Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Facebook

Pages: 1 [2] 3 4 ... 186
16







“วรรณสิงห์” สุดภูมิใจ จับ #เถื่อน100 ลง ‘Story Book’

ขึ้นชื่อว่า #เถื่อน เรื่องการเดินทาง จากผลงาน ‘เถื่อนเจ็ด’ ไป ‘เถื่อนแปด’ ล่าสุดก้าวกระโดดสู่ ‘เถื่อน100’ สำหรับ “วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล” นักเล่าเรื่องเถื่อนที่สะเทือนวงการเดินทางท่องเที่ยวตัวจริง โดย วรรณสิงห์ เผยว่า…

“เถื่อน100 มาแล้วเว้ยย!! วางขายครั้งแรกในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 24 ที่ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี สัปดาห์นี้แล้วนะครับ ผลงานเล่มนี้ออกมาสวยงามมาก ภาคภูมิใจครับ ภาพที่ผมถ่ายและเรื่องที่ผมเขียนเล่าถึงประสบการณ์ท่ามกลางจลาจลอันงดงามของดินแดนเถื่อนที่ผมได้พบเจอระหว่างการเดินทางใน 38 ประเทศ ตลอดระยะเวลา 11 ปี กว่าจะมาเป็น Story Book หนังสือภาพพร้อมความเรียงสองภาษา ‘เถื่อน100’ ไม่ง่ายเลย ขอบคุณ สำนักพิมพ์ a book(อะบุ๊ก) ที่สนับสนุนและแฟนเถื่อนทุกคนที่ช่วยดูแลกันมาตลอดเลย หนังสือเริ่มวางขาย 5 -13 ต.ค.นะ ป.ล. ราคาพิเศษ 710 บาท(จากราคาเต็ม 790) อาจจะแพงนิด เพราะ Print สี ปกแข็ง กระดาษหนาทั้งเล่ม แถมยังมี 2 ภาษา ไทย-อังกฤษ ในเล่มเดียวนะ โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะมอบให้กับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ซึ่งผมจะไปขายแล้วก็แจกลายเซ็นด้วยตัวเองวันที่  5/6/13 ต.ค. เวลา 14.00-15.30 น. ที่บูท Z01 ของสำนักพิมพ์ a book ใครซื้อหนังสือแถมโปสเตอร์ที่ผมถ่ายในเถื่อน100 ฟรีด้วยนะ! ส่วนวันที่ 12 ต.ค. เป็นงานเปิดตัวหนังสือ เถื่อน100 อย่างเป็นทางการที่เวทีกลาง เวลา 14.00-16.00 น. มีพี่หนุ่ม-โตมร สุขปรีชา มาชวนคุย  เรียนเชิญทุกคนนะครับ และจะอยู่แจกลายเซ็นต่อที่บูธ Z01 สำนักพิมพ์ a book เวลา 16.30-18.00 เจอกันนิ” วรรณสิงห์ กล่าว.

#เถื่อน100 #วรรณสิงห์ #abooknewcomers #bookexpo2019
*ติดตาม https://www.facebook.com/abookpublishing/

‘จะเถื่อนไปไหน’?????   
ไปงานเปิดตัว ‘เถื่อน100’ ที่ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี กันเถอะ

สำนักพิมพ์ a book (อะบุ๊ก) และ ‘โตมร ศุขปรีชา’ ชวน ‘วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล’
เล่าประสบการณ์ท่ามกลางจลาจลอันงดงามของดินแดนเถื่อนที่เขาได้พบเจอตลอดการเดินทาง 38 ประเทศ ในระยะเวลา 11 ปี กว่าจะมาเป็นหนังสือภาพพร้อมความเรียงสองภาษา ‘เถื่อน100’
แล้วมาเถื่อนด้วยกัน
วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคมนี้ เวลา 14.00 น. - 16.00 น. เวทีกลาง ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

พร้อมพูดคุยกับ คุณอรุณี อัชชะกุลวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชน ตัวแทนจาก UNHCR ประเทศไทย ที่จะมาร่วมแบ่งปันความคิดด้านมนุษยธรรมและหนทางในการอยู่ร่วมกันในฐานะเพื่อนมนุษย์
โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากหนังสือเล่มนี้จะมอบให้กับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR
และในงานนี้ คุณลีลนา เพียรพิริยะ ผู้จัดการ Digital Imaging Marketing Department Marketing Division                                      ตัวแทนจาก โซนี่ จะมอบรางวัลชนะเลิศ กล้อง Sony RX 100M7 มูลค่า 38,990 บาท แก่เจ้าของภาพผู้ชนะ                                                    ในกิจกรรม #เถื่อน100contest และสำนักพิมพ์อะบุ๊กจะมอบหนังสือ ‘เถื่อน100’ เป็นรางวัลสำหรับผู้เข้ารอบทั้ง 5 คน
*ติดตาม https://www.facebook.com/abookpublishing/

เถื่อน100: Serenity in Chaos
เขียนและถ่ายภาพ: วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล
หนังสือภาพปกแข็ง พิมพ์สีทั้งเล่ม พร้อมความเรียงสองภาษาไทย-อังกฤษ ในเล่มเดียว
“ทุกประสบการณ์จากการเดินทาง
คือประติมากรรมที่เกิดจากการประกอบหลอมรวมกันของชิ้นส่วนแห่งจักรวาล”
จากเถื่อนเจ็ดและเถื่อนแปด สู่เถื่อน 100 หนังสือที่รวบรวม 100 ภาพถ่าย
ที่ได้รับการคัดเลือกจากกว่า 40,000 ภาพ ตลอดระยะเวลา 11 ปีของการเดินทางใน 38 ประเทศ
แบ่งออกมาเป็น 4 หมวด คือ
Human (มนุษย์), Nature (พิภพ), War (สงคราม) และ Civilization (อารยธรรม)
ทั้ง 100 ภาพมาพร้อมเรื่องราวที่มีคำบรรยายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
จากคนที่ถ่ายรูปไม่เป็น ไม่รู้จักสปีดชัตเตอร์ ไม่รู้จักรูรับแสง
จนกลายเป็นคนที่แบกกล้อง 7 – 8 ตัวไปทุกทริป
ถึงวันนี้วรรณสิงห์ก็ยังไม่เคยมองว่าตัวเองคือ ‘ช่างภาพ’    
เพราะเขาให้ความสำคัญกับการ ‘เล่าเรื่อง’    
เขาออกตัวว่าในเชิงฝีมืออาจเทียบกับช่างภาพมืออาชีพไม่ได้   
แต่เขาคิดว่าสิ่งที่ทดแทนได้คือ ‘เรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังภาพนั้น’    
เขาจึงมองตัวเองว่าเป็น ‘นักทำสารคดี’ มากกว่า
ผลงานเล่มนี้จึงไม่ใช่ Photo Book    
หากแต่เป็น Story Book ที่กลั่นเรื่องราวผ่านหลากบทสนทนากับผู้คนอีกมุมโลก
ธรรมชาติที่ทั้งสวยงามและโหดร้าย วัฒนธรรมแปลกใหม่
และชีวิตจริงของผู้คนในเขตสงครามของวรรณสิงห์
สำหรับเขา ภาพถ่ายเหล่านี้คือการย้อนความทรงจำและกลับมาสำรวจตัวเองอีกครั้ง
วางจำหน่ายครั้งแรกในงานมหกรรมหนังสือ 2 – 13 ตุลาคมนี้ ที่อิมแพค











บรรณาธิการเล่ม: นิภา เผ่าศรีเจริญ
ผู้แปลภาษาอังกฤษ: เขมลักขณ์ ดีประวัติ
ออกแบบปก: 29thWinter
ออกแบบรูปเล่ม: KANITP.
ปกแข็งจำนวน 360 หน้า
ราคาเต็ม 790 บาท/ ราคาในงานมหกรรมหนังสือฯ 710 บาท
*ติดตาม
#เถื่อน100
“World Beyond”
Danakil Depression, Ethiopia
June 2018

แอ่งลึกดานาคิล หรือ Danakil Depression ในประเทศเอธิโอเปีย ตั้งอยู่บริเวณริมขอบทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลก 3 แผ่น คือ African Plate , Arabian plate และ Eurasian plate ซึ่งทุกๆปีแผ่นเปลือกโลกทั้งสามจะค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากกันช้าๆ ทำให้ผืนดินตรงบริเวณนี้ลดระดับต่ำลงเรื่อยๆทีละนิด

ในอดีตพื้นที่ตรงนี้เคยอยู่ใต้มหาสมุทรมาก่อน จากนั้นน้ำทะเลได้ระเหิดหายไปหมดเหลือทิ้งไว้แต่ “เกลือ” จำนวนมหาศาล ที่จับตัวกันเป็นพื้นผิวของแอ่งลึกแห่งนี้ หากมองเผินๆ คนนอกพื้นที่อาจจะนึกว่าที่นี่คือทะเลทราย เพราะก้อนเกลือส่วนใหญ่ที่อยู่บริเวณพื้นผิวดินมีสีไม่ต่างกับเม็ดทรายมากนัก ต้องสังเกตดีๆก่อนถึงจะเห็นว่าลักษณะของเม็ดเกลือบนพื้นไม่ได้ร่วนเหมือนกับเม็ดทราย แต่จับตัวกันเป็นก้อนแข็งๆเป็นแผ่นใหญ่ๆ และหากขุดลงไปลึกไม่กีสิบเซนติเมตร ก็จะเห็นชัดเจนว่าใต้ดินเนื้อในของแผ่นเกลือเป็นสีขาวผ่อง เหมือนกับเกลือที่เราพบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งในเชิงเศรษฐกิจของเอธิโอเปีย การขุดเกลือก็ได้กลายเป็นอาชีพสำคัญของผู้คนในบริเวณนั้นอีกด้วย

พื้นที่ในภาพ เป็นจุดหนึ่งในดานาคิลที่ยังมีน้ำขังอยู่บนพื้นผิว ล้างฝุ่นบนหน้าเกลือออกไป ทำให้เกิด “ทะเลเกลือ” ที่มีสีขาวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ซึ่งพอมองคู่กับท้องฟ้าที่แสนขุ่นมัวของดานาคิล ทำให้รู้สึกได้ว่าหากจะมีสักที่ที่เหมาะกับการถ่ายฉากชีวิตหลังความตายในหนังโดยไม่ต้องพึ่งเทคนิคพิเศษอะไรเลย ที่นี่ก็คงจะเหมาะที่สุดแล้ว
ส่วนชายในภาพนั้นก็คือ”บอร์ดี้การ์ด”ของคณะทัวร์ของเรานั่นเอง


*ติดตาม https://www.facebook.com/abookpublishing/
#เถื่อน100
“The Thunderbolt of Flaming Wisdom”
Thimphu, Bhutan
August, 2011
ที่ประเทศภูฏาน ไม่ว่าคุณจะเดินไปไหน สิ่งหนึ่งที่คุณจะเห็นเสมอก็คือ “ลึงค์”
ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดตามผนังบ้าน เป็นรูปแกะสลักอยู่บนมุมหลังคา เป็นแท่งไม้ขนาดเหมาะมือที่เห็นได้ตั้งแต่ในวัดจนถึงในร้านขายของที่ระลึก “ลึงค์”อยู่ในทุกๆที่ ในหลายแบบหลากไสตล์ บางอันดูสมจริง บางอันเป็นminimalist บางอันแนวแฟนตาซีลึงค์มีลูกกะตา
ภูฏานเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมเชื่อมโยงกับศาสนาพุทธในแทบทุกมิติ ไม่ว่าจะเรื่องวัฒนธรรม เรื่องการศึกษา ไปจนถึงการเมืองการปกครอง ในการคำนวนดัชนี้วัดความสุขมวลรวม GNH(Gross National Happiness) ที่โด่งดังไปทั่วโลกของภูฏาน หลายตัวแปรที่เอามาคำนวณก็มีความเชื่อมโยงกับศาสนาพุทธชัดเจน เช่น จำนวนชั่วโมงที่ได้ทำสมาธิหรือไปวัดต่อสัปดาห์เป็นต้น
บางทีอาจจะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ แต่รูปลึงค์เหล่านี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมพุทธของภูฏานที่สืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนานหลายร้อยปีเช่นกัน
มีการค้นพบว่า ในวัฒนธรรมภูฏานบางส่วน มีการนับถือบูชาลึงค์กันมานานมากแล้ว แต่มาแพร่ขยายไปทั่วประเทศจริงๆ ก็คือในช่วงศตวรรษที่ 15 ด้วยผีปากและคำสอนของพระนักปราชญ์ผู้มีฉายาว่า “คนบ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์” นาม Drukpa Kunley (ดรุกปะ คุนเลย์)
ดรุกปะ คุนเลย์เป็นนักบวชที่ใช้เซ็กส์และกิเลสเป็นเครื่องสอนธรรมะ โดยเขาไม่เคยสอนให้คนตัดกิเลสออกจากชีวิต แต่กลับสอนว่านิพพานสามารถพบได้แม้ว่าจะใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาแค่ไหนก็ตาม ดรุกปะ คุนเลย์ชอบดื่มเหล้าและมีเซ็กกับผู้หญิงไม่เลือกหน้า โดยถือเป็นการปฏิบัติธรรมท่ามกลางวงล้อมของราคะและกิเลส สิ่งที่เขาสอนคือถ้าภายในของเราสงบนิ่ง เจริญสติอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าภายนอกจะเป็นอย่างไร ข้างในเราก็ถึงนิพพาน
ถ้าคิดว่าคำสอนเหล่านั้นแปลกแล้ว ลองฟังนี่ดู ตามตำนานเล่าว่าดรุกปะ คุนเลย์ใช้ลึงค์ของตัวเองเป็นเครื่องปราบปีศาจและสอนธรรม มีตั้งแต่การปราบปีศาจร้ายด้วยการเอาจู๋ฟาด ไปจนถึงการโชว์ลึงค์ให้พระอรหันต์รูปอื่นๆดู แต่ที่ผมว่าน่าสนใจที่สุดคือเรื่องที่ดรุกปะ คุนเลย์ได้ขอมีเซ็กส์กับแม่ของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าตอนแรกคุณแม่ไม่ยอม ดรุกปะ คุนเลย์ก็ขอซ้ำแล้วซ้ำอีก จนวันหนึ่งแม่ทนไม่ไหวก็เลยยอม เมื่อได้ยินดังนั้นดรุกปะ คุนเลย์ก็เดินออกจากห้องไปและปล่อยให้แม่พักผ่อน พร้อมกับประกาศให้คนทั้งเมืองรู้ว่า “ทุกคนฟัง ถ้าเราตั้งใจมากพอ แม้กระทั่งแม่ตัวเองเราก็สามารถโอ้โลมได้” ซึ่งพังดูเผินๆอาจจะดูเป็นเรื่องไร้สาระบ้าบอ แต่หากตีความอีกแบบ ก็สามารถมองได้ว่าดรุกปะ คุนเลย์ได้สอนให้แม่ตัวเองรู้จักละทิ้งอัตตาตัวตนทั้งหมดไป แม้กระทั่งการยึดติดในความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูก
ด้วยวิธีการสอนนอกกรอบแบบนี้ ทำให้ลึงค์ของดรุกปะ คุนเลย์ได้รับฉายาว่า “The Thunderbolt of Flaming Wisdom” หรือสายฟ้าแห่งปัญญาอันรุ่งโรจน์ และได้กลายมาเป็นเครื่องรางนำโชคและวัตถุมงคลในวัฒนธรรมของภูฏาน ที่สามารถเห็นได้แทบทุกที่มาจนถึงทุกวันนี้
----------------------------------
นี่คือ 2 ใน 100 เรื่องเถื่อน จากหนังสือ #เถื่อน100
หนึ่งร้อยภาพถ่ายที่รวบรวมประสบการณ์การเดินทางทั่วโลกในตลอดสิบเอ็ดปีที่ผ่านมา
ของวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล
พบกับอีก 98 เถื่อนได้ ในงานหนังสือครั้งที่ 24 นี้ ที่ Impact เมืองทอง บูธ a book(Z01) วันนี้ -13 ต.ค. 62
ตารางแจกลายเซ็น วรรณสิงห์
5/6/13 ต.ค. 14:00-15:30 บูธ a book (Z01)
12 ต.ค. 16:30 บูธ a book(Z01)
งานเปิดตัวหนังสือเถื่อน100
12 ต.ค. 14:00-16:00 เวทีกลาง งานหนังสือฯ

17
สำนักพิมพ์ a book (อะบุ๊ก) ชวนฟังเรื่องเล่าจากกาลเวลาของ “ฌอห์ณ จินดาโชติ”


กาลเวลาที่ผ่านมา คุณคิดว่ารู้จักผู้ชายคนนี้ดีพอหรือยัง? พบกับตัวจริงของ ฌอห์ณ จินดาโชติ กับหนังสือเล่มที่สองในชีวิตของเขา
“ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี”
     


ฌอห์ณ จินดาโชติ เปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ ในงาน Book expo 2019
มาฟังเขาเล่าด้วยกัน ในวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค. 2562 เวลา 15.00 น. - 16.00 น.
ณ เวทีทั่วไป ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ชวนคุยโดย อาหมิง - เอื้อบุญ จงสมชัย

ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี ฌอห์ณ จินดาโชติ สำนักพิมพ์ a book

ณ จุดกึ่งกลางระหว่างโลกคู่ขนานสองใบ “ฌอห์ณ” เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น

“ใบหนึ่งคือโลกอันทันสมัยและสดใหม่ของหลานสาวหลานชาย อีกใบคือโลกในอดีตที่กำลังเลือนหายของคุณปู่ ผมยืนอยู่ตรงกลาง เฝ้ามองชีวิตพวกเขา ชีวิตที่อยู่บนดาวเคราะห์ดวงเดียวกัน แต่เหมือนอยู่คนละมิติ...

“หลานชายและหลานสาวของผมอยู่ในช่วงวัยกำลังเรียนรู้ อ่านออกเขียนได้ และจดจำ พวกเขากำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานบนสนามหญ้าของโลกความจริงยุคใหม่ ที่ทุกสิ่งล้วนน่าตื่นตาตื่นใจ เกิดขึ้นเร็วในอัตราเร่ง และพร้อมจะหายลับไปอย่างรวดเร็ว ส่วนคุณปู่ของผมอยู่ในช่วงเวลาแห่งอดีต เรื่องราวของเขาผ่านมาเนิ่นนาน และกำลังอยู่ในช่วงเวลาของการลืมมากกว่าจำ ทุกสิ่งคล้ายเป็นภาพฝันอันพร่าเลือน คล้ายภาพเขียนที่สีกำลังหลุดร่อน แต่ถ้ามองดูช้าๆ อย่างพิจารณา ร่องรอยในภาพเก่านั้นกลับมีค่า และน่าจดจำ
“เมื่อคนหนึ่งกำลังจะจำ อีกคนหนึ่งกำลังจะลืม ผม—คนที่อยู่ระหว่างโลกคู่ขนานจึงอยากจะสร้างสะพานให้คนทั้งสองเชื่อมโยงเข้าหากัน”

ผลงานเขียนอบอุ่นลุ่มลึก เล่มที่สองของฌอห์ณ จินดาโชติ ชายหนุ่มนักสะท้อนเรื่องราวผ่านกาลเวลา สุข ทุกข์ สนุก เศร้า ทุกเรื่องราวสำหรับเขา เมื่อมองผ่านกาลเวลา.. มันคือเรื่องที่ดี

“เพราะเรื่องที่ดีนั้นควรค่าแก่การเก็บไว้สอนใจ มากกว่าจะทิ้งให้เลือนหายไปกับกาลเวลา”



บรรณาธิการเล่ม: เจิมสิริ เหลืองศุภภรณ์
ออกแบบปก: KANITP.
ออกแบบรูปเล่ม: พนิดา มีเดช
จำนวน 248 หน้า
ราคาเต็ม 325 บาท
ราคาในงานมหกรรมหนังสือฯ 295 บาท
#ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี #abooknewcomers





เพื่อนซี้มาการีนตี โดนัท & ป๋อมแป๋ม   
                                                         
*ติดตาม https://www.facebook.com/abookpublishing/
*สอบถาม: สาวิตรี เหล่ารอด (อ้อ) โทร 082-6632935, Email: daypoetsnews@daypoets.com

18
ภาพข่าวประชาสัมพันธ์ เนียลสัน เฮส์’ ฉลอง 150 ปี ประกาศความพร้อมจัดงานวรรณกรรมฯ

นลิน วนาสิน ประธานคณะกรรมการบริหาร สมาคมหอสมุดเนียลสัน เฮส์ (ที่ 5 ซ้าย) ร่วมกับ นาถนิศา สุขจิตต์ ที่ปรึกษาด้านส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) (ที่ 6 ซ้าย) ร่วมแถลงข่าวฉลองครบรอบ 150 ปี หอสมุดฯ ประกาศความพร้อมจัดงาน “เทศกาลวรรณกรรม เนียลสัน เฮส์” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 16-17 พฤศจิกายน 2562 โดยมี ผศ.สุรัตน์ โหราชัยกุล ผู้อำนวยการศูนย์อินเดียศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ที่ 1 ซ้าย), รศ.ดร. ตรีศิลป์ บุญขจร นายกสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (ที่ 4 ขวา), วีรพร นิติประพา (ที่ 3 ขวา) และ อุทิศ เหมะมูล (ที่ 1 ขวา) นักเขียนรางวัลซีไรต์ ให้เกียรติร่วมงานและถ่ายภาพร่วมกัน ณ หอสมุดเนียลสัน เฮส์ เมื่อเร็วๆ นี้   
 

ลำดับการยืน (จากซ้ายไปขวา)   
1.   ผศ.สุรัตน์ โหราชัยกุล ผู้อำนวยการศูนย์อินเดียศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2.   คุณเชลลี่ แบรกก์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด การสื่อสารและสื่อสารและศิษย์เก่าโรงเรียนนานาชาติกรุงเทพ (ISB)
3.   คุณเจมส์ เฟทท์ซ ผู้จัดการฝ่ายข่าวและเผยแพร่ สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย
4.   คุณสุวิมล วิมลกาญจนา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายสัมพันธ์และแหล่งทุน สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.)
5.   คุณนลิน วนาสิน ประธานคณะกรรมการบริหาร สมาคมหอสมุดเนียลสัน เฮส์
6.   คุณนาถนิศา สุขจิตต์ ที่ปรึกษาด้านส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.)
7.   รศ.ดร. ตรีศิลป์ บุญขจร นายกสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
8.   คุณวีรพร นิติประพา นักเขียนรางวัลซีไรต์
9.   คุณยูอิจิ มัตซูโอะ ผู้อำนวยการฝ่ายญี่ปุ่นศึกษาและการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ ห้องสมุดเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ
10.   คุณอุทิศ เหมะมูล นักเขียนรางวัลซีไรต์

20



ข่าวประชาสัมพันธ์ "ค่ายหนูน้อยยอดนักเล่า ตะลุยโลกนิทาน"
















เมื่อวันที่ 30 ส.ค – 1 ก.ย 62 ที่ผ่านมา   หนูน้อยนักเล่านิทานที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในโครงการลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน ครั้งที่ 14 ได้เดินทางไปเข้าค่ายต่อยอดการเรียนรู้และกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน “ค่ายหนูน้อยยอดนักเล่า ตะลุยโลกนิทาน” ที่ Rain Tree Residence อ.ปากช่อง  จ.นครราชสีมา

ภายในค่ายเด็กๆได้ทำกิจกรรมหลากหลายที่สอดคล้องกับการอ่าน เพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาศักยภาพ ทั้งทางด้านความคิด ร่างกาย และจิตใจ  รวมทั้งได้รับเกียรติจาก อ.ปรีดา ปัญญาจันทร์ และ คุณเรืองศักดิ์ ปิ่นประทีป (ตุ๊บปอง) ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก มาร่วมให้ความรู้และสร้างความบันเทิงสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับเด็กๆ กิจกรรมครั้งนี้แมคโดนัลด์เล็งเห็นความสำคัญของการอ่าน จึงได้ร่วมส่งเสริมการเข้าค่ายในครั้งนี้ ในระหว่างการเดินทาง เด็กๆได้แวะไปทำกิจกรรม ณ ร้านแมคโดนัลด์สาขาวังน้อยอีกด้วย

สอบถามเพิ่มเติม : โทร. 0863531161 หรือติดตามความเคลื่อนไหวโครงการฯ ได้ที่ facebook/lubsamongcontest (ลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน), www.tkpark.or.th, facebook/tkparkclub

21



รางวัลวรรณกรรม ยึดผลงานหรือสายตากรรมการ...เมื่อต้องอยู่ในหลักเกณฑ์และเเตะหัวใจคนอ่าน



เปิดเวทีรางวัลชมนาด ส่งเสริมเเละพัฒนางานเขียนสตรีไทย กับเสวนาประเด็นที่กำลังกับประเด็นที่ถูกกล่าวถึงในวงการวรรณกรรมอย่าง "รางวัลวรรณกรรมขึ้นอยู่กับผลงานหรือกรรมการ" ณ งานประกาศผลตัดสินรางวัลชมนาดครั้งที่ 8 (FICTION-NOVEL) วันจันทร์ ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2562 ห้องประชุมชั้น 29 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่สีลม   โดยในปีนี้ ไม่มีผลงานวรรณกรรมใดที่เหมาะสมจะได้รับรางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศ ซึ่งทางบริษัทสำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น จำกัด ร่วมกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานเตรียมนำเงินรางวัลไปใช้เพื่อพัฒนาวงการนักเขียนหญิงไทย


ชาติศิริ โสภณพนิช








@ปัญหาที่งานเขียนหรือสายตากรรมการ?
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
นักเขียนรางวัลซีไรต์และกรรมการตัดสินรางวัลกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับทั้งสองอย่าง เพราะผลงานเป็นเสรีภาพในการจินตนาการ พอเข้ามาก็ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเคารพ โดยเกณฑ์ในการวินิจฉัยถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ เนื้อเรื่อง และศิลปะการนำเสนอหรือรูปแบบในการประพันธ์ ผลงานที่ส่งเข้ามาในปีนี้มีเนื้อเรื่องดีทุกเรื่อง แต่เมื่อพิจารณาทั้ง 2 ส่วนประกอบกันกันแล้ว เนื้อหาดีแต่ใช้รูปแบบในการนำเสนอที่มีข้อด้อย ข้อเด่นต่างกัน ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วจึงยังไม่มีผลงานที่ถึงมาตรฐานของรางวัลที่เราอยากจะให้เป็น

ด้านกนกวลี พจนปกรณ์ นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เวทีของเรามีจุดประสงค์หลักคือการเปิดโอกาสให้นักเขียนหญิง ส่งเสริมเผยเเพร่ผลงานของหญิงไทยออกสู่สากล เเละสนับสนุนให้คนไทยรักการอ่าน โดยคณะกรรมการเเละนักเขียนต้องเคารพวัตถุประสงค์เหล่านี้  เเม้ว่าเราอยากจะให้ทุกท่านได้รางวัล เเต่ท้ายที่สุดต้องดูกันที่พล็อตเรื่อง มีเเก่นเเกนอย่างไร จะนำผู้อ่านไปได้อย่างไร เมื่อมีเนื้อหาชัดเจน ต้องกลับมาดูว่าผู้เขียนตอบโจทย์ให้คนอ่านรู้สึกถึงหรือไม่  โดยจะต้องเเตะหัวใจ อารมณ์โดนใจคนอ่านด้วย บางเรื่องเเตะหัวใจเเต่วรรณศิลป์ไม่มี ต้องพิจารณาทั้งรูปแบบเนื้อหาเเละกลวิธีนำเสนองดงามเสมอกัน สำหรับปีนี้ ผลงานส่วนใหญ่ยังขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงต้องตัดสินโดยยึดหลักการเเละมาตรฐานเป็นหลัก

"วรรณกรรมจะต้องมีทั้งเรื่องเเละทั้งรส การถ่ายทอดอารมณ์ของเเต่ละคนไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับเทคนิค อีกทั้งจังหวะการตัดต่อก็สำคัญ ฉากไหนจะจบเร็วหรือเชื่อมกันอย่างไร เเม้เป็นเรื่องเล็กน้อยเเต่เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ นอกจากนี้มุมมองของผู้เล่าก็สำคัญด้วย ซึ่งเเต่ละมุมมองจะเเตกต่างกัน เเละนำไปสู่การพัฒนาจุดประสงค์ของนักเขียนที่จะสื่อออกไปหาคนอ่านถูกหรือไม่ โจทย์ของชมนาดจึงมีความพิเศษในหลายด้าน"

ขณะที่ ดร.ถนอมวงศ์ ล้ำยอดมรรคผล รองประธานสมาพันธ์องค์กรเพื่อพัฒนาหนังสือและการอ่าน เเละอดีตนายกสมาคมนักแปลและล่ามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปีนี้ กรรมการลงมติเป็นเอกฉันท์ เเสดงความเห็นไปในทางเดียวกัน เรามองว่าในฐานะครูภาษาไทย นอกจากรูปแแบบเนื้อหาเเละวรรณศิลป์ สิ่งสำคัญคือการใช้ภาษา มีการเว้นวรรคเเละสะกดผิด การใช้ภาษาไม่ตรงกับบริบทของเรื่อง จึงคิดว่าหากมีการเเปลในอนาคตอาจทำให้สับสน บางเรื่องรู้สึกว่าเคยอ่านมาเเล้ว ก็เกิดความไม่เเน่ใจว่าอาจจะไปใกล้เคียงกับผลงานของคนอื่นหรือไม่ หรืออาจเป็นเเค่การได้รับเเรงบันดาลใจมา

"การใช้ภาษาสำคัญมาก คนรุ่นหลังต้องได้รู้ว่าวรรณกรรมที่ได้รับรางวัลนั้นหมายถึงการได้รับการขัดเกลาภาษามาเเล้ว เเละความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญมากในวรรณกรรมยุคดิจิทัล เล่มไหนได้รับรางวัลเราก็หวังว่าจะมีคนอ่านไปอีกหลายปี รวมถึงการได้เป็นวรรณกรรมตัวอย่างด้วย"

ทั้งนี้ ฝากถึงการพัฒนาการเขียนของเยาวชนไทยว่า เริ่มเเรกคือการอ่าน เป็นอ่านเพื่อสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ เเละจะต้องอ่านเยอะกว่าปกติเเละต้องอ่านให้หลากหลาย

ด้านนรีภพ จิระโพธิรัตน์ อดีตบรรณาธิการนิตยสารสกุลไทยและประธานกรรมการรอบคัดเลือกรางวัลชมนาด กล่าวว่า เราเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า "ไม่มีใครได้ทุกอย่างดั่งใจหวังเเละไม่มีใครพลาดหวังทุกครั้งไป" เป็นประโยคให้กำลังใจที่สร้างเเรงกระเพื่อมให้กับผู้คนเเม้เวลาจะผ่านไปนานเเค่ไหน ดังนั้นผลงานที่ดีต้องคู่ไปกับกรรมการ สำนักพิมพ์เเละคนอ่าน  เปรียบเสมือนจุดตะเกียงหนึ่งดวงเพื่อเผยเเพร่ไปอีกหลายดวง เหมือนรางวัลชมนาดที่ต้องออกไปสู่สากล 

จะพัฒนางานเขียนของสตรีไทยอย่างไรได้บ้าง ?

เนาวรัตน์ ระบุว่า จากการตั้งข้อสังเกตเห็นว่านักเขียนหญิงมีความคิดที่ละเอียดเเต่ขาดส่วนกว้าง ในขณะที่นักเขียนชายจะมีความคิดที่กว้างกว่า ยึดโครงสร้างเเต่ขาดความละเอียด อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับบุคคล  ซึ่งในสมัยใหม่งานวรรณกรรมต้องการทั้งสองเเบบ ต้องเติมเต็มกันเเละกัน

"งานวรรณกรรมเป็นอีกมิติหนึ่งที่จะทำให้ความเป็นไทยออกสู่สากลได้ เเต่ยังมีอุปสรรคทางภาษา เช่นการเเปล อย่างการเเปลร้อยเเก้วอาจจะง่าย เเต่การเเปลร้อยกรองนั้นหากแปลผิดก็จะทำให้โลกมองเราผิด ผมจึงอยากให้มีสถาบันภาษาเเละวรรณกรรมเเห่งชาติขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเเละส่งเสริมสิ่งเหล่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่การเอาความหวังไปฝากไว้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง"

22
เชิญชวนร้านหนังสือทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการชุมชนนักอ่าน ปั้นคุณค่านักอ่านที่ดีสร้างรากฐานให้ประเทศ




กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จับมือ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ดึงร้านหนังสือทั่วประเทศ ทำ “โครงการชุมชนการอ่านในร้านหนังสืออิสระ” หวังกระตุ้นให้เกิดกลุ่มนักอ่านที่เชื่อมโยงจนช่วยกันสร้างรากฐานการอ่านที่ดีให้กับประเทศ

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2562 ณ จามจุรีสแควร์ นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ร่วมกับ นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ผู้จัดการ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พร้อมกับได้รับความร่วมมือจาก นายทรงยศ สามกษัตริย์ กรรมการผู้จัดการ ศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกร์มหาวิทยาลัย เป็นภาคีเครือข่ายหนังสือในโครงการ ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว “โครงการชุมชนการอ่านในร้านหนังสืออิสระ” ขึ้น เพื่อส่งเสริมหรือเผยแพร่สื่อหนังสือที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่เข้าถึงเด็กเยาวชน รวมถึงคนหลากหลายวัยในชุมชนได้ ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์เป็นผู้ให้การสนับสนุน ด้วยเล็งเห็นว่า ร้านหนังสือเป็นแหล่งรวมตัวของผู้สนใจหนังสือที่ดีในระดับหนึ่ง จึงควรสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในกลุ่มนักอ่านที่หลากหลาย และการสร้างสรรค์ชุมชนการอ่านให้เกิดขึ้น อีกทั้งสนับสนุนให้เกิดการผลิตหนังสือปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะหนังสือที่มีเนื้อหาส่งเสริมศีลธรรม จริยธรรม วัฒนธรรมและความมั่นคง ส่งเสริมความคิด สร้างสรรค์ การเรียน ทักษะการใช้ชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่จำเป็นต้องร่วมมือช่วยกันปลูกฝังสิ่งดีงาม และเป็นวัยที่มีความสำคัญต่อการสร้างสรรค์ประเทศในอนาคต

โครงการฯ ดังกล่าว จึงได้เชิญชวนให้ร้านหนังสือ 50 ร้านค้าทั่วประเทศ เข้าร่วมโครงการ โดยมีหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ จะต้องเป็นร้านหนังสือที่มีพื้นที่ในร้านหรือพื้นที่ในชุมชนสำหรับจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านได้ต่อเนื่อง อย่างน้อย 4 ครั้ง  มีความตั้งใจแน่วแน่ที่พัฒนาชุมชนการอ่าน มีการจัดชั้นวางหนังสือน่าอ่านที่ “ปลอดภัยและสร้างสรรค์” ที่ได้รับโหวตจากผู้เข้าร่วมกิจกรรม 5-10 เล่ม คนในชุมชนจะต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ด้วย ตั้งแต่ 20-30 คน พร้อมทั้งให้ผู้เข้าร่วมโครงการทำแบบประเมินผลความ พึงพอใจของโครงการด้วย เมื่อร้านฯ ที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านหลักเกณฑ์ต่างๆ ตามที่กำหนด  จะได้รับมอบเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ เพื่อส่งเสริมร้านหนังสือให้สามารถเติบโตเป็นกลไกสำคัญในธุรกิจหนังสือ

สำหรับลักษณะกิจกรรมที่โครงการจะร่วมทำกับร้านฯ  มีด้วยกัน 4 แบบกิจกรรม กิจกรรมแรกคือ “เลือกอ่านแบบนักเขียนคนดัง” สำหรับนักอ่านบุคคลทั่วไปและกลุ่มนักอ่านวัย 18 ปีขึ้นไป กิจกรรมที่ 2 คือ “มหัศจรรย์หนังสือเด็กปลอดภัยและสร้างสรรค์” สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครองและเด็กปฐมวัย 3-6 ปี กิจกรรมที่ 3 คือ“เรื่องนี้มัน(ส์) ต้องโดน” สำหรับเด็กนักอ่านมัธยมศึกษา วัย 12-18 ปี และครูบรรณารักษ์หรือจัดร่วมกับโรงเรียนในชุมชน กิจกรรมสุดท้าย คือ “สนุกกับบทเรียนผ่านสื่อการเรียนรู้สร้างสรรค์” สำหรับผู้ปกครองและเด็กประถมวัย 6-12 ขวบ โดยผู้ร่วมงานในแต่ละกิจกรรมจะร่วมกันโหวตหนังสือน่าอ่านที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ทั้งหมด 5 เรื่อง ที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่มนักอ่าน และเป็นหนังสือที่มีในร้าน

“เราคาดหวังว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นให้เยาวชนและคนหลากหลายวัยในชุมชน เห็นคุณค่าของการเลือกสรรการอ่านหนังสืออย่างสมเหตุสมผล และตระหนักถึงการเลือกอ่านหนังสือที่คิดว่ามีความปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่เหมาะสมในการเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาตนเอง และหวังให้เกิดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 1 ปี เกิดกลุ่มนักอ่านที่เชื่อมโยงกันจนช่วยสร้างรากฐานการอ่านที่ดีให้กับประเทศไทยได้” นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ นายกสมาคมฯ กล่าว


โชนรังสี นายกสมาคมฯ

ทรงยศ สามกษัตริย์ กก. ศูนย์หนังสือ จุฬาฯ

แต่ละกิจกรรมจะมีไฮไลท์เด่นและเป็นเนื้อหาเฉพาะที่นำเสนอให้เกิดความน่าสนใจให้ความสนุกสนาน สอดคล้องและเหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย เพื่อจุดประกายแนวความคิดสร้างสรรค์และปลูกฝังความคิดรักการอ่าน กิจกรรมแรก จะเชิญชวนนักเขียน นักแปล หรือบรรณาธิการ มาร่วมเสวนาชวนพูดคุยประเด็น ถ่ายทอดไอเดียของหนังสือเล่มดัง และวิธีการเลือกอ่านหนังสือที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ ว่าอ่านอะไร อย่างไรบ้างจนเป็นนักเขียนได้ในปัจจุบันนี้ ซึ่งแต่ละท่านจะมีหลักเกณฑ์ในการเลือกหนังสือที่คิดว่าปลอดภัยและสร้างสรรค์และเหมาะกับตัวเองกิจกรรมที่สอง เชิญนักวิชาการ หรือนักเขียนหนังสือเด็ก ชวนผู้ปกครองมาพูดคุยกันในเรื่อง หลักเกณฑ์ในการเลือกหนังสือเด็กของแต่ละบ้าน และเล่านิทานให้เด็กฟัง ชวนเด็กๆ เล่นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับหนังสือ และฟังเสียงเด็กๆ ร่วมกันออกความคิดเห็น

ส่วนกิจกรรมที่สาม ชวนพูดคุยเล่นเกม และเล่าเรื่องหนังสือที่น่าสนใจ ชื่นชอบสำหรับกลุ่มวัยนี้ที่ขายดีในร้านหรืออยากแนะนำให้เพื่อนอ่าน เชิญนักเขียน นักแปล วิทยากรจากสำนักพิมพ์ต่างๆ มาเล่าที่มาและความน่าสนุกของหนังสือเล่มนั้นๆ  ชวนพูดคุยเกี่ยวกับ ประสบการณ์การอ่านหนังสือของวัยรุ่น วิธีการเลือกหนังสือเข้าห้องสมุดจากบรรณารักษ์ และร่วมกันออกความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือที่เหมาะสมกับวัยรุ่น

สำหรับกิจกรรมที่สี่ เชิญนักวิชาการ หรือ นักเขียนหนังสือเด็ก หรือผู้ผลิตสื่อความรู้รูปแบบต่างๆ ชวนผู้ปกครองมาร่วมพูดคุยกันเรื่องสื่อการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กๆ ทั้งที่เป็นหนังสือและรูปแบบใหม่ๆ ชวนเด็กๆ พูดคุยเรื่องหลักเกณฑ์ในการเลือกหนังสือให้ตัวเอง พร้อมกับมีกิจกรรม Workshop กับเด็กๆ เช่น กิจกรรม D.I.Y. สอนประดิษฐ์  เล่นบอร์ดเกม ทดลองวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ที่เน้นให้ใกล้เคียงกับบทเรียนของเด็กประถม

23

ระดับอายุ 4-6 ปี ชนะเลิศ


ระดับอายุ 4-6 ปี ภาพผู้ชนะ


ระดับอายุ 4-6 ปี ภาพหมู่



ระดับอายุ 4-6 ปี รองชนะเลิศอันดับ1



ระดับอายุ 4-6 ปี รองชนะเลิศอันดับ2


ระดับอายุ 6-9 ปี ชนะเลิศ


ระดับอายุ 6-9 ปี ภาพผู้ชนะ


ระดับอายุ 6-9 ปี ภาพหมู่



ระดับอายุ 6-9 ปี รองชนะเลิศอันดับ1



ระดับอายุ 6-9 ปี รองชนะเลิศอันดับ2

24
ภาคสุดท้าย..กับการเฟ้นหาตัวแทนหนูน้อยนักเล่านิทาน(ภาคใต้) เข้าชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

เมื่อวันที่ 3-4 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา เป็นโค้งสุดท้ายกับการเฟ้นหาตัวแทนหนูน้อยนักเล่านิทานประจำภูมิภาค คณะกรรมการและพี่ๆทีมงานโครงการลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน ครั้งที่ 14 ได้เดินทางไปที่โรงเรียนอนุบาลนครศรีธรรมราช ณ นครอุทิศ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเฟ้นหาตัวแทนหนูน้อยนักเล่านิทานภาคใต้เข้าไปชิงถ้วยพระราชทานฯ

ผลการประกวดรอบคัดเลือก ภาคใต้
ประเภทเดี่ยว 4-6 ปี
ชนะเลิศ

ด.ญ.ภาณิณี สุวรรณขำ โรงเรียนศรีสว่างวงศ์ จ.สงขลา นิทานที่เล่าเรื่อง แป้งผู้ซื่อสัตย์
รองชนะเลิศ อันดับ 1
ด.ญ.ฉัตรสิตางศุ์ เตกฉัตร โรงเรียนอนุบาลกระบี่ จ.กระบี่ นิทานที่เล่าเรื่อง หมีน้อยอยากโต
รองชนะเลิศ อันดับ 2
ด.ญ.ฉัตรนภา นาคเสน โรงเรียนอนุบาลนครศรีธรรมราช ณ นครอุทิศ จ.นครศรีธรรมราช นิทานที่เล่าเรื่อง เทวดาสอนท่ารำ

ประเภทเดี่ยว 6-9 ปี
ชนะเลิศ

ด.ช.สุทธิพจน์ เกตุแก้ว โรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา จ.นครศรีธรรมราช นิทานที่เล่าเรื่อง ย.ยักษ์ไม่ยอมยิ้ม
รองชนะเลิศ อันดับ 1
ด.ญ.ปริยากร จำเริญสมรักษ์ โรงเรียนธิดานุเคราะห์ จ.สงขลา นิทานที่เล่าเรื่อง ดอกไม้ของขวัญ
รองชนะเลิศ อันดับ 2
ด.ญ.ณัฐสลิล ทะนะมาศ โรงเรียนบ้านนาเคียน จ.นครศรีธรรมราช นิทานที่เล่าเรื่อง เทพธิดานกกระเรียน

วันที่ 17-18 สิงหาคม 2562 ห้ามพลาด!!..ไปให้กำลังใจ ร่วมลุ้น ร่วมเชียร์ ว่าหนูน้อยนักเล่านิทานภาคไหน?.. จะคว้าแชมป์ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ไปครอบครอง.. ติดตามความเคลื่อนไหวโครงการฯได้ที่ facebook/lubsamongcontest (ลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน)

25

(ซ้าย-ขวา)นาย ศักดา แซ่เอี่ยว,รศ.ดร.ตรีศิลป์,รศ.สุพรรณี วราพร,อ.สุวิทย์ กิ่งแก้ว,ศ.ดร.รื่นฤทัย สัจจพันธุ์,นายสุพจน์ ชิตเกษรพงศ์,อ.นิรันศักดิ์ บุญจุนทร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ ซีพี ออลล์ ประกาศผลสุดยอดหนังสือดีเด่น “เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 16” อรสม สุทธิสาคร, มุนินฺ, โกลาบ จัน, รินศรัทธา จับมือคว้ารางวัลชนะเลิศในแต่ละประเภท


โกลาบ จัน

มุนิน

รินศรัทธา

อรสม สุทธิสาคร


ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในประเทศไทย ประกาศผลรางวัล "เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 16 ประจำปี 2562" โดย “อรสม สุทธิสาคร” นักเขียนสารคดีชื่อดัง ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทสารคดี จากเรื่อง ดอกไม้ใต้ภูเขาน้ำแข็ง, “มุนินฺ” นักเขียนการ์ตูนชื่อดัง คว้ารางวัลชนะเลิศประเภทการ์ตูน จาก เรื่อง “ประโยคสัญลักษณ์” ด้าน “โกลาบ จัน” คว้ารางวัลชนะเลิศประเภทนวนิยาย จากเรื่อง "ใต้ฝุ่น" ส่วนประเภท กวีนิพนธ์ รินศรัทธา กาญจนวตี คว้ารางวัลชนะเลิศ จากผลงาน "ทุกขณะกระจ่างชัดสัมผัสใจ กวีนิพนธ์จากฉัน... ผู้ไร้ดวงตา" ทั้งนี้ ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้รับโล่พระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัล 100,000 บาท


นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 16 ปีของการดำเนินโครงการประกวดหนังสือดีเด่นรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ได้คัดสรรหนังสือดีมีคุณภาพทั้ง 7 ประเภทสู่สังคม ประกอบด้วย กวีนิพนธ์, นวนิยาย, การ์ตูน, รวมเรื่องสั้น, วรรณกรรมสำหรับเยาวชน, สารคดี (ทั่วไป) และประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อยกย่องเชิดชูนักเขียนคุณภาพ สนับสนุนผลงานที่มีเนื้อหาจรรโลงสังคม มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รวมถึงเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนพัฒนาตนเองด้านการอ่าน การเขียนผลงานคุณภาพเป็นการต่อยอดทางความคิดให้กับสังคมไทย ขยายผลพื้นฐานทางความรู้ให้เมืองไทยเป็นสังคมที่อุดมด้วยปัญญา






ดอกไม้ใต้ภูเขาน้ำแข็ง

ดอกรัก

ใต้ฝุ่น

ทุกขณะกระจ่างชัดสัมผัสใจ

ประโยคสัญลักษณ์



โดยผลการตัดสินการประกวดหนังสือดีเด่นรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 16 ประจำปี 2562 มีดังนี้

ประเภทกวีนิพนธ์ รางวัลชนะเลิศ เรื่อง ทุกขณะกระจ่างชัดสัมผัสใจ กวีนิพนธ์จากฉัน... ผู้ไร้ดวงตาโดย รินศรัทธา กาญจนวตีสำนักพิมพ์ออน อาร์ต รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เรื่อง ขณะเดินทางใน โดย วัฒนา ธรรมกูร สาระฅนสำนักพิมพ์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่อง ฤดูใจ โดย ''กุดจี่' พรชัย แสนยะมูล สำนักพิมพ์ไม้ยมก

ประเภทนวนิยาย รางวัลชนะเลิศ เรื่อง ใต้ฝุ่น โดย โกลาบ จัน แพรวสำนักพิมพ์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เรื่อง วายัง อมฤต โดย อนุสรณ์ ติปยานนท์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่อง ไม่มีเธออยู่ข้าง  โลกนี้ก็กว้างเกิน โดย ปะการัง สำนักพิมพ์เช้าวันอาทิตย์
ประเภทการ์ตูน รางวัลชนะเลิศ เรื่อง ประโยคสัญลักษณ์ โดย มุนินฺ สำนักพิมพ์ 10 มิลลิเมตรรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เรื่อง MY LITTLE KITCHEN  ครัวบ้านบ้าน โดย Pittmomo สำนักพิมพ์บัน รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่อง เส้นทางสู่เหมืองแร่ โดย ศักดา วิมลจันทร์ สำนักพิมพ์พื้นฐาน

ประเภทรวมเรื่องสั้น รางวัลชนะเลิศ เรื่อง ดอก รัก ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 มี 2 รางวัล ได้แก่ เรื่อง ชีวิตประจำวัน (เรื่องสั้นธรรมดา) โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร จาก แมวบ้านสำนักพิมพ์ และเรื่อง PARIS IN PAIRS ปารีสบนดาวดวงอื่น โดย โชติกา ปริณายก สำนักพิมพ์แซลมอน

ประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชน รางวัลชนะเลิศ เรื่อง พ่อมหา แม่หางเครื่อง ลูก(สาว)นักร้องโดย โชติ ศรีสุวรรณ สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เรื่อง วันเกิดของเค้าโมงโดย จันทรังสิ์ สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่อง ชายแดนตะวันออก ชาวนาไม่เปลี่ยนแปลง โดย เชาวลิต ขันคำ สำนักพิมพ์บรรณกิจ 1991

ประเภทสารคดี รางวัลชนะเลิศ เรื่อง ดอกไม้ใต้ภูเขาน้ำแข็ง โดย อรสม สุทธิสาคร สำนักพิมพ์สารคดี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เรื่อง SPORTLIGHT เกมนอกสนาม โดย วิศรุต สินพงศพรสำนักพิมพ์แซลมอน รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่อง สงครามที่ไม่มีวันชนะ โดย นพ.ชัชพล เกียรติขจรธาดา สำนักพิมพ์ชัชพลบุ๊คส์

สำหรับหนังสือแนะนำในปีนี้ มี 10 เล่ม ได้แก่ เรื่อง กลางทะเลขี้ผึ้ง โดย ธาร ธรรมโฆษณ์ สำนักพิมพ์ Artbook, เรื่อง นิราศนรกานต์และเรื่องอื่นๆ โดย จามรี ตันไพฑูรย์ดิถี สำนักพิมพ์ยักษ์วรรณยุกต์, เรื่อง ในรังนอนของหนอนตัวหนึ่ง โดย นิตา มาศิริ, เรื่อง แม่งูไม่เคยห่างหายจากหมู่บ้าน โดย อานนท์ นานมาแล้ว สำนักพิมพ์ตำหนัก, เรื่อง ก้าวเล็กๆ ของเด็กชายตูน โดย ต่าย ขายหัวเราะ สำนักพิมพ์บันลือบุ๊คส์, เรื่อง เด็กชายต้นไม้ โดย เสาวรส มิตราปิยานุรักษ์ สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์, เรื่อง น้ำตาแม่มด โดย คีตาญชลี แสงสังข์ สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์, เรื่อง ผ้าบาติก มรดกแห่งการเสด็จเยือนชวา โดย พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ, เรื่อง 140 ปี "การ์ตูน" เมืองไทย โดย ไพศาล ธีรพงศ์วิษณุพร สำนักพิมพ์ศรีปัญญา และเรื่องHOMO FINISHERS สายพันธุ์เข้าเส้นชัย โดย นิ้วกลม สำนักพิมพ์คู้บ (KOOB)

ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดกวีนิพนธ์ รางวัลชนะเลิศ เรื่อง แม่น้ำต่างหากสร้างสะพาน โดย วิศิษฐ์  ปรียานนท์ หนังสือทำมือ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เรื่อง เก็บรักไว้ที่ปลายรุ้ง โดย กิตติ  อัมพรมหา หนังสือทำมือ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 มีผลงานที่ได้รับรางวัล 2 ผลงานได้แก่ เรื่อง กลับบ้านเรานะ Back Home โดย แสนภูมิ  กล้าอยู่ หนังสือทำมือ และเรื่องปรากฏการณ์แห่งช่วงวัย โดย การียา ยูโซ๊ะ หนังสือทำมือ

ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดนวนิยายขนาดสั้น ไม่มีผลงานใดได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เรื่อง ปูเลา สองเรา ปีนัง โดย ปรัชวิชย์  บุญยะวันตัง หนังสือทำมือ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ไม่มีผลงานใดได้รับรางวัล ส่วนหมวดการ์ตูนและหมวดรวมเรื่องสั้นไม่มีผลงานใดได้รับรางวัล

นายสุวิทย์ ยังกล่าวว่า รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด เป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักเขียน และนักอ่านเสมอมา จนสามารถก้าวสู่ปีที่ 16 ด้วยเจตนารมณ์ที่มุ่งส่งเสริมการอ่าน การเขียน และการเรียนรู้ ซึ่งเป็นหนทางของการพัฒนาคน นำไปสู่การพัฒนาประเทศชาติ สอดคล้องกับนโยบายของ ซีพี ออลล์ ที่มุ่งส่งเสริมการศึกษา พัฒนาเยาวชนอย่างจริงจังต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม

สำหรับผู้ชนะเลิศ "เซเว่นบุ๊คอวอร์ด" จำนวน 6 ประเภท จะได้รับรางวัลเงินสด 100,000 บาท พร้อมโล่พระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ส่วนประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ รวม 4 หมวด คือ นวนิยายขนาดสั้น รวมเรื่องสั้น กวีนิพนธ์ และการ์ตูน ผู้ชนะเลิศจะได้รับรางวัลเงินสด 20,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 15,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์งานเขียนต่อไป

พิธีมอบโล่และรางวัลต่างๆ ในโครงการประกวดหนังสือดีเด่นรางวัล "เซเว่นบุ๊คอวอร์ด" ครั้งที่ 16 ประจำปี 2562 จะจัดในวันที่ 4 กันยายน 2562 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องสุรศักดิ์ 1 ชั้น 11 โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร โดยได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย กรรมการกิตติมศักดิ์โครงการประกวดหนังสือดีเด่นรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด เป็นประธานในพิธี

รายชื่อประธานคณะกรรมการตัดสินในแต่ประเภท มีดังนี้
นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ประธานคณะกรรมการตัดสิน ประเภทกวีนิพนธ์ และรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวด "กวีนิพนธ์"
ศ.ดร.รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ ประธานคณะกรรมการตัดสิน ประเภทนวนิยาย
นายนิวัฒน์ ธาราพรรค์ ประธานคณะกรรมการตัดสิน ประเภทการ์ตูน และรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวด "การ์ตูน"
นายนิรันศักดิ์ บุญจันทร์ ประธานคณะกรรมการตัดสิน ประเภทรวมเรื่องสั้น
รศ.สุพรรณี วราทร ประธานคณะกรรมการตัดสิน ประเภทวรรรณกรรมสำหรับเยาวชน และรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวด "นวนิยายขนาดสั้น" และ "รวมเรื่องสั้น"
ศ.กีรติ บุญเจือ ประธานคณะกรรมการตัดสิน ประเภทสารคดี

26


ระดับอายุ 4-6 ปี ชนะเลิศ น้องเอแคลร์


ระดับอายุ 4-6 ปี ตัวแทนภาคเหนือ


ระดับอายุ 4-6 ปี ภาพหมู่



ระดับอายุ 4-6 ปี รองอันดับ1 น้องใบบัว



ระดับอายุ 4-6 ปี รองอันดับ2 น้องเพิ่มพูน



ระดับอายุ 6-9 ปี ชนะเลิศ น้องไอติม


ระดับอายุ 6-9 ปี ตัวแทนภาคเหนือ


ระดับอายุ 6-9 ปี ภาพหมู่



ระดับอายุ 6-9 ปี รองอันดับ1 น้องอัยริ



ระดับอายุ 6-9 ปี รองอันดับ2 น้องไพลิน

27
ตัวแทนหนูน้อยนักเล่านิทานภาคเหนือ เข้าชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

เมื่อวันที่ 27-28 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา คณะกรรมการและพี่ๆทีมงานโครงการลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน ครั้งที่ 14 ได้เดินทางไปที่โรงเรียนวชิรวิทย์ เชียงใหม่ ช้างคลาน จ.เชียงใหม่ เพื่อเฟ้นหาตัวแทนหนูน้อยนักเล่านิทานภาคเหนือเข้าไปชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ผลการประกวดรอบคัดเลือก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ประเภทเดี่ยว 4-6 ปี
ชนะเลิศ

ด.ญ.นพนิตา จันทร์มา โรงเรียนนภาเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นิทานที่เล่าเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ

รองชนะเลิศ อันดับ 1
ด.ญ.ภัทรวดี มะโนคำ โรงเรียนอัสสัมชัญลำปาง จ.ลำปาง นิทานที่เล่าเรื่องราชสีห์กับหนู

รองชนะเลิศ อันดับ 2
ด.ช.ภครชนก ตุงคะศิริ โรงเรียนอนุบาลเชียงราย จ.เชียงราย นิทานที่เล่าเรื่องห่านเอ็ดตะโลอยากได้อยากได้

ประเภทเดี่ยว 6-9 ปี
ชนะเลิศ

ด.ญ.ญาณิศา อินต๊ะกัน โรงเรียนใบบุญลำพูน จ.ลำพูน นิทานที่เล่าเรื่องดนตรีธรรมชาติ

รองชนะเลิศ อันดับ 1
ด.ญ.อัยริ คิโมโตะ โรงเรียนนภาเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นิทานที่เล่าเรื่องต้นไม้แห่งความสมหวัง

รองชนะเลิศ อันดับ 2
ด.ญ.วริณรำไพ รัศมีเทวินทร์ โรงเรียนอัสสัมชัญลำปาง จ.ลำปาง นิทานที่เล่าเรื่องหมูป่ากลับบ้าน

ผ่านพ้นไปแล้ว 3 ภาค (ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ) สำหรับการเฟ้นหาตัวแทนหนูน้อยนักเล่านิทานภูมิภาคเพื่อเป็นตัวแทนประจำภาคเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ.. ยังเหลืออีกหนึ่งภาค ปลายสัปดาห์นี้ (3-4 สิงหาคม 62) ไปให้กำลังใจ ร่วมลุ้น ร่วมเชียร์ หนูน้อยนักเล่านิทานภาคใต้ได้ที่โรงเรียนอนุบาลนครศรีธรรมราช 'ณ นครอุทิศ' จ.นครศรีธรรมราช.. ติดตามความเคลื่อนไหวโครงการฯได้ที่ facebook/lubsamongcontest (ลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน)

28



มหกรรมหนังสือบิ๊กแบ๊ดวู๊ฟพร้อมแล้ว!! กลับมาตามคำเรียกร้องจากแฟนๆ










ในวันนี้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ขอบคุณพี่สื่อมวลชนทึ่น่ารักทุกท่านที่ให้การต้อนรับทีมงานอย่างอบอุ่น หมาป่าแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เปิดงานให้ทุกคนมาร่วมออกล่าหนังสือเล่มโปรดไปด้วยกัน

แล้วพบกันวันที่ 9 ส.ค. 2562 - 19 ส.ค. 2562 ณ อิมแพ็ค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี
.
A big thank you to all the members of the media for the warm welcome at my press conference today. Looking forward to see all of you at my Sale from 9-19 August 2019!
.
💸 50% - 90% DISCOUNT
🔥 9 - 19 AUGUST 2018
🕒 24 HOURS
📍 IMPACT FORUM, HALL 4
.
#BigBadWolfBooks #BBWBangkok2019

29

อายุ 4-6 ปี ชนะเลิศ


อายุ 4-6 ปี ภาพรวม


อายุ 4-6 ปี ภาพหมู่


อายุ 4-6 ปี รองอันดับ1



อายุ 4-6 ปี รองอันดับ2


อายุ 6-9 ปี ชนะเลิศ


อายุ 6-9 ปี ภาพรวม


อายุ 6-9 ปี ภาพหมู่



อายุ 6-9 ปี รองอันดับ1



อายุ 6-9 ปี รองอันดับ2

30
ข่าวประชาสัมพันธ์โฉมหน้าตัวแทนหนูน้อยนักเล่านิทานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เมื่อวันที่ 20-21 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา คณะกรรมการและพี่ๆทีมงานโครงการลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน ครั้งที่ 14 ได้เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย (มมร.) วิทยาเขตอีสาน จ.ขอนแก่น เพื่อเฟ้นหาตัวแทนหนูน้อยนักเล่านิทานภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าไปชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความน่ารักของนักเล่านิทานตัวน้อยๆ ซึ่งเดินทางมาจากหลายจังหวัดด้วยกัน อาทิ จ.ขอนแก่น, จ.อุบลราชธานี, จ.อุดรธานี, จ.มหาสารคาม, จ.ร้อยเอ็ด, จ.อำนาจเจริญ, จ.ชัยภูมิ, จ.ศรีสะเกษ, จ.นครราชสีมา และ จ.เพชรบูรณ์..ขอบอกว่าสุดยอดแห่งความน่ารักและเก่งจริงๆค่ะ

ผลการประกวดรอบคัดเลือก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ประเภทเดี่ยว 4-6 ปี

ชนะเลิศ
ด.ญ.จิตสิรินธ์ มาตย์สาลี โรงเรียนพระกุมารร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด นิทานที่เล่าเรื่องแม่มดน้อยใจดี
รองชนะเลิศ อันดับ 1
ด.ญ.รติชา มิกทา โรงเรียนอนุบาลอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ นิทานที่เล่าเรื่องไฮดี้อยู่ไหนเอ่ย
รองชนะเลิศ อันดับ 2
ด.ช.ภัทร เพชรภักดี โรงเรียนอนุบาลบ้านทับทิม จ.ชัยภูมิ นิทานที่เล่าเรื่องซุปก้อนหิน

ประเภทเดี่ยว 6-9 ปี
ชนะเลิศ
ด.ญ.จิดาภา ฉายพิมาย โรงเรียนมารีย์วิทยา จ.มหาสารคาม นิทานที่เล่าเรื่องคำสัญญาของเพื่อนรัก
รองชนะเลิศ อันดับ 1
ด.ญ.แก้วเกล้า พิพัฒน์โรจนกมล โรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี นิทานที่เล่าเรื่องตุ๊กตาแห่งความทรงจำ
รองชนะเลิศ อันดับ 2
ด.ญ.ศิศิรา ชัยกิจจินดา โรงเรียนอนุบาลกิติยา จ.นครราชสีมา นิทานที่เล่าเรื่องจิงโจ้น้อยติดแม่

วันที่ 27-28 กรกฎาคม 2562 โครงการฯจะไปเฟ้นหาตัวแทนหนูน้อยนักเล่านิทานภาคเหนือ สถานที่แข่งขัน โรงเรียน วชิรวิทย์ เชียงใหม่ ช้างคลาน ใครที่อยู่ใกล้เคียงสามารถไปให้กำลังใจ ร่วมลุ้นร่วมเชียร์ กันได้นะคะ..ติดตามความเคลื่อนไหวโครงการฯได้ที่ facebook/lubsamongcontest (ลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน)

Pages: 1 [2] 3 4 ... 186