Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Facebook

Pages: 1 2 [3] 4 5 ... 186
31


เข้าพรรษานี้มาสร้างบุญให้ตัวเอง ด้วยการปลดล็อกชีวิต ผ่านนวนิยายธรรมะร่วมสมัย “Beautiful Girl นางสาวฉ่ำทุกข์ กับนายความสุข”



ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอย่างวันอาสาฬหบูชา – และช่วงเข้าพรรษานี้ ใครหลายๆ คนอาจมีแผนการเข้าวัดทำบุญ ถือศีล เดินทางไปกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสถานที่ต่างๆ หรือปฏิบัติธรรม ตามแต่จริตนิสัยของแต่ละคน

แต่รู้ไหมว่า ยังมีอีกหนึ่งวิธีการทำบุญที่เรียบง่ายที่สุด นั่นคือการเรียนรู้ตัวเอง ทำความเข้าใจตัวเอง การใช้เวลาอยู่ตัวกับเองเพื่อทบทวนพิจารณาสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแต่ละวันอย่างมีสติ เพื่อรู้จักชีวิตตามความเป็นจริง

ซึ่งในช่วงเข้าพรรษานี้ สำนักพิมพ์คูคัง บุ๊คส์ ได้นำเสนอหนังสือนวนิยายธรรมะร่วมสมัย “Beautiful Girl นางสาวฉ่ำทุกข์ กับนายความสุข” ที่เนื้อเรื่องอ่านง่าย สนุก ทันสมัย เข้ากับสังคมปัจจุบันที่มีค่านิยมเกี่ยวกับความสำเร็จ ชื่อเสียง ความสวย-หล่อ และความร่ำรวยมาเป็นอันดับแรก ๆ  นวนิยายเล่มนี้เป็นเรื่องราวของหญิงสาวนามว่า “พลอย-ไม่แคร์เวิลด์” ที่ผลักดันตัวเองจนสวยเลิศ รวย เก่ง ผู้เดินทางผ่านทั้งความสำเร็จ ความผิดหวัง ความล้มเหลว จนกระทั่งได้เรียนรู้ว่าแท้จริงแล้วทางออกจากทุกปัญหาในชีวิตอยู่ที่ข้างในใจเรานั่นเอง นับเป็นนวนิยายธรรมะอีกเล่มที่สามารถเป็นกุญแจไขรหัสปลดล็อกปัญหาในชีวิตให้กับคนยุคปัจจุบันได้ เล่มนี้เขียนโดย “นิรวาณ” และภาพประกอบพู่กันเดียวพร้อมบทกวีโดยบล็อกเกอร์หนุ่มนักคิดนักเขียนชื่อดังว่า “กะว่าก๋า” วีระกิจ อัชรีวงศ์ไพศาล จำหน่ายในราคาธรรมทานเพียงเล่มละ 95 บาทเท่านั้น รวมทั้งยังมีวางจำหน่ายที่ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์หนังสือธรรมศาสตร์ และนอกจากนี้ยังสามารถสั่งซื้อโดยตรง

ได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ “Beautiful Girl นางสาวฉ่ำทุกข์กับนายความสุข” หรือทาง Line ID: kuukanbooks หรือโทรติดต่อได้ที่หมายเลข 095-827-1460 หรือ 062-965-9536

32






ปรากฎการณ์งานศิลป์แห่งปีกับงานเปิดตัว The Fighters Project (เดอะ ไฟท์เตอร์ โปรเจค) งานนิทรรศการภาพถ่ายและหนังสือที่ได้แรงบันดาลใจจาก 6 คนพิการ ของสุทธิศักดิ์ สุจริตตานนท์


ช่วงพูดคุยบนเวที

ช่วงแสดงความสามารถ

ตุ๊ก ชนกวนันท์ กับเหล่านักสู้


ผ่านพ้นไปแล้วกับการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ของโปรเจค “เดอะ ไฟท์เตอร์” นิทรรศการภาพถ่ายและหนังสือภาพถ่ายที่รวบรวมภาพถ่ายของผู้พิการสู้ชีวิตทั้ง 6 คน ผ่านเลนส์กล้องของ นายสุทธิศักดิ์ สุจริตตานนท์ Creative Chairman บริษัท บีบีดีโอ กรุงเทพ จำกัด ร่วมด้วย คุณสุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย งานนี้ยังได้ คุณสู่ขวัญ บูญกุล มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับการสร้างแรงบันดาลใจ และที่สำคัญยังได้ดาราพิธีกรสาวสวย คุณตุ๊ก ชนกวนันท์ รักษ์ชีพ ให้เกียรติมาเป็นพิธีกรในงาน ซึ่งงานนี้มีคนในแวดวงถ่ายภาพและครีเอทีฟมาร่วมบริจาคกันอย่างคับคั่ง ณ ลานกิจกรรม ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ผ่านมา

“เดอะ ไฟท์เตอร์ โปรเจค”
นิทรรศการภาพถ่ายและหนังสือภาพถ่ายของผู้พิการสู้ชีวิตทั้ง 6 คน จัดทำขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ต้องต่อสู้เพื่อดำรงชีวิตในปัจจุบัน โดยการนำเสนอภาพและไลฟ์สไตล์ของผู้พิการทั้ง 6 คน ได้แก่ คุณเอกชัย วรรณแก้ว ศิลปินนักวาดภาพไร้แขน, น้องเบส พีรัช พนาโยธากุล หนุ่มผู้มีภาวะดาวน์ซินโดรม เจ้าของกิจการร้านตัดเสื้อ, น้องฝ้าย บุญธิดา ชินวงษ์ บิวตี้บล็อกเกอร์ ผู้พิการไร้แขน, น้องธันย์ ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ ผู้พิการไร้ขาทั้งสองข้าง ซึ่งกำลังศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย และทำงานเป็น “ผู้สำรวจความสุข” ที่โรงพยาบาล, คุณสุเมตร ธรรมวงศ์ มือกลองตาบอดแห่งวงดนตรีไดมอนด์ และ คุณสายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบทีมชาติไทย ผู้ขาพิการทั้งสองข้าง เขาทั้งหมดนี้ล้วนมาจากต่างสายงานอาชีพที่ต้องต่อสู้และไม่ย่อท้อกับสถานการณ์ต่างๆ ในทุกวัน ซึ่งพวกเขาทั้งหมดพร้อมเสมอที่จะเผชิญหน้ากับทุกเรื่องแม้ร่างกายจะไม่สมบูรณ์ เพราะพวกเขาคิดเสมอว่าต้องมุ่งมั่นทำทุกอย่างให้สำเร็จบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ในที่สุด

ภายในงานได้มีการจำหน่ายโฟโต้บุ๊คและภาพถ่ายของ 6 นักสู้ชีวิต พร้อมเปิดรับเงินบริจาค ซึ่งรายได้ทั้งหมดของโฟโต้บุ๊คและภาพถ่าย หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วรวมทั้งยอดเงินบริจาคทั้งหมดจากการขอร่วมรับบริจาคจะมอบให้กับมูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย (มพพท.)

นายสุทธิศักดิ์ สุจริตตานนท์ กล่าวว่า “ด้วยสายงานครีเอทีฟและความชื่นชอบในการถ่ายภาพ ผมคิดว่าคงจะดีถ้าผมสามารถใช้ทักษะและความสามารถที่มีทำประโยชน์แก่สังคมได้บ้าง ผมจึงทำโปรเจคภาพถ่ายชุด “The Fighters” หรือ “นักสู้” นี้ขึ้น เพราะตั้งใจอยากให้ภาพและเรื่องราวของนักสู้ทั้ง 6 ท่าน ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน และถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างพลังบวกสู่สังคม เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนในการใช้ชีวิต อย่าให้ความไม่พร้อมไม่ว่าจะเป็นทั้งทางร่างกายหรือจิตใจ มาเป็นตัวเหนี่ยวรั้งให้เราจมปลักอยู่กับอุปสรรคต่างๆ นอกจากนี้ผมอยากให้ทุกคนมีทัศนคติที่ดีต่อคนพิการ ช่วยกันสนับสนุนให้พวกเขามีสิทธิและความเสมอภาคเท่ากับบุคคลทั่วไปซึ่งจะเป็นการสร้างแรงกระตุ้นให้คนพิการมีความหวังและสามารถใช้ชีวิตอย่างคนปกติโดยไม่รู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า” นายสุทธิศักดิ์ ยังกล่าวต่อว่า “ผมอยากให้สังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาครัฐ มุ่งเน้นโครงการส่งเสริมทักษะและอาชีพ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อให้พวกเขาเป็นพลังที่เข้มแข็งของสังคม และเป็นตัวอย่างของผู้ที่สู้ชีวิต พิสูจน์ให้เห็นว่า ‘ชีวิตเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะลุกขึ้นสู้ได้’ ทั้งนี้ผมและทีมงานอยากจะขอบคุณผู้ที่สนับสนุนโปรเจ็กต์ “The Fighters” ทุกท่าน ทั้ง บริษัท ไลก้า (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับอุปกรณ์ถ่ายภาพ, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สำหรับความอนุเคราะห์เรื่องสถานที่, บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งดูแลเรื่องการจัดนิทรรศการ สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์พลังบวกนี้สู่สังคม”


ด้าน นายสุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ กรรมการและเลขาธิการ มพพท. กล่าวว่า “มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทยจัดตั้งสนับสนุนและส่งเสริมความมีโอกาสอันเท่าเทียมของคนพิการในประเทศไทย โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างโอกาสการเข้าไปมีส่วนร่วมของคนพิการในสังคม ซึ่ง เดอะ ไฟท์เตอร์ โปรเจค เป็นนิทรรศการที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์นักสู้ของคนพิการ และแสดงให้เห็นถึงความเสมอภาคของคนพิการในสังคมได้เป็นอย่างดี โดยรายได้จากการการจัดงานครั้งนี้ ทางมูลนิธิสามารถนำไปสนับสนุนภารกิจหลักของตัวมูลนิธิ คือ การพัฒนาคนพิการอย่างยั่งยืน ด้วยการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการแพทย์ การศึกษา อาชีพ กิจกรรมกีฬา นันทนาการ วัฒนธรรม สังคม และอื่นๆ”








สำหรับผู้ที่สนใจร่วมบริจาคภาพถ่ายและหนังสือภาพถ่าย “เดอะ ไฟท์เตอร์” โปรเจค ของเหล่านักสู้ทั้ง 6 สามารถสั่งซื้อได้ที่ https://www.facebook.com/thefightersproject/ อีเมล: thefightsproject18@gmail.com

33
พบหนังสือใหม่พร้อมโปรเด็ด...ช็อปจุกคุ้มจัด ที่งาน a book fair 2019 a book sanctuary

a book Sanctuary ไม่ใช่แค่งานหนังสือ อะบุ๊กขอเปิดพื้นที่อบอุ่นแด่นักอ่านทุกคน แฟนอะบุ๊กทุกรุ่น ชวนมาช็อปหนังสือใหม่ แลกหนังสือเก่า และเพื่อนสำนักพิมพ์อีกมากมาย อาทิ Salmon Books, Kai3, p.s. publishing, Spacebar Design Studio, Bookscape, Fullstop Book,  Typhoon Studio, Happening Shop, 10 Millimeters, Salt Publishing จะมาร่วมแสดงพลังคนรักหนังสือด้วยกัน และยังมี 14 โปรเด็ด ช็อปจุกคุ้มจัด ที่งาน a book sanctuary ครั้งแรก! จับเชตหนังสืออะบุ๊กและนิตยสารอะเดย์ เพิ่มรอบ Night Owl เอาใจคนเลิกงานค่ำ เตรียมเคลียร์ชั้นหนังสือรอเลย รวมถึงกิจกรรม Lucky Bag หนังสือถุงละ 100 บาท พร้อมมันกับเกมสนุก รวมถึงการแลกหนังสือและแมกกาซีนหายาก ใครอยากได้ไม่มีขายแต่เอาเล่มโปรดมาแลกกัน และฟินกับสเปเชียลอีเว้นต์ อาทิ วรรณคดีไทยไดเจสต์ Fan Art, London Book Sanctuary Talk and Draw, To Read or Not to Read : Editors Talk

ทั้งหมดนี้และมากกว่า จะเกิดขึ้นในงาน a book Sanctuary วันที่ 8 - 11 กรกฎาคมนี้ 10.00 น. - 22.00 น. ที่ Terminal21 ชั้น M – Paris #abooksanctuary #abookfair2019
 


To Read or Not to Read, That Is My Question (หากโลกนี้ไม่มีหนังสือ)



‘ร้านหนังสือแถวบ้านผมกำลังจะปิดตัวลง ผมเป็นคนแรกที่รู้ เพราะพ่อผมเป็นเจ้าของร้าน...’

หนังสือภาพเล่มใหม่จากจิมมี่ เลี่ยว เปิดเรื่องด้วยสถานการณ์คลาสสิกในโลกสมัยใหม่ คนอ่านหนังสือน้อย จนร้านหนังสือต้องปิดกิจการ ทว่าจิมมี่ เลี่ยว ถ่ายทอดเหตุการณ์นี้ผ่านสายตาเด็กชายลูกเจ้าของร้าน ที่จริงๆ แล้วก็ขี้เกียจช่วยพ่อจัดชั้นหนังสือ แต่พอเห็นพ่อเศร้าใจ เขาจึงนัดแนะเพื่อนฝูงมารวมตัว เพื่อช่วยกันตอบคำถามเรียบง่าย...แสนยิ่งใหญ่

ทำไมเราถึงไม่อ่านหนังสือกันอีกแล้ว?

นำเสนอผ่านสไลด์คำคมของนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ทุกยุคสมัย
ความเหนือชั้นของจิมมี่ เลี่ยว คือ เขาไม่ได้เขียนเรื่องนี้เพื่อขอให้คนกลับมาอ่านหนังสือ
แต่เขาสะกิดใจให้คิดอย่างจริงจัง ว่าสุดท้ายการอ่านสำคัญขนาดไหนกันแน่

‘การอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่ดี แต่การไม่อ่านหนังสือก็ควรเป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน'
นี่คือหนังสือที่ท้าทายสามัญสำนึกในการอ่านของเราอย่างแท้จริง ผ่านภาพวาดของจิมมี่ที่พาเราลอยละล่องไปสู่โลกใบอื่นเสมอ

นักอ่านจะดื่มด่ำหลงใหล และอยากทะยานไปหาหนังสือเล่มโปรดในทันที
ส่วนนักไม่อ่านก็จะรู้สึกว่า...ไม่เห็นเป็นไร...มีหนทางอีกมากมายในการเรียนรู้โลก

เขียนและวาดภาพ: Jimmy Liao
แปล: วีรนาถ โชติพันธุ์

ราคาปก: 350 บาท

UNCOMMON TYPE: some stories | พิมพ์ (ไม่) นิยม



รวมเรื่องสั้น 17 เรื่อง ฝีมือเขียนของทอม แฮงก์ส ที่จะพาคุณไปพบว่าเขาเป็นอะไรซึ่งมากกว่าดาราที่เก่งและนิสัยดี ถ้าคุณคิดว่าเมื่อดาราลุกขึ้นมาเขียนหนังสือ เรื่องที่เขียนคงวนเวียนอยู่กับตัวตน มุขตลก ข้อมูลชีวประวัติซ่อนเร้น เรื่องซุบซิบที่ ฮอลลีวู้ดรีพอร์เตอร์ ยังไม่เคยรายงาน บอกได้ว่าไม่ใช่อะไรแบบนั้นเลย เพราะ UNCOMMON TYPE: some stories เป็นเรื่องแต่งล้วนๆ หลากเนื้อหา หลายลีลา บางเรื่องมาในรูปแบบของเรื่องสั้นทั่วไป บางเรื่องเพี้ยนมาในรูปแบบของบทความหนังสือพิมพ์ประเภทแสบๆ คันๆ ในรูปแบบของนิยายวิทยาศาสตร์ แถมด้วยเรื่องหนึ่งที่เขียนในรูปแบบของบทหนังโดยที่ทุกเรื่องจะมีเครื่องพิมพ์ดีดมาเกี่ยวข้อง

ทอม แฮงก์ส เป็นนักสะสมเครื่องพิมพ์ดีดตัวจริงเสียงจริง เขาเริ่มสะสมเครื่องแรกตั้งแต่ปี 1978 ซึ่งควรจะเรียกว่าซื้อมาใช้เสียมากกว่าสะสม เพราะเขาเป็นดาราที่ขึ้นชื่อว่าชอบตอบจดหมายแฟนๆ (ถ้ามีเวลาตอบ) ด้วยการพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดลงบนกระดาษ ใส่ซองติดแสตมป์ส่งมากกว่าช่องทางอื่น ตอนไปถ่ายรูปเพื่อขึ้นปกนิตยสาร แวนิตี้แฟร์ ซึ่งมีธรรมเนียมเชิญดารามาถ่ายคลิปสั้นๆ สําหรับช่วง ‘ซีเคร็ต ทาเลนต์ เธียเตอร์’ ขณะที่คนอื่นเขาอวดว่าเล่นละครใบ้เป็น กินแมลงได้ รู้จักแสลงภาษาฮีบรู ฯลฯ แต่ความสามารถพิเศษที่ทอม แฮงก์ส อยากอวดคือวิธีเปลี่ยนผ้าหมึกเครื่องพิมพ์ดีดเฮอร์มีส 3000 ดูแล้วบันเทิงอย่างยิ่ง และเชื่อสนิทใจว่านายคนนี้รักชอบและยังใช้งานเครื่องพิมพ์ดีดจริง แม้ว่าโลกของการเขียนอ่านจะถลําลึกไปกับระบบดิจิทัล จนการเปลี่ยนผ้าหมึกเครื่องพิมพ์ดีดดูเป็นเรื่องเซอร์เรียล พอๆ กับการพูดว่า ‘หมุนหา’แทนคําว่า ‘โทร.หา’

เรื่องสั้นทั้ง 17 เรื่องในมือคุณจะมีเครื่องพิมพ์ดีดหลายรุ่นหลายแบบตัวอักษรเดินเข้าออกฉาก บางเรื่องเกือบจะเป็นนักแสดงนํา หลายเรื่องเป็นนักแสดงสมทบ บางเรื่องเป็นระดับตัวประกอบเดินเข้าออกฉาก ให้เสียงบรรยากาศของสถานที่หรือเป็นพร็อปที่ช่วยบอกยุคสมัยรวมไปถึงบุคลิกและจริตวิสัยของตัวละคร ซึ่งล้วนแต่เป็นกลวิธีการเล่าเรื่องที่มีเสน่ห์มาก

หากรางวัลออสการ์ดารานําชายยอดเยี่ยม 2 ปีซ้อนคือเครื่องการันตีความสามารถของนักแสดงผู้นี้ ชั้นเชิงในฐานะนักเขียนซึ่งทอม แฮงก์ส ฝากไว้ในหนังสือเล่มนี้เด่นโดดจนน่าอิจฉาแค่ไหน ปากคําของสตีฟ มาร์ติน คงบอกได้ดีที่สุด

“กลายเป็นว่าทอม แฮงก์ส ยังเป็นนักเขียนที่ทั้งมีปัญญา ทั้งเฮฮาอารมณ์ขัน สมองขยันปล่อยมุขเซอร์ไพรส์ได้ไม่รู้จักจบ เกลียด”

เขียน: Tom Hanks
แปล: ภาณุ บุรุษรัตนพันธุ์

ราคาปก: 395 บาท

London Book Sanctuary



พร้อมไหม ที่จะหล่นลงไปในโพรงกระต่ายหน้าตาเหมือนร้านหนังสือ

London Book Sanctuary พาคุณตะลอนเที่ยวร้านหนังสือเล็กๆ แต่มหัศจรรย์ทั่วกรุงลอนดอนไปกับศิลปินสาวน้อย ฟาน.ปีติ พร้อมสนทนาเพลิดเพลินกับมนุษย์หนังสือหลากหลาย สำหรับคนรักหนังสือ ลอนดอนคือบ้านอันอบอุ่นและปลอดภัย หรือหากคุณแค่หมดกำลังใจ เรารับรองว่าทุกร้านที่ฟานพาไปจะจุดประกายความฝันใหม่ๆ ให้แก่คุณ

ไม่ว่าจะเป็น...

ร้านหนังสือ cookbook ที่เปิดร้านอาหารอยู่ด้านในด้วย ทดลองทำเมนูจากตำราที่ตัวเองขาย / ร้านหนังสือสีรุ้งที่ยืนหยัดเพื่อความหลากหลายทางเพศ กลายเป็นที่พึ่งของผู้คนที่สับสน / โกดังหนังสือเก่าสูงท่วมหัวของชายวัยเกษียณจอมเพี้ยน แต่แข็งแรงและสดใส / ร้านหนังสือสงครามที่นำเสนอเรื่องสงครามเพื่อหมายจะยุติมันตลอดไป / ร้านหนังสือตำราเวทมนตร์ ที่แน่นอนว่าเจ้าของร้านเป็นแม่มด / และยังมีเรือที่จอดอยู่ริมฝั่งน้ำ ทั้งลำคือร้านหนังสือ และในวันอากาศดี บนดาดฟ้ายังบรรเลงเพลงแจ๊สสดๆ ให้ฟัง ฯลฯ

"เสียงตอบรับและปฏิกิริยาของผู้คนนี่แหละเป็นกำลังใจให้ผมอยากเปิดร้านต่อไป หลายครั้งมีคนเข้ามาคุยกับผมในร้านหนังสือแล้วร้องไห้ ร้านของเราทำให้พวกเขาตระหนักว่าสังคมนี้มีบางอย่างผิดพลาด ชีวิตของพวกเขามีบางอย่างขาดหาย และพวกเขาต้องการมันกลับมา" จอห์น เจ้าของเรือร้านหนังสือกล่าว

เรื่องและภาพ: ฟาน.ปีติ

ราคาปก: 345 บาท

วรรณคดีไทยไดเจสต์ (Limited Edition)



วรรณคดีไทยไดเจสต์โฉมใหม่ ฝีมือการวาดภาพปกและภาพประกอบในเล่มโดยวิว - ชนัญญา โดยได้แรงบันดาลใจจากปกเดิมที่หลายคนคุ้นตา

• เรื่องสุดสยองในวรรณคดี
• การเกิดสุดอนาถของตัวละคร
• ๕ อันดับนางในวรรณคดีสุดปากจัด
• ๔ เหตุผลที่ทำให้หนุ่มๆ ในวรรณคดีหันมาแต่งหญิง
• ทศกัณฐ์รักนางสีดามากกว่าจริงเหรอ?
• พระลักษมณ์อ่อนจริงหรือคิดกันไปเอง?

นำวรรณคดีไทยมา 'ไดเจสต์' หรือย่อยให้เหลือแต่เรื่องราวแสบๆ แซ่บๆ ที่คุณอาจสนใจ พลางเติมชูรสให้อ่านเพลิน เพิ่มความเห็นให้อ่านสนุก โดย Youtuber สายวรรณคดีที่มีผู้ติดตามมากมาย

เขียนและวาดภาพ: ชนัญญา เตชจักรเสมา

ราคาปก: 315 บาท

*สอบถามเพิ่มเติมฝ่ายประชาสัมพันธ์ a book : อ้อ สาวิตรี 082 6632935, Line aorpr55

34
ปฏิทินข่าว ‘สุทธิศักดิ์ สุจริตตานนท์’ ครีเอทีฟมือหนึ่งแห่ง BBDO เปิดตัวนิทรรศการภาพถ่ายและหนังสือภาพถ่าย ‘The Fighter Project’



คุณสุทธิศักดิ์ สุจริตตานนท์ Creative Chairman  บีบีดีโอ กรุงเทพ ครีเอทีฟ เอเจนซี่โฆษณาชั้นแนวหน้าของไทย จัดงานเปิดตัว ‘The Fighter Project’ นิทรรศภาพถ่ายและหนังสือภาพถ่าย ของผู้พิการสู้ชีวิต 6 ท่าน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ต้องต่อสู้และดำรงชีวิตในโลกปัจจุบัน โดยจัดขึ้นในวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 เวลา 14.00 น. ณ ลานกิจกรรม ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ภายในงานจะมีการประมูลภาพถ่ายมาสเตอร์พีช 6 ภาพ และจำหน่ายหนังสือภาพจาก 6 นักสู้ชีวิต ซึ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะถูกบริจาคให้มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย (มพพท.)

35
ภาพข่าวประชาสัมพันธ์ เตรียมจัดงานซีไรต์ 
 


เตรียมจัดงานซีไรต์ - หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ประธานคณะกรรมการดำเนินงานรางวัลวรรณกรรมยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประชุมร่วมกับ รองศาสตราจารย์ ดร.ตรีศิลป์ บุญขจร นายกสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทยฯ และ กนกวลี กันไทยราษฎร์ นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย เพื่อเตรียมงานพระราชทานรางวัลซีไรต์ ประจำปี 2559 – 2561 และจัดการประกวดกวีนิพนธ์ประจำปี 2562 ณ วังสวนผักกาด เมื่อเร็วๆ นี้



36
ข่าวประชาสัมพันธ์ หอสมุดนิลเซนเฮส์ เปิดบ้านต้อนรับลูกค้าที่รักการอ่าน ในงานขายหนังสือมือสองรอบแรกของปี ในเดือนหน้านี้







กรุงเทพฯ, ประเทศไทย - พฤษภาคม 2562 - หอสมุดนิลเซนเฮส์เป็นสถาบันการเรียนรู้ที่มีชื่อเสียงในเรื่องเป็นศูนย์รวมของหนังสือภาษาอังกฤษมากกว่า 20,000 เล่ม ซึ่งทางหอสมุดฯ จะจัดงานขายหนังสือมือสอง ในวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคมและวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 9:30 น. ถึง 16:00 น. เราจัดจำหน่ายหนังสือภาษาอังกฤษมือสองจำนวนหลายพันเล่ม นับได้ว่าเป็นแหล่งจำหน่ายหนังสือภาษาต่างประเทศมือสองที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ

เราขอเชิญทุกท่านมาเลือกซื้อหนังสือนิยายและสารคดีภาษาอังกฤษ ซึ่งมีจำหน่ายจำนวนหลายพันเล่ม รวมทั้งยังมีภาษาอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทางหอสมุดฯได้รับบริจาคมาจากผู้สนับสนุนของเรา รวมกับหนังสือที่เราได้คัดออกจากชั้นวางหนังสือของหอสมุดฯเอง หนังสือเหล่านี้เป็นที่นิยมของนักอ่านทุกรุ่นทุกวัย ราคาเริ่มต้นเพียง 20 บาทเท่านั้น พร้อมกันนี้ เรายังมีหนังสือเก่าหายากอีกจำนวนหลายเล่มซึ่งเราตั้งราคาตามมูลค่าราคามาตรฐาน และเพื่อเป็นการช่วยลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติก ในงานนี้ทางเราจัดจำหน่ายถุงกระดาษในราคา 10 บาทต่อหนึงใบ และยังมีถุงผ้าลดโลกร้อนของ
หอสมุดนิลเซนเฮส์เองซึ่งเป็นที่นิยม มาจัดจำหน่ายในราคา 350 บาท หรือหากไม่ต้องการซื้อถุงจากเรา ทางหอสมุดฯ
ขอแนะนำให้ท่านนำกระเป๋า ถุง หรือกล่องมาเอง เพื่อช่วยลดปริมาณขยะลง

และหากท่านมีหนังสือที่ไม่ใช้แล้วจะนำมาบริจาคให้เรา โปรดส่งมาได้ที่ อาคารหอสมุดนิลเซนเฮส์ ถนน สุรวงศ์ ในเวลาทำการ 09.30 น. ถึง 17.00 น. วันอังคารถึงวันอาทิตย์ ก่อนวันงานขายหนังสือ ซึ่งรายได้ทั้งหมด จะนำไปบำรุงรักษาอาคารซึ่งเป็นโบราณสถานที่สำคัญ และสมทบทุนเพื่อสนับสนุนโปรแกรมการศึกษาและศิลปะวัฒนธรรม

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมอาคารหอสมุดฯหรือจะมางานขายหนังสือ ทางเราขอแจ้งให้ท่านทราบว่า ในวันงานนั้นไม่อนุญาตให้จอดรถในบริเวณหอสมุดฯ ท่านต้องนำรถไปจอดยังอาคารวรวิทย์ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันทางขวามือ บนถนนสุรวงศ์ ขับผ่านแยกเดโช ผ่านถนนนเรศมาประมาณ 20 เมตรก่อนถึงทางเข้าห้องสมุด โดยเสียค่าใช้จ่าย 60บาท/คัน และเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียค่าปรับ ท่านไม่ควรจอดรถบนถนนบริเวณหน้าหอสมุดฯ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดโทรมาที่ 02-233-1731 หรือ อีเมล์ info@neilsonhayslibrary.org หรือเยี่ยมชม Facebook ของหอสมุดฯได้ที่ https://www.facebook.com/NeilsonHaysLibrary/

หอสมุดนิลเซนเฮส์
195 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ
โทร: 02 233 1731
info@neilsonhayslibrary.org
9:30 น. - 17:00 น. (ปิดวันจันทร์)

37
“Bookpanich.com” ร้านหนังสือออนไลน์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ยุคดิจิทัล



ในปัจจุบันการซื้อขายออนไลน์ เป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ไปเสียแล้ว ร้านหนังสือออนไลน์ เปิด 24 ชม. ไม่มีวันหยุด “Bookpanich.com” เป็นร้านหนังสือออนไลน์  ออกแบบหน้าเว็บสไตล์คลาสสิค วินเทจ ได้รวบรวมหนังสือใหม่และเก่า ที่เหล่าปัญญาชนไทย ยุคก่อนอ่านกัน ทั้งแนว การเมือง เศรษฐศาสตร์ ปรัชญาศาสนา ชีวประวัติ บุคคลสำคัญ รวมไปถึงวรรณกรรม เล่มหายาก


คุณณัทกร อภิรติกุล ผู้ก่อตั้ง “Bookpanich.com” ร้านหนังสือออนไลน์ เผยว่า “จุดเริ่มต้นมาจากคุณพ่อ ซึ่งท่านเป็นคนรักการอ่านมาก เป็นนักสะสมหนังสือ และของเก่าของโบราณ สะสมไปมาปัจจุบัน มีหนังสือหลายหมื่นเล่ม จำเป็นต้องสร้าง Warehouse เล็กๆ ที่สนามในบ้าน เพื่อเก็บสต๊อกหนังสือ ซึ่งคุณพ่อก็มีเว็บของตัวเอง คือ thebookbun.com และ elitebook24.com ถึงหนังสือจะเยอะมาก แต่ก็มีหมุนเวียนหนังสือ ภายในร้านตลอดเวลา ปัจจุบันมีลูกค้าทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ในต่างจังหวัดอาจอยู่ห่างไกลร้านหนังสือใหญ่ๆ ลูกค้าร้านเรามีหลากหลาย นักศึกษา อาจารย์ แพทย์ ทนายความ ไปจนถึง หลวงพ่อจากวัดป่า มีทุกแบบ ต้องขอบคุณ เทคโนโลยี ที่ทำให้เข้าถึงคนได้ง่ายขึ้น และสะดวกมาก เพราะร้านเรา มีหนังสือขายทุกหมวด ที่ทุกคนอยากอ่าน รู้สึกดีใจทุกครั้ง ที่ลูกค้าหลายคน ตามหาหนังสือบางเล่ม มานานมาก เขาตามหามาหลายปี search google ซึ่งมาเจอที่ร้านเรา เขาดีใจและขอบคุณมาก เหมือนเราได้ส่งความสุข ให้กับลูกค้า นี่แหละคือกำไร ตามชื่อสโลแกนร้านเรา "Delivering Happiness" ตอนนี้ มีอายุแค่ 2 ปี ยอดขายเพิ่มเรื่อยๆ เป็นที่น่าพอใจ”

คุณณัทกร กล่าวต่ออีกว่า “กลยุทธ์ทางการตลาดของเรา เล่นกับกระแสช่วงนั้น คนอินกับอะไร หรือช่วงที่คนอินกับละครออเจ้า หนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา ก็จะขายดีมาก เราก็จะ ทำโฆษณาโปรโมท เขียนคอนเท้นต์ เกี่ยวกับหนังสือสมัยอยุธยา เช่น ฟอลคอนแห่งอยุธยา , ประวัติพระเพทราชา ฯลฯ หรือ ช่วงนี้คนสนใจเรื่องเลือกตั้ง การเมืองเราก็จะทำโฆษณาหรือคอนเทนต์ เกี่ยวกับการเมือง ประวัติศาสตร์การเมือง อะไรแบบนี้”

“Bookpanich.com” ร้านหนังสือออนไลน์ เน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ใช้งานง่าย และสะดวกสบายในการสั่งซื้อ ขั้นตอนการซื้อเพียงลูกค้ากดเลือกหนังสือที่ต้องการซื้อ และชำระค่าบริการตามขั้นตอนในระบบ โดยสามารถโอนค่าบริการผ่านบัญชี PayPal, บัตรเครดิต รับชำระเงิน สกุลดิจิตอล XRP, BTC, ETH พร้อมจัดส่งสินค้าทุกวันมีระบบหลังบ้าน support หากพบปัญหา ตอบภายใน 1 ชม. พร้อมรับประกันสินค้า กรณีชำรุดขณะขนส่ง หรือมีตำหนิ ยินดี คืนเงิน หรือเปลี่ยนคืนสินค้าทุกกรณี

ปัจจุบัน “Bookpanich.com” ร้านหนังสือออนไลน์ ได้ร่วมพาร์ทเนอร์กับ บริษัทโลจิสติกส์ เพื่อรองรับระบบขนส่งสินค้าในอนาคต พร้อมเป้าหมายลงหนังสือเว็บไซต์ให้ได้หมื่นเล่ม ภายในนี้ปีนี้และแสนเล่มขึ้นไปในระยะเวลา 1-3 ปี เน้นหนังสือหายาก “Bookpanich.com” เชื่อว่า หนังสือที่ดี ยิ่งนาน ยิ่งมีคุณค่า นักสะสมมากมายต้องการซื้อเก็บ ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 094-789-5624 หรือ http://www.bookpanich.com/ และ Line: imabillionaire789

38
“50 วิธีสอนลูกทั้งสามเข้าเรียนสแตนฟอร์ด”



เนื้อหาโดยสังเขป
แอกเนส ชาน ไอดอลผู้โด่งดังจากญี่ปุ่นในยุค 70’s มาวันนี้เธอคือคุณแม่ลูกสามสุดอัศจรรย์ สำหรับตัวเธอเอง จบการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยระดับโลกอย่างมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของซิลิคอนวัลเลย์ บริษัทไอทีชั้นนำระดับโลกล้วนกำเนิดจากที่นี่ อัตราแข่งขันสอบเข้ามหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดสูงมาก ในจำนวนนักเรียน 100 คน มีแค่ 4.8 คนเท่านั้นที่สอบผ่าน ลำพังเพียงแอกเนส ชาน ที่สามารถจบจากที่นี่ได้ก็เป็นเรื่องสุดยอดแล้ว แต่การที่ลูกชายของเธอทั้งหมดสามคนก็เรียนจบจากสแตนฟอร์ดได้ เป็นเรื่องมหัศจรรย์ยิ่งกว่า อะไรคือเคล็ดลับในการสอนลูกให้สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยระดับโลกได้ หนังสือ 50 วิธีส่งลูกทั้งสามเข้าสแตนฟอร์ด มีคำตอบ


39
“อัตชีวประวัติ แอกเนส ชาน”





เนื้อหาโดยสังเขป
แอกเนส ชาน สุดยอดไอดอลญี่ปุ่นในยุค 70’s เธอเป็นนักร้อง-นักแสดงยอดนิยมแห่งเอเชียในขณะนั้น หลังจากนั้นเธอก็ได้ผันตัวเข้าไปสู่วงการด้านการศึกษา เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย จบการศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยระดับโลกอย่างมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ทุกครั้งที่มีข้อถกเถียงกันเรื่องการศึกษาในญี่ปุ่น เธอมักจะได้รับเลือกให้เป็นผู้ออกความคิดเห็นเสมอ อีกทั้งได้รับเลือกให้เป็นทูตสันถวไมตรีขององค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ทำงานอุทิศตัวเพื่อสังคม ช่วยเหลือเด็กทั่วโลกให้พ้นจากภัยสงครามและการค้ามนุษย์ กว่าจะประสบความสำเร็จดังเช่นทุกวันนี้ เชื่อหรือไม่ว่าครั้งหนึ่งเธอเป็นแค่เด็กน้อยธรรมดาคนหนึ่ง ขี้อาย ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง เรียนไม่เก่ง รู้สึกไม่มีความสุขอยู่ตลอดเวลา แต่แล้วชีวิตเธอก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล อะไรที่ทำให้เธอมุ่งมั่นผลักดันตนเองมาจนถึงจุดนี้ได้ ติดตามได้ใน อัตชีวประวัติ แอกเนส ชาน



40


ภาพข่าวประชาสัมพันธ์ งานเปิดตัวหนังสือ Agnes Chan


Agnes Chan กับ Arthur Kaneko






คุณหลิน เมญาณี เทียบเทียม ร้องเพลงแอกเนส


ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์




บรรยากาศงาน


เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2562คุณอาทร เตชะธาดา(ซ้ายสุด)กรรมการผู้จัดการ และทีมผู้บริหารสำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น ได้จัดงานเปิดตัวหนังสือของ แอกเนส ชาน (Agnes Chan) (ที่ 5 จากขวา) และลูกชายคนโต อาเธอร์ คาเนโกะ (Arthur Kaneko) (ที่ 4 จากซ้าย) ภายใต้ชื่องาน “Exclusive Night with Agnes Chan” ณ ห้องอังรีดูนังต์ สมาคมราชกรีฑาสโมสร โดย ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ (ที่ 3 จากขวา) กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่, คุณวีระศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ (ที่ 2 จากซ้าย) รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในการเปิดงาน และให้การสนับสนุนพร้อมคุณสุรางชยา จักราร์ จิราธิวัฒน์ (ที่ 5 จากซ้าย) Chairlady บริษัท Athena 23 จำกัด, คุณปรียนาถ สุนทรวาทะ (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ในการจัดงานครั้งนี้

แอกเนส ชาน ถือเป็นศิลปินระดับโลก หนึ่งในหญิงเก่ง ที่มีบทบาททั้ง นักเขียน นักร้อง นักพูด อาจารย์ และบทบาทสำคัญคือทูตสันถวไมตรีขององค์การยูนิเซฟ เป็นตัวแทนของหญิงสาวจำนวนมาก ถือว่าเป็นต้นแบบของคุณแม่ลูกสามที่มีแนวคิดและวิธีการเลี้ยงลูก ซึ่งได้เขียนหนังสือทั้งหมดกว่า 90 เล่ม ส่วนใหญ่ตีพิมพ์เป็นภาษาญี่ปุ่นและจีน หลายเล่มได้ถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษ เกาหลี เวียดนาม และไทย

หนึ่งในงานเขียนที่สร้างชื่อให้แอกเนส ชาน ได้แก่เรื่อง“50 วิธีสอนลูกทั้งสามเข้าเรียนสแตนฟอร์ด” ที่ได้กลายเป็นคู่มือเลี้ยงลูกของคุณแม่ในญี่ปุ่นและฮ่องกง และครองตำแหน่งหนังสือขายดีที่สุด (Best Seller) ในประเทศญี่ปุ่น  โดยวิธีการเลี้ยงลูกและวิธีการสอนลูกที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้  นอกจากจะเล่าถึงวิธีการทำให้ลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกได้แล้ว หนังสือยังอ้างอิงการเลี้ยงลูกให้เติบโตเป็นคนหนุ่มสาวที่เชื่อมั่นในตัวเอง เป็นที่ยอมรับและมีบทบาทในสังคมโลกอีกด้วย

นอกจากนี้ แอกเนส ชาน ยังมีหนังสือ อัตชีวประวัติ ของ แอกเนส ชาน (38 Revelations in Life) ที่ได้นำมาจัดจำหน่ายอีกด้วย  สำหรับท่านที่รักการอ่าน และเทคนิคในการเลี้ยงลูกให้ไปเรียนเมืองนอก สามารถหาซื้อหนังสือทั้ง 2 เล่ม ได้ตั้งแต่วันนี้ วางจำหน่าย ณ ร้านหนังสือซีเอ็ด, นายอินทร์, ศูนย์หนังสือจุฬา, มติชน, ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ และในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บูธ O 27 (โอ 27) โซน C ชั้นล่าง ถึงวันที่ 7 เมษานี้ หรือเว็บไซต์ http://bookonline.praphansarn.com



บูธหนังสือ


FCขอลายเซ็น




ของสะสมFC

41
เทคนิคเลี้ยงลูกให้ลูกเอาตัวรอดได้ในโลกยุคใหม่ โดยนพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ (จากหนังสือ สร้างเด็กภูมิดีด้วย EF)



           ในโลกยุคใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผลการเรียนที่ดีอาจไม่ใช่คำตอบ เพราะหลาย ๆ ครั้งเราเห็นแล้วว่า การศึกษาไม่ได้เป็นเครื่องมือที่การันตีความสำเร็จในอนาคตเสมอไป แต่ปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวกำหนดอนาคตของเด็กรุ่นใหม่ คือ Executive Function หรือ EF

          EF คือความสามารถของสมองที่ใช้ในการควบคุม ความคิด อารมณ์และการกระทำเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญที่จะช่วยให้เด็ก ๆ ประสบความสำเร็จในอนาคต ดังนั้น การศึกษาเรื่อง EF เป็นการลงทุนทางอนาคตของลูกที่คุ้มค่า เพราะการพัฒนา EF เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเด็กทุกคน


          นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาผู้ป่วยจิตเวช เด็กที่มีปัญหาพฤติกรรม และเยาวชนที่ใช้สารเสพติดมานาน 35 ปี และนักเขียนหนังสือคู่มือพ่อแม่ที่มีผู้ติดตามผ่านเฟซบุ๊คมากกว่า 300,000 คน ซึ่งงานเขียนเล่มล่าสุด "สร้างเด็กภูมิดีด้วย EF" โดย สำนักพิมพ์ แพรวเพื่อนเด็ก ได้มุ่งเน้นการอธิบายและสร้างความเข้าใจเรื่อง EF โดยเฉพาะการปูพื้นฐาน EF ในวัยเด็ก และการแก้ไข EF ที่บกพร่องหลัง 7 ขวบ เพราะคุณหมอย้ำอยู่เสมอว่า การสร้างเด็กให้ดีตั้งแต่ต้นนั้นง่ายกว่าต้องมาแก้ตอนโตแน่นอน

          คุณหมอกล่าวชัดถึงเหตุผลที่พ่อแม่ยุคใหม่ต้องเรียนรู้เรื่องการสร้าง EF ให้กับลูก "พ่อแม่ทุกวันนี้บังคับลูกยาก เราจึงต้องการให้ลูกของเรากำหนดเป้าหมายเป็น ไม่ใช่เป้าหมายแบบลมเพลมพัด อารมณ์ชั่ววูบ แต่เราต้องการมีสมองที่ดีพอที่จะเห็นฃอนาคตอันแสนไกลและระบุเป้าหมายทั้งหมดนี้คือ EF หรือExecutive Function"

          คุณหมอประเสริฐได้กล่าวอีกว่า พ่อแม่มีเวลาเพียงแค่ 7 ปีในการเลี้ยงดูลูก ช่วยสร้าง EF ให้กับลูก ระยะเวลา 7 ปีนั้น จะพูดว่านานก็ดูเหมือนนาน จะพูดว่าไม่นานก็ไม่นานจริง ๆ เพราะว่าเวลา 7 ปี ผ่านไปเร็วมาก จึงแนะนำว่าให้ใช้เวลานี้ให้คุ้มค่าที่สุด ยอมเหนื่อยวันนี้เพื่ออนาคตที่ดีของลูก สร้างสมองของลูกมิใช่เอาไว้เรียนเก่ง แต่เอาไว้ควบคุมตัวเอง ตัวเองที่ว่าคือความคิดที่ว่า เราจะทำอะไรในอนาคต ความคิดที่จะไม่เฉไฉไปสู่อบายมุข ควบคุมอารมณ์ที่จะไม่ลุ่มหลง เชิดหน้าแล้วเดินไป ไม่หลงตัวเองแล้วเดินหน้าไปสู่ อนาคต ควบคุมการกระทำ ถึงเวลาท่องหนังสือก็ท่อง เวลาเล่นก็เล่น และรู้จักหยุดเล่นเพื่อมาอ่านหนังสือต่อ ทั้งหมดนี้เพื่อจะไปถึงเป้าหมายของเด็กยุคศตวรรษที่ 21

          หากที่บ้านอยากจะเริ่มฝึกทักษะ EF ให้ลูก คุณหมอได้เทคนิคง่าย ๆ ที่ทุกบ้านทำได้ และได้ผลแน่นอน คือ "อ่านนิทานให้ลูกฟังทุกคืน โดยเฉพาะสามขวบปีแรก อ่านตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องทุกคืน"

          ถึงแม้ว่า EF จะพัฒนาได้ดีที่สุดในช่วง 7 ปีแรก แต่หลังจากนั้นเรายังมีโอกาสในการแก้ไข EF ที่บกพร่องหลัง 7 ขวบ โดยต้องวางแผนให้ดี และปรับตามพัฒนาการของเด็กแต่ละคน เนื่องจากเด็กแต่ละคนแตกต่างกัน มีความพร้อมไม่เหมือนกัน การสร้าง EF ให้ลูกจึงไม่เคยเป็นเรื่องง่าย แต่เป็นเรื่องที่คุ้มค่าและชื่นใจเสมอเมื่อเราได้เห็นลูกเติบโตไปเป็นคนที่เอาตัวรอดได้ดี และไม่ใช่แค่เพื่อตัวเขาเองเพียงคนเดียว แต่เพื่อเป็นบุลคลากรที่ใช้งานได้ในสังคมด้วย เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนี้ นิยามของ EF ที่ครอบคลุมมากกว่าแค่การกำกับตัวเองให้เลือกเป้าหมาย ลงมือทำอย่างต่อเนื่องจนไปถึงเป้าหมาย โดยคำนึงถึงบริบทของสังคมด้วย

          ทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและช่วยให้ลูกเอาวางแผนและตั้งเป้าหมายในชีวิตได้ และทำอย่างต่อเนื่องไม่หยุดจนกระทั่งไปถึงเป้าหมายได้ ด้วยหนังสือ สร้างเด็กภูมิดีด้วย EFวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้านนายอินทร์ และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ ราคาเล่มละ 195บาทหรือสั่งซื้อผ่าน www.amarinbooks.com

42
‘ศูนย์หนังสือจุฬาฯ - ธรรมสภา- A Thing Book’ ชวนนักอ่านมอบของขวัญให้ชีวิต ด้วยนวนิยายธรรมะร่วมสมัย “Beautiful Girl นางสาวฉ่ำทุกข์ กับ นายความสุข” ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 47 ณ ศูนย์ฯสิริกิติ์



3 ร้านหนังสือชื่อดัง ศูนย์หนังสือจุฬาฯ , ธรรมสภา สถาบันบันลือธรรม และ A Thing Book ร่วมกันแนะนำหนังสือนวนิยายธรรมะร่วมสมัยอ่านง่าย “Beautiful Girl นางสาวฉ่ำทุกข์ กับ นายความสุข” หนังสือคุณภาพเล่มที่ต้องมีในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 47 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 17 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 7 เมษายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

สำหรับหนังสือนวนิยายธรรมะร่วมสมัย “Beautiful Girl นางสาวฉ่ำทุกข์ กับ นายความสุข” จากสำนักพิมพ์คูคัง บุ๊คส์ เป็นนวนิยายซึ่งโดดเด่นด้วยเนื้อเรื่องที่สนุก โดนใจ สะท้อนชีวิตคนยุคดิจิตอลที่เผชิญกับความพลิกผันและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผสมผสานหลักธรรมอย่างทันสมัยเป็นธรรมชาติเข้าใจง่าย เป็นหนังสือที่จะทำให้ผู้คนได้หันกลับมามองชีวิตของตัวเอง เรียนรู้ที่จะพลิกวิธีคิด วิธีการมองโลกให้สอดคล้องกับสัจธรรมความจริง เพื่อผ่านพ้นวิกฤตต่าง ๆ ในชีวิตได้อย่างไม่ทุกข์ใจ จึงนับเป็นหนังสือที่น่าสนใจอีกเล่ม ที่คนยุคนี้ควรหามาอ่านอย่างยิ่ง ข้อสำคัญจำหน่ายในราคาธรรมทานเพียงเล่มละ 95 บาทเท่านั้น ผู้สนใจสามารถแวะไปซื้อกันได้ที่ บูธศูนย์หนังสือจุฬาฯ โซน C1 บูธ N39, บูธธรรมสภา สถาบันบันลือธรรม โซนแพลนารี (Plenary) บูธ B16 รวมทั้ง บูธสำนักพิมพ์อะธิงบุ๊ค (A Thing Book) โซน C1 บูธ O23

นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้ได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ“Beautiful Girl นางสาวฉ่ำทุกข์ กับนายความสุข” หรือสั่งซื้อทางไลน์ ID Line : kuukanbooks หรือโทรสอบถามได้ที่  095-827-1460 หรือ 095-827-1435...โดยหากสั่งซื้อหนังสือตั้งแต่ 10 เล่มขึ้นไปได้ส่วนลด 10% พร้อมจัดส่งฟรีทั่วประเทศ  ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 10 เมษายนศกนี้เท่านั้น 

43


a day ฉบับคราฟต์ช็อกโกแลต

a day magazine ชวนหลับตาแล้วลองนึกถึงรสชาติของช็อกโกแลต.......................

หวาน-ขม สัดส่วนใดมากน้อยขึ้นอยู่กับความชอบและประสบการณ์ของต่อมรับรสทีนี้ลองนึกถึงรสชาติของคราฟต์ช็อกโกแลตคนที่ไม่เคยชิมคงนึกไม่ออกส่วนคนที่เคยชิมหลายคนสะท้อนว่ารสชาติแปลกแปร่ง เปรี้ยว หวาน ขม เฝื่อน ห่างไกลจากรสชาติช็อกโกแลตที่คุ้นลิ้น อร่อย ไม่อร่อย เป็นเรื่องรสนิยม ของใคร ของมัน ไม่อาจบังคับ ไม่อาจตัดสินแต่อย่างหนึ่งที่เห็นตรงกันได้คือความใส่ใจของคนทั้งกระบวนการ ตั้งแต่คนปลูก คนแปรรูป คนทำ คนชิม ไปจนถึงคนที่อยากบอกเล่าเรื่องราวภายในวงการคราฟต์ช็อกโกแลตให้คนทั่วไปได้รับรู้และเข้าใจเรื่องราวเช่นว่า ในบ้านเรามีคาเคายืนต้นมากว่าร้อยปี การพัฒนาฟาร์มคาเคาเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน คราฟต์ช็อกโกแลตไทยไปกวาดรางวัลมาแล้วทั่วโลก และอื่นๆ อีกมากมายเรื่องราวที่ยืนยันว่า มากกว่าการปฏิวัติทางรสชาติ คราฟต์ช็อกโกแลตคือการปฏิวัติทางความคิดไม่จำกัดตัวเองที่รสชาติหวาน-ขม แต่เปิดกว้างให้รสชาติสลับซ้อนซับไม่จำกัดสายพันธุ์ วิธีทำ วิธีปรุง วิธีกิน แต่เปิดกว้างให้ความเป็นไปได้ในทุกแง่มุมและนั่นเองที่จะพาคราฟต์ช็อกโกแลตไปไกลกว่าขนมโปรดของใครหลายคน แต่เป็นความสร้างสรรค์ที่สรรค์สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับทุกคนที่เกี่ยวพัน


a day223 ฉบับ craftchocolate เปิดให้ออร์เดอร์ในราคาพิเศษ80 บาทหรือDouble Craft Set เอาใจคนรักงานคราฟต์ จับคู่a day 219 และ a day 223 เล่มหนึ่งเล่าเรื่อง งานคราฟต์ร่วมสมัยแบบไทย-ญี่ปุ่น เล่มหนึ่งพูดถึงรสชาติหวานอมขมของช็อกโกแลตทำมือ รับ2งานคราฟต์สุดละเมียดจาก a day magazineในราคาสุดพิเศษ160บาทที่https://godaypoets.com

44
นิตยสารแพรว ฉบับมีนาคม 2562 กับธีม Cellulite Fighting ที่จะทำให้ทุกคนเตรียมพร้อมความฟิตและสตรองไปพร้อมๆ กับ 4 หนุ่มสุดฮอต สิงโต-คริส-โอม-ชิม่อน ที่แท็กทีมมาเพิ่มดีกรีความร้อนต้อนรับซัมเมอร์





          นิตยสารแพรว ฉบับมีนาคม 2562 กับธีม Cellulite Fighting ที่จะทำให้ทุกคนเตรียมพร้อมความฟิตและสตรองไปพร้อมๆ กับ 4 หนุ่มสุดฮอต สิงโต-คริส-โอม-ชิม่อน ที่แท็กทีมมาเพิ่มดีกรีความร้อนต้อนรับซัมเมอร์ด้วยหุ่นปัง กล้ามแน่นให้เห็นซิกซ์แพ็คกันชัดๆ พร้อมบทสัมภาษณ์สุดฟินที่ฉบับนี้เตรียมเอาใจทั้งชาวไทยและต่างประเทศด้วยภาษาไทย, จีน และอังกฤษ ให้อ่านกันอย่างจุใจ  ส่วนความฮอตของฤดูกาลนี้ไม่ใช่แค่อากาศและหนุ่มหล่อบนปกเพียงเท่านั้น เพราะแพรวได้ดึงเหล่าเซเลบริตี้สาวสวยมาประชันหุ่นสุดแซ่บในชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่อร่าความมั่นใจเกินร้อยต้อนรับอากาศร้อนๆ กันค่ะ อาทิ ม.ร.ว. แม้นนฤมาส ยุคลสวัสดิ์-ชูโต, จินนี่-เขริกา โชติวิจิตร, บิว-ศลิศฎพร กุลเพชรประสิทธิ์ เป็นต้น พร้อมเผยเคล็ดลับการดูแลตัวเองที่ไม่ต้องมีดีกรีระดับท็อปซุปเปอร์โมเดลก็ทำได้เพียงแค่คุณ Keep fit & Stay strong  และพบกับบทสัมภาษณ์เรื่องราวการลดน้ำหนักที่สร้างแรงบันดาลใจจากนางร้ายตัวแม่ขวัญใจคอละคร กิ๊ก-สุวัจนี พานิชชีวะ ซึ่งสู้กับความอ้วนที่สถิตอยู่กับเธอมานากว่า 10 ปีได้สำเร็จ พร้อมเนื้อหาอื่นๆ อีกมากมายที่หากใครกำลังอยากจะมีสุขภาพดีก็สามารถ ติดตามเรื่องราวพิเศษได้ในนิตยสารแพรว ฉบับมีนาคม 2562  หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟสบุ๊คนิตยสารแพรว และ www.praew.com         

45
ROOM BOOKAZINE ฉบับเดือนมีนาคม – เมษายน 2562 MODERN MOVEMENT ก้าวย่างไปในงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่



          Room Bookazine ฉบับเดือนมีนาคม – เมษายน 2562
          room จะชวนทุกคนก้าวเข้าไปทำความรู้จักที่มาที่ไปของสถาปัตยกรรม "สมัยใหม่" เพื่อให้เข้าใจเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังความงดงามอันเรียบง่ายให้มากขึ้น
          What's Special!!
          คอลัมน์ Home : bAAn
          Room พาไปชมบ้านสีขาวสไตล์โมเดิร์นของคุณแอนดี้ สิริวัชชา และคุณธนัชพร รัชตะชาติ ตัวอาคารออกแบบโดยคำนึงถึงทิศทางแสงและสภาพอากาศ ด้วยการเลือกที่จะปิดผนังเพื่อบังความร้อน และเปิดผนังอีกฟากเพื่อรับวิวและลมเย็นสบาย ตอบรับกับฟังก์ชันการใช้งาน ภายใต้นิยามของความเรียบง่าย ไม่อ้อมค้อม ตามแบบฉบับมินิมัล ผลงานการออกแบบโดยบริษัท Anonym
          คอลัมน์ Home : TEE OFF HOUSE
          พบกับบ้านทรงกล่องกลางสนามกอล์ฟ ผลงานการออกแบบโดยบริษัท Hypothesis ที่โดดเด่นที่การออกแบบฟาซาดจากอะลูมิเนียมฉีก เพื่อช่วยเป็นเกราะป้องกันบ้านจากลูกกอล์ฟ และกรองแสงแดดไปในตัว แถมสามารถเลื่อนออกได้เพื่อเปิดรับวิวในวันที่ไม่มีการตีกอล์ฟ เป็นการคำนึงถึงบริบทของที่ตั้ง และการเลือกใช้วัสดุในการแก้ปัญหาที่ชาญฉลาด พร้อมการวางแผนผังการใช้งานได้อย่างลงตัว                               
          คอลัมน์ Design Cases : BUNJOB HOUSE
          รวมความโมเดิร์นและความเป็นท้องถิ่นไว้ด้วยกัน กับรีสอร์ตขนาดกะทัดรัดบนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ที่โดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมคอนกรีตสไตล์ Brutalist Architecture พร้อมยังเลือกใช้ไม้ไผ่มาผสมผสานเพื่อสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ และเชื่อมโยงกับตำแหน่งที่ตั้งได้อย่างน่าสนใจ

          คอลัมน์ Design Cases : BUNJOB HOUSEOUI J'AIME
          การต่อยอดธุรกิจร้านขนมเปี๊ยะชื่อดัง"ตั้งเซ่งจั๊ว"แห่งจ.ฉะเชิงเทรา สู่โรงแรมชื่อเก๋ลุคขึงขังที่มีรูปลักษณ์เหมือนกล่องเหล็กสีสนิม ซึ่งมาจากฟาซาดเหล็กเจาะรูเพื่อช่วยให้อาคารที่มีขนาดค่อนข้างจำกัดนี้มีความโปร่งโล่งยิ่งขึ้น แทนการใช้ผนังแบบปิดทึบ ผู้เข้าพักจึงสัมผัสกับอากาศ แสง และทิวทัศน์ภายนอกได้ แถมยังลดทอนความดิบและหนาหนักของโครงสร้างเหล็กด้วยของตกแต่งสไตล์จีน เป็นการผสมผสานที่บอกเล่าความเป็นตัวตน ไปพร้อมกับงานออกแบบสไตล์โมเดิร์นได้อย่างลงตัว

          สามารถติดตามความพิเศษทั้งหมดนี้ได้ใน Room Bookazine ฉบับเดือนฉบับเดือนมีนาคม – เมษายน 2562 หรือ ทาง www.baanlaesuan.com/roommag และ Facebook : room magazine

Pages: 1 2 [3] 4 5 ... 186