Show Posts
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
2536
มุมนักอ่าน / กทม.ต่อยอด Read on the Move บนรถเมล์ทั่วกรุง
« on: July 29, 2011, 05:45:41 PM »
กทม.ต่อยอด Read on the Move บนรถเมล์ทั่วกรุง
กทม.จับมือ ขสมก. เปิดตัวโครงการ Read on the Move จุดอ่านหนังสือบนรถเมล์ นำร่องใน 9 สาย 108 คัน เพื่อผลักดันโครงการกรุงเทพฯ เมืองหนังสือโลก 2556 พร้อมส่งเสริมให้ประชาชนรักการอ่าน และใช้เวลาว่างระหว่างเดินทางอย่างเป็นประโยชน์
นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดโครงการ “Read on the Move” กลุ่มภาคี ขสมก. หรือจุดอ่านหนังสือบนรถประจำทาง พร้อมปล่อยขบวนรถโดยสารประจำทางนำร่อง 9 สาย โดยมีนายวิรัตน์ โชคคติวัฒน์ รองผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ เขตการเดินรถที่ 1 (อู่บางเขน) ถนนพหลโยธิน
โครงการ “Read on the Move” กลุ่มภาคี ขสมก. เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากโครงการกรุงเทพฯ เมืองหนังสือโลก 2556 (Bangkok World Book Capital 2013) ซึ่งกรุงเทพมหานครมุ่งเน้นให้ชาวกรุงเทพฯ เข้าถึงการอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในขณะเดินทางซึ่งทุกวันนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องเสียเวลาอันมีค่าอยู่บนท้องถนน เพื่อเดินทางไปในที่ต่างๆ กรุงเทพมหานครจึงจัดหนังสือและนิตยสารไว้ประจำรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งจะติดตั้งอยู่บริเวณประตูหน้าและประตูหลังของรถ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้เวลาว่างอย่างมีประโยชน์ ซึ่งในเบื้องต้น ขสมก.ได้นำร่องโครงการฯ ในรถประจำทางปรับอากาศ จำนวน 9 สายๆ ละ 12 คัน รวม 108 คัน ได้แก่ สาย4 (ท่าเรือคลองเตย – ท่าน้ำภาษีเจริญ), สาย16 (ประชาชื่น – สุรวงศ์), สาย21 (วัดคู่สร้าง – จุฬาฯ), สาย543 (อู่บางเขน – ลำลูกกา), สาย510 (ม.ธ.ศูนย์รังสิต – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ),สาย60 (มีนบุรี – ปากคลองตลาด), สาย77 (เซ็นทรัลพระราม3 – หมอชิต), สาย129 (อู่บางเขน – สำโรง) และสาย 511 (ปากน้ำ – สถานีขนส่งสายใต้ใหม่) โดยรถประจำทางที่ร่วมโครงการจะติดสติ๊กเกอร์โครงการและข้อความรณรงค์รักการอ่านและเมืองหนังสือโลก 2013
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กิจกรรม Read on the Move ในวันนี้เป็นภารกิจต่อเนื่องภายหลังจากที่กรุงเทพมหานครได้เดินหน้าโครงการรักการอ่านบนรถแท็กซี่ จำนวน 500 คัน เพื่อส่งเสริมกิจกรรมรักการอ่านและการเป็นเมืองหนังสือโลก พร้อมกันนี้ กรุงเทพมหานครได้มอบนโยบายให้สำนักการศึกษา เปิดห้องสมุดโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร 50 แห่ง เพื่อให้บริการประชาชนทั่วไปในช่วงหลังเลิกเรียน หรือวันเสาร์-อาทิตย์ และเพิ่มจุดอ่านบริเวณที่พักรอของผู้มาใช้บริการภายในโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครทุกแห่ง รวมถึงตั้งจุดบริการการอ่านบริเวณสำนักงานเขตและหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งจะร่วมกับภาคีเครือข่ายขยายพื้นที่การอ่าน อาทิ ห้องสมุดเรือนจำ สถานพินิจ โรงพยาบาล มูลนิธิ และจัดทำห้องสมุดเพื่อผู้พิการ เพื่อขยายโอกาสไปยังผู้ด้อยโอกาสในแต่ละกลุ่มอีกด้วย
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครจะเปิดรับบริจาคหนังสือในโครงการฯ เพิ่มเติม โดยตั้งกล่องรับบริจาค ณ สำนักงานเขต และหน่วยงานในสังกัด ห้างเทสโก้ โลตัส และร้านสะดวกซื้อ (7-eleven) เพื่อเพิ่มจำนวนหนังสือในโครงการฯ และขยายโครงการรักการอ่านอย่างต่อเนื่องต่อไป
กทม.จับมือ ขสมก. เปิดตัวโครงการ Read on the Move จุดอ่านหนังสือบนรถเมล์ นำร่องใน 9 สาย 108 คัน เพื่อผลักดันโครงการกรุงเทพฯ เมืองหนังสือโลก 2556 พร้อมส่งเสริมให้ประชาชนรักการอ่าน และใช้เวลาว่างระหว่างเดินทางอย่างเป็นประโยชน์
นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดโครงการ “Read on the Move” กลุ่มภาคี ขสมก. หรือจุดอ่านหนังสือบนรถประจำทาง พร้อมปล่อยขบวนรถโดยสารประจำทางนำร่อง 9 สาย โดยมีนายวิรัตน์ โชคคติวัฒน์ รองผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ เขตการเดินรถที่ 1 (อู่บางเขน) ถนนพหลโยธิน
โครงการ “Read on the Move” กลุ่มภาคี ขสมก. เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากโครงการกรุงเทพฯ เมืองหนังสือโลก 2556 (Bangkok World Book Capital 2013) ซึ่งกรุงเทพมหานครมุ่งเน้นให้ชาวกรุงเทพฯ เข้าถึงการอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในขณะเดินทางซึ่งทุกวันนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องเสียเวลาอันมีค่าอยู่บนท้องถนน เพื่อเดินทางไปในที่ต่างๆ กรุงเทพมหานครจึงจัดหนังสือและนิตยสารไว้ประจำรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งจะติดตั้งอยู่บริเวณประตูหน้าและประตูหลังของรถ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้เวลาว่างอย่างมีประโยชน์ ซึ่งในเบื้องต้น ขสมก.ได้นำร่องโครงการฯ ในรถประจำทางปรับอากาศ จำนวน 9 สายๆ ละ 12 คัน รวม 108 คัน ได้แก่ สาย4 (ท่าเรือคลองเตย – ท่าน้ำภาษีเจริญ), สาย16 (ประชาชื่น – สุรวงศ์), สาย21 (วัดคู่สร้าง – จุฬาฯ), สาย543 (อู่บางเขน – ลำลูกกา), สาย510 (ม.ธ.ศูนย์รังสิต – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ),สาย60 (มีนบุรี – ปากคลองตลาด), สาย77 (เซ็นทรัลพระราม3 – หมอชิต), สาย129 (อู่บางเขน – สำโรง) และสาย 511 (ปากน้ำ – สถานีขนส่งสายใต้ใหม่) โดยรถประจำทางที่ร่วมโครงการจะติดสติ๊กเกอร์โครงการและข้อความรณรงค์รักการอ่านและเมืองหนังสือโลก 2013
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กิจกรรม Read on the Move ในวันนี้เป็นภารกิจต่อเนื่องภายหลังจากที่กรุงเทพมหานครได้เดินหน้าโครงการรักการอ่านบนรถแท็กซี่ จำนวน 500 คัน เพื่อส่งเสริมกิจกรรมรักการอ่านและการเป็นเมืองหนังสือโลก พร้อมกันนี้ กรุงเทพมหานครได้มอบนโยบายให้สำนักการศึกษา เปิดห้องสมุดโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร 50 แห่ง เพื่อให้บริการประชาชนทั่วไปในช่วงหลังเลิกเรียน หรือวันเสาร์-อาทิตย์ และเพิ่มจุดอ่านบริเวณที่พักรอของผู้มาใช้บริการภายในโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครทุกแห่ง รวมถึงตั้งจุดบริการการอ่านบริเวณสำนักงานเขตและหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งจะร่วมกับภาคีเครือข่ายขยายพื้นที่การอ่าน อาทิ ห้องสมุดเรือนจำ สถานพินิจ โรงพยาบาล มูลนิธิ และจัดทำห้องสมุดเพื่อผู้พิการ เพื่อขยายโอกาสไปยังผู้ด้อยโอกาสในแต่ละกลุ่มอีกด้วย
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครจะเปิดรับบริจาคหนังสือในโครงการฯ เพิ่มเติม โดยตั้งกล่องรับบริจาค ณ สำนักงานเขต และหน่วยงานในสังกัด ห้างเทสโก้ โลตัส และร้านสะดวกซื้อ (7-eleven) เพื่อเพิ่มจำนวนหนังสือในโครงการฯ และขยายโครงการรักการอ่านอย่างต่อเนื่องต่อไป
2537
มุมนักอ่าน / งานเปิดตัวหนังสือ การเมืองแบบหมาๆ
« on: July 27, 2011, 05:57:57 PM »
ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ ร่วมกับ สำนักพิมพ์อนิศดิสทริบิวชั่น จำกัด ได้จัดงานเปิดตัวหนังสือ การเมืองแบบหมาๆ
เมื่อวันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมาเวลา 18.00 – 19.30 น. ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ ร่วมกับ สำนักพิมพ์อนิศดิสทริบิวชั่น จำกัด ได้จัดงานเปิดตัวหนังสือ การเมืองแบบหมาๆ ขึ้น ณ ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์สาขา แฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา ชั้น 3 ในงานนี้ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นแฟนคลับของคุณชูวิทย์เป็นจำนวนมาก
ในช่วงระหว่างการรอให้ถึงเวลาที่จะพบกับคุณชูวิทย์ ลูกค้าก็ได้มีการมาจับจองที่นั่งกันอย่างเนืองแน่น เมื่อคุณชูวิทย์มาถึงในงาน ด้วยความที่เป็นคนเรียบง่ายเข้าถึงทุกคนอย่างใกล้ชิด ไม่ถือตัว ก็จับไมค์ขึ้นมาพูดเป็นลักษณะของการ Talk Show คุณชูวิทย์ได้พูดเกี่ยวกับหนังสือ และสุนัขของท่านที่เลี้ยงไว้ตั้งแต่ยังเล็กๆ อยู่ว่าสุนัขมีความซื่อสัตย์อย่างไร และนามบัตรที่เกี่ยวกับการร้องทุกข์หรือการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายต่างๆ ที่ท่านนำมามอบให้ลูกค้าพร้อมกับลายเซ็นนั่นเอง
งานนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนมากมายจาก ช่องต่างๆ และสื่อสิ่งพิมพ์ที่มาทำข่าวเนื้อหา การเมืองแบบหมาๆ
เหตุผลของผมที่เขียนหนังสือเรื่อง “การเมืองแบบหมาหมา” อันเนื่องมาจาก “สันดานนักการเมือง” ที่ได้พบได้เห็นกันอยู่ทุกวัน อันที่จริงมีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้ว่า นักการเมืองแต่ละคนมีสันดานเป็นอย่างไร? และมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่รู้ว่า สันดานของหมาเป็นอย่างไร ?
หากจะพูดให้ลึกซึ้งลงไป “หมา” ซึ่งเป็นสัตว์เดรัจฉาน มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้านาย โดยไม่คำนึงถึงว่าเจ้าของหน้าตาหล่อสวย หรือน่าเกลียดเพียงใด มันไม่รู้ว่า เจ้าของ “รวย” หรือ “จน” มันมีสัญชาตญาณที่มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของอย่างมั่นคงยิ่งนัก
หนังสือเรื่อง “การเมืองแบบหมาหมา” ราคาเล่มละ 200 บาท รหัส 978-616-90955-0-7
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
ฝ่ายกิจกรรมและฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์
โทร 0-2739-8555 ต่อ 8926 และ8930
หรือ ติดต่อได้ที่ www.se-ed.com และ www.facebook.com/SBC.fans
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-739-8555 ต่อ 8930 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์
เมื่อวันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมาเวลา 18.00 – 19.30 น. ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ ร่วมกับ สำนักพิมพ์อนิศดิสทริบิวชั่น จำกัด ได้จัดงานเปิดตัวหนังสือ การเมืองแบบหมาๆ ขึ้น ณ ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์สาขา แฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา ชั้น 3 ในงานนี้ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นแฟนคลับของคุณชูวิทย์เป็นจำนวนมาก
ในช่วงระหว่างการรอให้ถึงเวลาที่จะพบกับคุณชูวิทย์ ลูกค้าก็ได้มีการมาจับจองที่นั่งกันอย่างเนืองแน่น เมื่อคุณชูวิทย์มาถึงในงาน ด้วยความที่เป็นคนเรียบง่ายเข้าถึงทุกคนอย่างใกล้ชิด ไม่ถือตัว ก็จับไมค์ขึ้นมาพูดเป็นลักษณะของการ Talk Show คุณชูวิทย์ได้พูดเกี่ยวกับหนังสือ และสุนัขของท่านที่เลี้ยงไว้ตั้งแต่ยังเล็กๆ อยู่ว่าสุนัขมีความซื่อสัตย์อย่างไร และนามบัตรที่เกี่ยวกับการร้องทุกข์หรือการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายต่างๆ ที่ท่านนำมามอบให้ลูกค้าพร้อมกับลายเซ็นนั่นเอง
งานนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนมากมายจาก ช่องต่างๆ และสื่อสิ่งพิมพ์ที่มาทำข่าวเนื้อหา การเมืองแบบหมาๆ
เหตุผลของผมที่เขียนหนังสือเรื่อง “การเมืองแบบหมาหมา” อันเนื่องมาจาก “สันดานนักการเมือง” ที่ได้พบได้เห็นกันอยู่ทุกวัน อันที่จริงมีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้ว่า นักการเมืองแต่ละคนมีสันดานเป็นอย่างไร? และมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่รู้ว่า สันดานของหมาเป็นอย่างไร ?
หากจะพูดให้ลึกซึ้งลงไป “หมา” ซึ่งเป็นสัตว์เดรัจฉาน มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้านาย โดยไม่คำนึงถึงว่าเจ้าของหน้าตาหล่อสวย หรือน่าเกลียดเพียงใด มันไม่รู้ว่า เจ้าของ “รวย” หรือ “จน” มันมีสัญชาตญาณที่มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของอย่างมั่นคงยิ่งนัก
หนังสือเรื่อง “การเมืองแบบหมาหมา” ราคาเล่มละ 200 บาท รหัส 978-616-90955-0-7
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
ฝ่ายกิจกรรมและฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์
โทร 0-2739-8555 ต่อ 8926 และ8930
หรือ ติดต่อได้ที่ www.se-ed.com และ www.facebook.com/SBC.fans
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-739-8555 ต่อ 8930 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์
2538
มุมนักอ่าน / งานเสวนาหนังสือ “คนเปิดกรรม 4 จิตแห่งกรรม”
« on: July 27, 2011, 05:56:32 PM »
ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ ร่วมกับ สำนักพิมพ์ไอซีซีพับลิชชิ่ง จัดงานเสวนาหนังสือ “คนเปิดกรรม 4 จิตแห่งกรรม”
ใครทำกรรมอะไรไว้ อย่าคิดว่าไม่มีใครรู้!!!
คนเปิดกรรม 4 จิตแห่งกรรม โดย อาจารย์ หม่อม มณฑล สายทัศน์
วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2554 เวลา 13.00 น. ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ ร่วมกับ สำนักพิมพ์ไอซีซีพับลิชชิ่ง จัดงานเสวนาหนังสือ “คนเปิดกรรม 4 จิตแห่งกรรม” ณ ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ สาขาโลตัส พลัส ศรีนครินทร์ ชั้น G คนเปิดกรรม เล่ม 4 จิตแห่งกรรม" โดย อาจารย์ หม่อม มณฑล สายทัศน์ เต็มไปด้วยเรื่องราวของคนที่ประสบเคราะห์กรรม ซึ่งเกิดจากกรรมที่ตนได้ทำไว้ในอดีตชาติหรือในปัจจุบันชาติ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่สนใจเรื่องกฎแห่งกรรม และมีความสนใจที่จะแก้ปัญหาเรื่องเคราะห์กรรมของตัวเอง โดยให้ตัวเองอยู่ในศีลธรรม นอกจากได้รวบรวมประสบการณ์การปฏิบัติธรรมของอาจารย์แล้ว ยังได้รวมบันทึกการเดินทางแสวงบุญในแดนพุทธภูมิของอาจารย์ร่วมกับสหายธรรม ซึ่งเป็นบันทึกที่โดดเด่นโดยให้ประสบการณ์กับผู้อ่านราวกับได้ร่วมเดินทางกับอาจารย์เลยทีเดียว...สรรพสิ่งเกิดขึ้นมีดวงจิต
วันนี้สำหรับลูกค้าท่านใดที่ซื้อหนังสือ ก็จะได้รับลายเซ็น พร้อมกับให้อ.หม่อม จะช่วยเปิดกรรมให้เฉพาะบางท่านเท่านั้นถ้าท่านนั้นเปิดใจให้อาจารย์หม่อมเข้าไปดู ดูเพื่อที่เราควรจะทำอย่างไรเพื่อให้กรรมนั้นๆ ที่ทำไปเบาบางลง และเพื่อทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งภายในงานเต็มไปด้วยลูกค้าที่ให้ความสนใจซื้อหนังสือมาร่วมเปิดกรรมเป็นจำนวนมาก
หนังสือคนเปิดกรรม 4 รหัส 9786169084303 ราคาเล่มละ 178 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
ฝ่ายกิจกรรมและฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์
โทร 0-2739-8555 ต่อ 8926 และ8930
หรือ ติดต่อได้ที่ www.se-ed.com และ www.facebook.com/SBC.fans
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-739-8555 ต่อ 8930 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์
ใครทำกรรมอะไรไว้ อย่าคิดว่าไม่มีใครรู้!!!
คนเปิดกรรม 4 จิตแห่งกรรม โดย อาจารย์ หม่อม มณฑล สายทัศน์
วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2554 เวลา 13.00 น. ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ ร่วมกับ สำนักพิมพ์ไอซีซีพับลิชชิ่ง จัดงานเสวนาหนังสือ “คนเปิดกรรม 4 จิตแห่งกรรม” ณ ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ สาขาโลตัส พลัส ศรีนครินทร์ ชั้น G คนเปิดกรรม เล่ม 4 จิตแห่งกรรม" โดย อาจารย์ หม่อม มณฑล สายทัศน์ เต็มไปด้วยเรื่องราวของคนที่ประสบเคราะห์กรรม ซึ่งเกิดจากกรรมที่ตนได้ทำไว้ในอดีตชาติหรือในปัจจุบันชาติ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่สนใจเรื่องกฎแห่งกรรม และมีความสนใจที่จะแก้ปัญหาเรื่องเคราะห์กรรมของตัวเอง โดยให้ตัวเองอยู่ในศีลธรรม นอกจากได้รวบรวมประสบการณ์การปฏิบัติธรรมของอาจารย์แล้ว ยังได้รวมบันทึกการเดินทางแสวงบุญในแดนพุทธภูมิของอาจารย์ร่วมกับสหายธรรม ซึ่งเป็นบันทึกที่โดดเด่นโดยให้ประสบการณ์กับผู้อ่านราวกับได้ร่วมเดินทางกับอาจารย์เลยทีเดียว...สรรพสิ่งเกิดขึ้นมีดวงจิต
วันนี้สำหรับลูกค้าท่านใดที่ซื้อหนังสือ ก็จะได้รับลายเซ็น พร้อมกับให้อ.หม่อม จะช่วยเปิดกรรมให้เฉพาะบางท่านเท่านั้นถ้าท่านนั้นเปิดใจให้อาจารย์หม่อมเข้าไปดู ดูเพื่อที่เราควรจะทำอย่างไรเพื่อให้กรรมนั้นๆ ที่ทำไปเบาบางลง และเพื่อทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งภายในงานเต็มไปด้วยลูกค้าที่ให้ความสนใจซื้อหนังสือมาร่วมเปิดกรรมเป็นจำนวนมาก
หนังสือคนเปิดกรรม 4 รหัส 9786169084303 ราคาเล่มละ 178 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
ฝ่ายกิจกรรมและฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์
โทร 0-2739-8555 ต่อ 8926 และ8930
หรือ ติดต่อได้ที่ www.se-ed.com และ www.facebook.com/SBC.fans
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-739-8555 ต่อ 8930 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์
2539
มุมนักอ่าน / “น้ำเล่นไฟ” นวนิยายโดย “กฤษณา อโศกสิน”คว้ารางวัลชนะเลิศเซเว่นบุ๊คอวอร์ดครั้งที่8
« on: July 27, 2011, 05:52:22 PM »
“น้ำเล่นไฟ” นวนิยายโดย “กฤษณา อโศกสิน” คว้ารางวัลชนะเลิศ เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 8 ประจำปี 2554
“เซเว่นบุ๊คอวอร์ด” อีกหนึ่งเวทีประกวดหนังสือระดับชาติจาก ซีพี ออลล์ เป็นที่รู้จักของแวดวงนักเขียนกันเป็นอย่างดี เพื่อเฟ้นหานักเขียนไทยฝีมือดีให้ได้แสดงผลงานเขียนคุณภาพสู่เส้นทางสายหนังสือ ปัจจุบันจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 แล้ว ซึ่งแนวคิดและรูปแบบที่นำเสนอเข้ามาล้วนมีความน่าสนใจและก่อให้เกิดความคิดต่อยอดในเชิงบวก สำหรับรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 8 ประจำปี 2554 ได้มีการประกาศผลอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ในการจัดโครงการประกวดหนังสือดีเด่นรางวัล “เซเว่นบุ๊คอวอร์ด” ว่า ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 8 แล้ว มุ่งหวังสร้างและส่งเสริมให้นักเขียนไทยพัฒนาฝีมือให้มีคุณภาพมากขึ้น สำหรับเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 8 ปี 2554 ได้แบ่งการประกวดเป็น 7 ประเภท คือ กวีนิพนธ์ นวนิยาย วรรณกรรมสำหรับเยาวชน รวมเรื่องสั้น สารคดี (สารคดีชาติพันธุ์วิทยา) นิยายภาพ (การ์ตูน) และนักเขียนรุ่นเยาว์ 4 หมวด ประกอบด้วย นวนิยายขนาดสั้น รวมเรื่องสั้น กวีนิพนธ์ และนิยายภาพ (การ์ตูน) และคาดหวังว่า ผลงานของนักเขียนไทยที่ได้รับรางวัล จะเป็นที่ประจักษ์ต่อวงการและกลุ่มผู้อ่านทั่วไปที่ยังแสวงหาหนังสือดีมีคุณภาพให้ลูกหลานของเราได้อ่านกัน ที่สำคัญเป็นงานเขียนของคนไทย ควรสนับสนุนและส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง ซีพีออลล์ยังคงมุ่งมั่นส่งเสริมคนไทยให้รักการอ่าน และเขียนหนังสือมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การประกวดนี้ จะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ได้สานต่อสิ่งที่มุ่งหวังให้เป็นจริง และเป็นอุดมการณ์ที่เราจะสานต่อโครงการนี้อีกครั้งในปีถัดไป”
รางวัล เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 8 ประจำปี 2554 ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากวงการนักเขียนและวรรณกรรมไทยในแต่ละสาขา เป็นคณะกรรมการตัดสินผลงานที่ได้รับรางวัล โดย ศ.ดร.รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ ประธานคณะกรรมการประเภทนวนิยาย ได้ให้ความเห็นว่า “นวนิยายเรื่อง น้ำเล่นไฟ ของ กฤษณา อโศกสิน นี้นำเสนอคุณค่าของอาชีพเกษตรกรรมผ่านเรื่องราวของครอบครัวเกษตรกรหัวก้าวหน้าไปพร้อมกับครอบครัวของเศรษฐีเจ้าของตลาดสดสมัยใหม่ แม้จะนำเสนอประเด็นทางสังคมที่หนักหน่วง แต่ผู้ประพันธ์ก็ไม่ได้ละเลยเสน่ห์ของนวนิยายที่ชวนอ่านด้วยการสร้างปมขัดแย้งในครอบครัว ปมขัดแย้งในใจของตัวละคร และความไม่ลงรอยกันของตัวละครคู่เอก ซึ่งในที่สุดก็คลี่คลายลงด้วยดี เหตุที่นวนิยายเรื่องนี้โดดเด่นด้านเนื้อหา แนวคิดที่สร้างสรรค์ ตัวละครมีชีวิตชีวา นำเสนอรสอารมณ์ที่บันเทิงใจ ภาษาเนียนงามด้วยฝีมือของผู้ประพันธ์ จึงมีมติให้ได้รับรางวัลชนะเลิศ”
ผศ.ดร. ตรีศิลป์ บุญขจร กรรมการประเภทกวีนิพนธ์ “แม้ไม่มีผลงานใดได้รับรางวัลชนะเลิศ แต่เรื่อง ณ ที่ซึ่งแม่โพสพเคยสถิต ของ ไพวรินทร์ ขาวงาม ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ก็เป็นรวมบทกวีที่นำเสนอภาพของสังคมอีสานในยุคโลกาภิวัตน์ได้อย่างชัดเจน ผู้ประพันธ์ให้ความสำคัญกับชาวนา ทำนาหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนทั้งแผ่นดิน แต่ตนต้องยากลำบาก ใช้ศิลปะการประพันธ์ด้วยลีลาที่รื่นไหลและหลากหลาย บทกวีมีสีสันท้องถิ่น ผสมผสานท่วงทำนองของกลอนแบบฉบับกับรูปแบบฉันทลักษณ์ท้องถิ่นได้ลุ่มลึก กินใจ”
ผุสดี นาวาวิจิต ประธานคณะกรรมการประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชน “นักล่าผู้น่ารัก ของ ชนประเสริฐ คินทรักษ์ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของสุนัขสองตัวที่มีภูมิหลังและพฤติกรรมแตกต่างกัน แต่ชะตาชีวิตทำให้ได้พบและร่วมเดินทางผจญภัยจนเกิดมิตรภาพแน่นแฟ้น นำไปสู่ความสำเร็จ โดดเด่นด้วยโครงเรื่องที่สนุก ให้สาระความรู้ สอดแทรกข้อคิดอย่างแยบยล มีการเปรียบเทียบคมคาย ให้ภาพพจน์ เข้าใจง่าย”
ประภัสสร เสวิกุล ประธานคณะกรรมการประเภทรวมเรื่องสั้น “สำหรับรางวัลนี้ ไม่มีผลงานใดได้รับรางวัลชนะเลิศ ส่วนผลงานที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ เส้นผมบังจักรวาล ของ เอื้อ อัญชลี ถ่ายทอดความเป็นไปของชีวิต ผ่านบทบาทตัวละครในฉากเล็ก ๆ แคบ ๆ และธรรมดาดังที่พบเห็นกัน แต่ด้วยมุมมองและจินตนาการของผู้เขียน ภาพที่ปรากฏต่อผู้อ่านกลับมีแง่มุมแปลกใหม่ที่น่าสนใจ ชวนให้ขบคิดติดตาม”
ศ.ดร.กีรติ บุญเจือ ประธานคณะกรรมการประเภทสารคดี (สารคดีชาติพันธุ์วิทยา) “รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ สยามหลากเผ่าหลายพันธุ์ โดย องค์ บรรจุน เป็นบทความที่ได้มาจากการสัมภาษณ์บุคคลต่าง ๆ ถึง 22 คน ที่หลากหลายเผ่าพันธุ์จากชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย และแต่ละคนล้วนภูมิใจในเผ่าพันธุ์ของตน พหุสังคมในประเทศไทยอยู่รวมกันได้อย่างกลมกลืน สงบสุข มีกลวิธีนำเสนอน่าสนใจ อ่านสนุกด้วยวิธีเขียนที่ไม่เป็นทางการจนเกินไป”
นิวัฒน์ ธาราพรรค์ ประธานคณะกรรมการประเภทนิยายภาพ (การ์ตูน) “MY INSPIRATION ของ THE DUANG ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ เป็นการรวมผลงานการ์ตูนสั้น 7 เรื่อง ที่มีการวางโครงเรื่องอย่างลึกซึ้ง แสดงให้เห็นสภาวะและแก่นแท้ของมนุษย์ที่ยังเป็นปุถุชน ในแง่มุมที่คมคายและแตกต่างกันไป สื่อสารด้านจิตใจและความคิดได้อย่างลุ่มลึก ใช้สัญลักษณ์ในการสื่อความคิดสู่ผู้อ่าน ให้คุณค่าแง่คิดด้านปรัชญาและสังคม ผ่านสายตาของคนรุ่นใหม่”
ทั้งนี้ ผู้ชนะเลิศ “เซเว่นบุ๊คอวอร์ด” จำนวน 6 ประเภท จะได้รับรางวัลเงินสด 100,000 บาท พร้อมโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) สำหรับประเภทนักเขียนรุ่นเยาว์ รวม 4 หมวด คือ นวนิยายขนาดสั้น รวมเรื่องสั้น กวีนิพนธ์ และนิยายภาพ (การ์ตูน) ผู้ชนะเลิศจะได้รับรางวัลเงินสด 15,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์งานเขียนต่อไป
งานรับโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโครงการประกวดหนังสือดีเด่นรางวัล “เซเว่นบุ๊คอวอร์ด” ครั้งที่ 8 ประจำปี 2554 แก่ผู้ชนะเลิศ รวมถึงรางวัลอื่นๆ มีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 11 สิงหาคม นี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pr7eleven.com
“เซเว่นบุ๊คอวอร์ด” อีกหนึ่งเวทีประกวดหนังสือระดับชาติจาก ซีพี ออลล์ เป็นที่รู้จักของแวดวงนักเขียนกันเป็นอย่างดี เพื่อเฟ้นหานักเขียนไทยฝีมือดีให้ได้แสดงผลงานเขียนคุณภาพสู่เส้นทางสายหนังสือ ปัจจุบันจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 แล้ว ซึ่งแนวคิดและรูปแบบที่นำเสนอเข้ามาล้วนมีความน่าสนใจและก่อให้เกิดความคิดต่อยอดในเชิงบวก สำหรับรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 8 ประจำปี 2554 ได้มีการประกาศผลอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ในการจัดโครงการประกวดหนังสือดีเด่นรางวัล “เซเว่นบุ๊คอวอร์ด” ว่า ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 8 แล้ว มุ่งหวังสร้างและส่งเสริมให้นักเขียนไทยพัฒนาฝีมือให้มีคุณภาพมากขึ้น สำหรับเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 8 ปี 2554 ได้แบ่งการประกวดเป็น 7 ประเภท คือ กวีนิพนธ์ นวนิยาย วรรณกรรมสำหรับเยาวชน รวมเรื่องสั้น สารคดี (สารคดีชาติพันธุ์วิทยา) นิยายภาพ (การ์ตูน) และนักเขียนรุ่นเยาว์ 4 หมวด ประกอบด้วย นวนิยายขนาดสั้น รวมเรื่องสั้น กวีนิพนธ์ และนิยายภาพ (การ์ตูน) และคาดหวังว่า ผลงานของนักเขียนไทยที่ได้รับรางวัล จะเป็นที่ประจักษ์ต่อวงการและกลุ่มผู้อ่านทั่วไปที่ยังแสวงหาหนังสือดีมีคุณภาพให้ลูกหลานของเราได้อ่านกัน ที่สำคัญเป็นงานเขียนของคนไทย ควรสนับสนุนและส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง ซีพีออลล์ยังคงมุ่งมั่นส่งเสริมคนไทยให้รักการอ่าน และเขียนหนังสือมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การประกวดนี้ จะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ได้สานต่อสิ่งที่มุ่งหวังให้เป็นจริง และเป็นอุดมการณ์ที่เราจะสานต่อโครงการนี้อีกครั้งในปีถัดไป”
รางวัล เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 8 ประจำปี 2554 ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากวงการนักเขียนและวรรณกรรมไทยในแต่ละสาขา เป็นคณะกรรมการตัดสินผลงานที่ได้รับรางวัล โดย ศ.ดร.รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ ประธานคณะกรรมการประเภทนวนิยาย ได้ให้ความเห็นว่า “นวนิยายเรื่อง น้ำเล่นไฟ ของ กฤษณา อโศกสิน นี้นำเสนอคุณค่าของอาชีพเกษตรกรรมผ่านเรื่องราวของครอบครัวเกษตรกรหัวก้าวหน้าไปพร้อมกับครอบครัวของเศรษฐีเจ้าของตลาดสดสมัยใหม่ แม้จะนำเสนอประเด็นทางสังคมที่หนักหน่วง แต่ผู้ประพันธ์ก็ไม่ได้ละเลยเสน่ห์ของนวนิยายที่ชวนอ่านด้วยการสร้างปมขัดแย้งในครอบครัว ปมขัดแย้งในใจของตัวละคร และความไม่ลงรอยกันของตัวละครคู่เอก ซึ่งในที่สุดก็คลี่คลายลงด้วยดี เหตุที่นวนิยายเรื่องนี้โดดเด่นด้านเนื้อหา แนวคิดที่สร้างสรรค์ ตัวละครมีชีวิตชีวา นำเสนอรสอารมณ์ที่บันเทิงใจ ภาษาเนียนงามด้วยฝีมือของผู้ประพันธ์ จึงมีมติให้ได้รับรางวัลชนะเลิศ”
ผศ.ดร. ตรีศิลป์ บุญขจร กรรมการประเภทกวีนิพนธ์ “แม้ไม่มีผลงานใดได้รับรางวัลชนะเลิศ แต่เรื่อง ณ ที่ซึ่งแม่โพสพเคยสถิต ของ ไพวรินทร์ ขาวงาม ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ก็เป็นรวมบทกวีที่นำเสนอภาพของสังคมอีสานในยุคโลกาภิวัตน์ได้อย่างชัดเจน ผู้ประพันธ์ให้ความสำคัญกับชาวนา ทำนาหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนทั้งแผ่นดิน แต่ตนต้องยากลำบาก ใช้ศิลปะการประพันธ์ด้วยลีลาที่รื่นไหลและหลากหลาย บทกวีมีสีสันท้องถิ่น ผสมผสานท่วงทำนองของกลอนแบบฉบับกับรูปแบบฉันทลักษณ์ท้องถิ่นได้ลุ่มลึก กินใจ”
ผุสดี นาวาวิจิต ประธานคณะกรรมการประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชน “นักล่าผู้น่ารัก ของ ชนประเสริฐ คินทรักษ์ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของสุนัขสองตัวที่มีภูมิหลังและพฤติกรรมแตกต่างกัน แต่ชะตาชีวิตทำให้ได้พบและร่วมเดินทางผจญภัยจนเกิดมิตรภาพแน่นแฟ้น นำไปสู่ความสำเร็จ โดดเด่นด้วยโครงเรื่องที่สนุก ให้สาระความรู้ สอดแทรกข้อคิดอย่างแยบยล มีการเปรียบเทียบคมคาย ให้ภาพพจน์ เข้าใจง่าย”
ประภัสสร เสวิกุล ประธานคณะกรรมการประเภทรวมเรื่องสั้น “สำหรับรางวัลนี้ ไม่มีผลงานใดได้รับรางวัลชนะเลิศ ส่วนผลงานที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ เส้นผมบังจักรวาล ของ เอื้อ อัญชลี ถ่ายทอดความเป็นไปของชีวิต ผ่านบทบาทตัวละครในฉากเล็ก ๆ แคบ ๆ และธรรมดาดังที่พบเห็นกัน แต่ด้วยมุมมองและจินตนาการของผู้เขียน ภาพที่ปรากฏต่อผู้อ่านกลับมีแง่มุมแปลกใหม่ที่น่าสนใจ ชวนให้ขบคิดติดตาม”
ศ.ดร.กีรติ บุญเจือ ประธานคณะกรรมการประเภทสารคดี (สารคดีชาติพันธุ์วิทยา) “รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ สยามหลากเผ่าหลายพันธุ์ โดย องค์ บรรจุน เป็นบทความที่ได้มาจากการสัมภาษณ์บุคคลต่าง ๆ ถึง 22 คน ที่หลากหลายเผ่าพันธุ์จากชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย และแต่ละคนล้วนภูมิใจในเผ่าพันธุ์ของตน พหุสังคมในประเทศไทยอยู่รวมกันได้อย่างกลมกลืน สงบสุข มีกลวิธีนำเสนอน่าสนใจ อ่านสนุกด้วยวิธีเขียนที่ไม่เป็นทางการจนเกินไป”
นิวัฒน์ ธาราพรรค์ ประธานคณะกรรมการประเภทนิยายภาพ (การ์ตูน) “MY INSPIRATION ของ THE DUANG ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ เป็นการรวมผลงานการ์ตูนสั้น 7 เรื่อง ที่มีการวางโครงเรื่องอย่างลึกซึ้ง แสดงให้เห็นสภาวะและแก่นแท้ของมนุษย์ที่ยังเป็นปุถุชน ในแง่มุมที่คมคายและแตกต่างกันไป สื่อสารด้านจิตใจและความคิดได้อย่างลุ่มลึก ใช้สัญลักษณ์ในการสื่อความคิดสู่ผู้อ่าน ให้คุณค่าแง่คิดด้านปรัชญาและสังคม ผ่านสายตาของคนรุ่นใหม่”
ทั้งนี้ ผู้ชนะเลิศ “เซเว่นบุ๊คอวอร์ด” จำนวน 6 ประเภท จะได้รับรางวัลเงินสด 100,000 บาท พร้อมโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) สำหรับประเภทนักเขียนรุ่นเยาว์ รวม 4 หมวด คือ นวนิยายขนาดสั้น รวมเรื่องสั้น กวีนิพนธ์ และนิยายภาพ (การ์ตูน) ผู้ชนะเลิศจะได้รับรางวัลเงินสด 15,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์งานเขียนต่อไป
งานรับโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโครงการประกวดหนังสือดีเด่นรางวัล “เซเว่นบุ๊คอวอร์ด” ครั้งที่ 8 ประจำปี 2554 แก่ผู้ชนะเลิศ รวมถึงรางวัลอื่นๆ มีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 11 สิงหาคม นี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pr7eleven.com
2540
มุมนักอ่าน / แนะนำหนังสือ: “มดมหัศจรรย์”
« on: July 27, 2011, 05:50:28 PM »
แนะนำหนังสือ: “มดมหัศจรรย์”
ให้ดูมดเป็นตัวอย่าง
คำสอนจากคุณหญิงแอ้จากนิทานเรื่อง “มดมหัศจรรย์”
เพราะความรักของคุณยายที่มีต่อน้องแจน น้องจีน และน้องจุน หลานๆตัวน้อยที่มักสงสัยใครรู้เกี่ยวกับธรรมชาติรอบตัว และชอบมีคำถามแปลกๆ มาถามคุณยายเสมอ ผสานกับความตั้งใจที่อยากให้เด็กไทยทุกคนได้เรียนรู้เรื่องราวของธรรมชาติอย่างสนุกและสร้างสรรค์ “มด” จึงเป็นสิ่งใกล้ตัวที่คุณหญิงรัชนีวรรณ วัฒนชัย หรือคุณยายแอ้ นำมาเขียนเป็นนิทานกึ่งสารคดี ชุด 10 ปี หนังสือดีเพื่อเด็ก ในโอกาสที่มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กได้มอบความสุขให้แก่เด็กๆ ด้วยเสียงเล่านิทานและการอ่านหนังสือมาครบ 10 ปี โดยมีคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ประธานมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กและผู้เขียน “หิวจัง หิวจัง” หนังสือเล่มแรกของโครงการมาร่วมงาน พร้อมด้วยคุณเรืองศักดิ์ ปิ่นประทีป หรือที่เด็กๆ รู้จักกันในนาม ตุ๊บปอง นักเขียนนิทานชื่อดังในฐานะกรรมการผู้จัดการมูลนิธิฯ พร้อมด้วยคุณริสรวล อร่ามเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท แปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด ในฐานะบรรณาธิการกิจและผู้จัดพิมพ์ และคุณธีระ ธัญไพบูลย์ ที่มาในบทบาทคุณพ่อและพิธีกรในคราวเดียวกัน
มดมหัศจรรย์ เป็นหนังสือนิทาน 1 ใน 5 เรื่องที่มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ร่วมกับบริษัทแปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด จัดทำขึ้นเพื่อเป็นของขวัญทางปัญญาให้กับเด็ก โดยใช้มดเป็นสัญลักษณ์ของความขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด และอดทนแฝงไว้เป็นข้อคิด
“เรื่องนี้เกิดขึ้น เพราะพาหลานๆ เข้าไปเก็บต้นไม้ ใบไม้แห้งที่สวนหน้าบ้าน เราเห็นมดเดินเรียงแถว เลยเรียกหลานมาดูว่า มดนี่มีระเบียบนะ เดินเป็นแถวยาวเรียงกันเลย และแนะนำเขาว่าเราควรต้องเป็นคนที่มีระเบียบ ให้เอาอย่างมดนะคะ มดจะขยัน ตั้งแต่เช้าถึงกลางคืนมดจะเดินตลอด เก็บกิ่งไม้ ขนอาหาร จะเล่าให้หลานฟังถึงความรอบคอบของมด ว่ามดไม่ประมาท คอยกักตุนอาหารไว้กินยามยาก เวลาที่ฝนตกหนัก มดออกมาจากรังไม่ได้ ก็นำอาหารที่สะสมเก็บไว้มาแบ่งปันกันกิน ได้สอนหลานๆ ว่าต้องเป็นคนที่ขยัน รู้จักเก็บ อดออม รู้จักใช้ทุกอย่าง เวลาลำบากก็จะนำมาใช้ได้” คุณหญิงรัชนีวรรณกล่าว
นอกจากเนื้อหาที่ช่วยจุดประกายความคิดให้กับเด็ก สามารถพูดคุยและเล่าเรื่องราวได้แล้ว ภาพประกอบในหนังสือนิทานเล่มนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงคนสองรุ่นที่สามารถอยู่ด้วยกันได้โดยไม่ต้องมีคนกลางอยู่ด้วย เป็นการสื่อสารที่ผู้วาดภาพจำเป็นต้องศึกษาทั้งองค์ความรู้เกี่ยวกับมด และใช้จินตนาการในการวาดภาพในหน้าทุกหน้าด้วยสีน้ำอย่างดีที่สุด เพื่อให้มดมหัศจรรย์ออกมาเป็นตัวเล่มอย่างสมบูรณ์แบบ
คุณริสรวลเล่าว่า “เราจะทำเรื่องมด เราต้องรู้เรื่องมด ประวัติของมด ประเภทของมด และภาพประกอบทั้งหมดควรเป็นอย่างไร ในเรื่องนี้จะเป็นมดแดงผู้ทรงพลัง สามารถยกของได้หนัก 5 เท่าของตัวเอง การที่ใช้สัตว์เป็นเพื่อน จะทำให้เด็กสนุก แต่ก็ขึ้นอยู่กับคนที่เขียนนิทานเค้ามีมุมอะไรที่จะสอน นิทานดีๆ สมัยก่อน มีการนำกลับมาตีพิมพ์เยอะมาก โครงการหนังสือเด็กก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน เพราะทุกคนเข้าใจแล้วว่าต้องใช้หนังสือกับเด็ก ที่สำคัญทุนของนิทานที่ยังคงอยู่ในตัวเด็กคือความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ต้องให้ตั้งแต่เล็กๆ เพราะมนุษย์เราแรกเกิดถึงสามขวบ เป็นช่วงอัตราการแตกของเซลล์สมองเยอะที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ด้วยว่าจะกระตุ้นแบบไหนให้เหมาะสมกับลูกของเรา”
ปัจจุบันถึงแม้เราจะปฏิเสธเรื่องของเทคโนโลยีที่เข้ามาแทรงแซงวิถีความเป็นอยู่ของเด็กไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้ใหญ่ต่างหากที่จะจัดความพอดีให้กับเด็กได้อย่างไร หากพ่อแม่เข้าใจในศาสตร์ของหนังสือว่ากว่าเด็กจะอ่านออก อ่านได้ อ่านแตก และอ่านอย่างสนุกได้ต้องใช้เวลาและความอดทนมาก แต่ในความอดทนนั้น จะมีความรักของพ่อแม่แฝงอยู่ด้วยทุกระยะ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ประคับประคองและชี้นำให้เด็กเติบโตมาอย่างมีความสุข ดังที่คุณเรืองศักดิ์แนะนำว่า “เวลาอ่านหนังสือเรากอดลูกได้ การกอด การสัมผัส ไม่มีใครให้ได้ดีไปกว่าพ่อแม่ หรือปู่ย่าตายาย เพราะมันมีความรักทางสายเลือด สิ่งเหล่านี้จะถ่ายโอนไปถึงเด็กๆ และทำให้เด็กๆ เติบโตมาอย่างความมั่นคงทางจิตใจ”
ให้ดูมดเป็นตัวอย่าง
คำสอนจากคุณหญิงแอ้จากนิทานเรื่อง “มดมหัศจรรย์”
เพราะความรักของคุณยายที่มีต่อน้องแจน น้องจีน และน้องจุน หลานๆตัวน้อยที่มักสงสัยใครรู้เกี่ยวกับธรรมชาติรอบตัว และชอบมีคำถามแปลกๆ มาถามคุณยายเสมอ ผสานกับความตั้งใจที่อยากให้เด็กไทยทุกคนได้เรียนรู้เรื่องราวของธรรมชาติอย่างสนุกและสร้างสรรค์ “มด” จึงเป็นสิ่งใกล้ตัวที่คุณหญิงรัชนีวรรณ วัฒนชัย หรือคุณยายแอ้ นำมาเขียนเป็นนิทานกึ่งสารคดี ชุด 10 ปี หนังสือดีเพื่อเด็ก ในโอกาสที่มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กได้มอบความสุขให้แก่เด็กๆ ด้วยเสียงเล่านิทานและการอ่านหนังสือมาครบ 10 ปี โดยมีคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ประธานมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กและผู้เขียน “หิวจัง หิวจัง” หนังสือเล่มแรกของโครงการมาร่วมงาน พร้อมด้วยคุณเรืองศักดิ์ ปิ่นประทีป หรือที่เด็กๆ รู้จักกันในนาม ตุ๊บปอง นักเขียนนิทานชื่อดังในฐานะกรรมการผู้จัดการมูลนิธิฯ พร้อมด้วยคุณริสรวล อร่ามเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท แปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด ในฐานะบรรณาธิการกิจและผู้จัดพิมพ์ และคุณธีระ ธัญไพบูลย์ ที่มาในบทบาทคุณพ่อและพิธีกรในคราวเดียวกัน
มดมหัศจรรย์ เป็นหนังสือนิทาน 1 ใน 5 เรื่องที่มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ร่วมกับบริษัทแปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด จัดทำขึ้นเพื่อเป็นของขวัญทางปัญญาให้กับเด็ก โดยใช้มดเป็นสัญลักษณ์ของความขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด และอดทนแฝงไว้เป็นข้อคิด
“เรื่องนี้เกิดขึ้น เพราะพาหลานๆ เข้าไปเก็บต้นไม้ ใบไม้แห้งที่สวนหน้าบ้าน เราเห็นมดเดินเรียงแถว เลยเรียกหลานมาดูว่า มดนี่มีระเบียบนะ เดินเป็นแถวยาวเรียงกันเลย และแนะนำเขาว่าเราควรต้องเป็นคนที่มีระเบียบ ให้เอาอย่างมดนะคะ มดจะขยัน ตั้งแต่เช้าถึงกลางคืนมดจะเดินตลอด เก็บกิ่งไม้ ขนอาหาร จะเล่าให้หลานฟังถึงความรอบคอบของมด ว่ามดไม่ประมาท คอยกักตุนอาหารไว้กินยามยาก เวลาที่ฝนตกหนัก มดออกมาจากรังไม่ได้ ก็นำอาหารที่สะสมเก็บไว้มาแบ่งปันกันกิน ได้สอนหลานๆ ว่าต้องเป็นคนที่ขยัน รู้จักเก็บ อดออม รู้จักใช้ทุกอย่าง เวลาลำบากก็จะนำมาใช้ได้” คุณหญิงรัชนีวรรณกล่าว
นอกจากเนื้อหาที่ช่วยจุดประกายความคิดให้กับเด็ก สามารถพูดคุยและเล่าเรื่องราวได้แล้ว ภาพประกอบในหนังสือนิทานเล่มนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงคนสองรุ่นที่สามารถอยู่ด้วยกันได้โดยไม่ต้องมีคนกลางอยู่ด้วย เป็นการสื่อสารที่ผู้วาดภาพจำเป็นต้องศึกษาทั้งองค์ความรู้เกี่ยวกับมด และใช้จินตนาการในการวาดภาพในหน้าทุกหน้าด้วยสีน้ำอย่างดีที่สุด เพื่อให้มดมหัศจรรย์ออกมาเป็นตัวเล่มอย่างสมบูรณ์แบบ
คุณริสรวลเล่าว่า “เราจะทำเรื่องมด เราต้องรู้เรื่องมด ประวัติของมด ประเภทของมด และภาพประกอบทั้งหมดควรเป็นอย่างไร ในเรื่องนี้จะเป็นมดแดงผู้ทรงพลัง สามารถยกของได้หนัก 5 เท่าของตัวเอง การที่ใช้สัตว์เป็นเพื่อน จะทำให้เด็กสนุก แต่ก็ขึ้นอยู่กับคนที่เขียนนิทานเค้ามีมุมอะไรที่จะสอน นิทานดีๆ สมัยก่อน มีการนำกลับมาตีพิมพ์เยอะมาก โครงการหนังสือเด็กก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน เพราะทุกคนเข้าใจแล้วว่าต้องใช้หนังสือกับเด็ก ที่สำคัญทุนของนิทานที่ยังคงอยู่ในตัวเด็กคือความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ต้องให้ตั้งแต่เล็กๆ เพราะมนุษย์เราแรกเกิดถึงสามขวบ เป็นช่วงอัตราการแตกของเซลล์สมองเยอะที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ด้วยว่าจะกระตุ้นแบบไหนให้เหมาะสมกับลูกของเรา”
ปัจจุบันถึงแม้เราจะปฏิเสธเรื่องของเทคโนโลยีที่เข้ามาแทรงแซงวิถีความเป็นอยู่ของเด็กไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้ใหญ่ต่างหากที่จะจัดความพอดีให้กับเด็กได้อย่างไร หากพ่อแม่เข้าใจในศาสตร์ของหนังสือว่ากว่าเด็กจะอ่านออก อ่านได้ อ่านแตก และอ่านอย่างสนุกได้ต้องใช้เวลาและความอดทนมาก แต่ในความอดทนนั้น จะมีความรักของพ่อแม่แฝงอยู่ด้วยทุกระยะ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ประคับประคองและชี้นำให้เด็กเติบโตมาอย่างมีความสุข ดังที่คุณเรืองศักดิ์แนะนำว่า “เวลาอ่านหนังสือเรากอดลูกได้ การกอด การสัมผัส ไม่มีใครให้ได้ดีไปกว่าพ่อแม่ หรือปู่ย่าตายาย เพราะมันมีความรักทางสายเลือด สิ่งเหล่านี้จะถ่ายโอนไปถึงเด็กๆ และทำให้เด็กๆ เติบโตมาอย่างความมั่นคงทางจิตใจ”
2541
มุมนักอ่าน / ภาพข่าว: สร้างห้องสมุด
« on: July 27, 2011, 05:48:52 PM »
ภาพข่าว: สร้างห้องสมุด
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ร่วมกับ บริษัท มีเดียสตูดิโอ จำกัด จัดสร้าง และพัฒนาห้องสมุดให้กับน้องๆ โรงเรียนบ้านปางแก อ.ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ภายใต้โครงการ “ปลูกปัญญา พัฒนาความรู้เด็กไทย” เพื่อเป็นการสนับสนุนด้านการศึกษาของเด็กไทย และเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม วันดีดี โดยมี ดร.ชุติมา หาญเผชิญ ผู้อำนวยการศูนย์นักบริหารระดับสูง สำนักงาน ก.พ. และคุณกชกร วงศ์ใหญ่ ผู้อำนวยการฝ่ายขายโฆษณา บริษัท มีเดีย สตูดิโอ จำกัด พร้อมกลุ่มข้าราชการรุ่นใหม่ (Hipps) ที่นำหนังสือไปมอบให้กับน้องๆ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งรอยยิ้ม และความสุขของเด็กๆ และทีมงานทุกคนที่ร่วมใจกันไปช่วยในกิจกรรมครั้งนี้
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ร่วมกับ บริษัท มีเดียสตูดิโอ จำกัด จัดสร้าง และพัฒนาห้องสมุดให้กับน้องๆ โรงเรียนบ้านปางแก อ.ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ภายใต้โครงการ “ปลูกปัญญา พัฒนาความรู้เด็กไทย” เพื่อเป็นการสนับสนุนด้านการศึกษาของเด็กไทย และเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม วันดีดี โดยมี ดร.ชุติมา หาญเผชิญ ผู้อำนวยการศูนย์นักบริหารระดับสูง สำนักงาน ก.พ. และคุณกชกร วงศ์ใหญ่ ผู้อำนวยการฝ่ายขายโฆษณา บริษัท มีเดีย สตูดิโอ จำกัด พร้อมกลุ่มข้าราชการรุ่นใหม่ (Hipps) ที่นำหนังสือไปมอบให้กับน้องๆ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งรอยยิ้ม และความสุขของเด็กๆ และทีมงานทุกคนที่ร่วมใจกันไปช่วยในกิจกรรมครั้งนี้
2542
มุมนักอ่าน / ฉลอง 11 ปี เดย์ โพเอทส์ กับ 7 ธุรกิจในเครือ
« on: July 27, 2011, 11:23:05 AM »
ฉลอง 11 ปี เดย์ โพเอทส์ กับ 7 ธุรกิจในเครือ
“วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์” กรรมการผู้จัดการ บ.เดย์ โพเอทส์ ผู้ผลิตนิตยสาร a day, a day BULLETIN, Hamburger, สำนักพิมพ์ a book, สำนักพิมพ์ polka DOT, a day Department Store, รายการ THE IDOL และทีวีแชมเปี้ยนส์ นำทีม 7 ผู้บริหารรุ่นใหม่ เปิดแถลงเยียร์แพลนพร้อมฉลองครบรอบ 11 ปี ในงาน “เดย์ โพเอทส์ เซเว่น ฟอร์ม รีดเดอร์ชิพ ทู ลีดเดอร์ชิพ” โดยมี ช้างน้อย-กุญชร ณ อยุธยา, บิ๊ก-ภูมิชาย บุญสินสุข, ตุ๊กตา-พนิดา เอี่ยมศิรินพกุล, ตุ๊ก-วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม, ปั๊ม-วีรวัฒน์ อัจจุตมานัส, เป้ง-ทรงพล จั่นลา พร้อมด้วยสื่อมวลชน เอเจนซี่ ค่ายเพลงและศิลปิน อาทิ Very TV, A-TIME, RS, KPN, LOVEiS, Small room, Sony music, SpicyDics, Believe Records, แบล็คแจ็ค, สครับบ์, สควีซ แอนนิมอล, เพชร เคพีเอ็น, แป้งโกะ,โอ ปวีร์, เฟี๊ยต ลิงค์คอนเนอร์, ท็อป ณัฐเศรษฐ์ฯลฯ ร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง ที่ร้าน ไวน์ มี อัพ (ทองหล่อ) เมื่อวันก่อน !
เดย์ โพเอทส์ 7 ฟอร์ม รีดเดอร์ชิพ ทู ลีดเดอร์ชิพ พร้อมส่งต่อ ‘แรงบันดาลใจ’ ให้คนรุ่นใหม่ผ่านทุกช่องทางการสื่อสาร
1. นิตยสาร a day
a day นิตยสารสร้างแรงบันดาลใจ เนื้อหาคม...เข้มเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งยังคงรักษาสาระและแรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดีนับจากวันแรกจนถึง 11 ปี ภายใต้การก่อตั้งของ “โหน่ง-วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์” รวมถึง “ก้อง-ทรงกลด บางยี่ขัน” บรรณาธิการบริหารนอกกรอบคนปัจจุบัน ล่าสุดยังก้าวเป็นแชมป์นิตยสารที่มีแฟนเพจมากที่สุดเป็นอันดับ 1 กับยอดกด LIKE กว่า 2 แสน+! แถม Follower ใน Twitter อีกกว่า 60,000+ คน! สอบถามเพิ่มเติมฝ่ายประชาสัมพันธ์ บ.เดย์ โพเอทส์ จำกัด
2. นิตยสาร Hamburger
Hamburger นิตยสาร Lifestyle Entertainment รายเดือน ที่มีบรรณาธิการบริหารรุ่นใหม่ “ปั๊ม-วีรวัฒน์ อัจจุตมานัส” นำทีมเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต อัพเดทเทรนด์แฟชั่นสุดฮอต และข่าวสารในวงการบันเทิงทั้งไทยเทศ นอกจากนี้ยังมีนโยบายคืนกำไรให้รีดเดอร์ชิพร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลทุกเดือนกับกิจกรรม........... “Hamburger Follow me Project” ง่ายๆ แค่ Follow @HAMBURGER_MAG
3. นิตยสาร a day BULLETIN
a day BULLETIN นิตยสาร Free Copy รายสัปดาห์ ที่มี “ตุ๊ก-วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม” บรรณาธิการ สายข่าวและสารคดีเป็นหัวเรือใหญ่เฝ้าเกาะติดรายงานเรื่องราวที่น่าสนใจในสังคมโลก ซึ่งโดดเด่นด้วยประเด็นเด็ดและบทสัมภาษณ์บุคคลสำคัญในเมืองไทยรวมถึงระดับโลก ชนิดที่เรียกว่าเจาะลึกโดนใจคนในสังคม
(ล่าสุด นิตยสารทั้ง 3 หัว ในเครือ เดย์ โพเอทส์ ทั้ง a day / a day Bulletin / Hamburger พร้อมก้าวสู่
E-magazine แมกกาซีนดิจิตอลออนไลน์ เพื่อขยายฐานรีดเดอร์ชิพผู้อ่านรุ่นใหม่วัย I-Gen บน I Pad)
4. สำนักพิมพ์ a book
a book แหล่งรวมนักเขียนสุดแนวแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งมีเจ้าสำนักอย่าง “บิ๊ก-ภูมิชาย บุญสินสุข”บรรณาธิการใหญ่เป็นโต้โผในการผลิตพ็อกเก็ตบุ๊คหลากหลายรูบแบบ ทั้งเรื่องสั้น ตลก ฮา ดราม่า ท่องเที่ยว รวมถึงการ์ตูน ที่อัดแน่นด้วยคุณภาพและขายดี อาทิ สองเงาในเกาหลี, ซากะ อาโออิ สิ่งมีชีวิตในเจแปน, การลาออกครั้งสุดท้าย, ศัพท์หมู, มีของต้องสำแดง, ต้นไม้ใต้ดวงอาทิตย์ ฯลฯ นอกจากนี้ยังคงมีมหกรรมหนังสือ a book Fair ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมถึง a book Lecture show ในมหาวิทยาลัย และโครงการดีๆที่เปิดโอกาสให้นักเขียนหน้าใหม่ได้โชว์ฝีมือกับ...กองทุนกู้ยืมเพื่อหนังสือทำมือ(กยทม.) ส่วนข่าวดีล่าสุด สนพ. a book กำลังจะมีหนังสือออกใหม่ล็อตใหญ่ พร้อมคลอดหนังสือแปลเล่มแรก โดยปลายปากกาของ “วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม” เจ้าของ พ็อกเก็ตบุ๊คระดับเบสเซลเลอร์ อย่าง ‘If You Care Enough’ ตามต่อเร็วๆ นี้ ที่ สำนักพิมพ์ a book
5. สำนักพิมพ์ Polka DOT
Polka DOT สำนักพิมพ์ลายจุดน้องใหม่เอี่ยมอ่องใส่ใจสังคม ในเครือ เดย์ โพเอทส์ สร้างสรรค์โดยบรรณาธิการสาวสวย “ตุ๊กตา-พนิดา เอี่ยมศิรินพกุล” ที่ขอประกาศให้โลกรับรู้ถึงตัวตนและความน่ารักกุ๊กกิ๊กของ ‘ผู้หญิง’ ด้วยการผลิตพ็อกเก็ตบุ๊คเพื่อสาวๆโดยเฉพาะ...กับคู่มือหัดถัก นิต-นิต, คู่มือเย็บผ้า โซ-โซ, เครื่องเขียนชิ้นเล็ก สเตชันเนรีที่รัก, และอีกมากมายว่าด้วยเรื่องสวยๆ งามๆ ตามความชอบของผู้หญิง!
6. a day TV.
a day TV. เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ บ.เดย์ โพเอทส์ อยากทำเพื่อเพิ่มอรรถรสให้วงการทีวีเมืองไทย โดยมี “เป้ง-ทรงพล จั่นลา” รั้งตำแหน่งโปรดิวเซอร์ให้กับ 2 รายการ คือ ทีวีแชมเปี้ยนส์ และ THE IDOL ทาง Modern 9 TV. ซึ่ง เดย์ โพเอทส์ กำลังจะพลิกโฉม ‘รายการ THE IDOL คนบันดาลใจ’ ด้วยการปรับรูปแบบและเปลี่ยนพิธีกรใหม่ เป็น “ท็อป-ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี” รอติดตาม THE IDOL รูปแบบใหม่สิงหาคมนี้
7. a day Department Store
a day Department Store ภายใต้การดูแลของนักบริหารเจนใหม่ “ช้างน้อย-กุญชร ณ อยุธยา” ตลอด 11 ปีที่ผ่านมา a day ได้ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านการให้คำปรึกษาบริหารจัดการงานออร์กาไนเซอร์ อีเว้นท์ และแคมเปญการประกวดต่างๆ อาทิ การประกวดภาพยนตร์สั้น การประกวดวาดการ์ตูน ประกวดมิวสิควีดีโอ ฯลฯ ซึ่งครอบคลุมทุกรูปแบบ ทั้งในระดับนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วประเทศ และนับจากนี้ a day Department Store จะก้าวไปอีกขั้นด้วยปณิธานตั้งมั่น ‘a day Department Store...มีทุกสิ่งให้เลือกสรรค์ ไม่ว่าใครมีฝันอะไร เราพร้อมจะทำให้เป็นจริง’ ...!
สอบถามเพิ่มเติมฝ่ายประชาสัมพันธ์ บ.เดย์ โพเอทส์ จำกัด
อ้อ – สาวิตรี เหล่ารอด
หรือ www.daypoets.com
“วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์” กรรมการผู้จัดการ บ.เดย์ โพเอทส์ ผู้ผลิตนิตยสาร a day, a day BULLETIN, Hamburger, สำนักพิมพ์ a book, สำนักพิมพ์ polka DOT, a day Department Store, รายการ THE IDOL และทีวีแชมเปี้ยนส์ นำทีม 7 ผู้บริหารรุ่นใหม่ เปิดแถลงเยียร์แพลนพร้อมฉลองครบรอบ 11 ปี ในงาน “เดย์ โพเอทส์ เซเว่น ฟอร์ม รีดเดอร์ชิพ ทู ลีดเดอร์ชิพ” โดยมี ช้างน้อย-กุญชร ณ อยุธยา, บิ๊ก-ภูมิชาย บุญสินสุข, ตุ๊กตา-พนิดา เอี่ยมศิรินพกุล, ตุ๊ก-วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม, ปั๊ม-วีรวัฒน์ อัจจุตมานัส, เป้ง-ทรงพล จั่นลา พร้อมด้วยสื่อมวลชน เอเจนซี่ ค่ายเพลงและศิลปิน อาทิ Very TV, A-TIME, RS, KPN, LOVEiS, Small room, Sony music, SpicyDics, Believe Records, แบล็คแจ็ค, สครับบ์, สควีซ แอนนิมอล, เพชร เคพีเอ็น, แป้งโกะ,โอ ปวีร์, เฟี๊ยต ลิงค์คอนเนอร์, ท็อป ณัฐเศรษฐ์ฯลฯ ร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง ที่ร้าน ไวน์ มี อัพ (ทองหล่อ) เมื่อวันก่อน !
เดย์ โพเอทส์ 7 ฟอร์ม รีดเดอร์ชิพ ทู ลีดเดอร์ชิพ พร้อมส่งต่อ ‘แรงบันดาลใจ’ ให้คนรุ่นใหม่ผ่านทุกช่องทางการสื่อสาร
1. นิตยสาร a day
a day นิตยสารสร้างแรงบันดาลใจ เนื้อหาคม...เข้มเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งยังคงรักษาสาระและแรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดีนับจากวันแรกจนถึง 11 ปี ภายใต้การก่อตั้งของ “โหน่ง-วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์” รวมถึง “ก้อง-ทรงกลด บางยี่ขัน” บรรณาธิการบริหารนอกกรอบคนปัจจุบัน ล่าสุดยังก้าวเป็นแชมป์นิตยสารที่มีแฟนเพจมากที่สุดเป็นอันดับ 1 กับยอดกด LIKE กว่า 2 แสน+! แถม Follower ใน Twitter อีกกว่า 60,000+ คน! สอบถามเพิ่มเติมฝ่ายประชาสัมพันธ์ บ.เดย์ โพเอทส์ จำกัด
2. นิตยสาร Hamburger
Hamburger นิตยสาร Lifestyle Entertainment รายเดือน ที่มีบรรณาธิการบริหารรุ่นใหม่ “ปั๊ม-วีรวัฒน์ อัจจุตมานัส” นำทีมเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต อัพเดทเทรนด์แฟชั่นสุดฮอต และข่าวสารในวงการบันเทิงทั้งไทยเทศ นอกจากนี้ยังมีนโยบายคืนกำไรให้รีดเดอร์ชิพร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลทุกเดือนกับกิจกรรม........... “Hamburger Follow me Project” ง่ายๆ แค่ Follow @HAMBURGER_MAG
3. นิตยสาร a day BULLETIN
a day BULLETIN นิตยสาร Free Copy รายสัปดาห์ ที่มี “ตุ๊ก-วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม” บรรณาธิการ สายข่าวและสารคดีเป็นหัวเรือใหญ่เฝ้าเกาะติดรายงานเรื่องราวที่น่าสนใจในสังคมโลก ซึ่งโดดเด่นด้วยประเด็นเด็ดและบทสัมภาษณ์บุคคลสำคัญในเมืองไทยรวมถึงระดับโลก ชนิดที่เรียกว่าเจาะลึกโดนใจคนในสังคม
(ล่าสุด นิตยสารทั้ง 3 หัว ในเครือ เดย์ โพเอทส์ ทั้ง a day / a day Bulletin / Hamburger พร้อมก้าวสู่
E-magazine แมกกาซีนดิจิตอลออนไลน์ เพื่อขยายฐานรีดเดอร์ชิพผู้อ่านรุ่นใหม่วัย I-Gen บน I Pad)
4. สำนักพิมพ์ a book
a book แหล่งรวมนักเขียนสุดแนวแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งมีเจ้าสำนักอย่าง “บิ๊ก-ภูมิชาย บุญสินสุข”บรรณาธิการใหญ่เป็นโต้โผในการผลิตพ็อกเก็ตบุ๊คหลากหลายรูบแบบ ทั้งเรื่องสั้น ตลก ฮา ดราม่า ท่องเที่ยว รวมถึงการ์ตูน ที่อัดแน่นด้วยคุณภาพและขายดี อาทิ สองเงาในเกาหลี, ซากะ อาโออิ สิ่งมีชีวิตในเจแปน, การลาออกครั้งสุดท้าย, ศัพท์หมู, มีของต้องสำแดง, ต้นไม้ใต้ดวงอาทิตย์ ฯลฯ นอกจากนี้ยังคงมีมหกรรมหนังสือ a book Fair ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมถึง a book Lecture show ในมหาวิทยาลัย และโครงการดีๆที่เปิดโอกาสให้นักเขียนหน้าใหม่ได้โชว์ฝีมือกับ...กองทุนกู้ยืมเพื่อหนังสือทำมือ(กยทม.) ส่วนข่าวดีล่าสุด สนพ. a book กำลังจะมีหนังสือออกใหม่ล็อตใหญ่ พร้อมคลอดหนังสือแปลเล่มแรก โดยปลายปากกาของ “วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม” เจ้าของ พ็อกเก็ตบุ๊คระดับเบสเซลเลอร์ อย่าง ‘If You Care Enough’ ตามต่อเร็วๆ นี้ ที่ สำนักพิมพ์ a book
5. สำนักพิมพ์ Polka DOT
Polka DOT สำนักพิมพ์ลายจุดน้องใหม่เอี่ยมอ่องใส่ใจสังคม ในเครือ เดย์ โพเอทส์ สร้างสรรค์โดยบรรณาธิการสาวสวย “ตุ๊กตา-พนิดา เอี่ยมศิรินพกุล” ที่ขอประกาศให้โลกรับรู้ถึงตัวตนและความน่ารักกุ๊กกิ๊กของ ‘ผู้หญิง’ ด้วยการผลิตพ็อกเก็ตบุ๊คเพื่อสาวๆโดยเฉพาะ...กับคู่มือหัดถัก นิต-นิต, คู่มือเย็บผ้า โซ-โซ, เครื่องเขียนชิ้นเล็ก สเตชันเนรีที่รัก, และอีกมากมายว่าด้วยเรื่องสวยๆ งามๆ ตามความชอบของผู้หญิง!
6. a day TV.
a day TV. เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ บ.เดย์ โพเอทส์ อยากทำเพื่อเพิ่มอรรถรสให้วงการทีวีเมืองไทย โดยมี “เป้ง-ทรงพล จั่นลา” รั้งตำแหน่งโปรดิวเซอร์ให้กับ 2 รายการ คือ ทีวีแชมเปี้ยนส์ และ THE IDOL ทาง Modern 9 TV. ซึ่ง เดย์ โพเอทส์ กำลังจะพลิกโฉม ‘รายการ THE IDOL คนบันดาลใจ’ ด้วยการปรับรูปแบบและเปลี่ยนพิธีกรใหม่ เป็น “ท็อป-ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี” รอติดตาม THE IDOL รูปแบบใหม่สิงหาคมนี้
7. a day Department Store
a day Department Store ภายใต้การดูแลของนักบริหารเจนใหม่ “ช้างน้อย-กุญชร ณ อยุธยา” ตลอด 11 ปีที่ผ่านมา a day ได้ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านการให้คำปรึกษาบริหารจัดการงานออร์กาไนเซอร์ อีเว้นท์ และแคมเปญการประกวดต่างๆ อาทิ การประกวดภาพยนตร์สั้น การประกวดวาดการ์ตูน ประกวดมิวสิควีดีโอ ฯลฯ ซึ่งครอบคลุมทุกรูปแบบ ทั้งในระดับนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วประเทศ และนับจากนี้ a day Department Store จะก้าวไปอีกขั้นด้วยปณิธานตั้งมั่น ‘a day Department Store...มีทุกสิ่งให้เลือกสรรค์ ไม่ว่าใครมีฝันอะไร เราพร้อมจะทำให้เป็นจริง’ ...!
สอบถามเพิ่มเติมฝ่ายประชาสัมพันธ์ บ.เดย์ โพเอทส์ จำกัด
อ้อ – สาวิตรี เหล่ารอด
หรือ www.daypoets.com
2543
มุมนักอ่าน / นิตยสาร SMEs ชี้ช่องรวย เดือน กรกฎาคม 2554
« on: July 24, 2011, 02:40:26 PM »
นิตยสาร SMEs ชี้ช่องรวย เดือน กรกฎาคม 2554
นิตยสาร SMEs ชี้ช่องรวย ฉบับเดือนกรกฎาคม 2554 นั้น นำเสนอธุรกิจที่มีความน่าสนใจ มีคู่แข่งในตลาดธุรกิจที่น้อยหรือบางธุรกิจก็แทบจะไม่มีเลย ในสกู๊ปเรื่องจากปก “9 ธุรกิจ เนรมิตเงินง่าย” ซึ่งธุรกิจที่นำเสนอในฉบับนี้ ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีจาก งานมหกรรมที่ผ่านมาด้วย อาทิ - ‘แฟรนไชส์ มุ้งลวดรูมเมท’ - ‘สถานีเพาะเห็ด’ - ‘ฮ่องกงสินเจริญ เครื่องจักรปัก’ - ‘จักรปัก ดอท คอม’ -‘พิซซ่าทอดไฮโอ้ (Hio2)’ - แฟรนไชส์หอยครก ‘ฅนวัง’ - แฟรนไชส์ขนมเปี๊ยะโบราณ ‘เชาปิ่ง’ - สบู่น้ำแร่ปลุกพลัง ‘Xxire’ - ตัวกรองบุหรี่ Nic-Out’ - เยื่อใยไผ่ขัดตัว แบรนด์ ‘ใยไผ่ขัดผิว’
ผู้ใดสนใจสามารถหาความรู้ได้ในเล่ม ที่มีพร้อมให้เลือกสรรทั้งธุรกิจแฟรนไชส์ ตัวแทนจำหน่าย ฯลฯ
จากหลากหลายผู้ประกอบการ ที่สร้างนักลงทุนหน้าใหม่ให้รวยมาได้นับไม่ถ้วน!!
นอกจากนี้ เตรียมพร้อมถอดรหัสรวย กับธุรกิจอาหารไร้คู่แข่ง ใน“โครงการแจกธุรกิจฟรี SMEs ชี้ช่องรวย สร้างผู้ประกอบการใหม่” สำหรับฉบับเดือนกรกฎาคมนี้ พบกับธุรกิจแฟรนไชส์ ‘Hio2 พิซซ่าทอด’ มูลค่า 35,000 บาท อาหารที่จะทานเล่นก็ได้ ทานเป็นมื้อหลักก็ดี รีบส่งวันนี้ โอกาสได้ธุรกิจฟรี อาจเป็นคุณ !!
พิเศษ !! แถมฟรี ซัพพลีเมนท์ คู่มืออาชีพ “ธุรกิจสิ่งพิมพ์ ฉบับ SMEs เป็นเจ้าของก็ง่าย ใช้บริการก็ได้” อ่านแล้วพร้อมลงทุนได้ก่อนใคร!! นิตยสาร SMEs ชี้ช่องรวย วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ร้านหนังสือ ซีเอ็ดบุ๊คส์, นายอินทร์, B2S และ Book Smile ในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นทุกสาขา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
บริษัท พีเพิลมีเดีย จำกัด 47,49 ซอยลาดพร้าว 140 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0-2704-7958 พีเพิลมีเดีย
นิตยสาร SMEs ชี้ช่องรวย ฉบับเดือนกรกฎาคม 2554 นั้น นำเสนอธุรกิจที่มีความน่าสนใจ มีคู่แข่งในตลาดธุรกิจที่น้อยหรือบางธุรกิจก็แทบจะไม่มีเลย ในสกู๊ปเรื่องจากปก “9 ธุรกิจ เนรมิตเงินง่าย” ซึ่งธุรกิจที่นำเสนอในฉบับนี้ ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีจาก งานมหกรรมที่ผ่านมาด้วย อาทิ - ‘แฟรนไชส์ มุ้งลวดรูมเมท’ - ‘สถานีเพาะเห็ด’ - ‘ฮ่องกงสินเจริญ เครื่องจักรปัก’ - ‘จักรปัก ดอท คอม’ -‘พิซซ่าทอดไฮโอ้ (Hio2)’ - แฟรนไชส์หอยครก ‘ฅนวัง’ - แฟรนไชส์ขนมเปี๊ยะโบราณ ‘เชาปิ่ง’ - สบู่น้ำแร่ปลุกพลัง ‘Xxire’ - ตัวกรองบุหรี่ Nic-Out’ - เยื่อใยไผ่ขัดตัว แบรนด์ ‘ใยไผ่ขัดผิว’
ผู้ใดสนใจสามารถหาความรู้ได้ในเล่ม ที่มีพร้อมให้เลือกสรรทั้งธุรกิจแฟรนไชส์ ตัวแทนจำหน่าย ฯลฯ
จากหลากหลายผู้ประกอบการ ที่สร้างนักลงทุนหน้าใหม่ให้รวยมาได้นับไม่ถ้วน!!
นอกจากนี้ เตรียมพร้อมถอดรหัสรวย กับธุรกิจอาหารไร้คู่แข่ง ใน“โครงการแจกธุรกิจฟรี SMEs ชี้ช่องรวย สร้างผู้ประกอบการใหม่” สำหรับฉบับเดือนกรกฎาคมนี้ พบกับธุรกิจแฟรนไชส์ ‘Hio2 พิซซ่าทอด’ มูลค่า 35,000 บาท อาหารที่จะทานเล่นก็ได้ ทานเป็นมื้อหลักก็ดี รีบส่งวันนี้ โอกาสได้ธุรกิจฟรี อาจเป็นคุณ !!
พิเศษ !! แถมฟรี ซัพพลีเมนท์ คู่มืออาชีพ “ธุรกิจสิ่งพิมพ์ ฉบับ SMEs เป็นเจ้าของก็ง่าย ใช้บริการก็ได้” อ่านแล้วพร้อมลงทุนได้ก่อนใคร!! นิตยสาร SMEs ชี้ช่องรวย วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ร้านหนังสือ ซีเอ็ดบุ๊คส์, นายอินทร์, B2S และ Book Smile ในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นทุกสาขา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
บริษัท พีเพิลมีเดีย จำกัด 47,49 ซอยลาดพร้าว 140 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
โทร. 0-2704-7958 พีเพิลมีเดีย
2544
มุมนักอ่าน / นิตยสาร "CROW MAGAZINE www.crowsmagazine.com
« on: July 20, 2011, 05:02:57 PM »
“ครี” ใจป้ำ! โชว์ “บอร์ดี้เพ้นท์” เปิดตัว “CROW MAGAZINE”
ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับงานเปิดตัวนิตยสารน้องใหม่ "CROW MAGAZINE" ที่บริหารงานโดยสาวเก่งไฟแรง "สิรามน ศรีเขียว" มานั่งแท่นบรรณาธิการบริหาร "CROW MAGAZINE" ได้จัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อลังการท่ามกลางดารา-ศิลปินและเซเลบบริตี้ทั่วฟ้าเมืองไทยที่มาร่วมแสดงความยินดีกันเป็นจำนวนมาก ณ โรงแรมใบหยกสกาย ชั้น 19 เมื่อวันก่อน
เริ่มเปิดงานด้วยสาวเก่งมากความสามารถ "เก๋-ชลลดา เมฆราตรี" ที่รับหน้าที่พิธีกรในงานได้เชิญ "สิรามน ศรีเขียว" บรรณาธิการบริหาร "CROW MAGAZINE" บนเวทีอย่างหมดเปลือกทุกประเด็น
ก่อนจะมาถึงไฮไลท์ของงานกับแฟชั่นโชว์หวาดเสียวที่ชื่อว่า "Charm of The Dark" จากดาราสาวเซ็กซี่ "ครี -พัสวีพิชญ์ ศรณ์อัครภา" ที่ยอมลงทุนโชว์ Body Paint บนเวทีท่ามกลางเสียงฮือฮาจากแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนที่เข้ามาร่วมงานเปิดตัวกันเป็นอย่างมาก พร้อมเปิดใจ "สาวครี" ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนของคนในวงการบันเทิงที่ยอมออกมาเปิดเผยด้านมืดของตนเองว่าเคยถูกผู้ชายที่เรียกว่า "แฟน" ทำร้ายร่างกายมาแล้ว
นอกจากนี้ก็ยังมีเหล่าดาราที่ตบเท้าเข้ามาร่วมแสดงความยินดีจำนานมาก อาทิ "นุ้ย-เกศริน", "จุ๊บแจง-วิมลพรรณ" , "โชกุน" , "โก้-ธีรศักดิ์" , "ซีแนม" , "บลู-เอวิกา" , "แอ้ม-ศิรประภา" , "โซบี-โชติรส" , "เปิ้ล-ภารดี" , "เจน-" ชมพูนุช" , "แอร์-ภุมวารี" , "เอ็กซ์ ปิยะ" ฯลฯ
โดย "สิรามน ศรีเขียว" บรรณาธิการบริหารนิตยสาร "CROW MAGAZINE" ได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของ "CROW MAGAZINE" ฉบับปฐมฤกษ์หน้าปกดาราสาว 2 พันปี "ต่าย-เพ็ญพักตร์ ศิริกุล" ว่า
"CROW MAGAZINE" ก็ถือว่าเป็นแม็กกาซีนน้องใหม่ ใหม่จริงๆ ด้วยแล้วคอนเซปต์ค่อนข้างแตกต่างจากเล่มอื่นๆ เกิดขึ้นได้เพราะว่ามันมีความคิดของหลายๆ คน ซึ่งจากเดิมก็เคยทำแต่เป็นด้านอุตสาหกรรมก็เลยอยากจะมีแม็กกาซีนเล่มนึง ซึ่งหนังสือทั่วไปจะนำเสนอด้านวาไรตี้ ความสวยความงามหรือในมุมที่ดี มันจะมีแต่สิ่งที่สวยงาม เสิศหรูทุกอย่าง แต่จะมีใครรู้ไหมว่าเบื้องหลังความสำเร็จของแต่ละคนมันเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง เจออะไรยังไงบ้าง มีด้านลบ ด้านมืดยังไง ทำไมไม่มีใครเปิดเผยในอีกด้านหนึ่งของคน คือด้านมืด เพราะมนุษย์คนนึงจะมี 2 ด้านอยู่แล้ว ที่ถูกเก็บซ่อนเร้นไว้ ก็เลยอยากจะนำเสนอด้านมืดที่เป็นดาร์กไซด์ของคนในวงสังคม วงดาราหรือคนทั่วไปให้ได้รับรู้กัน เลยเกิดมาเป็น "CROW MAGAZINE" ซึ่งชื่อมันอาจจะฟังดูไม่สวยงาม เพราะคำว่า CROW แปลว่าอีกา หรือก็ด้านดำมืด ซึ่งมันเข้ากับคอนเซปต์ของหนังสือว่าเราเสนอด้านดาร์กไซด์ของคนและอีกความหมายก็คือเราเอามาจากคำว่า Climax Romantic Opposit Wisdom ส่วนสาเหตุที่อยากนำเสนอแต่ด้านมืดนั้นเพราะคิดว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทายนะ มันไม่มีใครมาบอกว่าฉันไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ฉันเคยผิดพลาดอย่างนี้ ฉันเคยล้มเหลว ฉันเคยติดเหล้า ฉันเคยติดยา ฉันเคยฆ่าคน ไม่มีใครที่จะมาเปิดเผย แต่สำหรับ "CROW MAGAZINE" ที่จะมาเป็นสื่อกลางเนี่ย เราอยากให้เค้าเปิดเผยเพื่อที่มาเป็นวิทยาทานกับคนอื่นๆ ด้วยค่ะ''
สำหรับ "CROW MAGAZINE" ถือเป็นนิตยสารในประเทศไทยเล่มแรก ที่นำเสนอเรื่องราวด้าน Dark Side ของบุคคลต่างๆ ทั่วทุกวงการ ที่เก็บซ่อนเร้นไว้ มาตีแผ่ให้สังคมได้รับรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข่าวคาวและด้านมืดของวงการบันเทิง ,ดารา รวมถึงคนในแวดวงสังคมชั้นสูง...ติดตามนิตยสาร "CROW MAGAZINE" ได้ทุกวันที่ 5 ของเดือนตามแผงหนังสือทั่วประเทศหรืออัพเดทความเคลื่อนไหวได้ที่ www.crowsmagazine.com
ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับงานเปิดตัวนิตยสารน้องใหม่ "CROW MAGAZINE" ที่บริหารงานโดยสาวเก่งไฟแรง "สิรามน ศรีเขียว" มานั่งแท่นบรรณาธิการบริหาร "CROW MAGAZINE" ได้จัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อลังการท่ามกลางดารา-ศิลปินและเซเลบบริตี้ทั่วฟ้าเมืองไทยที่มาร่วมแสดงความยินดีกันเป็นจำนวนมาก ณ โรงแรมใบหยกสกาย ชั้น 19 เมื่อวันก่อน
เริ่มเปิดงานด้วยสาวเก่งมากความสามารถ "เก๋-ชลลดา เมฆราตรี" ที่รับหน้าที่พิธีกรในงานได้เชิญ "สิรามน ศรีเขียว" บรรณาธิการบริหาร "CROW MAGAZINE" บนเวทีอย่างหมดเปลือกทุกประเด็น
ก่อนจะมาถึงไฮไลท์ของงานกับแฟชั่นโชว์หวาดเสียวที่ชื่อว่า "Charm of The Dark" จากดาราสาวเซ็กซี่ "ครี -พัสวีพิชญ์ ศรณ์อัครภา" ที่ยอมลงทุนโชว์ Body Paint บนเวทีท่ามกลางเสียงฮือฮาจากแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนที่เข้ามาร่วมงานเปิดตัวกันเป็นอย่างมาก พร้อมเปิดใจ "สาวครี" ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนของคนในวงการบันเทิงที่ยอมออกมาเปิดเผยด้านมืดของตนเองว่าเคยถูกผู้ชายที่เรียกว่า "แฟน" ทำร้ายร่างกายมาแล้ว
นอกจากนี้ก็ยังมีเหล่าดาราที่ตบเท้าเข้ามาร่วมแสดงความยินดีจำนานมาก อาทิ "นุ้ย-เกศริน", "จุ๊บแจง-วิมลพรรณ" , "โชกุน" , "โก้-ธีรศักดิ์" , "ซีแนม" , "บลู-เอวิกา" , "แอ้ม-ศิรประภา" , "โซบี-โชติรส" , "เปิ้ล-ภารดี" , "เจน-" ชมพูนุช" , "แอร์-ภุมวารี" , "เอ็กซ์ ปิยะ" ฯลฯ
โดย "สิรามน ศรีเขียว" บรรณาธิการบริหารนิตยสาร "CROW MAGAZINE" ได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของ "CROW MAGAZINE" ฉบับปฐมฤกษ์หน้าปกดาราสาว 2 พันปี "ต่าย-เพ็ญพักตร์ ศิริกุล" ว่า
"CROW MAGAZINE" ก็ถือว่าเป็นแม็กกาซีนน้องใหม่ ใหม่จริงๆ ด้วยแล้วคอนเซปต์ค่อนข้างแตกต่างจากเล่มอื่นๆ เกิดขึ้นได้เพราะว่ามันมีความคิดของหลายๆ คน ซึ่งจากเดิมก็เคยทำแต่เป็นด้านอุตสาหกรรมก็เลยอยากจะมีแม็กกาซีนเล่มนึง ซึ่งหนังสือทั่วไปจะนำเสนอด้านวาไรตี้ ความสวยความงามหรือในมุมที่ดี มันจะมีแต่สิ่งที่สวยงาม เสิศหรูทุกอย่าง แต่จะมีใครรู้ไหมว่าเบื้องหลังความสำเร็จของแต่ละคนมันเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง เจออะไรยังไงบ้าง มีด้านลบ ด้านมืดยังไง ทำไมไม่มีใครเปิดเผยในอีกด้านหนึ่งของคน คือด้านมืด เพราะมนุษย์คนนึงจะมี 2 ด้านอยู่แล้ว ที่ถูกเก็บซ่อนเร้นไว้ ก็เลยอยากจะนำเสนอด้านมืดที่เป็นดาร์กไซด์ของคนในวงสังคม วงดาราหรือคนทั่วไปให้ได้รับรู้กัน เลยเกิดมาเป็น "CROW MAGAZINE" ซึ่งชื่อมันอาจจะฟังดูไม่สวยงาม เพราะคำว่า CROW แปลว่าอีกา หรือก็ด้านดำมืด ซึ่งมันเข้ากับคอนเซปต์ของหนังสือว่าเราเสนอด้านดาร์กไซด์ของคนและอีกความหมายก็คือเราเอามาจากคำว่า Climax Romantic Opposit Wisdom ส่วนสาเหตุที่อยากนำเสนอแต่ด้านมืดนั้นเพราะคิดว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทายนะ มันไม่มีใครมาบอกว่าฉันไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ฉันเคยผิดพลาดอย่างนี้ ฉันเคยล้มเหลว ฉันเคยติดเหล้า ฉันเคยติดยา ฉันเคยฆ่าคน ไม่มีใครที่จะมาเปิดเผย แต่สำหรับ "CROW MAGAZINE" ที่จะมาเป็นสื่อกลางเนี่ย เราอยากให้เค้าเปิดเผยเพื่อที่มาเป็นวิทยาทานกับคนอื่นๆ ด้วยค่ะ''
สำหรับ "CROW MAGAZINE" ถือเป็นนิตยสารในประเทศไทยเล่มแรก ที่นำเสนอเรื่องราวด้าน Dark Side ของบุคคลต่างๆ ทั่วทุกวงการ ที่เก็บซ่อนเร้นไว้ มาตีแผ่ให้สังคมได้รับรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข่าวคาวและด้านมืดของวงการบันเทิง ,ดารา รวมถึงคนในแวดวงสังคมชั้นสูง...ติดตามนิตยสาร "CROW MAGAZINE" ได้ทุกวันที่ 5 ของเดือนตามแผงหนังสือทั่วประเทศหรืออัพเดทความเคลื่อนไหวได้ที่ www.crowsmagazine.com
2545
มุมนักอ่าน / นิตยสาร WOMAN&HOME ชวนค้นหาความงาม Woman&home DISCOVERING REAL BEAUTY ROADSHOW
« on: July 20, 2011, 04:46:09 PM »
นิตยสาร WOMAN&HOME ชวนค้นหาความงาม Woman&home DISCOVERING REAL BEAUTY ROADSHOW 2011
นิตยสาร woman&home นิตยสารผู้หญิงชั้นนำขายดีระดับโลก!!! จากประเทศอังกฤษ เล่มแรกและเล่มเดียวของเมืองไทยที่ตอบทุกคำถาม ทุกความต้องการ และทุกไลฟ์สไตล์ ครอบคลุมทุกเรื่องราวของผู้หญิงวัย 35 ปี เครือ อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ ขอมอบช่วงเวลาสุดพิเศษให้ผู้หญิงได้เปิดประสบการณ์ใหม่จากสิ่งรอบตัว ผ่านWoman&home DISCOVERING REAL BEAUTY ROADSHOW 2011 เพื่อค้นหาความงามที่แท้จริงซึ่งซ่อนอยู่ภายในตัวผู้หญิง สื่อสะท้อนคุณค่าที่เต็มเปี่ยมจากภายในสู่ภายนอก พร้อมเผยความเป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่ดูดีมีสไตล์อย่างแท้จริง
ภายในโรดโชว์ทุกคนจะได้พบกิจกรรมผู้เชี่ยวชานความงามจากนิตยสาร woman&home ที่จะมาเผยเคล็ดลับความงามให้ผู้หญิงได้สวยมั่นใจยิ่งขึ้น ห้ามพลาด! ไฮไลท์ของงานในช่วงสนทนากับดาราสาวสวย-เซเลบชื่อดังที่พร้อมจะมาพูดคุยเผยเคล็ดลับการดูแลตัวเองทั้งสุขภาพ ความงาม และกายใจในแบบเป็นกันเอง ฯลฯ พร้อมคัดสรรเวิร์กช็อปความงามดูแลผิวพรรณ ตลอดเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2554
ประเดิมเดือนแรก วันพุธที่ 20 กรกฎาคม ที่อาคาร Q House ลุมพินี พบ “แนน-ชลิตา เฟื่องอารมย์, วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม ที่เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 2, วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม เซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ และเดือนสิงหาคมเริ่ม วันพุธที่ 10 สิงหาคม ที่เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 3 และ วันพุธที่ 24 สิงหาคม ที่เซ็นทรัลเวิลด์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ 02-508-8173 หรือทาง www.woman&home.in.th
นิตยสาร woman&home นิตยสารผู้หญิงชั้นนำขายดีระดับโลก!!! จากประเทศอังกฤษ เล่มแรกและเล่มเดียวของเมืองไทยที่ตอบทุกคำถาม ทุกความต้องการ และทุกไลฟ์สไตล์ ครอบคลุมทุกเรื่องราวของผู้หญิงวัย 35 ปี เครือ อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ ขอมอบช่วงเวลาสุดพิเศษให้ผู้หญิงได้เปิดประสบการณ์ใหม่จากสิ่งรอบตัว ผ่านWoman&home DISCOVERING REAL BEAUTY ROADSHOW 2011 เพื่อค้นหาความงามที่แท้จริงซึ่งซ่อนอยู่ภายในตัวผู้หญิง สื่อสะท้อนคุณค่าที่เต็มเปี่ยมจากภายในสู่ภายนอก พร้อมเผยความเป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่ดูดีมีสไตล์อย่างแท้จริง
ภายในโรดโชว์ทุกคนจะได้พบกิจกรรมผู้เชี่ยวชานความงามจากนิตยสาร woman&home ที่จะมาเผยเคล็ดลับความงามให้ผู้หญิงได้สวยมั่นใจยิ่งขึ้น ห้ามพลาด! ไฮไลท์ของงานในช่วงสนทนากับดาราสาวสวย-เซเลบชื่อดังที่พร้อมจะมาพูดคุยเผยเคล็ดลับการดูแลตัวเองทั้งสุขภาพ ความงาม และกายใจในแบบเป็นกันเอง ฯลฯ พร้อมคัดสรรเวิร์กช็อปความงามดูแลผิวพรรณ ตลอดเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2554
ประเดิมเดือนแรก วันพุธที่ 20 กรกฎาคม ที่อาคาร Q House ลุมพินี พบ “แนน-ชลิตา เฟื่องอารมย์, วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม ที่เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 2, วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม เซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ และเดือนสิงหาคมเริ่ม วันพุธที่ 10 สิงหาคม ที่เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 3 และ วันพุธที่ 24 สิงหาคม ที่เซ็นทรัลเวิลด์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ 02-508-8173 หรือทาง www.woman&home.in.th
2546
มุมนักอ่าน / พบกับนิตยสาร HAIRSTYLE VOL.64 : Total Eclipse คู่มือสำหรับช่างผมมืออาชีพ
« on: July 20, 2011, 04:45:27 PM »
พบกับนิตยสาร HAIRSTYLE VOL.64 : Total Eclipse คู่มือสำหรับช่างผมมืออาชีพ วางแผงแล้ววันนี้
หนังสือแฮร์สไตล์ หนังสือที่รวบรวมขั้นตอนการตัดซอย และทำสีผม สำหรับช่างผมมืออาชีพ ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ พร้อมคำบรรยายทั้งภาษาไทยและอังกฤษรวมถึง VCD บรรยายขั้นตอนการตัดซอยและการเกล้าผมอย่างละเอียดจากอาจารย์และสถาบันชื่อดัง อาทิ GLAMMER, THONGCHAI HAIR TRAINING และ LOVE CHIGNON CLUB ที่จะมาเผยเคล็ดลับวิชาในการทำผมถึง 3 ทรง นอกจากนี้ยังได้อัพเดทแฟชั่นเทรนด์สีผมล่าสุดรับ Autumn/Winter 2011 จากกูรูชื่อดังในคอลัมน์ Cutting&Setting เรียนรู้การเรียนการสอนทำผมแบบใหม่ในเชิงสัญลักษณ์ มากมายกับเคล็ดลับเพื่อผมสวยสุขภาพดี และข่าวสารกิจกรรมต่างๆที่คุณพลาดไม่ได้
ทั้งหมดนี้ถูกรวบรวมอยู่ในนิตยสาร HAIRSTYLE VOL.64 คู่มือสำหรับช่างผมมืออาชีพ
พบกับนิตยสาร HAIRSTYLE นิตยสารราย 3 เดือน ตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อได้ที่บริษัทวงศ์สว่างพับลิชชิ่งแอนด์พริ้นท์ติ้ง จำกัด
โทร.0-2880-1876 ต่อ 101-103 ติดต่อได้ทุกวัน(ยกเว้นวันอาทิตย์)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-880-1876 Hairstyle Team
หนังสือแฮร์สไตล์ หนังสือที่รวบรวมขั้นตอนการตัดซอย และทำสีผม สำหรับช่างผมมืออาชีพ ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ พร้อมคำบรรยายทั้งภาษาไทยและอังกฤษรวมถึง VCD บรรยายขั้นตอนการตัดซอยและการเกล้าผมอย่างละเอียดจากอาจารย์และสถาบันชื่อดัง อาทิ GLAMMER, THONGCHAI HAIR TRAINING และ LOVE CHIGNON CLUB ที่จะมาเผยเคล็ดลับวิชาในการทำผมถึง 3 ทรง นอกจากนี้ยังได้อัพเดทแฟชั่นเทรนด์สีผมล่าสุดรับ Autumn/Winter 2011 จากกูรูชื่อดังในคอลัมน์ Cutting&Setting เรียนรู้การเรียนการสอนทำผมแบบใหม่ในเชิงสัญลักษณ์ มากมายกับเคล็ดลับเพื่อผมสวยสุขภาพดี และข่าวสารกิจกรรมต่างๆที่คุณพลาดไม่ได้
ทั้งหมดนี้ถูกรวบรวมอยู่ในนิตยสาร HAIRSTYLE VOL.64 คู่มือสำหรับช่างผมมืออาชีพ
พบกับนิตยสาร HAIRSTYLE นิตยสารราย 3 เดือน ตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อได้ที่บริษัทวงศ์สว่างพับลิชชิ่งแอนด์พริ้นท์ติ้ง จำกัด
โทร.0-2880-1876 ต่อ 101-103 ติดต่อได้ทุกวัน(ยกเว้นวันอาทิตย์)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-880-1876 Hairstyle Team
2547
มุมนักอ่าน / บรรยากาศงานเปิดตัวหนังสือ สมาคมมุขเสี่ยวๆ
« on: July 20, 2011, 04:41:42 PM »
บรรยากาศงานเปิดตัวหนังสือ สมาคมมุขเสี่ยวๆ
ในวันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม 53 ตั้งแต่เวลา 13.00 – 17.00 น. ณ ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ สาขา เอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้ ชั้น 7 (มาบุญครอง เซ็นเตอร์) หนังสือที่รวบรวม ข้อความที่จะปลุกรอยยิ้มและความรู้สึกส่วนลึกจากหัวใจ รวมมุกเสี่ยวจากสมาคมเดียวที่มีสมาชิกกว่า 500,000 คน ทีสำคัญนี่ไม่ไช่มุกเสี่ยวๆธรรมดา แต่มันเป็นงานเชียนที่มีศิลปะ และชั้นเชิงที่เกี่ยวกับความรักในหลายๆมุมมอง ซึ่งอาจจะไปสะกิดความรู้สึกส่วนลึกของใครหลายๆคน สมาคมนี้มีอุดมการณ์คือ มุ่งสร้างรอยยิ้มและเติมเต็มความรักอันบริสุทธิ์ให้แก่ทุกคนบนโลกใบนี้ โดยมีทางสายเปลี่ยว, เสี่ยวพเนจร, ความมืด, ณ.ณ.ณ และชายนิรนาม และตลอดเวลาพวกเขาได้เรียนรู้วิธีการหนึ่งที่สามารถแบ่งปันความสุขให้ผู้อื่น โดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรนอกจากใส่ใจในรายละเอียดความรู้สึกที่หัวใจสัมผัสได้ นำมันมาถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้รับรู้อย่างมีศิลปะ
บรรยากาศภายในงานนอกจากการเสวนาพูดคุยกันอย่างสนุกสนานถึงที่มาและที่ไปของหนังสือเล่มนี้แล้ว ยังได้มีการแสดง มินิคอนเสิร์ต จากวง Thank You Please โปรเจกค์ที่เกิดมาจากกลุ่มคนที่ชอบดนตรีหลากหลายแขนง ตั้งแต่ jazz ไปถึง k-pop แต่เมื่อมาอยู่รวมกันแล้วสามารถสร้างไอเดีย และ แนวทางที่แปลกใหม่ทางดนตรีขึ้นมาได้ โดยเริ่มมาจาก ไป๋ (ร้องนำ) สิ่งที่เกิดขึ้นคือไอเดีย และความสร้างสรรค์จากคาแรกเตอร์ของทั้งสี่คน ที่มีพื้นฐาน และ รสนิยมทางดนตรี ที่ต่างกัน แต่ด้วยอุปนิสัยและความชอบเหมือนกันจึงกลั่นออกมาเป็นแนวดนตรีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพลงที่นำมาร้องโชว์ในงานก็เป็นเพลง เสี่ยวก็รัก
หากคุณมีข้อความดีดีก็อย่าเก็บไว้คนเดียว เพราสิ่งดีดี มีไว้ให้แบ่งปันมีกูรูด้านภาษาบอกมาว่าสมาคมเราสะกดคำว่า มุข ผิดต้องใช้ ก.ไก่ แต่ชายนิรนามบอกว่าต้องขออภัยอย่างสูงที่ไม่สามารถใช้ ก.ไก่ได้ เพราะว่าจะขอเก็บไว้ใช้กับคำว่า รัก เท่านั้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
ฝ่ายกิจกรรมและฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์
โทร 0-2739-8555 ต่อ 8926 และ8930
ในวันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม 53 ตั้งแต่เวลา 13.00 – 17.00 น. ณ ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ สาขา เอสเอฟ ซีเนม่า ซิตี้ ชั้น 7 (มาบุญครอง เซ็นเตอร์) หนังสือที่รวบรวม ข้อความที่จะปลุกรอยยิ้มและความรู้สึกส่วนลึกจากหัวใจ รวมมุกเสี่ยวจากสมาคมเดียวที่มีสมาชิกกว่า 500,000 คน ทีสำคัญนี่ไม่ไช่มุกเสี่ยวๆธรรมดา แต่มันเป็นงานเชียนที่มีศิลปะ และชั้นเชิงที่เกี่ยวกับความรักในหลายๆมุมมอง ซึ่งอาจจะไปสะกิดความรู้สึกส่วนลึกของใครหลายๆคน สมาคมนี้มีอุดมการณ์คือ มุ่งสร้างรอยยิ้มและเติมเต็มความรักอันบริสุทธิ์ให้แก่ทุกคนบนโลกใบนี้ โดยมีทางสายเปลี่ยว, เสี่ยวพเนจร, ความมืด, ณ.ณ.ณ และชายนิรนาม และตลอดเวลาพวกเขาได้เรียนรู้วิธีการหนึ่งที่สามารถแบ่งปันความสุขให้ผู้อื่น โดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรนอกจากใส่ใจในรายละเอียดความรู้สึกที่หัวใจสัมผัสได้ นำมันมาถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้รับรู้อย่างมีศิลปะ
บรรยากาศภายในงานนอกจากการเสวนาพูดคุยกันอย่างสนุกสนานถึงที่มาและที่ไปของหนังสือเล่มนี้แล้ว ยังได้มีการแสดง มินิคอนเสิร์ต จากวง Thank You Please โปรเจกค์ที่เกิดมาจากกลุ่มคนที่ชอบดนตรีหลากหลายแขนง ตั้งแต่ jazz ไปถึง k-pop แต่เมื่อมาอยู่รวมกันแล้วสามารถสร้างไอเดีย และ แนวทางที่แปลกใหม่ทางดนตรีขึ้นมาได้ โดยเริ่มมาจาก ไป๋ (ร้องนำ) สิ่งที่เกิดขึ้นคือไอเดีย และความสร้างสรรค์จากคาแรกเตอร์ของทั้งสี่คน ที่มีพื้นฐาน และ รสนิยมทางดนตรี ที่ต่างกัน แต่ด้วยอุปนิสัยและความชอบเหมือนกันจึงกลั่นออกมาเป็นแนวดนตรีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพลงที่นำมาร้องโชว์ในงานก็เป็นเพลง เสี่ยวก็รัก
หากคุณมีข้อความดีดีก็อย่าเก็บไว้คนเดียว เพราสิ่งดีดี มีไว้ให้แบ่งปันมีกูรูด้านภาษาบอกมาว่าสมาคมเราสะกดคำว่า มุข ผิดต้องใช้ ก.ไก่ แต่ชายนิรนามบอกว่าต้องขออภัยอย่างสูงที่ไม่สามารถใช้ ก.ไก่ได้ เพราะว่าจะขอเก็บไว้ใช้กับคำว่า รัก เท่านั้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
ฝ่ายกิจกรรมและฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์
โทร 0-2739-8555 ต่อ 8926 และ8930
2548
มุมนักอ่าน / สสวท. จัดส่งนิตยสาร สสวท. ปรับโฉมใหม่ เสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้สถานศึกษา
« on: July 17, 2011, 02:23:38 PM »
สสวท. จัดส่งนิตยสาร สสวท. ปรับโฉมใหม่ เสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้สถานศึกษาทั่วไทย 51,323 โรงเรียน
นางพรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยว่า สสวท. ได้จัดทำนิตยสาร สสวท. ปรับโฉมใหม่ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี และได้จัดส่งไปให้สถานศึกษาทั่วไทยทั้งหมด 51,323 โรงเรียน
โดยในปีงบประมาณนี้ได้เริ่มจัดส่งนิตยสาร สสวท. โฉมใหม่ฉบับเล่มที่ 171 เดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2554 เป็นเล่มแรก ตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2554 และจะจัดส่งต่อไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้ปีงบประมาณ 2555 ที่จะถึงนี้จะจัดส่งเพิ่มไปยัง กศน. อำเภอ กศน. ตำบล และศึกษานิเทศก์ 185 เขตอีกด้วย ผู้สนใจดูรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับนิตยสาร สสวท. และตัวอย่างนิตยสารได้ ในเว็บไซต์ สสวท. www.ipst.ac.th หากมีข้อสงสัย หรือสถานศึกษาใดยังไม่ได้รับนิตยสารจาก สสวท.
ติดต่อที่ คุณรัชนีกร มณีโชติรัตน์ โทร. 0-23924021 ต่อ 3307 หรือ E-mail : rmane@ipst.ac.th
นางพรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยว่า สสวท. ได้จัดทำนิตยสาร สสวท. ปรับโฉมใหม่ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี และได้จัดส่งไปให้สถานศึกษาทั่วไทยทั้งหมด 51,323 โรงเรียน
โดยในปีงบประมาณนี้ได้เริ่มจัดส่งนิตยสาร สสวท. โฉมใหม่ฉบับเล่มที่ 171 เดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2554 เป็นเล่มแรก ตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2554 และจะจัดส่งต่อไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้ปีงบประมาณ 2555 ที่จะถึงนี้จะจัดส่งเพิ่มไปยัง กศน. อำเภอ กศน. ตำบล และศึกษานิเทศก์ 185 เขตอีกด้วย ผู้สนใจดูรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับนิตยสาร สสวท. และตัวอย่างนิตยสารได้ ในเว็บไซต์ สสวท. www.ipst.ac.th หากมีข้อสงสัย หรือสถานศึกษาใดยังไม่ได้รับนิตยสารจาก สสวท.
ติดต่อที่ คุณรัชนีกร มณีโชติรัตน์ โทร. 0-23924021 ต่อ 3307 หรือ E-mail : rmane@ipst.ac.th
2549
มุมนักอ่าน / นิตยสารสุขกายสบายใจ ฉบับที่ 5 เดือนกรกฎาคม 2554
« on: July 17, 2011, 02:22:47 PM »
นิตยสารสุขกายสบายใจ ฉบับที่ 5 เดือนกรกฎาคม 2554
จัดทำโดย บริษัท พีเพิลมีเดีย จำกัด
สำนักพิมพ์ พีเพิลมีเดียบุ๊คส์
เรื่อง นิตยสาร สุขกายสบายใจ ฉบับที่ 5 เดือนกรกฎาคม 2554
จำนวน 106 หน้า
ราคา 70 บาท
นิตยสารสุขกายสบายใจ นิตยสารที่ทำให้คุณมีความสุข...เดี๋ยวนี้ ฉบับที่ 5 เดือนกรกฎาคม พบกับ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” สนุกสุดเหวี่ยงกับชีวิตเพียงใด ก็ยังต้องสุขภาพดี โดยมีครอบครัวเป็นแบ็คอัพ ทั้งคุณแม่ที่คอยดูแลเรื่องอาหาร และน้องสาวผู้เป็นแพทย์ด้านความงาม , Special Scoop อารมณ์ขัน ยาวิเศษ ป้องกันทุกโรค เจาะลึก “อารมณ์ดีและเสียงหัวเราะ” ที่ช่วยเยียวยา ป้องกันโรคทางกายและใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ, ครั้งแรกของเมืองไทยกับเรียลลิตี้ลดน้ำหนัก ในคอลัมน์ Healthy Reality เรียลลิตี้ลดน้ำหนักของพีอาร์หนุ่มน่ารัก น้ำหนักเกินร้อย ลด 20 กิโลกรัม ภายใน 6 เดือน เขาจะได้ทำได้จริงหรือ? และเคล็ดลับสุขภาพต่างๆอีกมากมาย
นิตยสารสุขกายสบายใจ ฉบับที่ 5 เดือนกรกฎาคม โดยบริษัท พีเพิลมีเดีย จำกัด บริษัทสร้างสรรค์สื่อคุณภาพครบวงจร ในราคา 70 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท พีเพิลมีเดีย จำกัด โทร.0-2704-7958 หรือ ที่เว็ปไซส์ www.peoplemedia.co.th และ www.happynow.in.th
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2704-7958 พีเพิลมีเดีย
จัดทำโดย บริษัท พีเพิลมีเดีย จำกัด
สำนักพิมพ์ พีเพิลมีเดียบุ๊คส์
เรื่อง นิตยสาร สุขกายสบายใจ ฉบับที่ 5 เดือนกรกฎาคม 2554
จำนวน 106 หน้า
ราคา 70 บาท
นิตยสารสุขกายสบายใจ นิตยสารที่ทำให้คุณมีความสุข...เดี๋ยวนี้ ฉบับที่ 5 เดือนกรกฎาคม พบกับ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” สนุกสุดเหวี่ยงกับชีวิตเพียงใด ก็ยังต้องสุขภาพดี โดยมีครอบครัวเป็นแบ็คอัพ ทั้งคุณแม่ที่คอยดูแลเรื่องอาหาร และน้องสาวผู้เป็นแพทย์ด้านความงาม , Special Scoop อารมณ์ขัน ยาวิเศษ ป้องกันทุกโรค เจาะลึก “อารมณ์ดีและเสียงหัวเราะ” ที่ช่วยเยียวยา ป้องกันโรคทางกายและใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ, ครั้งแรกของเมืองไทยกับเรียลลิตี้ลดน้ำหนัก ในคอลัมน์ Healthy Reality เรียลลิตี้ลดน้ำหนักของพีอาร์หนุ่มน่ารัก น้ำหนักเกินร้อย ลด 20 กิโลกรัม ภายใน 6 เดือน เขาจะได้ทำได้จริงหรือ? และเคล็ดลับสุขภาพต่างๆอีกมากมาย
นิตยสารสุขกายสบายใจ ฉบับที่ 5 เดือนกรกฎาคม โดยบริษัท พีเพิลมีเดีย จำกัด บริษัทสร้างสรรค์สื่อคุณภาพครบวงจร ในราคา 70 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท พีเพิลมีเดีย จำกัด โทร.0-2704-7958 หรือ ที่เว็ปไซส์ www.peoplemedia.co.th และ www.happynow.in.th
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2704-7958 พีเพิลมีเดีย
2550
มุมนักอ่าน / นิตยสาร ViVi ฉบับเดือนกรกฎาคม 2554
« on: July 17, 2011, 02:21:44 PM »
นิตยสาร ViVi ฉบับเดือนกรกฎาคม 2554
ฉบับภาษาไทย
นิตยสาร ViVi
นิตยสารแฟชั่นอันดับ 1 จากญี่ปุ่น
เครือ อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์
GIRLS LOVE SUMMER!!
ฉบับเดือนกรกฎาคม 2554
สรุปประเด็นไอเท็มแรงประจำฤดู!!
Must buy Items
FASHION : Summer Accessorie เรียบหรูดูดี
AYU Digi Digi Diary Vol.9 คอลัมน์ยอดนิยมของ “อายูมิ ฮามาซากิ”
ViVi TREND REPORT ตามติดสาวฮ็อตพร้อมสไตล์สุดเก๋! Blake Lively
แฟชั่นหลากสไตล์ทั้งวินเทจ เปรี้ยว ชิค ตามสไตล์นางแบบสุดฮ็อต ViVi Stylist Advise
Beach Girl Paradise 2011 มาตามหา Happy บิกินีสำหรับฤดูร้อนนี้กันเถอะ!!
Girl Love Summer ของยูกินะและมิซึกิกับเทคนิคการแมตช์ไอเท็มเกิร์ลลี่ให้น่ารัก
Showy Simple ดูดีด้วยไอเท็มเรียบง่ายแต่เปรี้ยวเก๋
I Want Gown! Power Items ที่เปลี่ยนลุคได้ทันใจ
MUST Buy Items เกิดแน่สำหรับฤดูใบไม้ผลินี้
Best Denim Award เจาะลึกเดนิมที่ควรซื้อสำหรับฤดูใบไม้ผลินี้
ซีซั่นนี้มีไอเท็มนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน! หมวกแต่งทรงผม&เทคนิคพันผ้าพันคอ
BEAUTY : Make Small Beauty Face วิธีการสร้างใบหน้าเล็กแบบสาวสวย
Masaru Lesson 9 ดวงตาหวานอมเปรี้ยวด้วยขอบตาแบบตาแมว และประกายสีชมพู
Spring Nails Vol.1 เล็บโหมดซิมเปิ้ลของ คุณคานาโกะ มิอุระ
LIFESTYLE : 30 diet ที่เห็นผลจริง
ติดตามรายละเอียดได้ทาง นิตยสารViVi (วีวี่) หรือ 02-508-8173 และทาง www.vivi.in.th
ฉบับภาษาไทย
นิตยสาร ViVi
นิตยสารแฟชั่นอันดับ 1 จากญี่ปุ่น
เครือ อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์
GIRLS LOVE SUMMER!!
ฉบับเดือนกรกฎาคม 2554
สรุปประเด็นไอเท็มแรงประจำฤดู!!
Must buy Items
FASHION : Summer Accessorie เรียบหรูดูดี
AYU Digi Digi Diary Vol.9 คอลัมน์ยอดนิยมของ “อายูมิ ฮามาซากิ”
ViVi TREND REPORT ตามติดสาวฮ็อตพร้อมสไตล์สุดเก๋! Blake Lively
แฟชั่นหลากสไตล์ทั้งวินเทจ เปรี้ยว ชิค ตามสไตล์นางแบบสุดฮ็อต ViVi Stylist Advise
Beach Girl Paradise 2011 มาตามหา Happy บิกินีสำหรับฤดูร้อนนี้กันเถอะ!!
Girl Love Summer ของยูกินะและมิซึกิกับเทคนิคการแมตช์ไอเท็มเกิร์ลลี่ให้น่ารัก
Showy Simple ดูดีด้วยไอเท็มเรียบง่ายแต่เปรี้ยวเก๋
I Want Gown! Power Items ที่เปลี่ยนลุคได้ทันใจ
MUST Buy Items เกิดแน่สำหรับฤดูใบไม้ผลินี้
Best Denim Award เจาะลึกเดนิมที่ควรซื้อสำหรับฤดูใบไม้ผลินี้
ซีซั่นนี้มีไอเท็มนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน! หมวกแต่งทรงผม&เทคนิคพันผ้าพันคอ
BEAUTY : Make Small Beauty Face วิธีการสร้างใบหน้าเล็กแบบสาวสวย
Masaru Lesson 9 ดวงตาหวานอมเปรี้ยวด้วยขอบตาแบบตาแมว และประกายสีชมพู
Spring Nails Vol.1 เล็บโหมดซิมเปิ้ลของ คุณคานาโกะ มิอุระ
LIFESTYLE : 30 diet ที่เห็นผลจริง
ติดตามรายละเอียดได้ทาง นิตยสารViVi (วีวี่) หรือ 02-508-8173 และทาง www.vivi.in.th