Show Posts
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
33841
ข่าวภาพยนตร์ / แปซิฟิคไอส์แลนด์ฟิล์ม...เปิดตัวหนังยิ่งใหญ่ “สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)”
« on: August 03, 2009, 12:56:24 PM »
แปซิฟิคไอส์แลนด์ฟิล์ม...เปิดตัวหนังยิ่งใหญ่
“สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)”
เนรมิตตลาดร้อยปีสามชุกมาไว้ที่โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์
แปซิฟิคไอส์แลนด์ฟิล์ม นำโดยนายสมชาย องอาจ ประธานกรรมการบริษัท จัดงานเปิดตัวภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์เรื่อง “สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)” เมื่อวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่ามา โดยเนรมิตลานอินฟินิซิตี้ฮอลล์ โรงภาพยนตร์ พารากอนซีนีเพล็กซ์ เป็นตลาดสามชุก ตลาดเก่าร้อยปีอันดับหนึ่งของประเทศ โดยมีบู้ทสินค้าของที่ระลึกมายมาย รวมถึงอาหารนานาชนิด ซึ่งสั่งตรงมาจากตลาดสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรีกันเลยทีเดียว
เปิดงานด้วยการแสดงชุดระบำถวายมาลัย จากโรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม ต่อจากนั้น นีน่า-กุลนัดดา ปัจฉิมสวัสดิ์ รับหน้าที่ดำเนินรายการ โดยเชิญ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม นายธีระ สลักเพชร ในฐานะตัวแทน นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ติดภารกิจด่วนกระทันหันไม่สามารถมาร่วมงานได้ นายธีระได้กล่าวถึงที่มาที่กระทรวงวัฒนธรรมประกาศร่วมสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้ และยังได้รับเกียรติจากนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาร่วมกล่าวแสดงความยินดีพร้อมร่วมชมภาพยนตร์ ต่อด้วยการแสดงดนตรีประกอบภาพยนตร์ “กอดฉันไว้” จากวง “พาราดอกซ์” จากนั้นเป็นการพูดคุยถึงการทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังกับ นายธนิตย์ จิตนุกูล ผู้กำกับภาพยนตร์, ทีมนักแสดง ปรเมศร์ น้อยอ่ำ, แม่เล็ก-แม่ของตั๊กบงกช, ตุ๊ก-วิมลเลขา ศิริชัยราวรรณ, ธีรภัทร แย้มศรี, พิเชษฎ์พงษ์ โชคประดับ, อำนาจ บัวปรอด, พงศธร ศรีบุญเพ็ง, ศุภณัฐ มีสมศักดิ์, ณัฐชนน ศุภลักษณ์, นวพล เจริญธรรมรักษา, จารุวรรณ สมตัว, สิริกานดา บุญธรรม และปานไพลิน เนตรเพชร ฯลฯ โดยระหว่างนั้น ตั๊ก – บงกช คงมาลัย ได้หอบดอกไม้ช่อใหญ่มาแสดงความยินดีกับแม่เล็ก ปิดท้ายด้วยการถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกันระหว่างประธานในพิธี ผู้บริหารจากแปซิฟิคไอส์แลนด์ฟิล์ม นายสมชาย องอาจ และผู้กำกับพร้อมทีมนักแสดง ก่อนเข้าชมภาพยนตร์
ติดตามชม “สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)” ภาพยนตร์เรื่องแรกที่กระทรวงวัฒนธรรมภูมิใจเสนอให้ ประชาชนทั้งประเทศได้ชม ในวันที่ 5 สิงหาคม นี้ (เลื่อนวันฉาย) ทุกโรงภาพยนตร์
สามชุก
Sam Chuk
“หลายคน...ซื้อชีวิตด้วยยา
แต่บางคน...กลับใช้ยาเพื่อทำลายชีวิต”
ผู้ถือลิขสิทธิ์ บริษัท แปซิฟิคไอร์แลนด์ ฟิลม์ จำกัด
ชื่อไทย สามชุก
เวปไซต์ http://www.samchukmovie.com
ภาพยนตร์แนว ดราม่า
กำหนดฉาย 5 สิงหาคม 2552
ณ โรงภาพยนตร์ ทุกโรงภาพยนตร์
ผู้กำกับภาพยนตร์ ปื๊ด-ธนิตย์ จิตนุกูล
เกี่ยวกับภาพยนตร์
เรื่องราวชีวิตของวัยรุ่นไทยกลุ่มหนึ่งที่กำลังอยู่ในวัยที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต กลายเป็นทาสของยาเสพติดที่ระบาดเข้ามาในโรงเรียนอย่างเงียบๆ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ด้วยความรักและความเข้าใจของอาจารย์ในโรงเรียน จึงทำให้พวกเขารอดพันจากจุดจบที่น่าเศร้าในชีวิตไปได้ สร้างจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ในโรงเรียน สามชุกรัตนโภคาราม อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
จากเรื่องจริง ของเด็ก 7 คนในอำเภอสามชุก ที่มีชีวิตวัยมัธยมเหมือนเด็กทั่วไป มีความรัก มีความคะนอง ทั้ง 7 คน ได้แก่ วาล พัน ยอด เอก นักเรียนตัวแสบชั้น ม. 5 และรุ่นน้องม.4 ที่สนิทกันอีก 3 คน เทพ ปอด โบ๊ะ ชีวิตเด็กทั้ง 7 คนกำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อวาลต้องเริ่มทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระหนี้สิน แม่และวาลต้องแบกหนี้สินของพ่อที่เสียไปแล้วทิ้งไว้ให้ตามลำพังแม่ลูก วาลต้องทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนหลายอย่าง และนี่คือช่องทางแรกที่ยาบ้าแทรกเข้ามาในกลุ่มเด็ก 7 คน ไอ้ดำเพื่อนที่อู่แนะนำให้วาลรู้จักยาบ้า ที่จะทำให้วาลทำงานได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่เหน็ดเหนื่อย กว่าจะรู้ตัวชีวิตวาลก็ตกอยู่ใต้อำนาจของมันอย่างช้าๆ แล้ววาลเป็นสะพานที่นำยาไปสู่เพื่อนๆ อีกหกคน แทนที่ยาจะช่วยให้วาลมีเงินช่วยแม่ใช้หนี้ แต่มันกลับกลายเป็นความต้องการยามากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนทั้งหกหันมาทดลองยาด้วยหลากหลายเหตุผล เทพที่บ้านมีฐานะที่สุดเป็นสปอนเซอร์ให้เพื่อนๆ ทำให้พวกวาลไม่เคยขาดยา
ทุกคนรู้ว่ามันคือสิ่งผิด และไม่ดี แต่พวกเขาไม่สามารถเลิกได้ เรื่องราวเริ่มลุกลามจนถึงตำรวจ ทุกคนพร้อมจะตราหน้าพวกเขาว่าเป็นเด็กเหลือขอ ไม่มีอนาคต อาจารย์พินิจได้ยื่นมือเข้าช่วยเด็กๆไว้ เด็กๆจึงไว้ใจอาจารย์ ทำให้อาจารย์ได้รู้เรื่องราวและปัญหา อาจารย์พินิจพยายามปรับความคิดของเด็กโดยให้ใช้ปัญญาและยืดอกรับปัญหาต่างๆ รวมทั้งปรับความเข้าใจของคนใกล้ชิดเด็ก และชาวบ้านในชุมชนสามชุกไปพร้อมๆกัน ให้ทุกคนได้รู้ว่าปัญหายาเสพติดไม่ได้เป็นความผิดของเด็กฝ่ายเดียว ผู้ปกครองต้องเอาใจใส่ ชุมชนต้องป้องกัน ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ด่าทอโยนความผิดให้กัน อาจารย์พินิจพยายามตะโกนดังๆ ให้ทุกคนในชุนชน และสังคมรู้ว่าปัญหาของเด็ก 7 คนนี้เป็นเพียงลางบอกเหตุ หากทุกคนเลือกที่ปัดปัญหาออกไปง่ายๆ โดยการตัดโอกาศเด็กพวกนี้และปล่อยให้เด็กทั้ง 7 จมหายไปกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อนาคตก็ต้องมีเด็กๆ ลูกๆหลานๆ ของคนในชุมชน ที่ต้องพลาดติดมันอีกอย่างแน่นอน อาจารย์พินิจขอโอกาสให้เด็กๆ ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง และรับปากจะทำให้เด็ก 7 คน เลิกยากลับมาเป็นคนดีและอยู่ร่วมในชุมชนอย่างสงบสุขให้ได้
อาจารย์พินิจนำเด็ก 7 คน เข้ามาอยู่ค่ายประจำที่โรงเรียน และดูแลอย่างใกล้ชิด ให้เด็กทำกิจกรรมต่างๆ เป็นกิจวัตร ทุกเช้าต้องออกกำลังกาย ปลูกกุหลาบ และทำอาหารกินกันเอง การเลิกยาอาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่ท่ามกลางปัญหา และสิ่งยั่วยุมากมาย ถ้าหัวใจ และมิตรภาพของเด็กทั้ง 7 ไม่เข้มแข็งพอ พวกเขาก็จะไม่สามารถผ่านพ้นมันไปได้ อาจารย์พินิจทำได้มากสุดก็แค่ยืนเคียงข้าง และเฝ้ามองวันที่เด็กทั้ง 7 จะก้าวผ่านพ้นมันไปได้ในที่สุด วันนี้ดอกกุหลาบต้นเล็กๆ ที่เด็กและอาจารย์ช่วยกันฟูมฟักออกดอกโชว์ความงาม มันคือตัวแทนของความฝัน และความหวังของทุกคน หากไม่ได้รับโอกาสในวันนั้น คงไม่มีวันนี้ เด็กทั้ง 7 เรียนจบ มีงานดีๆทำ และวันนี้เด็ก 7 คนกลายเป็นพลังผลักดัน และเป็นแรงบันดาลใจให้สามชุกกลายเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง คอยต่อต้านภัยจากยาเสพติดอย่างยั่งยืนตลอดไป
ที่มาของภาพยนตร์
อะไรจะเกินขึ้นในอนาคต หากเยาวชนของชาติตกเป็นทาส “ยาบ้า”
สามชุก ภาพยนตร์จากเค้าโครงเรื่องจริง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก อาจารย์พินิจ พุทธิวาส อาจารย์โรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ที่มองว่ามหันตภัยยาบ้าไม่เพียงระบาดหนักไปทั่วประเทศ แต่ยังได้ลุกลามเข้าสู่สถานศึกษาอันเป็นแหล่งปลูกฝังวิชาความรู้แก่เยาวชนของชาติ หลายโรงเรียนประสบกับปัญหานี้รวมถึงโรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม แม้ว่าผู้เกี่ยวข้องจะมีการแก้ไขกันอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ
จากความเชื่อที่ว่า “หากใครสักคนที่ได้ให้ความรักแท้จริงกับผู้ที่ประสบความล้มเหลว โดยไม่มีเงื่อนไข จะทำให้ผู้นั้นมีพลังในการเปลี่ยนแปลง” ทำให้อาจารย์พินิจ พุทธิวาส เลือกที่จะเชื่อใจและหยิบยื่นโอกาสให้แก่ลูกศิษย์ที่หลงผิดติดยาบ้างอมแงมทั้ง 7 คน ในขณะที่สังคมรุมตราหน้าเด็กเหลือขอเหล่านี้ว่าไม่มีทางกลับตัวได้ อาจารย์พินิจพาเข้าโครงการณ์ “สู่ชีวิตใหม่” ซึ่งเป็นการบำบัดการติดยาแบบแยบยลและเป็นธรรมชาติ และจากโครงการณ์นี้เองที่เป็นที่มาของสารคดี “ยาม้า มหันตภัยในสถานศึกษา” (ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น ยาบ้า) ผลิตโดยบริษัทเจเอสแอล ออกอากาศทางช่อง 7 เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2537 ซี่งได้สร้างกระแสอันเป็นปรากฏการณ์ระดับชาติ เนื่องจากเป็นตัวจุดประกายเร่งเร้าให้ผู้มีส่วนรับผิดชอบบ้านเมืองตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรีถึงขั้นประกาศเปรี้ยงต้องรีบแก้ไขด่วน โดยให้กระทรวงศึกษาธิการดูแลเป็นพิเศษ และขอความร่วมมือผู้ปกครองร่วมสกัดกั้นมหันตภัยร้ายอย่างเข้มงวด
รายละเอียดเกร็ดงานสร้างหนังเรื่องสามชุก
ในการถ่ายทำ ทีมงานได้ยกกองถ่ายไปปักหลักถ่ายทำที่อำเภอสามชุกกันเลยเพื่อให้ได้ภาพและบรรยากาศที่สมจริง นอกจากนี้ยังใช้นักแสดงหลักที่เป็นทั้งเยาวชนและผู้คนในอำเภอสามชุกมาร่วมแสดงเพื่อให้ได้อรรถรสทางด้านภาษาท้องถิ่น
สำหรับนักแสดงเด็กหลักๆ ทางทีมงานได้ใช้วิธีการคัดเลือกโดยการรับสมัครเด็กจากในชุมชนรวมถึงอำเภอใกล้เคียงกันเลยทีเดียว โดยเปิดให้มีการแคสติ้งกันที่ลานโพธิ์ ซึ่งก็มีเด็กมาสมัครมากมาย
ในภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีฉากบางส่วนที่เป็นฉากแรงๆ อย่างฉากเสพยาบ้า ฉากสูบบุหรี่
ฉากบางส่วนในเรื่องจะใช้การอิมโพรไวส์ หรือการด้นสด เนื่องจากอยากได้อารมณ์ที่แท้จริงของตัวละคร อย่างบางฉากไม่รู้จะเขียน ยังไงให้มันเหมือนจริงได้ คือตัวละครในเรื่องพอแสดงมาถึงจุดหนึ่งก็จะรู้ว่าคาแรคเตอร์ของเขาคืออะไร จะพูดอะไร ก็บอกสถาณการณ์เข้าไป เค้าก็จะอิมโพรไวส์ได้เอง ซึ่งมันก็จะเป็นคำพูดที่ค่อนข้างสดและเป็นธรรมชาติกว่า ในเรื่องมีหลายฉากพอสมควร อย่างฉากลานโพธิ์ ซึ่งบางทีไม่รู้ว่าชาวบ้านเขาจะใช้ภาษายังไง เวลาเราเขียนมันดูไม่ใช่ชาวบ้าน ซึ่งผลที่ได้มันดูน่าเชื่อกว่าและสมจริง
“สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)”
เนรมิตตลาดร้อยปีสามชุกมาไว้ที่โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์
แปซิฟิคไอส์แลนด์ฟิล์ม นำโดยนายสมชาย องอาจ ประธานกรรมการบริษัท จัดงานเปิดตัวภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์เรื่อง “สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)” เมื่อวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่ามา โดยเนรมิตลานอินฟินิซิตี้ฮอลล์ โรงภาพยนตร์ พารากอนซีนีเพล็กซ์ เป็นตลาดสามชุก ตลาดเก่าร้อยปีอันดับหนึ่งของประเทศ โดยมีบู้ทสินค้าของที่ระลึกมายมาย รวมถึงอาหารนานาชนิด ซึ่งสั่งตรงมาจากตลาดสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรีกันเลยทีเดียว
เปิดงานด้วยการแสดงชุดระบำถวายมาลัย จากโรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม ต่อจากนั้น นีน่า-กุลนัดดา ปัจฉิมสวัสดิ์ รับหน้าที่ดำเนินรายการ โดยเชิญ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม นายธีระ สลักเพชร ในฐานะตัวแทน นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ติดภารกิจด่วนกระทันหันไม่สามารถมาร่วมงานได้ นายธีระได้กล่าวถึงที่มาที่กระทรวงวัฒนธรรมประกาศร่วมสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้ และยังได้รับเกียรติจากนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาร่วมกล่าวแสดงความยินดีพร้อมร่วมชมภาพยนตร์ ต่อด้วยการแสดงดนตรีประกอบภาพยนตร์ “กอดฉันไว้” จากวง “พาราดอกซ์” จากนั้นเป็นการพูดคุยถึงการทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังกับ นายธนิตย์ จิตนุกูล ผู้กำกับภาพยนตร์, ทีมนักแสดง ปรเมศร์ น้อยอ่ำ, แม่เล็ก-แม่ของตั๊กบงกช, ตุ๊ก-วิมลเลขา ศิริชัยราวรรณ, ธีรภัทร แย้มศรี, พิเชษฎ์พงษ์ โชคประดับ, อำนาจ บัวปรอด, พงศธร ศรีบุญเพ็ง, ศุภณัฐ มีสมศักดิ์, ณัฐชนน ศุภลักษณ์, นวพล เจริญธรรมรักษา, จารุวรรณ สมตัว, สิริกานดา บุญธรรม และปานไพลิน เนตรเพชร ฯลฯ โดยระหว่างนั้น ตั๊ก – บงกช คงมาลัย ได้หอบดอกไม้ช่อใหญ่มาแสดงความยินดีกับแม่เล็ก ปิดท้ายด้วยการถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกันระหว่างประธานในพิธี ผู้บริหารจากแปซิฟิคไอส์แลนด์ฟิล์ม นายสมชาย องอาจ และผู้กำกับพร้อมทีมนักแสดง ก่อนเข้าชมภาพยนตร์
ติดตามชม “สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)” ภาพยนตร์เรื่องแรกที่กระทรวงวัฒนธรรมภูมิใจเสนอให้ ประชาชนทั้งประเทศได้ชม ในวันที่ 5 สิงหาคม นี้ (เลื่อนวันฉาย) ทุกโรงภาพยนตร์
สามชุก
Sam Chuk
“หลายคน...ซื้อชีวิตด้วยยา
แต่บางคน...กลับใช้ยาเพื่อทำลายชีวิต”
ผู้ถือลิขสิทธิ์ บริษัท แปซิฟิคไอร์แลนด์ ฟิลม์ จำกัด
ชื่อไทย สามชุก
เวปไซต์ http://www.samchukmovie.com
ภาพยนตร์แนว ดราม่า
กำหนดฉาย 5 สิงหาคม 2552
ณ โรงภาพยนตร์ ทุกโรงภาพยนตร์
ผู้กำกับภาพยนตร์ ปื๊ด-ธนิตย์ จิตนุกูล
เกี่ยวกับภาพยนตร์
เรื่องราวชีวิตของวัยรุ่นไทยกลุ่มหนึ่งที่กำลังอยู่ในวัยที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต กลายเป็นทาสของยาเสพติดที่ระบาดเข้ามาในโรงเรียนอย่างเงียบๆ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ด้วยความรักและความเข้าใจของอาจารย์ในโรงเรียน จึงทำให้พวกเขารอดพันจากจุดจบที่น่าเศร้าในชีวิตไปได้ สร้างจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ในโรงเรียน สามชุกรัตนโภคาราม อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
จากเรื่องจริง ของเด็ก 7 คนในอำเภอสามชุก ที่มีชีวิตวัยมัธยมเหมือนเด็กทั่วไป มีความรัก มีความคะนอง ทั้ง 7 คน ได้แก่ วาล พัน ยอด เอก นักเรียนตัวแสบชั้น ม. 5 และรุ่นน้องม.4 ที่สนิทกันอีก 3 คน เทพ ปอด โบ๊ะ ชีวิตเด็กทั้ง 7 คนกำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อวาลต้องเริ่มทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระหนี้สิน แม่และวาลต้องแบกหนี้สินของพ่อที่เสียไปแล้วทิ้งไว้ให้ตามลำพังแม่ลูก วาลต้องทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนหลายอย่าง และนี่คือช่องทางแรกที่ยาบ้าแทรกเข้ามาในกลุ่มเด็ก 7 คน ไอ้ดำเพื่อนที่อู่แนะนำให้วาลรู้จักยาบ้า ที่จะทำให้วาลทำงานได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่เหน็ดเหนื่อย กว่าจะรู้ตัวชีวิตวาลก็ตกอยู่ใต้อำนาจของมันอย่างช้าๆ แล้ววาลเป็นสะพานที่นำยาไปสู่เพื่อนๆ อีกหกคน แทนที่ยาจะช่วยให้วาลมีเงินช่วยแม่ใช้หนี้ แต่มันกลับกลายเป็นความต้องการยามากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนทั้งหกหันมาทดลองยาด้วยหลากหลายเหตุผล เทพที่บ้านมีฐานะที่สุดเป็นสปอนเซอร์ให้เพื่อนๆ ทำให้พวกวาลไม่เคยขาดยา
ทุกคนรู้ว่ามันคือสิ่งผิด และไม่ดี แต่พวกเขาไม่สามารถเลิกได้ เรื่องราวเริ่มลุกลามจนถึงตำรวจ ทุกคนพร้อมจะตราหน้าพวกเขาว่าเป็นเด็กเหลือขอ ไม่มีอนาคต อาจารย์พินิจได้ยื่นมือเข้าช่วยเด็กๆไว้ เด็กๆจึงไว้ใจอาจารย์ ทำให้อาจารย์ได้รู้เรื่องราวและปัญหา อาจารย์พินิจพยายามปรับความคิดของเด็กโดยให้ใช้ปัญญาและยืดอกรับปัญหาต่างๆ รวมทั้งปรับความเข้าใจของคนใกล้ชิดเด็ก และชาวบ้านในชุมชนสามชุกไปพร้อมๆกัน ให้ทุกคนได้รู้ว่าปัญหายาเสพติดไม่ได้เป็นความผิดของเด็กฝ่ายเดียว ผู้ปกครองต้องเอาใจใส่ ชุมชนต้องป้องกัน ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ด่าทอโยนความผิดให้กัน อาจารย์พินิจพยายามตะโกนดังๆ ให้ทุกคนในชุนชน และสังคมรู้ว่าปัญหาของเด็ก 7 คนนี้เป็นเพียงลางบอกเหตุ หากทุกคนเลือกที่ปัดปัญหาออกไปง่ายๆ โดยการตัดโอกาศเด็กพวกนี้และปล่อยให้เด็กทั้ง 7 จมหายไปกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อนาคตก็ต้องมีเด็กๆ ลูกๆหลานๆ ของคนในชุมชน ที่ต้องพลาดติดมันอีกอย่างแน่นอน อาจารย์พินิจขอโอกาสให้เด็กๆ ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง และรับปากจะทำให้เด็ก 7 คน เลิกยากลับมาเป็นคนดีและอยู่ร่วมในชุมชนอย่างสงบสุขให้ได้
อาจารย์พินิจนำเด็ก 7 คน เข้ามาอยู่ค่ายประจำที่โรงเรียน และดูแลอย่างใกล้ชิด ให้เด็กทำกิจกรรมต่างๆ เป็นกิจวัตร ทุกเช้าต้องออกกำลังกาย ปลูกกุหลาบ และทำอาหารกินกันเอง การเลิกยาอาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่ท่ามกลางปัญหา และสิ่งยั่วยุมากมาย ถ้าหัวใจ และมิตรภาพของเด็กทั้ง 7 ไม่เข้มแข็งพอ พวกเขาก็จะไม่สามารถผ่านพ้นมันไปได้ อาจารย์พินิจทำได้มากสุดก็แค่ยืนเคียงข้าง และเฝ้ามองวันที่เด็กทั้ง 7 จะก้าวผ่านพ้นมันไปได้ในที่สุด วันนี้ดอกกุหลาบต้นเล็กๆ ที่เด็กและอาจารย์ช่วยกันฟูมฟักออกดอกโชว์ความงาม มันคือตัวแทนของความฝัน และความหวังของทุกคน หากไม่ได้รับโอกาสในวันนั้น คงไม่มีวันนี้ เด็กทั้ง 7 เรียนจบ มีงานดีๆทำ และวันนี้เด็ก 7 คนกลายเป็นพลังผลักดัน และเป็นแรงบันดาลใจให้สามชุกกลายเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง คอยต่อต้านภัยจากยาเสพติดอย่างยั่งยืนตลอดไป
ที่มาของภาพยนตร์
อะไรจะเกินขึ้นในอนาคต หากเยาวชนของชาติตกเป็นทาส “ยาบ้า”
สามชุก ภาพยนตร์จากเค้าโครงเรื่องจริง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก อาจารย์พินิจ พุทธิวาส อาจารย์โรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ที่มองว่ามหันตภัยยาบ้าไม่เพียงระบาดหนักไปทั่วประเทศ แต่ยังได้ลุกลามเข้าสู่สถานศึกษาอันเป็นแหล่งปลูกฝังวิชาความรู้แก่เยาวชนของชาติ หลายโรงเรียนประสบกับปัญหานี้รวมถึงโรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม แม้ว่าผู้เกี่ยวข้องจะมีการแก้ไขกันอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ
จากความเชื่อที่ว่า “หากใครสักคนที่ได้ให้ความรักแท้จริงกับผู้ที่ประสบความล้มเหลว โดยไม่มีเงื่อนไข จะทำให้ผู้นั้นมีพลังในการเปลี่ยนแปลง” ทำให้อาจารย์พินิจ พุทธิวาส เลือกที่จะเชื่อใจและหยิบยื่นโอกาสให้แก่ลูกศิษย์ที่หลงผิดติดยาบ้างอมแงมทั้ง 7 คน ในขณะที่สังคมรุมตราหน้าเด็กเหลือขอเหล่านี้ว่าไม่มีทางกลับตัวได้ อาจารย์พินิจพาเข้าโครงการณ์ “สู่ชีวิตใหม่” ซึ่งเป็นการบำบัดการติดยาแบบแยบยลและเป็นธรรมชาติ และจากโครงการณ์นี้เองที่เป็นที่มาของสารคดี “ยาม้า มหันตภัยในสถานศึกษา” (ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น ยาบ้า) ผลิตโดยบริษัทเจเอสแอล ออกอากาศทางช่อง 7 เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2537 ซี่งได้สร้างกระแสอันเป็นปรากฏการณ์ระดับชาติ เนื่องจากเป็นตัวจุดประกายเร่งเร้าให้ผู้มีส่วนรับผิดชอบบ้านเมืองตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรีถึงขั้นประกาศเปรี้ยงต้องรีบแก้ไขด่วน โดยให้กระทรวงศึกษาธิการดูแลเป็นพิเศษ และขอความร่วมมือผู้ปกครองร่วมสกัดกั้นมหันตภัยร้ายอย่างเข้มงวด
รายละเอียดเกร็ดงานสร้างหนังเรื่องสามชุก
ในการถ่ายทำ ทีมงานได้ยกกองถ่ายไปปักหลักถ่ายทำที่อำเภอสามชุกกันเลยเพื่อให้ได้ภาพและบรรยากาศที่สมจริง นอกจากนี้ยังใช้นักแสดงหลักที่เป็นทั้งเยาวชนและผู้คนในอำเภอสามชุกมาร่วมแสดงเพื่อให้ได้อรรถรสทางด้านภาษาท้องถิ่น
สำหรับนักแสดงเด็กหลักๆ ทางทีมงานได้ใช้วิธีการคัดเลือกโดยการรับสมัครเด็กจากในชุมชนรวมถึงอำเภอใกล้เคียงกันเลยทีเดียว โดยเปิดให้มีการแคสติ้งกันที่ลานโพธิ์ ซึ่งก็มีเด็กมาสมัครมากมาย
ในภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีฉากบางส่วนที่เป็นฉากแรงๆ อย่างฉากเสพยาบ้า ฉากสูบบุหรี่
ฉากบางส่วนในเรื่องจะใช้การอิมโพรไวส์ หรือการด้นสด เนื่องจากอยากได้อารมณ์ที่แท้จริงของตัวละคร อย่างบางฉากไม่รู้จะเขียน ยังไงให้มันเหมือนจริงได้ คือตัวละครในเรื่องพอแสดงมาถึงจุดหนึ่งก็จะรู้ว่าคาแรคเตอร์ของเขาคืออะไร จะพูดอะไร ก็บอกสถาณการณ์เข้าไป เค้าก็จะอิมโพรไวส์ได้เอง ซึ่งมันก็จะเป็นคำพูดที่ค่อนข้างสดและเป็นธรรมชาติกว่า ในเรื่องมีหลายฉากพอสมควร อย่างฉากลานโพธิ์ ซึ่งบางทีไม่รู้ว่าชาวบ้านเขาจะใช้ภาษายังไง เวลาเราเขียนมันดูไม่ใช่ชาวบ้าน ซึ่งผลที่ได้มันดูน่าเชื่อกว่าและสมจริง
33842
ข่าวภาพยนตร์ / “หมู-ธีรภัทร์” “นัฐ – ณัฐชนน” นำทีมนักแสดง “สามชุก”
« on: July 17, 2009, 03:44:56 PM »
“หมู-ธีรภัทร์” “นัฐ – ณัฐชนน” นำทีมนักแสดง “สามชุก”
พาชิล!! ทัวร์ตลาดเก่าร้อยปีที่สามชุก สุพรรณบุรี
หมู-ธีรภัทร์ แย้มศรี และ ณัฐ-ณัฐชนน ศุภลักษณ์ นักแสดงคลื่นลูกใหม่ ที่ตอนนี้ทั้งคู่กำลังมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง “สามชุก” ที่เตรียมจะเข้าฉายในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับชื่อดังอย่าง ปื๊ด – ธนิตย์ จิตนุกูล ที่ยืนยันว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ภาคภูมิใจและค่อนข้างยากที่สุดเท่าที่เคยทำงานหนังมาเลยทีเดียว
หลังจากใช้พื้นที่บริเวณตลาดสามชุกเป็นโลเกชั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งเรื่องมาตลอดระยะเวลาหลายเดือน วันนี้ทั้งสองหนุ่มหล่อ หมูและนัฐ พร้อมกับเพื่อนๆ กลุ่มนักแสดงจากเรื่องนี้ ที่ฝ่าด่านอรหันต์การแคสติ้งแข่งกับเพื่อนๆ จากจังหวัดสุพรรณบุรีกว่าสามร้อยคน จะมาเดินชิลๆ พาเที่ยวพากินกันกับร้านดังในตลาดให้หนำใจ แถมด้วยเช็คเรทติ้งความฮ็อตในตลาดสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี บ้านเกิดนั่นเอง งานนี้เรียกรอยยิ้มและความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้พอสมควร สำหรับพ่อค้า แม่ค้าไม่ต้องพูดถึง เพราะเดินผ่านร้านค้าทีไรก็ต่างทักทายกันด้วยความคุ้นเคย เพราะเกือบทุกร้านค้าในตลาดสามชุกต่างคุ้นเคยกับนักแสดงและทีมงานของหนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะมาปักหลักถ่ายทำหนังที่นี่แล้ว พ่อค้าแม่ค้าบางคนยังได้เข้ากล้องเป็นนักแสดงรับเชิญอีกด้วย
ในเมื่อมาตลาดเก่า ก็ต้องเริ่มต้นด้วยของกินที่ขึ้นชื่อและต้องเป็นสูตรโบราณอย่างทองม้วนโบราณร้อยปี ร้านป้าแป๊ด ที่หมูคอนเฟิร์มว่าอร่อยจริงๆ ใครผ่านมาก็ต้องซื้อเป็นของฝาก นอกจากนั้นยังมีร้านขนมไข่กรอบที่ขายขนมหวานสารพัดสารพัน และข้าวห่อใบบัวต้นตำหรับที่นักท่องเที่ยวนิยมมาอุดหนุน
และก่อนจะแยกย้าย นักแสดงทั้งหมดยังไม่ลืมรวมตัวกันถ่ายรูปกับป้ายทางเข้าตลาดสามชุกและตู้ไปรษณีย์ที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ ที่ถ้าใครมาแล้วไม่ได้ถ่าย จะถือว่ายังมาไม่ถึงสามชุกด้วย
ติดตามเป็นกำลังใจกับผลงานเรื่องแรกของนักแสดงคลื่นลูกใหม่ได้ในภาพยนตร์ “สามชุก” กำหนดฉาย วันที่ 6 สิงหาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
พาชิล!! ทัวร์ตลาดเก่าร้อยปีที่สามชุก สุพรรณบุรี
หมู-ธีรภัทร์ แย้มศรี และ ณัฐ-ณัฐชนน ศุภลักษณ์ นักแสดงคลื่นลูกใหม่ ที่ตอนนี้ทั้งคู่กำลังมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง “สามชุก” ที่เตรียมจะเข้าฉายในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับชื่อดังอย่าง ปื๊ด – ธนิตย์ จิตนุกูล ที่ยืนยันว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ภาคภูมิใจและค่อนข้างยากที่สุดเท่าที่เคยทำงานหนังมาเลยทีเดียว
หลังจากใช้พื้นที่บริเวณตลาดสามชุกเป็นโลเกชั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งเรื่องมาตลอดระยะเวลาหลายเดือน วันนี้ทั้งสองหนุ่มหล่อ หมูและนัฐ พร้อมกับเพื่อนๆ กลุ่มนักแสดงจากเรื่องนี้ ที่ฝ่าด่านอรหันต์การแคสติ้งแข่งกับเพื่อนๆ จากจังหวัดสุพรรณบุรีกว่าสามร้อยคน จะมาเดินชิลๆ พาเที่ยวพากินกันกับร้านดังในตลาดให้หนำใจ แถมด้วยเช็คเรทติ้งความฮ็อตในตลาดสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี บ้านเกิดนั่นเอง งานนี้เรียกรอยยิ้มและความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้พอสมควร สำหรับพ่อค้า แม่ค้าไม่ต้องพูดถึง เพราะเดินผ่านร้านค้าทีไรก็ต่างทักทายกันด้วยความคุ้นเคย เพราะเกือบทุกร้านค้าในตลาดสามชุกต่างคุ้นเคยกับนักแสดงและทีมงานของหนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะมาปักหลักถ่ายทำหนังที่นี่แล้ว พ่อค้าแม่ค้าบางคนยังได้เข้ากล้องเป็นนักแสดงรับเชิญอีกด้วย
ในเมื่อมาตลาดเก่า ก็ต้องเริ่มต้นด้วยของกินที่ขึ้นชื่อและต้องเป็นสูตรโบราณอย่างทองม้วนโบราณร้อยปี ร้านป้าแป๊ด ที่หมูคอนเฟิร์มว่าอร่อยจริงๆ ใครผ่านมาก็ต้องซื้อเป็นของฝาก นอกจากนั้นยังมีร้านขนมไข่กรอบที่ขายขนมหวานสารพัดสารพัน และข้าวห่อใบบัวต้นตำหรับที่นักท่องเที่ยวนิยมมาอุดหนุน
และก่อนจะแยกย้าย นักแสดงทั้งหมดยังไม่ลืมรวมตัวกันถ่ายรูปกับป้ายทางเข้าตลาดสามชุกและตู้ไปรษณีย์ที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ ที่ถ้าใครมาแล้วไม่ได้ถ่าย จะถือว่ายังมาไม่ถึงสามชุกด้วย
ติดตามเป็นกำลังใจกับผลงานเรื่องแรกของนักแสดงคลื่นลูกใหม่ได้ในภาพยนตร์ “สามชุก” กำหนดฉาย วันที่ 6 สิงหาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
33843
ข่าวภาพยนตร์ / “เร” ชอบบทหนัง “หนีตามกาลิเลโอ”ถึงขนาดบอกต้นผู้กำกับ ขอยอมเล่นฟรี!!
« on: July 15, 2009, 01:50:25 PM »
“เร” ชอบบทหนัง “หนีตามกาลิเลโอ”ถึงขนาดบอกต้นผู้กำกับ ขอยอมเล่นฟรี!!
เร แม็คโดนัลด์ พระเอกมาดเซอร์ หนังรัก “หนีตามกาลิเลโอ” ของ ผู้กำกับ ต้น-นิธิวัฒน์ ธราธร ค่าย จีทีเอช เปิดใจ ชอบบทหนัง หนีตามกาลิเลโอมาก ถึงขนาดบอกว่า ถ้าได้อ่านบทเต็มครั้งแรก ให้เล่นฟรีก็ยอม!!
เร แม็คโดนัลด์ เผยว่า “ความรู้สึกแรกที่ผมได้อ่านบทหนังเรื่อง หนีตามกาลิเลโอ ผมอิ่มมาก มันมีครบทุกรส เรียกว่า อิ่ม จุก ครบรส ก่อนหน้านี้ที่ จีทีเอช ติดต่อมา ผมคิดว่าคงเป็นหนังรักเรื่องราวของเพื่อนสาว 2 คน วัยรุ่นแบ็คแพ็คเที่ยวเมืองนอก ขายวิวสวยๆ มากกว่าขายเรื่องราว แต่พออ่านบทจบปุ๊บ วันนี้ผมบอกพี่ต้น ผู้กำกับว่า “เฮ้ยพี่ ทำไมไม่ให้ผมอ่านบททั้งเรื่องก่อน ถ้าผมอ่านก่อน ผมยอมเล่นให้ฟรีก็ได้ หลังจากอ่านบทเสร็จ ผมรีบลุกจากโต๊ะประชุมทันที เพราะถ้านั่งอีกสักพักอาจร้องไห้เหมือนคนอื่น ขนาดตอนขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ยังรู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในลำคอ ซึ่งไม่ใช่เสลดนะครับ แต่มันเป็นความรู้สึกที่จุกและซึ้ง ขนาดเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าผมยังคิดถึงมันอยู่เลย ผมยังเก็บมาเล่าให้แฟนฟังเลยว่า บทหนังเรื่องนี้ดีจริงๆ และพอวันที่บินไปถ่ายหนังเรื่องนี้ที่ฝรั่งเศส ต้องยอมรับว่า เป็นหนังที่ดีจริงๆ ทีมงาน นักแสดงเจ๋งมาก ทุกคนมืออาชีพ และเป็นหนังที่ผมชอบมาก มันครบทุกรส ทั้งเรื่องราวความรักของเพื่อน ครอบครัว รวมถึงคนรัก ถ้าไม่ได้เล่นเรื่องนี้ ผมคงเสียดายแย่ อยากรู้ว่า สนุก ประทับใจขนาดไหนต่าย กับเต้ย น่ารักอย่างไรลองไปดูกันครับ 23 ก.ค.นี้ ทุกโรงภาพยนตร์”
เมื่อปล่อยให้ผู้หญิง สอบตก กับ อกหัก อยู่ด้วยกัน เขาจะหนีไปพร้อมๆ กัน “หนีตามกาลิเลโอ” 23 กรกรฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
เร แม็คโดนัลด์ พระเอกมาดเซอร์ หนังรัก “หนีตามกาลิเลโอ” ของ ผู้กำกับ ต้น-นิธิวัฒน์ ธราธร ค่าย จีทีเอช เปิดใจ ชอบบทหนัง หนีตามกาลิเลโอมาก ถึงขนาดบอกว่า ถ้าได้อ่านบทเต็มครั้งแรก ให้เล่นฟรีก็ยอม!!
เร แม็คโดนัลด์ เผยว่า “ความรู้สึกแรกที่ผมได้อ่านบทหนังเรื่อง หนีตามกาลิเลโอ ผมอิ่มมาก มันมีครบทุกรส เรียกว่า อิ่ม จุก ครบรส ก่อนหน้านี้ที่ จีทีเอช ติดต่อมา ผมคิดว่าคงเป็นหนังรักเรื่องราวของเพื่อนสาว 2 คน วัยรุ่นแบ็คแพ็คเที่ยวเมืองนอก ขายวิวสวยๆ มากกว่าขายเรื่องราว แต่พออ่านบทจบปุ๊บ วันนี้ผมบอกพี่ต้น ผู้กำกับว่า “เฮ้ยพี่ ทำไมไม่ให้ผมอ่านบททั้งเรื่องก่อน ถ้าผมอ่านก่อน ผมยอมเล่นให้ฟรีก็ได้ หลังจากอ่านบทเสร็จ ผมรีบลุกจากโต๊ะประชุมทันที เพราะถ้านั่งอีกสักพักอาจร้องไห้เหมือนคนอื่น ขนาดตอนขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ยังรู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในลำคอ ซึ่งไม่ใช่เสลดนะครับ แต่มันเป็นความรู้สึกที่จุกและซึ้ง ขนาดเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าผมยังคิดถึงมันอยู่เลย ผมยังเก็บมาเล่าให้แฟนฟังเลยว่า บทหนังเรื่องนี้ดีจริงๆ และพอวันที่บินไปถ่ายหนังเรื่องนี้ที่ฝรั่งเศส ต้องยอมรับว่า เป็นหนังที่ดีจริงๆ ทีมงาน นักแสดงเจ๋งมาก ทุกคนมืออาชีพ และเป็นหนังที่ผมชอบมาก มันครบทุกรส ทั้งเรื่องราวความรักของเพื่อน ครอบครัว รวมถึงคนรัก ถ้าไม่ได้เล่นเรื่องนี้ ผมคงเสียดายแย่ อยากรู้ว่า สนุก ประทับใจขนาดไหนต่าย กับเต้ย น่ารักอย่างไรลองไปดูกันครับ 23 ก.ค.นี้ ทุกโรงภาพยนตร์”
เมื่อปล่อยให้ผู้หญิง สอบตก กับ อกหัก อยู่ด้วยกัน เขาจะหนีไปพร้อมๆ กัน “หนีตามกาลิเลโอ” 23 กรกรฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
33844
ของสะสมประเภท handbill / Harry Potter and the Half-Blood Prince
« on: July 15, 2009, 11:51:34 AM »
ขนาดA5 แผ่นคู่ คาดว่าจะมีแบบเดียว
ด้านหน้า+ด้านหลัง
ด้านใน
ด้านหน้า+ด้านหลัง
ด้านใน
33845
ข่าวบันเทิง / นานา – มารีน่า จงเลิศเจษฎาวงศ์ พิธีกรสาวจากรายการพ่อครัวบันเทิง
« on: July 13, 2009, 02:53:51 PM »
นานา – มารีน่า จงเลิศเจษฎาวงศ์ พิธีกรสาวจากรายการพ่อครัวบันเทิง เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ครุศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 เอกการศึกษานอกระบบโรงเรียน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาให้ครอบครัวได้ปลาบปลื้มใจ โดยเฉพาะคุณพ่อ อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ ที่มาร่วมแสดงความยินดีกับลูกสาวคนเก่ง
นานา – มารีน่า จงเลิศเจษฎาวงศ์
บุตรสาว อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฏาวงศ์
การศึกษา : ครุศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 เอก การศึกษานอกระบบโรงเรียน
กำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท บริหารการศึกษา ที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม
การทำงาน : พิธีกร รายการ “พ่อครัวบันเทิง” (ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี เวลา 13.00 – 13.30 น. ทางช่อง 9)
ฝ่ายบริหาร โรงเรียนธุรกิจการอาหารไทยและนานาชาติ
นานา – มารีน่า จงเลิศเจษฎาวงศ์
บุตรสาว อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฏาวงศ์
การศึกษา : ครุศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 เอก การศึกษานอกระบบโรงเรียน
กำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท บริหารการศึกษา ที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม
การทำงาน : พิธีกร รายการ “พ่อครัวบันเทิง” (ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี เวลา 13.00 – 13.30 น. ทางช่อง 9)
ฝ่ายบริหาร โรงเรียนธุรกิจการอาหารไทยและนานาชาติ
33846
ประวัติ handbill & handbill ยุคแรก / HB/อุลตร้าไวโอเล็ต ด้านหลังสองแบบ
« on: July 09, 2009, 04:06:57 PM »
เขาว่าหายากน่าจะจริง มีอยุ่อย่างละใบ
33847
ประวัติ handbill & handbill ยุคแรก / หมอเจ็บ
« on: July 09, 2009, 04:02:04 PM »
เห็นเขาว่าหายาก มีแค่ชุดเดียวเหมือนกัน
33848
ของที่ระลึกเกี่ยวกับหนัง / ที่คั่นหนังสือ the secret of moonacre
« on: July 09, 2009, 03:59:15 PM »
ตามหาได้ตามb2s
33849
ของที่ระลึกเกี่ยวกับหนัง / เข็มกลัดคนเหล็ก4
« on: July 09, 2009, 03:53:33 PM »
มีคนเอามาให้เลยไม่รู้ที่มาเลย
33852
ของที่ระลึกเกี่ยวกับหนัง / หนังสือโฆษณาของLG สวยดีคับมีคนเอามาฝาก
« on: July 06, 2009, 01:07:16 PM »
สวยมากเลยไม่รู้ยังมีแจกอีกหรือปล่าว
33853
ข่าวภาพยนตร์ / โมทีฟพลัส ช่วยชาติ ซื้อตั๋วหนังรูมเมท 1 ใบได้ถึง 2
« on: June 30, 2009, 11:54:21 AM »
โมทีฟพลัส ช่วยชาติ
ซื้อตั๋วหนังรูมเมท 1 ใบได้ถึง 2
ค่ายหนังโมทีฟพลัส ทวนกระแสเศรษฐกิจ นอกจากจะจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้คนทั่วไปแห่เข้าโรงหนังกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมร้องเพลงรักรับ 1,000,000 และกิจกรรม บอกรักรับ 100,000 ที่ประกาศผลกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมเดินสายโปรโมทโชว์ตัวนักแสดงนำ พร้อมจัดกิจกรรม Meet & Greet กันไปเมื่อไม่นานมานี้
และครั้งนี้ทางค่าย โมทีฟพลัส ยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ เพราะปุ๊ก-พันธุ์ธัมม์ ทองสังข์ โปรดิวเซอร์ ของค่ายมีนโยบายว่าต้องทำให้ถึงที่สุด เพื่อกระตุ้นให้คนเข้ามาในโรงหนังเยอะมากขึ้นกว่าเก่า โดยได้จัดโปรโมชั่นช่วยชาติสำหรับคนรักหนังเป็นพิเศษโดยเฉพาะคนที่เข้ามาซื้อตั๋วหนังเรื่อง Roommate เพื่อนร่วมห้อง...ต้องแอบรัก?
งานนี้คนที่ซื้อตั๋วหนังจะไม่ต้องเหงา เมื่อซื้อตั๋วหนังเรื่อง Roommate เพื่อนร่วมห้อง...ต้องแอบรัก? 1 ใบ แถม 1 ใบทันที ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายนนี้ ไปจนตลอดโปรแกรมฉาย ที่โรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, อีจีวี, พารากอน ซีนีเพล็กซ์, เอสพละนาด ซีนีเพล็กซ์ (เฉพาะโรงภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ เท่านั้น)
ใครอยากซึ้งกับใครระหว่างเพื่อนกับแฟน คงต้องเลือกเอาเอง.คนอยากซึ้งกับแฟนไป2จ่ายแค่1 นักเรียนนักศึกษาอยากซึ้งกับเพื่อน จ่ายแค่คนละครึ่ง ถ้าชวนกันไปทั้งห้อง...จ่ายแค่ครึ่งห้องซึ้งกันได้หมดทั้งห้อง
33854
news & activity / Men’s Health ควานหาหนุ่ม ฟิต แอนด์ เฟิร์ม ชิงเงินรางวัลกว่าแสนบาท
« on: June 30, 2009, 11:29:48 AM »
Men’s Health ควานหาหนุ่ม ฟิต แอนด์ เฟิร์ม ชิงเงินรางวัลกว่าแสนบาท
นิตยสาร Men’s Health และ เบียร์ San Mig Light เปิดเวทีค้นหาชายหนุ่มที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ ใส่ใจในการดูแลรูปร่าง เข้าร่วมโครงการ Fit & Firm Guy Search 2009 เพื่อค้นหาชายหนุ่มหุ่นเฟิร์มที่ชอบแฮงก์เอาต์กับเพื่อนฝูง และรักความสนุกเป็นชีวิตจิตใจ เพื่อถ่ายแฟชั่นในนิตยสาร Men’s Health และรับรางวัลเงินสดกว่า 100,000 บาท ชายหนุ่มที่สนใจสามารถสมัครได้ตามช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
1. ใบสมัครในนิตยสาร Men’s Health
2. สมัครผ่านทาง http://menshealth.truelife.com/2009/sml
3. สมัครในกิจกรรมโรดโชว์ ที่ เบียร์ San Mig Light จะเดินทางไปตามผับชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งได้พบกับโชว์สปอร์ตแวร์สุดเซ็กซี่ จากนางแบบเพนต์เฮาส์ ที่สำคัญคือร่วมลุ้นเป็น 1 ใน 12 คนสุดท้าย เพื่อชิงตำแหน่ง SML Light Fit & Firm Guy 2009 ตามสถานที่ต่างๆ ดังต่อไปนี้
2 ก.ค. 52 Pure Bar รัชดาฯ ซ.4
3 ก.ค. 52 Indy Tree Bar ถ.เชื้อเพลิง พระราม 3
9 ก.ค. 52 โสด สโม เอกมัย
ประกาศผลผู้ชนะโครงการ Fit & Firm Guy Search 2009 ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2552 ณ Route 66 RCA เวลา 20.00 น.
นิตยสาร Men’s Health และ เบียร์ San Mig Light เปิดเวทีค้นหาชายหนุ่มที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ ใส่ใจในการดูแลรูปร่าง เข้าร่วมโครงการ Fit & Firm Guy Search 2009 เพื่อค้นหาชายหนุ่มหุ่นเฟิร์มที่ชอบแฮงก์เอาต์กับเพื่อนฝูง และรักความสนุกเป็นชีวิตจิตใจ เพื่อถ่ายแฟชั่นในนิตยสาร Men’s Health และรับรางวัลเงินสดกว่า 100,000 บาท ชายหนุ่มที่สนใจสามารถสมัครได้ตามช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
1. ใบสมัครในนิตยสาร Men’s Health
2. สมัครผ่านทาง http://menshealth.truelife.com/2009/sml
3. สมัครในกิจกรรมโรดโชว์ ที่ เบียร์ San Mig Light จะเดินทางไปตามผับชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งได้พบกับโชว์สปอร์ตแวร์สุดเซ็กซี่ จากนางแบบเพนต์เฮาส์ ที่สำคัญคือร่วมลุ้นเป็น 1 ใน 12 คนสุดท้าย เพื่อชิงตำแหน่ง SML Light Fit & Firm Guy 2009 ตามสถานที่ต่างๆ ดังต่อไปนี้
2 ก.ค. 52 Pure Bar รัชดาฯ ซ.4
3 ก.ค. 52 Indy Tree Bar ถ.เชื้อเพลิง พระราม 3
9 ก.ค. 52 โสด สโม เอกมัย
ประกาศผลผู้ชนะโครงการ Fit & Firm Guy Search 2009 ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2552 ณ Route 66 RCA เวลา 20.00 น.
33855
Enjoyjam Club / ภาพงานmeeting ครั้งที่ 3/ 28มิถุนายน 2009
« on: June 29, 2009, 02:19:28 PM »
และแล้วงานmeetingก็ผ่านไปอีกครั้ง แม้ว่ารถจะติดมากเป็นพิเศษดูราวกับไม่ใช่วันอาทิตย์ก็ตาม
นัดเวลาไว้บ่ายสอง บางคนก็อาจจะมาถึงก่อนบ้าง มาช้าบ้าง ก็ไม่เป็นไรขอแค่ตั้งใจมาก็พอแล้วคับ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณsianbunเป็นพิเศษที่ถือทั้งเสื้อยืด ถุงผ้ามาแจกสมาชิกทุกคน รวมทั้งคุณbuncharcสำหรับhandbill ต่างประเทศด้วย มาไม่ได้ก็ฝากมาแจกใจดีจริงๆเลย
บางส่วนที่หลายคนให้มาร่วมประมูลและนำมาแจก
ก่อนเริ่มงานก็พูดคุยกันก่อน
เริ่มมุ่งมั่นกับhandbill เลือกกันไม่ถูกเลย
สองสาวแอบมาถ่ายรูปกันตอนไหนเนี่ย
สองหนุ่มเห็นคุยกันถูกคอ ตอนประมูลก็สู้ราคากันซะงั้น
โฉมหน้าสองท่านที่ร่วมนำของมาให้ ขอบคุณน๊า คราวหน้าขนมาให้อีกนะ
กองhandbill ที่ต้องหาคนอาสาเอากลับ อย่าเอาไปทิ้งนะ
handbillใหม่ๆคงมีหลายคนช่วยกันหามาให้
ของที่ร่วมประมูลใครได้ชุดไหนไปบ้างหนอ
ชุดนี้เอามาเล่นเกมส์ทายชื่อดาราที่แสดงนำ เก่งกันทุกคนเลยตอบถูกมากกว่า 5 ข้อถือว่าสอบผ่าน
เสื้อยืดหลากหลายได้กันถ้วนหน้า ถุงผ้าลดโลกร้อนด้วยแต่ไม่มีภาพคับ
หลังจบงานหิวมากเลย เลยแวะไปกินข้าวกับสามสาวและหนึ่งหนุ่ม กลับบ้านเจอฝนกระหน่ำเปียกโชกเลยเรา
นัดเวลาไว้บ่ายสอง บางคนก็อาจจะมาถึงก่อนบ้าง มาช้าบ้าง ก็ไม่เป็นไรขอแค่ตั้งใจมาก็พอแล้วคับ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณsianbunเป็นพิเศษที่ถือทั้งเสื้อยืด ถุงผ้ามาแจกสมาชิกทุกคน รวมทั้งคุณbuncharcสำหรับhandbill ต่างประเทศด้วย มาไม่ได้ก็ฝากมาแจกใจดีจริงๆเลย
บางส่วนที่หลายคนให้มาร่วมประมูลและนำมาแจก
ก่อนเริ่มงานก็พูดคุยกันก่อน
เริ่มมุ่งมั่นกับhandbill เลือกกันไม่ถูกเลย
สองสาวแอบมาถ่ายรูปกันตอนไหนเนี่ย
สองหนุ่มเห็นคุยกันถูกคอ ตอนประมูลก็สู้ราคากันซะงั้น
โฉมหน้าสองท่านที่ร่วมนำของมาให้ ขอบคุณน๊า คราวหน้าขนมาให้อีกนะ
กองhandbill ที่ต้องหาคนอาสาเอากลับ อย่าเอาไปทิ้งนะ
handbillใหม่ๆคงมีหลายคนช่วยกันหามาให้
ของที่ร่วมประมูลใครได้ชุดไหนไปบ้างหนอ
ชุดนี้เอามาเล่นเกมส์ทายชื่อดาราที่แสดงนำ เก่งกันทุกคนเลยตอบถูกมากกว่า 5 ข้อถือว่าสอบผ่าน
เสื้อยืดหลากหลายได้กันถ้วนหน้า ถุงผ้าลดโลกร้อนด้วยแต่ไม่มีภาพคับ
หลังจบงานหิวมากเลย เลยแวะไปกินข้าวกับสามสาวและหนึ่งหนุ่ม กลับบ้านเจอฝนกระหน่ำเปียกโชกเลยเรา