Show Posts
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
91
ประวัติ handbill & handbill ยุคแรก / รวมสติ๊กเกอร์แฮร์รี่พอตเตอร์
« on: March 28, 2010, 03:30:01 PM »
ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ
92
ข่าวภาพยนตร์ / “อ๊อฟ-มณฑล” จับปู่-หลาน ใส่กระด้ง ทำงานโหดแข่งเวลาเปิดรถไฟใต้ดิน.. !!!
« on: March 28, 2010, 02:49:51 PM »
“อ๊อฟ-มณฑล” จับปู่-หลาน ใส่กระด้ง
ทำงานโหดแข่งเวลาเปิดรถไฟใต้ดิน.. !!!
ได้รับฉายาผู้กำกับบ้าพลังไปแล้วเรียบร้อยสำหรับ “พี่อ๊อฟ – มณฑล อารยางกูร” ผู้กำกับภาพยนตร์“บิ๊กบอย” งานลำดับที่ 2 ของ M๓๙ (เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์) เพราะ พี่แกเล่นทำงานแบบดับเบิ้ลโหดตลอด ไมว่าจะฉากปิดถนนซิ่งรถ ฉากแข่งเต้นบนสะพานลอย ฉากใหญ่ที่ท่าน้ำเจ้าพระยา รวมถึงฉากที่เลือกมาฝากกันวันนี้ เป็นฉากแบทเทิ่ลปู่-หลาน และ คู่อริในรถไฟใต้ดิน ที่ทั้งต้องทำงานแข่งกับเวลาและ ยังต้องให้ท่าเต้นต่อสู้ของทุกคนออกมาสวยงามไปด้วยพร้อมๆกัน
ฉากนี้ “พี่อ๊อฟ” ยกทีมไปถ่ายกันที่ สถานีรถไฟใต้ดินกำแพงเพชร มีอาต้อย, โทนี่ และ คู่อริ แต๊ก ,ชิน,รอย จะต้องมาดวลเต้นกัน ซึ่งจริงๆแล้วฉากนี้ก็คือฉากบู๊ต่อสู้ระหว่างทีมพระเอก กับผู้ร้ายดีๆนี่เอง โดยการต่อสู้ทั่วไปพระเอก-ผู้ร้าย จะต้องแลกหมัดและลูกเตะต่อย แต่พอมาดวลกันแบบเต้น ก็จะต้องเอาชนะด้วยการทำท่าทางต่างๆ ซึ่งงานนี้ทำเอา “อาต้อย” กับ “โทนี่” ถึงกับกุมขมับ เพราะลำพังเต้นธรรมดายืนที่พื้นก็ว่ายากแล้วนะ งานนี้จะต้องมาเต้นในโบกี้รถไฟใต้ดินโดยมีเครื่องกีดขวางเป็นเก้าอี้ และ เสาราวในรถไฟใต้ดินก็เรียกได้ว่า “งานเข้า”สำหรับทั้งคู่เลยก็ว่าได้
กว่าจะได้ถ่ายฉากนี้ต้องรอ หลังเที่ยงคืน ให้รถไฟปิดบริการก่อน โดย “พี่อ๊อฟ” ยกทีมงานไปสแตนบายตั้งแต่ 4 ทุ่ม พอเที่ยงคืนปุ๊บเหลือแต่รถเปล่าๆทั้งหมดก็เข้าไปในโบกี้รถไฟ แต่ก็ต้องรีบถ่ายทำให้เสร็จเวลาเที่ยงคืนถึงตี 3 (3 ชั่วโมงเท่านั้น) เพราะเวลาที่เหลือจะต้องนำรถไฟไปล้างเพื่อเปิดบริการในวันต่อไป แรงกดดันจึงมีทั้งในเรื่องของเวลา และ ท่าเต้นในถ่ายทำที่ยากลำบากกว่าการถ่ายทำในที่โล่งๆ 3 หนุ่ม “แต๊ก,ชิน,รอย” ปรับตัวเข้ากับสถานที่ได้เร็วมาก เพราะทั้ง 3คน แอบมาซุ่มซ้อมที่โรงเก็บรถไฟล่วงหน้าก่อน 2- 3 วันเพื่อทำความคุ้นเคยกับสถานที่เรียบร้อยแล้ว แต่ “โทนี่, อาต้อย” ด้วยความที่มีเวลาว่างน้อย ไม่มีเวลามาซ้อม การถ่ายทำเลยต้องมีครูคอยประกบเพื่อไม่ให้พลาด และ เพราะมีสิ่งกีดขวาง เวลาเต้น “อาต้อย” ก็เลยจะเหนื่อยกว่าปกติ แต่งานนี้ทุกคนไม่ยอมแพ้ต่างงัดความ “บ้าพลัง” ออกมาสู้กับผู้กำแบบไม่มีใครยอมแพ้ใคร ทุกคนต่างทำงานแข่งกับเวลาเต็มที่ ใช้กันเวลาจนหมดนาทีสุดท้าย สิ้นเสียง “คัท” ปุ๊บ เจ้าหน้าที่ก็มานำรถไฟไปทำความสะอาดเพื่อให้บริการต่อไป
ติดตามชมภาพยนตร์“บิ๊กบอย” ภาพยนตร์จังหวะชีวิต ที่จะทำให้หัวใจของทุกคนเต้นเป็นจังหวะ จี๊ดจ๊าด สุดซ่าส์ บ้าพลัง ทุกโรงภาพยนตร์ 6 เมษายนนี้
ทำงานโหดแข่งเวลาเปิดรถไฟใต้ดิน.. !!!
ได้รับฉายาผู้กำกับบ้าพลังไปแล้วเรียบร้อยสำหรับ “พี่อ๊อฟ – มณฑล อารยางกูร” ผู้กำกับภาพยนตร์“บิ๊กบอย” งานลำดับที่ 2 ของ M๓๙ (เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์) เพราะ พี่แกเล่นทำงานแบบดับเบิ้ลโหดตลอด ไมว่าจะฉากปิดถนนซิ่งรถ ฉากแข่งเต้นบนสะพานลอย ฉากใหญ่ที่ท่าน้ำเจ้าพระยา รวมถึงฉากที่เลือกมาฝากกันวันนี้ เป็นฉากแบทเทิ่ลปู่-หลาน และ คู่อริในรถไฟใต้ดิน ที่ทั้งต้องทำงานแข่งกับเวลาและ ยังต้องให้ท่าเต้นต่อสู้ของทุกคนออกมาสวยงามไปด้วยพร้อมๆกัน
ฉากนี้ “พี่อ๊อฟ” ยกทีมไปถ่ายกันที่ สถานีรถไฟใต้ดินกำแพงเพชร มีอาต้อย, โทนี่ และ คู่อริ แต๊ก ,ชิน,รอย จะต้องมาดวลเต้นกัน ซึ่งจริงๆแล้วฉากนี้ก็คือฉากบู๊ต่อสู้ระหว่างทีมพระเอก กับผู้ร้ายดีๆนี่เอง โดยการต่อสู้ทั่วไปพระเอก-ผู้ร้าย จะต้องแลกหมัดและลูกเตะต่อย แต่พอมาดวลกันแบบเต้น ก็จะต้องเอาชนะด้วยการทำท่าทางต่างๆ ซึ่งงานนี้ทำเอา “อาต้อย” กับ “โทนี่” ถึงกับกุมขมับ เพราะลำพังเต้นธรรมดายืนที่พื้นก็ว่ายากแล้วนะ งานนี้จะต้องมาเต้นในโบกี้รถไฟใต้ดินโดยมีเครื่องกีดขวางเป็นเก้าอี้ และ เสาราวในรถไฟใต้ดินก็เรียกได้ว่า “งานเข้า”สำหรับทั้งคู่เลยก็ว่าได้
กว่าจะได้ถ่ายฉากนี้ต้องรอ หลังเที่ยงคืน ให้รถไฟปิดบริการก่อน โดย “พี่อ๊อฟ” ยกทีมงานไปสแตนบายตั้งแต่ 4 ทุ่ม พอเที่ยงคืนปุ๊บเหลือแต่รถเปล่าๆทั้งหมดก็เข้าไปในโบกี้รถไฟ แต่ก็ต้องรีบถ่ายทำให้เสร็จเวลาเที่ยงคืนถึงตี 3 (3 ชั่วโมงเท่านั้น) เพราะเวลาที่เหลือจะต้องนำรถไฟไปล้างเพื่อเปิดบริการในวันต่อไป แรงกดดันจึงมีทั้งในเรื่องของเวลา และ ท่าเต้นในถ่ายทำที่ยากลำบากกว่าการถ่ายทำในที่โล่งๆ 3 หนุ่ม “แต๊ก,ชิน,รอย” ปรับตัวเข้ากับสถานที่ได้เร็วมาก เพราะทั้ง 3คน แอบมาซุ่มซ้อมที่โรงเก็บรถไฟล่วงหน้าก่อน 2- 3 วันเพื่อทำความคุ้นเคยกับสถานที่เรียบร้อยแล้ว แต่ “โทนี่, อาต้อย” ด้วยความที่มีเวลาว่างน้อย ไม่มีเวลามาซ้อม การถ่ายทำเลยต้องมีครูคอยประกบเพื่อไม่ให้พลาด และ เพราะมีสิ่งกีดขวาง เวลาเต้น “อาต้อย” ก็เลยจะเหนื่อยกว่าปกติ แต่งานนี้ทุกคนไม่ยอมแพ้ต่างงัดความ “บ้าพลัง” ออกมาสู้กับผู้กำแบบไม่มีใครยอมแพ้ใคร ทุกคนต่างทำงานแข่งกับเวลาเต็มที่ ใช้กันเวลาจนหมดนาทีสุดท้าย สิ้นเสียง “คัท” ปุ๊บ เจ้าหน้าที่ก็มานำรถไฟไปทำความสะอาดเพื่อให้บริการต่อไป
ติดตามชมภาพยนตร์“บิ๊กบอย” ภาพยนตร์จังหวะชีวิต ที่จะทำให้หัวใจของทุกคนเต้นเป็นจังหวะ จี๊ดจ๊าด สุดซ่าส์ บ้าพลัง ทุกโรงภาพยนตร์ 6 เมษายนนี้
93
ข่าวภาพยนตร์ / “ต้อย-เศรษฐา” ซุ่มเรียนเต้น โชว์ลวดลายละติน -ลีลาศคู่ “เพชร” นางเอก “บิ๊กบอย
« on: March 28, 2010, 02:37:52 PM »
“ต้อย-เศรษฐา” ซุ่มเรียนเต้นนับเดือน
โชว์ลวดลายละติน -ลีลาศคู่ “เพชร” นางเอก “บิ๊กบอย” สุดตื่นตา !!!
ไม่ยอมให้วัยมาเป็นอุปสรรคกางกั้นหัวใจที่มันยังบ้าพลัง !! แถมยังเต้นเป็นจังหวะจี๊ดจ๊าด !! สำหรับนักแสดงชั้นครูอย่าง “อาต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา” ที่งานนี้...นอกจากทุกคนจะต้องปรบมือให้กับความพยายามของ “อาต้อย” ที่ขยันเรียนจนคว้าปริญญาตรีใบแรกจากคณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง มาครองแล้ว ยังต้องปรบมือให้กับความตั้งใจและความมุมานะของ “อา” ที่เมื่อตกปากรับคำแสดงบทคุณปู่ซู่ซ่าส์ เพลย์บอยสุดจี๊ด ในภาพยนตร์เรื่อง “บิ๊กบอย” (B-IG BOY) ภาพยนตร์ลำดับที่ 2 ของค่าย M๓๙ (เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์ ) กำกับการแสดง โดย “อ๊อฟ- มณฑล อารยางกูร” ฉาย
6 เมษายน นี้ “อาต้อย” ได้ดอดไปเรียนเต้น ละติน –ลีลาศ นานนับเดือน เพื่อมาโชว์ในฉากสำคัญชนิดทำเอาทุกคนต้องอึ้งทึ่งกับความตั้งใจ และ ทุ่มเท ของ “อาต้อย” กันเลยทีเดียว !!!
ฉากที่ว่านี้คือฉาก ปู่ปุน ได้เจอกับ “นิว” (นำแสดงโดย เพชร – รัตนารัตน์ เอื้อทวีกุล) นางเอกของเรื่องที่ได้มาเป็นครูสอนการเต้นรำอยู่ที่นี่ ฉากนี้ “อาต้อย” ออกปากว่าเป็นฉากที่หนักใจที่สุด เพราะบท “ปู่ปุน” คุณปู่สุดซ่าส์ หัวใจจี๊ดจ๊าด จะต้องเต้นรำเก่งเป็นพิเศษเพราะในอดีตเคยมุมานะที่จะเป็นนักเต้นรำ แต่ก็ทิ้งโอกาสในการก้าวไปเป็นนักเต้นรำอาชีพ เพราะต้องไปทำธุรกิจหาเลี้ยงครอบครัว พอมีโอกาสกลับมาเต้นอีกครั้งจึงต้องรำลึกถึงฝีไม้ลายมือขั้นเทพของตัวเองสมัยหนุ่มๆกันหน่อย
ทีมงานได้ใช้โรงภาพยนตร์ออสก้าร์ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ที่ปิดร้างไปนานแล้ว เนรนิตฉากใหญ่ขึ้นมาให้เป็นโรงเรียนสอนลีลาศพร้อมกับนำนักแสดงประกอบที่มีความสามารถมากมายหลายท่านเข้าร่วมเต้นแสดงโชว์ในครั้งนี้ ซึ่งบรรยากาศการถ่ายทำเต็มไปด้วยความคึกคัก และ ครึกครื้น เหมือนประหนึ่งเป็นบรรยากาศงานเลี้ยงบอลรูมจริงๆไม่ใช่เป็นการถ่ายทำเลย
“อาต้อย – เศรษฐา” เล่าถึงฉากที่ถ่ายทำในวันนั้นว่า “หนักใจมาก สำหรับฉากนี้ เพราะ เราเต้นไม่เป็นเลย ต้องมาเรียนใหม่หมด ตอนที่ อ๊อฟ (ผกก.) มาขอคิวถ่ายเค้าบอกว่า อา เรื่องนี้ต้องเต้น บีบอย แท๊ป พาโซดูเปร ของสเปนด้วยนะ ด้วยนะ อาก็คิดเลยว่าจะไหวไหม (หัวเราะ) เค้าบอกไม่เป็นไร ให้ อา ไปเรียนเต้นก่อนประมาณเดือน เดือนกว่านะ ตกวันละ 1 ชม. ก็มีเรียนพร้อมน้องเพชรบ้าง บางวันก็เรียนคนเดียว โดยมีครูไผ่ ครูอาร์ม ครูธัน เป็นพี่เลี้ยง ครูก็สอนเต้น ท่าพื้นฐานให้ก่อน ก่อนที่จะเลื่อนขึ้นมาในท่ายากๆ ตามที่ ผกก. ต้องการ ซึ่งส่วนใหญ่ ในเรื่องนี้เขาจะให้เราเต้นแทป กับ พาโซดูเปร อย่างแทปต้องอาศัยข้อเท้า สะบัดเร็วมาก เพราะว่าพอสะบัดเสร็จแล้วมันก็จะช้าแล้ว แต่ที่ยากสุดก็น่าจะเป็นเต้นพาโซดูเปร ของสเปน นี่แหละยากที่สุด เรียนไปสองสามครั้งมันก็เริ่มสนุกนะ มันคือการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ในสิ่งที่ยังไม่เคยรู้มาก่อน ถึงอาจะอายุมากขนาดนี้แล้ว แต่ก็ยังอยากที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ อาว่ามันเป็นเรื่องของพลังชีวิตนะ อ๊อฟ เขา ก็ชอบว่า อาบ้าพลังมาก ไฟไม่ยอมหมดหัวใจมันสนุกไปหมดกับการทำงาน กับการเรียนก็เหมือนกันนะ
พาโซดูเปร มันเป็นการเต้นรำแบบสเปนจังหวะดุดันแต่สนุกสนาน มันเป็นท่าที่เต้นแล้วผู้หญิงก็จะหวาน...พริ้วมากๆ เพชร เค้าก็เต้นได้ดีมาก แล้วอีกอย่าง มันเป็นฉากที่ ปู่ปุน เต้นรำกับ “นิว” เพื่อรำลึกถึงความหลังที่เคยเต้นกับย่าเมื่อสมัยปู่ยังหนุ่ม มันก็ต้องใส่อารมณ์ในการเต้นด้วย ต้องจินตนาการว่า เรากำลังเต้นกับคนรักของเรา อาก็จินตนาการเป็น อาปี๊ยกไปเลย(หัวเราะ) ยากนะ อาว่าฉากนี้ยากมากๆ แต่ดีตรงที่ได้เรียนได้ซ้อมมา แต่ขนาดซ้อมมานะ ก็ยังใช้เวลาถ่ายทำทั้งวันเลย”
ติดตามชมภาพยนตร์ที่จะทำให้คุณลุกขึ้นมาบ้าพลัง !! ไปกับจังหวะของชีวิต!!
“บิ๊กบอย” ได้ทุกโรงภาพยนตร์ 6 เมษายนนี้
โชว์ลวดลายละติน -ลีลาศคู่ “เพชร” นางเอก “บิ๊กบอย” สุดตื่นตา !!!
ไม่ยอมให้วัยมาเป็นอุปสรรคกางกั้นหัวใจที่มันยังบ้าพลัง !! แถมยังเต้นเป็นจังหวะจี๊ดจ๊าด !! สำหรับนักแสดงชั้นครูอย่าง “อาต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา” ที่งานนี้...นอกจากทุกคนจะต้องปรบมือให้กับความพยายามของ “อาต้อย” ที่ขยันเรียนจนคว้าปริญญาตรีใบแรกจากคณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง มาครองแล้ว ยังต้องปรบมือให้กับความตั้งใจและความมุมานะของ “อา” ที่เมื่อตกปากรับคำแสดงบทคุณปู่ซู่ซ่าส์ เพลย์บอยสุดจี๊ด ในภาพยนตร์เรื่อง “บิ๊กบอย” (B-IG BOY) ภาพยนตร์ลำดับที่ 2 ของค่าย M๓๙ (เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์ ) กำกับการแสดง โดย “อ๊อฟ- มณฑล อารยางกูร” ฉาย
6 เมษายน นี้ “อาต้อย” ได้ดอดไปเรียนเต้น ละติน –ลีลาศ นานนับเดือน เพื่อมาโชว์ในฉากสำคัญชนิดทำเอาทุกคนต้องอึ้งทึ่งกับความตั้งใจ และ ทุ่มเท ของ “อาต้อย” กันเลยทีเดียว !!!
ฉากที่ว่านี้คือฉาก ปู่ปุน ได้เจอกับ “นิว” (นำแสดงโดย เพชร – รัตนารัตน์ เอื้อทวีกุล) นางเอกของเรื่องที่ได้มาเป็นครูสอนการเต้นรำอยู่ที่นี่ ฉากนี้ “อาต้อย” ออกปากว่าเป็นฉากที่หนักใจที่สุด เพราะบท “ปู่ปุน” คุณปู่สุดซ่าส์ หัวใจจี๊ดจ๊าด จะต้องเต้นรำเก่งเป็นพิเศษเพราะในอดีตเคยมุมานะที่จะเป็นนักเต้นรำ แต่ก็ทิ้งโอกาสในการก้าวไปเป็นนักเต้นรำอาชีพ เพราะต้องไปทำธุรกิจหาเลี้ยงครอบครัว พอมีโอกาสกลับมาเต้นอีกครั้งจึงต้องรำลึกถึงฝีไม้ลายมือขั้นเทพของตัวเองสมัยหนุ่มๆกันหน่อย
ทีมงานได้ใช้โรงภาพยนตร์ออสก้าร์ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ที่ปิดร้างไปนานแล้ว เนรนิตฉากใหญ่ขึ้นมาให้เป็นโรงเรียนสอนลีลาศพร้อมกับนำนักแสดงประกอบที่มีความสามารถมากมายหลายท่านเข้าร่วมเต้นแสดงโชว์ในครั้งนี้ ซึ่งบรรยากาศการถ่ายทำเต็มไปด้วยความคึกคัก และ ครึกครื้น เหมือนประหนึ่งเป็นบรรยากาศงานเลี้ยงบอลรูมจริงๆไม่ใช่เป็นการถ่ายทำเลย
“อาต้อย – เศรษฐา” เล่าถึงฉากที่ถ่ายทำในวันนั้นว่า “หนักใจมาก สำหรับฉากนี้ เพราะ เราเต้นไม่เป็นเลย ต้องมาเรียนใหม่หมด ตอนที่ อ๊อฟ (ผกก.) มาขอคิวถ่ายเค้าบอกว่า อา เรื่องนี้ต้องเต้น บีบอย แท๊ป พาโซดูเปร ของสเปนด้วยนะ ด้วยนะ อาก็คิดเลยว่าจะไหวไหม (หัวเราะ) เค้าบอกไม่เป็นไร ให้ อา ไปเรียนเต้นก่อนประมาณเดือน เดือนกว่านะ ตกวันละ 1 ชม. ก็มีเรียนพร้อมน้องเพชรบ้าง บางวันก็เรียนคนเดียว โดยมีครูไผ่ ครูอาร์ม ครูธัน เป็นพี่เลี้ยง ครูก็สอนเต้น ท่าพื้นฐานให้ก่อน ก่อนที่จะเลื่อนขึ้นมาในท่ายากๆ ตามที่ ผกก. ต้องการ ซึ่งส่วนใหญ่ ในเรื่องนี้เขาจะให้เราเต้นแทป กับ พาโซดูเปร อย่างแทปต้องอาศัยข้อเท้า สะบัดเร็วมาก เพราะว่าพอสะบัดเสร็จแล้วมันก็จะช้าแล้ว แต่ที่ยากสุดก็น่าจะเป็นเต้นพาโซดูเปร ของสเปน นี่แหละยากที่สุด เรียนไปสองสามครั้งมันก็เริ่มสนุกนะ มันคือการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ในสิ่งที่ยังไม่เคยรู้มาก่อน ถึงอาจะอายุมากขนาดนี้แล้ว แต่ก็ยังอยากที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ อาว่ามันเป็นเรื่องของพลังชีวิตนะ อ๊อฟ เขา ก็ชอบว่า อาบ้าพลังมาก ไฟไม่ยอมหมดหัวใจมันสนุกไปหมดกับการทำงาน กับการเรียนก็เหมือนกันนะ
พาโซดูเปร มันเป็นการเต้นรำแบบสเปนจังหวะดุดันแต่สนุกสนาน มันเป็นท่าที่เต้นแล้วผู้หญิงก็จะหวาน...พริ้วมากๆ เพชร เค้าก็เต้นได้ดีมาก แล้วอีกอย่าง มันเป็นฉากที่ ปู่ปุน เต้นรำกับ “นิว” เพื่อรำลึกถึงความหลังที่เคยเต้นกับย่าเมื่อสมัยปู่ยังหนุ่ม มันก็ต้องใส่อารมณ์ในการเต้นด้วย ต้องจินตนาการว่า เรากำลังเต้นกับคนรักของเรา อาก็จินตนาการเป็น อาปี๊ยกไปเลย(หัวเราะ) ยากนะ อาว่าฉากนี้ยากมากๆ แต่ดีตรงที่ได้เรียนได้ซ้อมมา แต่ขนาดซ้อมมานะ ก็ยังใช้เวลาถ่ายทำทั้งวันเลย”
ติดตามชมภาพยนตร์ที่จะทำให้คุณลุกขึ้นมาบ้าพลัง !! ไปกับจังหวะของชีวิต!!
“บิ๊กบอย” ได้ทุกโรงภาพยนตร์ 6 เมษายนนี้
94
Enjoyjam Club / ประกาศเลื่อนงานมีทติ้งครั้งที่6 ออกไปก่อน
« on: March 19, 2010, 02:52:01 PM »
เนื่องจากสถานการ์ณยังไม่ปรกติ ขอเลื่อนการจัดมีทติ้งครั้งที่6ออกไปก่อน แล้วค่อยนัดกันใหม่นะ 
95
ข่าวภาพยนตร์ / บางระจัน.2“วาม-จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ” กับ 6 ปีที่ห่างหายหวนคืนบทเดิม “แม่ทัพสุกี้
« on: March 06, 2010, 02:21:30 PM »
“วาม-จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ” กับ 6 ปีที่ห่างหาย
หวนคืนบทเดิม “แม่ทัพสุกี้” ใน “บางระจัน 2”
หายหน้าหายตาจากจอภาพยนตร์ไปนานเกือบ 6 ปี วาม-จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ เลยขอหวนคืนจอเงินอีกครั้ง ด้วยการกลับมาเล่นหนังให้ผู้กำกับฝีมือเก๋าอย่าง “ปี๊ด-ธนิตย์ จิตนุกูล” ในภาพยนตร์เรื่อง “บางระจัน 2” โดยบทบาทที่ได้รับก็ยังคงเป็นบทบาทเดิมเหมือนภาคแรก นั่นคือ บทสุกี้ แม่ทัพผู้เด็ดเดี่ยวและมีความฉลาดเฉลียวเป็นเลิศ
กับความรู้สึกที่ห่างหายไปนาน เจ้าตัวเปิดเผยว่า “กลับมาเคาะสนิมอีกครั้งครับ หลังจากหยุดรับงานภาพยนตร์ไปตั้งแต่ปี 47 นี่ก็เกือบจะ 6 ปีแล้ว ก่อนหน้าที่จะมาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่เชิงว่าหายหน้าหายตาไปซะทีเดียว ยังมีงานแสดงเรื่อยๆ เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นงานละคร งานอีเว้นท์ และงานพิธีกรรายการสั้นๆ ประปราย เพราะต้องเจียดเวลาไปดูแลธุรกิจส่วนตัวที่มีชื่อว่า เจตน์ออร์แกไนท์ ที่รับจัดงานทั่วไป รวมถึงงานอีเวนท์ต่างๆ ด้วย”
วามเผยความรู้สึกต่อว่า “พอได้รับการติดต่อกลับมาให้เล่นหนังเรื่องบางระจัน 2 ตอนแรกก็คิดไว้ว่า เอ๊ะจะได้เล่นบทอะไร คนไทยหรือเปล่า หรือบทพม่านะ แต่สุดท้ายภาคแรกเล่นเป็นสุกี้ ภาค 2 ก็ยังเป็นสุกี้อยู่เหมือนเดิม ถ้ามีภาค 3-4 ก็อาจจะยังเป็นสุกี้อยู่ (หัวเราะ) แต่จริงๆ แล้วก็ไม่เคยคิดมาก่อนนะว่าบางระจันจะมีภาคต่อ จินตนาการไปเรื่อย คิดว่าเนื้อเรื่องคงมีไปถึงยุคพระเจ้าตากสินมหาราชกอบกู้เอกราช จนฆ่าสุกี้ให้ตายได้เลย แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ไม่ใช่อย่างที่คิดไว้เลย เพราะจริงๆ แล้ว เป็นเนื้อเรื่องใหม่ที่สนุกสนาน และเข้มข้น ครบอรรถรสมากขึ้นด้วย ทั้งยังมี CG ช่วยเสริมให้ดูอลังการ ตื่นตาตื่นใจ สมจริงสมจังมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า แต่โดยความหมายนัยๆ ยังคงไว้ซึ่ง ความสามัคคี ความรักชาติ รักแผ่นดินอยู่เหมือนเดิม อยากให้ติดตามชมกันครับ รับรองว่าสนุกสนานไม่แพ้ภาคแรกอย่างแน่นอน” วามกล่าวทิ้งท้าย
เตรียมพบกับบทบาทของเข้าได้ใน “บางระจัน 2” ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ 25 มีนาคมนี้ อีกทั้งมีความสามัคคีกัน มากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัวด้วย
หวนคืนบทเดิม “แม่ทัพสุกี้” ใน “บางระจัน 2”
หายหน้าหายตาจากจอภาพยนตร์ไปนานเกือบ 6 ปี วาม-จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ เลยขอหวนคืนจอเงินอีกครั้ง ด้วยการกลับมาเล่นหนังให้ผู้กำกับฝีมือเก๋าอย่าง “ปี๊ด-ธนิตย์ จิตนุกูล” ในภาพยนตร์เรื่อง “บางระจัน 2” โดยบทบาทที่ได้รับก็ยังคงเป็นบทบาทเดิมเหมือนภาคแรก นั่นคือ บทสุกี้ แม่ทัพผู้เด็ดเดี่ยวและมีความฉลาดเฉลียวเป็นเลิศ
กับความรู้สึกที่ห่างหายไปนาน เจ้าตัวเปิดเผยว่า “กลับมาเคาะสนิมอีกครั้งครับ หลังจากหยุดรับงานภาพยนตร์ไปตั้งแต่ปี 47 นี่ก็เกือบจะ 6 ปีแล้ว ก่อนหน้าที่จะมาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่เชิงว่าหายหน้าหายตาไปซะทีเดียว ยังมีงานแสดงเรื่อยๆ เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นงานละคร งานอีเว้นท์ และงานพิธีกรรายการสั้นๆ ประปราย เพราะต้องเจียดเวลาไปดูแลธุรกิจส่วนตัวที่มีชื่อว่า เจตน์ออร์แกไนท์ ที่รับจัดงานทั่วไป รวมถึงงานอีเวนท์ต่างๆ ด้วย”
วามเผยความรู้สึกต่อว่า “พอได้รับการติดต่อกลับมาให้เล่นหนังเรื่องบางระจัน 2 ตอนแรกก็คิดไว้ว่า เอ๊ะจะได้เล่นบทอะไร คนไทยหรือเปล่า หรือบทพม่านะ แต่สุดท้ายภาคแรกเล่นเป็นสุกี้ ภาค 2 ก็ยังเป็นสุกี้อยู่เหมือนเดิม ถ้ามีภาค 3-4 ก็อาจจะยังเป็นสุกี้อยู่ (หัวเราะ) แต่จริงๆ แล้วก็ไม่เคยคิดมาก่อนนะว่าบางระจันจะมีภาคต่อ จินตนาการไปเรื่อย คิดว่าเนื้อเรื่องคงมีไปถึงยุคพระเจ้าตากสินมหาราชกอบกู้เอกราช จนฆ่าสุกี้ให้ตายได้เลย แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ไม่ใช่อย่างที่คิดไว้เลย เพราะจริงๆ แล้ว เป็นเนื้อเรื่องใหม่ที่สนุกสนาน และเข้มข้น ครบอรรถรสมากขึ้นด้วย ทั้งยังมี CG ช่วยเสริมให้ดูอลังการ ตื่นตาตื่นใจ สมจริงสมจังมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า แต่โดยความหมายนัยๆ ยังคงไว้ซึ่ง ความสามัคคี ความรักชาติ รักแผ่นดินอยู่เหมือนเดิม อยากให้ติดตามชมกันครับ รับรองว่าสนุกสนานไม่แพ้ภาคแรกอย่างแน่นอน” วามกล่าวทิ้งท้าย
เตรียมพบกับบทบาทของเข้าได้ใน “บางระจัน 2” ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ 25 มีนาคมนี้ อีกทั้งมีความสามัคคีกัน มากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัวด้วย
97
ของสะสมประเภท handbill / แฟ้ม/ตายโหง
« on: January 29, 2010, 12:17:30 PM »
ได้มาจำนวนหนึ่ง เอาไปเล่นเกมส์แจกมีทติ้งครั้งหน้าแล้วกันคับ
98
ข่าวภาพยนตร์ / ภาพยนตร์เข้าใหม่ ตายโหง 28 มกรา 53
« on: January 24, 2010, 01:29:07 PM »
เรื่องราวของ ชีวิตที่ถูกลิขิตให้ ตายโหง การหยิบเรื่องราวของความอาถรรพ์ จากข่าวดังหน้าหนึ่งมาสู่แผ่นฟิลม์ คุกกองปราบ สยองห้องขังเฮี้ยน ผีโผล่กลางคุก , ขึ้นครู หนุ่มใจกล้าคิดลองดี เปิดห้องอยู่กับผี เจอของจริงถึงกับช๊อก , ศพแท้งก์น้ำฆ่าจับยัดแท๊งก์ สะอิดสะเอียนทั้งหอ กิน-ใช้-อาบ-น้ำแช่ศพ,ไฟไหม้ผับฉลองปีใหม่สุดสลด ย่างสดกว่าร้อยชีวิตหนีตาย ศพเกลื่อนทางออก
ผู้กำกับ พจน์ อานนท์, ธัญญ์วาริน สุขพิสิษฐ์, ชาติชาย เกษนัส, มานุสส วรสิงห์
เรื่องย่อ ตายโหง
เป็นเรื่องราวสุดสะพรึงที่เคยเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์มาแล้ว หลายคนอาจจะผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง
หนัง “ตายโหง” ภายใต้การทำงานของ “พจน์ อานนท์” แบ่งเป็น 4 เรื่องหลัก ที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง แต่ละเรื่องก็มีผู้กำกับอีกที
“ขึ้นครู” เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งที่มีผู้หญิงถูกฆ่าตาย จนเกิดเรื่องราวความสยองขึ้น นำแสดงโดย ใหม่ เจริญปุระ, กาย-รัชชานนท์ สุขประกอบ, มดดำ- คชาภา ตันเจริญ ผลงานกำกับของ “พจน์ อานนท์”
“คุกกองปราบ” กำกับโดย “มานุสส วรสิงห์” กับเรื่องราวสุดสยองขวัญในคุกแห่งหนึ่ง นำแสดงโดย “หนุ่ม อรรถพร” และ “เต๊ะ ศตวรรษ”
“ศพแท็งก์น้ำ” น่าจะเคยได้ยินกันบ้าง ที่มีคนถูกฆ่าแล้วเอาศพไปทิ้งไว้ในแทงก์น้ำหอพักแห่งหนึ่ง กำกับโดย “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน” แสดงนำโดย กระแต ศุภักษร, กัส วีรดิษฐ์, ดิว อริสรา, อัญชลี สายสุนทร
“ซานติฆ่า” คงไม่มีใครไม่รู้จักเรื่องราวแสนเศร้าตอนสิ้นปีใหม่ของปีที่แล้วอดีตผับชื่อดัง ซานติก้านั่นเองครับ ผลงานกำกับโดย “ชาติชาย เกษนัส” นำแสดงโดย “กอล์ฟ อัครา” และ “กบ พิมลรัตน์”
28 มกราคมนี้ มัดตราสังทุกโรง
ผู้กำกับ พจน์ อานนท์, ธัญญ์วาริน สุขพิสิษฐ์, ชาติชาย เกษนัส, มานุสส วรสิงห์
เรื่องย่อ ตายโหง
เป็นเรื่องราวสุดสะพรึงที่เคยเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์มาแล้ว หลายคนอาจจะผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง
หนัง “ตายโหง” ภายใต้การทำงานของ “พจน์ อานนท์” แบ่งเป็น 4 เรื่องหลัก ที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง แต่ละเรื่องก็มีผู้กำกับอีกที
“ขึ้นครู” เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งที่มีผู้หญิงถูกฆ่าตาย จนเกิดเรื่องราวความสยองขึ้น นำแสดงโดย ใหม่ เจริญปุระ, กาย-รัชชานนท์ สุขประกอบ, มดดำ- คชาภา ตันเจริญ ผลงานกำกับของ “พจน์ อานนท์”
“คุกกองปราบ” กำกับโดย “มานุสส วรสิงห์” กับเรื่องราวสุดสยองขวัญในคุกแห่งหนึ่ง นำแสดงโดย “หนุ่ม อรรถพร” และ “เต๊ะ ศตวรรษ”
“ศพแท็งก์น้ำ” น่าจะเคยได้ยินกันบ้าง ที่มีคนถูกฆ่าแล้วเอาศพไปทิ้งไว้ในแทงก์น้ำหอพักแห่งหนึ่ง กำกับโดย “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน” แสดงนำโดย กระแต ศุภักษร, กัส วีรดิษฐ์, ดิว อริสรา, อัญชลี สายสุนทร
“ซานติฆ่า” คงไม่มีใครไม่รู้จักเรื่องราวแสนเศร้าตอนสิ้นปีใหม่ของปีที่แล้วอดีตผับชื่อดัง ซานติก้านั่นเองครับ ผลงานกำกับโดย “ชาติชาย เกษนัส” นำแสดงโดย “กอล์ฟ อัครา” และ “กบ พิมลรัตน์”
28 มกราคมนี้ มัดตราสังทุกโรง