Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Google

Pages: 1 [2] 3 4 ... 38
16
กลอรี่-ไทย และเจียระไน จับมือสปอนเซอร์ เปิดเวทีการประกวดมิสไทยแลนด์ ไชนีส คอสโม 2011 เดินหน้าสู่ปีที่ 2 หลังประสบความสำเร็จบนเวทีระดับภูมิภาค



          หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสวยงามกับการประกวดมิสไทยแลนด์ ไชนีส คอสโม 2010 ในปีแรกจนสามารถคว้า 3 รางวัล จากเวทีการประกวด Miss Chinese Cosmos Pageant 2010 Southeast Asia ที่ประเทศมาเลเซีย โดย 2 สาวหมวยจากไทย ได้แก่ นางสาวพันธ์ทิพย์ ไพรเรืองกิจ (น้องเบ็นซ์) ที่คว้า 2 รางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 และ Miss Popularity และนางสาวปุณยวีร์ เหล่าพาณิชธนาสิริ (น้องไฮรีน) ที่คว้าตำแหน่งขวัญใจช่างภาพ หรือ Miss Photogenic มาครอง จนสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับสาวไทยเชื้อสายจีนที่ได้ไปแสดงความสามารถและสร้างชื่อเสียงของประเทศไทยบนเวทีระดับโลกมาแล้ว

          นายยุทธนา แสงโสภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท กลอรี่-ไทย อินเตอร์คอนติเน็ลตอล จำกัด ผู้ได้รับลิขสิทธิ์การประกวดมิสไทยแลนด์ ไชนีส คอสโม 2011 หรือ Miss Thailand Chinese Cosmos Pageant 2011 อย่างเป็นทางการเป็นปีที่ 2 กล่าวว่า ในปีนี้ได้เตรียมเดินหน้าเปิดเวทีการประกวดอย่างยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา โดยได้รับความร่วมมือจาก เจียระไน เอนเตอร์เทนเม้นท์ สถาบันฝึกสอนและพัฒนาบุคลิกภาพแบบนางงามเต็มรูปแบบแห่งแรกของประเทศไทย และกลุ่มผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และสายการบินแอร์เอเชีย พร้อมด้วยกลุ่มผู้ร่วมสนับสนุนอีกหลายหน่วยงาน อาทิ โรงแรมรามาดา พลาซ่า แม่น้ำ ริเวอร์ไซด์ โรงแรมรอยัลคลิฟบีช รีสอร์ท ทรูฟิตเนส, บุญรอดริวเวอร์รี่ MTI ห้องเสื้อลอร่า ชุดว่ายน้ำ ELLE ฯลฯ ที่ได้มาร่วมสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับเวทีการประกวดในปีนี้

          “จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมาทำให้ในปีนี้มีสาวงามไทยเชื่อสายจีนมาร่วมสมัครแล้วเป็นจำนวนมาก โดยคุณสมบัติผู้เข้าประกวดในปีนี้เหมือนปีที่ผ่านมาคือ ผู้สมัครจะต้องมีเชื้อสายจีน หรือเป็นสาวจีนที่อาศัยในประเทศไทย มีอายุระหว่าง 18 – 28 ปี ความสูงตั้งแต่ 165 เซนติเมตรขึ้นไป มีบุคลิกและมนุษยสัมพันธ์ที่ดีสามารถเป็นทูตเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์และเผยแพร่วัฒนธรรมไทย-จีน ได้ตามวัตถุประสงค์ของการจัดการประกวดในปีนี้ได้เป็นอย่างดี”   
       
          สำหรับรางวัลการประกวดในปีนี้ จะมีความหลากหลายของตำแหน่งมากกว่าปีที่ผ่านมา มีมูลค่ารวมรางวัลทั้งหมดรวมมงกุฎเพชรพร้อมเงินสดและของรางวัลมูลค่าประมาณหนึ่งล้านหกแสนบาท โดยแบ่งเป็นรางวัลประเภทต่างๆ ดังนี้

· รางวัลชนะเลิศ ได้รับรางวัลมงกุฎเพชร ของรางวัลและเงินสดมูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท
· รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับมงกุฎเพชร เงินสดและของรางวัล รวมมูลค่า 300,000 บาท
· รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับมงกุฎเพชร เงินสดและของรางวัล รวมมูลค่า 200,000 บาท
· รางวัลขวัญใจช่างภาพ จะได้รับเงินสดและของรางวัล รวมมูลค่า 200,000 บาท
· รางวัล บุคลิกภาพดี จะได้รับเงินสดและของรางวัล รวมมูลค่า 100,000 บาท
· ขวัญใจการท่องเที่ยว จะได้รับเงินสดและของรางวัล รวมมูลค่า 100,000 บาท
· รางวัล Perfect Body จะได้รับเงินสดและของรางวัล รวมมูลค่า 100,000 บาท
· นางงามมิตรภาพ จะได้รับเงินสดและของรางวัล รวมมูลค่า 100,000 บาท

          สำหรับผู้ผ่านคัดเลือกในรอบแรกจะได้รับเงินสดและของรางวัล รวมมูลค่าคนละ 15,500 บาท
พร้อมกันนี้สาวงามที่ได้รับตำแหน่งทั้ง 3 ตำแหน่งจะได้เป็นตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วมประชันความงามกับสาวงามจากกลุ่มประเทศภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการประกวด Miss Chinese Cosmos 2010 Southeast Asia ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นปลายเดือนกรกฎาคมศกนี้ ที่ประเทศมาเลเซีย และหากตัวแทนจากประเทศไทยได้ผ่านการคัดเลือกก็จะมีสิทธิ์เข้าร่วมประกวดรอบสุดท้ายของการประกวด มิสไชนีส คอสโม 2011 (Miss Chinese Cosmos Pageant 2011) ที่จะจัดขึ้น ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน และฮ่องกง ซึ่งถือเป็นเวทีที่รวมเอาสาวงามเชื้อสายจีนจากทั่วโลกเข้าร่วมการประกวด

          สำหรับการประกวดมิสไทยแลนด์ ไชนีส คอสโม 2011 มีกำหนดเปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 โดยผู้สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.jiaranai.co.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 02 203 0288-9, 086 880 0008, 081 553 0656 และ 083 711 7888 (ภาษาจีน) หรือสมัครด้วยตัวเองได้ที่ เจียระไน เอนเตอร์เทนเม้นท์ บล็อก C ชั้น 2 RCA

          ทั้งนี้โดย การประกวดมิสไทยแลนด์ ไชนีส คอสโม 2011 หรือ Miss Thailand Chinese Cosmos Pageant 2011 มีกำหนดในการคัดเลือกและกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจดังนี้

· การคัดเลือกผู้ผ่านเข้ารอบแรก ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 ณ เจียระไน เอนเตอร์เทนเม้นท์
· กิจกรรมของสาวงามที่เข้ารอบ ในระหว่าง วันที่ 23 - 24 กรกฎาคม 2554 ณ โรงแรมรอยัลคลิฟบีช รีสอร์ท พัทยา จังหวัดชลบุรี
· การประกวดรอบขวัญใจสื่อมวลชน ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องแม่น้ำแกรนด์ โรงแรมรามาดา พลาซ่า แม่น้ำ ริเวอร์ไซด์
· การประกวดในรอบชนะเลิศ ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องแม่น้ำแกรนด์ โรงแรมรามาดา พลาซ่า แม่น้ำ ริเวอร์ไซด์

          สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวการประกวดได้อย่างใกล้ชิดที่ www.jiaranai.co.th

17
ธนาคารกรุงเทพ รับมอบรางวัล Bank of the Year ปีที่ 5 ติดต่อกัน พร้อมรางวัลบูธดีเด่นในงานมหกรรมการเงินครั้งที่ 11



          นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นำทีมผู้บริหารและพนักงานร่วมฉลองความสำเร็จและรับมอบรางวัล Money & Banking Awards 2011 ในสาขา ‘ธนาคารแห่งปี 2554 หรือ Bank of the Year 2011’ ซึ่งเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน และรางวัลดีเด่น บูธสวยงามประเภทพื้นที่ขนาดใหญ่ ในงาน Money Expo 2011 หรือมหกรรมการเงินครั้งที่ 11 จากนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยการประกาศยกย่องจากวารสารการเงินธนาคาร ด้วยปัจจัยสำคัญจากการสนับสนุนของลูกค้าทุกกลุ่มทั้งธุรกิจรายใหญ่ รายกลาง รายปลีก และลูกค้าบุคคล ตลอดจนการประสานความร่วมมือในการทำงานเป็นทีมของผู้บริหารและพนักงานทุกคนในองค์กร ส่งผลให้ธนาคารมีผลประกอบการที่โดดเด่นในปี 2553

          โดยมีกำไรสุทธิสูงเป็นอันดับ 1 ถึง 24,205.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.9% รวมทั้งมีกำไรสุทธิต่อหุ้นและมูลค่าหุ้นตามบัญชีสูงเป็นอันดับ 1 ที่ 12.68 บาท และ 120.23 บาท ตามลำดับ สามารถขยายสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น 9.9% อีกทั้งยังได้มีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 70,435 ล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดในระบบธนาคารพาณิชย์ ส่งผลให้ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อรวมสูงเป็นอันดับ 1 ที่ 5.82% รวมทั้งยังมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ที่ 16.09% สะท้อนถึงความพร้อมของธนาคารในการรองรับความต้องการบริการทางการเงินของทุกกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่เศรษฐกิจยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องมาถึงปี 2554 นี้

18
ภาพข่าว: เคแบงก์ครองตำแหน่งธนาคารเพื่อรายย่อย 4 ปีซ้อน



          ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล (ที่ 4 จากขวา) ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการมอบรางวัล Money&Banking Awards 2011 โดยมีนายอำพล โพธิ์โลหะกุล (ที่ 3 จากขวา) รองกรรมการผู้จัดการ และนายวัลลภ ว่องจิตต์วุฒิไกร (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้แทนธนาคารฯ รับมอบ 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยแห่งปี 2554 (Best Retail Bank of the Year 2011) เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน และรางวัลยอดเยี่ยม บูธสวยงามประเภทพื้นที่ขนาดใหญ่ เป็นปีที่ 5 โดยมีนายสันติ วิริยะรังสฤษฏ์ (ที่ 4 จากซ้าย) บรรณาธิการบริหาร วารสารการเงินธนาคาร ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่น กรุงเทพ เมื่อเร็ว ๆ นี้

19
มอบรางวัลเกียรติยศ Money & Banking Awards 2011



          ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล Money & Banking Awards 2011 โดยมี ลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ วิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บมจ.แอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส อำพล โพธิ์โลหะกุล รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานและบรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร ร่วมในพิธี ณ ห้องบอลรูม โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ

          สำหรับรางวัล “Money & Banking Awards 2011” เป็นรางวัลเกียรติยศที่วารสารการเงินธนาคารมอบให้แก่ผู้บริหารสถาบันการเงิน สถาบันการเงิน และบริษัทจดทะเบียนรวม 5 สาขารางวัล ดังนี้ รางวัลนักการเงินแห่งปี 2553 (Financier of The Year 2010) ได้แก่ ลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รางวัลธนาคารแห่งปี 2554 (Bank of the Year 2011) ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ รางวัลบริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2554 (Best Public Company of the Year 2011) ได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และรางวัลธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยแห่งปี 2554 (Best Retail Bank of the Year 2011) ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย นอกจากนี้ภายในงานยังมีการแจกรางวัลบูธสวยงาม งานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 11 Money Expo 2011 อีก 20 รางวัลด้วย

20
MONEY & BANKING AWARDS 2011 รางวัลเกียรติยศตลาดเงิน

 

          ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเกียรติยศ MONEY & BANKING AWARDS 2011 ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2554 เวลา 19.00 น. ณ ห้องบอลรูม โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ เผยผู้จัดการ ธ.ก.ส. ลักษณ์ วจนานวัช รับแหน่งนักการเงินแห่งปี 2553 ด้านธนาคารกรุงเทพ คว้าธนาคารแห่งปี 2554 ธนาคารกสิกรไทย รั้งธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยแห่งปี 2554 ส่วนเอไอเอส แชมป์บริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2554 พร้อมด้วย 20 สถาบันครองรางวัลบูธสวยงาม ในงาน Money Expo 2011

          นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานและบรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร เปิดเผยว่า วารสารการเงินธนาคาร จัดพิธีมอบรางวัลเกียรติยศ MONEY & BANKING AWARDS 2011 ขึ้นในปีนี้เป็นปีที่ 4 เพื่อยกย่องธนาคาร สถาบันการเงิน และบริษัทจดทะเบียนที่มีผลงานยอดเยี่ยมในรอบปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย 5 สาขารางวัล ดังนี้

          1.รางวัลนักการเงินแห่งปี 2553 (Financier of the Year 2010) เป็นรางวัลที่เชิดชูความสำเร็จและยกย่องนายธนาคารและนักการเงินมีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการ ซึ่งมีเกณฑ์การตัดสินจากคุณสมบัติ 4 ด้านคือ 1. มีวิสัยทัศน์กว้างไกล 2. มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ 3. สร้างความเจริญเติบโตให้กับองค์กร และ 4.ทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวมและสังคม ได้แก่ ลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

          2. รางวัลธนาคารแห่งปี 2554 (Bank of the Year 2011) เป็นรางวัลที่มอบให้กับธนาคารพาณิชย์ที่มีผลประกอบการยอดเยี่ยมในรอบปี แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในผลประกอบการและการบริหารจัดการ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

          3. รางวัลธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยแห่งปี 2554 (Best Retail Bank of the Year 2011) เป็นรางวัลจากการสำรวจผู้เข้าชมงาน มหกรรมการเงิน ครั้งที่ 11 Money Expo 2011 ที่แสดงความชื่นชอบและตัดสินใจเลือกใช้บริการมากที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจสูงสุดในการได้รับบริการจากธนาคารและสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงาน ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

          4. รางวัลบริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2554 (Best Public Companies of the Year 2011) เป็นรางวัลที่มอบให้กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมในรอบปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารการจัดการของบริษัทในภาพรวม ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

          5. รางวัลบูธสวยงาม งานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 11 Money Expo 2011 เป็นรางวัลที่มอบให้กับธนาคาร สถาบันการเงิน และองค์กรที่เข้าร่วมงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 11 ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการตัดสินรางวัลบูธสวยงาม ซึ่งประกอบด้วย ศิลปินแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม ศิลปกรรมและจิตรกรรม โดยมีเกณฑ์การตัดสินที่พิจารณาจากแนวความคิดรวมยอดและความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบและศิลปกรรม ประโยชน์ใช้สอย และการนำเสนอ ประกอบด้วย 4 ประเภทรางวัล ดังนี้

ประเภทพื้นที่ขนาดใหญ่
รางวัลยอดเยี่ยม ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
รางวัลดีเด่น ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
รางวัลความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)

ประเภทพื้นที่ขนาดกลาง
รางวัลยอดเยี่ยม ได้แก่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
รางวัลดีเด่น ได้แก่ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด
รางวัลความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย และ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด

ประเภทพื้นที่ขนาดเล็ก
รางวัลยอดเยี่ยม ได้แก่ กรมสรรพากร
รางวัลดีเด่น ได้แก่ บริษัท ออสสิริส จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.)

          นายสันติกล่าวว่า รางวัลเกียรติยศ MONEY & BANKING AWARDS 2011 มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนความสำเร็จของธนาคาร สถาบันการเงิน และบริษัทจดทะเบียนให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม ซึ่งการมอบรางวัลดังกล่าว นอกจากจะเป็นการให้กำลังใจและเป็นตัวอย่างที่ดีแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนภาคการเงินและภาคธุรกิจของไทยให้ก้าวหน้าไปสู่ความเข้มแข็ง มีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ มีความสามารถในการแข่งขัน อันจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ  

21
ภาพข่าว: เปิดตัว “ไซออส (SYOSS)” ผลิตภัณฑ์ดูแลผมระดับมืออาชีพ


 
          วิโรจน์ สุขพิทักษ์ (ที่ห้าจากขวา) ผู้จัดการ ฝ่ายชวาร์สคอฟ & เฮงเค็ล ประเทศไทย และศิริอร จารุรัตนาภรณ์ (กลาง) ผู้จัดการฝ่ายการตลาด จัดงาน SYOSS Simply Professional Party เปิดตัวแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผมล่าสุด “ไซออส (SYOSS)” ในแนวคิดเผยศาสตร์ลับแห่งผมสวยน่าสัมผัส ดุจได้รับการปรนนิบัติในซาลอน พร้อมเปิดตัวสาว SYOSS คนใหม่ล่าสุด บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ โดย มีนางแบบชั้นนำ อาทิ ภัทรศยาเมย์ เลียร์ นาร์บอนน์, พิชญ์สินี ตันวิบูลย์, ยศวดี หัสดีวิจิตร, แสงทอง เกตุอู่ทอง และ อาร์ม เคพีเอ็น กรกันต์ สุทธิโกเศศ ร่วมงาน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็วๆ นี้


22
กองทัพเซเล็บตบเท้าเปิดตัว “ไซออส (SYOSS)” ผลิตภัณฑ์ดูแลผมระดับมืออาชีพ




 
            บริษัท เฮงเค็ล (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน SYOSS Simply Professional Party เปิดตัวแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผมล่าสุด “ไซออส (SYOSS)” ผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่มีประสิทธิภาพสูง พัฒนาและทดสอบโดยช่างผมมืออาชีพจากญี่ปุ่น ในแนวคิดเผยศาสตร์ลับแห่งผมสวยน่าสัมผัส ดุจได้รับการปรนนิบัติในซาลอน ชวนลูกค้าร่วมชม SYOSS Diva Fashion Show สุดชิค พร้อมกิจกรรม Beauty Hair Talk โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย และสัมผัสประสบการณ์ใหม่จากไซออส ณ เซ็นทรัลคอร์ท ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์           
 
           งาน SYOSS Simply Professional Party จัดขึ้นเพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการให้แก่สื่อมวลชนและบุคคลทั่วไป มีการจัดกิจกรรม Beauty Hair Talk โดยคุณทัศน์ เลิศมโนรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมชื่อดังของเมืองไทย พร้อมกับ SYOSS Diva Fashion Show ซึ่งนำโดยเหล่านางแบบกิติมศักดิ์มาร่วมแสดงแบบ อาทิ น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์, ภัทรศยาเมย์ เลียร์ นาร์บอนน์, พิชญ์สินี ตันวิบูลย์, ยศวดี หัสดีวิจิตร, แสงทอง เกตุอู่ทอง และมีเซเล็บคนดังร่วมงานคับคั่ง อาทิ เพ็ญสุภา คชเสนี, มาร์ค ธารวิน พี เซียว ตง, พอล นฤนาทวานิช, อภิภาวดี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา, สุพิชญา สุรคุปต์, รุ่งทิพย์ อิศรางกูร ณ อยุธยา, คริสตี้ เศรษฐบุตร และ อาร์ม KPN – กรกันต์ สุทธิโกเศศ มาร่วมสร้างบรรยากาศแห่งความประทับใจ ปิดท้ายด้วยการเปิดตัวสาว SYOSS คนใหม่ล่าสุด บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์
ไซออส (SYOSS) มีให้เลือก 2 สูตร ได้แก่ Repair Therapy สำหรับผมแห้งเสีย และ Moisture Intensive Care สำหรับผมแห้ง เปราะบาง ขาดง่าย ทั้งแชมพู คอนดิชันเนอร์ และทรีทเมนท์ มาส์ก มีจำหน่ายตามร้านค้าชั้นนำทั่วไป

23
อลังการงานเปิดตัวศูนย์การค้า “ซีคอน บางแค” คลื่นแห่งสีสันอารมณ์ใหม่ ที่จะปลุกไลฟ์สไตล์ให้ถนนเพชรเกษม





กลับมาตามคำเรียกร้องของนักช้อปเมืองกรุงโซนตะวันตก ด้วยปรากฎการณ์ใหม่  A NEW WAVE is Coming  ของ   บริษัท ซีคอน บางแค จำกัด  ซึ่งจัดงานเปิดตัวโครงการ  ซีคอน บางแค  อภิมหาศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่ ทันสมัยที่สุด ในคอนเซปต์ คลื่นแห่งสีสันอารมณ์ใหม่ ที่จะคืนชีวิตชีวาสู่การช้อปปิ้ง  ปลุกไลฟ์สไตล์ ที่ทันสมัย ให้คืนสู่ถนนเพชรเกษม  งานนี้เหล่าคีย์แมนคนสำคัญแห่งวงการดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ของเมืองไทยอย่าง สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์, ชฎาทิพ  จูตระกูล, วิชา พูลวรลักษณ์ ฯลฯ พร้อมเหล่าเซเลบริตี้นับร้อย มาร่วมแสดงความยินดีเพียบ เล่นเอาห้องแกรนด์บอลรูมของโรงแรมพลาซา แอทธินี แคบไปเลย 

ตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน บางแค จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่า  ซีคอน บางแค  เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการศูนย์การค้าแห่งใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักช้อปฯ อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะผู้คนในเขตกรุงเทพฝั่งตะวันตก   ซึ่งร้างราสถานที่ที่ปลุกไลฟ์สไตล์ล้ำๆ อย่างช้อปปิ้งมอลล์ คอมมูนิตี้ มอลล์ มานาน โดย       ซีคอน บางแค ใช้งบกว่าสามพันล้านบาทในการก่อสร้าง โดดเด่นตั้งแต่อาคารรูปทรง Wave Design  กว้างขวางด้วยพื้นที่กว่า 40 ไร่  ตกแต่งสไตล์ Modern Contemporary เน้นความโปร่ง โล่งสบายจากแสงธรรมชาติ เปิดมุมมองให้นักช้อปเห็นร้านค้าเต็มตา พร้อมกับเพลิดเพลินกับวิวธรรมชาติข้างนอก นอกจากนี้ยังเตรียมกิมมิค WAVE คลื่นลูกใหม่ที่จะเติมเต็มทุกอารมณ์ มาตอบสนองนักช้อปฯ ให้ยิ่งรักๆ ซีคอน บางแค แห่งนี้อีกด้วย”

ยืนยันว่าจัดเต็ม! ขนาดเหล่าเซเลบริตี้ที่ตระเวนทั่วทุกห้างดังในโลกยังอดตื่นเต้นไม่ได้กับ 4 เคตากอรี่หลักของ WAVE  ที่เป็นคอนเซปต์อันครบครันของซีคอน บางแค  เริ่มตั้งแต่สองสาวแฟชั่นนิสต้า เล็ก-กรกนก ยงสกุล, อุ้ย-สุทัศนีย์ คุนผลิน  เทใจให้โซน  Wow! ว้าว! ก่อนใครกับความทันสมัย ไม่ตกเทรนด์  จะได้ช้อปปิ้งอย่างสนุก ครบทุกความบันเทิง ตอบสนองทุกความต้องการ  ตื่นตาตื่นใจไปกับสีสันของการช้อปปิ้งกับสินค้าหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ ทั้ง Fashion และ Fashion Accessories อัพเดททุกเทรนด์ไอทีและอิเลคทรอนิกส์ แถมเพลิดเพลินกับร้าน Book, Music และ Movies ตลอดทั้ง Gift Shop อินเทรนด์   
ด้านหนุ่มโสดเนื้อหอม ชานนท์ เรืองกฤติยา, ศรัณย์ วิชญาภัย  ชอบใจโซน  Activities สุดยอดกิจกรรมหลากหลาย ตอบทุกไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวคุณ เพราะชื่นชอบการทำกิจกรรมทั้งเอาท์ดอร์ อินดอร์ เพิ่มรสชาติให้กับชีวิต ทำให้ร่างกายสดชื่นและแอคทีฟ มิน่าถึงได้เป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์

ด้านคู่รักหวานชื่น ฐาปน สิริวัฒนภักดี –มล.ตรีนุช จักรพันธุ์   ชอบใจโซน Variety เพลิดเพลินกับเมนูนานาชนิด ครบรสชาติในที่เดียว เติมสีสันแห่งความสุขด้วยอาหารมื้ออร่อย จากร้านอาหารชั้นนำที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ  ครบครันกับอาหารทุกรูปแบบ ฟู้ดคอร์ท แหล่งรวมสารพันอาหารจานเดียว  เทคโฮม  ศูนย์รวม ความอร่อยที่ทำให้คุณเพลิดเพลินกับการจับจ่าย และสร้างสรรค์เมนูอร่อยด้วยตัวคุณเองกับสินค้าคุณภาพที่ “ท็อปส์ มาร์เก็ต” ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ แหล่งรวมสินค้าคุณภาพดีทั้งในประเทศและสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ

ปิดท้ายด้วยสองยอดคุณแม่ อุษณีย์ มหากิจสิริ, เพลินจันทร์ รุ่นประพันธุ์ โฟกัสโซน Entertainment ความบันเทิงสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อความสุขในวันพักผ่อน  ประกอบด้วย EGV Cinema เติมเต็มทุกความบันเทิงด้วยโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอล จำนวน 10 โรง บนพื้นที่ 5,000 ตร.ม. ให้ชมภาพยนตร์ได้อย่างเต็มอรรถรส Major Bowl บูทีค โบว์ลิ่ง 16 เลน, Sub-Zero Ice Skate Club ความสนุกแปลกใหม่ ท้าทายความมันส์บนลานน้ำแข็งเย็นสุดขั้วเฉียด 0 องศา และที่พลาดไม่ได้ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วอย่าง  Yoyoland  The Best Indoor Theme Park สวนสนุกโยโย่แลนด์   สวนสนุกในร่มขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 6,500 ตารางเมตร  “ โดดเด่น สนุก ปลอดภัยระดับโลก” ตระการตาไปกับเครื่องเล่นทันสมัยสั่งตรงจากต่างประเทศ สนุกท้าทายไปกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ของเครื่องเล่น 3 มิติ และ Interactive ซึ่งได้รับความนิยมทั่วโลก บริหารงานโดย Mr.Mike Denning  ประสบการณ์บริหาร สวนสนุก 84 แห่ง ใน 40 ประเทศทั่วโลก …พบกับห้างคลื่นลูกใหม่  “ซีคอน บางแค” เร็วๆ นี้

24
กลุ่มซีคอน ทุ่ม 3,000 ล้านบาทสร้างศูนย์การค้า “ซีคอน บางแค” บนพื้นที่กว่า 40 ไร่ ปลุกไลฟ์สไตล์ล้ำสมัย ให้คืนสู่ถนนเพชรเกษม รองรับกำลังช็อปฯ มหาศาล


 
          กลุ่มซีคอน รุกหนักต้นไตรมาสสามประกาศทุ่ม 3,000 ล้านบาท แถลงข่าวเปิดตัวอภิมหาโครงการ ซีคอน บางแค ศูนย์การค้าแห่งใหม่ ทันสมัย ในคอนเซปต์ คลื่นแห่งสีสันอารมณ์ใหม่ ที่จะคืนชีวิตชีวาสู่การ ช้อปปิ้ง ปลุกไลฟ์สไตล์ล้ำสมัยให้คืนสู่ถนนเพชรเกษม ด้วยจุดเด่นทั้งเรื่องสถาปัตยกรรม ตกแต่งแบบ Modern Contemporary พร้อมหลากหลายไอคอนนิคมัดใจนักช็อปฯ ทั้งร้านค้าแฟชั่นสุดชิค ฟู้ดคอร์ท สารพัดอาหารนานาชาติให้เลือกสรร และสินค้าไอที ฯลฯ ให้เลือกมากมายเกินกว่า 200 ร้านค้า เบื้องต้นใช้ งบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 60 ล้านบาท สร้างการรับรู้ในวงกว้าง เชื่อมั่นศักยภาพทำเลทอง รายล้อมไปด้วยที่พักอาศัยและสถานศึกษากว่า 220 แห่ง มหาวิทยาลัย 4 แห่ง โรงพยาบาล 3 แห่ง ฐานกำลังซื้อกว่า 9 แสนคน เป็นจุดเด่น ทำยอดสะพัด! Win Win (วิน วิน) ทั้งผู้ค้าและนักช้อปฯ ทั้งนี้เหล่าพาร์ทเนอร์ “บิ๊กแบรนด์” ให้ความสนใจตอบรับการจองพื้นที่เข้ามาคับคั่ง

          ตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน บางแค จำกัด ให้สัมภาษณ์ถึงการลงทุนครั้งนี้ว่า “กลุ่มซีคอนฯ เป็นผู้บุกเบิกและพัฒนาธุรกิจชั้นนำโดยเฉพาะศูนย์การค้าฯ และได้เล็งเห็นศักยภาพบนพื้นที่ถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมที่รายล้อมไปด้วยที่พักอาศัย โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย ฯลฯ โดยตั้งใจให้ ซีคอน บางแค เป็นศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่ง ด้วยแนวคิด ปลุกไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย ให้คืนสู่ถนนเพชรเกษม โดยใช้งบลงทุนก่อสร้างและตกแต่งทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารโมเดิร์น Wave Design บนพื้นที่กว่า 40 ไร่ ตกแต่งสไตล์ Modern Contemporary ที่เน้นความโปร่ง โล่งสบายจากแสงธรรมชาติ เปิดมุมมองให้เห็นได้ทุกชั้น เพื่อให้ร้านค้าโดดเด่น สร้างประสบการณ์ใหม่ในการ ช้อปปิ้งได้อย่างลงตัวกับลานอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ถึง 3 ลาน ที่พร้อมรองรับกิจกรรมทุกรูปแบบ เพื่อสร้างสีสันความหลากหลายตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์”

          ด้าน จรัญ ผู้พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการสำนักสื่อสารการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ เผยถึงอนาคตทางการตลาดและแผนโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่า “ศูนย์การค้าซีคอน บางแค เป็นศูนย์การค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง โดยการศึกษาวิจัยทางการตลาดฯ ก่อนตัดสินใจลงทุนนั้น พบว่ากำลังของคนระดับ B ในย่านนี้สูงและเป็นฐานที่ใหญ่ของกรุงเทพฯ เราจึงสร้างศูนย์การค้าที่ได้มาตรฐาน รองรับกำลังซื้อและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของกลุ่ม ย่านบางแคเป็นย่านที่ชุมชนหนาแน่นอยู่แล้ว เชื่อว่าช่วยทำให้ซีคอนบางแคจะมีลูกค้าประจำวันอย่างสม่ำเสมอ และนอกจากนั้นมีชุมชนชั้นดีใหม่ ๆ เกิดขึ้นรอบ ๆ มากมายซึ่งมีถนนเครือข่ายเชื่อมถึงอย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นวงแหวนตะวันตก ถนนราชพฤกษ์ ถนนปิ่นเกล้านครไชยศรี พุทธมณฑล โดยปัจจุบันฐานประชากรเฉลี่ยในรัศมี 10 กม. อยู่ที่กว่า 9 แสนคน นอกจากนั้นยังมีจุดแข็งรายล้อมไปด้วยสถานศึกษากว่า 220 แห่ง รวมมหาวิทยาลัย 4 แห่ง โรงพยาบาล 3 แห่ง ซึ่งจะดึงดูดให้ผู้คนมาจากทั่วทุกสารทิศอีกด้วย

          ด้าน ดร.พรต ซอโสตถิกุล รองกรรมการผู้จัดการสำนักพัฒนาธุรกิจ เผยถึงรายละเอียดเพิ่มเติมของศูนย์การค้าซีคอน บางแค ว่า “ศูนย์การค้า ซีคอน บางแค เป็นศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่ ทันสมัย ก่อสร้างจำนวน 5 ชั้น พื้นที่ทั้งหมด 300,000 ตร.ม.แบ่งเป็นพื้นที่เช่า 130,000 ตร.ม. ร้านค้า 250 ร้าน พื้นที่จอดรถ 4,000 คัน เปิดตัวภายใต้คอนเซปต์ A NEW WAVE is Coming คลื่นแห่งสีสันอารมณ์ใหม่ ที่จะคืนชีวิตชีวาสู่การ ช้อปปิ้ง มีธีมที่หนักแน่นในแต่ละแองเกิล ได้แก่

          Wow! ว้าว! ก่อนใครกับความทันสมัย ไม่ตกเทรนด์ ตื่นตาตื่นใจไปกับสีสันของการช้อปปิ้งกับสินค้าหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ ทั้ง Fashion และ Fashion Accessories อัพเดททุกเทรนด์ไอทีและอิเลคทรอนิกส์ ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนทันสมัยใส่ใจในเทคโนโลยี เพลิดเพลินกับร้าน Book, Music และ Movies ตลอดทั้ง Gift Shop อินเทรนด์ สัมผัสสุนทรีย์แห่งการช้อปปิ้งอย่างสนุก ครบทุกความบันเทิง ตอบสนองทุกความต้องการ

          Activities สุดยอดกิจกรรมหลากหลาย ตอบทุกไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวคุณ พร้อมให้คุณเพลิดเพลินกับกิจกรรมการตลาดหลากหลายคอนเซ็ปสไตล์ Seacon ที่คัดสรรเฉพาะความสุขที่ตอบทุกไลฟ์สไตล์ของครอบครัว

          Variety เพลิดเพลินกับเมนูนานาชนิด ครบรสชาติในที่เดียว เติมสีสันแห่งความสุขด้วยอาหารมื้ออร่อย จากร้านอาหารชั้นนำที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ครบครันกับอาหารทุกรูปแบบ ฟู้ดคอร์ท แหล่งรวมสารพันอาหารจานเดียว เทคโฮม ศูนย์รวมความอร่อยที่ทำให้คุณเพลิดเพลินกับการจับจ่าย และสร้างสรรค์เมนูอร่อยด้วยตัวคุณเองกับสินค้าคุณภาพที่ “ท็อปส์ มาร์เก็ต” ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ แหล่งรวมสินค้าคุณภาพดีทั้งในประเทศและสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ

          Entertainment ความบันเทิงสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อความสุขในวันพักผ่อน ประกอบด้วย EGV Cinema เติมเต็มทุกความบันเทิงด้วยโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอล จำนวน 10 โรง บนพื้นที่ 5,000 ตร.ม. ให้คุณชมภาพยนต์ได้อย่างเต็มอรรถรส Major Bowl บูทีค โบว์ลิ่ง 16 เลน ความบันเทิงในรูปแบบของกีฬา บนพื้นที่กว่า 2,000 ตร.ม. Sub-Zero Ice Skate Club ความสนุกแปลกใหม่ ท้าทายความมันส์บนลานน้ำแข็งเย็น สุดขั้วเฉียด 0 องศา ที่สุดของความคูลรูปแบบใหม่ บนพื้นที่กว่า 1,500 ตร.ม. Yoyoland The Best Indoor Theme Parkสวนสนุกโยโย่แลนด์ ที่บริหารงานโดย Mr.Mike Denning (ประสบการณ์บริหาร สวนสนุก 84 แห่ง ใน 40 ประเทศทั่วโลก) สวนสนุกในร่มขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 6,500 ตารางเมตร “ โดดเด่น สนุก ปลอดภัยระดับโลก” ตระการตาไปกับเครื่องเล่นทันสมัยสั่งตรงจากต่างประเทศ สนุกท้าทายไปกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ของเครื่องเล่น 3 มิติ และ Interactive ซึ่งได้รับความนิยมทั่วโลก ควบคู่กับเครื่องเล่นเสริมทักษะความรู้ และด้านวิทยาศาสตร์ ที่น่าสนใจอีกมากมาย

          ปัจจุบันศูนย์การค้าซีคอน บางแค ได้เริ่มก่อสร้างตกแต่ง และดำเนินการขายพื้นที่ โดยมีพาร์ทเนอร์รายใหญ่ที่ให้ความสนใจจับจองพื้นที่แล้ว อาทิ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน), โรงเรียนดนตรีของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล, บริษัท รีโน (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท คาเมล (ประเทศไทย) จำกัด ฯลฯ พร้อมเปิดให้กับบริษัทฯ , ห้างร้าน, ผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ที่สนใจ เข้าจับจองพื้นที่ โดยสามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายขาย เบอร์โทรศัพท์ 0-2721-8888 ต่อ 577, 575, 596

          ในส่วนของพาร์ทเนอร์รายใหญ่ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษถึงประเด็นการเปิดตัวศูนย์การค้า ซีคอน บางแค ดังนี้ คุณวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) “ดีใจครับที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Seacon ผมวางใจและเชื่อว่าที่บางแคต้องไปได้ดีอย่างแน่นอน ศูนย์การค้าดีๆ ยังมีน้อย ในขณะที่คนแถวนั้นเยอะมาก หลายแสนคน เรียกได้ว่าเรามีโอกาสที่ดี และซีคอนเองไม่ได้หยุดนิ่ง สรรหากิจกรรมแปลกๆ มาคอยดึงดูดลูกค้าตลอดเวลา ผมสบายใจครับ นอกจากนี้ ผมชอบที่ Seacon เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย มีสินค้าเยอะ มีหลาย Zone เดินแล้วเพลินดี โดยเฉพาะที่บางแค สะดวกสบาย เดินทางง่าย คนแถวนั้นต้องชอบแน่ๆ ที่จอดรถก็เยอะไม่แออัด บรรยากาศดี ตกแต่งสวยโมเดิร์น ดูดีเชียวครับ”

          คุณปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) “การที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ร่วมลงทุนกับทางซีคอนบางแคในครั้งนี้ เนื่องจากเล็งเห็นถึงทำเลที่มีศักยภาพสูง รองรับการขยายตัวของกรุงเทพฯ รายล้อมด้วยหมู่บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม โรงเรียน มหาวิทยาลัย และแหล่งอุตสาหกรรม ส่วนด้านการคมนาคมก็มีความสะดวกสูงมาก เพราะอยู่บนถนนเส้นหลักเพชรเกษม และการขยายเส้นทางของรถไฟฟ้า MRT ซึ่งทางโรบินสันเองก็รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมมือกันอีกครั้ง เพื่อสร้างสีสันใหม่ๆ ให้กับวงการ ค้าปลีก ด้วยโมเดลธุรกิจรูปโฉมใหม่ ที่รวมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมชั้นนำ ครบครันทันสมัย พร้อมบริการที่ดีจากพนักงานมืออาชีพ ให้สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด “โรบินสัน...ใส่สีสันใหม่ให้ชีวิต” เชื่อได้ว่า ศูนย์การค้าซีคอน บางแค แห่งนี้ จะกลายเป็นจุดศูนย์กลางการช้อปปิ้งแห่งใหม่ ที่สร้างสีสันให้นัก ช้อปได้อย่างแน่นอน”

          รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข ผู้ก่อตั้ง ผู้อำนวยการ และคณบดีของ วิทยาลัยดุริยางศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล“สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจมาร่วมมือกันกับซีคอน คือ การร่วมกันเปิดโรงเรียนดนตรีของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์มาก่อนที่ ซีคอนสแควร์ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนในละแวกนั้น ได้มีโอกาสส่งลูกหลานมาเรียน ช่วยสาธารณะชนในเรื่องวิชาการ พอเวลาผ่านไปก็มีความรู้สึกว่าเราเป็นมิตรที่ดีต่อกัน และเป็นคุณูปการต่อสังคม เราจึงยินดีร่วมโครงการเพิ่มเติมกับซีคอนบางแค นอกจากนี้ จุดเด่นของซีคอนก็คือผู้บริหาร เป็นคนจิตใจดี เป็นนักธุรกิจเลือดใหม่ของสังคม ที่ตั้งของซีคอนบางแค มีศักยภาพ สามารถเข้าถึงได้สะดวก เส้นทางรถรา ที่จอดรถก็ดี ร้านค้ามีคุณภาพ มีสิ่งอำนวยความสะดวก การที่เราไปร่วมงานกับสิ่งที่มีดีอยู่แล้ว ผมคิดว่ามันทำให้ช่วยสังคมได้ง่ายขึ้นครับ”

          คุณปิยะ ธนากิจอำนวย CEO บริษัท รีโน (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท คาเมล (ประเทศไทย)จำกัด “อันแรกที่สำคัญที่สุดในการทำ Retail ธุรกิจสำหรับเสื้อผ้าอย่างลักษณะ AIIZ เนี่ยนะครับ เราก็จะให้ความสำคัญที่สุดในเรื่องของ Location ซีคอนบางแคเป็นโลเคชั่นที่ดีมาก เจริญเติบโตเร็ว ในปัจจุบันก็มีมหาวิทยาลัยและหมู่บ้านมากมาย ประการที่สองก็จะเป็นเรื่องของผู้บริหารศูนย์การค้า องค์กรเรามองว่าถ้าเราไปศูนย์ไหน ศูนย์นั้นก็จะต้องเป็นมืออาชีพ ทีมงานของซีคอนบริหารซีคอนสแควร์ได้ดีมากและก็มีการทำโปรโมชั่นที่แตกต่างจากที่อื่นมากมายครับ สำหรับซีคอนบางแค เราเห็นว่าเป็นที่ที่มีอนาคต เราก็จะเปิดร้านที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเปิด มีตั้งแต่ขนาด 700 ตร.ม. ไปถึง 1400 ตร.ม. แล้วก็ไปทุกยี่ห้อ ซึ่งเรามีอยู่ประมาณ 10 กว่าแบรนด์ครับ”

25
“มาดามทุสโซ” ตามหา โคลนนิ่ง “เลดี้ กาก้า” เมืองไทย!!!



         เชื่อแล้วว่า “แร๊งส์” ไม่หยุดจนฉุดไม่อยู่ไปซะแล้ว สำหรับป๊อปสตาร์ระดับโลก “เลดี้ กาก้า” เพราะขนาดนิตยสารชื่อดังยังยกย่องให้เป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก ประจำปี 2554 มาสดๆ ร้อนๆ โดยวัดจากรายได้ และจำนวนแฟนคลับในโลกออนไลน์ที่มีอยู่เกือบ 100 ล้านคน รวมถึงแฟนๆ ชาวไทย ซึ่งไม่เพียงแต่จะปลื้มกับลีลาการร้อง การเต้น บนเวที ของสาวฮอตคนนี้ แต่แฟนๆ ทั่วทั้งโลกต่างทึ่งกับความกล้าที่จะฉีกทุกกฎ พร้อมสร้างความแปลก แหวกแนวให้กับตัวเอง จนยกให้เธอเป็นแฟชั่น ไอคอนระดับตัวแม่

          ล่าสุดกระแสความฮอตของซุป’ตาร์ “เลดี้ กาก้า” ในเมืองไทย ก็ดังข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงเกาะอังกฤษ จน “พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ“ สุดยอดพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบ ต้องเลือกมาดามทุสโซ กรุงเทพฯ เป็นที่จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้ง “เลดี้ กาก้า” ประเทศที่ 9 ในโลก แถมตอกย้ำความ “แร๊งส์” ของเจ้าแม่แฟชั่น “พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ กรุงเทพฯ” เลยจัดกิจกรรมสุดพิเศษ ฉลองเปิดตัวหุ่นขี้ผึ้งของศิลปินสาวสุดฮอต ตามหา ”เลดี้ กาก้า” เมืองไทย เชิญชวนพลพรรคคนรัก “กาก้า” ส่งภาพถ่ายที่คิดว่าแต่งตัวได้เหมือน “เลดี้ ก้าก้า” มากที่สุด ในลุคไหนก็ได้ แบบเต็มตัว!! แล้ว โพสต์มาที่แฟนเพจ www.facebook.com/MadameTussaudsBangkok พร้อมบรรยายความเป็น “เลดี้ กาก้า” ในตัวคุณใต้ภาพถ่าย ตั้งแต่วันนี้ – 11 กรกฎาคม 2554 พร้อมทั้งจะประกาศผลทันทีทางแฟนเพจ ในวันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม 2554

          งานนี้ใครแต่งตัวเป็น “เลดี้ กาก้า” ได้แบบสุดเป๊ะ!! พร้อมโพสต์ท่าได้สุดเจ๋ง!! ไม่แพ้ซุป’ตาร์ระดับโลก รับเกียรติเข้าร่วมเป็นแขกพิเศษในงานแกรนด์ โอเพนนิ่ง หุ่นขี้ผึ้ง “เลดี้ กาก้า” ตัวแรกในเมืองไทย ในวันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2554 เวลา 15.00 น. ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น 6 พร้อมรับเงินรางวัล 3,000 บาท และบัตรเข้าชมมาดามทุสโซ กรุงเทพฯ แบบรายปี (Annual Pass) 1 ใบ ฟรีทันที!!! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-658-0060

26
          รพ.สัตว์ตลิ่งชัน ร่วมกับเดอะมอลล์ ขอเชิญร่วมงาน The Mall My Best Friend Charity “รวมพลคนรักสุนัข ระดมทุนช่วยเหลือน้องหมา” เริ่ม 14-20 ก.ค. นี้ ที่เดอะมอลล์ บางแค



          โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ร่วมกับห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ บางแค บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด กลุ่ม Dog Club และเครือข่ายคนรักน้องหมา ขอเชิญประชาชนและผู้รักสุนัขร่วมงาน “My Best Friend Charity รวมพลคนรักสุนัข ระดมทุนช่วยเหลือน้องหมา” ณ อีเว้นท์ ฮอลล์ ชั้น G เดอะมอลล์ บางแค ระหว่างวันที่ 14-20 กรกฎาคม 2554

          ในงานพบกับโชว์สายพันธุ์สุนัขที่นิยมเลี้ยง แฟชั่นโชว์สุดน่ารักของเหล่าน้องหมาในแบบ “Musical Fashion Dog SHOWs Charity” ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของเมืองไทย ตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดงโชว์ความสามารถพิเศษของบรรดาซุปตาร์น้องหมาจากละครดัง และเหล่าดาราใจบุญที่มาจำหน่ายเสื้อและของที่ระลึกเพื่อระดมทุนช่วยเหลือสุนัขจรจัด อาทิ อ้น-สราวุฒิ มาตรทอง แวร์โซ ส้มโอ-ธราภา กงทอง นักแสดงจากเรื่องโบ้โบ้ ฯลฯ และร่วมพูดคุยปัญหาสุขภาพของสุนัขร่วมกับ นายสัตวแพทย์บูรพงษ์ สุธีรัตน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน โดยรายได้ทั้งหมดจะมอบให้ศูนย์ควบคุมสุนัขประเวศ ในพระอุปถัมภ์ของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และเกาะสุนัขพุทธมณฑล

          ผู้สนใจทั่วไปสามารถนำสุนัขมารับบริการต่างๆ ในงานฟรี เช่น ตรวจสุภาพ ป้อนยาถ่ายพยาธิ ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า รับอาหารตัวอย่าง และร่วมสมัครสมาชิกกับโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชันเพื่อรับสิทธิพิเศษและส่วนลดต่างๆ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-887-8321-3, 087-1682187 หรือ face book //talingchanpet.com

27
ลลิลฯ ฉลองครบรอบ 24 ปี รับฟรี 24 รายการ


 
            ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ อัดโปรโมชั่นคืนกำไรลูกค้าสุดคุ้ม พร้อมมอบเงื่อนไขพิเศษสุด ฉลองครบรอบ 24 ปี รับฟรี 24 รายการ ในโครงการคุณภาพรวมกว่า 20 โครงการ ในแบรนด์ “ลลิลกรีนวิลล์” “บ้านลลิล”

“บ้านบุรีรมย์” “The Balcony Home” ส่วน โครงการทาวน์โฮม “Lio” จ่ายเพียง 2,400 บาท โอนได้ทันที ด้านโครงการ “LANCEO” บ้านเดี่ยว และบ้านแนวคิดใหม่ รับเงื่อนไขพิเศษสุด ตั้งแต่วันนี้ - 31 ส.ค. 54 นี้

          บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) คัดสรรโครงการคุณภาพมากกว่า 20 โครงการ จัดแคมเปญสุดคุ้มเพื่อคืนกำไร และเป็นของขวัญสำหรับลูกค้าทุกท่านของบริษัท ฉลองครบรอบ 24 ปี รับฟรีทันที 24 รายการ อาทิ ฟรีค่าโอน, แอร์, เฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ในแบรนด์“ลลิลกรีนวิลล์” “บ้านลลิล” “บ้านบุรีรมย์” “The Balcony Home” ด้านโครงการ Lio ทาวน์โฮมคนรุ่นใหม่ ดีไซน์ใหม่ จัดแคมเปญจ่ายเพียง 2,400 บาท พร้อมโอน ในระดับราคาเริ่มต้น 1.55 – 2.39 ล้านบาท ในทำเลวงแหวนฯ – ปิ่นเกล้า, วงแหวนฯ – รามอินทรา, พหลโยธิน – วัชรพล และเพชรเกษม 77 ด้านโครงการ “LANCEO” บ้านเดี่ยว และบ้านแนวคิดใหม่ ฉลองครบรอบ 24 ปี รับเงื่อนไขพิเศษสุด ในระดับราคาเริ่มต้น 2.59 – 5.0 ล้านบาท พลาดไม่ได้กับโปรโมชั่นพิเศษสุดที่พร้อมมอบให้กับลูกค้าทุกท่าน ด้วยการคัดสรรบ้านพร้อมอยู่คุณภาพเยี่ยม และสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้อย่างง่ายดาย ตั้งแต่วันนี้ - 31 สิงหาคม 2554 สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-725-9999 หรือ www.lalinproperty.com

28
วัน-ทู-คอล! ชวนนักศึกษาวางแผนสร้าง“ถั่ว” ให้เป็น “ทอง” ประกวดแผนพัฒนาธุรกิจประเภท“ถั่ว” ตอน...ติดปีก BEAN ชิงทุน 450,000 บาท







          “เยาวชนที่ร่วมโครงการประกวดแข่งขันต่าง ๆ จะไม่เพียงมีมุมมอง และวิธีคิดที่กว้างกว่า หรือได้รับโอกาสที่มากกว่าคนอื่น ๆ เท่านั้น... พวกเขายังถูกปลูกฝังเรื่องการมีจิตวิญญาณแห่งการเป็นเจ้าของกิจการไปในตัว โดยทุกคนจะล่วงรู้ความลับที่ว่า “ไม่จำเป็นว่า เรียนจบแล้วมีทางเลือกแค่การ “หางานทำ”...แต่เรายังสามารถ “สร้างงานขึ้น” เองก็ได้”         
 
เมื่อเร็ว ๆ นี้ วัน-ทู-คอล! ประกาศเปิดตัวโครงการ “วัน-ทู-คอล! แบรนด์เอจ อวอร์ด”  ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ชวนนิสิตนักศึกษาชั้นปีที่ 3 – 4 ไม่จำกัดสาขา/คณะทั่วประเทศ ร่วมสมัครประกวดเขียนแผนพัฒนาธุรกิจประเภท “ถั่ว”  ภายใต้ชื่อ “ติดปีก Bean …ต้องคิดแผนให้ดี วางแผนให้ชัวร์”  ประชันแนวคิด กลยุทธ์การตลาดสไตล์คนรุ่นใหม่เพื่อส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น (OTOP) ประเภท “ถั่ว”  กลายเป็นสินค้าโดดเด่นโดนใจตลาดแบบสุด ๆ   ชิงทุนการศึกษารวม 450,000 บาท เปิดรับสมัครและส่งผลงานได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 15 สิงหาคม ศกนี้
 
โดยงานเปิดตัวโครงการฯ จัดขึ้น ณ หอประชุมตึกเพชร มหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ วิทยาเขตรังสิต ท่ามกลางนักศึกษานับพันจากมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งเข้าร่วมฟัง รวมทั้งมีนักศึกษารุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยราชภัฎ นคราราชสีมา ผู้เคยได้รับรางวัลชนะเลิศจากโครงการฯในปี 2010 ได้มาร่วมให้ข้อคิดกับเยาวชนรุ่นน้อง ไว้อย่างน่าสนใจ
 
นายสุรเดช  เชียงใบ พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และอดีตสมาชิกทีมนักศึกษาผู้คว้ารางวัล จากโครงการ “วัน-ทู-คอล! แบรนด์เอจ อวอร์ด” ปีที่ 4 เปิดใจว่า “ตอนทีเรียนอยู่ปี 4 ผมและเพื่อน ๆ ได้ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ วัน-ทู-คอล! แบรนด์เอจ อวอร์ด ทั้ง ๆ ที่พวกผมจบ ปวส.แล้วจึงมาเรียนต่อมหาวิทยาลัย พื้นฐานจึงไม่แน่นเท่าผู้ที่เรียนมหาวิทยาลัย 4 ปีแต็ม แต่เราก็ไม่ท้อถอย พยายามทำอย่างเต็มที่ ประสบการณ์ในครั้งนั้น ช่วยให้ผมคันพบว่าเราสามารถทำในสิ่งที่หลายคนคิดว่าเราทำไม่ได้ รู้จุดอ่อนและจุดแข็งของตัวเองจากคำวิจารณ์ติชมของคณะกรรมการ ทำให้เราพัฒนาตัวเองได้เร็วขึ้น และมีความมั่นใจเมื่อต้องออกไปสู่โลกการทำงานจริง ถึงแม้ทุกวันนี้ผมได้ทำงานกับบริษัทแห่งหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมีบริษัทต่าง ๆ ติดต่อเข้ามามากกว่า 30 แห่ง นี่คือโอกาสที่เดินเข้ามาหาผมอย่างไม่สิ้นสุดจากการร่วมโครงการนี้ จึงอยากแนะนำให้น้อง ๆ อย่าลังเลที่จะไขว่คว้าประสบการณ์ที่มีค่าแบบนี้ไว้”

ในท่ามกลางกลุ่มนักศึกษารุ่นใหม่ ๆ ที่มาร่วมฟังการเปิดตัวโครงการ วัน-ทู-คอล! แบรนด์เอจ อวอร์ด ตอน ติดปีก...BEAN นาย นภัทร โภคาสัมฤทธิ์ ชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ ภาคการตลาด ม.กรุงเทพ ที่ได้รับการจุดประกายจากโครงการฯ และมีความมุ่งมั่นจะเป็นนักธุรกิจ บอกว่า “ปีนี้ผมขึ้นชั้นปีที่ 3 แล้ว จึงสามารถเข้าร่วมโครงการได้ ผมคิดว่ามันเหมือนเป็นการพิสูจน์ความสามารถของตัวเองจากตำราที่เรียนมา ว่าจะสามารถใช้ความรู้มาร่วมพัฒนาสินค้า OTOP ให้ติดปีกไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่จริงๆได้หรือไม่ มันเป็นโครงการที่ท้าทายมาก ๆ ครับ”
 
เฉกเช่นเดียวกับ นางสาวชลิดา เขียวสอาด ปี 4 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด ม.หอการค้าไทย ที่ตัดสินใจจับกลุ่มรวมทีมกับเพื่อนๆ เพื่อลงแข่งขันในเวทีนี้ และอยากพัฒนาสินค้า OTOP ให้ก้าวไกลสู่ระดับสากลมากขึ้น โดยเปิดใจว่า “หนูเป็นคนหนึ่งที่ชอบกินถั่วมากๆ จึงอยากนำความรู้และไอเดียอิสระ มาพัฒนาสินค้าประเภท “ถั่ว” ให้เติบโตอย่างยั่งยืนในตลาด โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยนัก หนูไม่อยากปล่อยให้ผ่านไปค่ะ ในเมื่อเราเรียนการตลาดมาแล้ว เราก็ต้องกล้าที่จะลงสนามเพื่อฝึกตัวเองด้วย”
 
ด้านนายอเนก อนันต์วัฒนพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลุ่มลูกค้าพรีเพด เอไอเอส กล่าวว่า “ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา โครงการ “วัน-ทู-คอล! แบรนด์เอจ อวอร์ด” ได้มีส่วนร่วมสร้างประสบการณ์ด้านการวางแผนธุรกิจให้กับเยาวชนเป็นจำนวนมากโดยเปิดให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้ไปพร้อมกับนำความคิดสร้างสรรค์ไปช่วยพัฒนาสินค้าพื้นบ้านให้มีความโดดเด่นและเข้มแข็ง ให้สามารถแข่งขันในตลาดระดับประเทศและถ้าเป็นไปได้ก็นำไปสู่การแข่งขันในตลาดระดับโลกด้วย”
 
ทั้งนี้ โครงการ “วัน-ทู-คอล! แบรนด์เอจ อวอร์ด ตอน ติดปีก...BEAN” เปิดรับนักศึกษาชั้นปีที่ 3 -4 ในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ไม่จำกัดสาขาและคณะ รวมกลุ่มไม่เกิน 4 คนและจะต้องมีอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นอาจารย์ในสถาบันเดียวกับผู้เข้าประกวดให้คำรับรอง ทีมแข่งขันจะต้องเลือกสินค้า OTOP ที่มีถั่วเป็นวัตถุดิบหลัก หรือสินค้าแปรรูปมาจากถั่วในภูมิภาคเดียวกับสถานศึกษามาพัฒนาสร้างสรรค์เป็นแผนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง โดยมีรางวัลเป็นทุนการศึกษารวม 450,000 บาท
 
            โดยการแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 2 รอบ ได้แก่ รอบที่ 1 คัดเลือกผลงานของทีมผู้เข้าแข่งขันทั้ง 6 ภาค ได้แก่ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคอีสาน และเขตกรุงเทพ ปริมณฑล  ให้เหลือ 13 ทีม เพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาค จากนั้นทั้ง 13 ทีมจะนำแผนงานไปพัฒนาเพื่อนำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการในรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศในวันที่ 15-16 ก.ย. ณ อาคารชินวัตร 1
 
นักศึกษาที่สนใจสามารถสมัครและส่งแผนพัฒนาธุรกิจร่วมโครงการนี้ได้ตั้งแต่วันนี้–15 สิงหาคมศกนี้ โดยดูรายละเอียดและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.12callbrandageaward.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-129-3857-8

29
ภาพข่าว: คิวเมดิคอลเซ็นเตอร์ร่วมออกบูธ



          นายปริวรรต ศุกรีเขตร รองประธานกรรมการบริหารบริษัท คิวเมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด ร่วมออกบูธในงาน Wedding Fair 2011 เพื่อประชาสัมพันธ์โปรแกรม ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ตรวจพันธุ์กรรมทำนายอนาคตสุขภาพ และโปรโมชั่นคอร์สผิวสวยหุ่นดีสำหรับเจ้าสาวภายใน 3 เดือน โดยมีจุ้มจิ้ม เอเอฟ 1 ร่วมทำกิจกรรมกับลูกค้าภายในบูธ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

30
KTAMเปิดทางเลือกใหม่กองทุนพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ เจาะลูกค้ารับความเสี่ยงต่ำอายุ10ปีผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อ
 
 
       นายสมชัย    บุญนำศิริ   กรรมการผู้จัดการ  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)   เปิดเผยว่า    บริษัทจะเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยพันธบัตรรัฐบาลชดเชยเงินเฟ้อ ( KTILB )   ในวันที่ 8-18  กรกฎาคม  2554      อายุ  10  ปี    มูลค่าโครงการ  1,000  ล้านบาท   เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000  บาท   เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรอ้างอิงอัตราเงินเฟ้อ ( ILB )   ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80     ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน     ส่วนที่เหลือจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งเงินฝาก    ตราสารแห่งหนี้    ตราสารการเงินอื่น ตามที่สำนักงานก.ล.ต.กำหนด

          โดยคาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทน จากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลชดเชยเงินเฟ้อ ( ILB ) ประมาณ 1.20%  ต่อปี บวกกับอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปี    ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ได้จาก ILB   และอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปี จะสะสมอยู่ในกองทุน   ซึ่งกองทุนมีนโยบายจ่ายผลตอบแทนคืนให้กับผู้ลงทุนในทุก 6 เดือน   โดยจะจ่ายคืนในส่วนของอัตราดอกเบี้ยของ ILB เท่านั้น หลังหักค่าใช้จ่ายจากกองทุน      ทั้งนี้ บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี หัก  ณ  ที่จ่าย

             จุดเด่นของกองทุนนี้ เป็นสินทรัพย์ทางเลือกสำหรับการลงทุนระยะยาวที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำ     กองทุนนี้จะรักษาเงินต้นและผลตอบแทนของผู้ลงทุนตามที่ได้กำหนดไว้   และคาดว่ากองทุนจะสร้างผลตอบแทนสุทธิได้สูงกว่าผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับจากการลงทุนเองโดยตรง  นอกจากนี้ จะเปิดให้ผู้ลงทุนที่ต้องการสภาพคล่อง สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้  หลังจากครบ 2 ปีแรก   ซึ่งบริษัทจะแจ้งวันและเวลาในการขายคืนหน่วยลงทุน     ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบไม่น้อยกว่า 7  วัน   

                  ทั้งนี้  อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ  10 ปี  อยู่ในอัตรา 3.90%  ต่อปี  (ข้อมูจาก  Thai BMA   ณ . 5 ก.ค. 2554 )    และเงินเฟ้อเฉลี่ยรายเดือนระหว่างปี 2530  ถึงปัจจุบัน  อยู่ในอัตรา 3.71%ต่อปี   ส่วนแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในอนาคต ฝ่ายวิจับยของบลจ.  กรุงไทย   คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อในระยะ 5 ปี ข้างหน้า จะอยู่ในช่วง3.1-4%  ต่อปี   โดยเฉพาะในปี 2554  คาดว่า จะสูงถึงร้อยละ 4.20%    เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา   จากแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ  การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการขาดดุลงบประมาณ  ผลกระทบจากการผ่อนคลายนโยบายการเงิน     รวมถึงการปรับขึ้นของราคาพลังงาน  ค่าขนส่ง  การทยอยปรับขึ้นของราคาสินค้า  จะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มแกว่งตัวในระดับสูงต่อเนื่อง    ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก

               กองทุนนี้เหมะสำหรับเงินลงทุนของผู้ลงทุนที่ต้องการทางเลือกใหม่   และต้องการออมเงินเพื่อเก็บไว้ในอนาคต   และรักษาค่าของเงินออมไม่ให้ลเดลงเพราะอัตาเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลชดเชยเงินเฟ้อ    ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนแปรผันไปตามการเปลี่ยนแปลงของดัชนีเงินเฟ้อ   จึงเหมาะสมกับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ

Pages: 1 [2] 3 4 ... 38