Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - activity

Pages: 1 ... 91 92 [93] 94 95 ... 105
1381
ข่าวซุบซิบหน้าอสังหาฯ โครงการ “พราว ออฟ แจ้งวัฒนะ” โดยบริษัท ไตร พร็อพเพอตี้ จำกัด



อดิศร วิเวกานนท์ จากค่าย ไตร พร็อพเพอตี้ เจ้าของโครงการคอนโดสุดฮอต “พราว ออฟ แจ้งวัฒนะ” และ “พราว เอ็กซ์ทู คอนโดมิเนียม” บนทำเลทองสำหรับการอยู่อาศัยย่านถนนแจ้งวัฒนะ หลังจากส่งมอบห้องให้ลูกค้าชั้น 2-4 เข้าตรวจความเรียบร้อยไปแล้วเมื่อเดือนก่อน คราวนี้ถึงคิวของลูกค้าชั้น 5-7 ที่เข้าตรวจรับห้องในวันที่ 12 – 13 มีนาคม 2554 นี้ และก็เช่นเคยงานนี้เค้าจัดโปรโมชั่นสุดคุ้มสำหรับลูกค้าคนใหม่กันด้วย การมอบ Gift Voucher ส่วนลด 20-50% สำหรับวัสดุตกแต่งห้องสุดเก๋ อาทิ วอลเปเปอร์ / ผ้าม่าน หรือ ผ้าปูเตียง จากแบรนด์ชั้นนำ แล้วยังมีบู๊ธสินเชื่อดอกเบี้ยสุดคุ้มจากธนาคารชั้นนำอาทิ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา , ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์  และบู๊ธจาก True Vision และ True Phone มาให้บริการอีกด้วย และยังไม่หมดเพียงเท่านี้หากลูกค้าโอนรับมอบห้องภายใน 31 มีนาคม 2554 รับทันทีเครื่องทำน้ำอุ่นอีก 1 เครื่องฟรี! ณ ตึกโครงการพราว ออฟ แจ้งวัฒนะ ซ. แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 19 นี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02-583-2626  

1382
TMB เชื่อมั่นตลาด นำเทรนด์ตอบแทนลูกค้าผู้ออมเงิน ด้วยอัตราดอกเบี้ยตั๋ว แลกเงินสูงที่สุดในตลาด ก่อนแบงก์ชาติพิจารณาปรับดอกเบี้ยนโยบาย
 
           ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB นำเทรนด์ แสดงความเชื่อมั่นในตลาด ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange – B/E) ตั้งแต่ 0.25% - 0.75% ให้เรทสูงสุดในตลาด มีผลทันทีตั้งแต่วันอังคารที่ 8 มีนาคมเป็นต้นไป ก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินวันพุธที่ 9 มีนาคม ที่จะมีการพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

           นางสาวทามารา แวน เดน แบน ผู้อำนวยการอาวุโส เจ้าหน้าที่บริหาร ผลิตภัณฑ์เงินฝากและการชำระเงิน ของ TMB กล่าวว่า ธนาคารมีความเชื่อมั่นในตลาด จึงนำเทรนด์ในการตอบรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย และตอกย้ำความเป็นผู้นำในการตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั๋วแลกเงิน ตั้งแต่ 0.25%-0.75% ซึ่งส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยตั๋วแลกเงินทุกประเภทของธนาคาร สูงที่สุดในตลาด ตั้งแต่วันอังคารที่ 8 มีนาคม เป็นต้นไป

          ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยตั๋วแลกเงินของ TMB ที่ปรับขึ้นใหม่ ดังนี้ ตั๋วแลกเงินอายุ 7, 14, 21 วัน ปรับขึ้น 0.25% จาก 1.75% เป็น 2%, ตั๋วแลกเงินอายุ 1 และ 2 เดือน ปรับขึ้น 0.25% จาก 1.8% เป็น 2.05%, ตั๋วแลกเงินอายุ 3 เดือน ปรับขึ้น 0.35% จาก 1.9% เป็น 2.25%, ตั๋วแลกเงินอายุ 6 เดือน ปรับขึ้น 0.35% จาก 2% เป็น 2.35%, ตั๋วแลกเงินอายุ 12 เดือน ปรับขึ้น 0.45% จาก 2.25% เป็น 2.7%, ตั๋วแลกเงินอายุ 36 เดือน ปรับขึ้น 0.75% จาก 3% เป็น 3.75%, และ ตั๋วแลกเงินอายุ 6 เดือน (ลูกค้าธนบดีและลูกค้าเอกสิทธิ์) ปรับขึ้น 0.35% จาก 2.25% เป็น 2.6%
 
          สายงานสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร
          รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02 299 1950, 1953/ 02 242 3260

1383
กรุงไทยฉลอง 45 ปี ให้ดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 5% ต่อปี

         ธนาคารกรุงไทยฉลองครบรอบ 45 ปี ออก 3 ผลิตภัณฑ์เงินออมให้ลูกค้าได้เลือกลงทุน จ่ายอัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง 5% ต่อปี ประกอบด้วย เงินฝาก KTB Birthday Step up 11 เดือน เงินฝาก KTB Birthday 11 เดือน และตั๋วแลกเงิน KTB B/E Birthday รับฝากถึง 31 มีนาคมนี้

          นางนงนุช เทียนไพฑูรย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 45 ปี ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์ เงินฝาก KTB Birthday Step up 11 เดือน ซึ่งเป็นเงินฝากประจำ 11 เดือน รับฝากขั้นต่ำครั้งละ 10,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน ในอัตราเฉลี่ย 2.25% ต่อปี โดยเดือนที่ 1-3 จ่ายในอัตรา 1.25% ต่อปี เดือนที่ 4-6 จ่าย 1.50% ต่อปี เดือนที่ 7-8 จ่าย 1.75% ต่อปี เดือนที่ 9-10 จ่าย 4% ต่อปี และเดือนที่ 11 จ่าย 5% ต่อปี

          นอกจากนี้ ธนาคารยังมี เงินฝาก KTB Birthday 11 เดือน เป็นเงินฝากประจำ 11 เดือน จ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 2.20% ต่อปี รับฝากขั้นต่ำครั้งละ 10,000 บาท พร้อมออก ตั๋วแลกเงิน KTB B/E Birthday อายุ 11 เดือน ยอดซื้อขั้นต่ำครั้งละ 100,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 2.40% ต่อปี โดยลูกค้าสามารถเปิดบัญชีเงินฝากได้ที่ทุกสาขากว่า 960 แห่งทั่วประเทศ หรือเปิดบัญชีผ่านบริการ KTB Online ส่วนตั๋วแลกเงินสามารถซื้อได้ที่ทุกสาขา จนถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้

ฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์
โทร. 0-2208-4174-7

1384
บลจ.ไทยพาณิชย์ แนะลงตราสารหนี้ระยะสั้น ป้องกันเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งกองใหม่อีก 4 รุ่น ลง 3-6 เดือน ชูจ่ายยิลด์สูงสุด 2.60% ต่อปี

          นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยถึง กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ว่า จากความผันผวนของตลาดหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันและเหตุการณ์ในตะวันออกกลาง การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่ไม่เกิน 6 เดือน จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามด้วยโอกาสรับผลตอบแทนสูงในสภาวะทิศทางดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีกจากภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน

          นางโชติกา กล่าวว่า เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุน บริษัทฯยังคงออกกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีกองทุนใหม่ออกมาอีก 4 กองทุน มีระยะเวลาลงทุน 3-6 เดือน ส่วนนโยบายการลงทุนจะมีให้เลือกทั้งที่เป็นเงินฝากธนาคารต่างประเทศผสมกับตราสารหนี้ระยะสั้นไทยเพื่อเพิ่มผลตอบแทน กับกองทุนที่ลงในตราสารระยะสั้นภายในประเทศอย่างเดียว โดยจะเสนอขายนับจากวันนี้ไปจนถึงวันที่ 7 มีนาคม 2554 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท

          ในจำนวนนี้จะมีอยู่ 2 กองทุนที่เป็นการผสมเงินฝากธนาคารต่างประเทศกับตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 6M9 (SCBFI6M9 ) อายุ 6 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 2.60% ต่อปี มีนโยบายการลงทุนในเงินฝากธนาคารบาร์เคลย์ หรือ ธนาคาร HSBC หรือธนาคาร National Bank of Abu Dhabi ในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (UAE)โดยมีอันดับความน่าเชื่อถือจากฟิทช์เรทติ้งส์ อยู่ที่ F1+ มีสัดส่วนการลงทุน 20% เงินฝากธนาคาร Union Nation Bank ในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์ อันดับความน่าเชื่อถืออยู่ ที่ F1 สัดส่วน 25% หุ้นกู้ระยะสั้นธนาคารทหารไทย และ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) อันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ F1/ F1+ สัดส่วน 50% ที่เหลือเป็นพันธบัตรรัฐบาลไทย 5% พร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนตราสารหนี้ประเภทเดียวกันที่อยู่ในตลาดขณะนี้ ถือได้ว่ากองทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทนที่ดีมาก

          นอกจากนี้ยังมีกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 3M4 (SCBFI3M4) อายุ 3 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 2.25% ต่อปี โดยเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 30% เงินฝากธนาคารออมสิน 20% ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกู้ระยะสั้นและเงินฝากธนาคารต่างประเทศ ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตจากฟิทช์ เรทติ้งส์ อยู่ที่ F1 ในสัดส่วน 25% เท่ากัน คือหุ้นกู้ระยะสั้นธนาคารทหารไทย และเงินฝาก ธนาคาร Union National Bank ในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์

          ส่วนอีก 2 กองทุนที่เหลือจะเน้นลงทุนตราสารหนี้ภายในประเทศเพียงอย่างเดียว ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล 6M92 (SCBGB6M92) อายุ 6 เดือน ลงทุนตั๋วเงินคลังและเงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์ คาดผลตอบแทนประมาณ 2.00% ต่อปี และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรและตราสารธนาคาร 28 (SCBGBANK28) อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง 56% ส่วนที่เหลือลงทุนในตั๋วแลกเงินธนาคารทหารไทย ตั๋วแลกเงินธนาคารกรุงศรีอยุธยา และตั๋วแลกเงินธนาคารกรุงไทย คาดผลตอบแทนประมาณ 2.10% ต่อปี

          “ในขณะที่ทิศทางดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น เป็นจังหวะที่ดีที่นักลงทุนควรหันมาให้ความสนใจลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนสุทธิยังห่างจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะสั้น 3 เดือน และ 6 เดือน ถึง 1.1% และที่สำคัญการลงทุนในกองทุนรวมยังไม่ต้องเสียภาษี 15% เหมือนดอกเบี้ยเงินฝากด้วย” นางโชติกา กล่าว

          สำหรบผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา ตัวแทนจำหน่าย และ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6

1385
มหกรรมบ้านธนาคาร 54 จังหวัดชลบุรี ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ชลบุรี

          ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ชลบุรี ขอเชิญร่วมงาน มหกรรมบ้านธนาคาร 54 จังหวัดชลบุรี จัดโดยชมรมสินทรัพย์รอการขายของธนาคารพาณิชย์ สมาคมธนาคารไทย และสถาบันการเงินชั้นนำ พลาดไม่ได้กับการเลือกและเป็นเจ้าของบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ คอนโดมีเนียม อาคารพาณิชย์ ที่ดินเปล่าหลากทำเล พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ ระหว่างวันที่ 18 –20 มีนาคม 2554 ณ บริเวณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ชลบุรี

          ภายในงานประกอบด้วยกับการออกบูธจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์มือสองจากสถาบันการเงินชั้นนำ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารนครหลวงไทย, ธนาคารธนชาต , ธนาคารออมสิน ,ธนาคารอาคารสงเคราะห์, บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด ซึ่งเปิดโอกาสให้กับ ประชาชน พ่อค้า กลุ่มนักลงทุน หรือผู้ที่กำลังต้องการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงสินทรัพย์ต่างๆหลากหลายรูปแบบให้เลือกและศึกษารายละเอียดทั้ง บ้านเดี่ย ว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ โรงงาน ที่ดินเปล่า ฯลฯ ซึ่งจะมีทั้งสินทรัพย์ในจังหวัดเขตภาคตะวันออก และ จังหวัดในพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมด้วยโปรโมชั่นพิเศษ ลดราคาต่ำกว่าราคาประเมิน ลดราคาพิเศษสูงสุดถึง 70 เปอร์เซ็นต์ รับสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ รับวงเงินกู้สูงสุดถึง 105%

          นอกจากนี้ผู้ร่วมงานยังสามารถปรึกษาสถาบันการเงินเกี่ยวกับเรื่องการขอสินเชื่อต่างๆ ได้อีกด้วย อาทิ คำปรึกษาด้านการกู้ยืม อัตราดอกเบี้ย และส่วนลดต่าง ๆ ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีของผู้ที่กำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์ดีๆ ราคาถูก และพร้อมกันนี้ในงานยังมีกิจกรรมความบันเทิงมากมายตลอดงานด้วย

          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
          แผนกส่งเสริมการขาย ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ชลบุรี
          คุณธาวี แซ่ตั๊ง (วี) โทร.033-003333 ต่อ 1300 -1305
          แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด
          ขวัญใจ แตงบุตร (ใจ) โทร. 02-667-5555 ต่อ 4115

1386
Strategic Center จัดหลักสูตร How to manage Customer Insight and create Marketing Innovation
 
          การสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าคือหัวใจของการตลาด การเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคและการค้นหา Customer Insight คือกุญแจที่สำคัญที่จะทำให้เราเข้าถึงหัวใจดังกล่าว ดังนั้นกุญแจสู่ความสำเร็จทางการตลาดก็คือการที่จะเราจะทำอย่างไรถึงจะให้ได้มาซึ่ง Customer Insight และสามารถใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพในการสร้างนวัตกรรมทางการตลาด (Marketing Innovation) เพื่อสร้างความสำเร็จที่แท้จริงและยั่งยืนทางการตลาด เหนือคู่แข่ง ดังนั้นในหลักสูตรนี้จะมุ่งเน้นที่จะให้เกิดการเรียนรู้ในการด้านความเข้าใจต่อลูกค้าของเราอย่างลึกซึ้ง ด้วยเทคนิคและแนวทางการวิเคราะห์ Customer Insight เพื่อนำมาเชื่อมโยงกับการสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ๆ ต่อไป อาทิเช่น กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ หรือกลยุทธ์การสื่อสาร

          Course Outline
- อะไรคือความแตกต่างของ Data, Information และ Insight ในทางการตลาด
- เทคนิคต่างๆ ในการทำความเข้าใจลูกค้า
-เราจะแปลง Information ที่ได้รับจากลูกค้าสู่การสร้าง Customer Insight อย่างไร
-การหาความต้องการที่ซ้อนเร้นอยู่ของลูกค้าเพื่อสร้างการตลาดที่ตรงใจลูกค้า
-Strategic segmentation and targeting
          การหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้องเป็นประเด็นที่ท้าทายนักตลาดในปัจจุบันอย่างยิ่ง เนื่องจากการแบ่งส่วนการตลาดแบบเดิมตามลักษณะของประชากร (เพศ อายุ ) จะไม่สามารถแบ่งแยกกลุ่มลูกค้าทางการตลาดแบบเดิมได้อีก เพราะปัจจัยทางด้าน Lifestyle และปัจจัยทางด้านจิตวิทยาจะมีบทบาทที่สำคัญมากยิ่งขึ้น
-Developing successful product concept
          กว่า 80 % ของการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ประสบผลสำเร็จ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะอยู่รอดและสำเร็จ สาเหตุเนื่องจากการที่นักการตลาดพยายามหาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องที่เพียงพออีกต่อไป Innovation “นวัตกรรมทางการตลาด” จึงจะต้องกลายมาเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จในระยะยาวภายใต้ภาวะการแข่งขันปัจจุบัน
-Creating significant integrated marketing communication
กระบวนการสร้างการสื่อสารแบบครบวงจรที่มีประสิทธิภาพ ต้องเริ่มจากความเข้าใจลูกค้าแบบ Insight เพื่อจะนำมาสร้างกระบวนการสื่อสารที่ทรงพลัง ในการที่จะผูกใจลูกค้าและเข้าถึงลูกค้าเราได้อย่างแท้จริง
-Case study workshop
-Guru’s secret : Tips on how to manage insight and create innovation in marketing

วิทยากร
อ. ปิติพีร์ รวมเมฆ
ประสบการณ์ทำงาน
ปัจจุบัน : - อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ที่ปรึกษาด้านการตลาดและนวัตกรรมทางธุรกิจ
ประสบการณ์
-โครงการศึกษาวิจัยสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า เสนอ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (พ.ศ. 2548)
-โครงการศึกษาวิจัยพฤติกรรมการบริโภคนมสดพร้อมดื่ม UHT ของผู้บริโภคชาวไทย (Consumer Behavior) และการรับรู้ในตรายี่ห้อหลักในตลาดนม( Brand awareness and Brand personality)
-โครงการวิจัยการตลาดและจัดทำแผนการตลาดสำหรับสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี ในพระบรมราชูประถัมภ์
-ประธานโครงการประกวดโฆษณายอดเยี่ยมแห่งประเทศไทยสำหรับเยาวชน (Junior TACT Awards 2548)
-กรรมการโครงการประกวดโฆษณายอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย (TACT Awards)
-ที่ปรึกษาและผู้จัดทำบทเรียนเรื่อง การสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า สำหรับโครงการการเรียนรู้ด้วยตนเอง บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย
-Associate Relationship Manager ฝ่ายสหบรรษัทธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย
- ที่ปรึกษาการปรับโครงสร้างทางการเงินให้แก่ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย

สถานที่อบรม
โรงแรม Swissotel Le Concorde (ถ.รัชดาภิเษก )
วันและเวลาอบรม (Date and Time)
วันอังคารที่ 29 มีนาคม 2554 09.00 - 16.00 น
ค่าธรรมเนียม 4
4800 (ราคานี้ไม่รวม Vat 7%)
สอบถามรายละเอียด (Contact)
Strategic Center (ศูนย์พัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจ)
คุณชญานิน (แนน)
โทรศัพท์ : 02-5592146-7 #15,16
Email : Public@sbdc.co.th
Website : http://www.sbdc.co.th
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-5592146-7 Strategic Center

1387
ไทยพาณิชย์ผนึก AP เขย่าวงการอสังหา เปิดตัว “Extra Point Extreme Living”


 
          นางพิกุล ศรีมหันต์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ นายวิทการ จันทวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) สร้างแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญ “Extra Point Extreme Living” มอบสิทธิพิเศษสุดคุ้ม เมื่อลูกค้ารูดเงินจองคอนโด 8 ทำเลใจกลางเมือง ผ่านบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ รับคะแนนสะสม SCB Rewards X 52 เท่า สูงสุดกว่า 200,000 คะแนน พร้อมรับสิทธิ์ผ่อนชำระเงินจองผ่านโปรแกรม SCB ดีจัง ด้วยเงื่อนไข 0% นาน 6 เดือน ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พฤษภาคม 2554 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ SCB Call Center 02 777-7777

1388
AP จับมือ SCB เปิดตัวแคมเปญ Extra Point Extreme Living ซื้อบ้าน AP รับคะแนนสะสมคูณ 50 เท่า
 
          AP กระตุ้นตลาดคอนโดจับมือพันธมิตร SCB อัดแคมเปญต่อเนื่อง “Extra Point Extreme Living” รูดเงินจองและเงินทำสัญญา 8 คอนโดใจกลางเมือง ผ่านบัตรเครดิต SCB รับ Extra Point คูณ 50 เท่า พร้อมสิทธิผ่อนชำระ 0% นาน 6 เดือน และข้อเสนอพิเศษอีกเพียบ สิ้นสุดแคมเปญ 31 พฤษภาคมนี้

          นายวิทการ จันทวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ จึงได้ร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จัดแคมเปญการตลาดสำหรับคอนโดมิเนียม 8 โครงการ ภายใต้ชื่อแคมเปญ “Extra Point Extreme Living” ด้วยการมอบสิทธิประโยชน์ด้านการเงิน เมื่อชำระเงินจองตั้งแต่ 30,000-50,000 บาท และเงินทำสัญญา 50,000 บาท ผ่านบัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์ รับคะแนนสะสมพิเศษมากถึง 50 เท่า มูลค่าสูงสุดกว่า 250,000 คะแนน พร้อมสิทธิผ่อนชำระเงินจองและเงินทำสัญญาผ่านโปรมแกรม SCB ดีจัง ด้วยดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมอบข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมายในแต่ละโครงการ เช่น ฟรี! ค่าธรรมเนียมการโอนฯ ค่าส่วนกลาง และห้องชุดตกแต่งพร้อมอยู่ Limited Edition จาก CDC เป็นต้น

          สำหรับคอนโดมิเนียม 8 โครงการที่เข้าร่วมแคมเปญในครั้งนี้ ได้แก่ 1) RHYTHM รัชดา คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท รับเพิ่ม 1) ส่วนลดเงินสด มูลค่า 500,000 บาท 2) ห้องชุดตกแต่งพร้อมอยู่ Limited Edition by CDC 3) กู้ 100% และ 4) ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนและค่าส่วนกลาง 2) RHYTHM รัชดา-ห้วยขวาง คอนโดตกแต่งครบ พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุด พร้อมเข้าอยู่ มิ.ย.นี้ ราคาเริ่มต้น 3.6 ล้านบาท 3) RHYTHM สาทร คอนโดวิวแม่น้ำบนสาทร ตกแต่งครบ ราคาเริ่มต้น 3.2 ล้านบาท 4) RHYTHM พหล-อารีย์ ราคาเริ่มต้น 3 ล้านบาทขึ้นไป 5) The Address ชิดลม 5 ยูนิตสุดท้ายพร้อมอยู่ก่อนปิดโครงการ ฟรีค่าส่วนกลางถึง 31 ธันวาคม 2554 ราคาเริ่มต้น 5.7 ล้านบาท 6) The Address พญาไท คอนโดตกแต่งครบพร้อมเข้าอยู่เดือนพฤษภาคมนี้ รับเพิ่ม ฟรีค่าธรรมเนียมการโอน และห้องชุดตกแต่งพร้อมอยู่ Limited Edition by CDC, 2 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 7.2 ล้านบาท 7) The Address สาทร คอนโดตกแต่งครบใจกลางสาทร ราคาเริ่มต้น 5.7 ล้านบาท และ  Life @ ลาดพร้าว 18 คอนโดตกแต่งครบ พร้อมเข้าอยู่พฤษภาคมนี้ ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท

          “ในปีนี้บริษัทฯ จะมีคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จใหม่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นอีก 4 โครงการ คือ 1) Life @ ลาดพร้าว 18 2) RHYTHM รัชดา-ห้วยขวาง 3) The Address พญาไท และในช่วงครึ่งปีหลังอีก 1 โครงการคือ 4) The Address สุขุทวิท 28 ซึ่งนอกเหนือจาก RHYTHM รัชดา ที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2553 ปัจจุบันสามารถโอนกรรมสิทธิ์โครงการ RHYTHM รัชดาได้มากถึง 51% สะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงดีมานต์จริงที่เกิดขึ้นในตลาดคอนโดมิเนียม ท่ามกลางสถานการณ์ที่หลายคนกังวลว่าตลาดคอนโดมิเนียมจะโอเวอร์ซับพลาย ดังนั้น จึงมั่นใจว่าสิทธิพิเศษที่เกิดจากความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนทางด้านยอดขายให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น นอกเหนือจากทำเลที่ตั้งใน แต่ละโครงการที่ถือว่าตอบโจทย์การอยู่อาศัยในเมืองได้อย่างดีเยี่ยม” นายวิทการ กล่าวย้ำ

          ผู้ที่สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ap-thai.com โดยแคมเปญนี้สิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคมนี้
 


          AP-SCB แจกแต้มคูณ 50 เท่า
          นายวิทการ จันทวิมล (ขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และคุณพิกุล เกตุงาม (ซ้าย) ผู้จัดการผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมมือจัดแคมเปญการตลาด “Extra Point Extreme Living” เพียงรูดเงินจองคอนโด AP รับคะแนนสะสมเพิ่ม 50 เท่า พร้อมผ่อนชำระ 0% นาน 6 เดือน วันนี้ถึง 31 พฤษภาคมนี้

1389
โซนี่สร้างสรรค์นิยามใหม่ของแห่งความบันเทิง เผยโฉมบราเวีย อินเตอร์เน็ต ทีวี พร้อมผลิตภัณฑ์ 3D ครบไลน์จับมือพันธมิตรนำเสนอประสบการณ์ความบันเทิงอินเตอร์เน็ตทีวีไม่ซ้ำใคร  ตอกย้ำความเป็นผู้นำตัวจริงด้วยโซลูชั่นเพื่อความบันเทิงภายในบ้านครบครัน
 
           บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด จัดงานแถลงข่าวนโยบาย วิสัยทัศน์ และกลยุทธ์การตลาดประจำปี 2554 มุ่งต่อยอดความสำเร็จและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในตลาดเอวีไอที ชูกลยุทธ์ “Sony Redefines Entertainment” สร้างสรรค์นิยามใหม่แห่งความบันเทิงสมบูรณ์แบบ ผ่านกลไกหลัก 4 ประการ ประกอบด้วย มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ (Product Redefined), สรรสร้างเนื้อหา (Content Redefined), รังสรรค์บริการเหนือระดับ (Customer-Focus Redefined) และ บูรณาการระบบบริหารจัดการค้าปลีก (Retail Marketing Redefined) พร้อมเผยโฉมกองทัพนวัตกรรมล่าสุดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีผลิตภัณฑ์ไฮไลท์เป็น บราเวีย อินเตอร์เน็ต ทีวี จำนวนกว่า 20 รุ่น และผลิตภัณฑ์ 3D โซลูชั่นส์ครบวงจร พร้อมเติมเต็มประสบการณ์บันเทิง 3 มิติในบ้านอย่างสมบูรณ์แบบ อาทิ กล้องแฮนดีแคม กล้องไซเบอร์ช็อต บล็อกกี้ โน้ตบุ๊คไวโอ้ ชุดโฮมเธียเตอร์ 3D และ PS3 เป็นต้น นอกจากนี้โซนี่ยังประกาศผนึกกำลังกับหลากหลายพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ผลิตออนไลน์คอนเทนท์เพื่อนำเสนอสาระบันเทิงสำหรับอินเตอร์เน็ตทีวีโดยเฉพาะ ตั้งเป้าเติบโต 10 เปอร์เซ็นต์ มั่นใจเป็นผู้นำตลาดเอวีไอทีที่สามารถนำเสนอโซลูชั่นส์ความบันเทิงได้อย่างครบครันที่สุด โดยภายในงาน มีผู้บริหารระดับสูงจากกลุ่มบริษัทโซนี่ ร่วมเป็นสักขีพยานและแสดงพลังความร่วมมือทั้งในระดับประเทศ และระดับภูมิภาค ณ โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด เมื่อเร็วๆ นี้


          บรรยายภาพ(จากซ้ายไปขวา) – มร. ฮิเดกิ คอนโดะ (ผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์โฮมเอนเตอร์เทนเมนท์, บ. โซนี่ ไทย จ.ก., มร. ฮิโรชิ ซากาโมโตะ ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส กลุ่มธุรกิจโทรทัศน์ บริษัท โซนี่ คอร์เปอเรชั่น, มร. โทรุ ชิมิซึ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด, คุณจักรพันธ์ ลีละมาสวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีบีทีวี นิว มีเดีย จำกัด (ช่อง 7), คุณพลากร สมสุวรรณ ผู้จัดการอาวุโสและผู้จัดการอาวุโสและรักษาการผู้จัดการฝ่ายรายการ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่องเจ็ด คุณเอี่ยมศรี บุญหชัยรัตน์ กรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และคุณศิริ เหลืองสวัสดิ์ รองประธานอาวุโส บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (M Thai – Gossip Star)

1390
ฟิตเนส เฟิรส์ท เผยปี 54 - 55 ตั้งเป้าขยาย 3 คลับ ขึ้นแท่นผู้นำตลาดประเทศไทย
 


         มร. มาร์ค บูคานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิตเนส เฟิรส์ท (ประเทศไทย) จำกัด เผยแผนธุรกิจปี 2554 บริษัทแม่เตรียมเพิ่มเม็ดเงินลงทุนกว่า 285 ล้านมุ่งเป้าขยาย 3 สาขา และยกมาตรฐานสาขาปัจจุบัน เพิ่มฐานลูกค้าขั้นต่ำกว่า 10,000 คน พร้อมชูแนวคิด “MAKE THE WORLD A FITTER PLACE” ผ่านผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมใหม่ๆ อาทิ คลาสซูมบ้า การเต้นแนวลาตินทางเลือกใหม่ของสมาชิกคลาสบอดี้แจม ฟิตซิงค์ โปรแกรมบริหารจัดการการออกกำลังกายและแอพพลิเคชั่นออนไลน์เพื่อคนรักสุขภาพ ฯลฯ รวม 10 รายการ ด้วยงบประมาณในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการกว่า 50 ล้านบาท เพื่อรักษาฐานลูกค้าใน 18 สาขา ซึ่งยังคงฐานะผู้นำตลาดในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ฟิตเนส เฟิรส์ท ทั้ง 75 สาขา ใน 7 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทยถือว่ามีอัตราการเติบโตของธุรกิจสูงที่สุด และคาดว่าจะมียอดสมาชิกรวมในประเทศกว่า65,000 คน ในอีก 12 เดือนข้างหน้า

          มร. มาร์ค บูคานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิตเนส เฟิรส์ท (ประเทศไทย) จำกัด เกริ่นภาพรวมของบริษัทฯ ว่าปัจจุบัน ฟิตเนส เฟิรส์ท มีสมาชิกทั่วโลกกว่า 1.5 ล้านคน มีจำนวนสาขากว่า 500 สาขา ตั้งอยู่ใน 19 ประเทศทั่วโลก สำหรับทวีปเอเชีย ทั้ง 7 ประเทศที่มีสาขาของฟิตเนส เฟิรส์ท ตั้งอยู่ทั้งหมด 75 สาขา ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตของธุรกิจสูงที่สุดและมีจำนวนสมาชิกมากที่สุดถึงกว่า 55,000 คน ใน 18 สาขา ซึ่งกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด

          สำหรับภาพรวมของตลาดฟิตเนสในประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ดำเนินธุรกิจ 3 รายหลัก(1) รวมจำนวนสาขากว่า 28 แห่ง ทั้งนี้ไม่รวมไปถึงฟิตเนสรายย่อยอื่นๆ ที่เปิดอยู่ตามแหล่งที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดอื่นๆ ของประเทศไทย อีกหลายสิบแห่ง โดยฟิตเนส เฟิรส์ทนั้นมีรายได้หลักเป็นค่าบริการรายเดือนจากสมาชิกที่ทำสัญญาตั้งแต่ 1 - 24 เดือน(2) โดยร้อยละ 90 ทำสัญญาแบบ 12 เดือนและเสียค่าบริการรายเดือนเฉลี่ย 1,900 – 2,800 บาท ตามประเภทบริการ(3)

           รายชื่อสถานประกอบการชั้นนำในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
          มร. มาร์ค กล่าวสรุปข้อมูลปัจจุบันของ ฟิตเนส เฟิรส์ท ประเทศไทย ดังนี้
          “1. มีจำนวนพนักงานกว่า 1,000 คน
          2. มีรายได้สุทธิเติบโต 5 เปอร์เซ็นต์จากปี 2553
          3. มีจำนวนสมาชิกที่ก่อให้เกิดรายได้กว่า 55,000 คน และ 65,000 คนภายใน 12 เดือน หลังจากเปิดสาขาใหม่
          4. มีแผนการลงทุนขยายสาขาชัดเจนต่อเนื่องทุกปี เฉลี่ยปีละ 1 – 2 สาขา
          5 .มีส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศไทยเมื่อคิดจากจำนวนสมาชิก 15%”

          มร.มาร์ค ได้กล่าวต่อในเรื่องของแผนการลงทุนว่า ในช่วงไตรมาสที่ 2 มีแผนที่จะเปิดสาขาที่ 19 บนพื้นที่ของเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น ซึ่งเป็นสาขาในต่างจังหวัดแห่งที่ 3 ต่อจากสาขาโคราชและชลบุรี โดยสาขาใหม่นี้จะสร้างบนพื้นที่กว่า 1,700 ตารางเมตร สามารถรองรับจำนวนสมาชิกได้สูงสุดกว่า 4,000 คน และคาดว่าจะสามารถเปิดสาขาที่ 20 ได้ในช่วงต้นไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 บนพื้นที่ขนาดกว่า 2,200 ตารางเมตร ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 9 และสาขาที่ 21 บนพื้นที่ขนาดกว่า 2,200 ตารางเมตร ของศูนย์การค้าเมกะบางนา ถนนบางนา-ตราด ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 เพื่อรองรับชุมชน มหาวิทยาลัย ในละแวกใกล้เคียงซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชนขยายของกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 สาขาคาดว่าจะสามารถขยายฐานสมาชิกอีกกว่า 10,000 คน ด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 285 ล้านบาท พร้อมอัตราการจ้างงานเพิ่มอีกกว่า 200 อัตรา

          อีกทั้งนอกเหนือจากการขยายสาขา นั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาฐานลูกค้าเดิมกว่า 55,000 คน ซึ่งกระจายตัวอยู่ใน 18 สาขา ซึ่งในจำนวนนั้น 15 สาขา เป็นประเภทสาขาปกติ และอีก 3 สาขา เป็นประเภทแพลตตินั่ม โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของฟิตเนส เฟิรส์ท มีอายุตั้งแต่ 15 – 72 ปี และเป็นกลุ่มผู้มีสถานะทางเศรษฐกิจระดับ B – A มีรายได้เฉลี่ยมากกว่า 30,000 บาทต่อเดือน ซึ่งล้วนมีความคาดหวังในคุณภาพและบริการที่เหนือกว่า ซึ่งจากข้อมูลทางการตลาดจะเห็นได้ว่ามีความผกผันของจำนวนสมาชิกน้อยเพียง 2 - 5 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน

โดยข้อมูลการใช้งบประมาณในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการประจำปี 2554 ที่กำหนดไว้กว่า 50 ล้านบาทนั้นจะดำเนินการตามแนวคิด “MAKE THE WORLD A FITTER PLACE” ซึ่งครอบคลุมสินค้าและบริการใหม่ทั้ง 10 รายการ ได้แก่

          1. First Privilege สิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกทุกท่าน หลากหลายรูปแบบจากหลากหลายร้านค้า
          2. First Club Privilege สำหรับสมาชิกตั้งแต่ 11 เดือนขึ้นไป ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสิทธิประโยชน์จากทั้ง ฟิตเนส เฟิรส์ท
และ ร้านค้าที่ร่วมรายการ
          3. Fitness Fix Points Collection โปรแกรมการออกกำลังกาย เปลี่ยนทุกวันเพื่อให้สมาชิกได้ผลลัพธ์จากการออกกำลัง
กายทุกครั้งที่มาออกกำลังกาย พร้อมกิจกรรมสะสมการเข้าร่วมโปรแกรมเพื่อแลกรับเสื้อยืด "I Love Fitness Fix"
          4. Free to Help ครูฝึกที่พร้อมให้คำแนะนำสมาชิกเกี่ยวกับอุปกรณ์และการออกกำลังกายอย่างถูกต้อง
          5. FitSync แอพพลิเคชั่นออนไลน์ที่ช่วยเก็บบันทึกรายละเอียดการออกกำลังกายของสมาชิก เพื่อการวางแผนและติดตามผลที่ช่วยให้บรรลุผลมากกว่าเดิม
          6. GX Class Description Booklet คู่มือที่ให้ความรู้อย่างครบถ้วนเกี่ยวกับประโยชน์ของคลาสกรุ๊ปเอกเซอร์ไซส์ทุกคลาส พร้อมความสนุกในการเข้าร่วมกิจกรรม เช่น การสะสมแต้ม GX Intro Class เพื่อแลกรับเสื้อยืด Intro Class
          7. TRX รูปแบบการออกกำลังกายแบบลอยตัว เพื่อท้าทายและสร้างความแปลกใหม่ให้กับการออกกำลังกาย
          8. Zumba ความสนุกและแปลกใหม่ของเอกเซอร์ไซส์ สไตล์ลาตินที่พร้อมเปิดตัวช่วงกลางปีนี้
          9. Refer a Friend แนวคิดใหม่ของการแนะนำเพื่อนเป็นสมาชิก ที่สามารถสะสมแต้มแล้วแลกรับรางวัลมูลค่าที่สูงขึ้น และเร้าใจกว่าเดิม
          10. Staff Wellness Program กิจกรรมสุขภาพดีที่เราเตรียมไว้ให้เพื่อนร่วมงานและองค์กรของคุณ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

          อีกทั้งฟิตเนส เฟิรส์ท ยังเล็งเห็นถึงหน้าที่ในการคืนสิ่งดีๆ แก่สังคมไทย และกำหนดพันธกิจที่สำคัญในปี 2554 ให้เป็นปีแห่งจุดเริ่มต้นของการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง “สังคมสุขภาพ” ผ่านกิจกรรมประชาสัมพันธ์ความรู้ ข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมสังคมอันจะเป็นผลจากความร่วมมือกับทั้งพันธมิตรภาคเอกชนและหน่วยงานรัฐบาล ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่คนทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะมีกิจกรรมตลอดทั้งปี ซึ่งตัวอย่างกิจกรรมอันเป็นที่รู้จักที่ผ่านมา อาทิ การเป็นผู้สนับสนุนรายการบิ๊กเกสต์ ลูซเซอร์ เอเชีย การเป็นผู้ร่วมสนับสนุนกิจกรรม มนต์รักฮูลาฮูป ของรายการผู้หญิงถึงผู้หญิงทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 มร.มาร์ค กล่าว

          มร.มาร์ค กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้ ฟิตเนส เฟิรส์ท ประสบความสำเร็จในวันนี้ได้มาจากการให้ความสำคัญกับ 2 เรื่อง คือ “การพัฒนาบุคลากร” และ “การพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง” ซึ่งบริษัทแม่ในประเทศอังกฤษใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปีในการพัฒนารูปแบบมาตรฐานการบริหารจัดการ รวมไปถึงการพัฒนาบริการและสรรหาวิธีการออกกำลังกายอันหลากหลายอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีความต้องการที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัว เพื่อสร้างความใกล้ชิดระหว่างลูกค้าและบริษัทให้เกิดเป็นสังคมสุขภาพขนาดย่อม

          ข้อมูลอ้างอิง
          (1) ในเอกสารฉบับนี้หมายถึงสถานประกอบการที่มีจำนวนสาขามากกว่า 3 สาขาหรือมีจำนวนสมาชิกมากกว่า 5,000 คน
          (2) ในเอกสารฉบับนี้หมายถึงสมาชิกที่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะมาจากค่าบริการประจำเดือน หรือประจำปี ฯลฯ โดยไม่รวมค่าบริการที่เรียกเก็บครั้งเดียวเมื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิก (ตลอดชีพ)
          (3) กลไกการตั้งราคาของธุรกิจสถานออกกำลังกาย ธุรกิจบริการที่มีต้นทุนในการบริหารจัดการสูงทั้งค่าอุปกรณ์ พนักงาน ฯลฯ ดังนั้นในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศที่ธุรกิจประเภทนี้เติบโตสูง อาทิ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฯลฯ จะมีกลไกในการตั้งราคาในลักษณะประเภทสมาชิกรายเดือน ราย 3 เดือน รายปี ราย 3 ปี หรือมากกว่านั้น ยกเว้นแต่ประเภทสมาชิกตลอดชีพ ซึ่งประเภทสมาชิกแบบตลอดชีพในบางประเทศออกกฎหมายห้ามมิให้กระทำ หรือถ้าจะเก็บบริษัทต้องมีการวางเงินประกัน หรือตามเงื่อนไขอื่นอันจะเป็นการรักษาสิทธิของลูกค้าในกรณีที่ปิดกิจการหรือมีเหตุให้ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ซึ่งประเทศไทยยังไม่ปรากฏทั้งกฎหมายที่คุ้มครองผู้บริโภคหรือนโยบายในการควบคุม

1391


          คนดังตบเท้าเข้าร่วมพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ กรุงเทพฯ จุดหมายการท่องเที่ยวระดับโลกแห่งใหม่ย่านสยาม ร่วมกระทบไหล่หุ่นขี้ผึ้งคนดังของไทยและระดับโลกกว่า 80 ตัว ในบรรยากาศอินเตอร์แอคทีฟ ณ ชั้น 6 สยามดิสคัฟเวอรี่
 
           พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ กรุงเทพฯ สุดยอดพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งระดับโลกที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 250 ปี ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ณ ชั้น 6 สยามดิสคัฟเวอรี่ โดยได้รับเกียรติจาก ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานกล่าวเปิดงานและกดปุ่มเปิดผ้าคลุมอย่างเป็นทางการ พร้อมคนดังระดับวีไอพี นักแสดง และแขกเหรื่อตบเท้าเข้าร่วมพิธีเปิด และชมพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ กรุงเทพฯ กันอย่างคับคั่ง จนทำให้พื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตรคับแคบลงไปถนัดตา

          ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของสยาม พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ กรุงเทพฯ ภายใต้การบริหารของ เมอร์ลิน เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป บริษัทผู้บริหารสถานที่ท่องเที่ยวรายใหญ่อันดับสองของโลก ได้เลือกกรุงเทพฯ เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแห่งที่ 10 ของโลก ด้วยมูลค่าการลงุทนกว่า 500 ล้านบาท

          ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “การที่บริษัทเมอร์ลิน เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป ได้เลือกกรุงเทพฯ เป็นเมืองลำดับที่ 10 ในการสร้างพิพิภัณฑ์มาดามทุสโซ เป็นการแสดงถึงศักยภาพที่แข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซไม่เพียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความบันเทิง โดยผู้ชมสามารถกระทบไหล่หุ่นขี้ผึ้งคนดังระดับโลกอย่างราชาเพลงป๊อประดับตำนาน ไมเคิล แจ็คสัน หรือร่วมหวดวงสวิงกับไทเกอร์ วูด เท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่เยาวชนจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และประวัติผู้นำสำคัญของโลกหลายท่านที่มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลก”

          Wax Attraction คือ นิยามที่บ่งบอกความเป็นพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซอย่างแท้จริง ไม่ใช่ Wax Museum เพราะไม่ใช่สถานที่สำหรับเข้าไปแล้วได้เพียงแค่ชม อ่าน และจด เหมือนพิพิธภัณฑ์แห่งอื่น แต่ที่นี่นอกจากมีหุ่นขี้ผึ้งของบุคคลที่มีชื่อเสียงชั้นนำระดับโลก และของประเทศไทยกว่า 80 ตัว พร้อมข้อมูลต่างๆ แล้ว ยังเปิดโอกาสให้สามารถถ่ายรูป โอบกอดหุ่นทุกตัวได้อย่างใกล้ชิด ที่สำคัญคือมีเครื่องเล่นที่เรียกว่า interactive feature ทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมหรือสนุกสนานไปกับหุ่นเหล่านั้นได้ เช่น เตะฟุตบอล,ยกน้ำหนักกับ ปวีณา ทองสุก, เล่นเทนนิส กับวาเนสซ่า วิลเลียมส์, แต่งตัวแบบมาดอนน่า ร้องเพลงคาราโอเกะในห้องดนตรี ร่วมเข้าฉากละครดังกับดาราขวัญใจอย่างเคน ธีรเดช และแอน ทองประสม รับสายโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในห้องโอเวิล ออฟฟิศ การท้านับแต้มสแลมดังค์กับเหยาหมิง และฝึกกังฟูกับบรูซ ลี เหล่านี้ล้วนเป็นการเปิดประสบการณ์หน้าใหม่ของการชมพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง

          บนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตรของพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ กรุงเทพฯ จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งของบุคคลมีชื่อเสียงในทุกวงการของเมืองไทยและทั่วโลก ห้องแรกคือห้องพระราชวงศ์ จัดแสดงพระรูปหุ่นขี้ผึ้ง สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พร้อมทั้งประวัติความรุ่งเรืองของราชวงศ์จักรี นอกจากห้องพระราชวงศ์แล้วยังมีห้องประวัติศาสตร์ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ชื่นชมความสง่างามและประวัติอันน่าทึ่งของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ อาทิ มหาตมะ คานธี เจ้าหญิงไดอาน่า พระพุทธภาสภิกขุ ประธานาธิบดีเหมา เจ๋อ ตุง ห้องผู้นำ จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งของผู้นำระดับโลก อาทิ ประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า และสตรีหมายเลขหนึ่ง มิเชล โอบาม่า อีกด้วย พร้อมรวบรวมผู้นำในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกรุงเทพฯ เป็นที่แรกที่มีหุ่นขี้ผึ้งของ มหาธีร์ มูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อองซาน ซูจี สตรีนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในพม่า
 
          ในส่วนห้องศิลปะและวิทยาศาสตร์ จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งอย่าง สุนทรภู่ อัลเบิร์ต ไอน์ไสตน์ พญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์ อัจฉริยะคีตกวี บีโธเฟน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หลวงวิจิตรวาทการ สำหรับคนรักกีฬาต้องไม่พลาดถ่ายรูปคู่กับโรนัลนิลโญ่ ดวลลูกโทษกับเดวิด เบคแฮม เทียบส่วนสูงกับเหยาหมิง นักบาสเก็ตบอลชาวจีนที่มีความสูงถึง 229 ซม. ยกน้ำหนักกับปวีณา ทองสุก และดวลหมัดกับเขาทราย กาแล็คซี่ ซึ่งอยู่ในห้องกีฬา
 
          โซนทีวีและบันเทิงมีเคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ แอน ทองประสม แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ และร่วมกระโดดขึ้นบนเวทีกับมาดอนน่า ไมเคิล แจ๊กสัน บียองเซ่ ทาทา ยัง และแอ๊ด คาราบาว ห้องภาพยนตร์ที่มีทั้งมิตร ชัยบัญชา เพชรา เชาวราษฎร์ สมบัติ เมทะนี บรูซ ลี

ห้องเอลิสต์ปาร์ตี้ สัมผัสบรรยากาศงานปาร์ตี้บนพรมแดงสุดหรูกับเหล่าดาราฮอลลีวู้ดชื่อดัง อาทิ จอร์จ คลูนี่ย์ แจ็คกี้ ชาน ลีโอนาร์โด ดิคาร์ปิโอ นิโคล คิดแมน แบรต พิตต์ และแองเจลีนา โจลี่ และสุดท้ายรู้จักผู้ให้กำเนิดพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มาดามทุสโซ พร้อมทั้งเรียนรู้ขั้นตอนในการสรรค์สร้างหุ่นขี้ผึ้งจำลอง
 
          มร.พอล วิลเลียมส์ ผู้จัดการทั่วไป พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ กรุงเทพฯ กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซเป็นพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 250 ปี เป็นสุดยอดพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบ และครองความนิยมมาโดยตลอด ทั้งนี้เพราะพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยสีสันและชีวิตชีวา หุ่นจำลองทุกตัวปั้นขึ้นอย่างละเอียดประณีต และเหมือนบุคคลต้นแบบตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า

          “เสน่ห์ประการสำคัญอีกอย่างหนึ่งของพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ คือการได้กระทบไหล่เหล่าคนดังจากทุกวงการทั้งในประเทศและทั่วโลกอย่างใกล้ชิด ซึ่งแตกต่างจากพิพิธภัณฑ์โดยทั่วไปที่ไม่อนุญาตให้ผู้ชมสัมผัสผลงานที่จัดแสดง แต่ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัส โอบไหล่ หรือกระทั่งหอมแก้มดาราคนโปรดของพวกเขาได้ โดยทางพิพิธภัณฑ์ได้สร้างสรรค์เทคนิคพิเศษ เพื่อสร้างบรรยากาศแบบอินเตอร์แอคทีฟที่ผู้ชมมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับหุ่นขี้ผึ้งที่จัดแสดงอยู่ภายในได้อย่างสนุกสนาน”

          ภายในห้องประวัติศาสตร์และผู้นำยังได้จัดแสดงหุ่นจำลองของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช และ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ไว้ด้วย โดยในวันเปิดงานบุตรีของคุณชายคึกฤทธิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ ม.ล.วิสุมิตรา ปราโมช ได้มาร่วมพิธีเปิดและเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซด้วย โดยแสดงความเห็นว่าหุ่นขี้ผึ้งของคุณพ่อและคุณลุงทำได้ค่อนข้างเหมือนจริงมาก
 
          นักกีฬายกน้ำหนักเหรียญทองโอลิมปิกหญิงขวัญใจชาวไทย ไก่-ปวีณา ทองสุก เปิดใจว่า แรกเมื่อได้รับการติดต่อจากพิพิธภัณฑ์ เธอรู้สึกแปลกใจมาก เพราะทราบมาว่าพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซพิธีพิถันในการคัดเลือกบุคคลที่จะจัดสร้างเป็นหุ่นขี้ผึ้งจำลอง และส่วนใหญ่ก็เป็นคนมีชื่อเสียงในวงการบันเทิง

          “เมื่อทราบว่าพิพิธภัณฑ์ต้องการสร้างหุ่นจำลองของนักกีฬาด้วย โดยเราได้รับการโหวตจากประชาชนก็รู้สึกดีใจและภูมิใจมากค่ะ เมื่อต้องลงมือทำงาน ก็มีทีมงานเป็นฝรั่งทั้งหมด เขาทำงานละเอียดมาก ใช้เวลานาน ไก่ต้องยืนโพสและยกน้ำหนักไว้ด้วยนาน 2 ชั่วโมงกว่า แต่ก็มีพักบ้างนะคะ ไม่ได้ยกตลอด เขาใช้เวลาทำ 2-3 เดือน พอได้เห็นหุ่นขี้ผึ้งตัวเราเองก็รู้สึกว่าเหมือนมากค่ะ ชุดและรองเท้าที่ใส่ก็เป็นของไก่เอง ได้เห็นหุ่นตัวเราเองยืนยกน้ำหนักแล้วรู้สึกดีมากเลยค่ะที่ตอนนี้เราไม่ต้องยกน้ำหนักแบบนี้แล้ว ปัจจุบันไก่เลิกยกน้ำหนักแล้ว ก็เลยอยากจะถามหุ่นว่าเป็นยังไงบ้าง หนักมั้ย” ไก่-ปวีณา กล่าวอย่างอารมณ์ดี

          สำหรับใครที่เคยมาชมหุ่นขี้ผึ้งที่นี่แล้ว อย่าเพิ่งสรุปว่ามาครั้งเดียวแล้วจบ เพราะยังมีการเพิ่มหุ่นตัวใหม่เข้ามาเรื่อยๆ อย่างน้อยในทุกไตรมาส จะต้องมี 1 ตัว หรือประมาณ 3-4 ตัวในระยะเวลา 1 ปีแน่นอน ล่าสุดที่เตรียมจะมาเผยโฉมเร็วๆ นี้ มี 3 ตัวด้วยกัน ได้แก่ บี้-สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว, สไปเดอร์แมน ซูเปอร์ฮีโร่ และจอห์นนี่ เดปป์ ที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เข้าคอนเซ็ปท์ แจ็ค สแปร์โรว์ จากภาพยนตร์เรื่อง Pirates of the Caribbean ซึ่งมีทำการ Global Launch หุ่นตัวนี้พร้อมกันทั่วโลก

          สำหรับใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ สไปเดอร์แมน ห้ามพลาด เพราะมาดามทุสโซ เตรียมจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษเพื่อฉลองเทศกาลปิดเทอม โดยการเปิดตัว สไปเดอร์แมน ในเดือนมีนาคมนี้ พร้อมกับราคาสุดพิเศษ 300 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และ 220 บาทสำหรับเด็กอายุ 5-12 ปี ใครที่อยากสัมผัสซูเปอร์ฮีโร่ในดวงใจอย่างใกล้ชิด เตรียมตัวให้พร้อมได้เลย

          ร่วมเปิดประสบการณ์พิเศษกับหุ่นขี้ผึ้งของคนดังระดับโลกอย่างใกล้ชิด พร้อมสัมผัสบรรยากาศความสนุกสนานกับเทคนิค “อินเทอร์แอ็คทีฟ” สมบูรณ์แบบ ผสาน แสง สี เสียงล้ำสมัย ได้แล้ววันนี้ที่ “พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ กรุงเทพฯ” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0 2658 0060 หรือ www.madametussauds.com/bangkok

1392
ควอลคอมม์พัฒนาชิปเซ็ทตระกูลสแนปดราก้อน (Snapdragon) ใหม่และล้ำยุคแห่งอุตสาหกรรมไอที
 
          ควอลคอมม์ อินคอร์ปอเรทเต็ด (หรือใช้ชื่อในตลาดหุ้นนาสเด็ก คือ QCOM) ผู้นำด้านการพัฒนาและคิดค้นเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์และบริการการสื่อสารแบบไร้สายอันล้ำสมัย ขอเรียนให้สื่อมวลชนทราบว่า

          ควอลคอมม์ได้เปิดตัวสถาปัตยกรรมเครื่องประมวลผลขนาดจิ๋วใหม่ เพื่อรองรับการทำงานของชิปเซ็ท Snapdragon รุ่นใหม่ ทั้งนี้ ชิปเซ็ท Snapdragon ดังกล่าวมีความเร็วสูงถึง 2.5 GHz ต่อ 1 คอร์ และมีสมรรถนะเพิ่มขึ้นถึง 150% ทั้งยังประหยัดไฟ 65% เมื่อเทียบกับซีพียูคอร์รุ่น ARM ที่ใช้ในปัจจุบัน ซิปเซ็ท Snapdragon มีให้บริการหลากหลายรุ่นทั้งรุ่นซิงเกิล-คอร์หรือคอร์เดี่ยว ดูอัล-คอร์หรือคอร์คู่ และควอด-คอร์หรือ 4 คอร์ รวมถึงหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) อาเดรโน® (Adreno®) ใหม่ที่มาพร้อมกับคอร์แบบ 3D 4 ตัว และโมเด็ม LTE หลากหลายโหมดแบบครบวงจร

          ซอฟท์แวร์บนชิปเซ็ท Snapdragon ใช้เทคโนโลยีแบบนาโนมิเตอร์สามารถทำงานเข้ากันได้อย่างดีเยี่ยมกับซีพียูและจีพียูใหม่ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานไร้สายและกินไฟน้อยสุด นอกจากนี้ จีพียูอาเดรโนใหม่ล่าสุดยังถือเป็นส่วนหนึ่งของชิปเซ็ทตระกูล Snapdragon ส่งผลให้นักพัฒนาสามารถนำเทคโนโลยีจีพียูอาเดรโนมาใช้สร้างสรรค์เกมและการใช้งานบนอุปกรณ์สื่อสารทุกประเภทได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

          ชิป MSM8930 แบบคอร์เดี่ยว คือ ชิปเดี่ยวชนิดแรกของโลกที่มาพร้อมกับโมเด็ม LTE แบบครบวงจร ที่ออกแบบเพื่อนำเทคโนโลยี LTE ไปใช้ในเครื่องสมาร์โฟนสำหรับตลาดโลก ทั้งยังสนับสนุนจีพียูอาเดรโน 305 ซึ่งมีสมรรถนะเหนือกว่าจีพียูอาเดรโนารุ่นเดิมถึง 6 เท่า

          ชิป MSM8960 แบบดูอัล-คอร์หรือคอร์คู่ คือ ชิปคอร์คู่ชนิดแรกของโลก โดยมาพร้อมกับโมเด็ม 3G/LTE

          มัลติโหมดแบบครบวงจร ตอบสนองการทำงานแบบ multitasking ของเครื่องแท็ปเล็ตและสมาร์ทโฟน

          ชิป APQ8064 แบบ 4 คอร์ ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และบันเทิงที่มีสมรรถนะการทำงานสูงขึ้นและประหยัดไฟ

          นอกจากนี้ ชิป APQ8064 ยังมีฟีทเจอร์เด่นๆ อีกหลากหลายประเภทรองรับการทำงานของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และบันเทิงแบบเคลื่อนที่ต่างๆ ทั้งยังรองรับหน่วยความจำของเครื่องพีซีและ LP DDR ระบบอินเทอร์เฟซอนุกรมและ PCIe ตลอดจนสนับสนุนยูเอสบีพอร์ตหลากหลายตัว โดยทำงานเชื่อมต่อกับโมเด็มและโมดูล 3จี และ LTE MDM ของควอลคอมม์อย่างไร้ข้อจำกัด

          ทั้งนี้ ควอลคอมม์คาดว่า จะสามารถนำตัวอย่างของชิป MSM8960 ออกทดสอบในตลาดในไตรมาส 2 ของปี 2554 และชิป MSM8930 และ APQ8064 ออกทดสอบในตลาดในต้นปี 2555

1393
ณรวี เอสเตติก เซ็นเตอร์ แถลงเปิดตัวนวัตกรรมทางศัลยกรรมล่าสุด ที่สามารถสวยหล่อภายในพริบตา พร้อมเผยแผนพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์ทางการตลาดในปี ‘54 

 

ผศ.นพ.รนชัย โคมทอง (ที่ 3 จากซ้าย) ศัลยแพทย์ผู้ก่อตั้ง ณรวี เอสเตติก เซ็นเตอร์ ได้จัดงานแถลงข่าว ณ โรงแรมเรเนซองส์ ราชประสงค์ กรุงเทพฯ เพื่อแถลงเปิดนวัตกรรมความงามขั้นสูงที่สามารถปรับแต่งใบหน้าและเรือนร่างให้ดูสมส่วนและสวยงามภายในระยะเวลาอันสั้น พร้อมเผยแผนพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์ทางการตลาดประจำปี 2554 โดยผู้บริหารของณรวี นำโดย คุณทัชชกร โคมทอง (ที่ 4 จากซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการ และ คุณดิษฐากรณ์ วงศ์สุข (ที่ 6 จากซ้าย) ผู้จัดการฝ่ายการตลาดต่างประเทศ ให้การต้อนรับคณะสื่อมวลชน และเหล่าดาราเซลิบีตี้ ได้แก่ คุณได๋-ไดอานา จงจินตนาการ (ที่ 5 จากซ้าย), คุณชัญญา เด่นฟ้านภาพล หรือ น้องบิวตี้ (ซ้ายสุด) รองอันดับ 1 Miss Tiffany’s Universe 2010, มิสซิส เรน เกรดี้ (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการบริษัท Capital T.V. จำกัด และ มิสเตอร์ ควน เทา (ขวาสุด) หัวหน้าบรรณาธิการนิตยสาร 2 Magazine อย่างอบอุ่น

1394
“ฟู้ดสไตล์ลิสท์” บุกเบิกเว็บ“Chef - channel” หวังต่อยอดธุรกิจอาหาร – ดันเชฟไทยสู่ตลาดโลก



          “นิตยสารฟู้ดสไตล์ลิสท์” สบช่องว่าง รุกรายการวาไรตี้อาหารออนไลน์ “www.chef-channel.com” ศูนย์กลางความรู้เกี่ยวกับวงการธุรกิจอาหารแบบครบวงจร ครั้งแรกในเมืองไทย พร้อมจุดประกายโครงการ“Men in the kitchen” เฟ้นหาเชฟเซเลบริตี้รุ่นใหม่ประดับวงการอาหาร ด้านหน่วยงานรัฐ “กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน” เชื่อจะช่วยผลักดันธุรกิจอาหาร และเชฟไทยก้าวไกลระดับโลก เผยร่วมแจมโครงการ“English for Chef” หวังเพิ่มทักษะภาษาต่อยอดอนาคตเชฟไทยผ่านทางโครงการอบรมและเว็บไซต์

          มล.ปุณฑริก สมิติ รองอธิบดี กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าปัจจุบันธุรกิจอาหารและ ผู้ปรุงอาหารหรือเชฟ (Chef) กำลังได้รับความนิยมจากคนไทยเป็นอย่างมาก รวมถึงเพื่อรองรับเขตการค้าเสรี หรือ FTA ในอนาคต ส่วนของภาครัฐได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาและเตรียมความพร้อมบุคลากรของไทยในการไปทำงานในต่างประเทศและต่อยอดความรู้

          ในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า เชฟไทยมีความสามารถมีฝีมือในการประกอบอาหารที่ทั่วโลกยอมรับ มีความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เป็นรองใคร แต่สิ่งที่ยังเป็นปัญหาสำหรับแรงงานและเชฟไทยที่จะก้าวสู่ระดับสากล คือ ทักษะด้านภาษาอังกฤษที่เรายังสู้กับชาติอื่นไม่ค่อยได้ ดังนั้นเราจึงร่วมมือกับ “สมาคมพ่อครัวไทย และ Foodstylist” ริเริ่มโครงการ “English for Chef” ลงในเว็บไซต์ www.chef-channel.com” ซึ่งจะเป็นการฝึกทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน นอกจากนี้ในส่วนของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษ เป็นคอร์สติวเข้มภาษาอังกฤษ 30 ชั่วโมงฟรี ให้กับเชฟไทยจำนวน 150 คน โดยเริ่มวันแรก ในวันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ อีกด้วย

          “นับว่าเป็นก้าวใหม่ของวงการอาหาร สำหรับการเปิดตัววาไรตี้อาหารออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ต www.chef-channel.com ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางความรู้เกี่ยวกับวงการธุรกิจอาหารแบบครบวงจร เนื่องจากทางกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน สามารถที่จะต่อยอดกับเว็บไซต์นี้ได้ เพราะนอกจากจะเป็นการพัฒนาแรงงานด้านธุรกิจอาหารแล้ว ยังเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลที่ครอบคลุมวงการอาหาร และเชฟ ซึ่งเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยที่สนใจ นอกจากนี้ยังเป็นเวที ที่สามารถแสดงออกถึงความสามารถในการปรุงอาหารของคนรุ่นใหม่ไฟแรง ซึ่งเราอาจจะค้นหาช้างเผือกและช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้เขาได้โชว์ความสามารถ ในเวทีระดับสูงต่อไปได้ในอนาคต” รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงานกล่าว

          ด้านนายประวิตร เปรื่องอักษร ประธานกรรมการ บริษัท ฟู้ดโปรเจ็ค (สยาม) จำกัดและบรรณาธิการบริหารFoodstylist Magazine เปิดเผยว่า Chef-channel เกิดขึ้นได้ เพราะได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน, สมาคมพ่อครัวไทย, ชมรมเบเกอรี่แห่งประเทศไทย, สมาคมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและธุรกิจครัวไทย และThailand Culinary Academyฯลฯ โดยเนื้อหาของเว็บไซต์จะแบ่งออกเป็น 5 ส่วนได้แก่ 1.Character Chef : ผู้ชาย ผู้หญิง เชฟคู่(Duo) หรือทีมเชฟ(Brand) 2.Food Variety online จะแบ่งเป็นวีดีโอคลิปสาธิตการทำอาหารและบทสัมภาษณ์เชฟสั้นๆ 3.Product Review : การโชว์วัสดุอุปกรณ์ที่จะเป็นข้อมูลกับวงการอาหารหรือเทรนใหม่ๆ 4.Educational : นำเสนอคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้ในวงการอาหาร ที่เชฟและคนทำอาหารต้องรู้ 5.Food Candid : คลิปหลุดขำๆ ของคนในวงการอาหารที่ส่งมาจากทางบ้าน แล้วได้รับคัดเลือกให้ขึ้นเว็บไซต์

          “เราคาดหวังว่า Chef-channel จะเป็นสื่อกลางที่ทำให้ผู้คนในวงการอาหาร ไม่ว่าจะอยู่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง หรือภาคใต้ ได้มีเวทีในการแสดงออกซึ่งความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ในการทำอาหารและเป็น Community ที่ให้ความรู้ความเข้าใจ การพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของคนในแวดวงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเชฟหรือนักธุรกิจSMEsอาหาร ก็สามารถนำความรู้ใน www.chef-channel.com ไปใช้พัฒนาในธุรกิจของตนเองได้”

          นอกจากนี้ Chef-channel ยังได้จัดโครงการ Men in the kitchen ขึ้น เพื่อการค้นหา The Next Chef Celebrity รุ่นใหม่ มาประดับวงการในเมืองไทยและพร้อมที่จะปั้นผู้มีใจรักในการทำอาหารทุกคนให้มีเวทีแสดงความสามารถและก้าวมายืนอยู่ในแถวหน้าวงการอาหาร ที่จุดประกายให้คนทำอาหารได้เกิดการตื่นตัว กับการเปลี่ยนแปลงของวงการอาหารที่ปัจจุบันดูเป็นวาไรตี้ เป็นไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยมากขึ้น และช่วยให้เกิดการพัฒนาตนเอง ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างคนทำอาหาร จนถึงการนำความรู้ที่ได้จากโครงการมาต่อยอดในธุรกิจได้ในที่สุด

          สำหรับผู้ชายที่สนใจ สามารถเข้าร่วมโครงการ Men in the kitchen โดยส่งคลิปแนะนำตัวเองพร้อมสาธิตการทำอาหาร รอบแรกจะคัดเลือกให้เหลือ 15 ทีมสุดท้ายด้วยการพิจารณาจากความคิดสร้างสรรค์ในการทำอาหารและการนำเสนอที่แตกต่างอย่างน่าสนใจ 50 : 50 รอบสองคัดเลือกโดยคณะกรรมการตัดสินที่มีความรู้ ความสามารถ โดยคะแนนจะมาจากคณะกรรมการ 50% และจากการโหวตในเว็บไซต์50%โดยผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้ขึ้นปกนิตยสารFoodstylist พร้อมการต่อยอดเข้าสู่วงการอาหารตามความสามารถด้วย

1395
สตาร์บัคส์ ประเทศไทย เตรียมใช้แก้วโลโก้ใหม่ 8 มี.ค. นี้ พร้อมทั่วโลก



          สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไทยแลนด์ นำโดย มร. เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ เผยโฉมแก้วสตาร์บัคส์แบบทูโก (ซื้อกลับ) และยูนิฟอร์มผ้ากันเปื้อนของบาริสต้าในโลโก้ สตาร์บัคส์ดีไซน์ใหม่ที่จะถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกพร้อมกับทั่วโลก เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 40 ปี ของสตาร์บัคส์ โกลบอล โดยตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ลูกค้าที่ซื้อเครื่องดื่มสตาร์บัคส์แบบ ทูโก (ซื้อกลับ) จะได้รับเครื่องดื่มแก้วโปรดในแก้วโลโก้ใหม่นี้
 
 
 

Pages: 1 ... 91 92 [93] 94 95 ... 105