Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - Google

Pages: [1] 2 3 ... 27
1
บลจ. แอสเซท พลัส เสนอขายกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ 2 กองทุน วันที่ 8 และ 11 ก.ค. นี้ชูผลตอบแทน 3% และ 3.10%**
 
          วันที่ 8 กรกฎาคม นี้ บลจ.แอสเซท พลัส จะ Rollover กองทุนเปิดแอ็คทีฟเอฟไอเอฟ 5 (ACFIF5) ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และตั๋วแลกเงินธนาคาร อายุประมาณ 3 เดือน ผลตอบแทน 3.00% ต่อปี* และในวันที่ 11 กรกฎาคม บริษัทฯ จะ Rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 1 (ASP-ACFIXED1) ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุประมาณ 5 เดือน ผลตอบแทน 3.10% ต่อปี*

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการขายและการตลาด กล่าวว่า ในช่วงนี้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นของไทยปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน น่าจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ในการประชุมวันที่ 13 ก.ค. นี้ หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานได้ปรับขึ้นจาก 2.48% มาอยู่ที่ระดับ 2.55% ขณะที่ตราสารหนี้ในต่างประเทศที่ให้ผลตอบแทนในระดับสูงเริ่มมีปริมาณลดน้อยลง

          ในด้านแผนการเสนอขายกองทุนได้ปรับนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศมากขึ้น โดยได้มีการแก้ไขโครงการกองทุนเปิดแอ็คทีฟเอฟไอเอฟ 5 (ACFIF5) ซึ่งจะครบรอบ Rollover ใหม่ในวันที่ 8 กรกฎาคม นี้ จากกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ เป็นกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ เพื่อให้กองทุนสามารถดำรงสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศได้อย่างเหมาะสมกับภาวะการลงทุน และเปลี่ยนชื่อเป็น กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้ทวีทรัพย์ 4 (ASP-TFIXED4) ซึ่งจะมีผลตั้งแต่รอบลงทุนถัดไปตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม นี้

          โดยกองทุน ACFIF5 จะลงทุนในลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ระยะสั้น และตั๋วแลกเงินธนาคารในประเทศไทย อายุประมาณ 3 เดือน เช่น หุ้นกู้ระยะสั้นของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ (SCBT) และธนาคารดอยช์แบงก์ (DB) ตั๋วแลกเงินของธนาคารทิสโก้ (TISCO) และธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) โดยคาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 3.00% ต่อปี*

          นอกจากนี้ ในวันที่ 11 กรกฎาคม นี้ บริษัทฯ จะ Rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 1 (ASP-ACFIXED1) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ ที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยรอบการลงทุนนี้ จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุประมาณ 5 เดือน โดยคาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 3.10% ต่อปี*

          “ทั้งนี้ กองทุน Rollover ทั้งสองกองทุนมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ และสามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนในระดับที่ดีสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้นๆ ตามช่วงการปรับตัวของดอกเบี้ยขาขึ้น” นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว

2
“ต้อม-ยุทธเลิศ” มั่นใจ “บางกอกกังฟู” เพิ่มกลิ่นอายความรักแต่ไม่ทิ้งแอ็คชั่น



          ถือเป็นผู้กำกับฯ มือทอง สำหรับ “ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค” ล่าสุดมานั่งแท่นกำกับฯ หนังแอ็คชั่นที่มีกลิ่นอายของความรักอย่าง “บางกอกกังฟู” ของ ค่าย ฟิล์ม อาร์อัส ในเครืออาร์เอส โดยคว้าตัว 4 หนุ่มสุดเท่ เป้-อารักษ์, มารีโอ้ เมาเร่อ, แบงค์-อธิกิตติ์ และ โทโมะ-วิศวะ มาประชันบทบู๊แอ็คชั่น กับหนึ่งสาวห้าว "แก้ว จริญญา" โดยเจ้าตัวกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

          “สำหรับหนัง บางกอกกังฟู เราตั้งใจจะให้เป็นแอ็คชั่นกำลังภายใน ที่มีความเข้มข้นของเรื่องราวดราม่าและความรักเข้าไป ซึ่งแอ็คชั่นของเราก็ไม่ได้ยิงปืน ไม่ได้ต่อสู้กันแบบห่ำหั่น แต่ว่าเป็นการต่อสู้แบบจีนสำหรับคนที่ชอบหนังรักกับหนังกำลังภายใน แกนหลักของเรื่องมันเป็นเรื่องที่แอบพูดถึงสังคมเล็กๆ ในสภาพสังคมของเมืองไทย ซึ่งเด็กยังไม่ได้รับการปกป้องหรือคุ้มครองจากผู้ใหญ่ ผลพวงของเด็กที่ไม่ได้รับการดูแล เด็กขาดความอบอุ่น หรือ เด็กที่มีปัญหามันส่งผลถึงตัวละครในเรื่องนี้ซึ่งเราก็นำเสนอออกมาในหนัง เราหยิบตรงนั้นมาถ่ายทอด แต่ความผูกพันของการได้รับการสั่งสอนที่ดี ได้เพื่อนที่ดีมันก็ทำให้สามารถเอาตัวรอดได้ ที่สำคัญหนังแอ็คชั่นหลายๆ เรื่องเขานำเสนอคนที่สมบูรณ์ สวยหล่อ แต่เรานำเสนอผ่านตัวละครที่ไม่สมบูรณ์มีความพิการจากการถูกทำร้าย จุดเด่นของเราคือหนังเราไม่เหมือนใคร มันไม่ใช่หนังตลก ไม่ใช่หนังรักทั่วไป แต่เป็นหนังที่ครบรส เป็นแอ็คชั่นที่มีกลิ่นอายของความรัก ซึ่งเชื่อว่าคนดูจะไม่ผิดหวังแน่นอน” ต้อม กล่าว

3
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ชวนสาวกร่วมรำลึกและปิดตำนานมหากาพย์ พ่อมด แฮรี่ พอตเตอร์ กับกิจกรรมพิเศษ “แฮรี่ พอตเตอร์ มูฟวี่ มาราธอน” ชมภาคแรกจนถึงภาคจบแบบม้วนเดียว



          เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และ วอร์เนอร์ บราเดอร์ส จัดกิจกรรมพิเศษ “Harry Potter TM  Movie Marathon” เพื่อรำลึกและปิดตำนานมหากาพย์ภาพยนตร์พ่อมด แฮรี่ พอตเตอร์ เอาใจเหล่าสาวกภาพยนตร์ภาคต่อที่ ยาวนานที่สุด ให้สาวกที่ชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้มาร่วมรำลึกความยิ่งใหญ่พร้อมส่งท้ายด้วยการเปิดให้ชมภาพยนตร์ตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคจบ รวมกว่า 16 ชั่วโมง แบบมาราธอน 1 วัน 1 คืนเต็ม ๆ ในระบบดิจิตอล คมชัด สมจริงกันทุกภาค เริ่มชมในวันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 21.00 น. จนถึง วันพุธที่ 13 กรกฎาคม 2554 ในเวลา 23.00 น. พิเศษ..สำหรับสาวกที่สามารถชมครบทุกภาคจะได้รับประกาศนียบัตรรับรองว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของปรากฎการณ์ใหม่ของการชมภาพยนตร์ ตลอดจนสัมผัสบรรยากาศการจัดแสดงของสะสมของเหล่าบรรดามักเกิ้ลไทย ณ บริเวณชั้น 3 โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมฟรี รับจำนวนจำกัดเพียง 219 คนเท่านั้น ติดต่อได้ที่ โทร.02-511-5427-36 ต่อ 513 และสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.majorcineplex.com หรือ www.facebook.com/mgencard

4
โบโบ้ สตูดิโอไทย คัดเลือกนักแสดง สัญญาสู้ สัญญาพิฆาตุ


 
          เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา โบโบ้สตูดิโอไทย ร่วมกับ 301 โปรดักชั่นไทยแลนด์ได้ทำการเปิดแคสนักแสดงสำหรับภาพยนตร์ แอ๊คชั่นสุดมัน No Promise หรือในชื่อไทย สัญญาสู้ สัญญาพิฆาตุ โดยกำหนดการเปิดกล้อง คือวันที่ 16 เดือนกันยายน 2554

5
สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) ร่วมกับ EU จัดเทศกาลภาพยนตร์สหภาพยุโรป 2011 (EU Film Festival ครั้งที่ 20)



          สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) ร่วมกับ คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (EU) เปิดเทศกาลภาพยนตร์สหภาพยุโรป 2011 20th European Union Film Festival in Thailand หรือ EU Film Festival ครั้งที่ 20 โดยมีคุณเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. และ นายเดวิด ลิปแมน (H.E. Mr. David Lipman) เอกอัครราชทูตหัวหน้าสำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ร่วมเป็นประธานในพิธี เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2554 ที่หอศิลปและวัฒนธรรมกรุงเทพฯ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 5

          นับเป็นปีที่ 2 ที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) ร่วมเป็นพันธมิตรกับ คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (EU) จัดเทศกาลภาพยนตร์สหภาพยุโรป EU Film Festival 20th European Union Film Festival in Thailand บอกเล่าเรื่องราวทางศิลปะวัฒนธรรม และสะท้อนความคิดมุมมอง วิถีชีวิต ตลอดจนอัตลักษณ์แห่งวัฒนธรรมของสังคมยุโรป นำเสนอผ่านภาพยนตร์คุณภาพ 22 เรื่อง จาก 16 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป จัดฉาย ณ หอศิลปและวัฒนธรรมกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 6-17 กรกฎาคม 2554 และเพื่อขยายโอกาสให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าชมภาพยนตร์คุณภาพจากยุโรปกันอย่างทั่วถึง EU Film Festival มีกำหนดจัดขึ้นที่โรงภาพยนตร์วิสต้า กาดสวนแก้ว เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 21-31 กรกฎาคม 2554 โดยภาพยนตร์ทุกเรื่องฉายเป็นภาษาประจำชาติพร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษ พร้อมโปรแกรมพิเศษฉลองครบรอบ 20 ปีของ EU Film Festival "ดนตรีในหอศิลป์และวัฒนธรรมกรุงเทพฯ" ในวันเสาร์-อาทิตย์ 16-17 กรกฎาคม 2554 เข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถดูรายชื่อภาพยนตร์และโปรแกรมการฉายที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ โปรแกรมการฉาย เรื่องย่อ และตัวอย่างภาพยนตร์ทุกเรื่องได้ที่เฟซบุ๊คของคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยที่ www.facebook.com/EUinThailand

          สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) ร่วมเป็นภาคีกับคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศในฐานะองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ระหว่างประเทศไทยและกลุ่มในประเทศสหภาพยุโรป และในฐานะสื่อสาธารณะสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS ) จึงมีบทบาทที่จะส่งเสริมการเผยแพร่ด้านศิลปวัฒนธรรมของสังคมสหภาพยุโรปจากเทศกาลภาพยนตร์ในครั้งนี้ผ่านรายการศิลป์สโมสร ออกอากาศ เวลา 13.00 น. วันอังคารที่ 12 กรกฏาคม 2554

6
กลอรี่-ไทย และเจียระไน จับมือสปอนเซอร์ เปิดเวทีการประกวดมิสไทยแลนด์ ไชนีส คอสโม 2011 เดินหน้าสู่ปีที่ 2 หลังประสบความสำเร็จบนเวทีระดับภูมิภาค



          หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสวยงามกับการประกวดมิสไทยแลนด์ ไชนีส คอสโม 2010 ในปีแรกจนสามารถคว้า 3 รางวัล จากเวทีการประกวด Miss Chinese Cosmos Pageant 2010 Southeast Asia ที่ประเทศมาเลเซีย โดย 2 สาวหมวยจากไทย ได้แก่ นางสาวพันธ์ทิพย์ ไพรเรืองกิจ (น้องเบ็นซ์) ที่คว้า 2 รางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 และ Miss Popularity และนางสาวปุณยวีร์ เหล่าพาณิชธนาสิริ (น้องไฮรีน) ที่คว้าตำแหน่งขวัญใจช่างภาพ หรือ Miss Photogenic มาครอง จนสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับสาวไทยเชื้อสายจีนที่ได้ไปแสดงความสามารถและสร้างชื่อเสียงของประเทศไทยบนเวทีระดับโลกมาแล้ว

          นายยุทธนา แสงโสภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท กลอรี่-ไทย อินเตอร์คอนติเน็ลตอล จำกัด ผู้ได้รับลิขสิทธิ์การประกวดมิสไทยแลนด์ ไชนีส คอสโม 2011 หรือ Miss Thailand Chinese Cosmos Pageant 2011 อย่างเป็นทางการเป็นปีที่ 2 กล่าวว่า ในปีนี้ได้เตรียมเดินหน้าเปิดเวทีการประกวดอย่างยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา โดยได้รับความร่วมมือจาก เจียระไน เอนเตอร์เทนเม้นท์ สถาบันฝึกสอนและพัฒนาบุคลิกภาพแบบนางงามเต็มรูปแบบแห่งแรกของประเทศไทย และกลุ่มผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และสายการบินแอร์เอเชีย พร้อมด้วยกลุ่มผู้ร่วมสนับสนุนอีกหลายหน่วยงาน อาทิ โรงแรมรามาดา พลาซ่า แม่น้ำ ริเวอร์ไซด์ โรงแรมรอยัลคลิฟบีช รีสอร์ท ทรูฟิตเนส, บุญรอดริวเวอร์รี่ MTI ห้องเสื้อลอร่า ชุดว่ายน้ำ ELLE ฯลฯ ที่ได้มาร่วมสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับเวทีการประกวดในปีนี้

          “จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมาทำให้ในปีนี้มีสาวงามไทยเชื่อสายจีนมาร่วมสมัครแล้วเป็นจำนวนมาก โดยคุณสมบัติผู้เข้าประกวดในปีนี้เหมือนปีที่ผ่านมาคือ ผู้สมัครจะต้องมีเชื้อสายจีน หรือเป็นสาวจีนที่อาศัยในประเทศไทย มีอายุระหว่าง 18 – 28 ปี ความสูงตั้งแต่ 165 เซนติเมตรขึ้นไป มีบุคลิกและมนุษยสัมพันธ์ที่ดีสามารถเป็นทูตเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์และเผยแพร่วัฒนธรรมไทย-จีน ได้ตามวัตถุประสงค์ของการจัดการประกวดในปีนี้ได้เป็นอย่างดี”   
       
          สำหรับรางวัลการประกวดในปีนี้ จะมีความหลากหลายของตำแหน่งมากกว่าปีที่ผ่านมา มีมูลค่ารวมรางวัลทั้งหมดรวมมงกุฎเพชรพร้อมเงินสดและของรางวัลมูลค่าประมาณหนึ่งล้านหกแสนบาท โดยแบ่งเป็นรางวัลประเภทต่างๆ ดังนี้

· รางวัลชนะเลิศ ได้รับรางวัลมงกุฎเพชร ของรางวัลและเงินสดมูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท
· รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับมงกุฎเพชร เงินสดและของรางวัล รวมมูลค่า 300,000 บาท
· รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับมงกุฎเพชร เงินสดและของรางวัล รวมมูลค่า 200,000 บาท
· รางวัลขวัญใจช่างภาพ จะได้รับเงินสดและของรางวัล รวมมูลค่า 200,000 บาท
· รางวัล บุคลิกภาพดี จะได้รับเงินสดและของรางวัล รวมมูลค่า 100,000 บาท
· ขวัญใจการท่องเที่ยว จะได้รับเงินสดและของรางวัล รวมมูลค่า 100,000 บาท
· รางวัล Perfect Body จะได้รับเงินสดและของรางวัล รวมมูลค่า 100,000 บาท
· นางงามมิตรภาพ จะได้รับเงินสดและของรางวัล รวมมูลค่า 100,000 บาท

          สำหรับผู้ผ่านคัดเลือกในรอบแรกจะได้รับเงินสดและของรางวัล รวมมูลค่าคนละ 15,500 บาท
พร้อมกันนี้สาวงามที่ได้รับตำแหน่งทั้ง 3 ตำแหน่งจะได้เป็นตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วมประชันความงามกับสาวงามจากกลุ่มประเทศภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการประกวด Miss Chinese Cosmos 2010 Southeast Asia ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นปลายเดือนกรกฎาคมศกนี้ ที่ประเทศมาเลเซีย และหากตัวแทนจากประเทศไทยได้ผ่านการคัดเลือกก็จะมีสิทธิ์เข้าร่วมประกวดรอบสุดท้ายของการประกวด มิสไชนีส คอสโม 2011 (Miss Chinese Cosmos Pageant 2011) ที่จะจัดขึ้น ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน และฮ่องกง ซึ่งถือเป็นเวทีที่รวมเอาสาวงามเชื้อสายจีนจากทั่วโลกเข้าร่วมการประกวด

          สำหรับการประกวดมิสไทยแลนด์ ไชนีส คอสโม 2011 มีกำหนดเปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 โดยผู้สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.jiaranai.co.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 02 203 0288-9, 086 880 0008, 081 553 0656 และ 083 711 7888 (ภาษาจีน) หรือสมัครด้วยตัวเองได้ที่ เจียระไน เอนเตอร์เทนเม้นท์ บล็อก C ชั้น 2 RCA

          ทั้งนี้โดย การประกวดมิสไทยแลนด์ ไชนีส คอสโม 2011 หรือ Miss Thailand Chinese Cosmos Pageant 2011 มีกำหนดในการคัดเลือกและกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจดังนี้

· การคัดเลือกผู้ผ่านเข้ารอบแรก ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 ณ เจียระไน เอนเตอร์เทนเม้นท์
· กิจกรรมของสาวงามที่เข้ารอบ ในระหว่าง วันที่ 23 - 24 กรกฎาคม 2554 ณ โรงแรมรอยัลคลิฟบีช รีสอร์ท พัทยา จังหวัดชลบุรี
· การประกวดรอบขวัญใจสื่อมวลชน ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องแม่น้ำแกรนด์ โรงแรมรามาดา พลาซ่า แม่น้ำ ริเวอร์ไซด์
· การประกวดในรอบชนะเลิศ ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องแม่น้ำแกรนด์ โรงแรมรามาดา พลาซ่า แม่น้ำ ริเวอร์ไซด์

          สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวการประกวดได้อย่างใกล้ชิดที่ www.jiaranai.co.th

7
MONEY & BANKING AWARDS 2011 รางวัลเกียรติยศตลาดเงิน

 

          ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเกียรติยศ MONEY & BANKING AWARDS 2011 ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2554 เวลา 19.00 น. ณ ห้องบอลรูม โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ เผยผู้จัดการ ธ.ก.ส. ลักษณ์ วจนานวัช รับแหน่งนักการเงินแห่งปี 2553 ด้านธนาคารกรุงเทพ คว้าธนาคารแห่งปี 2554 ธนาคารกสิกรไทย รั้งธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยแห่งปี 2554 ส่วนเอไอเอส แชมป์บริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2554 พร้อมด้วย 20 สถาบันครองรางวัลบูธสวยงาม ในงาน Money Expo 2011

          นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานและบรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร เปิดเผยว่า วารสารการเงินธนาคาร จัดพิธีมอบรางวัลเกียรติยศ MONEY & BANKING AWARDS 2011 ขึ้นในปีนี้เป็นปีที่ 4 เพื่อยกย่องธนาคาร สถาบันการเงิน และบริษัทจดทะเบียนที่มีผลงานยอดเยี่ยมในรอบปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย 5 สาขารางวัล ดังนี้

          1.รางวัลนักการเงินแห่งปี 2553 (Financier of the Year 2010) เป็นรางวัลที่เชิดชูความสำเร็จและยกย่องนายธนาคารและนักการเงินมีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการ ซึ่งมีเกณฑ์การตัดสินจากคุณสมบัติ 4 ด้านคือ 1. มีวิสัยทัศน์กว้างไกล 2. มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ 3. สร้างความเจริญเติบโตให้กับองค์กร และ 4.ทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวมและสังคม ได้แก่ ลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

          2. รางวัลธนาคารแห่งปี 2554 (Bank of the Year 2011) เป็นรางวัลที่มอบให้กับธนาคารพาณิชย์ที่มีผลประกอบการยอดเยี่ยมในรอบปี แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในผลประกอบการและการบริหารจัดการ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

          3. รางวัลธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยแห่งปี 2554 (Best Retail Bank of the Year 2011) เป็นรางวัลจากการสำรวจผู้เข้าชมงาน มหกรรมการเงิน ครั้งที่ 11 Money Expo 2011 ที่แสดงความชื่นชอบและตัดสินใจเลือกใช้บริการมากที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจสูงสุดในการได้รับบริการจากธนาคารและสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงาน ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

          4. รางวัลบริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2554 (Best Public Companies of the Year 2011) เป็นรางวัลที่มอบให้กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมในรอบปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารการจัดการของบริษัทในภาพรวม ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

          5. รางวัลบูธสวยงาม งานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 11 Money Expo 2011 เป็นรางวัลที่มอบให้กับธนาคาร สถาบันการเงิน และองค์กรที่เข้าร่วมงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 11 ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการตัดสินรางวัลบูธสวยงาม ซึ่งประกอบด้วย ศิลปินแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม ศิลปกรรมและจิตรกรรม โดยมีเกณฑ์การตัดสินที่พิจารณาจากแนวความคิดรวมยอดและความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบและศิลปกรรม ประโยชน์ใช้สอย และการนำเสนอ ประกอบด้วย 4 ประเภทรางวัล ดังนี้

ประเภทพื้นที่ขนาดใหญ่
รางวัลยอดเยี่ยม ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
รางวัลดีเด่น ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
รางวัลความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)

ประเภทพื้นที่ขนาดกลาง
รางวัลยอดเยี่ยม ได้แก่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
รางวัลดีเด่น ได้แก่ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด
รางวัลความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย และ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด

ประเภทพื้นที่ขนาดเล็ก
รางวัลยอดเยี่ยม ได้แก่ กรมสรรพากร
รางวัลดีเด่น ได้แก่ บริษัท ออสสิริส จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.)

          นายสันติกล่าวว่า รางวัลเกียรติยศ MONEY & BANKING AWARDS 2011 มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนความสำเร็จของธนาคาร สถาบันการเงิน และบริษัทจดทะเบียนให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม ซึ่งการมอบรางวัลดังกล่าว นอกจากจะเป็นการให้กำลังใจและเป็นตัวอย่างที่ดีแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนภาคการเงินและภาคธุรกิจของไทยให้ก้าวหน้าไปสู่ความเข้มแข็ง มีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ มีความสามารถในการแข่งขัน อันจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ  

8
กลุ่มซีคอน ทุ่ม 3,000 ล้านบาทสร้างศูนย์การค้า “ซีคอน บางแค” บนพื้นที่กว่า 40 ไร่ ปลุกไลฟ์สไตล์ล้ำสมัย ให้คืนสู่ถนนเพชรเกษม รองรับกำลังช็อปฯ มหาศาล


 
          กลุ่มซีคอน รุกหนักต้นไตรมาสสามประกาศทุ่ม 3,000 ล้านบาท แถลงข่าวเปิดตัวอภิมหาโครงการ ซีคอน บางแค ศูนย์การค้าแห่งใหม่ ทันสมัย ในคอนเซปต์ คลื่นแห่งสีสันอารมณ์ใหม่ ที่จะคืนชีวิตชีวาสู่การ ช้อปปิ้ง ปลุกไลฟ์สไตล์ล้ำสมัยให้คืนสู่ถนนเพชรเกษม ด้วยจุดเด่นทั้งเรื่องสถาปัตยกรรม ตกแต่งแบบ Modern Contemporary พร้อมหลากหลายไอคอนนิคมัดใจนักช็อปฯ ทั้งร้านค้าแฟชั่นสุดชิค ฟู้ดคอร์ท สารพัดอาหารนานาชาติให้เลือกสรร และสินค้าไอที ฯลฯ ให้เลือกมากมายเกินกว่า 200 ร้านค้า เบื้องต้นใช้ งบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 60 ล้านบาท สร้างการรับรู้ในวงกว้าง เชื่อมั่นศักยภาพทำเลทอง รายล้อมไปด้วยที่พักอาศัยและสถานศึกษากว่า 220 แห่ง มหาวิทยาลัย 4 แห่ง โรงพยาบาล 3 แห่ง ฐานกำลังซื้อกว่า 9 แสนคน เป็นจุดเด่น ทำยอดสะพัด! Win Win (วิน วิน) ทั้งผู้ค้าและนักช้อปฯ ทั้งนี้เหล่าพาร์ทเนอร์ “บิ๊กแบรนด์” ให้ความสนใจตอบรับการจองพื้นที่เข้ามาคับคั่ง

          ตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน บางแค จำกัด ให้สัมภาษณ์ถึงการลงทุนครั้งนี้ว่า “กลุ่มซีคอนฯ เป็นผู้บุกเบิกและพัฒนาธุรกิจชั้นนำโดยเฉพาะศูนย์การค้าฯ และได้เล็งเห็นศักยภาพบนพื้นที่ถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมที่รายล้อมไปด้วยที่พักอาศัย โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย ฯลฯ โดยตั้งใจให้ ซีคอน บางแค เป็นศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่ง ด้วยแนวคิด ปลุกไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย ให้คืนสู่ถนนเพชรเกษม โดยใช้งบลงทุนก่อสร้างและตกแต่งทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารโมเดิร์น Wave Design บนพื้นที่กว่า 40 ไร่ ตกแต่งสไตล์ Modern Contemporary ที่เน้นความโปร่ง โล่งสบายจากแสงธรรมชาติ เปิดมุมมองให้เห็นได้ทุกชั้น เพื่อให้ร้านค้าโดดเด่น สร้างประสบการณ์ใหม่ในการ ช้อปปิ้งได้อย่างลงตัวกับลานอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ถึง 3 ลาน ที่พร้อมรองรับกิจกรรมทุกรูปแบบ เพื่อสร้างสีสันความหลากหลายตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์”

          ด้าน จรัญ ผู้พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการสำนักสื่อสารการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ เผยถึงอนาคตทางการตลาดและแผนโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่า “ศูนย์การค้าซีคอน บางแค เป็นศูนย์การค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง โดยการศึกษาวิจัยทางการตลาดฯ ก่อนตัดสินใจลงทุนนั้น พบว่ากำลังของคนระดับ B ในย่านนี้สูงและเป็นฐานที่ใหญ่ของกรุงเทพฯ เราจึงสร้างศูนย์การค้าที่ได้มาตรฐาน รองรับกำลังซื้อและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของกลุ่ม ย่านบางแคเป็นย่านที่ชุมชนหนาแน่นอยู่แล้ว เชื่อว่าช่วยทำให้ซีคอนบางแคจะมีลูกค้าประจำวันอย่างสม่ำเสมอ และนอกจากนั้นมีชุมชนชั้นดีใหม่ ๆ เกิดขึ้นรอบ ๆ มากมายซึ่งมีถนนเครือข่ายเชื่อมถึงอย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นวงแหวนตะวันตก ถนนราชพฤกษ์ ถนนปิ่นเกล้านครไชยศรี พุทธมณฑล โดยปัจจุบันฐานประชากรเฉลี่ยในรัศมี 10 กม. อยู่ที่กว่า 9 แสนคน นอกจากนั้นยังมีจุดแข็งรายล้อมไปด้วยสถานศึกษากว่า 220 แห่ง รวมมหาวิทยาลัย 4 แห่ง โรงพยาบาล 3 แห่ง ซึ่งจะดึงดูดให้ผู้คนมาจากทั่วทุกสารทิศอีกด้วย

          ด้าน ดร.พรต ซอโสตถิกุล รองกรรมการผู้จัดการสำนักพัฒนาธุรกิจ เผยถึงรายละเอียดเพิ่มเติมของศูนย์การค้าซีคอน บางแค ว่า “ศูนย์การค้า ซีคอน บางแค เป็นศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่ ทันสมัย ก่อสร้างจำนวน 5 ชั้น พื้นที่ทั้งหมด 300,000 ตร.ม.แบ่งเป็นพื้นที่เช่า 130,000 ตร.ม. ร้านค้า 250 ร้าน พื้นที่จอดรถ 4,000 คัน เปิดตัวภายใต้คอนเซปต์ A NEW WAVE is Coming คลื่นแห่งสีสันอารมณ์ใหม่ ที่จะคืนชีวิตชีวาสู่การ ช้อปปิ้ง มีธีมที่หนักแน่นในแต่ละแองเกิล ได้แก่

          Wow! ว้าว! ก่อนใครกับความทันสมัย ไม่ตกเทรนด์ ตื่นตาตื่นใจไปกับสีสันของการช้อปปิ้งกับสินค้าหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ ทั้ง Fashion และ Fashion Accessories อัพเดททุกเทรนด์ไอทีและอิเลคทรอนิกส์ ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนทันสมัยใส่ใจในเทคโนโลยี เพลิดเพลินกับร้าน Book, Music และ Movies ตลอดทั้ง Gift Shop อินเทรนด์ สัมผัสสุนทรีย์แห่งการช้อปปิ้งอย่างสนุก ครบทุกความบันเทิง ตอบสนองทุกความต้องการ

          Activities สุดยอดกิจกรรมหลากหลาย ตอบทุกไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวคุณ พร้อมให้คุณเพลิดเพลินกับกิจกรรมการตลาดหลากหลายคอนเซ็ปสไตล์ Seacon ที่คัดสรรเฉพาะความสุขที่ตอบทุกไลฟ์สไตล์ของครอบครัว

          Variety เพลิดเพลินกับเมนูนานาชนิด ครบรสชาติในที่เดียว เติมสีสันแห่งความสุขด้วยอาหารมื้ออร่อย จากร้านอาหารชั้นนำที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ครบครันกับอาหารทุกรูปแบบ ฟู้ดคอร์ท แหล่งรวมสารพันอาหารจานเดียว เทคโฮม ศูนย์รวมความอร่อยที่ทำให้คุณเพลิดเพลินกับการจับจ่าย และสร้างสรรค์เมนูอร่อยด้วยตัวคุณเองกับสินค้าคุณภาพที่ “ท็อปส์ มาร์เก็ต” ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ แหล่งรวมสินค้าคุณภาพดีทั้งในประเทศและสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ

          Entertainment ความบันเทิงสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อความสุขในวันพักผ่อน ประกอบด้วย EGV Cinema เติมเต็มทุกความบันเทิงด้วยโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอล จำนวน 10 โรง บนพื้นที่ 5,000 ตร.ม. ให้คุณชมภาพยนต์ได้อย่างเต็มอรรถรส Major Bowl บูทีค โบว์ลิ่ง 16 เลน ความบันเทิงในรูปแบบของกีฬา บนพื้นที่กว่า 2,000 ตร.ม. Sub-Zero Ice Skate Club ความสนุกแปลกใหม่ ท้าทายความมันส์บนลานน้ำแข็งเย็น สุดขั้วเฉียด 0 องศา ที่สุดของความคูลรูปแบบใหม่ บนพื้นที่กว่า 1,500 ตร.ม. Yoyoland The Best Indoor Theme Parkสวนสนุกโยโย่แลนด์ ที่บริหารงานโดย Mr.Mike Denning (ประสบการณ์บริหาร สวนสนุก 84 แห่ง ใน 40 ประเทศทั่วโลก) สวนสนุกในร่มขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 6,500 ตารางเมตร “ โดดเด่น สนุก ปลอดภัยระดับโลก” ตระการตาไปกับเครื่องเล่นทันสมัยสั่งตรงจากต่างประเทศ สนุกท้าทายไปกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ของเครื่องเล่น 3 มิติ และ Interactive ซึ่งได้รับความนิยมทั่วโลก ควบคู่กับเครื่องเล่นเสริมทักษะความรู้ และด้านวิทยาศาสตร์ ที่น่าสนใจอีกมากมาย

          ปัจจุบันศูนย์การค้าซีคอน บางแค ได้เริ่มก่อสร้างตกแต่ง และดำเนินการขายพื้นที่ โดยมีพาร์ทเนอร์รายใหญ่ที่ให้ความสนใจจับจองพื้นที่แล้ว อาทิ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน), โรงเรียนดนตรีของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล, บริษัท รีโน (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท คาเมล (ประเทศไทย) จำกัด ฯลฯ พร้อมเปิดให้กับบริษัทฯ , ห้างร้าน, ผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ที่สนใจ เข้าจับจองพื้นที่ โดยสามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายขาย เบอร์โทรศัพท์ 0-2721-8888 ต่อ 577, 575, 596

          ในส่วนของพาร์ทเนอร์รายใหญ่ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษถึงประเด็นการเปิดตัวศูนย์การค้า ซีคอน บางแค ดังนี้ คุณวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) “ดีใจครับที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Seacon ผมวางใจและเชื่อว่าที่บางแคต้องไปได้ดีอย่างแน่นอน ศูนย์การค้าดีๆ ยังมีน้อย ในขณะที่คนแถวนั้นเยอะมาก หลายแสนคน เรียกได้ว่าเรามีโอกาสที่ดี และซีคอนเองไม่ได้หยุดนิ่ง สรรหากิจกรรมแปลกๆ มาคอยดึงดูดลูกค้าตลอดเวลา ผมสบายใจครับ นอกจากนี้ ผมชอบที่ Seacon เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย มีสินค้าเยอะ มีหลาย Zone เดินแล้วเพลินดี โดยเฉพาะที่บางแค สะดวกสบาย เดินทางง่าย คนแถวนั้นต้องชอบแน่ๆ ที่จอดรถก็เยอะไม่แออัด บรรยากาศดี ตกแต่งสวยโมเดิร์น ดูดีเชียวครับ”

          คุณปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) “การที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ร่วมลงทุนกับทางซีคอนบางแคในครั้งนี้ เนื่องจากเล็งเห็นถึงทำเลที่มีศักยภาพสูง รองรับการขยายตัวของกรุงเทพฯ รายล้อมด้วยหมู่บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม โรงเรียน มหาวิทยาลัย และแหล่งอุตสาหกรรม ส่วนด้านการคมนาคมก็มีความสะดวกสูงมาก เพราะอยู่บนถนนเส้นหลักเพชรเกษม และการขยายเส้นทางของรถไฟฟ้า MRT ซึ่งทางโรบินสันเองก็รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมมือกันอีกครั้ง เพื่อสร้างสีสันใหม่ๆ ให้กับวงการ ค้าปลีก ด้วยโมเดลธุรกิจรูปโฉมใหม่ ที่รวมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมชั้นนำ ครบครันทันสมัย พร้อมบริการที่ดีจากพนักงานมืออาชีพ ให้สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด “โรบินสัน...ใส่สีสันใหม่ให้ชีวิต” เชื่อได้ว่า ศูนย์การค้าซีคอน บางแค แห่งนี้ จะกลายเป็นจุดศูนย์กลางการช้อปปิ้งแห่งใหม่ ที่สร้างสีสันให้นัก ช้อปได้อย่างแน่นอน”

          รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข ผู้ก่อตั้ง ผู้อำนวยการ และคณบดีของ วิทยาลัยดุริยางศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล“สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจมาร่วมมือกันกับซีคอน คือ การร่วมกันเปิดโรงเรียนดนตรีของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์มาก่อนที่ ซีคอนสแควร์ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนในละแวกนั้น ได้มีโอกาสส่งลูกหลานมาเรียน ช่วยสาธารณะชนในเรื่องวิชาการ พอเวลาผ่านไปก็มีความรู้สึกว่าเราเป็นมิตรที่ดีต่อกัน และเป็นคุณูปการต่อสังคม เราจึงยินดีร่วมโครงการเพิ่มเติมกับซีคอนบางแค นอกจากนี้ จุดเด่นของซีคอนก็คือผู้บริหาร เป็นคนจิตใจดี เป็นนักธุรกิจเลือดใหม่ของสังคม ที่ตั้งของซีคอนบางแค มีศักยภาพ สามารถเข้าถึงได้สะดวก เส้นทางรถรา ที่จอดรถก็ดี ร้านค้ามีคุณภาพ มีสิ่งอำนวยความสะดวก การที่เราไปร่วมงานกับสิ่งที่มีดีอยู่แล้ว ผมคิดว่ามันทำให้ช่วยสังคมได้ง่ายขึ้นครับ”

          คุณปิยะ ธนากิจอำนวย CEO บริษัท รีโน (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท คาเมล (ประเทศไทย)จำกัด “อันแรกที่สำคัญที่สุดในการทำ Retail ธุรกิจสำหรับเสื้อผ้าอย่างลักษณะ AIIZ เนี่ยนะครับ เราก็จะให้ความสำคัญที่สุดในเรื่องของ Location ซีคอนบางแคเป็นโลเคชั่นที่ดีมาก เจริญเติบโตเร็ว ในปัจจุบันก็มีมหาวิทยาลัยและหมู่บ้านมากมาย ประการที่สองก็จะเป็นเรื่องของผู้บริหารศูนย์การค้า องค์กรเรามองว่าถ้าเราไปศูนย์ไหน ศูนย์นั้นก็จะต้องเป็นมืออาชีพ ทีมงานของซีคอนบริหารซีคอนสแควร์ได้ดีมากและก็มีการทำโปรโมชั่นที่แตกต่างจากที่อื่นมากมายครับ สำหรับซีคอนบางแค เราเห็นว่าเป็นที่ที่มีอนาคต เราก็จะเปิดร้านที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเปิด มีตั้งแต่ขนาด 700 ตร.ม. ไปถึง 1400 ตร.ม. แล้วก็ไปทุกยี่ห้อ ซึ่งเรามีอยู่ประมาณ 10 กว่าแบรนด์ครับ”

9
“มาดามทุสโซ” ตามหา โคลนนิ่ง “เลดี้ กาก้า” เมืองไทย!!!



         เชื่อแล้วว่า “แร๊งส์” ไม่หยุดจนฉุดไม่อยู่ไปซะแล้ว สำหรับป๊อปสตาร์ระดับโลก “เลดี้ กาก้า” เพราะขนาดนิตยสารชื่อดังยังยกย่องให้เป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก ประจำปี 2554 มาสดๆ ร้อนๆ โดยวัดจากรายได้ และจำนวนแฟนคลับในโลกออนไลน์ที่มีอยู่เกือบ 100 ล้านคน รวมถึงแฟนๆ ชาวไทย ซึ่งไม่เพียงแต่จะปลื้มกับลีลาการร้อง การเต้น บนเวที ของสาวฮอตคนนี้ แต่แฟนๆ ทั่วทั้งโลกต่างทึ่งกับความกล้าที่จะฉีกทุกกฎ พร้อมสร้างความแปลก แหวกแนวให้กับตัวเอง จนยกให้เธอเป็นแฟชั่น ไอคอนระดับตัวแม่

          ล่าสุดกระแสความฮอตของซุป’ตาร์ “เลดี้ กาก้า” ในเมืองไทย ก็ดังข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงเกาะอังกฤษ จน “พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ“ สุดยอดพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบ ต้องเลือกมาดามทุสโซ กรุงเทพฯ เป็นที่จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้ง “เลดี้ กาก้า” ประเทศที่ 9 ในโลก แถมตอกย้ำความ “แร๊งส์” ของเจ้าแม่แฟชั่น “พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ กรุงเทพฯ” เลยจัดกิจกรรมสุดพิเศษ ฉลองเปิดตัวหุ่นขี้ผึ้งของศิลปินสาวสุดฮอต ตามหา ”เลดี้ กาก้า” เมืองไทย เชิญชวนพลพรรคคนรัก “กาก้า” ส่งภาพถ่ายที่คิดว่าแต่งตัวได้เหมือน “เลดี้ ก้าก้า” มากที่สุด ในลุคไหนก็ได้ แบบเต็มตัว!! แล้ว โพสต์มาที่แฟนเพจ www.facebook.com/MadameTussaudsBangkok พร้อมบรรยายความเป็น “เลดี้ กาก้า” ในตัวคุณใต้ภาพถ่าย ตั้งแต่วันนี้ – 11 กรกฎาคม 2554 พร้อมทั้งจะประกาศผลทันทีทางแฟนเพจ ในวันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม 2554

          งานนี้ใครแต่งตัวเป็น “เลดี้ กาก้า” ได้แบบสุดเป๊ะ!! พร้อมโพสต์ท่าได้สุดเจ๋ง!! ไม่แพ้ซุป’ตาร์ระดับโลก รับเกียรติเข้าร่วมเป็นแขกพิเศษในงานแกรนด์ โอเพนนิ่ง หุ่นขี้ผึ้ง “เลดี้ กาก้า” ตัวแรกในเมืองไทย ในวันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2554 เวลา 15.00 น. ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น 6 พร้อมรับเงินรางวัล 3,000 บาท และบัตรเข้าชมมาดามทุสโซ กรุงเทพฯ แบบรายปี (Annual Pass) 1 ใบ ฟรีทันที!!! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-658-0060

10
          รพ.สัตว์ตลิ่งชัน ร่วมกับเดอะมอลล์ ขอเชิญร่วมงาน The Mall My Best Friend Charity “รวมพลคนรักสุนัข ระดมทุนช่วยเหลือน้องหมา” เริ่ม 14-20 ก.ค. นี้ ที่เดอะมอลล์ บางแค



          โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ร่วมกับห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ บางแค บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด กลุ่ม Dog Club และเครือข่ายคนรักน้องหมา ขอเชิญประชาชนและผู้รักสุนัขร่วมงาน “My Best Friend Charity รวมพลคนรักสุนัข ระดมทุนช่วยเหลือน้องหมา” ณ อีเว้นท์ ฮอลล์ ชั้น G เดอะมอลล์ บางแค ระหว่างวันที่ 14-20 กรกฎาคม 2554

          ในงานพบกับโชว์สายพันธุ์สุนัขที่นิยมเลี้ยง แฟชั่นโชว์สุดน่ารักของเหล่าน้องหมาในแบบ “Musical Fashion Dog SHOWs Charity” ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของเมืองไทย ตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดงโชว์ความสามารถพิเศษของบรรดาซุปตาร์น้องหมาจากละครดัง และเหล่าดาราใจบุญที่มาจำหน่ายเสื้อและของที่ระลึกเพื่อระดมทุนช่วยเหลือสุนัขจรจัด อาทิ อ้น-สราวุฒิ มาตรทอง แวร์โซ ส้มโอ-ธราภา กงทอง นักแสดงจากเรื่องโบ้โบ้ ฯลฯ และร่วมพูดคุยปัญหาสุขภาพของสุนัขร่วมกับ นายสัตวแพทย์บูรพงษ์ สุธีรัตน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน โดยรายได้ทั้งหมดจะมอบให้ศูนย์ควบคุมสุนัขประเวศ ในพระอุปถัมภ์ของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และเกาะสุนัขพุทธมณฑล

          ผู้สนใจทั่วไปสามารถนำสุนัขมารับบริการต่างๆ ในงานฟรี เช่น ตรวจสุภาพ ป้อนยาถ่ายพยาธิ ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า รับอาหารตัวอย่าง และร่วมสมัครสมาชิกกับโรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชันเพื่อรับสิทธิพิเศษและส่วนลดต่างๆ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-887-8321-3, 087-1682187 หรือ face book //talingchanpet.com

11
ลลิลฯ ฉลองครบรอบ 24 ปี รับฟรี 24 รายการ


 
            ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ อัดโปรโมชั่นคืนกำไรลูกค้าสุดคุ้ม พร้อมมอบเงื่อนไขพิเศษสุด ฉลองครบรอบ 24 ปี รับฟรี 24 รายการ ในโครงการคุณภาพรวมกว่า 20 โครงการ ในแบรนด์ “ลลิลกรีนวิลล์” “บ้านลลิล”

“บ้านบุรีรมย์” “The Balcony Home” ส่วน โครงการทาวน์โฮม “Lio” จ่ายเพียง 2,400 บาท โอนได้ทันที ด้านโครงการ “LANCEO” บ้านเดี่ยว และบ้านแนวคิดใหม่ รับเงื่อนไขพิเศษสุด ตั้งแต่วันนี้ - 31 ส.ค. 54 นี้

          บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) คัดสรรโครงการคุณภาพมากกว่า 20 โครงการ จัดแคมเปญสุดคุ้มเพื่อคืนกำไร และเป็นของขวัญสำหรับลูกค้าทุกท่านของบริษัท ฉลองครบรอบ 24 ปี รับฟรีทันที 24 รายการ อาทิ ฟรีค่าโอน, แอร์, เฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ในแบรนด์“ลลิลกรีนวิลล์” “บ้านลลิล” “บ้านบุรีรมย์” “The Balcony Home” ด้านโครงการ Lio ทาวน์โฮมคนรุ่นใหม่ ดีไซน์ใหม่ จัดแคมเปญจ่ายเพียง 2,400 บาท พร้อมโอน ในระดับราคาเริ่มต้น 1.55 – 2.39 ล้านบาท ในทำเลวงแหวนฯ – ปิ่นเกล้า, วงแหวนฯ – รามอินทรา, พหลโยธิน – วัชรพล และเพชรเกษม 77 ด้านโครงการ “LANCEO” บ้านเดี่ยว และบ้านแนวคิดใหม่ ฉลองครบรอบ 24 ปี รับเงื่อนไขพิเศษสุด ในระดับราคาเริ่มต้น 2.59 – 5.0 ล้านบาท พลาดไม่ได้กับโปรโมชั่นพิเศษสุดที่พร้อมมอบให้กับลูกค้าทุกท่าน ด้วยการคัดสรรบ้านพร้อมอยู่คุณภาพเยี่ยม และสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้อย่างง่ายดาย ตั้งแต่วันนี้ - 31 สิงหาคม 2554 สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-725-9999 หรือ www.lalinproperty.com

12
ภาพข่าว: คิวเมดิคอลเซ็นเตอร์ร่วมออกบูธ



          นายปริวรรต ศุกรีเขตร รองประธานกรรมการบริหารบริษัท คิวเมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด ร่วมออกบูธในงาน Wedding Fair 2011 เพื่อประชาสัมพันธ์โปรแกรม ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ตรวจพันธุ์กรรมทำนายอนาคตสุขภาพ และโปรโมชั่นคอร์สผิวสวยหุ่นดีสำหรับเจ้าสาวภายใน 3 เดือน โดยมีจุ้มจิ้ม เอเอฟ 1 ร่วมทำกิจกรรมกับลูกค้าภายในบูธ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

13
KTAMเปิดทางเลือกใหม่กองทุนพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ เจาะลูกค้ารับความเสี่ยงต่ำอายุ10ปีผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อ
 
 
       นายสมชัย    บุญนำศิริ   กรรมการผู้จัดการ  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)   เปิดเผยว่า    บริษัทจะเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยพันธบัตรรัฐบาลชดเชยเงินเฟ้อ ( KTILB )   ในวันที่ 8-18  กรกฎาคม  2554      อายุ  10  ปี    มูลค่าโครงการ  1,000  ล้านบาท   เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000  บาท   เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรอ้างอิงอัตราเงินเฟ้อ ( ILB )   ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80     ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน     ส่วนที่เหลือจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งเงินฝาก    ตราสารแห่งหนี้    ตราสารการเงินอื่น ตามที่สำนักงานก.ล.ต.กำหนด

          โดยคาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทน จากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลชดเชยเงินเฟ้อ ( ILB ) ประมาณ 1.20%  ต่อปี บวกกับอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปี    ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ได้จาก ILB   และอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปี จะสะสมอยู่ในกองทุน   ซึ่งกองทุนมีนโยบายจ่ายผลตอบแทนคืนให้กับผู้ลงทุนในทุก 6 เดือน   โดยจะจ่ายคืนในส่วนของอัตราดอกเบี้ยของ ILB เท่านั้น หลังหักค่าใช้จ่ายจากกองทุน      ทั้งนี้ บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี หัก  ณ  ที่จ่าย

             จุดเด่นของกองทุนนี้ เป็นสินทรัพย์ทางเลือกสำหรับการลงทุนระยะยาวที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำ     กองทุนนี้จะรักษาเงินต้นและผลตอบแทนของผู้ลงทุนตามที่ได้กำหนดไว้   และคาดว่ากองทุนจะสร้างผลตอบแทนสุทธิได้สูงกว่าผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับจากการลงทุนเองโดยตรง  นอกจากนี้ จะเปิดให้ผู้ลงทุนที่ต้องการสภาพคล่อง สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้  หลังจากครบ 2 ปีแรก   ซึ่งบริษัทจะแจ้งวันและเวลาในการขายคืนหน่วยลงทุน     ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบไม่น้อยกว่า 7  วัน   

                  ทั้งนี้  อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ  10 ปี  อยู่ในอัตรา 3.90%  ต่อปี  (ข้อมูจาก  Thai BMA   ณ . 5 ก.ค. 2554 )    และเงินเฟ้อเฉลี่ยรายเดือนระหว่างปี 2530  ถึงปัจจุบัน  อยู่ในอัตรา 3.71%ต่อปี   ส่วนแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในอนาคต ฝ่ายวิจับยของบลจ.  กรุงไทย   คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อในระยะ 5 ปี ข้างหน้า จะอยู่ในช่วง3.1-4%  ต่อปี   โดยเฉพาะในปี 2554  คาดว่า จะสูงถึงร้อยละ 4.20%    เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา   จากแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ  การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการขาดดุลงบประมาณ  ผลกระทบจากการผ่อนคลายนโยบายการเงิน     รวมถึงการปรับขึ้นของราคาพลังงาน  ค่าขนส่ง  การทยอยปรับขึ้นของราคาสินค้า  จะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มแกว่งตัวในระดับสูงต่อเนื่อง    ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก

               กองทุนนี้เหมะสำหรับเงินลงทุนของผู้ลงทุนที่ต้องการทางเลือกใหม่   และต้องการออมเงินเพื่อเก็บไว้ในอนาคต   และรักษาค่าของเงินออมไม่ให้ลเดลงเพราะอัตาเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลชดเชยเงินเฟ้อ    ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนแปรผันไปตามการเปลี่ยนแปลงของดัชนีเงินเฟ้อ   จึงเหมาะสมกับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ

14
กรมส่งเสริมการส่งออก สุดปลื้มจัดพิธีมอบวุฒิบัตรผู้ผ่านการอบรม 91 ราย หลักสูตร “Export Academy” และกิจกรรมเสริมสร้างแบรนด์ไทยที่มีศักยภาพ “Brand Creation & Competency Building”



คุณนันทวัลย์ ศกุนตนาค (คนกลาง) อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ให้เกียรติเป็นประธานมอบวุฒิบัตรแก่ผู้ผ่านการอบรบหลักสูตร Export Academy (การบ่มเพาะทักษะการส่งออกอย่างเป็นระบบในอุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์) 41 ราย และ ผู้ผ่านกิจกรรมเสริมสร้างแบรนด์ไทยที่มีศักยภาพ Brand Creation and Competency Building 50 ราย ในโครงการ “พัฒนาทักษะเชิงสร้างสรรค์ และเพิ่มศักยภาพในทางธุรกิจในกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Product)” เพื่อส่งเสริม พัฒนา และเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และอุตสาหกรรมสินค้าไลฟสไตล์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สินค้าไลฟ์สไตล์ไทย สามารถก้าวสู่ตลาดการค้าโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน 

ติดตามข่าวสารข้อมูลโครงการได้ที่ www.wowthailifestyle.com

ผู้บริหารโครงการ : ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศิลปากร
จัดโดย : กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์

15
ไซแมนเทครายงานสถานการณ์อีเมลขยะและฟิชชิ่งประจำเดือนมิถุนายน 2554

การระบาดของวิดีโอลวงไปสู่อีเมลขยะขายยาและการหลอกลวงเรื่องคืนภาษีกลายเป็นยุทธวิธีหลักของเหล่าสแปมเมอร์

แม้ว่าเดือนที่ผ่านมาจะไม่เกิดเหตุการณ์สำคัญๆ ขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้เหล่าสแปมเมอร์หยุดที่จะโจมตีเหยื่อบนเครือข่ายไซเบอร์ ยุทธวิธีใหม่ที่นำมาใช้คือวิดีโอลวงที่หลอกเหยื่อเข้าชมแล้วนำพาไปสู่การขายยานานาชนิด และการหลอกลวงเรื่องการคืนภาษีซึ่งทั้งสองเรื่องกลายเป็นหัวข้อสำคัญของรายงานสถานการณ์อีเมลขยะและฟิชชิ่งประจำเดือนมิถุนายน

นายนพชัย ตั้งไตรธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค บริษัท ไซแมนเทค ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ผลกระทบจากการปิดตัวของบอตเน็ตในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ยังคงส่งผลต่อภาพรวมของสถานการณ์ในแง่ของปริมาณอีเมลขยะ ซึ่งหลังจากลดลง 5.35% ในเดือนเมษายนและปริมาณโดยเฉลี่ยต่อวันลดลงเพิ่มขึ้นอีก 10.02% ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เทียบกับช่วงเดียวกันนี้ในปีที่แล้วลดลงถึง 70.65% ซึ่งโดยรวมแล้วอีเมลขยะถือเป็น 72.14% ของข้อความทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม เทียบกับในเดือนเมษายนที่คิดเป็นสัดส่วน 74.81% และเพื่อให้เห็นภาพย้อนหลังไปนานกว่านั้นสัดส่วนดังกล่าวเคยมีมากถึง 89.81% ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าสแปมเมอร์จะวางมือกันไปหมดแล้ว จากรายงานของเดือนมิถุนายนมุ่งจับตามองที่อีเมลขยะขายยาที่มาในสองรูปแบบทั้งที่เป็นบริการแชร์วิดีโอออนไลน์และเว็บไซต์สารานุกรมออนไลน์อย่าง Wikipedia นอกจากนั้นจากการวิเคราะห์ในส่วนของหัวข้อของอีเมลขยะในเดือนพฤษภาคม พบว่าอีเมลขยะที่มีเนื้อหาลามกยังคงแพร่หลายอยู่

ภาพรวมของการคุกคามในรูปแบบฟิชชิ่งเพิ่มขึ้น 6.67% ซึ่งเพิ่มขึ้นทั้งแบบที่สร้างขึ้นจากเครื่องมืออัตโนมัติและโดเมนที่มีลักษณะเฉพาะเทียบกับเดือนที่ผ่านมา เว็บไซต์ฟิชชิ่งที่สร้างจากเครื่องมืออัตโนมัติมีจำนวนเพิ่มขึ้น 24.82% ในขณะที่แบบ URL เฉพาะนั้นเพิ่มเพียงเล็กน้อย 0.26% เว็บไซต์ฟิชชิ่งแบบที่มีที่อยู่ไอพี (ตัวอย่างเช่น http://255.255.255.255) ยังคงเพิ่มขึ้น 14.93% ส่วนบริการโฮสติ้งคิดเป็น 9% ของฟิชชิ่งทั้งหมดซึ่งลดลง 17.66% จากเดือนที่แล้ว จำนวนของเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่เป็นภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น 17.73% ซึ่งต่างจากเมื่อเดือนพฤษภาคมที่เว็บฟิชชิ่งภาษาอื่นๆ อย่าง ภาษาโปรตุเกส ฝรั่งเศส อิตาลีและสเปน ระบาดอย่างหนัก

ประเด็นที่น่าจับตามองในรายงานประจำเดือนมิถุนายน  2554 ได้แก่
•   การคลิกดูวิดีโอออนไลน์ที่พาไปสู่อีเมลขยะขายยา
•   สารบัญออนไลน์มีทุกอย่าง ไม่เว้นกระทั่งอีเมลขยะ
•   ฟิชเชอร์ย้อนกลับไปหลอกลวงด้วยเรื่องการคืนภาษี
•   การรับบริจาคจอมปลอมเพื่อช่วยผู้ประสบภัยในญี่ปุ่น
•   การวิเคราะห์หัวข้ออีเมลขยะ ประจำเดือนพฤษภาคม 2554

วิดีโอออนไลน์นำพาไปสู่อีเมลขยะขายยา
ข้อความในอีเมลขยะที่โฆษณาขายเวชภัณฑ์เป็นสิ่งที่พบเห็นเป็นเรื่องปกติของการโจมตีด้วยอีเมลขยะในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เวชภัณฑ์เหล่านี้โฆษณาชวนเชื่อให้กับผู้ซื้อผ่านทางอีเมลขยะด้วยเทคนิคสร้างความสับสนหลายรูปแบบ และไซแมนเทคตรวจพบการเพิ่มขึ้นของอีเมลขยะที่โฆษณาขายเวชภัณฑ์เหล่านี้แฝงไปกับเว็บไซต์แชร์วิดีโอออนไลน์ชื่อดัง

ตัวอย่างของที่มาและหัวข้อที่พบจากการโจมตีของอีเมลขยะ ด้านล่าง
From: [REMOVED] Service <service@[REMOVED].com>
Subject: [REMOVED] Administration sent you a message: Your video on the TOP of [REMOVED]
Subject: [REMOVED] Service sent you a message: Best Unrated Videos To Watch
Subject: [REMOVED] Support sent you a message: Your video has been removed due to terms of use violation

ในหัวข้ออีเมลนี้ สแปมเมอร์พยายามจู่โจมโดยอาศัยความอยากรู้ของเหยื่อ ซึ่งข้อความนั้นพยายามที่จะดึงดูดเหยื่อว่าเป็นวิดีโอที่ได้รับความนิยมหรือหลอกเหยื่อว่าวิดีโอนั้นๆ ได้ถูกลบออกไปแล้วเนื่องจากมีเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรง ตัวหนังสือที่รวมทั้งลิงค์ URL ในตัวเนื้อความ ซึ่งจะปรากฏรูปแบบของการกระทำแบบนี้ในทุกครั้งที่เกิดการแพร่กระจายของอีเมลขยะ และใน URL ที่ปรากฏบนเนื้อความดังกล่าวจะเป็นการเชื่อมไปยังเว็บไซต์แชร์ไฟล์วีดีโอซึ่งที่อยู่จริงของ URL เหล่านั้นเป็นโดเมนที่ถูกปล้นมาทั้งนั้น เมื่อคลิกไปที่ URL ดังกล่าวก็จะเป็นการเชื่อมไปยังหน้าเพจของร้านขายยาสัญชาติแคนาดาที่เป็นชื่อโดเมนที่มีแสปมเมอร์เป็นเจ้าของ โดยพบว่าบางโดเมนถูกจดทะเบียนในรัสเซียและฝรั่งเศส แม้ว่าในอีเมลดังกล่าวจะมีลิงก์สำหรับให้ผู้รับแจ้งสแปมแต่ก็เป็นลิงก์ที่เชื่อมไปยังหน้าเวบเพจขายยาเหมือนเดิม
 

เลขที่อยู่ IP ที่ปรากฏอยู่ในการโจมตีนั้นเป็นส่วนหนึ่งของบอตเน็ตและได้ถูกขึ้นบัญชีดำไว้แล้วจากการเกี่ยวข้องของการแพร่กระจายอีเมลขยะในครั้งก่อนๆ เราเชื่อว่าอีเมลดังกล่าวถูกส่งด้วยเครือข่ายบอตเน็ตหลายแห่ง นำมาซึ่งการกระจายสแปมในจำนวนมหาศาล

สารบัญออนไลน์มีทุกอย่าง ไม่เว้นกระทั่งอีเมลขยะ
ในปีที่แล้วสแปมเมอร์ตั้งเป้าที่จะใช้สารานุกรรมออนไลน์อย่าง Wikipedia เพื่อส่งออกอีเมลขยะจำนวนมากที่จะตรงเข้าหาเหยื่อที่หลงเข้ามาในเว็บไซต์ดังกล่าวที่ได้ปลอมขึ้นมา Global Intelligence Network ของไซแมนเทคตรวจพบการใช้เทคนิคในการหลอกลวงแบบใหม่ ที่พุ่งเป้าไปที่การใช้ชื่อของ Wikipedia ในการโฆษณาขายผลิตภัณฑ์ยาปลอม ซึ่งในส่วนของหัวข้อที่ใช้ในการโจมตีจะมีหลายรูปแบบที่จะถูกสุ่มขึ้นมาใช้และในส่วนของช่องผู้ส่งก็จะเป็นชื่อปลอมหรือเป็นบัญชีที่ขโมยมาจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เพื่อหลอกลวงเหยื่อว่านี่คืออีเมลที่ถูกส่งจากผู้ใช้จริงๆ

ตัวอย่างของหัวข้อที่ถูกใช้ในการส่งอีเมลขยะออกไป
Subject: wWIKIp
Subject: kWIKIx
Subject: yWIKIg
Subject: hWikiPharmacyl
Subject: oWikiPharmacyp
Subject: uWikiPharmacym

จากรูปแสดงให้เห็นว่าสแปมเมอร์โฆษณาเวชภัณฑ์ลดราคาด้วยหน้าตาที่คล้ายกับเว็บไซต์ Wikipedia  ซึ่งหน้าเว็บเพจดังกล่าวยังแสดงตัวตนว่าเป็น “WikiPharmacy” ซึ่งปริมาณการระบาดครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นมีจำนวนมากพอสมควร ซึ่งในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่า Wikipedia ได้รับความนิยมอย่างมากรวมถึงเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต้องให้ความระวังและรอบคอบในการให้ข้อมูลกับเว็บไซต์ปลอมเหล่านี้

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างรูปแบบของ URL ที่ระบาดอยู่
http://sucullu.[REMOVED].net/wiki14.html
http://cinar. [REMOVED].org.tr/wiki14.html
 http://jmleml. [REMOVED]].com/wiki14.html
http:// [REMOVED].com.br/wiki15.html
http:// [REMOVED].com/wiki15.html
http://web164892.web23. [REMOVED].net/wiki15.html

ผู้ใช้สามารถสังเกตจากส่วนของ “หัวข้อเรื่อง” ของอีเมลที่จะช่วยบ่งบอกได้ว่าเป็นอีเมลขยะหรือไม่ และระวังพวกที่จ้องจะหาโอกาสในการโจมตี และข้อปฏิบัติต่างๆ สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานปลอดภัยจากการใช้งาน

ฟิชเชอร์ย้อนกลับไปหลอกลวงด้วยเรื่องการคืนภาษี
กรมสรรพากรของประเทศอินเดียได้ประกาศเปลี่ยนแปลงกำหนดเวลาในการขอคืนภาษีประจำปี 2010-2011 ไปสิ้นสุดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2554 ซึ่งเมื่อปีที่แล้วฟิชเชอร์ได้ทำการกระจายการฟิชชิ่งด้วยเรื่องของกำหนดเวลาการขอคืนภาษีประจำปี ซึ่งเป็นการขอคืนภาษีในปีปัจจุบัน ซึ่งเหล่าฟิชเชอร์ก็กลับมาเริ่มใช้วิธีการลวงเหยื่อด้วยวิธีดังกล่าวอีกครั้ง

สิ่งที่ฟิชเชอร์ลงมือทำไปก็คือ ปลอมตัวเป็นธนาคารชาติอินเดียที่มีข้อความเกี่ยวกับเรื่องของการขอคืนภาษี ขั้นตอนต่อไปคือการลวงให้เหยื่อเชื่อว่าจะจัดการคืนเงินภาษีให้ผ่านทางบัญชีธนาคารของเหยื่อ โดยที่เหยื่อสามารถที่จะเลือกให้คืนเงินดังกล่าวไปที่ธนาคารใดก็ได้ใน 8 แห่งเพียงแต่ให้ชื่อในการเข้าใช้และรหัสผ่าน ซึ่งเมื่อฟิชเชอร์หลอกลวงได้สำเร็จก็จะได้ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ของเหยื่อของธนาคารหลายแห่งจากการหลอกลวงเพียงครั้งเดียว นอกจากนั้น เว็บเพจดังกล่าวยังหลอกถามเลขบัตรเครดิตพร้อมเลขรหัสลับหลังจากที่เหยื่อกดตอบรับเรียบร้อยแล้ว เว็บไซต์ฟิชชิ่งยังกล่าวยังมีการแสดงข้อความแจ้งว่าได้รับเรื่องคำร้องในการขอคืนภาษีเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นผู้ใช้จะถูกเชื่อมต่อไปยังหน้าเว็บจริงของธนาคารชาติอินเดีย ซึ่งหากใครที่ตกเป็นเหยื่อของเว็บไซต์ฟิชชิ่งนี้แล้ว สิ่งที่เหล่าฟิชเชอร์ขโมยไปก็คือ ข้อมูลที่เกี่ยวกับการเงิน

ไซแมนเทคได้ตรวจสอบไปที่ธนาคารชาติอินเดีย ในเรื่องของการส่งอีเมลไปสอบถามผู้ใช้ในการบอกข้อมูลที่เกี่ยวกับชื่อเข้าใช้และรหัสผ่านของบัญชีธนาคารหรือไม่ คำตอบของธนาคารชาติอินเดียคือ ไม่เคยสื่อสารกับผู้ใดเพื่อที่จะสอบถามเรื่องดังกล่าวเพื่อประโยชน์ใดๆ และทางธนาคารชาติอินเดียยังวิงวอนไปยังสาธารณะว่าอย่าได้ตอบสนองกับอีเมลดังกล่าวและอย่าได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคารให้กับผู้ใดหรือเพื่อประโยชน์อันใด

เว็บไซต์ฟิชชิ่งดังกล่าวจะมาในรูปแบบที่อยู่เลข IP (เช่น hxxp://255.255.255.255) ซึ่งถูกโฮสต์อยู่ในเซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเลขที่อยู่ IP ดังกล่าวยังเป็นที่อยู่ของเว็บไซต์ฟิชชิ่งของธนาคารอื่นๆ ของอินเดียซึ่งรวมถึงบริษัทให้สินเชื่อในการซื้อบ้าน
 

การรับบริจาคจอมปลอมเพื่อช่วยผู้ประสบภัยในญี่ปุ่น
หลายเดือนก่อนหน้าประเทศญี่ปุ่นประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว 9.0 ริกเตอร์และเกิดสึนามิเข้าทำความเสียหายหลายพื้นที่ของประเทศ เหล่าฟิชเชอร์ก็อาศัยสถานการณ์ดังกล่าวทันทีด้วยการ “รับบริจาคจอมปลอม” จากผู้ที่หวังช่วยเหลือ โชคไม่ดีที่เหล่าฟิชเชอร์ยังคงอาศัยเหตุการณ์นี้เพื่อที่จะหลอกรับเงินบริจาคจากเหยื่อจากการตรวจพบของเรา

ในการหลอกรับบริจาคฟิชเชอร์ปลอมเว็บไซต์เป็นองค์กรการกุศลและธนาคารเป็นเหยื่อล่อ ซึ่งตอนนี้มีการปลอมหน้าเว็บเป็นภาษาเยอรมันบอกว่าเป็นช่องทางการรับจ่ายเงินชื่อดังและหลอกถามข้อมูลผู้ใช้ซึ่งในเนื้อความภาษาเยอรมันแปลความได้ว่า “ประเทศญี่ปุ่นต้องการความช่วยเหลือ เพื่อสนับสนุนเบื้องต้นต่อผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ได้โปรดบริจาคทันที” และในเนื้อความยังมีภาพแผนที่ประเทศญี่ปุ่นเน้นไปที่พื้นที่ประสบภัยสองแห่ง แห่งแรก คือ เมืองใกล้กับโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ฟูกูชิมาและแห่งที่สองคือเมืองหลวงโตเกียว และแผนที่ยังแสดงศูนย์กลางของแผ่นดินไหวที่อยู่ใต้ทะเลใกล้กับชายฝั่งตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น

หลังจากที่เหยื่อบอกข้อมูลไปหมดแล้ว จะถูกเชื่อมต่อไปยังหน้าเว็บไซต์จริงที่มีอยู่และยังสามารถทำกิจกรรมได้ต่อ โชคไม่ดีที่ผู้ใช้งานเหล่านั้นถูกหลอกเอาข้อมูลที่มีค่าไปให้ฟิชเชอร์ไปหมดแล้ว เนื่องจากข้อมูลที่เหยื่อถูกหลอกไปนั้นจะถูกถามจากบริการช่องทางชำระเงินบัญชีของเหยื่อนั้นเหมือนกับได้ข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคารไปด้วย ซึ่งถ้าตกเป็นเหยื่อของเว็บไซต์ฟิชชิ่งเหล่านี้ข้อมูลส่วนตัวทางด้านระบบการเงินจะถูกขโมยไปอย่างง่ายดาย โดยที่การโจมตีด้วยวิธีการฟิชชิ่งแบบนี้จะใช้เครื่องมือเพื่อใช้งานเพียงเลขที่อยู่ IP เดียวในการผนวกเอาที่อยู่โดเมนถึง 4 แหล่งเข้าด้วยกัน โดยที่ทั้งหมดจะถูกโฮสต์อยู่ในประเทศฝรั่งเศส

การวิเคราะห์หัวข้ออีเมลขยะ ประจำเดือนพฤษภาคม

 

ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อีเมลขยะที่มีเนื้อหาลามกยังคงมีจำนวนมากที่สุดในด้านหัวข้อเรื่อง ส่วนการขายยาออนไลน์ซึ่งเดือนที่แล้วโดดเด่นอย่างมากกลับตกลงหนึ่งอันดับจากเดิมที่อยู่ในอันดับ 16

Pages: [1] 2 3 ... 27