันสมัย และเป็นประโยชน์ต่อบุคลากรทนายความ เพื่อที่จะนำมาต่อยอดพัฒนาตนเองและยกระดับวงการกฎหมายไทยให้มีมาตรฐานขึ้นไปอีกขั้น



นอกเหนือจากนี้ เอยูเอและสภาทนายความฯ ยังมองว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับการต่อยอดความร่วมมือ เพื่อร่วมกันพัฒนาหลักสูตรภาษาอังกฤษทางกฎหมายในด้านต่าง ๆ ที่มีความเหมาะสมกับเป้าหมายที่แตกต่างกัน รวมถึงรองรับต่อการใช้งานภายใต้มิติการเรียนรู้ที่หลากหลาย

เอยูเอมีหลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษที่หลากหลายเหมาะสำหรับผู้เรียนทุกวัย และระดับทักษะภาษาอังกฤษ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทาง facebook.com/AUALC

26

ดร. ปิยะวัฒน์ จุลล์จักรวงศา ประธานกรรมการ บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วยนายควรคิด แดงคงแก้ว ผู้จัดการขายระดับมงกุฎอิสริยะ (RCD), นางสุรีรัตน์ แดงคงแก้ว ผู้จัดการขายระดับมงกุฎเพชร (CDM) ร่วมกันเปิด “ ซูเลียน เฟิร์ส หาดใหญ่ เอเจนซี่ (HAH)” จ.สงขลา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับตัวแทนในเครือข่าย ลูกค้าซูเลียนในจังหวัดสงขลา และพื้นที่ใกล้เคียงในการเลือกซื้อสินค้าของบริษัท โดยมี นายภานุสรรค์ จุลล์จักรวงศา
นายณัฐชานนท์ จุลล์จักรวงศา , ดร.ชาญชัย เจ้ยชุม ร่วมพิธีเปิด ณ บจก. เฟิร์ส หาดใหญ่ เอเจนซี่ เมื่อเร็ว ๆ นี้

27
"แอลจี เคม ไลฟ์ ไซเอนเชส" จัดงานมอบรางวัล "YVOIRE AWARD"
ขอบคุณคณาจารย์-คลินิกผู้สนับสนุน ย้ำความสำเร็จสารเติมเต็มฯ ยอดนิยมในไทย


บริษัท แอลจี เคม ไลฟ์ ไซเอนเชส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสารเติมเต็มบนใบหน้าจาก 'LG Chem Life Sciences ประเทศเกาหลีใต้' จัดงานมอบรางวัล 'YVOIRE AWARD' ภายใต้กิจกรรม A Dazzling Fiesta for Supreme Spenders ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ส่งต่อคำขอบคุณถึงคณาจารย์ผู้ให้ความรู้และคลินิกผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ รวม 5 ประเภทรางวัล ตั้งเป้าลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้มากกว่าเดิม พร้อมนำพาความสำเร็จสู่งาน YVOIRE AWARD ในปีหน้า

นายสายัณห์ นวกิจรังสรรค์ Deputy Director บริษัท แอลจี เคม ไลฟ์ ไซเอนเชส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2023 ที่ผ่านมานี้ ถือเป็นอีกหนึ่งปีความสำเร็จของตลาดความงามไทย รวมถึงตัวบริษัทฯ ที่มีมูลค่าและการเติบโตเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความนิยมในผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มบนใบหน้ากลุ่มกรดไฮยาลูรอนิก ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์และสร้างชีวิตที่ดีขึ้นแก่ผู้บริโภคได้แบบครอบคลุม อีกทั้งบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการสื่อสารสร้างความเข้าใจในผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ จนเกิดการยอมรับในกลุ่มอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ เกิดการส่งต่อความรู้รวมถึงมีการนำผลิตภัณฑ์ฯ ไปใช้อย่างแพร่หลายในคลินิกความงามชั้นนำ กลายเป็นก้าวสำคัญกับเป้าหมายของบริษัทฯ ในการมุ่งสู่ผู้นำกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านความงามที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี ในตลาดแพทย์ความงามของประเทศไทย



ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบรับต่อผู้เชี่ยวชาญ และคลินิกที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มบนใบหน้ากลุ่มกรดไฮยาลูรอนิก รวมถึงต่อยอดความสำเร็จต่อเนื่องในปี 2024 นี้ แอลจี เคม ไลฟ์ ไซเอนเชส (ประเทศไทย) จึงได้จัดงานมอบรางวัล 'YVOIRE AWARD' ภายใต้กิจกรรม A Dazzling Fiesta for Supreme Spenders ขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งการมอบรางวัลครั้งนี้ ได้มีการแบ่งประเภทเพื่อแสดงคำขอบคุณทั้งกับกลุ่มอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้ให้ความรู้เรื่องสารเติมเต็มฯ ทั้งในด้านเทคนิคการฉีดและการเลือกใช้ชนิดของผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม รวมถึงกลุ่มคลินิกที่สนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อส่งต่อการดูแลที่ได้คุณภาพไปถึงลูกค้าทุกคนของคลินิก โดยการมอบรางวัล YVOIRE AWARD มีทั้งหมด 5 ประเภท แบ่งเป็น

- โล่เกียรติยศสำหรับคณาจารย์ที่ให้ความรู้ แบ่งเป็น KOL&YVOIRE TRAINNER 2023, YVOIRE TRAINNER 2023, YVOIRE CO-TRAINNER 2023 และ NEW YVOIRE CO-TRAINNER 2023
- รางวัลสูงสุดสำหรับคลินิกที่มีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มฯ (The Highest Top Spending) 2 รางวัล
- รางวัลสำหรับคลินิกที่มีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มฯ ในกลุ่ม 5 อันดับแรก (The Top 5 of Highest Spending Clinic 2023)
- รางวัลสำหรับคลินิกที่มีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มฯ ในกลุ่ม 10 อันดับแรก (The Top 10 of Highest Spending Clinic 2023)
- รางวัลสำหรับคลินิกที่มีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มฯ ในกลุ่ม 50 อันดับแรก (The Top 50 of Highest Spending Clinic 2023)



"งานมอบรางวัล YVOIRE AWARD ครั้งที่ 2 ประจำปี 2023 เป็นงานที่ได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เป็นจำนวนที่มากกว่าปีก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีให้เห็นว่าความตั้งใจ และมุ่งมั่นในการพัฒนาสารเติมเต็มบนใบหน้ากลุ่มกรดไฮยาลูรอนิกได้รับการตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าบริษัทฯ จะยังคงลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการตอบโจทย์ผู้ใช้ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น พร้อมตั้งเป้าให้การจัดงาน YVOIRE AWARD 2024 ในปีหน้า เป็นอีกหนึ่งขีดวัดความสำเร็จของตลาดความงามไทยที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม" นายสายัณห์ เสริมทิ้งท้าย










28
"อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์" จัดงาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2024
ร่วมจับมือพันธมิตรสำคัญ ผลักดันผู้ประกอบการไทยฟื้นสู่เวทีโลก


นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย จับมือพันธมิตร แถลงข่าวร่วมกันจัดงาน "Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2024" (JGAB 2024) ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บนพื้นที่กว่า 22,000 ตร.ม. โดยงานนี้เป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับทั่วโลก คาดปีนี้จะมีผู้ซื้อคุณภาพทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย จากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ร่วมผลักดันผู้ประกอบการกลุ่มอัญมณีเครื่องประดับไทยฟื้นกลับสู่เวทีโลก ด้วยการสนับสนุนจากมาตรการ "SME ปัง ตังได้คืน" โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ภายใต้การดำเนินงานของ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยมี นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสถาบัน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) นางประพีร์ สรไกรกิติกูล ประธานคณะกรรมการสมาคมกลุ่มอัญมณีเครื่องประดับโลหะมีค่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายวิบูลย์ หงษ์ศรีจินดา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายสุทธิพงษ์ ดํารงค์สกุล นายกสมาคมการค้าอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียน นายสิทธิศักดิ์ ลิ้มวัฒนายิ่งยง นายกสมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทย และ นายมงคล มณีสินธพ นายกสมาคมช่างทองไทย ร่วมแถลงข่าว ณ โรงแรม โซ แบงคอก เมื่อเร็วๆ นี้

29
"ซูเลียน" จัดงานใหญ่ก้าวเข้าสู่ปีที่ 27 พร้อมมอบใบประกาศเกียรติคุณ
และประดับเข็มเกียรติยศแก่นักธุรกิจซูเลียน


ซูเลียน (ประเทศไทย) ตอกย้ำผู้นำธุรกิจขายตรง ก้าวเข้าสู่ปีที่ 27 ภายใต้สินค้าอุปโภคบริโภคที่มีคุณภาพ ราคาได้มาตรฐาน เดินหน้าจัดพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณและประดับเข็มเกียรติยศแก่นักธุรกิจซูเลียน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้คนทำงาน และเป็นแรงผลักดันสำคัญในการเพิ่มศักยภาพ เพื่อการต่อยอดสร้างเครือข่ายทางธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ดร.ปิยะวัฒน์ จุลล์จักรวงศา ประธานกรรมการ บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลอด 26 ปีที่ผ่านมา ซูเลียนเป็นผู้นำธุรกิจขายตรงในตลาดสินค้ากลุ่มอุปโภค ที่ครอบคลุมทั้งในประเทศไทย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศเมียนมาร์และกัมพูชา ซึ่งเป็นฐานสมาชิกหลักของนักธุรกิจซูเลียนในภูมิภาคอาเซียน ที่มีสมาชิกรวมกันกว่า 5.4 ล้านคน โดยภายใต้แบรนด์ 'ซูเลียน' ได้รวบรวมสินค้าที่มีคุณภาพไว้มากมาย อาทิ กาแฟโสม ยาสีฟัน เครื่องดื่มชนิดผง และสินค้าอื่น ๆ อีกหลากหลายชนิด เพื่อจำหน่ายและส่งต่อสุขภาพที่ดีไปถึงมือผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้วางรากฐานการดำเนินงานที่ให้ความสำคัญต่อความขยัน อดทน ซื่อสัตย์ และยึดมั่นในคุณธรรมของการทำธุรกิจ จนเครือข่ายนักธุรกิจของซูเลียนมีการเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงสามารถสร้างยอดขายและกำไรที่ยั่งยืน



สำหรับในปี 2567 นี้ ซูเลียนได้ก้าวเข้าสู่การทำงานพร้อมความท้าทายในการสร้างนักธุรกิจหน้าใหม่ที่มีศักยภาพ ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตในปีที่ 27 นี้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับชาวซูเลียนที่เติบโตร่วมกันมาโดยตลอด บริษัทฯ ได้จัดพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณและประดับเข็มเกียรติยศ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำอย่างต่อเนื่องในทุกปี โดยงานในครั้งนี้ มีผู้บริหารและนักธุรกิจซูเลียนเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง และบรรยากาศภายในงานยังเต็มไปด้วยความสุขและความอบอุ่น พร้อมความสนุกสนานจากเสียงเพลงที่ขับร้องโดยศิลปิน "เปา - เปาวลี" รวมถึงกิจกรรมเสริมสร้างความรู้เพื่อการทำธุรกิจในเนื้อหาของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดย "คุณแวว – แววตา เอกชาวนา" นักโภชนาการและนักกำหนดอาหารมืออาชีพ

"การมอบใบประกาศเกียรติคุณและประดับเข็มเกียรติยศแก่นักธุรกิจซูเลียน เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้คนทำงานเพื่อนำไปเป็นแรงผลักเพิ่มศักยภาพของตัวเอง และยังเป็นการเปิดโอกาสใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดทางธุรกิจต่อไป ที่สำคัญงานครั้งนี้ยังนับเป็นการประชุมนโยบายและทิศทางของบริษัทฯ เพื่อการทำงานที่มั่นคงในปีที่ 27 ของซูเลียน ซึ่งเรายังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นอันดับแรก จากนั้นจึงเป็นแนวคิดและการลงมือทำภายในเครือข่ายนักธุรกิจ ที่จะนำเอาประโยชน์ของสินค้าไปบอกต่อกับผู้บริโภคให้ครอบคลุม ไม่เกินจริง และมีจรรยาบรรณ อย่างที่เราดำเนินการมาตลอด 26 ปี" ดร.ปิยะวัฒน์ กล่าวย้ำทิ้งท้าย

30
เปิดประตูสู่อาเซียน – บุกเบิกตลาดที่หลากหลายและเติบโต กับมหกรรมสินค้าแม่และเด็กแห่งอาเซียน


เตรียมตัวให้พร้อมแล้วพบกับการกลับมาของ Kind + Jugend ASEAN (คินอันยูเก้น อาเซียน) งานแสดงสินค้านานาชาติที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์และของใช้จำเป็นสำหรับแม่และเด็กแห่งภูมิภาคอาเซียน ภายใต้ธีม "Taking A Leap Forward" แสดงถึงความมุ่งมั่นในการพาคุณก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมและเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ โดยภายในงานมีการเปิดตัวสินค้าเชิงนวัตกรรม และไอเดียสุดล้ำ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ทั้งด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความเป็นอยู่ที่ดีของแม่และเด็กสมัยใหม่

โดยมหกรรมสินค้าแม่และเด็กแห่งอาเซียน Kind + Jugend ASEAN 2024 ปีนี้ จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 25-27 เมษายน 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) บริเวณใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นศูนย์กลางการลงทุนแห่งภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านการปรับปรุงสถานที่ใหม่ล่าสุดมาเพื่อรองรับความสะดวกสบายด้านการเดินทาง พร้อมต้อนรับผู้เข้าร่วมงานและนักธุรกิจต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกไว้ด้วยกัน



สำหรับงาน Kind + Jugend ASEAN 2024 คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานถึง 4,000 คน เพื่อมาเจรจาธุรกิจกับผู้จัดแสดงสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำทั่วภูมิภาคอาเซียนและทั่วโลก อาทิ สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, จีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน, เกาหลีใต้, เยอรมนี, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และอีกมากมาย ภายในงานยังมอบประสบการณ์การสัมมนาที่เติมเต็มด้วยความรู้ อัปเดตเทรนด์โภชนาการสำหรับเด็กแรกเกิด แนวทางการแก้ปัญหาด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ สำรวจโอกาสในตลาดสินค้าแม่และเด็ก อีกทั้งการเติบโตและการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ

ปัจจุบันพ่อแม่ในกลุ่มประเทศอาเซียนเริ่มตระหนักและใส่ใจเรื่องสุขภาพ โภชนาการ และความปลอดภัยของลูกมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้ตลาดมีความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสินค้าที่ทำจากส่วนผสมธรรมชาติ ปลอดสารเคมี บรรจุภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน สามารถใช้ซ้ำ ไม่เป็นขยะหรือสารเคมีต่อโลก จากแนวโน้มและพฤติกรรมของผู้บริโภคปัจจุบัน ทำให้ปีนี้ ภายในงานประกอบไปด้วยไฮไลต์ต่าง ๆ อาทิ Trend Forum, Business Matching/Hosted Buyer Programme, VIP Tour, Kind + Jugend ASEAN Innovation Award



ในฐานะงานแสดงสินค้านานาชาติที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์และของใช้จำเป็นสำหรับแม่และเด็กแห่งภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ 2 Kind + Jugend ASEAN (คินอันยูเก้น อาเซียน) มีความภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง หอการค้าไทย (TCC) สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (THTI) สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทย (TTCPA) สมาคมของเล่นและการเล่นแห่งเอเชีย (ATPA) องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (NSM) สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม (NFI) คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (AHSCU) และโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ (SISB) เราพร้อมแล้วที่จะได้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับคุณในวันที่ 25-27 เมษายน 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) กรุงเทพฯ ประเทศไทย ลงทะเบียนเข้างานล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ที่ https://mobile.eventpassinsight.co/registration/create/kja24/?code=2024

Pages: 1 [2] 3 4 ... 141