Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - Facebook

Pages: [1] 2 3 ... 171
1

สุดกวน! ขายหัวเราะออกสติกเกอร์คำคม ‘สู้ชีวิต vs สู้งาน’ คู่การ์ตูนฉบับ ‘แก๊กก็ขำ คำก็คม’ ตอบรับกระแสคำคมฟีเวอร์






การ์ตูนไทย ‘ขายหัวเราะ’ ตอบรับกระแสคำคม ด้วยการจัดทำแคมเปญ 'ขายหัวเราะ แก๊กก็ขำ คำก็คม' และมีแบรนด์คาราบาวมาร่วมสร้างสีสัน โดยออกขายหัวเราะฉบับ 1514 ในธีม ‘แก๊กก็ขำ คำก็คม’ ที่ในเล่มจะมีแก๊กสุดกวนเป็นกิมมิกแก๊กคำคมจากนักเขียนที่คุ้นเคย และพิเศษกับคอลัมน์ขายวาไรตี้ในหัวข้อคำคม กับแขกรับเชิญพิเศษ'ครูทอม คำไทย' ที่จะมาพูดเรื่องคำคมจากวรรณคดีไทย

นอกจากนั้นยังขยายความสนุกกระโดดออกมาจากหน้ากระดาษด้วยการทำสติกเกอร์คำคมที่สามารถติดได้จริงโดยแบ่งออกเป็น 2 หมวด ได้แก่ สติกเกอร์ติดรถยนต์ในธีม ‘สู้ชีวิต’ และ สติกเกอร์ติดคอมพิวเตอร์ ในธีม ‘สู้งาน’ ในดีไซน์ ทันสมัย ทะเล้น กับการ์ตูนลายเส้นมุกคลาสสิกที่ทุกคนคุ้น เล่นสนุกกับคำคมยอดนิยมต่างๆ จะซื้อไปติดคอมพิวเตอร์ปลุกเอนเนอจีคนรักงาน หรือแปะท้ายรถเพิ่มความซิ่ง ก็เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมติด (สติกเกอร์) กันได้แล้วทั่วเมือง!

สามารถ สั่งซื้อเซ็ตสุดคุ้ม ขายหัวเราะ สู้งาน x สู้ชีวิต จากราคา 409 ลดเหลือ 390 บาท ประกอบด้วย ขายหัวเราะ ฉบับ 1514 แก๊กก็ขำคำก็คม, Sticker ขายหัวเราะสู้ชีวิต (ขนาด A5) 4 แผ่น, Sticker ขายหัวเราะสู้งาน (ขนาด A5) แถมฟรี! สติกเกอร์ คาราบาวแดงสู้งาน และ คาราบาวแดงสู้ชีวิต ได้ที่ https://bit.ly/3d2hfMH

หรือสั่งซื้อแยกเฉพาะ Sticker ขายหัวเราะสู้ชีวิต (ขนาด A5 สำหรับติดรถ) ราคา 80 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 4 ลาย และ Sticker ขายหัวเราะสู้งาน (ขนาด A5 สำหรับติดคอมฯ)  ราคาขายที่ 69 บาท แถมฟรี! สติกเกอร์ คาราบาวแดงสู้งาน และ คาราบาวแดงสู้ชีวิต 1 แผ่น  เฉพาะ 100 ออเดอร์แรกเท่านั้นได้ที่ https://kaihuaror.com

2

โควิด-19 ระลอกใหม่ TK Park จัดเต็มกว่าเดิม เปิดอ่านฟรีจุใจกับอีบุ๊ก 30,000 เล่ม




​ในช่วงที่สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 กลับมาอีกเป็นระลอกใหม่ ทำให้หลายคนต้องกักตัวอยู่บ้านกันยาวๆ อุทยานการเรียนรู้ TK Park ขอร่วมส่งเสริมให้ทุกคนอ่านและเรียนรู้กันต่อไปไม่หยุดนิ่ง ด้วยบริการอีบุ๊กกว่า 30,000 เล่ม คัดสรรมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคปัจจุบันอย่างแท้จริง

​ใครๆ ก็สามารถใช้บริการห้องสมุดออนไลน์ของ TK Park ที่เข้าถึงง่ายผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ มีให้บริการทั้งหนังสือ นิตยสาร หนังสือเสียง และคอร์สเรียนออนไลน์คุณภาพให้เลือกอ่านกันแบบเต็มอิ่มจุใจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพิ่มหนังสือใหม่ทุกเดือน ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ มีทั้งหนังสือภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยสามารถเลือกดาวน์โหลดได้ถึง 4 แอปพลิเคชัน ประกอบด้วย  TK park Online Library ที่มีให้บริการอีบุ๊ก นิตยสาร หนังสือเสียงภาษาไทยกว่า 16,000 เล่มจากสำนักพิมพ์ชั้นนำ Libby, by Overdrive เน้นอีบุ๊กภาษาอังกฤษและคอร์สออนไลน์ให้บริการกว่า 5,000 เล่ม 2ebook คู่มือการเรียนรู้หลากหลายแขนงกว่า 3,000 เล่ม และ PressReader หนังสือพิมพ์และนิตยสารจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 6,000 เล่ม

​นักอ่านที่เป็นสมาชิกของ TK Park หากเคยลงทะเบียนกับเราผ่านการยืนยันเลขบัตรประชาชนกับเจ้าหน้าที่ และตั้งค่ารหัสสมาชิก (Username และ Password) ในระบบไว้แล้ว ทั้งสมาชิกเก่าและใหม่ สามารถนำรหัสที่มีอยู่เข้าใช้บริการในแอปพลิเคชั่นเพื่ออ่านออนไลน์ได้ทันที

​สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยสมาชิกของ TK Park และต้องการใช้บริการห้องสมุดออนไลน์ สมัครได้ฟรีที่ www.tkpark.or.th/tha/register
​หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม เข้าไปที่เว็บไซต์ www.tkpark.or.th/tha/library  หรือมีคำถามเกี่ยวกับการใช้งาน กรุณาติดต่อทาง Inbox ของ เพจ Facebook: TKpark อุทยานการเรียนรู้

3


สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ร่วมกระตุ้นคนไทยใช้สิทธิ์โค้งสุดท้าย ช้อปดีมีคืนพร้อมอัดโปรฯ ลดแรง 70%



สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) สนองนโยบาย “ช้อปดีมีคืน” ของรัฐบาล ให้นักอ่านได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท จับมือร้านหนังสือรายใหญ่ทั่วประเทศสร้างการรับรู้ พร้อมส่งอีเว้นต์ออนกราวด์และออนไลน์ส่งท้ายปี ชวนนักอ่านมอบหนังสือให้เป็นของขวัญให้กับคนพิเศษ ผ่านงาน “Mini Book Fair ช้อป [หนังสือ] ดีมีคืน” จากหลายสำนักพิมพ์ที่พาเหรดหนังสือดีมีคุณภาพ มาจัดโปรโมชั่นลดแรง 70% และกิจกรรมพิเศษอีกมากมาย


นางสาวโชนรังสี  เฉลิมชัยกิจ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวว่า “หลังจากสิ้นสุดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 ไปแล้วเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาทำให้มองเห็นถึงกำลังซื้อของนักอ่านที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง กอปรกับรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ที่กระตุ้นให้ประชาชนที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอยากออกไปใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ สามารถสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีได้ โดยนำจำนวนเงินที่ซื้อสินค้าและบริการมาใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามจำนวนที่จ่ายจริง รวมกันไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน

สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จึงจัดงาน “Mini Book Fair ช้อป [หนังสือ] ดีมีคืน” ขึ้นเพื่อสนองตอบนโยบายภาครัฐและกระตุ้นนักอ่านในช่วงปลายปี ในรูปแบบของไฮบริดอีเว้นต์ (Hybrid Event) ผสมผสานกิจกรรมแบบออนกราวด์ (On Ground) และออนไลน์ (Online) เข้าด้วยกัน ทั้งยังชวนนักอ่านเลือกซื้อหนังสือเป็นของขวัญ ส่งมอบสิ่งดี ๆ ให้กันผ่านหนังสือ นอกจากนี้ยังผนึกกำลังกับหน้าร้านหนังสือต่าง ๆ ทั่วประเทศอย่าง ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์, ร้านนายอินทร์, ร้านบีทูเอส, ศูนย์หนังสือจุฬาฯ, ร้านคิโนะคูนิยะ, ร้านเอเชียบุ๊คส์ และร้านหนังสืออิสระทั่วประเทศ ในการสร้างการรับรู้ผ่านป้ายประชาสัมพันธ์ กระตุ้นให้เกิดการขอใบกำกับภาษีที่ร้านด้วย”

สำหรับ กิจกรรมออนกราวน์ งาน “Mini Book Fair ช้อป [หนังสือ] ดีมีคืน” ถูกจัดขึ้น 2 สถานที่ ได้แก่ บริเวณลานลิโด้ คอนเน็คท์ ชั้น 1 และลานเอเทรียม 3 ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ภายในงานพบกับสำนักพิมพ์ชั้นนำกว่า 30 สำนักพิมพ์ ที่นำหนังสือออกใหม่และหนังสือยอดนิยมมาจำหน่ายในราคาพิเศษ รวมทั้งจัดเซ็ทของขวัญเอาไว้ให้เลือกซื้อ หรือจะเลือกเล่มที่ต้องการเพื่อจัดเป็นเซ็ทของขวัญเองก็ได้ ร่วมสนุกกับลานกิจกรรมถ่ายภาพกับกองหนังสือสูงที่สุดเพื่อเป็นราชาแห่งกองดอง พร้อมโปรโมชั่นลดสูงสุด 70% ห่อหนังสือเป็นของขวัญฟรี เมื่อช้อปครบ 500 บาท และหากแสดงใบปลิวประชาสัมพันธ์งาน รับฟรีหน้ากากอนามัยสุดเอ็กซ์คลูซีฟ "No กองดอง" 

ส่วนกิจกรรมออนไลน์ ได้จัดผ่าน www.ThaiBookFair.com เพื่อให้นักอ่านได้ช้อปปิ้งหนังสือหรืออีบุ๊ค (e-Book) ในรูปแบบ New Normal โดยมีโปรโมชั่นไฮบริดระหว่างออนกราวด์และออนไลน์ คือเมื่อซื้อหนังสือจากงานครบทุก 500 บาท รับทันทีโค้ดส่วนลดมูลค่า 50 บาทเพื่อไปช้อปผ่านทางออนไลน์ได้อีกต่อ

“สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ หวังให้กิจกรรมครั้งนี้มีส่วนช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของนักอ่านในช่วงปลายปี ทั้งยังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีโอกาสได้จำหน่ายหนังสือเพิ่มขึ้น มีช่องทางในการสร้างการรับรู้ต่อนักอ่านมากขึ้นนอกเหนือจากการจำหน่ายโดยตรงทางช่องทางออนไลน์ของสำนักพิมพ์เอง และเชื่อว่าหนังสือยังคงเป็นสื่อที่มอบความรู้ที่น่าเชื่อถือ สามารถนำมาใช้อ้างอิง หรือมอบความบันเทิงได้ในราคาที่เหมาะสมไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัยก็ตาม”  นางสาวโชนรังสี กล่าว

ร่วมเลือกซื้อหนังสือเป็นของขวัญพร้อมรับสิทธิลดหย่อนภาษีได้ที่ “Mini Book Fair ช้อป [หนังสือ] ดีมีคืน” ณ ลานลิโด้ คอนเน็คท์ ชั้น 1 ตั้งแต่วันนี้ – 16 ธันวาคม 2563 ลานเอเทรียม 3 ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันนี้ – 21 ธันวาคม 2563 และช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.ThaiBookFair.com ติดตามรายละเอียดกิจกรรมดีภายในงานได้ทาง Facebook Fanpage: Thai Book Fair

4


บรรลือสาส์นปรับโฉม ‘มหาสนุก’ มุ่งขยายสู่ Edutainment Brand ครบวงจร

บรรลือสาส์นปรับโฉม ‘มหาสนุก’ สู่การ์ตูน Edutainment เจาะกลุ่มเด็กภายใต้ชื่อ ‘มหาสนุก Happy Learners’ เน้นเสริม Future Skills พร้อมขยายแบรนด์เป็น Edutainment Brand ครบวงจร


นางสาว พิมพ์พิชา อุตสาหจิต กรรมการบริหารกลุ่มบริษัท บันลือกรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบของการ์ตูนมหาสนุกว่า มหาสนุกรูปแบบใหม่หรือ ‘มหาสนุก Happy Learners’ เป็นแบรนด์การ์ตูนที่ทั้งสนุกและส่งเสริมการเรียนรู้ (Edutainment) โดยเน้นไปที่ทักษะแห่งอนาคต (Future Skills) ที่เหมาะกับเด็กรุ่นใหม่วัยประถม อายุประมาณ 7-12 ปี ทั้งชายและหญิง ภายใต้แนวคิดว่าเด็กๆ ทุกคนสามารถเป็น ‘Happy Learners’ ได้ สอดคล้องกับเทรนด์โลกในอนาคตเรื่องของ ‘การเรียนรู้ตลอดชีวิต’ ซึ่งทำให้ความสุขและความสนุกตลอดเส้นทางการเรียนรู้ของเด็กๆ นั้นมีความสำคัญยิ่งกว่าที่เคย

ซึ่งนอกจากเนื้อหาและรูปแบบแล้ว ตัวรูปเล่มก็มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับเด็กเช่นกัน ทั้งขนาดเล่มที่ใหญ่เหมาะมือขึ้น เนื้อกระดาษอย่างดี และหน้าสีจำนวนมากขึ้น

คอลัมน์โดดเด่นที่ทางทีมงานมหาสนุกได้คัดสรรมาจะเน้นเรื่อง Future Skills ที่ถ่ายทอดผ่านลายเส้นการ์ตูนจากนักวาดชื่อดัง มีทั้งคาแรกเตอร์ที่ทุกคนคุ้นเคย และเรื่องราวคาแรกเตอร์ใหม่เอี่ยม เช่น ‘การ์ตูน ดาด้า เพื่อนฉันไม่ธรรมดา’ ผลงานของ ต่าย ขายหัวเราะ  เรื่องราวความป่วนจากเพื่อนใหม่ของปังปอนด์ และนินจา ที่ชวนแก้สารพันปัญหา และอุปสรรคต่างๆ หรือ การ์ตูน ‘เจ้าหญิงดอกไม้กะเด็กชายกล้วยไข่’ จากเฟน สตูดิโอ เรื่องราวภารกิจช่วยเหลือเพื่อนใหม่ที่ถูกคนร้ายลักพาตัวไป โดยสอดแทรกมินิเกมอยู่ในเรื่องราว หรือ ‘โคล่า แฮมสเตอร์ยอดนักสืบ’ เรื่องราวการสืบสวนเบาะแสคดีไปกับเจ้าหนูตัวป่วน ที่ส่งเสริมทักษะด้านของจินตนาการ ช่างสังเกต คิดวิเคราะห์ และตัดสินใจ

รวมถึงยังมีคอลัมน์ Future Skills ที่จำเป็นสำหรับเด็กยุคใหม่หลากหลาย เช่น คอลัมน์ ‘แบบนี้ก็มีด้วยในวิชาเรียน’ ที่จัดทำร่วมกับแอพ StarDee ที่บอกเคล็ดลับการเรียนวิชาต่างๆ พร้อมเข้าใจว่า แต่ละบทเรียนในวิชาต่างๆ เราเรียนไปทำไม หรือ คอลัมน์ ‘แพลนยัวร์มันนี่กับพี่เจ้านุ่น’ ที่ชวนเรียนรู้เรื่องการออม การลงทุน และการเพิ่มรายได้ตั้งแต่เด็กๆ ไปกับเหล่าแก๊งสัตว์ที่น่ารัก หรือ คอลัมน์ ‘Visual Thinking’ ชวนคิดเป็นภาพ การคิดอย่างเป็นระบบ จินตนาการ และสื่อสารกับผู้อื่น

มหาสนุกเชื่อในพลังของ soft power ซึ่งการ์ตูนและคาแรกเตอร์พิสูจน์แล้วว่า เป็นมิตรกับเด็กๆ เสมอและเป็นสะพานให้เด็กๆ เข้าถึงความรู้อย่างมีความสุข ปัจจุบันผู้ปกครองยุคใหม่ต้องการตัวเลือกที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของลูก ให้เด็กๆ ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ซึ่งในต่างประเทศมีสื่อการเรียนรู้คุณภาพที่เด็กเข้าถึงได้ง่ายจำนวนมาก มหาสนุกจึงหวังจะเข้ามาเติมเต็มให้เด็กไทยได้เรียนรู้กันอย่างมีความสุขเช่นกัน เป็นทั้งเพื่อนของเด็กๆ และได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากพ่อแม่และคุณครู ในราคาที่สบายกระเป๋าและหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป

กรรมการบริหารกลุ่มบริษัท บันลือกรุ๊ปกล่าวต่ออีกว่า นอกจากการปรับรูปแบบหนังสือการ์ตูนแล้ว มหาสนุกยังมุ่งขยายตัวสู่ Edutainment Brand ครบวงจรที่จะมีทั้งนิตยสาร สื่อออนไลน์ซึ่งมีทั้งสื่อสำหรับสื่อสารกับเด็ก และกลุ่มผู้ปกครอง มีผลิตภัณฑ์ หรือเซอร์วิสต่างๆ และ งาน Event ภายใต้แบรนด์มหาสนุก รวมถึงมีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์แบรนด์ และองค์กรต่างๆ มากขึ้น อย่างเช่นแอพฯ StarDee ที่ส่งเสริมด้านการเรียนรู้วิชาการต่างๆ ของเด็กรุ่นใหม่ด้วย

การ์ตูน ‘มหาสนุก Happy Learners’ วางแผงทุกต้นเดือน และมีสิทธิพิเศษต่างๆ สำหรับผู้สมัครสมาชิก ผู้ปกครองและเด็กๆ ที่สนใจ สามารถติดตามและสมัครสมาชิกได้ที่

เว็บไซต์ : mahasanook.co

เฟซบุ๊ค : www.facebook.com/mahasanookhappylearners

5



นิทรรศการ Art of กองดอง









[/url]
ภารกิจอ่านทลายกอง 

ส่องไฮไลท์ห้ามพลาดใน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25”

เริ่มแล้วสำหรับ “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25” (Book Expo Thailand 2020) ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 11 ตุลาคม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Noกองดอง” งานใหญ่แห่งปีที่จะไปพาเหล่านักอ่านไปพบกับความคิดสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือหลากหลายโซน นิทรรศการ รวมทั้งภารกิจชวนนักอ่านทลายกองดอง ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นในแบบไฮบริด อีเว้นท์ (Hybrid Event) ผสานกิจกรรมออนกราวด์และออนไลน์เข้าด้วยกัน พร้อมขนไฮไลท์ดีๆ มาเอาใจหนอนหนังสือเพียบ

7 โซนหนังสือยอดนิยม
Book Wonderland ที่รวบรวมหนังสือการ์ตูนและหนังสือสำหรับคนรุ่นใหม่เอาไว้มากมาย หนังสือทั่วไป ความรู้รอบตัวและไลฟ์ สไตล์ต่างๆ นิยาย/วรรณกรรม สนุกไปกับจินตนาการ และประสบการณ์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยนักเขียนคนโปรด หนังสือต่างประเทศ ตอบโจทย์นักอ่านหลากภาษา ไม่ต้องเสียเวลาสั่งหนังสือจากต่างประเทศ หนังสือเด็กและสื่อเพื่อการศึกษา สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาหนังสือและสื่อเสริมทักษะสำหรับเด็ก การศึกษา สำหรับวัยเรียนที่ต้องการคู่มือเรียน เตรียมสอบ หรือความรู้เฉพาะทาง และเอาใจสะสมกับ หนังสือเก่า ทั้งหมดนี้พร้อมใจกันมอบส่วนลดสูงสุดถึง 60% และหากช้อบครบ 500 บาท สามารถนำใบเสร็จไปแลกรับคูปองส่วนลด 100 บาท เพื่อไปช้อปต่อใน www.ThaiBookFair.com ได้ด้วย (50 ใบต่อวัน)

Talk สร้างสรรค์
แวะอัปเกรดความรู้และจินตนาการกับกิจกรรม Book Talk พร้อมค้นหาแรงบันดาลใจจากเหล่านักเขียนนักคิดที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนไอเดียในหัวข้อต่างๆ อาทิ อ่าน ท่อง ร้อง เล่น นิทานเล่มใหม่กับตุ๊บปอง โดยคุณเรืองศักด์ ปิ่นประทีป, ฝูงนกอพยพ : Birds on A Wire วรรณกรรมข้ามพรมแดน โดยเรวัตร์  พันธุ์พิพัฒน์, ดร.อรองค์  ชาคร และมร.ชาง เชง, 20 ปี แฮร์รี่ พอตเตอร์ เปลี่ยนชีวิตคุณยังไง โดย Apolar ศิลปินวาดภาพ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ครบรอบ 20 ปี ฉบับภาษาไทย พร้อมศิลปิน-นักแสดงที่มาถ่ายทอดแง่มุมทางความคิดผ่านตัวหนังสือ ไม่ว่าจะเป็น เฌอปราง อารีย์กุล สมาชิกวง BNK48 รุ่นที่ 1, ป๊อด-ศภุกร ศรีโพธิ์ทอง และข้าวตัง-ธนวัฒน์ รัตนกิจไพศาล จากซีรีส์ต้นหนชลธี, เอิร์ท-พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ และ มิกซ์-สหภาพ วงศ์ราษฎร์ จากซีรีส์นิทานพันดาว

Exhibition สุดอาร์ต
นิทรรศการ “Art of กองดอง” ที่โดดเด่นอยู่ด้านหน้าฮอลล์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้นักอ่านได้รู้จักและเรียนรู้เกี่ยวกับการอ่านมากยิ่งขึ้น โดยนิทรรศการต้องการจะสื่อว่าหนังสือเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตของเรา การอ่านส่วนหนึ่งเป็นพฤติกรรม และอีกส่วนหนึ่งเป็นความรู้สึกนึกคิด ภายในถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ Reading and Emotion – กองแห่งความรู้สึก ในส่วนนี้จะเป็นการจัดแสดงเกี่ยวกับความรู้ที่เกิดขึ้นจากการอ่านไม่ว่าจะเป็น สุข เศร้า รัก ตื่นเต้น กลัว โกรธ เข้าใจ และ มั่นใจ, The Reader - กองทับนักอ่าน (กองหนังสือที่ทับนักอ่าน) ในแต่ละประเทศมีคำที่ใช้เรียกคนรักหนังสือและชอบอยู่กับกองหนังสือจำนวนมากที่ต่างกันไป อาทิ Bibliomania, Tsundoku และหนอนหนังสือ เป็นต้น  และ Reading mission – ภารกิจอ่านทลายกอง พบกับวิธีอ่านในรูปแบบต่างๆ เชิงสร้างสรรค์ อาทิ ซื้อแล้วอ่านทันที, พกหนังสือไปด้วยทุกที่ และจัดระเบียบให้พร้อมอ่าน เป็นต้น

ตั้งเป้าหมายทลายภารกิจ
สนุกกับกิจกรรม ภารกิจอ่านทลายกอง ที่ให้นักอ่านได้ปฏิบัติภารกิจใน 3 จุดเช็คพ้อยท์ ได้แก่ ปราสาทบัลลังก์ดอง มีลักษณะเป็นบัลลังก์ที่ทำมาจากกองหนังสือ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากซีรีส์ Game of Thrones เพื่อให้นักอ่านได้ขึ้นไปนั่งเป็นราชา หรือราชินีแห่งกองดอง, วิหารเทพเจ้าการอ่าน ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทศกาลทานาบาตะของประเทศญี่ปุ่น ให้นักอ่านได้เขียนคำอธิษฐานหรือคำปณิธานการอ่านแล้วนำไปแขวนกับด้ายศักดิ์สิทธิ์ทิศใดทิศหนึ่งใน 6 ทิศ และ ลานอ่านปราบมังกร มังกรหนังสือตัวใหญ่ที่รอให้ทุกคนไปปราบทลายกองดองด้วยดาบจำลอง หลังจากได้รับการประทับตราครบทั้ง 3 จุด พร้อมเพิ่มหนังสือใส่เวบแอปฯ Noกองดอง  แอปอวดอ่าน จากการสแกนบาร์โค้ดของหนังสือในจุดสุดท้าย รับเลยทันทีกระเป๋าผ้า “มาดองกัน” เพียง 1,000 ท่านแรกต่อวัน!!

Delivery Service ส่งไวถึงบ้าน
เก็บสารพัดกระเป๋าแสนเทอะทะไว้ที่บ้านได้เลย เพราะมีบริการที่จะทำให้เหล่านักอ่านเดินตัวปลิวกลับบ้านสบายๆ กับ บริการจัดส่งหนังสือจาก Kerry Express ที่บูธ B23 ด้านหลังฮอลล์ฝั่งซ้ายใกล้กับโซนหนังสือ Book Wonderland พร้อมมอบส่วนลดพิเศษ บางขนาดลดราคาสูงสุดถึง 50% ฟรีอุปกรณ์แพ็ค และบริการเก็บเงินปลายทาง (COD)

อีกหนึ่งช่องทางช้อปในยุค New Normal
สำหรับนักอ่านคนไหนที่ไม่สะดวกมาเดินเล่นที่งานก็สามารถเลือกดูหนังสือที่เล็งเอาไว้เพิ่มกองดอง ได้ที่ www.ThaiBookFair.com พร้อมโปรโมชั่น Flash Sale 30% up  WOW price 59 ถึง 999 บาท และเมื่อซื้อครบ 300 บาท รับคูปอง 30 บาท, ครบ 500 บาท รับคูปอง 50 บาท และซื้อครบ 1,000 บาท รับคูปอง 100 บาท เตรียมกดรับคูปองส่วนลดได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และยังมีคูปองส่วนลดให้เก็บจาก Lazada และ Shopee อีกกว่า 1.7 ล้านบาทด้วย   



บริการจัดส่งหนังสือจาก Kerry Express ที่บูธ B23

แวะมาสัมผัสบรรยากาศเหล่านี้ได้ที่ “มหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 25” (Book Expo Thailand 2020) ตั้งแต่วันนี้ถึง – 11 ตุลาคม 2563 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี บริการรถตู้รับ-ส่งฟรีจาก MRT หัวลำโพง, MRT พระราม 9 และ BTS วัดพระศรีมหาธาตุ จำนวน 5 คัน/วัน/สถานี และช้อปผ่าน www.ThaiBookFair.com ติดตามรายละเอียดกิจกรรมได้ทาง Facebook Fanpage: Thai Book Fair



บรรยากาศงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 25   

6

เพิ่มกองดองกันได้แล้ว! กับมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25















กรุงเทพฯ วันที่ 30 กันยายน 2563 : เริ่มแล้วกับมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่ขนทัพหนังสือจากกว่า 262 สำนักพิมพ์ 746 บูธ มาให้นักอ่านได้เพิ่มกองดอง พบกิจกรรมกระทบไหล่นักเขียนนักคิดในดวงใจจากเวทีเสวนาตลอด 12 วัน ร่วมโพสต์ท่าเด็ดๆ ที่หนังสือเล่มยักษ์ในนิทรรศการ “Art of กองดอง” นักอ่าน 1,000 ท่านแรกของทุกวันรับกระเป้าผ้า “มาดองกัน” เมื่อเพิ่มหนังสือเข้าเวบแอป Noกองดอง ส่วนนักช้อปออนไลน์กดรับคูปองส่วนลดรวมกว่า 2.3 ล้านบาทเพื่อช้อปผ่าน www.ThaiBookFair.com ตั้งแต่วันนี้ - 11 ตุลาคม

นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวระหว่างการเป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 ว่า การอ่านถือเป็นทักษะสำคัญอย่างยิ่งตลอดชีวิตของมนุษย์ทุกคน เป็นเครื่องมือในการก้าวไปสู่ความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้กระบวนการคิดและวิเคราะห์ของมนุษย์มีประสิทธิภาพมากขึ้น กิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมการอ่านจึงเป็นเรื่องที่สมควรสนับสนุน ดังเช่นที่สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยได้พยายามสร้างสรรค์โครงการส่งเสริมการอ่านให้กับเยาวชนและคนไทยมาโดยตลอด เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาคนไทยให้มีความสามารถในทุกด้าน ยิ่งเมื่อมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาสร้างประสบการณ์การอ่านให้เข้ากับวิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบันถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี การจัดงานในครั้งนี้จึงถือเป็นกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่สำคัญกิจกรรมหนึ่ง และจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับสังคมการอ่านได้อย่างยั่งยืน

นางสาวโชนรังสี  เฉลิมชัยกิจ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวว่า วัฒนธรรมการอ่านเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญ เพราะหนังสือเป็นสื่อที่มอบทั้งความบันเทิงและความรู้ในราคาจับต้องได้ และเป็นเครื่องมือพัฒนาตนเองได้เป็นอย่างดี จากผลสำรวจการอ่าน ปี 2561 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ และสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK park) พบว่าคนไทยเวลาในการอ่านเฉลี่ย 80 นาทีต่อวัน เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนหน้าเมื่อปี 2558 ที่อ่านเพียง 66 นาทีต่อวัน ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดีและเป็นเรื่องน่ายินดีที่หนังสือเล่มยังคงเป็นที่นิยมต่อนักอ่านในทุกวัย

“งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 หรือ Book Expo Thailand 2020 เป็นงานที่ถูกจัดต่อเนื่องมาตลอดทุกปีเพื่อสร้างสังคมและวัฒนธรรมการอ่านให้เข้มแข็ง โดยปีนี้เป็นการกลับมาจัดในรูปแบบออน กราวด์ (On Ground) อีกครั้งหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งกิจกรรมยังคงอัดแน่นมากมายไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวหนังสือใหม่ของนักเขียน การเสวนา และส่วนลดพิเศษ โดยสมาคมฯ คำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของนักอ่านเป็นหลัก จึงจัดงานในรูปแบบไฮบริดอีเว้นท์ (Hybrid Event) ที่ผสมผสานกิจกรรมแบบออน กราวด์ และออนไลน์ (Online) เข้าด้วยกัน ภายใต้แนวคิด “Noกองดอง” เพื่อให้ตอบโจทย์นักอ่านในแบบวิถีชีวิตใหม่ให้ได้เลือกซื้อกันอย่างเหมาะสมและปลอดภัย”

กิจกรรมออน กราวน์ (On Ground) ถูกจัดขึ้นบนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร โดยมี 262 สำนักพิมพ์ รวม 746 บูธ ร่วมกันมอบส่วนลดสูงสุดถึง 60% แบ่งออกเป็น 7 โซนหนังสือยอดนิยม ได้แก่ Book Wonderland ที่รวบรวมหนังสือการ์ตูนและหนังสือสำหรับคนรุ่นใหม่เอาไว้มากมาย หนังสือทั่วไป ความรู้รอบตัว และไลฟ์สไตล์ต่างๆ นิยาย/วรรณกรรม สนุกไปกับจินตนาการ และประสบการณ์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยนักเขียนคนโปรด หนังสือต่างประเทศ รวมหนังสือจากต่างประเทศ ตอบโจทย์นักอ่านหลากภาษา หนังสือเด็กและสื่อเพื่อการศึกษา สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาหนังสือและสื่อเสริมทักษะสำหรับเด็ก การศึกษา สำหรับวัยเรียนที่ต้องการคู่มือเรียน เตรียมสอบ หรือความรู้เฉพาะทาง และ หนังสือเก่า เอาใจนักสะสม

ส่วนกิจกรรมที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องมาทุกปีอย่าง Book Talk ในปีนี้มีนักคิดนักเขียนมากมาย พร้อมด้วยศิลปินชื่อดัง ที่มาร่วมเปิดตัวหนังสือใหม่ และถ่ายทอดประสบการณ์ที่จะให้แค่คิดดี ๆ กับนักอ่านที่มาร่วมงาน อาทิ กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทย, วิเชฐ ตันติวานิช, โค้ชหนุ่ม-จักรพงษ์ เมษพันธุ์ THE MONEY COACH,   แทนไท ประเสริฐกุล, เฌอปราง อารีย์กุล สมาชิกวง BNK48, ป๊อด-ศุภกร ศรีโพธิ์ทอง, ข้าวตัง-ธนวัฒน์ รัตนกิจไพศาล จากซีรีส์ต้นหนชลธี, เอิร์ท-พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ และ มิกซ์-สหภาพ วงศ์ราษฎร์ จากซีรีส์นิทานพันดาว

พร้อมทั้งชม นิทรรศการ “Art of กองดอง” รวมเรื่องราวให้นักอ่านได้เรียนรู้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ Reading and Emotion – กองแห่งความรู้สึก นำเสนอเกี่ยวกับความรู้สึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะที่นักอ่านกำลังอ่านหนังสือ, The Reader - กองทับนักอ่าน ในแต่ละประเทศมีคำที่ใช้เรียกคนรักหนังสือและชอบอยู่กับกองหนังสือจำนวนมากที่ต่างกันไป และ Reading mission – ภารกิจอ่านทลายกอง นำเสนอ 8 วิธีในการอ่านหนังสือให้เกิดความสนุกสนาน และได้รับความรู้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยมีหนังสือยักษ์ให้นักอ่านได้ถ่ายภาพพร้อมแชร์ในโซเชียลมีเดีย

และอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานคือ “ภารกิจอ่านทลายกอง” กับ 3 เช็คจุดเช็คพ้อยท์ ได้แก่ ปราสาทบัลลังก์ดอง, วิหารเทพเจ้าการอ่าน และวิหารปราบมังกร และหากเพิ่มหนังสือด้วยการสแกนบาร์โค้ดใส่เวบแอปพลิเคชัน “NOกองดอง” แอปอวดอ่าน รับทันทีกระเป๋าผ้า “มาดองกัน” เพียง 1,000 ท่านแรกต่อวัน 

ด้านนักอ่านที่ต้องการช้อปหนังสือแบบ New Normal สามารถเข้าร่วมงานผ่านช่องทาง ออนไลน์ (Online) www.ThaiBookFair.com ซึ่งสมาคมฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรอย่าง Kerry Express, Lazada และ Shopee มอบคูปองส่วนลดพิเศษมูลค่ารวมกว่า 2.3 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นแบบไฮบริดระหว่างออนกราวด์และออนไลน์ ได้แก่ ช้อปจากในงานทุก 500 บาท สามารถนำใบเสร็จมาลุ้นรับคูปองส่วนลด 100 บาทได้ที่บูท ThaiBookFair.com บริเวณใกล้หน้าเวทีกลาง จำนวน 50 ใบต่อวัน เพื่อนำไปช้อปต่อบนออนไลน์ หรือผู้ที่ช้อปออนไลน์แล้วเลือกมารับหนังสือที่งานจะได้สิทธิ์รับคูปองส่วนลดมูลค่า 100 บาททันที จำนวน 100 ใบต่อวัน

ด้านมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  ทางสถานที่จัดงานได้เตรียมมาตรการไว้ตามมาตรฐาน คือ ลงทะเบียนและสแกนการเข้าร่วมงานผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะ มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้างาน และตรวจสอบจำนวนคนภายในงานต่อเนื่องเป็นระยะ

มาร่วมกันเพิ่มกองดองใหม่กันได้แล้วที่ “มหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 25” (Book Expo Thailand 2020) ตั้งแต่วันนี้ – 11 ตุลาคม 2563 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และช่องทางออนไลน์ที่เวบไซต์ www.ThaiBookFair.com ติดตามรายละเอียดกิจกรรมภายในงานได้ทาง Facebook Fanpage: Thai Book Fair

7
3 นักอ่านแนะวิธีอ่านสู่เป้าหมายในอนาคต

ในโลกปัจจุบันที่ทุกอย่างถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนที่มีมากขึ้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ทั้งนวัตกรรม เทคโนโลยี ความสะดวกสบายด้านต่าง ๆ ส่งผลให้ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนตามไปด้วย รวมถึงพฤติกรรม “การอ่าน” ที่หลายฝ่ายมองว่าจะถูกดิสรัปต์ (Disrupt) ด้วยความก้าวหน้าเหล่านี้ แต่จากผลสำรวจการอ่าน ปี 2561 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ และสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK park) ที่ได้สำรวจไปนั้นพบว่าคนไทยใช้เวลาในการอ่านเฉลี่ย 80 นาทีต่อวัน เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนหน้าเมื่อปี 2558 ที่อ่านเพียง 66 นาทีต่อวัน ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดีและเป็นเรื่องน่ายินดีที่หนังสือเล่มยังเป็นที่นิยมต่อนักอ่านในทุกวัย แต่ไม่ว่าจะเป็นการอ่านในรูปแบบใดก็ตามเป้าประสงค์คงไม่ได้อยู่ที่อ่านมากหรือน้อย แต่เป็นการอ่านอย่างมีคุณภาพและใช้การอ่านเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะนำไปสู่เป้าหมายของชีวิตได้  จากงานแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Noกองดอง” เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีนักอ่านผู้ทรงคุณวุฒิได้ให้แนวทางและข้อคิดสำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาการอ่านของตัวเอง



ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เจ้าของฉายา The Disruptor เมืองไทย เล่าว่า “เป็นคนชื่นชอบการอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก มีหนังสือสะสมไว้นับหมื่นเล่ม มีความเชื่อว่าการอ่านสามารถนำไปสู่อนาคตที่ดีได้ เพราะสิ่งที่ได้รับจากการอ่าน สามารถนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นข้อคิดหรือเทคนิคต่าง ๆ สามารถนำมาพัฒนาการทำงานต่อได้ ซึ่งการจะอยู่รอดในยุคแห่งการพัฒนาแบบนี้ต้องรู้จัก “อ่านให้มาก” เพื่อสะสมความรู้ที่หลากหลาย นำมาต่อยอดสู่การพัฒนาสิ่งใหม่ หรือมองหาโอกาสใหม่ๆ โดย “ไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งเล่ม” แต่ผู้อ่านต้องสามารถบอกได้ว่าหนังสือเล่มนี้ต้องการจะสื่อสารอะไร หรือการทำความเข้าใจในขณะที่กำลังอ่านอยู่ ซึ่งจะทำให้ได้รับความรู้ได้อย่างเต็มที่แม้จะมีเวลาอ่านน้อย”



ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ให้ความเห็นในฐานะพิธีกรและผู้ที่รับประสบการณ์จากการอ่านมาหลายด้าน ว่า “ส่วนตัวมองว่าการอ่านเป็นการเรียนรู้ประสบการณ์ของผู้เขียนได้รวดเร็วที่สุด ดังเช่นหนังสือประวัติศาสตร์ซึ่งจะสะท้อนว่าผู้เขียนมีมุมมองเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในยุคนั้นสมัยนั้นอย่างไร หรือผู้เขียนอยู่ในสถานะใด การอ่านที่จะพัฒนาไปสู่เป้าหมายในอนาคตได้ ควรเริ่มจากการ “อ่านและวิเคราะห์อย่างละเอียด” เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่ประสงค์ดีที่สร้างข่าวปลอม (Fake news) ขึ้นมา ทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย และ “ไตร่ตรอง” ถึงที่มาของข่าวหรือเรื่องราวนั้นๆ ให้ดีก่อนที่จะแชร์ต่อให้ผู้อื่น หากแชร์เรื่องราวที่ถูกต้องก็จะสร้างคุณประโยชน์แก่ผู้อ่านได้มาก กลับกันหากเรื่องราวที่ถูกแชร์ต่อไม่เป็นความจริงจนผู้อ่านนำไปทำตาม ก็อาจจะส่งผลเสียได้เช่นกัน ที่สำคัญคือหากต้องการจะสร้างนิสัยรักการอ่านให้กับเยาวชนในบ้าน ควรจะทำเป็นแบบอย่างให้ดูก่อน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการอ่านอย่างจริงจัง”


ด้าน นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เล่าว่า “การอ่านเป็นการเติมเต็มความรู้ที่ดีที่สุด แต่เมื่อเวลาผ่านไปความรู้ที่เคยได้รับก็อาจจะเลือนหายไปตามกาลเวลา ถ้าไม่ต้องการให้ความรู้เหล่านั้นสูญหายไปก็ต้องหมั่น “อ่านทบทวน” ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องอ่านแค่เพียงหนังสือประเภทวิชาการเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นหนังสือประเภทใด หรืออ่านผ่านช่องทางใดก็ล้วนมีประโยชน์กับตัวผู้อ่านทั้งสิ้น ขณะเดียวกันหัวใจที่สำคัญของการอ่าน คือ “อ่านมีคุณภาพ” คืออ่านแล้วเกิดประโยชน์ ด้วยความคิดพิจารณาในทุกด้าน เช่นการเห็นเนื้อหาในโซเชียลมีเดียเพียง 2 บรรทัดก็อย่าเพิ่งตัดสินใจเชื่อ ควรหาข้อมูลประกอบให้รอบด้านเสียก่อน”

ได้เคล็ดลับการอ่านจากทั้ง 3 ท่านแล้ว ลองนำเทคนิคไปใช้เคลียร์กองดองที่บ้านให้ไว แล้วมาเพิ่มกองใหม่ ในงาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 25” (Book Expo Thailand 2020) วันที่ 30 กันยายน – 11 ตุลาคม 2563 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ชาเลนเจอร์2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และเว็บไซต์www.thaibookfair.com ติดตามรายละเอียดกิจกรรมภายในงานได้ทาง Fanpage: Thai Book Fair

8

PUBAT ผนึกพันธมิตรจัด “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25” ชู Hybrid event ผสาน On Ground และ Online เอาใจหนอนหนังสือ








สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ผนึกพันธมิตร จัดไฮบริด อีเว้นท์ใหญ่แห่งปี “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25” (Book Expo Thailand 2020) ภายใต้คอนเซ็ปต์ Noกองดอง สำนักพิมพ์ตบเท้าเข้าร่วมกว่า 262 ราย พบการเปิดตัวหนังสือใหม่ ทอล์คกับนักเขียนชื่อดัง ช้อปสนุกด้วยส่วนลดรวมกว่า 2.3 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวเวบแอปพลิเคชัน NOกองดอง ที่จะช่วยให้นักอ่านได้สนุกไปกับการอ่านหนังสือมากยิ่งขึ้น 30 กันยายน – 11 ตุลาคม นี้ ณ ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวว่า “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 25” (Book Expo Thailand 2020) ภายใต้แนวคิด “No กองดอง” ถือเป็นงานแสดงหนังสือในรูปแบบปกติครั้งแรกหลังจากเกิดสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) บนพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร จาก 262 สำนักพิมพ์ รวม 746 บูท และเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในวิถีใหม่ (New Normal) จึงจัดกิจกรรมในรูปแบบของไฮบริดอีเว้นท์ (Hybrid Event) ผสมผสานระหว่างความเป็นออน กราวด์ (On Ground) และออนไลน์ (Online) ผ่านทาง www.thaibookfair.com ด้วย 

“ความท้าท้ายของสมาคมฯ ในยุคนี้คือการหมุนไปอย่างรวดเร็วของโลก เทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ผู้คน และยังมีสถานการณ์ไม่คาดฝันอย่างโรคระบาดที่ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างไม่เหมือนเดิม ดังนั้นการจะทำให้นิสัยรักการอ่านเป็นสิ่งติดตัวคนรุ่นใหม่ต่อไปได้อย่างยั่งยืนจึงเป็นเรื่องท้าทายมาก นอกจากการจัดอีเว้นท์ที่สร้างช่องทางเข้าร่วมงานในหลากหลายช่องทาง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้เลือกใช้บริการ ส่วนสำนักพิมพ์เองก็มีพื้นที่ในการจัดจำหน่ายมากขึ้น ยังเตรียมเปิดตัวเวบแอปพลิเคชัน Noกองดอง เพื่อส่งเสริมการอ่านในรูปแบบใหม่ให้เข้าถึงทุกเพศ ทุกวัย นักอ่านสามารถเก็บสถิติการอ่านของตัวเองจากการสแกนบาร์โค้ดเพื่อนำเข้าข้อมูลหนังสือ สะสมระยะเวลาของการอ่านได้เช่นเดียวกับการสะสมไมล์ของนักวิ่ง เมื่อถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ก็แชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย หรือจะชาเลนจ์ (Challenge) ต่อๆ กันไป หรือจะแชร์โควท (Quote) โดนใจ รีวิวหนังสือที่ชอบสู่นักอ่านคนอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน โดยเวบแอปฯ นี้จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันที่ 30 กันยายน เช่นเดียวกับงานมหกรรมหนังสือฯ”   

สำหรับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นนั้น เพื่อให้นักอ่านได้พบกับประสบการณ์ที่หลากหลายทางด้านคอนเทนต์ (Content) ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 7 โซนหนังสือยอดนิยม ได้แก่ Book Wonderland ที่รวบรวมหนังสือการ์ตูนและหนังสือสำหรับคนรุ่นใหม่เอาไว้มากมาย หนังสือทั่วไป ความรู้รอบตัวและไลฟ์สไตล์ต่างๆ นิยาย/วรรณกรรม สนุกไปกับจินตนาการ และประสบการณ์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยนักเขียนคนโปรด หนังสือต่างประเทศ ตอบโจทย์นักอ่านหลากภาษา ไม่ต้องเสียเวลาสั่งหนังสือจากต่างประเทศ หนังสือเด็กและสื่อเพื่อการศึกษา สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาหนังสือและสื่อเสริมทักษะสำหรับเด็ก การศึกษา สำหรับวัยเรียนที่ต้องการคู่มือเรียน เตรียมสอบ หรือความรู้เฉพาะทาง และเอาใจนักล่านักสะสมกับ หนังสือเก่า

นิทรรศการ Art of กองดอง ที่จะกระตุ้นการอ่านให้กับผู้ชม นิทรรศการนี้จะพาทุกคนไปรู้จักและเรียนรู้เกี่ยวกับการอ่านมากยิ่งขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ Reading and Emotion -“กองแห่งความรู้สึก”, The Reader - “กองทัพนักอ่าน” และ Reading mission - “ภารกิจอ่านทลายกอง”   

กิจกรรม Book Talk จากนักคิดนักเขียนที่สร้างแรงบันดาลใจ ตั้งแต่นักเขียนระดับศิลปินแห่งชาติ นักคิดชั้นครูและนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อาทิ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์, กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย, วิเชฐ ตันติวานิช, โค้ชหนุ่ม - จักรพงษ์ เมษพันธุ์ THE MONEY COACH, แทนไท ประเสริฐกุล พร้อมนักแสดงที่มาถ่ายทอดแง่มุมทางความคิดผ่านตัวหนังสือ ไม่ว่าจะเป็น เฌอปราง อารีย์กุล สมาชิกวง BNK48 รุ่นที่ 1, ป๊อด-ศุภกร ศรีโพธิ์ทอง และข้าวตัง-ธนวัฒน์ รัตนกิจไพศาล จากซีรีย์ต้นหนชลธี, พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ (เอิร์ท) สหภาพ วงศ์ราษฎร์ (มิกซ์) จากซีรีย์นิทานพันดาว

ร่วมสนุกไปกับ ภารกิจอ่านทลายกอง เพียงเดินทางไปตาม 3 จุดเช็คอินที่อยู่ภายในงาน ได้แก่ “ปราสาทบัลลังก์ดอง” “วิหารเทพเจ้าการอ่าน” และ “ลานอ่านปราบมังกร” ประทับตราให้ครบ 3 จุดเช็คอิน พร้อมเพิ่มหนังสือใส่เวบแอปฯ Noกองดอง เพื่อรับกระเป๋าผ้า “มาดองกัน” เพียง 1,000 ท่านแรก ต่อ วัน ซึ่งงานจัดทั้งหมด 12 วัน แจกกระเป๋าผ้า จำนวน  12,000 ใบ

นอกจากนี้ยังมี โปรโมชั่นพิเศษ มอบส่วนลดรวมกว่า 2.3 ล้านบาท โดยภายในงานออนกราวด์พบกับส่วนลดจากสำนักพิมพ์ต่างๆ สูงสุด 60% ส่วนทางออนไลน์บน www.thaibookfair.com ที่พัฒนาโดย LnwShop (เทพช้อป) มอบส่วนลดกว่า 600,000 บาท อาทิ ซื้อครบ 300 บาท รับคูปอง 30 บาท 500 คูปองต่อวัน, ซื้อครบ 500 บาท รับคูปอง 50 บาท 500 คูปองต่อวัน, ซื้อครบ 1,000 บาท รับคูปอง 100 บาท 100 คูปองต่อวัน และหากสั่งซื้อทางเวบไซต์ แล้วมารับหนังสือในงานเพื่อลุ้นคูปอง มูลค่า 100 บาท จำนวน 100 ใบต่อวัน ด้านพันธมิตรอย่าง Lazada มอบส่วนลดจากแพลตฟอร์มรวม 1 ล้านบาท ส่วนลดจาก Shopee รวม 7 แสนบาท และ Kerry Express มอบส่วนลดพิเศษให้กับผู้ที่สั่งผ่านเวบไซต์ด้วย

สำหรับ มาตรการป้องกันไวรัสโคโรน่านั้น ทางสมาคมฯ ได้ประสานกับเจ้าของสถานที่ในเรื่องการจัดมาตรการป้องกันตามมาตรฐาน โดยมีการลงทะเบียนและสแกนการเข้าร่วมงานผ่านแอปคลิเคชันไทยชนะ จุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การตรวจวัดอุณหูภูมิร่างกายก่อนเข้างาน และตรวจสอบเมื่อภายในงานมีจำนวนคนที่หนาแน่นมากเกินไป

มาร่วมทลายกองดองแล้วเพิ่มกองใหม่กันได้ที่ “มหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 25” (Book Expo Thailand 2020)  จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน – 11 ตุลาคม 2563 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.thaibookfair.com ติดตามรายละเอียดกิจกรรม ภายในงานได้ทาง Facebook Fanpage: Thai Book Fair

9
ขายหัวเราะฉบับ 1500 ดึงเหล่าคนดังจับปากกาสร้างสรรค์ แก๊กส่งต่อแรงบันดาลใจ



เส้นทางแห่งเสียงหัวเราะที่อยู่กับคนไทยมาเกือบครึ่งศตวรรษ ขายหัวเราะได้ก้าวมาถึงฉบับที่ 1,500 แล้ว โดย นิว-พิมพ์พิชา อุตสาหจิต Executive Director กลุ่มบริษัทเครือบันลือกรุ๊ป พูดถึงหลักในการทำงานของขายหัวเราะตลอดมาว่า ขายหัวเราะตั้งใจที่จะเป็นแบรนด์ที่สร้างความสุข รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้ทุกคน จึงไม่ได้จำกัดรูปแบบให้ตัวเองเป็นหนังสือการ์ตูนเท่านั้น แต่ขายหัวเราะสามารถเป็นได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นคอนเทนต์ที่พร้อมไปอยู่ในสื่อทุกช่องทาง เป็นสินค้าทุกประเภท ซึ่งนอกจากอารมณ์ขันแล้ว การ์ตูนและตัวคาแรกเตอร์ของขายหัวเราะยังสามารถเป็นสื่อกลางในเรื่องอื่นๆ นอกจากความบันเทิง เช่น เป็นสื่อ Edutainment เติมสีสันให้การศึกษา หรือแม้แต่วงการการตลาด โฆษณา การเงิน การแพทย์ ล้วนเล่าผ่านการ์ตูน และอารมณ์ขันสไตล์ขายหัวเราะที่แฟนๆ ชื่นชอบได้ทั้งนั้น  ด้วยจุดเด่นของขายหัวเราะคือ ความสามารถเล่าเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย และสนุกสนาน รวมถึงความเข้าใจรสนิยมของชาวไทยเป็นอย่างดี จากการสั่งสมประสบการณ์ทำงานใกล้ชิดแฟนๆ มาอย่างยาวนาน

“ทุกครั้งเมื่อถูกถามถึงเป้าหมายในอนาคตของขายหัวเราะ นิวมักจะตอบว่า ทุกอย่างในจักรวาลของการ์ตูน อารมณ์ขัน ตัวคาแรกเตอร์ และ storytelling คือ ดินแดนที่ขายหัวเราะเชี่ยวชาญ และไปอยู่ได้ทั้งหมด จึงอยากให้ติดตามกันไปเรื่อยๆ ขายหัวเราะจะ ‘เพิ่มความสุข กระจาย เสียงหัวเราะ’ ให้ดังไกล และแปลกใหม่ขึ้นกว่าเดิมแน่นอนในอนาคต”

ซึ่งในโอกาสพิเศษที่ขายหัวเราะได้ตีพิมพ์มาถึงฉบับที่ 1500  เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเดินทางแสนพิเศษอันยาวนานนี้ร่วมกับแฟนๆ ที่ได้รับเสียงหัวเราะ แรงบันดาลใจ และเติบโตผูกพันกับขายหัวเราะ ทำให้ขายหัวเราะอยู่เคียงคู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ขายหัวเราะจึงได้จัดทำฉบับพิเศษ ด้วยขายหัวเราะฉบับ 1500 “You’ll Never Laugh Alone หัวเราะด้วยกัน ไม่มีวันเดียวดาย”





พิมพ์พิชา อุตสาหจิต พูดถึงความพิเศษในฉบับที่ 1500 “You’ll Never Laugh Alone หัวเราะด้วยกัน ไม่มีวันเดียวดาย” ว่า นอกจากทีมนักเขียนขายหัวเราะที่แฟนๆ คุ้นเคยกันดีแล้ว ขายหัวเราะยังได้ชวนบุคคลสำคัญ หรือ บุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการต่างๆ ศิลปิน ดารา กว่า 70 คนที่มีขายหัวเราะเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการวาดรูป การอ่าน และความคิดสร้างสรรค์ มาร่วมรังสรรค์แก๊กการ์ตูนสไตล์ขายหัวเราะ รวมถึงคอลัมน์ต่างๆ ทั้งเรื่องสั้น ขำขัน หักมุมมัดยิ้ม ฯลฯ ในแบบเฉพาะของตัวเอง อาทิ คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรต์และศิลปินแห่งชาติ, คุณวินทร์ เลียววาริณ นักเขียนซีไรต์และศิลปินแห่งชาติ , หนุ่มเมืองจันท์ คอลัมนิสต์ชื่อดัง, งามพรรณ เวชชาชีวะ นักเขียนซีไรต์, วิศุทธิ์ พรนิมิตร เจ้าของคาแรกเตอร์ดัง น้องมะม่วง,ต่อ ธนญชัย ศรศรีวิชัย ผู้กำกับโฆษณาแถวหน้าของโลก, พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระนักเทศน์รายการธรรมะเดลิเวอรี่ ร่วมด้วย โจอี้ บอย, สิงโต นำโชค, ปิงปอง ศิรศักดิ์, แม็กซ์ เจนมานะ,สอง Paradox, ทับทิม มัลลิกา, เต๋อ ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์, ตั๊ก บริบูรณ์ และเหล่านักวาด มุนิน, เดอะดวง, นัดเป็ด, อาร์ต จีโน, นวล ฯลฯ รวมแล้วเป็นจำนวนศิลปินกว่าร้อยชีวิตในฉบับนี้ และพิเศษยิ่งกว่าด้วยรูปเล่มที่จัดทำขนาดใหญ่พิเศษเพื่อเก็บสะสม ซึ่งรับรองว่า ความพิเศษเหล่านี้ แฟนๆ จะไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งจากขายหัวเราะและจากศิลปินรับเชิญด้วย

“ไอเดียของการชวนบุคคลจากแวดวงต่างๆ มาร่วมกันเขียน เกิดจากที่ เวลาได้คุยกับคนในแวดวงต่างๆ ทั้งนักคิด นักเขียน ศิลปิน ดารา หลายท่านมักบอกว่าโตมากับขายหัวเราะ มีขายหัวเราะเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการอ่าน การเขียน การอยากวาดรูป การสร้างสรรค์ผลงาน หลายคนถึงขนาดบอกว่าเคยส่งแก๊ก เรื่องสั้น ขำขันต่างๆ มาให้บ.ก.พิจารณาด้วย ทีมงานเลยมาคิดต่อว่าจะเป็นอย่างไรถ้าในฉบับพิเศษ 1500 นี้ จะชวนพวกเขามาวาดแก๊ก Signature ของขายหัวเราะ ทำให้เราอยากเห็นมากๆ ว่าเรื่องราวของขายหัวเราะเมื่อเล่าผ่านคนที่โตมากับเรา มีเราเป็นแรงบันดาลใจ เขาจะเล่าอย่างไร และมันจะออกมาเป็นแบบไหน และเชื่อว่าแฟนๆ ทุกคนก็อยากเห็น ร่วมฮาไปด้วย อินไปด้วยกันได้เช่นกัน” พิมพ์พิชา  กล่าวทิ้งท้าย

ทางด้านกชกร มโนชญากร หรือ ‘Pop Mhan’ นักวาดการ์ตูนไทยสายอินเตอร์ ผู้เคยร่วมงานกับ MARVEL COMICS และ DC COMICS มาแล้วพูดถึงการทำงานร่วมกับขายหัวเราะครั้งนี้ว่า
รู้สึกมีความสุขและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้วาดตัวละครของขายหัวเราะ เพราะคิดถึงผูกพันที่ได้เห็นตัวละครเหล่านี้ และรู้ว่าตัวละครทั้งหมดยังคงสร้างความสุขมหาศาลแด่ผู้อ่าน ตัวเขาเองเติบโตที่สหรัฐอเมริกา ได้เริ่มอ่านขายหัวเราะมาก่อนที่จะอ่านการ์ตูนฝั่งอเมริกาเสียอีก เมื่อไหร่ที่ได้อ่านก็จะพยายามอ่านให้มากที่สุด มีให้คุณยายช่วยอ่านในส่วนที่อ่านไม่ออกบ้าง ถือได้ว่า ขายหัวเราะยังช่วยสอนให้เขาได้เรียนรู้ภาษาไทยไปในตัวด้วย



ทางด้านทับทิม มัลลิกา จงวัฒนา ดาราสาวที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อแรงบันดาลใจผ่านการ์ตูนกล่าวว่า ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อมา รู้สึกตื่นเต้น และเป็นเกียรติมากๆ ถึงขนาดดีใจในกลุ่มไลน์ครอบครัว เพราะทุกคนในครอบครัวอ่านขายหัวเราะมาตั้งแต่สมัยยังเด็กๆ สำหรับผลงานชิ้นนี้ทับทิมตั้งใจมาก คิดมุกอยู่ 3 วัน วาดอีก 3 วัน เข้าใจชีวิตนักเขียนการ์ตูนเลยว่า กว่าจะได้ 1 แก๊ก ก็ยากอยู่เหมือนกัน ยากตรงที่ต้องคิดแก๊กที่คนอ่านต้องเข้าใจด้วย และตลกกับมันด้วย   

“ทับทิมเคยส่งจดหมายหาพี่เอ๊าะคนวาดหนูหิ่นด้วย เป็นแฟนคลับมาก ครอบครัวทับทิมมีพี่น้อง 4 คน ทุกคนจะเวียนกันซื้อขายหัวเราะ รวมถึงมหาสนุก หนูหิ่น สาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่ ด้วย พวกเรามีประสบการณ์ที่ดีมากๆ กับขายหัวเราะ เป็นสิ่งหนึ่งที่เติมเต็มความสุขในวัยเด็ก คิดถึงสมัยที่แบ่งๆ กันอ่าน หัวชนกันกับพี่ๆ น้องๆ ได้หัวเราะไปด้วยกัน ขอบคุณความสุขที่มอบให้ตลอด”

ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ขายหัวเราะอยู่คู่ครอบครัวชาวไทยทั่วทุกมุมบ้าน ห้องรับแขก ห้องครัว ยันห้องน้ำ สมฉายาที่แฟนๆ และสื่อมวลชนเรียกว่า ‘ความฮาสามัญประจำบ้าน’ ซึ่งสาเหตุที่ขายหัวเราะยังคงทำให้คนไทยอารมณ์ดีได้ทุกยุคทุกสมัยนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการปรับตัวอย่างไม่หยุดนิ่ง ที่สำคัญคือขายหัวเราะเป็นเหมือนหนึ่งหมุดหมายบันทึกเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในหน้าประวัติศาสตร์ ไม่เคยพลาดประเด็นในสังคม ซึ่งขายหัวเราะสามารถถ่ายทอดให้สนุกและเฉียบคมได้เสมอ ทั้งยังรักษามาตรฐานได้อย่างดีแม้พฤติกรรมผู้อ่านจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

โดยขายหัวเราะฉบับพิเศษ ฉลอง 1500 ฉบับนี้เป็น Limited Edition จัดพิมพ์จำนวนจำกัด สำหรับแฟนๆขายหัวเราะสามารถสั่งจองขายหัวเราะฉบับพิเศษนี้ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทาง https://kaihuaror.com/1500  หรือสามารถหาซื้อได้ที่ร้านหนังสือทั่วไปตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563

10



“แบงก์กรุงเทพ” ใจดีทุ่ม 8 ล้าน มอบหนังสือดีสู่ห้องสมุด 400 โรงเรียน









นับว่าเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญ และใส่ใจกับการศึกษาของเยาวชนไทยมาโดยตลอด ซึ่งในครั้งนี้ก็เช่นกัน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ตั้งใจสืบสานการจัดโครงการ “ธนาคารกรุงเทพ มอบหนังสือดีสู่ห้องสมุด” โดยดำเนินการ ร่วมกับ บริษัท สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น เพื่อจัดทำหนังสือ “เปิดโลกวิทยาศาสตร์-สังคมศาสตร์ แก่เด็กและเยาวชน” ที่เป็นหนังสือสองภาษา (Bilingual) ประกอบไปด้วยภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก และเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ โดยมี คุณอนุชา บูรพชัยศรี เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  ให้เกียรติเป็นประธานรับมอบหนังสือดังกล่าว จากนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทว่ายังมี Mr. Shigeru Aoyagi ผู้อำนวยการองค์กร UNESCO ร่วมเป็นสักขีพยานในงานครั้งนี้ ท่ามกลางความสนใจของแขกผู้มีเกียรติ ข้าราชการ ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครูและบรรณารักษ์ประจำห้องสมุด ที่เข้าร่วมงานกันอย่างเนืองแน่น ณ ห้องประชุมชั้น 30 ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ (สีลม)
สำหรับเนื้อหาในหนังสือ "เปิดโลกวิทยาศาสตร์-สังคมศาสตร์ แก่เด็กและเยาวชน” นั้น กล่าวถึงช่วงชีวิตวัยเด็ก และการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ของเหล่านักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลกซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลสำคัญทั้งสิ้น รวม 60 รายชื่อ โดยทั้งหมดทั้งมวลนี้ มีจุดประสงค์เพื่อเปิดโลกทัศน์ หรือมุมมองในด้านต่างๆ รวมทั้งส่งเสริม และผลักดันให้เด็ก และเยาวชนของไทย มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ตลอดจนต่อยอดในการค้นคว้า และหาความรู้ รวมทั้งเปิดโอกาสสู่การเรียนรู้ในศาสตร์ที่ตนเองต้องการ

โดยธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มีความปรารถนาอย่างยิ่ง ที่จะบริจาคหนังสือคุณภาพ ที่มีการผลิตและสร้างสรรค์ขึ้นใหม่เหล่านี้ ให้กับห้องสมุดโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 400 โรงเรียน ซึ่งประกอบไปด้วย โรงเรียนประชารัฐ ที่ซึ่งอยู่ในความดูแลของธนาคารกรุงเทพ จำนวน 217 แห่ง, โรงเรียนที่ธนาคารกรุงเทพสร้างอาคารเรียน จำนวน 26 แห่ง และโรงเรียนสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด จำนวน 157 แห่ง มูลค่าแห่งละ 20,000 บาท รวมมูลค่าทั้งหมด 8,000,000 บาท ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ยังคงดำเนินต่อไป เพื่อเป็นการถ่ายทอดเจตนารมณ์ที่ดี และยืนยันความพร้อมที่จะพัฒนาศักยภาพการพัฒนาในการเรียนรู้ การอ่าน และการศึกษาแก่เยาวชนของชาติต่อไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ :
บริษัท สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น จำกัด : โทร. 02-448-0312 , FAX : 02-448-03923
คุณนุลชา สุทธินนทกุล (เดียร์) มือถือ 063-313-9809  E-mail : nulacha@elitecreative.co.th
คุณตะวัน เอนกวิชณกุล (ตะวัน) มือถือ 097-162-8910 E-mail : tawan@praphansarn.com
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.praphansarn.com

11
หนังสือมีขา ห้าวันสุดท้าย



หนังสือมีขา เดินไปหาถึงบ้าน 2019 
เหลือเวลาอีก 5 วัน ก่อนที่มหกรรม ลด-ล้าง-สต็อก หนังสืออนไลน์ส่งท้ายปีจาก godaypoets จะสิ้นสุดลง
ใครที่ยังหาของขวัญปีใหม่ให้คนที่คุณรัก หรืออยากหาหนังสือไว้อ่านช่วงวันหยุดยาวนี้ ยังพอมีเวลา ให้เหล่าหนังสือเดินทางไปหาคุณ

ไม่ว่าจะเป็นเล่มเก่าน่าสะสม หรือเล่มใหม่สุดฮิตจาก a book Publishing, Polkadot, Everyday ไปจนถึง
นิตยสารฉบับหายากจาก a day รวมแล้วกว่า 200 ปกให้คุณได้เลือกสรร
เริ่มต้นเพียงเล่มละ 20 บาท พร้อมจัดส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ!

ไม่ต้องฝ่ารถติดไปไหน เพียงกดสั่งแล้วนั่งรออยู่บ้าน หนังสือจะเดินทางไปหาคุณเอง

สั่งซื้อได้ถึง 20 ธันวาคมนี้ ที่เว็บไซต์ godaypoets.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ fb: godaypoets

12
‘เนียลสัน เฮส์’ จัดงานเทศกาลวรรณกรรมนานาชาติ
 
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ประธานคณะกรรมการดำเนินงานรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) เป็นประธานร่วมในพิธีเปิด งานเทศกาลวรณกรรมนานาชาติ “เนียลสัน เฮส์ : Neilson Hays Bangkok Literature Festival” อย่างเป็นทางการ โดยมี ดร.วิมลลักษณ์ ชูชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) กระทรวงวัฒนธรรม, มร. Jeffrey Senior, Chargé d’affaires a.i., Embassy of Canada to Thailand, คุณเชลลี่ แบรกก์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด การสื่อสารและศิษย์เก่าโรงเรียนนานาชาติ ไอเอสบี อินเตอร์เนชั่นแนล, คุณซะการีย์ยา อมตยา, มร.อดัม จอห์นสัน และนักเขียนชื่อดังระดับโลกกว่า 30 ท่าน จากทั่วทุกมุมโลก ให้เกียรติมาร่วมงาน โดยมีนางสาวนลิน วนาสิน ประธานคณะกรรมการบริหาร “สมาคมหอสมุดเนียลสัน เฮส์ ให้การต้อนรับ ณ หอสมุด เนียลสัน เฮส์ และบริติช คลับ เมื่อเร็วๆนี้


จากซ้ายสุด
1.   คุณซะการีย์ยา อมตยา นักเขียน
2.   คุณเชลลี่ แบรกก์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด การสื่อสารและศิษย์เก่า โรงเรียนนานาชาติ ไอเอสบี อินเตอร์เนชั่นแนล
3.   นางสาวนลิน วนาสิน ประธานคณะกรรมการบริหาร “สมาคมหอสมุดเนียลสัน เฮส์
4.   ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ประธานคณะกรรมการดำเนินงานรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์)
5.   นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
6.   ดร.วิมลลักษณ์ ชูชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) กระทรวงวัฒนธรรม
7.   มร.อดัม จอห์นสัน  นักเขียน Adam Johnson (USA)
8.   มร. Jeffrey Senior, Chargé d’affaires a.i., Embassy of Canada to Thailand

13
“เนียลสัน เฮส์” ฉลอง 150 ปี ชวนร่วมงานวรรณกรรม “Neilson Hays Bangkok Literature Festival”

“หอสมุดเนียลสัน เฮส์” ฉลองครบรอบ 150 ปี ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวรรณกรรม-สารคดีไทย ในเทศกาลวรรณกรรม “เนียลสัน เฮส์ : Neilson Hays Bangkok Literature Festival”  โดยมี นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ประธานคณะกรรมการดำเนินงานรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ให้เกียรติเป็นประธานร่วมในพิธีเปิดงานในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2562

ทั้งนี้ ภายในงานท่านจะได้พบกับนักเขียนชื่อดังกว่า 30 คนจากทั่วทุกมุมโลก ที่จะมาร่วมพูดคุย เสวนาเกี่ยวกับงานวรรณกรรมและสารคดีไทย ทั้งยังมีการอ่านบทกวีและจัดฉายภาพยนตร์สารคดี ระหว่างวันที่ 16 - 17 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.00 -21.00น. ณ หอสมุดเนียลสัน เฮส์ กรุงเทพฯ และบริติส คลับ

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.neilsonhayslibrary.org สนนราคาบัตรรายวัน 600 บาท (สำหรับผู้ที่ต้องการสำรองที่นั่งตลอดงานและชมภาพยนตร์ในช่วงเย็น) และฟรีสำหรับผู้สนใจทั่วไป (สงวนให้ผู้ที่มาก่อนได้สิทธิ์ก่อน) งานนี้ห้ามพลาด เพราะ 1 ปี มีเพียงครั้งเดียว
 

14




เปิดแล้ว !!! มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 24 ชวนนักอ่านยกขบวนไปอิมแพ็ค ชม-ฟัง-ร่วมกิจกรรมกับหนังสือดีมีชีวิต – Bring Content to Life













กรุงเทพฯ วันที่ 2 ตุลาคม 2562: เปิดแล้ว!!! “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 24” ขนขบวนหนังสือกว่า 10,000 ปกจาก 318 สำนักพิมพ์ 888 บูทมาให้นักอ่านได้เลือกสรรกันอย่างจุใจบนพื้นที่กว่า 20,000 ตร.ม. พบนิทรรศการ Bring Content to Life ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้อ่านผ่านรูปแบบต่างๆ ร่วมพูดคุยกับเหล่านักคิด นักเขียนมากมาย พร้อมนักแสดงจากซีรีย์ดังที่เวียนมาพบแฟนคลับตลอดงาน ช้อปสนุกด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ เดินทางสะดวกกับบริการหลากหลายเส้นทาง ช้อปสบายไม่ต้องขนหนังสือกลับบ้านเอง วันนี้ - 13 ตุลาคม ณ ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี 

นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม
กล่าวว่า “การอ่าน ถือเป็นทักษะสำคัญอย่างยิ่งตลอดชีวิตของมนุษย์ทุกคน ความสามารถในการอ่าน มีความสัมพันธ์กับความสำเร็จในการเรียนรู้ และนำไปสู่การแสวงหาความรู้ตลอดชีวิต ทั้งยังส่งผลต่อการวางรากฐานของการคิด การวิเคราะห์แยกแยะ ในการดำรงชีวิตต่อไปในอนาคต

รัฐบาลได้กำหนดนโยบายปฏิรูปการศึกษาตามแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และเชื่อมโยงกับแผนแม่บทส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ของไทย พ.ศ. 2560-2564 ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาเรื่องคุณภาพ โอกาสและประสิทธิภาพในการจัดการศึกษาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ

“สังคมโลกในปัจจุบันเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และการแข่งขัน การอ่านจึงเป็นวิธีการที่จะช่วยให้คนได้รับความรู้ ข้อมูลข่าวสาร และแนวคิดใหม่ๆ เพื่อพัฒนาตนเองและรู้จักปรับตัวให้อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข การที่สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ได้จัดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 24 “หนังสือดีมีชีวิต” จึงเป็นการส่งเสริมให้เกิดการอ่านอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นให้นักอ่านทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ได้มาแสวงหาหนังสือที่ดีและถูกใจภายในงานเดียว เราจะเห็นได้ว่าประเทศที่มีพลเมืองมีนิสัยรักการอ่านนั้น จะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อการพัฒนาบ้านเมืองให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว”

นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวว่า “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 24” ยกขบวนไปอิมแพ็คจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “หนังสือดีมีชีวิต – Bring Content to Life” เพื่อรณรงค์ส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน และกระตุ้นให้สังคมไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการอ่านมากขึ้น

“แม้ว่าทุกวันนี้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจะทำให้ผู้บริโภคมีช่องทางเลือกรับความรู้มากมาย โดยอินเทอร์เน็ตและโซเชียล มีเดียนั้นถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีในบางสถานการณ์ด้วยข้อจำกัดของเวลาและโอกาส แต่หนังสือในแบบรูปเล่มก็ยังคงมีความสำคัญ เพราะเป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงที่เชื่อถือได้ สืบค้นได้ถึงที่มาที่ไป และเป็นสิ่งที่ช่วยนำพาชีวิตของมนุษย์ไปสู่ความสำเร็จ

ขณะเดียวกัน ในฐานะผู้ผลิตสื่อก็ไม่ได้เพิกเฉยต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ต้องเกิดการพัฒนาคอนเทนต์เพื่อตอบสนองความต้องการของการอ่านให้ได้มากขึ้น ในรูปแบบที่หลากหลาย และเหมาะสมต่อการอ่านในลักษณะต่างๆ หากใครสามารถผลิตสื่อที่รองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคได้มากที่สุดย่อมได้เปรียบ จึงเป็นที่มาของแนวคิด Bring Content to Life คือการนำเสนอเนื้อหาให้เข้าถึงผู้คนได้มากที่สุดภายใต้ข้อจำกัดที่มีอยู่

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเปิดตัวศูนย์ลิขสิทธิ์หนังสือของสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้ให้แก่สมาชิกเรื่องลิขสิทธิ์ต่างๆ ให้คำแนะนำเมื่อถูกละเมิดลิขสิทธิ์หนังสือ และเพื่อให้เกิดเป็นศูนย์กลางการแบ่งปันข้อมูลระหว่างสมาชิกที่ประสบปัญหาด้วย”

สำหรับงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 24 มีโซนต่างๆ ที่เปิดให้นักอ่านได้ ยกขบวนไปช้อป กับหนังสือดีราคาโดน 7 โซนหนังสือยอดนิยม ได้แก่ Book Wonderland ที่รวบรวมหนังสือการ์ตูนและหนังสือสำหรับคนรุ่นใหม่เอาไว้มากมาย หนังสือทั่วไป ความรู้รอบตัวและไลฟ์สไตล์ต่างๆ นิยาย/วรรณกรรม สนุกไปกับจินตนาการ และประสบการณ์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยนักเขียนคนโปรด หนังสือต่างประเทศ ตอบโจทย์นักอ่านหลากภาษา ไม่ต้องเสียเวลาสั่งหนังสือจากต่างประเทศ หนังสือเด็กและสื่อเพื่อการศึกษา สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาหนังสือและสื่อเสริมทักษะสำหรับเด็ก การศึกษา สำหรับวัยเรียนที่ต้องการคู่มือเรียน เตรียมสอบ หรือความรู้เฉพาะทาง และเอาใจนักล่านักสะสมกับ หนังสือเก่า

ยกขบวนไปชม นิทรรศการ Bring Content to Life เพื่อสร้างแรงบันดาลใจผ่านกิจกรรมและเรื่องราวการอ่านในรูปแบบต่างๆ โดยแบ่งออกเป็นห้องทำกิจกรรมย่อย ได้แก่ ห้องแบบสอบถาม สำหรับผู้เข้าชมนิทรรศการได้ร่วมสนุกและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการอ่าน ห้อง Reception ที่ถูกออกแบบให้เป็นเคาน์เตอร์บรรณารักษ์ ให้ความรู้สึกเสมือนการเดินเข้าไปในห้องสมุดและเพลิดเพลินกับคำคมการอ่านของเหล่าคนดัง ห้อง Timeline ซึ่งจัดแสดงข้อมูลวิวัฒนาการการอ่านแต่ละยุคสมัย ห้อง Documentary ถ่ายทอดเรื่องราวการอ่าน สื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากการเข้ามาของเทคโนโลยี นำไปสู่การอ่านในรูปแบบใหม่ๆ และห้องจัดแสดงงานของผู้ร่วมออกบูธ (showcase) ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ AR หนังสือ pop-up ที่สื่อให้เห็นถึงการนำคอนเทนต์ที่มีอยู่มาผสมผสาน บูรณาการกับสื่อที่หลากหลาย หรือประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีและสื่อที่เข้ากับยุคสมัย สามารถเข้าถึงผู้อ่านมากยิ่งขึ้น เป็นต้น
ยกขบวนไปฟัง กองทัพนักคิดนักเขียนที่อาจเปลี่ยนชีวิตเรา ตั้งแต่นักเขียนระดับศิลปินแห่งชาติ นักคิดชั้นครูและนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อาทิ เสวนาเปิดตัวหนังสือ อารยวิถีทัศน์ : คุณค่าแห่งความเป็นคน โดย ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์, ปฏิบัติการลับเมื่อญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่สยาม โดย พลเอกบัญชร ชวาลศิลป์, ภาวะ Burn out ในมนุษย์เงินเดือน โดยนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ และ ปฏิทินธรรมคำกลอนพุทธทาส 2563 หัวข้อ "วิถีสุขทุกลมหายใจ" โดย อาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, อาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ และอาจารย์เมธี จันทรา

งานเสวนาเปิดตัวหนังสือธุรกิจและฮาวทูที่จะช่วยปรับวิธีคิดหรือให้แนวทางทางด้านการบริหารธุรกิจสำหรับผู้ที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็น งานเสวนา The Trader's Pendulum 10 อุปนิสัยให้สำเร็จเป็นเซียนหุ้น โดยประกาศิต ทิตาราม /ธนาเดช โสมะบุตร, เริ่มด้วย Facebook รุกด้วย Line OA  ขยายด้วย Google โดยอุกฤษฎ์ ตั้งสืบกุล, Line for Business Handbook คู่มือการทำธุรกิจบนไลน์ โดย มัณฑิตา จินดา (Digital Tips Academy), ขายของออนไลน์ ภาษีออนแอร์ โดยถนอม เกตุเอม (TaxBugnoms) และ เปิดตัวหนังสือ อยากสำเร็จ ต้องโฟกัส ด้วยแนวคิด OKRs โดย ปิยะพงษ์ ศิริสุทธานันท์ / ดร.นพดล ร่มโพธิ์
พร้อมเหล่าศิลปินดาราที่ถ่ายทอดแง่มุมทางความคิดผ่านตัวหนังสือ อาทิ Money Genius อัจฉริยะ ใช้เงินเป็น โดย ฟลุค-เกริกพล  มัสยวาณิช ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี โดย ฌอห์ณ จินดาโชติ งานเปิดตัวหนังสือ 'เถื่อน100' โดย วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล, The One % + Change โดยพอล-ภัทรพล ศิลปาจารย์ / ครูเงาะ-รสสุคนธ์ กองเกตุ และงานเปิดตัวหนังสือ ฤกษ์สังหาร โดยนักเขียนชื่อดัง วรรณวรรธน์

พบนักเขียนนิยายวาย (Yaoi) พร้อมนักแสดงยอดนิยม อาทิ Rabbitnie นักเขียนอันดับหนึ่งในแอปพลิเคชันจอย ลดา, นักแสดงจากเรื่อง The Effect โลกออนร้าย และ TharnType The Series พูดคุยกับนักเขียนนิยายขายดี สู่ซีรีย์สุดฮอต Blacklist และ Dark Blue Kiss  และเหล่านักแสดงจาก GMMTV เป็นต้น 

งานเสวนาที่น่าสนใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่อย่าง เด็กไทยรักษ์โขนไทย โดย ครูมืด-ประสาท ทองอร่าม, ริสรวล อร่ามเจริญ และตุ๊ก-ชนกวนันท์ รักชีพ, เพศศึกษาไม่น่าอาย:สร้างความเข้าใจให้ลูกน้อยผ่านหนังสือ "Sex Education: เรื่องไม่ลับฉบับคุณหนู" โดย นายแพทย์ชัชพล  เกียรติขจรธาดา และ 100 เทคนิคค้นหาอัจฉริยะในตัวลูก โดย ผศ.ดร. สุธาวัลย์ หาญขจรสุข พร้อมแขกรับเชิญพิเศษ คุณแม่น้ำหวาน ภญ.ญาธิป  พิริยะ-พงศ์ศักดิ์ จากเพจ Happy Mommy Diary 

นักอ่านทุกคนยังได้ ช้อปจุใจ กับโปรโมชั่น Flash sale วันธรรมดาวันละ 2 รอบ เวลา 15.00 น.และ 18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์วันละ 3 รอบ เวลา 12.00 น., 15.00 น. และ 18.00 น. / รับส่วนลดจากสำนักพิมพ์ต่างๆ สูงสุด 80% / ลุ้นรับ iPad Air และคูปองเงินสดมูลค่า 1,000 บาท ได้ทุกวัน เพียงลงทะเบียนเข้างานและสแกนที่จุด Checkpoint จำนวน 4 โซนจาก 7 โซน ช้อปสบายไม่ต้องกลัวหิ้วหนัก มาตัวเปล่ากลับตัวปลิวด้วยบริการจัดส่งหนังสือจาก Kerry ซึ่งมอบส่วนลดสูงสุดถึง 50% รวมถึงฟรีอุปกรณ์แพ็คและบริการช่วยแพ็ค และช้อปสะดวก กับการเดินทางที่หลากหลาย อาทิ บริการรถตู้ฟรี จากสถานี MRT ศูนย์ราชการนนทบุรี – อิมแพ็ค เมืองทองธานี วันจันทร์ – ศุกร์จำนวน 10 คัน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์เพิ่มเป็น 15 คัน และบริการรถ ขสมก.พิเศษจากสถานี MRT ศูนย์ราชการนนทบุรี – อิมแพ็ค เมืองทองธานี และส่วนลดพิเศษจาก Grab และ Smart Taxi

สำหรับการจัดงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ผลิตภัณฑ์กระดาษไทย จำกัด, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, บริษัท อุ๊คบี จำกัด, บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป จำกัด, กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์, บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน), บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด, บริษัท สยามอินเตอร์ มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน), บริษัท เดกซ์เพรส จำกัด, บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) และบริษัท บัตรเครดิตกรุงศรี จำกัด

พบกับงาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 24” ยกขบวนไปอิมแพ็ค (Book Expo Thailand 2019) ตั้งแต่วันนี้ – 13 ตุลาคม 2562 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ติดตามรายละเอียดได้ทาง Facebook Fanpage: Book Thai

15


“ฌอห์ณ” คาด แฟนหนุนเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ ของ จินดา “ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี”






งานแสดงก็รุ่ง งานเขียนก็เริ่ด สำหรับหนุ่มคิ้วเข้ม “ฌอห์ณ จินดาโชติ” ล่าสุดประกาศชวนเพื่อนดาราและแฟนๆ ไปร่วมงานเปิดตัวหนังสื่อเล่มใหม่ ของ จินดา “ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี” ที่ปั้นมากับมือทุกขั้นตอนถึงขั้นลงทุนตรวจบรูฟเองถึงโรงพิมพ์ โดยมีสำนักพิมพ์เจ้าประจำอย่าง a book(อะบุ๊ก) ร่วมสร้างสรรค์ งานนี้พิถีพิถันและตั้งใจแบบสุดพลัง ซึ่งเจ้าตัวโพสต์ลงโซเชียลรัวๆ แบบไม่กลัวโดนรุม แถมยังอ้อนให้มากันเยอะๆ อีกด้วย คาดเพื่อนดาราแห่มาให้กำลังใจกันเพียบชัวร์ รีบบอกต่อ...ไม่รอแล้วนะ แฟนละครล็อกคิวด่วนๆ วันที่ 6 ตุลาคมนี้ เจอกันที่งานสัปดาห์หนังสือ ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี  ณ เวทีย่อย เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป และยังจะไปแจกลายเซ็นสำหรับแฟนๆ ที่อุดหนุนหนังสือ “ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี” ที่บูทสำนักพิมพ์ a book โซน Z 01 อย่างใกล้ชิดแน่นอน  โดย “ฌอห์ณ” เผยความรู้สึกว่า....

“ผมกลับมาเขียนแล้วนะ ขอบคุณทุกคนที่ยังคิดถึงกัน หนังสือเล่มนี้เขียนเพื่อจะบอกว่า ไม่ว่าเราจะผ่านและเจออะไรมา ขอแค่อย่าลืมที่จะเก็บมันไว้ และเมื่อวันนั้นมาถึง เหมือนวันนี้ทีมาถึงแล้ว ก็ขอให้เวลาเล่าเรื่องที่ดีเท่านั้นก็พอ เป็นหนังสือที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหลานทั้ง 2 และคุณปู่ ชุมพล จินดาโชติ และช่วงวัยที่เปลี่ยนผ่านเข้าสู่วัยผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว จากคำถามที่มากมาย สู่การเข้าใจที่มากขึ้น โดยให้เรื่องของเวลาได้ทำงานตามหน้าที่ของเขาอย่างจริงใจ รายได้ส่วนหนึ่งขอหนังสือเล่มนี้ขอมอบให้กับ โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ และเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนโรงเรียนวัดหนองพังตรุ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี หวังว่าจะมีสุขที่ได้อ่านเพราะผมมียังคงสุขที่ได้เขียน ใครมีหนังสือเล่มนี้ฝาก #jindabook ด้วยนะ เจอกันวันเปิดตัวครับ”

บางส่วนจากหนังสือ ‘ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี’ โดย ฌอห์ณ จินดาโชติ

ผมมีหลานสองคน
คนแรกชื่อ ‘เวลา’ เป็นหลานสาว อีกคนชื่อ ‘ที่ดี’ เป็นหลานชาย
เมื่อไม่นานมานี้ ผมกับเวลาและที่ดีไปปั่นจักรยานเล่นกันในหมู่บ้าน ผมสังเกตว่าขณะที่ผมและเวลากําลังปั่นจักรยานอย่างสนุกสนาน ที่ดีที่ยังปั่นจักรยานไม่เป็น แต่สนุกกับการเล่นสกูตเตอร์สองล้อแบบไถ ซึ่งมักจะชอบเล่นแล้วหยุด ปล่อยให้ผมและเวลาปั่นจักรยานนําหน้าไปทุกครั้ง
ด้วยความเป็นห่วงผมก็หันไปถามที่ดีว่า ถ้าที่ดีเล่นๆ หยุดๆ แบบนี้เมื่อไหร่จะถึง ผมหมายถึงจุดหมายที่เราสมมติกันขึ้นมา
ที่ดีตอบผมว่า “รอเข่งก่อน เดี๋ยวเข่งตามไม่ทัน เดี๋ยวเข่งเหนื่อย”
เข่งที่ที่ดีพูดถึงคือพี่เลี้ยงของเขา
พอได้ยินอย่างนี้ผมก็รู้สึกสะท้อนใจในขณะที่ผมกําลังสนุก
กับการปั่นจักรยานไปข้างหน้า ที่ดีกลับคิดถึงคนที่อยู่ข้างหลัง
“ไม่ได้ไม่ทิ้งเข่ง” ที่ดีตะโกนบอก
คําพูดของที่ดีทําให้ผมได้ฉุกคิดสองเรื่อง เรื่องแรกคือตกใจที่เด็กวัยสามขวบคิดได้ขนาดนี้
เรื่องที่สองคือที่ดีกําลังบอกผมว่าไม่ใช่วันหนึ่งเราทําสิ่งใดได้ดีแล้วจะลืมคนที่อยู่ข้างหลัง
ผมในฐานะน้าชายวัยสามสิบจึงหยุดจักรยานรอที่ดีแล้วคิดในใจว่าบางทีเราอาจจะโตเกินไปจนหลงลืมสิ่งธรรมดาสามัญบางอย่าง

สำนักพิมพ์ a book (อะบุ๊ก)
ชวนฟังเรื่องเล่าจากกาลเวลาของ “ฌอห์ณ จินดาโชติ”

กาลเวลาที่ผ่านมา คุณคิดว่ารู้จักผู้ชายคนนี้ดีพอหรือยัง?
พบกับตัวจริงของ ฌอห์ณ จินดาโชติ กับหนังสือเล่มที่สองในชีวิตของเขา
“ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี”
     
ฌอห์ณ จินดาโชติ เปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ ในงาน Book expo 2019
มาฟังเขาเล่าด้วยกัน ในวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค. 2562 เวลา 15.00 น. - 16.00 น.
ณ เวทีทั่วไป ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ชวนคุยโดย อาหมิง - เอื้อบุญ จงสมชัย

ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี
                               ฌอห์ณ จินดาโชติ
สำนักพิมพ์ a book
ณ จุดกึ่งกลางระหว่างโลกคู่ขนานสองใบ “ฌอห์ณ” เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น
“ใบหนึ่งคือโลกอันทันสมัยและสดใหม่ของหลานสาวหลานชาย อีกใบคือโลกในอดีตที่กำลังเลือนหายของคุณปู่ ผมยืนอยู่ตรงกลาง เฝ้ามองชีวิตพวกเขา ชีวิตที่อยู่บนดาวเคราะห์ดวงเดียวกัน แต่เหมือนอยู่คนละมิติ...
“หลานชายและหลานสาวของผมอยู่ในช่วงวัยกำลังเรียนรู้ อ่านออกเขียนได้ และจดจำ พวกเขากำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานบนสนามหญ้าของโลกความจริงยุคใหม่ ที่ทุกสิ่งล้วนน่าตื่นตาตื่นใจ เกิดขึ้นเร็วในอัตราเร่ง และพร้อมจะหายลับไปอย่างรวดเร็ว ส่วนคุณปู่ของผมอยู่ในช่วงเวลาแห่งอดีต เรื่องราวของเขาผ่านมาเนิ่นนาน และกำลังอยู่ในช่วงเวลาของการลืมมากกว่าจำ ทุกสิ่งคล้ายเป็นภาพฝันอันพร่าเลือน คล้ายภาพเขียนที่สีกำลังหลุดร่อน แต่ถ้ามองดูช้าๆ อย่างพิจารณา ร่องรอยในภาพเก่านั้นกลับมีค่า และน่าจดจำ
“เมื่อคนหนึ่งกำลังจะจำ อีกคนหนึ่งกำลังจะลืม ผม—คนที่อยู่ระหว่างโลกคู่ขนานจึงอยากจะสร้างสะพานให้คนทั้งสองเชื่อมโยงเข้าหากัน”
ผลงานเขียนอบอุ่นลุ่มลึก เล่มที่สองของฌอห์ณ จินดาโชติ ชายหนุ่มนักสะท้อนเรื่องราวผ่านกาลเวลา สุข ทุกข์ สนุก เศร้า ทุกเรื่องราวสำหรับเขา เมื่อมองผ่านกาลเวลา.. มันคือเรื่องที่ดี
“เพราะเรื่องที่ดีนั้นควรค่าแก่การเก็บไว้สอนใจ มากกว่าจะทิ้งให้เลือนหายไปกับกาลเวลา”
------------
บรรณาธิการเล่ม: เจิมสิริ เหลืองศุภภรณ์
ออกแบบปก: KANITP.
ออกแบบรูปเล่ม: พนิดา มีเดช
จำนวน 248 หน้า
ราคาเต็ม 325 บาท
ราคาในงานมหกรรมหนังสือฯ 295 บาท
#ให้กาลเวลาเล่าเรื่องที่ดี #abooknewcomers
เพื่อนซี้มาการีนตี
              โดนัท & ป๋อมแป๋ม   
                                                         
*ติดตาม https://www.facebook.com/abookpublishing/

Pages: [1] 2 3 ... 171