Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - du_sit

Pages: 1 [2] 3 4 ... 71
16
โรสวูด กรุงเทพฯ เปิดตัว “Rosewood Bangkok On The Move Drive-Through”
พร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยม สดใหม่ คุณภาพดี




[img width= height= alt=fbc2fc7da6e129eb003a65d947ddacd7.jpg" border="0]https://www.img.in.th/images/fbc2fc7da6e129eb003a65d947ddacd7.jpg[/img]



โรสวูด กรุงเทพฯ เปิดตัว “Rosewood Bangkok On The Move Drive-Through” พร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ พรีเมี่ยม สดใหม่ คุณภาพดี อาทิ  เนื้อสัตว์เกรดพรีเมี่ยม ซอสปรุงรสโฮมเมด ขนมปังหลากชนิด เบเกอรี่อบใหม่ และเซ็ตอาหารเพื่อสุขภาพในคอนเซ็ปต์ไดรฟ์ทรู สามารถสั่งซื้อได้ออนไลน์ และรับสินค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย ในราคาที่จับต้องได้

โดยสำหรับท่านที่สนใจ สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ผ่านทางออนไลน์ อีเมลหรือโทรศัพท์ พร้อมรับผลิตภัณฑ์คุณภาพดีที่ปรุงสดใหม่ภายใน 1 ชั่วโมง ที่ประตูทางเข้าของโรงแรม โรสวูด กรุงเทพฯ ได้ทุกวัน เวลา 11:00 น. ถึง 18:00 น.

โดย Rosewood Bangkok On The Move Drive-Through มีผลิตภัณฑ์สดใหม่มากมายตามฤดูกาล เช่น ผักสด เนื้อเกรดพรีเมี่ยม ซอสปรุงรสพร้อมรับประทานทั้งแบบตะวันตกและไทย ขนมปังโฮมเมดอบใหม่หลากหลายประเภท รวมถึง ขนมปังบาแก็ต ขนมปังคันทรี ขนมปังธัญพืช ขนมปังฟอคคาเซีย และเมนูขนม  เบเกอรี่อื่นๆอีกมากมาย ทั้งยังมีขนมหวานแสนอร่อยที่พร้อมสั่งซื้อได้แล้ว เช่น เลม่อนเมอร์แรงทาร์ต แอปเปิ้ลซินนามอนครัมเบิลทาร์ต เป็นต้น






นอกจากนี้ยังสามารถสั่งซื้อเซ็ตอาหารเพื่อสุขภาพได้ทั้งรายวันและรายสัปดาห์ผ่านทาง Rosewood Bangkok On The Move Drive-Through โดยมีตัวเลือกอย่างเซตอาหารคลีน เซตอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ และเซตอาหารมังสวิรัติ เช่น สปาเก็ตตี้สควอชกับถั่วชิคพี แซลมอนย่างเคลือบด้วยซอสพริกหยวก และบร็อคโคลี   ควินัวคัสเซอโรล

การริเริ่มโครงการไดรฟ์ทรูนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากความมุ่งมั่นของโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯที่ต้องการสนับสนุนและเสริมสร้าง ความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ผลิตในท้องถิ่นและชุมชน โดยนำปรัชญาหลักและโครงการ Partners in Provenance จากเครือโรสวูด โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท เป็นหัวใจสำคัญในการคัดสรรวัตถุดิบสดใหม่ เพื่อนำมาจำหน่าย พร้อมคัดสรรอย่างพิถีพิถันโดยทีมเชฟผู้เชี่ยวชาญของโรงแรมเพื่อนำเสนอวัตถุดิบท้องถิ่นที่สดใหม่และตามฤดูกาล

สอบถามเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่เบอร์ +66 2 080 0088 อีเมล bangkok@rosewoodhotels.com หรือ เว็บไซต์ https://megatix.in.th/events/rosewoodbangkokonthemove



[img width= height= alt=bdbfe964ddf0cdea14adbc32ae4a9895.jpg" border="0]https://www.img.in.th/images/bdbfe964ddf0cdea14adbc32ae4a9895.jpg[/img]



เกี่ยวกับโรสวูด กรุงเทพฯ

โรสวูด กรุงเทพ ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจและแหล่งช้อปปิ้งบนถนนเพลินจิต เป็นโรงแรมระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ที่มีดีไซน์สะดุดตา มีห้องพักจำนวน 158 ห้อง โดยดำเนินการตามปรัชญา A Sense of Place® ของแบรนด์โรสวูด ด้วยการตกแต่งภายในที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน รวมไปถึงประสบการณ์การรับประทานอาหารและสปา ซึ่งเป็นการผสมผสานความร่วมสมัยเข้า,กับมรดกทางวัฒนธรรมและ,ประเพณีไทย ภายในโรงแรม จะมีร้านอาหารและบาร์ 4 แห่งไว้บริการ อีกทั้งยังเติมเต็ม สิ่งอำนวยความสะดวกด้านสันทนาการด้วย เซนส์ สปา จากโรสวูด สตูดิโอฟิตเนส และสระน้ำเกลือในร่มและกลางแจ้ง มีห้องประชุมเดอะพาวิลเลี่ยนและห้องเพลินจิตสำหรับการจัดงานประชุมหรือจัดเลี้ยงในโอกาสสำคัญต่างๆ



17
โรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน เผยกระแสตอบรับท่วมท้น
เตรียมจัดสัมมนาโควิด-19 รอบ 2 ปลายเดือนนี้
เรื่องมุ่งเน้นปัญหาเศรษฐกิจ และขยายความร่วมมือ



กิจกรรมสัมมนาออนไลน์กับการแพทย์อัจฉริยะของโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน ภายใต้หัวข้อ “การป้องกันโรคระบาดด้วยระบบอัจฉริยะตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่-ไต้หวัน สมาร์ท เฮลท์แคร์ และกลยุทธ์ป้องกันโรคโควิด-19” หัวข้อแรกประสบความสำเร็จอย่างสูง มีผู้เข้าร่วมสัมมนาเกินจำนวนที่ห้องประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จะรองรับได้ และหัวข้อที่สองกำลังจะจัดขึ้นในปลายเดือนเมษายนนี้

โรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย (TECO) สถาบันวิจัยเศรษฐกิจจงหัว (CIER) สมาคมคอมพิวเตอร์ไทเป (TCA) ศูนย์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโลหะ (MIRDC) สถาบันเพื่ออุตสาหกรรมสารสนเทศแห่งไต้หวัน (III) สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) กระทรวงอนามัยและสวัสดิการ (MOHW) กระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) (MOFA) และสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมไต้หวัน (IDB) จัดกิจกรรมสัมมานารูปแบบออนไลน์ ภายใต้หัวข้อ “การป้องกันโรคระบาดด้วยระบบอัจฉริยะตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่-ไต้หวัน สมาร์ท เฮลท์แคร์ และกลยุทธ์ป้องกันโรคโควิด-19” ในระหว่างวันที่ 24 เมษายน 63 ถึง 3 กรกฎาคม 63 โดยมีสื่อภาษาจีนเกี่ยวกับประเทศไทย VISION THAI เป็นผู้จัดงานสัมมนาในครั้งนี้

การสัมมนาหัวข้อแรกได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 เมษายน 63 ที่ผ่านมา ภายใต้หัวข้อ “การรับมือโควิด-19 ในโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน” โดยมีนายแพทย์หลิวจุงหรง จากแผนกระบาดวิทยาโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน เป็นผู้บรรยาย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากเกินจำนวนที่ห้องประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จะรองรับได้ (100คน) โดยมีบุคลากรทางการแพทย์มากมายจากหลากหลายประเทศ อาทิ ไทย พม่า ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ปาปัวนิวกินี มองโกเลีย เนปาล และมาเลเซีย ฯลฯ เข้าร่วมฟังและอภิปราย พร้อมแบ่งปันประสบการณ์

ท่านทูตถงเจิ้นหยวน ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย ได้กล่าวในช่วงเปิดงานว่า “การควบคุมและป้องกันโรคระบาดต่าง ๆ ที่ไต้หวันกำลังดำเนินการอยู่ ได้พิสูจน์แล้วว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของระบบสาธารณสุขโลกที่ไม่อาจขาดได้ ไต้หวันไม่เพียงแต่มีศักยภาพในการให้ความช่วยเหลือเท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้นคือ ในขณะที่ทั่วโลกกำลังประสบปัญหาโรคระบาดรุมเร้า ไต้หวันมีความยินดีและกำลังให้ความช่วยเหลือประเทศทั่วโลก”
นายแพทย์หลิวจุนหรง ได้แบ่งปันประสบการณ์จริงในการรับมือไวรัสโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นมาตรการการรักษาและการเฝ้าระวังผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันโรคแล้ว วิธีจัดการควบคุมจำนวนคนที่เข้ามาในโรงพยาบาลทั้งผู้ป่วยธรรมดาและครอบครัวที่มาดูแลผู้ป่วย รวมถึงมาตรการควบคุมโรคระบาดไม่ให้ระบาดในโรงพยาบาลทุกรูปแบบที่ปฏิบัติได้จริง พร้อมวิเคราะห์และให้คำแนะนำตามสถานการณ์โรคปัจจุบันให้กับประเทศที่เข้าร่วมกิจกรรม การบรรยายเต็มไปด้วยเนื้อหาที่เข้มข้นพร้อมรูปภาพประกอบ นอกจากนี้ ยังมีบุคลากรทางการแพทย์จากหลากหลายประเทศเข้าร่วม โดยเฉพาะประเทศไทย และได้รับประโยชน์มากมายจากการสัมมนาในครั้งนี้


ในช่วงถามคำถามหลังการบรรยาย ประเทศไทย ญี่ปุ่น มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ได้ถามคำถามและให้ความคิดเห็นตามสถานการณ์การระบาดที่ประเทศตัวเองกำลังประสบอยู่ ดร. อุดมศักดิ์ ดรุมาศ จากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และโรงพยาบาลในเครือจึงได้กล่าวว่า  “ด้วยการบรรยายแบ่งปันประสบการณ์ ซึ่งสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงของนายแพทย์หลิว ทำให้เข้าใจการควบคุมโรคครั้งนี้ของไต้หวันมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในช่วงนี้ประเทศไทยเพิ่งใช้การขยายพื้นที่ตรวจโรค และมาตรการเคอร์ฟิวปิดประเทศขั้นเด็ดขาด จึงสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันได้ และยังมีเรื่องที่ประเทศไทยต้องศึกษาอยู่อีกมาก”

สำหรับการสัมมนาหัวข้อที่ 2 คือการมุ่งเน้นปัญหาเศรษฐกิจ และขยายความร่วมมือ ซึ่งตั้งแต่เดือนธันวาคม 62 ที่ผ่านมา สถาณการณ์โรคโควิด-19 ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คน แต่ยังส่งผลในด้านกิจกรรมต่าง ๆ เศรษฐกิจก็ได้รับผลกระทบอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดและเกินกว่าจะจินตนาการไว้ สำหรับเศรษฐกิจโลกนั้นเพียงแค่เด็ดดอกไม้ก็สะเทือนถึงดวงดาว ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเสียเสถียรภาพเพราะเหตุนี้ และจะประคองผ่านความร่วมมือของนานาประเทศทั่วโลกได้อย่างไร ? เป็นประเด็นสำคัญในหัวข้อถัดไปที่จะมีขึ้น บรรยายโดย ดร.หลี่ฉุน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารศูนย์องค์การการค้าโลก (WTO) และความตกลงการค้าระดับภูมิภาค (RTA) จากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจจงหัว ในหัวข้อ “ผลกระทบทางเศรษฐกิจของ COVID-19 ที่มีต่อโลกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ผ่านกิจกรรมสัมมนาออนไลน์และดำเนินการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ผ่านซอฟต์แวร์ และแอปพลิเคชัน Cisco Webex โดยผลตอบรับอย่างท่วมท้นจากการสัมมนาหัวข้อแรกที่ผ่านมา ในการสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อที่ 2 นี้ จะเพิ่มความจุห้องประชุมเพิ่มเป็น 200 คน ติดตามได้ในวันที่ 30 เมษายน 63 15:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่หน้าเว็บไซต์กิจกรรม https://c19webinars.visionthai.net/
   

18
Webinars on The Response to COVID-19 in Taiwan and Smart Healthcare Technology






As a role model for the COVID-19 pandemic management worldwide, how have Taiwan Smart Hospital, Smart Healthcare Companies, and Healthcare System built a strong, coordinated, inclusive, and coherent teamwork in response to COVID-19 crisis with IT technologies? How is COVID-19 pandemic impacting the global and Southeast Asia economic growth?

This series webinars are co-hosted by Changhua Christian Hospital (CCH), Chung-Hua Institution for Economic Research (CIER), Taiwan External Trade Development Council (TAITRA), Taipei Computer Association (TCA), Metal Industries Research and Development Centre (MIRDC), Taiwan Institute for Information Industry (III), and executed by VISION THAI to deepen the relationships and cooperation among Taiwan, Thailand and other Asian countries on smart healthcare development. From April 24, 2020 (Fri), there will be a webinar on different topics every 2-3weeks.
The webinars will invite medical professionals, scholars, researchers, and directors from the public health bureau of government, smart hospitals, Institution for Economic Research and College of Public Health, National Taiwan University (NTUCPH) to share the secrets of “Team Taiwan” combating the COVID-19 epidemic. Besides, we also invite smart healthcare companies to illustrate how their products play an essential role in fighting the COVID-19.

Topic for the first session on April 24, 2020 (Fri) is “Response to COVID-19 in Changhua Christian Hospital” presented by Dr. Liu Chun-Eng, the attending physician in the Department of Infectious Diseases, CCH. He will reveal how CCH responded to COVID-19, including the policies to handle potential nosocomial and community infection, and also the cooperation with Central Epidemic Command Center (CECC) as well as local public health bureau. All webinars meeting rooms will be set up on Cisco WebEx. Welcome to join us, and look forward to seeing you online!!

(For more information, see https://c19webinars.visionthai.net/ )











19
สมเด็จพระวันรัต เป็นประธานพิธีเปิดโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย CP ของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์






วันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๓  สมเด็จพระวันรัต กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร (ประธานฝ่ายสงฆ์) ในพิธีเปิดโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย CP แก่ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์  ประธานอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ซึ่งตั้ง ณ จ.สมุทรปราการ เริ่มเดินเครื่องในวันนี้  ด้วยกำลังการผลิต 3 ล้านชิ้นต่อเดือน เพื่อแจกให้บุคลากรทางการแพทย์ฟรี














20
ในหลวง ทรงโปรดให้ สมเด็จพระสังฆราช
ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช
เนื่องในพระราชพิธีสงกรานต์ พุทธศักราช ๒๕๖๓







วันพุธ ที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๖๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดให้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช และสมเด็จพระบรมราชบุพการี เนื่องในพระราชพิธีสงกรานต์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

การนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการแก้วบูชาพระพุทธอังคีรส ประธานพระอุโบสถ ทรงกราบราบ จากนั้น เจ้าพนักงานอาราธนาศีล ประธานสงฆ์ถวายศีล พระสงฆ์ ๗๗ รูปเจริญพระพุทธมนต์เนื่องในพระราชพิธีสงกรานต์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ และถวายพรพระ จบ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ประเคนภัตตาหารถวายแด่เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประธานองคมนตรีไปประเคนแด่ประธานสงฆ์ ภัตตาหารนอกนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชบริพารผู้ใหญ่ประเคนตามลำดับ

พระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จแล้ว ประธานองคมนตรีจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระโกศบรรจุกระดาษพิมพ์พระปรมาภิไธยสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช และพระนามสมเด็จพระบรมราชบุพการี ๗๗ พระองค์ เจ้าพนักงานลาดพระภูษาโยงจากพระโกศและสุสานหลวงพร้อมแล้ว ประธานองคมนตรีทอดผ้าคู่ถวายพระสงฆ์สำรับแรก พระสงฆ์สดับปกรณ์ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ทั้งนั้นถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก แล้วพระสงฆ์ขึ้นสดับปกรณ์ผ้าคู่เป็นเที่ยวๆ จนครบจำนวน เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช เสด็จไปทรงกราบราบที่หน้าเครื่องนมัสการ แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ เป็นเสร็จการ













21
นายอลงกรณ์  พลบุตร และกลุ่ม"เพื่อนอลงกรณ์"
มอบทุนสนับสนุนการศึกษาบุตรธิดาของสมาคมช่างภาพข่าวสื่อมวลชน(ประเทศไทย)







นายสุรชัย วิเศษโสภา นายกสมาคมช่างภาพข่าวสื่อมวลชน(ประเทศไทย) เข้าพบนายอลงกรณ์  พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกลุ่ม"เพื่อนอลงกรณ์" เพื่อรับมอบทุนสนับสนุนการศึกษาบุตรธิดาของสมาชิกสมาคมฯเมื่อ 17 เมษายน ณ  ห้องรับรอง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์




22
บางกอกกล๊าส วางมาตรการเข้มทุกพื้นที่บริษัทในเครือ สู้ COVID-19
พร้อมดูแลสุขอนามัย และสวัสดิการพนักงานเต็มร้อย






บางกอกกล๊าส หรือบีจี  ผู้นำทางด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจร วางมาตรการเข้มทุกพื้นที่ของบริษัทในเครือ เฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ดูแลสุขอนามัย และความปลอดภัยพนักงาน

จากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) โดยนายปวิณ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ มีความห่วงใยอย่างยิ่ง ต่อพนักงานและคู่ค้าของบริษัทฯ โดยตลอดช่วงที่ผ่านมาได้มีการกำชับสำนักงานทุกแห่งในเครือ ให้ดำเนินตามแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด และเข้มงวด

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้คำนึงถึงความปลอดภัย และสุขอนามัยของพนักงานมาโดยตลอด เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญขององค์กร จึงเริ่มนโยบายให้พนักงานทำงานที่บ้าน (Work From Home: WFH) พร้อมติดตั้งระบบต่างๆ เพื่อสนับสนุน และเพิ่มความสะดวกให้กับพนักงานสำหรับการทำงานจากที่บ้าน ทั้งยังจัดตั้งสื่อกลางสำหรับพนักงาน เพื่อติดตามและรับฟังข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ และมาตรการการรับมือเชื้อไวรัสโควิด-19 ขององค์กร

สำหรับมาตรการที่บริษัทฯ ได้วางไว้ อาทิ จัดเตรียมเจลล้างมือแอลกอฮอล์ไว้ตามจุดต่างๆ ให้พนักงานล้างมือ มีการพ่นยาฆ่าเชื้อในพื้นที่สำนักงานและโรงงานสาขาต่างๆ เป็นประจำทุกสัปดาห์ ไม่อนุญาตให้พนักงานเดินทางไปต่างประเทศ งดการไปฝึกอบรมที่มีผู้คนหนาแน่น หลีกเลี่ยงการเชิญบุคคลภายนอกเข้าพื้นที่ของบริษัทฯ และโรงงาน ทั้งยังปรับใช้พื้นที่ส่วนรวม เช่น โรงอาหาร จุดสแกนเวลาเข้า-ออกงาน ลิฟต์โดยสาร ให้เป็นไปตามแนวทางของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

นอกจากนี้ หากพนักงานจะเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ของบริษัทฯ จะต้องผ่านเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิก่อนทุกครั้ง ถ้าพบว่ามีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จะไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ และส่งตัวไปพบแพทย์ หรือ จป.วิชาชีพ ประจำบริษัทฯ เพื่อประเมินอาการทันที กรณีพนักงานมีอุณหภูมิร่างกาย 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ร่วมกับมีอาการไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อย หายใจลำบาก บริษัทฯ จะให้พักกักตัวที่บ้านเพื่อเฝ้าดูอาการ เป็นเวลา 14 วัน


บางกอกกล๊าส เชื่อมั่นว่า มาตรการป้องกันที่กำหนดขึ้น โดยใส่ใจทุกรายละเอียดในทุกพื้นที่ของบริษัทฯ ในเครือทุกแห่งและได้มีการกำชับอย่างเข้มงวดนี้ จะสามารถช่วยให้พนักงาน และคู่ค้า มีความเชื่อมั่น ถึงความปลอดภัย และสุขอนามัยได้




23
“ดราม่าควีน” ร่วมกับ ร้านอาหารดัง นำร่องโดย “ร้านคั่วกลิ้งผักสด” ส่งมอบอาหารกล่องและพริกคั่วกรอบทุกวัน เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ได้อิ่มและอร่อย เพิ่มพลัง สู้โควิด-19






จุฬาลักษณ์ ผลภิภม ผู้ผลิตและจำหน่าย ดราม่า ควีน พริกคั่วกรอบตำรับชาววัง ร่วมกับร้านอาหารชื่อดังมากมาย นำร่องโดย วเรศรา สมิตะสิริ  เจ้าของร้านอาหาร “คั่วกลิ้งผักสด” ร่วมเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่ต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการมอบอาหารกล่องปรุงสดทุกเช้า พร้อมด้วยพริกคั่วกรอบเพิ่มรสชาติความอร่อย โดยจัดส่งทุกวันหมุนเวียนไปตามโรงพยาบาลต่างๆ “ดราม่าควีน” พร้อมเป็นกำลังเสริมในการส่งการมอบพริกคั่วกรอบสมทบกับผู้ที่มีความประสงค์สนับสนุนอาหารกล่องแก่บุคลากรทางการแพทย์เดือนละ 50,000 ซอง









จุฬาลักษณ์ ผลภิภม ผู้บริหารพริกคั่วกรอบดราม่าควีน กล่าวว่า “ทางดราม่าควีนมีความตั้งใจที่จะส่งมอบอาหารกล่องปรุงสดหลากหลายเมนู เราขอร่วมเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน และหากท่านใด หรือ ร้านอาหารใดมีความประสงค์จะสนับสนุนอาหารกล่องแก่บุคลากรทางการแพทย์สู้ภัยโควิด-19 ‘ดราม่าควีน” ยินดีร่วมสนับสนุน ‘พริกคั่วกรอบ ซองขนาด 3.5 กรัม’ ให้กับอาหารทุกๆ กล่อง เพียงติดต่อมาที่ Line ID @Dramaqueenchilli เพื่อรับพริกคั่วกรอบจากเราได้ทันที ซึ่งหลังจากที่เราดำเนินการส่งมอบข้าวกล่องให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ก็มีอีกหลายร้านอาหารได้ติดต่อเข้ามาร่วมกิจกรรมและสมทบทุน เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพลังแห่งความร่วมมือร่วมใจของทุกท่านจะช่วยให้ประเทศของเราผ่านพ้นวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ไปได้เร็ววัน









โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้ส่งมอบอาหารกล่องปรุงสด “คั่วกลิ้งผักสด” และ “พริกคั่วกรอบดราม่าควีน” ให้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, โรงพยาบาลราชวิถี แล้ว และยังได้ติดต่อเพื่อมอบให้แก่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, สถาบันบำราศนราดูร, โรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต และ โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์,, ทางคั่วกลิ้งผักสดได้มอบข้าวกล่องไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 3,500 กล่อง และดราม่าควีนได้มอบพริกคั่วกรอบไปแล้วกว่า 10,000 ซอง ทั้งนี้ ได้จัดเตรียมพริกคั่วกรอบไว้เดือนละ 50,000 ซองเพื่อมอบสมทบให้แก่ผู้สนใจที่ติดต่อเข้ามาที่ Line ID @Dramaqueenchilli
 
















24
ชมรมช่างภาพการเมืองจัดพิธีมอบทุนการศึกษาบุตร – ธิดา ในรูปแบบใหม่ชมรมช่างภาพการเมืองโมเดล
รองรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 “ส่งทุนถึงบ้านโอนถึงบัญชี”







   คุณอลงกรณ์  พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาชมรมช่างภาพการเมือง เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาบุตร – ธิดา สมาชิกชมรมช่างภาพการเมือง ครั้ง 11 ในวันพุธที่ 1 เมษายน 2563 เวลา 10.00 นาฬิกา ณ ห้องรับรอง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  จัดโดย นายชัยยศ  ศิริสวัสดิ์ ประธานชมรมช่างภาพการเมือง

คุณ อลงกรณ์  พลบุตร ได้กล่าวว่า กิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางชมรมช่างภาพการเมืองจัดขึ้นในทุก ๆ ปี  ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมการมอบทุนการศึกษา กิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อสังคม และอื่น ๆ  นับว่าเป็นกิจกรรมที่ดีและมีประโยชน์เป็นอย่างมาก โดยการมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 11 แล้ว และตนเองได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่ง ด้วยเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ โดยการศึกษาสร้างให้คนมีความรู้ในการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพ มีความอดทนในการต่อสู้กับอุปสรรคของชีวิต จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะให้การสนับสนุนทุนการศึกษาในทุกปี และในฐานะที่ตนเคยเป็นนักหนังสือพิมพ์เก่า จึงเห็นถึงความสำคัญของผู้ร่วมวิชาชีพสื่อมวลชน และยินดีที่ชมรมช่างภาพการเมือง นึกถึงบรรดาช่างภาพอาวุโส และช่างภาพที่ประสบปัญหาการว่างงาน ด้วยการมอบเงินทุนในการดำรงชีพ ในทุก ๆ ปี อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ปัจจุบันยังไม่คลี่คลายและยังคงมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน จึงขอให้ทุกคนระมัดระวังตนเองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค 






นายชัยยศ  ศิริสวัสดิ์ กล่าวว่า การมอบทุนการศึกษาบุตร - ธิดา ของสมาชิกฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระก่อนเปิดภาคเรียน แต่เนื่องด้วยขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางชมรมฯ จึงต้องปฏิบัติตนตามมาตรการของรัฐบาลอย่างเข้มข้น เพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อ แต่ด้วยความจำเป็นด้านทุนทรัพย์ของสมาชิกที่ยังคงมีอยู่ ดังนั้น คณะกรรมการชมรมฯ จึงมีมติให้มีการมอบทุนการศึกษา ในรูปแบบของการโอนเงินเข้าบัญชีสมาชิกโดยตรง โดยในปีนี้ได้มีสมาชิกยื่นขอรับทุน จำนวน 80 ทุน ๆ ละ 3,000 บาท แบ่งเป็นระดับ ชั้นอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา ทุนสำหรับเด็กนักเรียนผู้มีความบกพร่อง ทางสายตา จำนวน 5 ทุน ทุนช่างภาพที่ประสบปัญหาการว่างงาน จำนวน 1 ทุน และทุนช่างภาพอาวุโส จำนวน 6 ทุน ๆ ละ 10,000 บาท






   โอกาสนี้ ทางชมรมฯ ขอกราบขอบพระคุณ คุณอลงกรณ์  พลบุตร และกลุ่มเพื่อนอลงกรณ์ ที่ได้สนับสนุนเงินทุนการศึกษาครั้งนี้เป็น จำนวนเงิน 400,000 บาท ตลอดจนผู้ใหญ่ใจดีทุก ๆ ท่าน นำโดย ฯพณฯ ชวน  หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร คุณเฉลิม อยู่วิทยา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท สยาม ไวเนอรี่ จำกัด คุณ ภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย ดร.วิชัย  ปิยวรรณวงศ์  พร้อมด้วยผู้มีอุปการคุณที่ได้สนับสนุนทีมในการการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล ครั้งที่ 11 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา

   



25
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ ชนมพร ฟาร์ม สนับสนุนไข่ไก่ ให้แก่กำลังพล ตชด.






พลตำรวจโทณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พร้อมด้วย  พลตำรวจตรีมนัส ศิกษมัต  ผู้บังคับ,การคดีปกครองและคดีแพ่ง  พลตำรวจตรีธานี เกษจุโลม  ผู้บังคับการสนับสนุน กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับมอบไข่ไก่ จำนวน ๕,๐๐๐ ฟอง จาก ดร.อัครพัชร์ พร้อมเพรียงชัย และ คุณ สักกนาท พรหมสมบัติ คณะผู้บริหารชนมพรฟาร์ม จ.นครปฐม เพื่อเป็นการสนับสนุนขวัญและกำลังใจ ให้แก่ ข้าราชการกำลังพล ตชด. ในห้วงวิกฤติโควิด ๑๙  ณ ห้องโถง อาคาร ๑ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
























26
‘ชนมพรฟาร์ม’ สนับสนุนไข่ไก่จำนวน ๕,๐๐๐ ฟอง แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ






พลตำรวจโทณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พร้อมด้วย  พลตำรวจตรีมนัส ศิกษมัต  ผู้บังคับการคดีปกครองและคดีแพ่ง  พลตำรวจตรีธานี เกษจุโลม  ผู้บังคับการสนับสนุน กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับมอบไข่ไก่ จำนวน ๕,๐๐๐ ฟอง จาก คุณสักกนาท พรหมสมบัติ คณะผู้บริหารชนมพรฟาร์ม จ.นครปฐม เพื่อเป็นการสนับสนุนขวัญและกำลังใจ ให้แก่ ข้าราชการกำลังพล ตชด. ในห้วงวิกฤติโควิด ๑๙  ณ ห้องโถง อาคาร ๑ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


























27
ถวายไข่ไก่ 5,000 ฟอง ให้แก่วัดยานนาวาตามโครงการพระราชดำริฯ






วันที่ 30 มีนาคม 2563 ดร.อัครพัชร์ พร้อมเพรียงชัย พร้อมด้วย คุณสักกนาท พรหมสมบัติ คณะผู้บริหารชนมพรฟาร์ม จ.นครปฐม นำไข่ไก่ ถวายแด่ เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณะสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม จำนวน 5,000 ฟอง

ถวายร่วมสมทบโรงทานในพระราชดำริ เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก โดย วัดยานนาวา ร่วมกับภาคีเครือข่าย สำนักงานฝ่ายสาธารณะสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม จัดโรงทานสนองพระราชดำริ

ด้วยความห่วงใยช่วยเหลือผู้ประสบความยากลำบากในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ณ วัดยานนาวา เขตสาธร กรุงเทพมหานคร



























28
‘ชนมพรฟาร์ม’ ถวายไข่ไก่ให้แก่วัดยานนาวาตามโครงการพระราชดำริฯ






วันที่ 30 มีนาคม 2563  คุณสักกนาท พรหมสมบัติ ผู้บริหาร ‘ชนมพรฟาร์ม’ จ.นครปฐม นำไข่ไก่ ถวายแด่ เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณะสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม จำนวน 5,000 ฟอง ถวายร่วมสมทบโรงทานในพระราชดำริ เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก โดย วัดยานนาวา ร่วมกับภาคีเครือข่าย สำนักงานฝ่ายสาธารณะสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม จัดโรงทานสนองพระราชดำริ ด้วยความห่วงใยช่วยเหลือผู้ประสบความยากลำบากในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ณ วัดยานนาวา เขตสาธร กรุงเทพมหานคร















29
“ดองกิ ทองหล่อ” ตัดสินใจเปิด “ดอง ดอง ดองกิ” สาขา THE MARKET อังคารที่ 31 มี.ค. นี้






•   ขนสินค้ากว่า 13,000 รายการ ทั้งอาหารสด ผักผลไม้นำเข้าจากญี่ปุ่น อาหารปรุงสำเร็จพร้อมบริโภค อาหารสำเร็จรูป และสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิตให้ลูกค้าได้จับจ่ายใช้สอย
•   ขอเป็นส่วนหนึ่งในการกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็นให้กับลูกค้า
บริษัท ดองกิ ทองหล่อ จำกัด เปิดให้บริการ DON DON DONKI สาขา THE MARKET BANGKOK - THE BIGGEST FLAGSHIP STORE IN THAILAND สาขาที่ 2 ในประเทศไทย เพื่อขอเป็นส่วนหนึ่งในการกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีคุณภาพรวมกว่า 13,000 รายการ ให้ลูกค้าได้เลือกจับจ่ายใช้สอยได้ตามความต้องการ ชูมาตรการภายใต้แนวคิด “สะอาด ปลอดภัย มั่นใจได้” พร้อมเปิดให้บริการวันแรก 31 มีนาคม นี้ ตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 20.00 น. ณ ชั้น 1 THE MARKET BANGKOK ราชประสงค์ 






นาย ชิมานุกิ โยซูเกะ ประธานกรรมการ บริษัท ดองกิ ทองหล่อ จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคมาล่วงหน้าหลายเดือน เพื่อเตรียมเปิดให้บริการ ดอง ดอง ดองกิ เดอะ มาร์เก็ต ตามแผนงานภายในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2563 ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 จนกระทั่งรัฐบาลได้ประกาศมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ขึ้น ทางบริษัทฯ จึงได้ปรึกษาคณะทำงานร่วมกันแล้ว ในสถานการณ์เช่นนี้ ทางบริษัทฯ จึงเห็นพ้องต้องกันว่า พร้อมขอประกาศยืนยันที่จะเปิดให้บริการ “ดอง ดอง ดองกิ สาขาเดอะ มาร์เก็ต” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระจายสินค้าถึงมือผู้บริโภค ด้วยความพร้อมด้านการจัดจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็น อาหารสด เนื้อสัตว์ ผักผลไม้ อาหารญี่ปุ่นปรุงสำเร็จแบบ TAKE AWAY อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูป ของใช้เพื่อรักษาความสะอาดต่างๆ รวมถึงสินค้าเบ็ดเตล็ดต่างๆ รวมกว่า 13,000 รายการ โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น






นอกจากนี้ยังเปิด SHOP IN SHOP แบรนด์ “โจเนทซึ คาคาคุ” แห่งแรกในประเทศไทย จำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตภายใต้การควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานโดย กลุ่มบริษัท PPIH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น

“ขอให้ ‘ดอง ดอง ดองกิ’ ได้เป็นอีกหนึ่งกำลังใจ จากประเทศญี่ปุ่นถึงประเทศไทย โดยให้ลูกค้าได้มีโอกาสเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค คุณภาพดี ตามความต้องการอย่างเพียงพอ” นาย ชิมานุกิ กล่าวทิ้งท้าย






“สำหรับการเปิดให้บริการ ดอง ดอง ดองกิ เดอะ มาร์เก็ต ภายใต้สถานการณ์ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ที่ทางรัฐบาลได้ประกาศไปนั้น ทางบริษัทฯ ได้ยึดแนวทางตามประกาศของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด และเพื่อเป็นการป้องกันสูงสุดให้กับลูกค้าและพนักงานทุกคน จึงเพิ่มมาตรการพิเศษ ได้แก่

1) จำกัดทางเข้าออกของลูกค้าให้เหลือเพียงประตูเดียว

2) ตรวจวัดอุณหภูมิลูกค้าและพนักงานทุกคนบริเวณทางเข้า-ออก

3) จำกัดจำนวนลูกค้าในการเข้าซื้อแต่ละรอบตามความเหมาะสม 

4) จัดเตรียมจุดบริการเจลแอลกอฮอล์

5) เช็ดทำความสะอาดตะกร้าสินค้า แคชเชียร์ จุดบริการอาหาร ตลอดจนบริเวณจุดสัมผัสสาธารณะ พื้นทางเดิน ด้วยน้ำยา  ฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ

6) พนักงานผู้ให้บริการทุกคนต้องได้รับการตรวจสุขภาพ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา สำหรับผู้ประกอบอาหารจะต้องสวมถุงมือและล้างมืออย่างสม่ำเสมอด้วย

7) ให้พนักงานล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังสัมผัสอุปกรณ์สิ่งของ เครื่องใช้ ที่มีผู้สัมผัสจำนวนมาก

8) จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จสำหรับนำไปบริโภคที่อื่น (TAKE AWAY) เท่านั้น”

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FACEBOOK: DON DON DONKI THNAILAD หรือโทรศัพท์ 02-209-5050
































30
กระทรวงเกษตรฯรายงานสถานการณ์การผลิตพืช ปศุสัตว์และประมงล่าสุดมั่นใจเพียงพอไม่ขาดแคลน
“เฉลิมชัย”เน้นเทคโนโลยีออนไลน์บริหารและบริการประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด19







อลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯพร้อมด้วย นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ และนายบรรจง จำนงศิติธรรม รองอธิบดีกรมประมง และเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวง ร่วมกันแถลงข่าว เรื่องผลผลิตด้านการเกษตร ทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติไวรัส COVID-19 ที่อาจก่อให้เกิดความวิตกว่าผลผลิตการเกษตรจะขาดแคลน นั้น อลงกรณ์ พลบุตร กล่าวให้ความมั่นใจว่าในการจัดการห่วงโซ่ของปริมาณผลผลิตทางการเกษตรปี2563ภายใต้ภาวะฉุกเฉินนี้จะเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ และยังมีศักยภาพบางส่วนในการส่งออก ซึ่งในปีที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารอันดับ 2 ของเอเชียรองจากจีน และอันดับที่12ของโลกทั้งนี้หน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรฯ ได้ประมาณการผลิตปี 2563 ทั้งพืช ปศุสัตว์และประมงดังนี้

ข้าว มีการผลิตทั้งหมด  28 ล้านตันข้าวเปลือก มีความต้องการภายในประเทศ 12 ล้านตันข้าวเปลือก คิดเป็น ร้อยละ 42 ของกำลังการผลิต จึงเพียงพอต่อการใช้ภายในประเทศ การส่งออก และเก็บเป็นพันธุ์ข้าวสำหรับการเพาะปลูกต่อไป

สินค้าด้านประมง มีปริมาณการผลิต 2.7 ล้านตันต่อปี โดยเป็นผลผลิตที่จับจากทะเล 1.6 ล้านตัน จับจากแหล่งน้ำจืด 1.8 แสนตัน ผลผลิตจากการเพาะเลี้ยงในน้ำจืด 4 แสนตัน จากการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล 3.7 แสนตัน จากการเพาะเลี้ยงหอยทะเล 44,000 ตัน จากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดอีก 4 แสนตัน อีกทั้งยังมีการสนับสนุนปล่อยพันธุ์เลี้ยงกุ้งก้ามกรามในแหล่งน้ำชุมชนกว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศกว่า 300 ล้านตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลผลิตจากการจับจากทะเลที่มีผลผลิตป้อนเข้าสู่ตลาดทุกวัน โดยเฉลี่ย 22,000 ตันต่อวัน สินค้าด้านปศุสัตว์ ไก่เนื้อ มีกำลังการผลิต 2.8 ล้านตัน ซึ่งเป็นการบริโภคในประเทศ 1.8 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 62 ของกำลังการผลิต ไข่ไก่ มีกำลังการผลิต 15,000 ล้านฟองต่อปี ซึ่งใช้บริโภคในประเทศกว่าร้อยละ 98 ซึ่งยืนยันว่ามีเพียงพอ โดยสามารถผลิตได้วันละ 41 ล้านฟอง บริโภคในประเทศ 40 ล้านฟอง และส่งออก 1 ล้านฟอง โดยในช่วงฤดูร้อนซึ่งส่งผลให้แม่ไก่ออกไข่น้อยกว่าปกติ ก็ยังมีปริมาณเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ และขอความร่วมมืออย่าตื่นตระหนักงดการกักตุนมิฉะนั้นจะมีผู้ฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควรซึ่งต้องช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินคดี สำหรับราคาหน้าฟาร์มขณะนี้อยู่ฟองละ 2.8 บาท สุกรเนื้อ มีกำลังการผลิต 1.68 ล้านตันเพื่อบริโภคภายในประเทศร้อยละ 92 ซึ่งเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ

สินค้าด้านพืช ปาล์มน้ำมัน สำหรับการผลิตน้ำมันพืชสำหรับบริโภค ไทยมีสต็อกน้ำมันปาล์มดิบกว่า 3.5 ล้านตัน ซึ่งมีปริมาณการใช้ 3.3 ล้านตัน ซึ่งเพียงพอต่อการใช้ ทั้งการทำน้ำมันพืช ผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ และการนำไปใช้เป็นพืชพลังงาน มะพร้าว สำหรับกะทิ น้ำมัน และผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่นๆ ซึ่งมีกำลังการผลิตในประเทศ 8.4 แสนตัน มีความต้องการ 1 ล้านตัน โดยนำเข้ามาบางส่วน โดยในระยะสั้นและกลาง ซึ่งในขณะนี้ใกล้ช่วงผลผลิตมะพร้าวออกสู่ตลาด จึงทำให้ไม่เกิดการขาดแคลนมะพร้าว อ้อยไทยสามารถผลผลิตอ้อยได้กว่า 111 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลได้ 12 ล้านตัน ใช้ภายในประเทศ 2.6 ล้านตัน จึงเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ และมีศักยภาพในการส่งออกและแปรรูป ซึ่งขณะนี้ไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลอันดับ 2 ของโลกและยังมีบางส่วนที่สามารถนำไปผลิต เอทานอล ซึ่งนำไปใช้ในแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ หรือเจลล้างมือ เพื่อต่อสู้กับไวรัส COVID-19 และการผลิตแก็สโซฮอลซึ่งเป็นพลังงานเชื้อเพลิง มันสำปะหลัง คาดการณ์ว่ามีปริมาณการผลิตหัวมันสดกว่า 29.4 ล้านตัน ซึ่งสามารถนำไปผลิตเป็นมันเส้น แป้งมัน มันอัดเม็ด และผลิต เอทานอล ได้ 11.7 ล้านตัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีกำลังการผลิตกว่า 4.93 ล้านตัน มีความต้องการใช้ประมาณ 8 ล้านตัน ซึ่งจำเป็นต้องมีการนำเข้ามา เพราะเป็นต้นน้ำในการเลี้ยงสัตว์

ในสถานการณ์ที่โควิด19ระบาดไปทั่วโลกและยังประเมินไม่ได้ว่าจะทอดเวลายาวนานเท่าใดนี้จึงต้องให้ความสำคัญกับการบริหารการผลิตภาคเกษตรกับการส่งออกจะต้องไม่ให้เกิดการขาดแคลนในทุกผลผลิตการเกษตรและอาหารสำหรับการบริโภคภายในประเทศตลอดจนปัญหาด้านแรงงานต่างด้าวที่อาจขาดแคลนในกิจการประมงและภาคเกษตรอื่นๆรวมทั้งการขนส่งโลจิสติกส์ที่อาจมีปัญหาซึ่ง3ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ

นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อนได้สั่งการให้ใช้การบริหารและการบริการออนไลน์( Online platform )ในทุกหน่วยงานเพื่อบริการประชาชนรวมทั้งระบบการออกใบอนุญาตต่างๆเพื่อการผลิตการค้าทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะกรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมวิชาการ มกอช. และมอบหมายให้สศก.ติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์ภาคเกษตรกรรมอย่างใกล้ชิด




Pages: 1 [2] 3 4 ... 71