Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: 1 ... 2264 2265 [2266] 2267 2268 ... 2401
33976
แอฟปลื้ม “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 4”
ท่านมุ้ยให้ปล่อยพลังเต็มที่ในหลากบทบาท






แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ เทใจให้ “มณีจันทร์” ใน ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 4  “ศึกนันทบุเรง” แบบสุดตัว เพราะในภาคนี้มีหลากหลายบทบาทที่ท้าทายมากจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่รุมเร้า  มีทั้งฉากเศร้าสะเทือนใจ  ฉากปะทะคารมเชือดเฉือนกับท้าวโสภา  ฉากออดอ้อนโน้มน้าวจิตใจพระนเรศ  และยังมีฉากที่ต้องเจ็บตัวอีก  เป็นบทบาทที่เข้มข้นที่สุดซึ่งแตกต่างไปจากภาคก่อนๆ มาก



“โดยเฉพาะตอนที่ได้ข่าวสำคัญเกี่ยวกับ ‘ไอ้ทิ้ง’ เป็นฉากที่ประทับใจสุดๆ เป็นการแสดงที่ต้องสื่ออารมณ์อย่างยากมากๆ  เพราะมีทั้งตกใจ เสียใจ สะเทือนใจ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตชีวิตนี้มีแค่ 3 คน  เมื่อคนหนึ่งต้องประสบเหตุร้ายในช่วงที่พระนเรศก็ป่วยด้วย จึงเป็นเรื่องเศร้าที่สุดแต่ก็ต้องมีสติ เข้มแข็ง และยังต้องคอยให้กำลังใจพระนเรศอีก  ตอนที่ห้ามไม่ให้ไปรบก็ถูกผลัก...ฉากนี้เจ็บตัวจริงๆ หลายเทคหน่อยเพราะกะน้ำหนักยาก   ช่วงถ่ายทำทั้งตื่นเต้นและเครียดมากเลยค่ะ





ฉากปะทะคารมหรือฉากอื่นๆ ก็ยากตรงที่บทค่อนข้างยาวและเป็นภาษาโบราณ  บางคำยังไม่เคยได้ยินเลยตั้งแต่เกิด ก็ต้องทำความเข้าใจก่อน และคอยปรึกษาท่านมุ้ย ต้องพยายามจำบทยากๆ ให้ได้ในเวลาจำกัด เพราะไม่ค่อยได้บทมาอ่านมาท่องล่วงหน้าซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะตัวของท่านมุ้ยด้วย  แอฟมักจะกังวล-กลัวทำไม่ได้ แต่ท่านมุ้ยก็ให้กำลังใจเสมอ เราก็ทำสุดความสามารถ  เมื่อถ่ายทำแต่ละฉากเสร็จแค่ท่านบอกว่า ‘เห็นมั้ย ฉันเชื่อว่าทำได้’ ก็มีความสุขแล้วกับการที่เราปล่อยพลังออกไปเต็มที่แล้วผู้กำกับและพี่ๆ เพื่อนๆ นักแสดงยอมรับเรา  เป็นความภูมิใจที่สุดที่เรารู้สึกว่าประสบความสำเร็จในการทำงานตรงนั้นเลย โดยไม่ต้องรอติดตามว่าผู้ชมจะชอบรึเปล่า หรือหนังจะทำเงินมั้ย





ความประทับใจอีกเรื่องหนึ่งคือชุดที่ใช้ในแต่ละฉากของภาคนี้สวยมากและมีสีสันมากขึ้นค่ะ มณีจันทร์เป็นมอญ ชุดก็จะสวยแปลกและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมอญ  ซึ่งหม่อมกมลาดูแลเรื่องนี้อย่างพิถีพิถันมากค่ะ”

เตรียมพบกับภาพยนตร์ “ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ภาค 4 - ศึกนันทบุเรง         11 สิงหาคมนี้ พร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

33978
กรมทรัพย์สินทางปัญญา จัด Workshop และนิทรรศการ 10 เมืองต้นแบบ
โชว์ความสำเร็จโครงการเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์

          “กรมทรัพย์สินทางปัญญา” โชว์ความสำเร็จโครงการเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จดอบรมเชิง ปฏิบัติการ (Workshop) และแสดงผลงานพร้อมนิทรรศการใน 10 เมืองต้นแบบ เพื่อให้ผู้แทนจากทุกจังหวัด ได้เข้าเยี่ยมชม   เพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์   มุ่งสร้างมลค่าเพิ่มและรายได้ในทุกภูมิภาค   เสริมความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการค้าโดยรวมของประเทศอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์   เริ่มจัดกิจกรรม ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม - กันยายน ศกนี้



               นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ภายหลังจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้คัดเลือก 10 เมือง/ชุมชน ต้นแบบ จากโครงการเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เมื่อ เดือนพฤษภาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยพิจารณาขอเสนอจาก 73 จังหวัด รวม 108 เมือง ล่าสุดได้เริ่มจัด กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2554  และจัดแสดงผลงานพร้อม นิทรรศการ (Exhibition) ใน 10 เมืองตนแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในเดือนสิงหาคม - กันยายน 2554
 
          โดยแผนการอบรมเชิงปฏิบัติการใน 10  เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์  เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 4-5 กรกฎาคม ที่จังหวัดชัยนาท เมืองแหล่งเมล็ดพันธุ์ขาว (นางลือ-ท่าชัย), วันที่ 6-7 กรกฎาคม จัดที่จังหวัด ลพบุรี เมืองนวัตกรรมแห่งพลังงานทดแทน, วันที่ 8-9 กรกฎาคม จัดที่จังหวัดอ่างทอง ชุมชนเอกราช หมู่บ้าน ท่ากลอง, วันที่ 11-12กรกฎาคม จัดที่จังหวัดยะลา Bird City ศูนย์กลางเศรษฐกิจนก, วันที่ 13-14 กรกฎาคม จัดที่จังหวัดน่าน น่านเมืองเก่าที่มีชีวิต (Nan Living Old Town), วันที่ 19-20 กรกฎาคม จัดที่ จังหวัดเชียงใหม่ เมืองหัตถกรรมสร้างสรรค์ (Chiang Mai : City of Creative Folk Craft), วันที่ 21-22 กรกฎาคม จัดที่จังหวัดลำปาง ลำปางเมืองเซรามิก, วันที่ 25-26 กรกฎาคม จัดที่จังหวัดมหาสารคาม เมือง แห่งการเรียนรู้ สู่การพัฒนาชุมชน , วันที่ 27-28 กรกฎาคม จัดที่จังหวัดเพชรบุรี เมืองเพชร เมืองตาลโตนด และ วันที่ 28-29 กรกฎาคม จัดที่จังหวัดเชียงราย ดอยตุง เมืองแห่งการพัฒนา






               สาหรับแผนการจัดกิจกรรมแสดงผลงานพร้อมนิทรรศการของ 10  เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Exhibition) เพื่อให้ผู้แทนจากทุกจังหวัดได้ไปเยี่ยมชมจะเริ่มในวันที่ 2-3 สิงหาคม ที่จังหวัดอ่างทอง ชุมชน เอกราชหมู่บ้านท่ากลอง, วันที่ 4-5 สิงหาคม ที่จังหวัดลพบุรี เมืองนวัตกรรมแห่งพลังงานทดแทน , วันที่ 8-9 สิงหาคม ที่จังหวัดเชียงราย ดอยตุง เมืองแห่งการพัฒนา, วันที่ 10-11 สิงหาคม ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมือง หัตถกรรมสร้างสรรค์ (Chiang Mai : City of Creative Folk Craft), วันที่ 15-16 สิงหาคม ที่จังหวัดน่าน น่านเมืองเก่าที่มีชีวิต (Nan Living Old Town), วันที่ 17-18 สิงหาคม ที่จังหวัดลำปาง ลำปางเมืองเซรามิก, วันที่ 22-23 สิงหาคม ที่จังหวัดชัยนาท เมืองแหล่งเมล็ดพันธุ์ข้าว (นางลือ-ท่าชุย), วันที่ 24-25 สิงหาคม ที่ จังหวัดเพชรบุรี เมืองเพชร เมืองตาลโตนด, วันที่ 1-2 กันยายน ที่จังหวัดมหาสารคาม เมืองแหงการเรียนรู้ สู่ การพัฒนาชุมชน และวันที่ 5-6 กันยายน ที่จังหวัดยะลา Bird City ศูนย์กลางเศรษฐกิจนก
          ทั้งนี้ นางปัจฉิมา กล่าวเสริมว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ได้รับมอบหมายให้ดำเนิน โครงการเกี่ยวกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากรัฐบาล ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือก 10 เมืองต้นแบบเศรษฐกิจ สร้างสรรค์ (Creative Economy City Model) ที่มีศักยภาพและมีความหลากหลายที่จะเป็นแบบอยางให้ ประชาชนในภูมิภาคและท้องถิ่นตางๆ สามารถไปศึกษาดูงานและเป็นโอกาสให้ประชาชนในทุกภูมิภาคได้ แลกเปลี่ยนความรู้แนวคิดและสร้างโอกาสทางการตลาดระหว่างกัน  รวมทั้งเป็นลู่ทางที่จะเชื่อมโยงต่อยอดให้ เกิดโครงการเมืองสร้างสรรค์กระจายในทุกภูมิภาคของประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ต่อไป
         “หวังเป็นอย่างยิ่งว่า 10 เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่ได้รับการคัดเลือกจะเป็นแบบอย่างที่ดี และสร้างแรงบันดาลใจแก่ชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการค้า โดยรวม ของประเทศ”ต่อไป นางปัจฉิมา กล่าวปิดท้าย




33980
ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ








33981
ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ












33982
ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ




33983
ขนาดA5 แผ่นคู่ ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ




33984
ขนาดA6 แผ่นคู่ประมาณปกแผ่นซีดี ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ




33985
ขนาดA5 แผ่นเดี่ยว ขอบคุณ คุณha-nuที่ส่งภาพมาให้ครับ




33987

          
ในโอกาสนี้ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวแสดงความยินดีความสำเร็จ  ในการจัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติอย่างเป็นรูปธรรม และดีใจกับประชาชนที่จะได้มีหลักประกันในชีวิตที่ร่วมสร้างได้ด้วยเงินออมของตนเอง

“นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปประชาชนในภาคส่วนที่เป็นแรงงานนอกระบบ อาชีพอิสระ นักเรียนนักศึกษา และ ผู้ที่ไม่ได้รับความคุ้มครองทางสังคมเพื่อการชราภาพ จะมีหลักประกันในชีวิตที่เกิดขึ้นจากการร่วมออมเงินกับภาครัฐ ผมจึงใคร่ขอเชิญชวนให้ท่านทั้งหลาย ร่วมเป็นสมาชิกของกองทุนการออมแห่งชาติ เพื่อความมั่นคงในชีวิตของท่าน และกองทุนจะเป็นตัวจักรสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนและเสริมสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะยาวได้อีกด้วย” นายกรณ์ฯ กล่าวในท้ายที่สุด






33988
คลังเปิดตัวกองทุนการออมแห่งชาติ
เตรียมรับสมัครสมาชิกปีหน้า ๘ พฤษภาคม ๒๕๕5 เป็นต้นไป



               กระทรวงการคลังจัดงานเปิดตัวกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ในวันนี้ ภายใต้สโลแกน “เกษียณสุขใจ   มีบำนาญใช้กับ กอช.” มุ่งหวังให้ประชาชนเข้าถึงช่องทางการออมเงินที่เหมาะสม และสร้างหลักประกันทางสังคมแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง โดยปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชาชนผู้ประกอบอาชีพอิสระ และนักเรียนนักศึกษา ร่วมเป็นสักขีพยาน



               นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกองทุน  การออมแห่งชาติในวาระแรก ได้กล่าวรายงานว่า กองทุนการออมแห่งชาติเป็นกองทุนเพื่อการเกษียณอายุ   ภาคสมัครใจ สำหรับผู้ที่ยังไม่มีหลักประกันทางสังคมเพื่อการชราภาพ เพื่อให้มีรายได้หลังเกษียณในรูปบำนาญ และการเปิดตัวกองทุนการออมแห่งชาติในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงช่องทางการเข้าถึงหลักประกันทางสังคม เข้าใจหลักเกณฑ์ของกองทุน และเตรียมพร้อมในการเป็นสมาชิกและออมกับกองทุน  เมื่อกองทุนเปิดรับสมาชิกตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นไป

          นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงที่มาของการจัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติว่า “จากความท้าทายของประเทศที่เข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีความเสี่ยงที่ประชาชนจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ด้อยลงเมื่อย่างเข้าสู่วัยชรา และแม้ว่าประเทศไทยจะมีระบบประกันสังคมในหลายรูปแบบ แต่ที่ผ่านมาผู้ที่ได้รับความคุ้มครองทางสังคมเพื่อการชราภาพจะเป็นผู้ที่มีอาชีพอยู่ในระบบ เช่น ข้าราชการ พนักงานบริษัทเอกชน และพนักงานรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น รวมจำนวนทั้งสิ้น 14.6 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 37  ของประชากรทั้งประเทศ ขณะที่ประชากรวัยแรงงานอีก 35 ล้านคน หรือร้อยละ 53 ของประชากรทั้งประเทศ  ยังไม่ได้รับความคุ้มครองให้มีหลักประกันทางสังคมเพื่อการชราภาพอย่างเหมาะสม จึงได้จัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติขึ้น เพื่อเป็นช่องทางการออมเงินของประชาชนกลุ่มดังกล่าว โดยมีรัฐดูแลส่งเงินสมทบให้”

          นายนริศฯ ได้กล่าวถึงหลักเกณฑ์การออมเงินกับกองทุนว่า ผู้มีสิทธิจะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุ 15 – 60 ปี ไม่เป็นสมาชิกกองทุนอื่นใดที่ได้รับเงินสมทบจากรัฐหรือนายจ้าง และไม่ได้อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญภาครัฐหรือเอกชน โดยสมาชิกสะสมเงินเข้ากองทุนไม่ต่ำกว่าครั้งละ 50 บาท แต่ไม่เกิน 13,200 บาท ต่อปี และรัฐบาลจะให้เงินสมทบตามช่วงอายุของสมาชิกและเป็นอัตราส่วนกับจำนวนเงินที่สมาชิกสะสม  เข้ากองทุน ตั้งแต่ร้อยละ 50 ถึงร้อยละ 100 โดยไม่เกินเงินสมทบสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับประโยชน์ตอบแทนที่สมาชิกจะได้รับ สมาชิกจะได้รับบำนาญรายเดือนจนตลอดชีวิตเมื่อสมาชิกอายุครบ 60 ปีเป็นต้นไปและมีเงินออมที่มากพอ ซึ่งสมาชิกที่ออมมาก ก็จะได้รับบำนาญมากตามไปด้วย และในกรณีที่สมาชิกทุพพลภาพก่อนอายุครบ 60 ปี จะมีสิทธินำเงินออมของตนออกมาใช้ก่อนได้ นอกจากนี้ หากสมาชิกมีความจำเป็นต้องลาออกจากกองทุน จะได้รับคืนเฉพาะเงินที่ได้ออมไว้ โดยไม่รวมเงินสมทบ อย่างไรก็ดีสมาชิกจะกลับมาเป็นสมาชิกของกองทุนได้อีกตามความสมัครใจ และหากสมาชิกเสียชีวิต กองทุนจะจ่ายเงินให้แก่ผู้ที่สมาชิกได้แจ้งชื่อไว้หรือให้แก่ทายาทของสมาชิก

          “สิทธิประโยชน์ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ รัฐบาลค้ำประกันผลตอบแทนให้สมาชิกได้รับดอกผลจาก  เงินออมไม่น้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำประเภท 12 เดือน โดยเฉลี่ยของธนาคาร นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับบำนาญจาก กอช. จะยังมีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอีกด้วย และที่สำคัญ ในปีแรกที่กองทุนเปิดรับสมาชิก คือระหว่างวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๕ จนถึงวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีสิทธิสมัครเป็นสมาชิกของกองทุนด้วย”

          นายอารีพงศ์ฯ กล่าวสรุปว่า “การสร้างโอกาสในการออม และการส่งเสริมให้ประชาชนมีวินัยการออม เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการสร้างรากฐานชีวิตที่มั่นคง การออมเงินกับ กอช. ในจำนวนขั้นต่ำเพียง 50 บาท     ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถออมได้ โดยเงินออมนี้จะเพิ่มพูนขึ้นจากเงินที่รัฐร่วมสมทบให้ และจากการนำเงินไปลงทุนโดยมืออาชีพ ภายใต้นโยบายการลงทุนตามที่กฎหมายกำหนด อีกทั้ง รัฐยังค้ำประกันผลตอบแทนของสมาชิกอีกด้วย และทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้กองทุนสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก และเป็นหลักประกันการจ่ายบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนแก่สมาชิกเมื่อสิ้นสมาชิกภาพ”[size]



33989
กระทรวงการคลัง เปิดตัวกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.)



               วันนี้ (๑ ก.ค. ๒๕๕๔) กระทรวงการคลัง จัดงานเปิดตัวกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.) ภายใต้สโลแกน “เกษียณสุขใจ  มีบำนาญใช้กับ กอช.” มุ่งหวังให้ประชาชนเข้าถึงช่องทางการออมเงินที่เหมาะสม และสร้างหลักประกันทางสังคมแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง โดยนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติมาเป็นประธาน ร่วมด้วยนายอารีพงศ์  ภู่ชอุ่มปลัดกระทรวงการคลัง นายนริศ  ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง พร้อมผู้บริหารกระทรวงการคลัง ประชาชนผู้ประกอบอาชีพอิสระ และนักเรียนนักศึกษา ร่วมเป็นสักขีพยาน ที่สโมสรกองทัพบกวิภาวดี

33990
“เมโทรบัส” จัดกิจกรรม “คู่หญิงชายจ่ายสบาย 2 คน 30 บาท” ตลอดเดือน ก.ค.นี้





               เมโทรบัส รถสบายประจำทาง จัดกิจกรรมพิเศษสำหรับผู้โดยสาร “คู่หญิงชายจ่ายสบาย 2 คน 30 บาท”จากราคาปกติ 20 บาทตลอดสายต่อท่าน ใน 2 เส้นทางการเดินรถ ได้แก่       ปอ.พ. 10-2 ประตูน้ำ-หมู่บ้านเศรษฐกิจ และ ปอ.พ. 15-2 ปากน้ำ-บางกะปิ นอกจากนี้ ผู้โดยสารที่ชำระค่าโดยสารด้วยบัตรเมโทรพาสหรือบัตรสมาร์ทเพิร์ส จะเสียค่าโดยสารเพียง 15 บาทตลอดสาย เช่นเดียวกัน ตลอดเดือนกรกฎาคม นี้  
          ทั้งนี้ การให้บริการของรถ “เมโทรบัส” รถสบายประจำทาง ได้ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัย และความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร โดยบริษัท พรีเมียร์ เมโทรบัส จำกัด ได้ทำการสำรวจผู้โดยสาร พบว่า มีผู้หญิงใช้บริการรถเมโทรบัสถึง 75% โดยผู้ชายใช้บริการ 25% ซึ่งเชื่อมั่นว่ากิจกรรม “คู่หญิงชายจ่ายสบาย 2 คน 30 บาท” จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการสร้างความสบายให้กับผู้โดยสาร โดยผู้โดยสารสามารถสอบถามรายละเอียดเส้นทางการเดินรถและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เมโทรแคร์ เซ็นเตอร์ 0 2301 1818 หรือ www.metrobusbkk.com


               เส้นทางการเดินรถ ปอ.พ. 10-2 ประตูน้ำ-หมู่บ้านเศรษฐกิจ
               เริ่มต้นที่ ประตูน้ำ-ถ.ราชดำริ-เซ็นทรัลเวิลด์-เพลินจิต-ถ.วิทยุ-ถ.เพชรบุรี-ถ.พิษณุโลก-      
          ถ.นครสวรรค์/ถ.หลานหลวง-ถ.ราชดำเนินกลาง-ถ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า-
          ถ.จรัญสนิทวงศ์-ถ. เพชรเกษม-หมู่บ้านเศรษฐกิจ


               เส้นทางการเดินรถ ปอ.พ. 15-2 ปากน้ำ-บางกะปิ
               เริ่มต้นที่ ตลาดปากน้ำ-ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ-โรงเรียนสตรีสมุทรปราการ-
          สามแยกการไฟฟ้านครหลวง-แยกศรีเทพา (เทพารักษ์)-แยกศรีอุดม (อดุมสุข)-
          พาราไดซ์ พาร์ค-ซีคอนสแควร์-แยกศรีนุช (อ่อนนุช)-แยกศรีพัฒน์ (พัฒนาการ)-
          แอร์พอร์ตลิงค์ หัวหมาก-ถ.ศรีนครินทร์-แยกลำสาลี-บางกะปิ

Pages: 1 ... 2264 2265 [2266] 2267 2268 ... 2401