Recent Posts

Pages: 1 [2] 3 4 ... 10
11
“ศุภมาส“ หารือความร่วมมือสถาบัน Le CNAM ต่อยอดความร่วมมือทางด้านการศึกษา วิจัยและนวัตกรรมของไทย พร้อมพบปะนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังศึกษาอยู่ ณ สาธารณรัฐฝรั่งเศส




วันที่ 26 เมษายน 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมด้วย ดร.วิภารัตน์  ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) นำคณะผู้บริหาร วช. เยือนสถาบัน Conservatoire national des arts et métiers; Le CNAM สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยมี Ms. Bénédicte FAUVARQUE-COSSON, General Administrator, Prof. Stéphane Lefebvre, Deputy Administrator in charge of Research Department, Mrs. Carmen Branescu, Director of European and International Affairs และ Mrs. Anne-Laure Carré,Head of collections at the Musée des arts et métiers ให้การต้อนรับ และร่วมเจรจาหารือความร่วมมือ


นางสาวศุภมาส กล่าวว่า ในการหารือร่วมกันครั้งนี้ กระทรวง อว. และ วช. มีเป้าหมายที่จะทำให้ความร่วมมือระหว่าง วช. และ CNAM สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม อาทิ ความร่วมมือในการทำวิจัยในหัวข้อที่สนใจร่วมกัน ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านการวิจัย ตลอดจนวางแผนความร่วมมือในการมีผู้เชี่ยวชาญที่จะให้ข้อเสนอแนะด้านเทคนิควิธีการในการบริหารจัดการด้านพิพิธภัณฑ์ผ่านกิจกรรมการดำเนินงานต่าง ๆ เช่น การจัดประชุมสัมมนาที่นักวิจัยสามารถนำเสนอผลงาน แบ่งปันประสบการณ์ และมีส่วนร่วมในการอภิปรายเกี่ยวกับหัวข้อทางนวัตกรรม เทคโนโลยี ที่เชื่อมโยงระหว่างศิลปะและวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกันต่อไป






Le CNAM เป็นสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมวิชาชีพระดับสูงตลอดชีวิต ก่อตั้งขึ้นมากกว่า 300 ปี โดยมีเป้าหมายในแรกเริ่มเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ปัจจุบัน CNAM เป็นหน่วนงานภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษาและการวิจัยแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ทำหน้าที่ส่งเสริมทางด้านวิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และวิชาชีพ โดยมุ่งเป้าหมายการทำงานในบทบาทสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การส่งเสริมฝึกอบรมวิชาชีพและการเรียนรู้ตลอดชีวิต  การส่งเสริมการวิจัย  และ การเผยแพร่วัฒนธรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคนิคต่างๆ ทั้งนี้ภายใต้การดำเนินงานตามเป้าหมาย สถาบันได้พัฒนากิจกรรมและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องมากมาย  เช่น หลักสูตรการฝึกอบรมที่สำคัญกว่า 750 หลักสูตร เครือข่ายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและห้องปฏิบัติการต่างประเทศ นอกจากนี้ CNAM ยังดูแลในส่วนของพิพิธภัณฑ์ Musée des Arts et Métiers ซึ่งได้อนุรักษ์คอลเลคชันทางอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีที่เก่าแก่ที่สุดในโลก










ภายหลังการหารือ รมว. อว. และ คณะผู้บริหารของ วช. พบปะนักเรียน และนักศึกษา ที่กำลังศึกษาอยู่ ณ สาธารณรัฐฝรั่งเศส และได้เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Musée des Arts et Métiers  ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมสิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ผสมผสานทั้งความเป็น Art & Science เข้าด้วยกัน โดยนำมาจัดแสดงในรูปแบบล้ำสมัยและน่าสนใจต่อผู้ศึกษา โดยคาดหมายว่าความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ที่สามารถเชื่อมโยงทั้งศาสตร์และศิลป์ในประเทศไทยได้ต่อไป
12
ที่สุดของกาแฟโสมต้อง "ซูเลียน คอฟฟี่ พลัส"
สัมผัสรสชาติที่กลมกล่อม หอมกรุ่นด้วยกลิ่นโสม ใส่ใจสายสุขภาพ


ในยุคที่กาแฟกลายเป็นเครื่องดื่มที่ใครหลายคนต้องหาดื่มกันเป็นกิจวัตร จนทำให้บรรดาแบรนด์สำเร็จรูปต่างพากันคิดค้นสูตรเฉพาะขึ้นมานับไม่ถ้วน เพื่อตอบสนองความต้องการแบบต่างกันออกไป บางเจ้าเน้นรสชาติ บ้างเน้นเรื่องกลิ่นหอม ไปจนถึงการมาของเทรนด์ 'กาแฟเพื่อสุขภาพ' ที่ระยะหลังถูกพูดถึงและได้รับความนิยมกันมากขึ้น

ซึ่งพอพูดถึงกาแฟสำเร็จรูปเพื่อสุขภาพแล้ว เราอาจนึกถึงสูตรที่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้มาอย่างยาวนาน (หรือเรียกได้ว่ามาก่อนกาลก็ไม่ผิด) อย่างกลุ่มของ 'กาแฟผสมโสม' เหตุผลเพราะตัวของโสมเอง ถือเป็นวัตถุดิบที่เปี่ยมด้วยคุณประโยชน์มากมายอยู่แล้ว เช่น เรื่องการบำรุงร่างกาย หรือคุณสมบัติช่วยในการชะล้างไขมันในเส้นเลือด และการปรับระดับน้ำตาลในเส้นเลือด เพื่อให้เลือดไหลเวียนในร่างกายได้ดีขึ้น ประกอบกับตัวรสชาติเอง ที่มีความอร่อยไม่แพ้กาแฟสูตรอื่น ก็มากพอแล้วที่จะแทรกไปเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ ให้คนรักสุขภาพได้ลิ้มลองกัน

โดยถ้าต้องหยิบกาแฟผสมสักแบรนด์มาชิมแบบจริงจังแล้ว เราจะขอแนะนำเจ้าตลาดกาแฟผสมโสมที่ครองตำแหน่งมายาวนาน (การันตีด้วยยอดขายกว่า 10 ล้านซอง/ปี) ที่อาจคุ้นหูกันในชื่อ "คอฟฟี่ พลัส" (COFFEE PLUS) ของแบรนด์ ซูเลียน (ประเทศไทย) โดยจุดเด่นสำคัญที่ทำให้คอฟฟี่ พลัส ติดอยู่ในลิสต์กาแฟตัวท็อป มาจากปัจจัยหลัก ๆ 3 หัวข้อ คือ 'อร่อย!' ด้วยวัตถุดิบหลักเมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าคัดพิเศษ สกัดจนคาเฟอีนเหลือเพียง 0.1% ให้รสชาติที่กลมกล่อมลงตัวตั้งแต่หยดแรกจนหยดสุดท้าย / 'ดีต่อสุขภาพ!' ด้วยสารสกัดโสมชั้นดีอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปจากประเทศเกาหลี และครีมเทียมชนิดไขมันพืช แตกต่างจากไขมันสัตว์ที่ช่วยบำรุงร่างกาย และขจัดความกังวลเรื่องโรคเส้นเลือดอุดตันหรือความดันได้อย่างหมดจด / 'ตัวเลือกเยอะ!' กับ 3 รสชาติที่ตอบโจทย์เรื่องสุขภาพได้ครบทุกเทส ประกอบด้วย



กาแฟผสมโสม คอฟฟี่ พลัส (COFFEE PLUS Instant Coffee Powder with Ginseng) สูตรเฉพาะที่ผสานกันอย่างลงตัวของวัตถุดิบสุดพรีเมียม ด้วยกาแฟรสชาติกลมกล่อมจากเมล็ดกาแฟโคลัมเบีย และกลิ่นหอมกรุ่นของโสมแดงชั้นดีจากประเทศเกาหลี ให้รสสัมผัสที่มีชีวิตชีวา เปี่ยมด้วยคุณประโยชน์ช่วยบำรุงร่างกาย บรรจุในซองแยกชิ้นเพื่อความสะดวกพร้อมชงดื่มทุกที่ทุกเวลา

กาแฟเพื่อสุขภาพผสมโสมและคอลลาเจน (COFFEE Ginseng & Collagen 3in1) สูตรที่คัดสรรจากผงกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าพร้อมดื่ม เสริมด้วยสารสกัดจากโสมและคอลลาเจนเปปไทด์ เหมาะสำหรับสาว ๆ และกลุ่มคนรักสุขภาพทุกเพศทุกวัยที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟไปพร้อมกับใส่ใจในรูปร่างและสุขภาพที่ดี

กาแฟปรุงสำเร็จชนิดผงเพื่อสุขภาพ (สูตรน้ำตาลน้อย) (COFFEE PLUS White Coffee 3in1 Less Sugar) เครื่องดื่มเอาใจสายสุขภาพ ด้วยวัตถุดิบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมกระบวนการผสมผสานกาแฟโรบัสต้าคั่วกับครีมเทียมและน้ำตาลธรรมชาติ ทำให้ได้รสชาติที่อร่อยกลมกล่อม คงความเข้มข้น หอมมัน และถึงรสไว้อย่างลงตัว บรรจุในซองพกพาสะดวก มาพร้อมสูตรน้ำตาลน้อยจึงเหมาะกับผู้รักสุขภาพ อร่อยได้ทุกที่ทุกเวลา

ลองมาสัมผัสรสชาติกาแฟที่กลมกล่อม หอมกรุ่นกลิ่นโสม พร้อมคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพได้แล้วกับคอฟฟี่ พลัส โดย ซูเลียน สามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดตามโปรโมชั่นพิเศษต่าง ๆ ได้ที่ Line Official: @Zhulianthailand หรือสั่งซื้อผ่านช่องทาง Shopee สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-983-3984
13
"นิติกร สวนน้ำธารคีรี" ฉลุยชนะแนน ผ่านเข้ารอบ 4 คนสุดท้าย ศึกมวยรอบปูนเสือ ครั้งที่ 23


            เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2567 "ศึกมวยปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้" ครั้งที่ 23 สาย B รอบ 8 คนสุดท้าย ที่เวทีมวยช่อง 7 HD โดยก่อนชก นายจมร เลขะกุล ผู้แทนปูนตราเสือ ให้เกียรติขึ้นคล้องพวงมาลัยเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักมวยทั้ง 2 คู่บนเวที ระหว่าง ศิลาชัย สท.แมนนครระยอง (แดง) พิกัด 112 ปอนด์ พบกับ สายนที วรวุฒิรุ่งโรจน์ (น้ำเงิน) พิกัด 112 ปอนด์ คู่นี้ใครแพ้ตกรอบทันที และ นิติกร สวนน้ำธารคีรี (แดง) พิกัด 112 ปอนด์ พบกับ ยอดนที ผดุงชัยมวยไทยยิม (น้ำเงิน) พิกัด 112 ปอนด์ คู่นี้ใครชนะเข้ารอบ 4 คนสุดท้าย


            ส่วนผลคู่มวยรอบปูนเสือมีดังนี้

            คู่ที่ 1. ศิลาชัย สท แมนนครระยอง (แดง) พบ สายนที วรวุฒิรุ่งโรจนฺ์ (น้ำเงิน) แพ้เจอแพ้คู่นี้ใครแพ้ตกรอบ เกมส์จบลงเกินคาดเมื่อ "สายนที" เดินเตะขา ศิลาชัย ถึงกับออกอาการแหยง ๆ "สายนที" ไม่รอช้าเตะซ้ำเน้นที่ขาขวาจน ศิลาชัย ทิ้งตัวลงนอนให้กรรมการนับถึง 10 ทำให้ "สายนที" เป็นฝ่ายชนะทีเคโอในยกที่ 1 ส่วน "ศิลาชัย" ตกรอบทันที


            คู่ที่ 2. นิติกร สวนน้ำธารคีรี (แดง) พบ ยอดนที ผดุงชัยมวยไทยยิม (น้ำเงิน) คู่นี้ต่างชนะมาด้วยกันใครชนะเข้ารอบ 4 คนทันที คู่นี้ซ้ายเจอขวา ยอดนที เป็นฝ่ายเดินเข้าหากลางยก 3 "นิติกร" ได้จังหวะสับศอกซ้ายเข้าคิ้วขวาของ ยอดนที แตกเลือดอาบ ช่วงท้าย ๆ นิติกร รอเตะจังหวะสองเป็นชุด ๆ เน้น ๆ ลำตัวครบยก "นิติกร " เป็นฝ่ายชนะคะแนน ผ่านเข้ารอบ 4 คนสุดท้าย เป็นคนที่สองทันที


            สำหรับมวยรอบปูนเสือในวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2567 "ศึกมวยปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้ ครั้งที่ 23" สาย A รอบ 8 คนนัดสุดท้าย ระหว่าง โชคพิชิต โชติบางแสน พบ ใจสิงห์ ลูกเจ้าแม่ไทรทอง และ สาย B รอบ 8 นัดสุดท้าย ระหว่าง สายนที วรวุฒิรุ่งโจน์ พบ ยอดนที ผดุงชัยมวยไทยยิม หลังจบการแข่งขันมวยรอบปูนจะทำการจับฉลากรอบรองชนะเลิศทันที รอบรองชนะเลิศจะชกกันในวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2567 นี้




            โดยช่อง 7 HD ทำการถ่ายทอดสด การแข่งขันให้แฟนมวยคนไทยเข้ารับชมและเชียร์กันได้ที่เวทีมวยช่อง 7 HD เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป
14
"อเลสซิโอ้ บิซุสตติ" ชนะTKO ยก 4 คว้าเข็มขัดแชมป์ WBA ASIA ได้สำเร็จ


             ศึก "FCC THAILAND 4" ชิงแชมป์ว่าง WBA ASIA เข็มขัด 3 เส้น เมื่อวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567 ณ เวทีมวยชั่วคราว FCC BOXING PATTAYA ที่ พัทยา จ.ชลบุรี เป็นการแข่งขันชิงเข็มขัดแชมป์เปี้ยน WBA ASIA HEAVYWEIGHT พิกัด 220 ปอนด์ (10 ยก) อเลสซิโอ้ บิซุสตติ เป็นเจ้าของแชมป์เปี้ยน 3 สถาบัน WBC CONTINENTAL , ABF และ PAT นักชกอิตาลี ที่ขึ้นชกกับ ณภัทร เงินบำรุง นักชกชาวไทย




             ผลปรากฏว่า ณภัทร เงินบำรุง อวสานในยกที่ 4 เมื่อ อเลสซิโอ้ บิซุสตติ ที่คุมเกมได้เหนือกว่า ล่อให้ ณภัทร เงินบำรุง เดินหน้าออกอาวุธ ก่อนที่ อเลสซิโอ้ บิซุสตติ โชว์ทีเด็ดปล่อยหมัดซ้ายเข้าปลายคางเต็ม ๆ ณภัทร เงินบำรุง ทำให้ ณภัทร เงินบำรุง ถึงกับเข่าอ่อน ร่วงลงไปกองกับพื้น ทำให้กรรมการนับ 10 ส่งผลให้ อเลสซิโอ้ บิซุสตติ เอาชนะ TKO ไปในยกที่ 4 พร้อมกับผงาดคว้าเข็มขัดแชมป์ WBA ASIA รวม 4 เส้น 4 สถาบัน มี WBC CONTINENTAL , ABF , PAT และคว้า WBA ASIA มาครองอย่างยิ่งใหญ่ได้สำเร็จ




             ส่วนผลมวยคู่อื่น ๆ มีดังนี้

คู่ที่ 1. อุ่นเครื่อง 6 ยกรุ่นซุปเปอรฺ์เวลเตอร์เวท 154 ปอนด์ ริคาโด ริซซี่ ชนะทีเคโอยก 2 เจฎษฎา พิทักษ์แดนไทย

คู่ที่ 2. อุ่นเครื่อง 6 ยกรุ่นครุยเซอร์เวท 200 ปอนด์ รัมรานี่ อัปเปอร์เรสซัค ชนะทีเคโอยก 1 วรพจน์ จุมเบา

คู่ที่ 3. อุ่นเครื่อง 6 ยกรุ่นซุปเปอร์เวลเตอร์เวท 154 ปอนด์ ฮัสซิน อาฮัมม่า จากuae ชนพทีเคโอยก 1 วีรศักดิ์ พรหมสง่า

คู่ที่ 4. อุ่นเครื่อง 6 ยกรุ่นเฮฟวี่เวท 220 ปอนด์ เอกภพ อุไรวรรณ แพ้คะแนน ยุทธนา วงศ์ดา

คู่ที่ 5. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นเวลเตอร์เวท 147 ปอนด์ วาริส เอลกีฮัน จากมอร็อคโก นะทีเคโอ ยก 2 ไชยรัตน์ แสวงโสดา





คู่ที่ 6. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นแบนตั้มเวท 118 ปอนด์ อเรล บามิสเดิลลาซีซี่ จากไนจีเรีย ชนะคะแนน วิสิทธิ์ศักดิ์ สายแวว

คู่ที่ 7. อุ่นเครื่อง 10 ยกรุ่นซุปเปอร์ไลท์เวท 140 ปอนด์ อีจี อาริน คูนก จากตุรกี ชนะทีเคโอยก 3 คัมภีร์ พยอม

คู่ที่ 8. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นซุปเปอร์เวลเตอร์เวท 154 ปอด์ ริคาโด ริสซี จากอิตาลี ชนะน็อค เจษฎา พิทักษ์แดนไทย ยก 2

คู่ที่ 9. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นซุปเปอร์ไลท์เวท 140 ปอนด์ โทฮัมเหม็ด ซีเรีย ซามานี่ จากอัฟกานิสถาน ขนะทีเคโอยก 2 พีระพัฒน์ ตูไป
     
คู่ที่ 10. ชิงแชมป์ว่าง WBA Asia รุ่นไลท์เฮฟวี่เวท 175 ปอนด์ 12 ยก อรรถวัฒน์ ฮาโรยัน จากแอลเมเนีย แพ้ทีเคโอ ยก ดอน พาเรือง

คู่ที่ 11. ชิงแชมป์ว่าง WBA Asia รุ่นซุปเปอร์ไลท์เวท 140 ปอนด์ อิปราฮิม ชาบัน แพ้ทีเคโอ ปฎิภาน กรงกลาง ในยกที่ 5





             ตลอดการแข่งขันในค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความดุเดือดเร้าใจ ซึ่งนักมวยทุกคนต่างงัดฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาสู้กันอย่างเต็มที่
15
"อเลสซิโอ้ บิซุสตติ" ชั่งผ่านฉลุย พร้อมตะบันหน้า "ณภัฐ เงินบำรุง" ศึก "FCC THAILAND 4" พร้อมเสิร์ฟความดุเดือด


             ก่อนจะมีการแข่งขัน ศึก "FCC THAILAND 4" ซึ่งจะเริ่มขึ้นไม่กี่อึดใจข้างหน้านั้น เมื่อวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2567 ได้มีการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนักนักมวยอย่างเป็นทางการ ของนักชกที่จะขึ้นเวทีทำศึกในรายการนี้ จัดเต็มด้วยคู่แข่งขันฝีมือดีทั้งหมด 12 คู่มวยมันส์ ๆ โดยทำการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนักที่ยิมมวย FCC BOXING PATTAYA ที่ พัทยา จ.ชลบุรี ผลปรากฎว่านักมวยทุกคนผ่านการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนักอย่างไม่มีปัญหาอะไร โดยมีโปรโมเตอร์ มิสเตอร์ อเลสซิโอ้ บิซุสตติ ชาวอิตาลี พร้อมด้วย หมอหญิง "โบว์ชิตา" น.ส. วิกานดา ศรีกิ้ม เป็นผู้ตรวจร่างกาย ร่วมเป็นสักขีพยานในการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนัก พร้อมที่จะขึ้นตะบันหน้ากันในวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567 ณ เวทีมวยชั่วคราว FCC BOXING PATTAYA ณ.พัทยา จ.ชลบุรี ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป


             ก่อนจะมีการแข่งขัน ศึก "FCC THAILAND 4" ซึ่งจะเริ่มขึ้นไม่กี่อึดใจข้างหน้านั้น เมื่อวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2567 ได้มีการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนักนักมวยอย่างเป็นทางการ ของนักชกที่จะขึ้นเวทีทำศึกในรายการนี้ จัดเต็มด้วยคู่แข่งขันฝีมือดีทั้งหมด 12 คู่มวยมันส์ ๆ โดยทำการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนักที่ยิมมวย FCC BOXING PATTAYA ที่ พัทยา จ.ชลบุรี ผลปรากฎว่านักมวยทุกคนผ่านการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนักอย่างไม่มีปัญหาอะไร โดยมีโปรโมเตอร์ มิสเตอร์ อเลสซิโอ้ บิซุสตติ ชาวอิตาลี พร้อมด้วย หมอหญิง "โบว์ชิตา" น.ส. วิกานดา ศรีกิ้ม เป็นผู้ตรวจร่างกาย ร่วมเป็นสักขีพยานในการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนัก พร้อมที่จะขึ้นตะบันหน้ากันในวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567 ณ เวทีมวยชั่วคราว FCC BOXING PATTAYA ณ.พัทยา จ.ชลบุรี ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป


             ส่วนผลการชั่งน้ำหนักนักมวยทั้ง 12 คู่ มีดังนี้

คู่ที่ 1. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นซุปเปอร์เวลเตอร์เวท 154 ปอนด์ ระหว่าง ริคาโด ริสซี่ จากอิตาลี่ พบ เจฎษดา พิทักษ์แดนไทย

คู่ที่ 2. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นครุยเซอร์เวท 200 ปอนด์ ระหว่าง ลัมรานี่ อับเบิร์ทเรนซัคจากแอลจีเรีย พบ วรพจน์ จุมเบา

คู่ที่ 3. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นซุปเปอร์เวลเตอร์เวท 154 ปอนด์ ระหว่าง ฮัสซิน  อาฮัมม่าUae พบ วีระศักดิ์ พรหมสง่า



คู่ที่ 4. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นซุปเปอร์ไลเวท 140 ปอนด์ ระหว่าง โมฮัมเหม็ด เซ็คเลีย ซามานี่ พบ พีระพัฒน์ ตูบา

คู่ที่ 5. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นเฮฟวี่เวท 220 ปอนด์ ระหว่าง เอกภพ อุไรวรรณ พบ ยุทธนา วงศ์ดา

คู่ที่ 6. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นแบนตั้มเวท 118 ปอนด์ ระหว่าง อลุย บามิดเดิล ราซิ ไนจีเรีย พบ วีระศักดิ์ สายแวว



คู่ที่ 7. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นเวลเตอร์เวท 147 ปอนด์ ระหว่าง วาริส เอลเกฮัน มอร็อคโก พบ ไชยรัตน์ แสวงโสดา

คู่ที่ 8. อุ่นเครื่อง 10 ยก ระหว่าง อีจี อาร์รินคูนก จากตุรกี พบ ดนุพล จันทร์ปทัค

คู่ที่ 9. อุ่นเครื่อง 10 ยก รุ่นซุปเปอร์ไลเวท 140 ปอนด์ ระหว่าง อีฟี่  เดอร์ริน โคนก จากตุรกี พบ คัมภีร์ พะยอม



คู่ที่ 10. ชิงแชมป์ว่าง WBA ASIA รุ่นไลท์เฮฟวี่เวท 175 ปอนด์ ระหว่าง  อรรถวัฒน์ ฮาโรยัน พบ ดอน พาเลือง

คู่ที่11. ชิงแชมป์ว่าง WBA ASIA รุ่นซุปเปอร์ไลเวท 140 ปอนด์ ระหว่าง อิปราฮิม บิซุสติ ฝรั่งเศษ พบ ปฎิภาณ เนื่องบำรุง

คู่ที่ 12. โดยคู่เอก เป็นการแข่งขันชิงเข็มขัดแชมป์ ที่ว่าง WBA ASIA HEAVYWEIGHT รุ่นเฮฟวี่เวท พิกัด 220 ปอนด์ (10 ยก) ระหว่าง อเลสซิโอ้ บิซุสตติ นักชกอิตาลี ซึ่งนัดที่ผ่านมาคว้าชัยชนะแบบน็อกเอาต์มา 3 นัดติดต่อกัน ทำให้นักชกอิตาลีคว้าแชมป์เปี้ยน WBC CONTINENTAL , ABF และ PAT ได้สำเร็จ และในครั้งนี้ อเลสซิโอ้ บิซุสตติ ตั้งเป้าที่จะเพิ่มเข็มขัด WBA ASIA HEAVYWEIGHT CHAMPIONSHIP อีกด้วย พร้อมตะบันหน้ากับ ณภัฐ เงินบำรุง นักชกไทย





             ศึก "FCC THAILAND 4" เอาใจแฟนๆ คอมวยตัวจริงห้ามพลาด 12 คู่มวยมันส์ ๆ พร้อมขึ้นเวทีตะบันหน้ากันในวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567 ณ เวทีมวยชั่วคราว FCC BOXING PATTAYA ณ.พัทยา จ.ชลบุรี ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
16
"ERGO ยกระดับการดูแล ส่งต่อความห่วงใย
เปลี่ยนการเดินทางให้ง่ายขึ้นตลอดช่วง 7 วันอันตราย"


              กรุงเทพฯ ประเทศไทย - เมษายน 2567 - ERGO แบรนด์ประกันภัยชั้นนำจากเยอรมันพร้อมยกระดับการให้บริการด้านประกันภัยรถยนต์ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านการเดินทางที่ง่ายขึ้นสำหรับคนไทย ผ่านคำมั่น  'Simple, Because it matters' และสงกรานต์ที่ผ่านมา ERGO ได้ส่งต่อปณิธานนี้ผ่านแคมเปญ #สงกรานต์นี้ไปไหนก็อุ่นใจกับเออร์โกประกันภัย เพื่อส่งเสริมชีวิตของคนไทยที่ง่ายให้เกิดขึ้นจริง


ERGO เข้าใจปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนไทย และตั้งเป้าลดปัญหาอย่างตรงจุด

              ด้วยตระหนักถึงปัญหาเร่งด่วนด้านความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือที่เรียกว่า "7 วันอันตราย" ERGO เข้าใจความท้าทายที่นักเดินทางชาวไทยต้องเผชิญ จากการวิจัยและการวิเคราะห์ที่ครอบคลุม ERGO เล็งเห็นถึงความจำเป็นของการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเวลาสำคัญนี้ที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากทุกปี ERGO ในฐานะเป็นแบรนด์ประกันภัยที่ต้องการเห็นชีวิตของคนไทยง่ายขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางในช่วง 7 วันอันตราย จึงวางกลยุทธ์เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด ด้วยการขยายความปลอดภัยให้ทุกคนเข้าถึงได้มากขึ้น ไม่เพียงแต่ลูกค้าของ ERGO แต่ยังรวมถึงนักเดินทางทุกคนที่ใช้รถบนท้องถนนด้วย


ร่วมมือกับภาครัฐ ขยายผลเชิงบวก ตั้งเป้าลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ได้มากที่สุด

              เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีชีวิตที่ง่ายขึ้น ERGO จึงได้จับมือเป็นพันธมิตรกับกรมทางหลวง เพื่อขยายผลการลดจำนวนอุบัติเหตุ ผ่านการส่งรถสไลด์ช่วยเหลือของ ERGO ไปประจำการยังเส้นทางสู่ภูมิภาค 5 จุดหลักซึ่งเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ การส่งรถสไลด์ในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการเพิ่มกำลังพลให้กับกรมทางหลวงแล้ว ยังเป็นการเพิ่มหน่วยช่วยเหลือที่เข้าแก้ไขปัญหาให้กับผู้ใช้ถนน ณ จุดเกิดเหตุได้ทันที โดยความร่วมมือนี้ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในกิจกรรมปล่อยขบวนรถรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากที่มาร่วมกันเป็นสักขีพยาน เพื่อช่วยกันทำให้ชีวิตบนท้องถนนของทุกคนง่ายขึ้น


คืนความสะดวกและปลอดภัยให้กับคนเดินทาง

              ความร่วมมือระหว่าง ERGO และกรมทางหลวงในครั้งนี้ ช่วยสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนให้กับคนเดินทางได้มากกว่า 200 รายตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งการเปลี่ยนยางอะไหล่ พ่วงแบตเตอรี่ เติมลมยาง ไปจนถึงสไลด์รถไปยังจุดใกล้เคียง เพราะถึงแม้จะเป็นเหตุขัดข้องเพียงเล็กน้อยแต่ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุอื่น ๆ บนท้องถนนตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุบัติเหตุรถชนต่อเนื่องกันเป็นแนวยาวซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุด ความร่วมมือระหว่าง ERGO และกรมทางหลวงครั้งนี้ นับเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่ปลอดภัยและเข้าถึงได้มากขึ้น เพื่อให้คนไทยทุกคนมีชีวิตที่ง่ายขึ้นอย่างแท้จริง

จุดเริ่มต้นที่ดีของคนไทยที่จะทำให้ชีวิตการเดินทางง่ายขึ้น ด้วยเออร์โกประกันภัยที่พร้อมยกระดับทุกการดูแล

              นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ ERGO ตามพันธกิจที่ต้องการยกระดับชีวิตคนไทยให้ง่ายขึ้น และมุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานการดูแลคนไทยให้ไม่น้อยไปกว่ามาตรฐานจากประเทศเยอรมัน ด้วยประสบการณ์ด้านการประกันภัยของ ERGO Group ที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 70 ปี จะช่วยให้เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) มีศักยภาพและความพร้อมที่จะดูแลคนไทยให้ดีที่สุด และพร้อมทุ่มเทให้กับการบุกเบิกความคิดริเริ่มใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้ทุกคนได้รับบริการด้านการประกันภัยที่ง่ายขึ้น

###

เกี่ยวกับ เออร์โกประกันภัย:

เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) ดำเนินธุรกิจภายใต้การบริหารงานของ เออร์โก กรุ๊ป ซึ่งส่วนหนึ่งของ มิวนิกรี กลุ่มธุรกิจผู้รับประกันภัยต่อและรับประกันความเสี่ยงชั้นนำของโลก ERGO ยังเป็นหนึ่งในบริษัทผู้รับประกันภัยหลักทั้งในเยอรมันและอีก 20 ประเทศทั่วโลก ด้วยประสบการณ์ในตลาดประกันวินาศภัยอันยาวนานกว่า 70 ปี ความเชี่ยวชาญที่ครอบคลุมและหลากหลายของทีมงาน และเครือข่ายพันธมิตรที่มีประสบการณ์ จะช่วยให้เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) สามารถบรรลุพันธกิจสำคัญต่อการทำประกันภัยให้เป็นเรื่องง่ายในทุกมิติของการให้บริการ

เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) เชื่อว่า ทุกความเสี่ยงภัยของชีวิต จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใส่ใจและทั่วถึง แม้การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อให้ก้าวทันเทคโนโลยีจะเป็นสิ่งจำเป็น แต่การมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลืออย่างเข้าใจและเข้าถึงก็สำคัญไม่ต่างกัน เพื่อให้ทุกความช่วยเหลือได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด และช่วยให้การประกันภัยเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน
17
คณะกรรมการ สบพ. ชุดใหม่เข้าเยี่ยมชมกิจการ สบพ. พร้อมขับเคลื่อนองค์กรขานรับนโยบาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นางมนพร เจริญศรี)


เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 นางสาวภัคณัฏฐ์ มากช่วย ผู้ว่าการสถาบันการบินพลเรือน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และพนักงาน สบพ. ร่วมให้การต้อนรับ พลเอก ดร.ดิเรก ดีประเสริฐ ประธานกรรมการ และคณะกรรมการสถาบันการบินพลเรือนชุดใหม่ ในโอกาสเข้ารับฟังการบรรยายสรุปภารกิจ บทบาท ผลการดำเนินงานในการผลิตและพัฒนาบุคลากรตามมาตรฐานสากล ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ และได้เยี่ยมชมห้องฝึกปฏิบัติการของสถาบันการบินพลเรือน ณ สบพ. กรุงเทพฯ






 สำหรับคณะกรรมการสถาบันการบินพลเรือน ชุดปัจจุบันประกอบด้วย

1. พลเอก ดร.ดิเรก ดีประเสริฐ ประธานกรรมการ
2. ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ เพียรมนกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
3. ดร.ดรุฒ คำวิชิตธนาภา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
4. พลอากาศเอก พงษ์สวัสดิ์ จันทสาร กรรมการผู้แทนกองทัพอากาศ
5. ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ กรรมการผู้แทนกระทรวงคมนาคม
6. นายณรงค์ อรุณภาคมงคล กรรมการผู้แทนกรมท่าอากาศยาน
7. นายวิทย์วศิน เรียนวัฒนา กรรมการผู้แทนบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด
8. นายเจตน์ เมืองครุธ กรรมการ ผู้แทน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
9. นาวาอากาศตรี ดร.สมชนก เทียมเทียบรัตน์ กรรมการ ผู้แทน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
10. นางสาวศุกร์ศิริ อภิญญานุวัฒน์ กรรมการ ผู้แทนกระทรวงการคลัง
11. นางสาวภัคณัฏฐ์ มากช่วย กรรมการและเลขานุการ







ภายหลังการรับฟังการบรรยายสรุปคณะกรรมการได้กล่าวชื่นชมการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยเฉพาะความสำเร็จในการผ่านการตรวจประเมินให้เป็นสถาบันฝึกอบรมของโลกในสมาชิกระดับ Platinum ซึ่งเป็น 1 ใน 9 แห่งจากจำนวน 128 สถาบันใน 77 ประเทศทั่วโลก และเป็น 1 ใน 4 แห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตามโครงการ ICAO TRAINAIR PLUS นอกจากนี้ ยังพร้อมรับนโยบายท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรีในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแล สถาบันการบินพลเรือน ในการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกในหน่วยงานเพิ่มเติม  การบูรณาการพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถของผู้ปฏิบัติงานทีเกี่ยวข้องด้านการบิน ให้มีหัวใจในการให้บริการ ตามนโยบาย “ราชรถยิ้ม"






การบูรณาการในการผลิตบุคลากรการบินร่วมกับสถาบันการบินของประเทศอื่น ให้เพียงพอรองรับการกลับมาของอุตสาหกรรมการบินในอนาคต การพัฒนาหลักสูตรการบินและการฝึกอบรมเพื่อรองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึงการพัฒนาอาคารสถานที่ตามแผนการพัฒนาศูนย์ฝึกการบิน  การเตรียมบุคลากร ครูการบิน เครื่องบิน และเครื่องฝึกบินจำลอง เป็นต้น  ซึ่งถือเป็นการขานรับวิสัยทัศน์ Thailand Vision ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในการยกระดับศักยภาพด้านการบินของประเทศไทย เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ของภูมิภาค






ในการนี้ ได้มอบนโยบายให้ สบพ.นำเสนอภาพแห่งความสำเร็จที่ได้เป็นสถาบันฝึกอบรมที่มีมาตรฐานระดับโลกไปขยายผล โดยเฉพาะการทำความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการผลิตบุคลากรการบินที่มีคุณภาพและมาตรฐานสากลให้เพียงพอกับความต้องการของหน่วยงานในอุตสาหกรรมการบิน  และเพิ่มการประชาสัมพันธ์บทบาทและภารกิจให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านสื่อมวลชน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสบพ.ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป









18
สุดมันสฺ์ ! ดุเดือดจริง ๆ ลูกครึ่งไทย-สิงคโปร์ "กิตติพงศ์ เจียน เฮา โฮ" เผด็จศึก ป้องกันแชมป์ ABF สำเร็จ


             กิตติพงศ์ เจียร เห่า โฮ ไล่ถลุงน็อคง่ายดายแค่ยกแรก ธนวัฒน์ มานพชัยยิม ปัองกันแชมป์ รุ่นซุปเปอรฺ์มิดเดิลเวท 168 ปอนด์ ไว้ได้สวยหรู ด้านสาวสวยตอมแกร่งจากฮ่องกง ฮิน ติง ชาน ชนะคะแนน วิสุตา สิงห์มนัสศักดิ์ ขาดลอยป้องกันแชมปฺ์ 2 สถาบันรุ่นไลท์ฟลายเวท 108 ปอนด์ ไว้ได้สุดประทับใจแฟนมวยชาวไทยและะต่างชาติที่เข้ามาชม


             ศึก NARIS HIGHLAND SPACEPLUS BOXING PROMOTIONS เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา โดยมี นายนริส สิงห์วังชา เป็นประธานที่ปรึกษาและประธานสหพันธ์มวยแห่งเอเชีย ABF พร้อมด้วย สองคู่เขยยอดโปรโมเตอร์ชั้นนำ นายศุภณัฐ จันทร์แรม และ Brico Santig ซึ่งรายการศึก NARIS HIGHLAND SPACEPLUS BOXING PROMOTIONS เป็นการป้องกันแชมป์ 3 เส้น 4 สถาบัน และ ชิงแชมป์ 2 เส้น 2 สถาบัน


             โดยคู่ไฮไลท์ของรายการเป็นการป้องกันแชมป์ WBA Asia รุ่นไลท์ฟลายเวท 108 ปอนด์ 10 ยก สาวสวยจอมแกร่งจากฮ่องกง ฮน ติน ชาน ชกกับ ผู้ท้าชิงดาวรุ่งพุ่งแรงจากไทย วิสุตา สิงห์มนัสศักดิ์ เกมส์การชก ฮิน ติง ชาน เดินรุกไล่ต่อยตัดลำตัวและใบหน้า ด้าน วิสุตา ก็ตอบโต้ได้ทันฟันแม้ตัวจะเล็กกว่าก็สู้อย่างประทับใจแฟนมวยทั้งสนามครบ 10 ยก ฮิน ติง ชาน ชนะแนนขาดลอยป้องกันแชมป์เอาไว้ได้


             ด้านนักชกลูกครึ่งไทย--สิงคโปร์ กิตติพงศ์ เจียน เห่า โฮ เป็นการป้องกันแชมป์สหพันธ์มวยแห่งเอเชีย ABF รุ่นมิดเดิลเวท 168 ปอนด์ 10 ยก กับนักชกไทย ธณวัฒน์ มานพชัยยิม เกมส์จบลงเร็วเกินคาดแค่ยกแรก เมื่อ กิตติพงศ์ ฮุคขวาตรงเข้าปลาคาง  ธนวัฒน์ ร่วงไปกองกับพื้นเวทีกรรมการนับ 8 ชกต่อได้ กิตติพงศ์ ไม่ปล่อยโอกาสเดินเข้าต่อยตัวพร้อมกับฮุคขวาเข้าลำตัวลงไปนอนปล่อยให้กรรมการนับ 10 ไปแบบหมดทางสู้แค่ยกแรกป้องกันแชมป์ไว้ได้สวยงาม


             คู่ต่อมาป้องกันแชมป์สองสถาบัน WBF, WIBF รุ่นซุปเปอร์ฟลายเวท 115 ปอนด์ แองเจลีน่า ลูคัส จากคาซัคสถาน พบกับผู้ท้าชิงเมืองโรตี มันตาซิง นักชกจากอินเดีย แองเจลีน่า เน้นทั้งใบหน้าและตัวจนสาวจากอินเดียทิ้งตัวให้กรรมนับ 10 ทำให้ แองเจลิน่า ชนะทีเคโอยก 5


             ด้านชิงแชมป์ว่าง WBC Asia รุ่นมิดเดิลเวท 160 ปอนด์ วิคเตอร์ นัคเบ้ เจ้าของแชมป์จากอิสเตรเลีย ไล่ถล่มน็อค ลัทวุฒิ ทองอร่าม แบบง่ายดายแค่ยกแรกป้องกันแชมป์ไว้ได้

             ป้องกันแชมป์ รุ่นเซอร์เวท 220 ปอนด์ ทาเยล จาฟารอฟ จากอาเซอร์ใบจัน ชนะทีเคโอยก1คิงส์ ฟาส จากอินโดนีเซีย




             ด้านคู่แรกรายการอุ่นเครื่อง 4 ยก เฮอร์แมน เอเน่ เพอร์เซล จากอิสเตรเลีย ชนะทีเคโอยก 1

             อุ่นเครื่อง 6 ยก ลูซิน้า ฮิวตัน ชนะทีเคโอยก 1 อิสรา วิเศษวงศ์สา

             อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นไลท์เวท 140 ปอนด์ ซิงเวียง โจ ชนะทีเคโอยก 1 สุนทร สิงห็มนัสศักดิ์ยิม




             ประทับใจแฟนมวยชาวไทยและะต่างชาติที่เข้ามาชม สำหรับ ศึก NARIS HIGHLAND SPACEPLUS BOXING PROMOTIONS พร้อมระเบิดความมันส์และดุเดือด กับคู่มวยสุดโหดเต็มเวที ในวันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม 2567 ณ.เวทีมวยชั่วคราว Spaceplus Plaza รัชดา พร้อมเร้าใจกับคู่มวยความมันส์ที่แฟนคอมวยต้องไม่พลาด
19
พานาโซนิค เปิดตัวไดร์เป่าผมใหม่ “นาโนแคร์ EH-NA0J”
ไดร์เป่าผมรุ่นท็อปตัวดัง ที่มาพร้อมพลังนาโนอี มอยสเจอร์พลัส ผมชุ่มชื้นกว่าเดิม 18 เท่า


              พานาโซนิค เปิดตัวไดร์เป่าผมท็อปซีรีส์รุ่นล่าสุด “Panasonic nanocare EH-NA0J” กับพลัง “นาโนอี มอยส์เจอร์พลัส” (nanoe™ MOISTURE+) ที่สุดของเทคโนโลยีเฉพาะของพานาโซนิค ที่จะช่วยมอบประสบการณ์ขั้นสุดแห่งการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะให้ชุ่มชื้นเพิ่มขึ้นถึง 18 เท่า* เอาใจคนทำสีผม  ชะลอการเฝดสีของเส้นผม และโหมดบิวตี้เป่าผิวหน้าเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้นสวยฉ่ำ ดีไซน์เรียบหรู ทันสมัย กะทัดรัด น้ำหนักเบา ตอบโจทย์เหล่าแฟชั่นนิสต้าที่มีไลฟ์สไตล์ และหลงใหลการดูแลตัวเอง




              ภายในงานได้นักแสดงและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง กว่า 20 ท่าน อาทิ ใบเตย-สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ อายตา-ศรสวรรค์ ใจมั่น, ลิลลี่-ภัณฑิลา วิน ปานสิริธนาโชติ, บีม-สรีดา ประสิทธิ์ดำรง, โจ้แฮร์, แอมมี่ กิติยา พร้อมด้วย ก้อง-กฤษฏิ์ จิระเกียรติวัฒนา (ก้อง Hive Salon) ท็อปแฮร์สไตลิสท์เมืองไทย มาร่วมเปิดประสบการณ์พร้อมสัมผัสพลังนาโนอี มอยส์เจอร์พลัสจาก “Panasonic nanocare EH-NA0J”

 


              สำหรับผลิตภัณฑ์ไดร์เป่าผม “Panasonic nanocare EH-NA0J” ถูกพัฒนาขึ้นจากไลฟ์สไตล์ด้านความงามของผู้บริโภคเป็นหลัก ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะพานาโซนิค “นาโนอี มอยส์เจอร์พลัส” (nanoe™ MOISTURE+) และ Mineral ช่วยดูแลเส้นผมให้ชุ่มชื้น ได้มากกว่าเดิมมากถึง 18 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน พร้อมป้องกันสีผมซีดจางและเสียจากการทำสี ช่วยให้เส้นผมมีชีวิตชีวา และมีสุขภาพดีเมื่อใช้เป็นประจำ ปกป้องเส้นผมจากความร้อนที่มากเกินไป เป่าผมให้แห้งไวอย่างมีประสิทธิภาพ และสะดวกสบายด้วยกระแสลมอ่อนโยนที่อุณหภูมิ 50°C ช่วยให้ดูแลหนังศีรษะได้ดีขึ้น พร้อมโหมดดูแลผิว เติมน้ำผิวหน้าหลังการอาบน้ำ เพื่อผิวนุ่มละมุนและเพิ่มความชุ่มชื้นต่อผิวได้มากถึง 70%




              ด้านการดีไซน์ตัวผลิตภัณฑ์เน้นคอนเซ็ปต์ความเรียบง่าย ทันสมัย ออกแบบมาให้เอื้อต่อการใช้งาน น้ำหนักเบาเพียง 460 กรัม ขนาดเล็กกะทัดรัด สะดวกต่อการจัดเก็บ และสะดวกพกพาไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่สำคัญมีเสียงเบาไม่รบกวนคนรอบข้าง อีกทั้งยังผลิตด้วยเทคโนโลยี Zero waste ที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม






              “Panasonic nanocare EH-NA0J” มาพร้อมอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม 4 ชิ้น ได้แก่ หัวเป่าแบบแห้งเร็ว(ในตัว) ทำให้ผมของคุณแห้งอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งช่วยแยกผมเปียกออกอย่างอ่อนโยน, ดิฟฟิวเซอร์ เพิ่มลอนผมด้วยลมที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มวอลลุ่มจากโคนผมเพื่อให้ได้ลอนผมที่นุ่มสลวย หัวเป่าเฉพาะจุด เหมาะสำหรับการจัดแต่งทรงผมเข้าถึงพื้นที่เฉพาะได้อย่างง่ายด้วยลมที่กว้างและนุ่มนวล และหัวเป่าเพิ่มอากาศ ด้วยกระแสลมที่เน้นไปที่โคนผม เหมาะสำหรับผมหนาหรือบริเวณที่แห้งยาก






              สัมผัสพลังนาโนอี มอยส์เจอร์พลัส จาก “Panasonic nanocare EH-NA0J” ไปพร้อมกันได้แล้ววันนี้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป จำหน่ายในราคา 10,900 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์พานาโซนิคโทร 02-729-9000 กด 2 หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.panasonic.com/th/
20
ดีพีเวิลด์ ทัวร์ สร้างแรงบันดาลใจนักกอล์ฟสู่เวทีระดับโลก


กิรเดช อภิบาลรัตน์

25 เมษายน 2567 – ความร่วมมือระหว่างดีพีเวิลด์ ทัวร์ และทัวร์กอล์ฟอาชีพในภูมิภาคเอเชีย ถือเป็นเส้นทางใหม่ในการพัฒนากีฬากอล์ฟและสร้างแรงบันดาลใจกับนักกอล์ฟดาวรุ่งของเอเชีย มุ่งสู่เวทีการแข่งขันระดับโลกอย่างพีจีเอทัวร์ ขณะที่ กิรเดช อภิบาลรัตน์ โปรกอล์ฟชื่อดังของไทย หวังครองแชมป์ดีพีเวิลด์ ทัวร์ เพื่อเป้าหมายกลับคืนสู่สังเวียนพีจีเอทัวร์ (ภาพ: Getty Images)           

โดยในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้าการแข่งขันกอล์ฟ ดีพีเวิลด์ ทัวร์ จะชิงชัยกันที่ประเทศญี่ปุนและจีน ซึ่งเป็นหนึ่งของเอเชียน สวิง 4 รายการ ที่รวมสิงคโปร์และอินเดียด้วย ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญสำหรับนักกอล์ฟในสี่ประเทศนี้ ในการสานฝันก้าวสู่การแข่งขันในระดับที่สูงขึ้น           

จากความร่วมมือกับเจแปน กอล์ฟ ทัวร์ ออร์แกไนเซชั่น (เจจีทีโอ), โคเรียน พีจีเอทัวร์, สมาคมกอล์ฟแห่งประเทศจีน และพีจีเอ ออฟ ออสเตรเลีย ให้สิทธิ์นักกอล์ฟมือหนึ่งของแต่ละทัวร์ เข้าร่วมแข่งขันในดีพีเวิลด์ ทัวร์ และผู้เล่นที่จบในท็อป 10 ของดีพีเวิลด์ ทัวร์ เรซ ทู ดูไบ (นอกเหนือจากผู้ที่ได้รับสิทธิ์อยู่แล้ว) จะได้รับพีจีเอ ทัวร์การ์ด ร่วมชิงชัยในเวทีพีจีเอ ทัวร์ ด้วย         

กาวิน กรีน โปรกอล์ฟจากมาเลเซีย ที่ร่วมแข่งขันในดีพีเวิลด์ ทัวร์ นับตั้งแต่ปี 2018 กล่าวว่า “แน่นอนว่า พีจีเอทัวร์ คือทัวร์กอล์ฟอาชีพที่ดีที่สุด ผมคิดว่าเด็กทุกคนที่เล่นกอล์ฟล้วนใฝ่ฝันถึงการเข้าไปเล่นในพีจีเอทัวร์ และการให้สิทธิ์นักกอล์ฟที่ทำผลงานใน 10 อันดับแรกของดีพีเวิลด์ ทัวร์ เข้าสู่พีจีเอทัวร์ คือแรงจูงใจที่ยอดเยี่ยม”         

การผนึกกำลังความร่วมมือระหว่างดีพี เวิลด์ ทัวร์ และพีจีเอทัวร์ นอกจากเป็นการเพิ่มโอกาส เพิ่มเวทีการแข่งขัน และเพิ่มเงินรางวัลชิงชัย ยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับระบบคุณธรรม เน้นความสามารถ ความเสมอภาค หากเล่นดีเป็นนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของประเทศ ก็จะได้เลื่อนชั้นไปเล่นในดีพีเวิลด์ ทัวร์ หรือยูโรเปี้ยน ทัวร์ เดิม ซึ่งมีโปรแกรมการแข่งขัน 44 รายการทั่วโลก ชิงชัยเงินรางวัลรวม 150 ล้านเหรียญสหรัฐ และหากจบใน 10 อันดับแรกของดีพีเวิลด์ ทัวร์ แรงกิ้ง จะได้ตั๋วลุยพีจีเอทัวร์ต่อ


สำหรับการแข่งขันรายการ ไอเอสพีเอส ฮันดะ แชมเปี้ยนชิพ ที่โกเทมบะ ประเทศญี่ปุ่น ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ  ในสัปดาห์นี้ จะได้เห็น เคอิตะ นากาจิมะ อดีตนักกอล์ฟสมัครเล่นอันดับหนึ่งของโลก ลุ้นทำผลงานเพื่อคว้าแชมป์ดีพีเวิลด์ ทัวร์ รายการที่สองของตัวเอง  หลังจากชนะเลิศรายการ ฮีโร่ อินเดียน โอเพ่น ด้วยการออกนำม้วนเดียวจบเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว ขณะที่ กิรเดช อภิบาลรัตน์ โปรกอล์ฟชื่อดังของไทย รองแชมป์รายการ พอร์ช สิงคโปร์ คลาสสิค เข้าร่วมแข่งขันที่ญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน         

โดยนากาจิมะ ตั้งเป้าคว้าตั๋วเข้าไปเล่นในเวทีพีจีเอทัวร์ หลังจากได้แชมป์ดีพีเวิลด์ ทัวร์  ในฤดูกาลนี้เช่นเดียวกับ ริยูกะ โฮชิโนะ เพื่อนร่วมชาติ ในรายของโฮชิโนะ ชนะที่กาตาร์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้รองแชมป์อีกสองรายการ ทำให้ปัจจุบันรั้งอันดับ 2 ของตารางดีพีเวิลด์ ทัวร์ แรงกิ้ง

นากาจิมะ วัย 23 ปี เชื่อว่าเส้นทางใหม่สู่เวทีพีจีเอทัวร์ กลายเป็นแรงผลักดันให้กับนักกอล์ฟในภูมิภาคเอเชียในการไล่ล่าความฝัน สร้างประวัติศาสตร์และสร้างตำนานในเวทีระดับโลก           

“ผมขอบคุณเจแปน กอล์ฟ ทัวร์ ออร์แกไนเซชั่น และดีพีเวิลด์ ทัวร์ การได้ทราบว่าหากจบฤดูกาลในอันดับ 1 ของตารางเงินรางวัลสะสมของเจแปน กอล์ฟ ทัวร์  จะได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในดีพีเวิลด์ ทัวร์ ช่วยเพิ่มแรงจูงใจกับนักกอล์ฟพยายามทำผลงานให้ดีขึ้น นักกอล์ฟญี่ปุ่นหลายคนมองถึงโอกาสที่จะเข้ามาเล่นในดีพีเวิลด์ทัวร์ เพื่อเป็นบันไดสู่พีจีเอทัวร์ต่อไป ผมหวังว่าจะสามารถรักษาฟอร์มการเล่นได้ดีอย่างต่อเนื่องและคว้าสิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นในพีจีเอทัวร์ได้สำเร็จ และเป็นตัวอย่างให้กับผู้เล่นญี่ปุ่นคนอื่นๆ ที่มีเป้าหมายแบบเดียวกัน” นากาจิมะ กล่าว         

ทางด้าน โปรอาร์ม-กิรเดช อภิบาลรัตน์ ที่เสียทัวร์การ์ดพีจีเอทัวร์เมื่อปี 2022 หลังจากเข้าร่วมแข่งขันในสหรัฐอเมริกา 4 ฤดูกาล ได้กลับมาลงเล่นในดีพีเวิลด์ ทัวร์ อย่างเต็มตัวเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และเริ่มกลับมาคืนฟอร์มอีกครั้งโดยได้รองแชมป์รายการ พอร์ช สิงคโปร์ คลาสสิค เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเจ้าตัวตั้งเป้าคว้าแชมป์ดีพีเวิลด์ทัวร์ รายการที่ 5 ในอาชีพ เพื่อปูทางกลับสู่สังเวียนพีจีเอทัวร์


กิรเดช เผยก่อนร่วมแข่งขันรายการไอเอสพีเอส ฮันดะ แชมเปี้ยนชิพ ที่ญี่ปุ่น ในสัปดาห์นี้ว่า “เรื่องการกลับไปเล่นในพีจีเอทัวร์ ผมจะปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ผมแค่มุ่งมั่นกับการคว้าแชมป์ดีพีเวิลด์ ทัวร์ อีกครั้ง การชนะในดีพีเวิลด์ ทัวร์ คือเป้าหมายของผมในฤดูกาลนี้ ผมเล่นได้ดีที่สิงคโปร์ และรู้สึกเหมือนกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้ง และเชื่อว่าจะสามารถทำได้ดีกว่าเดิม”         

หลังจบการแข่งขันที่ญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้าจะเป็นการแข่งขันรายการ วอลโว่ ไชนา โอเพ่น หวนคืนเวทีแข่งขันอีกครั้งหลังห่างหายไป 4 ปี โดยทั้ง หลี่ เห่าตง และหวู่ อาซุน ต่างตื่นเต้นที่จะได้กลับมาลงเล่นในประเทศบ้านเกิด         

สำหรับ หลี่ เห่าตง วัย 28 ปี คว้าแชมป์ดีพีเวิลด์ทัวร์ มาแล้ว 3 รายการ จบอันดับ 3 กอล์ฟเมเจอร์ ดิ โอเพ่น แชมเปี้ยนชิพ เมื่อปี 2017 และเป็นนักกอล์ฟจีนคนแรกที่ติดทีมนานาชาติร่วมแข่งขันรายการเพรสซิเดนท์ส คัพ ในปี 2019  ทว่าสองปีที่ผ่านมาเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ไม่ผ่านตัดตัวหลายรายการ แต่ล่าสุดเริ่มส่งสัญญาณการกลับสู่ฟอร์มเดิม และมีโอกาสลุ้นคว้าตั๋วเข้าไปเล่นในพีจีเอทัวร์ ซึ่งเจ้าตัวยังไม่เคยทำได้       

หลี่ เห่าตง กล่าวว่า “มีคนคอยให้การสนับสนุนและกำลังใจผมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ เพื่อนๆ ทุกคนพยายามบอกว่าผมมีดีและผมทำได้ ผมยังคิดถึงการคว้าแชมป์ครั้งสำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดเมื่อปี 2018 ในรายการดูไบ เดสเสิร์ท คลาสสิค ผมยังคงคิดถึงชัยชนะครั้งนั้นเสมอ หากผมทำงานหนักและยังไม่สามารถทำอะไรได้ ผมคงต้องหาอะไรอย่างอื่นทำ แต่ผลการแข่งขันบอกให้ผมเดินหน้าสู้ต่อไป”
         
หมายเหตุ: Chuah Choo Chiang ผู้เขียนเป็นผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร – APAC ของ PGA Tour และประจำอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย แฟนกีฬากอล์ฟสามารถติดตามชมการแข่งขันกอล์ฟพีจีเอทัวร์ได้ทางทรูสปอร์ต 5
Pages: 1 [2] 3 4 ... 10