Show Posts
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
751
news & activity / โรช ไดแอกโนสติกส์ ร่วมงานครบรอบ 36 ปี อย. “รวมพลังเครือข่าย เพื่อคนไทยสุขภาพดี”
« on: December 29, 2010, 05:49:06 PM »
นายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์ (ยืนกลาง) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน ครบรอบ 36 ปี อย. “รวมพลังเครือข่าย เพื่อคนไทยสุขภาพดี” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ดำเนินงานคุ้มครองสุขภาพของประชาชนให้ปลอดภัยจากการบริโภคผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพต่างๆ โดยจัดให้มีการตรวจสุขภาพเบื้องต้นและการออกร้านจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษจากหน่ายงานภาครัฐและเอกชนจำนวนมาก ทั้งนี้ นางสาวสุดาพร ไกรวาปี (ที่1 จากขวา) ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ [ประเทศไทย] จำกัด ได้นำทีมผู้เชี่ยวชาญไปให้บริการบริการตรวจสุขภาพ อาทิ ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดและวัดไขมันในเลือด ให้แก่ประชาชนฟรี ณ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเร็วๆ นี้
752
news & activity / สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคาร ที่ 28 ธันวาคม
« on: December 29, 2010, 05:43:57 PM »
สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคาร ที่ 28 ธันวาคม 2553 เวลา 09.00 น.
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1381 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.16 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.19 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19700 บาท กับ 19800 บาท GFZ10 เปิดที่ 19820 บาท และ GFG11 เปิดที่ 19990 บาท และ GF10Z10 เปิดที่ 19810 บาท และ GF10G11 เปิดที่ 19930 บาท SPDR ถือครอง 1284.97 ตัน (เท่าเดิม) ราคาน้ำมันปิดลบ 51 เซนต์ ปิดที่ระดับ 91 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 18.41 จุด มาปิดที่ระดับ 11555.03 จุด
ราคาทองคำไม่ค่อยเคลื่อนไหวใดๆ ทำให้มีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบา บาง Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 589 คู่สัญญา และ Gold Futures 10 บาท อยู่ที่ 546 คู่สัญญา เมื่อเทียบ Gold Futures 10 บาท จะมีปริมาณคิดเป็น 92% และ มูลค่าเป็น 18% ของGold Futures 50 บาท โดยทั่วไปข่าวทางเศรษฐกิจไม่มีอะไร โดยที่ตลาดลอนดอนและComex ราคาค่อนข้างทรงตัว ปิดตลาดที่ระดับ 1382 เหรียญ โดยที่ข่าวจีนที่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลาดไม่ได้ตอบสนองต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากนักเพราะมองว่าเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อแล้วอัตราดอกเบี้ยยังถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำ ค่าเงินดอลลาร์เองอ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโร ณ ขณะนี้มาอยู่ที่ระดับ 1.3226 ดอลลาร์/ยูโร และเมื่อคืนนี้ไปทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 1.3120 ดอลลาร์/ยูโร
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำไม่ค่อยเคลื่อนไหวเนื่องจากเป็นเทศกาลคริสต์มาส เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1388 เหรียญ โดยภาพรวมราคาทองคำน่าจะสามารถดีดขึ้นและคาดว่าจะขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1400 เหรียญได้ในเร็วๆนี้ แนวรับอยู่ที่ระดับ 1375 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1395 เหรียญ
ราคาทองคำแท่งของไทยปิดตลาดที่ระดับ 19700 บาท และ 19800 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1382 เหรียญ
ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 19650 บาท และมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 19900 บาท
Gold Futures G11 จะมีแนวรับที่ระดับ 19950 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20100 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์การดีดกลับของราคาทองคำ
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ยังเป็นลักษณะทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น รักษา Port ที่ระดับ 65%
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ยังเป็นการถือครอง รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว เช่นเดียวกัน
สรุปว่า ยังเป็นทิศทางขาขึ้นและน่าจะทดสอบระดับ 1400 เหรียญได้ในเร็วๆนี้
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1381 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.16 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.19 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19700 บาท กับ 19800 บาท GFZ10 เปิดที่ 19820 บาท และ GFG11 เปิดที่ 19990 บาท และ GF10Z10 เปิดที่ 19810 บาท และ GF10G11 เปิดที่ 19930 บาท SPDR ถือครอง 1284.97 ตัน (เท่าเดิม) ราคาน้ำมันปิดลบ 51 เซนต์ ปิดที่ระดับ 91 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 18.41 จุด มาปิดที่ระดับ 11555.03 จุด
ราคาทองคำไม่ค่อยเคลื่อนไหวใดๆ ทำให้มีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบา บาง Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 589 คู่สัญญา และ Gold Futures 10 บาท อยู่ที่ 546 คู่สัญญา เมื่อเทียบ Gold Futures 10 บาท จะมีปริมาณคิดเป็น 92% และ มูลค่าเป็น 18% ของGold Futures 50 บาท โดยทั่วไปข่าวทางเศรษฐกิจไม่มีอะไร โดยที่ตลาดลอนดอนและComex ราคาค่อนข้างทรงตัว ปิดตลาดที่ระดับ 1382 เหรียญ โดยที่ข่าวจีนที่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลาดไม่ได้ตอบสนองต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากนักเพราะมองว่าเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อแล้วอัตราดอกเบี้ยยังถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำ ค่าเงินดอลลาร์เองอ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโร ณ ขณะนี้มาอยู่ที่ระดับ 1.3226 ดอลลาร์/ยูโร และเมื่อคืนนี้ไปทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 1.3120 ดอลลาร์/ยูโร
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำไม่ค่อยเคลื่อนไหวเนื่องจากเป็นเทศกาลคริสต์มาส เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1388 เหรียญ โดยภาพรวมราคาทองคำน่าจะสามารถดีดขึ้นและคาดว่าจะขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1400 เหรียญได้ในเร็วๆนี้ แนวรับอยู่ที่ระดับ 1375 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1395 เหรียญ
ราคาทองคำแท่งของไทยปิดตลาดที่ระดับ 19700 บาท และ 19800 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1382 เหรียญ
ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 19650 บาท และมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 19900 บาท
Gold Futures G11 จะมีแนวรับที่ระดับ 19950 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20100 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์การดีดกลับของราคาทองคำ
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ยังเป็นลักษณะทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น รักษา Port ที่ระดับ 65%
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ยังเป็นการถือครอง รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว เช่นเดียวกัน
สรุปว่า ยังเป็นทิศทางขาขึ้นและน่าจะทดสอบระดับ 1400 เหรียญได้ในเร็วๆนี้
753
news & activity / เอสซีจี เปเปอร์ มอบรางวัลโครงการออกแบบปกสมุดโรงเรียน
« on: December 29, 2010, 05:41:17 PM »
บริษัท ผลิตภัณฑ์กระดาษไทย จำกัด ในเอสซีจี เปเปอร์ ผู้นำด้านนวัตกรรมสำหรับกระดาษพิมพ์และเขียนของประเทศ ประกาศผลและมอบรางวัลในโครงการประกวดออกแบบปกสมุดโรงเรียน ภายใต้ชื่อ “My School My Style by Note PRO 2010” โดยมีนายสกล เขมะพรรค (ที่ 3 จากขวา) ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายภาสกร บูรณะวิทย์ (ที่ 2 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์กระดาษไทย จำกัด (SCG Paper) ร่วมมอบเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณให้แก่นักเรียนที่ได้รับรางวัล โดยรางวัลชนะเลิศระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ได้แก่ ด.ญ. ณัฎฐา ปุปผชาติ ร.ร. สารสาสน์เอกตรา และชนะเลิศระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้แก่ น.ส. สุธีรา ศรีตระกูล ร.ร. สาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ ห้องท่าหลวง อาคาร 6 สำนักงานใหญ่ เอสซีจี บางซื่อ เมื่อเร็ว ๆ นี้
754
news & activity / MTS Gold แม่ทองสุก อัดโปรโมชั่นโค้งสุดท้ายของปีสุดพิเศษ
« on: December 29, 2010, 05:32:33 PM »
MTS Gold แม่ทองสุก อัดโปรโมชั่นโค้งสุดท้ายของปีสุดพิเศษ ทองคำรูปพรรณ ลดราคาค่ากำเหน็จสูงสุดถึง 80% ในงาน Thailand Smart Money 2010
ค่ายเอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ส ผู้นำด้านการลงทุนทองคำครบวงจรและผู้นำด้านการลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์ส มอบความสุขส่งท้ายปี ด้วยการจัดแคมเปญโปรโมชั่นสุดพิเศษ ทองคำรูปพรรณ ลดราคาค่ากำเหน็จสูงสุดถึง 80% และโปรโมชั่น “เอ็มทีเอส เทรด โกลด์ฟิวเจอร์ส X4 เท่า” พร้อมรับของสมนาคุณมากมายในงาน Thailand Smart Money ในช่วงวันศุกร์ที่ 24 – วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2553 และให้สิทธิพิเศษรับแต้มสะสมอีกเท่าตัว ภายในงานผู้มาร่วมงานเพียงทำธุรกรรมภายในบูท MTS รับทันทีMTS VIP Card เพื่อนำเป็นส่วนลดสำหรับการซื้อทองในทุกสาขาของ MTS แม่ทองสุก นอกจากนี้ยังสามารถร่วมสนุกลุ้นรับ MTS Teddy Bear กับเกมส์คุมทิศพิชิตการลงทุน ของรางวัล อาทิ LED TV 55", Macbook Pro, iPhone4, i-Pad และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ณ บูธ 3 Main Foyer ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจติดตามข้อมูลได้ที่ www.mtsgold.co.th หรือที่ โทร. 02-222-6222
755
กิจกรรม ช่อง 3 / ส่งความสุข
« on: December 23, 2010, 06:53:20 PM »
ร่วมกันส่งมอบความสุข เนื่องในเทศกาลส่งท้ายปีเก่า – ต้อนรับปีใหม่ สำหรับสองพิธีกร คู่ขวัญ “ภาษิต อภิญญาวาท – ปานระพี ระพีพันธุ์” จากช่วงรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” แถมให้การต้อนรับกลุ่มนิสิต โครงการบัณฑิตศึกษา ในความร่วมมือระหว่างสถาบันวิชาป้องกันประเทศและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มอบความปรารถนาดีผ่านปฏิทินครอบครัวข่าว 3 แถมแจกลายเซ็นต์ใกล้ชิด ระหว่างการเยี่ยมชมดูงาน ณ อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์
756
news & activity / ผู้ลงทุนสามารถเทรดอนุพันธ์ผ่านบริการ Settrade Streaming บน iPhone แล้ววันนี้
« on: December 17, 2010, 06:37:48 PM »
ผู้ลงทุนสามารถเทรดอนุพันธ์ผ่านบริการ Settrade Streaming บน iPhone แล้ววันนี้
บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด บริษัทในเครือของตลาดหลักทรัพย์ฯ พัฒนา “Settrade Streaming” โปรแกรมซื้อขายหลักทรัพย์ บนเครื่องโทรศัพท์ iPhone ให้รองรับการซื้อขายตราสารอนุพันธ์เพิ่มเติมจากการซื้อขายตราสารทุน ตอบสนองความต้องการผู้ลงทุนทั้งตลาดตราสารทุนและตลาดอนุพันธ์อย่างครบวงจรผ่านโปรแกรมเดียว เพิ่มช่องทางให้ผู้ลงทุนซื้อขายอนุพันธ์ได้สะดวกขึ้น
นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ สายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ผ่านอินเทอร์เน็ต เห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายอนุพันธ์ผ่านอินเทอร์เน็ตในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค. - พ.ย. 2553) คิดเป็น 25.79 % ของมูลค่าซื้อขายรวมทั้งตลาด เพิ่มขึ้นจาก 21.19 % ในปี 2552
“จากสถิติผู้ลงทุนที่ซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านมือถือพบว่า มีผู้ทำรายการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านเครื่อง iPhone ณ เดือนพฤศจิกายน 2553 จำนวน 2,666 คนต่อวัน หรือ 79.59% ของจำนวนผู้ลงทุนที่ทำรายการซื้อขายผ่านเครื่องโทรศัพท์มือถือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงได้ให้บริษัทเซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของตลาดหลักทรัพย์ฯ พัฒนาบริการ Settrade Streaming บน iPhone จากเดิมที่รองรับเฉพาะการซื้อขายตราสารทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนมีช่องทางในการส่งคำสั่งซื้อขายทั้งหุ้นและอนุพันธ์ได้สะดวก ครบถ้วน และสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทั้งจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดอนุพันธ์ อย่างรวดเร็ว โดยสามารถทำรายการได้ด้วยตนเองทุกที่ ทุกเวลา นอกจากนี้ยังส่งเสริมการขยายฐานผู้ลงทุนของทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดอนุพันธ์อีกด้วย” นายภากร กล่าว
โปรแกรม Settrade Streaming บน iPhone เวอร์ชั่นนี้ พัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถรองรับการซื้อขายได้ทุกตลาด (Multi-Market) ผู้ลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ทั้งหุ้นและอนุพันธ์ผ่านโปรแกรมเดียว การบริหารจัดการพอร์ตลงทุนแบบ Multi-Account ช่วยให้ผู้ลงทุนที่มีบัญชีซื้อขายมากกว่า 1 บัญชีไม่ว่าจะเป็นบัญชีหลักทรัพย์หรือบัญชีอนุพันธ์ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของพอร์ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามข้อมูลเรียลไทม์ของหลักทรัพย์และอนุพันธ์ได้ทุกประเภททั้ง SET50 Index Futures, SET50 Index Options , Gold Futures, Stock Futures และ Interest Rate Futures พร้อมดูกราฟเปรียบเทียบ นอกจากนี้โปรแกรม Settrade Streaming ยังได้รับการออกแบบมาอย่างสมบูรณ์โดยนำคุณลักษณะเด่นของ iPhone มาใช้ ทำให้ส่งคำสั่งซื้อขายได้อย่างรวดเร็วเพียงสัมผัส (One Touch) การเลื่อนหน้าจอเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งการหมุนหน้าจอ โดยผู้ลงทุนสามารถใช้งานโปรแกรมได้ผ่าน iPhone ที่มี Firmware 3 ขึ้นไป ทั้งรุ่น 3G, 3GS, 4G และ iPod Touch
บริการ Settrade Streaming ผ่าน iPhone ที่รองรับการซื้อขายอนุพันธ์นี้ พร้อมเปิดให้บริการผู้ลงทุนแล้ว โดยสามารถดาวน์โหลด Settrade Streaming ได้ผ่าน App Store ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบริษัทสมาชิกที่ใช้ระบบเซ็ทเทรดจำนวน 32 ราย ดูรายชื่อและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.settrade.com/iphone
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. S-E-T Call Center 0-2229-2222
บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด บริษัทในเครือของตลาดหลักทรัพย์ฯ พัฒนา “Settrade Streaming” โปรแกรมซื้อขายหลักทรัพย์ บนเครื่องโทรศัพท์ iPhone ให้รองรับการซื้อขายตราสารอนุพันธ์เพิ่มเติมจากการซื้อขายตราสารทุน ตอบสนองความต้องการผู้ลงทุนทั้งตลาดตราสารทุนและตลาดอนุพันธ์อย่างครบวงจรผ่านโปรแกรมเดียว เพิ่มช่องทางให้ผู้ลงทุนซื้อขายอนุพันธ์ได้สะดวกขึ้น
นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ สายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ผ่านอินเทอร์เน็ต เห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายอนุพันธ์ผ่านอินเทอร์เน็ตในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค. - พ.ย. 2553) คิดเป็น 25.79 % ของมูลค่าซื้อขายรวมทั้งตลาด เพิ่มขึ้นจาก 21.19 % ในปี 2552
“จากสถิติผู้ลงทุนที่ซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านมือถือพบว่า มีผู้ทำรายการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านเครื่อง iPhone ณ เดือนพฤศจิกายน 2553 จำนวน 2,666 คนต่อวัน หรือ 79.59% ของจำนวนผู้ลงทุนที่ทำรายการซื้อขายผ่านเครื่องโทรศัพท์มือถือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงได้ให้บริษัทเซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของตลาดหลักทรัพย์ฯ พัฒนาบริการ Settrade Streaming บน iPhone จากเดิมที่รองรับเฉพาะการซื้อขายตราสารทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนมีช่องทางในการส่งคำสั่งซื้อขายทั้งหุ้นและอนุพันธ์ได้สะดวก ครบถ้วน และสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทั้งจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดอนุพันธ์ อย่างรวดเร็ว โดยสามารถทำรายการได้ด้วยตนเองทุกที่ ทุกเวลา นอกจากนี้ยังส่งเสริมการขยายฐานผู้ลงทุนของทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดอนุพันธ์อีกด้วย” นายภากร กล่าว
โปรแกรม Settrade Streaming บน iPhone เวอร์ชั่นนี้ พัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถรองรับการซื้อขายได้ทุกตลาด (Multi-Market) ผู้ลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ทั้งหุ้นและอนุพันธ์ผ่านโปรแกรมเดียว การบริหารจัดการพอร์ตลงทุนแบบ Multi-Account ช่วยให้ผู้ลงทุนที่มีบัญชีซื้อขายมากกว่า 1 บัญชีไม่ว่าจะเป็นบัญชีหลักทรัพย์หรือบัญชีอนุพันธ์ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของพอร์ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามข้อมูลเรียลไทม์ของหลักทรัพย์และอนุพันธ์ได้ทุกประเภททั้ง SET50 Index Futures, SET50 Index Options , Gold Futures, Stock Futures และ Interest Rate Futures พร้อมดูกราฟเปรียบเทียบ นอกจากนี้โปรแกรม Settrade Streaming ยังได้รับการออกแบบมาอย่างสมบูรณ์โดยนำคุณลักษณะเด่นของ iPhone มาใช้ ทำให้ส่งคำสั่งซื้อขายได้อย่างรวดเร็วเพียงสัมผัส (One Touch) การเลื่อนหน้าจอเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งการหมุนหน้าจอ โดยผู้ลงทุนสามารถใช้งานโปรแกรมได้ผ่าน iPhone ที่มี Firmware 3 ขึ้นไป ทั้งรุ่น 3G, 3GS, 4G และ iPod Touch
บริการ Settrade Streaming ผ่าน iPhone ที่รองรับการซื้อขายอนุพันธ์นี้ พร้อมเปิดให้บริการผู้ลงทุนแล้ว โดยสามารถดาวน์โหลด Settrade Streaming ได้ผ่าน App Store ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบริษัทสมาชิกที่ใช้ระบบเซ็ทเทรดจำนวน 32 ราย ดูรายชื่อและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.settrade.com/iphone
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. S-E-T Call Center 0-2229-2222
757
news & activity / ทรู เผยโฉมผู้ชนะ “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2010” คัดสรร 9 ทีมสุดยอดนวัตกรไทย
« on: December 17, 2010, 05:59:51 PM »
ทรู เผยโฉมผู้ชนะ “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2010” คัดสรร 9 ทีมสุดยอดนวัตกรไทย จาก 761 ทีมทั่วประเทศ
ทรู เผยโฉมผู้ชนะ “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2010” คัดสรร 9 ทีมสุดยอดนวัตกรไทย จาก 761 ทีมทั่วประเทศ คว้าทั้งเงินรางวัลกว่า 1 ล้านบาท และโอกาสต่อยอดธุรกิจร่วมกับทรู พร้อมสานต่อโครงการหลังประสบความสำเร็จในปีนี้
บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักข่าวต่างประเทศ CNBC ประกาศผล “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2010 ครั้งที่ 1” ภายใต้แนวคิด “รวมความคิด ชาติเชื้อไทย” ณ โรงละครแห่งชาติ โดยผลงาน “Braille Eye” ชนะเลิศประเภท IDEA SEED (เมล็ดพันธุ์ความคิด) และผลงาน “New Era of Lighting Management for Energy Saving” ชนะเลิศประเภท INNO TREE (สุดยอดนวัตกรรม) พร้อมชื่นชมผลงานนวัตกรรมของผู้ชนะทั้ง 9 ทีมจากผู้สนใจเข้าร่วมประกวดกว่า 761 ทีมทั่วประเทศ มอบเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท และโอกาสต่อยอดธุรกิจร่วมกับทรู มั่นใจเดินหน้าโครงการต่อเนื่องหลังประสบความสำเร็จในปีนี้
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “หลังเปิดตัวโครงการ “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2010” ภายใต้แนวคิด “รวมความคิด ชาติเชื้อไทย” เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้สนใจส่งผลงานเข้าร่วมแข่งขันในประเภท IDEA SEED (เมล็ดพันธุ์ความคิด) และ INNO TREE (สุดยอดนวัตกรรม) รวมถึง 761 ทีมทั่วประเทศ น่าภูมิใจที่โครงการได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง และได้รับความร่วมมือจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักข่าวต่างประเทศ CNBC ซึ่งเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ และขอแสดงความชื่นชมแก่ผู้ชนะการประกวดทุกท่านที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพอย่างเต็มที่ นอกเหนือจากเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาทแล้ว ผู้ชนะการประกวดยังมีโอกาสต่อยอดธุรกิจของตนร่วมกับทรู ยกระดับผลงานนวัตกรรมก้าวสู่เวทีนานาชาติต่อไป โดยกลุ่มทรูวางแผนที่จะจัดโครงการ “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์” อย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมพัฒนาผลงานนวัตกรรมของคนไทยอย่างเป็นรูปธรรม สร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ และสังคมไทยในระยะยาว สอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มทรูที่ได้วางไว้”
รองศาสตราจารย์ ดร. อรรณพ ตันละมัย คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “เวทีการประกวด “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2010” เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ได้แสดงถึงพลังความคิดในการสร้างสรรค์งานนวัตกรรมเพื่อพัฒนาทั้งตนเองและสังคมโดยรวม คนรุ่นใหม่เหล่านี้ ถือเป็นทรัพยากรบุคคลสำคัญของชาติในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้พัฒนาต่อไปในอนาคต ผมเชื่อมั่นว่าผลงานนวัตกรรมต่างๆ ที่ผ่านการตัดสินอย่างเข้มงวดโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันชั้นนำของประเทศในครั้งนี้ จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้และสร้างคุณค่าให้แก่วงการศึกษาของประเทศไทยได้อย่างไม่สิ้นสุด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาคภูมิใจที่มีส่วนร่วมจัดฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมให้แก่นักนวัตกรรมไทย บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการที่มิได้มุ่งเน้นเพียงการส่งผลงานเข้าประกวดและมอบรางวัลเท่านั้น แต่ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะต้องได้รับการพัฒนาและฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ของตนอีกด้วย”
นางสาวแจ็คเกอรีน แลม รองประธานฝ่ายการตลาดและกระจายเครือข่าย สำนักข่าวต่างประเทศ CNBC (เอเชีย-แปซิฟิค) กล่าวว่า “ผลงานนวัตกรรมที่ส่งเข้าร่วมการประกวด“ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2010” สะท้อนให้เห็นศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย CNBC (เอเชีย-แปซิฟิค) รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้สนับสนุนโครงการดีๆ เช่นนี้ ร่วมกับองค์กรชั้นนำของประเทศไทย ทั้งจากภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคเอกชน และยินดีที่จะเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์รางวัล และผลงานนวัตกรรมดังกล่าวให้เป็นที่ประจักษ์มากยิ่งขึ้นในระดับสากล”
สำหรับการประกวด “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2010” มีทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 45 ทีม จากจำนวนผู้เข้าร่วมทั้งหมด 761 ทีมทั่วประเทศ แบ่งออกเป็น IDEA SEED (เมล็ดพันธุ์ความคิด) แนวคิดแผนธุรกิจนวัตกรรม จำนวน 23 ทีมจากทั้งหมด 585 ทีม และ INNO TREE (สุดยอดนวัตกรรม) ผลงานนวัตกรรมที่มีการสร้างขึ้นจริง จำนวน 22 ทีมจากทั้งหมด 176 ทีม โดยประกาศผลการตัดสินเมื่อวันพุธที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ โรงละครแห่งชาติ (โรงเล็ก) ถนนราชินี และมีรายละเอียดดังนี้
IDEA SEED (เมล็ดพันธุ์ความคิด)
1. ประเภท Gold ได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท ได้แก่ ผลงาน “Braille Eye”
2. ประเภท Silver 2 รางวัลๆ ละ 50,000 บาท ได้แก่
1. ผลงาน “แผ่นคอมโพสิทเอนกประสงค์อนุรักษ์โลก (Multi-functional Composite PAD for the World)”
2. ผลงาน “Application Specific Instant Video Creation (ASIVC)”
3. ประเภท Bronze 2 รางวัลๆ ละ 20,000 บาท ได้แก่
1. ผลงาน “ZTO – 2 Automobile (กระจกฟิล์มไฟฟ้านาโนทางรถยนต์)”
2. ผลงาน “โลงศพรักษ์ธรรมชาติ”
4. รางวัลชมเชย 5 รางวัลๆ ละ 5,000 บาท ได้แก่
1. ผลงาน “ระบบสแตนบายแบบไม่ใช้พลังงานสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า”
2. ผลงาน “Online System for Collaborative DAISY Audio Book Generation and Sharing”
3. ผลงาน “Taxi Ads Network”
4. ผลงาน “Hybrid to Go”
5. ผลงาน “ระบบส่งผ่านข้อมูลด้วยเสียงบน Mobile (Prodcast)”
INNO TREE (สุดยอดนวัตกรรม)
1. ประเภท Gold ได้รับเงินรางวัล 500,000 บาท ได้แก่
ผลงาน “New Era of Lighting Management for Energy Saving”
2. ประเภท Silver 2 รางวัลๆ ละ 100,000 บาท ได้แก่
1. ผลงาน “สติ๊กเกอร์ตรวจวัดความสุกของทุเรียนโดยการเปลี่ยนสี”
2. ผลงาน “ผนังสำเร็จรูปที่ก้อนโฟมอยู่ภายใน J-BRICK”
3. ประเภท Bronze 1 รางวัล 50,000 บาท ได้แก่
ผลงาน “Ram Crete (คอนกรีตเพื่อสิ่งแวดล้อม)”
4. รางวัลชมเชย 5 รางวัลๆ ละ 10,000 บาท ได้แก่
1. ผลงาน “TSwipe”
2. ผลงาน “ระบบการวินิจฉัยภาพทางการแพทย์ในระยะไกล (TeleDiag: Thai Telemedicine)”
3. ผลงาน “เครื่องกำจัดขยะแบบบูรณาการแทนโลก”
4. ผลงาน “Micro Capillary Tube Plastic”
5. ผลงาน “ระบบตรวจสอบการปลอมแปลงสินค้า (iFakeProof)”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์”
ทีมงาน True Innovation Awards ฝ่าย Organization Development Call Center: 02-699-6368
อีเมล์: trueinnovationaward@gmail.com / เว็บไซต์: www.trueinnovationaward.com
ทรู เผยโฉมผู้ชนะ “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2010” คัดสรร 9 ทีมสุดยอดนวัตกรไทย จาก 761 ทีมทั่วประเทศ คว้าทั้งเงินรางวัลกว่า 1 ล้านบาท และโอกาสต่อยอดธุรกิจร่วมกับทรู พร้อมสานต่อโครงการหลังประสบความสำเร็จในปีนี้
บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักข่าวต่างประเทศ CNBC ประกาศผล “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2010 ครั้งที่ 1” ภายใต้แนวคิด “รวมความคิด ชาติเชื้อไทย” ณ โรงละครแห่งชาติ โดยผลงาน “Braille Eye” ชนะเลิศประเภท IDEA SEED (เมล็ดพันธุ์ความคิด) และผลงาน “New Era of Lighting Management for Energy Saving” ชนะเลิศประเภท INNO TREE (สุดยอดนวัตกรรม) พร้อมชื่นชมผลงานนวัตกรรมของผู้ชนะทั้ง 9 ทีมจากผู้สนใจเข้าร่วมประกวดกว่า 761 ทีมทั่วประเทศ มอบเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท และโอกาสต่อยอดธุรกิจร่วมกับทรู มั่นใจเดินหน้าโครงการต่อเนื่องหลังประสบความสำเร็จในปีนี้
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “หลังเปิดตัวโครงการ “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2010” ภายใต้แนวคิด “รวมความคิด ชาติเชื้อไทย” เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้สนใจส่งผลงานเข้าร่วมแข่งขันในประเภท IDEA SEED (เมล็ดพันธุ์ความคิด) และ INNO TREE (สุดยอดนวัตกรรม) รวมถึง 761 ทีมทั่วประเทศ น่าภูมิใจที่โครงการได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง และได้รับความร่วมมือจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักข่าวต่างประเทศ CNBC ซึ่งเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ และขอแสดงความชื่นชมแก่ผู้ชนะการประกวดทุกท่านที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพอย่างเต็มที่ นอกเหนือจากเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาทแล้ว ผู้ชนะการประกวดยังมีโอกาสต่อยอดธุรกิจของตนร่วมกับทรู ยกระดับผลงานนวัตกรรมก้าวสู่เวทีนานาชาติต่อไป โดยกลุ่มทรูวางแผนที่จะจัดโครงการ “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์” อย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมพัฒนาผลงานนวัตกรรมของคนไทยอย่างเป็นรูปธรรม สร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ และสังคมไทยในระยะยาว สอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มทรูที่ได้วางไว้”
รองศาสตราจารย์ ดร. อรรณพ ตันละมัย คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “เวทีการประกวด “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2010” เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ได้แสดงถึงพลังความคิดในการสร้างสรรค์งานนวัตกรรมเพื่อพัฒนาทั้งตนเองและสังคมโดยรวม คนรุ่นใหม่เหล่านี้ ถือเป็นทรัพยากรบุคคลสำคัญของชาติในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้พัฒนาต่อไปในอนาคต ผมเชื่อมั่นว่าผลงานนวัตกรรมต่างๆ ที่ผ่านการตัดสินอย่างเข้มงวดโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันชั้นนำของประเทศในครั้งนี้ จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้และสร้างคุณค่าให้แก่วงการศึกษาของประเทศไทยได้อย่างไม่สิ้นสุด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาคภูมิใจที่มีส่วนร่วมจัดฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมให้แก่นักนวัตกรรมไทย บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการที่มิได้มุ่งเน้นเพียงการส่งผลงานเข้าประกวดและมอบรางวัลเท่านั้น แต่ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะต้องได้รับการพัฒนาและฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ของตนอีกด้วย”
นางสาวแจ็คเกอรีน แลม รองประธานฝ่ายการตลาดและกระจายเครือข่าย สำนักข่าวต่างประเทศ CNBC (เอเชีย-แปซิฟิค) กล่าวว่า “ผลงานนวัตกรรมที่ส่งเข้าร่วมการประกวด“ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2010” สะท้อนให้เห็นศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย CNBC (เอเชีย-แปซิฟิค) รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้สนับสนุนโครงการดีๆ เช่นนี้ ร่วมกับองค์กรชั้นนำของประเทศไทย ทั้งจากภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคเอกชน และยินดีที่จะเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์รางวัล และผลงานนวัตกรรมดังกล่าวให้เป็นที่ประจักษ์มากยิ่งขึ้นในระดับสากล”
สำหรับการประกวด “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2010” มีทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 45 ทีม จากจำนวนผู้เข้าร่วมทั้งหมด 761 ทีมทั่วประเทศ แบ่งออกเป็น IDEA SEED (เมล็ดพันธุ์ความคิด) แนวคิดแผนธุรกิจนวัตกรรม จำนวน 23 ทีมจากทั้งหมด 585 ทีม และ INNO TREE (สุดยอดนวัตกรรม) ผลงานนวัตกรรมที่มีการสร้างขึ้นจริง จำนวน 22 ทีมจากทั้งหมด 176 ทีม โดยประกาศผลการตัดสินเมื่อวันพุธที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ โรงละครแห่งชาติ (โรงเล็ก) ถนนราชินี และมีรายละเอียดดังนี้
IDEA SEED (เมล็ดพันธุ์ความคิด)
1. ประเภท Gold ได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท ได้แก่ ผลงาน “Braille Eye”
2. ประเภท Silver 2 รางวัลๆ ละ 50,000 บาท ได้แก่
1. ผลงาน “แผ่นคอมโพสิทเอนกประสงค์อนุรักษ์โลก (Multi-functional Composite PAD for the World)”
2. ผลงาน “Application Specific Instant Video Creation (ASIVC)”
3. ประเภท Bronze 2 รางวัลๆ ละ 20,000 บาท ได้แก่
1. ผลงาน “ZTO – 2 Automobile (กระจกฟิล์มไฟฟ้านาโนทางรถยนต์)”
2. ผลงาน “โลงศพรักษ์ธรรมชาติ”
4. รางวัลชมเชย 5 รางวัลๆ ละ 5,000 บาท ได้แก่
1. ผลงาน “ระบบสแตนบายแบบไม่ใช้พลังงานสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า”
2. ผลงาน “Online System for Collaborative DAISY Audio Book Generation and Sharing”
3. ผลงาน “Taxi Ads Network”
4. ผลงาน “Hybrid to Go”
5. ผลงาน “ระบบส่งผ่านข้อมูลด้วยเสียงบน Mobile (Prodcast)”
INNO TREE (สุดยอดนวัตกรรม)
1. ประเภท Gold ได้รับเงินรางวัล 500,000 บาท ได้แก่
ผลงาน “New Era of Lighting Management for Energy Saving”
2. ประเภท Silver 2 รางวัลๆ ละ 100,000 บาท ได้แก่
1. ผลงาน “สติ๊กเกอร์ตรวจวัดความสุกของทุเรียนโดยการเปลี่ยนสี”
2. ผลงาน “ผนังสำเร็จรูปที่ก้อนโฟมอยู่ภายใน J-BRICK”
3. ประเภท Bronze 1 รางวัล 50,000 บาท ได้แก่
ผลงาน “Ram Crete (คอนกรีตเพื่อสิ่งแวดล้อม)”
4. รางวัลชมเชย 5 รางวัลๆ ละ 10,000 บาท ได้แก่
1. ผลงาน “TSwipe”
2. ผลงาน “ระบบการวินิจฉัยภาพทางการแพทย์ในระยะไกล (TeleDiag: Thai Telemedicine)”
3. ผลงาน “เครื่องกำจัดขยะแบบบูรณาการแทนโลก”
4. ผลงาน “Micro Capillary Tube Plastic”
5. ผลงาน “ระบบตรวจสอบการปลอมแปลงสินค้า (iFakeProof)”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ทรู อินโนเวชั่น อวอร์ดส์”
ทีมงาน True Innovation Awards ฝ่าย Organization Development Call Center: 02-699-6368
อีเมล์: trueinnovationaward@gmail.com / เว็บไซต์: www.trueinnovationaward.com
758
กิจกรรม ช่อง 3 / Book for gift ปันน้ำใจให้โครงการห่มรัก
« on: December 17, 2010, 05:57:10 PM »
Book for gift ปันน้ำใจให้โครงการห่มรัก
ริสรวล อร่ามเจริญ (กลาง) นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย มอบเงินรายได้จากการจำหน่ายชุดหนังสือของขวัญจากคนดังจากหลากหลายวงการในโครงการ “Book for Gift Charity Day” ให้แก่ กิติพันธุ์ นุตยกุล (ที่สามจากขวา) เพื่อสมทบเข้าโครงการห่มรักโดยรายการโต๊ะข่าวบันเทิง ไทยทีวีสีช่อง 3 โดยมี ประภัสสร เสวิกุล และเอิร์ธ-ศัลย์ อิทธิสุขนันท์ ร่วมงาน ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้
ริสรวล อร่ามเจริญ (กลาง) นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย มอบเงินรายได้จากการจำหน่ายชุดหนังสือของขวัญจากคนดังจากหลากหลายวงการในโครงการ “Book for Gift Charity Day” ให้แก่ กิติพันธุ์ นุตยกุล (ที่สามจากขวา) เพื่อสมทบเข้าโครงการห่มรักโดยรายการโต๊ะข่าวบันเทิง ไทยทีวีสีช่อง 3 โดยมี ประภัสสร เสวิกุล และเอิร์ธ-ศัลย์ อิทธิสุขนันท์ ร่วมงาน ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้
759
news & activity / “Bangkok International Game Festival 2010”
« on: September 18, 2010, 11:30:14 AM »
จีสแควร์ และทรู ดิจิตอล คอนเท้นท์ แอนด์ มีเดีย ชวนตะลุยความมันส์สะใจ ... “Bangkok International Game Festival 2010”
สนุกเร้าใจ..กับเทรนด์ใหม่ที่คอเกมไม่ควรพลาด 14 - 17 ตุลาคมนี้ รอยัลพารากอนฮอลล์ สยามพารากอน
• ลุ้นระทึก..ซุปเปอร์แชมป์กีฬา E-Sports Thailand Championship 2010 (ESTC 2010) ระดับประเทศ
• เชียร์เกมเมอร์ไทย คว้าชัยให้สมศักด์ศรี เจ้าภาพการแข่งขัน FIFA online2 “Asian Cup 2010”
• ประลองความมันส์สุดขีด บนโลกออนไลน์ด้วยเน็ตเร็วสูงสุดถึง 30 Mbps
• เปิดเวทีโชว์ศักยภาพผู้ผลิตและนักพัฒนาเกมชาวไทย ประกาศสุดยอดผู้คว้ารางวัล “Thailand Game Award” ประจำปี 2010
• ตระการตา กับพาเหรด คอสเพลย์ สุดอลัง
• ช้อปกระจาย สินค้าอุปกรณ์ไอที และแอคเซสเซอรี่ส์ เทรนด์ใหม่จากต่างประเทศ ในโซน Game Mart
Gsquare สถานีเกมและเทคโนโลยีช่องแรกของไทย ผนึก ทรู ดิจิตอล คอนเท้นท์ แอนด์ มีเดีย โดย ฟิวเจอร์ เกมเมอร์ ผู้สร้างสรรค์สื่อเกมชั้นนำ ประกาศจัดมหกรรมเกมยิ่งใหญ่อลังการ Bangkok International Game Festival 2010 ครั้งที่ 3 (BIG Festival 2010) ภายใต้แนวคิด ‘Play Your Inspiration’ “เล่นด้วยแรงบันดาลใจ” ระดมความสนุกสนานเร้าใจครบครัน เพื่อไลฟ์สไตล์คนรักเกมทุกรูปแบบร่วมเชียร์นักกีฬา E-Sports แชมป์ระดับภูมิภาค ประลองฝีมือชิงชัยสุดยอดซุปเปอร์แชมป์ E-Sports Thailand Championship 2010 (ESTC2010) ระดับประเทศ การันตีความมันส์สะใจด้วยไฮสปีดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 30 Mbps จากทรูออนไลน์ เปิดเวทีประกาศศักดาผู้ผลิตและนักพัฒนาเกมชาวไทย ลุ้นสุดยอดเจ้าของรางวัล “ Thailand Game Award ” ประจำปี 2010 ร่วมเป็นเจ้าภาพมหกรรมการแข่งขันเกมฟุตบอล FIFA online2 ต้อนรับเกมเมอร์จากต่างประเทศ ชิงแชมป์ “Asian Cup 2010” พร้อมตระการตากับการประกวดคอสเพลย์ สนุกสนานเต็มอิ่มกับมินิคอนเสิร์ต True AF และพิเศษยิ่งขึ้น กับ Game Mart แหล่งรวมสินค้าไอที แอคเซสเซอรี่ส์ จากต่างประเทศและ อุปกรณ์เกมราคาพิเศษที่เหล่าพันธมิตรค่ายเกมชั้นนำและผู้ประกอบการด้านไอทีร่วมจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกใน วงการเกมเมืองไทย ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่าง 14-17 ตุลาคม 2553 นี้
นายกรีกรณิ์ ไพรีพินาศ ผู้จัดการทั่วไป ด้าน IVR & Outsourcing บริษัท ทรู ดิจิตอล คอนเท้นท์ แอนด์ มีเดีย จำกัด และ ผู้อำนวยการสถานีเกม จีสแควร์ ทรูวิชั่นส์ ช่อง 67 กล่าวว่า เป็นความภาคภูมิใจของทีมงานผู้จัดทั้งช่องเกมจีสแควร์ ทรูวิชั่นส์ 67และ บริษัท ทรู ดิจิตอล คอนเท้นท์ แอนด์ มีเดีย โดย ฟิวเจอร์ เกมเมอร์ ที่ได้สานต่อการจัดงานมหกรรมเกมที่ยิ่งใหญ่ Bangkok International Game Festival 2010 (BIG Festival 2010) ต่อเนื่องปีที่ 3 โดยงานปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Play Your Inspiration’ “เล่นด้วยแรงบันดาลใจ” ยกระดับการแข่งเกมออนไลน์ของเยาวชนไทยทั่วประเทศให้เป็น การแข่งขันกีฬาแนว E-Sports ตามมาตรฐานสากล ซึ่งนักกีฬา E-Sports ที่ชนะเลิศ
มหกรรมเกมBIG ROADSHOW 2010 ระดับภูมิภาค จาก 5 แห่ง จะเข้าร่วมประชันฝีมือ โชว์ความสามารถและทักษะ
การเล่น ตลอดจนปฏิภาณไหวพริบที่โดดเด่นเหนือคนอื่น เพื่อคว้าตำแหน่งซุปเปอร์แชมป์ E-Sports Thailand Championship 2010 ระดับประเทศ (ESTC2010) ชิงเงินรางวัลกว่า 500,000 บาท นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการแข่งขันเกมระดับภูมิภาค ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ แข่งขันเกมฟุตบอลเต็มรูปแบบชิงแชมป์ FIFA online2 Asian Cup 2010 รวมสุดยอดแชมป์จาก 6 ประเทศทั่วเอเชีย ทั้ง เกาหลีใต้ จีน มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และ ไทย ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ และเงินรางวัลรวมกว่า 160,000 บาท ซึ่งเหล่านักกีฬาจะสามารถประชันฝีมือกันได้อย่างเต็มที่ยิ่งกว่าเคย ด้วยระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดย ทรูออนไลน์ภายในงานให้สามารถใช้งานความเร็วสูงสุดถึง 30 Mbps
“ยิ่งไปกว่านั้น ภายในงาน ยังเป็นเวทีโชว์ศักยภาพผู้ผลิตและนักพัฒนาเกมชาวไทย โดยจะมีการประกาศผลรางวัล Thailand Game Award ครั้งที่ 3 ประจำปี 2010 จำนวน 18 รางวัล เป็นกำลังใจที่ดีกับผู้ผลิตและนักพัฒนาเกมให้เดินหน้าพัฒนาตลาดเกมเมืองไทยเทียบเท่าสากล นอกจากนี้ กิจกรรมไฮไลท์เอาใจเหล่าเกมเมอร์ชาวไทย อาทิการประกวด D’Cos Festival การแข่งขันคอสเพลย์ พร้อมทั้งมินิคอนเสิร์ตแบบใกล้ชิดจากเหล่าศิลปิน True AF และที่พิเศษในงานปีนี้คือการจัด Game Mart แหล่งรวมสินค้าไอที และ แอคเซสเซอรี่จากต่างประเทศ ที่เหล่าพันธมิตรค่ายเกมชั้นนำและผู้ประกอบการด้านไอทีร่วมจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้เลือกช้อปจุใจ ในราคาสุดพิเศษ มั่นใจว่าจะถูกใจผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ อย่างแน่นอน โดยผู้จัดคาดว่างานมหกรรมเกม BIG Festival 2010 ปีนี้ จะได้รับความสนใจและมีผู้เข้าร่วมชมงานไม่น้อยกว่า 2 แสนราย ซึ่งผู้สนใจสามารถร่วมงานได้ที่ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม 2553 นี้” นายกรีกรณ์ กล่าวสรุปในที่สุด
สนุกเร้าใจ..กับเทรนด์ใหม่ที่คอเกมไม่ควรพลาด 14 - 17 ตุลาคมนี้ รอยัลพารากอนฮอลล์ สยามพารากอน
• ลุ้นระทึก..ซุปเปอร์แชมป์กีฬา E-Sports Thailand Championship 2010 (ESTC 2010) ระดับประเทศ
• เชียร์เกมเมอร์ไทย คว้าชัยให้สมศักด์ศรี เจ้าภาพการแข่งขัน FIFA online2 “Asian Cup 2010”
• ประลองความมันส์สุดขีด บนโลกออนไลน์ด้วยเน็ตเร็วสูงสุดถึง 30 Mbps
• เปิดเวทีโชว์ศักยภาพผู้ผลิตและนักพัฒนาเกมชาวไทย ประกาศสุดยอดผู้คว้ารางวัล “Thailand Game Award” ประจำปี 2010
• ตระการตา กับพาเหรด คอสเพลย์ สุดอลัง
• ช้อปกระจาย สินค้าอุปกรณ์ไอที และแอคเซสเซอรี่ส์ เทรนด์ใหม่จากต่างประเทศ ในโซน Game Mart
Gsquare สถานีเกมและเทคโนโลยีช่องแรกของไทย ผนึก ทรู ดิจิตอล คอนเท้นท์ แอนด์ มีเดีย โดย ฟิวเจอร์ เกมเมอร์ ผู้สร้างสรรค์สื่อเกมชั้นนำ ประกาศจัดมหกรรมเกมยิ่งใหญ่อลังการ Bangkok International Game Festival 2010 ครั้งที่ 3 (BIG Festival 2010) ภายใต้แนวคิด ‘Play Your Inspiration’ “เล่นด้วยแรงบันดาลใจ” ระดมความสนุกสนานเร้าใจครบครัน เพื่อไลฟ์สไตล์คนรักเกมทุกรูปแบบร่วมเชียร์นักกีฬา E-Sports แชมป์ระดับภูมิภาค ประลองฝีมือชิงชัยสุดยอดซุปเปอร์แชมป์ E-Sports Thailand Championship 2010 (ESTC2010) ระดับประเทศ การันตีความมันส์สะใจด้วยไฮสปีดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 30 Mbps จากทรูออนไลน์ เปิดเวทีประกาศศักดาผู้ผลิตและนักพัฒนาเกมชาวไทย ลุ้นสุดยอดเจ้าของรางวัล “ Thailand Game Award ” ประจำปี 2010 ร่วมเป็นเจ้าภาพมหกรรมการแข่งขันเกมฟุตบอล FIFA online2 ต้อนรับเกมเมอร์จากต่างประเทศ ชิงแชมป์ “Asian Cup 2010” พร้อมตระการตากับการประกวดคอสเพลย์ สนุกสนานเต็มอิ่มกับมินิคอนเสิร์ต True AF และพิเศษยิ่งขึ้น กับ Game Mart แหล่งรวมสินค้าไอที แอคเซสเซอรี่ส์ จากต่างประเทศและ อุปกรณ์เกมราคาพิเศษที่เหล่าพันธมิตรค่ายเกมชั้นนำและผู้ประกอบการด้านไอทีร่วมจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกใน วงการเกมเมืองไทย ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่าง 14-17 ตุลาคม 2553 นี้
นายกรีกรณิ์ ไพรีพินาศ ผู้จัดการทั่วไป ด้าน IVR & Outsourcing บริษัท ทรู ดิจิตอล คอนเท้นท์ แอนด์ มีเดีย จำกัด และ ผู้อำนวยการสถานีเกม จีสแควร์ ทรูวิชั่นส์ ช่อง 67 กล่าวว่า เป็นความภาคภูมิใจของทีมงานผู้จัดทั้งช่องเกมจีสแควร์ ทรูวิชั่นส์ 67และ บริษัท ทรู ดิจิตอล คอนเท้นท์ แอนด์ มีเดีย โดย ฟิวเจอร์ เกมเมอร์ ที่ได้สานต่อการจัดงานมหกรรมเกมที่ยิ่งใหญ่ Bangkok International Game Festival 2010 (BIG Festival 2010) ต่อเนื่องปีที่ 3 โดยงานปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Play Your Inspiration’ “เล่นด้วยแรงบันดาลใจ” ยกระดับการแข่งเกมออนไลน์ของเยาวชนไทยทั่วประเทศให้เป็น การแข่งขันกีฬาแนว E-Sports ตามมาตรฐานสากล ซึ่งนักกีฬา E-Sports ที่ชนะเลิศ
มหกรรมเกมBIG ROADSHOW 2010 ระดับภูมิภาค จาก 5 แห่ง จะเข้าร่วมประชันฝีมือ โชว์ความสามารถและทักษะ
การเล่น ตลอดจนปฏิภาณไหวพริบที่โดดเด่นเหนือคนอื่น เพื่อคว้าตำแหน่งซุปเปอร์แชมป์ E-Sports Thailand Championship 2010 ระดับประเทศ (ESTC2010) ชิงเงินรางวัลกว่า 500,000 บาท นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการแข่งขันเกมระดับภูมิภาค ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ แข่งขันเกมฟุตบอลเต็มรูปแบบชิงแชมป์ FIFA online2 Asian Cup 2010 รวมสุดยอดแชมป์จาก 6 ประเทศทั่วเอเชีย ทั้ง เกาหลีใต้ จีน มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และ ไทย ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ และเงินรางวัลรวมกว่า 160,000 บาท ซึ่งเหล่านักกีฬาจะสามารถประชันฝีมือกันได้อย่างเต็มที่ยิ่งกว่าเคย ด้วยระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดย ทรูออนไลน์ภายในงานให้สามารถใช้งานความเร็วสูงสุดถึง 30 Mbps
“ยิ่งไปกว่านั้น ภายในงาน ยังเป็นเวทีโชว์ศักยภาพผู้ผลิตและนักพัฒนาเกมชาวไทย โดยจะมีการประกาศผลรางวัล Thailand Game Award ครั้งที่ 3 ประจำปี 2010 จำนวน 18 รางวัล เป็นกำลังใจที่ดีกับผู้ผลิตและนักพัฒนาเกมให้เดินหน้าพัฒนาตลาดเกมเมืองไทยเทียบเท่าสากล นอกจากนี้ กิจกรรมไฮไลท์เอาใจเหล่าเกมเมอร์ชาวไทย อาทิการประกวด D’Cos Festival การแข่งขันคอสเพลย์ พร้อมทั้งมินิคอนเสิร์ตแบบใกล้ชิดจากเหล่าศิลปิน True AF และที่พิเศษในงานปีนี้คือการจัด Game Mart แหล่งรวมสินค้าไอที และ แอคเซสเซอรี่จากต่างประเทศ ที่เหล่าพันธมิตรค่ายเกมชั้นนำและผู้ประกอบการด้านไอทีร่วมจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้เลือกช้อปจุใจ ในราคาสุดพิเศษ มั่นใจว่าจะถูกใจผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ อย่างแน่นอน โดยผู้จัดคาดว่างานมหกรรมเกม BIG Festival 2010 ปีนี้ จะได้รับความสนใจและมีผู้เข้าร่วมชมงานไม่น้อยกว่า 2 แสนราย ซึ่งผู้สนใจสามารถร่วมงานได้ที่ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม 2553 นี้” นายกรีกรณ์ กล่าวสรุปในที่สุด
760
news & activity / เฟ้นหาแชมป์ SIPA Game & Contest Award 2010 หวือหวาเกินคาด กว่าทุกปี
« on: September 18, 2010, 11:25:29 AM »
นางสุวิมล เทวะศิลชัยกุล รองผู้อำนวยการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ SIPA ถือเป็น แม่งานหลักอีกท่านหนึ่ง ในการจัดโครงการ SIPA Game Contest & Award 2010 ซึ่งตั้งใจส่งเสริมและผลักดันให้วงการอุตสาหกรรมเกมไทยก้าวสู่ระดับสากล สิ่งที่คนในแวดวงเกมทั้งประเทศตั้งตาคอยกันทุกปี ก็คือลุ้นว่าใครจะคว้าแชมป์ไปครอง แว่วข่าวเล็ดออกมาว่า ผลงานที่ส่งเข้ามาประกวดมีแต่เด็ดๆ จนคณะกรรมการหนักใจในการให้คะแนนมากกว่าทุกๆ ปี สำหรับ SIPA Game Contest 2010 ได้มีการพิจารณาผ่านไปแล้ว และทำให้แม่งานหลักถึงกับเอ่ยปากเสียงดังว่าหวือหวาเกินคาดจริงๆ เห็นผลงานมากมายที่ส่งเข้ามาประกวดในปีนี้แล้ว บอกได้เลยว่า อนาคตอุตสาหกรรมเกมบ้านเรารุ่งโรจน์สดใสอย่างแน่นอน และขอตั้งตารอลุ้นผลการตัดสิน SIPA Game Award 2010 แบบมันส์อีกครั้ง ณห้องประชุม SIPA ในที่ 5-6 ตุลาคมนี้
761
news & activity / “Banana Pok” ทีมเมืองลูกย่าโมกับสินค้า “กล้วยกระทงทอง”
« on: September 18, 2010, 11:24:19 AM »
“Banana Pok” ทีมเมืองลูกย่าโมกับสินค้า “กล้วยกระทงทอง”คว้าชัย 2 แสนบาท จากโครงการ One-2-Call! BrandAge AWARD ปี4
เพียงสองเดือนหลังเข้าร่วมแข่งขันโครงการเขียนแผนการพัฒนาตลาดของ One-2-Call! BrandAge Award ปีที่ 4 ตอน “เขียนแผน เรื่อง กล้วย กล้วย” ...โลกทัศน์และมุมคิดของทีมนักศึกษาจำนวนมาก ที่มาจากทุกภาคทั่วประเทศในการสมัครเข้าร่วมแข่งขันก็ถูกพลิกไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะกับทีม “Banana Pok” นักศึกษาคณะวิทยาการจัดการ สาขาการตลาด ชั้นปีที่4 มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศระดับประเทศ พร้อมทุนการศึกษา 2 แสนบาทไปครอง
โดยมีสิ่งหนึ่งที่นิสิต-นักศึกษาจากทุกรั้วมหาวิทยาลัยได้รับกลับไปเหมือนๆกันก็คือ ความรู้และประสบการณ์อันประเมินค่าไม่ได้ ที่พวกเขาได้รับตั้งแต่ผ่านเข้าสู่รอบแรก จนถึงรอบชิงชนะเลิศ รวมทั้งทีมผู้ชนะเลิศระดับประเทศ “Banana Pok” ที่ประกอบไปด้วยสมาชิก 4 คนที่สู้ไม่ถอย รวมหัวช่วยกันคิดแผนธุรกิจ “กล้วยกระทงทอง” จนสำเร็จ ได้แก่ นายสุรเดช เชียงใบ, นางสาวอนุธิดา พืมขุนทด, นางสาววิภาวรรณ มั่งมี และนางสาววิจิตรา พูดขุนทด
หนึ่งในสมาชิกทีม Banana Pok “น้องปอ-วิจิตรา พูดขุนทด” เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า “พวกเรารู้ข่าวเกี่ยวกับการแข่งขัน ก็มาคุยกันว่าเราจะลองส่งแผนกันไหม ถ้าทำต้องทำจริง ต้องเหนื่อยจริง และต้องเผื่อใจไว้ด้วยว่าอาจไปไม่ถึงฝันเพราะมีทีมคู่แข่งหลายร้อยทีมจากทุกภาค แต่ทุกคนก็คิดว่าในเมื่อโอกาสเปิดกว้างก็ไม่ควรทิ้ง ก็มาเริ่มคิดกัน ออกไปดูว่าในจังหวัดของเรามีสินค้า OTOP ที่ทำจากกล้วยอะไรบ้าง ที่พอจะพัฒนาให้โกอินเตอร์ได้ด้วย ในที่สุดเราก็เกิดปิ๊งไอเดียทำ กล้วยกระทงทอง จากพี่ที่ร้านข้าวที่พวกเรากินกันเป็นประจำ แนะนำว่าให้เอากล้วยมาทำเป็นแป้งกระทง จะสามารถเก็บได้นานกว่าการทำกล้วยฉาบ กล้วยเส้นอย่างที่เราคิดกันไว้”
น้องแนน-วิภาวรรณ มั่งมี เล่าเสริมว่า “เมื่อได้สินค้าแล้ว ก็ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและเพื่อนที่เรียนสายคหกรรมศาสตร์ ถึงวิธีการพัฒนาสินค้าให้สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปี ช่วยกันคิดว่าจะสร้างความโดดเด่นและแตกต่างให้กับสินค้าอย่างไรได้บ้าง สุดท้ายก็ได้ไอเดียว่าเราจะนำเสนอรสชาติแบบไทย ๆ ที่โดดเด่นใน 4 ภาคมาใส่ไว้ในกล้วยกระทงทอง ได้แก่ ขนมลำไยอบแห้งที่สื่อถึงความอ่อนหวานละมุนละไมของภาคเหนือ อินทผลัมกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์อันเลื่องชื่อของภาคใต้ ส่วนภาคกลางเป็นฝอยทอง และภาคอีสานเราเลือกกระยาสารท”
“ส่วนหนึ่งของความสำเร็จน่าจะมาจากการลงพื้นที่จริง ลงมือทำจริง ทำให้เรามีความรู้ลึก รู้จริง การค้นหาข้อมูลที่ถูกต้องไม่ใช่เพียงแค่คิดจินตนาการเอาเอง ตรงนี้ทำให้เรามองภาพได้กว้างและชัดขึ้น ยิ่งเมื่อแผนการตลาดของพวกเราผ่านเข้าสู่รอบแข่งขันระดับภูมิภาค ซึ่งเราได้เข้าแคมป์การตลาด ได้พบกับเพื่อน ๆ รวม 21 ทีมจาก 6 ภาคทำให้เราได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันมากขึ้น โดยเฉพาะการได้ฟัง กูรูทางด้านการตลาดมาสอนวิธีคิด วิธีการวิเคราะห์บนพื้นฐานของความจริง และได้คณะกรรมการให้ข้อคิดเห็นและวิจารณ์แผนของเรา ก็ยิ่งทำให้เราสามารถปรับปรุงแผนการตลาด “กล้วยกระทงทอง” ตรงเป้ายิ่งขึ้น และเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างการวางแผนบนโลกของความจริง กับแผนบนกระดาษ” น้องอุ๊-อนุธิดา พืมขุนทด กล่าวเสริม
ส่วนน้องปู-สุรเดช เชียงใบ หัวหน้าทีม เผยกลยุทธ์แห่งชัยชนะว่า “อีกสิ่งที่เป็นจุดเด่นของพวกเราคือ ความอึด ขยัน อดทน ใจสู้ เราจะนำสิ่งที่ได้รับ feed back ทั้งแผนการตลาด หรือการพรีเซ้นต์ มาปรับปรุงให้ดีขึ้นทุกครั้ง ซึ่งตอนแรก ๆ พวกเราพรีเซ้นต์ได้น่าง่วงมาก แต่เราก็นำคำวิจารณ์นั้นมาปรับปรุงตัว และซ้อมกันหนักมาก ฝึกฝนจนกระทั่งได้รับคำชมว่าดีขึ้น สมาชิกในทีมทุกคนก็ช่วยกันทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองอย่างเต็มความสามารถ จนสุดท้ายเราก็คว้าชัยชนะมาได้ และทำให้เราคิดอยากเป็นผู้ประกอบการจริงๆ”
ทางด้านนายสรรค์ชัย เตียวประเสิรฐกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด เอไอเอส หนึ่งในคณะกรรมการผู้ตัดสิน กล่าวว่า “แผนการตลาดที่ดี ต้องเน้นสร้างสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ มีความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด รู้ความต้องการของตลาด รู้จักคู่แข่งขัน และต้องมีความเป็นไปได้ทั้งทางเทคนิคและต้นทุน สิ่งที่คนมักมองข้ามไปคือ การทำวิจัยตลาด อย่างเช่นการสัมภาษณ์เจาะลึก หรือสัมภาษณ์กลุ่มเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน ...ในปีนี้ เราได้เห็นพัฒนาการของเยาวชนขึ้นอีกมากโดยเฉพาะทีมจากต่างจังหวัดที่ต้องขอชื่นชมจริงๆ”
เรื่องกล้วย กล้วย อาจกลายเป็นเรื่องหิน ถ้าใจไม่สู้ ...แต่ถ้าใครมีจิตใจมุ่งมั่นสู้ไม่ถอย เรื่องที่หลายคนมองว่า หิ๊น หิน ก็อาจกลายเป็นเรื่อง กล๊วย กล้วย ไปเลยก็ได้...ใครจะรู้
เพียงสองเดือนหลังเข้าร่วมแข่งขันโครงการเขียนแผนการพัฒนาตลาดของ One-2-Call! BrandAge Award ปีที่ 4 ตอน “เขียนแผน เรื่อง กล้วย กล้วย” ...โลกทัศน์และมุมคิดของทีมนักศึกษาจำนวนมาก ที่มาจากทุกภาคทั่วประเทศในการสมัครเข้าร่วมแข่งขันก็ถูกพลิกไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะกับทีม “Banana Pok” นักศึกษาคณะวิทยาการจัดการ สาขาการตลาด ชั้นปีที่4 มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศระดับประเทศ พร้อมทุนการศึกษา 2 แสนบาทไปครอง
โดยมีสิ่งหนึ่งที่นิสิต-นักศึกษาจากทุกรั้วมหาวิทยาลัยได้รับกลับไปเหมือนๆกันก็คือ ความรู้และประสบการณ์อันประเมินค่าไม่ได้ ที่พวกเขาได้รับตั้งแต่ผ่านเข้าสู่รอบแรก จนถึงรอบชิงชนะเลิศ รวมทั้งทีมผู้ชนะเลิศระดับประเทศ “Banana Pok” ที่ประกอบไปด้วยสมาชิก 4 คนที่สู้ไม่ถอย รวมหัวช่วยกันคิดแผนธุรกิจ “กล้วยกระทงทอง” จนสำเร็จ ได้แก่ นายสุรเดช เชียงใบ, นางสาวอนุธิดา พืมขุนทด, นางสาววิภาวรรณ มั่งมี และนางสาววิจิตรา พูดขุนทด
หนึ่งในสมาชิกทีม Banana Pok “น้องปอ-วิจิตรา พูดขุนทด” เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า “พวกเรารู้ข่าวเกี่ยวกับการแข่งขัน ก็มาคุยกันว่าเราจะลองส่งแผนกันไหม ถ้าทำต้องทำจริง ต้องเหนื่อยจริง และต้องเผื่อใจไว้ด้วยว่าอาจไปไม่ถึงฝันเพราะมีทีมคู่แข่งหลายร้อยทีมจากทุกภาค แต่ทุกคนก็คิดว่าในเมื่อโอกาสเปิดกว้างก็ไม่ควรทิ้ง ก็มาเริ่มคิดกัน ออกไปดูว่าในจังหวัดของเรามีสินค้า OTOP ที่ทำจากกล้วยอะไรบ้าง ที่พอจะพัฒนาให้โกอินเตอร์ได้ด้วย ในที่สุดเราก็เกิดปิ๊งไอเดียทำ กล้วยกระทงทอง จากพี่ที่ร้านข้าวที่พวกเรากินกันเป็นประจำ แนะนำว่าให้เอากล้วยมาทำเป็นแป้งกระทง จะสามารถเก็บได้นานกว่าการทำกล้วยฉาบ กล้วยเส้นอย่างที่เราคิดกันไว้”
น้องแนน-วิภาวรรณ มั่งมี เล่าเสริมว่า “เมื่อได้สินค้าแล้ว ก็ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและเพื่อนที่เรียนสายคหกรรมศาสตร์ ถึงวิธีการพัฒนาสินค้าให้สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปี ช่วยกันคิดว่าจะสร้างความโดดเด่นและแตกต่างให้กับสินค้าอย่างไรได้บ้าง สุดท้ายก็ได้ไอเดียว่าเราจะนำเสนอรสชาติแบบไทย ๆ ที่โดดเด่นใน 4 ภาคมาใส่ไว้ในกล้วยกระทงทอง ได้แก่ ขนมลำไยอบแห้งที่สื่อถึงความอ่อนหวานละมุนละไมของภาคเหนือ อินทผลัมกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์อันเลื่องชื่อของภาคใต้ ส่วนภาคกลางเป็นฝอยทอง และภาคอีสานเราเลือกกระยาสารท”
“ส่วนหนึ่งของความสำเร็จน่าจะมาจากการลงพื้นที่จริง ลงมือทำจริง ทำให้เรามีความรู้ลึก รู้จริง การค้นหาข้อมูลที่ถูกต้องไม่ใช่เพียงแค่คิดจินตนาการเอาเอง ตรงนี้ทำให้เรามองภาพได้กว้างและชัดขึ้น ยิ่งเมื่อแผนการตลาดของพวกเราผ่านเข้าสู่รอบแข่งขันระดับภูมิภาค ซึ่งเราได้เข้าแคมป์การตลาด ได้พบกับเพื่อน ๆ รวม 21 ทีมจาก 6 ภาคทำให้เราได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันมากขึ้น โดยเฉพาะการได้ฟัง กูรูทางด้านการตลาดมาสอนวิธีคิด วิธีการวิเคราะห์บนพื้นฐานของความจริง และได้คณะกรรมการให้ข้อคิดเห็นและวิจารณ์แผนของเรา ก็ยิ่งทำให้เราสามารถปรับปรุงแผนการตลาด “กล้วยกระทงทอง” ตรงเป้ายิ่งขึ้น และเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างการวางแผนบนโลกของความจริง กับแผนบนกระดาษ” น้องอุ๊-อนุธิดา พืมขุนทด กล่าวเสริม
ส่วนน้องปู-สุรเดช เชียงใบ หัวหน้าทีม เผยกลยุทธ์แห่งชัยชนะว่า “อีกสิ่งที่เป็นจุดเด่นของพวกเราคือ ความอึด ขยัน อดทน ใจสู้ เราจะนำสิ่งที่ได้รับ feed back ทั้งแผนการตลาด หรือการพรีเซ้นต์ มาปรับปรุงให้ดีขึ้นทุกครั้ง ซึ่งตอนแรก ๆ พวกเราพรีเซ้นต์ได้น่าง่วงมาก แต่เราก็นำคำวิจารณ์นั้นมาปรับปรุงตัว และซ้อมกันหนักมาก ฝึกฝนจนกระทั่งได้รับคำชมว่าดีขึ้น สมาชิกในทีมทุกคนก็ช่วยกันทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองอย่างเต็มความสามารถ จนสุดท้ายเราก็คว้าชัยชนะมาได้ และทำให้เราคิดอยากเป็นผู้ประกอบการจริงๆ”
ทางด้านนายสรรค์ชัย เตียวประเสิรฐกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด เอไอเอส หนึ่งในคณะกรรมการผู้ตัดสิน กล่าวว่า “แผนการตลาดที่ดี ต้องเน้นสร้างสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ มีความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด รู้ความต้องการของตลาด รู้จักคู่แข่งขัน และต้องมีความเป็นไปได้ทั้งทางเทคนิคและต้นทุน สิ่งที่คนมักมองข้ามไปคือ การทำวิจัยตลาด อย่างเช่นการสัมภาษณ์เจาะลึก หรือสัมภาษณ์กลุ่มเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน ...ในปีนี้ เราได้เห็นพัฒนาการของเยาวชนขึ้นอีกมากโดยเฉพาะทีมจากต่างจังหวัดที่ต้องขอชื่นชมจริงๆ”
เรื่องกล้วย กล้วย อาจกลายเป็นเรื่องหิน ถ้าใจไม่สู้ ...แต่ถ้าใครมีจิตใจมุ่งมั่นสู้ไม่ถอย เรื่องที่หลายคนมองว่า หิ๊น หิน ก็อาจกลายเป็นเรื่อง กล๊วย กล้วย ไปเลยก็ได้...ใครจะรู้
762
news & activity / โรงพยาบาลมหาชัย 2 จัดงาน เฮลธ์ตี้ แฟมิลี่แฟร์ ครั้งที่ 4
« on: September 18, 2010, 11:21:20 AM »
โรงพยาบาลมหาชัย 2 จัดงาน เฮลธ์ตี้ แฟมิลี่แฟร์ ครั้งที่ 4
โรงพยาบาลมหาชัย 2 จะจัดงาน เฮลธ์ตี้ แฟมิลี่แฟร์ ครั้งที่ 4 ขอเชิญชวนประชาชนทั่วไป ร่วมงาน "สร้างบุญกับสุขภาพดี" ระหว่างวันที่ 9 - 10 ตุลาคม 2553 ภายในงานมีสัมมนาวิชาการสุขภาพ กิจกรรมประกวดแข่งขัน ฮูล่าฮูป และตรวจสุขภาพฟรีกว่า 20 รายการ อาทิ ตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูกฟรี จาก ผลิตภัณฑ์โซลูแคล แคลเซียมผสมคอลลาเจน และโปรตีนบำรุงข้อ แคลจี รวมถึงการจัดโปรโมชั่นตรวจสุขภาพในราคาพิเศษ พร้อมนำรายได้สมทบทุนกองทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาเด็กพิการ โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 0-28103442
โรงพยาบาลมหาชัย 2 จะจัดงาน เฮลธ์ตี้ แฟมิลี่แฟร์ ครั้งที่ 4 ขอเชิญชวนประชาชนทั่วไป ร่วมงาน "สร้างบุญกับสุขภาพดี" ระหว่างวันที่ 9 - 10 ตุลาคม 2553 ภายในงานมีสัมมนาวิชาการสุขภาพ กิจกรรมประกวดแข่งขัน ฮูล่าฮูป และตรวจสุขภาพฟรีกว่า 20 รายการ อาทิ ตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูกฟรี จาก ผลิตภัณฑ์โซลูแคล แคลเซียมผสมคอลลาเจน และโปรตีนบำรุงข้อ แคลจี รวมถึงการจัดโปรโมชั่นตรวจสุขภาพในราคาพิเศษ พร้อมนำรายได้สมทบทุนกองทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาเด็กพิการ โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 0-28103442
763
news & activity / สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ขอเชิญคุณหนูๆ ทำความรู้จักกับความลับแสนมหัศจรรย์ของฉลาม
« on: September 18, 2010, 11:20:25 AM »
สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ขอเชิญคุณหนูๆ ทำความรู้จักกับความลับแสนมหัศจรรย์ของฉลามหัวค้อน นักล่าผู้น่ารักแห่งท้องทะเล
หากมีสิ่งหนึ่งที่คนเรารู้มากที่สุดเกี่ยวกับฉลามหัวค้อน คงจะไม่พ้นความจริงที่ว่ามันมีหน้าตาแปลกประหลาดสะดุดตา จึงทำให้หลายครั้งที่ฉลามหัวค้อนได้รับบทบาทในแอนนิเมชั่นและ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไพเรตส์ ออฟ เดอะ คาริบเบี่ยน (Pirates of the Caribbean ) หรือ ชาร์คเทล (Shark Tale) แต่ใครจะทราบกันหรือไม่ว่า นอกจากความที่มันมีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นกว่าฉลามชนิดอื่นๆ มันยังมีความสามารถที่พิเศษไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านั้นซ่อนเร้นอยู่ในตัว ให้คุณหนูๆ ได้มาค้นหาเเละทำความรู้จักความน่าอัศจรรย์ของเจ้าฉลามหัวค้อนที่แรกและที่เดียวในประเทศไทยในช่วงปิดเทอมนี้
ฉลามหัวค้อน หรือ Hammerhead Shark นับเป็นปลาฉลามที่มีรูปร่างหน้าตาแปลกสะดุดตา ตรงที่มีลักษณะเด่นของหัวแบนและแผ่ออกไปทั้งสองข้าง คล้ายตัวทีในภาษาอังกฤษ หรือ รูปค้อน มีตาอยู่ตรงบริเวณปลายสุดของส่วนที่แผ่ยาวออกไปและมีปากเป็นรูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยวอยู่ทางด้านล่างของลำตัว นอกจากหน้าตาที่น่าแปลกชวนมองของมันแล้ว มันยังมีความมหัศจรรย์ซ่อนอยู่ในตัวมันมากมายไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการว่ายน้ำที่เร็วถึง 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือความสามารถในการมองเห็น เพราะเนื่องจากฉลามหัวค้อน เป็นสัตว์พิเศษที่อยู่ในกลุ่มของสัตว์ประเภทตาชั้นสูง มันจึงสามารถมองเห็นภาพแบบ 3 มิติเช่นเดียวกับตาของมนุษย์ที่สามารถรับรู้ความตื้นและความลึกของโลกใต้ท้องทะเลได้ ดวงตาที่หันไปด้านหน้า ก็จะช่วยให้มันเห็นเหยื่อได้ในมุมกว้าง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการล่าเหยื่อที่ว่ายน้ำใด้หลายทิศทาง และสามารถจับเหยื่อได้อย่างแม่นยำกว่าฉลามทั่วไปที่มีหัวเป็นทรงแหลมและมองเห็นภาพเพียง 2 มิติเท่านั้น
นอกจากจะมีสายตาที่มองเห็นภาพแบบ 3 มิติแล้ว ตรงส่วนหัวของมันยังมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยให้สามารถหาเหยื่อได้อย่างรวดเร็วด้วยความรู้สึกในการจับกลิ่นที่ยอดเยี่ยม และความสามารถในการปล่อยคลื่นกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในน้ำและกระแสไฟฟ้าที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อของสิ่งมีชีวิตในน้ำได้อีกด้วย ซึ่งความสามารถพิเศษนี้ซ่อนอยู่เต็มความกว้างของบริเวณส่วนหัวทำให้มันสามารถสแกนตรวจหาอาหารได้อย่างรวดเร็วถึงแม้ว่าเหยื่อจะหมอบนิ่งหรือหลบซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นทรายก็ตาม แต่ใครจะทราบหรือไม่ว่า ถึงแม้ฉลามหัวค้อนจะมีฉายาของนักล่าเหยื่อที่แม่นยำ มันกลับมีจุดบอดที่ใก้ลตัวที่สุด นั้นคือตำแหน่งของดวงตาที่อยู่ห่างกันเป็นบริเวณกว้างกว่าฉลามชนิดอื่น มันจึงกลับมองไม่เห็นเหยื่อตรงส่วนหน้าของหัวมันนั้นเอง
ฉลามหัวค้อนมีทั้งหมด 9 สายพันธุ์ มีขนาดลำตัวเรียวยาวต่างกันไปตั้งแต่ 1-5 เมตร เฉลี่ยอายุประมาณ 25 ปี ลำตัวสีเทาอมน้ำตาล จนถึงสีคล้ำเกือบดำ บริเวณส่วนท้องเป็นสีขาว มักอาศัยอยู่ในทะเลเขตร้อนตั้งแต่ชายฝั่งและแนวปะการังไปจนถึงความลึกเกือบ 300 เมตร มันสามารถกินสัตว์น้ำตัวเล็กทุกชนิดได้เป็นอาหาร แต่สิ่งที่โปรดปรานที่สุดในบรรดาสัตว์ต่างๆ ก็คือปลากระเบน และถึงแม้ว่าโดยปกติฉลามหัวค้อนมักจะชอบอยู่รวมกลุ่มกันเป็นฝูงประมาณ 10-20 ตัว แต่เมื่อถึงเวลากลางคืนมันกลับกลายเป็นนักล่าเหยื่อตัวฉกาจที่ซุ่มรอเหยื่อผู้โชคร้ายอยู่เพียงลำพัง
ด้วยความน่าทึ่งของสิ่งมีชีวิตที่ว่องไวปราดเปรียวและความสามารถในการหาเหยื่อด้วยอวัยวะที่มีความพิเศษซ่อนอยู่ ทำให้ฉลามหัวค้อนเป็นหนึ่งในบรรดาสัตว์ที่มีความน่าค้นหาและมีเอกลักษณ์ในตัวเอง สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล จึงเปิดโอกาสให้คุณหนูๆ ได้เรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของการเติบโตของฉลามหัวค้อนในแบบที่ใกล้ชิดกับอนุบาลฉลามหัวค้อน ในบรรยากาศของท้องทะเลอันกว้างใหญ่ที่คุณหนูๆจะได้สัมผัสประสบการณ์ ‘Come Alive’ที่จะสร้างความสนุกสนาน ประทับใจด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่จะทำให้เพลิดเพลินไปกับการเรียนรู้ในเชิงสาระและบันเทิง (Edutainment) ในเรื่องราวของฉลามหัวค้อน พร้อมเรียนรู้การใช้ชีวิตของฉลามหัวค้อนผ่านมุมมองผู้ล่าที่สามารถจัดการกับเหยื่อได้ง่าย และรวดเร็ว ด้วยทักษะที่โดดเด่นและความได้เปรียบที่มากกว่าสัตว์น้ำชนิดอื่นใต้ท้องทะเล
สัมผัสประสบการณ์ COME ALIVE กับนักล่าผู้ว่องไวแห่งท้องทะเล
พร้อมไขความลับของลักษณะพิเศษของหัวฉลามหัวค้อนที่จะทำให้คุณหนูๆ ได้เรียนรู้และสนุกสนานเพลิดเพลินตลอดทั้งวันตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป
ที่ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ชั้น บี1 - บี2 ศูนย์การค้า สยามพารากอน
หากมีสิ่งหนึ่งที่คนเรารู้มากที่สุดเกี่ยวกับฉลามหัวค้อน คงจะไม่พ้นความจริงที่ว่ามันมีหน้าตาแปลกประหลาดสะดุดตา จึงทำให้หลายครั้งที่ฉลามหัวค้อนได้รับบทบาทในแอนนิเมชั่นและ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไพเรตส์ ออฟ เดอะ คาริบเบี่ยน (Pirates of the Caribbean ) หรือ ชาร์คเทล (Shark Tale) แต่ใครจะทราบกันหรือไม่ว่า นอกจากความที่มันมีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นกว่าฉลามชนิดอื่นๆ มันยังมีความสามารถที่พิเศษไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านั้นซ่อนเร้นอยู่ในตัว ให้คุณหนูๆ ได้มาค้นหาเเละทำความรู้จักความน่าอัศจรรย์ของเจ้าฉลามหัวค้อนที่แรกและที่เดียวในประเทศไทยในช่วงปิดเทอมนี้
ฉลามหัวค้อน หรือ Hammerhead Shark นับเป็นปลาฉลามที่มีรูปร่างหน้าตาแปลกสะดุดตา ตรงที่มีลักษณะเด่นของหัวแบนและแผ่ออกไปทั้งสองข้าง คล้ายตัวทีในภาษาอังกฤษ หรือ รูปค้อน มีตาอยู่ตรงบริเวณปลายสุดของส่วนที่แผ่ยาวออกไปและมีปากเป็นรูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยวอยู่ทางด้านล่างของลำตัว นอกจากหน้าตาที่น่าแปลกชวนมองของมันแล้ว มันยังมีความมหัศจรรย์ซ่อนอยู่ในตัวมันมากมายไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการว่ายน้ำที่เร็วถึง 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือความสามารถในการมองเห็น เพราะเนื่องจากฉลามหัวค้อน เป็นสัตว์พิเศษที่อยู่ในกลุ่มของสัตว์ประเภทตาชั้นสูง มันจึงสามารถมองเห็นภาพแบบ 3 มิติเช่นเดียวกับตาของมนุษย์ที่สามารถรับรู้ความตื้นและความลึกของโลกใต้ท้องทะเลได้ ดวงตาที่หันไปด้านหน้า ก็จะช่วยให้มันเห็นเหยื่อได้ในมุมกว้าง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการล่าเหยื่อที่ว่ายน้ำใด้หลายทิศทาง และสามารถจับเหยื่อได้อย่างแม่นยำกว่าฉลามทั่วไปที่มีหัวเป็นทรงแหลมและมองเห็นภาพเพียง 2 มิติเท่านั้น
นอกจากจะมีสายตาที่มองเห็นภาพแบบ 3 มิติแล้ว ตรงส่วนหัวของมันยังมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยให้สามารถหาเหยื่อได้อย่างรวดเร็วด้วยความรู้สึกในการจับกลิ่นที่ยอดเยี่ยม และความสามารถในการปล่อยคลื่นกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในน้ำและกระแสไฟฟ้าที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อของสิ่งมีชีวิตในน้ำได้อีกด้วย ซึ่งความสามารถพิเศษนี้ซ่อนอยู่เต็มความกว้างของบริเวณส่วนหัวทำให้มันสามารถสแกนตรวจหาอาหารได้อย่างรวดเร็วถึงแม้ว่าเหยื่อจะหมอบนิ่งหรือหลบซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นทรายก็ตาม แต่ใครจะทราบหรือไม่ว่า ถึงแม้ฉลามหัวค้อนจะมีฉายาของนักล่าเหยื่อที่แม่นยำ มันกลับมีจุดบอดที่ใก้ลตัวที่สุด นั้นคือตำแหน่งของดวงตาที่อยู่ห่างกันเป็นบริเวณกว้างกว่าฉลามชนิดอื่น มันจึงกลับมองไม่เห็นเหยื่อตรงส่วนหน้าของหัวมันนั้นเอง
ฉลามหัวค้อนมีทั้งหมด 9 สายพันธุ์ มีขนาดลำตัวเรียวยาวต่างกันไปตั้งแต่ 1-5 เมตร เฉลี่ยอายุประมาณ 25 ปี ลำตัวสีเทาอมน้ำตาล จนถึงสีคล้ำเกือบดำ บริเวณส่วนท้องเป็นสีขาว มักอาศัยอยู่ในทะเลเขตร้อนตั้งแต่ชายฝั่งและแนวปะการังไปจนถึงความลึกเกือบ 300 เมตร มันสามารถกินสัตว์น้ำตัวเล็กทุกชนิดได้เป็นอาหาร แต่สิ่งที่โปรดปรานที่สุดในบรรดาสัตว์ต่างๆ ก็คือปลากระเบน และถึงแม้ว่าโดยปกติฉลามหัวค้อนมักจะชอบอยู่รวมกลุ่มกันเป็นฝูงประมาณ 10-20 ตัว แต่เมื่อถึงเวลากลางคืนมันกลับกลายเป็นนักล่าเหยื่อตัวฉกาจที่ซุ่มรอเหยื่อผู้โชคร้ายอยู่เพียงลำพัง
ด้วยความน่าทึ่งของสิ่งมีชีวิตที่ว่องไวปราดเปรียวและความสามารถในการหาเหยื่อด้วยอวัยวะที่มีความพิเศษซ่อนอยู่ ทำให้ฉลามหัวค้อนเป็นหนึ่งในบรรดาสัตว์ที่มีความน่าค้นหาและมีเอกลักษณ์ในตัวเอง สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล จึงเปิดโอกาสให้คุณหนูๆ ได้เรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของการเติบโตของฉลามหัวค้อนในแบบที่ใกล้ชิดกับอนุบาลฉลามหัวค้อน ในบรรยากาศของท้องทะเลอันกว้างใหญ่ที่คุณหนูๆจะได้สัมผัสประสบการณ์ ‘Come Alive’ที่จะสร้างความสนุกสนาน ประทับใจด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่จะทำให้เพลิดเพลินไปกับการเรียนรู้ในเชิงสาระและบันเทิง (Edutainment) ในเรื่องราวของฉลามหัวค้อน พร้อมเรียนรู้การใช้ชีวิตของฉลามหัวค้อนผ่านมุมมองผู้ล่าที่สามารถจัดการกับเหยื่อได้ง่าย และรวดเร็ว ด้วยทักษะที่โดดเด่นและความได้เปรียบที่มากกว่าสัตว์น้ำชนิดอื่นใต้ท้องทะเล
สัมผัสประสบการณ์ COME ALIVE กับนักล่าผู้ว่องไวแห่งท้องทะเล
พร้อมไขความลับของลักษณะพิเศษของหัวฉลามหัวค้อนที่จะทำให้คุณหนูๆ ได้เรียนรู้และสนุกสนานเพลิดเพลินตลอดทั้งวันตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป
ที่ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ชั้น บี1 - บี2 ศูนย์การค้า สยามพารากอน
764
news & activity / ทรูต้อนรับนักศึกษาธรรมศาสตร์ เยี่ยมชมกิจการ
« on: September 18, 2010, 11:19:41 AM »
กลุ่มทรู โดย นางสาวเสาวนีย์ ลิมมานนท์ (กลาง) ผู้ช่วยบริหารงานกรรมการผู้จัดการใหญ่ รับผิดชอบงานซีเอสอาร์ และหัวหน้าสายงานสื่อสารองค์กร และประชาสัมพันธ์การตลาด กลุ่มทรู ต้อนรับและบรรยายหัวข้อ การสื่อสารองค์กร แก่คณะอาจารย์และนักศึกษา สาขาวิชาการบริหารทรัพยากรมนุษย์และองค์การ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในโอกาสเยี่ยมชมกิจการทรู พร้อมนำชมไลฟ์สไตล์ ออฟฟิศ ที่ตกแต่งด้วยแนวคิด Wellness ชั้น 23 Sport World ชั้น 24 และ Mobile Office ชั้น 29 ณ อาคารทรู ทาวเวอร์ เมื่อเร็วๆนี้
765
news & activity / มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เลือกใช้เทคโนโลยี HPC จากไอบีเอ็ม
« on: September 18, 2010, 11:16:37 AM »
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เลือกใช้เทคโนโลยี HPC จากไอบีเอ็ม เพื่อสนับสนุนงานวิจัย
กรุงเทพฯ 29 กันยายน 2553 – มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำโดย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดี (คนที่5 จากซ้าย) ร่วมกับ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด โดย นายอรรถพล ประพิณวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (คนที่6 จากซ้าย) ร่วมกันนำระบบ High Performance Computing (HPC) พร้อมด้วยเทคโนโลยี IBM BladeCenter, System x และ System Storage สนับสนุนการทำงานของนักวิจัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้สามารถผลิตผลงานวิจัยให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 100 โครงการภายในปี 2553
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของไอบีเอ็ม ประเทศไทย ได้ที่ www.facebook.com/IBMThailand
กรุงเทพฯ 29 กันยายน 2553 – มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำโดย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดี (คนที่5 จากซ้าย) ร่วมกับ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด โดย นายอรรถพล ประพิณวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (คนที่6 จากซ้าย) ร่วมกันนำระบบ High Performance Computing (HPC) พร้อมด้วยเทคโนโลยี IBM BladeCenter, System x และ System Storage สนับสนุนการทำงานของนักวิจัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้สามารถผลิตผลงานวิจัยให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 100 โครงการภายในปี 2553
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของไอบีเอ็ม ประเทศไทย ได้ที่ www.facebook.com/IBMThailand