Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - wmt

Pages: [1] 2 3 ... 138
1

ฟู้ดแพชชั่น ส่ง “GON EXPRESS” ใหม่ !! รูปแบบ QSR รุกปั๊มน้ำมันครั้งแรกที่ปั๊มบางจาก ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง





กรุงเทพ, (01 มีนาคม 2565) บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ธุรกิจร้านอาหารชั้นนำของประเทศเจ้าของแบรนด์ปิ้งย่างในตำนาน บาร์บีคิวพลาซ่า เปิดตัวธุรกิจใหม่ “GON EXPRESS” ภายใต้แนวคิด “Express Your GON Experience จัดไว ไปต่อ ไม่ต้องปิ้ง” ให้บริการในรูปแบบ Quick Service Restaurant รุกธุรกิจอาหารนอกศูนย์การค้า โดยได้หนึ่งในผู้นำกลุ่มธุรกิจพลังงานของประเทศ อย่างบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นพันธมิตร ร่วมศึกษาพฤติกรรมลูกค้าและสนับสนุนพื้นที่ ทำให้ “GON EXPRESS” ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าได้อย่างตรงจุด ให้เข้าถึงได้ง่าย โดยนำกลิ่นอายและเอกลักษณ์ของแบรนด์ บาร์บีคิวพลาซ่า มาผสมผสานให้อยู่ในมื้ออาหาร ทั้ง 3 มื้อ เช้า กลางวัน และเย็น รวมถึงบรรยากาศร้านที่ปรับโทนสีสันให้สดใส สะท้อนรูปแบบบริการที่ทันสมัย ที่มุ่งเน้นความสะดวกเป็นหลัก เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่รวดเร็วของคนเมือง ให้ความสำคัญในทุกจุด Touch Point ของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นจุดสั่งและรับอาหารจากหน้าร้านได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาเข้ามาภายในร้าน หรือ บริการสั่งล่วงหน้า ผ่าน LINE @GonGang และ Self Pick-up ด้วยตัวเอง พร้อมกับอาหารรูปแบบใหม่ แต่ได้รสชาติเหมือนทานที่ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า โดย “GON EXPRESS” ปักหมุดสาขาแรกที่ สถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขาพัฒนาการ 34


คุณบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการสร้างโอกาสทางการตลาด กลุ่มธุรกิจอาหารฟู้ดแพชชั่น เผยว่า “ช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิม ทำให้ธุรกิจอาหารอย่างเราต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เราจึงพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่นี้ขึ้นมา ในชื่อของ “GON EXPRESS” โดยใช้แนวคิดแบบ Customer Centric นำปัจจัยและข้อจำกัดในการมองหามื้ออาหารในแต่ละวันของลูกค้า รวมถึงนำประสบการณ์ในร้านที่ลูกค้าคุ้นเคยและชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นการทานปิ้งย่าง พร้อมกับคาร์โบไฮเดรตและน้ำซุป หรือการได้ปรุงน้ำจิ้มตามรสชาติในแบบฉบับของคุณ นำมาออกแบบเป็นชุดอาหารให้ครบถ้วน ด้วยขั้นตอนในการประกอบอาหารให้สามารถบริการได้อย่างรวดเร็ว พร้อมส่งมอบอาหารให้ได้ในเวลาเพียง 8 นาที และ

วางเป้าหมายให้ “GON EXPRESS” เติบโตเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจลูกค้า เมื่อมองหาอาหารมื้อด่วนที่มีคุณภาพ ด้วยชุดเมนูอาหารที่หลากหลาย ทั้งมื้อเช้า  มื้อกลางวัน และมื้อเย็น รวมไปถึงอาหารทานเล่น ที่เราได้พัฒนาและต่อยอดมาจากเมนูเด่นของบาร์บีคิวพลาซ่าที่ลูกค้าหาทานได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น ซึ่งทางเราได้ศึกษาความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าที่บริโภคอาหารในสถานีบริการน้ำมันที่มีข้อจำกัดเรื่องของเวลาและต้องการความสะดวก ซึ่งปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันไม่ได้เป็นเพียงจุดบริการน้ำมัน หรือจุดพักรถเท่านั้น แต่กลายมาเป็น “Community Area” ที่ให้บริการในส่วนของร้านอาหาร ร้านค้า และบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน เราจึงมองเห็นโอกาสตรงนี้ และได้พันธมิตรที่สำคัญอย่าง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ให้โอกาส ฟู้ดแพชชั่น ได้เข้าศึกษาและพัฒนาธุรกิจในตลาดจริง พร้อมสนับสนุนพื้นที่ในการสร้างร้านต้นแบบในช่วงเริ่มต้นด้วย” 

คุณสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บางจากฯ มีเป้าหมายที่จะพัฒนาสถานีบริการน้ำมันให้เป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมในทุกด้าน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มต่าง ๆ ทุกช่วงวัย ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ คนทำงาน และครอบครัว โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ คือการขยายกลุ่มธุรกิจ Non-Oil อย่างมีศักยภาพเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจโดยรวม ด้วยการใช้จุดแข็งของสถานีบริการน้ำมันบางจาก เรื่องทำเลที่ตั้งที่สามารถเดินทางเข้าถึงได้ง่าย สะดวก สะอาด มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ลูกค้าสามารถเข้ามาทำกิจกรรมได้หลากหลายแม้มีเวลาจำกัด มาต่อยอดสร้างเป็นพื้นที่รองรับธุรกิจที่หลากหลายเพื่อให้เกิดเป็นคอมมูนิตี้ภายในสถานีบริการน้ำมัน ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการอย่างได้ครบครัน พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค ตามแนวคิด “Greenovative Destination”

ในครั้งนี้ บางจากฯ มีความยินดีที่ได้เป็นพันธมิตรกับบริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจร้านอาหารของประเทศ พร้อมร่วมศึกษาและพัฒนาธุรกิจร้านอาหารในรูปแบบ QSR (Quick Service Restaurant) และ Grab & Go โดยเปิดร้าน GON EXPRESS สาขาแรก ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขาถนนพัฒนาการ34  ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทั้งสองแบรนด์จะสามารถนำจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาร่วมกันพัฒนา ยกระดับ สินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดยมั่นใจว่าความร่วมมือกันครั้งนี้จะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี

“GON EXPRESS”  พร้อมเสิร์ฟเมนูใหม่ น่าลิ้มลอง

• เริ่มต้นวันด้วยมื้อเช้า โจ๊กหมูสไลซ์ รังสรรค์เสน่ห์ของบาร์บีคิวพลาซ่า ด้วยหมูสไลซ์และผักที่ผัดกับน้ำจิ้มจนนุ่ม โรยด้วยกากหมูเจียว จึงเป็นมื้อเช้าที่ครบถ้วนด้วยโภชนาการและยังได้รสชาติเหมือนทานบาร์บีคิวพลาซ่า

• ตามด้วยมื้อหลัก GON X.Box ข้าวญี่ปุ่นผัดกระเทียมหมูสไลซ์ผัดด้วยซอสบาร์บีคิวต้นตำรับ โดยให้ความใส่ใจเลือกใช้ข้าวญี่ปุ่นที่มีสัมผัสเหนียวนุ่ม สามารถใช้ตะเกียบคีบทานได้ง่ายขึ้น ไม่ร่วนหกง่าย และเนื้อหมูสไลซ์ผัดกับซอสบาร์บีคิวพลาซ่านุ่มละมุนในทุกคำ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มบาร์บีคิวพลาซ่า พริก กระเทียม มะนาว ให้ได้เติมแต่งรสชาติตามสไตล์ของตัวเอง เมนู GON X.Box ทุกกล่อง เสิร์ฟคู่กับน้ำซุปกะหล่ำปลี อุ่นร้อนในอุณหภูมิที่พอเหมาะ เพิ่มรสชาติที่กลมกล่อมตลอดมื้อ ที่เราตั้งใจให้เหมือนน้ำซุปจากเตา

• อาหารทานเล่นระหว่างวันกับเมนู โรตีหมูสไลซ์ซอสบาร์บีคิวต้นตำรับ ซึ่งเราเลือกใช้แป้งโรตี ที่นำมาทอดให้หอมเพื่อสะท้อนตัวตนการเป็นแบรนด์ร้านอาหารตะวันออกชุ่มฉ่ำด้วยไส้หมูสไลซ์ และผักที่ผัดด้วยซอสบาร์บีคิวพลาซ่าจนหอม และได้รสชาติกลมกล่อม

• ปิดท้ายด้วยขนมหวานกับไอศครีมซอฟต์เสิร์ฟราดซอสคาราเมลไข่เค็ม จากเมนูขนมหวานที่โด่งดังของบาร์บีคิวพลาซ่า เพิ่มความสะดวก ให้สามารถทานได้ง่ายยิ่งขึ้น เป็นไอศครีมซอฟต์เสิร์ฟ แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ความอร่อยของซอสคาราเมลไข่เค็มแท้ๆ ไว้ได้อย่างลงตัว

ร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ พร้อมเติมเต็มความอร่อยกับเมนูใหม่ที่หลากหลายในทุกมื้ออหาร ไปกับ “GON EXPRESS”  ได้ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขาพัฒนาการ 34 เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ เวลา 07:00 – 20:00 น. ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.barbqplaza.com, Facebook @BarBQPlazaThailand[/colorl]







2
เปิดแล้ววันนี้ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สมุย ฟู้ดสโตร์ระดับเวิลด์คลาสโฉมใหม่ครบครันทุกประสบการณ์ช้อปปิ้งและไดน์นิ่งกับสินค้ามากกว่า 30,000 รายการ


นางสุจิตา เพ็งอุ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายปฏิบัติการ Large Format บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิด “เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขาเซ็นทรัลเฟสวัล สมุย” ฟู้ดสโตร์ระดับเวิลด์คลาสโฉมใหม่สุดปัง! จุดหมายสำคัญที่จะรวมทุกประสบการณ์ช้อปปิ้งและรับประทานอาหารไว้ในที่เดียว แหล่งนัดพบ ช้อป ชิม ชิว เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าชาวสมุยและนักท่องเที่ยวที่ไปเยือน ปรับโฉมใหม่พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ววันนี้ ครบครันด้วยสินค้าและวัตถุดิบชั้นเลิศที่คัดสรรมาจากทั่วทุกมุมโลก เพิ่มสินค้าให้ช้อปมากขึ้นกว่าเดิม มากกว่า 30,000 รายการ ภายใต้บรรยากาศการตกแต่งทันสมัย และโซนสินค้ารูปแบบใหม่ พร้อมบริการโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ อาทิ JAMES THE BUTCHER โซนเนื้อสัตว์ที่ได้แรงบันดาลใจจากเจมส์ เดอะบัตเลอร์ จัดสรรทุกบริการได้ตามความต้องการของลูกค้า โดยบุชเชอร์พร้อมบริการแบบมืออาชีพเพื่อให้ลูกค้าได้เนื้อสัตว์ที่เหมาะกับการปรุงอาหาร FISHMONGER โซนอาหารทะเลสดใหม่หลากชนิด THE BAKER ที่มีกลิ่นอายความคลาสสิคแบบฉบับของทางยุโรป เราเลือกใช้แป้งบาวาเรียไม่ขัดสีจากโรงสีไอเชอร์ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ละลานตากับเบเกอรี่ ครัวซองต์หอมเนยสดฝรั่งเศสแท้ๆ อบ สด ใหม่ตลอดวัน HAM & BRIE สวรรค์สำหรับคนรักชีสและโคลค์คัทสไตล์ยุโรปพร้อมบริการสไลด์โดยผู้เชี่ยวชาญ CENTRAL EATERY รายล้อมด้วยอาหารนานาชาติรสชาติระดับโลก ปรุงสดใหม่ทั้งวันโดยทีมเชฟนานาชาติมืออาชีพพร้อมพนักงานให้บริการถึงโต๊ะ PRODUCEเพิ่มความหลากหลายของผัก-ผลไม้ท้องถิ่นและสินค้านำเข้า คัดสดใหม่ได้มาตรฐาน และสนับสนุนเกษตรกรในประเทศ HEALTHIFUL ครบครันสินค้าด้านสุขภาพแบบฟูลออฟชั่น เพื่อสร้างสุขภาพที่ดี อย่างสมดุล, Thai Favourites โซนสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่น สินค้าโอทอปและเอสเอ็มอีของดีของเด่นทั่วไทยสำหรับเป็นของฝาก ฯลฯ

เพิ่มความสะดวกสบายยกระดับการช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ ให้ทุกวันของคุณพิเศษและสะดวกกว่าที่เคย กับ บริการช้อปปิ้งออนไลน์ ได้แก่ “CLICK & COLLECT” ช้อปสินค้าผ่าน www.tops.co.th เลือกรับที่ร้าน “PHONE & DELIVERY” โทร สั่ง ส่ง เลือกรับสินค้าที่ร้านหรือส่งตรงถึง พร้อมโปรโมชั่นฉลองเปิดโฉมใหม่ รับฟรี! กระเป๋าเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ 1 ใบเมื่อช้อปครบ 1,200 บาท/ใบเสร็จ

สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งระดับเวิลด์คลาสได้แล้ววันนี้ที่ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขา เซ็นทรัลเฟสวัล สมุย ชั้น 1 เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 - 22.00 น. ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.centralfoodhall.com เฟซบุ๊ก Central Food Hall และ อินสตาแกรม centralfoodhallofficial





3


ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท ช่วยคนไทยลดค่าครองชีพ ประกาศล็อคราคาสินค้าระลอกใหม่ เพิ่มจำนวนสินค้ามากขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า มาวันไหนก็ราคาเดียว

(กรุงเทพฯ-9 เมษายน 2564) ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท ในเครือเซ็นทรัล รีเทล  ย้ำจุดยืนผู้นำซูเปอร์มาร์เก็ตที่พร้อมเคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์ ประกาศ เพิ่มจำนวนสินค้า “ล็อคราคา” มากขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า  มาวันไหนก็ราคาเดียว ขยายเวลานานขึ้นกว่าเดิม 6 เดือน ตั้งแต่วันนี้ – 7 กันยายน 2564 ที่ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์ เดลี่, แฟมิลี่มาร์ททุกสาขาและท็อปส์ ออนไลน์   

ล็อคราคาสินค้าระลอกใหม่ช่วยคนไทยลดภาระค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพ คัดเลือกสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันครอบคลุมทุกหมวดหมู่ 130 รายการ มาวันไหนก็ราคาเดียว พร้อมการันตีว่าจะมีสินค้าเพียงพอต่อทุกความต้องการ เช่น  ไข่ไก่สดแพค 10 ฟอง ล็อคราคา 49 บาท, น้ำมันรำข้าว100 % ขวด 1 ลิตร ล็อคราคา 55 บาท, ซอสหอยนางรม 800 กรัม ล็อคราคา 29 บาท, ข้าวหอมผสมคัดพิเศษ 5 กก. ล็อคราคา 129 บาท และยังมีสินค้าอื่น ๆ อีกมากมายเช่น นมยูเอชที แชมพู กระดาษชำระ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม  อาหารกระป๋องฯลฯ  พร้อมด้วยโปรโมชั่นสินค้าลดราคาเรดฮอตลดสุดขีด สินค้าซื้อ 1 แถม 1 เพื่อให้คนไทยทุกคนได้วางแผนการจับจ่าย ประหยัดเงินในกระเป๋า ได้ซื้อสินค้าที่ดีมีคุณภาพ คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด

ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand, FamilyMartThailand, หรือ แอพพลิเคชั่นไลน์ @TopsThailand,@FamilyMartThailand,

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย และเป็นบริษัทเรือธงด้านค้าปลีก ซึ่งเป็นรากฐานของกลุ่มเซ็นทรัล มีเครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกที่สำคัญ 3,764 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563) นำเสนอสินค้าหลากหลายประเภท (Multi-category) ผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ในรูปแบบออมนิแชแนล โดยครอบคลุมกลุ่มแฟชั่น ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์, ซูเปอร์สปอร์ต, Central Marketing Group (CMG) และรีนาเชนเต (Rinascente) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ได้แก่ ไทวัสดุ, บ้านแอนด์บียอนด์, เพาเวอร์บาย, เหงียนคิม, ออฟฟิศเมต, บีทูเอส, เมพ (e-book) และกลุ่มฟู้ด ได้แก่ ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่, ท็อปส์ พลาซ่า, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, แฟมิลี่มาร์ท, บิ๊กซี/โก! และลานชี มาร์ท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 เซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทยที่มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้า รวมกัน 1,898 แห่ง ใน 55 จังหวัด พร้อมทั้งยังดำเนินธุรกิจค้าปลีกในประเทศอิตาลี และประเทศเวียดนาม รวมกัน 133 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563)

4





ครัวคุณต๋อยผนึกกำลังสยามพารากอน จัดงาน “ครัวคุณต๋อย Expo Season 6 Presents By เวิลด์แก๊ส BY WP ENERGY” สุดยอดมหกรรมอาหารเต็มรูปแบบใจกลางกรุงฯครั้งแรก! รวบรวมที่สุดความอร่อยตัวจริงจากทุกทิศทั่วไทย พิเศษสุด!! กับการรวมร้านอาหารญี่ปุ่นโดยชาวญี่ปุ่นแท้ ๆ มากมาย   ยกขบวนความอร่อยพร้อมเสิร์ฟแบบไม่อั้น!!!





กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับสุดยอดมหกรรมอาหารอันเลื่องชื่อ “ครัวคุณต๋อย Expo Season 6 Presents By เวิลด์แก๊ส BY WP ENERGY” เพื่อมอบความพิเศษสุดของเทศกาลอาหารที่ทุกคนรอคอย รังสรรค์มหกรรมอาหารที่สุดแห่งความอร่อยจากร้านดังเมนูเด็ดทุกสารทิศทั่วไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Food Fun Fest” เต็มอิ่มไปด้วยความอร่อยท่ามกลางบรรยากาศ และกิจกรรมสุดสนุกมากมายแบบจัดเต็ม 5 วัน โดยงานจะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 7 - 11 เมษายน 2564 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก เวิลด์แก๊ส บาย WP Energy ร่วมเป็นพันธมิตรคัดสรรความอร่อยอย่างเป็นทางการ โดยจัดงานแถลงข่าว วันที่ 25 มีนาคม 2564 เวลา 15.00 น. ณ แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

สำหรับงาน “ครัวคุณต๋อย Expo Season 6 Presents By เวิลด์แก๊ส BY WP ENERGY” ที่สุดแห่งมหกรรมอาหาร ศูนย์รวมความอร่อยจากทั่วประเทศ “ต๋อย-ไตรภพ ลิมปพัทธ์” ผู้ผลิตและดำเนินรายการโทรทัศน์ “ครัวคุณต๋อย” กล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า “เป็นครั้งแรกที่ครัวคุณต๋อย ได้จัดงาน ครัวคุณต๋อย Expo ใจกลางกรุงแบบ 5 วันเต็ม ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยเราคัดสรรที่สุดของอาหารไทยจากร้านเด่นชื่อดังทุกทิศทั่วไทย 200 ร้านค้า กว่า 1,000 เมนู และงานนี้เราเอาใจนักชิมเพิ่มด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นจากชาวญี่ปุ่นแท้ ๆ กว่า 20 ร้าน และขาดไม่ได้กับบู๊ท ครัวคุณต๋อย Selected ที่คัดสรรสินค้าคุณภาพเยี่ยม สินค้าชุมชน และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพให้แฟน ๆ ครัวคุณต๋อยได้เลือกซื้อกันอย่างมากมาย”
 
นอกจากเรื่องของความอร่อยที่ยกขบวนร้านค้ามาเสิร์ฟกันถึงใจกลางกรุง ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอนแบบไม่อั้นแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์อันเป็นสีสันที่ทุกคนรอคอยกับความสนุกสนานจาก 4 พิธีกร นำทีมโดย ไตรภพ ลิมปพัทธ์ พร้อมด้วย ณวัฒน์ อิสรไกรศีล, กีรติ เทพธัญญ์ และโก๊ะตี๋ อารามบอย จะมาร่วมสร้างความคึกคักเติมเต็มอรรถรสภายในงาน พร้อมแนะนำอาหารจานเด็ดที่สุดของร้านอาหารหลากชนิดทั่วไทยกว่า 200 ร้านค้า 1,000 เมนู อาทิ ครัวอัปสร, ศรีจันทร์ซีฟู้ดส์, โชกุนอยุธยา, เทียนทะเล, ข้าวต้มแปลงนาม, MRS. Soft Bread, สิริ คิทเช่น อยุธยา, Berlin’s Doner Kebab, โครงการอนุรักษ์ขนมไทยแสนแพง, ตู้กับข้าว, เฮียเพ้งเป็ดย่าง, โชติมาขนมหวาน, น้ำพริกป้าติ๋ว กม.7 และร้านโดยชาวญี่ปุ่นชื่อดัง อาทิ ราเมง Shoyu All Star คิวทอง ร้าน Rock Men, ข้าวหน้าเนื้อวากิวในตำนานกว่า 400 ปี ร้าน OKAKI ซึ่งเจ้าของฟาร์มมาขายด้วยตัวเอง, เมนูซู-วีนุ่มราดซอสสุดพิเศษ จากร้าน Kobe Tonteki, ซูชิเนื้อวากิวเซอร์ลอยน์ A5 จากร้าน KIRABI, หมูตุ๋นสไตล์ฮอกไกโด Pork kakuni Don ที่ตุ๋นนานกว่า 10 ชั่วโมงจากร้าน KAMUI, ฮัมเบิร์กวากิว A5 ละลายในปากจากร้าน Shoutaian, ข้าวหน้าปลาดิบหลากหลายจากร้าน Izakaya Sake, ยากิโทริ 5 แบบ ย่างโดยคนญี่ปุ่นจากร้าน Hachi Kin ฯลฯ รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น โซน Hall of Fame : The Legend of ครัวคุณต๋อย, กิจกรรมเวิร์คช็อป, เกมส์, มุมถ่ายภาพ ที่ตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อมอบความสุขให้ผู้ร่วมงานอย่างเต็มอิ่ม

เตรียมพบกับงาน “ครัวคุณต๋อย Expo Season 6 Presents By เวิลด์แก๊ส BY WP ENERGY” ใจกลางกรุงฯ ครั้งแรก! แบบจัดเต็มตลอด 5 วัน ระหว่าง วันที่ 7 - 11 เมษายน 2564 ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน รถไฟฟ้าลงสถานีสยาม การันตีความอร่อยจานเด็ดของสุดยอดร้านอาหาร พร้อมกิจกรรมความสนุกที่ “ไม่ไปถือว่าผิด!”

5


แกร็บ ประกาศตั้งกองทุน “GrabForGood” มุ่งสนับสนุนพาร์ทเนอร์คนขับ-ร้านค้า และสังคมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

•   แกร็บเตรียมจัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนพาร์ทเนอร์คนขับ-ร้านค้าด้วยมูลค่าตั้งต้นสูงถึง 275 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งประกอบด้วยเงินสดและหุ้นบริษัท โดยผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทยังได้มอบหุ้นบริษัทจากสินทรัพย์ส่วนตัวมูลค่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อสมทบในกองทุนดังกล่าวด้วย

•   การตั้งกองทุนในครั้งนี้สะท้อนและสานต่อเจตนารมณ์ของแกร็บในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

•   กองทุนดังกล่าวจะถูกนำไปใช้กับการจัดหาวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับพาร์ทเนอร์คนขับในช่วงเริ่มต้น จากนั้นจะมุ่งเน้นสนับสนุนกิจกรรมที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสิ่งแวดล้อมทั่วทั้งภูมิภาคในระยะยาว









สิงคโปร์ (8 เมษายน 2564) - แกร็บ โฮลดิ้งส์ ประกาศแผนการก่อตั้งกองทุนที่ชื่อว่า “GrabForGood” หรือ “แกร็บเพื่อชีวิตที่ดีกว่า” เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการต่างๆโดยมุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับพาร์ทเนอร์คนขับ พาร์ทเนอร์ร้านค้า รวมถึงผู้คนในสังคมโดยรวมทั่วทั้งภูมิภาคเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวซึ่งมีมูลค่าตั้งต้นจากการประเมินมูลค่าในปัจจุบันอยู่ที่ 275 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นั้น ประกอบด้วย เงินสดจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และหุ้นของบริษัทซึ่งมีมูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ แอนโทนี ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง ฮุยหลิงตัน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท และหมิงหม่า ประธานบริษัท ยังได้ร่วมสมทบกองทุนดังกล่าวด้วยหุ้นบริษัทมูลค่ารวม 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากสินทรัพย์ส่วนตัวด้วย

“นับตั้งแต่วันแรกที่บริษัทได้ก่อตั้งขึ้น แกร็บยึดมั่นพันธกิจในการส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาโดยตลอด การจัดตั้งกองทุน GrabForGood ในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นที่แกร็บต้องการสานต่อเจตนารมณ์ในการยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับพาร์ทเนอร์ของเรา รวมถึงสังคมในวงกว้าง ทั้งยังสะท้อนถึงความตั้งใจในการสนับสนุนการสร้างการเติบโตให้กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างยั่งยืน” แอนโทนี ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งแกร็บ กล่าว

แอนโทนี ตัน กล่าวเสริมว่า “ในช่วงเริ่มต้น กองทุน GrabForGood นี้จะถูกนำมาใช้กับโครงการเร่งด่วนอย่างการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในพื้นที่ที่ยังขาดแคลน และด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการมีส่วนในการพัฒนาและสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับประเทศที่แกร็บดำเนินธุรกิจอยู่ เราจึงวางแผนที่จะดำเนินโครงการหรือกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยสร้างรากฐานทางด้านเศรษฐกิจและสังคมเพื่อให้ผู้คนในสังคมเข้าถึงโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเขาผ่านกองทุนนี้ด้วย”

กองทุน GrabForGood จะมุ่งให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว อาทิ การส่งเสริมด้านการศึกษา การให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มคนหรือชุมชนที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการทางการเงิน รวมถึงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วย โดยบริษัทจะจัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษากองทุน (Fund Advisory Board) ซึ่งทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวแทนของพาร์ทเนอร์และชุมชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการแสดงความคิดเห็นและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการนำทรัพย์สินจากกองทุนดังกล่าวเพื่อไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ

เตรียมทุ่ม 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อจัดหาวัคซีนโควิด-19 สำหรับพาร์ทเนอร์คนขับ
วิกฤติการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้น แกร็บ จึงเตรียมจัดสรรงบประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากกองทุนดังกล่าวเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดหาและอำนวยความสะดวกในการฉีดวัคซีนให้กับพาร์ทเนอร์คนขับที่ผ่านเกณฑ์  โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจากรัฐบาลในประเทศต่างๆ ความพยายามดังกล่าวถือเป็นการตอบสนองต่อผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ 2564  ซึ่งระบุว่า 92% ของผู้ใช้บริการแกร็บยังคงมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ แกร็บได้เริ่มประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดหาวัคซีน พร้อมพยายามจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนในประเทศต่างๆ ให้กับพาร์ทเนอร์คนขับที่ผ่านการคัดเลือก

ให้ทุนสนับสนุนโครงการที่สร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
แกร็บจะมีการกำหนดโครงสร้างและรูปแบบของการบริหารกองทุน GrabForGood อย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ จะเริ่มจัดสรรเงินจากกองทุนดังกล่าวเพื่อใช้ในโครงการอื่นๆ เมื่อมูลค่าของกองทุนฯ สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยบริษัทฯ จะร่วมกับคณะกรรมการที่ปรึกษากองทุนพิจารณาและเปิดเผยรายละเอียดให้ทราบต่อไป สำหรับโครงการที่กองทุนนี้มุ่งให้การสนับสนุน ประกอบด้วย

โครงการเพื่อช่วยเหลือพาร์ทเนอร์แกร็บ:
•   การสนับสนุนการทำประกันผ่าน GrabInsure :
จากผลการสำรวจในเดือนพฤษภาคม 2563  พบว่าอัตราการทำประกันของพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บมีเพียง 13% เท่านั้น โดยสาเหตุหลักที่ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่ได้ทำประกันคือความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน ดังนั้น แกร็บจึงได้วางแผนในการออกแบบโปรแกรมการทำประกันรูปแบบต่างๆ ภายใต้ GrabInsure (หรือแบรนด์อื่นโดยเป็นไปตามกฏหมายในแต่ละประเทศ) เพื่อให้พาร์ทเนอร์แกร็บสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ประกันโดยได้รับส่วนลดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ประกันชีวิต ประกันโรคร้ายแรง ประกันที่ครอบคลุมสมาชิกในครอบครัว หรือแม้แต่ประกันเพื่อการลงทุน ซึ่งจะได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับความต้องการของพาร์ทเนอร์ในแต่ละประเทศ โดยผลิตภัณฑ์ประกันเหล่านี้ถือเป็นโปรแกรมเสริม นอกเหนือจากประกันอุบัติเหตุที่แกร็บให้ความคุ้มครองกับพาร์ทเนอร์คนขับในระหว่างการให้บริการบนแพลตฟอร์มอยู่แล้ว

•   การให้ทุนการศึกษา: โดยมุ่งให้การสนับสนุนด้านการเงินกับกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศธุรกิจของแกร็บ ที่ยังขาดโอกาสทางด้านการศึกษา

•   การสนับสนุนกลุ่มคนพิการหรือผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย: เพื่อช่วยให้กลุ่มคนเหล่านี้ช่วยเหลือตัวเองได้ สามารถเดินทางและเข้าถึงโอกาสในการสร้างรายได้ โดยการสนับสนุนเงินทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ อาทิ การปรับปรุงยานพาหนะ การสนับสนุนค่าเรียนสอนขับรถ หรือแม้แต่การจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น เช่น รถเข็นหรือเครื่องช่วยฟัง เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มของแกร็บในการหารายได้ให้กับตัวเองได้ในอนาคต

โครงการส่งเสริมสังคมเพื่อสร้างประโยชน์ในวงกว้างให้กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้:

•   โครงการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพทางด้านการเงินและทักษะทางด้านดิจิทัล:
อาทิ การจับมือกับสถาบันการศึกษาหรือสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อให้ความรู้และพัฒนาเครื่องมือในการส่งเสริมการเข้าถึงทักษะด้านดิจิทัล การเพิ่มผลผลิต และการพัฒนาศักยภาพทางการเงิน

•   การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: การให้ทุนสนับสนุนหรือสร้างแรงจูงใจในเทคโนโลยีหรือกิจกรรมที่ช่วยลดหรือทำให้ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ เพื่อมุ่งป้องกันและแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน รวมถึงมลภาวะทางขยะ

•   การบรรเทาสาธารณภัย: ให้การสนับสนุนทางการเงินกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติต่างๆ

การก่อตั้งกองทุน GrabForGood นี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสานต่อความสำเร็จของโครงการต่างๆ ที่แกร็บได้เคยริเริ่มเพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับภูมิภาคนี้ อาทิ โครงการ Small Business Booster ที่ช่วยให้ร้านค้าหรือผู้ประกอบการรายเล็กได้เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาศักยภาพในด้านดิจิทัลสำหรับพาร์ทเนอร์แกร็บด้วยโปรแกรมอีเลิร์นนิ่งของไมโครซอฟต์ผ่านทางแอปพลิเคชันแกร็บ

ปัจจุบัน แกร็บอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อกำหนดโครงสร้างและนโยบายในการบริหารจัดการกองทุน GrabForGood เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับอย่างเหมาะสม

เกี่ยวกับแกร็บ
แกร็บ (Grab) คือ ผู้นำด้านซูเปอร์แอปที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันให้กับผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันแอปพลิเคชันแกร็บได้ถูกดาวน์โหลดแล้วบนโทรศัพท์มือถือมากกว่า 214 ล้านเครื่อง ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงพาร์ทเนอร์คนขับ พาร์ทเนอร์ร้านค้า รวมถึงตัวแทนกว่า 9 ล้านราย โดยนำเสนอบริการต่างๆ แบบออนดีมานด์ ไม่ว่าจะเป็น การเดินทาง การจัดส่งอาหาร สินค้าและพัสดุ ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนบริการทางการเงิน เพื่อตอบสนองผู้ใช้บริการทั่วทั้ง 428 เมืองใน 8 ประเทศ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแกร็บได้ที่ www.grab.com

6

“หอยจ๋า อร่อยจี๋” ปรับธุรกิจรับมือโควิด-19 ชูมาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุด




“ภาวะวิกฤติคลัสเตอร์ไวรัสโควิด-19 ระบาดระลอก 3 ทำเอาหลากหลายธุรกิจเกิดอาการหยุดชะงัก ได้รับผลกระทบกันทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งหนึ่งในธุรกิจที่ค่อนข้างได้รับผลกระทบโดยตรงคือธุรกิจร้านอาหาร เพราะผู้บริโภคอาจเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจในด้านความปลอดภัยหากจะต้องรับประทานอาหารในร้าน และเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารทะเล “หอยจ๋า อร่อยจี๋” ร้านซีฟู้ดที่มาแรงที่สุดแห่งย่านเกษตร-นวมินทร์ โดยเจ้าของร้าน “ตุ๊กตา- ทิพวรรณ ภูสง่า” จึงปรับธุรกิจรับมือโควิด-19 พลิกวิกฤติเป็นโอกาสเน้นการขายออนไลน์ สำหรับลูกค้าซีฟู้ดเดลิเวอรี่ และชูมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดสำหรับลูกค้าที่ต้องการเข้ามารับประทานในร้าน

“ตุ๊กตา- ทิพวรรณ” เจ้าของร้านเผยว่า “ในช่วงที่โควิด-19 กลับมากระจายตัวอีกครั้ง ทางร้านหอยจ๋า อร่อยจี๋ คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้ามากที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่ามาทานที่ร้านนอกจากจะได้ทานอาหารทะเลสดๆ น้ำจิ้มแซ่บๆ แล้ว ทางร้านหอยจ๋า ยังมีมาตรการความปลอดภัยขั้นสูง ก็คือ ต้องวัดอุณหภูมิทุกครั้งก่อนเข้าร้าน สแกนคิวอาร์โค้ดไทยชนะ หรือลงชื่อก่อนเข้าร้านทุกครั้ง แล้วก็มีบริการแอลกอฮอล์เจลไว้ให้ทำความสะอาดมือทุกโต๊ะ มีการเว้นระยะห่างของโต๊ะ จำกัดจำนวนคนเข้าร้าน เพื่อลดการแออัด และทุกวันทางร้านจะมีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย นอกจากนั้นพนักงานทุกคนในร้านต้องงดการไปในพื้นที่เสี่ยง สวมแมสก์ สวมถุงมือตลอดเวลา ส่วนการเลือกวัตถุดิบก็ต้องเป็นแหล่งที่ปลอดภัย สด สะอาดด้วยค่ะ ดังนั้นลูกค้าที่เข้ามารับประทานในร้านหอยจ๋า อร่อยจี๋ ขอให้มั่นใจในความปลอดภัยของเราค่ะ”

และในส่วนของลูกค้าเดลิเวอรี่ ร้านหอยจ๋า อร่อยจี๋ ก็จัดเต็มสามารถสั่งอาหารผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทุกแอปพลิเคชั่น “ในช่วงโควิดหลายๆ คนอาจจะไม่อยากออกมาทานข้าวนอกบ้าน ร้านหอยจ๋า อร่อยจี๋ของเรา พร้อมส่งตรงความสดใหม่ของอาหารทะเล ที่คัดพิเศษ วัตถุดิบคุณภาพสูงให้ทานกันที่บ้านในแบบเดลิเวอรี่ค่ะ สามารถสั่งอาหารของเราได้ที่ Line : @Hoijar (มี@นำหน้าด้วย) และช่องทางอื่นๆ เช่น Line man, Grab, Robinhood, Gojek หรือโทรมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 092-5429646 และFacebook : หอยจ๋า อร่อยจี๋ ร้านเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 13.00-23.00 น.ค่ะ” ผู้บริหารเผย

พบกับเมนูความอร่อยของร้าน “หอยจ๋า อร่อยจี๋” ที่ยกกุ้ง หอย ปู ปลา กุ้ง กั้ง สดใหม่จากทะเลสุราษฎร์ เอามาไว้ให้คอซีฟู้ดได้เปิบความจี๊ดจ๊าด อร่อยถึงใจไปกับน้ำจิ้ม 3 แบบ 3 รส “น้ำจิ้มมะขาม, น้ำจิ้มถั่วคั่ว, น้ำจิ้มซีฟู้ด” สูตรลับที่เจ้าของร้านโขลกเองกับมือ และ “เมนูสารพัดหอย” อาทิ หอยนางรมไซส์จัมโบ้, หอยแครงภูเขาไฟ, หอยแครงชุบแป้งทอด, หอยหวานเผา, หอยแมลงภู่อบ, หอยตลับอบสมุนไพร” และ “ปลาหมึกซาซิมิ, กั้งผัดพริกเกลือ, ปูไข่ดอง, ยำปูม้า, กุ้งแม่น้ำเผาไซส์จัมโบ้, ปลากะพงทอดน้ำปลา” และอีกหลากหลาย ได้ที่ร้าน หอยจ๋า อร่อยจี๋  สาขาเกษตร-นวมินทร์ และสาขานวมินทร์ อร่อยอย่างหมดห่วงในช่วงโควิด-19

7








ททท. จัดดีลสุดร้อนแรง เปิดตัวเว็บไซต์ใหญ่! “มหาโปรเที่ยวไทย อะเมสซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” รวบรวมส่วนลดสุดปัง ทุกวันที่ 5 5 เดือน 5 ภูมิภาค

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ พันธมิตร เดินเกมรุกกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศ เสิร์ฟโปรโมชั่นสุดอะเมสซิ่ง ชวนเที่ยวทั่วไทยในราคาพิเศษ พร้อมเปิดตัวเว็บไซต์แหล่งรวมส่วนลดจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย ในโครงการ “มหาโปรเที่ยวไทย อะเมสซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” ภายใต้แนวคิด “เที่ยวเมืองไทย อะเมสซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” โดยมี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 ณ LIDO CONNECT กรุงเทพมหานคร






นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า “ในขณะนี้ วัคซีนโควิด-19 เริ่มทยอยแจกจ่ายให้ประชากรในหลาย ๆ ประเทศรวมถึงประเทศไทย ทำให้ภาพการกลับมาของนักท่องเที่ยวเริ่มชัดเจนขึ้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้เตรียมแผนกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วยการเสนอขายสินค้าและบริการที่ตอบสนองต่อพฤติกรรมการท่องเที่ยวแบบ New Normal เกิดเป็นโครงการ มหาโปรเที่ยวไทย อะเมสซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม ภายใต้แนวคิด เที่ยวเมืองไทย อะเมสซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม โดยร่วมกับพันธมิตร และผู้ประกอบการทั่วประเทศที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย

ด้านสุขอนามัย (SHA) กว่า 100 ราย ในการร่วมมือกันจัดกิจกรรมการตลาดออนไลน์ กระตุ้นความถี่ในการเดินทางภายในประเทศ โดยรวบรวมส่วนลดมากมายไว้ในเว็บไซต์ เที่ยวไทยอะเมสซิ่งยิ่งกว่าเดิม โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาใช้จ่ายกับกิจกรรมท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การเที่ยวเมืองไทยนั้น อะเมสซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม

โดยได้รับความร่วมมือจาก 13 พันธมิตรสุดแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยราคาพิเศษจากสายการบิน ไทยไลอ้อนแอร์ รถเช่าเอวิส ไทยแลนด์ และนครชัยแอร์ บางจาก คอร์ปอเรชั่น มอบส่วนลดน้ำมันเครื่อง กิจกรรมท่องเที่ยวสุดเอ็กคลูซีฟในราคาสบายกระเป๋าจากเรือเจ้าพระยา ปริ้นเซส ทริปสุดประทับใจจากเลิฟ อันดามัน ทัวร์ราคาดี จาก ยูนิไทย ทราแวล รวมถึงที่พักราคาโดนใจ ที่ยกขบวนกันมาจากเครือโรงแรม บีทู เครือโรงแรม กะตะ กรุ๊ป เครือโรงแรม ดุสิตธานี เครือโรงแรม ยูโฮเทล แอน รีสอร์ต และ เครือโรงแรม เอ็ม บี เค กรุ๊ป และสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าธนาคารกรุงเทพสามารถใช้บัตรเครดิตร่วมกับทุกพันธมิตรได้



ทั้งนี้ในส่วนของโปรโมชั่นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.) “555 มหาโปร” ฮอตดีลสุดพิเศษ มีให้ชอปทุกวันที่ 5 เริ่มตั้งแต่เดือน เมษายน – สิงหาคม 2564 และ 2.) “โปร ปัง เปย์” ส่วนลดพร้อมเสิร์ฟทุกเดือน ให้นักท่องเที่ยวได้วางแผนการเดินทางในราคาสบายกระเป๋า ชอปได้ตั้งแต่วันนี้ - กันยายน 2564 จองได้ทาง Website : เที่ยวไทยอะเมสซิ่งยิ่งกว่าเดิม http://bit.ly/3rRuG8d ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม Facebook Page : มหาโปรเที่ยวไทยอะเมสซิ่งยิ่งกว่าเดิม https://www.facebook.com/mahaprotiewthai/






8

กิจกรรม “ชุมชนพอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” สร้างคุณค่าให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อมใน “Water Festival 2021 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” ครั้งที่ 6

“น้องแก้ม-ลุงสมบัติ” ตัวแทนเยาวชนและชุมชนระดมความคิดเรื่องจัดการขยะกับ “ชุมชนพอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” สร้างคุณค่าให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อมใน “Water Festival 2021 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” ครั้งที่ 6


“โครงการ Bring Back-Recycle” ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดทำขึ้นมาพร้อมผลักดันด้วยการจัดกิจกรรม “ชุมชนพอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” โดยมีวัตถุประสงค์มุ่งเน้นความสำคัญของชุมชนให้มีส่วนร่วมที่จะสร้างความยั่งยืนเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการคัดแยกขยะเพื่อการรีไซเคิลในชุมชนเรียกว่าเป็นการยกระดับการขับเคลื่อนการดำเนินงานของ 2 กิจกรรม คือ “ทำความสะอาดชุมชน” และ “เยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม” ที่จะมีการจัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องก่อนการงาน “Water Festival 2021 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” ที่ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ชื่นจิต ชื่นใจ” สนุกแจ่มใสจิตใจเบิกบาน รับมงคล ฉลองปีใหม่แบบปลอดภัย (ห่างไกลโควิด) ที่จัดขึ้นพร้อมกัน 4 ภาคของประเทศไทย ในระหว่าง วันที่ 13 -15 เมษายน 2564 และยังได้ขยายพื้นที่การจัดงานไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วัดไชยศรี ณ บ้านสาวะถี จังหวัดขอนแก่น เป็นครั้งแรกอีกด้วย

บรรยากาศงานนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนเยาวชนเจ้าบ้านสืบสานวัฒนธรรมที่ให้การตอบรับเข้าร่วมมีจำนวนกว่า 50 ชีวิต โดยกิจกรรมเริ่มจากการแบ่งกลุ่มตัวแทนชุมชน และเยาวชนออกเป็นกลุ่มละ 6-7 คน จากนั้นแต่ละกลุ่มได้ร่วมกันระดมความคิดเรื่องปัญหาขยะในชุมชน ปัจจัยที่คาดว่าจะทำให้ชุมชนให้ความสำคัญกับปัญหาเรื่องการคัดแยกขยะ รวมไปถึงอุปสรรคที่เกิดขึ้น สำหรับบรรยากาศตลอดกิจกรรมเป็นไปอย่างคึกคักและสนุกสนาน เหล่าตัวแทนชุมชน และ น้อง ๆ ทุกคนมีความตั้งใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี


น้องแก้ม-ด.ญ.เนติรักษ์ สาระจันทร์ อายุ 13 ปี โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย เผยความรู้สึกที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า “กิจกรรมวันนี้สนุกมากค่ะ เป็นกิจกรรมที่ได้ความรู้เกี่ยวกับการคัดแยกขยะมากๆ ทำให้ได้รู้ว่าแค่เราแยกประเภทของขยะ เช่น แยกขวดน้ำและฝาขวด ก็ช่วยทำให้โลกไม่ร้อนได้แล้ว หนูจะนำความรู้ที่ได้ในวันนี้ไปบอกต่อคนในครอบครัว และเพื่อนๆ ขอบคุณไทยเบฟมากๆค่ะที่จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้และหนูอยากให้โครงการนี้ไปจัดตามโรงเรียนด้วยค่ะ”


นายสมบัติ ทองสวัสดิ์ เลขานุการชุมชนปรกอรุณ กล่าวเสริมว่า “กิจกรรมวันนี้ถือเป็นกิจกรรมที่ดี เพราะว่ามีทั้งเยาวชน น้องๆ หลานๆ และก็ชุมชนต่างๆที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ได้เข้ามาร่วมกิจกรรมในวันนี้ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เป็นการปลูกจิตสำนึกว่าเราได้ให้เด็กรุ่นใหม่ๆให้นำขยะมารีไซเคิลแล้วนำกลับมาใช่ใหม่ เป็นกิจกรรมที่ให้ชุมชนมีส่วนร่วมให้รู้ว่าขยะทุกชิ้นมีมูลค่า เราสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ ถือเป็นโครงการที่ดีต้องขอขอบคุณที่มีโครงการดีๆแบบนี้ และอยากให้ทำอย่างต่อเนื่อง”

ทางด้าน คุณอรทัย พูลทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจรีไซเคิล จำกัด (TBR) ให้ข้อมูลว่า “ชุมชนพอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นภายใต้โครงการ “Bring Back-Recycle” (เก็บกลับ-รีไซเคิล) ที่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นและให้ทุกคนได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญของการคัดแยกตั้งแต่ต้นทางและสนับสนุนการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่ถูกต้องเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจที่จะสนับสนุนให้เกิดโมเดลการบริหารจัดการขยะอย่างยั่งยืนโดยชุมชนเพื่อชุมชนให้ชุมชนได้ตระหนักว่าหากชุมชนมีระบบการจัดการขยะที่เหมาะสมชุมชนจะได้รับประโยชน์ และเห็นว่าสิ่งที่ชุมชนลงมือทำนั้นจะไม่สูญเปล่าทุกบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคที่ได้รับการคัดแยกที่ดีจากชุมชนจะกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่ถูกต้อง

และสร้างคุณค่าให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอนโดยพื้นที่ชุมชนนำร่องที่จะได้ร่วมกิจกรรมในปีนี้ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร,ลำพูน,เชียงใหม่,ขอนแก่น,ภูเก็ต โดยหวังว่าจะก่อให้เกิดวัฒนธรรมการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนโดยมีเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติร่วมเป็นกระบอกเสียงและกำหนดแนวทางเพื่อสร้างระบบการบริหารจัดการขยะในระดับชุมชนที่จะสามารถดำเนินการไปได้อย่างต่อเนื่อง สามารถติดตามและวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรมสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน และสิ่งแวดล้อมไปในคราวเดียวกัน” นับเป็นอีกกิจกรรมที่เป็นการปลูกฝังให้เยาวชนและคนในชุมชนรู้จักคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางเพื่อนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธีลดปริมาณขยะและจัดการอย่างเป็นระบบโดยชุมชน















9




สงกรานต์ปีนี้ บุรีรัมย์ กิจกรรมแน่น!! ประมวลภาพความสวยงามที่ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ 2564

จังหวัดบุรีรัมย์จัดเต็มความยิ่งใหญ่ ประดับไฟต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมาร่วมเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งทางจังหวัดร่วมกับภาครัฐและเอกชน เนรมิตพื้นที่ให้กลายเป็นเมืองแห่งแสงสีและวัฒนธรรม โดยมีไฮไลท์ที่บริเวณวงเวียน พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 ซึ่งเสมือนจุดศูนย์กลางของเมือง ประดับประดาไฟสวยงามสว่างไสวไปตลอดถนนทั้งสายและตกแต่งอย่างตระการตา










“อะเมซิ่ง สงกรานต์ บุรีรัมย์ พรีเซนเต็ด บาย เครื่องดื่มตราช้าง” 6-15 เม.ย.นี้ กิจกรรมอัดแน่นตลอด 10 วัน!  ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สาดแสง สาดสี สาดของดี บุรีรัมย์ แต่ไม่สาดน้ำ”

กิจกรรมภายในงานสงกรานต์ 10 วันเต็ม เริ่มจาก

6 เมษายน 2564  งานวันจักรีฯ /ทำบุญเบิกบ้าน ลูกหลานรัชกาลที่ 1 ตักบาตรพระสงฆ์ 2564 รูป ต่อเนื่องด้วยพิธีเปิดงานสงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่ ในช่วงค่ำ บริเวณลานหน้า ช้าง อารีนา

6-15 เมษายน 2564 เทศกาลประกวดโคมไฟ เซราะกราวไลท์ติ้ง 2021 จาก 26 อำเภอ สวยงามอลังการ สะท้อนวิถีของคนบุรีรัมย์ เงินรางวัลรวม 180,000 บาท เข้าชมฟรี!!!! เริ่มเวลา 18.00 – 22.00 น. บริเวณช้างอารีนา

8-14 เมษายน 2564 การแข่งขันฟุตซอล “สปอนเซอร์ U13 ไนท์ ฟุตซอล แชมเปี้ยนชิพ ชิงเงินรางวัลกว่า 50,000 บาท บริเวณช้างอารีนา

10 เมษายน 2564 คอนเสิร์ตแบบเว้นระยะห่าง Chang Music Connection รับชมในสนามฟุตบอลช้างอารีน่า กับศิลปินเบอร์หนึ่งของเมืองไทย บอดี้สแลม โปเตโต้ โจอี้บอย บิ๊กแอส ฯลฯ

11 เมษายน 2564 ขบวนพาเหรด เซิร์ฟสเก็ต และสเก็ตบอร์ด พร้อมด้วย Lighted Board เรืองแสง บริเวณ Extreme Park หน้าช้างอารีน่า

12 เมษายน 2564 วิ่งบุรีรัมย์มาราธอน ระยะฟันรัน ในรูปแบบไนท์รัน 4.4 กม. เส้นทางวิ่ง ประดับไฟตลอดทาง อุโมงค์ไฟระย้าหลากสี ยิ่งใหญ่สวยงาม

13 เมษายน 2564 คอนเสิร์ตแบบเว้นระยะห่าง Chang Music Connection รับชมในสนามฟุตบอลช้างอารีน่า กับศิลปินวง Klear   / การแข่งขันกีฬาการละเล่นพื้นบ้านในธีมเรืองแสง

14 เมษายน 2564 คอนเสิร์ตแบบเว้นระยะห่าง Chang Music Connection รับชมในสนามฟุตบอลช้างอารีน่า กับศิลปินเบอร์หนึ่งของเมืองไทย “ปาล์มมี่” /  ประกวดเต้น Cover Dance 2021 / การแข่งขันฟุตซอล “สปอนเซอร์ U13 ไนท์ ฟุตซอล แชมเปี้ยนชิพ  รอบชิงชนะเลิศ / บุรีรัมย์ ไบค์ ไนท์ 2021

15 เมษายน 2564 ประกวด Miss LGBTQ Songkran Buriram Pageant 2021 รอบชิงชนะเลิศ เวทีกลาง ช้างอารีนา / ประกวดโคมไฟ เซราะกราวไลท์ติ้ง 2021 รอบชิงชนะเลิศ

กิจกรรมในงาน

- บุรีรัมย์ คานิวัล สวนสนุกยักษ์ครั้งแรกใน จ.บุรีรัมย์

- เขาวงกตเรืองแสง ยิ่งใหญ่สวยงาม

- บุรีรัมย์ สตรีท ฟู้ด รวมร้านอร่อย ร้านดัง ร้านระดับตำนาน  มากที่สุด ใหญ่ที่สุด และอร่อยที่สุด ร้านจำหน่ายสินค้าพื้นถิ่น ของดีบุรีรัมย์มากมาย

ผู้สนใจติดตามรายละเอียดได้ที่ แฟนเพจ : ลุงเนวิน,  Chang Circuit Buriram และ BURIRAM UNITED

10


“เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต” เนรมิตความงดงามของดินแดนพรมดอกไม้ใจกลางศูนย์การค้าฯ





ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ร่วมกับ สมาคมผู้ประกอบการสวนกล้วยไม้ไทย และสำนักงานเกษตรจังหวัดนนทบุรี ขอเชิญร่วมสัมผัสความงามของดอกไม้ ในงาน The Big Flower Show 2021 ภายใต้คอนเซปต์ “Sense of Summer” ที่เนรมิตดอกไม้นับแสนดอก หลากหลายสายพันธุ์ มาจัดแสดงประติมากรรมในรูปแบบพรมทุ่งดอกไม้ โดยมีลวดลายสีสันสดใส ต้อนรับซัมเมอร์ พร้อมมุมถ่ายภาพสุดชิค ที่จัดทำมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ พิเศษ! เลือกซื้อไม้ดอกไม้ประดับ ต้นไม้ และอุปกรณ์ตกแต่งสวนกว่า 20 บูธ และกิจกรรมอีกมากมาย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก อิเกีย บางใหญ่, โรงแรมเวสต์เกต เรสซิเดนซ์ ตั้งแต่วันที่ 2 – 7 เมษายนนี้ ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต 

 

11

“Cassia Phuket” จัดงาน “Laguna Phuket Pride” ครั้งแรกบนเกาะภูเก็ตชวนเพศทางเลือก ร่วมสาดสีสัน 12-15 เมษายนนี้!







“แคสเซีย ภูเก็ต” (Cassia Phuket) โรงแรมบูติกสไตล์ใหม่ใจกลางเกาะภูเก็ต เตรียมจัดงาน “ลากูน่า ภูเก็ต ไพรด์” (Laguna Phuket Pride) ครั้งแรกและครั้งยิ่งใหญ่ ชวนชาวสีรุ้งในภูเก็ตและทั่วไทย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย ร่วมสร้างปรากฏการณ์สาดสีสันวันสงกรานต์ ตอกย้ำจุดยืนความเท่าเทียมเพศทางเลือก ในวันที่ 12 – 15 เมษายนนี้ สนุกแบบได้สาระกับกิจกรรมสุดจัดจ้าน ไม่ว่าจะเป็น เวทีอภิปรายในหัวข้อต่าง ๆ เกี่ยวกับกลุ่ม LGBTQ+ อัพเดทความเคลื่อนไหวการยอมรับในความเท่าเทียม และย้ำเตือนถึงสิ่งที่จะต้องผลักดันให้เกิดขึ้นในสังคม นำโดยนักเคลื่อนไหวไอคอนคนดังเมืองไทยที่จะมาร่วมตอกย้ำความเป็นอันหนึ่งอันเดียวในงานครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ไฮไลท์คือขบวนพาเหรดชาวไพรด์สุดปัง ปิดท้ายด้วยปาร์ตี้และเซอร์ไพรส์มากมายในสไตล์ “แคสเซีย ภูเก็ต” 
 
พิเศษสุด! โปรโมชั่นแพ็คเกจห้องพัก 5 วัน 4 คืน ราคาเริ่มต้นเพียง 7,186 บาท รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน และรถรับ-ส่งจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตฟรี (ตามตารางเวลา)
 
“แคสเซีย ภูเก็ต” โรงแรมน้องใหม่ในเครือบันยันทรี ดีไซน์ในรูปแบบสไตล์โมเดิร์น เพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรมของภูมิภาคผ่านลวดลายกราฟฟิตี้สีสันสดใส เป็นส่วนหนึ่งของ “ลากูน่า ภูเก็ต รีสอร์ท” จุดหมายปลายทางแห่งการพักผ่อนที่ครบวงจรที่มีชื่อเสียงระดับโลก ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 221 ห้อง ในดีไซน์แบบลอฟท์ ทั้งแบบหนึ่งห้องนอนและสองห้องนอน แยกสัดส่วนเป็นห้องนั่งเล่นและห้องครัวพร้อมอุปกรณ์ครบครัน พร้อมวิวสวน ทะเลสาบ และมหาสมุทร มุ่งเน้นการบริการที่รองรับผู้เข้าพักคนรุ่นใหม่ด้วยไลฟ์สไตล์แอคทีฟแบบไม่รู้เบื่อ
 
สอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองห้องพักได้ที่ โทร. 076 356 999 อีเมล์ reservations-phuket@cassia.com

และติดตามข่าวสารกิจกรรมต่าง ๆ ของ “ลากูน่า ภูเก็ต ไพรด์” ได้ที่ www.facebook.com/cassiaphuketbangtao

12







ซัมเมอร์นี้ต้องเช็คอินที่เซ็นทรัล ปักหมุด Vacation Escape ออกมาเที่ยว-เพลย์-กิน-ช้อป-อัพรูปสุดชิคกับ แคมเปญ “Central Summer Plays” เริ่มแล้ววันนี้ – 4 พ.ค. 64

• Photo Landmarks จุดเช็คอินถ่ายรูปสวยทุกมุมเหมือนยก Photo Studio มาไว้ที่เซ็นทรัลทุกสาขา

• พลาดไม่ได้กับมหกรรมไทยเที่ยวไทย Thailand Travel & Lifestyle Fair ยิ่งใหญ่ที่สุด รวมดีลดีที่สุดแห่งปี ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สปา เรือยอร์ช รถเช่า และอื่นๆ อีกมากมาย

• ช้อปสนุกกับ SUMMER MARKETS 33 สาขาทั่วไทย พร้อมโปรโมชั่นจากร้านค้าทั่วศูนย์ฯ รับ cash back สูงสุด 13% จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ หรือ cash voucher สูงสุด 1,000 บาท พร้อมลุ้นแพคเกจที่พักหรู และ gadgets สุดล้ำ

• ตามติดเทรนด์ Summer กับ “Central Pattana x Vogue Thailand” ชูแฟชั่นไบเบิล นำเสนอเทรนด์ไลฟ์สไตล์ให้ปังรับซัมเมอร์


Central summer plays
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=AWX0FYuK3e4" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=AWX0FYuK3e4</a>

ซัมเมอร์นี้ หนีร้อนมาเที่ยวเซ็นทรัลกันเถอะ!! เพราะศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล, เซ็นทรัลภูเก็ต และเซ็นทรัล วิลเลจ 33 สาขาทั่วไทย จัดแคมเปญคลายร้อน “Central Summer Plays เพลย์ชีวิตให้สุด ช้อปไม่หยุดรับซัมเมอร์” ปักหมุด Vacation Escape ให้เซ็นทรัลฯ ทุกสาขากลายเป็น Play Destinations สนุกทุกรูปแบบทั้งกิน เที่ยว ช้อป แชะภาพสวยอัพลงโซเชียลได้ทุกมุมของศูนย์การค้าเหมือนยก Photo Studio มาไว้ให้ และ ห้ามพลาด!! กับมหกรรมงานท่องเที่ยวครั้งยิ่งใหญ่ “Thailand Travel & Lifestyle Fair” รวมทุกแพคเกจท่องเที่ยวในฝัน และดีลดีที่สุดแห่งปี ช้อปสนุกกับโปรโมชั่นร้านค้าทั่วศูนย์ฯ และ cash back สูงสุด 13% จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ หรือ cash voucher สูงสุด 1,000 บาท Top Spenders รับฟรี ไม่ต้องลุ้น แพ็กเกจที่พักสุดหรูจาก Hyatt Regency Koh Samui 3 วัน 2 คืน พร้อมลุ้นรางวัลอื่นทุกสัปดาห์ได้แก่ ที่พัก Park Hyatt Bangkok และ gadget สุดล้ำ Apple Watch Series 6, Apple Airpods Pro, iPad Pro 2020, iPhone 12 Pro, Samsung Smart TV, ลำโพง Marshall StanmoreII และอื่นๆ มากมาย นอกจากนี้ ยังจับมือกูรูแฟชั่นกับ “Central Pattana x Vogue Thailand” นำเสนอเทรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ให้ปังรับซัมเมอร์ พร้อมทั้งยกขบวนอีเว้นท์สนุกมาให้อีกมากมาย วันนี้ – 4 พ.ค. 64 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทุกสาขาทั่วประเทศ

พบกับ 4 ไฮไลท์ ห้ามพลาด

1.      Thailand Travel & Lifestyle Fair และ Summer Market สุดชิคทุกสาขาทั่วไทย


·     ยิ่งใหญ่ที่สุด มหกรรมแพ็คเกจท่องเที่ยวไทยที่เซ็นทรัลเวิลด์ “Dream Vacations & Travel Fair” รวมทุกแพคเกจท่องเที่ยวในฝัน และดีลดีที่สุดแห่งปีจากโรงแรมหรูระดับโลกกว่า 250 แห่งทั่วประเทศ ตั๋วเครื่องบิน เรือยอร์ช รถเช่า ร้านอาหาร สปาสุดหรู และ อื่นๆ ตั้งแต่วันนี้ - 28 มี.ค. และที่สาขาอื่นๆ ได้แก่ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ 18 - 24 มี.ค. 64, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช 26 - 28 มี.ค., เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ 26-30 มี.ค. และที่ เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา 1 - 7 เม.ย. 64

·         Summer Play Market ชิม ช้อป รับลมร้อน ใน Summer Markets ทุกสาขาทั่วไทย งานที่รวมทุกไอเท็มรับซัมเมอร์ ทั้งแฟชั่น accessory, gadgets พร้อมอร่อยกับเมนูคลายร้อน และเมนูพิเศษเฉพาะซัมเมอร์ อาทิ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ พบตลาด 'ไทยนิยม' รวมอาหารไทยช่วงหน้าร้อนที่มีให้ทานแค่ปีละ 1 ครั้ง และสดชื่นกับเมนูผลไม้คาว-หวานในงาน Waikiki Fruit Bazaar วันที่ 8 – 18 เม.ย., งาน ‘Coffee Society & Croissants World’ รวมคาเฟ่ และครัวซองต์ร้านเด็ดสุดฮิตติดเทรนด์ 2021 มาให้ลิ้มความอร่อย และที่เซ็นทรัล อุดรธานี งาน ‘Juicy Mangoes Week 2021’ รวมมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเกรดดีที่สุด คุณภาพส่งออก และอีกหลากหลายสายพันธุ์ ห้ามพลาดกับเมนูมะม่วงฟิวชั่นกว่า 20 เมนูจากร้านดังจังหวัดอุดรธานี วันที่ 29 มี.ค. – 4 เม.ย.

2.      ประสบการณ์ไม่ซ้ำ เป็น Vacation Escape ในทุกจังหวัด

·     ยกฮาวายมาที่เซ็นทรัลเวิลด์ ครั้งแรกของ Waikiki Beach ใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมเล่น ถ่ายรูปกับ Surfboard บนคลื่นยักษ์สูง 5 เมตร และพาราชูตเตอร์ยักษ์ 6 เมตร

·     ตื่นตากับสีสันแห่งฤดูกาลที่เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 ในงาน The Urban Wild Illuminations Art

·     พบกับ The Big Flower Show 2021 และงานสงกรานต์ย้อนยุควิถีนนท์ที่เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต

·     เช็คอิน ถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้แสนสวยในงาน Central Korat Blooming 2021 แบบไม่ต้องไปไกลถึงภาคเหนือ

·     ยก 5 หาดดังของโลกมาไว้ที่เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช ได้แก่ Maldives, Hawaii, Bali, Santorini และ Pattaya     

·     เสพงานศิลป์ที่ เซ็นทรัล ภูเก็ต : ในงาน Central Phuket Art Exhibition นิทรรศการงานศิลปะโดยอาจารย์ปรัชญา ศิลปินชื่อดังของภูเก็ต

3.      Central Pattana x Vogue Thailand จับมือกับกูรูวงการแฟชั่น นำเสนอเทรนด์ไลฟ์สไตล์ให้ปังในช่วงซัมเมอร์, อัพเดท Collection ใหม่ล่าสุด, Summer collection ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Stylist นิตยสาร Vogue, และ Limited Collection รับปี 2021 จากแบรนด์ระดับโลกกว่า 250 แบรนด์

4.      โปรโมชั่นเด็ดรับซัมเมอร์ สำหรับสมาชิกThe1 รับสิทธิพิเศษมากมาย

·       ต่อที่ 1 :
สายช้อป Top Spenders รับฟรี ไม่ต้องลุ้น แพ็กเกจที่พักสุดหรูจาก Hyatt Regency Koh Samui จำนวน 3 วัน 2 คืน (มูลค่ารางวัลละ 11,870 บาท) และอื่นๆ

·       ต่อที่ 2: ว้าวไปกับ 7 Weeks 7 Prizes ช้อปครบทุก 2,000 บาท รับสิทธิ์ลุ้นทุกสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็น แพ็กเกจที่พักสุดหรู Park Hyatt Bangkok และgadget สุดปัง ได้แก่ Apple Watch Series 6, Apple Airpods Pro, iPad Pro 2020, iPhone 12 Pro, Samsung Smart TV และ ลำโพง Marshall StanmoreII พิเศษรับสิทธิ์ลุ้น x3 สำหรับลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

·       ต่อที่ 3: ช้อปครบรับฟรี Cash Voucher บัตรกำนัลแทนเงินสด มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท และรับเพิ่ม Movie Set จาก Major Cineplex Group และ SF Cinema มูลค่า 400 บาทเมื่อช้อปครบตามที่กำหนด (แจกระหว่างวันที่ 1 เม.ย. 64 – 30 เม.ย. 64 หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด)








13




ททท.เชิญชวนประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) ครั้งที่ 13 ประจำปี 2564

ณ ห้องสินธร ชั้น ๒ โรงแรม สินธร เคมปินสกี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 13 ประจำปี 2564 พร้อมประกาศกรอบแนวคิดที่คำนึงถึงการตัดสินรางวัล ซึ่งได้พัฒนาให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและสถานการณ์การท่องเที่ยวในปัจจุบันของโลก รวมถึงการใช้รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการยกระดับคุณภาพสินค้าการท่องเที่ยวไทย



นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่ารางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เป็นรางวัลที่รับรองคุณภาพสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวด้วยมาตรฐานการท่องเที่ยวแบบ Responsible Tourism หรือ การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อผลักดันและยกระดับผู้ประกอบการให้พัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและบริการที่ดี รวมถึงส่งเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ผู้ประกอบการตอกย้ำมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่ระดับสากล และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็น “การท่องเที่ยวสีขาว” (สะอาด สะดวก ปลอดภัย เป็นธรรม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม) ภายใต้กรอบแนวคิด 5 ประเด็นหลัก คือ การท่องเที่ยวเพื่อความยั่งยืน (Sustainability),ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Safety & Health Administration), BCG Economy Model, เสียงตอบรับของกลุ่มนักท่องเที่ยว (Voice of Customer: VOC) และความสนใจของกลุ่มนักท่องเที่ยว (Customers Interest) โดยมีผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณาและตัดสินรางวัล อาทิ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและนวัตกรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน ผู้เชี่ยวชาญด้านแหล่งท่องเที่ยว ผู้เชี่ยวชาญด้านที่พักนักท่องเที่ยว และผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 





ทั้งนี้ ททท. ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์พิจารณาและตัดสินรางวัล รวมถึงการนำองค์ความรู้ กรอบประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ และเสียงสะท้อนจากนักท่องเที่ยวมาประกอบการพิจารณา เพื่อให้สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ที่ได้รับรางวัลฯมีคุณภาพที่ผู้เชี่ยวชาญให้การยอมรับและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ นำไปสู่การสร้างกระแสการเลือกใช้สินค้าท่องเที่ยวคุณภาพ ผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยั่งยืน (Preferred Destination) โดยการประกวดครั้งนี้จะเปิดการสมัคร 3 ประเภทรางวัล ได้แก่ 1). ที่พักนักท่องเที่ยว 2). แหล่งท่องเที่ยว และ 3). การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยผู้สมัครจะได้รับการประเมินด้วยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตลอดกระบวนการคัดเลือก เพื่อคัดสรรผลงานที่มีคุณภาพ โดยมี 3 รางวัล ได้แก่ รางวัล THAILAND TOURISM AWARD รางวัล THAILAND TOURISM GOLD AWARD และรางวัล HALL OF FAME ซึ่งเป็นรางวัลที่จะมอบให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล THAILAND TOURISM GOLD AWARD ในประเภทเดียวกัน 3 ครั้ง

สำหรับปีนี้ ททท. ปรับรูปรางวัลใหม่โดยศิลปินรุ่นใหม่ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นที่ปรึกษา ภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยววิถีใหม่ อย่างมีความรับผิดชอบ (New Normal and Responsible Tourism) สอดรับกับการท่องเที่ยวโลกแต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ผ่านวัสดุที่สะท้อนในเรืองการรักษาสิ่งแวดล้อม

ภายในงานมีกิจกรรม TTA Talk เสวนามุมมองรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว อาทิ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว นายสุวรรณชัย ฤทธิรักษ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาและตัดสินรางวัล ผู้ที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ว่านไฉ จากเพจอาสาพาไปหลง, อาย กมลเนตร ฯลฯ และมีการถ่ายทอด Live Steaming เพื่อส่งเสริมการขายแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยครั้งก่อนอีกด้วย

สำหรับผู้สนใจศึกษารายละเอียดเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการและสมัครทางออนไลน์หรือดาวน์โหลดใบสมัครที่ www.tourismthailand.org/tourismawards, www.facebook.com/thailandtourismaward และ Line Official : @tourismawards ทั้งนี้ เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม - 30 เมษายน 2564 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2250 5500 ต่อ 4471-74  โทรสาร 0 2250 5694  หรือ โทร 1672 เพื่อนร่วมทาง

14

"ครัวคุณต๋อย” ปรับกลยุทธ์รับยุคโควิด ผนวกออนไลน์เข้ากับออฟไลน์ย้ำลุย “Expo Season 6” เต็มกำลัง พร้อมตั้งเป้าผุด “ตลาดครัวคุณต๋อย” ทั่วประเทศภายใน 5 ปี

กรุงเทพฯ - "ครัวคุณต๋อย” ผู้นำด้านการผลิตรายการโทรทัศน์และแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ความรู้เกี่ยวกับอาหาร รวมถึงผู้จัดงานเทศกาลอาหารชื่อดังของประเทศไทย ปรับกลยุทธ์รับยุคโควิด รุดหน้าธุรกิจพร้อมลุยตลาดอาหาร เน้นการนำเสนอ “ประสบการณ์อาหาร” ที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ ผนวกเทคโนโลยีออนไลน์เข้ากับออฟไลน์ ย้ำยังเดินหน้าจัด “ครัวคุณต๋อย Expo Season 6 Presents By เวิลด์แก๊ส BY WP ENERGY” เทศกาลอาหารชื่อดังประจำปีเต็มกำลัง พร้อมตั้งเป้าผุดธุรกิจไลน์ใหม่เปิด “ตลาดครัวคุณต๋อย” ทั่วประเทศภายใน 5 ปี



คุณไตรภพ ลิมปพัทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอร์น โปรเจค จำกัด และประธานกรรมการ บริษัท บอร์น แอนด์ แอสโซซิเอทด์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมา ธุรกิจในร่มธง “ครัวคุณต๋อย” ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 การจัดงานอาหารมีความอ่อนไหวค่อนข้างมาก การจัดงานถูกเลื่อนออกไปหลายครั้ง หรือแม้กระทั่งการผลิตรายการโทรทัศน์ครัวคุณต๋อย บางเนื้อหาหรือบางเมนูที่ถ่ายทำไปแล้วไม่สามารถออกอากาศได้ เนื่องจากร้านอาหารไม่สามารถเปิดให้บริการในช่วงล็อคดาวน์ จากสถานการณ์ที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา “ครัวคุณต๋อย” จึงได้มีการปรับตัวอย่างมาก โดยเน้นการวางแผนการทำงานที่ใช้เวลาสั้นลง รวดเร็ว และทันสมัย แต่ยังคงให้ความสำคัญกับแก่นของแบรนด์ คือ “ความอร่อยที่มีคุณภาพ” และรักษามาตรฐานของร้านอาหารพันธมิตรให้ได้มากที่สุด เน้นการนำเสนอ “ประสบการณ์อาหาร” ที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ ผนวกเทคโนโลยีออนไลน์เข้ากับออฟไลน์ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคนิวนอร์มัล นอกจากนั้น ยังได้นำเสนอธุรกิจใหม่ ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำ Cloud Kitchen ซึ่งร่วมกับ CRG การทำเทศกาลอาหารรูปแบบ Virtual Event และบริการ Delivery

“ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า “ครัวคุณต๋อย” เป็นปีที่ต้องปรับตัวค่อนข้างมาก เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เราก็ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาให้เติบโตต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งมั่นทำเนื้อหารายการโทรทัศน์หรือบนแพลตฟอร์มออนไลน์ นำเสนอประสบการณ์ “ความอร่อยที่มีคุณภาพ” การจัดงานอาหารโดยผนวกเทคโนโลยีออนไลน์เข้ากับออฟไลน์ เพื่อเสิร์ฟความอร่อยให้แฟน ๆ ทั่วประเทศได้อย่างไร้รอยต่อ รวมถึงการร่วมมือกับ Central Restaurant Group (CRG) ในการทำ Cloud Kitchen และยังมีการเปิดศูนย์อาหารครัวคุณต๋อยที่เอเชียทีค จึงทำให้ผลประกอบการรายได้ของ “ครัวคุณต๋อย” เติบโตกว่า 40% เราต้องขอบคุณแฟนรายการ ร้านอาหารพันธมิตร และเจ้าของสถานที่ในการจัดงานต่าง ๆ มาอย่างจริงใจ” คุณไตรภพกล่าว

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจ “ครัวคุณต๋อย” ด้านการผลิตรายการโทรทัศน์ โดยในปีนี้ยังเน้นจัดเต็มเนื้อหาที่เข้มข้นเหมือนเดิม และจะมีการเพิ่ม “เนื้อหาพิเศษ” (Exclusive Content) รับชมได้เฉพาะทางออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการรีวิวร้านอาหารในรูปแบบที่เป็นกันเอง และเข้าถึงเข้าแฟน ๆ รายการอย่างใกล้ชิด

ด้านธุรกิจร้านอาหาร ในปีนี้จะเน้นการขยายสาขาของ “ครัวคุณต๋อย Place” มากขึ้น โดยจะเป็นการนำเสนอ “ความอร่อยแบบถาวร” ให้กลุ่มลูกค้าและแฟนรายการที่เป็นวัยทำงาน ตั้งเป้าจะเข้าถึงลูกค้าในแหล่งออฟฟิศ ชุมชน และย่านตลาดในเมือง ซึ่งอยู่ในระหว่างการเจรจาร่วมกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาหลายโครงการในอนาคต ภายใต้แนวคิดการเติบโตไปพร้อม ๆ กับร้านอาหารพันธมิตรของครัวคุณต๋อยว่า 2,000 ร้าน เน้นความอร่อย สะอาด หลากหลาย และเข้าถึงได้ง่าย

ในส่วนของธุรกิจการจัดงานอาหารปี 2564 ได้วางแผนการจัดงานทั้งสิ้น 9 – 10 งาน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยงานใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ คือ “ครัวคุณต๋อย Expo Season 6 Presents By เวิลด์แก๊ส BY WP ENERGY” งานอาหารยิ่งใหญ่ประจำปี โดยในปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “Food Fun Fest” ที่รวบรวมร้านอาหารหลากหลายกว่า 1,000 เมนู จาก 200 ร้านทั่วประเทศมาให้แฟน ๆ ได้เลือกซื้อหากันเต็มที่ เพิ่มไฮไลท์ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เจ้าของหรือเชฟเป็นชาวญี่ปุ่นจริง ๆ เกือบ 20 ร้าน โดยบางร้านไม่เคยออกงานที่ไหนมาก่อน อาทิ ร้าน 69 Rock Men กับเมนู Shoyu all star, ร้าน Tokyo Yakiniku SHOUTAIAN กับเมนู Nomeru Hambagu, ร้าน Kamui Hokkaido Dining กับเมนู 10 hours Braised Pork kakuni Don ฯลฯ นอกจากนั้น ปีนี้ร้าน “ครัวคุณต๋อย Selected” ยังได้คัดเลือกสินค้าทีเด็ดจากกว่า 40 ร้าน มีทั้งอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารแปรรูปรสชาติอร่อย วัตถุดิบชั้นดี คุณภาพเยี่ยม อาหารหวานหลากหลายแสนอร่อย และของใช้โดนใจ




พร้อมกันนี้ ภายในงานยังจะมีกิจกรรมและเวิร์คช้อปมากมายให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมสนุก อาทิ Work Shop ที่เกี่ยวข้องกับอาหารที่น่าสนใจมากมาย เช่น กิจกรรมสอนถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือ, กัญชง กัญชา รักษาโรค ประกอบอาหารอย่างไรให้ถูกกฎหมาย, อาหารสุขภาพและการปรุงเปลี่ยนชีวิต, Mother Roaster กาแฟวัยเก๋า สาธิตการดริปกาแฟ และพูดคุยอาชีพหลังวัยเกษียณ พร้อมทั้งได้เนรมิต “อุโมงค์ครัวคุณต๋อย Hall of Fame” เผยรายชื่อร้านอาหารที่เคยออกรายการ “ครัวคุณต๋อย” กว่า 2,000 ร้าน โดยในปีนี้เป็นปีแรกที่มีการย้ายสถานที่จัดงานมาอยู่ใจกลางเมือง ณ สยามพารากอน ซึ่งเดินทางสะดวกมากขึ้นได้ทั้งทางรถยนต์และรถไฟฟ้า

สำหรับก้าวต่อไปของ “ครัวคุณต๋อย” ซึ่งกำลังเข้าสู่ปีที่ 8 ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมความพร้อมในการขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจอาหารอย่างเต็มตัว โดยตั้งเป้าภายใน 5 ปี เปิดศูนย์อาหาร หรือ “ตลาดครัวคุณต๋อย” กระจายไปทั่วประเทศ บนแนวคิดการเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อม ๆ กับร้านพันธมิตรของ “ครัวคุณต๋อย” ที่แข็งแกร่ง

15


‘9 กุ้งอบ ปูอบ สุกี้’ ดึงดาต้าลับคมธุรกิจร้านอาหารทะเลยุค New Normal




หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับร้าน ‘9 กุ้งอบ ปูอบ สุกี้’ จากการสั่งผ่านแอปฯ ฟู้ดดิลิเวอรีต่างๆ หรือมีโอกาสได้ไปลิ้มรสความอร่อยกันถึงหน้าร้าน แต่ครั้งนี้ เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ ‘คุณแม็ค ธนพล พรศิริพิทยาธร’ หนึ่งในเจ้าของร้านวัย 35 ปีที่จะมาเสิร์ฟอีกหนึ่งมุมมองที่มีมากกว่าแค่ความอร่อย พร้อมเผยเคล็ดลับในการทำธุรกิจร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จด้วยการใช้ดาต้าเข้ามาช่วยวิเคราะห์ ในแบบฉบับของคนรุ่นใหม่ใจนักสู้กันแบบเจาะลึกเป็นครั้งแรก


ปูทาง กว่าจะมาเป็น ‘ปูอบ’

จุดเริ่มต้นของคุณแม็คในวงการอาหารนั้น เริ่มต้นจากการเติบโตมาในครอบครัวที่ทำกิจการร้านอาหารมาตั้งแต่ยังเด็ก เคยทำมาแทบทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าจะเสิร์ฟอาหาร ล้างจาน ไปจนถึงการเป็นลูกจ้างตามร้านอาหารอื่นๆ เมื่อโตขึ้น จึงได้ขยับขยายมาทำธุรกิจเป็นของตนเอง และแม้ว่าจะคลุกคลีอยู่ในวงการอาหารมากว่า 10 ปี แต่การหันมาเปิดธุรกิจร้านอาหารทะเลเองนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทาย และอาศัยความมุ่งมั่นตั้งใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่ได้เรียนจบด้านการบริหารธุรกิจหรือประกอบอาหารโดยตรง วิทยายุทธ์ต่างๆ ที่ได้สั่งสมมานั้น ล้วนแล้วแต่มาจากประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวมาตลอดด้วยตนเอง โดยมีเพียงใจรักในการทำอาหารเป็นแรงผลักดันสำคัญเท่านั้น

มาถึงวันนี้ ร้าน ‘9 กุ้งอบ ปูอบ สุกี้’ เปิดตัวมาได้ 3 ปีแล้วจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนต่างสาขาอาชีพทั้ง 5 คนที่มีความหลงใหลในอาหารทะเลเหมือนๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น นักบัญชี เจ้าของเต็นท์รถ ไปจนถึงโปรแกรมเมอร์ แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคในการทำธุรกิจร่วมกันเป็นครั้งแรก และกลับสร้างข้อได้เปรียบที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงด้วยซ้ำ ซึ่งทุกคนสามารถรวมพลังกันงัดกลยุทธ์ไม้เด็ดจากความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวในสาขาอาชีพของตน เข้ามาปรับใช้ในการบริหารจัดการร้าน และร่วมกันต่อยอดธุรกิจใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือ การมอบความประทับใจให้แก่ลูกค้าทั้งในมาตรฐานด้านรสชาติ ความสะอาด และความสดใหม่ในทุกๆ จาน ซึ่งถ้าใครได้มีโอกาสลิ้มลองแล้วล่ะก็ จะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยสมคำร่ำลืออย่างแน่นอน

ดึงดาต้า ฝ่ามรสุมร้าย

แน่นอนว่าการทำธุรกิจร้านอาหารในยุคนี้ แค่คุณภาพและรสชาติที่ล้ำเลิศอย่างเดียวคงไม่พอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุควิกฤตโควิด-19 นี้ ซึ่งธุรกิจอาหารทะเลก็ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างแสนสาหัส “โควิด-19 คือจุดพลิกประวัติศาสตร์ของวงการร้านอาหารเลยก็ว่าได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ร้านอาหารไม่สามารถเปิดให้คนมานั่งทานได้ แล้วถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ร้านของผมจะอยู่รอดต่อไปได้อย่างไร ทุกวิกฤตที่ผ่านมามันยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าเราต้องห้ามหยุดนิ่งหรือทำอะไรแบบเดิมๆ ทุกอย่างต้องขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อให้ตอบรับกับกระแสของโลกที่เปลี่ยนไปในทุกๆ วัน”

ซึ่งคุณแม็คเองก็ไม่เคยหวั่น พร้อมลุกขึ้นมาใส่เกียร์เต็มแม็กซ์ ปรับกลยุทธ์ใหม่ผ่านการจับเทรนด์ผู้บริโภคที่หันมาพึ่งฟู้ดดิลิเวอรีมากขึ้น และยังสามารถขยายสาขาในรูปแบบใหม่ผ่านคอนเซปต์ Cloud Kitchen กับทางแกร็บ ที่ทำให้เขาได้ใช้ดาต้าในการวิเคราะห์แหล่งทำเล พฤติกรรมการสั่งอาหารของผู้บริโภค และสถิติการขายของร้านกันได้แบบเรียลไทม์ “ผมกับเพื่อนๆ เล็งเห็นแล้วว่าเราไม่ควรที่จะมีแค่หน้าร้านเพียงอย่างเดียว ร้านอาหารของเราต้องเข้าถึงผู้บริโภคได้ในหลากหลายช่องทางมากขึ้น เราจึงช่วยกันเฟ้นหารูปแบบธุรกิจที่ตอบโจทย์ จนได้มาเจอกับ GrabKitchen นับว่าเป็นโชคดีมากๆ ที่เราได้มีโอกาสเข้าร่วมกับ GrabKitchen ได้เพียง 1 เดือนก่อนที่จะมาเจอกับวิกฤตโควิด-19 ซึ่งต้องบอกว่าการมีร้านบน GrabKitchen ช่วยพยุงรายได้และกว่า 40 ชีวิตในร้านของเราให้อยู่ต่อไปได้จริง และตัวผมเองก็ได้รู้จักกับประโยชน์ของการใช้ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคในอีกมุมมองหนึ่ง ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สำหรับองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ธุรกิจร้านอาหารทะเลเล็กๆ อย่างเราๆ ก็สามารถจับต้องเครื่องมือทางธุรกิจนี้ได้ และที่สำคัญคือ สามารถลงมือทำได้จริงในเวลาอันรวดเร็ว”


คุณแม็คเล่าเสริมว่า “เราประเดิมสาขาแรกที่ GrabKitchen สาขาวิภาวดี โดยขยับเข้ามาในตัวเมืองมากขึ้นจากหน้าร้านดั้งเดิมย่านพุทธมณฑลสาย 2 เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ อย่างชาวออฟฟิศ ซึ่งการเปิดร้านใหม่บน GrabKitchen ง่ายกว่าที่คิดมาก และแทบไม่ต้องลงทุนอะไรเยอะเลย ทุกอย่างมีกลไกการทำงานที่มีระบบแบบรัดกุม ทันสมัย และยังมาพร้อมกับระบบน้ำ ไฟ ที่เตรียมไว้ให้เสร็จสรรพครบครัน เราทุกคนก็ยิ่งเห็นพ้องต้องกันว่านี่แหละคือสิ่งที่เรากำลังตามหาในยุคนี้ ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลย แต่กลับดีเกินคาด สาขาบน GrabKitchen ของเราสามารถทำยอดขายได้สูงสุดนับหลักแสนต่อวัน แม้ในช่วงที่ประสบภัยโควิด-19 ก็ตาม GrabKitchen ตอบโจทย์มากสำหรับเจ้าของธุรกิจร้านอาหารน้องใหม่ไฟแรงอย่างเรา ที่ไม่ต้องการทุ่มเงินลงทุนก้อนใหญ่หรือเวลามหาศาลในการเปิดร้าน มีระบบในการบริหารจัดการร้านที่ใช้ทรัพยากรไม่เยอะ ดูแลง่าย ทำให้เราสามารถลุยกับการสร้างสรรค์อาหารได้อย่างเต็มที่ มีดาต้าที่สามารถแนะนำเราได้ว่าเมนูอะไรที่กำลังเป็นกระแสและควรหยิบยกขึ้นมาปรุงรสใหม่เป็นเมนูพิเศษ และที่ขาดไม่ได้เลยคือเครื่องมือทางการตลาด ที่ช่วยให้ร้านของเรามีคนเห็นมากขึ้น เป็นที่จดจำ และเพิ่มโอกาสด้านรายได้ให้ธุรกิจเติบโต”

ปิ๊งเมนูใหม่ ไข่ข้นปู รู้ใจคนกรุง

คุณแม็คยกตัวอย่างเป็นน้ำจิ้มให้ฟังว่า “พอเรามีระบบการจัดการร้านที่แข็งแกร่งแล้ว เราก็จะมีเวลาในการโฟกัสกับการพัฒนาสูตรอาหารใหม่ๆ หรือศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มลูกค้าได้แบบเจาะลึกยิ่งขึ้น ซึ่งต้องบอกเลยว่าการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ช่วยเราได้มากจริงๆ จากการเก็บสถิติของ GrabKitchen ในช่วงที่ผ่านมา คนกรุงนิยมสั่งเมนูข้าวไข่ข้นเป็นอันดับต้นๆ บวกกับอินไซต์ที่เราพบว่าลูกค้าที่สั่งอาหารผ่าน GrabFood ต้องการความสะดวกในการจัดส่ง สามารถเปิดกล่องและรับประทานได้ในทันที โดยยังต้องคงความสดใหม่ของอาหารด้วย ซึ่งการที่จะให้ลูกค้ามาแกะเนื้อปูออกจากก้ามโตๆ คงจะไม่ตอบโจทย์นัก เราจึงไม่รีรอที่จะจับเทรนด์นี้และเร่งปรับกรรมวิธีการทำอาหารที่เน้นความสะดวกและสดใหม่เป็นหลัก เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปในยุค New Normal จนได้มาเป็นเมนูใหม่ที่เข้ากับกลุ่มลูกค้าในเมืองในแบบฉบับของร้าน ‘9 กุ้งอบ ปูอบ สุกี้’ อย่างเมนู ‘ข้าวไข่ข้นเนื้อปูม้าแกะผัดพริกเหลือง’ ที่ได้กลายเป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กดึงดูดใจลูกค้าได้อย่างทุกวันนี้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดการสนับสนุน และการโปรโมทอย่างต่อเนื่องบน GrabKitchen”

มูฟให้ไว ใจต้องสู้

จากแนวคิดที่ต้องการจับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ จนประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปี ทำให้วันนี้ ร้านอาหารทะเลน้องใหม่ ‘9 กุ้งอบ ปูอบ สุกี้’ สามารถขยายกิ่งก้านสาขาจากที่มีแค่หน้าร้าน ไปได้ถึง 5 สาขาตามมุมเมืองใหญ่ทั่วกรุง อย่าง วิภาวดี ทองหล่อ และลาดพร้าว ซึ่งล้วนแล้วแต่อยู่บน GrabKitchen อีกด้วย ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านๆ มา คุณแม็คยกให้ GrabKitchen เป็นเหมือนคู่แท้ทางธุรกิจของร้าน ‘9 กุ้งอบ ปูอบ สุกี้’ ที่หากันจนเจอเพียงไม่นานก่อนจะต้องประสบกับมรสุมครั้งใหญ่ถึง 2 ครั้ง 2 ครา และเรียกได้ว่าเป็นพาร์ทเนอร์คนสำคัญที่จับมือร่วมกันไปกับร้าน ช่วยพยุงทุกชีวิตให้อยู่รอดอย่างเข้มแข็งต่อไป

ก่อนหน้านี้ คงไม่มีใครคาดคิดว่าวันนึงเราจะมาถึงยุคที่ร้านอาหารทะเลจะสามารถดึงดาต้าเข้ามาช่วยบริหารธุรกิจได้อย่างดีเยี่ยม คุณแม็คและร้าน ‘9 กุ้งอบ ปูอบ สุกี้’ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การไม่หยุดที่จะเรียนรู้และพร้อมปรับตัวกับทุกสถานการณ์ที่เข้ามา คือกุญแจหลักของการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดยคุณแม็คได้ทิ้งท้ายไว้ว่า “อย่าปิดกั้นโอกาสที่เข้ามาเพียงเพราะความไม่มั่นใจ และอย่ากลัวที่จะได้ลองทำในสิ่งใหม่ๆ เพราะคุณเองอาจจะต้องพลาดกับการค้นพบคำตอบที่ตามหาอยู่ก็ได้ เหมือนกับที่ผมได้เจอแล้วในวันนี้”

เกี่ยวกับแกร็บ
แกร็บ (Grab) คือ ผู้นำด้านซูเปอร์แอปที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันให้กับผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันแอปพลิเคชันแกร็บได้ถูกดาวน์โหลดแล้วบนโทรศัพท์มือถือมากกว่า 214 ล้านเครื่อง ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงพาร์ทเนอร์คนขับ พาร์ทเนอร์ร้านค้า รวมถึงตัวแทนกว่าหลายล้านราย โดยนำเสนอบริการต่างๆ แบบออนดีมานด์ ไม่ว่าจะเป็น การเดินทาง การจัดส่งอาหาร สินค้าและพัสดุ ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนบริการทางการเงิน เพื่อตอบสนองผู้ใช้บริการทั่วทั้ง 398 เมืองใน 8 ประเทศ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแกร็บได้ที่ http://www.grab.com

Pages: [1] 2 3 ... 138